Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนรวม 4

แผนรวม 4

Published by นายปฏิภาณ ไชยเทพา, 2023-06-18 14:36:43

Description: แผนรวม 4

Search

Read the Text Version

112 7 กำรวดั และกำรประเมินผล 7.1 การประเมินก่อนเรียน - ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยกำรเรยี นรูท้ ่ี 8 เรอ่ื ง วฒั นธรรมในงำนทศั นศลิ ป์ ปัจจุบนั 7.2 การประเมินระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1) ตรวจใบงำนท่ี 8.1 เร่อื ง วฒั นธรรมในงำนทศั นศลิ ป์ 2) ตรวจใบงำนท่ี 8.2 เร่อื ง แนวคดิ ในกำรออกแบบงำนทศั นศลิ ป์ 3) ตรวจแบบบนั ทกึ กำรอ่ำน 4) ประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน 5) สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนรำยบุคคล 6) สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลุ่ม 7) สงั เกตคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 7.3 การประเมินหลงั เรยี น - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยกำรเรยี นรูท้ ่ี 8 เร่อื ง วฒั นธรรมในงำนทศั นศลิ ป์ ปัจจุบนั 7.4 การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ตรวจรำยงำน เรอ่ื ง วฒั นธรรมในงำนทศั นศลิ ป์ ปัจจบุ นั 8 กิจกรรมกำรเรยี นรู้ นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 8

113 เร่ืองที่ 1 วฒั นธรรมในงำนทศั นศิลป์ 2 ชวั่ โมง วิธีสอนแบบ สืบเสำะหำควำมรู้ (Inquiry Method : 5E) ขนั้ ท่ี 1 กระตุ้นควำมสนใจ (Engage) 1. ครนู ำภำพผลงำนทศั นศลิ ป์ มำใหน้ กั เรยี นดู แลว้ ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั แสดงควำมคดิ เหน็ ว่ำ ผลงำนทค่ี รนู ำมำให้ นกั เรยี นดนู นั้ สะทอ้ นใหเ้ หน็ ถงึ วฒั นธรรมใดบำ้ ง 2. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สนทนำเกย่ี วกบั ควำมหมำยของคำว่ำ “วฒั นธรรม” แลว้ ครอู ธบิ ำยเพมิ่ เตมิ ขนั้ ท่ี 2 สำรวจค้นหำ (Explore) 1. ครแู บง่ นกั เรยี นเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละกนั ตำมควำมสำมำรถ 2. สมำชกิ แต่ละกลุม่ จบั คกู่ นั เป็น 2 คู่ ใหแ้ ต่ละค่รู ว่ มกนั ศกึ ษำควำมรู้ จำกหนงั สอื เรยี น ตำมหวั ขอ้ ทก่ี ำหนดให้ ดงั น้ี - คทู่ ่ี 1 ศกึ ษำควำมรเู้ รอ่ื ง วฒั นธรรมไทยและสำกลในงำนทศั นศลิ ป์ - คทู่ ่ี 2 ศกึ ษำควำมรเู้ รอ่ื ง วฒั นธรรมทส่ี ะทอ้ นในงำนทศั นศลิ ป์ ปัจจบุ นั จำกนนั้ ร่วมกนั สรุปสำระสำคญั ขนั้ ที่ 3 อธิบำยควำมรู้ (Explain) 1. สมำชกิ แตล่ ะค่นู ำควำมรทู้ ไ่ี ดจ้ ำกกำรศกึ ษำมำอธบิ ำยใหเ้ พอ่ื นอกี คหู่ น่งึ ภำยในกลุ่มฟัง ผลดั กนั ซกั ถำม ขอ้ สงสยั และอธบิ ำยจนทุกคนมคี วำมเขำ้ ใจชดั เจนตรงกนั 2. ครอู ธบิ ำยเชอ่ื มโยงใหน้ กั เรยี นเขำ้ ใจเกย่ี วกบั วฒั นธรรมในงำนทศั นศลิ ป์ ขนั้ ที่ 4 ขยำยควำมเข้ำใจ (Expand) 1. นกั เรยี นแตล่ ะคนทำใบงำนที่ 8.1 เรื่อง วฒั นธรรมในงำนทศั นศิลป์ เม่อื ทำเสรจ็ แลว้ ผลดั กนั เลำ่ ผลงำน ในใบงำนของตนใหเ้ พอ่ื นในกลมุ่ ฟัง ผลดั กนั ซกั ถำมขอ้ สงสยั และหลอมรวมเป็นผลงำนของกลุ่ม 2. ตวั แทนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลงำนในใบงำนท่ี 8.1 ครูและเพอ่ื นกลุ่มอ่นื รว่ มกนั แสดงควำมคดิ เหน็ และให้ ขอ้ เสนอแนะ ขนั้ ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครตู รวจสอบผลนกั เรยี นจำกกำรทำใบงำนท่ี 8.1 2. นกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ ควำมรเู้ ร่อื ง วฒั นธรรมไทยและสำกลในงำนทศั นศลิ ป์ และวฒั นธรรมทส่ี ะทอ้ นในงำน ทศั นศลิ ป์ ปัจจุบนั ครตู รวจสอบควำมถกู ตอ้ ง

114 เรอื่ งท่ี 2 แนวคิดในกำรออกแบบงำนทศั นศิลป์ 2 ชวั่ โมง วิธีสอนแบบ กระบวนกำรกล่มุ สมั พนั ธ์ ขนั้ ที่ 1 นำเขำ้ ส่บู ทเรยี น 1. ครนู ำภำพผลงำนทศั นศลิ ป์ มำใหน้ กั เรยี นดู แลว้ ใหน้ กั เรยี นร่วมกนั แสดงควำมคดิ เหน็ ในประเดน็ ทก่ี ำหนด 2. ครอู ธบิ ำยใหน้ กั เรยี นเขำ้ ใจเกย่ี วกบั แนวคดิ ในกำรออกแบบงำนทศั นศลิ ป์ ขนั้ ท่ี 2 จดั กำรเรียนรู้ 1. สมำชกิ แต่ละกลุม่ จบั ค่กู นั เป็น 2 คู่ ใหแ้ ตล่ ะค่แู บ่งหน้ำทก่ี นั ศกึ ษำควำมรเู้ รอ่ื ง แนวคดิ ในกำรออกแบบงำน ทศั นศลิ ป์ จำกหนงั สอื เรยี น ตำมหวั ขอ้ ทก่ี ำหนดให้ ดงั น้ี - คนท่ี 1 ศกึ ษำควำมรเู้ รอ่ื ง กำรออกแบบงำนทศั นศลิ ป์ ในวฒั นธรรมไทย - คนท่ี 2 ศกึ ษำควำมรเู้ ร่อื ง กำรออกแบบงำนทศั นศลิ ป์ ในวฒั นธรรมสำกล 2. นกั เรยี นแตล่ ะคนนำควำมรทู้ ไ่ี ดจ้ ำกกำรศกึ ษำมำเลำ่ ใหค้ ขู่ องตนเองฟัง ผลดั กนั ซกั ถำมขอ้ สงสยั และอธบิ ำยจน มคี วำมเขำ้ ใจชดั เจนตรงกนั 3. สมำชกิ แต่ละค่ชู ว่ ยกนั ทำใบงำนที่ 8.2 เรื่อง แนวคิดในกำรออกแบบงำนทศั นศิลป์ เม่อื ทำเสรจ็ แลว้ ช่วยกนั ตรวจสอบควำมถกู ตอ้ งและเตมิ เตม็ คำตอบใหส้ มบูรณ์ 4. สมำชกิ แตล่ ะคู่นำควำมรทู้ ไ่ี ดจ้ ำกกำรศกึ ษำและกำรทำใบงำนท่ี 8.2 มำเล่ำใหเ้ พอ่ื นอกี ค่หู น่งึ ภำยในกลุ่มฟัง ผลดั กนั ซกั ถำมขอ้ สงสยั และอธบิ ำยจนทุกคนมคี วำมเขำ้ ใจชดั เจนตรงกนั และหลอมรวมคำตอบในใบงำนเป็น ผลงำนของกลุ่ม 5. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มนำเสนอผลงำนในใบงำนท่ี 8.2 ครูและเพอ่ื นกลุ่มอ่นื ร่วมกนั แสดงควำมคดิ เหน็ และให้ ขอ้ เสนอแนะ ขนั้ ที่ 3 สรปุ และนำหลกั กำรไปประยกุ ต์ใช้ 1. สมำชกิ แต่ละกลมุ่ ร่วมกนั สรุปควำมรเู้ รอ่ื ง แนวคดิ ในกำรออกแบบงำนทศั นศลิ ป์ 2. ครแู นะนำใหน้ กั เรยี นนำควำมรทู้ ไ่ี ดจ้ ำกกำรศกึ ษำไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นกำรวเิ ครำะหแ์ นวคดิ ในกำรออกแบบผลงำน ทศั นศลิ ป์ ของศลิ ปินทน่ี กั เรยี นช่นื ชอบ หรอื ผลงำนทศั นศลิ ป์ ของตนเอง แลว้ นำมำเล่ำสกู่ นั ฟัง (นอกเวลำเรยี น) ขนั้ ท่ี 4 วดั และประเมินผล ครตู รวจสอบผลนกั เรยี นจำกกำรทำใบงำนท่ี 8.2  ครมู อบหมำยให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั ทำรำยงำน เรื่อง วฒั นธรรมในงำนทศั นศิลป์ ปัจจบุ นั

115 โดยใหค้ รอบคลมุ ประเดน็ ตำมทกี่ ำหนด นักเรียนทาแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 8 9 ส่ือ/แหล่งกำรเรียนรู้ 9.1 สือ่ การเรียนรู้ 1) หนงั สอื เรยี น ทศั นศลิ ป์ ม.2 2) บตั รภำพ 3) ใบงำนท่ี 8.1 เรอ่ื ง วฒั นธรรมในงำนทศั นศลิ ป์ 4) ใบงำนท่ี 8.2 เร่อื ง แนวคดิ ในกำรออกแบบงำนทศั นศลิ ป์ 9.2 แหลง่ การเรียนรู้ 1) หอ้ งสมุด 2) แหลง่ ขอ้ มลู สำรสนเทศ - http://www.aksorn.com/LC/Va/M2/19 - http://www.aksorn.com/LC/Va/M2/20 - http://www.aksorn.com/LC/Va/M2/21 - http://www.aksorn.com/LC/Va/M2/22

116 การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินรำยงำน เรอื่ ง วฒั นธรรมในงำนทศั นศิลป์ ปัจจบุ นั รำยกำรประเมิน ดมี ำก (4) คำอธิบำยระดบั คณุ ภำพ / ระดบั คะแนน ปรบั ปรงุ (1) ดี (3) พอใช้ (2) 1. กำรอธิบำย อธบิ ำยเกย่ี วกบั อธบิ ำยเกย่ี วกบั อธบิ ำยเกย่ี วกบั อธบิ ำยเกย่ี วกบั เก่ียวกบั วฒั นธรรมไทย วฒั นธรรมไทยทส่ี ะทอ้ น วฒั นธรรมไทยทส่ี ะทอ้ น วฒั นธรรมไทยทส่ี ะทอ้ น วฒั นธรรมไทยทส่ี ะทอ้ น ที่สะท้อนในงำน ทศั นศิลป์ ในงำนทศั นศลิ ป์ ได้ ในงำนทศั นศลิ ป์ ได้ ในงำนทศั นศลิ ป์ ได้ ในงำนทศั นศลิ ป์ ได้ ถกู ตอ้ ง ละเอยี ด ชดั เจน ถกู ตอ้ ง ชดั เจน ถูกตอ้ ง ชดั เจน ถูกตอ้ งเพยี งส่วนน้อย และมภี ำพตวั อยำ่ ง เป็นส่วนใหญ่ และมี เป็นบำงส่วน และมี ไมช่ ดั เจน และไม่มภี ำพ ประกอบ ภำพตวั อย่ำงประกอบ ภำพตวั อย่ำงประกอบ ตวั อย่ำงประกอบ 