ญญ เพอ่ื นาออกไปขายใหม่ ซ่งึ ครไู ดใ้ หผ้ ูเ้ รยี นดทู งั้ Power Point และ VDO หลกั เกณฑแ์ ละวธิ ซี ้อื หนุ้ คนื การจ าหน่ายหนุ้ ท่ี ซอ้ื คนื และการตดั หนุ้ ทซ่ี ้อื คนื ของบรษิ ทั 12.ครแู ละผูเ้ รยี นแสดงการคานวณและสาธติ การบนั ทกึ บญั ชหี นุ้ ทนุ ซ้อื คนื ซ่งึ การบนั ทกึ บญั ชหี นุ้ ทุนซ้อื คนื ต้อง ยดึ หลกตั ามลกั ษณะของหนุ้ ทซี่ ้อื คนื ซ่ึงมี 3 ลกั ษณะ คอื 12.1 หนุ้ ทุนซอ้ื คนื .(Purchases.Treasury.Stock).เม่อื ซอ้ื หนุ้ สามญั คนื มาใหบ้ นั ทกึ ในราคาทุนโดย 12.2 หนุ้ ทไี่ ดร้ บั บรจิ าค.(Donated.Treasury.Stock) สามารถบนั ทกึ บญั ชโี ดย 12.3 หนุ้ ทไี่ ดร้ บั จากลูกหน้ี (Account Receivable Treasury Stock) สามารถบนั ทกึ บญั ชโี ดย 13.ผูเ้ รยี นทากจิ กรรมฝึกทกั ษะ ดงั น้ี
ฎฎ 1) คานวณจ านวนหนุ้ ทจ่ี ะออกใหม่ 2) บนั ทกึ รายการในสมุดรายวนั ทวั่ ไป กรณีตา่ งๆ ดงั น้ี 2.1 ประกาศจา่ ยหนุ้ ปันผลเท่ากบั มูลคา่ หุ้น 2.2 ประกาศจา่ ยหนุ้ ปันผลเทา่ กบั ราคาทจ่ี าหน่ายหนุ้ ครงั้ แรกหนุ้ ละ 110 บาท 2.3 ประกาศจ่ายหนุ้ ปันผลเทา่ กบั ราคาตลาดหนุ้ ละ 120 บาท 3) บนั ทกึ วนั ออกใบหนุ้ 14.ผูเ้ รยี นทากจิ กรรมใบงาน 15.ครูใหค้ วามรูแ้ นวทางในการนาความรูไ้ ปประกอบอาชพี เพ่อื สรา้ งงานใหเ้ กดิ กบั ตนเอง และสามารถชว่ ย พฒั นาความเป็นอยู่ของประชาชนในชนบทได้ โดยนาปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง อนั เป็นปรชั ญาทช่ี ถ้ี งึ แนวทางการ ปฏบิ ตั ติ นของประชาชนในทกุ ระดบั ตงั้ แตร่ ะดบั ครอบครวั ระดบั ชมุ ชน จนถงึ ระดบั รฐั ทงั้ ในการพฒั นาและบรหิ าร ประเทศใหด้ าเนินไปในทางสายกลาง ไมฟ่ ้งุ เฟ้อ มเี หตุผลในการใชจ้ ่ายเพอ่ื การดารงชวี ติ อย่างมสี ติ ขนั้ สรปุ และการประยกุ ต์ 16.ผูเ้ รยี นสรุปความรูท้ เี่ รยี นมาทงั้ หมดในสปั ดาหน์ ้ี โดยการถามตอบเป็นรายบคุ คล และฝึกทกั ษะการ คานวณ รวมทงั้ การบนั ทกึ บญั ชี 17.ผูเ้ รยี นสรุปโดยการแสดงการคานวณ และการบนั ทกึ บญั ชี 18.ครแู นะแนวทางในการแก้ไขปัญหาคอื การนาปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง มาใชเ้ ป็นสงิ่ เสรมิ สรา้ ง พน้ื ฐานจติ ใจใหม้ สี านึกในคุณธรรม ความซอ่ื สตั ย์ สจุ รติ ดาเนนิ ชวี ติ ดว้ ยความอดทน มสี ตปิ ัญญา และรอบคอบ เพอ่ื ให้ สามารถรองรบั การเปลย่ี นแปลงทงั้ ดา้ นวตั ถุ สงั คม สง่ิ แวดลอ้ ม และวฒั นธรรมจากโลกภายนอกได้ 19.ผูเ้ รยี นทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ สือ่ และแหลง่ การเรียนรู้ 1.หนังสอื เรยี น วชิ าการบญั ชบี รษิ ทั จากดั 2.รูปภาพ 3.กจิ กรรมการเรยี นการสอน 4.ส่อื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ , Power Point, VDO หลกั ฐาน 1.บนั ทกึ การสอน 2.ใบเชค็ รายชอ่ื 3.แผนจดั การเรยี นรู้ 4.การตรวจประเมนิ ผลงาน การวดั ผลและการประเมินผล วิธีวดั ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
ฏฏ 2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 3 ตรวจกจิ กรรม 4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 5. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เคร่ืองมือวัดผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกล่มุ 3. แบบประเมนิ กจิ กรรม 4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครูและผู้เรยี นร่วมกนั ประเมนิ เกณฑก์ ารประเมินผล 1. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ตอ้ งไม่มชี อ่ งปรบั ปรงุ 2. เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกล่มุ คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป) 3. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป) 4. ตอบคาถามในกจิ กรรมจงึ จะถอื วา่ ผ่าน เกณฑก์ ารประเมนิ มเี กณฑ์ 4 ระดบั คอื 4= ดมี าก, 3 = ด,ี 2 = พอใช้ , 1= ควรปรบั ปรงุ 5. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ มเี กณฑผ์ า่ น 50% 6 แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยู่กบั การ ประเมนิ ตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ 1.ครูแนะนารูปแบบการเรยี นรู้แบบมสี ่วนร่วม (Participatory Learning) โดยเน้นผู้เรยี นเป็นศูนยก์ ลาง ประกอบดว้ ยหลกั การเรยี นรู้ขนั้ พน้ื ฐาน คอื (1) การเรยี นรู้เชงิ ประสบการณ์ (Experiental Learning) และ (2) กระบวนการกลุ่ม (Group Process) 2.แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
ฐฐ บนั ทึกหลงั การสอน ขอ้ สรปุ หลงั การสอน ............................................................................................................................. ..................... ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... ......................................................................................................................................... ......... ......................................................................................................................... ......................... ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ปัญหาที่พบ ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... แนวทางแก้ปัญหา .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... ............................................................................................................................... ...................
ฑฑ ............................................................................................................... ................................... ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. แผนการจดั การเรียนรูแ้ บบบูรณาการที่ 7 หน่วยท่ี 6 รหสั วชิ า 20201-2003 การบญั ชีบริษทั จากดั 1-4-3 สอนคร้งั ที่ 7 (31-35) ชื่อหน่วย/เรือ่ ง การจดั สรรกาไร โดยตงั้ สารองตามกฎหมายและสารองอ่นื จานวน 5 ช.ม. แนวคิด เม่อื บรษิ ทั ดาเนินงานมาแลว้ มผี ลกาไรสุทธหิ รอื ขาดทุนสทุ ธกิ ต็ ามจะโอนเขา้ บญั ชกี าไรสะสมแลว้ กาไรสะสมจะ ถูกจดั สรร เพอ่ื จา่ ยเป็นเงนิ ปันผลหรอื นาไปตงั้ สารองตามกฎหมายและสารองอ่นื ๆ การจ่ายเงนิ ปันผล จะตอ้ งเป็นไป ตามทก่ี ฎหมายกาหนด ซ่งึ ผูถ้ อื หนุ้ บรุ มิ สทิ ธพิ เิ ศษหรอื หุ้นสามญั ในเร่อื งเงนิ ปันผลซ่งึ จาแนกได้ 4 ชนิด มวี ธิ คี านวณเงนิ ปันผลตา่ งกนั การแสดงในสมุดแยกประเภททวั่ ไป ส่วนงบแสดงการเปลยี่ นแปลงสว่ นของ ผูถ้ อื หนุ้ แสดงในรูปของ รายงาน จะแสดงถงึ การเพมิ่ กาไรสะสมดว้ ยก าไรสุทธปิ ระจาปี และลดยอดกาไรสะสม ดว้ ยการจ่ายเงนิ ปันผลและ จดั สรรสารองต่างๆ ผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวงั 1.อธบิ ายและจดั สรรกาไรสะสมได้ 2.อธบิ ายและตงั้ สารองต่างๆ ได้ 3.อธบิ ายและจ่ายเงนิ ปันผลได้ 4.มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผูส้ าเร็จการศกึ ษาสานักงาน คณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทคี่ รูสามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเรอ่ื ง 4.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 4.7 ความสนใจใฝ่รู้ 4.2 ความมวี นิ ยั 4.8 การละเวน้ สงิ่ เสพตดิ และการพนัน 4.3 ความรบั ผดิ ชอบ 4.9 ความรกั สามคั คี 4.4 ความซ่อื สตั ยส์ จุ รติ 4.10 ความกตญั ญูกตเวที 4.5 ความเช่อื มนั่ ในตนเอง 4.6 การประหยดั สมรรถนะรายวิชา 1.แสดงความรูเ้ กยี่ วกบั บญั ชสี าหรบั บรษิ ทั จากดั 2.บนั ทกึ บญั ชสี าหรบั บรษิ ทั จากดั ตามขนั้ ตอนการจดั ทาบญั ชี 3.จดั ทางบการเงนิ ตามประกาศกรมพฒั นาธุรกจิ การค้า สาระการเรียนรู้
ฒฒ 1.การจดั สรรกาไรสะสม 2.การตงั้ สารองตา่ งๆ 3.การจ่ายเงนิ ปันผล กจิ กรรมการเรียนรู้ ขนั้ นาเขา้ สบู่ ทเรยี น 1.ครแู ละผูเ้ รยี นสนทนา และอภปิ รายถงึ การจดั สรรกาไรสะสม เป็นการแบง่ กาไรสะสมใหแ้ กผ่ ูถ้ อื หุน้ ในรูปของ เงนิ ปันผล และตงั้ สารองตามทก่ี ฎหมายกาหนด ถา้ มเี หลอื จะตงั้ สารองต่างๆ กาไรสะสมทเี่ หลอื กจ็ ะสะสมไวป้ ีต่อไป บรษิ ทั จะจดั สรรกาไรสะสมไดต้ ้องมยี อดเครดติ ในบญั ชกี าไรสะสม แมว้ ่าบรษิ ทั จะมผี ลขาดทนุ จากการดาเนินงานในปี ปัจจบุ นั กต็ าม บรษิ ทั อาจจ่ายเงนิ ปันผลได้ ถา้ บรษิ ทั มกี าไรสะสมยกมาจากปีก่อนเป็นจานวนเพยี งพอ การจดั สรรกาไร สะสมจงึ เป็นการกนั กาไรสะสมไวเ้ พอ่ื การตงั้ ส ารองตา่ งๆ และการจ่ายเงนิ ปันผล 2.ครูแสดงรปู ภาพการบนั ทกึ บญั ชกี ารตงั้ สารองตา่ งๆ เพอ่ื เชอ่ื มโยงเขา้ สเู่ น้อื หาตอ่ ไป ขนั้ สอน 3.ครูและผูเ้ รยี นใชเ้ ทคนคิ วธิ สี อนแบบใชโ้ สตทศั นวสั ดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method) เป็น วธิ สี อนทนี่ าอุปกรณโ์ สตทศั น์วสั ดุมาชว่ ยพฒั นาคณุ ภาพการเรยี นการสอน โสตทศั น์วสั ดดุ งั กลา่ ว ไดแ้ ก่ Power Point และ VDO เพอ่ื การตงั้ สารอง เพอ่ื ส่อื ใหผ้ ูเ้ รยี นเขา้ ใจไดง้ ่ายขน้ึ เกย่ี วกบั การจดั สรรกาไรสะสม เมอ่ื บรษิ ทั จดั ทางบกาไรขาดทนุ ซง่ึ แสดงผลของการดาเนินงานของกจิ การประจาปีแลว้ กจ็ ะ โอนกาไรสทุ ธหิ รอื ขาดทนุ สุทธเิ ขา้ บญั ชกี าไรสะสมดงั น้ี 4.ครูและผูเ้ รยี นแสดงการบนั ทกึ รายการในสมุดรายวนั ทวั่ ไปเกย่ี วกบั การตงั้ สารองต่างๆ ซง่ึ สารอง (Reserve) คอื จานวนเงนิ ทกี่ นั ออกจากบญั ชกี าไรสะสม เพอ่ื ตงั้ เป็นสารองตา่ งๆ ซง่ึ จาแนกไดด้ งั น้ี 1. การตงั้ สารองตามกฎหมาย 2. การตงั้ สารองตามขอ้ ผกู พนั 3. การตงั้ สารองตามนโยบาย 5.ผูแ้ ละผูเ้ รยี นแสดงการคานวณ และการบนั ทกึ บญั ชเี กย่ี วกบั การตงั้ สารองต่างๆ จะบนั ทกึ บญั ชโี ดย 6.ครแู ละผูเ้ รยี นคานวณ และแสดงการบนั ทกึ บญั ชเี กยี่ วกบั การจา่ ยเงนิ ปันผล ซ่งึ เงนิ ปันผล (Dividends) คอื เงนิ จากผลกาไรทบ่ี รษิ ทั ไดม้ าจากการดาเนินงานซ่งึ จ่ายใหแ้ ก่ ผูถ้ อื หนุ้ ตามสว่ นทผ่ี ูถ้ อื หนุ้ ไดส้ ่งใชค้ า่ หนุ้ แลว้
ณณ กรณีทบ่ี รษิ ทั มผี ูถ้ อื หนุ้ 2 ชนิด คอื หนุ้ สามญั และหุน้ บุรมิ สทิ ธิ ผูถ้ อื หนุ้ บุรมิ สทิ ธจิ ะมสี ทิ ธิพเิ ศษเกย่ี วกบั การรบั เงนิ ปันผลก่อนผูถ้ อื หนุ้ สามญั สทิ ธพิ เิ ศษของผูถ้ ือหุน้ บุรมิ สทิ ธเิ กยี่ วกบั การรบั เงนิ ปันผลอาจจาแนกได้ดงั น้ี 1) หนุ้ บรุ มิ สทิ ธปิ ระเภทไม่สะสมและไม่ร่วมรบั (Noncumulative and Nonparticipating Preferred Stock) 2) หนุ้ บุรมิ สทิ ธปิ ระเภทสะสมแต่ไม่รว่ มรบั .(Cumulative.but.Nonparticipating Preferred.Stock) 3) หนุ้ บรุ มิ สทิ ธปิ ระเภทไมส่ ะสมแตร่ ่วมรบั (Noncumulative but Participating Preferred Stock) 3.1 จา่ ยใหแ้ กผ่ ูถ้ อื หนุ้ บุรมิ สทิ ธิ ส าหรบั ปีทป่ี ระกาศจ่ายเงนิ ปันผลตามอตั ราทรี่ ะบุไว้ 3.2 ถ้ามเี งนิ ปันผลเหลอื จงึ จะจ่ายใหแ้ กผ่ ูถ้ อื หนุ้ สามญั ในอตั ราเดยี วกนั กบั ทผ่ี ูถ้ อื หนุ้ บุรมิ สทิ ธิไดร้ บั 3.3 ถา้ ยงั มเี งนิ ปันผลเหลอื อกี จะนามาร่วมรบั 4) หนุ้ บุรมิ สทิ ธปิ ระเภทสะสมและรว่ มรบั .(Cumulative.and.Participating. Preferred Stock) 7.ผูเ้ รยี นฝึกทกั ษะการคานวณและการบนั ทกึ บญั ชดี งั น้ี 1) คานวณเงนิ ปันผลของผถู้ อหื นุ้ ทงั้ 2 ชนดิ ในกรณดี งั น้ี 1.1 หนุ้ บุรมิ สทิ ธปิ ระเภทไม่สะสมและไม่รว่ มรบั 1.2 หนุ้ บุรมิ สทิ ธปิ ระเภทสะสมแต่ไม่ร่วมรบั 1.3 หนุ้ บุรมิ สทิ ธปิ ระเภทไมส่ ะสมแตร่ ว่ มรบั 1.4 หุน้ บุรมิ สทิ ธปิ ระเภทสะสมและรว่ มรบั 2) บนั ทกึ รายการในสมดุ รายวนั ทวั่ ไปเกยี่ วกบั เงนิ ปันผลประจาปี กรณี ขอ้ .1.2 พรอ้ มตงั้ สารอง ตามกฎหมาย 8.ผูเ้ รยี นปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตามขนั้ ตอนดงั น้ี 8.1. ผูเ้ รยี นแบ่งกลมุ่ กลุม่ ละ 5-6 คน โดยคละความสามารถ 8.2. ทกุ กลมุ่ สารวจบรษิ ทั จากดั และบรษิ ทั มหาชนจากดั เพ่อื ศกึ ษาขอ้ มลู เกย่ี วกบั การจดั สรร กาไรสะสม การตงั้ สารองต่างๆ การจ่ายเงนิ ปันผล การจดั ทาบญั ชกี าไรสะสมและงบแสดงการ เปลยี่ นแปลง สว่ นของผูถ้ อื หนุ้ กล่มุ ละ 2 บรษิ ทั (บรษิ ทั จากดั 1 แห่ง และบรษิ ทั มหาชนจากดั 1 แหง่ ) 8.3. สง่ ตวั แทนนาเสนอสรปุ ขอ้ ความรูข้ องบรษิ ทั ตามขอ้ 8.2 8.4. นาผลงานสง่ ครผู สู้ อนเพอ่ื ประเมนิ ผล 8.5. แจกใบประเมนิ ผลใหผ้ ูเ้ รยี นประเมนิ ทกุ กล่มุ
ดด 9.ผูเ้ รยี นฝึกทกั ษะในกจิ กรรม 10.ผูเ้ รยี นทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 11.ครเู น้นปฏบิ ตั ทิ าเกลยี วทอ่ โลหะหนาดว้ ยความระมดั ระวงั ในเร่อื งความปลอดภยั ระหว่างการทางานและ การนาไปใช้ เพ่อื สรา้ งภมู ิค้มุ กนั ในตวั เอง และเสนอแนะการนาความรูไ้ ปประกอบอาชพี เพอ่ื สรา้ งรายไดใ้ หแ้ ก่ตนเอง และครอบครวั ตอ่ ไป ขนั้ สรปุ และการประยกุ ต์ 12.ผูเ้ รยี นสรปุ เน้อื หา โดยครูใชว้ ธิ สี มุ่ ผูเ้ รยี นทุกคนตอบคาถามและอธบิ ายใหเ้ พ่อื นฟังทงั้ ชนั้ เรยี น พรอ้ มสรปุ เน้อื หาอกี ครงั้ 13.ผูเ้ รยี นทากจิ กรรมส่งเสรมิ การเรยี นรู้ และแบบฝึกหดั ทา้ ยหน่วย 14.ประเมนิ ผูเ้ รยี นตามแบบฟอรม์ ต่อไปน้ี ช่อื ผูเ้ รยี น ธรรมชาตขิ องผูเ้ รยี น วธิ กี ารเรยี นรู้ ความสนใจ สตปิ ัญญา วุฒภิ าวะ 1. 2. 3. แบบประเมนิ ประสบการณ์พน้ื ฐานการเรยี นรู้ ชอ่ื ผูเ้ รยี น ประสบการณพ์ น้ื ฐานการเรยี นรู้ วธิ กี ารเรยี นรู้ ความรู้ ทกั ษะ ผลงาน 1. 2. 3. สอื่ และแหลง่ การเรียนรู้ 1.หนังสอื เรยี น วชิ าการบญั ชีบริษทั จากดั 2.รปู ภาพ 3.กจิ กรรมการเรยี นการสอน 4.ส่อื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ , Power Point 5.แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 6.กจิ กรรมฝึกปฏบิ ตั ิ หลกั ฐาน 1.บนั ทกึ การสอน 2.ใบเชค็ รายช่อื 3.แผนจดั การเรยี นรู้ 4.การตรวจประเมนิ ผลงาน การวดั ผลและการประเมินผล
ตต วิธีวดั ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ 3 ตรวจกจิ กรรมฝึกปฏบิ ตั ิ 4. ตรวจกจิ กรรมใบงาน 5. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 6. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เครื่องมือวัดผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ 3. แบบประเมนิ กจิ กรรม 4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครูและผู้เรยี น รว่ มกนั ประเมนิ เกณฑก์ ารประเมินผล 1. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ตอ้ งไม่มชี ่องปรบั ปรงุ 2. เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป) 3. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป) 4. ตอบคาถามในกจิ กรรมจงึ จะถอื วา่ ผา่ น เกณฑก์ ารประเมนิ มเี กณฑ์ 4 ระดบั คอื 4= ดมี าก, 3 = ด,ี 2 = พอใช้ , 1= ควรปรบั ปรงุ 5. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ มเี กณฑผ์ ่าน 50% 6. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การ ประเมนิ ตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ ผูเ้ รยี นฝึกทกั ษะการคานวณในแบบฝึกทกั ษะ และแบบฝึกหดั
ถถ บนั ทึกหลงั การสอน ข้อสรปุ หลงั การสอน ............................................................................................................................. ..................... ................................................................................................................................ .................. .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... ............................................................................................................................. ..................... ........................................................................................................... ....................................... ปัญหาที่พบ ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... แนวทางแก้ปัญหา .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... ............................................................................................................................... ...................
ทท ............................................................................................................... ................................... ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... ............................................................................................................................. ..................... แผนการจดั การเรียนรแู้ บบบรู ณาการท่ี 8 หน่วยท่ี 6 รหสั วชิ า 20201-2003 การบญั ชีบริษทั จากดั 1-4-3 สอนครงั้ ท่ี 8 (36-40) ชื่อหน่วย/เรอื่ ง การจดั สรรกาไร โดยต้งั สารองตามกฎหมายและสารองอ่ืน จานวน 5 ช.ม. แนวคิด เม่อื บรษิ ทั ดาเนินงานมาแลว้ มผี ลกาไรสทุ ธหิ รอื ขาดทุนสทุ ธกิ ต็ ามจะโอนเขา้ บญั ชกี าไรสะสมแลว้ กาไรสะสมจะ ถกู จดั สรร เพอ่ื จ่ายเป็นเงนิ ปันผลหรอื นาไปตงั้ สารองตามกฎหมายและสารองอ่นื ๆ การจ่ายเงนิ ปันผล จะตอ้ งเป็นไป ตามทก่ี ฎหมายกาหนด ซ่งึ ผูถ้ อื หนุ้ บรุ มิ สทิ ธพิ เิ ศษหรอื หุ้นสามญั ในเรอ่ื งเงนิ ปันผลซ่งึ จาแนกได้ 4 ชนดิ มวี ธิ คี านวณเงนิ ปันผลตา่ งกนั การแสดงในสมุดแยกประเภททวั่ ไป สว่ นงบแสดงการเปลย่ี นแปลงสว่ นของ ผูถ้ อื หนุ้ แสดงในรูปของ รายงาน จะแสดงถงึ การเพมิ่ กาไรสะสมดว้ ยก าไรสุทธปิ ระจาปี และลดยอดกาไรสะสม ดว้ ยการจา่ ยเงนิ ปันผลและ จดั สรรสารองต่างๆ ผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวงั 4.อธบิ ายและแสดงบญั ชกี าไรสะสมได้ 5.อธบิ ายและจดั ทางบแสดงการเปลยี่ นแปลงสว่ นของผูถ้ อื หนุ้ ได้ 5.มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผูส้ าเรจ็ การศกึ ษาสานกั งาน คณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รูสามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเร่อื ง 5.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 5.7 ความสนใจใฝ่รู้ 5.2 ความมวี นิ ัย 5.8 การละเวน้ สงิ่ เสพตดิ และการพนนั 5.3 ความรบั ผดิ ชอบ 5.9 ความรกั สามคั คี 5.4 ความซอ่ื สตั ยส์ ุจรติ 5.10 ความกตญั ญูกตเวที 5.5 ความเช่อื มนั่ ในตนเอง 5.6 การประหยดั สมรรถนะรายวิชา 1.แสดงความรูเ้ กย่ี วกบั บญั ชสี าหรบั บรษิ ทั จากดั 2.บนั ทกึ บญั ชสี าหรบั บรษิ ทั จากดั ตามขนั้ ตอนการจดั ทาบญั ชี 3.จดั ทางบการเงนิ ตามประกาศกรมพฒั นาธรุ กจิ การค้า สาระการเรียนรู้ 4.การแสดงบญั ชกี าไรสะสม
ธธ 5.การจดั ทางบแสดงการเปลยี่ นแปลงส่วนของผูถ้ อื หนุ้ กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นาเขา้ สู่บทเรยี น 1.ครูใชเ้ ทคนิคการสอนแบบซปิ ปาโมเดล (CIPPA MODEL) โดยการทบทวนความรูเ้ ดมิ จากสปั ดาหท์ ผ่ี ่านมา โดยดงึ ความรูเ้ ดมิ ของผูเ้ รยี นในเร่อื งทจ่ี ะเรยี น เพ่อื ชว่ ยใหผ้ ูเ้ รยี นมคี วามพรอ้ มในการเช่อื มโยงความรูใ้ หมก่ บั ความรูเ้ ดมิ ของตน ผูส้ อนใชก้ ารสนทนาซกั ถามใหผ้ ูเ้ รยี นเลา่ ประสบการณ์เดมิ 2.ครูและผูเ้ รยี นสนทนาเร่อื งบญั ชกี าไรสะสม (Retained Earning Account) เป็นบญั ชที เ่ี กบ็ รวบรวมกาไร ขาดทุนของทกุ ปี ตงั้ แตเ่ รมิ่ ด าเนินงานจนถงึ ปัจจบุ นั 3.ครูและผูเ้ รยี นร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ ในการนาหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง มาประยกุ ตใ์ ช้เพอ่ื เน้นใหผ้ ูเ้ รยี นฝึกเร่อื งความระมดั ระวงั ความมภี มู คิ มุ้ กนั ทดี่ ใี นตวั เองและความรอบคอบ ความรบั ผดิ ชอบ ความอดทน ความเพยี ร ความเออ้ื อาทรตอ่ เพ่อื นรว่ มงาน เป็นตน้ ขนั้ สอน 4.ครูใชเ้ ทคนิควธิ สี อนแบบใชโ้ สตทศั นวสั ดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method) เป็นวธิ สี อนทนี่ า อปุ กรณ์โสตทศั น์วสั ดุมาชว่ ยพฒั นาคุณภาพการเรยี นการสอน โสตทศั น์วสั ดดุ งั กล่าว ไดแ้ ก่ Power Point เพ่อื แสดง บญั ชกี าไรสะสม ซง่ึ แสดงในสมุดแยกประเภททวั่ ไปดงั น้ี 5.ครูและผูเ้ รยี นใชเ้ ทคนิคการอธบิ าย และสาธติ การจดั ทางบแสดงการเปลย่ี นแปลงส่วนของผถู้ อื หนุ้ ซ่งึ งบแสดงการเปลยี่ นแปลงส่วนของผูถ้ อื หนุ้ ตามมาตรฐานการบญั ชี ฉบบั ที่ 1 หมายถงึ การแสดงถงึ การเปลย่ี นแปลง ของรายการต่างๆ ทจ่ี ดั อยูใ่ นสว่ นของผูถ้ อื หุ้น ไดแ้ ก่ทุนจดทะเบยี น และเรยี กชาระสว่ นเกนิ มลู คา่ หุน้ ส่วนเกนิ ทุนจาก
นน การตรี าคาสนิ ทรพั ย์ และกาไรสะสม เป็นตน้ โดย ในแตล่ ะรายการในส่วนของผูถ้ อื หนุ้ จะมกี ารแสดงจานวน ณ วนั ตน้ งวดรายการ เพมิ่ ขน้ึ และลดลง ในระหวา่ งงวดและจ านวน ณ วนั สน้ิ งวด รวมทัง้ การจ่ายเงนิ ปันผลและการตงั้ สารอง ต่างๆ จะต้อง หกั ออกจากกาไรสะสมดว้ ย เป็นงบทแ่ี สดงรายละเอยี ดของกาไรสะสม เช่นเดยี วกบั บญั ชกี าไรสะสม เพราะแสดงถงึ การเปลย่ี นแปลงสว่ นของผูถ้ อื หนุ้ 6.ครูและผูเ้ รยี นแสดงการจดั ทางบแสดงการรบั รูร้ ายไดแ้ ละคา่ ใชจ้ ่าย ดงั น้ี
บบ 7.ผูเ้ รียนฝึกทกั ษะปฏิบตั กิ ิจกรรมดงั น้ี 7.1 บนั ทกึ รายการในสมดุ รายวนทั ว่ั ไป 7.2 บญั ชีกาไรสะสมและคานวณกาไรสะสมในวนั สิ้นงวดบญั ชี 7.3 งบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของผถู้ อื หุ้น
ปป
ผผ 8.ผเู้ รียนฝึกทกั ษะปฏบิ ตั ิกิจกรรม ดงั น้ี 1) บนั ทกึ รายการในสมุดรายวนั ทว่ั ไป 2) บญั ชีกาไรสะสมและคานวณหากาไรสะสม ณ วนั ส้ินงวด 3) งบแสดงการเปลย่ี นแปลงส่วนของผถู้ อหื ุน้ 9.ผเู้ รียนปฏิบตั ิกิจกรรมตามข้นั ตอนดงั น้ี 9.1 ผเู้ รียนศกึ ษาหาความรู้เรื่องงบแสดงการเปล่ียนแปลงส่วนของผถู้ อื หุน้ ของบริษทั จ ากดั และ บริษทั มหาชนจ ากดั 9.2 วิเคราะหร์ ายการบญั ชีเพ่อื จดั ท างบแสดงการเปลีย่ นแปลงส่วนของผูถ้ ือหุน้ รวมท้งั การบนั ทกึ บญั ชี และการค านวณอืน่ ๆ ทเ่ี ก่ียวขอ้ ง 9.3 ทาแบบประเมินผลหน่วย 9.4 เปิดโอกาสให้ผูเ้ รียนแสดงความคดิ เหน็ ร่วมกนั 9.5 ใหผ้ ูเ้ รียนทกุ คนต้งั คาถาม และครูผูส้ อนสุ่มให้ผเู้ รียนคนอ่ืนๆ ตอบคาถาม
ฝฝ 9.6 นาผลงานส่งครูผสู้ อนเพอ่ื ประเมินผล 10.ผเู้ รียนอธิบายความหมายของรายการดงั ตอ่ ไปน้ี 11.ผูเ้ รยี นทากจิ กรรม และแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 12.ครใู หค้ วามรูแ้ ละเป็นทปี่ รกึ ษาใหผ้ ูเ้ รยี นชว่ ยกนั เสรมิ สรา้ ง พฒั นาดว้ ยความเพยี ร อดทน และเสยี สละ ผูท้ มี่ โี อกาสมากกว่าต้องช่วยเหลอื แบ่งปัน ผูฉ้ ลาดตอ้ งเกอ้ื กูล ผูใ้ หญ่ตอ้ งทาเป็นตวั อย่างแกเ่ ดก็ ๆ พอ่ แม่ต้องเป็น ตวั อยา่ งทด่ี แี กล่ ูก ครูตอ้ งช่วยกนั อบรมสงั่ สอน ผูเ้ รยี นใหค้ ดิ เป็นพง่ึ ตนเองได้ 13.ผูเ้ รยี นยกตวั อย่างปัญหาการนาเศรษฐกจิ พอเพยี งมาประยกุ ตใ์ ชใ้ นงานบญั ชอี ย่างเพยี งพอ และมี ประสทิ ธภิ าพ ขนั้ สรปุ และการประยกุ ต์ 14.ผูเ้ รยี นสรุปเน้อื หาการแสดงบญั ชกี าไรสะสม และการจดั ทางบแสดงการเปลยี่ นแปลงสว่ นของผูถ้ อื หนุ้ 15.ผูเ้ รยี นทากจิ กรรมเพ่อื ฝึกทกั ษะ แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ และประเมนิ ตนเองจากแบบประเมนิ ตนเอง พรอ้ มทากจิ กรรมการจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้ 16.ประเมนิ ผูเ้ รยี นตามแบบฟอรม์ ต่อไปน้ี ช่อื ผูเ้ รยี น ประสบการณ์พน้ื ฐานการเรยี นรู้ วธิ กี ารเรยี นรู้ ความรู้ ทกั ษะ ผลงาน 1. 2. 3. 4. 5. สือ่ และแหล่งการเรียนรู้ 1.หนงั สอื เรยี น วชิ าการบญั ชีบริษทั จากดั
พพ 2.กจิ กรรมการเรยี นการสอน 3.ส่อื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ 4.แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 5.กจิ กรรมเพอ่ื ฝึกทกั ษะในการเรยี นการสอน หลกั ฐาน 1.บนั ทกึ การสอน 2.ใบเชค็ รายช่อื 3.แผนจดั การเรยี นรู้ 4.การตรวจประเมนิ ผลงาน การวดั ผลและการประเมินผล วิธีวดั ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกล่มุ 3 ตรวจกจิ กรรม 4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 5. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เคร่ืองมือวดั ผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุม่ 3. แบบประเมนิ กจิ กรรม 4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 5. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครูและผู้เรยี นร่วมกนั ประเมนิ เกณฑ์การประเมินผล 1. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ตอ้ งไมม่ ชี ่องปรบั ปรงุ 2. เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป) 3. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป) 4. ตอบคาถามในกจิ กรรมจงึ จะถอื ว่าผา่ น เกณฑก์ ารประเมนิ มเี กณฑ์ 4 ระดบั คอื 4= ดมี าก, 3 = ด,ี 2 = พอใช้ , 1= ควรปรบั ปรงุ 5. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ มเี กณฑผ์ ่าน 50% 6 แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยู่กบั การ ประเมนิ ตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ ควรทบทวน และแสดงการคานวณการแสดงบญั ชกี าไรสะสม การจดั ทางบแสดงการเปลย่ี นแปลงสว่ นของผถู้ อื หนุ้ และบนั ทกึ บญั ชใี นสมุดรายวนั ทวั่ ไป เพ่อื นาไปใชเ้ กดิ ประโยชน์ตอ่ ไป
ฟฟ บนั ทึกหลงั การสอน ข้อสรปุ หลงั การสอน .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... ................................................................................................................................................. . ............................................................................................................................. ..................... ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ปัญหาที่พบ ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .....................
ภภ ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... แนวทางแก้ปัญหา .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... ............................................................................................................................... ................... ............................................................................................................... ................................... ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... ............................................................................................................................. ..................... แผนการจดั การเรียนร้แู บบบูรณาการท่ี 9 หน่วยท่ี 7 รหสั วิชา 20201-2003 การบญั ชีบริษทั จากดั 1-4-3 สอนครงั้ ท่ี 9 (41-45) ช่ือหน่วย/เรอื่ ง การจดั ทางบการเงินของบริษทั จากดั จานวน 5 ช.ม. แนวคิด การจดั ทางบการเงนิ เป็นการแสดงรายงานทางการเงนิ เพ่อื นาเสนอขอ้ มลู ทางการเงนิ อย่างมแี บบแผน เพอ่ื แสดงฐานะการเงนิ และผลการดาเนินงานในรอบระยะเวลาบญั ช.ี ควรจดั อย่างนอ้ ยปีละหนง่ึ ครงั้ ซ่งึ ในปัจจุบนั งบ การเงนิ ทสี่ มบรู ณต์ ามมาตรฐานการบญั ชฉี บบั ท่ี 1 โดยสภาวชิ าชพี บญั ชี ประกอบดว้ ยงบแสดงฐานะการเงนิ งบกาไร ขาดทนุ งบแสดงการเปลยี่ นแปลงส่วนของผูถ้ อื หนุ้ งบกระแสเงนิ สดและหมายเหตุประกอบงบการเงนิ ประกอบดว้ ย สรปุ นโยบายการบญั ชที ส่ี าคญั และคาอธบิ ายอ่นื ผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวัง 1.อธบิ ายความหมายและงบการเงนิ ฉบบั สมบูรณ์ได้ 2.กาหนดรายการย่อทต่ี ้องมใี นงบการเงนิ ได้ 3.อธบิ ายและจดั ทาหมายเหตุประกอบงบการเงนิ ได้ 4.มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผูส้ าเรจ็ การศกึ ษาสานกั งาน คณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทคี่ รสู ามารถสงั เกตได้ขณะทาการสอนในเรอ่ื ง 4.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 4.2 ความมวี นิ ยั 4.3 ความรบั ผดิ ชอบ 4.4 ความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ 4.5 ความเช่อื มนั่ ในตนเอง 4.6 การประหยดั 4.7 ความสนใจใฝ่รู้
มม 4.8 การละเวน้ สงิ่ เสพตดิ และการพนัน 4.9 ความรกั สามคั คี 4.10 ความกตญั ญูกตเวที สมรรถนะรายวิชา 1.แสดงความรูเ้ กยี่ วกบั บญั ชสี าหรบั บรษิ ทั จากดั 2.บนั ทกึ บญั ชสี าหรบั บรษิ ทั จากดั ตามขนั้ ตอนการจดั ทาบญั ชี 3.จดั ทางบการเงนิ ตามประกาศกรมพฒั นาธรุ กจิ การค้า สาระการเรยี นรู้ 1.ความหมายและงบการเงนิ ฉบบั สมบรู ณ์ 2.การกาหนดรายการยอ่ ทตี่ อ้ งมใี นงบการเงนิ 3.หมายเหตุประกอบงบการเงนิ กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นาเข้าสูบ่ ทเรยี น 1.ครแู ละผูเ้ รยี นสนทนาเกย่ี วกบั งบการเงนิ (Financial Statement) หมายถงึ รายงานทางการเงนิ ทน่ี าเสนอ ขอ้ มูลเพ่อื แสดงฐานะทางการเงนิ ผลการดาเนินงาน และกระแสเงนิ สดของกจิ การอยา่ งถกู ต้องในแต่ละงวดบญั ชใี ด บญั ชหี น่ึง งบการเงนิ จะแสดงขอ้ มลู โดยถกู ตอ้ งตามทค่ี วรกต็ อ่ เมอ่ื กจิ การไดป้ ฏบิ ตั ติ ามมาตรฐาน การบญั ชอี ยา่ ง เหมาะสม รวมทงั้ การเปิดเผยขอ้ มลู เพม่ิ เตมิ ทจี่ าเป็น งบการเงนิ ดงั กล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อผูใ้ ชง้ บการเงนิ ในการ ตดั สนิ ใจเชงิ เศรษฐกจิ และแสดงถงึ ผลการบรหิ ารงานของฝ่ายบรหิ าร ซง่ึ ไดร้ บั ความไวว้ างใจใหด้ ูแลทรพั ยากรของ กจิ การ งบการเงนิ ตอ้ งจดั ทาอยา่ งนอ้ ยปีละ 1 ครงั้ และนาเสนอขอ้ มูลดงั ตอ่ ไปน้คี อื สนิ ทรพั ย์ หน้ีสนิ สว่ นของเจา้ ของ รายได้ ค่าใชจ้ ่าย และกระแสเงนิ สด 2.ผูเ้ รยี นแสดงตวั อย่างงบการเงนิ เช่น งบกาไรขาดทุน งบแสดงฐานะการเงนิ เป็นตน้ ขนั้ สอน 3.ครูใชเ้ ทคนิควธิ สี อนแบบใชโ้ สตทศั นวสั ดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method) เป็นวธิ สี อนทนี่ า อปุ กรณโ์ สตทศั น์วสั ดมุ าช่วยพฒั นาคุณภาพการเรยี นการสอน โสตทศั น์วสั ดุดงั กล่าว ไดแ้ ก่ Power Point และ VDO ประกอบการศกึ ษาความหมายและงบการเงนิ ฉบบั สมบูรณ์ งบการเงนิ ฉบบั สมบรู ณ์ ตามมาตรฐานการบญั ชฉี บบั ท่ี 1 โดยสภาวชิ าชพี บญั ชี ประกอบดว้ ย 3.1 งบแสดงฐานะการเงนิ ณ วนั สน้ิ งวด 3.2 งบกาไรขาดทุนเบด็ เสรจ็ สาหรบั งวด 3.3 งบแสดงการเปลยี่ นแปลงสว่ นของผูถ้ อื หนุ้ สาหรบั งวด 3.4 งบกระแสเงนิ สดสาหรบั งวด 3.5 หมายเหตุประกอบงบการเงนิ ประกอบดว้ ยสรปุ นโยบายการบญั ชที สี่ าคญั ขอ้ มลู ทใ่ี หค้ าอธบิ ายอ่นื 3.6 งบแสดงฐานะการเงนิ ณ วนั ตน้ งวดของงวดทนี่ ามาเปรยี บเทยี บงวดแรกสุด เมอ่ื กจิ การไดน้ านโยบาย การบญั ชใี หม่มาถอื ปฏบิ ตั ยิ อ้ นหลงั หรอื การปรบั งบการเงนิ ยอ้ นหลงั หรอื เม่อื กจิ การมกี ารจดั ประเภทรายการในงบ การเงนิ ใหม่ กจิ การอาจจะใชช้ ่อื อ่นื สาหรบั งบการเงนิ
ยย 4.ครูและผูเ้ รยี นใชว้ ธิ สี อนอธบิ ายเรอ่ื งการกาหนดรายการย่อทตี่ ้องมใี นงบการเงนิ โดยใชส้ ่อื PowerPoint และ VDO ประกอบการเรยี น ซง่ึ กรมพฒั นาธุรกจิ การคา้ ได้ก าหนดรายการยอ่ ทต่ี ้องมใี นงบการเงนิ ซง่ึ ตอ้ งมรี ายการยอ่ ดงั ตอ่ ไปน้ี 4.1. หา้ งหนุ้ สว่ นจดทะเบยี น ตอ้ งมรี ายการยอ่ ตามแบบที่ 1 4.2 บรษิ ทั จากดั ตอ้ งมรี ายการยอ่ ตามแบบท่ี 2 4.3 บรษิ ทั มหาชนจากดั ตอ้ งมรี ายการย่อตามแบบท่ี 3 4.4 นิตบิ คุ คลทตี่ งั้ ขน้ึ ตามกฎหมายตา่ งประเทศ ต้องมรี ายการย่อตามแบบที่ 4 4.5 กจิ การรว่ มคา้ ตามประมวลรษั ฎากร ต้องมรี ายการยอ่ ตามแบบท่ี 5 หมายเหตุ ในหน่วยน้จี ะขอยกตวั อย่างเฉพาะแบบที่ 2 และแบบท่ี 3 เท่านนั้ 5.ครแู ละผูเ้ รยี นอธบิ าย และแสดงหมายเหตปุ ระกอบงบการเงนิ โดยใชส้ ่อื Power Point และ VDO ประกอบการเรยี น ซึ่งหมายเหตปุ ระกอบงบการเงนิ หมายถงึ ขอ้ มลู ทนี่ าเสนอเพม่ิ เตมิ จากทแี่ สดงในงบแสดง ฐานะ การเงนิ งบกาไรขาดทุน งบแสดงการเปลย่ี นแปลงสว่ นของเจา้ ของและงบกระแสเงนิ สด หมายเหตปุ ระกอบงบการเงนิ จะใหข้ อ้ มลู เกยี่ วกบั คาอธบิ ายรายการ รายละเอยี ดของรายการต่างๆ ทแี่ สดงในงบการเงนิ และขอ้ มูลเกย่ี วกบั รายการท่ี ไมเ่ ขา้ เกณฑก์ ารรบั รูร้ ายการในงบการเงนิ ทน่ี าเสนอ 6.ผูเ้ รยี นเขยี นร่างแบบฟอรม์ งบการเงนิ ของบรษิ ทั จากดั รายการยอ่ ตามแบบที่ 2 ประกอบดว้ ย 6.1 งบแสดงฐานะการเงนิ 6.2 งบกาไรขาดทุน 6.3 งบแสดงการเปลยี่ นแปลงสว่ นของผูถ้ อื หนุ้ 7.ผูเ้ รยี นเขยี นรา่ งแบบฟอรม์ งบการเงนิ ของบรษิ ทั มหาชนจากดั รายการยอ่ ตามแบบท่ี 3 ประกอบดว้ ย 7.1 งบแสดงฐานะการเงนิ 7.2 งบก าไรขาดทนุ 7.3 งบแสดงการเปลยี่ นแปลงส่วนของผูถ้ อื หนุ้ 7.4 งบกระแสเงนิ สด 8.ผูเ้ รยี นทากจิ กรรมใบงาน และแบบฝึกปฏบิ ตั ิ 9.ผูเ้ รยี นทากจิ กรรมฝึกทกั ษะการคานวณ ตามโจทยท์ กี่ าหนดใหแ้ ตล่ ะขอ้ 10.เมอ่ื ผูเ้ รยี นสาเรจ็ การศกึ ษาและนาความรูเ้ พ่อื นาไปประกอบอาชพี โดยเนน้ หลกั เศรษฐกจิ พอเพยี ง ผูเ้ รยี น จะต้องปฏบิ ตั อิ ยา่ งไรบา้ งเกยี่ วกบั เงอ่ื นไขความรูแ้ ละเงอ่ื นไขของคุณธรรม ขนั้ สรปุ และการประยกุ ต์ 11.ครูกาหนดปัญหาโดยใหผ้ ูเ้ รยี นระดมสมองช่วยกนั คดิ หาคาตอบแลว้ อธบิ ายคาตอบ 12.ผูเ้ รยี นสรุปความหมายและงบการเงนิ ฉบบั สมบูรณ์ การกาหนดรายการยอ่ ทต่ี ้องมใี นงบการเงนิ และหมาย เหตปุ ระกอบงบการเงนิ 13.ผูเ้ รยี นทากจิ กรรมเพอ่ื ฝึกทกั ษะ และแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ สื่อและแหล่งการเรยี นรู้ 1.หนังสอื เรยี น วชิ าการบญั ชีบริษทั จากดั 2.กจิ กรรมการเรยี นการสอน 3.ส่อื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ , Power Point และ VDO 4.แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หลกั ฐาน
รร 1.บนั ทกึ การสอน 2.ใบเชค็ รายชอ่ื 3.แผนจดั การเรยี นรู้ 4.การตรวจประเมนิ ผลงาน การวดั ผลและการประเมินผล วิธีวดั ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ 3 ตรวจกจิ กรรม 4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 5. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เคร่ืองมือวัดผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ 3. แบบประเมนิ กจิ กรรม 4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 5. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครูและผู้เรยี นรว่ มกนั ประเมนิ เกณฑ์การประเมินผล 1. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ตอ้ งไม่มชี ่องปรบั ปรุง 2. เกณฑผ์ ่านการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป) 3. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป) 4. ตอบคาถามในกจิ กรรมจงึ จะถอื วา่ ผา่ น เกณฑก์ ารประเมนิ มเี กณฑ์ 4 ระดบั คอื 4= ดมี าก, 3 = ด,ี 2 = พอใช้ , 1= ควรปรบั ปรงุ 5. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ มเี กณฑผ์ า่ น 50% 6. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การ ประเมนิ ตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ ทบทวนเน้อื หา และทากจิ กรรม แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ บนั ทึกหลงั การสอน ขอ้ สรปุ หลงั การสอน ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... ......................................................................................................................................... ......... ......................................................................................................................... ......................... ............................................................................................................................. .....................
ลล .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... ปัญหาที่พบ ............................................................................................................................. ..................... ......................................................................................................... ......................................... ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... แนวทางแกป้ ัญหา .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... ...................................................................................................................................... ............ ...................................................................................................................... ............................ ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... ................................................................................................................................. ................. แผนการจัดการเรียนรูแ้ บบบูรณาการท่ี 10 หน่วยท่ี - รหสั วิชา 20201-2003 การบญั ชีบริษทั จากดั 1-4-3 สอนคร้งั ที่ 10 (49-50) ชือ่ หนว่ ย/เร่อื ง ทบทวน/สอบกลางภาคเรียน จานวน 5 ช.ม. แนวคิด - ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง 1.ผูเ้ รยี นเกดิ การเรยี นรูเ้ น้อื หาสาระ และนาความคดิ รวบยอดไปประยุกต์ใชต้ อ่ ไป 2.มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผูส้ าเรจ็ การศึกษา สานกั งาน คณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รูสามารถสงั เกตได้ขณะทาการสอนในเรอ่ื ง 2.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 2.6 การประหยดั 2.2 ความมวี นิ ยั 2.7 ความสนใจใฝ่รู้
วว 2.3 ความรบั ผดิ ชอบ 2.8 การละเวน้ สงิ่ เสพตดิ และการพนัน 2.4 ความซ่อื สตั ยส์ ุจรติ 2.9 ความรกั สามคั คี 2.5 ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง 2.10 ความกตญั ญูกตเวที สมรรถนะรายวิชา 1.แสดงความรูเ้ กย่ี วกบั บญั ชสี าหรบั บรษิ ทั จากดั 2.บนั ทกึ บญั ชสี าหรบั บรษิ ทั จากดั ตามขนั้ ตอนการจดั ทาบญั ชี 3.จดั ทางบการเงนิ ตามประกาศกรมพฒั นาธุรกจิ การค้า สาระการเรียนรู้ ทบทวน/สอบกลางภาคเรียน บนั ทึกหลงั การสอบ ขอ้ สรปุ หลงั การสอน .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .... ............................................................................................................................. ..................... ........................................................................................................ .......................................... ........................................................................................................ .......................................... ปัญหาท่ีพบ .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .... .............................................................................................................................. .................... .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................
ศศ .................................................................................................................................................. ......................................................................................................................................... ......... ......................................................................................................................... ......................... แนวทางแกป้ ัญหา .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................... ....... ............................................................................................................................. ..................... ..................................................................................................... ............................................. ..................................................................................................... ............................................. .................................................................................................................................................. แผนการจดั การเรียนรูแ้ บบบูรณาการท่ี 11 หน่วยท่ี 8 รหสั วิชา 20201-2003 การบญั ชีบริษทั จากดั 1-4-3 สอนคร้งั ที่ 11 (51-55) ช่ือหน่วย/เรอื่ ง งบแสดงฐานะการเงนิ จานวน 5 ช.ม. แนวคิด งบแสดงฐานะการเงนิ ตามมาตรฐานการบญั ชฉี บบั ที่ 1 หมายถงึ งบแสดงฐานะทางการเงนิ ของธรุ กจิ ณ วนั ใด วนั หน่ึงตามหลกั การบญั ชที ย่ี อมรบั กนั โดยทวั่ ไป ซง่ึ จะแสดงใหท้ ราบว่ามสี นิ ทรพั ย์ หน้สี นิ และสว่ นของผูถ้ อื หนุ้ อยู่ จานวนเท่าใด โดยจะแสดงรายละเอยี ดในงบแสดงฐานะการเงนิ ของกจิ การ ตามรูปแบบของ กรมพฒั นาธรุ กจิ การคา้ เรอ่ื ง กาหนดรายการย่อทตี่ ้องมใี นงบการเงนิ ซ่งึ สอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการบญั ชฉี บบั ท่ี 1 เพอ่ื ใชใ้ นการจดั ทางบ การเงนิ ของธุรกจิ และเผยแพร่ใหผ้ ูป้ ระกอบธรุ กจิ ผทู้ าบญั ชี ผูส้ อบบญั ชแี ละผูท้ ส่ี นใจ ไดใ้ ชเ้ ป็นแนวทางปฏบิ ตั ทิ ถี่ ูกต้อง ตอ่ ไป ผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวัง 1.อธบิ ายความหมายของงบแสดงฐานะการเงนิ ได้ 2.อธบิ ายและแสดงรายการย่อในงบแสดงฐานะการเงนิ ของ บรษิ ทั จากดั ได้ 3.อธบิ ายและแสดงรายการยอ่ ในงบแสดงฐานะการเงนิ ของ บรษิ ทั มหาชนจากดั ได้ 4.อธบิ ายและแสดงส่วนของผูถ้ อื หนุ้ ในงบแสดงฐานะการเงนิ ได้ 5.มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผูส้ าเรจ็ การศกึ ษาสานักงาน คณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทคี่ รูสามารถสงั เกตได้ขณะทาการสอนในเรอ่ื ง 5.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 5.2 ความมวี นิ ัย 5.3 ความรบั ผดิ ชอบ
ษษ 5.4 ความซ่อื สตั ยส์ จุ รติ 5.5 ความเช่อื มนั่ ในตนเอง 5.6 การประหยดั 5.7 ความสนใจใฝ่รู้ 5.8 การละเวน้ สง่ิ เสพตดิ และการพนนั 5.9 ความรกั สามคั คี 5.10 ความกตญั ญกู ตเวที สมรรถนะรายวิชา 1.แสดงความรูเ้ กย่ี วกบั บญั ชสี าหรบั บรษิ ทั จากดั 2.บนั ทกึ บญั ชสี าหรบั บรษิ ทั จากดั ตามขนั้ ตอนการจดั ทาบญั ชี 3.จดั ทางบการเงนิ ตามประกาศกรมพฒั นาธุรกจิ การค้า สาระการเรียนรู้ 1.ความหมายและการแสดงรายการยอ่ ในงบแสดงฐานะการเงนิ ของบรษิ ทั จากดั 2.การแสดงรายการย่อในงบแสดงฐานะการเงนิ ของบรษิ ทั มหาชนจากดั 3.การแสดงส่วนของผูถ้ อื หนุ้ ในงบแสดงฐานะการเงนิ กิจกรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นาเข้าสูบ่ ทเรียน 1.ครูใชเ้ ทคนิคการสอนแบบซปิ ปาโมเดล (CIPPA MODEL) โดยการทบทวนความรูเ้ ดมิ จากสปั ดาหท์ ผี่ ่านมา โดยดงึ ความรูเ้ ดมิ ของผูเ้ รยี นในเรอ่ื งทจี่ ะเรยี น เพอ่ื ชว่ ยใหผ้ ูเ้ รยี นมคี วามพรอ้ มในการเช่อื มโยงความรูใ้ หม่กบั ความรู้เดมิ ของตน ผูส้ อนใชก้ ารสนทนาซกั ถามใหผ้ ูเ้ รยี นเล่าประสบการณ์เดมิ 2.ครูและผูเ้ รยี นอภปิ รายเรอ่ื งงบแสดงฐานะการเงนิ (Statement of financial position) ตามมาตรฐานการ บญั ชฉี บบั ท่ี 1 หมายถงึ งบแสดงฐานะทางการเงนิ ของธรุ กจิ ณ วนั ใดวนั หนึ่งตามหลกั การบญั ชที ยี่ อมรบั กนั โดยทวั่ ไป ซง่ึ จะแสดงใหท้ ราบวา่ มสี นิ ทรพั ย์ หน้สี นิ และสว่ นของผูถ้ อื หนุ้ จานวนเทา่ ใด 3.ผูเ้ รยี นบอกสว่ นประกอบของงบแสดงฐานะการเงนิ มี 3 ส่วน ไดแ้ ก่ สนิ ทรพั ย์ หน้สี นิ และสว่ นของเจา้ ของ พรอ้ มทงั้ ยกตวั อย่างแบบฟอรม์ งบแสดงฐานะการเงนิ ประกอบ ขนั้ สอน 4.ครใู ชว้ ธิ สี อนอธบิ ายเรอ่ื งความหมายและการแสดงรายการย่อในงบแสดงฐานะการเงนิ ของบรษิ ทั จากดั โดย ใชส้ อ่ื PowerPoint ประกอบการเรยี น ซ่งึ การแสดงรายการย่อในงบแสดงฐานะการเงนิ ของบรษิ ทั จากดั กรมพฒั นา ธุรกจิ การค้าไดป้ ระกาศ เร่อื ง กาหนดรายการยอ่ ทตี่ อ้ งมใี นงบการเงนิ เพอ่ื ใชท้ างบการเงนิ ของธรุ กจิ และเผยแพร่ใหผ้ ู้ ประกอบธรุ กจิ ผูท้ าบญั ชี ผูส้ อบบญั ชแี ละผูท้ ส่ี นใจไดเ้ ป็นแนวทางปฏบิ ตั ทิ ถ่ี ูกต้อง
สส
หห 5.ครูและผูเ้ รยี นใชส้ อ่ื Power Point เพ่อื สอ่ื ความเขา้ ใจและเรยี นรูเ้ ร่อื งการแสดงรายการย่อใน งบแสดงฐานะการเงนิ ของบรษิ ทั มหาชนจากดั ดงั น้ี
ฬฬ
ออ 6.ครูและผูเ้ รยี นแสดงการคานวณ และจดั ทาการแสดงสว่ นของผูถ้ อื หนุ้ ในงบแสดงฐานะการเงนิ โดยส่วนของผถู้ อื หนุ้ (Shareholders’ Equity หรอื Stockholders’ Equity) ประกอบดว้ ย 3 สว่ น ดงั น้ี ส่วนที่ 1 ทนุ เรอื นหนุ้ (Share Capital หรอื Capital Stock) 1) ทุนจดทะเบยี น.(Authorized.Share.Capital). 2) ทุนทอ่ี อกจาหน่ายและเรยี กชาระแลว้ (Issued and Paid-up Share Capital) ส่วนที่ 2 สว่ นเกนิ ทนุ (Surplus) 1) สว่ นเกนิ มูลค่าหุ้น (Premium on Share Capital) 2) ส่วนเกนิ ทุนจากการตรี าคาสนิ ทรพั ยเ์ พมิ่ (Appraisal Surplus) 3) สว่ นเกนิ ทนุ จากการบรจิ าค (Donated Surplus) 4) สว่ นเกนิ ทุนอน่ื ๆ (Other Surplus) ส่วนที่ 3 กาไรสะสม (Retained Earning) จะแสดงเป็น 2 สว่ น คอื 1) กาไรสะสมสว่ นทจี่ ดั สรรแลว้ 2) กาไรสะสมส่วนทยี่ งั ไมไ่ ดจ้ ดั สรร
ฮฮ 7.ผูเ้ รยี นฝึกทกั ษะกจิ กรรม ดงั น้ี 1) บนั ทกึ รายการในสมดุ รายวนั ทวั่ ไป 2) คานวณกาไรสะสม 3) งบแสดงฐานะการเงนิ (เฉพาะสว่ นของผูถ้ อื หนุ้ ) 8.ผูเ้ รยี นปฏบิ ตั ติ ามลาดบั ขนั้ ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 1) แบ่งผูเ้ รยี นออกเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละเทา่ ๆ กนั โดยวธิ นี บั 1 ถงึ 4 2) ใหท้ ุกกล่มุ ศกึ ษา คน้ ควา้ และหาขอ้ สรปุ ตามหน่วยงานทเี่ ป็นบรษิ ทั จากดั และบรษิ ทั มหาชนจากดั กล่มุ ละ 2 บรษิ ทั เกย่ี วกบั การแสดงรายการบญั ชแี ละการจดั ทางบแสดงฐานะการเงนิ ของบรษิ ทั จากดั 1 แหง่ และบรษิ ทั มหาชนจากดั 1 แหง่ 3) สง่ ตวั แทนของกลมุ่ นาเสนอหน้าชนั้ เรยี นตามขอ้ 2 4) เปิดโอกาสใหผ้ ูเ้ รยี นทุกคนรว่ มแสดงความคดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะ
กกก 5) นาผลงานสง่ ครูผสู้ อนเพ่อื ประเมนิ ผล 9.ผูเ้ รยี นปฏบิ ตั ติ ามลาดบั ขนั้ ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 1) แบ่งกลุ่มผูเ้ รยี นออกเป็น 5 กลมุ่ กลุ่มละเท่าๆ กนั โดยคละความสามารถ 2) ทุกกลุ่มศกึ ษาหาความรูเ้ รอ่ื งงบแสดงฐานะการเงนิ 3) ทุกกลุ่มกาหนดโจทยพ์ เิ ศษหรอื แตง่ โจทยพ์ เิ ศษ พรอ้ มเฉลย 1 ขอ้ 4) แต่ละกล่มุ สง่ ตวั แทนออกมาชว่ ยกนั แสดงวธิ ที างบแสดงฐานะการเงนิ หน้าชนั้ เรยี น โดยครูผสู้ อน เป็นผู้ เลอื กโจทยพ์ เิ ศษตามขอ้ 3 จานวน 1 ขอ้ 5) ผูเ้ รยี นทกุ คนแสดงความคดิ เหน็ และเสนอแนะ 6) นาผลงานส่งครูผสู้ อนเพ่อื ประเมนิ ผล 7) แจกใบประเมนิ ผลแก่ผูเ้ รยี นเพ่อื ทาการประเมนิ 10.ผูเ้ รยี นทากจิ กรรมเพอ่ื ฝึกทกั ษะ และทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 11.ครเู นน้ การนาความรูไ้ ปประกอบอาชพี อยา่ งมคี ุณธรรมไม่เบยี ดเบยี นผูอ้ ่นื เชน่ ไม่มพี ฤตกิ รรมทฉ่ี ้อโกง โดยไม่ปฏเิ สธความรบั ผดิ ชอบจนผูบ้ รโิ ภคเกดิ ความเดอื ดรอ้ น เมอ่ื ผูเ้ รยี นจบการศกึ ษาไปแลว้ และไปประกอบอาชพี ผูป้ ระกอบการหรอื ลกู จา้ งกต็ าม ควรยดึ หลกั คณุ ธรรมตามเง่อื นไขแหง่ ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ขนั้ สรปุ และการประยุกต์ 12.สรุปโดยครูตงั้ คาถาม ใหผ้ ูเ้ รยี นตอบเร่อื งการแสดงฐานะงบการเงนิ เป็นรายบคุ คล 13.ผูเ้ รยี นฝึกทกั ษะคานวณ และจดั ทางบแสดงฐานะการเงนิ 14.ผูเ้ รยี นทากจิ กรรม และแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้ 1.หนงั สอื เรยี น วชิ าการบญั ชีบริษทั จากดั 2.กจิ กรรมการเรยี นการสอน 3.สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ , Power Point 4.แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หลกั ฐาน 1.บนั ทกึ การสอน 2.ใบเชค็ รายช่อื 3.แผนจดั การเรยี นรู้ 4.การตรวจประเมนิ ผลงาน การวดั ผลและการประเมินผล วิธีวดั ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุม่ 3 ตรวจกจิ กรรม 3. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 4. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เคร่ืองมือวัดผล
ขขข 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ 3. แบบประเมนิ กจิ กรรม 4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครูและผู้เรยี น ร่วมกนั ประเมนิ เกณฑก์ ารประเมินผล 1. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ต้องไม่มชี อ่ งปรบั ปรุง 2. เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกล่มุ คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป) 3. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป) 4. ตอบคาถามในกจิ กรรมจงึ จะถอื วา่ ผา่ น เกณฑก์ ารประเมนิ มเี กณฑ์ 4 ระดบั คอื 4= ดมี าก, 3 = ด,ี 2 = พอใช้ , 1= ควรปรบั ปรงุ 5. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ มเี กณฑผ์ า่ น 50% 6 แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อย่กู บั การประเมนิ ตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ ทบทวนบทเรยี นเพ่อื ฝึกทกั ษะการคานวณ และจดั ทางบแสดงฐานะการเงนิ บนั ทึกหลงั การสอน ข้อสรปุ หลงั การสอน .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................ .......... ปัญหาที่พบ ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................ .......... ........................................................................................................................ .......................... ........................................................................................................................ ..........................
คคค .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. แนวทางแกป้ ัญหา .................................................................................................................................................. .......................................................................................................................................... ........ ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................... ............. ............................................................................................................................. ..................... แผนการจดั การเรียนรูแ้ บบบรู ณาการท่ี 12 หนว่ ยท่ี 9 รหสั วิชา 20201-2003 การบญั ชีบรษิ ทั จากดั 1-4-3 สอนครง้ั ท่ี 12 (56-60) ชื่อหน่วย/เรอื่ ง งบกาไรขาดทนุ จานวน 5 ช.ม. แนวคิด งบกาไรขาดทุนเป็นงบทแี่ สดงผลการด าเนินงานของกจิ การในรอบระยะเวลาบญั ชที ก่ี าหนด เพ่อื วดั ผลการ ดาเนินงานของธุรกจิ วา่ มรี ายไดแ้ ละค่าใชจ้ ่ายในรอบระยะเวลานนั้ เท่าใด และเมอ่ื นารายไดห้ กั ดว้ ยคา่ ใชจ้ ่ายแลว้ จะเป็น กาไรสทุ ธิ (Net.Income.หรอื .Net.Profit).หรอื ขาดทนุ สทุ ธิ (Net.Loss).โดยกจิ การตอ้ งแสดงรายการรายไดแ้ ละ ค่าใชจ้ ่ายทงั้ หมดทรี่ บั รูใ้ นงวดในงบกาไรขาดทนุ เบด็ เสรจ็ เพยี งงบเดยี ว หรอื แยกเป็นสองงบ คอื งบทแ่ี สดงองคป์ ระกอบ ของกาไรหรอื ขาดทนุ (งบเฉพาะกาไรขาดทนุ ) และงบทต่ี งั้ ต้นดว้ ยกาไรหรอื ขาดทนุ และแสดงองคป์ ระกอบของกาไร ขาดทุนเบด็ เสรจ็ อ่นื (งบกาไรขาดทนุ เบด็ เสรจ็ ) ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง 1.อธบิ ายความหมายของงบกาไรขาดทุนได้ 2.แสดงรายการในงบกาไรขาดทุนของบรษิ ทั จากดั ได้ 3.แสดงรายการในงบกาไรขาดทนุ ของบรษิ ทั มหาชนจากดั ได้ 4.อธบิ ายและคานวณกาไร (ขาดทุน) ต่อหนุ้ (Earnings per share) ได้ 5.มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ อง ผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ท่คี รูสามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการ สอนในเร่อื ง 5.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 5.2 ความมวี นิ ยั 5.3 ความรบั ผดิ ชอบ 5.4 ความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ
งงง 5.5 ความเช่อื มนั่ ในตนเอง 5.6 การประหยดั 5.7 ความสนใจใฝ่รู้ 5.8 การละเวน้ สง่ิ เสพตดิ และการพนัน 5.9 ความรกั สามคั คี 5.10 ความกตญั ญูกตเวที สมรรถนะรายวชิ า 1.แสดงความรูเ้ กย่ี วกบั บญั ชสี าหรบั บรษิ ทั จากดั 2.บนั ทกึ บญั ชสี าหรบั บรษิ ทั จากดั ตามขนั้ ตอนการจดั ทาบญั ชี 3.จดั ทางบการเงนิ ตามประกาศกรมพฒั นาธรุ กจิ การค้า สาระการเรยี นรู้ 1.ความหมายของงบกาไรขาดทุน 2.งบกาไรขาดทนุ ของบรษิ ทั จากดั 3.งบกาไรขาดทนุ ของบรษิ ทั มหาชนจากดั 4.กาไร (ขาดทนุ ) ตอ่ หนุ้ (Earnings per share) กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นาเขา้ สบู่ ทเรยี น 1.ครใู ชเ้ ทคนคิ การสอนแบบซปิ ปาโมเดล (CIPPA MODEL) โดยการทบทวนความรูเ้ ดมิ จากสปั ดาหท์ ผี่ ่านมา โดยดงึ ความรูเ้ ดมิ ของผูเ้ รยี นในเรอ่ื งทจี่ ะเรยี น เพอ่ื ชว่ ยใหผ้ ูเ้ รยี นมคี วามพรอ้ มในการเชอ่ื มโยงความรูใ้ หมก่ บั ความรู้เดมิ ของตน ผูส้ อนใชก้ ารสนทนาซกั ถามใหผ้ ูเ้ รยี นเลา่ ประสบการณ์เดมิ 2.ครูและผูเ้ รยี นสนทนากนั เกยี่ วกบั งบกาไรขาดทุน (Income Statement or Profit and Losses Statement) หมายถงึ งบแสดงผลการดาเนนิ งานของกจิ การในรอบระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง วา่ มรี ายได้ ค่าใชจ้ า่ ยและกาไรหรอื ขาดทนุ สุทธเิ ท่าใด ซ่งึ อาจจะจดั ทางบกาไรขาดทนุ สาหรบั ระยะเวลา 3 เดอื น 6 เดอื น หรอื 12 เดอื นกไ็ ด้ การแสดงงบ กาไรขาดทนุ 3.ผูเ้ รยี นยกตวั อย่างแบบฟอรม์ งบกาไรขาดทนุ และบอกองคป์ ระกอบของงบกาไรขาดทุน ไดแ้ ก่ รายได้ ค่าใชจ้ า่ ย และกาไร (ขาดทุน) สทุ ธิ ขนั้ สอน 4.ครแู ละผูเ้ รยี นใชเ้ ทคนคิ การสอนแบบ Demonstration Method การจดั การเรยี นรูแ้ บบสาธติ และ อธบิ ายความหมายของงบกาไรขาดทนุ สามารถแสดงได้ 2 รูปแบบ คอื 4.1 งบกาไรขาดทนุ จาแนกค่าใชจ้ ่ายตามลกั ษณะของค่าใชจ้ า่ ย 4.2 งบกาไรขาดทุน จาแนกค่าใชจ้ ่ายตามหน้าท่ี แบง่ ออกได้ 2 ลกั ษณะ ไดแ้ ก่ 2.1 จาแนกคา่ ใชจ้ า่ ยตามหน้าท-่ี แบบขนั้ เดยี ว 2.2 จาแนกค่าใชจ้ า่ ยตามหน้าท-ี่ แบบหลายขนั้ 5.ครูและผูเ้ รยี นอธบิ ายคาย่อประกอบงบกาไรขาดทนุ ทงั้ 2 รูปแบบ ตามกรมพฒั นาธรุ กจิ การค้า กระทรวง พาณิชยก์ าหนด จากนัน้ ไดเ้ ปิด VDO เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นไดด้ ูตวั อยา่ งงบกาไรขาดทนุ ของบรษิ ทั จากดั จากบรษิ ทั ต่างๆ ทน่ี ามาใชเ้ ป็นตวั อย่าง เพอ่ื ใหผ้ ูเ้ รยี นไดศ้ ึกษาขนั้ ตอน และนาไปเป็นแนวทางในการปฏบิ ตั ไิ ดอ้ ย่าง ถกู ต้อง
จจจ 6.ครูใชเ้ ทคนิคการเรยี นแบบ Discussion Method การจดั การเรยี นรูแ้ บบอภปิ รายงบกาไรขาดทุนของ บรษิ ทั จากดั และสาธติ โดยใชส้ ่อื Power Point ประกอบ ดงั น้ี 6.1 งบกาไรขาดทนุ จาแนกคา่ ใชจ้ ่ายตามลกั ษณะของค่าใชจ้ ่าย 6.2 งบกาไรขาดทนุ จาแนกคา่ ใชจ้ ่ายตามหนา้ ที่ 6.2.1 งบกาไรขาดทุน จาแนกคา่ ใชจ้ ่ายตามหน้าท่ี – แบบขนั้ เดยี ว 6.2.2 งบก าไรขาดทนุ จ าแนกค่าใชจ้ ่ายตามหน้าที่ - แบบหลายขนั้
ฉฉฉ 7.ครูและผูเ้ รยี นอธบิ าย และสาธติ การจดั ทางบกาไรขาดทุนของบรษิ ทั มหาชนจากดั 8.ครูและผูเ้ รยี นคานวณกาไร (ขาดทุน) ตอ่ หนุ้ (Earnings per share) ซ่งึ กาไร (ขาดทนุ ) ต่อหนุ้ ตามมาตรฐาน การบญั ชี ฉบบั ท่ี 33 หมายถงึ กาไร (ขาดทนุ ) ส่วนทเี่ ป็นของผูถ้ อื หนุ้ บรษิ ทั ใหญ่ ตามรายการส่วนทเี่ ป็นของผูถ้ อื หนุ้ บรษิ ทั ใหญ่ (Equityholdersof theparent).ตามมาตรฐานการบญั ช.ี ถา้ ขาดทนุ ใหแ้ สดงจานวนเงนิ ไวใ้ นเครอ่ื งหมาย วงเลบ็ โดย แยกแสดงเป็น 8.1. กาไร (ขาดทนุ ) ต่อหนุ้ ขนั้ พน้ื ฐาน (Basic earnings per share) 8.2. ก าไร (ขาดทนุ ) ตอ่ หนุ้ ปรบั ลด (Diluted earnings per share) 9.ผเู้ รียนฝึกทกั ษะแสดงการจดั ทา 1) งบกาไรขาดทุน จาแนกค่าใชจ้ ่ายตามหนา้ ท่ี – แบบข้นั เดียว 2) งบกาไรขาดทุน จาแนกคา่ ใชจ้ า่ ยตามหนา้ ท่ี - แบบหลายข้นั 10.ผูเ้ รยี นฝึกทกั ษะแสดงการจดั ทา 1) คานวณกาไรต่อหนุ้ 2) แสดงกาไรขาดทนุ เบด็ เสรจ็ ในงบเดยี วและจาแนกค่าใชจ้ า่ ยตามลกั ษณะ 11.ผูเ้ รยี นศกึ ษามาตรฐานการบญั ชี ฉบบั ที่ 1 ในประเดน็ ทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั งบกาไรขาดทุน แลว้ สรุป สาระสาคญั มาอยา่ งละเอยี ด 12.ผูเ้ รยี นออกไปสารวจศกึ ษาหาความรูต้ ามบรษิ ทั ต่างๆ เรอ่ื งงบกาไรขาดทนุ และนางบกาไรขาดทุนทท่ี ุก กลมุ่ ศกึ ษา.สรปุ เป็นขอ้ ความรู.้ และนาเสนอหนา้ ชนั้ เรยี น.แลว้ ร่วมแสดงความคดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะ 13.ผูเ้ รยี นฝึกทกั ษะโดยทากจิ กรรม และแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 14.ผูเ้ รยี นฝึกทกั ษะโดยทากจิ กรรม และใบงาน 15.ครูเนน้ การทางานดว้ ยความละเอียดรอบคอบ มีความเพยี รพยายามในการนาความรูไ้ ปใชใ้ ห้ประสบ ความสาเร็จ และมคี วามระมดั ระวงั อนั ตรายท่ีอาจจะเกิดข้ึนไดใ้ นระหว่างการปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี หรือหลงั จากปฏิบตั หิ นา้ ท่ดี ว้ ย ความรับผิดชอบ ซ่ึงเป็นการสรา้ งภูมคิ ุม้ กนั ท่ีดีในตวั เองตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ดงั น้นั ปรชั ญาเศรษฐกิจ พอเพยี ง จึงเป็นหลกั การดาเนินชีวติ การทางาน การบริหาร การพฒั นา รวมถงึ การดาเนินกิจกรรมในดา้ นต่างๆของมนุษย์ ท่ี
ชชช เนน้ แนวทางสายกลางยดึ หลกั ความพอประมาณ ความมีเหตผุ ล และมภี ูมคิ ุม้ กนั ที่ดี ภายใตเ้ งอ่ื นไขความรอบรู้ รอบคอบ ระมดั ระวงั และเง่อื นไขคุณธรรม ความซื่อสัตยส์ ุจริต ความเพยี ร ขยนั อดทน และการแบ่งปัน ขนั้ สรปุ และการประยุกต์ใช้ 16.ครูและสรุปการเรียนเน้ือหา โดยใหผ้ ูเ้ รยี นตอบคาถามของครู และสรปุ สาระสาคญั งบกาไรขาดทุน 17.ผูเ้ รยี นจดั ทางบกาไรขาดทนุ ของบรษิ ทั จากดั และบรษิ ทั มหาชนจากดั 18.ผูเ้ รยี นทากจิ กรรม และแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้ 1.หนงั สอื เรยี น วชิ าการบญั ชีบริษทั จากดั 2.กจิ กรรมการเรยี นการสอน 3.สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนิกส,์ Power Point 4.แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 5.ตวั อย่างการคาวณ หลกั ฐาน 1.บนั ทกึ การสอน 2.ใบเชค็ รายช่อื 3.แผนจดั การเรยี นรู้ 4.การตรวจประเมนิ ผลงาน การวดั ผลและการประเมินผล วิธีวดั ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกล่มุ 3 ตรวจกจิ กรรม 4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 5. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เคร่ืองมือวดั ผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 3. แบบประเมนิ กจิ กรรม 4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครูและผู้เรยี น ร่วมกนั ประเมนิ เกณฑ์การประเมินผล 1. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล ต้องไม่มชี อ่ งปรบั ปรงุ 2. เกณฑผ์ ่านการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกล่มุ คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป) 3. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป)
ซซซ 4. ตอบคาถามในกจิ กรรมจงึ จะถอื ว่าผา่ น เกณฑก์ ารประเมนิ มเี กณฑ์ 4 ระดบั คอื 4= ดมี าก, 3 = ด,ี 2 = พอใช้ , 1= ควรปรบั ปรุง 5. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ มเี กณฑผ์ า่ น 50% 6. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การ ประเมนิ ตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ ฝึกทาทากจิ กรรม และแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ บนั ทึกหลงั การสอน ข้อสรปุ หลงั การสอน ........................................................................................................................................ .......... ........................................................................................................................ .......................... ........................................................................................................................ .......................... .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ................................................................................................................................... ............... ................................................................................................................... ............................... ................................................................................................................... ............................... ปัญหาท่ีพบ .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... ................................................................................................... ............................................... ................................................................................................... ...............................................
ฌฌฌ .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. แนวทางแกป้ ัญหา ..................................................................................................................... ............................. ..................................................................................................................... ............................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ................................................................................................................................ .................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. แผนการจดั การเรียนรแู้ บบบรู ณาการท่ี 13 หน่วยท่ี 10 รหสั วิชา 20201-2003 การบญั ชีบริษทั จากดั 1-4-3 สอนครงั้ ท่ี 13 (61-65) ช่ือหน่วย/เรอ่ื ง งบกระแสเงนิ สด จานวน 5 ช.ม. แนวคิด งบกระแสเงนิ สดเป็นงบการเงนิ ทแ่ี สดงแหลง่ ทม่ี าและใชไ้ ปของเงนิ สดในรอบบญั ชนี นั้ ๆ ในการจดั ทางบกระแส เงนิ สดจะมี 2 วธิ ี คอื วธิ ที างตรงและวธิ ที างออ้ ม จะแสดงถงึ การเคล่อื นไหวของเงนิ สดใน 3 กจิ กรรม คอื กจิ กรรม ดาเนินงาน กจิ กรรมการลงทนุ และกจิ กรรมจดั หาเงนิ โดยจะวเิ คราะห์ขอ้ มลู จากงบแสดงฐานะการเงนิ งบกาไรขาดทนุ งบแสดงการเปลย่ี นแปลงสว่ นของผถู้ อื หนุ้ และขอ้ มลู เพม่ิ เตมิ ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง หลกั การวเิ คราะหข์ อ้ มลู ในงบแสดงฐานะทาง การเงนิ ถ้ารายการในกลุ่มสนิ ทรพั ยม์ ยี อดเพมิ่ ขน้ึ ในงวดนนั้ แสดงวา่ เงนิ สดจ่ายออก ถา้ มยี อดลดลงแสดงวา่ มเี งนิ สด รบั เขา้ มา หากเป็นรายการในกล่มุ หน้สี นิ และสว่ นของ ผูถ้ อื หนุ้ ถ้ามยี อดเพม่ิ ขน้ึ แสดงว่ามเี งนิ สดรบั เขา้ มา แตถ่ ้ามียอด ลดลงแสดงวา่ มเี งนิ สดจา่ ยออกไป หลกั การวเิ คราะหใ์ นงบกาไรขาดทนุ ผลรวมสทุ ธขิ องเงนิ สดในแตล่ ะกจิ กรรมจะบอก ถงึ การเพมิ่ ขน้ึ หรอื ลดลงของเงนิ สดในงวดนนั้ ได้ ถ้าผลรวมมคี า่ เป็นบวกแสดงวา่ เงนิ สดเพม่ิ ขน้ึ แตถ่ า้ มคี า่ ผลรวมเป็น ลบ แสดงวา่ เงนิ สดลดลง จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.อธบิ ายความหมายของงบกระแสเงนิ สดได้ 2.อธบิ ายและนาเสนองบกระแสเงนิ สดได้ 3. วเิ คราะหแ์ ละจดั ทางบกระแสเงนิ สดได้ 4.มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ อง ผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ท่คี รูสามารถสงั เกตได้ขณะทาการ สอนในเรอ่ื ง 4.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์
ญญญ 4.2 ความมวี นิ ัย 4.3 ความรบั ผดิ ชอบ 4.4 ความซ่อื สตั ยส์ ุจรติ 4.5 ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง 4.6 การประหยดั 4.7 ความสนใจใฝ่รู้ 4.8 การละเวน้ สงิ่ เสพตดิ และการพนนั 4.9 ความรกั สามคั คี 4.10 ความกตญั ญูกตเวที สมรรถนะรายวิชา 1.แสดงความรูเ้ กย่ี วกบั บญั ชสี าหรบั บรษิ ทั จากดั 2.บนั ทกึ บญั ชสี าหรบั บรษิ ทั จากดั ตามขนั้ ตอนการจดั ทาบญั ชี 3.จดั ทางบการเงนิ ตามประกาศกรมพฒั นาธรุ กจิ การค้า สาระการเรยี นรู้ 1.ความหมายของงบกระแสเงนิ สด 2.การนาเสนองบกระแสเงนิ สด 3.วธิ กี ารแสดงงบกระแสเงนิ สด กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นาเขา้ สู่บทเรียน 1.ครูอภปิ รายวา่ งบกระแสเงนิ สด (Cash flow statement) จะแสดงขอ้ มลู เกยี่ วกบั กระแสเงนิ สดของกจิ การ ผูใ้ ช้ งบการเงนิ จะใชข้ อ้ มลู เป็นเกณฑพ์ จิ ารณาความสามารถของกจิ การทจ่ี ะไดร้ บั เงนิ สดหรอื รายการเทยี บเท่าเงนิ สด รวมทงั้ ความจาเป็นในการใชก้ ระแสเงนิ สดนนั้ และต้องประเมนิ ระยะเวลา และความแน่นอนของเงนิ สดทจ่ี ะไดร้ บั 2.ครูและผูเ้ รยี นกลา่ วถงึ เงนิ สด เพอ่ื เชอ่ื มโยงเขา้ สเู่ น้อื หาตอ่ ไป ขนั้ สอน 3.ครูใชเ้ ทคนคิ วธิ สี อนแบบใชโ้ สตทศั นวสั ดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method) เป็นวธิ สี อนทนี่ า อปุ กรณ์โสตทศั น์วสั ดมุ าชว่ ยพฒั นาคณุ ภาพการเรยี นการสอน โสตทศั น์วสั ดุดงั กล่าว ไดแ้ ก่ Power Point เพ่อื อธบิ าย ความหมายของงบกระแสเงนิ สด งบกระแสเงนิ สด หมายถงึ รายงานทางการเงนิ ทแ่ี สดงแหลง่ ที่มาและใช้ไปของเงนิ ในรอบระยะเวลาหนง่ึ ๆ โดยปกตแิ ลว้ กจิ กรรมทกี่ อ่ ใหเ้ กดิ การไดม้ าและใชไ้ ปของเงนิ สดนนั้ มี 3 กจิ กรรม คอื กจิ กรรมดาเนนิ งาน. (Operating.activities).กจิ กรรมลงทนุ .(Investing0activities) และกจิ กรรมจดั หาเงนิ (Financing.activities).ซ่งึ จะ เกย่ี วขอ้ งกบั การเคล่อื นไหวของสนิ ทรพั ย์ หน้สี นิ และส่วนของผูถ้ อื หนุ้ 4.ครูใชเ้ ทคนิควธิ สี อนแบบใชโ้ สตทศั นวสั ดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method) เป็นวธิ สี อนทน่ี า อุปกรณ์โสตทศั น์วสั ดุมาช่วยพฒั นาคุณภาพการเรยี นการสอน โสตทศั น์วสั ดดุ งั กลา่ ว ไดแ้ ก่ Power Point เพอ่ื ประกอบการอธบิ ายการนาเสนองบกระแสเงนิ สด
ฎฎฎ 5.ครแู ละผูเ้ รยี นสาธติ เพ่อื แสดงวธิ กี ารแสดงงบกระแสเงนิ สด มรี ูปแบบของงบกระแสเงนิ สดสามารถแสดงได้ 2 วธิ ี คอื วธิ ที างตรง (Direct method) และวธิ ที างออ้ ม (Indirect method)
ฏฏฏ 6.ครูอธบิ ายเพม่ิ เตมิ วา่ หากผูใ้ ชง้ บกระแสเงนิ สดทาความเขา้ ใจกบั รปู แบบวธิ ที างออ้ มแบบใหม่ กส็ ามารถนา ขอ้ มลู ไปใชใ้ หเ้ ป็นประโยชน์มากขน้ึ ซ่งึ มรี ูปแบบการวเิ คราะหก์ จิ กรรมดงั น้ี 7.ผูเ้ รยี นฝึกทกั ษะจดั ทางบกระแสเงนิ สดวธิ ที างตรง และวธิ ที างออ้ ม 8.ผูเ้ รยี นศกึ ษามาตรฐานการบญั ชฉี บบั ที่ 7 เรอ่ื ง งบกระแสเงนิ สด แลว้ สรปุ สาระสาคญั ในส่วนทเ่ี กยี่ วขอ้ ง 9.ผูเ้ รยี นหาขอ้ มลู งบกระแสเงนิ สดวธิ ที างตรงหรอื ทางออ้ มของบรษิ ทั มหาชนจากดั มา 1 แห่ง พรอ้ มทงั้ ใช้ ทกั ษะ ในการเรยี นรู้ แสดงเป็นโจทยแ์ ละคาตอบมาใหช้ ดั เจน แลว้ นาเสนอใหเ้ พ่อื นร่วมชนั้ เรยี นฟังว่ามี วธิ กี าร ดาเนินการอย่างไรบา้ ง
ฐฐฐ 10.ผูเ้ รยี นทากจิ กรรม และแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 11.ครูเนน้ ปฏบิ ตั ทิ าเกลยี วท่อโลหะหนาดว้ ยความระมดั ระวงั ในเร่อื งความปลอดภยั ระหวา่ งการทางานและ การนาไปใช้ เพ่อื สรา้ งภมู ิคมุ้ กนั ในตวั เอง และเสนอแนะการนาความรูไ้ ปประกอบอาชพี เพอ่ื สรา้ งรายไดใ้ หแ้ ก่ตนเอง และครอบครวั ต่อไป ขนั้ สรปุ และการประยุกต์ 12.ผูเ้ รยี นสรุปเน้อื หา โดยครูใชว้ ธิ สี ุ่มผูเ้ รยี นทุกคนตอบคาถามและอธบิ ายใหเ้ พ่อื นฟังทงั้ ชนั้ เรยี น พรอ้ มสรปุ เน้อื หาอกี ครงั้ 13.ผูเ้ รยี นทากจิ กรรม และแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 14.ประเมนิ ผูเ้ รยี นตามแบบฟอรม์ ต่อไปน้ี ชอ่ื ผูเ้ รยี น ธรรมชาตขิ องผูเ้ รยี น วธิ กี ารเรยี นรู้ ความสนใจ สตปิ ัญญา วฒุ ภิ าวะ 1. 2. 3. แบบประเมนิ ประสบการณ์พน้ื ฐานการเรยี นรู้ ชอ่ื ผูเ้ รยี น ประสบการณ์พน้ื ฐานการเรยี นรู้ วธิ กี ารเรยี นรู้ ความรู้ ทกั ษะ ผลงาน 1. 2. 3. ส่ือและแหลง่ การเรยี นรู้ 1.หนังสอื เรยี น วชิ าการบญั ชีบริษทั จากดั 2.กจิ กรรมการเรยี นการสอน 3.ส่อื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ , Power Point 4.แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 5.ตวั อยา่ งการคานวณ หลกั ฐาน 1.บนั ทกึ การสอน 2.ใบเชค็ รายช่อื 3.แผนจดั การเรยี นรู้ 4.การตรวจประเมนิ ผลงาน การวัดผลและการประเมนิ ผล วิธีวดั ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ 3 ตรวจกจิ กรรม
ฑฑฑ 4. ตรวจกจิ กรรมใบงาน 5. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 6. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เคร่ืองมือวดั ผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม 3. แบบประเมนิ กจิ กรรม 4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 5. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครูและผู้เรยี น ร่วมกนั ประเมนิ เกณฑก์ ารประเมินผล 1. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ตอ้ งไม่มชี ่องปรบั ปรงุ 2. เกณฑผ์ ่านการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกล่มุ คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป) 3. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุม่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป) 4. ตอบคาถามในกจิ กรรมจงึ จะถอื ว่าผา่ น เกณฑก์ ารประเมนิ มเี กณฑ์ 4 ระดบั คอื 4= ดมี าก, 3 = ด,ี 2 = พอใช้ , 1= ควรปรบั ปรงุ 5. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ มเี กณฑผ์ า่ น 50% 6. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การ ประเมนิ ตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ ผูเ้ รยี นฝึกทกั ษะกจิ กรรม แบบฝึกหดั และแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ บนั ทึกหลงั การสอน ข้อสรปุ หลงั การสอน .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................. . ................................................................................................................................. ................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ปัญหาที่พบ ................................................................................................................................. ................. ................................................................................................................. ................................. ................................................................................................................. ................................. ..................................................................................................................................................
ฒฒฒ .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... ............................................................................................................ ...................................... ............................................................................................................ ...................................... แนวทางแก้ปัญหา .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .... .............................................................................................................................. .................... ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ......................................................................................................................................... ......... แผนการจดั การเรียนรแู้ บบบูรณาการท่ี 14 หนว่ ยท่ี 11 รหสั วิชา 20201-2003 การบญั ชีบริษทั จากดั 1-4-3 สอนครง้ั ที่ 14 (66-70) ชื่อหน่วย/เรอ่ื ง การแกไ้ ขขอ้ ผดิ พลาดทางบญั ชี จานวน 5 ช.ม. แนวคิด การแกไ้ ขขอ้ ผดิ พลาดทางบญั ชี อาจมาจากความผดิ โดยตงั้ ใจ.และไม่ไดต้ งั้ ใจ.ดงั นนั้ จงึ มกี ารแกไ้ ข ขอ้ ผดิ พลาด ใหถ้ กู ตอ้ ง ซ่งึ ขอ้ ผดิ พลาดมี 2 ประเภท คอื ขอ้ ผดิ พลาดทชี่ ดเชยกนั ได้ และขอ้ ผดิ พลาดทชี่ ดเชยกนั ไม่ได้ ทงั้ น้ใี ห้ ปฏบิ ตั ติ ามมาตรฐานการบญั ชฉี บบั ที่ 8 เร่อื ง นโยบายการบญั ชี การเปลย่ี นแปลงประมาณการทางบญั ชแี ละ ขอ้ ผดิ พลาด ผลการเรยี นรทู้ ค่ี าดหวัง 1.อธบิ ายความหมายของขอ้ ผดิ พลาด 2.อธบิ ายลกั ษณะขอ้ ผดิ พลาดในการบนั ทกึ บญั ชที ก่ี ระทบงบการเงนิ 3.บอกสาเหตแุ ละประเภทของขอ้ ผดิ พลาด 4.อธบิ ายและแกไ้ ขขอ้ ผดิ พลาดทชี่ ดเชยกนั ได้ 5.อธบิ ายและแกไ้ ขขอ้ ผดิ พลาดทช่ี ดเชยกนั ไมไ่ ด้ 6.มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ อง ผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ท่คี รูสามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการ สอนในเร่อื ง 6.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์
ณณณ 6.2 ความมวี นิ ยั 6.3 ความรบั ผดิ ชอบ 6.4 ความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ 6.5 ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง 6.6 การประหยดั 6.7 ความสนใจใฝ่รู้ 6.8 การละเวน้ สงิ่ เสพตดิ และการพนนั 6.9 ความรกั สามคั คี 6.10 ความกตญั ญกู ตเวที สมรรถนะรายวิชา 1.แสดงความรูเ้ กย่ี วกบั บญั ชสี าหรบั บรษิ ทั จากดั 2.บนั ทกึ บญั ชสี าหรบั บรษิ ทั จากดั ตามขนั้ ตอนการจดั ทาบญั ชี 3.จดั ทางบการเงนิ ตามประกาศกรมพฒั นาธุรกจิ การค้า สาระการเรียนรู้ 1.ความหมายของขอ้ ผดิ พลาด 2.ลกั ษณะขอ้ ผดิ พลาดในการบนั ทึกบญั ชที กี่ ระทบงบการเงนิ 3.สาเหตุและประเภทของขอ้ ผดิ พลาด 4.ขอ้ ผดิ พลาดทชี่ ดเชยกนั ได้ 5.ขอ้ ผดิ พลาดทชี่ ดเชยกนั ไมไ่ ด้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นาเขา้ ส่บู ทเรียน 1.ครใู ชเ้ ทคนิคการสอนแบบซปิ ปาโมเดล (CIPPA MODEL) โดยการทบทวนความรูเ้ ดมิ จากสปั ดาหท์ ผ่ี ่านมา โดยดงึ ความรูเ้ ดมิ ของผูเ้ รยี นในเรอ่ื งทจี่ ะเรยี น เพอ่ื ชว่ ยใหผ้ ูเ้ รยี นมคี วามพรอ้ มในการเชอ่ื มโยงความรูใ้ หม่กบั ความรู้เดมิ ของตน ผูส้ อนใชก้ ารสนทนาซกั ถามใหผ้ ูเ้ รยี นเล่าประสบการณเ์ ดมิ 2.ครแู ละผูเ้ รยี นรว่ มกนั อภปิ รายวา่ ตามมาตรฐานการบญั ชฉี บบั ที่ 8 เร่อื ง นโยบายการบญั ชี การเปลยี่ นแปลง ประมาณการ ทางบญั ชแี ละขอ้ ผดิ พลาด ไดใ้ หค้ วามหมาย ขอ้ ผดิ พลาดในงวดก่อน.หมายถงึ การละเวน้ การแสดง รายการและการแสดงรายการทข่ี ดั ตอ่ ขอ้ เทจ็ จรงิ ในงบการเงนขิ องกจิ การในงวดใด งวดหนงึ่ หรอื หลายงวดกต็ าม อนั เกดิ จากความลม้ เหลว ขนั้ สอน 3.ครใู ชเ้ ทคนิควธิ สี อนแบบใชโ้ สตทศั นวสั ดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method) เป็นวธิ สี อน ทน่ี าอุปกรณโ์ สตทศั น์วสั ดุมาชว่ ยพฒั นาคณุ ภาพการเรยี นการสอน โสตทศั น์วสั ดุดงั กล่าว ไดแ้ ก่ Power Point เพ่อื อธบิ ายความหมายของขอ้ ผดิ พลาด การแกไ้ ขขอ้ ผิดพลาดในการบนทั ึกบญชั ี หมายถงึ การแกไ้ ขรายการบญั ชีที่บนั ทึกไวผ้ ิด ให้ถกู ตอ้ ง โดยการบนั ทกึ บญั ชีแกไ้ ขขอ้ ผิดพลาดน้นั ทนั ทที ี่ตรวจพบ เพ่ือให้บญั ชีถกู ตอ้ งตามหลกั ความเป็นจริงและหลกั การบญั ชีทีย่ อมรบั กนั โดยทว่ั ไป 4.ครูใชเ้ ทคนคิ การอธบิ าย และสาธติ เร่อื งลกั ษณะขอ้ ผดิ พลาดในการบนั ทกึ บญั ชที ก่ี ระทบงบการเงนิ
ดดด โดยใช้ PowerPoint ประกอบการเรยี นการสอน 4.1. ขอ้ ผดิ พลาดทก่ี ระทบงบแสดงฐานะการเงนิ 4.2. ขอ้ ผดิ พลาดทก่ี ระทบงบก าไรขาดทุน 4.3. ขอ้ ผดิ พลาดทก่ี ระทบทงั้ งบแสดงฐานะการเงนิ และงบกาไรขาดทุน 5.ครูใชเ้ ทคนิควธิ สี อนแบบใชโ้ สตทศั นวสั ดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method) เป็นวธิ สี อน ทน่ี าอุปกรณ์โสตทศั น์วสั ดมุ าชว่ ยพฒั นาคณุ ภาพการเรยี นการสอน โสตทศั น์วสั ดุดงั กลา่ ว ไดแ้ ก่ Power Point เพ่อื อธบิ ายสาเหตแุ ละประเภทของขอ้ ผดิ พลาด ซ่ึงสาเหตขุ อ้ ผดิ พลาด มี 2 ประการ คอื 5.1. ขอ้ ผดิ พลาดโดยตงั้ ใจ เช่น การหลบเลยี่ งภาษี การปิดบงั ฐานะทแี่ ทจ้ รงิ ของกจิ การ โดยแสดงงบ การเงนิ ทไ่ี มถ่ ูกตอ้ ง 5.2. ขอ้ ผดิ พลาดโดยไม่ไดต้ งั้ ใจ เชน่ ไมเ่ ขา้ ใจวธิ กี ารบนั ทกึ บญั ชี ประมาทเลนิ เลอ่ ในการ บนั ทกึ บญั ชี งานมากเกินไปท าใหข้ าดความระมดั ระวงั ในการบนั ทกึ บญั ชี 6.ครูและผูเ้ รยี นอธบิ าย และแสดงการคานวณแกไ้ ขขอ้ ผดิ พลาดทชี่ ดเชยกนั ได้ โดยขอ้ ผดิ พลาดทชี่ ดเชย
ตตต กนั ได้ หมายถงึ ขอ้ ผดิ พลาดทที่ าใหก้ าไรสทุ ธปิ ีแรกสงู ไป/ต่าไป และปีทสี่ องกาไรสทุ ธจิ ะต่าไป/สงู ไปฉะนนั้ ขอ้ ผดิ พลาด จงึ ชดเชยหมดไปในสองปี เพราะกาไรสะสมปีทสี่ องจะแสดงยอดทถี่ กู ตอ้ ง.ถ้าตรวจพบขอ้ ผดิ พลาดในปีท.ี่ 3.ไม่ตอ้ ง ปรบั ปรงุ แกไ้ ขขอ้ ผดิ พลาด เพราะความผดิ ไดช้ ดเชยกนั หมดไปแลว้ แต่ถา้ ตรวจพบในปีที่ 2 จะต้องปรบั ปรงุ แกไ้ ขให้ ถูกตอ้ ง จะถอื วา่ ตวั เลขจะชดเชยกนั ในทสี่ ดุ แลว้ จะละเลยไม่แกไ้ ขไมไ่ ด้ เพราะการบนั ทกึ บญั ชที ดี่ ตี อ้ งแสดงก าไรสุทธิ ทถี่ ูกตอ้ ง ขอ้ ผดิ พลาดน้ไี ดแ้ ก่ 1. ตรี าคาสนิ คา้ คงเหลอื ปลายปีผดิ 2. ไม่ไดป้ รบั ปรุงบญั ชคี า่ ใชจ้ า่ ยคา้ งจ่าย 3. ไมไ่ ดป้ รบั ปรุงบญั ชรี ายไดค้ า้ งรบั 4. ไม่ไดบ้ นั ทกึ บญั ชซี ้อื สนิ ค้าในงวดปัจจบุ นั แตไ่ ปบนั ทกึ บญั ชงี วดถดั ไป 5. ไมไ่ ดบ้ นั ทึกบญั ชขี ายสนิ คา้ ในงวดปัจจุบนั แตไ่ ปบนั ทกึ บญั ชงี วดถดั ไป 6. ลงบญั ชผี ดิ ในหมวดเดยี วกนั .เช่น.ค่าขนสง่ เขา้ บนั ทกึ เป็นค่าขนสง่ ออก หรอื รายได้ คา่ เชา่ บนั ทกึ เป็น รายไดด้ อกเบ้ยี เป็นต้น ตวั อย่างการบนั ทกึ บญั ชเี กยี่ วกบั ขอ้ ผดิ พลาดทช่ี ดเชยกนั ได้ เชน่ ตรี าคาสนิ คา้ คงเหลอื ปลายปีผดิ เชน่ ตรี าคาสนิ คา้ คงเหลอื ปลายปีต่าไป วนั ที่ 31 ธนั วาคม 25X3 ตรี าคาสนิ ค้าปลายปี 90,000 บาท มรี าคาทุน 100,000 บาท ราคาตลาด 120,000 บาท บรษิ ทั ตอ้ งใชร้ าคาทนุ ทต่ี ่ากวา่ จงึ ตรี าคาสนิ คา้ คงเหลอื ปลายปีต่าไป 10,000 บาท ทา ใหก้ าไรสทุ ธติ ่าไปและกาไรสะสมต่าไปดว้ ย จะเหน็ ว่าการตรี าคาสนิ คา้ คงเหลอื ปลายปีต่ ากว่าความจรงิ จะท าใหก้ าไรสทุ ธแิ ละก าไร สะสมปี 25X3 ต่ ากว่าความเป็นจรงิ ถ้าพบขอ้ ผดิ พลาดในปี 25X4 จะตอ้ งแกไ้ ขขอ้ ผดิ พลาดเพ่อื ให้ ก าไรสทุ ธแิ ละก าไรสะสมถกู ตอ้ ง ยกเวน้ ถ้าพบขอ้ ผดิ พลาดในปี 25X5 ซ่งึ เป็นปีที่ 3 ไปแลว้ ความผดิ พลาดจะชดเชยกนั เพราะสนิ คา้ ปลายปี 25X3 จะ ยกไปเป็นสนิ คา้ ต้นปี 25X4 ตรี าคาต่ า กว่าความเป็นจรงิ ดงั น้ี
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127