ค่มู อื ครูรายวชิ าพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 1 การเรียนรู้สง่ิ ต่าง ๆ รอบตวั 8 10. นักเรียนอ่านสถานการณ์และคาถาม ครูตรวจสอบความเข้าใจของ ครูรับฟังคาตอบและเหตุผล นักเรียนเกี่ยวกับคาถามแต่ละข้อ จนแน่ใจว่านักเรียนสามารถทาได้ ของนักเรียนเป็นสาคัญ ครูยังไม่ ด้วยตนเอง จึงให้นักเรียนตอบคาถาม โดยคาตอบของแต่ละคนอาจ เฉลยคาตอบใด ๆ แต่ชักชวนให้ไป แตกต่างกัน และคาตอบอาจถูกหรอื ผดิ กไ็ ด้ หาคาตอบท่ีถูกต้องจากกิจกรรม สถานการณ์นี้เป็นการสถานการณ์ทม่ี ีจุดประสงค์เพ่ือใหน้ ักเรียน ตา่ ง ๆ ในบทเรียนน้ี ได้อ่านแล้วตรวจสอบความรู้ก่อนเรียนของตนเองเท่าน้ัน ดังน้ันหาก นักเรียนมีความสงสัยและอยากรู้ท่ีจะทดลองตามสถานการณ์ ต้องอยู่ การเตรียมตัวล่วงหน้าสาหรับครู ในความดูแลของครูหรือผู้ปกครองอย่างใกล้ชิด ครูอาจชวนนักเรียน เพอื่ จดั การเรียนรูใ้ นครง้ั ถดั ไป อภปิ รายโดยใชค้ าถามต่อไปนี้ 10.1 ถ้าจะทาการทดลองน้ี จะต้องระมัดระวังในเรื่องใดบ้าง (เช่น ในครั้งถดั ไป นกั เรยี นจะไดเ้ รียนเรอ่ื งท่ี การใช้ตะเกียงแอลกอฮอล์อย่างถูกวิธี โดยไม่เอียงตะเกียงให้ 1 การสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ โดย แอลกอฮอล์หก การจุดไฟและการดับไฟที่จะไม่ทาให้เกิด ครจู ะตอ้ งเตรียมตัวดังนี้ อันตราย เช่น เมื่อจุดไม้ขีดไฟแล้วให้ดับในทราย หรือการดับ ตะเกยี งแอลกอฮอล์ ตอ้ งใชฝ้ าครอบดับไฟ การเตรียมผ้าชุบน้า 1. เตรียมบัตรคาคาสาคัญท้ังภาษาไทย ไว้ใชเ้ ม่อื เกิดไฟไหม)้ และภาษาอังกฤษ และบัตรคาวิธีการ 10.2 ถ้าไม่มมีตะเกียงแอลกอฮอล์จะใช้อุปกรณ์ท่ีให้ความร้อนใดแทน สะกดคาและออกเสยี งคาให้ถูกตอ้ ง ได้ (เตาไฟฟา้ เตาแม่เหลก็ ไฟฟา้ เตาท่ีใช้ถ่านสาหรับหุงต้ม) 2. อาจเตรียมนาเสนอเร่ืองราวของเร่ืองที่ 11.ครูสังเกตการตอบคาถามของนักเรียนเพ่ือตรวจสอบว่านักเรียนมี อ่านในรูปแบบที่น่าสนใจ เช่น แสดง แนวคิดเกี่ยวกับการสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์และทักษะ บทบาทสมมติ เพ่ือให้นักเรียนจดจาคา กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์อยา่ งไรบา้ ง อาจสุ่มใหน้ ักเรียน 2-3 คน สาคัญต่าง ๆ ได้ง่าย เพราะคาเหล่าน้ี นาเสนอคาตอบของตนเอง โดยครูยังไม่เฉลยคาตอบ แต่จะให้ เป็นคาใหม่สาหรบั นกั เรยี น นักเรียนย้อนกลับมาตรวจสอบอีกคร้ังหลังเรียนจบบทเรียนน้ีแล้ว ท้ังนี้ครูอาจบันทึกแนวคิดคลาดเคลื่อนหรือแนวคิดที่น่าสนใจของ ครูเตรียมไข่ต้ม น้าแข็ง กระดาษ ไม้ขีดไฟ นักเรียน แล้วนามาออกแบบการจัดการเรียนการสอนเพื่อแก้ไข และขวดแก้วปากกว้างท่ีจะวางไข่ต้มบนปาก แนวคิดท่ีคลาดเคล่ือนให้ถูกต้อง และต่อยอดแนวคิดที่น่าสนใจของ ขวดได้ นกั เรยี น สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
9 คมู่ อื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 1 การเรยี นรู้สิง่ ตา่ ง ๆ รอบตวั แนวคาตอบในแบบบันทกึ กิจกรรม คาตอบของนักเรียนในการสารวจความรู้กอ่ นเรยี น อาจตอบถกู หรือผิดก็ไดข้ ึ้นอยกู่ ับความรู้เดิมของนกั เรยี น แตเ่ ม่ือเรยี นจบบทเรียนแลว้ ให้นักเรยี นกลบั มาตรวจสอบคาตอบอีกครง้ั และแก้ไขใหถ้ ูกตอ้ ง ดังตัวอย่าง สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ ือครรู ายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 1 การเรียนรู้ส่งิ ต่าง ๆ รอบตัว 10 เรือ่ งที่ 1 การสืบเสาะหาความรู้ทางวทิ ยาศาสตร์ ในเรื่องน้ีนักเรียนจะได้เรียนรู้เก่ียวกับลักษณะการ สืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ท่ีเน้นการรวบรวม ขอ้ มูลจากการทดลองเพื่อหาคาตอบที่สงสยั จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ อธบิ ายการสบื เสาะหาความรู้ทางวทิ ยาศาสตร์ใน การตอบคาถามทสี่ งสัย เวลา 4 ชวั่ โมง วสั ดุ อุปกรณ์สาหรับทากจิ กรรม เมล็ดถ่ัวเขียว เมล็ดถั่วเขียวต้ม น้าโซดา น้าอัดลมใส ไม่มีสี น้าเปล่า เมล็ดพืชชนิดอ่ืน เช่น เมล็ดงาดา น้าเกลือ แก้วใส สอ่ื การเรยี นรู้และแหล่งเรียนรู้ หน้า 7-13 หน้า 5-10 1. หนังสอื เรยี น ป.4 เลม่ 1 2. แบบบนั ทึกกิจกรรม ป.4 เล่ม 1 สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
11 คูม่ ือครรู ายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 1 การเรียนรูส้ ิ่งตา่ ง ๆ รอบตวั แนวการจดั การเรยี นรู้ (1 ชัว่ โมง) ขน้ั ตรวจสอบความรู้ (10 นาท)ี 1. ครตู รวจสอบความรูเ้ ดมิ เกี่ยวกับลักษณะของการสบื เสาะหาความรู้ ในการตรวจสอบความรู้ ครูเพียง ทางวิทยาศาสตร์ในเร่ืองการรวบรวมขอ้ มลู จากการทดลองเพ่อื หา รับฟังเหตุผลของนักเรียน และยังไม่ คาตอบทส่ี งสยั เช่น คาถามในการทดลองนีค้ อื ขวดใบไหนจะทาให้ เฉลยคาตอบใด ๆ ให้กับนักเรียน แต่ ไขต่ ม้ เกดิ การเปลย่ี นแปลง โดยครอู าจเล่าเก่ียวกับสถานการณ์ทเ่ี ปน็ ชักชวนนักเรียน ไปหาคาตอบด้วย การทดลอง เช่น ครูนาขวดปากกว้างทมี่ รี ูปรา่ งและขนาดเทา่ กัน 2 ตนเองจากการอา่ นเน้อื เร่อื ง ขวด ขวดใบทหี่ น่ึงบรรจนุ ้าแข็งขวดอกี ใบบรรจุน้าร้อน วางไขต่ ้ม ขนาดเท่ากนั ไว้ทีป่ ากขวด ขวดละ 1 ฟอง จากนน้ั ใหน้ กั เรียนลองตอบ คาถามดังต่อไปนี้ 1.1 นกั เรยี นจะตง้ั สมมตฐิ านจากการทดลองนี้ได้วา่ อย่างไร 1.2 การทดลองน้ีมีตัวแปรตน้ ตัวแปรตาม และตวั แปรทีต่ อ้ งควบคมุ ให้คงท่ี คอื อะไรบา้ ง 1.3 นกั เรยี นคิดวา่ ผลการทดลองจะเปน็ อยา่ งไร เพราะเหตใุ ด (นักเรียนตอบไดต้ ามความเขา้ ใจของตนเอง ครบู นั ทกึ คาตอบของ นกั เรยี นบนกระดาน) 2. ครเู ชอ่ื มโยงความรเู้ ดิมของนักเรยี นสกู่ ารเรียนเรื่องการสบื เสาะหา ความร้ทู างวทิ ยาศาสตร์โดยใชค้ าถามวา่ การสบื เสาะหาความร้ทู าง วทิ ยาศาสตร์มลี กั ษณะอะไรบ้าง ซึ่งครแู นะว่านกั เรยี นสามารถหา คาตอบได้จากการอา่ นเนื้อเร่ือง ขัน้ ฝึกทกั ษะจากการอ่าน (45 นาที) 3. นกั เรยี นอา่ นช่อื เรอื่ งและคาถามในคิดกอ่ นอา่ น ในหนงั สอื เรียนหนา้ 30 แลว้ ร่วมกนั อภิปรายในกลมุ่ เพ่ือหาแนวคาตอบ ครูบนั ทึกคาตอบ ของนกั เรยี นบนกระดานเพือ่ ใช้เปรยี บเทียบคาตอบหลงั การอา่ นเน้ือ เร่ือง 4. นกั เรยี นอา่ นคาในคาสาคญั ท้งั ภาษาไทยและภาษาองั กฤษ หาก นกั เรยี นอา่ นไม่ได้ ครคู วรสอนการอา่ นให้ถกู ต้อง จากน้ันนกั เรยี น อธบิ ายความหมายตามความเข้าใจ ครูชกั ชวนใหน้ ักเรยี นหา ความหมายของคาภายหลงั จากการอา่ นเนอ้ื เรอื่ ง 5. นกั เรียนอา่ นเนอื้ เรอ่ื ง ตามวิธกี ารอา่ นท่ีเหมาะสมกับความสามารถของ นกั เรียน จากนน้ั ร่วมกนั อภิปรายใจความสาคญั ตามแนวคาถาม ดังนี้ สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
คมู่ ือครรู ายวชิ าพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 1 การเรยี นรู้สิ่งต่าง ๆ รอบตวั 12 5.1 เนือ้ เร่ืองท่อี ่านเก่ียวกับอะไร (เร่อื งทอี่ า่ นเกย่ี วกบั การเลย้ี งไก่ นักเรียนอาจไม่สามารถตอบ ของเดก็ คนหนึ่ง) คาถามหรืออภิปรายได้ตามแนว คาตอบ ครูควรให้เวลานักเรียนคิด 5.2 แม่ของเด็กคนนเ้ี ลยี้ งไกด่ ว้ ยอาหารอะไรบ้าง (ขา้ วเปลือก ราขา้ ว อย่างเหมาะสม รอคอยอย่างอดทน และหนอนแมลงวัน) และรบั ฟงั แนวความคิดของนักเรียน 5.3 เดก็ คนนี้มีคาถามสงสยั เกีย่ วกบั เร่อื งอะไร (ไก่ชอบกินอาหาร ชนดิ ใดมากทสี่ ดุ ) 5.4 จากคาถามทส่ี งสยั เดก็ คนนีต้ ้งั สมมติฐานวา่ อะไร (ไกช่ อบกนิ ข้าวเปลอื กมากที่สุด) 5.5 สมมติฐานหมายความวา่ อย่างไร (การคาดคะเนคาตอบ ล่วงหน้า) 5.6 เด็กคนนีต้ รวจสอบสมมตฐิ านทต่ี ัง้ ไวโ้ ดยการรวบรวมขอ้ มลู เพ่ือหา คาตอบในคาถามทสี่ งสัยดว้ ยวิธีการใด (การทดลองเลยี้ งไกด่ ้วย อาหาร 3 ชนิด ได้แก่ ข้าวเปลือก ราข้าวและหนอนแมลงวัน) 5.7 ตัวแปรตน้ หมายถงึ อะไร และในการทดลองน้ีตวั แปรตน้ คอื อะไร (ตัวแปรตน้ หมายถึงส่งิ ท่ีจดั ใหต้ ่างกันในการทดลอง ไดแ้ ก่ อาหารทใี่ ช้เล้ยี งไก่ 3 ชนิด) 5.8 ตัวแปรตามหมายถงึ อะไร และในการทดลองนี้ตวั แปรตามคือ อะไร (ตวั แปรตามหมายถึงผลมาจากตัวแปรตน้ ได้แก่ ปรมิ าณ อาหารที่ไกก่ นิ ทกุ วัน) 5.9 ตวั แปรท่ีตอ้ งควบคุมใหค้ งทห่ี มายถงึ อะไร และในการทดลองน้ี คือตัวแปรทต่ี ้องควบคุมใหค้ งท่ีอะไร (ตวั แปรทต่ี ้องควบคุมให้ คงที่หมายถึงสงิ่ ท่จี ัดให้เหมือนกันในการทดลอง ไดแ้ ก่ ปริมาณ อาหาร เวลาที่ให้ไก่กนิ อาหาร ขนาดภาชนะ) 5.10 เด็กคนนี้ทดลองให้อาหารไก่เปน็ เวลาก่วี นั (7 วัน) 5.11 เม่ือครบ 7 วนั เดก็ คนนีอ้ ธบิ ายผลการทดลองวา่ อย่างไร หลักฐานคืออะไร (ไกก่ นิ หนอนแมลงวันมากทส่ี ุด เพราะทกุ วนั จะเหลือปริมาณหนอนแมลงวันนอ้ ยท่สี ุด) 5.12 หลังจากที่ไดผ้ ลการทดลอง เด็กคนน้ที าอะไรตอ่ ไป (สบื ค้น ขอ้ มลู เก่ียวกับอาหารของไกจ่ ากแหลง่ การเรียนรู้ท่ีเชือ่ ถอื ได)้ 5.13 เดก็ คนนสี้ อ่ื สารส่ิงที่ไดค้ น้ พบอยา่ งไร (นาเสนอสงิ่ ทคี่ น้ พบให้ เพอ่ื น ๆ รบั ทราบ) 5.14 จากเรอื่ งท่อี า่ น เดก็ คนน้ไี ดค้ ้นพบคาตอบด้วยการสืบเสาะหา ความรทู้ างวิทยาศาสตร์หรือไม่ (ไดใ้ ช)้ สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
13 คูม่ อื ครูรายวชิ าพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 1 การเรยี นร้สู งิ่ ตา่ ง ๆ รอบตวั 5.15 ลักษณะสาคญั ของการสบื เสาะหาความรู้ทางวทิ ยาศาสตร์ที่ การเตรยี มตวั ล่วงหน้าสาหรับครู เด็กคนนใ้ี ชใ้ นการหาคาตอบจากคาถามทสี่ งสยั ไดแ้ ก่ เพ่อื จดั การเรียนรู้ในครงั้ ถัดไป อะไรบา้ ง (การมีส่วนรว่ มในการตัง้ คาถามทางวิทยาศาสตร์ การรวบรวมข้อมูลหรอื หลกั ฐานทเี่ กี่ยวขอ้ ง การอธบิ ายส่ิงที่ ในคร้ังถดั ไป นกั เรียนจะได้ทา สงสัยด้วยข้อมูลหรือหลกั ฐานอย่างมเี หตผุ ล การอธิบาย กิจกรรมท่ี 1 ถวั่ เต้นระบาไดอ้ ย่างไร เช่อื มโยงสิ่งทไ่ี ด้ค้นพบกบั ความรู้ทางวทิ ยาศาสตร์ และการ โดยครเู ตรียมส่งิ ตา่ ง ๆ ดังตอ่ ไปน้ี ส่ือสารสิง่ ที่ไดค้ ้นพบและให้เหตผุ ล) 1. เมล็ดพชื หลาย ๆ ชนิด เชน่ 6. ครูตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี นโดยใชส้ ถานการณ์ท่ไี ด้เลา่ เมล็ดถว่ั เขยี วดบิ เมล็ดถ่ัวเขยี ว ไปแลว้ ในข้นั นาเข้าสบู่ ทเรียนโดยการสาธติ ว่าจะเกดิ อะไรข้นึ ให้ ต้ม เมล็ดพชื ชนดิ อน่ื ๆ ที่หาได้ นกั เรยี นสงั เกตผลและตอบคาถามเกย่ี วกบั ลกั ษณะของการสบื ง่ายในท้องถน่ิ เพ่อื นามาให้ เสาะหาความรทู้ างวิทยาศาสตร์ การตั้งสมมตฐิ าน ตัวแปรต้น นกั เรยี นเลือกในการทากิจกรรม ตัวแปรตาม และตัวแปรท่ีตอ้ งควบคุมใหค้ งที่ ตามความสนใจ ขน้ั สรุปจากการอา่ น (5 นาท)ี 2. เตรียมขอ้ มลู เกย่ี วกบั การเตน้ ระบาได้ของถ่วั เขียว โดยอาจทา 7. ครูและนักเรยี นรว่ มกนั อภปิ รายเพอื่ ให้ได้ข้อสรุปวา่ ลักษณะ ใบความรู้ หรือแนะนา สาคญั ของการสืบเสาะหาความรทู้ างวทิ ยาศาสตร์ในการหา แหล่งข้อมลู ใหอ้ า่ น คาตอบจากคาถามท่สี งสัย ไดแ้ ก่ การมสี ว่ นรว่ มในการตง้ั คาถามทางวิทยาศาสตร์ การรวบรวมขอ้ มูลหรือหลักฐานที่ เกย่ี วข้อง การอธบิ ายสิ่งทส่ี งสยั ด้วยข้อมลู หรือหลักฐานอยา่ งมี เหตุผล การอธบิ ายเชื่อมโยงสงิ่ ท่ีไดค้ น้ พบกับความรู้ทาง วิทยาศาสตร์ และการสือ่ สารสง่ิ ทไ่ี ด้ค้นพบและให้เหตผุ ล การรวบรวมข้อมลู สามารถทาไดโ้ ดยใชก้ ารทดลอง ซึ่งมีการ ตั้งสมมตฐิ าน การกาหนดตวั แปรต้น ตัวแปรตาม และตัวแปรที่ ต้องควบคมุ ให้คงที่ 8. นกั เรยี นตอบคาถามในรู้หรอื ยัง ในแบบบันทึกกจิ กรรมหน้า 5 9. ครูและนกั เรียนรว่ มกันอภิปรายเพื่อเปรียบเทยี บคาตอบของนักเรยี น ในรหู้ รือยังกบั คาตอบทเ่ี คยตอบและบนั ทกึ ไวใ้ นคิดกอ่ นอา่ น 10. ครชู กั ชวนนกั เรียนให้ตอบคาถามท้ายเร่ืองท่อี า่ น ดงั น้ี เราจะใช้ การสบื เสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์เพือ่ หาคาตอบทเี่ ราสงสัย ได้อยา่ งไร ท้ังนี้เพ่ือใหน้ กั เรยี นไปหาคาตอบร่วมกนั ในกจิ กรรม ต่อไป สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
คู่มอื ครรู ายวชิ าพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 1 การเรียนรู้ส่งิ ต่าง ๆ รอบตวั 14 แนวคาตอบในแบบบนั ทึกกิจกรรม สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
15 ค่มู ือครรู ายวชิ าพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 1 การเรยี นรสู้ ิ่งต่าง ๆ รอบตัว กิจกรรมที่ 1 ถั่วเตน้ ระบาได้อยา่ งไร กิจกรรมนี้นกั เรยี นจะได้อธิบายการสืบเสาะหาความรู้ ทางวิทยาศาสตร์ โดยการทากิจกรรมซึ่งประกอบด้วยการ สังเกต การตั้งคาถาม การออกแบบการทดลอง การ ทดลอง การสรปุ ผล การสืบคน้ ข้อมลู เพม่ิ เติม และนาเสนอ ผล เวลา 3 ชว่ั โมง จุดประสงค์การเรียนรู้ อธิบายการสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ในการ ตอบคาถามท่สี งสยั วัสดุ อุปกรณส์ าหรับทากจิ กรรม สงิ่ ทีค่ รตู ้องเตรียม/ห้อง 1. เมลด็ พชื ชนดิ ตา่ ง ๆ ได้แก่ เมล็ดถั่วเขยี ว เมลด็ - ถั่วเขยี วต้ม เมลด็ พชื อ่นื ๆ 2. น้าโซดา 4 ขวด สื่อการเรียนรู้และแหล่งเรียนรู้ 3. นา้ อดั ลมใสไม่มีสี 4 ขวด 1. หนงั สือเรยี น ป.4 เล่ม 1 หน้า 10-12 4. น้าเกลอื 4 ขวด 2. แบบบนั ทึกกิจกรรม ป.4 เลม่ 1 หนา้ 6-10 5. นา้ เปล่า 4 ขวด 3. ตัวอย่างวีดิทัศน์ปฏิบัติการวิทยาศาสตร์เรื่อง การ สงิ่ ทคี่ รตู อ้ งเตรียม/กลมุ่ ตง้ั สมมตฐิ านทาได้อยา่ งไร http://ipst.me/8124 1. แก้วใส 2 ใบ 4. ตัวอย่างวีดิทัศน์ปฏิบัติการวิทยาศาสตร์เร่ืองการกาหนด ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ และควบคุมตัวแปร และการกาหนดนิยามเชิงปฏิบัติการ S1 การสังเกต ทาไดอ้ ย่างไร http://ipst.me/8125 S9 การตั้งสมมตฐิ าน S11 การกาหนดและควบคมุ ตัวแปร S12 การทดลอง S13 การตีความหมายข้อมลู และลงข้อสรปุ ทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21 C2 การคิดอย่างมวี จิ ารณญาณ C4 การส่อื สาร C5 ความรว่ มมือ สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คูม่ ือครูรายวชิ าพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 1 การเรียนรูส้ ่ิงตา่ ง ๆ รอบตัว 16 แนวการจดั การเรียนรู้ ค รู รั บ ฟั ง เ ห ตุ ผ ล ข อ ง นักเรียนเป็นสาคัญ ครูยังไม่ 1. ครูทบทวนความร้เู กี่ยวกับลักษณะของการสืบเสาะหาความร้ทู าง เฉลยคาตอบใด ๆ แต่ชักชวนให้ วทิ ยาศาสตรว์ า่ มีอะไรบา้ ง จากนนั้ เช่อื มโยงสู่กิจกรรมท่ี 1 ถว่ั เตน้ หาคาตอบที่ถูกตอ้ งจากกิจกรรม ระบาได้อยา่ งไร ตา่ ง ๆ ในบทเรยี นี้ 2. นกั เรยี นอา่ นชือ่ กจิ กรรมท่ี 1 และทาเป็นคดิ เป็น โดยรว่ มกัน อภิปรายทีละประเดน็ เพอื่ ตรวจสอบความเขา้ ใจเกย่ี วกบั จดุ ประสงค์ ในการทากจิ กรรม โดยใชค้ าถาม ดงั น้ี 2.1 กิจกรรมนนี้ กั เรยี นจะได้เรยี นเรอ่ื งอะไร (การสืบเสาะหาความรู้ ทางวทิ ยาศาสตร)์ 2.2 นกั เรยี นจะไดเ้ รยี นเรือ่ งนด้ี ว้ ยวธิ ใี ด (ทากจิ กรรมโดยใชก้ าร สังเกต การทดลอง การสรุปผลและการนาเสนอความรทู้ ไี่ ด้) 2.3 เมอ่ื เรยี นแล้วนกั เรยี นจะทาอะไรได้ (สามารถอธิบายการสืบ เสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ได)้ 3. นกั เรยี นบนั ทกึ จดุ ประสงค์ลงในแบบบันทกึ กิจกรรม หน้า 6 และอา่ น สงิ่ ที่ต้องใช้ในการทากิจกรรม ครแู นะนาวัสดุอปุ กรณส์ าหรบั การทา กจิ กรรม 4. นกั เรยี นอา่ นทาอย่างไร ทลี ะข้อ แล้วรว่ มกนั อภปิ รายเพอ่ื สรุปลาดบั ข้ันตอนตามความเข้าใจ ครูเขยี นสรุปบนกระดาน และนาอภปิ ราย ตามแนวคาถาม ดังน้ี 4.1 นกั เรยี นตอ้ งเริ่มต้นสงั เกตอะไร (สงั เกตผลทเี่ กดิ ขึ้นเมอื่ ใสเ่ มลด็ ถัว่ เขียว 2-3 เมล็ดลงในแกว้ นา้ โซดา) 4.2 นกั เรยี นตอ้ งทาอะไรในลาดบั ถดั ไป (สังเกตวัสดุอปุ กรณท์ ีค่ รู เตรยี มไว้ แลว้ ต้ังคาถามทส่ี งสยั โดยใชผ้ ลการสงั เกตเมล็ดถว่ั เขยี ว ในนา้ โซดามาเปน็ แนวในการตั้งคาถาม) 4.3 เมือ่ ตง้ั คาถามไดแ้ ล้ว นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มตอ้ งทาอะไรตอ่ ไป (เลือกคาถามทสี่ ามารถนาไปสู่การทดลอง และรว่ มกนั ต้งั สมมติฐาน กาหนดตวั แปรทเี่ กีย่ วข้อง ออกแบบการทดลอง และเขยี นแผนภาพสรปุ ขัน้ ตอนการทดลอง) 4.4 จากนนั้ นกั เรยี นตอ้ งสืบค้นข้อมูลเร่อื งอะไร (เร่ืองท่ที ดลอง คือ การเต้นระบาของถว่ั ) สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
17 ค่มู ือครรู ายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 1 การเรียนรูส้ ิ่งต่าง ๆ รอบตวั 4.5 นกั เรยี นสืบคน้ ขอ้ มลู จากทใ่ี ด (สืบคน้ จากอนิ เทอร์เน็ต ผูร้ ู้ หนังสือทเ่ี ชอ่ื ถอื ได้ ซ่ึงครูเป็นผ้แู นะนา) 4.6 เพราะเหตุใด นกั เรยี นตอ้ งสบื คน้ ข้อมลู เพม่ิ เตมิ เกย่ี วกบั เร่ืองท่ี ทดลอง (เพ่อื นาความรมู้ าปรบั คาอธบิ ายในผลที่สงั เกตได้จาก การทดลอง) 4.7 ในขน้ั ตอนสดุ ท้าย นักเรียนต้องทาอะไร (นาเสนอความรู้ใน รปู แบบท่นี า่ สนใจ) 5. เม่อื นกั เรยี นเข้าใจวิธกี ารทากิจกรรมแล้ว ใหน้ กั เรียนเร่มิ ทากิจกรรม ทีละขอ้ และบนั ทึกผลในแบบบนั ทกึ กิจกรรมหน้า 6-7 ดังน้ี 5.1 สังเกตผลที่เกดิ ขน้ึ เม่ือหยอ่ นเมล็ดถว่ั ลงในแก้วน้าโซดา บนั ทึก ผล (S1) 5.2 สงั เกตวัสดอุ ุปกรณ์และตัง้ คาถามท่ีสงสยั 5.3 รว่ มกันเลอื กคาถามทน่ี าไปทดลองได้ บนั ทึกผล (C2, C5) โดย ถ้าพบว่านักเรียนไม่เขา้ ใจ ครูอาจยกตัวอย่างคาถามทม่ี ีการ เปรยี บเทียบตวั แปรใหน้ กั เรียนไดเ้ ห็นตวั อยา่ ง เพ่ือทาความ เข้าใจและนกั เรยี นได้ตั้งได้ 5.4 รว่ มกนั ต้งั สมมตฐิ าน กาหนดตวั แปรทเ่ี ก่ียวขอ้ ง ออกแบบการ ทดลอง ทดลองและสงั เกตผลทีไ่ ด้ บนั ทกึ ผล (S1, S9, S11, S12) (C2, C5) ซ่ึงถ้านักเรียนยังไมเ่ ขา้ ใจคาว่าการตั้งสมมติฐาน ตวั แปร ต้น ตวั แปรตาม ตัวแปรทต่ี ้องควบคมุ ใหค้ งท่ี ครูอาจยกตัวอย่าง คาถามท่ไี มซ่ ้ากับคาถามทนี่ กั เรียนสนใจ แล้วพานกั เรยี นชว่ ยการ ตั้งสมมติฐาน และการกาหนดตวั แปรไปพร้อม ๆ กัน 5.5 ร่วมกนั อภปิ รายและสรุปผลการทดลอง (S13) 5.6 สืบค้นข้อมูลเพ่ิมเติมเกี่ยวกับเรื่องท่ีทดลองและปรับคาอธิบาย บันทึกผล เรื่องที่นักเรียนจะไปสืบค้นเพิ่มเติมข้ึนอยู่กับคาถามใน การทดลองของนักเรยี น เชน่ เมล็ดถ่วั แดงจะเตน้ ระบาในน้าอัดลม กับน้าเกลือได้เหมือนกันหรือไม่ เม่ือนักเรียนผลการทดลองว่า เมล็ดถ่ัวแดงท่ีอยู่ในน้าอัดลมเต้นระบาได้ แต่เมล็ดถั่วแดงใน น้าเกลือไม่เต้นระบา นักเรียนอาจต้องไปสืบค้นข้อมูลเพื่อหา คาอธิบายว่าในน้าอัดลมมีอะไรทีทาให้เมล็ดถั่วแดงเต้นระบาได้ หรือนักเรียนอาจหาข้อมูลเก่ียวกับสิ่งที่มีผลต่อการจม การลอย ของเมล็ดพืช สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ ือครูรายวชิ าพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 1 การเรียนรสู้ ง่ิ ตา่ ง ๆ รอบตวั 18 5.7 นาเสนอความรู้ท่ีคน้ พบ (C4) ถ้านกั เรยี นไม่สามารถตอบคาถาม 6. เมือ่ นกั เรยี นนาเสนอผลการทากจิ กรรมแลว้ ครูและนกั เรียนรว่ มกนั หรอื อภิปรายได้ตามแนวคาตอบ ครู ควรให้เวลานกั เรียนคิดอย่าง อภปิ รายโดยใช้คาถามดังตอ่ ไปน้ี เหมาะสม รอคอยอยา่ งอดทน และ 6.1 นกั เรยี นมีส่วนร่วมในการตงั้ คาถามซง่ึ เปน็ ลักษณะหนงึ่ ของการ รับฟังแนวความคิดของนักเรียน สืบเสาะหาความรู้ทางวทิ ยาศาสตรห์ รอื ไม่ อย่างไร (มสี ว่ นรว่ ม การเตรยี มตัวลว่ งหน้าสาหรบั ครู ในการตง้ั คาถาม ซึ่งเปน็ คาถามทนี่ าไปสูก่ ารทดลองได)้ เพอ่ื จดั การเรียนรใู้ นครัง้ ถัดไป 6.2 คาถามทีน่ าไปสกู่ ารทดลอง มคี าถามอะไรบ้าง (นกั เรียนตอบ ตามคาถามทต่ี ั้งขนึ้ ) ในครงั้ ถดั ไป นกั เรียนจะไดเ้ รยี น 6.3 นกั เรยี นรวบรวมขอ้ มูลหรอื หลกั ฐานทเ่ี กี่ยวขอ้ งหรอื ไม่ อยา่ งไร เรอ่ื งที่ 2 การวัดและการใช้จานวนของ อธิบาย (รวบรวมขอ้ มลู โดยออกแบบการทดลอง และทดลอง) นักวทิ ยาศาสตร์ โดยครูเตรยี มเทอรม์ อ- ครอู าจสุ่มให้นกั เรียนเล่าขัน้ ตอนการทดลองใหเ้ พอื่ นฟงั มเิ ตอร์ดงั ตัวอย่างในหนงั สอื เรียนหนา้ 14 6.4 นกั เรยี นอธบิ ายสิง่ ทสี่ งสยั ด้วยข้อมูลหรือหลักฐานอยา่ งมเี หตุผล หรอื เทอรม์ อมเิ ตอรว์ ัดไข้มาแสดงให้ หรอื ไม่ อย่างไร (อธบิ ายส่งิ ท่ีสงสัยดว้ ยผลการสงั เกตทีไ่ ดจ้ าก นกั เรยี นดู การทดลอง) 6.5 นกั เรียนได้อธิบายเชือ่ มโยงส่ิงที่คน้ พบกบั ความรูท้ าง วิทยาศาสตรห์ รือไม่ อยา่ งไร (ไดม้ ีการสืบคน้ ข้อมูลเพิ่มเตมิ เก่ยี วกับการเตน้ ระบาของถ่ัวจากแหล่งการเรียนรทู้ ่ีเชือ่ ถือได้ เพ่อื นาความรู้มาปรบั คาอธบิ ายทีไ่ ด้จากการสงั เกตใหน้ ่าเชื่อถอื มากขึ้น) 6.6 นกั เรยี นสอ่ื สารสง่ิ ท่ีคน้ พบและให้เหตผุ ลหรอื ไม่ อย่างไร (มกี าร นาเสนอสงิ่ ทคี่ น้ พบใหเ้ พอ่ื นฟงั ) 7. ครูและนักเรียนร่วมกันเช่ือมโยงสิ่งที่ได้เรียนรู้จากกิจกรรมเพ่ือลง ความเห็นว่าในกิจกรรมนี้ นักเรียนได้ฝึกเรียนรู้ลักษณะสาคัญ 5 ลักษณะของการสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์จนได้คาตอบจาก คาถามที่สงสัย ไดแ้ ก่ การมีส่วนร่วมในการตั้งคาถามทางวิทยาศาสตร์ การรวบรวมข้อมูลหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้อง การอธิบายส่ิงที่สงสัย ด้วยข้อมูลหรือหลักฐานอย่างมีเหตุผล การอธิบายเช่ือมโยงสิ่งท่ี ค้นพบกับความรู้ทางวิทยาศาสตร์ และการสื่อสารสิ่งท่ีค้นพบและให้ เหตผุ ล 8. นักเรียนร่วมกันอภิปรายคาตอบในฉันรู้อะไร โดยครูอาจเพ่ิมเติม คาถามในการอภิปราย เพื่อให้ได้แนวคาตอบทถ่ี กู ตอ้ ง สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
19 คมู่ อื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 1 การเรียนรสู้ ิ่งต่าง ๆ รอบตวั 9. นักเรียนสรุปส่ิงท่ีได้เรียนรู้ในกิจกรรมน้ี จากน้ันอ่านส่ิงที่ได้เรียนรู้ และเปรยี บเทยี บกบั ขอ้ สรุปของตนเอง 10. ครูกระตุ้นให้นักเรียนฝึกตั้งคาถามเก่ียวกับเรื่องท่ีสงสัยหรืออยากรู้ เพ่มิ เติมใน อยากร้อู กี วา่ จากน้ันครูอาจส่มุ นกั เรียน 2 -3 คน นาเสนอ คาถามของตนเองหน้าชั้นเรียน และให้นักเรียนร่วมกันอภิปราย เก่ียวกับคาถามที่นาเสนอครูนาอภิปรายเพื่อให้นักเรียนทบทวนว่าได้ ฝึกทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 อะไรบ้างและในขั้นตอนใดบ้าง และบันทึกลงในแบบบันทึกกิจกรรม หนา้ 10 11.นักเรียนร่วมกันอ่าน รู้อะไรในเรอ่ื งนี้ เรื่องที่ 1 การสืบเสาะหาความรู้ ทางวิทยาศาสตร์ ในหนังสือเรียนหน้า 13 ครูนาอภิปรายเพื่อนาไปสู่ ข้อสรุปเกี่ยวกับสิ่งท่ีได้เรียนรู้ในเรื่องน้ี จากน้ันครูกระตุ้นให้นักเรียน ตอบคาถามในช่วงท้ายของเน้ือเร่ือง ดังนี้ “ในแต่ละวันเราใช้การสืบ เสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์เพื่ออธิบายส่ิงต่าง ๆ ที่เกิดข้ึนบ้าง หรอื ไม่” โดยครแู ละนกั เรียนร่วมกนั อภิปรายแนวทางการตอบคาถาม โดยเนน้ ให้นกั เรียนตอบคาถามพรอ้ มอธบิ ายเหตุผลประกอบ สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ค่มู อื ครรู ายวชิ าพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หน่วยที่ 1 การเรียนรสู้ ิ่งตา่ ง ๆ รอบตัว 20 แนวคาตอบในแบบบนั ทกึ กจิ กรรม สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
21 คมู่ อื ครูรายวชิ าพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 1 การเรยี นร้สู ่งิ ต่าง ๆ รอบตวั สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ค่มู อื ครรู ายวชิ าพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 1 การเรียนรสู้ งิ่ ต่าง ๆ รอบตวั 22 สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
23 คมู่ อื ครูรายวชิ าพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 1 การเรยี นร้สู ่งิ ต่าง ๆ รอบตวั สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ค่มู อื ครรู ายวชิ าพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 1 การเรียนรสู้ งิ่ ต่าง ๆ รอบตวั 24 สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
25 คมู่ อื ครรู ายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 1 การเรียนร้สู ิง่ ตา่ ง ๆ รอบตวั แนวการประเมินการเรียนรู้ การประเมินการเรยี นร้ขู องนักเรยี นทาได้ ดังน้ี 1. ประเมนิ ความรู้เดิมจากการอภปิ รายในช้นั เรยี น 2. ประเมินการเรยี นรู้จากคาตอบของนักเรียนระหวา่ งการจดั การเรยี นร้แู ละจากแบบบันทกึ กิจกรรม 3. ประเมนิ ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 จากการทากิจกรรมของนักเรียน การประเมินจากการทากิจกรรมที่ 1 ถวั่ เตน้ ระบาได้อยา่ งไร ระดับคะแนน 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรงุ 3 คะแนน หมายถงึ ดี รหัส สง่ิ ที่ประเมิน คะแนน ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ S1 การสงั เกต S9 การต้งั สมมติฐาน S11 การกาหนดและควบคุมตวั แปร S12 การทดลอง S13 การตคี วามหมายข้อมลู และลงขอ้ สรุป ทกั ษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 C2 การคดิ อย่างมีวิจารณญาณ C4 การสอ่ื สาร C5 ความรว่ มมือ รวมคะแนน สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
คูม่ ือครรู ายวชิ าพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หน่วยที่ 1 การเรยี นรู้ส่งิ ตา่ ง ๆ รอบตัว 26 ตาราง แสดงการวิเคราะหท์ กั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรต์ ามระดบั ความสามารถของนักเรยี น โดยอาจใช้เกณฑ์การประเมิน ดังน้ี ทกั ษะกระบวนการ รายการประเมนิ ระดบั ความสามารถ ทางวิทยาศาสตร์ ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรับปรุง (1) S1 การสงั เกต การบรรยาย ใชป้ ระสาทสัมผสั เก็บ ใช้ประสาทสมั ผัสเกบ็ ไม่สามารถใช้ ลักษณะการ รายละเอยี ดเกยี่ วกบั รายละเอียดเกยี่ วกับ ประสาทสมั ผสั เก็บ เคลอื่ นทขี่ องเมลด็ ลกั ษณะการเคลอ่ื นทีข่ อง ลักษณะการเคลอ่ื นที่ รายละเอยี ดเก่ียวกบั พชื ทีอ่ ย่ใู นของเหลว เมล็ดพชื ทอี่ ยู่ในของเหลว ของเมลด็ พชื ทอ่ี ยู่ใน ลกั ษณะการเคล่อื นท่ี ชนดิ ตา่ ง ๆ ชนิดต่าง ๆ ดว้ ยตนเอง ของเหลวชนดิ ตา่ ง ๆ ของเมล็ดพืชทอ่ี ยู่ใน โดยไมเ่ พมิ่ ความคดิ เห็น โดยต้องอาศัยการ ของเหลวชนิดต่าง ๆ ช้ีแนะจากครหู รือผู้อนื่ แมว้ ่าครูหรือผอู้ ื่น ช่วยแนะนาหรอื ชแ้ี นะ S9 การ การเขียนหรือพดู สามารถเขยี นหรือพูด สามารถเขียนหรอื พดู ไมส่ ามารถเขยี นหรอื ตัง้ สมมตฐิ าน ขอ้ ความที่ ข้อความคาดคะเนผลการ ขอ้ ความคาดคะเนผล พูดขอ้ ความ คาดคะเนผลการ ทดลองล่วงหนา้ โดย การทดลองล่วงหนา้ คาดคะเนผลการ ทดลองล่วงหน้า ขอ้ ความนนั้ แสดงใหเ้ ห็น โดยข้อความนัน้ แสดง ทดลองล่วงหนา้ โดย โดยขอ้ ความนนั้ ความสัมพันธข์ องตวั แปร ให้เหน็ ความสมั พันธ์ ข้อความนั้นแสดงให้ แสดงให้เหน็ ตน้ และตัวแปรตามไดด้ ้วย ของตัวแปรต้นและตัว เหน็ ความสัมพนั ธ์ ความสัมพันธข์ อง ตนเอง แปรตามไดจ้ ากการ ของตัวแปรต้นและ ตวั แปรตน้ และตัว ชแ้ี นะของครูหรือผอู้ นื่ ตวั แปรตาม แม้วา่ แปรตาม จะไดร้ บั คาแนะนา จากครูหรือผู้อนื่ สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
27 คมู่ ือครรู ายวชิ าพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 1 การเรียนร้สู ่งิ ต่าง ๆ รอบตวั ทกั ษะกระบวนการ รายการประเมนิ ระดบั ความสามารถ ทางวทิ ยาศาสตร์ ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรับปรงุ (1) S11 การกาหนด การกาหนดตัวแปร กาหนดตัวแปรตน้ ตัวแปร กาหนดตวั แปรตน้ ตวั ไม่สามารถกาหนด และควบคุมตวั ต้น ตัวแปรตาม ตาม ตัวแปรทต่ี ้องควบคมุ แปรตาม ตวั แปรท่ตี ้อง ตวั แปรตน้ ตัวแปร แปร ตวั แปรท่ีต้อง ใหค้ งท่ีซง่ึ สอดคล้องกบั ควบคุมให้คงทซ่ี ง่ึ ตาม ตวั แปรที่ต้อง ควบคุมให้คงทซี่ ่งึ คาถามในการทดลองได้ สอดคลอ้ งกับคาถามใน ควบคมุ ใหค้ งทซ่ี ่งึ สอดคล้องกับ ด้วยตนเอง การทดลอง ทง้ั นีโ้ ดย สอดคลอ้ งกบั คาถาม คาถามในการ อาศยั การชแี้ นะจากครู ในการทดลอง ทดลอง หรือผู้อนื่ แม้วา่ จะได้รับ คาแนะนาจากครู หรือผอู้ ื่น S12 การทดลอง การออกแบบการ ออกแบบการทดลอง ออกแบบการทดลอง ไม่สามารถออกแบบ ทดลอง ดาเนินการ ดาเนนิ การทดลอง และ ดาเนินการทดลอง การทดลอง ทดลอง และ สรปุ ผลการทดลองเพื่อหา และสรปุ ผลการ ดาเนนิ การทดลอง สรุปผลการทดลอง คาตอบในคาถามทสี่ งสัยได้ ทดลองเพ่อื หาคาตอบ และสรุปผลการ เพือ่ หาคาตอบใน ด้วยตนเอง ในคาถามทส่ี งสยั ทั้งน้ี ทดลองเพ่อื หา คาถามทสี่ งสยั โดยอาศยั การช้ีแนะ คาตอบในคาถามท่ี จากครูหรอื ผอู้ น่ื สงสัย แมว้ า่ จะได้รบั คาแนะนาจากครู หรือผู้อนื่ S13 การ การตคี วามหมาย ตีความหมายขอ้ มูลทีไ่ ด้ ตคี วามหมายขอ้ มลู ที่ ไมส่ ามารถ ตคี วามหมาย ข้อมูลที่ได้จากการ จากการทดลองและการ ได้จากการทดลองและ ตคี วามหมายข้อมูลท่ี ข้อมูลและลง ทดลองและการ สบื ค้นข้อมูลเพม่ิ เติม เพอ่ื การสืบคน้ ขอ้ มลู ไดจ้ ากการทดลอง ข้อสรปุ สืบค้นขอ้ มูล ลงขอ้ สรุปเกยี่ วกบั คาตอบ เพ่มิ เติม เพ่อื ลงขอ้ สรุป และการสบื ค้นข้อมลู เพม่ิ เตมิ เพื่อลง ของปัญหาทส่ี งสยั ได้ดว้ ย เกีย่ วกับคาตอบของ เพิ่มเตมิ เพื่อลง ข้อสรปุ เกี่ยวกบั ตนเอง ปัญหาท่สี งสยั ท้งั น้ี ขอ้ สรปุ เกยี่ วกับ คาตอบของปญั หา โดยอาศยั การชีแ้ นะ คาตอบของปัญหาที่ ท่สี งสยั จากครูหรอื ผ้อู น่ื สงสัย แม้วา่ จะ ได้รับคาแนะนาจาก ครูหรือผอู้ ืน่ สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
คู่มือครูรายวชิ าพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 1 การเรียนร้สู ิง่ ต่าง ๆ รอบตวั 28 ตาราง แสดงการวเิ คราะหท์ ักษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 ตามระดับความสามารถของนักเรียน โดยอาจใชเ้ กณฑก์ ารประเมิน ดังนี้ ทกั ษะแห่ง รายการประเมิน ระดับความสามารถ ศตวรรษท่ี 21 ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรับปรุง (1) C2 การคิดอยา่ งมี การคิดคาถามอย่าง การคิดคาถามอยา่ งมี การคดิ โดยใช้เหตุผลท่ี ไมส่ ามารถคดิ โดยใช้ วิจารณญาณ มีเหตุผลเพอ่ื นาไปสู่ เหตผุ ลเพ่อื นาไปสกู่ าร เหมาะสมในการคดิ เหตุผลทเ่ี หมาะสมใน การทดลอง การ ทดลอง การออกแบบการ คาถามท่นี าไปสกู่ าร การคดิ คาถามท่ี ออกแบบการ ทดลอง และสรปุ ผลการ ทดลอง การออกแบบ นาไปสู่การทดลอง ทดลอง และสรุปผล ทดลองไดด้ ว้ ยตนเอง การทดลอง และ การออกแบบการ การทดลอง สรปุ ผลการทดลองได้ ทดลอง และสรปุ ผล จากการช้ีแนะของครู การทดลองได้ แม้ว่า หรอื ผู้อนื่ ครูหรอื ผ้อู ืน่ ช่วย แนะนาหรือชแี้ นะ C4 การส่ือสาร การนาเสนอสิ่งท่ี สามารถนาเสนอสิ่งท่ี สามารถนาเสนอสิ่งที่ ไม่สามารถนาเสนอ คน้ พบจากการหา ค้นพบจากการหาคาตอบ คน้ พบจากการหา สงิ่ ท่คี ้นพบจากการ คาตอบในคาถามท่ี ในคาถามที่สงสยั ให้ผอู้ ่นื คาตอบในคาถามที่ หาคาตอบในคาถาม สงสัยให้ผู้อื่นรบั รู้ รับรู้ไดอ้ ย่างชดั เจน ด้วย สงสัยให้ผู้อน่ื รบั รไู้ ด้ ท่ีสงสัยใหผ้ ้อู ่นื รับรู้ได้ ตนเอง อยา่ งชดั เจน โดย แม้ว่าครูหรือผอู้ นื่ อาศัยการชี้แนะของครู ชว่ ยแนะนาหรือ หรอื ผูอ้ ื่น ช้ีแนะ C5 ความรว่ มมอื การมสี ่วนร่วมใน มีส่วนรว่ มในการตง้ั คาถาม มีสว่ นรว่ มในการตั้ง ไม่มีส่วนรว่ มในการ การต้ังคาถาม รวบรวมข้อมูล บันทึกผล คาถาม รวบรวมข้อมูล ตั้งคาถาม รวบรวม รวบรวมขอ้ มลู อภิปรายผลการทดลอง บนั ทกึ ผล อภิปรายผล ขอ้ มูล บันทึกผล บนั ทกึ ผล อภปิ ราย สรปุ ผลการทดลอง สืบค้น การทดลอง สรุปผล อภิปรายผลการ ผลการทดลอง ข้อมูลเพิม่ เตมิ การ การทดลอง สบื ค้น ทดลอง สรปุ ผลการ สรปุ ผลการทดลอง นาเสนอผล ในการสบื ข้อมลู เพิม่ เตมิ การ ทดลอง สบื คน้ ข้อมูล สืบคน้ ข้อมลู เพม่ิ เตมิ เสาะหาความรทู้ าง นาเสนอผล ในการสบื เพม่ิ เติม การนาเสนอ การนาเสนอผล ใน วทิ ยาศาสตร์ร่วมกับเพอ่ื น เสาะหาความรทู้ าง ผล ในการสืบเสาะหา การสืบเสาะหา ในกลมุ่ ไดด้ ้วยตนเองอยา่ ง วทิ ยาศาสตร์ร่วมกับ ความรูท้ าง ความรทู้ าง ต่อเน่อื งตลอดการทา เพอ่ื นในกลุ่มได้บา้ ง วทิ ยาศาสตรแ์ มว้ ่าครู วิทยาศาสตร์ กจิ กรรม ทงั้ น้โี ดยอาศัยการ หรอื ผอู้ ืน่ ชว่ ยแนะนา ชี้แนะของครูหรอื ผ้อู นื่ หรอื ชแี้ นะ สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
29 ค่มู อื ครรู ายวชิ าพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 1 การเรียนรู้สิ่งตา่ ง ๆ รอบตวั เรื่องที่ 2 การวดั และการใชจ้ านวนของนักวิทยาศาสตร์ ในเร่ืองน้นี กั เรยี นจะไดเ้ รยี นรเู้ กี่ยวกับการวัดและการ ใช้จานวน จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. เพื่ออธิบายทกั ษะการวัดในการหามวลและปรมิ าตร ของวัตถุ 2. เพื่ออธบิ ายทกั ษะการใชจ้ านวนบอกปรมิ าณทไี่ ด้ จากการวัดสิ่งตา่ ง ๆ เวลา 3 ช่วั โมง วัสดุ อปุ กรณ์สาหรับทากิจกรรม นา้ สี ภาชนะใส่นา้ สี ผลไม้ เชน่ ส้ม บกี เกอร์ กระบอกตวง เคร่ืองช่งั แบบคาน 3 แขน สอ่ื การเรยี นรูแ้ ละแหล่งเรยี นรู้ หนา้ 14-23 หนา้ 11-20 1.หนงั สือเรียน ป.4 เลม่ 1 2. แบบบนั ทกึ กจิ กรรม ป.4 เลม่ 1 สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
คมู่ อื ครรู ายวชิ าพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 1 การเรียนรูส้ ่งิ ต่าง ๆ รอบตวั 30 แนวการจดั การเรยี นรู้ (60 นาท)ี ขัน้ ตรวจสอบความรู้ (10 นาท)ี 1. ครูทบทวนความรเู้ ก่ยี วกบั การวัดโดยอาจใช้สถานการณ์ดงั ต่อไปน้ี ในการตรวจสอบความรู้ ครู หนตู ัวหน่ึงทารงั อย่ใู นปา่ ใกลๆ้ หมู่บา้ น ตกกลางคืนหนูชอบ เพียงรับฟังเหตุผลของนักเรียนและ มาเทย่ี วเล่นตามบา้ นตา่ ง ๆ หนูไดพ้ บสิ่งของชน้ิ หนง่ึ เปน็ รปู ยังไม่เฉลยคาตอบใด ๆ แต่ชักชวน สี่เหลยี่ มทาจากโลหะมีรูปรอยเท้าคนสองขา้ งบนแผน่ โลหะนัน้ ให้นักเรียนไปหาคาตอบด้วยตนเอง ระหวา่ งรูปรอยเทา้ มีหน้าปดั และภายในหนา้ ปดั มขี ีดตรงเลข 0 จากการอา่ นเนอ้ื เรอ่ื ง และขา้ งๆเลข 0 มตี วั อักษรว่า kg เม่ือหนขู นึ้ ไปยืนบนแผน่ โลหะ เข็มเล่อื นไปเล็กน้อย หนสู งสยั ว่าสง่ิ น้ีเอาไวท้ าอะไรนะ นกั เรยี นคิดวา่ สิง่ ของทห่ี นพู บในบา้ นคอื อะไร และใชท้ า อะไร (นักเรียนตอบตามความเขา้ ใจ เช่น เป็นเครอ่ื งชั่งใช้ ช่งั น้าหนกั ) ข้นั ฝึกทกั ษะการอ่าน (40 นาที) 2. นกั เรยี นอา่ น ชื่อเรอ่ื ง และคาถามใน คดิ กอ่ นอา่ น ในหนา้ 14 แล้วร่วมกนั อภิปรายในกลมุ่ เพ่ือหาแนวคาตอบ ครบู ันทกึ คาตอบ ของนกั เรยี นบนกระดานเพ่ือใชเ้ ปรยี บเทียบคาตอบภายหลังการ อา่ นเนือ้ เร่ือง 3. นกั เรยี นอา่ นคาใน คาสาคัญ ทง้ั ภาษาไทยและภาษาองั กฤษ หาก นกั เรยี นอา่ นไมไ่ ด้ ครคู วรสอนการอา่ นให้ถกู ต้อง นกั เรยี นอธบิ าย ความหมายตามความเขา้ ใจ ครูชักชวนใหน้ ักเรยี นหาความหมาย ของคาภายหลงั จากการอ่านเนอ้ื เร่ือง 4. ครชู วนนักเรียนอ่านเนื้อเร่ือง ตามวธิ กี ารอ่านทีเ่ หมาะสมกบั ความสามารถของนักเรยี น จากนนั้ รว่ มกันอภปิ รายใจความสาคัญ ตามแนวคาถามดงั นี้ 4.1 การวัดอณุ หภูมขิ องรา่ งกายทาได้อย่างไรบา้ ง (ใชม้ อื แตะ หน้าผาก หรอื ใชเ้ ทอรม์ อมเิ ตอร์) 4.2 เพราะเหตใุ ด จึงต้องใชเ้ ครอื่ งมือในการวัดอณุ หภมู ิ (เพราะจะได้ข้อมูลที่ถูกตอ้ งและแม่นยามากกวา่ ) 4.3 หนว่ ยทีไ่ ดจ้ ากการวดั อุณหภูมิโดยใช้เทอรม์ อมิเตอร์มี หนว่ ยอะไรบา้ ง (องศาเซลเซียส องศาฟาเรนไฮต์) สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
31 คมู่ อื ครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 1 การเรียนรูส้ งิ่ ตา่ ง ๆ รอบตวั 4.4 สง่ิ ทไ่ี ดจ้ ากการวัดอุณหภูมิดว้ ยเทอรม์ อมเิ ตอร์มีอะไรบ้าง การเตรียมตัวล่วงหน้าสาหรบั ครู (ตัวเลขท่ีบอกปริมาณและหน่วยทีบ่ อกปริมาณ) เพอื่ จัดการเรยี นรูใ้ นครงั้ ถดั ไป 4.5 ปริมาณยาท่หี มอสั่งใหค้ นไขพ้ ิจารณาจากส่งิ ใด (อาการ ในคร้ังถดั ไป นกั เรยี นจะไดเ้ รียน ของโรค อายุและสภาพรา่ งกาย) กิจกรรมท่ี 2.1 การวดั ทาได้อยา่ งไร โดย ครูเตรยี มตรวจสอบเครอื่ งช่งั แบบ 3 แขน 4.6 เด็กชายอายุ 10 ปี นา้ หนกั 30 กโิ ลกรัม ควรรับประทาน วา่ สามารถใช้งานไดห้ รอื ไม่ ยาลดไขไ้ มเ่ กินวันละเทา่ ใด รไู้ ด้อย่างไร (2,250 กรัม จาก การคานวณโดยนานา้ หนัก 30 กโิ ลกรัม มาคูณกบั 75 กรมั ) 4.7 การใชจ้ านวนหมายถงึ อะไร (เปน็ การจดั กระทาข้อมูลให้ เกดิ ค่าใหม่ด้วยวธิ ตี ่าง ๆ เช่น การบวก การลบ การคูณ การหารจากขอ้ มลู ที่ไดจ้ ากการวดั หรืออ่ืน ๆ ซ่ึงคา่ นั้นมี ปริมาณและหนว่ ยกากับ) 4.8 การตคี วามหมายข้อมูลและลงข้อสรปุ หมายถึงอะไร (การ บรรยายลักษณะของขอ้ มลู ทรี่ วบรวมไว้และบอก ความสัมพันธข์ องข้อมูล) 4.9 ในเรอ่ื งนี้ การวดั มปี ระโยชนอ์ ยา่ งไร (ชว่ ยให้ทราบ อณุ หภูมขิ องรา่ งกาย) 4.10การใชจ้ านวนมปี ระโยชน์อย่างไร(คานวณปริมาณยาได้ ละเอยี ดและถูกตอ้ ง เหมาะสมกับอายุ สภาพรา่ งกาย) ขั้นสรปุ จากการอา่ น (5 นาท)ี 5. ครูและนกั เรยี นชว่ ยกันสรปุ เร่อื งที่อ่านซง่ึ สรปุ ได้วา่ การวัดอุณหภมู ิ ของรา่ งกายอาจใชห้ ลงั มอื แตะหนา้ ผากหรือใช้เครือ่ งมือวัด อุณหภูมิไดแ้ ก่เทอร์มอมิเตอร์ ซ่งึ การวัดด้วยเทอร์มอมิเตอร์จะได้ ค่าเป็นตวั เลขและมีหนว่ ยกากับ 6. นกั เรยี นตอบคาถามใน รู้หรือยงั ในแบบบันทึกกิจกรรม หนา้ 11 7. ครูและนักเรยี นรว่ มกนั อภิปรายเพอื่ เปรียบเทยี บคาตอบของ นกั เรยี นในรหู้ รอื ยงั กบั คาตอบทเ่ี คยตอบและบนั ทกึ ไวใ้ นคิดก่อน อ่าน 8. นกั เรยี นอภปิ รายเกีย่ วกบั คาถาม ไดแ้ ก่ นอกจากการวัดอุณหภมู ิ ชงั่ นา้ หนักและวัดส่วนสงู แล้วยงั มกี ารวดั อะไรอกี บ้างเพือ่ ชกั ชวน ให้นักเรยี นหาคาตอบรว่ มกนั ในกิจกรรมต่อไป สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ค่มู อื ครูรายวชิ าพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 1 การเรียนร้สู ิง่ ต่าง ๆ รอบตวั 32 แนวคาตอบในแบบบันทกึ กจิ กรรม สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
33 คมู่ อื ครูรายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 1 การเรียนรสู้ ง่ิ ตา่ ง ๆ รอบตวั กจิ กรรมท่ี 2.1 การวดั ทาไดอ้ ย่างไร กิจกรรมนี้นักเรียนจะได้วัดมวลของผลไม้และวัด ปรมิ าตรของนา้ สเี พอ่ื ฝึกทักษะการวัด เวลา 1 ชัว่ โมง จุดประสงค์การเรียนรู้ อธิบายและใช้ทักษะการวัดในการหามวลและ ปรมิ าตรของวตั ถุ วสั ดุ อุปกรณ์สาหรบั ทากิจกรรม 3 เคร่ือง ส่งิ ทีค่ รูต้องเตรียม/ห้อง 5 ลติ ร 1. เคร่อื งชั่งแบบคาน 3 แขน 1 ใบ 1 ผล ส่งิ ที่ครูต้องเตรยี ม/กลมุ่ 1 ใบ 1 กระบอก 1. น้าสี 2. ภาชนะใสน่ ้าสี ส่อื การเรยี นรู้และแหล่งเรียนรู้ 3. ผลไม้ เช่น สม้ 4. บีกเกอร์ 50 ml 1. หนงั สอื เรียน ป.4 เลม่ 1 หน้า 16-19 5. กระบอกตวง 50 ml 2. แบบบันทึกกจิ กรรม ป.4 เล่ม 1 หนา้ 12-17 3. ตัวอย่างวีดิทัศน์ปฏิบัติการวิทยาศาสตร์เร่ือง ทกั ษะกระบวนการวิทยาศาสตร์ การวัดทาไดอ้ ย่างไร http://ipst.me/8116 S1 การสงั เกต S2 การวดั S8 การลงความเห็นจากขอ้ มูล ทักษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 C4 การสื่อสาร C5 ความร่วมมอื สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ค่มู ือครูรายวชิ าพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หน่วยที่ 1 การเรียนรสู้ ิ่งต่าง ๆ รอบตวั 34 แนวการจดั การเรียนรู้ ค รู รั บ ฟั ง เ ห ตุ ผ ล ข อ ง นักเรียนเป็นสาคัญ ครูยังไม่ 1. ครทู บทวนความรเู้ ก่ียวกับการวดั โดยอาจใชค้ าถามดังนี้ เฉลยคาตอบใด ๆ แต่ชักชวนให้ 1.1 นกั เรยี นใชอ้ ปุ กรณช์ นดิ ใดวดั อณุ หภมู ริ า่ งกาย (เทอรม์ อมเิ ตอร)์ หาคาตอบที่ถูกตอ้ งจากกิจกรรม 1.2 ข้อมูลที่ได้จากการวัดมีอะไรบ้าง (ตัวเลขท่ีบอกปริมาณและ ตา่ ง ๆ ในบทเรียน้ี หน่วยที่บอกปริมาณนนั้ ๆ) 1.3 ครตู ้องการย้ายโต๊ะซึง่ วางอยู่หนา้ ห้องเรียนเขา้ มาในหอ้ ง ถา้ ครู ไมท่ ราบวา่ โต๊ะตัวน้ีจะมคี วามยาวมากกวา่ หรอื น้อยกว่าความ กว้างของประตูห้องครูจะทาอย่างไร (นักเรยี นตอบตามความ เขา้ ใจแตค่ วรตอบได้วา่ ใช้อปุ กรณ์วัดความยาว เชน่ ไมบ้ รรทัด) 1.4 การด่ืมนา้ ประมาณวนั ละ 8 แก้วดตี ่อสขุ ภาพ ครอู ยากรูว้ า่ น้า 8 แกว้ มปี ริมาตรเท่าใด ครจู ะทาอยา่ งไร และใชอ้ ุปกรณ์อะไรใน การวดั (นักเรียนตอบตามความเข้าใจ) 2. ครูชักชวนนักเรียนทากิจกรรมซึ่งเป็นกิจกรรมที่จะทาให้เราเรียนรู้ ทกั ษะการวัด 3. นักเรียนอ่านช่ือกิจกรรมที่ 2.1 การวัดทาได้อย่างไร และทาเป็นคิด เป็น โดยร่วมกันอภิปรายทีละประเด็นเพ่ือตรวจสอบความเข้าใจ เกี่ยวกับจดุ ประสงคใ์ นการทากิจกรรม โดยใชค้ าถาม ดงั น้ี 3.1 กิจกรรมนีน้ กั เรียนจะไดเ้ รยี นเรอ่ื งอะไร (การวดั ) 3.2 นกั เรยี นจะไดเ้ รยี นเรือ่ งนด้ี ว้ ยวธิ ใี ด (สังเกต) 2.3 เม่อื เรยี นแล้วนกั เรียนจะทาอะไรได้ (อธิบายทกั ษะการวดั ) 4. นักเรียนอ่านสิ่งท่ีต้องใช้ในการทากิจกรรมและตรวจสอบรายการ สิ่งของโดยครอู าจแสดงสงิ่ ของตา่ ง ๆ ให้นักเรยี นดู 5. นักเรียนอ่านทาอย่างไร ตอนท่ี 1 แล้วร่วมกันอภิปรายเพ่ือสรุป ลาดับขั้นตอนตามความเข้าใจ และครูอาจช่วยเขียนสรุปสั้น ๆ บน กระดาน และนาอภิปรายตามแนวคาถามว่านักเรียนต้องทาอย่างไร บ้าง (สังเกตและคาดคะเนมวลของผลไม้ โดยวางผลไม้บนมือข้างหนงึ่ สังเกตเครื่องชั่ง อภิปรายวิธีการใช้งานและนาเสนอ จากน้ันช่ังมวล ของผลไมแ้ ละเปรียบเทยี บผลจากการคาดคะเนและมวลทีช่ ่ังได)้ 6. นกั เรยี นเรมิ่ ทากิจกรรมใน ข้อที่ 1 และ ขอ้ ท่ี 2 ดงั นี้ -สงั เกตและคาดคะเนมวลของผลไม้ บนั ทกึ ผล (S1) -สงั เกตเคร่อื งชั่ง อภิปรายวิธกี ารใช้งานและนาเสนอ 7. ครูและนักเรียนรว่ มกนั อภิปรายโดยอาจใช้คาถามดังน้ี สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
35 คมู่ ือครรู ายวชิ าพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 1 การเรยี นรสู้ ง่ิ ต่าง ๆ รอบตวั 7.1 มวลของผลไม้เม่ือวางบนมือ ผลไม้มีมวลเท่าใด (มวลของผลไม้ ขน้ึ อยกู่ บั คาตอบของนักเรยี น) 7.2 เคร่ืองช่ังแบบคาน 3 แขน มีส่วนประกอบอะไรบ้าง (จานช่ัง แขนเคร่อื งชง่ั เข็มช้ี ตุ้มนา้ หนัก) 7.3 เครอ่ื งชั่งใชง้ านอย่างไร (นกั เรียนตอบตามความเข้าใจ) 8. ครูให้ความรู้เพ่ิมเติมเกี่ยวกับวิธีใช้เคร่ืองช่ังแบบคาน 3 แขน ดังน้ี วางเครื่องช่ังในแนวราบ ปรับให้คานช่ังอยู่ตาแหน่งสมดลุ โดยหมุนสก รูปรับให้เข็มชี้ไปท่ีเลข 0 วางวัตถุท่ีต้องการช่ังบนจานช่ัง เล่ือนตุ้ม น้าหนักมาตรฐานจนคานช่ังอยู่ในสมดุลคือเข็มชี้ท่ีเลข 0 จากน้ันอ่าน ค่ามวลของวตั ถุ 9. นักเรียนทากิจกรรมในข้อ 3 เร่ิมช่ังมวลของผลไม้ อภิปรายเพื่อ เปรียบเทียบกบั มวลทวี่ างบนมอื และบนั ทึกผล 10.นกั เรยี นนาเสนอผลการทากจิ กรรม 11. ครูนาผลการทากิจกรรมมาอภิปรายรว่ มกัน โดยอาจใช้คาถามดงั น้ี 11.1 การช่งั มวลใช้อุปกรณใ์ ด (เครอื่ งช่ังแบบคาน 3 แขน) 11.2 หนว่ ยของมวลคอื อะไร (กรมั ) 12. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปกิจกรรมตอนที่ 1 ว่าการชั่งมวลของวัตถุ ทาได้โดยใช้เคร่ืองชงั่ แบบคาน 3 แขน หน่วยของมวลคอื กรัม 13. นักเรียนอ่าน ทาอย่างไร ตอนที่ 2 ในหนังสือเรียนหน้า 17 และ ตรวจสอบความเขา้ ใจโดยใช้คาถามดังต่อไปน้ี 13.1 นกั เรยี นตอ้ งสงั เกตอปุ กรณใ์ ดบา้ ง (บกี เกอร์ กระบอกตวง) 13.2 นักเรียนต้องทาอย่างไรกับบีกเกอร์และกระบอกตวง (สังเกต และอภปิ รายวธิ ีใช้งาน) 13.3 นักเรียนต้องทาอย่างไรต่อไป (คาดคะเนว่าบีกเกอร์และ กระบอกตวงสามารถใชต้ วงน้าสีปริมาตร 20 กับ 17 ลูกบาศก์ เซนติเมตรได้หรือไม่และทากิจกรรมเพ่ือตรวจสอบการ คาดคะเนและอภิปรายว่าอุปกรณ์ใดเหมาะสมท่ีจะตวงน้าสีได้ ถกู ต้องท่ีสดุ ) 14. นกั เรยี นทากจิ กรรม ดงั ตอ่ ไปน้ี สงั เกต บีกเกอร์ กระบอกตวง แลว้ อภิปรายวธิ กี ารใช้(S1) สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ อื ครูรายวชิ าพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หน่วยที่ 1 การเรียนรสู้ งิ่ ต่าง ๆ รอบตัว 36 คาดคะเนว่าบีกเกอร์และกระบอกตวงสามารถใช้ตวงน้าสี ปริมาตร 20 และ 17 ลูกบาศก์เซนติเมตรได้หรือไม่ และทา กิจกรรมเพอ่ื ตรวจสอบการคาดคะเน (S2) อภิปรายว่าบีกเกอร์หรือกระบอกตวงเหมาะสมที่จะตวงน้าสีได้ ถกู ตอ้ งทส่ี ดุ (S8) (C2, C5) 15. ครูและนักเรยี นร่วมกันอภปิ รายผลการทากิจกรรม ดงั นี้ 15.1 บกี เกอรแ์ ละกระบอกตวงเป็นอุปกรณใ์ ช้ทาอะไร (ตวงปรมิ าตร ของเหลว) 15.2 หนว่ ยท่ไี ด้จากการตวงปริมาตรคือหน่วยอะไร (มิลลิลติ ร) 15.3 อุปกรณ์ชนิดใดเหมาะที่จะตวงปริมาตรน้าสี เพราะเหตุใด (กระบอกตวง เพราะมีสเกลละเอียดกว่าทาให้ตวงปริมาตรได้ ถูกตอ้ งมากกว่า) 16.ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายจนได้ข้อสรุปว่า การตวงสารสามารถ ใช้อุปกรณ์ที่มีสเกลในการตวงสาร อุปกรณ์ท่ีมีสเกลละเอียดมากกว่า จะทาใหต้ วงสารได้ถูกต้องมากกว่า 17.นักเรียนร่วมกันอภปิ รายคาตอบในฉันรอู้ ะไร โดยครูอาจเพ่ิมเตมิ คาถาม ในการอภปิ ราย เพ่อื ให้ไดแ้ นวคาตอบตามคาถามทา้ ยกิจกรรมนี้ 18.นักเรียนสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ในกิจกรรมนี้ จากน้ันนักเรียนอ่านส่ิงท่ีได้ เรียนรู้ และเปรยี บเทยี บกับข้อสรุปของตนเอง 19.นักเรียนตั้งคาถามในอยากรู้อีกว่า จากน้ันครูสุ่มนักเรียน 2-3 คน นาเสนอคาถามของตนเองหน้าชนั้ เรียน 20.ครูนาอภิปรายเพ่ือให้นักเรียนทบทวนวา่ ได้ฝึกทักษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์และทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 อะไรบ้างและในขั้นตอน ใดบา้ ง และใหบ้ ันทึกในแบบบันทึกกจิ กรรมหนา้ 16 สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
37 ค่มู ือครรู ายวชิ าพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หน่วยที่ 1 การเรียนรสู้ ่ิงต่าง ๆ รอบตวั แนวคาตอบในแบบบนั ทึกกิจกรรม สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ค่มู อื ครรู ายวชิ าพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 1 การเรียนรสู้ งิ่ ต่าง ๆ รอบตวั 38 สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
39 คมู่ อื ครูรายวชิ าพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 1 การเรยี นร้สู ่งิ ต่าง ๆ รอบตวั สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ค่มู อื ครรู ายวชิ าพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 1 การเรียนรสู้ งิ่ ต่าง ๆ รอบตวั 40 สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
41 คมู่ อื ครูรายวชิ าพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 1 การเรยี นร้สู ่งิ ต่าง ๆ รอบตวั สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ค่มู อื ครรู ายวชิ าพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 1 การเรียนรสู้ งิ่ ต่าง ๆ รอบตวั 42 สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
43 คมู อื ครรู ายวชิ าพ้ืนฐานวิทยาศาสตร ป.4 เลม 1 | หนว ยที่ 1 การเรยี นรูส ่งิ ตา ง ๆ รอบตัว แนวการประเมินการเรียนรู การประเมินการเรียนรูข องนกั เรยี นทําได ดงั นี้ 1. ประเมนิ ความรูเดิมจากการอภิปรายในชนั้ เรียน 2. ประเมินการเรียนรจู ากคาํ ตอบของนกั เรยี นระหวางการจดั การเรยี นรูแ ละจากแบบบันทึกกจิ กรรม 3. ประเมนิ ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ ละทักษะแหง ศตวรรษที่ 21 จากการทาํ กจิ กรรมของนักเรยี น การประเมินจากการทาํ กจิ กรรมที่ 2.1 การวัดทําไดอยางไร ระดับคะแนน 1 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรุง 3 คะแนน หมายถึง ดี 2 คะแนน หมายถงึ พอใช รหัส ส่ิงท่ีประเมิน ระดบั คะแนน ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร S1 การสังเกต S2 การวดั S8 การลงความเหน็ จากขอมลู ทกั ษะแหงศตวรรษท่ี 21 C2 การคดิ อยา งมีวจิ ารณญาณ C5 ความรว มมือ รวมคะแนน สถาบนั สง เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี
ค่มู ือครูรายวชิ าพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 1 การเรยี นรสู้ ิง่ ต่าง ๆ รอบตัว 44 ตาราง แสดงการวเิ คราะหท์ กั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรต์ ามระดบั ความสามารถของนกั เรยี น โดยอาจใช้เกณฑ์การประเมิน ดังนี้ ทักษะกระบวนการ รายการประเมิน ระดับความสามารถ ทางวิทยาศาสตร์ ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรบั ปรงุ (1) S1 การสังเกต การบรรยาย สามารถใช้ประสาทสัมผสั สามารถใชป้ ระสาท ไมส่ ามารถใช้ ลกั ษณะของเครือ่ ง เก็บรายละเอยี ดเกีย่ วกับ สัมผสั เกบ็ รายละเอยี ด ประสาทสมั ผัสเก็บ ชัง่ แบบคาน 3 ลกั ษณะของเคร่ืองช่งั แบบ เกย่ี วกบั ลักษณะของ รายละเอียดเก่ยี วกับ แขน บกี เกอรแ์ ละ คาน 3 แขน บกี เกอร์และ เคร่ืองชง่ั แบบคาน 3 ลักษณะของเคร่ือง กระบอกตวง กระบอกตวง ด้วยตนเอง แขน บีกเกอรแ์ ละ ช่งั แบบคาน 3 แขน โดยไม่เพมิ่ ความคดิ เห็น กระบอกตวง โดยต้อง บีกเกอรแ์ ละ อาศยั การชแ้ี นะจากครู กระบอกตวง แม้วา่ หรอื ผู้อ่ืน ครหู รือผูอ้ นื่ ชว่ ย แนะนาหรอื ชแี้ นะ S2 การวดั การใช้เครอื่ งช่ัง สามารถใช้เครอื่ งชง่ั แบบ สามารถใชเ้ ครอ่ื งชัง่ ไม่สามารถใชเ้ ครือ่ ง การอ่านค่ามวล คาน 3 แขน ไดอ้ ย่าง แบบคาน 3 แขนได้ ช่งั แบบคาน 3 แขน และการระบหุ นว่ ย ถกู ตอ้ ง อ่านคา่ มวลและ โดยมขี อ้ ผิดพลาดบ้าง ได้ถกู ตอ้ ง ไม่ ทไี่ ดจ้ ากการชงั่ ระบุหนว่ ยของมวลไดอ้ ย่าง อ่านคา่ มวลและระบุ สามารถอ่านคา่ มวล ถูกต้องดว้ ยตนเอง หนว่ ยของมวลไดอ้ ย่าง และระบุหนว่ ยของ ถกู ตอ้ ง โดยอาศยั การ มวลได้ แม้วา่ ครหู รือ แนะนาจากครูหรือ ผู้อื่นช่วยแนะนาหรือ ผ้อู ื่น ชแี้ นะ S8 การลง การระบอุ ุปกรณท์ ่ี สามารถเพม่ิ เตมิ ความ สามารถเพม่ิ เตมิ ความ ไม่แสดงความคดิ เหน็ ความเหน็ จาก ใช้วดั มวลและ คิดเห็นเกี่ยวกบั ข้อมูลที่มอี ยู่ คดิ เหน็ เก่ียวกับขอ้ มูลท่ีมี หรอื เพมิ่ เตมิ ความ ข้อมูล ปรมิ าตรของวัตถุ จากการวดั มวลและปรมิ าตร อยจู่ ากการวัดมวลและ คดิ เหน็ แมว้ า่ ครูหรอื เพื่อระบอุ ุปกรณ์ทใ่ี ชว้ ดั มวล ปรมิ าตรเพื่อระบอุ ุปกรณ์ ผอู้ นื่ ช่วยแนะนาหรือ และปรมิ าตรไดอ้ ย่างถูกต้อง ทใ่ี ชว้ ัดมวลและปรมิ าตร ชแ้ี นะเกย่ี วกบั ขอ้ มลู ท่ี มีเหตุผล จากความรู้หรอื ไดถ้ ูกต้องบางส่วน มีอยจู่ ากการวัดมวล ประสบการณ์เดิมไดด้ ้วย พยายามให้เหตผุ ลจาก และปริมาตรเพือ่ ระบุ ตนเอง ความรหู้ รือประสบการณ์ อุปกรณท์ ่ีใช้วัดมวล เดิมโดยการช้แี นะของครู และปริมาตร หรอื ผู้อ่นื สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
45 คู่มือครรู ายวชิ าพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 1 การเรียนรูส้ ่ิงต่าง ๆ รอบตวั ตาราง แสดงการวเิ คราะหท์ กั ษะแห่งศตวรรษที่ 21 ตามระดบั ความสามารถของนักเรยี น โดยอาจใช้เกณฑ์การประเมนิ ดงั นี้ ทักษะแห่ง รายการประเมิน ระดับความสามารถ ศตวรรษท่ี 21 ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรับปรุง (1) C2 การคิด การอภปิ รายและ สามารถอภปิ รายและ สามารถวเิ คราะหแ์ ละ ไม่สามารถวเิ คราะห์ อยา่ งมี เลอื กอุปกรณ์ทใ่ี ชว้ ัด เลือกอุปกรณ์ที่ใช้วดั เลอื กอุปกรณ์ทใ่ี ช้วัด และเลือกอปุ กรณ์ท่ใี ช้ วจิ ารณญาณ ปรมิ าตรโดยมคี วาม ปริมาตรโดยมคี วาม ปรมิ าตรโดยมคี วาม วัดปริมาตรโดยมี คลาดเคล่ือนนอ้ ย คลาดเคลือ่ นน้อยที่สดุ คลาดเคลอื่ นนอ้ ยทส่ี ดุ ความคลาดเคลอื่ น ท่สี ดุ และวัดปริมาตรได้ และวัดปริมาตรได้ นอ้ ยที่สุดแม้วา่ ครูหรือ ถูกตอ้ งดว้ ยตนเอง ถกู ตอ้ งโดยอาศัยการ ผอู้ ่นื ชว่ ยแนะนาหรอื ชแี้ นะของครูหรอื ผู้อน่ื ชีแ้ นะ C5 ความ การมสี ่วนร่วมใน มีส่วนรว่ มในการ มีส่วนรว่ มในการ ไม่มีสว่ นร่วมในการ รว่ มมือ การรวบรวมข้อมูล รวบรวมข้อมลู บันทกึ รวบรวมข้อมลู บนั ทกึ รวบรวมข้อมูล บนั ทกึ บันทกึ ผล อภปิ ราย ผล อภิปรายผลการวดั ผล อภิปรายผลการวัด ผล อภปิ รายผลการ ผลการวัดและ และสรุปผลการวดั และสรุปผลการวัด วดั และสรุปผลการวัด สรปุ ผลการวดั การ การนาเสนอผล การนาเสนอผล การนาเสนอผล แมว้ ่า นาเสนอผล ร่วมกับเพื่อนในกลมุ่ ได้ รว่ มกับเพ่อื นในกลุม่ ได้ ครหู รือผอู้ ่นื ชว่ ย ดว้ ยตนเองตลอด จากการชี้แนะของครู แนะนาหรือชแี้ นะ กจิ กรรม หรอื ผ้อู ่ืน สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ค่มู อื ครูรายวชิ าพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หน่วยที่ 1 การเรยี นรสู้ ิ่งต่าง ๆ รอบตวั 46 กิจกรรมท่ี 2.2 การใช้จานวนทาไดอ้ ย่างไร กิจกรรมน้ีนักเรียนจะไดว้ ดั มวลของผลไม้ แลว้ หาคา่ เฉล่ียเพอื่ ฝึกทักษะการใช้จานวน เวลา 1 ชัว่ โมง ทักษะกระบวนการวทิ ยาศาสตร์ S1 การสงั เกต S2 การวดั S3 การใชจ้ านวน S8 การลงความเหน็ จากขอ้ มลู ทักษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 C5 ความรว่ มมอื จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ อธบิ ายและใช้ทักษะการใช้จานวนบอกปริมาณที่ไดจ้ าก การวดั ส่ิงตา่ ง ๆ วสั ดุ อปุ กรณส์ าหรบั ทากจิ กรรม 3 เครื่อง สอื่ การเรียนรู้และแหลง่ เรียนรู้ สง่ิ ทีค่ รตู ้องเตรยี ม/ห้อง 1 ผล 1. หนังสือเรยี น ป.4 เล่ม 1 หนา้ 20-21 1. เคร่อื งชง่ั แบบคาน 3 แขน 2. แบบบนั ทกึ กิจกรรม ป.4 เลม่ 1 หนา้ 18-20 สงิ่ ที่ครูต้องเตรียม/กล่มุ 1. ผลไม้ เช่น สม้ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
47 คมู่ ือครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 1 การเรียนรสู้ ิง่ ต่าง ๆ รอบตวั แนวการจัดการเรียนรู้ 1. ครูทบทวนและตรวจสอบความรู้เก่ียวกับการใช้จานวน โดยใช้ คาถามดังน้ี 1.1 ครูต้องการย้ายโต๊ะซึ่งวางอยู่หน้าห้องเรียนเข้ามาในห้อง ถ้าครูไม่ทราบว่าโต๊ะตัวนี้มีความยาวมากกว่าหรือน้อย กวา่ ความกว้างของประตหู อ้ ง ครูจะทาอย่างไร (นักเรยี น ตอบตามความเข้าใจแต่ควรตอบได้ว่า ใช้อุปกรณ์วัด ความยาว เชน่ ไมบ้ รรทัด) 1.2 จะทราบได้อย่างไรว่ากระเป๋านักเรียนท่ีบรรจุหนังสือ หนกั กก่ี โิ ลกรมั (นกั เรยี นตอบตามความเขา้ ใจ) 1.3 การดื่มน้าประมาณวันละ 8 แก้วดีต่อสุขภาพ ครูอยากรู้ ว่า น้าแต่ละแก้วมีปริมาตรเท่าใด และน้าทั้ง 8 แก้วมี ปริมาตรเท่าใด ครูจะทาอย่างไร และใช้อุปกรณ์อะไรใน การวดั (นกั เรยี นตอบตามความเข้าใจ) ครูชักชวนนักเรียนเข้าสู่การทากิจกรรมว่าเราจะหามวลของ ส่ิงต่าง ๆ เมื่อนามารวมกันว่ามีมวลเท่าใดและจะใช้อุปกรณ์ ใดที่เหมาะสมในการหามวล เราจะไดเ้ รยี นรู้จากกจิ กรรมน้ี 2. นกั เรยี นอา่ นช่ือกจิ กรรมและ ทาเปน็ คดิ เปน็ ในหนงั สอื เรยี น หน้า 20 ครูตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนเกี่ยวกับส่ิงที่ จะเรยี น โดยใชค้ าถามดังตอ่ ไปนี้ 2.1 กิจกรรมนี้นักเรียนจะได้เรียนเก่ียวกับเรื่องอะไร (ทักษะ การใช้จานวน) 2.2 นกั เรยี นจะเรยี นเรอ่ื งนด้ี ว้ ยวธิ ใี ด (การใชจ้ านวน) 2.3 เม่ือเรียนแล้วนักเรียนจะทาอะไรได้ (อธิบายทักษะการ ใชจ้ านวน) 3. ครูนาเข้าสู่กิจกรรม โดยให้นักเรียนอ่าน ทาอย่างไร ใน หนังสือเรียนหน้า 20 โดยใช้วิธีการอ่านตามความเหมาะสม กับความสามารถของนักเรียน ครูตรวจสอบความเข้าใจ ข้นั ตอนการทากิจกรรม โดยอาจใช้คาถามดงั นี้ 3.1 นักเรียนต้องทาอย่างไรบ้าง (ชั่งมวลของผลไม้ 1 ผล จานวน 5 คร้งั ) สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มอื ครรู ายวชิ าพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 1 การเรยี นร้สู งิ่ ต่าง ๆ รอบตัว 48 3.2 การหาค่าเฉลี่ยมวลของผลไม้ทาได้อย่างไร (นาผลรวม มวลของผลไม้ หารด้วยจานวนครงั้ ทชี่ ั่ง) 3.3 นกั เรยี นทาอยา่ งไร ในข้อท่ี 3 (คานวณหาจานวนผลไม้ที่ บรรจุลงในถถงุ ไดไ้ ม่เกนิ 1 กโิ ลกรัม) 3.4 ผลไม้ 1 กิโลกรัมคดิ เป็นกีก่ รัม (1000 กรมั ) 4. นักเรียนเร่ิมทากิจกรรมทีละข้อ และบันทึกผลในแบบบันทึก กจิ กรรมหน้า 18 ดังนี้ 4.1 ช่ังมวลผลไม้ จานวน 5 ครงั้ บันทกึ ผล (S2) 4.2 หาคา่ เฉล่ยี มวลของผลไม้ บันทึกผล(S3) (C5) 4.3 คานวณหาจานวนผลไมท้ ่ีบรรจใุ นถุงไดไ้ ม่เกิน 1 กโิ ลกรมั บนั ทึกผล (S3) (C5) 4.4 อภปิ รายและลงขอ้ สรุป (S8) 5. นกั เรยี นนาเสนอผลการทากจิ กรรม 6. นักเรียนนาผลจากการทากิจกรรมมาอภิปรายร่วมกัน โดย อาจใช้คาถามดังตอ่ ไปน้ี 6.1 มวลของผลไม้ท่ีชั่งได้ทั้ง 5 ครั้งเหมือนหรือแตกต่างกัน อยา่ งไร (นักเรียนตอบตามความเขา้ ใจ) 6.2 ค่าเฉลี่ยมวลของผลไม้เป็นเท่าใด คานวณได้อย่างไร (คาตอบค่าเฉล่ียมวลขึ้นอยู่กับนักเรียน วธิ ีคานวณคือนา ผลรวมของมวลทง้ั 5 คร้งั มาหารด้วยจานวนคร้งั ที่ ชัง่ ) 6.3 เราสามารถบรรจุผลไม้ในถุงได้กี่ผลและคานวณได้ อย่างไร (คาตอบเกี่ยวกับจานวนผลท่ีบรรจุได้ในถุง ข้ึนอยู่กับคาตอบของนักเรียน คานวณโดยใช้การบวก หรอื การหาร เชน่ ถ้าเป็นการบวกอาจนาค่ามวลผลไม้ 1 ผล มาบวกกันที ละผล เรื่อย ๆ จนตัวเลขใกล้เคียง 1000 กรัมมากที่ สุดแต่ไมเ่ กิน 1000 กรัม เช่น 93.74 + 93.74 = 187.48, 187.48+ 93.74 =281.22, 281.22+ 93.74=374.96, …. = 937.4เม่อื นบั จานวนตัวเลขมวลผลไม้ 1 ผลท่นี ามา บวกกันพบว่าได้ 10 คร้ัง แสดงว่า 10 คือจานวนผลไม้ มากทส่ี ดุ ทบ่ี รรจุลงในถงุ ได้ หรอื สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
49 คมู่ อื ครรู ายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 1 การเรียนรู้ส่งิ ต่าง ๆ รอบตวั ถ้าเป็นการหาร อาจนาตัวเลข 1000 แล้วหารด้วยค่า มวลของผลไม้ 1 ผล เช่น 1000/93.74 = 10.66 แสดง วา่ บรรจผุ ลไม้ไดม้ ากทีส่ ดุ 10 ผล) 7. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายและสรุปกิจกรรมนี้ว่าเป็น การเรียนรู้ทักษะการใช้จานวนผ่านการทากิจกรรมช่ังมวล ของผลไม้ หาค่าเฉล่ียมวลของผลไม้ และหาจานวนผลไม้ทใ่ี ส่ ในถุงไมเ่ กนิ 1 กโิ ลกรัม 8. นักเรียนร่วมกันอภิปรายคาตอบในฉันรู้อะไร โดยครูอาจ เพ่ิมเติมคาถามในการอภิปราย เพื่อให้ได้แนวคาตอบตาม คาถามท้ายกิจกรรมนี้ 9. นักเรียนสรุปส่ิงที่ได้เรียนรู้จากกิจกรรมน้ี จากนั้นนักเรียน อ่านสิง่ ท่ไี ดเ้ รยี นรู้ และเปรียบเทียบกบั ข้อสรปุ ของตนเอง 10. นักเรียนต้ังคาถามในอยากรู้อีกว่า จากน้ันครูสุ่มนักเรียน 2- 3 คน นาเสนอคาถามของตนเองหนา้ ช้นั เรียน 11. ครูนาอภิปรายเพ่ือให้นักเรียนทบทวนว่าได้ฝึกทักษะ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 ในข้ันตอนใดบ้าง 12. นักเรียนร่วมกันอ่าน รู้อะไรในเรื่องนี้ เรื่องที่ 2 การวัดและ การใช้จานวน ในหนังสือเรียนหน้า 22-23 ครูนาอภิปราย เพื่อนาไปสู่ข้อสรุปเก่ียวกบั ส่ิงทไ่ี ด้เรียนรู้ในเร่อื งน้ี จากนั้นครู ชักชวนให้นักเรียนตอบคาถาม เช่น จะใช้วิธีการใดและ อปุ กรณ์ใดในการหาปริมาตรนมท่ีเหลืออยู่ในกล่องหรือในถุง ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายแนวทางการตอบคาถาม โดยเนน้ ให้นักเรยี นตอบคาถามพร้อมอธบิ ายเหตผุ ลประกอบ สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ค่มู อื ครูรายวชิ าพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 1 การเรียนร้สู ิง่ ต่าง ๆ รอบตวั 50 แนวคาตอบในแบบบันทกึ กจิ กรรม สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
51 คมู่ อื ครูรายวชิ าพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 1 การเรยี นร้สู ่งิ ต่าง ๆ รอบตวั สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ค่มู อื ครรู ายวชิ าพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 1 การเรียนรสู้ งิ่ ต่าง ๆ รอบตวั 52 สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
53 ค่มู อื ครูรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หน่วยที่ 1 การเรียนรสู้ ่ิงตา่ ง ๆ รอบตวั แนวการประเมินการเรียนรู้ การประเมนิ การเรียนรูข้ องนกั เรียนทาได้ ดงั นี้ 1. ประเมินความรูเ้ ดมิ จากการอภิปรายในช้นั เรยี น 2. ประเมนิ การเรยี นรู้จากคาตอบของนกั เรียนระหวา่ งการจดั การเรียนรู้และจากแบบบนั ทกึ กิจกรรม 3. ประเมินทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละทกั ษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 จากการทากิจกรรมของนกั เรียน การประเมินจากการทากจิ กรรมที่ 2.2 การใชจ้ านวนทาได้อยา่ งไร ระดับคะแนน 2 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 1 คะแนน หมายถงึ ควรปรับปรงุ 3 คะแนน หมายถงึ ดี รหัส ส่ิงทปี่ ระเมิน คะแนน ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ S2 การวัด S3 การใช้จานวน S8 การลงความเห็นจากข้อมูล ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 C5 ความรว่ มมือ รวมคะแนน สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ค่มู อื ครรู ายวชิ าพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 1 การเรยี นรูส้ งิ่ ตา่ ง ๆ รอบตวั 54 ตาราง แสดงการวเิ คราะหท์ ักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรต์ ามระดบั ความสามารถของนักเรียน โดยอาจใช้เกณฑก์ ารประเมิน ดังนี้ ทกั ษะกระบวนการ รายการประเมิน ระดบั ความสามารถ ทางวิทยาศาสตร์ ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรบั ปรุง (1) S2 การวดั การใช้เครื่องช่ัง สามารถใชเ้ ครอื่ งช่ังช่งั มวล สามารถใชเ้ ครอ่ื งช่งั ไม่สามารถใชเ้ คร่อื งชง่ั อา่ นคา่ มวลและ และอา่ นค่ามวลได้อยา่ ง ช่ังมวลและอา่ นค่า ชัง่ มวลและอา่ นค่ามวล ระบุหน่วยของมวล ถูกต้องดว้ ยตนเอง และ มวลได้อย่างถูกตอ้ ง ไมถ่ ูกต้องรวมทง้ั ไม่ ระบุหน่วยของมวลไดอ้ ย่าง และระบุหน่วยของ สามารถระบุหนว่ ยของ ถกู ต้อง มวลไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง มวลได้ แมว้ ่าครูหรือ โดยต้องอาศยั การ ผู้อื่นช่วยแนะนาหรือ ชี้แนะจากครูหรือ ช้แี นะ ผ้อู ื่น S3 การใชจ้ านวน การคานวณหา สามารถคานวณหาคา่ เฉลยี่ สามารถคานวณหา ไม่สามารถคานวณหา ค่าเฉลีย่ มวลของ มวลของวัตถแุ ละระบุ คา่ เฉล่ยี มวลของวตั ถุ ค่าเฉล่ยี มวลของวตั ถุ วตั ถแุ ละระบุ จานวนผลไม้ที่ใส่ถงุ ได้หนัก และระบจุ านวน และระบุจานวนผลไม้ จานวนผลไม้ท่ี 1 กโิ ลกรัมได้ถกู ต้องด้วย ผลไมท้ ่ใี สถ่ งุ ไดห้ นัก ทีบ่ รรจถุ งุ ได้หนกั 1 บรรจถุ ุงได้หนกั 1 ตนเอง 1 กิโลกรมั ไดถ้ กู ต้อง กิโลกรมั แมว้ ่าครูหรือ กิโลกรัม โดยอาศัยการชีแ้ นะ ผอู้ ่นื ช่วยแนะนาหรอื ของครูหรือผู้อื่น ช้ีแนะ S12 การลง การนาค่ามวลมา สามารถเพ่ิมเตมิ ความ สามารถเพ่มิ เตมิ ไมส่ ามารถเพิ่มเติม ความเหน็ จาก คานวณหาคา่ เฉลย่ี คิดเห็นเกย่ี วกบั ข้อมลู ทมี่ ี ความคิดเห็นเก่ยี วกับ ความคดิ เห็นเกีย่ วกบั ข้อมูล มวลและระบุ อยูจ่ ากการช่ังมวลผลไม้ ขอ้ มลู ทีม่ ีอยจู่ ากการ ข้อมลู ทม่ี อี ยู่จากการ จานวนผลไม้ที่ การคานวณค่าเฉล่ยี มวล ช่ังมวลผลไม้การ ชงั่ มวลผลไม้การ บรรจใุ นถงุ ไดห้ นกั และระบุจานวนผลไม้ท่ี คานวณคา่ เฉล่ยี มวล คานวณค่าเฉล่ยี มวล 1 กโิ ลกรมั บรรจใุ นถงุ หนกั 1 กโิ ลกรมั และระบจุ านวน และระบจุ านวนผลไม้ ไดถ้ กู ตอ้ ง มีเหตผุ ล ดว้ ย ผลไมท้ ี่บรรจใุ นถุง ท่ีบรรจใุ นถุงหนกั 1 ตนเอง หนกั 1 กิโลกรัมได้ กิโลกรัมแมว้ า่ ครูหรอื ถูกต้อง มเี หตุผล โดย ผูอ้ ื่นชแ้ี นะ อาศัยการชีแ้ นะจาก ครูหรอื ผอู้ ื่น สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
55 คมู่ อื ครรู ายวชิ าพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หน่วยที่ 1 การเรียนรสู้ ง่ิ ต่าง ๆ รอบตวั ตาราง แสดงการวิเคราะหท์ ักษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 ตามระดับความสามารถของนักเรยี น โดยอาจใช้เกณฑก์ ารประเมิน ดังน้ี ทักษะแห่ง รายการประเมิน ระดับความสามารถ ศตวรรษที่ 21 ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรบั ปรุง (1) C5 ความ การมสี ่วนร่วมใน มีสว่ นร่วมในการ มีสว่ นรว่ มในการ ไมม่ สี ว่ นรว่ มในการ รว่ มมอื การรวบรวมขอ้ มูล รวบรวมข้อมูลการชง่ั รวบรวมขอ้ มลู การชัง่ รวบรวมข้อมูลการชั่ง การชงั่ มวล คานวณ มวล คานวณคา่ เฉลีย่ มวล คานวณคา่ เฉลย่ี มวล คานวณคา่ เฉล่ีย ค่าเฉลยี่ มวลและ มวล และระบุจานวน มวล และระบจุ านวน มวล และระบจุ านวน ระบุจานวนผลไมท้ ี่ ผลไมท้ ่ีบรรจถุ งุ ไดห้ นกั ผลไมท้ ี่ใส่ถงุ ได้หนัก 1 ผลไม้ท่บี รรจถุ งุ หนกั ใส่ถงุ หนกั 1 1 กโิ ลกรมั การบันทึกผล กิโลกรมั การบนั ทกึ 1 กิโลกรมั การบนั ทึก กิโลกรัม การบนั ทึก การอภิปรายและ ผล การอภิปรายและ ผล การอภิปรายและ ผล การอภิปราย นาเสนออยา่ ง นาเสนอโดยอาศัย นาเสนอแม้ว่าครหู รือ และนาเสนอ กระตอื รือร้นโดย การกระต้นุ และชีแ้ นะ ผู้อื่นจจะช่วยกระต้นุ ร่วมงานกบั เพ่ือนใน จากครูหรอื ผอู้ นื่ หรอื ชี้แนะ กลุ่มได้ดว้ ยตนเอง สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
คู่มอื ครูรายวชิ าพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 1 การเรยี นรู้สิง่ ตา่ ง ๆ รอบตัว 56 เรอ่ื งที่ 3 การทดลองของนักวิทยาศาสตร์ ในเร่อื งนนี้ ักเรยี นจะได้เรียนรเู้ กยี่ วกบั การทดลอง จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ หน้า 24-32 หน้า 21-26 อธบิ ายทักษะการทดลองเพอ่ื รวบรวมขอ้ มูลในการ สืบเสาะหาความรู้ เวลา 2 ชวั่ โมง วสั ดุ อุปกรณส์ าหรับทากจิ กรรม ไข่นกกระทา นาฬิกาจับเวลา เชือกฟาง ถุงพลาสตกิ แกว้ พลาสตกิ ส่อื การเรียนรแู้ ละแหล่งเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรียน ป.4 เล่ม 1 2. แบบบนั ทึกกิจกรรม ป.4 เลม่ 1 สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
57 คูม่ ือครูรายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์ ป.4 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 1 การเรียนรสู้ ่ิงต่าง ๆ รอบตวั แนวการจดั การเรียนรู้ (60 นาท)ี ข้ันตรวจสอบความรู้ (10 นาที) 1. ครูนาเขา้ สู่บทเรียนโดยชักชวนนักเรียนอภปิ รายในเรอ่ื ง ดังต่อไปนี้ นกั เรยี นเคยมคี วามสงสัยเกีย่ วกับส่งิ ตา่ ง ๆ รอบตวั หรือไม่ เช่น ออกกาลังกายแบบใดทาใหห้ ัวใจเตน้ เร็วทส่ี ดุ ละออง เกสรพชื ชนิดใดทที่ าใหเ้ ราจาม สุนขั ท่เี ลยี้ งไว้ชอบกินเนอื้ หมูหรือ เนือ้ ไก่มากกว่ากัน 2. ครใู ห้ขอ้ สงั เกตว่าชักชวนนกั เรียนวา่ ในการหาคาตอบข้อสงสยั เหล่านี้ อาจต้องใช้ทกั ษะการทดลอง ซง่ึ นักเรียนจะได้เรียนรู้ เกี่ยวกับการทดลองในกิจกรรมนี้ ขั้นฝกึ ทกั ษะการอา่ น (40 นาที) 3. นักเรยี นอา่ น ชื่อเรือ่ ง และ คิดกอ่ นอ่าน ในหนังสือเรียนหน้า 24 แล้วร่วมกนั อภิปรายในกลมุ่ เพ่อื หาแนวคาตอบ ครูบนั ทกึ คาตอบ ของนักเรยี นบนกระดานเพื่อเป็นข้อมลู ในการแก้ไขความเข้าใจ คลาดเคลอ่ื นของนักเรียน 4. นักเรียนอา่ นคาใน คาสาคัญ ท้งั ภาษาไทยและภาษาองั กฤษ (หากนกั เรียนอ่านไมไ่ ด้ ครูควรสอนการอา่ นให้ถกู ตอ้ ง) จากนน้ั อธิบายความหมายของคาตามความเขา้ ใจ ครชู ักชวนใหน้ ักเรียน หาความหมายของคาภายหลังจากการอ่านเนือ้ เร่ือง 5. นักเรยี นอ่านเนื้อเรอื่ ง ตามวธิ ีการอ่านทเ่ี หมาะสมกบั ความสามารถของนักเรยี น จากนน้ั ร่วมกันอภิปรายใจความ สาคญั ตามแนวคาถามดังนี้ 5.1 เราสามารถใชก้ ระบวนการใดในการหาคาตอบเกี่ยวกับสิ่ง ต่าง ๆ (กระบวนการสืบเสาะหาความรทู้ างวทิ ยาศาสตร์) 5.2 การสารวจตรวจสอบทาได้อย่างไรบ้าง ยกตัวอย่าง (การ สงั เกต การสารวจ การสบื คน้ ข้อมูล) 5.3 จากตวั อย่าง นักเรยี นจะรู้ได้อย่างไรว่าเสน้ ทางไปโรงเรยี น ทางใดใช้เวลานอ้ ยทสี่ ุด (จบั เวลาเดินทางในแตล่ ะเสน้ ทาง เปรยี บเทยี บเวลาทใี่ ช้เดนิ ทางในแตล่ ะเสน้ ทาง) 5.4 จากสถานการณ์ สมมตฐิ านของการทดลองคอื อะไร (ดนิ ร่วน ทาให้ผกั บุ้งเจริญเตบิ โตได้ดที ่สี ุด) 5.5 สิ่งใดบา้ งท่อี าจเกีย่ วข้องกับการเจริญเตบิ โตของพืช (น้า แสง ชนิดของดนิ ) 5.6 ตัวแปรต้นของการทดลองนี้คืออะไร (ชนิดของดิน) 5.7 ตัวแปรตามของการทดลองน้ีคอื อะไร (การเจรญิ เตบิ โตของ ผักบ้งุ ) สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368