โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เลม่ 1 บทท่ี 3 | ธรณพี ิบัตภิ ัย 87 ประเภทแนวรอยต่อของ แผน่ ธรณี ภูเขาไฟ ท่ีพบ ต�ำแหนง่ บนแผ่นธรณี เคลอื่ นท่ี เคลอื่ นท่ี เคล่ือนที่ หากัน แยก ผ่านกัน จากกัน ภเู ขาไฟ อยู่ในแผน่ ธรณี รอยตอ่ ของ คลั บโู ก .................................. แผน่ ธรณีนาสกา ประเทศชลิ ี และแผน่ ธรณี อเมรกิ าใต้ ภเู ขาไฟ อยใู่ นแผน่ ธรณี รอยต่อของ เฮกลา .................................. แผน่ ธรณยี เู รเซีย ประเทศ ไอซแ์ ลนด์ และแผ่นธรณี อเมริกาเหนอื ภูเขาไฟ อยใู่ นแผ่นธรณี รอยตอ่ ของ เอตนา .................................. แผ่นธรณแี อฟริกา ประเทศ และแผน่ ธรณี อติ าลี ยเู รเซีย ภเู ขาไฟ อยใู่ นแผ่นธรณี รอยต่อของ แคเมอรูน แอฟรกิ า แผน่ ธรณี.................. ประเทศ และ............... แคเมอรนู ภเู ขาไฟ อยใู่ นแผน่ ธรณี รอยต่อของ เออรต์ าอัลเล แอฟริกา แผ่นธรณี.................. และ............... ประเทศ เอธิโอเปยี สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตวั อยา่ งผลการท�ำกจิ กรรม (ตวั อย่างการลากเสน้ เชื่อมตอ่ ต�ำแหนง่ ภเู ขาไฟที่อย่บู รเิ วณรอยตอ่ ของแผน่ ธรณีท่เี คลื่อนท่เี ข้าหากนั ) 88 บทที่ 3 | ธรณพี บิ ัตภิ ัย โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เลม่ 1
โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เล่ม 1 บทท่ี 3 | ธรณพี บิ ัติภยั 89 สรุปผลการท�ำกจิ กรรม จากกิจกรรมจะพบว่าภูเขาไฟโดยส่วนใหญ่จะพบที่บริเวณขอบของแผ่นธรณี โดย เฉพาะอยา่ งยง่ิ แนวรอยตอ่ ของแผน่ ธรณเี คลอ่ื นทเ่ี ขา้ หากนั มภี เู ขาไฟบางสว่ นทตี่ งั้ อยบู่ รเิ วณ แผ่นธรณีเคลื่อนที่ออกจากกัน และมีบางส่วนท่ีอยู่ด้านในแผ่นธรณี จึงสรุปได้ว่า ตำ� แหนง่ ของการเกดิ ภเู ขาไฟระเบดิ มคี วามสมั พนั ธก์ บั บรเิ วณรอยตอ่ ของแผน่ ธรณที เ่ี กดิ จาก การเคล่ือนท่ีของแผ่นธรณรี ปู แบบตา่ ง ๆ คำ� ถามทา้ ยกจิ กรรม 1. บริเวณใดบา้ งของแผน่ ธรณที ่พี บภูเขาไฟ แนวคำ� ตอบ แนวรอยต่อของแผน่ ธรณี และ ในแผน่ ธรณี 2. บรเิ วณใดท่ีพบภเู ขาไฟระเบดิ หนาแนน่ แนวคำ� ตอบ บรเิ วณแนวรอยต่อของแผน่ ธรณี 3. บริเวณท่ีพบภเู ขาไฟระเบดิ หนาแนน่ มีกระบวนการทางธรณใี ดเกดิ ขึน้ แนวคำ� ตอบ การเคล่อื นทขี่ องแผ่นธรณี 4. ถ้าลากเส้นเชอ่ื มตำ� แหนง่ ของภูเขาไฟบนแผนทีจ่ ะมีลกั ษณะอยา่ งไร แนวคำ� ตอบ เป็นแนวรอบมหาสมทุ รแปซิฟิก 3. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มน�ำเสนอผลการท�ำกิจกรรม และร่วมกันอภิปรายผลการท�ำกิจกรรม พร้อมตอบค�ำถามท้ายกิจกรรม โดยมีแนวทางการอภิปรายและแนวทางการตอบค�ำถาม ดงั ด้านบน 4. ครูน�ำอภิปรายว่าเพราะเหตุใดจึงพบภูเขาไฟหนาแน่นท่ีบริเวณแนวรอยต่อของแผ่นธรณีที่ เคลือ่ นที่เข้าหากัน โดยใชร้ ปู 3.1 ก และ 3.1 ข ในหนงั สอื เรยี นหน้า 83-84 แนวทางการอภิปราย จากรูป 3.1 ก จะเหน็ ว่าบริเวณดงั กลา่ วเกดิ การมดุ ตวั ของแผ่นธรณี โดยอาจมบี างสว่ นของแผน่ ธรณที มี่ ดุ ตวั ลงไปสฐู่ านธรณภี าคทมี่ คี วามรอ้ นสงู จงึ ทำ� ใหแ้ ผน่ ธรณี เกิดการหลอมเหลว กลายเป็นแมกมาซ่ึงมีอุณหภูมิสูงและมีความหนาแน่นน้อยกว่าหินโดย รอบจึงเคล่ือนที่ข้ึนสู่ผิวโลก เกิดเป็นภูเขาไฟ และจากรูป 3.1 ข จะเห็นได้ว่าต�ำแหน่งของ ภเู ขาไฟนน้ั อยหู่ นาแนน่ บรเิ วณแนวรอยตอ่ ของแผน่ ธรณที เี่ คลอ่ื นเขา้ หากนั โดยเฉพาะบรเิ วณ รอบมหาสมุทรแปซิฟิก มีลักษณะคล้ายวงแหวนจึงเรียกบริเวณดังกล่าวว่า วงแหวนไฟ (ring of fire) 5. ครูน�ำอภิปรายต่อว่านอกจากบริเวณแนวรอยต่อของแผ่นธรณีที่เคล่ือนที่เข้าหากันแล้ว ภเู ขาไฟยงั เกดิ ขนึ้ ในบรเิ วณอน่ื ใดอกี บา้ ง และเกดิ ขน้ึ ไดอ้ ยา่ งไร โดยใชร้ ปู 3.2 ในหนงั สอื เรยี น หนา้ 84 และ รูป 3.3 ในหนงั สือเรียนหน้า 85 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
90 บทที่ 3 | ธรณพี ิบัตภิ ัย โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เล่ม 1 แนวทางการอภิปราย จากรูป 3.2 ภูเขาไฟระเบิดอาจเกิดขึ้นที่บริเวณรอยต่อที่แผ่นธรณี เคลื่อนท่ีแยกจากกัน เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีรอยแตก หรือเป็นบริเวณท่ีเปลือกโลกบาง ท�ำให้แมกมาแทรกตัวข้ึนมาสู่ผิวโลกได้จึงเกิดเป็นภูเขาไฟระเบิด และจากรูป 3.3 แสดง ลักษณะการเกิดภูเขาไฟในหมูเกาะฮาวาย ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่เกิดขึ้นภายในแผ่นธรณี เกิดข้ึน เม่อื แมกมาจากบรเิ วณที่เรยี กวา่ จุดร้อน เคล่ือนที่ข้นึ มาบนผวิ โลก 6. ครูตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนเก่ียวกับการเกิดภูเขาไฟระเบิดโดยใช้ค�ำถามใน หนังสอื เรยี นหน้า 85 ดังตัวอย่างต่อไปนี้ เพราะเหตใุ ดประเทศอนิ โดนเี ซยี และฟลิ ปิ ปนิ สจ์ งึ เกดิ ภเู ขาไฟระเบดิ บอ่ ยครงั้ กวา่ ประเทศ อืน่ ๆ ในภมู ภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ แนวค�ำตอบ เน่อื งจากทัง้ สองประเทศเปน็ หม่เู กาะทเ่ี กิดข้นึ บริเวณรอยต่อของแผ่นธรณี เคลอื่ นที่หากันท�ำให้บนเกาะมีภูเขาไฟเป็นจำ� นวนมาก 7. ครนู ำ� เขา้ สกู่ จิ กรรมที่ 3.2 โดยใหอ้ า่ นขอ้ มลู เกย่ี วกบั ภเู ขาไฟระเบดิ ในประเทศอนิ โดนเี ซยี และ บนเกาะฮาวายจากหนังสือเรียนในหน้า 85-86 และพิจารณารูป 3.4 และรูป 3.5 เพ่ือให้ นกั เรยี นศกึ ษาเกย่ี วกบั ลกั ษณะของภเู ขาไฟ และเปรยี บเทยี บความแตกตา่ งของภเู ขาไฟแตล่ ะ แหง่ ในเร่อื งรปู ร่าง ความรนุ แรง จากนัน้ ใชค้ �ำถามดงั ตัวอยา่ งต่อไปนี้ จากข้อมลู และรูปดังกล่าวนักเรยี นคดิ วา่ ภูเขาไฟทั้งสองแหง่ มีสง่ิ ใดที่แตกต่างกันบา้ ง แนวคำ� ตอบ นกั เรยี นอาจตอบวา่ ภเู ขาไฟทง้ั สองแหง่ ไมไ่ ดอ้ ยใู่ นประเทศเดยี วกนั สงิ่ ทพี่ น่ ออกมาจากภเู ขาไฟและรปู รา่ งแตกตา่ งกนั และความรนุ แรงในการระเบดิ ทำ� ใหเ้ กดิ ความ เสียหายไดแ้ ตกตา่ งกนั ส่ิงใดเป็นปจั จัยทที่ ำ� ใหเ้ กิดความแตกตา่ งดงั กลา่ ว (เป็นคำ� ถามเพ่อื น�ำเข้ากิจกรรม 3.2) 8. ให้นักเรียนแบง่ กลมุ่ และปฏบิ ัติกจิ กรรมที่ 3.2 ตามหนังสือเรยี นหน้า 87 เพอ่ื ศกึ ษาเกีย่ วกบั ปัจจยั ทท่ี �ำให้ภูเขาไฟมีลกั ษณะแตกตา่ งกนั สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เล่ม 1 บทที่ 3 | ธรณีพบิ ตั ภิ ัย 91 กิจกรรม 3.2 สำ� รวจลักษณะและปจั จยั ในการปะทขุ องภูเขาไฟ ตอนท่ี 1 ภูเขาไฟแตล่ ะแหง่ มลี ักษณะเหมอื นกันหรือไม่ จุดประสงคก์ ิจกรรม สบื ค้นและรวบรวมขอ้ มูลการเกดิ ภเู ขาไฟระเบดิ และเปรยี บเทยี บความแตกต่าง ของภูเขาไฟแต่ละแห่งในเร่ืองรูปร่าง ความรนุ แรง เวลาท่ใี ช้ (โดยประมาณ) 60 นาที วสั ดุ-อปุ กรณ์ ข้อมลู ขา่ วภเู ขาไฟ ขอ้ เสนอแนะสำ� หรับครู ควรรวบรวมข่าวภูเขาไฟหรือเสนอแนะแหล่งส�ำหรับสืบค้นข้อมูลให้นักเรียน โดยครู สามารถดาวน์โหลดตวั อย่างขา่ วได้จาก QR code ประจำ� บท วธิ กี ารทำ� กิจกรรม 1. สืบค้นและรวบรวมข่าวการเกิดภูเขาไฟระเบิดท่ีเกิดขึ้นทั่วโลกอย่างน้อย 5 แห่ง ทีม่ ตี ำ� แหน่งตา่ งกนั บนแผ่นธรณี 2. วิเคราะห์ข่าวเพื่อระบุข้อมูลเกี่ยวกับ ต�ำแหน่งของภูเขาไฟ รูปร่าง ลักษณะของ การปะทุ สงิ่ ทป่ี ะทุออกมา และความเสยี หายทีเ่ กิดขึน้ 3. ออกแบบการจัดกระท�ำข้อมูลเพื่อเปรียบเทียบความเหมือนและความแตกต่างของ ภเู ขาไฟทีอ่ ยู่ต�ำแหน่งตา่ ง ๆ บนแผน่ ธรณี 4. นำ� เสนอผลท่ไี ดจ้ ากการศกึ ษา สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตัวอยา่ งผลการท�ำกิจกรรม 92 บทที่ 3 | ธรณพี บิ ัตภิ ัย ภเู ขาไฟ ต�ำแหน่งของภเู ขาไฟ รูปรา่ งของภเู ขาไฟ ลกั ษณะการปะทแุ ละ ความเสียหาย/ บนแผ่นธรณีและ สง่ิ ทปี่ ะทุออกมา ผลกระทบ รปู แบบการเคลือ่ นที่ ของแผน่ ธรณี ภูเขาไฟตัวอยา่ ง ต�ำแหน่งที่สัมพันธ์กับ วาดรูปและบรรยายรูป ปะทุแรง/เบา ผลกระทบต่าง ๆ ตอ่ ภูเขาไฟเมานาเลาอา แผ่นธรณี เช่น บริเวณ ร่าง ความสูง ลักษณะ ส่ิ ง ที่ ป ะ ทุ อ อ ก ม า มี สิ่งมชี วี ิตและส่งิ แวดล้อม หม่เู กาะฮาวาย รอยต่อของแผ่นธรณี ปล่องภเู ขาไฟ ลักษณะเป็นเถ้า ลาวา ประเทศสหรัฐอเมริกา เคล่ือนท่ีจากกัน บริเวณ หรอื อื่น ๆ รอยต่อของแผ่นธรณี เคล่ือนที่หากัน ในแผ่น ธรณี โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เลม่ 1 ภูเขาไฟฟจู ิ ประเทศญป่ี ุน่
โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เล่ม 1 บทท่ี 3 | ธรณีพิบตั ภิ ยั 93 สรปุ ผลการท�ำกจิ กรรม ภูเขาไฟท่ีอยู่บริเวณแนวรอยต่อของแผ่นธรณีและภูเขาไฟที่อยู่บริเวณกลางแผ่นธรณีมี รูปรา่ ง ลกั ษณะการปะทุ ส่ิงทปี่ ะทอุ อกมา และเกิดความเสยี หายและผลกระทบแตกต่างกัน ภูเขาไฟท่ีเกิดบริเวณรอยต่อของแผ่นธรณีเคลื่อนที่หากันส่วนใหญ่ มีลักษณะสูงชันคล้าย รปู กรวย มีการปะทุทีร่ นุ แรง และพ่นเถ้าภเู ขาไฟได้สงู และเปน็ บรเิ วณกว้าง หากเกดิ บนทวปี มักมีลักษณะเป็นแนวภูเขาไฟชายฝั่งหรือแนวภูเขาไฟรูปโค้ง หากเกิดในมหาสมุทรมักมี ลักษณะเป็นหมู่เกาะภูเขาไฟรูปโค้ง ภูเขาไฟท่ีอยู่ในแผ่นธรณีลักษณะฐานกว้างและมีความ สูงไม่มาก เมอื่ เกดิ การปะทุจะมาลกั ษณะของลาวาไหลออกจากปากปล่อง ค�ำถามทา้ ยกิจกรรม 1. ภูเขาไฟท่อี ยูบ่ รเิ วณแนวรอยต่อของแผ่นธรณีมลี กั ษณะเหมอื นกันหรอื ไม่ อย่างไร แนวคำ� ตอบ มีรูปร่างและลกั ษณะการระเบดิ คลา้ ยกนั 2. ภเู ขาไฟท่ีอยู่บรเิ วณกลางแผ่นธรณีมลี ักษณะเหมอื นกันหรอื ไม่ อย่างไร แนวคำ� ตอบ มรี ูปรา่ งและลกั ษณะการระเบิดคลา้ ยกนั 3. ภเู ขาไฟทอ่ี ยบู่ รเิ วณแนวรอยตอ่ ของแผน่ ธรณี และอยกู่ ลางแผน่ ธรณี มสี ง่ิ ใดเหมอื นกนั และมสี ่งิ ใดตา่ งกนั แนวคำ� ตอบ มรี ูปร่าง ลกั ษณะการปะทุ และสิง่ ท่ีปะทอุ อกมาแตกตา่ งกนั 4. รปู รา่ งของภเู ขาไฟทอ่ี ยบู่ รเิ วณแนวรอยตอ่ ของแผน่ ธรณี และอยใู่ นแผน่ ธรณแี ตกตา่ งกนั อยา่ งไร แนวค�ำตอบ รูปร่างของภูเขาไฟท่ีอยู่บริเวณแนวรอยต่อของแผ่นธรณีส่วนใหญ่จะมี ลกั ษณะสงู ชนั คลา้ ยรปู กรวย ภเู ขาไฟทอ่ี ยใู่ นแผน่ ธรณมี ลี กั ษณะฐานกวา้ งและมคี วามสงู ไม่มาก 5. ส่ิงท่ีปะทอุ อกมาจากภเู ขาไฟแตล่ ะแหง่ มีอะไรบา้ ง แนวคำ� ตอบ ลาวา เถ้าภเู ขาไฟ แกส๊ ไอน้ำ� ฝุน่ ควนั เศษหินภูเขาไฟ 6. สงิ่ ทปี่ ะทอุ อกมาจากภเู ขาไฟทอ่ี ยบู่ รเิ วณแนวรอยตอ่ ของแผน่ ธรณแี ละอยใู่ นแผน่ ธรณี เหมือนหรือแตกตา่ งกันอยา่ งไร แนวคำ� ตอบ มที ั้งสว่ นทเี่ หมอื นกันคือเม่อื เกดิ การปะทุจะมี ไอน้�ำ แก๊ส ฝนุ่ ควัน ลาวา เถ้าภูเขาไฟ ออกมาจากปล่องภูเขาไฟ แต่ภูเขาไฟที่อยู่บริเวณแนวรอยต่อของ แผน่ ธรณีมักจะมี ไอน้�ำ แก๊ส ฝุ่นควัน เถ้าภูเขาไฟ ปะทุขึน้ ไปในอากาศ และบางคร้ัง อาจสลับกับการมีลาวาหลากส่วนภูเขาไฟท่ีอยู่ในแผ่นธรณีเม่ือเกิดการปะทุส่วนใหญ่ จะมลี ักษณะของลาวาหลากเป็นหลกั สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
94 บทท่ี 3 | ธรณีพิบตั ภิ ยั โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เล่ม 1 7. ภเู ขาไฟทอี่ ย่บู ริเวณแนวรอยต่อของแผ่นธรณแี ละอย่ใู นแผ่นธรณี มีลักษณะเฉพาะ อะไรบา้ ง แนวค�ำตอบ ภูเขาไฟที่เกิดบริเวณรอยต่อของแผ่นธรณีเคลื่อนท่ีหากันส่วนใหญ่ มี ลักษณะสูงชันคล้ายรูปกรวย มีการปะทุท่ีรุนแรง และพ่นเถ้าภูเขาไฟได้สูงและเป็น บริเวณกว้าง หากเกิดบนทวีปมักมีลักษณะเป็นแนวภูเขาไฟชายฝั่งหรือแนวภูเขาไฟ รปู โคง้ หากเกดิ ในมหาสมทุ รมกั มลี กั ษณะเปน็ หมเู่ กาะภเู ขาไฟรปู โคง้ ภเู ขาไฟทอี่ ยใู่ น แผน่ ธรณีลกั ษณะฐานกวา้ งและมีความสูงไมม่ าก เมอื่ เกดิ การปะทุจะมาลกั ษณะของ ลาวาไหลออกจากปากปล่อง ตอนที่ 2 ปจั จัยในการปะทขุ องภเู ขาไฟ จุดประสงค์กิจกรรม สังเกต และอธิบายปัจจัยทที่ ำ� ให้ภูเขาไฟปะทรุ ุนแรงต่างกัน วสั ด-ุ อปุ กรณ์ 1. นำ้� อดั ลมแบบขวดพลาสติกฝาเกลยี ว ขนาดประมาณ 250-450 มิลลิลติ ร 2. บกี เกอร์ ขนาด 250 มลิ ลลิ ติ ร จ�ำนวน 2 ใบ 3. นมข้นหวาน หรือน�้ำเชอ่ื ม ปรมิ าณ 100 มิลลิลติ ร 4. น้ำ� ปรมิ าณ 100 มลิ ลลิ ิตร 5. หลอดดูดนำ้� 2 หลอด ข้อเสนอแนะส�ำหรับครู 1. ควรเปิดฝาน�้ำอัดลมก่อนเพ่ือลดความดัน จากนั้นจึงใช้นิ้วโป้งปิดปากขวดและเขย่า ขวดนำ�้ อัดลมเพยี งเบา ๆ เพอ่ื ไมใ่ หน้ �้ำอัดลมพุ่งออกมาแรงมาก 2. กำ� ชบั ใหน้ กั เรยี นทำ� กจิ กรรมดว้ ยความระมดั ระวงั โดยไมห่ นั ปากขวดไปทางเพอ่ื นหรอื เข้าตัวเอง แตใ่ ห้หันไปทางท่ีไม่มคี น หรอื บริเวณทค่ี รเู ตรยี มไวใ้ ห้ 3. ในการเขยา่ และเปิดฝานำ้� อดั ลมอาจทำ� ใหพ้ น้ื ห้องเลอะได้ ครคู วรเตรียมการจัดพื้นที่ สำ� หรบั ทดลองทสี่ ามารถทำ� ความสะอาดได้ง่าย 4. การใช้หลอดเป่าลงไปในนมข้นหวานหรือน�้ำเปล่า เพ่ือสุขลักษณะที่ดีครูควรแนะน�ำ ใหน้ กั เรียนไมใ่ ชห้ ลอดตอ่ จากเพ่ือน 5. ควรควบคุมปรมิ าณน้�ำเช่อื ม และนำ้� ให้เทา่ กนั 6. ในการเปรยี บเทียบควรใชค้ นเป่าคนเดมิ และพยายามออกแรงเป่าเท่าเดมิ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เล่ม 1 บทที่ 3 | ธรณพี บิ ัติภยั 95 วธิ ีการท�ำกจิ กรรม 1. ก�ำหนดให้น้�ำอัดลมแทนแมกมา เปิดฝาขวดน้�ำอัดลม และใช้น้ิวโป้งปิดปากขวด จากน้ันให้เขย่าขวดน�้ำอัดลมเพียงเบา ๆ และปล่อยน้ิวที่ปิดปากขวด สังเกตส่ิงท่ี เกิดขึน้ และบันทกึ ผล 2. ก�ำหนดให้นมข้นหวานและน�้ำแทนแมกมาที่มีลกั ษณะต่างกนั 2.1 ใสน่ มข้นหวานปรมิ าณ 100 มลิ ลิลติ ร ลงในบกี เกอร์ จากนั้นใชห้ ลอดพลาสตกิ เป่าลงไปในนมข้นหวาน โดยให้ปลายหลอดจมลงไปในนมข้นหวานประมาณ 2 เซนตเิ มตร สงั เกตการเคลื่อนตัวของนมข้นหวาน และบนั ทกึ ผล 2.2 ปฏิบตั ิกิจกรรมตามข้อ 2.1 แตเ่ ปลี่ยนเปน็ นำ้� โดยใช้คนเปา่ คนเดมิ และออกแรง เป่าเทา่ เดิม สงั เกตการเคลอื่ นตวั ของน�้ำ จากนั้นบันทกึ ผล 3. น�ำเสนอผลการสงั เกต ตวั อย่างผลการทำ� กิจกรรม เม่อื ปฏิบัตติ ามข้อ 1 เมื่อเปดิ ฝาขวด ก่อนเปิดฝาขวด ใชน้ ้วิ โปง้ กดฝาขวดทีเ่ ปิด แลว้ และเขย่าขวดเบา ๆ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
96 บทที่ 3 | ธรณพี บิ ัตภิ ัย โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เลม่ 1 เมอ่ื ปฏิบัตติ ามข้อ 1 หลงั เขย่าขวดและนำ� ฝาขวดออก เมอ่ื ปฏิบัตติ ามข้อ 2 สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เลม่ 1 บทท่ี 3 | ธรณีพิบัตภิ ยั 97 เมื่อปฏิบตั ติ ามขอ้ 2.1 เมือ่ เป่าอากาศลงในนมขน้ หวาน เมื่อปฏิบัติตามข้อ 2.2 เมอื่ เป่าอากาศลงในนำ้� สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
98 บทท่ี 3 | ธรณีพิบัติภัย โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เล่ม 1 ตัวอยา่ งการออกแบบตารางบนั ทกึ ผล ตารางท่ี 1 สงิ่ ท่เี กดิ ขน้ึ เมอ่ื เขย่าขวดน้�ำอดั ลมและเปดิ ฝา กอ่ นเปิดฝาขวด เมอื่ เปดิ ฝาขวดกอ่ นเขยา่ ขวด เมอ่ื เขย่าขวดและเปิดฝาก ไมม่ ีฟองแกส๊ เกดิ เสยี ง สงั เกตเหน็ ฟองแกส๊ ฟองแก๊สและน�้ำอัดลมพุ่ง เล็กนอ้ ย ออกมาจากขวด ตารางท่ี 2 นมข้นหวาน นำ้� เปล่า ส่ิงที่เกิดขึน้ เกดิ ฟองอากาศ เกดิ ฟองอากาศ ความรู้สึกขณะเปา่ เกดิ เสยี ง เกดิ เสียง น้�ำเชือ่ มพงุ่ ขนึ้ มาคอ่ นข้างแรง นำ้� พ่งุ ขึน้ มาเบา ๆ เป่ายาก เป่าง่าย สรุปผลการท�ำกิจกรรม เมื่อนักเรียนทดลองเขย่าขวดน้�ำอัดลม ก่อนเปิดฝาขวดออกจะเห็นฟองแก๊สในขวด เพยี งเลก็ นอ้ ย แตเ่ มอื่ เปดิ ฝาออกจะเหน็ ฟองแกส๊ จ�ำนวนมากดนั ขน้ึ มาจากปากขวด ฟองแกส๊ เหล่าน้ันถูกอัดด้วยความดันท�ำให้ละลายอยู่ในน้�ำ แต่เม่ือเปิดฝาขวดออกท�ำให้ความดัน ภายในขวดลดลง แกส๊ ทลี่ ะลายอยใู่ นน�้ำจะกลายเปน็ ฟอง และพยายามแยกตวั ออกจากน้�ำ จงึ ทำ� ใหน้ ำ้� อดั ลมพงุ่ ออกมาดว้ ยแรงดนั ของแกส๊ เชน่ เดยี วกบั ในกระบวนการเกดิ ภเู ขาไฟระเบดิ แมกมามอี ณุ หภมู สิ งู และมคี วามหนาแนน่ นอ้ ยกวา่ หนิ โดยรอบจงึ เคลอ่ื นทขี่ น้ึ ดา้ นบน ในแมกมา มีแก๊สละลายอยู่ในรูปของเหลวเนื่องจากใต้ผิวโลกมีความดันสูงกว่าบนผิวโลก เมื่อแมกมา เคลอื่ นทข่ี นึ้ สผู่ วิ โลก ความดนั จะลดลงทำ� ใหแ้ กส๊ ในแมกมากอ่ ตวั เปน็ ฟอง และฟองแกส๊ เหลา่ นน้ั ก็พยายามแยกตวั ออกจากแมกมา เมอ่ื ใชห้ ลอดเปา่ อากาศลงในแกว้ ทมี่ นี มขน้ หวาน เปรยี บเทยี บกบั แกว้ ทม่ี นี ำ้� ในปรมิ าตร ทเ่ี ทา่ กนั แกว้ ทม่ี นี มขน้ หวานฟองอากาศจะผดุ ขน้ึ มาไดย้ ากกวา่ และเมอ่ื เกดิ จะพงุ่ ขน้ึ มาอยา่ ง รนุ แรง แกว้ ทมี่ นี ำ้� ฟองอากาศจะผดุ ขนึ้ มาไดง้ า่ ยกวา่ นมขน้ หวานและนำ้� เปลา่ ใชแ้ ทนแมกมา สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เลม่ 1 บทที่ 3 | ธรณพี ิบตั ภิ ยั 99 ท่ีมีความหนืดแตกต่างกัน ทั้งนี้ความหนืดของแมกมาเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการแยกตัว ของแก๊ส หากแมกมามีความหนืดน้อย แก๊สจะก่อตัวเป็นฟองและแยกตัวออกได้โดยง่าย ส่งผลให้การระเบิดไม่รุนแรง หากแมกมามีความหนืดมาก แก๊สจะแยกตัวออกได้ยากท�ำให้ สะสมความดันไวใ้ นแมกมาสง่ ผลให้เกดิ การระเบดิ ท่ีรนุ แรง คำ� ถามท้ายกจิ กรรม 1. เกดิ การเปลยี่ นแปลงอยา่ งไรเมอื่ ปลอ่ ยนวิ้ ทป่ี ดิ ปากขวดนำ้� อดั ลม เพราะเหตใุ ดจงึ เปน็ เชน่ นน้ั แนวคำ� ตอบ เกิดฟองแกส๊ และน้�ำพุ่งออกจากขวด เน่อื งจากความดันในขวดลดลง 2. นักเรียนสังเกตเห็นฟองแก๊สในช่วงใดมากท่ีสุด ระหว่างก่อนเปิดฝาขวดน�้ำอัดลม หรอื หลงั เปดิ ฝาขวดนำ�้ อดั ลม แนวคำ� ตอบ หลงั เปิดฝาขวดนำ�้ อัดลม 3. หากก�ำหนดใหน้ ้�ำอดั ลมแทนแมกมาแลว้ ฟองแกส๊ ทีอ่ ยูใ่ นนำ้� อดั ลมจะแทนสิ่งใด แนวคำ� ตอบ แก๊สหรือไอน้�ำทอ่ี ยู่ในแมกมา 4. เมื่อเปา่ อากาศลงไปในนำ้� และนมข้นหวานมีสิง่ ใดเกิดข้ึนบ้าง แนวคำ� ตอบ เมือ่ เปา่ อากาศลงไปในนำ�้ และนมข้นหวานจะเกิดฟองอากาศข้นึ มาท่ี หน้าผวิ ของนำ�้ และนำ้� เช่อื ม 5. ระหว่างนำ้� กบั นมขน้ หวานสิง่ ใดเปา่ อยากกว่ากัน เพราะเหตใุ ด แนวคำ� ตอบ นมข้นหวาน เน่ืองจากมคี วามหนดื มากกวา่ 6. หากก�ำหนดให้นมข้นหวานและน�้ำเปล่าแทนแมกมาที่มีลักษณะต่างกัน การเป่า อากาศลงไปในนมขน้ หวานและนำ้� เปลา่ แทนส่งิ ใด แนวคำ� ตอบ แทนแกส๊ หรอื ไอนำ�้ ท่ีอยู่ในแมกมา 7. ถา้ ตอ้ งการเปรยี บเทยี บนมขน้ หวานและนำ�้ เปลา่ กบั ลกั ษณะของแมกมา จะเปรยี บเทยี บ ไดอ้ ยา่ งไร แนวค�ำตอบ นมข้นหวานแทนแมกมาท่ีมีความหนืดมาก น�้ำแทนแมกมาที่มี ความหนืดนอ้ ย สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
100 บทท่ี 3 | ธรณพี บิ ตั ภิ ยั โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เลม่ 1 8. ใหน้ ักเรียนแต่ละกลมุ่ น�ำเสนอผลการทำ� กิจกรรม รว่ มกนั อภปิ รายผลการท�ำกิจกรรม และ ตอบค�ำถามทา้ ยกจิ กรรมโดยมีแนวทางการอภิปรายและแนวทางการตอบ ดังด้านบน 9. ครูน�ำอภิปรายเพอื่ เชื่อมโยงความรจู้ ากกจิ กรรมท่ี 3.2 กบั ปจั จยั ท่ีทำ� ให้แมกมามคี วามหนดื แตกตา่ งกันโดยใชค้ �ำถามดังตัวอยา่ งแนวทางการอภิปรายดงั ตวั อยา่ ง แนวทางการอภปิ ราย ตามหนังสือเรียนหนา้ 90-91 ดังน้ี ปัจจัยส�ำคัญอย่างหน่ึงท่ีควบคุมความหนืดของลาวาคือปริมาณซิลิกา หากลาวามี ปริมาณซลิ กิ านอ้ ยจะทำ� ใหล้ าวามคี วามหนดื ตำ่� มีการปะทไุ ม่รนุ แรง ท�ำใหล้ าวาคอ่ ย ๆ ไหล ไปตามความลาดเอียงของพื้นท่ีและแผ่ออกไปโดยรอบ จึงส่งผลให้รูปร่างของภูเขาไฟมี ฐานกวา้ งและมีความสงู ไม่มากนัก ภูเขาไฟทีม่ ลี ักษณะดงั กลา่ ว เช่น ภูเขาไฟเมานาโลอา บน หมเู่ กาะฮาวาย ภเู ขาไฟแคเมอรนู ประเทศแคเมอรนู ในทางกลับกันหากลาวามีปริมาณซิลิกามากจะมีความหนืดสูง เมื่อแมกมาเคลื่อนตัว ขึ้นมาสะสมตัวบริเวณปากปล่อง ความดันจะเพ่ิมขึ้นเรื่อย ๆ จึงเกิดการปะทุออกมาอย่าง รนุ แรง ลาวาสว่ นหนง่ึ ไหลไปตามความลาดเอยี งของพนื้ ท่ี และลาวาอกี สว่ นหนงึ่ พงุ่ สงู ขน้ึ ไป ในอากาศและแข็งตัวเป็นชิ้นภูเขาไฟ (pyroclast) ขนาดต่าง ๆ เช่น เถ้าภูเขาไฟ (volcanic ash) บอมบ์ภูเขาไฟ (volcanic bomb) บล็อกภูเขาไฟ (volcanic block) ตกสะสมตวั ไมไ่ กลจากปากปลอ่ งภเู ขาไฟ ทำ� ใหภ้ เู ขาไฟมลี กั ษณะเปน็ สงู ชนั ขนึ้ เรอื่ ย ๆ ภเู ขาไฟ ท่มี ลี ักษณะดงั กลา่ ว เช่น ภเู ขาไฟฟจู ิ ประเทศญี่ปุ่น ภูเขาไฟซินาบงุ ประเทศอินโดนเี ซยี 10. ครตู รวจสอบความเขา้ ใจนกั เรยี นเกยี่ วกบั ปจั จยั ทสี่ ง่ ผลตอ่ รปู รา่ ง และความรนุ แรงในการปะทุ แตกตา่ งกัน โดยใช้คำ� ถามดงั ตัวอยา่ ง สง่ิ ใดเปน็ ปจั จยั ทท่ี ำ� ใหภ้ เู ขาไฟแตล่ ะบรเิ วณมรี ปู รา่ ง และความรนุ แรงในการปะทแุ ตกตา่ งกนั แนวคำ� ตอบ ความหนดื ของแมกมา 11. ให้นักเรียนศึกษาเร่ืองผลจากภูเขาไฟระเบิดต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม โดยให้นักเรียน แบ่งกลุ่มสืบค้นข่าวเก่ียวกับภูเขาไฟที่เกิดข้ึนท่ัวโลก และให้นักเรียนน�ำเสนอผลการสืบค้น เกย่ี วกบั ผลกระทบจากภเู ขาไฟระเบดิ กลมุ่ ละ 1 เหตกุ ารณ์ จากนน้ั สรปุ รว่ มกนั โดยมแี นวทาง การสรุปตามหนงั สือเรียนหน้า 91 ดังน้ี การปะทุของภูเขาไฟจะส่งผลโดยตรงต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมโดยรอบ ลาวาที่ไหล ผา่ นจะทำ� ใหเ้ กดิ การลกุ ไหมไ้ ปทว่ั บรเิ วณ เถา้ ภเู ขาไฟรอ้ นทเ่ี คลอ่ื นทดี่ ว้ ยความเรว็ สงู จะท�ำให้ พื้นท่ีถูกปกคลุมด้วยช้ันเถ้าภูเขาไฟหนาจนเกิดอันตรายแก่ส่ิงมีชีวิต ส่วนกลุ่มแก๊สท่ีปะทุ ออกมาอยใู่ นอากาศ เชน่ แกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์ และแกส๊ ซลั เฟอรไ์ ดออกไซด์ จะทำ� อนั ตราย ตอ่ ระบบทางเดนิ หายใจของสง่ิ มชี วี ติ หากแกส๊ เหลา่ นที้ ำ� ปฏกิ ริ ยิ ากบั ไอนำ�้ ในอากาศจะกลาย เป็นฝนกรด นอกจากนี้กลุ่มแก๊ส และเถ้าภูเขาไฟที่แขวนลอยอยู่ในอากาศยังส่งผลต่อ การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของโลก ภูเขาไฟที่อยู่ตามขอบทวีป และใต้มหาสมุทร สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เลม่ 1 บทที่ 3 | ธรณีพบิ ัตภิ ยั 101 เม่ือเกิดการระเบิดอย่างรุนแรง ท�ำให้บางส่วนของภูเขาไฟถล่มลงในมหาสมุทรซ่ึงเป็น สาเหตุหน่ึงทีท่ ำ� ใหเ้ กิดสึนามิ 12. ครแู ละนกั เรยี นอภปิ รายรว่ มกนั เกย่ี วกบั แนวทางการเฝา้ ระวงั และการปฏบิ ตั ติ นใหป้ ลอดภยั จากภูเขาไฟระเบิด โดยมีรายละเอียดตามหนงั สือเรยี นหน้า 93 ตามประเด็นดงั ต่อไปนี้ การเตรียมความพร้อมกอ่ นเกิดภูเขาไฟระเบดิ การปฏบิ ตั ิตนขณะเกิดภเู ขาไฟระเบดิ การปฏิบัติตนหลังเกิดภเู ขาไฟระเบดิ 13. ครนู ำ� อภปิ รายเกย่ี วกบั ภเู ขาไฟในประเทศไทย เพอ่ื ใหค้ วามรแู้ ละเชอ่ื มโยงใหเ้ หน็ ถงึ ประโยชน์ หรือผลพลอยได้จากการเกดิ ภูเขาไฟระเบดิ โดยใชค้ �ำถามดังตัวอย่าง ในประเทศไทยมภี ูเขาไฟระเบิดหรอื ไม่ ทราบไดจ้ ากหลกั ฐานใด แนวคำ� ตอบ ประเทศไทยมภี เู ขาไฟทด่ี บั แลว้ อยหู่ ลายแหง่ เชน่ เขากระโดง และเขาพนมรงุ้ จงั หวดั บรุ รี มั ย์ นกั ธรณวี ทิ ยาทราบวา่ บรเิ วณนน้ั เคยเปน็ ภเู ขาไฟมากอ่ นเนอ่ื งจากบางแหง่ ยังเห็นร่องรอยของปากปล่องภูเขาไฟ หรือลักษณะภูมิประเทศที่เกิดจากการเย็นตัวลง ของแมกมา ในบางพน้ื ท่พี บหนิ ภเู ขาไฟและพบอญั มณีทีแ่ มกมาพาขนึ้ มา นอกจากการเกดิ ภเู ขาไฟระเบดิ จะเกดิ ความเสยี หายแล้ว นกั เรียนคดิ ว่าภเู ขาไฟระเบดิ ส่งผลดอี ยา่ งไร แนวค�ำตอบ การเกิดภูเขาไฟระเบิดนอกจากจะสร้างความเสียหายต่อมนุษย์และ สง่ิ แวดลอ้ มแลว้ ภเู ขาไฟยงั ใหป้ ระโยชนใ์ หแ้ กม่ นษุ ยอ์ กี ดว้ ย เนอ่ื งจากแมกมาทข่ี น้ึ มาบน ผิวโลกจะแข็งตัวกลายเป็นหินชนิดต่าง ๆ เช่น หินไรโอไลต์ หินบะซอลต์ หินแอนดีไซต์ ซง่ึ เปน็ ทรพั ยากรธรณที น่ี ำ� ไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้ และเมอ่ื หนิ ผพุ งั กจ็ ะกลายเปน็ วตั ถตุ น้ กำ� เนดิ ดนิ นอกจากน้ีแมกมายังน�ำแรท่ ีต่ กผลกึ ภายในโลกขนึ้ มาดว้ ย เช่น คอรนั ดมั การ์เนต สปิเนล ซง่ึ เปน็ อญั มณที ส่ี ำ� คญั ในประเทศไทยพบแหลง่ อญั มณใี นหลายจงั หวดั เชน่ จนั ทบรุ ี ตราด กาญจนบรุ ี ภเู ขาไฟในประเทศไทยเปน็ ภเู ขาไฟทด่ี บั สนทิ และเกดิ การผพุ งั ไปบางสว่ น แต่ ยงั มหี ลกั ฐานรอ่ งรอยใหเ้ หน็ วา่ เปน็ ปากปลอ่ งภเู ขาไฟ นอกจากนโ้ี ครงสรา้ งทเ่ี กดิ จากการ แขง็ ตวั ของลาวากลายเปน็ เสาหนิ เชน่ เสาหนิ ทวี่ ดั แสนตมุ่ จงั หวดั ตราด เสาหนิ ทบี่ า้ นนำ�้ เดอื ด จงั หวดั เพชรบรู ณ์ ทำ� ใหก้ ลายเปน็ แหลง่ ทอ่ งเทยี่ ว เสาหนิ บะซอลต์ อำ� เภอเฉลมิ พระเกยี รติ จังหวดั บุรรี ัมย์ 14. ครูและนกั เรยี นสรปุ บทเรียนรว่ มกัน โดยมีแนวทางในการสรุปดังนี้ • ภูเขาไฟระเบิดเกิดข้ึนจากแมกมาปะทุและพุ่งขึ้นมาตามแนวรอยแตกของเปลือกโลก สว่ นมากจะเกดิ ตามแนวรอยแตกของแผน่ ธรณีและเกิดตรงจุดรอ้ น • สิง่ ท่พี น่ ออกมาจากภูเขาไฟ ได้แก่ ลาวา เศษหนิ แกส๊ เถา้ ธุลีภูเขาไฟและฝนุ่ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
102 บทท่ี 3 | ธรณีพบิ ตั ิภยั โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เลม่ 1 • รูปร่างและความรุนแรงของการระเบิดขึ้นอยู่กับความหนืดของแมกมา ซ่ึงเป็นผลมาจาก ปรมิ าณซลิ กิ าในแมกมา แมกมาทมี่ ซี ลิ กิ ามากจะมคี วามหนดื สงู สง่ ผลใหเ้ กดิ การปะททุ รี่ นุ แรง ท�ำให้เถ้าภูเขาไฟสะสมตัวบริเวณรอบปากปล่อง ภูเขาไฟจึงมีลักษณะสูงชัน ในทางกลับกัน แมกมาทมี่ ซี ลิ กิ านอ้ ยจะมคี วามหนดื นอ้ ย สง่ ผลใหป้ ะทไุ มร่ นุ แรง มลี กั ษณะการไหลของลาวา ไปตามความลาดเอยี งของพ้นื ท่ีทำ� ใหภ้ เู ขาไฟมลี ักษณะฐานกวา้ งและมีความสงู ไม่มาก • ภูเขาไฟระเบิดมีผลกระทบต่อส่ิงแวดล้อมและส่ิงมีชีวิต โดยท�ำให้เกิดการลุกไหม้และการ หลอมเหลวของสิ่งตา่ งๆ บนผวิ โลกและทำ� ให้ส่ิงแวดล้อมบริเวณนั้นเปล่ียนไป • ภเู ขาไฟระเบดิ มปี ระโยชนห์ ลายอยา่ ง เชน่ เถา้ ภเู ขาไฟ หนิ ภเู ขาไฟและตะกอนภเู ขาไฟ ทำ� ให้ ดนิ มแี รธ่ าตอุ ดุ มสมบรู ณเ์ หมาะแกก่ ารเพาะปลกู หนิ ภเู ขาไฟบางบรเิ วณเปน็ ตวั พาอญั มณขี นึ้ สู่ผวิ โลก นอกจากนัน้ ยังทำ� ใหเ้ กิดภมู ลิ กั ษณภ์ ูเขาไฟทีส่ วยงาม แนวทางการวัดและประเมินผล KPA แนวทางการวดั และประเมนิ ผล K : 1. ผลการปฏิบัติกิจกรรม 3.1-3.2 และการตอบ 1. สาเหตุ กระบวนการเกดิ และผลจากการ คำ� ถามทา้ ยกจิ กรรม เกดิ ภเู ขาไฟระเบดิ 2. การอภิปรายเพอ่ื สรุปองคค์ วามรู้ 2. แนวทางการเฝ้าระวังและปฏิบัติตนให้ 3. แบบฝกึ หัด ปลอดภัยจากภเู ขาไฟระเบดิ P: 1. ผลการท�ำกิจกรรม 3.2 ในการออกแบบตาราง 1. การจัดกระทำ� และสอื่ ความหมายขอ้ มลู บันทกึ ผลเพือ่ เปรียบเทียบผลการทดลอง 2. การส่ือสารสารสนเทศและารรูเ้ ท่าทนั สื่อ 2. การสืบค้นข้อมูล และการน�ำเสนอผลการท�ำ 3. ความรว่ มมอื การท�ำงานเปน็ ทมี และภาวะ กจิ กรรม 3.1-3.2 ผู้นำ� 3. การแบง่ หน้าที่รับผดิ ชอบในการท�ำงานกลุ่ม A: 1. ความใจกวา้ ง 1. การร่วมอภปิ รายและการตอบค�ำถาม สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เลม่ 1 บทท่ี 3 | ธรณพี บิ ัตภิ ัย 103 ความรู้เพิ่มเติมสำ� หรับครู ตัวอยา่ งแหล่งเรียนร้รู ่องรอยภูเขาไฟ และหนิ ภูเขาไฟในประเทศไทย 1. เขากระโดง ต�ำบลเสม็ด อ�ำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์พบการแพร่กระจายของ หินบะซอลต์และพบปลอ่ งภเู ขาไฟ 2 ปล่อง 2. ภูพระอังคาร ต�ำบลบ้านเจริญสุข อ�ำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์เป็นภูเขาไฟชนิด หนิ บะซอลต์ท่ีเกดิ จากลาวาหลาก 3. หินบะซอลตใ์ นพืน้ ทีจ่ งั หวัดตราด จันทบุรี เปน็ พื้นท่ีทม่ี ีลักษณะธรณสี ัณฐาน ภูเขาไฟ และลาวาหลาก และพบวา่ หนิ บะซอลตท์ แ่ี ผก่ ระจายอยทู่ วั่ ทงั้ พน้ื ทเ่ี ปน็ หนิ พารตั นชาติ ทสี่ �ำคัญคือพลอย 4. เสาหนิ บะซอลต์ วัดเมืองเกา่ แสนตุ้ง อำ� เภอเขาสมงิ จังหวดั ตราด เป็นหนิ บะซอลต์ทีม่ ี ลกั ษณะรอยแตกแยกจากกัน 5. นำ�้ ตกสามหลน่ั อำ� เภอเมอื ง จงั หวดั สระบรุ เี ปน็ นำ้� ตกในพน้ื ทห่ี นิ ภเู ขาไฟและหนิ ทฟั ฟ์ ชนดิ ไรโอไลตจ์ ดั เปน็ กลมุ่ หนิ ภเู ขาไฟเขาใหญ่ มอี ายปุ ระมาณ 230 ลา้ นป พบลกั ษณะ เฉพาะของเนอ้ื หนิ แสดงแนวชน้ั ของการไหลหลากของหนิ ภเู ขาไฟไหลหลากซอ้ นทบั กนั 6. เสาหนิ บะซอลตบ์ ริเวณนำ�้ ตกซบั พลู จงั หวัดเพชรบูรณ์ ดงั รปู รปู เสาหนิ บะซอลต์ฺ น้�ำตกซบั พลู จงั หวดั เพชรบรู ณ์ ทมี่ าของรปู : เจริญ ศรีบ้านโพน 7. ปล่องภูเขาไฟดอยผาคอกหินฟูและดอยผาคอกจ�ำปาแดด อ�ำเภอแม่เมาะ จงั หวดั ลำ� ปาง เปน็ ภเู ขาไฟชนดิ หนิ บะซอลตย์ คุ ควอเทอรน์ ารเี กดิ จากแมกมาภายใตโ้ ลก ปะทุขึ้นมาสู่ผิวโลกเป็นลาวา เกิดการเย็นตัวแข็งตัวและตกผลึกเป็นหินบะซอลต์ ลกั ษณะภูเขาไฟประเภทนม้ี ีความสงู ไมม่ ากนัก สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
104 บทที่ 3 | ธรณพี บิ ัติภยั โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เลม่ 1 8. หนิ ภูเขาไฟบรเิ วณเขาหลวง จงั หวัดสุโขทยั ประกอบดว้ ยหินกรวดภูเขาไฟ ส่วนใหญ่ เปน็ หนิ ไรโอไลต์ 9. แนวหินภูเขาไฟบริเวณดา้ นตะวนั ตกจงั หวัดอทุ ยั ธานี แนวหินภูเขาไฟบริเวณด้านใต้ จังหวัดนครสวรรค์ อ�ำเภอท่าตะโก หินส่วนใหญ่ ได้แก่ หินแอนดีไซต์ หินไรโอไลต์ และหินชิน้ ภูเขาไฟ 10. หินภูเขาไฟบริเวณอ�ำเภอชนแดน จังหวัดเพชรบูรณ์ ประกอบด้วยหินบะซอลต์ หินแอนดไี ซต์ หนิ ไรโอไลต์ หนิ ทฟั ฟและหินกรวดภูเขาไฟ 11. หนิ ภูเขาไฟบรเิ วณอ�ำเภอลำ� นารายณ์ จังหวดั ลพบุรี หนิ สว่ นใหญเ่ ปน็ หนิ แอนดไี ซต์ เน้ือดอก หินบะซอลต-์ แอนดไี ซต์ หนิ เพอรไ์ ลต์ หนิ ไรโอไลต์ หนิ บะซอลต์ 12. หินบะซอลต์ท่ีมีอายุในช่วง 11.29–0.11 ล้านป พบกระจายในบริเวณต่อไปน้ี บ้านช่างเคียน จังหวัดเชียงราย อ�ำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย อ�ำเภอแม่ทะ จังหวัดล�ำปาง อ�ำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ อ�ำเภอล�ำนารายณ์ จังหวัดลพบุรี อำ� เภอบอ่ พลอย จงั หวดั กาญจนบรุ ี เขาพลอยแหวน จงั หวดั จนั ทบรุ ี ดา้ นตะวนั ออก ของ จงั หวัดจนั ทบุรีและเกาะกูด จังหวดั ตราด เขากระโดง จงั หวัดบุรรี มั ย์ และ ภฝู ้าย จังหวัดศรสี ะเกษ รปู ปากปล่องภูเขาไฟเขากระโดง จังหวดั บุรรี ัมย์ สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เลม่ 1 บทท่ี 3 | ธรณพี บิ ตั ิภัย 105 3.2 แผ่นดินไหว จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธบิ ายสาเหตุ กระบวนการเกิด ขนาดและความรุนแรงของแผน่ ดินไหว โดยใช้แบบจำ� ลอง 2. สืบค้นและน�ำเสนอข้อมูลพ้ืนที่เสย่ี งภยั และผลจากแผ่นดินไหว 3. สืบค้นข้อมูล ออกแบบและนำ� เสนอแนวทางการเฝา้ ระวงั และการปฏบิ ัติตนให้ปลอดภยั สื่อและแหล่งการเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรยี นโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ สำ� หรบั นกั เรยี นทเี่ นน้ วทิ ยาศาสตร์ ธรณวี ทิ ยา เลม่ 1 2. สสวท. http://www.ipst.ac.th แนวทางการจัดการเรียนรู้ 1. ครูน�ำเข้าสู่บทเรียนโดยให้นักเรียนดูวีดิทัศน์เกี่ยวกับแผ่นดินไหว และต้ังค�ำถามเพื่อกระตุ้น ความสนใจของนกั เรยี น ดังตวั อยา่ ง นกั เรยี นคดิ วา่ เหตกุ ารณ์ในวดี ทิ ัศน์เปน็ ภัยพิบตั ิใด แนวค�ำตอบ แผ่นดนิ ไหว หรือนกั เรียนอาจตอบตามความคิดของตนเอง นักเรยี นสังเกตเหน็ ผลกระทบใดบ้างจากเหตุการณ์ดังกล่าว แนวคำ� ตอบ อาคารและบ้านเรือนเสียหาย เกิดการสนั่ สะเทอื น แผน่ ดินแยก แผน่ ดนิ ไหวเกิดข้นึ ไดอ้ ยา่ งไร แนวค�ำตอบ แผ่นธรณีเกิดการเคลอ่ื นท่ี หรอื นกั เรยี นอาจตอบตามความรเู้ ดมิ 2. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มและปฏิบัติกิจกรรม 3.3 เพื่อศึกษาว่าแผ่นดินไหวมีกระบวนการเกิด อย่างไร กจิ กรรม 3.3 กลไกการเกดิ แผ่นดนิ ไหว จุดประสงค์กจิ กรรม สงั เกต อธบิ ายผลท่ีเกิดกับแผ่นไมเ้ มือ่ มแี รงมากระท�ำ เวลา 30 นาที วัสด-ุ อุปกรณ์ ไมบ้ ลั ซาร์ ขนาดประมาณ กวา้ ง 3 เซนตเิ มตร ยาว 30 เซนตเิ มตร หนา 0.3 เซนตเิ มตร 1 แผ่น (ใชไ้ มไ้ อศกรีมล้าง และตากใหแ้ หง้ แทนได้) สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
106 บทที่ 3 | ธรณีพบิ ตั ภิ ัย โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เลม่ 1 วธิ กี ารทำ� กจิ กรรม 1. เตรยี มตวั ดันปลายไม้ โดยวางมือและแผน่ ไม้ ดงั รปู 2. ใช้มือสองข้างดันปลายไม้เข้าหากันอย่างช้า ๆ พร้อมสังเกตการเปล่ียนแปลง ลกั ษณะของแผน่ ไม้ เสยี ง และการสนั่ สะเทอื นของแผน่ ไม้ ตง้ั แตเ่ รม่ิ ดนั แผน่ ไมจ้ น กระทั่งแผน่ ไม้หัก และบันทึกส่ิงทส่ี ังเกตไดล้ งในตาราง 3. เปรยี บเทยี บการเปลยี่ นแปลงลักษณะของไมใ้ นแต่ละขน้ั ตอน ตวั อย่างผลการท�ำกจิ กรรม ตารางบนั ทึกผล ขนั้ ตอน สง่ิ ทีส่ งั เกตได้ การเปลีย่ นลกั ษณะของไม้ การสน่ั สะเทอื น เสียงไมห้ กั ม/ี ไม่มี มี/ไม่มี 1. กอ่ นดนั แผน่ ไม้ - -- 2. ขณะดนั แผ่นไม้ ไมเ้ กิดการโค้งงอ รู้สกึ ถึงการสนั่ - 3. ขณะที่แผน่ ไม้หกั สะเทอื นเลก็ นอ้ ย 4. หลังจากแผน่ ไมห้ กั ไมเ้ ปลยี่ นจากโค้งงอ รสู้ ึกถงึ การสน่ั - เปน็ แตกหกั ออกจากกัน สะเทอื น ไมแ้ ตกหักออกจากกัน - ไดย้ ินเสียง แตก่ ลบั มาเป็นแผน่ ตรง ไมห้ ัก ไมโ่ ค้งงอเหมือนขณะท่ี ดนั แผน่ ไม้ สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เล่ม 1 บทที่ 3 | ธรณพี บิ ัติภยั 107 สรุปผลการท�ำกจิ กรรม เมื่อออกแรงกระท�ำกับแผ่นไม้ แผ่นไม้เร่ิมเกิดการโค้งงอ แรงที่กระท�ำกับแผ่นไม้ถูก สะสมไว้ในแผ่นไม้ เม่ือออกแรงกระท�ำกับแผ่นไม้เพ่ิมขึ้นท�ำให้แผ่นไม้โค้งงอมากข้ึนและ เกิดการหักในที่สุด พลังงานท่ีสะสมอยู่ในแผ่นไม้จะถูกปลดปล่อยออกมาในรูปของการสั่น ของแผน่ ไมแ้ ละเสยี งไมห้ กั จากนน้ั จะเหน็ วา่ แผน่ ไมม้ กี ารปรบั สภาพเปน็ แผน่ ตรงเหมอื นกอ่ น ทจี่ ะมีแรงมากระท�ำ ซง่ึ ลกั ษณะการเปลย่ี นแปลงของแผน่ ไม้ดงั กลา่ ว ค�ำถามท้ายกิจกรรม 1. การทแ่ี ผน่ ไม้มีการโค้งงอจนกระท่ังหกั น้นั เนอื่ งมาจากสาเหตุใด แนวคำ� ตอบ เน่อื งจากมีแรงมากระท�ำกบั แผ่นไม้ 2. เมือ่ เร่มิ ต้นดันแผ่นไมจ้ นกระทัง่ แผน่ ไมห้ ัก นกั เรียนออกแรงเทา่ กนั หรอื ไม่ แนวคำ� ตอบ ไมเ่ ท่ากนั แตอ่ อกแรงเพมิ่ ขึ้นอย่างตอ่ เนื่อง 3. เม่ือแผ่นไม้ไมส่ ามารถทนตอ่ แรงทมี่ ากระทำ� ได้นัน้ มกี ารเปลยี่ นลกั ษณะไปอยา่ งไร แนวคำ� ตอบ เกิดการหกั 4. ขณะที่แผ่นไม้หกั มสี ิ่งใดเกดิ ขนึ้ บ้าง แนวคำ� ตอบ เกิดการส่ันสะเทอื นของแผน่ ไม้ และเสียงไม้หัก 5. หลงั จากแผ่นไมห้ ักออกจากกันแล้ว แผ่นไมย้ งั คงโค้งงออยูห่ รอื ไม่ และมลี ักษณะ อยา่ งไร แนวคำ� ตอบ เม่อื แผน่ ไมห้ กั ออกจากกัน แผ่นไม้ทเ่ี คยโค้งงอจะกลบั มาเป็นแผ่นตรง 3. ให้นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มน�ำเสนอผลการทำ� กจิ กรรม ร่วมกนั อภปิ รายผลการท�ำกจิ กรรม และ ตอบคำ� ถามท้ายกจิ กรรมโดยมีแนวทางการอภิปรายและแนวทางการตอบดังด้านบน 4. ครนู ำ� อภปิ รายเพอ่ื เชอ่ื มโยงความรทู้ ไ่ี ดจ้ ากกจิ กรรม 3.3 กบั การเกดิ แผน่ ดนิ ไหว โดยใชค้ ำ� ถาม ดงั ตัวอย่าง จากกิจกรรมข้างต้นหากก�ำหนดให้แผ่นไม้แทนชั้นหิน การใส่แรงกระท�ำต่อไม้จะเปรียบ ไดก้ ับสิ่งใดในการเกดิ แผ่นดินไหว แนวค�ำตอบ แรงท่ีกระท�ำต่อแผ่นไม้เปรียบได้กับแรงท่ีมากระท�ำกับชั้นหิน ซ่ึงเกิดจาก การเคล่ือนทข่ี องแผ่นธรณี ในข้ันตอนใดของกิจกรรมทีเ่ ปรียบไดก้ ับการเกิดแผน่ ดนิ ไหว แนวคำ� ตอบ ขณะทแ่ี ผ่นไมห้ ัก นกั เรียนจะไดย้ นิ เสยี งและรสู้ ึกถึงการส่นั เชน่ เดียวกันกับ การเกิดแผ่นดินไหวเมื่อชั้นหินสะสมพลังงานไว้จนถึงระดับท่ีไม่สามารถทนได้อีกต่อไป สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
108 บทท่ี 3 | ธรณีพบิ ัตภิ ยั โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เล่ม 1 จะเกดิ การปลดปลอ่ ยพลงั งานออกมาอยา่ งฉบั พลนั ในรปู แบบของคลนื่ ไหวสะเทอื น ซงึ่ จะ ทำ� ใหเ้ กิดการส่ันสะเทอื นของแผ่นดนิ 5. ครูสรุปความรู้เกี่ยวกับกระบวนการเกิดแผ่นดินไหว ตามหนังสือเรียนหน้า 97 ดังนี้ แผ่นดินไหวเกิดขึ้นจากแผ่นธรณีมีการเคล่ือนท่ีท�ำให้เกิดการเสียดสีและ/หรือชนกัน เกิดการสะสมพลังงานในชั้นหินบนแผ่นธรณี จนกระท่ังชั้นหินเกิดการแตกหักและ เคล่ือนตัวอย่างกระทันหัน ปลดปล่อยพลังงานออกมาในรูปคลื่นไหวสะเทือน เกิดเป็น แผ่นดนิ ไหว 6. ครนู �ำเข้าสบู่ ทเรียนโดยให้นักเรยี นอ่านข่าวเก่ียวกับแผน่ ดินไหว และพจิ ารณารูปข่าวท่แี สดง ถงึ ต�ำแหนง่ ทเี่ กิดแผน่ ดนิ ไหว โดยครูจัดเตรยี มไวใ้ หจ้ ากน้ันถามค�ำถามดงั ตอ่ ไปนี้ จากข่าวแผน่ ดินไหวของนักเรยี นและเพ่ือน ๆ ทราบไดอ้ ยา่ งไรว่าเหตกุ ารณใ์ ดคอื แผ่นดนิ ไหวทม่ี ขี นาดใหญ่ และมคี วามรุนแรงมากกวา่ กนั แนวคำ� ตอบ นกั เรยี นตอบตามความเขา้ ใจของตนเอง หรอื ตอบจากขา่ วไดว้ า่ ดขู นาดของ แผน่ ดนิ ไหวจากตวั เลขทรี่ ายงานตามมาตรารกิ เตอรห์ รอื มาตราขนาดโมเมนตแ์ ผน่ ดนิ ไหว หรอื ดูจากความเสยี หายที่เกิดขน้ึ วา่ มมี ากนอ้ ยเพียงใด จากรปู ในขา่ ว นกั เรยี นคดิ วา่ บรเิ วณใดทม่ี กี ารปลดปลอ่ ยพลงั งานทที่ ำ� ใหเ้ กดิ แผน่ ดนิ ไหว แนวค�ำตอบ นักเรียนอาจตอบตามความเขา้ ใจของตนเอง 7. ครูให้ความร้เู ก่ยี วกับศูนย์เกดิ แผ่นดนิ ไหวจุดเหนอื ศูนยเ์ กดิ แผ่นดินไหวและคล่นื ไหวสะเทือน โดยใชร้ ปู 3.14 ในหนงั สอื เรียนหนา้ ที่ 98 และอธิบายเชือ่ มโยงจากข่าวว่าจะรายงานพกิ ัด ภมู ิศาสตร์ของจดุ เหนอื ศูนยเ์ กิดแผ่นดนิ ไหว ซง่ึ กค็ อื จุด ก ในรปู และรายงานระดับความลกึ ของจดุ เกดิ แผน่ ดนิ ไหว ซงึ่ กค็ อื จดุ ข ในรปู โดยบรเิ วณนเ้ี ปน็ จดุ ปลดปลอ่ ยพลงั งานทท่ี �ำใหเ้ กดิ แผ่นดนิ ไหวขนาดตา่ ง ๆ สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เลม่ 1 บทที่ 3 | ธรณีพิบตั ิภยั 109 จากนัน้ ให้นกั เรียนตอบค�ำถาม ดงั น้ี ศนู ยเ์ กดิ แผน่ ดนิ ไหวและจดุ เหนอื ศนู ย์เกิดแผน่ ดินไหวแตกตา่ งกนั อย่างไร แนวค�ำตอบ ศูนย์เกิดแผ่นดินไหวคือต�ำแหน่งภายในโลกที่เป็นจุดก�ำเนิดแผ่นดินไหวและ เป็นจุดก�ำเนิดคล่ืนไหวสะเทือนส่วนจุดเหนือศูนย์เกิดแผ่นดินไหวคือต�ำแหน่งบนผิวโลกท่ี ตรงกบั ต�ำแหนง่ ศนู ยเ์ กิดแผน่ ดนิ ไหว 8. ครใู หน้ กั เรยี นดแู อนเิ มชนั่ เรอื่ งคลน่ื ไหวสะเทอื น แนะนำ� https://www.iris.edu/hq/inclass/ animation/1component_seismogram_building_responds_to_p_s_surface_waves เพอื่ ศกึ ษาขอ้ มลู คลน่ื ไหวสะเทอื นทบ่ี นั ทกึ ไดจ้ ากเครอ่ื งวดั ความไหวสะเทอื น จากนนั้ อภปิ ราย รว่ มกันโดยใช้คำ� ถามดงั น้ี นักเรียนสังเกตเห็นสง่ิ ใดบา้ งจากข้อมูลคลื่นไหวสะเทอื น แนวคำ� ตอบ เหน็ ขอ้ มลู แอมพลิจดู ทแ่ี ตกตา่ งกนั ของคล่นื 3 เหตุการณ์ คอื คลนื่ ปฐมภูมิ คล่ืนทุตยิ ภมู ิ และคลนื่ พ้ืนผิว นกั เรยี นคดิ วา่ คลน่ื ในเหตกุ ารณใ์ ดทน่ี า่ จะกอ่ ใหเ้ กดิ ความเสยี หายกบั อาคาร บา้ นเรอื นมาก ทส่ี ดุ เพราะเหตใุ ด แนวค�ำตอบ คลน่ื ในเหตุการณท์ ี่ 3 หรือคลนื่ พนื้ ผวิ เน่ืองจากมีแอมพลจิ ดู สงู ท่ีสุด 9. อภิปรายสรปุ เก่ยี วกบั ขนาดและความรนุ แรงของแผ่นดนิ ไหวรว่ มกนั ดงั ต่อไปน้ี แนวทางการอภิปรายสรุป การวัดขนาดของแผ่นดินไหวเป็นการวัดปริมาณพลังงานของ คล่นื ไหวสะเทือน โดยใช้เคร่อื งวดั ความไหวสะเทอื น วัดคล่นื ไหวสะเทือนจากทศิ ทางตา่ ง ๆ จากนั้นค�ำนวนออกมาเป็นปริมาณท่ีบ่งช้ีขนาด ณ บริเวณศูนย์เกิดแผ่นดินไหว โดยใช้ มาตรารกิ เตอร์ หรอื มาตราขนาดโมเมนตแ์ ผน่ ดนิ ไหว สว่ นความรนุ แรงของแผน่ ดนิ ไหววดั ได้ จากปรากฎการณท์ เี่ กดิ ขน้ึ ขณะเกดิ และหลงั เกดิ แผน่ ดนิ ไหว เชน่ ความรสู้ กึ ของผคู้ น ลกั ษณะ ทวี่ ตั ถหุ รอื อาคารเสยี หายหรอื สภาพภมู ปิ ระเทศทเี่ ปลยี่ นแปลง มาตราวดั ความรนุ แรงทนี่ ยิ ม ใช้ในปัจจุบนั คือ มาตราเมอรค์ ลั ลที ่ปี รับปรงุ แลว้ 10. จากนนั้ ครถู ามค�ำถามเพอ่ื ขยายความรดู้ ังตัวอยา่ ง ปจั จัยใดทีม่ ผี ลต่อความรุนแรงในการเกิดแผน่ ดนิ ไหว แนวค�ำตอบ การเกดิ แผ่นดินไหวแต่ละครง้ั กอ่ ใหเ้ กดิ ความเสียหายแตกต่างกัน ข้ึนอยู่กับ ปัจจัยหลายประการ เช่น ขนาดของแผ่นดินไหว ความลึกของศูนย์เกิดแผ่นดินไหว ลักษณะของพื้นท่ีและส่ิงปลูกสร้าง สมบัติของตัวกลางท่ีคล่ืนเคลื่อนที่ผ่าน ท่ีต้ังทาง ภมู ศิ าสตร์ เช่น ทีร่ าบลมุ่ ภาคกลาง กบั แนวภเู ขา สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
110 บทท่ี 3 | ธรณีพบิ ตั ิภยั โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เลม่ 1 นกั เรยี นคดิ วา่ ความรนุ แรงของแผน่ ดนิ ไหวมคี วามสมั พนั ธก์ บั ขนาดของแผน่ ดนิ ไหวเสมอ ไปหรอื ไม่อย่างไร แนวคำ� ตอบ ความรนุ แรงของแผน่ ดนิ ไหวมคี วามสมั พนั ธก์ บั ขนาดของแผน่ ดนิ ไหวแตไ่ ม่ เสมอไปแผน่ ดนิ ไหวทเ่ี กดิ ขนึ้ แตล่ ะครง้ั มคี วามรนุ แรงแตกตา่ งกนั ซงึ่ ขนึ้ อยกู่ บั ปจั จยั ตา่ ง ๆ เช่น ระยะทางจากจุดเหนือศนู ย์เกิดแผ่นดนิ ไหวถึงสถานทท่ี ่ไี ด้รบั ความเสียหายลกั ษณะ ภมู ปิ ระเทศประเภทของสง่ิ กอ่ สรา้ งและระยะเวลาในการสน่ั สะเทอื นจากปจั จยั ตา่ ง ๆ ดงั กลา่ วอาจทำ� ใหแ้ ผน่ ดนิ ไหวทม่ี ขี นาดเลก็ กวา่ มคี วามรนุ แรงมากกวา่ แผน่ ดนิ ไหวขนาดใหญ่ กว่าได้ 11. ครใู หน้ กั เรยี นพจิ ารณารปู ในหนงั สอื เรยี นหนา้ ที่ 102 แสดงพน้ื ทเี่ สยี่ งภยั แผน่ ดนิ ไหวของโลก และถามคำ� ถามดังตวั อย่าง จากรปู บริเวณใดบ้างทเ่ี กิดแผน่ ดนิ ไหวบ่อยกว่าบริเวณอ่นื แนวคำ� ตอบ บรเิ วณแนวรอยตอ่ ของแผน่ ธรณี เชน่ แนววงแหวนไฟ แนวเทอื กเขาหมิ าลยั และแนวเทอื กเขาแอลป์ 12. จากนั้นให้นักเรยี นพจิ ารณารปู 3.18 แผนทร่ี อยเลื่อนมีพลงั ในประเทศไทย และรูป 3.19 แผนทภ่ี ยั พบิ ตั แิ ผน่ ดนิ ไหวในประเทศไทย ตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 104-105 จากนน้ั ถามคำ� ถาม ดังตวั อยา่ ง นักเรยี นคิดวา่ จังหวัดในภาคใดของประเทศไทยที่เกิดแผน่ ดินไหวบอ่ ยคร้ัง แนวค�ำตอบ ภาคเหนอื เชน่ เชยี งใหม่ เชยี งราย ภาคตะวนั ตก เช่น ตาก กาญจนบุรี และ ภาคใต้ เชน่ ระนอง ภูเกต็ ภาคใดของประเทศไทยที่มรี อยเลอ่ื นมีพลงั อยู่มาก แนวค�ำตอบ ภาคเหนือ ภาคตะวันตก และภาคใต้ นักเรยี นคิดว่ารอยเล่อื นมพี ลงั มคี วามสมั พนั ธก์ บั การเกิดแผน่ ดนิ ไหวอย่างไร แนวคำ� ตอบ มคี วามสมั พนั ธก์ นั โดยจดุ ศนู ยเ์ กดิ แผน่ ดนิ ไหวมกั เกดิ ตรงบรเิ วณรอยเลอ่ื นมี พลังทม่ี ีการเคลื่อนทอ่ี ย่างรุนแรง บรเิ วณท่ีมแี นวรอยเลือ่ นมีพลงั อย่หู นาแน่นจะมโี อกาส ในการเกิดแผ่นดินไหวได้มากที่สุด ส่วนบริเวณท่ีมีแนวรอยเล่ือนมีพลังอยู่น้อยหรือไม่มี จะมโี อกาสในการเกิดแผ่นดนิ ไหวได้น้อยกวา่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเช่น ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ มีโอกาสในการเกิดแผ่นดินไหวหรือไม่ เพราะเหตใุ ด แนวคำ� ตอบ มโี อกาสในการเกดิ แผน่ ดนิ ไหวนอ้ ยมาก เพราะไมพ่ บรายงานกลมุ่ รอยเลอ่ื น มีพลงั สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เลม่ 1 บทท่ี 3 | ธรณพี บิ ัตภิ ัย 111 นกั เรยี นคดิ วา่ การกำ� หนดเขตพน้ื ทเ่ี สย่ี งภยั จากแผน่ ดนิ ไหวมคี วามสำ� คญั และมปี ระโยชน์ อย่างไรบ้าง แนวค�ำตอบ ตอบตามความคิดของตนเอง หรืออาจตอบว่า เพื่อวางแผนการใช้พื้นท่ี ใหเ้ หมาะสม และเพอ่ื ควบคมุ การออกแบบอาคารใหส้ ามารถตา้ นทานตอ่ แรงสนั่ สะเทอื น ท่เี กิดจากแผน่ ดินไหวทม่ี ีขนาดสงู สดุ เทา่ ท่ีมีขอ้ มลู อยใู่ นปัจจบุ ันได้ จากการอภปิ รายและตอบคำ� ถามนักเรียนควรสรปุ ได้วา่ จากลักษณะทางธรณีวิทยาของประเทศไทย ประเทศไทยไม่ได้อยู่ในบริเวณแนวรอยต่อของ แผ่นธรณีแต่อาจได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวในประเทศใกล้เคียงส่งแรงส่ันสะเทือนมายัง ประเทศไทยซึ่งรูส้ กึ ไดบ้ ริเวณภาคเหนอื ภาคใต้ ภาคตะวันตกและภาคกลาง สว่ นแผน่ ดนิ ไหวทม่ี ศี นู ยเ์ กดิ แผน่ ดนิ ไหวอยใู่ นประเทศไทยเกดิ ในบรเิ วณแนวรอยเลอ่ื นทม่ี พี ลงั ส่วนมากอยู่ทางภาคเหนือและภาคตะวันตกของประเทศ ดังนั้นจะพบว่าบริเวณท่ีเสี่ยงภัยจาก แผ่นดินไหวมากท่ีสดุ คอื ภาคเหนือและภาคตะวนั ตก 13. ครใู หน้ กั เรยี นสบื คน้ แนวทางการเฝา้ ระวงั และปฏบิ ตั ติ นใหป้ ลอดภยั จากการเกดิ แผน่ ดนิ ไหว โดยให้นักเรียนน�ำเสนอเป็นในรูปแบบต่าง ๆ เช่น แผนภาพ แผนผัง โปสเตอร์ การแสดง บทบาทสมมติ จากน้ันอภิปรายร่วมกันโดยสรุป แนวทางการเฝ้าระวังและปฏิบัติตนให้ ปลอดภยั จากการเกิดแผน่ ดินไหวตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 106 12. ครูและนักเรยี นสรปุ บทเรียนร่วมกัน โดยมแี นวทางในการสรุปดงั น้ี • แผ่นดินไหวเกิดจากการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีที่ ท�ำให้เกิดความเค้นกระท�ำต่อหินใน แผ่นธรณี หินจะสะสมพลังงานไว้และเมื่อหินไม่สามารถทนต่อความเค้นได้ หินจะเกิด การแตกหกั และเคลอ่ื นตวั อยา่ งกระทนั หนั และปลดปลอ่ ยพลงั งานออกมาจากจดุ กำ� เนดิ ในรูปของคลน่ื ไหวสะเทือน • แผ่นดินไหวยังเกิดจากสาเหตุอื่นได้อีก เช่น ภูเขาไฟระเบิด ดินถล่ม การทดลองระเบิด นิวเคลยี ร์ • คลน่ื ไหวสะเทอื นทเ่ี คลอื่ นทภี่ ายในโลก เรยี กวา่ คลนื่ ในตวั กลาง และเมอ่ื คลน่ื ไหวสะเทอื น เคล่ือนที่ถงึ พื้นผิวโลกท�ำให้เกดิ คลนื่ พื้นผวิ ซึง่ ส่งผลให้พ้นื ผิวโลกสัน่ สะเทือนเกดิ เปน็ แผ่นดินไหวทม่ี ขี นาดและความรุนแรงแตกต่างกนั ไป • เม่ือเกิดแผ่นดินไหว บรเิ วณตา่ ง ๆ ได้รบั ผลกระทบไม่เทา่ กนั บรเิ วณบนพื้นผวิ โลกท่ีจะ ได้รับผลกระทบมากท่ีสุดคือ จุดเหนือศูนย์เกิดแผ่นดินไหว (epicenter) ซึ่งเป็นจุดบน พื้นผิวโลกที่อยู่เหนือบริเวณต้นก�ำเนิดของแผ่นดินไหวภายในโลก ท่ีเรียกว่า ศูนย์เกดิ แผน่ ดินไหว (focus) สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
112 บทที่ 3 | ธรณพี ิบัติภยั โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เล่ม 1 • ขนาดของแผ่นดินไหววัดได้จากคลื่นไหวสะเทือนจะถูกบันทึกไว้ด้วยเคร่ืองวัดความไหว สะเทือน (seismograph) จากน้ันค�ำนวนออกมาเป็นปริมาณที่บ่งชี้ขนาด ณ บริเวณศูนยเ์ กิดแผ่นดนิ ไหว โดยใช้มาตรารกิ เตอร์ หรือมาตราขนาดโมเมนต์แผน่ ดินไหว • ความรุนแรงของแผ่นดินไหววัดได้จากปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะเกิด และหลังเกิด แผ่นดินไหว เช่น ความรู้สึกของผู้คน ลักษณะที่วัตถุหรือ อาคารเสียหายหรือสภาพ ภมู ปิ ระเทศทเี่ ปลยี่ นแปลง มาตตราวดั ความรนุ แรงทน่ี ยิ มใชใ้ นปจั จบุ นั คอื มาตราเมอรค์ ลั ลี ที่ปรับปรุงแล้ว • พน้ื ทเ่ี สยี่ งภยั แผน่ ดนิ ไหวสว่ นใหญจ่ งึ อยบู่ รเิ วณแนวรอยตอ่ ของแผน่ ธรณี เชน่ แนววงแหวนไฟ รอบมหาสมทุ รแปซฟิ กิ (Pacific Ring of fire) แนวเทอื กเขาหมิ าลยั และแนวเทอื กเขาแอลป์ • แผน่ ดนิ ไหวในประเทศไทยเกดิ ขน้ึ สมั พนั ธก์ บั การเคลอื่ นตวั ของรอยเลอื่ นมพี ลงั ทอ่ี ยภู่ ายใต้ อิทธิพลของการเคล่ือนท่ีของแผ่นธรณี พื้นท่ีภาคเหนือ ภาคตะวันตก และภาคใต้ของ ประเทศไทยมโี อกาสเกดิ แผ่นดนิ ไหวบ่อยครง้ั • การปฏิบัติตนให้ปลอดภัยจากแผ่นดินไหวจะต้องศึกษาวิธีการเตรียมตัวการก่อน การเกิดเหตแุ ผน่ ดนิ ไหว ระหวา่ งเกดิ แผน่ ดนิ ไหว และหลงั เกดิ แผน่ ดนิ ไหวอยา่ งถกู ตอ้ งและ เหมาะสม แนวทางการวดั และประเมนิ ผล KPA แนวทางการวดั และประเมนิ ผล K : 1. ผลการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 3.3 และการตอบคำ� ถาม 1. สาเหตุ กระบวนการเกิด และผลจากการ ท้ายกจิ กรรม เกิดแผ่นดนิ ไหว 2. การอภิปรายเพ่อื สรปุ องคค์ วามรู้ 2. แนวทางการเฝ้าระวังและปฏิบัติตนให้ 3. แบบฝึกหัด ปลอดภัยจากแผ่นดนิ ไหว P: 1. การสืบค้นข้อมูลและการ น�ำเสนอผลการท�ำ 1. การสอื่ สารสารสนเทศและการรเู้ ทา่ ทนั สอ่ื กิจกรรม 3.3 A: 1. การร่วมอภปิ รายและการตอบค�ำถาม 1. ความใจกวา้ ง สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เล่ม 1 บทที่ 3 | ธรณีพิบตั ิภยั 113 3.3 สนึ ามิ จุดประสงค์ 1. อธบิ ายสาเหตุ กระบวนการเกดิ จากสึนามโิ ดยใชแ้ บบจ�ำลอง 2. สบื ค้นและนำ� เสนอข้อมูลพ้นื ทเี่ สี่ยงภยั และผลจากสนึ ามิ 3. สืบคน้ ข้อมลู ออกแบบและนำ� เสนอแนวทางการเฝา้ ระวงั และการปฏิบตั ติ นให้ปลอดภยั แนวการจัดการเรยี นรู้ 1. ครนู ำ� เขา้ สบู่ ทเรยี นโดยนำ� รปู ภาพหรอื วดิ ที ศั นท์ แ่ี สดงใหเ้ หน็ สนึ ามทิ กี่ ำ� ลงั เขา้ ปะทะชายฝง่ั มา ใหน้ กั เรยี นสังเกตเพื่อกระต้นุ ความสนใจนกั เรียน สนึ ามิขณะพดั เขา้ ฝง่ั ภาคใต้ของประเทศไทย ที่มา http://f.ptcdn.info/234/024/000/1412686493-o.jpg สนึ ามิขณะพัดเขา้ ชายฝ่ังประเทศญ่ีปนุ่ ทม่ี า http://www.tuhpp.net/?p=11604 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
114 บทที่ 3 | ธรณพี บิ ัตภิ ยั โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เล่ม 1 จากนั้นครูและนักเรยี นรว่ มกนั อภิปรายโดยใช้ค�ำถามดงั ต่อไปน้ี เหตุการณใ์ นภาพเกดิ ขน้ึ ไดอ้ ยา่ งไร แนวคำ� ตอบ เกดิ จากสึนามิ สึนามเิ กิดขน้ึ ได้อย่างไร แนวคำ� ตอบ นักเรยี นตอบได้ตามความเห็นของตนเอง ประเทศไทยมีโอกาสเกิดสนึ ามิอกี หรอื ไม่ เพราะเหตุใด แนวค�ำตอบ นกั เรียนตอบไดต้ ามความเห็นของตนเอง กิจกรรม 3.4 แบบจำ� ลองการเกดิ สนึ ามิ จดุ ประสงค์กจิ กรรม สืบค้นข้อมูลและสร้างแบบจ�ำลองเพ่ืออธิบายกระบวนการเกิดสึนามิ และผลกระทบ จากสึนามิ เวลาทใ่ี ช้ 1 ชัว่ โมง วสั ด-ุ อุปกรณ์ 1. ตู้กระจก หรือกลอ่ งพลาสตกิ 1 ใบ กวา้ ง 5 เซนติเมตร ยาว 100 เซนติเมตร สงู 20 เซนตเิ มตร 2. น้�ำ (ปริมาตรตามขนาดของตู้หรอื กล่องพลาสติก) 3. ดินน�ำ้ มันหรอื วสั ดอุ ืน่ ใช้รองใหพ้ ้ืนเอยี ง 4. แผ่นพลาสตกิ ลูกฟูก 5. เชือก 1 เมตร (ใชข้ งึ ตามแนวระดับนำ้� เพ่ือช่วยในการสังเกต และส�ำหรบั รอ้ ยกับ แผ่นพลาสตกิ ลูกฟกู ) 6. เทปใส 1 ม้วน ข้อแนะน�ำส�ำหรับครู ครูอาจให้นักเรียนถ่ายภาพ slow-motion หรือท�ำเคร่ืองหมายต�ำแหน่งชายฝั่งและ ตำ� แหน่งที่คลน่ื ไปถงึ เพ่ือช่วยในการสังเกต วิธีการท�ำกิจกรรม 1. เตรยี มอุปกรณ์ดงั ข้ันตอนต่อไปนี้ - ตัดพลาสติกลูกฟกู ใหม้ คี วามกว้างเท่ากับขนาดของตู้ ความยาวประมาณ 15 เซนตเิ มตร จำ� นวน 2 แผน่ สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เล่ม 1 บทท่ี 3 | ธรณพี บิ ัตภิ ัย 115 - ใช้เทปใสตดิ แผน่ พลาสตกิ ลกู ฟกู เขา้ ดว้ ยกนั ดังรูป เทปใส - เจาะรทู ี่ปลายขา้ งหนึง่ ของแผน่ พลาสตกิ ลูกฟูก 2 ชอ่ ง ดังรปู - รอ้ ยปลายเชอื กเขา้ ไปในรูท้ังสองและมดั ปมไว้ ดังรปู - ตดิ ปลายแผน่ พลาสตกิ ลกู ฟกู ดา้ นทไ่ี มม่ เี ชอื กใหแ้ นบกบั พน้ื ตโู้ ดยใหช้ ดิ ดา้ นใดดา้ น หน่งึ ของตู้ ดังรูป - เทน�้ำลงในตู้ให้สูงประมาณครึ่งหน่ึงของด้านท่ีเอียงลง หรือเม่ือเอียงตู้ลงแล้วให้ น�้ำทว่ มลกึ เขา้ ไป 2 ใน 3 สว่ นของความยาวตู้ จากนัน้ ใชเ้ ชอื กขึงท่ดี ้านข้างของตู้ ตามระดับน�ำ้ เพอ่ื ท�ำเส้นอา้ งองิ ระดบั ผวิ นำ้� ดังรูป สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
116 บทท่ี 3 | ธรณีพิบัติภยั โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เลม่ 1 2. ท�ำให้เกิดคลื่นจากบริเวณ ข เคล่ือนที่เข้าสู่บริเวณ ก โดยดึงปลายเชือกข้ึนด้านบน อย่างรวดเร็ว ดงั รปู 3. สังเกตระดับนำ้� บรเิ วณ ข และความสูงคลนื่ ท่ีเปลยี่ นแปลงไปเมื่อคลื่นเคลอ่ื นทีเ่ ข้าสู่ บรเิ วณ ก โดยเปรียบเทยี บกบั เส้นเชอื กทข่ี งึ ไว้ตามแนวระดับนำ้� 4. น�ำเสนอผลการทำ� กิจกรรมและร่วมกนั อภิปรายเก่ยี วกบั การเกิดสึนามใิ นธรรมชาติ ตัวอยา่ งผลการทำ� กจิ กรรม เมือ่ ดงึ เชอื กเพ่ือยกแผน่ พลาสติกขึ้นจะเกดิ เหตุการณ์ ดังรูป สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เล่ม 1 บทที่ 3 | ธรณีพบิ ตั ภิ ัย 117 สรปุ ผลการท�ำกิจกรรม เมอ่ื ดึงเชอื กเพื่อยกแผ่นพลาสตกิ ลูกฟกู ขึ้น จะท�ำใหน้ �้ำบริเวณ ข สูงข้ึนและเกิดคลื่น เคล่ือนท่ีเข้าสู่บริเวณ ก ที่เป็นบริเวณน�้ำต้ืน เมื่อเคล่ือนท่ีไปยังบริเวณที่ความลึกลดลง จะสงั เกตเหน็ ความสงู คลนื่ เพมิ่ มากขน้ึ ความยาวคลน่ื ลดลง และระดบั นำ้� ใกลช้ ายฝง่ั ลดลงตำ�่ กวา่ ระดบั นำ�้ เดิม จากน้ันนำ�้ จะพดั ขึ้นพ้ืนทบ่ี รเิ วณ ก หรือบรเิ วณชายฝ่งั ค�ำถามทา้ ยกจิ กรรม 1. กอ่ นยกแผ่นพลาสตกิ ลูกฟกู ขึน้ ระดับน�้ำที่บรเิ วณ ก และ ข เปน็ อยา่ งไร แนวคำ� ตอบ บริเวณ ข มีระดับน�้ำสงู ประมาณ 1 ใน 2 ของความสงู ตู้ บริเวณ ก เป็นทล่ี าด จงึ ไมม่ นี ำ�้ หรอื มนี ้ำ� ต้ืนกว่าบริเวณ ข 2. ขณะทีย่ กแผ่นพลาสติกลกู ฟกู ข้นึ อย่างรวดเร็วทบ่ี รเิ วณ ก และ ข เกดิ อะไรขึน้ บ้าง แนวคำ� ตอบ ระดบั น�้ำท่บี รเิ วณ ข สูงขนึ้ และไหลไปทางบริเวณ ก 3. หลงั จากยกแผน่ พลาสตกิ ลูกฟูกข้ึนและเหตกุ ารณส์ งบนิ่ง ระดบั นำ�้ ท่บี ริเวณ ก และ ข เป็นอย่างไร แนวคำ� ตอบ น้�ำทไ่ี หลจากบรเิ วณ ข มาสบู่ รเิ วณ ก ไหลกลบั ไปสทู่ เ่ี ดมิ ท�ำใหร้ ะดบั น้�ำ เทา่ กบั ตอนก่อนยกแผ่นพลาสติกลกู ฟูก 4. หากเปรียบตทู้ ่ีใช้ในกจิ กรรมเป็นมหาสมทุ ร บรเิ วณ ก และ ข เป็นบริเวณใดของ มหาสมทุ ร แนวคำ� ตอบ บรเิ วณ ก เปน็ บรเิ วณชายฝง่ั ทะเล บรเิ วณ ข เปน็ บรเิ วณกลางมหาสมทุ ร 5. หากเปรียบแผ่นพลาสติกลูกฟูกเป็นพื้นมหาสมุทร เหตุการณ์ใดที่สามารถท�ำให้เกิด การยกตวั ของพื้นมหาสมุทร แนวคำ� ตอบ แผน่ ดินไหว การเคล่อื นตวั ของแผ่นธรณี รอยเลือ่ น 3. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มน�ำเสนอผลการท�ำกิจกรรม ร่วมกันอภิปรายผลการท�ำกิจกรรมและ ตอบคำ� ถามทา้ ยกจิ กรรมโดยมแี นวทางการอภปิ รายและแนวทางการตอบดงั ดา้ นบน 4. ครูให้นักเรียนศึกษาหนังสือเรียนหน้า 110-112 กระบวนการเกิดและผลจากการเกิดสึนามิ จากนนั้ นำ� อภปิ รายเพอื่ เชอื่ มโยงความรจู้ ากการทำ� กจิ กรรมกบั กระบวนการเกดิ สนึ ามิ โดยใช้ ค�ำถามดังต่อไปน้ี บรเิ วณทคี่ วามลึกมาก สึนามิมลี กั ษณะเป็นอยา่ งไร แนวค�ำตอบ ความสงู คล่นื นอ้ ย ความยาวคลื่นมาก และเคลื่อนทีด่ ว้ ยอตั ราเร็วสงู สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
118 บทท่ี 3 | ธรณพี ิบัติภยั โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เลม่ 1 เมื่อสนึ ามเิ คลื่อนทเ่ี ขา้ มายงั บริเวณทต่ี ื้น สึนามิเกิดการเปล่ยี นแปลงไปอยา่ งไร แนวคำ� ตอบ ความสงู คลนื่ เพมิ่ ขนึ้ ความยาวคลน่ื และอตั ราเรว็ ลดลง ทำ� ใหเ้ กดิ คลนื่ ขนาด ใหญพ่ ัดข้ึนชายฝั่ง ในขณะท่ีสนึ ามเิ คลื่อนท่เี ข้าชายฝ่งั ระดบั นำ้� บรเิ วณชายฝง่ั เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร แนวค�ำตอบ ระดบั น�้ำลดลง จากน้นั ระดับเพิม่ สงู ขนึ้ และน�้ำพัดข้ึนชายฝัง่ จากแบบจำ� ลอง ลักษณะของสึนามิในธรรมชาตเิ ปน็ อย่างไร แนวคำ� ตอบ บรเิ วณนำ้� ลกึ หรอื กลางมหาสมทุ รสนึ ามมิ คี วามยาวคลนื่ มากแตค่ วามสงู คลนื่ นอ้ ย แต่เม่ือเคล่ือนที่มายังบริเวณน้�ำตื้นหรือใกล้ชายฝั่งความยาวคลื่นจะลดลงแต่ความสูงจะ เพิ่มขึ้น และจะท�ำใหร้ ะดบั นำ�้ บรเิ วณชายฝ่งั ลดลง จากน้ันมวลนำ้� จึงพดั ขึน้ ชายฝ่ัง คล่นื ในแบบจำ� ลองเกดิ ขนึ้ ไดอ้ ยา่ งไร แนวค�ำตอบ เกิดการแทนทข่ี องมวลน�้ำอย่างฉบั พลัน ในธรรมชาติ มเี หตกุ ารณใ์ ดบา้ งทที่ ำ� ใหเ้ กดิ การแทนทข่ี องมวลนำ�้ จนเกดิ เปน็ สนึ ามิ แนวค�ำตอบ การเล่ือนตัวของแผ่นธรณีในแนวดิ่งเน่ืองจากแผ่นดินไหว แผ่นดินถล่ม ขนาดใหญ่ใต้ทะเล การระเบิดของภูเขาไฟใต้ทะเล การชนของดาวหางและ ดาวเคราะห์น้อย การตกของอุกกาบาตขนาดใหญ่ในมหาสมุทร และการทดลอง ระเบดิ นวิ เคลยี รใ์ ต้มหาสมุทร มหาสมทุ รใดมีโอกาสเกดิ สนึ ามมิ ากท่ีสุด เพราะเหตุใด แนวคำ� ตอบ มหาสมทุ รแปซฟิ กิ เพราะมแี นวมดุ ตวั ของแผน่ ธรณหี รอื ทเี่ รยี กวา่ วงแหวนไฟ ซ่งึ ท�ำใหเ้ กดิ แผ่นดนิ ไหวได้ 5. ครูอภปิ รายเพอื่ ขยายความรู้ใหก้ บั นกั เรยี นเกีย่ วกบั การเกดิ สึนามิ โดยใช้คำ� ถามดังต่อไปน้ี การเกดิ สึนามิจะมคี ล่นื ขนาดใหญ่เพยี งระลอกเดียวใชห่ รอื ไม่ แนวค�ำตอบ คลื่นสึนามิจะไม่เกิดเพียงระลอกเดียว จะเกิดขึ้นได้หลายระลอกคล่ืน และคลน่ื ลกู หลังอาจใหญก่ ว่าคลื่นลูกแรก 6. ครแู ละนักเรียนรว่ มกันอภปิ รายโดยเก่ียวกบั ผลจากสนึ ามโิ ดยใชค้ ำ� ถามดงั ตอ่ ไปนี้ สึนามิทำ� สง่ ผลกระทบต่อชายฝง่ั อย่างไรบ้าง แนวคำ� ตอบ คำ� ตอบอาจมไี ดห้ ลากหลาย เชน่ สรา้ งความเสยี หายใหก้ บั อาคาร บา้ นเรอื น สถานทท่ี ่องเท่ยี ว เรอื ประมง ป่าชายเลน และปะการงั 7. ครูให้นักเรียนสืบค้นเก่ียวกับการเฝ้าระวังและเตือนภัยก่อนสึนามิ จากหนังสือเรียนหน้า 113 -114 และเวปไซต์ของศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ http://www.ndwc.go.th จากนน้ั อภปิ รายรว่ มกนั โดยใช้ค�ำถามต่อไปน้ี กระบวนการเตือนภยั สนึ ามิประกอบด้วยข้ันตอนอะไรบา้ ง แนวค�ำตอบ ประกอบด้วย 3 ข้ันตอนหลักคือ การตรวจวัดข้อมูล การประมวลผล จากขอ้ มลู และการประกาศเตือนภัย สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เล่ม 1 บทที่ 3 | ธรณพี บิ ตั ิภยั 119 8. ครูและนกั เรียนรว่ มกนั อภปิ รายเกีย่ วกบั การเตรยี มความพรอ้ มเพื่อลดผลกระทบจาก สนึ ามิ ตามประเด็นดงั ตอ่ ไปนี้ - การเตรยี มความพรอ้ มก่อนเกดิ สนึ ามิ - การปฏิบัตติ นขณะเกิดสึนามิ - การปฏิบัตติ นหลงั เกดิ สนึ ามิ 9. ครูใหน้ ักเรยี นปฏบิ ัตกิ จิ กรรม 3.5 เพือ่ ศกึ ษาเกย่ี วกบั แนวทางการปฏิบตั ติ นให้ปลอดภัย จากธรณีพบิ ตั ิภัย กจิ กรรม 3.5 แนวทางการปฏบิ ัติตนให้ปลอดภยั จากธรณีพบิ ตั ภิ ัย จดุ ประสงคก์ จิ กรรม นำ� เสนอแนวทางการเฝา้ ระวังและปฏิบัตติ นให้ปลอดภัยจากธรณพี บิ ตั ิภัย เวลา 1 ชั่วโมง วสั ดุ-อปุ กรณ์ ใบความรู้ และแหล่งเรยี นรู้ตา่ ง ๆ ข้อเสนอแนะสำ� หรบั ครู 1. ครคู วรให้ค�ำแนะนำ� เก่ียวกบั แหลง่ เรียนรตู้ ่าง ๆ ให้กบั นกั เรยี น 2. ครูควรใหน้ กั เรียนออกแบบสื่อกอ่ นลงมอื ท�ำจรงิ โดยครูเป็นผู้ตรวจทาน สถานการณ์ สถานการณ์ที่ 1 \"ถา้ นกั เรยี นและครอบครวั เดนิ ทางทอ่ งเทยี่ วไปประเทศทมี่ ภี เู ขาไฟ และจำ� เปน็ ตอ้ งไปใน พื้นที่เสี่ยงภัยภูเขาไฟระเบิด นักเรียนจะมีวิธีการเตรียมตัวอย่างไรเม่ือเจอเหตุการณ์ ดงั กลา่ ว\" สถานการณ์ที่ 2 \"ถ้าเกิดแผ่นดินไหวขณะที่นักเรียนก�ำลังอยู่ในอาคารสูง และรู้สึกถึงความส่ันสะเทือน โคมไฟบนเพดานเร่มิ แกวง่ ไปมา นักเรียนจะปฏบิ ัตติ นอยา่ งไรใหป้ ลอดภัย\" สถานการณท์ ี่ 3 \"ถา้ นกั เรยี นเปน็ ผนู้ ำ� ชมุ ชนแหง่ หนงึ่ ทอ่ี ยบู่ รเิ วณชายฝง่ั ทะเลทเี่ ปน็ พนื้ ทเ่ี สย่ี งภยั สนึ ามนิ กั เรยี น จะมีการวางแผนรับมือ เตือนภัย และให้ความรู้เก่ียวกับแนวทางในการปฏิบัติตนให้แก่ ประชาชนในชมุ ชนอยา่ งไรบ้าง สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
120 บทที่ 3 | ธรณีพบิ ตั ิภัย โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เล่ม 1 วิธีการทำ� กิจกรรม 1. นกั เรียนรว่ มกันวเิ คราะห์สถานการณ์ท่กี �ำหนด และอภปิ รายเกี่ยวกบั องคค์ วามรู้ ที่เก่ียวขอ้ ง เชน่ - ธรรมชาตแิ ละกระบวนการเกดิ ของธรณีพิบัติภัย - ผลทเ่ี กดิ จากธรณีพิบตั ิภยั - กรณีศกึ ษาจากพน้ื ท่ีเส่ียงภัย 2. สืบคน้ ข้อมลู องค์ความรตู้ ามประเด็นทไ่ี ด้จากข้อ 1 3. ออกแบบและนำ� เสนอ ผลการสบื คน้ ขอ้ มลู ตามประเดน็ ในขอ้ 1 ดว้ ยสอ่ื รปู แบบตา่ ง ๆ เชน่ แผ่นพับ โปสเตอร์ แบบจำ� ลอง บทบาทสมมตุ ิ ตัวอย่างผลการทำ� กจิ กรรม นักเรียนควรวิเคราะห์สถานการณ์และอภิปรายเกี่ยวกับองค์ความรู้ที่เก่ียวข้องใน ประเด็นตา่ ง ๆ ดงั น้ี - ธรรมชาติและกระบวนการเกดิ ของธรณีพิบตั ภิ ัย สถานการณท์ ี่ 1 นกั เรียนจะต้องเลอื กพน้ื ที่ และภูเขาไฟในพืน้ ท่นี ้นั ๆ โดยนักเรียน จะตอ้ งศกึ ษาถงึ ธรรมชาติและกระบวนการเกิดของของภูเขาไฟนั้น ๆ สถานการณท์ ่ี 2 นกั เรยี นควรศกึ ษาถงึ ธรรมชาติของการเกดิ แผน่ ดินไหวว่า คลน่ื ไหวสะเทอื นนนั้ ไมไ่ ดท้ ำ� ใหเ้ กดิ การสน่ั สะเทอื นเพยี งระลอกเดยี วและอาจเกดิ ตาม มาอีกหลายครง้ั สถานการณท์ ี่ 3 นกั เรยี นจะตอ้ งเลอื กพนื้ ทวี่ า่ ชมุ ชนของนกั เรยี นจะเปน็ พนื้ ทใี่ นจงั หวดั ใด และมีลักษณะทางภูมิศาสตร์อย่างไร จากน้ันศึกษาธรรมชาติและกระบวนการเกิด สึนามิว่าเกิดได้อยา่ งไรบา้ ง - ผลท่เี กิดจากธรณพี บิ ัติภัย สถานการณ์ที่ 1 ศึกษาผลที่เกิดขนึ้ จากภเู ขาไฟในพื้นที่ที่นักเรยี นเลือก เช่น ภเู ขาไฟ ในหมู่เกาะฮาวาย ภัยพิบตั สิ ว่ นมากเกดิ จากการไหลของลาวา และแก๊สพิษ สถานการณท์ ี่ 2 ศกึ ษาอันตรายขณะเกิดแผ่นดินไหววา่ เม่อื นักเรยี นอยบู่ นอาคารสูง จะสามารถเกดิ อนั ตรายใดขน้ึ ไดบ้ า้ ง เชน่ การเกดิ ตกึ ถลม่ ของหนกั หลน่ ทบั เกดิ ไฟไหม้ สถานการณท์ ่ี 3 ศกึ ษาผลจากสึนามทิ เ่ี คยเกิดขึน้ ในพ้ืนท่นี ้ัน ๆ วา่ ท�ำความเสยี หาย เปน็ บริเวณกวา้ งเท่าใด - กรณีศกึ ษาจากพ้ืนทีเ่ สีย่ งภยั สถานการณท์ ่ี 1 ศกึ ษาวา่ ในพน้ื ทที่ น่ี กั เรยี นเลอื กนนั้ มกี ารวางแผนเตรยี มความพรอ้ ม และการป้องกันอย่างไรเมื่อเกดิ ภูเขาไฟระเบดิ สถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เลม่ 1 บทท่ี 3 | ธรณีพบิ ัติภยั 121 สถานการณท์ ่ี 2 ศึกษาวา่ เมอื่ เกิดแผ่นดินไหวและมีผตู้ ดิ อย่ใู นอาคารสงู ในประเทศ ตา่ ง ๆ มแี นวทางในการปฏิบตั ิอย่างไรให้ปลอดภยั สถานการณท์ ี่ 3 ศกึ ษาวา่ ในพนื้ ทท่ี นี่ กั เรยี นเลอื กนนั้ มกี ารวางแผนเตรยี มความพรอ้ ม และการป้องกนั อย่างไรเม่อื เกดิ สนึ ามิ ตัวอยา่ งโปสเตอร์ แผน่ พับและส่อื อ่นื ๆ ดาวน์โหลดได้จาก QR code ประจ�ำบท 10. ให้นกั เรียนแต่ละกล่มุ นำ� เสนอผลการทำ� กจิ กรรม รว่ มกนั อภิปรายผลการท�ำกจิ กรรม และ ตอบคำ� ถามท้ายกิจกรรมโดยมแี นวทางการอภปิ รายและแนวทางการตอบดงั ด้านบน แนวทางการวดั และประเมนิ ผล KPA แนวทางการวัดและประเมนิ ผล K : 1. ผลการปฏิบัติกิจกรรม 3.4-3.5 และการตอบ 1. สาเหตุ กระบวนการเกดิ และผลจากการ ค�ำถามทา้ ยกจิ กรรม เกดิ แผน่ ดนิ ไหว 2. การอภปิ รายเพ่อื สรุปองคค์ วามรู้ 2. แนวทางการเฝ้าระวังและปฏิบัติตนให้ 3. แบบฝกึ หัด ปลอดภยั จากแผ่นดนิ ไหว P: 1. การสรา้ งแบบจ�ำลองในการปฏิบัติกิจกรรม 3.4 1. การสอื่ สารสารสนเทศและการรเู้ ทา่ ทนั สอื่ 2. ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในการออกแบบสร้าง แบบจ�ำลอง ในกจิ กรรม 3.4 3. ผลการปฏิบัติกจิ กรรม 3.5 แสดงการแกป้ ญั หา จากสถาณการณท์ ี่ก�ำหนด 4. การสืบค้นข้อมูลและการน�ำเสนอผลการท�ำ กจิ กรรม 3.5 A: 1. การรว่ มอภิปรายและการตอบค�ำถาม 1. ความสนใจในวทิ ยาศาสตร์ 2. การสืบค้นข้อมูล การต้ังค�ำถาม และการ 2. ความเห็นคุณคา่ ทางวิทยาศาสตร์ อภปิ รายเกย่ี วกบั แนวทางและเทคโนโลยที ใี่ ชใ้ น การเฝ้าระวังและปฏิบัติตนให้ปลอดภัยจาก ธรณีพบิ ตั ิภัย สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
122 บทท่ี 3 | ธรณพี บิ ตั ภิ ัย โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เล่ม 1 ความรู้เพ่มิ เตมิ สำ� หรบั ครู วนั ท่ี สถานท่ี สาเหตกุ ารเกดิ เหตุการณทเี่ กดิ ขน้ึ 26 ธ.ค. 2547 มหาสมุทรอินเดีย แผ่นดนิ ไหว เวลา 7.58 น. ตามเวลาใน ประเทศไทย (00:58 UTC) เกิดแผ่นดินไหวขนาด 9.1-9.3 บริเวณมหาสมุทรอินเดีย แรงสั่น สะเทอื นจากแผน่ ดนิ ไหว ทำ� ใหเ้ กดิ สนึ ามสิ ูง 10-30 เมตร เขา้ กระทบ ชายฝั่งโดยรอบมหาสมุทรอินเดีย ประมาณการว่ามีผู้เสียชีวิตจาก แผ่นดินไหวครั้งนี้ใน 14 ประเทศ มากกว่า 280,000 คน ส�ำหรับ ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจ�ำนวน ทั้งหมด 5,395 คน 17 ก.ค. 2549 ตะวันตกเฉียงใต้ แผ่นดินไหว เวลาประมาณ 15.24 น. (UTC) ได้ ของเกาะชวา เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.7 มี ศูนย์กลางในทะเลด้านชายฝั่งทิศ ตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะชวา ท�ำ ให้เกิดสึนามิสูงประมาณ 5 เมตร เขา้ ถลม่ ตลอดพนื้ ทชี่ ายฝง่ั ยาวกวา่ 250 กิโลเมตร ต้ังแต่จังหวัดชวา ตะวนั ตก ไปจนถงึ เมอื งยอกยาการต์ า เหตุแผ่นดินไหวและสึนามิครั้งน้ี ทำ� ใหม้ ผี เู้ สยี ชวี ติ อยา่ งนอ้ ย 659 คน 4 ธ.ค. 2550 รฐั บรติ ชิ โคลมั เบยี ดินถล่ม เกิดดินถล่มบริเวณ Chehalis ประเทศแคนาดา Lake รัฐบริตชิ โคลมั เบยี แคนาดา ท�ำใหเ้ กดิ สึนามิขนาดใหญ่ สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เล่ม 1 บทที่ 3 | ธรณีพบิ ัตภิ ัย 123 วันท่ี สถานท่ี สาเหตกุ ารเกิด เหตกุ ารณท่เี กิดขน้ึ 29 ก.ย. 2552 หมเู่ กาะซามวั แผน่ ดนิ ไหว เวลา 17.48 น. (UTC) เกดิ แผน่ ดนิ ไหวขนาด 8.1 บรเิ วณหมเู่ กาะซามวั เกดิ สนึ ามสิ งู 14 เมตร มีผู้เสยี ชวี ติ 189 คน 27 ก.พ. 2553 นอกชายฝ่ัง แผ่นดิวไหว เกดิ แผ่นดินไหวขนาด 8.8 ประเทศชิลี นอกชายฝั่งประเทศชิลี เกิดสึนามิ มีผเู้ สียชวี ติ 525 คน 25 ต.ค. 2553 Mentawai แผ่นดนิ ไหว เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.7 ใกล้ เกาะสมุ าตรา South Pagai Island ประเทศ ประเทศ อินโดนีเซีย เกดิ สนึ ามแิ บบท้องถนิ่ อนิ โดนีเซีย มีผู้เสยี ชีวติ อยา่ งนอ้ ย 408 คน 22 ก.พ. 2554 เกาะใต้ แผน่ ดินไหว เกดิ แผ่นดินไหวขนาด 6.3 บริเวณ ประเทศ ท�ำให้ Canterbury Region เกาะใต้ นวิ ซแี ลนด์ ภเู ขานำ�้ แขง็ ประเทศนิวซีแลนด์ ภูเขาน้�ำแข็ง ถลม่ ถลม่ จากเหตุการณแ์ ผ่นดนิ ไหว ทำ� ใหเ้ กิดสนึ ามสิ งู 3.5 เมตร 11 มี.ค. 2554 นอกชายฝ่ัง แผน่ ดินไหว เวลา 14.46 น. ตามเวลามาตรฐาน แปซฟิ กิ โทโฮะกุ ญปี่ นุ่ (05:46 UTC) เกดิ แผน่ ดนิ ไหว ขนาด 9.0 บรเิ วณนอกชายฝง่ั ญป่ี นุ่ ทำ� ใหเ้ กดิ คลนื่ สงู 10-40.5 เมตร มี ผู้เสยี ชีวิตและสญู หาย 18550 คน 6 ก.พ. 2556 หมู่เกาะโซโลมอน แผ่นดนิ ไหว เกิดแผ่นดนิ ไหวขนาด 8.0 บริเวณ หมู่เกาะโซโลมอน ท�ำให้เกิดคล่ืน สูง 1 เมตร สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
124 บทท่ี 3 | ธรณพี ิบัตภิ ยั โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เล่ม 1 วนั ท่ี สถานท่ี สาเหตุการเกดิ เหตุการณท่ีเกิดข้ึน 21 ก.ค.2557 อาซค์จา้ (Askja) ดนิ ถลม่ เวลา 23.24 น. (เวลาทอ้ งถ่ิน) เกิดดินถล่มบริเวณ Icelandic volcano Askja จากการประทุ ของ ภูเขาไฟ ทำ� ใหเ้ กิดสึนามิ สูง 20-30 เมตร 16 ก.ย. 2558 ชายฝง่ั ตะวันตก แผน่ ดนิ ไหว เกดิ แผ่นดนิ ไหวขนาด 8.3 บรเิ วณ ประเทศชลิ ี ชายฝั่งตะวนั ตกของประเทศชลิ ี ท�ำใหเ้ กิดสนึ ามสิ ูง 4.88 เมตร 14 พ.ย. 2559 เมืองไคครู ่า แผ่นดนิ ไหว เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.5-7.8 (Kaikoura) บริเวณเกาะใต้ประเทศนิวซีแลนด์ ประเทศ ท�ำให้เกิดสึนามิสูง 2.5 เมตร เข้า นวิ ซแี ลนด์ กระทบเมืองไคคูร่า และชายหาด อืน่ ๆ 17 มิ.ย. 2560 ประเทศ ดินถลม่ เกิดดินถล่มลงในแม่น�้ำ Karrat กรนี แลนด์ Fjord เกิดสนึ ามสิ งู 90 เมตร มีผเู้ สยี ชีวติ 4 คน จัดท�ำโดย : กลุ่มงานวิชาการการเตือนภัย ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กรมป้องกันและบรรเทา สาธารณภยั ระบบแจ้งเตอื นสนึ ามิ การตรวจวัดสึนามินั้นท�ำได้ยาก การส�ำรวจจากเคร่ืองบินหรือดาวเทียมไม่สามารถ ทำ� ได้ เนอ่ื งจากเมอ่ื สนึ ามอิ ยกู่ ลางมหาสมทุ รจะมคี วามสงู นอ้ ยมาก องคก์ ารบรหิ ารบรรยากาศ และมหาสมทุ ร (NOAA) ประเทศสหรฐั อเมรกิ า จงึ พฒั นาระบบตรวจวดั สนึ ามขิ น้ึ ซงึ่ ประกอบ ด้วยเซนเซอร์เกบ็ บนั ทกึ ข้อมูลใตท้ ะเล และ ทุ่นลอยสง่ สญั ญาณผิวทะเล รวมเรยี กว่า DART ซง่ึ ยอ่ มาจาก Deep Ocean Assessment and Reporting of Tsunami System ซง่ึ พฒั นา โดย ซง่ึ จะตดิ ตง้ั เซนเซอรว์ ดั แรงสนั่ สะเทอื นไวท้ ที่ อ้ งมหาสมทุ ร เซนเซอรเ์ กบ็ ขอ้ มลู แผน่ ดนิ ไหว และส่งสัญญานไปยังทุ่นลอยซึ่งอยู่บนผิวน�้ำ เพื่อรีเลย์สัญญาณไปยังดาวเทียม GOES และ ส่งกลบั ลงบนสถานีภาคพ้ืนอกี ทีหนึง่ สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เล่ม 1 บทที่ 3 | ธรณพี ิบัตภิ ยั 125 ในปจั จบุ นั มกี ารพฒั นาระบบ DART II ขึ้น (ดังรปู ) โดยมกี ารตดิ ตง้ั เซนเซอรต์ รวจวดั และสง่ สัญญาณขอ้ มลู ตา่ ง ๆ ทัง้ ความดนั ของนำ้� ทะเล การส่ันสะเทือนของเปลือกโลก และ การเปลยี่ นแปลงของคลื่นไปยังทนุ่ ลอยบนผิวนำ�้ ในขณะท่ที ่นุ ลอยบนผิวนำ�้ จะเก็บวดั ข้อมลู ตา่ ง ๆ เพ่มิ เติม เชน่ ความเร็วของกระแสลม อณุ หภูมิ และ ความกดอากาศ แล้วส่งขอ้ มลู ทงั้ หมดผา่ นดาวเทยี ม Iridium ไปยงั ฐานรบั สง่ ขอ้ มลู สนึ ามบิ นฝง่ั เพอ่ื แจง้ เตอื นใหป้ ระชาชน และชาวประมงในพนื้ ท่ีให้รีบอพยพออกจากบรเิ วณท่อี นั ตราย ทมี่ า : https://nctr.pmel.noaa.gov/Dart/dart2_ref.html ; http://dpm.nida.ac.th; http:// www.lesa.biz/earth/lithosphere/geological-phenomenon/tsunami สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
126 บทท่ี 3 | ธรณีพบิ ตั ิภัย โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เล่ม 1 แบบฝึกหดั ทา้ ยบท 1. จงทำ� เครอื่ งหมาย หนา้ ข้อความทถ่ี กู และทำ� เคร่ืองหมาย หน้าขอ้ ความทผ่ี ิด ค�ำตอบ ขอ้ ความ 1. ภเู ขาไฟบนหมู่เกาะฮาวายเกิดบริเวณแนวมดุ ตวั ของแผ่นธรณี 2. ไอน้�ำเป็นสว่ นประกอบหน่ึงท่ไี ด้จากการระเบิดของภเู ขาไฟ 3. แผน่ ดนิ ไหวปลดปลอ่ ยพลงั งานออกมาในรปู คลน่ื ไหวสะเทอื นทจี่ ดุ เหนอื ศนู ยเ์ กิดแผน่ ดินไหว 4. มาตราริกเตอรเ์ ป็นมาตราทวี่ ัดพลังงานของแผ่นดินไหวท่ีปลอ่ ยออกมา 5. เมื่อเกดิ แผ่นดนิ ไหว หากนกั เรยี นอยูท่ ใ่ี นโล่งให้หลบเข้าไปในอาคาร 6. สนึ ามิเปน็ คล่นื ท่ีมีความยาวคลื่นมากเมอื่ เคล่ือนที่อยูใ่ นทะเลลึก 7. สึนามิสามารถหาคาบอุบัติซ�้ำได้จากการศึกษาจ�ำนวนชั้นและอายุของ ตะกอนสึนามิในอดตี 8. ไมค่ วรสรา้ งบา้ นเรอื นใกลก้ บั บรเิ วณทเี่ คยมกี ารปะทขุ องภเู ขาไฟทดี่ บั สนทิ 9. เมื่อรู้สึกว่ามีแผ่นดินไหว หรือพบว่าระดับน�้ำทะเลลดลงผิดปกติ ให้รีบ หนขี นึ้ ทสี่ งู หรือออกหา่ งจากชายฝ่งั ใหม้ ากที่สดุ 10. หากชาวประมงอยู่บนเรอื หาปลาใกล้ชายฝั่ง และไดร้ ับสัญญาณเตือน ว่าเกิดสึนามขิ ึน้ ชาวประมงควรนำ� เรอื ออกไปกลางทะเลให้ไกลชายฝั่งมาก ทสี่ ดุ สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เลม่ 1 บทที่ 3 | ธรณพี ิบตั ภิ ยั 127 2. จงเลือกคำ� ตอบทถ่ี ูกตอ้ งทสี่ ุด 2.1 แอมพลจิ ูดของคลื่นไหวสะเทอื นทีต่ รวจวัดไดจ้ ากเครื่องตรวจวดั คลื่นไหวสะเทอื น สามารถน�ำไป ใชป้ ระโยชน์ในด้านใด ก. คำ� นวณขนาดของแผ่นดนิ ไหว* ข. คำ� นวณหาการเลอื่ นตวั ของรอยเล่อื น ค. คำ� นวณหาความยาวของคลนื่ แผ่นดนิ ไหว ง. คำ� นวณหาคาบอบุ ตั ซิ ำ้� ของการเกดิ แผ่นดนิ ไหว 2.2. ขอ้ มูลใดผิดเกย่ี วกับมาตราเมอร์คลั ลี ก. เปน็ การเกบ็ ขอ้ มูลจากความรสู้ ึกของคนทีอ่ ย่ใู นเหตุการณ์แผน่ ดินไหวเท่านัน้ * ข. ขอ้ มลู ทไ่ี ดส้ ามารถแสดงออกมาเปน็ แผนท่ีแสดงระดบั ความเสยี หายได้ ค. ระดับความเสยี หายจะลดลงเม่อื อยูห่ ่างจากจุดเหนอื ศูนยเ์ กิดแผน่ ดนิ ไหวมากข้ึน ง. การทำ� แผนท่ีแสดงระดับความเสยี หายจากแผ่นดินไหวดว้ ยมาตราเมอร์คัลลจี ะทำ� หลังจาก เกดิ แผน่ ดนิ ไหวแล้ว 2.3. มาตราวัดความรุนแรงของแผ่นดินไหวท่ีส�ำรวจจากผลกระทบต่อมุนษย์และส่ิงปลูกสร้างคือ มาตราใด ก. มาตราริกเตอร์ ข. มาตราขนาดโมเมนต์ ค. มาตราเมอรค์ ลั ลี* ง. มาตราโมส์ 2.4. บริเวณใดที่เกดิ แผน่ ดินไหวทีร่ ุนแรงและบ่อยครงั้ ทส่ี ดุ ในโลก ก. แนวเทือกเขาแอลป์ และเทอื กเขาหมิ าลัย ข. แนวสนั เขากลางมหาสมทุ รอนิ เดยี และอาร์กติก ค. แนวรอยตอ่ รอบมหาสมทุ รแปซฟิ ิก* ง. แนวสนั เขากลางมหาสมุทรแอตแลนติก 2.5. ความหนืดของลาวาขนึ้ อยู่กับปัจจัยใดเป็นหลกั ก. ปรมิ าณธาตแุ มกนีเซยี ม ข. ปรมิ าณธาตุเหลก็ ค. ปริมาณซลั เฟอร์ ง. ปริมาณซิลกิ า* สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
128 บทที่ 3 | ธรณพี บิ ัตภิ ัย โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เล่ม 1 3. จงตอบคำ� ถามต่อไปน้ี 3.1 ภเู ขาไฟระเบิดเป็นสาเหตทุ ำ� ใหเ้ กิดแผ่นดินไหวได้ เพราะเหตใุ ด แนวคำ� ตอบ แรงดนั ของแมกมาทขี่ น้ึ สปู่ ากปลอ่ ง การถลม่ ของปากปลอ่ งอาจทำ� ใหแ้ ผน่ ดนิ ส่นั สะเทือนเกิดเปน็ แผน่ ดินไหวได้ 3.2 คล่นื ไหวสะเทือนในธรรมชาติเกิดขึ้นไดจ้ ากสาเหตุใดบ้าง แนวค�ำตอบ การเคลอ่ื นทขี่ องแผน่ ธรณีและรอยเลอ่ื นมพี ลัง 3.3 แผน่ ดินไหวเกดิ จากการเคล่ือนทีข่ องแผ่นธรณแี บบใดบา้ ง แนวคำ� ตอบ แผน่ ธรณเี คลอ่ื นทผ่ี า่ นกนั แผน่ ธรณเี คลอื่ นทเ่ี ขา้ หากนั และแผน่ ธรณเี คลอ่ื นที่ จากกัน 3.4 การประเมนิ ความรนุ แรงของแผ่นดินไหวตามมาตราเมอรค์ ลั ลตี อ้ งอาศัยขอ้ มลู ใดบา้ ง แนวคำ� ตอบ ข้อมูลจากความรู้สึกของผคู้ น ความเสยี หายของส่งิ ของ ส่ิงกอ่ สร้างต่าง ๆ 3.5 โดยส่วนมากสึนามิจะมีจุดก�ำเนิดในบริเวณที่มีความสัมพันธ์กับแนวรอยต่อของแผ่นธรณี แบบใด แนวคำ� ตอบ แผ่นธรณเี คลือ่ นท่เี ข้าหากนั 4. เพราะเหตุใดการเกิดแผน่ ดินไหวในทะเลในบางครงั้ ไม่ก่อใหเ้ กิดสึนามิ แนวค�ำตอบ การเกิดแผ่นดินไหวในบางคร้ังไม่ได้เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของแผ่นธรณี ในแนวดิง่ และในบางคร้ังมีจุดศูนยเ์ กิดในระดบั ลกึ เกนิ ไป จึงไมท่ �ำให้เกดิ สนึ ามิ สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เลม่ 1 บทท่ี 3 | ธรณพี ิบัติภยั 129 5. ใหน้ กั เรยี นเขียนผงั มโนทัศนแ์ สดงความสัมพันธ์ของคำ� ตอ่ ไปนี้ (ใชค้ ำ� อืน่ เพิม่ ได้) ภูเขาไฟระเบิด แผ่นดนิ ไหว สึนามิ แผ่นธรณี แนวรอยตอ่ ของแผน่ ธรณี สาเหตกุ ารเกิด คลื่นไหวสะเทอื น ลาวา ซลิ กิ า ความยาวคลืน่ ความสงู คลืน่ ขนาดของแผน่ ดนิ ไหว สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
130 บทท่ี 4 | การล�ำดบั เหตุการณ์ทางธรณีวทิ ยา โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เลม่ 1 4บทที่ | ก(Sาeรqล�ำuดeบัnเcหeตoกุ าfรGณeท์oาloงธgรicณalวี ิทEvยeาnts) goo.gl/yrysqZ ผลการเรียนรู้ วเิ คราะหห์ ลกั ฐานทางธรณวี ทิ ยาทพ่ี บในปจั จบุ นั และอธบิ ายล�ำดบั เหตกุ ารณท์ างธรณวี ทิ ยาในอดตี การวิเคราะผลการเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ วเิ คราะห์หลักฐานทางธรณวี ทิ ยาท่ีพบในปจั จุบนั และอธบิ ายลำ� ดบั เหตุการณ์ ทางธรณีวิทยาในอดตี จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธบิ ายหลกั การของการล�ำดับช้นั หิน 2. อธิบายโครงสร้างทางธรณีที่มีผลต่อการล�ำดบั ชั้นหนิ 3. อธิบายวิธีการหาอายทุ างธรณวี ิทยาทั้งอายเุ ปรียบเทียบและอายสุ ัมบรู ณ์ 4. อธิบายความหมายและการใชซ้ ากดึกด�ำบรรพ์ดชั นใี นการหาอายทุ างธรณีวิทยา 5. วิเคราะห์และอธิบายล�ำดับเหตุการณ์ทางธรณีโดยใช้กฎการล�ำดับชั้นหิน โครงสร้างทางธรณี และอายุทางธรณีวทิ ยาจากสถานการณ์ท่กี ำ� หนดให้ ทกั ษะกระบวนการทาง ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 จติ วทิ ยาศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ 1. การหาความสัมพันธ์ของ 1. การส่ือสารสารสนเทศและ 1. การใชว้ จิ ารณญาณ สเปซกับเวลา การรูเ้ ทา่ ทันสื่อ 2. ความเชื่อม่นั ตอ่ หลักฐาน 2. การสรา้ งแบบจ�ำลอง 2. การคิดอย่างมีวิจารณญาณ 3. ความใจกวา้ ง 3. การตีความหมายข้อมูลและ และการแก้ปญั หา 4. การยอมรับความเห็นต่าง ลงขอ้ สรุป 3. ความร่วมมือ การท�ำงาน เปน็ ทีมและภาวะผูน้ ำ� สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เลม่ 1 บทท่ี 4 | การลำ� ดับเหตุการณ์ทางธรณวี ทิ ยา 131 ผังมโนทศั น์ การลำ� ดบั เหตุการณท์ างธรณีวิทยา สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
132 บทที่ 4 | การลำ� ดบั เหตุการณท์ างธรณวี ิทยา โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เล่ม 1 ล�ำดบั แนวความคดิ ตอ่ เน่ือง โลกเป็นดาวเคราะห์หินท่ีมีกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยามาอย่างต่อเนื่อง ซง่ึ นักวทิ ยาศาสตรใ์ ช้หลกั ฐานท่ถี กู บนั ทึกไวใ้ นหนิ ในการศึกษาความเป็นมาของโลก การศกึ ษาธรณปี ระวัตขิ องพนื้ ท่ตี ่าง ๆ อาศัยขอ้ มลู ทางธรณวี ทิ ยาหลายดา้ น เช่น การล�ำดบั ชัน้ หิน โครงสรา้ งทางธรณี อายทุ างธรณวี ทิ ยา การลำ� ดบั ชนั้ หนิ เปน็ ขอ้ มลู สำ� คญั ในการบอกลำ� ดบั เหตกุ ารณท์ างธรณวี ทิ ยาของพนื้ ท่ี โดยใช้ หลักการของการล�ำดับชั้นหิน เช่น กฎการล�ำดับชั้น กฎชั้นแนวนอน กฎสัมพันธ์ของการ ตัดผา่ น โครงสร้างทางธรณีท่ีปรากฏในช้ันหินมีหลายแบบ เช่น รอยชั้นไม่ต่อเนื่อง รอยเลื่อน ชน้ั หนิ คดโคง้ อายุทางธรณีวิทยาเป็นการระบุช่วงเวลาของเหตุการณ์ หรือซากดึกด�ำบรรพ์ หรือลักษณะ ทางธรณีวทิ ยาทเี่ กดิ ขึน้ บนโลก โดยระบุเปน็ อายเุ ปรียบเทียบและอายุสมั บรู ณ์ อายเุ ปรียบเทยี บเปน็ การบอกอายขุ องหนิ เหตกุ ารณ์ทางธรณีวทิ ยา หรือซากดึกด�ำบรรพ์ เมอื่ เทียบกับหิน เหตกุ ารณท์ างธรณวี ทิ ยา หรือซากดึกด�ำบรรพอ์ ื่น ๆ ซึ่งอายุเปรยี บเทยี บไม่ระบุ เป็นตัวเลข อายุสัมบูรณ์เป็นการบอกอายุของหินแร่ และซากดึกด�ำบรรพ์ท่ีสามารถบอกเป็นจ�ำนวนปีท่ี คอ่ นข้างแน่นอน ขอ้ มลู ธรณีวิทยาดังกลา่ วนำ� มาใชอ้ ธิบายลำ� ดบั เหตุการณ์ทางธรณวี ิทยาของพ้นื ที่ และน�ำมา เปน็ ขอ้ มลู ประกอบมาตราธรณีกาล สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เล่ม 1 บทที่ 4 | การลำ� ดับเหตกุ ารณ์ทางธรณวี ิทยา 133 สาระสำ� คญั การศกึ ษาการล�ำดบั ชั้นหนิ โครงสร้างทางธรณี และหลักฐานทางธรณวี ิทยาตา่ ง ๆ ท�ำใหท้ ราบ ถึงเหตุการณท์ างธรณวี ิทยา การเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม วิวัฒนาการของส่ิงมีชีวติ ตง้ั แตก่ �ำเนดิ โลกจนถึงปัจจุบัน จากหลักฐานดังกล่าวนักวิทยาศาสตร์น�ำมาหาอายุทางธรณีวิทยาซ่ึงมี 2 แบบ ไดแ้ ก่ อายุเปรียบเทียบ อายุสมั บูรณ์ รวมทัง้ จดั ทำ� มาตราธรณีกาล เวลาท่ใี ช้ บทเรยี นนค้ี วรใช้เวลาประมาณ 10 ช่ัวโมง 1 การล�ำดับชน้ั หนิ 4 ชวั่ โมง 2 อายทุ างธรณีวทิ ยา 3 ช่ัวโมง 3 การเทยี บสมั พันธ์ทางลำ� ดบั ช้นั หนิ 3 ชัว่ โมง ความร้กู ่อนเรยี นท่ีนกั เรยี นตอ้ งมกี อ่ นเรียน ประเภทของหิน ได้แก่ หินอคั นี หนิ ตะกอน หินแปร โครงสร้างทางธรณี เช่น รอยเลื่อน ชัน้ หนิ คดโค้ง ซากดึกดำ� บรรพ์ ธาตกุ มั มนั ตรังสี ครึ่งชีวติ ความเข้าใจท่ีคาดเคล่ือนทีอ่ าจเกดิ ขน้ึ ความเข้าใจท่ีคลาดเคลือ่ น ความเขา้ ใจท่ถี ูกต้อง การแทรกดันของหินอัคนีสามารถแทรกเข้ามา การแทรกดันของหินอัคนีเกิดข้ึนในขณะท่ีเป็น ในเนื้อหิน แมกมา และถูกบีบอัดจนออกมาตามรอยร้าว ของผิวโลกแล้วจึงแข็งตัวอยู่ในรอยร้าวน้ัน เรียกการแทรกดันของหินอัคนีแบบน้ีว่า พนัง (dike) ซากดกึ ดำ� บรรพม์ เี ฉพาะสว่ นทเี่ ปน็ ของแขง็ เชน่ ซากดกึ ดำ� บรรพอ์ าจพบเปน็ เนอื้ เยอ่ื ออ่ นไดห้ รอื กระดูก เปลือกหอย ร่องรอย เช่น ซากแมมมอธในธารน้�ำแข็งหรือ ซากสตั วใ์ นเกลอื หนิ รอยตนี ไดโนเสาร์ รอยชอนไช ของสัตว์ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
134 บทที่ 4 | การลำ� ดบั เหตกุ ารณท์ างธรณีวทิ ยา โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เลม่ 1 ตรวจสอบความร้กู อ่ นเรียน ใหน้ กั เรยี นพจิ ารณาขอ้ ความตอ่ ไปนี้ แลว้ เตมิ เครอื่ งหมาย ลงในชอ่ งคำ� ตอบของขอ้ ความ ท่ีถูก หรือเครือ่ งหมาย ลงในช่องคำ� ตอบของขอ้ ความทผี่ ิด ขอ้ ความรู้พ้นื ฐาน ค�ำตอบ 1 หินตะกอนเกิดจากการสะสมตัวของตะกอนแล้วเกิดกระบวนการแข็งตัว เปน็ หิน 2 หินแกรนิตเกดิ จากการสะสมตวั ของตะกอนขนาดต่าง ๆ (หินแกรนิตเกิดการการเยน็ ของแมกมาใตเ้ ปลอื กโลก) 3 หินอคั นเี กิดจากการแข็งตัวของแมกมาใต้ผิวโลกและบนผิวโลก 4 หนิ ชนวนเปน็ หินตะกอนเพราะสามารถกะเทาะเป็นแผน่ บางและเรยี บได้ (หนิ ชนวนเป็นหนิ แปรเกรดต�่ำท่สี ามารถกระเทาะเปน็ แผน่ บางและ เรยี บได้) 5 รอยเล่ือนเป็นรอยแตกของเปลือกโลกท่ีเกิดจากการเคล่ือนท่ีของ เปลอื กโลกออกจากตำ� แหน่งเดมิ 6 ชนั้ หินคดโค้งเกดิ จากแรงเค้นและความเครียดบนเปลือกโลก 7 รอยตีนไดโนเสาร์ไม่จัดเป็นซากดึกด�ำบรรพ์เพราะไม่ใช่ซากของสิ่งมีชีวิต ในอดีต (รอยตนี ไดโนเสาร์จัดเป็นซากดึกดำ� รรพแ์ บบร่องรอย) 8 ธาตุกมั มันตรังสสี ามารถแผ่รงั สีแล้วกลายเปน็ อะตอมของธาตใุ หม่ได้ 4.1 การล�ำดบั ช้ันหิน จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธบิ ายกฎของการลำ� ดับช้นั หิน 2. อธิบายโครงสร้างทางธรณที ่มี ีผลตอ่ การล�ำดบั ชั้นหิน สือ่ การเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรียนรายวิชาเพม่ิ เติมวทิ ยาศาสตรโ์ ลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เล่ม 1 2. สสวท. Learning space https://www.scimath.org สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เลม่ 1 บทที่ 4 | การลำ� ดบั เหตุการณท์ างธรณวี ิทยา 135 แนวการจดั การเรยี นรู้ 1. นำ� เขา้ สบู่ ทเรยี นโดยใหน้ กั เรยี นวเิ คราะหร์ ปู อทุ ยานแหง่ ชาตแิ กรนดแ์ คนยอน ในหนงั สอื เรยี น หน้า 120 โดยครูแบ่งนักเรยี นเปน็ กลุ่มละ 2 - 3 คน และให้นักเรยี นอภปิ รายตามประเด็น ค�ำถามต่อไปน้ี จากภาพหนิ บริเวณดังกล่าวเปน็ หินประเภทใด สังเกตจากอะไร แนวค�ำตอบ หินตะกอน สงั เกตได้จากชน้ั หินวางตัวซอ้ นทบั ต่อเนื่องเป็นหลายชั้น จากรปู บรเิ วณดังกล่าวมกี ารเปลยี่ นลักษณะไปจากอดีตหรอื ไม่ อยา่ งไร แนวคำ� ตอบ มีการเปลี่ยนแปลงไปจากอดีต ปจั จัยใดท�ำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงลักษณะของหินบริเวณนี้ แนวค�ำตอบ กระแสน�้ำ กระแสลม และกระบวนการทางธรณอี นื่ ๆ ลกั ษณะของหนิ ในพนื้ ทปี่ รากฏเหน็ ในปจั จบุ นั สามารถอธบิ ายลำ� ดบั เหตกุ ารณท์ างธรณวี ทิ ยา ไดห้ รือไม่ อย่างไร แนวค�ำตอบ ตามแนวความคิดของนักเรียน 2. ให้นักเรียนปฏบิ ัตกิ จิ กรรม 4.1 การวางตวั ของช้ันหนิ พร้อมตอบค�ำถามทา้ ยกิจกรรม กิจกรรม 4.1 การวางตัวของช้นั หิน จดุ ประสงค์กจิ กรรม อธบิ ายการวางตวั และการลำ� ดบั ชั้นตามแบบจำ� ลองท่สี รา้ งขน้ึ วัสดุ-อปุ กรณ์ 1. ทรายจ�ำนวน 3 สี สีละ 100 กรมั 2. ภาชนะใสทรงกระบอกขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 5-7 เซนติเมตร และสูง ประมาณ 15-20 เซนตเิ มตร จ�ำนวน 1 ใบ 3. นำ�้ เปลา่ 4. ช้อน จำ� นวน 1 คนั การเตรยี มตวั ลว่ งหน้า ก่อนการท�ำกิจกกรรมให้แชท่ รายสีในน�้ำให้เปยี กกอ่ นเพอ่ื ไมเ่ กดิ การลอยตวั สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
136 บทท่ี 4 | การลำ� ดบั เหตกุ ารณ์ทางธรณวี ทิ ยา โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เล่ม 1 ขอ้ เสนอแนะสำ� หรบั ครู 1. ควรใหส้ ีของทรายมีความแตกต่างกันอยา่ งชัดเจน 2. ค่อย ๆ เททรายใส่ลงในนำ้� ใหก้ ระจายทัว่ ภาชนะ วธิ กี ารทำ� กจิ กรรม 1. ใสน่ ำ�้ ในภาชนะใสทรงกระบอกใหม้ ีระดับความสูงของนำ�้ ประมาณ 10 เซนตเิ มตร 2. ใชช้ อ้ นตกั ทรายแลว้ คอ่ ย ๆ ใสล่ งในภาชนะในขอ้ 1 ทลี ะสี โดยใหท้ รายแตล่ ะสมี คี วามหนา ของชัน้ ทรายประมาณ 2 เซนตเิ มตร และสงั เกตการกระจายตวั ของทรายแตล่ ะสี 3. วาดภาพการกระจายตวั ของช้นั ทรายแต่ละสีลงในแบบบนั ทึกกจิ กรรม ตัวอย่างการทำ� กิจกรรม (1) (2) (3) (4) อภิปรายและตัวอยา่ งสรปุ ผลกิจกรรม ǰ ǰ ǰ สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212