87 สุขภาพฟันเพ่อื ป้องกันโรคฟันผุท่ีไม่แตกต่างกัน ซ่ึงสอดคล้องจากการศึกษาของโศจิรัตน์ วรรณ ทวี (2553) ได้ศึกษาเร่ืองการศึกษาพฤติกรรมทันตสุขภาพของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 1 สังกัดสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาศรีสะเกษ เขต1 พบว่า เพศไม่มีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติ ด้านทันตสุขภาพ เนื่องจากนักเรียนท้ังเพศหญิงและเพศชายอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีลักษณะ คล้ายคลึงกัน ได้รับข้อมูลข่าวสารที่ดีส่งผลให้เกิดความเข้าใจ ความเช่ือเกี่ยวกับประโยชน์หรือ ความเส่ียงในการเกดิ โรคฟนั ผจุ ะนาไปสกู่ ารมที ันตสขุ ภาพท่ีดี ไดร้ บั แรงสนบั สนนุ จากเพือ่ นมีการ ปรึกษาและให้คาแนะนาซ่ึงกันและกันโดยไม่มีการแบ่งเพศ และได้รับแรงสนับสนุนจาก ทันตแพทย์หรือทันตบุคลากร สามารถกระตุ้นหรือจูงใจให้เด็กมีความสนใจในดูแลสุขภาพฟัน มากขึ้น 5.2.10/บุคคลที่อาศัยอยู่ด้วย ไม่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมด้านการดูแลสุขภาพ ฟันเพอื่ ปอ้ งกนั โรคฟนั ผุ ซึง่ ไม่สอดคลอ้ งกับการศกึ ษาวรเมธ สุขพาสันติ สุขพาสันติ, มานพ คณะ โต, พูนรัตน์ ลียติกุล (2559) ได้ศึกษาปัจจัยท่ีมีความสัมพันธ์กับการแปรงฟันหลังอาหารกลาง วันที่โรงเรียนของเด็กนักเรียนประถมศึกษาตอนปลายในจังหวัดหนองบัวลาภู พบว่า ปัจจัยท่ีมี ความสัมพันธ์กับการแปรงฟัน ไดแ้ ก่ เด็กท่อี าศยั อยู่กับพ่อแม่ เปน็ ปจั จยั ที่มีความสัมพันธ์กับการ แปรงฟันหลังอาหารกลางวันท่โี รงเรียนของเดก็ นักเรยี นอยา่ งมนี ยั สาคญั ทางสถิติ แสดงให้เห็นว่า ผู้ปกครองรบั รวู้ า่ การดแู ลเด็กเป็นหน้าที่ของผู้ปกครองอยู่แล้ว การที่จะปฏิบัติจึงขึ้นอยู่กับความ ใส่ใจ ความรักและความตระหนัก หรือความต้ังใจในการปฏิบัติ ดังน้ันถึงแม้อาศัยกับบุคคลท่ี ไมใ่ ช่พ่อแม่ จะพฤตกิ รรมด้านการดูแลสขุ ภาพฟันเพอื่ ป้องกนั โรคฟนั ผุไม่แตกต่างกนั 5.2.11/จานวนสมาชิกในครอบครัวของนักเรียน ไม่มีความสมั พนั ธก์ ับพฤติกรรม ด้านการดูแลสุขภาพฟันเพ่ือป้องกันโรคฟันผุ ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาของสายยา ถนอมเมฆ (2544) ได้ศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อโรคฟันผุของนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 6 ในโรงเรียนสังกัด กรุงเทพมหานคร พบวา่ จานวนพน่ี ้องในครอบครวั ไมม่ คี วามสมั พนั ธก์ บั โรคฟันผุแสดงให้เหน็ วา่ ผู้ปกครองรับรู้ว่าการดูแลเด็กเป็นหน้าที่ของผู้ปกครองอยู่แล้ว การที่จะปฏิบัติจึงข้ึนอยู่กับการ แสดงความรกั ดแู ลเอาใจใส่ แสดงความช่นื ชม แนะนา ตกั เตอื น กระต้นุ เตือน ให้กาลังใจ จะทา ให้นักเรียนมีพฤติกรรมสุขภาพช่องปากท่ีดีขึ้น และแรงสนับสนุนทางสังคมจากทันตแพทย์หรือ ทันตบุคลากรที่มีการให้คาแนะนาเรื่องในช่องปากน้ัน จะส่งผลต่อการมีพฤติกรรมสุขภาพช่อง ปากทีด่ ี 5.2.12 อาชีพของผู้ปกครอง ไม่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมด้านการดูแลสุขภาพ ฟันเพื่อป้องกันโรคฟันผุ ซึ่งไม่สอดคล้องกับการศึกษาของโศจิรัตน์ วรรณทวี (2553) ได้ศึกษา
88 เร่ืองการศกึ ษาพฤตกิ รรมทนั ตสุขภาพของนกั เรยี นชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 1 สังกดั สานักงานเขตพ้ืนที่ การศึกษาศรสี ะเกษ เขต1 พบว่า อาชีพของผู้ปกครอง มีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติด้าน ทันตสุขภาพ อาจเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจที่เจริญก้าวหน้าในปัจจุบัน ทาให้ประชาชนมีการ แก่งแย่งแข่งขันกันทางธุรกิจอาชีพ หน้าที่การงานกันมากข้ึน เพ่ือที่จะหารายได้มาจุนเจือ ครอบครัวใหอ้ ยดู่ ีกนิ ดี ไม่มเี วลาดูแลบุตรรวมทั้งไมม่ เี วลาในการดแู ลแนะนาบุตรตอ่ การดูแลทันต สุขภาพ จงึ สง่ ผลให้บุตรเกิดโรคฟันผุมากขน้ึ 5.2.13 ระดบั การศึกษาของผู้ปกครอง ไม่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมด้านการดูแล สุขภาพฟนั เพ่ือป้องกันโรคฟันผุ ซึ่งไม่สอดคล้องกับการศึกษาของโศจิรัตน์ วรรณทวี (2553) ได้ ศึกษาเร่ืองการศึกษาพฤติกรรมทันตสุขภาพของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 1 สังกัดสานักงาน เขตพ้ืนท่ีการศึกษาศรีสะเกษ เขต1 พบว่า อาชีพของผู้ปกครอง มีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติ ด้านทนั ตสุขภาพ พบวา่ ระดับการศึกษาของผู้ปกครอง มคี วามสัมพนั ธ์กับภาวะสุขภาพช่องปาก แสดงให้เห็นว่าผู้ที่มีการศึกษาสูงมีความรู้มาก ก็อาจจะไม่ได้ใส่ใจเข้ารับบริการทันตกรรม มากกวา่ ผู้ทมี่ ีระดบั การศกึ ษาต่า และผู้ที่มีระดับการศึกษาต่ามีความรู้น้อยกว่า ก็อาจจะไม่ได้ใส่ ใจเขา้ รบั บรกิ ารทันตกรรมมากกว่าผู้ท่ีมรี ะดบั การศึกษามากเช่นกนั 5.2.14/จานวนเงินท่ีนักเรียนได้มาโรงเรียน (บาท/วัน) ไม่มีความสัมพันธ์กับ พฤติกรรมด้านการดูแลสุขภาพฟันเพื่อป้องกันโรคฟันผุ ซึ่งไม่สอดคล้องกับการศึกษา ของณัฐวัฒน์ สุวคนธ์ และปราโมทย์ วงศ์สวัสดิ์ (2561) ได้ศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการ ดูแลสุขภาพฟันเพื่อป้องกันโรคฟันผุของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 อาเภอเมือง จังหวัด พิษณุโลก พบว่า จานวนเงินที่ได้มาโรงเรียนมีผลต่อพฤติกรรมการดูแลสุขภาพฟันเพ่ือป้องกัน โรคฟันผุ อันเนอ่ื งมาจากนกั เรยี นไดร้ บั เงินมาโรงเรียนทมี่ ากข้นึ นั้นบ่งบอกถึงรายได้ครอบครัวท่ี สูงข้นึ ทาให้ครอบครวั สามารถสนบั สนนุ ในเร่อื งของแปรงสฟี ัน ยาสฟี นั ใหแ้ กน่ กั เรียนไดม้ ากกวา่ ครอบครัวทมี่ รี ายไดท้ ี่ต่ากวา่ 5.3 ข้อเสนอแนะ 5.3.1 ขอ้ เสนอแนะในการนาผลการวจิ ยั ไปใช้ 5.3.1.1 โรงเรียนควรมีการดาเนินการให้ความรู้เร่ืองทันตสุขศึกษา โดยการ สอดแทรกในเน้อื หาบทเรยี นเกยี่ วกับการแปรงฟนั การบรโิ ภคอาหาร การตรวจสุขภาพช่องปาก
89 ด้วยตนเอง การไปพบทันตบุคลากร ความเข้าใจที่และการปฏิบัติตัวถูกต้องในการดูแลสุขภาพ ฟันเพ่ือป้องกันโรคฟันผุ เปน็ ต้น 5.3.1.2 ควรจัดกิจกรรมในโรงเรยี นโดยเปน็ การใหข้ อ้ มูลข่าวสารเก่ียวกับการ ปอ้ งกนั โรคฟนั ผุจากเสยี งตามสายหน้าเสาธง สอื่ สงิ่ พมิ พ์ เพมิ่ ข้ึน 5.3.2 ขอ้ เสนอแนะในการทาวิจัยคร้งั ต่อไป 5.3.2.1 ควรมีการศึกษาประสิทธิผลของโปรแกรมการให้ความรู้แก่นักเรียน โดยเน้นเร่ือง การแปรงฟัน การบริโภคอาหาร การตรวจสุขภาพช่องปากด้วยตนเอง การไปพบ ทนั ตบุคลากร ความเขา้ ใจท่ีและการปฏิบตั ติ ัวถูกตอ้ งในการดูแลสุขภาพฟนั เพอ่ื ป้องกนั โรคฟันผุ 5.3.2.2 สารวจและศึกษาปจั จยั ท่สี ง่ ผลต่อพฤติกรรมการดูแลสุขภาพฟันเพื่อ ปอ้ งกันโรคฟนั ผุ ในกลุม่ วยั ท่ีแตกต่างกัน 5.3.2.3 ควรทาการศึกษาเกยี่ วกับการตรวจสภาวะฟนั ผุเพิ่มเตมิ
บรรณานกุ รม
91 บรรณานุกรม กรรณิกา เรอื งเดช ชาวสวนศรีเจริญ. 2560. วิจยั เบ้อื งตน้ สาหรบั วิทยาศาสตรส์ ุขภาพ. ตรงั : วทิ ยาลัยการสาธารณสุขสิรนิ ธร จังหวดั ตรงั . กลุม่ งานทนั ตสาธารณสุข สานักงานสาธารณสุข. 2559. จังหวัดตรงั รายงานการสารวจสภาวะ ทันตสุขภาพ จังหวัดนครศรีธรรมราช ปี 2561. นครศรีธรรมราช: สานักงาน สาธารณสุข จงั หวัดนครศรธี รรมราช. กองสขุ ศึกษา. 2542. อา้ งถึงใน วรรณวมิ ล เมฆวิมล. 2555. “ปัจจยั ท่ีมคี วามสัมพนั ธต์ ่อ พฤตกิ รรมการรับประทานอาหารของผสู้ งู อายุ จงั หวัดสมุทรสงคราม” วิทยานิพนธ์ปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต, วิทยาลัยสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั สวนสุนนั ทา. หนา้ 23. ขวญั ใจ พิมพิมล. 2543. ปัจจยั ทางจติ วทิ ยาท่ีสง่ ผลต่อพฤติกรรมการปู้องกนั การเสพยาบ้า. อุบลราชธาน:ี วิทยาการพิมพ.์ จนั ทร์เพ็ญ เกสรราช นงลักษณ์ ดาวลอย และปองชยั ศิริศรจี นั ทร์. 2560. พฤติกรรมทนั ตสขุ ภาพและสภาวะสุขภาพช่องปากของนักเรียนประถมศึกษาปีท่ี 6 จังหวัดสุรินทร์. วารสารทนั ตาภบิ าล. 28(2), 30. จรยิ า คาประวัติ. 2557. “พฤติกรรมเกีย่ วกบั การดูแลสขุ ภาพช่องปากของนกั เรียนชน้ั ประถมศกึ ษา ปที ่ี 6 ในอาเภอกุดข้าวปุ้น จังหวัดอุบลราชธานี.” รายงานการวิจัย. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. จริยา ปณั ฑวงั กรู . 2549. พฤตกิ รรมศาสตรแ์ ละพฤตกิ รรมสุขภาพในงานสาธารณสุข. อบุ ล ราชธานี: วิทยาการพมิ พ์. จารุมาศ ใจกา้ วหนา้ . 2546. “พฤตกิ รรมการดูแลสขุ ภาพของพนักงานยาสูบ.” วทิ ยานิพนธ์ ศิลปศาสตรมหาบัณฑติ , มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์. จุฬาภรณ์ โสตะ. 2554. แนวคิด ทฤษฎี และการประยุกตใ์ ช้เพอ่ื การพัฒนาพฤติกรรมสขุ ภาพ. ภาควิชาสขุ ศึกษา คณะสาธารณสขุ ศาสตร์, มหาวทิ ยาลัยขอนแกน่ . เฉลิมวิทย์ หาชนื่ . 2553. “การรบั รเู้ กีย่ วกับโรคฟนั ผแุ ละการดแู ลสขุ ภาพชอ่ งปากเดก็ ของ ผู้ปกครองในศูนย์พฒั นาเด็กเล็ก อาเภอทา่ คนั โท จงั หวดั กาฬสินธ์ุ.” สาธารณสุข ศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ .
92 บรรณานกุ รม (ตอ่ ) ชามญช์ จันทรุ ส สุชาดา ฐิตริ ะวีวงศ์ และชดิ ชนก เชงิ เชาว์. 2553. พฤติกรรมการดูแลสขุ ภาพ ตนเองของนักเรียนระดับประถมศึกษาปีท่ี 5-6 สังกัดสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา ยะลาเขต 1. วารสารคณะพละศกึ ษา. 14(1), 39. ชุตมิ า ไตรรัตน์วรกลุ . 2554. ทันตกรรมปอ้ งกันในเด็กและวัยรนุ่ (ฉบับปรบั ปรงุ คร้ังท่ี 2). พมิ พ์ครั้งท่ี 4. กรงุ เทพมหานคร: บริษัท เบสทบ์ ุค๊ ส์ ออนไลน์ จากดั . ชมนาด ทบั ศรนี วล. 2549. “ปัจจยั ทีม่ ีความสมั พันธ์กบั พฤตกิ รรมการดแู ลสขุ ภาพช่องปากของ นกั เรยี นระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน้ ในอาเภอเมือง จังหวดั เพชรบรุ .ี ” วิทยานิพนธ์ วทิ ยาศาสตรมหาบัณฑติ , สาขาสุขศกึ ษา ภาควชิ าพลศกึ ษา มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏ เพชรบรุ ี. ณฐั วัฒน์ สวุ คนธ์ และปราโมทย์ วงศส์ วสั ด์ิ. 2561. “ปจั จยั ทมี่ ผี ลตอ่ พฤตกิ รรมการดูแลสุขภาพ ฟันเพ่ือป้องกันโรคฟันผุของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 อาเภอเมือง จังหวัด พิษณุโลก” วิทยานิพนธ์ ปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต, บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยนเรศวร. ทันตแพทย์สมาคมแหง่ ประเทศไทยฯ. 2560. แนวทางการใชฟ้ ลอู อไรด์. ค้นคนื วันที่ 2 กรกฎาคม 2562. จาก documen20170115235027%20(2).pdf. ธารทพิ ย์ ทองด.ี 2552. “พฤติกรรมดา้ นทนั ตสขุ ภาพของนกั เรยี นช้นั ประถมศึกษาปีที่ 6 ในเขต พน้ื ทร่ี ับผดิ ชอบสถานีอนามัยตาบลองค์พระ อาเภอด่านช้าง จังหวดั สุพรรณบุร.ี ” รายงานการวจิ ยั . มหาสารคาม: มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม. นัฐวฒุ ิ โนนเภา และคนอน่ื ๆ. 2561. ปัจจัยทีม่ คี วามสมั พนั ธก์ ับพฤติกรรมการทาความสะอาด ช่องปากของนักเรียนช้ันประถมศึกษาตอนปลาย อาเภอศรีประจันต์ จังหวัด สุพรรณบุรี วารสารทันตาภบิ าล. 29(1), 27 นฤชติ ทองรงุ่ เรืองชัย และพรรณี บญั ชรหัตถกิจ. 2556. อ้างถงึ ใน Mattila ML, Rautawa P, Sillanpaa M, Paunio P. 2545. ปจั จยั ทม่ี ีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการแปรงฟัน ให้เด็กอายุ 1-5 ปขี องผ้ปู กครอง ในเขตอาเภอโนนสัง จงั หวัดหนองบัวลาภู, วารสาร ศรีนครนิ ทร์เวชสาร. 28(1), 16-22.
93 บรรณานุกรม (ต่อ) บุญธรรม กจิ ปรีดาบรสิ ุทธิ.์ 2524. ระเบียบวิธกี ารวจิ ยั ทางสังคมศาสตร์. พมิ พ์ครัง้ ที่ 3. กรุงเทพมหานคร: ภาควิชาศึกษาศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล. บุญเยยี่ ม ตระกูลวงษ์. 2528. จิตวิทยาสังคมกับการสาธารณสขุ . กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ ชวนพิมพ์. เบญจมาศ สุขศรเี พ็ง. 2556. แบบแผนความเชอื่ ดา้ นสขุ ภาพ (Health Belief Model). คน้ คืนวนั ที่ 21 มกราคม 2561 จาก www.gotoknow.org/posts/115420. ปติ ิฤกษ์ อรอินทร.์ 2557. “การศกึ ษาพฤตกิ รรมการดูแลสุขภาพช่องปาก นกั เรียนชน้ั ประถมศกึ ษา ปที ่ี 6 อาเภอพนา จงั หวดั อานาจเจริญ.” วทิ ยานิพนธ์ปรญิ ญาสาธารณสุขศาสตร์ มหาบณั ฑิต สาขาวชิ าการสรา้ งเสริมสุขภาพ. ปยิ ะวรรณ์ กาคา. 2557. “พฤติกรรมการดูแลทันตสขุ ภาพของครูท่ีปฏบิ ตั งิ าน ในโรงเรียน ประถมศกึ ษา ภาครฐั ในเขตเทศบาลนครสกลนคร.” วทิ ยานพิ นธ์ปริญญา สาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑติ , บณั ฑิตวทิ ยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น. ประภาเพญ็ สุวรรณ. 2520. ทัศนคติ : การจัดการเปลยี่ นแปลงพฤติกรรมนามยั . พมิ พค์ ร้ังที่ 2. กรงุ เทพมหานคร: ไทยวัฒนาพานชิ . ประภาเพ็ญ สุวรรณ. 2526. ทัศนคติการวดั ความเปล่ียนแปลงทางพฤติกรรมอนามัย. กรงุ เทพมหานคร: ไทยวฒั นาพานิช. ภาวณิ ี ดวงศร.ี 2552. “พฤตกิ รรมการดแู ลทนั ตสขุ ภาพของผ้ดู แู ลเด็กก่อนวัยเรยี นในศนู ย์ พัฒนาเด็กเล็ก จังหวัดอานาจเจริญ.” วิทยานิพนธ์ปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยราชภฏั อบุ ลราชธานี. เมธินี คุปพทิ ยานนั ท์ และสุพรรณี ศรีวิริยกลุ . 2555. การสร้างเสริมสขุ ภาพช่องปาก ประตู ส่สู ุขภาพที่ดี ในทุกชว่ งวยั ของชวี ติ . กรงุ เทพฯ: องค์การสงั เคราะหท์ หารผา่ นศกึ . วิทยา โปธาสนิ ธิ์. 2549. ปัจจัยทม่ี ผี ลต่อพฤตกิ รรมสขุ ภาพช่องปากเด็กนกั เรียนประถมศึกษา ชนั้ ปที ่ี 4-6 ของอาเภอสามรอ้ ยยอด จงั หวดั ประจวบคีรีขนั ธ์. 13(4), 16.
94 บรรณานุกรม (ต่อ) วรเมธ สุขพาสันติ และมานพ คณะโต. 2559. การแปรงฟันหลังอาหารกลางวันท่ีโรงเรียน ของเด็กนักเรียนประถมศึกษาตอนปลาย ในจังหวัดหนองบัวลาภู. วารสารการพัฒนา สุขภาพชมุ ชน. มหาวทิ ยาลัยขอนแกน่ . 4(1), 113 วรางคณา ชิดช่วงชัย. 2558. การตรวจและวินิจฉัยโรคช่องปาก = Oral examination and Diagnosis. กรงุ เทพมหานคร: มสิ เตอรก์ ๊อปป้ี (ประเทศไทย) วิทยานพิ นธ์ สาธารณสขุ ศาสตรมหาบัณฑติ , มหาวิทยาลัยขอนแก่น. วรี ะศักด์ิ พุทธาศรี และคนอน่ื ๆ. 2552. นโยบายทันตสาธารณสุขไทย:เกาะติดปัญหาใช้วิชาการสาน สรา้ งความรว่ มมือ. พิมพ์คร้งั ที่ 1. นนทบุรี: เดอะ กราฟกิ โก ซสิ เต็มส์. โศจิรัตน์ วรรณทวี. 2553. “การศึกษาพฤติกรรมทนั ตสขุ ภาพของนกั เรยี นมธั ยมศึกษาปีที่1 สังกัดสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาศรีสะเกษ เขต 1.” วิทยานิพนธ์ปริญญา สาธารณสุขศาสตรบัณฑิต, สาขาวิชาการสร้างเสริมสุขภาพ มหาวิทยาลัยราชภัฏ อุบลราชธานี. สมสุข สทุ ธศิ รี. 2542. อ้างถงึ ใน ทวชี ยั สายทอง. 2551. “ปจั จัยที่สง่ ผลต่อพฤติกรรมการป้องกนั โรคฟนั ผขุ องนักเรยี นประถมศึกษาปที ่ี 5 และ 6 ตาบลวัฒนานคร อาเภอวฒั นานคร จงั หวดั สระแกว้ .” วทิ ยานิพนธส์ าธารณสขุ ศาสตรมหาบณั ฑติ , มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ . สุชา จนั ทร์เอม. 2542. จติ วิทยาวัยรุ่น. พมิ พ์คร้ังที่ 1. กรงุ เทพมหานคร: ไทยวัฒนาพาณิช. สุธา เจียมมณีโชติชยั , วรภรณ์ จริ ะพงษา และปิยะดา ประเสริฐสม. 2551. การพฒั นาการเรียนรู้ ของนักเรียนประถมศึกษาด้วยกระบวนการวิจัยบเรียนรู้คู่วิจัย ตอนอาหารกับฟันผุ วทิ ยาสารทันตสาธารณสขุ . 13, 39-50. สภุ ทั ชัย ยินดียทุ ธ์. 2552. “พฤตกิ รรมด้านทันตสุขภาพของนกั เรยี นช้ันประถมศึกษาปที ่ี 6 ใน เขตตาบลนคิ มกระเสียว อาเภอด่านช้าง จังหวดั สุพรรณบุรี.” รายงานการวจิ ยั . มหาสารคาม: มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม. สานกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษานครศรธี รรมราช เขต4. 2562. จานวนประชากร ประถมศกึ ษาจงั หวัดนครศรีธรรมราช. คน้ คนื วนั ที่ 11 มถิ ุนายน 2562 จาก www.data.boppobec.info/emis/schooldataview.php?School_ID =1080210722&Area_CODE.
95 บรรณานกุ รม (ต่อ) สายยา ถนอมเมฆ. 2544. ปจั จัยทีม่ ผี ลต่อโรคฟันผขุ องนกั เรยี นประถมศกึ ษาปีที่ 6 ใน โรงเรยี นสงั กดั กรุงเทพมหานคร. กรงุ เทพมหานคร: ฐานขอ้ มลู วิทยานิพนธไ์ ทย. สานักงานสาธารณสุข จังหวัดนครศรีธรรมราช. 2561. ผลการสารวจทันตสุขภาพ ของจังหวัดนครศรธี รรมราช. สานกั ทนั ตสาธารณสขุ กรมอนามยั กระทรวงสาธารณสขุ . 2555. การสร้างเสรมิ สขุ ภาพชอ่ ง ปากประต.ู ..สู่สขุ ภาพทีด่ ใี นทกุ ชว่ งวยั ของชวี ติ . พิมพค์ รง้ั ท่ี 1. กรงุ เทพมหานคร: สานกั งานกิจการโรงพมิ พอ์ งคก์ ารสงเคราะห์ทหารผา่ นศกึ . สานักทันตสาธารณสขุ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสขุ . 2560. รายงานการสารวจสภาวะ ทันตสุขภาพแห่งชาติคร้ังที่ 8 ประเทศไทย พ.ศ. 2560. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพมหานคร: สามเจริญพาณิชย.์ อรวรรณ ปลิ ันธน์โอวาท. 2542. อา้ งถงึ ใน สุภาวดี เช้ือวงษ.์ 2558. “ความรู้ ทศั นคติ และ พฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศของบุคลากร เทศบาลตาบลดอนหัวฬ่อ อาเภอเมอื งชลบรุ ี.” วิทยาลยั การบริหารรัฐกจิ , มหาวทิ ยาลัยบรู พา. อาซีย๊ะ แวหะยี และคนอ่นื ๆ. 2560. ปจั จัยที่มีความสมั พนั ธก์ ับพฤติกรรมการบริโภคอาหารทมี่ ี ผลต่อการเกิดโรคฟันผุของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 5. วารสารเครือข่าย วทิ ยาลัยพยาบาลและการสาธารณสขุ ภาคใต้. 4(2), 200. Becker, M.H. and Maiman, L.A.. 1975 อา้ งถงึ ใน วรพงศ์ แซค่ ู. 2557. “ความสัมพนั ธ์ ระหว่างความเชื่อด้านสุขภาพกับการออกกาลังกายของประชาชนเขตเทศบาลเมือง บ้านบึง จังหวัดชลบุรี” วิทยานิพนธ์ ปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิตบัณฑิต วิทยาลยั มหาวทิ ยาลัยมหาวทิ ยาลัยบรู พา. Best. 1977. อา้ งถงึ ใน จริ ะพร ยอดทา่ หว้า. 2553. “ปัจจยั ท่ีมผี ลตอ่ พฤติกรรมการดูแลทันต สุขภาพของบุคลากรสาธารณสุขท่ีปฏิบัติงานในสถานีอนามัย จังหวัดชัยภูมิ.” วิทยานิพนธ์ปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑติ มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
96 บรรณานกุ รม (ต่อ) Bloom. 1975. อ้างถงึ ใน จิระพร ยอดท่าหว้า. 2553. “ปจั จยั ท่ีมีผลต่อพฤตกิ รรมการดแู ลทนั ต สุขภาพของบุคลากรสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานในสถานีอนามัย จังหวัดชัยภูมิ.” วทิ ยานิพนธป์ ริญญาสาธารณสขุ ศาสตรมหาบัณฑิตมหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ . Bowen และคณะ. 1980. อ้างถงึ ใน ชุติมา ไตรรตั น์วรกุล. 2554. ทนั ตกรรมป้องกันใน เด็กและวัยรุ่น (ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 2). พิมพ์ครั้งท่ี 4. กรุงเทพมหานคร: บริษัท เบสทบ์ ุ๊คส์ ออนไลน์ จากัด. House. 1981. อ้างถงึ ใน สปุ รยี า ตันสกลุ และคนอืน่ ๆ. 2548. ทฤษฎแี ละโมเดลการประยุกต์ ใช้ในงานสุขศกึ ษาและพฤตกิ รรศาสตร์ (ฉบบั ปรบั ปรุง). พมิ พค์ รงั้ ท่ี 2. กรงุ เทพ มหานคร: ยทุ ธรนิ ทรก์ ารพิมพ์. Green & Kreuter. 1987. อา้ งถึงใน วรรณวมิ ล เมฆวมิ ล. 2555. “ปจั จัยทม่ี คี วามสัมพันธ์ตอ่ พฤติกรรมการรบั ประทานอาหารของผสู้ ูงอายุ จงั หวัดสมทุ รสงคราม” วทิ ยานิพนธ์ ปริญญาสาธารณสขุ ศาสตรมหาบณั ฑติ , วทิ ยาลยั สหเวชศาสตรม์ หาวิทยาลัย ราชภัฏสวนสนุ ันทา. Köhler และ Bratthall. 1978. อ้างถงึ ใน ชตุ มิ า ไตรรัตนว์ รกลุ . 2554. ทนั ตกรรมป้องกันใน เด็กและวัยรุ่น (ฉบับปรับปรุงคร้ังท่ี 2). พิมพ์ครั้งท่ี 4. กรุงเทพมหานคร: บริษัท เบสทบ์ คุ๊ ส์ ออนไลน์ จากัด. Newbrun. 1979. อา้ งถึงใน ชตุ มิ า ไตรรตั น์วรกุล. 2554. ทนั ตกรรมป้องกันในเดก็ และวยั รุน่ (ฉบับปรับปรุงคร้ังท่ี 2). พิมพ์คร้ังที่ 4. กรุงเทพมหานคร: บริษัท เบสท์บุ๊คส์ ออนไลน์ จากัด. Pender. 1996. อ้างถึงใน สุปรียา ตันสกุล และคนอ่ืนๆ. 2548. ทฤษฎีและโมเดลการ ประยุกต์ใช้ในงานสุขศึกษาและพฤติกรรมศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง). พิมพ์ครั้งท่ี 2. กรุงเทพมหานคร: ยทุ ธรินทร์การพมิ พ.์ Powell, Mancl และ Senft. 1991. อ้างถงึ ใน ชุติมา ไตรรตั นว์ รกุล. 2554. ทนั ตกรรมป้องกันใน เด็กและวัยรุ่น (ฉบับปรับปรุงคร้ังท่ี 2). พิมพ์ครั้งท่ี 4. กรุงเทพมหานคร: บริษัท เบสทบ์ ุค๊ ส์ ออนไลน์ จากัด.
97 บรรณานุกรม (ต่อ) Ravald และ Birkhed. 1991. อ้างถงึ ใน ชุติมา ไตรรัตน์วรกลุ . 2554. ทันตกรรมปอ้ งกนั ใน เด็กและวัยรุ่น (ฉบับปรับปรุงครั้งท่ี 2). พิมพ์ครั้งท่ี 4. กรุงเทพมหานคร: บริษัท เบสทบ์ ุ๊คส์ ออนไลน์ จากัด. Weiss. 1974. อ้างถึงใน สุปรียา ตันสกลุ และคนอนื่ ๆ. 2548. ทฤษฎีและโมเดลการประยกุ ตใ์ ช้ ในงานสุขศึกษาและพฤติกรรมศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง). พิมพ์คร้ังที่ 2. กรุงเทพมหานคร: ยทุ ธรนิ ทรก์ ารพิมพ์. World Health Organization. (2015). The world oral health report 2015. GavriilidouNN.
ภาคผนวก
ภาคผนวก ก ผู้ทรงคณุ วุฒติ รวจสอบเครือ่ งมอื 1) อ.ทพ. ปรชั ญา ชูกาเนดิ ทนั ตแพทยช์ านาญการ 2) นาย พุทธพิ งศ์ บญุ ชู วทิ ยาลัยการสาธารณสขุ สริ นิ ธร จงั หวดั ตรงั 3) นางภัทราภรณ์ เตง็ โรจนน์ ภาพร วทิ ยาจารยช์ านาญการ วิทยาลยั การสาธารณสขุ สริ นิ ธร จงั หวดั ตรงั นกั วชิ าการสาธารณสขุ ปฏิบตั ิการ วิทยาลยั การสาธารณสุขสิรนิ ธร จังหวดั ตรัง
ภาคผนวก ข เคร่อื งมือเก็บรวบรวมข้อมลู แบบสอบถามงานวิจัย เร่ือง ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมการดูแลสุขภาพฟันเพ่ือป้องกันโรคฟันผุของนักเรียน ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 6 อาเภอนบพิตา จังหวัดนครศรธี รรมราช คาชี้แจง ขอให้นกั เรยี นตอบคาถามให้ครบทกุ ข้อและตอบใหต้ รงความเปน็ จรงิ มากท่สี ดุ แบบสอบถาม 1 ชดุ มที ้ังหมด 9 หนา้ 5 ตอนดังน้ี ตอนท่ี 1 ขอ้ มลู ทว่ั ไปของผตู้ อบแบบสอบถาม จานวน 8 ข้อ ตอนท่ี 2 แบบสอบถามปจั จยั นา แบ่งออกเป็น 3 สว่ น จานวน 27 ขอ้ ดงั น้ี 2.1 ความรเู้ ก่ียวกับพฤตกิ รรมการดแู ลสขุ ภาพฟนั เพอ่ื ปอ้ งกนั โรคฟนั ผุ จานวน 10 ขอ้ 2.2 ทศั นคตเิ กย่ี วกบั พฤตกิ รรมการดแู ลสขุ ภาพฟนั เพอื่ ป้องกันโรคฟนั ผุ จานวน 9 ขอ้ 2.3 การรบั รู้เกย่ี วกบั พฤตกิ รรมการดแู ลสขุ ภาพฟันเพื่อปอ้ งกันโรคฟนั ผุ จานวน 8 ข้อ ตอนที่ 3 แบบสอบถามปจั จยั เอื้อ การเขา้ ถงึ สถานบรกิ ารดา้ นทนั ตกรรม จานวน 6 ข้อ ตอนที่ 4 แบบสอบถามปัจจยั เสริม แบง่ ออกเป็น 2 ส่วน จานวน 21 ข้อ ดังนี้ 4.1 การไดร้ บั ข้อมลู ข่าวสารเก่ยี วกบั โรคฟนั ผุ จานวน 8 ข้อ 4.2 การสนบั สนนุ ทางสงั คมดา้ นการปอ้ งกนั โรคฟนั ผุ จานวน 13 ข้อ ตอนท่ี 5 แบบสอบถามพฤตกิ รรมดา้ นการดแู ลสขุ ภาพฟนั เพ่ือป้องกันโรคฟนั ผุจานวน 18 ขอ้ นางสาวพชิ ชานนั ท์ แสนสขุ นกั ศึกษาหลกั สตู รสาธารณสขุ ศาสตรบัณฑติ สาขาวิชาทนั ตสาธารณสขุ วิทยาลัยการสาธารณสขุ สริ นิ ธร จงั หวดั ตรงั
101 ตอนที่ 1 ขอ้ มูลท่ัวไปของผตู้ อบแบบสอบถาม คาชี้แจง โปรดใสเ่ ครือ่ งหมาย / ลงใน ( ) หรอื เตมิ ขอ้ ความลงในช่องวา่ งตามความเป็นจริง ของนักเรียน 1. เพศ ( ) ชาย ( ) หญิง 2. อายผุ ู้ปกครอง...............ปี 3. บคุ คลทอี่ าศยั อยดู่ ้วย ( ) อาศัยอยกู่ ับบดิ าและมารดา ( ) อาศยั อยูก่ ับบดิ า ( ) อาศัยอยู่กับญาตพิ นี่ ้อง ( ) อาศยั อยู่กบั มารดา ( ) อน่ื ๆ โปรดระบุ ........................... 4.จานวนสมาชกิ ในครอบครวั ของนกั เรียน (รวมนักเรียนดว้ ย).......................... คน 5. อาชพี ของผปู้ กครอง (เลอื กอาชีพหลัก) ( ) อาชพี คา้ ขาย ( ) รบั จ้าง ( ) เกษตรกรรม ( ) แม่บา้ น/พอ่ บา้ น ( ) รบั ราชการ ( ) อืน่ ๆ โปรดระบุ ......................... 6. ระดบั การศกึ ษาของผูป้ กครอง (คนดแู ลหลกั ) ( ) ประถมศึกษา ( ) มธั ยมศึกษา ( ) ปรญิ ญาตรี ( ) อน่ื ๆ โปรดระบุ ........................ 7. รายได้ครอบครวั เฉล่ียตอ่ เดือน ...................................................... บาท 8. จานวนเงินทน่ี กั เรียนไดม้ าโรงเรียน...................................บาทต่อวนั
102 ตอนท่ี 2 แบบสอบถามปจั จยั นา แบง่ ออกเปน็ 3 ส่วน 2.1 ความรเู้ กย่ี วกบั พฤติกรรมการดูแลสขุ ภาพฟนั เพอ่ื ปอ้ งกนั โรคฟนั ผุ คาชี้แจง โปรดพิจารณาข้อความตอ่ ไปน้ีและตอบโดยทาเคร่ืองหมาย / ลงในช่องท่ีตรงกับความ คิดเหน็ ของนักเรียนมากทส่ี ดุ เพียง 1 ตัวเลอื กเทา่ นนั้ ขอ้ ข้อคาถาม ใช่ ไม่ใช่ ไม่ ทราบ 1 การรับประทานขนมกรุบกรอบมาก จะทาให้มีโอกาส เกดิ โรคฟันผไุ ด้ 2 วิธกี ารกาจดั เศษอาหารบริเวณในซ่ีที่มดี า้ นประชิดแนน่ คอื การใชไ้ หมขดั ฟัน 3 ทุกคร้ังท่ีแปรงฟันเสร็จแล้ว ควรแปรงลิ้นด้วย เพราะ ผวิ ลิ้นขรขุ ระเป็นทก่ี กั เกบ็ ของเช้อื แบคทีเรยี 4 อุปกรณ์ท่ีช่วยในการกาจัดเศษอาหารบริเวณผิวฟันได้ ดี คือ แปรงสฟี ัน 5 การดมื่ นา้ อดั ลม เปน็ ประจาสามารถทาใหเ้ กิดฟนั ผุ 6 การป้องกันโรคฟันผุสามารถทาได้โดยการงดอาหาร หวาน น้าตาลและอาหารทีเ่ หนียวติดฟันงา่ ย 7 ยาสีฟันผสมฟลูออไรดช์ ่วยปอ้ งกนั ฟันผุได้ 8 ควรแปรงฟันนานอยา่ งน้อย 2-3 นาที 9 การรับประทานอาหารระหว่างม้ือถี่เกินไปและ รับประทานอาหารจุบจิบ มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดฟัน ผุได้งา่ ย 10 การรบั ประทานนมรสหวาน และรสเปรย้ี วสง่ ผลให้เกิด โรคฟนั ผุ
103 2.2 ทศั นคติเก่ยี วกับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพฟนั เพือ่ ป้องกันโรคฟนั ผุ คาชแ้ี จง โปรดพิจารณาขอ้ ความตอ่ ไปนี้และตอบโดยทาเคร่ืองหมาย / ลงในช่องท่ีตรงกับความ คดิ เหน็ ของนกั เรียนมากที่สดุ เพยี ง 1 ตวั เลอื กเท่าน้ัน เห็นดว้ ยอยา่ งยงิ่ หมายถึง เห็นดว้ ยกบั ขอ้ ความมากทส่ี ุด เหน็ ด้วย หมายถงึ เหน็ ด้วยกับขอ้ ความ ไม่แนใ่ จ หมายถึง ไม่รูส้ กึ เหน็ ดว้ ยหรอื ไม่เห็นดว้ ยกับข้อความ ไม่เหน็ ด้วย หมายถึง ไมเ่ ห็นดว้ ยกับข้อความ ไมเ่ ห็นด้วยอยา่ งยง่ิ หมายถึง ไม่เห็นด้วยกับข้อความมากที่สดุ ข้อ ขอ้ คาถาม เหน็ เหน็ ไม่ ไม่ ไม่เหน็ ด้วย ดว้ ย แน่ใจ เห็น ด้วยอยา่ ง อยา่ ง ด้วย ยง่ิ ยง่ิ 1 นักเรียนเช่ือว่าการแปรงฟันในตอนเช้า เพียงวนั ละครง้ั ก็เพยี งพอแลว้ 2 นักเรียนเชื่อว่าการใช้ไหมขัดฟันเป็น เร่อื งท่ียุ่งยาก 3 นักเรียนเช่ือว่าการบ้วนปากอย่างเดียว เป็นการทาความสะอาดฟันท่ีเพียงพอ แล้ว 4 นักเรียนเชื่อว่าฟันผุเกิดจากหนอนกิน ฟัน 5 นักเรียนเช่ือว่าการแปรงฟันก่อนนอน เปน็ เรอื่ งที่ไม่มีความจาเป็น 6 นักเรียนเช่ือว่าการแปรงฟันทุกวัน สามารถปอ้ งกนั โรคฟันผุได้ 7 นักเรียนเช่ือว่าการแปรงฟันเป็นเร่ืองท่ี น่าเบือ่ หนา่ ย 8 นกั เรียนเช่ือว่าเมื่อมฟี นั ผุจนปวด ปล่อย ทง้ิ ไว้ก็จะหายไปเอง
104 ข้อ ข้อคาถาม เหน็ เหน็ ไม่ ไม่ ไมเ่ ห็น ด้วย ด้วย แน่ใจ เหน็ ด้วยอย่าง อยา่ ง ดว้ ย ย่ิง ยิง่ 9 นกั เรยี นเชื่อวา่ ควรไปพบหมอฟนั เวลาที่ ปวดฟันเท่านน้ั 2.3 การรบั รเู้ กย่ี วกับพฤติกรรมการดแู ลสขุ ภาพฟนั เพอื่ ป้องกันโรคฟันผุ คาชแี้ จง โปรดพจิ ารณาข้อความต่อไปนแี้ ละตอบโดยทาเครื่องหมาย / ลงในช่องท่ีตรงกับความ คิดเห็นของนกั เรยี นมากทีส่ ดุ เพียง 1 ตวั เลอื กเท่านั้น เห็นดว้ ยอย่างย่งิ หมายถงึ เห็นด้วยกับขอ้ ความมากทีส่ ุด เหน็ ด้วย หมายถงึ เหน็ ดว้ ยกบั ขอ้ ความ ไมแ่ น่ใจ หมายถงึ ไม่ร้สู กึ เหน็ ดว้ ยหรือไมเ่ ห็นด้วยกบั ขอ้ ความ ไม่เห็นดว้ ย หมายถงึ ไม่เห็นดว้ ยกบั ข้อความ ไมเ่ หน็ ด้วยอย่างยงิ่ หมายถงึ ไม่เห็นด้วยกบั ข้อความมากที่สดุ ข้อ ข้อคาถาม เห็น เหน็ ไม่ ไม่ ไม่เห็น ด้วย ด้วย แนใ่ จ เหน็ ดว้ ยอยา่ ง อยา่ ง ดว้ ย ยงิ่ ยิง่ 1 การรับประทานอาหารท่ีมีแป้งและ น้าตาลบ่อยๆทาให้เส่ียงต่อการเป็น โรคฟนั ผไุ ด้ง่ายข้นึ 2 การใช้ยาสฟี ันทผ่ี สมฟลอู อไรด์จะช่วย ปอ้ งกนั ฟันผไุ ด้ 3 การใชไ้ หมขัดฟันทาความสะอาดซอก ฟันช่วยลดโอกาสเสี่ยงในการเกิดโรค ฟนั ผุ 4 การแปรงฟนั ชว่ ยป้องกันฟันผุได้ 5 คนที่มีฟันซ้อนเกมีโอกาสเสี่ยงท่ีจะ เกิดโรคฟนั ผุได้งา่ ยข้ึน
105 ข้อ ขอ้ คาถาม เหน็ เหน็ ไม่ ไม่ ไมเ่ หน็ ดว้ ย ดว้ ย แน่ใจ เห็น ดว้ ยอยา่ ง อยา่ ง ด้วย ย่ิง ยง่ิ 6 การรับประทานนมรสหวาน และรส เปรี้ยวเสีย่ งต่อการเกิดโรคฟนั ผุ 7 การอมลูกอม อมย้ิมหรือลูกกวาด เสีย่ งตอ่ การเปน็ โรคฟนั ผุ 8 การกินขนมหวานบ่อยๆ หรือการกิน จบุ จบิ เสยี่ งต่อการเกดิ โรคฟนั ผุ ตอนท่ี 3 แบบสอบถามปจั จยั เอื้อ 3.1 การเข้าถงึ สถานบริการดา้ นทนั ตกรรม คาชี้แจง โปรดพจิ ารณาข้อความตอ่ ไปนแี้ ละตอบโดยทาเครื่องหมาย / ลงในช่องที่ตรงกับความ คดิ เห็นของนักเรียนมากท่สี ุดเพยี ง 1 ตวั เลือกเทา่ นนั้ ข้อ ข้อคาถาม มาก มาก ปาน น้อย น้อยที่สดุ ท่ีสุด กลาง 1 สถานบริการทันตกรรมใกล้บ้าน ของ นักเรียน 2 นักเรียนคิดว่าสถานบริการทันตกรรมมี ความเพยี งพอกับประชาชนที่ไปใชบ้ ริการ 3 นักเรียนได้รับการตรวจฟันจากทันตแพทย์ หรอื บคุ ลากรด้านทันตสาธารณสุข 4 นักเรยี นไดร้ ับการตรวจฟันจากครูอนามยั 5 นักเรียนได้รับการตรวจฟันจากทันตแพทย์ หรอื บุคลากรดา้ นทันตสาธารณสขุ ทกุ ๆ 6 เดอื น 6 นักเรียนมีความสะดวกในการเดินทางไป โรงพยาบาล หรือคลินิก หรือสถานบริการ สาธารณสขุ
106 ตอนท่ี4 แบบสอบถามปัจจยั เสริม แบง่ ออกเปน็ 2 สว่ น 4.1 การไดร้ ับขอ้ มลู ข่าวสารเกย่ี วกับโรคฟันผุ คาชี้แจง โปรดพจิ ารณาขอ้ ความต่อไปน้ีและตอบโดยทาเคร่ืองหมาย / ลงในช่องที่ตรงกับความ คดิ เห็นของนักเรียนมากทส่ี ดุ เพยี ง 1 ตัวเลือกเท่านนั้ ข้อ ขอ้ คาถาม มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย ทีส่ ุด กลาง ทส่ี ุด 1 นกั เรยี นไดร้ บั ความรู้เก่ียวกับการดูแล สุขภาพในช่องปากจากการเข้าร่วม กิจกรรม หรือมหกรรมรณรงค์การ ดูแลสขุ ภาพชอ่ งปาก 2 นักเรียนได้รับความรู้เกี่ยวกับการดูแล สุขภาพในช่องปากจากกิจกรรมหน้า เสาธง 3 นักเรยี นไดร้ ับความรู้เก่ียวกับการดูแล สขุ ภาพในช่องปากจากครู 4 นักเรยี นไดร้ บั ความรู้เกี่ยวกับการดูแล สุขภาพในช่องปากจากบุคลากรทันต สาธารณสขุ 5 นักเรียนได้รับความรู้เกี่ยวกับการดูแล สุขภาพในช่องปากจากส่ือสิ่งพิมพ์ เชน่ วารสาร หนงั สอื พิมพ์ แผ่นพบั 6 นกั เรียนได้รบั ความรู้เกี่ยวกับการดูแล สขุ ภาพในช่องปาก ทางโทรทศั น์ 7 นกั เรียนได้รบั ความรู้เกี่ยวกับการดูแล สุขภาพในช่องปากจากเสียงตามสาย ของหม่บู า้ น 8 นักเรียนได้รบั ความรู้เก่ียวกับการดูแล สุขภาพในช่องปากจากบอร์ดความรู้ ของโรงเรียน
107 4.2 การสนับสนุนทางสงั คมด้านการป้องกันโรคฟนั ผุ คาชแ้ี จง โปรดพิจารณาขอ้ ความตอ่ ไปน้แี ละตอบโดยทาเครื่องหมาย / ลงในช่องท่ีตรงกับความ คิดเห็นของนกั เรียนมากท่ีสุดเพยี ง 1 ตัวเลอื กเท่าน้นั ขอ้ ขอ้ คาถาม มาก มาก ปาน น้อย นอ้ ย ทส่ี ุด กลาง ที่สดุ 1 เพ่ือนของนักเรียน มักห้ามนักเรียน รับประทานอาหารจาพวกขนมต่างๆ เชน่ ขนมเคก้ นา้ ชา กาแฟ เป็นตน้ 2 เมอื่ มีปญั หาสขุ ภาพชอ่ งปากเพื่อนของ นักเรียนจะแนะนานักเรียนให้ไปเข้า รบั บรกิ ารทางทันตกรรม 3 ผู้ปกครองให้เงินนักเรียนสาหรับซื้อ อุปกรณ์ทาความสะอาดฟัน 4 เ มื่ อ มี ปั ญ ห า สุ ข ภ า พ ช่ อ ง ป า ก ผู้ปกครองจะพานักเรียนไปรับบริการ ทางทันตกรรม 5 ผู้ปกครองเป็นคนกาชับให้นักเรียน แปรงฟันก่อนนอนอย่เู สมอ 6 ผู้ปกครองจะตักเตือนหากนักเรียน อยากกินลกู อม หรอื น้าอดั ลม 7 นักเรียนได้รับคาปรึกษาเม่ือเกิด ปญั หาเก่ียวกับโรคฟนั ผุจากผ้ปู กครอง ครู ทนั ตบุคลากร 8 นักเรียนเคยไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจ ฟัน อุดฟัน เคลือบหลุมร่องฟัน หรือ ถอนฟันและได้รับคาแนะนาในการ ดแู ลสขุ ภาพชอ่ งปาก 9 ครูจะตรวจฟันให้นักเรียนเสมอทุก ภาคเรยี น
108 ขอ้ ข้อคาถาม มาก มาก ปาน น้อย น้อย ทีส่ ุด กลาง ทสี่ ุด 10 โรงเรยี นจัดกิจกรรมการแปรงฟันหลัง อาหารกลางวันท่โี รงเรยี น 11 นักเรียนได้รับคาแนะนาจากทันต บคุ ลากรเร่อื งการแปรงฟัน 12 นักเรียนได้รับแปรงสีฟันใหม่จาก ผู้ ป ก ค ร อ ง เ ม่ื อ แ ป ร ง สี ฟั น เ กิ ด ก า ร เสื่อมสภาพ 13 นักเรียนได้รับการดูแลเอาใจใส่ เ ก่ี ย ว กั บ สุ ข ภ า พ ช่ อ ง ป า ก จ า ก ผูป้ กครอง ตอนท่ี 5 แบบสอบถามพฤตกิ รรมดา้ นการดแู ลสขุ ภาพฟนั เพื่อปอ้ งกันโรคฟนั ผุ คาช้แี จง โปรดพจิ ารณาข้อความต่อไปนแ้ี ละตอบโดยทาเคร่ืองหมาย / ลงในช่องที่ตรงกับความ คดิ เหน็ ของนกั เรยี นมากทีส่ ดุ เพยี ง 1 ตัวเลอื กเทา่ นน้ั ปฏบิ ตั ิประจา หมายถึง เม่อื ผู้ถูกสอบถามมีการปฏบิ ตั ิ 7 คร้งั /สปั ดาห์ ปฏบิ ตั ิบอ่ ยครั้ง หมายถึง เมื่อผู้ถูกสอบถามมกี ารปฏบิ ตั ิ 4-6 ครง้ั /สัปดาห์ ปฏิบตั ิบางครง้ั หมายถงึ เมอ่ื ผูถ้ กู สอบถามมีการปฏบิ ัติ 1-3 คร้ัง/สปั ดาห์ ไม่เคยปฏิบตั ิ หมายถึง เมอ่ื ผถู้ ูกสอบถามไมเ่ คยมีการปฏิบัติเลย ข้อ ข้อคาถาม ปฏบิ ัติ ปฏิบัติ ปฏิบตั ิ ไม่เคย เปน็ บ่อยคร้ัง บางครั้ง ปฏบิ ตั ิ ประจา ด้านการแปรงฟนั 1 นกั เรยี นแปรงฟนั ตอนกอ่ นเข้านอน โดย ท่ไี มท่ านอาหารหลงั แปรงฟนั 2 นักเรียนจะแปรงฟนั โดยใช้ยาสีฟันผสม ฟลูออไรดด์ ว้ ยเสมอ
109 ข้อ ข้อคาถาม ปฏิบัติ ปฏบิ ตั ิ ปฏิบตั ิ ไม่เคย เป็น บอ่ ยคร้งั บางครง้ั ปฏบิ ัติ ประจา 3 หลงั จากแปรงฟนั แลว้ นักเรยี นทาความ สะอาดลิ้น โดยการแปรงทลี่ ้นิ 4 นักเรียนใช้ไหมขัดฟันเพื่อทาความ สะอาดซอกฟนั อย่างน้อยวนั ละ 1 ครั้ง 5 นักเรียนแปรงฟันเป็นเวลามากกว่า 2 นาทีข้นึ ไป 6 นักเรยี นมักจะลมื แปรงฟันกอ่ นนอน 7 นกั เรียนใช้นา้ ยาบว้ นปากรว่ มกบั การ แปรงฟัน ดา้ นการตรวจสุขภาพช่องปากดว้ ยตนเอง 8 นักเรียนใช้กระจกส่องดูสภาพภายใน ช่องปากตนเองเพื่อหาสิ่งผิดปกติ เช่น จุดสีดาบนตวั ฟนั ด้านการบรโิ ภคอาหาร 9 นกั เรยี นชอบดมื่ นา้ อดั ลม 10 นกั เรยี นชอบกินขนมกรบุ กรอบ 11 นักเรียนชอบอมลูกอม ลูกกวาด หรือ อมยิ้ม 12 นักเรียนชอบรับประทานเครื่องดื่มท่ีมี รสหวาน เช่น ชาเขียว ชานมไข่มุก นม เย็น เป็นตน้ 13 นักเรยี นรับประทานผักและผลไม้ 14 นักเรียนชอบรบั ประทานอาหารจบุ จิบ 15 นักเรียนไม่รับประทานอาหารระหว่าง ม้อื
110 ข้อ ขอ้ คาถาม ปฏบิ ัติ ปฏิบัติ ปฏบิ ตั ิ ไม่เคย เป็น บอ่ ยครั้ง บางคร้ัง ปฏบิ ตั ิ ประจา 16 นักเรยี นเลือกดม่ื นมจืดแทนนมหวาน ดา้ นการไปพบทันตแพทยห์ รอื บคุ ลากรด้าน ทนั ตสาธารณสุข 17 นักเรียนไปพบทันตแพทย์หรือบุคลากร ด้านทันตสาธารณสุข เมื่อมีปัญหา สุขภาพชอ่ งปากเท่านั้น 18 นักเรียนไปพบทันตแพทย์หรือบุคลากร ด้านทันตสาธารณสุขเพื่อตรวจสุขภาพ ช่องปากอยา่ งน้อยทกุ 6 เดอื น
111 ภาคผนวก ค การตรวจสอบคุณภาพเครอ่ื งมือ การวิเคราะห์ค่าดัชนีความสอดคล้องของเน้ือหา (Index of Item Objective Consistency: IOC) โดยผู้เช่ียวชาญ 3 ท่าน ขอ้ คาถาม ผเู้ ชย่ี วชาญ IOC สรปุ ท่านที่ 1 ทา่ นท่ี 2 ทา่ นท่ี 3 ตอนท่ี 1 ขอ้ มูลทั่วไปของผ้ตู อบแบบสอบถาม 1.เพศ +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 2.อายุ +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 3.บุคคลท่ีอาศัยอยู่ดว้ ย +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 4.จานวนสมาชิกในครอบครัวของ +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ นกั เรียน 5.อาชพี ของผปู้ กครอง +1 +1 +1 1.00 ใชไ้ ด้ 6.ระดบั การศึกษาของผ้ปู กครอง +1 +1 +1 1.00 ใชไ้ ด้ 7.รายได้ครอบครัวเฉล่ียตอ่ เดอื น . +1 +1 +1 1.00 ใชไ้ ด้ 8.จานวนเงินท่ีนักเรียนได้มา +1 +1 +1 1.00 ใชไ้ ด้ โรงเรียน ตอนที่ 2 2.1 ความรเู้ ก่ียวกบั พฤตกิ รรมการดแู ลสขุ ภาพฟนั เพอื่ ป้องกันโรคฟนั ผุ 1 +1 +1 +1 1.00 ใชไ้ ด้ 2 +1 +1 0 0.67 ใช้ได้ 3 +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 4 +1 +1 0 0.67 ใช้ได้ 5 +1 +1 +1 1.00 ใชไ้ ด้ 6 +1 +1 +1 1.00 ใชไ้ ด้
112 ขอ้ คาถาม ผ้เู ช่ียวชาญ IOC สรปุ ทา่ นท่ี 1 ทา่ นท่ี 2 ท่านที่ 3 1.00 ใชไ้ ด้ 1.00 ใชไ้ ด้ 7 +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 1.00 ใชไ้ ด้ 8 +1 +1 +1 1.00 ใชไ้ ด้ 9 +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 1.00 ใชไ้ ด้ 10 +1 +1 +1 1.00 ใชไ้ ด้ 1.00 ใช้ได้ 2.2 ทัศนคติเกี่ยวกบั พฤติกรรมการดแู ลสุขภาพฟันเพือ่ ปอ้ งกนั โรคฟนั ผุ 1.00 ใช้ได้ 1.00 ใชไ้ ด้ 1 +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 1.00 ใช้ได้ 2 +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 3 +1 +1 +1 1.00 ใชไ้ ด้ 1.00 ใช้ได้ 4 +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 1.00 ใชไ้ ด้ 5 +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 1.00 ใช้ได้ 6 +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 7 +1 +1 +1 1.00 ใชไ้ ด้ 1.00 ใช้ได้ 8 +1 +1 +1 9 +1 +1 +1 2.3 การรับรเู้ กย่ี วกบั พฤตกิ รรมการดูแลสขุ ภาพฟันเพ่อื ป้องกนั โรคฟันผุ 1 +1 +1 +1 2 +1 +1 +1 3 +1 +1 +1 4 +1 +1 +1 5 +1 +1 +1 6 +1 +1 +1 7 +1 +1 +1 8 +1 +1 +1 ตอนที่ 3 การเข้าถึงสถานบริการด้านทันตกรรม 1 +1 +1 +1 2 +1 +1 +1
113 3 +1 +1 +1 1.00 ใชไ้ ด้ ขอ้ คาถาม ผูเ้ ช่ยี วชาญ IOC สรุป ท่านที่ 1 ทา่ นที่ 2 ทา่ นที่ 3 4 +1 +1 +1 1.00 ใชไ้ ด้ 5 +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 6 +1 +1 +1 1.00 ใชไ้ ด้ ตอนท่ี4 4.1 การไดร้ บั ข้อมูลข่าวสารเก่ยี วกบั โรคฟนั ผุ 1 +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 2 +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 3 +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 4 +1 +1 +1 1.00 ใชไ้ ด้ 5 +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 6 +1 +1 +1 1.00 ใชไ้ ด้ 7 +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 8 +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 4.2 การสนบั สนุนทางสงั คมด้านการปอ้ งกนั โรคฟันผุ 1 0 +1 +1 0.67 ใชไ้ ด้ 2 +1 +1 0 0.67 ใชไ้ ด้ 3 +1 +1 +1 1.00 ใชไ้ ด้ 4 +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 5 +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 6 +1 +1 +1 1.00 ใชไ้ ด้ 7 +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 8 +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 9 +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 10 +1 +1 +1 1.00 ใชไ้ ด้ 11 +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 12 +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้
114 13 +1 +1 +1 1.00 ใชไ้ ด้ ขอ้ คาถาม ผเู้ ชย่ี วชาญ IOC สรุป ท่านที่ 1 ทา่ นท่ี 2 ท่านที่ 3 ตอนที่ 5 แบบสอบถามพฤตกิ รรมด้านการปอ้ งกันโรคฟันผุ 1 +1 +1 +1 1.00 ใชไ้ ด้ 2 +1 +1 +1 1.00 ใชไ้ ด้ 3 +1 +1 +1 1.00 ใชไ้ ด้ 4 +1 +1 +1 1.00 ใชไ้ ด้ 5 +1 +1 +1 1.00 ใชไ้ ด้ 6 +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 7 +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 8 +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 9 +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 10 +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 11 +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 12 +1 +1 +1 1.00 ใชไ้ ด้ 13 +1 +1 +1 1.00 ใชไ้ ด้ 14 +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 15 +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 16 +1 +1 +1 1.00 ใชไ้ ด้ 17 +1 +1 +1 1.00 ใชไ้ ด้ 20 +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้
ภาคผนวก ง หนงั สือรบั รองจรยิ ธรรมการวจิ ยั ในมนษุ ย์
ประวัติผู้ศกึ ษา ชื่อ นางสาวพิชชานนั ท์ แสนสขุ วัน เดือน ปีเกิด 15 พฤษภาคม 2541 สถานท่ีเกิด จงั หวัดระนอง ประวตั ิการศกึ ษา พ.ศ. 2552 จบชั้นประถมศึกษา จากโรงเรยี นชาตเิ ฉลมิ อาเภอเมือง จงั หวัดระนอง พ.ศ. 2555 จบช้ันมัธยมศึกษาตอนต้น จากโรงเรียนเบญจมเทพอุทิศ จังหวดั เพชรบุรี อาเภอเมือง จงั หวัดเพชรบุรี พ.ศ. 2558 จบชนั้ มัธยมศกึ ษาตอนปลาย จากโรงเรียนเบญจมเทพอุทิศ จังหวัดเพชรบรุ อี าเภอเมอื ง จงั หวดั เพชรบุรี
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130