Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Memphis SWOT Analysis Diagram Brainstorm Presentation

Memphis SWOT Analysis Diagram Brainstorm Presentation

Published by สุดารัตน์ ชนะวงค์, 2021-03-05 08:37:58

Description: Memphis SWOT Analysis Diagram Brainstorm Presentation

Search

Read the Text Version

ทฤษฎสี ี

สี(COLOUR) หมายถงึ ลักษณะกระทบตอ สายตาใหเห็นเป็น สีมผี ลถงึ จิตวทิ ยา คอื มอี าํ นาจใหเกดิ ความเขม ของแสงท่ี อารมณและความรูสึกได การท่ีไดเ หน็ สีจากสายตาสายตาจะ สงความรูสกึ ไปยงั สมองทาํ ใหเ กิดความรสู ึก ตางๆตามอิทธิพล ของสี เชน สดช่นื รอน ต่นื เตน เศรา สีมคี วามหมายอยา ง มากเพราะศิลปินตองการใชสีเป็นส่อื สรางความประทับใจใน ผลงานของศลิ ปะและสะทอนความประทบั ใจนัน้ ใหบ งั เกดิ แก ผดู มู นุษยเกี่ยวของกบั สีตางๆ

คาํ จํากดั ความของสี คุณลักษณะของสี 1. แสงที่มีความถีข่ องคล่นื ในขนาดทตี่ ามนษุ ย สแี ท (HUE) คือ สีทย่ี ังไมถูกสีอ่ืนเขาผสม สามารถรบั สัมผสั ได เป็นลักษณะของสแี ทท่มี คี วามสะอาดสดใส เชน แดง เหลอื ง น้ําเงนิ สอี อ นหรอื สีจาง(TINT) ใชเ รียกสีแทท ีถ่ กู ผสมดวยสขี าว เชน สเี ทา, สชี มพสู ีแก (SHADE) ใชเรียกสีแทท่ีถกู ผสมดวยสีดํา เชน สนี ้ําตาล 2. แมส ีทเ่ี ป็นวตั ถุ (PIGMENTARY ประวตั ิความเปนมาของสี PRIMARY) ประกอบดวย แดง เหลือง มนุษยเรม่ิ มกี ารใชสีตงั้ แตส มัยกอ นประวตั ศิ าสตร น้ํ าเงนิ มีทัง้ การเขยี นสีลงบนผนังถ้าํ ผนังหิน บนพ้นื ผวิ เคร่อื งปั้นดินเผา และทีอ่ ่ืนๆภาพเขียนสบี นผนังถ้ํา(ROCK PAINTING) เริม่ 3. สที ่เี กิดจากการผสมของแมส ี ทําตงั้ แตส มยั กอนประวัติศาสตรใ นทวีปยโุ รปโดยคนกอนสมัย ประวัติศาสตรใ นสมยั หินเกาตอนปลาย ภาพเขียนสที ี่มชี ่อื เสียงในยุคนี้ พบทป่ี ระเทศฝรัง่ เศส และประเทศสเปน ในประเทศ ไทยกรมศิลปากรได สํารวจพบภาพเขียนสีสมัยกอนประวัติศาสตรบนผนังถ้ํา และเพงิ หนิ ในท่ี ตา งๆ จะมีอายรุ ะหวา ง 1500-4000 ปี เป็นสมัยหินใหมและยคุ โลหะไดค น พบตัง้ แตป ี พ.ศ. 2465 ครงั้ แรกพบบนผนังถ้ําในอา วพังงาตอ มาก็คน พบ อกี ซ่งึ มอี ยทู วั่ ไป เชน จังหวดั กาญจนบุรี อุทัยธานี เป็นตน

สสี ามารถแยกออกเปน 2 ประเภทคือ แมส ี (PRIMARIES) สตี างๆนัน้ มอี ยมู ากมายแหลง กําเนิดของสีและวิธกี าร 1. สีธรรมชาติ เป็นสีทเ่ี กดิ ข้นึ เองธรรมชาติ เชน สี ผสมของสตี ลอดจนรสู กึ ทมี่ ตี อสขี องมนุษยแ ตละกลุม ของแสงอาทติ ยส ีของทองฟ ายามเชา เยน็ สีของ ยอ มไมเ หมอื นกันสีตางๆท่ปี รากฎนัน้ ยอ มเกดิ ข้นึ จาก รงุ กนิ น้ํา เหตกุ ารณที่เกดิ ข้ึนเองธรรมชาตติ ลอดจนสี แมส ใี นลกั ษณะที่แตกตา งกันตามชนิดและประเภทของสี ของ ดอกไม ตนไม พ้นื ดิน ทองฟ า น้ําทะเล นัน้ 2. สีทมี่ นษุ ยสรางข้ึน หรอื ไดส งั เคราะหข้ึน เชน สี วทิ ยาศาสตร มนุษยไดท ดลองจากแสงตา งๆ เชน ไฟฟ านํามาผสมโดยการทอแสงประสานกัน นํามาใช ประโยชนในดา นการละคร การจัดฉากเวที โทรทศั น การตกแตง สถานท่ี

แมส ี คือ สีท่ีนํามาผสมกนั แลวทําใหเ กิดสีใหม ที่มลี ักษณะแตกตา งไปจากสีเดิม แมส ี มอื ย2ู ชนิด คอื 1. แมส ขี องแสง เกิดจากการหกั เหของแสงผานแทง แกวปรซิ มึ มี 3 สี คือ สีแดง สีเหลือง และสีน้ําเงนิ เป็นตน 2. แมส ีวัตถธุ าตุ เป็นสที ไ่ี ดมาจากธรรมชาติ และจากการสงั เคราะหโดยกระบวน ทางเคมี มี 3 สี คอื สแี ดง สีเหลอื ง และสนี ้ําเงิน เป็นสหี ลกั ทใ่ี ชงานกันทวั่ ไปใน วงจรสี จะเเสดงสง่ิ ตางๆดังตอไปนี้

วงจรสี ( Colour Circle) สขี ัน้ ท่ี 1 : คอื แมส ไี ดแก สแี ดง สเี หลอื ง สีน้ําเงิน สขี นั้ ที่ 2 : คอื สีท่ีเกิดจากสีขัน้ ที่ 1 หรอื แมสีผสม กันในอตั ราสวนท่เี ทา กนั จะทาํ ให เกดิ สีใหม 3 สี ไดแ ก สแี ดง ผสมกบั สเี หลือง ไดส ี สม สแี ดง ผสมกับสนี าํ เงิน ไดส้ มี ว่ ง สเี หลือง ผสมกบั สีน้ําเงิน ไดส ีเขยี ว

สขี ัน้ ที่ 3 : คือ สีที่เกดิ จากสีขัน้ ท่ี 1 ผสมกับสีขัน้ ท่ี 2 ในอัตราสว นทีเ่ ทา กัน จะไดสอี ่นื ๆอกี 6 สี คอื สีแดง ผสมกบั สสี ม ไดสี สม แดง สแี ดง ผสมกับสีมวง ไดสีมว งแดง สีน้ําเงิน ผสมกบั สมี ว ง ไดส มี วงน้ําเงนิ สเี หลอื ง ผสมกับสีเขยี ว ไดสเี ขยี วเหลอื ง สนี ้ําเงนิ ผสมกับสีเขยี ว ไดสเี ขียว สีเหลอื ง ผสมกับสสี ม ไดสสี มเหลอื ง น้ํ าเงนิ

วรรณะของสี โทน โทน คือสีทใ่ี หค วามรสู กึ รอน-เยน็ ในวงจรสีจะมสี ีรอน 7 สี และ เยน็ รอน สเี ยน็ 7 สซี ่ึงแบง ท่ี สีมว งกบั สีเหลอื ง ซ่งึ เป็นไดทัง้ สองวรรณะ สีตรงขาม หรือสีตดั กันหรือสีคปู ฏปิ ักษ เป็นสีทีม่ ีคา ความ เขมของสี ตดั กันอยา งรนุ แรง ในทางปฏบิ ัตไิ มน ิยมนํามาใช รว มกันเพราะจะทําใหแ ตละสไี มส ดใสเทา ที่ควรการนําสตี รง ขา มกันมาใชรว มกัน อาจกระทาํ ไดด งั นี้ 1. มีพ้ืนทีข่ องสีหน่ึงมากอกี สหี น่ึงน อย 2. ผสมสีอ่ืนๆลงไปสสี ใี ดสหี น่ึง หรือทงั้ สองสี 3. ผสมสีตรงขา มลงไปในสที ัง้ สองสี สีกลาง คอื สีทีเ่ ขาไดกับสที กุ สสี ีกลางในวงจรสี มี 2 สี คือ สีน้ําตาล กบั สเี ทาสีน้ําตาลเกิดจากสตี รงขามกันในวงจรสี ผสมกนั ในอตั ราสว นทีเ่ ทากัน สนี ้ําตาลมีคณุ สมบตั สิ าํ คัญ คอื ใชผสมกบั สีอ่ืนแลว จะทําใหสนี ัน้ ๆ

แมส วี ตั ถุธาตุ (PIGMENTARY RRIMARIES) แมสีวัตถธุ าตุนัน้ หมายถงึ “วัตถุทีม่ สี อี ยูใ นตวั ” สามานํามาระบาย ทา ยอ ม และผสมไดเพราะมเี น้ือสแี ละสเี หมอื นตวั เอง เรียกอกี อยางหน่ึงวา แมสขี องชางเขียนสีตางๆจะเกิดข้นึ มาอีกมากมาย ดวยการผสมของแมสีซ่งึ มอี ยูดวยกัน 3 สคี อื 1. น้ําเงิน (PRUSSIAN BLUE) สะทอ นรังสขี องสนี ้ําเงนิ ออกมาแลวดึงดูด เอาสแี ดงกบั สเี หลืองเขา มา แลวผสมกันก็จะกลายเป็นสีสม ซ่ึงเป็นคสู ขี อง สีน้ํ าเงนิ 2. แดง (CRIMSON LEKE) สะทอนรังสีของสีแดงออกมาแลวดึงดูดเอา สนี ้ําเงินกับสเี หลืองซ่ึงตา งผสมกนั ในตัวแลว กลายเป็นสเี ขยี วอนั เป็นคูสีของสี แดง 3. เหลอื ง (GAMBOGE TINT) สะทอ นรังสขี องสีเหลืองออกมาแลว ดงึ ดูด เอาสีแดงกับสนี ้ําเงนิ ซ่งึ ผสมกัน ในตัวแลว กลายเป็นสีมว ง อันเป็นคูสขี องสเี หลอื ง

ระบบสี RGB เป็นระบบสขี องแสง ซ่ึงเกดิ จากการหักเหของแสงผานแทงแกว ปริซึม จะเกิดแถบสีท่ีเรียกวา สีรงุ ( Spectrum ) ซ่ึงแยกสีตามทสี่ ายตามองเห็นได 7 สี คอื แดง แสดเหลือง เขยี ว น้ําเงนิ คราม มวง ซ่งึ เป็นพลงั งานอยูในรปู ของรังสี ท่มี ชี ว งคล่ืนทสี่ ายตาสามารถมองเหน็ ได แสงสีมว งมคี วามถีค่ ล่นื สงู ทสี่ ุ คล่ืนแสง ท่ีมีความถ่สี งู กวาแสงสีมวงเรยี กวา อลุ ตราไวโอเลต ( Ultra Violet ) และคล่ืนแสงสี แดง มคี วามถีค่ ล่ืนต่ําทสี่ ุด คล่ืนแสงทต่ี ่ํากวาแสงสีแดงเรียกวา อนิ ฟราเรด ( InfraRed) คล่นื แสงท่ีมีความถ่ีสูงกวา สมี วง และต่าํ กวาสแี ดงนัน้ สายตาของ มนุษยไมส ามารถรับได และเม่อื ศกึ ษาดแู ลวแสงสีทงั้ หมดเกิดจากแสงสี 3 สี คือ สี แดง ( Red ) สีน้ําเงิน ( Blue)และสีเขียว ( Green )ทัง้ สามสถี ือเป็นแมส ี ของแสง เม่อื นํามาฉายรวมกนั จะทําใหเ กดิ สีใหม อกี 3 สี คือ สแี ดงมาเจนตา สีฟ า ไซแอนและสเี หลือง

แมสีวัตถุธาตุ แดง เหลือง และสีน้ําเงนิ นัน้ ผสมกนั แลวเกิดสีข้นึ สีขัน้ ท่ี 2 (SECONTARY HUES) เกดิ จากการนําสแี ท 2 สีมา อีกหลายสแี มส ีวัตถธุ าตุ (PIGMEMPAR YPRIMARIES) หรือ ผสมกันในปริมาณเทา กันจะเกดิ สีใหมข ้นึ น้ําเงนิ เรยี กอีกอยา งหน่ึงวา สขี นั้ ท่ีหน่ึง ผสม แดง เป็น มวง (VIOLET) น้ําเงิน ” เหลือง ” เขยี ว (GREEN) 1. น้ําเงนิ (PRUSSIAN BLUE) แดง ” เหลือง ” สม (ORANGE) 2. แดง (CRIMSOM LEKE) 3. เหลอื ง (GAMBOGE TINT) แมส ีทงั้ สามถา นํามาผสมกัน จะไดเั ป็นสีกลาง (NEUTRAL TINT)

สีขนั้ ที่3 (TERTIARYHUES) เกดิ จากการผสมสขี ัน้ ท่ี 2 กบั แม( สขี นั้ ที่ 1) ไดส ีเพิม่ ข้นึ อีกคือ เหลืองผสม เขยี ว เป็น เขยี วออน (YELLOW – GREEN) น้ําเงิน ”เขยี ว ” เขยี วแก (BLUE – GREEN) น้ําเงิน ”มวง ” มวงน้ําเงนิ (BLUE – VIOLET) แดง ”มวง ” มวงแก (RED – VIOLET) แดง ” สม” แดงสม (RED – ORANGE) เหลอื ง ”สม ” สมเหลอื ง (YELLOW – ORANGE)

แผนภาพสรปุ วงจรสี การผสมกนั ของแมสชี างเขยี นไดส ีอยู 3 ขัน้ ดังนี้ สีขัน้ ที่ 1 (Primary Color) ไดแก สีแดง สีเหลือง สีน้ําเงิน สีขัน้ ท่ี 2 (Secondary Hues) เป็นการนําเอาแมสมี าผสมกนั ในปรมิ าณเทา ๆ กนั จะไดสใี หมอ ีก 3 สี ดงั นี้ สแี ดง ผสมกบั สีเหลอื ง เป็น สีสม สีแดง ผสมกบั สีน้ําเงนิ เป็น สมี วง สีเหลือง ผสมกบั สีน้ําเงิน เป็น สีเขียว สีขนั้ ท่ี 3 (Tertiary Hues) เกดิ จากนําเอาแมสมี าผสมกบั สขี นั้ ท่ี 2 โดยจะไดสีใหมเพิม่ อกี 6 สี ดงั นี้ สแี ดง ผสม สมี ว ง เป็น สีมวงแดง สีเหลอื ง ผสม สเี ขยี ว เป็น สเี ขียวเหลอื ง สแี ดง ผสม สีสม เป็น สีสม แดง สนี ้ําเงิน ผสม สมี วง เป็น สีมว งน้ําเงนิ สีเหลือง ผสม สีสม เป็น สีสม เหลือง สีน้ําเงนิ ผสม สเี ขียว เป็น สีเขยี วน้ําเงนิ

ตารางความหมายของสี Light Green ความกลมกลืน - ความ สงบ - สนั ติภาพ สี ชอื สี ความหมายของส-ี อารมณ์ Light Blue การหยงั รู้ - โอกาส - Yellow ความสขุ - พลงั งาน - ความเจริญ - การเรยี นรู - การสรา สรรค ความเขา้ ใจ - ความอดทน - ความอ่อน Yellow-Green การเจบ็ ปวย - ความอิจฉา - ขีข้ ลาด - การแตกแยก โยน White ความบรสิ ทุ ธิ - ความดี - ความดพี รอ้ ม - ความเงียบสงบ - ความยุติธรรม Green ความอุดมสมบูรณ์ - การเติบโต Red พลัง - อัตราย - สงคราม - อํานาจ การกลับมาของมติ รภาพ Purple ความหยงั รู้ - ความทะเยอทะยาน - ความก้าวหนา้ - คามสง่างาม - อํานาจ Pink เปนมติ ร - ความรกั - ความโรแมนติก - ความเคารพ Gold สติปญญา - ความราํ รวย - ความ Orange กําลัง - ความมโี ชค - พลังชวี ติ - การใหก้ ําลังใจ - ความสขุ สวา่ ง - ความสาํ เรจ็ - โชคลาภ Light Yellow ปญญา - ความฉลาด Light Red ความรสู้ กึ ดใี จ - เรอื งทางเพศรส - ความรสู้ กึ ของความรกั Dark Yellowการตักเตือน - Light Purple เรอื งรกั ใคร่ - ความสงบ การเจบ็ ปวย -ความเสอื ม - ความอิจฉา Dark Red ความโกรธ - ความรนุ แรง ความกล้าหาญ - กําลังใจ Dark Purple ความสงู สง่ ความปรารถนา-อันแรงกล้าความหรหู รา Dark Green ความทะเยอทะยาน ความโลภ - ความรษิ ยา

ที่มา ; https://homegame9.wordpress.com/%E0%B8%97%E0%B8%A4%E0%B8%A9%E0% B8%8E%E0%B8%B5%E0%B8%AA%E0%B8%B5/


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook