Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 ล.1

(คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 ล.1

Published by แชร์งานครู Teachers Sharing, 2021-01-18 11:21:03

Description: (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 ล.1
คู่มือครูรายวิชาพื้นฐาน วิทยาศาสตร์

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
เล่ม 1
ตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2560)
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551

Keywords: (คู่มือ)หนังสือเรียนสสวท พื้นฐานวิทยาศาสตร์ ป.3 ล.1,คู่มือครูรายวิชาพื้นฐาน วิทยาศาสตร์,กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2560),หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551

Search

Read the Text Version

คู่มือครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เล่ม 1 | หน่วยที่ 2 อากาศและชวี ิตของสตั ว์ 160 กิจกรรมท่ี 1.3 ลมเกดิ ข้นึ ไดอ้ ยา่ งไร กิจกรรมนี้นักเรียนจะได้วัดและเปรียบเทียบ อุณหภูมิของอากาศในบริเวณต่าง ๆ สร้างแบบจาลอง และอธิบายการเกิดลม สืบค้นข้อมูลและบรรยาย ประโยชน์และโทษของลม เวลา 4 ชวั่ โมง จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. วดั และเปรียบเทียบอุณหภมู ขิ องอากาศในบรเิ วณ ตา่ ง ๆ 2. สรา้ งแบบจาลองและอธบิ ายการเกิดลม 3. สบื คน้ ข้อมูลและบรรยายประโยชนแ์ ละโทษของลม วัสดุ อุปกรณส์ าหรับทากจิ กรรม ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ส่งิ ที่ครูตอ้ งเตรยี ม/กลุ่ม S1 การสังเกต S2 การวดั 1. เทอร์มอมเิ ตอร์ 2 อัน S7 การพยากรณ์ S8 การลงความเหน็ จากข้อมูล 2. กระดาษ 1 แผน่ S13 การตีความหมายข้อมูลและลงขอ้ สรุป S14 การสรา้ งแบบจาลอง 3. เทปใส 1 ม้วน ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 4. กรรไกร 1 เล่ม C2 การคดิ อย่างมีวิจารณญาณ 5. เชือกหรือด้าย 1 เส้น C4 การสอื่ สาร C5 ความร่วมมอื (ยาวประมาณ 50 เซนตเิ มตร) สื่อการเรียนรู้และแหล่งเรียนรู้ 6. ธปู 1 ดอก 1. หนังสอื เรียน ป.3 เล่ม 1 หนา้ 60-66 7. ไม้ขีดไฟ 1 กลัก 2. แบบบนั ทึกกจิ กรรม ป.3 เลม่ 1 หนา้ 59-65 3. วดี ิทศั น์ตวั อยา่ งการปฏิบตั กิ ารวทิ ยาศาสตร์สาหรับครู 8. กระป๋องบรรจทุ ราย 1 ใบ เร่ืองลมเกิดขึ้นได้อย่างไร http://ipst.me/9914 9. เทยี นไข 1 เลม่ สง่ิ ทน่ี กั เรียนตอ้ งเตรยี ม/กลุ่ม 1. ฝาขวดนา้ 1 ฝา 2. ขวดนา้ พลาสติกใบใหญ่ 1 ใบ 3. ขวดน้าพลาสตกิ ใบเลก็ 1 ใบ สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 

161 คู่มอื ครูรายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 2 อากาศและชวี ิตของสตั ว์ แนวการจัดการเรียนรู้ ในการตรวจสอบความรู้เดิม ครูรับฟังเหตุผลของนักเรียนเป็น 1. ครูตรวจสอบความรู้เดิมเก่ียวกับอุณหภูมิของอากาศในแต่ละวัน สาคัญ ครูยังไม่เฉลยคาตอบใด ๆ และในแต่ละสถานที่ โดยนารูปสถานท่ีที่มีสภาพแวดล้อมแตกต่าง แต่ชักชวนให้หาคาตอบท่ีถูกต้อง กัน เช่น ป่า สนามหญ้าโล่งแจ้ง มาให้นักเรียนสังเกต จากน้ันครู จากการทากิจกรรมต่าง ๆ อาจใช้คาถามดังนี้ 1.1 ในเวลาเดียวกัน อุณหภูมิของอากาศตามบริเวณต่าง ๆ จะ เท่ากันหรือไม่ และจะรู้ได้อย่างไร (นักเรียนตอบตามความ เข้าใจของตนเอง เช่น ไม่เท่ากัน ในป่าจะมีอุณหภูมิของ อากาศต่ากว่าสนามหญ้าโล่งแจ้ง รู้ได้จากการใช้เครื่องวัด อุณหภมู ิ เชน่ เทอรม์ อมเิ ตอร์ มาวัดอณุ หภูมขิ องอากาศ) 2. ครูเชื่อมโยงความรู้เดิมของนักเรียนไปสู่การทากิจกรรมที่ 1.3 โดย ใช้คาถามดังนี้ อากาศตามสถานท่ีต่าง ๆ ซึ่งมีอุณหภูมิแตกต่างกัน หรือไม่ อากาศจะเคลื่อนท่ีไปอย่างไร และเกี่ยวข้องกับการเกิดลม หรือไม่ (นักเรียนตอบตามความเข้าใจ) จากน้ันครูชักชวนนักเรียน หาคาตอบจากการทากิจกรรม 3. นักเรียนอ่าน ชื่อกิจกรรม และ ทาเปน็ คดิ เปน็ ในหนังสือเรียนหน้า 60 จากน้ันครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเพื่อตรวจสอบความ เขา้ ใจจดุ ประสงค์ในการทากจิ กรรม โดยใชค้ าถามดังนี้ 3.1 กิจกรรมนี้นักเรียนจะได้เรียนเรื่องอะไร (อุณหภูมิของอากาศ ในบรเิ วณต่าง ๆ การเกดิ ลม ประโยชนแ์ ละโทษของลม) 3.2 นักเรียนจะได้เรียนรู้เรื่องน้ีด้วยวิธีใด (การวัด การสร้าง แบบจาลอง และการสืบค้นขอ้ มลู ) 3.3 เมือ่ เรียนจบแล้ว นักเรยี นจะทาอะไรได้ (เปรียบเทียบอณุ หภูมิ ของอากาศในบริเวณต่าง ๆ อธิบายการเกิดลม และบรรยาย ประโยชนแ์ ละโทษของลม)  สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คู่มอื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 2 อากาศและชวี ติ ของสตั ว์ 162 4. นักเรียนบันทึกจุดประสงค์ข้อที่ 1 ลงในแบบบันทึกกิจกรรม หน้า ขอ้ เสนอแนะเพิม่ เตมิ 59 และข้อที่ 2 และ 3 ลงในแบบบันทึกกิจกรรมหน้า 60 จากน้ัน อ่าน สิ่งท่ตี อ้ งใช้ ในการทากิจกรรม จากน้นั ครูนาวัสดุอปุ กรณ์ที่ใช้ ครูนาเทอร์มอมเิ ตอร์มาแสดงและสาธติ ในการทากจิ กรรมมาแสดงให้นักเรยี นดูทลี ะอยา่ ง ให้นักเรียนดูหน้าชน้ั เรียนเพื่อให้นกั เรียนร้จู ัก ลกั ษณะและวิธกี ารใช้ ซง่ึ เทอร์มอมิเตอร์บางชนิด 5. นักเรียนอ่าน ทาอย่างไร ตอนที่ 1 โดยครูใช้วิธีฝึกทักษะการอา่ นที่ บรรจขุ องเหลวสแี ดง บางชนิดบรรจุของเหลวสเี งิน เหมาะสมกับความสามารถของนกั เรียน จากน้นั ครูตรวจสอบความ ครูแนะนาส่วนทีเ่ หน็ เปน็ สีแดงหรอื สเี งินที่ปลาย เขา้ ใจเกย่ี วกับลาดับขั้นตอนการทากจิ กรรม โดยใช้คาถามดังนี้ ดา้ นหน่งึ เรยี กวา่ กระเปาะเทอร์มอมิเตอร์ ดา้ นใน 5.1 ต้องเลือกบริเวณท่ีจะวัดอุณหภูมิของอากาศท่ีไม่ซ้ากับกลุ่มอื่น กระเปาะเปน็ ของเหลวสแี ดงหรือสเี งิน เมอ่ื จะวัด ๆ กี่บรเิ วณ (2-3 บริเวณ) อณุ หภมู ขิ องสง่ิ ใดกน็ ากระเปาะไปสมั ผสั กบั วัตถุ 5.2 ใช้เครือ่ งมือใดวดั อุณหภมู ิของอากาศ (เทอรม์ อมิเตอร์) น้ัน ของเหลวสีแดงหรอื สีเงนิ สามารถหดหรือ 5.3 การเตรียมเคร่ืองมือท่ีจะนาไปวัดทาได้อย่างไร และจะแขวน ขยายตัวเพื่อบอกระดับความร้อนของวัตถุหรอื เครื่องมือนี้อย่างไร (ใช้กระดาษทาเป็นกรวยแล้วนามาหุ้ม อณุ หภมู ิได้ การอ่านค่าอณุ หภูมขิ องวัตถุให้ดจู าก กระเปาะของเทอร์มอมิเตอร์ และนาเทอร์มอมิเตอร์ไปแขวน ระดบั ความสูงของของเหลวที่ตรงกบั ขีดแบ่งบน ใหป้ ลายเทอรม์ อมเิ ตอร์สูงจากพน้ื ไม่น้อยกว่า 1 เมตร) แท่งแกว้ โดยตอ้ งมองระดบั ของของเหลวให้อย่ใู น 5.4 เพราะเหตุใดจึงต้องหุ้มกระเปาะเทอร์มอมิเตอร์ไว้ (นักเรียน ระดบั สายตา อุณหภมู มิ หี นว่ ยวัดเปน็ องศา ตอบตามความเข้าใจ แต่ครูควรเฉลยว่าการใช้กระดาษหุ้ม เซลเซียส เทอรม์ อมเิ ตอร์แบบแท่งยาวจะสามารถ กระเปาะไว้เพื่อไม่ให้กระเปาะเทอร์มอมิเตอร์ถูกแสงอาทิตย์ วัดอุณหภมู ิได้ตั้งแต่ 0-100 องศาเซลเซยี ส โดยตรง เพราะเราต้องการวัดอุณหภูมิของอากาศ ไม่ต้องการ วัดอุณหภมู ิของแสงอาทิตย)์ 6. ก่อนจะให้นักเรียนทากิจกรรมตอนท่ี 1 ครูให้นักเรียนสังเกต ลักษณะของเทอร์มอมิเตอร์ และสาธิตวิธีวัดอุณหภูมิของอากาศ จากน้นั ให้นกั เรยี นฝกึ วัดอุณหภูมขิ องอากาศจนนักเรียนสามารถทา ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 7. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันเลือกสถานที่ที่ไม่ซ้ากัน และครูควร แนะนาให้เลอื กสถานทีท่ ั้งทีเ่ ป็นกลางแจ้ง เชน่ สนามหนา้ โรงเรียน และสถานท่ีในร่ม เช่น ใต้ต้นไม้ หรือใต้อาคารเรียน นอกจากนี้ ควรให้นักเรียนตกลงเวลาที่จะวัดอุณหภูมิของอากาศตามสถานท่ี ต่าง ๆ ให้เหมอื นกัน เพือ่ ใหส้ ามารถเปรยี บเทียบข้อมูลได้ง่าย โดย อาจเลือกชว่ งเวลาพกั กลางวนั ท่ีนกั เรยี นว่างพรอ้ มกนั สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 

163 คูม่ อื ครูรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 2 อากาศและชีวติ ของสตั ว์ 8. นักเรียนแต่ละกลุ่มทากิจกรรมตามขั้นตอนที่บันทึกไว้บนกระดาน ขอ้ เสนอแนะเพ่ิมเตมิ ขณะที่ทากิจกรรมครูควรช่วยเหลือและให้คาแนะนาตามความ จาเป็น ตั ว อ ย่ า ง ต า ร า ง บั น ทึ ก ผ ล ที่ เ ขี ย น บ น กระดานหรือกระดาษปรู๊ฟสาหรับการบันทึก 9. เมื่อทุกกลุ่มสารวจอุณหภูมิตามเวลาท่ีกาหนดแล้ว ครูอาจให้ ขอ้ มูล นักเรียนนาข้อมูลมาบันทึกในตารางบนกระดานหรือกระดาษปรู๊ฟ ตาราง อุณหภมู ขิ องอากาศท่ีบริเวณต่าง ๆ ทค่ี รูเขียนเตรยี มไว้ให้ ซง่ึ ตดิ แสดงไวห้ นา้ ชน้ั เรยี น ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละ 10. นักเรียนนาเสนอผลการสารวจอุณหภูมิของอากาศ จากนั้นครูและ ทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21 ทน่ี ักเรียนจะได้ฝกึ นักเรียนรว่ มกนั อภิปรายผลการทากิจกรรม จากขอ้ มลู ในตารางโดย ใชค้ าถามดังนี้ จากการทากจิ กรรม 10.1 อุณหภูมิของอากาศในบริเวณต่าง ๆ ในเวลาเดียวกัน ตอนท่ี 1 แตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร (อุณหภูมิของอากาศบริเวณ S1 สงั เกตลกั ษณะสภาพแวดลอ้ มในบริเวณท่ี ต่าง ๆ ในเวลาเดียวกันจะแตกต่างกัน เช่น บริเวณท่ีอยู่ใน ทร่ี ม่ ใตต้ ้นไม้ จะมอี ุณหภูมิของอากาศตา่ กวา่ บรเิ วณ กลาง วัดอุณหภมู ิของอากาศ สนามหนา้ โรงเรยี น ) S2 วดั อณุ หภูมิของอากาศในบรเิ วณต่าง ๆ 10.2 เพราะเหตใุ ดสถานที่ตา่ งกัน จงึ มีอณุ หภมู ิแตกตา่ งกนั (เพราะ แต่ละสถานที่มีสภาพแวดล้อมแตกต่างกัน เช่น บริเวณที่มี โดยใช้เทอรม์ อมิเตอร์ และระบุหน่วยของ ต้นไม้ใหญ่ทาให้ร่ม จึงได้รับความร้อนจากแสงอาทิตย์น้อย อณุ หภูมิของอากาศ ทาใหม้ ีอุณหภูมขิ องอากาศตา่ กว่าบริเวณทโ่ี ลง่ แจ้ง) S8 ลงความเห็นจากขอ้ มูลเก่ียวกบั ความ แตกต่างของอุณหภมู ิของอากาศในแต่ละ 11. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายและลงข้อสรุปว่า อุณหภูมิของ สถานทใ่ี นเวลาเดยี วกนั อากาศแตล่ ะสถานท่ใี นเวลาเดียวกันอาจจะไมเ่ ทา่ กนั (S13) C5 รว่ มกนั ทางานกับผอู้ ่นื ในการสารวจ อุณหภูมิของอากาศในบรเิ วณตา่ ง ๆ 12. นักเรยี นรว่ มกนั อภปิ รายและตอบคาถามใน ฉนั รู้อะไร ตอนท่ี 1 ใน แบบบันทึกกิจกรรมหนา้ 63 โดยครูอาจใชค้ าถามเพ่ิมเติมเพื่อให้ได้ แนวคาตอบที่ถูกตอ้ ง 13. ครูเชื่อมโยงเข้าสู่กิจกรรมตอนท่ี 2 โดยถามว่า อุณหภูมิของอากาศ ท่ีแตกต่างกันในบริเวณต่าง ๆ มีผลทาให้เกิดลมได้หรือไม่ อย่างไร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง) ครูชักชวนให้นักเรียนหา คาตอบจากการทากจิ กรรม  สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คมู่ อื ครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 2 อากาศและชวี ติ ของสัตว์ 164 14. นักเรียนอ่าน สิ่งที่ต้องใช้ ในการทากิจกรรม จากนั้นครูนาวัสดุ ขอ้ เสนอแนะเพ่ิมเติม อุปกรณ์สาหรับใช้ในกิจกรรมตอนที่ 2 มาแสดงให้นักเรียนดูทีละ อยา่ ง ตัวอยา่ งลาดับขนั้ ตอนการทากจิ กรรมตอนที่ 2 15. นักเรียนอ่าน ทาอย่างไร ตอนท่ี 2 ข้อ 1-6 โดยครูใช้วิธีฝึกทักษะ สรา้ งแบบจาลองแลว้ นามาครอบเทยี นไขที่ยงั ไมจ่ ุดไฟ การอ่านท่ีเหมาะสมกับความสามารถของนักเรียน จากน้ันครู ตรวจสอบความเข้าใจเกี่ยวกับลาดับข้ันตอนการทากิจกรรม และ  อาจใช้คาถามพรอ้ มกบั เขยี นลาดับข้ันตอนบนกระดาน ดงั นี้ วดั และบนั ทกึ อณุ หภูมิของอากาศปลายขวดทง้ั สองใบ 15.1 นักเรยี นจะสร้างแบบจาลองโดยใช้ขวดพลาสติกก่ใี บ ขวดแต่ ละใบมีขนาดอย่างไร (ใช้ขวดพลาสติก 2 ใบ ขวดใหญ่ 1 ใบ  และขวดเล็ก 1 ใบ) ใชธ้ ปู จอ่ ที่ปลายขวดแนวนอน 15.2 นักเรียนจะนาขวดแต่ละใบมาประกอบกันดังรูปได้อย่างไร (ตัดก้นขวดทั้งสองใบ แล้วทาเคร่ืองหมายกากบาทตรง  ตาแหน่งที่จะสอดปากขวดใบเล็กเข้าไป จากนั้นกรีดขวดใบ สังเกตการเคลอ่ื นทข่ี องควนั ธปู ใหญ่ตามรอยกากบาท แล้วเสียบปากขวดใบเล็กเข้าไปใน ชอ่ งใหแ้ นน่ )  15.3 เทียนไขท่ีใช้ในกิจกรรมต้องสูงเท่าใด (สูงเท่ากับความสูง บันทกึ ผลโดยเขียนลกู ศรตามทศิ ทางทค่ี วนั ธูปเคลอื่ นไป ของปากขวดใบเลก็ ท่ีวางนอนอย)ู่ 15.4 กิจกรรมน้ีนักเรียนจะวัดอุณหภูมิของอากาศเหนือปากขวด  ในแนวต้ังและปลายขวดแนวนอนก่ีครั้ง แต่ละครั้งวัดเม่ือไร พยากรณก์ ารเคลอ่ื นทข่ี องควันธูป (วัด 2 ครั้ง ครั้งแรกวัดก่อนจุดเทียนไข และวัดอีกครั้งหลัง จดุ เทยี นไข) เมื่อยงั ไม่จดุ เทียนไข บนั ทกึ ผล 15.5 เมื่อยังไม่จุดเทียนไข ส่ิงที่ต้องสังเกตและบันทึกผลเม่ือใช้ธปู ที่มีควันจ่อท่ีปลายขวดในแนวนอนคืออะไร และต้องบันทึก  ที่ใด (สังเกตการเคล่ือนท่ีของควันธูป แล้ววาดลูกศรแสดง จุดเทียนไข ทิศทางที่ควันธูปเคลื่อนท่ีไป โดยบันทึกในแบบบันทึก กิจกรรมหนา้ 61)  15.6 นกั เรียนตอ้ งพยากรณแ์ ละบันทึกสงิ่ ใด (พยากรณแ์ ละบันทึก วดั และบันทึกอณุ หภมู ิของอากาศท่ีปลายขวดท้งั สองใบ ว่าควันธูปจะเคล่ือนที่อย่างไร เม่ือจุดเทียนไขแล้วนาธูปที่มี  จ่อควันธปู ทปี่ ลายขวดใบเล็ก  สังเกตการเคล่อื นที่ของควันธปู  บันทึกผลโดยเขียนลกู ศรตามทศิ ทางท่ีควันธูปเคล่อื นไป สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 

165 คมู่ ือครรู ายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เล่ม 1 | หน่วยที่ 2 อากาศและชวี ติ ของสตั ว์ ควันจ่อท่ีปลายขวดแนวนอนและบันทึกการพยากรณ์การ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละทกั ษะ เคลอ่ื นที่ของควนั ธูปในตารางท่ี 3 หน้า 60) แห่งศตวรรษที่ 21 ทนี่ กั เรยี นจะได้ฝึกจากการทา 15.7 บันทึกผลการสังเกตการเคลื่อนที่ของควันธูปหลังจุดเทียน ไขอย่างไร และบันทึกที่ใด (เขียนลูกศรแสดงการเคลื่อนท่ี กิจกรรม ของควนั ธปู โดยเขียนหวั ลกู ศรชท้ี ศิ ทางทคี่ วนั ธูปเคลอ่ื นที่ไป ตอนท่ี 2 แล้วบันทกึ ในแบบบนั ทกึ กิจกรรมหนา้ 61) ครูแนะนาเพิ่มเติมว่าควรใช้ดินน้ามันหรือฝาขวดรองฐาน S1 สังเกตการเคลือ่ นทีข่ องควันธปู จากแบบจาลอง เทียนไขเพ่ือไม่ให้น้าตาเทียนหยดลงบนโต๊ะ และการดับไฟจาก S2 วดั อณุ หภูมขิ องอากาศโดยใชเ้ ทอร์มอมิเตอร์และระบุ ไม้ขีดไฟให้ปลอดภัยทาได้โดยปักไม้ขีดไฟท่ีติดไฟลงในกระป๋อง บรรจุทราย หน่วยของอณุ หภูมขิ องอากาศ 16. นักเรียนแต่ละกลุ่มทากิจกรรมตามลาดับที่เขียนไว้บนกระดาน S7 พยากรณก์ ารเคลือ่ นท่ีของควันธูปจากแบบจาลอง ครคู วรให้คาแนะนาและช่วยเหลอื แตล่ ะกลุม่ ตามความจาเป็น S14 สร้างแบบจาลองการเกดิ ลมและใช้แบบจาลอง 17. นักเรียนแต่ละกลมุ่ บันทกึ ผลการทากิจกรรมในตารางที่ครูเตรียมไว้ บนกระดาน จากน้ันครูและนักเรียนร่วมกันอภิปราย โดยอาจใช้ อธิบายการเกิดลม คาถามดงั นี้ C2 คิดโดยใชเ้ หตผุ ลเพอ่ื สร้างคาอธิบายการเกดิ ลมจาก 17.1 อุณหภูมิของอากาศเหนือปากขวดแนวต้ังและปลายขวด แนวนอนก่อนจุดเทียนไขและหลังจดุ เทียนไข เท่ากันหรือไม่ แบบจาลองและจากข้อมูลทร่ี วบรวมได้ อย่างไร (ไมเ่ ทา่ กนั โดยก่อนจุดเทียนไข อณุ หภมู ิของอากาศ C4 นาเสนอข้อมลู จากใบความรู้และการอภิปรายการเกดิ ที่ปากขวดแนวต้ังและปลายขวดแนวนอนเท่ากันหรือ ใกล้เคียงกัน แต่หลังจากจุดเทียนไขแล้ว อุณหภูมิของ ลม ประโยชนแ์ ละโทษของลม อากาศเหนอื ปากขวดแนวต้งั จะมากกว่าปลายขวดแนวนอน) C5 ร่วมกนั เพ่อื สรา้ งแบบจาลอง และสบื คน้ ข้อมลู เก่ยี วกบั 17.2 ผลการพยากรณ์การเคลื่อนที่ของควันธูปก่อนทากิจกรรม เหมือนหรือแตกต่างจากผลการสังเกตเม่ือทากิจกรรม ประโยชนแ์ ละโทษของลม หรือไม่ อย่างไร (เม่ือจุดเทียนไข ควันธูปเคล่ือนที่จากปลาย ขวดแนวนอนไปยังขวดแนวต้ัง แล้วเคลื่อนท่ีขึ้นไปทางปาก ข้อเสนอแนะเพมิ่ เติม ขวดแนวตง้ั ซ่งึ อาจจะเหมือนหรือแตกต่างจากการพยากรณ์ ของนักเรียน) เ พื่ อ ค ว า ม ป ล อ ด ภั ย ใ น ก า ร ใ ช้ มี ด ตั ด 17.3 ควนั ธูปเคล่อื นที่ได้อย่างไร (อากาศพาควนั ธปู ใหเ้ คลอื่ นที่ไป) ก้นขวด ครูอาจตัดก้นขวดทั้งใบใหญ่และ ใบเล็กเตรียมไว้ พร้อมทั้งเจาะขวดใบใหญ่ให้ ล่วงหน้า จากนั้นนักเรียนใช้กรรไกรตัดขยาย ให้ช่องใหญ่ข้ึน เพ่ือเสียบปากขวดใบเล็กเข้า ไดพ้ อดี  สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คมู่ ือครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เลม่ 1 | หน่วยที่ 2 อากาศและชวี ิตของสัตว์ 166 17.4 การเคลอื่ นท่ีของควนั ธูปก่อนจุดเทยี นไขและหลังจุดเทียนไข แตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร (ก่อนจุดเทียนไข ควันธูปไม่เข้า ไปในขวดแนวนอน แต่เม่ือจุดเทียนไขแล้ว ควันธูปเคล่ือนที่ เข้าไปในขวดแนวนอน แล้วเคลื่อนท่ีสูงข้ึนออกไปทางปาก ขวดแนวต้ัง) 17.5 จากแบบจาลอง อากาศเคล่ือนท่ีจากบริเวณใดไปบริเวณใด (อากาศเคล่ือนท่ีจากปลายขวดแนวนอนที่มีอุณหภูมิต่ากว่า ไปยังขวดแนวตั้งท่ีมีอุณหภูมิสูงกว่า แล้วอากาศจะเคล่ือนท่ี สงู ข้นึ ในแนวต้งั ) 17.6 อากาศเคล่ือนท่ีในขวดไดเ้ พราะเหตุใด (อุณหภูมิของอากาศ เหนือปากขวดแนวต้งั และปลายขวดแนวนอนไมเ่ ท่ากัน) 18. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเพื่อให้ได้ข้อสรุปว่าเม่ืออุณหภูมิ ของอากาศ 2 แหง่ แตกต่างกัน จะทาให้อากาศเคลื่อนทจ่ี ากบริเวณ ที่มีอุณหภูมิต่ากว่าในแนวราบไปยังบริเวณที่มีอุณหภูมิสูงกว่า จากนนั้ อากาศก็จะเคลื่อนทส่ี งู ขึ้นในแนวต้งั (S13) 19. นักเรียนร่วมกันอ่านทาอย่างไร ตอนท่ี 2 ข้อที่ 7-9 โดยครูใช้วิธีฝกึ ทักษะการอ่านที่เหมาะสมกับความสามารถของนักเรียน จากนนั้ ครู ตรวจสอบความเข้าใจเกย่ี วกับลาดับข้ันตอนการทากจิ กรรม โดยใช้ คาถามดังนี้ 19.1 นักเรียนอ่านใบความรู้เกี่ยวกับเรื่องอะไร (การเกิดลม ประโยชน์และโทษของลม) 19.2 เมื่ออ่านใบความรู้จบแล้ว นักเรียนต้องร่วมกันอภิปราย เก่ียวกับเรื่องอะไร (อธิบายการเกิดลมจากแบบจาลอง และ ข้อมลู จากการอา่ นใบความรู้ ประโยชนแ์ ละโทษของลม) ครูมอบหมายให้นักเรียนอ่านใบความรู้เก่ียวกับการเกิดลม ประโยชน์และโทษของลมนอกเวลาเรียน จากนั้นร่วมกันอภิปราย ผลการอ่านใบความรใู้ นการเรยี นครั้งถดั ไป สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 

167 คมู่ อื ครูรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 2 อากาศและชีวติ ของสัตว์ 20. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับการเกิดลม ประโยชน์และ ถ้ า ค รู พ บ ว่ า นั ก เ รี ย น ยั ง มี โทษของลม โดยอาจใช้คาถามดงั น้ี แนวคิดคลาดเคล่ือนเกี่ยวกับ 20.1 ลมเกิดขึ้นได้อย่างไร (ลมเกิดข้ึนเม่ือมีการเคล่ือนที่ของ การเกิดลม ประโยชน์และโทษ อากาศเนื่องจากความแตกต่างของอุณหภูมิท่ีอยู่บริเวณ ของลม ให้ร่วมกันอภิปรายจน ใกลเ้ คียงกนั ) นกั เรียนมแี นวคิดที่ถูกต้อง 20.2 ข้อมูลจากแบบจาลองและจากการอ่านใบความรู้ มีส่ิงใดที่ เหมือนกัน (สิ่งที่เหมือนกันคือ พบว่าอากาศสามารถ เคลื่อนท่ีได้เม่ือมีความแตกต่างของอุณหภูมิของอากาศ 2 บรเิ วณ) 20.3 จากการอ่านใบความรู้ทาให้ทราบข้อมูลใดเพิ่มเติมเก่ียวกับ การเกดิ ลมบ้าง (ขอ้ มลู เพ่มิ เตมิ ที่ได้จากการอ่านใบความรู้คือ เม่ืออากาศ 2 บริเวณที่อยู่ใกล้กันมีอุณหภูมิไม่เท่ากัน อากาศที่มีอุณหภูมิสูงกว่าจะเคล่ือนที่สูงขึ้นในแนวต้ัง และ อากาศท่ีมีอุณหภูมิต่ากว่าจะเคลื่อนเข้าไปแทนที่ในแนวราบ ทาใหเ้ กิดการเคลอื่ นทข่ี องอากาศ เรยี กว่า ลม) 20.4 แบบจาลองนี้เหมือนและแตกต่างจากการเกิดลมตาม ธรรมชาติอย่างไร (สิ่งท่ีเหมือนกัน คือ เกิดการเคล่ือนท่ีของ อากาศจากการท่ีอากาศ 2 บริเวณ มีอุณหภูมิแตกต่างกัน ส่งิ ทแี่ ตกต่างกันคือแบบจาลองมีขนาดเล็กกว่าการเกิดลมใน ธรรมชาติ และในแบบจาลองแหล่งท่ีให้ความร้อนคือ เทยี นไข แตใ่ นธรรมชาติแหล่งทใ่ี หค้ วามรอ้ นคอื ดวงอาทติ ย์) 20.5 จากการอ่านใบความรู้ ตัวอย่างประโยชน์ของลมมีอะไรบา้ ง (ใช้แล่นเรือใบ ช่วยให้เมล็ดพันธุ์พืชกระจายไปได้ไกล ใชห้ มนุ ระหัดวดิ นา้ ใชห้ มุนกังหนั ลมเพือ่ ผลิตไฟฟ้า)  สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คมู่ อื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 2 อากาศและชวี ติ ของสตั ว์ 168 20.6 ตัวอย่างโทษของลมมีอะไรบ้าง (ลมท่ีเคลื่อนท่ีด้วยความเร็ว การเตรยี มตัวลว่ งหนา้ สาหรบั ครู สูงหรือพายุ จะทาให้บ้านเรือนเสียหาย หรือลมพัดพากลิ่น เพอ่ื จดั การเรยี นรู้ในคร้ังถัดไป เหม็นเข้ามาในบ้านได้) ในครั้งถัดไป นักเรียนจะได้เรียน 21. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเพื่อให้ได้ข้อสรุปตอนที่ 2 ว่าเมื่อ หน่วยที่ 2 บทที่ 2 การดารงชีวิตของ อุณหภูมิของอากาศ 2 บริเวณแตกต่างกัน อากาศท่ีมีอุณหภูมิสูง สัตว์ ครูควรเตรียมตัวรูปพืช หรือต้นพืช กว่าจะเคลื่อนที่สูงข้ึนในแนวต้ัง และอากาศที่มีอุณหภูมิต่ากว่าจะ จริง เพื่อใช้สาหรับทบทวนความรู้ เคลื่อนเข้าไปแทนที่ในแนวราบ ทาให้เกิดลม ซ่ึงลมมีท้ังประโยชน์ พื้ น ฐ า น เ กี่ ย ว กั บ ส่ิ ง ที่ จ า เ ป็ น ต่ อ ก า ร และโทษตอ่ ส่ิงมชี วี ติ และสงิ่ แวดล้อม (S13) เจรญิ เติบโตของส่ิงมีชวี ติ 22. นกั เรียนรว่ มกันอภิปรายเพื่อตอบคาถามใน ฉนั ร้อู ะไร ตอนที่ 2 ใน แบบบันทึกกิจกรรมหน้า 63-65 โดยครูอาจใช้คาถามเพิ่มเติม เพอ่ื ให้ได้แนวคาตอบทีถ่ กู ตอ้ ง 23. นักเรียนร่วมกันสรุปส่ิงท่ีได้เรียนรู้ในกิจกรรมน้ี จากน้ันนักเรียน อา่ นส่งิ ที่ไดเ้ รยี นรู้ และเปรียบเทยี บกบั ขอ้ สรปุ ของตนเอง 24. ครูกระตุ้นให้นักเรียนฝึกตั้งคาถามเกี่ยวกับเรื่องที่สงสัยหรืออยากรู้ เพ่ิมเติมใน อยากรู้อีกว่า ครูอาจสุ่มนักเรียน 2-3 คน นาเสนอ คาถามของตนเองหน้าช้ันเรียน จากน้ันร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับ คาถามทเ่ี พอ่ื นนาเสนอ 25. ครูนาอภิปรายเพ่ือให้นักเรียนทบทวนว่าได้ฝึกทักษะกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์และทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 อะไรบ้างและใน ข้ันตอนใดบ้าง 26. นักเรียนร่วมกันอ่านรู้อะไรในเร่ืองน้ี ในหนังสือเรียน หน้า 67-68 ครูนาอภิปรายเพื่อนาไปสู่ข้อสรุปเกี่ยวกับส่ิงที่ได้เรียนรู้ในเร่ืองน้ี จากน้ันครูกระตุ้นให้นักเรียนตอบคาถามในช่วงท้ายของเน้ือเร่ือง ซ่ึงเป็นคาถามเพ่ือเชื่อมโยงไปสู่การเรียนเน้ือหาในบทถัดไป ดังน้ี “นอกจากอากาศเป็นสิ่งจาเป็นในการดารงชีวิตของส่ิงมีชีวิตแล้ว ในการเจริญเติบโตและดารงชีวิตของสิ่งมีชีวิตยังต้องการอะไรอีก บ้าง” นักเรียนสามารถตอบตามความเข้าใจของตนเอง โดย นกั เรยี นจะหาคาตอบได้จากการเรยี นในเรื่องต่อไป สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 

169 ค่มู อื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 2 อากาศและชวี ิตของสัตว์ ความรเู้ พ่มิ เตมิ สาหรบั ครู บางครั้งในขณะนาธูปจ่อปลายขวดแนวนอนเม่ือจุดเทียนไขแล้ว อาจพบว่าควันธูปเคล่ือนที่ เข้าไปในขวดแนวนอนได้ระยะหน่ึง แล้วเคลื่อนท่ีย้อนกลับออกมาทางปลายขวดแนวนอน ครูสามารถ อธบิ ายให้นกั เรยี นเขา้ ใจได้วา่ ควันธปู ท่เี คลือ่ นทีย่ ้อนออกมาน้นั อาจเกิดจากอากาศทอ่ี ยูร่ อบ ๆ ขวด เช่น มลี มจากบรเิ วณปากขวดด้านบนซึ่งอาจมาจากพัดลมด้านบน จงึ อาจสง่ ผลทาให้ควนั ธูปด้านในยอ้ นกลับ ออกมาทางเดมิ ได้ เมื่อจุดเทียนไข อากาศบริเวณเหนือเทียนไขจะได้รับความร้อน ทาให้อากาศขยายตัวมากกว่า บรเิ วณที่ไม่ได้รับความรอ้ น ทาใหอ้ ากาศทม่ี ีอุณหภูมสิ งู กวา่ จะมปี ริมาตรมากข้นึ กวา่ เดิม ดงั นน้ั อากาศท่ี ได้รับความร้อนจะมีความหนาแน่นของอากาศน้อยกว่าอากาศบริเวณอ่ืน อากาศร้อนจึงเคลื่อนที่สูง ขึน้ ไปดา้ นบนได้  สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ค่มู ือครรู ายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 2 อากาศและชวี ิตของสัตว์ 170 แนวคาตอบในแบบบันทกึ กจิ กรรม วดั และเปรยี บเทียบอุณหภูมิของอากาศในบรเิ วณต่าง ๆ สวนหย่อมในโรงเรียน มตี น้ ไม้ มสี ระน้าเล็ก ๆ ข้นึ อยู่กับผลการวัดตามจรงิ สนามฟุตบอล สนามหญ้า โลง่ ขนึ้ อยกู่ ับผลการวัดตามจริง มตี ้นไม้ มีสระน้าเล็ก ๆ หมายเหตุ ผลการสงั เกตอาจแตกตา่ งจากตัวอยา่ ง ขน้ึ อยู่กับสภาพแวดลอ้ มของบรเิ วณที่วดั อณุ หภมู ิ  คาตอบข้ึนอยู่กบั ผลการอภปิ รายของนกั เรียน เช่น เกยี่ วข้องหรอื ไมเ่ ก่ยี วข้อง สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 

171 ค่มู ือครูรายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เลม่ 1 | หน่วยที่ 2 อากาศและชีวติ ของสตั ว์ สรา้ งแบบจาลองและอธิบายการเกิดลม สืบคน้ ข้อมูลและบรรยายประโยชนแ์ ละโทษของลม ขึ้นอยูก่ ับผลการวดั ตามจริง โดยอุณหภูมิของอากาศหลังจดุ เทียนไขจะมากกวา่ ข้ึนอยู่กับผลการวัดตามจริง โดยอุณหภูมขิ องอากาศกอ่ นและหลงั จุดเทียนไข ควรใกล้เคียงกัน คาตอบข้ึนอยกู่ บั การพยากรณ์ของ อากาศในขวดแนวตั้งมอี ุณหภมู สิ งู กว่า นักเรียน อากาศในขวดแนวนอน  สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ค่มู ือครรู ายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 2 อากาศและชวี ติ ของสัตว์ 172 อากาศ ไม่เคลื่อนที่เขา้ ไปในขวด การเคลอ่ื นทข่ี องควันธูปท่เี คลอ่ื นที่ขึ้นไปตรง ๆ อากาศบรเิ วณปลายขวดแนวนอนมีอุณหภมู ิเท่ากับอากาศบรเิ วณอนื่ อากาศ จงึ ไม่เคลอ่ื นท่ีเขา้ ไปในขวดแนวนอน เคลอ่ื นทเ่ี ขา้ ไป ในขวด ควนั แธนูปวทน่เี คอลน่ือนเขา้ ไปในขวดแนวราบ อุณหภมู ขิ องอากาศในขวดแนวตั้งสูงกวา่ อากาศในขวดแนวนอนทีม่ ีอุณหภมู ิตา่ กว่า จงึ เคลื่อนเขา้ ไปในแนวราบและเคล่ือนท่ีสูงขึ้นสปู่ ากขวดในแนวตัง้ การเคลอื่ นท่ขี องควนั ธปู ลอยขน้ึ ไปด้านบน เคลอ่ื นท่ใี นแนวราบไปยังขวดแนวตงั้ อากาศในขวดแนวตง้ั มีอุณหภูมสิ งู กว่า ทาให้อากาศบรเิ วณปลาย ขวดแนวนอนซึ่งอณุ หภมู ิตา่ กว่าเคลอื่ นเข้ามาแทนท่ี สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 

173 คู่มือครรู ายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 2 อากาศและชีวติ ของสตั ว์ ประโยชน์ของลม โทษของลม  ใช้แล่นเรือใบ  ลมพัดฝนุ่ ละออง หรอื กลน่ิ เหม็น  หมุนกงั หนั ลมเพ่ือผลติ ไฟฟ้า เข้ามา  พดั พาเมลด็ พืชให้ไปงอกใน  ลมทพ่ี ัดรุนแรงทาให้บ้านเรือน บริเวณตา่ ง ๆ เสียหาย  ทาให้เกดิ เนินทราย  ใชห้ มนุ ระหดั วิดน้า  สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ค่มู อื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 2 อากาศและชวี ติ ของสัตว์ 174 เมือ่ วดั อณุ หภูมิของอากาศบริเวณตา่ ง ๆ ในเวลาเดยี วกัน บรเิ วณท่อี ยู่ใน ทร่ี ่ม เช่น สวนหย่อมของโรงเรยี นจะมีอณุ หภูมิต่ากว่าบรเิ วณสนามฟุตบอล ซงึ่ อยู่กลางแจง้ อุณหภมู ขิ องอากาศในเวลาเดยี วกนั แตใ่ นสถานท่ซี ่ึงมสี ภาพแวดลอ้ มตา่ งกนั เชน่ ในที่ร่ม และบริเวณกลางแจง้ อาจจะมอี ณุ หภูมไิ มเ่ ท่ากนั อากาศในแบบจาลองมกี ารเคลอ่ื นท่ี รู้ไดจ้ ากการเคลื่อนที่ของควันธปู สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 

175 คมู่ ือครรู ายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 2 อากาศและชวี ติ ของสตั ว์ อากาศในแบบจาลองก่อนจุดเทียนไขและหลังจุดเทยี นไขจะเคลือ่ นที่แตกต่างกัน โดยก่อนจดุ เทียนไข อากาศด้านนอกขวดจะไม่เคล่ือนทีเ่ ขา้ ไปในขวดแนวนอน แตเ่ มือ่ จุดเทียนไข อากาศจากภายนอกขวดจะเคลื่อนทเี่ ข้าไปในขวดแนวนอน ตอ่ ไปยงั ขวดแนวตั้ง แลว้ เคลอ่ื นท่สี ูงข้ึนในแนวตง้ั การเคลอื่ นที่ของอากาศเก่ยี วข้องกบั อณุ หภูมิของอากาศ โดยในบริเวณทม่ี ี อณุ หภมู ขิ องอากาศสงู กว่า อากาศจะเคลือ่ นท่ีเคลอื่ นท่ีสูงข้ึน และอากาศจาก บริเวณท่ีมีอณุ หภูมิต่ากว่าจะเคลือ่ นเข้าไปแทนที่ - ประโยชน์ของลม เชน่ ช่วยพดั พาเมล็ดพืชให้ไปตกไกล ๆ เพอ่ื ช่วยให้เมล็ดพชื ไปตกและเจรญิ เติบโตยังบรเิ วณต่าง ๆ ใช้แล่นเรือใบ ใช้หมุนกังหนั ลมเพ่ือผลิตไฟฟา้ ใช้หมุนระหดั วดิ น้า - โทษของลม เชน่ พัดพาฝุ่นละอองเข้าสบู่ ้านเรือน ลมที่พดั แรงทาใหบ้ ้านเรอื นเสยี หาย จากแบบจาลองการเกดิ ลม ก่อนจุดเทยี นไขในขวด อณุ หภูมขิ องอากาศบรเิ วณ ปากขวดแนวต้ังและแนวนอนเท่ากนั อากาศภายนอกจะไม่เคลือ่ นที่เขา้ ไปใน ขวดแนวนอน แต่เม่ือจุดเทยี นไขในขวด อากาศในขวดแนวตั้งจะมอี ุณหภูมิสงู กวา่ อากาศในขวดแนวนอน ทาใหอ้ ากาศในขวดแนวตั้งเคล่ือนท่ีสูงขึน้ ไป อากาศจากขวดแนวนอนเคลอื่ นทใี่ นแนวราบเข้าไปแทนท่ี ทาให้เกิดลม ลมมีประโยชน์ เชน่ ช่วยในการแล่นเรอื ใบ พดั พาเมล็ดพืชไปตกและงอกในที่ ตา่ ง ๆ แต่ลมก็มโี ทษ เช่น ลมท่พี ัดแรงมาก ๆ อาจทาให้บา้ นเรอื นเสยี หายได้  สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ค่มู ือครรู ายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 2 อากาศและชีวติ ของสตั ว์ 176 ลมเกดิ จากความแตกตา่ งของอุณหภมู ิของอากาศ 2 บรเิ วณท่ีอย่ใู กล้เคียงกัน โดยอากาศบริเวณทม่ี ีอุณหภูมิสงู กวา่ จะเคลอื่ นที่ขึ้นไปในแนวตงั้ อากาศท่ีมี อุณหภมู ิตา่ กว่าจะเคลือ่ นเข้าไปแทนทีใ่ นแนวราบ ลมมีทั้งประโยชนแ์ ละโทษ ตอ่ สิ่งมีชีวติ และสิ่งแวดลอ้ ม คาถามของนักเรียนท่ตี ั้งตามความอยากรขู้ องตนเอง สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 

177 คู่มอื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 2 อากาศและชีวิตของสตั ว์ แนวการประเมินการเรียนรู้ การประเมินการเรยี นรขู้ องนักเรยี นทาได้ ดงั น้ี 1. ประเมนิ ความรู้เดิมจากการทากจิ กรรม หรือการอภปิ รายในชัน้ เรยี น 2. ประเมนิ การเรียนรจู้ ากคาตอบของนกั เรยี นระหวา่ งการจัดการเรียนร้แู ละจากแบบบันทึกกิจกรรม 3. ประเมนิ ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละทักษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 จากการทากิจกรรมของนกั เรียน การประเมนิ จากการทากจิ กรรมท่ี 1.3 ลมเกดิ ขึน้ ได้อยา่ งไร รหัส สงิ่ ทป่ี ระเมนิ คะแนน ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ S1 การสังเกต S2 การวดั S7 การพยากรณ์ S8 การลงความเห็นจากข้อมูล S13 การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรปุ S14 การสร้างแบบจาลอง ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 C2 การคดิ อย่างมวี ิจารณญาณ C4 การสื่อสาร C5 ความรว่ มมือ รวมคะแนน  สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ค่มู ือครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เล่ม 1 | หน่วยที่ 2 อากาศและชวี ติ ของสัตว์ 178 ตาราง รายการประเมนิ และเกณฑ์การประเมินทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ทักษะ เกณฑ์การประเมิน กระบวนการทาง รายการประเมนิ ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรับปรงุ (1) วิทยาศาสตร์ S1 การสงั เกต การบรรยาย สามารถใช้ประสาทสมั ผัส สามารถใช้ประสาทสัมผัส สามารถใช้ประสาท รายละเอยี ดลักษณะ สภาพแวดลอ้ มใน เกบ็ รายละเอียดลกั ษณะ เกบ็ รายละเอียดลักษณะ สัมผัสเกบ็ บรเิ วณท่จี ะวดั อณุ หภมู ิของอากาศ สภาพแวดลอ้ มในบริเวณท่ี สภาพแวดล้อมในบรเิ วณท่ี รายละเอียดลักษณะ และบรรยาย รายละเอยี ดการ จะวัดอณุ หภูมิของอากาศ จะวดั อณุ หภูมิของอากาศ สภาพแวดล้อมใน เคล่ือนที่ของควันธูป จากแบบจาลองการ และการเคลื่อนที่ของควัน และการเคลื่อนที่ของควนั บรเิ วณที่จะวัด เกดิ ลม ธปู จากแบบจาลองการเกิด ธูปจากแบบจาลองการเกิด อุณหภูมิของอากาศ ลมไดด้ ้วยตนเอง โดยไม่ ลมจากการชแี้ นะของครู และการเคลื่อนที่ เพมิ่ ความคิดเหน็ หรอื ผู้อน่ื หรือมีการ ของควันธูปจาก เพ่ิมเติมความคิดเห็น แบบจาลองการเกิด ลมได้เพยี งบางส่วน แม้วา่ จะได้รับคา ชี้แนะจากครหู รือ ผอู้ นื่ S2 การวัด - การใช้เทอร์มอ สามารถใช้เทอรม์ อมิเตอร์ สามารถใชเ้ ทอรม์ อมเิ ตอร์ สามารถใช้เทอร์มอ มิเตอรว์ ดั อุณหภูมิ วัดอุณหภูมขิ องอากาศได้ ของอากาศ ด้วยวิธีการที่ถกู ต้อง และ วดั อุณหภูมขิ องอากาศได้ มิเตอร์วัดอุณหภมู ิ บอกหนว่ ยของอุณหภูมไิ ด้ - การระบหุ นว่ ยของ ถกู ต้องดว้ ยตนเอง ดว้ ยวธิ กี ารท่ีถกู ต้อง และ ของอากาศไดด้ ว้ ย อุณหภูมิ บอกหนว่ ยของอณุ หภูมไิ ด้ วธิ ีการทถี่ ูกต้อง ถูกต้องจากการช้แี นะของ บางส่วน แม้ว่าจะ ครูหรอื ผอู้ น่ื ไดร้ ับการชีแ้ นะจาก ครหู รอื ผอู้ ่ืน S7 การพยากรณ์ การคาดการณ์การ สามารถคาดการณ์การ สามารถคาดการณ์การ สามารถคาดการณ์ เคลอื่ นที่ของควนั ธูป เคลอ่ื นท่ีของควันธปู จาก เคลอื่ นท่ีของควันธูป จาก การเคลื่อนทขี่ อง จากแบบจาลองการ แบบจาลองการเกดิ ลม แบบจาลองการเกิดลม ควันธูปจาก สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 

179 คูม่ อื ครรู ายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 2 อากาศและชวี ติ ของสัตว์ ทักษะ เกณฑก์ ารประเมนิ กระบวนการทาง รายการประเมนิ ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรับปรงุ (1) วทิ ยาศาสตร์ เกิดลม เมื่อจุดเทยี น เม่อื จดุ เทยี นไขในขวด เมือ่ จดุ เทียนไขในขวด แบบจาลองการเกิด ไขในขวดแนวตงั้ แนวต้ังได้อยา่ ง สมเหตสุ มผลด้วยตนเอง แนวตงั้ ได้อย่าง ลม เมอ่ื จุดเทยี นไข โดยควนั ธปู จะเคลื่อนที่ จากบรเิ วณปลายขวด สมเหตสุ มผลโดยอาศัย ในขวดแนวตั้งได้โดย แนวนอนไปยังขวดแนวตั้ง โดยอาศัยข้อมูลจากการ การช้แี นะจากครูหรอื ไมส่ มเหตสุ มผล แม้ สงั เกตแบบจาลอง ผู้อ่นื โดยควนั ธปู จะ จะได้รับการช้แี นะ เคล่อื นทจ่ี ากบริเวณปลาย จากครหู รอื ผู้อ่นื ขวดแนวนอนไปยังขวด แนวตงั้ โดยอาศยั ข้อมูล จากการสงั เกต แบบจาลอง S8 การลงความ การลงความเห็นจาก สามารถลงความเห็นจาก สามารถลงความเห็นจาก สามารถลงความเหน็ เห็นจากข้อมลู ข้อมูลวา่ อากาศในแต่ ข้อมูลไดว้ า่ อากาศในแตล่ ะ ข้อมูลไดว้ า่ อากาศใน จากข้อมูลไดเ้ พียง ละสถานท่ีในเวลา สถานท่ใี นเวลาเดยี วกนั แต่ละสถานท่ีในเวลา บางสว่ นแม้วา่ จะได้ เดียวกันอาจแตกตา่ ง อาจแตกต่างกันได้ด้วย เดยี วกนั อาจแตกต่างกัน รับคาชแี้ นะจากครู กนั ตนเอง ไดจ้ ากการชแ้ี นะของครู หรอื ผู้อื่น หรือผอู้ ่นื S13 การตีความ การตีความหมาย สามารถตีความหมาย สามารถตีความหมาย สามารถ หมายขอ้ มูลและ ลงข้อสรปุ ขอ้ มูลที่ได้จากการ ขอ้ มูลท่ีไดจ้ ากการสร้าง ข้อมูลท่ีไดจ้ ากการสรา้ ง ตีความหมายข้อมูลท่ี สรา้ งแบบจาลอง แบบจาลอง และการ แบบจาลอง และการ ได้จากการสรา้ ง และการสบื คน้ ข้อมูล สบื ค้นข้อมูล และลง สบื ค้นขอ้ มูล และลง แบบจาลอง และการ และลงข้อสรุปและ ข้อสรปุ และบอกเหตผุ ลได้ ข้อสรปุ และบอกเหตผุ ลได้ สืบคน้ ขอ้ มลู และลง บอกเหตผุ ลได้วา่ ลม ถกู ต้องวา่ ลมเกิดจากความ ถกู ต้องวา่ ลมเกดิ จาก ข้อสรุปไดว้ ่าลมเกิด เกดิ จากความ แตกต่างของอุณหภมู ิของ ความแตกตา่ งของ จากความแตกต่าง แตกต่างของอุณหภมู ิ อากาศที่อยู่บรเิ วณใกล้กนั อุณหภูมิของอากาศท่ีอยู่ ของอุณหภมู ิของ  สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คู่มอื ครูรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 2 อากาศและชวี ติ ของสัตว์ 180 ทักษะ เกณฑ์การประเมิน กระบวนการทาง รายการประเมนิ ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรับปรุง (1) วทิ ยาศาสตร์ ของอากาศท่ีอยู่ 2 บรเิ วณ ซึ่งลมมที ั้ง บรเิ วณใกลก้ นั 2 บรเิ วณ อากาศที่อยู่บรเิ วณ ซึ่งลมมีทัง้ ประโยชนแ์ ละ ใกล้กัน 2 บรเิ วณ ซง่ึ บรเิ วณใกล้กัน ประโยชน์และโทษต่อ โทษตอ่ ส่ิงมชี ีวิต จากการ ลมมีทงั้ ประโยชน์ ชี้แนะของครหู รือผอู้ ่ืน และโทษต่อสง่ิ มีชวี ิต 2 บริเวณ ซ่ึงลมมีทั้ง สิง่ มีชีวิตได้ดว้ ยตนเอง แต่ไม่สามารถบอก ทศิ ทางการเคล่ือนท่ี ประโยชนแ์ ละโทษต่อ ของอากาศจาก แบบจาลองได้ แม้วา่ ส่งิ มีชวี ติ จะไดร้ ับคาชแ้ี นะ จากครูหรือผู้อืน่ S14 การสรา้ ง การสร้างแบบจาลอง สามารถสรา้ งแบบจาลอง สามารถสร้างแบบจาลอง สามารถสรา้ ง แบบจาลอง และใช้แบบจาลอง และใช้แบบจาลองอธิบาย และใช้แบบจาลองอธบิ าย แบบจาลองและใช้ เพ่ืออธิบายการเกิด การเกิดลม โดยใชล้ ูกศร การเกิดลม โดยใชล้ ูกศร แบบจาลองอธิบาย ลม แสดงทศิ ทางของลมใน แสดงทศิ ทางของลมใน การเกิดลม โดยใช้ แบบจาลองไดถ้ ูกต้องจาก ลกู ศรแสดงทิศทาง แบบจาลองไดถ้ ูกต้องด้วย การช้ีแนะจากครหู รอื ของลมใน ตนเอง ผ้อู นื่ แบบจาลองได้ ถูกต้องบางส่วน แม้วา่ จะไดร้ บั การ ชี้แนะจากครหู รือ ผอู้ น่ื สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 

181 คมู่ อื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เลม่ 1 | หน่วยที่ 2 อากาศและชีวิตของสตั ว์ ตาราง รายการประเมินและเกณฑ์การประเมินทักษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 ทกั ษะแห่ง รายการประเมิน ระดับความสามารถ ควรปรบั ปรุง (1) ศตวรรษท่ี 21 ดี (3) พอใช้ (2) C2 การคิด การคิดโดยใชเ้ หตุผลท่ี สามารถคิดโดยใช้เหตุผลที่ สามารถคิดโดยใช้เหตผุ ล คดิ โดยใชเ้ หตุผลท่ีไม่ อย่างมี หลากหลาย เพื่อสรา้ ง หลากหลายเพือ่ สร้างคา ที่หลากหลายเพ่ือสรา้ ง เหมาะสมเพ่อื สร้าง วิจารณญาณ คาอธิบายการเกิดลม อธิบายการเกดิ ลมจาก คาอธิบายการเกิดลม จาก คาอธบิ ายการเกิดลม จากแบบจาลองและ แบบจาลองและจากขอ้ มูล แบบจาลองและจาก จากแบบจาลองและจาก จากข้อมลู ท่รี วบรวมได้ ท่ีรวบรวมได้อยา่ งถกู ตอ้ ง ข้อมูลทีร่ วบรวมไดอ้ ย่าง ข้อมลู ทีร่ วบรวมได้ ด้วยตนเอง ถูกต้องจากการช้ีแนะของ ครูหรือผอู้ ่ืน C4 การสอ่ื สาร การนาเสนอขอ้ มูลจาก สามารถนาเสนอข้อมูลจาก สามารถนาเสนอข้อมลู สามารถนาเสนอขอ้ มลู การอา่ นใบความรู้ และ จากการอา่ นใบความรู้ การอภปิ ราย เก่ยี วกับ การอา่ นใบความรู้ และการ จากการอ่านใบความรู้ และการอภิปราย การเกดิ ลม ประโยชน์ เกีย่ วกบั การเกิดลม และโทษของลมด้วย อภิปรายเก่ยี วกับการเกิด และการอภิปรายเกีย่ วกับ ประโยชน์และโทษของ การพูด หรือเขยี น ลมด้วยการพดู หรือ เพื่อให้ผ้อู ืน่ เขา้ ใจ ลม ประโยชน์และโทษของ การเกดิ ลม ประโยชนแ์ ละ เขยี นเพ่ือให้ผู้อ่ืนเขา้ ใจ ได้เพียงบางสว่ น และ ลมด้วยการพดู หรือเขียน โทษของลมด้วยการพดู ตอ้ งใช้เวลานาน แมว้ า่ จะได้รับคาช้แี นะจากครู เพือ่ ใหผ้ ้อู ่นื เข้าใจได้ถูกต้อง หรอื เขยี นเพอ่ื ใหผ้ ู้อื่น หรอื ผู้อื่น ไดด้ ว้ ยตนเอง เข้าใจได้ถกู ต้อง จากการ ช้แี นะของครูหรือผอู้ น่ื C5 ความ ทางานรว่ มกับผู้อน่ื ใน สามารถทางานร่วมกับ สามารถทางานรว่ มกบั สามารถทางานรว่ มกับ รว่ มมอื ผู้อื่นในการสารวจ การสารวจอุณหภมู ิของ ผ้อู นื่ ในการสารวจอุณหภูมิ ผู้อ่นื ในการสารวจ อณุ หภมู ขิ องอากาศใน บริเวณตา่ ง ๆ และการ อากาศในบรเิ วณตา่ ง ๆ ของอากาศในบรเิ วณ อุณหภมู ขิ องอากาศใน สรา้ งแบบจาลองการเกิด และการสรา้ ง ตา่ ง ๆ และการสรา้ ง บริเวณตา่ ง ๆ และการ แบบจาลองการเกดิ ลม แบบจาลองการเกดิ ลม สร้างแบบจาลองการเกิด  สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ค่มู อื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 2 อากาศและชวี ิตของสัตว์ 182 ทกั ษะแห่ง รายการประเมนิ ระดบั ความสามารถ ศตวรรษท่ี 21 ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรบั ปรงุ (1) รวบรวมข้อมลู และ รวบรวมขอ้ มลู และอธิบาย ลม รวบรวมขอ้ มลู และ ลม รวบรวมขอ้ มลู และ อธบิ ายการเกดิ ลมจาก อธิบายการเกิดลมจาก แบบจาลอง รวมท้งั การเกดิ ลมจากแบบจาลอง อธิบายการเกิดลมจาก แบบจาลองในบาง ยอมรบั ความคดิ เหน็ ชว่ งเวลาท่ที ากิจกรรม ของผู้อนื่ รวมทง้ั ยอมรบั ความ แบบจาลอง รวมท้ัง แตไ่ ม่คอ่ ยสนใจความ คดิ เห็นของผอู้ ืน่ คดิ เหน็ ของผอู้ ืน่ ตลอดเวลา ยอมรบั ความคิดเหน็ ของ ทท่ี ากิจกรรม ผู้อนื่ เปน็ บางช่วงเวลาท่ี ทากิจกรรม สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 

183 คู่มอื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เลม่ 1 | หนว่ ยท่ี 2 อากาศและชีวติ ของสตั ว์ กจิ กรรมทา้ ยบทที่ 1 อากาศและความสาคญั ตอ่ ส่งิ มีชีวติ (1 ช่ัวโมง) 1. นักเรียนวาดรูปหรือเขียนสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้จากบทน้ี ในแบบบันทึก กจิ กรรมหน้า 66 2. นักเรียนตรวจสอบการสรุปส่ิงที่ได้เรียนรู้ของตนเองโดยเปรียบเทียบกบั ภาพสรปุ เนอื้ หาประจาบทในหัวขอ้ ร้อู ะไรในบทน้ี ในหนังสือเรยี น หนา้ 70-71 3. นักเรียนกลบั ไปตรวจสอบคาตอบของตนเองในสารวจความรู้ก่อนเรียน ในแบบบันทึกกิจกรรม หน้า 44-45 อีกคร้ัง ถ้าคาตอบของนักเรียนไม่ ถูกต้องให้ขีดเส้นทับข้อความเหล่านั้น แล้วแก้ไขให้ถูกต้อง นอกจากนี้ ครูอาจนาคาถามในรูปนาบทในหนังสือเรียน หน้า 46 มาร่วมกัน อภปิ รายคาตอบอีกครัง้ ดังน้ี 3.1 อากาศมีส่วนประกอบอะไรบ้าง (อากาศมีส่วนประกอบของแก๊ส ไนโตรเจน แก๊สออกซิเจน แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ในปริมาณที่ ต่างกนั นอกจากน้ยี ังมีแก๊สอื่น รวมทง้ั มไี อนา้ เปน็ สว่ นประกอบ) 3.2 การเคล่ือนที่ของอากาศทาให้เกิดปรากฏการณ์ใดบนโลกบ้าง (การ เคล่ือนท่ีของอากาศทาให้เกิดลม โดยลมจะเคล่ือนท่ีจากบริเวณท่ี อากาศมอี ณุ หภูมติ า่ ไปยังบริเวณทอ่ี ากาศมีอุณหภมู สิ ูง) 4. นักเรียนทา แบบฝึกหัดท้ายบทที่ 1 อากาศและความสาคัญต่อ สิ่งมีชีวิต ในแบบบันทึกกิจกรรมหน้า 67-69 จากนั้นนาเสนอคาตอบ หน้าช้ันเรียน ถ้าคาตอบยังไม่ถูกต้องครูควรนาอภิปรายหรือให้ สถานการณ์เพิม่ เตมิ เพอ่ื แกไ้ ขแนวคิดคลาดเคล่อื นใหถ้ ูกต้อง 5. นักเรียนร่วมกันทากิจกรรม ร่วมคิด ร่วมทา โดยนักเรียนร่วมกันระดม ความคิดเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากลม ถ้าบ้านของนักเรียนอยู่ใน พน้ื ทท่ี ีม่ ีลมพัดแรงเกือบทั้งวนั โดยอาจใหน้ กั เรียนนาเสนอหน้าชัน้ เรียน หรอื ทาผงั ความคดิ บนกระดาษปรู๊ฟและตดิ แสดงทีผ่ นังห้อง  สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ค่มู อื ครูรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เล่ม 1 | หน่วยที่ 2 อากาศและชีวติ ของสตั ว์ 184 สรปุ ผลการเรยี นรู้ของตนเอง รปู หรอื ข้อความสรุปสิ่งทีไ่ ดเ้ รียนรจู้ ากบทน้ตี ามความเข้าใจของนักเรยี น สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 

185 คมู่ ือครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เลม่ 1 | หน่วยที่ 2 อากาศและชวี ติ ของสตั ว์ แนวคาตอบในแบบฝกึ หดั ทา้ ยบท ลดการใช้รถยนต์ เปล่ยี นมาใช้รถจักรยานในการเดนิ ทาง ลดการเผาขยะ หรือเศษใบไม้ ช่วยกนั ปลกู ตน้ ไม้  สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ค่มู อื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 2 อากาศและชีวติ ของสัตว์ 186   S สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 

187 ค่มู อื ครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เลม่ 1 | หนว่ ยที่ 2 อากาศและชวี ติ ของสตั ว์ ทาให้บริเวณนั้นไมส่ ามารถใช้ประโยชน์จากลมได้ เช่น - ทาใหเ้ มล็ดพืชไม่สามารถปลิวไปตกท่ีอน่ื - ไมส่ ามารถแลน่ เรอื ใบ - ไมส่ ามารถตง้ั กังหนั ลมผลิตไฟฟา้ - การกัน้ ทศิ ทางของลมสามารช่วยปอ้ งกันความเสียหายตา่ ง ๆ ท่ีอาจ เกดิ กบั บ้านเรอื น หรือสวน นักเรยี นตอบตามความคดิ ของตนเอง ใช้ลมหมนุ กงั หนั ลมผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กทส่ี ามารถผลติ ไฟฟา้ ใช้กับบ้าน ของตนเองได้  สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ค่มู อื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 2 อากาศและชวี ิตของสัตว์ 188 บทที่ 2 การดำรงชวี ติ ของสตั ว์ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ประจำบท บทน้มี อี ะไร เมอ่ื เรียนจบบทนี้ นักเรียนสามารถ เร่ืองท่ี 1 สิ่งที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและ 1. บรรยายสิ่งที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและ การดำรงชีวิตของสัตวแ์ ละมนุษย์ การดำรงชีวิตของสตั วแ์ ละมนุษย์ 2. ดูแลตนเองและสัตว์ให้ได้รับอาหาร น้ำ และ กจิ กรรมที่ 1.1 สัตว์ต้องการสิ่งใดในการเจริญเติบโต อากาศอย่างเหมาะสม และการดำรงชวี ติ 3. สร้างแบบจำลองที่บรรยายวัฏจักรชีวิตของสัตว์ และเปรยี บเทยี บวฏั จกั รชีวติ ของสตั วบ์ างชนิด กิจกรรมที่ 1.2 มนษุ ยต์ ้องการส่งิ ใดในการ 4. บอกแนวทางการไม่ทำให้วัฏจักรชีวิตของสัตว์ เจริญเตบิ โตและการดำรงชวี ติ เปล่ียนแปลง เรือ่ งท่ี 2 วฏั จักรชวี ิตของสัตว์ เวลา 11 ช่ัวโมง กิจกรรมที่ 2 วฏั จักรชีวติ ของสตั ว์เป็นอยา่ งไร แนวคิดสำคัญ สัตวต์ อ้ งการสิ่งทจี่ ำเป็นตา่ ง ๆ ในการเจริญเติบโต และการดำรงชีวิตเช่นเดียวกับมนษุ ย์ เม่อื สตั ว์เจริญเติบโต เป็นตัวเต็มวัย จะสืบพนั ธ์แุ ละมลี กู เม่อื ลกู เจรญิ เติบโตเป็น ตัวเต็มวัยก็จะสืบพันธุ์และมีลูกต่อไปอีก การเปลี่ยนแปลง นม้ี กี ารหมุนเวียนเป็นแบบรูปคงทีซ่ ้ำเดิมอย่างต่อเน่ืองเป็น วัฏจักรชีวิต โดยสัตว์แต่ละชนิดจะมีวัฏจักรชีวิตที่เฉพาะ และแตกต่างกัน สัตว์มีประโยชน์ต่อมนุษย์หลายด้าน เรา จึงควรดูแลตนเองและดูแลสัตว์ให้ได้รับสิ่งท่ีจำเป็นต่าง ๆ ในการเจริญเติบโตและการดำรงชีวิตอย่างเหมาะสม และ ตอ้ งไม่ทำให้วัฏจกั รชีวติ ของสตั ว์เปล่ียนแปลงไป ส่ือการเรยี นร้แู ละแหล่งเรียนรู้ 1. หนังสอื เรยี น ป.3 เลม่ 1 หน้า 74-104 2. แบบบันทึกกิจกรรม ป.3 เล่ม 1 หน้า 70-97 สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯

189 คู่มือครูรายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 2 อากาศและชีวิตของสตั ว์ ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์และทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 รหัส ทักษะ กจิ กรรมที่ 1.1 1.2 2 ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์  S1 การสังเกต  S2 การวัด S3 การใชจ้ ำนวน  S4 การจำแนกประเภท S5 การหาความสมั พันธร์ ะหว่าง    สเปซกบั สเปซ  สเปซกับเวลา  S6 การจดั กระทำและส่อื ความหมายขอ้ มลู  S7 การพยากรณ์ S8 การลงความเห็นจากข้อมลู  S9 การตั้งสมมติฐาน  S10 การกำหนดนิยามเชิงปฏบิ ัติการ  S11 การกำหนดและควบคุมตัวแปร S12 การทดลอง  S13 การตีความหมายข้อมลู และลงข้อสรปุ S14 การสรา้ งแบบจำลอง ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 C1 การสรา้ งสรรค์ C2 การคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ C3 การแก้ปัญหา C4 การสือ่ สาร C5 ความรว่ มมอื C6 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและ การสอื่ สาร หมายเหตุ: รหัสทกั ษะทีป่ รากฏนี้ ใชเ้ ฉพาะหนังสือคู่มือครเู ล่มน้ี ⎯ สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คู่มอื ครูรายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 2 อากาศและชีวิตของสัตว์ 190 แนวคิดคลาดเคล่อื น แนวคดิ คลาดเคล่ือนท่ีอาจพบและแนวคิดที่ถูกต้องในบทท่ี 2 การดำรงชวี ิตของสัตว์ มีดังต่อไปน้ี แนวคดิ คลาดเคล่ือน แนวคิดที่ถกู ต้อง ยารักษาโรคเปน็ ส่ิงที่จำเปน็ ต่อการเจรญิ เติบโตของมนุษย์ * สิ่งที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของมนุษย์ คือ อาหาร น้ำ และอากาศ ส่วนยารักษาโรคจะใช้เฉพาะเมื่อมีอาการป่วย จงึ ไมจ่ ัดเปน็ สิ่งทจ่ี ำเปน็ ต่อการเจรญิ เติบโต ความสูงของมนุษย์ขึ้นอยู่กับอายุและเพศ คนที่มีอายุ ความสูงของมนุษย์ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น มากกว่าจะต้องสูงกว่า และเพศชายจะสูงกว่าเพศหญิง พันธุกรรม การรับประทานอาหาร สภาพแวดล้อม คนที่มี (Pine, et al., 2001) อายุมากกว่าไม่จำเป็นต้องสูงกว่าคนที่มีอายุน้อยกว่า หรือ เพศชายไม่จำเป็นต้องสูงกว่าเพศหญิงเสมอไป (Pine, et al., 2010 และ รชตะ ปิวาวัฒนพาณชิ , 2019) มนุษย์ไม่ใช่สตั ว์ (Phillips & Ryan, 2017) ในการจัดกลุ่มของสิ่งมีชีวิต จะจัดมนุษย์อยู่ในกลุ่มสัตว์มี กระดูกสันหลังที่เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม เนื่องจากมีลักษณะ บางประการที่เหมือนกับสัตว์ในกลุ่มน้ี (Phillips & Ryan, 2017) ไข่ของสัตว์เป็นสิ่งไม่มีชีวิต (Noureddine & Zouhaire, ไข่ของสัตว์เป็นสิ่งมีชีวิต เพราะเป็นเซลล์สืบพันธุ์ของสัตว์ 2017) เซลล์ไข่ที่มีการผสมกับอสุจิของเพศผู้จะเป็นต้นกำเนิดของ สิง่ มีชวี ติ แตล่ ะชนดิ (Noureddine and Zouhaire, 2017) ถ้าครพู บวา่ มีแนวคดิ คลาดเคลื่อนใดทีย่ ังไม่ไดแ้ ก้ไขจากการทำกจิ กรรมการเรียนรู้ ครูควรจัดการเรียนร้เู พิ่มเติมเพอื่ แก้ไขต่อไปได้ * ขอ้ มลู ท่ีไดจ้ ากการสงั เกตชน้ั เรียนในการทดลองใช้หนังสอื เรียนของ สสวท. สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯

191 คู่มือครรู ายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 2 อากาศและชวี ิตของสตั ว์ บทนีเ้ ร่ิมต้นอย่างไร (1 ช่ัวโมง) ในการทบทวนความรู้พื้นฐาน ครูควรให้เวลานักเรียนคิดอย่าง 1. ครทู บทวนความรู้พ้นื ฐานเกีย่ วกับสิง่ ที่จำเปน็ ต่อการเจริญเติบโตของ เหมาะสม รอคอยอย่างอดทน พืช โดยนำต้นพืชของจริง หรือรูปพืช มาให้นักเรียนสังเกต หรือให้ นักเรียนตอ้ งตอบคำถามเหล่าน้ีได้ นักเรียนสงั เกตพชื ท่ีอยู่รอบ ๆ ห้องเรยี น แลว้ ใช้คำถามดังน้ี ถูกต้อง หากตอบไม่ได้หรือลืมครู 1.1 สิ่งนี้คืออะไร และเป็นสิ่งมีชีวิตหรือไม่ (ต้นพืช หรือต้นไม้ หรือ ตอ้ งใหค้ วามรทู้ ถี่ ูกต้องทันที ตอบชือ่ พชื ทคี่ รูนำมาใหส้ งั เกต และสง่ิ นีเ้ ปน็ สง่ิ มีชวี ิต) 1.2 พืชต้องการสิ่งที่จำเป็นใดสำหรับการเจริญเติบโตบ้าง (น้ำ แสง ในการตรวจสอบความรู้เดิม อากาศ ธาตุอาหาร) ครูรับฟังเหตุผลของนักเรียนเป็น 1.3 สิ่งที่จำเป็นต่าง ๆ ในข้อ 1.2 มีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโต สำคัญ ครูยังไม่เฉลยคำตอบใด ๆ ของพืชอย่างไร (พืชใชน้ ้ำในการงอกของเมล็ด สรา้ งอาหาร และ แต่ชักชวนให้หาคำตอบที่ถูกต้อง ลำเลียงอาหารและธาตุอาหาร ใช้แสงในการสร้างอาหาร ใช้ จากกจิ กรรมตา่ ง ๆ ในบทเรยี นนี้ อากาศในการงอกของเมล็ด หายใจ และสร้างอาหาร และใช้ ธาตอุ าหารเพอื่ ช่วยให้เจริญเติบโตได้เปน็ ปกติ) 1.4 นอกจากพืชแล้วยังมีอะไรอีกบ้างที่เป็นสิ่งมีชีวิต (มนุษย์และ สตั ว์) 2. ครูตรวจสอบความรู้เดิมเกี่ยวกับสิ่งที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและ การดำรงชีวิตของสัตว์และมนุษย์ และการเปลี่ยนแปลงขณะ เจริญเตบิ โตของสตั วแ์ ละมนุษย์ โดยใช้คำถามดงั นี้ 2.1 สัตว์และมนุษย์ต้องการสิ่งที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและ การดำรงชีวิตเหมือนกับพืชหรือไม่ อย่างไร (นักเรียนตอบตาม ความเข้าใจของตนเอง เช่น ไม่เหมือนกัน พืชต้องการแสง น้ำ อากาศ ธาตุอาหาร สำหรับการเจริญเติบโตและการดำรงชีวิต ส่วนสัตว์และมนุษย์ต้องการอาหาร น้ำ และอากาศ สำหรับ การเจริญเตบิ โตและการดำรงชวี ิต) 2.2 ในขณะเจริญเติบโต มนุษย์และสัตว์มีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ อย่างไร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง เช่น มีการ เปลี่ยนแปลง โดยขณะเจริญเติบโตมนุษย์และสัตว์จะมีขนาด รา่ งกายใหญข่ นึ้ หรอื สตั วบ์ างชนดิ มรี ปู รา่ งลักษณะ และรูปแบบ การดำรงชีวิตทเี่ ปล่ียนแปลงไปในขณะเจริญเติบโต) 3. ครูให้นักเรียนอ่านชื่อบท และจุดประสงค์การเรียนรู้ประจำบท ใน หนงั สอื เรยี น หน้า 75 จากนั้นครูใชค้ ำถามดังนี้ 3.1 บทนี้จะไดเ้ รียนเรือ่ งอะไร (การดำรงชีวติ ของสตั ว์) ⎯ สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ค่มู อื ครูรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เล่ม 1 | หน่วยที่ 2 อากาศและชีวิตของสัตว์ 192 3.2 จากจุดประสงค์การเรียนรู้ เมื่อเรียนจบบทนี้นักเรียนสามารถ ข้อเสนอแนะเพิ่มเตมิ ทำอะไรได้บา้ ง (- บรรยายสงิ่ ทจี่ ำเป็นต่อการเจรญิ เติบโตและการดำรงชีวิตของ ครอู าจนำวดี ิทศั น์เก่ยี วกับการ สัตว์และมนุษย์ แสดงดำน้ำให้อาหารปลา มาให้ - ดูแลตนเองและสัตว์ให้ได้รับอาหาร น้ำ และอากาศอย่าง นักเรียนดูเป็นสื่อประกอบการอ่าน เหมาะสม เนื้อเรื่อง โดยอาจค้นหาว่า “การ - สร้างแบบจำลองที่บรรยายวัฏจักรชีวิตของสัตว์และ แสดงดำน้ำให้อาหารปลา” หรือ เปรยี บเทียบวฏั จกั รชวี ิตของสตั วบ์ างชนดิ “โชว์ให้อาหารปลา สงขลา - บอกแนวทางการไมท่ ำใหว้ ัฏจกั รชีวติ ของสตั ว์เปลีย่ นแปลง) อควาเรียม” หรือ “อควาเรียม 80 บาท ที่สถาบันวิทยาศาสตร์ทาง 4. นักเรียนอ่านแนวคิดสำคัญ ในหนังสือเรียน หน้า 76 จากนั้นครูใช้ ทะเล มหาวทิ ยาลยั บรู พา” คำถามว่า จากการอ่านแนวคิดสำคัญ นักเรียนคิดว่าจะได้เรียน เกยี่ วกบั เรอ่ื งอะไรบา้ ง หากนักเรียนไม่สามารถตอบ (- สิ่งที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและการดำรงชีวิตของสัตว์และ คำถามหรืออภิปรายได้ตาม มนุษย์ แนวคำตอบ ครูควรให้เวลา - วฏั จกั รชีวิตของสัตว์ นักเรียนคิดอย่างเหมาะสม - การดูแลตนเองและสัตว์ให้ได้รับอาหาร น้ำ และอากาศอย่าง รอคอยอย่างอดทน และรับฟัง เหมาะสม แนวความคดิ ของนักเรยี น - การไมท่ ำใหว้ ฏั จักรชีวิตของสตั วเ์ ปลย่ี นแปลง) 5. ครชู กั ชวนใหน้ ักเรยี นสงั เกตรปู และอา่ นเน้ือเร่ืองในหนงั สือเรียน หน้า 76 โดยครูฝึกทักษะการอ่านตามวิธีการอ่านที่เหมาะสมกับ ความสามารถของนักเรียน จากนั้นครูใช้คำถามเพื่อตรวจสอบความ เขา้ ใจจากการอ่าน ดังน้ี 5.1 รูปน้ีคือสถานท่ีใด (พิพธิ ภัณฑ์สตั วน์ ำ้ ) 5.2 นักเรียนเคยไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำหรือไม่ (นักเรียนตอบตาม ประสบการณ์ของตนเองซึ่งอาจมที ั้งที่เคยไปและไม่เคยไป) 5.3 นกั เรียนคดิ วา่ คนในรูปนีค้ ือใคร (นักประดานำ้ ) 5.4 นักประดานำ้ ดำน้ำลงไปในตปู้ ลาเพ่ืออะไร (ให้อาหารปลา) 5.5 นักประดาน้ำ สามารถอยู่ใต้น้ำเป็นเวลานานได้หรือไม่ อย่างไร (นักเรียนตอบตามความเขา้ ใจของตนเอง เชน่ อยไู่ ดน้ าน เพราะ เม่ืออยู่ใตน้ ้ำ นักประดานำ้ ใชถ้ งั ออกซเิ จนช่วยในการหายใจ) 5.6 ถ้านักเรยี นลงไปในน้ำ จะอยู่ไดน้ านเหมือนนักประดาน้ำหรือไม่ เพราะเหตใุ ด (นักเรยี นตอบตามความเข้าใจของตนเอง เชน่ อยู่ สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯

193 คู่มอื ครูรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 2 อากาศและชีวิตของสตั ว์ ได้ไม่นานเหมือนนักประดาน้ำ เพราะมนุษย์ไม่สามารถหายใจ การเตรียมตัวลว่ งหนา้ สำหรบั ครู ใต้น้ำได)้ เพ่ือจดั การเรยี นรู้ในครง้ั ถัดไป 5.7 ปลาสามารถอยู่ในน้ำตลอดเวลาได้เพราะเหตุใด (นักเรียนตอบ ตามความเข้าใจของตนเอง เชน่ ปลาใชเ้ หงอื กในการหายใจ) ครูชวนนกั เรียนทำกจิ กรรมท่ี 1.1 5.8 ปลาตอ้ งการอะไรบ้างสำหรับการเจริญเติบโตและการดำรงชีวิต สัตว์ต้องการสิ่งใดในการเจริญเติบโต (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง เช่น ปลาต้องการ และการดำรงชีวิต โดยการสังเกต อาหาร น้ำ และอากาศสำหรับการเจริญเติบโตและ พฤตกิ รรมของปลาและวัดความยาวของ การดำรงชีวิต) ปลาทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง หลัง 6. ครูชักชวนนักเรียนตอบคำถามเกี่ยวกับการดำรงชีวิตของสัตว์ใน เลกิ เรียน สำรวจความรกู้ ่อนเรียน 7. นักเรียนทำสำรวจความรู้ก่อนเรียน ในแบบบันทึกกิจกรรม หน้า ในครั้งถัดไป นักเรียนจะได้เรียน 72-76 โดยให้นักเรยี นอ่านคำถามแต่ละข้อ ครตู รวจสอบความเข้าใจ เรื่องท่ี 1 สิง่ ทจ่ี ำเป็นตอ่ การเจริญเติบโต ของนักเรียน จนแน่ใจว่านักเรียนสามารถทำได้ด้วยตนเอง จึงให้ และการดำรงชีวิตของสัตว์และมนุษย์ นักเรียนตอบคำถาม โดยคำตอบของแต่ละคนอาจแตกต่างกัน และ โดยครูเตรียมไข่ไก่มา 1 ฟอง สำหรับใช้ คำตอบอาจถกู หรอื ผดิ ก็ได้ ตรวจสอบความรู้เดมิ ของนกั เรยี น 8. ครูสังเกตการตอบคำถามของนักเรียนเพื่อตรวจสอบว่านักเรียนมี แนวคิดเกี่ยวกับการดำรงชีวิตของสัตว์อย่างไรบ้าง หรืออาจสุ่มให้ นักเรียน 2-3 คน นำเสนอคำตอบของตนเอง ครูยังไม่ต้องเฉลย คำตอบ แต่จะให้นักเรียนย้อนกลับมาตรวจสอบอีกครั้งหลังเรียนจบ บทนี้แล้ว ทั้งนี้ครูอาจบันทึกแนวคิดคลาดเคลื่อนหรือแนวคิดท่ี น่าสนใจของนักเรียน แล้วนำมาออกแบบการจัดการเรียนการสอน เพื่อแก้ไขแนวคิดคลาดเคลื่อนให้ถูกต้อง และต่อยอดแนวคิดท่ี นา่ สนใจของนักเรยี น ⎯ สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คมู่ ือครรู ายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เลม่ 1 | หน่วยที่ 2 อากาศและชวี ิตของสัตว์ 194 แนวคำตอบในแบบบันทึกกจิ กรรม การสำรวจความร้กู ่อนเรยี น นกั เรียนอาจตอบคำถามถกู หรือผิดก็ไดข้ ้นึ อยกู่ บั ความรูเ้ ดมิ ของนักเรียน แตเ่ มือ่ เรยี นจบบทเรยี นแลว้ ให้นักเรียนกลบั มาตรวจสอบคำตอบอกี ครั้งและแก้ไขให้ถกู ต้อง ดงั ตัวอย่าง ใช้ในการหายใจ ชว่ ยใหร้ า่ งกาย เจริญเติบโตและดำรงชวี ติ ได้อย่างปกติ ช่วยให้ร่างกายเจรญิ เตบิ โต และแข็งแรง สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯

195 คู่มือครูรายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เลม่ 1 | หน่วยที่ 2 อากาศและชวี ติ ของสตั ว์ √ √ √ ⎯ สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ค่มู อื ครรู ายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เล่ม 1 | หน่วยที่ 2 อากาศและชีวติ ของสตั ว์ 196 สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯

197 คู่มือครูรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เล่ม 1 | หน่วยที่ 2 อากาศและชวี ติ ของสัตว์ วัฏจักรชีวิตของไก่และยุงแตกต่างกัน โดยรูปร่างลักษณะในแต่ละระยะ ของวัฏจักรชีวิตของไก่จะแตกต่างกับยุง และในขณะเจริญเติบโตตั้งแต่ ออกจากไข่จนเป็นตัวเต็มวัย ไก่จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างลักษณะ ในขณะทย่ี ุงมีการเปลี่ยนแปลงรปู ร่างลกั ษณะ ⎯ สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ค่มู อื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 2 อากาศและชีวิตของสัตว์ 198 √ จะทำให้ไข่ปูซงึ่ จะเจริญเติบโตตอ่ ไปเปน็ ลกู ปู มจี ำนวนลดลง ทำให้ลูกปูมีจำนวนลดลง และสง่ ผลให้ปตู วั เต็มวัยลดจำนวนลงไปด้วย วฏั จกั รชีวิตของปจู ึงเปลี่ยนแปลงไป และถ้ายงั รบั ประทานปทู ม่ี ีไข่ต่อไป ปูอาจสญู พนั ธไุ์ ด้ สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯

199 คู่มอื ครูรายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 2 อากาศและชวี ติ ของสตั ว์ เรอื่ งท่ี 1 สิ่งทจี่ ำเปน็ ตอ่ การเจริญเตบิ โตและการดำรงชวี ติ ของสตั วแ์ ละมนุษย์ ในเรื่องนี้นักเรียนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งที่จำเป็น ต่อการเจริญเติบโตและการดำรงชีวิตของสัตว์และมนุษย์ และการดูแลตนเองและสัตว์ให้ได้รับสิ่งที่จำเป็นต่อ การเจริญเติบโตและการดำรงชวี ติ อยา่ งเหมาะสม จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ สอื่ การเรยี นรู้และแหลง่ เรียนรู้ 1. สังเกตและบรรยายสงิ่ ท่ีจำเป็นต่อการเจรญิ เติบโต 1. หนงั สอื เรยี น ป.3 เล่ม 1 หนา้ 78-90 และการดำรงชีวิตของสตั ว์ 2. แบบบนั ทกึ กิจกรรม ป.3 เล่ม 1 หนา้ 77-85 2. บอกแนวทางในการดูแลสัตว์ให้ได้รับสิ่งที่จำเป็น ต่อการเจริญเติบโตและการดำรงชีวิตอย่าง เหมาะสม 3. รวบรวมข้อมูลและบรรยายสิ่งที่จำเป็นต่อ การเจริญเตบิ โตและการดำรงชวี ิตของมนุษย์ 4. สืบค้นข้อมูลและบอกแนวทางในการดูแลตนเอง ให้ได้รับสิ่งที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและ การดำรงชีวติ อยา่ งเหมาะสม เวลา 6 ชว่ั โมง วสั ดุ อุปกรณ์สำหรับทำกจิ กรรม ภาชนะสำหรับเลี้ยงปลา ลูกปลา อาหารปลา ไมบ้ รรทัด สำลี จานกระดาษ กระชอนตกั ปลา น้ำ วดี ทิ ัศน์ เกี่ยวกับการเจริญเติบโตและการดำรงชีวิตของสัตว์ ชนิดต่าง ๆ สมุดรายงานสุขภาพประจำปี ที่วัดส่วนสูง เครื่องชั่งน้ำหนกั ⎯ สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คูม่ อื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 2 อากาศและชีวติ ของสตั ว์ 200 แนวการจดั การเรยี นรู้ (60 นาที) ในการตรวจสอบความรู้เดิม ครูรับฟังเหตุผลของนักเรียนเป็น ขัน้ ตรวจสอบความรู้ (10 นาท)ี สำคัญ ครูยังไม่เฉลยคำตอบใด ๆ แต่ชักชวนให้หาคำตอบด้วย 1. ครูตรวจสอบความรู้เดิมเกี่ยวกับสิ่งที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและ ตนเองจากการอ่านเนอื้ เร่อื ง การดำรงชีวิตของสัตว์ โดยนำไข่ไก่มาให้นักเรียนสังเกต จากนั้นร่วมกัน อภปิ รายโดยใช้คำถามดังต่อไปน้ี 1.1 สง่ิ น้คี อื อะไร (ไขไ่ ก)่ 1.2 ไข่ไก่เป็นสิ่งมีชีวิตหรือไม่ (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง เชน่ ไขไ่ กเ่ ป็นสิ่งมีชีวติ ) 1.3 นักเรียนคิดว่า ไข่จะฟักออกมาเป็นอะไร (นักเรียนตอบตาม ความเขา้ ใจของตนเอง เชน่ ไข่จะฟักออกมาเป็นลกู ไกห่ รือลูกเจย๊ี บ) 1.4 ไข่และลูกไก่ มีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร (นักเรียนตอบตามความ เข้าใจของตนเอง เช่น ไข่และลูกไก่เป็นระยะหนึ่งของวัฏจักรชีวิต ของไก่ โดยภายในไข่จะมีตัวอ่อน จากนั้นตัวอ่อนจะฟักออกมาเป็น ลูกไกห่ รือลกู เจีย๊ บ) 1.5 ลูกไก่ต้องการสิ่งใดบ้างในการเจริญเติบโตและการดำรงชีวิต (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง เช่น ลูกไก่ต้องการอาหาร น้ำ และอากาศในการเจริญเติบโตและการดำรงชีวติ ) 2. ครูเชื่อมโยงความรู้เดิมของนักเรียนสู่การเรียนเรื่องการเจริญเติบโตและ การดำรงชีวิตของสัตว์ โดยใช้คำถามว่า ไก่และสัตว์ชนิดอื่น ๆ ต้องการ สง่ิ ทจ่ี ำเป็นใดบ้างในการเจรญิ เติบโตและการดำรงชีวิต ขั้นฝกึ ทักษะจากการอา่ น (35 นาที) 3. ครูให้นักเรียนอ่านชื่อเรื่อง และคิดก่อนอ่าน ในหนังสือเรียน หน้า 78 จากน้นั รว่ มกนั อภปิ รายเพอื่ หาแนวคำตอบและนำเสนอ ครูบนั ทกึ คำตอบ ของนักเรยี นบนกระดานเพ่ือใชเ้ ปรยี บเทยี บคำตอบหลังการอา่ นเรื่อง 4. นักเรียนอา่ นคำสำคัญ ทง้ั ภาษาไทยและภาษาองั กฤษ (หากนักเรียนอ่าน ไม่ได้ ครูควรสอนอ่านให้ถูกต้อง) จากนั้นครูชักชวนให้นักเรียนอธิบาย ความหมายของคำสำคัญตามความเข้าใจของตนเอง 5. นักเรียนอ่านเนื้อเรื่องในหนังสือเรียน หน้า 78-79 โดยครูฝึกทักษะ การอ่านตามวิธีการอ่านที่เหมาะสมกับความสามารถของนักเรียน ครู ตรวจสอบความเขา้ ใจจากการอ่าน โดยใช้คำถามดังน้ี สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯

201 คู่มือครูรายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 2 อากาศและชวี ติ ของสัตว์ 5.1 แม่ไกก่ กไข่เพอื่ อะไร (ใหค้ วามอบอนุ่ แก่ไข่) หากนักเรียนไม่สามารถตอบ 5.2 ไก่ทฟ่ี ักออกมาจากไข่ เรยี กวา่ อะไร (ลกู เจย๊ี บ) คำถามหรืออภิปรายได้ตาม 5.3 ลกู เจี๊ยบมีลักษณะอย่างไร (ตวั เล็ก มขี นออ่ นสีเหลือง) แนวคำตอบ ครูควรให้เวลา 5.4 ข้าวตูสงสัยเกี่ยวกับเรื่องอะไร (ลูกเจี๊ยบต้องการสิ่งที่จำเป็นใดบ้าง นักเรียนคิดอย่างเหมาะสม รอคอยอย่างอดทน และรับฟัง เพ่ือให้รา่ งกายเจรญิ เติบโตและดำรงชีวิตอยไู่ ด้) แนวความคดิ ของนกั เรียน 5.5 การดำรงชีวิตคอื อะไร (การมีชวี ิตอยู่ต่อไปได)้ 5.6 นักเรียนคิดว่าลูกเจี๊ยบน่าจะเจริญเติบโตและดำรงชีวิตได้หรือไม่ ความร้เู พิม่ เติมสำหรับครู เพราะเหตุใด (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง เช่น ได้ หินย้อย เป็นหินปูนที่มีลักษณะเป็น เพราะลูกเจีย๊ บกนิ อาหาร กินนำ้ และหายใจ) แท่งหรือแผ่น ที่ย้อยลงมาจากเพดานถ้ำ 5.7 ข้าวตนู งั่ มองแม่ไก่และลกู เจย๊ี บทำอะไร (คุ้ยเขีย่ หาอาหาร) ห ิ น ย ้ อ ย เ ก ิ ด จ า ก น ้ ำ ท ำ ป ฏ ิ ก ิ ร ิ ย า กั บ 5.8 แม่ไก่และลูกไกท่ ำสง่ิ น้นั เพอื่ อะไร (เพอ่ื หาอาหาร) แก๊สคาร์บอ น ได อ อ ก ไ ซด์ เ กิ ด เ ป็ น 5.9 ระหว่างที่ข้าวตูนั่งมองแม่ไก่กับลูกเจี้ยบ เกิดอะไรขึ้นระหว่างน้ัน กรดคาร์บอนิกซึ่งเป็นกรดอ่อนละลาย (พอ่ เรียกไปดขู ่าว) หินปูนและทำปฏิกิริยากับหินปูน ได้เป็น 5.10 พ่อกำลังดูข่าวเกี่ยวกับเรื่องอะไร (การพบตัวนักฟุตบอลเยาวชน แคลเซียมไบคาร์บอเนต ซึ่งละลายน้ำได้ ทีมหน่งึ ที่เขา้ ไปตดิ อยู่ในถำ้ ) เมื่อน้ำที่มีแคลเซียมไบคาร์บอเนต 5.11 ทีมนักฟตุ บอลเขา้ ไปตดิ อยูใ่ นถ้ำเปน็ เวลากว่ี ัน (10 วนั ) ละลายอยู่หยดลงมาจากเพดานถ้ำและ 5.12 เพราะเหตุใดนักฟุตบอลจึงออกจากถ้ำไม่ได้ (เพราะมีน้ำจำนวน สัมผัสกับอากาศจะเกิดปฏิกิริยาเคมี มากกน้ั ทางออกไว้) ได้เป็นแคลเซียมคาร์บอเนต น้ำ และ 5.13 ขณะติดอยู่ในถ้ำนักฟุตบอลมีอาการอย่างไร เพราะเหตุใดจึงมี แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ โดยแคลเซียม อาการเชน่ นน้ั (อ่อนเพลีย เพราะไมม่ ีอาหาร และมีน้ำไมเ่ พยี งพอ) คาร์บอเนตซึง่ เป็นของแข็งจะสะสมตัวเป็น 5.14 พวกเขาดำรงชีวิตอยู่ในถ้ำเป็นเวลาหลายวันได้อย่างไร (ดื่มน้ำที่ แผ่นหรือแท่ง พอกยาวลงมาจากเพดานถ้ำ ไหลลงมาตามหนิ ย้อยและทุกคนพยายามอยู่นง่ิ ๆ เพื่อใช้พลังงาน เร่ือย ๆ ทลี ะนอ้ ย ของรา่ งกายให้นอ้ ยท่สี ดุ ) 5.15 ถา้ ไม่มเี จ้าหน้าที่เข้าไปคน้ หาหรือให้การช่วยเหลือ พวกเขาจะเป็น ค ร ู อ า จ ใ ห ้ ค ว า ม รู้ แ ก่ น ั ก เ ร ี ย น อย่างไร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง เช่น พวกเขา เพิ่มเติมว่า น้ำที่ไหลผ่านจากหินย้อย อาจ อาจไม่มีชีวิตรอด หรืออาจจะเกิดโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ เนื่องจาก มีเชื้อโรค เศษฝุ่น หรือสารบางอย่างปนมา ร่างกายออ่ นแอ จนอาจทำใหเ้ สยี ชีวติ ) กับน้ำ ดังน้ันน้ำที่มาจากหินย้อยจึงไม่ ขั้นสรุปจากการอ่าน (15 นาที) เหมาะสำหรบั การดื่ม 6. ครูให้นักเรียนร่วมกันสรุปเรื่องที่อ่านซึ่งควรสรุปได้ว่า แม่ไก่กกไข่เพื่อให้ ความอบอุ่นแก่ไข่ เมื่อไข่ฟักออกมาเป็นลูกเจี๊ยบ ลูกเจี๊ยบต้องการสิ่งท่ี จำเป็นต่าง ๆ สำหรับการเจริญเติบโตและการดำรงชีวิต ส่วนนักฟุตบอล ที่ติดอยู่ในถ้ำมีร่างกายอ่อนแอ เพราะไม่ได้รับอาหารและน้ำอย่าง ⎯ สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คู่มือครูรายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เล่ม 1 | หนว่ ยท่ี 2 อากาศและชีวิตของสตั ว์ 202 เพียงพอ พวกเขาก็ต้องการสิ่งที่จำเป็นต่าง ๆ สำหรับการเจริญเติบโต การเตรยี มตัวล่วงหน้าสำหรบั ครู และการดำรงชีวติ เชน่ เดียวกนั เพอ่ื จดั การเรยี นรู้ในครง้ั ถัดไป 7. นกั เรยี นตอบคำถามในรู้หรือยงั ในแบบบันทึกกิจกรรม หน้า 77 8. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเพื่อเปรียบเทียบคำตอบของนักเรียนใน ในครั้งถัดไป นักเรียนจะได้ทำ ร้หู รอื ยงั กับคำตอบท่ีเคยตอบและบันทกึ ไว้ในคดิ ก่อนอ่าน กิจกรรมท่ี 1.1 สตั ว์ตอ้ งการส่ิงใดในการ 9. ครใู ห้นกั เรียนตอบคำถามท้ายเรือ่ งทีอ่ ่าน ดังน้ี เจริญเติบโตและการดำรงชีวิต ครูอาจ 9.1 เจ้าหน้าที่ต้องส่งสิ่งใดเข้าไปช่วยเหลือนักฟุตบอลทีมนี้ เพื่อให้ เตรยี ม ดงั นี้ 1. รูปสัตว์ชนิดใดชนิดหนึ่ง เช่น สุนัข พวกเขายังคงดำรงชีวิตอยู่ต่อไปได้ (นักเรียนตอบตามความเข้าใจ ของตนเอง) แมว ซึ่งมีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ 9.2 สัตว์ต้องการสิ่งที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและการดำรงชีวิต 1 รูป และมีร่างกายซูบผอม อ่อน เช่นเดยี วกบั มนษุ ยห์ รือไม่ (นกั เรยี นตอบตามความเข้าใจของตนเอง) แรง 1 รูป สำหรับใช้ตรวจสอบ ครูยังไม่เฉลยคำตอบแต่ชักชวนให้นักเรียนหาคำตอบจากการทำ ความรู้เดิมของนักเรียน กจิ กรรม 2. สแกน QR code ในหนังสือเรียน หน้า 80 เพื่อเปิดวีดิทัศน์ศึกษา เกี่ยวกับการเจริญเติบโตและ การดำรงชีวิตของสัตว์ชนิดต่าง ๆ ก่อนถึงชว่ั โมงเรียน สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ⎯

203 คู่มอื ครูรายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เลม่ 1 | หน่วยที่ 2 อากาศและชวี ิตของสตั ว์ แนวคำตอบในแบบบันทกึ กจิ กรรม เพอื่ ให้ความอบอุ่นแก่ไข่ จนลูกเจยี๊ บฟักออกมาจากไข่ ด่ืมน้ำทีไ่ หลลงมาตามหินย้อย และทุกคนพยายามอย่นู ิ่ง ๆ เพ่ือใช้ พลงั งานของร่างกายให้นอ้ ยที่สุด ⎯ สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

คมู่ ือครูรายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 2 อากาศและชวี ติ ของสัตว์ 204 กิจกรรมท่ี 1.1 สตั ว์ตอ้ งการสงิ่ ใดในการเจริญเตบิ โตและการดำรงชีวติ กิจกรรมนี้นักเรียนจะได้สังเกตการเจริญเติบโต และการดำรงชีวิตของสัตว์ชนิดต่าง ๆ จากการเลี้ยงปลา และการดูวีดิทัศน์ เพื่อบรรยายสิ่งที่จำเป็นต่อการ เจริญเติบโตและการดำรงชีวิตของสัตว์ รวมทั้งบอก แนวทางในการดูแลสัตว์ให้ได้รับสิง่ ท่ีจำเป็นต่าง ๆ อย่าง เหมาะสม เวลา 3 ช่ัวโมง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ 1. สงั เกตและบรรยายสิ่งที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต S1 การสงั เกต และการดำรงชวี ติ ของสัตว์ S2 การวดั S8 การลงความเหน็ จากข้อมูล 2. บอกแนวทางในการดูแลสัตว์ให้ได้รับสิ่งที่จำเป็น S13 การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป ต่อการเจริญเติบโตและการดำรงชีวิตอย่าง เหมาะสม ทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 วสั ดุ อุปกรณส์ ำหรับทำกจิ กรรม C2 การคิดอยา่ งมีวิจารณญาณ C4 การสอ่ื สาร ส่ิงทค่ี รูต้องเตรียม/ห้อง C5 ความร่วมมือ 1. วีดทิ ศั น์เก่ยี วกบั การเจริญเติบโตและ ส่อื การเรียนรู้และแหลง่ เรียนรู้ การดำรงชวี ติ ของสตั วช์ นดิ ต่าง ๆ 1 เร่อื ง 1. หนังสอื เรยี น ป.3 เลม่ 1 หนา้ 80-84 1 ถุง 2. แบบบันทึกกจิ กรรม ป.3 เล่ม 1 หนา้ 78-81 2. สำลี สง่ิ ทค่ี รูตอ้ งเตรียม/กลุ่ม 1. ภาชนะสำหรับเลยี้ งปลา 1 ใบ 2. นำ้ 1 ถัง 3. จานกระดาษ 3 ใบ 4. กระชอนตกั ปลา 1 อนั ส่ิงท่ีนักเรียนต้องเตรียม/กลมุ่ 1. ลกู ปลา 3 ตวั 2. อาหารปลา 1 ถุง 3. ไม้บรรทัด 1 อนั สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯

205 คู่มือครรู ายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เล่ม 1 | หน่วยท่ี 2 อากาศและชีวติ ของสัตว์ แนวการจดั การเรียนรู้ ในการตรวจสอบความรู้เดิม ครูรับฟังเหตุผลของนักเรียนเป็น 1. ครูตรวจสอบความรู้เดิมของนักเรียนเกี่ยวกับสิ่งที่จำเป็นต่อ สำคัญ ครูยังไม่เฉลยคำตอบใด ๆ การเจริญเติบโตและการดำรงชวี ติ ของสัตว์ โดยครูนำรปู สัตว์ชนดิ ใดชนดิ แต่ชักชวนให้หาคำตอบที่ถูกต้อง หนงึ่ เชน่ สนุ ขั แมว ซงึ่ มรี ่างกายแขง็ แรงสมบรู ณ์ 1 รูป และมีร่างกายซูบ จากการทำกิจกรรม ผอม อ่อนแรง 1 รูป มาให้นักเรียนสังเกต จากนั้นให้นักเรียนร่วมกัน อภิปราย โดยใชค้ ำถามดังต่อไปน้ี 1.1 สัตวใ์ นรูปน้เี ป็นสตั ว์ชนดิ ใด (นักเรียนตอบช่อื สตั ว์ในรปู ) 1.2 สัตว์ในรปู ทงั้ สองมีลกั ษณะเหมือนหรือแตกต่างกันอยา่ งไร (นกั เรียน ตอบตามที่สังเกตได้ เช่น แตกต่างกัน โดย สัตว์ในรูปหนึง่ มีรา่ งกาย แข็งแรงสมบูรณ์ ร่างกายสะอาด ส่วนสัตว์อีกรูปหนึ่งมีร่างกาย อ่อนแอและซบู ผอม) 1.3 เพราะเหตุใดสัตว์ในรูปทั้งสองน้ีจึงมีลักษณะแตกต่างกัน (นักเรียน ตอบตามความเข้าใจของตนเอง เช่น เพราะสัตว์ได้รับอาหารท่ี แตกต่างกัน ตัวหนึ่งอาจจะได้กินอาหารอย่างเพียงพอ ส่วนอีกตัว หน่ึงอาจจะไมไ่ ด้กินอาหาร) 1.4 นักเรียนเคยเลี้ยงสัตว์ชนิดนี้หรือไม่ และถา้ เลย้ี งสัตวใ์ นรปู อยากให สัตว์เลี้ยงเหมือนรูปใด (นักเรียนตอบตามประสบการณ์ของตนเอง ซึ่งอาจจะมีทั้งเคยเลี้ยงและไม่เคยเลี้ยง และถ้าจะเลี้ยงสัตว์ในรูป อยากให้สัตว์เลีย้ งเหมือนรูปที่สัตว์มีร่างกายแข็งแรงสมบรู ณ์ เพราะ สตั ว์มสี ขุ ภาพดี นา่ รัก สะอาด) 1.5 นักเรียนจะเลี้ยงสัตว์อย่างไรให้มีลักษณะตามความต้องการ (นกั เรียนตอบตามความคิดของตนเอง เชน่ ให้อาหารและน้ำแก่สัตว์ ให้สตั วอ์ ยู่ในที่ที่มีอากาศสะอาด รวมทงั้ ทำความสะอาดร่างกายสัตว์ ให้สะอาดอย่เู สมอ) 2. ครูเชื่อมโยงความรู้เดมิ ของนักเรียนเข้าสูก่ ิจกรรมที่ 1.1 โดยใช้คำถามว่า เราจะเลี้ยงสัตว์ใหม้ ีสขุ ภาพดีและร่างกายแข็งแรงได้อย่างไร 3. นักเรียนอ่านชื่อกิจกรรม และทำเป็นคิดเป็น จากนั้นร่วมกันอภิปราย เพื่อตรวจสอบความเข้าใจเกี่ยวกับจุดประสงค์ในการทำกิจกรรม โดยใช้ คำถาม ดังน้ี 3.1 กิจกรรมนี้นักเรียนจะได้เรียนเรื่องอะไร (สิ่งที่จำเป็นต่อการ เจรญิ เติบโตและการดำรงชวี ิตของสตั ว์) 3.2 นักเรียนจะไดเ้ รียนรู้เรื่องนีด้ ้วยวธิ ใี ด (การสงั เกต) ⎯ สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ค่มู อื ครรู ายวิชาพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เลม่ 1 | หน่วยท่ี 2 อากาศและชวี ติ ของสตั ว์ 206 3.3 เมื่อเรียนแล้วนักเรียนจะทำอะไรได้ (บรรยายสิ่งที่จำเป็นต่อ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละ ทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 ทน่ี ักเรียนจะได้ การเจริญเติบโตและการดำรงชีวิตของสัตว์ และบอกแนวทางในการ ฝึกจากการทำกิจกรรม ดแู ลสตั วใ์ ห้ได้รบั สงิ่ ที่จำเปน็ อย่างเหมาะสม) S1 สังเกตพฤตกิ รรมและการเปลี่ยนแปลง 4. นกั เรยี นบันทึกจดุ ประสงคล์ งในแบบบันทกึ กิจกรรม หนา้ 78 รูปร่างลกั ษณะของปลาท่ีเลยี้ ง 5. นักเรียนอ่านสิ่งที่ต้องใช้ในการทำกิจกรรม ซึ่งถ้านักเรียนไม่รู้จักวัสดุ S2 วัดความยาวของปลาด้วยไม้บรรทัด อปุ กรณบ์ างอยา่ ง ครคู วรนำสิ่งนั้นมาแสดงใหด้ ู และระบุหน่วยการวัด 6. นักเรียนอ่านทำอย่างไร ข้อ 1-5 ทีละข้อ โดยครูใช้วิธีฝึกการอ่าน S8 ลงความเห็นจากการสังเกต การอ่าน ที่เหมาะสมกับความสามารถของนักเรียน จากนั้นครูตรวจสอบความ ใบความรู้ และดูวีดิทัศน์เกี่ยวกับสิ่งท่ี เข้าใจเกี่ยวกับวิธกี ารทำกจิ กรรม จนนักเรียนเข้าใจลำดับการทำกิจกรรม จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและการ (ครอู าจเขยี นขนั้ ตอนการทำกิจกรรมบนกระดาน) โดยครใู ช้คำถามดงั นี้ ดำรงชีวิตของสัตว์ต่าง ๆ รวมท้ัง 6.1 นักเรยี นตอ้ งทำอะไรเป็นอนั ดับแรก (ร่วมกันอภิปรายและเลือกชนิด แนวทางการดูแลสัตว์ให้ได้รับสิ่งท่ี ปลาทีจ่ ะเล้ียง) จำเปน็ ตา่ ง ๆ อย่างเหมาะสม 6.2 นักเรียนสืบค้นข้อมูลและอภิปรายเกี่ยวกับเรื่องอะไร (วิธีการเลี้ยง ปลา) C2 วิเคราะห์การเจริญเติบโต และ 6.3 นักเรียนสามารถสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการเลี้ยงปลาได้จากที่ พฤติกรรมของปลาที่ได้จากการอ่าน ใดบา้ ง (อนิ เทอร์เนต็ หนงั สอื สอบถามครูหรอื ผ้ปู กครอง) ใบความรู้และการดูวีดิทัศน์ และสรุป 6.4 เมื่อสืบค้นข้อมูลแล้ว นักเรียนต้องทำอะไรต่อไป (วางแผนการเลีย้ ง ถึงสิ่งที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและ ปลา จัดภาชนะสำหรบั เลี้ยงปลาและเลี้ยงปลาตามแผนที่วางไว้) การดำรงชวี ิตของปลา 6.5 เมื่อเลี้ยงปลาแล้ว นักเรียนต้องทำอะไรบ้าง (สังเกตพฤติกรรมและ การเปลี่ยนแปลงรูปร่างลักษณะของปลาโดยการวัดความยาวของ C4 นำเสนอวิธีการเลี้ยงปลาและผลการ ปลา) เล้ียงปลาของกลุม่ ตนเอง 6.6 นักเรียนจะนำปลาออกมาเพื่อวัดความยาวได้อย่างไร (ใช้กระชอน ตกั ปลาตกั ปลามาวางบนสำลีทช่ี มุ่ นำ้ แลว้ ใชส้ ำลีที่ชุ่มนำ้ อีกแผ่นวาง C5 ทำงานร่วมกับผู้อื่นในการเลี้ยงปลา บนตวั ปลา) สังเกตพฤติกรรมและการเจริญเติบโต 6.7 นักเรยี นจะใช้อะไรวดั ความยาวของปลา (ไมบ้ รรทัด) ของปลา รวมทั้งการอภิปรายเกี่ยวกับ 6.8 เมื่อตักปลาออกมาแล้ว นักเรียนจะวัดความยาวของปลาอย่างไร สิ่งที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและ (นำไม้บรรทดั มาวางเทยี บกบั ตัวปลาตัง้ แตห่ วั ปลาจนถงึ หางปลา) การดำรงชีวิตของสัตว์ และการดูแล ในกรณีท่ีนักเรียนใช้ไม้บรรทัดไม่ถนัด อาจใช้แถบกระดาษวัด สัตว์ชนิดต่าง ๆ ให้ได้รับสิ่งที่จำเป็น ความยาวของปลา โดยทำเครื่องหมายบนแถบกระดาษเพื่อใช้เป็น เหล่าน้ันอย่างเหมาะสม ตำแหน่งปลายสุดของหัวปลา แล้วนำแถบกระดาษมาทาบกับ ตัวปลา ทำเคร่ืองหมายที่ปลายสุดของหางปลา จากนั้นนำ แถบกระดาษที่ทำเครื่องหมายแล้ว ไปเทียบกับไม้บรรทัดแล้วอ่าน สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯

207 คู่มอื ครูรายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เลม่ 1 | หน่วยที่ 2 อากาศและชวี ิตของสตั ว์ ค่า ทั้งนี้ครูควรสาธิตวิธกี ารวัดความยาวของปลาให้นักเรียนดูก่อน ขอ้ เสนอแนะเพิม่ เติม ลงมอื ทำกจิ กรรม 6.9 เพราะเหตุใดจึงวัดการเจริญเติบโตของปลาด้วยวิธีดังกล่าว ขอ้ แนะนำในการเลีย้ งปลามดี งั น้ี (นกั เรยี นตอบตามความเขา้ ใจของตนเอง เชน่ ปลาจะอยู่นิ่งพอที่จะ สามารถวดั ความยาวได้โดยไม่ไดร้ บั อนั ตราย) 1. การทำกิจกรรมที่ 1.1 สัตว์ต้องการสิ่งใด 6.10 นักเรียนต้องสังเกตและวัดความยาวของปลากี่ครั้ง และวัดแต่ละ ครงั้ ห่างกันก่วี ัน (3 ครงั้ โดยวดั สัปดาห์ละ 1 ครงั้ ) ในการเจริญเติบโตและการดำรงชีวิต 6.11 เม่ือวดั ความยาวของปลาครบ 3 สปั ดาห์แล้ว นักเรยี นตอ้ งทำอะไร นักเรียนควรเริ่มเลี้ยงปลาหลังจากทำ ต่อไป (นำเสนอผลการเลี้ยงปลาและอภิปรายเกี่ยวกับพฤติกรรม กิจกรรมที่ 1.1 อากาศมีส่วนประกอบ ของปลาและผลการวัดความยาวของปลา) อะไรบ้าง ในบทที่ 1 เรื่องที่ 1 เพราะ 7. หลังจากเลี้ยงปลาครบ 3 สัปดาห์แล้ว ครูให้นักเรียนนำเสนอผลการ นักเรียนตอ้ งเลย้ี งปลาเปน็ เวลา 3 สัปดาห์ เลี้ยงปลา เช่น วิธีการเลี้ยงปลา การเจริญเติบโตของปลา และอภิปราย โดยหลังจากทำกิจกรรมที่ 1.1 อากาศมี เกี่ยวกับพฤติกรรมของปลาและผลการวัดความยาวของปลา ตามแนว ส่วนประกอบอะไรบ้างแลว้ ครูใหน้ กั เรยี น คำถาม ดงั น้ี อ่านทำอย่างไรของกิจกรรมน้ี ข้อ 1-5 7.1 นักเรียนเลอื กเลี้ยงปลาอะไร (นกั เรียนตอบชอ่ื ปลาที่นำมาเล้ยี ง) และอภิปรายขั้นตอนการทำกิจกรรมตาม 7.2 นักเรียนมวี ธิ ีการเล้ียงปลาอยา่ งไร (นกั เรยี นตอบตามทท่ี ำจรงิ ) แนวการจัดการเรียนรู้ข้อ 6 จากนั้นให้ 7.3 ปลามีพฤติกรรมอย่างไรบ้าง (นักเรียนตอบตามที่สังเกตได้ เช่น นักเรียนเริ่มเลี้ยงปลา สังเกตพฤติกรรม ว่ายน้ำ อ้าปากกินอาหาร อ้าและหุบปากบ่อย ๆ มีการขยับบริเวณ และการเปลี่ยนแปลงรูปร่างลักษณะของ เหงอื กตลอดเวลา) ปลา โดยการวัดความยาวของปลาทุก 7.4 เพราะเหตุใดปลาจึงมีพฤติกรรมเช่นนั้น (นักเรียนตอบตามความ สัปดาห์ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง เป็นเวลา 3 เข้าใจของตนเอง เช่น ปลาเคลื่อนที่ กินอาหาร หายใจ และนำน้ำ สัปดาห์ เมื่อทำกิจกรรมครบทั้งสาม เขา้ สู่รา่ งกาย) ส ั ป ด า ห ์ ห รื อ เ ม ื ่ อ ถ ึ ง ช ั ่ ว โ ม ง เ ร ี ย น ข อ ง 7.5 ความยาวของตัวปลามีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ อย่างไร (นักเรียน กิจกรรมนี้ ครูให้นักเรียนนำเสนอผลการ ตอบตามผลการทำกิจกรรม เช่น ความยาวของตัวปลามีการ เลี้ยงปลาและร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับ เปลีย่ นแปลง โดยปลามีความยาวเพมิ่ ข้ึน) พฤติกรรมและผลการวัดความยาวของ 7.6 ปลาที่เลีย้ งมีการเจรญิ เติบโตหรอื ไม่ รู้ได้อย่างไร (นักเรียนตอบตาม ปลาตามแนวการจัดการเรยี นรู้ข้อที่ 7 ความจรงิ เชน่ ปลามกี ารเจริญเตบิ โต รไู้ ดจ้ ากในแตล่ ะสปั ดาห์ ปลา มคี วามยาวเพม่ิ ขน้ึ ) 2. ควรเลือกเลีย้ งลกู ปลา และเลอื กชนิดปลา 8. นักเรียนอ่านทำอย่างไร ข้อ 6-7 โดยครูใช้วิธีฝึกการอ่านที่เหมาะสมกับ ความสามารถของนักเรียน จากนั้นครูตรวจสอบความเข้าใจเกี่ยวกับ ที่สามารถเลี้ยงในภาชนะท่ีขนาดไม่ใหญ่ วิธีการทำกิจกรรม จนนักเรียนเข้าใจลำดับการทำกิจกรรม (ครูอาจเขียน เกินไป เลี้ยงง่าย และเจริญเติบโตได้เร็ว ขนั้ ตอนการทำกิจกรรมบนกระดาน) โดยครใู ช้คำถามดังนี้ เช่น ปลาสอด ปลาหางนกยงู ปลาคาร์พ 8.1 นักเรยี นต้องอ่านใบความรู้เรอื่ งอะไร (ชีวติ ของปลา) 3. ควรเลี้ยงปลาอย่างน้อย 3 ตัว และวัด ความยาวของปลาทั้งสามตัว ทั้งนี้เพ่ือ แก้ปัญหาที่อาจมีปลาตายในช่วงเวลา 3 สัปดาห์ 4. การตักปลามาวัดความยาวควรทำอย่าง ระมัดระวงั และไม่ควรใช้เวลานานเกินไป เพราะอาจทำให้ปลาตายได้ อีกทั้งครูควร สาธิตการวัดความยาวของตัวปลาให้ นักเรียนดกู อ่ นท่จี ะลงมอื ทำ ⎯ สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

คมู่ ือครรู ายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เล่ม 1 | หนว่ ยที่ 2 อากาศและชีวติ ของสตั ว์ 208 8.2 นักเรียนสามารถสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งที่จำเป็นต่อ หากนักเรียนไม่สามารถตอบ การเจริญเติบโตและการดำรงชีวิตของสัตว์ชนิดอื่น ๆ ได้จากที่ใด คำถามหรืออภิปรายได้ตามแนว (วดี ิทศั น์) คำตอบ ครูควรให้เวลานักเรียนคิด อย่างเหมาะสม รอคอยอย่างอดทน 8.3 เมื่อดูวีดิทัศน์แล้ว นักเรียนต้องอภิปรายเกี่ยวกับเรื่องอะไรบ้าง และรับฟังแนวความคิดของ (สงิ่ ทจี่ ำเป็นต่อการเจริญเตบิ โตและการดำรงชีวิตของสัตว์ และสัตว์ นกั เรยี น ได้รับสิง่ เหล่าน้นั อย่างเหมาะสมหรอื ไม่) ถ้าครูพบว่านักเรียนยังมี 9. เมื่อนักเรียนเข้าใจวิธีการทำกิจกรรมในทำอย่างไร ข้อ 6-7 แล้ว ครูให้ แนวคิดคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับ นักเรียนเร่มิ ปฏิบตั ิตามขน้ั ตอนของกจิ กรรม สิ่งที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต และการดำรงชีวิตของสัตว์ 10. หลังจากทำกิจกรรมแล้ว ครูให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายผลการทำ ให้ร่วมกันอภิปรายจนนักเรียน กจิ กรรม โดยใช้คำถามดงั ต่อไปน้ี มแี นวคิดท่ีถูกต้อง 10.1 จากการเลี้ยปลาและสังเกตพฤติกรรมพบว่าปลามีการอ้าปาก และหุบปากตลอดเวลา ปลาทำพฤติกรรมเช่นน้นั เพื่ออะไร (เพ่ือ นำน้ำเข้าสู่ร่างกาย) 10.2 ปลาได้รับแก๊สออกซิเจนด้วยวิธีใด (เมื่อน้ำไหลผ่านเหงือก เหงือกจะช่วยกรองแก๊สออกซิเจนจากน้ำ ทำให้ปลาได้รับแก๊ส ออกซิเจน) ครูอาจจะให้ความรู้แก่นักเรียนเพิ่มเติมเกี่ยวกับแก๊สออกซิเจน โดยเชื่อมโยงความรู้พื้นฐานจากบทที่ 1 อากาศมีแก๊สออกซิเจนเป็น ส่วนประกอบ ซึ่งสิ่งมีชีวิตใช้แก๊สออกซิเจนในการหายใจ และในน้ำก็มี แก๊สออกซิเจนละลายอยู่ ซึ่งสัตว์น้ำจะใช้แก๊สออกซิเจนในน้ำในการ หายใจ 10.3 นอกจากน้ำและแก๊สออกซิเจนแล้ว ปลายังต้องการสิ่งที่จำเป็น ใดอีก (อาหาร) 10.4 การเลี้ยงปลาที่ถูกต้องและเหมาะสมทำได้อย่างไร (เลี้ยงปลาใน น้ำที่สะอาดและมีแก๊สออกซิเจนอย่างเพียงพอ ให้ปลาได้รับ อาหารตามความเหมาะสมกับชนิดของปลาและขนาดของปลา) 10.5 ในวีดิทัศน์มีสัตว์อะไรบ้าง (นักเรียนตอบตามที่สังเกตจาก วดี ทิ ัศน์) 10.6 สัตว์แต่ละชนิดต้องการสิ่งใดเพื่อให้ร่างกายเจริญเติบโตและ ดำรงชีวิตอยูไ่ ด้ (อาหาร นำ้ และอากาศ) 11. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามในสิ่งที่อยากรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งที่ จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและการดำรงชีวิตของสัตว์ จากนั้นร่วมกัน อภปิ รายและลงข้อสรุปว่า ร่างกายของสัตว์มีการเจริญเติบโต สังเกตได้ สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ⎯

209 คู่มอื ครูรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ป.3 เล่ม 1 | หน่วยที่ 2 อากาศและชีวิตของสัตว์ จากความยาวของลำตัวหรือขนาดของสัตว์มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งสิ่งท่ี จำเป็นต่อการเจริญเตบิ โตและการดำรงชีวติ ของสัตว์ ได้แก่ อาหาร น้ำ และอากาศซึ่งมีแก๊สออกซิเจนเป็นส่วนประกอบ เราควรดูแลสัตว์ให้ ไดร้ ับสิ่งท่จี ำเป็นเหลา่ น้อี ย่างเหมาะสม (S13) 12. นักเรียนตอบคำถามในฉันรู้อะไร และร่วมกันอภิปรายเพื่อให้ได้แนว คำตอบทีถ่ ูกต้อง 13. นักเรียนสรปุ สิง่ ทไ่ี ดเ้ รียนรูใ้ นกิจกรรมน้ี จากน้ันครูให้นักเรยี นอ่าน สิ่งที่ ได้เรยี นรู้ และเปรยี บเทียบกบั ขอ้ สรปุ ของตนเอง 14. ครูกระตุ้นให้นักเรียนฝึกตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องที่สงสัยหรืออยากรู้ เพิ่มเติมใน อยากรู้อีกว่า จากนั้นครูอาจสุ่มนักเรียน 2-3 คน นำเสนอ คำถามของตนเองหน้าชั้นเรียน และให้นักเรียนร่วมกันอภิปราย เกีย่ วกับคำถามท่ีนำเสนอ 15. ครูนำอภิปรายเพื่อให้นักเรียนทบทวนว่าได้ฝึกทักษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตรแ์ ละทักษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 อะไรบา้ งและในขั้นตอนใด ⎯ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี