๕๑ เกณฑก์ ารพจิ ารณาเปรียบเทียบระดบั คะแนนของนกั เรียน ผลการประเมินได้ 0 - ๗ คะแนน = ไมผ่ า่ นเกณฑ์ ผลการประเมนิ ได้ ๘ - ๑๕ คะแนน = ผ่านเกณฑ์ ลงชือ่ ผปู้ ระเมนิ ……………………………………………. (ผ้ชู ว่ ยศาสตราจารย์ชยพร ไชยสิทธิ์) วนั ที.่ ......เดอื น..............พ.ศ......................... แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับประกาศนยี บตั รวชิ าชีพปที ่ี ๓ เลข ชื่อ – นามสกลุ มงุ่ มนั่ ในการ ใฝ่เรียนรู้ รักความเป็นไทย รวม ที่ ทำงาน ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๑๐ ๑ ๒ ๓ ๔
๕๒ เกณฑก์ ารพิจารณาเปรยี บเทียบระดับคะแนนของนกั เรยี น ๑๑ - ๑๒คะแนน ระดบั ดีมาก ๘ – ๑๐ คะแนน ระดบั ดี ๕ – ๗ คะแนน ระดบั พอใช้ ๑ – ๔ คะแนน ระดบั ควรปรับปรงุ ลงชื่อ…………………………………………….ผสู้ อน (ผ้ชู ว่ ยศาสตราจารยช์ ยพร ไชยสทิ ธ์ิ) วันท่ี.......เดือน..............พ.ศ. .................. รายการประเมิน เกณฑป์ ระเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๑ ๔๓๒
๕๓ มงุ่ มนั่ ในการ นกั เรียนมคี วาม นักเรยี นมคี วาม นกั เรยี นมคี วาม นักเรียนไม่มคี วาม ทำงาน มุ่งมน่ั ต้งั ใจในการ มุง่ มนั่ ต้ังใจในการ มุง่ มั่นตั้งใจในการ ม่งุ ม่นั ต้ังใจในการ เรียนและ เรยี นและ เรยี นและ เรยี นและไม่ ใฝ่เรียนรู้ รับผิดชอบต่อ รบั ผิดชอบตอ่ รับผิดชอบต่อ รบั ผดิ ชอบตอ่ หนา้ ทีท่ ีไ่ ด้รบั หน้าทีท่ ีไ่ ดร้ ับ หน้าทท่ี ่ไี ด้รับ หน้าทที่ ่ีได้รับ รกั ความเปน็ ไทย มอบหมาย ดว้ ย มอบหมาย เพื่อให้ มอบหมายเป็น มอบหมายทกุ คร้งั ความเพยี ร งานสำเรจ็ ตาม บางคร้ัง พยายาม อดทน เป้าหมาย เพื่อให้งานสำเร็จ นักเรยี นมีการ นักเรยี นไม่ซกั ถาม ตามเป้าหมาย นักเรียนมกี าร ซักถามในเรอ่ื งที่ ในเร่ืองที่ตนไม่ นักเรยี นมกี าร ซกั ถามในเรือ่ งท่ี ตนไม่เข้าใจเป็น เข้าใจและไม่กลา้ ซกั ถามในเรอ่ื งท่ี ตนไม่เข้าใจ บางครั้งและไม่ค่อย แสดงออก ตนไม่เข้าใจทุก บางคร้งั และ กล้าแสดงออก เรื่องและมคี วาม ค่อนข้างมคี วาม กล้าแสดงออก กล้าแสดงออก นักเรยี นแตง่ กายไม่ นกั เรียนแตง่ กายไม่ อยา่ งมั่นใจ นักเรยี นแต่งกาย คอ่ ยเรียบร้อย มี เรยี บรอ้ ย ไม่มี นักเรยี นแตง่ กาย เรยี บร้อย มี มารยาทงดงาม มารยาท และใช้ เรียบรอ้ ย มี มารยาทงดงาม แบบไทย และใช้ ภาษาไทยในการ มารยาทงดงาม แบบไทย และใช้ ภาษาไทยในการ สือ่ สารไมเ่ หมาะสม แบบไทย และใช้ ภาษาไทยในการ สือ่ สารได้อยา่ ง ภาษาไทยในการ สื่อสารได้อย่าง ถูกต้องเหมาะสม สื่อสารได้อยา่ ง ถกู ต้องเหมาะสม เป็นบางครั้ง ถกู ต้องเหมาะสม บอ่ ยคร้งั
๕๔ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๖ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิชาชพี เฉพาะป่พี าทย์ รายวิชาปพี่ าทย์ ๕ รหัสวิชา ๒๐๓๐๓-๒๐๐๕ ระดับประกาศนยี บัตรวชิ าชีพปที ี่ ๓ ภาคเรยี นที่ ๑ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๕ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๔ เพลงหนา้ พาทย์ เวลา ๕๑ คาบ เรอ่ื งเพลงโลม-ตระนอน เวลา ๕๑ คาบ ................................................................................................................................................................... มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ๒.๒เขา้ ใจและมีทกั ษะในการฝึกปฏบิ ัตเิ คร่อื งดนตรี การบรรเลงเพลงประเภทต่าง ๆ ตระหนัก และเหน็ คณุ ค่า นำมาประยุกต์ใชไ้ ด้อย่าง เหมาะสม ตวั ชีว้ ัด บอกประวัติเพลงในบทเรยี นอธบิ ายศพั ท์สังคีตเพลงในบทเรียนปฏบิ ตั ิเพลงประเภทต่างๆและ นำความรทู้ ่ไี ด้รับไปใช้ในโอกาสตา่ งๆได้ สาระสำคัญ เพลงหน้าพาทย์ หรอื เพลงครู เปน็ เพลงทม่ี ีความศักด์ิสทิ ธ์ิ โดยเฉพาะครูอาจารย์ และศิลปินด้าน นาฏศลิ ปด์ นตรใี ห้ความเคารพบูชาอยา่ งสงู เม่ือไดย้ นิ เพลงหนา้ พาทย์คราวใด กจ็ ะยกมือขนึ้ ไหว้ เพอ่ื รำลึกถึง คุณครบู าอาจารย์ผู้ถ่ายทอดประสทิ ธปิ์ ระสาทความร้ดู า้ นท่ารำทำนองเพลง แก่ตน และไม่กล้าทำสงิ่ หนึง่ สิ่ง ใดที่แสดงว่าเป็นการลบหลู่ หรอื ขาดความเคารพท้งั กาย วาจา ใจ ไมว่ า่ จะเปน็ ในการเรียนหรือการ ฝึกซ้อม สำหรบั ความหมายของเพลงหนา้ พาทย์นัน้ มผี ู้ให้ คำจำกัดความไวใ้ นที่ต่าง ๆ มากมาย ซึ่งมี ความหมายใกล้เคียงกัน จงึ เหมาะสมทนี่ กั เรยี นระดบั ประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ปีที่ ๓ ในรายวชิ าป่พี าทย์ ๕ ต้อง ศกึ ษาและเรยี นรแู้ ละสามารถนำไปใชใ้ นการเรียนปฏบิ ตั เิ พลงท่ีมีทำนองท่ียากขน้ึ ต่อไป จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑.นกั เรียนสามารถอธิบายประวัติเพลงโลม-ตระนอน ได้ ๒.นักเรยี นสามารถปฏิบตั ิเพลงโลม-ตระนอน ๓.นกั เรียนมีความตั้งใจในการปฏิบตั ิเพลงโลม-ตระนอน สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น ๑.ความสามารถในการจดจำประวัติเพลงโลม-ตระนอน ๒.ความสามารถปฏิบัติเพลงโลม-ตระนอน สาระการเรียนรู้ ๑.ประวัติเพลงโลม-ตระนอน ๒.เพลงโลม-ตระนอน
๕๕ กิจกรรมการเรียนรู้ ข้ันนำเข้าส่บู ทเรียน ๑.โดยทบทวนเพลงชา้ เรอ่ื งพระรามเดินดง ๒.ครูอธบิ ายจุดประสงค์การเรียนรแู้ ละวิธกี ารวัดผลประเมนิ ผลพร้อมท้ังบอกเกณฑก์ ารประเมินให้ นักเรยี นทราบ ขั้นกิจกรรม ๑.ครูทบทวนประวัติเพลงพร้อมทง้ั สาธิตเพลงโลม-ตระนอน ช้นั ให้นกั เรียนฟัง ๑ เที่ยว ๒.ครูตอ่ เพลงโดยสาธิตให้นักเรียนปฏิบัติตามทลี ะวรรค ๓.เมอื่ ได้๒ – ๓ วรรคกใ็ หท้ บทวนใหมต่ ้งั แตต่ น้ เพ่ือใหเ้ กิดความชำนาญ ๔.หลงั จากนน้ั ก็ตอ่ เพลงในวรรคตอ่ ไปทำอยา่ งนีจ้ นจบเพลงโลม-ตระนอน ขั้นสรุป ๑.ให้นกั เรียนจับคู่ทบทวนตงั้ แตต่ น้ จนจบเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง ๒.ครคู อยสังเกตและแนะนำ แนวทางบรู ณาการ ภาษาไทย การอา่ น การเขยี น การอภปิ ราย การแสดงความคิดเหน็ การถามและการตอบขอ้ สงสัย การนำเสนองาน ต่างๆ การบนั ทึกองค์ความรู้และกระบวนท่ารำ วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ วพิ ากษอ์ ยา่ งมีหลกั การและสร้างสรรค์ สงั คมศึกษาฯ การปฏบิ ตั ิกจิ กรรมเปน็ กลุ่ม การสร้างมนุษยสมั พนั ธ์ สขุ ศึกษาฯ การพัฒนาทักษะการฟัง การร้อง และการเคล่อื นไหวรา่ งกายขณะปฏบิ ัติทา่ รำ คณิตศาสตร์ การนบั จังหวะในการปฏบิ ัติท่ารำ การจำแนกหรือเปรยี บเทียบตา่ งๆ วิทยาศาสตร์ การสังเกตการสาธติ ทา่ รำจากครู หรือจากนวัตกรรมต่างๆ ศิลปะ การวาดภาพบนั ทึกท่ารำ สอ่ื อุปกรณ์ และแหล่งเรียนรู้ ๑.ใบความรเู้ รือ่ งประวตั ิเพลงโลม-ตระนอน ๒.ระนาดเอก ๓.ระนาดทุม้ ๔.ฆอ้ งวงใหญ่ ชน้ิ งาน/ภาระงาน ๑. ใหน้ กั เรยี นทบทวนนอกเวลาสปั ดาห์ละ ๓ ชั่วโมง
๕๖ การวัดและประเมินผล ๑.วิธกี ารวัดผล ๑.๑สงั เกตการบรรเลง การตอบคำถาม ๒.เครื่องมือการวดั ผล ๒.๑แบบสังเกตเร่อื งเพลงโลม-ตระนอน ๓.เกณฑก์ ารประเมินผล ๓.๑นักเรียนปฏิบตั ิเพลงโลม-ตระนอน ผิดได้ไม่เกิน ๕ คร้งั บันทึกผลหลงั การจัดการเรยี นรู้ ผลการจัดการเรยี นรู้ ๑............................................................................................................................ ................................. ๒............................................................................................... .............................................................. ๓............................................................................................................................ ................................. ๔............................................................................................................................................................ . ๕............................................................................................................................ ................................. ปัญหา/อุปสรรค ๑............................................................................................................................ ................................. ๒............................................................................................................................................................. ๓............................................................................................................................ ................................. ๔.................................................................................................................................................. ........... ๕..................................................................................................................... ........................................ แนวทางไข/ขอ้ เสนอแนะ ๑............................................................................................................................ ................................. ๒.............................................................................................................................................................
๕๗ ๓............................................................................................................................ ................................. ๔............................................................................................................................ ................................. ๕............................................................................................................................................................. ลงช่อื ผบู้ นั ทกึ (ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ชยพร ไชยสิทธิ์) ใบความรู้ เพลงโลม-ตระนอน เพลงโลมเปน็ เพลงหนา้ พาทย์ ใชบ้ รรเลงประกอบกริ ยิ าเก้ียวพาราสี (โลม) ของตัวละครเมอื่ ถึงตอนเข้าพระ เขา้ นาง มักบรรเลงต่อท้ายดว้ ยเพลงตระนอน จึงนยิ มเรยี กควบคู่กนั ว่า เพลงโลม-ตระนอน นอกจากน้ีคำวา่ โลม ยงั ใช้กบั ทางบรรเลงท่ีมีสำเนียงตา่ งๆ ตามเช้ือชาติของตวั ละคร เชน่ เพลงโลมพมา่ เพลงโลมมอญ เพลงตระนอน เป็นเพลงหน้าพาทย์ใชบ้ รรเลงประกอบกริ ยิ านอน ในการเทศมหาชาตใิ ชเ้ ป็นเพลง ประจำกัณฑ์กษัตรยิ ์ แบบสังเกตเร่อื งเพลงโลม-ตระนอน ชื่อ/กลุ่ม ถามตอบ - ความถกู ตอ้ งของเพลง รวม(๕) บุคลกิ ภาพ(๑) (๔)
๕๘ เกณฑก์ ารพจิ ารณาเปรียบเทียบระดับคะแนนของนักเรียน ผลการประเมินได้ 0 - ๗ คะแนน = ไม่ผา่ นเกณฑ์ ผลการประเมนิ ได้ ๘ - ๑๕ คะแนน = ผา่ นเกณฑ์ ลงช่ือผปู้ ระเมิน……………………………………………. (ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ชยพร ไชยสทิ ธิ์) วนั ที.่ ......เดือน..............พ.ศ........................ แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดับประกาศนยี บตั รวชิ าชีพปที ี่ ๓ เลข ชื่อ – นามสกลุ มงุ่ มั่นในการ ใฝ่เรยี นรู้ รักความเป็นไทย รวม ที่ ทำงาน ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๑๐ ๑ ๒ ๓ ๔
๕๙ เกณฑก์ ารพิจารณาเปรยี บเทียบระดับคะแนนของนักเรยี น ๑๑ - ๑๒คะแนน ระดบั ดีมาก ๘ – ๑๐ คะแนน ระดับ ดี ๕ – ๗ คะแนน ระดบั พอใช้ ๑ – ๔ คะแนน ระดับ ควรปรบั ปรงุ ลงชอ่ื …………………………………………….ผ้สู อน (ผ้ชู ่วยศาสตราจารย์ชยพร ไชยสิทธ์ิ) วันท่.ี ......เดอื น..............พ.ศ. .................. เกณฑ์ประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ รายการประเมนิ เกณฑก์ ารให้คะแนน มงุ่ มั่นในการ ๔๓๒ ๑ ทำงาน นกั เรยี นไม่มคี วาม นกั เรยี นมีความ นักเรียนมีความ นักเรยี นมีความ ม่งุ มนั่ ตั้งใจในการ เรยี นและไม่ มุ่งมัน่ ตัง้ ใจในการ มงุ่ มนั่ ตั้งใจในการ มงุ่ มั่นต้งั ใจในการ รับผดิ ชอบต่อ หนา้ ที่ทไ่ี ด้รบั เรยี นและ เรียนและ เรยี นและ มอบหมายทกุ คร้งั รับผิดชอบต่อ รับผิดชอบตอ่ รบั ผิดชอบต่อ หน้าทที่ ไ่ี ดร้ ับ หน้าทท่ี ่ีไดร้ ับ หน้าทท่ี ี่ไดร้ ับ มอบหมาย ดว้ ย มอบหมาย เพ่อื ให้ มอบหมายเปน็ ความเพยี ร งานสำเรจ็ ตาม บางครง้ั พยายาม อดทน เปา้ หมาย
๖๐ ใฝเ่ รยี นรู้ เพื่อให้งานสำเรจ็ นกั เรียนมกี าร นกั เรยี นมีการ นักเรียนไม่ซักถาม รักความเปน็ ไทย ตามเป้าหมาย ซักถามในเรื่องท่ี ซกั ถามในเร่อื งท่ี ในเร่ืองที่ตนไม่ นกั เรียนมกี าร ตนไม่เข้าใจ ตนไม่เข้าใจเปน็ เขา้ ใจและไม่กลา้ ซักถามในเร่อื งที่ บางครัง้ และ บางครง้ั และไม่ค่อย แสดงออก ตนไมเ่ ข้าใจทุก ค่อนข้างมีความ กลา้ แสดงออก เรือ่ งและมีความ กลา้ แสดงออก กล้าแสดงออก นักเรียนแตง่ กาย นกั เรยี นแตง่ กายไม่ นกั เรียนแตง่ กายไม่ อย่างม่นั ใจ เรียบรอ้ ย มี คอ่ ยเรยี บร้อย มี เรียบรอ้ ย ไม่มี นักเรียนแต่งกาย มารยาทงดงาม มารยาทงดงาม มารยาท และใช้ เรยี บร้อย มี แบบไทย และใช้ แบบไทย และใช้ ภาษาไทยในการ มารยาทงดงาม ภาษาไทยในการ ภาษาไทยในการ สือ่ สารไมเ่ หมาะสม แบบไทย และใช้ สื่อสารได้อยา่ ง สอ่ื สารได้อยา่ ง ภาษาไทยในการ ถกู ต้องเหมาะสม ถกู ต้องเหมาะสม ส่อื สารได้อย่าง บ่อยคร้ัง เปน็ บางครั้ง ถกู ต้องเหมาะสม แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี ๗ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิชาชพี เฉพาะป่พี าทย์ รายวชิ าปพี่ าทย์ ๕ รหสั วิชา ๒๐๓๐๓-๒๐๐๕ ระดบั ประกาศนยี บัตรวิชาชีพปที ี่ ๓ ภาคเรียนท่ี ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๕ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๔ เพลงหนา้ พาทย์ เวลา ๙ คาบ
๖๑ เรื่องเพลงคกุ พาทย์ เวลา ๙ คาบ ................................................................................................................................................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ๒.๒เขา้ ใจและมีทักษะในการฝกึ ปฏบิ ัตเิ คร่อื งดนตรี การบรรเลงเพลงประเภทตา่ ง ๆ ตระหนกั และเหน็ คณุ คา่ นำมาประยุกต์ใช้ได้อย่าง เหมาะสม ตวั ช้วี ัด บอกประวัตเิ พลงในบทเรียนอธบิ ายศัพทส์ ังคีตเพลงในบทเรียนปฏบิ ัตเิ พลงประเภทต่างๆและ นำความรทู้ ีไ่ ดร้ บั ไปใช้ในโอกาสต่างๆได้ สาระสำคัญ เพลงหน้าพาทย์ หรอื เพลงครู เปน็ เพลงที่มีความศักดสิ์ ทิ ธิ์ โดยเฉพาะครูอาจารย์ และศิลปินดา้ น นาฏศิลป์ดนตรีให้ความเคารพบชู าอยา่ งสูง เมื่อได้ยินเพลงหน้าพาทย์คราวใด กจ็ ะยกมือข้นึ ไหว้ เพ่ือรำลกึ ถงึ คณุ ครบู าอาจารย์ผู้ถ่ายทอดประสทิ ธิ์ประสาทความรดู้ ้านท่ารำทำนองเพลง แกต่ น และไม่กลา้ ทำสง่ิ หนึง่ สิง่ ใดทีแ่ สดงวา่ เป็นการลบหลู่ หรอื ขาดความเคารพท้งั กาย วาจา ใจ ไมว่ ่าจะเป็นในการเรยี นหรือการ ฝึกซอ้ ม สำหรับความหมายของเพลงหนา้ พาทย์น้นั มผี ู้ให้ คำจำกดั ความไว้ในท่ีตา่ ง ๆ มากมาย ซ่งึ มี ความหมายใกลเ้ คยี งกัน จึงเหมาะสมทน่ี ักเรียนระดบั ประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ปที ี่ ๓ ในรายวชิ าป่พี าทย์ ๕ ต้อง ศกึ ษาและเรยี นรู้และสามารถนำไปใชใ้ นการเรียนปฏิบตั เิ พลงท่ีมที ำนองที่ยากขึน้ ต่อไป จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑.นกั เรียนสามารถอธบิ ายประวัติเพลงคุกพาทย์ ได้ ๒.นักเรียนสามารถปฏิบัติเพลงคกุ พาทย์ ได้ ๓.นักเรยี นมีความตั้งใจในการปฏิบตั ิเพลงคกุ พาทย์ สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน ๑.ความสามารถในการจดจำประวตั ิเพลงคุกพาทย์ ๒.ความสามารถปฏบิ ัติเพลงคุกพาทย์ ได้ สาระการเรียนรู้ ๑.ประวัติเพลงคุกพาทย์ ๒.เพลงเพลงคุกพาทย์ กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้นั นำเขา้ สู่บทเรียน ๑.โดยทบทวนเพลงช้าเร่อื งพระรามเดินดง , เพลงโลม-ตระนอน ๒.ครูอธบิ ายจดุ ประสงค์การเรยี นรูแ้ ละวธิ ีการวดั ผลประเมินผลพร้อมท้ังบอกเกณฑก์ ารประเมินให้ นักเรียนทราบ
๖๒ ข้นั กจิ กรรม ๑.ครูทบทวนประวัตเิ พลงพร้อมทั้งสาธติ เพลงคุกพาทย์ ให้นกั เรียนฟงั ๑ เทย่ี ว ๒.ครูตอ่ เพลงโดยสาธิตใหน้ กั เรียนปฏิบตั ิตามทลี ะวรรค ๓.เมื่อได๒้ – ๓ วรรคก็ใหท้ บทวนใหมต่ ั้งแตต่ ้นเพ่ือใหเ้ กิดความชำนาญ ๔.หลังจากนน้ั กต็ ่อเพลงในวรรคต่อไปทำอย่างนจ้ี นจบเพลงคุกพาทย์ ขั้นสรุป ๑.ใหน้ ักเรียนจบั คทู่ บทวนตัง้ แต่ต้นจนจบเพ่ือตรวจสอบความถูกต้อง ๒.ครูคอยสงั เกตและแนะนำ แนวทางบรู ณาการ ภาษาไทย การอา่ น การเขยี น การอภิปราย การแสดงความคิดเห็น การถามและการตอบข้อสงสัย การนำเสนองาน ต่างๆ การบนั ทึกองคค์ วามรู้และกระบวนทา่ รำ วเิ คราะห์ วิจารณ์ วิพากษอ์ ยา่ งมีหลักการและสร้างสรรค์ สังคมศกึ ษาฯ การปฏิบตั ิกจิ กรรมเปน็ กลมุ่ การสรา้ งมนุษยสมั พันธ์ สุขศกึ ษาฯ การพัฒนาทักษะการฟงั การร้อง และการเคลื่อนไหวร่างกายขณะปฏิบัติท่ารำ คณติ ศาสตร์ การนบั จงั หวะในการปฏิบัตทิ า่ รำ การจำแนกหรือเปรียบเทยี บต่างๆ วทิ ยาศาสตร์ การสงั เกตการสาธติ ทา่ รำจากครู หรอื จากนวตั กรรมตา่ งๆ ศลิ ปะ การวาดภาพบนั ทกึ ท่ารำ ส่อื อุปกรณ์ และแหล่งเรียนรู้ ๑.ใบความรเู้ รอื่ งประวัติเพลงคุกพาทย์ ๒.ระนาดเอก ๓.ระนาดทุ้ม ๔.ฆ้องวงใหญ่ ชนิ้ งาน/ภาระงาน ๑. ให้นกั เรียนทบทวนนอกเวลาสัปดาหล์ ะ ๓ ชวั่ โมง การวดั และประเมนิ ผล ๑.วธิ กี ารวัดผล ๑.๑สงั เกตการบรรเลง การตอบคำถาม ๒.เคร่อื งมอื การวัดผล ๒.๑แบบสงั เกตเรอ่ื งเพลงคุกพาทย์
๖๓ ๓.เกณฑก์ ารประเมนิ ผล ๓.๑นักเรยี นปฏิบัตเิ พลงคุกพาทย์ ผดิ ได้ไมเ่ กิน ๕ คร้งั บนั ทึกผลหลังการจดั การเรยี นรู้ ผลการจัดการเรยี นรู้ ๑............................................................................................................................ ................................. ๒............................................................................................... .............................................................. ๓............................................................................................................................ ................................. ๔............................................................................................................................................................ . ๕............................................................................................................................ ................................. ปญั หา/อุปสรรค ๑............................................................................................................................ ................................. ๒............................................................................................................................................................. ๓............................................................................................................................ ................................. ๔............................................................................................................................ ................................. ๕............................................................................................................................................................. แนวทางไข/ขอ้ เสนอแนะ ๑............................................................................................................................ ................................. ๒............................................................................................................................ ................................. ๓.............................................................................................................................................................
๖๔ ๔............................................................................................................................ ................................. ๕............................................................................................................................................... .............. ลงชอ่ื ผู้บนั ทกึ (ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ชยพร ไชยสิทธ์ิ) ใบความรู้ เพลงคกุ พาทย์ เป็นเพลงหนา้ พาทย์ชน้ั สงู ใช้บรรเลงในพิธีไหวค้ รู เพ่ืออันเชญิ เทวดามาร่วมในพิธี ในการแสดงใช้ บรรเลงตอนแสดงการแผลงฤทธิ์ ในการเทศมหาชาติใช้เป็นเพลงประจำกัณฑ์จุลพล แบบสังเกตเรอื่ งเพลงคุกพาทย์ ช่อื /กลุ่ม ถามตอบ - ความถกู ต้องของเพลง รวม(๕) บคุ ลิกภาพ(๒) (๓) เกณฑก์ ารพิจารณาเปรียบเทียบระดบั คะแนนของนักเรยี น
๖๕ ผลการประเมินได้ 0 - ๒ คะแนน = ไมผ่ า่ นเกณฑ์ ผลการประเมินได้ ๓ - ๕ คะแนน = ผ่านเกณฑ์ ลงชื่อผ้ปู ระเมิน……………………………………………. (ผูช้ ่วยศาสตราจารย์ชยพร ไชยสทิ ธิ์) วันท่ี.......เดอื น..............พ.ศ......................... แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ระดบั ประกาศนยี บตั รวชิ าชีพปีท่ี ๓ เลข ชอื่ – นามสกุล มงุ่ มั่นในการ ใฝเ่ รียนรู้ รักความเป็นไทย รวม ที่ ทำงาน ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๑๐ ๑ ๒ ๓ ๔
๖๖ เกณฑก์ ารพจิ ารณาเปรียบเทียบระดบั คะแนนของนักเรยี น ๑๑ - ๑๒คะแนน ระดบั ดมี าก ๘ – ๑๐ คะแนน ระดับ ดี ๕ – ๗ คะแนน ระดบั พอใช้ ๑ – ๔ คะแนน ระดับ ควรปรับปรุง ลงช่อื …………………………………………….ผสู้ อน (ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ชยพร ไชยสิทธิ์) วันท่.ี ......เดือน..............พ.ศ. .................. เกณฑ์ประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ รายการประเมนิ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน มงุ่ ม่ันในการ ๔๓๒ ๑ ทำงาน นักเรียนไม่มีความ นักเรยี นมคี วาม นักเรียนมคี วาม นกั เรียนมคี วาม ม่งุ มัน่ ตง้ั ใจในการ เรียนและไม่ มุ่งมั่นต้งั ใจในการ มุง่ ม่ันตั้งใจในการ ม่งุ มัน่ ต้งั ใจในการ รบั ผิดชอบตอ่ หนา้ ทท่ี ่ีไดร้ บั เรยี นและ เรยี นและ เรียนและ มอบหมายทกุ คร้งั รับผิดชอบตอ่ รบั ผดิ ชอบตอ่ รับผดิ ชอบตอ่ หนา้ ทที่ ไ่ี ดร้ ับ หนา้ ทที่ ไี่ ด้รบั หนา้ ทีท่ ี่ไดร้ บั มอบหมาย ด้วย มอบหมาย เพื่อให้
๖๗ ใฝ่เรียนรู้ ความเพยี ร งานสำเรจ็ ตาม มอบหมายเปน็ รักความเป็นไทย พยายาม อดทน เป้าหมาย บางคร้งั เพอ่ื ใหง้ านสำเรจ็ ตามเป้าหมาย นกั เรียนมีการ นักเรียนมกี าร นักเรยี นไม่ซักถาม นกั เรยี นมกี าร ซกั ถามในเรอื่ งท่ี ซักถามในเรอ่ื งท่ี ในเรอื่ งท่ีตนไม่ ซกั ถามในเร่ืองท่ี ตนไม่เข้าใจ ตนไมเ่ ข้าใจเปน็ เข้าใจและไม่กลา้ ตนไมเ่ ข้าใจทุก บางคร้งั และ บางครงั้ และไม่ค่อย แสดงออก เรอื่ งและมีความ คอ่ นข้างมีความ กลา้ แสดงออก กล้าแสดงออก กล้าแสดงออก อย่างมั่นใจ นกั เรยี นแตง่ กาย นักเรยี นแต่งกายไม่ นกั เรยี นแต่งกายไม่ นักเรยี นแต่งกาย เรียบร้อย มี ค่อยเรยี บร้อย มี เรียบร้อย ไม่มี เรยี บรอ้ ย มี มารยาทงดงาม มารยาทงดงาม มารยาท และใช้ มารยาทงดงาม แบบไทย และใช้ แบบไทย และใช้ ภาษาไทยในการ แบบไทย และใช้ ภาษาไทยในการ ภาษาไทยในการ สอื่ สารไม่เหมาะสม ภาษาไทยในการ ส่ือสารได้อย่าง ส่อื สารได้อย่าง ส่ือสารได้อย่าง ถกู ต้องเหมาะสม ถูกต้องเหมาะสม ถกู ต้องเหมาะสม บ่อยครั้ง เปน็ บางคร้ัง แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๘
๖๘ กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิชาชพี เฉพาะปี่พาทย์ รายวชิ าปีพ่ าทย์ ๕ รหสั วชิ า ๒๐๓๐๓-๒๐๐๕ ระดบั ประกาศนยี บตั รวชิ าชีพปที ี่ ๓ ภาคเรียนท่ี ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๕ หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี ๕ เพลงโหมโรง เวลา ๙ คาบ เรอ่ื งเพลงโหมโรงกราวนอก เวลา ๙ คาบ ................................................................................................................................................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ๒.๒เขา้ ใจและมีทักษะในการฝกึ ปฏิบตั ิเครือ่ งดนตรี การบรรเลงเพลงประเภทต่าง ๆ ตระหนัก และเหน็ คุณคา่ นำมาประยุกตใ์ ชไ้ ด้อยา่ ง เหมาะสม ตัวช้วี ดั บอกประวตั เิ พลงในบทเรยี นอธบิ ายศพั ทส์ ังคีตเพลงในบทเรียนปฏบิ ตั ิเพลงประเภทต่างๆและ นำความรทู้ ีไ่ ดร้ ับไปใช้ในโอกาสตา่ งๆได้ สาระสำคญั เพลงโหมโรง หมายถึง เพลงที่บรรเลงในอันดบั แรกสำหรับงานตา่ งๆ เพ่ือเปน็ การประกาศให้รวู้ า่ ขณะนี้งานดังกล่าวกำลงั จะเร่ิมข้นึ แลว้ และเป็นการบรรเลงเพ่ือเคารพสักการะครูอาจารย์ และอัญเชิญเทพย ดามายังสถานมงคลพิธนี น้ั ด้วย จงึ เหมาะสมที่นักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชพี ปที ่ี ๓ ในรายวชิ าปพี่ าทย์ ๕ ตอ้ งศกึ ษาและเรยี นรู้และสามารถนำไปใช้ในการเรียนปฏิบัตเิ พลงที่มีทำนองท่ียากขน้ึ ต่อไป จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๑.นกั เรยี นสามารถอธบิ ายโอกาสทีใ่ ชใ้ นการบรรเลงได้ ๒. นักเรยี นสามารถปฏิบัติเพลงเพลงโหมโรงกราวนอก ๓.นกั เรยี นมคี วามต้ังใจในการปฏบิ ตั ิเพลงโหมโรงกราวนอก สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน ๑.ความสามารถในการนำไปบรรเลงในโอกาสท่ีถูกต้อง ๒.ความสามารถปฏบิ ตั ิเพลงโหมโรงกราวนอก สาระการเรยี นรู้ ๑.ความหมายของเพลง ๒.เพลงฉิง่ กระบอก กจิ กรรมการเรียนรู้ ขน้ั นำเข้าสู่บทเรยี น ๑.โดยครูถามว่านักเรยี นเพลงใดท่ีใช้ประกอบกิริยาตัวแสดงในการชมธรรมชาติ ๒.ครูอธบิ ายจุดประสงคก์ ารเรียนร้แู ละวิธีการวัดผลประเมินผลพร้อมทั้งบอกเกณฑ์การประเมินให้ นักเรยี นทราบ
๖๙ ขนั้ กจิ กรรม ๑.ครแู จกใบความรู้เร่ืองความหมายของเพลงพรอ้ มท้ังสาธิตเพลงโหมโรงกราวนอก ให้นกั เรียนฟัง๑ เที่ยว ๒.ครตู ่อเพลงโดยสาธิตใหน้ กั เรยี นปฏิบัตติ ามทลี ะวรรค ๓.เมอ่ื ได๒้ – ๓ วรรคกใ็ หท้ บทวนใหม่ตัง้ แตต่ น้ เพ่ือให้เกิดความชำนาญ ๔.หลังจากนนั้ กต็ ่อเพลงในวรรคตอ่ ไปทำอย่างน้จี นจบเพลง ๕.ครเู ปิดโอกาสให้นกั เรยี นซกั ถาม ขั้นสรุป ๑.ใหน้ กั เรียนทบทวนเพลงใหเ้ กดิ ความชำนาญต้ังแตต่ น้ จนจบเพอื่ ตรวจสอบความถูกต้อง ๒.ครคู อยสังเกตและแนะนำ แนวทางบรู ณาการ ภาษาไทย การอ่าน การเขยี น การอภิปราย การแสดงความคิดเห็น การถามและการตอบขอ้ สงสัย การนำเสนองาน ต่างๆ การบนั ทึกองคค์ วามรู้และกระบวนท่ารำ วิเคราะห์ วิจารณ์ วิพากษอ์ ย่างมหี ลักการและสรา้ งสรรค์ สงั คมศึกษาฯ การปฏิบัตกิ จิ กรรมเป็นกลมุ่ การสร้างมนษุ ยสมั พันธ์ สขุ ศึกษาฯ การพฒั นาทักษะการฟงั การรอ้ ง และการเคล่ือนไหวร่างกายขณะปฏิบัตทิ า่ รำ คณติ ศาสตร์ การนบั จงั หวะในการปฏบิ ตั ทิ า่ รำ การจำแนกหรอื เปรยี บเทยี บตา่ งๆ วทิ ยาศาสตร์ การสังเกตการสาธติ ท่ารำจากครู หรอื จากนวตั กรรมตา่ งๆ ศลิ ปะ การวาดภาพบนั ทกึ ท่ารำ สอื่ อุปกรณ์ และแหล่งเรยี นรู้ ๑.ใบความร้เู รอื่ งความหมายของเพลงโหมโรงกราวนอก ๒.ระนาดเอก ๓.ระนาดทมุ้ ๔.ฆ้องวงใหญ่ ชน้ิ งาน/ภาระงาน ๑. ให้นกั เรยี นทบทวนนอกเวลาสัปดาห์ละ ๓ ชั่วโมง การวัดและประเมนิ ผล ๑.วธิ กี ารวดั ผล ๑.๑สังเกตการบรรเลง การตอบคำถาม
๗๐ ๒.เครอ่ื งมอื การวัดผล ๒.๑แบบสงั เกตเร่ืองเพลงโหมโรงกราวนอก ๓.เกณฑ์การประเมินผล ๓.๑นักเรยี นปฏบิ ัติเพลงโหมโรงกราวนอก ผดิ ได้ไม่เกิน ๕ ครั้ง บันทกึ ผลหลังการจัดการเรียนรู้ ผลการจัดการเรยี นรู้ ๑............................................................................................................................................................. ๒............................................................................................................................ ................................. ๓............................................................................................................................ ................................. ๔.............................................................................................. ............................................................... ๕............................................................................................................................ ................................. ปัญหา/อุปสรรค ๑............................................................................................................................ ................................. ๒............................................................................................................................................................. ๓............................................................................................................................ ................................. ๔.................................................................................................................................................. ........... ๕..................................................................................................................... ........................................ แนวทางไข/ขอ้ เสนอแนะ ๑............................................................................................................................ ................................. ๒............................................................................................................................................................. ๓............................................................................................................................ ................................. ๔............................................................................................................................ ................................. ๕.............................................................................................................................................................
๗๑ ลงชอื่ ผูบ้ นั ทึก (ผู้ช่วยศาสตราจารยช์ ยพร ไชยสทิ ธ์ิ) ใบความรู้เพลงโหมโรงกราวนอก เพลงกราวในและกราวนอกมีมาตั้งแต่สมัยอยุธยาที่ใช้ประกอบหนังใหญ่ โขน ละคร ในสมัย รัตนโกสินทรใ์ นรัชกาลที่ 3 เกิดวงปี่พาทย์เสภา ได้พัฒนาจากเพลงที่ใช้ประกอบการแสดงมาเปน็ เพลงเพื่อการ ฟัง คอื เพลงเดีย่ วสำหรบั เครอื่ งมือตา่ ง ๆ และไดพ้ ฒั นาไปเป็นเพลงประเภทโหมโรงกราวนอกและโหมโรงกราว ใน ซึ่งลักษณะเฉพาะของทำนองเพลงกราวทั้งสองนี้มีโครงสร้างของไม้กลองที่สื่อให้อารมณ์ของเพลงแตกต่าง กัน คอื การมอี ิสระในการตกแต่งทำนอง ทเ่ี รยี กวา่ “โยน” ซึ่ง แสดงให้เห็นถึงความสมั พันธ์ระหว่างเพลงกราว และเพลงทยอยได้อีกมิติหนึ่ง ส่วนเรือ่ งความคลีค่ ลายของทำนองพบว่าครูมนตรี ตราโมทได้นำเอาทำนองของ เพลงกราวนอกไปปรับเปลีย่ นเปน็ เพลงระบำหลายชดุ เช่น กราวอาสา กราววีรชยั นอกจากน้ีทำนองกราวนอก ได้คลคี่ ลายไปเปน็ เพลงกราวกีฬาทแ่ี ต่งโดยพระยาธรรมศักดม์ิ นตรี แบบสงั เกตเรอ่ื งเพลงโหมโรงกราวนอก ชอ่ื /กลุ่ม ถามตอบ - ความถูกต้องของเพลง รวม(๑๐) บคุ ลิกภาพ(๒) (๘)
๗๒ เกณฑก์ ารพจิ ารณาเปรียบเทียบระดบั คะแนนของนกั เรยี น ผลการประเมนิ ได้ 0 - ๒ คะแนน = ไม่ผา่ นเกณฑ์ ผลการประเมินได้ ๓ - ๕ คะแนน = ผา่ นเกณฑ์ ลงชอ่ื ผ้ปู ระเมิน……………………………………………. (ผู้ชว่ ยศาสตราจารยช์ ยพร ไชยสิทธ์ิ) วันท.ี่ ......เดอื น..............พ.ศ......................... แบบประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ระดบั ประกาศนียบัตรวชิ าชีพปที ่ี ๓ เลข ชือ่ – นามสกุล ม่งุ ม่นั ในการ ใฝเ่ รียนรู้ รักความเปน็ ไทย รวม ท่ี ทำงาน ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๑๐ ๑ ๒ ๓ ๔
๗๓ เกณฑ์การพิจารณาเปรียบเทียบระดบั คะแนนของนักเรยี น ๑๑ - ๑๒คะแนน ระดบั ดีมาก ๘ – ๑๐ คะแนน ระดบั ดี ๕ – ๗ คะแนน ระดบั พอใช้ ๑ – ๔ คะแนน ระดับ ควรปรบั ปรุง ลงชื่อ…………………………………………….ผสู้ อน (ผูช้ ่วยศาสตราจารย์ชยพร ไชยสทิ ธิ์) วนั ท.ี่ ......เดือน..............พ.ศ. .................. เกณฑป์ ระเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ รายการประเมิน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน มุง่ มนั่ ในการ ๔๓๒ ๑ ทำงาน นกั เรยี นไม่มีความ นักเรยี นมคี วาม นกั เรียนมคี วาม นกั เรียนมีความ มงุ่ มั่นตงั้ ใจในการ เรยี นและไม่ มุ่งมนั่ ตั้งใจในการ มงุ่ มนั่ ตั้งใจในการ ม่งุ ม่ันตงั้ ใจในการ รับผดิ ชอบต่อ หน้าทท่ี ่ีไดร้ บั เรยี นและ เรียนและ เรยี นและ มอบหมายทกุ คร้งั รับผดิ ชอบต่อ รับผดิ ชอบต่อ รับผดิ ชอบตอ่ หนา้ ทท่ี ี่ได้รับ หนา้ ทท่ี ่ีได้รบั หนา้ ที่ทไ่ี ด้รบั มอบหมาย ดว้ ย มอบหมาย เพอ่ื ให้ มอบหมายเปน็ ความเพยี ร งานสำเร็จตาม บางครัง้ พยายาม อดทน เปา้ หมาย เพ่ือให้งานสำเรจ็ ตามเปา้ หมาย
๗๔ ใฝ่เรยี นรู้ นกั เรยี นมกี าร นักเรียนมกี าร นักเรียนมกี าร นักเรยี นไม่ซกั ถาม รักความเปน็ ไทย ซกั ถามในเร่ืองที่ ซกั ถามในเรอ่ื งท่ี ซักถามในเรอ่ื งที่ ในเรื่องท่ีตนไม่ ตนไม่เข้าใจทุก ตนไมเ่ ข้าใจ ตนไม่เข้าใจเปน็ เข้าใจและไม่กล้า เรอื่ งและมคี วาม บางครั้งและ บางครั้งและไม่ค่อย แสดงออก กล้าแสดงออก คอ่ นข้างมคี วาม กลา้ แสดงออก อยา่ งมั่นใจ กล้าแสดงออก นกั เรียนแตง่ กาย นักเรียนแต่งกาย นกั เรยี นแต่งกายไม่ นักเรยี นแต่งกายไม่ เรยี บร้อย มี เรียบร้อย มี ค่อยเรยี บร้อย มี เรียบร้อย ไม่มี มารยาทงดงาม มารยาทงดงาม มารยาทงดงาม มารยาท และใช้ แบบไทย และใช้ แบบไทย และใช้ แบบไทย และใช้ ภาษาไทยในการ ภาษาไทยในการ ภาษาไทยในการ ภาษาไทยในการ ส่อื สารไม่เหมาะสม ส่อื สารได้อย่าง ส่อื สารได้อยา่ ง สอื่ สารได้อย่าง ถูกต้องเหมาะสม ถูกต้องเหมาะสม ถูกต้องเหมาะสม บอ่ ยครง้ั เป็นบางครงั้ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๙ กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิชาชพี เฉพาะป่พี าทย์ รายวิชาปีพ่ าทย์ ๕ รหสั วิชา ๒๐๓๐๓-๒๐๐๕ ระดบั ประกาศนยี บตั รวิชาชีพปที ่ี ๓ ภาคเรียนท่ี ๑ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๕ หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๖ เพลงระบำ เวลา ๖ คาบ เรอ่ื งเพลงระบำชมุ นุมเผา่ ไทย เวลา ๖ คาบ ................................................................................................................................................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ๒.๒เข้าใจและมีทกั ษะในการฝึกปฏบิ ัตเิ ครือ่ งดนตรี การบรรเลงเพลงประเภทต่าง ๆ
๗๕ ตระหนกั และเหน็ คุณคา่ นำมาประยุกต์ใช้ได้อยา่ ง เหมาะสม ตัวชวี้ ัด บอกประวัตเิ พลงในบทเรยี นอธิบายศพั ท์สงั คตี เพลงในบทเรียนปฏบิ ตั ิเพลงประเภทต่างๆและ นำความร้ทู ี่ไดร้ บั ไปใช้ในโอกาสตา่ งๆได้ สาระสำคัญ เพลงระบำเป็นเพลงท่ีใชป้ ระกอบการแสดงเป็นชุดสัน้ ๆทเี่ น้นความสวยงาม สนุกสนานไม่จำเป็นต้อง เปน็ เรื่องราว เพลงระบำฉิง่ เป็นอีกเพลงหนึง่ จำเป็นท่นี ักเรยี นจะต้องศึกษา จงึ เหมาะสมทนี่ ักเรยี นระดบั ประกาศนยี บัตรวิชาชพี ปที ่ี ๓ ในรายวิชาป่พี าทย์ ๕ ต้องศึกษาและเรียนรแู้ ละสามารถนำไปใช้ในการเรียน ปฏิบตั ิเพลงทม่ี ีทำนองท่ยี ากข้ึนตอ่ ไป จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑.นกั เรียนสามารถอธิบายความหมายของเพลงระบำชมุ นมุ เผ่าไทย ได้ ๒.นกั เรียนสามารถปฏิบตั ิเพลงระบำชมุ นมุ เผ่าไทย ได้ ๓.นักเรียนมีความต้ังใจในการปฏิบตั เิ พลง สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น ๑.ความสามารถในการอธิบายความหมายของเพลง ๒.ความสามารถปฏิบตั ิเพลงระบำชุมนุมเผ่าไทย สาระการเรยี นรู้ ๑.ความหมายของเพลง ๒.เพลงระบำชุมนมุ เผ่าไทย กจิ กรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสบู่ ทเรียน ๑.โดยครูถามนักเรยี นเกย่ี วกบั ประเภทของเพลงและยกตัวอยา่ งเพลงท่นี ักเรียนเคยปฏิบตั ิมา แล้วให้ นกั เรียนแยกประเภท ๒.ครูอธบิ ายจุดประสงคก์ ารเรียนรู้และวิธกี ารวัดผลประเมนิ ผลพร้อมท้ังบอกเกณฑก์ ารประเมนิ ใหน้ กั เรยี นทราบ ขั้นกจิ กรรม ๑.ครูแจกใบความรเู้ ร่ืองประวตั ิเพลงพร้อมท้ังสาธิตเพลงระบำชมุ นุมเผ่าไทย ใหน้ กั เรยี นฟงั ๑ เทย่ี ว ๒.ครตู อ่ เพลงโดยสาธติ ให้นักเรยี นปฏบิ ัติตามทลี ะวรรค ๓.เมอ่ื ได๒้ – ๓ วรรคก็ใหท้ บทวนใหม่ตงั้ แต่ต้นเพื่อใหเ้ กิดความชำนาญ ๔.หลังจากนนั้ กต็ อ่ เพลงในวรรคตอ่ ไปทำอย่างนจี้ นจบเพลง ๕.ครเู ปิดโอกาสให้นักเรียนซักถาม
๗๖ ข้นั สรุป ๑.ให้นกั เรยี นทบทวนเพลงให้เกดิ ความชำนาญตั้งแต่ตน้ จนจบเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง ๒.ครูคอยสงั เกตและแนะนำ แนวทางบูรณาการ ภาษาไทย การอา่ น การเขยี น การอภิปราย การแสดงความคดิ เห็น การถามและการตอบขอ้ สงสยั การนำเสนองาน ต่างๆ การบนั ทึกองค์ความร้แู ละกระบวนท่ารำ วิเคราะห์ วจิ ารณ์ วิพากษ์อย่างมีหลักการและสรา้ งสรรค์ สงั คมศึกษาฯ การปฏิบัตกิ จิ กรรมเปน็ กลมุ่ การสร้างมนุษยสมั พันธ์ สุขศกึ ษาฯ การพฒั นาทกั ษะการฟงั การร้อง และการเคลือ่ นไหวรา่ งกายขณะปฏิบัติท่ารำ คณิตศาสตร์ การนับจงั หวะในการปฏบิ ัตทิ ่ารำ การจำแนกหรอื เปรยี บเทยี บต่างๆ วทิ ยาศาสตร์ การสงั เกตการสาธติ ท่ารำจากครู หรอื จากนวตั กรรมต่างๆ ศลิ ปะ การวาดภาพบันทกึ ท่ารำ สื่อ อุปกรณ์ และแหล่งเรียนรู้ ๑.ใบความรเู้ ร่ืองประวัติเพลงระบำชุมนมุ เผ่าไทย ๒.ระนาดเอก ๓.ระนาดทมุ้ ๔.ฆ้องวงใหญ่ ช้ินงาน/ภาระงาน ๑. ให้นกั เรียนทบทวนนอกเวลาสัปดาห์ละ ๓ ช่ัวโมง การวัดและประเมนิ ผล ๑.วธิ กี ารวัดผล ๑.๑สังเกตการบรรเลง การตอบคำถาม ๒.เคร่อื งมือการวดั ผล ๒.๑แบบสังเกตเรื่องเพลงระบำชุมนมุ เผา่ ไทย ๓.เกณฑ์การประเมินผล ๓.๑นกั เรียนปฏิบตั ิเพลงระบำชมุ นมุ เผ่าไทย ผิดได้เพลงละไม่เกิน ๕ คร้ัง
๗๗ บนั ทกึ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้ ผลการจดั การเรยี นรู้ ๑............................................................................................................................ ................................. ๒............................................................................................... .............................................................. ๓............................................................................................................................ ................................. ๔............................................................................................................................................................ . ๕............................................................................................................................ ................................. ปญั หา/อุปสรรค ๑............................................................................................................................ ................................. ๒............................................................................................................................................................. ๓............................................................................................................................ ................................. ๔............................................................................................................................ ................................. ๕............................................................................................................................................................. แนวทางไข/ข้อเสนอแนะ ๑............................................................................................................................ ................................. ๒............................................................................................................................ ................................. ๓............................................................................................................................................................. ๔............................................................................................................................ ................................. ๕............................................................................................................................................... .............. ลงชื่อ ผู้บันทึก (ผู้ช่วยศาสตราจารย์ชยพร ไชยสทิ ธ์ิ)
๗๘ ใบความรู้ เพลงระบำชุมนมุ เผ่าไทย “ระบำชุมนมุ เผา่ ไทย” เปน็ การแสดงที่นำมาจากการแสดงละครประวตั ิศาสตร์ เร่อื งอานุภาพแห่งความ เสยี สละ จากบทประพนั ธข์ อง ฯพณฯ พลตรหี ลวงจติ รวาทการ ผแู้ สดงจะแต่งกายตามแบบชนชาตไิ ทยเผา่ ตา่ งๆ ไดแ้ ก่ ไทยกลาง ไทยล้านนา ไทยใหญ่ ไทยลานชา้ ง สบิ สองจุไทย และไทยอาหม การแสดง จะรำออกมาทลี ะเผ่า มเี นื้อร้องและท่ารำ ดังนี้ นี่พนี่ ้องของเราไทยลานนา อยดู่ ว้ ยกันนานมาแตก่ ่อนเกา่ ได้ร่วมแรงร่วมใจสรา้ งไทยเรา เปน็ พงศ์เผ่าญาตสิ นิทและมติ รแท้ นไ่ี ทยใหญ่อยใู่ กล้ๆทางทศิ เหนอื เปน็ ชาติเชอ้ื พ่ีชายของไทยแน่ ยงั รักษาความเป็นไทยไมผ่ นั แปร ขยายแผ่สาขาตระกูลไทย นี่คอื ไทยลานช้างอยู่ข้างเคียง เคยร่วมเรียงอยู่เป็นสุขทกุ สมัย แมน่ ้ำโขงกัน้ เขตประเทศไว้ แตไ่ ม่กั้นดวงใจที่รักกัน นี่พ่ีนอ้ งชาวสิบสองจุไทย เป็นพ่ีใหญ่แน่แท้ไม่แปรผนั ตน้ เช้อื สายไทยน้อยแหลง่ สำคัญ ครั้งสมยั ดกึ ดำบรรพ์ขนุ บรม พ่ีน้องพวกสดุ ท้ายท่เี ข้ามา ก็เปน็ ไทยชื่อวา่ ไทยอาหม ลว้ นเลือดเน้ือเช้ือไทยใฝ่นยิ ม ใหอ้ าณาประชาคมไทยสมบรู ณ์
๗๙ แบบสังเกตเร่อื งเพลงระบำชุมนมุ เผา่ ไทย ช่ือ/กลุ่ม ถามตอบ - ความถกู ตอ้ งของเพลง รวม(๕) บุคลิกภาพ(๒) (๓) เกณฑก์ ารพจิ ารณาเปรยี บเทียบระดบั คะแนนของนกั เรยี น ผลการประเมินได้ 0 - ๒ คะแนน = ไม่ผ่านเกณฑ์ ผลการประเมินได้ ๓ - ๕ คะแนน = ผ่านเกณฑ์ ลงช่อื ผ้ปู ระเมิน……………………………………………. (ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ชยพร ไชยสิทธ์ิ) วันท่.ี ......เดอื น..............พ.ศ.........................
๘๐ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ระดบั ประกาศนยี บตั รวชิ าชีพปีท่ี ๓ เลข ชอ่ื – นามสกุล มงุ่ ม่ันในการ ใฝ่เรียนรู้ รกั ความเป็นไทย รวม ที่ ทำงาน ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๑๐ ๑ ๒ ๓ ๔
๘๑ เกณฑก์ ารพิจารณาเปรยี บเทียบระดบั คะแนนของนกั เรยี น ๑๑ - ๑๒คะแนน ระดับ ดมี าก ๘ – ๑๐ คะแนน ระดับ ดี ๕ – ๗ คะแนน ระดับ พอใช้ ๑ – ๔ คะแนน ระดับ ควรปรบั ปรงุ ลงช่อื …………………………………………….ผูส้ อน (ผชู้ ว่ ยศาสตราจารยช์ ยพร ไชยสิทธ์ิ) วนั ท่.ี ......เดือน..............พ.ศ. .................. เกณฑ์ประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ รายการประเมิน เกณฑก์ ารให้คะแนน มุ่งมัน่ ในการ ๔๓๒ ๑ ทำงาน นักเรยี นไม่มีความ นกั เรยี นมคี วาม นักเรียนมคี วาม นักเรียนมคี วาม มุ่งมัน่ ตั้งใจในการ เรยี นและไม่ มงุ่ มั่นตัง้ ใจในการ มงุ่ มน่ั ตงั้ ใจในการ มงุ่ ม่ันตง้ั ใจในการ รบั ผิดชอบต่อ หนา้ ท่ที ี่ไดร้ บั เรียนและ เรยี นและ เรียนและ มอบหมายทกุ คร้งั รบั ผิดชอบต่อ รบั ผิดชอบต่อ รับผิดชอบต่อ นักเรยี นไม่ซกั ถาม ในเรื่องที่ตนไม่ หน้าที่ทไี่ ดร้ ับ หนา้ ท่ีท่ไี ดร้ ับ หนา้ ทีท่ ี่ไดร้ ับ มอบหมาย ด้วย มอบหมาย เพื่อให้ มอบหมายเปน็ ความเพยี ร งานสำเร็จตาม บางครง้ั พยายาม อดทน เป้าหมาย เพอ่ื ให้งานสำเร็จ ตามเป้าหมาย นกั เรยี นมกี าร นกั เรียนมกี าร นักเรียนมีการ ซกั ถามในเรอื่ งท่ี ซักถามในเรือ่ งท่ี ซกั ถามในเร่อื งที่
๘๒ ใฝ่เรียนรู้ ตนไม่เข้าใจทุก ตนไม่เข้าใจ ตนไม่เข้าใจเปน็ เข้าใจและไม่กล้า รกั ความเปน็ ไทย เร่อื งและมคี วาม บางครงั้ และ บางครง้ั และไม่ค่อย แสดงออก กล้าแสดงออก ค่อนข้างมคี วาม กล้าแสดงออก อยา่ งม่นั ใจ กลา้ แสดงออก นกั เรียนแตง่ กาย นกั เรยี นแตง่ กาย นักเรียนแต่งกายไม่ นักเรยี นแต่งกายไม่ เรียบร้อย มี เรียบร้อย มี คอ่ ยเรยี บร้อย มี เรยี บร้อย ไม่มี มารยาทงดงาม มารยาทงดงาม มารยาทงดงาม มารยาท และใช้ แบบไทย และใช้ แบบไทย และใช้ แบบไทย และใช้ ภาษาไทยในการ ภาษาไทยในการ ภาษาไทยในการ ภาษาไทยในการ ส่อื สารไมเ่ หมาะสม ส่ือสารได้อยา่ ง ส่ือสารได้อยา่ ง สอ่ื สารได้อย่าง ถูกต้องเหมาะสม ถูกต้องเหมาะสม ถูกต้องเหมาะสม บอ่ ยคร้ัง เปน็ บางครง้ั แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ ๑๐ กลุม่ สาระการเรียนร้วู ิชาชีพเฉพาะปพ่ี าทย์ รายวชิ าปพ่ี าทย์ ๕ รหัสวชิ า ๒๐๓๐๓-๒๐๐๕ ระดบั ประกาศนยี บตั รวิชาชีพปที ี่ ๓ ภาคเรยี นที่ ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๕ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๖ เพลงระบำ เวลา ๘ คาบ เรอื่ งเพลงระบำมฤคระเรงิ เวลา ๘ คาบ ................................................................................................................................................................... มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ๒.๒เขา้ ใจและมีทักษะในการฝึกปฏบิ ตั ิเครื่องดนตรี การบรรเลงเพลงประเภทตา่ ง ๆ ตระหนกั และเหน็ คณุ ค่า นำมาประยุกต์ใช้ได้อยา่ ง เหมาะสม
๘๓ ตัวชวี้ ดั บอกประวตั เิ พลงในบทเรียนอธิบายศพั ทส์ งั คีตเพลงในบทเรียนปฏิบตั ิเพลงประเภทต่างๆและ นำความรู้ทไ่ี ด้รบั ไปใช้ในโอกาสต่างๆได้ สาระสำคญั เพลงระบำเปน็ เพลงท่ใี ช้ประกอบการแสดงเปน็ ชดุ สนั้ ๆท่ีเน้นความสวยงาม สนกุ สนานไม่จำเป็นต้อง เป็นเรอ่ื งราว เพลงระบำดาวดึงส์เป็นอีกเพลงหนึ่ง จำเปน็ ท่ีนักเรียนจะต้องศึกษา จงึ เหมาะสมที่นักเรียนระดับ ประกาศนียบตั รวชิ าชพี ปที ี่ ๓ ในรายวิชาปี่พาทย์ ๕ ต้องศึกษาและเรยี นรแู้ ละสามารถนำไปใชใ้ นการเรียน ปฏบิ ัตเิ พลงท่ีมีทำนองท่ียากขึ้นต่อไป จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๑.นักเรยี นสามารถอธบิ ายประวัติของเพลงระบำมฤคระเริง ได้ ๒.นกั เรียนสามารถปฏบิ ัติเพลงระบำมฤคระเรงิ ได้ ๓.นักเรียนมคี วามตั้งใจในการปฏบิ ตั ิเพลง สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน ๑.ความสามารถในการอธบิ ายประวัติของเพลง ๒.ความสามารถปฏิบัติเพลงระบำมฤคระเริง ได้ สาระการเรยี นรู้ ๑.ความหมายของเพลง ๒.เพลงเพลงระบำมฤคระเรงิ กจิ กรรมการเรียนรู้ ขน้ั นำเข้าสูบ่ ทเรียน ๑.โดยครถู ามนักเรยี นเกย่ี วกับประเภทของเพลงและยกตวั อย่างเพลงทีน่ ักเรยี นเคยปฏบิ ตั ิมา แลว้ ให้ นกั เรยี นแยกประเภท ๒.ครูอธบิ ายจุดประสงคก์ ารเรียนรู้และวิธีการวดั ผลประเมินผลพร้อมท้ังบอกเกณฑก์ ารประเมิน ให้นักเรยี นทราบ ขน้ั กจิ กรรม ๑.ครูแจกใบความรเู้ รื่องประวัติเพลงพร้อมทง้ั สาธติ เพลงระบำมฤคระเรงิ ให้นักเรยี นฟงั ๑ เทย่ี ว ๒.ครตู อ่ เพลงโดยสาธิตให้นกั เรียนปฏิบตั ติ ามทีละวรรค ๓.เม่ือได้๒ – ๓ วรรคกใ็ หท้ บทวนใหม่ตัง้ แตต่ ้นเพ่ือให้เกิดความชำนาญ ๔.หลงั จากนนั้ ก็ตอ่ เพลงในวรรคตอ่ ไปทำอย่างนจี้ นจบเพลง ๕.ครูเปิดโอกาสใหน้ กั เรียนซกั ถาม
๘๔ ขน้ั สรุป ๑.ให้นักเรยี นทบทวนเพลงใหเ้ กดิ ความชำนาญต้ังแตต่ น้ จนจบเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง ๒.ครูคอยสังเกตและแนะนำ แนวทางบรู ณาการ ภาษาไทย การอ่าน การเขยี น การอภิปราย การแสดงความคิดเหน็ การถามและการตอบข้อสงสัย การนำเสนองาน ต่างๆ การบันทึกองคค์ วามรู้และกระบวนทา่ รำ วิเคราะห์ วิจารณ์ วพิ ากษ์อย่างมีหลกั การและสร้างสรรค์ สังคมศกึ ษาฯ การปฏบิ ตั ิกจิ กรรมเปน็ กลมุ่ การสรา้ งมนุษยสมั พันธ์ สุขศึกษาฯ การพฒั นาทักษะการฟัง การรอ้ ง และการเคล่ือนไหวรา่ งกายขณะปฏิบัติท่ารำ คณติ ศาสตร์ การนบั จงั หวะในการปฏิบัตทิ า่ รำ การจำแนกหรอื เปรียบเทียบตา่ งๆ วิทยาศาสตร์ การสังเกตการสาธติ ทา่ รำจากครู หรอื จากนวตั กรรมตา่ งๆ ศิลปะ การวาดภาพบันทึกท่ารำ สื่อ อุปกรณ์ และแหล่งเรียนรู้ ๑.ใบความรู้เรื่องประวตั เิ พลงระบำมฤคระเริง ๒.ระนาดเอก ๓.ระนาดท้มุ ๔.ฆอ้ งวงใหญ่ ชน้ิ งาน/ภาระงาน ๑. ใหน้ กั เรียนทบทวนนอกเวลาสปั ดาห์ละ ๓ ชว่ั โมง การวัดและประเมินผล ๑.วธิ กี ารวดั ผล ๑.๑สังเกตการบรรเลง การตอบคำถาม ๒.เคร่ืองมอื การวัดผล ๒.๑แบบสงั เกตเร่ืองเพลงระบำมฤคระเรงิ ๓.เกณฑ์การประเมนิ ผล ๓.๑นักเรียนปฏบิ ัตเิ พลงระบำมฤคระเริง ผิดได้เพลงละไมเ่ กิน ๕ คร้ัง
๘๕ บันทกึ ผลหลังการจัดการเรียนรู้ ผลการจดั การเรยี นรู้ ๑............................................................................................................................ ................................. ๒............................................................................................... .............................................................. ๓............................................................................................................................ ................................. ๔............................................................................................................................................................ . ๕............................................................................................................................ ................................. ปัญหา/อุปสรรค ๑............................................................................................................................ ................................. ๒............................................................................................................................................................. ๓............................................................................................................................ ................................. ๔.................................................................................................................................................. ........... ๕..................................................................................................................... ........................................ แนวทางไข/ข้อเสนอแนะ ๑............................................................................................................................ ................................. ๒............................................................................................................................................................. ๓............................................................................................................................ ................................. ๔............................................................................................................................ ................................. ๕............................................................................................................................................................. ลงชือ่ ผบู้ ันทึก ( ผชู้ ่วยศาสตราจารยช์ ยพร ไชยสิทธิ์ )
๘๖ ใบความรู้ เพลงระบำมฤคระเริง มฤคระเริง หรือ ระบำกวาง เป็นชุดที่ประดิษฐ์ขึ้นแสดงเนื่องในงานแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ณ ประเทศ สหภาพพม่า เมื่อปีพุทธศักราช 2498 โดยจัดให้มีการแสดงโขน เรื่อง รามเกียรติ์ ตอนลักนางสีดา มีหมู่ระบำ กวางจะออกมาร่ายรำ เพื่อความสวยงามก่อนที่กวางทอง ( มารีศแปลงเป็นกวางทอง ) จะออกมาล่อให้ นางสีดาเหน็ และเกิดความใหลหลง ขอร้องให้พระรามไปจบั มาให้ เมอ่ื พระรามตามไป ทศกัณฐ์ไดแ้ ปลงตนเป็น ฤษี ลักนางสดี าไปกรงุ ลงกา ลักษณะและรูปแบบการแสดง ระบำมฤคระเริง เป็นการแสดงประเภทระบำที่เลียนแบบท่าทางของกวาง ลกั ษณะการแสดงมี 2 แบบ คือ แบบท่ี 1 เปน็ การแสดงประกอบการแสดงโขน ตอนลักนางสดี า และละครเรอื่ งตอนทา้ วทุษยนั ต์ ตามกวาง และเร่อื งสุวรรณสาม แบบท่ี 2 เปน็ ระบำเบด็ เตลด็ ดนตรแี ละทำนองเพลง เครื่องดนตรีที่ใช้บรรเลงประกอบการแสดง ใช้วงปี่พาทย์เครื่องห้า ผู้คิดประดิษฐ์ทำนองเพลง มฤค ระเริง เป็นเพลงประเภทสองชนั้ คือ อาจารย์มนตรี ตราโมท ศลิ ปินแห่งชาติ ได้แตง่ ทำนองเพลงประกอบท่ารำ ของหมู่กวางอยา่ งสนทิ สนมกลมกลนื
๘๗ แบบสงั เกตเร่ืองเพลงระบำมฤคระเริง ชอ่ื /กลุ่ม ถามตอบ - ความถูกตอ้ งของเพลง รวม(๕) บคุ ลกิ ภาพ(๒) (๓) เกณฑ์การพจิ ารณาเปรยี บเทียบระดบั คะแนนของนักเรยี น ผลการประเมนิ ได้ 0 - ๒ คะแนน = ไมผ่ ่านเกณฑ์ ผลการประเมนิ ได้ ๓ - ๕ คะแนน = ผา่ นเกณฑ์
๘๘ ลงชอ่ื ผู้ประเมนิ ……………………………………………. ( ผชู้ ว่ ยศาสตราจารยช์ ยพร ไชยสิทธ์ิ ) วนั ท.ี่ ......เดอื น..............พ.ศ......................... แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั ประกาศนยี บตั รวชิ าชีพปที ่ี ๓ เลข ช่อื – นามสกลุ มงุ่ มนั่ ในการ ใฝ่เรียนรู้ รักความเป็นไทย รวม ท่ี ทำงาน ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๑๐ ๑ ๒ ๓ ๔
๘๙ เกณฑ์การพจิ ารณาเปรยี บเทียบระดบั คะแนนของนกั เรียน ๑๑ – ๑๒คะแนน ระดบั ดมี าก ๘ – ๑๐ คะแนน ระดบั ดี ๕ – ๗ คะแนน ระดับ พอใช้ ๑ – ๔ คะแนน ระดบั ควรปรับปรงุ ลงช่อื …………………………………………….ผูส้ อน ( ผชู้ ว่ ยศาสตราจารยช์ ยพร ไชยสทิ ธ์ิ ) วันที่.......เดือน..............พ.ศ. .................. เกณฑป์ ระเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ รายการประเมนิ เกณฑ์การให้คะแนน มุง่ มนั่ ในการ ๔๓๒ ๑ ทำงาน นกั เรียนไม่มคี วาม นักเรียนมีความ นกั เรียนมคี วาม นักเรียนมคี วาม มงุ่ มั่นต้ังใจในการ เรยี นและไม่ มงุ่ มนั่ ตง้ั ใจในการ มุ่งมนั่ ตงั้ ใจในการ ม่งุ ม่นั ต้ังใจในการ รับผิดชอบต่อ หน้าท่ีทีไ่ ด้รบั เรยี นและ เรยี นและ เรยี นและ มอบหมายทุกครง้ั รบั ผดิ ชอบต่อ รับผดิ ชอบตอ่ รับผิดชอบตอ่ หนา้ ทท่ี ีไ่ ดร้ บั หนา้ ทีท่ ี่ไดร้ ับ หน้าทท่ี ่ไี ดร้ ับ มอบหมาย ดว้ ย มอบหมาย เพอื่ ให้ มอบหมายเปน็ ความเพียร บางคร้งั
๙๐ ใฝ่เรียนรู้ พยายาม อดทน งานสำเรจ็ ตาม นกั เรยี นมกี าร นกั เรียนไม่ซักถาม รักความเปน็ ไทย เพอ่ื ใหง้ านสำเรจ็ เปา้ หมาย ซักถามในเรือ่ งท่ี ในเรื่องท่ีตนไม่ ตามเปา้ หมาย ตนไม่เข้าใจเปน็ เข้าใจและไม่กลา้ นกั เรยี นมกี าร นกั เรยี นมีการ บางครัง้ และไม่ค่อย แสดงออก ซกั ถามในเร่ืองที่ ซักถามในเร่ืองท่ี กลา้ แสดงออก ตนไม่เข้าใจทุก ตนไมเ่ ข้าใจ เรือ่ งและมคี วาม บางครัง้ และ นักเรยี นแต่งกายไม่ นักเรียนแตง่ กายไม่ กลา้ แสดงออก ค่อนข้างมีความ คอ่ ยเรยี บร้อย มี เรยี บรอ้ ย ไม่มี อย่างม่ันใจ กล้าแสดงออก มารยาทงดงาม มารยาท และใช้ นักเรยี นแตง่ กาย นกั เรยี นแต่งกาย แบบไทย และใช้ ภาษาไทยในการ เรยี บรอ้ ย มี เรียบรอ้ ย มี ภาษาไทยในการ สื่อสารไม่เหมาะสม มารยาทงดงาม มารยาทงดงาม สื่อสารได้อยา่ ง แบบไทย และใช้ แบบไทย และใช้ ถูกต้องเหมาะสม ภาษาไทยในการ ภาษาไทยในการ เป็นบางครั้ง ส่อื สารได้อย่าง สื่อสารได้อย่าง ถูกต้องเหมาะสม ถกู ต้องเหมาะสม บอ่ ยครง้ั แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๑๑ กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิชาชพี เฉพาะปีพ่ าทย์ รายวชิ าป่พี าทย์ ๕ รหัสวิชา ๒๐๓๐๓-๒๐๐๕ ระดบั ประกาศนียบตั รวิชาชีพปที ่ี ๓ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๕ หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๖ เพลงระบำ เวลา ๖ คาบ เร่อื งเพลงระบำสุโขทัย เวลา ๖ คาบ ...................................................................................................................................................................
๙๑ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ๒.๒เขา้ ใจและมีทักษะในการฝกึ ปฏบิ ตั ิเครอื่ งดนตรี การบรรเลงเพลงประเภทตา่ ง ๆ ตระหนัก และเห็นคุณค่า นำมาประยุกต์ใช้ได้อยา่ ง เหมาะสม ตวั ชวี้ ัด บอกประวัตเิ พลงในบทเรียนอธบิ ายศัพทส์ งั คตี เพลงในบทเรียนปฏบิ ตั เิ พลงประเภทต่างๆและ นำความรู้ท่ีไดร้ ับไปใช้ในโอกาสตา่ งๆได้ สาระสำคญั เพลงระบำเปน็ เพลงทีใ่ ช้ประกอบการแสดงเป็นชุดส้ันๆทีเ่ น้นความสวยงาม สนกุ สนานไม่จำเป็นต้อง เปน็ เรื่องราว เพลงระบำทวารวดีเปน็ อกี เพลงหนงึ่ จำเป็นที่นกั เรียนจะต้องศึกษา จงึ เหมาะสมทีน่ ักเรียนระดับ ประกาศนยี บัตรวชิ าชพี ปีท่ี ๓ ในรายวชิ าปพ่ี าทย์ ๕ ต้องศึกษาและเรียนรู้และสามารถนำไปใช้ในการเรยี น ปฏิบัติเพลงท่ีมีทำนองทีย่ ากขึ้นต่อไป จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑.นักเรียนสามารถอธิบายประวัติของเพลงระบำสุโขทยั ได้ ๒.นักเรียนสามารถปฏบิ ตั ิเพลงระบำสุโขทัย ได้ ๓.นักเรยี นมีความตั้งใจในการปฏิบตั เิ พลง สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น ๑.ความสามารถในการอธิบายประวตั ิของเพลง ๒.ความสามารถปฏิบัติเพลงระบำสุโขทัย ได้ สาระการเรียนรู้ ๑.ความหมายของเพลง ๒.เพลงระบำสุโขทัย กิจกรรมการเรียนรู้ ขัน้ นำเข้าสบู่ ทเรยี น ๑.โดยครูถามนักเรยี นเก่ยี วกับประเภทของเพลงและยกตัวอยา่ งเพลงท่ีนักเรียนเคยปฏิบตั ิมา แลว้ ให้ นักเรียนแยกประเภท ๒.ครอู ธบิ ายจดุ ประสงค์การเรยี นรู้และวิธีการวดั ผลประเมินผลพร้อมท้ังบอกเกณฑ์การประเมินให้ นักเรียนทราบ ขนั้ กิจกรรม ๑.ครูแจกใบความรู้เร่ืองประวัติเพลงพร้อมทัง้ สาธติ เพลงระบำสโุ ขทัยใหน้ กั เรียนฟัง๑ เท่ียว ๒.ครูต่อเพลงโดยสาธิตให้นกั เรยี นปฏิบัตติ ามทีละวรรค ๓.เม่อื ได้๒ – ๓ วรรคก็ใหท้ บทวนใหม่ตง้ั แตต่ น้ เพื่อใหเ้ กิดความชำนาญ
๙๒ ๔.หลงั จากนัน้ ก็ตอ่ เพลงในวรรคต่อไปทำอยา่ งนจ้ี นจบเพลง ๕.ครเู ปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นซกั ถาม ขัน้ สรุป ๑.ใหน้ ักเรียนทบทวนเพลงให้เกิดความชำนาญตั้งแต่ต้นจนจบเพอ่ื ตรวจสอบความถูกต้อง ๒.ครคู อยสงั เกตและแนะนำ แนวทางบรู ณาการ ภาษาไทย การอ่าน การเขียน การอภปิ ราย การแสดงความคดิ เห็น การถามและการตอบขอ้ สงสยั การนำเสนองาน ตา่ งๆ การบนั ทึกองคค์ วามร้แู ละกระบวนท่ารำ วิเคราะห์ วิจารณ์ วิพากษ์อยา่ งมีหลกั การและสรา้ งสรรค์ สงั คมศกึ ษาฯ การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมเป็นกลุ่ม การสรา้ งมนุษยสมั พันธ์ สขุ ศึกษาฯ การพฒั นาทักษะการฟงั การรอ้ ง และการเคลอื่ นไหวรา่ งกายขณะปฏบิ ัติท่ารำ คณิตศาสตร์ การนบั จงั หวะในการปฏิบตั ิทา่ รำ การจำแนกหรือเปรียบเทียบตา่ งๆ วทิ ยาศาสตร์ การสังเกตการสาธติ ท่ารำจากครู หรอื จากนวัตกรรมตา่ งๆ ศลิ ปะ การวาดภาพบนั ทึกท่ารำ สอื่ อุปกรณ์ และแหล่งเรียนรู้ ๑.ใบความรู้เร่อื งประวตั ิเพลงระบำสโุ ขทยั ๒.ระนาดเอก ๓.ระนาดทมุ้ ๔.ฆอ้ งวงใหญ่ ชนิ้ งาน/ภาระงาน ๑. ใหน้ ักเรยี นทบทวนนอกเวลาสปั ดาหล์ ะ ๓ ชว่ั โมง การวดั และประเมินผล ๑.วธิ ีการวัดผล ๑.๑สังเกตการบรรเลง การตอบคำถาม ๒.เครือ่ งมือการวดั ผล ๒.๑แบบสังเกตเรอ่ื งเพลงระบำสโุ ขทัย ๓.เกณฑก์ ารประเมนิ ผล ๓.๑นักเรยี นปฏบิ ัติเพลงระบำสุโขทยั ผดิ ไดเ้ พลงละไม่เกิน ๕ ครั้ง
๙๓ บันทึกผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ ผลการจัดการเรียนรู้ ๑............................................................................................................................ ................................. ๒............................................................................................... .............................................................. ๓............................................................................................................................ ................................. ๔............................................................................................................................................................ . ๕............................................................................................................................ ................................. ปญั หา/อุปสรรค ๑............................................................................................................................ ................................. ๒............................................................................................................................................................. ๓............................................................................................................................ ................................. ๔............................................................................................................................ ................................. ๕............................................................................................................................................................. แนวทางไข/ข้อเสนอแนะ ๑............................................................................................................................ ................................. ๒............................................................................................................................ ................................. ๓............................................................................................................................................................. ๔............................................................................................................................ ................................. ๕............................................................................................................................................... ..............
๙๔ ลงชอ่ื ผบู้ นั ทกึ ( ผชู้ ่วยศาสตราจารยช์ ยพร ไชยสิทธิ์) ใบความรู้ เพลงระบำสุโขทัย สุโขทยั เปน็ นามของอาณาจกั รไทย ซง่ึ ตั้งข้ึนโดยหัวหน้าคนไทยเม่ือราวพ.ศ.1800 ตง้ั ราชธานอี ยู่ ทจี่ ังหวดั สุโขทยั ระบำสโุ ขทยั ในชุดน้ีได้สร้างขน้ึ ตามความรูส้ กึ จากแนวสำเนียงของถ่อยคำไทยในศิลาจารกึ ประกอบด้วยลีลาของภาพปนั้ หล่อสมยั สุโขทัย และเข้าใจวา่ ศลิ ปะแห่งการฟ้อนรำสมัยสโุ ขทยั คงจะได้มี อทิ ธิพลสบื เน่ืองมาจนสมัยอยุธยาและรัตนโกสนิ ทร์ด้วย แบบสังเกตเรอ่ื งเพลงระบำสุโขทัย ช่อื /กลุ่ม ถามตอบ - ความถกู ตอ้ งของเพลง รวม(๕) บุคลกิ ภาพ(๒) (๓) เกณฑก์ ารพจิ ารณาเปรยี บเทียบระดับคะแนนของนักเรยี น ผลการประเมินได้ 0 - ๒ คะแนน = ไมผ่ า่ นเกณฑ์
๙๕ ผลการประเมนิ ได้ ๓ - ๕ คะแนน = ผ่านเกณฑ์ ลงชอื่ ผูป้ ระเมิน……………………………………………. ( ผู้ชว่ ยศาสตราจารยช์ ยพร ไชยสิทธิ์) วนั ที.่ ......เดือน..............พ.ศ......................... แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ระดบั ประกาศนียบัตรวิชาชีพปที ่ี ๓ เลข ชอ่ื – นามสกุล มุ่งมั่นในการ ใฝ่เรยี นรู้ รกั ความเปน็ ไทย รวม ท่ี ทำงาน ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๑๐ ๑ ๒ ๓ ๔
๙๖ เกณฑ์การพิจารณาเปรียบเทียบระดบั คะแนนของนักเรียน ๑๑ - ๑๒คะแนน ระดบั ดีมาก ๘ – ๑๐ คะแนน ระดบั ดี ๕ – ๗ คะแนน ระดบั พอใช้ ๑ – ๔ คะแนน ระดับ ควรปรับปรงุ ลงชือ่ …………………………………………….ผู้สอน ( ผู้ช่วยศาสตราจารยช์ ยพร ไชยสิทธิ์) วันท.่ี ......เดอื น..............พ.ศ. .................. เกณฑป์ ระเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ รายการประเมิน เกณฑก์ ารให้คะแนน มุง่ มนั่ ในการ ๔๓๒ ๑ ทำงาน นกั เรียนไม่มคี วาม นักเรยี นมีความ นักเรียนมคี วาม นกั เรยี นมีความ มงุ่ มนั่ ตั้งใจในการ เรยี นและไม่ มุ่งมนั่ ตั้งใจในการ มุง่ ม่นั ต้งั ใจในการ มงุ่ มั่นตั้งใจในการ รบั ผิดชอบตอ่ หน้าทท่ี ไี่ ด้รบั เรยี นและ เรียนและ เรยี นและ มอบหมายทุกครง้ั รับผดิ ชอบต่อ รับผดิ ชอบต่อ รบั ผดิ ชอบตอ่ หนา้ ทท่ี ี่ได้รบั หนา้ ท่ีท่ีไดร้ ับ หนา้ ทท่ี ่ีไดร้ ับ มอบหมาย ดว้ ย มอบหมาย เพ่ือให้ มอบหมายเปน็ ความเพียร งานสำเร็จตาม บางคร้ัง พยายาม อดทน เปา้ หมาย เพ่ือให้งานสำเรจ็ ตามเปา้ หมาย
๙๗ ใฝเ่ รียนรู้ นักเรยี นมีการ นักเรยี นมีการ นักเรยี นมกี าร นักเรียนไม่ซักถาม รกั ความเป็นไทย ซกั ถามในเรือ่ งท่ี ซักถามในเรอ่ื งที่ ซักถามในเรือ่ งท่ี ในเร่ืองที่ตนไม่ ตนไม่เข้าใจทุก ตนไม่เข้าใจ ตนไมเ่ ข้าใจเปน็ เขา้ ใจและไม่กลา้ เรือ่ งและมีความ บางครั้งและ บางครง้ั และไม่ค่อย แสดงออก กลา้ แสดงออก คอ่ นข้างมีความ กลา้ แสดงออก อย่างมั่นใจ กล้าแสดงออก นักเรยี นแต่งกาย นักเรยี นแต่งกาย นกั เรยี นแตง่ กายไม่ นกั เรยี นแต่งกายไม่ เรียบรอ้ ย มี เรียบร้อย มี ค่อยเรยี บร้อย มี เรียบรอ้ ย ไม่มี มารยาทงดงาม มารยาทงดงาม มารยาทงดงาม มารยาท และใช้ แบบไทย และใช้ แบบไทย และใช้ แบบไทย และใช้ ภาษาไทยในการ ภาษาไทยในการ ภาษาไทยในการ ภาษาไทยในการ สื่อสารไมเ่ หมาะสม ส่อื สารได้อย่าง สื่อสารได้อย่าง สื่อสารได้อย่าง ถูกต้องเหมาะสม ถูกต้องเหมาะสม ถกู ต้องเหมาะสม บอ่ ยคร้งั เปน็ บางครั้ง แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๑๒ กล่มุ สาระการเรียนร้วู ิชาชีพเฉพาะปพ่ี าทย์ รายวิชาปพี่ าทย์ ๕ รหัสวชิ า ๒๐๓๐๓-๒๐๐๕ ระดบั ประกาศนยี บตั รวชิ าชีพปีท่ี ๓ ภาคเรยี นที่ ๑ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๕ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๗ เพลงเดย่ี ว เวลา ๖ คาบ เร่ืองเพลงเดยี่ วพญาโศก สามชัน้ เวลา ๖ คาบ ...................................................................................................................................................................
๙๘ มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ๒.๒เข้าใจและมีทักษะในการฝึกปฏิบตั เิ ครื่องดนตรี การบรรเลงเพลงประเภทตา่ ง ๆ ตระหนกั และเหน็ คณุ ค่า นำมาประยุกต์ใชไ้ ด้อยา่ ง เหมาะสม ตวั ชีว้ ดั บอกประวัติเพลงในบทเรยี นอธบิ ายศัพทส์ ังคตี เพลงในบทเรียนปฏบิ ตั เิ พลงประเภทต่างๆและ นำความร้ทู ่ีได้รบั ไปใชใ้ นโอกาสต่างๆได้ สาระสำคัญ เพลงเดีย่ วในทางดนตรไี ทยหมายถงึ เพลงที่ใชเ้ พื่อการอวดฝีมอื ของนกั ดนตรีโดยเฉพาะ โดยในแต่ เพลงน้นั จะมเี คร่ืองมือสำหรบั การเดย่ี วเพลงๆนน้ั จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑.นักเรียนสามารถอธบิ ายประวัติของเพลงเด่ยี วพญาโศก สามช้นั ได้ ๒.นักเรียนสามารถปฏิบัติเพลงเดีย่ วพญาโศก สามชนั้ ได้ ๓.นักเรียนมีความต้ังใจในการปฏบิ ตั เิ พลง สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ๑.ความสามารถในการอธิบายประวตั ิของเพลง ๒.ความสามารถปฏบิ ัติเพลงเด่ียวพญาโศก สามชน้ั ได้ สาระการเรยี นรู้ ๑.ความหมายของเพลง ๒.เพลงเดย่ี วพญาโศก สามช้นั กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นำเข้าสู่บทเรยี น ๑.โดยครถู ามนักเรยี นเก่ียวกับประเภทของเพลงและยกตัวอยา่ งเพลงทีน่ ักเรียนเคยปฏบิ ตั ิมา แล้วให้ นกั เรยี นแยกประเภท ๒.ครอู ธิบายจดุ ประสงค์การเรยี นรู้และวธิ กี ารวัดผลประเมินผลพร้อมท้ังบอกเกณฑก์ ารประเมินให้ นกั เรียนทราบ ขัน้ กจิ กรรม ๑.ครูแจกใบความร้เู รื่องประวัติเพลงพร้อมทงั้ สาธิตเพลงเดี่ยวพญาโศก สามชน้ั ให้นกั เรียนฟงั ๑ เท่ยี ว ๒.ครูต่อเพลงโดยสาธติ ให้นักเรยี นปฏิบตั ติ ามทีละวรรค ๓.เม่ือได๒้ – ๓ วรรคกใ็ หท้ บทวนใหม่ตง้ั แต่ตน้ เพื่อให้เกิดความชำนาญ ๔.หลังจากน้นั กต็ ่อเพลงในวรรคต่อไปทำอย่างนจี้ นจบเพลง ๕.ครเู ปดิ โอกาสใหน้ กั เรยี นซกั ถาม
๙๙ ขัน้ สรุป ๑.ให้นักเรียนทบทวนเพลงใหเ้ กิดความชำนาญต้ังแตต่ น้ จนจบเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง ๒.ครูคอยสังเกตและแนะนำ แนวทางบรู ณาการ ภาษาไทย การอ่าน การเขยี น การอภปิ ราย การแสดงความคิดเหน็ การถามและการตอบขอ้ สงสยั การนำเสนองาน ต่างๆ การบันทึกองค์ความรูแ้ ละกระบวนท่ารำ วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ วิพากษ์อย่างมหี ลกั การและสรา้ งสรรค์ สงั คมศกึ ษาฯ การปฏิบตั กิ จิ กรรมเป็นกล่มุ การสร้างมนุษยสมั พนั ธ์ สุขศึกษาฯ การพัฒนาทักษะการฟงั การรอ้ ง และการเคลือ่ นไหวร่างกายขณะปฏบิ ตั ทิ ่ารำ คณติ ศาสตร์ การนับจังหวะในการปฏิบัติท่ารำ การจำแนกหรือเปรยี บเทยี บต่างๆ วิทยาศาสตร์ การสังเกตการสาธติ ทา่ รำจากครู หรอื จากนวตั กรรมต่างๆ ศิลปะ การวาดภาพบันทึกทา่ รำ สื่อ อุปกรณ์ และแหล่งเรยี นรู้ ๑.ใบความร้เู รอื่ งประวตั ิเพลงเดี่ยวพญาโศก สามชั้น ๒.ระนาดเอก ๓.ระนาดทมุ้ ๔.ฆอ้ งวงใหญ่ ชิน้ งาน/ภาระงาน ๑. ใหน้ กั เรียนทบทวนนอกเวลาสัปดาหล์ ะ ๓ ชว่ั โมง การวดั และประเมนิ ผล ๑.วิธกี ารวัดผล ๑.๑สงั เกตการบรรเลง การตอบคำถาม ๒.เครือ่ งมือการวัดผล ๒.๑แบบสังเกตเรือ่ งเพลงเด่ียวพญาโศก สามชนั้ ๓.เกณฑ์การประเมินผล ๓.๑นกั เรยี นปฏิบัติเพลงเดย่ี วพญาโศก สามชนั้ ผิดไดเ้ พลงละไมเ่ กิน ๕ คร้งั
๑๐๐ บนั ทกึ ผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ ผลการจัดการเรยี นรู้ ๑............................................................................................................................ ................................. ๒............................................................................................................................................................. ๓............................................................................................................................ ................................. ๔....................................................................................................................................... ...................... ๕.......................................................................................................... ................................................... ปญั หา/อุปสรรค ๑............................................................................................................................ ................................. ๒............................................................................................................................................................. ๓............................................................................................................................ ................................. ๔.................................................................................................................................................. ........... ๕..................................................................................................................... ........................................ แนวทางไข/ขอ้ เสนอแนะ ๑............................................................................................................................ ................................. ๒............................................................................................................................................................. ๓............................................................................................................................ ................................. ๔............................................................................................................................ ................................. ๕............................................................................................................................................................. ลงชอื่ ผ้บู ันทกึ ( ผชู้ ่วยศาสตราจารยช์ ยพร ไชยสทิ ธิ์)
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123