Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เอกสาร-Best-Practices-กศน

เอกสาร-Best-Practices-กศน

Description: เอกสาร-Best-Practices-กศน. โครงการ การอบรมการเขียนผลการปฏิบัติงานที่เป็นเลิศ (Best Practice) สาหรับครู กศน.

Search

Read the Text Version

โครงการ การอบรมการเขยี นผลการปฏบิ ตั งิ านทเ่ี ป็ นเลศิ (Best Practice) สาหรบั ครู กศน. พูนสวัสดิ์ สราญฤทธไิ กร วทิ ยากรและทปี่ รกึ ษาดา้ นการพัฒนาทรพั ยากรมนุษย์

นอ้ มนาพระบรมราโชบายดา้ นการศกึ ษาเป็ นแนวทาง พระบรมราโชวาทดา้ นการศกึ ษาของพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช แนวทางในการจดั การศกึ ษา มใี จความสาคญั คอื “งานดา้ นการศกึ ษา เป็ นงานสาคัญทสี่ ดุ อย่างหนงึ่ ของชาติ เพราะความเจรญิ และความเสอื่ มของชาตนิ นั้ ขน้ึ อยู่กบั การศกึ ษาของพลเมอื งเป็ นขอ้ ใหญ่ จงึ ตอ้ งจัดการศกึ ษาใหเ้ ขม้ แข็งยงิ่ ขน้ึ ” (พระบรมราโชวาทในพธิ พี ระราชทานปรญิ ญาบตั รแกบ่ ัณฑติ วทิ ยาลยั วชิ าการศกึ ษาประสานมติ ร 12 ธนั วาคม 2512) พระบรมราโชบายดา้ นการศกึ ษาของในหลวงรัชกาลที่ 10 การศกึ ษาตอ้ งมงุ่ สรา้ งพนื้ ฐานใหแ้ กผ่ เู ้ รยี น 4 ดา้ น คอื 1) มที ัศนคตทิ ถ่ี กู ตอ้ งตอ่ บา้ นเมอื ง 2) มพี น้ื ฐานชวี ติ ทม่ี ่นั คง-มคี ณุ ธรรม 3) มงี านทา-มอี าชพี 4) เป็ นพลเมอื งดี

“คนไทยทุกคนไดร้ ับการศกึ ษาและเรยี นรูต้ ลอดชวี ติ อยา่ งมคี ณุ ภาพ ดารงชวี ติ อย่างเป็ นสขุ สอดคลอ้ งกบั หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง และการเปลย่ี นแปลงของโลกศตวรรษที่ 21”









ยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นาประเทศ 6 ยุทธศาสตร์ ในปี งบประมาณ พ.ศ.2561 สานักงาน กศน.ไดก้ าหนดโครงการสาคัญทงั้ ทเ่ี ป็ น นโยบายเร่งดว่ นเพอ่ื ร่วมขบั เคลอ่ื นตามยุทธศาสตรก์ ารพัฒนาประเทศ และภารกจิ ตอ่ เน่อื ง โครงการสาคญั ทด่ี าเนนิ การเพอื่ ร่วมขับเคลอ่ื นตามยทุ ธศาสตรก์ ารพัฒนาประเทศ 6 ยทุ ธศาสตร์ ประกอบดว้ ย ยุทธศาสตรด์ า้ นความมน่ั คง ไดแ้ ก่ การส่งเสรมิ การจดั การเรยี นรตู ้ ามพระบรมราโชบาย ดา้ นการศกึ ษาของ รัชกาลท่ี 10 และการพฒั นาการจดั การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษา ตามอัธยาศยั ในเขตพนื้ ทพ่ี เิ ศษ ยุทธศาสตรด์ า้ นการพฒั นากาลงั คน การวจิ ยั และนวตั กรรมเพอ่ื สรา้ งขดี ความสามารถในการแขง่ ขนั ของประเทศ ประกอบดว้ ย การขับเคลอ่ื น กศน. สู่ “Smart ONIE” ในการจดั การศกึ ษาและการเรยี นรูท้ เี่ สรมิ สรา้ งศักยภาพของประชาชนให ้ สอดคลอ้ งกบั การพัฒนาประเทศ และการพฒั นากาลังคนใหเ้ ป็ น “Smart Digital Persons (SDPs)” ทมี่ ที กั ษะดา้ นดจิ ทิ ลั เพอื่ รองรับการพัฒนาประเทศ ยุทธศาสตรด์ า้ นการพฒั นาและเสรมิ สรา้ งศกั ยภาพคนใหม้ คี ุณภาพ ไดแ้ ก่ 1) การ เตรยี มความพรอ้ มการเขา้ สู่สังคมผูส้ งู อายุอย่างมคี ุณภาพ (Smart Aging Society) 2) การสง่ เสรมิ การจดั การเรยี นรูด้ า้ นเกษตรกรรม (Smart Farmer : เกษตรกรปราดเปรอ่ื ง) 3) ส่งเสรมิ ใหม้ กี ารจดั การเรยี นการสอนแบบ “สะเตม็ ศกึ ษา” (STEM Education) 4) เพม่ิ อตั ราการอา่ นของประชาชน 5) ศูนยฝ์ ึกอาชพี ชุมชน สู่ “วสิ าหกจิ ชุมชน : ชมุ ชนพง่ึ ตนเอง ทาได ้ ขายเป็ น” 6) จดั กระบวนการเรยี นรตู ้ ามแนวทางเกษตรธรรมชาตสิ ู่การพฒั นาอาชพี เกษตรกรรมอย่างยัง่ ยนื

ยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นาประเทศ 6 ยุทธศาสตร์ ยุทธศาสตรด์ า้ นการสรา้ งโอกาสและความเสมอภาคทางการศกึ ษา ไดแ้ ก่ 1) สง่ เสรมิ การ นาระบบคปู องการศกึ ษามาใชเ้ พอื่ สรา้ งและขยายโอกาสการเรยี นรทู ้ สี่ ะดวก รวดเรว็ ตรงตาม ความตอ้ งการ 2) สรา้ งกระบวนการเรยี นรใู ้ นรปู แบบ E-learning MOOC ทใ่ี ชร้ ะบบเทคโนโลยี มาบรหิ ารจัดการเรยี นรู ้ 3) เพมิ่ อตั ราการรูห้ นังสอื และยกระดบั การรูห้ นังสอื ของประชาชน 4) ยกระดับการศกึ ษาใหแ้ กก่ ลุม่ เป้าหมายทหารกองประจาการ 5) พลกิ โฉม กศน. ตาบล สู่ “กศน. ตาบล 4 G” (Good Teacher, Good Place Best Check-In, Good Activities, Good Partnership) ยทุ ธศาสตรด์ า้ นสง่ เสรมิ และจดั การศกึ ษาเพอื่ เสรมิ สรา้ งคุณภาพชวี ติ ทเี่ ป็ นมติ รกบั สงิ่ แวดลอ้ ม ดาเนนิ การส่งเสรมิ ใหม้ กี ารใหค้ วามรูก้ บั ประชาชนเกยี่ วกบั การป้องกนั ผลกระทบ และปรบั ตวั ต่อการเปลยี่ นแปลงสภาพภูมอิ ากาศและภัยพบิ ตั ธิ รรมชาติ สรา้ งความตระหนักถงึ ความสาคัญของการสรา้ งสังคมสเี ขยี ว การกาจัดขยะและมลพษิ ในเขตชุมชน และสง่ เสรมิ ให ้ หน่วยงานและสถานศกึ ษาใชพ้ ลังงานทเี่ ป็ นมติ รกบั สง่ิ แวดลอ้ ม รวมทงั้ ลดการใชท้ รพั ยากรท่ี สง่ ผลกระทบต่อสงิ่ แวดลอ้ ม ยทุ ธศาสตรด์ า้ นการพฒั นาประสทิ ธภิ าพระบบบรหิ ารจดั การ ประกอบดว้ ย พฒั นาระบบ ฐานขอ้ มูลสารสนเทศดา้ นการศกึ ษา สง่ เสรมิ การใชร้ ะบบสานักงานอเิ ล็กทรอนกิ ส์ (E-office) ในการบรหิ ารจดั การ รวมถงึ สง่ เสรมิ การพฒั นาบุคลากรทกุ ระดับใหม้ ศี ักยภาพในการทางานที่ เหมาะสม ทม่ี า : การประชมุ ชแี้ จงแนวทางการดาเนนิ งาน สานักงาน กศน. ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2561 เมอื่ วันจนั ทร์ที่ 30 ตลุ าคม 2560

ภารกจิ ตอ่ เนอื่ งทตี่ อ้ งดาเนนิ งานเพอ่ื การพฒั นาท่ี ตอ่ เนอื่ งในปีงบประมาณ 2561 แบง่ ออกเป็ น 6 ดา้ น ไดแ้ ก่ 1) ดา้ นการจัดการศกึ ษาและการเรยี นรู ้ 2) ดา้ นหลกั สตู ร สอื่ รปู แบบการจัดกระบวนการเรยี นรู ้การวัดและประเมนิ ผล งานบรกิ ารทางวชิ าการ และการประกันคณุ ภาพการศกึ ษา 3) ดา้ นเทคโนโลยเี พ่อื การศกึ ษา 4) ดา้ นโครงการอันเนอ่ื งมาจากพระราชดาริ หรอื โครงการอันเกยี่ วเนื่องจาก ราชวงศ์ 5) ดา้ นการศกึ ษาในจังหวัดชายแดนภาคใต ้พนื้ ทเ่ี ขตเศรษฐกจิ พเิ ศษ และ พ้ืนทบ่ี รเิ วณชายแดน และ 6) ดา้ นบคุ ลากร ระบบการบรหิ ารจัดการ และการมีสว่ นรว่ มของทกุ ภาคสว่ น ทมี่ า : การประชมุ ชแี้ จงแนวทางการดาเนินงาน สานักงาน กศน. ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2561 เมอ่ื วันจนั ทรท์ ่ี 30 ตลุ าคม 2560

กลยุทธเ์ พอ่ื การพฒั นา-เปลยี่ นแปลง-ปรบั ปรุง Strategy for Development-Change-Improvement Trial & Error Benchmarking Innovation Best Practice

Trial & Error เป็ นการเรยี นรแู ้ บบลองผดิ ลองถกู เป็ นการเรยี นรจู ้ ากการทดลอง โดยไมร่ วู ้ า่ สง่ิ ทท่ี า นัน้ กอ่ ใหเ้ กดิ ผลดี หรอื ผลเสยี และวธิ ีการลองผดิ ลองถกู เป็ นวธิ แี กป้ ัญหาวธิ ีหนง่ึ

คอื วธิ กี ารในการวัดและเปรยี บเทยี บ ผลติ ภณั ฑ์ บรกิ ารและวธิ กี าร ปฏบิ ตั กิ บั องคก์ รทสี่ ามารถทาไดด้ กี วา่ เพอ่ื นาผลของการเปรยี บเทยี บ มาใชใ้ นการปรบั ปรงุ องคก์ รของตนเองเพอื่ มงุ่ สคู่ วามเป็ นเลศิ Benchmarking เป็ นเครอื่ งมอื ในการพฒั นาองคก์ รทาใหอ้ งคก์ ร สามารถตงั้ เป้าหมายทตี่ รงกบั ความเป็ นจรงิ ได ้สามารถเพม่ิ ผลิตภาพ ขององคก์ ร ทาใหอ้ งคก์ รมองตวั เองไดด้ ขี น้ึ ทาใหอ้ งคก์ รไดท้ ราบถงึ สมรรถนะของตนเอง เมอื่ เทยี บกบั องคก์ รอนื่ อกี ทงั้ เป็ นการกระตนุ ้ ให ้ พนักงานเกดิ การปรบั ปรุงเปลยี่ นแปลง

แนวทางการทา Benchmarking สามารถเลอื กทาได ้2 แนวทางคอื 1.แนวทางการทา Benchmarking แบบกลมุ่ เป็ นการทา Benchmarking โดยเขา้ ไปรวมกลมุ่ กบั องคก์ รอน่ื หรือกลมุ่ อน่ื ทม่ี คี วามตอ้ งการจะทา Benchmarking เหมอื นกัน ทาใหป้ ระหยัดเวลาในการดาเนนิ การเป็ นการสรา้ ง เครอื ขา่ ยการแลกเปลยี่ นขอ้ มลู ทดี่ ี 2.แนวทางการทา Benchmarking แบบเดย่ี ว เป็ นการทตี่ นเองเลอื กหวั ขอ้ ทตี่ นความสนใจจะทา Benchmarking และเลอื กผทู ้ จ่ี ะเป็ นคเู่ ปรียบเทยี บ แลกเปลยี่ นขอ้ มลู กัน

Benchmarking ประโยชน์ของ Benchmarking 1. การสรา้ งความพงึ พอใจของลกู คา้ 2. การลดระยะเวลาในการผลติ 3. การลดของเสยี 4. การเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพในการทางาน 5. การสง่ มอบ 6. การลดตน้ ทุน

What is Benchmarking : BM ? การเทยี บเคยี ง(benchmarking : BM) คอื แนวทางการวดั ผล และพฒั นาผลประกอบการขององคก์ ร เรา โดยการเปรยี บเทยี บกบั องคก์ รทด่ี ที สี่ ดุ Benchmarking ประเด็นสาคญั คอื เราอยทู่ ไี่ หน? ใครเกง่ ทสี่ ดุ ? เขาทาไดอ้ ยา่ งไร? ทาอย่างไรใหด้ กี วา่ เขา?

Benchmarking Benchmark หมายถงึ Best-in-class คอื เกง่ ทสี่ ดุ หรอื ดที สี่ ดุ Benchmarking คอื วธิ ีการในการวัดและเปรยี บเทยี บผลติ ภณั ฑ์ บรกิ าร และวธิ กี าร ปฏบิ ัตกิ บั องคก์ รทสี่ ามารถทาไดด้ กี วา่ เพอื่ นาผลการเปรยี บเทยี บมาใชใ้ นการปรับปรุง องคก์ รของตนเพอ่ื มงุ่ ความเป็ นเลศิ ทางธุรกจิ Best Practices คอื วธิ กี ารปฏบิ ัตทิ ที่ าใหอ้ งคก์ รประสบความสาเรจ็ หรอื อาจกลา่ วไดว้ า่ คอื วธิ กี ารทท่ี าใหอ้ งคก์ รสคู่ วามเป็ นเลศิ กลา่ วคอื กระบวนการทา Benchmarking นาไปสกู่ ารคน้ พบผทู ้ เี่ ป็ น Benchmark หรือผู ้ ปฏบิ ตั ไิ ดด้ ที สี่ ดุ วา่ เป็ นใคร และผทู ้ เ่ี ป็ น Benchmark สามารถตอบคาถามเราไดว้ า่ Best Practices หรอื วธิ กี ารปฏบิ ตั ทิ ดี่ ที ส่ี ดุ ทน่ี าไปสคู่ วามเป็ นเลศิ นนั้ เขาทาไดอ้ ย่างไร ซงึ่ แสดงความสมั พันธไ์ ดด้ ังนี้

กระบวนการทา Benchmarking 1. การวางแผน(Planning) เป็ นการกาหนดขอบเขตพน้ื ทใี่ นการดาเนินงาน ซงึ่ เป็ นการกาหนด ขอบเขต วางแผนและระดับความสาคัญในการดาเนินงาน 2. การวเิ คราะห(์ Analysis) เป็ นการสรา้ งความเขา้ ใจในเชงิ ลกึ เกยี่ วกบั การปฏบิ ัตงิ าน หรอื กระบวนการขององคก์ รและธรุ กจิ ทนี่ ามาเปรยี บเทยี บ 3. การบรู ณาการ(Integration) เป็ นการกาหนดเป้าหมายในการเปลย่ี นแปลงและพฒั นา ซง่ึ จะ สอดคลอ้ งกบั กลยทุ ธแ์ ละการวางแผนขององคก์ ร 4. การปฏบิ ตั (ิ Action) เป็ นการแปลงแนวคดิ และผลการศกึ ษาใหเ้ ป็ นการดาเนนิ งานทเ่ี ป็ น รูปธรรม ซงึ่ เป็ นหวั ใจสาคญั ของกระบวนการพัฒนาตามแนวทาง Benchmark 5. การเตบิ โตเตม็ ท(่ี Maturity) เป็ นการนา Benchmark เขา้ ไปในทุกกระบวนการ ซง่ึ จะตอ้ ง ปฏบิ ัตอิ ย่างต่อเนื่องอนั สบื เนือ่ งมาจากทธี่ รุ กจิ กา้ วขน้ึ เป็ นผนู ้ าแลว้

Benchmarking Benchmarking มาใชเ้ ป็ นเคร่อื งมอื ในการพฒั นาองคก์ รตอ้ งสามารถเขา้ ใจถงึ กระบวนการอย่างนอ้ ย 4 ขนั้ ตอน คอื -UNDERSTANDING เป็ นการสรา้ งความเขา้ ใจในหลกั การ วธิ ีการ และผลทจี่ ะ ไดร้ ับขององคก์ รและบคุ ลากรรวมถงึ ผมู ้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี ทงั้ หมด -MIRROR&FUNCTION เป็ นการสะทอ้ นภาพกระบวนการทงั้ กระบวนการหลกั และสนับสนุนขององคก์ ร ทาใหม้ องเห็นภาพโครงสรา้ งองคก์ รภาพของกจิ กรรม กระบวนการและขอ้ มลู ในองคก์ ร ผังกระบวนการทางธุรกจิ (Business Process Mapping) การทางานและหนา้ ทคี่ วามรับผดิ ชอบในแตล่ ะบทบาท -TIME&ANALYSIS เมอ่ื ทราบกระบวนการทางธุรกจิ และกจิ กรรมทเี่ ชอื่ มตอ่ กนั ใน กระบวนการแลว้ การวเิ คราะหอ์ งคป์ ระกอบตา่ งๆ ทใ่ี ชท้ งั้ หมดในกจิ กรรมทาใหส้ ามารถ สรปุ ไดว้ า่ จดุ ทค่ี วรปรับปรงุ หรอื พัฒนาใหด้ ขี นึ้ นนั้ อย่ทู ใี่ ดในกระบวนการ -IMPROVEMENT เป็ นการปรับปรงุ องคก์ รโดยนาเครื่องมอื การพัฒนาองคก์ ร ตา่ งๆ มาใช ้

Innovation นวตั กรรม (Innovation) มรี ากศพั ทม์ าจากภาษาลาตนิ คาวา่ Innovare แปลวา่ “ทาสงิ่ ใหมข่ น้ึ มา”  สรปุ นวตั กรรม คอื “สงิ่ ทเี่ กดิ จากการใชค้ วามรใู ้ นศาสตรส์ าขาตา่ งๆอย่าง บรู ณาการ เพอ่ื ประดษิ ฐส์ รา้ งสรรคส์ งิ่ ใหมใ่ หเ้ กดิ ขน้ึ เพอื่ ประโยชน์ทางสงั คม และเศรษฐกจิ ”

Innovation องคป์ ระกอบทเ่ี ป็ นมติ สิ าคญั ของนวตั กรรม มอี ยู่ 3 ประการ คอื 1.ความใหม่ (Newness) หมายถงึ เป็ นสง่ิ ใหมท่ ถ่ี กู พฒั นาขน้ึ ซง่ึ อาจเป็ นตัว ผลติ ภัณฑ์ บรกิ าร หรือกระบวนการ โดยจะเป็ นการปรับปรุงจากของเดมิ หรอื พฒั นาขนึ้ ใหมเ่ ลยกไ็ ด ้ 2. ประโยชน์ในเชงิ เศรษฐกจิ (Economic Benefits) หรือการสรา้ ง ความสาเร็จในเชงิ พาณชิ ย์ กลา่ วคอื นวตั กรรม จะตอ้ งสามารถทาใหเ้ กดิ มลู คา่ เพมิ่ ขน้ึ ไดจ้ ากการพัฒนาสงิ่ ใหมน่ ัน้ ๆซง่ึ ผลประโยชนท์ จ่ี ะเกดิ ขน้ึ อาจจะ วัดไดเ้ ป็ นตัวเงนิ โดยตรง หรือไมเ่ ป็ นตัวเงนิ โดยตรงก็ได ้ 3. การใชค้ วามรูแ้ ละความคดิ สรา้ งสรรค(์ Knowledge and Creativity Idea) สง่ิ ทจี่ ะเป็ นนวตั กรรมไดน้ ัน้ ตอ้ งเกดิ จากการใชค้ วามรแู ้ ละความคดิ สรา้ งสรรค์ เป็ นฐานของการพัฒนาใหเ้ กดิ ซา้ ใหม่ ไมใ่ ชเ่ กดิ จากการลอกเลยี นแบบ การ ทาซ้า เป็ นตน้

Innovation  นวัตกรรมเป็ นตวั แปรทน่ี าไปสกู่ ารเปลยี่ นแปลงองคก์ รดา้ นตา่ ง ๆ ในเชงิ ธรุ กจิ ไดแ้ ก่ ความอยูร่ อด การเจรญิ เตบิ โต การสรา้ งความไดเ้ ปรียบ ทางการแขง่ ขนั การสรา้ งโอกาสทางธุรกจิ ใหมแ่ ละสมรรถนะหลกั ซงึ่ นวัตกรรมไมใ่ ชแ่ คก่ ารพฒั นาสนิ คา้ ใหม่ เทา่ นัน้ แตเ่ กย่ี วขอ้ งกบั การลด ตน้ ทนุ การแสวงหาแนวทางการตอบสนองความตอ้ งการของตลาด การ ยกระดบั คณุ ภาพชวี ติ และการสรา้ งคณุ ภาพเพม่ิ

Innovation องคป์ ระกอบของนวัตกรรม 1. เป็ นสง่ิ ใหม่ 2. เนน้ ใชค้ วามรูค้ วามคดิ สรา้ งสรรค์ 3. เป็ นประโยชน์ ตอ้ งตอบไดว้ า่ สงิ่ ทเ่ี ราสรา้ งเป็ นอยา่ งไร 4. เป็ นทย่ี อมรบั 5. มโี อกาสในการพฒั นา

Innovation นวตั กรรมมี 4 ประเภท 1. product innovation : การเปลยี่ นแปลงในผลติ ภณั ฑห์ รอื บรกิ ารของ 2. Process innovation : การเปลยี่ นแปลงกระบวนการผลติ หรอื กระบวน การนาเสนอผลติ ภณั ฑ์ 3. Position innovation : การเปลย่ี นแปลงรปู แบบของสนิ คา้ หรอื บรกิ ารเป็ น การเปลยี่ นตาแหนง่ ของผลติ ภัณฑ์ โดยการสรา้ งการรับรแู ้ ละความเขา้ ใจ ในผลติ ภัณฑต์ อ่ ลกู คา้ 4. Paradigm innovation : การมงุ่ ใหเ้ กดิ นวตั กรรมทเ่ี ปลย่ี นแปลงกรอบ ความคดิ

Innovation การจาแนกนวตั กรรมตามประเภทของผใู้ ช้ 1. นวตั กรรมทเี่ ป็ นสอ่ื สาหรบั ผสู้ อน 2. นวตั กรรมทเี่ ป็ นสอื่ สาหรบั ผูเ้ รยี น จาแนกตามลกั ษณะของนวตั กรรม 1. เทคนคิ วธิ กี าร 2. สอ่ื การเรยี นรู้ จาแนกตามจุดเนน้ ของนวตั กรรม 1. นวตั กรรมการเรยี นรทู้ เ่ี นน้ ผลผลติ 2. นวตั กรรมการจดั การเรยี นรทู้ เ่ี นน้ เทคนคิ วธิ กี าร และกระบวนการ 3. นวตั กรรมทเ่ี นน้ ทง้ั ผลผลติ

นวตั กรรมทางการศกึ ษา (Education Innovation) การนาเอาสง่ิ ใหมๆ่ ความคดิ เทคนคิ วธิ กี ารหรอื สง่ิ ประดษิ ฐใ์ หมๆ่ หรอื นาสงิ่ เกา่ มา ปรบั ปรงุ ใหม่ มาใชใ้ นการพฒั นาหลกั สตู รใหส้ อดคลอ้ งกบั ความกา้ วหนา้ ทางดา้ น เทคโนโลยี เศรษฐกจิ และสงั คมใหเ้ หมาะสม และตอบสนองความตอ้ งการ เพอื่ พฒั นาการศกึ ษาใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพยง่ิ ขนึ้

ประเภทของนวตั กรรมการศกึ ษา มที ัง้ ประเภททเี่ ป็ นนวัตกรรมแบบใหมห่ มดและนวตั กรรมทเ่ี ป็ น แบบใหมบ่ างสว่ นโดยแบง่ เป็ น 5 ประเภท ไดแ้ ก่ 1.นวัตกรรมดา้ นสอ่ื สารการสอน 2.นวัตกรรมดา้ นวธิ กี ารจดั การเรยี นการสอน 3.นวัตกรรมดา้ นหลกั สตู ร 4.นวตั กรรมดา้ นการวดั และการประเมนิ ผล 5.นวัตกรรมดา้ นการบรหิ ารจดั การ

กรอบความคดิ เพอื่ การเรยี นรใู้ นศตวรรษท่ี 21 มเี ป้าหมายไปทผี่ เู ้ รยี น เกดิ คณุ ลกั ษณะในศตวรรษท่ี 21 โดยผเู ้ รียนจะใชค้ วามรใู ้ น สาระหลักไปบรู ณาการสงั่ สมประสบการณก์ บั ทกั ษะ 3 ทกั ษะ คอื ทักษะดา้ นการ เรียนรแู ้ ละนวตั กรรม ทกั ษะสารสนเทศ สอ่ื และเทคโนโลยี และทกั ษะชวี ติ และ อาชพี ซง่ึ การจดั การเรยี นรจู ้ ะใชร้ ะบบสง่ เสรมิ การเรยี นรใู ้ นศตวรรษที่ 21 แนวทาง จัดการเรยี นรใู ้ นศตวรรษที่ 21 หา้ ระบบ คอื ระบบมาตรฐานการเรยี นรู ้ระบบการ ประเมนิ ผลทกั ษะการเรยี นรู ้ระบบหลกั สตู รและวธิ กี ารสอน ระบบการพฒั นางาน อาชพี และระบบแหลง่ เรยี นรแู ้ ละบรรยากาศการเรียนรู ้ มาตรฐานศตวรรษท่ี 21 • มงุ่ เนน้ ทักษะในศตวรรษที่ 21 ใหม้ คี วามรใู ้ นเนอ้ื หาและความเชยี่ วชาญ • สรา้ งความเขา้ ใจระหวา่ งวชิ าหลกั เชน่ เดยี วกับรปู แบบสหวทิ ยาการศตวรรษท่ี 21 • เนน้ ความเขา้ ใจอยา่ งลกึ ซงึ้ มากกวา่ ความรแู ้ บบผวิ เผนิ • การของมสี ว่ นรว่ มของผเู ้ รยี นกบั ขอ้ มลู และเครือ่ งมอื ในโลกแหง่ ความเป็ นจรงิ โดย ทก่ี ารเรยี นรไู ้ ดด้ ที ส่ี ดุ เมอ่ื ทางานอยา่ งแขง็ ขนั การแกป้ ัญหาทม่ี คี วามหมาย • การมมี าตรการหลายๆรูปแบบของการเรยี นรู ้

Best Practices คอื อะไร เป็ นวธิ ปี ฏบิ ตั งิ าน ซง่ึ เกดิ ขนึ้ ไดใ้ นทุกกระบวนการทางาน โดยมสี ว่ นสนับสนุนใหอ้ งคก์ รไปสเู่ ป้าหมาย โดยมผี ลลัพธใ์ นการดาเนินการอย่ใู นระดบั ดเี ลศิ

สรุปนยิ าม Best Practices 1. เป็ นวธิ กี ารทม่ี ผี ลทเ่ี ป็ นเลศิ ทัง้ ในปรมิ าณและคุณภาพ 2. เป็ นวธิ กี ารทางานแบบใหมใ่ นการนาทรัพยากรขององคก์ ร มาใช ้ ไมว่ า่ จะเป็ นคน หรอื เทคโนโลยี 3. สามารถทาซ้าไดจ้ นเป็ นมาตรฐาน 4. มที มี่ าและเป้าหมายทช่ี ดั เจน 5. มกี ารปรบั ปรุงวธิ กี ารทางานนัน้ อย่างตอ่ เนื่อง

การคน้ หา้ Best Practice 1. การวเิ คราะหบ์ รบิ ท ความคาดหวงั ของหน่วยงาน/สงั คม 2. พจิ ารณาวา่ PDCA ไดค้ รบหรอื ยัง 3. ขนั้ ตอนนัน้ เป็ น “นวัตกรรม” หรอื ไม่ 4. ตงั้ คาถามนวตั กรรมนัน้  คอื อะไร What  ทาอย่างไร How  ทาเพอ่ื อะไร Why 5. วเิ คราะหป์ ัจจัยทสี่ าเร็จ และบทเรยี นทไ่ี ดเ้ รยี นรู ้

The Deming (PDCA) Cycle PLAN : วางแผน DO : ลงมอื ปฏบิ ตั ิ CHECK : ตรวจสอบผล/แกไ้ ขปญั หา ACT : กาหนดมาตรฐาน

การนา PDCA ไปใชใ้ นการทางาน • เพอื่ ป้ องกนั • เพอ่ื แกป้ ญั หา • เพอ่ื ปรบั ปรงุ งาน

การนา PDCA ไปใชใ้ นการทางาน PDCA เพอื่ ป้ องกนั • การนาวงจร PDCA ไปใช ้ ทาใหผ้ ปู ้ ฏบิ ตั มิ กี ารวางแผน การวางแผนที่ ดชี ว่ ยป้องกนั ปัญหาทไี่ มค่ วรเกดิ ชว่ ยลดความสบั สนในการทางาน ลดการใชท้ รพั ยากรมากหรอื นอ้ ยเกนิ ความพอดี ลดความสญู เสยี ใน รปู แบบต่าง ๆ • การทางานทมี่ กี ารตรวจสอบเป็ นระยะ ทาใหก้ ารปฏบิ ตั งิ านมคี วาม รดั กมุ ขนึ้ และแกไ้ ขปัญหาไดอ้ ยา่ งรวดเร็วกอ่ นจะลุกลาม • การตรวจสอบทน่ี าไปสกู่ ารแกไ้ ขปรับปรุง ทาใหป้ ัญหาทเ่ี กดิ ขนึ้ แลว้ ไมเ่ กดิ ซ้า หรอื ลดความรุนแรงของปัญหา ถอื เป็ นการนาความ ผดิ พลาดมาใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์

การนา PDCA ไปใชใ้ นการทางาน PDCA เพอื่ แกไ้ ขปญั หา • ถา้ เราประสบสง่ิ ที่ ไมเ่ หมาะสม ไมส่ ะอาด ไมส่ ะดวก ไมม่ ี ประสทิ ธภิ าพ ไมป่ ระหยัด เราควร แกป้ ัญหา • การใช ้ PDCA เพอื่ การแกป้ ัญหา ไดแ้ ก่ การทา C-PDCA คอื ตรวจสอบกอ่ น ว่ามอี ะไรบา้ งทเ่ี ป็ นปัญหา เมอื่ หาปัญหาได ้ ก็นามา วางแผนเพอื่ ดาเนนิ การตามวงจร PDCA ต่อไป

การนา PDCA ไปใชใ้ นการทางาน PDCA เพอื่ ปรบั ปรุง • ทาวนั นี้ใหด้ กี วา่ เมอ่ื วานน้ี และพรงุ่ นี้ตอ้ งดกี วา่ วันนี้ • PDCA เพอื่ การปรบั ปรงุ คอื ไมต่ อ้ งรอใหเ้ กดิ ปัญหา แต่เราตอ้ งเสาะ แสวงหาสงิ่ ต่างๆหรอื วธิ กี ารทด่ี กี วา่ เดมิ อย่เู สมอ เพอื่ ยกระดับคุณภาพ ชวี ติ และสงั คม เมอ่ื เราคดิ ว่าจะปรับปรุงอะไร ก็ใหใ้ ชว้ งจร PDCA เป็ น ขนั้ ตอนในการปรบั ปรงุ ขอ้ คดิ สาคญั ตอ้ งเรม่ิ PDCA ตัวเองกอ่ นมงุ่ ไปทคี่ นอน่ื

1. Plan การทางานแบบ PDCA 2. Do 3. Check มี 4 ดา้ น ดงั น้ี 4. Act ดา้ นการวางแผนงานกอ่ นการปฏบิ ตั งิ าน ดา้ นการดาเนนิ งาน ดา้ นการตรวจสอบ และประเมนิ ผล ดา้ นการปรับปรุง พัฒนาผลงาน และดูผลสาเร็จ ของงานเมอื่ เทยี บกบั แผนงาน

The Deming (PDCA) Cycle วางแผน P ปรบั ปรงุ /พฒั นา A D ดาเนนิ งาน กาหนดมาตรฐาน C ตรวจสอบ ประเมนิ ผล

The Deming (PDCA) Cycle วางแผน วางแผน P ปรบั ปรงุ /พฒั นา A ปรบั ปรงุ /พฒั นา D ดาเนนิ งาน ปฏบิ ตั ิ กาหนดมาตรฐาน C ตรวจสอบ ตรวจสอบ ประเมนิ ผล การปรบั ปรงุ อยา่ งตอ่ เนอื่ ง

วงจร Deming PDCA กบั ปรบั ปรงุ อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ทาใหด้ ยี ง่ิ ขนึ้ ทาใหด้ ยี ง่ิ ขนึ้ เรมิ่ ตน้

 คณุ ภาพ(Quality)  บรกิ าร(Service)  ประสทิ ธภิ าพ(Performance)  มาตรฐาน(Standard)

คณุ ภาพการศกึ ษา หมายถงึ การทผ่ี เู ้ รยี นเกดิ คณุ ลกั ษณะต่างๆ ครบถว้ นตาม ความคาดหวงั ของหลกั สตู ร ตามมาตรฐานทไ่ี ดก้ าหนดไว ้ ตรงตามความตอ้ งการของชมุ ชนและสงั คม สานกั งานทดสอบทางการศกึ ษา กรมวชิ าการ

กระบวนการ PDCA ทด่ี ตี อ่ งานประกนั คณุ ภาพการศกึ ษา

กระบวนการ PDCA ทด่ี ตี อ่ งานประกนั คณุ ภาพการศกึ ษา Plan (การวางแผน) หมายถงึ การกาหนดเป้าหมายและวตั ถปุ ระสงคใ์ นการ ดาเนนิ งาน วธิ กี ารและขนั้ ตอนทจ่ี าเป็ น เพอื่ ใหก้ ารดาเนนิ การประกนั คณุ ภาพบรรลุ เป้าหมายตามทก่ี าหนดไว ้ Do (การดาเนนิ การ) หมายถงึ การปฏบิ ตั งิ านใหบ้ รรลตุ ามแผนงานทไ่ี ดก้ าหนดไว ้ การดาเนนิ การตา่ ง ๆ จะเป็ นไปตามขนั้ ตอนหรอื ระบบงานทอ่ี อกแบบหรอื กาหนดไว ้ โดยหน่วยงานนนั้ ๆ และจะตอ้ งเก็บรวบรวมขอ้ มลู และบนั ทกึ ขอ้ มลู ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกับการ ปฏบิ ัตงิ านไว ้ดว้ ย เพอ่ื ใชเ้ ป็ นขอ้ มลู ในการดาเนนิ งานในขนั้ ตอนตอ่ ไป Check (การตรวจสอบ) หมายถงึ การตรวจสอบระบบกลไกของการดาเนนิ งาน รวมทงั้ ผลปฏบิ ัตงิ านวา่ ไดเ้ ป็ นไปตามเป้าหมายและวัตถปุ ระสงคท์ ไี่ ดก้ าหนดไว ้หรอื ไม่ หากมปี ัญหาหรือจดุ ออ่ นของการดาเนนิ งาน ควรไดม้ กี ารคน้ หาสาเหตแุ ละวางมาตรการ ในการแกไ้ ขตอ่ ไป ทงั้ นี้เพอ่ื เป็ นประโยชนต์ อ่ การพัฒนาคณุ ภาพของงาน Act (การปรับปรงุ พฒั นา) หมายถงึ การวางมาตรการในการดาเนนิ การปรับปรงุ พฒั นาระบบกลไกในการดาเนนิ การ เพอ่ื เออ้ื ใหเ้ กดิ การพฒั นาทดี่ ขี น้ึ ทงั้ นม้ี าตรการ ดังกลา่ วควรเป็ นขอ้ มลู ทใี่ ชใ้ นการวางแผนการดาเนนิ การในปี ตอ่ ไป

มาตรฐานการศกึ ษา ความหมายของมาตรฐานการศกึ ษา มาตรฐานการศกึ ษา เป็ นขอ้ กาหนดเกยี่ วกับคณุ ลักษณะ คณุ ภาพทพ่ี งึ ประสงค์ เพ่อื ใชเ้ ป็ นหลกั ในการเทยี บเคยี ง สาหรบั การสง่ เสรมิ กากบั ดแู ล ตรวจสอบ ประเมนิ ผล และเพ่อื การประกันคณุ ภาพการศกึ ษา (สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน 2551)

กรอบ มาตรฐาน ตวั บง่ ช้ี การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ประกอบดว้ ยมาตรฐานหลัก 3 มาตรฐาน 20 ตวั บง่ ช้ี มาตรฐานที่ 1 คณุ ภาพของผเู ้ รยี น/ผรู ้ ับบรกิ าร มาตรฐานที่ 2 คณุ ภาพการจดั การศกึ ษาและการใหบ้ รกิ าร มาตรฐานที่ 3 ประสทิ ธภิ าพการบรหิ ารจดั การการศกึ ษา ทม่ี า : เอกสารประกอบการประชมุ ชแี้ จงยทุ ธศาสตร์และจดุ เนน้ การดาเนนิ งานสานักงาน กศน. ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐

กรอบ มาตรฐาน ตวั บง่ ชี้ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั มาตรฐานท ี่ 1 คณุ ภาพของผเู้ รยี น/ผรู้ บั บรกิ าร การศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน ตวั บ่งชท้ี ่ี 1.1 ผเู ้ รยี นการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐานมคี ุณธรรม ตวั บง่ ชที้ ่ี 1.2 ผเู ้ รยี นการศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐานสามารถอยูร่ ่วมกนั ในสังคมอยา่ งมคี วามสขุ ตัวบ่งชท้ี ่ี 1.3 ผูเ้ รยี นการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐานมคี วามรูพ้ นื้ ฐาน ทักษะกระบวนการคดิ ทกั ษะการ แสวงหาความรู ้เรยี นรูอ้ ย่างต่อเนื่อง และสามารถนาไปประยุกตใ์ ชใ้ นการดารงชวี ติ การศกึ ษาตอ่ เนอ่ื ง ตัวบง่ ชที้ ่ี 1.4 ผเู ้ รยี นมคี วามรู ้ ความสามารถ และทกั ษะในการประกอบอาชพี ตวั บง่ ชท้ี ี่ 1.5 ผูเ้ รยี นมที กั ษะชวี ติ ทจี่ าเป็ นสาหรับการดารงชวี ติ ตัวบง่ ชที้ ่ี 1.6 ผูเ้ รยี นมสี ว่ นรว่ มในการพัฒนาชมุ ชนตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ตัวบ่งชท้ี ่ี 1.7 ผูเ้ รยี นใชค้ วามรูจ้ ากภูมปิ ัญญาและใชเ้ ทคโนโลยไี ดอ้ ย่างเหมาะสม การศกึ ษาตามอธั ยาศยั ตัวบง่ ชท้ี ี่ 1.8 ผรู ้ บั บรกิ ารไดร้ ับความรแู ้ ละ/หรอื ประสบการณจ์ ากการเขา้ รว่ มกจิ กรรม/โครงการ

กรอบ มาตรฐาน ตวั บง่ ช้ี การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั มาตรฐานท ี่ 2 คณุ ภาพการจดั การศกึ ษาและการใหบ้ รกิ าร ตวั บง่ ชท้ี ่ี 2.1 คณุ ภาพครูการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน ตวั บ่งชท้ี ี่ 2.2 คุณภาพวทิ ยากรการศกึ ษาตอ่ เนื่อง ตัวบ่งชท้ี ่ี 2.3 คุณภาพผูจ้ ัดกจิ กรรมการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ตัวบง่ ชที้ ่ี 2.4 คุณภาพของหลักสตู ร ตวั บง่ ชท้ี ี่ 2.5 คุณภาพสอ่ื ตัวบง่ ชที้ ี่ 2.6 คณุ ภาพการจัดกระบวนการเรยี นรกู ้ ารศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน ตัวบ่งชท้ี ี่ 2.7 คุณภาพการจัดการศกึ ษาต่อเนอ่ื ง ตัวบ่งชท้ี ี่ 2.8 คุณภาพการจัดกจิ กรรมการศกึ ษาตามอัธยาศยั มาตรฐานท ่ี 3 ประสทิ ธภิ าพการบรหิ ารจดั การการศกึ ษา ตวั บง่ ชที้ ี่ 3.1 การบรหิ ารสถานศกึ ษาตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งและหลกั ธรรมาภบิ าล ตวั บ่งชท้ี ี่ 3.2 การประกนั คุณภาพภายในของสถานศกึ ษา ตัวบ่งชท้ี ี่ 3.3 การส่งเสรมิ สนับสนุนการจดั การศกึ ษาของภาคเี ครอื ขา่ ย ตัวบง่ ชท้ี ่ี 3.4 การมสี ่วนร่วมของคณะกรรมการสถานศกึ ษา

สรุปนยิ าม Best Practices เป็ นวธิ ปี ฏบิ ตั งิ าน ซงึ่ เกดิ ขน้ึ ไดใ้ นทุกกระบวนการทางาน โดยมสี ว่ นสนับสนุนใหอ้ งคก์ รไปสเู่ ป้าหมาย โดยมผี ลลัพธใ์ น การดาเนินการอยใู่ นระดับดเี ลศิ 1. เป็ นวธิ กี ารทมี่ ผี ลทเ่ี ป็ นเลศิ ทงั้ ในปรมิ าณและคุณภาพ 2. เป็ นวธิ กี ารทางานแบบใหมใ่ นการนาทรพั ยากรขององคก์ ร มาใช ้ ไมว่ ่าจะเป็ นคน หรอื เทคโนโลยี 3. สามารถทาซา้ ไดจ้ นเป็ นมาตรฐาน 4. มที ม่ี าและเป้าหมายทชี่ ดั เจน 5. มกี ารปรับปรงุ วธิ กี ารทางานนัน้ อย่างต่อเนอ่ื ง

การหา Best Practices • กาหนดเป้ าหมาย • กาหนดกรอบ • กาหนดวธิ กี าร