Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนบูรณาการ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563

แผนบูรณาการ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563

Published by somporn.4p, 2020-09-12 00:39:50

Description: แผนบูรณาการ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563

Search

Read the Text Version

ปฏิทินการจัดกจิ กรรมการเรยี นรรู้ ายภาค/แผนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้รายภาคแบบพบกลุ่ม/ แผนการจัดกจิ กรรมการเรียนรแู้ บบพบกลุ่ม/แผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ต่อเนื่อง (กรต.)/ แผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรกู้ ารทาโครงงาน/แผนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้แบบโครงการ ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย ภาคเรยี นที ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ หลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 จัดทาโดย นายสมพร จิตรีเหิม ครู กศน.ตาบลราชคราม ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอบางไทร สานักงานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั จังหวัดพระนครศรีอยธุ ยา

ปฏิทนิ การพบกลุ่ม ท่ี วัน/เดอื น/ปี กจิ กรรม/โครงการ สถานที่ วธิ ีเรียนรู้ หมายเหตุ กศน.ตาบล โครงการ 1 ๒๘ มถิ ุนายน ปฐมนิเทศ/ชแ้ี จงการเรียนการสอนแบบพบกลุ่มช้แี จงรายละเอียด โครงงาน กศน.ตาบล พบกลุ่ม โครงงาน ๒๕๖๓ การทาโครงงาน/โครงการ กศน.ตาบล พบกลุม่ โครงงาน กศน.ตาบล พบกลุ่ม 2 ๕ ก.ค.๒๕๖๓ รายวชิ าทักษะการเรยี นรู้ ทร ๓๑๐๐๑ กศน.ตาบล พบกลมุ่ กศน.ตาบล พบกลมุ่ 3 ๑๒ ก.ค.๒๕๖๓ รายวชิ าทักษะการเรยี นรู้ ทร ๓๑๐๐๑ แหล่งเรยี นรู้ โครงการ กศน.ตาบล พบกล่มุ 4 ๑๙ ก.ค.๒๕๖๓ รายวชิ าทกั ษะการเรียนรู้ ทร ๓๑๐๐๑ พบกลุ่ม 5 ๒๖ ก.ค.๒๕๖๓ รายวิชาทักษะการเรยี นรู้ ทร ๓๑๐๐๑ พบกลมุ่ พบกลุ่ม 6 ๒ ส.ค.๒๕๖๓ รายวิชาทักษะการเรยี นรู้ ทร ๓๑๐๐๑ พบกลุ่ม ๗ ๙ ส.ค.๒๕๖๓ รายวิชาภาษาไทย พท ๓๑๐๐๑ พบกลุ่ม พบกลุ่ม ๘ ๑๖ ส.ค.๒๕๖๓ รายวชิ าภาษาไทย พท ๓๑๐๐๑ พบกลมุ่ ๙ ๒๓ ส.ค.๒๕๖๓ รายวชิ าภาษาไทย พท ๓๑๐๐๑ กศน.ตาบล ๑๐ ๓๐ ส.ค.๒๕๖๓ รายวิชาภาษาไทย พท ๓๑๐๐๑ กศน.ตาบล 1๑ ๖ ก.ย.๒๕๖๓ รายวิชาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ทช ๓๑๐๐๑ กศน.ตาบล 1๒ ๑๓ ก.ย.๒๕๖๓ รายวชิ าการใช้พลงั งานไฟฟ้าในชีวติ ประจาวัน3 พว32023 กศน.ตาบล/แหล่งเรียนรู้ 1๓ ๒๐ ก.ย.๒๕๖๓ รายวิชาการใช้พลังงานไฟฟ้าในชีวิตประจาวนั 3 พว32023 กศน.ตาบล/แหลง่ เรยี นรู้ 1๔ ๒๗ ก.ย.๒๕๖๓ รายวชิ าการใชพ้ ลงั งานไฟฟา้ ในชีวิตประจาวนั 3 พว32023 กศน.ตาบล/แหลง่ เรียนรู้ 1๕ ๔ ต.ค.๒๕๖๓ รายวิชาวสั ดุศาสตร์ พว๓20๓๔ กศน.ตาบล

ที่ วนั /เดือน/ปี กิจกรรม/โครงการ สถานที่ วธิ ีเรยี นรู้ หมายเหตุ กศน.ตาบล พบกลมุ่ สอบ N-NET 1๖ ๑๑ ต.ค.๒๕๖๓ รายวิชาวัสดศุ าสตร์ พว๓20๓๔ กศน.ตาบล พบกลุ่ม กศน.ตาบล พบกลุ่ม 1๗ ๑๘ ต.ค.๒๕๖๓ รายวิชาวสั ดศุ าสตร์ พว๓20๓๔ กศน.ตาบล พบกล่มุ 1๘ ๒๐ ต.ค.๒๕๖๓ รายวิชากญั ชาและกญั ชงศกึ ษาเพื่อใช้เปน็ ยาอย่างชาญฉลาด กศน.ตาบล พบกลุ่ม พว๓๓๐๙๘ โครงการ โรงเรียนบางไทรวทิ ยา สอบปลายภาค 1๙ ๒๑ ต.ค.๒๕๖๓ รายวชิ ากญั ชาและกัญชงศกึ ษาเพอ่ื ใชเ้ ป็นยาอยา่ งชาญฉลาด พว๓๓๐๙๘ ๒๐ ๒๓ ต.ค.๒๕๖๓ ๑. ประเมินการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้โดยการทาแฟ้มสะสมงาน ๒. ปัจฉิมนเิ ทศ ภาคเรียนที่ ๑/25๖๓ ๒๔ – ๒๕ ต.ค. วดั และประเมินผลปลายภาคเรยี นที่ ๑/๒๕๖๓ ๒๕๖๓

แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รายภาคแบบพบกลุ่ม ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอบางไทร จงั หวดั พระนครศรอี ยธุ ยา ประจาภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ สัปดาห์ วัน/เดอื น/ปี วชิ า/กิจกรรม/โครงการ สถานท่ี วธิ เี รยี นรู้ หมายเหตุ ที่ ๒๘ มถิ ุนายน ๑ ปฐมนเิ ทศ/ช้แี จงการเรียนการสอนแบบพบกล่มุ กศน.ตาบล โครงการ ครู กศน.ตาบล ๒๕๖๓ 1. โครงการปฐมนเิ ทศ อธบิ ายหลักสตู ร กศน. 51 กศน.ตาบล ๒ โครงสรา้ งหลกั สตู ร พบกลุ่ม ๓ ชม. ใหน้ กั ศึกษาเรยี นรู้ (กรต.) ๕ กรกฎาคม 2. ชีแ้ จงหลักสูตรวธิ กี ารจดั การเรียนรู้ กศน. ๒๕๖๓ 3. ชีแ้ จงกระบวนการเรียนรู้ตามหลกั สตู ร กศน. 4. พบกลุ่ม/การวดั ผล/เป้าหมาย 5. เกณฑก์ ารจบหลักสูตร / การวัดผลประเมนิ ผล 6. โครงการจุดเน้นตามเป้าหมาย กิจกรรมปรับพื้นฐานวชิ าภาษาไทยชแ้ี จงรายละเอยี ดการทา โครงงาน/โครงการ 7. วเิ คราะห์เนื้อหารายวชิ าทเ่ี ปิดสอน 8. หลักฐานการเรียนรู้ทต่ี ้องมี 9. แจกปฏิทนิ การเรียนรู้และชแ้ี จงรายละเอยี ด วชิ าทกั ษะการเรียนรู้ ทร ๓๑๐๐๑ การเรยี นรูด้ ้วยตนเอง เนือ้ หา 1. ความหมาย ความสาคัญ ของการเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง 2. การกาหนดเป้าหมายและการวางแผนการเรยี นร้ดู ้วยตนเอง 3. ทักษะพ้นื ฐานทางการศึกษาหาความรู้ ทักษะการแก้ปัญหา และ เทคนิคในการเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง

สปั ดาห์ วนั /เดือน/ปี วชิ า/กิจกรรม/โครงการ สถานที่ วธิ เี รยี นรู้ หมายเหตุ ท่ี ๑๒ กรกฎาคม กศน.ตาบล ๓ ต่อวิชาทกั ษะการเรียนรู้ ทร ๓๑๐๐๑ พบกลมุ่ ๓ ชม. ใหน้ กั ศึกษาเรียนรู้ (กรต.) ๒๕๖๓ เรือ่ ง 2. การใชแ้ หลง่ เรียนรู้ ๔ เนอ้ื หา แหลง่ เรยี นรู้ โครงการ แหลง่ เรยี นรู้ในชมุ ชน ๑๙ กรกฎาคม 1. ความหมาย ความสาคัญ ของการใช้ห้องสมดุ อาเภอ กศน.ตาบล พบกลมุ่ ๓ ชม. ให้นักศึกษาเรียนรู้ (กรต.) ๒๕๖๓ 2. การเขา้ ถงึ สารสนเทศของหอ้ งสมุดประชาชน 3. แหลง่ เรยี นรู้ หอสมดุ แห่งชาติ หอสมุดวิทยาลัย/มหาวิทยาลัย ห้องสมุดเฉพาะ ห้องสมุดโรงเรยี น พพิ ธิ ภัณฑ์ อทุ ยานแหง่ ชาติ แหล่งเรียนรสู้ าคัญอ่ืน ๆ ในประเทศ 4. การใชอ้ นิ เทอร์เน็ต การเข้าถึงข้อมูลสารสนเทศท่ีต้องการและ สนใจ โครงการสืบคน้ เยีย่ มชมห้องสมุดประชาชน / แหลง่ เรยี นรู้ ตอ่ วชิ าทกั ษะการเรยี นรู้ ทร ๓๑๐๐๑ เรือ่ ง ๓. การจัดการความรู้ เนอ้ื หา 1. ความหมาย ความสาคญั หลักการ กระบวนการจดั การความรู้ การรวมกลุ่มเพ่อื ต่อยอดความรู้ การพัฒนาขอบขา่ ยความรู้ของกลมุ่ และการจัดทาสารสนเทศ เผยแพร่ความรู้ 2. การฝึกทักษะกระบวนการจดั การความรดู้ ้วยตนเอง และ กระบวนการจัดการความรู้ดว้ ยการรวมกล่มุ ปฏิบัติการ 3. สรุปองค์ความรู้ของกลุ่ม จัดทาสารสนเทศองค์ความรูใ้ นการ พัฒนาตนเอง ครอบครัว

สปั ดาห์ วัน/เดอื น/ปี วชิ า/กจิ กรรม/โครงการ สถานท่ี วิธเี รียนรู้ หมายเหตุ ที่ ๒๖ กรกฎาคม กศน.ตาบล 5 ต่อวิชาทกั ษะการเรยี นรู้ ทร ๓๑๐๐๑ พบกลุ่ม ๓ ชม. ให้นกั ศึกษาเรียนรู้ (กรต.) ๒๕๖๓ ๔. การคิดเป็น กศน.ตาบล 6 เนอื้ หา พบกลมุ่ ๓ ชม. ให้นักศึกษาเรียนรู้ (กรต.) ๒ สิงหาคม 1. ความหมาย ความสาคัญ ของ การคิดเปน็ และการรวบรวม ๒๕๖๓ สภาพปัญหา ของตนเอง ครอบครัว ชุมชน และการคิดวิเคราะห์ โดยใช้ข้อมูลด้านตนเอง ดา้ นวิชาการ และดา้ นสังคมส่งิ แวดล้อม รวมท้ังการกาหนดแนวทางทางเลือกที่หลากหลายในการแก้ปญั หา อย่างมเี หตผุ ล มีคุณธรรม จริยธรรม และ มีความสุข 2. ความหมาย ความสาคญั ของข้อมลู การประกอบอาชีพอิสระและ อาชพี แรงงานในสถานประกอบการ ต้งั แต่ในอดีต ปจั จบุ นั และ แนวโน้มในอนาคต 3. การวเิ คราะห์ SWOT (จุดแข็ง จุดอ่อน อุปสรรคและโอกาส ความมั่นคงของอาชีพ แรงงานใน สถานประกอบการ การขยายอาชพี ของตนเอง และคู่แขง่ ต่อวชิ าทักษะการเรยี นรู้ ทร ๓๑๐๐๑ เรือ่ ง การวิจยั อย่างงา่ ย เนือ้ หา 1. ความหมาย ความสาคัญการวจิ ยั อย่างง่าย กระบวนการและ ข้ันตอนของการดาเนินงาน 2. ฝกึ ทักษะ สถิตงิ า่ ย ๆ เพื่อการวจิ ัย เคร่ืองมือการวจิ ัย 3. ฝกึ ทกั ษะในการเขยี นโครงการวิจัยอยา่ งง่าย ๆ

สปั ดาห์ วัน/เดือน/ปี วชิ า/กิจกรรม/โครงการ สถานท่ี วธิ ีเรยี นรู้ หมายเหตุ ที่ ๙ สิงหาคม 7 ตอ่ วชิ าภาษาไทย พท ๓๑๐๐๑ กศน.ตาบล พบกลุม่ ๓ ชม. ใหน้ กั ศึกษาเรยี นรู้ (กรต.) ๒๕๖๓ 8 เร่อื ง การฟัง การดู การพูด ๑๖ สิงหาคม ๒๕๖๓ เนื้อหา 1. สรปุ ความ จับประเด็นสาคญั ของเร่อื งที่ฟงั และ ดู 2. หลกั การจบั ใจความสาคัญของเร่ืองท่ีฟงั และดู 3. การวเิ คราะห์ขอ้ เท็จจริง ขอ้ คิดเหน็ และสรุปความ 4. การมมี ารยาทในการฟัง และดู 5. สรุปความ จบั ประเด็นสาคัญของเรอื่ งท่ีพดู ได้ 6. การพูดนาเสนอความรู้ ความคดิ เหน็ และ การพดู ในโอกาสตา่ งๆ ตอ่ วชิ าภาษาไทย พท ๓๑๐๐๑ กศน.ตาบล พบกลุ่ม ๓ ชม. ให้นักศึกษาเรียนรู้ (กรต.) เรอื่ ง การอา่ น การเขียน เน้อื หา 1. หลักการอ่านในใจจากส่อื ประเภทต่างๆ 2. หลักอา่ นออกเสยี งที่เปน็ ท้งั ร้อยแก้ว รอ้ ยกรอง และคาวัน เดือน ปี ไทย 3. หลกั การเลือกอ่านหนังสือและสื่อสารสนเทศ 4. หลักการอ่านจบั ใจความสาคัญ 5. หลกั การวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ 6. มารยาทในการอ่านและนิสัยรกั การอ่าน 1. หลกั การเขยี น การใชภ้ าษาในการเขียน 2. หลกั การเขียนเพ่ือการส่ือสารประเภทต่าง ๆ 3. หลกั การเขยี นแผนภาพความคดิ 4. การปฏิบัติตนเป็นผู้มีมารยาทในการเขียนและมีนิสัยรกั การเขียน

สปั ดาห์ วนั /เดอื น/ปี วิชา/กจิ กรรม/โครงการ สถานท่ี วธิ เี รยี นรู้ หมายเหตุ ท่ี กศน.ตาบล ๒๓ สิงหาคม ต่อวิชาภาษาไทย พท ๓๑๐๐๑ พบกลมุ่ ๓ ชม. ให้นกั ศึกษาเรียนรู้ (กรต.) 9 ๒๕๖๓ เร่อื ง หลกั การใช้ภาษา เนือ้ หา 1. คาราชาศพั ท์ 2. หลักในการสะกดคา 3. การใช้เครอ่ื งหมายวรรคตอน อักษรยอ่ และการใช้ เลขไทย 4. การใช้คาและการสร้างคาในภาษาไทย - การสรา้ งคาไทย - คาประสม - คาซ้อน - คาซา้ - คาสมาส คาสนธิ - หลักการสงั เกตคาภาษาอืน่ ๆ ท่ใี ช้ในภาษาไทย 5. ชนดิ ของประโยค 6. การใชร้ ะดบั ภาษาทเ่ี ปน็ ทางการ และไมเ่ ปน็ ทางการ 7. การใชส้ านวน สภุ าษิต คาพงั เพย 8. หลกั การแต่งคาประพนั ธ์ประเภทตา่ ง ๆ เช่น - กาพยย์ านี 11 - กาพย์ฉบงั 16 - กลอน

สปั ดาห์ วัน/เดอื น/ปี วิชา/กจิ กรรม/โครงการ สถานท่ี วธิ เี รียนรู้ หมายเหตุ ท่ี ๓๐ สิงหาคม กศน.ตาบล ๑0 ต่อวชิ าภาษาไทย พท ๓๑๐๐๑ พบกลุ่ม ๓ ชม. ใหน้ ักศึกษาเรยี นรู้ (กรต.) ๒๕๖๓ เรือ่ งวรรณคดี วรรณกรรม กศน.ตาบล 11 1. หลกั การพจิ ารณาวรรณคดี พบกลมุ่ ๓ ชม. ใหน้ ักศึกษาเรยี นรู้ (กรต.) ๖ กนั ยายน 2. หลกั การพนิ ิจวรรณกรรม ๒๕๖๓ 3. ประวตั คิ วามเป็นมาลักษณะและคุณค่าของเพลงพ้ืนบา้ น เพลงกล่อมเด็ก วชิ าเศรษฐกิจพอเพยี ง ทช ๓๑๐๐๑ เร่อื ง ความพอเพยี ง ครอบครวั พอเพยี ง เนอื้ หา 1. แนวคดิ หลกั การ ความหมาย 2. ความสาคัญปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 3. แนวทางในการนาปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงไปประยกุ ตใ์ ช้ ในวถิ ชี ีวิตของ

สปั ดาห์ วนั /เดอื น/ปี วชิ า/กิจกรรม/โครงการ สถานท่ี วิธีเรยี นรู้ หมายเหตุ ท่ี ๑๓ กนั ยายน ๑2 รายวชิ าการใชพ้ ลังงานไฟฟ้าในชวี ติ ประจาวัน3 พว32023 กศน.ตาบล/ พบกลมุ่ ๓ ชม./ ให้นกั ศึกษาเรียนรู้ (กรต.) ๒๕๖๓ เรอ่ื ง พลงั งานไฟฟ้า แหล่งเรยี นรู้ การทาโครงงาน 13 ประโยชน์และผลกระทบของพลงั งานไฟฟ้า ๒๐ กันยายน เนื้อหา ๑.ไฟฟา้ คืออะไร กศน.ตาบล/ พบกลุม่ ๓ ชม./ ให้นกั ศึกษาเรียนรู้ (กรต.) 14 ๒๕๖๓ 2. ประวัติความเปน็ มาของไฟฟ้า แหล่งเรียนรู้ การทาโครงงาน พลงั งานท่ีใชผ้ ลิตกระแสไฟฟา้ ๒๗ กนั ยายน สถานการณ์พลงั งานไฟฟ้าในปัจจบุ ัน กศน.ตาบล/ พบกลมุ่ ๓ ชม./ ใหน้ ักศึกษาเรยี นรู้ (กรต.) ๒๕๖๓ โรงไฟฟ้ากับส่ิงแวดล้อม แหล่งเรียนรู้ การทาโครงงาน รายวิชาการใชพ้ ลงั งานไฟฟา้ ในชีวิตประจาวัน3 พว32023 เรอ่ื ง พลังงานทดแทน การใช้ไฟฟา้ และการอนุรักษ์พลังงานไฟฟา้ เน้ือหา ความหมายและความสาคัญของพลังงานทดแทน ประเภทและหลักการใช้พลังงานทดแทน วงจรไฟฟ้าอยา่ งงา่ ยในครวั เรือน อปุ กรณ์ไฟฟ้าและเคร่ืองใชไ้ ฟฟา้ กลยุทธ์การประหยัดพลงั งาน 3อ. รายวิชาการใช้พลงั งานไฟฟา้ ในชีวติ ประจาวัน3 พว32023 1. พลังงานไฟฟ้า เน้อื หา ๑.พลงั งานท่ใี ช้ผลิตกระแสไฟฟ้า ๒.สถานการณพ์ ลงั งานไฟฟ้าในปัจจบุ ัน

สปั ดาห์ วนั /เดอื น/ปี วชิ า/กจิ กรรม/โครงการ สถานท่ี วิธเี รียนรู้ หมายเหตุ ที่ กศน.ตาบล ๔ ตุลาคม รายวชิ าวสั ดศุ าสตร์ พว๓20๓๔ พบกลุม่ ๓ ชม. ใหน้ ักศึกษาเรยี นรู้ (กรต.) ๑5 ๒๕๖๓ เนอื้ หา 16 ๑๑ ตุลาคม รายวิชาวสั ดุศาสตร์ พว๓20๓๔ กศน.ตาบล พบกลุ่ม ๓ ชม. ให้นกั ศึกษาเรยี นรู้ (กรต.) ๒๕๖๓ เน้ือหา กศน.ตาบล พบกลมุ่ ๓ ชม. ให้นกั ศึกษาเรยี นรู้ (กรต.) 17 ๑๘ ตุลาคม รายวชิ าวสั ดศุ าสตร์ พว๓20๓๔ ๒๕๖๓ เน้ือหา

สปั ดาห์ วัน/เดอื น/ปี วิชา/กจิ กรรม/โครงการ สถานที่ วธิ ีเรยี นรู้ หมายเหตุ ท่ี กศน.ตาบล ๒๐ ตุลาคม รายวิชากญั ชาและกญั ชงศึกษาเพ่อื ใชเ้ ป็นยาอย่างชาญฉลาด พบกล่มุ ๓ ชม. ใหน้ ักศึกษาเรยี นรู้ (กรต.) ๑8 ๒๕๖๓ พว๓๓๐๙๘ 19 ๒๑ ตุลาคม รายวชิ ากญั ชาและกัญชงศกึ ษาเพ่อื ใช้เปน็ ยาอย่างชาญฉลาด กศน.ตาบล พบกลุ่ม ๓ ชม. ใหน้ ักศึกษาเรยี นรู้ (กรต.) ๒๕๖๓ พว๓๓๐๙๘ กศน.ตาบล พบกลุ่ม ๓ ชม. ใหน้ กั ศึกษาเรียนรู้ (กรต.) โรงเรียนบางไทรวทิ ยา สอบปลายภาค 20 ๒๓ ตลุ าคม 1. ประเมินการจัดกจิ กรรมการเรยี นรูโ้ ดยการทาแฟ้มสะสมงาน ๒๕๖๓ 2. ปัจฉิมนเิ ทศ ภาคเรยี นท่ี ๑/25($ ๒๔ – ๒๕ วัดและประเมินผลปลายภาคเรียนท่ี ๑/๒๕๖๓ ตุลาคม ๒๕๖๓

แผนการจัดกจิ กรรมการเรียนรูแ้ บบพบกลมุ่ ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ภาคเรียนที่ ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช 255๑ จดั ทาโดย นายสมพร จิตรเี หิม ครู กศน.ตาบลราชคราม ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอบางไทร สานกั งานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จังหวดั พระนครศรอี ยธุ ยา

แผนจัดการเรียนรู้แบบพบกลมุ่ ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ / 25๖๓ สาระการเรยี นร้พู ืน้ ฐาน รายวชิ า ปฐมนเิ ทศ คร้ัง เร่ือง/สาระสาคัญ ผลการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ เวลา ส่อื และแหล่งการ การวดั ผลและ ท่ี ที่คาดหวัง (ชั่วโมง) เรียนรู้ ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 1 ปฐมนเิ ทศ ๑.แนะนาสถานศึกษา ๓ 1.โปรเจคเตอร์ -แบบทดสอบ นกั ศกึ ษาภาคเรยี นท่ี -ท่ีพบกลมุ่ กศน.ตาบล 2.เอกสารประกอบการ -การสังเกต ๑/25๖๓ -ศูนยก์ ารเรยี นชุมชน บรรยาย -แบบสอบถาม -คณะครู กศน.ตาบล ๒.ชีแ้ จงการจดั กระบวนการเรยี นหลกั สตู รนอก ระบบระดับการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ - หลักการของหลักสตู ร - จุดมุ่งหมายของหลักสูตร - กลุ่มเป้าหมาย - ระดับการศึกษา - สาระการเรียนรู้ - รายวชิ าบังคับท่ีลงทะเบียนเรียน ๓. การจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชวี ติ (กพช.)

แผนจดั การเรยี นรู้แบบพบกลมุ่ ระดับ มัธยมศกึ ษาตอนปลาย ภาคเรยี นท่ี ๑ ปกี ารศึกษา 25๖๓ สาระ.......ทกั ษะการเรียนรู้................รายวชิ า.......ทกั ษะการเรียนรู้......รหัส....ทร 3100๑........เวลา....๒๐0.....ช่ัวโมง......๕......หนว่ ยกติ คร้งั ผลการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ การวดั ผลและ ที่ ทค่ี าดหวัง เรือ่ ง/สาระสาคัญ เวลา สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้ ประเมนิ ผลการ เรียนรู้ สาระทักษะการเรยี นรู้ 1. อธิบายความหมาย ขนั้ นาเข้าสู่บทเรียน ๐๙.๐๐ – ๐๙.๑๕ - เอกสาร - ทดสอบยอ่ ย รายวชิ าทักษะการเรยี นรู้ ความสาคัญ และ 1.1 ทบทวนความรู้เดมิ ตรวจสอบความ ๒ หัวเรื่อง กระบวนการของการ พร้อมในการเรียน ซักถามปัญหาและแนว ประกอบการเรียน - การสังเกต - แบบทดสอบย่อย - การสอบถาม การเรียนรู้ด้วยตนเอง เรียนรดู้ ว้ ยตนเอง ทางการเรยี นรู้ด้วยตัวเอง - หนังสอื ห้องสมุด ตวั ชี้วดั การเรยี นรู้ เน้ือหา 2. ปฏิบัตกิ ารฝึกทักษะ 1.2 กระตนุ้ เตือนเรื่องความรับผิดชอบใน - อินเตอรเ์ น็ต - จากการทดสอบ ย่อย 1. ความหมาย ความสาคัญ พื้นฐานทางการศึกษาหา การทางานร่วมกันเป็นทีม การใหค้ วาม วารสาร หนงั สอื - จากการสังเกต - อา้ งองิ - จากการ และกระบวนการของการ ความรู้ ทกั ษะการ ร่วมมอื กับกลมุ่ การเรียนรูร้ ่วมกนั เรยี นรู้ด้วยตนเอง แก้ปัญหา และเทคนิคใน 1.3 เสนอเนอ้ื หาและจุดประสงค์ในการ 2. ทกั ษะพื้นฐานทาง การเรียนรู้ดว้ ยตนเอง เรียนรู้ดว้ ยตวั เอง สอบถาม การศกึ ษาหาความรู้ ทกั ษะ และการวางแผนการ ขั้นจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ๐๙.๑๕ – ๑๑.๓๐ -จากการปฏิบตั ิ การแกป้ ัญหาและเทคนิคใน เรยี นรู้ และการ 1. ครแู บง่ กลุ่มผเู้ รียนกลุ่มละ ๓-๕ คน การเรียนรูด้ ว้ ยตนเอง รวมท้งั ประเมินผลการเรียนรู้ 2. ตัวแทนกลมุ่ ออกมารับใบงานเรื่อง การวางแผนการเรยี นรู้ และ ด้วยตนเอง “การเรยี นร้ดู ว้ ยตนเองนัน้ สาคัญไฉน” และ การประเมนิ ผลการเรยี นรดู้ ้วย วสั ดุ อปุ กรณส์ าหรบั การทากิจกรรม ตนเอง ประกอบดว้ ย กระดาษบรู๊ฟ ปากกาเคมี กระดาษหนา้ สอง (Reuse) 3. ครูช้ีแจงรายละเอียดการทากิจกรรม “การเรยี นรดู้ ้วยตนเองนั้น สาคัญไฉน” ดงั น้ี

ครง้ั เรื่อง/สาระสาคัญ ผลการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ เวลา การวัดผลและ ท่ี ท่ีคาดหวัง สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ประเมินผลการ เรียนรู้ 3.1 ใหผ้ ้เู รยี นแตล่ ะคนเขียนความสาคัญ ของการเรยี นร้ดู ว้ ยตนเองลงในกระดาษหนา้ สอง (เขียนได้มากกวา่ 1 ขอ้ ) 3.2 ตัวแทนกลุ่มอ่านความสาคัญแตล่ ะข้อ ใหส้ มาชกิ ในกล่มุ ฟงั 3.3 แตล่ ะกล่มุ เขยี นความสาคัญของการ เรยี นรู้ดว้ ยตนเองลงในกระดาษบรู๊ฟ 3.4 แต่ละกลุม่ นาเสนอผลการระดม ความคดิ เรื่องการเรยี นรู้ดว้ ยตนเองน้นั สาคัญไฉน กลุม่ ละ 15-20 นาที 3.5 ผ้เู รยี นทุกคน สรุปองค์ความรูท้ ่ีไดร้ ับ จากการทากิจกรรม “การเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง น้ัน สาคัญไฉน” ลงในใบงาน “การเรียนรู้ ด้วยตนเองนัน้ สาคญั ไฉน” เปน็ รายบุคคล ข้นั สรุป ๑๑.๓๐ – ๑๒.๐๐ 1 ใหผ้ ู้เรยี นร่วมกนั สรปุ สาระสาคัญ เกีย่ วกับความเป็นมาและความหมายของ การเรยี นรูด้ ้วยตวั เอง ผู้เรียนจดบันทกึ ลง สมุด ขัน้ นาไปใช้ ๑. ประเมนิ ผลโดยใชค้ าถามอัตนัย 3 ขอ้ ๒. ให้ผเู้ รยี นรวบรวมวธิ ีการเรียนรดู้ ้วย ตัวเอง

คร้งั ท่ี เรอ่ื ง/สาระสาคญั ผลการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ เวลา สื่อและแหล่ง การวดั ผลและ ทคี่ าดหวงั การเรยี นรู้ ประเมนิ ผลการ สาระทักษะการเรียนรู้ ขั้นนาเข้าสูบ่ ทเรยี น ๐๙.๐๐ – ๐๙.๑๕ รายวชิ าทกั ษะการเรียนรู้ 2.1 อธบิ ายความหมาย ๑. ใหผ้ ู้เรยี นศกึ ษาขอบขา่ ยของ - เอกสาร เรียนรู้ 3 หัวเรื่อง ความสาคญั ของการใช้ เน้ือหาวิชา ๐๙.๑๕ – ๑๑.๓๐ ประกอบการ 2. การใช้แหลง่ เรียนรู้ ห้องสมุดอาเภอ ๒. ใหผ้ ูเ้ รียนศึกษาผลการเรยี นรทู้ ่ี เรยี น - ทดสอบยอ่ ย เนื้อหา 2.2 อธิบายการเขา้ ถงึ คาดหวงั รายภาค/รายวชิ าจากสอื่ - หนงั สือ (Quiz) 1. ความหมาย สารสนเทศของหอ้ งสมุด การเรยี นการสอนทคี่ รแู จกให้ หอ้ งสมดุ - การสังเกต ความสาคัญ ของการใช้ ประชาชน ขัน้ จัดกิจกรรมเรยี นรู้ อนิ เตอร์เน็ต - การสอบถาม ห้องสมุดอาเภอ 1. ครอู ธิบายความหมาย วารสาร หนังสือ ตัวชว้ี ัดการเรียนรู้ 2. การเข้าถึงสารสนเทศ ความสาคัญและสรุปรว่ มกับผู้เรยี น อ้างองิ - จากการทดสอบ ของห้องสมุดประชาชน เร่อื งแหลง่ เรียนรูป้ ระเภทตา่ งๆ - แบบบนั ทกึ ย่อย 2. ครูใหผ้ เู้ รยี นทาแบบประเมิน การสังเกต - จากการสงั เกต ตนเองก่อนเรยี น พฤติกรรมการ - จากการสอบถาม 3. ครแู จกใบความรู้ “ การใช้ ทางานกลมุ่ -จากการปฏิบตั ิ อินเทอรเ์ นต็ ” และใหผ้ ู้เรยี นทาใบ งาน เรือ่ งความแตกตา่ งระหว่าง หอ้ งสมุดกับแหล่งเรยี นรผู้ า่ น เครอื ข่ายอนิ เทอร์เน็ต และบอก ขอ้ ดี – ข้อเสีย ของอินเทอร์เนต็ นาเสนอหนา้ ชัน้ เรียน 4. ใหค้ รูและผูเ้ รยี นสบื ค้นข้อมูล จากอนิ เทอรเ์ นต็ ในหัวข้อทส่ี นใจ สรุปเป็นรายงานสง่ ครู พร้อมท้ัง

คร้งั ท่ี เรื่อง/สาระสาคัญ ผลการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ เวลา สอ่ื และแหล่ง การวัดผลและ ท่ีคาดหวัง การเรียนรู้ ประเมนิ ผลการ เรียนรู้ เขียนเสน้ ทางการสืบค้น ๕. ให้ผเู้ รียนศึกษาคน้ ควา้ เกีย่ วกับ ความหมายและความสาคญั ของ แหลง่ เรยี นรู้จากหนังสอื เรียน ๖. ใหผ้ ้เู รียนบอกถึงความแตกต่าง ระหว่างห้องสมุด กับอนิ เทอร์เน็ต ๗. ให้ผ้เู รียนบอกถงึ ความสาคัญของ อินเทอร์เน็ต วา่ มคี วามสาคญั กบั ตัว ผ้เู รียนในดา้ นใดบ้าง และ สามารถ นาไปใชป้ ระโยชน์สาหรบั ชมุ ชนของ ตนเองไดอ้ ย่างไร ๑๑.๓๐ – ๑๒.๐๐ ขน้ั สรปุ 1. ครสู รุปความคิดรวบยอดกับ ผู้เรยี นเกีย่ วกบั เน้ือหา การจดั การ แหลง่ เรียนรู้ 2. ครูและผู้เรยี นร่วมกันประเมนิ ความรู้ ความเขา้ ใจและทักษะการ นาไปใช้ตามเกณฑ์ที่กาหนดไว้ ขน้ั นาไปใช้ ๑. ให้ผเู้ รียนรวบรวมวธิ ีการใชแ้ หลง่ เรียนรู้

เรอื่ ง/สาระสาคัญ ผลการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ เวลา สอ่ื และแหล่ง การวัดผลและ ท่ีคาดหวงั การเรยี นรู้ ประเมินผลการเรยี นรู้ สาระทักษะการเรยี นรู้ 3.2 ปฏบิ ตั กิ ารจดั การ ข้ันนาเข้าสบู่ ทเรยี น ๐๙.๐๐ – ๐๙.๑๕ รายวิชาทกั ษะการเรียนรู้ ความรู้ในเนื้อหาท่ี ครูนาแลกเปลีย่ นเรียนร้เู รื่องการ - แบบเรียน - ประเมินจากใบงาน 4 หัวเรอ่ื ง - ใบงาน - แบบฝกึ หัด สอดคล้องกับความต้องการ จดั การความรู้ ๓. การจดั การความรู้ ของชุมชน ขน้ั จัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ๐๙.๑๕ – ๑๑.๓๐ - แบบฝกึ หัด เน้ือหา 3.3 จัดทาสารสนเทศและ ๑. ให้ผู้เรียนแบ่งกลมุ่ ๆ ละ 3 - 5 2. การฝกึ ทักษะ เผยแพร่ความรู้ คน ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั ศึกษาจากใบ กระบวนการจดั การความรู้ ความรทู้ ่คี รูแจกใหแ้ ล้วร่วมกนั สรุป ด้วยตนเอง และ ความรู้ทไี่ ด้จากเร่ืองต่อไปนี้ กระบวนการจดั การความรู้ ๑. กระบวนการจดั การความรู้ด้วย ดว้ ยการรวมกลมุ่ ตนเอง ปฏิบัตกิ าร ๒. รูปแบบของ COPS ท่ใี ชใ้ นการ 3. สรุปองค์ความรู้ของ จัดการความรู้ กลุ่ม จัดทาสารสนเทศองค์ ๓. การทา COPS เพือ่ จัดการความรู้ ความรใู้ นการพฒั นา แลว้ ออกมานาเสนอให้เพ่ือนสรุปส่งิ ที่ ตนเอง ครอบครวั ได้ฟงั ขั้นสรุป ครแู ละนกั ศึกษาร่วมกนั สรุปความคดิ รวบยอดของเร่อื งท่ีได้ศกึ ษาแลว้ สรุป เปน็ May map ขัน้ การนาไปใช้ ๑๑.๓๐ – ๑๒.๐๐ - นาความรู้ที่เรียนไปใชใ้ น ชวี ิตประจาวัน

เรื่อง/สาระสาคญั ผลการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ เวลา สือ่ และแหล่ง การวดั ผลและ ท่คี าดหวัง การเรียนรู้ ประเมนิ ผลการเรียนรู้ สาระทักษะการเรยี นรู้ 2. อธิบายความหมาย ขั้นนาเข้าส่บู ทเรียน ๐๙.๐๐ – ๐๙.๑๕ รายวิชาทักษะการเรยี นรู้ ความสาคญั ของขอ้ มลู การ ครนู าแลกเปลีย่ นเรยี นรเู้ รื่องการ - แบบเรียน - ประเมินจากใบงาน 5 หวั เรื่อง ประกอบอาชีพอิสระและ จัดการความรู้ - ใบงาน - แบบฝกึ หัด ๔. การคดิ เปน็ อาชีพแรงงานในสถาน ขั้นจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ๐๙.๑๕ – ๑๑.๓๐ - แบบฝึกหัด เน้ือหา ประกอบการ ๑. ให้ผ้เู รียนแบ่งกลุ่ม ๆ ละ 3 - 5 2. ความหมาย 3. ปฏบิ ตั กิ ารวิเคราะห์ คน ใหแ้ ต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาจาก ความสาคัญของขอ้ มลู การ SWOT และการขยายอาชีพ ใบความร้ทู ่ีครูแจกให้แลว้ ร่วมกัน ประกอบอาชีพอสิ ระและ สรปุ ความร้ทู ไ่ี ดจ้ ากเร่ืองต่อไปนี้ อาชพี แรงงานในสถาน ๑. ทักษะการคิดวิเคราะห์ ประกอบการ ตงั้ แต่ในอดีต ๒. การกาหนดแนวทางในการ ปัจจุบันและแนวโนม้ ใน แกป้ ัญหา อนาคต ๓. กลยุทธใ์ นการคดิ (ทฤษฎีหมวก 3. การวิเคราะห์ SWOT 6 ใบ) (จุดแขง็ จุดออ่ น อปุ สรรค แลว้ ออกมานาเสนอให้เพ่ือนสรปุ สง่ิ และโอกาส ความม่ันคง ทไ่ี ด้ฟัง ๑๑.๓๐ – ๑๒.๐๐ ของอาชพี แรงงานใน ขั้นสรปุ สถานประกอบการ การ ครแู ละนักศกึ ษาร่วมกันสรุป ขยายอาชีพของตนเอง ความคดิ รวบยอดของเร่ืองท่ไี ด้ และคแู่ ขง่ ศกึ ษาแล้วสรุปเป็น May map ขั้นการนาไปใช้ - นาความรู้ทีเ่ รยี นไปใช้ใน ชวี ติ ประจาวัน

คร้งั ท่ี เร่ือง/สาระสาคัญ ผลการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ เวลา สอื่ และแหล่ง การวดั ผลและ ท่ีคาดหวัง การเรยี นรู้ ประเมนิ ผลการ สาระทักษะการเรยี นรู้ 5.1 อธิบายความหมาย ขั้นนาเข้าสบู่ ทเรียน ๐๙.๐๐ – ๐๙.๑๕ เรยี นรู้ รายวชิ าทักษะการเรียนรู้ ความสาคัญการวิจยั อย่างง่าย ครูนาแลกเปล่ยี นเรยี นรู้เร่ืองการ - แบบเรยี น - ประเมนิ จากใบงาน - แบบฝึกหัด หัวเรื่อง กระบวนการและขนั้ ตอนของ วิจัยอย่างงา่ ย - ใบงาน 6 ๕. การวิจยั อย่างง่าย การดาเนินงานได้ ขั้นจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ๐๙.๑๕ – ๑๑.๓๐ - แบบฝกึ หัด เนื้อหา 5.2 มีทักษะในการใช้สถติ ิ ๑. ใหผ้ ู้เรียนแบง่ กลมุ่ ๆ ละ 3 - 5 1. ความหมาย งา่ ย ๆ เพื่อการวจิ ยั และจดั ทา คน ให้แต่ละกลมุ่ รว่ มกนั ศึกษาจาก ความสาคญั การวิจยั อย่าง เคร่ืองมอื ในการเก็บรวบรวม ใบความรู้ท่ีครแู จกให้แลว้ ร่วมกนั ง่าย กระบวนการและ ขอ้ มูล สรุปความรู้ทไี่ ด้จากเรือ่ งตอ่ ไปน้ี ข้ันตอนของการ 5.3 มที ักษะในการเขียน ๑. วิจยั คอื อะไร ดาเนินงาน โครงการวจิ ยั อย่างง่าย ๆ ๒. วิธีการหาคาตอบทตี่ ้องการรู้/ 2. ฝึกทกั ษะ สถิติง่าย ๆ แหลง่ คาตอบ/การรวบรวมคาตอบ เพือ่ การวิจัย เคร่ืองมือการ (การเกบ็ รวบรวมข้อมลู /เคร่ืองมอื วิจยั การวิจัย) 3. ฝึกทกั ษะในการเขยี น ๓. ความหมายและความสาคัญของ โครงการวิจัยอย่างง่าย ๆ การวจิ ยั ๔. ประโยชนข์ องการวจิ ยั แล้วออกมานาเสนอให้เพื่อนสรปุ ส่งิ ทไ่ี ด้ฟัง ข้ันสรปุ ๑๑.๓๐ – ๑๒.๐๐ ครแู ละนกั ศึกษารว่ มกนั สรปุ ความคิดรวบยอดของเรื่องทีไ่ ด้ ศกึ ษาแล้วสรุปเป็น May map

คร้ังท่ี เร่อื ง/สาระสาคญั ผลการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ เวลา สื่อและแหล่ง การวัดผลและ ที่คาดหวงั การเรยี นรู้ ประเมินผลการ ขน้ั การนาไปใช้ เรียนรู้ - นาความรู้ที่เรียนไปใช้ใน ชีวติ ประจาวัน

แผนจัดการเรียนรู้แบบพบกลุ่ม ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลายหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา 25๖๓ สาระ....ความรู้พื้นฐาน.... รายวชิ า...ภาษาไทย.......พท ๓๑๐๐๑..... จานวน...๒๐๐.....ชว่ั โมง .....๕...... หนว่ ยกติ ครั้ง เรือ่ ง/สาระสาคัญ ผลการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ เวลา สื่อและแหล่งการ การวัดผลและ ที่ ที่คาดหวัง เรยี นรู้ ประเมินผลการ เรียนรู้ สาระความรู้พื้นฐาน 1. เห็นคุณค่าของสอื่ ข้ันนาเขา้ ส่บู ทเรียน ๐๙.๐๐ – ๐๙.๑๕ รายวิชาภาษาไทย ในการฟังและดู ๑.๑ ครแู ละผเู้ รียนรว่ มกันพูดคยุ แลกเปล่ยี น 7 หวั เรื่อง 2. วจิ ารณค์ วาม ประสบการณ์ท่มี ีเกย่ี วกับการฟงั การดแู ละการพูดใน การฟงั การดู การพูด สมเหตุสมผล การ ชวี ิตประจาวัน เนื้อหา ลาดับความและความ ๑.2 ผ้เู รยี นเลา่ ถงึ นกั พูดหรือการพูดทีผ่ เู้ รยี นช่นื ชอบ เป็นไปได้ ของเรื่องที่ ประทับใจและการพดู ท่ผี ู้เรียนไมป่ ระทับใจท้ังของ ๑. การเลอื กสอ่ื ในการฟังและดู ฟังและดู ตนเองและผอู้ ่ืน ๐๙.๑๕ – ๑๑.๓๐ ๒.การวเิ คราะห์ วิจารณ์เร่ืองท่ี 3. นาเสนอความรู้ ข้ันจัดการเรียนรู้ ฟังและดู ความคดิ เหน็ ทไ่ี ดจ้ าก ๒.๑ ครแู ละผ้เู รยี นร่วมกันศึกษาหาขอ้ มลู เก่ยี วกบั การ ๓. มารยาทในการฟังและดู การฟงั และดู ฟัง การดูและการพดู รวมถงึ มารยาทในการฟงั การดู 4. หลักการแสดงความคิดเห็น 4. ปฏบิ ัตติ นเป็นผู้มี และการพูดดว้ ย 5. การพูดเปน็ ทางการ และ ไม่ มารยาท ในการฟังและ ๒.๒ ครแู ละผเู้ รยี นร่วมกนั กาหนดคณุ สมบตั นิ ักพูดท่ี เปน็ ทางการ ดแี ละมารยาทในการพดู ในสถานการณต์ ่าง ดู 6. ศิลปะการพูดประเภท ตา่ ง ๒.๓ ครูมอบหมายให้ผู้เรยี นศึกษาโดยเลอื กฟังหรือดู ๆ รายการข่าว/รายการสารคดที างวิทยหุ รอื โทรทศั น์ ๑ รายการแล้วใหส้ รปุ ประเด็นจากเรอื่ งที่ฟังหรือดตู าม หลักการท่ีไดศ้ ึกษาจากนั้นให้วเิ คราะห์ข้อเท็จจริง นาเสนอ ต่อกลุม่ ตามความคดิ เห็นของตนเอง และ รวบรวมไวใ้ นแฟ้มสะสมงาน

ครง้ั เรื่อง/สาระสาคัญ ผลการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ เวลา สื่อและแหล่งการ การวัดผลและ ท่ี ท่ีคาดหวัง เรยี นรู้ ประเมินผลการ ใหผ้ ูเ้ รยี นแบ่งกลุม่ ๆ ละ 3 - 5 คน ให้แตล่ ะกลุ่ม ร่วมกนั ศกึ ษาจากใบความรู้ท่ีครแู จกใหแ้ ลว้ รว่ มกัน เรียนรู้ สรปุ ความรู้ทไ่ี ดจ้ ากเรอื่ งต่อไปนี้ ๑. หลกั การแสดงความคดิ เห็น ๒. การพดู เปน็ ทางการ และ ไมเ่ ป็นทางการ ๓. ศลิ ปะการพดู 4. มารยาทในการพดู 2. ให้แต่ละกลุม่ ออกมานาเสนอหน้าชัน้ 3. ใหเ้ พอ่ื น ๆฟังแลว้ สรปุ ทเ่ี พื่อนออกมานาเสนอ ขนั้ สรุป ๑๑.๓๐ – ๑๒.๐๐ ครแู ละนักศกึ ษาร่วมกนั สรุปความคดิ รวบยอดของ เรอื่ งที่ไดศ้ ึกษาแล้วสรปุ เป็น May map ขน้ั การนาไปใช้ - นาความรูท้ เี่ รยี นไปใชใ้ นชวี ิตประจาวัน

ครง้ั เร่อื ง/สาระสาคญั ผลการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ เวลา สือ่ และแหล่งการ การวัดผลและ ที่ ท่ีคาดหวงั เรียนรู้ ประเมินผลการ เรียนรู้ สาระความรู้พนื้ ฐาน 1. ตคี วาม แปลความ และ ขนั้ นาเขา้ สู่บทเรียน -หนงั สอื -การสงั เกต ขยายความเรื่องที่อา่ น ครแู ละผเู้ รียนรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั ๐๙.๐๐ – ๐๙.๑๕ รายวชิ าภาษาไทย แบบเรียน -การซักถาม 8 หัวเรอ่ื ง 2. วเิ คราะห์ วิจารณค์ วาม การอา่ นบทประพันธ์ต่าง ๆ ว่ามีใครเคยร้จู กั และ -ใบความรู้ -การมสี ่วนรว่ ม การอา่ น การเขียน สมเหตุสมผล การลาดบั เคยอา่ นบา้ งใหอ้ อกมาอา่ นใหเ้ พื่อนฟัง -แบบฝึก/ใบงาน -แบบฝกึ /ใบงาน เนือ้ หา ความคิดและความเปน็ ไป ข้นั จัดการเรียนรู้ ๐๙.๑๕ – ๑๑.๓๐ -อนิ เตอร์เนต็ 1. หลักการตีความ แปลความ ได้ของเรือ่ งท่ีอา่ น ๑. ใหผ้ ้เู รยี นแบง่ กลุ่ม ๆ ละ 3 - 5 คน ให้แต่ละ -ห้องสมุด และขยายความ 3. อธบิ ายความหมายของ กลุ่มรว่ มกันศึกษาจากใบความรทู้ ่ีครแู จกใหแ้ ลว้ ประชาชน 2. การอ่านบทประพันธ์ ที่ ภาษาถนิ่ สานวน สุภาษติ รว่ มกนั สรปุ ความรทู้ ี่ได้จากเรื่องต่อไปนี้ ไพเราะทัง้ ร้อยแก้ว รอ้ ยกรอง ทีป่ รากฏในวรรณคดี ๑. หลักการตคี วาม แปลความและขยายความ -ภมู ิปัญญา/ผ้รู ู้ 3. การอ่านวรรคตอน ใน วรรณกรรมปจั จุบัน ๒. การอา่ นบทประพนั ธ์ ทีไ่ พเราะทั้งรอ้ ยแกว้ วรรณคดี จากเรอ่ื ง ขนุ ช้าง วรรณกรรมท้องถนิ่ รอ้ ยกรอง -แหลง่ เรียนรู้ใน ขนุ แผน พระอภัยมณี อเิ หนา 1. เขียนแผนภาพความคิด ๓. การอ่านวรรคตอน ในวรรณคดี นทิ านเวตาล นริ าศ พระบาท 4. หลักการวิเคราะห์ วจิ ารณแ์ ละประเมินคา่ ชมุ ชน นริ าศภูเขาทอง ร่ายยาวมหา เขียนยอ่ ความ เรยี งความ วรรณคดี วรรณกรรม เวสสันดรชาดก มัทนพาธา จดหมาย เขยี นอธบิ าย 2. ใหแ้ ตล่ ะกลุม่ ออกมานาเสนอหน้าชั้น พระมหาชนก (ทศชาตชิ าดก) ชแี้ จง โน้มน้าวใจ แสดง 3. ใหเ้ พือ่ น ๆฟังแลว้ สรปุ ที่เพ่ือนออกมานาเสนอ 4. การเขยี นรปู แบบต่างๆ ทศั นะ และการเขียนเชงิ - ให้ผู้เรยี นแบง่ กลมุ่ ๆ ละ 3 - 5 คน ใหแ้ ต่ละ 5. หลักการเขียน สร้างสรรค์ โดยใชห้ ลักการ กลุ่มรว่ มกันศึกษาจากใบความร้ทู ี่ครแู จกให้แลว้ เขียนและโวหารตา่ งๆ ได้ ร่วมกนั สรุปความรู้ที่ได้จากเรื่องต่อไปน้ี ถกู ต้องตามอักขระวธิ แี ละ ระดบั ภาษา ๑. การเขียนแผนภาพความคิด ๒. หลักการเขยี นโวหาร แบบต่างๆ ๓. การเขียนพรรณนา 4. หลกั การเขียนรายงาน ทางวชิ าการ

ครง้ั เรื่อง/สาระสาคญั ผลการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ เวลา ส่อื และแหล่งการ การวัดผลและ ท่ี ที่คาดหวัง เรียนรู้ ประเมินผลการ เรียนรู้ 2. แต่งคาประพันธ์ 2. ให้แต่ละกล่มุ ออกมานาเสนอหนา้ ชนั้ ประเภท รอ้ ยกรองได้ 3. ให้เพือ่ น ๆฟังแล้วสรปุ ทีเ่ พ่ือนออกมานาเสนอ ถูกต้องตาม ฉนั ทลกั ษณ์ และใชถ้ ้อยคา ทไี่ พเราะ ขั้นสรปุ ๑๑.๓๐ – ๑๒.๐๐ 3. การกรอกแบบพิมพ์ ครูและนกั ศึกษาร่วมกันสรุปความคดิ รวบยอด ประเภทต่างๆ ได้ถูกตอ้ ง ของเร่ืองที่ไดศ้ ึกษาแล้วสรปุ เปน็ May map 4. ปฏิบัติตนเป็นผู้มี ขัน้ การนาไปใช้ มารยาท ในการเขยี น และ - นาความร้ทู เ่ี รยี นไปใชใ้ นชวี ิตประจาวัน มีการจดบนั ทึก อยา่ ง สมา่ เสมอ

ครง้ั เร่อื ง/สาระสาคญั ผลการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ เวลา ส่ือและแหล่งการ การวดั ผลและ ที่ ทีค่ าดหวงั เรยี นรู้ ประเมนิ ผลการ เรียนรู้ สาระความรูพ้ ื้นฐาน 1. อธิบายธรรมชาติของ ข้นั นาเข้าส่บู ทเรยี น ๐๙.๐๐ – ๐๙.๑๕ หนงั สือแบบเรยี น -การสงั เกต รายวชิ าภาษาไทย ภาษา และใช้ประโยคตาม ครูและผ้เู รยี นร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกับ -ใบความรู้ -การซกั ถาม 9 หวั เรอื่ ง เจตนา ของการส่ือสาร คาวา่ ธรรมชาตขิ องภาษา แล้วลองยกตัวอยา่ ง -แบบฝกึ /ใบงาน -การมสี ่วนรว่ ม หลักการใชภ้ าษา 2. เลือกใช้ถ้อยคา สานวน ขนั้ จดั การเรียนรู้ ๐๙.๑๕ – ๑๑.๓๐ -อนิ เตอรเ์ น็ต -แบบฝึก/ใบงาน เน้ือหา สุภาษิต คาพังเพยให้ ๑. ใหผ้ เู้ รียนแบง่ กลมุ่ ๆ ละ 3 - 5 คน ให้แตล่ ะ -ห้องสมดุ 1. ธรรมชาตขิ องภาษา ตรงความหมาย กลุม่ ร่วมกันศึกษาจากใบความรู้ทคี่ รูแจกใหแ้ ล้ว ประชาชน - การเปล่ยี นแปลง 3. ใชป้ ระโยคได้ถกู ตอ้ ง รว่ มกนั สรปุ ความรูท้ ี่ได้จากเร่ืองต่อไปน้ี -ภูมปิ ญั ญา/ผู้รู้ ของภาษา ตามเจตนาของผูส้ ง่ สาร ๑. ธรรมชาติของภาษา - ลักษณะของภาษา 4. ใชค้ าสุภาพ และคาราชา ๒. การใช้ถ้อยคา สานวน สุภาษติ คาพงั เพย -แหลง่ เรยี นรู้ใน - พลงั ของภาษา ศัพท์ให้ถูกตอ้ งตาม ๓. โครงสร้างของประโยค รปู ประโยค และชนดิ ชมุ ชน 2. การใช้ถ้อยคา สานวน ฐานะและบุคคล ของประโยค สุภาษติ คาพงั เพย 5. แตง่ คาประพนั ธ์ 4. คาสุภาพและคาราชาศัพท์ 3. โครงสรา้ งของประโยค รปู ประเภท รอ้ ยกรอง 2. ให้แต่ละกลุ่มออกมานาเสนอหนา้ ช้นั ประโยค และชนดิ ของ 3. ให้เพื่อน ๆฟังแลว้ สรุปทีเ่ พื่อนออกมานาเสนอ ประโยค ขน้ั สรุป 4. ระดับภาษา ครูและนักศึกษาร่วมกนั สรปุ ความคดิ รวบยอด ๑๑.๓๐ – ๑๒.๐๐ 5.5. คาสุภาพ 8 ของเร่ืองท่ีได้ศึกษาแลว้ สรปุ เป็น May map 6.6. คาราชาศัพท์ ขั้นการนาไปใช้ 7. การแต่งคาประพนั ธ์ - นาความรู้ทีเ่ รียนไปใช้ในชีวิตประจาวนั ประเภทรอ้ ยกรอง

ครัง้ เร่ือง/สาระสาคัญ ผลการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ เวลา ส่อื และแหล่งการ การวดั ผลและ ที่ ท่คี าดหวงั เรยี นรู้ ประเมนิ ผลการ อธบิ ายคุณคา่ วรรณคดี เรยี นรู้ วรรณกรรมปัจจบุ นั สาระความรู้พ้ืนฐาน และวรรณกรรมทอ้ งถ่นิ ขัน้ นาเข้าสู่บทเรียน ๐๙.๐๐ – ๐๙.๑๕ หนงั สือแบบเรยี น -การสงั เกต รายวชิ าภาษาไทย ครแู ละผ้เู รยี นร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั ๐๙.๑๕ – ๑๑.๓๐ 10 หัวเรื่อง วรรณคดีและวรรณกรรม แลว้ ลองยกตัวอยา่ ง -ใบความรู้ -การซักถาม วรรณคดแี ละวรรณกรรม ข้ันจัดการเรียนรู้ ๑๑.๓๐ – ๑๒.๐๐ เน้ือหา ๑. ใหผ้ ้เู รยี นแบ่งกลมุ่ ๆ ละ 3 - 5 คน ใหแ้ ตล่ ะ -แบบฝกึ /ใบงาน -การมสี ่วนรว่ ม 1. 1. ความหมายของ กลุ่มร่วมกันศึกษาจากใบความรูท้ ี่ครแู จกใหแ้ ลว้ วรรณคดี วรรณกรรม รว่ มกนั สรุปความรู้ท่ีได้จากเร่ืองต่อไปน้ี -อนิ เตอรเ์ น็ต -แบบฝึก/ใบงาน ปจั จุบันและวรรณกรรม ๑. ความหมายของวรรณคดี วรรณกรรม ท้องถ่นิ ปัจจบุ ันและวรรณกรรมท้องถิ่น -หอ้ งสมดุ 2. คุณค่าของวรรณคดี ๒. คุณคา่ ของวรรณคดี และวรรณกรรม ดา้ น และวรรณกรรม ดา้ น วรรณศิลป์ และด้านสงั คม ประชาชน วรรณศลิ ป์ และดา้ นสงั คม ๓. แนวคิดและค่านยิ ม ท่ีปรากฏในวรรณคดี 3. แนวคดิ และคา่ นยิ ม ท่ี และวรรณกรรม -ภมู ิปัญญา/ผรู้ ู้ ปรากฏในวรรณคดี และ 2. ให้แต่ละกลุม่ ออกมานาเสนอหนา้ ชั้น วรรณกรรม 3. ให้เพื่อน ๆฟังแลว้ สรปุ ทเ่ี พ่ือนออกมานาเสนอ -แหล่งเรียนรใู้ น ขัน้ สรปุ ครแู ละนกั ศึกษาร่วมกันสรปุ ความคิดรวบยอด ชมุ ชน ของเรื่องที่ได้ศึกษาแล้วสรุปเป็น May map ขนั้ การนาไปใช้ - นาความรู้ทเ่ี รยี นไปใชใ้ นชวี ิตประจาวัน

แผนจดั การเรยี นรู้แบบพบกลมุ่ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศกึ ษา 25๖๓ สาระ....การดาเนนิ ชวี ติ .... รายวชิ า...เศรษฐกจิ พอเพียง.......ทช ๓๑๐๐๑..... จานวน...40.....ชวั่ โมง .....1...... หนว่ ยกิต คร้งั เร่อื ง/สาระสาคัญ ผลการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ เวลา ส่ือและแหล่งการ การวัดผลและ ท่ี ท่ีคาดหวัง เรียนรู้ ประเมินผลการ เรียนรู้ สาระการดาเนนิ ชีวติ 1. อธิบายและวิ เคราะห์ ขนั้ นาเข้าสบู่ ทเรียน ๐๙.๐๐ – ๐๙.๑๕ - ใบงาน -เครื่องมือที่ - ใบความรู้ หลากหลาย รายวิชาเศรษฐกิจพอเพียง การพฒั นาประเทศตาม - ครูสนทนากบั ผเู้ รียนถึงวธิ ีการศึกษาดว้ ยตนเอง - ภาพขา่ ว -แบบประเมิน - หนังสือพิมพ์ ตนเอง ๑1 หัวเรื่อง หลกั ปรชั ญา เศรษฐกจิ และให้ ผู้ เรียนไปศึกษาคน้ ควา้ ในหวั ขอ้ ต่อไปน้ี - ทวี ี -แบบทดสอบ - อนิ เทอร์เน็ต -แบบสารวจ สถานการณ์ของประเทศกบั พอเพยี ง - ปัญหาคา่ ครองชีพ ๐๙.๑๕ – ๑๑.๓๐ ความพอเพียง 2. ประยุกต์ใช้ ในการดา -ปัญหาความยากจน สถานการณ์ของโลกกับความ เนินชวี ิ ตอยา่ งสมดุลและ -ปัญหาราคาผลผลิตตกต่า พร้อมรับต่อการ พอเพียง เนอ้ื หา เปลย่ี นแปลงของ ข้นั จดั การเรยี นรู้ 1. การวิ เคราะห์สถานการณ์ ประเทศชาติ ๑. ใหผ้ ูเ้ รียนแบง่ กลมุ่ ๆ ละ 3 - 5 คน ใหแ้ ตล่ ะ ของ ประเทศโดยใช้หลัก กลุ่มรว่ มกนั ศึกษาจากใบความรู้ท่ีครแู จกให้แล้ว ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ร่วมกนั สรปุ ความรู้ท่ีไดจ้ ากเร่ืองต่อไปนี้ 1. การวิ เคราะหส์ ถานการณ์ของ ประเทศโดย เชน่ สถานการณข์ องประเทศ ใช้หลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง เช่น ที่ เกี่ยวข้องกบั ผ้เู รียน เชน่ สถานการณ์ของประเทศที่ เกี่ยวขอ้ งกบั ผู้เรยี น ภาวะ เงินเฟ้อ ราคาผลผลิต เชน่ ภาวะ เงนิ เฟ้อ ราคาผลผลติ ตกตา่ คา่ ครอง ตกต่า ค่าครองชีพสงู ฯลฯ ชพี สงู ฯลฯ 2. การเลือกแนวทางการดา 2. การเลือกแนวทางการดา เนนิ ชวี ิตภายใต้ เนิน ชวี ิตภายใต้ สถานการณ์ สถานการณ์ของ ประเทศโดยใช้หลักปรัชญา ของ ประเทศโดยใชห้ ลกั เศรษฐกจิ พอเพียง ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง

ครง้ั เรื่อง/สาระสาคญั ผลการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ เวลา ส่อื และแหล่งการ การวดั ผลและ ท่ี ที่คาดหวัง เรยี นรู้ ประเมนิ ผลการ เรียนรู้ 3. การวเิ คราะห์สถานการณ์ 3. วเิ คราะหส์ ถานการณ์ 3. การวิเคราะห์สถานการณ์ของ โลก ประเทศ ของ โลก ประเทศภายใต้ โลก ประเทศในการพฒั นา ภายใต้ กระแส โลกาภิวตั น์ท่ีเกีย่ วขอ้ ง เชน่ ภาวะ กระแส โลกาภิวตั นท์ ่ี ประเทศให้ ก้าวหน้าไปได้ โลกรอ้ น น้ามันเชอ้ื เพลงิ ฯลฯ เก่ียวข้อง เช่น ภาวะโลกรอ้ น ให้ กา้ วหนา้ ไปได้ อยา่ ง 4. การเลอื กแนวทางการดา เนนิ ชวี ิตภายใต้ นา้ มันเช้ือเพลงิ ฯลฯ สมดลุ ภายใต้ กระแสโลกา สถานการณ์ของโลก ประเทศโดยใช้หลกั ปรัชญา 4. การเลอื กแนวทางการดา ภิวตั น์ เศรษฐกจิ พอเพียง เนนิ ชวี ิตภายใต้ สถานการณ์ 4. ตระหนกั ในความสาคัญ 2. ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ออกมานาเสนอหน้าชน้ั ของโลก ประเทศโดยใชห้ ลกั ของการพฒั นาประเทศ 3. ให้เพื่อน ๆฟังแลว้ สรุปทเ่ี พ่ือนออกมานาเสนอ ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ภายใต้ กระแสโลกาภิวตั น์ และเลือกแนวทาง ปรัชญา ขั้นสรปุ เศรษฐกจิ พอเพียงมา ๑. ครแู ละผ้เู รยี นรว่ มกนั สรุปผลการนาเสนอของ ๑๑.๓๐ – ๑๒.๐๐ ประยุกต์ใช้ ในการดาเนนิ แตล่ ะกลมุ่ ชวี ิต ขน้ั การนาไปใช้ ผูเ้ รยี นนาความรไู้ ปปฏิบตั ใิ นชีวิตประจาวนั

แผนจดั การเรียนรู้แบบพบกลมุ่ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศกึ ษา 25๖๓ สาระ....ความรู้พ้นื ฐาน.... รายวิชา.....การใช้พลังงานไฟฟ้าในชีวติ ประจาวนั 3 พว32023..... จานวน...120.....ชวั่ โมง .....3...... หน่วยกิต ครั้ง เร่ือง/สาระสาคญั ผลการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ เวลา สอ่ื และแหล่ง การวัดผลและ ท่ี ที่คาดหวัง การเรยี นรู้ ประเมินผลการ เรยี นรู้ สาระความร้พู ื้นฐาน 1.1 ร้แู ละเขา้ ใจ ความหมาย ขั้นนาเขา้ สู่บทเรียน ๐๙.๐๐ – ๐๙.๑๕ - ใบงาน -เครอื่ งมือท่ี - ใบความรู้ หลากหลาย รายวชิ าการใช้พลังงาน ประเภท 1.1 ทบทวนความรู้เดิม ตรวจสอบความพรอ้ มใน - ภาพขา่ ว -แบบประเมิน ๑2 ไฟฟ้าในชวี ติ ประจาวนั 3 และแหลง่ กาเนดิ ของพลงั งาน การเรยี น ซกั ถามปัญหาต่าง ๆ เรอ่ื ง พลังงานไฟฟ้า ไฟฟ้า ขั้นจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ๐๙.๑๕ – ๑๑.๓๐ - หนังสอื พิมพ์ ตนเอง ประโยชน์และผลกระทบ 1.2 บอกหรืออธบิ ายประวตั ิ ผ้เู รียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน - ทวี ี -แบบทดสอบ ของพลงั งานไฟฟา้ ความเป็นมาของไฟฟา้ โลก 1. ให้ผูเ้ รยี นแตล่ ะคนศกึ ษาความรูเ้ ร่ือง - อินเทอร์เน็ต -แบบสารวจ เนอื้ หา และไฟฟ้าไทยได้ 1. พลังงานไฟฟ้า ๑.ไฟฟ้าคอื อะไร 1.3 อธิบายและจาแนก 2. ประโยชนแ์ ละผลกระทบของพลงั งานไฟฟา้ 2. ประวัติความเป็นมาของ พลงั งานที่ผลิตกระแสไฟฟา้ ในหนงั สอื เรียนวชิ า วิชาการใชพ้ ลงั งานไฟฟ้าใน ชวี ติ ประจาวนั 3 ไฟฟา้ ได้ 2. แบง่ กลุ่มผ้เู รียนออกเป็นกล่มุ จานวน 2 กล่มุ 3. ครูแจกใบงานท่ี ๑๔ เรอ่ื ง พลังงานที่ใชผ้ ลติ 1.4 อภิปรายสถานการณ์ กระแสไฟฟา้ พลงั งานไฟฟ้าของโลกและ สถานการณ์พลังงานไฟฟา้ พลงั งานของไทยและอาเซียน 1. พลังงานไฟฟา้ ในปจั จบุ ัน ได้ 2. ประโยชนแ์ ละผลกระทบของพลงั งานไฟฟ้า โรงไฟฟ้ากบั สงิ่ แวดล้อม 2.1 สามารถบอกประโยชน์ แล้วใหแ้ ตล่ ะกลุ่มชว่ ยกนั สรปุ ความสาคัญของเรื่องท่ี และผลกระทบของพลงั งาน ไดร้ ับมอบหมาย ไฟฟา้ ในดา้ น ตา่ งๆ ได้ 4. ใหแ้ ต่ละกล่มุ ออกมานาเสนอผลงานของตนเอง หนา้ ช้นั

ครง้ั เรื่อง/สาระสาคญั ผลการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ เวลา ส่อื และแหล่งการ การวดั ผลและ ท่ี ที่คาดหวัง เรยี นรู้ ประเมนิ ผลการ เรียนรู้ 2.2 สามารถบอก 5. เพือ่ น ๆ จดบนั ทึกส่ิงท่ีเพ่ือนออกมานาเสนอ ประโยชน์และผลกระทบ ใสส่ มุดของตนเองแลว้ สง่ ครู ๑๑.๓๐ – ๑๒.๐๐ ของพลังงานไฟฟา้ ที่ ขน้ั สรปุ เกดิ ขนึ้ ในท้องถนิ่ ได้ 1 ให้ผู้เรยี นรว่ มกนั สรุป สาระสาคญั ของเร่อื งที่ นาเสนออีกครั้งแล้วส่งใบงานที่ครูแจก ขนั้ นาไปใช้ ๑. ประเมนิ ผลโดยใช้สุ่มถามผเู้ รียนทีละคน ๒. ให้ผเู้ รียนรวบรวมคาตอบจดใสส่ มุดไว้

ครัง้ เร่อื ง/สาระสาคญั ผลการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ เวลา สอื่ และแหล่งการ การวดั ผลและ ท่ี ทค่ี าดหวงั เรียนรู้ ประเมนิ ผลการ สาระความรพู้ ้ืนฐาน 3.1 ผเู้ รียนสามารถอธิบาย ขั้นนาเข้าสบู่ ทเรยี น ๐๙.๐๐ – ๐๙.๑๕ - หนังสอื เรียน เรยี นรู้ รายวชิ าการใช้พลังงาน หลักการของพลังงาน 1.1 ทบทวนความรู้เดิม ตรวจสอบความพรอ้ ม ๐๙.๑๕ – ๑๑.๓๐ วชิ าการใชพ้ ลงั งาน 13 ไฟฟ้าในชวี ิตประจาวนั ทดแทนแตล่ ะประเภทได้ ในการเรียน ซกั ถามปญั หาตา่ ง ๆ ไฟฟา้ ใน - การสังเกต หัวเรื่อง 3.2 ผู้เรียนสามารถ ข้นั จัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ชีวิตประจาวนั - การนาเสนองาน พลงั งานทดแทน ประยกุ ต์ใชใ้ น 1. ให้ผเู้ รยี นแตล่ ะคนศกึ ษาความร้เู รอ่ื ง พว๐๒๐๒๗ กลุ่ม การใชไ้ ฟฟา้ และการ ชีวติ ประจาวันได้ - จากการสอบถาม อนรุ ักษ์พลังงานไฟฟ้า 3.3 สามารถบอกแหลง่ 1. พลงั งานทดแทน - ใบงานที่ 1๕ - จากการปฏบิ ัติ เนื้อหา พลังงานทดแทนท่ีมใี น ๒. การใช้ไฟฟา้ และการอนรุ ักษพ์ ลังงาน - ตรวจใบงาน ความหมายและ ชมุ ชนได้ ไฟฟา้ - แบบทดสอบหลัง ความสาคัญของพลังงาน 3.4 สามารถพฒั นา ในหนังสือเรยี นวชิ า วิชาการใช้พลังงานไฟฟ้าใน เรยี น ทดแทน พลังงานทดแทนที่มีใน ชีวติ ประจาวนั พว๐๒๐๒๗ ประเภทและหลักการใช้ ชุมชนไปใช้ใน 2. แบง่ กลมุ่ ผูเ้ รยี นออกเป็นกล่มุ จานวน 2 กลุ่ม พลงั งานทดแทน ชีวติ ประจาวัน 3. ครูแจกใบงานที่ ๑๕ เรือ่ ง มคี วามรู้และความเข้าใจ 1. พลังงานทดแทน เกี่ยวกบั อปุ กรณ์ไฟฟา้ และ ๒. การใช้ไฟฟ้าและการอนรุ กั ษพ์ ลงั งาน เครอื่ งใช้ไฟฟา้ ได้ ไฟฟ้า 4.2 มคี วามรู้และความ แล้วใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ชว่ ยกันสรุปความสาคัญของ เขา้ ใจในการต่อวงจรไฟฟ้า เรอื่ งท่ีไดร้ บั มอบหมาย อย่างง่ายและต่อสายดนิ ได้ 4. ให้แตล่ ะกลมุ่ ออกมานาเสนอผลงานของ 4.3 สามารถอธิบายข้อควร ตนเองหน้าช้นั ระวังในการใช้ไฟฟา้ และ นาไปปฏบิ ัติใน ชวี ิตประจาวันได้

ครง้ั เรื่อง/สาระสาคญั ผลการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ เวลา สื่อและแหล่งการ การวดั ผลและ ท่ีคาดหวงั เรยี นรู้ ประเมนิ ผลการ ท่ี เรียนรู้ 4.4 .มคี วามรู้และสามารถ 5. เพื่อน ๆ จดบนั ทึกสง่ิ ที่เพ่ือนออกมานาเสนอ ๑๑.๓๐ – ๑๒.๐๐ นากลยุทธ์ การประหยัด ใสส่ มดุ ของตนเองแล้วส่งครู พลงั งาน 3อ. ไปใช้ใน ชวี ติ ประจาวนั ได้ ข้ันสรปุ 1 ให้ผู้เรยี นร่วมกันสรปุ สาระสาคญั ของเร่อื งที่ นาเสนออีกคร้งั แล้วส่งใบงานท่ีครแู จก ผ้เู รยี นทาแบบทดสอบก่อนเรียน ข้นั นาไปใช้ ๑. ประเมนิ ผลโดยใช้สมุ่ ถามผ้เู รียนทลี ะคน ๒. ให้ผู้เรยี นรวบรวมคาตอบจดใสส่ มดุ ไว้ -

ครงั้ เร่อื ง/สาระสาคญั ผลการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ เวลา สือ่ และแหล่งการ การวัดผลและ ท่ี ทีค่ าดหวงั เรยี นรู้ ประเมินผลการ สาระความรพู้ ืน้ ฐาน 3.1 ผู้เรียนสามารถอธบิ าย ขั้นนาเข้าสบู่ ทเรยี น ๐๙.๐๐ – ๐๙.๑๕ - หนงั สอื เรียน เรียนรู้ รายวิชาการใชพ้ ลังงาน หลกั การของพลงั งาน 1.1 ทบทวนความรู้เดิม ตรวจสอบความพรอ้ ม ๐๙.๑๕ – ๑๑.๓๐ วชิ าการใชพ้ ลังงาน 14 ไฟฟา้ ในชวี ติ ประจาวนั ทดแทนแต่ละประเภทได้ ในการเรยี น ซักถามปัญหาตา่ ง ๆ ไฟฟ้าใน - การสังเกต หัวเร่ือง 3.2 ผู้เรียนสามารถ ขั้นจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ชีวิตประจาวัน - การนาเสนองาน การใชไ้ ฟฟา้ และการ ประยกุ ต์ใช้ใน 1. ให้ผ้เู รียนแต่ละคนศึกษาความรเู้ รอ่ื ง กลุ่ม อนรุ ักษ์พลังงานไฟฟ้า ชีวิตประจาวันได้ - ใบงานที่ 16 - จากการสอบถาม เนื้อหา 3.3 สามารถบอกแหลง่ 1. พลงั งานทดแทน - จากการปฏบิ ัติ ประเภทและหลักการใช้ พลงั งานทดแทนที่มใี น ๒. การใช้ไฟฟ้าและการอนุรกั ษพ์ ลังงาน - แบบทดสอบหลงั - ตรวจใบงาน พลงั งานทดแทน ชุมชนได้ ไฟฟา้ เรียน - แบบทดสอบหลัง วงจรไฟฟ้าอยา่ งงา่ ยใน 3.4 สามารถพัฒนา ในหนงั สอื เรียนวิชา วชิ าการใชพ้ ลงั งานไฟฟา้ ใน เรียน ครัวเรอื น พลังงานทดแทนที่มใี น ชีวติ ประจาวนั พว๐๒๐๒๗ อุปกรณ์ไฟฟา้ และ ชุมชนไปใชใ้ น 2. แบง่ กลมุ่ ผ้เู รยี นออกเป็นกลุ่มจานวน 4 กลุม่ เครอื่ งใช้ไฟฟ้า ชวี ติ ประจาวัน 3. ครแู จกใบงานที่ ๑6 เรอ่ื ง กลยทุ ธก์ ารประหยัด มีความรู้และความเข้าใจ 1. ประเภทและหลกั การใช้พลงั งาน เก่ียวกบั อุปกรณ์ไฟฟ้าและ ทดแทน พลังงาน 3 อ. เคร่ืองใช้ไฟฟา้ ได้ 2. วงจรไฟฟา้ อยา่ งง่ายในครัวเรอื น 4.2 มีความรแู้ ละความ 3. อปุ กรณ์ไฟฟ้าและเคร่อื งใช้ไฟฟ้า เขา้ ใจในการตอ่ วงจรไฟฟ้า 4. กลยุทธก์ ารประหยัดพลังงาน 3 อ. อยา่ งงา่ ยและต่อสายดินได้ แล้วใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ชว่ ยกันสรุปความสาคัญของ 4.3 สามารถอธบิ ายข้อควร เรือ่ งท่ีไดร้ ับมอบหมาย ระวังในการใช้ไฟฟา้ และ 4. ให้แตล่ ะกลุม่ ออกมานาเสนอผลงานของ นาไปปฏบิ ตั ิใน ตนเองหนา้ ชั้น ชีวิตประจาวันได้

ครง้ั เร่อื ง/สาระสาคัญ ผลการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ เวลา ส่อื และแหล่งการ การวัดผลและ ที่ ที่คาดหวงั เรียนรู้ ประเมินผลการ เรียนรู้ 4.4 .มีความรู้และสามารถ 5. เพอ่ื น ๆ จดบนั ทกึ สิง่ ทเ่ี พื่อนออกมา ๑๑.๓๐ – ๑๒.๐๐ นากลยุทธ์ การประหยัด นาเสนอใส่สมดุ ของตนเองแล้วสง่ ครู พลงั งาน 3อ. ไปใชใ้ น ชีวิตประจาวนั ได้ ข้นั สรุป 1 ให้ผู้เรยี นร่วมกนั สรุป สาระสาคญั ของเรื่อง ท่นี าเสนออีกครั้งแล้วสง่ ใบงานที่ครูแจก ผเู้ รยี นทาแบบทดสอบก่อนเรยี น ขัน้ นาไปใช้ ๑. ประเมินผลโดยใช้สมุ่ ถามผเู้ รียนทีละคน ๒. ใหผ้ เู้ รียนรวบรวมคาตอบจดใส่สมดุ ไว้ -

คร้ัง เรื่อง/สาระสาคัญ ผลการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ เวลา ส่ือและแหล่งการ การวัดผลและ ท่ี ทค่ี าดหวงั เรยี นรู้ ประเมินผลการ ๐๙.๐๐ – ๑๒.๐๐ เรยี นรู้ ๑. มีความร้คู วามเข้าใจใน - ตารางสอบ - ตารางสอบ หลกั สตู ร ๕๑ อธิบายหลักสตู ร กศน. ๕๑ - ตารางนดั หมาย - ตารางนัดหมาย ๑๙ ๒.มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจใน อธบิ ายวธิ ีการสอบ ปัจฉิมนเิ ทศ วิธีการจดั การเรยี นรู้ อธิบายตารางนดั หมาย ๓. เขา้ ใจกจิ กรรม กพช. ช้ีแจงกาหนดการสอบ ๔. เขา้ ใจเกณฑ์การวัดผล แจกตารางสอบ ประเมนิ ผล ๕. เขา้ ใจในตารางนดั หมาย ๖. เขา้ ใจถึงวิธีการ ลงทะเบยี นในเทอมถัดไป ๒๐ ๒๔ – ๒๕ ต.ค.๒๕๖๓ วัดและประเมนิ ผลปลาย โรงเรียนบางไทรวิทยา สอบปลายภาค ภาคเรียนที่ ๑/๒๕๖๓

แผนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ตอ่ เนอื่ ง (กรต.) ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ หลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 จดั ทาโดย นายสมพร จิตรีเหิม ครู กศน.ตาบลราชคราม ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอบางไทร สานักงานส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จังหวดั พระนครศรอี ยธุ ยา

แผนจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กรต. (การเรยี นรู้ตอ่ เนื่อง) ภาคเรียนที่ ๑ ปกี ารศึกษา 25๖๓ หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 สาระ/รายวิชา ผลการเรียนรู้ท่คี าดหวงั การจดั กจิ กรรม สือ่ การเรยี นรู้ วดั ผลประเมินผล หัวเรอื่ ง/เนือ้ หา (นามาจากตวั ช้ีวดั ใน ขน้ั วางแผน (P) วัน/เวลา ขน้ั วางแผน (P) ข้ันวางแผน (P) สาระทกั ษะการเรยี นรู้ หลักสตู ร) ๑. การกาหนดสภาพปญั หาความต้องการในการเรยี นรู้ - คมู่ อื การเรยี นรู้ - กาหนดหลักฐาน รายวิชาทักษะการเรยี นรู้ ข้ันดาเนนิ การ (D) ๘ – 1๐ กรกฎาคม ดว้ ยตนเอง การเรยี นรู้ หวั เร่อื ง 1. รู้ เขา้ ใจความหมาย ๑. ครูกาหนดให้ผูเ้ รียนไปศึกษาเรยี นรู้ด้วยตนเองเรื่อง ๒๕๖๓ - แบบหลกั ฐาน - คะแนนระหวา่ ง การเรยี นรดู้ ้วยตนเอง ตระหนกั และเห็น ความหมาย ความสาคญั การกาหนดเป้าหมายและวาง การเรียนรู้ ภาค เนอื้ หา ความสาคัญของการ แผนการเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง ขั้นดาเนนิ การ ข้นั ดาเนินการ (D) 1. ความหมาย ความสาคัญ เรียนรู้ด้วยตนเอง 2. ใหผ้ เู้ รียนหาวิธกี ารวางแผนการเรียนรู้ด้วยตนเอง (D) - ครปู ระเมนิ ของการเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง 2. สามารถกาหนด ๓. นาผลทไ่ี ดจ้ ากการศึกษามาบันทกึ ลงในแฟ้มสะสม - ห้องสมดุ หลักฐานการเรยี นรู้ 2. การกาหนดเป้าหมายและ เปา้ หมายและวาง งาน - อนิ เตอรเ์ น็ต - บนั ทกึ การเรยี นรู้ วางแผนการเรยี นรดู้ ้วยตนเอง แผนการเรียนรดู้ ว้ ย ๔. ครใู หผ้ ู้เรียนนาผลงานทีไ่ ด้จากการศึกษาค้นควา้ มา ด้วยตนเอง ตนเอง ทาเป็นรปู เลม่ รายงาน - งาน กรต. - ประเมิน - แฟ้มสะสมงาน

สาระ/รายวิชา ผลการเรียนรู้ทีค่ าดหวงั การจดั กิจกรรม สอ่ื การเรียนรู้ วดั ผลประเมนิ ผล หัวเร่อื ง/เน้อื หา (นามาจากตวั ชี้วัดใน วัน/เวลา สาระทักษะการเรียนรู้ รายวชิ าทักษะการเรยี นรู้ หลกั สตู ร) ๘ – 1๐ กรกฎาคม หวั เรอื่ ง ๒๕๖๓ ๑. การเรียนรูด้ ้วยตนเอง 3. มที กั ษะพืน้ ฐานทาง ขน้ั วางแผน (P) เน้อื หา 3. ทักษะพื้นฐานทาง การศึกษาหาความรู้ ๑. การกาหนดสภาพปัญหาความต้องการในการเรียนรู้ ข้ันวางแผน (P) ขัน้ วางแผน (P) การศกึ ษาหาความรู้ ทกั ษะ - คมู่ ือการเรียนรู้ - กาหนดหลกั ฐาน การแกป้ ัญหา และเทคนิคใน ทกั ษะการแกป้ ญั หา ขั้นดาเนินการ (D) ดว้ ยตนเอง การเรียนรู้ การเรียนรู้ด้วยตนเอง - แบบหลักฐาน - คะแนนระหว่าง (การอ่าน การฟงั การสงั เกต และเทคนิคในการเรียนรู้ ๑. ครูกาหนดใหผ้ ู้เรยี นไปศึกษาเรียนร้ดู ้วยตนเองเร่ือง การเรียนรู้ ภาค การจา และการจดบนั ทึก) ขน้ั ดาเนนิ การ ขน้ั ดาเนินการ (D) ด้วยตนเอง การเรยี นรดู้ ้วยตนเอง (D) - ครูประเมนิ - ห้องสมุด หลกั ฐานการเรียนรู้ 4. สามารถอธิบายปัจจยั 2. ใหผ้ เู้ รียนหาวิธกี ารแกป้ ัญหาและเทคนิคในการ - อินเตอร์เนต็ - บันทึกการเรียนรู้ ด้วยตนเอง ท่ีทาใหก้ ารเรียนรู้ดว้ ย เรยี นร้ดู ้วยตนเอง - งาน กรต. - ประเมนิ ตนเองประสบ ๓. นาผลท่ีได้จากการศกึ ษามาบนั ทึกลงในแฟ้มสะสม - แฟ้มสะสมงาน ความสาเร็จ งาน ๔. ครูให้ผเู้ รียนนาผลงานทไ่ี ด้จากการศึกษาคน้ ควา้ มา ทาเป็นรปู เลม่ รายงาน

สาระ/รายวิชา ผลการเรียนรทู้ ค่ี าดหวงั การจดั กิจกรรม วนั /เวลา สือ่ การเรยี นรู้ วัดผลประเมนิ ผล หัวเรอ่ื ง/เนื้อหา (นามาจากตัวช้ีวดั ใน ๑๕ – ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๖๓ หลักสูตร) สาระทกั ษะการเรียนรู้ 1. รู้ เขา้ ใจความหมาย ขั้นวางแผน (P) รายวชิ าทักษะการเรยี นรู้ ตระหนัก และเหน็ ๑. การกาหนดสภาพปญั หาความต้องการในการเรียนรู้ ขน้ั วางแผน (P) ขั้นวางแผน (P) หัวเร่ือง ความสาคญั ของแหล่ง ขนั้ ดาเนนิ การ (D) - คมู่ อื การเรียนรู้ - กาหนดหลักฐาน 2. การใช้แหลง่ เรียนรู้ เรยี นร้โู ดยทั่วไป ๑. ครกู าหนดให้ผเู้ รียนไปศึกษาเรยี นรู้ด้วยตนเองเร่ือง ด้วยตนเอง การเรยี นรู้ เนื้อหา 2. อธิบายถึงความสาคัญ ความหมาย ความสาคญั ของแหลง่ เรยี นร้โู ดยทัว่ ไป - แบบหลกั ฐานการ - คะแนนระหว่าง 1. ความหมาย ความสาคัญ ของการใชแ้ หล่งเรยี นรู้ ๒. ใหผ้ ู้เรยี นสรุปความหมาย ความสาคัญของแหลง่ เรยี นรู้ ภาค ของแหลง่ เรียนร้โู ดยทัว่ ไป 3. สามารถบอกและ เรยี นรู้โดยทัว่ ไปเป็น May map ตามความเข้าใจของ ขนั้ ดาเนินการ (D) ข้ันดาเนนิ การ (D) (กลุ่มบรกิ ารขอ้ มลู กลุ่ม ยกตวั อย่างประเภทของ ตน - หอ้ งสมุด - ครปู ระเมิน ศลิ ปวฒั นธรรม ประวัติศาสตร์ แหลง่ เรยี นรู้ ๓. นาผลงานท่ีไดจ้ ากการศึกษามาบันทึกลงในแฟม้ - อินเตอร์เนต็ หลกั ฐานการเรียนรู้ กลมุ่ ข้อมลู ท้องถนิ่ กลมุ่ สื่อ สะสมงาน - บนั ทึกการเรยี นรู้ กลมุ่ สันทนาการ) ๔. ครูใหผ้ ู้เรียนนาผลงานท่ีได้จากการศึกษาค้นคว้ามา ด้วยตนเอง นาเสนอในการพบกลุ่มครั้งต่อไป - งาน กรต. - ประเมิน - แฟ้มสะสมงาน

สาระ/รายวิชา ผลการเรยี นรทู้ ่ีคาดหวงั การจัดกิจกรรม วัน/เวลา ส่ือการเรียนรู้ วดั ผลประเมินผล หวั เรือ่ ง/เนื้อหา (นามาจากตัวชี้วดั ในหลกั สูตร) สาระทักษะการเรียนรู้ รายวิชาทักษะการเรียนรู้ 4. สามารถเลอื กและบอกวิธีการ ขนั้ วางแผน (P) หัวเร่อื ง 2. การใช้แหลง่ เรยี นรู้ เข้าถงึ แหล่งเรยี นรู้ ๑. การกาหนดสภาพปัญหาความตอ้ งการใน ๑๕ – ๑๗ กรกฎาคม ขัน้ วางแผน (P) ขน้ั วางแผน (P) เนื้อหา ๒๕๖๓ - ค่มู ือการเรยี นรู้ - กาหนดหลกั ฐาน 3. บทบาทหน้าที่และการ 5. ยกตัวอยา่ งการใชแ้ หล่งเรียนรู้ การเรียนรู้ ดว้ ยตนเอง การเรียนรู้ บริการของแหล่งเรียนรู้ดา้ น - แบบหลักฐานการ - คะแนนระหวา่ ง ตา่ ง ๆ ของตนเอง ขน้ั ดาเนนิ การ (D) เรยี นรู้ ภาค ขัน้ ดาเนนิ การ (D) ขน้ั ดาเนินการ (D) ๑. ครูกาหนดใหผ้ ้เู รียนไปศึกษาเรยี นรดู้ ว้ ย - ห้องสมดุ - ครปู ระเมิน - อินเตอรเ์ น็ต หลักฐานการเรยี นรู้ ตนเองเร่ืองการใชแ้ หล่งเรียนรู้ - บันทึกการเรียนรู้ ด้วยตนเอง 2. ครพู าผู้เรียนออกศึกษาแหล่งเรยี นรภู้ ายใน - งาน กรต. - ประเมนิ ชมุ ชนแลว้ ให้ผเู้ รียนจดรายละเอยี ดที่ไดไ้ ป - แฟ้มสะสมงาน - รายงาน ศกึ ษาแหล่งเรยี นมา ๓. นาผลท่ีได้จากการศึกษามาบนั ทกึ ลงในแฟ้ม สะสมงาน ๔. ครูใหผ้ เู้ รยี นนาผลงานที่ได้จากการศึกษา คน้ ควา้ ทาเป็นเลม่ รายงาน

สาระ/รายวชิ า ผลการเรียนรทู้ ค่ี าดหวงั การจดั กจิ กรรม วนั /เวลา ส่อื การเรียนรู้ วัดผลประเมินผล หวั เรือ่ ง/เนือ้ หา (นามาจากตัวช้ีวัดในหลกั สูตร) ขน้ั วางแผน (P) ๒๒ – ๒๔ กรกฎาคม ขน้ั วางแผน (P) ข้ันวางแผน (P) สาระทกั ษะการเรียนรู้ 1. รู้ เข้าใจ ความหมาย ๑. การกาหนดสภาพปัญหาความตอ้ งการในการ ๒๕๖๓ - ค่มู ือการเรียนรู้ - กาหนดหลกั ฐาน รายวิชาทักษะการเรยี นรู้ ความสาคัญ ประโยชนห์ ลกั การ เรยี นรู้ ดว้ ยตนเอง การเรียนรู้ หัวเร่ือง ของการจัดการความรู้ ขน้ั ดาเนินการ (D) - แบบหลกั ฐานการ - คะแนนระหว่าง ๓. การจัดการความรู้ ๑. ครกู าหนดให้ผู้เรยี นไปศึกษาเรยี นร้ดู ้วย เรยี นรู้ ภาค เน้ือหา ตนเองเรื่องความหมาย ความสาคัญ หลักการ ขน้ั ดาเนนิ การ (D) ขนั้ ดาเนนิ การ (D) 1. ความหมาย ความสาคญั ของการจัดการความรู้ - หอ้ งสมดุ - ครูประเมิน หลกั การของการจดั การ 2. ให้ผู้เรยี นสรุปเป็นความคดิ ของตนเองสง่ ครู - อนิ เตอรเ์ น็ต หลกั ฐานการเรียนรู้ ความรู้ นาผลที่ไดจ้ ากการศึกษามาบันทึกลงในแฟ้ม - บนั ทกึ การเรยี นรู้ สะสมงาน ทาเป็นรายงาน ด้วยตนเอง - งาน กรต. - ประเมนิ - แฟ้มสะสมงาน

สาระ/รายวชิ า ผลการเรยี นรทู้ ีค่ าดหวัง การจัดกจิ กรรม วัน/เวลา สื่อการเรียนรู้ วัดผลประเมนิ ผล หัวเรอื่ ง/เน้อื หา (นามาจากตัวชี้วดั ใน ขั้นวางแผน (P) ๒๒ – ๒๔ ข้นั วางแผน (P) ขน้ั วางแผน (P) สาระทักษะการเรยี นรู้ หลักสตู ร) ๑. การกาหนดสภาพปัญหาความตอ้ งการใน กรกฏาคม ๒๕๖๓ - คมู่ ือการเรยี นร้ดู ว้ ย - กาหนดหลักฐาน รายวชิ าทักษะการเรียนรู้ การเรยี นรู้ ตนเอง การเรยี นรู้ หวั เรือ่ ง 3. สามารถใช้การจดั การ ขน้ั ดาเนินการ (D) - แบบหลกั ฐานการ - คะแนนระหวา่ ง ๓. การจดั การความรู้ ความรเู้ ป็นเคร่ืองมือในการ ๑. ครกู าหนดให้ผูเ้ รยี นไปศึกษาเรียนรดู้ ว้ ย เรียนรู้ ภาค เน้ือหา เรยี นรูด้ ้วยตนเอง ตนเองเร่ืองการจดั การความรู้ ขัน้ ดาเนินการ (D) ขน้ั ดาเนินการ (D) 3. กระบวนการจดั การ 4. สามารถจัดการความรู้ ๒. คิดกิจกรรมทส่ี ่งผลต่อการจดั การความรู้ - ห้องสมุด - ครูประเมิน ความรดู้ ว้ ยตนเอง (ระดับ โดยกระบวนการกลุ่ม แลว้ ออกมานาเสนอ - อินเตอร์เน็ต หลักฐานการเรยี นรู้ ปัจเจก) ๓. นาผลทไี่ ด้จากการศึกษามาบนั ทกึ ลงในแฟ้ม - บันทกึ การเรยี นรู้ สะสมงาน ด้วยตนเอง 3.1 กาหนดความรู้หลกั ๔. ครใู หผ้ ูเ้ รยี นนาผลงานท่ไี ด้จากการศึกษา - งาน กรต. ท่ีจาเป็นหรือสาคัญตอ่ งาน ค้นคว้ามานาเสนอในการพบกลุ่มคร้ังตอ่ ไป - ประเมนิ หรอื กจิ กรรม - แฟ้มสะสมงาน 3.2 เสาะแสวงหา ความรู้ 3.3 ประยกุ ต์ใช้ความรู้ 3.4 แลกเปล่ียนความรู้ 3.5 พัฒนาความรู้/ ยกระดบั ความร/ู้ ตอ่ ยอด ความรู้

สาระ/รายวิชา ผลการเรยี นรทู้ ่คี าดหวัง การจดั กิจกรรม วนั /เวลา ส่ือการเรยี นรู้ วดั ผลประเมินผล หัวเรอื่ ง/เนื้อหา (นามาจากตวั ชี้วัดใน ขน้ั วางแผน (P) ๒๙– ๓๑ ขัน้ วางแผน (P) ขน้ั วางแผน (P) สาระทักษะการเรียนรู้ หลกั สูตร) ๑. การกาหนดสภาพปญั หาความต้องการใน กรกฏาคม ๒๕๖๓ - คู่มือการเรยี นรู้ - กาหนดหลักฐานการ รายวชิ าทักษะการเรยี นรู้ การเรียนรู้ ด้วยตนเอง เรยี นรู้ หัวเร่อื ง 4.1 เข้าใจความหมายและ ขน้ั ดาเนนิ การ (D) - แบบหลกั ฐานการ - คะแนนระหวา่ งภาค ๔. การคิดเปน็ ความสาคญั ของการคิดเป็น ๑. ครูกาหนดใหผ้ เู้ รยี นไปศึกษาเรยี นรดู้ ว้ ย เรียนรู้ ขัน้ ดาเนนิ การ (D) เน้ือหา ตนเองเร่ืองการคิดเปน็ ขนั้ ดาเนนิ การ (D) - ครูประเมนิ หลกั ฐาน 1. ปรชั ญาคิดเป็น 2. ใหผ้ เู้ รยี นสรุปเร่ืองการคดิ เปน็ ลงใน - ห้องสมดุ การเรยี นรู้ กระดาษบรูบท่ีครูแจก - อนิ เตอรเ์ นต็ - บันทกึ การเรียนรู้ดว้ ย 1.1 ความหมายของการ นาผลท่ไี ดจ้ ากการศึกษามาติดไว้บนผนงั ห้อง ตนเอง คดิ เป็น 3. ครูให้ผเู้ รยี นนาผลงานทีไ่ ด้จากการศึกษา - งาน กรต. คน้ ควา้ มานาเสนอในการพบกลุ่มคร้ังตอ่ ไป - ประเมิน 1.2 ความสาคัญของการ - แฟม้ สะสมงาน คดิ เปน็ 1.3 หลกั การของการคิด เป็น

สาระ/รายวิชา ผลการเรียนร้ทู คี่ าดหวงั การจัดกิจกรรม วัน/เวลา สอ่ื การเรียนรู้ วดั ผลประเมนิ ผล หวั เรอื่ ง/เนือ้ หา (นามาจากตัวช้ีวัดใน ๑๒ – ๑๔ สิงหาคม ๒๕๖๓ หลกั สตู ร) สาระความรู้พน้ื ฐาน ๑. วิเคราะหค์ วาม ขั้นวางแผน (P) รายวชิ าภาษาไทย น่าเช่ือถอื จาการฟงั และดสู ่ือ ๑. การกาหนดสภาพปัญหาความต้องการใน ข้ันวางแผน (P) ขั้นวางแผน (P) หวั เรื่อง โฆษณาและขา่ วสาร การเรียนรู้ - คู่มือการเรียนรู้ - กาหนดหลักฐานการ การฟงั การดู ๒. วเิ คราะห์วิจารณก์ ารใช้ ขน้ั ดาเนินการ (D) ด้วยตนเอง เรียนรู้ เนอ้ื หา น้าเสยี ง กิริยาท่าทางถ้อยคา ๑. ผู้เรียนศกึ ษาเรื่องการเปน็ ผู้ฟังและพูดทีด่ ี - แบบหลกั ฐานการ - คะแนนระหว่างภาค ๑. หลกั การจบั ใจความสาคัญ ของ ผ้พู ูดอยา่ งมีเหตผุ ล จากตาราเรียนและสื่อและแหล่งเรยี นรู้ เรยี นรู้ ขนั้ ดาเนินการ (D) ของเร่ืองท่ีฟงั และดู ๓. ปฏิบตั ติ นเป็นผมู้ ี ๒. ผู้เรยี นคน้ ควา้ เก่ยี วกับการเป็นผูฟ้ งั และผู้พูด ขนั้ ดาเนินการ (D) - ครปู ระเมินหลกั ฐาน ๒. การวเิ คราะหว์ ิจารณ์ มารยาทในการฟัง พูด ทีด่ ี จาก Internet และสรุปใจความสาคัญท่ีได้ - หอ้ งสมดุ การเรียนรู้ ขอ้ เท็จจริง ข้อคดิ เห็น และ ให้เป็นกรอบมโนทศั น์(My mapping) - อนิ เตอร์เน็ต - บันทึกการเรยี นรดู้ ้วย สรุปความ ๓. ผู้เรยี นศกึ ษาใบความรู้และใบงานเรื่องการ ตนเอง ๓. การมมี ารยาทในการฟัง คุ้มครองผู้บริโภค ใบงานเรอ่ื งหลกั การพัฒนา - งาน กรต. พดู ชุมชน และลงมอื ปฏิบัตติ ามใบงาน - ประเมิน

สาระ/รายวชิ า ผลการเรยี นรู้ทคี่ าดหวงั การจดั กิจกรรม วนั /เวลา สื่อการเรียนรู้ วัดผลประเมนิ ผล หวั เรื่อง/เนอ้ื หา (นามาจากตัวช้ีวัดใน ขน้ั วางแผน (P) ๑๒ – ๑๔ ๑. การกาหนดสภาพปญั หาความตอ้ งการใน สิงหาคม ๒๕๖๓ หลักสูตร) การเรยี นรู้ ขน้ั ดาเนนิ การ (D) สาระความรพู้ ืน้ ฐาน ๑. อา่ นในใจได้คล่องและ ๑. ผู้เรียนหากาหนดแนวทางในการศึกษา เรียนรดู้ ว้ ยตนเอง ประสานเครอื ขา่ ยและแหลง่ รายวชิ าภาษาไทย เรว็ เรียนรู้ ขัน้ วางแผน (P) ขั้นวางแผน (P) ๒. ผเู้ รียนคน้ ควา้ หาข้อมูลด้วยตนเองจาก หัวเรือ่ ง ๒. อา่ นออกเสยี งอ่าน แหล่งเรยี นรู้ สื่อต่าง ๆ เร่ืองการอา่ นตามความ - คู่มอื การเรียนรู้ - กาหนดหลักฐานการ สนใจ ความต้องการ และความถนัด อย่างมี การอา่ น ทานองเสนาะไดอ้ ย่าง เปา้ หมาย รู้จักแสวงหาจากแหล่งเรยี นรู้ ใน ด้วยตนเอง เรียนรู้ หวั ข้อท่ไี ด้รับมอบหมาย เน้อื หา ถูกต้องตามลักษณะคา ๓. ผู้เรียนเลือกวธิ กี ารเรียนเร่อื ง “การอ่าน” - แบบหลกั ฐานการ - คะแนนระหว่างภาค ตามอัธยาศยั และประเมินความกา้ วหน้าของ ๑. หลักการอา่ นในใจจากสื่อ ประพันธ์ การเรียนรู้ของตนเอง ซึ่งทาด้วยตนเอง จากใบ เรียนรู้ ขนั้ ดาเนินการ (D) งานของครหู รือขอความช่วยเหลอื จากปราชญ์ ประเภทตา่ ง ๆ ๓. เลอื กอ่านหนงั สอื และ ๔. ให้ผเู้ รียนศกึ ษาความรู้เร่ือง หลกั การอา่ นใน ขน้ั ดาเนินการ (D) - ครปู ระเมินหลกั ฐาน ใจ จากส่ือประเภทต่าง ๆ หลกั การอ่านออก ๒. หลักการอ่านออกเสยี งที่ สือ่ สารสนเทศเพอื่ พัฒนา เสยี งทีเ่ ป็นท้ังร้อยแก้ว ร้อยกรอง หลกั การ - ห้องสมดุ การเรียนรู้ วเิ คราะหว์ ิจารณ์ มารยาทในการอา่ นและนิสัย เป็นท้งั ร้อยแกว้ และร้อยกรอง ตนเอง รกั การอา่ น จากแหล่งเรียนร้ตู ่าง ๆ รวมถึง - อินเตอรเ์ น็ต - บันทึกการเรยี นรดู้ ้วย แบบเรียน และ Internet ๓. หลกั การอ่านหนงั สอื และ ๔. วิเคราะห์ วจิ ารณ์ ตนเอง สอื่ สารสนเทศ แยกแยะข้อเทจ็ จรงิ - งาน กรต. ๔. หลกั การอ่านจบั ใจความ ข้อคิดเห็นและจุดมุง่ หมาย - ประเมิน สาคญั ของเรื่องท่ีอ่าน ๕. หลกั การวเิ คราะห์ วิจารณ์ ๕. ปฏบิ ัติตนเป็นผมู้ ี ๖. มารยาทในการอ่านและ มารยาทในการอ่านและมี นสิ ยั รักการอ่าน นสิ ยั รกั การอา่ น

สาระ/รายวชิ า ผลการเรียนร้ทู ี่คาดหวงั การจัดกจิ กรรม วนั /เวลา ส่อื การเรียนรู้ วัดผลประเมนิ ผล หวั เรือ่ ง/เนื้อหา (นามาจากตวั ช้ีวดั ใน ขัน้ วางแผน (P) ๑๙ – ๒๑ ขัน้ วางแผน (P) ขั้นวางแผน (P) สาระความร้พู น้ื ฐาน หลกั สูตร) ๑. การกาหนดสภาพปญั หาความต้องการใน สิงหาคม ๒๕๖๓ รายวิชาภาษาไทย การเรียนรู้ - คู่มอื การเรยี นรู้ - กาหนดหลักฐานการ หวั เรื่อง ๑. ใช้แผนภาพความคดิ ขัน้ ดาเนนิ การ (D) การเขยี น จดั ลาดับความคดิ ก่อนการ ๑. ผู้เรยี นกาหนดชอ่ื เรื่องหรือความคิดรวบ เนอื้ หา เขียน ยอดสาคญั ๑. หลักการเขยี นแผนภาพ ๒. ผเู้ รียนออกแบบแผนภาพความคดิ ความคิด ๓. ผเู้ รียนเขยี นแผนภาพความคิดและนาส่งครู ด้วยตนเอง เรยี นรู้ ตามที่กาหนด ๔. นาเสนอแผนภาพความคิดทไี่ ด้หนา้ ชน้ั เรยี น - แบบหลักฐานการ - คะแนนระหว่างภาค ในการพบกลมุ่ คร้ังตอ่ ไป เรียนรู้ ขัน้ ดาเนนิ การ (D) ขัน้ ดาเนนิ การ (D) - ครปู ระเมนิ หลักฐาน - ห้องสมดุ การเรยี นรู้ - อินเตอร์เนต็ - บนั ทกึ การเรียนรดู้ ว้ ย ตนเอง - งาน กรต. - ประเมิน - แฟม้ สะสมงาน

สาระ/รายวิชา ผลการเรยี นรู้ทีค่ าดหวัง การจัดกิจกรรม วัน/เวลา ส่อื การเรียนรู้ วดั ผลประเมนิ ผล หัวเรอ่ื ง/เนื้อหา (นามาจากตวั ชี้วัดใน ขน้ั วางแผน (P) ๑๙ – ๒๑ ๑. การกาหนดสภาพปญั หาความต้องการใน สงิ หาคม ๒๕๖๓ หลักสูตร) การเรยี นรู้ ๒. ครใู หผ้ ู้เรยี นท่องพยัญชนะ สระ และ สาระความรพู้ นื้ ฐาน ๑. ใชเ้ คร่อื งหมายวรรค วรรณยุกต์ ขั้นดาเนนิ การ (D) รายวชิ าภาษาไทย ตอนอักษรย่อ คาราชาศัพท์ ๑. ผ้เู รียนจัดทาใบงานเรือ่ งหลกั การใชภ้ าษา ขน้ั วางแผน (P) ขัน้ วางแผน (P) โดยการค้นหาคาตอบจากแหล่งเรยี นรตู้ า่ ง ๆ หัวเร่ือง ไดถ้ ูกตอ้ ง เชน่ หนงั สอื รายวชิ า Internet ปราชญ์ ฯลฯ - ค่มู อื การเรียนรู้ - กาหนดหลักฐานการ แลว้ นาเสนอขอคาปรึกษาจากครใู นการพบกลุ่ม หลกั การใช้ภาษา ๒. อธบิ ายความแตกตา่ ง คร้งั ต่อไป ดว้ ยตนเอง เรยี นรู้ เน้อื หา ระหว่างภาษาพูดและภาษา - แบบหลกั ฐานการ - คะแนนระหวา่ งภาค ๑. การใชเ้ ครอื่ งหมายวรรค เขียน เรียนรู้ ขัน้ ดาเนินการ (D) ตอน อักษรย่อ คาราชาศัพท์ ๓. อธิบายการใชค้ วาม ขัน้ ดาเนนิ การ (D) - ครูประเมินหลักฐาน และการใช้เลขไทย แตกตา่ งและความหมาย - ห้องสมดุ การเรียนรู้ ๒. การใช้คาและการสร้างคา ของสานวน สภุ าษติ คา - อนิ เตอร์เน็ต - บันทึกการเรยี นรู้ดว้ ย ในภาษาไทย พังเพย และนาไปใชใ้ น ตนเอง ๒.๑ การสร้างคา - งาน กรต. ๒.๒ คาประสม - ประเมนิ ๒.๓ คาซ้อน - แฟม้ สะสมงาน ๒.๔ คาสมาส คาสนธิ ๒.๕ หลักการสังเกตคาภาษา อ่ืน ๆ ทีใ่ ช้ในภาษาไทย ๓. ชนดิ ของประโยค ๔. การใชร้ ะดบั ภาษาทเี่ ปน็ ทางการและไม่เปน็ ทางการ ๕. การใชส้ านวน สภุ าษิต คา พังเพย

สาระ/รายวชิ า ผลการเรยี นรูท้ ี่คาดหวัง การจัดกจิ กรรม วัน/เวลา สือ่ การเรยี นรู้ วดั ผลประเมนิ ผล หัวเรอ่ื ง/เนื้อหา (นามาจากตวั ช้ีวดั ใน ขน้ั วางแผน (P) ๒๖ – ๒๘ ๑. การกาหนดสภาพปัญหาความตอ้ งการใน สิงหาคม ๒๕๖๓ หลกั สตู ร) การเรียนรู้ ข้ันดาเนนิ การ (D) สาระความรู้พื้นฐาน 1. อธบิ ายถึงประโยชน์ ๑. ครกู าหนดใหผ้ เู้ รยี นไปศึกษาเรียนรู้ด้วย ตนเองเร่ืองวรรณคดี วรรณกรรม รายวิชาภาษาไทย และคุณค่าของนิทาน 2. ใหผ้ ู้เรียนเขียนนทิ านจากวรรณคดตี ามทีต่ น ข้ันวางแผน (P) ขน้ั วางแผน (P) ชอบ หัวเรอ่ื ง นทิ านพน้ื บา้ น วรรณกรรม ๓. นาผลทไ่ี ด้จากการศกึ ษามาบนั ทึกลงในแฟ้ม - คูม่ ือการเรียนรู้ - กาหนดหลักฐานการ สะสมงาน วรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรมในท้องถนิ่ ด้วยตนเอง เรยี นรู้ เนอ้ื หา - แบบหลกั ฐานการ - คะแนนระหวา่ งภาค ๑. หลกั การพิจารณวรรณคดี เรยี นรู้ ขน้ั ดาเนนิ การ (D) ๒. หลักการหวั ใจวรรณกรรม ขั้นดาเนินการ (D) - ครปู ระเมินหลักฐาน ๓. ประวัตคิ วามเป็นมา - หอ้ งสมุด การเรยี นรู้ ลักษณะและคุณคา่ ของเพลง - อินเตอร์เนต็ - บันทกึ การเรยี นรู้ดว้ ย พื้นบา้ น เพลงกลอ่ มเด็ก ตนเอง ๔. หลักการพิจารณาวรรณคดี - งาน กรต. ด้านวรรณศลิ ปแ์ ละด้านสงั คม - ประเมนิ โดยศกึ ษาเร่ือง สามก๊ก - แฟม้ สะสมงาน ราชาธิราช กลอนเสภาขนุ ชา้ งขนุ แผน กลอนบทละคร เรื่องรามเกยี รต์ิ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook