บทที่ 2 พลังงานลม..

ครผู ู้สอน นางสาวจติ ต์ แววตา

พลังงานลม เปน็ พลังงานจลน์ทีเ่ กดิ จากการเคลอื่ นทข่ี องอากาศ เมือ่ ปะทะกบั วตั ถใุ ดๆ จะถา่ ยโอนพลงั งานทาให้วตั ถนุ ้ันหมนุ หรอื เคลอื่ นทไ่ี ด้ มนุษยไ์ ดใ้ ชป้ ระโยชน์จากพลังงานลมในดา้ นตา่ งๆ ตั้งแต่อดตี จนถงึ ปจั จบุ นั ครผู ู้สอน นางสาวจิตต์ แววตา

จงพิจารณาเกย่ี วกบั การกระทาของ พลังงานลม ครผู ู้สอน นางสาวจติ ต์ แววตา

เมือ่ พจิ ารณาเกย่ี วกบั การกระทาของพลังงานลม พบว่า เมื่อลมเคล่ือนท่ีปะทะกับวตั ถุ สามารถทาให้วตั ถุ เคลื่อนไหว หมุน หรอื เคลื่อนทไี่ ด้ ครูผูส้ อน นางสาวจิตต์ แววตา

กังหนั หมุนไดอ้ ยา่ งไรนะ ?? ครผู สู้ อน นางสาวจติ ต์ แววตา

กังหัน หมนุ ไดเ้ พราะ พลงั งานลม ทาให้ใบพดั ของกงั หนั เกิดการหมนุ ครผู ู้สอน นางสาวจติ ต์ แววตา

เรอื ใบ มกี ารเคลอื่ นท่ี ไดอ้ ยา่ งไรนะ ?? ครผู ู้สอน นางสาวจติ ต์ แววตา

เรือใบ เคล่อื นทไี่ ดโ้ ดยใชแ้ รงจากลมกระทาท่ใี บเรอื หรอื เคลอื่ นทไี่ ดจ้ าก ผลท่ีเกดิ จากพลงั งานลม น่นั เอง ครผู ู้สอน นางสาวจติ ต์ แววตา

ครผู ู้สอน นางสาวจติ ต์ แววตา

ทาซา้ 3 รอบ ครผู ้สู อน นางสาวจิตต์ แววตา

คลปิ หนบี กระดาษที่ปลายเสน้ ดา้ ย มกี ารเคลอ่ื นทหี่ รอื ไม่ ?? มีการเคลอื่ นท่ี ครผู ู้สอน นางสาวจติ ต์ แววตา

คลิปหนบี กระดาษที่ปลายเสน้ ดา้ ย มกี ารเคลอ่ื นท่ี เปน็ เพราะเหตใุ ด ?? เน่อื งจากมลี มเคลอ่ื นทม่ี าปะทะกบั กงั หนั ทาใหก้ งั หนั หมนุ ครผู ู้สอน นางสาวจิตต์ แววตา

นัน่ คอื แรงลมมผี ลตอ่ การหมนุ ของกงั หนั และ การเคลอื่ นทข่ี องคลปิ หนบี กระดาษ ครผู ู้สอน นางสาวจติ ต์ แววตา

ทั้ง 3 คร้งั ไดผ้ ลการทากจิ กรรมเหมอื นกนั ทุกคร้งั คอื ครผู ู้สอน นางสาวจติ ต์ แววตา

การนาพลงั งานลมมาใช้หมนุ กงั หนั ใน กิจกรรมนี้ มีขอ้ จากดั หรอื ไม่ อยา่ งไร ?? ข้อจากดั เกย่ี วกบั แรงลม คอื ถ้าแรงลมนอ้ ย กงั หันจะหมนุ ไดจ้ านวนรอบนอ้ ย สง่ ผลทาให้ คลิปหนบี กระดาษเคลอื่ นทชี่ า้ ครผู ู้สอน นางสาวจติ ต์ แววตา

พลงั งานลม เป็นพลงั งานจลนท์ ่เี กดิ จากการเคลื่อนท่ี ของอากาศ เมื่อปะทะกบั วตั ถใุ ดๆ จะถา่ ยโอน พลงั งานทาใหว้ ัตถุนัน้ หมุนหรือเคลอ่ื นทไ่ี ด้ ครผู ู้สอน นางสาวจิตต์ แววตา

ครผู ู้สอน นางสาวจติ ต์ แววตา

ใบพดั ไดโอด แกนเครอื่ งกาเนดิ ไฟฟา้ ครผู ู้สอน นางสาวจติ ต์ แววตา

ไดโอดเปลง่ แสง มกี ารสอ่ งสวา่ งหรอื ไม่ ?? ไดโอดเปลง่ แสง มี การสอ่ งสวา่ ง ครผู ้สู อน นางสาวจติ ต์ แววตา

แรงลม มผี ลตอ่ การตดิ สวา่ งของ ไดโอดเปลง่ แสงหรอื ไม่ ทดสอบอยา่ งไร ?? มีผล ทดสอบโดย สังเกตจากการตดิ สวา่ ง ของไดโอด เมือ่ ใหแ้ รงลมตา่ งกนั ครผู ้สู อน นางสาวจิตต์ แววตา

ถ้าตอ้ งการใหไ้ ดโอดเปลง่ แสง ติดสวา่ งอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ควรทาอยา่ งไร ?? ตอ้ งมแี รงลมทมี่ ากพอกระทากบั กงั หนั อย่างตอ่ เนอ่ื ง ครผู ู้สอน นางสาวจติ ต์ แววตา

มีพลงั งานไฟฟา้ เกดิ ขน้ึ หรอื ไม่ อย่างไร ?? มี พลงั งานไฟฟา้ เกดิ ขนึ้ สังเกตไดจ้ ากไดโอดเปลง่ แสงมกี ารตดิ สวา่ ง ครผู ู้สอน นางสาวจิตต์ แววตา

เม่ือลมเคล่อื นท่ีปะทะกงั หนั ทาให้กังหันหมนุ และทาให้ แกนของเครอ่ื งกาเนิดไฟฟ้าที่ติดอยู่กับกงั หัน มีการหมนุ ตามและมีพลังงานไฟฟ้าเกิดข้ึน สงั เกตได้จากการติดสว่าง ของไดโอดเปลง่ แสง แรงลมมีผลต่อการตดิ สว่างของ ไดโอดเปลง่ แสง ถา้ ต้องการใหไ้ ดโอดเปลง่ แสงติดสว่าง อย่างต่อเนื่อง ตอ้ งมีแรงลมที่มากพอกระทากบั กังหันอย่าง ตอ่ เนอื่ ง ครผู ้สู อน นางสาวจิตต์ แววตา

ครผู ู้สอน นางสาวจติ ต์ แววตา

ครผู ู้สอน นางสาวจติ ต์ แววตา

อากาศทีก่ าลงั เคล่อื นมาปะทะ กับกังหนั จะถา่ ยโอนพลงั งานให้ กังหนั ทาใหก้ งั หันหมุน สง่ ผลให้ แกนของเครอ่ื งกาเนดิ ไฟฟ้าทตี่ ิด อยู่กบั กงั หนั หมนุ ตาม และ เปลย่ี นเปน็ พลงั งานไฟฟา้ ครผู ูส้ อน นางสาวจิตต์ แววตา

ใบพัด ตัวครอบแกนหมนุ เสากงั หันลม ห้องเครอื่ ง ครผู สู้ อน นางสาวจติ ต์ แววตา

ได้แก่ - ความเรว็ ลม - ความสมา่ เสมอของความเรว็ ลม - ความยาวนานของลม จะสง่ ผลตอ่ การทางานของกงั หนั ลม ครผู ู้สอน นางสาวจติ ต์ แววตา

การตดิ ต้งั กังหนั ลม ต้องพจิ ารณา - ศกั ยภาพพลงั งานลม (ความเรว็ ,ความสมา่ เสมอ, ความยาวนานของลม ) - การออกแบบลกั ษณะกงั หนั ลม รูปแบบใบพดั วัสดใุ ชท้ าใบพดั ความสงู ของเสา ขนาดเครอ่ื งกาเนดิ ไฟฟา้ ระบบควบคมุ ตา่ ง ๆ ครูผสู้ อน นางสาวจติ ต์ แววตา

นาขอ้ มลู มาจากเครอ่ื งวดั ความเรว็ ลมใน ที่ต่างๆของประเทศไทย ใช้พจิ ารณาสถานทสี่ าหรบั ตดิ ตงั้ กงั หนั ลม ใช้ออกแบบกังหนั ลมใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพ ใช้ประเมนิ พลงั งานไฟฟา้ ทกี่ งั หนั ลม จะสามารถผลติ ได้ ครผู ู้สอน นางสาวจิตต์ แววตา

ในการผลติ ไฟฟ้าโดยใชก้ ังหันลมนิยมตดิ ตั้ง กงั หนั ลมในบรเิ วณท่ีมศี กั ยภาพพลงั งานลมสงู และ เพือ่ ใหไ้ ด้ปรมิ าณไฟฟ้าทีม่ ากพอ จึงมีการตดิ ตงั้ กงั หนั ลมจานวนมากในบรเิ วณใกลเ้ คียงกัน เรียก บริเวณดังกลา่ ววา่ ท่งุ กังหันลม (Wind Farm) ครผู ้สู อน นางสาวจิตต์ แววตา

ครผู ู้สอน นางสาวจติ ต์ แววตา

ประเทศไทยมกี ารนาพลงั งานลม มาผลติ กระแสไฟฟา้ หรอื ไม่ อย่างไร ?? มี แต่ไมค่ อ่ ยแพรห่ ลาย เพราะ ความเรว็ ลม ของประเทศไทยโดยเฉลย่ี มคี า่ คอ่ นขา้ งตา่ ครผู ู้สอน นางสาวจติ ต์ แววตา

การนาพลงั งานลมมาผลติ กระแสไฟฟ้า ในประเทศไทย การนาพลงั งานลมมาผลติ กระแสไฟฟา้ ในประเทศไทยยังไมค่ อ่ ยแพรห่ ลาย เนอ่ื งจาก ความเรว็ ลมของประเทศไทยโดยเฉล่ียมีค่าค่อนขา้ งตา่ หลายพน้ื ทย่ี งั ไมเ่ หมาะสมทจี่ ะตดิ ตงั้ กงั หนั ลมเพอ่ื ผลติ กระแสไฟฟา้ เชงิ พาณชิ ย์ ครผู ูส้ อน นางสาวจิตต์ แววตา

• แดน พอล ลาครู ์ (Dane Poul LaCour) วศิ วกรชาวเดนมาร์ก • สร้างกงั หนั ลมเพอ่ื ผลติ ไฟฟา้ เพอื่ ทดแทนการขาดแคลนพลังงานในชว่ ง สงครามโลกครง้ั ท่ี 1 และ 2 ครูผู้สอน นางสาวจิตต์ แววตา

ครผู ู้สอน นางสาวจติ ต์ แววตา

แบ่งตามลกั ษณะการทรงตวั ของแกนใบพดั ได้ 2 แบบ 1. กงั หันลมทม่ี แี กนในแนวนอน ขนานกบั ทศิ ทางลม สว่ นใบพดั จะตง้ั ฉากกับแรงลม (ใชก้ นั อยา่ งแพรห่ ลาย) ครผู ู้สอน นางสาวจิตต์ แววตา

2. กังหันลมทมี่ ีแกนในแนวตงั้ ท้งั แกนและใบพดั จะ ตง้ั ฉากกบั ทิศทางลม รบั ลมในแนวราบ้ไดทุกทศิ ทาง (้ใช้นอย) ครูผูส้ อน นางสาวจติ ต์ แววตา

ครผู ู้สอน นางสาวจติ ต์ แววตา

ไดจ้ ากธรรมชาติ สะอาดไม่มวี นั หมด ไม่มีต้นทนุ ไม่กนิ เนอ้ื ที่ ดา้ นลา่ งยงั ใชพ้ น้ื ทไี่ ดอ้ ยู่ มแี คก่ ารลงทนุ ครงั้ แรก ไม่มคี ่าเชอื้ เพลงิ ไม่ต้องมสี ายสง่ ไฟฟา้ ช่วยลดปญั หาการขาดแคลนพลังงานไฟฟ้า ในพน้ื ทท่ี ไี่ มม่ สี ายสง่ ไฟฟา้ ใช้เป็นบรเิ วณแหลง่ เรยี นรู้ ครูผูส้ อน นางสาวจิตต์ แววตา

ตอ้ งคานงึ ถงึ ศักยภาพของพลงั งานลม เช่น ความเรว็ ลม ความสม่าเสมอ และความยาวนานของการเกิดลม ประเทศไทยมีความเรว็ ลม คอ่ นขา้ งตา่ พน้ื ท่ีทเ่ี หมาะสมมีจากัด การติดต้ังอาจบดบงั ทศั นยี ภาพ และการยอมรบั จากชมุ ชน อาจเกดิ มลภาวะทางเสยี งจากการหมนุ ของใบพดั ตน้ ทนุ การผลติ สงู ต้องใชแ้ บตเตอรรี่ าคาแพง ครผู ู้สอน นางสาวจิตต์ แววตา

ครผู ู้สอน นางสาวจติ ต์ แววตา