Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ภัทรวดี

ภัทรวดี

Published by tsetgame01, 2022-01-20 10:08:55

Description: หน่วยที่ 6 ระบบเงินดิจิทัล และสกุลเงินดิจิทัล (1)

Search

Read the Text Version

หน่วยที่ 6 ระบบเงินดิจิทัล และสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency)

สกุลเงินดิจิทัล (digital currency) สกุลเงินดิจิทัล (digital currency) คือ สกุลเงิน เงิน หรือ สินทรัพย์ที่มีลักษณะคล้ายเงินที่บริหารจัดการ จัดเก็บ หรือแลกเปลี่ยนบน ระบบคอมพิวเตอร์แบบดิจิทัลโดยเฉพาะการจัดการผ่านอินเทอร์เน็ต ตัวอย่างของสกุลเงินดิจิทัลได้แก่ คริปโทเคอร์เรนซี (cryptocurrency) หรือ สกุลเงินเสมือน (virtual currency) โดยกิจกรรมการแลกเปลี่ยนเงินที่เกิด ขึ้นจัดเก็บในรูปแบบของฐานข้อมูลจัดการโดยธนาคารหรือหน่วยงานที่ เกี่ยวข้อง หรือจัดการแบบการเงินแบบไม่รวมศูนย์ (DeFi)[1] สกุลเงินดิจิทัล มีลักษณะคล้ายสกุลเงินทั่วไป แตกต่างกันตรงที่ไม่มีรูปแบบทางกายภาพ ชัดเจน ไม่มีการพิมพ์ธนบัตรหรือผลิตเหรียญกษาปณ์

Bitcoin (BTC)บิทคอยน์ Bitcoin เป็นที่รู้จักกันดีมีราคาแพงที่สุดและเป็นต้นฉบับ cryptocurrency Satoshi Nakamoto ที่มีเอกลักษณ์ที่แท้จริงไม่ เคยได้รับการพิสูจน์อย่างสมบูรณ์สร้าง Bitcoin ในปี 2009 Bitcoin มีความโดดเด่นมากจนทุกเหรียญ crypto อื่น ๆ เรียกว่า altcoin นั่นก็คือทางเลือกให้กับ Bitcoin แท็กราคาใหญ่สำหรับ แต่ละ Bitcoin ได้เห็นนักลงทุนหันไป altcoins เคล็ดลับสำหรับนัก ลงทุนคือการหา altcoins ที่ในอนาคตอาจจะอยู่ร่วมกับหรือแทนที่ Bitcoin ในที่สุดก็ได้ altcoins ส่วนใหญ่มุ่งมั่นที่จะหาแนวทางแก้ไข บางส่วนของความไม่สมบูรณ์ของ Bitcoin โดยเฉพาะอย่างยิ่งความ ยืดหยุ่นที่ จำกัด จนถึงตอนนี้มูลค่าตลาดของ Bitcoin ยังคงสูงและ เหนือกว่าทางเลือกที่ใกล้ที่สุด

Ethereum (ETH) Ethereum เป็นเครือข่าย blockchain แบบกระจายที่สร้างขึ้นในปี 2015 ความแตกต่างหลักระหว่าง Ethereum และ Bitcoin คือหน้าที่ของเครือข่าย แทนที่จะใช้เพื่อติดตามความเป็นเจ้าของ cryptocurrencies, Ethereum ใช้เพื่อเรียกใช้รหัสโปรแกรมสำหรับการใช้งานแบบกระจาย เครือข่าย Ethereum มีโทเค็นของตัวเองซึ่งเรียกว่า Ether Ether คือสิ่งที่มีการซื้อขาย แต่มักถูกเรียกว่า Ethereum ผิดพลาด สมมติฐานกลางคือทุกคนที่ต้องการใช้ เทคโนโลยี blockchain สามารถสร้าง Piggyback บน Ethereum ได้โดยไม่ ต้องสร้างแอ็พพลิเคชันใหม่อย่างสมบูรณ์ altcoins ใหม่ ๆ ที่เปิดตัวผ่านเครือข่าย Ethereum โดยมีผู้ที่มีขนาดใหญ่เช่น EOS, Zilliqa และ RChain ในที่สุดก็เปิดตัว Blockchains อิสระ

Ripple (XRP) XRP เป็นเงินและสินทรัพย์ดิจิทัลสำหรับการชำระเงินแบบ Peer- to-Peer บน Open-Source Blockchain ที่ใช้ Public Ledger (XRP Ledger) หลายคนอาจสับสนระหว่าง XRP และ Ripple Ripple คือเครือข่าย Private/Consortium Blockchain สำหรับ การชำระเงินของสถาบันการเงินที่ใช้ XRP เป็นสกุลเงินตัวกลางหรือสะพาน (Bridge Currency) ในการทำธุรกรรมข้ามสกุลเงิน (รวมถึง Bitcoin ด้วย) โดยสรุปคือ Ripple และ XRP ใช้เทคโนโลยีเดียวกัน แต่ XRP ที่เทรดกันใน ตลาดนั้นไม่ได้ใช้ระบบเครือข่ายร่วมกับสถาบันการเงินที่ใช้หรือมี Ripple เป็น เจ้าของแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามแม้จะมีความพยายามเพิ่มจำนวน Validator เพื่อให้ XRP มีความเป็น Decentralized มากขึ้น แต่ธุรกรรมก็สามารถถูก Freeze ได้ที่ปลายทางเมื่อเงินที่โอนนั้นถูกแลกเปลี่ยนเป็นสกุลอื่นที่ไม่ใช่ XRP หากพบว่าธุรกรรมนั้นน่าสงสัย

EOS (EOS) EOS เป็นเงินดิจิทัลที่ออกแบบมาเพื่อรองรับแอปพลิเคชันที่กระจายอำนาจขนาด ใหญ่ ไม่มีค่าธรรมเนียมในการส่งหรือรับ EOS แต่โปรโตคอลจะกำหนดให้ EOS ใช้ ทรัพยากรต่างๆ เช่น RAM CPU และแบนด์วิธเครือข่ายแทน นอกจากนี้ยังให้รางวัลแก่เอ นทิตี้ที่ใช้งานเครือข่ายอยู่เป็นระยะๆ ที่มี EOS ใหม่อีกด้วย ซึ่งทดแทนอัตราเงินเฟ้อสำหรับ ค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ EOS เป็นรหัสลับของโปรโตคอล blockchain EOS.IO ที่เปิดตัวในปี พ. ศ. 2560 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นแพลตฟอร์มสัญญาแบบสมาร์ทและระบบปฏิบัติ การที่กระจายอำนาจเพื่อจัดเก็บแอ็พพลิเคชันที่กระจายอำนาจและมีการจัดเก็บข้อมูลแบบ กระจาย EOS.IO มีจุดมุ่งหมายเพื่อแก้ปัญหาความสามารถในการปรับขยายได้ของ blockchains ที่เก่ากว่าเช่น Bitcoin และลดค่าธรรมเนียมทั้งหมดสำหรับผู้ใช้ในพื้นที่ ทางการเงินแบบดั้งเดิม โทเค็น EOS ที่มีการซื้อขายถูกนำมาใช้เพื่อเพิ่มแบนด์วิดท์และการ จัดเก็บข้อมูลบน blockchain สำหรับแอ็พพลิเคชันที่ถูกสร้างขึ้น / ใช้โดยเจ้าของบัญชี

Bitcoin Cash (BCH) Bitcoin สาเหตุหลักมาจากการจำกัดขนาดของบล็อกเพียง 1MB ทำให้เกิดการต่อคิวรอ 3-4 วัน ในการทำการยืนยันธุรกรรมผู้สนับสนุน Bitcoin Unlimited เสนอว่าควรเพิ่มขนาด ของบล็อกเพื่อให้ผู้ขุดเพิ่มกำลังในการผลิต อย่างไรก็ตาม บริษัทเหมืองแร่ขนาดใหญ่สามารถใช้ ประโยชน์จากแนวทางนี้ สำหรับ SegWit ก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่เสนอ ว่าข้อมูลต้องสามารถจัดเก็บแยกจากบล็อคเชน Bitcoin Cash นำสองวิธีนี้มาใช้โดย การเพิ่มขนาดของบล็อกเป็น 8MB และจัดเก็บข้อมูลบางชุดนอก Blockchain ส่งผลให้การทำ ธุรกรรมเร็วขึ้นและค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมต่ำกว่าเมื่อเทียบกับ Bitcoin หลังจากการ Fork ผู้ถือ Bitcoin จะได้รับจำนวนโทเคน Bitcoin Cash ที่เท่ากันและข้อมูลถูกบันทึกลงใน บล็อคเชนของ Bitcoin Cash ได้แยกออกเป็นเครือข่ายอื่นสองเครือข่ายเนื่องจากความแตก ต่างของกฎของ Coinbase ซึ่งผู้ขุดจะได้รับเงินเป็นกองทุนที่สนับสนุนทั้งสองเครือข่าย ได้แก่ Bitcoin Cash ABC ที่รองรับกฎ Coinbase และ Bitcoin Cash Node ที่ต่อต้านกฎของ Coinbase

ข่าวเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency)

สกุลเงินดิจิทัลของ CBDC กับความสำคัญในการโอนเงินข้ามพรมแดน ในขณะที่โลกเปลี่ยนไปใช้การชำระเงินแบบดิจิทัลและสกุลเงินมากขึ้น ธนาคารกลางทั่วโลกกำลังสำรวจว่าเทคโนโลยีใหม่ๆ ดังกล่าวสามารถนำมาใช้ เพื่อแก้ไขจุดบอดในระบบการเงินได้อย่างไร ในขณะเดียวกันก็ต้องสร้างความเชื่อ มั่นและการ ปกป้องระบบของธนาคารกลางได้โดยปริยาย วิธีหนึ่งที่ธนาคาร กลางต้องการทำให้โครงสร้างพื้นฐานทางการเงินเป็น ดิจิทัลคือ การใช้สกุลเงิน ดิจิทัลของธนาคารกลาง (Central Bank Digital Currencies - CBDC) ซึ่งเป็น สกุลเงินดิจิทัล ที่ออกโดยธนาคารกลางซึ่งแสดงถึงภาระผูกพันของธนาคารกลาง โดย CBDC แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบได้แก่ Retail CBDC (เงินสดเทียบเท่าดิจิทัล สำหรับธุรกรรมรายย่อยของภาคประชาชนและและธุรกิจ) และ Wholesale CBDC (สำหรับการ ทำธุรกรรมระหว่างสถาบันการเงินและเข้าถึงได้โดยสถาบัน การเงินเท่านั้น ซึ่งคล้ายกับบัญชีการชำระเงินของ ธนาคารกลางที่มีอยู่) ที่มา : https://mgronline

หุ้นปิดพุ่ง 11.38 จุด sentiment บวกต่างประเทศ แรงซื้อพลังงาน-เทคโนฯ หุ้นไทยปิดพุ่ง 11.38 จุด รับ sentiment บวกต่างประเทศ โดยมีแรงซื้อในกลุ่ม พลังงาน และกลุ่มเทคโนโลยี สำหรับแนวโน้มวันพรุ่งนี้ ดัชนีอาจเคลื่อนไหวในลักษณะแกว่ง ออกด้านข้าง หรือลงมาพักฐานเล็กน้อย โดยจะต้องติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่จะ ประกาศออกมาในคืนนี้ หากสูงกว่าคาดอาจเป็นปัจจัยสร้างความกังวลให้นักลงทุน นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นได้ดีไปทดสอบแนวต้าน 1,680 จุด โดยมีแรงซื้อกลุ่ม พลังงานและเทคโนโลยีขึ้นนำตลาด และได้รับแรงสนับสนุนจาก Sentiment ต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมาฟื้นตัวรับปัจจัยสนับสนุนจากถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่ยังไม่ได้เร่งรีบปรับลดมาตรการ QE มากกว่าที่เคยกำหนดไว้ จึงทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกฟื้นตัวตามได้ค่อนข้างดีด้านภาวะตลาดหุ้น ไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,678 จุด เพิ่มขึ้น 11.38 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.68% มูลค่า การซื้อขาย 87,958.96 ล้านบาท ที่มา : https://mgronline

หุ้นปิดเช้าบวก 3.60 จุด รับแรงซื้อหุ้นยัง Laggard เก็งหุ้นเข้า SET50-SET100 หุ้นปิดเช้าบวก 3.60 จุด รับแรงซื้อหุ้นยัง Laggard เก็งหุ้นเข้า SET50-SET100 ขณะที่วอลุ่มเทรด โดยรวมเบาบางก่อนเข้าเทศกาลปีใหม่ สำหรับแนวโน้มการลงทุนในภาคบ่ายคาดตลาดคงจะแกว่งแคบ ต่อไป นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวในกรอบไม่กว้างมาก ช่วงรอดูการปรับหุ้นเข้า/ออกในกลุ่ม SET50 และ SET100 ในวันนี้ ซึ่งแรงซื้อที่เข้ามาส่วนใหญ่เข้ามาในหุ้นยัง Laggard อย่าง INTUCH, BGRIM, CPALL, CPF, SAWAD เป็นต้น และเล่นเก็งกำไรหุ้นเข้า SET50-SET100 ด้วย อย่าง TIDLOR, AWC เป็นต้น ขณะที่มีแรงขาย DELTA หลุดจาก SET50-SET100 ที่มา : https://mgronline

จบการนำเสนอ นางสาวภัทรวดี หัวแหวน ปวส.1/6 เลขที่ 1 สาขาการจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชน วิทยาลัยเทคโนโลยีพณิชยการหาดใหญ่


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook