ประเภทของวงดนตรีสากล

ประเภทของวงดนตรีสากล จัดทาโดย นางสาวภัทรวดี จนั ทรท์ อง มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 ห้อง 2 เลขที่ 31 เสนอ คุณครูศริ ิพร เมืองราช โรงเรียนพระแสงวทิ ยา ปกี ารศกึ ษา 2564 ภาคเรียนที่ 2

วงออรเ์ คสตรา้ หรอื วงดรุ ยิ างค์ วงออรเ์ คสตรา้ หรือวงดุรยิ างค์ เปน็ วงดนตรีสากลท่ีมคี วามย่ิงใหญอ่ ลงั การใชผ้ ู้ บรรเลงมากทส่ี ดุ ในทกุ ประเภท เร่ิมต้นท่ี 40 คนเป็นต้นไป ใชเ้ ครื่องดนตรีครบทกุ กล่มุ และจะตอ้ งมผี ู้ควบคุมท่ีเรียกว่าคอนดกั เตอร์ คอยควบคมุ จงั หวะและห้วง ทานองใหล้ น่ื ไหลตามจังหวะทค่ี วรจะเป็น ซง่ึ จะสามารถแบ่งไดอ้ กี 2 ประเภทยอ่ ย คอื 1.วงซิมโฟนีท่ีใชบ้ รรเลงเพลง 2.วงโอเปร่าท่ีใช้ประกอบละครเวที

วงแชมเบอร์ มิวสคิ วงแชมเบอร์ มิวสิค เปน็ วงดนตรสี ากลทีม่ ีความหรูหราและเกา่ แก่ทสี่ ดุ นั่นคือ มกั จะใชเ้ ล่นกันในราชสานกั ขุนนางยุโรปในอดีต ขนาดของวงต้ังแต่ 2 คนแต่ไม่ เกนิ 9 คน โดยสามารถใช้เครอ่ื งดนตรหี ลักไดห้ ลายอยา่ งไม่วา่ จะเป็น เปยี โน กตี าร์ ไวโอลนิ ทีใ่ ช้บรรเลงเน้อื เพลง ส่วนเคร่ืองดนตรอี ื่นใชใ้ นการประกอบ ทานองใหก้ ลมกล่อม โดยสามารถเรยี กยอ่ ยตามจานวนผูบ้ รรเลงไดด้ ังนี้ – ดโู อ (Duo) ผบู้ รรเลง 2 คน – ทริโอ (Trio) ผบู้ รรเลง 3 คน – ควอรเ์ ทท (Quaret) ผู้บรรเลง 4 คน – ควนิ เทท็ (Quinter) ผู้บรรเลง 5 คน – เซ็กส์เทท (Sextet) ผบู้ รรเลง 6 คน – เซบเทท (Septet) ผูบ้ รรเลง 7 คน – อ็อคเทท (Octet) ผ้บู รรเลง 8 คน – โนเนท (Nonet) ผู้บรรเลง 9 คน

วงมารช์ ชงิ่ แบนด์ หรอื วงโยธวาทติ วงมาร์ชช่งิ แบนด์ หรอื วงโยธวาทิต เป็นวงดนตรีที่นยิ มบรรเลงกลางแจง้ ประกอบดว้ ยเครอ่ื งเป่าครบทกุ กลุ่ม คอื เครอ่ื งลมไม้ เครือ่ งทองเหลืองและกลมุ่ เครอ่ื งกระทบ ได้แกเ่ ครื่องดนตรที ใี่ ห้จังหวะท้ังหลาย วงโยธวาทิตมมี าต้งั แต่สมยั โรมันใช้บรรเลงเพลงเดนิ แถวเพือ่ ปลุกใจทหารในสมยั สงครามครเู สด

วงซมิ โฟนคิ แบนด์ วงซิมโฟนคิ แบนด์ คือ การนาเอาวงโยธวาทติ มานั่งบรรเลงในลกั ษณะของ คอนเสริ ์ต ซง่ึ จะเปน็ การนาเอาบทเพลงที่มกี ารเรยี บเรยี งใหม่มาใชใ้ นการบรรเลง ทมี่ ลี ักษณะคล้ายกับวงออรเ์ คสตรา หรอื บางคร้ังกจ็ ะเป็นการนาเอาเพลงของวง ออรเ์ คสตรามาเรยี บเรียงใหม่แลว้ ใช้ในการบรรเลง เพ่ือทจี่ ะให้เกิดความเหมาะสม กบั เครื่องดนตรที ใ่ี ช้ ดว้ ยลกั ษณะของการเล่นจงึ ทาให้ วงซิมโฟนิคแบนด์ (symphonic band) มีช่อื เรียกอกี อยา่ งหน่ึงว่า วงนัง่ บรรเลง (concert band) ประกอบด้วยเครอ่ื งดนตรี 3 กลมุ่ คอื  เคร่อื งเปา่ ลมไม้  เคร่ืองเปา่ ลมทองเหลือง  เครือ่ งตี

วงแตรวง แตรวง เป็นวงดนตรที ่ปี ระกอบด้วยเครอ่ื งดนตรี 2 กลุ่ม ได้แก่  กลมุ่ เคร่ืองเป่าลมทองเหลอื ง  กล่มุ เครอ่ื งตี โอกาสทใี่ ช้บรรเลง เป็นวงดนตรีท่ใี ช้บรรเลงกลางแจ้ง เช่น สวนสาธารณะ สนาม –แขง่ ขันกีฬา หรอื ในขบวนแห่ต่างๆ เป็นตน้ บทเพลงทีใ่ ช้บรรเลงในวงดนตรี บรรเลงได้บททกุ เพลงทง้ั เพลงไทย เพลง สากล เพลงลูกทุ่ง ให้ความร้สู ึกสนุกสนานคร้นื เครง

วงแตรวงชาวบา้ น แตรวงชาวบา้ น เป็นวงดนตรที เ่ี กดิ ขึน้ ในสงั คมไทยแถบชนบทเป็นเวลาช้า นานแล้ว การประสมวงไมม่ รี ูปแบบที่แน่นอน เครื่องดนตรหี ลักคือเคร่อื งเป่าชนิด ต่างๆ ทุกชนิด เทา่ ท่จี ะหาได้ ไมจ่ ากดั เฉพาะเครื่องดนตรีประเภทแตรเทา่ นัน้ พร้อมทั้งมเี ครอื่ งตปี ระกอบจังหวะจานวนหน่ึง ตามความเหมาะสม ลักษณะการ บรรเลงเหมอื นการประโคมประกอบงานตา่ งๆ เพือ่ ให้เกิดความครึกครืน้ มากกวา่ ไพเราะ เพลงทน่ี ามาบรรเลงมีท้งั เพลงไทย เพลงลูกทุ่ง และเพลงอนื่ ๆ ที่มลี ลี า จงั หวะทสี่ นกุ สนาน

วงคอมโบ และวงสตงิ คอมโบ วงคอมโบ เปน็ วงดนตรีขนาดเล็ก เน้นประกอบการขับร้องเปน็ สว่ นใหญ่ นยิ ม นาไปบรรเลงตามร้านอาหารหรือตามสถานท่ีบันเทิงตา่ งๆวงดนตรีประเภทนี้มี จานวนนักดนตรีและเครอ่ื งดนตรีที่ไมแ่ นน่ อน ทั้งน้ีแลว้ แต่ความสะดวกในการ จดั วง วงสตริง วงดนตรีประเภทนีด้ ัดแปลงมาจากวงคอมโบและวงชาโดว์คอื นาเอา เครือ่ งดนตรีในวงชาโดว์ผสมกบั วงคอมโบ แตย่ ังคงใชเ้ ครอ่ื งดนตรปี ระเภท กีต้าร์เป็นเครือ่ งดนตรที ีม่ ีความสาคญั กวา่ เครอื่ งดนตรชี นดิ อื่นๆ

วงแจส๊ วงแจ๊ส เป็นวงดนตรีท่เี กดิ ขึ้นจากการผสมกนั ระหวา่ งดนตรยี ุโรปและแอฟรกิ า เปน็ วงดนตรที ่กี าเนินขึน้ ที่นครนิวออร์ลนี บรเิ วณ สตอรีวิล มีลกั ษณะเด่นอยทู่ ี่การเนน้ จงั หวะหนักมากมที านองฝืนกับจังหวะเคาะ อยูแ่ ทบตลอดเวลานกั ดนตรใี นวงดนตรปี ระเภทน้ีต้อง เปน็ ผมู้ ีความสามารถในการบรรเลงเฉพาะตัวสูงมาก บางครั้งถึงกับสรา้ งทานอง ข้ึนมาในทนั ทีทันใดดว้ ยการดน้ เพลงในขณะบรรเลงรว่ มวง (Improvisation) เครอื่ งดนตรีทีใ่ ชม้ เี คร่อื งเปา่ มากกวา่ ประเภทอนื่ ไดแ้ ก่ี แซ็กโซโฟน ทรมั เปท คลารเิ นท และทรอมโบน เครอ่ื งสาย ไดแ้ ก่ กตี าร์ ดบั เบสิ เบส และเปยี โนร่วมผสมดว้ ย ส่วนเครือ่ งกระทบประกอบจงั หวะ ได้แก่ กลองชดุ และเครื่องเคาะ เขย่าขนาดเลก็ อนื่ ๆ รปู แบบการ ประสมวงและการบรรเลงแตกตา่ งกันหลายประเภทตามยคุ สมยั ตามความสะดวก ความเหมาะสมสาหรับนกั ดนตรีและสภาพสังคมแต่ละแบบ ทีแ่ ตกตา่ งกันไป