2. กำรอธิบำย อธบิ ำยเกย่ี วกบั อธบิ ำยเกย่ี วกบั อธบิ ำยเกย่ี วกบั อธบิ ำยเกย่ี วกบั เกี่ยวกบั วฒั นธรรมสำกล วฒั นธรรมสำกลท่ี วฒั นธรรมสำกลท่ี วฒั นธรรมสำกลท่ี วฒั นธรรมสำกลท่ี ที่สะท้อนในงำน ทศั นศิลป์ สะทอ้ นในงำนทศั นศลิ ป์ สะทอ้ นในงำนทศั นศลิ ป์ สะทอ้ นในงำนทศั นศลิ ป์ สะทอ้ นในงำนทศั นศลิ ป์ ไดถ้ ูกตอ้ ง ละเอยี ด ไดถ้ กู ตอ้ ง ชดั เจนเป็น ไดถ้ กู ตอ้ ง ชดั เจน เป็น ไดถ้ กู ตอ้ งเพยี งสว่ นน้อย ชดั เจน และมภี ำพ สว่ นใหญ่ และมภี ำพ บำงสว่ น และมภี ำพ ไม่ชดั เจน และไม่มภี ำพ ตวั อยำ่ งประกอบ ตวั อย่ำงประกอบ ตวั อย่ำงประกอบ ตวั อยำ่ งประกอบ 3. กำรเปรียบเทียบ เปรยี บเทยี บแนวคดิ เปรยี บเทยี บแนวคดิ เปรยี บเทยี บแนวคดิ เปรยี บเทยี บแนวคดิ แนวคิดในกำร ออกแบบงำน ในกำรออกแบบงำน ในกำรออกแบบงำน ในกำรออกแบบงำน ในกำรออกแบบงำน ทศั นศิลป์ ทศั นศลิ ป์ ทม่ี ำจำก ทศั นศลิ ป์ ทม่ี ำจำก ทศั นศลิ ป์ ทม่ี ำจำก ทศั นศลิ ป์ ทม่ี ำจำก วฒั นธรรมไทยและ วฒั นธรรมไทยและ วฒั นธรรมไทยและ วฒั นธรรมไทยและ วฒั นธรรมสำกลได้ วฒั นธรรมสำกลได้ วฒั นธรรมสำกลได้ วฒั นธรรมสำกลได้ ถกู ตอ้ ง ละเอยี ด ชดั เจน ถูกตอ้ ง ละเอยี ด ชดั เจน ถูกตอ้ ง ละเอยี ด ชดั เจน ถูกตอ้ ง 1 ประเดน็ 5 ประเดน็ ขน้ึ ไป 3-4 ประเดน็ 2 ประเดน็ แต่ไมช่ ดั เจน เกณฑก์ ำรตดั สินคณุ ภำพ ช่วงคะแนน 11 - 12 9 - 10 6-8 ต่ำกว่ำ 6 ระดบั คณุ ภำพ ดมี ำก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง

117 แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 8 คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเลอื กคำตอบท่ถี ูกต้องท่สี ุดเพยี งขอ้ เดียว 1. ขอ้ ใดกลำ่ วถงึ ควำมหมำยของคำวำ่ “วฒั นธรรม” 6. ลกั ษณะของผลงำนทศั นศลิ ป์ แบบสำกล มลี กั ษณะท่ี ไดถ้ กู ตอ้ ง ก. คำสงั ่ สอนของบรรพบุรุษ สอดคลอ้ งกบั ขอ้ ใด ข. กำรรวบรวมเรอ่ื งรำวต่ำงๆ ค. สง่ิ ทท่ี ำควำมเจรญิ ใหแ้ กห่ มคู่ ณะ ก. มรี ปู แบบเหมอื นศลิ ปะยโุ รป ง. กำรปฏบิ ตั ติ ดิ ต่อกนั มำหลำยชวั่ คน ข. ใชเ้ ทคนิควธิ กี ำรแบบตะวนั ตก 2. สงิ่ ใดมคี วำมสำคญั ต่อกำรถำ่ ยทอดผลงำนผ่ำนรปู แบบ ก. ทศั นธำตุ ค. เน้นเร่อื งรำวของกรกี และโรมนั ข. อทิ ธพิ ลทำงศำสนำ ค. ประเพณแี ละวฒั นธรรม ง. ไม่มรี ปู แบบของชำตใิ ดชำตหิ น่งึ ง. สญั ลกั ษณ์และเคร่อื งหมำย 7. ผลงำนทศั นศลิ ป์ แนวใด ถอื เป็นจุดเรมิ่ ตน้ ของผลงำน 3. เรอ่ื งใดทศ่ี ลิ ปินสมยั โบรำณนิยมนำมำถำ่ ยทอดเป็น ผลงำนทศั นศลิ ป์ ทศั นศลิ ป์ สมยั ใหม่ ก. สญั ลกั ษณ์ประจำชำติ ข. ควำมเชอ่ื ควำมศรทั ธำ ก. แนวอมิ เพรสชนั นิสม์ ค. กำรจนิ ตนำกำรเร่อื งรำว ง. ขนบธรรมเนยี มประเพณี ข. แนวนโี อคลำสสกิ 4. ในปัจจุบนั ศลิ ปินส่วนใหญน่ ยิ มถำ่ ยทอดเน้อื หำในผลงำน ค. แนวโรแมนตกิ ทศั นศลิ ป์ เกย่ี วกบั เรอ่ื งใด ก. แรงบนั ดำลใจจำกวฒั นธรรมตำ่ งๆ ง. แนวควิ บสิ ม์ ข. กำรสรำ้ งสรรคผ์ ลงำนอย่ำงอสิ ระ ค. กำรบอกเลำ่ ถงึ วถิ ชี วี ติ ประจำวนั 8. กำรเขยี นภำพแบบเฟรสโก (Fresco) จะตอ้ งปฏบิ ตั ิ ง. ประเพณีเกำ่ แก่ในทอ้ งถน่ิ อยำ่ งไร 5. ขอ้ ใดเป็นตวั อย่ำงกำรประยุกตศ์ ลิ ปะกบั เทคโนโลยี สมยั ใหม่ ก. เขยี นภำพลงบนผนงั หนิ ก. หนงั ใหญ่ ข. หนังตะลุง ข. เขยี นภำพบนผวิ ปนู ทเ่ี ปียก ค. ละครหุ่นเชดิ ง. ภำพยนตรเ์ รอ่ื งกำ้ นกลว้ ย ค. ใชเ้ ฉพำะสดี ำในกำรเขยี นภำพ ง. ระบำยน้ำบนกระดำษก่อนลงสี 9. กำรเขยี นภำพในขอ้ ใด ถอื เป็นกำรเปลย่ี นแปลงของ ศลิ ปินไทยตำมแบบอยำ่ งตะวนั ตก ก. เขยี นภำพแบบธรรมชำติ ข. เขยี นภำพแบบนำมธรรม ค. เขยี นภำพแนวสง่ิ แวดลอ้ ม ง. เขยี นภำพแบบระยะใกลไ้ กล 10. พน้ื ฐำนสำคญั ในกำรสรำ้ งสรรคผ์ ลงำนทศั นศลิ ป์ ไดแ้ ก่ อะไร ก. หลกั กำรจดั องคป์ ระกอบศลิ ป์ ข. ศำสนำและควำมเชอ่ื ค. สงั คมและวฒั นธรรม มฐ. ศ 1.2 ม.2/1,3 ง. เทคนคิ และวธิ กี ำร ไดค้ ะแนน คะแนนเตม็ 10 เฉลย 1. ค 2. ก 3. ข 4. ค 5. ง 6. ง 7. ก 8. ข 9. ง 10. ก

118 แบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 8 คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเลือกคำตอบท่ถี ูกต้องท่สี ุดเพยี งข้อเดียว 1. ขอ้ ใดเป็นตวั อยำ่ งกำรประยุกตศ์ ลิ ปะกบั เทคโนโลยี 6. เร่อื งใดทศ่ี ลิ ปินสมยั โบรำณนยิ มนำมำถ่ำยทอดเป็น สมยั ใหม่ ผลงำนทศั นศลิ ป์ ก. ภำพยนตรเ์ รอ่ื งกำ้ นกลว้ ย ก. ขนบธรรมเนียมประเพณี ข. ละครหุ่นเชดิ ข. กำรจนิ ตนำกำรเร่อื งรำว ค. หนงั ตะลงุ ค. ควำมเช่อื ควำมศรทั ธำ ง. หนงั ใหญ่ ง. สญั ลกั ษณ์ประจำชำติ 2. พน้ื ฐำนสำคญั ในกำรสรำ้ งสรรคผ์ ลงำนทศั นศลิ ป์ ไดแ้ ก่ 7. ในปัจจุบนั ศลิ ปินสว่ นใหญ่นยิ มถำ่ ยทอดเน้อื หำในผลงำน อะไร ทศั นศลิ ป์ เกย่ี วกบั เรอ่ื งใด ก. เทคนคิ และวธิ กี ำร ก. ประเพณเี ก่ำแก่ในทอ้ งถน่ิ ข. สงั คมและวฒั นธรรม ข. กำรบอกเลำ่ ถงึ วถิ ชี วี ติ ประจำวนั ค. ศำสนำและควำมเช่อื ค. กำรสรำ้ งสรรคผ์ ลงำนอยำ่ งอสิ ระ ง. หลกั กำรจดั องคป์ ระกอบศลิ ป์ ง. แรงบนั ดำลใจจำกวฒั นธรรมต่ำงๆ 3. กำรเขยี นภำพแบบเฟรสโก (Fresco) จะตอ้ งปฏบิ ตั ิ 8. ขอ้ ใดกล่ำวถงึ ควำมหมำยของคำวำ่ “วฒั นธรรม” อย่ำงไร ไดถ้ กู ตอ้ ง ก. ระบำยน้ำบนกระดำษก่อนลงสี ก. กำรปฏบิ ตั ติ ดิ ตอ่ กนั มำหลำยชวั่ คน ข. ใชเ้ ฉพำะสดี ำในกำรเขยี นภำพ ข. สงิ่ ทท่ี ำควำมเจรญิ ใหแ้ กห่ มคู่ ณะ ค. เขยี นภำพบนผวิ ปนู ทเ่ี ปียก ค. กำรรวบรวมเร่อื งรำวต่ำงๆ ง. เขยี นภำพลงบนผนงั หนิ ง. คำสงั ่ สอนของบรรพบรุ ุษ 4. กำรเขยี นภำพในขอ้ ใด ถอื เป็นกำรเปลย่ี นแปลงของ 9. สง่ิ ใดมคี วำมสำคญั ตอ่ กำรถ่ำยทอดผลงำนผ่ำนรปู แบบ ศลิ ปินไทยตำมแบบอยำ่ งตะวนั ตก ก. สญั ลกั ษณ์และเครอ่ื งหมำย ก. เขยี นภำพแบบระยะใกลไ้ กล ข. ประเพณแี ละวฒั นธรรม ข. เขยี นภำพแนวสงิ่ แวดลอ้ ม ค. อทิ ธพิ ลทำงศำสนำ ค. เขยี นภำพแบบนำมธรรม ง. ทศั นธำตุ ง. เขยี นภำพแบบธรรมชำติ 10. ลกั ษณะของผลงำนทศั นศลิ ป์ แบบสำกล มลี กั ษณะท่ี 5. ผลงำนทศั นศลิ ป์ แนวใด ถอื เป็นจดุ เรมิ่ ตน้ ของผลงำน สอดคลอ้ งกบั ขอ้ ใด ทศั นศลิ ป์ สมยั ใหม่ ก. ไมม่ รี ปู แบบของชำตใิ ดชำตหิ น่งึ ก. แนวควิ บสิ ม์ ข. เน้นเรอ่ื งรำวของกรกี และโรมนั ข. แนวโรแมนตกิ ค. ใชเ้ ทคนิควธิ กี ำรแบบตะวนั ตก ค. แนวนโี อคลำสสกิ ง. มรี ปู แบบเหมอื นศลิ ปะยโุ รป มฐ. ศ 1.2 ม.2/1,3 ง. แนวอมิ เพรสชนั นสิ ม์ ได้คะแนน คะแนนเตม็ 10 เฉลย 1. ก 2. ง 3. ค 4. ก 5. ง 6. ค 7. ข 8. ข 9. ค 10. ก

119 บนั ทึกหลังการสอน รายวิชาศลิ ปะ นกั เรยี นชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 2 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 8 วชิ าศลิ ปะ ครูผู้สอน นายปฏิภาณ ไชยเทพา เรื่อง วัฒนธรรมในงานทัศนศิลป์ปัจจบุ นั  ด้านความรู้ . ผู้เรียนเกดิ เทคนิคคู่คดิ เกิดกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ กระบวนการปฏบิ ัติ ของนักเรียนชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 2  ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน 1.สมรรถนะด้านการจัดการตัวเอง นักเรยี นมีความรบั ผิดชอบในระดบั ปานกลาง คือให้ทำงานยงั ไม่กระตอื รือล้น เท่าไหร่ 2.สมรรถนะด้านการสอ่ื สาร นักเรียนได้มสี ว่ นร่วมในการแสดงความคิดเก่ียวกับการวาดภาพส่อื ความหมายและ เร่ืองราวโดยครูส่มุ ถาม ซ่งึ นกั เรียนไดแ้ สดงความคิดโดยการสอ่ื สารพูดในความคิดของนักเรยี นเอง 3.สมรรถนะด้านการรวมพลังทำงานเปน็ ทีม นักเรียนมีการแบ่งหน้าทีใ่ นการทำงาน เชน่ การแบ่งกลุ่มสมาชกิ และแบ่งชื่อเร่อื งทจี่ ะศกึ ษาเองโดยครคู อยช้แี นะ เปน็ ต้น 4.สมรรถนะด้านการคดิ ช้นั สงู นักเรียนยงั มีความรเู้ กยี่ วกบั ทศั นศิลป์ไมม่ ากพอ และขาดการไตรตรองในการใช้ ความคิดในการตอบ 5.สมรรถนะดา้ นการเป็นพลเมอื งท่ีเขม้ แขง็ นกั เรียนบางส่วนมคี วามรับผดิ ชอบต่อหน้าที่ท่ีไดร้ ับเปน็ อย่างดี  ด้านคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ยั นกั เรียนส่วนมากมวี ินัยในตนเองดี รับผิดชอบต่อตนเองดี มีบางสว่ นยังขาดวินัยตอ่ ตนเอง 2. ใฝ่เรยี นรู้ นกั เรยี นสืบคน้ หาข้อมลู เองโดยที่ครูกำหนดหัวขอ้ ให้ 3. มงุ่ ม่ันในการทำงาน นักเรยี นบางคนมุ่งมน่ั ตง้ั ใจในการทำงานเป็นอยา่ งดี  ด้านอน่ื ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมทม่ี ปี ัญหาของนกั เรียนเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี))  ปัญหา/อปุ สรรค เดก็ นักเรยี นบางคนไม่เข้าเรียน นักเรียนชายหลายคนสนใจในเรื่องอน่ื มากกว่าการเรียน เช่น อยากซอ้ มกีฬา คยุ กันเสียงดัง  แนวทางการแกไ้ ข คนทไ่ี มเ่ ขา้ เรยี นครูจะไมเ่ ชค็ เวลาเรียนให้ และมกี ารหักคะแนน และครูตงั้ เงอ่ื นไขกับนกั เรียน ถ้าตงั้ ใจเรียนจะ ปล่อยเร็ว

120 ความเหน็ ของครพู เี่ ลย้ี ง ข้อเสนอแนะ มีการจัดการเรยี นการสอนตามแผนการสอน ทำใหน้ ักเรียนบรรลตุ ามตัวช้วี ัดทีต่ ้งั ไว้ มีคำถามทห่ี ลากหลาย มกี าร ประเมินตามตวั ชีว้ ดั ใชส้ อ่ื ไดเ้ หมาะสมกับการเรยี นการสอน . ลงชอ่ื . (นางสาวมณีรตั น์ เนยี รประดษิ ฐ) ครูพเี่ ล้ยี ง ความเห็นของผู้อำนวยการโรงเรียน ข้อเสนอแนะ การสอนครอบคลุมเนื้อหาและตวั ชีว้ ัดเหน็ ควรใช้ในการสอนนักเรียนได้ . . ลงชอื่ . (นายเชดิ ศกั ด์ิ เอกปริญญา) ตำแหนง่ ผอู้ ำนวยการโรงเรียนเหล่าหลวงประชานสุ รณ์

1


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook