คู่มือโรงเรียนร่วมพัฒนา

ค‹มู ือการปฏบิ ตั งิ านโครงการโรงเรียนร‹วมพฒั นา สาํ นักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร

ค่มู ือการปฏบิ ัติงานโครงการโรงเรียนร่วมพฒั นา สำ�นักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

ค่มู ือการปฏิบตั งิ านโครงการโรงเรียนรว่ มพฒั นา จดั พมิ พโ์ ดย ส�ำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ โทร. 0 2280 5530, 0 2288 5839 - 40 ปที ่พี มิ พ์ พ.ศ. 2561 จ�ำนวนพมิ พ์ 3,000 เล่ม ISBN 978-616-395-959-1 พิมพท์ ี่ หา้ งหุน้ ส่วนจ�ำกดั โรงพมิ พ์อักษรไทย (น.ส.พ.ฟ้าเมืองไทย) เลขท่ี 85, 87, 89, 91 ซอยจรญั สนิทวงศ์ 40 ถนนจรญั สนิทวงศ์ แขวงบางย่ขี นั เขตบางพลดั กรงุ เทพมหานคร 10700

คำ� นำ� การศกึ ษาเปน็ การพฒั นาคนใหม้ คี วามรู้ ความสามารถ และมคี ณุ ธรรม เพ่ือน�ำมาใช้ในการด�ำเนินชีวิต การท�ำงาน และการสร้างความส�ำเร็จให้กับชีวิต โดยจะสง่ ผลถงึ ความเจรญิ ของสงั คมและประเทศชาตไิ ด้ ประเทศไทยใหค้ วามสำ� คญั กบั การพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษา โดยมกี ารปฏริ ปู การศกึ ษาอยา่ งตอ่ เนอ่ื งหลายครง้ั แลว้ แต่คุณภาพการศึกษาของประเทศยังไม่ดีข้ึนเท่าท่ีควร โดยมีความเหล่ือมล�้ำ ด้านคณุ ภาพของแตล่ ะภมู ภิ าค โดยเฉพาะสถานศึกษาในพ้ืนทีห่ า่ งไกล สถานศกึ ษา ขนาดเล็ก จึงต้องได้รับการพัฒนาคุณภาพอย่างเร่งด่วน มูลนิธิสถาบันวิจัย เพอื่ การพฒั นาประเทศไทยไดเ้ สนอเป้าหมายการพัฒนาใน 4 ยุทธศาสตร์ ไดแ้ ก ่ 1) การพัฒนาคุณภาพผู้เรียน 2) การพฒั นาครู 3) การพฒั นาคุณภาพสถานศกึ ษา และ 4) การพัฒนาคุณภาพการบริหาร โดยจัดสรรเงินอุดหนุนรายหัวเพ่ิมขึ้น เช่ือมโยงกับการพัฒนาคณุ ภาพการจัดการเรยี นการสอน และสนบั สนุนการระดม ทรัพยากรของสถานศึกษา คณะกรรมการขับเคล่ือนการปฏิรูปเพ่ือรองรับ การปรับเปลย่ี นตามนโยบาย THAILAND 4.0 ทแ่ี ตง่ ต้ังโดยนายกรฐั มนตรีได้ก�ำหนด เป้าหมายการจดั การศกึ ษาในรูปแบบโรงเรียนรว่ มพฒั นา (Partnership School) ให้ด�ำเนินการตั้งแต่ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2561 โดยมีสถานศึกษาท่ี เขา้ รว่ มโครงการ ทงั้ สถานศกึ ษาสงั กดั สำ� นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน สงั กดั สำ� นกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา และสงั กดั สำ� นกั งานคณะกรรมการ การอุดมศึกษา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาศักยภาพทรัพยากรบุคคล ลดความเหลอ่ื มล�ำ้ และเพมิ่ ขดี ความสามารถทางการแขง่ ขันของประเทศทย่ี ่งั ยนื การจัดท�ำคู่มือฉบับนี้ เพื่อให้สถานศึกษาที่เข้าร่วมโครงการโรงเรียน ร่วมพัฒนา (Partnership School Project) ตลอดจนผู้เกี่ยวข้อง มีความรู ้ ความเข้าใจในวัตถุประสงค์ตลอดจนแนวทางการด�ำเนินงานและน�ำไปใช้ เพื่อให้ ประสบผลสำ� เร็จไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ ส�ำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน

กระทรวงศกึ ษาธกิ าร หนว่ ยงานรบั ผิดชอบโครงการ สำ� นักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน หน่วยงานร่วมมอื โครงการ ส�ำนกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา สำ� นกั งานคณะกรรมการการอุดมศึกษา การติดตอ่ สำ� นักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร 0 2280 5530, 0 2288 5839 - 40

สารบญั ค�ำนำ� หนา้ บทที่ 1 1 ความเป็นมาและหลักการของโครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา บทที่ 2 การพิจารณาและคดั เลอื กสถานศกึ ษาเข้าร่วมโครงการโรงเรียนร่วมพฒั นา 9 บทที่ 3 แนวทางการด�ำเนนิ งานโครงการ และบทบาทหนา้ ทข่ี องภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง 19 บทท่ี 4 29 การติดตาม ประเมินผลและวจิ ัย บรรณานกุ รม 39 ภาคผนวก 41 คณะท�ำงาน 129



บทที่ 1 ความเปน็ มาและหลกั การของโครงการโรงเรยี นรว่ มพัฒนา 1. ความเปน็ มา ประเทศไทยมีการปฏิรูปการศึกษามาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 แตค่ ุณภาพการศึกษาของประเทศ ก็ยังไม่ดีขน้ึ อยา่ งท่ัวถงึ คณะกรรมการ การขับเคลื่อนการปฏิรูปเพ่ือรองรับการปรับเปลี่ยนตามนโยบาย THAILAND 4.0 ได้มีมติในการประชุม เม่ือวันท่ี 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 ก�ำหนดให้จัดการศึกษา ในรูปแบบ โรงเรียนร่วมพัฒนา (Partnership School) โดยมอบหมายให้นายมีชัย วีระไวทยะ และ ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร. เทียนฉาย กีระนันทน์ ขับเคล่ือนโครงการนี้ ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ โดยขอให้ด�ำเนินการตั้งแต่ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2561 กบั สถานศกึ ษาสงั กดั กระทรวงศกึ ษาธกิ ารใหค้ รอบคลมุ พ้ืนที่ทัว่ ประเทศ ตามความเหมาะสม โครงการโรงเรยี นร่วมพัฒนา (Partnership School Project) เป็นแนวคิดการสร้างนวัตกรรมการบริหารจัดการสถานศึกษาภายใต้ บทบาทความร่วมมือระหว่างกระทรวงศึกษาธิการ และบริษัท มูลนิธิ 1

คู่มือการปฏบิ ตั งิ านโครงการโรงเรียนรว่ มพัฒนา องค์กร หรือสถาบันที่สนับสนุนทรัพยากรและมีส่วนร่วมในการบริหาร ให้กับสถานศึกษา ซ่ึงเป็นส่วนขยายของโรงเรียนประชารัฐ โดยมุ่งเน้น การยกระดับคุณภาพการศึกษาด้านต่าง ๆ ซึ่งสอดคล้องกับผลการศึกษา และข้อเสนอแนะของมูลนิธิสถาบันวิจัยเพ่ือการพัฒนาประเทศไทย ในเป้าหมายการพัฒนา 4 ยทุ ธศาสตร์ ไดแ้ ก่ 1) การพัฒนาคุณภาพผูเ้ รียน 2) การพัฒนาครู 3) การพฒั นาคณุ ภาพสถานศกึ ษา และ 4) การพฒั นา คุณภาพการบริหาร 2. วตั ถปุ ระสงค์ 2.1 เพอ่ื สรา้ งการมสี ว่ นรว่ มของภาคสว่ นตา่ ง ๆ ในการบรหิ าร จดั การ รว่ มพฒั นา และสนบั สนนุ สถานศกึ ษาในสงั กดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร และสังกัดอน่ื ๆ 2.2 เพื่อพัฒนาคุณภาพและรังสรรค์นวัตกรรมการบริหาร จัดการของสถานศึกษาให้สามารถยกระดับผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน และ เตรยี มความพร้อมสำ� หรบั อนาคตให้แก่ผเู้ รียน 2.3 เพื่อให้สถานศึกษาเป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิตของทุกคน ในชุมชน เป็นศูนยก์ ลางการพัฒนาทักษะและคณุ ภาพชีวิต 2.4 เพ่ือให้สถานศึกษาได้รับโอกาสในการพัฒนาอย่างท่ัวถึง นำ� ไปสูก่ ารลดความเหล่อื มล�้ำทางการศึกษา 2

คมู่ อื การปฏิบตั ิงานโครงการโรงเรยี นรว่ มพัฒนา 3. หลกั การในการด�ำเนินโครงการ 3.1 การมสี ว่ นรว่ มในการบริหารสถานศึกษา การดำ� เนนิ โครงการโรงเรยี นรว่ มพฒั นา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร จ�ำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากภาคส่วนต่าง ๆ รวมถึงภาคเอกชน ภาคประชาสงั คม สถานศกึ ษาพ่ีเลย้ี ง องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ และชมุ ชน ในพ้ืนท่ี ในการเข้าร่วมบริหารจัดการร่วมพัฒนาและสนับสนุนสถานศึกษา ในโครงการ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ใหส้ ามารถบรกิ ารดา้ นการศกึ ษาทมี่ คี ณุ ภาพสงู เหมาะสมกบั ความตอ้ งการ ของผเู้ รยี น และบรบิ ททางเศรษฐกจิ สงั คมในแตล่ ะพน้ื ที่ ทงั้ ในดา้ นวชิ าการ ดา้ นอาชพี และทักษะชีวติ อื่น ๆ เมื่อเร่ิมต้นโครงการสถานศึกษาร่วมกับผู้สนับสนุน จัดท�ำแผนการพัฒนาสถานศึกษา รายปีและแผนระยะ 5 ปี ซ่ึงระบ ุ เปา้ หมายของการดำ� เนนิ งานในชว่ งต่าง ๆ ไวอ้ ย่างชดั เจนและมกี ารสอ่ื สาร ระหวา่ งผู้สนับสนนุ สถานศึกษา และกระทรวงศกึ ษาธกิ าร 3.2 การบรหิ ารงานบุคคล 3.2.1 ผู้สนับสนุนสามารถมีส่วนร่วมในการบริหารงาน บคุ คลของสถานศกึ ษา โดยเขา้ รว่ มเปน็ ประธานคณะกรรมการสถานศกึ ษา ขนั้ พน้ื ฐาน กรรมการสถานศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน หรอื ทป่ี รกึ ษา รวมถงึ สามารถ ประเมินผลงานและพิจารณาผลตอบแทนส่วนเพิ่มของผู้อ�ำนวยการ สถานศึกษา และบุคลากรทางการศึกษาตามข้อตกลงระหว่างผู้สนับสนุน กับสถานศึกษาและผลสำ� เรจ็ ของงาน 3

ค่มู อื การปฏิบตั งิ านโครงการโรงเรยี นรว่ มพฒั นา 3.2.2 ผู้สนับสนุนมีส่วนร่วมในการพิจารณาคัดเลือก บคุ ลากรของสถานศึกษาในส่วนเพมิ่ เตมิ ที่ไม่ใชข่ า้ ราชการ 3.3 การบริหารงบประมาณ สถานศึกษาจะต้องเก็บรักษาเงินทุนจากผู้สนับสนุน ไว้ในบัญชีซึ่งแยกต่างหากจากบัญชีงบประมาณจากภาครัฐ และมีการ ระบุวัตถุประสงค์ของเงินทุนสนับสนุนให้ชัดเจน รวมถึงมีการควบคุม การใชจ้ า่ ยของเงนิ ทนุ ดงั กลา่ วใหเ้ ปน็ ไปตามวตั ถปุ ระสงค์ และมกี ารจดั ทำ� บญั ชี ให้ตรงกับมาตรฐานการบัญชี มีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได ้ โดยผู้สนับสนุนสามารถตรวจสอบการใช้เงินทุนดังกล่าวได้ โดยเสนอต่อ คณะกรรมการสถานศกึ ษาของสถานศกึ ษานน้ั ๆ ทงั้ นี้ ในสว่ นของงบประมาณ จากภาครัฐยงั คงเป็นไปตามระเบยี บงบประมาณของทางราชการ 3.4 การบรหิ ารงานวชิ าการ ผู้สนับสนุนสามารถเข้าร่วมพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา การจัดการเรียนการสอน สื่อการเรียนรู้ และการวัดและประเมินผล การเรียนรู้ ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน ผู้ปกครอง ชุมชน และบรบิ ทของสถานศกึ ษานนั้ ๆ รวมท้ังการเปลีย่ นแปลงทางเศรษฐกจิ สงั คม และความก้าวหน้าของโลก ภายใต้กรอบหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 หลกั สตู รประกาศนยี บตั รวชิ าชพี พทุ ธศกั ราช 2556 หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง พุทธศักราช 2557 ทั้งน้ี 4

คมู่ อื การปฏบิ ัติงานโครงการโรงเรยี นรว่ มพฒั นา ผู้สนับสนุนสามารถร่วมก�ำหนดหลักสูตรสถานศึกษาในส่วนรายวิชา เพมิ่ เตมิ กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น และกจิ กรรมอน่ื ๆ รวมทง้ั การจดั ซอ้ื หนงั สอื และส่ือการเรียนรู้เพิ่มเติม ที่เป็นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ให้เป็นไป ตามเจตนารมณ์ร่วมกันระหว่างสถานศึกษากับผู้สนับสนุน และ ผา่ นความเหน็ ชอบของคณะกรรมการสถานศกึ ษาของสถานศึกษานนั้ ๆ 3.5 การติดตาม ประเมินผลและวจิ ยั การตดิ ตาม ประเมินผลและวิจยั มี 2 ระดับ ได้แก่ (1) ระดับโครงการ ด�ำเนินการโดยคณะท�ำงาน ดา้ นการตดิ ตาม ประเมนิ ผลและวจิ ยั โครงการพฒั นานวตั กรรมการบรหิ าร จดั การสถานศกึ ษาในรปู แบบโรงเรยี นร่วมพัฒนา (2) ระดับสถานศึกษา ด�ำเนินการแต่งต้ังหรือสรรหา คณะท�ำงานติดตาม ประเมินผลและวิจัยของสถานศึกษา โดยความเห็นชอบ ของคณะกรรมการสถานศกึ ษา มที างเลือกได้ 2 รปู แบบ คือ (2.1) แต่งตั้งคณะท�ำงานฯ ประกอบด้วยบุคคล ภายในและภายนอกสถานศกึ ษา (2.2) สรรหาบคุ คลหรือหน่วยงานภายนอกมาเปน็ ผูต้ ิดตาม ประเมินผลและวจิ ัย 5

คู่มือการปฏบิ ตั งิ านโครงการโรงเรยี นรว่ มพฒั นา 4. กลไก การติดตาม ประเมินผลและวจิ ัย คณะทำ� งานดา้ นการตดิ ตาม ประเมนิ ผลและวจิ ยั โครงการพฒั นา นวัตกรรมการบริหารจัดการสถานศึกษาในรูปแบบโรงเรียนร่วมพัฒนา มีหน้าที่ด�ำเนินการติดตามและรายงานความก้าวหน้า ประเมินผล ความส�ำเร็จของโครงการและวิจัย ตลอดจนถอดบทเรียน โดยพิจารณา ให้หน่วยงานที่มีความเช่ียวชาญและน่าเชื่อถือมาด�ำเนินการประเมินผล และการวิจัย ซึ่งการคัดเลือกหน่วยงานดังกล่าว ต้องได้รับความเห็นชอบ จากคณะกรรมการโครงการ 5. งบประมาณในการด�ำเนินโครงการ ผู้สนับสนุนสามารถบริจาคเงินทุน ทรัพย์สินและคา่ ใช้จา่ ยอื่นๆ ในการด�ำเนินโครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา ให้กับสถานศึกษา ทงั้ นเ้ี งินทนุ ทรัพยส์ ินและค่าใชจ้ ่ายทีผ่ ้สู นบั สนนุ บรจิ าคถือเปน็ เงนิ บรจิ าค เพ่ือการศึกษาซ่ึงมีสิทธิประโยชน์ทางภาษีเช่นเดียวกับเงินบริจาค เพ่ือการศึกษาอื่น ๆ นอกจากน้ัน กระทรวงศึกษาธิการจะจัดให้มีการ สนับสนุนด้านงบประมาณปกติท่ีเป็นค่าใช้จ่ายท่ีรัฐพึงต้องจ่ายให้กับ โครงการนี้อย่างเต็มความสามารถตามที่พึงจะกระท�ำได้เป็นไปตามหลัก ของการบริหารงบประมาณ 6

คู่มอื การปฏบิ ัติงานโครงการโรงเรียนรว่ มพัฒนา 6. นยิ ามศัพท์ “โครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา” (Partnership School Project) หมายถงึ โครงการพฒั นานวตั กรรมการบรหิ ารจดั การสถานศกึ ษา รปู แบบโรงเรยี นรว่ มพัฒนา (Partnership School) ทีใ่ ห้ความเป็นอสิ ระ และความคล่องตัวในการบริหารจัดการทั้งในด้านการบริหารงานวิชาการ การบรหิ ารงานงบประมาณ การบรหิ ารงานบคุ คล และการบรหิ ารงานทวั่ ไป ท่ีสร้างความรับผิดชอบต่อผู้เรียน ด้วยการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ภายใต้การสนับสนุนทรัพยากรและการบริหารที่จ�ำเป็นและเหมาะสม จากผสู้ นบั สนุน “สถานศึกษา” หมายถึง สถานศึกษาสังกัดส�ำนักงาน คณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน ทจ่ี ดั การเรยี นการสอนตง้ั แตร่ ะดบั ปฐมวยั ระดับประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษา สถานศึกษาสังกัดส�ำนักงาน คณะกรรมการการอาชีวศึกษา และสถานศึกษาสังกัดส�ำนักงาน คณะกรรมการการอุดมศกึ ษา ทเี่ ขา้ รว่ มโครงการโรงเรียนร่วมพฒั นา “ผู้สนับสนุน” หมายถึง บริษัท มูลนิธิ องค์กร หรือสถาบัน ที่สนับสนุนทรัพยากรและมีส่วนร่วมในการบริหารให้กับสถานศึกษา ในโครงการ “สถานศึกษาพี่เลี้ยง” หมายถึง สถานศึกษา หรือ สถาบัน อาชวี ศกึ ษา สถาบนั อดุ มศกึ ษา ทส่ี นบั สนนุ สถานศกึ ษาในโครงการโรงเรยี น รว่ มพัฒนา 7

คู่มอื การปฏิบตั งิ านโครงการโรงเรยี นร่วมพัฒนา “คณะกรรมการสถานศึกษา” หมายถึง คณะกรรมการ สถานศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน คณะกรรมการวทิ ยาลยั คณะกรรมการสถานศกึ ษา โรงเรยี นสาธิตสงั กัดมหาวิทยาลยั “คณะกรรมการโครงการ” หมายถึง คณะกรรมการพัฒนา นวัตกรรมการบริหารจัดการสถานศึกษาในรูปแบบโรงเรียนร่วมพัฒนา เพอื่ รองรบั การขบั เคลอ่ื นการปฏริ ปู การศกึ ษาตามนโยบาย THAILAND 4.0 8

บทท่ี 2 การพิจารณาและคัดเลอื กสถานศึกษาเขา้ ร่วม โครงการโรงเรยี นร่วมพฒั นา ประเภทของสถานศึกษาท่ีสามารถเข้าร่วมโครงการ ได้แก่ โรงเรียนประถมศึกษา และโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดส�ำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน สถานศึกษาสังกัดส�ำนักงาน คณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา สถานศกึ ษาสงั กดั สำ� นกั งานคณะกรรมการ การอุดมศึกษา และสถานศึกษาสังกัดอ่ืนๆ ที่คณะกรรมการโครงการ เหน็ สมควร โดยมวี ธิ กี ารคดั เลอื ก ดังน้ี 1. การพิจารณาและคัดเลอื กสถานศกึ ษาเข้ารว่ มโครงการ ในการพิจารณาและคัดเลือกสถานศึกษาเข้าร่วมโครงการ ให้ดำ� เนนิ การดงั นี้ 1.1 พจิ ารณาขอ้ มูลและรายละเอียดในใบสมัครเขา้ ร่วมโครงการ โรงเรียนร่วมพฒั นาซึง่ เสนอโดยสถานศึกษา 9

ค่มู อื การปฏบิ ัตงิ านโครงการโรงเรียนรว่ มพฒั นา 1.2 ในการประเมินความพร้อมเบื้องต้นและการร่วมประเมิน ความพร้อมของสถานศึกษาอย่างเป็นทางการ ให้พิจารณาความพร้อม ในประเด็นดงั ต่อไปนี้ 1.2.1 ผู้บริหารสถานศึกษามีภาวะผู้น�ำ มีความมุ่งม่ัน พร้อมทีจ่ ะสรา้ งการเปล่ยี นแปลงในการบริหารจดั การสถานศกึ ษา 1.2.2 การมสี ว่ นรว่ มของครู และบคุ ลากรในสถานศกึ ษา 1.2.3 ผู้เรียนพร้อมทจ่ี ะเปน็ “คนด”ี ของสังคม 1.2.4 ผู้น�ำชุมชนและสมาชิกในชุมชนให้ความส�ำคัญ กับการศกึ ษา 1.2.5 ผู้บริหารและคณะครู ผู้ปกครอง ผู้เรียน คณะกรรมการสถานศึกษา และผู้น�ำชุมชน แสดงเจตจ�ำนงและ มคี วามพร้อมในการเขา้ รว่ ม และสนบั สนนุ โครงการ 1.2.6 อ่ืนๆ ตามที่คณะกรรมการโครงการเหน็ สมควร 2. ขัน้ ตอนในการสมคั รและการพิจารณาสถานศึกษา เข้ารว่ มโครงการ มขี ้ันตอนดงั นี้ 2.1 สถานศึกษาสมัครเข้าร่วมโครงการ โดยกรอกใบสมัคร เข้าร่วมโครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา และแนบเอกสารประกอบ ตามที่ ก�ำหนด ทั้งน้ี จะต้องมีการประชุมหารือร่วมกันของผู้บริหารและคณะครู ผปู้ กครอง ผู้เรียน คณะกรรมการสถานศกึ ษา และผูน้ ำ� ชมุ ชน ก่อนทีจ่ ะส่ง ใบสมัครเขา้ ร่วมโครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา สถานศึกษาจะมีผู้สนับสนุน แสดงความสนใจแลว้ หรือไมก่ ไ็ ด้ 10

คมู่ อื การปฏบิ ัติงานโครงการโรงเรยี นรว่ มพฒั นา 1) สถานศึกษาส่งใบสมัครเข้าร่วมโครงการโรงเรียน ร่วมพัฒนา ให้ส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ซึ่งได้รับ มอบหมายให้เปน็ หน่วยงานทีร่ บั ผดิ ชอบโครงการ 2) ส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน ตรวจสอบขอ้ มลู พจิ ารณาความเหมาะสมและหารือหนว่ ยงานท่เี ก่ียวข้อง 3) ส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน หรือหน่วยงานต้นสังกัดอ่ืนๆ ของสถานศึกษาร่วมกับภาคเอกชนจัดหา ผู้สนับสนุนท่ีเหมาะสมกับสถานศึกษา ในกรณีที่สถานศึกษายังไม่ม ี ผสู้ นบั สนนุ 2.2 ผสู้ นบั สนนุ ประเมนิ ความพรอ้ มเบอ้ื งตน้ ของสถานศกึ ษา ทส่ี นใจสมัครเขา้ รว่ มโครงการ ผู้สนับสนุนรวบรวม/ขอข้อมูลเพ่ือประกอบการพิจารณา และประเมินความพร้อมเบื้องต้นของสถานศึกษา เช่น โดยการพูดคุย ทางโทรศัพท์ หรือส่งเอกสารข้อมูลให้พิจารณา หรือพบปะ พูดคุยกับ ผู้บริหาร คณะครู คณะกรรมการสถานศกึ ษา และผ้นู ำ� ชมุ ชน เมื่อประเมนิ ความพร้อมเบื้องต้นแล้ว ผู้สนับสนุนส่งผลการประเมินให้ส�ำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน หมายเหตุ ท้ังน้ี ขั้นตอนการส่งใบสมัครกับการส่งผลการประเมิน เบ้ืองต้นสามารถเกดิ ขน้ึ พร้อมกนั ได้ 11

คมู่ ือการปฏิบตั งิ านโครงการโรงเรยี นร่วมพฒั นา 2.3 สถานศึกษาจัดให้มีการร่วมประเมินความพร้อม ของสถานศึกษาอย่างเป็นทางการ โดยมีการประชุมร่วมกันของผู้แทน จาก 6 กลุ่ม ได้แก่ ผู้สนับสนุน ผู้บริหาร คณะครู ผู้ปกครอง ผู้เรียน คณะกรรมการสถานศกึ ษา และผู้น�ำชุมชน ดังน้ี 2.3.1 แนะน�ำหน่วยงานและชี้แจงรายละเอียดโครงการ ให้ผเู้ ขา้ ประชมุ ได้รับทราบครบถว้ น 2.3.2 เปิดให้มีการซักถามและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น จนเกดิ ความพงึ พอใจ 2.3.3 ขอมติที่ประชุมคณะกรรมการโครงการในการ เข้ารว่ มโครงการ 2.3.4 ในกรณีที่ที่ประชุมคณะกรรมการโครงการ มีมติเห็นชอบ สถานศึกษาร่วมกับผู้สนับสนุนจะส่งหนังสือแจ้งมติที่ประชุม ให้กับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ซ่ึงส�ำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขน้ั พน้ื ฐานจะแจ้งหนว่ ยงานทเี่ กีย่ วขอ้ งด้วย 2.4 สำ� นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน ประกาศ รายชอื่ โรงเรียนรว่ มพฒั นา 2.5 ส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จัดการ ลงนามบันทกึ ความเข้าใจว่าดว้ ยความรว่ มมือ 2.6 สำ� นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน จดั ปฐมนเิ ทศ โรงเรยี นร่วมพฒั นา และผู้สนบั สนุน 12

คมู่ อื การปฏบิ ัติงานโครงการโรงเรียนร่วมพฒั นา 3. ข้ันตอนการด�ำเนินงานของโรงเรยี นรว่ มพฒั นา 3.1 สถานศึกษาร่วมกับผู้สนับสนุนจัดท�ำ/ปรับปรุงแผน พฒั นาสถานศึกษา และแผนติดตาม ประเมนิ ผลและวจิ ัย ของสถานศกึ ษา โดยการมสี ว่ นรว่ มของคณะกรรมการสถานศกึ ษา โดยตอ้ งดำ� เนนิ การจดั ทำ� / ปรับปรุงแผนฯ ให้แล้วเสร็จภายในเวลาไม่เกิน 3 เดือนหลังจากลงนาม บันทึกความเข้าใจว่าดว้ ยความรว่ มมือ 3.2 สถานศึกษาและผู้สนับสนุนร่วมกับคณะกรรมการ สถานศึกษาด�ำเนินงานตามแผนพัฒนาสถานศึกษา และแผนติดตาม ประเมินผลและวจิ ัย 3.3 คณะท�ำงานระดับสถานศกึ ษาดา้ นการตดิ ตาม ประเมนิ ผล และวิจัย ซึ่งแต่งตั้งโดยคณะกรรมการสถานศึกษา หรือผู้ประเมิน จากภายนอก รายงานผลการด�ำเนินงานภาคเรียนละ 1 ครั้ง (เม่ือสิ้น ปกี ารศกึ ษา) ตอ่ คณะกรรมการสถานศึกษา 3.4 สถานศึกษาและผู้สนับสนุนร่วมกับคณะกรรมการ สถานศึกษาปรับปรุงแผนพัฒนาสถานศึกษาโดยใช้ผลของการติดตาม ประเมินผลและวจิ ัย ระดบั สถานศกึ ษา 3.5 สถานศึกษาและผู้สนับสนุนร่วมกับคณะกรรมการ สถานศกึ ษา พจิ ารณาและดำ� เนนิ การตามขอ้ เสนอแนะ (ถา้ ม)ี จากคณะทำ� งาน ดา้ นการตดิ ตาม ประเมนิ ผลและวจิ ยั โครงการพฒั นานวตั กรรมการบรหิ าร จัดการสถานศึกษาในรูปแบบโรงเรียนร่วมพัฒนา ซ่ึงได้จากการติดตาม ประเมินผลและวิจัย ในระดบั โครงการโรงเรียนร่วมพฒั นา 13

คูม่ ือการปฏบิ ัติงานโครงการโรงเรยี นรว่ มพัฒนา 4. การถอดบทเรียนและแลกเปลย่ี นเรยี นรูป้ ระสบการณ์ สำ� นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน ร่วมกบั คณะท�ำงาน ดา้ นการตดิ ตาม ประเมนิ ผลและวจิ ยั โครงการพฒั นานวตั กรรมการบรหิ าร จดั การสถานศกึ ษาในรปู แบบโรงเรยี นรว่ มพฒั นา และหนว่ ยงานตน้ สงั กดั อน่ื ๆ ของสถานศึกษาด�ำเนินการจัดกิจกรรมการถอดบทเรียนและแลกเปลี่ยน เรียนรู้ประสบการณ์ โดยการมีส่วนร่วมของผู้สนับสนุนและสถานศึกษา ท่เี ขา้ รว่ มโครงการ ปีละ 1 คร้ัง 14

คูม่ ือการปฏิบตั ิงานโครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา 5. ใบสมคั ร ใบสมัครเขา้ รว่ มโครงการโรงเรยี นรว่ มพัฒนา กระทรวงศกึ ษาธิการ (Partnership School Project) Ministry Education 1. ข้อมูลพื้นฐาน ช่อื ผู้สนับสนุน...............................................................(ถ้ามี)...................................................................... รหสั สถานศกึ ษา......................................................................... ชอื่ สถานศกึ ษา .................................................................................................................................................. สงั กัด ............................................................................................................................................... ที่ตง้ั สถานศกึ ษา..............................................................เลขท.่ี ....................................... หมู่ ซอย ถนน................... ....................................... ................................................................... ต�ำบล/แขวง..............................................อำ� เภอ/เขต................................................... จังหวดั ...........................................................รหสั ไปรษณยี .์ ............................................. โทรศัพท์.......................................................โทรสาร............................................................ E-mail........................................................................................................................................... Website ..................................................................................................................................... ระดับการจดั การศึกษา.............................................................................................................................. ผ้อู ำ� นวยการสถานศกึ ษาชือ่ ........................................สกุล........................................อาย.ุ .......ปี โทรศพั ท์ (มอื ถือ)..................ด�ำรงต�ำแหน่งวนั ท.ี่ ...........เดอื น...........................ป.ี ................. อายรุ าชการ............................ปี รองผอู้ ำ� นวยการสถานศึกษา ชื่อ...................................สกลุ .......................................อาย.ุ .......ปี โทรศพั ท์ (มอื ถอื )..................ดำ� รงต�ำแหน่งวันท.ี่ ...........เดือน..........................ป.ี .................. อายรุ าชการ............................ปี 15

คู่มอื การปฏิบัติงานโครงการโรงเรยี นร่วมพัฒนา สรุปจำ� นวนผู้บรหิ าร ครู และบุคลากรอนื่ ๆ ของสถานศกึ ษา ผ้บู ริหาร ครู ลูกจา้ ง ผอ. รอง ผอ. ขา้ ราชการ ประจ�ำ ช่วั คราว พนักงาน อัตราจา้ ง ครูต่าง ราชการ ประเทศ ....... ....... ....... ....... ....... ....... ....... ....... จ�ำนวนนกั เรียน ชนั้ อ.1 อ.2 อ.3 ป.1 ป.2 ป.3 ป.4 ป.5 ป.6 ม.1 ม.2 ม.3 ม.4 ม.5 ม.6 รวม จำ� นวน นักเรยี น (คน) ........ ........ ........ ........ ........ ........ ........ ........ ........ ........ ........ ........ ........ ........ ........ ........ จำ� นวนอาคาร ประเภทอาคาร อาคารเรยี น อาคาร อาคารชัว่ คราว บา้ นพกั ครู ห้องสขุ า อเนกประสงค์ จำ� นวน (หลัง) .................. .................. .................. .................. .................. ขนาดพืน้ ท่ี จ�ำนวน.............................ไร.่ ............................งาน.............................ตารางวา พื้นท่ใี ช้สอยของสถานศึกษา................................................................................................................. ....................................................................................................................................................................................... 16

คู่มอื การปฏิบตั งิ านโครงการโรงเรยี นรว่ มพัฒนา 2. วิเคราะหส์ ภาพสถานศึกษา ในดา้ นความพร้อมในการเขา้ รว่ ม โครงการโรงเรียนรว่ มพฒั นา และจุดเดน่ จุดดอ้ ย โดยสรปุ การวิเคราะห์ตามหวั ขอ้ ดา้ นล่าง ความยาวไมเ่ กิน 1 หน้า กระดาษ (A4) 1. ด้านวิชาการ 2. ด้านบรหิ ารองคก์ ร 3. ดา้ นบุคคล 4. ดา้ นงบประมาณ 5. ดา้ นอาคาร สถานท่ี และส่งิ แวดล้อม 6. ดา้ นการเสรมิ สรา้ งทกั ษะวชิ าชีพ 7. การมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการศึกษา รวมท้ัง แหล่งเรยี นรู้ในชุมชนและภมู ิปัญญาท้องถิ่น ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ 3. วิสัยทัศน์ ในการพัฒนาสถานศึกษา และผลสัมฤทธข์ิ องผู้เรยี น (อยากเห็นสถานศึกษาพัฒนาไปในทิศทางใด ประสบความส�ำเร็จ ถงึ ระดับใด และอยากเหน็ ผู้เรียนพัฒนาอยา่ งไรภายใน 5 ป)ี ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ 17

คู่มอื การปฏิบัตงิ านโครงการโรงเรียนรว่ มพัฒนา 4. แนวคดิ ในการเสรมิ สรา้ งบทบาทของสถานศกึ ษา ในการรว่ มพฒั นา ชุมชน และให้ชมุ ชนมีส่วนร่วมในการพฒั นาสถานศกึ ษา ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ 5. สถานศึกษาด�ำเนินการ ได้หารือร่วมกับผู้บริหารและคณะครู ผู้ปกครอง ผู้เรียน คณะกรรมการสถานศึกษา และผ้นู �ำชมุ ชน แลว้ ยงั ไมไ่ ดห้ ารอื รว่ มกบั ผบู้ รหิ ารและคณะครูผปู้ กครองผเู้ รยี น คณะกรรมการสถานศึกษา และผนู้ ำ� ชุมชน 6. เอกสารแนบ 6.1 ข้อมูล ครู และบุคลากรทางการศกึ ษา (วฒุ กิ ารศกึ ษา) 6.2 แผนผงั ของสถานศึกษา พรอ้ มภาพถา่ ย 18

บทท่ี 3 แนวทางการด�ำเนินงานโครงการ และบทบาทหนา้ ท ี่ ของภาคสว่ นท่เี กีย่ วขอ้ ง แนวทางการด�ำเนนิ งานโครงการ การดำ� เนนิ โครงการโรงเรยี นรว่ มพฒั นา (Partnership School) กระทรวงศึกษาธิการจ�ำเป็นต้องได้รับความสนับสนุนจากภาคส่วนต่าง ๆ รวมถึง ภาคเอกชน ภาคประชาสงั คม สถาบันการศกึ ษาระดบั อุดมศกึ ษา องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน และชุมชนในพ้ืนท่ี ในการเข้าร่วมบริหาร จดั การ รว่ มพฒั นาและสนบั สนนุ สถานศกึ ษาในโครงการ โดยความเหน็ ชอบ ของคณะกรรมการสถานศึกษา ให้สามารถสร้างบริการด้านการศึกษา ท่ีมีคุณภาพสูง เหมาะสมกับความต้องการของนักเรียน และบริบท ทางเศรษฐกจิ สังคม ส่ิงแวดลอ้ ม ในแต่ละพนื้ ที่ ท้งั ในด้านทกั ษะวชิ าการ ทักษะอาชีพ และทักษะชีวติ 19

คมู่ ือการปฏบิ ัติงานโครงการโรงเรยี นร่วมพัฒนา 1. การบรหิ ารงานบุคคล ผู้สนับสนุนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารงานบุคคล ของสถานศึกษาโดยเข้าร่วมเป็นทีป่ รึกษา หรอื คณะกรรมการสถานศึกษา รวมถึงสามารถประเมินผลงานและพิจารณาผลตอบแทนส่วนเพิ่ม ของผอู้ ำ� นวยการสถานศกึ ษาและคณะครตู ามขอ้ ตกลงระหว่างภาคเอกชน กับสถานศึกษาและผลส�ำเร็จของงาน สนับสนุนและมีส่วนร่วมพิจารณา คั ด เ ลื อ ก บุ ค ล า ก ร ใ ห ้ แ ก ่ ส ถ า น ศึ ก ษ า ใ น ส า ข า วิ ช า ที่ ข า ด แ ค ล น หรอื ตามความตอ้ งการของสถานศกึ ษา โดยมแี นวทางการดำ� เนนิ งาน ดงั นี้ 1.1 การมีส่วนรว่ มบรหิ ารงานบคุ คล (1) ผสู้ นบั สนนุ สง่ ผแู้ ทนเขา้ รว่ มเปน็ ทป่ี รกึ ษาสถานศกึ ษา หรอื คณะกรรมการสถานศึกษา (2) ผู้สนับสนุนและสถานศึกษาร่วมก�ำหนดตัวชี้วัด ความส�ำเร็จตามบริบทของสถานศกึ ษานน้ั ๆ (3) ผู้สนับสนุนและสถานศึกษาร่วมพิจารณาผลตอบแทน ส่วนเพิ่มของผู้อ�ำนวยการสถานศึกษา ครู และบุคลากรทางการศึกษา ตามตัวช้ีวัดความสำ� เรจ็ ตามบรบิ ทของสถานศึกษา 1.2 การสนับสนนุ บคุ ลากร (1) ผู้สนับสนุนและสถานศึกษาร่วมกันพิจารณา ความตอ้ งการบคุ ลากรในสาขาวิชาทข่ี าดแคลน (2) ผู้สนับสนุนและสถานศึกษาร่วมกันจัดท�ำแผน การสนับสนุนบุคลากร เช่น การจ้างบุคลากรในสาขาวิขาที่ขาดแคลน หรอื สนบั สนุนวทิ ยากรจากภายนอก 20

คมู่ ือการปฏบิ ัตงิ านโครงการโรงเรียนร่วมพฒั นา 1.3 การพฒั นาบคุ ลากร (1) สถานศึกษาก�ำหนดความต้องการในการพัฒนา บุคลากร (2) จัดท�ำโครงการพัฒนาบุคลากรเสนอให้ผู้สนับสนุน พิจารณา (3) ผู้สนับสนุนอนุมัติงบประมาณ หรือส่งวิทยากร จากภายนอกมาพัฒนาครูในสถานศกึ ษา 2. การบรหิ ารงานวชิ าการ ผู้สนับสนุนสามารถเข้าร่วมพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา การจดั การเรยี นรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ใหส้ อดคลอ้ ง กบั ความตอ้ งการของชมุ ชน ผปู้ กครอง นกั เรยี น และบรบิ ทของสถานศกึ ษา รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจสังคมและความก้าวหน้าของโลก ภายใต้กรอบหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2556 หลักสูตร ประกาศนียบัตรวชิ าชพี ช้ันสงู พุทธศกั ราช 2557 ท้งั น้ี ผสู้ นับสนุนสามารถ กำ� หนดหลกั สตู รสถานศกึ ษาในสว่ นรายวชิ าเพม่ิ เตมิ กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น และกิจกรรมอ่ืน รวมทั้งการจัดซื้อหนังสือและสื่อการเรียนรู้เพิ่มเติม ที่เป็นการพัฒนาคุณภาพนักเรียน ให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ร่วมกัน ระหว่างสถานศึกษากับผู้สนับสนุน และผ่านความเห็นชอบของ คณะกรรมการสถานศกึ ษา ดงั นี้ 21

ค่มู ือการปฏิบัติงานโครงการโรงเรียนร่วมพฒั นา 2.1 การพัฒนาหลักสูตร การจัดการเรียนรู้ ผู้สนับสนุน ร่วมกับสถานศึกษาพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับความต้องการของชุมชน ผู้ปกครอง ผู้เรียน และบริบทของสถานศึกษา โดยส่งเสริมทักษะ วิชาการ ทักษะชีวิต เช่น วินัย คุณธรรม จริยธรรม และการไม่ทุจริต และทักษะอาชีพ เพ่ือเตรียมความพร้อมให้ผู้เรียนในอนาคตด้านต่าง ๆ เชน่ ดา้ นการเกษตร ด้านธรุ กจิ ดา้ นกีฬา ด้านการท่องเท่ียว ดา้ นการพยาบาล ด้านการเป็นครู เป็นต้น 2.2 ผู้สนับสนุนให้การสนับสนุนแหล่งเรียนรู้นอกสถานที่ เช่น สถานประกอบการ สถานศึกษาพ่ีเล้ียง เพ่ือให้ผู้เรียนได้รับ ประสบการณ์ตรง แลกเปลี่ยนเรยี นรู้และสรา้ งเครอื ขา่ ย 2.3 ผู้สนับสนุนให้การสนับสนุนการน�ำนวัตกรรมและ เทคโนโลยีมาใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน เพ่ือให้สอดคล้อง กับการพัฒนาทักษะของผู้เรียนในศตวรรษท่ี 21 และแนวนโยบาย THAILAND 4.0 3. การบริหารงบประมาณ สถานศึกษาจะต้องเก็บรักษาเงินทุนจากผู้สนับสนุนไว้ในบัญช ี ซึ่งแยกต่างหากจากบัญชีงบประมาณจากภาครัฐ ของสถานศึกษานั้น ๆ และมีการระบุวัตถุประสงค์ของเงินทุนสนับสนุนให้ชัดเจนรวมถึง มีการควบคุมการใช้จ่ายของเงินทุนดังกล่าวให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษา และมีการจัดท�ำบัญช ี 22

คมู่ อื การปฏิบตั ิงานโครงการโรงเรียนรว่ มพฒั นา ให้ตรงกับมาตรฐานการบัญชี มีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได ้ โดยผสู้ นบั สนนุ สามารถตรวจสอบการใชเ้ งนิ ทนุ ดงั กลา่ วได้ ทง้ั นี้ ในสว่ นของ งบประมาณจากภาครัฐยงั คงเปน็ ไปตามระเบียบงบประมาณของทางราชการ 4. การบรหิ ารงานทั่วไป ผูส้ นับสนนุ สามารถให้ความช่วยเหลือสถานศกึ ษาในด้านตา่ ง ๆ เช่น ส่งเสริมสนับสนุนและประสานการจัดการศึกษาของบุคคล ชุมชน องค์กร หน่วยงานและสถาบันสังคมอื่นท่ีจัดการศึกษา ส่งเสริมสนับสนุน การพัฒนาระบบเครือข่ายข้อมูลสารสนเทศ ปรับปรุงสภาพแวดล้อม ให้เอ้ือต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน การเป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชน รวมทั้ง พัฒนาสถานศกึ ษาใหเ้ ป็นสถานศึกษาเตรยี มอนาคต เป็นต้น บทบาทหน้าทข่ี องภาคส่วนที่เกย่ี วขอ้ ง บทบาทหนา้ ท่ขี องแตล่ ะภาคสว่ น ความรว่ มมอื ในการด�ำเนนิ งานโครงการน้ี กระทรวงศึกษาธกิ าร และผู้สนับสนุนตกลงท่ีจะร่วมกันผลักดันโครงการอย่างเต็มก�ำลัง ความสามารถ และจะใชก้ ลไกการหารอื รว่ มกนั ในการแกไ้ ขประเดน็ ปญั หา และความท้าทายต่าง ๆ ท่ีอาจเกิดข้ึนระหว่างการด�ำเนินโครงการ ท้ังน้ี ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงร่วมกันให้มีการระบุบทบาทหน้าท่ีหลักของแต่ละฝ่าย ดงั นี้ 23

คูม่ อื การปฏิบัตงิ านโครงการโรงเรียนรว่ มพฒั นา 1. บทบาทหลกั ของผ้สู นับสนนุ 1.1 รว่ มการบรหิ ารจดั การสถานศกึ ษา รวมทง้ั เปน็ ทป่ี รกึ ษา และ/หรอื กรรมการ ในคณะกรรมการสถานศกึ ษา 1.2 สนับสนุนทรัพยากร และงบประมาณส่วนเพิ่มให้กับ สถานศึกษาในความสนบั สนนุ ตามความเหมาะสม 1.3 เปน็ ผนู้ ำ� ในการวางแผนพฒั นาสถานศกึ ษา ซง่ึ ครอบคลมุ ถึงการพฒั นาหลักสตู รและกิจกรรมภายในสถานศกึ ษา การบริหารจดั การ บุคลากร ตลอดจนแนวทางการวดั ผลความส�ำเรจ็ ของสถานศึกษา 1.4 ร่วมพัฒนาและประเมินผลส�ำเร็จของโครงการพัฒนา สถานศึกษานั้น รวมถึงผลงานของบุคลากรของสถานศึกษา ตลอดจน อาจจะพจิ ารณาผลตอบแทนส่วนเพมิ่ แกบ่ คุ ลากร 1.5 สื่อสารกับคณะกรรมการโครงการ และผู้มีส่วนได ้ ส่วนเสียของสถานศึกษาภายใต้การสนับสนุนอย่างสม�่ำเสมอ เพื่อให้เกิด ความเขา้ ใจอันดี และรว่ มกนั ป้องกนั และแก้ไขอปุ สรรคในการดำ� เนินโครงการ 2. บทบาทหลกั ของกระทรวงศกึ ษาธิการ 2.1 กำ� หนดนโยบาย หลกั การโครงการโรงเรยี นรว่ มพฒั นา 2.2 ตั้งคณะท�ำงานสนับสนุนโครงการซึ่งท�ำหน้าท่ีศึกษา และปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบต่างๆ ที่จะอ�ำนวยความสะดวกในการ ดำ� เนินโครงการ 24

คู่มือการปฏิบัตงิ านโครงการโรงเรยี นรว่ มพัฒนา 2.3 บริหารจัดการกระบวนการแต่งต้ังและโยกย้าย บุคลากรของสถานศึกษาในโครงการตามค�ำร้องขอที่มีเหตุผลอันสมควร จากคณะกรรมการสถานศึกษาของสถานศกึ ษาน้นั ๆ 2.4 จดั ทำ� บนั ทกึ ความเขา้ ใจวา่ ดว้ ยความรว่ มมอื การดำ� เนนิ โครงการโรงเรยี นรว่ มพัฒนา 2.5 ส่ือสารประชาสัมพันธ์โครงการในเชิงรุกกับผู้อ�ำนวยการ สถานศกึ ษา ครู ผเู้ รยี น ผสู้ นบั สนนุ และชมุ ชน รวมถงึ สอื่ สารประชาสมั พนั ธ์ โครงการ เป็นการท่ัวไปเพ่ือให้เกิดความเข้าใจอันดี และเสริมสร้าง ความรว่ มมอื อยา่ งต่อเนอ่ื ง 2.6 จัดการประชุมของคณะกรรมการโครงการและ คณะท�ำงานทุกคณะ รวมทั้งการประชุมร่วมกับผู้สนับสนุนและ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอื่น ๆ เพื่อติดตามความก้าวหน้าของโครงการและ การรายงานผลการด�ำเนินงาน อีกทั้งให้เกิดการเรียนรู้และแก้ไขปัญหา รว่ มกัน 2.7 ด�ำเนินการติดตามความก้าวหน้า ประเมินผล ความสำ� เรจ็ วจิ ยั และถอดบทเรยี นของโครงการ รวมถงึ จดั ใหม้ งี บประมาณ ในการตดิ ตาม ประเมินผล วจิ ยั และถอดบทเรียน 25

คมู่ ือการปฏบิ ตั ิงานโครงการโรงเรียนรว่ มพัฒนา 3. บทบาทหลักของส�ำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษา ขนั้ พนื้ ฐาน/ส�ำนักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา/ส�ำนักงาน คณะกรรมการการอุดมศึกษา 3.1 แต่งตั้งคณะกรรมการด�ำเนินงานระดับส�ำนักงาน คณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน/สำ� นกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา/ สำ� นกั งานคณะกรรมการการอดุ มศกึ ษา เพื่อดำ� เนนิ งานโครงการปรับปรุง แกไ้ ขกฎระเบยี บตา่ ง ๆ ให้การบรหิ ารจัดการคลอ่ งตัวและเป็นอสิ ระ 3.2 สนับสนุนการด�ำเนินงานโครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา และจัดท�ำรายละเอียดสถานศึกษาท่ีเข้าร่วมโครงการท่ีผ่านการคัดเลือก จากผสู้ นับสนนุ 3.3 บรหิ ารจดั การกระบวนการแตง่ ตง้ั และโยกยา้ ยบคุ ลากร ของสถานศกึ ษาในโครงการตามคำ� ร้องขอที่มีเหตผุ ลอนั สมควร 3.4 ก�ำหนดแนวทางการด�ำเนินงานโครงการ การนิเทศ กำ� กบั ตดิ ตามและประเมนิ ผลโครงการ 3.5 ประชาสัมพันธ์โครงการอย่างต่อเน่ือง เพ่ือสร้าง การรบั รขู้ องสงั คม และสรา้ งขวญั กำ� ลงั ใจแกส่ ถานศกึ ษาทเ่ี ขา้ รว่ มโครงการ 3.6 เก็บรวบรวมข้อมูลเพ่ือประมวลความก้าวหน้า อย่างต่อเน่อื ง และรายงานผลการด�ำเนนิ โครงการ 26

คูม่ อื การปฏิบัตงิ านโครงการโรงเรยี นรว่ มพฒั นา 4. บทบาทหลักของหน่วยงานหรือสถาบันระดบั จงั หวดั / ระดับพ้นื ท่ี 4.1 อำ� นวยความสะดวกและสนบั สนนุ สง่ เสรมิ สถานศกึ ษา ทเ่ี ขา้ รว่ มโครงการ 4.2 ใหค้ วามรว่ มมอื ในการตดิ ตามและประเมนิ ผลโครงการ ของสถานศึกษาในสงั กัด 4.3 ประชาสัมพนั ธ์ สร้างการรบั รู้ และสรา้ งขวญั กำ� ลงั ใจ แก่สถานศกึ ษาท่ีเขา้ ร่วมโครงการอยา่ งตอ่ เนอื่ ง 5. บทบาทหน้าทข่ี องคณะทำ� งาน Task force โครงการ โรงเรยี นร่วมพฒั นา เพื่อการด�ำเนินโครงการโรงเรยี นรว่ มพัฒนา 5.1 ปลดล็อคกฎระเบียบเกี่ยวกับการบริหารจัดการ การบรหิ ารงานงบประมาณ การบรหิ ารงานบคุ คล การบรหิ ารงานวชิ าการ และบรหิ ารงานท่วั ไป 5.2 สนับสนุนการปฏิบัติงานของคณะกรรมการพัฒนา นวตั กรรมการบรหิ ารจดั การสถานศกึ ษาในรูปแบบ Partnership School เพอ่ื รองรบั การขบั เคลอ่ื นการปฏริ ปู การศกึ ษาตามนโยบาย THAILAND 4.0 5.3 วางระบบการบริหารการเปลี่ยนแปลงและขยายผล ความส�ำเรจ็ 5.4 ปฏบิ ัติหนา้ ท่ีอนื่ ๆ ตามทไี่ ดร้ ับมอบหมาย 27

ค่มู อื การปฏบิ ัตงิ านโครงการโรงเรยี นรว่ มพัฒนา 6. บทบาทหนา้ ท่ีของสถานศึกษาพ่ีเลย้ี ง (สถานศกึ ษา เอกชน/รฐั สถานศกึ ษานานาชาต)ิ 6.1 ให้การสนับสนุนการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา การจดั การเรียนการสอนและส่ือการเรียนรู้ 6.2 ใหก้ ารสนบั สนนุ สอ่ื การเรยี นรนู้ อกสถานทโ่ี ดยสง่ เสรมิ ประสบการณต์ รงใหน้ กั เรียนได้แลกเปลี่ยนเรยี นรู้ 6.3 ให้การสนับสนุนบุคลากรเฉพาะทางตามความจ�ำเป็น ขาดแคลน และความตอ้ งการของสถานศกึ ษา 6.4 ร่วมกันแต่งตั้งคณะกรรมการผู้รับผิดชอบการนิเทศ อยา่ งเปน็ ระบบและต่อเนอื่ ง 6.5 ส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาวิเคราะห์และ การจัดทำ� วจิ ยั เพ่ือการบรหิ ารและการพัฒนาคณุ ภาพผเู้ รียน 6.6 ร่วมกันพัฒนาครูให้มีความรู้ความสามารถผลิต จัดหาและใช้ส่ือนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้จัดการเรียนการสอน ได้เตม็ ประสทิ ธภิ าพ 28

บทท่ี 4 การติดตาม ประเมนิ ผลและวิจยั การติดตาม ประเมินผลและวิจัย โครงการพัฒนานวัตกรรม การบรหิ ารจดั การสถานศกึ ษาในรปู แบบโรงเรยี นรว่ มพฒั นา ไดก้ ำ� หนดใหม้ ี คณะท�ำงานการติดตาม ประเมินผลและวิจัย มีหน้าท่ีด�ำเนินการติดตาม และรายงานความกา้ วหนา้ ประเมินผลความสำ� เรจ็ ของโครงการ และวิจัย ตลอดจนถอดบทเรยี น โดยพจิ ารณาประเดน็ วธิ กี าร ผมู้ ีบทบาท ความถ่ี ของระยะเวลา และการรายงานผลของการติดตาม ประเมินผลและวิจัย ในทกุ ระดบั ในการติดตามประเมินผลและวิจัยเพื่อส่งเสริมสนับสนุน โครงการพฒั นานวตั กรรมการบรหิ ารจดั การสถานศกึ ษาในรปู แบบโรงเรยี น ร่วมพัฒนาให้มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล โดยมีแนวทางการติดตาม ประเมินผลและวจิ ยั ดงั น้ี 29

ค่มู อื การปฏบิ ตั ิงานโครงการโรงเรยี นรว่ มพฒั นา 1. ปรัชญาในการติดตาม ประเมินผลและวจิ ัย 1.1 ด�ำเนินการในรูปแบบกัลยาณมิตร ที่มุ่งส่งเสริมจุดเด่น และพัฒนาจุดด้อย พร้อมทั้งให้ค�ำแนะน�ำ โดยยึดหลักเก้ือกูล ช่วยเหลือ ส่งเสรมิ สนบั สนุน และพฒั นา เพ่อื ให้เกิดประโยชนส์ ูงสดุ 1.2 ใช้หลักบูรณาการ เพ่ือลดความซ้�ำซ้อนท้ังผู้ประเมิน และผ้รู บั การประเมนิ เพอ่ื ไม่เพิม่ ภาระงานให้กบั สถานศกึ ษา 1.3 ด�ำเนินการให้ตรงตามวัตถุประสงค์ของโครงการ และเปา้ หมายการพฒั นาอยา่ งครบถว้ น เพอื่ การพฒั นาใหเ้ กดิ ประสทิ ธภิ าพ ในการบริหารจัดการ และเป็นการกระตุ้นให้สถานศึกษามีการพัฒนา คณุ ภาพการศึกษาอย่างต่อเนอื่ ง ครอบคลมุ ทั้งด้านปรมิ าณ และคณุ ภาพ 1.4 ใชว้ ธิ กี ารตดิ ตาม และประเมนิ ผลดว้ ยวธิ กี ารทหี่ ลากหลาย เหมาะสมกบั สภาพการณ์ ซง่ึ อาจจะเปน็ วธิ กี าร เชงิ ปรมิ าณ หรอื เชงิ คณุ ภาพ ในรูปแบบของการส�ำรวจ การสัมภาษณ์ การถอดบทเรียน หรือเทคนิค บันไดคุณภาพชีวติ เปน็ ตน้ 2. คำ� นยิ ามท่ีเกีย่ วข้อง “การตดิ ตาม” หมายถงึ การรวบรวมขอ้ มลู การปฏบิ ตั กิ ารตา่ ง ๆ ของโครงการ อย่างเป็นระบบจากทุกแหล่งท่ีเหมาะสม เพื่อรายงาน ความก้าวหนา้ ในการด�ำเนนิ งาน 30

คมู่ ือการปฏิบัตงิ านโครงการโรงเรยี นรว่ มพัฒนา “การประเมินผล” หมายถึง กระบวนการวิเคราะห์ข้อมูล อย่างเปน็ ระบบ โดยน�ำผลมาใช้ในการประเมนิ ความสำ� เร็จของการด�ำเนินงาน ว่าบรรลุวัตถุประสงค์ที่ต้ังไว้หรือไม่ โดยมุ่งเน้นการประเมินผลทั้งเชิง ปริมาณและคณุ ภาพ “การวจิ ัย” หมายถึง กระบวนการให้ได้มาซ่ึงข้อมลู ทเี่ ช่อื มโยง กบั ผลลพั ธข์ องการดำ� เนนิ โครงการอยา่ งเปน็ ระบบ เพอ่ื สะทอ้ นความสำ� เรจ็ ของโครงการและบ่งช้ีถึงคุณค่าของโครงการ ว่าโครงการที่ได้ด�ำเนินการ ไปแล้วน้ัน บรรลุผลตามวัตถุประสงค์ของโครงการมากน้อยเพียงใด และเป็นแนวทางในการตดั สนิ ใจเกี่ยวกบั การปรับปรุงโครงการในอนาคต “การถอดบทเรียน” หมายถึง การวิเคราะห์ ทบทวน ประสบการณ์และสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการด�ำเนินโครงการ แล้วสรุปความรู ้ วิเคราะห์เหตุปัจจัยท่ีท�ำให้การด�ำเนินโครงการประสบความส�ำเร็จ หรอื ลม้ เหลว เพอ่ื การจดั การความรู้ และใหข้ อ้ มลู ปอ้ นกลบั ตอ่ คณะทำ� งาน เกี่ยวกับผลการด�ำเนินโครงการ เพ่ือเป็นต้นแบบในการด�ำเนินโครงการ และน�ำสง่ิ ทีไ่ ดไ้ ปตอ่ ยอด และขยายผลไปยงั โครงการอื่นๆ ในอนาคต “ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย” หมายถึง บุคคล กลุ่มบุคคลหรือ หน่วยงานที่ได้รับผลกระทบ หรืออาจได้รับผลกระทบจากการด�ำเนินการ และความส�ำเร็จของโครงการ เช่น ผู้เรียน ผู้ปกครอง ผู้น�ำระดับท้องถิ่น ชุมชน ผู้สนับสนนุ และสถานศึกษาพ่เี ลย้ี ง 31

ค่มู ือการปฏิบัตงิ านโครงการโรงเรยี นรว่ มพฒั นา 3. ระดบั และขอบเขตการติดตาม ประเมนิ ผลและวิจัย สถานศึกษาข้ันพ้ืนฐานต้องได้รับการประเมินทั้งภายในและ ภายนอก มีขั้นตอน แนวทางการติดตาม ประเมินผลและวิจัย โครงการ โรงเรียนรว่ มพัฒนา ดังน้ี สมศ. 5 ปี/ครัง้ (สำ� นักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคณุ ภาพการศกึ ษา) คณะกรรมการติดตาม ประเมนิ ผลและวิจยั 1 ป/ี ครง้ั Partnership School การประเมนิ คุณภาพภายใน ทำ� อย่างตอ่ เนื่อง ของสถานศกึ ษา (Internal Quality Audit) การตดิ ตาม ประเมนิ ผลและวิจยั แบง่ เปน็ 2 ระดบั ได้แก่ ระดบั สถานศึกษา และระดบั โครงการ 3.1 ระดับสถานศกึ ษา ขอบเขตของการติดตาม ประเมินผลและวิจัย ระดับ สถานศึกษาให้เป็นไปตามเป้าหมายการพัฒนา วัตถุประสงค์โครงการ และประเดน็ ส�ำคัญในการบริหารจดั การโรงเรียนรว่ มพัฒนา 32

คู่มอื การปฏิบตั ิงานโครงการโรงเรยี นรว่ มพฒั นา ท่ี รายการ การ การ การวจิ ัย ตดิ ตาม ประเมนิ ผล 1 ผลการด�ำเนินงานตามแผนพัฒนา √ และแผนปฏบิ ตั กิ ารของสถานศกึ ษา 2 ผลการดำ� เนินงานของสถานศกึ ษา √ เป็นไปตาม วิสัยทศั น์ ปรชั ญา และเปา้ หมาย 3 การมสี ว่ นร่วมของภาคสว่ นตา่ งๆ √ ในการบรหิ ารจัดการ รว่ มพัฒนา และสนบั สนนุ การศึกษา 4 การปรับปรุงองคป์ ระกอบของ √ คณะกรรมการสถานศกึ ษา 5 การพฒั นาคุณภาพและรงั สรรค์ √ นวตั กรรมการบริหารจดั การ ของสถานศึกษา เหมาะกับความต้องการ ของผู้เรยี น บรบิ ททางเศรษฐกิจสงั คม ในแตล่ ะพน้ื ท่ี ใหส้ ามารถยกระดบั ผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนท้งั ในทกั ษะ วชิ าการ ทกั ษะอาชพี และทักษะชวี ิต เพอื่ เตรียมความพรอ้ มสำ� หรบั อนาคต ใหแ้ กผ่ เู้ รยี น 33

คู่มือการปฏบิ ตั ิงานโครงการโรงเรยี นร่วมพัฒนา ท่ี รายการ การ การ การวิจัย ตดิ ตาม ประเมนิ ผล 6 ปรัชญาของโรงเรยี น √ วสิ ยั ทศั น์และพันธกจิ √ √ วตั ถุประสงค์ √ √ √ การวางแผน √ √ เครือขา่ ย √ √ การนำ� มาปฏิบตั ิ √ √ √ 7 การบรหิ ารองคก์ ร √ √ โครงสร้างองคก์ รและธรรมาภบิ าล √ การพฒั นาผู้บริหาร √ การพฒั นาครแู ละบุคลากร √ การสอ่ื สารภายในและภายนอก √ 8 งบประมาณทีไ่ ด้รบั (รัฐบาล ผู้สนับสนนุ ชมุ ชน และอืน่ ๆ) 9 การมสี ่วนร่วมในการบรหิ ารหลกั สูตร (หลักสตู ร เนื้อหาและการวางแผน กิจกรรมในหลกั สูตร กิจกรรม เสรมิ หลักสตู รการบนั ทกึ การเรียน การสอน) 34

ค่มู ือการปฏบิ ตั ิงานโครงการโรงเรียนรว่ มพัฒนา ท่ี รายการ การ การ การวิจัย ตดิ ตาม ประเมนิ ผล 10 การบริหารความเสีย่ ง สถานศกึ ษาปลอดภัย √ ความรุนแรงประเภทตา่ ง ๆ √ √ √ การปอ้ งกนั และแก้ไข √√ 11 การพัฒนาสถานศกึ ษาให้เป็น √√ แหลง่ เรียนรตู้ ลอดชีวติ และศูนยก์ ลาง การพัฒนาทักษะและคุณภาพชวี ติ ของชมุ ชน 35

คู่มือการปฏบิ ตั ิงานโครงการโรงเรยี นรว่ มพัฒนา 3.2 ระดบั โครงการ ขอบเขตของการติดตาม ประเมินผลและวิจัย ระดับ โครงการให้เป็นไปตามเป้าหมายการพัฒนา 4 ด้าน และวัตถุประสงค์ โครงการ 4 ข้อ ที่ รายการ การ การ การวจิ ัย ติดตาม ประเมนิ ผล 1 การพัฒนาคณุ ภาพผูเ้ รยี น √ 2 การพัฒนาครู √ 3 การพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา √ 4 การพฒั นาคุณภาพการบรหิ าร √ 5 การมสี ว่ นรว่ มของภาคส่วนตา่ งๆ √ √ ในการบรหิ ารจดั การ รว่ มพัฒนา และสนับสนุนการศึกษา 6 การพฒั นาคณุ ภาพและรังสรรค์ √ นวตั กรรมการบริหารจดั การของสถาน ศึกษาให้สามารถยกระดบั ผลสมั ฤทธิ์ ทางการเรียนและเตรียมความพร้อม สำ� หรับอนาคตให้แกผ่ ู้เรียน 36

ค่มู อื การปฏิบัตงิ านโครงการโรงเรียนรว่ มพฒั นา ท่ี รายการ การ การ การวจิ ยั ติดตาม ประเมนิ ผล 7 การพัฒนาสถานศึกษาให้เป็น √√ แหลง่ เรียนรตู้ ลอดชีวิตของทกุ คน ในชมุ ชนเป็นศนู ยก์ ลางการพัฒนาทักษะ และคณุ ภาพชีวิต 8 สถานศึกษาไดร้ บั โอกาสในการพฒั นา √√ อย่างทั่วถึง นำ� ไปส่กู ารลดความเหล่ือมล�้ำ ทางการศกึ ษา หมายเหต ุ รายละเอียดอยู่ใน “คู่มือการติดตาม ประเมินผลและวิจยั โครงการโรงเรยี นรว่ มพฒั นา” 37



บรรณานุกรม กระทรวงศึกษาธิการ. (2545). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แกไ้ ขเพมิ่ เตมิ (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2545 และ (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ. 2553. กรงุ เทพฯ : องคก์ ารรับส่งสนิ ค้าและพัสดภุ ัณฑ.์ กระทรวงศึกษาธิการ. (2546). พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร พ.ศ. 2546. กรงุ เทพฯ : องค์การรบั ส่ง สนิ คา้ และพสั ดุภณั ฑ.์ กระทรวงศึกษาธิการ. (2546). พระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากร ทางการศกึ ษา พ.ศ. 2546. กรงุ เทพฯ : องค์การรับสง่ สินคา้ และพสั ดุภณั ฑ์. กระทรวงศึกษาธิการ. (2553). พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการ ครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 แก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2551 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2553. กรุงเทพฯ : องคก์ ารรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์. กระทรวงศึกษาธิการ. (2552). ระเบียบกระทรวงศกึ ษาธกิ ารว่าดว้ ยการ รบั เงนิ หรอื ทรพั ยส์ นิ ทมี่ ผี บู้ รจิ าคใหแ้ กส่ ถานศกึ ษา พ.ศ. 2552. สบื ค้นเมอื่ 3 พฤษภาคม 2561. จาก https://docs.google. com/viewer?a=v&pid=sites&srcid=ZGVmYXVsdGRvb WFpbnxwaG90aGlzYW1wYW58Z 3g6NDk1YTRlMGQ4MjE0YzQyMA. 39

คู่มือการปฏบิ ัตงิ านโครงการโรงเรยี นรว่ มพฒั นา กระทรวงการคลัง. (2560). พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและ การบรหิ ารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560. สบื คน้ เม่อื 3 พฤษภาคม 2561. จาก http://www.gprocurement.go.th/wps/wcm/ connect/. กรมสรรพากร. (2547). พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวล รษั ฎากรวา่ ดว้ ยการยกเวน้ รษั ฎากร (ฉบบั ท่ี 420) พ.ศ. 2547. สบื คน้ เมอื่ 3 พฤษภาคม 2561. จาก http://www.rd.go.th/ publish/21455.0.html. กรมสรรพากร. (2548). ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เรื่อง ก�ำหนด หลกั เกณฑ์ วธิ กี าร และเงอื่ นไขเพอื่ การยกเวน้ ภาษเี งนิ ได้ ภาษี มูลค่าเพิม่ ภาษธี ุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ สำ� หรับเงนิ ได้ ท่ีจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายเพ่ือการสนับสนุนการศึกษา. สืบค้น เม่ือ 3 พฤษภาคม 2561. จาก http://www.rd.go.th/ publish/22318.0.html. ส�ำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่ส�ำนักงานเลขาธิการสภา นติ บิ ญั ญตั แิ หง่ ชาต.ิ (2560). รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พุทธศักราช 2560. กรุงเทพฯ : ส�ำนักการพิมพ์ส�ำนักงาน เลขาธกิ ารวฒุ ิสภา. 40

ภาคผนวก กฎหมายและระเบียบที่เกย่ี วขอ้ ง 1. รฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 2. พระราชบญั ญตั กิ ารศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2542 แกไ้ ขเพมิ่ เตมิ (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2545 และ (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ. 2553 3. พระราชบญั ญตั ริ ะเบยี บบรหิ ารราชการกระทรวงศกึ ษาธกิ าร พ.ศ. 2546 4. พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศกึ ษา พ.ศ. 2547 แก้ไขเพิ่มเตมิ (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ. 2551 และแกไ้ ข เพ่ิมเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2553 5. พระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546 6. พระราชบัญญัติการจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหารพัสดุ ภาครฐั พ.ศ. 2560 7. พระราชกฤษฎกี าออกตามความในประมวลรษั ฎากรวา่ ดว้ ย การยกเวน้ รษั ฎากร (ฉบับที่ 420) พ.ศ. 2547 8. ระเบียบส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ว่าด้วยการบริหารจัดการเก่ียวกับเงินรายได้สถานศึกษาขั้นพื้นฐานท่ีเป็น นติ ิบคุ คล ในสังกัดเขตพ้ืนท่กี ารศกึ ษา พ.ศ. 2549 41

คู่มือการปฏิบัติงานโครงการโรงเรยี นรว่ มพฒั นา 9. ประกาศอธบิ ดกี รมสรรพากร เรอ่ื ง กำ� หนดหลกั เกณฑ์ วธิ กี าร และเงื่อนไขเพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพ่ิม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ ส�ำหรับเงินได้ที่จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อการสนับสนุน การศึกษา 10. ระเบยี บกระทรวงศกึ ษาธกิ ารวา่ ดว้ ยการรบั เงนิ หรอื ทรพั ยส์ นิ ทีม่ ผี บู้ รจิ าคให้แก่สถานศกึ ษา พ.ศ. 2552 11. ระเบียบคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐานว่าด้วย การก�ำหนดองค์ประกอบ หลกั เกณฑ์ วธิ ีการสรรหา และจ�ำนวนกรรมการ สถานศึกษาสำ� หรบั สถานศึกษารูปแบบโรงเรียนร่วมพัฒนา พ.ศ. 2561 12. คำ� ส่งั สำ� นกั นายกรัฐมนตรี ที่ สพฐ. 816/2561 เรือ่ ง แต่งต้ัง คณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิบัติรูปเพื่อรองรับการปรับเปล่ียน ตามนโยบาย THAILAND 4.0 13. คำ� สง่ั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ที่ สพฐ. 963/2561 เรอ่ื ง แตง่ ตง้ั ค ณะกรรมการด�ำเนินงานพัฒนานวัตกรรมการบริหารจัดการสถานศึกษา ในรปู แบบ Partnership School 14. คำ� สง่ั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ที่ สพฐ. 764/2561 เรอ่ื ง แตง่ ตงั้ ค ณะทำ� งานการจดั ท�ำแผนปฏิบัตกิ าร (Action Plan) การจดั ท�ำข้อตกลง ความร่วมมือ การประชาสัมพันธ์ การติดตาม ประเมินผล และวิจัย โครงการพฒั นานวตั กรรมการบรหิ ารจดั การศกึ ษา ในรปู แบบ Partnership School (โครงการโรงเรียนรว่ มพฒั นา) 15. คำ� สง่ั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ท่ี สพฐ. 777/2561 เรอ่ื ง แตง่ ตงั้ คณะท�ำงาน Task Force โครงการพัฒนานวัตกรรมการบริหารจัดการ สถานศกึ ษาในรปู แบบ Partnership School “โรงเรยี นรว่ มพฒั นา” 42

คมู่ อื การปฏบิ ตั งิ านโครงการโรงเรียนร่วมพฒั นา กฎหมายและระเบียบท่เี กยี่ วขอ้ งโครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา (Partnership School Project) 1. รัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 54 รัฐต้องด�ำเนินการให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษา เป็นเวลาสิบสองปี ตั้งแต่ก่อนวัยเรียนจนจบการศึกษาภาคบังคับ อย่างมีคณุ ภาพโดยไม่เกบ็ คา่ ใช้จ่าย รัฐต้องด�ำเนินการให้เด็กเล็กได้รับการดูแลและพัฒนาก่อนเข้า รับการศกึ ษาตามวรรคหน่งึ เพื่อพัฒนารา่ งกาย จติ ใจ วินยั อารมณ์ สงั คม และสติปัญญาให้สมกับวัย โดยส่งเสริมและสนับสนุนให้องค์กรปกครอง ส่วนทอ้ งถนิ่ และภาคเอกชนเขา้ มีส่วนร่วมในการดำ� เนินการดว้ ย รฐั ตอ้ งดำ� เนนิ การใหป้ ระชาชนไดร้ บั การศกึ ษาตามความตอ้ งการ ในระบบต่างๆ รวมทั้งส่งเสริมให้มีการเรียนรู้ตลอดชีวิต และจัดให้มีการ รว่ มมือกันระหวา่ งรฐั องค์กรปกครองสว่ นท้องถ่นิ และภาคเอกชนในการ จัดการศึกษาทุกระดับ โดยรัฐมีหน้าท่ีด�ำเนินการ ก�ำกับ ส่งเสริม และ สนับสนุนให้การจัดการศึกษาดังกล่าวมีคุณภาพและได้มาตรฐานสากล ทง้ั นี้ ตามกฎหมายว่าดว้ ยการศกึ ษาแหง่ ชาตซิ ง่ึ อยา่ งนอ้ ยตอ้ งมบี ทบญั ญตั ิ เกี่ยวกับการจัดท�ำแผนการศึกษาแห่งชาติ และการด�ำเนินการและตรวจสอบ การดำ� เนินการใหเ้ ปน็ ไปตามแผนการศึกษาแห่งชาติดว้ ย การศึกษาทั้งปวงตอ้ งมุ่งพฒั นาผเู้ รียนให้เป็นคนดี มีวนิ ัย ภมู ิใจ ในชาติ สามารถเชีย่ วชาญได้ตามความถนดั ของตน และมคี วามรบั ผดิ ชอบ ตอ่ ครอบครวั ชมุ ชน สังคม และประเทศชาติ 43