94 7. ระบบตอ่ มไร้ทอ่ (Endocrine System) น้ำหนักต่อมใต้สมองลดลงร้อยละ 20 (Eliopoulos, 2005, 63 ในวิไลวรรณ ทองเจริญ, 2554) มี เนื้อเยื่อพังผืดเข้าแทนที่มากขึ้น การไหลเวียนเลือดที่ต่อมใต้สมองลดลง การผลิตฮอร์โมนต่าง ๆ ลดลง ต่อมธัย รอยด์มีเนื้อเยื่อพังผืดมาสะสมมากขึ้น การทำงานของต่อมธัยรอยด์ลดลงตามอายุเนื่องจาก กลไกการกระตุ้น ตอ่ มธยั รอยด์จาก TSH ล้มเหลว ทำให้ระดับไตรไอโอโดธยั โรนนิ (T3) มีปรมิ าณลดลงรอ้ ยละ 25-40 หลงั อายุ 60 ปี แต่ระดับธัยรอคซิน (T4) ยังคงที่ อตั ราการสร้างและสลายของธัยรอยด์ฮอร์โมนในผู้สูงอายุลดลง ดงั น้ัน อัตรา การครองธาตุในภาวะพื้นฐาน (basal metabolic rate) จึงลดลงประมาณร้อยละ 20 จาก อายุ 20-90 ปี เป็น ผลให้ผู้สูงอายุเกิดภาวะ hypothyroidism ซึ่งจะพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ทำให้มีอาการ อ่อนเพลีย เบ่ือ อาหารและนำ้ หนกั ลดลงได้ (Fretwell, 1993, 131 ในวิไลวรรณ ทองเจริญ, 2554 ) ต่อมพารารัยรอยด์ทำงานลดลงตามอายุ แต่การทำงานของฮอร์โมนพาราธัยรอยด์จะเพิ่มขึ้นใน วัยสูงอายุ เพราะระดับเอสโตรเจนซึ่งออกฤทธิ์ต้านการทำงานของฮอร์โมนพาราธัยรอยด์มีระดับลดลง ต่อม หมวกไตส่วนนอก (adrenal cortex) มีเนื้อเยื่อพังผืดและรงควัตถุเพิ่มขึ้น อัตราการหลังของคอร์ติซอลลดลง ร้อยละ 25 (Christiansen, & Grzybowski, 1993, 256 ในวิไลวรรณ ทองเจริญ, 2554) ซึ่งจะมีผลกระตุ้น กลับให้ต่อมใต้ สมองมีการสร้าง ACTH ในร่างกายลดลง หรือเพิ่มขึ้นได้ ระดับแอลโดสเตอโรนทั้งในเลือดและ ในปัสสาวะลดลง ทำให้มีการสูญเสียโซเดียมออกไปกับปัสสาวะมากขึ้น การหลั่งรีนิน (renin) ลดลงตามอายุ และไม่ตอบสนองต่อการลดลงของระดับโซเดยี ม การเปลี่ยนท่าทางหรือการออกกำลังกาย ระดับฮอร์โมนเพศ จากต่อมหมวกไตลดลง ต่อมหมวกไตส่วนใน (adrenal medulla) ผลิตสารอีปีเนพรีน (epinephrine) และ นอร์อีปิเนฟรีน (norepinephrine) ในระดับคงที่เมื่อถูกกระตุ้น แต่ในผู้สูงอายุตอ้ งอาศัยระยะเวลาในการหล่ัง นานกวา่ วัยอืน่ ๆ ตับอ่อนหลั่งอินซูลินลดลงและชา้ ระดับน้ำตาลในเลือดขณะอดอาหารคงท่ี เนื้อเยื่อต่าง ๆ ภายใน ร่างกายตอบสนองต่ออินซูลินน้อยกวา่ ปกติ เปน็ ผลใหร้ ะดบั ความทนต่อน้ำตาล (glucose tolerance) ลดลงเมื่อ อายุมากข้ึน ระดับนำ้ ตาลในเลือดจงึ สูงนานกว่าปกติ ระดบั กลคู ากอนลดลงและตอบสนองต่อส่งิ กระตุ้นชา้ ลง ต่อมเพศทำงานลดลงไม่ตอบสนองต่อการกระตุ้นของฮอร์โมน FSH และ LH จากต่อมใต้สมอง รัง ไข่หยุดทำงานไม่หลงเอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรน ดังนั้น แหล่งผลิตเอสโตรเจนท่ีสำคัญในผูส้ งู อายุ คือ ต่อม หมวกไตส่วนนอก ในเพศหญิงการลดระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนจะมีผลทำให้ผู้สูงอายไม่มีประจำเดือน อวัยวะ ตา่ ง ๆ ในระบบสบื พนั ธ์ุเส่ือมลงและสญู เสยี หน้าท่ี ขนบริเวณรักแรแ้ ละหวั เหน่าลดลง ผสู้ ูงอายบุ างรายอาจมีการ เปลี่ยนแปลงทางด้านจิตใจได้ โดยอาจมีอาการหงุดหงิด โกรธง่าย ตกใจง่าย ซึมเศร้า ฯลฯ สำหรับเพศชายการ เปลี่ยนแปลงเกิดน้อยกว่าในเพศหญิง เพราะการหลั่งฮอร์โมนเพศชายค่อยๆ ลดลงทีละน้อย แต่ก็มีผลทำให้ ลกั ษณะของเพศชาย (secondary sex characteristic) ลดลง ไดแ้ ก่ กลา้ มเนอ้ื ขนาดเลก็ ลง ขนน้อยลง เสียงเลก็ ลง ฯลฯ ความรู้สึกทางเพศในผู้สูงอายุอาจเพิ่มข้ึนหรือลดลง ขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อมและการมีกิจกรรมใน ชีวิตประจำวันของผู้สูงอายุ แต่ส่วนมากมักพบผู้สูงอายุมีความสนใจและรู้สึกทางเพศมากขึ้น นอกจากนั้นยังถือ ว่า ความสุขทางเพศนั้นเป็นส่วนสำคัญในชีวิตคู่ด้วย โดยพบว่าเมื่ออายุ 60 ปี ผู้สูงอายุ 7 ใน 10 คู่จะยังคงมี
95 กิจกรรมทางเพศ (sexual activity) และหลังอายุ 75 ปี พบ 1 ใน 4 คู่ (Jones, 1996, 59 ในวิไลวรรณ ทอง เจริญ, 2554) การเปล่ยี นแปลงตามวยั ของวัยสงู อายุในดา้ นจติ ใจ อารมณ์ และสงั คม วัยสูงอายุถือเป็นระยะสุดท้ายของพัฒนาการแห่งชีวิต วัยนี้นอกจากจะมีการเปลี่ยนแปลงด้าน รา่ งกายของผู้สูงอายุแล้ว ยงั มีการเปลีย่ นแปลงด้านจิตใจ อารมณ์ และสังคมอีกดว้ ย การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว มิได้มีการเปลีย่ นแปลงพร้อมกับตัวเลขซึ่งกำหนดไว้ที่ 60 ปี หรือ 65 ปี อย่างไรก็ตามการเปลีย่ นแปลงด้านจิต สังคมของแตล่ ะคนจะไม่เกิดขน้ึ พร้อมกนั ขน้ึ อยกู่ ับปัจจัยต่าง ๆ จะเหน็ ไดจ้ าก ผู้ทม่ี อี ายุไมถ่ ึง 60 ปี บางคนจะ หงดุ หงิดง่าย แต่บางคนยังกระฉับกระเฉง มีอารมณ์สดชนื่ ไม่หงดุ หงดิ งา่ ย เป็นต้น ผู้ดแู ลหรือญาตซิ ง่ึ อยู่ใกล้ชิด ผู้สูงอายุ ควรให้ความสนใจแก่ปัญหาด้านน้ี เปน็ อย่างมาก เนอื่ งจากจะมีผลกระทบต่อตวั ผู้สูงอายุเอง แล้วยังมี ผลกระทบตอ่ สังคม ครอบครัว อีกดว้ ย การเปล่ยี นแปลงทางจิตใจ อารมณ์ และสังคมในผู้สงู อายสุ ว่ นใหญม่ ักมสี าเหตุมาจาก 1. การเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย เช่นความเจ็บป่วย การเสื่อมของส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย สิ่งเหล่านี้ ก่อใหเ้ กดิ ความวิตกกังวล กดดนั ทางอารมณ์ ส่งผลกระทบต่อจติ ใจของผู้สูงอายุ 2. การเปลย่ี นทางดา้ นสงั คมไดแ้ ก่ 2.1 การเปลี่ยนแปลงทางด้านสถานภาพและบทบาททางสังคม เช่น ผู้ที่เคยทำงานเม่ือครบอายุ 60 ปี ตอ้ งออกจากงานการสญู เสยี บทบาทในการเปน็ ผู้นำครอบครวั 2.2 การถกู ทอดท้ิง สภาพสงั คมในปัจจุบัน คนหนุ่มสาวต้องหางานทำ ทำให้ผสู้ ูงอายุถูกทอดทิ้ง อยู่ บา้ นตามลำพัง ลกู หลานไม่มีเวลาเอาใจใส่ 2.3 ความเคารพเชื่อถือลดลง คนส่วนใหญ่มักมองว่า ผู้สูงอายุมีความสามารถน้อยลง ทำให้ความ เคารพนับถอื ในฐานะทีม่ ปี ระสบการณเ์ ปลยี่ นไป เด็กไม่ใหค้ วามเคารพผใู้ หญเ่ หมือนเชน่ เคย 2.4 การสูญเสียชีวิตของคูส่ มรส ญาติ คนใกล้ชิดหรอื เพ่ือน การเปลย่ี นแปลงทางด้านสังคมน้ี อาจก่อให้เกิดภาวะซึมเศรา้ ความเบ่ืออาหาร รบั ประทานอาหารได้ นอ้ ยลง ถ้าไม่มีการเอาใจใส่เป็นเวลานานจะเป็นสาเหตุของการเกดิ ปญั หาทางโภชนาการในผสู้ งู อายุได้ ปฏิบตั กิ ารการดูแลผสู้ ูงอายทุ ีม่ ีความเสอื่ มตามวยั วัยสูงอายุจะมีการเปลีย่ นแปลงเกิดขึ้นหลายอย่างทางร่างกายเนือ่ งจากความเสื่อมตามวัย ตลอดท้ัง การเปลี่ยนแปลงทางจิตใจ อารมณ์ และสังคม คือมีความสุขลดน้อยลง ซี่งมักมีสาเหตุจากความเสื่อมของ รา่ งกาย ความเจบ็ ปว่ ย สถานะทางสงั คมทีเ่ ปล่ยี นไป และการสูญเสียคนใกล้ชิด จงึ ควรดแู ลสขุ ภาพผู้สูงอายุที่มี ความเสือ่ มตามวยั โดยท่วั ไป ดังน้ี
96 1. การดูแลหัวใจและหลอดเลือด • งดการสูบบหุ รี่และงดเครอ่ื งด่ืมทีม่ แี อลกอฮอล์ • ออกกำลังกายอยา่ งสมำ่ เสมอ โดยเลอื กประเภทการออกกำลงั กายที่เหมาะสม ไมห่ ักโหม • ควบคุมนำ้ หนักตัวใหเ้ หมาะสม • ควยคมุ การกินอาหาร ลดอาหารหวานจดั เค็มจัด อาหารมัน กินผักและผลไม้สดมาก ๆ • ลดความเครียด โดยการทำสมาธิ หรอื ทำกจิ กรรมที่ผ่อนคลาย • ตรวจวดั ความดันโลหิตเป็นประจำ เพ่ือตรวจหาความผดิ ปกติ ตั้งแตร่ ะยะเร่ิมแรก • ระวงั การใชย้ ารักษาโรคความดันโลหติ สงู บางชนดิ ท่มี ีฤทธ์ิกดการเต้นของหัวใจ • หากมภี าวะของหวั ใจเต้นผิดปกติ ควรรบี พบแพทย์เพื่อรักษา 2. การดแู ลตา • ควรตรวจตาปีละ 1 คร้ัง ผสู้ ูงอายุทีป่ ว่ ยเป็นโรคเบาหวาน หรอื มปี ระวตั โิ รคตาในครอบครัว เชน่ ตอ้ หิน มะเรง็ จอประสาทตา ควรได้รบั การตรวจตาบ่อยขึ้น เปน็ ตน้ • ควรสวมแว่นกนั แดดเป็นประจำ เม่ือออกแดดหรอื ต้องใช้สายตาในท่มี แี สงมาก • ไมค่ วรใชส้ ายตาเม่ืออยู่ในท่ีมืด • อย่าใชย้ าล้างตา โดยไมจ่ ำเปน็ • บรหิ ารเปลือกตาบนและลา่ งทุกวันดว้ ยการใชน้ ิ้วชร้ี ูดกดเบาๆ ไปบนเปลือกตาจากคว้ิ ไปทาง หางตา บริหารลกู ตาทุกวันด้วยการมองไกล สลับมองใกลแ้ ละเกลอื กลูกตาไปมา 3. การดูแลหู • ไม่อยู่ในทีเ่ สยี งดงั เกินปกตติ ิดต่อกันเปน็ เวลานาน ๆ เมอ่ื จำเป็นตอ้ งอยู่ในที่เสยี งดงั ควรหา เคร่ืองอดุ หูปดิ ไว้ • อย่าส่ังนำ้ มกู แรง ๆ เพราะจะทำใหเ้ กิดความดันภายในรหู ูสงู ขนึ้ เมือ่ ทำเป็นประจำอาจทำให้หู ตงึ ได้ • อยา่ ใช้ของแหลมแคะหรือปั่นหเู ปน็ อนั ขาด เพราะนอกจากจะเป็นอนั ตรายต่อเย่อื หูแล้ว อาจจะนำเชื้อราเข้าไปในรูหทู ำใหร้ ูหอู ุดตนั หากมีความจำเป็นตอ้ งแคะหู ควรใชส้ ำลเี ชค็ เพยี ง เบาๆ รอบ ๆ รหู ู และไมค่ วรทำบ่อย • ถา้ มีขี้หอู ุดตนั ให้ใช้น้ำยาไฮโดรเจนเพออ๊อกซ์ไซดใ์ หม่ ๆ กรอกลงไปท้ิงระยะให้น้ำยาละลายขหี้ ู เสียก่อน จงึ ใช้ไมพ้ ันสำลีค่อยๆ ทำความสะอาด ถา้ ไมส่ ำเร็จก็ต้องไปพบแพทย์ • ตรวจสมรรถภาพการได้ยินเป็นประจำทุกปี 4. การดูแลผม • ควรตดั ผมให้สัน้ เพ่ือจะไดด้ ูแลและทำความสะอาดง่าย • ควรระวงั การใชส้ ารเคมีในการยอ้ มผม เพราะเป็นการทำลายผมหรอื หนงั ศรี ษะ ทำให้หนัง ศรี ษะแหง้ หรอื ผมแหง้ ขาดงา่ ย ควรใชเ้ ทา่ ทจ่ี ำเปน็ หากต้องการยอ้ มผมหรือดัดผม ควรเลือก ผลติ ภณั ฑ์ทไ่ี ม่มีสว่ นผสมท่ีทำให้เกิดอาการแพง้ ่าย
97 • ควรดูแลรักษาความสะอาดของเส้นผมอยู่เสมอ โดยการสระผมอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 คร้ัง ดว้ ยแชมพูสระผมอ่อน ๆ 5. การดแู ลผิวหนัง • รักษาความสะอาดผวิ หนังด้วยการอาบนำ้ ตามความเหมาะสม ถา้ อากาศหนาวและแหง้ ไมค่ วร อาบน้ำบ่อย หลกี เลี่ยงการอาบนำ้ ร้อน และการใช้สบูเ่ พราะจะทำใหผ้ ิวหนังแห้งแตกและเกดิ ตุ่ม คนั ข้ึนได้ หากต้องใช้สบ่คู วรใช้ทผี่ สมนำ้ มนั เพื่อเพ่ิมความชุ่มชน้ื แก่ผวิ หนัง • ถา้ ผิวหนงั แห้งควรทำด้วยน้ำมนั ครมี บำรงุ ผิว หรือวาสลนี วนั ละ 2-3 คร้งั เพ่ือรักษาความช่มุ ช่ืนของผิวหนงั • พยายามอย่าโดนแดดจดั ๆ ถา้ จำเปน็ ตอ้ งออกแดดจัดนาน ๆ ตอ้ งทาครีมกนั แดด • ควรสังเกตการเปล่ียนแปลงของผิวหนังเป็นระยะ ถา้ สผี ิวเขม้ ขน้ึ บวมมีเลือดออกผดิ ปกติ เปน็ สะเก็ด มเี ม็ดแข็งๆ ผวิ ไม่เรียบ ลักษณะของผิวเปลีย่ นไปจากเดิม ควรรีบพบแพทยเ์ พือ่ ตรวจหา ความผิดปกติ 6. การดูแลเล็บ • ควรตดั เลบ็ มอื เลบ็ เทา้ ใหส้ ั้นอยูเ่ สมอด้วยกรรไกรตดั เล็บ และตะไบเล็บสว่ นทแี่ หลมใหเ้ รียบ ไม่ สะดดุ มือ • ถา้ เล็บหนาและตดั ยากควรแช่มอื และเทา้ ในน้ำ เพื่อใหเ้ ล็บออ่ นนุ่มและตัดไดง้ ่ายข้ึน • หากตดั เล็บติดขอบเนอื้ มากเกินไป จะทำให้เจ็บบรเิ วณปลายนว้ิ ควรตดั เลบ็ ใหห้ ่างออกมา เล็กนอ้ ยจะปอ้ งกนั อาการเจ็บบรเิ วณปลายนิว้ ได้ 7. การดแู ลปาก ล้ิน และฟัน • หากริมฝีปากแหง้ ลอก ให้ทาลปิ มันเพื่อใหร้ มิ ฝปี ากชมุ่ ชน่ื • หลกี เลี่ยงการเคย้ี วของแข็ง • ควรทำความสะอาดช่องปากดว้ ยการแปรงฟนั อย่างสม่ำเสมออยา่ งนอ้ ย วันละ 2 คร้ัง เช้า- ก่อนนอน ถ้าใช้ไหมขดั ฟนั จะช่วยทำความสะอาดซอกฟนั ไดส้ ะอาด ถ้าใชไ้ มจ้ ้มิ ฟันตอ้ ง ระมดั ระวังเป็นพเิ ศษ • ทำความสะอาดล้นิ โดยใช้แปรงสีฟันหรือไมก้ วาดล้ิน กวาดจากโคนล้ินออกมาด้านปลายลน้ิ ทำซำ้ 4-5 ครงั้ สว่ นกระพุ้งแกม้ เพดานปาก อาจใชแ้ ปรงขนนุ่ม หรือใชน้ ้วิ มอื กวาดเบาๆ • ผู้ที่ไมม่ ีฟันเหลอื แล้วควรใส่ฟนั ปลอม • ในกรณที ีใ่ ส่ฟันปลอมควรดวู า่ บริวณใต้ฟันปลอมมีแผลหรอื รอยอะไรหรอื ไม่ • คนทส่ี บู บหุ รี่เป็นประจำควรดูวา่ มีก้อนหรือตุม่ ในปากหรือไม่ ถ้ามใี ห้พบแพทย์ เพ่ือตรวจหาว่า มมี ะเร็งในช่องปากหรอื เปน็ ความผิดปกตทิ ว่ั ไป • เลกิ พฤติกรรมทเี่ สี่ยงต่อการเกดิ โรคในชอ่ งปาก เช่น การสูบบุหรเ่ี คี้ยวหมาก กนิ ของหวานจดั • พบทนั ตแพทย์ เพื่อตรวจสขุ ภาพช่องปากเปน็ ประจำทกุ 6 เดอื น หรอื ปลี ะ 1 คร้งั
98 สรปุ ท้ายบท วัยสูงอายุจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นหลายอย่างตั้งแต่ การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายที่มองเห็นได้ เช่น ผมมีหงอกขาว ผมจะบางลงและแข็งแรงน้อยลงทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ผิวหนังเหี่ยวยน่ หย่อนคล้อย แห้ง ทำ ใหแ้ ตก คัน และแพ้ง่าย เลบ็ มือเล็บเท้าแห้งเปราะฉีกขาดงา่ ย ไหล่งมุ้ งอ หลังโคง้ สายตายาว อาจจะมีต้อกระจก หรือตอ้ หิน ได้ยินไมช่ ัดเจน เนือ่ งจากประสาทหูเส่ือม รมิ ฝีปากแห้ง ลอกงา่ ย ฟันผุ โยกแตกง่าย การรับรู้รสชาติ อาหารเปลี่ยนไป ชอบรสจัดขึ้น เป็นต้น และ การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายที่มองไม่เห็น เช่น ชั้นไขมันหนาขึน้ กล้ามเนื้อน้อยลง กระดูกบางลง ข้อต่อและเส้นเอ็นยืดหยุ่นน้อยลง การขยายตัวของปอดและหลอดลมมีความ ยดื หยนุ่ น้อยลง ยอ่ ยอาหารไดช้ ้า ความจุของกระเพาะปสั สาวะน้อยลง ทำใหป้ ัสสาวะบ่อยขน้ึ ระบบภูมิคุ้มกันใน ร่างกายลดลง ทำให้ติดเชื้อได้ง่ายและเป็นรนุ แรง เป็นต้น ตลอดทั้งมี การเปลี่ยนแปลงทางจิตใจ อารมณ์ และ สังคม คือ มีความสุขลดน้อยลง ซี่งมักมีสาเหตุจากความเสื่อมของร่างกาย ความเจ็บป่วย สถานะทางสังคมท่ี เปลย่ี นไป และการสญู เสยี คนใกล้ชิด เป็นต้น ดงั นนั้ จึงควรให้การดูแลเอาใจใสผ่ ้สู ูงอายุที่มปี ัญหาความเส่อื มตาม วยั ให้มคี ุณภาพชวี ติ ที่ดี แบบทดสอบท้ายบท 1. จงอธบิ ายการเปล่ียนแปลงตามวยั ของวยั สงู อายุในดา้ นร่างกาย 2. จงอธบิ ายการเปลยี่ นแปลงตามวยั ของวัยสูงอายุในด้านจิตใจ อารมณ์ และสังคม 3. หากท่านต้องดแู ลผสู้ ูงอายุ สิ่งใดทีต่ ้องควรระมดั ระวังทางด้าน ร่างกาย ดา้ นจติ ใจ ดา้ นอารมณ์ และ ด้านสงั คม 4. กิจกรรมใดท่ีควรจัดการใหเ้ หมาะสมกบั ร่างกายของผ้สู งู อายุ 5. จงยกตัวอยา่ งการดแู ลภาวะเสอื่ มตามวัยของผู้สูงอายุ เอกสารอ้างองิ ปราณี ทู้ไพเราะและคณะ. (2553). การพยาบาลอายรุ ศาสตร์ 1: โครงการตาราคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยมหิดล: เอน็ พเี พรส. ผ่องพรรณ อรณุ แสง. (2550). การบันทกึ กระบวนการพยาบาลผู้สงู อาย:ุ จากแนวคดิ สู่การปฏบิ ตั ิ. ขอนแก่น: โรงพิมพ์คลงั นานาวทิ ยา. วไิ ลวรรณ ทองเจริญ (บรรณาธิการ). (2554). ศาสตรแ์ ละศลิ ปก์ ารพยาบาลผู้สูงอายุ. คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยมหดิ ล: กรุงเทพฯ. ศริ พิ นั ธุ์ สาสัตย.์ (2554). การพยาบาลผสู้ ูงอาย:ุ ปญั หาท่ีพบบอ่ ยและแนวทางในการดแู ล.กรงุ เทพมหานคร: สานกั พิมพ์แหง่ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั .
99 สำนกั งานสถิตแิ ห่งชาต.ิ (2551). การสำรวจภาวะทางสังคม วัฒนธรรม และสุขภาพจติ พ.ศ. 2551. กรุงเทพฯ: กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สาร. อรวรรณ แผนคง. (2553). การพยาบาลผ้สู ูงอาย.ุ กรุงเทพฯ: ยุทธรนิ ทรก์ ารพิมพ์. Miller, C. A. (2009). Nursing for Wellness in Older Adult (5th ed.). St. Louis: Mosby. Patel, V. and Kleinman, A. (2003). “Poverty and common mental disorders in developing countries”. Bulletin of the World Health Organization. 81(8): 609-615. The Royal Bank of Scotland Group. (2011). Money and Mental Health. London: Nation Association for Mental Health.
100 แผนบริหารการสอนประจำบทที่ 7 บทนำ หัวข้อเน้ือหาประจำบท 1. ความหมายของภาวะซึมเศรา้ 2. สถานการณ์การเกิดภาวะซมึ เศรา้ ในทุกช่วงวยั 3. การดแู ลผู้ท่มี ีภาวะซมึ เศร้า วตั ถปุ ระสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม เมอื่ ศึกษาจบหัวข้อนี้แลว้ นักศึกษาสามารถ 1. อธิบายความหมายของโรคซึมเศรา้ ได้ 2. บอกถงึ สาเหตกุ ารปว่ ยของโรคซมึ เศร้า 3. ให้การดแู ลผปู้ ่วยโรคซมึ เศร้าเบื้องตน้ ได้ วธิ กี ารสอนและกจิ กรรมการเรยี นการสอนประจำบท 1. วิธีการสอน 1.1 ศกึ ษาเอกสารการสอนตามหัวข้อท่ีกำหนด 1.2. ทำแบบฝกึ หัดทา้ ยบท 2. กิจกรรมการเรยี นการสอน 2.1 ผู้บรรยายสรปุ เน้ือหาประจำบทดว้ ยชดุ โปรแกรมคอมพิวเตอร์เพาเวอรพ์ ้อยต์ ช่วยสอน เร่อื งโรคซมึ เศรา้ 2.2 ผสู้ อนยกตัวอย่างประเด็นทางการพยาบาลจติ เวชและสุขภาพจติ ประกอบความ เขา้ ใจ โดยใชก้ รณีศกึ ษาผ้ปู ว่ ย 1ราย และรว่ มอภิปราย ซกั ถามและแสดงความคดิ เหน็ 2.3 ผูส้ อนมอบหมายงานใหอ้ ่านและสรปุ บทความ และงานวิจยั ทีเ่ กยี่ วขอ้ งกับผู้ปว่ ย ด้านอารมณ์ในการรกั ษาและใหท้ ำ แบบฝกึ หัดทา้ ยบทเรียน
101 สอื่ การเรยี นการสอน 1. เอกสารประกอบการสอน 2. แบบฝึกหดั ทา้ ยบท 3. ชดุ โปรแกรมคอมพิวเตอรเ์ พาเวอร์พอ้ ยต์ช่วยสอนเร่อื งโรคซึมเศร้า ประเมนิ ผล 1. ประเมนิ ผลกจิ กรรมและแนวตอบท้ายบทเรยี น 2. ประเมินผลจากคะแนนสอบกลางภาค 3. ประเมนิ ผลจากคะแนนสอบปลายภาค 4. การสอบกลางภาคเรยี นและปลายภาคเรยี น 5. รายงานจากการมอบหมายบทความ / งานวิจัยทใี่ หค้ น้ คว้า 6. ประเมนิ จากการแสดงความคิดเหน็ ของนักศึกษาหลังจากเรียนจบ 7. ประเมินจากการสะท้อนคิดหลังจากการการศกึ ษากรณีตัวอย่าง
102 บทท่ี 7 รเู้ ท่าทันภาวะซึมเศร้า : การจัดการเบอ้ื งตน้ วริยา จันทรข์ ำ บทนำ ก่อนอื่นต้องอธิบายความแตกต่างระหว่างภาวะซึมเศร้ากับโรคซึมเศร้าออกจากกันเสียก่อน ถ้ากล่าวถึงเรื่องซึมเศร้า โดยทั่วไปมักจะนึกกันว่าเป็นเรื่องของอารมณ์ความรู้สึกที่เกิดจากความ ผดิ หวงั หรือการสญู เสียมากกว่าทีจ่ ะเป็นโรค ซ่ึงตามจริงในชวี ิตประจำวนั ส่วนใหญ่ ก็จะเป็นเร่ืองของ อารมณ์ความรู้สึกธรรมดาๆ ที่มีกนั ในชีวติ ประจำวนั เศรา้ เสียใจ มากหรือน้อยขน้ึ อยู่กับสถานการณ์ที่ เขา้ มากระทบ เช่น มกี ารสูญเสียบุคคลสำคัญในชวี ิต ก็จะมีอาการเศร้าเสียใจได้มาก แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าอารมณ์เศร้าท่ีเกิดข้ึนนัน้ มีอาการเป็นอยูน่ านมากกว่า 2 สัปดาห์ โดยไม่มีทีท่าว่าจะดีข้ึน หรือเป็น รนุ แรง มีอาการตา่ ง ๆ ร่วมดว้ ย เชน่ มีอาการนอนไม่หลับ หรอื หลบั ๆ ตน่ื ๆ เบ่ืออาหาร นำ้ หนักลดลง มาก หมดความสนใจต่อสง่ิ รอบขา้ ง ไม่คิดอยากมีชีวิตอยู่ ก็อาจจะเข้าข่ายของโรคซมึ เศรา้ สถานการณ์การเกิดภาวะซึมเศร้าในทุกช่วงวัย คำว่า “โรค” บ่งว่าเป็นความผิดปกติทาง การแพทย์ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาเพื่อให้อาการทุเลา ต่างจากภาวะอารมณ์เศร้าตามปกติ ธรรมดาท่ีถา้ เหตกุ ารณ์ต่าง ๆ รอบตวั คล่คี ลายลง หรือมีคนเขา้ ใจเหน็ ใจ อารมณเ์ ศร้านี้ก็อาจหายได้ ผู้ ที่ป่วยเปน็ โรคซมึ เศร้าจะมีการเปลีย่ นแปลงไปจากเดิมค่อนข้างมาก การเปลยี่ นแปลงหลกั ๆ จะเป็นใน ด้านอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิด พฤติกรรม ร่วมกับอาการทางร่างกายต่าง ๆ ผู้ที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า นอกจากมีอารมณ์ซึมเศร้าร่วมกับอาการต่าง ๆ แล้ว การทำงานหรือการประกอบกิจวัตรประจำวันก็ แย่ลงดว้ ย สำหรบั นกั ศกึ ษาก็จะไม่มีสมาธิในการเรียน ไม่สามารถจัดการงานที่ได้รบั มอบหมายหรือทำ การบ้านได้ คนที่ทำงานก็อาจขาดงานบ่อย ๆ เนื่องจากขาดสมาธิกับงาน จนถูกเพ่งเล็ง เรียกว่าตัว โรคทำใหก้ ารประกอบกจิ วัตรประจำวนั ตา่ ง ๆ บกพรอ่ งลง ดังนนั้ การเปน็ โรคซึมเศร้าไม่ได้หมายความว่า ผู้ทเ่ี ป็นเป็นคนอ่อนแอ คิดมาก หรือเปน็ คนไม่ สูป้ ัญหา เอาแต่ท้อแท้ ซึมเซา แต่ทเี่ ขาเป็นน้นั เป็นเพราะอาการของโรค ถา้ ได้รับการดูแลและรกั ษาที่ ถกู ต้องเหมาะสม อาการของโรคก็จะทุเลาลง ผูป้ ่วยก็จะกลับมาเปน็ ผทู้ ่ีมจี ิตใจปกติ อารมณ์แจม่ ใส พรอ้ มจะทำกจิ วตั รตา่ ง ๆ เช่นเดิม
103 1. ความหมายของภาวะซมึ เศร้า ความหมาย ภาวะซึมเศร้า เปน็ ปฏกิ ริ ยิ าจากการสญู เสยี ทำใหเ้ กิดความรูส้ กึ มืดมน เหนอ่ื ยหน่าย หดหู่ จติ ใจอ่อนเพลีย ท้อแท้ สน้ิ หวัง ร้สู กึ ไรค้ ุณค่า อาจเกดิ ความรู้สกึ ไม่อยากมีชวี ติ อยู่ตอ่ ไป และทำร้าย ตนเองในท่ีสุด ภาวะซึมเศรา้ หมายถงึ ความรสู้ ึกเศร้าหมอง จิตใจหดหู่ มีอารมณ์ทุกข์ เซอื่ งซมึ เช่อื งชา้ นอนไมห่ ลบั ขาดสมาธิ เบ่ืออาหาร ผอมนำ้ หนกั ลด ไมม่ เี รีย่ วแรง หมดความรสู้ กึ ทางเพศ คิดอยากตาย มพี ฤติกรรมเปล่ยี นแปลง แยกตวั เงยี บซมึ และสมรรถภาพในการทำงาน เรยี นลดลง และมีผลกระทบ กับอาชีพการงาน หรือการเรียน ประเภท และกลไกการเกิดภาวะซึมเศร้า ภาวะซึมเศร้า จำแนกเปน็ 3 กลุ่ม ใหญ่ ดังนี้ 1) เปน็ อารมณป์ กติ (affect) ซง่ึ ใคร ๆ กร็ ้สู กึ ได้ แตจ่ ะไมร่ ุนแรงหรอื คงอยู่นาน และไม่ กอ่ ใหเ้ กดิ ผลกระทบ 2) เป็นอารมณท์ ี่ผดิ ปกติ (mood) คือ คงอยูน่ าน และระดับท่ีเกินวิสัยปกตไิ ปบ้าง เกิดขึ้น เนื่องจากปัญหาการปรบั ตวั หรือเป็นผลจากโรคทางกายและโรคจิตต่าง ๆ 3) เป็นโรคจิตโดยตรง (primary affective disorder) โดยมีอารมณ์ที่ผิดปกตินาน ซึ่งอาจ จำแนกออกไปอีกตามลักษณะที่ผิดปกติ ที่แตกต่างกันเช่น ภาวะเศร้า หรือ ไฮโปรแมเนีย (hypomania) ถึง แมเนยี (mania) สาเหตุ สาเหตุของความเศร้ามกั เกิดจากเหตกุ ารณ์ในชีวติ ประจำวนั และปญั หาตา่ ง ๆ เกดิ การสญู เสยี บุคคลหรอื ส่งิ ของท่ีเปน็ ท่รี ัก ความผูกพัน คดิ สบั สนอยู่กับส่ิงทผี่ ่านไป และปรบั ตัวไม่ได้ สภาพร่างกาย และอารมณ์ มีการเปลย่ี นแปลงตามวยั หรือประสบการณ์การสูญเสีย เช่น การสญู เสยี บุคคล พบแต่ เหตุการณส์ ญู เสยี อยเู่ สมอ และส่งิ ท่ีสูญเสยี เป็นสิง่ ที่มคี วามหมายตอ่ บุคคลน้นั ๆ กระบวนการของความเศร้า มขี นั้ ตอนดงั นี้ 1.1 ภาวะขาดความสมดลุ ร่างกาย หรือจิตใจ เมือ่ เผชิญเหตกุ ารณ์ทสี่ ูญเสยี 1.2 อาการหมกมุ่น วุ่นวาย สับสน 1.3 คืนสูป่ กติ เม่ือเวลาผา่ นไปหรือเหตกุ ารณ์ดขี ้ึนบุคคลจะคอ่ ย ๆ คนื ส่สู ภาวะปกติ 1.4 ถ้าไม่สามารถคืนสู่ภาวะปกติได้ถือเป็นความเศร้าผิดปกติ บุคคลนั้นจะ ปฏเิ สธ ความจริง กดเกบ็ วติ กกงั วลสูง และเศรา้ มาก
104 สาเหตุของโรคซมึ เศรา้ แบง่ เป็น 3 ประเภท คอื 1) โรคซึมเศร้าเกิดจากความผิดปกติของระดับสารเคมีในสมอง ตัวสำคัญคือ ซีโรโทนิน (serotonin) แต่ทั้งน้ีคนที่ไม่มีญาติสายตรงเคยป่วยเป็นโรคนี้ ก็อาจเกิดเป็นโรคนี้ได้ โดยพบว่าผู้ป่วย โรคน้ีจะมีความผิดปกติของระดบั สารเคมีท่ีเซลลส์ มอง สร้างขนึ้ เพื่อรกั ษาสมดุลของอารมณ์ 2) สภาพทางจิตใจที่เกิดจากการเลี้ยงดู ก็เป็นปัจจัยที่เสี่ยงอีกประการหนึ่งที่ก่อให้เกิดโรค ซมึ เศรา้ เช่นกนั คนท่ีขาดความภูมิใจในตนเองมองตนเองและโลกที่อยู่ในแงล่ บตลอดเวลา หรือเครียด ง่ายเมือ่ เจอกบั มรสมุ ชีวิต ล้วนทำให้เขาเหลา่ นัน้ มโี อกาสป่วยงา่ ยขน้ึ 3) การเผชิญกับสถานการณ์เลวร้าย เช่น หากชีวิตพบกับการสูญเสียครั้งใหญ่ต้องเจ็บป่วย เรื้อรัง ความสัมพันธ์กับคนใกล้ชิดไม่ราบรื่น หรือต้องมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ไม่ปรารถนา หรือ ผิดหวงั ซ้ำซาก ก็อาจกระต้นุ ใหโ้ รคซมึ เศรา้ กำเริบได้ 2. อาการซึมเศรา้ และการฆ่าตัวตาย ผู้ที่มีอาการเศร้า มักมีอาการดังต่อไปนี้ร่วมด้วย เช่น เบื่ออาหาร นอนไม่หลับ อ่อนเพลีย สมาธิไม่ดี ตัดสินใจลำบาก ความรู้สกึ ทางเพศลดลง ถ้าปล่อยให้อารมณ์ซึมเศรา้ คงอยู่นานต่อเนือ่ งกัน เป็นเวลา 2 ปี ในผูใ้ หญ่ และกินเวลานานอย่างน้อย 1 ปี ในเด็กและวัยรุ่น จะเกดิ ความแปรปรวนทาง อารมณ์ที่เรียกว่า โรคอารมณ์เศร้า ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาการฆ่าตัวตายได้ สำหรับคนที่มีสุขภาพจิตดี อยู่เดมิ ถา้ มีอารมณ์เศรา้ จากการสูญเสยี ผิดหวัง จะเศรา้ นานประมาณ 4 – 12 สปั ดาหแ์ ล้วจะค่อยๆ ลดลง และกลับคืนเป็นปกติในระยะเวลาไม่เกิน 6 สัปดาห์ แล้วยังมีอาการเศร้า จำเป็นจะต้องได้รับ การบำบัดรกั ษาต่อไป 3. การดแู ล/การพยาบาล 3.1 การประเมินสภาวะซึมเศร้า ประเมนิ ภาวะซึมเศร้าและหาสาเหตุโดยสามารถใช้ เครือ่ งมือท่ีเรยี กวา่ “แบบทดสอบภาวะซมึ เศรา้ 9 คำถาม” โดยมกี ารแปลผลดังนี้ คะแนน การแปลผล การดำเนินการ มากกวา่ 7 ซมึ เศร้าเลก็ น้อย ตอ้ งหาวิธกี ารผอ่ นคลายอารมณ์ หากิจกรรมทชี่ อบทำ ออกกำลงั กาย เลน่ กีฬา ดูหนังฟงั เพลงท่ีสรา้ งสรรค์ อย่าฟังเพลงแนวเศรา้ อกหักหรอื ดนตรีท่ีมอี ารมณ์ เศร้า ดูแลสุขภาวะการนอนหลับ จัดการความเครียด และการแกป้ ัญหาในทางสรา้ งสรรค์ อาจร้องขอความ ช่วยเหลือจากผู้คนทเี่ กยี่ วข้องเมือเกิดปญั หาท่เี กนิ ความสามารถในการแกไ้ ข ทำกจิ กรรมเพ่ิมความสขุ และความสำเร็จง่ายๆ ในชวี ิต
105 คะแนน การแปลผล การดำเนนิ การ 13-18 เพม่ิ ปฏสิ ัมพนั ธ์กับเพื่อนและครอบครัวและแก้ไข ปญั หาความขัดแยง้ ในครอบครัว ซมึ เศร้าปานกลาง สง่ิ สำคญั ** อย่าอยคู่ นเดยี ว หากมีความคิด ต้องพบจติ แพทย์เพือ่ เข้าสู่กระบวนการรักษา อาจต้อง ทำจิตบำบัด โดยต้องดูแลเร่อื งตอ่ ไปน้ี 1. แนะนำ เร่ืองสขุ ภาวะการนอนหลบั (sleep hygiene) 2. สง่ เสรมิ ให้ผปู้ ่วยได้มองเหน็ ข้อดแี ละคณุ ค่า ของตนเอง 3. แนะนำวธิ ีจัดการความเครยี ดและการ แก้ปญั หาที่เหมาะสม 4. แนะนำการเพ่ิมปฏิสมั พันธ์และการใช้เวลา ทำกจิ กรรมรว่ มกนั ในครอบครวั 5. ชว่ ยให้ครอบครัวมีความเข้าใจและสนับสนุน ให้กำลังใจวัยรุน่ 6. อาจจำเป็นต้องมีการปรับสภาพแวดล้อม เชน่ การแก้ไขปญั หาความขัดแย้งหรือปัญหา การสื่อสารในครอบครัว การแก้ไขปัญหา สัมพันธภาพกับเพื่อน หรือการลดความ กดดันท่ีทำงานหรือ มหาวิทยาลัย และ โรงเรียน หมายเหตุ ในวัยรุ่นที่ปฏิเสธกิจกรรมต่าง ๆ ที่เคยทำ อาจให้ทำแผนสร้างกิจกรรมที่เพิ่มความสุขและ ความสำเร็จง่ายๆ ในชวี ติ (pleasure activities) และ สง่ เสริมใหป้ ฏบิ ตั ิตามแผนน้ัน - แนะนำครอบครัวเฝ้าระวงั ความเส่ยี งทำรา้ ย ตนเองและการเก็บอาวธุ และวตั ถุทีอ่ าจใช้ ทำ รา้ ยตนเอง
106 คะแนน การแปลผล การดำเนินการ 19 ขนึ้ ไป ซมึ เศรา้ รุนแรง สิง่ สำคญั ** อยา่ อยคู่ นเดยี ว หากมีความคดิ อยากฆ่า ตวั ตายตอ้ งรีบร้องขอความช่วยเหลือทันที ต้องพบจิตแพทย์เพ่อื เขา้ ส่กู ระบวนการรกั ษาอย่าง เร่งด่วน ส่งิ สำคัญ** อยา่ อยูค่ นเดยี ว 3.2 หลกั การพยาบาล กำหนดแนวทางช่วยเหลอื เป็น 2 ระยะ คอื 3.2.1 กำหนดเป้าหมายระยะส้นั 1) เนน้ การป้องกนั การทำร้ายตนเอง 2) ให้ความชว่ ยเหลือ ถา้ ผปู้ ว่ ยเสียใจจนขาดสติ 3) ใหก้ ำลงั ใจ สนับสนนุ ชว่ ยเหลือ 4) เนน้ การปรับตวั กับสถานการณ์ การระบายปัญหา 5) ฝึกทกั ษะการเผชญิ ปญั หา 3.2.2 กำหนดเปา้ หมายระยะยาว 1) ทำความเขา้ ใจปญั หา และฝกึ การเผชญิ ปญั หา 2) สรา้ งคุณค่าและเป้าหมายในตนเอง 2. สถานการณก์ ารเกิดภาวะซมึ เศรา้ ในทกุ ช่วงวัย โรคอารมณ์เศร้า โรคอารมณ์เศร้า (Depressive Disorder) เป็นกลุ่มของโรคท่ีมีความผิดปกตขิ องอารมณ์ด้าน เดียว คือ อารมณ์เศร้า แบ่งเป็น Major Depressive Disorders (MDD) และ Dysthymic Disorder พบได้ทั่วไปพบบ่อยในเพศหญิงมากกว่าเพศชายและพบได้ในทุกช่วงอายุโดยเฉพาะวัยรุ่นและวัย สูงอายุโรคอารมณ์เศร้ามีผลต่อการดำรงชีวิตของผู้ป่วยทำให้ความสามารถในการทำงานการดูแล ตนเองการดำเนินกิจวัตรประจำวันแย่ลง มีผลกระทบต่อตนเองและคนรอบข้างและ มีผลกระทบต่อ ผู้ป่วยที่มีโรคทางกายอยู่เดิมเช่น โรคหัวใจ และเบาหวาน การฆ่าตัวตาย เป็นปัญหาแทรก เป็น ระยะเวลา 2 ขน้ึ ไป สาเหตแุ ละปจั จยั เส่ียง สาเหตุทเี่ ช่อื ว่าก่อให้เกิดโรคคือ พนั ธุกรรม ซ่ึงสาเหตุสำคัญในการเกดิ โรค ความผิดปกติของ สารชวี เคมใี นสมอง โดยพบว่า มาจากความพบพร่องของสารสอื่ ประสาทในสมองที่ คือ ระดับนอร์ อิพเิ นฟริน (norepinephrine) โดปามนี (dopamine) และ ซีโรโทนิน (serotonin) ท่ีลดลง ปัจจัย
107 เสยี่ งทีส่ ำคญั คือ เพศ อายุ ช่วงวยั ใกล้หมดประจำเดอื น ชว่ งหลังคลอด พฤติกรรมการเรียนรู้ท่ผี ิดปกติ และประสบการณ์ชีวิตวยั เยาว์ การสญู เสยี บุคคลอันเป็นท่ีรัก การหย่าร้าง โรคซึมเศร้า (Major Depressive Disorder) คือ โรคที่มีอาการที่สำคัญ คือ รู้สึกหดหู่ เศร้า หรือท้อแท้สิ้นหวังและรู้สึก เบื่อ ทำอะไรก็ไม่ เพลิดเพลนิ เป็นทกุ วนั เกอื บทง้ั วนั ผู้ป่วยมักบอกว่า รูส้ ึกเหงา หมดหวงั ไรค้ ่า เพลีย ไม่ค่อยมีแรง และ ผู้ป่วยบางคนไม่ได้บอกว่าตัวเองซึมเศร้า แต่จะแสดงออกโดยการที่แยกตัวออกจากสังคม เพื่อน และ กิจกรรมที่เคยสนใจ ทำงานไม่ค่อยเสร็จ ผลการเรียนหรือผลงานแย่ลง ส่วนใหญ่จะป่วยก่อนอายุ 40 ปี โดยอาการเหล่าน้จี ะแสดงติดต่อกนั ภายในระยะเวลา 2 สปั ดาห์ (สมภพ เรืองตระกูล, 2548) เกณฑก์ ารวนิ จิ ฉยั ผู้ที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าตามเกณฑ์การวินิจฉัยโรคของสมาคมจิตแพทย์อเมริกัน (American Psychiatric association, 2002) ต้องมีอาการดังที่จะกล่าวต่อไปนี้อย่างน้อย 5 อาการ ในช่วง ระยะเวลาติดต่อกันนานตั้งแต่ 2 สัปดาห์ขึ้นไป โดยใน 5 อาการดังกล่าวอย่างน้อย 1 ข้อ ต้องมี อาการ ข้อ (1) อารมณ์เศร้า หรือ ข้อ (2) เบื่อหน่าย หมดความสนใจ ไม่มีความสุขในการทำกิจกรรม ตา่ ง ๆ โดยเกณฑ์การวินจิ ฉยั จะพิจารณาจากอาการดังน้ี 1. มีอารมณ์เศร้าเป็นส่วนใหญ่ของวันแทบทุกวัน จากคำพูดของผู้ป่วย เช่น รู้สึกเศร้า หรือว่างเปล่า หรือจากการสังเกตของผู้อื่น เช่น เห็นว่า น้ำตาคลอเบ้า ร้องไห้ หมายเหตุ: ในเด็กและ วัยรนุ่ เป็นอารมณ์หงดุ หงดิ ก็ได้ 2. เบ่อื หน่าย หมดความสนใจ ไมม่ คี วามสขุ ในการทำกิจกรรมตา่ ง ๆ 3. เบื่ออาหาร น้ำหนักลดลงหรือรบั ประทานจจุ นน้ำหนักเพ่ิมข้ึน 4. นอนไมห่ ลบั หรือหลบั มากไป 5. มีความคดิ และการเคลื่อนไหวเช่ืองข้า หรอื กระวนกระวายพร่งุ พลา่ น 6. อ่อนเพลีย หรือไม่มีแรง 7. รูส้ กึ ตนเองไร้ค่า หรือร้สู กึ ผิดอย่างไม่เหมาะสมหรือมากเกนิ ควร อาจถึงขั้นหลงผิด 8. สมาธิเสยี หรือมคี วามลังเลใจ หรือตัดสินใจอะไรไม่ได้ 9. มีความคิดอยากตาย พดู ถงึ เรื่องตาย ในระยะซึมเศร้า ผู้ที่เป็นจะรู้สึกเบื่อหน่ายไปหมด จากเดิมชอบอ่านหนังสือ ติดละคร หรือดู ข่าว เล่นโทรศัพท์ ก็ไม่สนใจติดตาม อะไร ๆ ก็ไม่เพลินใจไปหมด บางคนจะมีอาการซึมเศร้า อารมณ์ ออ่ นไหวง่าย รอ้ งไหง้ ่าย บางคนจะหงุดหงิด ขวางหขู วางตาไปหมด ทนเสยี งดังไม่ได้ ไม่อยากให้ใครมา วุ่นวาย อาการเบื่อหน่ายจะเป็นมากจนแม้แต่อาหารการกินก็ไม่สนใจ บางคนน้ำหนักลดสัปดาห์ละ 2-3 กิโลกรัม ผู้ป่วยจะนั่งอยู่เฉยๆ ได้เป็นชั่วโมงๆ ความจำแย่ลง มักหลง ๆ ลืม ๆ เพราะใจลอย
108 ตัดสินใจอะไรก็ไม่ได้ เพราะไม่มั่นใจไปเสียหมด จะมองสิ่งต่าง ๆ ในแง่ลบไปหมด คิดว่าตัวเองเป็น ภาระของคนอ่ืน ไมม่ ใี ครสนใจตนเอง ถา้ ตายไปคงจะดจี ะพ้นทุกขเ์ สยี ที โรคอารมณเ์ ศร้าเรอ้ื รงั (Dysthymic Disorder) อาการสว่ นใหญ่ของโรคนี้คอื ผู้ปว่ ยมอี ารมณ์เศรา้ เรื้อรังตดิ ต่อกันนานอย่างน้อย 2 ปี ร่วมกับ อาการอืน่ เชน่ นอนไมห่ ลับ เบือ่ อาหาร รสู้ ึกตนเองไร้คา่ โดยจะพบผหู้ ญงิ ในมากกว่าผู้ชาย สาเหตสุ ่วน ใหญ่เช่ือวา่ ถา่ ยทอดทางพนั ธุกรรม และความเครียดเรื้อรงั ก็อาจเปน็ สามเหตใุ ห้เกิดโรคนี้ได้ การวินิจฉยั (American psychiatric association, 2002) ก. ผูป้ ่วยโรคอารมณ์ซมึ เศร้าเรอื้ งรงั ตามเกณฑ์การวนิ จิ ฉัยของสมาคมจิตแพทย์อเมริกันจะมี อาการเศรา้ เรอ้ื รังติดต่อกนั อย่างนอ้ ย 2 ปี ซึ่งในเด็กและวยั ร่นุ อาจพบอาการหงุดหงิดง่าย และมี อาการเปน็ เวลาอยา่ งน้อย 1 ปี โดยมีอาการอย่างน้อย 2 อาการ โดยเกณฑก์ ารวินจิ ฉัย จะพิจารณา จากอาการดงั น้ี 1. เบ่อื อาหารหรือรับประทานจุ 2. นอนไมห่ ลบั หรือหลับมาก 3. ออ่ นเพลียไมม่ ีแรง 4. รสู้ ึกตนเองไร้คา่ 5. ไมม่ สี มาธิ หรือมีความลงั เลใจ 6. รู้สกึ สิน้ หวงั โดยในช่วงที่เวลาปว่ ย ผูป้ ่วยมอี าการปกติน้อยกว่า 2 เดือน และไม่เคยมีอาการของโรค ซมึ เศร้าในชว่ งเวลา 2 ปีแรกท่ีปว่ ย สำหรบั ในวัยรุ่นระยะเวลา 1 ปี การรักษา ผู้ปว่ ยโรคซึมเศรา้ ควรได้รับยาต้านเศร้าในขนาดรักษา ผปู้ ่วยอารมณเ์ ศร้าจากปัญหาชีวิตและ การสูญเสียต่างๆ ควรได้รับขนาดต่ำ ร่วมกับการช่วยเหลือทางด้านจิตใจโดยการทำจิตบำบัด และ พิจารณาให้ยาต้านเศร้า กลุ่ม ทีซีเอ (TCA) เช่น อะมิทริปไทลีน (Amitriptyline) หรืออิมิปรามีน (Imipramine) หรอื ยาต้านเศร้า ซง่ึ ในการให้ยาระยะแรกของการใช้ยาไม่ควรให้ยาจำนวนมากเพราะ ผู้ป่วยที่คิดฆ่าตัวตายอาจพยายามฆ่าตัวตายโดยการรับประทานยาเกินขนาดได้ และจำเป็นต้องได้รบั การรักษาต่อเนื่อง 4-6 เดือน ถา้ มคี วามเส่ียงต่อการฆ่าตัวตายสูง ควรปรกึ ษาแพทย์เพื่อรับไว้รักษาใน โรงพยาบาล ปัจจุบันนิยมรักษาด้วยยา ในกลุ่ม เอสเอสอาร์ไอเอส (SSRIs) เช่น ฟลูโอซีทีน (Fluoxetine) และการทำจติ บำบัด สญั ญาณเตือน และอาการของผู้ทีม่ ีภาวะซึมเศรา้ สัญญาณเตือน และอาการของผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าอาจเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปเป็นเดือนๆ หรือเป็นเร็วภายใน 1-2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัย เช่น มีเหตุการณ์มากระทบรุนแรงมากน้อย
109 เพียงใด บคุ ลิกเดิมของบคุ คลนั้น ระบบสนับสนุนและการช่วยเหลือจากคนรอบข้าง เป็นต้น ท่ีมีภาวะ ซึมเศร้า อาจไม่มีอาการตามนี้ไปทั้งหมด แต่อย่างน้อยอาการหลักๆ จะมีคล้ายๆ กัน เช่น รู้สึกเบ่ือ เศร้า ท้อแท้ ร้สู ึกตนเองไร้คา่ นอนหลับไม่ดี เปน็ ตน้ ผูท้ ี่มีภาวะซมึ เศร้ามกั จะมีคำพดู เหลา่ นี้ - ชอบพดู วา่ ตนเองไมม่ ีค่า ไม่มีใครรัก ไม่มใี ครสนใจ ไม่มีใครต้องการ - ชอบพดู ในลักษณะทีส่ ่งั เสีย - พูดทีเลน่ ทจี ริง พดู ไปหัวเราะไป ซ่งึ ดแู ลว้ ร่าเริงกวา่ ปกติกวา่ ที่เคยเป็นการกระทำ ผทู้ ม่ี ีภาวะซึมเศรา้ มกั มพี ฤติกรรมต่อไปน้ี - โพสต์ รูปหรอื ข้อความที่สื่อไปในทางตดั พอ้ เศร้า ภาพท่ีส่อื ไปในทางท้อแท้สิ้นหวัง หรอื ภาพสีดำ สเี ทาลงในโซเชียลมเี ดีย - ดื่มเครอื่ งดืม่ แอลกอฮอลจ์ ัด - รบั ประทานยาเกินขนาด - ส่ำสอ่ นทางเพศ - ชอบอะไรทีเ่ ส่ยี งอนั ตราย เชน่ ขบั รถเร็วเกนิ ขนาด - เดนิ ทางไปเยีย่ มเยียน หรอื โทรศัพทห์ าคนรจู้ กั โดยไมเ่ คยทำมาก่อนเหมือนเปน็ การ บอกลา ผูท้ มี่ ภี าวะซึมเศรา้ มักมีอารมณต์ ่อไปนี้ อารมณเ์ ปลย่ี นแปลงไปจากเดมิ ทพี่ บบ่อยคอื จะกลายเปน็ คนเศรา้ สร้อย หดหู่ สะเทือนใจง่าย ร้องไห้บอ่ ยเร่ืองเล็ก ๆ นอ้ ย ๆ กด็ ูเหมือนจะอ่อนไหวไปหมด บางคนอาจไมม่ ีอารมณ์เศรา้ ชดั เจนแต่จะ บอกวา่ จิตใจหมน่ หมอง ไมแ่ จม่ ใส ไม่สดช่นื เหมือนเดมิ บางคนอาจมคี วามรสู้ กึ เบื่อหน่ายไปหมดทุกส่ิง ทุกอย่าง สิ่งที่เดิมตนเคยทำแล้วเพลนิ ใจหรือสบายใจ เช่น ฟังเพลง พบปะเพื่อนฝูง เข้าวัด ก็ไม่อยาก ทำหรือทำแล้วก็ไม่ทำให้สบายใจขึ้น บ้างก็รู้สึกเบื่อไปหมดตั้งแต่ตื่นเช้ามา บางคนอาจมีอารมณ์ หงุดหงดิ ฉุนเฉียวง่าย อะไรก็ดขู วางหูขวางตาไปหมด กลายเปน็ คนอารมณร์ า้ ย ไมใ่ จเย็นเหมือนก่อน ผทู้ ่ีมีภาวะซึมเศร้ามกั มคี วามคดิ ตอ่ ไปนี้ ความคิดเปลีย่ นไป มองสิง่ ต่าง ๆ รอบตวั เองร้สู กึ ว่าแยไ่ ปหมด มองชวี ติ ที่ผา่ นมาในอดีตก็เห็น แต่ความผิดพลาดความล้มเหลวของตนเอง ชีวิตตอนนก้ี ร็ ู้สึกวา่ อะไรๆ ก็ดแู ยไ่ ปหมด ไม่มีใครช่วยอะไร ได้ ไมเ่ ห็นทางออก มองอนาคตไม่เหน็ รูส้ ึกท้อแทห้ มดหวงั กบั ชวี ิต บางคนกลายเป็นคนไมม่ ่นั ใจตนเอง ไป จะตัดสินใจอะไรก็ลังเลไปหมด รู้สึกว่าตนเองไร้ความสามารถ ไร้คุณค่า เป็นภาระแก่คนอื่น ทั้ง ๆ ที่ญาติหรือเพื่อนๆ ก็ยืนยันว่ายินดีช่วยเหลือ เขาไม่เป็นภาระอะไรแต่ก็ยังคงคิดเช่นนั้นอยู่ ความรู้สึก ว่าตนเองไร้ค่า ความคับข้องใจ ทรมานจิตใจ เหล่านี้อาจทำให้เจ้าตัวคิดถึงเรื่องการตายอยู่บ่อย ๆ แรกๆ ก็อาจคิดเพียงแค่อยากไปให้พ้นๆ จากสภาพตอนนี้ ต่อมาเริ่มคิดอยากตายแต่ก็ไม่ได้คิดถึง
110 แผนการณ์อะไรที่แน่นอน เมื่ออารมณ์เศร้าหรือความรู้สึกหมดหวังมีมากขึน้ ก็จะเริ่มคิดเป็นเรือ่ งเปน็ ราวว่าจะทำอย่างไรในช่วงนี้หากมีเหตุการณ์มากระทบกระเทือนจิตใจก็อาจเกิดการทำร้ายตนเองขึน้ ได้จากอารมณ์ชวั่ วบู ผลกระทบจากภาวะซึมเศรา้ สมาธคิ วามจำ สมาธิความจำแย่ลง จะหลงลืมง่าย โดยเฉพาะกับเรื่องที่เกิดขึ้นใหม่ๆ ลืมของ เช่นลืมกุญแจ บ้าน นึกไม่ออกว่าอาจารย์สอนว่าอย่างไรเมื่อเช้า หรือสั่งการบ้านอย่างไร จิตใจเหม่อลอยบ่อย ทำ อะไรไม่ได้นานเนื่องจากสมาธไิ ม่มี อ่านหนังสือไดไ้ ม่ถงึ หน้าก็เสยี สมาธิ อ่านไม่รู้เรือ่ ง ประสิทธิภาพใน การทำงานลดลง ทำงานผดิ ๆ ถกู ๆ ความผดิ ปรกติทางร่างกาย รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีเรี่ยวแรง ซึ่งเมื่อพบร่วมกับอารมณ์รูส้ ึกเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไร ทำให้ คนอื่นมองว่าเปน็ คนเกียจครา้ น การนอน มักจะหลับยาก นอนไม่หลับ หลับๆตื่นๆ และนอนไม่เต็มอิ่ม บางคนตื่นแต่เช้ามืด แลว้ นอนต่อไม่ได้ คนที่มอี าการซมึ เศร้าสว่ นใหญ่จะรสู้ ึกเบื่ออาหาร ไมเ่ จริญอาหารเหมอื นเดิม นำ้ หนกั ลดลงมาก บางคนลดลงหลายกโิ ลกรัมภายใน 1 เดือน นอกจากนี้ยังอาจมีอาการท้องผูก อืดแน่นท้อง ปากคอแห้ง บางคนอาจมีอาการปวดหัว ปวดเมอ่ื ยตามตัว ความสัมพันธก์ ับคนรอบขา้ ง ความสัมพันธ์กับคนรอบข้างเปลี่ยนไป ผู้ที่เป็นโรคนี้มักจะดูซึมลง ไม่ร่าเริง แจ่มใส เหมือน ก่อน เก็บตัวมากขึ้น ไม่ค่อยพูดจากับใคร บางคนอาจกลายเป็นคนอ่อนไหวง่าย ขี้ใจน้อย และบางคน อาจหงุดหงิดบ่อยกว่าเดิม หรือมีปากเสียงระหว่างคู่ครองบ่อย ๆ ซึ่งคนรอบข้างก็มักจะไม่เข้าใจถึง ความเปลีย่ นแปลง การงานแย่ลง ความรับผิดชอบต่อการงานก็ลดลง ถ้าเป็นแม่บ้านงานบ้านก็ไม่ได้ทำ หรือทำ ลวกๆ เพียงให้ผ่านๆ ไป คนที่ทำงานสำนักงานก็จะทำงานที่ละเอียดไม่ได้เพราะสมาธิไม่มี ในช่วง แรกๆ ผู้ที่เป็นอาจจะพอฝืนใจตัวเองให้ทำได้ แต่พอเป็นมาก ๆ ขึ้นก็จะหมดพลังที่จะต่อสู้ เริ่มลางาน ขาดงานบ่อย ๆ ซ่งึ หากไมม่ ีผู้เขา้ ใจหรอื ให้การช่วยเหลอื กม็ ักจะถูกให้ออกจากงาน อาการโรคจติ จะพบในรายที่เป็นรุนแรงซึ่งนอกจากผู้ที่เป็นจะมีอาการซึมเศร้ามาก พบว่ามีอาการของ โรคจิตได้แก่ อาการหลงผิดหรือประสาทหลอนร่วมด้วย ที่พบบ่อยคือ จะเชื่อว่ามีคนคอยกล่ัน แกล้ง หรือประสงค์ร้ายต่อตนเอง อาจมีหูแว่วเสียงคนมาพูดคุยด้วย ซึ่งอาการเหล่านี้มักจะเป็น เพียงชว่ั คราว เมอื่ ได้รบั การรักษา อารมณ์เศร้าดขี นึ้ อาการโรคจิตก็มกั ทเุ ลาตาม
111 3. ปฏบิ ตั ิการจัดการเบื้องต้น และการปอ้ งกันการเกดิ ภาวะซึมเศร้า การดูแลในระยะซึมเศร้า การประเมนิ มงุ่ ประเมินในเรื่องอารมณซ์ ึมเศรา้ และความคิดฆ่าตวั ตายซ่ึงประเมินไดจ้ ากการ สังเกตพฤตกิ รรม คำพดู ซึ่งแสดงถงึ ความคดิ และอารมณ์ การสนใจตนเอง และอาการแสดงทางรา่ งกาย และการซักถาม ซึง่ จะบ่งบอกถงึ สภาวะของอารมณ์ของผู้ป่วยอยา่ งชัดเจน ปญั หาที่อาจจะเกดิ ขึ้น จากการประเมินดงั นี้ 1. เสย่ี งต่อการฆ่าตัวตาย / ทำร้ายตนเอง เนื่องจากความรู้สกึ มคี ุณค่าในตนเองลดลง 2. มอี ารมณ์เศรา้ เน่ืองจากการปรบั ตวั ไม่เหมาะสม 3. ความมีคุณคา่ ในตนเองลดลง 4. สัมพันธภาพบกพร่อง 5. ความสามารถในการตัดสินใจบกพร่อง 6. ขาดความสนใจตนเอง เช่น รับประทานอาหารไม่เพียงพอ ไมร่ ับประทานอาหารพักผ่อน ไม่เพยี งพอ สุขวิทยาสว่ นบคุ คลบกพรอ่ ง กจิ กรรมการดแู ลเบอื้ งต้นสำหรบั ผูใ้ กลช้ ิด 1. เห็นอกเห็นใจเข้าใจสร้างสัมพันธภาพและความไวว้ างใจตอ่ กบั ผ้ทู ม่ี ภี าวะซึมเศรา้ ดว้ ยทา่ ที เป็นมิตรและจะต้องมคี วามจริงใจ เช่นใช้คำถามว่า “ตอนนี้ เป็นอย่างไรบ้าง” 2. ประเมนิ ภาวะเศร้า โดยใช้ คำถาม 2 Q คือ 1) “ 2 อาทติ ย์ท่ีผ่านมา รูส้ กึ เบื่อ ไมส่ นใจ หรอื ไมอ่ ยากจะทำอะไรไหม” “ทผ่ี ่านมามีความเศร้าหรอื หงุดหงดิ บอ่ ยแค่ไหน” “มีชว่ งเวลาท่ีเบอื่ หนา่ ย ท้อแท้ หรอื รู้สึกไมส่ นุกสนานในเรื่องท่ีเคยสนุกมา กอ่ นไหม” “มเี หตกุ ารณอ์ ะไรเกิดขึ้นก่อนหรอื เป็นเหตใุ หร้ ูส้ ึกเศรา้ ไหม” “ต้ังแตม่ ีอารมณ์เศรา้ มา ไดเ้ กิดผลกระทบต่อชวี ติ อย่างไรบา้ ง” 2) “ รูส้ กึ หดหู่ เศร้า หรือท้อแท้สน้ิ หวัง หรอื ไม่ เพื่อประเมนิ โอกาสเสี่ยงต่อการทำรา้ ยตนเองโดยการสังเกตขณะสัมภาษณ์ผู้ปว่ ยและญาติ ถามข้อมูลจากญาตผิ ู้ปว่ ย เกีย่ วกบั ปัญหาและสมั พันธภาพของผ้ปู ว่ ย 3) เปิดโอกาสให้ระบายความคบั ขอ้ งใจ ให้ความเอาใจใส่ สนใจ ยอมรับ อดทน ต่อพฤตกิ รรมของผ้ปู ว่ ย 4) เสรมิ สรา้ งความร้สู ึกมีคุณคา่ ในตนเองแกผ่ ปู้ ว่ ย แสดงการยอมรับผู้ปว่ ย รบั ฟัง และใหข้ ้อมลู ท่เี กิดประโยชน์ต่อผูป้ ่วย ชว่ ยให้ผปู้ ่วยสนใจตนเองมากขึน้
112 5) จัดกจิ กรรมบำบัดตามความเหมาะสม เพ่ือช่วยให้ผู้ป่วยระบายความรสู้ กึ และ ส่งเสรมิ ความมีคุณคา่ ในตนเอง 6) อธบิ ายถึงรับผลข้างเคียงของยาท่อี าจเกิดขึน้ ให้ผู้ปว่ ยและญาติทราบ เช่น อาการปากคอแหง้ อาการจะเป็นมากในชว่ งสปั ดาหแ์ รก และสปั ดาหต์ อ่ ๆ ไปจะดีขึน้ 7) ปอ้ งกนั อนั ตรายจากการฆ่าตวั ตาย 8) แนะนำญาติหรือคนใกล้ชิดสงั เกตอาการหากเห็นผูป้ ่วยมที า่ ทซี มึ เศรา้ หรอื พูดทำนองฝากฝัง ส่ังเสยี อยา่ มองข้ามหรือต่อว่าผู้ปว่ ยวา่ อย่าคดิ มาก แตใ่ ห้สนใจพยายาม พูดคยุ รับฟงั สิ่งท่ผี ูป้ ่วยเล่าให้ฟงั หากมีความคิดอยากตายใหร้ บี พาไปพบแพทยเ์ พอื่ รักษา โดยเรว็ 9) แนะนำญาติและครอบครวั ใหส้ งั เกตอาการผู้ปว่ ย หากชว่ งทมี่ อี าการ เศรา้ มาก ๆ และชอบแยกตวั ออกจากสงั คม มักมแี นวโนม้ และจะลงมือฆ่าตวั ตายได้มาก โดยเฉพาะมลี กั ษณะต่อไปน้เี ปน็ ประจำ ผปู้ ว่ ยจะมีอาการต่อไปนี้ - นอนไม่หลับเป็นประจำโดยมสี าเหตุและไมม่ สี าเหตุ - อ่อนเพลีย ไม่มีแรง เหน่อื ยง่าน ทำใหท้ ้อแท้เบ่ือหน่าย ไม่อยากทำ อะไรเลย - เซอ่ื งซมึ เหม่อลอย ไม่อยากพดู จากับใครชอบแยกตวั อยู่คนเดยี ว เงยี บๆ หงุดหงดิ กระวนกระวายใจ อย่ไู ม่สุข 3. การฝกึ การจัดการภาวะซึมเศร้าเบอ้ื งต้น 1. เมอ่ื เกดิ อารมณเ์ ศร้าอย่าอยูค่ นเดียว อยา่ ฟงั เพลงเศรา้ อยา่ ดูหนงั เศรา้ หากจิ กรรม หรือร่วมกิจกรรมทช่ี อบ เพลดิ เพลินใจทำ เช่น การออกกำลังกาย ดหู นงั ดูกีฬา เขา้ กจิ กรรมทางศาสนาหรือสงั คม แต่อยา่ หกั โหมหรือหงุดหงดิ ถา้ มนั ไม่ช่วยใหร้ สู้ กึ สบายใจข้นึ อย่างทนั ใจ เพราะอาจใชเ้ วลาบา้ ง 2. อยา่ นำตัวเองเข้าไปเกย่ี วข้องกบั สถานการณ์ท่ซี ับซ้อน 3. อย่าตง้ั เปา้ หมายทีบ่ รรลไุ ดย้ าก หรือเขา้ ไปแบกความรับผิดชอบมาก ๆ เช่น ผลการ เรยี นตอ้ งได้เกียรตนิ ยิ ม หรือ ต้องไดง้ านเงินเดือนสูงๆ เป็นต้น 4. พยายามย่อยงานใหญใ่ ห้เป็นงานเล็ก เลอื กทำทส่ี ำคัญกวา่ ก่อน แลว้ ทำใหเ้ ต็มทเี่ ท่าท่ี จะเป็นไปได้ 5. อย่าคาดหวังกบั ตนเองมากเกินไป 6. เมื่อประสบกับปญั หา อย่าด่วนตดั สนิ ใจกับเรือ่ งใหญๆ่ ในชีวิต เชน่ ลาออก เปลยี่ น งาน แต่งงาน หรือหยา่ โดยไม่ปรกึ ษาคนอื่นที่รู้จักคุณดแี ละ มีมุมมองที่เป็นกลางต่อ
113 ปัญหาพอ ไมว่ ่าด้วยเหตใุ ด พยายามเล่อื นการตดั สนิ ใจออกไปก่อนจนกว่าอาการ ปว่ ยของคุณจะดีขึน้ 7. อย่าหวังว่าจะหายจากอาการซึมเศรา้ แบบ “ลัดน้ิวมือเดยี ว” เพราะเป็นไปไดย้ าก พยายามชว่ ยตนเองให้มากท่สี ุด โดยไมโ่ ทษตนเองว่า ท่ีไมห่ ายเพราะตนเองไม่ พยายามหรือไมด่ พี อ 8. พยายามมองโลกในแง่ดี และไม่ยอมรับความคดิ ในแง่รา้ ย บอกตนเองว่ามันเป็นสวน หนึ่งของอาการของโรค และจะหายไปเมอื่ อาการของโรคดขี ้ึน 4. สรปุ ทา้ ยบท โดยปกตผิ ทู้ ่มี เี กณฑ์จะปว่ ยเป็นโรคซมึ เศรา้ มักจะเร่มิ เปน็ ตอนช่วงอายุ 25 ปี หลังจากนั้นก็จะ เกิดอาการซึมเศร้าต่อเนื่องไปเป็นระยะยาว ถึงแม้ว่าจะมีการเข้ารับการรักษาแล้ว แต่ก็ยังต้องเฝ้า ติดตามอาการอย่างใกล้ชิด การเป็นโรคซึมเศร้าก็จะมีความคล้ายคลึงการเป็นโรคเบาหวาน หรือโรค ความดัน ที่ถึงแม้จะไม่มีอาการให้เห็นแล้ว แต่ก็ต้องทานยาควบคุมไม่อาการกำเริบได้ เมื่อเข้ารับการ รักษาแล้ว ผู้ป่วยจะสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้เป็นปกติ บางคนมีสติปัญญาที่ดีขึ้น เป็นคนเก่ง ในบาง รายสามารถเรียนได้ถึงในระดับปริญญาโท ปริญญาเอก บางรายก็เป็นผู้บริหารระดับสูง เป็นคนที่ สามารถประสบความสำเร็จในสังคมได้ หากผู้ป่วยรับประทานยาจนครบแล้ว แพทย์ที่ทำการรักษาก็ จะให้หยดุ ยา และยังต้องคอยเฝ้าสงั เกตอาการอย่างใกลช้ ิด เนือ่ งจากวา่ มันอาจจะกลบั เปน็ ซ้ำอีกได้ 5. แบบทดสอบทา้ ยบท 1. ภาวะซึมเศรา้ มีความหมายอย่างไร 2. วิธกี ารจดั การภาวะซมึ เศรา้ ควรทำอยา่ งไร 3. หากทา่ นมีอาการหดหู่ เศร้า หรือท้อแท้สน้ิ หวงั ท่านควรทำอย่างไร 4. พฤติกรรมที่แสดงออกว่าท่านมภี าวะซมึ เศร้ามีอะไรบ้าง 5. คำพดู ทค่ี วรแสดงออกกบั คนทมี่ ีภาวะซึมเศร้าต้องทำอยา่ งไร
114 เอกสารอ้างองิ เกศกาญจน์ บวั ผัน. (2548). การพยาบาลผูป้ ่วยโรคอารมณแ์ ปรปานชนดิ คุม้ คล่งั . พษิ ณโุ ลก: วทิ ยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีพทุ ธชนิ ราช. มาโนช หล่อตระกลู . (2555). จติ เวชศาสตรร์ ามาธิบด.ี (พมิ พ์คร้ังท่ี 3). กรงุ เทพฯ: มหาวิทยาลยั มหิดล. มาโนช หลอ่ ตระกลู และปราโมทย์ สคุ นิชย์. (2554). จิตเวชศาสตรร์ ามาธิบดี. (พมิ พ์คร้ังท่ี 6). กรุงเทพฯ: สวิชาญการพมิ พ.์ ศรีพิมล ดษิ ยบุตร. (2553). สขุ ภาพจติ และการพยาบาลจิตเวช. ศรสี ะเกษ: คณะพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยเฉลมิ กาญจนา. สถาบันสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุขและสมาคมพยาบาลจติ เวชแห่งประเทศไทย. (มปป.). มาตรฐานการพยาบาลจิตเวชและสุขภาพจิต เล่มที่ 2. นนทบรุ :ี สถาบันสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสขุ . สมภพ เรืองตระกูล. (2549). จติ เวชศาสตร์พนื้ ฐานและโรคทางจติ เวช. กรุงเทพฯ: เรอื นแก้ว การพมิ พ.์ สวุ นีย์ เกยี่ วก่งิ แก้ว. (2554). การพยาบาลจติ เวช (พมิ พ์ครั้งท่ี 2). กรงุ เทพฯ: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. อรพรรณ ลืมบญุ ธวชั ชยั . (2553). การพยาบาลสขุ ภาพจติ และจติ เวช. กรุงเทพฯ: โรงพิมพแ์ หง่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั . อำไพวรรณ พุ่มศรีสวัสด์.ิ (2549). การพยาบาลจติ เวชและสขุ ภาพจิต แนวปฏิบัติตามพยาธิสภาพ. กรุงเทพฯ: วี.เจ.พริ้นตงิ้ . American psychiatric association. (2002). Practice Guidelines for the Treatment of Psychiatric Disorders. Washington: American psychiatric association, 2002. Kaplan, H.I. and Sadock, B.J. (1989). Comprehensive Textbook of Psychiatry / Volume 2.( 5th ed.). Baltimore: Williams & Wilkins. Mary Ann Boyd. (2008). Psychiatric Nursing Contemporary Practice. (4th ed.). Philadelphia: Lippincott Williams & Wilkins. Norman L. Kelner, Carol E. Brostrom, Teena M. McGuinness. (2011). Psychiatric Nursing. (6th ed.). St. louis, Missouri: ELSEVIER MOSBY. Parker, G. (2008). Bipolar ll Disorder. Kingdom: Cambridge University Press. Shives, L. R. (2005). Basic concepts of psychiatric - Mental health nursing. U.S.A.: Lippincott Williams & Wilkins.
115 Stuart, G.W. & Laraia, M.T. (2005). Principles and practice of psychiatric nursing. (8th ed.). St. Louis: Mosby.
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122