Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือการจัดกิจกรรมทางกาย เพื่อพัฒนาการเรียนรู้สำหรับเด็ก โดยใช้รูปแบบสนามเด็กเล่นโดยใช้หลักการเรียนรู้ของสมองเป็นฐาน Brain-Based Learning (BBL) Playground for Children

คู่มือการจัดกิจกรรมทางกาย เพื่อพัฒนาการเรียนรู้สำหรับเด็ก โดยใช้รูปแบบสนามเด็กเล่นโดยใช้หลักการเรียนรู้ของสมองเป็นฐาน Brain-Based Learning (BBL) Playground for Children

Published by แชร์งานครู Teachers Sharing, 2020-07-18 16:36:59

Description: คู่มือการจัดกิจกรรมทางกาย เพื่อพัฒนาการเรียนรู้สำหรับเด็ก โดยใช้รูปแบบสนามเด็กเล่นโดยใช้หลักการเรียนรู้ของสมองเป็นฐาน Brain-Based Learning (BBL) Playground for Children

Keywords: คู่มือการจัดกิจกรรมทางกาย,รูปแบบสนามเด็กเล่นโดยใช้หลักการเรียนรู้ของสมองเป็นฐาน

Search

Read the Text Version

คมู่ ือการจดั กิจกรรมทางกาย เพ่ือพัฒนาการเรียนรสู้ ําหรบั เดก็ โดยใช้รปู แบบ “สนามเดก็ เลน่ โดยใช้หลกั การเรียนรขู้ องสมองเปน็ ฐาน” Brain-Based Learning (BBL) Playground for Children อ.ดร.ชติ นิ ทรยี ์ บุญมา และคณะ สนบั สนนุ โดย สาํ นกั งานกองทนุ สนบั สนุนการสรา้ งเสริมสขุ ภาพ 1

คํานาํ กจิ กรรมทางกาย (Physical Activity : PA) เปน็ สงิ่ จําเปน็ สาํ หรบั มนุษยท์ ุกเพศทุกวยั เนื่องจากเป็นกจิ กรรมเพอ่ื สุขภาพและ เพอ่ื สง่ เสรมิ พฒั นาการโดยเฉพาะเดก็ ปฐมวยั ทง้ั นเ้ี พราะเดก็ จะเกดิ การเรยี นรจู้ ากการเลน่ โดยอาศยั กจิ กรรมการเคลอ่ื นไหวรา่ งกาย การเลอื กกจิ กรรมการเคลอื่ นไหวรา่ งกายเพื่อเปน็ สอื่ ในการพัฒนาทางดา้ นร่างกาย จติ ใจ อารมณ์ สังคม ตลอดจนสติปญั ญาของเดก็ อยา่ งเหมาะสมน้ัน ต้องคํานงึ ถงึ พฒั นาการของเด็กในช่วงวยั ต่างๆ และต้องมคี วามนา่ สนใจ ตลอดจนมคี วามปลอดภัย และประหยัด ผวู้ จิ ัยไดน้ ําแนวคดิ การสร้างสนามเดก็ เลน่ เพ่อื สง่ เสรมิ พัฒนาการเดก็ ทีส่ อดคลอ้ งกบั บรบิ ทสงั คมไทย ด้วยการนาํ ทรพั ยากรทอ้ งถ่นิ มาประยกุ ตใ์ ช้อยา่ งเหมาะสม โดยนอ้ มนําแนวทางปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงส่สู ถานศกึ ษา และหลกั การเรยี นรู้ ของสมองเปน็ ฐาน (Brain-Based Learning : BBL) มาเป็นพื้นฐานในการออกแบบ ผ้วู จิ ยั หวงั เป็นอย่างย่ิงว่า “สนามเด็กเลน่ โดยใชห้ ลักการเรยี นรขู้ องสมองเป็นฐาน” (BBL- Playground) จะเปน็ เครื่องมือสําคัญในการพฒั นาการเรียนรูข้ องเดก็ ไทยต่อไป ผจู้ ดั ทำ� 2

สารบญั หน้า 4 6 กจิ กรรมทางกายเพอื่ พฒั นาการเรยี นร้สู ําหรบั เดก็ 7 สนามเดก็ เล่นโดยใชห้ ลักการเรยี นรขู้ องสมองเปน็ ฐาน (BBL- Playground) 10 วธิ กิี ารสรา้ งสนามเด็กเลน่ โดยใชห้ ลกั การเรียนรขู้ องสมองเปน็ ฐาน 12 สนามเด็กเล่นโดยใช้หลกั การเรียนรู้ของสมองเป็นฐาน 10 ฐาน 13 ฐานที่ 1 ล้อเลน่ กล 14 ฐานท่ี 2 มนษุ ยแ์ มงมมุ 1 15 ฐานท่ี 3 มนุษยล์ ่องหน 16 ฐานที่ 4 เดนิ อากาศ 17 ฐานท่ี 5 มนุษยแม์ งมมุ 2 18 ฐานที่ 6 หลุมอากาศ 19 ฐานท่ี 7 มนุษย์แมงมุม 3 20 ฐานที่ 8 ว่ิงซกิ แซก 21 ฐานท่ี 9 มนุษยก์ บ 22 ฐานท่ี 10 ตน้ ไมห้ รรษา 34 ภาคผนวก คณะทาํ งาน 3

กิจกรรมทางกายเพื่อพฒั นาการเรียนร้สู ําหรบั เด็ก จากแนวคิดการสร้างเสรมิ สขุ ภาพตลอดชว่ งชีวติ (Life-Course Approach) ซึ่ง เปน็ แนวคดิ สากล มีหลักการบนพนื้ ฐานความจริงทว่ี า่ ต้งั แต่ปฏสิ นธใิ นครรภม์ ารดา จน เกิดมาเปน็ ทารกและเจริญเตบิ โตขน้ึ เป็นเดก็ วยั รุน่ วัยทาํ งาน ไปจนถึงวยั สูงอายุ ทกุ คน ควรมสี ทิ ธแิ ละมโี อกาสทจ่ี ะมสี ขุ ภาพดี พอทจ่ี ะดาํ รงชวี ติ อยไู่ ดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ ตามสมควร ในสังคม การสรา้ งเสริมสขุ ภาพตลอดช่วงชีวิต สําหรับบุคคลทกุ กลุม่ วัย ดว้ ยการสร้าง โอกาสใหท้ ุกคนสามารถทํากจิ กรรมทางกายอยา่ งเหมาะสมกบั วยั ในรปู แบบตา่ งๆ ทงั้ ใน ชวี ติ ประจาํ วัน (Daily Life) ชวี ิตการทํางาน (Work Life) และชวี ิตยามวา่ ง (Leisure Life) จงึ เปน็ ความจาํ เปน็ เพอ่ื การสรา้ งความมน่ั คงดา้ นสขุ ภาพสาํ หรบั ประชากรไทย โดยเฉพาะ ในวัยแรกเกิดถึง 5 ปี ซึ่งเป็นช่วงวัยที่อยู่ระหว่างการมีพัฒนาการทางกลไก การเคลอ่ื นไหว (Motor Development) กจิ กรรมทางกายทเ่ี หมาะสมในชว่ งวยั นจ้ี งึ ตอ้ ง เปน็ กจิ กรรมทไ่ี ดร้ บั การออกแบบใหส้ ง่ เสรมิ พฒั นาการดา้ นการเคลอ่ื นไหวพน้ื ฐาน (Fundamental Movement) ของเด็กเล็ก ได้แก่ กิจกรรมการเดิน การทรงตัว การวิ่ง กระโดด ปีนป่าย ขว้างปา ฯลฯ ทัง้ นี้การใชร้ ่างกายเปน็ สอื่ ในการประกอบกจิ กรรมตา่ งๆ ของเด็ก มผี ลตอ่ พฒั นาการของระบบกล้ามเนอื้ โครงรา่ ง พฒั นาการเคลือ่ นไหว รวมท้งั พฒั นาการประสานสมั พันธข์ องระบบอวัยวะตา่ งๆ ทช่ี ่วยในการทรงตวั ขณะเคลือ่ นไหว ไปตามอุปกรณ์ทอี่ อกแบบไว้ ทาํ ให้เดก็ เกดิ เรยี นรูใ้ นความสามารถของตน สร้างความ มัน่ ใจและความรจู้ กั ตนเอง (Self Esteem) ซึง่ จะสง่ ผลต่อพัฒนาการด้านบุคลกิ ภาพของ ตวั เด็กเองในอนาคต 4

การพฒั นาสมองของเด็ก จึงควรใช้กิจกรรมการเคลอ่ื นไหว เป็นเครื่องกระต้นุ โดยสมองจะสั่งการใหอ้ วยั วะรับรู้สภาพแวดลอ้ ม ขณะทาํ การเคลอ่ื นไหว ซึง่ จะสง่ ผลต่อการพัฒนาความสามารถ ในดา้ นการรบั ขอ้ มูลจากการทํากจิ กรรมไปด้วยพรอ้ มๆ กัน และ ยังรวมไปถึงการช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ของระบบประสาทสัมผสั และกล้ามเนอ้ื ตลอดจนการรบั รู้ความรสู้ ึกต่างๆ ของเดก็ 5

สนามเดก็ เลน่ โดยใช้หลักการเรยี นรูข้ องสมองเป็นฐาน (BBL-Playground ) 1) สมองเปน็ กระบวนการค่ขู นาน หลักการเรยี นรู้ของสมองเปน็ ฐาน (Brain-Based Learning : BBL) คอื 2) สมองกับการเรยี นรู้ การใหค้ วามรู้ความเข้าใจท่เี ก่ยี วข้องกับสมอง เปน็ เครื่องมือในการออกแบบกระบวนการ 3) การเรียนรมู้ ีมาแต่กําเนิด เรียนร้แู ละกระบวนการอื่นๆ ท่ีเกย่ี วขอ้ ง เพอื่ สรา้ งศกั ยภาพสูงสุดในการเรียนรขู้ องมนษุ ย์ 4) รูปแบบการเรยี นรูข้ องบุคคล โดยเชื่อวา่ โอกาสทองของการเรยี นรูอ้ ยู่ระหวา่ งแรกเกิด-10 ปี (Regate และ Geoffrey 5) ความสนใจมคี วามสําคัญต่อการเรยี นรู้ Caine, 1999) 6) สมองมีหน้าทส่ี รา้ งกระบวนการเรยี นรู้ กระบวนการเรยี นรู้ที่จะชว่ ยสรา้ งเสริมพฒั นาการการเรยี นรขู้ องสมอง 7) การเรียนรู้ในส่ิงทส่ี นใจสามารถรับรไู้ ด้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ ไดเ้ ป็นอย่างดแี ละมีคุณภาพสาํ หรับเด็ก คอื การจัดการเรียนการสอนที่มุง่ เนน้ ให้เดก็ 8) การเรยี นรู้เกิดขึ้นไดท้ ง้ั แบบทม่ี ีจดุ ม่งุ หมายและไมไ่ ดต้ ั้งใจ ได้มสี ่วนร่วมในการจัดและทาํ กิจกรรม รวมทงั้ เปิดโอกาสใหเ้ ดก็ ได้เรยี นร้ทู ้ังในและนอก 9) การเรียนรทู้ เ่ี กิดจากกระบวนการสรา้ งความเข้าใจ ห้องเรียน ด้วยการจดั ประสบการณ์ กิจกรรม และสภาพแวดล้อม ใหเ้ กดิ ประสบการณ์ 10) การเรียนรูเ้ กดิ จากการมปี ฏิสัมพันธ์กบั ผ้อู น่ื ใหมๆ่ เพอ่ื เปน็ เงอ่ื นไขในการกระตนุ้ พฒั นาการของเดก็ ใหม้ ที กั ษะในการคดิ และการเรยี นรู้ 11) สง่ เสรมิ ให้ผเู้ รยี นเผชญิ กับสถานการณ์ทก่ี ระต้นุ ใหเ้ กดิ การเรียนรู้ อยา่ งมเี หตผุ ลตามวตั ถปุ ระสงคแ์ ละเปา้ หมายทต่ี อ้ งการ โดยมีความสัมพนั ธส์ อดคลอ้ ง 12) สมองของบคุ คลมีความเทา่ เทยี มกนั กลมกลืนกับความเป็นธรรมชาติและพัฒนาการทางดา้ นรา่ งกาย จติ ใจ อารมณ์ สังคม ดงั นัน้ หลักการเรยี นรขู้ องสมองเป็นฐาน (Brain-Based Learning : BBL) และสติปญั ญาของเด็กในแตล่ ะวัย จึงมีประโยชน์ต่อการสง่ เสริมพฒั นาการของเด็กในทุกๆ ดา้ น โดยเฉพาะ พฒั นาการทางรา่ งกาย และกระตนุ้ กระบวนการเรียนรขู้ องสมอง การเรยี นร้โู ดยใช้สมองเป็นฐาน (Brain-Based Learning : BBL) คอื การจัด การเรียนรูท้ ี่สอดคลอ้ งกับพฒั นาการของสมองแตล่ ะชว่ งวัย โดยได้เสนอหลักการเกยี่ วกบั การจดั การเรียนรู้ 12 ขอ้ ดงั ต่อไปนี้ 6

วธิ สี ร้างสนามเดก็ เล่นโดยใชห้ ลักการเรียนรขู้ องสมองเปน็ ฐาน (Brain-Based Learning: BBL Playground for Children) การเตรยี ม แบง่ ออกเปน็ 2 ข้ันตอน ดงั นี้ 1.การปรับพ้ืนที่ เพ่ือเตรียมสร้างสนามเด็กเลน่ โดยใชห้ ลกั การเรียนรู้ ของสมองเป็นฐาน โดยให้มขี นาดพ้ืนที่กว้างและยาว ดังนี้ 1) สนามสําหรับเดก็ 3-5 ปี ควรใช้พนื้ ที่ขนาด 8 x 15 เมตร หรอื สามารถปรบั ลด-เพิ่มขนาด ใหเ้ หมาะสมตามพ้ืนทขี่ องโรงเรียน 2) สนามสําหรับเดก็ 6-8 ปี ควรใชพ้ ืน้ ที่ขนาด 10 x 20 เมตร หรือ สามารถปรับลด-เพิ่มขนาด ให้เหมาะสมตามพน้ื ท่ีของโรงเรยี น 7

2.เตรียมอุปกรณ์ 3) ไม้ไผ่ ในการก่อสร้างสนามเดก็ เล่นโดยใชห้ ลกั การ (ศกึ ษารายละเอยี ดเพิ่มเติมจากภาคผนวก หน้า 22) เรยี นร้ขู องสมองเปน็ ฐาน ประกอบด้วย ตัดไม้ไผ่ตามขนาดทต่ี อ้ งการ และทาํ ความสะอาด 1) ยางรถยนต์ ไมไ้ ผ่ โดยใช้กระดาษทรายขดั ทําความสะอาด เพอื่ -สนามสาํ หรบั เดก็ 3-5 ปี ใชย้ างขนาดเสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลาง ไมใ่ หเ้ ป็นอันตรายต่อเด็ก 50-60 เซนติเมตร จาํ นวน 30 เส้น -สนามสาํ หรบั เดก็ 6-8 ปี ใชย้ างขนาดเสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลาง 2) ยางนอกรถจักรยานยนต์ 60-80 เซนติเมตร จํานวน 50 เส้น ใช้ยางขนาดเสน้ ผ่าศูนยก์ ลาง 45-51 เซนตเิ มตร จาํ นวน 15 เสน้ ขั้นตอนในการทาํ ความสะอาดยางรถ ให้ทาํ ความสะอาดยางรถโดยใชผ้ งซกั ฟอกและ แปรงขดั ทาํ ความสะอาดเอาส่งิ สกปรกออก ลา้ งออกด้วยนาํ้ สะอาดและควรผง่ึ ยางใหแ้ ห้ง เพอื่ ทีจ่ ะทาํ ให้การทาสี สีติดง่าย ทนนาน 4) เชือกผ้า ขนาดเสน้ ผา่ ศูนยก์ ลาง 3 เซนติเมตร ยาว 3 เมตร จํานวน 5 เสน้ และเชอื กขนาดเสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลาง 1 เซนติเมตร ยาว 1 เมตร จํานวน 10 เสน้ 8

6) สนี ้าํ มัน 8) แปรงทาสี 10 กระป๋อง (ใชส้ ีตามต้องการ ขนาด 4 น้วิ จํานวน 10 อนั ควรเป็นสีท่ดี ึงดดู ความสนใจ) และแปรงลวดทองเหลือง เพือ่ ทาํ ความสะอาดยาง ก่อนทาสี 9) ทรายหยาบ จํานวน 30-40 คิว ใช้สําหรบั ผสมปนู เพอื่ ยดึ ยางและ ปูพน้ื สนาม (ขึ้นอย่กู ับขนาดพื้นท่สี นาม โดยพนื้ สนาม จะต้องปทู รายให้ทัว่ สนาม โดยให้มี ความหนาอยา่ งนอ้ ย 10-12 นวิ้ ) 5) ปนู ซเี มนต์ จํานวน 10-20 ถงุ ข้นึ อยู่กบั ขนาดสนาม 7) นาํ้ มนั สน จํานวน 1 ป๊ีบ สําหรบั ผสมกบั สีไม่ใหข้ น้ จนเกินไป และใช้ สาํ หรบั ล้างทาํ ความสะอาดแปรงทาสี ควรระมดั ระวัง ในการใช้เนือ่ งจากอาจจะเป็นอันตรายต่อระบบการหายใจ 9

สนามเดก็ เล่น โดยใชห้ ลกั การเรยี นรขู้ องสมองเปน็ ฐาน 10 ฐาน 10

1 6 5 49 10 7 8 32 11

ฐานท่ี 1 ล้อเล่นกล วัตถุประสงค์ 1.เพ่ือจดั ทําเปน็ แนวขอบเขตของสนาม 2.เป็นการฝึกสมรรถภาพทางกายดา้ นการทรงตัว (Balance) 3.เปน็ การฝึกคดิ วิเคราะห์และคดิ แก้ปัญหา อปุ กรณ์ ยางรถยนต์ -สนามสาํ หรบั เดก็ 3-5 ปี ใชย้ างขนาดเสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลาง 50-60 เซนติเมตร จาํ นวน 30 เสน้ -สนามสาํ หรบั เดก็ 6-8 ปี ใชย้ างขนาดเสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลาง 60-80 เซนติเมตร จาํ นวน 50 เสน้ ขน้ั ตอนการสร้าง 1.สนามสาํ หรับเดก็ 3-5 ปี และ สนามสาํ หรับเด็ก 6-8 ปี ให้ขุดหลมุ มขี นาดความกวา้ ง ความยาว ความลึก ทส่ี ามารถฝงั ยดึ ยางใหม้ นั่ คง 2.ใชด้ ินถมหลุมขอบด้านนอกและใช้ปูนซเี มนต์เททบั โดยรอบ ความหนา 10-15 เซนตเิ มตร (ศึกษารายละเอยี ดเพ่ิมเติมจากภาคผนวก หน้า 24) *หมายเหตุ การวางตําแหน่งของยางทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกับ ความสูงตํา่ สามารถปรบั ได้ตามความเหมาะสม 12

ฐานท่ี 2 มนษุ ยแ์ มงมมุ 1 ขอ้ ควรระวัง 1.ใหร้ ะมดั ระวงั เร่อื งความแขง็ แรงของโครงสรา้ ง วตั ถุประสงค์ 2.ใหร้ ะวงั อนั ตรายท่ีอาจเกดิ จากผวิ ไม้ไผแ่ ละตะปู 1. เพ่ือเปน็ การฝึกการปีนปา่ ย หรอื อปุ กรณ์ตอกยดึ 2. เป็นการฝกึ สมรรถภาพทางกายดา้ น ความแข็งแรงของกล้ามเนอ้ื แขนและขา (Arms and Legs Muscle Strength) 3. เปน็ การฝึกคิดวเิ คราะห์ คิดแก้ปัญหาและ การสรา้ งความเช่อื มน่ั อุปกรณ์ 1.ไม้ไผ่ ขนาดตา่ งๆ 2.หญา้ คา/ ใบจาก/ ใบตองตึง เพื่อใชท้ าํ เป็น หลังคา หรือ อาจใชว้ สั ดุจากท้องถ่ิน ขน้ั ตอนการสรา้ ง สร้างบา้ นจําลองด้วยไมไ้ ผต่ ามภาพประกอบ ซ่งึ มี ขนาดความกวา้ ง ความยาว ความสงู สําหรับเด็ก อายุ 3-5 ปี ขนาด 1.2 x 1.2 x 2.2 เมตร และ สาํ หรบั เดก็ อายุ 6-8 ปี ขนาด 2 x 2 x 3 เมตร โดยมีบนั ไดขน้ึ ลง 2 ทาง (ศกึ ษารายละเอียด เพมิ่ เตมิ จากภาคผนวก หนา้ 25) *หมายเหตุ ขนาดความกวา้ ง ความยาว ความสงู สามารถ ปรบั ไดต้ ามความเหมาะสม ขน้ึ อยกู่ ับขนาดพ้ืนท่ี และจาํ นวน นกั เรยี น 13

ขอ้ ควรระวัง ฐานที่ 3 มนษุ ย์ลอ่ งหน เพอื่ ความปลอดภัย ก่อนการเล่นทุกครง้ั ครูควรสํารวจ วา่ มีสตั ว์ที่เปน็ อนั ตรายอยู่ภายในยางหรือไม่ วตั ถปุ ระสงค์ 1.เพอ่ื เป็นการฝึกความกล้าหาญและการตัดสนิ ใจ การสร้างความเชื่อมนั่ 2.เป็นการฝกึ สมรรถภาพทางกายดา้ นความออ่ นตวั และความแขง็ แรงของแขนและขา (Flexibility, Arms and Legs Muscle Endurance) 3.เป็นการฝึกคดิ วิเคราะหแ์ ละคิดแก้ปัญหา อุปกรณ์ ยางรถยนต์ -สนามสาํ หรบั เดก็ 3-5 ปี ใชย้ างขนาดเสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลาง 50-60 เซนตเิ มตร จาํ นวน 5 เสน้ -สนามสาํ หรบั เดก็ 6-8 ปี ใชย้ างขนาดเสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลาง 120-150 เซนติเมตร จาํ นวน 5 เสน้ ข้นั ตอนการสรา้ ง 1.สนามสําหรบั เดก็ 3-5 ปีและสนามสาํ หรับเดก็ 6-8 ปี ให้ขดุ หลมุ มขี นาดความกวา้ ง ความยาว ความลึก ท่ี สามารถฝังยึดยางใหม้ ่นั คง 2.ใชด้ ินถมหลมุ ขอบด้านนอกและใชป้ ูนซเี มนต์เททบั โดยรอบ ความหนา 15 เซนตเิ มตร 3.ด้านในอโุ มงคใ์ ห้ใช้ปนู ซีเมนตเ์ ทพ้ืน พรอ้ มขัดผวิ พ้นื ให้มัน ขนาดความกว้างตามพื้นทข่ี นาดวงในขอบยาง (ศกึ ษารายละเอยี ดเพม่ิ เตมิ จากภาคผนวก หน้า 26) 14

ฐานที่ 4 เดนิ อากาศ ขอ้ ควรระวัง 1.ให้ระมัดระวงั เรอื่ งความแขง็ แรงของโครงสร้าง วตั ถุประสงค์ 2.ให้ระมดั ระวงั อนั ตรายทีอ่ าจเกดิ จากผิวไมไ้ ผ่ 1.เพอ่ื เปน็ การฝกึ ความกล้าหาญ การตดั สินใจ และตะปู หรือ อุปกรณต์ อกยึด และการสรา้ งความเช่อื มนั่ 2.เป็นการฝกึ สมรรถภาพทางการทรงตัว (Balance) 3.เป็นการฝึกคดิ วิเคราะห์และคดิ แกป้ ญั หา อุปกรณ์ 1.ไม้ไผ่ ขนาดเส้นผ่าศนู ย์กลาง 2-4 นวิ้ ขนั้ ตอนการสรา้ ง 1.ประกอบไม้ไผ่ ดงั ภาพ ให้เป็นราวสําหรบั เดนิ ซงึ่ มขี นาดความสูงและความยาว แตกต่างกนั ตามกลุ่มอายุ (ศกึ ษารายละเอยี ด เพิม่ เติมจากภาคผนวก หน้า 27) 15

ฐานท่ี 5 มนษุ ย์แมงมมุ 2 วตั ถปุ ระสงค์ 1.เพอ่ื เปน็ การฝกึ ความกลา้ หาญ การตดั สนิ ใจและ การสร้างความเชื่อมั่น 2.เปน็ การฝกึ สมรรถภาพทางกายดา้ นความแขง็ แรง และความอดทนของกลา้ มเนือ้ แขน (Arms Muscle Strength, Arms Muscle Endurance) 3.เปน็ การฝกึ คิดวิเคราะห์และคดิ แกป้ ญั หา อปุ กรณ์ 1.ไม้ไผ่ ขนาดเสน้ ผ่าศนู ยก์ ลาง 2-4 น้วิ ข้นั ตอนการสร้าง 1.ประกอบไม้ไผ่ ดงั ภาพ ให้เป็นราวสําหรบั หอ้ ยโหน ซ่งึ มีขนาดความสงู และความยาว แตกตา่ งกันตามกลุม่ อายุ (ศึกษารายละเอียด เพิ่มเตมิ จากภาคผนวก หนา้ 28) ขอ้ ควรระวัง 1.ให้ระมัดระวงั เร่อื งความแข็งแรงของโครงสร้าง 2.ใหร้ ะมัดระวังอันตรายที่อาจเกดิ จากผิวไมไ้ ผ่ และตะปู หรือ อุปกรณต์ ดิ ยดึ ไมไ้ ผ่ 16

ฐานที่ 6 หลุมอากาศ วตั ถุประสงค์ 1.เพื่อเป็นการฝึกความกล้าหาญ การตัดสินใจ และการสรา้ งความเช่อื มน่ั 2.เปน็ การฝกึ สมรรถภาพทางกายดา้ นความแข็งแรง ความอดทนของกลา้ มเน้อื ขา และการทรงตัว (Legs Muscle Strength, Muscle Endurance, Balance) 3.เป็นการฝกึ คดิ วิเคราะหแ์ ละคดิ แก้ปญั หา อุปกรณ์ 1.ไม้ไผ่ ขนาดเส้นผา่ ศูนยก์ ลาง 4.5 นวิ้ ขนั้ ตอนการสร้าง 1.ประกอบไม้ไผ่ ดงั ภาพ ให้เป็นฐานสําหรบั ก้าวเดินทรงตวั ซง่ึ มขี นาดความสงู ต่าํ แตกตา่ งกนั ตามกลุ่มอายุ (ศกึ ษารายละเอียดเพมิ่ เตมิ จาก ภาคผนวก หนา้ 29) ขอ้ ควรระวงั 1.ใหร้ ะมดั ระวังเร่ืองความแข็งแรงของโครงสรา้ ง 2.ใหร้ ะวังอนั ตรายท่ีอาจเกิดจากผวิ ไมไ้ ผแ่ ละตะปู หรือ อุปกรณต์ ดิ ยดึ ไม้ไผ่ 17

ฐานที่ 7 มนุษย์แมงมมุ 3 วัตถุประสงค์ 1.เพอ่ื เปน็ การฝกึ ความกลา้ หาญ การตดั สนิ ใจ และการสรา้ งความเชอ่ื มน่ั 2.เปน็ การฝกึ สมรรถภาพทางกายดา้ นความ แขง็ แรงของกลา้ มเนอ้ื แขนและขา หนา้ ทอ้ งและ ความออ่ นตวั การทรงตวั (Arms Legs and Abdominal Muscle Strength, Flexibility, Balance) 3.เปน็ การฝกึ คดิ วเิ คราะหแ์ ละคดิ แกป้ ญั หา อุปกรณ์ 1.ไมไ้ ผ่ ขนาดเสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลาง 2-4 นว้ิ ขน้ั ตอนการสร้าง 1.ประกอบไมไ้ ผ่ ดงั ภาพ ใหเ้ ปน็ บนั ไดสาํ หรบั ปนี ปา่ ยขน้ึ ลง ซง่ึ มขี นาดแตกตา่ งกนั ตาม กลมุ่ อายุ (ศกึ ษารายละเอยี ดเพม่ิ เตมิ จาก ภาคผนวก หนา้ 30) ข้อควรระวงั 1.ใหร้ ะมดั ระวงั เรอ่ื งความแขง็ แรงของโครงสรา้ ง 2.ใหร้ ะวงั อนั ตรายทอ่ี าจเกดิ จากผวิ ไมไ้ ผแ่ ละ ตะปู หรอื อปุ กรณต์ ดิ ยดึ ไมไ้ ผ่ 18

ฐานที่ 8 ว่งิ ซิกแซก วตั ถปุ ระสงค์ 1.เพอ่ื เปน็ การฝกึ ความกลา้ หาญ การตดั สนิ ใจและ การสรา้ งความเชอ่ื มน่ั 2.เปน็ การฝกึ สมรรถภาพทางกายดา้ นความแขง็ แรง ของกลา้ มเนอ้ื ขา และความแคลว่ คลอ่ งวอ่ งไว การทรงตวั (Muscle Strength Arms and Legs,Agility, Balance) 3.เปน็ การฝกึ คดิ วเิ คราะหแ์ ละคดิ แกป้ ญั หา อปุ กรณ์ 1.ไมไ้ ผ่ ขนาดเสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลาง 4.5 นว้ิ ข้ันตอนการสร้าง 1.ใหข้ ดุ หลมุ ฝงั ยดึ ไมไ้ ผแ่ ละเทปนู ซเี มนตท์ บั เพอ่ื ความ แขง็ แรง ดงั ภาพ ใหเ้ ปน็ แนวเสน้ ตรง หรอื สลบั ฟนั ปลา สาํ หรบั วง่ิ สลบั ฟนั ปลา หรอื วง่ิ ซกิ แซก ซง่ึ การจดั วางจดุ มขี นาดระยะหา่ งแตกตา่ งกนั ตามกลมุ่ อายุ (ศกึ ษา รายละเอยี ดเพม่ิ เตมิ จากภาคผนวก หนา้ 31) ข้อควรระวัง 1.ใหร้ ะมดั ระวงั เรอ่ื งความแขง็ แรงของโครงสรา้ ง 2.ใหร้ ะวงั อนั ตรายทอ่ี าจเกดิ จากผวิ ไมไ้ ผแ่ ละตะปู หรอื อปุ กรณต์ ดิ ยดึ ไมไ้ ผ่ 19

