Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือ Covid-19_1

คู่มือ Covid-19_1

Published by kamonchanok32210, 2020-04-16 05:53:19

Description: คู่มือ Covid-19_1

Search

Read the Text Version

ค�ำน�ำ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งเกิดมาจากเชื้อ ไวรสั โคโรน่านนั้ สรา้ งความตน่ื ตระหนกใหก้ ับคนทงั้ โลก หลายคนกงั วลใจ อยลู่ ึกๆ วา่ ตนจะเปน็ ผูท้ อ่ี ยู่ในกลมุ่ เสย่ี ง หรอื กลุ่มเปราะบางหรือไม่ มเี ชื่อ อยู่ในตัวหรือเปล่า ความหวาดหวั่น ไม่สบายใจ ส่งผลต่อการด�ำเนินชีวิต ประจำ� วนั และสุขภาพจิต หนังสอื เล่มเล็กๆ เล่มน้ี จึงจัดท�ำขนึ้ เพื่อใหผ้ ูอ้ า่ นไดค้ ลายความกังวล เรียนรู้ ท�ำความเข้าใจ ท่ีมาที่ไปของโรค และรู้จักกับเจ้าไวรัสตัวร้ายตัวน้ี เพื่อที่จะปฏิบัติตัวในการดูแลป้องกันตัวเองให้รอดพ้นจากมันได้ ท่ีส�ำคัญ คือ การทดลองท�ำแบบประเมินตัวเอง เพ่ือตรวจหาไวรัสได้อย่างง่ายๆ เพ่ือให้ทราบได้ว่าตัวเองมีความเสี่ยงหรือผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ระดบั ไหน และถึงเวลาหรือยงั ทท่ี ่านควรเดินทางไปโรงพยาบาล ท้ังน้ี ส�ำหรับการประเมินความเส่ียงด้วยตนเองในคร้ังน้ี เป็นอีกหน่ึง ช่องทางเพอ่ื ช่วยให้ ผูอ้ า่ นท่ีไมม่ ีความเสยี่ ง ไมต่ ้องเดนิ ทางไปโรงพยาบาล เพราะการเดินทางไปโรงพยาบาลอาจจะเพิ่มความเส่ียงในการติดเช้ือมาก ขึ้น อีกท้งั ยังเปน็ การลดภาระให้กบั โรงพยาบาลทัว่ ประเทศ หวงั เป็นอย่างย่ิงวา่ ข้อมูล และความรู้ เหล่านี้ จะชว่ ยใหผ้ อู้ ่าน “อยู่ เป็น ร้.ู ..สู้ โควิด-19” ได้อย่างปลอดภยั กันทุกคน

สารบัญ 4 8 บทท่ี 1 รจู้ ักเจา้ ตวั ร้าย-ไวรัสโคโรน่า 18 22 โควดิ -19 คอื อะไรและส่งผลตอ่ มนุษย์อยา่ งไร บทท่ี 2 วธิ ีป้องกันและดูแลตัวเองให้หา่ งไกล และปลอดภัยจากโควิด-19 บทท่ี 3 แบบประเมินและคน้ หาความเส่ยี ง จากโควดิ -19 ด้วยตวั เอง บันทึกการเดนิ ทางในช่วง โควดิ -19 Stay Home, Stay Safe

บทท่ี 1 ร้จู กั เจ้าตวั ร้าย-ไวรสั โคโรนา่ โควดิ -19 คืออะไรและสง่ ผลตอ่ มนุษยอ์ ยา่ งไร ก่อนอื่นต้องท�ำความเข้าใจกันก่อนว่า โรคระบาดโควิด -19 นี้ เกิดมาจาก “ไวรสั ” ชนดิ หนึ่ง ทมี่ ชี อ่ื ว่า เจา้ “ไวรสั โคโรน่า” ซงึ่ หลายคนอาจสงสัยว่า แลว้ ไอ้เจ้าไวรสั ทวี่ า่ นีค้ ืออะไร เอาละ่ ขัน้ แรกเรามาท�ำความรูจ้ ักไวรัสกันกอ่ นเลย ไวรัส เป็นศัพท์จากภาษาลาตินแปลว่า พิษ ในต�ำราชีววิทยาเก่าของไทย อาจเรียกว่า วิสา อันเป็นการทับศัพท์ในยุคแรกจากภาษาสันสกฤตท่ีแปลว่า พิษ เช่น เดียวกัน ปัจจุบันค�ำว่า ไวรัส หมายถึงจุลินทรีย์ที่สามารถก่อให้เกิดการติดเช้ือได้ (infectious agents) ทง้ั ในมนษุ ย,์ สตั ว์, พชื และ สิ่งมชี ีวติ อ่ืนๆ ท่ีเป็นสง่ิ มชี ีวิตมีเซลล์ (cellular life) ทำ� ใหเ้ กิดโรคทส่ี ง่ ผลกระทบกว้างขวาง ไวรัสเปน็ ปรสติ ทอี่ าศัยอยู่ในส่ิง มีชีวติ อน่ื (obligate intracellular parasite) ไมส่ ามารถเตบิ โตหรอื แพร่พนั ธน์ุ อกเซลล์ อืน่ ได้ ไวรัสอาจถือได้ว่าเป็นจุลินทรีย์ที่มีลักษณะของการเป็นสิ่งมีชีวิตเพียง ประการเดียวคือสามารถแพร่พันธุ์ หรือการถ่ายทอดสารพันธุกรรมของตนเองจากรุ่น หนึง่ ไปยังอีกรุน่ หนึง่ อยา่ งไรกต็ ามไวรัสไม่ใชจ่ ุลินทรีย์ที่มีขนาดเลก็ ทสี่ ุด ยังมีจลุ นิ ทรยี ์ ท่ีมีขนาดเล็กกว่าไวรัสคือ ไวรอยด์ (viroid) และ พริออน (prion) ในปัจจุบันมีไวรัส กว่า 5,000 ชนิดที่ได้รับการบันทึกไว้ วิชาที่ศึกษาไวรัสเรียกว่าวิทยาไวรัส (virology) อันเปน็ สาขาหน่งึ ของจลุ ชวี วิทยา (microbiology) (ขอ้ มลู จาก : วกิ พิ เี ดยี ) รู้จักไวรัสกันแล้ว ก็ต้องมารู้จัก ไวรัสท่ีก�ำลังป๊อบปูล่าร์ในขณะนี้ นั่นก็คือ ไวรัสโคโรน่า ซ่ึงเป็นสาเหตุ ของโรคระบาด “โควิด-19” นั่นเอง 4

ไวรัสนี้เกิดข้ึนในสัตว์ ไวรัสโคโรนา ในบางกรณี คืออะไร? สามารถติดต่อจาก สัตว์สู่คนได้ เรารู้จักไวรัสนี้ เคยระบาดในคน ในช่ือ โรคซาร์ส มาแล้ว 6 สายพันธุ์ ท่ีเคยระบาดในเอเชีย การระบาดครั้งนี้ เมื่อปี 2002และเมอร์ส เป็นสายพันธุ์ที่ 7 ท่ีพบในตะวันออกกลาง เมื่อปี 2012 เหตุท่เี ราเรยี กวา่ ไวรสั โคโรนา่ เพราะรอบๆ ผิวของมันมีลกั ษณะคลา้ ยมงกุฎ (CORONA แปลวา่ มงกุฎ) เชือ้ ไวรสั โคโรนาชนิดใหม่ เป็นไวรสั ชนิดใหม่ ไม่เคยพบว่ามนษุ ย์สามารถตดิ เชื้อชนิดนี้ได้ เมอื่ ได้ตดิ เชื้อไวรสั ชนดิ นจ้ี ะทำ� ให้ปอดอักเสบ องค์การอนามยั โลกจึงชือ่ ให้ กับโรคชนิดน้ีว่า “COVID-19” แล้วช้ือไวรสั ของโรคโควดิ -19 มีลักษณะพเิ ศษอยา่ งไร เชือ้ ไวรัสของโรคโควดิ -19 จะมีความไวต่อรังสี UV และความรอ้ น ซง่ึ จะถูก กำ� จัดไดด้ ้วยความร้อนที่ 56 c เป็นเวลานาน 30 นาที , ไดเมทิลอีเทอร์ , แอลกอฮอล์ ทางการแพทย์ทมี่ คี วามเข้มข้น 75% , น�้ำ. ยาฆา่ เชอ้ื คลอรนี , ตวั ทำ� ละลายไขมันกรด เปอร์อะซิติกและคลอโรฟอรม์ ทัง้ นกี้ ารระบาดของไวรัสามารถระบาดไดด้ งั นี้ โดยมันสามารถแพร่ระบาดโดยตรงผ่านละอองสารคัดหล่ังในระยะใกล้กับผู้ ติดเชอ้ื เช่น จาม ไอ หรือพูดคุย เมือ่ ได้รับเชอื้ จะท�ำให้เกิดการติดเช้อื มกี ารแพรร่ ะบาดโดยการสมั ผสั ละอองสารคดั หลงั่ ทเ่ี กาะอยู่ตามพื้นผิววัสดุ เมือ่ สัมผสั โดนตัวหรือจับต้องใช้งาน หลังจากน้ันน�ำไปสัมผัสที่ปาก จมูก หรือดวงตา เป็นต้น จะท.ำ ให้เกิดการติดเช้ือได้ มีและมีการแพร่ระบาดผ่านทางอากาศ เม่ืออยู่ในสภาพ แวดล้อมแบบปิด เช่นในห้งแอร์เป็นเวลานานและมีปริมาณละอองของไวรัสเข้มข้นสูง ก็อาจจะเกิดการแพร่เชื้อได้เช่นกัน เน่ืองจากในการแยกเช้ือไวรัสของโรคโควิด-19 ใน ปัสสาวะและอุจจาระจะต้องระมัดระวัง กบั ละอองที่กระจายออกสู่สิง่ แวดล้อม 5

ระยะเวลาการแพร่กระจายของโควดิ -19 บนวสั ดุตา่ งๆ ในนำ�้ (4 วนั ) เสลมะหอะอง(น5ำ้� ลนาายท)ี (7บ-น8วสั ชดมุ .) ใ(น8-ผ1้า2/ทชิชมช.)ู่ บน(2โ4ต-ะ๊ 2พ8น้ื ชเรมีย.)บ ตูเ้ ย(น็ 1 <เด4ืออนง)ศา เพราะเหตใุ ดจึงตอ้ งกักตวั ดอู าการผทู้ ีส่ มั ผัสกับผู้ปว่ ยหรือผทู้ ม่ี ีความเส่ยี ง ว่าติดเชือ้ เป็นเวลา 14 วัน เนื่องจากระยะฟักตัวของโรคโควิด-19 จะอยู่ท่ีประมาณ 1-14 วัน โดย ส่วนมากจะอยู่ในช่วง 3-7 วัน หากพ้น 14 วันไปแล้วยังไม่มีอาการเจ็บป่วย ในเบ้ือง ต้นจะวินจิ ฉยั วา่ ไมม่ กี ารตดิ เชอื้ การควบคมุ ทางการแพทยอ์ ยา่ งเขม้ งวด เปน็ หนง่ึ ในขนั้ ตอน ความรบั ผดิ ชอบตอ่ สขุ ภาพ ของประชาชน และเปน็ วธิ กี ารปฏบิ ตั ทิ ว่ั ไปท่ีใชใ้ นประชาคมโลก ชุดเกราะเมือก แอลกอฮอล์ 70% • เอาไว้ป้องกันและ กัดกร่อนได้หมด เดินทางในสภาพ โปรตีนถูกท�ำลายด้วย อากาศของโลกใบนี้ “แอลกอฮอล์” • ผลิตจากเส้นใย โปรตีน & ไขมัน ล้างด้วยสบู่ 20 วิ ระดับ : (ร้องเพลง HBD 2 รอบ) พลังงาน : 27 วัน ไขมันถูกท�ำลายด้วย “น้�ำสบู่“ ทั้งนี้ไวรัสมีสิ่งห่อหุ้มคือโปรตีนและไขมัน ซ่ึงสารท้ังสองชนิดสามารถท�ำลาย ไ้ด้วยแอลกอฮอล์และสบู่ 6

หากติดเชอ้ื โรคโควิด-19 แลว้ จะมีอาการอย่างไร ผู้ป่วยโรค โควิด-19 จะมีขั้นตอนการแสดงอาการแตกต่างกันไป เร่ิมแรก อาจจะมีอาการตัวร้อน เป็นไข้ ไอ รู้สึกร่างกายไม่มีแรง และจะค่อยๆ เกิดอาการ หายใจล้มเหลว โดยทวั่ ไปไปไวรสั ชนิดนีจ้ ะมีระยะฟกั ตัวรา่ งกายประมาณ 7 วัน จนถงึ 14 วัน เม่ือฟักตัวอยูในร่างกายเรามันจะมีการแบ่งตัวอย่างรวดเร็ว และเข้าไป ทำ� ลายระบบทางเดินหายใจ แทรกซึมอยู่ในปอด ท้ังนีห้ ากเชอ้ื ไปอยู่ในกลุ่มเส่ียง เชน่ ผู้ สูงอายุ คนท่มี ีโรคประจ�ำตวั ซ่งึ กลุ่มคนเหล่าน้อี าจมภี ูมติ า้ นทางต่ำ� กวา่ คนกลุ่มอื่นๆ จงึ มีโอกาสไดร้ ับอันตรายจากการแพร่เช้ือมากกวา่ บางรายอาจถึงแก่ชีวติ ในทางกลบั กนั หากเช้ือแพรไ่ ปอยู่ในร่างกายของคนท่แี ข็งแรง และมภี มู ิตา้ นทานดี เช้อื ไวรัสโคโรนา่ นี้ ก็ไม่อาจท�ำอะไรได้ และสลายตวั ตายไปในทีส่ ดุ ฉะนั้นต้องท�ำความเข้าใจก่อนว่า คนท่ีติดไวรัสชนิดนี้ไม่ได้เป็นโรคที่รักษา ไม่หาย หรือเป็นแล้วอาจตายในฉับพลัน แต่ประเด็นส�ำคัญคือ เม่ือมันอยู่ในระยะแพร่ เช้ือและฟักตัวนาน เมื่อมันเข้าไปอยู่ในร่างกายใครก็อาจไม่แสดงอาการ ท�ำให้เราไม่รู้ ว่าใครเป็นคนติดเชื้อ และเป็นพาหะของเชื้อบา้ ง ท�ำให้คนท่ีติดเช้ือสามารถพาเชื้อแพร่ กระจายไปยังผู้อื่นได้อย่างรวดเร้วในวงกว้าง อีกท้ังในเวลาน้ียังไม่มีทั้งยาต้านและ วคั ซนี ในการปอ้ งกนั เม่ือมีผู้่ป่วยพร้อมกันเป็นจ�ำนวนมาก บคุ ลากรทางการแพทย์ รวม ไปถงึ สถานพยาบาลต่างๆ ก็ไมส่ ามารถรองรับไดเ้ พยี งพอ เมื่อรกั ษาไดไ้ มท่ ันกย็ ่ิงส่งผลใหก้ ารแพร่ระบาดขยายเป็นวงกว้างขึน้ เร่อื ยๆ 7

