012 wanarat

อาจารย์ธานินทร์ ปัญญาวฒั นากลุ จัดทาโดย วณารตั น์ พงษส์ มบัติ

Contents 01 ความรทู้ วั่ ไปเก่ียวกบั การวิจยั ทาง วิทยาศาสตร์ 02 กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 03 จริยธรรมการวิจยั 04 ส่วนประกอบของงานวิจยั

1ความรู้ทวั่ ไปเกยี่ วกับการ วจิ ัยทางวทิ ยาศาสตร์ .

ความร้ทู วั่ ไปเกีย่ วกบั การวิจยั ทางวิทยาศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ ความรู้เกี่ยวกับส่ิงต่าง ๆ ในธรรมชาติ และ กระบวนการค้นคว้าหาความรู้อย่าง มีขั้นตอน มี ระเบียบแบบแผน โดยมีเหตุผล และหลักฐานท่ี สามารถพสิ จู นต์ ามหลกั วชิ าการได้ ความสาคัญของวทิ ยาศาสตร์ วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ มี บ ท บ า ท ส า คั ญ อ ย่ า ง ยิ่ ง ใ น ก า ร ดารงชวี ติ ของมนษุ ย์ เปน็ กระบวนการสาคัญที่จะทาให้ เกิดวิธีคิด ท้ังความเป็นเหตุผล คิดสร้างสรรค์ คิด วิเคราะหว์ ิจารณ์ มที กั ษะสาคัญในการคน้ หาความรู้

ABOUT ความรู้ท่วั ไปเกีย่ วกบั การ วิจยั ทางวทิ ยาศาสตร์ วจิ ยั วิจัยหมายถึง กระบวนการที่เป็นระบบน่าเช่ือถือ สาหรับใช้เป็น เครื่องมือในการค้นคว้าหาความรู้เกี่ยวกับปรากฎการณ์ต่าง ๆ ท่ี สนใจ วจิ ยั ทางวิทยาศาสตร์ วิจัยทางวิทยาศาสตร์ หมายถึง เป็นการวิจัยท่ีแสวงหาความรู้ เกีย่ วกับปรากฏการณ์ธรรมชาติทัง้ หลาย ทัง้ สิง่ ทม่ี ชี วี ิตและไม่มชี วี ิต

ความสาคัญของการวจิ ัยทางวิทยาศาสตร์ ความร้ทู ัว่ ไป เกี่ยวกับการวจิ ัย ความสาคัญของการวิจัยทางวทิ ยาศาสตรเ์ พอ่ื เพิ่มพนู ความรใู้ หม่ ๆ ทางวทิ ยาศาสตร์ เป็นการแสวงหาความรู้หรือความจริงเพื่อสร้างเป็นกฎทฤษฎีและเพ่ือ นาไปประยุกต์หรือใช้ประโยชน์ในงานต่าง ๆ มีจุดมุ่งหมายในการนา ผลการวิจัยไปใช้ในเชิงปฏบิ ตั โิ ดยตรง

วตั ถุประสงคข์ องการวจิ ยั v 1 2 3 เพ่อื เพิม่ พนู ความรูแ้ ละ เพอ่ื ใชใ้ นการพฒั นา ใหด้ ี เพือ่ นาผลไปประยกุ ตห์ รอื ใช้ให้ ประสบการณใ์ หม่ๆให้ ยง่ิ ขนึ้ ไมใ่ ช่หยุดการพฒั นา เป็นประโยชน์ ปรับปรงุ แกป้ ัญหา กวา้ งขวางและลึกซง้ึ ย่งิ ขน้ึ อย่ทู ่เี ดิม ในด้านต่างๆให้ดีย่งิ ขน้ึ Sci enc e Technol ogy E ngineering A rts Mathem atics

2 กระบวนการทาง วทิ ยาศาสตร์ .

ABOUT กระบวนการทาง วทิ ยาศาสตร์ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ คือ วิธีการและขั้นตอนที่ใช้ ดาเนินการค้นคว้าหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ อย่างมีระบบและมี ประสิทธิภาพ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ วิธีการทาง วิทยาศาสตร์ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และจิต วทิ ยาศาสตร์

? 1.การกาหนดปัญหา เกดิ จากการสงั เกต อาจจะเรม่ิ จาก สง่ิ แวดลอ้ มรอบตวั เรา 2.การต้งั สมมติฐาน ABOUT เปน็ การคดิ หาคาตอบล่วงหน้าอย่างมี เหตผุ ลกอ่ นทาการทดลองโดยต้องอาศยั ระเบียบวิธีทาง การสงั เกตความรแู้ ละประสบการณเ์ ดิม วทิ ยาศาสตร์ 3.การทดลอง เปน็ วิธกี ารตรวจสอบดูวา่ สมมตฐิ าน ถูกตอ้ งหรือไม่ ผวู้ ิจยั จะต้องควบคมุ ปัจจยั ที่มีผลต่อการงานวิจัยหรือมีอทิ ธิพลต่อ การทดลองด้วย ไดแ้ ก่ ตัวแปรต้น ตัวแปร ตาม และตัวแปรควบคมุ

การวิเคราะหข์ ้อมูล ABOUT เป็นข้นั ท่ีนาขอ้ มลู ท่ไี ด้จากการสงั เกต การค้นควา้ หรอื การทดลองมาทาการ ระเบยี บวิธที าง วเิ คราะห์ผลแลว้ นาไปเปรยี บเทยี บกบั วทิ ยาศาสตร์ สมมติฐานท่ีตง้ั ไว้ การสรุปผล การสรปุ ผลเปน็ การนาเอาขอ้ มูลหรือ ข้อเท็จจริงท่ีได้จากการทดลองมา วิเคราะห์ผลและหาความสมั พันธ์ ระหว่างขอ้ มลู หรือขอ้ เทจ็ จริงเพอื่ นามา อธิบายและตรวจสอบดวู า่ สมมติฐานท่ี ตั้งข้ึนถกู ต้องหรือไม่

- การตงั้ คาถาม ABOUT ประกอบด้วย ใครทาอะไร ถกปญั หา ส่ิงเปรยี บเทยี บ ตวั วดั ผล สร้างสรรค์ปญั ญา ทมี่ าของปัญหาและการตง้ั คาถาม - ที่มาของปญั หา ได้แก่ 1. การอ่านเอกสาร 2. อา่ นงานวิจัย 3. ประสบการของผ้วู จิ ัย 4. ข้อโตแ้ ยง้ 5. การวิเคราะห์ แนวโน้ม

ABOUT การตง้ั สมมติฐาน ความจริงกบั สมมตฐิ าน ตวั แปรในการวิจยั - ต้งั สมมติฐานจากการศกึ ษาค้นคว้า ถกปัญหา - สมมตฐิ าน เปน็ การคาดการณ์ - ตวั แปรอิสระ หมายถึงตัว สร้างสรรค์ปัญญา - ใช้ขอ้ ความทีช่ ัดเจน เขา้ ใจง่าย ซึ่งอาจจะเปน็ ไปตามที่คาดการ แปรทเ่ี กิดขน้ึ กอ่ นและเป็นเหตุ สอดคล้องกับจดุ มุ่งหมายของการวจิ ยั ไว้หรอื ไม่ก็ได้ - สามารถอธบิ ายเหตุผลสนับสนุน ให้ผลตามมา - ความจริง จะเป็นสภาพที่เปน็ - ตัวแปรตาม หมายถงึ ตวั แปร สมมติฐานของตนเองได้ อยา่ งน้ัน โดยแนแ่ ท้ไม่ ทเ่ี กิดขึ้นเน่อื งจากตวั แปรอิสระ - ตั้งสมมติฐานในลักษณะทเ่ี ปน็ การ เปล่ยี นแปลง ยอมรบั /การปฏิเสธ

ABOUT การทดลองวิทยาศาสตร์ ความหมาย เป็นการจัดกิจกรรมให้ได้เรียนรู้ความคิดรวบยอดใน เรอ่ื งทเ่ี รียนรดู้ ว้ ยการได้ค้นหาคาตอบ จากการปฏบิ ัติด้วย ตนเองผ่านประสบการณ์ตรง เน้นข้ันตอนการคิด การ ค้นคว้า การทดลอง และการสรุปผล จากการเรียนรู้การ ใชป้ ระสาทสมั ผัสทงั้ ห้า ความสาคญั คือการออกแบบการทดลองเพื่อศึกษาหลักการ ความรู้ หาข้อเท็จจรงิ ทางวทิ ยาศาสตร์

ABOUT การทดลองวิทยาศาสตร์ ขั้นตอนทีด่ ี 1. ตั้งวตั ถุประสงค์ 2. เลือกวิธกี าร 3. เลอื กหนว่ ยทดลอง และกาหนดขนาดการทดลอง 4. เลือกแผนการทดลองท่ีมีประสิทธภิ าพ 5. ดาเนินการทดลอง 6. วิเคราะห์ผลทางสถิติ เหตุใดการทดลองทางวิทยาศาสตร์ มักไม่ใช้ วิธีการ กาหนดประชากร เพราะไม่สามารถกาหนดจานวนได้ชัดเจนและต้อง กาหนดประชากรตัวอยา่ ง

3จรยิ ธรรมการวจิ ยั .

ABOUT จริยธรรมการวิจัย จริยธรรมการวิจยั หมายถงึ หลักเกณฑ์ที่ควรประพฤติปฏิบัติ ของนักวิจัยเพื่อให้การดาเนินงานวิจัยต้ังอยู่บนพื้นฐานของ จริยธรรมและหลักวชิ าการท่เี หมาะสมหลักจริยธรรมการทาวิจัย 1. หลกั ความเคารพในบคุ คล 2. หลักคณุ ประโยชน์ 3. หลักความยตุ ธิ รรม

จริยธรรมการวจิ ยั 1. หลกั ความเคารพในบุคคล (Respect for person) คือการเคารพในศกั ด์ศิ รคี วามเปน็ มนุษยเ์ คารพในการขอความยินยอมโดยให้ ข้อมูลอย่างครบถ้วนปราศจากการข่มขู่หรือบังคับเคารพในการเก็บรักษา ความลบั ของขอ้ มลู ส่วนตัวของอาสาสมคั รและเคารพในความเป็นเปราะบาง 2. หลกั คณุ ประโยชน์ (Beneficence) ต้องมีการประเมินความเส่ียงหรืออันตรายท่ีอาจเกิดจากการวิจัย ได้แก่ อันตรายต่อ รา่ งกายจติ ใจสถานะภาพทางสังคมและทางกฎหมายการประเมินการให้คุณประโยชน์ เช่นประโยชน์ท่ีได้รับโดยตรงประโยชน์ที่ได้จากผลการศึกษาประโยชน์ต่อวงการ วิทยาศาสตร์หรือสังคมหรือประโยชนต์ อ่ ชมุ ชนทีอ่ าสาสมัครอยู่ 3. หลกั ความยตุ ธิ รรม (Justice) เป็นการให้ความเป็นธรรมประเมนิ จากการเลอื กอาสาสมัครการจัดอาสาสมัครเขา้ กล่มุ ศึกษาต้องไมม่ ีอคติไม่เลือกกลมุ่ ตวั อย่างที่หางา่ ยสงั่ งา่ ยคนจนหรือเป็นผู้ด้อยการศกึ ษา

จรยิ ธรรมการใช้ จริยธรรมการใชส้ ตั ว์ใน สตั วใ์ นการทา การทาวิจัย วจิ ยั 1. ผ้ใู ช้สัตว์ ต้องตระหนักคุณค่าของชวี ิต สัตว์ 2. ผูใ้ ช้สัตว์ต้องตระหนกั ถงึ ความแม่นยาของ ผลงาน โดยใช้สตั วจ์ านวนน้อยทีส่ ดุ 3. การใชส้ ัตว์ตอ้ งไม่ขัดตอ่ กฎหมายและ นโยบายการอนุรกั ษ์สัตวป์ ่า 4. ผใู้ ชส้ ัตว์ต้องตระหนกั ว่าสตั วเ์ ปน็ ส่ิงมชี ีวิต เช่นเดียวกับมนษุ ย์ 5. ผใู้ ชส้ ัตว์ต้องบันทึกข้อมูลปฏิบตั ติ อ่ สัตวไ์ ว้ เป็นหลักฐานอย่างครบถ้วน

4ส่วนประกอบของ งานวิจยั .

สว่ นประกอบของ 1. ส่วนนา งานวจิ ัย - ปกนอก - ใบรองปก - หนา้ ปกใน - หนา้ อนุมัติ - บทคดั ยอ่ - กติ ตกิ รรมประกาศ - สารบญั 2. สว่ นเนือ้ เรอ่ื ง 2.1 บทนา - ความเป็นมาและความสาคัญ ของปัญหา - วัตถปุ ระสงค์ - ขอบเขตของการวจิ ัย - สมมตฐิ าน - นยิ ามศัพท์เฉพาะ - ประโยชน์ทไี่ ด้รบั จากการวิจยั

สว่ นประกอบของ 2. ส่วนเนอ้ื เรื่อง งานวจิ ยั 2.2 วรรณกรรมท่ีเกีย่ วข้อง 2.3 วธิ ดี าเนนิ การวจิ ยั - ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง - เคร่อื งมือในการทาวจิ ยั -การเก็บรวบรวมข้อมลู -การวเิ คราะห์ข้อมลู และสถิตทิ ใ่ี ช้ 2.4 ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู 2.5 สรปุ ผลการวิจยั - สรปุ ผลการวจิ ัย - อภิปรายผล - ข้อเสนอแนะ 3. ส่วนทา้ ย - บรรณานกุ รม - ภาพผนวก - ประวตั ผู้วิจัย

อาจารย์ธานินทร์ ปญั ญาวฒั นากลุ ขอขอบคุณอาจารย์อาจารย์ธานินทร์ ปัญญาวัฒนา กุล ที่ท่านได้อบรมสั่งสอนในด้านต่างๆ อาจารย์ เปรียบเสมือนพ่อ ท่ีอยากให้ลูกๆได้ดี อยากให้ลูกเป็น ครูที่เป็นแบบอย่างท่ีดีให้กับนักเรียน สอนให้เป็นคนที่ ชดั เจน ไม่มคี าว่านา่ จะ สอนใหต้ รงตอ่ เวลา สอนใหร้ ู้จัก การทางานเป็นทมี สอนให้แบ่งเวลาและหน้าที่ สอนให้ ดิฉันมีจิตวิญญาณความเป็นครู ไม่ใช่แค่อาชีพครูนา ความรู้ไปต่อยอดและใช้ได้จริง ลูกคนนี้ ขอให้พ่อ สุขภาพแข็งแรงในวัยเกษียณทาสิ่งท่ีพ่อรักเพราะการ ทาอะไรที่พอ่ รกั พอ่ กจ็ ะมคี วามสุข ขอบคุณคะ่

จัดทาโดย ชอื่ -สกลุ นางสาววณารัตน์ พงษ์สมบัติ รหัสนักศึกษา 61003161012 กลุ่มเรียน 6100316101 คณะครศุ าสตร์ สาขาการสอนวทิ ยาศาสตร์ทั่วไป

Thank you .