ภาษาไทย หลกั ภาษาและการใชภ้ าษา ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ๖หน่วยการเรยี นรูท้ ี่
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๖ ตนเป็นท่ีพึ่งแห่งตน เปา้ หมายการเรยี นรู้ • อ่านและเขียนคาทีม่ ี ฤ ฤๅ และคาที่ใชบ้ นั หรือบรรได้ • อ่านและเขยี นคาพอ้ งได้ถกู ตอ้ ง
ทุกคนชว่ ยกันดนู ะครบั วา่ คาไหนคือคาเดยี วกับคาอ่าน บนั ได บรรได บนั -ได บันดัย
บนั -ยาย บันยาย บันยยั บรรยาย
พรึด-ต-ิ กา พรดึ ตกิ รรม พฤติกรรม พฤดติกรรม
สะนา้ สระนา้ สะ-น้า สนั น้า
สอ้ ม-แซม สอ้ มแซม สอ้ มแสม ซ่อมแซม
คาท่ใี ช้ บัน และ บรร บนั อา่ นว่า บนั บรร ถงึ แม้วา่ จะออกเสียงเหมอื นกนั แต่ใชก้ ับคาต่างกนั
๑. การใช้ บัน บันทึกให้ดจู งดี เสียงบนั ลือสน่นั ดงั ตวั อยา่ งคาทใี่ ช้ บนั เปน็ พยางค์แรกของคา กาชยั ทองหลอ่ บันดาลลงบนั ได รนื่ เรงิ บันเทิงมี บนั ดาล.....หมายถงึ ใหเ้ กดิ ข้นึ ดว้ ยอานาจของสง่ิ ใดสง่ิ หนึง่ บนั ได....... หมายถงึ ส่ิงทท่ี าเปน็ ขั้นๆ สาหรับกา้ วขึ้นลง บันทึก.......หมายถึง จดข้อความเพื่อชว่ ยจา บันเทงิ ......หมายถึง เบกิ บาน รนื่ เรงิ บันลอื .......หมายถงึ เปลง่ เสยี งดงั กอ้ ง, โดง่ ดงั
๒. การใช้ บรร ตัวอยา่ งคาที่ใช้ บรร เปน็ พยางค์แรกของคา บรรทม ไมบ้ รรทดั อ่านว่า บนั -ทม อ่านว่า ไม-้ บัน-ทดั บรรณารกั ษ์ รถบรรทุก อ่านว่า บนั -นา-รกั อ่านว่า รด-บัน-ทกุ
คาที่มี ฤ ฤๅ ฤ อา่ นว่า ริ รึ เรอ ฤๅ อา่ นวา่ รอื ฤ มวี ธิ ีการออกเสยี งหลายแบบ ตอ้ งสงั เกตว่าแตล่ ะคาอ่านแบบไหน
๑. คาท่ีมี ฤ ๑) ฤ อา่ นวา่ ริ เมือ่ อยู่ดา้ นหลงั ก ต ท ป ศ ส ตฤณ ปฤจฉา อ่านว่า ตรนิ อ่านว่า ปรดิ -ฉา
๒) ฤ อา่ นวา่ รึ เมื่อเปน็ พยัญชนะตวั แรกของคา และตามหลงั ค น พ ม ห ฤดูรอ้ น คฤหาสน์ อา่ นว่า ร-ึ ด-ู รอ้ น อา่ นวา่ คะ-รึ-หาด
๓) ฤ อ่านวา่ เรอ เมื่อนาหนา้ ก ดาวฤกษ์ อ่านวา่ ดาว-เริก คาที่อา่ น ฤ เปน็ เรอ มีคาเดยี วคือ คาวา่ ฤกษ์
๔) ฤๅ อ่านวา่ รือ เม่อื เปน็ พยญั ชนะตวั แรกของคา ฤๅทยั อ่านว่า รอื -ไท ฤๅษี อา่ นวา่ รือ-สี
คาพ้อง คาพ้อง คอื คาทม่ี ลี ักษณะ คาพอ้ งรูป เหมอื นกัน คาพอ้ งเสยี ง
๑. คาพอ้ งรปู คอื คาท่ีเขียนเหมอื นกนั แตอ่ อกเสียงไมเ่ หมือนกนั และมีความหมายต่างกนั ข้อสังเกต การอา่ นคาพอ้ งรูปใหถ้ กู ต้อง ต้องดขู อ้ ความอ่ืนๆ ประกอบดว้ ย ว่าคาพอ้ งรปู นน้ั หมายถงึ อะไร แล้วจึงอ่านใหถ้ กู ต้อง อ่านวา่ สะ สระ หมายถึง ฟอกให้สะอาด อ่านว่า สะ-หระ นิดสระผมสปั ดาห์ละ ๓ คร้ัง หมายถงึ ตัวอักษรท่ีใช้แทนเสยี ง วนั นค้ี รูสอนเรื่องสระเสยี งสั้น
อา่ นวา่ ปัก-เปา้ ปักเปา้ หมายถงึ วา่ วทมี่ ีหางยาว อา่ นวา่ ปกั -กะ-เปา้ พ่ีเล่นว่าวปกั เป้าอยู่ที่ หมายถงึ ปลาทส่ี ามารถพองตวั ได้ สนามหลังบา้ น ผวิ หนังมีหนาม ปลาตัวน้ีคือปลาปกั เป้า
๒. คาพ้องเสยี ง คอื คาทอ่ี อกเสียงเหมือนกนั แตเ่ ขยี นต่างกัน และมคี วามหมายต่างกนั สุก หมายถึง พน้ จากห่าม กล้วยหวนี ้สี ุกหมดแล้ว สกุคาอ่าน ศกุ ร์ หมายถึง วันท่ี ๖ ของสปั ดาห์ ปนี วี้ นั เกดิ ของพีต่ รงกบั วนั ศุกร์ สุข หมายถึง ความสบาย วันนฉ้ี นั ไปเทย่ี วกับครอบครวั ทาใหฉ้ นั มีความสุขมาก
รด หมายถงึ เทนา้ บนสง่ิ ใดสิ่งหน่ึงใหช้ ่มุ นอ้ งรดน้าตน้ ไม้ทกุ วัน รดคาอา่ น รส หมายถึง ส่ิงทีร่ ู้ไดด้ ว้ ยลิ้น ก๋วยเตย๋ี วชามน้ีมีรสชาตกิ ลมกลอ่ ม รถ หมายถึง ยานพาหนะท่มี ีลอ้ พอ่ ซือ้ รถยนตค์ ันใหม่
๓. คาหลายความหมาย เปน็ คาท่ีเขียนและอ่านออกเสยี งเหมือนกนั แต่ความหมายตา่ งกัน กวน อา่ นว่า กวน อ่านวา่ กวน หมายถงึ คนใหเ้ ข้ากนั หมายถึง ทาใหเ้ กิดความราคาญใจ แม่กวนข้าวเหนยี วแดงอยูใ่ นครวั พ่ชี อบกวนใจให้ฉันอารมณ์ไม่ดบี อ่ ยๆ
กา หมายถึง นกทีม่ ตี วั สดี า รอ้ งเสยี ง “กาๆ” กาส่งเสียงร้องดังมาก กาคาอา่ น กา หมายถงึ ภาชนะสาหรับใสน่ า้ เกดรนิ น้าชาจากกาให้คุณตาดื่ม กา หมายถงึ ทาเครื่องหมายเปน็ รูปกากบาท นกั เรียนต้องกาคาตอบที่ถกู ต้องทส่ี ดุ นะคะ
จบั คคู่ าตามส่ิงทก่ี าหนดใหถ้ ูกต้องนะคะ คาที่มพี ยางค์ออกเสยี งว่า รึ เหมือนกนั ฤกษ์ ฤทัย ฤทธิ์ ฤดี
คาทใ่ี ช้คาวา่ บนั ถูกต้อง บนั จบ บนั ดาล บนั เทิง บนั เจดิ
คาทีอ่ ่านออกเสียงได้ ๒ แบบ สมาธิ ปรกั ส้อม โชค
คาที่ออกเสยี งเหมอื นคาว่า ทาน ฐานะ ทานตะวนั ธาตุ ลาธาร
ความหมายของคาว่า นาก โลหะผสม สิง่ ของสาหรับ ดอกไม้ สัตวเ์ ลยี้ งลกู ชนิดหนึ่ง ใสเ่ สอ้ื ผ้า มีกลิ่นหอม ดว้ ยนมชนดิ หนงึ่
การอา่ นวา่ บนั รปู เขยี น บนั บรร
คาที่มี ฤ ฤๅ การอ่าน อา่ นวา่ รอื ออกเสียง ฤา อา่ นวา่ ริ อ่านวา่ รึ การอ่าน อ่านวา่ เรอ ออกเสยี ง ฤ
คาพ้อง รูปเขียน เสยี ง ความหมาย คาพ้องรูป เหมอื น ตา่ ง ตา่ ง คาพ้องเสยี ง ตา่ ง เหมอื น ต่าง คาหลายความหมาย เหมอื น เหมอื น ตา่ ง
หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๗ ความเพียร เป้าหมายการเรยี นรู้ • ระบชุ นิดและหน้าทขี่ องคาในประโยคแลว้ แตง่ ประโยคเพ่อื สื่อสารได้
ทกุ คนอา่ นข้อความ แล้วชว่ ยกันตามลา่ หาคากรยิ าจากประโยคใหเ้ จอนะครับ แมร่ ีดผ้า เดก็ เล่นของเลน่ โอถ๋ พู นื้
เจนรา แม่ซื้อของ เดก็ ๆ กระโดด เกมดูโทรทศั น์
ชนิดของคาในภาษาไทย ชนดิ ของคา คานาม ในภาษาไทย คาสรรพนาม คากรยิ า คาวเิ ศษณ์ คาบพุ บท คาสันธาน คาอทุ าน
ในชัน้ น้ี เราจะเรียนเร่อื ง คานาม คาสรรพนาม และคากรยิ ากันนะครบั คานาม คือ คาที่ใช้เรยี กชือ่ คน สตั ว์ พืช สิ่งของสถานที่ และอาการตา่ งๆ แมว เคร่อื งเลน่ โรงเรยี น
คาสรรพนาม ใคร คอื คาที่ใชแ้ ทนคานาม ทาหน้าทีเ่ หมือนคานาม ฉนั เขา
คากริยา คอื คาท่แี สดงอาการของคน สัตว์ พืช และสงิ่ ของ บนิ วงิ่ ว่ายน้า
ถ้านาคานาม คาสรรพนาม และคากริยามาเรยี งตอ่ กันใหไ้ ดใ้ จความ จะได้ประโยคที่ใช้ ในการสื่อสาร เช่น เเกก่งง่ ยยืนนื เขเขาาชชออบบแแมมวว เธเอธอออา่ ่านนหหนนงั งัสสืออื คาสรรพนาม คานาม คาสรรพนาม คานาม คานาม คากรยิ า คากรยิ า คากรยิ า
ประโยค สนุ ัขนอนหลบั แม่ทาอาหาร เต้เลน่ ฟตุ บอล ประโยค คือ คาชนดิ ตา่ งๆ มาเรยี งตอ่ กัน และได้ใจความที่สมบูรณ์
๑. ส่วนประกอบของประโยค ๑) ภาคประธาน คอื ผูท้ ากริ ิยาอาการตา่ งๆ ๒) ภาคแสดง คือ สว่ นท่ีเป็นกิรยิ าอาการของประโยค โดยรวมกรรมอยูด่ ว้ ย ประธาน กรยิ า ประโยค ภาคประธาน ภาคแสดง นนอ้ ้องหัวเรราาะะ คานาม คากรยิ า
ประธาน กรยิ า กรรม ประโยค ภาคประธาน ภาคแสดง เลเล็กก็ ออ่านหนนงั ังสสอื ือ เเขขาดมื่ นน้า้า คานาม คานาม คาสรรพนาม คากรยิ า คานาม คากริยา
ประโยค ภาคประธาน สว่ นประกอบ น้องหวั เราะ นอ้ ง ภาคแสดง เล็กอ่านหนังสอื เล็ก กริยา กรรม เขา หัวเราะ - เขาดมื่ น้า อา่ น หนังสอื ด่ืม น้า
๒. หน้าที่คาแต่ละชนดิ ในประโยค ๑) คานาม ทาหนา้ ที่เปน็ ประธานหรือกรรมในประโยค ตว้ั นอนหลบั อัม้ เตะฟุตบอล ตั้ว เป็นคานาม อม้ั เป็นคานาม ฟตุ บอล เป็นคานาม ทาหน้าทีเ่ ปน็ ประธานในประโยค ทาหนา้ ทเ่ี ปน็ ประธานในประโยค ทาหน้าทเ่ี ปน็ กรรมในประโยค
๒) คาสรรพนาม ทาหนา้ ทเี่ ป็นประธานหรอื กรรมในประโยค เธอชอบดอกไม้ เขามอบของขวญั ให้เธอ เธอ เปน็ คาสรรพนาม เขา เป็นคาสรรพนาม เธอ เป็นคาสรรพนาม ทาหนา้ ทเ่ี ปน็ ประธานในประโยค ทาหน้าทเี่ ป็นประธานในประโยค ทาหนา้ ท่เี ปน็ กรรมในประโยค
๓) คากรยิ า ทาหน้าทีเ่ ปน็ กรยิ าในประโยค เอ๋เต้น พ่อกวาดขยะ เต้น เปน็ คากริยา กวาด เป็นกริยา ทาหนา้ ทเี่ ป็นกรยิ าในประโยค ทาหน้าทเี่ ป็นกรยิ าในประโยค
๓. ชนิดของประโยค ประโยคที่ใช้สื่อสารแบง่ ออกเปน็ ๕ ชนิด ดังน้ี ๑) ประโยคบอกเลา่ เปน็ การบอกกลา่ วหรอื เล่าข้อความ พวกเราชว่ ยกันเกบ็ ผกั แมก่ าลงั ทาอาหาร
๒) ประโยคคาถาม เป็นการซกั ถามทต่ี อ้ งการคาตอบ มกั มคี าว่า ใคร ทาอะไร ที่ไหน อย่างไร ทาไม อยูใ่ นประโยค แมวของใคร พวกเธอไปเทีย่ วทไ่ี หน
๓) ประโยคปฏเิ สธ เปน็ การปฏเิ สธ การไม่ยอมรับ มกั มคี าวา่ ไม่ ไมไ่ ด้ มิได้ อยู่ในประโยค สม้ ไมม่ าโรงเรียน พไ่ี มช่ อบรับประทานผัก
๔) ประโยคคาสั่ง เป็นการสงั่ ใหผ้ ูฟ้ ังหรอื ผอู้ า่ นทาตามท่ผี ูพ้ ูดหรือผู้เขยี นต้องการ มักมคี าวา่ จง ห้าม อย่า อยูใ่ นประโยค ห้ามส่งเสียงดงั ในหอ้ งสมุด เด็กๆ อยา่ เล่นใกล้ถนนนะคะ
๕) ประโยคขอรอ้ ง เป็นการขอร้องหรือชักชวนให้ทาสิง่ ใดสิ่งหน่ึง มกั มีคาวา่ ชว่ ย โปรด กรุณา อย่ใู นประโยค กรุณาทง้ิ ขยะใหล้ งถงั ดว้ ยครับ ช่วยหยิบหนงั สือให้หนอ่ ยนะคะ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105