บทที่ 2 วธิ ีป้องกันและดแู ลตวั เองให้ห่างไกล และปลอดภัยจากโควิด-19 ใสห่ นา้ กากอนามัย ด้านสขี าวไวข้ ้างใน ด้านสเี ข้มไว้ข้างนอก ครอบจมกู และใตค้ าง หากไมม่ หี นา้ กาก เล่ียงกขารณจะับใหสน่ ้ากาก ใใหสไ้ ท่อ่อหนรอืแจขานม หมายเหต:ุ ผจู้ ำ� เปน็ ตอ้ งใชห้ นา้ กากอนามยั ล�ำดบั แรกๆ คอื หมอ พยาบาล / ผ้ดู แู ลผู้ป่วย / ผปู้ ว่ ย 8

ลา้ งมือบ่อยๆ 7 ข้นั ตอน ลา้ งมอื ใหส้ ะอาด ผทสใี่มชมแี้เจอ7ล0ลล%ก้าองขฮม้ึนออื ไลป์ ถา้ สไมบม่แู่ ทีลา้นงไดด้ว้ ย ลา้ งถ2ด้า0้วไยมวนิน่มำ้�าอี เทกีปี ล่า 1. ใชฝ้ า่ มอื ถฝู ่ามือ 2. ใชฝ้ ่ามอื ถหู ลงั มือ รบี พบแพทย์หากมีอาการ... 3. ประกบฝา่ มือ ถูซอกนว้ิ มีไข้+ไอ เจบ็ คอ น�ำ้ มูกไหล น้ำ� มกู ไหล ตา่กงลปับรจะาเกทศ 4. ใช้ฝ่ามือถู หรอื พน้ื ท่ีเสยี่ ง บริเวณหลังนิ้ว ไม่ถงึ 14 วนั 5. ถหู วั แม่โปง้ หากมขี ้อสงสบั สายดว่ นกรมควบคุมโรค โทร.1422 ดว้ ยฝา่ มือ 6. ขัดฝา่ มอื ขอ้ มลู เกย่ี วกับไวรสั COVID-19 ดว้ ยปลายนิ้ว 7. ถรู อบขอ้ มือ • เป็นเชอ้ื ไวรัสตระกลู โคโรนา • ติดตอ่ ผา่ นละอองฝอยขนาดใหญ่ (droplet) จากการไอ จาม เสมหะ น้�ำมกู นำ้� ลาย • ยังไม่มีวัคซีนปอ้ งกนั รกั ษาตามอาการ • ถ้าปว่ ยจะมีไข้ ไอแห้ง หายใจลำ� บาก ไร้เร่ียวแรง • ระยะเวลาฟักตัวของเชอื้ ก่อนแสดงอาการ 2-14 วัน แต่สว่ นใหญ่คอื 5 วัน • อตั ราการเสียชวี ติ 3% • ผปู้ ว่ ยทอ่ี าจมอี าการรา้ ยแรง คอื ผสู้ งู อายุ / ผทู้ มี่ โี รคประจำ� ตวั อยแู่ ลว้ 9

10

11

พักก่อน...แมบ่ อกใหเ้ ธอพักกอ่ น... 1. หยุดอย่บู า้ น 14 วัน และหลีกเลีย่ งการไปสถานท่ีสาธารณะ หรอื หากต้องออกจาก บา้ น หลกี เล่ียงการใช้ขนสง่ สาธารณะต่างๆ 2. ถา้ เป็นไปได้ ควรจะอาศยั อยใู่ นหอ้ งเฉพาะ และอยหู่ า่ งจากคนอน่ื ในบา้ น นอกจาก น้ีคุณควรใช้ห้องน�้ำแยกต่างหาก (ถ้ามี) ถ้าหากต้องการอยู่กับคนรอบข้าง หรือออก นอกบา้ นใหส้ วมหน้ากากอนามัย หรืออยู่ห่างจากคนอน่ื 1-2 เมตร หรอื 1 ชว่ งแขนเฝา้ ระวงั อาการอยา่ งระมัดระวัง 3. พกั ผอ่ น และกนิ น�ำ้ เยอะๆ เพือ่ รกั ษาร่างกายเราให้แข็งแรงอยู่เสมอ 4. ปิดปากเม่ือไอ หรอื จาม โดยใชท้ ชิ ชู่ปิดปาก ปดิ จมกู ทกุ ครัง้ และรบี ทิง้ ทนั ที โดย ปิดถุง หรือขยะให้สนิท ถ้าหากไม่มีทิชชู่ให้ใช้ต้นแขนแทน และหลังจากน้ันให้ไปล้าง บรเิ วณตน้ แขนท่ีมีเชอ้ื โรคออกดว้ ย 5. ล้างมอื ใหส้ ะอาดเปน็ ประจำ� โดยใชน้ ำ้� และสบู่อย่างน้อย 20 วนิ าที หรือใช้เจลลา้ ง มือท่ีมีแอลกอฮอล์มากกว่า 70% และเช็ดจนมือแห้ง เพ่ือเช้ือโรคจะเข้าในร่างกายได้ ง่าย หากมือเราเปียกน้ำ� อยู่ 6. หลีกเล่ียงการใช้สิ่งของร่วมกับผู้อ่ืนในบ้าน เช่น จาน ผ้าเช็ดตัว หรือเคร่ืองนอน และไม่รับประทานอาหาร และใช้ภาชนะร่วมกับผู้อ่ืน โดยควรจะแยกชุดอาหารออก จากผอู้ ื่น 12

7. ท�ำความสะอาดพื้นผิวของส่ิงต่างๆ ที่คุณสัมผัสเป็นประจ�ำ เช่น เคาน์เตอร์, โต๊ะ และลกู บิดประตู ใชส้ เปรยท์ ำ� ความสะอาดในครวั เรือน หรอื ผา้ เช็ดท�ำความสะอาดตาม คำ� แนะน�ำของผลติ ภัณฑ์ 8. ถ้าหากอาการแย่ลง ใหโ้ ทรหาแพทย์ หรือหน่วยงานทันที 9. ถ้าหากมีนัดพบแพทย์ หรือเข้าตรวจอาการ ให้แจ้งท่ีหน่วยงานไว้ก่อนว่า คุณมี โอกาสเป็น COVID-19 10. หากมีเร่ืองรอ้ งเรยี น สามารถแจ้งศูนยข์ ้อมูลมาตรการแก้ไขปัญหาจากโรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) ที่หมายเลข 02-288-6070 ต่อ 4 หรือสายดว่ น 1111 ซ่ึงสามารถรอ้ งเรยี นได้ทกุ กรณี หรอื กรมควบคุมโรค 1422 ส่ิงส�ำคัญที่สุดคือ ต้องมีสติ แม้ว่าการแพร่ระบาดอาจจะท�ำให้หลายคน ตระหนก หวาดกลวั แตข่ ณะนี้ แพทย์ และหน่วยงานทัว่ โลก รวมท้ังในไทย กำ� ลังตอ่ สู้ กับการแพร่ระบาดอยู่ ดังน้ันเราทุกคนต้องให้ความร่วมมือในการรักษาระยะห่างทาง สังคม ตอ้ งมีสติ ในการสงั เกตอาการของตนเอง ป้องกนั ตัว และป้องกันไม่ให้เรากลาย เปน็ ผูแ้ พรร่ ะบาดเชื้อโรคดว้ ย 13

14

อยู่หา่ งๆ อยา่ งหว่ งๆ การเว้นระยะหา่ งทางสังคม (Social Distancing) การเวน้ ระยะห่างทางสังคม หรอื social distancing เป็นหนงึ่ ในมาตรการ รฐั บาลในหลายประเทศใช้เป็นอาวธุ ในการตอ่ สูก้ บั การแพร่ระบาดของเชื้อไวรสั โคโรนา สายพนั ธุ์ใหม่สาเหตุของโรคโควดิ -19 การเว้นระยะห่างทางสังคมหมายถึงการป้องกันไม่ให้คนสองคนขึ้นไปมี ปฏิสัมพันธ์กันทางกายภาพอย่างใกล้ชิดเพื่อยับย้ังหรือหยุดการระบาดของโรคซ่ึงแตก ต่างจาก “การกักกันตัวเอง” (self-isolation) และ กักโรค (quarantine) ท่ีเหมาะ ส�ำหรับใช้ป้องกันผู้ป่วยหรือกลุ่มเสี่ยงท่ีเคยใกล้ชิดกับบุคคลเหล่านั้นไปแพร่เชื้อแก่ผู้ อ่ืน เพราะการเว้นระยะห่างทางสังคมต้องการหยุดการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างในหมู่ ประชากรนนั่ เอง ทั้งนี้ นักระบาดวิทยาประเมินว่า ไวรัสโคโรนาครั้งนี้มีอัตราการติดเช้ือ (reproduction number) ประมาณ 1.4 - 3.9 หมายความวา่ ผปู้ ว่ ยโรคโควิด-19 หนึ่ง รายสง่ ต่อเชอ้ื สผู่ ู้อืน่ ได้ประมาณ 2 - 3 คน น่ันเอง ระยะเวลาที่น่ากังวล คือ ช่วงไวรัสฟักตัว (incubation period) ประมาณ 5 - 14 วนั ท่แี ม้วา่ ร่างกายจะไมแ่ สดงอาการปว่ ยใด ๆ ให้เห็นชัดเจนแตก่ ็สามารถแพร่ เชื้อสู่คนอ่ืนได้หากยังสัมผัสและติดต่อกันใกล้ชิด ภายในหนึ่งเดือน จ�ำนวนผู้ป่วยคน เดียวอาจเพิม่ ขึน้ เปน็ 244 คน และ 59,604 คน ภายในสองเดอื น งานวิจัยท่ีศึกษาการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาในเมืองอู่ฮั่น ประเทศ จีน พบว่า การอยู่บ้านและรักษาระยะห่างทางสังคมช่วยชะลอการแพร่ระบาดอย่าง ต่อเนื่องข้างต้นได้จริง โดยตัวเลขอัตราการติดเช้ือจาก 2.35 ลงลดจนเกือบถึง 1 นั่น หมายความว่า ผู้ป่วยหนึ่งคนแพร่เชื้อต่อให้คนเดียวเท่านั้นเอง ยิ่งใช้มาตรการน้ีกับ ศูนย์กลางการระบาดได้เร็วเท่าไหร่ อัตราการแพรเ่ ชอื้ กน็ อ้ ยลงเทา่ นัน้ 15

การเวน้ ระยะหา่ งทางสังคม หรือ social distancing เป็นหนงึ่ ในมาตรการ รฐั บาลในหลายประเทศใช้เป็นอาวธุ ในการต่อสกู้ บั การแพรร่ ะบาดของเช้ือไวรสั โคโรนา สายพันธ์ุใหมส่ าเหตุของโรคโควิด-19 การเว้นระยะห่างทางสังคมหมายถึงการป้องกันไม่ให้คนสองคนข้ึนไปมี ปฏิสัมพันธ์กันทางกายภาพอย่างใกล้ชิดเพื่อยับย้ังหรือหยุดการระบาดของโรคซ่ึงแตก ต่างจาก “การกักกันตัวเอง” (self-isolation) และ กักโรค (quarantine) ที่เหมาะ ส�ำหรับใช้ป้องกันผู้ป่วยหรือกลุ่มเส่ียงท่ีเคยใกล้ชิดกับบุคคลเหล่าน้ันไปแพร่เชื้อแก่ผู้ อ่ืน เพราะการเว้นระยะห่างทางสังคมต้องการหยุดการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างในหมู่ ประชากรนนั่ เอง ท้ังน้ี นักระบาดวิทยาประเมินว่า ไวรัสโคโรนาคร้ังน้ีมีอัตราการติดเช้ือ (reproduction number) ประมาณ 1.4 - 3.9 หมายความวา่ ผปู้ ว่ ยโรคโควดิ -19 หนึง่ รายสง่ ตอ่ เชอื้ ส่ผู ู้อนื่ ได้ประมาณ 2 - 3 คน นั่นเอง ระยะเวลาที่น่ากังวล คือ ช่วงไวรัสฟักตัว (incubation period) ประมาณ 5 - 14 วนั ทแ่ี มว้ า่ รา่ งกายจะไมแ่ สดงอาการป่วยใด ๆ ใหเ้ ห็นชดั เจนแต่กส็ ามารถแพร่ เชื้อสู่คนอื่นได้หากยังสัมผัสและติดต่อกันใกล้ชิด ภายในหน่ึงเดือน จ�ำนวนผู้ป่วยคน เดยี วอาจเพมิ่ ขน้ึ เป็น 244 คน และ 59,604 คน ภายในสองเดอื น งานวิจัยที่ศึกษาการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาในเมืองอู่ฮ่ัน ประเทศ จีน พบว่า การอยู่บ้านและรักษาระยะห่างทางสังคมช่วยชะลอการแพร่ระบาดอย่าง ต่อเน่ืองข้างต้นได้จริง โดยตัวเลขอัตราการติดเชื้อจาก 2.35 ลงลดจนเกือบถึง 1 นั่น หมายความว่า ผู้ป่วยหนึ่งคนแพร่เชื้อต่อให้คนเดียวเท่าน้ันเอง ยิ่งใช้มาตรการน้ีกับ ศูนย์กลางการระบาดได้เรว็ เท่าไหร่ อัตราการแพรเ่ ชอื้ ก็น้อยลงเท่านัน้ นอกจากนี้ ระยะห่างทางสังคมยังช่วยยับย้ังไม่ให้ตัวเลขผู้ป่วยสูงเกินขีด จ�ำกดั ทโี่ รงพยาบาลจะรับไหวในคราวเดยี วอีกดว้ ย หรอื ทเ่ี รยี กกนั ว่า “ลดระดับความชนั ของเสน้ โค้ง” (flatten the curve) น่นั เอง 16

อยา่ งไรกต็ าม การกะระยะหา่ ง 2 เมตรให้ได้อยา่ งแม่นยำ� อาจไม่ใช่เรื่องง่าย สำ� หรับใครหลายคน มีค�ำแนะน�ำงา่ ย ๆ ในการกะระยะหา่ งทางสงั คม ดังน้ี • การเว้นระยะห่างทางสังคม 2 เมตร เทียบได้กบั ระยะประมาณ 3 กา้ ว มันมรี ะยะหา่ ง พอทจ่ี ะวางเตียง 1 หลงั หรอื รถเข็นซ้อื ของ 2 คนั ไว้ระหว่างคณุ กับผู้อื่น • หากคุณถือแปรงขัดพื้นด้ามยาวก็จะแตะอีกฝ่ายไม่ถึง หรือมีระยะประมาณคร่ึงหนึ่ง ของชอ่ งจอดรถยนต์ หรอื มา้ นงั่ ยาว 2 ตวั • คณุ อาจตอ้ งเดนิ ออกนอกบาทวถิ ี หรอื ขา้ มถนนเพอ่ื รกั ษาระยะหา่ งน้ีไว้ • บนรถโดยสารสาธารณะ คณุ ควรเวน้ ระยะหา่ งทงั้ ดา้ นหนา้ และดา้ นหลงั คณุ • ในสำ� นกั งาน คณุ ตอ้ งเวน้ ระยะหา่ งกนั ราว 4 ชว่ งเกา้ อ้ี • ในรา้ นคา้ อยา่ มงุ กนั ทที่ างเดนิ ระหวา่ งชน้ั วางสนิ คา้ และอยา่ ยนื เขา้ แถวตดิ กนั จนเกนิ ไป • หากใชบ้ รกิ ารสง่ สนิ คา้ ถงึ บา้ น ใหพ้ นกั งานสง่ สนิ คา้ วางของไวท้ ห่ี นา้ ประตทู างเขา้ บา้ น • หากคณุ ยงั ไมแ่ น่ใจวา่ ไดร้ กั ษาระยะหา่ งเพยี งพอแลว้ หรอื ไม่ กค็ วรถอยหา่ งออกไปอกี หนอ่ ย แมก้ ารหา่ งไกลจากเพื่อน ๆ และครอบครวั จะไม่ใชเ่ รอื่ งง่ายดาย โดยเฉพาะ อย่างย่ิงในช่วงเวลาแห่งการระบาดครั้งใหญ่ของเช้ือไวรัส เน่ืองจากในระยะยาวแล้ว อาจกอ่ ใหเ้ กดิ โรคหัวใจ ซมึ เศร้า และสูญเสียความทรงจ�ำ แต่การรักษาระยะห่างทางสังคมไม่ได้หมายรวมถึงการตัดขาดการติดต่อ สื่อสารทุกช่องทาง แตกต่างจากในปี 1918 เทคโนโลยียุคปัจจุบันมอบสื่อสังคม ออนไลน์ การพดู คยุ ผา่ นแอปพลิเคชัน และโทรศพั ทเ์ ห็นหนา้ คา่ ตากนั ทางวิดโี อ ดงั น้ันเพือ่ ใหค้ นทีเ่ รารกั ปลอดภัย การห่างไกลกนั เพียงทางกายกอ็ าจคุม้ ค่า 17

บทท่ี 3 แบบประเมนิ และค้นหาความเสย่ี ง จากโควิด-19 ดว้ ยตวั เอง *หมายเหตุ ทง้ั น้ีใชแ้ บบประเมนิ ท่จี ัดทำ� โดย รพ.ราชวิถี และกรมควบคมุ โรค 18

ในชว่ ง 14 วนั กอ่ นหนา้ ทา่ นมปี ระวตั เิ สยี่ งต่อการติดเชือ้ หรือไม่ดงั น้ี ข้อที่ 1 : ทา่ นเดินทางหรืออยอู่ าศัยในพน้ื ทท่ี ม่ี ีรายงานการระบาดตอ่ เน่อื งของ โรค COVID-19 ใน 14 วันทผ่ี ่านมา ไม่ใช่ ใช่ ข้อท่ี 2 : ทา่ นเป็นผูท้ ปี่ ระกอบอาชพี ท่สี มั ผสั ใกลช้ ดิ กับนกั ท่องเทย่ี วตา่ งชาติ สมั ผัสใกลช้ ิด หมายถงึ ไดส้ นทนากันในระยะน้อยกว่า 1 เมตร และนาน มากกวา่ 5 นาที หรือถกู ไอ/จามใส่โดยไมม่ ีการปอ้ งกนั เช่นใส่ mask ไม่ใช่ ใช่ ขอ้ ท่ี 3 : มีประวตั สิ ัมผสั ใกลช้ ิดกับผู้ป่วยยืนยนั โรคตดิ เช้อื ไวรสั COVID-19 สัมผัสใกล้ชดิ หมายถึง ได้สนทนากนั ในระยะน้อยกวา่ 1 เมตร และนาน มากกวา่ 5 นาที หรือถูกไอ/จามใส่โดยไม่มีการปอ้ งกนั เช่นใส่ mask ไม่ใช่ ใช่ ขอ้ ท่ี 4 : เปน็ บุคลากรทางการแพทย์หรือสาธารณสขุ ทีส่ มั ผัสกบั 1. ผูป้ ่วยยนื ยันตดิ COVID-19 2.สัมผัสกับสารคดั หลัง่ จากทางเดนิ หายใจของผปู้ ่วยท่สี งสัยหรอื ยืนยนั COVID-19 โดยไม่ไดใ้ ส่อุปกรณ์ป้องกนั อยา่ งเหมาะสม ไม่ใช่ ใช่ ขอ้ ที่ 5 : ประวัติไปในสถานทป่ี ระชาชนหนาแนน่ ชว่ งเวลาท่ีมีคนตดิ เชือ้ สถานที่ ท่มี ีรายงานคนตดิ เชอ้ื COVID-19 หรอื พ้นื ทส่ี นามบนิ ไม่ใช่ ใช่ 19

ขอ้ ท่ี 6 : ทา่ นมอี าการดังต่อไปน้หี รอื ไม่ มีไข้ ไอ มีน้�ำมูก เจ็บคอ หายใจ ล�ำบาก หอบเหน่ือย ไม่ใช่ ใช่ ข้อที่ 7 : ในสถานท่ีทา่ นที่ไปประจ�ำ คนทส่ี นิทใกล้ชดิ กับทา่ น มอี าการ ไข้ ไอ นำ�้ มกู เสมหะ มากกว่า 5 คน พรอ้ มๆกัน ในช่วงเวลาภายในสัปดาห์หรอื ไม่ ไม่ใช่ ใช่ *แบบสอบถามน้เี ป็นการประเมินเบ้ืองต้นเทา่ นนั้ การตดั สินใจส่งตรวจหรอื ไม่ ข้ึนอยกู่ บั การซักประวตั ิเพ่มิ เตมิ และดลุ ยพินิจของแพทย/์ พยาบาลเป็นหลัก ตอบใชไ่ มเ่ กนิ หนงึ่ ข้อ ระดบั ความเสีย่ ง : 1 ค�ำแนะนำ� ในการปฏบิ ตั ิตวั : ลา้ งมอื สวมหน้ากาก หลีกเลย่ี งที่แออัด ตอบใชไ่ ม่เกนิ สองขอ้ ระดับความเสี่ยง : 2 คำ� แนะนำ� ในการปฏบิ ตั ติ วั : ล้างมอื สวมหนา้ กาก หลีกเลีย่ งทีแ่ ออัด คำ� แนะนำ� ทเี่ ฉพาะเจาะจง : อาจเปน็ โรคอ่ืน ถ้า 2 วัน อาการไมด่ ขี ้ึนให้ไปพบแพทย์ ตอบใชไ่ ม่เกนิ สามข้อ ระดบั ความเสย่ี ง : 3 คำ� แนะนำ� ในการปฏิบตั ิตวั : ล้างมือ สวมหน้ากาก หลีกเลี่ยงทีแ่ ออัด ค�ำแนะน�ำที่เฉพาะเจาะจง : ให้เฝา้ ระวงั อาการตนเอง ถ้ามอี าการไข้ รว่ มกบั อาการระบบทางเดนิ หายใจ (มีท้งั 2 อาการ) ให้ตดิ ตอ่ สถานพยาบาลทนั ที ตอบใชเ่ กินสามข้อ ระดบั ความเสีย่ ง : 4 ค�ำแนะน�ำในการปฏิบตั ิตัว : ลา้ งมือ สวมหนา้ กาก หลกี เล่ียงทแ่ี ออัด ค�ำแนะนำ� ที่เฉพาะเจาะจง : ใหต้ ิดตอ่ สถานพยาบาลทนั ที 20

ตดิ ได้ไง? ไปไหนมาบา้ ง? ชวนจดบนั ทึกการเดินทางในช่วง โควดิ -19 เมื่อโรคระบาด โควดิ -19 ในประเทศไทยจะเขา้ สู่เฟส 3 ซึง่ เปน็ เฟสที่เราไม่ สามารถรไู้ ด้เลยว่าต้นตอของการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นน้ั มาจากใคร ท่ีไหน และเมือ่ ไหร่ จนเกดิ ค�ำถามอยู่ทกุ วนั ว่า “เธอวา่ เราติดยงั นะ?” จึงขอชวนทุกคนมาจดบันทึกการเดินทางของตัวเองในแต่ละวันกัน โดยใน บันทึกจะมีการระบุวันท่ี ช่วงเวลา สถานท่ีท่ีไป วิธีการเดินทาง บุคคลที่ไปด้วย และ หมายเหตุอน่ื ๆ ยกตัวอยา่ ง เช่น วันที่ ช่วงเวลา สถานท่ี เดวนิธิ กี ทาารง ไคปนด้วทยี่ หมายเหตุ 15/3/63 12.15 รา้ นชาบู แถวลาดพรา้ ว MMRRTT พพรหะลรโายมธ9นิ ใบตอง ไปกนิ ขา้ วกลางวนั ท่ีร้านชาบู สัง่ อาหารกบั พนักงานในร้าน 16.00 ลซาื้อดขพองรทา้ วี่ Tops ใบตอง ไปกดเคร่ืองดม่ื เอง 17.00 กลบั บา้ น MMRRTT พพรหะลรโายมธ9นิ *สมั ผัสมือพนกั งานผ้หู ญิง ตอนรบั จา่ ยเงิน* กนิ เสร็จแวะไปซ้อื ของที่ Tops จ่ายเงินท่แี คชเชยี ร์ 12 และกลับบ้านดว้ ย MRT Social Distinction 21

ตารใานงชบว่ นั งทโึกคกวาิดร-เด1นิ 9ทาง วนั ท่ี ช่วงเวลา สถานที่ เดวินิธีกทาารง ไคปนด้วทย่ี หมายเหตุ 22

ตารใานงชบว่ นั งทโึกคกวาิดร-เด1นิ 9ทาง วนั ท่ี ช่วงเวลา สถานที่ เดวินิธีกทาารง ไคปนด้วทย่ี หมายเหตุ 23


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook