Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โครงการผงปลาปรุงรส-AT-DOI-TAO

โครงการผงปลาปรุงรส-AT-DOI-TAO

Published by wanwisayecho, 2021-03-13 23:24:44

Description: โครงการผงปลาปรุงรส-AT-DOI-TAO

Search

Read the Text Version

ใบรับรองโครงการ วิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงใหม่ เรื่อง ผลิตภัณฑผ์ งปลาปรงุ รส AT DOI TAO โดย นางสาวสุดารัตน์ ธรรมเรอื ง ได้รับการรับรองให้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สาขาวิชา การโรงแรม ทวิภาคี ประเภทวชิ าอุตสาหกรรมท่องเทย่ี ว …………………………หวั หน้าแผนกวชิ าการโรงแรม ……………………….รองผอู้ ำนวยการฝา่ ยวชิ าการ(นาง อัปสร คอนราด) (นายณรงคศ์ ักดิ์ ฟองสนิ ธ์ุ) วนั ท่ี……..เดอื น……………พ.ศ………… วันท่…ี …..เดอื น……………พ.ศ………… คณะกรรมการสอบโครงการ ……………………………………………………. ประธานกรรมการ (นายทินกร ติบ๊ อินถา) ……………………………………………………. กรรมการ (นางสาวนพรรณพ ดวงแก้วกลู ) ……………………………………………………. กรรมการ (นางสาวนัชพร สาครธำรง)

กิตติกรรมประกาศ โครงการผลิตภณั ฑ์ผงปลาปรุงรส AT DOI TAO ของนกั ศึกษาแผนกวชิ าการโรงแรม วิทยาลัย อาชีวศึกษาเชียงใหม่ ฉบับนี้สำเรจ็ ลลุ ว่ งไปได้ด้วยดีเนื่องจากได้รบั ความกรุณา ความอนุเคราะห์ การ สนบั สนนุ และการใหค้ ำแนะนำแนวทางในการดำเนินงานจากหลายท่าน ขอขอบพระคุณ นายทินกร ติ๊บอินถา ครูที่ปรึกษาวิชาโครงการ และคณะครูที่ให้คำปรึกษา โครงการ แนะนำและให้ขอ้ คิดต่างๆ ในการทำโครงการ ตลอดจนแกไ้ ขข้อบกพร่อง จนทำรายงานโครงการ ฉบับน้ีเสร็จสมบูรณ์ ผู้ศกึ ษาจงึ ขอกราบขอบพระคุณป็นอยา่ งสูง ขอกราบขอบพระคุณคุณพอ่ คุณแม่ ทีใ่ หก้ ำเนดิ เล้ยี งดูอบรมส่ังสอนตลอดจนการให้คำแนะนำ คำปรึกษาในเรื่องต่างๆ ที่ทำให้โครงการฉบับนี้ลุล่วงไปได้ดว้ ยดีรวมท้ังเป็นกำลังใจที่ดีเสมอมา และ ขอขอบคุณผตู้ อบแบบสอบถามความพงึ พอใจ ทุกทา่ นทส่ี ละเวลาอันมคี ่าชว่ ยเหลอื และอนเุ คราะหใ์ นการ ตอบแบบสอบถาม จนทำใหโ้ ครงการฉบับนี้สำเรจ็ ลุล่วงไปด้วยดี รวมถงึ ผู้มีสว่ นเก่ียวข้องทุกท่านท่ีเป็น กำลังสำคัญในการใหค้ ำปรึกษา เป็นกำลงั ใจและใหค้ วามช่วยเหลือตลอดมา จนทำรายงานเล่มนี้สำเร็จ ลลุ ่วงไปดว้ ยดี นางสาวสุดารัตน์ ธรรมเรอื ง

ช่อื : นางสาวสุดารตั น์ ธรรมเรือง ช่ือโครงการ : ผลิตภัณฑ์ผงปลาปรุงรส AT DOI TAO สาขาวิชา : การโรงแรม ประเภทวิชา : อุตสาหกรรมทอ่ งเทย่ี ว อาจารย์ที่ประจำวิชาโครงการ : นายทินกร ต๊ิบอนิ ถา อาจารยท์ ี่ปรึกษาวชิ าโครงการ : นายทนิ กร ตบิ๊ อินถา ปกี ารศกึ ษา : 2563 บทคดั ย่อ โครงการเรอื่ ง ผลติ ภณั ฑ์ผงปลาปรงุ รส มีวัตถุประสงค์เพ่ือทำผลติ ภณั ฑ์ผงปลาปรงุ รส เพอ่ื ศกึ ษา ความพงึ พอใจของผใู้ ช้ผลติ ภัณฑ์ผงปลาปรุงรส โดยมกี ลุ่มตวั อยา่ งแบบเจาะจง ( Purposive sampling ) เป็นการเลอื กกลุม่ ตัวอยา่ งโดยพจิ ารณาจากการตัดสนิ ใจของผู้วิจัยเอง ลักษณะของกลุ่มท่ีเลือกเป็นไป ตามวตั ถปุ ระสงคข์ องการวจิ ยั คอื กลมุ่ ผู้ทดลองใช้ผลติ ภณั ฑ์ผงปลาปรุงรสจำนวน 30 คน ระหว่างวันท่ี 7 ธันวาคม ถึงวันที่ 12 มีนาคม 2564 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งน้ี คือ แบบบันทึกผลการทดลอง แบบสอบถามความพึงพอใจของผลติ ภัณฑ์ผงปลาปรงุ รส ผลการดำเนินงานผ้ศู ึกษาพบว่า พบว่าผู้ตอบ แบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 84 ข้อมูลส่วนบุคคลด้านอายุ พบว่าผู้ตอบ แบบสอบถามสว่ นใหญ่อยูใ่ นชว่ งอายุ 15-20 ปี คดิ เป็นร้อยละ 54 และผลการวเิ คราะห์ความพึงพอใจของ ผูใ้ ช้ผลิตภัณฑผ์ งปลาปรุงรส ไดส้ รปุ ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มูล พบว่าผลสรปุ ภาพรวมของความพึงพอใจของ ผใู้ ช้ผลติ ภัณฑ์ผงปลาปรงุ รส อยใู่ นระดบั มาก (������̅=48.57) เมื่อสรุปผลออกมาเป็นรายข้อพบว่ากลิ่นของ ผงปลาปรุงรส ผลการประเมินอยู่ในระดับมาก (������̅=4.71) รองลงมาคือสีสันของผงปลาปรุงรส อย่ใู นระดับ มาก (������̅=4.80) อยูใ่ นรสชาติของผงปลาปรงุ รส ระดับมาก (������̅=4.80) ผงปลาปรุงรสสามารถ รับประทาน ได้ง่าย อยู่ในระดับมาก (������̅=4.90)เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับผลอตภัณฑ์อย่างยั่งยืน อยู่ในระดับมาก (������̅=4.88)ผงปลาปรงุ รสเป็นการนำของเหลือมาใชใ้ ห้เกนิ ประโยชนม์ ากที่สดุ อยใู่ นระดับมาก (������̅=4.90) การใช้ทรัพยากรในทอ้ งถ่ินให้คุ้มคา่ อยูใ่ นระดบั มาก (������̅=4.86)ขนาดของผลติ ภณั ฑ์ผงปลาปรุงรสมีความ เหมาะสม อยู่ในระดับมาก (������̅=4.80)ผงปลาปรุงรส สร้างทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้า อยู่ในระดบั มาก (������̅=4.96) ความพึงพอใจในภาพรวมของผลติ ภณั ฑผ์ งปลาปรุงรส อยู่ในระดับมาก

สารบัญ หนา้ ก เร่ือง ข ใบรบั รองโครงการ ค กิตติกรรมประกาศ ง บทคดั ย่อ จ สารบญั ฉ สารบญั (ต่อ) ช สารบัญตาราง สารบญั รปู ภาพ 1 บทที่ 1 บทนำ 2 2 1.1 ความเปน็ มาและความสำคญั ของโครงการ 2 1.2 วตั ถปุ ระสงค์ของโครงการ 3 1.3 ขอบเขตโครงการ 1.4 ประโยชนท์ ี่คาดวา่ จะไดร้ ับ 4 1.5 นิยามศัพท์ 6 บทที่ 2 แนวคิดทฤษฎแี ละบงานวิจัยทเ่ี กยี่ วขอ้ ง 7 2.1ความเปน็ มาและสถิตกิ ารเกดิ ภาวะโภชนาการกิน 8 2.2 ประวตั ขิ องปลาสงั กระวาด 28 2.3 ประโยชน์ของหวั ปลาสงั กระวาด 33 2.4 อุปกรณแ์ ละวัตถุดิบในการทำผงปลาปรงุ รส 2.5 แนวคิดและทฤษฎคี วามพงึ พอใจ 35 2.6 ทฤษฎแี ละงานวิจยั ที่เกย่ี วขอ้ ง 35 บทที่ 3 วธิ กี ารดำเนินงานโครงการ 37 3.1 ประชากรและกลุม่ ตัวอย่าง 37 3.2 เคร่อื งมอื ทีใ่ ชใ้ นการศกึ ษา 38 3.3 ขน้ั ตอนการดำเนนิ การศึกษา 3.4 การเกบ็ รวบรวมข้อมลู 3.5 การวิเคราะห์ขอ้ มูลและสรุปผล

สารบญั (ต่อ) เรอื่ ง หนา้ บทท่ี 4 ผลการศึกษา สว่ นท่ี 1 สรปุ ข้นั ตอนการทำผลิตภัณฑ์ผงปลาปรงุ รส 41 สว่ นที่ 2 ผลการวิเคราะหข์ อ้ มูลสว่ นบคุ คล 44 ส่วนท่ี 3 ผลการวเิ คราะหค์ วามพึงพอใจของผูใ้ ช้ผลติ ภัณฑ์ผงปลาปรุงรส 45 สว่ นที่ 4 การจัดลำดับผลการวเิ คราะหค์ วามพึงพอใจของผใู้ ช้ผลติ ภณั ฑ์ผงปลาปรุงรส46 ส่วนที่ 5 ผลสรุปข้อเสนอแนะ 47 บทท่ี 5 สรปุ ผลการดำเนินงานโครงการและข้อเสนอแนะ 48 สรุปผลการศกึ ษา 48 อภปิ รายผล 50 ข้อเสนอแนะ บรรณานกุ รม ภาคผนวก ภาคผนวก ก แบบนำเสนอขออนมุ ัตโิ ครงการวชิ าชีพ ภาคผนวก ข แบบบันทกึ ผลการทดลอง ภาคผนวก ค แบบประเมนิ ความพึงพอใจ ภาคผนวก ง การคำนวณค่าแบบประเมนิ ความพึงพอใจ ภาคผนวก จ รปู ภาพประกอบโครงการ ภาคผนวก ฉ แบบรายงานผลการนำไปใชป้ ระโยชน์ ประวัติสว่ นตัว

สารบญั ตาราง หนา้ ตารางที่ 30 1 ตารางแสดงผลการวิเคราะห์ขอ้ มูลส่วนบุคคลด้านเพศ 30 2 ตารางแสดงผลการวเิ คราะหข์ อ้ มูลส่วนบคุ คลด้านอายุ 31 3 ตารางแสดงผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจของผู้ใช้ผลติ ภณั ฑ์ผงปลาปรุงรส 32 4 ตารางการจัดลำดบั ผลการวิเคราะหค์ วามพึงพอใจของผ้ใู ชผ้ ลติ ภณั ฑผ์ งปลาปรงุ รส

ตารางรูปภาภาพ รูปที่1 หนา้ 2.1ปลาสังกระวาด 5 2.3 ปลาสงั กระวาด 5 2.3 ครก 6 2.4 เขยี ง 7 2.5 ปลาแห้ง 9 2.5 หอมแดง 9 2.6 กระเทยี ม 10 2.7 พรกิ ปน่ 11 2.8นำ้ ตาล 12 2.9เกลอื 13 4.2 ห่นั หอมแดง 28 4.3 ตำกระเทยี ม 28 4.4 ตำหัวปลาแหง้ 28 4.5 ทอดกระเทียม 29 4.6พักสะเดดนำ้ มนั 29 4.7 ทอดหอมแดง 29 4.8 พักสะเดดนำ้ มัน 29 4.8 คั่วผงปลาแห้ง 29 4.9 ให้หอมเจยี วและเครอ่ื งปรุง 30 4.10 ผงปลาปรงุ รส 30

บทท่ี 1 บทนำ 1.1 ความเป็นมาและความสำคญั ของโครงการ ทะเลสาบดอยเต่า เม่อื ราว 35 ปีกอ่ น หรอื ประมาณ พ.ศ. 2507 ปีท่สี รา้ งเขอื่ นภูมิพลดอยเตา่ ถือ เป็นแหลง่ ต้นน้ำของเขื่อน หรือถา้ เปน็ ถนนก็ตอ้ งบอกวา่ ดอยเต่าเปน็ หลกั กิโลเมตรหลกั แรกของ ทะเลสาบ เหนือเขื่อน และเป็นตน้ น้ำของลำนำ้ ปิง โดยมีหลกั สุดท้ายอยูป่ ลายสุดทจี่ งั หวดั ตาก ชาวเขาซึ่ง อาศัยอยูใ่ น ทลี่ ุ่มของอา่ งเก็บนำ้ ได้อพยพย้ายถ่ินฐานมาต้งั รกรากอย่บู นทส่ี ูงเหนือเขอื่ น ตามนโยบายของ รฐั บาลเม่อื ปี พ.ศ. 2510 ซ่ึงขณะนน้ั พวกเขาประกอบอาชพี ปลกู พชื ผักสวนครัวตามเชงิ เขารมิ นำ้ ตอ่ มา ในระยะหลังๆ ราวปี2542เปน็ ตน้ มา ท้ังน้ีทั้งน้ันทะเลสาบดอยเต่าก็ขึ้นอยูก่ ับธรรมชาตเิ มอ่ื เกดิ ฝนแล้วติดต่อกันหลายปี ระดับนำ้ หน้าเขอ่ื นภูมิพลลดลงได้สง่ กระทบทะเลสาบดอยเต่าระดบั นำ้ แหง้ ขอดเหลอื แต่สายนำ้ เลก็ เท่านั้น เรอื นแพของผ้ปู ระกอบการถอยรน่ ไปตามสายน้ำ ท่หี า่ งจากบนฝงั่ ไปไกล บางรายกค็ า้ งเติง่ อยูบ่ นบก อาชีพ ชาวประมงกเ็ ดนิ ทางไประยะไกลเช่นกนั แทบไมม่ ปี ลาให้จบั แตช่ าวอำเภอดอยเตา่ ได้พลกิ วิกฤตเป็นโอกาส ใช้พื้นที่เป็นท่ีเล้ียงวัวเพาะปลูกข้าวโพดซึ่งก่อนหน้าน้ันหลายปี “ทะเลสาบดอยเต่า” เคยตายสนิท ยาวนานถงึ 8 ปเี มือ่ ฝนตกหนักลงมาติดต่อกนั ส่งผลให้ระดบั หนา้ เขอ่ื นภูมิพลสงู เกดิ ขึ้น ทะเลสาบดอยเต่าไดฟ้ นื้ คืนชีพมชี ีวติ ชวี ามาไดห้ ลายปแี ละครงั้ หลังลา่ สุดเม่ือปีพ.ศ.2555เกดิ ฝนแล้งข้ึนมา อกี ทะเล สาบแหง่ นีน้ ้ำแหง้ ขอดอกี ครั้งเหลือแต่พ้ืนดนิ แห้งกลายเปน็ ทเ่ี ลย้ี งวัวปลกู ข้าวโพดของชาวบา้ นอีก คร้ังยาวนานถึง5ปีและเมื่อปี 2560 มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัด ใกลเ้ คยี งซึง่ เปน็ พนื้ ทต่ี ้นนำ้ แมน่ ำ้ สาขาต่างๆไหลสแู่ มน่ ้ำปงิ เพม่ิ ข้นึ สง่ ผลให้ปริมาณน้ำในเขอื่ นภมู พิ ลสูงข้ึน ด้วยเป็นผลดีกับทะเลสาบดอยเต่า ทำให้ทะเลสาบดอยเต่าฟื้นคืนชีพมาอีกครั้งหนึ่ง สำหรับฤดูฝน ปี 2561 นหี้ ากมีฝนตกลงมาบริเวณพนื้ ที่ตน้ นำ้ เมื่อเช่นปีท่แี ล้ว กจ็ ะเติมปรมิ าณนำ้ หนา้ เขอ่ื นภมู พิ ลมากขนึ้ ต่อลมหายใจให้ทะเลสาบดอยเตา่ อยตู่ อ่ ไปอกี หลายปี แต่ถ้าฤดฝู นปี 2561 เกดิ ฝนแลง้ ทะเลสาบก็รอวัน ตายเชน่ อดีตทผี่ ่านมา มีฝนตกชุกตามปรากฏการณท์ ีเ่ กดิ ข้นึ ทว่ั โลก ทำใหน้ ำ้ ในอา่ งมี ปริมาณเพมิ่ สูงข้ึนจน ทว่ มบรเิ วณแปลงเพาะปลกู การจบั ปลาในทะเลสาบจึงกลายเปน็ อาชพี หลกั ตอ่ มา ในปี2546 ตอ่ มาดอย เตา่ เริ่มมกี ารทำการเกษตรกร จนถึงปัจจบุ ันน้ีชาวดอยเต่าจึงยดึ อาชีพเกษตรกรเป็น อาชีพหลัก ประมง กลายเปน็ อาชพี สำรอง การแปลรูปผลติ ภัณฑ์จากปลาน้ำจืด มหี ลากหลายวธิ กี ารทำ และเป็นทีท่ ีน่ ิยมทีส่ ุดคอื ปลาวง ซ่ึง การทำปลาวงท่มี ีสายคอื ปลาสังกะวาด ซงึ่ วธิ กี ารทำค่อนข้างจะละเอยี ด ข้ันตอนการทำอย่างแรก คือตัด หัวปลาทิง้ เพือ่ จะให้เหลอื แค่ตัวปลา ทกุ ครัง้ ที่ตัดหวั ปลาทงิ้ ก็ไม่ได้เอาไปใช้ประโยชนต์ รงนน้ั ผจู้ ดั ทำโครงการ จึงตัดสนิ ใจที่จะเอาหัวปลาตรงน้ี มาแปรรูปเพอื่ เปน็ การเพิ่มมูลคา่ ให้กับหัวปลา ท่ีตัดท้ิงรวมถงึ เปน็ การสง่ เสริมอาชีพประมงของชาวดอยเตา่ ใหเ้ ป็นที่ร้จู กั อยา่ งยงั่ ยืนจงึ ได้จัดทำ โครงการ เร่อื ง ผงปลาปรุงรสน้ีขน้ึ มา เพ่อื ตอบสนองการคา้ ขายหรือตอ่ ยอดผลิตภัณฑ์ผงปลาปรงุ รสน้ีใหม้ มี ูลคา่ ตาม ท้องตลาดมากขึ้น และทำให้เปน็ ที่รู้จักของคนในชุมชนท้องหรืออาจจะเป็นนักท่องเที่ยวที่มาเท่ียวชม

ทะเลสาบดอยเตา่ และซือ้ ผลิตภัณฑ์ผงปลาปรุงรสไปชิมหรือไปปรงุ อาหาร และไดร้ บั การพึงพอใจ และรู้จัก สำหรับผลติ ภณั ฑผ์ งปลาปรงุ รส ผู้จดั ทำโครงการจงึ ได้จดั ทำโครงการเร่ือง ผงปลาปรงุ รส นีข้ น้ึ มา 1.2 วตั ถุประสงค์ของโครงการ 1) เพ่ือศึกษาพัฒนาผงปลาปรงุ รสและไปประยกุ ตใ์ ชต้ อ่ ในอนาคต 2)เพ่อื ไดค้ วามพงึ พอใจของประชาชนและผูท้ ดลองทีใ่ ช้ผงปลาปรงุ รส 1.3 ขอบเขตโครงการ 1) เชงิ ปริมาณ - จำนวน ผงปลาปรุงรส จำนวน 50 กระปกุ - กลมุ่ ตวั อยา่ ง ผชู้ ิมผงปลาปรงุ รส จำนวน 50 คน 2 2) เชงิ คณุ ภาพ ผลติ ภัณฑ์ผงปลาปรุงรสมรี ูปลักษณะจัดใสในกระปุกพลาสตดิ ใส ให้เหน็ สีของผงปลา ปรงุ รสท่ี เปน็ ผงละเอียด สขี าวออกน นำ้ ตาล 3) ระยะเวลาและสถานท่ใี นการดำเนนิ งาน ระยะเวลาดำเนินงาน ตง้ั แต่วันท่ี7 ธันวาคม 2563 ถึง 12 มนี าคม 2564 สถานทดี่ ำเนนิ งาน วทิ ยาลยั อาชวี ศึกษาเชียงใหม่ และ 109หม1ู่ ตำบลดอยเตา่ อำเภอดอยเต่า จงั หวัดเชยี งใหม่ 1.4 ประโยชนท์ ่ีคาดวา่ จะได้รับ 1) สร้างรายไดใ้ หก้ ลบั ชุมชน 2) ทำผลิตภณั ฑ์ใหไ้ ด้มาตรฐานและสง่ ออกตา่ งจงั หวดั 1.5 นิยามศัพท์ ผงปลาปรุงรส AT DOI TAO คือ ผงปลาทท่ี ำมาจากหัวปลาทช่ี าวบ้านดอยเตา่ ตัดทง้ิ เพอ่ื เอาตัว ไปทำ ปลาวง ทผี่ ้วู ิจัยหรือผูจ้ ักทำโครงการคดิ คน้ เที่จะทำผงปลาปรงุ รสเพราะจะไดช้ ่วยประหยัดค่าใช้จา่ ย ทตี่ ้อง ไปซอื้ ผงปรุงรสในรา้ นค้า และ สว่ นเทกเจอรก์ จ็ ะออกเคม็ ปนหวาน กลมกล่ม ใช้ปรุงอาหารไดท้ ุกเมน

บทที่ 2 เอกสารและงานวิจยั ที่เกี่ยวข้อง ในการศกึ ษา เรือ่ งผงปลาปรงุ รส ผู้ศกึ ษาไดร้ วบรวมแนวคิดทฤษฎแี ละหลักการตา่ งๆ จากเอกสาร และงานวิจยั ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ดงั น้ี 2.1 ความเปน็ มาและสถติ ิการเกิดภาวะโภชนาการกิน 2.2 ประวัติของปลาสงั กระวาด 2.3 ประโยชนข์ องหวั ปลาสังกระวาด 2.4 อุปกรณ์และวัตถดุ ิบในการทำผงปลาปรงุ รส 2.5 แนวคดิ และทฤษฎคี วามพงึ พอใจ 2.6 วิจัยท่ีเกี่ยวขอ้ ง 2.1 ความเปน็ มาและสถติ กิ ารเกิดภาวะโภชนาการกิน ปัจจุบันสถานการณ์ทั่วโลกพบว่าสัดส่วนผู้สูงอายุ มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น (World Health Organization [WHO], 2015) จากการที่ผสู้ ูงอายมุ ีความเสือ่ มตาม กระบวนการสงู อายหุ รอื อาจร่วมกับ การมคี วามเจ็บป่วย ด้วยโรคเรอื้ รงั ทำให้มีภาวะพึง่ พิงเกดิ ขึ้น จากรายงาน สถานการณ์ความต้องการการ ดูแลระยะยาวของไทย ในปี พ.ศ. 2556 พบสดั ส่วนของผ้สู งู อายุท่ีมีภาวะพง่ึ พงิ ร้อยละ 20.5 และสูงข้ึน ตามอายทุ ่ีเพ่มิ มากขน้ึ ซึง่ หนึ่งในสามเป็น ผ้สู ูงอายุทอี่ ายมุ ากกว่า 75 ปี ทง้ั นี้คาดการณว์ า่ จำนวน ผสู้ งู อายุ ที่มีภาวะพึ่งพิงบางสว่ นหรือสามารถช่วยเหลือ ตนเองได้บ้าง และผู้สงู อายุที่มีภาวะพึ่งพิงท้ังหมดหรือ ชว่ ยเหลอื ตนเองไมไ่ ดเ้ ลยจะมีจำนวนเพ่ิมสงู ขนึ้ โดยเพ่ิม จาก 1.96 ล้านคน ในปี 2557 เปน็ 2.78 ลา้ นคน ในปี พ.ศ. 2567 โดยที่รอ้ ยละ 90 เป็นกลุ่มท่ีมีภาวะพึง่ พงิ บางส่วน และร้อยละ 10 เป็นกลุ่มที่มีภาวะ พงึ่ พงิ ทง้ั หมด ผสู้ ูงอายทุ ่มี ีภาวะพง่ึ พิงมีแนวโน้มเพ่ิมสงู ขนึ้ จึงเป็นปญั หาทีท่ ุกภาคสว่ นควรใหค้ วามสำคญั ภาวะพ่งึ พิง (dependency) เป็นภาวะทบี่ คุ คล ต้องการความช่วยเหลือจากบุคคลอ่ืน รวมท้ัง การตอ้ งการ ความรัก ความอบอนุ่ และความเอาใจใสด่ แู ล โดยประเมนิ จากความสามารถในการปฏิบัติ กจิ วตั ร ประจำวันทปี่ ระกอบด้วยกิจกรรมในบ้าน ได้แก่ การเคลือ่ นทีใ่ นบา้ น การล้างหน้าแปรงฟัน การ อาบนำ้ การใช้ห้องนำ้ การลกุ นั่ง การสวมเสอื้ ผา้ การกลั้นปสั สาวะ และอุจจาระ การขน้ึ ลงบนั ได และการ รับประทาน อาหาร (Wade & Collin, 1988) ซึ่งการมีข้อจำกัดใน การปฏิบัตกิ ิจวัตรประจำวันทำให้ ผู้สงู อายุมกี ิจกรรมทาง ภาวะโภชนาการ (nutritional status) หมายถึง ภาวะร่างกายของบคุ คลอันเป็น ผลมาจากสารอาหารต่าง ๆ ที่ร่างกายได้รับจากการบริโภคหรือระดับสารอาหารใน ร่างกายและ ความสามารถของสารอาหารที่จะรกั ษา สมดลุ ของการเผาผลาญใหเ้ ปน็ ปกติ (Bender, 2009) แบ่งเป็น 2 ประเภทไดแ้ ก่ ภาวะโภชนาการปกติ และภาวะทพุ โภชนาการ 1)ภาวะโภชนาการปกติหมายถึง ภาวะร่างกายอนั เปน็ ผลมาจากการได้รบั สารอาหารจากการบรโิ ภคที่ เหมาะสม

2) ภาวะทพุ โภชนาการประกอบด้วย ภาวะพรอ่ งโภชนาการ (under nutrition) และภาวะ โภชนาการเกิน (over nutrition) ภาวะโภชนาการเกนิ เกดิ จากการที่ร่างกายไดร้ ับสารอาหารเกนิ ความต้องการสว่ นภาวะ พรอ่ งโภชนาการเกิดจากการทรี่ า่ งกายได้รับสารอาหารในปริมาณท่ีไมเ่ พียงพอกับความต้องการ โดย เฉพาะ โปรตีนและ สภาพหรือสะภาวะของรา่ งกาย อนั เนอ่ื งมาจากการบริโภคอาหาร ซึ่งร่างกายนำอาหารท่ีได้รับไป ใช้เพ่อื ความเจริญเติบโต ซอ่ มแซมสว่ นทีส่ กึ หรอของรา่ งกาย ตลอดจนช่วยใหอ้ วัยวะตา่ ง ๆของร่างกาย ทำงานได้ตามปกติ โดยมปี ัจจยั ต่าง ๆทมี่ ีผลต่อภาวะโภชนาการ เช่น ปจั จัยดา้ นเศรษฐกจิ สังคม การศกึ ษา สิ่งแวดล้อม ขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม รูปแบบการบริโภคอาหาร ตลอดจนสภาพร่างกายและจิตใจ อาหารและโภชนาการ เปน็ ปจั จยั สำคญั ในการดำรงชวี ิตของมนุษย์ ถ้าเรามภี าวะโภชนาการที่ดี ก็จะช่วย เสรมิ สร้างรา่ งกายให้แขง็ แรง ตรงกันข้ามหากเราได้รับสารอาหารทม่ี ากหรือน้อยเกนิ ไปย่อมกอ่ ใหเ้ กิดภาวะ โภชนาการเกนิ หรือภาวะทพุ โภชนาการขึน้ ได้ ภาวะทุพโภชนาการ (Malnutrition) มีด้วยกัน 2 ประเภท ได้แก่ 1 ภาวะโภชนาการต่ำ (Undernutrition) หมายถึง สภาวะของร่างกายท่เี กิดจากการได้รับอาหารไม่เพยี งพอ หรือได้รบั สารอาหารไมค่ รบ หรือมีปริมาณตำ่ กวา่ ทรี่ า่ งกายต้องการทำใหเ้ กิดโรคข้นึ เชน่ โรคขาดโปรตนี โรค ขาดวติ ามนิ ต่าง ๆ เป็นต้น 2 ภาวะโภชนาการเกิน (Overnutrition) หมายถึง สภาวะของร่างกายที่ได้รับอาหารหรือสารอาหาร บางอย่างเกินกวา่ ที่ร่างกายต้อง การ เกิดการสะสมพลงั งาน หรือสารอาหารบางอย่างไว้จนเกิดโทษแก่ ร่างกาย เชน่ โรคไขมนั ในเลอื ดสูง โรคอ้วน โรคหวั ใจและหลอดเลือด เปน็ ต้น 2.2ประวัติของปลาสังกระวาด ปลาสังกะวาด หรือ ปลายอน เปน็ สกลุ ของปลากระดูกแข็งในอนั ดบั ปลาหนังจำพวกหนึ่ง ในวงศป์ ลา สวาย (Pangasiidae) ทม่ี จี ำนวนสมาชกิ มากทส่ี ุด โดยพบแล้วประมาณ 26 ชนิดใชช้ อื่ สกุลวา่ Pangasiusมี รปู ร่างโดยรวม คอื ลำตัวลน่ื ไม่มีเกลด็ หวั โต ตามีขนาดเลก็ ปากกวา้ ง รจู มูกคู่หลังอย่ใู กลร้ จู มูกค่หู นา้ มากกว่านัยนต์ า และอยเู่ หนอื ระดับขอบบนของลกู นัยน์ตา มีหนวด 2 คู่สัน้ หรอื ยาวแล้วแต่ชนิด (ริมปากบน 1 คู่ และคาง 1 ค)ู่ ฟันที่กระดูกเพดานปากช้ินกลางและช้ินขา้ ง แตใ่ นบางชนิดอาจหดหายไปเม่ือปลามอี ายุ มากขน้ึ รปู ร่างอว้ นปอ้ ม ครีบทงั้ หมดโดยเฉพาะครบี หลังและครีบอกต้ังช้ีตรง และมกี า้ นแขง็ นยั นต์ าอยู่ เหนือระดับมุมปากเล็กนอ้ ย ท้องไมเ่ ปน็ สันคม ครีบทอ้ งมกี ้านครบี แขนง 6 ก้านมขี นาดรูปรา่ งทแี่ ตกตา่ ง ออกไปต้งั แต่ 1 ฟุต ไปจนถึงเกือบ 3 เมตร แต่โดยท่วั ไปจะมีขนาดโดยเฉลยี่ ประมาณ 1-1.5 เมตรเป็นปลาท่ี กินได้ท้งั เนอ้ื และพืชเป็นอาหาร รวมถึงซากสตั วท์ ีเ่ นา่ เปื่อยดว้ ย มพี ฤติกรรมชอบอยเู่ ปน็ ฝูง ในแมน่ ้ำและลำ คลองสายใหญ่ พบตงั้ แตอ่ นทุ วีปอินเดียจนถงึ ภมู ภิ าคเอเชียตะวันออกเฉยี งใต้ ในส่วนที่เป็นแผ่นดนิ ใหญแ่ ละ

หมู่เกาะเป็นปลาท่ีมคี วามสำคญั ตอ่ มนษุ ย์ในแง่ของการเป็นปลาเศรษฐกิจ ใชบ้ ริโภค ซ่งึ มีการวิจยั พบวา่ เน้ือ ปลาในสกลุ นี้ มสี ารโอเมกา 3 ภาษาไทยจะเรยี กปลาในสกลุ น้โี ดยรวมว่า \"สวาย\" จนได้เปน็ ลูกปลาพันธ์ุผสม ชนดิ ใหมท่ ใ่ี หผ้ ลผลติ ดี โดยใช้ช่ือในทางการค้าวา่ \"ปลามรกต\" หรอื \"เขยี วมรกต\" นยิ มเลีย้ งกนั มาก โดยเฉพาะในภาคอีสานของไทยและในปัจจบุ นั นิยมทำเปน็ ผลติ ภณั ฑ์เน้ือปลาสำเร็จรปู ในชือ่ \"แพนกาเชียส ดอร\"่ี กนิ แมลงเป็นอาหารหลกั กินเมล็ดพชื ผลไม้ และพชื น้าในบางครงั้ พบมากในแม่น้าโขง, แมน่ ้า เจ้าพระยา, แม่น้าแม่กลอง พบนอ้ ยในแมน่ ้าตาปี เป็นปลาทีพ่ บชกุ ชุม จงึ เป็นปลาเศรษฐกจิ โดยเฉพาะภาค อีสาน นิยมบรโิ ภคเป็นปลาแห้งและปรุงสด รปู ภาพท่ี2.1ปลาสังกระวาด http://www.siamfishing.com/content/view.php?id=1597&cat=article&begin=0 2.3 ประโยชนข์ องหัวปลาสงั กระวาด 1.)เพมิ่ การทำงานของระบบประสาทและสมอง ปลาปลาสงั กระวาดเปน็ ปลาน้ำจืดท่ีมปี รมิ าณกรดไขมัน โอเมก้า 3 ไม่นอ้ ยไปกว่าปลาทะเลน้ำลกึ บางชนดิ ดว้ ยเหตุนปี้ ลาสงั กระวาดจงึ มีประโยชนต์ อ่ การทำงานของ ระบบประสาทและสมอง 2)เปน็ โปรตนี ย่อยง่าย เน้อื ปลาทุกชนดิ จดั เป็นอาหารประเภทโปรตนี ทย่ี อ่ ยง่าย เน่อื งจากปลาโดย ลกั ษณะตามธรรมชาตจิ ะมีเน้ือเยือ่ เกีย่ วพนั นอ้ ยกวา่ เนือ้ สัตว์ชนดิ อ่ืน เมือ่ เนอ้ื ปลาสกุ จะแยกออกเปน็ ชนิ้ ๆ ตามมัดของกล้ามเน้อื เกยี่ วพัน เนื้อปลาจึงนุ่ม ไมเ่ หนยี วและหดตัวมากเหมือนเน้ือสัตว์อื่น ๆ เมอื่ กิน ปลานิลเข้าไประบบย่อยอาหารของเราจงึ ไม่ต้องทำงานหนัก เหมาะสำหรับผู้ป่วยทร่ี ะบบยอ่ ยอาหารทำงาน ได้ไมเ่ ต็มท่ี หรอื ในเดก็ วยั เรียน วยั กำลงั เจริญเตบิ โต

รปู ภาพท่ี2.3 ปลาสงั กระวาด https://www.phitsanulokhotnews.com/2020/09/03/146156 2.4 อุปกรณ์และวัตถดุ บิ ในการทำผงปลาปรุงรส - ครกหิน - เขียง - ปลาแหง้ - หอมแดง - กระเทยี ม - พริกปน่ - นำ้ ตาลทราย - เกลือ 1) ครกหิน รปู ที่ 2.3 ครก https://th.wikipedia.org ความเป็นมาของครกหนิ ส่วนครกหินกำเนิดข้ึนมาประมาณชว่ งสงรามโลกครัง้ ท่สี อง จากชาวจนี ทเ่ี ดนิ ทางเข้ามาอาศัยอยู่ท่ีอ่าง ศิลา และไดใ้ ช้หนิ ทมี่ อี ยู่มากมายในพื้นท่ี นำมาทำเครื่องโมแ่ ปง้ เพ่อื ทำขนม ส่วนเศษหินทีเ่ หลือจากการทำ

เครือ่ งโม่ กน็ ำเอามาทำครกหินเพือ่ ใช้ประกอบอาหารและเคร่ืองยาต่างๆ จนภายหลงั ช่างหินที่มีความรู้ก็ แยกตัวออกมาทำครกหิน ครกหนิ เป็นครกท่ีทำดว้ ยหินแกรนิต ซง่ึ มเี นอ้ื แขง็ มักใช้ในการตำอาหารให้แหลก ใช้คกู่ ับสากท่ีทำจาก หนิ เช่นเดยี วกนั ครกดินเผา ทำจากดนิ เผา มกั ใช้ในการตำอาหารเพ่ือไม่ให้แหลกนัก เชน่ ส้มตำ โดยใช้คู่กับ สากทที่ ำจากไมท้ ่ีเกลากลึงให้เปน็ รปู สาก 2) เขยี ง รปู ที่ 2.4 เขยี ง http://g1-desktop-pc.blogspot.com/2019/06/cmart ความเป็นมาของเขียง เขียงถือเป็นภาชนะสำคญั ในการประกอบอาหาร เพราะเปน็ ที่รองรับอาหารทเี่ ราตอ้ งการห่นั สบั หรือซอย ไมว่ ่าจะเป็นอาหารสกุ อาหารดบิ ซงึ่ ปัจจุบันเรานิยมใช้เขยี งสองประเภท คอื เขียงไม้ ส่วนใหญเ่ ป็นไมเ้ นอ้ื แข็งสขี าว เช่น ไม้มะขาม ไม้ตาล ไม้พยนู เป็นตน้ ซึ่งจะมี พนื้ ผวิ เรียบ สไี มไ้ ม่ตกใสอ่ าหาร มคี วามทนทานสงู จงึ มอี ายกุ ารใชง้ านทีย่ าวนาน แตอ่ าจมีข้อจำกัดตรงท่ีมีนำ้ หนักมากและเคลอ่ื นย้ายลำบาก จึงควรมกี าร คดิ คน้ เครอื่ งทจ่ี ะอำนวยความสะดวกในการหั่น ผัก ผลไม้ และวัตถุโบ เพือ่ ช่วยลดภาระและความย่งุ ยาก เพ่อื ประหยัดเวลาในการคัดแยกหรอื สามารถเทลงไดเ้ รว็ ไม่ตกเลอะเทอะ เขยี ง ในยุคแรกๆสามารถยอ้ นกลับไปไดถ้ ึงสมยั กอ่ นประวัตศิ าสตร์และเรียกว่าเป็นความตอ้ งการข้ัน พน้ื ฐานกไ็ ม่ผิด เพราะไม่วา่ จะสับ หั่น หรอื กระทง่ั ฆ่าสตั ว์บางชนิดเพอ่ื นำมาปรงุ อาหาร ฐานรบั คมอาวธุ น้ันก็ มักถูกนำมาใช้งาน 3) ปลาแห้ง

รปู ท่ี2.5 ปลาแห้ง http://www.cmbeauty888.com/product ความเปน็ มาของปลาแหง้ ปลาแห้งเป็นการถนอมอาหาร หรอื การแปรปู อาหาร เป็นเทคโนโลยขี องภูมปิ ัญญาชาวบ้านอยา่ งหนึ่งซ่งึ มหี ลายๆวธิ ี เช่น การตากแห้ง การหมกั การดอง การแช่อิ่ม การเชอื่ ม ฯลฯการทาปลารา้ ปลาแหง้ ก็ เหมอื นกนั เป็นภมู ปิ ัญญาพน้ื บา้ นไทย เพ่อื เป็นการแกป้ ัญหาและเป็นการถนอมอาหาร สว่ นใหญ่ปลาท่ีใช้ ทาปลาร้า ปลาแหง้ คนทไ่ี ม่อยใู่ กล้ทะเลจะนิยมใชป้ ลาน้าจืดที่หาไดจ้ ากแหลง่ น้าธรรมชาติ เชน่ ปลาช่อน ปลาชะโด ปลาสลิด ในคนทอ่ี ย่ใู กลท้ ะเลก็นยิ มนามาทาทะเล เช่น ปลาทู ปลากุเลา ปลาอินทรี ปลาจะละเม็ด ปลาหลงั เขยี ว เป็นต้น การทาปลาแหง้ ในกลุม่ อาชีพชุมชน สตรีแม่บา้ นก็จะทางานที่ตนถนัด ส่วนใหญเ่ ป็น การแปรรปู อาหาร ฝ่ายชายผชู้ ายก็ออกไปหาจบั ปลาเพ่ือเป็นอาหารเลี้ยงภายในครวั เรอื น เมอ่ื จบั ไดม้ าก เข้าจึงเกิดการถนอมอาหารเก็บไว้กนิ ยามทขี่ าดแคลน เช่น การทาปลาร้า การทาปลาแหง้ ปลาส้ม ตอ่ มาได้ มกี ารรวมตวั กนั ขน้ึ ภายในหมบู่ ้าน เพอ่ื ทจ่ี ะรวบรวมผลิตภณั ฑข์ องแต่ละคน แตล่ ะครอบครวั ท่มี อี ยนู่ นั้ มา เพ่อื ศกึ ษาข้อมลู ถึงคุณภาพการผลติ ปรมิ าณ และความตอ้ งการ มมี ากนอ้ ยเพยี งใด จึงกาเนิดเกิดกลมุ่ อาชพี การแปรรปู การทาปลาแหง้ ข้นึ ในหลายหมบู่ า้ นใกลๆ้ ชายทะเล โดยใชภ้ มู ริ ้ภู มู ปิ ัญญาและเทคโนโลยี ในชมุ ชนมาจดั การ วธิ ที าปลาแห้งให้เค็มนอ้ ยๆ โดยไม่ต้องกลวั เน่า โดยนาปลาทลี่ า้ งสะอาดเคลา้ เนอื้ ปลากบั เกลือให้ เข้าแลว้ ใส่เกลือลงไปไม่มากเพราะไม่ต้องการให้ปลามรี สเค็มจดั และใชเ้ ทคนิคการแชห่ มกั ปลากอ่ นเอา ปลาไปตากแดด ให้นาใส่ถุงพลาสติกแลว้ เอาแชไ่ วใ้ นต้เู ยน็ (ไม่ใช่ช่องแช่แขง็ )ทง้ิ ไว้สกั ๒-๓ วนั แลว้ จงึ นามาล้างน้าและตากแดดให้แหง้ วตั ถดุ บิ การใช้ภมู ปิ ญั ญาและวตั ถดุ ิบทม่ี ีอยู่ในชมุ ชนการดำเนนิ วิถชี ีวิตแบบดัง้ เดมิ การดำเนินชวี ติ ตามหลกั ของ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ความขยันหมนั่ เพียร ประโยชน์ของปลาแห้ง 1) เก็บรกั ษาไวบ้ รโิ ภคได้นาน 2) เปน็ การเพม่ิ ชนิดอาหารให้มากขึน้ มีรสชาติ กลนิ่ สีทแ่ี ตกต่างออกไป 3) สะดวกในการส่ง

4) เปน็ ของฝาก 5) การสรา้ งงาน 6) การเพ่มิ มลู คา่ ของวัตถุดบิ 7) การเพิ่มรายไดใ้ หก้ ับชมุ ชน 8) ทำเป็นของฝากได้ อตั รายจากปลาแห้ง 1) จำเป็นตอ้ งเลอื กสถานทซี่ ้ือผลิตภณั ฑ์แห้งและแห้งโดยเฉพาะอย่างยิ่ง โดยการได้รับมันในสถานท่ีที่ไม่ คนุ้ เคยก็มีโอกาสสงู ท่จี ะติดเชอ้ื โดย diphyllobothriasis หรือปรสติ อื่น ๆ , ลำไส้ sticks. น่ันคือเหตผุ ล ทีค่ ณุ ควรซื้อเฉพาะปลาทผ่ี ลิตในโรงงานเนือ่ งจากในกรณนี ี้จะตอ้ งผ่านขน้ั ตอนการประมวลผลที่จำเป็น ท้งั หมด เปน็ สิง่ สำคญั ! ปลาน้ำจืดเปน็ อันตรายโดยเฉพาะอยา่ งย่งิ ในแงน่ ี้ หากผลติ ภัณฑ์ถกู จัดเตรียมโดย การอบแห้งและการสูบบุหรี่แล้วคุณจะไม่สามารถแน่ใจได้เลยว่า คุณสามารถจัดการกับปรสิตได้ ผลติ ภัณฑน์ ี้เหมาะที่จะต้มหรือทอด 2) การใช้ปลาแห้งในปริมาณมากหา้ มใช้สำหรับผู้ปว่ ยทีเ่ ป็นโรคหัวใจและไต เชน่ อาหารอันโอชะผิดปกติ สำหรับกระเพาะอาหารของเราเป็นเร่ืองท่ียากมาก ในเร่ืองนี้การระคายเคอื งของผนังกระเพาะอาหาร และเป็นผลให้ความผดิ ปกติของระบบทางเดินอาหารอาจเกิดข้ึน 3) กระดกู ทย่ี ากต่อการแยกออกจากเนือ้ สัตว์คณุ สามารถเค้นได้ 4) ปลาแห้งที่เป็นอนั ตรายมีความดันโลหิตตำ่ เนอื่ งจากปริมาณเกลือสูงสามารถทำให้เกิดการไหล ออกของของเหลวจากเลือดไดแ้ ละสถานการณท์ คี่ วามดนั โลหิตจะแยล่ งเท่าน้ัน 4) หอมแดง รปู ที่ 2.5 หอมแดง https://www.sanook.com/men/4573/ หอมแดง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Allium ascalonicum) เป็นพชื ในวงศพ์ ลับพลงึ (Amaryllidaceae)

โดยยึดเอา French grey challot หรอื griselle เป็นหอมทแี่ ทจ้ ริง จัดอยูใ่ นสปชี ยี ์น้ี เพาะปลกู ในเอเชีย กลางและเอเชยี ตะวนั ตกเฉยี งใต้ ความเป็นมาของหอมแดง หอมแดงเป็นพืชขนาดเล็กทีป่ ลกู ไวเ้ พอ่ื บรโิ ภคส่วนของหัวหรือบลั บ์นยิ มใช้ในการประกอบอาหาร และเป็นสมุนไพรทง้ั น้ีหอมแดง มีถิน่ กำเนิดด้งั เดมิ ในเอเชียตะวันตกเฉยี งใต้สันนิษฐานวา่ อยใู่ นแถบประเทศ ทาจิกิสถาน อัฟกานสิ ถาน และอหิ ร่าน โดยเช่ือกันวา่ หอมแดงกลายพันธุต์ ามธรรมชาตมิ าจากหอมหัวใหญ่ และมกี ารคดั เลอื กพันธเ์ุ พอื่ นำมาปลกู เปน็ พชื อาหาร ในจนี และอินเดียและมีการกระจายพนั ธุ์ไปท่ัวโลก ซึ่งได้ มกี ารจดบันทกึ ไว้ ในช่วงคริสตวรรษท่ี 12 ปัจจบุ ันการปลกู หอมแดงได้แพร่หลายไปท่ัวโลกแต่ก็ยังมีการ บรโิ ภคน้อยกว่าหอมหวั ใหญ่อยู่ หอมแดง จัดเป็นพชื เศรษฐกิจทส่ี ำคัญของประเทศในแถบเอเชยี ตะวันออก เฉียงใตโ้ ดยในประเทศไทยพบวา่ มีการปลกู มากภาตตะวันออกเฉียงเหนอื และทางภาคเหนือ รปู แบบและขนาดวิธใี ช้ ตำรายาไทย: ใช้หวั หอมสด ประมาณ 15-30 กรมั นำมาต้มเอานำ้ ดมื่ เปน็ ยาแกท้ อ้ งอืดแนน่ แกบ้ วม นำ้ ขบั พยาธิ ปวดหลงั บริเวณเอว ปวดประจำเดือน แก้ไข้ ขบั ลม ทำให้ร่างกายอบอุ่นตำรับยาสมุนไพร ล้านนา: มกี ารใชห้ วั หอมแดง ในตำรบั “ยาเลอื ดข้นึ ” (ยารักษาโรคความดัน) ให้เอาเทยี นท้ัง 5 (เทยี นดำ เทยี นแดง เทยี นขาว เทียนข้าวเปลือก และเทยี นตาตกั๊ แตน) ขิง หอมแดง พริกไทย ใบตาล นำมาค่วั ใหเ้ หลอื ง แลว้ บดผสมกนั แล้วนำไปสูบ ถ้าสบู ไมไ่ ด้ ให้ทำหลอดพน่ เขา้ รจู มูกแก้หวัดคัดจมูก ใชห้ ัว 2-4 หัว ทุบพอบุบ หอ่ ผา้ ขาวบางวางไวบ้ นหัวนอน แกพ้ ษิ แมลงสตั ว์ กดั ตอ่ ย ใช้หวั ประมาณ 1 หัว ขย้หี รอื ตำใหแ้ หลกแลว้ นำมาทาหน้าบวม ทอ้ งอดื แนน่ ปสั สาวะขัดหรอื น้อย อาการหอบหดื ใชถ้ ั่วแดงชนิดเมลด็ เล็ก 1 ถว้ ยชา หวั หอมแดง 10 หัวซอยเป็นฝอย ใส่น้ำ 5 ถ้วยชา ต้มจนถ่ัวสกุ ให้นำ้ แหง้ พอดี ใส่เซยี วเจี๊ยะ (Niter มี KNO3 เป็นสารสำคญั อาจใชด้ ินปลาสิวแทนได้) 30 กรัมลงในกะละมงั ต้มบดคลุกกบั ถั่วและหวั หอมให้ละเอียดได้ เป็นของเหลวขน้ ๆ กินทุกวนั ตอนท้องวา่ ง แลว้ กนิ เหลา้ อง่นุ ตามดว้ ยคร่ึงช้อนชากินเนือ้ สัตวเ์ ป็นพษิ อาเจยี น เปน็ เลือด ร่างกายผอมเหลือง ใชเ้ มล็ดหอมแดง 1 ถว้ ยชา ลา้ งให้สะอาด ตำให้แตกใส่นำ้ ต้ม รนิ กิน เม่อื นำ้ เยน็ ครง้ั ละครึ่งถ้วยชา วนั ละ 2 ครัง้ เชา้ -เย็นน้ำคั้นจากหัวหอมอุ่นรว่ มกับใบผักกาดนำ้ เปลือกชลดู ถูทาบรเิ วณ ฟกช้ำ นอกจากน้ี ยงั ใช้ผสมทำลกู แป้งหมกั เหลา้ ได้อกี ดว้ ยชว่ ยรักษาแผล โดยการนำหอมแดงมาห่นั เปน็ แวน่ ๆ สารสำคัญทเี่ ป็นสารออกฤทธ์ิของหอมแดง - อลั ลซิ าตนิ (Allisatin) - อะโจอีน (Ajoene) - ไดแอลลลิ ซลั ไฟด์ (Diallyl Sulfide)

- อัลเคนลี ไตรซลั ไฟด์ (Alkenyl trisulfide) ประโยชนข์ องหอมแดง 1)ไขห้ วัด แก้หวัดคดั จมกู และชว่ ยลดนำ้ มกู ใช้หัวเลก็ ปอกเปลอื กทบุ พอแตก ห่อผ้าบางๆ วางไว้ตรงหัวนอน เพอ่ื ให้กลน่ิ หัวหอมเข้าจมูก ชว่ ยทำให้จมกู โล่ง สามารถบรรทาอาการหวัดได้ (วางไว้เวลาเดก็ หลับ ) 2)โรคหืดหอบ ไอเรอื้ รง้ั 3)รกั ษาสวิ และลดรอยดา่ งดำ 5) กระเทยี ม รูปท2่ี .6 กระเทยี ม https://www.pobpad.com/ กระเทียม (garlic) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Allium sativum L. เป็นพืชใบเรยี วยาว แบน แคบ ปลาย แหลม โคนใบแผเ่ ป็นแผน่ และเชื่อมติดกนั นหุ้มรอบใบอ่อนกวา่ ด้านใน ลกั ษณะคลา้ ยลำต้นเทียม รปู แบบและขนาดวิธีใช้ “ตำรายาไทยใช้หวั กระเทียมเปน็ ยาขับลมแก้ลมจกุ เสียดแก้ท้องอดื ทอ้ งเฟ้อแกธ้ าตุพิการ อาหารไม่ยอ่ ย ขับเสมหะ ขับเหงื่อ ลดไขมนั รักษาปอด แก้ปอดพิการ แก้อจุ จาระเป็นมูกเลือด บำรุงธาตุ กระจาย โลหิต ขบั ปัสสาวะ แกบ้ วมพุพอง ขับพยาธิ แกต้ าปลา แกต้ าแดง น้ำตาไหล ตาฟาง รกั ษาโรค ลักปดิ ลักเปิด รกั ษามะเร็งคุด รักษาริดสีดวง แก้ไอ คมุ กำเนดิ แก้สะอกึ บำบัดโรคในอก แกพ้ รรดกึ รกั ษา ฟนั เป็นรำมะนาด แกห้ อู ้ือ แก้อัมพาต ลมเขา้ ขอ้ แกอ้ าการชกั กระตกุ ของเดก็ พอกหวั เหนา่ แกข้ ดั เบา รกั ษา วัณโรค แกโ้ รคประสาท แก้หดื แก้ปวดมวนในทอ้ ง บำรงุ สุขภาพทางกามคณุ ขบั โลหิตระดู บำรุง เสน้ ประสาท แกไ้ ข้ แก้ฟกชำ้ แก้ปวดกระบอกตา แกโ้ รคในปาก แกห้ วัดคดั จมกู แกไ้ ขเ้ พือ่ เสมหะ ทำ ใหผ้ มเงางาม บำรุงเส้นผมให้ดกดำ ใช้ภายนอก รกั ษาแผลเรื้อรัง รกั ษากลากเกล้ือน แก้โรคผวิ หนัง ทา ภายนอกบรรเทาอาการปวดบวมตามขอ้ เพราะเปน็ ยาพอกใหร้ ้อน ใชพ้ อกตรงท่ีถกู แมลง ตะขาบ แมงปอ่ ง ตอ่ ยเป็นสว่ นประกอบในตำรบั ยาเหลอื งปดิ สมุทร (แก้ทอ้ งเสีย), ยาประสะไพล (ขับน้ำคาวปลา ในสตรหี ลัง คลอด), ยาธาตุบรรจบ (แกท้ ้องอืดท้องเฟอ้ ทอ้ งเสีย ใชก้ ระเทียม 3 กลบี ทุบชงนำ้ ร้อน ใชเ้ ปน็ นำ้ กระสายยา

สำหรับยาผง)บญั ชียาจากสมุนไพร: ทมี่ ีการใช้ตามองค์ความรูด้ ้งั เดิม ตามประกาศคณะกรรมการพฒั นา ระบบยาแห่งชาติ ในบญั ชียาหลกั แห่งชาตริ ะบกุ ารใช้กระเทียมในตำรบั ยาแกล้ มอัมพฤกษ์” มีส่วนประกอบ ของหัวกระเทยี มรว่ มกบั สมุนไพรชนดิ อนื่ ๆ ในตำรบั มสี รรพคณุ บรรเทาอาการปวดตามเสน้ เอน็ กล้ามเนอื้ มอื เท้า ตงึ หรือชา ตำรับ \"ยาประสะไพล\" มีสว่ นประกอบของหัวกระเทยี มร่วมกบั สมนุ ไพรชนิดอ่ืนๆ ในตำรับ มี สรรพคณุ รักษาระดมู าไมส่ มำ่ เสมอหรอื มานอ้ ยกวา่ ปกติ บรรเทาอาการปวดประจำเดือน และขับนำ้ คาวปลา ในหญิงหลงั คลอดบตุ ร ตำรับ \"ยาเลือดงาม\" มสี ่วนประกอบของหวั กระเทยี มรว่ มกับสมุนไพรชนิดอน่ื ๆ ใน ตำรบั มสี รรพคุณบรรเทาอาการปวดประจำเดอื น ช่วยใหป้ ระจำเดือนมาเปน็ ปกติ แกม้ ุตกิด ตำรับ”ยาเหลอื ง ปดิ สมุทร” มีสว่ นประกอบของหัวกระเทียมคว่ั รว่ มกบั สมนุ ไพรอื่นๆ ในตำรบั มสี รรพคณุ บรรเทาอาการ ทอ้ งเสียชนดิ ท่ไี ม่เกดิ จากการติดเชื้อ เช่น อุจจาระไมเ่ ป็นมูก หรอื มีเลอื ดปนและท้องเสียชนิดที่ไม่มีไข้ สาระสำคัญท่ีเป็นสารออกฤทธ์ิของกระเทียม สารในกลมุ่ สารประกอบกามะถัน ( Organosulfur) เชน่ 1) อัลลิซาตนิ (Allisatin) 2) อะโจอนี (Ajoene) 3) ไดแอลลิล ซลั ไฟด์ (Diallyl Sulfide) 4) อลั เคนีล ไตรซัลไฟด์ (Alkenyl trisulfide) ประโยชน์ของกระเทียม 1) แกป้ ญั หาผมหลุดรว่ ง 2) รักษาสวิ 3) ปอ้ งกนั และรักษาโรคหวัด 4) บรรเทาอาการอกั เสบจากโรคสะเกด็ เงิน 5) ชว่ ยควบคมุ นำ้ หนัก 6) ถอนเสีย้ น 7) กำจัดกลิ่นเท้า 8) ไลย่ งุ และแมลงสตั ว์กัดตอ่ ย 9) รกั ษาโรคสา่ ไข้ 10) ช่วยแก้อาการเคล็ดขัดยอกและเทา้ แพลง 11) ชว่ ยตอ่ ต้านเนอ้ื งอก 12) ช่วยแก้ปัญหาผมบาง ยาวชา้ มีสีเทา 13) ชว่ ยปอ้ งกนั การเกดิ และรกั ษาโรคโลหติ จาง 14) ช่วยในการขบั พิษและสารพษิ อันตรายท่ีปนเปอื้ นในเมด็ เลอื ด

15) ช่วยป้องกนั ผนังหลอดเลอื ดหนาและแขง็ ตัว 6) พรกิ ป่น รปู ท่ี 2.7 พรกิ ปน่ http://www.aurareefood.com/portfolio-item/09-chili-powder ความเปน็ มาของพรกิ ป่น พริก เปน็ พชื ในวงศ์ Solanaceae สกุล Capsicum ชือ่ ภาษาองั กฤษวา่ Chilli peppers, chili, chile หรือ chilli มาจากคำภาษาสเปน วา่ chile โดยสว่ นมากแลว้ ชื่อเหลา่ น้มี กั หมายถึง พริกทีม่ ขี นาดเล็ก ส่วนพรกิ ขนาดใหญ่ทม่ี ีรสออ่ นกว่าจะเรียกว่า Bell Pepper ในสหรฐั อเมรกิ า Pepper ในประเทศอังกฤษและ ไอรแ์ ลนด์, capsicum ในประเทศอินเดยี กบั ออสเตรเลยี และ Paprika ใประเทศทวีปยุโรปหลายประเทศ พริกชนดิ ตา่ ง ๆ มีต้นกำเนิดมาจากทวีปอเมริกา ซ่ึงในปจั จุบันน้ไี ด้มีปลกู กนั ในหลายประเทศท่ัวโลก เพราะ พริกเปน็ เคร่ืองเทศทสี่ ำคญั และยงั มีคณุ สมบตั ิเป็นยาสมุนไพร ประโยชน์ของพรกิ ป่น 1) พริกมสี ารต่อตา้ นอนุมูลอสิ ระ ชว่ ยชะลอวยั 2) ช่วยใหอ้ ารมณ์ดี ทำใหร้ า่ งกายสร้างสาร Endorphin (สารแหง่ ความสุข) 3) ช่วยเสรมิ สร้างภูมติ า้ นทานใหแ้ ขง็ แรงมากยิง่ ข้นึ 4) วิตามินซที ่ชี ่วยเสรมิ สร้างคอลลาเจนในร่างกาย 5) ชว่ ยในการบำรงุ และรักษาสายตา 6) ช่วยกระตุ้นใหเ้ จรญิ อาหารยง่ิ ขึน้ 7) สารแคปไซซนิ ชว่ ยให้เกิดอาการตน่ื ตวั ของรา่ งกาย 8) ช่วยในการดีทอ็ กซข์ องรา่ งกาย 9) พรกิ ช่วยบรรเทาอาการไข้หวดั ลดน้ำมกู และลดเสมหะ

10) ช่วยบรรเทาอาการไอ 11) ชว่ ยลดสารท่มี ากดี ขวางระบบทางเดินหายใจอันเน่อื งมาจากการเปน็ ไข้หวดั ไซนัส หรือโรคภมู แิ พ้ต่าง ๆ 12) ชว่ ยรักษาโรคลักปิดลกั เปดิ หรอื โรคเลอื ดออกตามไรฟนั 13) ชว่ ยใหห้ ายใจได้สะดวกยงิ่ ขึ้น 14) ช่วยลดความเสย่ี งของการเกิดโรคมะเร็ง และความเผ็ดของพรกิ มสี ว่ นชว่ ยฆ่าเซลล์มะเร็งได้ 15) ชว่ ยลดปรมิ าณสารคอเลสเตอรอลในรา่ งกาย ทำให้ปริมาณของไตรกลเี ซอไรดใ์ นกระแสเลือดลดลง 16) ชว่ ยลดการอดุ ตันของเส้นเลือด เส้นเลือดสมองอุดตนั 17) ชว่ ยในการสลายล่ิมเลอื ด 18) ชว่ ยปอ้ งกนั การเกิดโรคหัวใจลม้ เหลว 19) ชว่ ยเพ่ิมการไหลเวยี นของหลอดเลอื ดให้ดยี ่งิ ขึน้ 20) ชว่ ยลดความดันโลหิต 21) ช่วยเสริมสร้างผนงั หลอดเลือดใหแ้ ขง็ แรง ช่วยเพ่ิมการยดึ ตัวของผนงั หลอดเลือด 22) ช่วยขยายเส้นโลหิตในลำไส้และกระเพาะอาหารเพ่ือการดดู ซึมอาหารท่ดี ีขนึ้ 23) สาร Capsaicin ชว่ ยฆ่าเชอ้ื แบคทีเรยี ในกระเพาะอาหาร 24) ช่วยใหร้ ่างกายขับถ่ายของเสยี และนำธาตอุ าหารไปยังเนื้อเย่ือในร่างกาย 25) ช่วยบรรเทาอาการอาหารไมย่ อ่ ย ขับแก๊สในกระเพาะ 26) มีสว่ นชว่ ยในการขับปสั สาวะ 27) ชว่ ยป้องกนั การติดเชอ้ื ตา่ ง ๆ ในบริเวณจมูก ลำคอ ปอด เยือ่ บผุ นงั ช่องปาก 28) ชว่ ยไมใ่ หเ้ มือกเสีย ๆ มาจบั ตวั กันภายในสว่ นต่าง ๆ ของร่างกายดว้ ย 29) ชว่ ยบรรเทาอาการเจ็บปวดต่าง ๆ เช่น อาการปวดฟัน เจ็บคอ การอกั เสบของผวิ หนัง อาการปวดศีรษะ ปวดเส้นเอน็ โรคเกาต์ ขอ้ ตอ่ อักเสบ เปน็ ตน้ 30) พรกิ ชว่ ยกระตนุ้ ใหอ้ ยากอาหารมากขน้ึ 31) ใช้ในการประกอบอาหาร ปรุงแต่งอาหาร 32) นำไปแปรรปู เป็นผลติ ภัณฑ์ชนิดต่าง ๆ เชน่ พริกแห้ง พริกปน่ พริกดอง ซอสพริก เครอื่ งแกง น้ำพริก ต่าง ๆ และผลติ ภัณฑย์ ารักษาโรค 33) รวมไปถงึ อาวธุ ป้องกันตัวอย่างสเปรยพ์ รกิ ไทย (ไมถ่ ือวา่ เป็นอาวธุ ร้ายแรง) 34) ในด้านการแพทย์แผนจนี นำสารนมี้ าใชป้ ระโยชน์เพ่อื บำรงุ พลังหยาง 35) ในด้านการแพทยไ์ ดม้ กี ารสกดั เอาสารแคปไซซนิ ในพริกออกมาในรูปแบบครมี หรอื เจล ใช้ทาเพอื่ บรรเทา อาการเจบ็ ปวดทีผ่ วิ หนัง เช่น ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก งสู วดั เป็นตน้ 36) ในด้านความงามจะใช้สารสกัดจากแคปไซซินมาสกัดเปน็ เจลเพ่อื ใช้ในการนวดลดเซลลไู ลต์ สลายไขมนั

37) ในพรกิ ป่นมที งั้ รสและกล่ินเผด็ รอ้ นทชี่ ่วยให้เกิดอาการตนื่ ตวั ซง่ึ ส่วนประกอบในพริกที่ทาเรารสู้ กึ อย่าง นนั้ กค็ ือ capsaicin 38) มกี ารศึกษาพบวา่ capsaicin ในพริกมคี วามสามารถในการกาจดั เซลลม์ ะเร็ง โดยไมท่ าลายเซลล์ดี ภายในรา่ งกาย ซึ่งอีกไม่นานจะมกี ารแนะนาใหใ้ ช้ capsaicin ในการรักษามะเร็ง นับเป็นการบาบัด แบบใหมท่ ่ีมที ศิ ทางท่ีดีในอนาคต 39) พริกป่นมคี ณุ สมบตั ิชว่ ยบรรเทาอาการปวดเมอ่ื ย ของกลา้ มเน้อื หลงั ได้ดี คุณสามารถบาบดั อาการ ปวดเม่อื ย ไดท้ ่ีบ้านด้วยการใชพ้ ริกป่นใส่ลงในอาหารทีร่ บั ประทาน 7) นำ้ ตาล รูปท2ี่ .8น้ำตาล https://www.siamchemi.com น้ำตาล (Sugar) คือ สารประกอบคาร์โบไฮเดรตประเภทโมโนแซ็กคาไรด์ (monosaccharide) และ ไดแซ็กคาไรด์ (disaccharide) ซึง่ มรี สหวาน โดยทัวไปจะไดม้ ากจากอ้อยมะพร้าว แต่โดยท่วั ไปแล้วจะเรยี ก อาหารท่ีมรี สหวานว่านำ้ ตาลแทบทั้งส้นิ เชน่ ทำมาจากตาลจะ เรยี กวาตาลโตนด ทำมาจากมะพร้าวจะ เรียกวา่ น้ำตาลมะพรา้ ว ทำมาจากงวงจากจะเรียกวา่ นำ้ ตาล จาก ทำมาจากงบจะเรยี กวา่ น้ำตาลงบ ทำมา จากอ้อยแต่ยังไมไ่ ด้ทำเป็นน้ำตาลทรายจะเรยี กวา่ น้ำตาล ทรายดิบ ถ้านำมาทำเปน็ เม็ดจะเรียกว่าน้ำตาล ทราย ประโยชนข์ องนำ้ ตาล 1) นำ้ ตาลใหค้ วามหวาน ใหพ้ ลงั งานแกร่ ่างกาย ทำใหร้ ่างกายสดชน่ื มีกำลัง 2) การทำงานของอวัยวะตา่ งๆภายในร่างกาย ต้องการพลงั งานท่มี าจากนำ้ ตาล กลโู คส ( glucose ) คอื แหลง่ อาหารที่จำเปน็ ตอ่ เนือ้ เยื่อและอวัยวะต่างๆ 3) น้ำตาลช่วยในการถนอมอาหาร และ ใช้หมกั อาหารได้ โทษของนำ้ ตาล

1) น้ำตาลเป็นสารเรง่ ผวิ หนังเหยี่ วยน่ และรว้ิ รอย ก่อให้เกดิ อนุมูลอสิ ระ การรบั ประทานน้ำตาลมากเกินไป อาจทำใหผ้ ิวเสีย หนา้ แก่ เพราะนำ้ ตาลทำปฏิกริ ยิ าเปลยี่ นโครงสร้างของคอลลาเจนทำใหอ้ ลี าสติก นอ้ ยลง ซึง่ อีลาสตกิ เปน็ โปรตนี ที่ทำใหผ้ ิวกระชบั และมีความยดื หยุ่น เม่ืออีลาสตกิ ถกู ทำลายจะทำให้ ผวิ หนงั แหง้ มรี ว้ิ รอยลึก หยอ่ นคลอ้ ย ทำใหผ้ ิวหนา้ แกก่ ่อนวัยอันควร 2) นำ้ ตาลทำใหน้ ้ำหนกั เพมิ่ ขน้ึ หากมกี ารบริโภคนำ้ ตาลในปรมิ าณสูง รา่ งกายจะเปลี่ยนน้ำตาลที่ไดร้ บั มาก เกนิ ความตอ้ งการไปสะสมกลายเป็นไขมัน ซึ่งอาจเป็นสาเหตุท่ีทำใหน้ ำ้ หนกั ตัวเพิม่ ข้ึน เส่ียงตอ่ การเกิด โรคอว้ นได้ 3) น้ำตาลทำให้สมดลุ ของเลอื ดเสยี ไป การบริโภคน้ำตาลทม่ี ากจนเกนิ ไป จะทำใหอ้ ินซูลินในรา่ งกายผลิต ออกมาเกนิ ความจำเปน็ และตกคา้ งอยใู่ นกระแสเลือด มีผลตอ่ ระบบการไหลเวยี นเลือด ซง่ึ ถ้าหากเปน็ เรอื้ รังก็จะส่งผลใหเ้ ซลลก์ ลา้ มเนอ้ื เรียบบริเวณรอบ ๆ หลอดเลอื ดเจรญิ เรว็ ข้ึนกวา่ ปกติ ทำใหก้ าร ไหลเวียนของเลือดเกิดการปัน่ ป่วนจนเป็นสาเหตขุ องโรคความดนั โลหติ สูง รวมท้งั ความเสี่ยงโรคหลอด เลอื ดตา่ ง ๆ กจ็ ะเพมิ่ ข้ึนอีกด้วย 4) น้ำตาลทำให้กระดูกและฟนั ไม่แข็งแรง น้ำตาลทีม่ ีส่วนผสมของซูโครส ถอื ว่าเปน็ อาหารชน้ั ดีใหก้ บั เหลา่ แบคทเี รยี ท่อี ยู่ในช่องปาก ซง่ึ เป็นสาเหตสุ ำคญั ทท่ี ำให้เกดิ โรคฟนั ผุ คราบพลกั หรอื เหงือกอกั เสบได้ 5) นำ้ ตาลทำใหร้ ่างกายเซือ่ งซมึ การกนิ นำ้ ตาลปริมาณมากเป็นประจำแทนทีจ่ ะสดชืน่ กลบั ทำใหก้ รดอะมิ โนท่ีชื่อวา่ ทรปิ โตฟานเรง่ เข้าสสู่ มองมาเกนิ ไป ทำใหเ้ สียสมดลุ ของฮอร์โมนในสมองมผี ลทำให้เกิดอาการ เหนื่อย ไมก่ ระฉบั กระเฉง เซอื่ งซมึ ได้ 8) เกลอื รูปที่ 2.9 เกลอื https://howtogetrid-th.expertexpro.com/ เกลอื คอื หน่งึ ในส่วนประกอบที่จำเป็นของชีวิตประจำวนั ของผ้คู นทว่ั โลกเป็นท้ังเครอื่ งปรงุ รสชาติใน อาหาร การนำมาเป็นส่วนประกอบของเครอื่ งประทนิ ผวิ หรือนำไปประยุกตใ์ ช้ในอกี หลากหลายดา้ น เกลือ ไมไ่ ด้ถกู ผลติ ขน้ึ โดยตรง แต่มตี ้นกำเนิดมาจากธรรมชาติ นำเข้าสกู่ ระบวนการผลิตใหเ้ กดิ ความเหมาะสมใน

การนำมาใช้อยา่ งปลอดภัย แถมการนำมาใชย้ ังให้ ประโยชนท์ ่ีดีต่อสุขภาพ และเป็นสารอาหารทร่ี ่างกาย ตอ้ งการ ประโยชนข์ องเกลอื 1) แชผ่ ลไมไ้ มด่ ำคล้ำ เพียงแคน่ ำเกลือไปละลายในนำ้ จากน้นั ก็นำผลไม้ท่ีหน่ั ลงไปแช่ในน้ำเกลือได้เลย จากนัน้ ก็หยบิ ผลไม้นั้นขึ้นมาจดั ใส่จานได้เลยและเน้อื ของผลไมท้ ี่หัน่ กจ็ ะไมด่ ำคลำ้ แลว้ ละ่ 2) ลดความขมของผกั ต่างๆ เพงี แคน่ ำเกลอื ไปคลกุ เคลา้ กับผักที่คุณต้องการลดความขมของรสชาติผัก นั้นๆ จากน้ันก็ลา้ งออกด้วยนำ้ เปลา่ ความขมของผักก็จะลดลงไปไดใ้ นระดับหนึง่ 3) ดบั กลิ่นคาวติดมอื หากใครจำเป็นต้องจบั ของคาวอยา่ งเช่น ปลา เพ่อื ใชใ้ นการปรุงอาหารแล้วจะสงั เกต ไดว้ ่ามีกลิ่นคาวตดิ มอื ฉะนั้นคุณตอ้ งการใหก้ ลนิ่ คาวหายไปก็เพยี งแค่นำเกลือมาขดั ฝา่ มือ จากนน้ั ก็ลา้ งออกด้วยน้ำเปลา่ เพยี งเท่านก้ี ล่นิ คาวกจ็ ะหายไป นอกจากนห้ี ากเราใชม้ ะนาวกับเกลือขัด เขียงท่เี ราใชห้ ั่นปลากส็ ามารถขจัดกล่นิ คาวทต่ี ิดอย่ทู เี่ ขยี งไดเ้ ช่นกัน 4) ช่วยลดคราบเปอะเปื้อนบนเสอื้ ได้โดยนำเกลอื มาขัดบรเิ วณทคี่ ราบบนเสอ้ื จากน้ันก็ลา้ งออกดว้ ยนำ้ เปล่า ไดเ้ ลย นอกจากน้ีเกลือยงั ป้องกนั การตกสีของผ้าได้งา่ ยๆ เพียงแค่นำเกลอื มาผสมกับน้ำในการซักผ้า จากนน้ั ก็นำผ้าลงกไปซักตามปกตไิ ดเ้ ลย ปญั หาเร่ืองรอยคราบและผา้ สตี กก็จะหมดไป 5) หากน้ำเกลือกบั มะนาวมาใช้ร่วมกันแล้วละก็สามารถกำจัดเชอื้ ราบนเสอ้ื ผ้าของเราไดน้ ะ เพียงแค่บีบ มะนาวไปยังบรเิ วณท่มี ีเช้ือราจากนัน้ ก็ขัดด้วยเกลือแลว้ นำไปตากแดดให้แหง้ และซักเสื้อผ้าน้ันอีกรอบ หน่ึง เพยี งเทา่ น้ีเช้ือราก็จะตายเรยี บเลยละ่ 6) เกลอื กับนำ้ ร้อนสามารถชว่ ยดับกลน่ิ ของท่อระบายนำ้ ไดอ้ ยา่ งท่อต่อน้ำท้ิงจากอ้างลา่ งจาน ซงึ่ สามารถ ทำได้งา่ ยๆ เพยี งแคน่ ำเกลือไปละลายในน้ำรอ้ นจากน้ันก็เทนำ้ ลงไปในทอ่ ได้ เกลอื กับความร้อนของน้ำก็ จะไปชำระลา้ งทำให้ท่อนำ้ นน้ั หมดปญั หาเรอ่ื งกล่ินไม่พงึ ประสงคไ์ ด้ 7) คืนชีวิตชีวาให้ฟองน้ำ โดยการนำฟองน้ำไปแช่ไว้ในนำ้ เกลือเพียงแค่ 1 คืน ฟองนำ้ ก็จะมสี ภาพเหมือน ใหม่และสะอาดด้วย 8) แชแ่ ปรงสีฟันที่มีขนแปรงแข็งใหอ้ ่อนลงได้เพียงแคน่ ำแปรงสีฟนั ไปแชใ่ นไว้ในเกลอื ทิ้งไว้สักพัก เพียง เท่านขี้ นแปรงสฟี ันกจ็ ะนมุ่ ข้นึ และเพมิ่ ความคงทนของแปรงสีฟนั ได้อกี ด้วย 9) แช่เทียนเพ่อื เป็นการยดื อายกุ ารใช้ของเทียนแท่งไดโ้ ดยนำไปแชใ่ นน้ำเกลอื จากน้ันกน็ ำไปตากให้ แหง้ แล้วนำมาเก็บไว้ได้เลย 10) ใส่เกลอื ลงไปในแจกันดอกไมก้ ส็ ามารถทำใหด้ อกไม้นนั้ คงความสดได้นานยง่ิ ขนึ้ 11) ลดความขมและเพิ่มความกลมกล่อมของกาแฟเพียงแค่ใส่เกลอื ลงไปเพยี งเล็กนอ้ ยเท่านนั้ รสชาติ ของกาแฟก็จะกลมกลอ่ มข้ึนมาในทันที

12) กำจดั วัชพืชปัญหากวนใจของใครหลายคนโดยใชเ้ กลอื โรยไปให้ท่ัวบรเิ วณที่มวี ชั พืชอยจู่ ากนัน้ ก็รดนำ้ ตา มลงไป เพียงเทา่ น้ีวชั พชื กจ็ ะตายไปได้โดยง่าย 13) ขจัดคราบเปอื้ นบนเตารดี ไดด้ ้วยเกลอื เพียงแคเ่ ทเกลือไว้บนกระดาษจากน้ันกร็ ดี ทบั ไปบนเกลือเพ่อื เป็น การขดั หน้าเตารีด จากน้ันจะสงั เกตได้วา่ เตารดี ของคณุ จะดเู หมอื นใหม่ขึ้นในทนั ที 14) ขัดคราบไหมใ้ นกระทะง่ายๆ ดว้ ยการใชเ้ กลอื เพยี งแค่เทเกลอื ลงไปในกระทะจากน้ันก็ผัดเกลือได้เลย เพียงเทา่ น้ีคราบไหม้ตา่ งๆ บนกระทะก็จะหลุดหายไปอย่างง่ายดาย 15) ตำเครอ่ื งแกงไว้สำหรับปรงุ อาการให้มคี วามละเอียดได้โดยง่ายดายเพยี งแค่ใส่เกลือลงไปขณะทำการตำ จะสังเกตวา่ สามารถตำเครอื่ งแกงไดล้ ะเอยี ดข้ึน 16) ทำปลาเผาโดยทไ่ี ม่มกี ลน่ิ คาวได้งา่ ยๆ โดยการใส่เกลอื เคลอื บปลาไว้รอบตัวจากนน้ั ก็นำไปปลาไปย่าง หรือเผาปลาได้เลย 17) ลดกลิน่ ฉนุ ในขณะค่ัวพรกิ แหง้ เพียงแคใ่ ส่เกลือลงไปในขณะท่ีทำการคั่วพริก เพียงเทา่ นี้กลิน่ ฉุนก็จะ ค่อยๆ จางลงไป 18) ทอดอาหารไม่ใหต้ ิดกระทะเพยี งแคน่ ำเกลอื โรยไวร้ อบกระทะจากน้ันกเ็ ทนำ้ มนั ลงแล้ว รอให้ร้อน แลว้ ลงมือทอดได้เลย เพียงเทา่ นีอ้ าหารทท่ี อดกจ็ ะไมต่ ิดกระทะแลว้ ละ 19) นอกจากน้ีแล้วเกลือยังถกู นำไปใช้ประโยชนใ์ นทางอุตสาหกรรมมากมาย เช่น อตุ สาหกรรมกระดาษ อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมผลติ สยี อ้ มผ้า ยาฆา่ แมลง อตุ สาหกรรมผลติ สบู่และผงซักฟอก โทษของเกลอื 1) ทำให้เกิดการค่งั ของเกลอื และนำ้ ในอวัยวะต่างๆ ของรา่ งกาย (โทษของเกลอื ) เนื่องจากในเกลือจะมี สารสำคญั คือ ‘โซเดยี ม’ โดยปกตโิ ซเดยี วเป็นสารที่จำเปน็ ต่อร่างกาย แตห่ ากมมี ากเกินไปต้องถูกขับ ออกมาทางไต แตใ่ นรายทเี่ ป็นโรคไตรอื้ รงั จะไมส่ ามารถขับโซเดยี มและน้ำออกมาได้ โดยทง้ั น้ำและเกลอื จะไปสะสมตามส่วนต่างๆ ของรา่ งกาย ท้งั อวัยวะภายนอกอย่างแขน ขา และอวัยวะภายในอยา่ งหัวใจ และปอด โดยผ้ปู ่วยจะมอี าการบวมตามรา่ งกาย หายใจติดขดั นอนราบไมไ่ ด้ แนน่ หน้าอกและเหน่ือย ง่าย โดยเฉพาะผู้ปว่ ยทเ่ี ป็นโรคหวั ใจร่วมด้วย นอกจากนี้การรบั ประทานเกลือเกินขนาดยงั ไปเพม่ิ ความ เสี่ยงภาวะหัวใจวายจนสียชวี ติ ไดใ้ นที่สดุ 2) ทำใหเ้ กิดภาวะบวมนำ้ (โทษของเกลือ) ‘โรคบวมนำ้ ’ เกดิ จากการที่เราได้รับโซเดยี มและโพแทส 3) สเชียมเกินขนาดซึ่งสารดังกล่าวมีอยู่มากในเกลอื แกง หลายคนอาจสงสัยว่าพยายามควบคุมการ รบั ประทานอาหารมาตลอดแตท่ ำไมยังดูอ้วนอยู่ แท้ทจ่ี ริงแล้วสิง่ ท่ที ำใหด้ ูอ้วนอาจไม่ใช่ไขมัน หากแต่ เป็นโซเดียมและโพแทสเซียมในเกลือที่สะสมในร่างกายมากจนเกินไป ดังนั้นควรลดปริมาณเกลือใน อาหารเพื่อให้ไตสามารถขับเกลือส่วนเกินออกมา โดยเฉพาะผู้หญิงช่วงก่อนมีประจำเดอื นควรงด รบั ประทานเกลือ เพ่ือป้องกันอาการบวมน้ำและท้องอืด 4) เป็นปัจจัยสำคญั ของโรคมะเร็งในกระเพาะอาหาร (โทษของเกลอื ) การรบั ประทานเกลอื มากๆ

นอกจากจะทำใหอ้ วยั วะภายในร่างกายทำงานหนักขน้ึ เพอื่ กำจดั เกลือสว่ นเกนิ แลว้ เกลอื ยงั สามารถทำ ให้อวยั วะภายในอย่างผนังกระเพาะอาหารอกั เสบได้ โดยเม่อื มีการอักเสบรุนแรง จะทำให้การตดิ เชอื้ จาก จลุ ินทรยี ์ชนดิ ไมด่ หี รือแบคทีเรยี ไดง้ า่ ยข้ึนและนำไปสู่โรคมะเรง็ ในกระเพาะอาหารได้ นอกจากน้ันจาก การวจิ ยั ยงั ระบอุ ีกวา่ ผทู้ รี่ ับประมาณเกลอื ในปริมาณมากมีโอกาสเปน็ โรคกระเพาะอาหารมากกว่าคน ธรรมดา 5) เพมิ่ ความเสี่ยงโรคความดันโลหติ สูง (โทษของเกลอื ) สารหลกั ๆ ในเกลือคือ ‘โซเดยี ม’ ‘แมกนีเซียม’ และ ‘โพแทสเซยี ม’ แม้สารดังที่กลา่ วมานจี้ ะมปี ระโยชนต์ อ่ ร่างกาย แต่หากรา่ งกายไดร้ ับสารเหล่าน้ีมาก เกินไปจะเป็นการไปเพิ่มความดนั โลหิตให้สูงผิดปกติ โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตวั ท้ัง เบาหวานและโรคไตเรือ้ รงั โดยหากความดันโลหติ สูงมากๆ จะทำใหเ้ กดิ ภาวะหลอดเลอื ดตีบ อัมพฤกษ์ และอมั พาตตามมาได้ 2.5 แนวคดิ และทฤษฎคี วามพึงพอใจ กดู๊ (Good, 1973) กล่าววา่ ความพึงพอใจ หมายถงึ สภาพ คณุ ภาพ หรอื ระดับความพึงพอใจซ่ึง เป็นผลมาจาก ความสนใจต่าง ๆ และทัศนคตทิ ี่บุคคลน้นั มีต่อสิ่งนั้น โอลเิ วอร์ (Oliver, 1997) ไดใ้ หค้ วามหมายของความพึงพอใจ คอื การตอบสนองที่แสดงถงึ ความรู้ ปะสงคข์ องลูกคา้ เปน็ วจิ ารณญาณของลกู คา้ ทมี่ ตี อ่ สินค้าและบริการ ความพึงพอใจมมี มุ มองท่ี แตกต่างกันแลว้ แตม่ ุมมองของแต่ละคน โวลแมน (Wolman, 1973) กล่าวว่า ความพึงพอใจ หมายถึง ความรู้สึกทีม่ ีความสุขเม่ือไดร้ ับ ผลสำเรจ็ ตามจุดมงุ่ หมาย ความต้องการหรอื แรงจงู ใจ เคลิร์ก (Quirk, 1987)ความพึงพอใจหมายถึงความรู้ที่มีความสุขหรือความพอใจเมื่อได้รับ ความสำเรจ็ หรือไดร้ บั ส่งิ ท่ีตอ้ งการ ฮอรน์ บ้ี (Hornby, 2000)ความพงึ พอใจหมายถึงความรสู้ ึกท่ดี เี ม่ือประสบความสำเร็จหรอื ไตร้ บั ส่ิงที่ ต้องการใหเ้ กิดขนึ้ เปน็ ความรู้สกึ ท่ีพอใจ วริ ฬุ พรรณเทวี (2542, หนา้ 111) ได้ใหค้ วามหมายความพงึ พอใจ หมายถึงความรู้สึกภายใน จติ ใจของมนษุ ยท์ ีไ่ ม่เหมอื นกนั ขน้ึ อย่กู ับแตล่ ะบุคคลวา่ จะคาดหวังกับสิ่งหนึ่งอย่างไร ถา้ คาดหวังหรอื มคี วาม ตัง้ ใจมากและไดร้ ับการตอบสนองดว้ ยดจี ะมีความพงึ พอใจมาก แต่ในทางตรงกันข้ามอาจผิดหวงั หรือไม่พึง พอใจเป้นอย่างยิง่ เมือ่ ไมไ่ ด้รับการตอบสนองตามท่คี าดหวงั ไวท้ ง้ั น้ขี นึ้ อยกู่ บั สิ่งท่ีตนต้ังใจไว้วา่ มีมากหรอื น้อย

สุริยะ วิริยะสวัสดิ์ (2530, หน้า 42 อ้างถึงใน ปราการ กองแก้ว, 2546, หน้า 17) ได้ให้ความ หมายความพึงพอใจหลังการให้บริการของหน่วยงานของรัฐของเขาว่า ระดับผลที่ได้จากการพบปะ สอดคล้องกบั ปญั หาทม่ี ีอยู่หรอื ไม่ ส่งผลดแี ละสร้างความภูมิใจเพยี งใด และสรา้ งความภูมใิ จเพยี งใด สาโรช ไสยสมบัติ (2534, หน้า 18 อา้ งถงึ ใน ปราการ กองแก้ว,2546, หน้า 17)ความพึง พอใจเปน็ ปัจจัยสำคัญประการหน่ึงที่ชว่ ยทำให้งานประสบผลสำเร็จ โดยเฉพาะอย่างย่ิงถา้ เปน็ งานท่ีเกีย่ วกับ การให้บริการ นอกจากผ้บู รหิ ารจะดำเนินการใหผ้ ู้ทำงานเกดิ ความพงึ พอใจในการทำงานแลว้ ยงั จำเป็นต้อง ดำเนนิ การทีจ่ ะทำให้ผูใ้ ชบ้ ริการเกดิ ความพงึ พอใจดว้ ยเพราะความเจรญิ กา้ วหน้าของการบรกิ ารเป็นปจั จยั ท่ี สำคญั ประการหนง่ึ ที่เป็นตัวบ่งชถี้ ึงจำนวนผมู้ าใช้บริการ ดังนน้ั ผบู้ ริหารท่ชี าญฉลาดจึงควรอย่างย่ิงท่ีจะ ศกึ ษาใหล้ ึกซึ้งถงึ ปัจจัยและองคป์ ระกอบตา่ งๆที่จะทำใหเ้ กิดความพึงพอใจ ทั้งผปู้ ฏบิ ัติงานและผ้มู าใชบ้ ริการ ราณี เชาวนปรชี าศ์ (2538, หนา้ 18 อ้างถงึ ใน วฤทธิ์ สารฤทธคิ าม, 2548, หน้า 31)กลา่ วว่าความ พงึ พอใจ หมายถึง ความรู้สกึ หรอื ทัศนคตขิ องบุคคลทมี่ ตี อ่ ส่ิงใดส่ิงหนึ่งหรอื ปัจจัยตา่ งๆท่ีเก่ียวขอ้ งความรู้สึก พึงพอใจจะเกิดเมื่อความตอ้ งการของบุคคลที่มีต่อสิ่งใดสงิ่ หน่งึ หรือปจั จัยต่างๆทเ่ี ก่ียวขอ้ งความรสู้ ึกพึงพอใจ จะเกิดข้นึ เมือ่ ความต้องการของบคุ คลไดร้ บั การตอบสนองหรือบรรลุตามจุดมุ่งหมายในระดับหน่งึ ความรสู้ ึก ดงั กลา่ วจะลดลงหรอื ไมเ่ กดิ ข้ึน หากความตอ้ งการหรือจดุ มุ่งหมายนั้นไม่ไดร้ ับการตอบสนอง ความพึงพอใจ ตอ่ การใช้บริการจงึ เปน็ ความร้สู กึ ของผทู้ ่มี ารบั บริการมตี อ่ สถานบริการตามประสบการณท์ ่ีไดร้ บั จากการเข้า ไปตดิ ต่อขอรบั บริการในสถานบริการนนั้ ๆ อรรถพร คำคม (2546, หน้า 29) ไดส้ รุปวา่ ความพงึ พอใจ หมายถงึ ทศั นคตหิ รือระดับความ พึงพอใจของบุคคลต่อกจิ การรมต่าง ๆ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพของกิจกรรมน้ัน ๆโดยเกิดจาก พ้ืนฐานของการรบั ร้คู ่านยิ มและประสบการณ์ท่แี ตล่ ะบคุ คลจะไดร้ ับ ระดบั ของความพงึ พอใจจะเกิดข้ึนเม่ือ กจิ กรรมน้นั ๆ สามารถตอบสนองความตอ้ งการแก่บุคคลน้นั ไดว้ ฤทธ์ิ สารฤทธคิ าม (2548, หนา้ 32 อา้ งถึง ใน รัตนศกั ดิ์ ยีส่ ารพัฒน์, 2551, หนา้ 6) ไดใ้ หค้ วามหมายความพงึ พอใจว่า เปน็ ปฏิกริ ยิ าดา้ นความรสู้ ึกต่อ สง่ิ เร้าหรือส่งิ กระตุ้นทแี่ สดงผลออกมาในลักษณะของผลลัพธ์สดุ ท้ายของกระบวนการประเมิน โดยแบง่ ออก ถงึ ทิศทางของผลการประเมนิ ว่าเปน็ ไปในลักษณะทิศทางบวกหรอื ทิศทางลบหรอื ไมม่ ปี ฏิกิรยิ า เชลล่ี (Shelli, 1995, p. 9 อา้ งถงึ ใน ปราการ กองแกว้ ,2546, หน้า 17) ได้ศึกษาแนวคดิ เก่ียวกับ ความพงึ พอใจ สรปุ ไดว้ ่าเป็นความรูส้ กึ สองแบบของมนุษย์ คอื ความรู้สึกในทางบวกและความรู้สึกในทาง ลบ ความร้สู ึกในทางบวกเปน็ ความรสู้ กึ ท่เี ม่อื เกิดข้นึ แล้วทำให้ความรสู้ ึกท่มี รี ะบบย้อนกลับและความสุขน้ี สามารถทำใหเ้ กดิ ความสขุ หรอื ความรสู้ ึกทางบวกเพม่ิ ขน้ึ ไดอ้ ีก ดงั นนั้ จะเห็นไดว้ ่าความสุขเป็นความรู้สึกที่

สลบั ซบั ซอ้ นและความสขุ น้จี ะมีผลต่อบุคคลมากกว่าความรู้สึกในทางบวกอนื่ ๆ ความรู้สกึ ทางลบ ความรู้สึก ทางบวกและความสุขมคี วามสัมพนั ธก์ ันอยา่ งสลับซับซอ้ นและระบบความสมั พนั ธ์ของความรู้สึกท้ังสามน้ี เรียกว่าระบบความพึงพอใจ โดยความพึงพอใจจะเกิดขึ้นเมื่อระบบความพึงพอใจมีความรู้สึกทางบวก มากกว่าความรู้สึกทางลบทฤษฎีความต้องการตามลำดับขั้นของมาสโลว์ (Maslow, 1970 อ้างถึงใน รงั สรรคฤ์ ทธผิ์ าด,2550, หนา้ 23) มาสโลว์ (Maslow) ได้เรียงลำดบั สง่ิ จูงใจ หรอื ความตอ้ งการของมนษุ ยไ์ ว้ 5 ระดบั โดยเรียงลำดับ ข้นั ของความต้องการไวต้ ามความสำคัญ ดังนี้ - ความตอ้ งการพ้นื ฐานทางสรรี ะ - ความตอ้ งการความปลอดภยั รอดพ้นอนั ตรายและมั่นคง - ความตอ้ งการความรัก ความเมตตา ความอบอุน่ การมีสว่ นร่วมในกิจกรรมตา่ ง ๆ - ความต้องการเกยี รตยิ ศชื่อเสยี ง การยกยอ่ ง และความเคารพตัวเอง - ความต้องการความส าเรจ็ ดว้ ยตนเอง ความพอใจในข้ันตา่ ง ๆ ของความต้องการของมนษุ ยน์ ้ี ความต้องการขั้นสูงกว่าบางครั้งได้ปรากฏ ออกมาใหเ้ ห็นแล้วก่อนท่ีความตอ้ งการ ขั้นแรกจะได้เหน็ ผลเป็นท่ีพอใจเสยี ดว้ ยซ้ำอยา่ งไรก็ตามบคุ คลแต่ละ คนสว่ นมากแสดงให้เหน็ ว่า ตนมคี วามพอใจอยา่ งสูงสดุ ในลำดับขั้นความต้องการข้ันต่างๆ มากกวา่ ขั้นสูง จากการสำรวจ พบวา่ คนธรรมดาท่วั ไปจะมคี วามพอใจในลำดับข้ันตอนตา่ ง ๆ ดงั นี้ - ความตอ้ งการทางดา้ นกายภาพ 85% - ความตอ้ งการความปลอดภัย 70% - ความตอ้ งการทางด้านสังคม 50% - ความตอ้ งการเด่นในสงั คม 40% - ความตอ้ งการที่จะไดร้ ับความสำเร็จในสิ่งที่ตนปรารถนา 10% แชลลี่(Shelly,1985อ้างใน กรรณิการ์ จันทร์แก้ว,2538, หน้า21) สรุปได้ว่าความพึงพอใจเปน็ ความรู้สึกสองแบบของมนุษย์คือความรู้สึกในทางบวกและความรู้สึกทางลบ ความรู้สึกทางบวกเป็น ความรู้สึกที่เมื่อเกิดขึน้ แล้วจะทำให้เกดิ ความสขุ ความสขุ นีเ้ ปน็ ความรสู้ กึ ท่ีแตกตา่ งจากความรู้สึกทางบวก อื่น ๆ กล่าวคือเปน็ ความรูส้ ึกท่ีมรี ะบบยอ้ นกลับ ความสุขเปน็ ความรูส้ กึ ท่ีสลับซับซ้อนและความสขุ นีจ้ ะมผี ล ตอ่ บคุ คลมากกวา่ ความรู้สกึ ทางบวกอื่น ๆ ของบคุ คลจะเกดิ ขน้ึ เมื่อความต้องการได้รับการตอบสนองใ น

ระดบั หน่ึงเมอ่ื เกิดความต้องการบุคคลจะต้ังเป้าหมายเพอ่ื ให้บรรลคุ วามตอ้ งการความพงึ พอใจของบุคคลจะ แตกต่างกนั ตามสภาพแวดลอ้ มทางกายภาพและลักษณะสว่ นบคุ คล ศริ วิ รรณ เสรีรตั น์และคณะ(2538)ได้กลา่ วว่าความพึงพอใจของลกู ค้าเปน็ ระดับความรสู้ ึกของลูกคา้ ทีม่ ีผลจากการเปรยี บเทียบระหว่างผลประโยชน์จากคุณสมบตั ิผลติ ภัณฑ์หรอื การทำงานของผลิตภัณฑ์กับ การคาดหวงั ของลกู คา้ หรือระหว่างการรบั รตู้ ่อการปฏิบัติงานของผใู้ หบ้ รกิ ารกับการคาดหวังของลูกค้าหรือ บรกิ ารที่ลกู คา้ คาดหวงั ระดับความพึงพอใจของลกู ค้าเกดิ จากความแตกตา่ งระหว่างผลประโยชน์จากการ บริการกบั ความคาดหวังของบคุ คล ซงึ่ ความคาดหวังดังกลา่ วนั้นเกิดจากประสบการณ์และความรู้ในอดีต ของแต่ละบุคคลอาทจิ ากเพ่อื น จากนักการตลาด หรอื จากขอ้ มูลคแู่ ขง่ ขนั เปน็ ต้น ฉะนน้ั ส่ิงสำคัญท่ีทำให้ผใู้ ห้ บริการประสบความสำเร็จก็คือการเสนอบริการที่มผี ลประโยชน์สอดคล้องกับความคาดหวังของลูกคา้ ผูใ้ ช้บริการโดยยดึ หลกั การสร้างความพึงพอใจรวมสำหรับลกู ค้า สว่ นผลประโยชนจ์ ากการบริการเกิดจาก การสร้างความพงึ พอใจให้กับลกู คา้ สว่ นผลประโยชน์จากการบริการเกดิ จากการสรา้ งความพึงพอใจให้กับ ลกู คา้ โดยการสรา้ งคณุ ค่าเพิม่ เกิดจากการทำงานร่วมกนั กบั ฝ่ายตา่ ง ๆ ของผู้ใหบ้ ริการโดยยดึ หลกั การสร้าง คุณภาพรวม เกดิ จากการสรา้ งความแตกต่างทางการแข่งขันของการบริการโดยให้บรกิ ารท่แี ตกต่างจากคู่ แข่งขันและความแตกตา่ งต้องมคี ณุ ค่าในสายตาของลกู ค้าและสรา้ งความพงึ พอใจให้กับลกู คา้ ได้ซึ่งอาจเป็น ความแตกต่างด้านผลติ ภณั ฑ์ด้านบริการ ด้านบคุ ลากรและด้านภาพลกั ษณซ์ ่ึงความแตกตา่ งเหล่านี้จะเป็น ตัวกำหนดคณุ ค่าเพมิ่ สำหรบั ลกู คา้ ธีรกิติ นวรัตน ณ อยุธยา(2547)ได้กล่าวถึงแนวคดิ แนวคิดความพึงพอใจของลกู ค้าว่าความพึง พอใจของลกู คา้ จะเกิดจากประสบการณจ์ ากการใหบ้ ริการอย่างเตม็ ท่จี นสุดความสามารถลกู ค้าจะรูส้ ึกวา่ คุม้ ค่าท่ไี ด้มาใช้บริการความพงึ พอใจสำหรบั การบรกิ ารนนั้ สร้างไดย้ ากกวา่ สนิ ค้า เนือ่ งจากคณุ ภาพของสินค้าทีเ่ ป็นสิ่งท่ีพัฒนามาแล้วอยู่นิ่งไม่เปล่ียนแปลงแต่คุณภาพการ บริการ ขน้ึ กับพนักงาน ซึ่งแปรเปล่ียนไปตามอารมณแ์ ละสถานการณ์ต่าง ๆ หรือลกู คา้ ท่ีมาใช้บรกิ ารบางรายอาจจะ มคี วามต้องการเฉพาะท่ีมากเกนิ ความต้องการที่ตอ้ งการท่ีพนกั งานจะให้บริการได้อยา่ งเตม็ ที่จงึ ทำให้ เกดิ ความไม่พอใจ ดงั นั้น ปัจจัยหลกั ในการสร้างความพึงพอใจมี3 ประการ ดงั นี้ - ผู้รับบริการมีความต้องการและความคาดหวังสำหรับการบริการที่แตกต่างกนั ไปในแต่ละคน รวมทั้งความต้องการนน้ั ยงั เปล่ียนไปสำหรับการบรกิ ารแตล่ ะคร้ัง - ผู้ให้บริการความพึงพอใจของลูกค้ามีผลจากความรูค้ วามสามารถความพร้อมในด้านกายและ อารมณใ์ นขณะใหบ้ รกิ ารรวมถึงความเต็มใจในการใหบ้ รกิ ารใหบ้ รกิ ารของพนกั งาน

- สภาพแวดล้อมอ่ืน ๆ ตัวอยา่ งเช่น อากาศแสงแดด เก้าอี้โตะ๊ สิ่งเหล่านม้ี ีผลต่อความพึงพอใจของ ลกู ค้าทม่ี ารับประทานอาหาร หรือเขา้ มาใช้บริการในสถานทท่ี ีม่ าใชบ้ ริการยงิ่ ไปกว่านนั้ ความพงึ พอใจของ ลูกค้ายงั มีผลจากจำนวนลกู คา้ ทีม่ าใช้บรกิ ารดว้ ยแถวทีย่ าวเหยียดของธนาคารในวนั ศกุ รย์ ่อมสร้างความไม่ อยากใช้บรกิ าร 2) การวัดระดบั ความพงึ พอใจของลกู คา้ หรอื ผใู้ ห้บริการวา่ สามารถทำได้ 2 วธิ ีคือ - วัดจากการสอบถามความคิดเห็นของลูกค้าหรือผู้ใช้บริการเป็นการวัดระดับความพึงพอใจของ ลกู คา้ หรือผ้ใู ช้บริการจากการสอบถามความคิดเหน็ ของลกู คา้ หรอื ผใู้ ช้บรกิ ารโดยตรงทำไดโ้ ดยกำหนดมาตร วดั ระดบั ความพึงพอใจท่ีลกู คา้ หรือผ้ใู ชบ้ ริการที่มีต่อคุณภาพของสินค้าหรอื บริการนั้นๆ และกำหนดเกณฑช์ วี้ ดั ระดับความพงึ พอใจจากผลการวัดระดบั ความพงึ พอใจเฉลยี่ ทลี่ ูกคา้ หรือผู้ใช้บริการทม่ี ีต่อคุณภาพของสินคา้ หรือบริการนนั้ ๆ - วัดจากตัวชี้วัดคณุ ภาพการใหบ้ ริการทีก่ ำหนดขึ้น โดยการวัดระดับความพึงพอใจของลูกค้าหรือ ผู้ใช้บริการจากเกณฑ์ชี้วัดระดบั คุณภาพสินคา้ หรือบรกิ ารท่กี ำหนดขึน้ น้อี าจใชเ้ กณฑ์คณุ ภาพระดับต่าง ๆ ท่ี กำหนดขึ้นโดยผู้ให้บริการผู้ประเมินผลการให้บริการและมาตรฐานกลางหรือมาตรฐานสากลของการ ให้บรกิ ารนน้ั สรุปความพึงพอใจ คอื การทำใหค้ วามรูส้ กึ ของบุคคลท่ีไดร้ ับบรกิ ารในสงิ่ ที่ดเี ปน็ ท่ีพอใจประทับใจ ตามทผี่ ูร้ บั บรกิ ารตั้งใจ ไว้หรอื มากกวา่ ท่คี ดิ ไว้ การจะทำให้เกดิ ความรู้สกึ พึงพอใจได้หน่วยใหบ้ รกิ ารต้องวาง ระบบโครงสร้างทด่ี ี สอดคลอ้ ง สัมพนั ธ์กันทกุ ฝา่ ย เชน่ ด้านเครื่องมอื เครือ่ งใชท้ ่ที ันสมัย ด้านบุคลากรที่มี ความรคู้ วามสามารถเขา้ ใจในหมหี นา้ ที่และตอ้ งมใี จรักในการใหบ้ รกิ าร ด้านสถานท่สี ะอาดพน้ื ทีเ่ หมาะสมกบั การให้บริการ มีความเช่ือมั่นและมั่นใจเมื่อมารับบริการ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งจาก องคป์ ระกอบอกี หลาย ๆ ด้านทจี่ ะนำไปส่จู ุดสูงสดุ ในเรือ่ งความพงึ พอใจ 3) สรุปประเดน็ เกี่ยวกบั ความพึงพอใจดังน้ี - ความพงึ พอใจเป็นการเปรยี บเทยี บความรสู้ ึกกับความคาดหวัง - ความพงึ พอใจเป็นการเปรียบเทียบความรสู้ ึกกับสิง่ เรา้ - ความพงึ พอใจเปน็ การเปรยี บเทยี บความรสู้ กึ หรอื ทัศนคติกับสง่ิ ที่ไดร้ บั - ความพงึ พอใจเปน็ การเปรียบเทยี บประสบการณ์กับการคาดหวงั 2.6 วจิ ยั ท่เี กยี่ วข้อง

โครงการ ผงปรงุ รสจากลำไย นางสาวเพชรรตั น์ ยาหยี “โครงการทำผลิตภณั ฑผ์ งปรงุ รส โดยใชห้ ลกั การ โรงแรม ลา เรซดิ องซ์ บางกอก เป็นโรงแรมท่มี ีมาตรฐานในการใหบ้ ริการดา้ นหอ้ งพักห้องอาหาร และส่งิ อำนวยความสะดวกอื่นๆ ทางผู้จดั ทำได้ปฏิบัติสหกิจศกึ ษาในแผนกครัวและพบวา่ วัตถุดิบท่ีเหลือใช้ อาทเิ ช่น พืช ผกั ตา่ งๆ เปน็ ตน้ จึงไดน้ ามมาประยุกตส์ รา้ งสรรค์จนเกิดเปน็ ผลิตภัณฑใ์ หม่ข้นึ มาในรปู แบบของผงปรงุ รสจากผกั รวมและดม่มเี น้ือสตั วเ์ ป็นส่วนผสมอีกดว้ ย ซ่ึงสามารถทานได้ทกุ กลุ่ม โครงงานนม้ี ีวตั ถปุ ระสงค์คือ เพอ่ื ลดตน้ ทนุ และลดปรมิ าณวตั ถดุ บิ ทเี่ หลือใช้ภายในครัวของโรงแรม ลา เรซิดองซ์ บางกอก จากนน้ั ไดส้ ำรวจความเหน็ โดยการทาแบบสอบถามความพงึ พอใจจากกล่มุ ตวั อยา่ งคอื พนกั งาน โรงแรม ลา เรซิดองซ์ บางกอก จำนวน 30 คนเพอื่ ให้ทราบถงึ ผลของโครงงาน โดยผลการศกึ ษาพบวา ผู้ตอบแบบสอบถามมคี วามคิดเห็นในระดบั มากกบั รสชาติของผงปรุงรสรสจากผกั รวม กลิ่นของผงปรุงรส จากผกั รวมสขี องผงปรุงรสจากผกั รวมความคิดสร้างสรรค์ของการทำผงปรงุ รสผกั รวม ความชอบโดยรวม ของผงปรุงรสจากผักรวม และผงปรุงรสจากผักรวมนี้ช่วยลดต้นทุนวตั ถดุ ิบของครัวได้อย่างดีอย่างดกี ต็ าม ระดบั คะแนนเฉล่ียต่อความพึงพอใจทัง้ หมดได้ค่าเฉล่ยี รวมเท่ากบ ั 4.49 อยู่ในระดับมากท่ีสุด โครงการ ผงปรุงรสจากหมู จฑุ ามาศ ทองหล่อ “โครงการทำผลิตภณั ฑ์ผงปรุงรส โดยใชห้ ลกั การ” การศกึ ษาน้ีมีวตั ถปุ ระสงค์เพือ่ ประเมินผลของการทดแทนเกลอื โซเดยี มคลอไรดด์ ้วยเกลือโป แตสเซียมคลอไรด์และเกลอื โปแตสเซียมแลคเตทต่อลักษณะทางประสาทสมั ผสั และสมบตั ทิ างเคมีกายภาพ ของผงปรุงรสรสหมวู างแผนการทดลองแบบสว่ นผสม 3 ปัจจัย ได้แก่ เกลือโซเดยี มคลอไรด์ (รอ้ ยละ 0-70) เกลอื โปแตสเซยี มคลอไรด์ (รอ้ ยละ 30-100) และเกลือโปแตสเซียมแลคเตท (ร้อยละ 0-30) ซงึ่ รวมกันเป็น ร้อยละ 80 ของส่วนผสมท้ังหมดทไ่ี มใ่ ช่ เกลือแกง ทดสอบการยอมรับของผบู้ ริโภค (n=100) พบว่า การทดแทนเกลอื โปแตสเซยี มคลอไรดแ์ ละเกลอื โปแต สเซียม แลคเตทในปริมาณทม่ี ากขนึ้ จะสง่ ผลให้คะแนนความชอบและความเข้มของรสเค็ม (ใช้ผทู้ ดสอบท่ี ผ่านการฝึกฝน n=12) มีคา่ ลดลง และยังส่งผลให้ความเขม้ ด้านรสขมเพิ่มขนึ้ ทง้ั นี้คา่ วอเตอรแ์ อคติวติ ี และ ปรมิ าณความชน้ื ของ ผลติ ภณั ฑใ์ นทุกสูตรไม่มคี วามแตกตา่ งกนั (p>0.05) ซงึ่ สูตรท่ีเหมาะสมอยู่ในช่วงการ ใช้เกลือโซเดียมคลอไรด์ (ร้อยละ 43.11-64.27) เกลือโปแตสเซียมคลอไรด์ (ร้อยละ 30.19-48.10) และ เกลือโปแตสเซยี มแลคเตท (ร้อยละ 0.72-20.65) โดยจะทำให้มคี ะแนนการยอมรับของผบู้ รโิ ภคอย่างนอ้ ย 6 คะแนน หรอื ชอบเล็กน้อย

บทท่ี 3 วิธีการดำเนินงานโครงการ ในการดำเนนิ โครงการผงปลาปรงุ รส AT DOI TAO มวี ัตถปุ ระสงค์1) เพ่ือศึกษาความพงึ พอใจของ ผูบ้ รโิ ภคทีม่ ตี อ่ ผงปลาปรงุ รส 2) เพ่อื พฒั นาสูตรนำ้ พรกิ เนอ้ื ตำคัง่ แหง้ ผลติ ภัณฑ์นำ้ พริกเน้อื ตำคว่ั แหง้ ใน รูปแบบใหม่ ซ่งึ ผู้จัดทำโครงการไดด้ ำเนินการศกึ ษาดังนี้ 3.1 ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง 3.2 เคร่ืองมอื ทใ่ี ช้ในการศึกษา 3.3 วธิ กี ารดำเนินการศกึ ษา 3.4 การเก็บรวบรวมข้อมลู 3.5 การวเิ คราะหข์ ้อมลู และสรุปผล 3.1 กล่มุ ตัวอย่าง ประชากร นักศกึ ษาวิทยาลยั อาชวี ศกึ ษาเชียงใหมแ่ ละผู้ทีส่ นใจในผลติ ภัณฑ์ “ปลาปรุงรส” จำนวน 50 คน 3.2 เครอื่ งมือท่ใี ช้ในการดำเนินโครงการ 1) แบบสำรวจความคิดเหน็ 2) แบบสอบถามความพงึ พอใจ ผูศ้ ึกษาโครงการใชแ้ บบสำรวจความคิดเห็นและแบบสอบถามความพึงพอใจเปน็ เครอื่ งมอื เพ่ือรวบรวม ข้อมูลจากกลมุ่ ตัวอย่างมาสอบถามความคดิ เหน็ เก่ียวกับรสชาตแิ ละสสี ันและดำเนินการแจกแบบสอบถาม ความคิดเห็นเกี่ยวกบั ความพงึ พอใจของผงปลาปรุงรสชาติและสีสันโดยผจู้ ดั ทำโครงการ ไดแ้ ยกแบบสำรวจ ความคดิ เห็นและแบบประเมนิ ดงั นี้ แบบสำรวจความคดิ เห็น ประกอบไปดว้ ย ข้อมูลพืน้ ฐานของผตู้ อบแบบสำรวจ การแสดง ความคดิ เห็นเกย่ี วกับ ขอ้ เสนอแนะ และความคดิ เหน็ เพิ่มเตมิ แบบสอบถามความพึงพอใจ ประกอบไปดว้ ย 3 สว่ น ดังนี้ ส่วนท่ี 1 ข้อมลู ส่วนบุคคลของผูต้ อบแบบสอบถาม โดยสอบถามเกี่ยวกบั เพศ อายุ

โดยทผ่ี ู้ตอบไดเ้ ลือกตอบตามความเปน็ จรงิ (Check-list สว่ นท่ี2 ขอ้ มลู เกย่ี วกับแบบสอบถามความพงึ พอใจของผทู้ ดลองใชผ้ งปลาปรุงรส จานวน 50 คน โดยผู้ศกึ ษาโครงการไดใ้ ช้มาตราวดั แบบ Rating scale 5 ระดบั ตามาตราวัดแบบลิเคิร์ท (Likert’S cale) ในการวดั ระดบั ความพึงพอใจของผู้อุปโภคท่มี ตี อ่ ผลิตภัณฑ์ ผงปลาปรงุ รส ดงั น้ี 5 หมายถงึ มากท่ีสุด 4 หมายถึง มาก 3 หมายถึง ปานกลางหรอื พอใช้ 2 หมายถงึ น้อยหรอื ต่ำกว่ามาตรฐาน 1 หมายถึง น้อยทสี่ ดุ หรือต้องปรับปรงุ แกไ้ ข เกณฑ์การประเมนิ ความพึงพอใจของผบู้ ริโภคทม่ี ีต่อผลิตภัณฑผ์ งปลาปรุงรส มี 5 ระดบั โดยผู้จัดทำ โครงการได้เลอื กวิธกี าร ดังน้ี 4.50 หมายถงึ เหน็ ด้วยอยรู่ ะดับมากทีส่ ดุ 3.50 หมายถึง เหน็ ดว้ ยอยู่ระดบั มาก 2.50 หมายถงึ เหน็ ด้วยอยรู่ ะดบั ปานกลาง 1.50 หมายถึง เห็นด้วยอยู่ระดับนอ้ ย 1.0 หมายถงึ เห็นดว้ ยอยรู่ ะดบั น้อยมาก สว่ นที่ 3 ข้อเสนอแนะซงึ่ เปน็ คำถามปลายเปิดเพอื่ ใหผ้ ้ตู อบแบบสอบถามแสดงความคดิ เหน็ เพิม่ เตมิ เกี่ยวกับผงปลาปรุงรส การสร้างเครอื่ งมอื ในการเก็บรวบรวมข้อมลู ครงั้ นี้โดยมกี ารสรา้ งเครื่องมอื ดังนี้ 1) ศกึ ษาแนวคดิ ทฤษฎี เกีย่ วกบั ผงปลาปรงุ รสและความพงึ พอใจต่อผลิตภัณฑ์และความ คิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถาม 2) ผูศ้ กึ ษาโครงการได้จัดทำแบบสำรวจการออกแบบเกย่ี วกบั รสชาตแิ ละสีสันของผงปลา ปรงุ รส 3) ผู้ศกึ ษาโครงการไดจ้ ัดทำแบบสอบถามความพึงพอใจเก่ยี วกับผงปลาปรุงรส 4) นำแบบสอบถามท่ีจดั ทำข้ึนให้ครูประจำวิชา เพื่อตรวจสอบความถูกต้องตามเนื้อหา และนำมาปรับปรงุ แกไ้ ขให้สมบรู ณ์

5) นำแบบสอบถามทปี่ รับปรงุ แกไ้ ขแลว้ เสนอตอ่ ครปู ระจำวชิ าอีกครง้ั เพอื่ ตรวจสอบ โดย ทำผู้ตอบได้เลือกตอบตามความเป็นจริง (Check-list) 3.3 วธิ ีดำเนนิ โครงการ 1) การวางแผน (P) - กำหนดช่อื เรื่องและศึกษารวบรวมขอ้ มลู ปญั หา ความสำคัญของโครงการ - เขยี นแบบนำเสนอโครงการ - ขออนมุ ัตโิ ครงการ 2) ข้ันตอนการดำเนินการ (D) - ศึกษา การผสมสูตรการทำผงปลาปรงุ รส ประเมินผลและปรับปรงุ สตู ร ครง้ั ท่ี 1 - ศกึ ษา ประผสมสูตรการทำผงปลาปรงุ รส ประเมินผลและปรบั ปรุงสูตร คร้งั ที่ 2 - ศึกษา ผสมสูตรการทำผงปลาปรุงรส ประเมินผล ครงั้ ที่ 3 3) ขัน้ ตอนการตรวจสอบ (C) - กลุ่มประชากรใช้งานผงปลาปรุงรส - ประเมนิ ผลความพึงพอใจของการใชผ้ งปลาปรงุ รส 4) ขั้นประเมนิ ติดตามผล (A) - สรุปผลการประเมินความพึงพอใจผลิตภัณฑผ์ งปลาปรงุ รส - จัดทำเล่มโครงการ - นำเสนอ และเผยแพร่ให้คนในทอ้ งถิน่ ตำบลดอยเต่า อำเภอดอยเตา่ จังหวดั เชียงใหม่ 3.4 การเก็บรวบรวมขอ้ มูล ผศู้ ึกษาโครงการไดด้ ำเนินการเก็บรวบรวมขอ้ มลู การทำโครงการน้ี อยา่ งเปน็ ขน้ั ตอนดังน้ี 1) ผู้ศกึ ษาโครงการทำแบบสำรวจความคดิ เหน็ และสรุปออกมาเปน็ รายขอ้ 2) ผศู้ ึกษาโครงการทำการแจกแบบสำรวจความคิดเหน็ ให้กับกลุ่มตวั อย่างผทู้ ่ีสนใจใน ผลิตภณั ฑผ์ ง ปลาปรุงรส ในอำเภอเมือง จังหวัดเชยี งใหม่ โดยวิธีการแสกนคิวอาร์โค๊ด ให้ผ้ตู อบ แบบสอบถามออนไลน์ ตอบแบบสำรวจความคดิ เหน็ ดว้ ยตนเอง 3) การรวบรวมแบบสำรวจ ผู้จดั โครงการไดร้ วบรวมแบบสอบถามด้วยตนเอง

4) จัดทำแบบสอบถามความพึงพอใจผงปลาปรุงรส 5) แจกแบบสอบถามความพงึ พอใจผงปลาปรุงรส 6) การรวบรวมแบบสอบถามมความพึงพอใจ ผศู้ กึ ษาโครงการไดร้ วบรวมแบบสอบถาม ด้วยตนเอง 7) ตรวจสอบความสมบูรณข์ องแบบสอบถามความพงึ พอใจเพ่ือนำขอ้ มลู ไปวิเคราะห์ ทางสถิต 3.5 การวเิ คราะห์ข้อมลู และสรปุ ผล ข้อมูลที่ไดจ้ ากการรวบรวม ผู้ศึกษาโครงการได้ทำการตรวจสอบความเรียบรอ้ ยส มบูรณ์ของ แบบ สำรวจและแบบสอบถามความพึงพอใจ และนำขอ้ มูลมาประมวลผลวิเคราะห์ดว้ ยโปรแกรม คอมพิวเตอร์ สำเรจ็ รปู สำหรับการคิดค่าร้อยละ (%) การหาคา่ เฉลี่ย (������̅ ) และส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐาน (S.D) ดงั นี้ 1 การวเิ คราะหข์ ้อมลู ส่วนบคุ คลในแบบสำรวจและแบบสอบถามความพงึ พอใจเก่ียวกับ รสชาติและสสี นั ของผงปลาปรุงรสในแบบสำรวจ ได้แก่การหาค่าความถี่ ( Frequency) และค่าร้อยละ (Percentage) สูตรการหาค่าร้อยละ ������ = F x 100 n เมอ่ื P แทน รอ้ ยละ F แทน ความถี่ทต่ี ้องการแปลคา่ ให้เป็นร้อยละ n แทน จำนวนข้อมูลทั้งหมด 2 การวิเคราะห์ข้อมูลส่วนที่ 2 แบบสอบถามความพึงพอใจของกลุ่มตัวอย่างผู้ที่ทดลอง ใช้ ผลิตภณั ฑผ์ งปลาปรงุ รส ในการวิเคราะห์ ได้แก่การหาคา่ เฉลยี่ (������̅ ) และส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐาน (S.D) สูตรการหาค่าเฉลยี่ เมื่อ x แทน คา่ เฉลีย่ ∑ ������ ������ = n ∑x แทน ผลรวมทงั้ หมดของความถ่ี คณู คะแนน

N แทน ผลรวมท้ังหมดของความถ่ีซง่ึ มคี ่าเท่ากับจำนวนข้อมูลท้ังหมด สตู รการหาสว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน ������. ������. = √������∑������������−(∑������)������ ������(������−������) เมือ่ S.D. แทน สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน N แทน จำนวนคู่ท้ังหมด X แทน คะแนนแตล่ ะตัวในกลมุ่ ข้อมูล ∑x แทน ผลรวมของความแตกตา่ งของคะแนนแต่ละคู่ 3 การวิเคราะหข์ ้อมูล สว่ นที่ 3 ขอ้ เสนอแนะ เป็นคำถามปลายเปดิ เพ่ือให้ผตู้ อบแบบ สำรวจและ แบบสอบถามได้แสดงความคดิ เห็นอย่างเปดิ กว้าง ซ่ึงเป็นการวิเคราะหข์ ้อมลู เชงิ คณุ ภาพ โดยมีลำดบั การ วิเคราะห์มลู ดังนี้ ทำความคุน้ เคยกับข้อมลู กำหนดกรอบประเด็น สรุปข้อมูล แปลความหรอื เปรียบเทียบ โดยการอปุ มาอปุ นัย และบรรยายเป็นเชงิ พรรณนา ใหเ้ หมาะสมและ เปน็ ประโยชน์สอดคล้องกับโครงการ

บทท่ี 4 ผลการปฏบิ ัตงิ านตามโครงงาน ในการศกึ ษาผลิตภัณฑ์ผงปลาปรุงรส มีวัตถุประสงค์ เพื่อผลิตภัณฑ์ผงปลาปรุงรส เพื่อศกึ ษา ความพึงพอใจของผู้ใชง้ านผลติ ภัณฑ์ผงปลาปรงุ รส ในการศึกษามีผลการดำเนนิ ดงั หวั ขอ้ ตอ่ ไปนี้ สว่ นที่ 1 สรุปขั้นตอนการทำผลติ ภัณฑ์ผงปลาปรงุ รส ส่วนที่ 2 ผลการวิเคราะห์ขอ้ มูลส่วนบคุ คล สว่ นท่ี 3 ผลการวเิ คราะห์ความพึงพอใจของผ้ใู ช้ผลิตภณั ฑ์ผงปลาปรุงรส ส่วนท่ี 4 การจดั ลำดบั ผลการวเิ คราะห์ความพงึ พอใจของผู้ใช้ผลติ ภัณฑ์ผงปลาปรงุ รส ส่วนท่ี 5 ผลสรปุ ข้อเสนอแนะ สว่ นท่ี 1 สรุปขน้ั ตอนการทำผลิตภัณฑผ์ งปลาปรงุ รส วัตถดุ ิบ 2 กิโลกรมั ครึ่งกโิ ลกรัม - หัวปลาแหง้ คร่ึงกิโลกรมั - กระเทียม 2 ชอ้ นโตะ๊ - หอมแดง 1 ชอ้ นโต๊ะ - น้ำตาล ½ ชอ้ นโต๊ะ - พรกิ ป่น - เกลือ อปุ กรณ์ - ครก - เขียง - มีด - กระทะ - ทับพี - ถ้วยกะละมงั สแตนเลส - กระชอนกรองน้ำมัน

ขน้ั ตอนการทำผงปลาปรุงรส 1. หนั่ หอมแดงใหเ้ ปน็ ชิน้ บางๆ และเล็ก ๆ รูปท่ี 4.2 ห่ันหอมแดง 2. ตำกระเทยี มให้ละเอียดพอสมควร รูปท่ี 4.3 ตำกระเทยี ม 3. ตำหัวปลาแห้งใหร้ ะเอียด รูปท่ี 4.4 ตำหวั ปลาแหง้

4. นำกระเทยี มมาเจียว ใชไ้ ฟออ่ น เจยี วใหเ้ หลืองกรอบแล้วเอาออกมาพกั ใหส้ ะเด็ดนำ้ มัน รูปท4ี่ .5 ทอดกระเทียม รูปท4ี่ .6พกั สะเดดน้ำมนั 5. นำหอมแดงมาเจียว ใช้ไฟอ่อน เจยี วใหเ้ หลอื งกรอบแล้วเอาออกมาพกั ใหส้ ะเด็ดนำ้ มัน รปู ท่ี4.7 ทอดหอมแดง รปู ท4่ี .8 พักสะเดดน้ำมัน 6. นำปลาแห้งท่ตี ำ มาควั่ ใหห้ อม

รูปท4่ี .8 ควั่ ผงปลาแห้ง 7.นำกระเทยี มเจียวและหอมเจยี ว นำ้ ตาล เกลอื พรกิ ป่น ลงไปคุกผงปลาแห้ง ใหเ้ ข้ากันแล้วพักทง้ิ ไว้ รปู ท่ี4.9 ให้หอมเจยี วและเครอื่ งปรงุ รปู ท่4ี .10 ผงปลาปรุงรส ส่วนที่ 2 ผลการวิเคราะห์ขอ้ มลู ส่วนบคุ คล จากการศึกษาผลิตภณั ฑ์ผงปลาปรุงรส ผศู้ กึ ษาได้วเิ คราะห์ข้อมลู สว่ นบุคคลซึง่ ประกอบดว้ ยขอ้ มลู เกย่ี วกบั เพศ และช่วงอายุ ซึง่ ผลการวิเคราะหป์ รากฏดังน้ี ตารางที่ 1 ตารางแสดงผลการวเิ คราะห์ข้อมลู สว่ นบุคคลด้านเพศ เพศ จำนวนคน รอ้ ยละ ชาย 7 14 หญงิ 43 86 รวม 50 100.00 จากตารางที่ 1 ตารางแสดงผลการวิเคราะห์ข้อมูลสว่ นบคุ คลดา้ นเพศ ผู้ศึกษาได้สรุปผลการ วิเคราะห์พบวา่ ผูต้ อบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง คิดเปน็ รอ้ ยละ 100 และเพศชาย คิดเปน็ ร้อย ละ 100 ตามลำดับ ตารางที่ 2 ตารางแสดงผลการวเิ คราะหข์ ้อมลู ส่วนบคุ คลด้านอายุ รอ้ ยละ อายุ จำนวนคน 22 16-18 11

19-20 36 72 20ข้นึ ไป 3 6 รวม 50 100.00 จากตารางท่ี 2 ตารางแสดงผลการวเิ คราะห์ข้อมลู สว่ นบุคคลดา้ นอายุ ผู้ศึกษาได้สรุปผลการ วเิ คราะหพ์ บว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่อยใู่ นช่วงอายุ 15-20 ปี คดิ เป็นรอ้ ยละ 100 รองลงมาช่วง อายุ 20-30 คดิ เป็นร้อยละ 100 และชว่ งอายุ 30-60 คิดเปน็ รอ้ ยละ 100 ตามลำดบั สว่ นท่ี 3 ผลการวิเคราะหค์ วามพึงพอใจของผใู้ ช้ผลิตภณั ฑผ์ งปลาปรงุ รส การศกึ ษาครั้งนผ้ี ศู้ ึกษาไดศ้ ึกษาเรอื่ ง ผลติ ภัณฑผ์ งปลาปรุงรส โดยการหาค่าเฉลย่ี (������̅) และส่วน เบ่ยี งเบนมาตรฐาน (S.D) จากแบบสอบถามความพึงพอใจผลิตภณั ฑ์ผงปลาปรงุ รส ข้อมลู ปรากฏดงั น้ี ตารางท่ี 3 ตารางแสดงผลการวิเคราะห์ความพงึ พอใจของผู้ใช้ผลติ ภัณฑผ์ งปลาปรงุ รส รายการแบบสอบถาม ผลการประเมิน ������̅ S.D. ผลการประเมนิ กล่ินของผงปลาปรุงรส 4.71 0.55 มาก สีสนั ของผงปลาปรงุ รส 4.80 0.45 มาก รสชาติของผงปลาปรุงรส 4.80 0.47 มาก ผงปลาปรุงรสสามารถ รับประทานไดง้ ่าย 4.90 0.34 มาก เปน็ การเพม่ิ มลู คา่ ให้กับผลอตภณั ฑอ์ ย่างย่งั ยนื 4.88 0.48 มาก ผงปลาปรุงรสเป็นการนำของเหลือมาใช้ ให้เกิน 4.90 0.39 มาก ประโยชน์มากที่สุด การใช้ทรพั ยากรในท้องถน่ิ ใหค้ ุม้ คา่ 4.86 0.48 มาก ขนาดของผลติ ภณั ฑ์ผงปลาปรุงรสมคี วามเหมาะสม 4.80 0.63 มาก ผงปลาปรุงรส สร้างทางเลือกใหมใ่ ห้กับลกู ค้า 4.96 0.44 มาก ความพงึ พอใจในภาพรวมของผลติ ภณั ฑผ์ งปลาปรุงรส 4.94 0.42 มาก

รวม 48.57 4.64 มาก จากตารางที่ 3 ตารางแสดงผลการวเิ คราะห์ความพึงพอใจของผู้ใช้ผลติ ภณั ฑผ์ งปลาปรุงรส ได้สรุปผลการ วิเคราะห์ข้อมลู พบว่าผลสรปุ ภาพรวมของความพึงพอใจของผใู้ ช้ผลติ ภัณฑ์ผงปลาปรุงรส อยู่ในระดับ มาก (������̅=48.57) เมอื่ สรปุ ผลออกมาเป็นรายขอ้ พบวา่ กลิ่นของผงปลาปรุงรส ผลการประเมนิ อยู่ในระดับ มาก (������̅=4.71) รองลงมาคือสีสนั ของผงปลาปรุงรส อยู่ในระดับมาก (������̅=4.80) อยู่ในรสชาตขิ องผงปลา ปรุงรส ระดับมาก (������̅=4.80) ผงปลาปรุงรสสามารถ รบั ประทานไดง้ ่าย อยใู่ นระดับมาก (������̅=4.90)เป็น การเพมิ่ มูลคา่ ใหก้ บั ผลอตภณั ฑ์อยา่ งย่งั ยืน อย่ใู นระดบั มาก (������̅=4.88)ผงปลาปรุงรสเปน็ การนำของเหลือ มาใชใ้ ห้เกนิ ประโยชนม์ ากท่สี ุด อยู่ในระดบั มาก (������̅=4.90)การใช้ทรพั ยากรในทอ้ งถน่ิ ใหค้ ุม้ คา่ อยู่ในระดบั มาก (������̅=4.86)ขนาดของผลติ ภัณฑผ์ งปลาปรงุ รสมคี วามเหมาะสม อยใู่ นระดับมาก (������̅=4.80)ผงปลาปรุง รส สร้างทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้า อยใู่ นระดับมาก (������̅=4.96) ความพงึ พอใจในภาพรวมของผลิตภณั ฑ์ผง ปลาปรงุ รส อย่ใู นระดบั มาก(������̅=4.94) ตามลำดบั ส่วนที่ 4 การจัดลำดับผลการวิเคราะหค์ วามพึงพอใจของผู้ใช้ผลิตภัณฑผ์ งปลาปรงุ รส การศึกษาคร้ังนี้ผูศ้ ึกษาได้ศกึ ษาเรื่อง ผลิตภัณฑ์ผงปลาปรงุ รส โดยการหาค่าเฉลี่ย (������̅) และส่วน เบ่ียงเบน มาตรฐาน (S.D) และจัดลำดบั ความพึงพอใจผลิตภัณฑผ์ งปลาปรุงรส ขอ้ มูลปรากฏดงั นี้ ตารางที่ 4 ตารางการจดั ลำดับผลการวิเคราะหค์ วามพึงพอใจของผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ผงปลาปรุงรส รายการแบบสอบถาม ผลการประเมิน ������̅ S.D. ผลการประเมิน ลำดบั ที่ กลิ่นของผงปลาปรุงรส 4.71 0.55 มาก 1 สีสนั ของผงปลาปรงุ รส 4.80 0.45 มาก 2 รสชาติของผงปลาปรงุ รส 4.80 0.47 มาก 3 ผงปลาปรุงรสสามารถ รบั ประทานได้ง่าย 4.90 0.34 มาก 4 เปน็ การเพมิ่ มลู ค่าใหก้ ับผลอตภัณฑอ์ ยา่ งย่ังยืน 4.88 0.48 มาก 5

ผงปลาปรงุ รสเป็นการนำของเหลอื มาใช้ให้เกิน 4.90 0.39 มาก 6 ประโยชนม์ ากที่สดุ การใช้ทรัพยากรในท้องถิน่ ให้ค้มุ ค่า 4.86 0.48 มาก 7 ขนาดของผลิตภัณฑ์ผงปลาปรุงรสมีความ 4.80 0.63 มาก 8 เหมาะสม ผงปลาปรุงรส สรา้ งทางเลือกใหม่ใหก้ บั ลกู ค้า 4.96 0.44 มาก 9 ความพึงพอใจในภาพรวมของผลิตภัณฑผ์ งปลา 4.94 0.42 มาก 10 ปรุงรส รวม 48.57 4.64 มาก จากตารางที่ 3 ตารางแสดงผลการวเิ คราะห์ความพึงพอใจของผู้ใช้ผลติ ภณั ฑ์ผงปลาปรุงรส ไดส้ รุปผลการ วเิ คราะหข์ อ้ มลู พบว่าผลสรปุ ภาพรวมของความพงึ พอใจของผใู้ ช้ผลิตภัณฑ์ผงปลาปรุงรส อยู่ในระดับ มาก (������̅=48.57) เม่อื สรปุ ผลออกมาเปน็ รายขอ้ พบว่ากลน่ิ ของผงปลาปรงุ รส ผลการประเมินอยู่ในระดับ มาก (������̅=4.71) รองลงมาคอื สีสันของผงปลาปรงุ รส อยู่ในระดบั มาก (������̅=4.80) อย่ใู นรสชาตขิ องผงปลา ปรงุ รส ระดับมาก (������̅=4.80) ผงปลาปรงุ รสสามารถ รับประทานได้งา่ ย อย่ใู นระดบั มาก (������̅=4.90)เป็น การเพม่ิ มูลคา่ ใหก้ ับผลอตภัณฑอ์ ยา่ งยงั่ ยืน อยใู่ นระดบั มาก (������̅=4.88)ผงปลาปรงุ รสเป็นการนำของเหลือ มาใช้ใหเ้ กนิ ประโยชนม์ ากท่สี ุด อยู่ในระดับมาก (������̅=4.90)การใช้ทรัพยากรในท้องถ่นิ ให้คุม้ คา่ อยูใ่ นระดบั มาก (������̅=4.86)ขนาดของผลิตภัณฑผ์ งปลาปรงุ รสมีความเหมาะสม อยใู่ น ระดบั มาก (������̅=4.80)ผงปลาปรงุ รส สรา้ งทางเลอื กใหมใ่ ห้กบั ลกู ค้า อยใู่ นระดบั มาก (������̅=4.96) ความ พึงพอใจในภาพรวมของผลติ ภัณฑ์ผงปลาปรุงรส อยูใ่ นระดบั มาก(������̅=4.94) ตามลำดบั ส่วนที่ 5 ผลสรุปขอ้ เสนอแนะ 1) ควรมีหลายๆ รสมากกวา่ นี้ 2) ควรลดความเผด็ แล้วเพิ่มความเค็มความหวานมากขึน้

บทท่ี 5 สรุปผล อภิปปรายและขอ้ เสนอแนะ ในการศกึ ษาผลิตภัณฑ์ผงปลาปรงุ รส มีวตั ถุประสงค์เพอื่ ทำผลิตภัณฑ์ผงปลาปรุงรส เพ่ือศึกษา ความพงึ พอใจของผู้ใช้ผลติ ภัณฑ์ผงปลาปรุงรส โดยมีกลุ่มตวั อย่างแบบเจาะจง ( Purposive sampling ) เป็นการเลอื กกล่มุ ตวั อย่างโดยพิจารณาจากการตดั สินใจของผู้วจิ ัยเอง ลกั ษณะของกลุ่มที่เลือกเป็นไป ตามวตั ถปุ ระสงค์ของการวจิ ยั คือ กลมุ่ ผู้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ผงปลาปรุงรส จำนวน 50 คน ระหวา่ งวันที่ 7 ธันวาคม ถึงวันที่ 12 มีนาคม 2564 เครื่องมือที่ใช้ในการศกึ ษาครัง้ น้ี คือ แบบบันทึกผลการทดลอง แบบสอบถามความพงึ พอใจ โดยสรา้ งจากกูลเกลิ ฟอรม์ (Google form) ซึง่ ผศู้ กึ ษาสร้าวขน้ึ เพ่อื สอบถาม ความพึงพอใจของผูท้ ดลองใช้ผลิตภณั ฑ์ผงปลาปรงุ รส ลการศกึ ษามดี งั น้ี สรุปผลการศกึ ษา จากการศึกษาผลติ ภัณฑ์ผงปลาปรุงรสสรปุ ผลการศึกษาดังนี้ รส ได้สรุปผลการวิเคราะห์ข้อมูล พบวา่ ผลสรปุ ภาพรวมของความพงึ พอใจของผ้ใู ช้ผลิตภณั ฑ์ผงปลาปรุงรส อยใู่ นระดบั มาก (������̅=48.57) เมอ่ื สรปุ ผลออกมาเป็นรายข้อพบว่ากล่ินของผงปลาปรุงรส ผลการประเมินอยูใ่ นระดบั มาก (������̅=4.71) รองลงมาคอื สีสนั ของผงปลาปรงุ รส อยใู่ นระดับมาก (������̅=4.80) อยู่ในรสชาติของผงปลาปรุงรส ระดับมาก (������̅=4.80) ผงปลาปรงุ รสสามารถ รับประทานไดง้ า่ ย อย่ใู นระดบั มาก (������̅=4.90)เป็นการเพ่มิ มลู คา่ ให้กับ ผลอตภัณฑ์อย่างยั่งยืน อยู่ในระดับมาก (������̅=4.88)ผงปลาปรุงรสเป็นการนำของเหลือมาใช้ให้เกิน ประโยชน์มากท่ีสุด อยู่ในระดับมาก (������̅=4.90)การใช้ทรัพยากรในท้องถิ่นให้คุ้มค่า อยู่ในระดับมาก (������̅=4.86)ขนาดของผลิตภณั ฑ์ผงปลาปรุงรสมีความเหมาะสม อยู่ในระดับมาก (������̅=4.80)ผงปลาปรุงรส สรา้ งทางเลือกใหมใ่ หก้ ับลกู คา้ อยู่ในระดับมาก (������̅=4.96) ความพึงพอใจในภาพรวมของผลิตภัณฑ์ผง ปลาปรุงรส อยู่ในระดบั มาก(������̅=4.94) ตามลำดบั อภิปรายผล จากการศกึ ษาผลิตภณั ฑ์ผงปลาปรงุ รส สามารถอภปิ รายผลไดด้ ังนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามเปน็ เพศหญิง มากกว่าเพศชายดงั นน้ั ผทู้ ดลองใช้ผลิตภณั ฑ์ผงปลาปรุงรส ส่วนใหญเ่ ป็นเพศหญงิ ด้านช่วงอายุเนื่องจาก ผลิตภณั ฑ์ผงปลาปรุงรส ผใู้ ชส้ ว่ นใหญ่มกั จะเปน็ วยั รุ่นตอนปลายดังนน้ั ผ้ทู ดลองใช้สว่ นใหญ่จึงมีอายุ 18- 20 ปี ผลการวิเคราะห์แบบประเมนิ ของผู้ใช้ผลิตภณั ฑ์ผงปลาปรุงรส พบว่า ผลิตภัณฑ์ผงปลาปรุงรส สามารถใช้งานได้จริง กลิ่นของผลิตภัณฑ์ผงปลาปรงุ รส อย่ใู นระดับมาก (������̅=4.71) เน่อื งจากผทู้ ดลองใช้มคี วามพึงพอใจในการใช้ ของผลติ ภัณฑ์ผงปลาปรุงรส

ผลติ ภณั ฑผ์ งปลาปรงุ รสมีกลิ่นทเ่ี หมาะสมตอ่ การใช้งานมากนอ้ ยแคไ่ หนอยใู่ นระดบั มากสสี นั ของผลิตภัณฑ์ ผงปลาปรงุ รส อยู่ในระดบั มาก (������̅=4.71) เนอ่ื งจากผลติ ภณั ฑผ์ งปลาปรงุ รส เปน็ ผลิตภัณฑ์ทม่ี สี ีสนั ทเี่ หมาะสม รสชาตขิ องผงปลาปรุงรส ระดบั มาก (������̅=4.80) เนื่องจากผลติ ภณั ฑผ์ งปลาปรุงรส มีรสชาตทิ ี่ดี จากตวั ปลาแห้งและความหวานของหอมเจียว ผงปลาปรงุ รสสามารถ รับประทานได้งา่ ย อยใู่ นระดับมาก (������̅=4.90) เน่ืองจากผลติ ภณั ฑ์ผงปลาปรุงรส รับประทานได้งา่ ย กนิ กับอะไรกอ็ รอ่ ย เพิม่ มูลค่าให้กับผลอตภณั ฑอ์ ยา่ งยง่ั ยนื อยูใ่ นระดับมาก (������̅=4.88) เนอ่ื งจากเป็นการเพิม่ มูลค่า ให้กับหวั ปลาแหง้ ทีเ่ หลอื ใช้ ผงปลาปรงุ รสเป็นการนำของเหลือมาใชใ้ หเ้ กินประโยชนม์ ากท่ีสดุ อย่ใู นระดับมาก (������̅=4.90) เนอื่ งจากหวั ปลาแหง้ ทช่ี าวบา้ นไม่ใช้ เราจงึ นำหัวปลาส่วนนัน้ มาทำให้เกดิ ประโยชน์ การใชท้ รพั ยากรในทอ้ งถน่ิ ใหค้ ุ้มคา่ อยใู่ นระดบั มาก (������̅=4.86) เนื่องจากนำหัวปลาแหง้ จากอำเภอดอยเต่ามาใช้ให้คมุ้ คา่ มากท่สี ดุ ขนาดของผลิตภัณฑผ์ งปลาปรงุ รสมีความเหมาะสม อยู่ในระดบั มาก (������̅=4.80) เนือ่ งจากเลอื กขนาดของผลิตภัณฑผ์ งปลาปรงุ รสมคี วามเหมาะสม ผงปลาปรงุ รส สรา้ งทางเลอื กใหมใ่ หก้ ับลูกคา้ มากทส่ี ดุ ข้อเสนอแนะ 1. ขอ้ เสนอแนะในการศกึ ษา ในการศกึ ษาผลติ ภณั ฑ์ผงปลาปรงุ รส ผทู้ ดลองใช้มคี วามพึงพอใจในเรอ่ื งของผลติ ภณั ฑผ์ ง ปลาปรุงรส มีรสชาติท่ีดี และมีกลน่ิ ท่เี หมาะสมอยากให้เพม่ิ ความหวานของผงปลาปรุงรสเพราะมี ความเผด็ เกนิ ไป 2. ข้อเสนอแนะในการศกึ ษาครั้งตอ่ ไป ในการศึกษาครั้งตอ่ ไปควรพฒั นาการทำผลิตภัณฑ์ ใหม้ ีความหลากหลายรสของผงปลาปรุงรส และสามารถทานกับอะไรกอ็ รอ่ ย

บรรณานุกรม สุพมิ ปลาแหง้ (2563). การศกึ ษาหาปลาแหง้ ดอยเต่า (ออนไลน)์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก:https://coastalaqua.fisheries.go.th/preorder/store (วันทีส่ บื คน้ 18 ธันวาคม 2563). แสน ธรรมมาวตรา (2563). การศึกษาการทำผงปลา (ออนไลน)์ . เข้าถงึ ได้จาก : https://food.trueid.net/detail/r2jnZO8waw52 (วนั ทสี่ บื คน้ : 10 มกราคม 2564). ศึกษาขอ้ มูลประวตั ทิ ะเลสาบดอยเตา่ (ออนไลน)์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก: https://www.museumthailand.com/th/3891/storytelling/ (วันทส่ี ืบค้น : 30 พฤศจกิ ายน 2563). ปลาวงดอยเตา่ (ออนไลน์). เขา้ ถึงไดจ้ าก : https://web.facebook.com/1918687548158373/posts (วนั ทีส่ บื คน้ : 5 มกราคม 2564). ศกึ ษาหาบรรจุภณั ฑ์ (ออนไลน์). เขา้ ถึงได้จาก: https://www.vkplastic.com/2019/07/01/5 (วันที่สืบค้น : 30 พฤศจิกายน 2563). ศึกษาการทำผงปรงุ รส (ออนไลน)์ . เขา้ ถึงได้จาก : https://pantip.com/topic/38881793 (วันทสี่ ืบคน้ : 25 ธนั วาคม 2563).

ภาคผนวก

ภาคผนวก ก แบบนำเสนอขออนมุ ตั ิโครงการวิชาชพี

แบบนำเสนอขออนุมตั โิ ครงการวชิ าชพี วิทยาลัยอาชีวศึกษาเชยี งใหม่ รายวชิ าโครงการ รหสั วิชา 3701-8501 ภาคเรียนที่2 ปกี ารศกึ ษา 2563 ช่อื โครงการ ผงปลาปรุงรส AT DOI TAO ระยะเวลาที่ดำเนนิ ระหวา่ งวันที่7 ธันวาคม 2563 ถงึ วนั ที่ 12 มนี าคม 2564 วิทยาลยั อาชีวศกึ ษาเชียงใหม่และ109 หมู่1 ตำบลดอยเตา่ อำเภอดอย สถานทด่ี ำเนนิ งาน เตา่ จังหวดั เชยี งใหม่ ประมาณการคา่ ใช้จา่ ย 2,500 บาท ผู้จดั ทำโครงการ นางสาว สดุ ารตั น์ ธรรมเรอื ง ระดบั ประกาศนียบตั รวิชาชพี ขัน้ สูงชนั้ ปีที่ 1 สาขาวิชาการโรงแรม (ทวิภาคี) ประเภทวชิ าอุตสาหกรรมท่องเทยี่ ว ลงช่ือ ............................................ (นางสาวสุดารัตน์ ธรรมเรอื ง) 7 ธนั วาคม 2563 ความเห็นของอาจารย์ประจำวิชาโครงการ .............................................................................................. ลงชือ่ ............................................. (นายทนิ กร ต๊ิบอนิ ถา) ลงช่อื .......................................................... ลงช่ือ.................................................. (นางอปั สร คอนราด) (นายณรงคศ์ ักดิ์ ฟองสนิ ธุ์) หวั หน้าแผนกวชิ าการโรงแรม รองผู้อำนวยการฝา่ ยวิชาการ แบบเสนอโครงการ 1. ช่ือโครงการ ผงปลาปรุงรส AT DOI TAO 2. ผูจ้ ัดทำโครงการ นางสาว สุดารตั น์ ธรรมเรอื ง ระดับชน้ั ปวส 1 สาขาวชิ าการโรงแรม (ทวภิ าคี)

3. ครทู ี่ปรึกษา โครงการ นายทนิ กร ติ๊บอนิ ถา 4. ความเป็นมาและความสำคญั ของโครงการ ทะเลสาบดอยเต่า เม่ือราว 35 ปกี อ่ น หรือประมาณ พ.ศ. 2507 ปที ่ีสร้างเข่ือนภูมพิ ลดอยเต่าถอื เป็นแหล่งต้นนำ้ ของเขือ่ น หรอื ถ้าเปน็ ถนนก็ตอ้ งบอกว่า ดอยเต่าเป็นหลกั กิโลเมตรหลกั แรกของทะเลสาบ เหนือเข่อื น และเป็นต้นนำ้ ของลำนำ้ ปิง โดยมีหลกั สดุ ทา้ ยอยปู่ ลายสดุ ที่จงั หวดั ตาก ชาวเขาซ่งึ อาศัยอยูใ่ น ท่ลี มุ่ ของอ่างเกบ็ นำ้ ไดอ้ พยพยา้ ยถิน่ ฐานมาตัง้ รกรากอย่บู นท่สี งู เหนือเข่อื น ตามนโยบายของรฐั บาลเม่ือปี พ.ศ. 2510 ซง่ึ ขณะนนั้ พวกเขาประกอบอาชีพปลกู พืชผกั สวนครวั ตามเชงิ เขารมิ นำ้ ตอ่ มาในระยะหลังๆ ราวปี 2542เป็นตน้ มา มีฝนตกชุกตามปรากฏการณท์ ีเ่ กดิ ขึ้ นทั่วโลก ทำให้นำ้ ในอ่างมปี รมิ าณเพิ่มสูงข้ึนจนท่วมบรเิ วณแปลงเพาะปลกู การจบั ปลาในทะเลสาบ จงึ กลายเปน็ อาชีพหลกั ต่อมาในปี 2546 ต่อมาดอยเต่าเรมิ่ มีการทำการเกษตรกร จนถงึ ปจั จุบันน้ี ชาว ดอยเตา่ จึงยดึ อาชพี เกษตรกรเป็นอาชพี หลกั ประมงกลายเปน็ อาชีพสำรอง แต่ถึงแม้จะเปน็ อาชีพสำรอง แต่ก็มปี ลาเยอะเตม็ ตลาด และผลิตภณั ฑป์ ลาน้ำจืด การแปลรูปผลิตภัณฑ์จากปลานำ้ จดื มหี ลากหลายวิธกี ารทำ และเปน็ ท่ีทีน่ ิยมทีส่ ุดคือ ปลาวง ซึ่งการทำปลาวงท่มี ีสายคือปลาสังกะวาด ซ่ึงวิธีการทำคอ่ นขา้ งจะละเอยี ด ขั้นตอนการ ทำอยา่ งแรก คอื ตัดหัวปลาทิง้ เพือ่ จะใหเ้ หลือแคต่ วั ปลา ทกุ ครง้ั ทตี่ ัดหัวปลาทิง้ ก็ไม่ไดเ้ อาไป ใช้ประโยชน์ตรงนัน้ ผ้จู ดั ทำโครงการจึงไดเ้ ลงเห็นว่า หวั ปลาทถ่ี กู ตดั ทง้ิ มปี ระโยชนค์ ุณค่าทางแคลเซียม และประโยชน์มากมายในหวั ปลา ผู้จดั ทำโครงการ จึงตัดสนิ ใจที่จะเอาหัวปลาตรงนี้ มาแปรรูปเพอ่ื เป็นการเพ่มิ มลู ค่าให้ กบั หวั ปลาทีต่ ัดท้ิง รวมถงึ เป็นการส่งเสรมิ อาชีพประมงของชาวดอยเตา่ ให้เป็นทรี่ ูจ้ กั อย่างยงั่ ยนื จึงไดจ้ ดั ทำโครงการเรอื่ ง ผงปลาปรุงรสนข้ี น้ึ มา 5. วัตถุประสงคข์ องโครงการ 1 เพอ่ื สามารถพฒั นาผงปลาปรุงรสและไปประยุกตใ์ ชต้ ่อในอนาคต 2 เพ่อื ไดค้ วามพงึ พอใจของประชาชนและลกู คา้ ท่ใี ชผ้ งปลาปรุงรส 6. ขอบเขตของโครงการเปา้ หมายของโครงการ 1 เชงิ ปริมาณ - จำนวน ผงปลาปรงุ รส จำนวน 50 กระปกุ - กลุม่ ตวั อยา่ ง ผูช้ มิ ผงปลาปรงุ รส จำนวน 50 คน 2 เชิงคุณภาพ ผลิตภณั ฑผ์ งปลาปรุงรสมรี ปู ลกั ษณะจดั ใสในกระปุกพลาสติดใส ให้เห็นสขี องผงปลา ปรุงรสทีเ่ ป็นผงละเอียด สขี าวออกน้าตาล


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook