ข้ันที่ ๒ จดั การเรยี นรู้ ๑. ครใู ห้นกั เรยี นรวมกลมุ่ เดิม (จากแผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี ๑) จากนนั้ ร่วมกันศึกษาความรู้เร่อื ง การแปรงฟัน อย่างถูกวธิ ี จากหนงั สือเรียนหรือบทเรยี นคอมพิวเตอร์ Smart L.O. LMS Lite หรอื เอกสาร ประกอบการสอน ตามประเด็นทก่ี ำหนด ดังนี้ ๑) การแปรงฟนั บน ๒) การแปรงฟันล่าง ๓) การแปรงฟนั บดเคยี้ ว ๔) การแปรงลน้ิ ๒. ครูสาธติ การแปรงฟนั อยา่ งถูกวธิ ีตามประเดน็ ท่ีกำหนด โดยใช้แบบจำลองฟนั ใหน้ ักเรียนดูอย่างช้าๆ เพือ่ ให้ นักเรยี นสังเกตและจดจำ ๓. ครูสุม่ เรยี กนักเรียน ๑-๒ คน ออกมาสาธติ การแปรงฟันอย่างถกู วิธี โดยใชแ้ บบจำลองฟัน ครูสงั เกตการ ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมของนักเรยี น พรอ้ มใหค้ ำแนะนำหากการปฏบิ ัติของนักเรียนมีข้อบกพร่อง ขั้นที่ ๓ สรปุ และนำหลักการไปประยุกต์ใช้ ๑. ครูตง้ั ประเดน็ คำถามใหน้ ักเรยี นแต่ละกลุ่มช่วยกนั หาคำตอบหรือแสดงความคิดเห็นร่วมกัน เช่น - เพราะเหตุใด จึงควรเปลยี่ นแปรงสีฟันทกุ ๓-๔ เดอื น - นักเรียนคดิ ว่า อปุ กรณใ์ นการแปรงฟันมีความสำคัญอย่างไร - นกั เรียนคิดวา่ การแปรงฟนั อย่างถูกวธิ ี ทำให้ฟนั สะอาดอย่างทั่วถงึ หรือไม่ จงอธิบาย - เพราะเหตุใด จงึ ควรแปรงลน้ิ เบาๆ หลังแปรงฟัน ๒. ครูให้นกั เรยี นแตล่ ะกลุม่ ร่วมกันสรปุ ขัน้ ตอนในการแปรงฟนั อยา่ งถูกวิธี และแนะนำให้นกั เรียนนำไป ประยุกต์ใช้ ในชวี ติ ประจำวนั ๓. นกั เรียนตอบคำถามกระตุ้นความคดิ ขน้ั ท่ี ๔ วดั และประเมินผล ๑. ครูวดั และประเมินผลนกั เรยี นจากการตอบประเดน็ คำถาม ๒. ครูให้นกั เรยี นทำแบบฝกึ กิจกรรม จากแบบวดั ฯ เปน็ การบ้าน เสรจ็ แลว้ ให้นำส่งครูในชัว่ โมงถัดไป ๓. ครใู หน้ ักเรยี นเตรยี มแปรงสีฟันและยาสีฟันมาในช่วั โมงถัดไป ๑๐. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้ ๑) หนังสอื เรียน สุขศกึ ษาและพลศึกษา ป.๓ ๒) สอ่ื เพาเวอรพ์ อยท์ ๓) ใบงาน
๑๑.วัดผลและประเมินผล วิธกี าร เครอื่ งมอื เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น ตรวจใบงาน แบบทดสอบก่อนเรียน (ประเมินตามสภาพจรงิ ) สังเกตพฤติกรรมการทำงาน รายบุคคล ใบงาน รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงาน ระดับคุณภาพ 2 ผา่ น รายบุคคล เกณฑ์ สังเกตความมวี นิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ ตรงตอ่ เวลา แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่าน และมีความรบั ผิดชอบ เกณฑ์ แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่าน เกณฑ์
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๑๕ กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา รายวชิ าสุขศึกษา หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๗ การดแู ลฟันของเรา ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๓ เรอื่ ง การแปรงฟนั ให้สะอาดอยา่ งถูกวธิ ี เวลา ๑ ชวั่ โมง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑.สาระสำคัญ การแปรงฟนั ใหส้ ะอาดอย่างถูกวธิ ี จะชว่ ยทำใหฟ้ นั ของเราแขง็ แรงและมีสขุ ภาพช่องปากที่ดี ๒.มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน พ ๔.๑ เห็นคุณคา่ และมีทักษะในการสร้างเสรมิ สุขภาพ การดำรงสขุ ภาพ การป้องกัน โรคและการสรา้ งเสริมสมรรถภาพเพื่อสุขภาพ ๓.ตัวชวี้ ัด ป.๓/๔ แสดงการแปรงฟันให้สะอาดอยา่ งถูกวธิ ี ๔.จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑.นกั เรียนสามารถอธิบายการเลือกอุปกรณ์ในการแปรงฟนั ได้ (K) ๒.นักเรยี นปฏิบตั ิตนแปรงฟันได้อย่างถกู ต้องและถูกวิธี (P) ๓.มีความกระตือรือร้นและสนใจเขา้ ร่วมกจิ กรรมการเรียนรู้ (A) ๕.สาระการเรยี นรู้ - การแปรงฟันใหส้ ะอาดอย่างถูกวิธี (ครอบคลมุ บรเิ วณขอบเหงือกและคอฟัน) ๖.ทักษะในศตวรรษท่ี ๒๑ ๑. ทักษะดา้ นการคิดอยา่ งมีวิจารณญาณ และทักษะในแกป้ ญั หา ๒. ทักษะด้านความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ
๗.สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น ๑.ความสามารถในการสอ่ื สาร -ผ้เู รยี นสามารถในการใชภ้ าษาถ่ายทอดความคิด ความรคู้ วามเขา้ ใจ ความรสู้ ึก และทัศนะของ ตนเองและแลกเปล่ียนขอ้ มลู ข่าวสารและประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพฒั นาตนเอง และสงั คมและมีไวพริบที่ดใี นการส่ือสาร ๒.ความสามารถในการคดิ วิเคราะห์ - ผ้เู รียนสามารถการคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ และการคิดเป็นอยา่ งเป็นระบบมีเหตผุ ลและ สามารถ ตัดสินใจได้ ๓. ความสามารถทักษะการนำความรูไ้ ปใช้ - ผู้เรียนนำความรทู้ ่ีได้รบั ไปใช้ให้เกดิ ประโยชนใ์ นการประกอบอาชีพและสามารถอยู่ร่วมกับคนใน สังคมได้ ๔.ความสามารถในการแกป้ ัญหา - ผ้เู รียนสามารถแก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่างๆไดด้ ้วยตนเอง ๘.คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ๑. ใฝเ่ รยี นรู้ -สบื ค้นขอ้ มลู เนือ้ หาสาระท่ีตอ้ งการรู้ ๒. มุ่งมั่นในการทำงาน -มีความตัง้ ใจและพยายามในหนา้ ทที่ ี่ได้รับมอบหมาย ๙.ข้นั จดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ขัน้ ที่ ๑ สังเกต รบั รู้ (วธิ สี อนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการปฏิบัติ) ๑.ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั ทบทวนความรเู้ รอื่ ง การแปรงฟันอยา่ งถูกวธิ ี โดยสุม่ นักเรยี น ๑-๒ คน สาธิตการแปรง ฟันอย่างถกู วธิ ีโดยใช้แบบจำลองฟันหนา้ ชัน้ เรยี น ๒. นกั เรียนตอบคำถามกระต้นุ ความคดิ ถ้าเราแปรงฟันไมถ่ กู วธิ ี จะเกดิ ผลเสยี อย่างไร
ขัน้ ท่ี ๒ ทำตามแบบ ๑. นกั เรยี นรวมกลุ่มเดมิ (จากแผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1) แล้วร่วมกนั ทบทวนและศึกษาความรู้เพิ่มเติมเรอ่ื ง การ แปรงฟันอยา่ งถูกวิธี จากหนังสือเรยี น หรอื บทเรยี นคอมพวิ เตอร์ Smart L.O. LMS Lite ๒. ครสู าธิตการแปรงฟันอย่างถูกวิธี โดยใชแ้ บบจำลองฟนั ใหน้ ักเรยี นดอู ีกครั้ง พรอ้ มอธิบายประกอบในแต่ละ ข้นั ตอน ดังน้ี ๑) การแปรงฟันบน ๒) การแปรงฟันล่าง ๓) การแปรงฟันบดเคย้ี ว ๔) การแปรงล้นิ ๓. นกั เรียนในแตล่ ะกลุม่ จับค่กู ัน แลว้ ฝึกการแปรงฟนั อยา่ งถกู วิธี โดยใช้แบบจำลองฟันตามแบบทีค่ รูสาธติ ขน้ั ท่ี ๓ ทำเองโดยไม่มีแบบ ๑.นักเรยี นแต่ละคนฝกึ แปรงฟนั อย่างถูกวิธโี ดยไม่มแี บบ ๒. ครสู งั เกตการปฏิบตั ิกิจกรรมของนักเรยี น พรอ้ มใหค้ ำแนะนำหากการปฏิบตั ิของนักเรียนมขี อ้ บกพร่อง ขน้ั ท่ี ๔ ฝกึ ทำใหช้ ำนาญ ๑. ครูแจกเม็ดสยี ้อมฟนั ให้นักเรียนเคย้ี ว จากนน้ั ใหน้ กั เรียนแต่ละคตู่ รวจสอบผล ถ้าฟันของนักเรียนมีเม็ดสีตดิ อยมู่ าก แสดงว่าแปรงฟนั ไม่สะอาด จากนนั้ ให้นักเรยี นหาสาเหตุของการแปรงฟันไมส่ ะอาด แล้วรว่ มกัน สรปุ ผล ๒. นกั เรยี นรว่ มกนั อภิปรายวา่ เพราะเหตุใด เราจงึ ต้องดูแลรักษาความสะอาดฟนั เพื่อใหน้ ักเรยี นเหน็ ความสำคญั และตระหนักในการรักษาสุขภาพฟัน ๑๐. สือ่ /แหลง่ การเรียนรู้ ๑) หนงั สอื เรียน สุขศึกษาและพลศึกษา ป.๓ ๒) สือ่ เพาเวอรพ์ อยท์ ๓) ใบงาน
๑๑.วัดผลและประเมินผล วิธกี าร เครอื่ งมอื เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น ตรวจใบงาน แบบทดสอบก่อนเรียน (ประเมินตามสภาพจรงิ ) สังเกตพฤติกรรมการทำงาน รายบุคคล ใบงาน รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงาน ระดับคุณภาพ 2 ผา่ น รายบุคคล เกณฑ์ สังเกตความมวี นิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ ตรงตอ่ เวลา แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่าน และมีความรบั ผิดชอบ เกณฑ์ แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่าน เกณฑ์
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๑๖ กลุ่มสาระการเรียนรู้สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา รายวิชาสุขศึกษา หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๘ ความปลอดภยั จากอบุ ัตเิ หตุ ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๓ เร่ือง สาเหตขุ องการเกิดอบุ ัตเิ หตใุ นบา้ น เวลา ๑ ช่วั โมง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑.สาระสำคญั การเกดิ อบุ ตั เิ หตุในบ้าน เป็นภัยท่ีเกดิ จากความประมาท หรือเกดิ จากสภาพแวดลอ้ มที่ไมป่ ลอดภัย ๒.มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน พ ๕.๑ ป้องกนั และหลีกเล่ียงปจั จยั เส่ียง พฤตกิ รรมเสี่ยงต่อสุขภาพ อบุ ตั ิเหตุ การใชย้ า สารเสพตดิ และความรนุ แรง ๓.ตัวช้ีวดั ป.๓/๑ ปฏบิ ตั ติ นเพื่อความปลอดภยั จากอุบัติเหตุในบ้าน โรงเรยี น และการเดินทาง ๔.จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑.นักเรยี นสามารถบอกสาเหตขุ องการเกิดอบุ ัตเิ หตุในบา้ นได้ (K) ๒.นกั เรียนปฏบิ ตั ติ นป้องกนั การเกดิ อุบตั ิเหตุในบ้านได้ (P) ๓.มีความกระตือรอื ร้นและสนใจเข้าร่วมกจิ กรรมการเรยี นรู้ (A) ๕.สาระการเรียนรู้ - สาเหตุของการเกดิ อบุ ัติเหตุในบา้ น ๖.ทักษะในศตวรรษท่ี ๒๑ ๑. ทกั ษะดา้ นการคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ และทกั ษะในแกป้ ัญหา ๒. ทักษะด้านความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ
๗.สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น ๑.ความสามารถในการสื่อสาร -ผู้เรียนสามารถในการใช้ภาษาถ่ายทอดความคดิ ความรคู้ วามเขา้ ใจ ความรู้สึก และทศั นะของ ตนเองและแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสารและประสบการณอ์ นั จะเปน็ ประโยชน์ตอ่ การพฒั นาตนเอง และสังคมและมีไวพริบที่ดใี นการส่ือสาร ๒.ความสามารถในการคิดวเิ คราะห์ - ผู้เรียนสามารถการคิดอย่างมวี ิจารณญาณ และการคิดเป็นอย่างเปน็ ระบบมีเหตผุ ลและ สามารถ ตดั สนิ ใจได้ ๓. ความสามารถทกั ษะการนำความรู้ไปใช้ - ผเู้ รียนนำความรทู้ ไ่ี ด้รับไปใชใ้ ห้เกดิ ประโยชนใ์ นการประกอบอาชีพและสามารถอยู่ร่วมกับคนใน สงั คมได้ ๔.ความสามารถในการแกป้ ญั หา - ผู้เรียนสามารถแก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่างๆได้ดว้ ยตนเอง ๘.คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ๑. ใฝ่เรยี นรู้ -สบื ค้นขอ้ มลู เน้ือหาสาระท่ตี ้องการรู้ ๒. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน -มคี วามต้งั ใจและพยายามในหน้าที่ท่ไี ดร้ บั มอบหมาย ๙.ขน้ั จัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้ันที่ ๑ สังเกต (วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการสร้างความตระหนกั ) ๑.นักเรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด ๒. ครูเล่ากรณีตวั อย่างให้นักเรยี นฟงั ดังนี้ เช้าวันจันทรใ์ บเตยต่นื สายมาก เพราะเม่ือคืนดูทีวดี ึก ใบเตยจึงว่ิงไปอาบน้ำ ดว้ ยความรีบรอ้ นใบเตยล่นื ในหอ้ งน้ำหวั ฟาดกบั ลูกบิดประตูทำให้หัวแตก จึงต้องไปเย็บแผลทีโ่ รงพยาบาล ใบเตยจงึ ไมส่ ามารถไป โรงเรียนได้ ๓. ครูตัง้ ประเด็นคำถามจากกรณีตวั อย่าง เพื่อให้นักเรยี นรว่ มกันวเิ คราะห์หาคำตอบ เช่น - สาเหตุที่ทำใหใ้ บเตยเกิดอุบัตเิ หตุ คอื อะไร - นักเรียนมวี ิธกี ารป้องกนั อบุ ัตเิ หตทุ เ่ี กดิ กบั ใบเตยอยา่ งไร ๔. ครอู ธบิ ายใหน้ กั เรยี นเข้าใจว่า อุบัตเิ หตุในบา้ น มักจะมสี าเหตุมาจากการกระทำท่ีประมาท หรือเกดิ จาก สภาพแวดลอ้ มในบรเิ วณบ้านท่ีทำให้เกดิ อันตรายได้
ข้ันที่ ๒ วเิ คราะห์วิจารณ์ ๑. ครแู บง่ นักเรียนเปน็ กลุ่ม กล่มุ ละ ๔ คน คละกันตามความ สามารถ คือ เกง่ ปานกลางค่อนข้างเกง่ ปาน กลางค่อนขา้ งอ่อน และออ่ น ๒. ครูให้นกั เรยี นแต่ละกล่มุ รว่ มกันศกึ ษาความรเู้ ร่ือง สาเหตุ ของการเกดิ อบุ ัติเหตใุ นบา้ น จากหนังสอื เรยี นหรือ บทเรียนคอมพวิ เตอร์ Smart L.O. LMS Lite ๓. นักเรยี นแตล่ ะกล่มุ ช่วยกันเขยี นแผนผงั กา้ งปลาแสดงสาเหตุของการเกิดอุบัตเิ หตุในบ้าน ๔. ครูส่มุ เรยี กตัวแทนนักเรียน ๑-๒ กล่มุ นำเสนอแผนผังกา้ งปลาแสดงสาเหตุของการเกดิ อุบัตเิ หตุในบ้านหน้า ชนั้ เรยี น ขนั้ ที่ ๓ สรุป ๑.นกั เรียนรว่ มกนั สรุปความรูเ้ รอ่ื ง สาเหตขุ องการเกดิ อุบัตเิ หตุในบ้าน ๑๐. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้ ๑) หนังสอื เรยี น สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ป.๓ ๒) สื่อเพาเวอร์พอยท์ ๓) ใบงาน ๑๑.วัดผลและประเมนิ ผล วธิ กี าร เคร่อื งมอื เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น ตรวจใบงาน แบบทดสอบก่อนเรยี น (ประเมนิ ตามสภาพจริง) สังเกตพฤติกรรมการทำงาน รายบุคคล ใบงาน รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ น สงั เกตความมีวนิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ ตรงต่อ รายบุคคล เกณฑ์ เวลา และมีความรับผิดชอบ แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่าน เกณฑ์ แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ น เกณฑ์
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑๗ กลุ่มสาระการเรยี นรูส้ ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา รายวิชาสุขศึกษา หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๘ ความปลอดภยั จากอบุ ัตเิ หตุ ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๓ เรื่อง วธิ ปี ฏบิ ตั ติ นเพ่อื ความ ปลอดภยั จากอบุ ัตเิ หตใุ นบา้ น เวลา ๑ ช่ัวโมง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑.สาระสำคญั การเกิดอบุ ตั เิ หตุในบ้านเกิดข้ึนได้ทุกเวลา ดังน้ันจึงตอ้ งเรยี นรกู้ ารปฏบิ ตั ิตนที่ถูกวธิ ีเพ่อื ความปลอดภยั ๒.มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน พ ๕.๑ ป้องกนั และหลีกเล่ยี งปจั จยั เสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ อุบัตเิ หตุ การใช้ยา สารเสพติด และความรนุ แรง ๓.ตัวชวี้ ดั ป.๓/๑ ปฏิบตั ติ นเพ่ือความปลอดภัยจากอบุ ตั ิเหตุในบา้ น โรงเรียน และการเดนิ ทาง ๔.จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑.นักเรียนสามารถบอกความปลอดภยั จากอบุ ัตเิ หตุในบา้ นได้ (K) ๒.นกั เรยี นปฏบิ ัตติ นอย่างถูกวิธีเพื่อความปลอดภยั จากอุบัติเหตใุ นบ้าน และสามารถนำไปปรับใชใ้ น ชวี ติ ประจำวันได้(P) ๓.มคี วามกระตือรือรน้ และสนใจเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้ (A) ๕.สาระการเรยี นรู้ - วธิ ีปฏบิ ัติตนเพ่อื ความปลอดภัยจากอุบัติเหตุในบ้าน ๖.ทักษะในศตวรรษที่ ๒๑ ๑. ทกั ษะดา้ นการคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณ และทักษะในแก้ปญั หา ๒. ทกั ษะด้านความรว่ มมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผนู้ ำ
๗.สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน ๑.ความสามารถในการส่ือสาร -ผู้เรยี นสามารถในการใช้ภาษาถ่ายทอดความคดิ ความร้คู วามเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของ ตนเองและแลกเปล่ยี นขอ้ มูลข่าวสารและประสบการณ์อนั จะเป็นประโยชนต์ ่อการพฒั นาตนเอง และสงั คมและมีไวพริบท่ีดใี นการสื่อสาร ๒.ความสามารถในการคิดวเิ คราะห์ - ผู้เรยี นสามารถการคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณ และการคิดเปน็ อย่างเปน็ ระบบมเี หตุผลและ สามารถ ตดั สินใจได้ ๓. ความสามารถทักษะการนำความรไู้ ปใช้ - ผเู้ รยี นนำความร้ทู ่ีได้รบั ไปใชใ้ ห้เกดิ ประโยชน์ในการประกอบอาชีพและสามารถอยู่รว่ มกับคนใน สังคมได้ ๔.ความสามารถในการแก้ปญั หา - ผูเ้ รยี นสามารถแก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่างๆได้ด้วยตนเอง ๘.คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ๑. ใฝ่เรยี นรู้ -สืบค้นข้อมลู เนอื้ หาสาระทต่ี อ้ งการรู้ ๒. มุ่งมั่นในการทำงาน -มีความตั้งใจและพยายามในหน้าท่ที ่ีได้รบั มอบหมาย ๙.ข้ันจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ขน้ั ท่ี ๑ นำเขา้ สูบ่ ทเรียน (วิธสี อนแบบ กระบวนการกลุ่มสัมพนั ธ์) ๑.นกั เรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด ๒. ครูและนกั เรียนรว่ มกันแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกับการปฏบิ ัตติ นเพ่ือความปลอดภยั จากอุบัตเิ หตุในบ้าน ข้นั ที่ จดั การเรยี นรู้ ๑. ครูให้นักเรยี นกลุม่ เดิม ร่วมกันศึกษาความรู้เรอ่ื ง วิธีปฏบิ ัตติ นเพ่ือความปลอดภยั จากอบุ ตั เิ หตุในบา้ น จาก หนงั สอื เรียนหรือบทเรียนคอมพิวเตอร์ Smart L.O. LMS Lite ๒. ครใู ห้นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มร่วมกันวิเคราะห์วิจารณ์กรณีตวั อย่าง ดังน้ี แกว้ ใสกำลงั นอนอยู่ในห้อง เธอได้ยนิ เสียงโทรศพั ท์ดงั ขนึ้ ทห่ี ้องรบั แขก จึงรีบว่งิ ลงบนั ไดเพ่ือมารบั โทรศัพท์ ขณะทแี่ กว้ ใสวิ่ง ลงมาเธอพลาดไปเหยียบถุงขนมทเี่ ธอวางไวต้ รงบนั ไดก่อนข้นึ นอน ทำให้ ล่นื ตกบนั ได และขาแพลงจนไม่สามารถเดินได้
๓. ครูต้ังประเดน็ คำถามเพ่อื ใหน้ ักเรยี นแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั ตอบคำถาม เชน่ - อุบัติเหตคุ รัง้ น้ีเกิดจากสาเหตุอะไร - วธิ ีการแก้ไขหรอื ป้องกนั อุบัติเหตุ คอื อะไร ๔. ครสู ุม่ นักเรยี น ๑-๒ กลุม่ มาแสดงบทบาทสมมตุ ิของกรณีตัวอย่างเกย่ี วกับวิธีปฏบิ ัตติ นเพื่อความปลอดภัย จากอุบัติเหตุในบ้าน ขัน้ ที่ ๓ สรุปและนำหลักการไปประยุกต์ใช้ ๑.ครใู ห้นกั เรยี นแตล่ ะกล่มุ สรุปความรเู้ กย่ี วกับวธิ ปี ฏบิ ตั ิตนเพอ่ื ความปลอดภัยจากอุบัตเิ หตุในบา้ น ๒. ครูอธบิ ายเพ่ิมเตมิ เพ่ือให้นกั เรียนมีความรู้เกี่ยวกบั การ ปฏิบัตติ นเพ่ือความปลอดภยั จากอบุ ตั ิเหตใุ นบา้ น และแนะนำใหน้ ักเรียนนำไปประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ๓. นักเรยี นตอบคำถามกระตุน้ ความคดิ การจัดบ้านใหเ้ ปน็ ระเบียบเรียบร้อยช่วยป้องกนั การเกิดอุบัตเิ หตุภายในบา้ น ได้อย่างไร ขั้นท่ี ๔ วดั และประเมนิ ผล ๑.ครูใหน้ ักเรยี นแต่ละคนทำใบงานเรอ่ื งอุบัตเิ หตุในบ้าน เมื่อทำเสร็จแล้วให้ตรวจความเรียบร้อยก่อน นำสง่ ครตู รวจ เพ่อื ให้ ครูวัดและประเมินผล ๑๐. สือ่ /แหลง่ การเรียนรู้ ๑) หนงั สือเรยี น สุขศึกษาและพลศึกษา ป.๓ ๒) ส่อื เพาเวอร์พอยท์ ๓) ใบงาน
๑๑.วัดผลและประเมินผล วิธกี าร เครอื่ งมอื เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น ตรวจใบงาน แบบทดสอบก่อนเรียน (ประเมินตามสภาพจรงิ ) สังเกตพฤติกรรมการทำงาน รายบุคคล ใบงาน รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงาน ระดับคุณภาพ 2 ผา่ น รายบุคคล เกณฑ์ สังเกตความมวี นิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ ตรงตอ่ เวลา แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่าน และมีความรบั ผิดชอบ เกณฑ์ แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่าน เกณฑ์
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๑๘ กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ุขศกึ ษาและพลศึกษา รายวิชาสุขศกึ ษา หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๘ ความปลอดภยั จากอบุ ตั ิเหตุ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ เร่ือง วธิ ีปฏิบตั ิตนเพอื่ ความ ปลอดภัยขณะเดนิ ทางด้วยเท้า เวลา ๑ ช่วั โมง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑.สาระสำคัญ การเกดิ อบุ ัติเหตุขณะเดินทางดว้ ยเท้า เปน็ ภยั ท่เี กิดขนึ้ ไดจ้ ากหลายสาเหตุ จงึ ควรศกึ ษาและปฏิบตั ติ น ตามข้อปฏิบตั ิเพื่อความปลอดภัย ๒.มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน พ ๕.๑ ป้องกันและหลกี เล่ยี งปัจจัยเส่ียง พฤติกรรมเส่ยี งต่อสุขภาพ อุบัตเิ หตุ การใชย้ า สารเสพติด และความรุนแรง ๓.ตัวช้ีวดั ป.๓/๑ ปฏบิ ตั ิตนเพ่ือความปลอดภยั จากอบุ ตั เิ หตใุ นบ้าน โรงเรียน และการเดินทาง ๔.จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๑.นกั เรยี นสามารถบอกความปลอดภยั ขณะเดินทางด้วยเทา้ ได้ (K) ๒.นักเรยี นปฏบิ ตั ติ นอย่างถกู วธิ ีเพ่ือความปลอดภยั ขณะเดนิ ทางดว้ ยเท้า และสามารถนำไปปรบั ใช้ ในชวี ติ ประจำวนั ได้(P) ๓.มีความกระตือรอื รน้ และสนใจเขา้ ร่วมกจิ กรรมการเรยี นรู้ (A) ๕.สาระการเรียนรู้ - วิธปี ฏบิ ตั ติ นเพ่อื ความปลอดภัยจากอุบัติเหตุในการเดินทาง ๖.ทักษะในศตวรรษท่ี ๒๑ ๑. ทักษะด้านการคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณ และทักษะในแกป้ ัญหา ๒. ทักษะด้านความรว่ มมือ การทำงานเปน็ ทีม และภาวะผู้นำ
๗.สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน ๑.ความสามารถในการส่ือสาร -ผ้เู รียนสามารถในการใช้ภาษาถ่ายทอดความคิด ความรคู้ วามเขา้ ใจ ความร้สู กึ และทศั นะของ ตนเองและแลกเปลยี่ นขอ้ มลู ข่าวสารและประสบการณอ์ นั จะเปน็ ประโยชนต์ อ่ การพัฒนาตนเอง และสงั คมและมไี วพรบิ ที่ดใี นการส่ือสาร ๒.ความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ - ผ้เู รยี นสามารถการคิดอยา่ งมีวิจารณญาณ และการคดิ เป็นอยา่ งเปน็ ระบบมเี หตุผลและ สามารถ ตัดสินใจได้ ๓. ความสามารถทักษะการนำความร้ไู ปใช้ - ผ้เู รียนนำความรทู้ ไี่ ด้รับไปใชใ้ ห้เกดิ ประโยชน์ในการประกอบอาชีพและสามารถอยู่ร่วมกับคนใน สงั คมได้ ๔.ความสามารถในการแกป้ ญั หา - ผู้เรยี นสามารถแก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่างๆได้ด้วยตนเอง ๘.คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ๑. ใฝเ่ รียนรู้ -สบื คน้ ข้อมูลเนื้อหาสาระท่ีต้องการรู้ ๒. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน -มคี วามตงั้ ใจและพยายามในหนา้ ท่ีท่ีไดร้ บั มอบหมาย ๙.ขัน้ จดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ขนั้ ท่ี ๑ กระตนุ้ ความสนใจ (วิธสี อนแบบ สืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) ๑.นักเรียนตอบคำถามกระตุน้ ความคิด ๒. ครูตง้ั ประเด็นคำถามให้นักเรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ เช่น - ถา้ นกั เรียนมีความจำเปน็ จะต้องเดินออกไปซ้ือของหรือทำธุระกบั ผปู้ กครองในเวลากลางคนื นักเรียน และผูป้ กครองควรเลือกสวมใส่เสอ้ื ผา้ สีใด เพราะเหตใุ ด ๓. ครูอธบิ ายใหน้ ักเรียนเขา้ ใจว่า ถ้านกั เรยี นมีความจำเปน็ จะต้องเดินออกไปซือ้ ของ หรือทำธุระในเวลา กลางคืนควรเลอื กสวมใสเ่ ส้อื ผ้าสีขาวหรือเสื้อผา้ สีสวา่ ง เพื่อปอ้ งกันการเกิดอบุ ตั เิ หตุ เพราะสดี งั กล่าวช่วยให้ ผขู้ บั ขร่ี ถยนต์สามารถมองเห็นได้อยา่ งชดั เจน
ขน้ั ท่ี ๒ สำรวจคน้ หา ๑. นกั เรยี นรวมกลุ่มเดมิ แล้วร่วมกันศึกษาความรเู้ ร่ือง วิธีปฏบิ ตั ิตนเพื่อความปลอดภัยขณะเดนิ ทางดว้ ยเทา้ จากหนังสอื เรียนหรือบทเรยี นคอมพวิ เตอร์ Smart L.O. LMS Lite หรอื เอกสารประกอบการสอนแก้วใส กำลงั นอนอยู่ในห้อง เธอไดย้ ินเสยี งโทรศพั ท์ดังขน้ึ ทห่ี ้องรับแขก จงึ รบี วิ่งลงบันไดเพ่ือมารบั โทรศพั ท์ ขณะที่ แกว้ ใสวิง่ ลงมาเธอพลาดไปเหยยี บถงุ ขนมทีเ่ ธอวางไว้ตรงบนั ไดก่อนข้นึ นอน ทำใหล้ ่นื ตกบนั ได และขาแพลง จนไม่สามารถเดนิ ได้ ขั้นที่ ๓ อธิบายความรู้ ๑.นักเรียนแตล่ ะกล่มุ นำความรู้ท่ีไดจ้ ากการศึกษาเก่ยี วกบั วธิ ปี ฏิบตั ิตนเพอ่ื ความปลอดภยั ขณะเดนิ ทางดว้ ยเทา้ มาอภปิ รายร่วมกนั ภายในกลุ่ม ๒. นกั เรียนแต่ละกล่มุ สง่ ตวั แทนออกมานำเสนอตวั อย่างวิธี ปฏิบตั ิตนเพอ่ื ความปลอดภยั ขณะเดนิ ทางด้วยเทา้ หน้าชนั้ เรียน ๓. นักเรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ ถา้ สัญญาณไฟจราจรปรากฏรปู คนเดนิ กะพรบิ นกั เรยี นควรจะข้ามถนนหรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด ข้ันท่ี ๔ ขยายความเขา้ ใจ ๑. ครจู ำลองห้องเรียนเป็นเสน้ ทางในการเดินทางมาโรงเรียน แล้วครูสร้างสถานการณใ์ หน้ กั เรียนลองฝึก ปฏิบตั ิ เชน่ - เดนิ บนทางเทา้ แต่ไม่มีทางเทา้ - ข้ามถนนบริเวณทางข้ามทม่ี ีไฟจราจรบอกสัญลักษณ์ ๒. ครูสุ่มนกั เรียน ๒-๓ กลุ่ม มาฝึกวิธีปฏบิ ัตติ นเพือ่ ความปลอดภยั ขณะเดนิ ทางด้วยเทา้ ๓. ครตู รวจสอบความถูกต้องของนักเรยี นในการฝึกปฏิบตั ิตนขณะเดินทางดว้ ยเทา้ ๔. ครใู ห้นักเรียนแตล่ ะกลุ่มทำใบงาน เรอ่ื ง ความปลอดภยั ขณะเดนิ ทางดว้ ยเท้า ๕. สมาชิกแตล่ ะกลมุ่ ช่วยกันตรวจสอบความถูกต้องของคำตอบ ๖. ครูสุ่มตวั แทนของแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอใบงานท่ี 8.3 หน้าช้นั เรยี น ครูและเพื่อนช่วยกันตรวจสอบ ความถูกตอ้ ง ๗.ครูเสนอแนะวิธีปฏบิ ัตติ นเพ่อื ความปลอดภัยขณะเดนิ ทางดว้ ยเทา้ เพื่อให้นักเรียนนำไปปฏิบัตใิ น ชีวิตประจำวนั ขน้ั ที่ ๕ ตรวจสอบผล ๑.ครตู รวจสอบผลนักเรยี นจากการแสดงบทบาทสมมตุ ิ และทำใบงาน
๑๐. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ ๑) หนงั สอื เรียน สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ป.๓ ๒) สอ่ื เพาเวอร์พอยท์ ๓) ใบงาน ๑๑.วัดผลและประเมนิ ผล วิธกี าร เครอื่ งมือ เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน ตรวจใบงาน แบบทดสอบก่อนเรียน (ประเมนิ ตามสภาพจริง) สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงาน รายบุคคล ใบงาน รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ น สังเกตความมีวนิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ ตรงต่อ รายบุคคล เกณฑ์ เวลา และมีความรบั ผดิ ชอบ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ น เกณฑ์ แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ น เกณฑ์
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๑๙ กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ขุ ศึกษาและพลศึกษา รายวชิ าสขุ ศกึ ษา หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๘ ความปลอดภัยจากอบุ ัติเหตุ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ เร่อื ง วธิ ีปฏบิ ตั ิตนเพอ่ื ความปลอดภัยขณะโดยสารรถประจำทาง เวลา ๑ ชั่วโมง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑.สาระสำคญั การเกดิ อบุ ัติเหตขุ ณะโดยสารรถประจำทาง เกดิ ขึ้นได้จากหลายสาเหตุ จงึ ควรศกึ ษาและปฏิบัตติ นตาม ข้อปฏิบตั ิเพ่ือความปลอดภยั ๒.มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน พ ๕.๑ ปอ้ งกนั และหลกี เลยี่ งปัจจยั เส่ยี ง พฤติกรรมเสยี่ งต่อสขุ ภาพ อบุ ัตเิ หตุ การใช้ยา สารเสพติด และความรนุ แรง ๓.ตวั ชว้ี ัด ป.๓/๑ ปฏบิ ัติตนเพื่อความปลอดภัยจากอุบตั เิ หตใุ นบา้ น โรงเรียน และการเดนิ ทาง ๔.จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑.นกั เรยี นสามารถบอกความปลอดภัยขณะโดยสารรถประจำทางได้ (K) ๒.นกั เรียนปฏบิ ตั ติ นอย่างถกู วธิ เี พ่ือความปลอดภัยขณะโดยสารรถประจำทาง และสามารถนำไปปรบั ใช้ ในชีวิตประจำวันได้(P) ๓.มคี วามกระตือรอื รน้ และสนใจเข้ารว่ มกิจกรรมการเรียนรู้ (A) ๕.สาระการเรียนรู้ - วธิ ปี ฏิบตั ติ นเพือ่ ความปลอดภัยจากอุบัติเหตุในการเดนิ ทาง ๖.ทกั ษะในศตวรรษที่ ๒๑ ๑. ทกั ษะดา้ นการคิดอยา่ งมีวิจารณญาณ และทกั ษะในแกป้ ัญหา ๒. ทกั ษะด้านความร่วมมือ การทำงานเปน็ ทีม และภาวะผู้นำ
๗.สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๑.ความสามารถในการสื่อสาร -ผู้เรียนสามารถในการใชภ้ าษาถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของ ตนเองและแลกเปลี่ยนขอ้ มลู ข่าวสารและประสบการณอ์ นั จะเป็นประโยชน์ต่อการพฒั นาตนเอง และสงั คมและมไี วพรบิ ท่ีดใี นการสื่อสาร ๒.ความสามารถในการคิดวเิ คราะห์ - ผู้เรียนสามารถการคดิ อยา่ งมวี ิจารณญาณ และการคดิ เปน็ อยา่ งเป็นระบบมเี หตุผลและ สามารถ ตัดสินใจได้ ๓. ความสามารถทักษะการนำความรู้ไปใช้ - ผูเ้ รยี นนำความรทู้ ่ไี ดร้ ับไปใชใ้ ห้เกิดประโยชน์ในการประกอบอาชีพและสามารถอยู่ร่วมกบั คนใน สังคมได้ ๔.ความสามารถในการแกป้ ญั หา - ผู้เรียนสามารถแก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่างๆได้ด้วยตนเอง ๘.คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ๑. ใฝ่เรยี นรู้ -สบื ค้นขอ้ มลู เนื้อหาสาระที่ตอ้ งการรู้ ๒. มุง่ มั่นในการทำงาน -มีความตั้งใจและพยายามในหนา้ ที่ที่ไดร้ ับมอบหมาย ๙.ขั้นจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้นั ท่ี ๑ สังเกต (วิธีสอนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการสรา้ งความตระหนกั ) ๑.นักเรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด ๒. ครูนำตวั อย่างข่าวอุบัติเหตุในการเดนิ ทางโดยรถประจำทาง มาเลา่ ใหน้ ักเรยี นฟัง จากนนั้ ครูถามนักเรยี นว่า อุบัติเหตจุ ากตวั อยา่ งข่าวดงั กล่าวเกดิ จากอะไร ๓. ครูชีแ้ จงให้นักเรยี นทราบว่า อบุ ตั ิเหตุในการเดินทางโดยรถประจำทางสามารถเกิดขนึ้ ได้ทุกเวลา นกั เรียนจงึ ควรตระหนักถึงการป้องกนั ตนเองให้ปลอดภยั จากอุบตั เิ หตุดังกล่าว นกั เรียนคดิ ว่า อุบัติเหตุใดบ้างทจี่ ะเกิดข้นึ ขณะใชบ้ ริการโดยสารรถประจำทาง
ขั้นท่ี ๒ วิเคราะห์วจิ ารณ์ ๑. นกั เรียนกลมุ่ เดิม (จากแผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 1) รว่ มกันศึกษาความรู้เรื่อง วธิ ปี ฏิบัติตนเพื่อความปลอดภยั ขณะโดยสารรถประจำทาง จากหนังสอื เรยี นหรือบทเรยี นคอมพิวเตอร์ Smart L.O. LMS Lite ๒. นกั เรยี นแตล่ ะกลุม่ นำความรู้ทไ่ี ดจ้ ากการศึกษามาวิเคราะห์กับตัวอยา่ งข่าววา่ ผู้ประสบเหตคุ วรปฏิบตั ติ น อยา่ งไร เพือ่ ความปลอดภัยขณะโดยสารรถประจำทาง ๓. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั สรุปผลการวเิ คราะห์ตัวอย่างขา่ ว แลว้ ออกมาแสดงวธิ ปี ฏิบัตติ นขณะโดยสารรถ ประจำทาง จากนั้นรว่ มกันสรุปผลหนา้ ชน้ั เรยี น ๔. ครูตรวจสอบความถูกต้อง และเสนอแนะเพิม่ เติมเกย่ี วกบั วิธีปฏิบตั ติ นเพอ่ื ความปลอดภัยขณะโดยสารรถ ประจำทาง ๕. ครูใหน้ กั เรยี นทำใบงาน เรื่อง ความปลอดภยั ขณะโดยสารรถประจำทาง เสรจ็ แลว้ นำส่งครูตรวจ ๖. นักเรยี นตอบคำถามกระต้นุ ความคดิ การเกิดอุบัตเิ หตใุ นการเดนิ ทางขณะทีร่ า่ งกายไม่พร้อม ท้ังผขู้ บั ขแี่ ละผู้โดยสาร มสี าเหตุมาจากอะไร ข้นั ที่ ๓ สรุป ๑.นกั เรียนรว่ มกนั สรปุ ความรู้เร่ือง วิธปี ฏบิ ัตติ นเพ่ือความปลอดภยั ขณะโดยสารรถประจำทาง จากนน้ั ครู แนะนำให้นักเรียนนำไปปรบั ใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ๑๐. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ ๑) หนังสือเรียน สขุ ศึกษาและพลศึกษา ป.๓ ๒) สื่อเพาเวอรพ์ อยท์ ๓) ใบงาน
๑๑.วัดผลและประเมินผล วิธกี าร เครอื่ งมอื เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น ตรวจใบงาน แบบทดสอบก่อนเรียน (ประเมินตามสภาพจรงิ ) สังเกตพฤติกรรมการทำงาน รายบุคคล ใบงาน รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงาน ระดับคุณภาพ 2 ผา่ น รายบุคคล เกณฑ์ สังเกตความมวี นิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ ตรงตอ่ เวลา แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่าน และมีความรบั ผิดชอบ เกณฑ์ แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่าน เกณฑ์
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๒๐ กลุ่มสาระการเรยี นร้สู ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา รายวชิ าสขุ ศึกษา หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๘ ความปลอดภยั จากอุบัติเหตุ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๓ เรื่อง วธิ ีปฏบิ ตั ิตนเพือ่ ความปลอดภัยขณะโดยสารรถจักรยานยนต์ เวลา ๑ ช่ัวโมง และข่ีรถจักรยาน ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑.สาระสำคญั การเกิดอุบตั ิเหตุขณะโดยสารรถจักรยานยนต์ และข่ีรถจักรยาน เปน็ ภัยท่เี กดิ ขึ้นไดจ้ ากหลายสาเหตุทั้ง จากตนเอง บุคคลอื่น และสง่ิ แวดล้อม จงึ ควรศึกษาและปฏบิ ตั ิตนตามข้อปฏบิ ัตเิ พื่อความปลอดภัย ๒.มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน พ ๕.๑ ปอ้ งกันและหลกี เลย่ี งปัจจยั เสย่ี ง พฤติกรรมเสีย่ งต่อสุขภาพ อบุ ัติเหตุ การใช้ยา สารเสพติด และความรุนแรง ๓.ตวั ชว้ี ัด ป.๓/๑ ปฏิบตั ติ นเพ่ือความปลอดภัยจากอบุ ตั ิเหตใุ นบ้าน โรงเรยี น และการเดินทาง ๔.จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑.นกั เรยี นสามารถบอกความปลอดภัยขณะโดยสารรถจักรยานยนต์ได้ (K) ๒.นกั เรียนปฏบิ ตั ิตนอย่างถกู วธิ เี พื่อความปลอดภัยขณะโดยสารรถจกั รยานยนต์ และข่รี ถจักรยาน แลว้ สามารถนำไปปรบั ใช้ในชวี ติ ประจำวนั ได้ (P) ๓.มีความกระตือรือร้นและสนใจเข้าร่วมกจิ กรรมการเรียนรู้ (A) ๕.สาระการเรยี นรู้ - วธิ ปี ฏิบัติตนเพ่ือความปลอดภยั จากอุบตั เิ หตุในการเดินทาง ๖.ทักษะในศตวรรษท่ี ๒๑ ๑. ทกั ษะด้านการคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณ และทกั ษะในแกป้ ัญหา ๒. ทักษะด้านความร่วมมือ การทำงานเปน็ ทีม และภาวะผู้นำ
๗.สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น ๑.ความสามารถในการส่ือสาร -ผเู้ รียนสามารถในการใชภ้ าษาถ่ายทอดความคดิ ความรคู้ วามเขา้ ใจ ความรู้สึก และทศั นะของ ตนเองและแลกเปลี่ยนขอ้ มูลข่าวสารและประสบการณอ์ นั จะเปน็ ประโยชนต์ อ่ การพฒั นาตนเอง และสังคมและมไี วพริบที่ดีในการสื่อสาร ๒.ความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ - ผู้เรียนสามารถการคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นอย่างเปน็ ระบบมเี หตุผลและ สามารถ ตัดสินใจได้ ๓. ความสามารถทักษะการนำความรไู้ ปใช้ - ผ้เู รียนนำความร้ทู ีไ่ ดร้ ับไปใช้ใหเ้ กิดประโยชน์ในการประกอบอาชีพและสามารถอยู่รว่ มกบั คนใน สังคมได้ ๔.ความสามารถในการแกป้ ัญหา - ผเู้ รียนสามารถแก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่างๆได้ด้วยตนเอง ๘.คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ๑. ใฝเ่ รียนรู้ -สืบคน้ ข้อมูลเนอื้ หาสาระทต่ี อ้ งการรู้ ๒. มุ่งมน่ั ในการทำงาน -มีความต้ังใจและพยายามในหนา้ ที่ที่ไดร้ ับมอบหมาย ๙.ขน้ั จัดกิจกรรมการเรียนรู้ ขัน้ ที่ ๑ กระตุ้นความสนใจ (วิธสี อนแบบ สืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) ๑.นกั เรียนตอบคำถามกระตุ้นความคดิ ๒. ครถู ามนักเรยี นว่า นกั เรียนเคยน่งั ซ้อนทา้ ยรถจักรยานยนต์หรอื ไม่ และมวี ธิ ปี ฏบิ ตั ติ นขณะโดยสาร รถจักรยานยนต์อย่างไร ๓. ครูอธบิ ายให้นักเรียนเขา้ ใจว่า ถ้าเรารวู้ ิธปี ฏบิ ตั ติ นเพอ่ื ความปลอดภยั ขณะโดยสารรถจกั รยานยนต์ จะช่วย ให้เราป้องกันอุบัติเหตใุ นการเดนิ ทางขณะโดยสารรถจักรยานยนต์ได้ เพราะเหตใุ ด ผขู้ ับขี่และผซู้ ้อนท้ายรถจักรยานยนตต์ ้องปฏิบตั ติ นใหถ้ ูกตอ้ งตาม กฎหมายบังคบั
ขั้นท่ี ๒ สำรวจคน้ หา ๑. นกั เรียนรวมกล่มุ เดิม (จากแผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๑) จับคู่กันเป็น ๒ คู่ ให้แตล่ ะคู่ศกึ ษาความรเู้ ร่ือง วธิ ี ปฏบิ ัตติ นเพื่อความปลอดภยั ขณะโดยสารรถจักรยานยนต์ และข่รี ถจักรยาน จากหนงั สือเรียนหรือบทเรยี น คอมพิวเตอร์ Smart L.O. LMS Lite โดยแบ่งหนา้ ที่กนั ดังนี้ - คู่ท่ี ๑ ศกึ ษาความรเู้ รื่อง วธิ ีปฏบิ ัตติ นเพอ่ื ความปลอดภัยขณะโดยสารรถจกั รยานยนต์ - คทู่ ี่ ๒ ศกึ ษาความรเู้ ร่ือง วิธปี ฏิบตั ติ นเพ่อื ความปลอดภัยขณะข่ีรถจกั รยาน ขนั้ ที่ ๓ อธบิ ายความรู้ ๑.นกั เรยี นรวมกลุ่มเดมิ (๔ คน) แลว้ ใหแ้ ตล่ ะคผู่ ลัดกนั อธบิ ายความรูท้ ่ีได้จากการศกึ ษาวธิ ปี ฏิบตั ติ นเพอ่ื ความ ปลอดภยั ขณะโดยสารรถจกั รยานยนต์ และขรี่ ถจักรยาน ให้สมาชิกอีกคหู่ นงึ่ ฟัง เพ่ือเปน็ การแลกเปลย่ี น ความรู้ความเข้าใจกันภายในกลมุ่ และซักถามข้อสงสัยจนเกดิ ความเขา้ ใจที่ตรงกัน ๒. นกั เรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ ข้อ ๑-๒ ขั้นที่ ๔ ขยายความเขา้ ใจ ๑.นกั เรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ ๒. ครูกำหนดสถานการณ์ขณะโดยสารจกั รยานยนต์ และข่ีรถจักรยาน แลว้ ใหน้ กั เรียนออกมาแสดงบทบาท สมมุติวธิ ีปฏิบตั ติ นเพือ่ ความปลอดภัยขณะโดยสารรถจกั รยานยนต์ และข่รี ถจกั รยานหน้าช้ันเรียน ๓. ครูเชอ่ื มโยงสถานการณ์ท่ีกำหนด เน้นยำ้ ให้นกั เรียนเหน็ ความสำคญั ของการสวมหมวกนิรภัยและสัญญาณ มอื ว่าเปน็ การชว่ ยสร้างความปลอดภยั ขณะโดยสารรถจกั รยานยนต์ และข่ีรถจกั รยาน ๔. ครูให้นักเรียนแตล่ ะคนทำใบงาน เรื่อง ความปลอดภัยขณะโดยสารรถจกั รยานยนต์ และขีร่ ถจักรยาน ขณะขร่ี ถจกั รยาน นกั เรียนจะมวี ธิ ใี ห้สญั ญาณกับผใู้ ช้รถบนทอ้ งถนนไดอ้ ย่างไร ขนั้ ท่ี ๕ ตรวจสอบผล ๑.ครตู รวจสอบผลนกั เรยี นจากการทำใบงาน ๒.ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ ความรู้เร่ือง วธิ ีปฏิบัตติ นเพ่ือความปลอดภยั ขณะโดยสารรถจักรยานยนต์ และขี่ รถจักรยาน
๑๐. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ ๑) หนงั สอื เรียน สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ป.๓ ๒) สอ่ื เพาเวอร์พอยท์ ๓) ใบงาน ๑๑.วัดผลและประเมนิ ผล วิธกี าร เครอื่ งมือ เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน ตรวจใบงาน แบบทดสอบก่อนเรียน (ประเมนิ ตามสภาพจริง) สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงาน รายบุคคล ใบงาน รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ น สังเกตความมีวนิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ ตรงต่อ รายบุคคล เกณฑ์ เวลา และมีความรบั ผดิ ชอบ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ น เกณฑ์ แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ น เกณฑ์
แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ ๒๑ กลุ่มสาระการเรยี นร้สู ขุ ศึกษาและพลศกึ ษา รายวิชาสขุ ศึกษา หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี ๘ ความปลอดภัยจากอบุ ัตเิ หตุ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๓ เรื่อง วิธปี ฏิบัตติ นเพอื่ ความปลอดภัยขณะโดยสารเรือ เวลา ๑ ชวั่ โมง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑.สาระสำคัญ การเกดิ อุบตั ิเหตุขณะโดยสารเรอื เปน็ ภยั ที่เกิดขึน้ ได้จากหลายสาเหตุ จงึ ควรศกึ ษาและปฏิบตั ิตนตาม ขอ้ ปฏบิ ตั เิ พือ่ ความปลอดภัย ๒.มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน พ ๕.๑ ปอ้ งกันและหลกี เล่ยี งปจั จัยเสี่ยง พฤติกรรมเสีย่ งต่อสุขภาพ อบุ ัตเิ หตุ การใชย้ า สารเสพตดิ และความรุนแรง ๓.ตวั ชี้วัด ป.๓/๑ ปฏิบตั ติ นเพ่ือความปลอดภัยจากอบุ ัตเิ หตุในบา้ น โรงเรียน และการเดินทาง ๔.จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑.นกั เรยี นสามารถบอกความปลอดภัยขณะโดยสารเรือได้ (K) ๒.นักเรียนปฏิบตั ิตนอย่างถูกวิธเี พื่อความปลอดภัยขณะโดยสารเรือ และสามารถนำไปปรับใช้ ชีวิตประจำวนั ได้(P) ๓.มีความกระตือรอื รน้ และสนใจเข้ารว่ มกจิ กรรมการเรยี นรู้ (A) ๕.สาระการเรยี นรู้ - วธิ ีปฏิบตั ติ นเพือ่ ความปลอดภัยจากอุบัติเหตุในการเดนิ ทาง ๖.ทักษะในศตวรรษท่ี ๒๑ ๑. ทักษะด้านการคิดอยา่ งมีวิจารณญาณ และทกั ษะในแก้ปญั หา ๒. ทักษะด้านความรว่ มมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผนู้ ำ
๗.สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ๑.ความสามารถในการสอื่ สาร -ผูเ้ รียนสามารถในการใช้ภาษาถ่ายทอดความคิด ความร้คู วามเข้าใจ ความรสู้ ึก และทศั นะของ ตนเองและแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสารและประสบการณ์อันจะเป็นประโยชนต์ ่อการพฒั นาตนเอง และสังคมและมไี วพริบที่ดีในการส่ือสาร ๒.ความสามารถในการคดิ วิเคราะห์ - ผ้เู รียนสามารถการคดิ อย่างมีวิจารณญาณ และการคดิ เปน็ อยา่ งเปน็ ระบบมีเหตุผลและ สามารถ ตัดสนิ ใจได้ ๓. ความสามารถทักษะการนำความรู้ไปใช้ - ผเู้ รียนนำความรทู้ ีไ่ ด้รบั ไปใช้ให้เกดิ ประโยชนใ์ นการประกอบอาชีพและสามารถอยู่ร่วมกับคนใน สงั คมได้ ๔.ความสามารถในการแกป้ ญั หา - ผู้เรียนสามารถแก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่างๆไดด้ ้วยตนเอง ๘.คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ๑. ใฝ่เรียนรู้ -สบื คน้ ขอ้ มลู เนอื้ หาสาระที่ตอ้ งการรู้ ๒. ม่งุ ม่ันในการทำงาน -มีความตง้ั ใจและพยายามในหนา้ ทที่ ไี่ ด้รบั มอบหมาย ๙.ขน้ั จัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ขนั้ ท่ี ๑ ข้ันนำเขา้ สู่บทเรยี น (วิธีสอนโดยการจดั การเรียนรู้แบบร่วมมือ : เทคนิคเลา่ เรอ่ื งรอบวง) ๑.นกั เรียนตอบคำถามกระต้นุ ความคดิ ๒. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สนทนาเกย่ี วกบั การเดนิ ทางดว้ ยเรือโดยสารจากนัน้ ใหน้ ักเรียนชว่ ยกันแสดงความ คิดเห็นวา่ การโดยสารเรอื ท่ีปลอดภยั จะตอ้ งปฏบิ ตั อิ ย่างไร ๓. ครูขออาสาสมัครทม่ี ปี ระสบการณใ์ นการเดนิ ทางดว้ ยเรือโดยสาร ออกมาเล่าประสบการณ์ใหเ้ พื่อนฟัง ถ้านกั เรยี นต้องนั่งเรือโดยสารมาเรียนทกุ วนั แต่นกั เรยี นว่ายน้ำไม่เป็น นกั เรยี นจะมีวิธี ปอ้ งกันอุบตั ิเหตุอย่างไร
ขน้ั ท่ี ๒ ข้นั สอน ๑. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคดิ ๒. นักเรยี นรวมกลุม่ เดิม (จากแผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๑) แลว้ ร่วมกนั ศกึ ษาความรเู้ ร่ือง วิธปี ฏบิ ตั ิตนเพอื่ ความ ปลอดภยั ขณะโดยสารเรือ จากหนงั สือเรยี นหรือบทเรยี นคอมพิวเตอร์ Smart L.O. LMS Lite ๓. ครใู หน้ ักเรยี นแตล่ ะคนหาขา่ วเกย่ี วกบั อบุ ัตเิ หตทุ างเรือ คนละ ๑ ข่าว จากหนงั สอื พิมพห์ รือในห้องสมุด แลว้ วเิ คราะหส์ าเหตขุ องการเกดิ อุบตั ิเหตุดังกล่าว ๔. สมาชิกในแตล่ ะกลมุ่ ผลัดเปลี่ยนกันอธบิ ายวธิ ปี ฏิบตั ติ นเพ่ือความปลอดภยั ขณะโดยสารเรือ ใหเ้ กี่ยวข้องกับ สาเหตขุ องการเกิดอบุ ตั ิเหตุทางเรอื ดังกล่าว โดยสมาชกิ กลุ่มรว่ มกันกำหนด เวลาในการนำเสนอผลงานของ ตนตามความเหมาะสม จนครบทกุ คน ๕. สมาชิกในกลมุ่ ซักถามหรือแสดงความคดิ เหน็ เพม่ิ เตมิ เพื่อใหม้ ีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับวธิ ปี ฏบิ ตั ิ ตนเพอ่ื ความปลอดภยั ขณะโดยสารเรือ ๖. นกั เรยี นแต่ละกล่มุ ร่วมกนั สรุปวธิ ีปฏิบตั ิตนเพอ่ื ความปลอดภยั ขณะโดยสารเรอื ทไี่ ด้จากการฟังเพือ่ นเลา่ แลว้ ออกมาแสดงบทบาทสมมุติวิธปี ฏบิ ตั ิตนเพ่ือความปลอดภัยขณะโดยสารเรือให้เกย่ี วข้องกับสาเหตขุ องการเกิด อบุ ัติเหตุทางเรือดังกล่าว หน้าชนั้ เรยี น ๗. ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั อภิปรายเก่ียวกับวธิ ีปฏบิ ตั ิตนเพื่อความปลอดภัยขณะโดยสารเรอื จากการแสดง บทบาทสมมุติ ๘. นกั เรยี นแต่ละคนทำใบงานเร่ือง ความปลอดภยั ขณะโดยสารเรอื เสร็จแลว้ นำส่งครตู รวจ นกั เรียนคิดว่า อุบัติเหตทุ ่เี กดิ ข้นึ ขณะโดยสารเรอื มีสาเหตุมาจากอะไร ขั้นที่ ๓ ข้ันสรปุ ๑.นักเรียนและครรู ่วมกันสรุปวธิ ีปฏิบตั ติ นเพอื่ ความปลอดภยั ขณะโดยสารเรือ โดยการเขียนเป็นแผนผัง ก้างปลา ๒. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคดิ ถ้าไมม่ ีเสือ้ ชชู พี นักเรียนคดิ วา่ จะหาสิง่ ใดมาแทนได้ เม่ือเกดิ อบุ ตั ิเหตุทางเรอื
๑๐. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ ๑) หนงั สอื เรียน สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ป.๓ ๒) สอ่ื เพาเวอร์พอยท์ ๓) ใบงาน ๑๑.วัดผลและประเมนิ ผล วิธกี าร เครอื่ งมือ เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน ตรวจใบงาน แบบทดสอบก่อนเรียน (ประเมนิ ตามสภาพจริง) สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงาน รายบุคคล ใบงาน รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ น สังเกตความมีวนิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ ตรงต่อ รายบุคคล เกณฑ์ เวลา และมีความรบั ผดิ ชอบ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ น เกณฑ์ แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ น เกณฑ์
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๒๒ กลุ่มสาระการเรยี นร้สู ุขศกึ ษาและพลศกึ ษา รายวิชาสุขศึกษา หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๘ ความปลอดภัยจากอบุ ตั เิ หตุ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๓ เร่ือง การปฏิบัตติ นเพอื่ ความปลอดภยั จากอุบัติเหตุต่างๆ เวลา ๑ ช่ัวโมง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑.สาระสำคัญ การปฏิบตั ิตนเพ่อื ความปลอดภยั จากอุบตั เิ หตุต่างๆ ควรศกึ ษาและปฏิบตั ิตนตามขอ้ ปฏิบัตเิ พ่อื ความ ปลอดภัย ๒.มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน พ ๕.๑ ปอ้ งกันและหลกี เลี่ยงปจั จยั เสีย่ ง พฤติกรรมเสยี่ งต่อสุขภาพ อบุ ัตเิ หตุ การใชย้ า สารเสพติด และความรุนแรง ๓.ตวั ช้วี ัด ป.๓/๑ ปฏิบัติตนเพ่ือความปลอดภัยจากอบุ ัติเหตุในบ้าน โรงเรียน และการเดินทาง ๔.จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑.นกั เรียนสามารถบอกความปลอดภยั จากอุบัติเหตุต่างๆได้ (K) ๒.นกั เรียนปฏิบตั ติ นเพอ่ื ความปลอดภยั จากอุบตั เิ หตตุ ่างๆ อยา่ งถูกวิธไี ด้(P) ๓.มคี วามกระตือรือร้นและสนใจเข้าร่วมกจิ กรรมการเรียนรู้ (A) ๕.สาระการเรียนรู้ - วิธีปฏิบตั ิตนเพอ่ื ความปลอดภยั จากอบุ ตั ิเหตุในการเดินทาง ๖.ทักษะในศตวรรษท่ี ๒๑ ๑. ทักษะดา้ นการคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณ และทักษะในแกป้ ญั หา ๒. ทักษะด้านความรว่ มมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผูน้ ำ
๗.สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น ๑.ความสามารถในการสอ่ื สาร -ผูเ้ รยี นสามารถในการใชภ้ าษาถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สกึ และทัศนะของ ตนเองและแลกเปลยี่ นขอ้ มูลข่าวสารและประสบการณอ์ ันจะเป็นประโยชนต์ อ่ การพัฒนาตนเอง และสงั คมและมีไวพริบท่ีดใี นการส่ือสาร ๒.ความสามารถในการคดิ วิเคราะห์ - ผเู้ รียนสามารถการคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณ และการคดิ เปน็ อยา่ งเป็นระบบมเี หตุผลและ สามารถ ตดั สินใจได้ ๓. ความสามารถทักษะการนำความรู้ไปใช้ - ผู้เรียนนำความรู้ท่ีไดร้ บั ไปใช้ใหเ้ กิดประโยชน์ในการประกอบอาชีพและสามารถอยู่ร่วมกับคนใน สงั คมได้ ๔.ความสามารถในการแก้ปัญหา - ผเู้ รียนสามารถแก้ไขปัญหาและอปุ สรรคต่างๆไดด้ ว้ ยตนเอง ๘.คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ๑. ใฝ่เรยี นรู้ -สบื คน้ ข้อมลู เน้ือหาสาระท่ีตอ้ งการรู้ ๒. ม่งุ ม่ันในการทำงาน -มีความตง้ั ใจและพยายามในหน้าท่ีท่ไี ดร้ บั มอบหมาย ๙.ขนั้ จัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ขัน้ ที่ ๑ เตรยี มการ (วิธสี อนโดยใช้การ แสดงบทบาทสมมุติ) ๑.นกั เรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด ๒. ครูทบทวนวธิ ปี ฏิบตั ิเพือ่ ความปลอดภัยจากอุบตั เิ หตุตา่ งๆ จากหนังสอื เรียน ๓. นกั เรยี นรวมกลุ่มเดิม (จากแผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี ๑) ครแู จง้ ใหน้ ักเรยี นทราบวา่ จะให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม กำหนดสถานการณก์ ารเกิดอุบตั เิ หตุ และแสดงบทบาทสมมุติวิธกี ารปฏบิ ตั ิตนเพ่ือความปลอดภัยจาก อบุ ตั เิ หตตุ า่ งๆ โดยให้ตัวแทนกลุ่มออกมาจับสลาก ดังนี้ - หมายเลข ๑ วิธีการปฏิบตั ิตนเพอ่ื ความปลอดภยั จากอบุ ตั ิเหตุในบา้ น - หมายเลข ๒ วธิ กี ารปฏบิ ตั ิตนเพอ่ื ความปลอดภัยจากอบุ ตั ิเหตุในโรงเรยี น - หมายเลข ๓ วธิ กี ารปฏบิ ตั ิตนเพอ่ื ความปลอดภัยขณะเดนิ ทางด้วยเท้า - หมายเลข ๔ วธิ ีการปฏิบัติตนเพือ่ ความปลอดภยั ขณะโดยสารรถประจำทาง - หมายเลข ๕ วธิ กี ารปฏบิ ัติตนเพ่ือความปลอดภยั ขณะโดยสารรถไฟฟา้ - หมายเลข ๖ วิธกี ารปฏบิ ัตติ นเพ่ือความปลอดภัยขณะโดยสารรถจักรยานยนต์ และขร่ี ถจักรยาน - หมายเลข ๗ วิธีการปฏิบัติตนเพื่อความปลอดภยั ขณะโดยสารเรอื
ขัน้ ที่ ๒ แสดง ๑. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ แบ่งหน้าทค่ี วามรับผดิ ชอบใหส้ มาชิกแต่ละคนในกลมุ่ ตามความสามารถหรือความถนัด พร้อมกับรว่ มกนั วางแผนในการแสดง ๒. ครชู ่วยอธิบายความรูเ้ กยี่ วกับวิธีการปฏิบัตติ นเพอื่ ความปลอดภยั จากอบุ ตั ิเหตตุ ่างๆ ให้นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มมี ความเขา้ ใจชัดเจนยง่ิ ขน้ึ ๓. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ออกมาแสดงบทบาทสมมตุ ติ ามทีจ่ บั สลากได้ ใหเ้ พื่อนและครดู จู นครบทกุ กลุม่ ข้นั ที่ ๓ วิเคราะห์และอภปิ ราย ๑.ครใู หน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มผลดั กันแสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกบั การแสดงบทบาทสมมตุ ขิ องกลุ่มตนเองและของ กลุม่ เพ่ือน เป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกนั โดยการบอกจดุ ดแี ละขอ้ บกพรอ่ ง เพื่อให้แต่ละกลมุ่ กลับไป ปรับปรุงในสว่ นทบี่ กพร่อง และครูคอยให้คำแนะนำเพิ่มเติม ขน้ั ท่ี ๔ แสดงเพ่ิมเติม ๑.นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มช่วยกันปรับปรุงจุดบกพร่องในการแสดงตามคำแนะนำทีไ่ ด้จากเพื่อนและครู ๒.ครใู หน้ ักเรียนกลุ่มท่ีแสดงบทบาทสมมุตยิ งั ไม่สมบรู ณ์ไม่ตรงตามประเดน็ ท่ีครูกำหนด ออกมาแสดง บทบาทสมมตุ ใิ หม่อีกครง้ั ขั้นท่ี ๕ แลกเปล่ยี นประสบการณ์และสรปุ ๑.นักเรยี นรว่ มกนั แสดงความคิดเหน็ เก่ียวกับความรูท้ ่ีไดจ้ ากการแสดงบทบาทสมมตุ ิของแตล่ ะกลุ่ม ๒.ครเู น้นย้ำให้นักเรียนตระหนกั ถึงการปฏบิ ตั ิตนเพื่อความปลอดภยั จากอุบตั เิ หตตุ า่ งๆ และนำความรู้ท่ีไดจ้ าก การเรียนไปปรับใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ๑๐. ส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้ ๑) หนังสือเรียน สุขศกึ ษาและพลศึกษา ป.๓ ๒) สื่อเพาเวอรพ์ อยท์ ๓) ใบงาน
๑๑.วัดผลและประเมินผล วิธกี าร เครอื่ งมอื เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น ตรวจใบงาน แบบทดสอบก่อนเรียน (ประเมินตามสภาพจรงิ ) สังเกตพฤติกรรมการทำงาน รายบุคคล ใบงาน รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงาน ระดับคุณภาพ 2 ผา่ น รายบุคคล เกณฑ์ สังเกตความมวี นิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ ตรงตอ่ เวลา แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่าน และมีความรบั ผิดชอบ เกณฑ์ แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่าน เกณฑ์
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๒๓ กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ขุ ศึกษาและพลศึกษา รายวชิ าสขุ ศกึ ษา หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๘ ความปลอดภัยจากอบุ ัติเหตุ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๓ เร่ือง การขอความช่วยเหลือ เมือ่ เกิดอุบัติเหตุ เวลา ๑ ชัว่ โมง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑.สาระสำคัญ เมือ่ เกิดอุบัติเหตหุ รือเหตุรา้ ยกบั ตนเองหรอื บุคคลอื่น ควรขอความชว่ ยเหลือจากบุคคลและแหลง่ ตา่ งๆ ให้ถกู ต้องและเหมาะสม ๒.มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน พ ๕.๑ ป้องกันและหลกี เล่ียงปจั จยั เสีย่ ง พฤติกรรมเส่ียงต่อสขุ ภาพ อบุ ัตเิ หตุ การใชย้ า สารเสพติด และความรนุ แรง ๓.ตัวช้ีวดั ป.๓/๒ แสดงวธิ ีขอความชว่ ยเหลอื จากบคุ คลและแหล่งตา่ งๆ เมื่อเกดิ เหตรุ า้ ยหรืออบุ ัติเหตุ ๔.จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑.นกั เรยี นสามารถบอกวิธขี อความช่วยเหลอื จากบุคคลและแหล่งต่างๆเม่ือเกดิ เหตุร้ายหรืออบุ ัตเิ หตุได้ (K) ๒.นกั เรยี นปฏิบัตติ นขอความช่วยเหลือจากบุคคลและแหล่งตา่ งๆเมื่อเกิดเหตรุ า้ ยหรืออุบตั ิเหตไุ ด้ (P) ๓.มคี วามกระตือรือรน้ และสนใจเข้ารว่ มกิจกรรมการเรียนรู้ (A) ๕.สาระการเรยี นรู้ - การขอความชว่ ยเหลอื จากบุคคลและแหล่งตา่ งๆ เม่อื เกิดเหตรุ า้ ยหรอื อบุ ัตเิ หตุ ๖.ทกั ษะในศตวรรษท่ี ๒๑ ๑. ทักษะดา้ นการคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณ และทกั ษะในแกป้ ญั หา ๒. ทักษะด้านความร่วมมือ การทำงานเปน็ ทีม และภาวะผ้นู ำ
๗.สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน ๑.ความสามารถในการสื่อสาร -ผู้เรียนสามารถในการใชภ้ าษาถ่ายทอดความคิด ความรูค้ วามเข้าใจ ความรูส้ ึก และทศั นะของ ตนเองและแลกเปล่ยี นข้อมูลข่าวสารและประสบการณ์อันจะเปน็ ประโยชนต์ ่อการพัฒนาตนเอง และสังคมและมไี วพริบท่ีดใี นการส่ือสาร ๒.ความสามารถในการคดิ วิเคราะห์ - ผเู้ รียนสามารถการคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณ และการคดิ เปน็ อย่างเปน็ ระบบมเี หตุผลและ สามารถ ตัดสนิ ใจได้ ๓. ความสามารถทักษะการนำความรู้ไปใช้ - ผเู้ รียนนำความรู้ที่ไดร้ บั ไปใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์ในการประกอบอาชีพและสามารถอยู่ร่วมกบั คนใน สังคมได้ ๔.ความสามารถในการแก้ปญั หา - ผู้เรยี นสามารถแก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่างๆไดด้ ว้ ยตนเอง ๘.คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ๑. ใฝ่เรียนรู้ -สืบค้นข้อมูลเนื้อหาสาระทต่ี อ้ งการรู้ ๒. มุ่งม่ันในการทำงาน -มคี วามตั้งใจและพยายามในหนา้ ทท่ี ีไ่ ดร้ ับมอบหมาย ๙.ขนั้ จัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ขน้ั ท่ี ๑ สังเกต (วิธีสอนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการสรา้ งความตระหนกั ) ๑.นักเรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ ๒. ครเู ลา่ กรณตี ัวอยา่ ง เรื่อง น้ำฝนกับน้อยหนา่ ใหน้ ักเรียนฟัง น้ำฝนกับนอ้ ยหน่า อาศัยอยใู่ นย่านการค้าที่มีชาวจนี อาศยั อยมู่ ากมาย เมื่อถงึ เทศกาลตรุษจีนก็จะมี การจดั พธิ ไี หว้เจ้าในแตล่ ะบ้าน นำ้ ฝนและนอ้ ยหน่ากำลังจะเข้านอนเพราะว่าทำการบ้านเสรจ็ ดกึ มาก น้ำฝน : น้อยหนา่ ได้กล่นิ อะไรไหม น้อยหน่า : ออื ...กล่นิ เหม็นไหม้ใช่ไหม น้ำฝน : ใช่ๆๆ ง้ันเราชว่ ยกันหาทศิ ทางทีม่ าของกลิน่ เหม็นไหม้กนั เถอะ น้อยหน่า : น่ันไง บา้ นเจจ๊ งแนๆ่ เพราะเขาไหวเ้ จ้ากนั น้ำฝน : พวกเราต้องโทรบอกเจจ๊ ง น้อยหน่า : ไมด่ ีกว่า เผื่อว่าไม่ใช่ เดีย๋ วเคา้ จะว่าเราได้ น้ำฝน : ถา้ บ้านเจ๊จงไหม้ กจ็ ะลามถงึ บา้ นเราแน่ๆ... งัน้ เราโทรแจง้ ตำรวจดไี หม
๓. นกั เรียนชว่ ยกันแสดงความคิดเห็น ตามประเดน็ ทก่ี ำหนด ดงั น้ี - นำ้ ฝนและน้อยหน่าควรแจ้งตำรวจหรือไม่ เพราะเหตุใด - ถ้าน้ำฝนและน้อยหน่าไม่ไดโ้ ทรแจ้งตำรวจ คิดวา่ เหตุการณ์ใดจะเกิดขึน้ เพราะเหตใุ ด ๔. ครอู ธิบายให้นกั เรยี นฟงั วา่ การเกดิ อุบตั ิเหตหุ รือเหตรุ า้ ย ควรขอความช่วยเหลอื อยา่ งทันท่วงที เพ่ือความ ปลอดภัยของตนเองและผู้อ่ืน ขั้นที่ ๒ วเิ คราะห์วิจารณ์ ๑. ครูให้นักเรียนชว่ ยกันยกตัวอย่างบคุ คล องค์กร หรอื แหลง่ ทใ่ี หค้ วามช่วยเหลือเม่ือเกิดอบุ ัตเิ หตุ หรือเหตุร้าย ตา่ ง ๒. นกั เรียนรวมกลุ่มเดิม (จากแผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ ๑) รว่ มกันศกึ ษาความรูเ้ ร่ือง การขอความช่วยเหลือเม่ือ เกิดอุบตั ิเหตุ จากหนงั สือเรยี นหรือบทเรยี นคอมพวิ เตอร์ Smart L.O. LMS Lite ๓. นกั เรียนแต่ละกลุ่มรว่ มกนั วิเคราะห์วจิ ารณก์ รณตี วั อยา่ ง เรื่อง อุบัติเหตขุ องปานวาด ปานวาด ตื่นสายมาก จึงไม่ทันรถโรงเรยี น เธอจงึ ตัดสินใจ ป่นั รถจกั รยานไปโรงเรยี นด้วยความรบี รอ้ น ขณะทป่ี านวาดเลย้ี วออกจากปากซอยกถ็ ูกรถจักรยานยนตเ์ ฉีย่ วชน จนรถจักรยานเสยี หลักลม้ และมี แผลขนาดใหญ่บริเวณหวั เขา่ และน้ิวเท้า ๔. ครสู ุม่ นกั เรยี น ๒-๓ กลมุ่ ออกมาแสดงบทบาทสมมุติวธิ ีปฏบิ ัติตนเพื่อความปลอดภยั และขอความช่วยเหลอื จากอุบตั เิ หตุของปานวาด ๕. นกั เรียนตอบคำถามกระตุน้ ความคดิ ข้ันที่ ๓ สรปุ ๑. นักเรยี นร่วมกนั สรุปความรูเ้ ร่ือง การขอความช่วยเหลือเมือ่ เกดิ อุบตั ิเหตุ ๒. ครใู หน้ ักเรียนทำแบบฝึกกจิ กรรม จากแบบวดั ฯ เปน็ การบ้าน เสรจ็ แลว้ นำส่งครูตรวจในชวั่ โมงถัดไป ครมู อบหมายใหน้ กั เรยี นแต่ละกลุ่มสาธติ การป้องกันอุบตั ิเหตุ และขอความช่วยเหลอื เม่อื เกิดอบุ ัติเหตุ โดยใหค้ รอบคลุมประเด็นตามท่ีกำหนด ดงั น้ี 1) การปฏบิ ัติตนเพื่อความปลอดภัยและขอความช่วยเหลอื เม่ือเกดิ อุบัติเหตุในบ้าน 2) การปฏิบตั ิตนเพื่อความปลอดภัยและขอความชว่ ยเหลือเม่ือเกดิ อุบัติเหตุในโรงเรยี น 3) การปฏิบตั ิตนเพ่ือความปลอดภัยและขอความชว่ ยเหลอื เมื่อเกดิ อบุ ตั ิเหตใุ นการเดินทาง
๑๐. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ ๑) หนงั สอื เรียน สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ป.๓ ๒) สอ่ื เพาเวอร์พอยท์ ๓) ใบงาน ๑๑.วัดผลและประเมนิ ผล วิธกี าร เครอื่ งมือ เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน ตรวจใบงาน แบบทดสอบก่อนเรียน (ประเมนิ ตามสภาพจริง) สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงาน รายบุคคล ใบงาน รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ น สังเกตความมีวนิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ ตรงต่อ รายบุคคล เกณฑ์ เวลา และมีความรบั ผดิ ชอบ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ น เกณฑ์ แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ น เกณฑ์
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๒๔ กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ุขศกึ ษาและพลศึกษา รายวิชาสขุ ศึกษา หน่วยการเรียนรู้ที่ ๙ การบาดเจ็บจากการเล่น ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๓ เรอื่ ง การบาดเจบ็ จากการเล่น เวลา ๑ ชัว่ โมง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑.สาระสำคญั การบาดเจบ็ จากการเล่นเป็นอุบัตเิ หตุที่สามารถเกิดขนึ้ ได้บ่อย และเกดิ จากการเล่นหลายลกั ษณะ ๒.มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน พ ๕.๑ ปอ้ งกันและหลีกเลยี่ งปัจจัยเสี่ยง พฤติกรรมเสย่ี งต่อสขุ ภาพ อุบัตเิ หตุ การใช้ยา สารเสพติด และความรนุ แรง ๓.ตวั ชีว้ ัด ป.๓/๓ แสดงวิธีปฐมพยาบาลเมื่อบาดเจบ็ จากการเล่น ๔.จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๑.นักเรยี นสามารถบอกสาเหตขุ องการบาดเจบ็ จากการเล่นได้ (K) ๒.นักเรยี นปฏิบตั ติ นขอความชว่ ยเหลือจากบุคคลและแหล่งตา่ งๆเม่ือเกิดเหตรุ ้ายหรืออบุ ตั ิเหตุได้ (P) ๓.มีความกระตือรือรน้ และสนใจเข้ารว่ มกจิ กรรมการเรียนรู้ (A) ๕.สาระการเรยี นรู้ - ลักษณะของการบาดเจ็บ ๖.ทกั ษะในศตวรรษที่ ๒๑ ๑. ทกั ษะด้านการคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ และทกั ษะในแกป้ ญั หา ๒. ทักษะด้านความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ
๗.สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น ๑.ความสามารถในการส่อื สาร -ผู้เรยี นสามารถในการใชภ้ าษาถ่ายทอดความคดิ ความรูค้ วามเขา้ ใจ ความรู้สกึ และทศั นะของ ตนเองและแลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสารและประสบการณ์อนั จะเปน็ ประโยชน์ตอ่ การพัฒนาตนเอง และสังคมและมีไวพริบที่ดีในการสื่อสาร ๒.ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ - ผู้เรียนสามารถการคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณ และการคิดเปน็ อย่างเป็นระบบมเี หตุผลและ สามารถ ตัดสนิ ใจได้ ๓. ความสามารถทกั ษะการนำความรูไ้ ปใช้ - ผเู้ รยี นนำความรทู้ ี่ไดร้ บั ไปใช้ใหเ้ กิดประโยชน์ในการประกอบอาชีพและสามารถอยู่รว่ มกบั คนใน สังคมได้ ๔.ความสามารถในการแก้ปัญหา - ผูเ้ รียนสามารถแก้ไขปัญหาและอปุ สรรคต่างๆไดด้ ้วยตนเอง - ๘.คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ๑. ใฝเ่ รยี นรู้ -สืบค้นขอ้ มลู เน้ือหาสาระทต่ี อ้ งการรู้ ๒. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน -มีความตง้ั ใจและพยายามในหน้าทท่ี ไ่ี ดร้ ับมอบหมาย ๙.ขน้ั จดั กิจกรรมการเรียนรู้ ขน้ั ที่ ๑ กระตุ้นความสนใจ (วิธีสอนแบบ สืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) ๑.นกั เรียนตอบคำถามกระต้นุ ความคดิ ๒. ครใู ห้นักเรยี นสำรวจร่างกายของตนเองวา่ มีบาดแผลหรือรอยแผลเป็นหรอื ไม่ จากนน้ั ให้นักเรียนบอกว่า บาดแผลหรอื รอยแผลเปน็ ดังกลา่ ว เกดิ จากสาเหตุใด ๓. ครสู มุ่ นกั เรียน ๒-๓ คน ออกมาเลา่ เหตกุ ารณ์ที่ทำใหเ้ กดิ บาดแผลดงั กลา่ วใหเ้ พื่อนฟัง หน้าช้ันเรยี น
ขัน้ ที่ ๒ สำรวจค้นหา ๑. ครูแบ่งนกั เรยี นเปน็ กลุ่ม กล่มุ ละ ๔ คน คละกนั ตามความ สามารถ คือ เก่ง ปานกลางคอ่ นข้างเก่ง ปาน กลางค่อนข้างอ่อน และอ่อน ๒. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั ศกึ ษาความรู้เร่ือง การบาดเจบ็ จากการเลน่ จากหนังสอื เรยี นหรอื บทเรยี น คอมพิวเตอร์ Smart L.O. LMS Lite หรอื หอ้ งสมุด ๓. นักเรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคดิ การเล่นแบบใดทที่ ำให้เกิดการบาดเจบ็ ได้มากที่สุด เพราะเหตุใด ข้ันที่ ๓ อธิบายความรู้ ๑. นักเรยี นแตล่ ะคนอธบิ ายความรทู้ ี่ได้จากการศกึ ษากบั เพื่อนสมาชกิ ในกลมุ่ ผลัดกนั ซักถามข้อสงสัย จนทุก คนมคี วามรู้ความเขา้ ใจท่ีตรงกัน ๒. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั วเิ คราะห์ตัวอย่างเหตุการณ์ท่ี ๑ และตวั อยา่ งเหตกุ ารณ์ท่ี ๒ จากหนงั สอื เรียน ตามประเดน็ ท่กี ำหนด และถามนกั เรยี นวา่ ถ้าเป็นตัวนักเรียนจะทำอยา่ งไรและให้นักเรยี นตอบคำถามตาม ประเดน็ ที่กำหนด ดังนี้ ๑) การบาดเจ็บท่ีเกิดข้ึนคืออะไร ๒) สาเหตขุ องการบาดเจ็บเกดิ จากอะไร ๓) มวี ธิ ีการปฐมพยาบาลอย่างไร และใชอ้ ปุ กรณ์ในการ ปฐมพยาบาลอะไรบา้ ง ๓. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคดิ นกั เรยี นคิดว่า การเลน่ อุปกรณ์ตา่ งๆ ในสนามเด็กเล่น จะทำใหเ้ กดิ การบาดเจ็บ ในขณะเล่นไดห้ รือไม่ เพราะเหตใุ ด ขั้นที่ ๔ ขยายความเข้าใจ ๑.ครูให้นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ช่วยกันอ่านและวิเคราะห์สถานการณท์ ี่กำหนดให้ ตา่ ยวงิ่ เลน่ อย่ใู นสวนหลงั บา้ นโดยท่ีไมส่ วมรองเท้า ปรากฏว่าวิ่ง เข้าไปใกล้กระถางตน้ ไม้ที่แตก ทำให้ โดนเศษกระถางดินเผาบาดเท้าเปน็ แผล และมีเลือดไหล ๒. นกั เรียนรว่ มกันตอบคำถาม ดังนี้ ๑) สาเหตขุ องการบาดเจ็บเกิดจากอะไร ๒) ลักษณะของบาดแผลเปน็ อย่างไร ๓) ควรปฐมพยาบาลอยา่ งไร และใชอ้ ุปกรณใ์ ดบ้างในการปฐมพยาบาล ๓.ครูเปดิ โอกาสให้นักเรียนซกั ถามเพิ่มเติมในประเด็นท่ีสงสัย
ข้นั ที่ ๕ ตรวจสอบผล ๑.ตวั แทนของแต่ละกลมุ่ ออกมานำเสนอคำตอบตามประเดน็ ท่ีกำหนด ครตู รวจสอบความถูกต้อง ๒.นักเรยี นและครรู ว่ มกันสรปุ ความรู้เรอื่ ง การบาดเจบ็ จากการเลน่ ๓. นักเรียนตอบคำถามกระต้นุ ความคดิ ในวยั ของนกั เรียนมกั จะชอบปนี ป่ายขนึ้ บนที่สูง นักเรียนจะมีวธิ ีการป้องกัน ตนเองอยา่ งไรให้ปลอดภัย ๑๐. ส่อื /แหล่งการเรียนรู้ ๑) หนังสือเรยี น สุขศกึ ษาและพลศึกษา ป.๓ ๒) สื่อเพาเวอร์พอยท์ ๓) ใบงาน ๑๑.วดั ผลและประเมนิ ผล วธิ ีการ เครอื่ งมือ เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น ตรวจใบงาน แบบทดสอบก่อนเรยี น (ประเมินตามสภาพจริง) สังเกตพฤติกรรมการทำงาน รายบุคคล ใบงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุม่ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผ่าน สงั เกตความมวี ินยั ใฝเ่ รยี นรู้ ตรงตอ่ รายบคุ คล เกณฑ์ เวลา และมคี วามรับผิดชอบ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ ระดับคุณภาพ 2 ผ่าน เกณฑ์ แบบประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่าน เกณฑ์
แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ ๒๕ กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ุขศึกษาและพลศึกษา รายวชิ าสขุ ศกึ ษา หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๙ การบาดเจบ็ และการปฐมพยาบาล ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๓ เร่ือง ลักษณะบาดแผลฟกชำ้ โน ห้อเลอื ด เวลา ๑ ชวั่ โมง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑.สาระสำคญั บาดแผลฟกชำ้ โน หอ้ เลอื ด เปน็ บาดแผลที่มีลักษณะบวมช้ำและมสี ีม่วง ๒.มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน พ ๕.๑ ปอ้ งกนั และหลกี เล่ยี งปัจจยั เสย่ี ง พฤติกรรมเสีย่ งต่อสุขภาพ อุบัตเิ หตุ การใช้ยา สารเสพติด และความรุนแรง ๓.ตวั ชว้ี ดั ป.๓/๓ แสดงวธิ ีปฐมพยาบาลเมือ่ บาดเจ็บจากการเลน่ ๔.จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑.นักเรยี นสามารถอธิบายลกั ษณะบาดแผลฟกช้ำ โน ห้อเลอื ดได้ (K) ๒.นักเรียนปฏิบัติตนในการป้องกันเม่ือเกดิ เหตุรา้ ยหรืออบุ ตั ิเหตไุ ด้ (P) ๓.มีความกระตือรือร้นและสนใจเข้ารว่ มกิจกรรมการเรียนรู้ (A) ๕.สาระการเรียนรู้ - การบาดเจบ็ จากการเลน่ - ลกั ษณะของการบาดเจ็บ ๖.ทกั ษะในศตวรรษที่ ๒๑ ๑. ทกั ษะดา้ นการคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณ และทักษะในแกป้ ญั หา ๒. ทักษะด้านความร่วมมือ การทำงานเปน็ ทีม และภาวะผนู้ ำ
๗.สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน ๑.ความสามารถในการสื่อสาร -ผเู้ รียนสามารถในการใชภ้ าษาถ่ายทอดความคดิ ความรคู้ วามเขา้ ใจ ความรสู้ ึก และทศั นะของ ตนเองและแลกเปลยี่ นขอ้ มูลข่าวสารและประสบการณ์อนั จะเป็นประโยชน์ตอ่ การพัฒนาตนเอง และสังคมและมไี วพรบิ ที่ดีในการส่ือสาร ๒.ความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ - ผูเ้ รียนสามารถการคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ และการคดิ เปน็ อย่างเปน็ ระบบมเี หตุผลและ สามารถ ตดั สนิ ใจได้ ๓. ความสามารถทักษะการนำความรู้ไปใช้ - ผู้เรยี นนำความรทู้ ีไ่ ด้รับไปใช้ใหเ้ กิดประโยชน์ในการประกอบอาชีพและสามารถอยู่รว่ มกบั คนใน สงั คมได้ ๔.ความสามารถในการแกป้ ญั หา - ผูเ้ รยี นสามารถแก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่างๆได้ด้วยตนเอง ๘.คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ๑. ใฝ่เรยี นรู้ -สบื คน้ ขอ้ มลู เนื้อหาสาระที่ตอ้ งการรู้ ๒. ม่งุ มั่นในการทำงาน -มคี วามตง้ั ใจและพยายามในหนา้ ทีท่ ี่ไดร้ บั มอบหมาย ๙.ขั้นจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ข้นั ที่ ๑ ขน้ั นำเขา้ ส่บู ทเรยี น (วิธีสอนโดยการจัดการเรยี นรู้แบบรว่ มมือ : เทคนคิ คู่คดิ สสี่ หาย) ๑.นกั เรียนตอบคำถามกระต้นุ ความคดิ ๒. ครนู ำบตั รภาพบาดแผลฟกช้ำ โน หอ้ เลอื ด มาแสดง หนา้ ช้ันเรียน แลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั หาคำตอบ เช่น - บาดแผลฟกชำ้ โน หอ้ เลอื ดมีลักษณะอย่างไร - สาเหตใุ ดทท่ี ำให้เกดิ บาดแผลฟกชำ้ โน หอ้ เลือด ๓. ครสู ่มุ นกั เรยี น ๒-๓ คน ออกมานำเสนอคำตอบตามความเขา้ ใจหนา้ ชั้นเรยี น ๔. ครอู ธิบายเพ่ิมเติมใหน้ กั เรยี นเข้าใจว่า บาดแผลฟกชำ้ โน ห้อเลือด เปน็ บาดแผลที่มเี ลอื ดออกใต้ผวิ หนังโดย ไมม่ ีบาดแผลเปดิ แตผ่ วิ หนังบรเิ วณทเ่ี ปน็ บาดแผลจะบวมช้ำ และมสี ีมว่ ง
ข้นั ท่ี ๒ ขนั้ สอน ๑. นักเรยี นรวมกล่มุ เดมิ (จากแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑) แลว้ ให้สมาชกิ ในแตล่ ะกลุม่ รว่ มกันศึกษาความรู้เรื่อง ลกั ษณะบาดแผลฟกช้ำ โน หอ้ เลือด จากหนังสอื เรียนหรือบทเรยี นคอมพิวเตอร์ Smart L.O. LMS Lite ๒. ครใู หส้ มาชิกในแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันตัง้ คำถามเกย่ี วกบั ประเด็น ทศ่ี ึกษา แลว้ คดั เลอื กคำถามที่ดที ่ีสดุ กลุ่มละ ๒ คำถาม เขียนใสก่ ระดาษแลว้ นำมาสง่ ครู ๓. ครแู จกกระดาษคำถามให้นักเรียนกลมุ่ ละ ๒ คำถาม จากน้ันให้สมาชกิ ในกลุ่มรว่ มกนั หาคำตอบและสรปุ คำตอบท่ีเป็นมติของกลมุ่ ๔. ตัวแทนนกั เรียนแต่ละกล่มุ อ่านคำถามทไ่ี ด้รบั แล้วตอบคำถาม จากนน้ั ให้กลุ่มที่เป็นเจา้ ของคำถาม ตรวจสอบคำตอบ หรอื อธบิ ายคำตอบหากมีขอ้ บกพร่อง ๕. ครชู มเชยกล่มุ ทีต่ อบคำถามไดถ้ ูกต้อง และเขา้ ใจง่ายเพื่อเสริมกำลังใจนักเรยี นแตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั ศึกษา ความรู้เรอื่ ง การบาดเจ็บจากการเลน่ จากหนังสอื เรียนหรือบทเรียนคอมพิวเตอร์ Smart L.O. LMS Lite หรอื หอ้ งสมุด ๖. ครใู หน้ ักเรยี นแต่ละกล่มุ ร่วมกันทำใบงาน เรือ่ ง บาดแผลฟกชำ้ โน หอ้ เลือด โดยให้สมาชกิ แต่ละคนหา คำตอบดว้ ยตนเองจนครบทกุ ข้อ จากน้นั จับคูก่ ับเพื่อนในกลมุ่ ผลัดกนั อธิบายคำตอบของตนเอง (สมาชิกอีก คใู่ นกลมุ่ กป็ ฏบิ ตั ิกิจกรรมเช่นเดยี วกัน) ๗. นกั เรยี นรวมกลมุ่ เดิม (๔ คน) ผลดั กันอธบิ ายคำตอบของคู่ตนเองให้เพ่ือนอกี คหู่ นึ่งภายในกลมุ่ ฟัง เพอ่ื หา ขอ้ สรุปของคำตอบแลว้ บนั ทกึ ลงในใบงาน เสร็จแล้วนำสง่ ครตู รวจ ๘. นักเรียนตอบคำถามกระต้นุ ความคดิ เพราะเหตุใด บาดแผลฟกช้ำ โน ห้อเลือดจึงมกี ารบวมช้ำและมีสีมว่ ง
ข้นั ท่ี ๓ ข้นั สอน ๑. นักเรียนรวมกล่มุ เดิม (จากแผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี ๑) แล้วใหส้ มาชิกในแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกันศึกษาความรู้เร่ือง ลกั ษณะบาดแผลฟกช้ำ โน หอ้ เลือด จากหนงั สอื เรียนหรือบทเรียนคอมพวิ เตอร์ Smart L.O. LMS Lite ๒. ครใู หส้ มาชิกในแต่ละกลุ่มร่วมกันต้งั คำถามเกี่ยวกับประเดน็ ท่ศี ึกษา แล้วคัดเลอื กคำถามท่ดี ีทสี่ ดุ กล่มุ ละ ๒ คำถาม เขยี นใส่กระดาษแลว้ นำมาสง่ ครู ๓. ครูแจกกระดาษคำถามให้นักเรยี นกลุ่มละ ๒ คำถาม จากนั้นให้สมาชกิ ในกลุ่มรว่ มกนั หาคำตอบและสรปุ คำตอบที่เป็นมติของกลมุ่ ๔. ตวั แทนนกั เรียนแต่ละกลุม่ อา่ นคำถามทไ่ี ด้รบั แล้วตอบคำถาม จากนั้นให้กลุ่มทีเ่ ป็นเจ้าของคำถาม ตรวจสอบคำตอบ หรืออธิบายคำตอบหากมีข้อบกพร่อง ๕. ครชู มเชยกล่มุ ทตี่ อบคำถามได้ถกู ต้อง และเขา้ ใจง่าย เพ่ือเสริมกำลังใจ ๖. ครใู หน้ กั เรยี นแตล่ ะกลุม่ รว่ มกันทำใบงาน เร่อื ง บาดแผลฟกช้ำ โน ห้อเลือด โดยใหส้ มาชกิ แตล่ ะคนหา คำตอบดว้ ยตนเองจนครบทกุ ขอ้ จากนน้ั จบั คกู่ บั เพ่ือนในกลมุ่ ผลดั กันอธบิ ายคำตอบของตนเอง (สมาชิกอีก คู่ในกลมุ่ ก็ปฏิบตั ิกจิ กรรมเชน่ เดียวกนั ) ๗. นกั เรยี นรวมกลุ่มเดิม (๔ คน) ผลดั กันอธิบายคำตอบของคู่ตนเองใหเ้ พือ่ นอีกคู่หนงึ่ ภายในกลุ่มฟงั เพ่อื หา ข้อสรปุ ของคำตอบแล้วบันทกึ ลงในใบงาน เสร็จแล้วนำส่งครูตรวจ ๘. นักเรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ เพราะเหตุใด บาดแผลฟกชำ้ โน หอ้ เลอื ดจึงมีการบวมชำ้ และมสี ีม่วง
ขัน้ ที่ ๔ ข้ันสอน ๑.นกั เรียนรวมกลุ่มเดิม (จากแผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๑) แล้วให้สมาชกิ ในแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั ศกึ ษาความรูเ้ ร่ือง ลกั ษณะบาดแผลฟกช้ำ โน ห้อเลือด จากหนงั สอื เรยี นหรือบทเรียนคอมพวิ เตอร์ Smart L.O. LMS Lite ๒. ครูให้สมาชิกในแตล่ ะกลุ่มร่วมกันตัง้ คำถามเกย่ี วกับประเด็น ท่ีศกึ ษา แลว้ คัดเลอื กคำถามทีด่ ที ีส่ ุด กลุ่มละ ๒ คำถาม เขียนใสก่ ระดาษแล้วนำมาส่งครู ๓. ครแู จกกระดาษคำถามให้นักเรยี นกลมุ่ ละ ๒ คำถาม จากนั้นให้สมาชิกในกลุ่มร่วมกันหาคำตอบและสรุป คำตอบท่เี ป็นมติของกล่มุ ๔. ตัวแทนนกั เรียนแต่ละกลุม่ อา่ นคำถามทีไ่ ดร้ บั แล้วตอบคำถาม จากนั้นให้กลุ่มทเี่ ป็นเจ้าของคำถาม ตรวจสอบคำตอบ หรอื อธบิ ายคำตอบหากมีข้อบกพร่อง ๕. ครชู มเชยกลมุ่ ท่ีตอบคำถามไดถ้ กู ต้อง และเขา้ ใจง่าย เพ่ือเสรมิ กำลังใจ ๖. ครใู ห้นกั เรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกันทำใบงาน เรอื่ ง บาดแผลฟกชำ้ โน ห้อเลอื ด โดยใหส้ มาชิกแตล่ ะคนหา คำตอบด้วยตนเองจนครบทกุ ข้อ จากนั้นจบั คกู่ บั เพ่ือนในกลมุ่ ผลดั กันอธิบายคำตอบของตนเอง (สมาชิกอีก คู่ในกลุ่มกป็ ฏิบตั ิกิจกรรมเช่นเดียวกัน) ๗. นักเรยี นรวมกลุ่มเดิม (๔ คน) ผลดั กันอธบิ ายคำตอบของค่ตู นเองใหเ้ พอ่ื นอีกคูห่ นง่ึ ภายในกลุ่มฟงั เพือ่ หา ขอ้ สรุปของคำตอบแลว้ บันทกึ ลงในใบงาน เสรจ็ แล้วนำส่งครูตรวจ ๘. นักเรียนตอบคำถามกระตุน้ ความคิด ขน้ั ที่ ๕ ขนั้ สรุป ๑.นักเรียนร่วมกนั สรุปความรู้เร่ือง ลกั ษณะบาดแผลฟกชำ้ โน หอ้ เลอื ด ๑๐. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้ ๑) หนงั สอื เรียน สขุ ศึกษาและพลศึกษา ป.๓ ๒) สือ่ เพาเวอรพ์ อยท์ ๓) ใบงาน
๑๑.วัดผลและประเมินผล วิธกี าร เครอื่ งมอื เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น ตรวจใบงาน แบบทดสอบก่อนเรียน (ประเมินตามสภาพจรงิ ) สังเกตพฤติกรรมการทำงาน รายบุคคล ใบงาน รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงาน ระดับคุณภาพ 2 ผา่ น รายบุคคล เกณฑ์ สังเกตความมวี นิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ ตรงตอ่ เวลา แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่าน และมีความรบั ผิดชอบ เกณฑ์ แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่าน เกณฑ์
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๒๖ กลุ่มสาระการเรยี นรู้สุขศึกษาและพลศึกษา รายวชิ าสขุ ศกึ ษา หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๙ การบาดเจ็บและการปฐมพยาบาล ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๓ เร่อื ง ลกั ษณะบาดแผลถลอก เวลา ๑ ชวั่ โมง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑.สาระสำคญั บาดแผลถลอกเปน็ บาดแผลตื้นๆ และมีเลือดไหลซึมทบี่ รเิ วณบาดแผล ๒.มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน พ ๕.๑ ป้องกันและหลกี เลี่ยงปัจจัยเส่ียง พฤติกรรมเส่ียงต่อสขุ ภาพ อบุ ัตเิ หตุ การใช้ยา สารเสพตดิ และความรนุ แรง ๓.ตัวชว้ี ัด ป.๓/๓ แสดงวิธปี ฐมพยาบาลเมือ่ บาดเจ็บจากการเล่น ๔.จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๑.นกั เรียนสามารถอธบิ ายลักษณะบาดแผลถลอกได้ (K) ๒.นักเรียนปฏิบัติตนในการแสดงวิธปี ฐมพยาบาลเมื่อเกิดบาดแผลถลอกได้(P) ๓.มีความกระตือรือร้นและสนใจเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรียนรู้ (A) ๕.สาระการเรยี นรู้ การบาดเจบ็ จากการเล่น - ลกั ษณะของการบาดเจบ็ ๖.ทกั ษะในศตวรรษท่ี ๒๑ ๑. ทักษะด้านการคิดอย่างมวี ิจารณญาณ และทกั ษะในแก้ปญั หา ๒. ทกั ษะด้านความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผูน้ ำ
๗.สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น ๑.ความสามารถในการสือ่ สาร -ผูเ้ รียนสามารถในการใช้ภาษาถ่ายทอดความคิด ความรคู้ วามเขา้ ใจ ความรู้สึก และทศั นะของ ตนเองและแลกเปล่ยี นข้อมลู ข่าวสารและประสบการณ์อันจะเปน็ ประโยชนต์ อ่ การพัฒนาตนเอง และสังคมและมีไวพริบท่ีดีในการสื่อสาร ๒.ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ - ผเู้ รียนสามารถการคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ และการคดิ เปน็ อย่างเปน็ ระบบมีเหตผุ ลและ สามารถ ตดั สินใจได้ ๓. ความสามารถทักษะการนำความรู้ไปใช้ - ผู้เรียนนำความรู้ท่ไี ด้รับไปใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์ในการประกอบอาชีพและสามารถอยู่ร่วมกบั คนใน สงั คมได้ ๔.ความสามารถในการแกป้ ัญหา - ผู้เรียนสามารถแก้ไขปัญหาและอปุ สรรคต่างๆไดด้ ้วยตนเอง ๘.คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ๑. ใฝ่เรยี นรู้ -สืบค้นขอ้ มลู เนือ้ หาสาระทตี่ ้องการรู้ ๒. มุง่ ม่ันในการทำงาน -มีความตั้งใจและพยายามในหน้าทีท่ ี่ไดร้ บั มอบหมาย ๙.ขั้นจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นท่ี ๑ ขน้ั นำเข้าสบู่ ทเรียน (วธิ ีสอนโดยการจัดการเรยี นรแู้ บบรว่ มมือ : เทคนิคเลา่ เรือ่ งรอบวง) ๑.ครูนำบัตรภาพบาดแผลถลอกมาใหน้ ักเรียนดู แล้วถามนักเรียนว่า บาดแผลถลอกมีลกั ษณะอยา่ งไร และ สาเหตใุ ดทำใหเ้ กดิ บาดแผลถลอก ๒. ครูอธิบายให้นกั เรียนเข้าใจวา่ บาดแผลถลอกเป็นบาดแผลตนื้ ๆ บรเิ วณผวิ หนงั และมเี ลือดไหลซึมที่บรเิ วณ บาดแผล ซึง่ แผลลกั ษณะนอี้ าจเกิดจากการพลัดตก หกลม้ ๓. นกั เรียนตอบคำถามกระตุ้นความคดิ บาดแผลถลอกทีม่ เี ลือดไหลซึม เป็นอาการบาดเจ็บท่เี กิดจากอุบัติเหตุแบบใด
ขัน้ ที่ ๒ ข้นั สอน ๑. ครใู ห้นักเรียนร่วมกันศึกษาความรู้เร่ือง ลักษณะบาดแผลถลอก จากหนงั สือเรยี นหรอื บทเรยี นคอมพวิ เตอร์ Smart L.O. LMS Lite ๒. นกั เรียนรวมกลุ่มเดิม (จากแผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๑) จากนนั้ ครใู ห้สมาชิกแต่ละคนเขียนสาเหตทุ ท่ี ำให้ ตนเองเกิดบาดแผลถลอกลงในกระดาษ ๓. สมาชกิ แต่ละคนในกลุ่มผลดั กันเล่าถึงสาเหตุท่ที ำให้ตนเอง เกดิ บาดแผลถลอก พรอ้ มยกเหตกุ ารณท์ เ่ี กิดขึน้ ประกอบ ตามระยะเวลาท่ีสมาชิกไดก้ ำหนดร่วมกัน จนครบทุกคนในกลมุ่ ๔. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ รว่ มกนั วิเคราะหแ์ ละอภปิ รายเกยี่ วกบั สาเหตุที่ทำให้ตนเองเกิดบาดแผลถลอก จากน้นั ส่ง ตวั แทนนำเสนอหนา้ ชั้นเรยี น ขน้ั ที่ ๓ ข้ันสรุป ๑. นักเรียนและครูร่วมกนั สรปุ ความรู้เรื่อง ลกั ษณะบาดแผลถลอก ๑๐. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ ๑) หนงั สือเรียน สุขศกึ ษาและพลศึกษา ป.๓ ๒) ส่อื เพาเวอรพ์ อยท์ ๓) ใบงาน ๑๑.วัดผลและประเมินผล วธิ ีการ เครอ่ื งมือ เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน ตรวจใบงาน แบบทดสอบก่อนเรยี น (ประเมินตามสภาพจรงิ ) สงั เกตพฤติกรรมการทำงาน รายบุคคล ใบงาน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่าน รายบุคคล เกณฑ์ สงั เกตความมวี นิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ ตรงตอ่ เวลา แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกล่มุ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ น และมคี วามรบั ผดิ ชอบ เกณฑ์ แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่าน เกณฑ์
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150