รายงานการประเมินตนเอง (Self Assessment Report : SAR) ประจาปี การศึกษา ๒๕๖๒ โรงเรียนบ้านโคกสะอาด ตาบหนนองน้้าซ อาเออังง สามนมอ จงง นัดง อดุ รธานี สานงกงานเขตพืน้ ท่กี ารศึกษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๒ สานงกงานคณะกรรมการการศึกษาข้นง พืน้ ฐาน กระทรังศึกษาธิการ
คำนำ การปฏริ ูปการศึกษาในทศวรรษทส่ี อง (พ.ศ. ๒๕๕๒-๒๕๖๑) ไดใ้ ห้ความสาคัญการนา ผลการประเมนิ คุณภาพการศึกษาของหน่วยงานต้นสังกดั และสถานศึกษาไปใชใ้ นการพัฒนาคุณภาพและ มาตรฐานการศึกษา ตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัตกิ ารศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ แก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ.๒๕๔๕ และกฎกระทรวงกฎกระทรวงการประกันคุณภาพการศึกษา ข้อ ๓ โดยกาหนดให้ สถานศกึ ษาดาเนนิ การ ขอ้ ๓ ใหส้ ถานศกึ ษาแต่ละแหง่ จดั ใหม้ ีระบบ การประกนั คณุ ภาพการศกึ ษาภายใน สถานศึกษาโดยการกาหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาใหเ้ ป็นไปตามมาตรฐานการศกึ ษาแต่ละ ระดบั และประเภทการศกึ ษาที่รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศกึ ษาธกิ ารประกาศกาหนด พรอ้ มทงั้ จดั ทา แผนพฒั นาการจดั การศึกษาของสถานศกึ ษาทม่ี งุ่ คณุ ภาพตามมาตรฐานการศกึ ษาและดาเนนิ การตาม แผนทก่ี าหนดไว้จดั ใหม้ กี ารประเมนิ ผลและตรวจสอบคณุ ภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา ติดตามผล การดาเนนิ การเพื่อพฒั นาสถานศกึ ษาใหม้ ีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา และจัดส่งรายงานผลการ ประเมนิ ตนเองใหแ้ กห่ นว่ ยงานตน้ สังกดั หรอื หนว่ ยงานทกี่ ากบั ดแู ลสถานศกึ ษาเปน็ ประจาทุกปี ดังน้ัน โรงเรียนบา้ นโคกสะอาด ได้ดาเนนิ การตามหลักการของกฎหมายทีเ่ กีย่ วข้องทุกปี การศึกษาและไดจ้ ดั ทารายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา โดยใชข้ ้อมลู จากการประเมินตนเอง ตามมาตรฐานการศกึ ษาของสถานศึกษา ในปีการศกึ ษา ๒๕๖๒ เสนอตอ่ เขตพื้นท่ี และผทู้ เ่ี กย่ี วข้อง วัตถุประสงค์ เพอ่ื เป็นฐานข้อมูล สาหรบั สถานศึกษานาไปจัดทาแผนปฏบิ ตั ิการในปีต่อไป และเปน็ ฐานขอ้ มลู สาหรบั เขตพ้นื ทนี่ าไปใชป้ ระโยชน์ รายงานหนว่ ยงานตน้ สงั กดั และตดิ ตาม ตรวจสอบและประเมนิ คุณภาพ ภายใน โดยเขตพนื้ ท่ี และเป็นฐานขอ้ มูลสาหรับใช้รับการประเมนิ คุณภาพภายนอกจากสานักงานรบั รอง มาตรฐานและประเมนิ คณุ ภาพการศึกษา(องค์การมหาชน) ตามลาดับตอ่ ไป ขอขอบคุณคณะกรรมการสถานศึกษา และคณะครูทุกท่านไว้ ณ โอกาสนี้ท่ีให้ความร่วมมือใน การจดั ทารายงานครั้งน้ี เป็นไปด้วยความเรียบรอ้ ยดี (นายสมาน ถาไชยลา) ผอู้ านวยการโรงเรียนบา้ นโคกสะอาด
ก บทสรุปสำหรับผบู้ ริหำร โรงเรียนบ้านโคกสะอาด ต้ังอยู่ท่ี หมู่ที่ ๒ ตาบลหนองหญ้าไซ อาเภอวังสามหมอ จังหวัดอุดรธานี สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาอุดรธานี เขต ๒ เปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาล ๑ ถึง ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ มี ผลการประเมนิ คุณภาพภายใน ดงั น้ี สรุปผลกำรประเมนิ คุณภำพภำยในปกี ำรศกึ ษำ ๒๕๖๒ ๑. กำรศกึ ษำปฐมวยั ดำ้ น ระดับคณุ ภำพ ๑. คุณภาพของเด็ก ดีเลิศ ๒. กระบวนการบรหิ ารและการจัดการ ดีเลศิ ๓. การจดั ประสบการณท์ เี่ น้นเด็กเปน็ สาคญั ดเี ลศิ จดุ เดน่ ดำ้ นคณุ ภำพของเด็ก ๑) นกั เรยี นมีน้าหนักสว่ นสงู เป็นไปตามเกณฑ์ มที ักษะการเคลอื่ นไหวอย่างคล่องแคล่ว รวมถงึ หลีกเลยี่ งต่อ โรค ภัย และอุบัตเิ หตุ ๒) นักเรียนมีความรู้สึกดีต่อตนเอง มีความมั่นใจกล้าแสดงออกมากข้นึ ร่าเริงแจ่มใส สามารถ ควบคมุ อารมณ์ของตนเองได้อยา่ งเหมาะสมกับสถานการณ์ ๓) นักเรยี นมรี ะเบยี บ วินยั มคี วามรบั ผิดชอบ ซักถามอยา่ งตั้งใจ ใช้ภาษาได้อยา่ งเหมาะสมกับวัย ด้ำนกระบวนกำรบริหำรและกำรจัดกำร ๑) ครมู ีความรู้ความสามารถตรงสาขาวิชาท่ีสอนและมี ประสบการณ์ในการปฏิบัติการสอนทาให้ครู สามารถออกแบบการเรียนรู้ท่ีมีประสิทธิภาพ และมีกระบวนการพัฒนาครูให้สามารถออกแบบรูปแบบการ สอนทเี่ หมาะกับพฒั นาการ และทักษะที่จาเป็นตามวยั สาหรบั ผเู้ รียน ๒) ผู้บรหิ ารมคี วามตัง้ ใจ มีความมงุ่ มั่น มีหลักการบริหาร และมีวสิ ัยทัศน์ทีด่ ใี นการบรหิ ารงาน ครู บคุ ลากรและคณะกรรมการสถานศึกษาเครือข่ายผ้ปู กครอง มคี วามตง้ั ใจ และมีความพร้อม ในการปฏบิ ตั ิ หน้าท่ีตามบทบาท ดำ้ นกำรจัดประสบกำรณท์ ่ีเนน้ เด็กเปน็ สำคัญ ๑) สร้างโอกาสให้เด็กไดร้ ับประสบการณ์ตรง เลน่ และปฏิบัติอย่างมคี วามสุข ๒) เปิดโอกาสให้เด็กได้เลือกทากิจกรรมอย่างอิสระ ตามความต้องการ ความสนใจและ ความสามารถของแตล่ ะบคุ คล
ข ๓) เด็กมีพฒั นาการตามวัยเต็มศกั ยภาพ และมีความพรอ้ มในการเรยี นรู้ตอ่ ไป มรี า่ งกาย เจริญเติบโตตามวยั แข็งแรง และมีสขุ นิสยั ที่ดี มีสขุ ภาพจิตดี มีสุนทรียภาพ มีคุณธรรม จริยธรรมและจติ ใจท่ี งดงาม มีทักษะชวี ิตและ ปฏบิ ัตติ นตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง มวี นิ ัย และอยู่รว่ มกบั ผูอ้ ื่นไดอ้ ยา่ งมี ความสขุ จดุ ทค่ี วรพัฒนำ ดำ้ นคุณภำพของเดก็ ๑) ลดการใช้เทคโนโลยี อาทิเช่น โทรศัพท์มือถือที่เกินความจาเป็นความจาเป็น โดยการให้ ความรู้กับผู้ปกครองและผู้เก่ียวข้องให้ทราบถึงคุณและโทษในการใช้โทรศัพท์มือถือท่ีมากเกินไปสาหรับเด็ก ปฐมวยั ๒) การใช้วาจา คาพดู สุขภาพทเ่ี หมาะสมกบั วัย ๓) การพัฒนา ปลูกฝังในเรื่องสุขนิสัยที่ดี เช่น การล้างมือก่อนรับประทานอาหารและล้างมือ ก่อนออกจากหอ้ งนา้ หอ้ งส้วม รวมถึงการเลอื กรบั ประทานอาหารทีม่ ปี ระโยชน์ ให้เป็นนิสยั ด้ำนกระบวนกำรบรหิ ำรและกำรจดั กำร ๑) สง่ เสรมิ สนับสนุนการนาภมู ิปญั ญาเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการเรียนรูแ้ ละการจัด ประสบการณ์แกเ่ ด็กตามความเหมาะสม ๒) สนับสนุนให้บุคลากรครูได้เข้ารับการพฒั นาตนเองในรูปแบบการเข้าร่วมอบรมอยา่ งทั่วถึง ตามสมควร ด้ำนกำรจดั ประสบกำรณท์ ี่เน้นเด็กเป็นสำคญั ๑) การนาผลสะท้อนการจัดการเรียนการสอนของครู มาเป็นประเด็นในการจดั ทาวจิ ัยใน ชน้ั เรียน เพอ่ื พัฒนาผเู้ รยี น ขอ้ เสนอแนะ ด้ำนคณุ ภำพของเด็ก ๑) การให้ความร่วมของผูป้ กครองในการอนญุ าตใหเ้ ด็กเล่นโทรศพั ทม์ ากเกนิ ไป ๒) ฝึกการมีวนิ ัยใหเ้ ด็กปฏิบตั ิจนเปน็ นิสัย ด้ำนกระบวนกำรบริหำรและกำรจัดกำร ๑) พฒั นาบคุ ลากรครปู ฐมวยั ดำ้ นกำรจัดประสบกำรณ์ทเ่ี น้นเดก็ เปน็ สำคัญ ๑) การจัดการสะท้อนผลของการจัดการเรียนการสอนของครูอย่างต่อเน่ือง เพื่อพัฒนาการ จัดประสบการณข์ องเด็ก
๒. ระดับกำรศึกษำขน้ั พน้ื ฐำน ค ดำ้ น ระดบั คณุ ภำพ ดเี ลศิ ๑. คุณภาพของผเู้ รียน ดเี ลศิ ดเี ลศิ ๒. กระบวนการบริหารและการจัดการ ๓. กระบวนการจัดการเรยี นการสอนที่เน้นผเู้ รียนเปน็ สาคัญ จุดเดน่ ดำ้ นคณุ ภำพของผ้เู รยี น ๑) ผู้เรยี นรู้จักแสวงหาความรู้ดว้ ยตนเองจากส่ือเทคโนโลยีต่างๆและส่งิ รอบตัวอย่าง ปลอดภยั และใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ๒) ผ้เู รยี นมีทักษะความมุง่ ม่ันในการทางานและทางานจนสาเร็จ ทางานร่วมกบั ผู้อ่ืนได้ อย่างมีความสุข ๓) ผูเ้ รยี นมรี ะเบยี บวินยั สุภาพอ่อนน้อม รา่ เริงแจ่มใส ๔) ผู้เรียนมีสุขภาพร่างกายแขง็ แรงจากการเล่นกีฬา เคารพกฎกติกา มารยาทของสังคม จน เป็นเอกลักษณ์ของสถานศึกษา กีฬาเด่น เปน็ ท่ียอมรับของชุมชนโดยรอบ ดำ้ นกระบวนกำรบริหำรและกำรจดั กำร ๑) โรงเรยี นมกี ารบริหารและการจัดการอย่างเป็นระบบ โรงเรียนได้ใช้เทคนคิ การประชมุ ท่ี หลากหลายวิธี เชน่ การประชุมแบบมสี ว่ นรว่ ม การประชุมระดมสมอง การประชมุ กลุ่ม เพอ่ื ให้ทุกฝ่ายมีสว่ น ร่วมในการกาหนดวิสยั ทัศน์ พันธกิจ เปา้ หมาย ทช่ี ัดเจน ๒) มีการปรับแผนพฒั นาคุณภาพการจดั การศึกษา แผนปฏิบัตกิ ารประจาปี ทีส่ อดคล้องกับผล การจดั การศกึ ษา สภาพปัญหา ความต้องการพฒั นา และนโยบายการปฏริ ปู การศึกษา ท่ีมุง่ เนน้ การพัฒนาให้ ผู้เรียนมคี ุณภาพตามมาตรฐานการเรยี นรู้ตามหลกั สตู รสถานศึกษา ๓) มีเครือขา่ ยอุปถัมภ์ให้ความรว่ มมือในการจัดการศึกษาของโรงเรยี นให้มีความเขม้ แข็ง มสี ่วน รว่ มรับผดิ ชอบตอ่ ผลการจดั การศกึ ษา และการขับเคล่ือนคุณภาพการจัดการศึกษา ดำ้ นกระบวนกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนทเ่ี นน้ ผูเ้ รยี นเป็นสำคญั ๑. ครูตั้งใจ ม่งุ มนั่ ในการพฒั นาการสอน ๒. ครจู ดั กิจกรรมให้นกั เรยี นแสวงหาความรจู้ ากสอ่ื เทคโนโลยีดว้ ยตนเองอยา่ งตอ่ เน่ือง ๓. ครใู หน้ ักเรยี นมีสว่ นร่วมในการจัดบรรยากาศ สภาพแวดล้อมท่ีเอื้อต่อการเรียนรู้ ๔. ครจู ัดกจิ กรรมใหน้ ักเรยี นเรียนรู้โดยการคิด ได้ปฏิบตั ิจรงิ ดว้ ยวิธีการและแหล่งเรียนรู้ท่ี หลากหลาย
ง จดุ ท่ีควรพัฒนำ ดำ้ นคณุ ภำพของผเู้ รยี น ๑) เพิ่มผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี นกล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์และ ภาษาองั กฤษใหส้ ูงข้นึ เพราะมีคะแนนเฉล่ยี โอเน็ตตา่ กว่าคะแนนเฉลีย่ ระดับประเทศ ๒) พฒั นาใหน้ ักเรียนให้มีจติ สาธารณะมากขนึ้ และระวงั ภัยหา่ งไกลยาเสพติดและโทษของ เกมทางอินเทอร์เนต็ และรู้จักการปอ้ งกันตนเองจากภัยทางอินเตอรเ์ น็ต เช่น การดูหนงั ดกู ารต์ ูนท่ีใช้ความ รนุ แรง ด้ำนกระบวนกำรบรหิ ำรและกำรจดั กำร ๑)เปดิ โอกาสใหผ้ ู้ปกครองได้มสี ่วนรว่ มในการเสนอความคิดเห็นในการจดั การศึกษาเพื่อพัฒนา ผู้เรียน ด้ำนกระบวนกำรจัดกำรเรียนกำรสอนท่ีเนน้ ผู้เรียนเป็นสำคัญ ๑) ควรนาภมู ิปญั ญาท้องถน่ิ ให้เขา้ มามสี ่วนรว่ มในการจดั กิจกรรมใหน้ ักเรียนไดเ้ รยี นรู้ ๒) ควรใหข้ ้อมูลย้อนกลับแก่นกั เรยี นทนั ที่เพอื่ นักเรยี นนาไปใช้พฒั นาตนเอง ขอ้ เสนอแนะ ด้ำนคุณภำพของผเู้ รยี น ๑) ส่งเสริมการจดั การเรยี นรู้กล่มุ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตรแ์ ละ ภาษาอังกฤษให้สงู ขนึ้ ๒) ส่งเสริมกิจกรรมดนตรี กีฬา ให้กับผู้เรียนได้เลือกตามความสนใจ เพื่อไม่ให้ผู้เรียนสนใจเกม เลน่ โทรศพั ทม์ ากเกนิ ไป ด้ำนกระบวนกำรบรหิ ำรและกำรจดั กำร ๑) สง่ เสริมใหผ้ ปู้ กครอง ผู้นาชมชน หน่วยงานในท้องถ่ินเข้ามามสี ่วนร่วมในการจัดการศกึ ษา ดำ้ นกระบวนกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนทีเ่ นน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคัญ ๑) ส่งเสรมิ ผูเ้ รียนทมี่ คี วามสามารถพิเศษ ๒) ส่งเสรมิ ครใู นการใชส้ ื่อเทคโนโลยี ในหอ้ งเรยี น เพ่ือพฒั นาการเรียนรขู้ องผเู้ รียน
สำรบัญ ตอนท่ี ...................................................................................................................................หน้ำ บทสรปุ ของผบู้ รหิ าร ก ๑ ขอ้ มลู พื้นฐาน ๑.๑ ขอ้ มลู ท่วั ไป ............................................................................................. ๑ ๑.๒ ขอ้ มลู ครูและบุคลากร ............................................................................... ๑ ๑.๓ ข้อมลู นกั เรียน ............................................................................................ ๔ ๑.๔ ผลการทดสอบระดบั ชาตขิ องผู้เรยี น .......................................................... ๕ ๑.๕ การใชแ้ หลง่ เรียนรู้ ..................................................................................... ๗ ๑.๖ ผลงานดเี ด่น ................................................................................................. ๘ ๒ ผลการประเมินตนเองของสถานศกึ ษา ................................................................... ๑๔ ๒.๑ ระดับปฐมวยั ......................................................................................... ๑๔ ๒.๒ ระดบั การศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน ......................................................................... ๒๘ ๓ สรุปผล แนวทางการพฒั นา และความต้องการช่วยเหลอื ..................................... ๔๗ ๓.๑ ระดบั การศึกษาปฐมวัย .......................................................................... ๔๗ ๓.๒ ระดับการศึกษาข้นั พื้นฐาน ...................................................................... ๕๐ ๔ ภาคผนวก ......................................................................................................... ๕๓ ๔.๑ คาสง่ั โรงเรยี นบ้านโคกสะอาด ................................................................ ๕๔ ๔.๒ ความเหน็ ชอบของคณะกรรมการสถานศกึ ษา ....................................... ๕๖
๑ ตอนที่ ๑ ขอ้ มูลพื้นฐำน ๑.๑ ขอ้ มลู ท่วั ไป โรงเรียนบา้ นโคกสะอาด ต้งั อยู่เลขที่ – หมู่ ๒ ตาบลหนองหญ้าไซ อาเภอวงั สามหมอ จังหวดั อดุ รธานี สงั กดั สานักงานเขตพื้นท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๒ โทร ๐๔๒๑๘๐๕๓๕ โทรสาร - e-mail samarn_๔๖@hotmail.com websitewww.khoksaard.com เปดิ สอนระดับชน้ั อนุบาล ๑ ถึง ระดับช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๖ ๑.๒ สังกัดสานกั งานเขตพน้ื ทีก่ ารศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๒ สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ๑.๓ ขอ้ มลู ครูและบุคลำกร ประเภท / ตำแหนง่ จำนวนบคุ ลำกร (คน) รวม ต่ำกวำ่ ป.ตรี ป.ตรี ป.โท ป.เอก ๑. ผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา - ผอู้ านวยการ ๐ ๐ ๑ ๐๑ - รอง/ผู้ชว่ ยผ้อู านวยการ ๐ ๐ ๐ ๐๐ รวม ๐ ๐ ๑ ๐ ๑ ๒. ผู้สอนการศึกษาปฐมวยั - ครปู ฐมวัย ๐ ๑ ๐ ๐๑ - ครูอัตราจ้าง ๐ ๑ ๐ ๐๑ - ครูตา่ งชาติ ๐ ๐ ๐ ๐๐ ๓. ผ้สู อนระดบั ประถมศึกษา - ครูระดบั ประถมศึกษา ๐ ๔ ๐ ๐ ๔ - ครูอตั ราจา้ ง (สอนประถมฯ) ๐ ๑ ๐ ๐ ๑ - ครูต่างชาติ ๐ ๐ ๐ ๐๐ รวม ๐ ๗ ๐ ๐ ๗ ๔. บุคลากรสายสนบั สนุน - เจ้าหน้าที่ ๐ ๑ ๐ ๐๑ - ลกู จ้าง ๑ ๐ ๐ ๐๑ - อนื่ ๆ (ระบุ)......................... ๐ ๐ ๐ ๐ ๐ รวม ๑ ๑ ๐ ๐ ๒ รวมท้ังสิ้น ๑ ๘ ๑ ๐ ๑๐
๒ สรปุ อัตรำส่วน กำรศึกษำปฐมวัย อัตราสว่ นของจานวนผ้เู รียน/เดก็ : ครู เท่ากับ ๗ : ๑ อตั ราส่วนของจานวนผู้เรียน/เด็ก : หอ้ ง เท่ากบั ๕ : ๑ มจี านวนคร/ู ผดู้ แู ลเดก็ ครบช้ัน ครบช้นั ไมค่ รบชน้ั ในระดบั ชนั้ อนุบาล ๒ ภาระงานสอนของครู/ผ้ดู แู ลเด็ก โดยเฉลี่ยชว่ั โมง : สปั ดาห์ เทา่ กบั ๒๕ : สปั ดาห์ ระดบั กำรศกึ ษำขัน้ พ้ืนฐำน ระดับประถมศกึ ษำ อัตราส่วนของจานวนผเู้ รยี น : ครู เท่ากับ ๑๓ :๑ อตั ราส่วนของจานวนผเู้ รียน : หอ้ ง เทา่ กับ ๑๑ : ๑ มจี านวนครู ครบชั้น ครบชัน้ ไมค่ รบช้ัน ในระดับชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๖ ภาระงานสอนของครู โดยเฉล่ยี ชั่วโมง : สปั ดาห์ เท่ากบั ๒๕ : สัปดาห์ ระดบั มธั ยมศึกษำ อตั ราสว่ นของจานวนผเู้ รียน : ครู เทา่ กบั - อตั ราสว่ นของจานวนผู้เรยี น : ห้อง เท่ากบั - มจี านวนครู ครบชั้น ครบช้ัน ไมค่ รบชัน้ ในระดบั ชัน้ - ภาระงานสอนของครู โดยเฉลีย่ ชั่วโมง : สปั ดาห์ เท่ากับ - *หมำยเหตุ การนับจานวนจานวนครูหรือผู้ดแู ลเด็กให้นบั เฉพาะผู้ท่ีทาสญั ญาตั้งแต่ ๙ เดือนขึ้นไปเทา่ นนั้
๓ ตำรำงสรุปจำนวนครู จำแนกตำมวุฒกิ ำรศึกษำ วิชำเอก / โท จำนวนครทู ่ีมวี ุฒิกำรศึกษำ จำนวนครทู ม่ี วี ุฒิกำรศึกษำ วชิ ำเอก วชิ ำโท ปฐมวยั ๒ ๐ ภาษาไทย ๐๐ คณติ ศาสตร์ ๐๐ วิทยาศาสตร์ ๑๐ สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ๐ ๐ สุขศึกษาและพลศึกษา ๑ ๐ ศลิ ปะ ๐ ๐ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ๐ ๐ ภาษาต่างประเทศ ๐๐ อ่ืนๆ (โปรดระบุ) การประถมศกึ ษา/ ๓ ๐ เทคโนโลยที างการศึกษา รวมทั้งส้นิ ๗ ๐ * หมายเหตุ การนบั จานวนครูทุกระดบั ใหน้ บั เฉพาะครแู ละครูอัตราจา้ ง (สัญญาต้ังแต่ ๙ เดือนขึ้นไป) เท่านน้ั
๔ ๑.๓ ข้อมูลนกั เรียน (ณ วันที่ ๑๐ มถิ นุ ายน ของปีการศึกษาทร่ี ายงาน) ๑) จานวนเดก็ และนักเรยี นในโรงเรยี นท้งั ส้ิน ๘๑ คน จาแนกตามระดบั ช้นั ดังน้ี ระดับชัน้ จำนวน จำนวนเด็ก/ผเู้ รียน จำนวนเดก็ /ผเู้ รียนทม่ี ี รวม ห้องเรยี น ปกติ (คน) ควำมต้องกำรพิเศษ (คน) อนุบาล ๑ ชำย หญงิ ๑ อนบุ าล ๒ ๑ ชำย หญิง ๗ อนบุ าล ๓ ๑ ๐๑ ๐๐ ๖ ๑ ๓๔ ๐๐ ๑๔ รวม ๓ ๑๕ ๐๐ ๙ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๑ ๑ ๔ ๑๐ ๐๐ ๘ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๒ ๑ ๒๗ ๐๐ ๑๓ ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๓ ๑ ๕๓ ๐๐ ๑๕ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๔ ๑ ๖๓ ๓๑ ๗ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๕ ๑ ๕๕ ๒๓ ๑๕ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๖ ๑ ๑๓ ๓๐ ๖๗ ๖ ๔๔ ๖๑ ๐ รวม ๐ ๑๙ ๒๕ ๑๔ ๕ ๐ ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๑ ๐ ๐๐ ๐๐ ๐ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๒ ๐ ๐๐ ๐๐ ๐ ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ ๓ ๐ ๐๐ ๐๐ ๘๑ ๙ ๐๐ ๐๐ รวม ๒๓ ๓๕ ๑๔ ๕ รวมท้ังสนิ้
๕ ๑.๔ ผลกำรทดสอบระดบั ชำติของผู้เรียน ๑) เปรยี บเทยี บผลการประเมนิ ผลสมั ฤทธผ์ิ เู้ รียนตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน (NT) ระดับช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๓ จาแนกตามร้อยละของกลุ่มผลการประเมนิ ตัง้ แต่ปกี ารศึกษา ๒๕๖๐-๒๕๖๒ (๒ ปยี อ้ นหลงั ) ๑.๑ ดา้ นภาษา (Literacy) ดา้ นภาษาไทย ระดับคณุ ภาพ ปกี ารศึกษา ปรบั ปรงุ (%) พอใช(้ %) ดี(%) ดีมาก(%) ๒๕๖๐ ๐ ๐ ๐ ๑๐๐ ๒๕๖๑ ๐ ๐ ๕๐ ๕๐ ๒๕๖๒ ๐ ๑๑.๑๑ ๖๖.๖๖ ๒๒.๒๒ ๑.๒ ดา้ นคานวณ (Numeracy) ดา้ นคานวณ ระดับคณุ ภาพ ปีการศกึ ษา ปรับปรงุ (%) พอใช(้ %) ด(ี %) ดีมาก(%) ๒๕๖๐ ๐ ๗๕ ๒๕ ๐ ๒๕๖๑ ๐ ๒๐ ๖๐ ๒๐ ๒๕๖๒ ๓๓.๓๓ ๖๖.๖๖ ๐ ๐ ๑.๓ ดา้ นการให้เหตผุ ล (Reasoning Ability) ด้านการให้เหตุผล ระดับคณุ ภาพ ปีการศกึ ษา ปรับปรุง(%) พอใช้(%) ด(ี %) ดีมาก(%) ๐ ๑๐๐ ๒๕๖๐ ๐ ๐ ๗๐ ๒๐ ๒๕๖๑ ๐ ๑๐ ๒๕๖๒ ๑.๔ สรปุ ภาพรวมท้ัง ๓ ดา้ น ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๐-๒๕๖๑ สรุปภาพรวมความสามารถทงั้ ๓ ด้าน ระดบั คณุ ภาพ ปกี ารศึกษา ปรบั ปรุง(%) พอใช้(%) ด(ี %) ดีมาก(%) ๕๐ ๒๕๖๐ ๐ ๐ ๕๐ ๒๐ ๐ ๒๕๖๑ ๐ ๑๐ ๗๐ ๒๕๖๒ ๐ ๗๗.๗๗ ๒๒.๒๒
๖ ๒) ผลการทดสอบทางการศึกษาระดบั ชาตขิ น้ั พืน้ ฐาน (O-NET) ระดบั ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๖ และชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๓ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๐ - ๒๕๖๒ ปี ๒๕๖๐ ปี ๒๕๖๑ ปี ๒๕๖๒ กลุ่มสาระวชิ า ป.๖ ม.๓ ป.๖ ม.๓ ป.๖ ม.๓ ภาษาไทย ๖๐.๘๖ ๗๓.๐๐ ๓๙.๘๘ วทิ ยาศาสตร์ ๖๓.๓๙ ๖๘.๕๐ ๒๙.๕๓ คณติ ศาสตร์ ๖๕.๕๖ ๗๐.๗๑ ๒๖.๘๘ ภาษาต่างประเทศ ๖๑.๑๑ ๗๑.๐๗ ๒๕.๓๑ ๓) ผลการประเมนิ ความสามารถดา้ นการอ่านของผู้เรียน(RT) ระดับชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๑ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๐ - ๒๕๖๒ ปี ๒๕๖๐ ปี ๒๕๖๑ ปี ๒๕๖๒ กลุ่มสาระวิชา ค่าเฉล่ีย ระดบั คา่ เฉล่ยี ระดบั คา่ เฉลย่ี ระดับ อ่านออกเสยี ง ๘๐.๓๕ ดีมาก ๗๕.๐๐ ดีมาก ๘๔.๓๓ ดมี าก อา่ นรเู้ รอ่ื ง ๗๕.๔๒ ดมี าก ๗๙.๒๕ ดมี าก ๘๖.๔๔ ดีมาก ค่าเฉลีย่ ๒ ๗๗.๘๙ ดีมาก ๗๗.๑๒ ดีมาก ๘๕.๓๘ ดมี าก สมรรถนะ ๔. สรปุ ขอ้ มูลผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นระดบั สถานศึกษา ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒ ท่ีได้ระดบั คณุ ภาพการศึกษา ต้งั แต่ระดบั ๓ ขน้ึ ไป สรุปข้อมูลผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นระดบั สถานศึกษา ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้(คดิ เป็นร้อยละ) ระดับชัน้ ภาษาไทย วทิ ยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ สงั คม สุข ศิลปะ การ ภาษาตา่ งประเทศ ศกึ ษา ศึกษา งาน อาชีพ ป.๑ ๑๐๐ ๑๐๐ ๑๐๐ ๑๐๐ ๑๐๐ ๑๐๐ ๑๐๐ ๑๐๐ ป.๒ ๑๐๐ ๑๐๐ ๑๐๐ ๑๐๐ ๑๐๐ ๑๐๐ ๑๐๐ ๑๐๐ ป.๓ ๘๓.๓๓ ๘๓.๓๓ ๑๐๐ ๑๐๐ ๑๐๐ ๑๐๐ ๑๐๐ ๘๓.๓๓ ป.๔ ๗๘.๕๗ ๑๐๐ ๑๐๐ ๑๐๐ ๑๐๐ ๑๐๐ ๑๐๐ ๙๒.๘๖ ป.๕ ๑๐๐ ๑๐๐ ๑๐๐ ๑๐๐ ๑๐๐ ๑๐๐ ๑๐๐ ๑๐๐ ป.๖ ๑๐๐ ๙๓.๓๓ ๑๐๐ ๑๐๐ ๑๐๐ ๙๓.๓๓ ๑๐๐ ๑๐๐
๑.๕ แหล่งเรียนรู้ /ภมู ปิ ัญญาท้องถนิ่ ปีการศึกษา ๒๕๖๒ ๗ ๑) แหล่งเรยี นรภู้ ายในโรงเรยี น แหลง่ เรยี นรูภ้ ายใน สถิตกิ ารใชจ้ านวนคร้งั / ชือ่ แหล่งเรยี นรู้ ปี ๒๐๐ ๑. ห้องสมุด ๒๐๐ ๒.สวนหยอ่ ม ๒๐๐ ๓.สนามเด็กเล่น ๒๐๐ ๔.สนามฟุตบอล ๒๐๐ ๕.สนามเซปักตะกร้อ ๒๐๐ ๖.สนามวอลเลยบ์ อล ๒๐๐ ๗.ห้องครัวโรงเรยี น ๒๐๐ ๘.ห้องคอมพิวเตอร์ ๑๐๐ ๙.แปลงผกั สวนครวั ๒๐๐ ๑๐.สวนป่า สถิติการใช้ ๒) แหลง่ เรยี นร้ภู ายนอกโรงเรียน จานวนครั้ง/ปี แหล่งเรียนรู้ภายนอก ชื่อแหล่งเรียนรู้ ๑๐๐ ๑๐ ๑.แม่นา้ ปาว ๔๐ ๒.นาขา้ ว ๑๐ ๓.วดั พิชยั ๑๐ ๔.ไร่ออ้ ย ๕ ๕.ไร่มนั สาปะหลงั ๕๐ ๖.ปา่ สาธารณะประโยชน์ ๑๐ ๗.ร้านค้าสหการหมู่บา้ น ๘. วิสาหกจิ ชมุ ชนการแปรรปู ผลติ ภัณฑ์จากปลา
๘ ๓) ปราชญ์ชาวบ้าน/ภูมปิ ัญญาท้องถ่ิน ผูท้ รงคุณวุฒิ ที่สถานศึกษาเชิญมาใหค้ วามรแู้ ก่ครู นกั เรยี น ในปีการศึกษาท่ีรายงาน ชื่อ สาขา/เรอื่ ง ๑.นางปญั ญา เคนมี ร้านคา้ สหการ ๒.นางสมจติ ร คงกะเรยี น การรอ้ งสรภญั ญะ ๓.นางยพุ นิ วงั แสง การแปรรปู อาหาร ๔.นายสมพงษ์ ผาอาจ การปลกู อ้อย ๕.นางรดั ดา ผาอาจ การทอผ้าไหม ๑.๖ ผลงำนดเี ดน่ ในรอบปีกำรศึกษำ ๒๕๖๒ ประเภท ระดับรำงวลั /ชอ่ื รำงวัลทไี่ ด้รับ หน่วยงำนทม่ี อบรำงวลั - สถำนศกึ ษำ - - ผู้บริหำร(ระบุชื่อ) - สานกั งานเขตพนื้ ที่การศึกษา ประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๒ ครู(ระบุช่ือ) นางประภา ผาอาจ ครูผู้สอนนักเรยี นไดร้ บั รางวลั ระดบั เหรยี ญเงนิ กจิ กรรม การ แข่งขนั ขับร้องเพลงไทยลูกกรุง ประเภทชาย ระดบั ช้ัน ป.๑-ป.๖ นางประภา ผาอาจ ครผู สู้ อนนักเรียนได้รับรางวัล สานักงานเขตพนื้ ท่ีการศึกษา ระดับเหรียญเงนิ กิจกรรม การ ประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๒ แข่งขันขบั รอ้ งเพลงพระราชนิพนธ์ ประเภทชาย ระดับชนั้ ป.๑-ป.๖ นางประภา ผาอาจ ครูผู้สอนนกั เรียนไดร้ บั รางวลั สานกั งานเขตพน้ื ท่ีการศึกษา ระดบั เหรยี ญเงนิ กิจกรรม การ ประถมศกึ ษาอุดรธานี เขต ๒ แข่งขันขบั ร้องเพลงไทยลูกทงุ่ ประเภทนกั เรียนท่มี คี วาม บกพร่องทางการเรียนรู้ ระดับชน้ั ป.๑-ป.๖
๙ ประเภท ระดบั รำงวลั /ช่ือรำงวัลที่ไดร้ ับ หนว่ ยงำนท่มี อบรำงวัล นกั เรียน(ระบชุ ่ือ) เด็กชายสันติภาพ บุตรพรม ไดร้ บั รางวลั ระดบั เหรียญเงนิ สานักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษา กิจกรรม การแขง่ ขนั ขบั ร้องเพลง ประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๒ ไทยลกู กรุง ประเภทชาย ระดบั ช้ัน ป.๑-ป.๖ เดก็ ชายศภุ นฐั บตุ รดา ไดร้ บั รางวัลระดบั เหรยี ญเงนิ สานักงานเขตพนื้ ที่การศึกษา กจิ กรรม การแข่งขนั ขับร้องเพลง ประถมศกึ ษาอุดรธานี เขต ๒ พระราชนิพนธ์ ประเภทชาย ระดับชัน้ ป.๑-ป.๖ เดก็ ชายสทิ ธิพล แสนศรี ได้รบั รางวลั ระดบั เหรียญเงิน สานกั งานเขตพื้นที่การศึกษา กิจกรรม การแข่งขันขับร้องเพลง ประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๒ ไทยลกู ทุ่ง ประเภทนักเรยี นท่ีมี ความบกพรอ่ งทางการเรียนรู้ ระดับชัน้ ป.๑-ป.๖
๑๐ ๑.๗ สรุปผลกำรประเมนิ คณุ ภำพจำกหน่วยงำนภำยนอก (ครัง้ ลำ่ สุด)และข้อเสนอแนะ ระดับปฐมวยั ๑) ผลกำรประเมนิ ตำมมำตรฐำน ๑. ด้ำนกำรจดั กำรศึกษำ เดก็ มีพฒั นาการด้านรา่ งกาย ด้านอารมณ์และจติ ใจ ดา้ นสังคม และดา้ นสติปญั ญาท่ีดีมาก มีความพร้อมในการศกึ ษาข้นั ตอ่ ไป สถานศึกษามีผลการพัฒนาบรรลตุ ามปรัชญา ปณิธาน/วิสยั ทศั น์ พนั ธกจิ และวัตถุประสงค์ของการจดั ตัง้ สถานศึกษาท่ดี ีมาก ส่งผลใหเ้ ดก็ เกดิ อัตลกั ษณต์ ามทกี่ าหนด มี การพฒั นาตามจดุ เนน้ และจุดเด่นที่ส่งผลสะท้อนเป็นเอกลักษณ์ของสถานศึกษา เป็นทย่ี อมรับของชมุ ชนและ องค์กรภายนอก และมีผลการดาเนินงานโครงการพิเศษเพ่ือส่งเสรมิ บทบาทของสถานศึกษาในระดับทด่ี ี ๒. ด้ำนกำรบริหำรกำรจดั กำรศกึ ษำ สถานศึกษามปี ระสทิ ธิภาพของการบริหารจัดการและการพัฒนาสถานศกึ ษาในระดับทดี่ ี ผู้บรหิ าร คณะกรรมการสถานศึกษามีความรู้ ความสามารถในการบริหารจัดการสถานศึกษา สภาพแวดลอ้ มภายนอก อาคารให้เอื้อต่อการเรียนรู้ ปลอดภยั และถูกสขุ ลกั ษณะ มีประสิทธิภาพในการจัดมาตรการดา้ นความปลอดภยั และการป้องกนั การบาดเจบ็ ในเด็กและมผี ลการสง่ เสรมิ พัฒนาสถานศึกษาเพอ่ื ยกระดับมาตรฐานรักษา มาตรฐานที่สอดคลอ้ งกบั แนวทางการปฏิรูปการศกึ ษาที่ดีมาก ๓. ด้ำนกำรจัดกำรกำรสอนทีเ่ น้นผเู้ รียนเป็นสำคัญ ครูมีประสิทธภิ าพในการจัดประสบการณ์การเรียนรทู้ ่เี น้นเดก็ เป็นสาคญั ที่ดีมาก มกี ารสง่ เสริม การเรยี นรู้เพื่อพฒั นาการด้านร่างกาย อารมณ์ จติ ใจ ด้านสังคม และสตปิ ัญญา ตลอดจนมีการสง่ เสริม ความสมั พนั ธท์ างบวกกบั เด็กและครอบครวั ทีด่ ีมาก ๒) ขอ้ เสนอแนะ ๑. ดำ้ นผลกำรจัดกำรศกึ ษำ - ไม่มี ๒. ดำ้ นกำรบริหำรจดั กำรศกึ ษำ ควรพฒั นาประสิทธภิ าพการบริหารจดั การด้านการจดั สภาพแวดล้อมภายในอาคาร ใหเ้ ออื้ ตอ่ การเรยี นรู้ปลอดภยั และถูกสุขลักษณะ โดยให้ความสาคัญกบั การป้องกนั ภัยอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ เชน่ มี การปรับจดุ ปล๊ักไฟให้มีความปลอดภัยสาหรับเด็ก มีการติดต้ังเครอ่ื งตดั ไฟและอปุ กรณ์ดับเพลงิ ท่ีพรอ้ มใชง้ าน มีช่องทางฉุกเฉนิ ท่สี ามารถพาเด็กออกนอกอาคารได้อยา่ งปลอดภัย มกี ารอบรมบคุ ลากรและครูหรอื ผเู้ ลย้ี ง เด็กเพื่อเพม่ิ พูนความร้แู ละทักษะในการจดั การความปลอดภยั ในเดก็ เปน็ ประจาทกุ ปี ควรจัดใหม้ ีการตดิ ตั้ง เครอ่ื งตดั ไฟและอุปกรณด์ ับเพลงิ ท่ีพรอ้ มใชง้ าน พร้อมทั้งจัดใหม้ รี ะบบเฝา้ ระวังและวเิ คราะห์ความเสี่ยง มี กิจกรรมป้องกนั ความปลอดภยั ทีค่ รอบคลุมทั้ง ๖ ดา้ น คือ ความปลอดภยั ของอาคาร ความปลอดภยั ของ ผลติ ภณั ฑ์ (ของใช้ ของเล่นอุปกรณ์การเรยี นรู้) การเดนิ ทางปลอดภัย ระบบป้องกนั ภยั จากบุคคล ระบบฉุกเฉิน (แผนฝึกซอ้ มการป้องกันภยั ฝึกการกชู้ ีพ หมายเลขโทรศพั ท์ฉุกเฉนิ อุปกรณ์รักษาความปลอดภยั อปุ กรณ์
๑๑ ดบั เพลิง) และความปลอดภัยในการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ๓. ด้ำนกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนท่เี นน้ ผเู้ รยี นเปน็ สำคญั ไมม่ ีตัวบ่งชใี้ ดที่ต่ากว่าระดับดี แต่ต้องการให้ครูทกุ คนมีการนาผลการประเมินพฒั นาการเด็กทกุ ดา้ น ไปใช้เพื่อการพฒั นาเด็กและพัฒนาแนวทางการจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้ โดยครทู ุกคนควรไดร้ บั การสง่ เสรมิ ให้มีความเขา้ ใจในการแปลผลขอ้ มลู การประเมินพฒั นาการเด็กทเ่ี ก็บรวบรวมได้ โดยอิงกรอบพัฒนาการตาม วัยและเป้าหมายของการจัดประสบการณ์ของสถานศึกษา ตลอดจนควรหานวตั กรรมในการพฒั นาวิธกี าร ประเมินพฒั นาการของเดก็ โดยใชว้ ธิ ีการทีห่ ลากหลายในการประเมินพัฒนาการเด็กเปน็ รายบคุ คล เชน่ การสงั เกต การสอบถามเด็ก สัมภาษณผ์ ปู้ กครอง การปรึกษาแพทยเ์ ฉพาะทาง การศกึ ษาเด็กเป็นรายกรณี หรอื ขอ้ มูลจากแหล่งอน่ื ๆ ครบถว้ นตามพัฒนาการเด็กทุกด้าน มีการบันทึกพัฒนาการเด็กอยา่ งต่อเน่ือง สมา่ เสมอ ครอบคลมุ พฒั นาการทุกด้าน และนาข้อมูลจากการประเมินไปปรบั ปรงุ กระบวนการการจัด ประสบการณ์ของครูให้สอดคล้องกับความแตกตา่ งระหวา่ งบคุ คล ใหเ้ ด็กได้รบั การพัฒนาทุกด้านอยา่ งเต็ม ศกั ยภาพ
๑๒ ระดบั ประถมศึกษำ ๑) ผลกำรประเมินตำมมำตรฐำน ๑. ดำ้ นผลกำรจดั กำรศึกษำ ผู้เรียนมสี ุขภาพกายและสขุ ภาพจิตทดี่ ีมาก มีน้าหนกั ส่วนสูงตามเกณฑ์ของกรมอนามัย และมี สมรรถภาพทางกายตามเกณฑ์ของกรมพลศึกษา หลกี เล่ียงส่ิงเสพติด ส่ิงมอมเมาและรจู้ ักดูแลตนเองให้มคี วาม ปลอดภยั มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และค่านยิ มท่ีพงึ ประสงค์ มีความใฝ่ร้แู ละเรยี นรู้อยา่ งต่อเนอื่ ง คดิ เป็น ทาเป็น และมีผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนในภาพรวมอยูใ่ นระดบั ดี สถานศึกษามีผลการพัฒนาให้บรรลุตามปรชั ญา ปณธิ าน พันธกจิ และวัตถปุ ระสงคข์ องการจดั ต้ังสถานศึกษาและผลการพัฒนาตามจดุ เน้นและจุดเดน่ ที่สง่ ผล สะทอ้ นเปน็ เอกลักษณ์ของสถานศึกษาท่ดี มี ากและมีผลการดาเนินงานโครงการพเิ ศษเพอื่ ส่งเสริมบทบาทของ สถานศึกษา ทีด่ ี ๒. ด้ำนกำรบริหำรจัดกำรศกึ ษำ สถานศกึ ษามีประสทิ ธิภาพในการบริหารจัดการและการพฒั นาสถานศึกษา และมี การสง่ เสรมิ พัฒนาสถานศึกษาเพือ่ ยกระดับมาตรฐานทสี่ อดคล้องกบั แนวทางการปฏริ ปู การศกึ ษาท่ดี ีมาก ๓. ด้ำนกำรจดั กำรเรยี นกำรสอนที่เน้นผ้เู รียนเป็นสำคญั สถานศึกษามีประสทิ ธผิ ลของการจัดการเรยี นการสอนที่เน้นผูเ้ รยี นเป็นสาคัญดีมาก ๔. ดำ้ นกำรประกันคุณภำพภำยใน สถานศึกษามีพฒั นาการของการประกันคุณภาพภายในโดยสถานศกึ ษาและตน้ สังกัดทดี่ มี าก ๒) ข้อเสนอแนะ ๑. ด้ำนผลกำรจัดกำรศึกษำ ๑) ผู้เรยี นควรได้รับการพฒั นาผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นกลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาอังกฤษ โดย เรง่ กดว่ นและไดร้ บั การพฒั นาอย่างจริงจังต่อเน่ืองในกล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย สังคมศกึ ษา ศาสนาและ วัฒนธรรม และศลิ ปะโดยจดั กจิ กรรมการเรยี นรจู้ ากการปฏิบตั ิ ฝึกคิด ฝกึ ทา ฝึกแก้ปัญหา มีการศึกษาคน้ คว้า และไดเ้ รียนรู้ดว้ ยตนเองจากสอ่ื และแหลง่ เรยี นรู้ทีห่ ลากหลาย เชอ่ื มโยงสมั พนั ธก์ บั ประสบการณ์ในชีวิต และ เรียนรผู้ ่านประสบการณต์ รงร่วมกบั ผอู้ น่ื ทั้งในและนอกสถานศกึ ษา ๒) ผู้เรยี นควรไดร้ บั การพัฒนาด้านการค้นควา้ หาความรู้จากการอา่ นและใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ โดยสถานศกึ ษาควรจัดหาหนังสอื ที่สอดคล้องกบั ความต้องการ ความสนใจของผเู้ รยี นให้เพียงพอ จดั กจิ กรรม การเรยี นรู้ทสี่ ง่ เสริม การศึกษาคน้ ควา้ จากห้องสมุด ประกวดบันทึกสาระน่ารทู้ ไ่ี ดจ้ ากการอ่าน นอกจากนค้ี วร จดั ใหผ้ ้เู รียนทาโครงงานในเร่ืองทต่ี นเองสนใจ จดั ใหม้ ีการประกวดโครงงานในสถานศึกษาเพ่ือสร้างแรงจงู ใจ ในการพัฒนางานของผูเ้ รียน ๒. ดำ้ นกำรบริหำรจัดกำรศกึ ษำ - ไมม่ ี
๑๓ ๓. ดำ้ นกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนที่เน้นผ้เู รียนเป็นสำคญั ไมม่ ีตวั บ่งชีใ้ ดตา่ หว่าระดบั ดี แตค่ รผู ้สู อนควรมีการพัฒนาปรับปรงุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นการ สอนกลุม่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ ภาษาไทย สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ศลิ ปะ โดยการนา ผลการทดสอบท้ังระดบั ชาติและระดบั สถานศกึ ษามาวิเคราะห์เพ่ือหาจุดด้อยของผูเ้ รยี นและความเหมาะสม ของกจิ กรรมการเรยี นรูใ้ ห้ชัดเจน มีการทบทวนและปรบั ปรงุ แผนการพฒั นาผ้เู รยี นรายบุคคลโดยกาหนด เปา้ หมายและแนวทางจดั การเรยี นรูแ้ กผ่ เู้ รยี นในแตล่ ะกลุ่มสาระการเรยี นรูใ้ หส้ อดคล้องกับธรรมชาติ ความสามารถ ความถนดั รายบคุ คล มกี ารประชมุ ร่วมกันเพื่อหาแนวทางหรือนวัตกรรมมาแกไ้ ขและพัฒนา ผเู้ รียนใหม้ ีผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงข้นึ นอกจากน้ีอาจเชญิ ผทู้ รงคณุ วุฒทิ ม่ี ีความชานาญการในการสอนแต่ ละกลุ่มสาระมาเปน็ วทิ ยากร ให้ความรู้แก่ครูดา้ นเทคนิควิธีการจดั กิจกรรมการเรียนรแู้ ก่ผเู้ รยี น เปดิ โอกาสให้ ผูเ้ รยี นไดเ้ รยี นรจู้ ากแหล่งเรียนรู้ท้งั ในและนอกสถานศึกษาทีห่ ลากหลาย เน้นให้ผู้เรยี นไดเ้ รียนร้จู ากการปฏิบัติ หรือจากประสบการณ์ทเี่ ช่ือมโยงกบั ชีวติ ของผูเ้ รยี นมากยงิ่ ขึ้น มีการสอนซ่อมเสริมผู้เรียนที่ไม่ผ่านจุดประสงค์การเรียนรทู้ นั ที มีการประเมนิ ผลการ เรียนรขู้ องผู้เรยี นด้วยวธิ กี ารท่ีสอดคลอ้ งกับสภาพจรงิ ของการเรยี นรู้ เชน่ การสงั เกตพฤติกรรม ซกั ถาม สมั ภาษณ์ ทดสอบ ทดลอง การปฏิบัตจิ รงิ ตรวจแบบฝึกหัด ประเมนิ ชิ้นงาน ผลงาน เป็นตน้ มกี ารนาผลทไ่ี ด้ จากการประเมินมาพฒั นาปรับปรงุ แก้ไข ปรับเปลีย่ นการจัดกระบวนการเรียนรู้เพ่ือพัฒนาผูเ้ รียนอย่างต่อเน่ือง และครคู วรทาวจิ ัยหรือศกึ ษาเด็กเป็นรายกรณเี พ่ือแก้ไขปัญหาผูเ้ รียนไดต้ รงกบั สาเหตุอย่างตอ่ เน่ือง
๑๔ ตอนที่ ๒ ผลกำรประเมินตนเองของสถำนศกึ ษำ ผลการประเมนิ คุณภาพภายในของโรงเรียนบ้านโคกสะอาด ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒ ทงั้ ระดับปฐมวยั และระดบั การศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน ดังต่อไปนี้ ระดบั ปฐมวัย มำตรฐำนที่ ๑ คุณภำพของเดก็ ๑. ผลกำรประเมิน ระดับคุณภำพ ดเี ลศิ ประกอบด้วยผลกำรประเมิน ๔ ดำ้ น ดงั นี้ ๑.๑ ดำ้ นมพี ฒั นำกำรด้ำนร่ำงกำย แขง็ แรง มีสุขนสิ ยั ที่ดี และดูแลควำมปลอดภัยของ ตนเองได้ ๑.๑.๑ กระบวนกำรพฒั นำ โรงเรียนได้ดาเนินการพัฒนาเพื่อให้เด็กมีพัฒนาการด้านร่างกาย แข็งแรง มีสุขนิสัยท่ีดี และ ดแู ลความปลอดภยั ของตนเองได้ โดยไดจ้ ัดทาโครงการ และกจิ กรรม ดังต่อไปน้ี ๑) โครงการอาหารกลางวัน วิธีดาเนินการ โรงเรียนจัดทาอาหาร ตามหลักโภชนาการ ด้วยอาหารหลัก ๕ หมู่ ท่ีถูกสุขลักษณะและเพียงพอต่อความต้องการของร่างเด็ก โดยไม่มีสารพิษหรือ สงิ่ เจือปนทก่ี ่อให้เกิดอนั ตรายตอ่ ร่างกาย เพราะอาหารหลัก ๕ หมู่เป็นสิ่งสาคัญที่ทาให้ร่างกายแข็งแรง รวมถึง การล้างมอื ก่อนรบั ประทานทุกครงั้ และ ถูกวิธี ๒) โครงการอาหารเสริม(นม) วิธีดาเนินการ โรงเรียนดาเนินการจัดซ้ืออาหารเสริม(นม) โดยใหเ้ ดก็ นักเรยี นทกุ คนไดร้ ับประทานอาหารเสริม(นม)โรงเรียนท่ีมีคุณภาพ ๓) โครงการการแปรงฟัน วิธีดาเนินการ คุณครูจัดเตรียมแปรงสีฟันและยาสีฟันท่ี เหมาะสมกับวัย โดยคุณครูสาธิตข้ันตอนการแปรงฟันที่ถูกต้องให้เด็กๆดู และให้เด็กๆ แปรงฟันทุกวันหลังด่ืม นมเสรจ็ ๔) กิจกรรมเคลื่อนไหวร่างกายและจังหวะ วิธีดาเนินการ เคล่ือนไหวร่างกาย ประกอบเสียงเพลง เคล่ือนไหวตามเสียงดนตรี กายบริหาร การทดสอบสมรรถภาพทางกายโดยการยืดหยุ่น ของร่างกาย ความอ่อนตวั ๕) กิจกรรมสร้างสรรค์ วิธีดาเนินการ จัดกิจกรรมสร้างสรรค์ เช่น กิจกรรมศิลปะ ขีด เขียน ระบายสี การป้ัน การฉีก ตัดกระดาษการใช้กรรไกรตัดกระดาษ การพับเป็นการฝึกกล้ามเนื้อมัด เลก็ ความสมั พันธ์ระหว่างมอื และตา ๖) กิจกรรม กิจกรรมกลางแจ้ง วิธีดาเนินการ เล่นการละเล่นพ้ืนบ้าน เล่นเครื่องเล่น สนาม เล่นอปุ กรณก์ ีฬา ว่ิง โดด สนบั สนนุ การเข้าร่วมกีฬากลุ่ม เป็นการเสริมสร้างกล้ามเนอ้ื มดั ใหญใ่ หแ้ ข็งแรง
๑๕ ๑.๑.๒ ผลกำรพัฒนำ จากกระบวนการพัฒนาของโรงเรียนเพ่ือให้เด็กมีพัฒนาการด้านร่างกาย แข็งแรง มีสุข นิสัยทดี่ ี และดูแลความปลอดภยั ของตนเองได้ ผลจากการดาเนนิ งานพฒั นา มีดงั ต่อไปน้ี เด็กมีพัฒนาการด้านร่างกายอยู่ในเกณฑ์ ดีเลิศ มีน้าหนักสวนสูงเป็นไปตามเกณฑ์ มาตรฐาน มีทักษะการเคลื่อนไหวร่างกายคล่องแคล่ว ทรงตัวได้ ใช้มือและตาประสารสัมพันธ์และทรงตัวได้ เดินตามแนว/ต่อเท้า การโดดสองขา/ขาเดียว ว่ิงและหยุด/หลบหลีกส่ิงกรีดขวาง รับ ส่งลูกบอลได้ดี เข้าร่วม กิจกรรมการแข่งกีฬากลุ่ม สามารถใช้ตาและมือประสานสัมพันธ์กัน โดยใช้กรรไกรตัดกระดาษ ขีด เขียนเป็น รูปทรงวงกลม/สามเหลี่ยม/ส่ีเหลี่ยมตามแบบ ป้ันดินน้ามันเป็นรูปต่างๆ ได้ มีสุขนิสัยในการดูแลตน สามา รบั ประทานอาหารที่มปี ระโยชน์และด่มื นา้ สะอาด ล้างมือกอ่ นรับประทานอาหารและหลงั จากให้องน้าห้องสว้ ม รูจ้ กั หลกี เลีย่ งต่อโรค อุบตั ิเหตุ สามารถเล่นและทากิจกรรมไดอ้ ย่างปลอดภัย ๑.๒ ด้ำนมีพัฒนำกำรดำ้ นอำรมณ์ จิตใจ ควบคุม และแสดงออกทำงอำรมณไ์ ด้ ๑.๒.๑ กระบวนกำรพัฒนำ โรงเรียนได้ดาเนินการพัฒนาเพื่อให้เด็กมีพัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ ควบคุม และ แสดงออกทางอารมณ์ได้ โดยได้จดั ทาโครงการ กจิ กรรม ดงั ตอ่ ไปนี้ ๑) กิจกรรมตามแผนการจัดประสบการณ์ วิธีดาเนินการ สาหรับกระบวนการพัฒนาของ ครู ครูอบรมส่ังสอนโดยการปลูกฝังคุณธรรมให้แก่เด็กเร่ิมจาการพัฒนาความเข้าใจของเด็กให้เข้าใจความรู้สึก ของการนอบน้อมสัมมาคารวะ รู้จักการขอบคุณ ขอโทษ เอื้อเฟ้ือเผ่ือแผ่ มีความอดทน สามารถรับฟังความ คิดเห็นของผู้อ่ืน รู้จักการรอคอย เรียนรู้ที่จะแบ่งปัน โดยครูจัดประสบการณ์โดดเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญโดย ดาเนินงานด้วยกิจกรรมท่ีหลากหลายเพื่อพัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ ควบคุม และแสดงออกทางอารมณ์ โดยเน้นกระบวนการจัดกิจกรรมตามแผนการจัดประสบการณ์สอดแทรกใน ๖กิจกรรมหลักทั้ง กิจกรรม เคลื่อนไหวและจังหวะ กิจกรรมเสริมประสบการณ์ กิจกรรมสร้างสรรค์ กิจกรรมกลางแจ้ง กิจกรรมเสรี กิจกรรมเกมการศึกษา ทั้ง๖ กิจกรรมน้ีเป็นกระบวนการหลักในการพัฒนาด้านอารมณ์ จิตใจ ควบคุม และ แสดงออกทางอารมณข์ องเด็กปฐมวัย ๒) กจิ กรรมวันเด็กแหง่ ชาติ วิธีดาเนนิ การ ร่วมกจิ กรรมวนั เดก็ แห่งชาติ โดยการเต้น ประกอบเพลง และการตอบคาถามบนเวที ๓) กิจกรรมวันสาคัญ วิธีดาเนินการ เช่นวันสาคัญทางพระพุธศาสนา วันเด็กวันไหว้ครู วันสุนทรภ่วู ันคริสต์มาส เป็นต้น เป็นการปลูกฝังให้เด็กไดร้ ับประสบการณ์ตรง เข้ารว่ มกิจกรรม ได้อย่างร่าเริงแจม่ ใส สนุกสนาน มีความรู้สึกดีต่อตนเอง มีความมั่นใจและกล้าแสดงออก สามารถเป็นพ้ืนฐาน ในการควบคมุ อารมณ์ตนเองไดเ้ หมาะสมกบั วยั และสถานการณ์
๑๖ ๑.๒.๒ ผลกำรพัฒนำ จากกระบวนการพัฒนาของโรงเรียนเพ่ือให้เด็กมีพัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ ควบคุม และแสดงออกทางอารมณ์ได้ ผลจากการดาเนินงานพัฒนา มดี งั ตอ่ ไปน้ี จากการดาเนินงานกิจกรรม และการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ที่หลากหลาย เพื่อ พัฒนาด้านอารมณ์และจิตใจ เรียนรู้ได้อย่างมีความสุข เด็กร่าเริงแจ่มใส สนุกสนาน มีความรู้สึกที่ดีต่อตนเอง และผู้อื่น กล้าแสดงออก ด้วยความมั่นใจทีเ่ หมาะสมกับวัยและสถานการณ์ สามารถควบคุมอารมณ์ตองเองได้ อยา่ งเหมาะสมกับวยั มคี วามชืน่ ชม ศิลปะ ดนตรี การเคลื่อนไหวตามเสียงเพลงและรกั ธรรมชาติ ๑.๓ ดำ้ นมพี ัฒนำกำรด้ำนสงั คม ช่วยเหลือตนเอง และเป็นสมำขิกท่ดี ีของสังคม ๑.๓.๑ กระบวนกำรพัฒนำ โรงเรยี นไดด้ าเนนิ การพฒั นาโดยมี โครงการและกิจกรรม ดงั ต่อไปนี้ ๑) โครงการโรงเรยี นคณุ ธรรม ประกอบด้วย กิจกรรม คุณธรรม วิธีดาเนินการ จัดกิจกรรมดังน้ี กิจกรรมที่๑ มีวินัยและความ รบั ผิดชอบ กิจกรรมที่๒ ความซื่อสัตย์ สุจรติ กิจกรรมท่ี๓ ความกตญั ญูกตเวที กิจกรรมที่๔ ความมีเมตากรุณา โอบอ้อมอารี เอือ้ เฟ้ือเผ่ือแผแ่ ละไม่เหน็ แกต่ วั ๒) กิจกรรมวันสาคัญๆ วิธีดาเนินการ เช่นวันสาคัญทางพระพุธศาสนา การทาบุญ ทา ความสะอาดบรเิ วณวัด งานวันข้ึนปีใหม่ งานวนั เด็ก การเตน้ ประกอบเพลงการตอบคาถามบนเวที การเล่นเกม เปน็ การเปิดโอกาสให้เดก็ ได้เรียนรผู้ ่านประสบการณต์ รง รจู้ ักการเข้าร่วมทากจิ กรรมกับผู้อน่ื เรียนรู้การปรับตัว ตามสถานการณ์ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ๒) กิจกรรมตามแผนการจัดประสบการณ์ วิธีดาเนินการ จัดกิจกรรมเคล่ือนไหวและ จังหวะ กิจกรรมเสริมประสบการณ์ กิจกรรมสร้างสรรค์ กิจกรรมกลางแจ้ง กิจกรรมเสรี กิจกรรมเกม การศกึ ษา ๖ กิจกรรมนี้สามารถเสริมสร้างกระบวนการเรยี นร้ซู ึง่ เป็นกระบวนการสาคัญและจาเป็นที่จะทา ใหเ้ ด็กเรียนรแู้ นวทางการปฏิบตั ติ ัวในสังคมให้ถกู ตอ้ ง ๓) กิจกรรมทัศนศึกษาแหล่งเรียนรู้ วิธีดาเนินการ โรงเรียนจัดทัศนศึกษาแหล่งเรียนรู้ นอกสถานที่ให้แก่เด็กปฐมวัย ในสถานท่ีดังน้ี วัดทุ่งเศรษฐี ห่างสรรพสินค้า สหกรณ์โคนมขอนก่อน เป็นการ ฝกึ ให้เดก็ ไดเ้ รยี นรกู้ ารปฏิบัตติ นในสถานทีต่ ่างๆ ฝกึ การอยู่รว่ มกบั ผอู้ ่ืนและสงั คมได้ ๑.๓.๒ ผลกำรพัฒนำ จากกระบวนการพัฒนาของโรงเรียนเพ่ือให้เด็กมีพัฒนาการด้านสังคม ช่วยเหลือตนเอง และเป็นสมาขกิ ที่ดีของสังคม ผลจากการดาเนนิ งานพัฒนามดี งั น้ี . ผลการพัฒนาการด้านสังคม เด็กยิ้ม ทักทายและพูดคุยกับผู้ใหญ่และบุคคลคุ้นเคย มีการ สร้างข้อตกลงและปฏิบัติตามข้อตกลงสามารถเป็นผู้นา ผู้ตามท่ีดีได้ รู้จักการกล่าวคาขอบคุณ ขอโทษ และ สวัสดี เด็กมีวินัย รู้จักการเก็บของเล่นของใช้เข้าท่ี เข้าแถวตามลาดับก่อนหลัง รู้จักการรอคอยมีความ รับผดิ ชอบ ทางานทไี่ ด้รับมอบหมายไดส้ าเรจ็ สงั เกตจากพฤติกรรมเด็ก มีความซื่อสตั ยส์ ุจริต บอกไดว้ า่ สิง่ ที่
๑๗ เป็นของตนเองและเป็นของคนอ่ืน แสดงความรักเพื่อน ช่วยเหลือมีน้าใจและแบ่งปันผู้อ่ืน และท่ีสาคัญมีจิต อาสา กระตือรือร้นท่ีจะช่วยเพ่ือน ช่วยครูเสมอ มีมารยาทตามวัฒนธรรมไทย หยุดยืน/ยืนตรงเม่ือได้ยิน/ร่วม ร้องเพลงชาตไิ ทยได้ ๑.๔ ดำ้ นมีพฒั นำกำรด้ำนสติปญั ญำ ส่ือสำรได้ มีทกั ษะกำรคิดพื้นฐำน และแสวงหำ ควำมรู้ได้ ๑.๔.๑ กระบวนกำรพฒั นำ โรงเรียนได้ดาเนินการพฒั นาโดยมี โครงการและกิจกรรม ดังต่อไปน้ี ๑) โครงงานบา้ นวทิ ยาสตร์นอ้ ย ประกอบด้วย กิจกรรมที่ ๑ เร่อื งสีสนั แหง่ ธรรมชาติ วิธดี าเนนิ การ จัดทาการทดลองเร่ืองสที ่ีได้จาก ธรรมชาติ โดยการศึกษาสที ี่ได้จากธรรมชาติในและนอกสถานศึกษา เม่ือทราบสีท่มี าจากธรรมชาติแลว้ กน็ าสง่ิ ที่ไดม้ าสกดั มดี อกอญั ชนั ใบเตย ขมิ้น โดยการขย้ี สบั ตา เม่ือสกดั สีไดแ้ ลว้ นาสที ่ีไดม้ าทาวนุ้ กิจกรรมท่ี ๒ ทดลอง ๒๐ กิจกรรม วิธีดาเนินการ จัดกิจกรรม สนุกกับฟอง สบู่ น้าจืดน้าเค็ม เนินน้า ปั๊มขวดลิฟต์เทยี น แสงเลี้ยวเบน เสยี งดังและเสียงเบา การจมการลอย การฟังเสียง ผ่านของแข็งและน้า การละลายของน้าตาล การกรองน้า ไหลแรงหรือค่อย ความลับของสีดา เรียงลาดับ ก่อนหลัง หมดุ ลอยน้า แสงสขี าวกบั สีรุ้ง นา้ ล้นและนา้ ท่วม ภูเขาไฟระเบดิ การจดั หมวดหมู่ กระจกกบั ภาพน่า พศิ วง ลูกข่างหลากสี ๒) กิจกรรมตามแผนการจัดประสบการณ์ วิธีดาเนินการ จัดกิจกรรม ๖หลักเป็นประจา ทุกวันซึ่งจะจัดกิจกรรมจากง่ายไปหายาก จากรูปธรรมไปนามธรรม เช่นการนับจานวน การฟังเสียงจาก กระป๋อง การบอกรสชาติจากอาหารต่างๆ การเปรียบเทียบสิ่งท่ีเล็กใหญ่ แยกสิ่งของท่ีเหมือนกัน เรียงลาดับ กอ่ นหลัง เลน่ เกมต่อภาพ จับคภู่ าพเหมือนกัน เปน็ ตน้ ๑.๔.๒ ผลกำรพฒั นำ ในด้านพัฒนาการด้านสติปัญญา จากกระบวนการพฒั นาขา้ งต้นส่งผลใหเ้ ด็ก มีพัฒนาการ ด้านสตปิ ัญญาที่เหมาะสมกบั วัย เดก็ เรยี นรู้ส่ิงรอบตัว ซักถามอย่างต้ังใจ และพูดสนทนาโต้ตอบ เล่าเรื่องราวใน สิ่งที่เรียนรู้ได้ มีความคิดรวบยอดเกี่ยวกับส่ิงต่างๆ ท่ีเกิดข้ึนจากประสบการณ์การเรียนรู้ สามารถบอก สว่ นประกอบ การเปล่ียนแปลง หรือความสัมพนั ธ์ของสิ่งตา่ งๆ จากการสังเกตโดยใช้ประสาทสัมผัสทงั้ ๕ จบั คู่ เปรียบเทียบความแตกต่างหรือความเหมือน จาแนกและจัดกลุ่มสิ่งต่างๆ เรียงลาดับสิ่งของและเหตุการณ์ มี ทักษะทางภาษาที่เหมาะสมกับวัย มีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์และ มี จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์
๑๘ ๒. จดุ เด่น มำตรฐำนที่ ๑ ๑) นักเรยี นมีนา้ หนกั ส่วนสูงเป็นไปตามเกณฑ์ มที ักษะการเคล่ือนไหวอย่างคล่องแคลว่ รวมถงึ หลีกเล่ียงต่อ โรค ภยั และอุบตั ิเหตุ ๒) นกั เรยี นมคี วามรูส้ ึกดีตอ่ ตนเอง มีความม่นั ใจกลา้ แสดงออกมากขึ้น รา่ เริงแจ่มใส สามารถ ควบคมุ อารมณ์ของตนเองได้อยา่ งเหมาะสมกับสถานการณ์ ๓) นักเรยี นมรี ะเบียบ วินัย มคี วามรบั ผดิ ชอบ ซกั ถามอยา่ งตง้ั ใจ ใช้ภาษาได้อย่างเหมาะสม กับวยั ๓. จดุ ทีค่ วรปรับปรงุ มำตรฐำนท่ี ๑ ๑) ลดการใช้เทคโนโลยี อาทิเช่น โทรศัพท์มือถือท่ีเกินความจาเป็นความจาเป็น โดยการให้ ความรู้กับผู้ปกครองและผู้เกี่ยวข้องให้ทราบถึงคุณและโทษในการใช้โทรศัพท์มือถือที่มากเกินไปสาหรับเด็ก ปฐมวัย ๒) การใช้วาจา คาพูด สุขภาพทเ่ี หมาะสมกับวยั ๓) การพัฒนา ปลูกฝังในเรื่องสุขนิสัยที่ดี เช่น การล้างมือก่อนรับประทานอาหารและล้างมือ กอ่ นออกจากหอ้ งนา้ หอ้ งส้วม รวมถงึ การเลอื กรับประทานอาหารท่ีมีประโยชน์ ให้เปน็ นิสัย ๔. แนวทำงกำรพฒั นำใหไ้ ดร้ ะดับคุณภำพทีส่ งู ข้ึน โรงเรยี นได้มีแนวทางในการพัฒนามาตรฐานที่ ๑ ใหไ้ ดร้ ะดบั คณุ ภาพที่สูงข้นึ โดยกาหนด โครงการและกิจกรรม ดังต่อไปน้ี ๑) โครงการอาหารกลางวนั ๒) โครงการส่งเสรมิ สุขภาพ ๓) โครงการคุณธรรม ๔) โครงงานวิทยาสตร์น้อย ๕. ผลสมั ฤทธิท์ ่ีเกิดขึ้นกับเดก็ และรางวัลทีไ่ ดร้ บั - ไมม่ ี
๑๙ มำตรฐำนท่ี ๒ กระบวนกำรบริหำรและกำรจัดกำร ๒.๑ ผลกำรประเมนิ ระดบั คุณภาพ ดเี ลศิ ประกอบด้วยผลการประเมนิ ๖ ข้อ ดังนี้ ๒.๑.๑ ดำ้ นจัดให้มหี ลักสูตรครอบคลมุ พัฒนำกำรท้ัง ๔ ดำ้ น สอดคลอ้ งกับบรบิ ทของ ทอ้ งถิน่ ๑) กระบวนกำรพัฒนำ โรงเรียนได้ดาเนนิ การพฒั นาโดยมี โครงการ และกจิ กรรม ดงั ตอ่ ไปน้ี ๑.๑) จัดทาหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย วิธีดาเนินการ การจัดทาหลักสูตรสถานศึกษา ปฐมวัย โรงเรียนบ้านโคกสะอาดได้มีการกาหนด วิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย สถานศึกษาไว้อย่างชัดเจน พัฒนาหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยให้สอดคล้องกับบริบทของท้องถิ่นพิจารณาจากวัยของเด็ก ประสบการของ เด็กโดยเป็นหลักสูตรท่ีมุ่งพัฒนาเด็กทุกด้าน ทั้งด้านร่างกาย อารมณ์-จิตใจ และสติปัญญา โดยให้ผู้มีส่วนร่วม ทุกฝ่ายได้มีบทบาทในการมีส่วนร่วมการจัดการศึกษา โดยให้มีการประสานความร่วมมือเพ่ือร่วมกันพัฒนา ผเู้ รยี นตามศกั ยภาพ ๒) ผลกำรพัฒนำ จากกระบวนการพัฒนาของโรงเรียนเพ่ือให้มีหลักสูตรครอบคลุมพัฒนาการทั้ง ๔ ด้าน สอดคลอ้ งกบั บรบิ ทของทอ้ งถิน่ ผลจากการดาเนนิ งานพัฒนา มดี ังน้ี คุณครูทุกคนมีความเข้าใจ วิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมายและธรรมชาติของการจัดการศึก ปฐมวัยและสามารถนามาประยุกต์ใช้ในการจัดประสบการณ์ ครูจัดทาแผนการจัดประสบการณ์สอดคล้องกับ หลักสูตรการศึกษาปฐมวัยและสามารถจัดประสบการณ์การเรียนรู้ท่ีหลากหลายสอด คล้องกับความแตกต่าง ระหวา่ งบุคคลได้อย่างเหมาะสม ๒.๑.๒ ด้ำนกำรจัดครใู หเ้ พียงพอกบั ชัน้ เรียน ๑) กระบวนกำรพฒั นำ โรงเรยี นไดด้ าเนนิ การพัฒนาโดยมี โครงการ ดงั ตอ่ ไปนี้ ๑) โครงการสานึกรักบ้านเกิด วิธีดาเนินการ จัดการทดสอบ การคัดเลือกครูปฐมวัย ๑ อัตรา ท่จี บการศึกษาปฐมวัย โดยตรงเพื่อใหเ้ พียงพอต่อช้นั เรยี น ๒.) ผลกำรพฒั นำ จากกระบวนการพัฒนาของโรงเรียนเพ่ือจัดครูให้เพียงพอกับช้ันเรียน ผลจากการ ดาเนนิ งานมีดงั น้ี จากการกระบวนการพัฒนาดังกล่าว ส่งผลให้ครูสามารถดูแลนักเรียนได้อย่างท่ังถึงและ ปลอดภัยตลอดเวลาท่ีอยู่ในห้องเรียนและปฏิบัติงานตามบทบาทหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพและเกิด ประสทิ ธผิ ล
๒๐ ๒.๑.๓ ด้ำนกำรส่งเสรมิ ใหค้ รูมคี วำมเช่ียวชำญดำ้ นกำรจดั ประสบกำรณ์ ๑) กระบวนกำรพัฒนำ โรงเรยี นไดด้ าเนินการพัฒนาโดยมี โครงการ และกจิ กรรม ดงั ตอ่ ไปน้ี ๑) อบรม STEM วิธีดาเนินการ เข้าอบรม STEM เพ่ือพัฒนาความรู้ท่ี สพป. อุดรธานี เขต ๒ ห้องร่วมคิดได้นาความรู้มาปรับใช้ในกิจกรรมการเรียนการสอนในชั้นเรียนได้เป็นอย่างดี ได้รับเกียรติ บตั รจากการอบรม ๒) อบรมโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อย วิธีดาเนินการ เข้าอบรมโครงการบ้าน วิทยาศาสตร์น้อย เพ่ือพัฒนาความรู้ ความสามารถและนาประสบการณ์ที่ได้มาปรับใช้ในการเรียนการสอน รวมถงึ การทดลองวทิ ยาศาสตร์น้อย ใหถ้ ูกตอ้ ง ๓) การอบรมเชิงปฏิบัติการสาหรับครูด้วยนวัตกรรมการศึกษาช้ันเรียน (Lesson study) วิธีดาเนินการ เข้าร่วมอบรมเชิงปฏิบัติการสาหรับครูด้วยนวัตกรรมการศึกษาช้ันเรียน (Lesson study) ที่ มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น จังหวดั ขอนแก่น เพอื่ พัฒนาความรู้ความสามารถ และนาความรู้ วิธีการสอนมาปรับใช้ ในการจัดประสบการณ์ ๔) อบรมการจบหลักสูตรปฐมวัยพุทธศักราช ๒๕๖๒ วิธีดาเนินการ เข้ารับการอบรม การจบหลกั สตู รปฐมวัยพุทธศักราช ๒๕๖๒ เพอื่ นาความรทู้ ีไ่ ดม้ าปรับใช้อยา่ งถกู ต้อง ๒) ผลกำรพฒั นำ จากกระบวนการพัฒนาของโรงเรียนเพื่อส่งเสริมให้ครูมีความเช่ียวชาญด้านการจัด ประสบการณ์ มีดงั น้ี ในการเข้าร่วมการอบรม กิจกรรมต่างๆ ซึ่งส่งผล ให้ครูการศึกษาปฐมวัยมีความรู้ ความสามารถในการวิเคราะห์และออกแบบหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย มีทักษะในการจัดประสบการและ ประเมินพัฒนาการเด็กเป็นรายบุคคล และนาความรู้ที่ได้มาพัฒนาการจัดการเรียนการสอนในห้องเรียนได้ดี รวมถึงเปน็ การส่งเสรมิ และพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้มปี ระสิทธิภาพมากข้นึ กระบวนการพฒั นาของโรงเรียน เพ่อื สง่ เสริมใหค้ รมู คี วามเชยี่ วชาญด้านการจดั ประสบการณ์ อยใู่ นระดับ ดเี ลศิ ๒.๑.๔ จดั สภำพแวดลอ้ มและสอื่ เพือ่ กำรเรยี นรู้ อยำ่ งปลอดภัยและเพยี งพอ ๑) กระบวนกำรพฒั นำ โรงเรยี นได้ดาเนนิ การพัฒนาโดยมี โครงการ และกิจกรรม ดังตอ่ ไปน้ี ๑) โครงการโรงเรยี นปลอดขยะ ประกอบด้วย กิจกรรมท่ี ๑ การจดั กิจกรรมการใหค้ วามรู้ความเข้าใจในเร่ืองขยะ วิธดี าเนินการ โดยจัดป้ายนิเทศ แผ่นพบั เผยแพรค่ วามรู้ กิจกรรมท่ี ๒ กจิ กรรมเสียงตามสาย วธิ ีดาเนนิ การ ใหค้ วามรู้แก่ครู นักเรยี น และ บคุ ลากรทางการศึกษา ตลอดจนผู้ปกครองและชุมชน
๒๑ กจิ กรรมท่ี ๓ กิจกรรมแยกขยะจากห้องเรียนวธิ ดี าเนนิ การ แยกขยะกระดาษ ขยะพลาสตกิ ขยะทวั่ ไป ขยะอันตราย กิจกรรมท่ี ๔ กิจกรรมลดขยะอินทรีย์ลดปริมาณขยะในโรงเรียนและลดการใช้ที่ ฟุ่มเฟือย วิธีดาเนินการ เช่นการกินอาหารให้หมดจาน ปิดไฟทุกครั้งที่ไม่ใช้งานและเปิดเฉพาะจุดที่สาคัญ การใช้แกว้ นา้ ส่วนตวั การใชก้ ระดาษสองหน้า เปน็ ตน้ ๒) การจัดสภาพแวดล้อมในห้องเรียน วิธีดาเนินการ จัดแหล่งเรียนรู้ที่น่าดึงดูด จัดมุม ตา่ งๆ ให้มคี วามหลากหลายและเปล่ียนแปลงอยู่เสมอ ๓) การจัดส่ือการเรียนรู้ วิธีดาเนินการ จัดทาส่ือตามแผนการจัดประสบการณ์ ให้มี ความน่าสนใจ มีขนาด ปริมาณให้เพียงพอต่อผู้เรียน จัดป้ายนิเทศในวันสาคัญต่างๆ จัดมุมแสดงผลงานเด็ก และมมุ ประสบการณ์ต่างๆ ๔) จัดให้มีโครงการจัดซ้ือสื่อและอุปกรณ์สาหรับเด็กปฐมวัย วิธีดาเนินการ เพื่อจัดซื้อ อุปกรณก์ ารเรยี นและสงิ่ อานวยความสะดวกตา่ งๆ ให้กบั เดก็ ปฐมวยั อย่างเพียงพอกับจานวนและความตอ้ งการ ของเด็กปฐมวยั เช่น ตะกร้า ถงั นา้ ถงั ขยะ โต๊ะ ดนิ สอ ดินสอสี ของเล่นของใช้ต่างในห้องเรยี น ๒) ผลกำรพฒั นำ จากกระบวนการพัฒนาของโรงเรียนเพ่อื จัดสภาพ แวดล้อมและสื่อเพื่อการเรยี นรู้ อยา่ งปลอดภัยและเพยี งพอ ผลจากการดาเนินงานพฒั นามดี งั น้ี จากการจัดสภาพแวดล้อมและสื่อเพื่อการเรียนรู้ อย่างปลอดภัยและเพียงพอ ส่งเสริมให้เกิด การเรยี นรทู้ ้ังแบบรายบุคคลและรายกลุ่ม มีมุมประสบการณ์และสอ่ื การเรียนรู้ทหี่ ลากหลาย มุ่งเนน้ ให้เกิดการ เรียนรแู้ บบเรียนปนเลน่ มีความสุขในการเรียนและยงั สามารถสง่ เสริมพฒั นาการ ทง้ั ๔ดา้ นด้วย รวมถงึ นักเรยี น มีความรู้ความเขา้ ใจในการทง้ิ ขยะทีถ่ ูกต้องเป็นการสรา้ งนิสยั ในการทง้ิ ขยะใหเ้ ปน็ ที่ ๒.๑.๕ ใหบ้ ริกำรสอื่ เทคโนโลยีสำรสนเทศ และส่ือกำรเรียนรู้เพื่อสนบั สนุนกำรจัด ประสบกำรณ์ ๑) กระบวนกำรพัฒนำ โรงเรียนไดด้ าเนินการพฒั นาโดยมี โครงการ และกจิ กรรม ดงั ตอ่ ไปนี้ ๑) จัดบริการให้มี wifi สาหรับครูและนักเรียนทั่วบริเวณโรงเรียน วิธีดาเนินการ โรงเรียนจดั บริการให้มี wifi เพ่อื อานวยความสะดวกให้ครูสามมารถค้นควา้ หาความรู้ พรอ้ มทั้งอานวยความสะ อวกให้ครูสามารถติดต่อสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ข่าวสารของทางโรงเรียนให้ผู้ปกครองได้รับทราบอย่างท่ังถึง และรวดเร็ว ๒) โครงการสื่อช่วยสอน วิธีดาเนินการ จัดให้มีโครงการสื่อช่วยสอน เพื่อสนับสนุนให้ครู ปฐมวัยทุกท่านได้จัดทาสื่อท่ีเหมาะสมกับเด็กปฐมวัยและนาไปจัดประสบการณ์ให้เด็กได้อย่างสนุกสนานและ หลากหลาย
๒๒ ๓) จัดบริการคอมพิวเตอร์และเคร่ืองพิมพ์ให้กับครู วิธดี าเนินการ โรงเรยี นจัดบริการคอมพิวเตอร์ และเครอ่ื งพิมพใ์ ห้กบั ครูทกุ คนสามารถใช้บรกิ ารได้ ๒) ผลกำรพฒั นำ จากกระบวนการพัฒนาของโรงเรียนเพื่อให้บริการส่ือเทคโนโลยสี ารสนเทศ และสอ่ื การ เรียนรู้เพ่อื สนับสนุนการจดั ประสบการณ์ ผลจากการดาเนนิ งานพฒั นามีดังนี้ เพื่อส่งเสริม สนับสนุนให้ครูปฐมวัยได้มีการพัฒนาตนเองอย่างต่อเน่ืองและทันต่อ เหตกุ ารณ์ รวมทง้ั เปน็ การสนับสนุนการใช้ส่ือท่ีเหมาะสมกับวัยของเด็ก กระบวนการพัฒนาของโรงเรยี นเพ่ือให้ บรกิ ารสอื่ เทคโนโลยสี ารสนเทศ และสือ่ การเรียนรเู้ พอ่ื สนับสนนุ การจดั ประสบการณ์ ๒.๑.๖ มีระบบบริหำรคุณภำพทเี่ ปิดโอกำสใหผ้ ้เู กี่ยวข้องทุกฝำ่ ยมีส่วนร่วม ๑) กระบวนกำรพฒั นำ โรงเรยี นไดด้ าเนนิ การพฒั นาโดยมี โครงการ และกิจกรรม ดงั ตอ่ ไปนี้ ๑) การสง่ เสริมบทบาทครูและบุคลากรในระดบั ปฐมวัย วิธดี าเนินการ โรงเรยี น จัดการสง่ เสรมิ บทบาทครูและบคุ ลากรในระดบั ปฐมวัยให้มีส่วนร่วมในการกาหนดนโยบายและทศิ ทางการ พฒั นาของสถานศึกษา โดยเปิดโอกาสให้ครรู ่วมกาหนดโครงการ และกิจกรรมท่ีส่งเสรมิ พฒั นาการทักษะดา้ น ต่างๆ ให้แก่ผู้เรยี น ๒) การสง่ เสริมบทบาทครูระดบั ปฐมวยั ใหม้ ีสว่ นร่วมในการบรหิ ารงานบคุ คล วิธดี าเนนิ การ โดยมสี ว่ นรว่ มในการประเมินผลการปฏบิ ตั ิงานของเพ่ือนครใู นสายชนั้ และรว่ มพูดคยุ กับ ผบู้ รหิ าร เพอ่ื รว่ มสะท้อนสภาพปัญหาท่ีพบในการปฏบิ ตั ิงานทง้ั ในลกั ษณะรายบุคคลและรายกลุ่ม ๓) การส่งเสริมให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการวิเคราะห์ผลงานของตนเอง วิธีดาเนินการ ให้ ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการวิเคราะห์ผลงานของตนเอง เปิดโอกาสให้ผู้เรียนเรียนรู้โดยผ่านกระบวนการการคิดได้ ปฏิบัติจริงด้วยการเรียนรู้แบบโครงงาน และแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย จัดกิจกรรมให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะ แสดงออกนาเสนอผลงาน แสดงความคดิ เห็นคิดเป็นทาเป็น ๒) ผลกำรพฒั นำ จากกระบวนการพัฒนาของโรงเรียนเพ่ือให้มีระบบบริหารคุณภาพที่เปิดโอกาสให้ ผู้เก่ียวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วม ผลจากการดาเนินการพัฒนามีดังนี้ โรงเรียนและครูจัดโครงการ/กิจกรรมที่ ส่งเสริมพัฒนาการของผู้เรียน และการมีส่วนของบุคคลท่ีเก่ียวข้องกับโรงเรียนดังน้ันโรงเรียนได้มีการจัด โครงการกีฬา โครงการปฐมนิเทศผู้ปกครอง และการประเมินงานของบุคลากรได้ตรงตามสภาพจริง เป็นต้น โดยนาผลและข้อมูลที่ได้ทั้งหมดไปปรับปรุงพัฒ นาคุณ ภาพสถานศึกษา โดยทุกฝ่ายมีส่วนร่วม กระบวนการพัฒนาของโรงเรียนเพื่อให้มรี ะบบบริหารคุณภาพที่เปิดโอกาสให้ผู้เก่ียวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วม อยู่ ในระดับ ดีเลิศ
๒๓ ๒.๒ จุดเด่น มำตรฐำนที่ ๒ ๑) ครมู ีความร้คู วามสามารถตรงสาขาวชิ าทสี่ อนและมี ประสบการณ์ในการปฏบิ ัตกิ ารสอนทาให้ ครูสามารถออกแบบการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ และมีกระบวนการพัฒนาครูให้สามารถออกแบบรูปแบบการ สอนทเ่ี หมาะกบั พฒั นาการ และทกั ษะท่จี าเปน็ ตามวยั สาหรบั ผเู้ รยี น ๒) ผู้บริหารมีความตั้งใจ มีความมุ่งม่ัน มีหลักการบริหาร และมีวิสัยทัศน์ที่ดีในการ บริหารงาน ครูบุคลากรและคณะกรรมการสถานศึกษาเครือข่ายผู้ปกครอง มีความต้ังใจ และมีความพร้อม ใน การปฏิบตั ิหนา้ ท่ตี ามบทบาท ๒.๓ จุดทคี่ วรปรับปรุง มำตรฐำนที่ ๒ ๑) ส่งเสริมสนบั สนนุ การนา้ ภมู ปิ ญั ญาเข้ามามสี ว่ นรว่ มในการจดั การเรียนรแู้ ละการจัด ประสบการณ์แก่เด็กตามความเหมาะสม ๒) สนับสนนุ ให้บคุ ลากรครูได้เข้ารบั การพัฒนาตนเองในรูปแบบการเข้าร่วมอบรมอย่างท่ัวถึง ตามสมควร ๒.๔ แนวทำงกำรพฒั นำใหไ้ ดร้ ะดับคณุ ภำพที่สูงขน้ึ โรงเรียนไดม้ ีแนวทางในการพัฒนามาตรฐานท่ี ๒ ใหไ้ ดร้ ะดบั คณุ ภาพที่สงู ขน้ึ โดยกาหนด โครงการและกิจกรรม ดังต่อไปนี้ ๑. โครงการบ้านวิทยาศาสตร์นอ้ ย ๒. โครงการโรงเรียนปลอดขยะ ๓. โครงการอบรม STEM ๔. อบรมการจบหลกั สตู รปฐมวัยพทุ ธศักราช ๒๕๖๒ ๕. ผลสมั ฤทธท์ิ ี่เกิดขึ้นกบั ผูบ้ ริหาร รางวัลทไ่ี ดร้ ับ - ไม่มี
๒๔ มำตรฐำนที่ ๓ กำรจัดประสบกำรณท์ ่เี น้นเด็กเป็นสำคญั ๓.๑ ผลกำรประเมิน ระดับคุณภำพ ดเี ลศิ ประกอบด้วยผลกำรประเมนิ ๔ ข้อ ดังนี้ ๓.๑.๑ จัดประสบกำรณ์ทีส่ ง่ เสรมิ ใหเ้ ด็กมพี ัฒนำกำรทกุ ด้ำนอย่ำงสมดุลเตม็ ศักยภำพ ๑) กระบวนกำรพัฒนำ โรงเรยี นไดด้ าเนินการพัฒนาโดยมี โครงการ และกิจกรรม ดงั ตอ่ ไปนี้ ๑) โครงการบ้านวิทยาศาสตร์นอ้ ย ประกอบด้วย กจิ กรรมท่ี ๑ เร่อื งสสี ันแห่งธรรมชาติ วิธีดาเนนิ การ เด็กและครไู ด้ทาการทดลอง โดย ศึกษา สารวจแหล่งเรียนรู้ คน้ คว้า .เรอื่ งสีทม่ี าจากธรรมชาติ กิจกรรมที่ ๒ ทดลอง ๒๐ กิจกรรม วธิ ดี าเนินการ ครจู ัดกิจกรรมการทดลอง เรอ่ื ง สนุก กับฟองสบู่ น้าจืดน้าเค็ม เนินน้า ปั๊มขวดลิฟตเ์ ทียน แสงเล้ียวเบน เสยี งดังและเสียงเบา การจมการลอย การ ฟังเสียงผ่านของแข็งและน้า การละลายของน้าตาล การกรองน้า ไหลแรงหรือค่อย ความลับของสีดา เรยี งลาดับก่อนหลงั หมุดลอยน้า แสงสขี าวกับสีรงุ้ น้าล้นและน้าท่วม ภูเขาไฟระเบิด การจดั หมวดหมู่ กระจก กบั ภาพน่าพศิ วง ลูกข่างหลากสี ๒) แผนการจัดประสบการณ์ วิธีดาเนินการ ครูจัดกิจกรรมการเรียนการสอนผ่าน ๖ กจิ กรรมหลัก ดังนี้ ๑.กจิ กรรมเคล่ือนไหวและจังหวะ ๒.กิจกรรมเสรมิ ประสบการณ์ ๓.กิจกรรมสร้างสรรค์ ๔. กิจกรรมกลางแจ้ง ๕.กจิ กรรมเสรี ๖.กิจกรรมเสรมิ ประสบการณ์ ๓) การวิเคราะห์เด็กเป็นรายบุคคล วิธีดาเนินการ การวิเคราะห์เด็กจาก ประวัติส่วนตัว การสังเกต สัมภาษณ์ผูป้ กครอง เพ่อื นและตวั เด็กเอง ดจู ากแฟม้ ผลงาน เปน็ ตน้ ๒) ผลกำรพัฒนำ จากกระบวนการพัฒนาของโรงเรียนเพ่ือจัดประสบการณ์ท่ีส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการทุก ดา้ นอย่างสมดุลเตม็ ศักยภาพ ผลจากการดาเนินงานพัฒนามดี งั น้ี จากข้อมูลท่ีกล่าวมาข้างต้น เป็นการส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการทุกด้าน ท้ังร่างกาย อารมณ์-จิตใจ สงั คม และสติปัญญา อย่างสมดุลและเตม็ ศักยภาพ โดยกจิ กรรมท่ีจดั ส่งเสริมใหเ้ ด็กทุกคนน้ันได้ มีสว่ นร่วม ลงมอื ปฏิบัติจริงด้วยตนเอง ผ่านการทากจิ กรรมรายบคุ คลและการทากิจกรรมกลุ่ม และได้ไปศกึ ษา แหล่งเรียนรู้ภายในชุมชนของตน ส่งผลทาให้เด็กปฐมวัยสนุกสนาน และเกิดการเรียนรู้ ผ่านการทากิจกรรม ต่างๆ และได้สรา้ งช้ินงานตามความคดิ และจินตนาการของตนเอง ๓.๑.๒ สร้ำงโอกำสให้เดก็ ไดร้ บั ประสบกำรณต์ รง เล่นและปฏิบัตอิ ย่ำงมีควำมสุข ๒) กระบวนกำรพัฒนำ โรงเรียนไดด้ าเนนิ การพัฒนาโดยมี โครงการ และกิจกรรม ดงั ตอ่ ไปน้ี ๑) โครงการอาหารกลางวัน วิธีดาเนินการ ให้เด็กได้รับประทานอาหารท่ีมีประโยชน์ และยังฝกึ ให้เดก็ ได้รบั ปะทานไดด้ ้วยตนเอง การฝึกลา้ งแก้วนา้ และภาชนะใส่อาหารของตนเอง
๒๕ ๒) โครงการหอ้ งเรยี นสวยงาม วิธดี าเนนิ การ จัดบรรยากาศทเี่ ออื้ ต่อการเรียนรู้ จัดมุมเสรี มีการจดั บรกิ ารของเลน่ ให้กบั เดก็ ปฐมวัยทุกคนไดเ้ ลน่ โดยมขี องเล่นใหเ้ ดก็ ไดเ้ ลอื กเล่นตามความชอบ ความ สนใจ ฝึกให้เด็กได้รู้จักการเลน่ ร่วมกบั ผอู้ น่ื ฝึกลักษณะนสิ ัยเปน็ บคุ คลท่มี ีความรับผิดชอบเม่ือเล่นเสรจ็ แล้วเกบ็ ของเขา้ ท่ี ไม่นาของผู้อน่ื มาเป็นของตนเอง ร้จู ักแบง่ ปนั ๓) โครงการบ้านวทิ ยาศาสตร์นอ้ ย วธิ ีดาเนนิ การ จัดกจิ กรรมการทดลองให้กบั เดก็ ปฐมวยั ไดท้ ดลอง ทาให้เด็กๆ ไดศ้ ึกษา สารวจ คน้ คว้า คิดแกไ้ ขปัญหาในการทดลอง และไดล้ งมือทดลอง ปฏบิ ตั ิจรงิ ทุกคน เด็กๆ เกดิ ความสนกุ สนานและสนใจ ตื่นเต้นในการทดลองเปน็ อย่างมาก ๒) ผลกำรพฒั นำ จากกระบวนการพัฒนาของโรงเรียนเพ่ือสร้างโอกาสให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรง เล่น และปฏิบัตอิ ย่างมีความสุข ผลจากการดาเนินการพฒั นา มีดังน้ี การจัดโครงการ กิจกรรมตา่ งๆ สง่ ผลให้เด็กเกิดการเรียนรู้แบบเรยี นปนเล่นและการลงมือ ปฏบิ ตั ิจรงิ ดว้ ยตนเองทาใหเ้ ด็กมีความสขุ สนุกสนานในการเรียนรู้ ๓.๑.๓ จดั บรรยำกำศท่ีเอือ้ ตอ่ กำรเรียนรู้ ใช้ส่ือและเทคโนโลยีทีเ่ หมำะสมกบั วัย ๑) กระบวนกำรพัฒนำ โรงเรียนได้ดาเนินการพฒั นาโดยมี โครงการ และกิจกรรม ดังตอ่ ไปน้ี ๑) โครงการห้องเรียนสวยงาม วิธีดาเนินการจัดบรรยากาศท่ีเอื้อต่อการเรียนรู้ แจ่มใส กว้างขวางพอเหมาะ การตกแต่งห้องเรียนให้สดใส และมีสื่อการเรียนรู้ที่เอื้อต่อการจัดประสบการณ์ การ เรียนการสอนจดั ปา้ ยนิเทศ ป้ายตวั เลข ป้ายก-ฮ ปา้ ยA-Z ปา้ ยเดอื นเป็นตน้ และจัดมมุ เสรี มีการจัดบรกิ ารของ เลน่ ใหก้ บั เดก็ ปฐมวัยทกุ คนได้เล่น โดยมีของเล่น เกม หนัง ใหเ้ ด็กไดเ้ ลือกเลน่ ตามความชอบ ความสนใจ ฝกึ ให้ เด็กได้รู้จักการเล่นร่วมกับผู้อ่ืน ฝึกลักษณะนิสัยเป็นบุคคลที่มีความรับผิดชอบเม่ือเล่นเสร็จแล้วเก็บของเข้าที่ ไม่นาของผูอ้ ืน่ มาเปน็ ของตนเอง ร้จู กั แบ่งปัน ๒) การเรียนรูผ้ า่ น TV วธิ ีดาเนินการ โรงเรียนจดั หา TV ให้เพียงพอต่อชน้ั เรียน ครู จัดการเรยี นการสอนในบางหนว่ ย ผา่ น TV เพื่อให้เด็กไดเ้ รียนรู้ ๒) ผลกำรพัฒนำ จากกระบวนการพัฒนาของโรงเรยี นเพือ่ จัดบรรยากาศทเี่ อ้อื ตอ่ การเรยี นรู้ ใช้สือ่ และ เทคโนโลยที ีเ่ หมาะสมกบั วัย ผลจากการดาเนินการพัฒนา มีดังนี้ ผู้เรียนมีศักยภาพด้านการ ใช้สื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศ และ แหล่งเรียนรู้ท่ีเอ้ือต่อการ เรยี นรู้ ทาให้ครูผลิตสื่อเพ่ือใชใ้ นการจัด กิจกรรมการเรียนการสอนทุกภาคเรียนโดยให้สอดคล้องกับหน่วยการ เรียนรู้ ส่งเสริมให้ครูได้ริเริ่มสร้างสรรค์ผลิตสื่อการสอนด้วยตนเอง เช่น เกมการศึกษา เคร่ืองเคาะจังหวะ ส่ือ ด้าน คณิตศาสตร์ ส่ือทางด้านภาษา และสื่อท่ีส่งเสริมการเรียนรู้ผ่าน ประสาทสัมผัสทั้ง ๕ มีทักษะในการฟัง พูด อา่ น เขยี น ดีขนึ้ มีการค้นควา้ หาความรู้ เพม่ิ เติม ทง้ั เรยี นรู้ด้วยตนเอง และเรียนรู้รว่ มกลมุ่ กนั
๒๖ ร่วมแก้ปัญหา การแลกเปลี่ยนความ คิดเห็นระหว่างกัน รวมท้ังการแสดงออก การแสดงความคิดเห็น จาก กระบวนการพฒั นาของโรงเรียนเพื่อจดั บรรยากาศทเ่ี อื้อต่อการเรียนรู้ ใชส้ ื่อและเทคโนโลยีทเ่ี หมาะสมกับวัย ๓.๑.๔ ประเมินพัฒนำกำรเด็กตำมสภำพจรงิ และนำผลกำรประเมนิ พฒั นำกำรเดก็ ไป ปรบั ปรงุ กำรจัดประสบกำรณ์และพัฒนำเด็ก ๑) กระบวนกำรพัฒนำ โรงเรยี นไดด้ าเนินการพฒั นาโดยมี โครงการ และกิจกรรม ดงั ตอ่ ไปน้ี ๑) การทดสอบสมรรถภาพทางกาย วิธีดาเนินการ คือการวัดระดับความสามารถของ ร่างกาย เพ่ือประเมินความสามารถดีมากเพียงใด โดยเฉพาะ ความแข็งแรงของกล้ามเน้ือ ความอ่อนตัว ความคล่องแคล่วว่องไว เพื่อส่งเสริมให้เด็กปฐมวัยมีพัฒนาการด้านร่างกายและกล้ามเนื้อที่แข็งแรง สมบูรณ์ เหมาะสมตามวยั ๒) การช่งั นา้ หนกั วดั ส่วนสงู วธิ ีดาเนินการ คือ ชง่ั นา้ หนัก วดั ส่วนสูง เป็นประจาทกุ เดือน เพ่ือประเมินความเจริญเตบิ โตของรา่ งกายเด็กปฐมวยั และสง่ เสริมใหม้ ีการเจรญิ เติบโตทเ่ี หมาะสมกับวยั ๓) การประเมินระหว่างเรียน เป็นการประเมินเด็กเป็นรายบุคคล วิธีดาเนินการ โดย ประเมินเด็กผ่านการจัดประสบการณ์หน่วยการเรียนรู้ โดยการประเมินผลนั้นจะประเมินคุณลักษณะที่พึง ประสงค์ของเดก็ ท่ีเป็นไปตาม ตัวชวี้ ดั ของมาตรฐานคณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงคต์ ามหนว่ ยการเรียนร้นู ้นั ๆ ๔) บันทึกหลังการจัดกิจกรรม วิธีดาเนนิ การ โดยการประเมนิ พัฒนาการท้ัง ๔ ด้านของ เด็กทีไ่ ด้รบั การจดั ประสบการณ์ตามหน่วยการเรยี นรู้ ๕) การประเมินพัฒนาการ ๔ ด้าน วิธีดาเนินการ โดยการประเมินเด็กเป็นรายบุคคล ผา่ น กิจกรรมหลกั ๖ กิจกรรม ๖) แฟ้มสะสมผลงาน วิธีดาเนินการ เป็นการประเมินเด็กผ่านกิจกรรมสร้างสรรค์ โดย เด็ก ผปู้ กครอง และครู ได้มีสว่ นร่วมในการประเมินผลงานและ คดั เลือกผลงานของเด็ก ๗) สมุดประจาตัวนักเรียนปฐมวัย วิธีดาเนินการ เป็นการรายงานพัฒนาการของ นักเรียน ให้กับผู้ปกครองได้รับทราบและผู้ปกครองได้มีส่วนร่วมในการให้ข้อมูล ของบุตรหลาน เพ่ือท่ีครู ประจาชั้นจะไดน้ าข้อมูลน้นั มาพฒั นาเดก็ ต่อไป ๒) ผลกำรพฒั นำ จากกระบวนการพัฒนาของโรงเรยี นเพ่ือประเมนิ พัฒนาการเด็กตามสภาพจรงิ และนาผล การประเมินพฒั นาการเด็กไปปรบั ปรุงการจัดประสบการณแ์ ละพัฒนาเดก็ ผลจากการดาเนนิ การพัฒนา มดี งั นี้ ครสู ามมารถวิเคราะหผ์ ู้เรียนเป็นรายบุคคล ใช้ขอ้ มูลจากการวิเคราะห์ผเู้ รยี นมาใช้ในการวางแผนจัดการเรียนรู้ เพื่อพัฒนา ศักยภาพผู้เรียนโดยคานึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล และสามารถนาข้อมูลท่ีได้ไปปรับใช้ใน กจิ กรรมการเรียนการสอนใหม้ ีประสทิ ธิภาพมากข้นึ
๒๗ ๓.๓ จดุ เด่น มำตรฐำนท่ี ๓ ๑) สร้างโอกาสให้เดก็ ไดร้ ับประสบการณต์ รง เล่น และปฏิบตั อิ ยา่ งมีความสุข ๒) เปิดโอกาสให้เด็กได้เลือกทากิจกรรมอย่างอิสระ ตามความต้องการ ความสนใจและ ความสามารถของแต่ละบุคคล ๓) เด็กมีพัฒนาการตามวัยเต็มศักยภาพ และมีความพร้อมในการเรียนรู้ต่อไป มีร่างกาย เจริญเติบโตตามวัย แข็งแรง และมีสุขนิสัยที่ดี มีสุขภาพจิตดี มีสุนทรียภาพ มีคุณธรรม จริยธรรมและจิตใจที่ งดงาม มีทักษะชีวิตและ ปฏบิ ัติตนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง มีวินัย และอยรู่ ่วมกับ ผอู้ ่ืนได้อย่างมีความสขุ ๓.๓ จุดท่ีควรปรับปรงุ มำตรฐำนท่ี ๓ การนาผลสะท้อนการจัดการเรียนการสอนของครู มาเป็นประเด็นในการจัดทาวิจัยในช้ันเรียน เพ่อื พฒั นาผู้เรยี น ๓.๔ แนวทำงกำรพฒั นำใหไ้ ดร้ ะดับคุณภำพท่สี งู ขึ้น โรงเรียนได้มีแนวทางในการพัฒนามาตรฐานที่ ๓ ให้ได้ระดับคุณภาพที่สูงข้ึนโดยกาหนด โครงการและกจิ กรรม ดงั ตอ่ ไปนี้ ๑. โครงการบา้ นวทิ ยาศาสตร์น้อย ๒. โครงการอาหารกลางวนั ๓. โครงการหอ้ งเรยี นสวยงาม ๔. โครงการบ้านวิทยาศาสตร์นอ้ ย ๕. ผลสัมฤทธทิ์ ี่เกิดข้นึ กับครูผู้สอน และรางวัลที่ได้รับ - ไม่มี
๒๘ ระดับกำรศึกษำขนั้ พน้ื ฐำน ๑. มำตรฐำนท่ี ๑ คณุ ภำพผู้เรยี น ๑.๑ ผลกำรประเมนิ ระดบั คุณภาพ ดเี ลศิ ๑.๒ กระบวนกำรพฒั นำคุณภำพผเู้ รยี น ๑.๒.๑ ด้ำนผลสัมฤทธิ์ทำงวิชำกำรของผู้เรียน ๑) ด้านความสามารถในการอา่ น การเขียน การสอื่ สาร และการคดิ คานวณ โรงเรียนมีกระบวนการพฒั นาผูเ้ รยี นดว้ ยวธิ ที ี่หลากหลาย ซงึ่ มี โครงการยกระดับผลสมั ฤทธ์ิ ทางการเรียน โครงการพัฒนาการเรียนภาษาไทย การจัดกจิ กรรมการเรียนรูท้ ี่เน้นผ้เู รยี นเป็นสาคญั การจดั กจิ กรรมแบบโครงงาน จดั กจิ กรรมการเรียนรใู้ ห้ตอบสนองตามศักยภาพของผูเ้ รยี น กจิ กรรมการวดั ผล ประเมินผลการเรยี นรู้ ไดแ้ ก่การจดั การเรียนรู้ Active Learning ไดล้ งมือปฏิบตั ิจรงิ แบบร่วมมอื กนั เรียนรู้ แบบใชก้ ระบวนการคดิ และเน้นการอา่ นออกเขียนได้ ของผ้เู รียนเป็นเร่อื งทส่ี าคัญท่สี ุด มงุ่ พฒั นาผ้เู รียนให้ อ่านออก เขียนไดต้ ั้งแตช่ ้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ การสือ่ สาร และการคดิ คานวณ โครงการภาษาอังกฤษเพื่อ การสอ่ื สาร โครงการพัฒนาการเรียนวชิ าคณิตศาสตร์ มีกจิ กรรมหนา้ เสาธง ภาษาไทยวันละคา ภาษาองั กฤษ วนั ละคาและตอบคาถามคณิตคิดเร็ว ดาเนนิ การโดยกรรมการนกั เรียนเสนอการอ่านสะกดคาและบอก ความหมายของภาษาไทยและภาษาอังกฤษนกั เรียนทุกคนพดู ตาม และสอบถามเปน็ รายบุคล ๒) ดา้ นความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ คดิ อย่างมีวจิ ารณญาณ อภิปรายแลกเปลี่ยน ความคดิ เหน็ และแก้ปญั หา โรงเรียนมีกระบวนการพฒั นาผเู้ รยี นด้วยวธิ ีทห่ี ลากหลาย โดยมีการจดั การ เรยี นรแู้ บบสะเต็มศกึ ษา (STEM Education) แบบโครงงาน นักเรียนไดล้ งมือปฏบิ ตั ิจรงิ ๓) ด้านความสามารถในการสรา้ งนวตั กรรม โรงเรียนมกี ระบวนการพฒั นาผเู้ รียนด้วย วธิ ีการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ที่หลากหลาย เช่น โครงการหน่งึ โรงเรยี นหน่ึงนวตั กรรม การจดั กิจกรรมการ เรยี นร้แู บบActive Learning สะเตม็ ศึกษา (STEM Education) ๔) ด้านความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ และการส่ือสาร โรงเรยี นมีกระบวนการพัฒนาผูเ้ รยี นด้วยวธิ ที ี่หลากหลาย เช่นโครงการยกผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน. ประกอบดว้ ยกิจกรรมการเรยี นรูแ้ บบ Active Learning STEM Education ดาเนนิ การโดยการจดั กิจกรรม การเรียนรวู้ ิชาคอมพวิ เตอร์และวทิ ยาการคานวณ และมีการพัฒนาครผู ู้สอนทกุ คนให้สามารถนาวิธี เทคนิค การสอนใหต้ รงตามศักยภาพผู้เรยี น ใช้สอ่ื DLTV NEW สอนเสรมิ ในสาระการเรยี นรู้ท่ีไมถ่ นัด ใช้เทคโนโลยีท่ี เหมาะสมในการจดั การเรียนการสอน มีแหลง่ เรียนรทู้ งั้ ภายในและภายนอก เชน่ หอ้ งสมดุ ระบบสบื คน้ ข้อมลู ทางอนิ เทอรเ์ น็ต มีการวดั ประเมนิ ผลแบบบรู ณาการ นาผลการประเมนิ มาพัฒนาผู้เรียนและ ปรับปรุงการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ทกุ กลุ่มสาระการเรียนรู้
๒๙ ๕) ด้านการมีผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นตามหลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรียนมีกระบวนการพฒั นาผูเ้ รียนโดย มโี ครงการยกระดับผลสัมฤทธิท์ างการเรียนสู่ มาตรฐานสากล กจิ กรรมส่งเสรมิ งานวิชาการ กิจกรรมแข่งขันทกั ษะวิชาการ เขา้ คา่ ยวชิ าการ สอนเสริมเตรียม ความพร้อมก่อนสอบ O-net ,Nt และข้อสอบกลาง ของ สพฐ. กจิ กรรมวัดและประเมนิ ผล กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น งานหลักสตู รมี การประชมุ ปฏบิ ตั ิการปรบั ปรุงหลักสูตรสถานศึกษา พัฒนาสปู่ ระชาคมอาเซียนและมาตรฐานสากล มีการบูร ณาการภาระงาน ชิ้นงาน โดย ทกุ ระดับชน้ั จดั ทาหนว่ ยบรู ณาการอาเซยี น ภาษาองั กฤษเพ่ือการสือ่ สาร เศรษฐกจิ พอเพียง ปรบั โครงสร้างรายวิชา หนว่ ยการเรียนรู้ ลดเวลาเรียน เพ่ิมเวลารู้ สดั ส่วนคะแนนแต่ละ หนว่ ย กาหนดคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ทสี่ อดคล้องกบั หน่วยการเรียนรู้ สนับสนุนใหค้ รูจดั การเรยี นการสอน ทสี่ ร้างโอกาสให้นักเรยี นทุกคนมีส่วนร่วม ได้ลงมอื ปฏิบัตจิ ริงจนสรุปความรไู้ ดด้ ว้ ยตนเอง จัดการเรยี นการสอน ทเี่ น้นทักษะการคิด เชน่ จัดการเรยี นรู้ดว้ ยโครงงาน Active Learning สะเตม็ ศึกษา (STEM Education) ครูมีการมอบหมายหน้าที่ให้นักเรยี นเปน็ ผปู้ ฏบิ ตั ลิ งมือทา ครูเปน็ ผสู้ นับสนุนและใหค้ าช้ีแนะ การสร้าง บรรยากาศตามสถานที่ต่าง ๆ ทง้ั ภายในห้องเรียนและนอกห้องเรียนโดยการจัดมุมประสบการณ์ จดั ปา้ ยนิเทศ ครูใชส้ ื่อการเรยี นการสอน มนี วัตกรรมเทคโนโลยีท่ีสอดคล้องกับยุคปัจจุบนั และภูมิปัญญาทอ้ งถ่นิ มีการ ประเมนิ คุณภาพและประสิทธิภาพของส่ือการสอนที่ใช้ ครทู ุกคนทางานวจิ ัยในช้ันเรยี น ปีการศึกษาละ ๑ เรอ่ื ง และไดร้ บั การตรวจใหค้ าแนะนาโดยคณะกรรมการวิจัยของเขตพน้ื ที่การศึกษา ๖) ด้านความรู้ ทกั ษะพื้นฐาน และเจตคติท่ดี ีตอ่ งานอาชีพ . โรงเรียนมีกระบวนการพัฒนาผเู้ รียนด้วยวิธีที่หลากหลาย เชน่ โครงการเศรษฐกจิ พอเพียง กจิ กรรมปลกู ผักตามฤดูการ การเล้ียงปลาดกุ ในบ่อซีเมนต์ การปลกู เหด็ นางฟ้า เห็ดขอนขาว กจิ กรรมสหกรณ์ ธนาคารโรงเรยี น นักเรียนได้มสี ่วนรว่ มในการทากจิ กรรมเพ่ิมความร้แู ละเปน็ ทักษะพ้นื ฐานใน การประกอบอาชีพได้ ๑.๒.๒ คณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ ๑) การมีคุณลักษณะและค่านยิ มทด่ี ตี ามที่สถานศกึ ษากาหนด โรงเรียนมีกระบวนการพฒั นาผู้เรยี น มกี ารดาเนนิ การเพื่อพัฒนาทกั ษะชีวติ ของผู้เรยี น เพื่อให้อยู่ ในสังคมได้อย่างมคี วามสขุ เน้นการพัฒนาดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ที่เหมาะสมกับวยั ของผเู้ รยี น โดยการจัด คา่ ยคุณธรรมกับนักเรียนทุกระดบั ชน้ั จดั กิจกรรมการพัฒนาให้เหมาะสมกับวัย พฒั นาคุณธรรมผูเ้ รยี นตาม หลกั สูตรโตไปไม่โกง เนน้ ใหผ้ ้เู รยี นมวี นิ ัย ซื่อสตั ย์ รับผิดชอบ และมจี ิตสาธารณะ โครงการคุณธรรม จดั กิจกรรม อบรมคุณธรรมทุกวันศกุ ร์ตลอดปีการศกึ ษา เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางพุทธศาสนากับชมุ ชนในวันสาคัญ และบาเพญ็ ประโยชน์อย่างต่อเน่อื ง จัดกจิ กรรมพัฒนาผู้เรียนลูกเสอื -เนตรนารีทุกวนั พฤหัสบดี ตลอดปี การศกึ ษา บรู ณาการการวดั คุณลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ในการจัดกจิ กรรมการเรยี นรทู้ กุ กลุ่มสาระการเรยี นรู้
๓๐ ๒) ความภมู ิใจในท้องถน่ิ และความเปน็ ไทย โรงเรียนมกี ระบวนการพัฒนาผเู้ รียนโดย นาภูมิปัญญาทอ้ งถิ่นมาร่วมกันวางแผนการ จัดการเรยี นการสอน และมีการเรยี นรใู้ นโลกกวา้ ง การเข้าไปศึกษากบั ภมู ิปัญญาในชมุ ชนรอบๆ สถานศึกษา มี โครงการคุณธรรม กจิ กรรมวันสาคญั ทางพุธศาสนา และประเพณที ้องถิ่น นักเรียนเขา้ ร่วมกิจกรรมตลอดปี การศึกษา ๓) การยอมรบั ทจ่ี ะอยูร่ ่วมกันบนความแตกตา่ งและหลากหลาย โรงเรยี นมีกระบวนการพัฒนาผู้เรยี นโดยมรี ะบบการแนะแนวและการดูแลสขุ ภาวะจติ โดย ใช้กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น ลดเวลาเรียนเพมิ่ เวลารู้ กิจกรรมกฬี ากล่มุ ๔) สุขภาวะทางรา่ งกายและจิตใจ โรงเรียนมีกระบวนการพัฒนาผเู้ รยี นโดยโครงการอนามัยโรงเรียน กิจกรรมอาหารกลางวัน ๑๐๐ % กจิ กรรมอาหารเสริมนม การจดั กิจกรรมสถานศกึ ษา อย.นอ้ ย วธิ ดี าเนินการชงั่ นา้ หนักและวดั สงู ทกุ เดือน ตรวจสขุ ภาพให้นักเรียนทุกสัปดาห์ ใหค้ วามรู้เรอื่ งพิษภัยจากขนมกรบุ กรอบ น้าหวานนา้ อัดลม สง่ เสรมิ การ ออกกาลังกายเล่นกีฬาตามความถนัด ดืม่ นมทกุ วนั และเพ่ิมเวลาร้เู ร่อื งอาชีพ เช่น การปลูกพชื การเพาะเหด็ เถ้าแก่น้อย ๑.๓ ผลกำรพัฒนำคุณภำพผู้เรียน ๑) ผลกำรพัฒนำผลสมั ฤทธ์ิทำงวชิ ำกำรของผ้เู รียน ผ้เู รียนสามารถอ่านออก เขียนไดต้ ามมาตรฐานระดบั ช้นั โดยผ่านเกณฑ์การประเมนิ ของ หลักสตู รสถานศกึ ษา สามารถเขยี นสอื่ สารได้ รจู้ ักวางแผนการทางานรว่ มกับผ้อู ื่นไดต้ ามระบอบประชาธิปไตย กลา้ แสดงออก แสดงความคดิ เห็น สบื คน้ ข้อมลู และแสวงหาความรู้จากสื่อเทคโนโลยดี ้วยตนเอง รวมทงั้ วเิ คราะหข์ ้อมลู สงิ่ ไหนดี เหมาะสม หรอื ไมด่ ี รู้เทา่ ทันสื่อและสังคมที่เปล่ียนแปลง ผลสัมฤทธิท์ างการเรยี น สงู ขนึ้ ๙๐ เปอรเ์ ซ็นต์ ๒) ผลกำรพัฒนำคณุ ลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์ จากการดาเนินการพฒั นาคณุ ลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ของผู้เรียน ทาให้ผู้เรยี นผ่านเกณฑ์ การประเมินตามหลักสตู รสถานศกึ ษาระดับดีเลิศ ผู้เรยี นรู้และตระหนักถึงโทษและพษิ ภัยของสิง่ เสพตดิ ต่าง ๆ เลือกรบั ประทานอาหารที่สะอาด และมปี ระโยชน์ รักการออกกาลงั กาย นักเรยี นทกุ คนสามารถเลน่ กีฬาได้ อยา่ งน้อยคนละประเภท ยอมรบั ในกฎ กติกาของกลุม่ ของสถานศกึ ษา ของสังคม มีทัศนคตทิ ด่ี ตี ่ออาชีพสุจรติ รวมถงึ มคี วามเข้าใจเร่ืองความแตกตา่ งระหวา่ งบุคคลและระหวา่ งวยั
๓๑ ๑.๔ จุดเด่น ๑) ด้ำนกำรพัฒนำผลสมั ฤทธทิ์ ำงวิชำกำรของผู้เรยี น ๑.๑ ผเู้ รยี นร้จู กั แสวงหาความร้ดู ว้ ยตนเองจากสือ่ เทคโนโลยีตา่ งๆและสง่ิ รอบตัวอย่าง ปลอดภัยและใช้เวลาว่างใหเ้ ป็นประโยชน์ ๑.๒ ผู้เรยี นมีทักษะความม่งุ มั่นในการทางานและทางานจนสาเร็จ ทางานร่วมกับผอู้ น่ื ได้ อย่างมีความสขุ ๒) ด้ำนคณุ ลักษณะท่ีพึงประสงค์ของผเู้ รยี น ๒.๑ ผู้เรยี นมรี ะเบียบวนิ ัย สุภาพอ่อนน้อม รา่ เรงิ แจม่ ใส ๒.๒ ผ้เู รียนมีสขุ ภาพรา่ งกายแขง็ แรงจากการเลน่ กฬี า เคารพกฎกติกา มารยาทของสงั คม จนเปน็ เอกลักษณ์ของสถานศึกษา กีฬาเดน่ เปน็ ท่ียอมรบั ของชมุ ชนโดยรอบ ๑.๖ จดุ ควรพัฒนำ ๑) ด้ำนผลสัมฤทธท์ิ ำงวิชำกำรของผู้เรียน เพิม่ ผลสัมฤทธิท์ างการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย คณติ ศาสตร์ วทิ ยาศาสตรแ์ ละ ภาษาอังกฤษให้สงู ขนึ้ เพราะมคี ะแนนเฉลยี่ โอเน็ตตา่ กว่าคะแนนเฉลยี่ ระดับประเทศ ๒) ด้ำนคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรยี น พัฒนาให้นกั เรียนให้มจี ติ สาธารณะมากขนึ้ และระวงั ภยั หา่ งไกลยาเสพติดและโทษของเกม ทางอนิ เทอรเ์ นต็ และรจู้ ักการปอ้ งกนั ตนเองจากภยั ทางอินเตอรเ์ น็ต เชน่ การดหู นงั ดูการต์ ูนที่ใช้ความ รุนแรง ๑.๘ แนวทำงกำรพฒั นำให้ไดร้ ะดบั คุณภำพทส่ี ูงขนึ้ โรงเรยี นได้มแี นวทางในการพัฒนามาตรฐานท่ี ๑ ให้ได้ระดบั คุณภาพทส่ี ูงขนึ้ โดยกาหนด โครงการและกจิ กรรม ดงั ตอ่ ไปน้ี ๑) โครงการยกผลสมฤทธิ์ทางการเรยี น ๒) โครงการจัดการเรยี นรแู้ บบ Active Learning ๓) โครงการจดั การเรยี นรู้แบบ Open approach ๔) โครงการภาษาเพื่อการสื่อสาร ๕) โครงการเด็กพิเศษเรยี นรวม ๖) โครงการลูกเสือเขม้ แขง็ ๗) โครงการหอ้ งสมดุ มชี วี ติ ๘) โครงการโรงเรียนสขี าว ๙) โครงการคุณธรรม
๕. ผลสมั ฤทธท์ิ ีเ่ กิดขนึ้ กบั ผเู้ รียน และรำงวัลทไี่ ด้รับ หนว่ ยงำนท่ีมอบ ๓๒ ที่ ช่อื รำงวัล สานกั งานเขตพน้ื ท่ีการศึกษา ปที ่ไี ดร้ ับ ประถมศกึ ษาอุดรธานี เขต ๒ ๒๕๖๐ ชนะเลิศ ๒๕๖๐ ๑ การแขง่ ขนั เครื่องร่อนไกล ประเภทระยะทางอัตรา สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา ๒๕๖๐ ประถมศกึ ษาอุดรธานี เขต ๒ ๒๕๖๐ รอ่ น ระดับชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๔-๖ ๒๕๖๐ รองชนะเลิศอนั ดับท่ี ๒ สานกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษา ๒๕๖๐ ประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๒ ๒๕๖๐ ๒ การแขง่ ขนั เรยี งความ ระดับชั้น ๒๕๖๐ ประถมศึกษาปที ่ี ๔-๖ สานักงานเขตพ้นื ท่ีการศึกษา ๒๕๖๐ รองชนะเลิศอันดับท่ี ๒ ประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๒ ๓ การแข่งขนั เขยี นตามคาบอก ระดับช้ัน สานักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาปีท่ี ๔-๖ ประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๒ เหรยี ญทอง สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา ๔ การแขง่ ขนั เล่านทิ านคุณธรรม ระดบั ช้ัน ประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๒ ประถมศึกษาปีที่ ๔-๖ เหรียญทอง สานักงานเขตพืน้ ที่การศึกษา ประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๒ ๕ การประกวดเล่านิทานคุณธรรม ระดบั ชั้น ประถมศึกษาปีที่ ๑–ป.๓ สานักงานเขตพนื้ ท่ีการศึกษา เหรยี ญทอง ประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๒ ๖ การประกวดสวดมนตแ์ ปลไทย ระดบั ชัน้ สานักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑-ม.๓ ประถมศกึ ษาอุดรธานี เขต ๒ เหรยี ญทอง ๗ การแขง่ ขันต่อศัพท์ภาษาองั กฤษ (ครอสเวริ ด์ ) ระดับชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๑-๖ เหรยี ญเงนิ ๘ การแข่งขนั เคร่ืองร่อน ประเภทรอ่ นนาน ระดับชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๔-๖ เหรียญเงนิ ๙ การแขง่ ขนั เรียงร้อยถ้อยความ ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔-๖
๓๓ ที่ ชือ่ รำงวัล หนว่ ยงำนที่มอบ ปที ่ไี ดร้ ับ เหรียญทองแดง ๒๕๖๐ สานักงานเขตพ้นื ที่การศึกษา ๒๕๖๐ ๑๐ การแขง่ ขนั อ่านเอาเร่ืองตามแนว PISA ระดบั ช้นั ประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๒ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๑-๓ ๒๕๖๑ เหรียญทองแดง สานกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษา ประถมศกึ ษาอุดรธานี เขต ๒ ๒๕๖๑ ๑๑ การแขง่ ขันอ่านเอาเร่ืองตามแนว PISA ระดับชั้น ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔-๖ งานมหกรรมวชิ าการและ ๒๕๖๑ เทคโนโลยี ภาค ๒๕๖๑ เหรียญทอง ระดบั ประเทศ ๒๕๖๒ ๑๒ การประกวดการขับร้องเพลงไทยลูกท่งุ นักเรียนทมี่ ี ตะวนั ออกเฉียงเหนอื จังหวัด ๒๕๖๒ บรุ รี มั ย์ ๒๕๖๒ ความบกพรอ่ งทางการเรยี นรู้ งานมหกรรมวชิ าการและ เหรยี ญทองแดง เทคโนโลยี ภาค ๑๓ การแข่งขันเครื่องร่อนไกล ประเภทระยะทางอตั รา ตะวันออกเฉียงเหนอื จงั หวัด ร่อน ระดบั ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔-๖ บรุ รี ัมย์ ชนะเลศิ สานักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษา ประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๒ ๑๔ การประกวดการขบั ร้องเพลงไทยลกู ทุ่งนักเรยี นท่ีมี สานกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษา ความบกพรอ่ งทางการเรียนรู้ ประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๒ ชนะเลศิ สานักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๒ ๑๕ การแขง่ ขนั เครื่องร่อนไกล ประเภทระยะทางอตั รา สานกั งานเขตพืน้ ที่การศึกษา ประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๒ ร่อนระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๔-๖ สานกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษา ๑๖ เหรียญเงิน กิจกรรม การแข่งขันขับร้องเพลงไทย ประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๒ ลูกกรุง ประเภทชาย ระดับช้ัน ป.๑-ป.๖ ๑๗ เหรยี ญเงนิ กจิ กรรม การแข่งขันขับรอ้ งเพลงพระ ราชนิพนธ์ ประเภทชาย ระดับช้ัน ป.๑-ป.๖ เหรยี ญเงนิ กิจกรรม การแข่งขันขบั รอ้ งเพลงไทย ๑๘ ลกู ทุ่ง ประเภทนักเรียนท่มี ีความบกพร่องทางการ เรียนรู้ ระดับช้นั ป.๑-ป.๖
๓๔ ๒. มำตรฐำนที่ ๒ กระบวนกำรบริหำรและกำรจดั กำร ๒.๑ ผลกำรประเมิน ระดับคุณภำพ ดเี ลิศ ๒.๒ กระบวนกำรพฒั นำกระบวนกำรบรหิ ำรและกำรจัดกำร ๒.๒.๑ การมเี ปา้ หมาย วิสัยทศั น์ และพนั ธกิจท่ีสถานศึกษากาหนดชัดเจน โรงเรียนไดด้ าเนินการวเิ คราะห์สภาพปัญหา ผลการจัดการศกึ ษาทผ่ี ่านมา โดยการศกึ ษาข้อมูล สารสนเทศจากผลการนิเทศ ตดิ ตาม ประเมินการจดั การศึกษาตามนโยบายการปฏิรปู การศึกษา และจัด ประชุมระดมความคดิ เหน็ จากบุคลากรในสถานศึกษาเพื่อวางแผนรว่ มกันกาหนดเป้าหมายตามมาตรฐาน การศึกษาขอสถานศกึ ษา ดงั น้ี กำรกำหนดค่ำเปำ้ หมำยตำมมำตรฐำนกำรศึกษำของสถำนศกึ ษำ ระดับกำรศึกษำขนั้ พ้นื ฐำน เพือ่ กำรประกนั คุณภำพภำยในของสถำนศกึ ษำ ปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๒ มำตรฐำน / ประเด็นกำรพจิ ำรณำ ค่ำเปำ้ หมำยมำตรฐำน/ ประเด็นกำรพจิ ำรณำ มำตรฐำนท่ี ๑ คุณภำพของผ้เู รียน ๑.๑ ผลสัมฤทธิ์ทำงวิชำกำรของผู้เรียน ดเี ลศิ ดีเลิศ ๑) มีความสามารถในการอา่ น การเขียน การสือ่ สารและการคิดคานวณ ดเี ลศิ ๒) มคี วามสามารถในการวเิ คราะหแ์ ละคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณ อภปิ ราย แลกเปล่ยี นความคิดเหน็ และแก้ปัญหา ดี ๓) มีความสามารในการสร้างนวตั กรรม ๔) มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร ดี ๕) มีผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนตามหลกั สูตรสถานศึกษา ยอดเยี่ยม ๖) มีความรู้ ทกั ษะพ้ืนฐานและเจตคติท่ีดตี ่องานอาชพี ๑.๒ คุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ของผ้เู รยี น ดเี ลศิ ๑) การมคี ุณลกั ษณะและคา่ นิยมที่ดีตามท่ีสถานศึกษากาหนด ดีเลศิ ๒) ความภมู ิใจในท้องถ่นิ และความเปน็ ไทย ดีเลิศ ๓) การยอมรับทจี่ ะอยู่รว่ มกนั บนความแตกต่างและหลากหลาย ดเี ลิศ ๔) สขุ ภาวะทางร่างกายและลักษณะจติ สงั คม ยอดเยยี่ ม ดีเลศิ ยอดเยีย่ ม
มำตรฐำนที่ ๒ กระบวนกำรบรหิ ำรและจดั กำร ๓๕ ๒.๑ การมเี ป้าหมาย วสิ ยั ทศั น์ และพันธกิจที่สถานศึกษากาหนดชดั เจน ๒.๒ มรี ะบบบรหิ ารจัดการคุณภาพของสถานศกึ ษา ดเี ลิศ ๒.๓ ดาเนินงานพฒั นาวิชาการทีเ่ น้นคุณภาพผ้เู รยี นรอบด้านตามหลักสูตรสถานศึกษา ดีเลิศ และทกุ กลุ่มเปา้ หมาย ดีเลิศ ๒.๔ พฒั นาครูและบุคลกรให้มคี วามเช่ยี วชาญทางวิชาชีพ ดีเลิศ ๒.๕ จดั สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพและสงั คมทเ่ี อ้ือต่อการจัดการเรยี นรอู้ ย่างมคี ูณภาพ ๒.๖ จัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนนุ การบริหารจดั การและการจัดการ ดีเลศิ เรยี นรู้ ยอดเยี่ยม มำตรฐำนที่ ๓ กระบวนกำรจดั กำรเรยี นกำรสอนทีเ่ นน้ ผเู้ รียนเปน็ สำคญั ยอดเย่ียม ๓.๑ จดั การเรียนรผู้ ่านกระบวนการคดิ และปฏิบัตจิ ริง และสามารถนาไปประยกุ ต์ใช้ใน ชวี ติ ได้ ดเี ลศิ ๓.๒ ใชส้ ่ือ เทคโนโลยีสารสนเทศ และแหลง่ เรียนรู้ทเี่ อื้อตอ่ การเรยี นรู้ ดีเลิศ ๓.๓ มีการบริหารจัดการช้ันเรยี นเชงิ บวก ๔.๔ ตรวจสอบและประเมนิ ผ้เู รียนอยา่ งเปน็ ระบบ และนาผลมาพัฒนาผู้เรยี น ยอดเยยี่ ม ๓.๕ มกี ารแลกเปลี่ยนเรียนรแู้ ละให้ข้อมลู สะท้อนกลับเพ่ือพฒั นาและปรบั ปรุงการ ดเี ลิศ จัดการเรียนรู้ ดเี ลิศ ดีเลิศ สรปุ ผลกำรประเมินในภำพรวมของสถำนศกึ ษำ ดีเลศิ วิสัยทศั น์ (VISION) ภายในปี ๒๕๖๒ โรงเรยี นบา้ นโคกสะอาด บริหารจัดการดว้ ยระบบคุณภาพ ผ้เู รียน ครแู ละ บคุ ลากรทางการศึกษามคี ุณภาพตามมาตรฐานสากลบนพื้นฐานของความเปน็ ไทย พนั ธกจิ (MISSION) ๑. พฒั นาการบรหิ ารจัดการโดยใช้โรงเรยี นเป็นฐานและตามหลักธรรมาภบิ าล ๒. สนับสนุนและแสวงหาความร่วมมือจากทุกภาคสว่ นมสี ่วนรว่ มในการจดั การศึกษา ๓. พฒั นาผูเ้ รยี นใหม้ ีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาและพัฒนาสู่ความเป็นสากล ๔. พัฒนาผเู้ รยี นให้มีคุณธรรม จริยธรรม คุณลักษณะอันพึงประสงค์และค่านยิ มหลกั คนไทย ๑๒ ประการบนพ้ืนฐานของความเป็นไทย ๕. สง่ เสรมิ ใหค้ รแู ละบุคลากรทางการศกึ ษามีความกา้ วหนา้ มคี วามรคู้ วามสามารถเป็นแบบอย่างท่ีดี ในการปฏบิ ัตหิ นา้ ท่ี มีประสทิ ธภิ าพและพฒั นาตนสู่ความเป็นครมู อื อาชพี ตามมาตรฐานสากล
๓๖ เป้ำประสงคห์ ลัก (GOAL) ๑. โรงเรียนบริหารงานโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน และตามหลกั ธรรมาภบิ าล มีและใชร้ ะบบเทคโนโลยี สารสนเทศที่ทนั สมยั ในการบริหารจดั การศึกษา มีความพร้อมสูป่ ระชาคมอาเซียน ๒. ทุกภาคสว่ นมสี ว่ นรว่ มในการพัฒนาคุณภาพผเู้ รยี น ๓. ผเู้ รียนมีศักยภาพสู่การแข่งขันระดับชาติ อาเซยี นและสากล ๔. ประชากรในวยั เรยี นทกุ คนไดร้ ับโอกาสทางการศกึ ษาอยา่ งทัว่ ถงึ มีคณุ ภาพตามมาตรฐาน การศกึ ษาชาตแิ ละมาตรฐานสากล บนพืน้ ฐานของความเปน็ ไทย ๕. ครู และบุคลากรทางการศึกษาปฏบิ ัตติ ามจรรยาบรรณ และมาตรฐานวชิ าชพี มคี วามรู้ ความสามารถ และทักษะในการใช้สอ่ื เทคโนโลยที างการศึกษาในการบริหารจัดการและเปน็ เครือ่ งมือใน การจัดการเรยี นรู้ กลยุทธ์ ๑. พฒั นาระบบการบรหิ ารจัดการทีม่ ีคณุ ภาพตามมาตรฐานสากล ๒. ส่งเสรมิ การมีสว่ นรว่ มในการระดมทรพั ยากรจากทกุ ภาคสว่ นรว่ มกนั จดั การศึกษา ๓. พัฒนาคุณภาพผเู้ รียนให้ไดค้ ณุ ภาพมาตรฐานการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐานและมาตรฐานสากล ๔. ปลกู ฝังให้ผู้เรยี นมีความรับผิดชอบและเปน็ พลเมืองดีของสงั คมไทยและพลโลก ๕. พัฒนาองคค์ วามรู้และสมรรถนะของครูสู่มาตรฐานสากล ในการจัดการศกึ ษาของสถานศึกษาเพื่อพัฒนาคณุ ภาพผู้เรยี น โรงเรียนมีโครงการจดั ทาแผนปฎิบัติ การ มวี ธิ ดี าเนนิ การ ระดมความคดิ เห็นคณะครู คณะกรรมการสถานศึกษาและผู้ปกครอง มีส่วนร่วมในการจัด การศึกษา จดั ทาโครงการตามแผน แบ่งครรู บั ผิดชอบดาเนินการทงั้ หมด ๑๙ โครงการ ๒.๒.๒ มรี ะบบบรหิ ารจดั การคณุ ภาพของสถานศึกษา มีการปรับแผนพัฒนาคุณภาพจัดการศกึ ษา แผนปฏบิ ัติการประจาปี ใหส้ อดคล้องกบั สภาพ ปัญหา ความต้องการพฒั นา และนโยบายการปฏริ ปู การศึกษา โดยแบบมีสว่ นร่วมของทุกภาคสว่ น พรอ้ มท้งั จัดหาทรัพยากร จดั สรรงบประมาณ มอบหมายงานให้ผรู้ บั ผดิ ชอบ ดาเนนิ การพัฒนาตามแผนงานเพ่ือใหบ้ รรลุ เปา้ หมายท่ีกาหนดไว้ มีการดาเนนิ การนิเทศ กากับ ตดิ ตาม ประเมนิ ผลการดาเนินงาน และจดั ทารายงานผล การจดั การศกึ ษาประจาปีการศึกษาทกุ ปี ดาเนินการบริหารจดั การโดยยดึ หลกั PDCA แนวทาง PLC ๒.๒.๓ ดาเนนิ การพฒั นาวชิ าการท่เี นน้ คุณภาพผู้เรยี นรอบดา้ นตามหลักสูตรสถานศึกษาและทกุ กลุม่ เป้าหมาย โรงเรียนไดด้ าเนินการส่งเสรมิ พัฒนาผู้เรียน มกี จิ กรรมเสริมหลกั สตู ร เชน่ กจิ กรรมลดเวลาเรียน เพม่ิ เวลารู้ โดยจดั ให้มีชุมนมุ ทางวิชาการ ชมุ นมุ การอา่ น ชมุ นุมกีฬา เพือ่ ให้ผูเ้ รยี นไดเ้ ขา้ รว่ มตามความถนัด ความสนใจ มโี ครงการ ห้องสมุดมีชีวติ กจิ กรรมรักการอา่ น
๓๗ ๒.๒.๔ พัฒนาครแู ละบุคลากรใหม้ ีความเชย่ี วชาญทางวชิ าชีพ โรงเรียนไดด้ าเนนิ การสง่ เสรมิ พัฒนาครู โดยใหค้ รูไดจ้ ดั ทาแผนพัฒนาตนเอง เพื่อสนับสนนุ การ จดั กิจกรรมการเรียนร้จู งึ จัดทาแผนพฒั นาตนเองในดา้ นตา่ งๆ ดงั น้ี ๑. การบรหิ ารจัดการช้ันเรยี น ๒. การวิจัย ในชนั้ เรยี น ๓. การทางานเป็นทีม ๒.๒.๕ จัดสภาพแวดลอ้ มทางกายภาพและสังคมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้อย่างมีคณุ ภาพ โรงเรียนได้ดาเนินการโครงการโรงเรียนปลอดขยะ กจิ กรรมธนาคารขยะ คัดแยกขยะ โครงการ โรงเรียนสวยห้องเรยี นงาม สง่ เสรมิ สนับสนุนและพฒั นาอาคาร สถานที่ สนาม สิง่ แวดลอ้ มในโรงเรียน เช่น ปรับปรงุ และจัดทาสวนหย่อมหน้าอาคารเรยี น จดั หา จัดทาโต๊ะ รอบสนามกฬี า โรงอาหาร ๒.๒.๖ จดั ระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่ือสนบั สนนุ การบรหิ ารจัดการและการจดั การเรียนรู้ โรงเรยี นได้ดาเนนิ การโครงการสร้างความสัมพนั ธก์ ับชมุ ชน กจิ กรรมระดมทรัพยากรจดั ซ้ือและ จัดหาคอมพวิ เตอร์ ให้ครูใช้ประจาชัน้ คนละ ๑ ชุด พรอ้ มเครือ่ งพิมพ์ และจัดเครื่องคอมพวิ เตอรส์ ว่ นกลาง พรอ้ มเครื่องพิมพ์ มีเครอ่ื งคอมพิวเตอร์ไวป้ ระจาห้องปฏิบัติการคอมพวิ เตอร์พรอ้ มตดิ ตัง้ ระบบอินเตอร์เนต็ เพ่อื ให้ ครู บคุ ลากร และผู้เรียนได้ ศกึ ษา สืบค้นข้อมูลสง่ เสริมการเรยี นร้ขู องผู้เรยี น มีการจัดเก็บข้อมลู สารสนเทศ ที่ทันสมัย ทนั เหตุการณ์และเป็นปัจจบุ ัน ๒.๓ ผลกำรพัฒนำ สถานศึกษามีการกาหนดมาตรฐาน เปา้ หมาย วิสัยทศั น์และพันธกจิ สอดคล้องกับสภาพปญั หา ความตอ้ งการพฒั นาของสถานศึกษา นโยบายการปฏริ ปู การศกึ ษา ความตอ้ งการของชุมชน ท้องถ่ิน และ สอดคล้องกบั แนวทางการปฏิรูปตามแผนการศึกษาชาติ ดงั น้ี
๓๘ ๑) มำตรฐำนสถำนศึกษำ ๑.๑) มำตรฐำนและคำ่ เปำ้ หมำยกำรศกึ ษำระดบั ปฐมวัย คำ่ เป้ำหมำยตำมมำตรฐำนกำรศกึ ษำของสถำนศึกษำ ระดับปฐมวัย เพอื่ กำรประกนั คุณภำพภำยในของสถำนศึกษำ ปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๒ มำตรฐำน / ประเดน็ กำรพจิ ำรณำ คำ่ เป้ำหมำยมำตรฐำน/ ประเด็นกำรพจิ ำรณำ มำตรฐำนที่ ๑ คณุ ภำพของเด็ก ๑.๑ มีการพฒั นาดา้ นร่างกาย แข็งแรง มสี ุขนิสยั ท่ีดี และดูแลความปลอดภัยของ ดเี ลศิ ดีเลศิ ตนเองได้ ๑.๒ มีการพัฒนาดา้ นอารมณ์ จติ ใจ ควบคุม แลและแสดงงอออกทางอารมณ์ได้ ดเี ลิศ ๑.๓ มกี ารพฒั นาการด้านสังคม ช่วยแหลือตนเอง และเป็นสมาชกิ ทดี่ ีของสงั คม ดเี ลศิ ๑.๔ มพี ัฒนาการดา้ นสติปัญญา สือ่ สารได้ มที ักษะการคิดพืน้ ฐานและแสวงหาความรไู้ ด้ ดีเลศิ มำตรฐำนที่ ๒ กระบวนกำรบรหิ ำรและจัดกำร ดเี ลศิ ๒.๑ มีหลกั สูตรครอบคลุมพัฒนาการทงั้ ๔ ด้าน สอดคล้องกับบรบิ ทขอองท้องถิน่ ดเี ลศิ ๒.๒ จัดครใุ หเ้ พียงพอกับช้ันเรียน ดเี ลศิ ๒.๓ ส่งเสรมิ ให้ครมู ีความเชี่ยวชาญด้านกากรรจัดประสบการณ์ ดีเลิศ ๒.๔ จัดสภาพแวดล้อมและส่ือเพื่อการเรียนรู้ อยา่ งปลอดภยั และเพียงพอ ดีเลิศ ๒.๕ ให้บริการส่ือเทคโนโลยสี ารสนเทศและส่ือการเรียนรูเ้ พื่อสนับสนุนการจัดประสบการณ์ ดเี ลศิ ๒.๖ มีระบบบรหิ ารคุณภาพทเ่ี ปดิ โอกาสใหผ้ ้เู ก่ยี วข้องทุกฝ่ายมีสว่ นรว่ ม ดีเลิศ มำตรฐำนท่ี ๓ กำรจัดประสบกำรณท์ ่เี น้นเดก็ เปน็ สำคญั ดเี ลิศ ๓.๑ จัดประสบการณท์ ่สี ง่ เสริมใหเ้ ดก็ มีการพฒั นาการทุกด้านอย่างสมดุลเต็มศักยภาพ ดเี ลิศ ๓.๒ สร้างโอกาสให้เด็กได้รบั ประสบการณ์ตรง เลน่ และปฏบิ ตั ิอยา่ งมีความสขุ ดีเลิศ ๓.๓ จัดบรรยากาศทีเ่ อื้อต่อการเรยี นรใู้ ชส้ อ่ื เทคโนโลยที ีเ่ หมาะสมกบั วัย ดีเลิศ ๓.๔ ประเมนิ พัฒนาการเด็กตามสภาพจรงิ แลละนาผลประเมนิ พัฒนาการเด็กไปปรบั ปรุง ดีเลศิ การจดั ประสบการณ์และพฒั นาเดก็ ดเี ลศิ สรปุ ผลกำรประเมนิ ในภำพรวมของสถำนศึกษำ
๓๙ ๑.๒) มำตรฐำนและค่ำเปำ้ หมำยระดบั กำรศึกษำข้นั พื้นฐำน ค่ำเป้ำหมำยตำมมำตรฐำนกำรศึกษำของสถำนศกึ ษำ ระดับกำรศกึ ษำขั้นพน้ื ฐำน เพื่อกำรประกนั คณุ ภำพภำยในของสถำนศึกษำ ปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๒ มำตรฐำน / ประเด็นกำรพจิ ำรณำ คำ่ เป้ำหมำยมำตรฐำน/ ประเดน็ กำรพิจำรณำ มำตรฐำนที่ ๑ คุณภำพของผู้เรยี น ๑.๑ ผลสัมฤทธ์ทิ ำงวิชำกำรของผู้เรียน ดเี ลิศ ดีเลิศ ๑) มีความสามารถในการอา่ น การเขียน การสอื่ สารและการคิดคานวณ ดีเลศิ ๒) มีความสามารถในการวเิ คราะหแ์ ละคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ อภปิ ราย แลกเปล่ยี นความคิดเห็น และแก้ปัญหา ดี ๓) มีความสามารในการสรา้ งนวัตกรรม ๔) มคี วามสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ และการส่ือสาร ดี ๕) มผี ลสัมฤทธ์ิทางการเรียนตามหลักสตู รสถานศึกษา ยอดเย่ียม ๖) มีความรู้ ทักษะพื้นฐานและเจตคติที่ดตี ่องานอาชพี ๑.๒ คุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ของผเู้ รียน ดเี ลศิ ๑) การมีคุณลกั ษณะและคา่ นิยมทดี่ ีตามทส่ี ถานศกึ ษากาหนด ดเี ลศิ ๒) ความภูมิใจในท้องถน่ิ และความเปน็ ไทย ดีเลศิ ๓) การยอมรับทีจ่ ะอยรู่ ว่ มกนั บนความแตกต่างและหลากหลาย ดเี ลิศ ๔) สุขภาวะทางร่างกายและลกั ษณะจิตสงั คม ยอดเยย่ี ม มำตรฐำนท่ี ๒ กระบวนกำรบริหำรและจัดกำร ดีเลศิ ๒.๑ การมเี ป้าหมาย วสิ ยั ทัศน์ และพันธกิจทสี่ ถานศึกษากาหนดชดั เจน ยอดเย่ียม ๒.๒ มีระบบบรหิ ารจดั การคุณภาพของสถานศกึ ษา ดเี ลิศ ๒.๓ ดาเนินงานพฒั นาวชิ าการที่เน้นคุณภาพผู้เรียนรอบด้านตามหลกั สูตรสถานศกึ ษา ยอดเยี่ยม และทุกกลุ่มเป้าหมาย ดีเลิศ ๒.๔ พัฒนาครแู ละบคุ ลกรให้มคี วามเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ ดีเลิศ ๒.๕ จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสงั คมทีเ่ อื้อต่อการจดั การเรยี นรูอ้ ย่างมคี ูณภาพ ๒.๖ จดั ระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่ือสนับสนุนการบริหารจัดการและการจดั การ ดี เรียนรู้ ยอดเยย่ี ม ยอดเยย่ี ม
มำตรฐำนที่ ๓ กระบวนกำรจัดกำรเรียนกำรสอนทเี่ นน้ ผเู้ รียนเป็นสำคญั ๔๐ ๓.๑ จัดการเรยี นรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏบิ ัตจิ รงิ และสามารถนาไปประยุกต์ใช้ใน ชีวติ ได้ ดีเลศิ ๓.๒ ใช้ส่อื เทคโนโลยีสารสนเทศ และแหลง่ เรียนรู้ท่เี อื้อต่อการเรยี นรู้ ดเี ลิศ ๓.๓ มกี ารบริหารจดั การชัน้ เรยี นเชงิ บวก ๔.๔ ตรวจสอบและประเมินผู้เรยี นอย่างเป็นระบบ และนาผลมาพัฒนาผู้เรียน ยอดเยี่ยม ๓.๕ มีการแลกเปล่ยี นเรยี นรแู้ ละให้ข้อมูลสะท้อนกลบั เพื่อพฒั นาและปรบั ปรงุ การ ดีเลศิ จัดการเรียนรู้ ดี ดี สรปุ ผลกำรประเมินในภำพรวมของสถำนศึกษำ ดเี ลิศ ๑.๓) วสิ ยั ทัศน์ สถานศกึ ษามี วสิ ัยทัศนแ์ ละพันธกจิ สอดคล้องกบั สภาพปญั หา ความต้องการพฒั นา ของสถานศึกษา ความต้องการของชมุ ชน ท้องถ่นิ ๑.๔ พันธกิจ สถานศกึ ษามีพันธกิจสอดคล้องกับแนวทางการปฏิรปู ตามแผนการศึกษาชาติ ๒) แผนพฒั นาคุณภาพการจดั การศกึ ษา แผนปฏิบัติการประจาปี สอดคลอ้ งกับการพฒั นาผู้เรยี น ทกุ กลุ่มเป้าหมาย มกี ารพัฒนาครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาใหม้ ีความรู้ ความเช่ยี วชาญ ตามมาตรฐาน ตาแหน่ง ข้อมลู สารสนเทศมีความถกู ต้อง ครบถ้วน ทันสมยั นาไปประยุกตใ์ ชไ้ ด้ ดาเนนิ การอยา่ งเปน็ ระบบ และมีกจิ กรรมจดั สภาพแวดล้อมทางกายภาพและสงั คมท่ีกระตุ้นผเู้ รียนให้ใฝเ่ รยี นรู้คู่คุณธรรม ๓) สถานศกึ ษามีการปรบั แผนพฒั นาคุณภาพการจัดการศึกษา แผนปฏิบตั ิการประจาปี ให้ สอดคล้องกบั สภาพปัญหา ความตอ้ งการพฒั นา ตามนโยบายการปฏริ ปู การศึกษา โดยผมู้ ีส่วนได้เสยี มีส่วนร่วม ในการพฒั นาและรว่ มรบั ผิดชอบ ๔) ผเู้ ก่ยี วขอ้ งทกุ ฝ่าย และเครือข่ายการพฒั นาคณุ ภาพสถานศกึ ษา มีส่วนรว่ มในการ ร่วมวาง แผนพัฒนาคุณภาพการศกึ ษา และรับทราบ รบั ผดิ ชอบตอ่ ผลการจดั การศึกษา ๕) สถานศึกษามีการนเิ ทศ กากับ ตดิ ตาม และประเมนิ ผลการบริหารและการจดั การศึกษา ท่ี เหมาะสม เป็นระบบและตอ่ เน่ือง เปิดโอกาสให้ผู้เกย่ี วข้องมสี ว่ นรว่ มในการจัดการศกึ ษา ๖) สถานศึกษามีรูปแบบการบริหารและการจดั การเชิงระบบ โดยทุกฝา่ ยมสี ่วนรว่ ม ยึดหลกั ธรรมาภิบาล และแนวคดิ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยมุ่งพัฒนาผู้เรยี นตามแนวทางปฏิรูปการศึกษา ๗) สถานศกึ ษามีการระดมทรัพยากรเพอื่ การพฒั นาคุณภาพการศกึ ษาจากเครือข่ายอปุ ถัมภ์ ส่งผลให้สถานศกึ ษามีสอ่ื และแหลง่ เรียนรูท้ ่มี ีคุณภาพ ๒.๔ จดุ เดน่ ๑) โรงเรยี นมีการบรหิ ารและการจัดการอย่างเปน็ ระบบ โรงเรยี นไดใ้ ชเ้ ทคนคิ การประชุมท่ี หลากหลายวิธี เช่น การประชุมแบบมสี ่วนร่วม การประชุมระดมสมอง การประชุมกลุ่ม เพื่อให้ทุกฝา่ ยมีส่วน รว่ มในการกาหนดวสิ ยั ทัศน์ พนั ธกิจ เปา้ หมาย ทชี่ ดั เจน
๔๑ ๒) มีการปรบั แผนพฒั นาคุณภาพการจัดการศึกษา แผนปฏบิ ตั กิ ารประจาปี ท่ีสอดคล้องกับผล การจดั การศกึ ษา สภาพปัญหา ความต้องการพัฒนา และนโยบายการปฏริ ูปการศึกษา ท่มี ุ่งเน้นการพฒั นาให้ ผู้เรยี นมคี ุณภาพตามมาตรฐานการเรยี นร้ตู ามหลักสูตรสถานศกึ ษา ๓) มีเครือข่ายอปุ ถัมภ์ให้ความรว่ มมือในการจดั การศึกษาของโรงเรยี นให้มคี วามเขม้ แข็ง มีส่วน รว่ มรับผิดชอบตอ่ ผลการจัดการศกึ ษา และการขบั เคลื่อนคุณภาพการจดั การศึกษา ๒.๕ จุดควรพัฒนำ ๑. เปดิ โอกาสใหผ้ ปู้ กครองได้มสี ว่ นร่วมในการเสนอความคิดเห็นในการจัดการศกึ ษาเพือ่ พฒั นา ผู้เรยี น ๒.๖ แนวทำงกำรพัฒนำใหไ้ ด้ระดับคณุ ภำพทส่ี ูงขึ้น โรงเรยี นไดม้ แี นวทางในการพัฒนามาตรฐานท่ี ๓ ใหไ้ ดร้ ะดับคณุ ภาพทสี่ ูงขึ้นโดยกาหนด โครงการและกจิ กรรม ดงั ตอ่ ไปนี้ ๑) โครงการจดั ทาแผนปฏิบัตริ าชการ ๒) โครงการการนเิ ทศภายใน ๓) โครงการความสัมพนั ธ์กับชุมชน ๔) โครงการหน่ึงโรงเรยี นหน่งึ นวตั กรรม ๕) โครงการสถานศึกษาสีขาว ๖) โครงการโรงเรยี นปลอดขยะ ๒.๗ ผลสัมฤทธ์ิที่เกิดข้นึ กับผู้บริหำร และรำงวัลที่ได้รับ ที่ ชือ่ รำงวัล หน่วยงำนท่ีมอบ ปีท่ีได้รับ ๑ ผมู้ ีผลงานดีเด่นดา้ นวชิ าการ สานักงานเขตพ้นื ท่ีการศึกษา ๒๕๖๐ ประถมศกึ ษาอุดรธานี เขต ๒ วันแห่งเกยี รติยศ สุดยอดคนเก่ง สพป. อดุ รธานี เขต ๒
๔๒ ๓. มำตรฐำนท่ี ๓ กระบวนกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนทเี่ นน้ ผู้เรียนเปน็ สำคัญ ๓.๑ ผลกำรประเมิน ระดับคุณภาพ ดีเลศิ ๓.๒ กระบวนกำรกำรพัฒนำกระบวนกำรจดั กำรเรียนกำรสอนทเี่ น้นผ้เู รียนเป็นสำคัญ ๓.๒.๑ จดั การเรยี นรผู้ ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริงและสามารถนาไปประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ ได้ โรงเรยี นไดจ้ ัดใหม้ ีโครงการ Active Learning กจิ กรรม STEM Education โดยมวี ธิ ดี าเนินการ คือการจัดการเรียนรู้ใหน้ ักเรยี นเปน็ ผู้ปฎบิ ตั มิ คี รเู ป็นท่ปี รึกษาใหก้ ารสนับสนุน ครูมีแผนการจัดการเรียนร้แู ละ สือ่ ที่สอดคล้องกบั สาระการเรียนรูแ้ ละตวั ชวี้ ดั ๓.๒.๒ ใช้ส่ือ เทคโนโลยีสารสนเทศ และแหลง่ เรียนรูท้ เ่ี อื้อต่อการเรยี นรู้ โรงเรียนได้จัดให้มโี ครงการห้องสมุดมีชวี ติ กจิ กรรม รกั การอา่ น โดยมวี ธิ ีดาเนินการ คือ นกั เรยี นสบื ค้นข้อมูลจากอินเตอเน็ตโดยใชค้ อมพิวเตอรใ์ นห้องปฏบิ ัติการคอมพวิ เตอร์หรือในห้องสมุด ๓.๒.๓ มีการบริหารจัดการช้ันเรียนเชิงบวก โรงเรยี นได้จัดใหม้ ีโครงการโรงเรียนสวยห้องเรยี นงาม กิจกรรม DLTV New กจิ กรรม การจดั ป้าย นิเทศ กจิ กรรม BBL โดยมวี ธิ ดี าเนินการ คือ จดั ห้องเรยี นให้มบี รรยากาศน่าอยนู่ า่ เรียน ส่ือการเรยี นที่ หลากหลาย โครงการเด็กพิเศษเรยี นรวมมีวิธีดาเนินการ คือ จัดการเรียนรูต้ ามศักยภาพของผเู้ รียน เพื่อน ชว่ ยเพ่อื น เรียนรไู้ ปด้วยกันอยา่ งมีความสุข ๓.๒.๔ ตรวจสอบและประเมินผเู้ รยี นอยา่ งเปน็ ระบบ และนาผลมาพฒั นาผเู้ รยี น โรงเรยี นไดจ้ ดั ใหม้ ีโครงการยกผลสัมฤทธิท์ างการเรียน กิจกรรมพฒั นาหลักสูตรสถานศึกษา กิจกรรมวดั ผลประเมินผล โดยมวี ธิ ดี าเนินการ คือ กาหนดเกณฑ์การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ก่อนเรยี นและหลัง เรียน วัดผลประเมินผลตามตัวชว้ี ดั ทดสอบระหว่างเรียน ประเมนิ ผลการเรยี นตามสภาพจริงและใช้ แบบทดสอบทั้งอตั นยั และปรนัย โครงการนิเทศภายใน กจิ กรรมนเิ ทศภายในสถานศึกษา โดยมีวิธีดาเนินการ คือ แตง่ ตัง้ คณะกรรมการนเิ ทศครผู ู้สอนปกี ารศึกษาละ ๒ ครงั้ โรงเรยี นมวี ธิ กี ารท่ีสรา้ งความเชือ่ มน่ั ในการ ควบคมุ ประสิทธิภาพการวดั และ ประเมินผลของสถานศกึ ษาอย่างชดั เจน คือ มีการจัดโครงการพัฒนาครูดา้ น การจดั การเรยี นการสอน การวดั ผลประเมนิ ผล และการนิเทศการสอน กจิ กรรมพฒั นาครดู า้ นการ จัดการ เรยี นการสอน การวดั ผลประเมินผล และการนเิ ทศการสอน ให้กบั ครู นอกจากนี้มคี ู่มือ วดั ผล ประเมนิ ผล มี คณะกรรมการคัดเลือก ตรวจเลอื กข้อสอบ มคี ลงั ข้อสอบ มีการนาข้อสอบ มาวิเคราะห์ และนาไปพฒั นา ๓.๒.๕ มกี ารแลกเปลีย่ นเรยี นรแู้ ละใหข้ ้อมูลสะทอ้ นกลับเพ่อื พฒั นาและปรับปรงุ การจัดการ เรียนรู้ โรงเรยี นได้จดั ใหม้ ีโครงการ นเิ ทศภายใน กิจกรรม PLC โดยมวี ธิ ดี าเนินการ คือ จดั กจิ กรรมประชมุ แลกเปล่ียนเรียนรู้เปน็ ระดบั สายชั้น สปั ดาห์ละ ๑ ครัง้ โรงเรยี นมีวิธกี ารสนบั สนุนให้ครูแลกเปล่ียนเรยี นร้แู ละ การให้ข้อมูลสะทอ้ นกลบั เพื่อพฒั นาการจดั การเรยี นรู้ มกี ารนเิ ทศการเรยี นการสอน ผูน้ ิเทศจะมีการให้ขอ้ มูล สะท้อนกลบั กบั ผูถ้ ูกนิเทศ นอกจากนี้ โรงเรยี นจดั กจิ กรรมชุมชนแห่งการเรียนร้ทู างวชิ าชพี (PLC) ใหก้ ับครูทุก คน
๔๓ ๓.๓ ผลกำรพฒั นำ จากการดาเนนิ งาน/โครงการ/กจิ กรรมอยา่ งหลากหลาย เพือ่ พฒั นาใหค้ รจู ัดการเรียนการสอนท่ี เนน้ ผู้เรียนเปน็ สาคญั ส่งผลให้ผลการประเมินคุณภาพมาตรฐานที่ ๓ อยใู่ นระดบั ดี ๓.๓.๑) จดั การเรยี นรผู้ ่านกระบวนการคิดและปฏบิ ตั ิจรงิ และสามารถนาไปประยุกต์ใช้ในชวี ติ ได้ สง่ ผลใหน้ ักเรยี นเรยี นรไู้ ดด้ ยี ง่ิ ข้ึน ๓.๓.๒ ใช้ส่อื เทคโนโลยสี ารสนเทศ และแหล่งเรยี นรู้ที่เอื้อตอ่ การเรียนรู้ ทาใหผ้ ้เู รียนแสวงหา ความรไู้ ด้ดว้ ยตวั เอง ๓.๓.๓ มีการบริหารจดั การชั้นเรยี นเชงิ บวก ผู้เรยี นทางานด้วยความม่งุ ม่ัน ใฝร่ ใู่ ฝ่เรียน ๓.๓.๔ ตรวจสอบและประเมินผเู้ รียนอยา่ งเปน็ ระบบ และนาผลมาพฒั นาผู้เรียน ครจู านวน ๓ คนจากครูทั้งหมด ๕ คน ได้รับการอบรมพฒั นาความรู้ทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั การ วัดและ ประเมนิ ผล ในระยะเวลาไม่เกิน ๒ ปี (เฉพาะครผู ู้สอน)คดิ เปน็ รอ้ ยละ ๖๐ ครู ๓ คน จากครทู ัง้ หมด ๕ คน วธิ ีการวัดและประเมนิ ความรู้ดาเนนิ การโดยวัดความรู้ก่อนเรยี นและหลงั เรียนหนว่ ยการเรยี นรู้ วัดผล ประเมินผลตามตัวชีว้ ดั ตามกลุ่มสาระระหวา่ งเรยี น ทดสอบระหวา่ งภาคเรยี นเพ่ือนาผลการประเมนิ มา พฒั นาการจดั การเรยี นรู้ เคร่ืองมือท่ีใชใ้ นการวดั ผลมีแบบทดสอบอัตนัยและปรนัย การประเมินตามสภาพจรงิ การประเมินโดยใชโ้ ครงงาน การประเมนิ คุณลักษณะท่ีพงึ ประสงค์แต่งตง้ั คณะกรรมการประเมนิ ครปู ระจาชั้น ครูประจาวชิ าและการนาผลการประเมนิ ไปพัฒนาผู้เรยี นให้มีคุณภาพทีส่ ูงข้ึน ๓.๓.๕ มีการแลกเปลยี่ นเรยี นร้แู ละให้ข้อมูลสะท้อนกลับเพอ่ื พฒั นาและปรบั ปรุงการจดั การเรยี นรู้ ครูจานวน ๕ คน มีการแลกเปลีย่ นเรยี นรู้ระหว่างครใู นโรงเรียน และภายในกลมุ่ เครอื ขา่ ย และการให้ขอ้ มูล สะทอ้ นกลับเพ่ือพฒั นาการจัดการเรียนรู้ มกี ารนิเทศการเรียนการสอนจานวน ๑ คร้งั /ภาคเรยี นซึ่ง ผ้นู เิ ทศ จะมีการให้ข้อมลู สะท้อนกลับกบั ผถู้ ูกนเิ ทศ ครเู ขา้ รว่ มจัดกิจกรรมชุมชนแหง่ การเรยี นรู้ทางวิชาชีพ (PLC) จานวน ๒ ครง้ั ภายใน ๑ ปี ครูวชิ าการโรงเรียนเขา้ ร่วม PLC ภายในกลุ่มเครือข่าย จานวน ๔ ครัง้ ภายใน ๑ ปี นาปัญหาการจัดการเรียนร้ใู นโรงเรยี นแลกเปล่ียนเรยี นรู้และเสนอแนวทางการพัฒนาร่วมกนั ส่งผลให้กลมุ่ เครือข่ายมีด้านวชิ าการท่ีเขม้ แขง็ ๓.๔ จุดเดน่ ๑. ครตู ้ังใจ มงุ่ มน่ั ในการพัฒนาการสอน ๒. ครจู ัดกิจกรรมใหน้ ักเรยี นแสวงหาความรจู้ ากสอื่ เทคโนโลยีดว้ ยตนเองอย่างต่อเนื่อง ๓. ครใู หน้ ักเรยี นมีสว่ นรว่ มในการจัดบรรยากาศ สภาพแวดล้อมที่เอือ้ ต่อการเรียนรู้ ๔. ครจู ดั กจิ กรรมให้นกั เรียนเรียนรโู้ ดยการคดิ ได้ปฏบิ ัตจิ ริงดว้ ยวิธีการและแหล่งเรียนรู้ท่ี หลากหลาย
Search