Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โคก-หนอง-นา-โมเดล

โคก-หนอง-นา-โมเดล

Published by aongbrr14, 2022-06-22 09:11:24

Description: โคก-หนอง-นา-โมเดล

Search

Read the Text Version

โคก หนอง นา โมเดล : การออกแบบ Landscape ทเ่ี หมาะสมกบั ภมู ิสังคม ทฤษฎีใหมค่ วามหมายของ \"หลมุ ขนมครก\" และ โคก หนอง นา โมเดล จากพระราชดํารัสพระราชทานแก่บคุ คลตา่ งๆ ทีเ่ ข้าเฝ้าฯ ถวายชัยมงคลเนอ่ื งในโอกาสวันเฉลมิ พระ ชนมพรรษา ณ ศาลาดสุ ดิ าลยั สวนจิตรลดาฯ พระราชวังดุสิต วนั อาทติ ยท์ ี่ 4 ธันวาคม 2537 ใจความตอน หนง่ึ ว่า “...ทางราชการโดยกรมชลประทาน กรมพฒั นาทด่ี ิน กรมวชิ าการเกษตร กรมสง่ เสรมิ การเกษตร ทาง นายอําเภอ และผวู้ า่ ราชการจังหวัดสระบรุ ี ได้ชว่ ยกนั ทาํ โครงการน.ี้ โครงการน้ใี ช้เงินของมลู นธิ ิชัยพัฒนาส่วน หนงึ่ ใชเ้ งนิ ของราชการสว่ นหน่งึ โดยวิธขี ดุ บ่อนา้ํ เพอื่ ใช้นํ้าน้ันมาทําการเพาะปลูก ตาม ทฤษฎใี หม่. ซึง่ ทฤษฎี ใหม่นี้ยงั ไม่เกดิ ขึ้น. พอดขี ดุ บ่อน้าํ นน้ั เรากเ็ รยี กวา่ มอื ดี ขดุ น้ํามีน้าํ . ขา้ งๆ ทอ่ี ่นื น้ันไมม่ นี ้าํ แตต่ รงน้ันมีนํ้า ลง ท้ายกส็ ามารถปลูกข้าว แลว้ กป็ ลูกผัก ปลกู ไม้ยนื ตน้ ไมผ้ ล ต่อมาก็ไดซ้ ้อื ทีอ่ ีก 30 ไร.่ กก็ ลายเปน็ ศนู ย์พฒั นา หลกั มวี า่ แบ่งทดี่ ินเปน็ สามสว่ น. ส่วนหนง่ึ เปน็ ที่สาํ หรบั ปลูกขา้ ว อกี สว่ นหนง่ึ สาํ หรับปลกู พืชไร่ พืชสวน และก็ มีทสี่ าํ หรับขดุ สระนา้ํ ดําเนนิ การไปแลว้ ทําอยา่ งธรรมดาอย่างชาวบา้ น. ในที่สุดได้ขา้ วและได้ผกั ขายข้าวกบั ผกั น่มี กี ําไร 2 หมืน่ บาท. 2 หม่นื บาทตอ่ ปี หมายความว่า โครงการนีใ้ ชง้ านได.้ เมอื่ ใชง้ านไดก้ ็ขยายโครงการ ทฤษฎีใหม่ นี้ โดยใหท้ ําทีอ่ ่ืน. นอกจากมีสระน้าํ ในท่ีน้ีแลว้ จะตอ้ งมอี ่างเก็บนํา้ ทใี่ หญก่ ว่าอีกแหง่ เพื่อเสรมิ สระ น้ํา ในการน้กี ็ได้รับความร่วมมอื จากบริษทั เอกชน ซื้อท่ดี ้วยราคาที่เป็นธรรม ไมใ่ ช่ไปเวนคืนและสร้างอ่างเกบ็ นํ้า”

ตวั อยา่ งการจัดการน้าํ ตาม ทฤษฎใี หมส่ ําหรับเกษตรกรทม่ี ที ี่ดินจาํ นวนน้อย การปรบั ประยุกต์ ทฤษฎใี หม่ สู่การปฏบิ ตั ิตามภูมปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ ทเ่ี หมาะสมกับภูมิสังคม สู่ \"โคก หนอง นา โมเดล\"

แนวคิดการจัดการน้าํ \"โคก หนอง นา โมเดล\" เพ่อื กกั เกบ็ นํ้าไวท้ ง้ั บนดิน (ดว้ ยหนอง คลองไส้ไก่ และคันนา) และใตด้ ิน (ดว้ ยปา่ 3 อยา่ ง ประโยชน์ 4 อย่างตามแนวพระราชดําร)ิ โดย คณะสถาปตั ยกรรมศาสตร์ สถาบนั พระจอมเกล้าเจ้าคณุ ทหารลาดกระบงั โคกหนองนา โมเดล เปน็ การจดั การพน้ื ทซ่ี งึ่ เหมาะกบั พน้ื ท่ีการเกษตร ซงึ่ มกั อยูใ่ นพื้นทกี่ ลางนํ้า ไดท้ าํ การ ผสมผสานเกษตรทฤษฎใี หม่เขา้ กับภมู ปิ ญั ญาพื้นบ้านแปลงสูค่ ําภาษาไทยทชี่ าวบ้านเขา้ ใจงา่ ยๆ คอื “โคก หนอง นา” โดยยดึ หลักวา่  ดินทขี่ ดุ ทําหนองนํา้ นั้นให้นํามาทาํ โคก บนโคกปลกู “ปา่ 3อยา่ ง ประโยชน์ 4 อย่าง” ตามแนวทาง พระราชดําริ  ส่วนหนองนํ้านั้นเพือ่ ให้น้าํ กระจายไปเตม็ พื้นทใ่ี ห้ขุด “คลองไสไ้ ก่” หรอื คลองระบายนาํ้ รอบพ้นื ท่ตี ามภูมิ ปญั ญาชาวบา้ น โดยขดุ ให้คดเคยี้ วไปตามพื้นที่เพื่อใหน้ ้ํากระจายเตม็ พน้ื ที่เพิ่มความชมุ่ ชนื้ ลดพลังงานในการ รดนํา้ ตน้ ไม้  นอกจากน้นั ยงั สามารถทาํ ฝายทดนํา้ เพอ่ื เกบ็ นา้ํ เข้าไว้ในพ้ืนท่ใี หม้ ากทสี่ ุด โดยเฉพาะเมือ่ พ้ืนท่ีโดยรอบไม่มี การกกั เก็บนาํ้ นาํ้ จะหลากลงมายงั หนองนาํ้ และคลองไสไ้ ก่ ใหท้ ําฝายทดน้ําเก็บไว้ใช้ยามหนา้ แลง้  สว่ นพ้ืนท่ีนาน้นั ใหย้ หคนั นาให้สงู และกวา้ ง โดยสูง 1-1.2 เมตร ความกว้างตามความเหมาะสม เพือ่ ใหน้ า สามารถกักเกบ็ นาํ้ ไวไ้ ด้ในยามน้าํ หลาก  ทํานานาํ้ ลกึ ปลูกข้าวอินทรยี พ์ ้ืนบา้ น โดยเร่ิมจากการฟ้ืนฟดู นิ ด้วยการทําเกษตรอินทรีย์ คนื ชวี ิตเลก็ ๆ หรอื จลุ ินทรยี ก์ ลับคืนแผน่ ดิน ข้าวพนั ธ์พุ ้ืนเมืองท่เี ตบิ โตด้วยดินทอี่ ดุ มจะมภี ูมิคมุ้ กันต่อโรคและแมลง  ใชก้ ารควบคมุ ปริมาณนาํ้ ในนาเพอื่ คมุ หญ้า ทําใหป้ ลอดสารเคมไี ด้ ปลอดภัยทง้ั คนปลกู คนกิน

 บนคนั นา และโดยรอบพนื้ ทป่ี ลกู พชื ผัก สวนครวั เล้ยี งหมู เลย้ี งไก่ เลี้ยงปลา ทําให้พออยู่ พอกนิ พอใช้ พอ ร่มเยน็ เปน็ เศรษฐกิจพอเพยี งขน้ั พ้ืนฐาน ก่อนเข้าส่ขู ัน้ กา้ วหน้า คือ ทําบุญ ทําทาน เกบ็ รกั ษา ค้าขาย และ เชอื่ มโยงเป็นเครอื ขา่ ย  มีการพฒั นาแหล่งนํา้ ในพน้ื ที่ ทั้งการขุดลอก หนอง คู คลอง เพื่อกกั เก็บนํา้ ไว้ใช้ยามหน้าแลง้ และเพ่มิ การ ระบายน้ํายามน้ําหลาก การจดั การพื้นทก่ี ารเกษตรในรปู แบบใหมเ่ พอื่ เป้าหมายการพงึ่ ตนเอง ภายใต้ “โคก หนอง นา โมเดล” เป็นโมเดลตน้ แบบซงึ่ ดําเนนิ การแล้วทศี่ ูนย์กสกิ รรมธรรมชาติมาบเอื้อง โดยในพนื้ ที่ 40 ไร่ เป็นพนื้ ท่ี ทํานา 9 ไร่ และขดุ หนองจํานวน 3 บอ่ ไว้สําหรบั กกั เก็บนาํ้ รว่ มกับการทําฝายชุม่ ช้ืน และการขดุ คลองรอบ พนื้ ท่ี ทําใหใ้ นพ้ืนทีน่ ้ีสามารถเก็บนํ้าไว้ได้ถงึ 85,200 ลกู บาศกเ์ มตร ในขณะท่ีฝนตกลงมาในพื้นที่ 40 ไรน่ ้ี เพียงปลี ะ 64,000 ลบ.เมตร แตก่ ารยกประตนู าํ้ และการทาํ ฝายกักเอาไวช้ ่วยใหส้ ามารถกกั เก็บน้าํ ทห่ี ลากมา ไวไ้ ดเ้ พ่มิ มากขน้ึ เมือ่ มีน้ําเพยี งพอตอ่ การทําการเกษตร จึงสามารถกําหนดระยะเวลาในการทํานา ปลกู พชื ได้ ตามตอ้ งการ ในกรณีท่ีภมู อิ ากาศแปรปรวนฝนไม่ตกตามฤดกู าลก็สามารถนาํ นา้ํ ท่ีกักเกบ็ ไว้ในหนองมาใช้ในการ ทําการเกษตร หรอื หากเกดิ อุทกภัยขึน้ เปน็ ประจาํ ในพื้นที่ เกษตรกรกส็ ามาถนํานา้ํ ทีเ่ ก็บไว้ มาปลกู ข้าวและพืช ผลได้โดยไมต่ ้องรอเพียงน้ําฝน และสามารถเกบ็ เกี่ยวผลผลติ ได้กอ่ นทจ่ี ะถงึ ฤดนู ํ้าหลาก ภาพ แผนผังการจดั การพ้นื ที่ 40 ไร่ ของศนู ย์กสกิ รรมธรรมชาติมาบเอ้ือง การจดั การพนื้ ท่ีต้นแบบ “โคก หนอง นา โมเดล”  พื้นที่ 40 ไร่ ขดุ หนองนํ้า 3 บ่อ รวมพ้นื ท่ี 8.3 ไร่ เก็บนา้ํ ได้ 78,000 ลบ.ม.  นาพน้ื ที่ 9 ไร่ ยกคนั นาสงู 1 เมตร เกบ็ นํา้ ได้ 7,200 ลบ.ม. (คิดปริมาตรนาํ้ 50% ของความจจุ ริง โดยหัก พนื้ ท่ี Slope และพ้ืนท่เี กบ็ นํา้ ในนาท่ีอาจไม่เตม็ เมตร)  รวมแล้ว มีพน้ื ทรี่ ับนํา้ 85,200 ลบ.ม.  ปริมาณน้าํ ฝนในพ้นื ท่ี 40 ไรน่ ้ี ปีละ 64,000 ลบ.ม. = เกบ็ น้ําทตี่ กมาได้มากกวา่ 100% ด้วยการก้ันฝาย และประตนู ้ํา  ปลูกป่า 3 อย่างประโยชน์ 4 อยา่ ง เก็บนา้ํ ไว้ใตด้ นิ  ขุดคลองเล็กๆ รอบพื้นที่ เพิม่ ความชมุ่ ช้ืน และประหยัดพลังงานในการรดน้าํ

การพัฒนาแบบเปน็ ขัน้ เปน็ ตอน โดยยดึ หลกั \"เดนิ ทีละกา้ ว กินขา้ วทลี ะคาํ ทาํ ทีละอยา่ ง\" จะนาํ ไปสู่ \"เศรษฐกิจพอเพียงขัน้ พนื้ ฐาน\" พออยู่ พอกิน พอใช้ สร้างความรม่ เย็นคืนกลับให้ระบบนเิ วศ หรอื พอรม่ เย็น ใน พนื้ ทขี่ องตนเอง จากน้ันกา้ วสู่ เศรษฐกจิ พอเพียงข้ันก้าวหน้า โดยยงั ไม่เน้นการคา้ ขาย แต่เนน้ การทาํ บญุ ทํา ทาน เก็บรักษา แปรรูปไว้เป็นภูมคิ มุ้ กันตน สรา้ งเครอื ขา่ ยเช่อื มโยงดว้ ยการ \"ให้\" ตามคํา \"Our Loss is Our Gain\" ยิง่ ให้ไป ย่งิ ได้มา หรือขาดทนุ คือกาํ ไร จากนน้ั จึงค่อยค้าขายเรมิ่ จากในชุมชน เพ่อื สรา้ งฐานรากใหย้ ่งั ยืน ท้ายท่ีสดุ บญุ และทาน จะนาํ มาซง่ึ กลั ยาณมติ ร เปน็ \"เครอื ขา่ ย\" คอื หลังคาบ้าน ช่วยป้องกนั ทุกภยั พิบัติด้วย การ \"พ่ึงตนเอง และพง่ึ กนั เอง\" เปน็ แนวทางปฏบิ ัติของ สถาบันเศรษฐกจิ พอเพียง และเครอื ขา่ ยมูลนธิ ิกสกิ รรม ธรรมชาติ ซึ่งถอดเปน็ ทฤษฎีบันได 9 ขนั้ สเู่ ศรษฐกจิ พอเพียง การเดนิ ตามบันได 9 ขั้น จะไดม้ าทั้ง \"ความรู้\" ทีร่ อบรู้ รอบคอบ ระมดั ระวัง และ \"คณุ ธรรม\" ซงึ่ เป็น เงอื่ นไข สาํ คญั ของความพอเพยี ง (ความพอประมาณ ความมเี หตผุ ล ความมีภูมคิ มุ้ กนั \" เปน็ การตีความเศรษฐกจิ พอเพียงสู่การปฏิบัติ อฎย่างเปน็ ขน้ั เป็นตอน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook