บทที� 4โรคพยาธิและการป้องกนั กาํ จดั บทที่ 4 โรคพย�ธิและก�รปอ้ งกันก�ำ จัด 1.6 การติดเช�ือโรคจากคน โดยการจุ่มมือลงในภาชนะที�ใช้เล�ียงปลา มือท�ีสกปรกหรือไปจบั ส�ิงของท�ีมีเช�ือโรค ถา้ จุม่ ลงในภาชนะที�ใชเ้ ล�ียงปลาเช�ือโรคจะกระจายลงไปในน�าํ ทาํ ใหป้ ลาป่ วยได้ �. วธิ ีการสังเกตปลาป่ วย 2.� ลกั ษณะการเคล�ือนไหวของปลาที�เป็ นโรคจะผิดปกติ มีอาการเซ�ืองซึม อาจวา่ ยน�าํ เสียดสี หรือถูกบั กน้ บ่อ และมกั รวมกลุ่มกนั ที�ผวิ น�าํ โดยเฉพาะปลาที�ปรสิตเกาะ 2.� ปลาท�ีเป็นโรคขณะวา่ ยน�าํ จะไม่กางครีบออก ครีบอาจจะกร่อนแหวง่ หายไป 2.3 เหงือกบวมแดงเห็นชดั เจน เนื�องจากหายใจไม่สะดวก พยายามเปิ ดปิ ดเหงือกมากท�ีสุด เหงือกอาจบวมจนถึงกระดูกเหงือก 2.4 มีเลือดออกตามเกล็ดหรือบาดแผลตามตวั 2.5 เกลด็ พอง ลุกชนั ทอ้ งโต 2.6 ปลาเสียการทรงตวั เน�ืองจากถุงลมผดิ ปกติ วา่ ยน�าํ หมุนควงหรือวา่ ยน�าํ บงั คบั ทิศทางไมไ่ ด้ 2.7 ปลากินอาหารลดลงหรือไมก่ ินอาหาร 2.8 ปลาขบั เมือกออกมามากผดิ ปกติ น�าํ มีสีขาวข่นุ 2.9 ปลาที�เป็นโรคจะมีสีซีดกวา่ ปกติ 3. โรคทพี� บในปลาสวยงาม ปัจจยั ท�ีทาํ ให้ปลาเป็ นโรคเกิดข�ึนจากสาเหตุหลกั 3 ประการคือ สุขภาพของปลา ส�ิงแวดลอ้ ม และเช�ือโรค เมื�อใดท�ีปลาอ่อนแอ สภาพแวดลอ้ มเป็นพษิ มีเช�ือโรคมาก ปลาจะเป็นโรคไดง้ ่าย แต่ เมื�อใดก็ตามที� สภาพแวดลอ้ มดี ไม่มีเช�ือโรค ส่งผลให้ปลาแข็งแรง ทาํ ให้ปลาไม่เป็ นโรค ดงั น�นั ในการจดั การดา้ นอาหารและคุณภาพน�าํ ตอ้ งมีการควบคุมดูแลอยา่ งเหมาะสม โรคทพี� บในปลาสวยงามแบ่งออกเป็ น 5 กล่มุ ดงั นี� 3.1 โรคทเี� กดิ จากสภาพแวดล้อม 3.1.1 แอซิโดซิส ( Acidosis) เกิดจากน�ําเป็ นกรดมากเกินไป ปลาจะพยายามกระโดด ไปมาคลา้ ยจะหนีออกมาจากน�าํ มีอาการหายใจและว่ายน�ําผิดปกติ ถ้านานจะเห็นการอกั เสบมี เมือกมากของผวิ หนงั และเหงือกจนอาจมีอาการเลือดออก บางคร�ังสีปลาจะจดั ข�ึนดว้ ย 86 96
บทที� 4โรคพยาธิและการป้องกนั กาํ จดั บทที่ 4 โรคพยาธิและการป้องกนั ก�ำ จัด 3.1.2 อลั คาโลซิส (Alkalosis) เกิดจากน�ําเป็ นด่างมากเกินไป ปลาจะมีอาการเหงือกซีด และมีการกร่อนของผิว มีเมือกมาก ในระยะแรกจะเห็นผิวเป็ นสีขาวฟ้าขุ่น ครีบกร่อน ควรปรับ สภาพน�าํ ใหพ้ อเหมาะโดยอาจใชน้ �าํ ส้มสายชูช่วย 3.1.� พิษจากแอมโมเนีย แอมโมเนียเป็ นของเสียท�ีไดม้ าจากปลา เมื�อมีการสะสมมากข�ึน จะก่อให้เกิดความระคายเคืองอยา่ งรุนแรงต่อเยอ�ื เมือก ปลาจะมีอาการหายใจลาํ บาก จนในที�สุดจะ เกิดอาการชกั เกร็งและตายในที�สุด การเพิ�มความเป็ นกรดในน�าํ จะลดความเป็ นพิษของแอมโมเนีย ได้ การเปล�ียนถ่ายน�าํ ร้อยละ �� ของน�าํ ในตู้ และเพมิ� แบคทีเรียเขา้ ไปกช็ ่วยลดแอมโมเนียไดเ้ ช่นกนั 3.1.� พิษของไนไตรท์ มกั เกิดข�ึนในช่วงแรกที�เริ�มการทาํ งานของระบบกรองน�าํ ซ�ึงยงั มี แบคทีเรียไม่เพียงพอ เม�ือมีการสะสมมากข�ึน ปลาจะมีอาการหายใจลาํ บากและเหงือกสีดาํ คล�าํ จดั มาก อาจชกั ตายเพราะระบบหายใจอมั พาตได้ ควรใส่แบคทีเรียเขา้ ไปช่วยลดไนไตรทด์ ว้ ย 3.1.� อุณหภูมิน�าํ สูงเกินไป ปลาจะมีอาการวา่ ยน�าํ อยา่ งรวดเร็วและอาจจะหายใจแรงและ เร็วกว่าปกติ ถ้าไม่แก้ไขอาจจะเกิดอาการเส้นเลือดแตกที�ผิวหนังและครีบได้ การเติมเกลือแกง ร้อยละ 0.5-1.0 ลงในน�าํ จะทาํ ใหอ้ ตั ราการรอดตายสูงข�ึน 3.1.� อุณหภูมิน�าํ ต�าํ เกินไป ปลาที�ไดร้ ับผลกระทบจากน�าํ เยน็ จะมีสีซีด ครีบห่อ วา่ ยน�าํ ชา้ ๆอยูก่ บั ที� บางคร�ังจะหมุนว่ายอย่างรวดเร็วหรือวา่ ยส่ายไปส่ายมา ถา้ ไม่แกไ้ ขปลาอาจมีปัญหา ในการทรงตวั ได้ การเกิดโรคน�ีจะทาํ ให้ความสามารถในการรักษาความเขม้ ขน้ ของเลือดเสียไป และไตวายได้ 3.1.� พิษจากคลอรีน ปกติแลว้ คลอรีนจะเป็ นพิษมากต่อปลาสวยงาม เม�ือถูกสารน�ีปลา จะมีอาการสีซีดลงและหายใจติดขดั เน�ืองจากมีการระคายเคืองของเน�ือเย�ือท�ีเหงือก อตั ราการตาย จะข�ึนอยกู่ บั ระดบั ของคลอรีน ถา้ ไดร้ ับมากกวา่ �.� พีพเี อม็ กม็ กั ทาํ ใหเ้ กิดการตายภายในระยะเวลา อนั ส�ัน แต่ถา้ ไดร้ ับปริมาณนอ้ ยเป็ นเวลานาน จะมีอาการตาถลนดว้ ย อาจใชโ้ ซเดียมไทโอซัลเฟต เป็ นสารลดปริ มาณคลอรี นท�ีรวดเร็วได้ 3.1.8 พิษจากผงซักฟอก ผงซกั ฟอกเป็ นพิษอยา่ งมากต่อปลา โดยมากมกั จะเกิดจากการ ลา้ งบ่อหรือตูก้ ระจกที�ไม่เหมาะสม มีผงซกั ฟอกหลงเหลืออยู่ ทาํ ใหป้ ลาระคายเคืองเพราะไปทาํ ลาย เมือกซ�ึงช่วยปกคลุมป้องกนั ตวั ปลาอยู่ โดยเฉพาะบริเวณเหงือก นอกจากน�นั ยงั อาจถูกดูดซึมเขา้ ไป จบั ตวั กบั เมด็ เลือด ทาํ ใหป้ ลาตายได้ โดยผวิ อาจแสดงอาการสึกกร่อนไปในกรณีที�มีความเขม้ ขน้ มาก ยงั ไมม่ ีสารท�ีช่วยทาํ ลายพิษชนิดน�ีได้ 3.1.9 พิษจากแก๊สไข่เน่า (hydrogen sulfide) แก๊สพิษน�ีมกั เกิดข�ึนเมื�อมีการอุดตนั ของ ระบบกรอง มกั จะเห็นมีสาหร่ายข�ึนก่อนในระยะแรก แก๊สน�ีจะแย่งจบั ออกซิเจนกบั เม็ดเลือดและ ทาํ ลายระบบประสาทส่วนกลางโดยตรง ถา้ มีความเขม้ ขน้ เกิน �� พีพีเอม็ ก็สามารถทาํ ให้ตายได้ 87 97
บทท�ี 4โรคพยาธิและการป้องกนั กาํ จดั บทท่ี 4 โรคพยาธแิ ละการป้องกันกำ�จัด แต่ถา้ ไดร้ ับในปริมาณนอ้ ยอาจมีอาการเครียดและพยายามข�ึนมาหายใจที�ผวิ น�าํ โดยเหงือกมีสีม่วงเขม้ การแก้ไขควรจะปรับปรุงระบบกรองไม่ให้มีการสะสมของเสียมากเกินไป และอาจใช้โซเดียม- ไนไตรท์ เพื�อช่วยขบั ซลั ไฟต์ออกจากเน�ือเยื�อได้ โดยใชแ้ ช่ในปริมาณ �.� พีพีเอ็ม หรือใชโ้ พริ- ดอกซิน (pyridoxine) แช่ในความเขม้ ขน้ �� พพี เี อม็ 3.1.10 พิษของนิโคติน เน�ืองจากควนั บุหรี�สามารถละลายน�าํ ไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว ปลาที�อยู่ ในบริเวณท�ีมีควนั มากก็จะไดร้ ับผลกระทบดว้ ย นิโคตินในปริมาณ �� ส่วนในลา้ นส่วน สามารถ ฆ่าปลาหางนกยูงตายภายใน � นาที ดงั น�นั การเป่ าควนั ลงน�าํ จะฆ่าปลาไดภ้ ายใน � – � นาที อาการ ของปลาที�ไดร้ ับนิโคตินคือ มีการแข็งตวั ของครีบอกและมกั เกร็งแนบขา้ งลาํ ตวั ปลาสีซีด อาจว่าย ข�ึนบนแลว้ จมลงสู่กน้ บ่อ เมื�อครีบแข็งเกร็งข�ึน อาจมีการเกร็งท�งั ตวั ก่อนตายในกรณีพิษเฉียบพลนั ถา้ ไดร้ ับขนาดนอ้ ย ๆ สามารถทาํ ใหป้ ลาเป็นหมนั แทง้ ลูก และมีความผดิ ปกติของตวั ออ่ นได้ 3.1.11 พิษของยาฆ่าแมลง มกั เกิดข�ึนเพราะความไม่ระมดั ระวงั เช่น ฉีดยาฆ่าแมลงใน หอ้ งท�ีมีตูห้ รือบ่อปลาอยู่ อาการของปลาที�รับสารจะข�ึนกบั ชนิดของสารฆ่าแมลง แต่โดยทว�ั ไปมกั มี อาการชักและเสียหน้าที�ของระบบประสาท การรักษาน�ันถ้าเป็ นปลาตวั ใหญ่อาจฉีดหรือแช่ อโทรปิ น (atropine) ช่วยในกรณีท�ีเป็ นสารฆ่าแมลงกลุ่มออกาโนฟอสเฟต (organophosphate) หรือ คลอริเนตไฮโดรคาร์บอน (chlorinated hydrocarbon) 3.1.12 การขาดออกซิเจน ถา้ มีการให้ออกซิเจนไม่เพียงพอ ปลาจะมารวมกนั อยูท่ ี�ผิวน�าํ พยายามหายใจ การรักษาคือตอ้ งเพิ�มปริมาณออกซิเจนใหม้ ากข�ึน อาจใชว้ ธิ ีการลดอุณหภูมิและเพิ�ม การใหฟ้ องอากาศ ถา้ ทิง� ไวน้ านอาจทาํ ใหร้ ูปร่างของแผน่ ปิ ดเหงือกผิดรูปไปได้ 3.1.13 การเกิดเน�ืองอกในปลา เป็ นโรคติดต่อท�ีพบไดบ้ ่อยในปลาสวยงาม มกั เกิดจาก การไดร้ ับสารก่อมะเร็ง ซ�ึงสะสมอยูใ่ นน�าํ และพ�ืนท�ีอยู่ พนั ธุ์ปลาแต่ละชนิดมีโอกาสเป็ นไม่เท่ากนั แตก่ ็ยงั ไมท่ ราบสาเหตุแทจ้ ริงท�ีทาํ ใหเ้ กิดโรคเน�ืองอก 3.1.14 โรคฟองอากาศ (gas bubble disease) มกั เกิดกบั ลูกปลาที�เล�ียงในบ่อท�ีมีแสงแดดจดั และมีสาหร่ายในน�าํ ปริมาณมาก น�าํ มีสีเขียวจดั สาหร่ายจะทาํ ให้เกิดการสังเคราะห์แสงและเกิดแก๊ส ออกซิเจนมากเกินไป ในตอนเยน็ ออกซิเจนจะลดลงอย่างรวดเร็วทาํ ให้ปลาปรับตวั ไม่ทนั เห็นเป็ น ฟองอากาศในตวั ปลาโดยเฉพาะลูกปลา การป้องกนั ควรหาที�บงั แดด โดยใชต้ าข่ายบงั แสงให้มีแสง ผา่ นไดบ้ างส่วน 3.1.15 พษิ จากโลหะหนกั โลหะหนกั ทุกชนิดเป็นพษิ ต่อปลาในความเขม้ ขน้ ที�ต่างกนั ไป ดงั น�นั ควรระวงั ในการใชท้ ่อน�าํ โลหะ เพราะอาจมีการปนเป�ื อนของโลหะเขา้ ในบ่อได้ เช่น ทองแดง เพียง �.� พีพีเอ็ม ก็สามารถก่อให้เกิดพิษกบั ปลาได้ โดยเฉพาะเมื�อมีออกซิเจนในน�าํ ต�าํ ปลาจะมี อาการขาดอาหาร เกล็ดพอง และว่ายน�าํ ไร้ทิศทาง ส่วนสังกะสีจะเป็ นพิษมาก โดยเฉพาะในสภาพ 88 98
บทท�ี 4โรคพยาธิและการป้องกนั กาํ จดั บทท่ี 4 โรคพย�ธแิ ละก�รปอ้ งกันก�ำ จัด น�าํ อ่อน เพราะจะตกตะกอนในน�าํ กระดา้ ง และก่อให้เกิดอาการป่ วยเช่นเดียวกบั ทองแดง การรักษา พิษจากโลหะทาํ ไดโ้ ดยการนาํ ปลาออกจากน�าํ ที�ปนเป�ื อน แลว้ อาจใชส้ ารคีเลต (chelate) หรือสาร ตา้ นฤทธ�ิจาํ เพาะจะช่วยไดเ้ ล็กน้อย วิธีท�ีดีที�สุดคือ ยา้ ยปลาลงไปอยูใ่ นน�าํ สะอาด (นนั ทิกา ชนั ซ�ือ, 2543) โรคที�เกิดจากสภาพแวดล้อมน�ีจะเป็ นสาเหตุโน้มนําท�ีทําให้เช�ือโรคเข้าทําลาย ปลาสวยงามได้ 3.2 โรคทเี� กดิ จากแบคทเี รีย 3.2.� โรคทอ้ งบวม (dropsy) พบไดม้ ากในกลุ่มปลาทอง มกั จะเห็นอาการบวมของทอ้ ง เพราะมีของเหลวสะสามอยใู นช่องทอ้ ง (ดงั ภาพที��16) ทาํ ให้มีการบานออกของเกล็ด สาเหตุเกิด จากการติดเช�ือแบคทีเรียที�อวยั วะภายใน โดยเฉพาะที�ไต ทาํ ให้เกิดการสะสมของเหลว ซ�ึงเป็ นผล จากไตวาย มกั พบเช�ือในกลุ่ม Aeromonas sp. เช�ือเหล่าน�ีเป็นเช�ือปกติท�ีพบไดใ้ นตูป้ ลาทว�ั ไป แต่จะ ก่อโรคเมื�อปลาออ่ นแอลง การรักษา อาจใชย้ าปฏิชีวนะโดยผสมอาหารไดเ้ ช่นกนั แต่มกั ไม่ไดผ้ ลดีนกั วธิ ีที�ดี ท�ีสุด คือ รักษาสภาพในตูใ้ ห้เหมาะสมให้ปลาแข็งแรงมีภูมิตา้ นทานโรคสูง และควรแยกปลาป่ วย ออกเพอื� ไมใ่ หเ้ ป็นแหล่งเกบ็ เช�ือภายในตู้ ภาพที� 116 ปลาทอ้ งบวม ที�มา : https://www.google.com/ninekaow.com 3.2.2 วณั โรค (Mycobacteriosis) เกิดข�ึนได้ในปลาน�ําจืดและปลาน�ําเค็มทุกชนิด เช�ือที� ก่อให้เกิดโรคน�ีคือ Mycobacterium marinum, M. fortuitum และ M. piscium พบไดท้ ว�ั โลก อาการที� พบจะเป็ นลกั ษณะเร�ือรัง ปลาอ่อนแอ มีการหลุดลอกของเกล็ดและครีบ ตาโปน ผิวหนังอกั เสบ และมีแผลหลุมช่องทอ้ งอกั เสบ บวมน�าํ มกั พบตุ่มสีเทาขาวกระจายทว�ั ไปในตบั ไต หวั ใจ มา้ ม และ 89 99
บทท่ี 4 โรคพย�ธิและก�รป้องกันก�ำ จดั บทที� 4โรคพยาธิและการป้องกนั กาํ จดั กลา้ มเน�ือ ซ�ึงอาจทาํ ให้เกิดความผิดปกติของรูปร่างได้ ติดต่อไดโ้ ดยการกิน หรือติดต่อผา่ นน�าํ ท�ีมี เช�ืออยู่ โดยจะเกิดเป็นตุ่มหนองข�ึนประมาณ � – � สปั ดาห์หลงั จากรับเช�ือ ดงั ภาพที� 117 การรักษาวณั โรคทําได้ยาก เพราะเช�ือจะด�ือต่อยาปฏิชีวนะ ส่วนใหญ่ ต้องใช้ isoniazid หรือยาอื�น ๆ ที�ให้ผลบวกในการทดสอบความไวต่อเช�ือ อาจตอ้ งใช้หลายชนิดผสมกนั เช่น doxycycline ผสมกบั rifampin จึงตอ้ งระวงั การติดเช�ือโดยการป้องกนั คือ ควรกกั ปลาใหม่ก่อน นาํ มาใส่รวมกนั เมื�อพบว่าเป็ นโรคแลว้ ควรกาํ จดั และฆ่าเช�ืออุปกรณ์และบริเวณท�งั หมดให้ดี เพราะ โรคน�ีสามารถติดตอ่ ถึงคนได้ ภาพที� �17 ปลาป่ วยดว้ ยโรควณั โรค ท�ีมา : http://www.aqua-medical.com/article/article4.htm 3.2.3 โรคครีบและหางกร่อน โรคน�ีพบไดบ้ ่อยโดยเฉพาะเมื�อปลามีความเครียดและ ติดเช�ือแบคทีเรียที�มีอยูใ่ นน�าํ ในระยะแรกอาจพบแต่การกร่อนบางส่วน แต่ถา้ ทิ�งไวน้ าน ๆ หางอาจ หลุดได้ ในระยะแรกท�ีเป็ นอาจใชก้ ารรักษาโดยแช่ยาฆ่าเช�ือหรือยาปฏิชีวนะได้ แต่ถา้ อาการรุนแรง ควรใชย้ าผสมอาหารร่วมดว้ ย โดยคาํ นวณความเขม้ ขน้ ใหเ้ หมาะสมตามชนิดยา ใหว้ นั ละ � คร�ัง ถา้ มี อาการของเช�ือราเกิดข�ึนดว้ ย ควรใชย้ าเหลือง (acriflavin) แช่ดว้ ย 3.2.4 Norcardiosis เป็ นโรคที�เกิดจากเช�ือ Norcardia asteroids พบคร�ังแรกในปลาเตตร้า นีออน และต่อมาก็พบในปลาอ�ืน ๆ อีกหลายชนิด อาการท�ีพบจะมีแผลหลุมที�ลาํ ตวั และมีการขาด อาหาร ปลาสีซีด ตาโปน อาจมีเลือดออกทว�ั ไป และมีจุดสีขาวใหญ่สีครีมเกิดข�ึนท�ีเหงือก ไต ตบั หรือถุงลม กระเพาะ และท�ีอ�ืน ๆ ดูคลา้ ยวณั โรค แต่มกั พบอาการโลหิตจางดว้ ย การติดต่อจะติดต่อผ่านน�ําได้ โดยเช�ือจะมีชีวิตได้ดีในน�ําจืด ดิน และน�ําทะเล ท�ีสกปรก เช�ือจะมีชีวิตในน�ําทะเลสะอาดได้ไม่ก�ีวนั สัตวท์ �ีเคยติดเช�ือจะกลายเป็ นพาหะไป ตลอดชีวติ การรักษาทาํ ไดย้ าก แต่เคยมีรายงานการใชย้ าในกลุ่มซลั ฟาไดผ้ ล 90 100
บทท�ี 4โรคพยาธิและการป้องกนั กาํ จดั บทที่ 4 โรคพยาธิและการปอ้ งกนั ก�ำ จดั 3.2.5 โ ร ค ต ิด เชื �อ แ บ ค ท ีเรีย ที �ไ ต (Bacterial kidney disease) (BKD) ต ิด เชื �อ Renibacterium salmoninarum อาการของโรค ปลามีอาการเบ�ืออาหาร ช่วงทอ้ งมีลกั ษณะบวมโต การแพร่ระบาดของโรค สามารถแพร่จากปลาไปสู่ปลาได้โดยตรง สามารถแพร่เช�ือผ่านเซลล์ สืบพนั ธุ์ (ไข่หรือสเปิ ร์ม) การรักษาในปลาสวยงาม เลือกใชย้ าในกลุ่ม ต่อไปน�ี คลอแรมฟิ นิคอล ��� มิลลิกรัมต่อน�าํ 2� ลิตร การใส่ยารักษา ใส่ติดต่อกนั นาน ไม่ ต�าํ กวา่ �� วนั โดยเปลี�ยนยาใหมท่ ุกวนั พร้อมกบั ถ่ายน�าํ ออกร้อยละ 50 ซลั ฟิ โซนาโซล ��� มิลลิกรัมต่อน�าํ หนกั ปลา � กิโลกรัมต่อวนั ใหโ้ ดยการกิน หรือ ฉีดเขา้ ทางปากไปยงั กระเพาะอาหารโดยตรง อิริโทรมยั ซิน ��-��� มิลลิกรัมต่อน�าํ หนักปลา � กิโลกรัมต่อวนั ให้โดยการกิน หรือฉีดเขา้ ทางปากไปยงั กระเพาะอาหารโดยตรง โรคที�เกิดจากเช�ือแบคทีเรียยงั มีอีกหลายชนิด สิ�งที�สาํ คญั คือ จาํ เป็ นจะตอ้ งทดสอบวา่ เป็ นโรคที�เกิดจากแบคทีเรียจริง โดยการเพาะเช�ือในห้องปฏิบตั ิการแลว้ นาํ ไปตรวจหาวา่ มียาชนิด ใดบา้ งท�ีสามารถใชร้ ักษาได้ โดยใชย้ าในขนาดและวิธีที�เหมาะสม ควรให้ยาไม่ต�าํ กวา่ � วนั เพ�ือ ไมใ่ หเ้ กิดการด�ือยา 3.3 โรคทเี� กดิ จากเชื�อรา 3.3.1 เช�ือ Saprolegnia และ Achlya มกั พบบริเวณผิวนอกของปลาและที�เหงือกรวมท�ัง ไขป่ ลา เช�ือน�ีสามารถติดต่อผา่ นอากาศลงในอ่างปลาได้ เป็ นเช�ือท�ีมีอยทู่ วั� ไป จะเห็นไดช้ ดั เมื�อมีแผล เกิดข�ึนเช�ือราจะเขา้ ไปอยบู่ ริเวณขอบแผลเป็ นกลุ่มเส้นใยสีขาว โดยฝังรากลงไปใตช้ �นั ผิวหนงั แลว้ ขยายออกไปดูคล้ายก้อนสําลี ซ�ึงสร้างสปอร์ติดต่อไปยงั ปลาตวั อ�ืนได้ และอาจทาํ ให้ปลาตาย ดงั ภาพท�ี 118 การรักษา สามารถใชม้ าลาไคตก์ รีนแช่ �� นาที ท�ีความเขม้ ขน้ �� พีพีเอม็ โดยอาจ ทาํ ซ�าํ ถา้ เป็ นเช�ือราจะตายไปในไม่ก�ีชวั� โมง ควรทาํ ซ�าํ เพื�อฆ่าถึงรากของเช�ือท�ีอยใู่ ตผ้ ิวดว้ ย แต่ตอ้ ง ระวงั ไม่ให้เขม้ ขน้ เกินไปเพราะอาจทาํ ให้เป็ นพิษต่อปลาได้ นอกจากน�ียงั มีรายงานการใช้ยาอื�น ๆ ดว้ ย เช่น คอปเปอร์ซลั เฟต ด่างทบั ทิม และเกลือแกง พบวา่ การเพ�ิมอุณหภูมิของน�าํ เล็กนอ้ ยและเพ�ิม ออกซิเจนจะช่วยใหห้ ายเร็วข�ึน การป้องกนั ส่วนหน�ึงคือ ควรเก็บอาหารท�ีเหลือและปลาตายออกจาก ตูอ้ ยา่ งสม�าํ เสมอ เพ�ือไม่ใหเ้ ป็นแหล่งเพาะเช�ือราอยภู่ ายใน(ชะลอ ลิ�มสุวรรณ, 2528) 91 101
บทที� 4โรคพยาธิและการป้องกนั กาํ จดั บทที่ 4 โรคพย�ธิและก�รป้องกนั ก�ำ จดั ภาพท�ี 118 ปลาที�ป่ วยเป็นเช�ือรา ท�ีมา : http://www.epofclinic.com/wizContent.asp?wizConID=97&txtmMenu_ID=7 3.3.2 Chyophoniasis เช�ือราชนิดน�ีพบได้บ่อยและมักจะพบเช�ือท�ีตับและไต รวมท�ัง อวยั วะอื�น ๆ ดว้ ย การติดต่อมกั ผ่านทางอาหาร และเช�ือจะเขา้ ไปในกระแสเลือด จบั ตวั กนั เป็ นกลุ่ม (cyst) อาจมีเส้นผ่านศูนยก์ ลางใหญ่ถึง �.� มิลลิเมตร มีสีน�าํ ตาล แลว้ จะพฒั นาเป็ นตุ่มเล็ก ๆ ต่อไป เม�ือทิ�งไวจ้ ะแตกออกปล่อยสปอร์ออกมาแพร่กระจายไปยงั ส่วนอ�ืนต่อไป อาการที�เกิดข�ึนจะเกิดอยู่ กบั อวยั วะท�ีติดเช�ือและระยะของโรค ปลาจะมีอาการเช�ือชา้ อาจเห็นเป็ นตุ่มท�ีแตกออกมาภายนอก เกิดเป็ นแผล ซ�ึงถ้าอยู่ในระยะน�ีมกั จะสายเกินกว่าจะรักษาได้ ดงั น�ัน ทางท�ีดีควรจะทาํ ลายปลา เหล่าน�ีเสีย และอาจพยายามรักษาปลาที�เหลืออยดู่ ว้ ยการผสม Phenoxethol � เปอร์เซ็นตล์ งในอาหาร หรือเติมลงในน�าํ และควรใหย้ าปฏิชีวนะเพื�อป้องกนั การแทรกซอ้ นของเช�ือแบคทีเรียดว้ ย 3.4 โรคทเี� กดิ จากเชื�อไวรัส 3.4.1 โรคหูดปลาหรือโรคแสนปม เป็นโรคที�พบมากในปลาน�าํ กร่อย เกิดจากเช�ือไวรัสใน ครอบครัวอิริโดไวรัส (Iridovirus) โรคน�ีอาจพบไดบ้ า้ งในปลาน�าํ จืดบางชนิด ลักษณะอาการ ปลาจะมีตุ่มสีขาวครีม หรือ เทาดํา คล้ายหูดมีขนาดต่าง ๆ กัน มกั พบบริเวณหลงั และครีบหลงั ของปลา ตุ่มเหล่าน�ีมกั อยูร่ วมกนั เป็ นกระจุก เน�ืองจากการขยายตวั ของเซลล์ท�ีติดเช�ือไวรัสดังกล่าว (ดังภาพท�ี 119) ปลาท�ีพบว่าเป็ นโรคน�ีได้แก่ ปลาตะกรับ ปลากระดี�หมอ้ และปลาแป้นน�าํ จืด เป็นตน้ การป้องกนั และรักษา ในขณะน�ียงั ไม่มียาหรือสารเคมีที�ใช้รักษาปลาป่ วยที�ติดเช�ือ ไวรัสได้ แต่ปลาที�เป็ นโรคหูดปลาน�ีสามารถหายเป็ นปกติไดเ้ อง ในกรณีที�มีอาการป่ วยไม่มาก โดยการปรับปรุงสภาพแวดลอ้ มให้เหมาะสม เช่น เล�ียงปลาไม่แน่นจนเกินไป อาหารมีคุณภาพดี และมีการหมุนเวยี นถ่ายเทน�าํ ท�ีเหมาะสม 92 102
บบทททท่ี 4ี� 4โโรรคคพพยย�าธธแิ ิแลละกะก�ราปรปอ้ ง้อกงันกกนั �ำ กจาํดั จดั ภาพท�ี 119 โรคหูดปลา ที�มา : http://web.ku.ac.th/agri/fishdec/virus.html 3.4.2 โรค Koi Herpes virus (KHV) พบในปลาคาร์ฟ ปลาที�ป่ วยด้วยโรคน�ี พบเช�ือ หลายชนิดทาํ อนั ตราย เช่น ปรสิตและแบคทีเรีย ลกั ษณะอาการ ปลาจะมีเมือกมากตามผิวลาํ ตวั มีรอยตกเลือดกระจายตามลาํ ตวั และด้านท้อง อาจพบแผลต�ืนๆร่วมด้วย ปลาท�ีมีการติดเช�ือรุนแรงเหงือกบางส่วนจะมีลักษณะ กร่อนและซีดขาว ปลาจะว่ายน�ําอยู่ใกล้ผิวน�ําคล้ายอาการปลาขาดออกซิเจน เน�ืองจากเหงือก บางส่วนถูกทาํ ลาย การป้องกนั และรักษา ไม่มียาและสารเคมีในการรักษา ควรใช้วิธีการป้องกัน โดยการควบคุมคุณภาพน�าํ ที�ใชเ้ ล�ียงปลา และไม่เล�ียงปลาหนาแน่นจนเกินไป (ปภาศิริ ศรีโสภาภรณ์, 2538) 3.5 โรคทเ�ี กดิ จากปรสิต 3.5.� เห็บปลา (Argulus) มักจะเป็ นเห็บท�ีติดมากับอาหารสด เช่น ไรน�ํา หรือมากับ ปลาใหม่ท�ีเพิ�งเอาเขา้ มา เห็บปลาจะมีขนาดยาวไดป้ ระมาณ � มิลลิเมตร เกาะติดปลาโดยใชป้ ากขอ � อัน ซ�ึงใช้ดูดเลือดปลา ส่วนที�เป็ นหนามบริเวณหัวของเห็บจะสามารถสร้างพิษและจะนํา โรคตา่ ง ๆ ได้ เห็บจะทาํ ใหเ้ กิดการระคายเคืองกบั ปลามาก ดงั ภาพที� �20 การรักษา อาจใชป้ ากคีบคีบเห็บทีละตวั กไ็ ด้ แต่วธิ ีน�ีจะไมเ่ หมาะสมเม�ือใชก้ บั ปลาท�ีมี ขนาดเล็ก และมีจาํ นวนมาก ดงั น�นั อาจใชว้ ธิ ีจุม่ ด่างทบั ทิมความเขม้ ขน้ �� พพี ีเอม็ เป็นเวลา �� – �� นาที หรือแช่ตลอดดว้ ยความเขม้ ขน้ � พีพีเอม็ ก็ได้ นอกจากน�นั สารฆ่าแมลงบางชนิดก็เป็ นท�ีนิยม ใช้ ไดแ้ ก่ Diptrex เขม้ ขน้ �.� พพี เี อม็ หรือ lindane เขม้ ขน้ �.�� พีพีเอม็ เป็นตน้ 103 93
บทที� 4โรคพยาธิและการป้องกนั กาํ จดั บทที่ 4 โรคพย�ธแิ ละก�รปอ้ งกนั กำ�จัด ภาพท�ี 120 เห็บปลา ที�มา : http://www.koithai.com/koi_disease.html และ http://www.rachaplathong.com/ 3.5.� หนอนสมอ (Anchor worm) มีช�ือทางวิทยาศาสตร์ว่า Lernaea cyprinicea พยาธิ ตวั น�ี จะฝังส่วนท�ีเป็ นขอคล้ายสมอลงไปใตผ้ ิว หนอนสมออาจยาวถึง � มิลลิเมตร และสามารถ ออกลูก ซ�ึงจะวา่ ยอยูใ่ นน�าํ ก่อนที�จะไปเกาะกบั ปลาได้ (ดงั ภาพท�ี 121) หนอนสมอจะเจาะเขา้ ไปใน กลา้ มเน�ือและพฒั นาข�ึนเป็ นเวลาหลายเดือนก่อนท�ีจะโผล่ออกมา หลงั จากปล่อยไข่แลว้ หนอนจะ ตายลง รูท�ีเหลืออยจู่ ะเป็นแผลน่าเกลียดและติดเช�ือไดง้ ่าย การรักษาใชว้ ธิ ีเดียวกบั การรักษาโรคเห็บ ภาพที� 121 หนอนสมอ ท�ีมา : http://www.rachaplathong.com/engln/ index.php? option=com_content&task= view&id =59&Itemid=51 และhttp://www.koithai.com/koi_disease.html 3.5.� ปลิงใส (Flukes) ปลิงใสมีขนาดเล็กมาก มองดว้ ยตาเปล่าไม่เห็น และสามารถติดต่อ ไดง้ ่าย ปลิงใสที�พบทวั� ไปไดแ้ ก่ Gyrodactylus, Dactylogyrus. Neodactylogyrus และ Monocoelium ส่วนมากปลิงจะติดอยูบ่ ริเวณเหงือกและผิวหนงั เม�ือส่องกลอ้ งดูจะเห็นจุดสีดาํ คลา้ ยตาบริเวณหัว (ดงั ภาพที� 122 ) ปลิงเหล่าน�ีสามารถทาํ ลายเซลลเ์ หงือกไดอ้ ยา่ งมากจนทาํ ใหป้ ลาตายได้ 94 104
บทที� 4โรคพยาธิและการป้องกนั กาํ จดั บทท่ี 4 โรคพย�ธแิ ละก�รปอ้ งกันกำ�จัด อาการท�ีพบคือ ปลาจะซีด มีครี บและหางตก การหายใจเร็ว และมีอาการ ระคายเคือง รวมท�งั อาจมีอาการขาดอาหารดว้ ย การรักษา อาจทาํ ไดโ้ ดยแช่ด่างทบั ทิมหรือฟอร์มาลิน � มิลลิลิตรต่อน�าํ �� ลิตร เป็ น เวลา �� นาทีก็น่าจะไดผ้ ลดี นอกจากน�ีการแช่เกลือร้อยละ 0.5 – 1.0 ช่วยใหป้ ลิงหลุดได้ วิธีป้องกนั การติดโรคปลิงใสคือ ตอ้ งระวงั ตรวจตราปลาใหม่ท�ีเข้ามาเสมอ เพ�ือ ไมใ่ หน้ าํ โรคเขา้ มา รวมท�งั ป้องกนั ไม่ใหม้ ีหอยทากซ�ึงเป็นพาหะของโรคดว้ ย ภาพที� 122 ปลิงใส ที�มา : http://www.koithai.com/koi_disease.html 3.5.4 พยาธิเส้นด้าย (Nematodes; threadworm) มกั พบในลําไส้และอาจห้อยลงมาจาก ทวารหนัก ความยาวของพยาธิอาจยาวถึง � เซนติเมตร ซ�ึงพบไม่บ่อยนัก พยาธิเหล่าน�ีจะทาํ ให้ ปลาผอม ขาดอาหารอยา่ งรุนแรง ถา้ เป็ นไปไดค้ วรทาํ ลายเสีย แต่ถา้ จะรักษาควรใชย้ าถ่ายพยาธิ เช่น ปิ ปาราซินผสมอาหารหรือแช่ไวใ้ นตู้ หรือใช้ Thiabendazole ผสมอาหารก็ได้ นอกจากน�ีควรตรวจดู ใหด้ ีวา่ ปลาอ�ืน ๆ เป็นตวั เกบ็ เช�ือหรือไม่ เพ�ือไม่ใหต้ ิดเช�ือซ�าํ เม�ือรักษาหายแลว้ 3.5.� พยาธิตวั แบน (Tapeworm) พบไม่มากในปลา แตเ่ คยมีรายงานวา่ พบในลาํ ไส้ ปลาท�ีมีพยาธิ ซ�ึงจะยาวประมาณ � มิลลิเมตร พยาธิชนิดน�ีก็จะทาํ ให้ปลาเกิดอาการขาดอาหาร เช่นเดียวกับพยาธิเส้นด้ายและมีโลหิตจางร่วมด้วย โรคน�ีอาจใช้ยาถ่ายพยาธิทั�วไปช่วยได้ (ประไพสิริ สิริกาญจน, 2524) 4. การป้องกนั และกาํ จัดโรค เมื�อปลาสวยงามเป็ นโรคแลว้ ส่วนใหญ่การรักษาจะไม่ค่อยไดผ้ ล โดยเฉพาะโรคท�ีเกิดข�ึนจาก เช�ือไวรัสไม่มียาหรือสารเคมีชนิดใดท�ีจะมารักษาได้ ดงั น�นั การป้องกนั จึงเป็นวธิ ีท�ีดีกวา่ การรักษา 4.1 วธิ ีการป้องกนั โรคปลาสวยงาม 95 105
บทท่ี 4 โรคพยาธิและการป้องกนั ก�ำ จดั บทที� 4โรคพยาธิและการป้องกนั กาํ จดั 4.1.1 น�าํ ท�ีใชใ้ นระบบการเล�ียงปลาสวยงาม จะตอ้ งปลอดจากการปนเป�ื อนของเช�ือโรค 4.1.2 ทาํ การกกั กนั โรค โดยการฆา่ เช�ือก่อนนาํ ปลาสวยงามรุ่นใหมเ่ ขา้ ฟาร์ม 4.1.3 คดั เลือกลูกพนั ธุ์ปลาท�ีไดจ้ ากพ่อแมพ่ นั ธุ์ที�ปลอดเช�ือ รวมถึงการเป็นพาหะของโรค 4.1.4 ปล่อยปลาลงเล�ียงในอตั ราความหนาแน่นที�เหมาะสม 4.1.5 ใช้อาหารเล�ียงปลาท�ีคุณภาพและปราศจากการปนเป�ื อนของเช�ือโรค ให้อาหารใน ระดบั ท�ีเหมาะสมและเพยี งพอกบั ความตอ้ งการของปลา 4.1.6 ควบคุมคุณสมบตั ิของน�ําให้เหมาะสมตลอดการเล�ียง เช่น มีปริมาณออกซิเจนที� เหมาะสม อุณหภูมิในแต่ละช่วงวนั ไม่เปลี�ยนแปลงมาก 4.1.7 ทาํ ลายสัตวน์ �าํ ที�เป็ นโรค โดยการฝังหรือฆ่าเช�ือและเวน้ ระยะการใชบ้ ่อเพาะเล�ียงปลา ก่อนนาํ ปลารุ่นใหมม่ าเล�ียง 4.1.8 หมนั� ตรวจสุขภาพปลาสม�าํ เสมอ และเม�ือพบว่าปลามีอาการปกติ ควรรีบหาสาเหตุ เพอื� การรักษาท�ีถูกตอ้ งอยา่ งมีประสิทธิภาพ (กฤษณา แกว้ ชอุม่ , 2545) 4.2 สาเหตุสําคญั ทม�ี ผี ลทาํ ให้การป้องกนั และรักษาโรคปลาสวยงามไม่ได้ผล 4.2.1 ตน้ เหตุสําคญั ที�สุดคือ ผูป้ ฏิบตั ิงานในการดูแลสัตวน์ �าํ ซ�ึงจะเป็ นผูก้ ระจายเช�ือโรค และปรสิตต่าง ๆ ภายในฟาร์ม จากการใช้เคร�ืองมือ เช่น สวิง กระชอน สายยาง ร่วมกันระหว่าง ปลาปกติกบั ปลาป่ วย โดยไมผ่ า่ นการฆ่าเช�ือก่อนท�ีจะนาํ ไปใช้ 4.2.2 พ่อแม่พนั ธุ์ปลาที�มาจากแหล่งท�ีมีการปนเป�ื อนเช�ือโรคและปรสิตต่าง ๆ จะส่งผลให้ ลูกพนั ธุ์มีโอกาสไดร้ ับการติดโรคไปดว้ ย โดยเฉพาะปลาที�ออกลูกเป็นตวั และดูแลตวั อ่อน 4.2.3 อาหารมีชีวิตที�มีการปนเป�ื อนเช�ือโรคและปรสิตระยะต่าง ๆ โดยเฉพาะอาหารมีชีวติ ท�ี รวบรวมมาจากแหล่งน�าํ สาธารณะและแหล่งน�าํ ทิ�ง แลว้ นาํ มาลา้ งทาํ ความสะอาดหรือผ่านการฆ่าเช�ือ โดยไมถ่ ูกวธิ ี 4.2.4 การทาํ ความสะอาดและฆ่าเช�ือโรคภายในบ่อหรือตูท้ ี�ใชเ้ ล�ียงปลาไม่ดีพอ 4.2.5 การใช้สารเคมีและยาที�เสื�อมคุณภาพหรือหมดอายุ หรือมีการเปลี�ยนแปลงลกั ษณะ ทางกายภาพ เช่น การเปลี�ยนสี การเกิดความช�ืน การเกิดตะกอน หรือมีความขุ่น ซ�ึงจะส่งผลให้ การกาํ จดั เช�ือโรคและปรสิตไมไ่ ดผ้ ล 4.2.6 ปริมาณความเข้มขน้ และระยะเวลาในการใช้สารเคมีและยา จะต้องมีการคาํ นวณท�ี ถูกต้อง เพราะถ้าใช้น้อยกว่าปริมาณท�ีกําหนด จะส่งผลให้ประสิทธิภาพในการกาํ จดั เช�ือโรคและ ปรสิตต�าํ หรือถา้ ใช้มากกวา่ ปริมาณที�กาํ หนด จะก่อให้เกิดความเป็ นพิษต่อปลาโดยตรงและอาจทาํ ให้ ปลาตายได้ 96 106
บทที� 4โรคพยาธิและการป้องกนั กาํ จดั บทท่ี 4 โรคพยาธแิ ละการป้องกันกำ�จดั 4.2.7 การด�ือยาของเช�ือโรค เนื�องจากการใช้ยาปฏิชีวนะในการป้องกนั โรคติดต่อกนั เป็ น ระยะเวลานาน ๆ 4.2.8 กรณีท�ีมีปลาตายภายในบ่อ แลว้ ไม่กาํ จดั ปลาตายออกให้หมด ทาํ ให้เป็ นแหล่งสะสม ของเช�ือโรคอื�น ๆ และก่อใหเ้ กิดปัญหาน�าํ เสียตามมา 4.2.9 ระบบการพักน�ําและการใช้น�ําภายในฟาร์ม น�ําท�ีใช้ไม่สะอาดและมีคุณภาพท�ี ไมเ่ หมาะสม ดงั น�นั ควรมีบ่อพกั น�าํ ระบบกรองน�าํ และระบบบาํ บดั น�าํ ทิ�ง 97 107
บทท�ี 4โรคพยาธิและการป้องกนั กาํ จดั บทท่ี 4 โรคพยาธิและการปอ้ งกนั ก�ำ จัด บรรณานุกรม กฤษณา แกว้ ชอุม่ และภีระไกรแสงศรี. 2545. เทคนิคการเพาะเล�ียงปลาสวยงาม. สาํ นกั พมิ พร์ มยช์ ลี กรุงเทพฯ. กมลชยั ตรงวานิช. 2530. ยาตา้ นจุลชีพในสตั ว.์ ช่อนนทรี. กรุงเทพฯ. ชะลอ ลิ�มสุวรรณ. 2528. โรคปลา. คณะประมง มหาวทิ ยาลยเกษตรศาสตร์. กรุงเทพฯ. นนั ทิกา ชนั ซ�ือ. 2543. โรคของปลาสวยงาม. ในศุภชยั นิลวานิช(ผรู้ วบรวม) ครบเครื�อง เร�ืองธุรกิจปลาสวยงาม. มติชน. กรุงเทพฯ. ปภาศิริ ศรีโสภาภรณ์. 2538. โรคและพยาธิของสตั วน์ �าํ . ร�ัวเขียว. กรุงเทพฯ. ประไพสิริ สิริกาญจน. 2524. ความรู้เร�ืองพาราไซคข์ องสัตวน์ �าํ . คณะประมง มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์. มาลินี ลิ�มโภคา. 2541. การใชย้ าตา้ นจุลชีพในสตั ว์ “ สตั วบ์ กและสตั วน์ �าํ ”. คณะสัตวแพทยศ์ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์. สมเกียรต�ิ กาญจนาคาร. 2545. โรคระบาดคอยเฮอร์ปี สไวรัสในปลาคาร์ป. วารสารข่าวโรคสัตวน์ �าํ . 12(2): 3-5 _____.มปป. โรคที�เกิดจากแบคทีเรียและการรักษา . (ออนไลน์) http://www.time4fish.net /FDB.html [15 กุมภาพนั ธ์ 2550] _____.มปป. โรคที�เกิดจากเช�ือไวรัส. (ออนไลน์) http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%84% E0%B8%B8%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8% 9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89:Maiya [15 กมุ ภาพนั ธ์ 2550] _____.มปป.โรคครีบหางกร่อน.(ออนไลน)์ www.bettanetwork.com/new/thread-...1-7.html [15 กมุ ภาพนั ธ์ 2550] _____.มปป.ปลาทอ้ งบวม.(ออนไลน์) http://www.aqua-medical.com/article/article4.htm [15 กมุ ภาพนั ธ์ 2550] _____.มปป.โรควณั โรค.(ออนไลน์) http://www.aqua-medical.com/article/article4.htm [15 กมุ ภาพนั ธ์ 2550] _____.มปป. โรคเช�ือรา.(ออนไลน)์ http://www.epofclinic.com/wizContent.asp? wizConID =97&txtmMenu_ID=7 [15 กมุ ภาพนั ธ์ 2550] _____.มปป.โรคหูดปลา.(ออนไลน)์ http://web.ku.ac.th/agri/fishdec/virus.html [15 กมุ ภาพนั ธ์ 2550] 98 108
บทท�ี 4โรคพยาธิและการป้องกนั กาํ จดั บทท่ี 4 โรคพยาธแิ ละการปอ้ งกันก�ำ จดั _____.มปป.เห็บปลา.(ออนไลน)์ http://www.koithai.com/koi_disease.htmlและ http://www.rachaplathong. com/ engln/index.php?option=com_content&task= view&id=59&Itemid=51 [15 กุมภาพนั ธ์ 2550] _____.มปป.หนอนสมอ.(ออนไลน์) http://www.rachaplathong.com/engln/ index.php? option= com_content&task= view&id =59&Itemid=51 และhttp://www.koithai. com/koi_disease.html [15 กุมภาพนั ธ์ 2550] 99 109
บทที่ การจดั ตปู้ ลาสวยงาม 5และการรักษา
บทที� 5 การจดั ตูป้ ลาสวยงามและการดูแลรักษา บทที่ 5 ก�รจัดตปู้ ล�สวยง�มและก�รดแู ลรักษ� ==================ก==�=ร==จ=ัด==ต==ปู้ ก=าล=ร=�จ=สดั==ตว=ู้ปย==ลง=า=�ส=มว=ย=แ=งล=า=มะ=กแ=ล�=ะ=รก=ด=า=รูแ=ดล=บูแ=รทลบ==รกัทท=ักทษ=ี่ ษ=�ี5�5า การจดั ตูป้ ลาท�ีสวยงามเป็ นการจดั ประดบั ตกแต่งอาคาร บา้ นเรือน หา้ งสรรพสินคา้ เพื�อเพิ�ม ความงดงามให้กบั สถานท�ี การจดั ตูป้ ลาเป็ นท�งั ศาสตร์และศิลปะเน�ืองจากผูจ้ ดั ตอ้ งมีความรู้ใน เรื�องอุปกรณ์ท�ีใช้ ความสมดุลของสิ�งแวดล้อม การจดั ตู้ปลาไม่มีรูปแบบท�ีแน่นอน แต่เน้นท�ี ความกลมกลืนสวยงามเป็ นธรรมชาติ ซ�ึงในการจดั ตูป้ ลาแต่ละคร�ังจะตอ้ งมีการเตรียมอุปกรณ์ให้ พร้อมและปัจจยั อื�นๆ ดงั ตอ่ ไปน�ี 1. อุปกรณ์ในการจัดตู้ปลา 1.1 ตู้ปลา ตูป้ ลาท�ีนิยมใช้โดยทว�ั ไปมี 2 แบบคือ แบบทรงกลมและแบบเหลี�ยม โดยตูป้ ลาแบบ เหลี�ยมแบ่งเป็ น 2 ลกั ษณะคือตูป้ ลาแบบมีกรอบ เป็ นตูป้ ลาแบบรุ่นเก่าทาํ ดว้ ยกรอบอลูมิเนียมใช้ ชนั อุดตามรอยร�ัวกนั รั�วซึม และตูป้ ลาแบบไม่มีกรอบ นาํ กระจกมาต่อกนั โดยใชก้ าวซิลิโคนเป็ น ตวั ประสานเขา้ ดว้ ยกนั ดงั ภาพที� 123 ภาพท�ี 123 ตูป้ ลารูปทรงต่างๆ 1.2 ฝาปิ ดตู้ปลา ทาํ ดว้ ยพลาสติก ช่วยป้องกนั การระเหยของน�าํ และป้องกนั ฝ่ นุ ละอองจากภายนอก 1.3 เคร�ืองป�ัมอากาศ การใช้เครื�องควรติดต�งั ให้สูงกว่าตวั ปลา เพ�ือให้สะดวกในการดนั อากาศ การติดต�งั เคร�ืองป�ัมอากาศ ควรให้ห่างจากฝ่ ุนละออง เพราะฝ่ ุนละอองอาจทาํ ให้เสียหายไดอ้ ุปกรณ์ที�ติดมา กบั เคร�ืองป�ัมอากาศ ไดแ้ ก่ 1.3.1 สายออกซิเจน จะตอ้ งไมม่ ีรอยร�ัว 113 100
บทท่ี 5 ก�รจัดตู้ปล�สวยง�มและก�รดแู ลรักษ� บทที� 5 การจดั ตูป้ ลาสวยงามและการดูแลรักษา 1.3.2 หวั ทราย มีลกั ษณะเป็ นทรงกลม มีรูพรุน ทาํ หน้าท�ีใหอ้ ากาศเป็ นฟองฝอยเล็กๆ เพ�ือใหอ้ อกซิเจนสามารถละลายน�าํ ไดด้ ี 1.3.3 ขอ้ ต่อ เป็นตวั แยกอากาศจากเครื�องป�ัมไปในทิศทางที�ตอ้ งการ 1.3.4 วาวลค์ วบคุม ทาํ หนา้ ที�ควบคุมปริมาณอากาศที�ออกมาจากเครื�องป�ัม ให้ออกมา ตามความเหมาะสม ดงั ภาพท�ี 124 ภาพที� 124 เคร�ืองปั�มอากาศแบบต่างๆ 1.4 ระบบการกรองนํา� มี 2 แบบ คือ 1.4.1 ระบบการกรองภายในตูป้ ลา 1.4.1.1 แบบกรองน�าํ ใตท้ ราย ประกอบดว้ ย 1) แผน่ กรอง ตอ้ งเหมาะกบั ลกั ษณะของตูป้ ลา มีรูพรุนเล็กๆ สูงจากพ�ืนตู้ ประมาณ 2-3 ซ.ม. 2) ท่อส่งน�าํ ทาํ งานร่วมกบั แผน่ กรอง สามารถปรับทิศทางของน�าํ ท�ีพ่น ออกมาใหไ้ ดต้ ามตอ้ งการได้ 3) สายอากาศ เป็นสายทางเดินอากาศที�ต่อมาจากท่อปั�ม ดงั ภาพที� 125 ระบบการทาํ งาน เครื�องปั�มอากาศจะอดั อากาศส่งไปตามสายอากาศที� เชื�อมระหวา่ งเคร�ืองปั�มอากาศกบั หัวครอบแผน่ กรองใตท้ ราย เม�ืออากาศถูกดนั ออกมาตามท่อส่ง น�าํ ที�ถูกพ่นออกมาจะไหลเวียนเขา้ ไปอยูใ่ ตแ้ ผน่ กรอง ขณะเดียวกนั น�าํ ที�อยู่เหนือแผ่นกรองและ พวกส�ิงสกปรกก็จะถูกดูดลงไปแทนท�ี ทาํ ใหน้ �าํ ใสสะอาดอยเู่ สมอ ภาพท�ี 125 ระบบกรองใตท้ ราย 101 ที�มา : http://home.kku.ac.th/pracha/Equiptment.htm 114
บบทททท่ี ี�55 กก�ารรจจัดดั ตตู้ปูป้ ลล�าสสววยยงง�ามมแแลละกะ�กราดรูแดลูแรลกั รษัก�ษา 1.4.1.2 ระบบการกรองแบบกล่องในตู้ ไม่เป็ นที�นิยมมากนกั การทาํ งานคลา้ ย ระบบการกรองน�าํ ใตท้ ราย ตา่ งกนั เพียงระบบการกรองจะมีกล่องแยกตา่ งหาก ภายในกล่องกรอง จะใส่ใยแกว้ และถ่านคาร์บอน ขอ้ ดีกค็ ือ สามารถถอดลา้ งทาํ ความสะอาดไดด้ ว้ ย ดงั ภาพที� 126 ภาพที� 126 ระบบกรองแบบกล่องในตู้ ที�มา : http://home.kku.ac.th/pracha/Equiptment.htm 1.4.2 ระบบการกรองภายนอกตูป้ ลา ประสิทธิภาพในการกรองจะเหนือกวา่ ระบบการ กรองที�กล่าวมาแลว้ สามารถกรองเศษอาหารปลา มูลปลา กลิ�น สี ออกนอกตูป้ ลาไดด้ ี อุปกรณ์ที� ทาํ หนา้ ท�ีกรอง คือ ถ่านคาร์บอน และใยแกว้ 1.5 พนั ธ์ุไม้นํา� การจดั วางพนั ธุ์ไมน้ �าํ ในตูป้ ลา จาํ เป็ นตอ้ งศึกษาถึงลกั ษณะการเจริญเติบโตตลอดจนการ ดูแลรักษา เพื�อให้เกิดความสวยงามและมีความเหมาะสมในการจดั ตูป้ ลา ซ�ึงสามารถแบ่งประเภท ของพนั ธุ์ไมน้ �าํ ได้ ดงั น�ี 1.5.1 พนั ธุ์ไม้น�ําหน้าตู้ ควรเป็ นชนิดที�มีขนาดเล็ก มีลักษณะแผ่ออกทางด้านข้าง มากกว่าความสูง มีการเจริญเติบโตค่อนข้างช้าเม�ือเจริญเติบโตเต็มที� ควรมีความสูงของต้น ประมาณ 5-15 เซนติเมตร ได้แก่ อเมซอนแคระ เกล็ดปลาเล็ก หญ้าหัวไมข้ ีด อนูเบียส ฯลฯ พนั ธุ์ไมน้ �าํ ที�ปลูกบริเวณด้านหน้าเป็ นส่วนสําคญั ของการจดั ตูเ้ น�ืองจากเป็ นการเน้นให้ตูม้ องดูมี ความลึก โดยเฉพาะอยา่ งยงิ� ตูท้ ี�มีขนาดเลก็ 1.5.2 พนั ธุ์ไมน้ �าํ กลางตู้ เป็ นพนั ธุ์ไมน้ �าํ ที�เจริญเติบโตเร็ว มีความสูงของตน้ ประมาณ 20-50 เซนติเมตร นิยมใช้เป็ นฉากหลงั ของตูป้ ลาขนาดกลาง ไดแ้ ก่ แอมมาเนีย เทปเล็ก ผกั เป็ ด แดง ดาวกระจาย หางนกยงู ขาไก่ รากดาํ ใบยาวท�ีผกู ติดกบั ขอนไม้ ฯลฯ 1.5.3 พนั ธุ์ไมน้ �าํ หลงั ตู้ เป็นพนั ธุ์ไมน้ �าํ ท�ีเจริญเติบโตเร็ว มีความสูงของตน้ ประมาณ 40-60 เซนติเมตร ไดแ้ ก่ สาหร่ายฉตั ร สาหร่ายหางกระรอก สาหร่ายคาบอมบา เทปยกั ษ์ เทป เกลียว น�าํ ตาเทียน ใตใ้ บแดง ฯลฯ 115 102
บทที่ 5 ก�รจดั ตู้ปล�สวยง�มและก�รดแู ลรกั ษ� บทที� 5 การจดั ตูป้ ลาสวยงามและการดูแลรักษา 1.6 กรวด เป็ นวสั ดุที�ตกแต่งให้ตูป้ ลาดูเป็ นธรรมชาติ กรวดที�ดีควรมีขนาด 3 มิลลิเมตร ไม่ควร ละเอียดและหยาบเกินไป 1.7 นํา� ควรใชน้ �าํ กรองหรือน�าํ ประปาท�ีผา่ นการพกั ไวเ้ พื�อใหค้ ลอรีนระเหยออกไป 1.8 ตอไม้ ตอ้ งเลือกตอไมช้ นิดแข็งเพราะ ถา้ ใช้ตอไมช้ นิดอ่อนจะทาํ ให้ตอไมเ้ ป�ื อยยยุ่ และเน่าได้ ซ�ึงตอไมม้ ีประโยชน์ช่วยให้ทศั นียภาพสวยงามดูคล้ายธรรมชาติ ก่อนที�จะนําตอไมม้ าประดบั ตูป้ ลาควรตม้ น�าํ ยางที�ตกคา้ งอยใู่ นเน�ือไมใ้ หอ้ อกเสียก่อน 1.9 เปลือกหอย สามารถตกแต่งทศั นียภาพในตูป้ ลาใหด้ ูเป็ นธรรมชาติ ก่อนที�จะนาํ มาประดบั ตูป้ ลาน�นั ใหน้ าํ มาแช่น�าํ เพือ� ใหค้ วามเคม็ หายไปเสียก่อน 1.10 วสั ดุตกแต่งอื�นๆ จะประกอบดว้ ยพนั ธุ์ไมน้ านาชนิด หุ่นพลาสติก อยา่ ใชห้ ุ่นพลาสติกที�สีสามารถตก หรือลอก เพราะอาจทาํ อนั ตรายแก่ปลาได้ 2. หลกั ในการจัดตู้ปลา การจดั ตูป้ ลาสามารถจดั ไดห้ ลายรูปแบบดงั น�ี 2.1 ความกลมกลืน หมายถึง การจดั วสั ดุอุปกรณ์ให้เกิดความกลมกลืน เช่น ของที�เหมือนกนั หรือคลา้ ยคลึง กนั ท�งั ทางดา้ นขนาด รูปร่าง สีสัน ผวิ พรรณและทิศทาง ซ�ึงมี 2 ลกั ษณะ คือ 2.1.1 ความกลมกลืนทางพฤกษศาสตร์ คือ ความกลมกลืนของพนั ธุ์ไมท้ ี�นาํ มาจดั ให้อยู่ ในกลุ่มเดียวกนั ดงั ภาพที� 127 2.1.2 ความกลมกลืนทางวตั ถุ เช่น หิน กรวด ท�ีใชป้ ระดบั ตกแตง่ ตูป้ ลาควรเลือกลกั ษณะ ผวิ และสีสันท�ีคลา้ ยคลึงกนั เม�ือนาํ มาจดั ให้อยูใ่ นกลุ่มเดียวกนั แลว้ ยอ่ มจะมีความกลมกลืนซ�ึงกนั และกนั 116 103
บทบทท�ี 5ที่ก5ารกจ�ดั รตจูปดั้ ตล้ปูาสล�วสยวงยามง�แมลแะลกะากร�ดรูแดลูแลรักรักษษา� ภาพท�ี �27 การจดั ตูป้ ลาที�มีความกลมกลืนแบบพฤกษศาสตร์ ท�ีมา : www.tomyfarm.com/library/archives/107 2.2 จุดเด่น ไม่ว่าจะเป็ นหิน พนั ธุ์ไมน้ �าํ เปลือกหอย กรวด หรือวสั ดุตกแต่งต่าง ๆ ควรคาํ นวณการ จดั ตาํ แหน่งใหเ้ หมาะสม เพอื� ใหเ้ กิดจุดเด่นเป็นจุดสนใจสาํ หรับผพู้ บเห็น ดงั ภาพท�ี 128 ภาพที� 128 การจดั ตูป้ ลาแบบจุดเด่น ที�มา : www.tomyfarm.com/library/archives/107 117 104
บทที่ 5 ก�รจดั ตปู้ ล�สวยง�มและก�รดแู ลรกั ษ� บทท�ี 5 การจดั ตูป้ ลาสวยงามและการดูแลรักษา 2.3 จุดเน้น คือ การเนน้ จุดใดจุดหน�ึง ภายในตูป้ ลาเป็ นกรณีพิเศษ เช่น การจดั ตูป้ ลาโดยการรองพ�ืน ดว้ ยกรวดก็จะดูเป็ นธรรมดา แตอ่ าจนาํ ส�ิงประดิษฐไ์ ปวางเพ�ือแสดงความสาํ คญั ของจุดน�นั ดงั ภาพ ท�ี 129 ภาพท�ี 129 การจดั ตูป้ ลาแบบจุดเนน้ ท�ีมา : www.tomyfarm.com/library/archives/107 2.4 ความสมดุล มีความสําคญั ในการจดั ตูป้ ลามาก เพราะการจดั ตูป้ ลาแต่ละคร�ัง การวางหิน การปลูก พนั ธุ์ไมน้ �าํ หรือการวางส�ิงประดิษฐ์ต่าง ๆ ควรวางให้เกิดความสมดุล เช่น การจดั พนั ธุ์ไมน้ �าํ เป็ น ฉากดา้ นหลงั ตู้ ก็ไม่ควรเน้นหนักดา้ นใดดา้ นเดียว ควรหาหิน หรือส�ิงประดิษฐ์มาจดั ไวห้ น้าตู้ เพอื� ใหเ้ กิดความสมดุลจึงจะเหมาะสม ภาพที� 130 การจดั ตูป้ ลาแบบมีความสมดุล ที�มา : www.tomyfarm.com/library/archives/107 118 105
บทที่ 5 ก�รจัดตู้ปล�สวยง�มและก�รดูแลรักษ� บทที� 5 การจดั ตูป้ ลาสวยงามและการดูแลรักษา 3. วธิ ีการจัดตู้ปลา เม�ือมีความเขา้ ใจสิ�งต่าง ๆ เก�ียวกบั การจดั ตูป้ ลาแลว้ ย่อมจะทาํ ให้การจดั ตูป้ ลาน�ันสําเร็จ รวดเร็วข�ึน ซ�ึงวิธีการจดั ตูป้ ลาแต่ละคร�ังจะสวยงามตามแบบธรรมชาติหรือไม่น�นั ข�ึนอยกู่ บั รออก แบบของผจู้ ดั แตจ่ ะตอ้ งคาํ นึงถึงวธิ ีการตา่ ง ๆ ในการจดั ตูป้ ลา ดงั น�ี 3.1 การออกแบบในการจัดตู้ปลา ตอ้ งคาํ นึงถึงความสมดุลของทศั นียภาพภายในตูป้ ลา เลือกสถานท�ีสําหรับจดั วางตูป้ ลา ได้สัดส่วน และเหมาะสม โดยท�ีบริเวณน�ันต้องมีอากาศถ่ายเทสะดวก และรับแสงแดดจาก ธรรมชาติบ้าง ส่วนฐานรองรับน�ําหนักตู้ปลา เม�ือประกอบเขา้ ดว้ ยกันต้องเรียบสนิทไม่คลอน แคลน เพราะเมื�อเติมน�าํ ลงไปในตูป้ ลา น�าํ หนกั ตูป้ ลาจะเพ�ิมมากข�ึน ถา้ พ�ืนที�วางตูป้ ลาไมส่ ม�าํ เสมอ กจ็ ะทาํ ใหเ้ กิดแรงกดดนั ของน�าํ ซ�ึงอาจทาํ ใหต้ ูป้ ลาแตกได้ ดงั ภาพที� 131 – 132 ภาพที� 131 ตวั อยา่ งการจดั ตูป้ ลาน�าํ จืด ท�ีมา : www.toplaza.com/-1/posts/9_%25E0...B8%2587/ www.hometophit.com/hometh/view_b...5E8%25D0 119 106
บทที่ 5 ก�รจดั ตู้ปล�สวยง�มและก�รดูแลรักษ� บทท�ี 5 การจดั ตูป้ ลาสวยงามและการดูแลรักษา ภาพที� 132 ตวั อยา่ งการจดั ตูป้ ลาทะเล ท�ีมา : www.oneclickmarket.com/previewad...e%3D1363 3.2 การประกอบชุดแผ่นกรองนํา� ใต้ทราย อาจใส่ใยแกว้ ใตแ้ ผน่ กรองก็ได้ เพื�อช่วยให้ระบบการกรองน�าํ ดีข�ึน และยงั ช่วยให้น�าํ ใส สะอาดอีกดว้ ยจากน�นั ให้ต่อสายยางลมเขา้ กบั ท่อดนั น�าํ ตาม จาํ นวนที�ตอ้ งการ โดยจดั ไวม้ ุมใดมุม หน�ึงของตูป้ ลา 3.3 การใส่หินและกรวด เม�ือล้างหินหรือกรวดสะอาดดีแลว้ ให้ใส่กรวดทบั ลงบนแผ่นกรอง ระวงั อย่าให้เม็ด กรวดลงไปในแผ่นกรอง เพราะอาจทาํ ให้ประสิทธิภาพการกรองลดลง การใส่กรวดควรให้พ�ืนท�ี กรวดหนาประมาณ 2-3 นิ�ว โดยไล่ระดบั ความสูงจากดา้ นหลงั มาดา้ นหนา้ ซ�ึงช่วยให้มองดูคลา้ ย ธรรมชาติ และเป็ นท�ีรวมส�ิงปฏิกูล ง่ายต่อระบบการกรอง สําหรับการวางหิน ตอไมแ้ ละอุปกรณ์ ตกแตง่ น�นั ควรจดั ไปพร้อมกบั การใส่กรวดตามตาํ แหน่งที�กาํ หนดไว้ 3.4 การเติมนํา� เติมน�าํ ลงไปในตูป้ ลาด้วยวิธีดูดน�าํ แบบกาลักน�าํ หรือใช้สายยางดูดน�ําเบา ๆ ส่งผ่าน กระทบกอ้ นหิน หรือใชว้ สั ดุตา่ ง ๆ มารองรับเพ�ือไม่ใหน้ �าํ ขุ่น และเม็ดกรวดทรายผิดตาํ แหน่ง เติม น�าํ ประมาณ 1 ใน 2 ของตูป้ ลา 3.5 การปลกู พนั ธ์ุไม้นํา� ทเี� ตรียมไว้ ก่อนลงพนั ธุ์ไมน้ �าํ ควรนาํ ไมก้ ดพ�ืนกรวดให้เป็ นร่องเล็ก ๆ เสียก่อนจึงปลูก การปลูก ตอ้ งปลูกให้พนั ธุ์ไมน้ �าํ ทรงสูงอยูด่ า้ นหลงั ส่วนพนั ธุ์ไมน้ �าํ ทรงเต�ีย จดั ให้ลดหลน�ั กนั ลงมาจนถึง หนา้ ตูป้ ลา แลว้ จึงเติมน�าํ ส่วนที�เหลือใหอ้ ยใู่ นระดบั ขอบของตูป้ ลา 3.6 เม�ือจัดภายในตู้เสร็จแล้ว จึงต่อสายลมเข้าป�ัมลม ป�ัมลมอาจวางไวด้ า้ นนอก หรือ วางไวใ้ นฝาครอบไฟชนิดที�มีแผงกนั น�าํ เปิ ดปั�มลมให้ เคร�ืองกรองทาํ งาน ป�ัมลมจะตอ้ งวางอยู่สูงกวา่ ระดบั น�าํ ในตู้ เพื�อกนั ไม่ให้น�าํ ไหลยอ้ นกลบั เขา้ เครื�องปั�มลมเวลาไฟดบั หากมีเครื�องกรองภายนอกตูป้ ลาจะตอ้ งติดต�งั ในขณะท�ีตูม้ ีน�ําอยู่เต็ม 120 107
บบทททท่ี�ี 55 กกา�รรจจดัดั ตตูปู้้ปลล�าสสววยยงง�ามมแแลละะกก�ารรดดูแูแลลรกัรักษษ� า เคร�ืองจะทาํ งาน เคร�ืองกรองน�าํ แบบภายนอกจะตอ้ งอยู่ต�าํ กว่าระดบั ผิวน�าํ ในตูป้ ลา แต่ไม่ต�าํ มากจนเกินกาํ ลงั ของเครื�องท�ีจะดนั น�าํ กลบั เขา้ ตูป้ ลาได้ 4. การดูแลรักษาตู้ปลา การเล�ียงปลาตู้ เพ�ือให้คงความสวยงามอยู่ตลอดไปน�ัน ควรจะต้องเอาใจใส่ดูแลรักษา อุปกรณ์พนั ธุ์ไมน้ �ําและส่วนประกอบอ�ืน ๆ ที�มีอยู่ภายในตูป้ ลาเพ�ือมิให้เกิดความสกปรก หลัก สาํ คญั ในการดูแลรักษาที�ถูกตอ้ ง คือ ควรหมน�ั ตรวจเช็คดูรอยร�ัวซึม บริเวณรอยต่อกระจกไม่วา่ จะ เป็ นตูป้ ลาแบบเก่า หรือแบบใหม่ เพราะมกั พบว่ามีรอยรั�วซึมของน�าํ อยูเ่ สมอ สาเหตุเกิดจากชนั หรือกาวซิลิโคนเสื�อมคุณภาพ หรือบริเวณท�ีติดต�งั ตูป้ ลาไดร้ ับแสงแดดและความร้อนจดั หรือเกิด จากการกระทบกระแทกกบั วตั ถุอ�ืน ๆ จึงควรระมดั ระวงั แต่ถา้ ตูป้ ลาเกิดการรั�วซึมตอ้ งปล่อยน�าํ ทิ�ง ให้หมด เช็ดทาํ ความสะอาดแลว้ ผ�ึงลมให้แห้งสนิท จากน�นั ก็นาํ มาซ่อมแซมโดยการใช้ชนั หรือ กาวซิลิโคนทารอยรั�วใหเ้ รียบร้อย ปล่อยทิ�งไวน้ านพอประมาณ จนมนั� ใจวา่ ติดสนิทดีแลว้ จึงใส่น�าํ ลงตูป้ ลา สังเกตรอยรั�วซึมของน�าํ อีกคร�ัง ถา้ ไม่มีรอยรั�วซึมแลว้ จึงเริ�มจดั ตูป้ ลาพร้อมปล่อยปลาลง ได้ 5. การดูแลรักษาเคร�ืองกรองนํา� เม�ือใชเ้ คร�ืองกรองน�าํ ไปไดร้ ะยะหน�ึง ประสิทธิภาพการกรองส�ิงสกปรกต่าง ๆ ก็จะลดลง ไม่สามารถแยกสิ�งสกปรกภายในตูป้ ลาไดด้ ีเท่าท�ีควรอนั เป็ นเหตุใหส้ ภาพของน�าํ ไม่สะอาดพอ จึง จาํ เป็ นตอ้ งคอยดูแลรักษาความสะอาดของตูป้ ลา ให้ดีอยูเ่ สมอ โดยใช้สายยางดูดเอาสิ�งสกปรก ต่าง ๆ ภายในตูป้ ลาอยเู่ สมอและทาํ ความสะอาดระบบกรองน�าํ ใตท้ ราย เช่น แผน่ กรอง หลอดพ่น น�าํ และตรวจเช็คอุปกรณ์บางส่วนท�ีเก�ียวขอ้ งกบั แผน่ กรองน�าํ อยเู่ สมอ 6. การดูแลรักษาพนั ธ์ุไม้นํา� ส�ิงที�ตอ้ งคาํ นึงถึงในการดูแลรักษาพนั ธุ์ไมน้ �าํ ไดแ้ ก่ 6.1 แสง มีส่วนเก�ียวข้องกบั การเจริญเติบโต และเปล�ียนแปลงรูปร่างลักษณะพนั ธุ์ไมน้ �ํามาก เพราะแสงเป็ นตวั ช่วยให้เกิดปฏิกิริยาการสังเคราะห์ดว้ ยแสง เม�ือแสงสว่างผา่ นน�าํ ลงไป แสงจะ เกิดการหักเห พืชใตน้ �าํ จะไดร้ ับแสงสว่างผิดจากความเป็ นจริง พืชที�อยู่ในน�าํ ระดบั ต่าง ๆ ก็จะ 121 108
บทที่ 5 ก�รจดั ตู้ปล�สวยง�มและก�รดแู ลรักษ� บทที� 5 การจดั ตูป้ ลาสวยงามและการดูแลรักษา ไดร้ ับปริมาณแสงสวา่ งที�แตกต่างกนั ไปดว้ ย ดงั น�นั การจดั ตูป้ ลา จึงควรคาํ นึงถึงทิศทางและความ ตอ้ งการแสงของพนั ธุ์ไมแ้ ตล่ ะชนิดดว้ ย 6.2 อุณหภูมิภายในตู้ปลา จะมีอุณหภูมิเปล�ียนแปลงอยเู่ สมอ แต่ไม่มากนกั และค่อนขา้ งคงท�ี ดงั น�นั พนั ธุ์ไมน้ �าํ จึง ไม่คอ่ ยมีผลกระทบมากนกั 6.3 แก๊ส ปริมาณแก๊สท�ีสําคญั ท�ีสุดกบั พนั ธุ์ไมน้ �าํ คือ แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ซ�ึงพืชทุก ชนิดจาํ เป็ นตอ้ งใชใ้ นการสังเคราะห์แสง ในขณะเดียวกนั พนั ธุ์ไมน้ �าํ ก็คายออกซิเจน (O2) ออกมา ถ้าภายในตู้ปลามีท�ังพนั ธุ์ไม้น�ํา และสัตว์อยู่ด้วยกัน อัตราการคายออกซิเจนของพันธุ์ไม้น�ํา พอเหมาะกบั อุตราการคายแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ของสัตว์ สภาพแวดลอ้ มภายในตูป้ ลาก็จะมี สิ�งมีชีวติ อาศยั อยรู่ วมกนั ไดอ้ ยา่ งสมดุล 6.4 ความหนาแน่น หลังจากการตกแต่งพนั ธุ์ไม้น�ําเรียบร้อยแล้วเมื�อปลาได้รับอาหาร และแสงสว่างท�ี พอเหมาะ ก็จะเจริญเติบโตอยา่ งรวดเร็วทาํ ให้เกิดความหนาแน่น ซ�ึงสภาพอย่างน�ี อาจก่อให้เกิด การเสียความสมดุลระหวา่ งส�ิงมีชีวิตดว้ ยกนั จาํ เป็ นท�ีจะตอ้ งตดั แต่ง หรือเคลือบยา้ ยพนั ธุ์ไมน้ �าํ ท�ี เสียรูปทรง หรือหนาแน่นเกินไปออกจากตูป้ ลา นาํ ไปเพาะเล�ียงบาํ รุงดูแลในที�แห่งใหมต่ อ่ ไป 7. การเปลย�ี นนํา� การเปล�ียนน�าํ มีความจาํ เป็ น เพราะน�าํ ที�ใช้เล�ียงปลาและพนั ธุ์ไมน้ �าํ แร่ธาตุบางชนิดจะถูก นาํ ไปใช้ หรือแลกเปล�ียนไปบา้ ง โดยปลาหรือพนั ธุ์ไมน้ �าํ หรือของเสียที�เกิดข�ึน ดงั น�นั จึงควรมีการ ตรวจเช็คเพ�ือปรับสภาพน�าํ ตามสมควรโดยการเปลี�ยนน�าํ ทุก ๆ 1-2 เดือน หรืออาจเปล�ียนน�าํ เมื�อ ปรากฏวา่ ในตูป้ ลามีตะไคร่น�าํ หรือน�าํ ขนุ่ ขอ้ ควรระวงั ใน การเปลี�ยนน�าํ จะตอ้ งระมดั ระวงั อย่างย�ิง เกี�ยวกบั ค่าความด่างของน�าํ ในตู้ ปลากบั น�าํ ใหม่ที�เติมลงไป วา่ มีความเป็ นกรดเป็นด่าง อุณหภูมิ และปริมาณสารบางตวั แตกต่างกนั มากเกินไปหรือไม่ ถา้ เป็ นน�าํ ประปาควรปรับความแตกต่างของสารคลอรีนใหใ้ กลเ้ คียงกนั ก่อนที� จะเติมลงในตูป้ ลา และอีกประการหน�ึง ท�ีเก็บน�าํ ถา้ ปิ ดดว้ ยภาชนะนาน ๆ ในกลางแจง้ ออกซิเจน ในน�าํ อาจมีน้อยหรือไม่มีเลย เม�ือนาํ ไปเล�ียงปลาโดยไม่มีพนั ธุ์ไมน้ �าํ ตกแต่งอยู่ดว้ ยปลาท�ีเล�ียงไว้ อาจตายได้ 122 109
บททบี� 5ทกทา่ี ร5จกดั าตรูป้ จลัดตาสูป้ วลยางสาวมยแงลามะแกลาะรกดาูแรลดรแู ักลษรกัาษา บรรณานุกรม สุกญั ญา พริกจาํ รูญ. มปป. คู่มือการเพาะเล�ียงและส่งออกพนั ธุ์ไมน้ �าํ -ปลาสวยงาม. นีออนบุค๊ มีเดีย, กรุงเทพฯ. สถาบนั วจิ ยั สัตวน์ �าํ สวยงามและพนั ธุ์ไมน้ �าํ . 2546. มาตรฐานการจดั การฟาร์มเพาะล�ียงปลาสวยงาม เพื�อการส่งออก. สาํ นกั วจิ ยั และพฒั นาประมงน�าํ จืด กรมประมง. กรุงเทพฯ. อมรรัตน์ เสริมวฒั นากุล วนั เพญ็ มีนกาญจน์ นนทรี ปานพรหมมินทร์และ บุษกร บาํ รุงธรรม. 2544. การขนส่งปลาสวยงามไปตลาดต่างประเทศ. วารสารการประมง 54 (1) : น.41-46 _______. 2551. อนาคตตลาดปลาสวยงามของไทย.(ออนไลน์). http://www.dailynews.co.th/ newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=330&contentID=35252 . [21 มกราคม 2551] _______. 2551.องคป์ ระกอบของการจดั ตูป้ ลา. (ออนไลน์) www.tomyfarm.com/library/archives/ 107[21 มกราคม 2551] _______. 2551.วธิ ีการจดั ตูป้ ลา. (ออนไลน์) http://dnfe5.nfe.go.th/ilp/occupation/45201/ 452015.html [21 มกราคม 2551] _______. 2545.หลกั การจดั ตูป้ ลา. (ออนไลน์) http://www.thaigoodview.com/library/ studentshow/st2545/4-5/no20/kanjadtopla.html [21 มกราคม 2551] _______. 2551.การจดั ตูป้ ลา. (ออนไลน์) www.toplaza.com/-1/posts/9_%25E0...B8%2587/ [21 มกราคม 2551] _______. 2551. การจดั ตูป้ ลา. (ออนไลน)์ www.hometophit.com/hometh/view_b...5E8%25D0 [21 มกราคม 2551] _______. 2551. ระบบกรองใตท้ ราย. (ออนไลน)์ http://home.kku.ac.th/pracha/Equiptment.htm [21 มกราคม 2551] 123 110
บทที่ 6การจบั จ�ำ หน่าย
บทที� 6 การจบั จาํ หน่าย บทท่ี 6 ก�รจับจำ�หน่�ย =============================================ก=�==รก=จา=ร=ับ=จจ=ับ=บำ�จ=หทํา=บห=นทท=นท=่�่ี ่า=ย�ี6ย6= ประเทศไทยจดั ว่าเป็ นประเทศท�ีมีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากร การประกอบธุรกิจ ปลาสวยงาม จึงมีความเหมาะสมอย่างย�ิง เนื�องจากเป็ นการลงทุนต�าํ ให้ผลตอบแทนระยะเวลาส�ัน จากการสอบถามผูป้ ระกอบการส่งออกปลาสวยงาม พบวา่ การทาํ ธุรกิจปลาสวยงามในประเทศ เริ�มมาประมาณ �� ปี โดยจะเป็ นการประกอบธุรกิจขนาดเล็ก ใช้แรงงานในครอบครัว ใช้สถานที� ไม่มาก ลงทุนนอ้ ย ไดม้ ีการพฒั นารูปแบบการเพาะเล�ียงแตกต่างกนั ออกมาหลายรูปแบบตามชนิด ของปลา ธุรกิจการเพาะเล�ียงปลาสวยงามส่วนใหญ่จะเพาะเล�ียงในภาคกลางของประเทศ ซ�ึงก่อน การจาํ หน่ายปลาไปยงั สถานที�ตา่ งๆน�นั จะตอ้ งมีวธิ ีการจดั การปลาท�ีพร้อมจาํ หน่ายดงั น�ี �. วธิ ีการลาํ เลยี งปลา 1.� การลาํ เลยี งไข่ปลา ควรทํากับไข่ที�เพ�ิงได้รับการผสมกับเช�ือใหม่ ๆ เพราะความคงทนของไข่ในข�ันน�ี จะสูงกวา่ ข�นั ถดั ไป ความหนาแน่นของไข่ปลาท�ีจะบรรจุอยู่ในระดบั �,��� – �,��� ฟองต่อน�าํ � ลิตร ท�งั น�ียอ่ มข�ึนกบั ขนาดและประเภทของไข่ดว้ ย ไข่ปลาที�มีเปลือกไข่อ่อนและช่องวา่ งในไขก่ วา้ ง จะลาํ เลียงไดใ้ นระยะเวลา � – 1 ½ ชว�ั โมง 1.2 การลาํ เลยี งลูกปลาวยั อ่อนและปลาขนาดเลก็ ลูกปลาวยั อ่อนและลูกปลาท�ีเริ�มกินอาหารจะใช้ลาํ เลียงด้วยถุงพลาสติกอดั ออกซิเจน ถุงหน�ึง ๆ จะบรรจุลูกปลาวยั อ่อนหรือลูกปลา (Fry) 5,000 – �,��� ตวั โดยมีน�าํ � – � ลิตร และอดั ออกซิเจน��–��ลิตรส่วนลูกปลาที�เริ�มกินอาหารอาจขนส่งดว้ ยภาชนะท�ีมีความจุ �-�ลูกบาศกเ์มตร ซ�ึงมีฝาปิ ด และให้ออกซิเจนเพ�ิมเติม บรรจุลูกปลาไดห้ ลายล้านตวั ภาชนะดงั กล่าวบรรจุน�ําที�สะอาดและมี อุณหภูมิเท่ากบั ท�ีลูกปลาอยู่ลงไปคร�ึงถงั เม�ือบรรจุลูกปลาลงไปแลว้ ปิ ดฝา ใช้ท่อพลาสติกขนาด เส้นผ่าศูนยก์ ลาง � – � เซนติเมตร ยาว �� – �� เซนติเมตร ผนึกแน่นลงไปในรูเพ�ือป้องกันมิให้ ออกซิเจนร�ัว 111 127
บทท�ี 6 การจบั จาํ หน่าย บทท่ี 6 ก�รจบั จ�ำ หน่�ย ลูกปลาท�ีเร�ิมกินอาหารอาจบรรจุได้ ���,��� ตัวในน�ํา ��� ลิตร (ภาชนะมีความจุ � ลูกบาศกเ์ มตร จะบรรจุลูกปลาได้ � ลา้ นตวั ) จะคลุมภาชนะลาํ เลียงดว้ ยผา้ ห่ม หรือแผงหญา้ ชุ่มน�าํ หรือหุม้ ดว้ ยวตั ถุกนั ความร้อน เพ�อื ป้องกนั ไม่ใหอ้ ุณหภูมิสูงข�ึนในขณะลาํ เลียงขนส่ง �.� การลาํ เลยี งลูกปลาขนาดนิว� มือ ลูกปลาขนาดนิ�วมืออายุ � – � สัปดาห์ ลาํ เลียงด้วยถุงพลาสติก ถุงหน�ึง ๆ บรรจุปลาได้ 500 – �,��� ตวั ท�ังน�ีข�ึนอยู่กับขนาดของลูกปลาและระยะเวลาที�ลําเลียงขนส่ง และจะต้องให้ ออกซิเจนเพิม� เติมตลอดเวลา 1.4 การลาํ เลยี งพ่อแม่ปลา การลาํ เลียงขนส่งพ่อแม่ปลาเป็ นงานละเอียด ก่อนลาํ เลียงตอ้ งวางยาสลบ มิฉะน�ันจะ ต�ืนตกใจง่าย กระแทกภาชนะทาํ ใหเ้ กิดบาแผล อาจลาํ เลียงดว้ ยน�าํ เยน็ โดยมีอุณหภูมิประมาณ � – �� องศาเซลเซียส แทนการใช้ยาสลบซ�ึงมีราคาแพง แต่วิธีน�ีอาจใช้ไม่ไดก้ บั ปลาทุกชนิดและอาจมี ปัญหากบั ปลาเมืองร้อน ปลาส่วนใหญ่จะทนต่อยาสลบอยา่ งแรงไดไ้ ม่นานกวา่ � ชว�ั โมง แต่ถา้ ยาสลบเจือจางจะทนอยไู่ ดน้ าน เช่น การใชย้ าสลบพวก MS 222 กบั พอ่ แมป่ ลา โดยนาํ พ่อแม่ปลาแช่ ลงในน�าํ ยาที�มีความเขม้ ขน้ � : ��,��� (� กรัม MS ��� ในน�าํ ��� ลิตร) ซ�ึงในไม่ช้าปลาจะสลบ หลงั จากน�ัน �� – �� นาที ก็เติมน�าํ ให้เจือจางปริมาณน�าํ ท�ีเติมน�ันข�ึนอยู่กบั ความทนทานของปลา โดยใชค้ วามเจือจางเป็ น � เท่า (� : 40,000) สําหรับปลาท�ีทนทาน ความเจือจาง �.� เท่า (� : 50,000) สาํ หรับปลาที�ทนทานปานกลางและความเจือจาง � เทา่ (� : 100,���) สาํ หรับปลาที�ทนทานนอ้ ย (สุกญั ญา พริกจาํ รูญ, มปป) �. การใช้สารเคมแี ละยาช่วยในการลาํ เลยี งขนส่ง �.� การใช้ยาสลบสําหรับพ่อแม่ปลา การใช้ยาสลบใส่ในน�าํ ช่วยในการลาํ เลียงขนส่งจะมี ประโยชน์หลายทางดว้ ยกนั คือ �.�.� ลดอตั ราการใช้ออกซิเจนเพื�อการหายใจ อตั ราการขบั ถ่ายคาร์บอนไดออกไซด์ แอมโมเนีย และของเสียอ�ืน ๆ ที�เป็นพษิ �.�.� ปลาจะสงบนิ�ง เป็นการป้องกนั การเกิดบาดแผลจากสาเหตุดงั กล่าว �.�.� สามารถทํางานได้สะดวกสําหรับพ่อแม่ปลาขนาดใหญ่ ซ�ึงเป็ นการลดเวลา การทาํ งาน และยดื เวลาในการลาํ เลียงขนส่งได้ สารเคมีที�นิยมใชเ้ ป็ นยาสลบปลา เช่น ควินาลติน (Quinaldine) เอ็มเอส ��� (MS 222) และฟี นอกซี – อีทานอล (Phenoxy – ethanol) 112 128
บทท�ี 6 การจบั จาํ หน่าย บทที่ 6 ก�รจบั จ�ำ หน�่ ย ควินาลติน (Quinaldine) สารน�ีเป็ นของเหลวท�ีเป็ นพิษจะต้องดําเนินการด้วย ความระมดั ระวงั อตั ราในการใช้ 1 : 40,000 (คลินาลติน �� ลูกบาศก์เซนติเมตร ใชน้ �าํ � ลูกบาศก์เมตร) เอมเอส ��� (MS 222) เป็ นยาสลบอย่างอ่อนและปลาจะฟ�ื นเป็ นปกติง่ายอตั ราการใช้ � : 10,000 (เอม็ เอส ��� �� กรัม ใชน้ �าํ �� ลิตร) ซ�ึงประสิทธิภาพของน�าํ ยาจะคงอยไู่ ดน้ าน �� ชว�ั โมง ฟี นอกซี – อีทานอล (Phenoxy – ethanol) เป็ นยาสลบอยา่ งอ่อนท�ีมีประสิทธิภาพ ดอ้ ยกว่าเอ็มเอส ��� แต่ราคาถูกกว่ามาก อตั ราในการใช้ ฟี นอกซี – อีทานอล �� – �� ลูกบาศก์ เซนติเมตร ตอ่ น�าํ ��� ลิตร อัต ราค ว าม เข้ม ข้น ข อ ง ย า ส ล บ แต่ ล ะ ช นิ ด จ ะ ข� ึ น อ ยู่กับ ค ว าม ท น ท า น ข อ ง ป ล า ในระหวา่ งการลาํ เลียงขนส่งจะตอ้ งให้ออกซิเจนเพม�ิ เติมและควรปรับอุณหภูมิของน�าํ ใหอ้ ยรู่ ะหวา่ ง 20 – 24 องศาเซลเซียส 2.� การใช้ยาฆ่าเชื�อโรคและสารปฏิชีวนะ ในการนาํ ปลามาเพื�อบรรจุภาชนะอาจมีโรค หลายชนิดปะปนมากับปลา หรือปลาเหล่าน�ันเป็ นโรคอยู่ก่อนแล้ว ควรได้มีการรักษาให้หาย เสียก่อน หรือป้องกันการลุกลาม หรือทาํ ลายเช�ือโรคน�ันเสียก่อนการลาํ เลียงขนส่ง ไม่ควรเติม ยาฆ่าเช�ือโรคลงในน�าํ ที�ใชใ้ นการลาํ เลียงขนส่ง ซ�ึงจะทาํ ให้เกิดอนั ตรายข�ึนไดย้ กเวน้ เกลือแกง ซ�ึง การใชต้ วั ยาหลายชนิดอาจปรับความเขม้ ขน้ ไม่เท่ากนั ท�งั น�ีข�ึนอยกู่ บั คุณสมบตั ิของตวั ยาเอง เช่น ยาเหลือง ใชใ้ นอตั รา 10 พพี ีเอม็ เมททิลีนบลู ใชใ้ นอตั รา 2 พพี ีเอม็ คอปเปอร์ซลั เฟต ใชใ้ นอตั รา 0.5 พพี เี อม็ ฟอร์มาลิน ใชใ้ นอตั รา 15 พีพีเอม็ คลอโรไมซีติน ใชใ้ นอตั รา 8 - 10 พีพเี อม็ ด่างทบั ทิม ใชใ้ นอตั รา 3 พพี เี อม็ เกลือแกง ใชใ้ นอตั รา 3 เปอร์เซ็นต์ 3. การเตรียมปลาสวยงามก่อนการลาํ เลยี งขนส่ง �.� การคดั ขนาดปลา ปลาที�จะใช้ในการลําเลียงขนส่งน�ัน ควรได้คดั ขนาดเสียก่อนโดยเรื�องคดั ขนาด ซ�ึง ออกแบบต่าง ๆ กันตามความเหมาะสมกบั ชนิดของปลา เพื�อให้ได้ปลาท�ีมีขนาดอยู่ในระดับที� ตอ้ งการ ท�งั น�ีเพื�อความปลอดภยั ในขณะทาํ การลาํ เลียงและความถูกตอ้ งแน่นอนของจาํ นวนปลา ที�บรรจุตอ่ ถุง โดยการใชว้ ธิ ีชงั� น�าํ หนกั แทนการนบั 113 129
บทท�ี 6 การจบั จาํ หน่าย บทท่ี 6 ก�รจับจำ�หน่�ย �.� การจับปลาไปพกั คงสภาพ หรือการอดอาหารปลาก่อนการลาํ เลียงขนส่ง ลูกปลาวยั อ่อนหรือลูกปลาขนาดนิ�วมือ เวลาจบั ควรใชเ้ ครื�องมืออวนที�ทาํ ดว้ ยผา้ ไนลอน หรืออวนไนลอนชนิดไม่มีปมเพื�อป้องกันมิให้เกิดความบอบช�ําแก่ปลา ภายหลังจากใช้อวน ไล่ลูกปลาไปทางดา้ นใดดา้ นหน�ึงของบ่อแลว้ ไม่ควรยกอวนพร้อมปลาข�ึนเหนือน�าํ แลว้ นาํ ไปเท ใส่ลงในภาชนะ ตอ้ งใช้ขนั หรือกะละมงั ขนาดเล็กผิวเรียบ เส้นผา่ นศูนยก์ ลางประมาณ � – � นิ�ว ตักปลาพร้อมน�ําเทลงในภาชนะขนาดใหญ่ แล้วขนยา้ ยไปขังไวใ้ นอวนมุ้งหรือบ่อคอนกรีต เพื�อพกั ปลาประมาณ � – �� ช�วั โมง ท�งั น�ีเพื�อให้ปลาถ่ายของเสียออกเสียก่อน แล้วใช้ยาฆ่าเช�ือ ผา่ นปลาเป็ นคร�ังคราวตามความตอ้ งการ ต่อมาเม�ือปลาแข็งแรงและสามารถปรับตวั เขา้ กบั สภาพที� อยอู่ าศยั แคบ ๆ ไดด้ ีแลว้ จึงดาํ เนินการข�นั ต่อไป �.� การลดอุณหภูมขิ องนํา� น�าํ ท�ีจะไหลผ่านปลาในอวนมุง้ หรือบ่อซีเมนต์ท�ีพกั ปลา ควรได้ลดอุณหภูมิตามลาํ ดบั และใหอ้ ุณหภูมิของน�าํ ต�าํ สุดที�ปลาแตล่ ะชนิดจะทนไดใ้ นตอนสุดทา้ ย �.� นําปลาไปแช่ในด่างทบั ทมิ เจือจาง � – 2 พีพีเอม็ ประมาณ �� – �� นาทีแลว้ ใส่ในสารละลายยาเหลือง � – 2 พีพีเอม็ ประมาณ �� – �� เพ�อื ฆ่าแบคทีเรียต่าง ๆ หรืออาจจะใชย้ าปฏิชีวนะอ�ืน ๆ �.� การตรวจนับจํานวนปลา ลูกปลาท�ีจะตรวจนับจาํ นวนก่อนบรรจุถุง ต้องนําไปใส่ในกะละมงั ขนาดเส้นผ่าน ศูนยก์ ลางของปากประมาณ �� – �� นิ�ว ที�มีผา้ ขาวบาง หรือผา้ ดิบรองรับ มีน�าํ เกือบเต็มกะละมงั ใช้ช้อนพลาสติกขนาดโตเพื�อตรวจนับ การคดั ควรได้ตกั ท�งั น�ําและปลาไปด้วยกนั การตรวจนับ (Actual Count method) วิธีน�ีอาจกระทาํ ไดถ้ า้ หากปริมาณที�ปลาจะตอ้ งการขนส่งลาํ เลียงไม่มากนกั แต่ถา้ หากมีปริมาณมากควรไดท้ าํ การตรวจนับเพียง � – � คร�ัง แล้วนาํ ปลาที�ตรวจนับแต่ละคร�ัง เหล่าน�ันไปช�ังน�ําหนัก (Grauimetric method) เม�ือหาค่าน�ําหนักเฉล�ียได้เท่าใดแล้วก็ใช้ค่าน�ัน เป็ นเกณฑ์ในการชง�ั น�าํ หนกั ปลาชุดต่อไป ซ�ึงมีจาํ นวนพอดีกบั ขนาดถุงที�บรรจุจะสัมพนั ธ์กบั เวลา และระยะทางท�ีจะลาํ เลียงขนส่งโดยปลอดภยั (อมรรัตน์ เสริมวฒั นากลุ และคณะ,2544) �. การบรรจุหีบห่อ �.� ระบบของการบรรจุหบี ห่อ โดยทว�ั ไปสามารถทาํ ได้ � ระบบดว้ ยกนั คือ �.�.� ระบบเปิ ด (Open system) การลาํ เลียงระบบน�ีภาชนะที�ใช้บรรจุจะมีรูปร่างต่าง ๆ กนั โดยอาจจะใช้ภาชนะท�ีทาํ ด้วยพลาสติก โลหะและอื�น ๆ ส่วนการให้ออกซิเจนเพิ�มเติมและการ 114 130
บทที� 6 การจบั จาํ หน่าย บทท่ี 6 ก�รจบั จ�ำ หน�่ ย หมุนเวียนของน�ําภายในภาชนะดัดแปลงได้ตามความสะดวก ตามปริมาณของปลาที�จะทํา การลาํ เลียงขนส่ง ภาชนะต่าง ๆ ที�นํามาใช้น�ันควรทาํ ความสะอาด โดยแช่ในน�าํ ยาฆ่าเช�ือแล้ว ลา้ งออกใหห้ มด ตากใหแ้ หง้ ก่อนนาํ ไปใช้ ส่วนน�าํ ท�ีใชค้ วรเป็นน�าํ ที�สะอาดมีออกซิเจนสูง ปราศจาก สิ�งเป็ นพิษ ควรใส่คลอรีน แลว้ ตากแดดประมาณ � วนั ก่อนนาํ ไปลดอุณหภูมิเพื�อใชใ้ นการลาํ เลียง ขนส่งต่อไป ขนาดและความจุของภาชนะโดยท�ัวไป ประมาณ �� – �� ลิตร รูปทรงกระบอก ทรงกลม หรือทรงเต�ียที�ฝาปิ ด ทาํ การเจาะรูเพอ�ื ใหอ้ ากาศผา่ นไดส้ ะดวกและมีหูหิ�วคลา้ ยถงั ตกั น�าํ �.�.� ระบบปิ ด (Closed system) การลาํ เลียงระบบน�ีปริมาณของออกซิเจนที�เพ�ิมเติม ให้กบั ปลาจะอยใู่ นภาชนะเหนือผิวน�าํ และถูกปิ ดแน่นอยูใ่ นน�นั ปัจจุบนั ภาชนะท�ีใช้บรรจุ นิยมใช้ ถุงพลาสติก ขนาดเท่ากบั � ใบซ้อนกนั แลว้ ใส่ปลาไวใ้ นถุงขา้ งในโดยมีน�าํ อยูป่ ระมาณ 1 ใน3 ของ ปริมาตรถุงน�นั อดั ออกซิเจนซ�ึงจะมีน�าํ หนกั เบา ดูแลไดส้ ะดวก ค่าใชจ้ า่ ยถูก 4.2 วธิ ีการบรรจุหบี ห่อ เม�ือเตรียมปลาและอุปกรณ์สาํ หรับการบรรจุเรียบร้อยแลว้ นาํ ถุงพลาสติกขนาดเส้นรอบวง 140 – 160 เซนติเมตร สูง �� – �� เซนติเมตร และหนา �.� – �.� มิลลิเมตร � ใบซอ้ นกนั มาบรรจุน�าํ ท�ีสะอาด ให้ปริมาตรหรือน�าํ หนกั สัมพนั ธ์กบั จาํ นวนปลาให้เท่ากนั ทุกถุง เพ�ือจะไดท้ ราบน�าํ หนักท�ีแน่นอน โดยปกติท�ีจะใส่น�าํ ภายในถุงประมาณ 1 ใน 3 ของปริมาตรถุงน�นั ท�งั น�ีเพ�ือสะดวกในการคาํ นวณ ค่าใช้จ่ายในการลาํ เลียงขนส่ง นาํ ปลาใส่ถุงแลว้ ทาํ การไล่อากาศออก จากน�นั ก็อดั ออกซิเจนเขา้ ไป บริเวณเหนือผิวน�าํ ภายในถุงให้พอเหมาะ ปิ ดปากถุงให้แน่นโดยใช้ยางรัดนาํ ไปใส่กล่องกระดาษ ท�ีมีโฟมรองภายในโดยรอบอีกช�นั หน�ึง ปิ ดฝามดั ดว้ ยเชือกหรือเส้นพลาสติก แลว้ เขียนรายละเอียด สาํ หรับปลา และชื�อผสู้ ่ง เพอื� ทาํ การลาํ เลียงขนส่งไปยงั จุดหมายปลายทางท�ีตอ้ งการต่อไป �. ประเภทของการขนส่ง การขนส่งปลาสวยงามสามารถทาํ ได้ � ทางดว้ ยกนั คือ �.� การขนส่งทางบก เช่น การขนส่งโดยรถไฟ รถยนต์ ฯลฯ การขนส่งแบบน�ีจะมีขอ้ ดี คือ จะเกิดการส�ันสะเทือนตลอดเวลาจึงเป็นการเพ�มิ เติมออกซิเจนใหแ้ ก่ปลาโดยอตั โนมตั ิ �.� การขนส่งทางนํ�า เช่น การขนส่งโดย เรือ หรือแพ เป็ นยานพาหนะ การขนส่งแบบน�ีมี ขอ้ ดี คือ จะไม่ทาํ ให้ปลาตกใจในขณะทาํ การขนส่ง เนื�องจากไม่มีการกระทบกระเทือนหรือมีการ กระทบกระเทือนนอ้ ย 115 131
บทท�ี 6 การจบั จาํ หน่าย บทที่ 6 การจับจ�ำ หน่าย �.� การขนส่งทางอากาศ โดยการใชเ้ คร�ืองบินเป็ นยานพาหนะ เป็ นการขนส่งท�ีรวดเร็ว และ ขนส่งไปไดเ้ ป็ นระยะไกล ๆ ไม่ทาํ ให้ปลาตกใจ ไม่กระทบกระเทือนและอุณหภูมิในเคร�ืองบินต�าํ ซ�ึงทาํ ใหป้ ลาอยไู่ ดอ้ ยา่ งสบาย (สถาบนั วจิ ยั สตั วน์ �าํ สวยงามและพนั ธุ์ไมน้ �าํ , 2546) 116 132
บทที� 6 การจบั จาํ หน่าย บทท่ี 6 การจบั จ�ำ หน่าย บรรณานุกรม สุกญั ญา พริกจาํ รูญ. มปป. คู่มือการเพาะเล�ียงและส่งออกพนั ธุ์ไมน้ �าํ -ปลาสวยงาม. นีออน บุค๊ มีเดีย. กรุงเทพฯ. สถาบนั วจิ ยั สัตวน์ �าํ สวยงามและพนั ธุ์ไมน้ �าํ . 2546. มาตรฐานการจดั การฟาร์มเพาะล�ียงปลาสวยงาม เพื�อการส่งออก. สาํ นกั วจิ ยั และพฒั นาประมงน�าํ จืด กรมประมง. กรุงเทพฯ. สถาบนั วจิ ยั สัตวน์ �าํ สวยงามและพนั ธุ์ไมน้ �าํ . 2549.โครงการสาํ รวจขอ้ มูลตลาดปลาสวยงามและ พนั ธุ์ไมน้ �าํ . สาํ นกั วจิ ยั และพฒั นาประมงน�าํ จืด กรมประมง. กรุงเทพฯ. อมรรัตน์ เสริมวฒั นากุล วนั เพญ็ มีนกาญจน์ นนทรี ปานพรหมมินทร์และ บุษกร บาํ รุงธรรม. 2544. การขนส่งปลาสวยงามไปตลาดตา่ งประเทศ. วารสารการประมง 54 (1) : น.41-46 ________. 2551. อนาคตตลาดปลาสวยงามของไทย.(ออนไลน)์ . http://www.dailynews.co.th/ newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=330&contentID=35252 . [21 มกราคม 2551] 117 133
บทที่ การบนั ทกึ ข้อมูล 7การปฏบิ ัติงาน
บทที� 7 การบนั ทึกขอ้ มลู การปฏิบตั ิงาน บทที่ 7 ก�รบนั ทึกขอ้ มลู ก�รปฏิบัตงิ �น ก�รบันกทารกึ บขันอ้ ทมึกลูข้อกม�ูลรกปารฏปบิบฏตัทบิบตังิททิง�ท่ี าน7�ีน7 ============================================================= การบนั ทึกขอ้ มูลเป็ นข�นั ตอนท�ีเกิดข�ึนกบั กิจกรรมต่างๆของฟาร์ม โดยจดบนั ทึกใน รูปแบบท�ีเป็นระบบและแบบแผนเพ�ือความสะดวกและง่ายต่อความเขา้ ใจ และสามารถนาํ เอาขอ้ มูล ท�ีจดบนั ทึกไปใช้ประโยชน์ในการวิเคราะห์ปัญหาและอุปสรรคตลอดจนประเมินผล เพื�อวดั ผล สาํ เร็จของการทาํ ฟาร์มได้ 1. การบันทกึ ข้อมูล ควรมีการบนั ทึกขอ้ มูลท�ีสาํ คญั ๆ เพ�ือประโยชนใ์ นดา้ นการประกอบธุรกิจ ดงั น�ี 1.1 แหล่งและลกั ษณะของพ่อแม่พนั ธ์ุ เป็นการบนั ทึกที�มา แหล่งท�ีซ�ือและลกั ษณะของพอ่ แมพ่ นั ธุ์ เพอื� เป็ นขอ้ มูลในการ เพาะพนั ธุ์ปลาสวยงาม และการปรับปรุงพนั ธุ์ปลาสวยงามใหไ้ ดล้ กั ษณะตามตอ้ งการตรงตาม สายพนั ธุ์ 1.2 ระบบการผลติ และผลผลติ บนั ทึกการวางแผนและกาํ หนดรูปแบบการผลิตท�ีชดั เจนเพื�อใหไ้ ดผ้ ลผลิตที�ดีมีคุณภาพ และแน่นอน ส่งผลดีต่อการตลาดและความตอ้ งการของลูกคา้ 1.3 การลงทุนและผลกาํ ไร บนั ทึกตน้ ทุนทุกรายการในรูปแบบบญั ชีรายรับ-รายจ่ายอยา่ งง่าย เพอื� ควบคุม งบประมาณที�ใชแ้ ละสามารถคาดการณ์ผลกาํ ไร-ขาดทุนได้ 1.4 คุณภาพนํา� และการใช้นํา� บนั ทึกขอ้ มูลคุณภาพน�าํ และการใชน้ �าํ ในฟาร์ม เพ�อื เป็ นขอ้ มูลในการจดั การฟาร์มดา้ น การเล�ียง การจดั การน�าํ รวมท�งั สามารถควบคุมและป้องกนั การเกิดโรคได้ 1.5 อาหารและการให้อาหาร บนั ทึกชนิด ปริมาณการใชอ้ าหารเพื�อควบคุมและบริหารจดั การการใชอ้ าหารใหค้ ุม้ ค่า และมีประโยชนส์ ูงสุด ส่งผลต่อตน้ ทุนการผลิตของฟาร์ม 118 137
บทที� 7 การบนั ทึกขอ้ มูลการปฏิบตั ิงาน บทท่ี 7 ก�รบนั ทกึ ข้อมลู ก�รปฏิบตั ิง�น 1.6 โรคและการป้องกันรักษา หากเกิดโรค ควรบนั ทึกชนิดของโรค ลกั ษณะอาการ การใชย้ าและสารเคมีในการรักษา รวมท�งั วธิ ีการป้องกนั รักษา เพ�ือไมใ่ หม้ ีการเกิดซ�าํ และควรป้องกนั การเกิดโรค 1.7 ประวตั ิการใช้บ่อ การใชบ้ ่อควรมีการบนั ทึกการใชง้ าน หากเกิดปัญหาบางประการสามารถนาํ ขอ้ มูลมาใช้ ในการพจิ ารณาและตดั สินใจได้ 1.8 ปัญหาและวธิ ีการแก้ปัญหา ปัญหาท�ีเกิดข�ึนและวธิ ีการแกไ้ ข ควรมีการบนั ทึกอยา่ งละเอียด (ดดั แปลงจาก สถาบนั วจิ ยั สตั วน์ �าํ สวยงามและพนั ธุ์ไมน้ �าํ , 2546) 2.ตวั อย่างแบบบันทกึ การปฏบิ ัตงิ านฟาร์มปลาสวยงาม ตารางท�ี 1 บนั ทกึ การนําเข้าพนั ธ์ุสัตว์นํา� ว/ด/ป รหัส ชนิด/พนั ธ์ุ รุ่น ขนาด จํานวน แหล่งทมี� า บ่อท�ี หมายเหตุ (กรัม) (ตัว) ตารางท�ี 2 บันทกึ การนําพ่อแม่พนั ธ์ุไปใช้งาน จํานวน บ่อ/กระชัง หมายเหตุ ว/ด/ป รหสั ชนิด/สายพนั ธ์ุ เพศ ขนาด (ตัว) เพาะพนั ธ์ุ (กรัม) 119 138
บทที� 7 การบนั ทึกขอ้ มูลการปฏิบตั ิงาน บทท่ี 7 การบันทึกข้อมลู การปฏบิ ัตงิ าน ตารางท�ี 3 บันทกึ การเพาะพนั ธ์ุ ว/ด/ป รหสั บ่อ/ จาํ นวนแม่ จาํ นวนไขท่ �ีกาํ ลงั พฒั นาในแตล่ ะระยะ (ตวั /ฟอง) จาํ นวนไข่ที� จํานวนไข่ % หมายเหตุ กระชงั ปลาท�ใี หไ้ ข่ 1 2 3 4 5 เก็บไดท้ �งั หมด ที� ฟั ก เ ป็ น ฟัก (ตวั ) (ฟอง) ตวั (ตวั ) ตารางที� 4 บันทกึ การอนุบาล อายุ ขนาด ปริมาณอาหารท�ใี ช้ หมายเหตุ (วนั ) (กรัม) (กรัม) ว/ด/ป รหสั บ่อ/ จํานวนปลา จํานวนปลา กระชัง เร�ิมต้น (ตัว) สุดท้าย (ตวั ) ตารางที� 5 บันทกึ การเจริญเตบิ โต ความยาว นาํ� หนักเฉลยี� อายุ (วนั ) หมายเหตุ เฉลย�ี (ซ.ม.) (กรัม) ว/ด/ป รหัส บ่อ/ ชนิดพนั ธ์ุ จํานวนปลาที� กระชัง ชั�งวดั (ตวั ) ตารางท�ี 6 บันทกึ คุณภาพนํา� คุณภาพน�าํ ว/ด/ป ช บช บ ช บ ช บ ช บ pH Temp DO NH3 NO2 AlK Hard หมายเหตุ 120 139
บทท�ี 7 การบนั ทึกขอ้ มูลการปฏิบตั ิงาน บทที่ 7 การบันทกึ ข้อมลู การปฏิบัตงิ าน ตารางที� 7 บนั ทกึ การให้อาหาร รหัส..........ชนิดพนั ธ์ุ................บ่อ/กระชัง................... เบอร์ ปริมาณอาหารที�ให้ (กรัม) อาห าร 1 2 3 4 5 6 7 8 9 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 2 2 2 2 2 2 2 2 2 2 3 3 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 0 1 ตารางที� 8 บันทกึ สุขภาพสัตว์นํา� จาํ นนปลาท�ีเป็นโรค การรักษา รหัส..........ชนิดพนั ธ์ุ............... (ตวั ) ว/ด/ป บ่อที� จาํ นวนสตั วน์ �าํ ความสมบูรณ์ พิการ (ตวั ) (ตวั ) (ตวั ) ที�มา: ดดั แปลงจาก https://www.fisheries.go.th/genetic-molecular/index.php/ 121 140
บทท�ี 7 การบนั ทึกขอ้ มูลการปฏิบตั ิงาน บทท่ี 7 การบันทึกขอ้ มลู การปฏบิ ัติงาน บรรณานุกรม สถาบนั วจิ ยั สัตวน์ �าํ สวยงามและพนั ธุ์ไมน้ �าํ . 2546. มาตรฐานการจดั การฟาร์มเพาะล�ียงปลาสวยงาม เพือ� การส่งออก. สาํ นกั วจิ ยั และพฒั นาประมงน�าํ จืด กรมประมง. กรุงเทพฯ. กลุ่มวจิ ยั และพฒั นาพนั ธุกรรมโมเลกุลสัตวน์ �าํ .2559. สมมุดบนั ทึกขอ้ มูลการจดั การฟาร์ม.[ระบบ ออนไลน์] แหล่งที�มา :https://www.fisheries.go.th/genetic-molecular/index.php/ [10 กนั ยายน 2561] 122 141
บทที่ การบนั ทกึ ข้อมูล 8การปฏบิ ัติงาน
บทท$ี 8 การคาํ นวณตน้ ทุนการผลิตและการทาํ บญั ชี บทท่ี 8 ก�รคำ�นวณต้นทนุ ก�รผลิตและก�รท�ำ บัญชี ก�รค�ำ นวกณารตคาํ้นนทวณนุ ตก้น�ทรุนผกลารติ ผแลลติ ะแกล�ะกราทรบท�ำ บทบาํ ทบทญั ญัที่ ี$8ชช8ีี ============================================================= การคาํ นวณตน้ ทุนการผลิตและการทาํ บญั ชี สามารถประเมินประเมินประสิทธิภาพ การผลิตของฟาร์มได้ ซ$ึงขอ้ มูลเหล่านLีสามารถนาํ ไปใชป้ ระโยชนใ์ นการวเิ คราะห์ผลกาํ ไรของฟาร์ม 1. การบันทึกทรัพย์สิน หนีส? ิน เป็ นการบนั ทึกรายการทรัพยส์ ินต่าง ๆ เช่น ที$ดิน, เครื$องมือ, เครื$องจกั รกลต่าง ๆ , อุปกรณ์การเกษตรต่าง ๆ , ป๋ ุย, ปัจจยั การผลิตอื$น ๆ , จาํ นวนผลผลิต, ผลผลิตที$คงเหลือ ตลอดจน หนLีสินต่าง ๆ ที$เกิดขLึนในการดาํ เนินการผลิต ในการบนั ทึกทรัพยส์ ิน - หนLีสินต่าง ๆ เพื$อ จะนาํ ไปใชใ้ นการสรุปฐานะทางการเงินและเป็ นขอ้ มูลที$จะใชใ้ นการคาํ นวณหารายไดส้ ุทธิ ต่อไป 2. การทาํ บญั ชี การทาํ บญั ชีรายรับ-รายจ่าย หมายถึง การจดบนั ทึกเหตุการณ์ต่าง ๆ เกี$ยวกบั การเงินหรือ อยา่ งนอ้ ยที$สุดบางส่วนเกี$ยวขอ้ งกบั การเงิน โดยผา่ นการวิเคราะห์ จดั ประเภทและบนั ทึกไวใ้ น แบบฟอร์ม ที$กาํ หนดเพื$อแสดงฐานะการเงิน และผลการดาํ เนินงานของกิจการในช่วงระยะเวลา หน$ึง ประโยชน์ของการทาํ บญั ชีรายรับ-รายจ่าย 1. เป็ นหลกั ฐานประกอบการดาํ เนินกิจการ เพ$ือใหท้ ราบวา่ มีทรัพยส์ ิน หนLีสิน และเงินทุน เป็นจาํ นวนเท่าใด 2. เป็ นหลกั ฐานในการตรวจสอบ ตวั เงินสดกบั ยอดบญั ชีว่าถูกตอ้ ง หรือมีขอ้ ผิดพลาด อยา่ งไร 3. เป็ นสถิติช่วยในการบริ หาร การควบคุม การทํางบประมาณ เพื$อให้ผลงานมี ประสิทธิ ภาพดียง$ิ ขLึน 145 123
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154