ฐานท่ี 9 มนษุ ยก์ บ วัตถปุ ระสงค์ 1.เพอ่ื เปน็ การฝกึ ความกลา้ หาญและการตดั สนิ ใจ การสรา้ งความเชอ่ื มน่ั 2.เปน็ การฝกึ สมรรถภาพทางกายดา้ นความแขง็ แรง และกาํ ลงั ของขาและแขน การทรงตวั ความแมน่ ยาํ (Arms and Legs Muscle Strength, Balance, Accuracy) 3.เปน็ การฝกึ คดิ วเิ คราะหแ์ ละคดิ แกป้ ญั หา อุปกรณ์ ยางรถจกั รยานยนต์ -สนามสาํ หรบั เดก็ 3-5 ปี และสนามสาํ หรบั เดก็ 6-8 ปี ใชย้ างขนาดเสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลาง 45-50 เซนตเิ มตร จาํ นวน 8-10 เสน้ ขน้ั ตอนการสรา้ ง 1.นาํ ยางมาจดั วางเรยี งกนั เปน็ รปู วงกลม/ กากบาท/ เสน้ ตรง หรอื สามารถจดั เรยี งตามตอ้ งการ ดงั ภาพ ใหเ้ ปน็ ชอ่ งสาํ หรบั กระโดดขา้ ม (ศกึ ษารายละเอยี ด เพม่ิ เตมิ จากภาคผนวก หนา้ 32) 20

ฐานที่ 10 ตน้ ไม้หรรษา วตั ถุประสงค์ 1.เพอ่ื เปน็ การฝกึ ความกลา้ หาญและการตดั สนิ ใจ การสรา้ งความเชอ่ื มน่ั 2.เปน็ การฝกึ สมรรถภาพทางกายดา้ นความแขง็ แรง กลา้ มเนอ้ื แขนและการทรงตวั (Arms and Legs Muscle Strength, Balance) 3.เปน็ การฝกึ คดิ วเิ คราะหแ์ ละคดิ แกป้ ญั หา อุปกรณ์ ยางรถจกั รยานยนต์ สนามสาํ หรบั เดก็ 3-5 ปี และสนามสาํ หรบั เดก็ 6-8 ปี ใช้ยางขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 45-50 เซนติเมตร จาํ นวน 5 เส้น หรอื ขนึ้ กับขนาดของพืน้ ท่ีผกู ยึด ขนั้ ตอนการสร้าง 1.นาํ ยางมาผกู เชอื กและผกู ยดึ กบั ตน้ ไม้ หรอื สง่ิ ปลกู สรา้ ง ทม่ี น่ั คง แขง็ แรง สามารถรบั นา้ํ หนกั โดยจดั วางระยะแขวน ใหห้ า่ งกนั ตามสมควร และไมแ่ กวง่ ชนกนั ขณะเลน่ ดงั ภาพ ใชส้ าํ หรบั หอ้ ยโหน (ศกึ ษารายละเอยี ดเพม่ิ เตมิ จาก ภาคผนวก หนา้ 33) ข้อควรระวงั 1.ใหร้ ะมดั ระวงั เรอ่ื งความแขง็ แรงของโครงสรา้ งทใ่ี ช้ เชอื กและยางยดึ 2.ใหร้ ะมดั ระวงั อนั ตรายจากการแกวง่ ชนกนั ขณะเลน่ 21

ภาคผนวก 22

รายละเอยี ดการก่อสร้างสนามเดก็ เลน่ โดยใช้หลกั การเรียนรู้ของสมองเป็นฐาน 23

ฐานที่ 1 ลอ้ เล่นกล 1.วดั ความกว้างยาวของพื้นท่ีสนามทตี่ ้องการ 2.ขดุ ร่อง เพอื่ ทาํ การฝงั ยางโดยร่องจะมขี นาด ความกวา้ งและลึกประมาณ 30 เซนตเิ มตร (สามารถปรับตามความเหมาะสม) 3.นํายางขนาดต่างๆ วางเรยี งเปน็ แนวเสน้ ตรง สงู ตามความเหมาะสมของกลุม่ วัย คอื กลมุ่ อายุ 3-5 ปี ควรใช้ความสงู 15 / 20 / 25 / 30 เซนตเิ มตร กลุ่มอายุ 6-8 ปี ควรใชค้ วามสงู 20 / 25 / 30 / 35 เซนตเิ มตร โดยจดั ระดบั ความสูงต่าํ ตา่ งกัน และ กลบดินและอัดดนิ ให้แน่น 4.เทซเี มนตป์ ดิ ทบั หน้าดนิ ที่ฝงั กลบมคี วามหนา ประมาณ 10-15 เซนติเมตร 5) ทาสนี ํ้ามนั ตามต้องการ รอใหส้ แี ห้ง พรอ้ มใช้งาน 24

ฐานที่ 2 มนษุ ยแ์ มงมมุ 1 1. สร้างบ้านจาํ ลองดว้ ยไม้ไผ่ ขนาดเสน้ ผ่าศูนย์กลาง 2-5 นิ้ว ตามภาพประกอบ ซ่งึ ขนาดบา้ นจาํ ลองมี ความกวา้ ง ความยาว ความสงู สําหรับเด็กอายุ 3-5 ปี ขนาด 1.2 x 1.2 x 2.2 เมตร และสาํ หรบั เดก็ อายุ 6-8 ปี ขนาด 2 x 2 x 3 เมตร 2. สร้างบันไดข้ึนลง 2 ทาง จาํ นวน 4-5 ขน้ั *หมายเหตุ ขนาดความกว้าง ความยาว ความสงู สามารถปรับได้ ตามความเหมาะสม ขึน้ อยู่กบั ขนาดพ้นื ทีแ่ ละจํานวนนกั เรียน 3. ทาสนี ํา้ มันตามต้องการ รอให้สีแห้งพรอ้ มใชง้ าน ข้อควรระวัง 1.ใหร้ ะมัดระวงั เร่ืองความแขง็ แรงของโครงสรา้ ง 2.ใหร้ ะมดั ระวังอันตรายทอี่ าจเกดิ จากผวิ ไม้ไผ่ และตะปู หรือ อปุ กรณต์ อกยึดไมไ้ ผอ่ ืน่ ๆ 25

ฐานที่ 3 มนษุ ยล์ ่องหน 1. สนามสําหรับเด็ก 3-5 ปี และสนามสาํ หรับเดก็ 6-8 ปี ใหข้ ดุ หลมุ มขี นาดความกวา้ ง ความยาว ความลึก ท่สี ามารถฝงั ยึดยางให้ม่นั คง 2. ใช้ดินถมหลมุ ขอบด้านนอก และใช้ซเี มนต์เททบั โดยรอบ ความหนา 15 เซนติเมตร 3. ด้านในอโุ มงค์ให้ใชซ้ เี มนต์เทพื้น พรอ้ มขดั ผวิ พ้นื ใหม้ ัน ขนาดความกวา้ งตามพนื้ ที่ขนาดวงในของยาง 4. ทาสนี ้าํ มันตามต้องการ รอใหส้ ีแห้งพรอ้ มใช้งาน 26

ฐานท่ี 4 เดินอากาศ 1. ใหข้ ดุ หลมุ มขี นาดความกวา้ ง ความยาว ความลกึ ท่ีสามารถ ฝังยึดราวไมไ้ ผ่ให้มัน่ คง โดยความกว้าง ความยาว ความลกึ ของ หลุม สนามสําหรับเดก็ 3-5 ปี ขนาดหลุม 30 x 350 x 30 เซนตเิ มตร และสนามสําหรับเดก็ 6-8 ปี ขนาดหลุม 30 x 1,000 x 30 เซนติเมตร 2. ใชไ้ มไ้ ผ่ ขนาดเส้นผา่ ศนู ย์กลาง 2-4 นว้ิ ประกอบไม้ไผ่ เป็นราว สาํ หรับเดนิ ไต่ ดังภาพ สนามสาํ หรบั เดก็ 3-5 ปี ประกอบจาํ นวน 3 ชดุ ขนาดไม้ไผ่ ดังน้ี ชุดท่ี 1 ไม้ไผ่ยาว 1 เมตร จาํ นวน 2 ชนิ้ ประกบคู่สงู ของฐานจากพน้ื 30 เซนติเมตร+ฝังดนิ 30 เซนติเมตร ชดุ ท่ี 2 ไมไ้ ผย่ าว 1 เมตร ความสงู ของฐานจากพน้ื 30 เซนตเิ มตร + ฝังดิน 30 เซนตเิ มตร ชดุ ท่ี 3 ไม้ไผย่ าว 1 เมตร ความสงู ของฐานจากพื้น 30 เซนตเิ มตร + ฝังดนิ 30 เซนติเมตร ดังภาพ สนามสาํ หรบั เดก็ 6-8 ปี ประกอบจาํ นวน 4 ชดุ ขนาดไมไ้ ผ่ ดังน้ี ชดุ ท่ี 1 ไมไ้ ผ่ยาว 2 เมตร จํานวน 2 ชนิ้ ประกบคู่ ความสูงของฐาน จากพนื้ 50 เซนติเมตร+ฝังดิน 30 เซนติเมตร ชดุ ที่ 2 ไม้ไผ่ยาว 2 เมตร จํานวน 2 ชิ้น ประกบคู่ ตวามสงู ของฐาน จากพ้นื 50 เซนติเมตร+ฝงั ดนิ 30 เซนติเมตร ชดุ ท่ี 3 ไมไ้ ผย่ าว 2 เมตร ตวามสงู ของฐานจากพน้ื 50 เซนตเิ มตร + ฝังดนิ 30 เซนตเิ มตร ชดุ ท่ี 4 ไมไ้ ผย่ าว 2 เมตร ตวามสงู ของฐานจากพ้ืน 50 เซนติเมตร + ฝงั ดิน 30 เซนตเิ มตร ดงั ภาพ 3. การวางฐานเนน้ เดนิ จากงา่ ยไปหายาก กลบฝงั ฐานลงหลมุ ดว้ ยดนิ ใหแ้ นน่ และเทปนู ซเี มนตท์ บั ความหนาประมาณ 10-15 เซนตเิ มตร 4. ทาสนี า้ํ มนั ตามตอ้ งการ รอใหส้ แี หง้ พรอ้ มใชง้ าน 27

ฐานท่ี 5 มนษุ ยแ์ มงมมุ 2 1. ใหข้ ดุ หลุมมขี นาดความลึก ท่ีสามารถฝังยดึ ราวไมไ้ ผใ่ ห้มั่นคง 2. ใชไ้ ม้ไผ่ ขนาดเส้นผา่ ศูนยก์ ลาง 2-4 นิว้ ประกอบ ไม้ไผ่เป็นราวสาํ หรบั ห้อยโหน โดยราว ไมไ้ ผ่โหน ระยะห่างประมาณชอ่ งละ 30 เซนติเมตร ดังภาพ -สนามสําหรบั เดก็ 3-5 ปี ประกอบจํานวน 1 ชุด ขนาดไมไ้ ผ่ ความกวา้ ง 0.8 เมตร ความยาว 1.5 เมตร และความสูง 1.3 เมตร + ฝงั ดนิ 0.5 เมตร -สนามสาํ หรบั เด็ก 6-8 ปี ประกอบจํานวน 2 ชุด ขนาดไมไ้ ผ่ ความกวา้ ง 1.5 เมตร ความยาว 1.5 เมตร และความสูง 1.8 เมตร + ฝงั ดิน 0.5 เมตร 3. กลบฝังฐานลงหลมุ ด้วยดินให้แน่น และเททับ ดว้ ยปนู ซเี มนต์ ความหนาประมาณ 10-15 เซนตเิ มตร 4. ทาสนี ้าํ มันตามตอ้ งการ รอให้สแี ห้ง พร้อมใช้งาน 28

ฐานท่ี 6 หลมุ อากาศ 1. เตรยี มขดุ หลมุ ตามจุดที่ทาํ เคร่ืองหมายไว้ 2. นําไมไ้ ผ่ ขนาดเสน้ ผ่าศนู ย์กลาง 4.5 นวิ้ ยาว 80 เซนติเมตร ฝงั ยดึ ลงหลุมท่ีเตรยี มไว้ ใช้ดนิ กลบ และเททบั ดว้ ยปนู ซีเมนต์ ความหนา 10-15 เซนตเิ มตร โดยการวางขนาดความสูง และ ระยะหา่ ง ดังนี้ -สนามสาํ หรบั เดก็ 3-5 ปี ฝงั ไมไ้ ผค่ วามสงู จากพน้ื แบง่ เป็น 4 ระดับ ความสงู ต้งั แต่ 5 / 10 / 15 / 20 เซนตเิ มตร รวม จํานวน 10-15 จดุ สามารถวางสลับสงู ตํ่า ได้ ตามต้องการ โดยระยะหา่ งของแต่ละหลัก 10 นิ้ว -สนามสาํ หรบั เดก็ 6-8 ปี ฝงั ไมไ้ ผค่ วามสงู จากพน้ื แบง่ เป็น 4 ระดบั ความสูง ตัง้ แต่ 10 / 15 / 20 / 25 เซนติเมตร รวม จาํ นวน 20-25 จดุ สามารถวางสลับสงู ตา่ํ ได้ ตามตอ้ งการ โดยระยะห่างของแต่ละหลัก 1 ฟตุ 3. ทาสีน้ํามันตามตอ้ งการ รอให้สีแห้ง พรอ้ มใชง้ าน 29

ฐานท่ี 7 มนุษยแ์ มงมมุ 3 1. สร้างใยแมงมุมจาํ ลองดว้ ยไม้ไผ่ หรือ เชือกสาน ไม้ไผข่ นาดเส้นผา่ ศูนยก์ ลาง 2-4 นวิ้ ตามภาพประกอบ ซึง่ ขนาดใยแมงมุมจําลอง มคี วามกวา้ ง ความยาว ความสงู สําหรบั เด็กอายุ 3-5 ปี ขนาด 1.2 x 1.2 x 1.2 เมตร และสําหรบั เด็ก อายุ 6-8 ปี ขนาด 2 x 2 x 1.5 เมตร โดยแบ่งช่อง ระยะหา่ ง ประมาณ 10-12 นวิ้ 3. ทาสนี ้ํามันตามต้องการ รอให้สีแห้ง พรอ้ มใชง้ าน ข้อควรระวงั 1. ใหร้ ะมดั ระวังเร่ืองความแขง็ แรงของโครงสรา้ ง 2. ใหร้ ะวังอันตรายทีอ่ าจเกิดจากผวิ ไม้ไผแ่ ละตะปู หรอื อุปกรณ์ตอกยดึ 30

ฐานท่ี 8 วงิ่ ซกิ แซก 1. เตรยี มขดุ หลุมตามจุดท่ีทาํ เครอื่ งหมายไว้ 10-15 จดุ ตามขนาดพน้ื ที่สนาม 2. นาํ ไม้ไผ่ ขนาดเส้นผ่าศูนยก์ ลาง 4.5 นิ้ว ยาว 100-120 เซนติเมตร ฝังยึดลงหลมุ ทีเ่ ตรยี มไว้ ใชด้ ินกลบและเททับด้วยปูนซเี มนต์ ความหนา 10-15 เซนติเมตร โดยการวางระยะหา่ ง ดังนี้ -สนามสาํ หรบั เดก็ 3-5 ปี ฝงั ไมไ้ ผค่ วามสงู จากพน้ื 50-70 เซนติเมตร รวมจาํ นวน 10-15 จุด โดย ระยะห่างของแต่ละหลกั 1 เมตร -สนามสาํ หรบั เดก็ 6-8 ปี ฝงั ไมไ้ ผค่ วามสงู จากพน้ื 80 เซนติเมตร รวมจาํ นวน 10-15 จุด โดยระยะ ห่างของแต่ละหลกั 1 เมตร 3. ทาสนี ้ํามันตามตอ้ งการ รอใหส้ ีแหง้ พรอ้ มใช้งาน 31

ฐานที่ 9 มนุษยก์ บ 1. ทาสยี างตามตอ้ งการ รอใหส้ ีแห้ง 2. นํายางมาจัดวางเรียงกันเปน็ รปู วงกลม/ กากบาตร/ เส้นตรง หรอื สามารถ จัดเรยี งตามต้องการ ดังภาพ ให้เปน็ ช่อง สําหรบั กระโดดข้าม 32

ฐานท่ี 10 ตน้ ไม้หรรษา 1. สนามสาํ หรบั เด็ก 3-5 ปี และสนามสาํ หรบั เด็ก 6-8 ปี ใชย้ างขนาดเสน้ ผ่าศูนยก์ ลาง 45-50 เซนติเมตร ทาสีตามตอ้ งการ จาํ นวน 5 เสน้ หรอื ขึน้ กบั ขนาดของพืน้ ทีผ่ ูกยึด รอสีแหง้ 2. นาํ ยางมาผูกเชอื กและผกู ยดึ กับต้นไม้ หรือ สง่ิ ปลกู สรา้ งทม่ี น่ั คงแขง็ แรง สามารถรบั นา้ํ หนกั โดยจดั วางระยะแขวนใหห้ า่ งกันตามสมควร และไมแ่ กว่งชนกนั ขณะเล่น ดงั ภาพ ใชส้ ําหรบั หอ้ ยโหน -ระยะห่างของวงล้อ ควรผกู ใหห้ า่ งอยา่ งนอ้ ย 2 เมตร -ความสูงของวงลอ้ จากพืน้ ควรอยู่ระหว่าง 50-80 เซนติเมตร 33

คณะทาํ งาน ทปี่ รกึ ษา รศ.ดร.สุพิตร สมาหโิ ต ทปี่ รกึ ษา ผศ.ดร.เกษม นครเขตต ท่ีปรกึ ษา ผศ.เพ่มิ ศกั ดิ์ สรุ ยิ จันทร์ หวั หน้าคณะนกั วจิ ยั อ.ดร.ชิตินทรยี ์ บุญมา นกั วจิ ัย อ.ดร.อจั ฉรยี า กสยิ ะพทั นกั วจิ ยั อ.ชวภรณ์ สรุ ยิ จันทร์ ผู้ช่วยนกั วิจยั นกั ศึกษาสาขาวชิ าพลศกึ ษาและนนั ทนาการ ผ้ชู ว่ ยนกั วิจยั และเลขานกุ าร หมเู่ รียนพล.52และพล.53 มหาวิทยาลัยราชภฏั เชยี งใหม ่ ผชู้ ว่ ยนกั วิจัยและผู้ชว่ ยเลขานกุ าร นางสาวชลติ ตา กาวนิ นางสาวจริ นนั ท์ ต๊ะวกิ า 34