Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore # ประกาศ ก.พ.อ. เรื่องตำแหน่งทางวิชาการ พ.ศ.2564

# ประกาศ ก.พ.อ. เรื่องตำแหน่งทางวิชาการ พ.ศ.2564

Published by Kasem S. Kdmbooks, 2022-01-08 02:38:32

Description: # ประกาศ ก.พ.อ. เรื่องตำแหน่งทางวิชาการ พ.ศ.2564

Search

Read the Text Version

สารบัญ ประกาศ ก.พ.อ. เร่ือง หลักเกณฑและวธิ ีการพจิ ารณาแตงตง้ั บคุ คลใหด าํ รงตาํ แหนง 1 ผูช วยศาสตราจารย รองศาสตราจารย และศาสตราจารย พ.ศ. ๒๕๖๔ เอกสารแนบทายประกาศ ๑. แบบคาํ ขอรบั การพิจารณากําหนดตาํ แหนง ทางวิชาการทว่ั ไป (ก.พ.อ ๐๓) 30 แบบเสนอแตง ตง้ั บุคคลใหดํารงตาํ แหนงทางวชิ าการทวั่ ไปโดยผบู ังคับบัญชา (ก.พ.อ ๐๔) 49 ๒. แบบคาํ ขอรับการพจิ ารณากําหนดตาํ แหนงทางวชิ าการเฉพาะดาน (ก.พ.อ. ๐๖) 67 แบบเสนอแตง ตง้ั บคุ คลใหดํารงตําแหนงทางวิชาการเฉพาะดานโดยผูบังคบั บญั ชา 86 (ก.พ.อ. ๐๗) ๓. ลักษณะการมีสว นรว มในผลงานทางวชิ าการทว่ั ไป 104 แบบแสดงหลกั ฐานการมีสวนรว มในผลงานทางวชิ าการทว่ั ไป 106 ๔. ลกั ษณะการมสี วนรว มในผลงานทางวิชาการเฉพาะดา น 109 ๕. แนวทางการประเมินผลการสอน 111 ๖. แนวทางการประเมนิ ผลงานทางวิชาการของผูทรงคุณวุฒิ 115 ๗. คาํ จํากดั ความ รปู แบบ การเผยแพร และลกั ษณะคณุ ภาพของผลงานทางวชิ าการ 117 ๘. ตัวอยา งแนบทาย 162

เล่ม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๔ ง หน้า ๒๒ ๗ มกราคม ๒๕๖๕ ราชกจิ จานุเบกษา ประกาศ ก.พ.อ. เรือ่ ง หลกั เกณฑแ์ ละวิธกี ารพจิ ารณาแตง่ ต้ังบุคคลให้ดารงตาแหนง่ ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์ พ.ศ. ๒๕๖๔ เพ่ือให้หลักเกณฑ์การแต่งตั้งบุคคลให้ดารงตาแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์ เป็นช่องทางในการพัฒนาคุณภาพวิชาการและนวัตกรรมของประเทศให้มีความหลากหลาย เพ่ิมข้ึนสอดคล้องกับความหลากหลายของศาสตร์ทั้งปวง รวมทั้งครอบคลุมผลงานท่ีคณาจารย์ได้นา ความรคู้ วามเชี่ยวชาญในสาขาวิชาของตนมาใชใ้ นการแกไ้ ขปัญหาและพัฒนาประเทศ ชุมชน หรอื สังคม โดยเน้นการนาไปใช้จริงที่สามารถประเมินผลลัพธ์และผลกระทบที่เกิดขึ้นได้ ตลอดจนเร่งรัด ให้สถาบันอุดมศึกษาไทยก้าวสู่ความเป็นสถาบันอุดมศึกษาช้ันนาระดับนานาชาติและเพิ่มขีดความสามารถ ในการแขง่ ขันของประเทศ อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๑๔ (๓) และมาตรา ๒๘ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบ ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๗ พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน ในสถาบันอุดมศึกษา (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ และพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน ในสถาบันอุดมศึกษา (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๙ ก.พ.อ. จึงกาหนดหลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณา แต่งตั้งบุคคลให้ดารงตาแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์ เพ่ือให้ สถาบันอุดมศึกษาใช้เป็นแนวทางในการออกข้อบังคับ ทั้งน้ี สภาสถาบันอุดมศึกษาอาจกาหนดหลักเกณฑ์ เพ่ือให้สอดคล้องและเหมาะสมกับพันธกจิ และนโยบายการพัฒนาอาจารย์ของแตล่ ะสถาบนั อดุ มศกึ ษาได้ แต่ต้องไม่ต่ากว่ามาตรฐานกลางที่ ก.พ.อ. กาหนด สาหรับกรณีพนักงานในสถาบันอุดมศึกษาเป็นอานาจ ของสภาสถาบันอุดมศึกษาท่ีจะกาหนดข้อบังคับเก่ียวกับหลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาแต่งต้ังบุคคล ให้ดารงตาแหน่งทางวิชาการได้เองตามที่เห็นสมควร โดยอาศัยอานาจตามมาตรา ๖๕/๑ และมาตรา ๖๕/๒ แห่งพระราชบัญญัติข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๑ ประกอบกับกฎหมาย ของแต่ละสถาบนั อดุ มศกึ ษา แตใ่ หค้ านงึ ถึงมาตรฐานของ ก.พ.อ. ดังต่อไปน้ี ข้อ ๑ ใหย้ กเลกิ ประกาศ ก.พ.อ. และเอกสารแนบท้ายประกาศ ก.พ.อ. ดงั นี้ ๑.๑ ประกาศ ก.พ.อ. และเอกสารแนบท้ายประกาศ ก.พ.อ. เรื่อง หลักเกณฑ์ และวิธีการพิจารณาแต่งตั้งบุคคลให้ดารงตาแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์ พ.ศ. ๒๕๖๓ ๑.๒ ประกาศ ก.พ.อ. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาแต่งต้ังบุคคลให้ดารงตาแหน่ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์ (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๓ ๑.๓ ประกาศ ก.พ.อ. เร่ือง หลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาแต่งต้ังบุคคลให้ดารงตาแหน่ง ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๓ 1

เล่ม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๔ ง หน้า ๒๓ ๗ มกราคม ๒๕๖๕ ราชกจิ จานเุ บกษา ๑.๔ ประกาศ ก.พ.อ. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาแต่งต้ังบุคคลให้ดารงตาแหน่ง ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์ (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๖๔ ขอ้ ๒ ประกาศ ก.พ.อ. น้ี ใหใ้ ช้บังคับตงั้ แตว่ นั ถดั จากวนั ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเป็นตน้ ไป หมวด ๑ การแตง่ ตงั้ อาจารยป์ ระจาให้ดารงตาแหนง่ ทางวชิ าการท่ัวไป ข้อ ๓ ให้สภาสถาบันอุดมศึกษาแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาตาแหน่งทางวิชาการ จากบัญชีรายช่ือผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อแต่งต้ังเป็นคณะกรรมการพิจารณาตาแหน่งทางวิชาการที่ ก.พ.อ. กาหนด ประกอบดว้ ย ๓.๑ ประธานกรรมการ ซ่ึงแต่งตั้งจากกรรมการสภาสถาบันอุดมศึกษาประเภท ผ้ทู รงคุณวุฒทิ ่ดี ารงตาแหนง่ ศาสตราจารย์ ๓.๒ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จานวนไม่น้อยกว่าหกคน ซ่ึงต้องไม่ใช่บุคลากรและ ไม่เคยเป็นบุคลากรในสังกัดสถาบันอุดมศึกษาน้ัน โดยครอบคลุมคณะหรือสาขาวิชาท่ีมีการจัดการเรียนการสอน ในสถาบันอดุ มศึกษา ในกรณีท่ีสถาบันอุดมศึกษาไม่มีกรรมการสภาสถาบันอุดมศึกษาประเภทผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ดารงตาแหน่งศาสตราจารย์ ให้แต่งต้ังศาสตราจารย์จากบัญชีรายช่ือผู้ทรงคุณวุฒิท่ี ก.พ.อ. กาหนด ซ่งึ ไมใ่ ช่กรรมการสภาสถาบนั อดุ มศกึ ษาประเภทผทู้ รงคณุ วุฒเิ ปน็ ประธานกรรมการก็ได้ ขอ้ ๔ การพิจารณาแต่งตั้งอาจารย์ประจาให้ดารงตาแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์ ให้พิจารณาจากคุณสมบัติเฉพาะตาแหน่ง ผลการสอน ผลงานทางวิชาการ และจริยธรรมและจรรยาบรรณทางวชิ าการ ตามทีก่ าหนดในประกาศนี้และเอกสารแนบท้าย การพิจารณาแต่งตง้ั ในวรรคหนง่ึ กระทาได้ ๒ วิธี คอื การแต่งต้งั โดยวธิ ีปกติ และการแตง่ ตงั้ โดยวิธีพเิ ศษ ขอ้ ๕ การแต่งต้ังอาจารย์ประจาให้ดารงตาแหน่งทางวิชาการโดยวิธีปกติให้ดาเนินการ ตามหลักเกณฑ์ ดงั นี้ ๕.๑ การแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่งผูช้ ่วยศาสตราจารย์ ๕.๑.๑ คุณสมบตั ิเฉพาะตาแหนง่ ในกรณีท่ีสาเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า ผู้น้ัน ต้องดารงตาแหน่งอาจารย์ และทาการสอนมาแล้วไมน่ อ้ ยกว่าหกปี หรือ ในกรณีที่สาเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทหรือเทียบเท่า ผู้นั้น ต้องดารงตาแหนง่ อาจารย์ และทาการสอนมาแลว้ ไม่นอ้ ยกว่าส่ีปี หรอื 2

เล่ม ๑๓๙ ตอนพเิ ศษ ๔ ง หน้า ๒๔ ๗ มกราคม ๒๕๖๕ ราชกจิ จานุเบกษา ในกรณีที่สาเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกหรือเทียบเท่า ผู้น้ัน ต้องดารงตาแหน่งอาจารย์ และทาการสอนมาแล้วไมน่ อ้ ยกวา่ หนง่ึ ปี และพน้ ระยะทดลองการปฏบิ ตั งิ าน ทก่ี าหนดโดยสถาบันอุดมศึกษานนั้ ๆ ในกรณีที่ผู้ขอเคยได้รับแต่งต้ังเป็นอาจารย์พิเศษในสถาบันอุดมศึกษา ท่ี ก.พ.อ. รับรอง และได้สอนประจาวิชาใดวิชาหนึ่ง ซึ่งเทียบค่าได้ไม่น้อยกว่าสามหน่วยกิตระบบทวิภาค หรือปฏิบัติงานด้านวิชาชีพท่ีใช้ความรู้ความเช่ียวชาญในสาขาวิชาที่เสนอขอกาหนดตาแหน่งมาแล้ว อาจนาระยะเวลาระหว่างเป็นอาจารย์พิเศษในภาคการศึกษาท่ีสอน หรือปฏิบัติงานด้านวิชาชีพนั้น มารวมคานวณเวลาในการสอนได้สามในส่ีส่วนของเวลาทีท่ าการสอน ในกรณีที่ผู้ขอได้รับวุฒิเพิ่ม ให้นับระยะเวลาในการปฏิบัติหน้าท่ี ในตาแหน่งอาจารย์ก่อนได้รับวฒุ เิ พิ่มขน้ึ และเวลาที่ปฏิบัตหิ น้าท่ีในตาแหน่งอาจารย์หลังจากได้รับวุฒิเพิ่มขึน้ รวมกัน เพ่ือขอแต่งตั้งตาแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ได้ตามอัตราส่วนของระยะเวลาท่ีกาหนดไว้ในคุณสมบัติ เฉพาะตาแหน่ง ๕.๑.๒ ผลการสอน ต้องประเมินคุณภาพการสอนของผู้ขอที่ครอบคลุมข้อมูล ที่จาเป็นทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะความสามารถในการถ่ายทอดความรู้เพ่ือช่วยให้ผู้เรียนไดเ้ กิดการเรียนรู้ สามารถประเมินการเรยี นรู้ได้ผลถกู ตอ้ งท่สี ุด และสอดคลอ้ งกบั ผลลัพธ์การเรียนรทู้ ี่คาดหวัง ท้งั ในระดบั ผู้ช่วยศาสตราจารย์ หรือรองศาสตราจารย์ แต่สภาสถาบันอุดมศึกษาอาจกาหนดคุณภาพการสอน ให้สูงข้ึนตามระดบั ตาแหน่งทีป่ ระเมนิ ได้ ผู้ขอต้องมีชั่วโมงสอนประจาวิชาใดวิชาหน่ึงท่ีกาหนดไว้ในหลักสูตร ของสถาบันอุดมศึกษา ซ่ึงเทียบค่าได้ไม่น้อยกว่าสามหน่วยกิตระบบทวิภาค และมีความชานาญในการสอน จะต้องเสนอเอกสารหลักฐานท่ีใช้ในการประเมินผลการสอนท่ีผลิตขึ้นตามภาระงานสอน สาหรับกรณี ที่ผู้ขอได้ทาการสอนหลายวิชาหรือสอนวิชาที่มีผู้สอนร่วมกันหลายคน จะต้องเสนอเอกสารหลักฐาน ท่ีใช้ในการประเมินผลการสอน ในทุกวิชาหรือทุกหัวข้อที่ผู้ขอเป็นผู้สอน แล้วแต่กรณี ซ่ึงรวมกันได้ ไม่น้อยกว่าสามหน่วยกิตระบบทวิภาค และมีคุณภาพตามที่สภาสถาบันอุดมศึกษากาหนด มีการอ้างอิงแหล่งที่มา และได้ใช้ประกอบการสอนมาแลว้ โดยผา่ นการประเมนิ จากคณะกรรมการพิจารณาตาแหนง่ ทางวชิ าการ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการท่ีกาหนดในข้อบังคับของสภาสถาบันอุดมศึกษาตามข้อ ๕ แนวทาง การประเมนิ ผลการสอนในเอกสารแนบทา้ ย ๕.๑.๓ ผลงานทางวิชาการ ประกอบดว้ ย กล่มุ ๑ งานวิจยั กลุ่ม ๒ ผลงานทางวิชาการในลักษณะอ่ืน ๒.๑ ผลงานวชิ าการเพือ่ อุตสาหกรรม ๒.๒ ผลงานวชิ าการเพอ่ื พัฒนาการเรียนการสอนและการเรียนรู้ ๒.๓ ผลงานวชิ าการเพ่ือพฒั นานโยบายสาธารณะ 3

เล่ม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๔ ง หน้า ๒๕ ๗ มกราคม ๒๕๖๕ ราชกิจจานุเบกษา ๒.๔ กรณศี ึกษา (case study) ๒.๕ งานแปล ๒.๖ พจนานกุ รม สารานกุ รม นามานุกรม และงานวชิ าการ ในลกั ษณะเดียวกนั ๒.๗ ผลงานสรา้ งสรรค์ด้านวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๒.๘ ผลงานสร้างสรรค์ด้านสนุ ทรยี ะ ศิลปะ ๒.๙ สิทธบิ ตั ร ๒.๑๐ ซอฟตแ์ วร์ ๒.๑๑ ผลงานรับใช้ทอ้ งถิน่ และสงั คม ๒.๑๒ ผลงานนวตั กรรม กลุ่ม ๓ ๓.๑ ตารา ๓.๒ หนงั สือ ๓.๓ บทความทางวิชาการ ๕.๑.๔ การขอตาแหนง่ ทางวิชาการท่ัวไป ผลงานทางวชิ าการต้องประกอบดว้ ย ผลงานท่ีมีคณุ ภาพระดบั B และมีปรมิ าณอย่างน้อย ดงั ตอ่ ไปน้ี (๑) งานวิจัย ๒ เรื่อง หรอื (๒) งานวจิ ยั ๑ เรื่อง และผลงานทางวชิ าการในลกั ษณะอื่น ๑ รายการ หรอื (๓) งานวิจัย ๑ เร่ือง และตาราหรอื หนังสือ ๑ เลม่ โดยที่งานวิจัยตาม (๑) - (๓) อย่างน้อย ๑ เรื่อง ผู้ขอต้องเป็น ผปู้ ระพันธอ์ ันดบั แรก (first author) หรือผ้ปู ระพนั ธบ์ รรณกจิ (corresponding author) ทัง้ น้ี ตาม ลักษณะการมีสว่ นรว่ มในผลงานทางวิชาการตามเอกสารแนบทา้ ย สาหรับการเสนอขอกาหนดตาแหน่งทางวิชาการสาขาวิชาทางสังคมศาสตร์ และมนุษยศาสตร์น้ัน ผู้ขออาจใช้ผลงานทางวิชาการในลักษณะอ่ืน ท่ีได้รับการประเมินให้มีคุณภาพระดับ B หรือบทความทางวิชาการที่ได้รับการประเมินให้มีคุณภาพระดับ A แทนงานวิจัยตาม (๒) - (๓) ได้ โดยที่ผลงานอย่างนอ้ ย ๑ เรอ่ื ง ผู้ขอตอ้ งเปน็ ผปู้ ระพนั ธอ์ ันดบั แรก (first author) ท้ังนี้ ตามลกั ษณะ การมีส่วนร่วมในผลงานทางวชิ าการตามเอกสารแนบทา้ ย การนางานวิจัยหรืองานใด ๆ ที่ทาเป็นส่วนหนงึ่ ของการศึกษาเพ่ือรบั ปริญญา ประกาศนียบัตร หรือเพื่อสาเร็จการศึกษา หรือการอบรม มาเสนอเป็นผลงานทางวิชาการ ตามข้อน้ี จะกระทามิได้ เว้นแต่ผู้ขอได้แสดงหลักฐานว่าไดท้ าการศึกษาหรือวิจัยเพ่ิมเติมขยายผลต่อจากเร่ืองเดิม จนปรากฏความก้าวหน้าทางวิชาการอย่างเห็นได้ชัด ในกรณีเช่นนี้ให้พิจารณาเฉพาะผลการศึกษา หรือวิจยั ทเี่ พิม่ ข้นึ จากเดมิ เท่านั้น 4

เล่ม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๔ ง หน้า ๒๖ ๗ มกราคม ๒๕๖๕ ราชกิจจานุเบกษา ท้ังนี้ ผลงานทางวิชาการทุกประเภทตอ้ งไดร้ บั การเผยแพร่ ตามหลักเกณฑ์ ที่ ก.พ.อ. กาหนด พร้อมแสดงหลักฐานว่าการเผยแพร่น้ันได้ผ่านการประเมินคุณภาพ โดยคณะกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาวิชานั้น ๆ หรือสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง (peer reviewer) ที่มาจากหลากหลายสถาบัน ทัง้ นี้ ตามเอกสารแนบท้าย ๕.๑.๕ จริยธรรมและจรรยาบรรณทางวิชาการในการพิจารณากาหนดตาแหนง่ ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ตอ้ งคานงึ ถึงจริยธรรมและจรรยาบรรณทางวชิ าการ ดงั น้ี (๑) ต้องมีความซื่อสัตย์ทางวิชาการ ไม่นาผลงานของผู้อ่ืนมาเป็น ผลงานของตน ไม่ลอกเลียนผลงานของผู้อ่ืน ไม่สร้างข้อมูลหรือข้อเท็จจริงอันไม่มีอยู่จริง (fabrication) ไม่บิดเบือนข้อมูลหรือข้อเท็จจริง (falsification) ไม่นาผลงานของตนเองในเร่ืองเดียวกันไปเผยแพร่ ในวารสารวชิ าการมากกวา่ หนึ่งฉบับ ในลักษณะท่ีจะทาใหเ้ ข้าใจผดิ ว่าเปน็ ผลงานใหม่ รวมถงึ ไมค่ ัดลอก ขอ้ ความใด ๆ จากผลงานเดมิ ของตน โดยไมอ่ า้ งองิ ผลงานเดิมตามหลกั วชิ าการ (๒) ต้องอ้างถึงบุคคลหรือแหล่งท่ีมาของข้อมูลที่นามาใช้ในผลงาน ทางวชิ าการของตนเองเพ่อื แสดงหลกั ฐานของการคน้ คว้า (๓) ต้องไม่คานึงถึงผลประโยชน์ทางวิชาการจนละเลยหรือละเมิดสิทธิ สว่ นบุคคลของผอู้ ืน่ หรอื สทิ ธมิ นุษยชน (๔) ผลงานทางวิชาการต้องได้มาจากการศึกษาโดยใช้หลักวิชาการ เป็นเกณฑ์ ปราศจากอคติ และเสนอผลงานตามความเป็นจริง ไม่จงใจเบ่ียงเบนผลการศึกษาหรือวจิ ัย โดยหวังผลประโยชน์ส่วนตัว หรือเพื่อก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น และเสนอผลงานตามความเป็นจริง ไมข่ ยายขอ้ ค้นพบ โดยปราศจากการตรวจสอบยนื ยันในทางวิชาการ (๕) ต้องนาผลงานทางวิชาการไปใช้ประโยชน์ในทางที่ชอบธรรมและ ชอบดว้ ยกฎหมาย (๖) หากผลงานทางวิชาการมีการใช้ข้อมูลจากการทาการวิจัยในคน หรือสัตว์ ผู้ขอจะต้องยื่นหลักฐานแสดงการอนุญาตจากคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยของสถาบัน ที่มีการดาเนนิ การ ๕.๒ การแต่งตั้งให้ดารงตาแหนง่ รองศาสตราจารย์ ๕.๒.๑ คุณสมบัติเฉพาะตาแหน่ง ผู้ขอต้องดารงตาแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ และปฏบิ ตั ิหน้าท่ใี นตาแหนง่ ดงั กล่าวมาแลว้ ไมน่ ้อยกวา่ สองปี ๕.๒.๒ ผลการสอน ให้นาความในข้อ ๕.๑.๒ มาใช้บังคับโดยอนุโลม แตต่ อ้ งมคี วามชานาญพิเศษในการสอน ๕.๒.๓ ผลงานทางวชิ าการ ผู้ขออาจเสนอผลงานทางวชิ าการ ได้ ๓ วิธี ดงั น้ี วธิ ที ี่ ๑ ผลงานทางวิชาการต้องประกอบด้วยผลงานท่ีมีคุณภาพระดับ B และมีปรมิ าณอย่างน้อย ดงั ตอ่ ไปนี้ 5

เล่ม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๔ ง หน้า ๒๗ ๗ มกราคม ๒๕๖๕ ราชกิจจานเุ บกษา (๑) งานวจิ ยั ๒ เร่อื ง หรือ (๒) งานวิจัย ๑ เรื่อง และผลงานทางวิชาการในลักษณะอ่ืน ๑ รายการ และ (๓) ตารา หรือ หนงั สือ ๑ เลม่ โดยที่งานวิจัยตาม (๑) - (๒) ต้องได้รับการเผยแพร่ในวารสารวชิ าการ ระดับนานาชาติ หรือระดับชาติ ตามที่ ก.พ.อ. กาหนด และอย่างน้อย ๑ เร่ือง ผู้ขอต้องเป็น ผู้ประพันธอ์ ันดบั แรก (first author) หรือผู้ประพันธบ์ รรณกิจ (corresponding author) และตารา หรือหนังสอื อยา่ งน้อย ๑ เลม่ ผขู้ อตอ้ งเปน็ ผู้ประพนั ธอ์ ันดบั แรก (first author) ท้งั นี้ ตามลกั ษณะ การมีสว่ นรว่ มในผลงานทางวิชาการตามเอกสารแนบท้าย วิธีท่ี ๒ ผลงานทางวิชาการต้องประกอบด้วยผลงานที่มีคุณภาพ และมีปรมิ าณ ดงั ต่อไปนี้ (๑) งานวจิ ัย อยา่ งนอ้ ย ๓ เรอื่ ง มคี ุณภาพระดับ A อยา่ งน้อย ๒ เร่อื ง และมีคณุ ภาพระดับ B อยา่ งนอ้ ย ๑ เร่ือง หรอื (๒) งานวิจัย อย่างน้อย ๒ เรื่อง มีคุณภาพระดับ A และผลงานทางวิชาการในลักษณะอ่ืน อย่างน้อย ๑ เรอื่ ง มีคุณภาพระดับ B โดยที่งานวิจัยตาม (๑) - (๒) ต้องได้รับการเผยแพร่ในวารสารวิชาการ ระดับนานาชาติ หรือระดับชาติ ตามท่ี ก.พ.อ. กาหนด และอย่างน้อย ๒ เร่ือง ที่มีคุณภาพระดับ A ผู้ขอต้องเป็นผู้ประพันธ์อันดับแรก (first author) หรือผู้ประพันธ์บรรณกิจ (corresponding author) ทงั้ นี้ ตามลกั ษณะการมีสว่ นรว่ มในผลงานทางวิชาการตามเอกสารแนบทา้ ย สาหรับการเสนอขอกาหนดตาแหน่งทางวิชาการสาขาวิชาทางสังคมศาสตร์ และมนุษยศาสตร์ วิธที ่ี ๒ นั้น ผู้ขออาจใช้ตาราหรือหนังสอื อย่างน้อย ๒ เล่ม ทีม่ ีคุณภาพระดบั A ซึ่งผู้ขอต้องเป็นผู้ประพันธ์อันดับแรก (first author) และอย่างน้อย ๑ เล่ม ท่ีมีคุณภาพระดับ B แทนผลงานตาม (๑) - (๒) ได้ ทั้งน้ี ตามลักษณะการมสี ่วนรว่ มในผลงานทางวิชาการตามเอกสารแนบท้าย การนางานวจิ ัยหรอื งานใด ๆ ท่ีทาเป็นส่วนหนึง่ ของการศกึ ษาเพ่ือรับปริญญา ประกาศนียบัตร หรือเพ่ือสาเร็จการศึกษา หรือการอบรม มาเสนอเป็นผลงานทางวิชาการ ตามข้อนี้ จะกระทามิได้ เว้นแต่ผู้ขอได้แสดงหลักฐานวา่ ได้ทาการศึกษาหรือวิจัยเพ่ิมเติมขยายผลต่อจากเร่ืองเดิม จนปรากฏความก้าวหน้าทางวิชาการอย่างเห็นได้ชัด ในกรณีเช่นนี้ให้พิจารณาเฉพาะผลการศึกษา หรือวิจยั ทเี่ พิ่มขึน้ จากเดิมเท่านนั้ ผลงานทางวชิ าการทกุ ประเภทตอ้ งเปน็ ผลงานหลังจากทไ่ี ด้รบั การแตง่ ตงั้ ให้ดารงตาแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ เว้นแต่กรณีท่ีใช้ผลงานทางวิชาการก่อนการได้รับการแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่ง 6

เล่ม ๑๓๙ ตอนพเิ ศษ ๔ ง หน้า ๒๘ ๗ มกราคม ๒๕๖๕ ราชกิจจานเุ บกษา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ผลงานน้ันต้องได้รับการเผยแพร่ไม่เกินห้าปีก่อนวันที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ และนามาใช้ได้ไม่เกินจานวน ๑ ใน ๓ ของผลงานท่ีนามาเสนอขอกาหนดตาแหน่ง โดยมีผลการประเมินคุณภาพของผลงานใหม่หลังจากที่ได้รับการแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ ทีผ่ ่านเกณฑ์ จานวนอย่างนอ้ ย ๒ เร่อื งด้วย ผลงานทางวิชาการทุกประเภทต้องได้รับการเผยแพร่ตามหลักเกณฑ์ ท่ี ก.พ.อ. กาหนด พร้อมแสดงหลักฐานว่าการเผยแพร่น้ันได้ผ่านการประเมินคุณภาพ โดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาวิชาน้ัน ๆ หรือสาขาวิชาท่ีเก่ียวข้อง (peer reviewer) ทีม่ าจากหลากหลายสถาบัน ทง้ั นี้ ตามเอกสารแนบท้าย ในกรณีท่ีผู้ขอเสนอผลงานทางวิชาการในลักษณะอื่น ซ่ึงเป็นผลงาน รับใช้ท้องถิ่นและสังคมที่มีเนื้อหาสาระและรูปแบบท่ีเป็นเร่ืองเดียวกัน แต่ดาเนินการคนละพื้นท่ี หากเป็นการดาเนนิ การในลักษณะทีข่ ยายผลเชงิ พนื้ ทจี่ ากพื้นท่ีเดียวไปสหู่ ลายพื้นที่ให้ครอบคลมุ กวา้ งข้นึ โดยมีตัวแปรที่แตกต่างกัน ก่อให้เกิดกลไกใหม่ มีการเปล่ียนแปลงรูปแบบ และมีการพัฒนาต่อยอด ซึ่งต้องไม่ใช่งานเดียวกันและซ้าซ้อนกัน ผู้ขออาจสามารถนามาเสนอขอกาหนดตาแหน่งทางวิชาการได้ โดยอนุโลม วิธที ่ี ๓ สาหรับการเสนอขอกาหนดตาแหน่งทางวิชาการสาขาวิชา ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ แพทยศาสตร์ และสาขาวิชาอื่นๆ ตามท่ี ก.พ.อ. กาหนด ผู้ขอตอ้ งเสนอเอกสารหลักฐานประกอบการพิจารณา ดงั ต่อไปนี้ (๑) งานวิจัยอย่างน้อย ๑๐ เรื่อง ท่ีได้รับการเผยแพร่ในวารสาร ที่อยู่ในฐานข้อมูล Quartile1 และ Quartile2 ของ Scopus หลังจากท่ีได้รับการแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ โดยอย่างน้อย ๕ เรื่อง ผู้ขอต้องเป็นผู้ประพันธ์อันดับแรก (first author) หรือเปน็ ผูป้ ระพนั ธ์บรรณกจิ (corresponding author) และ (๒) มีงานวิจัยที่ได้รับการอ้างอิงจาก Scopus โดยรวม (life-time citation) อยา่ งน้อย ๕๐๐ รายการ โดยไม่นับงานวิจัยทอ่ี า้ งองิ ตนเอง และ (๓) มีคา่ life-time h-index (Scopus) ไมน่ อ้ ยกว่า ๘ และ (๔) เป็นหัวหน้าโครงการวิจัย (principal investigator) ท่ีได้รับทุน จากแหล่งทุนภายนอกสถาบนั ตามจานวนเงินทส่ี ภาสถาบันกาหนด อยา่ งนอ้ ย ๕ โครงการ (life-time) สาหรับการเสนอขอกาหนดตาแหน่งทางวิชาการสาขาวิชาทางบริหารธุรกิจ เศรษฐศาสตร์ และสาขาวิชาอ่ืน ๆ ตามท่ี ก.พ.อ. กาหนด ผู้ขอต้องเสนอเอกสารหลักฐานประกอบ การพิจารณา ดังน้ี (๑) งานวิจัยอย่างน้อย ๕ เร่ือง ท่ีได้รับการเผยแพร่ในวารสารท่ีอยู่ ในฐานข้อมูล Scopus หลังจากท่ีได้รับการแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ โดยอย่างน้อย ๓ เรื่อง 7

เล่ม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๔ ง หน้า ๒๙ ๗ มกราคม ๒๕๖๕ ราชกิจจานเุ บกษา ผู้ขอต้องเป็นผู้ประพันธ์อันดับแรก (first author) หรือเป็นผู้ประพันธ์บรรณกิจ (corresponding author) และ (๒) มงี านวจิ ยั ท่ีได้รับการอ้างอิงจาก Scopus โดยรวม (life-time citation) อยา่ งนอ้ ย ๑๕๐ รายการ โดยไม่นับงานวิจัยทอ่ี า้ งองิ ตนเอง และ (๓) มคี ่า life-time h-index (Scopus) ไม่น้อยกว่า ๔ และ (๔) เป็นหัวหน้าโครงการวิจัย (principal investigator) ที่ได้รับทุน จากแหลง่ ทนุ ภายนอกสถาบนั ตามจานวนเงนิ ทสี่ ภาสถาบันกาหนด อยา่ งน้อย ๕ โครงการ (life-time) ท้งั นี้ หากคณะกรรมการพจิ ารณาตาแหนง่ ทางวชิ าการ พจิ ารณาเหน็ วา่ จริยธรรมและจรรยาบรรณทางวิชาการเป็นไปตามที่กาหนดไว้ในข้อ ๕.๑.๕ และผลงานทางวิชาการ เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กาหนดแล้ว ให้นาเสนอต่อสภาสถาบันอุดมศึกษาพิจารณาอนุมัติ โดยไม่ต้อง แตง่ ตงั้ คณะกรรมการผทู้ รงคุณวฒุ เิ พอื่ ทาหน้าท่ปี ระเมินผลงานทางวิชาการ ๕.๒.๔ จริยธรรมและจรรยาบรรณทางวิชาการในการพิจารณากาหนดตาแหนง่ รองศาสตราจารย์ตอ้ งเป็นไปตามจริยธรรมและจรรยาบรรณทางวชิ าการตามที่กาหนดไว้ในข้อ ๕.๑.๕ ๕.๓ การแต่งต้ังให้ดารงตาแหนง่ ศาสตราจารย์ ๕.๓.๑ คุณสมบัติเฉพาะตาแหน่ง ผู้ขอต้องดารงตาแหน่งรองศาสตราจารย์ และปฏิบตั หิ น้าทใี่ นตาแหน่งดังกล่าวมาแลว้ ไมน่ อ้ ยกว่าสองปี ๕.๓.๒ ผลการสอน ผู้ขอต้องมีชั่วโมงสอนประจาวิชาใดวิชาหนึ่งที่กาหนดไว้ ในหลกั สตู รของสถาบนั อดุ มศึกษา ๕.๓.๓ ผลงานทางวชิ าการ ผขู้ ออาจเสนอผลงานทางวิชาการได้ ๓ วิธี ดังนี้ วธิ ที ี่ ๑ ผลงานทางวิชาการต้องประกอบด้วยผลงานท่ีมีคุณภาพระดับ A และมปี ริมาณ ดังตอ่ ไปน้ี (๑) งานวิจัย อย่างน้อย ๕ เร่ือง ต้องได้รับการเผยแพร่ ในวารสารวชิ าการที่อยู่ในฐานขอ้ มูลระดบั นานาชาติตามท่ี ก.พ.อ. กาหนด หรอื (๒) งานวิจัย อย่างน้อย ๑ เร่ือง ต้องได้รับการเผยแพร่ ในวารสารวิชาการท่ีอยใู่ นฐานข้อมูลระดบั นานาชาตติ ามที่ ก.พ.อ. กาหนด และผลงานทางวิชาการในลกั ษณะอ่ืน ท่ตี ้องไดร้ บั การเผยแพร่ในระดับนานาชาติ ตามที่ ก.พ.อ. กาหนด รวมกนั ท้งั หมด อยา่ งนอ้ ย ๕ เรือ่ ง และ (๓) ตารา หรือ หนงั สือ อย่างน้อย ๑ เล่ม โดยที่ผลงานตาม (๑) - (๒) อย่างน้อย ๒ เร่ือง ผู้ขอต้องเป็น ผู้ประพันธ์อันดบั แรก (first author) หรือผู้ประพันธบ์ รรณกิจ (corresponding author) และตารา หรือหนงั สือ อย่างนอ้ ย ๑ เล่ม ผู้ขอต้องเปน็ ผู้ประพันธอ์ ันดบั แรก (first author) ทั้งน้ี ตามลักษณะ การมสี ว่ นรว่ มในผลงานทางวชิ าการตามเอกสารแนบท้าย 8

เล่ม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๔ ง หน้า ๓๐ ๗ มกราคม ๒๕๖๕ ราชกจิ จานเุ บกษา วิธีที่ ๒ ผลงานทางวิชาการต้องประกอบด้วยผลงานท่ีมีคุณภาพ และมีปรมิ าณ ดงั ต่อไปน้ี (๑) งานวิจัย อย่างน้อย ๕ เร่ือง ต้องได้รับการเผยแพร่ ในวารสารวชิ าการทอ่ี ยใู่ นฐานขอ้ มูลระดับนานาชาตติ ามท่ี ก.พ.อ. กาหนด ท่ีมีคุณภาพระดับ A+ อย่างน้อย ๒ เรื่อง และมีคุณภาพระดับ A อย่างน้อย ๓ เร่ือง หรอื (๒) งานวิจัย อย่างน้อย ๑ เรื่อง ต้องได้รับการเผยแพร่ ในวารสารวิชาการท่ีอยู่ในฐานข้อมูลระดับนานาชาติตามที่ ก.พ.อ. กาหนด และผลงานทางวิชาการในลักษณะอื่น ทตี่ อ้ งได้รับการเผยแพร่ในระดับนานาชาตติ ามที่ ก.พ.อ. กาหนด รวมกันท้ังหมด อย่างน้อย ๕ เรื่อง โดยที่ผลงานทางวิชาการ อย่างน้อย ๒ เรื่อง ต้องมี คุณภาพระดับ A+ และอีกอย่างน้อย ๓ เร่ือง มีคุณภาพระดบั A หรือ (๓) งานวิจัย อย่างน้อย ๑๐ เรื่อง ต้องได้รับการเผยแพร่ ในวารสารวิชาการทีอ่ ยใู่ นฐานขอ้ มูลระดบั นานาชาตติ ามท่ี ก.พ.อ. กาหนด ที่มีคุณภาพระดบั A โดยที่ผลงานตาม (๑) - (๒) อย่างน้อย ๒ เรื่อง ที่มีคุณภาพระดับ A+ และอย่างน้อย ๑ เรื่อง ที่มีคุณภาพระดับ A ผู้ขอต้องเป็นผู้ประพันธ์อันดับแรก (first author) หรือผู้ประพันธ์บรรณกิจ (corresponding author) สาหรับผลงานตาม (๓) อย่างน้อย ๖ เร่ือง ที่มีคุณภาพระดับ A ผู้ขอต้องเป็นผู้ประพันธ์อันดับแรก (first author) หรือผู้ประพันธ์บรรณกิจ (corresponding author) ท้ังน้ี ตามลกั ษณะการมสี ว่ นรว่ มในผลงานทางวิชาการตามเอกสารแนบทา้ ย สาหรับการเสนอขอกาหนดตาแหน่งทางวิชาการสาขาวิชาทางสังคมศาสตร์ และมนุษยศาสตร์น้ัน ผ้ขู ออาจเสนอผลงานทางวชิ าการได้ ดงั นี้ วธิ ที ี่ ๑ ผลงานทางวิชาการต้องประกอบด้วยผลงานที่มีคุณภาพระดับ A และมปี ริมาณ ดงั ต่อไปนี้ (๑) งานวิจัย อย่างน้อย ๒ เร่ือง ต้องได้รับการเผยแพร่ ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติ หรือระดับชาติ ตามท่ี ก.พ.อ. กาหนด หรอื 9

เล่ม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๔ ง หน้า ๓๑ ๗ มกราคม ๒๕๖๕ ราชกจิ จานุเบกษา (๒) งานวิจัย อย่างน้อย ๑ เร่ือง ต้องได้รับการเผยแพร่ ในวารสารวชิ าการระดบั นานาชาติ หรอื ระดับชาติ ตามท่ี ก.พ.อ. กาหนด และผลงานทางวิชาการในลักษณะอ่นื รวมกนั ทงั้ หมด อย่างน้อย ๒ เรอื่ ง และ (๓) ตารา หรือ หนังสือ อย่างน้อย ๒ เล่ม โดยท่ีผลงานตาม (๑) - (๒) อย่างน้อย ๒ เรื่อง ผู้ขอต้องเป็น ผู้ประพันธ์อันดับแรก (first author) หรือผู้ประพันธ์บรรณกิจ (corresponding author) และตารา หรือหนงั สอื อยา่ งน้อย ๑ เล่ม ผู้ขอต้องเป็นผปู้ ระพันธอ์ ันดบั แรก (first author) ทัง้ น้ี ตามลกั ษณะ การมีส่วนรว่ มในผลงานทางวิชาการตามเอกสารแนบท้าย วธิ ที ี่ ๒ ผลงานทางวชิ าการตอ้ งประกอบดว้ ยผลงานทีม่ คี ณุ ภาพ ระดบั A+ และมีปรมิ าณ ดงั ต่อไปนี้ (๑) งานวิจัย อย่างน้อย ๓ เร่ือง ต้องได้รับการเผยแพร่ ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติ หรือระดับชาติ ตามท่ี ก.พ.อ. กาหนด หรือ (๒) งานวิจัย อย่างน้อย ๑ เร่ือง ต้องได้รับการเผยแพร่ ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติ หรือระดบั ชาติ ตามท่ี ก.พ.อ. กาหนด และผลงานทางวิชาการในลักษณะอน่ื รวมกันทั้งหมด อย่างน้อย ๓ เรอื่ ง หรือ (๓) ตารา หรือ หนังสือ อย่างนอ้ ย ๓ เลม่ โดยที่ผลงานตาม (๑) - (๒) อย่างน้อย ๓ เร่ือง ผู้ขอต้องเป็น ผู้ประพันธ์อันดับแรก (first author) หรือผู้ประพันธ์บรรณกิจ (corresponding author) สาหรับตารา หรือหนังสือ ผู้ขอต้องเป็นผู้ประพันธ์อันดับแรก (first author) ท้ังนี้ ตามลักษณะการมีส่วนร่วม ในผลงานทางวชิ าการตามเอกสารแนบทา้ ย การนางานวจิ ัยหรอื งานใด ๆ ท่ีทาเป็นส่วนหน่ึงของการศกึ ษาเพื่อรบั ปริญญา ประกาศนียบัตร หรือเพ่ือสาเร็จการศึกษา หรือการอบรม มาเสนอเป็นผลงานทางวิชาการ ตามข้อน้ี จะกระทามิได้ เว้นแต่ผู้ขอไดแ้ สดงหลักฐานว่าไดท้ าการศึกษาหรือวิจัยเพ่ิมเติมขยายผลต่อจากเรื่องเดมิ จนปรากฏความก้าวหน้าทางวิชาการอย่างเห็นได้ชัด ในกรณีเช่นน้ีให้พิจารณาเฉพาะผลการศึกษา หรือวจิ ัยทีเ่ พมิ่ ขึ้นจากเดิมเทา่ นน้ั ผลงานทางวิชาการทกุ ประเภทตอ้ งเปน็ ผลงานหลงั จากทไี่ ดร้ บั การแตง่ ตงั้ ให้ดารงตาแหน่งรองศาสตราจารย์ เว้นแต่กรณีที่ใช้ผลงานทางวิชาการก่อนการได้รับการแต่งตั้ง ใหด้ ารงตาแหนง่ รองศาสตราจารย์ ผลงานน้นั ตอ้ งได้รับการเผยแพร่ไม่เกนิ หา้ ปกี ่อนวนั ทีไ่ ด้รบั การแตง่ ตง้ั 10

เล่ม ๑๓๙ ตอนพเิ ศษ ๔ ง หน้า ๓๒ ๗ มกราคม ๒๕๖๕ ราชกิจจานุเบกษา ให้ดารงตาแหน่งรองศาสตราจารย์ และนามาใช้ได้ไม่เกินจานวน ๑ ใน ๓ ของผลงานที่นามาเสนอ ขอกาหนดตาแหน่ง โดยมีผลการประเมินคุณภาพของผลงานใหม่หลังจากท่ีได้รับการแต่งต้ัง ให้ดารงตาแหนง่ รองศาสตราจารย์ท่ีผา่ นเกณฑ์ จานวนอยา่ งน้อย ๒ เร่ืองด้วย ผลงานทางวิชาการทุกประเภทต้องได้รับการเผยแพร่ตามหลักเกณฑ์ ท่ี ก.พ.อ. กาหนด พร้อมแสดงหลักฐานว่าการเผยแพร่น้ันได้ผ่านการประเมินคุณภาพ โดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาวิชาน้ัน ๆ หรือสาขาวิชาที่เก่ียวข้อง (peer reviewer) ท่มี าจากหลากหลายสถาบนั ทัง้ น้ี ตามเอกสารแนบทา้ ย ในกรณีท่ีผู้ขอเสนอผลงานทางวิชาการในลักษณะอ่ืน ซึ่งเป็นผลงาน รับใช้ท้องถิ่นและสังคมที่มีเนื้อหาสาระและรูปแบบท่ีเป็นเร่ืองเดียวกัน แต่ดาเนินการคนละพ้ืนที่ หากเป็นการดาเนนิ การในลักษณะทีข่ ยายผลเชงิ พนื้ ท่ีจากพ้ืนท่ีเดยี วไปสูห่ ลายพ้ืนท่ีใหค้ รอบคลมุ กว้างขน้ึ โดยมีตัวแปรที่แตกต่างกัน ก่อให้เกิดกลไกใหม่ มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบ และมีการพัฒนาต่อยอด ซึ่งต้องไม่ใช่งานเดียวกันและซ้าซ้อนกัน ผู้ขออาจสามารถนามาเสนอขอกาหนดตาแหน่งทางวิชาการได้ โดยอนุโลม วิธีท่ี ๓ สาหรับการเสนอขอกาหนดตาแหน่งทางวิชาการสาขาวิชา ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ แพทยศาสตร์ และสาขาวิชาอ่ืน ๆ ตามท่ี ก.พ.อ. กาหนด ผู้ขอตอ้ งเสนอเอกสารหลกั ฐานประกอบการพจิ ารณา ดงั ตอ่ ไปน้ี (๑) งานวิจัยอย่างน้อย ๑๐ เรื่อง ท่ีได้รับการเผยแพร่ในวารสาร ท่ีอยู่ในฐานข้อมูล Quartile1 และ Quartile2 ของ Scopus หลังจากท่ีได้รับการแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่ง รองศาสตราจารย์ โดยผู้ขอต้องเป็นผู้ประพันธอ์ ันดับแรก (first author) หรือเป็นผู้ประพนั ธ์บรรณกิจ (corresponding author) และ (๒) มงี านวิจยั ทีไ่ ด้รบั การอ้างองิ จาก Scopus โดยรวม (life-time citation) อยา่ งน้อย ๑,๐๐๐ รายการ โดยไม่นบั งานวจิ ัยทอ่ี ้างองิ ตนเอง และ (๓) มคี า่ life-time h-index (Scopus) ไม่นอ้ ยกวา่ ๑๘ และ (๔) เป็นหัวหน้าโครงการวิจัย (principal investigator) ที่ได้รับทุน จากแหลง่ ทนุ ภายนอกสถาบัน ตามจานวนเงินทสี่ ภาสถาบนั กาหนด อยา่ งนอ้ ย ๑๐ โครงการ (life-time) สาหรับการเสนอขอกาหนดตาแหน่งทางวิชาการสาขาวิชาทางบริหารธุรกิจ เศรษฐศาสตร์ และสาขาวิชาอ่ืน ๆ ตามท่ี ก.พ.อ. กาหนด ผู้ขอต้องเสนอเอกสารหลักฐานประกอบ การพจิ ารณา ดงั น้ี (๑) งานวิจัยอย่างน้อย ๑๐ เรื่อง ท่ีได้รับการเผยแพร่ในวารสาร ที่อยู่ในฐานข้อมูล Scopus หลังจากท่ีได้รบั การแตง่ ตัง้ ให้ดารงตาแหน่งเปน็ รองศาสตราจารย์ โดยผูข้ อ ต้องเป็นผู้ประพันธ์อันดับแรก (first author) หรอื เป็นผปู้ ระพันธ์บรรณกจิ (corresponding author) และ 11

เล่ม ๑๓๙ ตอนพเิ ศษ ๔ ง หน้า ๓๓ ๗ มกราคม ๒๕๖๕ ราชกจิ จานุเบกษา (๒) มงี านวิจัยทไ่ี ดร้ ับการอา้ งอิงจาก Scopus โดยรวม (life-time citation) ซ่ึงไม่นับงานวจิ ยั ท่ีอ้างอิงตนเอง ดังตอ่ ไปน้ี - สาขาวชิ าทางบริหารธุรกิจ อย่างน้อย ๕๐๐ รายการ - สาขาวิชาทางเศรษฐศาสตร์ อยา่ งน้อย ๒๐๐ รายการ และ (๓) มีคา่ life-time h-index (Scopus) ไม่น้อยกว่า ๘ และ (๔) เป็นหัวหน้าโครงการวิจัย (principal investigator) ที่ได้รับทุน จากแหล่งทนุ ภายนอกสถาบัน ตามจานวนเงินท่ีสภาสถาบนั กาหนด อยา่ งน้อย ๑๐ โครงการ (life-time) ทง้ั นี้ หากคณะกรรมการพจิ ารณาตาแหนง่ ทางวชิ าการ พจิ ารณาเหน็ วา่ จริยธรรมและจรรยาบรรณทางวิชาการเป็นไปตามท่ีกาหนดไว้ในข้อ ๕.๑.๕ และผลงานทางวิชาการ เป็นไปตามหลักเกณฑ์ท่ีกาหนดแล้ว ให้นาเสนอต่อสภาสถาบันอุดมศึกษาพิจารณาอนุมัติ โดยไม่ต้อง แต่งตงั้ คณะกรรมการผ้ทู รงคุณวุฒเิ พ่ือทาหนา้ ที่ประเมนิ ผลงานทางวิชาการ ๕.๓.๔ จริยธรรมและจรรยาบรรณทางวิชาการในการพิจารณากาหนดตาแหน่ง ศาสตราจารยต์ อ้ งเป็นไปตามจริยธรรมและจรรยาบรรณทางวชิ าการตามท่กี าหนดไว้ในขอ้ ๕.๑.๕ ขอ้ ๖ วิธีการแต่งต้ังอาจารย์ประจาให้ดารงตาแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์ โดยวธิ ปี กติ ใหด้ าเนนิ การ ดงั น้ี ๖.๑ การแต่งตัง้ ใหด้ ารงตาแหน่งผูช้ ว่ ยศาสตราจารย์ และรองศาสตราจารย์ ๖.๑.๑ ให้คณะวิชาเสนอชื่อผู้มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ต่อคณะกรรมการ พิจารณาตาแหน่งทางวิชาการ ตามแบบคาขอรับการพิจารณากาหนดตาแหน่งทางวิชาการที่ ก.พ.อ. กาหนด พร้อมดว้ ยผลงานทางวชิ าการตามเอกสารแนบทา้ ย ๖.๑.๒ ให้คณะกรรมการพิจารณาตาแหน่งทางวิชาการประเมินผลการสอน โดยอาจแตง่ ต้งั คณะอนกุ รรมการเพื่อประเมินผลการสอนได้ตามความเหมาะสม ๖.๑.๓ ให้คณะกรรมการพิจารณาตาแหน่งทางวิชาการแต่งตั้งคณะกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิเพ่ือทาหน้าที่ประเมินผลงานทางวิชาการและจ ริยธรรมและจรรยาบรรณทางวิชาการ ในสาขาวชิ านัน้ ๆ ซ่งึ มีองค์ประกอบ ดงั นี้ (๑) ประธานกรรมการ ซึ่งต้องแต่งต้ังจากกรรมการพิจารณาตาแหน่ง ทางวิชาการ (๒) กรรมการผู้ทรงคณุ วฒุ ิ จานวนสามถงึ หา้ คน การแต่งต้ังกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อทาหน้าที่ประเมินผลงานทางวิชาการ และจริยธรรมและจรรยาบรรณทางวิชาการ ต้องคดั สรรจากบญั ชรี ายชอื่ ผูท้ รงคณุ วฒุ ทิ ่ี ก.พ.อ. กาหนด สาหรับสาขาวิชาที่เสนอขอ หรือมีความรู้ความเชี่ยวชาญเก่ียวข้องกับสาขาวิชาและผลงานท่ีเสนอขอ โดยต้องไม่ใช่บุคลากรและไม่เคยเป็นบุคลากรในสังกัดสถาบันอุดมศึกษานั้น ๆ รวมท้ังมีตาแหน่ง 12

เล่ม ๑๓๙ ตอนพเิ ศษ ๔ ง หน้า ๓๔ ๗ มกราคม ๒๕๖๕ ราชกจิ จานุเบกษา ทางวิชาการไม่ต่ากว่าตาแหน่งท่ีเสนอขอ และกาหนดให้ต้องมีการประชุมคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เพ่ือทาหน้าท่ีประเมินผลงานทางวิชาการและจริยธรรมและจรรยาบรรณทางวิชาการ โดยมีกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิมาประชุมไม่น้อยกว่าก่ึงหน่ึงของจานวนกรรมการทั้งหมด และให้การดาเนินการอยู่ในชั้นความลับ ทกุ ขน้ั ตอน ในกรณีท่ีผู้ขอเสนอผลงานรับใช้ท้องถิ่นและสังคม สภาสถาบันอุดมศึกษา อาจกาหนดไว้ในข้อบังคับของสภาสถาบันอุดมศกึ ษา ให้แต่งต้ังผู้ทรงคุณวฒุ ิในชุมชนหรือผู้ที่ปฏิบัตงิ าน ร่วมกับชุมชนที่มีความรู้หรือความเชี่ยวชาญเกี่ยวข้องกับสาขาวิชาท่ีเสนอขอ ทาหน้าท่ีเป็นกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิตามวรรคหนึ่ง เพ่ิมเติมได้ไม่เกินสองคน โดยจะต้องได้รับความเห็นชอบจาก ก.พ.อ. ก่อนดาเนนิ การแต่งต้ัง ในกรณีที่มีเหตุผลหรือความจาเป็นต้องแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิท่ีเคยเป็นบุคลากร ในสังกัดสถาบันอุดมศึกษาน้ัน ให้แต่งต้ังได้ไม่เกิน ๑ คน และแจ้งรายละเอียดเหตุผลความจาเป็น ให้ ก.พ.อ. ทราบ เมื่อรายงานผลการแต่งต้ังบุคคลให้ดารงตาแหน่ง หรือเสนอขอให้นาความกราบบังคมทูล เพ่ือทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งต้ังให้ดารงตาแหน่ง แล้วแต่กรณี เพื่อประกอบการพิจารณา ของ ก.พ.อ. เป็นราย ๆ ไป ในกรณีที่มีเหตุผลหรือความจาเป็นท่ีสถาบันอุดมศึกษาไม่สามารถแต่งต้ัง ผู้ทรงคณุ วฒุ ิจากบัญชรี ายชอ่ื ผทู้ รงคณุ วฒุ ทิ ี่ ก.พ.อ. กาหนดได้ ใหข้ อความเห็นชอบจาก ก.พ.อ. เป็นราย ๆ ไป ท้ังน้ี การแต่งตั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิให้เป็นไปตามประกาศ ก.พ.อ. เรื่อง มาตรฐานจริยธรรมและจรรยาบรรณสาหรับคณะกรรมการพิจารณาตาแหน่งทางวิชาการ และผู้ทรงคุณวุฒิเพ่ือทาหน้าที่ประเมินผลงานทางวิชาการและจริยธรรมและจรรยาบรรณทางวิชาการ ของสถาบนั อดุ มศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๑ เกณฑ์การตัดสิน ผลงานทางวิชาการต้องมีปริมาณและคุณภาพที่แสดง ความเปน็ ผู้ทรงคณุ วฒุ ิในสาขาวชิ านั้น การตัดสนิ ของท่ีประชมุ ใหถ้ อื เสยี งข้างมาก ใน ก ร ณี ก า ร พิ จ า ร ณ า ผ ล ง า น ท า ง วิ ช า ก า ร ข อ ง ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร ผู้ ท ร ง คุ ณ วุ ฒิ เพอื่ ทาหน้าท่ปี ระเมินผลงานทางวชิ าการและจริยธรรมและจรรยาบรรณทางวชิ าการ ตาแหนง่ ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ และรองศาสตราจารย์ ท่ีมีผลการประเมินเป็นเอกฉันท์ว่าคุณภาพของผลงานทางวิชาการของ ผู้ขอกาหนดตาแหน่งอยู่ในเกณฑ์หรือไม่อยู่ในเกณฑ์ที่ ก.พ.อ. กาหนดน้ัน สภาสถาบันอุดมศึกษา อาจกาหนดยกเว้นการประชุมไว้ในข้อบังคับของสภาสถาบัน โดยให้ถือเอาผลการประเมินดังกล่าว เป็นผลการพิจารณาของคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพ่ือทาหน้าท่ีประเมินผลงานทางวิชาการ และจริยธรรมและจรรยาบรรณทางวิชาการกไ็ ด้ ๖.๑.๔ เมื่อคณะกรรมการพิจารณาตาแหน่งทางวิชาการพิจารณาความเห็น ของคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามข้อ ๖.๑.๓ แล้ว ให้นาเสนอต่อสภาสถาบันอุดมศึกษาพิจารณา อนุมัติ/ไม่อนุมัติ สาหรับกรณีที่มีมติอนุมัติให้อธิการบดีออกคาสั่งแต่งตั้ง และแจ้งให้ ก.พ.อ. ทราบ 13

เล่ม ๑๓๙ ตอนพเิ ศษ ๔ ง หน้า ๓๕ ๗ มกราคม ๒๕๖๕ ราชกจิ จานุเบกษา ภายในสามสิบวัน นับต้ังแต่วันท่ีออกคาสั่งแต่งตัง้ พร้อมเอกสารหลักฐานประกอบการพิจารณากาหนดตาแหนง่ ทางวิชาการตามท่ี ก.พ.อ. กาหนด ท้ังนี้ ก.พ.อ. จะพิจารณาการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ท่ีกาหนดในประกาศนี้ รวมท้ังสาระและความถูกต้องเหมาะสมของการพิจารณาอนุมัติ และแจ้งผล การพจิ ารณาให้สภาสถาบนั อุดมศึกษาทราบตอ่ ไป และให้สภาสถาบันอดุ มศึกษาปฏบิ ตั ติ ามนั้น คาสั่งแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งทางวิชาการต้องระบุสาขาวิชาของตาแหน่งทางวิชาการ ทแ่ี สดงให้เห็นถึงความเชยี่ วชาญของผู้ขอด้วย ๖.๒ การแต่งตั้งให้ดารงตาแหนง่ ศาสตราจารย์ ๖.๒.๑ ให้นาความในข้อ ๖.๑.๑ และ ๖.๑.๓ มาใช้บังคับกับการแต่งตั้ง ตามข้อนี้ด้วยโดยอนุโลม แต่ต้องจัดให้มีการประชุมคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อทาหน้าที่ประเมินผลงาน ทางวิชาการและจริยธรรมและจรรยาบรรณทางวิชาการ โดยมีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมาประชุม ไม่นอ้ ยกว่ากึ่งหน่งึ ของจานวนกรรมการท้งั หมด ๖.๒.๒ เม่ือคณะกรรมการพิจารณาตาแหน่งทางวชิ าการพิจารณาความเห็นของ คณะกรรมการผูท้ รงคณุ วฒุ ิแลว้ ให้นาเสนอตอ่ สภาสถาบนั อดุ มศกึ ษาพิจารณาอนมุ ตั /ิ ไมอ่ นุมัติ ๖.๒.๓ เมื่อสภาสถาบนั อุดมศึกษาพิจารณาอนมุ ัติแล้ว ให้เสนอ ก.พ.อ. ให้ความเห็น เพื่อเสนอรัฐมนตรีเพ่ือนาความกราบบังคมทูลเพ่ือทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งต้ัง พร้อมเอกสารหลักฐาน ประกอบการพจิ ารณากาหนดตาแหนง่ ทางวิชาการตามที่ ก.พ.อ. กาหนด ขอ้ ๗ การแต่งตั้งอาจารยป์ ระจาให้ดารงตาแหน่งทางวิชาการโดยวิธีพเิ ศษ สถาบันอุดมศึกษาอาจเสนอแต่งตั้งผู้ดารงตาแหน่งอาจารย์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ หรือรองศาสตราจารย์ ซึ่งมีคุณสมบัติเฉพาะสาหรับตาแหน่งท่ีต่างไปจากที่กาหนดไว้ในมาตรฐาน กาหนดตาแหน่งให้ดารงตาแหน่งสูงข้ึนก็ได้ เช่น การเสนอแต่งต้ังผู้ช่วยศาสตราจารย์ซ่ึงปฏิบัติหน้าที่ ในตาแหน่งยังไม่ครบระยะเวลาที่กาหนดให้ดารงตาแหน่งรองศาสตราจารย์ หรือการเสนอแต่งตั้ง อาจารย์ประจาใหด้ ารงตาแหน่งรองศาสตราจารยโ์ ดยทผ่ี นู้ ้ันมไิ ดด้ ารงตาแหนง่ ผูช้ ่วยศาสตราจารย์มาก่อน หรือการเสนอขอกาหนดตาแหน่งทางวิชาการในสาขาวิชาท่ีแตกตา่ งจากสาขาวิชาทดี่ ารงตาแหนง่ อยู่ การแต่งตง้ั ให้ดารงตาแหน่งทางวิชาการโดยวธิ พี เิ ศษ ให้ดาเนินการ ดงั นี้ ๗.๑ การแตง่ ตง้ั ให้ดารงตาแหน่งผูช้ ่วยศาสตราจารย์ โดยวิธีพเิ ศษ ให้เสนอผลงานทางวิชาการและให้ดาเนินการตามวธิ กี ารเชน่ เดียวกับการแต่งตง้ั ตาแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์วิธีปกติโดยอนุโลม โดยให้แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจานวนอย่างน้อยสามคน พิจารณาผลงานทางวิชาการและจริยธรรมและจรรยาบรรณทางวิชาการ การตัดสินของที่ประชุม ตอ้ งไดร้ บั คะแนนเสยี งเปน็ เอกฉันท์ ทัง้ น้ี ผลงานทางวิชาการตอ้ งมคี ุณภาพอย่ใู นระดบั B ๗.๒ การแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่งรองศาสตราจารย์ โดยวิธีพเิ ศษ 14

เล่ม ๑๓๙ ตอนพเิ ศษ ๔ ง หน้า ๓๖ ๗ มกราคม ๒๕๖๕ ราชกจิ จานเุ บกษา ให้เสนอผลงานทางวิชาการได้เฉพาะวิธีที่ ๑ เท่านั้น และให้ดาเนินการ ตามวิธีการเช่นเดียวกับการแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่งรองศาสตราจารย์วิธีปกติโดยอนุโลม โดยให้แต่งต้ัง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจานวนอย่างน้อยสามคน พิจารณาผลงานทางวิชาการและจริยธรรมและจรรยาบรรณ ทางวิชาการ การตัดสินของท่ีประชุมต้องได้รับคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ ทั้งน้ี ผลงานทางวิชาการ ต้องมีคุณภาพอยใู่ นระดับ A ๗.๓ การแต่งต้ังใหด้ ารงตาแหนง่ ศาสตราจารย์ โดยวธิ ีพเิ ศษ ให้เสนอผลงานทางวิชาการได้เฉพาะวิธีท่ี ๑ เท่าน้ัน และให้ดาเนินการ ตามวิธกี ารเช่นเดียวกับการแตง่ ตง้ั ใหด้ ารงตาแหน่งศาสตราจารย์วธิ ปี กติโดยอนโุ ลม โดยใหแ้ ตง่ ตง้ั กรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิจานวนอย่างน้อยสามคน พิจารณาผลงานทางวิชาการและจริยธรรมและจรรยาบรรณ ทางวิชาการ การตัดสินของที่ประชุมต้องได้รับคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ ทั้งนี้ ผลงานทางวิชาการ ตอ้ งมีคณุ ภาพอยู่ในระดับ A+ ข้อ ๘ แบบคาขอฯ (แบบ ก.พ.อ. ๐๓) แบบเสนอแต่งต้ังฯ (แบบ ก.พ.อ. ๐๔) แบบแสดงหลักฐานการมีส่วนร่วมในผลงานทางวิชาการ แนวทางในการประเมินผลการสอน ของผู้ขอกาหนดตาแหน่งทางวิชาการ ลักษณะการมีส่วนร่วมในผลงานทางวิชาการ คาจากัดความของผลงาน ทางวิชาการ ลักษณะการเผยแพร่และผลงานทางวิชาการที่จาแนกตามระดับคุณภาพให้เป็นไปตาม เอกสารแนบทา้ ย ส่วนกรณอี น่ื ให้เป็นไปตามท่ี ก.พ.อ. กาหนด ขอ้ ๙ ในกรณีที่การขอกาหนดตาแหน่งทางวิชาการในสาขาวิชาเดียวกันและในระดบั ตาแหน่งเดียวกัน หรือระดับท่ีต่ากว่าตาแหนง่ ที่ได้เคยขอกาหนดตาแหน่งทางวิชาการมาแล้ว หากมีการนาผลงานทางวชิ าการเดมิ ท่ีเคยเสนอเพ่ือพิจารณากาหนดตาแหน่งทางวิชาการมาก่อน มาเสนอขอกาหนดตาแหน่งทางวิชาการ อีกครั้งหน่ึง ผู้ขอจะต้องดาเนินการภายในห้าปีนับตั้งแต่วันที่สภาสถาบันอุดมศึกษามีมติกาหนดหรือไม่ กาหนดตาแหน่งวิชาการ ท้ังนี้ ไม่ว่าโดยผู้ขอคนเดิมหรือผู้ขอคนใหม่ ให้คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิฯ ใช้ผลการพิจารณาผลงานทางวิชาการเดิมแต่ละเร่ืองท่ีผ่านการพิจารณามาแล้วนัน้ โดยไม่ต้องพิจารณา ผลงานทางวิชาการน้ันใหม่อีก เว้นแต่คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิฯ เห็นว่าผลงานทางวิชาการเดิม ท่ีมคี ุณภาพอยู่ในเกณฑน์ ้ันเป็นผลงานทีล่ ้าสมัยหรอื มีเหตุสมควรอน่ื ท่จี ะไม่ใชผ้ ลการพิจารณาน้นั อีกต่อไป ในกรณเี ชน่ น้ี คณะกรรมการผู้ทรงคุณวฒุ ิฯ ต้องระบุเหตผุ ลทางวชิ าการโดยชัดแจง้ ด้วย ในกรณีท่ีผลงานทางวิชาการเดิมมีคุณภาพไม่อยู่ในเกณฑ์ หากมีข้อพิสูจน์ภายหลังว่า ผลงานน้ันได้ถูกนาไปใช้ประโยชน์หรือถูกอ้างอิงอย่างแพร่หลาย หรือในกรณีผลงานรับใช้ท้องถิ่น และสังคมหากพิสูจน์ภายหลังได้ว่า ก่อให้เกิดการเปล่ียนแปลงในทางที่ดีข้ึนอย่างเป็นท่ีประจักษ์ชัด หรอื ก่อให้เกิดการพฒั นาชุมชน สงั คม องค์กรภาครัฐ หรอื องคก์ รภาคเอกชนได้ หรือก่อให้เกดิ การเปลยี่ นแปลง เชิงนโยบาย ระดับจังหวัด หรือประเทศ ผู้ขอสามารถนาผลงานทางวิชาการน้ันมาเสนอขอกาหนด ตาแหน่งทางวิชาการในครั้งใหมไ่ ด้ โดยคณะกรรมการผู้ทรงคณุ วุฒฯิ จะต้องพิจารณาผลงานทางวชิ าการนนั้ ใหมอ่ กี คร้ังหนง่ึ 15

เล่ม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๔ ง หน้า ๓๗ ๗ มกราคม ๒๕๖๕ ราชกิจจานเุ บกษา หมวด ๒ การแต่งต้ังอาจารยป์ ระจาใหด้ ารงตาแหนง่ ทางวิชาการเฉพาะดา้ น ข้อ ๑๐ นอกจากการเสนอขอกาหนดตาแหน่งทางวิชาการท่ัวไป ตามหมวด ๑ ข้อ ๓ ถึงข้อ ๕ แล้ว ผู้ขออาจเสนอผลงานทางวิชาการเพ่ือขอกาหนดตาแหน่งทางวิชาการเฉพาะด้าน ด้านหน่ึงด้านใดใน ๕ ดา้ น ดังตอ่ ไปน้ี ๑) ดา้ นรับใชท้ ้องถ่ินและสงั คม ๒) ดา้ นสร้างสรรคส์ ุนทรียะ ศิลปะ ๓) ดา้ นการสอน ๔) ด้านนวัตกรรม ๕) ดา้ นศาสนา ขอ้ ๑๑ ในกรณีท่ีมีการเสนอขอกาหนดตาแหน่งทางวิชาการด้านรับใช้ท้องถิ่นและสังคม ด้านสร้างสรรค์สุนทรียะ ศิลปะ ด้านการสอน ด้านนวัตกรรม หรือด้านศาสนา ให้สภาสถาบันอุดมศึกษา แต่งต้ังคณะกรรมการพิจารณาตาแหน่งทางวิชาการด้านนั้นจากบัญชีรายช่ือผู้ทรงคุณวุฒิท่ี ก.พ.อ. กาหนด เพม่ิ ขน้ึ ดังนี้ ๑) คณะกรรมการพิจารณาตาแหนง่ ทางวิชาการด้านรบั ใช้ท้องถิ่นและสงั คม หรือ ๒) คณะกรรมการพิจารณาตาแหนง่ ทางวชิ าการดา้ นสร้างสรรคส์ ุนทรยี ะ ศิลปะ หรอื ๓) คณะกรรมการพจิ ารณาตาแหน่งทางวชิ าการด้านการสอน หรอื ๔) คณะกรรมการพิจารณาตาแหนง่ ทางวชิ าการดา้ นนวตั กรรม หรือ ๕) คณะกรรมการพจิ ารณาตาแหนง่ ทางวิชาการดา้ นศาสนา คณะกรรมการพจิ ารณาตาแหน่งทางวชิ าการทั้ง ๕ ด้าน แตล่ ะด้านประกอบดว้ ย ๑๑.๑ ประธานกรรมการ ซ่ึงแต่งตั้งจากกรรมการสภาสถาบันอุดมศึกษาประเภท ผ้ทู รงคุณวุฒิทด่ี ารงตาแหนง่ ศาสตราจารย์ ๑๑.๒ กรรมการผทู้ รงคณุ วฒุ ิ จานวนไมน่ อ้ ยกวา่ หกคน ซงึ่ ตอ้ งไม่ใช่บคุ ลากรในสงั กดั สถาบนั อุดมศึกษานน้ั โดยครอบคลมุ ผู้มีความรูเ้ ชี่ยวชาญ และประสบการณ์เปน็ อยา่ งสงู ในดา้ นนั้น ๆ ในกรณีท่ีสถาบันอุดมศึกษาไม่มีกรรมการสภาสถาบันอุดมศึกษาประเภทผู้ทรงคุณวฒุ ิ ท่ีดารงตาแหน่งศาสตราจารย์ ให้แต่งตั้งศาสตราจารย์จากบัญชีรายช่ือผู้ทรงคุณวุฒิที่ ก.พ.อ. กาหนด ซึ่งไมใ่ ช่กรรมการสภาสถาบนั อดุ มศกึ ษาประเภทผู้ทรงคณุ วุฒิเป็นประธานกรรมการกไ็ ด้ สภาสถาบันอุดมศึกษาอาจมีมติให้คณะอนุกรรมการเก่ียวกับตาแหน่งทางวิชาการ ของข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาด้านรับใช้ท้องถิ่นและสังคม คณะอนุกรรมการเกี่ยวกับ ตาแหน่งทางวิชาการของข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาด้านสร้างสรรค์สุนทรียะ ศิลปะ คณะอนุกรรมการเกี่ยวกับตาแหนง่ ทางวิชาการของข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาด้านการสอน 16

เล่ม ๑๓๙ ตอนพเิ ศษ ๔ ง หน้า ๓๘ ๗ มกราคม ๒๕๖๕ ราชกิจจานุเบกษา คณะอนุกรรมการเกี่ยวกับตาแหน่งทางวิชาการของข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ด้านนวัตกรรม และคณะอนุกรรมการเก่ียวกับตาแหน่งทางวิชาการของข้าราชการพลเรือน ในสถาบันอุดมศึกษาด้านศาสนา ปฏิบัติหน้าที่คณะกรรมการพิจารณาตาแหน่งทางวิชาการด้านน้ัน ๆ ของสภาสถาบนั อดุ มศกึ ษากไ็ ด้ ขอ้ ๑๒ ให้นาข้อ ๔ ข้อ ๕ เฉพาะ ๕.๑ ๕.๑.๑ ๕.๑.๒ ๕.๑.๕ ๕.๒ ๕.๒.๑ ๕.๒.๒ ๕.๒.๔ ๕.๓ ๕.๓.๑ ๕.๓.๒ และ ๕.๓.๔ มาใชบ้ งั คับแก่การขอกาหนดตาแหน่งทางวชิ าการตามหมวดนดี้ ว้ ย ในกรณีที่ผู้ขอเสนอผลงานทางวิชาการด้านการสอนและด้านศาสนา ผู้นั้นต้องไม่เคย ถูกลงโทษทางวินัยอย่างร้ายแรง หรือไม่เคยต้องคาพิพากษาให้จาคุก เว้นแต่ความผิดที่กระทา โดยประมาท หรอื ความผิดลหโุ ทษ และไม่เคยถกู คณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ช้ีมลู ความผิด ในกรณที ี่ผู้ขอเสนอผลงานทางวิชาการด้านนวตั กรรม สาหรับตาแหนง่ ผูช้ ่วยศาสตราจารย์ ผขู้ อตอ้ งมีคุณสมบัติ ดังนี้ (ก) เป็นผู้มีบทบาทสาคัญในการสร้างและพัฒนาบุคลากร (นักเรียน/นักศึกษาระดับต่าง ๆ นักวิจัย บุคลากรจากภาคอุตสาหกรรม ชุมชน หรือภาคประชาสังคม) ผ่านการเป็นผู้ดูแลปริญญานิพนธ์ วิทยานิพนธ์ หรือดุษฎีนิพนธ์ หรือการนาบุคลากรเข้าไปมีส่วนร่วมหลักในโครงการวิจัย มีส่วนร่วม หรือเป็นผ้มู บี ทบาทสาคัญในการเชอ่ื มโยงรบั โจทยจ์ ากผูใ้ ชป้ ระโยชน์ และ (ข) เป็นผู้ถ่ายทอดองค์ความรู้สู่ผู้ใช้ประโยชน์ และเป็นผู้มีบทบาทสาคัญในคณะทางาน ในการผลักดันการนาผลงานนวัตกรรมไปใชป้ ระโยชน์ โดยมหี ลักฐานประกอบ สาหรบั ตาแหน่งรองศาสตราจารย์ ผูข้ อตอ้ งมคี ณุ สมบตั ิ ดงั ตอ่ ไปน้ี (ก) ให้นาความในวรรคสาม (ก) มาใช้บังคับดว้ ย และ (ข) เป็นผมู้ บี ทบาทสาคัญในการสรา้ งทีมงาน/เครอื ขา่ ยรว่ มกับภายในหรอื ภายนอกองคก์ ร อาทิ ระหว่างมหาวิทยาลัย ระหว่างองคก์ รภาครัฐ/ภาคเอกชน เป็นผู้นาทีมในการถ่ายทอดองค์ความรู้ สู่ผู้ใช้ประโยชน์ และเป็นผู้นาโครงการในการผลักดันการนาผลงานนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ โดยมี หลกั ฐานประกอบ สาหรับตาแหน่งศาสตราจารย์ ผขู้ อตอ้ งมคี ณุ สมบัติ ดังตอ่ ไปนี้ (ก) ใหน้ าความในวรรคสาม (ก) มาใช้บงั คบั ด้วย และ (ข) เป็นผู้นาในการสร้างทีมงาน/เครือข่ายร่วมกับภายในหรือภายนอกองค์กร อาทิ ระหว่างมหาวิทยาลัย ระหว่างองค์กรภาครัฐ/ภาคเอกชน เป็นผู้นาทีมในการถ่ายทอดองค์ความรู้ สู่ผู้ใช้ประโยชน์ และเป็นผู้นาแผนงานหรือโครงการขนาดใหญ่ ในการผลักดันการนาผลงานนวัตกรรม ไปใช้ประโยชน์ในระดบั ทม่ี ผี ลกระทบในวงกว้าง 17

เล่ม ๑๓๙ ตอนพเิ ศษ ๔ ง หน้า ๓๙ ๗ มกราคม ๒๕๖๕ ราชกิจจานุเบกษา ข้อ ๑๓ กรณกี ารแต่งตัง้ ให้ดารงตาแหนง่ ทางวิชาการดว้ ยผลงานรบั ใช้ทอ้ งถน่ิ และสังคม ๑๓.๑ ตาแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ ต้องประกอบด้วยผลงาน อย่างน้อย ๑ เร่ือง ซึ่งมีคุณภาพระดับ B และได้รับการเผยแพร่ตามหลักเกณฑ์ที่ ก.พ.อ. กาหนด โดยผู้ขอต้องเป็น ผปู้ ระพันธ์อันดับแรก (first author) ตามลกั ษณะการมีส่วนรว่ มในผลงานทางวิชาการ ตามเอกสารแนบทา้ ย ๑๓.๒ ตาแหน่งรองศาสตราจารย์ ผขู้ ออาจเสนอผลงานทางวชิ าการได้ ๒ วธิ ี ดังน้ี วธิ ที ่ี ๑ ผลงาน อย่างน้อย ๒ เรื่อง ซ่ึงมีคณุ ภาพระดบั B หรือ วธิ ีที่ ๒ ผลงาน อยา่ งนอ้ ย ๑ เรอื่ ง ซ่งึ มีคุณภาพระดบั A ผลงานตามวิธีท่ี ๑ และวิธีท่ี ๒ ต้องได้รับการเผยแพร่ตามหลักเกณฑ์ ท่ี ก.พ.อ. กาหนด โดยผู้ขอตอ้ งเป็นผู้ประพันธอ์ นั ดับแรก (first author) ตามลักษณะการมสี ว่ นร่วม ในผลงานทางวชิ าการตามเอกสารแนบท้าย ๑๓.๓ ตาแหนง่ ศาสตราจารย์ ผ้ขู ออาจเสนอผลงานทางวชิ าการได้ ๒ วธิ ี ดงั น้ี วธิ ีท่ี ๑ ผลงาน อยา่ งน้อย ๒ เรอ่ื ง ซึ่งมีคณุ ภาพระดบั A หรอื วิธที ี่ ๒ ผลงาน อยา่ งน้อย ๑ เรือ่ ง ซง่ึ มคี ณุ ภาพระดบั A+ ผลงานตามวิธีท่ี ๑ และวิธีท่ี ๒ ต้องได้รับการเผยแพร่ตามหลักเกณฑ์ ท่ี ก.พ.อ. กาหนด โดยผ้ขู อต้องเป็นผู้ประพันธอ์ ันดบั แรก (first author) ตามลักษณะการมสี ว่ นรว่ ม ในผลงานทางวิชาการตามเอกสารแนบท้าย การนาผลงานรบั ใช้ท้องถน่ิ และสังคมทท่ี าเปน็ สว่ นหน่งึ ของการศึกษาเพื่อรับปรญิ ญา ประกาศนียบัตร หรือเพื่อสาเร็จการศึกษา หรือการอบรม มาเสนอเป็นผลงานทางวิชาการ ตามข้อนี้ จะกระทามิได้ เว้นแต่ผู้ขอได้แสดงหลักฐานว่าได้พัฒนาเพ่ิมเติมขยายผลต่อจากเรื่องเดิม จนปรากฏ ความกา้ วหน้าทางวชิ าการอย่างเหน็ ได้ชดั ในกรณเี ชน่ น้ใี หพ้ จิ ารณาเฉพาะสว่ นทีเ่ พ่ิมข้ึนจากเดมิ เท่านนั้ ในกรณีท่ีผู้ขอเสนอผลงานทางวิชาการในลักษณะอื่น ซ่ึงเป็นผลงานรับใช้ท้องถิ่น และสังคมท่ีมีเนื้อหาสาระและรูปแบบท่ีเป็นเร่ืองเดียวกัน แต่ดาเนินการคนละพื้นที่ หากเป็นการดาเนินการ ในลักษณะท่ีขยายผลเชิงพื้นที่จากพ้ืนท่ีเดียวไปสู่หลายพื้นท่ีให้ครอบคลุมกว้างขึ้น โดยมีตัวแปรท่ีแตกต่างกัน ก่อให้เกิดกลไกใหม่ มีการเปล่ียนแปลงรูปแบบ และมีการพัฒนาต่อยอด ซึ่งต้องไม่ใช่งานเดียวกัน และซ้าซ้อนกนั ผ้ขู ออาจสามารถนามาเสนอขอกาหนดตาแหนง่ ทางวชิ าการไดโ้ ดยอนุโลม ผลงานทางวิชาการต้องเป็นผลงานหลังจากได้รับการแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ หรือรองศาสตราจารย์ แล้วแต่กรณี และต้องได้รับการเผยแพร่ตามหลักเกณฑ์ ท่ี ก.พ.อ. กาหนด พร้อมแสดงหลักฐานว่าการเผยแพร่น้ันได้ผ่านการประเมินคุณภาพ โดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาวิชาน้ัน ๆ หรือสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง (peer reviewer) ท่ีมาจากหลากหลายสถาบนั ทัง้ น้ี ตามเอกสารแนบทา้ ย ข้อ ๑๔ กรณีการแตง่ ตัง้ ให้ดารงตาแหนง่ ทางวชิ าการดว้ ยผลงานสร้างสรรคด์ า้ นสนุ ทรียะ ศิลปะ 18

เล่ม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๔ ง หน้า ๔๐ ๗ มกราคม ๒๕๖๕ ราชกิจจานเุ บกษา ๑๔.๑ ตาแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ ต้องประกอบด้วยผลงาน อย่างน้อย ๒ เร่ือง ซึ่งมีคุณภาพระดับ B และต้องได้รับการเผยแพร่ในระดับชาติหรือนานาชาติ ตามลักษณะการเผยแพร่ ผลงานทางวิชาการตามเอกสารแนบท้าย โดยผู้ขอต้องเป็นผู้ดาเนินการหลักและมีส่วนร่วมในผลงาน ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๗๐ ๑๔.๒ ตาแหน่งรองศาสตราจารย์ ต้องประกอบด้วยผลงาน อย่างน้อย ๓ เร่ือง ซ่ึงมีคุณภาพระดับ A อย่างน้อย ๒ เรื่อง และคุณภาพระดับ B อย่างนอ้ ย ๑ เรื่อง และต้องไดร้ ับ การเผยแพร่ในระดับนานาชาติ ตามลักษณะการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการตามเอกสารแนบท้าย อย่างน้อย ๑ เรื่อง โดยผู้ขอต้องเป็นผ้ดู าเนนิ การหลักและมสี ว่ นร่วมในผลงานไมน่ อ้ ยกว่ารอ้ ยละ ๘๐ ๑๔.๓ ตาแหน่งศาสตราจารย์ ต้องประกอบด้วยผลงาน อย่างน้อย ๕ เรื่อง ซงึ่ มคี ุณภาพระดบั A+ อยา่ งนอ้ ย ๒ เร่อื ง และคุณภาพระดบั A อยา่ งน้อย ๓ เรอ่ื ง และตอ้ งไดร้ บั การเผยแพร่ในระดับนานาชาติ ตามลักษณะการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการตามเอกสารแนบท้าย โดยผขู้ อต้องเป็นผ้ดู าเนินการหลกั และมสี ่วนร่วมในผลงานไมน่ อ้ ยกวา่ รอ้ ยละ ๙๐ การนาผลงานสร้างสรรค์ดา้ นสุนทรยี ะ ศิลปะ ที่ทาเป็นส่วนหนง่ึ ของการศกึ ษา เพื่อรับปริญญา ประกาศนียบัตร หรือเพ่ือสาเร็จการศึกษา หรือการอบรม มาเสนอเป็นผลงาน ทางวิชาการ ตามข้อนี้จะกระทามิได้ เว้นแต่ผู้ขอได้แสดงหลักฐานว่าได้ปรับปรุงแก้ไข หรือพัฒนาเพ่ิมเติม ขยายผลต่อจากเรื่องเดิม จนปรากฏความก้าวหน้าทางวิชาการอย่างเห็นได้ชัด ในกรณีเช่นนี้ให้พิจารณา เฉพาะส่วนทเ่ี พิม่ ขน้ึ จากเดิมเทา่ น้ัน ผลงานทางวิชาการต้องเป็นผลงานหลังจากได้รับการแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ หรือรองศาสตราจารย์ แล้วแต่กรณี และต้องได้รับการเผยแพร่ตามหลักเกณฑ์ ที่ ก.พ.อ. กาหนด พร้อมแสดงหลักฐานว่าการเผยแพร่นั้นได้ผ่านการประเมินคุณภาพโดยคณะกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาวิชานนั้ ๆ หรือสาขาวิชาที่เก่ียวข้อง (peer reviewer) ที่มาจากหลากหลายสถาบัน ท้ังนี้ ตามเอกสารแนบท้าย ข้อ ๑๕ กรณกี ารแตง่ ตั้งให้ดารงตาแหน่งทางวชิ าการด้วยผลงานการสอน ๑๕.๑ ตาแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ ต้องประกอบด้วยผลงาน อย่างน้อย ๑ เรื่อง ซึ่งมีคุณภาพระดับ B และได้รับการเผยแพร่ตามหลักเกณฑ์ท่ี ก.พ.อ. กาหนด โดยผู้ขอต้องเป็น ผู้ประพันธ์อันดับแรก (first author) ตามลักษณะการมีส่วนร่วมในผลงานทางวิชาการ ตามเอกสารแนบทา้ ย ๑๕.๒ ตาแหนง่ รองศาสตราจารย์ ผขู้ ออาจเสนอผลงานทางวิชาการได้ ๒ วิธี ดงั นี้ วธิ ที ่ี ๑ ผลงาน อย่างน้อย ๒ เรื่อง ซ่ึงมีคุณภาพระดบั B หรอื วิธที ี่ ๒ ผลงาน อยา่ งน้อย ๑ เรื่อง ซึ่งมคี ณุ ภาพระดบั A 19

เล่ม ๑๓๙ ตอนพเิ ศษ ๔ ง หน้า ๔๑ ๗ มกราคม ๒๕๖๕ ราชกิจจานเุ บกษา ผลงานตามวิธีที่ ๑ และวิธีที่ ๒ ต้องได้รับการเผยแพร่ตามหลักเกณฑ์ ท่ี ก.พ.อ. กาหนด โดยผขู้ อตอ้ งเปน็ ผู้ประพันธ์อันดบั แรก (first author) ตามลักษณะการมีสว่ นรว่ ม ในผลงานทางวิชาการตามเอกสารแนบทา้ ย ๑๕.๓ ตาแหนง่ ศาสตราจารย์ ผู้ขออาจเสนอผลงานทางวิชาการได้ ๒ วิธี ดังน้ี วธิ ีที่ ๑ ผลงาน อยา่ งน้อย ๒ เรอื่ ง ซ่ึงมีคณุ ภาพระดบั A หรือ วธิ ีท่ี ๒ ผลงาน อย่างน้อย ๑ เร่ือง ซ่งึ มคี ณุ ภาพระดบั A+ ผลงานตามวิธีท่ี ๑ และวิธีที่ ๒ ต้องได้รับการเผยแพร่ตามหลักเกณฑ์ ท่ี ก.พ.อ. กาหนด โดยผู้ขอต้องเป็นผู้ประพันธ์อันดับแรก (first author) ตามลักษณะการมสี ว่ นรว่ ม ในผลงานทางวิชาการตามเอกสารแนบทา้ ย การนาผลงานการสอนท่ีทาเป็นส่วนหน่ึงของการศึกษาเพื่อรับปริญญา ประกาศนียบัตร หรือเพื่อสาเร็จการศึกษา หรือการอบรม มาเสนอเป็นผลงานทางวิชาการ ตามข้อนี้ จะกระทามิได้ เว้นแต่ผู้ขอได้แสดงหลักฐานว่าได้ปรับปรุงแก้ไข หรือพัฒนาเพ่ิมเติมขยายผลต่อจาก เร่ืองเดิม จนปรากฏความก้าวหน้าทางวิชาการอย่างเห็นได้ชัด ในกรณีเช่นน้ีให้พิจารณาเฉพาะส่วน ที่เพม่ิ ขน้ึ จากเดิมเทา่ นนั้ ผลงานทางวิชาการต้องเป็นผลงานหลังจากได้รับการแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ หรือรองศาสตราจารย์ แล้วแต่กรณี และต้องได้รับการเผยแพร่ตามหลักเกณฑ์ ท่ี ก.พ.อ. กาหนด พร้อมแสดงหลักฐานว่าการเผยแพร่นั้นได้ผ่านการประเมินคุณภาพโดยคณะกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาวิชาน้นั ๆ หรือสาขาวิชาที่เก่ียวข้อง (peer reviewer) ท่ีมาจากหลากหลายสถาบัน ทง้ั น้ี ตามเอกสารแนบท้าย ข้อ ๑๖ กรณกี ารแตง่ ต้งั ให้ดารงตาแหน่งทางวิชาการดว้ ยผลงานนวัตกรรม ๑๖.๑ ตาแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ ต้องประกอบด้วยผลงาน อย่างน้อย ๑ เรื่อง ซึ่งมีคุณภาพระดับ B และได้รับการเผยแพร่ตามหลักเกณฑ์ที่ ก.พ.อ. กาหนด โดยผู้ขอต้องเป็น ผู้ประพันธ์อันดับแรก (first author) ตามลักษณะการมีส่วนร่วมในผลงานทางวิชาการ ตามเอกสารแนบทา้ ย ๑๖.๒ ตาแหนง่ รองศาสตราจารย์ ผู้ขออาจเสนอผลงานทางวชิ าการได้ ๒ วิธี ดงั นี้ วธิ ที ่ี ๑ ผลงาน อยา่ งน้อย ๒ เรอ่ื ง ซง่ึ มีคุณภาพระดับ B หรอื วิธที ่ี ๒ ผลงาน อย่างน้อย ๑ เร่ือง ซึง่ มคี ณุ ภาพระดบั A ผลงานตามวิธีที่ ๑ และวิธีที่ ๒ ต้องได้รับการเผยแพร่ตามหลักเกณฑ์ ท่ี ก.พ.อ. กาหนด โดยผขู้ อตอ้ งเปน็ ผู้ประพันธอ์ นั ดบั แรก (first author) ตามลักษณะการมีสว่ นร่วม ในผลงานทางวิชาการตามเอกสารแนบท้าย ๑๖.๓ ตาแหนง่ ศาสตราจารย์ ผู้ขออาจเสนอผลงานทางวิชาการได้ ๒ วิธี ดังน้ี 20

เล่ม ๑๓๙ ตอนพเิ ศษ ๔ ง หน้า ๔๒ ๗ มกราคม ๒๕๖๕ ราชกจิ จานเุ บกษา วธิ ที ี่ ๑ ผลงาน อยา่ งน้อย ๒ เรือ่ ง ซง่ึ มีคุณภาพระดับ A หรอื วธิ ที ี่ ๒ ผลงาน อยา่ งนอ้ ย ๑ เรือ่ ง ซ่งึ มคี ณุ ภาพระดับ A+ ผลงานตามวิธีท่ี ๑ และวิธีที่ ๒ ต้องได้รับการเผยแพร่ตามหลักเกณฑ์ ท่ี ก.พ.อ. กาหนด โดยผ้ขู อตอ้ งเปน็ ผู้ประพันธ์อันดับแรก (first author) ตามลักษณะการมสี ่วนร่วม ในผลงานทางวิชาการตามเอกสารแนบท้าย การนาผลงานนวัตกรรมที่ทาเป็นส่วนหน่ึงของการศึกษาเพ่ือรับปริญญา ประกาศนียบัตร หรือเพ่ือสาเร็จการศึกษา หรือการอบรม มาเสนอเป็นผลงานทางวิชาการ ตามข้อน้ี จะกระทามิได้ เว้นแต่ผู้ขอได้แสดงหลักฐานว่าได้ปรับปรุงแก้ไข หรือพัฒนาเพิ่มเติมขยายผล ต่อจากเรื่องเดิม จนปรากฏความก้าวหน้าทางวิชาการอย่างเหน็ ไดช้ ดั ในกรณีเช่นน้ใี ห้พิจารณาเฉพาะส่วน ท่เี พิ่มขึน้ จากเดมิ เทา่ นน้ั ผลงานทางวิชาการต้องเป็นผลงานหลังจากได้รับการแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ หรือรองศาสตราจารย์ แล้วแต่กรณี และต้องได้รับการเผยแพร่ตามหลักเกณฑ์ ที่ ก.พ.อ. กาหนด พร้อมแสดงหลักฐานว่าการเผยแพร่น้ันได้ผ่านการประเมินคุณภาพโดยคณะกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาวิชานั้น ๆ หรือสาขาวิชาที่เก่ียวข้อง (peer reviewer) ที่มาจากหลากหลายสถาบัน ทั้งนี้ ตามเอกสารแนบท้าย ข้อ ๑๗ กรณีการแต่งต้ังใหด้ ารงตาแหน่งทางวชิ าการดว้ ยผลงานศาสนา ๑๗.๑ ตาแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ ต้องประกอบด้วยผลงาน อย่างน้อย ๑ เร่ือง ซึ่งมีคุณภาพระดับ B และได้รับการเผยแพร่ตามหลักเกณฑ์ที่ ก.พ.อ. กาหนด โดยผู้ขอต้องเป็น ผู้ดาเนนิ การหลกั และมสี ่วนร่วมในผลงานไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ ๘๐ ๑๗.๒ ตาแหน่งรองศาสตราจารย์ ผูข้ ออาจเสนอผลงานทางวิชาการได้ ๒ วธิ ี ดงั น้ี วธิ ีที่ ๑ ผลงาน อยา่ งน้อย ๒ เรือ่ ง ซึ่งมคี ณุ ภาพระดับ B หรือ วธิ ีที่ ๒ ผลงาน อยา่ งนอ้ ย ๑ เรอ่ื ง ซง่ึ มีคุณภาพระดับ A ผลงานตามวิธีท่ี ๑ และวิธีท่ี ๒ ต้องได้รับการเผยแพร่ตามหลักเกณฑ์ ท่ี ก.พ.อ. กาหนด โดยผขู้ อตอ้ งเป็นผดู้ าเนินการหลกั และมีส่วนร่วมในผลงานไมน่ อ้ ยกวา่ ร้อยละ ๘๐ ๑๗.๓ ตาแหนง่ ศาสตราจารย์ ผู้ขออาจเสนอผลงานทางวิชาการได้ ๒ วธิ ี ดังน้ี วธิ ีที่ ๑ ผลงาน อย่างนอ้ ย ๒ เรอ่ื ง ซึ่งมีคุณภาพระดับ A หรือ วิธีที่ ๒ ผลงาน อยา่ งนอ้ ย ๑ เร่อื ง ซง่ึ มีคณุ ภาพระดบั A+ ผลงานตามวิธีท่ี ๑ และวิธีที่ ๒ ต้องได้รับการเผยแพร่ตามหลักเกณฑ์ ท่ี ก.พ.อ. กาหนด โดยผูข้ อต้องเป็นผู้ดาเนนิ การหลกั และมสี ่วนร่วมในผลงานไม่นอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ ๘๐ การนาผลงานศาสนาที่ทาเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาเพื่อรับปริญญา ประกาศนียบัตร หรือเพื่อสาเร็จการศึกษา หรือการอบรม มาเสนอเป็นผลงานทางวิชาการ ตามข้อนี้ จะกระทามิได้ เว้นแต่ผู้ขอได้แสดงหลักฐานว่าได้ปรับปรุงแก้ไข หรือพัฒนาเพิ่มเติมขยายผลต่อจาก 21

เล่ม ๑๓๙ ตอนพเิ ศษ ๔ ง หน้า ๔๓ ๗ มกราคม ๒๕๖๕ ราชกจิ จานุเบกษา เรื่องเดิม จนปรากฏความก้าวหน้าทางวิชาการอย่างเห็นได้ชัด ในกรณีเช่นนี้ให้พิจารณาเฉพาะส่วนที่ เพ่มิ ขน้ึ จากเดมิ เทา่ น้นั ผลงานทางวิชาการต้องเป็นผลงานหลังจากได้รับการแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ หรือรองศาสตราจารย์ แล้วแต่กรณี และต้องได้รับการเผยแพร่ตามหลักเกณฑ์ ที่ ก.พ.อ. กาหนด พร้อมแสดงหลักฐานว่าการเผยแพร่น้ันได้ผ่านการประเมินคุณภาพโดยคณะกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาวิชาน้ัน ๆ หรือสาขาวิชาท่ีเก่ียวข้อง (peer reviewer) ท่ีมาจากหลากหลายสถาบนั ทง้ั นี้ ตามเอกสารแนบทา้ ย ขอ้ ๑๘ วิธีการแต่งต้ังอาจารย์ประจาให้ดารงตาแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์ เฉพาะด้าน ให้ดาเนนิ การ ดังนี้ ๑๘.๑ การแตง่ ตง้ั ใหด้ ารงตาแหนง่ ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ และรองศาสตราจารย์ เฉพาะด้าน ๑๘.๑.๑ ให้คณะวิชาเสนอช่ือผู้มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ต่อคณะกรรมการ พิจารณาตาแหนง่ ทางวชิ าการดา้ นที่เสนอขอตาแหนง่ นน้ั ตามแบบคาขอรบั การพจิ ารณากาหนดตาแหนง่ ทางวชิ าการที่ ก.พ.อ. กาหนด พร้อมด้วยผลงานทางวิชาการตามเอกสารแนบท้าย ๑๘.๑.๒ ให้คณะกรรมการพิจารณาตาแหน่งทางวิชาการด้านท่ีเสนอขอตาแหน่ง ประเมนิ ผลการสอนโดยอาจแต่งต้ังคณะอนกุ รรมการเพอื่ ประเมนิ ผลการสอนได้ตามความเหมาะสม ๑๘.๑.๓ ให้คณะกรรมการพิจารณาตาแหน่งทางวิชาการด้านที่เสนอขอตาแหน่ง แต่งต้ังคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพ่ือทาหน้าท่ีประเมินผลงานทางวิชาการและจริยธรรมและจรรยาบรรณ ทางวชิ าการในสาขาวิชานั้น ๆ ซ่งึ มอี งคป์ ระกอบ ดังน้ี (๑) ประธานกรรมการ ซ่ึงต้องแต่งตั้งจากกรรมการพิจารณาตาแหน่ง ทางวชิ าการดา้ นท่ีเสนอขอตาแหน่ง (๒) กรรมการผู้ทรงคุณวฒุ ิ จานวนสามถงึ หา้ คน การแต่งต้ังกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อทาหน้าท่ีประเมินผลงานทางวิชาการ และจริยธรรมและจรรยาบรรณทางวชิ าการ ต้องคัดสรรจากบญั ชีรายชื่อผู้ทรงคณุ วฒุ ิที่ ก.พ.อ. กาหนดสาหรับ ด้านท่ีเสนอขอ หรือจากผู้มีความรู้เช่ียวชาญ และประสบการณ์เป็นอย่างสูงเกี่ยวข้องกับผลงานด้านท่ี เสนอขอ เช่น ผู้ทรงคุณวุฒิในชุมชนหรือผู้ท่ีปฏิบัติงานร่วมกับชุมชน ศิลปินแห่งชาติ ศิลปินชั้นเยี่ยม จากงานศิลปกรรมแห่งชาติ ครู/อาจารย์ดีเด่นแห่งชาติ ผู้ท่ีเคยสร้างผลงานนวัตกรรมท่ีเกิดมูลค่าและ ประโยชน์ทางสังคมและเศรษฐกิจอย่างกว้างขวาง ผู้มีผลงานทางศาสนาท่ีได้รับการเผยแพร่และเป็นท่ียอมรับ ในด้านการปฏิบัติอย่างกว้างขวาง ทั้งน้ี มีจานวนไม่เกินกึ่งหน่ึงของคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิโดยต้อง ไม่เป็นบุคลากรในสังกัดสถาบันอุดมศึกษาน้ัน ๆ และต้องมีการประชุมคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ โดยมีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมาประชุมไม่น้อยกว่าก่ึงหน่ึงของจานวนกรรมการท้ังหมด และให้การดาเนินการ อยูใ่ นช้ันความลับทุกขนั้ ตอน 22

เล่ม ๑๓๙ ตอนพเิ ศษ ๔ ง หน้า ๔๔ ๗ มกราคม ๒๕๖๕ ราชกจิ จานุเบกษา ทั้งน้ี การแต่งตั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิให้เป็นไปตามประกาศ ก.พ.อ. เรื่อง มาตรฐานจรยิ ธรรมและจรรยาบรรณสาหรับคณะกรรมการพิจารณาตาแหน่งทางวิชาการ และผูท้ รงคุณวุฒิ เพ่ือทาหน้าท่ีประเมินผลงานทางวิชาการและจริยธรรมและจรรยาบรรณทางวิชาการของสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๑ เกณฑ์การตัดสิน ผลงานทางวิชาการต้องมีปริมาณและคุณภาพที่แสดง ความเป็นผู้ทรงคุณวฒุ ิในสาขาวิชานน้ั การตดั สินของท่ีประชุมใหถ้ ือเสียงข้างมาก ในกรณีการพิจารณาผลงานทางวิชาการของคณะกรรมการผ้ทู รงคณุ วฒุ เิ พ่ือทาหนา้ ท่ี ประเมินผลงานทางวิชาการและจริยธรรมและจรรยาบรรณทางวิชาการ ตาแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ และรองศาสตราจารย์ ท่ีมผี ลการประเมินเป็นเอกฉันท์วา่ คณุ ภาพของผลงานทางวชิ าการของผขู้ อกาหนดตาแหนง่ อยู่ในเกณฑ์หรือไม่อยู่ในเกณฑ์ท่ี ก.พ.อ. กาหนดน้ัน สภาสถาบันอุดมศึกษาอาจกาหนดยกเว้น การประชุมไว้ในข้อบังคับของสภาสถาบัน โดยให้ถือเอาผลการประเมินดังกล่าวเป็นผลการพิจารณา ของคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพ่ือทาหนา้ ท่ีประเมินผลงานทางวชิ าการและจริยธรรมและจรรยาบรรณ ทางวชิ าการกไ็ ด้ ๑๘.๑.๔ เมื่อคณะกรรมการพิจารณาตาแหน่งทางวิชาการพิจารณาความเห็น ของคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามข้อ ๑๘.๑.๓ แล้ว ให้นาเสนอต่อสภาสถาบันอุดมศึกษาพิจารณา อนุมัติ/ไม่อนุมัติ สาหรับกรณีท่ีมีมติอนุมัติให้อธิการบดีออกคาสั่งแต่งตั้ง และแจ้งให้ ก.พ.อ. ทราบ ภายในสามสิบวัน นับต้ังแต่วนั ที่ออกคาส่ังแตง่ ตงั้ พร้อมเอกสารหลักฐานประกอบการพิจารณากาหนดตาแหนง่ ทางวิชาการตามที่ ก.พ.อ. กาหนด ท้ังน้ี ก.พ.อ. จะพิจารณาการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ที่กาหนดในประกาศน้ี รวมทั้งสาระและความถูกต้องเหมาะสมของการพิจารณาอนุมัติ และแจ้งผล การพิจารณาให้สภาสถาบันอุดมศึกษาทราบต่อไป และให้สภาสถาบนั อุดมศกึ ษาปฏิบัตติ ามนั้น เว้นแต่ สภาสถาบันอุดมศึกษาแต่งตั้งให้คณะอนุกรรมการเกี่ยวกับตาแหน่งทางวิชาการของข้าราชการพลเรือน ในสถาบันอดุ มศกึ ษาเฉพาะด้าน ตามขอ้ ๑๑ วรรคส่ี เป็นคณะกรรมการพิจารณาตาแหนง่ ทางวชิ าการ ของสถาบนั อุดมศึกษา เมอ่ื อธิการบดีออกคาส่ังแต่งต้ังแล้วใหแ้ จ้งให้ ก.พ.อ. ทราบ ภายในสามสิบวนั ๑๘.๒ การแตง่ ตงั้ ให้ดารงตาแหนง่ ศาสตราจารย์ เฉพาะด้าน ๑๘.๒.๑ ให้นาความในข้อ ๑๘.๑.๑ และ ๑๘.๑.๓ มาใชบ้ ังคบั แกก่ ารแตง่ ตง้ั ตามข้อนี้ด้วยโดยอนุโลม แต่ต้องจัดให้มีการประชุมคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพ่ือทาหน้าท่ีประเมินผลงาน ทางวิชาการและจริยธรรมและจรรยาบรรณทางวิชาการ โดยมีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมาประชุม ไม่นอ้ ยกว่ากึง่ หน่ึงของจานวนกรรมการท้งั หมด ๑๘.๒.๒ เม่ือคณะกรรมการพิจารณาตาแหน่งทางวิชาการพิจารณาความเห็น ของคณะกรรมการผู้ทรงคณุ วฒุ ิแลว้ ให้นาเสนอต่อสภาสถาบนั อุดมศกึ ษาพจิ ารณาอนมุ ตั /ิ ไม่อนมุ ัติ ๑๘.๒.๓ เมื่อสภาสถาบันอุดมศึกษาพิจารณาอนุมัติแล้ว ให้เสนอ ก.พ.อ. ให้ความเห็นเพ่ือเสนอรัฐมนตรีเพื่อนาความกราบบังคมทูลเพ่ือทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งต้ัง 23

เล่ม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๔ ง หน้า ๔๕ ๗ มกราคม ๒๕๖๕ ราชกิจจานุเบกษา พร้อมเอกสารหลักฐานประกอบการพิจารณากาหนดตาแหน่งทางวิชาการตามที่ ก.พ.อ. กาหนด เว้นแต่สภาสถาบันอุดมศึกษาแต่งต้ังให้คณะอนุกรรมการเกี่ยวกับตาแหน่งทางวิชาการเฉพาะด้าน ของข้าราชการพลเรอื นในสถาบนั อดุ มศกึ ษา ตามข้อ ๑๑ วรรคส่ี เป็นคณะกรรมการพิจารณาตาแหนง่ ทางวิชาการของสถาบันอุดมศึกษา ให้เสนอสภาสถาบันอุดมศึกษาให้ความเห็นชอบ แล้วนาเสนอ ก.พ.อ. ให้ความเห็นเพ่ือเสนอรัฐมนตรีเพื่อนาความกราบบังคมทูลเพ่ือทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งต้ัง สาหรับกรณีการกาหนดตาแหน่งไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.พ.อ. กาหนด ให้แจ้งสภา สถาบันอดุ มศกึ ษาพจิ ารณาดาเนนิ การในสว่ นที่เก่ยี วขอ้ งตอ่ ไป คาส่ังแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งทางวิชาการต้องระบุตาแหน่งทางวิชาการด้านท่ี เสนอขอ พร้อมทั้งระบุสาขาวิชาของตาแหน่งทางวิชาการ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญของผู้ขอ เช่น ผู้ช่วยศาสตราจารย์ (ด้านรับใช้ท้องถิ่นและสังคม) สาขาวิชาปฐพีศาสตร์ รองศาสตราจารย์ (ด้านการสอน) สาขาวิชากฎหมายมหาชน ศาสตราจารย์ (ด้านสรา้ งสรรคส์ นุ ทรียะ ศลิ ปะ) สาขาวิชาทศั นศลิ ป์ ขอ้ ๑๙ การแต่งต้ังอาจารย์ประจาใหด้ ารงตาแหน่งทางวชิ าการ โดยวธิ พี ิเศษ สถาบันอุดมศึกษาอาจเสนอแต่งต้ังผู้ดารงตาแหน่งอาจารย์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ หรือรองศาสตราจารย์ ซ่ึงมีคณุ สมบัติเฉพาะสาหรบั ตาแหนง่ ทต่ี ่างไปจากท่กี าหนดไว้ในมาตรฐานกาหนด ตาแหน่งให้ดารงตาแหน่งสูงข้ึนก็ได้ เช่น การเสนอแต่งต้ังผู้ช่วยศาสตราจารย์ซ่ึงปฏิบัติหน้าที่ ในตาแหนง่ ยงั ไม่ครบระยะเวลาท่กี าหนดใหด้ ารงตาแหนง่ รองศาสตราจารย์ หรอื การเสนอแตง่ ตง้ั อาจารย์ ประจาให้ดารงตาแหน่งรองศาสตราจารย์โดยท่ีผู้น้ันมิได้ดารงตาแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์มาก่อน หรือการเสนอขอกาหนดตาแหนง่ ทางวิชาการในสาขาวชิ าท่ีแตกตา่ งจากสาขาวิชาทด่ี ารงตาแหนง่ อยู่ ๑๙.๑ การแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งทางวิชาการด้วยผลงานรับใช้ท้องถิ่นและสังคม ผลงานการสอน ผลงานนวตั กรรม และผลงานศาสนา โดยวิธพี ิเศษ ให้ดาเนินการ ดังน้ี ๑๙.๑.๑ การแต่งตั้งใหด้ ารงตาแหนง่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ โดยวิธพี เิ ศษ ให้เสนอผลงานทางวิชาการและให้ดาเนินการตามวิธกี ารเช่นเดยี วกบั การแต่งตั้งตาแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์วิธีปกติโดยอนุโลม โดยให้แต่งต้ังกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจานวน อย่างน้อยสามคน พิจารณาผลงานทางวิชาการและจริยธรรมและจรรยาบรรณทางวิชาการ การตัดสิน ของทปี่ ระชมุ ต้องได้รับคะแนนเสยี งเป็นเอกฉันท์ ท้ังนี้ ผลงานทางวชิ าการตอ้ งมคี ณุ ภาพอยู่ในระดับ B ๑๙.๑.๒ การแต่งตงั้ ใหด้ ารงตาแหนง่ รองศาสตราจารย์ โดยวธิ พี ิเศษ ให้เสนอผลงานทางวิชาการได้เฉพาะวิธีท่ี ๑ เท่านั้น และให้ดาเนินการ ตามวิธีการเช่นเดียวกับการแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่งรองศาสตราจารย์วิธีปกติโดยอนุโลม โดยให้แต่งตั้ง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจานวนอย่างน้อยสามคน พิจารณาผลงานทางวิชาการและจริยธรรม และจรรยาบรรณทางวิชาการ การตัดสนิ ของที่ประชมุ ตอ้ งได้รับคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ ทั้งนี้ ผลงาน ทางวิชาการตอ้ งมคี ุณภาพอยูใ่ นระดับ A 24

เล่ม ๑๓๙ ตอนพเิ ศษ ๔ ง หน้า ๔๖ ๗ มกราคม ๒๕๖๕ ราชกิจจานเุ บกษา ๑๙.๑.๓ การแต่งต้ังใหด้ ารงตาแหน่งศาสตราจารย์ โดยวิธีพิเศษ ให้เสนอผลงานทางวิชาการได้เฉพาะวิธีท่ี ๑ เท่านั้น และให้ดาเนินการ ตามวิธีการเช่นเดียวกับการแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่งศาสตราจารย์วิธีปกติโดยอนุโลม โดยให้แต่งต้ัง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจานวนอย่างน้อยสามคน พิจารณาผลงานทางวิชาการและจริยธรรม และจรรยาบรรณทางวชิ าการ การตดั สินของทีป่ ระชมุ ต้องไดร้ บั คะแนนเสียงเปน็ เอกฉันท์ ท้ังนี้ ผลงาน ทางวชิ าการตอ้ งมีคณุ ภาพอยู่ในระดับ A+ ๑๙.๒ การแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งทางวิชาการด้วยผลงานสร้างสรรค์ด้านสุนทรียะ ศิลปะ โดยวิธพี เิ ศษ ใหด้ าเนินการ ดงั น้ี ๑๙.๒.๑ การแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ โดยวิธีพิเศษ ต้องประกอบด้วยผลงานอย่างน้อย ๒ เรื่อง ซึ่งมีคุณภาพระดับ A และต้องได้รับการเผยแพร่ ในระดับชาตหิ รือนานาชาติ ตามลกั ษณะการเผยแพรผ่ ลงานทางวชิ าการตามเอกสารแนบท้าย โดยผู้ขอ ต้องเปน็ เจ้าของและเปน็ ผ้ดู าเนนิ การเองทัง้ หมด ๑๙.๒.๒ การแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งรองศาสตราจารย์ โดยวิธีพิเศษ ต้องประกอบดว้ ยผลงานอยา่ งนอ้ ย ๓ เร่ือง ซ่ึงมีคณุ ภาพระดับ A+ อย่างนอ้ ย ๒ เรอื่ ง และคณุ ภาพ ระดับ A อย่างน้อย ๑ เรื่อง ซ่ึงต้องได้รับการเผยแพร่ในระดับนานาชาติ ตามลักษณะการเผยแพร่ ผลงานทางวิชาการตามเอกสารแนบท้าย อย่างน้อย ๒ เรื่อง โดยผู้ขอต้องเป็นเจ้าของและเป็น ผดู้ าเนินการเองทัง้ หมด ๑๙.๒.๓ การแต่งตั้งใหด้ ารงตาแหน่งศาสตราจารย์ โดยวธิ ีพิเศษ ต้องประกอบด้วย ผลงานอย่างน้อย ๕ เรื่อง ซึ่งมีคุณภาพระดับ A+ และต้องได้รับการเผยแพร่ในระดับนานาชาติ ตามลักษณะการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการตามเอกสารแนบท้าย โดยผู้ขอต้องเป็นเจ้าของ และเป็นผู้ดาเนนิ การเองท้ังหมด ๑๙.๒.๔ การพิจารณาผลงานทางวิชาการตามข้อ ๑๙.๒.๑ - ๑๙.๒.๓ ให้แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจานวนอย่างน้อยสามคน พิจารณาผลงานทางวิชาการและจริยธรรม และจรรยาบรรณทางวิชาการ การตดั สนิ ของท่ีประชมุ ตอ้ งไดร้ บั คะแนนเสียงเปน็ เอกฉนั ท์ ข้อ ๒๐ แบบคาขอฯ (แบบ ก.พ.อ. ๐๖) แบบเสนอแต่งต้ังฯ (แบบ ก.พ.อ. ๐๗) แบบแสดงหลักฐานการมีส่วนร่วมในผลงานทางวิชาการ แนวทางในการประเมินผลการสอนของผู้ขอกาหนด ตาแหน่งทางวิชาการ ลักษณะการมีส่วนร่วมในผลงานทางวิชาการ คาจากัดความของผลงานทางวิชาการ ลักษณะการเผยแพร่และผลงานทางวิชาการที่จาแนกตามระดับคุณภาพให้เป็นไปตามเอกสารแนบท้าย สว่ นกรณอี ืน่ ใหเ้ ป็นไปตามท่ี ก.พ.อ. กาหนด ข้อ ๒๑ ในกรณีที่การขอกาหนดตาแหนง่ ทางวิชาการในสาขาวิชาเดียวกันและในระดับตาแหน่งเดียวกนั หรือระดับท่ีต่ากว่าตาแหน่งท่ีได้เคยขอกาหนดตาแหน่งทางวิชาการมาแล้ว หากมีการนาผลงาน ทางวิชาการเดมิ ทีเ่ คยเสนอเพอ่ื พิจารณากาหนดตาแหนง่ ทางวชิ าการมาก่อน มาเสนอขอกาหนดตาแหนง่ 25

เล่ม ๑๓๙ ตอนพเิ ศษ ๔ ง หน้า ๔๗ ๗ มกราคม ๒๕๖๕ ราชกจิ จานุเบกษา ทางวิชาการอีกคร้ังหน่ึง ผู้ขอจะต้องดาเนินการภายในห้าปีนับต้ังแต่วันท่ีสภาสถาบันอุดมศึกษามีมติกาหนด หรือไม่กาหนดตาแหน่งวิชาการ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยผู้ขอคนเดิมหรือผู้ขอคนใหม่ ให้คณะกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิฯ ใช้ผลการพิจารณาผลงานทางวิชาการเดิมแต่ละเรื่องท่ีผ่านการพิจารณามาแล้วนั้น โดยไม่ต้องพิจารณาผลงานทางวิชาการนั้นใหม่อีก เว้นแต่คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิฯ เห็นว่าผลงาน ทาง วิชาก าร เดิม ที่มี คุ ณภาพอยู่ใน เก ณฑ์น้ั น เป็ น ผลง าน ที่ ล้าสมั ยห รื อมี เห ตุส ม ค ว ร อ่ืน ที่จะ ไ ม่ ใ ช้ ผ ล การพิจารณาน้ันอีกต่อไป ในกรณีเช่นนี้ คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิฯ ต้องระบุเหตุผลทางวิชาการ โดยชดั แจง้ ดว้ ย ในกรณีท่ีผลงานทางวิชาการเดิมมีคุณภาพไม่อยู่ในเกณฑ์ หากมีข้อพิสูจน์ภายหลังว่า ผลงานนั้นได้ถูกนาไปใช้ประโยชน์หรือถูกอ้างอิงอย่างแพร่หลาย หรือในกรณีผลงานรับใช้ท้องถ่ิน และสังคมหากพิสูจน์ภายหลังได้ว่า ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางท่ีดีข้ึนอย่างเป็นที่ประจักษ์ชัด หรอื ก่อใหเ้ กดิ การพฒั นาชมุ ชน สงั คม องค์กรภาครัฐ หรือองคก์ รภาคเอกชนได้ หรอื ก่อใหเ้ กิดการเปล่ียนแปลง เชิงนโยบาย ระดับจังหวัด หรือประเทศ ผู้ขอสามารถนาผลงานทางวิชาการน้ันมาเสนอขอกาหนด ตาแหน่งทางวิชาการในคร้ังใหมไ่ ด้ โดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิฯ จะต้องพิจารณาผลงานทางวชิ าการนั้น ใหม่อกี คร้ังหน่งึ หมวด ๓ การเสนอขอทบทวนผลการพจิ ารณา ข้อ ๒๒ ในกรณีท่ีผลการพิจารณาคุณภาพของผลงานทางวิชาการไม่อยู่ในเกณฑ์ท่ี ก.พ.อ. กาหนด ผู้ขออาจเสนอขอทบทวนผลการพิจารณาต่อสภาสถาบันอุดมศึกษา และสามารถเสนอขอทบทวนผล การพิจารณาได้ไม่เกินสองคร้ัง โดยแสดงเหตุผลทางวิชาการสนับสนุน และการขอทบทวนดังกล่าว แตล่ ะครัง้ ให้ยื่นเรอ่ื งได้ภายในเก้าสิบวันนับแตว่ ันทร่ี ับทราบมติ ภายใต้บังคับข้อ ๖.๑.๔ และ ๑๘.๑.๔ เม่ือสภาสถาบันอุดมศึกษาได้รับเร่ือง การขอทบทวนผลการพิจารณาผลงานทางวิชาการแล้ว ให้ส่งคณะกรรมการพิจารณาตาแหน่งทางวิชาการ พิจารณา เมื่อคณะกรรมการพิจารณาตาแหน่งทางวิชาการ มีความเห็นประการใดให้เสนอต่อ สภาสถาบนั อดุ มศกึ ษาวินจิ ฉัย และใหค้ าวนิ จิ ฉัยของสภาสถาบนั อุดมศกึ ษาเปน็ ท่สี ดุ ข้อ ๒๓ ให้คณะกรรมการพจิ ารณาตาแหน่งทางวชิ าการดาเนนิ การ ดังนี้ (๑) การทบทวนผลการพิจารณาครง้ั ทห่ี น่ึง (ก) ในกรณีท่ีเห็นว่าคาช้ีแจงข้อโต้แย้งไม่มีเหตุผลทางวิชาการ จะมีมติ ไมร่ ับพจิ ารณาก็ได้ (ข) ในกรณีที่เห็นว่าคาชี้แจงข้อโต้แย้งมีเหตุผลทางวชิ าการ ให้มีมติรับไว้พิจารณา โดยมอบคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อทาหน้าที่ประเมินผลงานทางวิชาการและจริยธรรม และจรรยาบรรณทางวิชาการชุดเดมิ พจิ ารณาคาชแ้ี จงขอ้ โตแ้ ย้งนั้น 26

เล่ม ๑๓๙ ตอนพเิ ศษ ๔ ง หน้า ๔๘ ๗ มกราคม ๒๕๖๕ ราชกิจจานุเบกษา (๒) การทบทวนผลการพจิ ารณาครง้ั ท่สี อง (ก) ในกรณีที่เห็นว่าคาชี้แจงข้อโต้แย้งไม่มีเหตุผลทางวิชาการหรือมิได้ช้ีแจง ขอ้ โตแ้ ยง้ โดยมีเหตุผลเพิ่มเตมิ จากครง้ั ที่หน่งึ จะมมี ตไิ ม่รบั พจิ ารณาก็ได้ (ข) ในกรณีท่ีเห็นว่าคาชี้แจงข้อโต้แย้งมีเหตุผลทางวิชาการและได้ช้ีแจงเหตุผล เพิม่ เติมจากการขอทบทวนครงั้ ที่หนง่ึ ใหแ้ ตง่ ตง้ั คณะกรรมการผู้ทรงคณุ วุฒเิ พ่อื ทาหนา้ ที่ประเมนิ ผลงาน ทางวิชาการและจริยธรรมและจรรยาบรรณทางวิชาการเพ่ิมเติม จากท่ีแต่งต้ังไว้เดิม จานวนสองถึงสามคน เพื่อพิจารณาคาช้ีแจง ข้อโต้แย้งและผลงานทางวิชาการของผู้ขอ ทั้งน้ี ให้ประธานคณะกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อทาหนา้ ที่ประเมินผลงานทางวชิ าการและจริยธรรมและจรรยาบรรณทางวิชาการชุดเดิม ทาหน้าท่ีเป็นประธาน ทั้งน้ี ให้สถาบันอุดมศึกษาจ่ายเงินสมนาคุณกรรมการสาหรับการทบทวน ผลการพจิ ารณาผลงานทางวิชาการของกรรมการท่แี ตง่ ตง้ั เพิม่ นน้ั ด้วย ขอ้ ๒๔ สภาสถาบันอุดมศึกษาอาจพิจารณาเฉพาะคาช้ีแจงข้อโต้แย้งของผลงานทางวิชาการ ท่ีย่ืนไว้เดิมทุกประเภทท่ีคุณภาพไมอ่ ยู่ในหลักเกณฑ์ท่ี ก.พ.อ. กาหนดเท่าน้ัน ทั้งน้ี หากผู้ขอมีผลงาน ทางวิชาการใหม่เพิ่มเติม หรือมีการแกไ้ ขผลงานเดิม กรณีน้ีจะต้องดาเนินการเสนอขอกาหนดตาแหนง่ ทางวิชาการใหม่ และให้ถือว่าวันท่ีย่ืนผลงานทางวิชาการเพ่ิมเติมหรือวันท่ีย่ืนขอแก้ไขผลงานเดิม เปน็ วนั เสนอขอกาหนดตาแหน่งทางวชิ าการใหม่ ภายใต้บังคับข้อ ๖.๑.๔ และ ๑๘.๑.๔ กรณีมีปัญหาท่ีจะต้องวินิจฉัยตามหมวดน้ี ให้สภาสถาบนั อดุ มศกึ ษาเป็นผูว้ ินจิ ฉัยช้ขี าดและให้คาวนิ จิ ฉยั ของสภาสถาบันอดุ มศึกษาเปน็ ทส่ี ดุ หมวด ๔ การลงโทษ ข้อ ๒๕ ให้สภาสถาบันอุดมศึกษาพิจารณากาหนดมาตรการในการป้องกันและลงโทษ ผู้ขอกาหนดตาแหน่งอันส่อให้เห็นว่าเป็นผู้ที่กระทาผิดทางจริยธรรมและจรรยาบรรณอันเก่ียวข้อง กับผลงานทางวิชาการและเป็นผู้ที่มีความประพฤติไม่เหมาะสมท่ีจะได้รับการพิจารณาให้ดารงตาแหน่ง ทางวิชาการ ดงั ตอ่ ไปนี้ ๒๕.๑ ในกรณีท่ีตรวจพบว่าผู้ขอระบุการมีส่วนร่วมในผลงานไม่ตรงกับความเป็นจริง หรือมีพฤติการณ์ส่อว่ามีการลอกเลียนผลงานทางวิชาการของผู้อ่ืน สร้างข้อมูลหรือข้อเท็จจริงอันไม่มีอยู่จริง (fabrication) บิดเบือนข้อมูลหรือข้อเท็จจริง (falsification) หรือนาผลงานทางวิชาการของผ้อู ่ืนไปใช้ ในการเสนอขอตาแหน่งทางวิชาการโดยอ้างว่าเป็นผลงานทางวิชาการของตนเอง หรือนาผลงาน ของตนเองในเรื่องเดียวกันไปเผยแพร่ในวารสารวิชาการมากกว่าหนึ่งฉบับ หรือคัดลอกข้อความใด ๆ จากผลงานเดิมของตนโดยไม่อ้างอิงผลงานเดิมตามหลักวิชาการ ท้ังน้ี ในลักษณะที่จะทาให้เข้าใจผิด ว่าเป็นผลงานใหม่ หรือละเลยหรือละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผู้อ่ืนหรือสิทธิมนุษยชน เพ่ือก่อให้เกิด ความเสียหายแก่ผู้อ่ืน และกระทาการใด ๆ ท่ีเบี่ยงเบนผลการศึกษาหรือวิจัยและไม่เสนอผลงาน 27

เล่ม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๔ ง หน้า ๔๙ ๗ มกราคม ๒๕๖๕ ราชกจิ จานเุ บกษา ตามความเป็นจริง ให้สภาสถาบันอุดมศึกษามีมติให้งดการพิจารณาการขอตาแหน่งทางวิชาการในครั้งนั้น และดาเนินการทางวนิ ัยตามขอ้ เท็จจรงิ และความร้ายแรงแหง่ การกระทาผิดเปน็ กรณี ๆ ไป และห้ามผู้กระทาผดิ นั้น เสนอขอตาแหน่งทางวิชาการมีกาหนดเวลาไม่น้อยกว่าห้าปี แต่ไม่เกินสิบปี นับตั้งแต่วันท่ีสภา สถาบนั อุดมศกึ ษามีมติ ๒๕.๒ ในกรณีท่ีได้รับการพิจารณาอนุมัติให้ดารงตาแหน่งทางวิชาการไปแล้ว หากภายหลังตรวจสอบพบหรือทราบว่าผลงานทางวิชาการที่ใช้ในการเสนอขอตาแหน่งทางวิชาการ คร้ังน้ัน เป็นการลอกเลียนผลงานของผู้อื่น สร้างข้อมูลหรือข้อเท็จจริงอันไม่มีอยู่จริง (fabrication) บิดเบือนข้อมูลหรือข้อเท็จจริง (falsification) หรือนาเอาผลงานของผู้อื่นไปใช้ โดยอ้างว่าเป็นผลงาน ของตนเอง หรือนาผลงานของตนเองในเรื่องเดียวกันไปเผยแพร่ในวารสารวิชาการมากกว่าหนึ่งฉบับ ในลักษณะท่ีจะทาให้เข้าใจผิดว่าเป็นผลงานใหม่ หรือคัดลอกข้อความใด ๆ จากผลงานเดิมของตน โดยไม่อ้างอิงผลงานเดิมตามหลักวิชาการ หรือละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผู้อื่นหรือสิทธิมนุษยชน เพื่อก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อ่นื และกระทาการใด ๆ ที่เบี่ยงเบนผลการศึกษาหรือวจิ ัยและไม่เสนอ ผลงานตามความเป็นจริง ให้สภาสถาบันอุดมศึกษามีมติถอดถอนตาแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ และรองศาสตราจารย์ สาหรับตาแหน่งศาสตราจารย์ให้สภาสถาบันอุดมศึกษาพิจารณาเสนอความเหน็ ต่อ ก.พ.อ. เพื่อนาความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ถอดถอน และดาเนินการทางวินัย ตามข้อเท็จจริงและความร้ายแรงแห่งการกระทาผิดเป็นกรณี ๆ ไป และห้ามผู้กระทาผิดน้ันเสนอ ขอตาแหน่งทางวิชาการมีกาหนดเวลาไม่น้อยกว่าห้าปี แต่ไม่เกินสิบปี นับตั้งแต่วันท่ีสภาสถาบันอุดมศึกษา มีมติใหถ้ อดถอน หรือนบั ต้งั แตว่ นั ท่ที รงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ถอดถอน แล้วแตก่ รณี บทเฉพาะกาล ขอ้ ๒๖ การเผยแพร่ผลงานในวารสารวิชาการระดับชาติเพื่อขอกาหนดตาแหน่งทางวิชาการ ซง่ึ ได้เผยแพรไ่ วแ้ ลว้ กอ่ นวนั ทป่ี ระกาศฉบบั นีม้ ีผลใช้บังคับ ใหใ้ ช้ตามประกาศ ก.พ.อ. เรื่อง หลกั เกณฑ์ การพิจารณาวารสารทางวิชาการสาหรับการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ พ.ศ. ๒๕๖๒ ประกาศ ณ วันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ โดยตาแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ และรองศาสตราจารย์ สามารถ ใช้ผลงานทางวิชาการซ่ึงเผยแพร่ในวารสารวิชาการที่อยู่ในฐานข้อมูล TCI กลุ่ม ๑ และ TCI กลุ่ม ๒ และตาแหน่งศาสตราจารย์ สาขาวชิ าทางสงั คมศาสตรแ์ ละมนุษยศาสตร์ สามารถใช้ผลงานทางวชิ าการ ซ่ึงเผยแพรใ่ นวารสารวิชาการทอี่ ยูใ่ นฐานข้อมลู TCI กลุ่ม ๑ ได้โดยอนุโลม ข้อ ๒๗ ในกรณีท่ีผู้ขอกาหนดตาแหน่งทางวิชาการตามประกาศ ก.พ.อ. เร่ือง หลักเกณฑ์ และวิธีการพิจารณาแต่งตั้งบุคคลให้ดารงตาแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์ พ.ศ. ๒๕๖๐ และท่ีแกไ้ ขเพ่มิ เตมิ รายใดท่สี ภาสถาบนั อุดมศกึ ษาไดร้ บั เร่อื งไว้พจิ ารณากอ่ นท่ปี ระกาศนี้ มีผลใชบ้ งั คบั ใหด้ าเนนิ การตามประกาศดงั กลา่ วต่อไปจนแลว้ เสร็จ 28

เล่ม ๑๓๙ ตอนพเิ ศษ ๔ ง หน้า ๕๐ ๗ มกราคม ๒๕๖๕ ราชกจิ จานุเบกษา ขอ้ ๒๘ ในกรณีท่ีผู้ขอกาหนดตาแหน่งทางวิชาการตามประกาศ ก.พ.อ. เรื่อง หลักเกณฑ์ และวิธีการพิจารณาแต่งตั้งบุคคลให้ดารงตาแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์ พ.ศ. ๒๕๖๓ และท่ีแก้ไขเพม่ิ เติม รายใดที่สภาสถาบนั อดุ มศกึ ษาไดร้ บั เรอื่ งไวพ้ ิจารณาก่อนทีป่ ระกาศนี้ มีผลใช้บังคับให้ดาเนินการตามประกาศดังกล่าวต่อไปจนแล้วเสร็จ ในการนี้เพื่อประโยชน์ของผู้ขอ กาหนดตาแหน่งทางวิชาการ สภาสถาบันอุดมศึกษาอาจนาเกณฑ์ลักษณะคุณภาพของผลงาน ทางวิชาการตามประกาศน้ีมาใช้กับการพิจารณาแตง่ ตั้งบุคคลใหด้ ารงตาแหนง่ ทางวิชาการได้โดยอนุโลม ขอ้ ๒๙ ให้ประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามข้อ ๓ (๓.๒) ซึ่งปฏิบัติหน้าท่ี อยู่ในวันก่อนวันที่ประกาศน้ีใช้บังคับ ปฏิบัติหน้าที่อยู่ต่อไปจนกว่าจะมีการแต่งตั้งกรรมการพิจารณา ตาแหนง่ ทางวชิ าการข้ึนใหมต่ ามประกาศนี้ ข้อ ๓๐ ให้คณะอนุกรรมการเก่ียวกับตาแหน่งทางวิชาการเฉพาะด้านของข้าราชการพลเรือน ในสถาบันอุดมศึกษาจัดทาบัญชีรายช่ือผู้ทรงคุณวุฒิเพ่ือแต่งต้ังเป็นคณะกรรมการพิจารณาตาแหน่ง ทางวิชาการตามข้อ ๑๑ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อทาหน้าท่ีประเมินผลงานทางวิชาการ และจริยธรรมและจรรยาบรรณทางวิชาการตามข้อ ๑๘ ในด้านท่ีอยู่ในความรับผิดชอบให้แล้วเสร็จ ภายในหนึง่ ปนี บั แต่วนั ท่ีประกาศนี้ใชบ้ ังคับ ในกรณีท่ีการจัดทาบัญชีรายช่ือผู้ทรงคุณวุฒิตามวรรคหน่ึงยังไม่แล้วเสร็จ ให้สภา สถาบันอุดมศึกษาเสนอช่ือผู้ทรงคุณวุฒิผู้มีความรู้เชี่ยวชาญในด้านน้ัน ๆ ให้คณะอนุกรรมการเกี่ยวกับ ตาแหนง่ ทางวชิ าการเฉพาะด้านของขา้ ราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศกึ ษาใหค้ วามเหน็ ชอบ ขอ้ ๓๑ เมื่อครบสี่ปีนับแต่วันที่ประกาศน้ีใช้บังคับให้ ก.พ.อ. จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็น อย่างกว้างขวางเพื่อปรับปรุงประกาศน้ี เว้นแต่คณะอนุกรรมการเกี่ยวกับตาแหน่งทางวิชาการ ของขา้ ราชการพลเรือนในสถาบนั อุดมศึกษาแตล่ ะประเภทเหน็ สมควรให้มีการปรบั ปรุงก่อนกาหนดดังกล่าว ประกาศ ณ วนั ที่ 27 ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕64 เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงการอุดมศกึ ษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวตั กรรม ประธาน ก.พ.อ. 29

ก.พ.อ. ๐๓ เอกสารแนบท้ายประกาศ ก.พ.อ. เรื่อง หลกั เกณฑแ์ ละวิธีการพิจารณาแต่งตงั้ บคุ คลให้ดารงตาแหน่ง ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์ พ.ศ. ๒๕๖๔ ------------------------------ ๑. แบบคาขอรบั การพิจารณากาหนดตาแหน่งทางวิชาการทวั่ ไป ส่วนท่ี ๑ : แบบประวตั ิส่วนตวั และผลงานทางวิชาการ แบบประวตั สิ ่วนตวั และผลงานทางวชิ าการ เพอ่ื ขอดารงตาแหน่ง............................................ (ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ /รองศาสตราจารย์ /ศาสตราจารย)์ โดยวธิ .ี ......................... ในสาขาวชิ า............................................................ ของ (นาย/นาง/นางสาว)............................................... สงั กดั ภาค/สาขาวชิ า..................................................... คณะ..................................มหาวทิ ยาลยั /สถาบนั ........................................ -------------------------------- ๑. ประวตั สิ ่วนตวั ๑.๑ วนั เดอื น ปีเกดิ ๑.๒ อายุ ....... ปี ๑.๓ การศกึ ษาระดบั อุดมศกึ ษา (โปรดระบุช่อื คณุ วฒุ เิ ตม็ พรอ้ มสาขาวชิ า โดยเรยี งจากคณุ วฒุ สิ ูงสดุ ตามลาดบั และกรณสี าเรจ็ การศกึ ษาจากต่างประเทศใหร้ ะบเุ ป็นภาษาองั กฤษ) คุณวฒุ ิ ปี พ.ศ. ทจ่ี บ ชอ่ื สถานศกึ ษาและประเทศ ๑.๓.๑ ๑.๓.๒ ๑.๓.๓ ๑.๓.๔ ๑.๓.๕ (ในกรณที ส่ี าเรจ็ การศกึ ษาระดบั ปรญิ ญาโทและปรญิ ญาเอกและปรญิ ญาบตั รใดๆ ใหร้ ะบหุ วั ขอ้ เรอ่ื ง วทิ ยานิพนธแ์ ละงานวจิ ยั ทท่ี าเป็นส่วนของการศกึ ษาเพอ่ื รบั ปรญิ ญาหรอื ประกาศนียบตั รนัน้ ๆ ดว้ ย) 30

๒. ประวตั กิ ารรบั ราชการ ๒.๑ ปัจจบุ นั ดารงตาแหน่ง...................................................... รบั เงนิ เดอื น........................บาท ๒.๒ ไดร้ บั แต่งตงั้ ใหด้ ารงตาแหน่งอาจารย์ เมอ่ื วนั ท.่ี ...........เดอื น.............................พ.ศ. ............ ๒.๓ ไดร้ บั แต่งตงั้ ใหด้ ารงตาแหน่งผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ (โดยวธิ ปี กต/ิ วธิ พี เิ ศษ) ในสาขาวชิ า.............. เมอ่ื วนั ท.่ี ..........เดอื น.........................พ.ศ. ....... ๒.๔ ไดร้ บั แต่งตงั้ ใหด้ ารงตาแหน่งรองศาสตราจารย์ (โดยวธิ ปี กต/ิ วธิ พี เิ ศษ) ในสาขาวชิ า................ เมอ่ื วนั ท.่ี ........เดอื น......................พ.ศ. ....... (ในกรณที เ่ี คยบรรจเุ ขา้ รบั ราชการในตาแหน่งอ่นื หรอื เคยดารงตาแหน่งอาจารย์ประจา/อาจารย์ พเิ ศษในสงั กดั อ่นื ใหร้ ะบตุ าแหน่ง สงั กดั และวนั เดอื น ปี ทด่ี ารงตาแหน่งนนั้ ดว้ ย) อายรุ าชการ ...... ปี ........ เดอื น ๒.๕ ตาแหน่งอ่นื ๆ ๒.๕.๑ ๒.๕.๒ ๒.๕.๓ ๒.๕.๔ ๒.๕.๕ ๒.๖ การไดร้ บั เชญิ เป็นวทิ ยากรในทป่ี ระชุมวชิ าการระดบั นานาชาติ และการไดร้ บั การยกยอ่ ง ระดบั นานาชาติ อ่นื ๆ (โปรดระบุขอ้ มลู ยอ้ นหลงั ๕ ปี) ๒.๖.๑ ๒.๖.๒ ๒.๖.๓ ๒.๖.๔ ๒.๖.๕ ๓. ภาระงานยอ้ นหลงั ๓ ปี (เป็นภาระงานทท่ี าโดยความเหน็ ชอบจากเจา้ สงั กดั ) ๓.๑ งานสอน (โปรดระบุระดบั ว่าปรญิ ญาตรี หรอื บณั ฑติ ศกึ ษา) ระดบั รายวชิ าทส่ี อน ช.ม./สปั ดาห์ เปิดสอนภาค/ปีการศกึ ษา ............ ……………… ……………. ………………………….. ............ ……………… ……………. ………………………….. ............ ……………… ……………. ………………………….. ๓.๒ งานวจิ ยั (โปรดระบุเรอ่ื งทไ่ี ดร้ บั ทนุ วจิ ยั ในฐานะหวั หน้าโครงการ (Principal investigator) และ แหล่งทุน ในระหว่างปีทท่ี าการวจิ ยั และระยะเวลาทใ่ี ชใ้ นแต่ละโครงการ) 31

๓.๓ งานบรกิ ารทางวชิ าการ (โปรดระบุประเภทของกจิ กรรม และปรมิ าณเวลาทใ่ี ชต้ ่อสปั ดาห)์ ๓.๔ งานบรหิ าร (โปรดระบงุ านบรหิ ารทม่ี สี ่วนรบั ผดิ ชอบโดยตรง และปรมิ าณเวลาทใ่ี ชต้ ่อสปั ดาห)์ ๓.๕ งานอ่นื ๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง (โปรดระบุประเภทของงาน และปรมิ าณเวลาทใ่ี ชต้ ่อสปั ดาห)์ ๔. ผลงานทางวชิ าการ ๔.๑ ผลงานทางวชิ าการทเ่ี สนอเพอ่ื ประกอบการพจิ ารณาตาแหน่งผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ๔.๑.๑ งานวจิ ยั ๔.๑.๑.๑ …........................................................................................... งานวจิ ยั น้เี คยใชส้ าหรบั การพจิ ารณาขอกาหนดตาแหน่งผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ มาแลว้ หรอื ไม่ ไมเ่ คยใช้ เคยใช้ (เมอ่ื ปี พ.ศ....... และผลการพจิ ารณาคณุ ภาพอยใู่ นระดบั ............ ตามเกณฑท์ ่ี ก.พ.อ. กาหนด) ๔.๑.๑.๒ ................................................................................................. งานวจิ ยั น้เี คยใชส้ าหรบั การพจิ ารณาขอกาหนดตาแหน่งผชู้ ่วยศาสตราจารย์ มาแลว้ หรอื ไม่ ไมเ่ คยใช้ เคยใช้ (เมอ่ื ปี พ.ศ....... และผลการพจิ ารณาคุณภาพอยใู่ นระดบั .......... ตามเกณฑท์ ่ี ก.พ.อ. กาหนด) ๔.๑.๑.๓ ................................................................................................. งานวจิ ยั น้เี คยใชส้ าหรบั การพจิ ารณาขอกาหนดตาแหน่งผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ มาแลว้ หรอื ไม่ ไมเ่ คยใช้ เคยใช้ (เมอ่ื ปี พ.ศ....... และผลการพจิ ารณาคณุ ภาพอยใู่ นระดบั .......... ตามเกณฑท์ ่ี ก.พ.อ. กาหนด) 32

๔.๑.๒ ผลงานทางวชิ าการในลกั ษณะอ่นื (ผลงานวชิ าการเพอ่ื อุตสาหกรรม/ ผลงานวชิ าการ เพอ่ื พฒั นาการเรยี นการสอนและการเรยี นรู/้ ผลงานวชิ าการเพอ่ื พฒั นานโยบายสาธารณะ/ กรณศี กึ ษา (case study)/ งานแปล/ พจนานุกรม สารานุกรม นามานุกรม และงานวชิ าการในลกั ษณะเดยี วกนั / ผลงานสรา้ งสรรคด์ า้ นวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลย/ี ผลงานสรา้ งสรรคด์ า้ นสุนทรยี ะ ศลิ ปะ/ สทิ ธบิ ตั ร/ ซอฟตแ์ วร/์ ผลงานรบั ใชท้ อ้ งถนิ่ และสงั คม/ ผลงานนวตั กรรม) ๔.๑.๒.๑ ................................................................................................. ผลงานทางวชิ าการในลกั ษณะอ่นื น้เี คยใชส้ าหรบั การพจิ ารณาขอกาหนด ตาแหน่งผชู้ ว่ ยศาสตราจารยม์ าแลว้ หรอื ไม่ ไมเ่ คยใช้ เคยใช้ (เมอ่ื ปี พ.ศ....... และผลการพจิ ารณาคุณภาพอยใู่ นระดบั .......... ตามเกณฑท์ ่ี ก.พ.อ. กาหนด) ๔.๑.๒.๒ ................................................................................................. ผลงานทางวชิ าการในลกั ษณะอ่นื น้เี คยใชส้ าหรบั การพจิ ารณาขอกาหนด ตาแหน่งผชู้ ว่ ยศาสตราจารยม์ าแลว้ หรอื ไม่ ไมเ่ คยใช้ เคยใช้ (เมอ่ื ปี พ.ศ....... และผลการพจิ ารณาคุณภาพอยใู่ นระดบั .......... ตามเกณฑท์ ่ี ก.พ.อ. กาหนด) ๔.๑.๒.๓ ................................................................................................. ผลงานทางวชิ าการในลกั ษณะอ่นื น้เี คยใชส้ าหรบั การพจิ ารณาขอกาหนด ตาแหน่งผชู้ ว่ ยศาสตราจารยม์ าแลว้ หรอื ไม่ ไมเ่ คยใช้ เคยใช้ (เมอ่ื ปี พ.ศ....... และผลการพจิ ารณาคุณภาพอยใู่ นระดบั .......... ตามเกณฑท์ ่ี ก.พ.อ. กาหนด) ๔.๑.๓ ตารา หนงั สอื หรอื บทความทางวชิ าการ ๔.๑.๓.๑ ................................................................................................. ผลงานน้เี คยใชส้ าหรบั การพจิ ารณาขอกาหนดตาแหน่งผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ มาแลว้ หรอื ไม่ ไมเ่ คยใช้ เคยใช้ (เมอ่ื ปี พ.ศ....... และผลการพจิ ารณาคุณภาพอยใู่ นระดบั .......... ตามเกณฑท์ ่ี ก.พ.อ. กาหนด) 33

๔.๑.๓.๒ ................................................................................................. ผลงานน้เี คยใชส้ าหรบั การพจิ ารณาขอกาหนดตาแหน่งผชู้ ่วยศาสตราจารย์ มาแลว้ หรอื ไม่ ไมเ่ คยใช้ เคยใช้ (เมอ่ื ปี พ.ศ....... และผลการพจิ ารณาคุณภาพอยใู่ นระดบั .......... ตามเกณฑท์ ่ี ก.พ.อ. กาหนด) ๔.๑.๓.๓ ................................................................................................. ผลงานน้เี คยใชส้ าหรบั การพจิ ารณาขอกาหนดตาแหน่งผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ มาแลว้ หรอื ไม่ ไมเ่ คยใช้ เคยใช้ (เมอ่ื ปี พ.ศ....... และผลการพจิ ารณาคณุ ภาพอยใู่ นระดบั .......... ตามเกณฑท์ ่ี ก.พ.อ. กาหนด) ผลงานทางวชิ าการทกุ ประเภท ใหเ้ สนอโดยเขยี นตามหลกั ของการเขยี นเอกสารอา้ งองิ อนั ประกอบดว้ ยชอ่ื ผแู้ ต่ง ปี พ.ศ. ช่อื เรอ่ื ง แหล่งพมิ พ์ จานวนหน้า เป็นตน้ และกรณที เ่ี ผยแพรใ่ นวารสาร ทางวชิ าการใหร้ ะบวุ ่าอยใู่ นฐานขอ้ มลู ใดตามประกาศ ก.พ.อ. โดยระบบุ ทบาทหน้าทข่ี องผลงานแต่ละประเภท ตามลกั ษณะการมสี ว่ นรว่ มในผลงานทางวชิ าการตามเอกสารแนบทา้ ยประกาศ ก.พ.อ. พรอ้ มทงั้ ระบุ จานวนครงั้ ทถ่ี ูกอา้ งองิ (citation) และ Journal impact factor ในกรณที ม่ี ผี เู้ ขยี นรว่ มหลายคน จะตอ้ งระบุบทบาทหน้าทข่ี องผรู้ ว่ มงานทุกคนว่าทาในสว่ นไหน อยา่ งไร และลงนามรบั รองโดยผขู้ อ ผปู้ ระพนั ธอ์ นั ดบั แรก (first author) และผปู้ ระพนั ธบ์ รรณกจิ (corresponding author) เพอ่ื ประกอบการพจิ ารณาดว้ ย ๔.๒ ผลงานทางวชิ าการทเ่ี สนอเพ่อื ประกอบการพจิ ารณาตาแหน่งรองศาสตราจารย์ ๔.๒.๑ งานวจิ ยั ๔.๒.๑.๑ ................................................................................................. งานวจิ ยั น้เี คยใชส้ าหรบั การพจิ ารณาขอกาหนดตาแหน่งผชู้ ่วยศาสตราจารย์ และ/หรอื ตาแหน่งรองศาสตราจารยม์ าแลว้ หรอื ไม่ ไมเ่ คยใช้ เคยใช้ (เมอ่ื ปี พ.ศ....... และผลการพจิ ารณาคุณภาพอยใู่ นระดบั .......... ตามเกณฑท์ ่ี ก.พ.อ. กาหนด) 34

๔.๒.๑.๒ ................................................................................................. งานวจิ ยั น้เี คยใชส้ าหรบั การพจิ ารณาขอกาหนดตาแหน่งผชู้ ่วยศาสตราจารย์ และ/หรอื ตาแหน่งรองศาสตราจารยม์ าแลว้ หรอื ไม่ ไมเ่ คยใช้ เคยใช้ (เมอ่ื ปี พ.ศ....... และผลการพจิ ารณาคุณภาพอยใู่ นระดบั .......... ตามเกณฑท์ ่ี ก.พ.อ. กาหนด) ๔.๒.๑.๓ ................................................................................................. งานวจิ ยั น้เี คยใชส้ าหรบั การพจิ ารณาขอกาหนดตาแหน่งผชู้ ่วยศาสตราจารย์ และ/หรอื ตาแหน่งรองศาสตราจารยม์ าแลว้ หรอื ไม่ ไมเ่ คยใช้ เคยใช้ (เมอ่ื ปี พ.ศ....... และผลการพจิ ารณาคุณภาพอยใู่ นระดบั .......... ตามเกณฑท์ ่ี ก.พ.อ. กาหนด) ๔.๒.๒ ผลงานทางวชิ าการในลกั ษณะอ่นื (ผลงานวชิ าการเพอ่ื อุตสาหกรรม/ ผลงานวชิ าการ เพ่อื พฒั นาการเรยี นการสอนและการเรยี นรู/้ ผลงานวชิ าการเพ่อื พฒั นานโยบายสาธารณะ/ กรณศี กึ ษา (case study)/ งานแปล/ พจนานุกรม สารานุกรม นามานุกรม และงานวชิ าการในลกั ษณะเดยี วกนั / ผลงานสรา้ งสรรคด์ า้ นวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลย/ี ผลงานสรา้ งสรรคด์ า้ นสุนทรยี ะ ศลิ ปะ/ สทิ ธบิ ตั ร/ ซอฟตแ์ วร/์ ผลงานรบั ใชท้ อ้ งถน่ิ และสงั คม/ ผลงานนวตั กรรม) ๔.๒.๒.๑ ................................................................................................. ผลงานทางวชิ าการในลกั ษณะอ่นื น้เี คยใชส้ าหรบั การพจิ ารณาขอกาหนด ตาแหน่งผชู้ ่วยศาสตราจารยแ์ ละ/หรอื ตาแหน่งรองศาสตราจารยม์ าแลว้ หรอื ไม่ ไมเ่ คยใช้ เคยใช้ (เมอ่ื ปี พ.ศ....... และผลการพจิ ารณาคณุ ภาพอยใู่ นระดบั .......... ตามเกณฑท์ ่ี ก.พ.อ. กาหนด) ๔.๒.๒.๒ ................................................................................................. ผลงานทางวชิ าการในลกั ษณะอ่นื น้เี คยใชส้ าหรบั การพจิ ารณาขอกาหนด ตาแหน่งผชู้ ว่ ยศาสตราจารยแ์ ละ/หรอื ตาแหน่งรองศาสตราจารยม์ าแลว้ หรอื ไม่ ไมเ่ คยใช้ เคยใช้ (เมอ่ื ปี พ.ศ....... และผลการพจิ ารณาคุณภาพอยใู่ นระดบั .......... ตามเกณฑท์ ่ี ก.พ.อ. กาหนด) 35

๔.๒.๒.๓ ................................................................................................. ผลงานทางวชิ าการในลกั ษณะอ่นื น้เี คยใชส้ าหรบั การพจิ ารณาขอกาหนด ตาแหน่งผชู้ ว่ ยศาสตราจารยแ์ ละ/หรอื ตาแหน่งรองศาสตราจารยม์ าแลว้ หรอื ไม่ ไมเ่ คยใช้ เคยใช้ (เมอ่ื ปี พ.ศ....... และผลการพจิ ารณาคุณภาพอยใู่ นระดบั .......... ตามเกณฑท์ ่ี ก.พ.อ. กาหนด) ๔.๒.๓ ตาราหรอื หนงั สอื ๔.๒.๓.๑ ................................................................................................. ผลงานน้เี คยใชส้ าหรบั การพจิ ารณาขอกาหนดตาแหน่งผชู้ ่วยศาสตราจารยแ์ ละ/ หรอื ตาแหน่งรองศาสตราจารยม์ าแลว้ หรอื ไม่ ไมเ่ คยใช้ เคยใช้ (เมอ่ื ปี พ.ศ....... และผลการพจิ ารณาคณุ ภาพอยใู่ นระดบั .......... ตามเกณฑท์ ่ี ก.พ.อ. กาหนด) ๔.๒.๓.๒ ................................................................................................. ผลงานน้เี คยใชส้ าหรบั การพจิ ารณาขอกาหนดตาแหน่งผชู้ ่วยศาสตราจารยแ์ ละ/ หรอื ตาแหน่งรองศาสตราจารยม์ าแลว้ หรอื ไม่ ไมเ่ คยใช้ เคยใช้ (เมอ่ื ปี พ.ศ....... และผลการพจิ ารณาคุณภาพอยใู่ นระดบั .......... ตามเกณฑท์ ่ี ก.พ.อ. กาหนด) ๔.๒.๓.๓ ................................................................................................. ผลงานน้เี คยใชส้ าหรบั การพจิ ารณาขอกาหนดตาแหน่งผชู้ ว่ ยศาสตราจารยแ์ ละ/ หรอื ตาแหน่งรองศาสตราจารยม์ าแลว้ หรอื ไม่ ไมเ่ คยใช้ เคยใช้ (เมอ่ื ปี พ.ศ....... และผลการพจิ ารณาคุณภาพอยใู่ นระดบั .......... ตามเกณฑท์ ่ี ก.พ.อ. กาหนด) ๔.๒.๔ เอกสารหลกั ฐานสาหรบั การเสนอขอกาหนดตาแหน่งทางวชิ าการตามวธิ ที ่ี ๓ ๔.๒.๔.๑ งานวจิ ยั ๑) งานวจิ ยั เรอ่ื ง.......................................................................................... ๑.๑) การเผยแพรใ่ นวารสารทางวชิ าการในฐานขอ้ มลู Scopus  Quartile1  Quartile2 ๑.๒) บทบาทหน้าท่ี  ผปู้ ระพนั ธอ์ นั ดบั แรก (first author)  ผปู้ ระพนั ธบ์ รรณกจิ (corresponding author) 36

๒) งานวจิ ยั เรอ่ื ง.......................................................................................... ๒.๑) การเผยแพรใ่ นวารสารทางวชิ าการในฐานขอ้ มลู Scopus  Quartile1  Quartile2 ๒.๒) บทบาทหน้าท่ี  ผปู้ ระพนั ธอ์ นั ดบั แรก (first author)  ผปู้ ระพนั ธบ์ รรณกจิ (corresponding author) ๓) งานวจิ ยั เรอ่ื ง.......................................................................................... ๓.๑) การเผยแพรใ่ นวารสารทางวชิ าการในฐานขอ้ มลู Scopus  Quartile1  Quartile2 ๓.๒) บทบาทหน้าท่ี  ผปู้ ระพนั ธอ์ นั ดบั แรก (first author)  ผปู้ ระพนั ธบ์ รรณกจิ (corresponding author) ๔.๒.๔.๒ งานวจิ ยั ทไ่ี ดร้ บั การอา้ งองิ จากฐานขอ้ มลู Scopus จานวน............เรอ่ื ง ไดร้ บั การอา้ งองิ ............รายการ พรอ้ มทงั้ สง่ เอกสารหลกั ฐานทแ่ี สดงใหเ้ หน็ ว่าไดร้ บั การอา้ งองิ ในฐานขอ้ มลู Scopus ๔.๒.๔.๓ ผขู้ อ มคี า่ life-time h-index (Scopus) ......................... ๔.๒.๔.๔ โครงการวจิ ยั ทผ่ี ขู้ อเป็นหวั หน้าโครงการ (principal investigator) ไดร้ บั ทุน จากแหลง่ ทุนภายนอกสถาบนั (life-time) พรอ้ มทงั้ ส่งเอกสารหลกั ฐาน เช่น หน้าสญั ญา จดหมายรบั รอง จากสถาบนั อุดมศกึ ษา จดหมายรบั รองจากแหลง่ ทุน ๑) โครงการวจิ ยั เรอ่ื ง................................................................................... ไดร้ บั ทนุ จาก............................................................................................ ๒) โครงการวจิ ยั เรอ่ื ง................................................................................... ไดร้ บั ทนุ จาก............................................................................................ ๓) โครงการวจิ ยั เรอ่ื ง................................................................................... ไดร้ บั ทนุ จาก............................................................................................ ผลงานทางวชิ าการทกุ ประเภท ใหเ้ สนอโดยเขยี นตามหลกั ของการเขยี นเอกสารอา้ งองิ อนั ประกอบดว้ ยชอ่ื ผแู้ ต่ง ปี พ.ศ. ช่อื เรอ่ื ง แหล่งพมิ พ์ จานวนหน้า เป็นตน้ และกรณที เ่ี ผยแพรใ่ นวารสาร ทางวชิ าการใหร้ ะบวุ ่าอยใู่ นฐานขอ้ มลู ใดตามประกาศ ก.พ.อ. โดยระบบุ ทบาทหน้าทข่ี องผลงานแต่ละประเภท ตามลกั ษณะการมสี ว่ นรว่ มในผลงานทางวชิ าการตามเอกสารแนบทา้ ยประกาศ ก.พ.อ. พรอ้ มทงั้ ระบุ จานวนครงั้ ทถ่ี กู อา้ งองิ (citation) และ Journal impact factor ในกรณที ม่ี ผี เู้ ขยี นรว่ มหลายคน จะตอ้ งระบบุ ทบาทหน้าทข่ี องผรู้ ว่ มงานทกุ คนวา่ ทาในส่วน ไหนอยา่ งไร และลงนามรบั รองโดยผขู้ อ ผปู้ ระพนั ธอ์ นั ดบั แรก (first author) และผปู้ ระพนั ธบ์ รรณกจิ (corresponding author) เพอ่ื ประกอบการพจิ ารณาดว้ ย 37

๔.๓ ผลงานทางวชิ าการทเ่ี สนอเพอ่ื ประกอบการพจิ ารณาตาแหน่งศาสตราจารย์ ๔.๓.๑ งานวจิ ยั ๔.๓.๑.๑ ................................................................................................. งานวจิ ยั น้เี คยใชส้ าหรบั การพจิ ารณาขอกาหนดตาแหน่งผชู้ ่วยศาสตราจารย์ และ/หรอื ตาแหน่งรองศาสตราจารย์ และ/หรอื ตาแหน่งศาสตราจารยม์ าแลว้ หรอื ไม่ ไมเ่ คยใช้ เคยใช้ (เมอ่ื ปี พ.ศ....... และผลการพจิ ารณาคุณภาพอยใู่ นระดบั .......... ตามเกณฑท์ ่ี ก.พ.อ. กาหนด) ๔.๓.๑.๒ ................................................................................................. งานวจิ ยั น้เี คยใชส้ าหรบั การพจิ ารณาขอกาหนดตาแหน่งผชู้ ่วยศาสตราจารย์ และ/หรอื ตาแหน่งรองศาสตราจารย์ และ/หรอื ตาแหน่งศาสตราจารยม์ าแลว้ หรอื ไม่ ไมเ่ คยใช้ เคยใช้ (เมอ่ื ปี พ.ศ....... และผลการพจิ ารณาคุณภาพอยใู่ นระดบั .......... ตามเกณฑท์ ่ี ก.พ.อ. กาหนด) ๔.๓.๑.๓ ................................................................................................. งานวจิ ยั น้เี คยใชส้ าหรบั การพจิ ารณาขอกาหนดตาแหน่งผชู้ ่วยศาสตราจารย์ และ/หรอื ตาแหน่งรองศาสตราจารย์ และ/หรอื ตาแหน่งศาสตราจารยม์ าแลว้ หรอื ไม่ ไมเ่ คยใช้ เคยใช้ (เมอ่ื ปี พ.ศ....... และผลการพจิ ารณาคุณภาพอยใู่ นระดบั .......... ตามเกณฑท์ ่ี ก.พ.อ. กาหนด) ๔.๓.๒ ผลงานทางวชิ าการในลกั ษณะอ่นื (ผลงานวชิ าการเพอ่ื อุตสาหกรรม/ ผลงานวชิ าการ เพ่อื พฒั นาการเรยี นการสอนและการเรยี นรู/้ ผลงานวชิ าการเพอ่ื พฒั นานโยบายสาธารณะ/ กรณศี กึ ษา (case study)/ งานแปล/ พจนานุกรม สารานุกรม นามานุกรม และงานวชิ าการในลกั ษณะเดยี วกนั / ผลงานสรา้ งสรรคด์ า้ นวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลย/ี ผลงานสรา้ งสรรคด์ า้ นสุนทรยี ะ ศลิ ปะ/ สทิ ธบิ ตั ร/ ซอฟตแ์ วร/์ ผลงานรบั ใชท้ อ้ งถน่ิ และสงั คม/ ผลงานนวตั กรรม) ๔.๓.๒.๑ ................................................................................................. ผลงานทางวชิ าการในลกั ษณะอ่นื น้เี คยใชส้ าหรบั การพจิ ารณาขอกาหนด ตาแหน่งผชู้ ่วยศาสตราจารยแ์ ละ/หรอื ตาแหน่งรองศาสตราจารย์ และ/หรอื ตาแหน่งศาสตราจารยม์ าแลว้ หรอื ไม่ ไมเ่ คยใช้ เคยใช้ (เมอ่ื ปี พ.ศ....... และผลการพจิ ารณาคุณภาพอยใู่ นระดบั .......... ตามเกณฑท์ ่ี ก.พ.อ. กาหนด) 38

๔.๓.๒.๒ ................................................................................................. ผลงานทางวชิ าการในลกั ษณะอ่นื น้เี คยใชส้ าหรบั การพจิ ารณาขอกาหนดตาแหน่ง ผชู้ ่วยศาสตราจารยแ์ ละ/หรอื ตาแหน่งรองศาสตราจารย์ และ/หรอื ตาแหน่งศาสตราจารยม์ าแลว้ หรอื ไม่ ไมเ่ คยใช้ เคยใช้ (เมอ่ื ปี พ.ศ....... และผลการพจิ ารณาคุณภาพอยใู่ นระดบั .......... ตามเกณฑท์ ่ี ก.พ.อ. กาหนด) ๔.๓.๒.๓ ................................................................................................. ผลงานทางวชิ าการในลกั ษณะอ่นื น้เี คยใชส้ าหรบั การพจิ ารณาขอกาหนดตาแหน่ง ผชู้ ่วยศาสตราจารยแ์ ละ/หรอื ตาแหน่งรองศาสตราจารย์ และ/หรอื ตาแหน่งศาสตราจารยม์ าแลว้ หรอื ไม่ ไมเ่ คยใช้ เคยใช้ (เมอ่ื ปี พ.ศ....... และผลการพจิ ารณาคณุ ภาพอยใู่ นระดบั .......... ตามเกณฑท์ ่ี ก.พ.อ. กาหนด) ๔.๓.๓ ตาราหรอื หนงั สอื ๔.๓.๓.๑ ................................................................................................. ผลงานน้เี คยใชส้ าหรบั การพจิ ารณาขอกาหนดตาแหน่งผชู้ ่วยศาสตราจารยแ์ ละ/ หรอื ตาแหน่งรองศาสตราจารย์ และ/หรอื ตาแหน่งศาสตราจารยม์ าแลว้ หรอื ไม่ ไมเ่ คยใช้ เคยใช้ (เมอ่ื ปี พ.ศ....... และผลการพจิ ารณาคณุ ภาพอยใู่ นระดบั .......... ตามเกณฑท์ ่ี ก.พ.อ. กาหนด) ๔.๓.๓.๒ ................................................................................................. ผลงานน้เี คยใชส้ าหรบั การพจิ ารณาขอกาหนดตาแหน่งผชู้ ว่ ยศาสตราจารยแ์ ละ/ หรอื ตาแหน่งรองศาสตราจารย์ และ/หรอื ตาแหน่งศาสตราจารยม์ าแลว้ หรอื ไม่ ไมเ่ คยใช้ เคยใช้ (เมอ่ื ปี พ.ศ....... และผลการพจิ ารณาคุณภาพอยใู่ นระดบั .......... ตามเกณฑท์ ่ี ก.พ.อ. กาหนด) ๔.๓.๓.๓ ................................................................................................. ผลงานน้เี คยใชส้ าหรบั การพจิ ารณาขอกาหนดตาแหน่งผชู้ ว่ ยศาสตราจารยแ์ ละ/หรอื ตาแหน่งรองศาสตราจารย์ และ/หรอื ตาแหน่งศาสตราจารยม์ าแลว้ หรอื ไม่ ไมเ่ คยใช้ เคยใช้ (เมอ่ื ปี พ.ศ....... และผลการพจิ ารณาคณุ ภาพอยใู่ นระดบั .......... ตามเกณฑท์ ่ี ก.พ.อ. กาหนด) 39

๔.๓.๔ เอกสารหลกั ฐานสาหรบั การเสนอขอกาหนดตาแหน่งทางวชิ าการตามวธิ ที ่ี ๓ ๔.๓.๔.๑ งานวจิ ยั ๑) งานวจิ ยั เรอ่ื ง.......................................................................................... ๑.๑) การเผยแพรใ่ นวารสารทางวชิ าการในฐานขอ้ มลู Scopus  Quartile1  Quartile2 ๑.๒) บทบาทหน้าท่ี  ผปู้ ระพนั ธอ์ นั ดบั แรก (first author)  ผปู้ ระพนั ธบ์ รรณกจิ (corresponding author) ๒) งานวจิ ยั เรอ่ื ง.......................................................................................... ๒.๑) การเผยแพรใ่ นวารสารทางวชิ าการในฐานขอ้ มลู Scopus  Quartile1  Quartile2 ๒.๒) บทบาทหน้าท่ี  ผปู้ ระพนั ธอ์ นั ดบั แรก (first author)  ผปู้ ระพนั ธบ์ รรณกจิ (corresponding author) ๓) งานวจิ ยั เรอ่ื ง.......................................................................................... ๓.๑) การเผยแพรใ่ นวารสารทางวชิ าการในฐานขอ้ มลู Scopus  Quartile1  Quartile2 ๓.๒) บทบาทหน้าท่ี  ผปู้ ระพนั ธอ์ นั ดบั แรก (first author)  ผปู้ ระพนั ธบ์ รรณกจิ (corresponding author) ๔.๓.๔.๒ งานวจิ ยั ทไ่ี ดร้ บั การอ้างองิ จากฐานขอ้ มลู Scopus จานวน............เรอ่ื ง ไดร้ บั การอา้ งองิ ............รายการ พรอ้ มทงั้ ส่งเอกสารหลกั ฐานทแ่ี สดงใหเ้ หน็ ว่าไดร้ บั การอา้ งองิ ในฐานขอ้ มลู Scopus ๔.๓.๔.๓ ผขู้ อ มคี า่ life-time h-index (Scopus) ......................... ๔.๓.๔.๔ โครงการวจิ ยั ทผ่ี ขู้ อเป็นหวั หน้าโครงการ (principal investigator) ไดร้ บั ทุน จากแหล่งทุนภายนอกสถาบนั (life-time) พรอ้ มทงั้ ส่งเอกสารหลกั ฐาน เช่น หน้าสญั ญา จดหมายรบั รอง จากสถาบนั อุดมศกึ ษา จดหมายรบั รองจากแหล่งทุน ๑) โครงการวจิ ยั เรอ่ื ง................................................................................... ไดร้ บั ทนุ จาก............................................................................................ ๒) โครงการวจิ ยั เรอ่ื ง................................................................................... ไดร้ บั ทนุ จาก............................................................................................ ๓) โครงการวจิ ยั เรอ่ื ง................................................................................... ไดร้ บั ทุนจาก............................................................................................ 40

ผลงานทางวชิ าการทุกประเภท ใหเ้ สนอโดยเขยี นตามหลกั ของการเขยี นเอกสารอ้างองิ อนั ประกอบดว้ ยช่อื ผแู้ ต่ง ปี พ.ศ. ช่อื เรอ่ื ง แหลง่ พมิ พ์ จานวนหน้า เป็นตน้ และกรณที เ่ี ผยแพรใ่ นวารสาร ทางวชิ าการใหร้ ะบวุ ่าอยใู่ นฐานขอ้ มลู ใดตามประกาศ ก.พ.อ. โดยระบบุ ทบาทหน้าทข่ี องผลงานแตล่ ะประเภท ตามลกั ษณะการมสี ่วนรว่ มในผลงานทางวชิ าการตามเอกสารแนบทา้ ยประกาศ ก.พ.อ. พรอ้ มทงั้ ระบุ จานวนครงั้ ทถ่ี กู อา้ งองิ (citation) และ Journal impact factor ในกรณที ม่ี ผี เู้ ขยี นรว่ มหลายคน จะตอ้ งระบุบทบาทหน้าทข่ี องผรู้ ว่ มงานทุกคนว่าทาในสว่ นไหน อย่างไร และลงนามรบั รองโดยผขู้ อ ผปู้ ระพนั ธอ์ นั ดบั แรก (first author) และผปู้ ระพนั ธบ์ รรณกจิ (corresponding author) เพ่อื ประกอบการพจิ ารณาดว้ ย ขอรบั รองว่าขอ้ ความดงั กล่าวขา้ งตน้ เป็นความจรงิ ทกุ ประการ ลงชอ่ื .................................................................เจา้ ของประวตั ิ (.................................................................) ตาแหน่ง................................................................ วนั ท.่ี ............เดอื น.............................พ.ศ. ......... 41

ส่วนท่ี ๒ แบบประเมินคณุ สมบตั ิโดยผบู้ งั คบั บญั ชา แบบประเมนิ แต่งตงั้ ใหด้ ารงตาแหน่ง...................................... (ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ /รองศาสตราจารย์ /ศาสตราจารย)์ ในสาขาวชิ า ...................................................... โดยวธิ .ี ............................................. ของ (นาย/นาง/นางสาว).................................................... สงั กดั /ภาค/สาขาวชิ า..................................................... คณะ.................................มหาวทิ ยาลยั /สถาบนั ........................................ -------------------------------- ไดต้ รวจสอบคณุ สมบตั เิ ฉพาะสาหรบั ตาแหน่ง...(ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย/์ รองศาสตราจารย/์ ศาสตราจารย)์ .. แลว้ เหน็ วา่ นาย/นาง/นางสาว................................................................................... เป็นผมู้ คี ุณสมบตั .ิ .. (ครบถว้ น/ไมค่ รบถว้ น)... ตามหลกั เกณฑท์ ่ี ก.พ.อ. กาหนด ลงช่อื ................................................... (...................................................) ตาแหน่ง ..ผบู้ งั คบั บญั ชาระดบั หวั หน้าภาควชิ าหรอื เทยี บเทา่ .. วนั ท.่ี .......เดอื น.................พ.ศ. ........ ความเหน็ ผบู้ งั คบั บญั ชาระดบั คณบดีหรอื เทียบเท่า ไดพ้ จิ ารณาแลว้ เหน็ ว่า นาย/นาง/นางสาว.................................................................... เป็นผมู้ คี ุณสมบตั ิ ...(เขา้ ข่าย/ ไมเ่ ขา้ ขา่ ย)...ทจ่ี ะไดร้ บั การแต่งตงั้ ใหด้ ารงตาแหน่ง...(ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย/์ รองศาสตราจารย/์ ศาสตราจารย)์ ... ลงชอ่ื ................................................... (...................................................) ตาแหน่ง................................................... วนั ท.่ี .......เดอื น.................พ.ศ. ........ 42

ส่วนท่ี ๓ แบบประเมินผลการสอน คณะอนุกรรมการเพอ่ื ประเมนิ ผลการสอน ในการประชุมครงั้ ท.่ี ....../.......เมอ่ื วนั ท.่ี ........ ซง่ึ ไดร้ บั มอบอานาจจากคณะกรรมการพจิ ารณาตาแหน่งทางวชิ าการ ........(มหาวทิ ยาลยั /สถาบนั )........ ไดป้ ระเมนิ ผลการสอนรหสั วชิ า......................รายวชิ า........................................ของ นาย/นาง/นางสาว ...................................................แลว้ เหน็ ว่า บุคคลดงั กลา่ วเป็นผมู้ คี วาม....(ชานาญ/ชานาญพเิ ศษ)..... ในการสอน มคี ุณภาพ...(อย/ู่ ไมอ่ ย)ู่ ....ในหลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารตามทส่ี ภาสถาบนั กาหนด ลงช่อื ........................................................... (...................................................) ตาแหน่ง ประธานคณะอนุกรรมการเพอ่ื ประเมนิ ผลการสอน วนั ท.่ี .....เดอื น...................พ.ศ. ........ 43

ส่วนที่ ๔ แบบสรปุ ผลการประเมินผลงานทางวิชาการ ตอนท่ี ๑ การพิจารณาของคณะกรรมการผทู้ รงคณุ วฒุ ิเพื่อทาหน้าที่ประเมินผลงาน ทางวิชาการและจริยธรรมและจรรยาบรรณทางวิชาการ คณะกรรมการผทู้ รงคณุ วุฒเิ พอ่ื ทาหน้าทป่ี ระเมนิ ผลงานทางวชิ าการและจรยิ ธรรมและ จรรยาบรรณทางวชิ าการ ในสาขาวชิ า...................................................ในการประชมุ ครงั้ ท.่ี ......../............. เมอ่ื วนั ท.่ี ............................รวม..........ครงั้ ประเมนิ ผลงานทางวชิ าการของ นาย/นาง/นางสาว................... ซง่ึ ขอกาหนดตาแหน่งเป็น..(ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ /รองศาสตราจารย์ /ศาสตราจารย)์ ....ในสาขาวชิ า.............. แลว้ เหน็ ว่า ๑) งานวจิ ยั ............เรอ่ื ง คณุ ภาพ..(อย/ู่ ไมอ่ ย่)ู ..ในเกณฑท์ ่ี ก.พ.อ. กาหนด.........เร่อื ง ไดแ้ ก่ ๑.๑).............................................................. คณุ ภาพอยใู่ นระดบั ............... ๑.๒).............................................................. คณุ ภาพอยใู่ นระดบั ............... ๒) ผลงานทางวชิ าการในลกั ษณะอ่นื (ผลงานวชิ าการเพ่อื อุตสาหกรรม/ ผลงานวชิ าการ เพอ่ื พฒั นาการเรยี นการสอนและการเรยี นรู/้ ผลงานวชิ าการเพอ่ื พฒั นานโยบายสาธารณะ/ กรณศี กึ ษา (case study)/ งานแปล/ พจนานุกรม สารานุกรม นามานุกรม และงานวชิ าการในลกั ษณะเดยี วกนั / ผลงาน สรา้ งสรรคด์ า้ นวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลย/ี ผลงานสรา้ งสรรคด์ า้ นสุนทรยี ะ ศลิ ปะ/ สทิ ธบิ ตั ร/ ซอฟตแ์ วร/์ ผลงานรบั ใชท้ อ้ งถน่ิ และสงั คม/ ผลงานนวตั กรรม) ............รายการ คณุ ภาพ..(อย/ู่ ไมอ่ ย่)ู ..ในเกณฑ์ ท่ี ก.พ.อ.กาหนด.........รายการ ไดแ้ ก่ ๒.๑).............................................................. คุณภาพอยใู่ นระดบั ............... ๒.๒).............................................................. คณุ ภาพอยใู่ นระดบั ............... ๓) ตารา/หนงั สอื ............เล่ม คุณภาพ..(อย/ู่ ไมอ่ ย)ู่ ..ในเกณฑท์ ่ี ก.พ.อ. กาหนด.........เล่ม ไดแ้ ก่ ๓.๑).............................................................. คุณภาพอยใู่ นระดบั ............... ๓.๒).............................................................. คุณภาพอยใู่ นระดบั ............... ๔) บทความทางวชิ าการ............เรอ่ื ง คณุ ภาพ..(อย/ู่ ไม่อย)ู่ ..ในเกณฑท์ ่ี ก.พ.อ. กาหนด ........เรอ่ื ง ไดแ้ ก่ ๔.๑).............................................................. คณุ ภาพอยใู่ นระดบั ............... ๔.๒).............................................................. คุณภาพอยใู่ นระดบั ............... 44

ผลงานทางวชิ าการทุกประเภท ใหเ้ สนอโดยเขยี นตามหลกั ของการเขยี นเอกสารอา้ งองิ อนั ประกอบดว้ ยช่อื ผแู้ ต่ง ปี พ.ศ. ชอ่ื เรอ่ื ง แหลง่ พมิ พ์ จานวนหน้า เป็นตน้ และกรณที เ่ี ผยแพรใ่ น วารสารทางวชิ าการใหร้ ะบวุ ่าอยใู่ นฐานขอ้ มลู ใดตามประกาศ ก.พ.อ. พรอ้ มทงั้ ระบุบทบาทหน้าทข่ี อง ผลงานแต่ละประเภท ตามลกั ษณะการมสี ่วนรว่ มในผลงานทางวชิ าการตามเอกสารแนบทา้ ยประกาศ ก.พ.อ. สรปุ ผลการประเมินผลงานทางวิชาการ (ประกอบด้วย: ผลงานมเี นื้อหาเกี่ยวกบั เร่ืองอะไร ผลท่ีได้รบั การนาไปใช้ประโยชน์ และแสดงให้เหน็ ถงึ ความเชี่ยวชาญอย่างไร ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ลงช่อื .......................................................... (.......................................................) ตาแหน่ง ประธานคณะกรรมการผทู้ รงคณุ วฒุ ิ เพอ่ื ทาหน้าทป่ี ระเมนิ ผลงานทางวชิ าการ และจรยิ ธรรมและจรรยาบรรณทางวชิ าการ วนั ท.่ี .....เดอื น...................พ.ศ. ......... 45

ตอนที่ ๒ การพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาตาแหน่งทางวิชาการ ก. กรณที ค่ี ณะกรรมการพจิ ารณาตาแหน่งทางวชิ าการ...(มหาวทิ ยาลยั /สถาบนั ).... ในการประชุมครงั้ ท.่ี ............เมอ่ื วนั ท.่ี ...................พจิ ารณาผลการประเมนิ ผลงานทางวชิ าการของ นาย/นาง/นางสาว................... ตามทค่ี ณะกรรมการผทู้ รงคุณวฒุ เิ พอ่ื ทาหน้าทป่ี ระเมนิ ผลงานทาง วชิ าการและจรยิ ธรรมและจรรยาบรรณทางวชิ าการเสนอ แลว้ เหน็ วา่ ..(งานวจิ ยั /ผลงานทางวชิ าการ ในลกั ษณะอ่นื /ตารา/หนงั สอื /บทความทางวชิ าการ)...คุณภาพ...(อย/ู่ ไมอ่ ย)ู่ ..ในเกณฑท์ ่ี ก.พ.อ.กาหนด และเป็นผมู้ จี รยิ ธรรมและจรรยาบรรณทางวชิ าการตามเกณฑท์ ่ี ก.พ.อ.กาหนด ข. กรณกี ารเสนอขอกาหนดตาแหน่งรองศาสตราจารย/์ ศาสตราจารย์ ตามประกาศ ก.พ.อ. โดยวธิ ที ่ี ๓ ของคณะกรรมการพจิ ารณาตาแหน่งทางวชิ าการ...(มหาวทิ ยาลยั /สถาบนั ).... ในการประชุมครงั้ ท.่ี ............เมอ่ื วนั ท.่ี ...................พจิ ารณาผลงานทางวชิ าการของ นาย/นาง/นางสาว ................... แลว้ เหน็ วา่ ผขู้ อเป็นผมู้ จี รยิ ธรรมและจรรยาบรรณทางวชิ าการตามเกณฑท์ ่ี ก.พ.อ.กาหนด และมผี ลงานทางวชิ าการตามเกณฑท์ ่ี ก.พ.อ. กาหนด ดงั น้ี ๑. งานวจิ ยั ...........เรอ่ื ง (อย่/ู ไมอ่ ย)ู่ ..ในเกณฑท์ ่ี ก.พ.อ.กาหนด...........เรอ่ื ง ไดแ้ ก่ ๑) งานวจิ ยั เรอ่ื ง.......................................................................................... ๑.๑) การเผยแพรใ่ นวารสารทางวชิ าการในฐานขอ้ มูล Scopus  Quartile1  Quartile2 ๑.๒) บทบาทหน้าท่ี  ผปู้ ระพนั ธอ์ นั ดบั แรก (first author)  ผปู้ ระพนั ธบ์ รรณกจิ (corresponding author) ๒) งานวจิ ยั เรอ่ื ง.......................................................................................... ๒.๑) การเผยแพรใ่ นวารสารทางวชิ าการในฐานขอ้ มลู Scopus  Quartile1  Quartile2 ๒.๒) บทบาทหน้าท่ี  ผปู้ ระพนั ธอ์ นั ดบั แรก (first author)  ผปู้ ระพนั ธบ์ รรณกจิ (corresponding author) ๓) งานวจิ ยั เรอ่ื ง.......................................................................................... ๓.๑) การเผยแพรใ่ นวารสารทางวชิ าการในฐานขอ้ มลู Scopus  Quartile1  Quartile2 ๓.๒) บทบาทหน้าท่ี  ผปู้ ระพนั ธอ์ นั ดบั แรก (first author)  ผปู้ ระพนั ธบ์ รรณกจิ (corresponding author) ๒. งานวจิ ยั ทไ่ี ดร้ บั การอา้ งองิ ไดเ้ สนอหลกั ฐานแสดงการไดร้ บั อ้างองิ ทางวชิ าการ ประกอบดว้ ย งานวจิ ยั จานวน...........เรอ่ื ง ไดร้ บั การอ้างองิ ...........รายการ พจิ ารณา (อย/ู่ ไมอ่ ย)ู่ ……. ในเกณฑท์ ่ี ก.พ.อ. กาหนด 46

๓. ผขู้ อ มคี ่า life-time h-index (Scopus) เทา่ กบั ....................พจิ ารณา (อย่/ู ไมอ่ ย)ู่ .. ในเกณฑท์ ่ี ก.พ.อ. กาหนด ๔. โครงการวจิ ยั ทผ่ี ขู้ อเป็นหวั หน้าโครงการ (principal investigator) ไดร้ บั ทนุ จากแหลง่ ทนุ ภายนอกสถาบนั ...............โครงการ (life-time) พจิ ารณา (อย/ู่ ไมอ่ ย)ู่ ..ในเกณฑท์ ่ี ก.พ.อ. กาหนด ผลงานทางวชิ าการทกุ ประเภท ใหเ้ สนอโดยเขยี นตามหลกั ของการเขยี นเอกสารอา้ งองิ อนั ประกอบดว้ ยช่อื ผแู้ ต่ง ปี พ.ศ. ชอ่ื เรอ่ื ง แหล่งพมิ พ์ จานวนหน้า เป็นตน้ และกรณที เ่ี ผยแพรใ่ น วารสารทางวชิ าการใหร้ ะบุว่าอยใู่ นฐานขอ้ มลู ใดตามประกาศ ก.พ.อ. พรอ้ มทงั้ ระบุบทบาทหน้าทข่ี อง ผลงานแต่ละประเภท ตามลกั ษณะการมสี ว่ นรว่ มในผลงานทางวชิ าการตามเอกสารแนบทา้ ยประกาศ ก.พ.อ. จงึ เหน็ ...(สมควร/ไมส่ มควร)...ใหก้ าหนดตาแหน่ง นาย/นาง/นางสาว.............................. เป็นตาแหน่ง..........(ผชู้ ่วยศาสตราจารย/์ รองศาสตราจารย/์ ศาสตราจารย)์ ... ในสาขาวชิ า........................ ไดต้ งั้ แต่วนั ท.่ี ................................... ซง่ึ เป็นวนั ทส่ี ภาสถาบนั ...(ไดร้ บั เรอ่ื ง/ ไดร้ บั ผลงานฉบบั ปรบั ปรุง สมบรู ณ์/ ไดร้ บั ผลงานฉบบั ตพี มิ พเ์ ผยแพร/่ อ่นื ๆ ระบุ....) และใหน้ าเสนอทป่ี ระชุมสภาสถาบนั อุดมศกึ ษา พจิ ารณาใหค้ วามเหน็ ชอบต่อไป ลงชอ่ื ....................................................... (.......................................................) ตาแหน่ง ประธาน/ เลขานุการคณะกรรมการพจิ ารณาตาแหน่งทางวชิ าการ วนั ท.่ี .....เดอื น...................พ.ศ. .......... 47

ส่วนที่ ๕ มติสภาสถาบนั อดุ มศึกษา สภามหาวทิ ยาลยั /สถาบนั .............................. ในการประชุมครงั้ ท.่ี .../......... เมอ่ื วนั ท.่ี .. เดอื น.......................พ.ศ. ....พจิ ารณาแลว้ มมี ต.ิ ..... (อนุมตั /ิ ไมอ่ นุมตั )ิ .... ๑. ใหแ้ ต่งตงั้ นาย/นาง/นางสาว................................ใหด้ ารงตาแหน่ง (ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย/์ รองศาสตราจารย/์ ศาสตราจารย)์ ในสาขาวชิ า........................................... ไดต้ งั้ แต่วนั ท.่ี ..................... ซง่ึ เป็นวนั ทส่ี ภาสถาบนั ...(ไดร้ บั เรอ่ื ง/ ไดร้ บั ผลงานฉบบั ปรบั ปรงุ สมบรู ณ์/ ไดร้ บั ผลงานฉบบั ตพี มิ พ์ เผยแพร/่ อ่นื ๆ ระบุ....) ๒. สาหรบั ตาแหน่งผชู้ ่วยศาสตราจารย์ และรองศาสตราจารย์ ใหอ้ ธกิ ารบดอี อกคาสงั่ แต่งตงั้ บคุ คลดงั กล่าวในขอ้ ๑ และแจง้ ให้ ก.พ.อ. ทราบภายในสามสบิ วนั นบั แต่วนั ทอ่ี อกคาสงั่ แต่งตงั้ พรอ้ มส่งสาเนา คาสงั่ แต่งตงั้ คณะกรรมการผทู้ รงคุณวฒุ เิ พอ่ื ทาหน้าทป่ี ระเมนิ ผลงานทางวชิ าการและจรยิ ธรรมและจรรยาบรรณ ทางวชิ าการ แบบคาขอ (แบบ ก.พ.อ. ๐๓) ผลงานทางวชิ าการ สาเนารายงานการประชุมคณะกรรมการ พจิ ารณาตาแหน่งทางวชิ าการ สาเนารายงานการประชุมสภาสถาบนั อุดมศกึ ษา พรอ้ มเอกสารหลกั ฐาน ประกอบการพจิ ารณากาหนดตาแหน่งทางวชิ าการตามท่ี ก.พ.อ. กาหนด สาหรบั ตาแหน่งศาสตราจารย์ ใหเ้ สนอ ก.พ.อ. ใหค้ วามเหน็ เพ่อื เสนอรฐั มนตรี เพอ่ื นาเสนอนายกรฐั มนตรนี าความกราบบงั คมทลู เพ่อื ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ แต่งตงั้ นาย/นาง/นางสาว.................................... ใหด้ ารงตาแหน่งศาสตราจารยใ์ นสาขาวชิ า....................... ไดต้ งั้ แต่วนั ท.่ี ................................... ซง่ึ เป็นวนั ทส่ี ภาสถาบนั ...(ไดร้ บั เรอ่ื ง/ ไดร้ บั ผลงานฉบบั ปรบั ปรงุ สมบูรณ์/ ไดร้ บั ผลงานฉบบั ตพี มิ พเ์ ผยแพร/่ อ่นื ๆ ระบุ....) พรอ้ มส่งสาเนาคาสงั่ แต่งตงั้ คณะกรรมการผทู้ รงคณุ วุฒิ เพอ่ื ทาหน้าทป่ี ระเมนิ ผลงานทางวชิ าการและจรยิ ธรรมและจรรยาบรรณทางวชิ าการ แบบคาขอ (แบบ ก.พ.อ. ๐๓) ผลงานทางวชิ าการ สาเนารายงานการประชมุ คณะกรรมการพจิ ารณาตาแหน่งทางวชิ าการ สาเนารายงาน การประชุมสภาสถาบนั อุดมศกึ ษา พรอ้ มเอกสารหลกั ฐานประกอบการพจิ ารณากาหนดตาแหน่งทาง วชิ าการตามท่ี ก.พ.อ. กาหนด ลงช่อื ......................................................... (........................................................) ตาแหน่ง นายกสภาสถาบนั /เลขานุการสภาสถาบนั วนั ท.่ี .....เดอื น...................พ.ศ. .......... 48


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook