Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 101306-11-9-Thinking1 การพัฒนาการคิด creative commond

101306-11-9-Thinking1 การพัฒนาการคิด creative commond

Published by Sakhon Kingjun, 2018-04-02 00:52:11

Description: 101306-11-9-Thinking1 การพัฒนาการคิด creative commond

Search

Read the Text Version

การพฒั นาการคดิ รศ.นิลมณี พทิ กั ษ์ รศ.ลดั ดา ศิลาน้อย



ประเดน็ คาถามเมื่อดวู ีดทิ ศั นแ์ ลว้ ท่านคดิ อยา่ งไรบา้ ง(ตอบใหม้ าก ที่สดุ )ตอบลงในกระดาษท่ีแจกให(้ 3 นาที)แต่ละกล่มุ เลอื กคนตอบมากท่ีสดุ 5-8 ประเดน็ ให้ จบั กล่มุ คาตอบท่ีคลา้ ยกนั ไวด้ ว้ ยกนั

ส่ิงเร้า สภาพแวดลอ้ ม ประสบการณ์เดิมความรู้ การคดิ เป็ นกระบวนการทางานของสมอง

ความหมายของคาว่า การคดิ การคดิ เป็ นกระบวนการการทางานของสมองจากการนาประสบการณ์เดมิ ส่ิงเร้าและสภาพแวดล้อม ทมี่ ากระทบส่งผลให้เกดิ การคดิ และนาไปใช้ในการแก้ปัญหาหรือปรับตวั ให้เข้ากบั สภาพแวดล้อม และสภาพการณ์ต่างๆ ได้

การคิดทกั ษะการคดิ ลกั ษณะการคดิ กระบวนการคดิ

ใจกว้าง เป็ นธรรม คุณสมบตั ทิ เ่ี อือ้ อานวยต่อการคดิ มนั่ ใจในตนเอง ฯลฯ ข้อมูล การควบคุมและประเมินการคดิ ของตนเอง ข้อมูลข้อมูล ข้อมูล กระบวนการคดิ คล่อง คดิ ถูก คล่อง หลากหลาย ละเอยี ด ทาง หลากหลาย ละเอยี ด คดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ ลกั ษณะการคดิ ทกั ษะ คดิ ไกล คดิ กว้าง การคดิ ชัดเจน คดิ ชัดเจน มเี หตผุ ล ลกึ มเี หตุผล ซึ้ง กระบวนการคดิ การควบคุมและประเมินการคดิ ของตนเอง

ความหมายทกั ษะการคดิทกั ษะการคดิ เป็ นคาท่ีแสดงออกถงึ การกระทาหรอื พฤตกิ รรมที่ตอ้ งใชค้ วามคิด เช่น การสงั เกต การเปรยี บเทียบ การจาแนกแยกแยะ การขยายความ การแปลความ การตคี วามการจดั กล่มุ การจดั หมวดหมู่ การสรปุ เป็ นตน้คาในกล่มุ น้มี ีลกั ษณะของพฤตกิ รรมหรอื การกระทา ที่ชดั เจนหากบคุ คลสามารถทาไดอ้ ย่างชานาญ จะเรียกว่ามี“ทกั ษะ” ดงั นนั้ จงึ เรยี กกล่มุ น้วี ่า “ทกั ษะการคิด”

ทกั ษะการคดิ ทกั ษะการคดิ ข้นั พืน้ ฐาน(THINKING SKILLS) (BASIC THINKING SKILLS) ทักษะการสื่อสาร (COMMUNICATING SKILLS) ทกั ษะการคดิ ท่เี ป็ นแกน (CORE THINKING SKILLS) ทกั ษะการคดิ ข้ันสูง (HIGHER- ORDER THINKING SKILLS)

ประเภททักษะการคดิทกั ษะการสื่อความหมาย ทกั ษะการคดิ ทเ่ี ป็ นแกน ทกั ษะการคดิ ข้นั สู(COMMUNICATING SKILLS) (CORE THINKING SKILLS) (HIGHER- ORDERTHINKING SKILLS)1.การฟัง 1.การสังเกต 1.การสรุปความ2.การอ่าน 2.การสารวจ 2.การให้คาจากดั ความ3.การรับรู้ 3.การต้งั คาถาม 3.การวเิ คราะห์4.การจดจา 4.การเกบ็ รวบรวมข้อมูล 4.การผสมผสานข้อมูล5.การจา 5.การจัดระบบความคดิ 5.การระบุ6.การคงส่ิงทเี่ รียนไปแล้วไว้ 6.การสร้างองค์ความรู้ใหม่ 6.การจาแนก แยกแยะ7.การบอกความรู้ได้จาก 7.การกาหนดโครงสร้างตัวเลือกทกี่ าหนด 7.การจดั ลาดบั ความรู้8.การบอกความรู้ออกมา 8.การเปรียบเทยี บ 8.การแก้ไขปรับปรุงด้วยตนเอง โครงสร้างความรู้

ประเภททกั ษะการคดิทกั ษะการสื่อความหมาย ทกั ษะการคดิ ทเี่ ป็ นแกน ทกั ษะการคดิ ข้นั สูง9.การใช้ข้อมูล 9.การจดั หมวดหมู่ 9.การค้นหาแบบแผน10.การบรรยาย 10.การสรุปอ้างองิ 10.การหาความเชื่อพืน้ ฐาน 11.การคาดคะเน / การ11.การอธิบาย 11.การแปล พยากรณ์12.การทาให้กระจ่าง 12.การตีความ 12.การต้ังสมมุติฐาน13.การพดู 13.การเชื่อมโยง 13.การทดสอบสมมุตฐิ าน14.การเขยี น 14.การขยายความ 14.การต้งั เกณฑ์ 15.การพสิ ูจน์ความจริง15.การแสดงออกถงึ 15.การให้เหตุผล 16.การประยุกต์ใช้ความรู้ความสามารถของตน 16.การสรุปย่อ



ประเดน็ คาถาม1. เมื่อท่านดภู าพแลว้ คดิ เห็นเกย่ี วกบั ภาพอยา่ งไร(คิดใหม้ ากที่สดุ ต่างคนต่างคดิ )2. จากคาตอบใหแ้ ยกประเดน็ เกย่ี วกบั ความคดิ ท่ีระบใุ นขอ้ 13. สมาชกิ ร่วมกนั พจิ ารณาลกั ษณะการคดิ จากคาตอบขอ้ 21.คดิ คล่อง 2.คดิ หลากหลาย 3.คดิ ละเอยี ด4.คิดชดั เจน 5.คิดอย่างมีเหตุผล 6.คิดถูกทาง7.คิดกวา้ ง 8.คิดลกึ ซ้งึ 9.คิดไกล

ความหมายลกั ษณะการคดิลกั ษณะการคดิ เป็ นคาที่แสดงลกั ษณะของการคดิซง่ึ ใชใ้ นลกั ษณะเป็ นคาวิเศษณ์ เช่น คดิ กวา้ ง คดิ ถูกคดิ คลอ่ ง คดิ รอบคอบ เป็ นตน้ซง่ึ เป็ นคาที่ไม่ไดแ้ สดงออกถงึ พฤตกิ รรม หรอื การกระทาโดยตรง แต่สามารถแปลความไปถงึ พฤติกรรม หรอื การกระทาประการใดประการหนง่ึ หรอื หลายประการ รวมกนั

ลกั ษณะการคดิลกั ษณะการคดิ ตวั บ่งชี้ลกั ษณะการคดิ1.คดิ คล่อง 1.สามารถบอกความคิดไดจ้ านวนมาก 2.สามารถบอกความคดิ ไดจ้ านวนมากในเวลาท่ีรวดเรว็ 3.สามารถจดั หมวดหมู่ของความคิดได้2.คดิ หลากหลาย 1.สามารถใหค้ วามคิดที่มีลกั ษณะ / รปู แบบ / ประเภทที่หลากหลาย 2. สามารถจดั หมวดหมู่ของความคดิ ได้3.คดิ ละเอยี ด 1.สามารถใหร้ ายละเอยี ดหลกั เกย่ี วกบั เรอ่ื งที่คดิ ได้ 2. สามารถใหร้ ายละเอยี ดย่อยเกยี่ วกบั เรอ่ื งท่ีคิดได้4.คดิ ชัดเจน 1.สามารถบอกไดว้ ่าในเรอื่ งที่คดิ ตนเองรบั รู้ / เขา้ ใจ หรอื ไม่รู้ / ไม่เขา้ ใจอะไรบา้ ง 2.สามารถอธิบาย ขยายความ ยกตวั อย่างในเรอื่ งที่ตนเองรแู้ ละเขา้ ใจได้

ลกั ษณะการคดิลกั ษณะการคดิ ตัวบ่งชี้ลกั ษณะการคดิ5.คดิ อย่างมี 1.สามารถแยกขอ้ เท็จจริงและความคิดเหน็ ออกจากกนั ได้ เหตุผล 2.สามารถประเมินความน่าเชอื่ ถอื ของขอ้ เท็จจรงิ และความคิดเห็น 3.สามารถใชเ้ หตผุ ลทงั้ แบบนริ นยั และอปุ นยั ในการพจิ ารณาขอ้ เท็จจรงิ6.คดิ ถูกทาง 1.ประโยชนส์ ่วนตน - สว่ นรวม 1.1 เกดิ ประโยชนแ์ ก่ตนโดยไม่ก่อความเดอื ดรอ้ นใหแ้ ก่ผูอ้ นื่ 1.2 เกดิ ประโยชนแ์ ก่ตนและผูอ้ น่ื โดยเนน้ สว่ นรวมเป็ นสาคญั 2. ประโยชนร์ ะยะสนั้ - ระยะยาว 2.1 เกดิ ประโยชนร์ ะยะสน้ั 2.2 เกดิ ประโยชนร์ ะยะยาว

ลกั ษณะการคดิลกั ษณะการคดิ ตัวบ่งชี้ลกั ษณะการคดิ7.คดิ กว้าง 1.สามารถระบุองคป์ ระกอบท่ีเกยี่ วขอ้ งกบั เรอื่ งท่ีคดิ ได้ 2.สามารถระบุไดว้ ่าองคป์ ระกอบที่เกยี่ วขอ้ งกบั เรอื่ งท่ีคิดมีความสาคญั มาก นอ้ ยเพยี งใดต่อเรอื่ งท่ีคดิ 3.สามารถวิเคราะหจ์ ุดสาคญั ทงั้ จุดเด่น จุดดอ้ ยขององคป์ ระกอบสาคญั เกย่ี วขอ้ งกบั เรอื่ งท่ีคิด8.คดิ ลกึ ซึ้ง 1.สามารถอธิบายโครงสรา้ งและความสมั พนั ธ์ขององคป์ ระกอบต่างๆใน โครงสรา้ งของเรอ่ื งที่คดิ ได้ 2. สามารถอธิบายระบบสมั พนั ธ์เชิงสาเหตทุ ี่อยู่ภายในโครงสรา้ งของเรอื่ งที่ คิดได้ 3.สามารถบอกสาเหตุปัญหา ความหมาย คุณค่าที่แทจ้ รงิ ของสงิ่ ท่ีคิดได้

ลกั ษณะการคดิลกั ษณะการคดิ ตัวบ่งชี้ลกั ษณะการคดิ9.คดิ ไกล 1.สามารถวิเคราะห์ความสมั พนั ธ์เชงิ สาเหตุของปัจจยั ต่างๆ ที่เกย่ี วขอ้ งกบั เรอ่ื งที่คดิ ทง้ั ทางกวา้ งและทางลกึ 2.สามารถใชข้ อ้ มูล ขอ้ เท็จจริงต่าง ๆ ทานายความสมั พนั ธ์ เชงิ สาเหตุของปัจจยั ต่าง ๆ ที่เกย่ี วขอ้ งกบั เรอื่ งท่ีคิดทงั้ ทาง กวา้ งและทางลกึ 3.สามารถประเมินความเหมาะสมและความเป็ นไปไดข้ อง การทานาย 4.สามารถสรปุ ผลการทานายได้

 วธิ ีคดิ แบบสืบสาวเหตุปัจจยั ลกั ษณะการคดิ แบบ วธิ ีคดิ แบบแยกส่วนประกอบ โยนิโสมนสิการ วธิ ีคดิ แบบสามญั ลกั ษณ์ ความหมาย การคิดในใจโดยแยบคาย วธิ ีคดิ แบบอริยสัจ มีลกั ษณะการคดิ 10วธิ ี วธิ ีคดิ แบบอรรถธรรมสัมพนั ธ์  วธิ ีคดิ แบบอุบายปลกุ เร้าคุณธรรม วธิ ีคดิ ท้งั คุณโทษและทางออก  วธิ ีคดิ เป็ นอยู่ในขณะปัจจุบนั วธิ ีคดิ แบบคุณค่าแท้คุณค่าเทยี ม วธิ ีคดิ แบบวภิ ชั นาวาท

การคดิ แบบโยนิโสมนสิการ วเิ คราะห์สืบสาวเหตุปัจจยั องคป์ ระกอบ ศึกษาแนวทาง ท่ีทาใหค้ น ของเช้ือโรคเอดส์ แกป้ ัญหาโรคติดเช้ือเอดส์ 2. คดิ แยกแยะองค์ประกอบ โดยใชห้ ลกั อริยสจั ส่ี1. คดิ สืบสาวหาสาเหตุ โรคเอดส์ 3. คดิ แบบแก้ปัญหา4. คดิ แบบอรรถสัมพนั ธ์ 5. คดิ แบบสามญั ลกั ษณ์ อภิปรายความคิดเห็นท่ีวา่ เสนอวธิ ีการที่จะผอ่ นคลาย ความเจริญทางเทคโนโลยมี ี ความทุกข์ แก่ผเู้ ป็นโรคเอดส์ส่วนสมั พนั ธ์กบั การเกิดโรคเอดส์ และญาติของเขา

การคดิ แบบโยนิโสมนสิการ 6.วธิ ีคดิ ท้งั คุณโทษและทางออกวิธีปรุง สารในยาวธิ ีการกิน ยารักษาโรควธิ ีเกบ็ รักษา ความรู้เกี่ยว เจตคติ กบั ยา การกินยา

การคดิ แบบโยนิโสมนสิการ 7.วธิ ีคดิ แบบคุณค่าแท้ - เทยี ม นกั เรียนท้งั หญิง – ชายโตข้ึนอยากเป็นอะไร เพราะเหตุใด เป็นทหาร นกั ข่าว พิธีกร ดารา เพราะเหตุใดคุณคา่ เทียม : ทหารมที ่าทางผง่ึ ผาย องอาจ เคร่ืองแบบหรู มอี านาจ คนยกย่อง พธิ ีกร ได้แต่งตัวสวยงามแต่งหน้า ใช้เคร่ืองสาอางคุณคา่ แท้ : คดิ ถงึ หลกั การ และบทบาทของทหารรักษาประเทศ ประเมินท้งั กระบวนการปฏิบัติและผลการปฏบิ ตั ิ

ความหมาย กระบวนการคดิการคดิ ทตี่ อ้ งอาศยั ทกั ษะการคดิ ขนั้พ้ืนฐานหรอื ลกั ษณะการคดิ ทสี่ มั พนั ธก์ นัมลี าดบั ขนั้ ตอนในการคดิ มีการประเมินตดั สนิ คณุ คา่ และตดั สนิ ใจ ลงความเหน็ตอ้ งมรี ะเบยี บวธิ ี มีขน้ั ตอนการคดิ

กระบวนการคดิ คิดอยา่ งมีวิจารณญาณ (critical thinking) กระบวนการตดั สินใจ (decision making) กระบวนการแกป้ ัญหา (problem solving) กระบวนการคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ (creative thinking) กระบวนการศึกษาวิจยั (researching)

กระบวนการคดิ วตั ถุประสงค/์ การนาไปใช้กระบวนการคดิ อย่างมีวิจารณญาณ เพ่อื ใชใ้ นการตดั สินใจ (critical thinking) เพอ่ื ใชใ้ นการสร้างสรรคส์ ิ่งใหม่ กระบวนการคดิ รเิ รมิ่ สรา้ งสรรค์ (creative thinking) เพื่อใชใ้ นการแกป้ ัญหา กระบวนการแกป้ ัญหา เพอ่ื ใหไ้ ดข้ อ้ ความรู้ที่เชื่อถือได้ (problem solving) กระบวนการคิดตามระเบยี บวิธี วิทยาศาสตร/์ กระบวนการวิจยั

กระบวนการคดิ แบบวจิ ารณญาณ(Critical Thinking)ข้นั ท่ี 1. ข้นั การระบุประเดน็ (Recognise Phase) การกาหนดประเดน็ ปัญหาข้นั ที่ 2 ข้นั การเขา้ ใจ (Understanding Phase) การรวบรวมข้อมูลข้นั ที่ 3 ข้นั การวเิ คราะห์ (Analyze Phase) การจัดระบบข้อมูลการแยกแยะความแตกต่างของความคดิ เห็น การแปลและอธิบายปัญหาข้นั ท่ี 4 ข้นั การประเมิน (Evaluate Phase) ประเมนิ ความสมเหตุสมผลของการสรุปอ้างองิข้นั ท่ี 5 ข้นั การสร้างความรู้ (Create Phase) การสรุปอ้างองิ โดยใช้หลกัตรรกศาสตร์/พจิ ารณาทางเลือกทสี่ มเหตุสมผล

กระบวนการเผชิญสถานการณ์(สุมน อมรววิ ฒั น์, 2531)ข้นั ที่  การเผชิญ พจิ ารณาเหตุการณ์จากข้อมูล ข่าวสาร หลกั การ ความรู้ ต้องรวบรวมและเข้าใจเหตุการณ์/หลกั การ จากการวเิ คราะห์ข้อมูลข้นั ท่ี  การผจญ เป็ นการประเมนิ ค่าของข่าวสารข้อมูล กระตุ้นให้เกดิ จติ สานึก ประเมนิ ค่า ความดงี าม ความเหมาะสม ความถูกต้องข้นั ที่ การผสมผสาน เป็ นการฝึ กเลือกและตัดสินใจ ข้อมูลเป็ นความจริง การประเมนิ ค่าถูกต้อง เลือกและตดั สินใจทเ่ี ป็ นอสิ ระ ยตุ ธิ รรม ใช้สติข้นั ที่ การเผดจ็ เป็ นข้นั การปฏิบัติ คดิ วธิ ีการแก้ปัญหา ตามหลกั การปฏบิ ัติของคนดี

การจดั การเรยี นรแู้ บบกระบวนการแกป้ ัญหา ขน้ั ตอนการสอน เทคนคิ สาคญัขนั้ ท่ี 1 การกาหนด ให้ผู้เรียนมองเห็นปัญหา กาหนดขอบเขตของ ปญั หา ปัญหาข้ันที่ 2 การหาสาเหตุของปัญหาหรือต้ังสมมุติฐาน ผู้เรียนวเิ คราะห์สาเหตุแท้จริง/คาดคะเนคาตอบข้นั ที่ 3 วางแผนแก้ปัญหา ของปัญหาข้ันท่ี 4 เกบ็ รวบรวมข้อมูลข้ันที่ 5 วเิ คราะห์ข้อมูล ผู้เรียนคดิ หาวธิ ีวางแผนเพื่อแก้ปัญหาข้นั ท่ี 6 สรุปผล ผู้เรียนศึกษาค้นคว้าความรู้จากแหล่งต่างๆ ผู้เรียนนาข้อมูลทรี่ วบรวมไว้มาวเิ คราะห์ ผู้เรียนประเมินผลวธิ ีการแก้ปัญหา หรือ ตดั สินใจเลือกวธิ ีการทดี่ ที สี่ ุดในการแก้ปัญหา

การสอนแบบอริยสจั 4ขน้ั กาหนดปัญหา ( ขน้ั ทกุ ข์ )คอื การระบุปัญหาทตี่ อ้ งการแกไ้ ขขนั้ ตง้ั สมมตฐิ าน ( ขนั้ สมทุ ยั ) คอื การวเิ คราะหห์ าสาเหตุของ ปัญหาและตงั้ สมมุตฐิ านขนั้ เกบ็ ขอ้ มูล ( ขน้ั นิโรธ ) คอื การกาหนดวตั ถุประสงคแ์ ละ วธิ ีการปฏิบตั เิ พ่ือพิสจู นส์ มมุตฐิ านและเก็บรวบรวมขอ้ มูลขน้ั วิเคราะหข์ อ้ มูลและสรปุ ผล ( ขน้ั มรรค ) คอื การนาขอ้ มลู มาวเิ คราะหแ์ ละสรุป

รูปแบบการคดิ แก้ปัญหาของ โกวทิ วรพพิ ฒั น์ 1.ข้นั กาหนดปัญหา 2.ข้นั กระบวนการแก้ปัญหา ข้อมูลตนเอง ข้อมูลสังคมส่ิงแวดล้อม ข้อมูลวชิ าการ 3.ข้นั ตดั สินใจ 4.ข้นั ปฏิบัติ

1.เปรียบเทียบกระบวนการคดิ แต่ละวธิ ีว่ามสี ่วนคล้ายกนั อย่างไรกระบวนการคดิ แบบวจิ ารณญาณกระบวนการเผชิญสถานการณ์กระบวนการแก้ปัญหาการสอนแบบอริยสัจ 4การคดิ แก้ปัญหาของ โกวทิ วรพพิ ฒั น์

2.ทาใบงานความหมาย/ตวั บ่งช้กี ารคดิ ใบงานท่ี 1.1 ขอ้ 3 ม.ตน้ หนา้ 73-74 ม.ปลายหนา้ 69


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook