Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การออกแบบหน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐานหน่วยที่ 4 ชั้นป.5 ปี 2562

การออกแบบหน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐานหน่วยที่ 4 ชั้นป.5 ปี 2562

Published by leky20, 2019-09-02 23:51:19

Description: การออกแบบหน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐานหน่วยที่ 4 ชั้นป.5 ปี 2562

Search

Read the Text Version

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ เร่อื ง พลังงานเสียง กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ รหัสวิชา 15101 ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5 จานวน 24 ช่วั โมง ผสู้ อนนายสุวิจกั ขณ์ อธคิ มกลุ ชยั โรงเรียนวัดวังน้าเขียว สานักงานเขตพืน้ ทีก่ ารศึกษาประถมศึกษานครปฐม เขต 1

การวิเคราะห์มาตรฐานและตัวช้วี ัด กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ฉบับปรับปรุง 2560 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 สาระที่ 1 วิทยาศาสตรช์ ีวภาพ มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งส่งิ ไม่มชี ีวติ กบั สิ่งมีชีวติ และความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งส่งิ มชี วี ิตกบั สิ่งมชี ีวิตตา่ งๆ ในระบบนเิ วศ การถ่ายทอดพลงั งาน การ เปลยี่ นแปลงแทนท่ใี นระบบนิเวศ ความหมายของประชากร ปญั หาและผลกระทบท่ีมตี ่อ ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม แนวทางในการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาตแิ ละการแกไ้ ข ปญั หาสิ่งแวดล้อมรวมท้ังนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ มาตรฐานเเละตัวชว้ี ัด ความรู้ ทกั ษะ/ สมรรถนะสาคัญ/ คุณลักษณะอันพึง สาระการเรยี นรู้ กระบวนการ ทกั ษะในศตวรรษท่ี 21 ประสงค์ ทอ้ งถ่ิน ว 1.1 ป.5/1 บรรยาย โครงสรา้ งและลักษณะ บรรยาย 1. มีทกั ษะการคิด โครงสร้างและลักษณะ ของสิง่ มีชวี ิตท่ี เหมาะสม วิเคราะห์ 1. มวี ินยั แหลง่ ท่ีอยู่ใน ของสิง่ มีชวี ติ ท่ี กบั การ ดารงชวี ติ ซง่ึ เปน็ อธิบาย 2. มีความรว่ มมือ การ 2. ใฝ่เรียนรู้ โรงเรียนวดั วงั เหมาะสมกบั การ ผลมาจาก การปรับตวั ของ ทางานเป็นทีม และภาวะ 3. ซื่อสัตย์สุจรติ นาเขยี ว ดารงชีวิตซง่ึ เปน็ ผลมา สง่ิ มชี ีวิตในแตล่ ะแหล่งที่ ความเป็นผ้นู า 4. มุ่งมัน่ ในการ จาก การปรับตวั ของ อยู่ 3. มที ักษะอาชพี และการ ทางาน สิ่งมชี วี ิตในแต่ละแหลง่ เรียนรู้ ทอี่ ยู่ ความสัมพันธ์ ระหวา่ ง ว 1.1 ป.5/2 อธิบาย ส่งิ มชี วี ติ กับสง่ิ มีชีวติ และ 1. มีทกั ษะการคดิ 1. มีวินยั ความสมั พนั ธ์ ระหว่าง ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง วิเคราะห์ 2. ใฝ่เรียนรู้ สิง่ มชี วี ติ กับสิ่งมชี ีวติ สง่ิ มชี วี ติ กับสง่ิ ไมม่ ีชวี ิต 2. มีความรว่ มมอื การ 3. ซอื่ สัตย์สุจรติ และความสัมพันธ์ เพอื่ ประโยชนต์ ่อ การ ทางานเป็นทีม และภาวะ 4. มุ่งมน่ั ในการ ระหว่างสิง่ มีชีวติ กับ ดารงชวี ติ ความเปน็ ผู้นา ทางาน ส่งิ ไมม่ ชี ีวิต เพื่อ 3. มที กั ษะอาชพี และการ ประโยชน์ต่อ การ เรยี นรู้ ดารงชวี ิต

สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งไม่มีชีวิตกับสิ่งมีชีวิต และ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับส่ิงมีชีวิตต่างๆ ในระบบนิเวศ การถ่ายทอดพลั งงาน การ เปลี่ยนแปลงแทนที่ในระบบนิเวศ ความหมายข องประชากร ปัญหาและผลกระทบที่มีต่อ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แนวทางในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการแก้ไข ปญั หาสิ่งแวดลอ้ มรวมท้งั นาความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ มาตรฐานเเละตัวชี้วัด ความรู้ ทักษะ/ สมรรถนะสาคญั / คุณลกั ษณะอนั พงึ สาระการเรยี นรู้ กระบวนการ ทักษะในศตวรรษที่ 21 ประสงค์ ทอ้ งถ่นิ ว 1.1 ป.5/3 เขียนโซ่ โซอ่ าหาร และระบุ เขียน 1. มีทกั ษะการคดิ อาหาร และระบุ บทบาท หนา้ ที่ของ วิเคราะห์ 1. มวี นิ ัย แหล่งที่อยใู่ น บทบาท หน้าทข่ี อง ส่งิ มชี วี ติ ที่เปน็ ผผู้ ลติ และ แสดงพฤตกิ รรม 2. มีความรว่ มมอื การ 2. ใฝ่เรยี นรู้ โรงเรียนวดั วัง สงิ่ มีชวี ิตท่ีเป็น ผผู้ ลติ ผู้บรโิ ภคในโซ่ อาหาร ทางานเป็นทมี และภาวะ 3. ซ่อื สัตย์สุจริต นาเขยี ว และ ผบู้ ริโภคในโซ่ ความเปน็ ผนู้ า 4. มงุ่ ม่ันในการ อาหาร ส่ิงแวดลอ้ มท่ีมตี อ่ การ 3. มีทกั ษะการใช้ ทางาน สงิ่ แวดล้อมใน ดารงชวี ิตของสิ่งมชี วี ติ โดย เทคโนโลยี โรงเรยี นวดั วัง ว 1.1 ป.5/4 ตระหนกั มีส่วนร่วมในการ ดูแล 4. มที ักษะอาชพี และการ 1. มวี ินัย นาเขียว ใน คุณค่าของ รักษา ส่งิ แวดลอ้ ม เรยี นรู้ 2. ใฝ่เรียนรู้ สิ่งแวดล้อมทม่ี ตี ่อการ 1. มที ักษะการคิด 3. ซือ่ สตั ยส์ ุจรติ ดารงชวี ิตของส่งิ มชี ีวิต วิเคราะห์ 4. มุง่ ม่ันในการ โดย มสี ว่ นรว่ มในการ 2. มีความรว่ มมือ การ ทางาน ดแู ลรกั ษา สง่ิ แวดลอ้ ม ทางานเปน็ ทมี และภาวะ 5. ตระหนักใน ความเปน็ ผู้นา คุณคา่ 3. มที ักษะการใช้ เทคโนโลยี 4. มที ักษะอาชีพและการ เรียนรู้

สาระที่ 1 วทิ ยาศาสตรช์ วี ภาพ มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสาคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สาร พันธุกรรม การเปล่ียนแปลงทางพันธุกรรมที่มีผลต่อส่ิงมีชีวิต ความหลากหลายทางชีวภาพและ วิวฒั นาการของส่ิงมีชวี ิต รวมทั้งนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ มาตรฐานเเละตวั ชว้ี ัด ความรู้ ทกั ษะ/ สมรรถนะสาคัญ/ คุณลักษณะอันพงึ สาระการเรยี นรู้ กระบวนการ ทักษะในศตวรรษท่ี 21 ประสงค์ ท้องถิ่น ว 1.3 ป.5/1 อธบิ าย ลักษณะทางพันธุกรรมท่ีมี อธบิ าย 1. มีทักษะการคิด ลักษณะทางพนั ธกุ รรม การถ่ายทอดจาก พอ่ แมส่ ู่ วเิ คราะห์ 1. มวี นิ ัย แหลง่ ท่ีอย่ใู น ท่ีมี การถา่ ยทอดจาก ลูกของ พชื สัตว์ และ แสดงความ 2. มีความรว่ มมือ การ 2. ใฝเ่ รียนรู้ โรงเรยี นวดั วงั พ่อแม่สู่ลกู ของ พชื สตั ว์ มนุษย์ อยากรอู้ ยาก ทางานเป็นทีม และภาวะ 3. ซือ่ สตั ย์สุจริต นาเขียว และ มนุษย์ เห็นโดยการถาม ความเปน็ ผนู้ า 4. มุ่งมน่ั ในการ คาถาม 3. มที กั ษะการใช้ ทางาน ส่งิ แวดล้อมใน ว 1.3 ป.5/2 แสดง ลกั ษณะที่ คล้ายคลงึ กนั เทคโนโลยี โรงเรยี นวดั วงั ความอยากรู้อยากเห็น ของ ตนเองกับพอ่ แม่ 4. มที กั ษะอาชพี และการ 1. มวี นิ ัย นาเขียว โดยการถามคาถาม เรยี นรู้ 2. ใฝ่เรยี นรู้ เกย่ี วกับลกั ษณะที่ 1. มีทักษะการคิด 3. ซอื่ สัตยส์ จุ ริต คล้ายคลงึ กันของ วเิ คราะห์ 4. มุ่งมน่ั ในการ ตนเองกับพ่อแม่ 2. มคี วามรว่ มมือ การ ทางาน ทางานเปน็ ทีม และภาวะ 5. ตระหนกั ใน ความเป็นผนู้ า คณุ ค่า 3. มีทักษะการใช้ เทคโนโลยี 4. มที กั ษะอาชพี และการ เรยี นรู้

สาระท่ี 2 วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสสารกับ โครงสร้าง และแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปล่ียนแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกดิ ปฏกิ ริ ิยาเคมี มาตรฐานเเละตวั ชว้ี ดั ความรู้ ทักษะ/ สมรรถนะสาคัญ/ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ สาระการเรยี นรู้ กระบวนการ ทักษะในศตวรรษที่ 21 ประสงค์ ท้องถิ่น อธิบาย 1. มีทกั ษะการคดิ ว 2.1 ป.5/1 อธบิ าย การเปลย่ี นสถานะ ของ วเิ คราะห์ 1. มีวนิ ยั การเปลย่ี นสถานะ ของ สสารเมอ่ื ทาใหส้ สารรอ้ น 2. มคี วามรว่ มมอื การ 2. ใฝเ่ รียนรู้ สสารเม่อื ทาใหส้ สาร ขนึ หรือเย็นลงโดย ใช้ ทางานเป็นทมี และภาวะ 3. ซ่ือสตั ย์สุจริต ร้อนขึน หรอื เย็นลง โดย หลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ ความเป็นผนู้ า 4. มุ่งมน่ั ในการ ใชห้ ลักฐานเชงิ 3. มีทกั ษะการใช้ ทางาน ประจกั ษ์ เทคโนโลยี 4. มที ักษะอาชพี และการ 1. มวี นิ ัย ว 2.1 ป.5/2 อธิบาย การละลายของสาร ในนา อธบิ าย เรยี นรู้ 2. ใฝเ่ รยี นรู้ การละลายของสาร ใน โดยใช้หลักฐานเชิง 1. มีทักษะการคิด 3. ซ่ือสัตย์สุจริต นาโดยใช้หลักฐานเชิง ประจักษ์ วเิ คราะห์ 4. มงุ่ มั่นในการ ประจักษ์ 2. มคี วามร่วมมือ การ ทางาน ทางานเปน็ ทีม และภาวะ 5. ตระหนักใน ว 2.1 ป.5/3 วเิ คราะห์ การเปลย่ี นแปลงของสาร วิเคราะห์ ความเปน็ ผนู้ า คณุ ค่า การเปลยี่ นแปลงของ เมอ่ื เกดิ การ เปลย่ี นแปลง 3. มที ักษะการใช้ สารเมอื่ เกิดการ ทาง เคมี โดยใช้ หลักฐาน เทคโนโลยี 1. มวี นิ ยั เปลย่ี นแปลงทาง เคมี เชิง ประจักษ์ 4. มีทกั ษะอาชพี และการ 2. ใฝ่เรียนรู้ โดยใช้ หลกั ฐานเชิง เรียนรู้ 3. ซือ่ สัตย์สุจรติ ประจกั ษ์ 1. มีทกั ษะการคดิ 4. ม่งุ ม่ันในการ วิเคราะห์ ทางาน 2. มคี วามรว่ มมอื การ 5. ตระหนักใน ทางานเป็นทมี และภาวะ คณุ ค่า ความเป็นผูน้ า 3. มที กั ษะการใช้ เทคโนโลยี 4. มที กั ษะอาชพี และการ เรียนรู้

สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสสารกับ โครงสร้าง และแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปล่ียนแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกดิ ปฏิกริ ยิ าเคมี มาตรฐานเเละตัวช้ีวดั ความรู้ ทกั ษะ/ สมรรถนะสาคญั / คณุ ลกั ษณะอันพงึ สาระการเรยี นรู้ กระบวนการ ทกั ษะในศตวรรษท่ี 21 ประสงค์ ท้องถ่ิน ว 2.1 ป.5/4 วเิ คราะห์ การเปลยี่ นแปลงที่ผันกลับ วิเคราะห์ 1. มีทกั ษะการคดิ และ ระบุการ ไดแ้ ละการเปลยี่ นแปลง ท่ี ระบุ วิเคราะห์ 1. มีวนิ ยั เปล่ยี นแปลงทีผ่ ันกลบั ผันกลบั ไมไ่ ด้ 2. มีความร่วมมอื การ 2. ใฝ่เรยี นรู้ ไดแ้ ละการเปลยี่ นแปลง ทางานเปน็ ทีม และภาวะ 3. ซอ่ื สัตย์สุจริต ทผ่ี ันกลบั ไม่ได้ ความเปน็ ผูน้ า 4. ม่งุ มน่ั ในการ 3. มที ักษะการใช้ ทางาน เทคโนโลยี 4. มีทักษะอาชีพและการ เรยี นรู้

สาระท่ี 2 วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว 2.2 เข้าใจธรรมชาติของแรงในชีวิตประจาวัน ผลของแรงที่กระทาต่อวัตถุ ลักษณะการ เคลอื่ นทีแ่ บบ ต่างๆ ของวตั ถุ รวมท้ังนาความรไู้ ปใช้ประโยชน์ มาตรฐานเเละตัวชี้วดั ความรู้ ทักษะ/ สมรรถนะสาคัญ/ คณุ ลกั ษณะอันพงึ สาระการเรียนรู้ กระบวนการ ทกั ษะในศตวรรษที่ 21 ประสงค์ ท้องถนิ่ ว 2.2 ป.5/1 อธิบาย วธิ กี ารหาแรงลัพธข์ องแรง อธิบาย 1. มที กั ษะการคดิ วิธกี ารหาแรงลพั ธข์ อง หลายแรงในแนว เดยี วกัน วิเคราะห์ 1. มวี ินัย แรงหลายแรงในแนว ที่กระทา ตอ่ วตั ถใุ นกรณีท่ี 2. มคี วามร่วมมอื การ 2. ใฝเ่ รยี นรู้ เดียวกันที่กระทา ต่อ วัตถอุ ยนู่ งิ่ จาก หลักฐาน ทางานเป็นทีม และภาวะ 3. ซ่อื สัตยส์ ุจริต วตั ถุในกรณที ีว่ ตั ถอุ ยู่นิ่ง เชงิ ประจักษ์ ความเป็นผู้นา 4. มุ่งม่ันในการ จาก หลกั ฐานเชงิ 3. มที กั ษะการใช้ ทางาน ประจักษ์ เทคโนโลยี 4. มีทักษะอาชีพและการ 1. มวี นิ ัย ว 2.2 ป.5/2 เขียน แรงทีก่ ระทาตอ่ วตั ถุทอ่ี ยู่ เขียนแผนภาพ เรยี นรู้ 2. ใฝเ่ รยี นรู้ แผนภาพแสดงแรงที่ ในแนว เดยี วกันและแรง 1. มีทกั ษะการคิด 3. ซอื่ สัตยส์ จุ ริต กระทาต่อวตั ถทุ อ่ี ย่ใู น ลัพธท์ ่กี ระทาตอ่ วัตถุ วเิ คราะห์ 4. มงุ่ ม่ันในการ แนว เดยี วกันและแรง 2. มีความร่วมมือ การ ทางาน ลัพธ์ทก่ี ระทาตอ่ วัตถุ ทางานเปน็ ทีม และภาวะ ความเป็นผู้นา 1. มีวินยั ว 2.2 ป.5/3 ใช้เครอ่ื ง การวัดแรงทก่ี ระทาต่อ ใชเ้ ครอื่ งชง่ั 3. มีทักษะการใช้ 2. ใฝเ่ รียนรู้ ช่งั สปริงในการวัดแรงท่ี วตั ถุ สปริง เทคโนโลยี 3. ซอ่ื สตั ย์สุจรติ กระทาตอ่ วัตถุ 4. มีทกั ษะอาชพี และการ 4. มงุ่ ม่นั ในการ เรยี นรู้ ทางาน 1. มที กั ษะการคดิ วเิ คราะห์ 2. มีความรว่ มมอื การ ทางานเปน็ ทีม และภาวะ ความเปน็ ผ้นู า 3. มที ักษะการใช้ เทคโนโลยี 4. มที กั ษะอาชพี และการ เรยี นรู้

สาระท่ี 2 วิทยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว 2.2 เข้าใจธรรมชาติของแรงในชีวิตประจาวัน ผลของแรงท่ีกระทาต่อวัตถุ ลักษณะการ เคล่ือนท่แี บบ ตา่ งๆ ของวัตถุ รวมทง้ั นาความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ มาตรฐานเเละตัวชี้วดั ความรู้ ทักษะ/ สมรรถนะสาคัญ/ คุณลกั ษณะอันพงึ สาระการเรยี นรู้ กระบวนการ ทักษะในศตวรรษที่ 21 ประสงค์ ทอ้ งถนิ่ ระบุ 1. มีทกั ษะการคิด ว 2.2 ป.5/4 ระบผุ ล ผลของแรงเสยี ดทานทีม่ ี วเิ คราะห์ 1. มีวินยั ของแรงเสยี ดทานที่มตี อ่ ต่อการเปล่ียนแปลงการ 2. มคี วามรว่ มมือ การ 2. ใฝ่เรียนรู้ การเปลยี่ นแปลงการ เคลือ่ นทขี่ องวตั ถจุ าก ทางานเปน็ ทมี และภาวะ 3. ซ่ือสัตยส์ จุ ริต เคลื่อนทขี่ องวัตถจุ าก หลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ ความเปน็ ผนู้ า 4. มงุ่ มั่นในการ หลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ 3. มที กั ษะการใช้ ทางาน เทคโนโลยี ว 2.2 ป.5/5 เขียน แสดงแรงเสยี ด ทานและ เขยี นแผนภาพ 4. มที กั ษะอาชีพและการ 1. มวี ินัย แผนภาพ แสดงแรง แรงที่อยู่ ในแนวเดยี วกันที่ เรียนรู้ 2. ใฝ่เรียนรู้ เสียด ทานและแรงที่อยู่ กระทาต่อวตั ถุ 1. มีทกั ษะการคดิ 3. ซ่ือสัตยส์ จุ ริต ในแนวเดยี วกนั ที่ วเิ คราะห์ 4. มุ่งมั่นในการ กระทาตอ่ วตั ถุ 2. มีความรว่ มมอื การ ทางาน ทางานเป็นทีม และภาวะ ความเป็นผ้นู า 3. มีทกั ษะการใช้ เทคโนโลยี 4. มที ักษะอาชีพและการ เรียนรู้

สาระท่ี 2 วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลงั งาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสัมพันธ์ ระหว่างสสาร และพลังงาน พลังงานในชีวิตประจาวันธรรมชาติของคล่ืน ปรากฏการณ์ท่ีเก่ียวข้องกับ เสยี ง แสงและคลน่ื แมเ่ หล็กไฟฟา้ รวมทง้ั นาความรู้ไปใช้ประโยชน์ มาตรฐานเเละตัวชว้ี ัด ความรู้ ทักษะ/ สมรรถนะสาคญั / คุณลักษณะอันพึง สาระการเรียนรู้ กระบวนการ ทกั ษะในศตวรรษท่ี 21 ประสงค์ ท้องถนิ่ อธิบาย 1. มีทักษะการคิด ว 2.3 ป.5/1 อธิบาย การไดย้ นิ เสยี งผ่าน วเิ คราะห์ 1. มีวินยั การไดย้ นิ เสียงผา่ น ตัวกลางจากหลักฐานเชงิ 2. มีความร่วมมือ การ 2. ใฝ่เรียนรู้ ตัวกลางจากหลักฐาน ประจกั ษ์ ทางานเป็นทีม และภาวะ 3. ซือ่ สตั ย์สจุ รติ เชิงประจกั ษ์ ความเป็นผ้นู า 4. มงุ่ มนั่ ในการ 3. มที ักษะอาชพี และการ ทางาน ว 2.3 ป.5/2 ระบตุ ัว ตัวแปรทดลองและอธิบาย ระบุ เรยี นรู้ แปรทดลองและอธิบาย ลกั ษณะและการเกดิ เสยี ง 1. มีทกั ษะการคิด 1. มีวินัย ลักษณะและการเกดิ สงู เสยี งตา่ วิเคราะห์ 2. ใฝ่เรียนรู้ เสยี งสงู เสยี งตา่ 2. มีความร่วมมอื การ 3. ซ่ือสตั ยส์ จุ ริต ทางานเป็นทมี และภาวะ 4. ม่งุ มน่ั ในการ ความเปน็ ผ้นู า ทางาน 3. มที ักษะการใช้ ว 2.3 ป.5/3 ออกแบบ ลกั ษณะและการเกดิ เสยี ง ออกแบบการ เทคโนโลยี การทดลองและอธิบาย ดงั เสยี งค่อย ทดลองและ 4. มที ักษะอาชีพและการ ลกั ษณะและการเกดิ อธิบาย เรียนรู้ เสียงดงั เสยี งค่อย 1. มที กั ษะการคดิ วิเคราะห์ 2. มีความร่วมมือ การ ทางานเปน็ ทมี และภาวะ ความเปน็ ผู้นา 3. มีทกั ษะการใช้ เทคโนโลยี 4. มที กั ษะอาชพี และการ เรยี นรู้

สาระที่ 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสัมพันธ์ ระหว่างสสาร และพลังงาน พลังงานในชีวิตประจาวันธรรมชาติของคลื่น ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับ เสยี ง แสงและคลื่นแม่เหลก็ ไฟฟ้า รวมทัง้ นาความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์ มาตรฐานเเละตัวชวี้ ัด ความรู้ ทักษะ/ สมรรถนะสาคัญ/ คณุ ลักษณะอนั พงึ สาระการเรยี นรู้ ประสงค์ ทอ้ งถิน่ กระบวนการ ทักษะในศตวรรษท่ี 21 1. มีวนิ ัย ว 2.3 ป.5/4 วัด ใช้เครื่องมือวัด 1. มีความร่วมมือ การ 2. ใฝ่เรยี นรู้ ระดับเสียงโดยใช้ 3. ซื่อสตั ย์สุจริต เครอื่ งมือวัดระดบั ระดับเสยี ง ทางานเป็นทมี และภาวะ 4. มุ่งม่ันในการ เสยี ง ความเปน็ ผนู้ า ทางาน 1. มีวนิ ัย 2. มที กั ษะการใช้ 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. ซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ เทคโนโลยี 4. มุง่ มน่ั ในการ ทางาน ว 2.3 ป.5/5 ความรู้เรือ่ งระดับเสียง 1. มที ักษะการคดิ 5. ตระหนักใน ตระหนักในคณุ คา่ โดยเสนอแนะแนวทาง วิเคราะห์ คณุ ค่า ของความรเู้ รอ่ื ง ในการหลีกเล่ียงและ 2. มีความร่วมมือ การ ระดับเสียงโดย ลด มลพษิ ทางเสียง ทางานเปน็ ทมี และภาวะ เสนอแนะแนวทางใน ความเป็นผูน้ า การหลีกเลี่ยงและลด 3. มที กั ษะการใช้ เทคโนโลยี มลพษิ ทางเสยี ง 4. มที กั ษะอาชีพและการ เรียนรู้

สาระท่ี 3 วทิ ยาศาสตร์โลก และอวกาศ มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะรวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะที่ส่งผลต่อส่ิงมีชีวิตและการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยี อวกาศ ตวั ชี้วัดชน้ั ปี มาตรฐานเเละตัวชี้วดั ความรู้ ทักษะ/ สมรรถนะสาคัญ/ คณุ ลกั ษณะอันพึง สาระการเรียนรู้ กระบวนการ ทักษะในศตวรรษท่ี 21 ประสงค์ ท้องถ่นิ เปรียบเทยี บ 1. มที ักษะการคดิ ว 3.1 ป.5/1 ของดาวเคราะหแ์ ละดาว ความแตกต่าง วเิ คราะห์ 1. มีวนิ ัย เปรียบเทยี บความ ฤกษ์ 2. มีความรว่ มมือ การ 2. ใฝเ่ รียนรู้ แตกตา่ งของดาว ใช้แผนท่ีดาว ทางานเป็นทีม และภาวะ 3. ซอ่ื สตั ย์สุจรติ เคราะห์และดาวฤกษ์ ระบตุ าแหน่ง ความเปน็ ผูน้ า 4. มงุ่ มั่นในการ จากแบบจาลอง และเส้นทาง 3. มีทักษะการใช้ ทางาน เทคโนโลยี ว 3.1 ป.5/2 ใช้แผนท่ี การขนึ และตกของกลมุ่ 4. มีทักษะอาชีพและการ 1. มวี นิ ยั ดาวระบตุ าแหน่งและ ดาวฤกษ์บนท้องฟ้าและ เรียนรู้ 2. ใฝ่เรียนรู้ เสน้ ทางการขึนและตก อธบิ าย แบบรปู เส้นทาง 1. มีทกั ษะการคดิ 3. ซ่อื สตั ยส์ ุจริต ของกลมุ่ ดาวฤกษ์บน การขึนและตก ของกลุ่ม วเิ คราะห์ 4. มงุ่ ม่ันในการ ทอ้ งฟา้ และอธบิ าย ดาว ฤกษ์บนท้องฟา้ ใน 2. มีความร่วมมอื การ ทางาน แบบรูปเส้นทางการขึน รอบปี ทางานเป็นทีม และภาวะ และตก ของกลุ่มดาว ความเป็นผนู้ า ฤกษ์บนท้องฟ้า ในรอบ 3. มที กั ษะการใช้ ปี เทคโนโลยี 4. มที กั ษะอาชีพและการ เรยี นรู้

สาระที่ 3 วทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองค์ประกอบ และความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปลี่ยนแปลงภายใน โลกและบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปล่ียนแปลงลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศโลก รวมทั้งผลต่อ ส่งิ มีชวี ิตและสิง่ แวดลอ้ ม มาตรฐานเเละตวั ชวี้ ดั ความรู้ ทักษะ/ สมรรถนะสาคญั / คุณลกั ษณะอนั พึง สาระการเรียนรู้ กระบวนการ ทักษะในศตวรรษท่ี 21 ประสงค์ ทอ้ งถน่ิ ว 3.2 ป.5/1 ปริมาณนาในแต่ละ 1. มีทักษะการคดิ เปรยี บเทยี บปริมาณ แหล่งและ ระบปุ ริมาณ เปรยี บเทยี บ วเิ คราะห์ 1. มีวนิ ยั แหลง่ นาชมุ ชน นาในแตล่ ะแหลง่ นา ที่ มนษุ ย์สามารถ 2. มคี วามร่วมมือ การ 2. ใฝเ่ รียนรู้ วดั วงั นาเขียว และ ระบปุ ริมาณนา นามาใชป้ ระโยชนไ์ ด้ ทางานเป็นทีม และภาวะ 3. ซ่ือสัตยส์ ุจรติ ที่ มนุษยส์ ามารถ จากข้อมูลท่รี วบรวมได้ ความเปน็ ผู้นา 4. มงุ่ ม่ันในการ นามาใช้ประโยชนไ์ ด้ 3. มีทกั ษะการใช้ ทางาน จากข้อมลู ท่ีรวบรวม คณุ ค่าของนาโดย เทคโนโลยี ได้ นาเสนอแนวทาง การ 4. มีทักษะอาชพี และการ 1. มีวนิ ยั ว 3.2 ป.5/2 ใชน้ าอย่าง ประหยัด เรยี นรู้ 2. ใฝเ่ รยี นรู้ ตระหนกั ถึง คุณค่า และการ อนรุ ักษน์ า 3. ซื่อสตั ย์สุจรติ ของนาโดย นาเสนอ 1. มีทกั ษะการคดิ 4. มุ่งม่นั ในการ แนวทาง การใชน้ า วเิ คราะห์ ทางาน อยา่ ง ประหยดั และ 2. มคี วามร่วมมอื การ 5. ตระหนกั ใน การ อนุรักษน์ า ทางานเปน็ ทมี และภาวะ คณุ ค่า ความเป็นผูน้ า ว 3.2 ป.5/3 สรา้ ง การหมนุ เวยี นของนา สร้าง 3. มที ักษะการใช้ 1. มีวนิ ยั แบบจาลองท่ีอธิบาย ในวัฏจกั รนา แบบจาลอง เทคโนโลยี 2. ใฝเ่ รียนรู้ การหมนุ เวยี นของนา อธิบาย 4. มที กั ษะอาชีพและการ 3. ซือ่ สตั ยส์ จุ รติ ในวฏั จักรนา เรียนรู้ 4. มุง่ มั่นในการ 1. มีทกั ษะการคดิ ทางาน วเิ คราะห์ 2. มคี วามรว่ มมือ การ ทางานเปน็ ทมี และภาวะ ความเป็นผูน้ า 3. มที กั ษะการใช้ เทคโนโลยี 4. มีทักษะอาชพี และการ เรียนรู้

สาระที่ 3 วทิ ยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองค์ประกอบ และความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปลี่ยนแปลงภายใน โลกและบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปล่ียนแปลงลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศโลก รวมท้ังผลต่อ ส่ิงมชี วี ติ และสง่ิ แวดล้อม มาตรฐานเเละตัวชว้ี ดั ความรู้ ทักษะ/ สมรรถนะสาคัญ/ คณุ ลกั ษณะอนั พึง สาระการเรยี นรู้ กระบวนการ ทักษะในศตวรรษที่ 21 ประสงค์ ท้องถ่ิน 1. มที กั ษะการคดิ ว 3.2 ป.5/4 กระบวนการเกิด เมฆ เปรยี บเทยี บ วเิ คราะห์ 1. มวี ินัย 2. มคี วามรว่ มมือ การ 2. ใฝเ่ รียนรู้ เปรียบเทยี บ หมอก นาค้าง และ ทางานเปน็ ทมี และภาวะ 3. ซอ่ื สตั ย์สจุ รติ ความเปน็ ผนู้ า 4. มุ่งมั่นในการ กระบวนการเกิด นาคา้ งแข็ง จาก 3. มีทกั ษะการใช้ ทางาน เทคโนโลยี เมฆ หมอก นาค้าง แบบจาลอง 4. มที กั ษะอาชีพและการ เรยี นรู้ และ นาคา้ งแข็ง จาก แบบจาลอง

สาระท่ี 3 วิทยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองค์ประกอบ และความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปล่ียนแปลงภายใน โลก และบนผิวโลก ธรณพี ิบตั ภิ ัย กระบวนการเปล่ียนแปลงลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศโลก รวมท้ังผลต่อ สิ่งมีชีวติ และสงิ่ แวดลอ้ ม มาตรฐานเเละตวั ชี้วัด ความรู้ ทักษะ/ สมรรถนะสาคญั / คณุ ลักษณะอนั พึง สาระการเรยี นรู้ กระบวนการ ทักษะในศตวรรษท่ี 21 ประสงค์ ท้องถ่ิน 1. มีทักษะการคดิ ว 3.2 ป.5/5 กระบวนการเกิด ฝน เปรยี บเทียบ วเิ คราะห์ 1. มวี นิ ัย 2. มคี วามร่วมมอื การ 2. ใฝเ่ รียนรู้ เปรียบเทยี บ หิมะ และ ลูกเห็บ จาก ทางานเปน็ ทมี และภาวะ 3. ซอ่ื สัตย์สจุ รติ ความเปน็ ผูน้ า 4. มุง่ มั่นในการ กระบวนการเกิด ฝน ขอ้ มลู ท่รี วบรวม ได้ 3. มีทักษะการใช้ ทางาน เทคโนโลยี หิมะ และ ลกู เห็บ 4. มีทักษะอาชพี และการ เรียนรู้ จาก ข้อมูลท่รี วบรวม ได้

สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคานวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นข้ันตอนและ เป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทางาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสทิ ธิภาพ ร้เู ทา่ ทันและมีจรยิ ธรรม มาตรฐานเเละตัวชีว้ ดั ความรู้ ทกั ษะ/กระบวนการ สมรรถนะสาคัญ/ คณุ ลกั ษณะอนั สาระการเรยี นรู้ ทักษะในศตวรรษที่ 21 พึงประสงค์ ทอ้ งถ่ิน ว 4.2 ป.5/1 ใช้เหตุผลเชงิ ใช้เหตุผลเชิง ตรรกะในการ 1. มีทกั ษะการคิด 1. มวี ินยั ตรรกะในการแก้ปัญหา การ แกป้ ญั หา การอธิบายการงานการ วเิ คราะห์ 2. ใฝเ่ รียนรู้ อธบิ ายการงานการคาดการณ์ คาดการณผ์ ลลพั ธจ์ ากปัญหาอยา่ ง 2. มีความร่วมมือ การ 3. ซอื่ สัตย์ ผลลัพธจ์ ากปญั หาอยา่ งง่าย ง่าย ทางานเป็นทมี และ สุจรติ ว 4.2 ป.5/2 ออกแบบและ ออกแบบและเขยี นโปรแกรมท่ีมี ภาวะความเปน็ ผนู้ า 4. มุ่งมนั่ ในการ เขยี นโปรแกรมที่มกี ารใช้เหตผุ ล การใชเ้ หตผุ ลเชิงตรรกะอย่างงา่ ย 3. มที กั ษะการใช้ ทางาน เชิงตรรกะอยา่ งงา่ ยตรวจหา ตรวจหาขอ้ ผิดพลาดและ แก้ไข เทคโนโลยี ขอ้ ผดิ พลาดและ แกไ้ ข 4. มที ักษะอาชีพและ ว 4.2 ป.5/3 ใชอ้ ินเทอรเ์ นต็ ใชอ้ นิ เทอรเ์ น็ตค้นหาขอ้ มูล การเรยี นรู้ ค้นหาขอ้ มูล ตดิ ตอ่ ส่ือสารและ ตดิ ต่อสอ่ื สารและทางานร่วมกนั ทางานรว่ มกนั ประเมนิ ความ ประเมนิ ความนา่ เชือ่ ถือของขอ้ มลู นา่ เช่อื ถอื ของข้อมลู ว 4.2 ป.5/4 รวบรวม รวบรวม ประเมนิ นาเสนอขอ้ มลู ประเมนิ นาเสนอขอ้ มลู และ และสารสนเทศตามวัตถปุ ระสงค์ สารสนเทศตามวัตถุประสงค์ โดยใชซ้ อฟต์แวร์ หรือบรกิ ารบน โดยใช้ซอฟตแ์ วร์ หรือบรกิ าร อินเทอร์เน็ตทหี่ ลากหลาย เพือ่ บน อนิ เทอรเ์ นต็ ที่หลากหลาย แก้ปญั หาในชีวิตประจาวนั เพ่อื แก้ปัญหาในชวี ติ ประจาวนั ว 4.2 ป.5/5 ใชเ้ ทคโนโลยี ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ ง สารสนเทศอย่างปลอดภยั มี ปลอดภยั มมี ารยาทเขา้ ใจสิทธแิ ละ มารยาทเข้าใจสิทธิและหน้าท่ี หน้าท่ขี องตนเคารพในสิทธิ ของตนเคารพในสทิ ธิ ของ ของผูอ้ ่ืนแจง้ ผ้เู กยี่ วขอ้ งเม่ือพบ ผ้อู ืน่ แจ้งผ้เู ก่ยี วขอ้ งเมื่อพบ ข้อมูลหรือบุคคลที่ไมเ่ หมาะสม ข้อมูลหรือบคุ คลทไ่ี ม่เหมาะสม

ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 5 คาอธิบายรายวชิ า วชิ าวิทยาศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ เวลา 120 ช่ัวโมง รายวิชาพ้ืนฐาน ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 5 รหสั วิชา ว 15101 ศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับโครงสร้างและลักษณะของส่ิงมีชีวิตที่เหมาะสมในแต่ละแหล่งท่ีอยู่ ความสัมพันธ์ระหว่างส่ิงมชี ีวิต กับสงิ่ มชี ีวติ และความสัมพันธ์กับส่ิงไม่มีชีวิต โซ่อาหารและบทบาทหน้าท่ีของ สิ่งมีชีวิตที่เป็นผู้ผลิตและผู้บริโภคในโซ่อาหาร คุณค่าของส่ิงแวดล้อมท่ีมีต่อการดารงชีวิตของส่ิงมีชีวิต ใน ชุมนุมวัดวังนาเขียว ลักษณะทางพันธุกรรมท่ีมีการถ่ายทอดจากพ่อแม่สู่ลูกของพืช สัตว์ และมนุษย์ ลักษณะท่คี ล้ายคลึงกันของตนเองกับพ่อแม่ การหาแรงลัพธ์ของแรงหลายแรงในแนวเดียวกันที่กระทาต่อวัตถุ การเขยี นแผนภาพแสดงแรงทกี่ ระทาตอ่ วัตถทุ อ่ี ยู่ในแนวเดยี วกันและแรงลัพธ์ท่ีกระทาต่อวัตถุ การใช้เครื่องช่ัง สปริงในการวัดแรงที่กระทาต่อวัตถุ ผลของแรงเสียดทานที่มีต่อการเปล่ียนแปลงการเคล่ือนท่ีของวัตถุ การ เขียนแผนภาพแสดง แรงเสียดทานและแรงท่ีอยู่ในแนวเดียวกันท่ีกระทาต่อวัตถุ การได้ยินเสียงผ่านตัวกลาง การเกิดเสียงสูง เสียงต่า การเกิดเสียงดัง เสียงค่อย การวัดระดับเสียงโดยใช้เคร่ืองมือวัดระดับเสียง แนวทาง ในการหลีกเลี่ยงและลดมลพิษทางเสียง ดาวเคราะห์และดาวฤกษ์ การใช้แผนที่ดาวระบุตาแหน่งและ เสน้ ทางการขนึ และตกของกล่มุ ดาวฤกษ์ เสน้ ทางการขึนและตก ของกลุ่มดาว ฤกษ์บนท้องฟ้า ในรอบปี การ หมุนเวียนของนาในวัฏจักรนา กระบวนการเกิด เมฆ หมอก นาค้าง และ นาค้างแข็ง กระบวนการเกิด ฝน หมิ ะ และ ลูกเหบ็ และตระหนักถึงคณุ ค่าของแหล่งนาในชุมชนวัดวังนาเขยี ว โดยม่งุ หวงั ให้ผเู้ รียนได้เรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์โดยใช้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะแกป้ ญั หา การอธิบาย การทางานการคาดการณ์ผลลัพธ์ จากปัญหาอย่างง่าย ออกแบบ และ เขียนโปรแกรมอย่างง่าย โดยใช้ ซอฟต์แวร์หรือสื่อและตรวจหา ข้อผิดพลาดและแก้ไข ใช้อินเทอร์เน็ตค้นหาความรู้และประเมินความ นา่ เชื่อถือของข้อมลู ใชเ้ ทคโนโลยีในการนาเสนอขอ้ มลู และสารสนเทศ โดยใช้ซอฟต์แวร์ ที่หลากหลาย ซึ่งเน้น การเชอื่ มโยงความรู้ทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี กบั กระบวนการทางวิศวกรรมศาสตร์ สร้างองค์ ความรู้ ดว้ ยกระบวนการสบื เสาะหาความรูแ้ ละการแก้ปัญหาใน ชีวติ ประจาวนั เพื่อใหผ้ ูเ้ รยี นเกดิ ความรู้ ความเข้าใจ มีคุณลักษณะและทักษะท่ีจาเป็นในศตวรรษที่ 21 สร้างสรรค์ พัฒนานวัตกรรม มีส่วนร่วมในการเรียนรู้ทุกขันตอน รวมทังส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดจิตวิทยาศาสตร์และมีเจต คติทด่ี ีตอ่ การเรยี นวิทยาศาสตร์ ตระหนกั ถงึ การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย มีมารยาทเข้าใจสิทธิ และหนา้ ทขี่ องตน เคารพในสิทธิของผูอ้ ่นื แจ้งผู้เก่ยี วข้อง เม่ือพบข้อมลู หรือบุคคลท่ีไม่เหมาะสม

มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั ว 1.1 ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 ป.5/4 ว 1.3 ป.5/1 ป.5/2 ว 2.1 ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 ป.5/4 ว 2.2 ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 ป.5/4 ป.5/5 ว 2.3 ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 ป.5/4 ป.5/5 ว 3.1 ป.5/1 ป.5/2 ว 3.2 ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 ป.5/4 ป.5/5 ว 4.2 ป.5/1 ป.5/2 ป.5/3 ป.5/4 ป.5/5 รวม 32 ตัวช้ีวัด

รายวชิ าพนื้ ฐาน โครงสรา้ งรายวิชา วชิ าวิทยาศาสตร์ รหัสวชิ า ว 15101 กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ เวลา 120 ชั่วโมง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เวลา ชอ่ื หน่วยการ มาตรฐานการเรยี นรู้ นา้ หนัก ท่ี เรียนรู้ สาระสาคญั (ชั่วโมง) คะแนน และตัวชี้วดั 1 วทิ ยาการ ว 4.2 ป.5/1 ป.5/2 1. การใช้เหตุผลเชงิ ตรรกะเพอื่ พิจารณาในการ 21 14 18 12 คานวณ ป.5/3 ป.5/4 ป.5/5 แก้ปัญหา ทาใหส้ ารมารถคาดการณผ์ ลลัพธ์ท่ี จะเกดิ ขึน ซ่ึงการนาวธิ ีการดงั กลา่ วมาแสดง เป็นลาดบั ขันตอนเรยี กวา่ อัลกอรทิ มึ 2. การออกแบบและเขยี นโปรแกรมเป็น ข้อความหรอื แผนผังงานซึง่ เป็นการเขียน โปรแกรมทีม่ กี ารตรวจสอบเงอ่ื นไขหากมี ขอ้ ผดิ พลาดให้ตรวจสอบการทางานทลี ะคาสง่ั เมอ่ื พบจดุ ทีท่ าให้ผลลพั ธไ์ มถ่ กู ต้องให้ทาการ แก้ไขจนกวา่ จะไดผ้ ลลัพธ์ท่ีถูกต้อง 3. การคน้ ข้อมูลในอนิ เตอรเ์ น็ต ขอ้ มูลทด่ี ี จะต้องมรี ายละเอยี ดครบทุกด้าน เช่น ขอ้ ดี ข้อเสยี ประโยชน์ หรือโทษ 4. การใช้ซอฟต์แวร์หรือบริการบน อินเตอร์เนต็ ท่หี ลากหลายในการรวบรวม ประมวลผล นาเสนอ จะช่วยให้การแกป้ ญั หา ทาได้อยา่ งรวดเรว็ ถูกต้อง 2 ส่ิงมีชีวิตกบั ว 1.1 ป.5/1 ป.5/2 สง่ิ มีชวี ติ ทังพืชและสัตวต์ ่างๆ จะมโี ครงสร้าง สง่ิ แวดล้อมใน ป.5/3 ป.5/4 และลกั ษณะที่ เหมาะสมในแตล่ ะแหล่งที่อยู่ เพอ่ื ใหด้ ารงชวี ติ และอย่รู อดได้ ซ่ึง ในแหลง่ ที่ ชมุ ชนวงั นา ว 1.3 ป.5/1 ป.5/2 อยหู่ น่งึ ๆ สงิ่ มชี วี ติ จะมคี วามสมั พนั ธ์ซึ่งกนั และ เขียว กนั และสัมพนั ธ์กบั ส่ิงมชี ีวติ เพ่อื ประโยชน์ ต่อการดารงชวี ิต สิง่ มชี วี ติ ทังพืช สัตว์ และ มนุษย์ เมอ่ื เจริญเติบโตเตม็ ทแี่ ล้ว จะ มกี าร สืบพนั ธ์ุเพอ่ื เพมิ่ จานวนและดารงชีวิต โดยลกู ท่เี กดิ มาจะ ไดร้ ับการถา่ ยทอดลกั ษณะทาง พนั ธกุ รรมจากพอ่ แม่ จงึ ทาให้มี ลกั ษณะท่ี คลา้ ยกบั พอ่ แม่ แตจ่ ะแตกต่างจากส่ิงมชี วี ติ อืน่

รายวชิ าพื้นฐาน โครงสร้างรายวิชา วชิ าวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว 15101 กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ เวลา 120 ช่ัวโมง ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5 ท่ี ชอ่ื หน่วยการ มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระสาคญั เวลา นา้ หนัก เรยี นรู้ และตวั ช้ีวดั (ชว่ั โมง) คะแนน 3 แรงในชีวติ ว 2.2 ป.5/1 ป.5/2 แรงลพั ธ์ คือ ผลรวมของแรงหลายแรงทกี่ ระทา 21 14 ประจา ป.5/3 ป.5/4 ป.5/5 ตอ่ วตั ถุ เดยี วกนั ในทศิ ทางเดยี วกัน หรือผลต่าง วัน ของแรงสองแงทก่ี ระทาตอ่ วตั ถใุ นทิศทางตรง ข้ามกนั สาหรับวตั ถทุ ่อี ย่นู ่งิ แรงลพั ธจ์ ะมีคา่ เป็น ศูนย์ แรงเสยี ดทาน คือ แรงท่ีเกิดขนึ ระหว่าง ผิวสมั ผสั ของวัตถสุ อง ชนิด เพอ่ื ต้านการ เคล่ือนทข่ี องวตั ถุนันๆ และมีทิศทางตรงขา้ มกับ การเคลือ่ นทีข่ องวัตถุนันๆ 4 พลงั งานเสียง ว 2.3 ป.5/1 ป.5/2 เสยี งเกดิ จากการสั่นสะเทือนของวัตถทุ ่เี ป็น 24 16 (สะเตม็ ศึกษา) ป.5/3 ป.5/4 ป.5/5 แหลง่ กาเนดิ เสียง เสียงเคลอ่ื นท่ีไดท้ กุ ทิศทาง โดยอาศัยตวั กลาง ได้แก่ ของแขง็ ของเหลว และอากาศ มาถึงหขู องเรา เสียงจาก แหล่งกาเนดิ เสียงตา่ งๆ จะมเี สยี งสงู เสียงต่า หรือมี เสยี งดงั เสียงคอ่ ย แตกต่างกนั หาก เสยี งมคี วามดงั มากๆ จะ ก่อให้เกดิ อนั ตรายต่อ การไดย้ ินเสียงของเรา

โครงสร้างรายวชิ า รายวิชาพื้นฐาน กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ วชิ าวิทยาศาสตร์ รหัสวชิ า ว 15101 ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 5 เวลา 120 ชั่วโมง ท่ี ชื่อหน่วยการ มาตรฐานการเรียนรู้ สาระสาคญั เวลา น้าหนัก เรียนรู้ และตัวชี้วัด (ช่ัวโมง) คะแนน 10 5 การ ว 2.1 ป.5/1 ป.5/2 1. การเปล่ยี นสถานะของสสารเป็นการ 15 เปลยี่ นแปลง ป.5/3 ป.5/4 เปลี่ยนแปลงทางกายภาพ ทไ่ี มท่ าใหเ้ กิดสารใหม่ ของสารใน และสามารถทาใหส้ สารนนั กลับคนื สู่สภาพ เดมิ ชวี ติ ประจา ได้ โดยเมอ่ื เพ่ิมความรอ้ นใหก้ บั สสารถงึ ระดบั วัน หนึง่ จะทาให้ สสารทเ่ี ปน็ ของแข็งเปลี่ยนสถานะ เปน็ ของเหลว เรยี กวา่ การหลอมเหลว และเมื่อ เพ่ิมความรอ้ นต่อไปจนถึงอกี ระดับหนึง่ ของเหลวจะเปลี่ยนเปน็ แก๊ส เรียกว่า การ กลายเปน็ ไอ แตเ่ มอ่ื ลดความรอ้ นลงถงึ ระดับ หนง่ึ แกส๊ จะเปลย่ี นสถานะเป็นของเหลว เรียกว่า การควบแนน่ และถ้าลดความร้อนตอ่ ไป อีกจนถึงระดบั หนง่ึ ของเหลวจะเปลี่ยนสถานะ เปน็ ของแขง็ เรียกวา่ การแข็งตวั สสารบางชนิด สามารถเปล่ียนสถานะจากของแข็งเป็นแกส๊ โดย ไม่ ผา่ นการเป็นของเหลว เรยี กว่า การระเหดิ ส่วนแก๊สบางชนิด สามารถเปลี่ยนสถานะเป็น ของแข็งโดยไม่ผ่านการเปน็ ของเหลว เรียกว่า การระเหดิ กลบั 2. การละลาย คอื การท่ใี สส่ ารลงในนาแลว้ สารนันผสมรวมเปน็ เนอื เดียวกนั กับนาได้ทุก สว่ น แสดงวา่ สารเกดิ การละลาย เรยี ก สาร ผสมทไี่ ด้ว่าสารละลาย การละลายเป็นการ เปล่ยี นแปลงทางกายภาพ เพราะไมท่ าใหเ้ กิด สารใหม่

โครงสร้างรายวชิ า รายวชิ าพน้ื ฐาน กล่มุ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์ รหสั วิชา ว 15101 ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 5 เวลา 120 ช่ัวโมง ที่ ชื่อหน่วยการ มาตรฐานการเรียนรู้ สาระสาคัญ เวลา น้าหนัก เรียนรู้ และตัวชี้วัด (ชั่วโมง) คะแนน 3. การเกิดปฏกิ ริ ยิ าทางเคมีของสาร คอื การ เปลยี่ นแปลงทาง เคมขี องสาร โดยเม่อื ผสม สาร 2 ชนดิ ขึนไป แลว้ ทาใหม้ สี ารใหม่ เกดิ ขึน ซงึ่ มีสมบตั ิตา่ งจากสารเดิมหรือเมอ่ื สารชนดิ เดยี วเกดิ การเปลี่ยนแปลงแล้วมสี ารใหม่ เกิดขนึ ซึง่ สงั เกตไดจ้ ากมีสีหรือกลนิ่ ต่างจาก สารเดมิ มีฟองแกส๊ หรอื มตี ะกอนเกดิ ขึน หรอื มีการ เพม่ิ ขนึ หรือลดลงของอณุ หภูมิ เมื่อ สารเกดิ การเปล่ียนแปลงแลว้ สารสามารถ เปลยี่ นกลบั เป็นสารเดิมได้ จัดเปน็ การ เปลี่ยนแปลงท่ีผันกลบั ได้ เช่น การ หลอมเหลว การกลายเปน็ ไอ การละลาย แต่ สารบางอย่างหาก เกดิ การเปลยี่ นแปลงแลว้ ไม่ สามารถเปลยี่ นกลับเป็นสารเดมิ ได้ จัดเป็นการ เปลี่ยนแปลงทผ่ี ันกลบั ไมไ่ ด้ เช่น การเผาไหม้ การเกิดสนมิ

โครงสรา้ งรายวชิ า รายวชิ าพืน้ ฐาน กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ วชิ าวิทยาศาสตร์ รหสั วชิ า ว 15101 ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 5 เวลา 120 ช่ัวโมง ท่ี ช่อื หน่วยการ มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระสาคญั เวลา นา้ หนกั เรียนรู้ และตวั ชี้วดั (ชั่วโมง) คะแนน 8 6 แหล่งนาและ ว 3.2 ป.5/1 ป.5/2 1. บนโลกของเรามที ังนาจดื และนาเค็ม ซึ่งอยู่ 12 ลม ฟา้ ป.5/3 ป.5/4 ป.5/5 ในแหล่งนาต่างๆทีม่ ีทังแหล่งนาผวิ ดนิ เช่น ทะเล แมน่ า และแหลง่ นาใต้ดิน เชน่ นา อากาศ บาดาล นาทังหมดของโลกแบง่ เปน็ นาเค็ม มากกวา่ นาจืด ซ่ึงนา จืดท่ีเราสามารถใชไ้ ดม้ ี น้อยมากประมาณ 2.5% 2. ความชนื ในดิน ความชนื ในบรรยากาศ บึง แม่นาและนาใน สง่ิ มีชวี ติ นาจืดที่มนุษย์ สามารถนามาใช้ไดม้ ปี รมิ าณน้อยมาก เราจงึ ควร ใชน้ าอย่างประหยดั คมุ้ ค่า และรว่ มกนั อนุรักษ์นา 3. วฏั จักรนาเป็นการหมนุ เวยี นของนาท่ีมีแบบ รูปซาเดิม และ ตอ่ เนอ่ื งกันระหว่างนาใน บรรยากาศ นาผวิ ดนิ และนาใตด้ นิ จงึ ทาให้ ส่งิ มชี ีวิตสามารถดารงชีวติ อยู่ได้ สภาพ อากาศรอบๆ ตัวเรา มีการเปลย่ี นแปลงอยู่ ตลอดเวลา โดยมีความสมั พนั ธ์กับการ เปลยี่ นแปลงของนาในรูปแบบตา่ งๆ จึง ทาให้ เกดิ เมฆ หมอก นาคา้ ง นาคา้ งแขง็ และหยาด นาฟ้า (หมิ ะ ฝน และลกู เห็บ) ได้

โครงสรา้ งรายวิชา รายวชิ าพ้ืนฐาน กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์ รหัสวชิ า ว 15101 ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 5 เวลา 120 ชั่วโมง ที่ ช่อื หน่วยการ มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระสาคญั เวลา นา้ หนกั เรียนรู้ และตัวช้ีวัด (ชั่วโมง) คะแนน 7 ดาวบน ว 3.1 ป.5/1 ป.5/2 ดาวท่ีมองเหน็ บนทอ้ งฟา้ ในอวกาศมีทังดาว 9 6 ทอ้ งฟ้า ฤกษ์และดาวเคราะห์ ดาวฤกษ์เปน็ แหลง่ กาเนิดแสงจงึ สามารถมองเหน็ ได้ สว่ น ดาวเคราะหไ์ ม่ใช่แหล่งกาเนดิ แสง แตเ่ รา สามารถมองเห็นได้ เน่อื งจากแสงจากดวง อาทติ ย์ตกกระทบดาวเคราะหแ์ ลว้ สะท้อน เข้า สตู่ า ในการมองเหน็ กลมุ่ ดาวฤกษ์มรี ปู รา่ ง ต่าง ๆ เกิดจาก จินตนาการของผสู้ ังเกต กลมุ่ ดาวฤกษ์ตา่ ง ๆ ทีป่ รากฏในท้องฟ้า แต่ละกลุ่ม มดี าวฤกษ์แตล่ ะดวงเรยี งกันที่ตาแหน่งคงท่ี และมี เส้นทางการขนึ และตกตามเสน้ ทางเดมิ ทกุ คืน ซ่งึ จะปรากฏ ตาแหน่งเดมิ การสังเกต ตาแหนง่ การขนึ และตกของดาวฤกษ์ และกลุ่ม ดาวฤกษ์ สามารถทาไดโ้ ดยใชแ้ ผนที่ดาว ซึ่ง ระบมุ มุ ทิศ และมุมเงยทีก่ ลมุ่ ดาวนนั ปรากฏ โดยผู้สงั เกตสามารถใช้มอื ใน การประมาณค่า ของมุมเงยเมื่อสังเกตดาวในทอ้ งฟ้าได้ ทดสอบปลายภาคเรียนที่ 1 10 ทดสอบปลายภาคเรียนท่ี 2 10 รวมท้ังสน้ิ ตลอดปี 120 100 หมายเหตุ 1. อัตราสว่ นคะแนนระหวา่ งเรียนกบั การสอบ 80 : 20 2. เวลารวมตลอดปี ไม่รวมกับเวลาการทดสอบปลายภาคเรียนท่ี 1 และปลายภาคเรยี นท่ี 2

การออกแบบหน่วยการเรียนรูอ้ งิ มาตรฐาน (Backward Design) หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 4 เรื่อง พลังงานเสียง (สะเตม็ ศึกษา) กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ รหสั ว15101 ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 5 จานวน 24 ชั่วโมง ผ้สู อน นายสุวจิ ักขณ์ อธิคมกุลชยั โรงเรยี นวัดวังนา้ เขยี ว 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชวี้ ดั สาระท่ี 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลีย่ นแปลงและการถ่ายโอนพลงั งาน ปฏิสัมพันธ์ ระหว่างสสาร และพลังงาน พลงั งานในชีวติ ประจาวนั ธรรมชาตขิ องคล่ืน ปรากฏการณท์ ี่เกย่ี วข้องกับ เสยี ง แสงและคลนื่ แมเ่ หลก็ ไฟฟา้ รวมทัง้ นาความรู้ไปใช้ประโยชน์ ตวั ช้ีวัด ว 2.3 ป.5/1 อธบิ ายการไดย้ ินเสยี งผ่านตัวกลางจากหลกั ฐานเชิงประจักษ์ ว 2.3 ป.5/2 ระบตุ ัวแปรทดลองและอธบิ ายลกั ษณะและการเกดิ เสียงสูง เสยี งตา่ ว 2.3 ป.5/3 ออกแบบการทดลองและอธิบายลกั ษณะและการเกดิ เสยี งดัง เสียงค่อย ว 2.3 ป.5/4 วัดระดบั เสียงโดยใช้เครอื่ งมือวดั ระดับเสียง ว 2.3 ป.5/5 ตระหนกั ในคณุ ค่าของความรู้เรื่องระดบั เสยี งโดยเสนอแนะแนวทางในการหลกี เลยี่ ง และลดมลพิษทางเสียง 2. สาระการเรยี นรู้ 2.1 ความรู้ 1. การเกดิ เสยี ง 2. การเคลื่อนที่ของเสียง 3. การเคลื่อนที่ของเสยี งผ่านตวั กลาง 4. องค์ประกอบและหนา้ ทข่ี องอวยั วะรบั เสียง 5. องคป์ ระกอบของการได้ยินเสียง 6. การเกิดและลักษณะของเสียงสูง เสยี งต่า 7. การเกิดและลักษณะของเสยี งดงั เสยี งค่อย 8. แนวทางในการหลกี เลยี่ งและลดมลพิษทางเสยี ง

2.2 ทักษะ/กระบวนการ 1. ระบตุ ัวแปร สมมติฐาน และ ทดลองการเกิดเสียง 2. ระบุตัวแปร สมมติฐาน และ ทดลองการเคลื่อนที่ของเสยี ง 3. ระบตุ วั แปร สมมติฐาน และ การเคลื่อนท่ขี องเสยี งผ่านตัวกลาง 4. ระบุตวั แปร สมมตฐิ าน และ การเกดิ เสียงสูง เสยี งต่า 5. ระบตุ ัวแปร สมมตฐิ าน และ การเกิดเสียงดัง เสียงค่อย 6. ออกแบบการทดลองการเกดิ เสียงดงั เสยี งค่อย 7. วดั ระดับเสยี งโดยใช้เคร่ืองมอื วัดระดบั เสยี ง 8. เสนอแนะแนวทางในการหลกี เลีย่ งและลด มลพิษทางเสียง 9. แสดงพฤตกิ รรมถึงความตระหนกั ในคณุ ค่าของความรูเ้ รอื่ งระดับเสยี ง 2.3 คณุ ลักษณะของผู้เรยี นในศตวรรษที่ 21/สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น 1. มีทักษะการคิดวิเคราะห์ 2. มีความร่วมมือ การทางานเป็นทมี และภาวะความเป็นผู้นา 3. มีทกั ษะการใชเ้ ทคโนโลยี 4. มที ักษะอาชีพและการเรยี นรู้ 2.4 คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. ซ่ือสตั ย์สจุ รติ 4. มงุ่ มน่ั ในการทางาน 3. ช้ินงาน/ภาระงาน 1. ใบกิจกรรมที่ 1 เรื่อง ทดลองเสยี งเกิดขึนอย่างไร 2. ใบกิจกรรมท่ี 2 เรื่อง ทดลองเสยี งเคล่ือนท่ีอยา่ งไร 3. ใบกิจกรรมที่ 3 เร่ือง ทดลองการเคล่ือนท่ีของเสียงผา่ นตัวกลาง 4. ใบกิจกรรมที่ 4 เร่ือง อวัยวะรับเสียง 5. ใบกิจกรรมท่ี 5 เรื่อง การไดย้ นิ ของมนุษย์ 6. ใบกิจกรรมท่ี 6 เร่ือง การเคลื่อนที่ของเสียงและการไดย้ ิน 7. ใบกิจกรรมที่ 7 เร่ือง ทดลองเสยี งสูงเสียงต่า 8. ใบกจิ กรรมที่ 8 เร่ือง เสยี งสงู เสียงต่า 9. ใบกจิ กรรมท่ี 9 เรื่อง ทดลองเสียงดัง เสยี งค่อย 10. ใบกิจกรรมที่ 10 เรอื่ ง เสียงดัง เสยี งค่อย 11. ใบกิจกรรมท่ี 11 เร่ือง ลักษณะเสียงดงั เสียงคอ่ ย

12. ใบกจิ กรรมท่ี 12 เร่ือง นักคิดเคร่ืองดนตรี 13. ใบกจิ กรรมท่ี 13 เรอ่ื ง อันตรายจากเสียง 14. ใบกิจกรรมที่ 14 เรื่อง การหลกี เลยี่ งและลดมลพิษทางเสยี ง 15. ใบแบบทดสอบวัดผลการเรยี นรู้ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 เรื่อง พลังงานเสยี ง ใบกิจกรรมเร่ืองพลงั งานเสยี ง เกณฑก์ ารประเมนิ ชนิ้ งานและภาระงาน รายการประเมนิ ระดับคุณภาพ 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน ใบกิจกรรมท่ี 1 เรอื่ ง ทดลองเสยี งเกดิ ข้ึนอย่างไร การตงั สมมตฐิ าน ตังสมมติฐานไม่สอดคล้อง ตงั สมมติฐาน ตังสมมตฐิ านสอดคลอ้ ง ตังสมมติฐานสอดคลอ้ งกบั กับปญั หาหรือเรอ่ื งท่ีได้ สอดคล้องกับปญั หา กับปญั หาหรือเรอื่ งที่ได้ ปญั หาหรอื เรอ่ื งทไี่ ดศ้ ึกษา ศกึ ษาคน้ ควา้ หรอื เรื่องทีไ่ ดศ้ กึ ษา ศึกษาค้นควา้ แสดง คน้ ควา้ แสดงความสัมพนั ธ์ ค้นควา้ แต่ไม่แสดง ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง ระหว่างเหตแุ ละผล ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ ง เหตแุ ละผลไมส่ อดคล้อง สอดคล้องกนั และใช้ภาษา เหตุและผล กัน ได้เหมาะสมกระชบั รดั กมุ การควบคุมตัวแปร กาหนดตวั แปรทต่ี ้องการ กาหนดตวั แปรท่ี กาหนดตวั แปรที่ กาหนดตัวแปรทตี่ ้องการ ศึกษาไมถ่ ูกตอ้ ง ตอ้ งการศึกษาถกู ต้อง ตอ้ งการศึกษาถกู ต้อง ศกึ ษาถูกตอ้ งครบถ้วน แต่ไม่ครบ ครบถ้วนแต่ไม่ สอดคล้องกับเรอ่ื งท่ศี ึกษา สอดคล้องกับเร่อื งที่ ศึกษา

รายการประเมนิ ระดบั คุณภาพ 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน กรปฏบิ ัตกิ าร การดาเนนิ การทดลอง ดาเนินการทดลอง ดาเนนิ การทดลองเปน็ ดาเนินการทดลองเปน็ ทดลอง เปน็ ขนั ตอน และใช้ เป็นขันตอน และใช้ ขันตอน และใช้อปุ กรณ์ ขนั ตอนได้ถูกตอ้ ง ครบถว้ น อปุ กรณ์ตา่ งๆ อปุ กรณ์ตา่ งๆ ต่างๆไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง และใช้อุปกรณต์ า่ งๆได้ ไม่ถกู ต้อง ไดเ้ ปน็ สว่ นใหญ่ อยา่ งถกู ต้อง ความคล่องแคล่ว ทาการทดลอง และใช้ ทาการทดลอง และใช้ ทาการทดลอง และใช้ ทาการทดลอง และใช้ ในขณะปฏิบตั ิ อุปกรณ์ อปุ กรณ์ อปุ กรณ์ อุปกรณ์ กจิ กรรม ได้อย่างถกู ตอ้ งเหมาะสม ไดอ้ ยา่ งคล่องแคล่ว ได้อย่างคลอ่ งแคล่ว ได้อยา่ งคล่องแคล่วถูกตอ้ ง แต่ไมท่ ันเวลาทก่ี าหนด ถูกตอ้ งเหมาะสม ถูกตอ้ งเหมาะสม เหมาะสมปลอดภยั เสรจ็ ปลอดภัย ทันตามเวลาที่กาหนด การนาเสนอผลงาน จัดกระทาขอ้ มลู เข้าใจได้ จัดกระทาข้อมลู จดั กระทาข้อมลู ให้ จดั กระทาข้อมลู ให้เข้าใจ ยาก นาเสนอขอ้ มูลได้ เหมาะสม นาเสนอ เข้าใจง่าย นาเสนอ งา่ ย นาเสนอข้อมูลเปน็ ชดั เจน และรปู แบบ ขอ้ มูลชัดเจน ข้อมูลเปน็ ลาดบั ขนั ตอน ลาดับขนั ตอนชัดเจนดมี าก การนาเสนอนา่ สนใจ รูปแบบการนาเสนอ ชดั เจนดี รปู แบบการนาเสนอผลงาน น่าสนใจพอสมควร รปู แบบการนาเสนอ แปลกใหมน่ า่ สนใจดมี าก ผลงานนา่ สนใจดี การดแู ลและการ ไม่มกี ารดแู ล เก็บ และ มกี ารดูแล อุปกรณ์ มีการดูแล ทาความ มีการดแู ล ทาความสะอาด เกบ็ อปุ กรณแ์ ละ/ ทาความสะอาดอุปกรณ์ วิทยาศาสตร์ แต่ไมท่ า สะอาดอปุ กรณ์ อปุ กรณ์วิทยาศาสตร์ และ หรอื เครื่องมอื วทิ ยาศาสตร์ ความสะอาด และเกบ็ วิทยาศาสตรแ์ ตเ่ กบ็ ไม่ เกบ็ เข้าท่ีอยา่ งถกู ต้อง ไม่เป็นท่ี เปน็ ที่ อธิบายการเกิดเสยี ง เขยี นอธบิ ายการเกิดเสยี ง เขยี นอธิบายการเกดิ เขียนอธบิ ายการเกิด เขยี นอธบิ ายการเกดิ เสียง ในกจิ กรรมการทดลองได้ เสียงในกจิ กรรมการ เสียงในกิจกรรมการ ในกจิ กรรมการทดลองได้ ถกู ตอ้ ง 1-2 ข้อ ทดลองไดถ้ กู ตอ้ ง 3-5 ทดลองได้ถกู ต้อง 6-8 ถูกต้อง 9-10 ขอ้ ขอ้ ข้อ ผลงานมคี วาม เนอื หาสาระของผลงานไม่ เนือหาสาระของ เนอื หาสาระของผลงาน เนอื หาสาระของผลงาน ถกู ต้องสมบรู ณ์ ถกู ต้องเปน็ สว่ นใหญ่ ผลงานถกู ตอ้ ง เปน็ ถูกตอ้ ง เปน็ ส่วนใหญ่ ถกู ต้องครบถ้วน บางประเด็น ผลงานมคี วามเปน็ ผลงานส่วนใหญ่ไมเ่ ป็น ผลงานมคี วาม ผลงานส่วนใหญ่ มี ผลงานมีความเป็นระเบยี บ ระเบยี บ ระเบียบและมีข้อบกพร่อง เป็นระเบยี บ แตม่ ี ความเป็นระเบียบแต่ยงั แสดงออก ถึงความประณตี มาก ข้อบกพรอ่ งบางสว่ น มีขอ้ บกพร่องเล็กนอ้ ย

รายการประเมิน ระดบั คณุ ภาพ การตงั สมมตฐิ าน 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน การควบคุมตัวแปร ใบกจิ กรรมที่ 2 เร่ือง ทดลองเสียงเคลอ่ื นท่ีอย่างไร ตงั สมมติฐานสอดคล้องกบั ปญั หาหรอื เรอ่ื งท่ีได้ศึกษา กรปฏบิ ัตกิ าร ตังสมมติฐานไม่สอดคลอ้ ง ตังสมมตฐิ าน ตังสมมตฐิ านสอดคล้อง คน้ ควา้ แสดงความสัมพนั ธ์ ทดลอง ระหวา่ งเหตแุ ละผล ความคล่องแคลว่ กับปญั หาหรือเรือ่ งทไี่ ด้ สอดคล้องกบั ปญั หา กับปัญหาหรือเรอ่ื งท่ีได้ สอดคล้องกันและใชภ้ าษา ในขณะปฏิบตั ิ ไดเ้ หมาะสมกระชบั รดั กมุ กิจกรรม ศกึ ษาคน้ ควา้ หรอื เรื่องท่ีไดศ้ กึ ษา ศึกษาค้นควา้ แสดง กาหนดตัวแปรทตี่ อ้ งการ การนาเสนอผลงาน ศกึ ษาถูกตอ้ งครบถ้วน ค้นคว้าแตไ่ มแ่ สดง ความสมั พันธร์ ะหวา่ ง สอดคลอ้ งกบั เร่อื งท่ศี ึกษา การดแู ลและการ เกบ็ อปุ กรณแ์ ละ/ ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ ง เหตุและผลไมส่ อดคลอ้ ง ดาเนินการทดลองเปน็ หรือเคร่อื งมือ ขันตอนได้ถกู ต้อง ครบถ้วน เหตุและผล กนั และใชอ้ ปุ กรณต์ า่ งๆได้ อยา่ งถูกตอ้ ง กาหนดตัวแปรทตี่ ้องการ กาหนดตัวแปรที่ กาหนดตัวแปรที่ ทาการทดลอง และใช้ อุปกรณ์ ศกึ ษาไมถ่ ูกต้อง ตอ้ งการศกึ ษาถูกตอ้ ง ต้องการศึกษาถูกตอ้ ง ได้อยา่ งคล่องแคล่วถกู ต้อง เหมาะสมปลอดภยั เสรจ็ แตไ่ ม่ครบ ครบถว้ นแตไ่ ม่ ทันตามเวลาท่ีกาหนด จดั กระทาขอ้ มลู ใหเ้ ข้าใจ สอดคลอ้ งกบั เร่อื งที่ ง่าย นาเสนอขอ้ มูลเปน็ ลาดบั ขนั ตอนชัดเจนดมี าก ศึกษา รูปแบบการนาเสนอผลงาน แปลกใหมน่ า่ สนใจดีมาก การดาเนินการทดลอง ดาเนนิ การทดลอง ดาเนนิ การทดลองเปน็ มกี ารดแู ล ทาความสะอาด เป็นขนั ตอน และใช้ เปน็ ขันตอน และใช้ ขันตอน และใชอ้ ปุ กรณ์ อุปกรณว์ ิทยาศาสตร์ และ เกบ็ เขา้ ทอ่ี ยา่ งถกู ตอ้ ง อปุ กรณต์ ่างๆ อปุ กรณ์ต่างๆ ต่างๆได้อยา่ งถูกต้อง ไม่ถกู ตอ้ ง ไดเ้ ป็นส่วนใหญ่ ทาการทดลอง และใช้ ทาการทดลอง และใช้ ทาการทดลอง และใช้ อุปกรณ์ อุปกรณ์ อุปกรณ์ ไดอ้ ย่างถกู ต้องเหมาะสม ไดอ้ ยา่ งคล่องแคลว่ ได้อยา่ งคลอ่ งแคล่ว แต่ไม่ทันเวลาทีก่ าหนด ถกู ต้องเหมาะสม ถกู ตอ้ งเหมาะสม ปลอดภยั จัดกระทาข้อมลู เข้าใจได้ จัดกระทาขอ้ มลู จดั กระทาขอ้ มลู ให้ ยาก นาเสนอข้อมลู ได้ เหมาะสม นาเสนอ เข้าใจง่าย นาเสนอ ชัดเจน และรปู แบบ ข้อมลู ชดั เจน ขอ้ มูลเป็นลาดบั ขนั ตอน การนาเสนอนา่ สนใจ รปู แบบการนาเสนอ ชดั เจนดี น่าสนใจพอสมควร รูปแบบการนาเสนอ ผลงานนา่ สนใจดี ไม่มกี ารดแู ล เกบ็ และ มกี ารดูแล อปุ กรณ์ มกี ารดูแล ทาความ ทาความสะอาดอปุ กรณ์ วทิ ยาศาสตร์ แตไ่ มท่ า สะอาดอุปกรณ์ วทิ ยาศาสตร์ ความสะอาด และเกบ็ วิทยาศาสตร์แตเ่ กบ็ ไม่ ไม่เปน็ ท่ี เปน็ ที่

รายการประเมิน ระดบั คุณภาพ 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน อธบิ ายการเคลื่อนที่ เขียนอธบิ ายการเคลื่อนที่ เขยี นอธบิ ายการ เขียนอธบิ ายการ เขยี นอธบิ ายการเคลอ่ื นท่ี ของเสยี ง ของเสียงในกิจกรรมการ เคลื่อนทขี่ องเสียงใน เคลือ่ นท่ีของเสยี งใน ของเสยี งในกิจกรรมการ ทดลองได้ถกู ต้อง 1-2 ขอ้ กิจกรรมการทดลอง กจิ กรรมการทดลองได้ ทดลองได้ถูกตอ้ ง 8-9 ขอ้ ไดถ้ กู ต้อง 3-5 ข้อ ถกู ตอ้ ง 6-7ขอ้ ผลงานมคี วาม เนือหาสาระของผลงานไม่ เนอื หาสาระของ เนอื หาสาระของผลงาน เนอื หาสาระของผลงาน ถูกตอ้ งสมบรู ณ์ ถกู ต้องเปน็ ส่วนใหญ่ ผลงานถกู ตอ้ ง เปน็ ถูกต้อง เป็นสว่ นใหญ่ ถูกต้องครบถว้ น บางประเด็น ผลงานมคี วามเปน็ ผลงานสว่ นใหญ่ไม่เป็น ผลงานมีความ ผลงานส่วนใหญ่ มี ผลงานมีความเปน็ ระเบยี บ ระเบยี บ ระเบียบและมขี อ้ บกพร่อง เป็นระเบยี บ แตม่ ี ความเปน็ ระเบยี บแตย่ งั แสดงออก ถึงความประณีต มาก ขอ้ บกพรอ่ งบางส่วน มีข้อบกพร่องเล็กนอ้ ย ใบกจิ กรรมที่ 3 เรื่อง ทดลองการเคล่อื นที่ของเสียงผา่ นตัวกลาง การตงั สมมติฐาน ตงั สมมตฐิ านไมส่ อดคลอ้ ง ตังสมมตฐิ าน ตังสมมตฐิ านสอดคลอ้ ง ตงั สมมติฐานสอดคล้องกับ กบั ปญั หาหรือเร่อื งทไี่ ด้ สอดคล้องกับปญั หา กบั ปญั หาหรือเร่อื งท่ไี ด้ ปญั หาหรือเรอื่ งท่ีไดศ้ ึกษา ศกึ ษาคน้ คว้า หรอื เรื่องทไี่ ดศ้ กึ ษา ศกึ ษาคน้ ควา้ แสดง คน้ ควา้ แสดงความสัมพนั ธ์ คน้ ควา้ แตไ่ ม่แสดง ความสัมพันธร์ ะหว่าง ระหว่างเหตแุ ละผล ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง เหตแุ ละผลไม่สอดคลอ้ ง สอดคล้องกันและใชภ้ าษา เหตแุ ละผล กนั ได้เหมาะสมกระชับรดั กมุ การควบคุมตวั แปร กาหนดตวั แปรทต่ี อ้ งการ กาหนดตัวแปรที่ กาหนดตัวแปรท่ี กาหนดตวั แปรทต่ี ้องการ ศกึ ษาไม่ถกู ตอ้ ง ต้องการศึกษาถกู ตอ้ ง ต้องการศกึ ษาถูกตอ้ ง ศึกษาถกู ตอ้ งครบถว้ น แตไ่ ม่ครบ ครบถว้ นแต่ไม่ สอดคล้องกบั เร่ืองทีศ่ กึ ษา สอดคลอ้ งกับเรื่องท่ี ศึกษา กรปฏิบตั กิ าร การดาเนินการทดลอง ดาเนนิ การทดลอง ดาเนินการทดลองเปน็ ดาเนินการทดลองเป็น ทดลอง เปน็ ขนั ตอน และใช้ เป็นขันตอน และใช้ ขนั ตอน และใช้อุปกรณ์ ขันตอนไดถ้ ูกต้อง ครบถว้ น อปุ กรณต์ ่างๆ อุปกรณ์ต่างๆ ต่างๆไดอ้ ยา่ งถูกต้อง และใช้อุปกรณต์ า่ งๆได้ ไม่ถกู ตอ้ ง ได้เปน็ สว่ นใหญ่ อยา่ งถกู ต้อง

รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ ความคลอ่ งแคลว่ 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน ในขณะปฏบิ ตั ิ กิจกรรม ทาการทดลอง และใช้ ทาการทดลอง และใช้ ทาการทดลอง และใช้ ทาการทดลอง และใช้ อุปกรณ์ อุปกรณ์ การนาเสนอผลงาน ได้อยา่ งถูกต้องเหมาะสม อปุ กรณ์ อปุ กรณ์ ได้อย่างคลอ่ งแคล่วถกู ตอ้ ง แต่ไมท่ ันเวลาทีก่ าหนด เหมาะสมปลอดภยั เสรจ็ การดแู ลและการ ไดอ้ ย่างคล่องแคลว่ ไดอ้ ย่างคล่องแคลว่ ทนั ตามเวลาทกี่ าหนด เก็บอุปกรณแ์ ละ/ จดั กระทาข้อมลู เขา้ ใจได้ จัดกระทาข้อมลู ให้เขา้ ใจ หรือเครอ่ื งมือ ยาก นาเสนอข้อมูลได้ ถกู ต้องเหมาะสม ถูกต้องเหมาะสม งา่ ย นาเสนอข้อมูลเป็น อธบิ ายตัวกลางของ ชัดเจน และรปู แบบ ลาดบั ขันตอนชดั เจนดีมาก เสยี ง การนาเสนอน่าสนใจ ปลอดภัย รูปแบบการนาเสนอผลงาน แปลกใหม่นา่ สนใจดีมาก ผลงานมคี วาม ไมม่ กี ารดแู ล เก็บ และ จดั กระทาขอ้ มลู จดั กระทาขอ้ มลู ให้ ถูกตอ้ งสมบรู ณ์ ทาความสะอาดอุปกรณ์ มีการดแู ล ทาความสะอาด ผลงานมีความเปน็ วทิ ยาศาสตร์ เหมาะสม นาเสนอ เขา้ ใจงา่ ย นาเสนอ อุปกรณ์วทิ ยาศาสตร์ และ ระเบยี บ เก็บเข้าที่อย่างถกู ต้อง เขยี นอธิบายตวั กลางของ ข้อมูลชดั เจน ข้อมูลเป็นลาดับขันตอน เสยี งในกิจกรรมการ เขยี นอธบิ ายตัวกลางของ ทดลองได้ถกู ต้อง 1-5 ขอ้ รูปแบบการนาเสนอ ชดั เจนดี เสียงในกิจกรรมการ ทดลองได้ถกู ต้อง 19-21 เนือหาสาระของผลงานไม่ นา่ สนใจพอสมควร รปู แบบการนาเสนอ ขอ้ ถกู ต้องเป็นส่วนใหญ่ เนอื หาสาระของผลงาน ผลงานน่าสนใจดี ถูกต้องครบถว้ น ผลงานส่วนใหญ่ไมเ่ ปน็ ระเบยี บและมีข้อบกพร่อง มีการดูแล อปุ กรณ์ มีการดูแล ทาความ ผลงานมีความเปน็ ระเบยี บ มาก แสดงออก ถงึ ความประณตี วิทยาศาสตร์ แตไ่ มท่ า สะอาดอปุ กรณ์ ความสะอาด และเก็บ วทิ ยาศาสตรแ์ ต่เกบ็ ไม่ ไม่เปน็ ท่ี เป็นที่ เขยี นอธบิ ายตัวกลาง เขียนอธิบายตวั กลาง ของเสียงในกจิ กรรม ของเสียงในกจิ กรรมการ การทดลองไดถ้ ูกต้อง ทดลองไดถ้ ูกต้อง 12- 6-11 ขอ้ 18 ข้อ เนือหาสาระของ เนือหาสาระของผลงาน ผลงานถูกต้อง เปน็ ถูกต้อง เป็นส่วนใหญ่ บางประเดน็ ผลงานมีความ ผลงานสว่ นใหญ่ มี เป็นระเบยี บ แตม่ ี ความเปน็ ระเบยี บแต่ยงั ขอ้ บกพรอ่ งบางส่วน มีข้อบกพร่องเลก็ น้อย

รายการประเมิน ระดับคุณภาพ 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน ใบกิจกรรมที่ 4 เร่ือง อวยั วะรับเสียง การเชือ่ มโยงความรู้ สามารถเชอ่ื มโยงความรู้ สามารถเชอ่ื มโยง สามารถเชอ่ื มโยงความรู้ สามารถเชอ่ื มโยงความรูไ้ ด้ ได้ถูกตอ้ งตามลาดับ ได้ แตไ่ มเ่ ปน็ ไปตามลาดบั ความรู้และลาดบั ได้ และลาดับความ ถูกต้องตามลาดบั ขนั ความสมั พันธ์ ความสมั พันธ์ ความสัมพันธไ์ ดบ้ า้ ง สัมพนั ธไ์ ดค้ ่อนขา้ งครบ ความสมั พนั ธ์ มีความคิด สามารถเขยี นผงั ความคดิ สามารถเขยี นผัง สามารถเขยี นผัง สามารถเขียนผังความคิด สร้างสรรค์ในการ ได้ แตข่ าดรปู แบบและ ความคิดได้ และมี ความคิดไดถ้ ูกต้องและ ไดใ้ นรูปแบบท่ถี ูกต้องและ เขยี นผังความคดิ ความสวยงาม ขอ้ บกพร่องเป็น มขี ้อบกพร่องเพยี ง สวยงาม บางส่วน เลก็ นอ้ ย ผลงานตรงกบั ข้อ ผลงานไมส่ อดคลอ้ งกบั ขอ้ ผลงานสอดคล้อง กบั ผลงานสอดคล้องกบั ข้อ ผลงานสอดคลอ้ งกับขอ้ คาถาม ทกี่ าหนด คาถาม ขอ้ คาถาม บาง คาถาม เป็นสว่ นใหญ่ คาถาม ท่ีกาหนด ประเดน็ ผลงานมคี วาม เนือหาสาระของผลงานไม่ เนอื หาสาระของ เนอื หาสาระของผลงาน เนอื หาสาระของผลงาน ถูกตอ้ งสมบรู ณ์ ถกู ตอ้ งเป็นส่วนใหญ่ ผลงานถูกตอ้ ง เป็น ถูกตอ้ ง เป็นส่วนใหญ่ ถกู ต้องครบถว้ น บางประเด็น ผลงานมคี วามเป็น ผลงานส่วนใหญ่ไม่เป็น ผลงานมีความ ผลงานส่วนใหญ่ มี ผลงานมคี วามเป็นระเบยี บ ระเบยี บ ระเบยี บและมีขอ้ บกพร่อง เปน็ ระเบยี บ แต่มี ความเป็นระเบียบแต่ยงั แสดงออก ถึงความประณีต มาก ข้อบกพร่องบางสว่ น มขี อ้ บกพร่องเล็กน้อย

รายการประเมิน ระดบั คุณภาพ ผลงานตรงกับขอ้ 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน คาถาม ทกี่ าหนด ผลงานมีความ ใบกจิ กรรมท่ี 5 เร่อื ง การไดย้ นิ ของมนษุ ย์ ผลงานสอดคลอ้ งกบั ขอ้ ถกู ต้องสมบูรณ์ คาถาม ทีก่ าหนด ผลงานมคี วามเปน็ ผลงานไม่สอดคล้องกบั ข้อ ผลงานสอดคลอ้ ง กับ ผลงานสอดคลอ้ งกบั ขอ้ ระเบยี บ เนือหาสาระของผลงาน การนาเสนอผลงาน คาถาม ข้อคาถาม บาง คาถาม เป็นส่วนใหญ่ ถูกตอ้ งครบถ้วน ผลงานตรงกบั ข้อ ประเดน็ ผลงานมคี วามเปน็ ระเบยี บ คาถาม ที่กาหนด แสดงออก ถึงความประณตี ผลงานมีความ เนือหาสาระของผลงานไม่ เนือหาสาระของ เนือหาสาระของผลงาน ถูกต้องสมบูรณ์ จดั กระทาข้อมลู ใหเ้ ข้าใจ ผลงานมีความเปน็ ถกู ต้องเป็นสว่ นใหญ่ ผลงานถกู ตอ้ ง เปน็ ถูกต้อง เปน็ สว่ นใหญ่ งา่ ย นาเสนอข้อมลู เป็น ระเบยี บ ลาดับขนั ตอนชดั เจนดมี าก การนาเสนอผลงาน บางประเด็น รูปแบบการนาเสนอผลงาน แปลกใหม่น่าสนใจดีมาก ผลงานสว่ นใหญไ่ มเ่ ป็น ผลงานมคี วาม ผลงานส่วนใหญ่ มี ผลงานสอดคลอ้ งกบั ข้อ ระเบยี บและมขี อ้ บกพรอ่ ง เปน็ ระเบียบ แต่มี ความเปน็ ระเบียบแตย่ ัง คาถาม ทีก่ าหนด มาก ข้อบกพรอ่ งบางสว่ น มขี อ้ บกพร่องเล็กนอ้ ย เนือหาสาระของผลงาน ถกู ต้องครบถว้ น จดั กระทาขอ้ มลู เข้าใจได้ จัดกระทาข้อมลู จดั กระทาข้อมลู ให้ ผลงานมีความเป็นระเบยี บ ยาก นาเสนอขอ้ มลู ได้ เหมาะสม นาเสนอ เขา้ ใจง่าย นาเสนอ แสดงออก ถึงความประณีต ชดั เจน และรปู แบบ ข้อมูลชดั เจน ขอ้ มลู เปน็ ลาดบั ขนั ตอน จดั กระทาขอ้ มลู ใหเ้ ข้าใจ ง่าย นาเสนอขอ้ มูลเปน็ การนาเสนอนา่ สนใจ รปู แบบการนาเสนอ ชัดเจนดี ลาดับขนั ตอนชดั เจนดีมาก รูปแบบการนาเสนอผลงาน น่าสนใจพอสมควร รปู แบบการนาเสนอ แปลกใหม่นา่ สนใจดีมาก ผลงานน่าสนใจดี ใบกจิ กรรมท่ี 6 เรื่อง การได้ยินของมนุษย์ ผลงานไมส่ อดคลอ้ งกับข้อ ผลงานสอดคลอ้ ง กบั ผลงานสอดคล้องกับขอ้ คาถาม ข้อคาถาม บาง คาถาม เปน็ ส่วนใหญ่ ประเดน็ เนอื หาสาระของผลงานไม่ เนอื หาสาระของ เนือหาสาระของผลงาน ถกู ต้องเป็นสว่ นใหญ่ ผลงานถูกตอ้ ง เปน็ ถกู ตอ้ ง เป็นสว่ นใหญ่ บางประเดน็ ผลงานสว่ นใหญ่ไม่เปน็ ผลงานมีความ ผลงานส่วนใหญ่ มี ระเบียบและมขี ้อบกพรอ่ ง เปน็ ระเบยี บ แตม่ ี ความเป็นระเบยี บแตย่ งั มาก ขอ้ บกพรอ่ งบางส่วน มีข้อบกพรอ่ งเล็กนอ้ ย จดั กระทาขอ้ มลู เขา้ ใจได้ จัดกระทาขอ้ มลู จัดกระทาข้อมลู ให้ ยาก นาเสนอข้อมลู ได้ เหมาะสม นาเสนอ เข้าใจงา่ ย นาเสนอ ชัดเจน และรปู แบบ ขอ้ มูลชัดเจน ขอ้ มลู เปน็ ลาดบั ขนั ตอน การนาเสนอนา่ สนใจ รูปแบบการนาเสนอ ชดั เจนดี น่าสนใจพอสมควร รูปแบบการนาเสนอ ผลงานนา่ สนใจดี

รายการประเมิน ระดบั คณุ ภาพ 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน ใบกิจกรรมท่ี 7 เรื่อง ทดลองเสยี งสูงเสียงต่า การตังสมมติฐาน ตังสมมตฐิ านไม่ ตังสมมติฐานสอดคล้อง ตังสมมติฐานสอดคล้อง ตังสมมตฐิ านสอดคลอ้ งกับ สอดคล้องกับปญั หาหรือ กับปัญหาหรอื เรอ่ื งทไี่ ด้ กับปัญหาหรือเร่อื งที่ได้ ปัญหาหรอื เร่อื งท่ีไดศ้ ึกษา เรอ่ื งทีไ่ ด้ศกึ ษาค้นควา้ ศึกษาคน้ คว้าแตไ่ ม่แสดง ศกึ ษาคน้ คว้าแสดง คน้ ควา้ แสดงความสมั พันธ์ ความสัมพันธร์ ะหวา่ ง ความสมั พันธร์ ะหว่าง ระหว่างเหตุและผล เหตแุ ละผล เหตุและผลไม่สอดคล้อง สอดคลอ้ งกนั และใชภ้ าษา กนั ได้เหมาะสมกระชบั รดั กมุ การควบคุมตวั กาหนดตวั แปรท่ี กาหนดตวั แปรท่ี กาหนดตวั แปรที่ กาหนดตัวแปรทต่ี ้องการ แปร ตอ้ งการศึกษาไมถ่ กู ตอ้ ง ต้องการศึกษาถูกต้องแต่ ตอ้ งการศึกษาถูกตอ้ ง ศกึ ษาถกู ตอ้ งครบถว้ น ไม่ครบ ครบถว้ นแต่ไม่สอดคลอ้ ง สอดคล้องกับเรอ่ื งทศี่ ึกษา กบั เร่ืองทศ่ี ึกษา กรปฏบิ ตั ิการ การดาเนนิ การทดลอง ดาเนนิ การทดลองเปน็ ดาเนินการทดลองเปน็ ดาเนินการทดลองเปน็ ทดลอง เปน็ ขันตอน และใช้ ขนั ตอน และใช้อปุ กรณ์ ขนั ตอน และใชอ้ ปุ กรณ์ ขนั ตอนไดถ้ ูกตอ้ ง ครบถ้วน อุปกรณต์ ่างๆ ต่างๆ ตา่ งๆไดอ้ ย่างถูกต้อง และใชอ้ ปุ กรณต์ ่างๆได้ ไม่ถูกต้อง ไดเ้ ป็นส่วนใหญ่ อยา่ งถกู ต้อง ความคลอ่ งแคลว่ ทาการทดลอง และใช้ ทาการทดลอง และใช้ ทาการทดลอง และใช้ ทาการทดลอง และใช้ ในขณะปฏบิ ตั ิ อปุ กรณ์ อุปกรณ์ อปุ กรณ์ อปุ กรณ์ กจิ กรรม ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง ได้อยา่ งคล่องแคลว่ ไดอ้ ย่างคลอ่ งแคลว่ ได้อยา่ งคล่องแคลว่ ถกู ตอ้ ง เหมาะสมแตไ่ มท่ นั เวลา ถกู ต้องเหมาะสม ถกู ตอ้ งเหมาะสม เหมาะสมปลอดภยั เสรจ็ ที่กาหนด ปลอดภัย ทนั ตามเวลาทกี่ าหนด การนาเสนอ จัดกระทาขอ้ มลู เขา้ ใจได้ จดั กระทาขอ้ มลู จดั กระทาขอ้ มลู ให้เขา้ ใจ จัดกระทาขอ้ มลู ให้เข้าใจ ผลงาน ยาก นาเสนอข้อมูลได้ เหมาะสม นาเสนอ ง่าย นาเสนอขอ้ มูลเป็น งา่ ย นาเสนอข้อมูลเป็น ชัดเจน และรปู แบบ ข้อมลู ชัดเจน รูปแบบ ลาดบั ขนั ตอนชัดเจนดี ลาดบั ขนั ตอนชัดเจนดมี าก การนาเสนอนา่ สนใจ การนาเสนอ รูปแบบการนาเสนอ รูปแบบการนาเสนอผลงาน นา่ สนใจพอสมควร ผลงานน่าสนใจดี แปลกใหมน่ ่าสนใจดมี าก

รายการประเมนิ ระดับคณุ ภาพ การดูแลและการ 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน เก็บอปุ กรณ์และ/ หรือเครื่องมือ ไมม่ กี ารดูแล เก็บ และ มีการดแู ล อุปกรณ์ มีการดูแล ทาความ มกี ารดูแล ทาความสะอาด ทาความสะอาดอปุ กรณ์ อุปกรณ์วิทยาศาสตร์ และ อธบิ ายการเกิดเสยี ง วทิ ยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ แต่ไมท่ า สะอาดอปุ กรณ์ เก็บเขา้ ทอ่ี ย่างถกู ตอ้ ง สูงเสยี งตา่ เขยี นอธบิ ายการเกดิ ความสะอาด และเก็บ วทิ ยาศาสตร์แต่เกบ็ ไม่ เขียนอธิบายตัวกลางของ ผลงานมีความ เสยี งสูงเสยี งตา่ ใน เสียงในกิจกรรมการทดลอง ถูกตอ้ งสมบรู ณ์ กิจกรรมการทดลองได้ ไมเ่ ป็นท่ี เปน็ ท่ี ได้ถูกตอ้ ง 10-11 ข้อ ถกู ต้อง 1-2 ข้อ ผลงานมีความเปน็ เนอื หาสาระของผลงาน เขยี นอธิบายตวั กลาง เขียนอธบิ ายตวั กลาง เนอื หาสาระของผลงาน ระเบยี บ ไม่ถูกตอ้ งเป็นส่วนใหญ่ ถูกต้องครบถ้วน ของเสยี งในกจิ กรรม ของเสยี งในกิจกรรมการ ผลงานสว่ นใหญไ่ ม่เป็น ผลงานมคี วามเปน็ ระเบยี บ ระเบยี บและมี การทดลองได้ถูกตอ้ ง ทดลองไดถ้ กู ตอ้ ง 7-9 แสดงออก ถึงความประณีต ข้อบกพร่องมาก 3-6ข้อ ขอ้ เนอื หาสาระของ เนือหาสาระของผลงาน ผลงานถูกต้อง เปน็ ถูกตอ้ ง เป็นส่วนใหญ่ บางประเดน็ ผลงานมคี วาม เปน็ ผลงานส่วนใหญ่ มี ระเบยี บ แต่มี ความเป็นระเบียบแตย่ งั ข้อบกพรอ่ งบางส่วน มีข้อบกพร่องเลก็ น้อย

รายการประเมนิ ระดับคณุ ภาพ อธบิ ายการเกดิ และ 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน ลักษณะของเสียงสงู เสยี งต่า ใบกจิ กรรมท่ี 8 เรือ่ ง เสยี งสูงเสียงตา่ อธิบายการเกดิ และลกั ษณะ ของเสียงสงู เสียงตา่ ถกู ตอ้ ง ผลงานตรงกับขอ้ อธบิ ายการเกดิ และ อธบิ ายการเกิดและ อธิบายการเกดิ และ 15-17 ขอ้ คาถาม ที่กาหนด ลักษณะของเสียงสงู ลกั ษณะของเสยี งสงู ลกั ษณะของเสียงสูง ผลงานสอดคล้องกับข้อ ผลงานมคี วาม คาถาม ทีก่ าหนด ถูกตอ้ งสมบูรณ์ เสยี งต่าถูกตอ้ ง 1-4 ขอ้ เสียงตา่ ถูกตอ้ ง 5-11 เสยี งตา่ ถูกต้อง 12-14 เนอื หาสาระของผลงาน ผลงานมีความเป็น ขอ้ ขอ้ ถกู ต้องครบถว้ น ระเบยี บ ผลงานไมส่ อดคลอ้ งกับ ผลงานสอดคล้อง กบั ผลงานสอดคลอ้ งกับขอ้ ผลงานมคี วามเป็นระเบยี บ การนาเสนอผลงาน แสดงออก ถงึ ความประณีต ข้อคาถาม ข้อคาถาม บาง คาถาม เปน็ สว่ นใหญ่ จดั กระทาข้อมลู ใหเ้ ขา้ ใจ ประเด็น งา่ ย นาเสนอข้อมูลเป็น ลาดับขนั ตอนชดั เจนดีมาก เนอื หาสาระของผลงาน เนือหาสาระของ เนอื หาสาระของผลงาน รูปแบบการนาเสนอผลงาน แปลกใหมน่ า่ สนใจดมี าก ไม่ถกู ต้องเป็นสว่ นใหญ่ ผลงานถกู ตอ้ ง เปน็ ถูกตอ้ ง เปน็ สว่ นใหญ่ บางประเด็น ผลงานสว่ นใหญ่ไมเ่ ปน็ ผลงานมีความ ผลงานสว่ นใหญ่ มี ระเบยี บและมี เป็นระเบยี บ แต่มี ความเปน็ ระเบยี บแตย่ งั ขอ้ บกพร่องมาก ขอ้ บกพร่องบางสว่ น มขี ้อบกพร่องเลก็ น้อย จดั กระทาข้อมลู เข้าใจ จัดกระทาขอ้ มลู จดั กระทาขอ้ มลู ใหเ้ ขา้ ใจ ได้ยาก นาเสนอข้อมูล เหมาะสม นาเสนอ ง่าย นาเสนอขอ้ มูลเปน็ ไดช้ ัดเจน และรปู แบบ ขอ้ มลู ชัดเจน รูปแบบ ลาดับขนั ตอนชดั เจนดี การนาเสนอนา่ สนใจ การนาเสนอ รูปแบบการนาเสนอ น่าสนใจพอสมควร ผลงานน่าสนใจดี

รายการประเมิน ระดบั คุณภาพ การตงั สมมตฐิ าน 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน การควบคุมตวั แปร ใบกจิ กรรมที่ 9 เร่อื ง ทดลองเสยี งดัง เสยี งคอ่ ย ตังสมมติฐานสอดคล้องกับ ปญั หาหรือเรือ่ งท่ีไดศ้ ึกษา กรปฏบิ ัติการ ตงั สมมตฐิ านไม่ ตงั สมมติฐานสอดคล้อง ตงั สมมตฐิ านสอดคลอ้ ง คน้ ควา้ แสดงความสัมพนั ธ์ ทดลอง ระหวา่ งเหตแุ ละผล ความคลอ่ งแคล่ว สอดคล้องกับปญั หาหรอื กบั ปัญหาหรอื เรื่องท่ไี ด้ กบั ปญั หาหรือเรอ่ื งทไ่ี ด้ สอดคลอ้ งกนั และใช้ภาษา ในขณะปฏิบตั ิ ไดเ้ หมาะสมกระชบั รดั กมุ กจิ กรรม เรื่องท่ีไดศ้ กึ ษาคน้ ควา้ ศึกษาค้นคว้าแตไ่ ม่ ศึกษาคน้ คว้าแสดง กาหนดตวั แปรทต่ี อ้ งการ การนาเสนอผลงาน ศกึ ษาถกู ตอ้ งครบถว้ น แสดงความสมั พันธ์ ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง สอดคล้องกบั เร่ืองท่ศี ึกษา ระหว่างเหตแุ ละผล เหตุและผลไม่สอดคลอ้ ง ดาเนนิ การทดลองเปน็ ขนั ตอนไดถ้ ูกตอ้ ง ครบถว้ น กนั และใช้อปุ กรณต์ ่างๆได้ อย่างถกู ตอ้ ง กาหนดตัวแปรท่ี กาหนดตวั แปรที่ กาหนดตวั แปรที่ ทาการทดลอง และใช้ อปุ กรณ์ ตอ้ งการศกึ ษาไมถ่ ูกต้อง ต้องการศกึ ษาถกู ตอ้ ง ตอ้ งการศึกษาถกู ต้อง ได้อยา่ งคล่องแคลว่ ถกู ต้อง เหมาะสมปลอดภยั เสร็จ แตไ่ มค่ รบ ครบถว้ นแต่ไม่ ทนั ตามเวลาทก่ี าหนด จัดกระทาขอ้ มลู ใหเ้ ข้าใจ สอดคล้องกับเร่ืองท่ี งา่ ย นาเสนอข้อมลู เปน็ ลาดบั ขนั ตอนชดั เจนดมี าก ศึกษา รูปแบบการนาเสนอผลงาน แปลกใหม่นา่ สนใจดมี าก การดาเนินการทดลอง ดาเนนิ การทดลองเป็น ดาเนินการทดลองเป็น เปน็ ขันตอน และใช้ ขันตอน และใชอ้ ปุ กรณ์ ขันตอน และใชอ้ ปุ กรณ์ อุปกรณ์ต่างๆ ต่างๆ ตา่ งๆไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง ไมถ่ ูกตอ้ ง ได้เป็นส่วนใหญ่ ทาการทดลอง และใช้ ทาการทดลอง และใช้ ทาการทดลอง และใช้ อุปกรณ์ อปุ กรณ์ อุปกรณ์ ไดอ้ ย่างถูกต้อง ได้อยา่ งคล่องแคล่ว ได้อยา่ งคลอ่ งแคลว่ เหมาะสมแต่ไม่ทันเวลา ถกู ตอ้ งเหมาะสม ถูกต้องเหมาะสม ท่กี าหนด ปลอดภัย จดั กระทาขอ้ มลู เข้าใจได้ จัดกระทาข้อมลู จดั กระทาข้อมลู ให้ ยาก นาเสนอข้อมลู ได้ เหมาะสม นาเสนอ เขา้ ใจง่าย นาเสนอ ชดั เจน และรปู แบบ ขอ้ มูลชัดเจน รปู แบบ ขอ้ มูลเปน็ ลาดับขันตอน การนาเสนอนา่ สนใจ การนาเสนอ ชัดเจนดี น่าสนใจพอสมควร รูปแบบการนาเสนอ ผลงานน่าสนใจดี

รายการประเมนิ ระดับคณุ ภาพ 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน การดูแลและการ ไม่มกี ารดแู ล เก็บ และ มีการดแู ล อปุ กรณ์ มกี ารดูแล ทาความ มีการดแู ล ทาความสะอาด เก็บอปุ กรณแ์ ละ/ ทาความสะอาดอุปกรณ์ วิทยาศาสตร์ แตไ่ ม่ทา สะอาดอุปกรณ์ อุปกรณว์ ิทยาศาสตร์ และ หรอื เครอ่ื งมอื วิทยาศาสตร์ ความสะอาด และเก็บ วทิ ยาศาสตรแ์ ตเ่ กบ็ ไม่ เก็บเขา้ ที่อยา่ งถกู ตอ้ ง ไมเ่ ปน็ ที่ เปน็ ท่ี อธิบายการเกิดเสยี ง ตอบคาถามเกี่ยวกับการ ตอบคาถามเกย่ี วกบั ตอบคาถามเก่ยี วกับการ ตอบคาถามเกี่ยวกบั การ ดงั เสียงคอ่ ย เกิดเสยี งดังเสยี งคอ่ ยได้ การเกิดเสียงดงั เสยี ง เกิดเสยี งดงั เสยี งค่อยได้ เกิดเสยี งดงั เสยี งค่อยได้ ถูกตอ้ ง 1-3 ขอ้ ค่อยได้ถูกต้อง 4-6 ถกู ตอ้ ง 7-10 ขอ้ ถูกต้อง 11-12ข้อ ขอ้ ผลงานมคี วาม เนือหาสาระของผลงานไม่ เนอื หาสาระของ เนือหาสาระของผลงาน เนอื หาสาระของผลงาน ถูกตอ้ งสมบรู ณ์ ถูกตอ้ งเปน็ สว่ นใหญ่ ผลงานถูกต้อง เป็น ถูกต้อง เปน็ ส่วนใหญ่ ถูกต้องครบถว้ น บางประเดน็ ผลงานมคี วามเป็น ผลงานสว่ นใหญไ่ ม่เป็น ผลงานมีความ ผลงานสว่ นใหญ่ มี ผลงานมีความเปน็ ระเบยี บ ระเบยี บ ระเบียบและมขี ้อบกพร่อง เป็นระเบยี บ แต่มี ความเป็นระเบยี บแตย่ งั แสดงออก ถึงความประณตี มาก ขอ้ บกพร่องบางสว่ น มขี อ้ บกพร่องเลก็ นอ้ ย ใบกิจกรรมที่ 10 เรื่อง เสียงดัง เสียงค่อย อธบิ ายการเกดิ และ ตอบคาถามเกยี่ วกับการ ตอบคาถามเกี่ยวกับ ตอบคาถามเกีย่ วกบั การ ตอบคาถามเกี่ยวกับการ ลกั ษณะของเสียงดัง เกดิ และลกั ษณะของเสยี ง การเกิดและลักษณะ เกดิ และลักษณะของ เกดิ และลกั ษณะของเสยี ง เสียงค่อย ดงั เสยี งคอ่ ยไดถ้ กู ต้อง 1- ของเสียงดัง เสยี งค่อย เสยี งดงั เสยี งค่อยได้ ดงั เสยี งค่อยไดถ้ กู ต้อง 8 2 ขอ้ ได้ถูกต้อง 4-5 ขอ้ ถูกตอ้ ง 6-7 ข้อ ข้อ ผลงานตรงกับขอ้ ผลงานไมส่ อดคล้องกบั ข้อ ผลงานสอดคลอ้ ง กับ ผลงานสอดคลอ้ งกบั ข้อ ผลงานสอดคล้องกับข้อ คาถาม ที่กาหนด คาถาม ขอ้ คาถาม บาง คาถาม เป็นสว่ นใหญ่ คาถาม ที่กาหนด ประเด็น ผลงานมคี วาม เนอื หาสาระของผลงานไม่ เนือหาสาระของ เนือหาสาระของผลงาน เนอื หาสาระของผลงาน ถูกตอ้ งสมบูรณ์ ถูกต้องเปน็ สว่ นใหญ่ ผลงานถกู ตอ้ ง เปน็ ถูกต้อง เปน็ ส่วนใหญ่ ถูกตอ้ งครบถว้ น บางประเดน็ ผลงานมีความเปน็ ผลงานสว่ นใหญไ่ ม่เปน็ ผลงานมีความ ผลงานสว่ นใหญ่ มี ผลงานมคี วามเปน็ ระเบยี บ ระเบียบ ระเบียบและมขี อ้ บกพรอ่ ง เปน็ ระเบียบ แต่มี ความเป็นระเบียบแต่ยัง แสดงออก ถึงความประณีต มาก ขอ้ บกพรอ่ งบางสว่ น มขี ้อบกพรอ่ งเลก็ นอ้ ย

รายการประเมิน ระดบั คุณภาพ การนาเสนอผลงาน 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน จัดกระทาข้อมลู เขา้ ใจ จัดกระทาข้อมลู จดั กระทาข้อมลู ใหเ้ ขา้ ใจ จัดกระทาข้อมลู ให้เขา้ ใจ ได้ยาก นาเสนอข้อมูล ได้ชดั เจน และรปู แบบ เหมาะสม นาเสนอ ง่าย นาเสนอขอ้ มลู เป็น งา่ ย นาเสนอขอ้ มลู เป็น การนาเสนอนา่ สนใจ ข้อมูลชัดเจน รูปแบบ ลาดบั ขนั ตอนชัดเจนดี ลาดับขนั ตอนชัดเจนดมี าก การนาเสนอ รูปแบบการนาเสนอ รูปแบบการนาเสนอผลงาน นา่ สนใจพอสมควร ผลงานนา่ สนใจดี แปลกใหม่นา่ สนใจดีมาก ใบกจิ กรรมท่ี 11 เรอ่ื ง ลกั ษณะเสยี งดัง เสียงค่อย อธิบายการเกดิ และ ตอบคาถามเกยี่ วกบั การ ตอบคาถามเก่ียวกบั ตอบคาถามเกยี่ วกบั การ ตอบคาถามเกี่ยวกบั การเกดิ ลกั ษณะของเสียงดงั และลักษณะของเสยี งดงั เสียงคอ่ ย เกิดและลักษณะของ การเกิดและลกั ษณะ เกดิ และลักษณะของ เสียงค่อยได้ถูกตอ้ ง 5 ข้อ ผลงานตรงกบั ข้อ เสยี งดัง เสยี งคอ่ ยได้ ของเสียงดงั เสยี งค่อย เสียงดงั เสียงค่อยได้ ผลงานสอดคลอ้ งกับขอ้ คาถาม ทก่ี าหนด คาถาม ทกี่ าหนด ถูกตอ้ ง 1-2 ข้อ ไดถ้ กู ตอ้ ง 3 ข้อ ถกู ตอ้ ง 4 ขอ้ ผลงานมีความ เนอื หาสาระของผลงาน ถกู ตอ้ งสมบูรณ์ ผลงานไมส่ อดคลอ้ งกบั ผลงานสอดคลอ้ ง กบั ผลงานสอดคลอ้ งกบั ขอ้ ถกู ตอ้ งครบถ้วน ผลงานมคี วามเปน็ ข้อคาถาม ขอ้ คาถาม บาง คาถาม เป็นส่วนใหญ่ ผลงานมคี วามเปน็ ระเบยี บ ระเบยี บ แสดงออก ถงึ ความประณตี ประเดน็ การนาเสนอผลงาน จดั กระทาข้อมลู ให้เขา้ ใจ เนือหาสาระของผลงาน เนอื หาสาระของ เนือหาสาระของผลงาน ง่าย นาเสนอข้อมลู เป็น ลาดบั ขนั ตอนชดั เจนดีมาก ไมถ่ ูกตอ้ งเป็นส่วนใหญ่ ผลงานถกู ต้อง เปน็ ถูกต้อง เป็นสว่ นใหญ่ รูปแบบการนาเสนอผลงาน แปลกใหม่นา่ สนใจดีมาก บางประเดน็ ผลงานส่วนใหญไ่ มเ่ ปน็ ผลงานมีความ ผลงานสว่ นใหญ่ มี ระเบยี บและมี เปน็ ระเบยี บ แต่มี ความเป็นระเบียบแตย่ ัง ข้อบกพร่องมาก ขอ้ บกพรอ่ งบางสว่ น มีขอ้ บกพร่องเลก็ นอ้ ย จดั กระทาข้อมลู เข้าใจ จัดกระทาข้อมลู จัดกระทาข้อมลู ให้เขา้ ใจ ได้ยาก นาเสนอข้อมูล เหมาะสม นาเสนอ ง่าย นาเสนอข้อมูลเป็น ได้ชดั เจน และรูปแบบ ขอ้ มลู ชัดเจน รูปแบบ ลาดับขนั ตอนชัดเจนดี การนาเสนอนา่ สนใจ การนาเสนอ รูปแบบการนาเสนอ นา่ สนใจพอสมควร ผลงานนา่ สนใจดี

รายการประเมนิ ระดับคุณภาพ ขันที่ 1 ระบุปญั หา 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน ขันท่ี 2 รวบรวม ใบกิจกรรมที่ 12 เร่ือง นักคิดเครื่องดนตรี ระบุปญั หาตรงกับประเด็น ข้อมลู ทีศ่ ึกษา มีความชดั เจน ระบปุ ัญหาไมต่ รงกบั ระบุปญั หาตรงกบั ระบุปญั หาตรงกบั รดั กมุ ถกู ต้องที่ศกึ ษา ขันที่ 3 ออกแบบ สอดคลอ้ งกบั ช่ือเร่ืองครบ ประเด็นท่ศี กึ ษาไม่ ประเด็นที่ศกึ ษาไม่ ประเดน็ ทศ่ี กึ ษา มีความ ทุกประเด็น ขันที่ 4 วางแผน สอดคลอ้ งกบั ช่อื เร่ือง ชัดเจน และไม่ ชัดเจน รดั กุม ถกู ตอ้ งที่ อธิบายระบทุ ่ีมาของขอ้ มูล ในการทาสิ่งประดิษฐ์ชดั เจน สอดคล้องกบั ช่อื เร่อื ง ศกึ ษาสอดคลอ้ งกับช่ือ สอดคล้องกับเรือ่ งทีศ่ ึกษา และมหี ลักฐานอ้างอิงของ เรอ่ื งแต่ไมค่ รบทกุ ขอ้ มูลอย่างถูกต้องมี แหลง่ ขอ้ มลู ท่หี ลากหลาย ประเดน็ ตังแต่ 3 แหล่งขนึ ไป แบบร่างเคร่อื งดนตรมี คี วาม อธบิ ายและระบุทม่ี า อธบิ ายและระบุท่ีมา อธบิ ายระบทุ ่ีมาของ ชัดเจนสามารถสอ่ื สารให้ ผูอ้ ่นื เข้าใจได้และแสดง ของข้อมลู ในการทา ของขอ้ มลู ในการทา ข้อมูลในการทา เหตผุ ลในการออกแบบได้ อย่างชดั เจนครบถว้ น ส่งิ ประดษิ ฐ์ สิง่ ประดษิ ฐช์ ดั เจน ส่งิ ประดษิ ฐช์ ดั เจน กาหนดขันตอนการ ประดิษฐส์ อดคล้องกับสิง่ ท่ี และสอดคลอ้ งกบั เร่ือง สอดคล้องกับเร่อื งที่ ออกแบบใชภ้ าษาสื่อ ความหมายทเี่ ข้าใจง่าย ที่ศึกษา ศกึ ษา และมหี ลักฐาน รวมทังมแี นวทางในการเกบ็ รวบรวมข้อมลู อ้างองิ ของข้อมลู อยา่ ง ถกู ต้อง แบบรา่ งเครือ่ งดนตรไี ม่ แบบร่างเครื่องดนตรี แบบร่างเครอื่ งดนตรมี ี สามารถสือ่ สารให้ผู้อื่น สามารถสือ่ สารให้ผู้อนื่ ความชดั เจนสามารถ เข้าใจได้และไมส่ ามารถ เขา้ ใจไดแ้ ต่แสดง สื่อสารใหผ้ ู้อนื่ เข้าใจได้ แสดงเหตุผลในการ เหตุผลในการ และแสดงเหตผุ ลในการ ออกแบบ ออกแบบไม่ชัดเจน ออกแบบได้ กาหนดขันตอนการ กาหนดขันตอนการ กาหนดขันตอนการ ประดิษฐไ์ มส่ อดคลอ้ ง ประดิษฐส์ อดคลอ้ งกบั ประดษิ ฐส์ อดคลอ้ งกบั กับสงิ่ ที่ออกแบบ สิ่งที่ออกแบบใชภ้ าษา สิง่ ทอี่ อกแบบใชภ้ าษา ท่สี ือ่ ความหมายท่ี สอ่ื ความหมายทเ่ี ข้าใจ เขา้ ใจยาก งา่ ย

รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ ขันท่ี 5 ทดสอบ 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน ขนั ท่ี 6 นาเสนอ ศึ ก ษา วิธี ป ฏิ บั ติ ก า ร ศึกษาวิธีปฏิบัติการ ศึ ก ษ า วิ ธี ป ฏิ บั ติ ก า ร ศึกษาวิธีปฏิบัติการทดลอง ลงมอื ปฏิบตั ิการทดลองตาม ท ด ล อ ง ก่ อ น ล ง มื อ ท ด ล อ ง ล ง มื อ ทดลอง ลงมือปฏบิ ัติการ ขั น ต อ น ที่ ไ ด้ อ อ ก แ บ บ ไ ว้ อ ย่ า ง ถู ก ต้ อ ง ใ ช้ วั ส ดุ ปฏบิ ตั ิ ปฏิบตั ิการทดลองตาม ทดลองตามขันตอนที่ได้ อุปกรณ์อย่างคล่องแคล่ว ถู ก ต้ อ ง ค า นึ ง ถึ ง ค ว า ม ขันตอนที่ได้ออกแบบ อ อ ก แ บ บ ไ ว้ อ ย่ า ง ปลอดภยั แ ล ะ บั น ทึ ก ผ ล ก า ร ไว้ อย่างถกู ต้อง ถูกต้อง ใช้วัสดุอุปกรณ์ เปลี่ยนแปลงท่ีได้จากการ ทดลองอย่างเปน็ ลาดบั อ ย่ า ง ค ล่ อ ง แ ค ล่ ว ลาดบั ขันตอนการนาเสนอ ถู ก ต้ อ ง เ ส ร็ จ ทั น เ ว ล า เขา้ ใจง่ายและรูปแบบการ แ ล ะ ค า นึ ง ถึ ง ค ว า ม นาเสนอมคี วามน่าสนใจ ปลอดภยั ถกู ตอ้ งครบถว้ น ไมส่ ามารถนาเสนอได้ ลาดับขันตอนการ ลาดับขนั ตอนการ นาเสนอเข้าใจง่ายหรอื นาเสนอเข้าใจงา่ ยและ รปู แบบการนาเสนอมี รปู แบบการนาเสนอมี ความนา่ สนใจ ความนา่ สนใจ ความสาเร็จของ ไม่สามารถสรา้ งชินงาน สร้างชินงานตามที่ สรา้ งชนิ งานตามท่ี สร้างชินงานตามที่ออกแบบ ชินงาน ตามที่ออกแบบไวไ้ ด้ ออกแบบไว้ได้เสรจ็ ออกแบบไวไ้ ดเ้ สรจ็ ไวไ้ ดเ้ สร็จสมบรู ณ์และ สมบรู ณห์ รอื ชนิ งาน สมบูรณแ์ ละชินงาน ชินงานสามารถแกป้ ญั หาได้ ความคิดสรา้ งสรรค์ ไมม่ คี วามแปลกใหม่ สามารถแก้ปัญหาตาม สามารถแก้ปัญหาไดต้ าม ตามเงอ่ื นไขและตามเวลาท่ี ในการสร้างชนิ งาน และประณตี เงอ่ื นไขท่ีกาหนดได้ เงือ่ นไขทีก่ าหนด กาหนด มคี วามแปลกใหม่หรอื มีความแปลกใหมแ่ ละ มีความแปลกใหม่ ประณีต ประณตี ประณตี และเปน็ ระบบ

รายการประเมิน ระดบั คณุ ภาพ อธิบายการ 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน หลกี เลย่ี งและลด มลพษิ ทางเสยี ง ใบกจิ กรรมท่ี 13 เรือ่ ง อนั ตรายจากเสยี ง ตอบคาถามการหลีกเลยี่ ง ผลงานตรงกบั ขอ้ และลดมลพิษทางเสียงได้ คาถาม ท่กี าหนด ตอบคาถามการ ตอบคาถามการ ตอบคาถามการ ถกู ต้อง 13-16 ขอ้ ผลงานมคี วาม หลกี เลย่ี งและลดมลพิษ หลกี เลย่ี งและลด หลีกเลย่ี งและลดมลพษิ ผลงานสอดคล้องกับขอ้ ถกู ตอ้ งสมบูรณ์ คาถาม ทีก่ าหนด ทางเสยี งได้ถกู ตอ้ ง 1-4 มลพษิ ทางเสียงได้ ทางเสียงได้ถูกต้อง 9- ผลงานมีความเปน็ เนือหาสาระของผลงาน ระเบยี บ ขอ้ ถกู ต้อง 5-8 ขอ้ 12 ข้อ ถกู ต้องครบถ้วน การนาเสนอผลงาน ผลงานไมส่ อดคล้องกับ ผลงานสอดคลอ้ ง กับ ผลงานสอดคลอ้ งกับขอ้ ผลงานมีความเป็นระเบยี บ แสดงออก ถึงความประณตี ขอ้ คาถาม ขอ้ คาถาม บาง คาถาม เป็นส่วนใหญ่ จดั กระทาข้อมลู ใหเ้ ข้าใจ ประเดน็ งา่ ย นาเสนอข้อมูลเป็น ลาดบั ขันตอนชัดเจนดีมาก เนอื หาสาระของผลงาน เนอื หาสาระของ เนอื หาสาระของผลงาน รูปแบบการนาเสนอผลงาน แปลกใหมน่ า่ สนใจดีมาก ไม่ถกู ต้องเปน็ สว่ นใหญ่ ผลงานถกู ตอ้ ง เปน็ ถกู ตอ้ ง เปน็ สว่ นใหญ่ บางประเดน็ ผลงานส่วนใหญไ่ ม่เป็น ผลงานมีความ ผลงานส่วนใหญ่ มี ระเบยี บและมี เปน็ ระเบยี บ แตม่ ี ความเปน็ ระเบียบแตย่ ัง ข้อบกพรอ่ งมาก ข้อบกพร่องบางส่วน มีขอ้ บกพรอ่ งเลก็ นอ้ ย จัดกระทาข้อมลู เข้าใจ จดั กระทาข้อมลู จัดกระทาข้อมลู ใหเ้ ขา้ ใจ ไดย้ าก นาเสนอขอ้ มลู เหมาะสม นาเสนอ ง่าย นาเสนอข้อมูลเป็น ได้ชัดเจน และรูปแบบ ข้อมูลชดั เจน รปู แบบ ลาดับขนั ตอนชดั เจนดี การนาเสนอนา่ สนใจ การนาเสนอ รูปแบบการนาเสนอ น่าสนใจพอสมควร ผลงานนา่ สนใจดี

รายการประเมิน ระดับคณุ ภาพ อธบิ ายการ 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน หลีกเล่ยี งและลด มลพิษทางเสยี ง ใบกิจกรรมท่ี 14 เรื่อง การหลกี เล่ยี งและลดมลพิษทางเสียง ผลงานตรงกบั ขอ้ คาถาม ที่กาหนด ตอบคาถามการ ตอบคาถามการ ตอบคาถามการ ตอบคาถามการหลีกเลย่ี ง ผลงานมคี วาม หลกี เล่ียงและลดมลพิษ หลีกเลี่ยงและลด หลีกเล่ยี งและลดมลพษิ และลดมลพษิ ทางเสยี งได้ ถกู ต้องสมบูรณ์ ทางเสยี งไดถ้ กู ต้อง 1-3 มลพษิ ทางเสียงได้ ทางเสียงไดถ้ กู ตอ้ ง 6-7 ถูกตอ้ ง 8-9 ข้อ ผลงานมคี วามเปน็ ระเบยี บ ข้อ ถกู ต้อง 4-5 ขอ้ ขอ้ การนาเสนอผลงาน ผลงานไม่สอดคลอ้ งกบั ผลงานสอดคล้อง กบั ผลงานสอดคล้องกับขอ้ ผลงานสอดคลอ้ งกบั ข้อ ข้อคาถาม ขอ้ คาถาม บาง คาถาม เป็นส่วนใหญ่ คาถาม ที่กาหนด ประเดน็ เนือหาสาระของผลงาน เนอื หาสาระของ เนอื หาสาระของผลงาน เนือหาสาระของผลงาน ไม่ถกู ตอ้ งเปน็ สว่ นใหญ่ ผลงานถูกต้อง เปน็ ถกู ต้อง เปน็ สว่ นใหญ่ ถกู ต้องครบถว้ น บางประเด็น ผลงานสว่ นใหญไ่ ม่เป็น ผลงานมคี วาม ผลงานส่วนใหญ่ มี ผลงานมีความเป็นระเบยี บ ระเบียบและมี เป็นระเบยี บ แตม่ ี ความเปน็ ระเบียบแตย่ ัง แสดงออก ถึงความประณตี ข้อบกพรอ่ งมาก ข้อบกพร่องบางสว่ น มขี อ้ บกพร่องเลก็ นอ้ ย จดั กระทาข้อมลู เขา้ ใจ จดั กระทาขอ้ มลู จดั กระทาขอ้ มลู ให้เข้าใจ จัดกระทาขอ้ มลู ใหเ้ ข้าใจ ได้ยาก นาเสนอขอ้ มูล เหมาะสม นาเสนอ งา่ ย นาเสนอขอ้ มลู เป็น งา่ ย นาเสนอข้อมลู เป็น ได้ชดั เจน และรูปแบบ ขอ้ มลู ชัดเจน รปู แบบ ลาดบั ขันตอนชัดเจนดี ลาดบั ขนั ตอนชัดเจนดีมาก การนาเสนอนา่ สนใจ การนาเสนอ รูปแบบการนาเสนอ รปู แบบการนาเสนอผลงาน นา่ สนใจพอสมควร ผลงานน่าสนใจดี แปลกใหมน่ า่ สนใจดมี าก เกณฑ์การตัดสนิ /ระดับคณุ ภาพ มคี วามสามารถในระดบั คะแนนเฉลย่ี ปรับปรงุ 1.00-1.49 พอใช้ 1.50-2.49 ดี 2.50-3.49 ดมี าก 3.50-4.00

เกณฑก์ ารประเมนิ คุณลักษณะพงึ ประสงคข์ องผ้เู รียนในศตวรรษที่ 21 รายการประเมิน ระดบั คณุ ภาพ 0 คะแนน 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน มที ักษะการคิดวเิ คราะห์ มีพฤติกรรมบง่ ชี ดังนี 1. จาแนกข้อมลู ได้ 2. จัด จาแนก จัดหมวดหมู่ มพี ฤติกรรมบ่งชี มีพฤติกรรมบง่ ชี 2 มพี ฤตกิ รรมบง่ ชี 3 หมวดหมู่ขอ้ มลู ได้ 3. จดั ลาดับความสาคัญ จดั ลาดบั ความสาคัญ พฤตกิ รรมใดพฤติกรรม พฤติกรรม ในบรบิ ท พฤติกรรมในบรบิ ท ของ ข้อมูลได้ 4. เปรยี บเทยี บขอ้ มลู ไดใ้ น และ เปรียบเทยี บข้อมลู หนึ่ง หรือไม่ปรากฏ ตา่ งๆ ได้ อยา่ ง ต่างๆ ได้อยา่ ง บริบท ต่างๆ อยา่ ง เหมาะสมสอดคล้อง กบั ใน บริบทต่าง ๆ พฤติกรรมใดเลย เหมาะสมสอดคลอ้ ง เหมาะสมสอดคลอ้ ง ความเปน็ จรงิ ระบุความสมั พันธข์ อง กบั ความเป็นจรงิ กบั ความเป็นจรงิ ส่วน ประกอบต่างๆ ของ ขอ้ มูล และ สามารถ เช่อื มโยงความสมั พันธ์ ไมส่ ามารถระบุความ ระบุความสมั พันธ์ของ ระบคุ วามสมั พนั ธ์ เช่อื มโยงกบั เหตุการณ์ ที่ พบเหน็ ในในบรบิ ทต่างๆ ของสว่ นประกอบของ สัมพนั ธ์ของ สว่ น ประกอบตา่ งๆ ของส่วน ประกอบ ไดอ้ ย่างสมเหตสุ มผล ข้อมลู ในบริบทต่าง ๆ สว่ นประกอบ ตา่ งๆ ของข้อมลู ได้ ถูกตอ้ ง ตา่ งๆ ของข้อมลู ระบุหลักการสาคญั หรือ แนวคิด ในเนอื หาความรู้ ของข้อมลู และ ไม่ แต่ไมส่ ามารถเชือ่ ม และสามารถ หรือขอ้ มลู ตา่ ง ๆ ทพ่ี บ เห็นในบรบิ ทตา่ งๆ ได้ สามารถเชื่อมโยงกบั โยงกบั เหตกุ ารณท์ ่ี เชอ่ื มโยงกับ อยา่ งถกู ตอ้ งและ ครบถ้วน เหตกุ ารณ์ทีพ่ บเห็นใน พบเหน็ ในบรบิ ท เหตกุ ารณท์ พี่ บเหน็ บริบท ตา่ ง ๆ ได้ ต่างๆ ได้ ในบริบท ตา่ งๆ ได้ ระบุหลักการสาคัญหรือ ระบหุ ลักการสาคญั ระบุหลกั การหรือ ระบุหลักการสาคญั แนวคดิ ในเนอื หา หรือ แนวคดิ ในเนอื หา แนวคิดทมี่ ี อยู่ใน หรือ แนวคิดใน ความรู้ ข้อมูลที่พบเหน็ ความรู้ หรือขอ้ มลู ต่าง เนือหาความรหู้ รือ เนอื หาความรหู้ รอื ในบริบท ต่าง ๆ ๆ ที่ พบเหน็ ในบริบท ข้อมลู ตา่ ง ๆ ทพี่ บเห็น ข้อมูลต่าง ๆ ท่พี บ ตา่ งๆ ไม่ถูกตอ้ ง ใน บริบทตา่ งๆ ได้ เหน็ ใน บรบิ ทตา่ งๆ ถูกต้องเปน็ บางสว่ น ไดถ้ ูกต้องแต่ ไม่ และไม่ครบถว้ น ครบถว้ น

รายการ ระดบั คุณภาพ ประเมิน 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน ความรว่ มมือ การทางานเป็นทีม และภาวะความเป็นผู้นา การร่วมมือวาง ร่วมมือการวางแผน รว่ มมือวางแผนการทางาน ร่วมมือวางแผนการ ร่วมมือวางแผนการทางานทุก แผนการทางาน ง า น น้ อ ย ม า ก บ้าง แต่ไม่ครบทุกขันตอน ทางานเกือบครบทุก ขันตอน มีข้อเสนอที่เป็น ห รื อ ไ ม่ มี มี ข้ อ เ ส น อ แ น ะ ที่ เ ป็ น ขันตอน มีข้อเสนอท่ี ประโยชน์ในการวางแผนงาน ข้อเสนอแนะท่ีเป็น ประโยชน์ในการวางแผนดี เป็นประโยชน์ ในการ ดมี าก ปร ะโ ยชน์ในกา ร พอสมควร วางแผนงานดี วางแผน แ ส ด ง ค ว า ม ตังคาถามไม่ค่อย ตังคาถามสอดคล้องกับ ตังคาถามสอดคล้อง ตั ง ค า ถ า ม ส อ ด ค ล้ อ ง กั บ คิ ด เ ห็ น จ า ก ส อ ด ค ล้ อ ง กั บ สถานการณท์ จ่ี ะศึกษา กับสถานการณ์ท่ีจะ สถานการณท์ จ่ี ะศกึ ษา สถานการณ์ ส ถ า น กา ร ณ์ ที่จ ะ แตไ่ ม่สรา้ งคาถามใหม่ ศึกษา ส ร้ า ง ค า ถ า ม ใ ห ม่ แ ล ะ ทีเ่ ผชญิ ศึกษา สร้างคาถามใหม่แต่ไม่ สอดคล้องกับสถานการณ์ ค่ อ ย ส อ ด ค ล้ อ ง กั บ ต่ า ง ๆ เ พ่ื อ ต ร ว จ ส อ บ สถานการณต์ า่ งๆ ขอ้ เทจ็ จรงิ ทางานตามหน้าที่ รับผิดชอบในงานท่ี ทางานท่ีได้รับมอบหมาย ท า ง า น ใ น ห น้ า ที่ ที่ ท า ง า น ใ น ห น้ า ท่ี ท่ี ไ ด้ รั บ ทไี่ ด้รับมอบหมาย ไดร้ ับมอบหมายนอ้ ย บ้าง แต่ทาไม่ครบถ้วน ไ ด้ รั บ ม อ บ ห ม า ย มอบหมายครบถ้วน เต็ม มาก ต้องควบคุม แก้ปัญหาการทางานด้วย ครบถ้วน แก้ปัญหา ความสามารถ พยายาม และกระตุ้นเตือน ตนเองไม่ได้ ต้องได้รับ การทางานด้วยตน แก้ปัญหาการทางานด้วย บ่อยๆ ทางานไม่ ค ว า ม ช่ ว ย เ ห ลื อ จึ ง จ ะ เองเป็นบางครังและ ตนเอง และมุ่งม่ันจนงาน สาเร็จ ทางานไดส้ าเรจ็ ทางานจนสาเร็จ สาเรจ็ ยอมรับข้อสรุ ป เกือบจะไม่มี ส่วน มีส่วนร่วมในการสรุปบ้าง มีส่วนร่วมในการสรุป มีส่วนร่วมในการสรุป ยอมรับ และผลงานของ ร่ ว ม ใ น ก า ร ส รุ ป ยอมรับข้อสรุปของกลุ่ม ยอมรับข้อสรุปของ ข้ อ ส รุ ป ข อ ง ก ลุ่ ม ร่ ว ม ก ลุ่ ม แ ล ะ ร่ ว ม ยอมรับข้อสรุปของ ร่ ว ม รั บ ผิ ด ช อ บ แ ล ะ กลุ่มร่วมรับผิดชอบ รบั ผิดชอบปรับปรุง แก้ไขงาน ปรบั ปรงุ งาน กลุ่มร่วมรับผิดชอบ ปรับปรุงแก้ไขผลงานของ ปรับ ปรุงแก้ ไ ขงา น ของกล่มุ ทังหมดดว้ ยความเต็ม และปรับปรุงแก้ไข กลุ่มพอสมควร สว่ นใหญข่ องกล่มุ ใจ งานของกลุ่มเพียง เลก็ น้อย

รายการประเมิน ระดับคุณภาพ มีทักษะในการ 0 คะแนน 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน แสวงหา ความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร มีทักษะอาชีพและการเรยี นรู้ สบื คน้ ความรู้ ขอ้ มูล ข่าวสาร จากแหลง่ สามารถเชื่อมโยง คดั ลอก ขอ้ มูล สืบคน้ ความรู้ ขอ้ มลู สืบคน้ ความรู้ ขอ้ มลู เรียนรตู้ า่ งๆ ได้ถูกต้อง ความรู้ รวดเร็วกวา่ เวลา ที่ ข่าวสาร ผู้อืน่ โดย ข่าวสาร จากแหลง่ ต่าง ขา่ วสาร จากแหลง่ กาหนดและนาไปใช้ มีการเรียนรู้อยา่ ง ประโยชนไ์ ด้อย่าง ต่อเนือ่ ง ไม่มกี ารสืบค้น ๆ ไดถ้ ูกตอ้ ง ช้ากว่าเวลา ตา่ ง ๆ ได้ถกู ต้อง เหมาะสม นาความรู้ ข้อมลู ทกี่ าหนด ภายในเวลาท่ีกาหนด ข่าวสาร ทไ่ี ด้จากการ สบื คน้ เรยี บเรยี ง เปน็ และ นาไปใช้ เนอื หาใหม่ทีเ่ สนอ แก่น สาระสาคญั ในประเดน็ ประโยชนไ์ ดอ้ ยา่ ง ท่ีเหมอื นกนั และต่างกนั โดย เชอื่ มโยงหลักการ เหมาะสม ทฤษฎี ได้อยา่ ง สอดคลอ้ งน่าเชอื่ ถือ นาความรู้ ข้อมลู นาความรู้ ข้อมลู นาความรู้ ข้อมลู มวี ธิ ีการศึกษาความรู้ เพม่ิ เติมอยา่ ง ข่าวสาร ทไ่ี ดจ้ าก ข่าวสาร ทไ่ี ด้ จากการ ขา่ วสาร ท่ไี ด้จากการ หลากหลายเพือ่ ขยาย ประสบการณ์ไปสู่ การ การสบื คน้ มาเรยี บ สบื คน้ เรยี บเรยี งเป็น สืบค้น เรยี บเรยี ง เป็น เรยี นรสู้ ิ่งใหม่ ๆ และ สรา้ งองค์ความรตู้ าม เรียงเป็นเนอื หา เนือหาใหม่ได้ เนือหาใหมท่ เ่ี สนอ ความสนใจ ไดอ้ ยา่ ง ตอ่ เน่ือง ใหม่ไมไ่ ด้ สาระ สาคญั ใน ประเด็นทเี่ หมือนกัน และตา่ งกนั ได้ มวี ธิ ีการศึกษาหา มวี ิธกี ารศึกษาหาความรู้ มวี ิธกี ารศกึ ษาหา ความรู้ เพิม่ เตมิ แต่ เพิม่ เติมเพ่ือขยาย ความรู้เพ่ิม เติมอยา่ ง ไม่สามารถขยาย ประสบการณไ์ ปสู่ การ หลากหลายเพอื่ ขยาย ประสบการณไ์ ปสู่ เรียนรสู้ งิ่ ใหมแ่ ละสรา้ ง ประสบการณไ์ ปสกู่ าร ความรู้ ใหมไ่ ด้ องค์ ความรตู้ ามความ เรยี นรสู้ ิง่ ใหม่ๆและ สนใจ สร้างองค์ ความรตู้ าม ความสนใจ

รายการประเมิน ระดับคณุ ภาพ เลอื กและใช้ 0 คะแนน 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน เทคโนโลยี ในการ เรียนรอู้ ยา่ ง เลือกและใช้ มที กั ษะการใชเ้ ทคโนโลยี สร้างสรรคแ์ ละมี เทคโนโลยใี น การ คณุ ธรรม สืบค้น ค้นคว้า เลอื กและใช้ เลอื กและใช้เทคโนโลยี เลอื กและใช้เทคโนโลยีท่ี รวบรวม และสรุป ความรู้ ด้วยตนเอง เทคโนโลยีในการ ท่ี เหมาะสมในการ เหมาะสมในการสบื คน้ ไดแ้ ตต่ อ้ งอาศัย ผู้ แนะนา สืบคน้ ค้นควา้ สบื คน้ ค้นควา้ ค้นควา้ รวบรวม และสรุป รวบรวม และ สรุป รวบรวม และสรุป ความร้ดู ว้ ยตนเองได้อย่าง ความรดู้ ้วยตนเองได้ ความรู้ดว้ ยตนเองได้ ถูก ตอ้ ง มีความหลากหลาย อย่าง ถกู ต้อง และ อยา่ ง ถกู ตอ้ ง มีความ แปลกใหม่ และเปน็ เปน็ ประโยชนต์ ่อ หลากหลาย แปลก ประโยชน์ ต่อตนเองและ ตนเองหรอื สังคม ใหม่และเป็นประโยชน์ สังคมโดย สามารถแนะนา ตอ่ ตนเองหรือสังคม ผู้อ่นื เก่ยี วกับสง่ิ ทเ่ี หมาะสม หรอื สิ่งที่ไมเ่ หมาะสมได้ เกณฑก์ ารตัดสนิ /ระดบั คณุ ภาพคุณลักษณะพงึ ประสงคข์ องผูเ้ รียนในศตวรรษท่ี 21 คะแนนเฉลย่ี มคี วามสามารถในระดับ 0.00-0.49 ปรบั ปรุง 0.50-1.49 พอใช้ 1.50-2.49 ดี 2.50-3.00 ดีเย่ียม

เกณฑ์การประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ รายการประเมนิ 0 คะแนน ระดับคณุ ภาพ 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน มวี นิ ัย ปฏิบัติตามข้อตกลง ตรงต่อเวลา ปฏิบัติ ตรงต่อเวลา ปฏิบัติ ตรงต่อเวลา ปฏิบัติ ตรงต่อเวลา ปฏิบัติตนตาม กฎเกณฑ์ ระเบียบ ตนตามข้อคาสั่งใน ตนตามข้อคาส่ังใน ตนตามขอ้ คาสง่ั ในการ ข้ อ ค า สั่ ง ใ น ก า ร ป ฏิ บั ติ ข้อบังคับในการร่วม การปฏิบัติกิจกรรม การปฏิบัติกิจกรรม ปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ กิจกรรมต่างๆ ทางานเสร็จ กิจกรรม ต่างๆ แต่ต้องมีการ ต่างๆ ทางานเสร็จ ทางานเสร็จตามเวลา ตามเวลาที่กาหนด และ เตือนเปน็ สว่ นใหญ่ ตามเวลาท่ีกาหนด ที่กาหนด แต่ต้องมี รับผิดชอบในการทางานได้ แต่ต้องมีการเตือน การเตือนเปน็ บางครงั ดว้ ยตนเอง เปน็ ส่วนใหญ่ ใฝเ่ รยี นรู้ ตงั ใจ เพียรพยายาม ในการเรยี นครตู อ้ ง เข้าเรียนตรงเวลา เข้า เ รี ย นต ร งเ วล า เข้าเรียนตรงเวลา ตังใจ ในการเรยี นและเขา้ คอยเตอื นอยู่เสมอ ตังใจเรียน เอาใจใส่ ตังใจเรียน เอาใจใส่ เรียน เอาใจใส่และมีความ ร่วมกจิ กรรม ในการเรียน มีส่วน แ ล ะ มี ค ว า ม เ พี ย ร พยายามในการเรียนรู้ มี ร่วมในการเรียนรู้ พยายามในการเรียนรู้ ส่วนร่วมในการเรียนรู้และ และเข้ารว่ มกิจกรรม มี ส่ ว น ร่ ว ม ใ น ก า ร เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ กา ร เ รี ย น รู้ ต่ า ง ๆ เรียนรู้และเข้าร่วม ต่างๆทกุ กจิ กรรม เป็นบางครัง กิ จ ก ร ร ม ก า ร เ รี ย น รู้ ตา่ งๆ บอ่ ยครัง แสวงหาความรู้จาก ศึกษาคน้ ควา้ ความรู้ ศึกษาค้นคว้าความรู้ ศึ ก ษ า ค้ น ค ว้ า ห า ศึกษาค้นคว้าหาความรู้จาก แหล่งเรียนรู้ต่างๆ จากสื่อทคี่ รใู ห้ จากหนังสือ เอกสาร ความรู้จากหนังสือ หนังสือ เอกสาร สิ่งพิมพ์ ทั ง ภ า ย ใ น แ ล ะ ส่ิ ง พิ ม พ์ สื่ อ เอกสาร ส่ิงพิมพ์ สื่อ สือ่ เทคโนโลยี ภายนอกโรงเรียน เทคโนโลยี เทคโนโลยี และสารสนเทศ แหล่ง ด้วยการ แ ห ล่ ง เ รี ย น รู้ ทั ง และสารสนเทศ แหล่ง เ รี ย น รู้ ทั ง ภ า ย ใ น แ ล ะ เ ลื อ กใ ช้ สื่ ออ ย่ า ง ภายในและภายนอก เรียนรู้ทังภายในและ ภายนอกโรงเรียน และ เหมาะสม โรงเรยี น ภายนอกโรงเรียน เ ลื อ ก ใ ช้ ส่ื อ ไ ด้ อ ย่ า ง เลือกใช้ส่ือได้อย่าง แ ล ะ เ ลื อ ก ใช้ สื่ อ ไ ด้ เหมาะสม มีการบันทึก เหมาะสม อย่างเหมาะสม มีการ ความรู้ และแลกเปลี่ยน บันทึกความรู้ เรยี นรู้ กับเพอ่ื นๆใน ชนั เรยี น

รายการประเมิน 0 คะแนน ระดบั คณุ ภาพ 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน ซอื่ สตั ย์สจุ ริต ป ร ะ พ ฤ ติ แ ล ะ ให้ข้อมูลท่ีถูกต้อง ให้ข้อมูลท่ีถูกต้อง ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและ ให้ข้อมูลท่ีถูกต้องและเป็นจริง ป ฏิ บั ติ ก า ร ร่ ว ม และเปน็ จริง และเป็นจรงิ ปฏิบัติ เป็นจริง ปฏิบัติในสิ่งท่ี ปฏิบัติในส่ิงที่ถูกต้อง ทาตาม กิ จ ก ร ร ม ต ร ง ต า ม ในส่งิ ท่ถี ูกต้อง ถูกต้อง ทาตามสัญญาที่ สัญญาท่ีตนให้ไว้กับครู ไม่ ความเป็นจรงิ ตนให้ไว้กับครู กระทาผิดกตกิ าหรือระเบียบท่ี กาหนดไว้ มุง่ มน่ั ในการทางาน ตงั ใจและรบั ผิดชอบ ไมเ่ อาใจใส่ตอ่ การ เอาใจใสต่ ่อการ เอาใจใส่ตอ่ การ เอาใจใส่ตอ่ การ ปฏบิ ตั กิ ิจกรรม ปฏบิ ัติกจิ กรรม ปฏิบัติกจิ กรรม ปฏบิ ัติกจิ กรรม ไมต่ ังใจและไม่ ตั ง ใ จ แ ต่ ไ ม่ ตังใจและรับผิดชอบใน ตังใจและรับผิดชอบในการ รบั ผิดชอบในการ รับผิดชอบในการ การปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับ ปฏบิ ัตหิ น้าที่ที่ไดร้ ับมอบหมาย ปฏบิ ตั ิหนา้ ที่ท่ไี ด้รบั ปฏบิ ตั หิ นา้ ที่ มอบหมายจนสาเร็จแต่มี จ น ส า เ ร็ จ ส ม บู ร ณ์ มี ก า ร มอบหมายต้องคอย ที่ได้รับมอบหมายมี ขอ้ บกพร่อง พัฒนาการทางานให้ดีขึนด้วย ใหค้ รูเตอื นบ่อยครงั ขอ้ บกพร่องบางส่วน บางส่วนมีการปรับปรุง ตนเองและเป็นแบบอยา่ งที่ดี ไม่มีการปรับปรงุ และ การทางานใหด้ ีขึน พัฒนาการทางานให้ดีขึน ดว้ ยตนเอง ความเพียรพยายาม ไ ม่ อ ด ท น ต่ อ ก า ร ทางานด้วยความ ทางานด้วยความขยัน ทางานด้วยความขยันอดทน และอดทน ทางาน ชินงานไม่ ขยันอดทน และ อดทน และพยายามให้ และพยายามใหง้ านสาเร็จตาม สาเร็จ แต่มีความ พ ย า ย า ม ใ ห้ ง า น งานสาเร็จตามเป้าหมาย เป้าหมาย พ ย า ย า ม แ ก้ ไ ข สาเร็จตามเป้าหมาย ไม่ยอ่ ท้อต่อปัญหาในการ ภายในเวลาท่ีกาหนด ปัญหาและอุปสรรค และชื่นชมผลงาน ทางาน และชื่นชม ไม่ย่อท้อต่อปัญหา แก้ปัญหา จนงานสาเร็จ ด้วยความภาคภมู ใิ จ ผ ล ง า น ด้ ว ย ค ว า ม อุปสรรคในการทางาน และชื่น ภาคภูมิใจ ชมผลงานดว้ ยความภาคภูมใิ จ เกณฑก์ ารตัดสิน/ระดับคุณภาพคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ คะแนนเฉลย่ี มคี วามสามารถในระดับ 0.00-0.49 ไมผ่ า่ น 0.50-1.49 ผา่ น 1.50-2.49 ดี 2.50-3.00 ดเี ย่ียม

แนวทางการจดั การเรียนรู้ ใชร้ ูปแบบการจัดการเรยี นรดู้ งั น้ี 2. การสารวจและคน้ คว้า รูปแบบการเรียนการสอนแบบ Inquiry Cycles (5Es) ปฏบิ ตั กิ ิจกรรม ระดม ความคิดเหน็ ในกิจกรรม 1. การสร้างความสนใจ ตงั คาถาม ตอบคาถาม เป็นระบบ แสดงความคิดเห็น ใช้ กจิ กรรมเกม ดูวดี ีทศั น์ กระบวนการสืบเสาะหา ความรู้ 5 ขัน้ ตอน 5. การประเมนิ 3. การอธบิ าย ประเมนิ กระบวนการและ อธบิ ายการแกป้ ัญหาหรือ องค์ความรขู้ องตนเอง ผลการสารวจตรวจสอบที่ ได้ฟงั การอธิบายของผู้อื่น 4. การขยายความรู้ นาความรู้ใหมเ่ ชอื่ มโยงกับ แลว้ คิดวิเคราะห์ อภิปรายซักถามเกี่ยวกับ ความรเู้ ดมิ เพือ่ อธบิ าย ส่ิงทีเ่ พื่อนอธิบาย หรือนาไปใช้ในชวี ติ ประจาวัน

กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม (Engineering Design Process) ที่มา STEMEdThailand.org