Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 004-ไม้ดอกไม้ประดับในหุบเขาลำพญา

004-ไม้ดอกไม้ประดับในหุบเขาลำพญา

Published by Chanon Meechok, 2023-08-06 12:58:57

Description: 004-ไม้ดอกไม้ประดับในหุบเขาลำพญา
เรียบเรียงโดย นาย ชานนท์ มีโชค เลขที่ 2 ม.6/5

Search

Read the Text Version

37 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา

38 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา ผกั กดู หิน ชื่อวิทยาศาสตร์ Selaginella sp. ช่ือวงศ์ SELAGINELLACEAE ชื่ออืน่ - ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร ์ เปน็ พืชใกลเ้ คยี งเฟนิ ลำตน้ เป็นเหงา้ อยู่ใต้ดนิ เส้นผ่าศูนยก์ ลาง 1.0-1.5 เซนติเมตร หนง่ึ เหง้าจะ มกี ้านแขนงออกมา 1 เซนติเมตร ใบ ใบประกอบแบบขนนกหลายชั้น โดยจะออกสลับกันเป็นคู่ ๆ ใบกว้าง 4.0-7.0 เซนตเิ มตร ยาว 8.0-10.0 เซนติเมตร ใต้ใบไมม่ ีขน ผิวใบขรขุ ระ ปลายใบมน ขอบใบหยัก ใบสีเขียวเข้ม ปลายใบสเี ขยี วอ่อน สโตรบีลัส อยู่บริเวณส่วนปลายใบ โดยจะแตกออกเป็นพู่ ยาว 1.0-2.0 เซนติเมตร แหลง่ ทีพ่ บ ขน้ึ บนดินใกลแ้ หล่งน้ำ แสงรำไร การขยายพันธ์ุ สปอร์ แยกเหงา้ ลกั ษณะเดน่ ใบ

39 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา

40 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา ผักควา ชอ่ื วทิ ยาศาสตร ์ Selaginella ostenfeldii Hieron. ชอื่ วงศ ์ SELAGINELLACEAE ชื่ออื่น - ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ เปน็ พืชใกลเ้ คยี งเฟิน ลำต้น ขนาดเล็กเล้ือยใต้ดิน ลำต้นเหนือดินต้ังตรง ปกคลุมด้วยใบเกล็ด สีน้ำตาล แตกก่ิงก้านแบบขนนกออกเป็นพุ่มเลก็ ๆ สูง 30-40 เซนติเมตร ใบ ใบประกอบขนนกหลายชั้น เรยี งสลบั ใบย่อยแผ่ออกเป็นแผงรอบ ๆ ตน้ ใบยอ่ ยมี 2 ลกั ษณะ คอื ใบยอ่ ยทีต่ ิดกบั กา้ นใบย่อย มีขนาดเลก็ สเี ขียวถงึ สเี ขียวเขม้ รูปขอบขนาน ปลายใบแหลม กว้าง 2.0-7.0 เซนติเมตร ยาว 4.0-15.0 เซนติเมตร ใบย่อยอีกชนิดหน่ึงติดกับก้านใบเล็ก มีขนาดเล็กกว่า รูปไข่เกือบขอบขนาน ปลายใบ เรียวแหลมคอดเล็กนอ้ ย โคนใบมน สโตรบิลสั เกดิ บรเิ วณปลายใบเรียวแหลมเปน็ เสน้ ยาว 1.0-1.5 มลิ ลเิ มตร แหลง่ ทีพ่ บ ข้นึ บนเนินดนิ ที่ลาดชนั แสงรำไร การขยายพนั ธุ์ สปอร ์ ลกั ษณะเดน่ แผ่นใบ

41 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา

42 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา ผกั นกยูง ช่ือวิทยาศาสตร ์ Selaginella siamensis Hieron. ชอื่ วงศ์ SELAGINELLACEAE ช่อื อ่นื - ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นพชื ใกลเ้ คยี งเฟนิ ลำตน้ ทอดขนานกบั พนื้ ดนิ ชยู อดตง้ั ขนึ้ ลำตน้ แตกกง่ิ สาขาแผอ่ อกทางแนวราบ และมรี ากจำนวนมากงอกออกมาจากลำต้น ใบ ใบประกอบแบบขนนก 3 ช้นั แผ่รูปสามเหล่ยี มกง่ึ ขอบขนาน ปลายแหลม ใบเหลือบเป็นสีน้ำเงินปนเขียว ใบบริเวณแกนลำต้นเป็นสีน้ำตาลแดง ใบย่อยด้านบน รปู ไขแ่ กมขอบขนาน กวา้ ง 2.0-3.0 มลิ ลิเมตร ยาว 6.0-8.0 มิลลิเมตร ปลายแหลม หรือเป็นติ่งแหลม โคนมนรูปหัวใจ ขอบใบเรียบ มีสีเขียวออกแดง ใบย่อยด้านล่าง เหมอื นด้านบน แต่มีขนาดเล็กและปลายแหลมยาวกว่า สโตรบิลัส อยู่บริเวณส่วนปลายใบโดยจะแตกออกเป็น 2 พู ยาว 1.0-1.5 เซนตเิ มตร แหลง่ ท่พี บ พบอยู่บรเิ วณพ้นื ดนิ และซอกหนิ ใกลธ้ ารน้ำ แสงรำไร การขยายพนั ธุ์ สปอร์ แยกเหงา้ ลักษณะเด่น แผ่นใบ

43 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา

44 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา เฟนิ Selliguea sp. ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ Selliguea sp. ชื่อวงศ์ POLYPODIACEAE ช่ืออ่นื - ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เปน็ เฟนิ ทข่ี นึ้ ตามซอกหิน ไรโซม ตั้งตรงส้นั มสี ดี ำ เส้นผ่าศนู ยก์ ลาง 3.0-5.0 เซนตเิ มตร ปกคลมุ ด้วย เกล็ดยาวเหมือนเส้นขนแตแ่ ขง็ ใบ ใบเด่ียว รูปขอบขนาน กว้าง 6.0-8.0 เซนติเมตร ยาว 15-25 เซนติเมตร แผ่นใบหนาเหมือนแผ่นหนัง ผิวเรียบ ขอบใบเรียบ ปลายสอบแหลมเป็น รูปลิ่ม โคนใบสอบเรียว เม่ือแห้งใบจะเปล่ียนเป็นสีน้ำตาลหรือสีแดง มองเห็นเส้นใบ หลักชัดเจน ส่วนเส้นใบย่อยไม่ชัดเจน เส้นใบโค้งเข้าหากันท่ีปลายเส้นใบ ก้านใบ ยาว 8.0-12.0 เซนติเมตร กลุ่มอบั สปอร์ เกดิ ใต้ใบ มีลักษณะเป็นจดุ สดี ำ กระจายท่วั ไป แหล่งท่พี บ พบเกาะอยูต่ ามก้อนหิน หรือโคนตน้ ไม้ แสงรำไร การขยายพันธ์ุ สปอร์ ลกั ษณะเดน่ ทรงต้น

45 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา

46 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา ชอ่ื วิทยาศาสตร์ เฟนิ Tectaria sp. Tectaria sp. ชอื่ วงศ์ DRYOPTERIDACEAE ช่ืออนื่ - ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เปน็ เฟินดนิ ไรโซม ส้ัน อวบ อยู่ใต้ดิน สีดำ เส้นผ่าศูนย์กลาง 8.0-10.0 เซนติเมตร มขี นปกคลุมท่ัวลำต้น ขนสีดำ ยาว 0.5 เซนติเมตร ใบ ใบประกอบแบบขนนกปลายคี่ เรียงตรงข้าม ใบย่อยรูปหอก กว้าง 4.0-7.0 เซนตเิ มตร ยาว 15-25 เซนติเมตร จำนวน 2-5 คู่ ใบย่อยคูล่ ่างสุดแตกเปน็ สองแฉกปลายใบแหลมยาว โคนใบเบ้ียว ขอบใบเป็นคลื่น เน้ือใบคล้ายแผ่นหนัง ก้านใบเปน็ แถบนนู ตามยาว โคนอวบเหล่ยี ม สีนำ้ ตาลยาว 25-30 เซนตเิ มตร กลุ่มอับสปอร์ เกิดใต้ใบลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาล เรียงตัวเป็นแถวไม่เป็น ระเบยี บระหว่างเส้นใบ แหลง่ ทพ่ี บ ขึ้นบนดินร่วนปนทราย บรเิ วณที่มรี ม่ เงา การขยายพนั ธุ์ สปอร์ ลกั ษณะเด่น ทรงตน้ และใบ

47 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา

48 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา เฟนิ Thelypteris gigantea ชอ่ื วิทยาศาสตร์ Thelypteris gigantea ชอ่ื วงศ์ THELYPTERIDACEAE ชื่ออ่ืน - ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ เปน็ เฟินดนิ ลำตน้ เป็นเหงา้ เลื้อย สีน้ำตาลเข้ม ขนาดเส้นผ่าศูนยก์ ลาง 1.5 เซนตเิ มตร ใบ ใบเดย่ี ว รปู ใบหอก กวา้ ง 5.0-6.5 เซนติเมตร แผ่นใบหนา ผวิ ใบด้านบน เรียบเป็นมัน ด้านล่างมีขนปกคลุมเล็กน้อย ขอบใบเป็นคล่ืน ปลายใบเรียวแหลม โคนใบสอบเรียว เส้นใบเหน็ ชัดเจน ก้านใบสนี ำ้ ตาล ยาว 2-6 เซนติเมตร อบั สปอร์ เกดิ ใตใ้ บ เปน็ แถบยาวขนาดกวา้ ง 0.2-0.4 เซนตเิ มตร เรยี งเปน็ แถบ จากเส้นกลางใบไปทางขอบใบ โดยแต่ละแถบจะอยู่ระหว่างเส้นใบ สปอร์สีเหลือง ออกสีนำ้ ตาล แหล่งท่พี บ ข้ึนบนดินทีโ่ ลง่ แสงรำไร การขยายพนั ธ์ุ สปอร์ ลกั ษณะเด่น ใบ

49 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา

50 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา ชอ่ื วทิ ยาศาสตร ์ เฟนิ กา้ นดำใบรม่ Adiantum polyphyllum Willd. ช่อื วงศ ์ PARKERIACEAE ชื่ออ่ืน - ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นเฟินดนิ ไรโซม เป็นเหง้าใต้ดินสีน้ำตาล เส้นผ่าศูนย์กลาง 1.0-1.5 เซนติเมตร มีขน ปกคลุม ใบ ใบประกอบแบบขนนก 2 ชั้น เรียงสลับระนาบเดียว และแผ่ก่ิงออก รอบด้านคล้ายร่ม ใบย่อยรูปสามเหล่ียม กว้าง 0.5-1.5 เซนติเมตร ยาว 1.0-4.0 เซนติเมตร จำนวน 19-27 ใบ แผ่นใบหนา ผวิ ใบเรียบเปน็ มัน ขอบใบเรยี บ ปลายใบ หยักเวา้ โคนใบหยักเว้า ใบออ่ นมสี ีชมพูออกแดง กา้ นใบยาว 20-45 เซนตเิ มตร กลมุ่ อับสปอร์ เกดิ ตามขอบใบ เป็นเสน้ สีน้ำตาล ยาว 3 มลิ ลิเมตร เรียงตัว เปน็ เส้นตามขอบใบ แหลง่ ท่พี บ ข้นึ บนดินรว่ นปนทราย แสงรำไร การขยายพันธุ์ สปอร์ ลักษณะเด่น ใบ

51 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา

52 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา เฟินต้น ชือ่ วิทยาศาสตร์ Cyathea sp. ชอ่ื วงศ ์ CYATHEACEAE ชื่ออน่ื กดู ยักษ์ ปาก–ู ฆาซี (มลาย-ู ยะลา) ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ เฟินดิน ไรโซม เป็นเหง้าแข็งสูง 1-2 เมตร โคนต้นพองออก มีขนสีน้ำตาลแดงอยู่ บรเิ วณโคนตน้ โดยรอบ ใบ ใบประกอบแบบขนนกสองถึงสามชั้น เรียงแบบสลับ กว้าง 4.0-6.0 เซนตเิ มตร ยาว 12-17 เซนติเมตร แผน่ ใบย่อยบางรปู ขอบขนาน ผวิ ใบด้านบนเรยี บ ด้านล่างมีขนปกคลุมเล็กน้อย ขอบใบเรียบหรือหยักถี่ ปลายใบแหลม โคนใบมน เส้นใบแตกแบบโค้งจรดกัน เส้นกลางใบเห็นชัดเจน ใบอ่อนสีเขียวอ่อนม้วนงอม ี ขนอ่อนนุ่มจับแล้วติดมือ ก้านใบยาว 100-150 เซนติเมตร มีหนามเล็ก ๆ สีดำอยู่ รอบ ๆ บริเวณกา้ นใบ ก้านใบยอ่ ยยาว 10-25 เซนติเมตร กลมุ่ อบั สปอร์ แตกตามยาวอยู่ใต้ใบ แหลง่ ทพี่ บ บรเิ วณทีม่ แี สงรำไร การขยายพันธุ์ สปอร์ ลักษณะเด่น ทรงต้น

53 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา

54 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา ระย้าเกลด็ หอย ชอื่ วทิ ยาศาสตร์ Lycopodium nummularifolium Blume ชอ่ื วงศ์ LYCOPODIACEAE ชื่ออื่น เกลด็ ปลาชอ่ น ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นพชื ใกล้เคียงเฟนิ ลำต้น ห้อยลงยาว 50-60 เซนติเมตร อาศยั บนตน้ ไมข้ นาดใหญ่ แตกกงิ่ เป็น ค่ยู าวไม่เป็นระเบยี บ ใบ ใบเดี่ยว เรียงในระนาบเดียวกัน รูปไข่เกือบกลม กว้าง 0.4-0.5 เซนติเมตร ยาว 0.7-1.0 เซนติเมตร แผ่นใบอวบน้ำเล็กน้อย ค่อนข้างหนา ผิวใบ เรียบท้งั สองดา้ น สเี ขยี วเปน็ มนั ขอบใบเรียบ ปลายใบมน ก้านใบส้ันตดิ กบั ลำตน้ มอง เห็นใบชดั เจนทงั้ 2 ดา้ น สโตรบิลสั เกิดขึน้ ทีป่ ลายยอดของสายทเี่ รียวเลก็ สายยาว 10-18 เซนติเมตร แหล่งทีพ่ บ อาศยั บนตน้ ไม้ที่มแี สงรำไร การขยายพันธ์ุ สปอร ์ ลกั ษณะเดน่ ทรงต้น

55 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา

56 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา ชือ่ วิทยาศาสตร์ ลำเท็ง Stenochlaena palustris (Burm.f.) Bedd. ชอ่ื วงศ์ PTERIDACEAE ชื่ออื่น มีดิง (มลายู-ยะลา) ผักกดู แดง ปรงสวน ลำมะเทง็ ผักยอดแดง ผักกดู มอญ ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นเฟนิ ดิน ไรโซม เป็นเหง้า เล้ือยเกาะไม้อ่ืนหรือเล้ือยไปตามพ้ืนดิน เส้นผ่าศูนย์กลาง 1.0-2.0 เซนติเมตร ใบ ใบประกอบแบบขนนก เรียงสลับ กวา้ ง 15-30 เซนตเิ มตร ยาว 30-70 เซนติเมตร ใบย่อยมีจำนวน 20-30 ใบ รูปเรียวแคบ ก้านสั้น ใบย่อยกว้าง 2.5-3.5 เซนติเมตร ยาว 13-17 เซนติเมตร แผ่นใบเรียบ ผิวใบเรียบ ขอบใบเป็นจักละเอียด ลกั ษณะคลา้ ยหนามแหลม ปลายใบแหลม โคนใบสอบเรยี ว เสน้ กลางใบมลี กั ษณะกลม เม่ือแก่จะมสี ีนำ้ ตาล ใบอ่อนสนี ำ้ ตาลแดง ใบแกส่ ีเขียว กา้ นใบยาว 40-50 เซนติเมตร กา้ นใบย่อยยาว 0.5-0.8 เซนติเมตร กลุ่มอับสปอร์ เกิดตรงขอบใบ โคนใบม้วนขึ้นด้านบน ด้านล่างมีอับสปอร์ สีน้ำตาลเปน็ เม็ดเล็กๆ จำนวนมากสนี ำ้ ตาลเกาะติดอย่อู ัดกันแน่น แหล่งที่พบ พบบรเิ วณดินค่อนขา้ งแข็ง ใกลแ้ หล่งน้ำ แสงรำไร การขยายพันธุ์ สปอร์ ลักษณะเดน่ ใบ

57 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา

58 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา ลเิ ภาย่อง ชอื่ วิทยาศาสตร์ Lygodium polystachyum Wall. ex. T. Moore ชื่อวงศ์ SCHIZAEACEAE ช่อื อืน่ กูดกอ้ ง กูดเครือ ลิเภาย่อง ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ เปน็ เฟนิ ดิน ไรโซม เป็นเหง้าเลือ้ ยสน้ั อยใู่ ต้ดนิ มีขนสีดำปกคลมุ หนาแนน่ ใบ ใบประกอบ 2 ชั้น ออกแบบสลับ จำนวนมากกว่า 10 คู่ ตัวใบย่อยรูป ขอบขนานถงึ รปู เกอื บสามเหล่ียม กว้าง 2.0-3.0 เซนติเมตร ยาว 6.0-8.0 เซนติเมตร ขอบใบหยักลกึ ปลายมน ขอบใบบรเิ วณโคนเปน็ หยกั ตืน้ อกี ช้ัน ปลายใบแหลม โคนใบ รูปกึ่งตัด ก้านใบส่วนท่ีงอกออกจากยอดเหง้า ยาว 25-40 เซนติเมตร เส้นผ่า ศนู ยก์ ลางประมาณ 4 มิลลิเมตร สีนำ้ ตาลแดง กา้ นใบย่อย แตกออกจากแกนใบหลัก เป็นก่ิงส้ัน ก้านกลมยาว 2.0-3.0 มิลลิเมตร สีน้ำตาลอ่อน มีขนสั้นปกคลุมไม่หนาแน่น แกนกลางใบยอ่ ยชน้ั ที่สอง ยาว 20-30 เซนตเิ มตร มขี นสนี ้ำตาลอ่อนปกคลุมแนน่ แหล่งทพี่ บ ข้นึ บนดนิ รว่ นปนทราย แสงส่องรำไร การขยายพนั ธุ์ สปอร์ ลักษณะเดน่ ทรงตน้

59 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา

60 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา ลเิ ภาใหญ่ ช่อื วทิ ยาศาสตร ์ Lygodium flexuosum (L.) Sw. ช่อื วงศ ์ SCHIZAEACEAE ชอ่ื อ่นื กะฉอด ตีนตะขาบ กูดกอ้ ง กูดเครอื สายพานผี รีบบู ะซา (มลาย)ู ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร ์ เปน็ เฟินดิน ลำต้นเปน็ เถา ไรโซม เป็นเหง้าส้ันอยู่ในดิน มีขนสีน้ำตาลปกคลุม ก่ิงเป็นเถากลม เส้นเล็ก สีดำ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 มิลลิเมตร เหนียวแข็งแรง สามารถเลื้อยพันต้นไม้ บริเวณใกลเ้ คียงได้ยาวหลายเมตร ใบ มี 2 แบบคอื ใบไมส่ รา้ งสปอร์ เปน็ ใบประกอบแบบขนนก ใบประกอบยอ่ ย แยกออกจากกิ่งเป็นคู่ ใบย่อย รูปขอบขนานถึงรูปสามเหลี่ยม กว้าง 7.0-10.0 เซนตเิ มตร ยาว 10-20 เซนติเมตร แผน่ ใบหนาเหนียว ผวิ ใบเรยี บ ขอบใบหยักเป็นซ่ีฟัน ใบสรา้ งสปอร์ มลี กั ษณะผอมเรยี วกวา่ ใบปกตทิ ไ่ี มม่ สี ปอร์ ขอบฟนั หยกั ฟนั เลอ่ื ย กลมุ่ อับสปอร์ เกดิ ตรงขอบใบเรยี งตัวตามรอยหยักรอบใบ แหล่งท่ีพบ ขึ้นบนดิน เลอื้ ยพันต้นไม้ทอี่ ยใู่ กล้เคียง แสงรำไร การขยายพนั ธ์ุ สปอร์ ลักษณะเด่น ใบ

61 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา

62 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา ลูกไก่ดำ ช่อื วทิ ยาศาสตร ์ Pleocneia irregularis (C.Prersl.) ชอ่ื วงศ ์ DRYOPTERIDACEAE ชอ่ื อื่น กูดกบ ลักษณะทางพฤกษศาสตร ์ เป็นเฟินดิน ไรโซม อวบ ตั้งตรงอยู่เหนือดิน สีน้ำตาล เส้นผ่าศูนย์กลาง 5.0-7.0 เซนตเิ มตร รากเปน็ ฝอยสีดำ ใบ ใบประกอบแบบขนนก เรียงตรงข้ามระนาบเดียว กว้าง 10-20 เซนติเมตร ใบย่อยรูปสามเหล่ียมหรือขอบขนาน กว้าง 1.0-7.0 เซนติเมตร ยาว 12-19 เซนติเมตร จำนวน 20-25 คู่ ใบย่อยคู่ล่างสุดแตกเป็นสองแฉก ปลายใบแหลมโคนใบตัด ขอบใบเป็นแฉกหยักลึก ก้านใบเป็นเหล่ียมสีดำ ยาว 30-50 เซนติเมตร ท่ีโคนก้านมี ขนสนี ้ำตาลปกคลมุ กลุ่มอับสปอร์ เกิดใต้ใบ สปอร์รูปกลมหรือรีนูนขึ้นมา สีน้ำตาล กว้าง 1-2 มลิ ลิเมตร เปน็ จุดเรยี งกระจาย แหล่งทพ่ี บ ข้นึ บนดินรว่ นปนทราย แสงรำไร การขยายพนั ธุ์ สปอร ์ ลักษณะเด่น ทรงต้น ใบ

63 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา

64 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา ศรยี ะลา ช่ือวิทยาศาสตร ์ Sphaerostephanos sp. ชื่อวงศ์ THELYPTERIDACEAE ชอ่ื อนื่ - ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นเฟินดนิ ไรโซม เป็นเหง้าตั้งตรง เส้นผ่าศูนย์กลาง 10-20 เซนติเมตร คล้ายเฟินต้น มีขนสนี ้ำตาลปกคลุมท่ัวลำตน้ และโคนก้านใบ ใบ ใบประกอบแบบขนนก รูปขอบขนาน กว้าง 1.8-2.0 เซนติเมตร ยาว 18-20 เซนติเมตร ที่โคนก้านใบจะมีขนาดเล็กลง แผ่นใบหนา ผิวใบมีขนปกคลุมท้ัง สองดา้ น ขอบใบหยกั ลกึ ปลายใบเรยี วแหลม โคนใบตดั กา้ นใบมขี นปกคลมุ ทว่ั กา้ นใบ ก้านใบยาว 1.0-1.5 เมตร กลุม่ อบั สปอร์ อยใู่ ต้ใบ รปู กลม หรอื รปู รยี าว เรยี งตัวตามแนวเส้นใบ แหล่งทพ่ี บ ขึ้นบนพื้นดนิ มีแสงส่องถึง การขยายพันธ์ุ สปอร์ ลกั ษณะเดน่ ใบ

65 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา

66 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา สร้อยนารี ชือ่ วิทยาศาสตร์ Lycopodium carinatum Desv. ex Lam. ชื่อวงศ ์ LYCOPODIACEAE ชอื่ อน่ื สรอ้ ยนารี หางหนู หางเปยี เจ๊ก ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นพืชใกลเ้ คยี งเฟิน ลำต้น มีลักษณะกลมคล้ายสายสร้อย เส้นผ่าศูนย์กลาง 2.5-2.8 มิลลิเมตร หอ้ ยลงยาว 30-40 เซนติเมตร แตกกงิ่ เปน็ คู่ ปลายยอดจะเรียวเลก็ ลง ใบ เป็นใบเด่ียว เรยี งเวยี นสลบั ใบไม่ชิดกันมาก มองเหน็ ลำตน้ ชัดเจน ใบรปู สามเหลย่ี มปลายแหลม กวา้ ง 1.0-1.5 มลิ ลเิ มตร ยาว 7.0-10.0 มลิ ลเิ มตร ขอบใบเรยี บ ปลายใบเรยี วแหลม โคนแหลม สโตรบิลัส อยู่ทป่ี ลายยอดแตกแขนงเปน็ เส้นเล็ก ๆ หุ้มดว้ ยเกล็ดเลก็ ๆ แหล่งที่พบ บนตน้ ไมข้ นาดใหญ่ แสงสอ่ งถงึ การขยายพันธุ ์ สปอร์ แยกหนอ่ ลักษณะเด่น ทรงตน้

67 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา

68 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ สามร้อยยอด Lycopodium cernuum L. ชอ่ื วงศ์ LYCOPODIACEAE ชอ่ื อ่ืน กูดขน หญ้าก้านเพยี ง ดอกหนิ รังไก่ รวยไก่ แสยงแย ้ ลักษณะทางพฤกษศาสตร ์ เป็นพืชใกลเ้ คียงเฟิน ลำต้น เป็นเหง้าทอดเลื้อยแนบผิวดิน หรือใต้ดินตื้นๆ เส้นผ่าศูนย์กลาง 0.5-1.0 เซนติเมตร ใบ มีสองแบบ คอื ใบทไี่ มส่ ร้างสปอร์ เปน็ ใบเด่ียว เรียงสลบั หา่ ง ๆ รูปแถบ หรือรูปแถบแกมรูปใบหอก กว้าง 1.0-3.0 มิลลิเมตร ยาว 0.5-1.0 เซนติเมตร แผ่นใบหนาแข็ง ผิวใบเรียบ ขอบใบเรียบ ปลายใบแหลม โคนใบเชื่อมติดกับก้าน ไม่มีก้านใบ ใบสร้างอับสปอร์ ออกเป็นกลุ่มรูปทรงกระบอกต้ังตรงที่ปลายยอด ใบรูปขอบขนานแกมรูปไข่ ปลายเรียวแหลม ขอบหยกั ซฟ่ี ัน สโตรบลิ สั อยู่เดี่ยวๆ ตามซอกใบ แหลง่ ทพ่ี บ ใกลล้ ำธาร ที่มีแสงรำไร การขยายพันธุ์ สปอร์ แยกเหง้า ลักษณะเดน่ ทรงต้น

69 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา

70 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา หญา้ รังไก ่ ชื่อวิทยาศาสตร์ Nephrolepsis biserrata (Sw.) Schott ชื่อวงศ ์ SELAGINELLACEAE ชื่ออน่ื กนกนารี ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ เปน็ พืชใกล้เคยี งเฟิน ลำต้น ต้ังตรงใต้ดิน ข้างลำต้นมีรากงอกบริเวณด้านล่าง และรากแตกสาขา เปน็ คู่ ๆ ใบ ใบประกอบ จดั เรียงตวั เปน็ 4 แถว ตลอดความยาวของลำต้น 2 แถวทม่ี ี ขนาดใหญ่กวา่ เรยี กวา่ Ventral leaves และอีก 2 แถวเปน็ เกลด็ ตามลำต้นแนบตดิ กับแกน ปลายแหลม ใบมีสีเขียวอ่อนถึงเขียวเข้ม บางชนิดมีสีแดง สีเหลือบฟ้า กา้ นใบยาวเลอ้ื ยคลมุ ดนิ และชสู ว่ นปลายยอดตงั้ ขน้ึ สงู ไมเ่ กนิ 50 เซนตเิ มตร แตกกงิ่ กา้ น เป็นคู่ ๆ แผ่กระจายในระนาบเดยี ว สโตรบลิ สั อยบู่ รเิ วณสว่ นปลายกง่ิ แตกออกเปน็ 1 พู ยาว 2.0-2.5 เซนตเิ มตร สปอร์จัดเรยี งตัวเปน็ 4 แถว ตดิ อยู่ทแี่ กนของสโตรบลิ สั แหล่งทพี่ บ พบบริเวณพืน้ ดินทช่ี ุ่มชื้นใกล้ธารนำ้ แสงรำไร การขยายพนั ธุ์ สปอร ์ ลกั ษณะเด่น แผ่นใบ

71 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา

72 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา หางนกยูง ชอื่ วทิ ยาศาสตร ์ Anthrophyum callifolium Blume. ชือ่ วงศ์ VITTARIACEAE ชื่ออน่ื - ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เปน็ เฟินองิ อาศัย ไรโซม เป็นเหง้าสีดำ เส้นผา่ ศนู ย์กลาง 2.0-4.0 เซนติเมตร ก้านใบสั้น ใบ เป็นใบเด่ียว รูปแถบยาวแกมรูปหอก กว้าง 4.0-6.0 เซนติเมตร ยาว 25-30 เซนติเมตร ปลายกว้างออกแล้วสอบเข้าคล้ายเฟินข้าหลวงหลังลาย แผน่ ใบหนา ผิวใบด้านบนนนู เขม้ เสน้ ใบเหน็ ชัดเจน ผวิ ใบด้านลา่ งเปน็ ร่องของเสน้ ใบ ชดั เจน ขอบใบเรียบ ปลายใบมน โคนใบสอบ ใบสเี ขยี วเขม้ เป็นมันวาวเหลือบสีน้ำเงิน กลุ่มอับสปอร์ เกิดใต้ใบจัดเรียงตัวต่อเน่ืองเป็นแถว ยาวเป็นช่วงไปตาม ความยาวของใบการจดั เรยี งไม่เปน็ ระเบียบ แหล่งท่ีพบ เกาะอาศัยบนต้นไม้ริมลำธารน้ำตก ได้รับละอองไอน้ำและ ความช้ืนสูงมาก แสงรำไร การขยายพันธ์ุ สปอร ์ ลักษณะเด่น ใบ

73 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา

74 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา หางสิงห ์ ชื่อวทิ ยาศาสตร์ Lycopodium sp. ชอ่ื วงศ์ LYCOPODIACEAE ชอ่ื อื่น - ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เปน็ พืชใกลเ้ คียงเฟิน ลำต้น มีลักษณะกลมคล้ายสายสร้อย เส้นผ่าศูนย์กลาง 2.5-2.8 มิลลิเมตร หอ้ ยลงยาว 30-40 เซนติเมตร แตกกง่ิ เป็นคู่ ปลายยอดจะเรียวเลก็ ลง ใบ เป็นใบเด่ียว เรียงสลับถ่ี ใบไม่ชิดกันมาก มองเห็นลำต้นชัดเจน ใบรูป สามเหล่ียมปลายแหลมหรือรูปเข็ม กว้างประมาณ 2 มิลลิเมตร ยาว 7.0-10.0 มลิ ลิเมตร ขอบใบเรียบ ปลายใบเรียวแหลม โคนแหลม สโตรบลิ สั อย่ทู ปี่ ลายยอดแตกแขนงเปน็ เสน้ ๆ เลก็ ๆ หุม้ ด้วยเกลด็ แหล่งท่พี บ บริเวณค่อนขา้ งชื้น ใกลแ้ หล่งนำ้ การขยายพันธ์ุ สปอร์ ลกั ษณะเด่น ทรงตน้

75 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา

76 ไม้ดอกไมป้ ระดบั ป่าในหบุ เขาลำพญา

กลมุ่ พชื เมล็ดเปลือย พืชเมล็ดเปลือย (Naked Seed Plants) หมายถึงพืชท่ีเมล็ดไม่มีสิ่งห่อหุ้ม พืชพวกน้ีไม่มีรังไข่ ไม่มีผล และมีการปฏิสนธิเด่ียว (single fertilization) ตัวอย่าง พืชในช้ันนี้ เช่น สนเขา แปะก๊วย และปรง พืชเมล็ดเปลือยมีวิวัฒนาการในโลกมา กอ่ นพชื ดอก เม่ือประมาณ 280 ล้านปที ี่แล้ว หรอื ก่อนไดโนเสารเ์ ร่ิมครองโลก 77 ไ ้มดอกไ ้มประ ัดบ ่ปาใน ุหบเขาลำพญา

78 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา ปรงเขา ช่อื วิทยาศาสตร์ Cycas circinalis L. ชอ่ื วงศ์ CYCADACEAE ชอ่ื อืน่ ปรงเขา ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ไมย้ นื ต้นพวกเมลด็ เปลอื ย ลำต้น สงู 3-4 เมตร เปลือกสีเทาอมดำ ขรุขระแตกเปน็ เกลด็ ลำตน้ เดย่ี ว หรือแตกกิ่ง ใบ ใบประกอบแบบขนนก ออกบริเวณยอด ใบย่อยรูปยาวแคบ กว้าง 1.0-1.3 เซนติเมตร ยาว 8.0-12.0 เซนติเมตร ปลายใบเรียวแหลมหรือมน หรอื เว้าบมุ๋ ขอบใบเรยี บ เสน้ กลางใบเหน็ ชดั เจน ก้านใบมหี นามหา่ ง ๆ เมลด็ รูปไข่ ผิวเกลีย้ ง กวา้ ง 3.0-3.5 เซนติเมตร ยาว 4.5-4.8 เซนติเมตร ออกท่ปี ลายยอด ชว่ งเวลาการออกดอก ตุลาคม–กุมภาพันธ์ แหลง่ ทพ่ี บ บนเขาสูง มีแสงส่องถึง การขยายพนั ธุ์ เมล็ด ลกั ษณะเดน่ ทรงต้นและใบ

79 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา

80 ไม้ดอกไมป้ ระดบั ป่าในหบุ เขาลำพญา

กลุ่มพืชใบเล้ยี งเดยี่ ว พืชใบเลี้ยงเดี่ยว หมายถึง พืชที่มีลำต้นเป็นข้อ ปล้อง เห็นได้ชัดเจน ไม่มี ระบบรากแก้ว เป็นระบบรากฝอย เส้นใบเรียงตัวในแนวขนานกัน ดอกมีจำนวน 3 หรอื ทวีคณู ของ 3 81 ไ ้มดอกไ ้มประ ัดบ ่ปาใน ุหบเขาลำพญา

82 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา กระทอื ชือ่ วิทยาศาสตร ์ Zingiber sp. ชอ่ื วงศ์ ZINGIBERACEAE ชอ่ื อืน่ กระทือ ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ พชื ลม้ ลกุ มอี ายุหลายปี ลำต้น ใต้ดินเป็นแบบเหง้าขนาดใหญ่ สีขาวอมเหลืองอ่อน มีกล่ินน้ำมัน หอมระเหย ตลอดตน้ กลน่ิ หอมแรง ลำต้นเทยี มสงู ประมาณ 2 เมตร ใบ ใบเดี่ยว รูปขอบขนาน กว้าง 6.0-7.0 เซนติเมตร ยาว 21-24 เซนติเมตร ใบเรียวยาวสีเขียวเข้ม ออกซ้อนกันเป็นแผงๆ เรียงสลับกัน โคนก้านใบ แผ่ออกเป็นกาบหุ้ม ช่วงต่อระหว่างก้านใบกับแผ่นใบจะมีเย่ือบางติดเป็นติ่งอยู่ข้าง ก้านใบ ดอก ออกเป็นช่อ โผล่ขึ้นมาจากลำต้นใต้ดิน ดอกมีกลีบประดับสีเหลืองนวล เป็นกระพุ้งโค้งรองรับดอกย่อยแต่ละดอกไว้ กลีบดอกสีขาวนวล 3 กลีบ แทรกอยู่ ตามเกล็ด ช่วงเวลาการออกดอก พฤษภาคม–กนั ยายน แหลง่ ทพ่ี บ ขึน้ ตามป่าดิบช้นื ใกลแ้ หล่งน้ำ การขยายพันธ์ุ แยกเหงา้ ลกั ษณะเด่น ช่อดอก

83 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา

84 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา กล้วยไม้ Thelasis ชื่อวิทยาศาสตร์ Thelasis micrantha (Brogn.) J.J.Sm. ชอื่ วงศ ์ ORCHIDACEAE ช่อื อื่น - ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ กล้วยไม้อิงอาศัย ขน้ึ เปน็ กอ ลำตน้ กลมสน้ั อวบน้ำ เส้นผ่าศูนยก์ ลาง 1.0-2.0 เซนตเิ มตร ใบ รปู ขอบขนาน กวา้ ง 1.2–1.5 เซนติเมตร ยาว 13-18 เซนตเิ มตร โคนใบ ติดกับลำตน้ ปลายใบแหลม แผน่ ใบหนา ดอก ออกเป็นช่อ ช่อดอกออกท่ีปลายยอด ช่อยาว 8.0-10.0 เซนติเมตร ดอกมขี นาดเล็กมาก กลีบดอกสีขาว ก้านดอกและฐานรองดอกมีสีสม้ ช่วงเวลาการออกดอก สงิ หาคม-ตุลาคม แหล่งท่พี บ บนตน้ ไม้ ใกลแ้ หลง่ นำ้ แสงรำไร การขยายพนั ธุ์ แยกหัว ลกั ษณะเดน่ ชอ่ ดอก

85 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา

86 ไม้ดอกไมป้ ระดับปา่ ในหุบเขาลำพญา ชอื่ วิทยาศาสตร์ กะพ้อเขา Licuala malajana Becc. ชอ่ื วงศ์ ARECACEAE ชอ่ื อนื่ เพียะ ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นปาลม์ ตน้ เดยี่ วหรือแตกกอขนาดเลก็ ลำต้น เส้นผ่าศนู ย์กลาง 2.5-5.0 เซนติเมตร สูง 1.5-3.0 เซนติเมตร ใบ รูปฝ่ามือ เรียงแบบเวียน แผ่นใบค่อนข้างกลม สีเขียวเข้ม ใบย่อย มี 20-30 ใบ กวา้ ง 2.5-6.0 เซนติเมตร ยาว 40-60 เซนติเมตร มขี นาดใกล้เคียงกัน ปลายใบหยกั เป็นซี่ ขอบกาบใบมรี กเปน็ เส้นใยสีน้ำตาลหมุ้ ลำตน้ มีลนิ้ ใบยาวประมาณ 10 เซนติเมตร กา้ นใบยาว 1.0-2.5 เมตร ทีข่ อบมหี นามส้ัน ๆ สดี ำ ดอก ออกเป็นช่อบริเวณซอกกาบใบ ยาว 60-120 เซนติเมตร เป็นช่อแยก แขนงมี 5-8 แขนง แต่ละแขนงมี 3-6 ชอ่ ย่อย ผล รปู กลม ขนาด 1 เซนติเมตร ผลออ่ นสเี ขยี วเม่ือสกุ สีแดงส้ม ช่วงเวลาการออกดอก พฤษภาคม-กันยายน แหล่งทพี่ บ บริเวณท่มี ีแสงสอ่ งถึง การขยายพนั ธ์ุ เมล็ด แยกหนอ่ ลักษณะเด่น ทรงต้น ใบ ช่อผล


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook