เศรษฐกิจพอเพยี ง เป็นหลักปรชั ญำกำรดำเนินชวี ิตทำงสำยกลำง คอื รู้จักพอประมำณ มเี หตุผล มีภูมิคมุ้ กันในตัวทีด่ ี คือ มีควำมรู้ และคณุ ธรรม นำไปสชู่ วี ิต เศรษฐกิจ สงั คม และสง่ิ แวดล้อม ใหเ้ กดิ ควำมสมดุล มัน่ คง และยั่งยนื 5. ใหน้ กั เรยี นรว่ มกันแสดงควำมคิดเหน็ โดยครใู ชค้ ำถำมท้ำทำย ดังนี้ นักเรียนจะนำหลักปรชั ญำเศรษฐกจิ พอเพยี งไปสร้ำงควำมเจริญให้ตนเองอย่ำงไร การจดั บรรยากาศเชิงบวก กำรอ่ำนและฟงั พระรำชดำรัสปรัชญำเศรษฐกจิ พอเพียงของพระบำทสมเด็จพระเจำ้ อย่หู วั สือ่ การเรยี นรู้ 1. พระรำชดำรสั ปรัชญำเศรษฐกจิ พอเพียง 2. บันทึกงำนกลุ่ม นำเสนอควำมรู้ปรัชญำเศรษฐกจิ พอเพยี ง การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 1. วิธกี ารวัดและประเมินผล 1.1 สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในกำรเขำ้ ร่วมกจิ กรรม 1.2 สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในกำรเข้ำรว่ มกจิ กรรมกลุ่ม 2. เครอ่ื งมอื 2.1 แบบสังเกตพฤตกิ รรมกำรเขำ้ ร่วมกจิ กรรม 2.2 แบบสังเกตพฤตกิ รรมกำรเขำ้ ร่วมกจิ กรรมกล่มุ 3. เกณฑก์ ารประเมิน 3.1 กำรประเมนิ พฤตกิ รรมกำรเขำ้ รว่ มกจิ กรรม ผ่ำนตงั้ แต่ 2 รำยกำร ถอื วำ่ ผา่ น ผ่ำน 1 รำยกำร ถือวำ่ ไม่ผา่ น 3.2 กำรประเมนิ พฤติกรรมกำรเข้ำร่วมกิจกรรมกลุ่ม คะแนน 9-10 ระดับ ดมี ำก คะแนน 7-8 ระดบั ดี คะแนน 5-6 ระดับ พอใช้ คะแนน 0-4 ระดับ ควรปรับปรงุ กจิ กรรมเสนอแนะ วำดภำพระบำยสีกำรดำเนินชวี ิตตำมหลักเศรษฐกจิ พอเพียง แล้วออกนำเสนอหน้ำชน้ั เรยี น โดยครู คดั เลอื กผลงำนของนกั เรียน และจดั แสดงเปน็ ป้ำยนิเทศ
บันทึกหลังการสอน 1. ผลการจัดการเรียนการสอน ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… 2. ปญั หา/อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… 3. แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ลงชอื่ (นำยวชั รพล แสงสุระ) ตำแหนง่ ครผู ชู้ ว่ ย ความคิดเห็นและขอ้ เสนอแนะของผบู้ ริหาร ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….……………
ลงช่ือ (นำยขันทอง เดน่ พันธ์) ตำแหนง่ ผูอ้ ำนวยกำรโรงเรยี นอนุบำลชมุ ชนหนองบวั แดง แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 20 เรื่อง การประยกุ ตใ์ ช้แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง จำนวน 1 ช่ัวโมง ชั้นประถมศกึ ษำปที ่ี 5 หนว่ ยกำรเรียนร้ทู ี่ 6 เศรษฐกจิ พอเพียง จำนวน 4 ชั่วโมง รำยวชิ ำ ส 15101 สังคมศึกษำ กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษำ ศำสนำ และวัฒนธรรม ผสู้ อน นำยวัชรพล แสงสรุ ะ มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวชี้วดั มาตรฐานการเรียนรู้ ส 3.1 เข้ำใจและสำมำรถบรหิ ำรจดั กำรทรพั ยำกรในกำรผลติ และกำรบริโภค กำรใช้ทรพั ยำกรท่ีมี อยู่จำกัดได้อยำ่ งมีประสทิ ธิภำพและค้มุ ค่ำ รวมทง้ั เข้ำใจหลักกำรของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อกำรดำรงชวี ติ อย่ำง มีดลุ ยภำพ ตวั ชีว้ ดั ส 3.1 ป.5/2 ประยกุ ตใ์ ช้แนวคิดของปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพยี งในกำรทำกจิ กรรมต่ำง ๆ ในครอบครวั โรงเรียนและชุมชน จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ส่ตู วั ชีว้ ัด 1. นำเสนอแนวคิดปรชั ญำเศรษฐกิจพอเพยี งไปประยกุ ต์ใช้ (K) 2. จำแนกแนวคิดปรัชญำเศรษฐกิจพอเพยี งเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ (P) 3. เหน็ คุณค่ำและรูจ้ ักกำรนำแนวคดิ ปรชั ญำเศรษฐกิจพอเพยี งไปประยุกต์ใชก้ ับตนเอง (A) สาระสาคัญ แนวคดิ เศรษฐกจิ พอเพียง สำมำรถนำมำประยุกต์ใช้ให้เกดิ ประโยชน์ในกำรดำเนินชีวติ ทั้งกับตนเอง และบุคคลอื่น สร้ำงควำมสงบสุข ควำมสมดลุ ควำมม่ันคง และควำมยั่งยืนให้เกิดแกส่ งั คมส่วนรวม สาระการเรยี นรู้ ประยุกต์ใช้แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงในกำรทำกจิ กรรมตำ่ ง ๆ ในครอบครวั โรงเรียน และชุมชน
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ อยู่อยำ่ งพอเพียง ตวั ชี้วดั ที่ 5.1 ดำเนนิ ชีวติ อยำ่ งพอประมำณ มเี หตผุ ล รอบคอบ มคี ณุ ธรรม สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน ควำมสำมำรถในกำรใชท้ ักษะชวี ติ ชน้ิ งานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน รอ่ งรอยแสดงความร)ู้ ช้นิ งำนที่ 9 เรอื่ ง เศรษฐกิจพอเพียง คาถามทา้ ทาย นักเรยี นจะนำแนวคิดเศรษฐกจิ พอเพียงไปใชด้ ำเนนิ ชวี ิตของตนเองไดอ้ ยำ่ งไร การบรู ณาการ - กล่มุ สำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี ; กำรใช้สื่ออนิ เตอร์เนต็ สืบค้น, - กลมุ่ สำระกำรเรียนรศู้ ิลปะ ; กำรเขียนแผนภมู คิ วำมคดิ (Mind mapping) - กล่มุ สำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย ; กำรอภิปรำย, กำรแสดงควำมคดิ เห็น, กำรสัมมนำ - โรงเรยี นสุจริต ; ปลูกฝังคำ่ นิยมควำมซ่ือสตั ยส์ จุ ริต - โรงเรียนสขี ำว ; ปลกู ฝังค่ำนยิ มใหผ้ ู้เรยี นห่ำงไกลอบำยมขุ ทุกชนิด - โรงเรยี นคุณธรรม ; ปลูกฝังคณุ ธรรมและจริยธรรมให้เกิดกบั ผู้เรียน การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูน ำภำพเก่ียวกับกำร ทำ กำ รเกษตรแบบผสมผสำน เช่น กำร เลี้ยงไก่บนบ่อปลำ มำแสดงให้นักเรียนดู แล้วรว่ มกันแสดงควำมคิดเหน็ โดยครูใช้คำถำม ดงั นี้ กำรทำกำร เกษตรในภำพมีลักษณะอย่ำ งไร (ตัวอย่าง คาตอบ เป็นการเกษตรแบบ ผสมผสานระหวา่ งการเลีย้ งไกแ่ ละการเล้ียงปลา) นักเรยี นเคยเหน็ กำรทำกำรเกษตรเหมือนในภำพหรือไม่ ถำ้ เคยเหน็ มีลกั ษณะอย่ำงไรบำ้ ง (ตัวอย่างคาตอบ เคยเหน็ มลี กั ษณะเปน็ การทาเกษตรในพนื้ ท่ีขนาดเล็กและใชพ้ น้ื ที่อยา่ งค้มุ คา่ ) นักเรยี นคิดว่ำกำรทำกำรเกษตรในลักษณะนีม้ ีประโยชน์อยำ่ งไร (ตวั อยา่ งคาตอบ เพ่ิม รายได้ แกก่ ารประกอบอาชีพของเกษตรกร) กำรปฏบิ ัตดิ งั กลำ่ วสอดคลอ้ งกบั เศรษฐกิจพอเพยี งอย่ำงไร (ตัวอย่างคาตอบ การรู้จกั แนวทางการประยกุ ต์ใช้ทรัพยากรท่มี ใี ห้เกิดประโยชน์สูงสุด) กำรปฏบิ ตั กิ ิจกรรมใดบ้ำงที่จดั เป็นกำรดำรงชีวติ แบบเศรษฐกจิ พอเพียง (การประหยดั ลดการใช้จา่ ยท่ฟี มุ่ เฟอื ย ประกอบอาชพี ด้วยความซ่ือสตั ยส์ ุจริต)
2. ครูแบง่ นักเรยี นออกเป็น 3 กลุม่ ร่วมกันนำเสนอแนวทำงกำรประยุกต์ใช้แนวคดิ เศรษฐกจิ พอเพียง ดังนี้ กลุ่มท่ี 1 นำเสนอแนวคิดเศรษฐกิจพอเพยี ง ประยกุ ต์ใชใ้ นครอบครวั กลุ่มที่ 2 นำเสนอแนวคิดเศรษฐกจิ พอเพียง ประยุกตใ์ ช้ในโรงเรยี น กลุ่มที่ 3 นำเสนอแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ประยกุ ตใ์ ช้ในชุมชน โดยให้นักเรยี นสรุปบนั ทกึ นำเสนอแนวทำงกำรประยุกต์แนวคิดเศรษฐกิจพอเพยี ง ให้เพอื่ นฟังหนำ้ ชั้น เรียน 3. หลังจบกำรนำเสนอของกลุ่มนักเรียน ครูและนักเรยี นร่วมกันสรุปกำรนำหลกั เศรษฐกิจ พอเพียงมำประยกุ ตใ์ ช้ในครอบครวั โรงเรยี น และชุมชน เป็นแผนภำพลงบนกระดำนตำมลำดับ ดังน้ี 1. ตัวอย่างแผนภาพ กำรนำหลักเศรษฐกิจพอเพยี งมำประยกุ ตใ์ ชใ้ นครอบครัว ลดคา่ ใช้จ่ายที่ไมจ่ าเป็นของครอบครัว ใช้ทรพั ยากรท่ีมีอย่ขู องครอบครวั ให้ค้มุ ค่า เลีย้ งสัตวเ์ พือ่ บรโิ ภคเอง กำรนำหลกั เศรษฐกิจพอเพยี ง ทาอาชีพท่สี ุจรติ มำประยกุ ต์ใช้ในครอบครัว ปลูกพชื ผักสวนครวั แทนการซอื ้ ดาเนนิ ชีวิตด้วยความไมป่ ระมาท 2. ตัวอย่างแผนภาพ กำรนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมำประยุกตใ์ ช้ในโรงเรียน จดั สรรพนื ้ ทว่ี ่างทาการเกษตรทฤษฎีใหมแ่ บบผสมผสาน นาวสั ดุเหลือใช้กลบั มาใช้ประโยชน์ กำรนำหลักเศรษฐกิจพอเพียง ส่งเสรมิ การออมทรพั ย์ มำประยุกต์ใช้ในโรงเรียน ร่วมกนั ใช้นา้ ไฟอย่างประหยดั ส่งเสรมิ การประกอบอาชีพ หารายได้ระหว่างเรยี น
3. ตวั อย่างแผนภาพ กำรนำหลักเศรษฐกิจพอเพยี งมำประยกุ ตใ์ ช้ในชุมชน ส่งเสริมให้เกิดกลุ่มออมทรพั ยใ์ นชุมชน ส่งเสรมิ ให้เกดิ ร้านค้าสหกรณ์ในชุมชน กำรนำหลกั เศรษฐกิจพอเพยี ง มำประยกุ ต์ใช้ในชมุ ชน สร้างจติ สานึกรว่ มกนั นาวตั ถดุ บิ ท่ีมใี นชมุ ชนมาแปรรูป ใน4ก.ารใใหช้้นทกัรพัเรยยี าแนกนแรวลอคะยดิค่าปรงรูรป่วชั รมญะกหำันเยศสดัรรษุปฐคกวจิำพมรอู้เพดยี งั งนส้ีำมำรเถพนิ่มำมมลู ำคปา่รเะปย็นกุ สตินใ์ ชค้ใ้าหช้เุมกดิชปนระโยชน์ต่อครอบครวั โรงเรยี น และชมุ ชน เพ่ือสรำ้ งควำมสมดลุ กำรดำเนนิ ชีวิต เศรษฐกิจ สังคม และสภำพแวดล้อมให้เกดิ ควำมมั่นคงและยง่ั ยืน 5. ใหน้ กั เรียนรว่ มกันแสดงควำมคิดเห็น โดยครใู ช้คำถำมท้ำทำย ดังน้ี นักเรียนจะนำแนวคดิ เศรษฐกจิ พอเพียงไปใช้ดำเนนิ ชีวิตของตนเองไดอ้ ยำ่ งไร 6. ใหน้ ักเรียนทำชิน้ งำนที่ 9 เรอ่ื ง เศรษฐกิจพอเพียง การจดั บรรยากาศเชิงบวก กำรแบ่งกลมุ่ ให้นักเรยี นนำเสนอแนวคิดเศรษฐกจิ พอเพยี งมำประยุกตใ์ ชใ้ นครอบครวั โรงเรียน และ ชมุ ชน และสรปุ เป็นแผนภำพ ส่อื การเรยี นรู้ 1. ภำพกำรทำเกษตรผสมผสำน 2. ชนิ้ งำนท่ี 9 เร่อื ง เศรษฐกจิ พอเพียง การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ 1. วิธีการวัดและประเมินผล 1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในกำรเข้ำร่วมกิจกรรม 1.2 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในกำรเข้ำร่วมกจิ กรรมกลุ่ม
1.3 ตรวจชน้ิ งำนที่ 9 2. เคร่อื งมือ 2.1 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรเข้ำรว่ มกิจกรรม 2.2 แบบสังเกตพฤตกิ รรมกำรเขำ้ รว่ มกิจกรรมกล่มุ 3. เกณฑก์ ารประเมนิ 3.1 กำรประเมนิ พฤตกิ รรมกำรเขำ้ ร่วมกจิ กรรม ผำ่ นตง้ั แต่ 2 รำยกำร ถอื วำ่ ผา่ น ผ่ำน 1 รำยกำร ถือวำ่ ไม่ผ่าน 3.2 กำรประเมนิ พฤติกรรมกำรเขำ้ ร่วมกิจกรรมกลมุ่ คะแนน 9-10 ระดบั ดีมำก คะแนน 7-8 ระดบั ดี คะแนน 5-6 ระดบั พอใช้ คะแนน 0-4 ระดับ ควรปรบั ปรุง การประเมินผลตามสภาพจรงิ (Rubrics) กำรประเมนิ ชน้ิ งำนที่ 9 ใหผ้ ู้สอนพิจำรณำจำกเกณฑก์ ำรประเมนิ ผลตำมสภำพจรงิ (Rubrics) เรอ่ื ง เศรษฐกิจพอเพียง เกณฑก์ ารประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 32 เขียนอธบิ ำยหรอื เขยี นอธิบำยหรือ เขยี นอธบิ ำยหรอื สรุป เขยี นอธิบำยหรอื สรุป เขยี นอธิบำยหรอื สรปุ สรปุ กำรนำหลัก สรปุ กำรนำหลกั กำรนำหลักเศรษฐกิจ กำรนำหลักเศรษฐกจิ กำรนำหลกั เศรษฐกจิ เศรษฐกิจพอเพยี ง เศรษฐกจิ พอเพียง พอเพยี งไป พอเพียงไป พอเพียงไป ไปประยกุ ต์ใชใ้ น ไปประยกุ ต์ใช้ใน ประยกุ ต์ใช้ใน ประยุกต์ใชใ้ น ประยกุ ต์ใชใ้ น ครอบครวั โรงเรยี น ครอบครวั โรงเรยี น ครอบครัว โรงเรยี น ครอบครัว โรงเรียน ครอบครวั โรงเรยี น และชมุ ชน และชุมชน ได้สมั พันธ์ และชุมชนได้ และชมุ ชน และชุมชนได้ เชอื่ มโยงกนั อธบิ ำย มีกำรจำแนกขอ้ มูล ได้ สอดคลอ้ ง แตย่ ังไมส่ อดคล้องกับ ใหเ้ หน็ ภำพโดยรวม อธิบำยแสดงใหเ้ ห็น กับขอ้ มลู มกี ำรเขียน ข้อมลู เขยี นตำม แสดงให้เหน็ ถงึ ถงึ ควำมสัมพนั ธ์ ขยำยควำมยกตัวอย่ำง ข้อมูลทีอ่ ำ่ น ไม่มีกำร ควำมสมั พนั ธ์ กบั ตนเองอย่ำง เพิม่ เติมให้เขำ้ ใจงำ่ ย อธิบำยเพิม่ เตมิ
กับตนเองและผ้อู น่ื เป็นเหตเุ ปน็ ผล บนั ทึกหลงั การสอน 1. ผลการจดั การเรียนการสอน ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… 2. ปญั หา/อุปสรรค ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… 3. แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ลงชือ่ (นำยวัชรพล แสงสุระ) ตำแหน่ง ครูผู้ชว่ ย
ความคิดเห็นและขอ้ เสนอแนะของผ้บู ริหาร ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ลงช่อื (นำยขันทอง เด่นพันธ์) ตำแหนง่ ผู้อำนวยกำรโรงเรียนอนุบำลชมุ ชนหนองบวั แดง แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 21 เรอ่ื ง ตัวอยา่ งการผลิตสนิ คา้ และบริการในชุมชน จำนวน 1 ช่วั โมง ชั้นประถมศึกษำปีที่ 5 หน่วยกำรเรยี นรทู้ ่ี 6 เศรษฐกจิ พอเพยี ง จำนวน 4 ช่ัวโมง รำยวชิ ำ ส 15101 สังคมศึกษำ กล่มุ สำระกำรเรยี นรู้ สังคมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม ผูส้ อน นำยวัชรพล แสงสรุ ะ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั มาตรฐานการเรยี นรู้ ส 3.1 เข้ำใจและสำมำรถบรหิ ำรจดั กำรทรพั ยำกรในกำรผลติ และกำรบรโิ ภค กำรใช้ทรัพยำกรที่มี อยู่จำกัดได้อยำ่ งมีประสิทธิภำพและคุ้มค่ำ รวมทั้งเขำ้ ใจหลักกำรของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อกำรดำรงชีวิต อยำ่ งมดี ุลยภำพ ตวั ชวี้ ัด ส 3.1 ป.5/2 ประยุกต์ใชแ้ นวคดิ ของปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพยี งในกำรทำกิจกรรมตำ่ ง ๆ ใน ครอบครัว โรงเรียนและชุมชน จุดประสงค์การเรยี นร้สู ตู่ วั ช้ีวัด 1. ยกตัวอยำ่ งกำรผลิตสนิ ค้ำ และบรกิ ำรตำมหลักเศรษฐกจิ พอเพียงท่มี ีอย่ใู นชุมชน (K) 2. จำแนกกำรผลติ สนิ ค้ำ และบริกำรตำมหลักเศรษฐกจิ พอเพียงในชุมชน (P)
3. เหน็ คุณค่ำสินคำ้ ที่เป็นผลิตภัณฑท์ มี่ ีอยใู่ นชุมชนของตนเอง (A) สาระสาคัญ กำรผลิตสนิ ค้ำและบริกำรในชมุ ชน โดยกำรนำเอำทรัพยำกรที่มอี ยู่ในชมุ ชนมำเปน็ ผลิตภัณฑ์ประจำ ชุมชน เพ่อื เป็นสนิ คำ้ ของชมุ ชนสร้ำงรำยได้ใหแ้ กช่ ุมชนตำมแนวทำงของหลักเศรษฐกิจพอเพียง สาระการเรยี นรู้ ตวั อย่ำงกำรผลติ สนิ คำ้ และบรกิ ำรในชุมชน คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ อยู่อย่ำงพอเพียง ตวั ช้ีวัดที่ 5.1 ดำเนนิ ชวี ิตอย่ำงพอประมำณ มีเหตผุ ล รอบคอบ มคี ณุ ธรรม สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น ควำมสำมำรถในกำรใชท้ กั ษะชีวติ ช้ินงานหรือภาระงาน (หลักฐาน รอ่ งรอยแสดงความรู้) แผนภำพตวั อย่ำงกำรผลติ สนิ ค้ำและบรกิ ำรในชุมชน คาถามทา้ ทาย นกั เรยี นคดิ วำ่ ทรัพยำกรในชมุ ชนของนักเรยี นเหมำะกบั กำรผลิตสินค้ำและบริกำรอะไร การบรู ณาการ - กลุม่ สำระกำรเรยี นรู้กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี ; กำรใชส้ ื่ออนิ เตอร์เน็ตสบื ค้น, - กลมุ่ สำระกำรเรียนรศู้ ิลปะ ; กำรเขยี นแผนภมู คิ วำมคิด (Mind mapping) - กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ภำษำไทย ; กำรอภิปรำย, กำรแสดงควำมคิดเหน็ , กำรสัมมนำ - โรงเรยี นสุจริต ; ปลูกฝังคำ่ นยิ มควำมซอ่ื สตั ย์สุจรติ - โรงเรียนสีขำว ; ปลกู ฝังค่ำนิยมให้ผเู้ รียนหำ่ งไกลอบำยมุขทกุ ชนิด - โรงเรยี นคุณธรรม ; ปลกู ฝังคณุ ธรรมและจริยธรรมให้เกดิ กับผู้เรยี น การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครนู ำตวั อย่ำงผลติ ภณั ฑ์ที่เปน็ สนิ คำ้ ท่ีผลิตในชุมชนมำให้นกั เรยี นดู เชน่ ผลติ ภณั ฑท์ ่ีทำจำก เครื่องปัน้ ดินเผำ เครอ่ื งแตง่ กำย (ผ้ำไหม) ของขบเคยี้ ว จำกน้นั ครูใชค้ ำถำมให้นักเรยี นร่วมกนั แสดงควำม คิดเหน็ ดงั น้ี ผลติ ภัณฑท์ เี่ ป็นสนิ คำ้ ผลิตในชุมชนมีควำมสำคัญอยำ่ งไร (ตวั อย่างคาตอบ เป็นผลติ ภณั ฑ์ที่เกิดจากการนาเอาทรัพยากรท่ีมอี ย่ใู นชุมชน และภมู ิปัญญาของชุมชนมาผลิตเปน็ สนิ ค้ า เพ่ือสร้างรายไดใ้ หเ้ กิดแกช่ มุ ชน)
นักเรียนจะสนับสนุนผลติ ภัณฑ์ท่ผี ลิตจำกชุมชนของตนเองอย่ำงไร (ตัวอย่างคาตอบ ใช้ ผลิตภณั ฑท์ ีส่ ามารถผลติ ในชมุ ชนของตนเอง) 2. ครูแบ่งกลุ่มนักเรียนออกเปน็ 2 กลุ่ม เพือ่ สำรวจตำมรำยกำรดงั ต่อไปน้ี กลุ่มท่ี 1 สำรวจทรพั ยำกรในชุมชนทสี่ ำมำรถนำมำผลติ เปน็ สนิ ค้ำและบริกำรได้ กลุ่มท่ี 2 สำรวจผลติ ภัณฑ์ท่มี อี ย่ใู นชมุ ชนวำ่ มอี ะไรบำ้ ง และมีกำรผลิตอย่ำงไร มีควำมสำคญั ตอ่ ชมุ ชนอย่ำงไร จำกนั้นใหแ้ ต่ละกลุ่มออกมำนำเสนอหนำ้ ช้ันเรยี น จบกำรนำเสนอ ครูใช้คำถำมให้นกั เรียนร่วมกั น แสดงควำมคดิ เห็น ดังน้ี กำรผลิตสินคำ้ และบรกิ ำรในชุมชน ควรคำนึงถึงสง่ิ ใด (ตัวอย่างคาตอบ ทรัพยากรท่ีมอี ยู่ ในชุมชน และนาภมู ิปัญญาทีม่ ีอยู่ในชุมชนมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์) ปจั จบุ ันรัฐบำลสง่ เสริมกำรผลิตสนิ ค้ำและบรกิ ำรในชมุ ชนอยำ่ งไร (หนึง่ ตาบล หนง่ึ ผลติ ภัณฑ)์ ทำอยำ่ งไรจงึ จะทำใหส้ นิ คำ้ และบรกิ ำรในชุมชนเปน็ สินค้ำหน่ึงตำบลหน่งึ ผลิตภัณฑไ์ ด้ (ตัวอยา่ งคาตอบ คนในชุมชนตอ้ งรวมกลุ่มผลติ สนิ ค้าและบริการ ออกนาเผยแพร่ให้เปน็ ท่รี ู้จัก) 3. ให้นกั เรียนร่วมกันศึกษำกำรนำหลักปรัชญำเศรษฐกจิ พอเพียงมำใชเ้ พอ่ื สร้ำงรำยได้ตำม นโยบำย หน่ึงตำบล หนง่ึ ผลติ ภณั ฑ์ โดยครใู ช้คำถำม และสรุปคำตอบของนกั เรียนเปน็ แผนภำพลงบนกระดำน ดังนี้ นกั เรยี นมแี นวทำงกำรนำหลกั ปรชั ญำเศรษฐกิจพอเพียงมำใชใ้ นกำรผลิตสนิ คำ้ และบรกิ ำร ให้ เกดิ ประโยชนต์ ่อชุมชนไดอ้ ย่ำงไร ตัวอย่างแผนภาพ กำรสรปุ คำตอบของนกั เรยี น นาทรพั ยากรท่ผี ลิตได้ในชุมชน รวมกลุ่มผู้คนในชมุ ชนเพ่ือผลิตสินค้าและบรกิ าร มาผลิตสินค้าและบริการ กำรนำหลกั กำร นาภมู ปิ ญั ญาทีม่ ขี องชุมชน เศรษฐกจิ พอเพียง มาสร้างสรรค์ผลงาน มำใช้ผลติ สินค้ำ และบริกำรในชุมชน จดั สรรรายได้บางส่วนเพ่ือเป็นกองทนุ พฒั นาสินค้าและบรกิ าร พฒั นาสินค้าและบริการของชุมชน เป็นผลิตภณั ฑ์ประจาชุมชน รว่ มกนั เผยแพร่ผลิตภณั ฑ์ของชมุ ชน
4. ครอู ธิบำยควำมรูเ้ พิ่มเติมเกีย่ วกบั รอบรอู้ ำเซียน ดงั น้ี สินค้ำหนึ่งตำบลหน่ึงผลิตภัณฑ์ หรือ OTOP ของไทย เปน็ สินค้ำที่ผลติ จำกภูมิปัญญำและ ทรัพยำกรทอี่ ยู่ในชมุ ชน ซึ่งผลิตภัณฑส์ ่วนใหญข่ องชุมชนจะสะท้อนถงึ วถิ ีชีวิต ขนบธรรมเนียม ประเพณี ควำม เช่ือของคนในชมุ ชน ยกตัวอย่ำง เช่น ขนั ลงหินบำ้ นบุ ขนั ลงหินบา้ นบุ ประวัติควำมเปน็ มำ แหล่งทำขันลงหนิ ในประเทศไทย มีอยู่แห่งเดยี ว คือที่ตำบลบำ้ นบุ อำเภอบำงกอกนอ้ ย บริเวณข้ำงวัด- สวุ รรณำรำม รมิ คลองบำงกอกน้อย ปัจจบุ นั น้ีคือ ย่ำนหลงั ท่ีว่ำกำรเขตบำงกอกน้อย กำรทำขันลงหนิ เปน็ อตุ สำหกรรมในครัวเรอื นอยำ่ งหน่ึง บ้ำนทที่ ำขันลงหินซ่งึ อยู่ใกลก้ นั ในละแวกนัน้ มกี วำ่ ร้อยครอบครวั เลำ่ กันวำ่ ครอบครวั ทำขันลงหินน้ีต้นตระกูลสบื มำจำกอยธุ ยำ เมอื่ กรงุ แตกก็อพยพกันเปน็ หมู่มำอยทู่ ่บี ำงลำภูเป็น แหลง่ แรก แลว้ ยำ้ ยมำยังบำ้ นบุจนปัจจบุ นั พระพุทธเจ้ำหลวงเคยเสดจ็ ประพำสบำ้ นบตุ รสั วำ่ “พวกน้ดี ี อยกู่ บั ไฟ แตไ่ มเ่ คยมีไฟไหม้” กำรหลอมเนื้อขันต้องใชไ้ ฟจำกเตำสบู ซ่งึ ลกุ โพลงอยู่ตลอดเวลำ โดยใชค้ นชกั สบู ให้ไฟแรงสมำ่ เสมอ ช่ำงหลอมและช่ำงตีจะน่ังล้อมวงอยขู่ ้ำงกองไฟ ตลอดเวลำ เพื่อใหส้ ะดวกตอ่ กำรตีขัน กระบวนการผลิต ใช้โลหะที่จะหลอมเป็นเนื้อขัน ซ่ึง สมัยก่อน จะใช้ทองท่ีนำ มำจ ำ กเมืองจีน เรียกว่ำ ทองมำ้ ลอ่ ต่อมำเรำผสมได้เองทีเ่ รยี กว่ำเล่นแร่แปรธำตุ กเ็ ลยเรียกทองม้ำล่อมำตลอด ปัจจุบนั ใชท้ องแดงผสม ดีบกุ กับเศษทองทเ่ี หลือจำกขัน เช่น เศษตะไป และจำกขันเก่ำ เชอ่ื กนั วำ่ เน้อื ทองมำ้ ล่อแต่เดิมก็ยังอยู่มำจนทุก วั น น้ี เ พ ร ำ ะ เ ข ำ รั บ ซ้ื อ เ ศ ษ ขั น ล ง หิ น เ ก่ ำ ๆ ซึ่ ง มี ก ลั บ ม ำ ยั ง บ้ ำ น บุ ทุ ก วั น เน้ือเดมิ หรือธำตุขันลงหินเดมิ จึงมีผสมอยู่ในขันลงหินทุกใบ เขำยังเรียกเศษทองทใี่ ชผ้ สมรวมกับดีบุก และ ทอ ง แด ง นี้ ว่ำ ท อง ม้ ำ ล่อ อ ยู่ เ น้ื อขั น ล งหิ น มี โล ห ะส ำ ม อย่ ำ งผ ส ม กัน คื อ ท อง แ ด ง ดี บุ ก และทองมำ้ ลอ่ เท่ำน้ัน จะมอี ย่ำงอ่ืนปนด้วยไม่ได้เด็ดขำด เช่น ถำ้ มที องเหลอื งปนแมแ้ ต่นิดเดยี ว เนื้อทองจะไม่ ประสำนกัน ตีแล้วแตกทนั ที จุดเด่ นข อง ผลิตภั ณฑ์ เ ป็น งำ น หัตถ กร ร ม มือต้อ งใช้ค วำ มป ร ะณีต ควำ มอดท น และระยะเวลำในกำรผลิตนำน เชน่ ขันลงหนิ ขนำด 10 นวิ้ ใช้เวลำในกำรตีขนั 4 วัน ไม่รวมกำรแกะสลักลำย
จะเห็นไดว้ ่ำขนั ลงหินบ้ำนบุ 1 ใบ แฝงด้วยเรอื่ งรำวทำงประวตั ิศำสตรแ์ ละวิถีชีวิตของคนในอดีต จนถึงปัจจุบนั และงำนศิลปะที่ควรแกก่ ำรอนุรักษ์ใหอ้ ยู่คู่กบั คนไทย และประเทศไทยต่อไป 5. ใหน้ กั เรยี นและครรู ่วมกนั สรปุ ควำมรู้ ดังน้ี กำรผลติ สนิ ค้ำและบริกำรในชมุ ชน ตำมหลกั เศรษฐกิจพอเพยี ง โดยกำรนำทรพั ยำกรและ ภูมิปัญญำท่มี ีอยใู่ นชมุ ชน มำพัฒนำเป็นผลิตภัณฑข์ องชุมชน เพือ่ สรำ้ งรำยได้ให้เกิดแก่ชมุ ชน 6. ใหน้ ักเรยี นร่วมกนั แสดงควำมคิดเห็น โดยครูใช้คำถำมท้ำทำย ดังน้ี นักเรยี นคดิ วำ่ ทรัพยำกรในชุมชนของนักเรียนเหมำะกับกำรผลิตสินคำ้ และบรกิ ำรอะไร การจดั บรรยากาศเชิงบวก กำรแบ่งกล่มุ นกั เรยี นสำรวจทรพั ยำกรและผลติ ภัณฑท์ ีม่ ีอยใู่ นชมุ ชน และสรุปกำรนำหลกั เศรษฐกิจ พอเพยี งมำผลิตสนิ ค้ำและบริกำรเป็นแผนภำพ สอ่ื การเรียนรู้ ตัวอยำ่ งผลิตภัณฑส์ นิ คำ้ ที่ผลติ ในชมุ ชน การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 1. วธิ ีการวดั และประเมินผล 1.1 สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในกำรเข้ำรว่ มกจิ กรรม 1.2 สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในกำรเขำ้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม 2. เครื่องมือ 2.1 แบบสังเกตพฤตกิ รรมกำรเขำ้ รว่ มกจิ กรรม 2.2 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรเข้ำรว่ มกจิ กรรมกลุ่ม 3. เกณฑ์การประเมนิ 3.1 กำรประเมนิ พฤติกรรมกำรเข้ำร่วมกิจกรรม ผำ่ นตง้ั แต่ 2 รำยกำร ถอื วำ่ ผา่ น ผำ่ น 1 รำยกำร ถือว่ำ ไมผ่ า่ น 3.2 กำรประเมนิ พฤตกิ รรมกำรเข้ำร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คะแนน 9-10 ระดบั ดีมำก คะแนน 7-8 ระดับ ดี คะแนน 5-6 ระดบั พอใช้
คะแนน 0-4 ระดบั ควรปรบั ปรงุ บันทึกหลังการสอน 1. ผลการจดั การเรยี นการสอน ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… 2. ปัญหา/อุปสรรค ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… 3. แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….……………
……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ลงช่อื (นำยวชั รพล แสงสุระ) ตำแหน่ง ครูผ้ชู ่วย ความคิดเห็นและขอ้ เสนอแนะของผูบ้ ริหาร ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ลงชื่อ (นำยขันทอง เด่นพันธ์) ตำแหนง่ ผู้อำนวยกำรโรงเรียนอนบุ ำลชมุ ชนหนองบวั แดง แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 22 เรอื่ ง กจิ กรรมเสรมิ ทักษะควำมรทู้ ้ำยหน่วยกำรเรียนรู้ จำนวน 1 ช่วั โมง ชั้นประถมศึกษำปีที่ 5 หน่วยกำรเรียนร้ทู ่ี 6 เศรษฐกิจพอเพยี ง จำนวน 4 ชั่วโมง รำยวิชำ ส 15101 สงั คมศกึ ษำ กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ สังคมศึกษำ ศำสนำ และวัฒนธรรม ผู้สอน นำยวชั รพล แสงสุระ มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ ส 3.1 เขำ้ ใจและสำมำรถบริหำรจดั กำรทรัพยำกรในกำรผลติ และกำรบรโิ ภค กำรใชท้ รพั ยำกรทม่ี ีอยู่จำกัดไดอ้ ย่ำงมีประสิทธิภำพและคมุ้ ค่ำ รวมทงั้ เขำ้ ใจหลักกำรของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อกำรดำรงชีวิตอยำ่ งมดี ุลยภำพ ตัวช้ีวดั
ส 3.1 ป.5/2 ประยุกตใ์ ช้แนวคิดของปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพียงในกำรทำกิจกรรมตำ่ ง ๆ ใน ครอบครวั โรงเรียนและชุมชน จดุ ประสงคก์ ารเรียนรสู้ ่ตู ัวชว้ี ัด 1. อธบิ ำยและสรุปควำมรู้เรื่องเศรษฐกิจพอเพยี งลงในแบบกจิ กรรม (K) 2. จำแนกและสรปุ ควำมรู้เร่ืองเศรษฐกิจพอเพียงลงในแบบกจิ กรรม (P) 3. เหน็ ควำมสำคญั ในกำรพัฒนำทักษะควำมรใู้ นกำรทำกจิ กรรมระหว่ำงเรยี น (A) สาระสาคญั หลักปรัชญำเศรษฐกิจพอเพยี งเป็นแนวพระรำชดำรสั ของพระบำทสมเดจ็ พระเจำ้ อยูห่ ัว ทรงช้แี นะแนวทำงในกำรดำเนนิ ชีวติ เพือ่ ให้คนไทยสำมำรถพึ่งพำตนเองกบั ภำวะเศรษฐกจิ ที่มกี ำรเปลย่ี นแปลง ในโลกยุคปจั จบุ นั และอนำคต สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมเสริมทักษะควำมรู้เศรษฐกจิ พอเพยี ง คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ อยู่อยำ่ งพอเพยี ง ตวั ช้ีวดั ท่ี 5.1 ดำเนนิ ชีวติ อยำ่ งพอประมำณ มเี หตผุ ล รอบคอบ มคี ณุ ธรรม สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ควำมสำมำรถในกำรใช้ทักษะชวี ิต ช้ินงานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน ร่องรอยแสดงความร)ู้ แบบกจิ กรรมเสรมิ ทกั ษะควำมรทู้ ำ้ ยหนว่ ยกำรเรียนรู้ คาถามท้าทาย หลกั เศรษฐกิจพอเพยี งชว่ ยให้ทรัพยำกรธรรมชำตแิ ละส่งิ แวดลอ้ มมีควำมยั่งยืนอย่ำงไร การบูรณาการ - กล่มุ สำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี ; กำรใชส้ ่ืออนิ เตอรเ์ น็ตสบื คน้ , - กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ศลิ ปะ ; กำรเขยี นแผนภูมิควำมคดิ (Mind mapping) - กล่มุ สำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย ; กำรอภิปรำย, กำรแสดงควำมคิดเหน็ , กำรสมั มนำ - โรงเรยี นสุจรติ ; ปลูกฝังค่ำนยิ มควำมซือ่ สตั ย์สุจริต - โรงเรยี นสขี ำว ; ปลูกฝงั ค่ำนิยมใหผ้ เู้ รยี นหำ่ งไกลอบำยมขุ ทกุ ชนิด - โรงเรยี นคณุ ธรรม ; ปลกู ฝังคุณธรรมและจรยิ ธรรมให้เกดิ กบั ผู้เรียน การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
1. ครูนำแบบกิจกรรมหรือแบบฝึกหัด เพ่ือให้นักเรียนได้ฝกึ พฒั นำทกั ษะเสริมควำมรู้และทบทวนใน หน่วยกำรเรียนรู้ (แบบกจิ กรรมให้ขึ้นอยู่กับดุลยพินจิ ของครผู ้สู อน) ดังนี้ ตัวอยา่ งกิจกรรมท่ี 1 ใหน้ กั เรียนอธิบำยควำมหมำยเศรษฐกิจพอเพียงตำมแผนภำพท่ีกำหนด ใหด้ งั ต่อไปนี้ ตวั อยา่ งกจิ กรรมท่ี 2 ให้นกั เรยี นยกตวั อยำ่ งแนวทำงกำรปฏบิ ัติตนโดยกำรนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมำประยกุ ต์ใช้ ในชวี ิตประจำวัน ดังน้ี 1. การประยกุ ตแ์ นวคดิ เศรษฐกิจพอเพียงใช้ในครอบครัว _____________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________ 2. การประยกุ ต์แนวคดิ เศรษฐกจิ พอเพียงใช้ในโรงเรยี น _____________________________________________________________________________
ผลท่ีได้รบั จากการปฏบิ ตั ิ 1. __________________________________________________________________________ 2. __________________________________________________________________________ 3. __________________________________________________________________________ 4. __________________________________________________________________________ 5. __________________________________________________________________________ 2. ครูตรวจและเฉลยแบบกิจกรรมและอธิบำยสรุปเปน็ ควำมร้เู พ่ิมเตมิ 3. ให้นักเรยี นทำแบบทดสอบหลังเรยี น (Post-Test) เพอ่ื ประเมินผลกำรเรยี นในหนว่ ย กำรเรยี นรู้ที่ 2 4. ใหน้ กั เรียนและครรู ่วมกนั สรุปควำมรู้ ดังน้ี หลกั ปรชั ญำเศรษฐกจิ พอเพียงเปน็ แนวพระรำชดำรสั ของพระบำทสมเดจ็ พระเจ้ำอยู่หวั ทรงชแ้ี นะแนวทำงในกำรดำเนินชีวติ เพ่ือใหค้ นไทยสำมำรถพ่งึ พำตนเองกับภำวะเศรษฐกิจท่ีมกี ำรเปลี่ยนแปลง ในโลกยคุ ปจั จบุ ันและอนำคต
5. ใหน้ กั เรยี นร่วมกันแสดงควำมคิดเหน็ โดยครูใช้คำถำมท้ำทำย ดังนี้ หลักเศรษฐกจิ พอเพียงชว่ ยใหท้ รัพยำกรธรรมชำตแิ ละสิ่งแวดล้อมมีควำมยั่งยืนอย่ำงไร การจดั บรรยากาศเชงิ บวก กำรนำแบบกจิ กรรมเพอื่ เสริมควำมรู้ และพฒั นำทกั ษะกำรเรยี นของนกั เรยี น สื่อการเรยี นรู้ แบบกิจกรรมเสริมทกั ษะควำมรู้ท้ำยหนว่ ยกำรเรียนรู้ การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. วธิ ีการวดั และประเมินผล สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในกำรเข้ำรว่ มกจิ กรรม 2. เคร่ืองมอื แบบสงั เกตพฤติกรรมกำรเข้ำร่วมกิจกรรม 3. เกณฑก์ ารประเมิน กำรประเมินพฤติกรรมกำรเขำ้ รว่ มกจิ กรรม ผ่ำนตั้งแต่ 2 รำยกำร ถอื ว่ำ ผา่ น ผำ่ น 1 รำยกำร ถอื วำ่ ไมผ่ า่ น บนั ทกึ หลังการสอน 1. ผลการจดั การเรยี นการสอน ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….……………
……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… 2. ปัญหา/อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… 3. แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ลงชอื่ (นำยวชั รพล แสงสุระ) ตำแหนง่ ครูผ้ชู ว่ ย ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของผบู้ ริหาร ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ลงช่อื (นำยขันทอง เด่นพนั ธ์) ตำแหนง่ ผู้อำนวยกำรโรงเรียนอนบุ ำลชมุ ชนหนองบวั แดง
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120