63 แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 3 คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเลอื กคาตอบท่ถี ูกต้องท่สี ุดเพยี งข้อเดียว 1. เครอ่ื งดนตรขี อ้ ใด ทถ่ี อื ว่าเป็นพอ่ ครดู นตรไี ทย 6. ผทู้ เ่ี รมิ่ ฝึกระนาดเอก ตอ้ งเตรยี มการสงิ่ ใดเป็นพน้ื ฐาน ก. เขา้ พธิ ไี หวค้ รู ก. ซอสามสาย ข. เรยี นวธิ กี ารจบั ไมร้ ะนาด ค. เรยี นการอ่านโน้ตดนตรไี ทย ข. ตะโพน ง. ฝึกจาโนต้ และตรี ะนาดใหค้ ล่องมอื ค. ระนาดเอก 7. ใครเป็นผทู้ ป่ี ฏบิ ตั ติ ามหลกั การรอ้ งเพลงไทยไดถ้ กู ตอ้ ง ก. มะมว่ ง ด่มื น้าอนุ่ และฝึกรอ้ งเพลงเพ่อื ความแมน่ ยา ง. กลองทดั ทานอง ข. มะขาม รกั ษาเสยี งโดยรอ้ งเพลงแบบตะโกน 2. เหตุใด ผทู้ จ่ี ะบรรเลงดนตรไี ทยตอ้ งยกมอื ไหวเ้ ครอ่ื ง ค. มะเฟือง นงั่ เล่นเกมขณะฝึกรอ้ งเพลง ง. มะไฟ ฝึกรอ้ งเพลงเวลาเทย่ี งคนื ดนตรี ทุกครงั้ กอ่ นบรรเลง 8. การแสดงใด ทน่ี ยิ มใชเ้ พลงเกรด็ มาประกอบในการแสดง ก. เพราะนักดนตรไี ทยเช่อื ว่ามเี ทพเจา้ อยใู่ น ก. การแสดงโขน ข. การแสดงละครใน เคร่อื งดนตรไี ทย ค. การแสดงละครชาตรี ง. การแสดงละครดกึ ดาบรรพ์ ข. เพราะนักดนตรไี ทยทาตามกนั จนกลายเป็นประเพณี 9. เหตุใด จงึ ตอ้ งมกี ารประเมนิ คุณภาพผลงานดนตรไี ทย ค. เพราะนักดนตรไี ทยเช่อื วา่ เคร่อื งดนตรไี ทยทุกชนิด ก. เพอ่ื ใหน้ ักดนตรหี าขอ้ เปรยี บเทยี บกบั ผอู้ น่ื ข. เพอ่ื ใหน้ กั ดนตรพี ฒั นาฝีมอื ในการเลน่ ดนตรไี ทย มคี รู ค. เพ่อื ใหน้ กั ดนตรหี าวธิ ใี นการบรรเลงเพลงในรปู แบบ ใหม่ๆ ง. เพราะนกั ดนตรไี ทยไมต่ อ้ งการบรรเลงดนตรผี ดิ ง. เพอ่ื ใหน้ กั ดนตรหี าทางเลอื กอ่นื นอกจากการเล่นดนตรี เวลาแสดง 10. ในการประเมนิ ดา้ นคณุ ภาพเสยี งการบรรเลง ประกอบดว้ ยอะไรบา้ ง 3. ผทู้ บ่ี รรเลงดนตรไี ทยคนเดยี วตอ้ งคานึงถงึ สง่ิ ใด ก. เทคนคิ ในการบรรเลง ข. ความกงั วานของเครอ่ื งดนตรี ก. คานึงถงึ แรงทใ่ี ชใ้ นการบรรเลง ค. ความพรอ้ มเพรยี งในการบรรเลง ง. ความดงั และความสมดลุ ของเครอ่ื งดนตรที กุ ชนิด ข. คานงึ ถงึ เวลาในการบรรเลง มฐ. ศ 2.1 ม.4-6/5-6 ค. คานงึ ถงึ ความพรอ้ มเพรยี งในการบรรเลง ได้คะแนน คะแนนเตม็ ง. ความสมบรู ณ์ของการบรรเลง คอื เสยี ง ทานอง และจงั หวะ 4. ในการบรรเลงดนตรไี ทยแบบหมู่ ผบู้ รรเลงตอ้ ง ตรวจสอบสง่ิ ใด ก. ตรวจสอบเสยี งเครอ่ื งดนตรใี หต้ รงกนั ข. ตรวจสอบความไพเราะของดนตรี ค. ตรวจสอบความดงั ของเครอ่ื งดนตรี ง. ตรวจสอบการถา่ ยทอดอารมณ์ของผบู้ รรเลง 5. ระนาดเอก มผี สู้ นั นิษฐานวา่ ถกู พฒั นามาจาก เคร่อื งดนตรไี ทยชนิดใด ก. โปงลาง ข. กรบั ค. ฉิ่ง ง. เกราะ 10 เฉลย 1. ข 2. ค 3. ง 4. ก 5. ข 6. ง 7. ก 8. ก 9. ข 10. ง
64 แบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 3 คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเลือกคาตอบท่ถี ูกต้องท่สี ุดเพียงขอ้ เดียว 1. ในการประเมนิ ดา้ นคณุ ภาพเสยี งการบรรเลง 6. ระนาดเอก มผี สู้ นั นษิ ฐานวา่ ถกู พฒั นามาจาก ประกอบดว้ ยอะไรบา้ ง ก. ความดงั และความสมดลุ ของเครอ่ื งดนตรที ุกชนิด เครอ่ื งดนตรไี ทยชนิดใด ข. ความพรอ้ มเพรยี งในการบรรเลง ค. ความกงั วานของเครอ่ื งดนตรี ก. เกราะ ข. ฉิง่ ง. เทคนคิ ในการบรรเลง ค. กรบั ง. โปงลาง 2. เหตุใด จงึ ตอ้ งมกี ารประเมนิ คณุ ภาพผลงานดนตรไี ทย ก. เพ่อื ใหน้ ักดนตรหี าวธิ ใี นการบรรเลงเพลงในรปู แบบ 7. ในการบรรเลงดนตรไี ทยแบบหมู่ ผบู้ รรเลงตอ้ ง ใหมๆ่ ข. เพ่อื ใหน้ กั ดนตรหี าทางเลอื กอ่นื นอกจากการเล่น ตรวจสอบสงิ่ ใด ดนตรี ค. เพอ่ื ใหน้ ักดนตรพี ฒั นาฝีมอื ในการเลน่ ดนตรไี ทย ก. ตรวจสอบการถ่ายทอดอารมณข์ องผบู้ รรเลง ง. เพ่อื ใหน้ ักดนตรหี าขอ้ เปรยี บเทยี บกบั ผอู้ น่ื ข. ตรวจสอบความดงั ของเคร่อื งดนตรี 3. การแสดงใด ทน่ี ิยมใชเ้ พลงเกรด็ มาประกอบในการแสดง ก. การแสดงละครดกึ ดาบรรพ์ ค. ตรวจสอบความไพเราะของดนตรี ข. การแสดงละครชาตรี ค. การแสดงละครใน ง. ตรวจสอบเสยี งเครอ่ื งดนตรใี หต้ รงกนั ง. การแสดงโขน 8. ผทู้ บ่ี รรเลงดนตรไี ทยคนเดยี วตอ้ งคานงึ ถงึ สงิ่ ใด 4. ใครเป็นผทู้ ป่ี ฏบิ ตั ติ ามหลกั การรอ้ งเพลงไทยไดถ้ กู ตอ้ ง ก. มะไฟ ฝึกรอ้ งเพลงเวลาเทย่ี งคนื ก. ความสมบรู ณ์ของการบรรเลง คอื เสยี ง ทานอง ข. มะขาม รกั ษาเสยี งโดยรอ้ งเพลงแบบตะโกน ค. มะเฟือง นงั่ เล่นเกมขณะฝึกรอ้ งเพลง และจงั หวะ ง. มะมว่ ง ด่มื น้าอนุ่ และฝึกรอ้ งเพลงเพอ่ื ความแมน่ ยา ทานอง ข. คานึงถงึ ความพรอ้ มเพรยี งในการบรรเลง 5. ผทู้ เ่ี รม่ิ ฝึกระนาดเอก ตอ้ งเตรยี มการสง่ิ ใดเป็นพน้ื ฐาน ค. คานึงถงึ เวลาในการบรรเลง ก. ฝึกจาโน้ตและตรี ะนาดใหค้ ลอ่ งมอื ข. เรยี นการอา่ นโน้ตดนตรไี ทย ง. คานงึ ถงึ แรงทใ่ี ชใ้ นการบรรเลง ค. เรยี นวธิ กี ารจบั ไมร้ ะนาด ง. เขา้ พธิ ไี หวค้ รู 9. เหตุใด ผทู้ จ่ี ะบรรเลงดนตรไี ทยตอ้ งยกมอื ไหวเ้ ครอ่ื ง ดนตรที ุกครงั้ ก่อนบรรเลง ก. เพราะนกั ดนตรไี ทยไม่ตอ้ งการบรรเลงดนตรผี ดิ เวลาแสดง ข. เพราะนักดนตรไี ทยเชอ่ื วา่ เคร่อื งดนตรไี ทยทุกชนิด มคี รู ค. เพราะนักดนตรไี ทยทาตามกนั จนกลายเป็นประเพณี ง. เพราะนักดนตรไี ทยเช่อื ว่ามเี ทพเจา้ อย่ใู น เครอ่ื งดนตรไี ทย 10. เคร่อื งดนตรขี อ้ ใด ทถ่ี อื ว่าเป็นพอ่ ครดู นตรไี ทย ก. กลองทดั ข. ระนาดเอก ค. ตะโพน ง. ซอสามสาย มฐ. ศ 2.1 ม.4-6/5-6 ไดค้ ะแนน คะแนนเตม็ 10 เฉลย 1. ก 2. ค 3. ง 4. ง 5. ก 6. ค 7. ง 8. ก 9. ข 10. ค
65 บนั ทึกหลังการสอน รายวชิ าศลิ ปะ นกั เรยี นชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 5 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 วชิ าดนตรี ครูผสู้ อน นายปฏิภาณ ไชยเทพา เรือ่ ง การปฏบิ ตั ิดนตรีไทย ดา้ นความรู้ . ผู้เรียนเกิดกระบวนการทำงานเป็นกลุ่ม การเสาะแสวงหาความรู้ เทคนคิ การตอ่ เรื่องราว แลกเปล่ยี นเรียนรู้ เกิด กระบวนการสรา้ งความคิดรวบยอด ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน 1.สมรรถนะด้านการจดั การตัวเอง นักเรยี นมีความรับผดิ ชอบในระดบั ปานกลาง คือให้ทำงานยงั ไมก่ ระตือรือล้น เท่าไหร่ 2.สมรรถนะดา้ นการสือ่ สาร นกั เรียนได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคดิ เก่ยี วกับความรูท้ ั่วไปเก่ียวกับดนตรี พื้นบ้านของไทยโดยครสู ่มุ ถาม ซึ่งนกั เรยี นได้แสดงความคิดโดยการสื่อสารพดู ในความคิดของนักเรียนเอง 3.สมรรถนะดา้ นการรวมพลังทำงานเปน็ ทีม นักเรียนมีการแบ่งหนา้ ท่ใี นการทำงาน เช่น การแบ่งกลุ่มสมาชิก และแบ่งช่อื เรือ่ งท่จี ะศึกษาเองโดยครคู อยชีแ้ นะ เปน็ ตน้ 4.สมรรถนะด้านการคิดช้ันสูง นักเรยี นยังมคี วามร้เู ก่ียวกับทศั นศิลป์ไม่มากพอ และขาดการไตรตรองในการใช้ ความคิดในการตอบ 5.สมรรถนะด้านการเป็นพลเมืองที่เข้มแขง็ นักเรียนบางส่วนมีความรับผิดชอบต่อหนา้ ท่ีท่ไี ดร้ ับเป็นอย่างดี ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี ินยั นกั เรยี นส่วนมากมีวนิ ัยในตนเองดี รับผดิ ชอบต่อตนเองดี มีบางส่วนยังขาดวนิ ัยต่อตนเอง 2. ใฝเ่ รียนรู้ นกั เรียนสืบค้นหาข้อมูลเองโดยทคี่ รูกำหนดหัวข้อให้ 3. มุง่ ม่นั ในการทำงาน นกั เรียนบางคนมงุ่ มั่นต้งั ใจในการทำงานเป็นอยา่ งดี ดา้ นอ่ืนๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมท่ีมปี ญั หาของนักเรียนเป็นรายบคุ คล (ถ้ามี)) ปญั หา/อปุ สรรค เด็กนกั เรียนบางคนไมเ่ ข้าเรยี น นักเรียนชายหลายคนสนใจในเรือ่ งอน่ื มากกวา่ การเรยี น เชน่ อยากซอ้ มกีฬา คยุ กันเสยี งดัง แนวทางการแก้ไข คนท่ไี ม่เข้าเรยี นครูจะไมเ่ ชค็ เวลาเรียนให้ และมกี ารหักคะแนน และครูตง้ั เงอ่ื นไขกับนักเรียน ถา้ ตง้ั ใจเรยี นจะ ปล่อยเรว็
66 ความเหน็ ของครพู เี่ ล้ยี ง ขอ้ เสนอแนะ มีการจดั การเรียนการสอนตามแผนการสอน ทำใหน้ กั เรยี นบรรลตุ ามตวั ช้ีวัดทตี่ ้ังไว้ มคี ำถามทหี่ ลากหลาบ มีการ ประเมนิ ตามตัวชวี้ ดั ใช้ส่อื ไดเ้ หมาะสมกับการเรียนการสอน . ลงชือ่ . (นางสาวมณีรัตน์ เนียรประดษิ ฐ) ตำแหน่ง หัวหนา้ กลมุ่ สาระศิลปะ ความเหน็ ของผู้อำนวยการโรงเรยี น . ข้อเสนอแนะ การสอนครอบคลมุ เน้อื หาและตวั ชี้วดั เห็นควรใชใ้ นการสอนนักเรียนได้ . . ลงช่ือ . (นายเชิดศกั ดิ์ เอกปรญิ ญา) ตำแหน่ง ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นเหลา่ หลวงประชานุสรณ์
67 แผนการจดั การเรียนรู้ โรงเรยี นเหลา่ หลวงประชานสุ รณ์ ตำบลเหล่าหลวง อำเภอเกษตรวสิ ยั จังหวดั ร้อยเอด็ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ วชิ าดนตรี ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 5 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 เรือ่ ง ความรู้ทว่ั ไปเกี่ยวกบั ดนตรสี ากล เวลา 7 ช่วั โมง 1 มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ชี้วดั ศ 2.1 ม.4-6/2 จาแนกประเภทและรปู แบบของวงดนตรที งั้ ไทยและสากล ม.4-6/8 นาดนตรไี ปประยกุ ตใ์ ชใ้ นงานอน่ื ๆ ศ 2.2 ม.4-6/2 วเิ คราะหส์ ถานะทางสงั คมของนกั ดนตรใี นวฒั นธรรมต่างๆ ม.4-6/4 อธบิ ายบทบาทของดนตรใี นการสะทอ้ นแนวความคดิ และคา่ นยิ มทเ่ี ปลย่ี นไปของคนในสงั คม 2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การเรยี นรเู้ กย่ี วกบั ประเภทของเพลงสากล และประวตั สิ งั คตี กวดี นตรสี ากล จะทาใหเ้ ขา้ ใจภาษาของดนตรี และสามารถนาดนตรสี ากลไปประยกุ ตใ์ ชก้ บั งานอ่นื ๆ ได้ 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรยี นร้แู กนกลาง 1) ประเภทของวงดนตรี - ประเภทของวงดนตรสี ากล 2) ดนตรกี บั การผอ่ นคลาย 3) ดนตรกี บั การพฒั นามนุษย์ 4) ดนตรกี บั การประชาสมั พนั ธ์ 5) ดนตรกี บั การบาบดั รกั ษา 6) ดนตรกี บั ธรุ กจิ 7) ดนตรกี บั การศกึ ษา 8) ประวตั สิ งั คตี กวี 9) บทบาทดนตรใี นการสะทอ้ นสงั คม 3.2 สาระการเรยี นร้ทู ้องถิน่ 1) คณุ ค่าและความงามของดนตรสี ากล 2) ศพั ทส์ งั คตี ในดนตรสี ากล
68 4 สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน 2) ทกั ษะการเปรยี บเทยี บ 4) ทกั ษะการใหเ้ หตผุ ล 4.1 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการวเิ คราะห์ 3) ทกั ษะการจาแนกประเภท 5) ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้ 4.2 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. ม่งุ มนั่ ในการทางาน 1. มวี นิ ยั 6 ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) นทิ รรศการ เรอ่ื ง ดนตรสี ากล 7 การวดั และการประเมินผล 7.1 การประเมินก่อนเรยี น - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 เร่อื ง ความรทู้ วั่ ไปเกย่ี วกบั ดนตรสี ากล 7.2 การประเมินระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1) ตรวจใบงานท่ี 4.1 เรอ่ื ง คณุ คา่ และความงามของดนตรสี ากล 2) ตรวจใบงานท่ี 4.2 เร่อื ง ดนตรสี ากลกบั การประยุกตใ์ ช้ 3) ตรวจใบงานท่ี 4.3 เรอ่ื ง ประเภทของเพลงสากล 4) ตรวจใบงานท่ี 4.4 เรอ่ื ง ศพั ทส์ งั คตี ในดนตรสี ากล 5) ตรวจแบบบนั ทกึ การอ่าน 6) ประเมนิ การนาเสนอผลงาน 7) สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล 8) สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุม่ 9) สงั เกตคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 7.3 การประเมินหลงั เรียน - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 เร่อื ง ความรทู้ วั่ ไปเกย่ี วกบั ดนตรสี ากล 7.4 การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ตรวจนิทรรศการ เรอ่ื ง ดนตรสี ากล 8 กิจกรรมการเรียนรู้ นักเรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 4
69 เร่อื งท่ี 1 คณุ ค่าและความงามของดนตรีสากล 1 ชวั่ โมง วิธีสอนโดยการจดั การเรียนรแู้ บบร่วมมือ : เทคนิ คค่ตู รวจสอบ ขนั้ นาเขา้ ส่บู ทเรยี น 1. ครเู ปิดวซี ดี กี ารบรรเลงดนตรสี ากลกบั การดาเนินชวี ติ ประจาวนั ใหน้ กั เรยี นดู แลว้ ใหน้ กั เรยี นช่วยกนั แสดง ความคดิ เหน็ ตามประเดน็ ทก่ี าหนด 2. ครอู ธบิ ายเช่อื มโยงใหน้ กั เรยี นฟังเกย่ี วกบั คณุ ค่าและความงามของดนตรสี ากล ขนั้ สอน 1. ครแู บ่งนกั เรยี นเป็นกลุ่ม กล่มุ ละ 4 คน คละกนั ตามความสามารถ แลว้ ใหส้ มาชกิ แต่ละกลุ่มจบั ค่กู นั เป็น 2 คู่ และใหแ้ ตล่ ะคศู่ กึ ษาความรเู้ รอ่ื ง คุณค่าและความงามของดนตรสี ากล จากหนงั สอื เรยี น โดยแบง่ หน้าทก่ี นั ดงั น้ี - คนท่ี 1 ศกึ ษาความรเู้ ร่อื ง สนุ ทรยี ศาสตรข์ องดนตรี - คนท่ี 2 ศกึ ษาความรเู้ ร่อื ง การรบั รคู้ วามงามหรอื สุนทรยี ะของดนตรี 2. สมาชกิ แตล่ ะคนผลดั กนั อธบิ ายความรทู้ ไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษาใหส้ มาชกิ อกี คนหน่งึ ในค่ฟู ัง จนเกดิ ความเขา้ ใจ ทต่ี รงกนั 3. สมาชกิ แตล่ ะคชู่ ่วยกนั ทาใบงานท่ี 4.1 เรอ่ื ง คณุ ค่าและความงามของดนตรสี ากล โดยปฏบิ ตั ิ ดงั น้ี - สมาชกิ คนท่ี 1 อา่ นคาถาม แลว้ เขยี นคาตอบลงในใบงาน - สมาชกิ คนท่ี 2 สงั เกตการตอบคาถามของสมาชกิ คนท่ี 1 และตรวจสอบความถกู ตอ้ ง ในขอ้ ต่อไปใหส้ มาชกิ แต่ละคนสลบั หน้าทก่ี นั และทาเช่นน้ไี ปเรอ่ื ยๆ จนจบคาถามในใบงาน 4. สมาชกิ แต่ละค่แู ลกเปลย่ี นใบงานท่ี 4.1 กบั สมาชกิ อกี ค่หู น่งึ ภายในกลมุ่ เดมิ เพอ่ื ช่วยกนั ตรวจสอบความ ถูกตอ้ งของคาตอบในใบงาน 5. ครสู มุ่ นกั เรยี น 5-6 กล่มุ นาเสนอใบงานท่ี 4.1 หน้าชนั้ เรยี น แลว้ ใหเ้ พอ่ื นกล่มุ ทไ่ี มไ่ ดน้ าเสนอแสดงความ คดิ เหน็ เพม่ิ เตมิ ขนั้ สรปุ ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ ความรเู้ ก่ยี วกบั คุณคา่ และความงามของดนตรสี ากล
70 เรอื่ งที่ 2 ดนตรสี ากลกบั การประยกุ ตใ์ ช้ 1 ชวั่ โมง วิธีสอนแบบ สืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) ขนั้ ที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engage) ครนู าภาพการบรรเลงดนตรสี ากลในกจิ กรรมต่างๆ มาใหน้ กั เรยี นดู แลว้ ร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ ว่า เสยี งดนตรมี ปี ระโยชน์ตอ่ การทากจิ กรรมในชวี ติ ประจาวนั อยา่ งไร ขนั้ ที่ 2 สารวจค้นหา (Explore) นกั เรยี นแต่ละคนศกึ ษาความรเู้ รอ่ื ง ดนตรสี ากลกบั การประยกุ ตใ์ ช้ จากหนงั สอื เรยี น ตามหวั ขอ้ ทก่ี าหนด ขนั้ ที่ 3 อธิบายความรู้ (Explain) นกั เรยี นแต่ละคนจบั ค่กู บั เพ่อื นแลว้ ผลดั กนั อธบิ ายความรทู้ ไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษาใหเ้ พอ่ื นทเ่ี ป็นค่ฟู ัง จนเกดิ ความเขา้ ใจทต่ี รงกนั ขนั้ ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Expand) 1. ครจู บั สลากเลอื กนกั เรยี น 5-6 กลมุ่ อธบิ ายประโยชน์ของดนตรสี ากลกบั การประยกุ ตใ์ ชห้ น้าชนั้ เรยี น 2. นกั เรยี นแต่ละคนทาใบงานที่ 4.2 เร่อื ง ดนตรีสากลกบั การประยกุ ต์ใช้ ขนั้ ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั เฉลยคาตอบในใบงานท่ี 4.2 และสรปุ ความรเู้ รอ่ื ง ดนตรสี ากลกบั การประยุกตใ์ ช้ กบั งานอ่นื ๆ
71 เรือ่ งท่ี 3 ประเภทของเพลงสากล 2 ชวั่ โมง วิธีสอนตามรปู แบบ โมเดลซิปปา (CIPPA Model) ขนั้ ที่ 1 ทบทวนความร้เู ดิม ครเู ปิดซดี เี พลงสากลประเภทต่างๆ ใหน้ กั เรยี นฟัง แลว้ ใหน้ กั เรยี นช่วยกนั บอกวา่ เพลงทไ่ี ดย้ นิ นนั้ เป็นเพลง ประเภทใด ขนั้ ท่ี 2 แสวงหาความร้ใู หม่ ครอู ธบิ ายเกย่ี วกบั การจดั ประเภทของเพลงสากลใหน้ กั เรยี นฟัง แลว้ ใหน้ กั เรยี นแต่ละคนศกึ ษาความรเู้ รอ่ื ง ประเภทของเพลงสากล จากหนงั สอื เรยี น หอ้ งสมุด และแหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ ตามหวั ขอ้ ทก่ี าหนด ขนั้ ท่ี 3 ศึกษาทาความเข้าใจข้อมูล/ความร้ใู หม่ และเช่ือมโยงความร้ใู หม่กบั ความร้เู ดิม นกั เรยี นแตล่ ะคนนาความรทู้ ไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษามาเป็นพน้ื ฐานในการทาใบงานท่ี 4.3 เรื่อง ประเภทของ เพลงสากล ขนั้ ที่ 4 แลกเปลี่ยนความร้คู วามเข้าใจกบั กลุ่ม 1. นกั เรยี นแตล่ ะคนกลบั กลุ่มเดมิ แลว้ ผลดั กนั อธบิ ายความรทู้ ไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษาและคาตอบในใบงานท่ี 4.3 ใหส้ มาชกิ คนอน่ื ๆ ในกลุ่มฟัง และผลดั กนั ซกั ถามขอ้ สงสยั 2. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั เฉลยคาตอบในใบงานท่ี 4.3 ขนั้ ท่ี 5 สรปุ และจดั ระเบียบความรู้ นกั เรยี นแต่ละกลุม่ ช่วยกนั จาแนกประเภทของเพลงสากลตามรูปแบบของบทเพลง และสรปุ เป็นผงั มโนทศั น์ ขนั้ ที่ 6 ปฏิบตั ิและ/หรอื แสดงผลงาน สมาชกิ แตล่ ะกลุ่มสง่ ตวั แทนนาเสนอแผนผงั มโนทศั น์หน้าชนั้ เรยี น ครตู รวจสอบความถูกตอ้ ง ขนั้ ที่ 7 ประยกุ ต์ใช้ความรู้ นกั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั การนาความรเู้ ร่อื ง ประเภทของเพลงสากล ไปประยกุ ตใ์ ช้ ในชวี ติ ประจาวนั
72 เรื่องท่ี 4 ศพั ทส์ งั คีตในดนตรสี ากล 2 ชวั่ โมง วิธีสอนโดยการจดั การเรียนรแู้ บบร่วมมอื : เทคนิ คเลา่ เรอ่ื งรอบวง ขนั้ นาเข้าส่บู ทเรยี น ครถู ามนกั เรยี นว่า นกั เรยี นรจู้ กั ศพั ทส์ งั คตี ในดนตรสี ากลบา้ งหรอื ไม่ นกั เรยี นรูจ้ กั คาใดบา้ ง แลว้ ขอ อาสาสมคั รนกั เรยี น 2-3 คน ยกตวั อยา่ งศพั ทส์ งั คตี ทร่ี จู้ กั พรอ้ มอธบิ ายความหมาย ขนั้ สอน 1. ครอู ธบิ ายความหมายของศพั ทส์ งั คตี ใหน้ กั เรยี นฟัง แลว้ ใหส้ มาชกิ แตล่ ะคนในกล่มุ เลอื กหมายเลขประจาตวั ตงั้ แต่หมายเลข 1-4 2. สมาชกิ แต่ละคนศกึ ษาความรเู้ ร่อื ง ศพั ทส์ งั คตี ในดนตรสี ากล จากหนงั สอื เรยี น หอ้ งสมุด และแหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ ตามประเดน็ ทก่ี าหนด ดงั น้ี - หมายเลข 1 ศกึ ษาความรเู้ ร่อื ง ศพั ทท์ บ่ี อกความเรว็ -ชา้ ของจงั หวะ - หมายเลข 2 ศกึ ษาความรเู้ ร่อื ง ศพั ทท์ บ่ี อกความเขม้ ของเสยี ง - หมายเลข 3 ศกึ ษาความรเู้ ร่อื ง ศพั ทท์ บ่ี อกอารมณ์ของเพลง - หมายเลข 4 ศกึ ษาความรเู้ ร่อื ง ศพั ทท์ วั่ ไป 3. สมาชกิ แตล่ ะหมายเลขทาใบงานท่ี 4.4 เรือ่ ง ศพั ทส์ งั คีตในดนตรีสากล 4. นกั เรยี นแตล่ ะคนกลบั เขา้ กลมุ่ เดมิ แลว้ ผลดั กนั อธบิ ายความรแู้ ละคาตอบในใบงานท่ี 4.4 ใหส้ มาชกิ หมายเลขอน่ื ๆ ในกลุ่มฟัง เรยี งตามลาดบั หมายเลขแบบเล่าเรอ่ื งรอบวง 5. ครสู ุม่ นกั เรยี น 5-6 กลุ่ม นาเสนอใบงานท่ี 4.4 หน้าชนั้ เรยี น เพอ่ื นกลุ่มอ่นื ช่วยแสดงความคดิ เหน็ เพมิ่ เตมิ ในสว่ นทแ่ี ตกตา่ ง ขนั้ สรปุ นกั เรยี นรว่ มกนั สรุปสาระสาคญั เกย่ี วกบั ศพั ทส์ งั คตี ในดนตรสี ากล โดยครเู น้นยา้ ใหน้ กั เรยี นตระหนกั ถงึ ความสาคญั ของศพั ทส์ งั คตี ในดนตรสี ากล
73 เรอ่ื งท่ี 5 สงั คีตกวีดนตรีสากล 1 ชวั่ โมง วิธีสอนแบบ กระบวนการกลุ่มสมั พนั ธ์ ขนั้ ท่ี 1 นาเข้าส่บู ทเรยี น 1. ครนู าภาพสงั คตี กวดี นตรสี ากล มาใหน้ กั เรยี นดู แลว้ ถามนกั เรยี นว่า นกั เรยี นรจู้ กั บุคคลในภาพน้ีหรอื ไม่ บุคคลในภาพมคี วามสมั พนั ธเ์ กย่ี วขอ้ งกบั ดนตรสี ากลอยา่ งไร 2. ครเู ฉลยคาตอบและอธบิ ายใหน้ กั เรยี นเหน็ ความสาคญั ของสงั คตี กวดี นตรสี ากล ขนั้ ที่ 2 จดั การเรยี นรู้ 1. นกั เรยี นกลุม่ เดมิ จบั ค่กู นั เป็น 2 คู่ แลว้ ใหแ้ ตล่ ะครู่ ว่ มกนั ศกึ ษาความรเู้ ร่อื ง สงั คตี กวดี นตรสี ากล จาก หนงั สอื เรยี น หอ้ งสมดุ และแหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ โดยแบ่งหน้าทก่ี นั ปฏบิ ตั ิ ดงั น้ี - ค่ทู ่ี 1 ศกึ ษาความรเู้ รอ่ื ง คลาวดโิ อ มอนแตแวรด์ ี - คทู่ ่ี 2 ศกึ ษาความรเู้ ร่อื ง จาโคโม ปุชชนิ ี 2. สมาชกิ แตล่ ะคกู่ ลบั กลุ่มเดมิ แลว้ ผลดั กนั อธบิ ายประวตั ขิ องสงั คตี กวใี หส้ มาชกิ อกี ค่หู น่งึ ในกลมุ่ ฟัง จนเกดิ ความเขา้ ใจทต่ี รงกนั 3. ครตู งั้ ประเดน็ คาถาม แลว้ สุม่ นกั เรยี น 5-6 กล่มุ ตอบคาถาม แลว้ ใหเ้ พอ่ื นกลุ่มอน่ื เสนอแนะเพมิ่ เตมิ ขนั้ ท่ี 3 สรปุ และนาหลกั การไปประยกุ ตใ์ ช้ นกั เรยี นและครูร่วมกนั สรุปผลงานสาคญั ของคลาวดโิ อ มอนแตแวรด์ ี และจาโคโม ปุชชนิ ี ทม่ี ตี ่อวงการ ดนตรสี ากล ขนั้ ที่ 4 วดั และประเมินผล ครมู อบหมายให้นักเรยี นแต่ละกลุ่มจดั นิทรรศการ เรอื่ ง ดนตรีสากล โดยใหค้ รอบคลมุ ประเดน็ ตำมทกี่ ำหนด นักเรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 4
74 9 สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้ 9.1 สือ่ การเรียนรู้ 1) หนงั สอื เรยี น ดนตรี ม.5 2) บตั รภาพ 3) ซดี /ี วซี ดี ี 4) สลาก 5) ใบงานท่ี 4.1 เรอ่ื ง คณุ คา่ และความงามของดนตรสี ากล 6) ใบงานท่ี 4.2 เรอ่ื ง ดนตรสี ากลกบั การประยกุ ตใ์ ช้ 7) ใบงานท่ี 4.3 เร่อื ง ประเภทของเพลงสากล 8) ใบงานท่ี 4.4 เร่อื ง ศพั ทส์ งั คตี ในดนตรสี ากล 9.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) หอ้ งสมดุ 2) แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ - http://www.youtube.com (การบรรเลงดนตรสี ากล) - http://www.student.ac.th - http://www.e-learning.triamudom.ac.th - http://www.tc.mengrai.ac.th
75 การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินนิทรรศการ เร่อื ง ดนตรีสากล รายการประเมิน ดมี ำก (4) คาอธิบายระดบั คณุ ภาพ / ระดบั คะแนน ปรบั ปรุง (1) ดี (3) พอใช้ (2) 1. การอธิบายคณุ คา่ อธบิ ายคณุ ค่าและความ อธบิ ายคุณค่าและความ อธบิ ายคณุ คา่ และความ อธบิ ายคณุ ค่าและความ และความงามของ งามของดนตรสี ากลได้ งามของดนตรสี ากลได้ งามของดนตรสี ากลได้ งามของดนตรสี ากล ดนตรสี ากล ถูกตอ้ ง ชดั เจน ถกู ตอ้ งเป็นส่วนใหญ่ ถูกตอ้ งเป็นสว่ นน้อย ไม่ถกู ตอ้ ง 2. การจาแนก จาแนกประเภทและ จาแนกประเภทและ จาแนกประเภทและ จาแนกประเภทและ ประเภทและ รปู แบบของเพลงสากล รปู แบบของเพลงสากล รปู แบบของเพลงสากล รปู แบบของเพลงสากล รปู แบบของ ไดถ้ กู ตอ้ ง ครบทงั้ 7 ไดถ้ ูกตอ้ ง 5-6 ประเภท ไดถ้ ูกตอ้ ง 3-4 ประเภท ไดถ้ กู ตอ้ ง 1-2 ประเภท เพลงสากล ประเภท 3. การอธิบายการ อธบิ ายการนาดนตรี อธบิ ายการนาดนตรี อธบิ ายการนาดนตรี อธบิ ายการนาดนตรี นาดนตรีสากล สากลไปประยกุ ตใ์ ชก้ บั สากลไปประยกุ ตใ์ ชก้ บั สากลไปประยกุ ตใ์ ชก้ บั สากลไปประยกุ ตใ์ ชก้ บั ไปประยกุ ตใ์ ช้ งานอ่นื ๆ ไดถ้ ูกตอ้ ง งานอน่ื ๆ ไดถ้ ูกตอ้ ง งานอน่ื ๆ ไดถ้ กู ตอ้ ง งานอน่ื ๆ ไดถ้ ูกตอ้ ง กบั งานอ่ืนๆ 8 ดา้ นขน้ึ ไป 6-7 ดา้ น 4-5 ดา้ น น้อยกวา่ 4 ดา้ น 4. การอธิบาย อธบิ ายประวตั สิ งั คตี กวี อธบิ ายประวตั สิ งั คตี กวี อธบิ ายประวตั สิ งั คตี กวี อธบิ ายประวตั สิ งั คตี กวี ประวตั ิสงั คีตกวี ดนตรสี ากลไดถ้ ูกตอ้ ง ดนตรสี ากลไดถ้ ูกตอ้ ง ดนตรสี ากลไดถ้ กู ตอ้ ง ดนตรสี ากลไดถ้ กู ตอ้ ง ดนตรีสากล ชดั เจน อย่างน้อย แต่ไม่คอ่ ยชดั เจน ชดั เจน 1 ทา่ น แตไ่ มค่ อ่ ยชดั เจน 2 ทา่ น อย่างน้อย 2 ท่าน 1 ท่าน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน 14 - 16 11 - 13 8 - 10 ต่ากว่า 8 ระดบั คณุ ภาพ ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง
76 แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 4 คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเลอื กคาตอบท่ถี ูกต้องท่สี ุดเพียงข้อเดียว 1. นกั ปรชั ญาทา่ นใดทเ่ี ชอ่ื ว่า “ดนตรสี ามารถสรา้ งความ 6. ขอ้ ใดเรยี งลาดบั เสยี งสงู ไปหาเสยี งต่าไดถ้ กู ตอ้ ง สมดุลระหวา่ งพลศกึ ษาและศลิ ปศาสตรไ์ ด”้ ก. เบส บารโิ ทน เทเนอร์ ก. พลาโต ข. เมซโซปราโน เบส อลั โต ข. อรสิ โตเตลิ ค. บารโิ ทน อลั โต เมซโซปราโน ค. โซเปนเฮาเออร์ ง. โซปราโน เมซโซปราโน อลั โต ง. เซนต์ ออกสั ตนี 7. เพลงทใ่ี ชส้ วดโดยนาเน้อื รอ้ งมาจากคมั ภรี ห์ มายถงึ เพลง 2. การประพนั ธบ์ ทเพลงทม่ี ลี กั ษณะเรยี บงา่ ย ไมใ่ ชโ้ น้ต ประเภทใด ประกอบมากมาย แสดงถงึ ความสดใส ใชค้ อรด์ ทม่ี เี สยี ง ก. โมเตด็ กลมกลนื เป็นส่วนใหญ่ บทเพลงน้นี ่าจะเป็นลกั ษณะของ ข. แพสชนั่ บทเพลงยคุ ใด ค. รเี ควย่ี ม ก. ยคุ คลาสสกิ ง. ออราทรอรโิ อ ข. ยุคโรแมนตกิ 8. Music, Hommophony และ Rhythm ต่างเป็นคาศพั ท์ ค. ยุคศตวรรษท่ี 20 ทางดนตรที ส่ี าคญั ซง่ึ มรี ากฐานมาจากวฒั นธรรมดนตรี ง. ยคุ ฟ้ืนฟศู ลิ ปวทิ ยาการ ทเ่ี ป็นรากเหงา้ ของดนตรตี ะวนั ตก คอื ดนตรชี นชาตใิ ด 3. เพลงเกาหลที เ่ี ขา้ มามบี ทบาทในสงั คมไทยนัน้ เป็น ก. ฮบิ รู ดนตรี ข. โรมนั ประยกุ ตใ์ ชแ้ บบใด ค. กรกี โบราณ ก. ธรุ กจิ ข. การโฆษณา ง. อยี ปิ ตโ์ บราณ ค. การทอ่ งเทย่ี ว ง. การประชาสมั พนั ธ์ 9. คาศพั ทใ์ นขอ้ ใดทห่ี มายถงึ ปฏบิ ตั ดิ ว้ ยจงั หวะเรว็ มาก 4. ใครสามารถนาดนตรมี าประยกุ ตใ์ ชไ้ ดอ้ ยา่ งเหมาะสม ก. Forte ข. Piano ทส่ี ุด ค. Presto ง. Mezzo Piano ก. กอ้ ง กอ๊ ปป้ีเพลงออกใหมไ่ ปขาย 10. ผลงานชน้ิ แรกของ คลาวดโิ อ มอนเตแวรด์ ี คอื อะไร ข. กงิ่ บาบดั ผปู้ ่วยดว้ ยการฟังเพลงรอ็ ค ก. First book of opera ค. กอ้ ย ใชด้ นตรเี ป็นกลยุทธใ์ นการเปิดตวั สนิ คา้ ใหม่ ข. First book of Masses ง. แกว้ เครยี ดจากการทางานจงึ เปิดเพลงเสยี งดงั จน ค. First book of Musical เพ่อื นราคาญ ง. First book of Madrigals 5. ขอ้ ใดเป็นคุณสมบตั ขิ องเสยี ง (Tone) ทงั้ หมด ก. สงู -ต่า, ดงั -เบา ข. สงู -ต่า, สนั้ -ยาว ค. ดงั -เบา, ชา้ -เรว็ ง. ชา้ -เรว็ , สนั้ -ยาว มฐ. ศ 2.1 ม.4-6/2, 8 ศ 2.2 ม.4-6/2, 4, ไดค้ ะแนน คะแนนเตม็ 10 เฉลย 1. ก 2. ก 3. ก 4. ค 5. ก 6. ง 7. ง 8. ค 9. ค 10. ง
77 แบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 4 คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเลอื กคาตอบท่ถี ูกต้องท่สี ุดเพยี งข้อเดียว 1. ผลงานชน้ิ แรกของ คลาวดโิ อ มอนเตแวรด์ ี คอื อะไร 6. ขอ้ ใดเป็นคณุ สมบตั ขิ องเสยี ง (Tone) ทงั้ หมด ก. First book of Madrigals ก. ชา้ -เรว็ , สนั้ -ยาว ข. First book of Musical ข. ดงั -เบา, ชา้ -เรว็ ค. First book of Masses ค. สงู -ต่า, สนั้ -ยาว ง. First book of opera ง. สงู -ต่า, ดงั -เบา 2. คาศพั ทใ์ นขอ้ ใดทห่ี มายถงึ ปฏบิ ตั ดิ ว้ ยจงั หวะเรว็ มาก 7. ใครสามารถนาดนตรมี าประยุกตใ์ ชไ้ ดอ้ ยา่ งเหมาะสม ก. Mezzo Piano ทส่ี ดุ ข. Presto ก. แกว้ เครยี ดจากการทางานจงึ เปิดเพลงเสยี งดงั จน ค. Piano เพอ่ื นราคาญ ง. Forte ข. กอ้ ย ใชด้ นตรเี ป็นกลยุทธใ์ นการเปิดตวั สนิ คา้ ใหม่ 3. Music, Hommophony และ Rhythm ตา่ งเป็นคาศพั ท์ ค. กงิ่ บาบดั ผปู้ ่วยดว้ ยการฟังเพลงรอ็ ค ทางดนตรที ส่ี าคญั ซง่ึ มรี ากฐานมาจากวฒั นธรรมดนตรี ทเ่ี ป็นรากเหงา้ ของดนตรตี ะวนั ตก คอื ดนตรชี นชาตใิ ด ง. กอ้ ง ก๊อปป้ีเพลงออกใหม่ไปขาย ก. อยี ปิ ตโ์ บราณ ข. กรกี โบราณ 8. เพลงเกาหลที เ่ี ขา้ มามบี ทบาทในสงั คมไทยนัน้ เป็น ค. โรมนั ง. ฮบิ รู ดนตรี 4. เพลงทใ่ี ชส้ วดโดยนาเน้อื รอ้ งมาจากคมั ภรี ห์ มายถงึ เพลง ประยกุ ตใ์ ชแ้ บบใด ประเภทใด ก. ออราทรอรโิ อ ก. การประชาสมั พนั ธ์ ข. การท่องเทย่ี ว ข. รเี ควย่ี ม ค. แพสชนั่ ค. การโฆษณา ง. ธุรกจิ ง. โมเตด็ 9. การประพนั ธบ์ ทเพลงทม่ี ลี กั ษณะเรยี บงา่ ย ไมใ่ ชโ้ น้ต 5. ขอ้ ใดเรยี งลาดบั เสยี งสงู ไปหาเสยี งต่าไดถ้ ูกตอ้ ง ก. โซปราโน เมซโซปราโน อลั โต ประกอบมากมาย แสดงถงึ ความสดใส ใชค้ อรด์ ทม่ี เี สยี ง ข. บารโิ ทน อลั โต เมซโซปราโน ค. เมซโซปราโน เบส อลั โต กลมกลนื เป็นส่วนใหญ่ บทเพลงน้นี ่าจะเป็นลกั ษณะของ ง. เบส บารโิ ทน เทเนอร์ บทเพลงยคุ ใด ก. ยุคฟ้ืนฟศู ลิ ปวทิ ยาการ ข. ยุคศตวรรษท่ี 20 ค. ยุคโรแมนตกิ ง. ยุคคลาสสกิ 10. นักปรชั ญาทา่ นใดทเ่ี ชอ่ื วา่ “ดนตรสี ามารถสรา้ งความ สมดลุ ระหว่างพลศกึ ษาและศลิ ปศาสตรไ์ ด”้ ก. เซนต์ ออกสั ตนี ข. โซเปนเฮาเออร์ ค. อรสิ โตเตลิ มฐ. ศ 2.1 ม.4-6/2, 8 ศ 2.2 ม.4-6/2, 4 ง. พลาโต ได้คะแนน คะแนนเตม็ 10 เฉลย 1. ก 2. ข 3. ข 4. ก 5. ก 6. ง 7. ข 8. ง 9. ง 10. ง
78 บันทกึ หลังการสอน รายวชิ าศิลปะ นักเรยี นชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 วชิ าดนตรี ครูผูส้ อน นายปฏิภาณ ไชยเทพา เรื่อง ความรู้ทว่ั ไปเก่ยี วกับดนตรสี ากล ด้านความรู้ . ผูเ้ รียนเกดิ กระบวนการทำงานเปน็ กลมุ่ การเสาะแสวงหาความรู้ เทคนคิ การตอ่ เร่ืองราว แลกเปล่ียนเรียนรู้ เกิด กระบวนการสร้างความคิดรวบยอด ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น 1.สมรรถนะดา้ นการจดั การตัวเอง นักเรียนมีความรบั ผดิ ชอบในระดับปานกลาง คอื ให้ทำงานยงั ไมก่ ระตือรือล้น เท่าไหร่ 2.สมรรถนะด้านการสอ่ื สาร นักเรียนไดม้ สี ่วนรว่ มในการแสดงความคดิ เกยี่ วกับความรูท้ ั่วไปเกย่ี วกับดนตรี พื้นบ้านของไทยโดยครสู ่มุ ถาม ซงึ่ นักเรียนไดแ้ สดงความคิดโดยการสอ่ื สารพดู ในความคิดของนักเรยี นเอง 3.สมรรถนะดา้ นการรวมพลังทำงานเปน็ ทีม นกั เรียนมีการแบ่งหน้าทใี่ นการทำงาน เช่น การแบ่งกลุม่ สมาชกิ และแบง่ ช่ือเรือ่ งท่ีจะศึกษาเองโดยครูคอยช้แี นะ เป็นต้น 4.สมรรถนะด้านการคิดชน้ั สูง นกั เรียนยังมีความร้เู กี่ยวกบั ทศั นศลิ ป์ไมม่ ากพอ และขาดการไตรตรองในการใช้ ความคดิ ในการตอบ 5.สมรรถนะดา้ นการเป็นพลเมืองท่ีเขม้ แขง็ นักเรียนบางสว่ นมคี วามรบั ผิดชอบต่อหนา้ ท่ีท่ีได้รบั เปน็ อย่างดี ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มีวินัย นักเรยี นส่วนมากมวี นิ ยั ในตนเองดี รับผิดชอบต่อตนเองดี มีบางสว่ นยงั ขาดวินัยต่อตนเอง 2. ใฝเ่ รยี นรู้ นักเรียนสืบค้นหาข้อมลู เองโดยท่คี รูกำหนดหัวข้อให้ 3. มุง่ มั่นในการทำงาน นักเรียนบางคนมุ่งม่นั ตัง้ ใจในการทำงานเปน็ อย่างดี ด้านอ่ืนๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤติกรรมท่มี ีปัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบุคคล (ถ้ามี)) ปัญหา/อุปสรรค เด็กนักเรียนบางคนไมเ่ ขา้ เรยี น นักเรยี นชายหลายคนสนใจในเรื่องอ่นื มากกว่าการเรยี น เชน่ อยากซอ้ มกีฬา คุย กนั เสียงดัง แนวทางการแก้ไข คนทีไ่ ม่เขา้ เรยี นครูจะไมเ่ ชค็ เวลาเรียนให้ และมกี ารหักคะแนน และครูต้งั เงอ่ื นไขกับนักเรียน ถา้ ตัง้ ใจเรียนจะ ปลอ่ ยเรว็
79 ความเหน็ ของครพู เี่ ล้ยี ง ขอ้ เสนอแนะ มีการจดั การเรียนการสอนตามแผนการสอน ทำใหน้ กั เรยี นบรรลตุ ามตวั ช้ีวัดทตี่ ้ังไว้ มคี ำถามทหี่ ลากหลาบ มีการ ประเมนิ ตามตัวชวี้ ดั ใช้ส่อื ไดเ้ หมาะสมกับการเรียนการสอน . ลงชือ่ . (นางสาวมณีรัตน์ เนียรประดษิ ฐ) ตำแหน่ง หัวหนา้ กลมุ่ สาระศิลปะ ความเหน็ ของผู้อำนวยการโรงเรยี น . ข้อเสนอแนะ การสอนครอบคลมุ เน้อื หาและตวั ชี้วดั เห็นควรใชใ้ นการสอนนักเรียนได้ . . ลงช่ือ . (นายเชิดศกั ดิ์ เอกปรญิ ญา) ตำแหน่ง ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นเหลา่ หลวงประชานุสรณ์
80 แผนการจดั การเรยี นรู้ โรงเรยี นเหลา่ หลวงประชานสุ รณ์ ตำบลเหลา่ หลวง อำเภอเกษตรวิสยั จังหวดั รอ้ ยเอด็ กลุ่มสาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ วชิ าดนตรี ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 5 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 เรอื่ ง การปฏิบัตดิ นตรีสากล เวลา 9 ช่วั โมง 1 มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ชี้วดั ศ 2.1 ม.4-6/4 อ่าน เขยี น โนต้ ดนตรไี ทยและสากลในอตั ราจงั หวะตา่ งๆ ม.4-6/5 รอ้ งเพลง หรอื เล่นดนตรเี ดย่ี วและรวมวง โดยเน้นเทคนิคการแสดงออกและคณุ ภาพของการแสดง 2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การอา่ นและเขยี นโน้ตสากลในอตั ราจงั หวะตา่ งๆ ได้ จะทาใหร้ อ้ งเพลงหรอื เลน่ เคร่อื งดนตรแี บบเดย่ี วหรอื รวมวงไดถ้ กู ตอ้ ง 3 สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรียนร้แู กนกลาง 1) เครอ่ื งหมายและสญั ลกั ษณ์ทางดนตรี - เครอ่ื งหมายกาหนดอตั ราจงั หวะ - เคร่อื งหมายกาหนดบนั ไดเสยี ง 2) เทคนิคและการถ่ายทอดอารมณ์เพลงดว้ ยการรอ้ งบรรเลงเคร่อื งดนตรเี ดย่ี วและรวมวง 3.2 สาระการเรยี นร้ทู ้องถิน่ - หลกั ปฏบิ ตั เิ คร่อื งดนตรสี ากล 4 สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด - ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุ่งมนั่ ในการทางาน
81 6 ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) การรอ้ งเพลงและบรรเลงเคร่อื งดนตรแี บบรวมวงประกอบเพลง 7 การวดั และการประเมินผล 7.1 การประเมินก่อนเรียน - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 5 เร่อื ง การปฏบิ ตั ดิ นตรสี ากล 7.2 การประเมินระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1) ตรวจใบงานท่ี 5.1 เรอ่ื ง เคร่อื งหมายและสญั ลกั ษณ์ทางดนตรี 2) ตรวจใบงานท่ี 5.2 เรอ่ื ง การปฏบิ ตั เิ ครอ่ื งดนตรเี ปียโน 3) ตรวจแบบบนั ทกึ การอ่าน 4) ประเมนิ การนาเสนอผลงาน 5) สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล 6) สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม 7) สงั เกตคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 7.3 การประเมินหลงั เรยี น - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 5 เรอ่ื ง การปฏบิ ตั ดิ นตรสี ากล 7.4 การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - สงั เกตการรอ้ งเพลงและบรรเลงเครอ่ื งดนตรแี บบรวมวงประกอบเพลง 8 กิจกรรมการเรียนรู้ นักเรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 5
82 เรอ่ื งที่ 1 เคร่อื งหมายและสญั ลกั ษณ์ทางดนตรี 2 ชวั่ โมง วิธีสอนแบบ สืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) ขนั้ ที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engage) ครใู หน้ กั เรยี นร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ เก่ยี วกบั การนาเคร่อื งหมายและสญั ลกั ษณ์ทางดนตรมี าใช้ ประโยชน์ในดา้ นใด ขนั้ ท่ี 2 สารวจค้นหา (Explore) นกั เรยี นแตล่ ะคนศกึ ษาความรเู้ รอ่ื ง เครอ่ื งหมายและสญั ลกั ษณ์ทางดนตรี จากหนงั สอื เรยี น หอ้ งสมดุ และ แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ ตามหวั ขอ้ ทก่ี าหนด ขนั้ ท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explain) ครแู บง่ นกั เรยี นเป็นกลุ่ม กลุม่ ละ 4 คน คละกนั ตามความสามารถ แลว้ ใหส้ มาชกิ แต่ละคนผลดั กนั อธบิ าย ความรเู้ กย่ี วกบั เครอ่ื งหมายและสญั ลกั ษณ์ทางดนตรที ไ่ี ดศ้ กึ ษามาใหส้ มาชกิ คนอน่ื ๆ ในกล่มุ ฟัง ขนั้ ที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Expand) 1. สมาชกิ แต่ละกลุ่มตงั้ คาถามเกย่ี วกบั เคร่อื งหมายและสญั ลกั ษณ์ทางดนตรที ไ่ี ดศ้ กึ ษามา กลุม่ ละ 2-3 ขอ้ แลว้ สง่ ตวั แทนแตล่ ะกล่มุ ถามคาถามเพอ่ื นกล่มุ อ่นื โดยกลมุ่ เจา้ ของคาถามจะเป็นผอู้ ธบิ ายคาตอบและ องคค์ วามรเู้ พมิ่ เตมิ เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความถูกตอ้ ง 2. สมาชกิ แต่ละกลุ่มชว่ ยกนั ทาใบงานท่ี 5.1 เรอื่ ง เคร่อื งหมายและสญั ลกั ษณ์ทางดนตรี ขนั้ ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครคู ดั เลอื กนกั เรยี นทลี ะกลุ่มนาเสนอใบงานท่ี 5.1 หน้าชนั้ เรยี น ครแู ละเพอ่ื นกลุ่มอ่นื ชว่ ยกนั ตรวจสอบ ความถกู ตอ้ ง 2. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปความรเู้ ก่ยี วกบั เครอ่ื งหมายและสญั ลกั ษณ์ทางดนตรสี ากล
83 เร่ืองท่ี 2 หลกั ปฏิบตั ิเคร่ืองดนตรสี ากล 1 ชวั่ โมง วิธีสอนโดยการจดั การเรียนรแู้ บบร่วมมอื : เทคนิ คค่ตู รวจสอบ ขนั้ นาเขา้ ส่บู ทเรยี น ครเู ปิดวซี ดี กี ารบรรเลงเปียโน ใหน้ กั เรยี นดู แลว้ ถามนกั เรยี นเกย่ี วกบั ความรสู้ กึ เมอ่ื ไดฟ้ ังเสยี งเปียโน และลกั ษณะของเปียโนวา่ เป็นอยา่ งไร ขนั้ สอน 1. นกั เรยี นแต่ละกลุม่ รว่ มกนั ศกึ ษาความรเู้ ร่อื ง วธิ ปี ฏบิ ตั เิ คร่อื งดนตรปี ระเภทคยี บ์ อรด์ จากหนงั สอื เรยี น เกย่ี วกบั ลกั ษณะของเปียโน วธิ ปี ฏบิ ตั เิ ปียโน และการดแู ลรกั ษาเครอ่ื งดนตรปี ระเภทคยี บ์ อรด์ 2. สมาชกิ แต่ละกลุ่มจบั ค่กู นั เป็น 2 คู่ ใหแ้ ต่ละคชู่ ว่ ยกนั ทาใบงานที่ 5.2 เรอ่ื ง หลกั ปฏิบตั ิเครื่องดนตรี เปี ยโน โดยแบ่งหน้าทก่ี นั ปฏบิ ตั ิ ดงั น้ี - สมาชกิ คนท่ี 1 อ่านคาถาม และเขยี นคาตอบลงในใบงาน - สมาชกิ คนท่ี 2 สงั เกตการตอบคาถามของสมาชกิ คนท่ี 1 และตรวจสอบความถูกตอ้ ง ในขอ้ ตอ่ ไปกใ็ หส้ มาชกิ คนท่ี 1 และ 2 สลบั หน้าทก่ี นั ปฏบิ ตั ิ และทาเช่นน้ไี ปเรอ่ื ยๆ จนจบคาถามในใบงาน 3. ครจู บั สลากเลอื กนกั เรยี นแตล่ ะค่เู ฉลยคาตอบในใบงานท่ี 5.2 หน้าชนั้ เรยี น ค่ลู ะ 1 ขอ้ ครตู รวจสอบความ ถูกตอ้ ง ขนั้ สรปุ ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ ความรเู้ กย่ี วกบั ลกั ษณะของเปียโน วธิ ปี ฏบิ ตั เิ ปียโน และการดแู ลรกั ษา เคร่อื งดนตรปี ระเภทคยี บ์ อรด์
84 เรื่องท่ี 3 การปฏิบตั ิเครอ่ื งดนตรเี ปี ยโน 2 ชวั่ โมง วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการปฏิบตั ิ ขนั้ ท่ี 1 สงั เกต รบั รู้ 1. ครใู หน้ กั เรยี นอาสาสมคั รทม่ี คี วามสามารถในการเลน่ เปียโนออกมาเลน่ เปียโนใหเ้ พอ่ื นดหู น้าชนั้ เรยี น พรอ้ มกบั อธบิ ายท่านงั่ และวธิ กี ารฝึกไล่น้วิ ในการเล่นเปียโน ใหเ้ พอ่ื นฟังโดยครอู ธบิ ายเพม่ิ เตมิ 2. ครแู จง้ ใหน้ กั เรยี นทราบว่า ครจู ะใหน้ กั เรยี นฝึกการไล่น้ิวพรอ้ มกนั ทงั้ สองมอื และจบั คอรด์ ในกุญแจเสยี ง C Major และ A minor 3. ครสู าธติ วธิ กี ารไล่น้วิ พรอ้ มกนั ทงั้ สองมอื และจบั คอรด์ ในกุญแจเสยี ง C Major และ A minor ใหน้ กั เรยี นดู เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นสงั เกตและจดจา หรอื ศกึ ษาเพมิ่ เตมิ จากเอกสารประกอบการสอน ขนั้ ที่ 2 ทาตามแบบ 1. ครแู บ่งนกั เรยี นออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ กล่มุ ละเท่าๆ กนั แลว้ ใหน้ กั เรยี นอาสาสมคั รทค่ี รฝู ึกสอนวธิ กี ารไลน่ ้วิ พรอ้ มกนั ทงั้ สองมอื และจบั คอรด์ ในกญุ แจเสยี ง C Major และ A minor จนเกดิ ความชานาญ เขา้ ประจากล่มุ 2. นกั เรยี นอาสาสมคั รสาธติ วธิ กี ารไล่น้วิ พรอ้ มกนั ทงั้ สองมอื และจบั คอรด์ ในกุญแจเสยี ง C Major และ A minor ใหส้ มาชกิ ในกลุ่มดู และฝึกปฏบิ ตั ติ าม ขนั้ ที่ 3 ทาเองโดยไม่มีแบบ สมาชกิ แตล่ ะคนฝึกการไลน่ ้ิวพรอ้ มกนั ทงั้ สองมอื และจบั คอรด์ ในกุญแจเสยี ง C Major และ A minor ดว้ ยตนเอง ครสู งั เกตและใหข้ อ้ เสนอแนะเพม่ิ เตมิ เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นสามารถปฏบิ ตั ไิ ดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง ขนั้ ท่ี 4 ฝึ กทาให้ชานาญ 1. นกั เรยี นแต่ละคนฝึกเล่นเปียโนประกอบเพลงคามนั่ สญั ญา ใหเ้ กดิ ความชานาญ 2. ครสู ุม่ นกั เรยี นทลี ะกลุ่ม เลน่ เปียโนประกอบเพลงคามนั่ สญั ญา เพอ่ื ใหค้ รปู ระเมนิ ผล
85 เร่ืองที่ 4 การบรรเลงรวมวง 2 ชวั่ โมง วิธีสอนแบบ สืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) ขนั้ ท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ (Engage) ครใู หน้ กั เรยี นดวู ซี ดี กี ารบรรเลงเปียโนแบบรวมวง แลว้ วเิ คราะหว์ า่ การบรรเลงแบบรวมวงและการบรรเลง แบบเดย่ี วมคี วามแตกตา่ งกนั อย่างไร ขนั้ ท่ี 2 สารวจค้นหา (Explore) 1. ครอู ธบิ ายเกย่ี วกบั ความหมายของการรวมวง คณุ สมบตั ขิ องนกั ดนตรหี รอื นกั รอ้ งทจ่ี ะบรรเลงรวมวงไดด้ ี และลกั ษณะของโน้ตเพลงสาหรบั การบรรเลงรวมวง ใหน้ กั เรยี นฟังและศกึ ษาเพม่ิ เตมิ จากหนงั สอื เรยี น 2. สมาชกิ แต่ละคนในกลุม่ เดมิ เลอื กหมายเลขประจาตวั ตงั้ แต่หมายเลข 1-4 แลว้ ใหแ้ ตล่ ะหมายเลขศกึ ษา ความรเู้ ก่ยี วกบั การบรรเลงรวมวง จากเอกสารประกอบการสอน ดงั น้ี - หมายเลข 1 ศกึ ษาความรเู้ ร่อื ง การเลน่ รวมวงวธิ ที ่ี 1 - หมายเลข 2 ศกึ ษาความรเู้ ร่อื ง การเล่นรวมวงวธิ ที ่ี 2 - หมายเลข 3 ศกึ ษาความรเู้ ร่อื ง การเลน่ รวมวงวธิ ที ่ี 3 - หมายเลข 4 ศกึ ษาความรเู้ ร่อื ง การเล่นรวมวงวธิ ที ่ี 4 ขนั้ ท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explain) สมาชกิ แต่ละหมายเลขผลดั กนั อธบิ ายความรเู้ กย่ี วกบั การบรรเลงแบบรวมวง ตามทต่ี นเองไดศ้ กึ ษามา ใหส้ มาชกิ หมายเลขอน่ื ๆ ในกลุม่ ฟัง ขนั้ ที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Expand) 1. ครสู มุ่ นกั เรยี น 4 กลุ่ม อธบิ ายวธิ กี ารบรรเลงแบบรวมวง กลุ่มละ 1 วธิ ี แลว้ ใหเ้ พอ่ื นกลุม่ อ่นื ทไ่ี มไ่ ดน้ าเสนอ แสดงความคดิ เหน็ เพมิ่ เตมิ ในสว่ นทบ่ี กพร่อง 2. ครใู หน้ กั เรยี นชว่ ยกนั เปรยี บเทยี บว่า การบรรเลงดนตรแี บบรวมวงแต่ละวธิ มี คี วามเหมอื นหรอื แตกต่างกนั อย่างไร ขนั้ ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) ครตู รวจสอบผลนกั เรยี นจากการอธบิ ายและเปรยี บเทยี บความเหมอื นและความแตกตา่ งกนั ของการบรรเลง แบบรวมวงแต่ละวธิ ี
86 เรือ่ งท่ี 5 การปฏิบตั ิเครอื่ งดนตรีแบบรวมวง 2 ชวั่ โมง วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการกลมุ่ ขนั้ ที่ 1 มผี ้นู าและมีการแบ่งหน้าที่รบั ผิดชอบ ครสู นทนากบั นกั เรยี นเก่ยี วกบั การบรรเลงเครอ่ื งดนตรแี บบรวมวงแตล่ ะวธิ ี แลว้ ใหส้ มาชกิ ในกลุ่มเลอื ก ผนู้ ากลุม่ ครมู อบหมายให้นักเรียนแต่ละกลุ่มรอ้ งเพลงและบรรเลงเคร่ืองดนตรีแบบรวมวงประกอบเพลง เพ่อื ให้ครปู ระเมินผล โดยใหค้ รอบคลมุ ประเดน็ ตำมทกี่ ำหนด ขนั้ ที่ 2 วางแผน สมาชกิ แต่ละกลุ่มช่วยกนั เลอื กเพลงทช่ี ่นื ชอบ กลุ่มละ 1 เพลง แลว้ รว่ มกนั วางแผนในการรอ้ งเพลงและเล่น เคร่อื งดนตรแี บบรวมวงประกอบเพลง ขนั้ ท่ี 3 ลงมอื ปฏิบตั ิ นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกนั ฝึกรอ้ งเพลงและเลน่ เครอ่ื งดนตรแี บบรวมวงประกอบเพลงทเ่ี ลอื ก ตามขนั้ ตอนท่ี วางแผนไว้ ขนั้ ท่ี 4 ประเมินผลการปฏิบตั ิงาน ครจู บั สลากเลอื กนกั เรยี นทลี ะ 1 กล่มุ รอ้ งเพลงและเลน่ เครอ่ื งดนตรแี บบรวมวงประกอบเพลงหน้าชนั้ เรยี น ครปู ระเมนิ ผลนกั เรยี นทลี ะกลมุ่ ขนั้ ที่ 5 ปรบั ปรงุ และพฒั นา สมาชกิ แตล่ ะกลุ่มนาขอ้ เสนอแนะของครไู ปปรบั ปรุงและพฒั นาการรอ้ งเพลงและเลน่ เคร่อื งดนตรแี บบรวมวง ประกอบเพลงของกลมุ่ ตนเอง นักเรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 5
87 9 ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 9.1 สือ่ การเรียนรู้ 1) หนงั สอื เรยี น ดนตรี ม.5 2) เอกสารประกอบการสอน 3) วซี ดี ี 4) เปียโน/เคร่อื งดนตรี 5) สลาก 6) ใบงานท่ี 5.1 เร่อื ง เคร่อื งหมายและสญั ลกั ษณ์ทางดนตรี 7) ใบงานท่ี 5.2 เรอ่ื ง การปฏบิ ตั เิ ครอ่ื งดนตรเี ปียโน 9.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) หอ้ งสมุด 2) แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ - http://www.student.chula.ac.th - http://www.youtube.com
88 การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินการรอ้ งเพลงและบรรเลงเครื่องดนตรแี บบรวมวงประกอบเพลง รายการประเมิน ดมี ำก (4) คาอธิบายระดบั คณุ ภาพ / ระดบั คะแนน ปรบั ปรงุ (1) ดี (3) พอใช้ (2) 1. การอ่านและ อา่ นและเขยี นโนต้ เพลง อ่านและเขยี นโนต้ เพลง อ่านและเขยี นโน้ตเพลง อ่านและเขยี นโน้ตเพลง เขียนโน้ตเพลง ไดถ้ กู ตอ้ งทงั้ เพลง ไดถ้ ูกตอ้ ง แต่มี ไดถ้ กู ตอ้ ง แตม่ ี ไดถ้ ูกตอ้ ง แตม่ ี จุดบกพร่องบา้ ง 1-2 จุด จุดบกพร่องบา้ ง 3-4 จดุ จุดบกพร่องมากกว่า 4 จุด ขน้ึ ไป 2. การร้องเพลง รอ้ งเพลงไดไ้ พเราะ รอ้ งเพลงไดไ้ พเราะ รอ้ งเพลงไดไ้ พเราะ รอ้ งเพลงไดไ้ มค่ ่อย ควบคุมการดาเนิน ควบคุมการดาเนนิ ควบคุมการดาเนนิ ไพเราะ ไม่สามารถ จงั หวะ และสามารถ จงั หวะ และสามารถ จงั หวะได้ แต่ไม่ ควบคุมการดาเนิน รกั ษาลกั ษณะเสยี งรอ้ ง รกั ษาลกั ษณะเสยี งรอ้ ง สามารถรกั ษาลกั ษณะ จงั หวะ และไมส่ ามารถ ใหค้ งเสน้ คงวาไดต้ ลอด ใหค้ งเสน้ คงวาไดเ้ กอื บ เสยี งรอ้ งใหค้ งเสน้ คงวา รกั ษาลกั ษณะเสยี งรอ้ ง ทงั้ เพลง ตลอดทงั้ เพลง ไดต้ ลอดทงั้ เพลง ใหค้ งเสน้ คงวาไดต้ ลอด ทงั้ เพลง 3. การบรรเลงเครื่อง บรรเลงเครอ่ื งดนตรี บรรเลงเคร่อื งดนตรี บรรเลงเครอ่ื งดนตรี บรรเลงเครอ่ื งดนตรี แบบรวมวงไดถ้ กู ตอ้ ง แบบรวมวงไดถ้ ูกตอ้ ง แบบรวมวงไมถ่ ูกตอ้ ง ดนตรแี บบรวมวง แบบรวมวงไดถ้ ูกตอ้ ง ตามจงั หวะ เคร่อื ง ตามจงั หวะ แต่เครอ่ื ง ตามจงั หวะ และเครอ่ื ง ประกอบเพลง ตามจงั หวะ เคร่อื ง ดนตรที กุ ชนิดมี ดนตรบี างชนิดเล่น ดนตรแี ตล่ ะชนดิ เล่น ความสมั พนั ธก์ นั แต่มี ไมส่ มั พนั ธก์ นั และมี ไม่สมั พนั ธก์ นั ดนตรที ุกชนิดมี จุดบกพร่องบา้ ง จดุ บกพรอ่ ง เลก็ น้อย เป็นส่วนใหญ่ ความสมั พนั ธก์ นั เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน 11 - 12 9 - 10 6-8 ต่ากวา่ 6 ระดบั คณุ ภาพ ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง
89 แบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 5 คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเลอื กคาตอบท่ถี ูกต้องท่สี ุดเพยี งข้อเดียว 1. ตวั โนต้ ทม่ี คี วามยาวของเสยี งมากทส่ี ุด คอื ตวั โน้ตตวั ใด 6. อุปกรณ์ทเ่ี ป็นส่วนประกอบของเปียโนชนดิ ใดมลี กั ษณะ ก. โน้ตตวั ดา คลา้ ยกบั คอ้ น ข. โน้ตตวั ขาว ก. Pedal ค. โน้ตตวั กลม ข. Action ง. โน้ตตวั เขบต็ ค. Strings ง. Damper 2. ขอ้ ใดกลา่ วถกู ตอ้ งเกย่ี วกบั สญั ลกั ษณ์ทใ่ี ชใ้ นการบนั ทกึ โน้ตสากล 7. เคร่อื งดนตรชี นดิ ใดมวี ธิ กี ารบรรเลงคลา้ ยเปียโน ก. เสน้ ตรงแนวตงั้ เรยี กว่า บรรทดั 5 เสน้ ก. คอรเ์ น็ต ข. สญั ลกั ษณ์รปู วงกลม เรยี กว่า ตวั ขาว ข. คาบาซา ค. เสน้ แนวตงั้ 2 เสน้ ดา้ นขวาสุด เรยี กว่า เสน้ กนั้ หอ้ ง ค. คอนทราเบส คู่ ง. ฮารป์ ซคิ อรด์ ง. สญั ลกั ษณ์ดา้ นซา้ ยสุด เรยี กวา่ เคร่อื งหมาย แปลงเสยี ง 8. การอา่ นโน้ตแบบ “Sight reading” คอื อะไร ก. การอา่ นและสามารถบรรเลงไดเ้ ลยทนั ที 3. จานวน 20 ตวั มคี า่ เท่ากบั จานวนกต่ี วั ข. การอ่านโน้ตโดยทย่ี งั ไม่สามารถบรรเลงได้ ก. 60 ข. 80 ค. การอ่านโน้ตตามผอู้ านวยเพลง (Conductor) ค. 90 ง. 100 ง. การอ่านโน้ตโดยมผี บู้ อกทานองในการบรรเลง 4. จากภาพ สอ่ื ความหมายว่าอยา่ งไร 9. เคร่อื งดนตรปี ระเภทใด ทส่ี ามารถบรรเลงทานองเพลง ไปพรอ้ มๆ กบั คอรด์ ประสานเสยี งได้ ก. เคร่อื งหมายชารป์ ก. กตี าร์ ข. เครอ่ื งหมายแฟลต ข. ไวโอลนิ ค. เครอ่ื งหมายเนเจอรลั ค. คยี บ์ อรด์ ง. เครอ่ื งหมายดบั เบลิ แฟลต ง. แมนโดลนิ 5. มอี ตั ราจงั หวะเทา่ กบั ตวั โนต้ ใด 10. ใครเป็นผดู้ แู ลรกั ษาเปียโนไดด้ ที ส่ี ุด ก. โอ๋ เอาผา้ คลุมเปียโนหลงั เล่นเสรจ็ ก. ข. ข. นุ่น เอาไมก้ วาดปัดฝ่นุ ละอองออกจากเปียโน ค. กบ๊ิ เอาผา้ ชุบน้าเชด็ เปียโนหลงั จากเล่นเสรจ็ ง. สา ปัดฝ่นุ เปียโนดว้ ยไมข้ นไก่หลงั การเลน่ ทุกครงั้ ค. ง. มฐ. ศ 2.1 ม.4-6/4-5 ไดค้ ะแนน คะแนนเตม็ 10 เฉลย 1. ค 2. ค 3. ข 4. ก 5. ค 6. ง 7. ง 8. ก 9. ค 10. ง
90 แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 5 คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเลือกคาตอบท่ถี ูกต้องท่สี ุดเพยี งข้อเดียว 1. ใครเป็นผดู้ แู ลรกั ษาเปียโนไดด้ ที ส่ี ุด 6. มอี ตั ราจงั หวะเทา่ กบั ตวั โนต้ ใด ก. สา ปัดฝ่นุ เปียโนดว้ ยไมข้ นไก่หลงั การเล่นทุกครงั้ ข. กบ๊ิ เอาผา้ ชุบน้าเชด็ เปียโนหลงั จากเลน่ เสรจ็ ก. ข. ค. นุ่น เอาไมก้ วาดปัดฝ่นุ ละอองออกจากเปียโน ง. โอ๋ เอาผา้ คลมุ เปียโนหลงั เลน่ เสรจ็ ค. ง. 2. เครอ่ื งดนตรปี ระเภทใด ทส่ี ามารถบรรเลงทานองเพลง 7. จากภาพ สอ่ื ความหมายวา่ อย่างไร ไปพรอ้ มๆ กบั คอรด์ ประสานเสยี งได้ ก. แมนโดลนิ ก. เคร่อื งหมายดบั เบลิ แฟลต ข. คยี บ์ อรด์ ค. ไวโอลนิ ข. เครอ่ื งหมายเนเจอรลั ง. กตี าร์ ค. เครอ่ื งหมายแฟลต 3. การอ่านโน้ตแบบ “Sight reading” คอื อะไร ก. การอ่านโน้ตโดยมผี บู้ อกทานองในการบรรเลง ง. เคร่อื งหมายชารป์ ข. การอ่านโน้ตตามผอู้ านวยเพลง (Conductor) ค. การอ่านโน้ตโดยทย่ี งั ไมส่ ามารถบรรเลงได้ 8. จานวน 20 ตวั มคี า่ เทา่ กบั จานวนกต่ี วั ง. การอา่ นและสามารถบรรเลงไดเ้ ลยทนั ที ก. 100 ข. 90 4. เคร่อื งดนตรชี นดิ ใดมวี ธิ กี ารบรรเลงคลา้ ยเปียโน ก. ฮารป์ ซคิ อรด์ ค. 80 ง. 60 ข. คอนทราเบส ค. คาบาซา 9. ขอ้ ใดกลา่ วถูกตอ้ งเกย่ี วกบั สญั ลกั ษณ์ทใ่ี ชใ้ นการบนั ทกึ ง. คอรเ์ น็ต โน้ตสากล 5. อปุ กรณ์ทเ่ี ป็นส่วนประกอบของเปียโนชนดิ ใดมลี กั ษณะ คลา้ ยกบั คอ้ น ก. สญั ลกั ษณ์ดา้ นซา้ ยสุด เรยี กวา่ เคร่อื งหมาย ก. Damper ข. Strings แปลงเสยี ง ค. Action ง. Pedal ข. เสน้ แนวตงั้ 2 เสน้ ดา้ นขวาสดุ เรยี กวา่ เสน้ กนั้ หอ้ ง คู่ ค. สญั ลกั ษณ์รปู วงกลม เรยี กว่า ตวั ขาว ง. เสน้ ตรงแนวตงั้ เรยี กว่า บรรทดั 5 เสน้ 10. ตวั โนต้ ทม่ี คี วามยาวของเสยี งมากทส่ี ดุ คอื ตวั โน้ตตวั ใด ก. โน้ตตวั เขบต็ ข. โน้ตตวั กลม ค. โน้ตตวั ขาว ง. โน้ตตวั ดา มฐ. ศ 2.1 ม.4-6/4-5 ได้คะแนน คะแนนเตม็ 10 เฉลย 1. ก 2. ข 3. ง 4. ก 5. ก 6. ข 7. ง 8. ค 9. ข 10. ข
91 บนั ทกึ หลังการสอน รายวชิ าศลิ ปะ นกั เรยี นชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 5 วิชาดนตรี ครูผูส้ อน นายปฏิภาณ ไชยเทพา เรอื่ ง การปฏบิ ัตดิ นตรสี ากล ด้านความรู้ . ผูเ้ รยี นเกิดกระบวนการทำงานเปน็ กลมุ่ การเสาะแสวงหาความรู้ เทคนิคการต่อเร่ืองราว แลกเปลีย่ นเรยี นรู้ เกิด กระบวนการสร้างความคิดรวบยอด ด้านสมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน 1.สมรรถนะดา้ นการจดั การตัวเอง นักเรียนมีความรบั ผิดชอบในระดับปานกลาง คือใหท้ ำงานยังไมก่ ระตือรือลน้ เท่าไหร่ 2.สมรรถนะดา้ นการสื่อสาร นกั เรียนไดม้ ีส่วนรว่ มในการแสดงความคิดเก่ยี วกับความรูท้ ่ัวไปเก่ียวกับดนตรี พื้นบา้ นของไทยโดยครูสมุ่ ถาม ซง่ึ นกั เรียนไดแ้ สดงความคิดโดยการส่ือสารพดู ในความคิดของนักเรียนเอง 3.สมรรถนะด้านการรวมพลงั ทำงานเปน็ ทีม นกั เรยี นมีการแบง่ หนา้ ทใ่ี นการทำงาน เช่น การแบ่งกลมุ่ สมาชิก และแบง่ ช่อื เรื่องท่จี ะศกึ ษาเองโดยครคู อยชีแ้ นะ เปน็ ตน้ 4.สมรรถนะดา้ นการคิดชั้นสูง นักเรยี นยังมีความรเู้ กี่ยวกับทศั นศิลป์ไมม่ ากพอ และขาดการไตรตรองในการใช้ ความคิดในการตอบ 5.สมรรถนะดา้ นการเป็นพลเมอื งท่ีเขม้ แข็ง นกั เรียนบางส่วนมคี วามรับผิดชอบต่อหน้าท่ีทีไ่ ด้รบั เปน็ อย่างดี ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี ินัย นักเรยี นสว่ นมากมวี นิ ัยในตนเองดี รับผดิ ชอบต่อตนเองดี มีบางสว่ นยังขาดวินัยต่อตนเอง 2. ใฝเ่ รียนรู้ นักเรยี นสบื ค้นหาข้อมูลเองโดยทค่ี รูกำหนดหวั ข้อให้ 3. มุ่งม่ันในการทำงาน นกั เรยี นบางคนมุ่งมนั่ ตัง้ ใจในการทำงานเป็นอยา่ งดี ด้านอ่ืนๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมทมี่ ีปญั หาของนกั เรยี นเปน็ รายบุคคล (ถ้ามี)) ปัญหา/อปุ สรรค เด็กนักเรียนบางคนไม่เขา้ เรยี น นักเรียนชายหลายคนสนใจในเร่ืองอนื่ มากกว่าการเรยี น เชน่ อยากซอ้ มกีฬา คุย กันเสียงดัง แนวทางการแก้ไข คนที่ไมเ่ ขา้ เรยี นครจู ะไมเ่ ชค็ เวลาเรยี นให้ และมีการหักคะแนน และครูตง้ั เง่ือนไขกับนักเรยี น ถา้ ต้ังใจเรยี นจะ ปลอ่ ยเรว็
92 ความเห็นของครูพ่ีเล้ยี ง ข้อเสนอแนะ มกี ารจัดการเรยี นการสอนตามแผนการสอน ทำให้นักเรียนบรรลตุ ามตัวชว้ี ดั ท่ตี ้ังไว้ มคี ำถามทีห่ ลากหลาบ มีการ ประเมนิ ตามตัวชีว้ ดั ใชส้ ื่อไดเ้ หมาะสมกบั การเรียนการสอน . ลงช่ือ . (นางสาวมณีรัตน์ เนียรประดษิ ฐ) ครูพเี่ ล้ยี ง ความเห็นของผู้อำนวยการโรงเรยี น . ขอ้ เสนอแนะ การสอนครอบคลมุ เนื้อหาและตัวช้วี ัดเหน็ ควรใช้ในการสอนนกั เรยี นได้ . . ลงชือ่ . (นายเชิดศักดิ์ เอกปรญิ ญา) ตำแหนง่ ผู้อำนวยการโรงเรียนเหลา่ หลวงประชานสุ รณ์
1
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131