แบบทดสอบความรู้การวิจัยและประเมินโครงการ 201 ๑. ข้อใดกล่าวถึงความหมายของการวิจัยไดช้ ดั เจนทีส่ ดุ ก. การแสวงหาความรู้ ความจริงของมนุษย์ ข. การศึกษาค้นคว้าเกยี่ วกบั เร่อื งใดเร่อื งหน่ึง ค. การคน้ คว้าหาความรู้ด้วยวธิ กี ารทีเ่ ปน็ ระบบเชอ่ื ถอื ได้ ง. การแกป้ ัญหาและพัฒนางานด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ 2. เหตุผลที่สำคัญทีส่ ุดทีค่ รูผูส้ อนต้องมกี ารทำวจิ ัยในชัน้ เรยี น คอื ข้อใด ก. ทำตามมาตรฐานวชิ าชีพครู ข. เพือ่ ความก้าวหน้าทางวิชาการ ค. ทำตามนโยบายกระทรวงศึกษาธกิ าร ง. เพ่อื แกป้ ัญหาและพัฒนาการเรยี นการสอน 3. การวิจยั ทางการศกึ ษาเริม่ ตน้ จากสง่ิ ใดเป็นลำดับแรก ก. นโยบายของฝ่ายบริหาร ข. สภาพปญั หาการเรยี นการสอน ค. การกำหนดสมมติฐานในการวิจยั ง. การศึกษาแนวคดิ ทฤษฎที ี่เก่ยี วขอ้ ง 4. ข้อใดตอ่ ไปน้ีหมายถึง Action research ก. การศกึ ษาความตอ้ งการของผ้ปู กครองในการส่งบุตรหลานเข้าเรียน ข. การสำรวจสภาพบรรยากาศการจัดการเรียนการสอนของครู ค. การประเมินผลโครงการยกระดบั ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในโรงเรียน ง. การพัฒนาทักษะการคดิ วเิ คราะห์ อ่านเขยี นของนกั เรียนชนั้ ประถมศึกษา 5. ข้อใดคือจุดมุง่ หมายหลักของการวจิ ยั และพฒั นา (Research and Development) ก. เพอ่ื แก้ปญั หาการเรยี นการสอนในห้องเรยี น ข. เพอ่ื สร้างนวตั กรรมทางการศกึ ษาท่ีมปี ระสิทธภิ าพ ค. เพอ่ื แก้ปญั หาและพัฒนางานในหน้าทีท่ ร่ี ับผดิ ชอบ ง. เพอื่ พัฒนาคณุ ภาพผู้เรียนให้เป็นไปตามมาตรฐานการศึกษา 6. สมมตฐิ านการวจิ ัย หมายถึงอะไร ก. การคาดเดาคำตอบลว่ งหน้า ข. การทดสอบความมนี ัยสำคญั ทางสถิติ ค. การทดสอบให้ตรงตามวตั ถปุ ระสงค์ ง. สถติ ขิ ้ันพน้ื ฐานในการวิเคราะห์ขอ้ มูล 1.ค 2.ง 3.ข 4.ง 5.ข 6.ก กรู ูครูติวเตอร์ ง เอกสารประกอบการบรรยาย แนวขอ้ สอบนกั วชิ าการศกึ ษา กข
202 7. Hypothesis หมายถงึ อะไร ก. นยั สำคญั ทางสถิติ ข. สมมตฐิ านการวจิ ัย ค. ประชากรในการวิจยั ง. ตวั แปรในการวิจยั 8. การวจิ ัยแบบ One group pretest – posttest model สัญลกั ษณ์ O1 คืออะไร ก. ทดสอบกอ่ นเรยี น ข. ทดสอบหลังเรยี น ค.ทดสอบระหวา่ งเรียน ง. การทดลองใช้นวัตกรรม 9. Level of significance หมายถงึ อะไร ก. ค่าความคลาดเคลื่อนที่ยอมใหเ้ กิดขน้ึ ไดใ้ นการวจิ ัย ข. คา่ ที่ใชใ้ นการเปรียบเทียบผลการวจิ ยั เชิงทดลอง ค. คา่ ท่ีใชใ้ นการพยากรณ์กลมุ่ ตัวอยา่ งไปสกู่ ลุ่มประชากร ง. ค่าท่ีแสดงวา่ ได้คำตอบตรงตามวตั ถปุ ระสงคก์ ารวิจัย 10. ข้อใดกล่าวถึงการสุ่มกลุม่ ตวั อย่างทีเ่ หมาะสมมากทส่ี ุด ก. กลุ่มตวั อยา่ งตอ้ งเป็นตัวแทนทด่ี ขี องประชากร ข. กลมุ่ ตวั อยา่ งท่ีดีต้องมาจากการสุ่มแบบอาศัยความนา่ จะเป็น ค. กลุม่ ตวั อยา่ งตอ้ งมจี ำนวนไม่นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ 20 ของประชากร ง. กล่มุ ตวั อยา่ งยงิ่ จำนวนมากเท่าใดยิง่ สง่ ผลดีต่อการวจิ ยั มากเท่านั้น 11. กรณที ไี่ ด้รับมอบหมายให้ประเมินผลโครงการเทศกาลวนั ลอยกระทงควรจะใช้วธิ ีการสุ่ม กลุ่มตวั อยา่ งแบบใดถงึ จะเหมาะสมมากทส่ี ุด ก. สุ่มแบบเจาะจง ข. สมุ่ แบบแบง่ ชนั้ ค. สุ่มแบบบงั เอญิ ง. สมุ่ แบบมีระบบ 12. งานวจิ ัยเรอ่ื ง “การเปรียบเทยี บทกั ษะการอ่านโดยวิธกี ารสอนแบบปกตกิ ับการใช้แบบฝึก ทักษะการอ่าน” ตวั แปรตน้ ในการวจิ ัย คอื ขอ้ ใด ก. ทกั ษะการอา่ น ข. วิธีการสอน ค. นกั เรียน ง. แบบฝึกทกั ษะ 13. คุณภาพของเครื่องมือวจิ ยั ข้อใดสำคัญท่สี ดุ ก. ความตรง ข. ความเช่ือมน่ั ค. อำนาจจำแนก ง. ความเป็นปรนัย 14. การศึกษาเจตคติทมี่ ตี ่อการเรียนของนักเรียนช้นั ม.3 ควรใช้วิธกี ารใดเหมาะสมท่สี ดุ ก. ใช้แบบสอบถาม ข. การสัมภาษณ์ ค. ใชแ้ บบทดสอบ ง. การสงั เกต 15. ส่งิ ใดไม่จำเป็นตอ้ งกำหนดในขอบเขตการวิจัย ก. กลุ่มเป้าหมาย ข. ตวั แปร ค. เนอื้ หา ง. สมมตฐิ าน 7.ข 8.ก 9.ก 10.ก 11.ค 12.ข 13.ก 14.ก 15.ง กูรคู รตู ิวเตอร์ เอกสาระกอบการบรรยาย แนวขอ้ สอบนกั วิชาการศึกษา กข ง
203 16. ผู้เชยี่ วชาญในการตรวจสอบเครื่องมือวิจัยควรมีอย่างน้อยกี่คน ก. 1 คน ข. 2 คน ค. 3 คน ง. 4 คน 17. การศกึ ษาความพงึ พอใจของผู้มารว่ มงานเทศกาลลำไยขององคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวัด ควรใช้สถติ ิใดในการวิเคราะหข์ ้อมูล ก. คา่ เฉลี่ย ข. รอ้ ยละ ค. t-test dependent ง. t-test Independent 18. สัญลักษณใ์ ดแสดงคา่ เฉลยี่ ของประชากร ก. X ข. S.D ค. µ ง. 19. ข้อใดเป็นการสรปุ ผลการวิจัยทถี่ ูกทีส่ ุด ก. สรปุ ตามสมติฐานที่กำหนดไว้ ข. สรปุ ตามวัตถุประสงคท์ ่ีตั้งไว้ ค. สรุปตามความคดิ ของผู้วจิ ัย ง. สรปุ ตามงานวจิ ัยที่นำมาอา้ ง 20. ขอ้ มลู ใดไมจ่ ำเป็นตอ้ งอย่มู ีรายงานการวิจยั ก. ประวตั ิผแู้ ต่ง ข. บทคัดย่อ ค. คำนำ ง. บรรณานกุ รม 21. การศกึ ษาเอกสารและงานวจิ ัยที่เก่ียวขอ้ งจดั ไว้ในบทใดของรายงานการวิจยั ก. บทท่ี 1 ข. บทที่ 2 ค. บทท่ี 3 ง. บทท่ี 4 22. โดยปกติการเขียนรายงานการวจิ ัยบทใดไมต่ อ้ งมีการอ้างองิ ก. บทที่ 1 ข. บทที่ 3 ค. บทท่ี 4 ง. บทท่ี 5 23. หากให้เลอื กอ่านรายงานการวิจัยเพียงบทเดียว ควรจะอา่ นบทใด ก. บทที่ 1 ข. บทท่ี 2 ค. บทท่ี 4 ง. บทที่ 5 24. ข้อใดไม่จำเป็นต้องเขียนในบทคัดยอ่ ของรายงานการวจิ ัย ก. กลุ่มตวั อย่าง ข. วิธกี ารเกบ็ รวบรวมข้อมูล ค. สรุปผลการวิจัย ง. อภิปรายผลการวิจยั 25. ตามหลกั การเขยี นรายงานท่ัวไป บทที่ 4 คือ ขอ้ ใด ก. บทสรปุ ข. ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มลู ค. การอภปิ รายผล ง. วิธีดำเนนิ การ 16.ค 17.ก 18.ค 19.ข 20.ค 21.ข 22.ค 23.ง 24.ง 25.ข เอกสารประกอบการบรรยาย แนวข้อสอบนักงวิชาการศกึ ษา กข กรู คู รตู วิ เตอร์
204 26. ข้อใดเปน็ การเขียนรายงานการวจิ ยั ลำดับทา้ ยสุด ก. อภปิ รายผล ข. ข้อเสนอแนะ ค. ผลที่คาดว่าจะได้รับ ง. สมมติฐาน 27. การศึกษาพฤตกิ รรมเส่ยี งทางเพศของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาในเขตเทศบาลควรใช้วธิ กี าร เก็บรวบรวมข้อมลู อย่างไร ก. การสัมภาษณ์ ข. แบบสอบถาม ค. การสังเกต ง. การทดลอง 28. ขอ้ ใดกล่าวถกู ตอ้ งเก่ียวกบั การวิจยั ก. รายงานการวิจยั ท่ีดตี อ้ งมีอยา่ งน้อย 5 บท ข. การวิจัยตอ้ งสรุปผลให้ตรงตามวัตถุประสงค์ ค. การวิจยั ในช้นั เรยี นตอ้ งทำด้วยความเครง่ ครดั ง. การวจิ ยั ทีด่ ตี อ้ งวิเคราะหด์ ้วยสถติ ิระดบั สงู 29. โครงการใดเหมาะสมกบั การส่งเสริมในโรงเรียนชั้นประถมศกึ ษาตอนตน้ มากที่สดุ ก. ทูบีนมั เบอร์วนั ข. แปรงฟนั หลังรับประทานอาหาร ค. กฬี าสสี มั พันธ์ ง. วัยรุ่น วัยใส วยั เรยี น 30. โครงการใดควรท่จี ะจัดในช่วงเดอื นกรกฎาคม ก. สปั ดาห์ส่งเสรมิ พระพุทธศาสนา ข. รณรงคป์ ้องกนั ไข้เลอื ดออก ค. กีฬาสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงาน ง. ปนั่ จักรยานเพือ่ สขุ ภาพ 31. ข้อใดเรยี งลำดับขน้ั ตอนการเขียนโครงการที่ถูกต้องที่สดุ ก. ช่ือเรอ่ื ง วตั ถปุ ระสงค์ วิธดี ำเนนิ การ หลักการและเหตผุ ล ผลท่ีคาดว่าจะไดร้ บั ข. ชอื่ เร่อื ง วตั ถปุ ระสงค์ หลักการและเหตุผล ตวั ชี้วดั ความสำเรจ็ ค. หลักการและเหตุผล วัตถปุ ระสงค์ การประเมินผล ตัวช้ีวดั ความสำเร็จ ง. ช่ือเรือ่ ง หลกั การและเหตผุ ล วัตถุประสงค์ วิธดี ำเนินการ การประเมินผล 32. หลักการเขียนวัตถุประสงค์ของโครงการสอดคลอ้ งกับข้อใด ก. SMART ข. STRONG ค. TEAMEWORK ง. PDCA 33. หลกั การเขยี นวตั ถุประสงค์ของโครงการข้อแรกสุดคอื อะไร ก. มคี วามเป็นไปได้ ข. สามารถวดั ได้ ค. เปน็ เหตุเปน็ ผล ง. กำหนดเวลาชดั เจน 34. “นกั เรียนสำเรจ็ การศึกษาไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ 90” ตรงกับข้อใด ก. ผลผลิต ข. ผลลพั ธ์ ค. ผลท่คี าดวา่ จะไดร้ ับ ง. วัตถุประสงค์ 26.ข 27.ข 28.ข 29.ข 30.ก 31.ง 32.ก 33.ก 34.ก เอกสาระกอบการบรรยาย แนวข้อสอบนักวชิ ากงารศึกษา กข กรู คู รตู ิวเตอร์
205 35. ขอ้ ใดคือตัวช้วี ดั ระดับ outcome ก. ร้อยละ ข. จำนวน ค. คุณลักษณะ ง. อัตราส่วน 36. การประเมินผลลัพธ์ (Out Come) ที่สำคัญของโรงเรียน คอื การมองด้านใด ก. ผลสมั ฤทธิ์ของการสอบของนกั เรยี นสูงขึ้น ข. ผลการสอบเข้าเรียนตอ่ ทงั้ หมดของนักเรียน ค. ความสะอาดเรียบรอ้ ย ร่มรนื่ ของบริเวณโรงเรียน ง. ความสามารถและความประพฤติของนักเรียน 37. การทำงานจนสำเร็จบรรลุวัตถปุ ระสงคข์ องโครงการ ตรงกับขอ้ ใด ก. คณุ ภาพ ข. ประสทิ ธภิ าพ ค. ประสิทธผิ ล ง. สมั ฤทธิผล 38. โครงการดำเนินการได้สำเร็จโดยใชง้ บประมาณจำนวนมากแสดงวา่ ขาดข้อใด ก. คณุ ภาพ ข. ประสิทธิภาพ ค. ประสิทธผิ ล ง. สัมฤทธผิ ล 39. ปัจจบุ ันแนวคดิ การประเมินโครงการของสตัฟเฟอบีม คือ ขอ้ ใด ก. CIPPA ข. CIPP ค. IPO ง. PDCA 40. การประเมิน Context Evaluation ตรงกบั ข้อใด ก. สภาพแวดล้อม ข. ปจั จยั ค. กระบวนการ ง. ผลผลติ 35.ค 36.ง 37.ค 38.ค 39.ข 40.ก กรู คู รูติวเตอร์ ง เอกสารประกอบการบรรยาย แนวขอ้ สอบนักวชิ าการศึกษา กข
206 จบั คคู่ ำศัพทส์ ำคญั ทางการศึกษา 1. PLC A. พุทธศึกษา จรยิ ศึกษา หตั ถศึกษา พลศกึ ษา 2. DLIT B. การทบทวนหลังการปฏบิ ัตงิ าน 3. TEPE online C. บทเรยี นคอมพิวเตอรช์ ่วยสอน 4. 4H D. โครงงาน/โครงการ 5. AAR E. นวัตกรรม 6. SAR F. การวิจัยเชงิ ปฏิบัติการในชน้ั เรยี น 7. STEM G. ชมุ ชนแหง่ การเรียนรทู้ างวิชาชีพ 8. CAI H. วงจรการประกันคณุ ภาพภายในของเดมมิง 9. Project I. การศกึ ษาตามอัธยาศัย 10. Deductive J. รายงานการประเมนิ ตนเอง 11. Inductive K.การศกึ ษาทางไกลด้วย ICT 12. Innovation L. การสอนแบบอุปนยั 13. R & D M. การสอนแบบนริ นยั 14. CAR N. การสอนแบบบูรณาการ 4 วชิ า 15. PDCA O. การศึกษาในระบบ 16. Formal Education P. การวจิ ัยและพฒั นา 17. Non-formal Education Q. การศกึ ษาตลอดชวี ิต 18. In-formal Education R. การศกึ ษานอกระบบ 19. Long-life Education S. การประเมินตามสภาพจรงิ 20. Authentic assessment T. พฒั นาครโู ดยยดึ ภารกิจและ พ้นื ท่กี ารปฏบิ ัติงานเป็นฐาน 1. G 2.K 3.T 4.A 5.B 6.J 7.N 8.C 9.D 10.M เอกสาระกอ1บ1ก. าLรบ1ร2ร.Eยาย13แน.Pวข1อ้ 4ส.อFบน1กั 5ว.ิชHาก1า6รศ.Oึกษ1า7ก.Rข 18.I 19.Q 20.Sกรู ูครูตวิ เตอร์
242 เอกสาระกอบการบรรยาย แนวขอ้ สอบนกั วชิ าการศึกษา กข กรู คู รูตวิ เตอร์
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207