Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พระราชบัญญัติ

พระราชบัญญัติ

Published by 945sce00462, 2021-01-31 13:36:48

Description: พระราชบัญญัติ

Search

Read the Text Version

พระราชบญั ญตั ิ ส่งเสริมและรักษาคุณภาพส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ใหไ้ ว้ ณ วนั ท่ี ๒๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๕ เป็นปี ท่ี ๔๗ ในรัชกาลปัจจุบนั พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกลา้ ฯ ให้ ประกาศวา่ โดยท่ีเป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายวา่ ดว้ ยการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดลอ้ ม แห่งชาติ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหต้ ราพระราชบญั ญตั ิข้ึนไวโ้ ดยคาแนะนาและยนิ ยอมของ สภานิติบญั ญตั ิแห่งชาติ ทาหนา้ ที่รัฐสภา ดงั ต่อไปน้ี มาตรา ๑ พระราชบญั ญตั ิน้ีเรียกวา่ “พระราชบญั ญตั ิส่งเสริมและรักษาคุณภาพส่ิงแวดลอ้ ม แห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕” มาตรา ๒[๑] พระราชบญั ญตั ิน้ีใหใ้ ชบ้ งั คบั เมื่อพน้ กาหนดหกสิบวนั นบั แตว่ นั ถดั จากวนั ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นตน้ ไป ๒๕๒๑ มาตรา ๓ ใหย้ กเลิก ๒๕๒๒ (๑) พระราชบญั ญตั ิส่งเสริมและรักษาคุณภาพส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๑๘ (๒) พระราชบญั ญตั ิส่งเสริมและรักษาคุณภาพส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติ (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. (๓) พระราชบญั ญตั ิส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติ (ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ. มาตรา ๔ ในพระราชบญั ญตั ิน้ี

“ส่ิงแวดลอ้ ม” หมายความวา่ ส่ิงตา่ ง ๆ ที่มีลกั ษณะทางกายภาพและชีวภาพท่ีอยรู่ อบตวั มนุษยซ์ ่ึงเกิดข้ึนโดยธรรมชาติและส่ิงท่ีมนุษยไ์ ดท้ าข้ึน “คุณภาพสิ่งแวดลอ้ ม” หมายความวา่ ดุลยภาพของธรรมชาติ อนั ไดแ้ ก่ สตั ว์ พืช และ ทรัพยากรธรรมชาติต่าง ๆ และสิ่งท่ีมนุษยไ์ ดท้ าข้ึน ท้งั น้ี เพื่อประโยชน์ตอ่ การดารงชีพของประชาชน และ ความสมบูรณ์สืบไปของมนุษยชาติ “มาตรฐานคุณภาพสิ่งแวดลอ้ ม” หมายความวา่ ค่ามาตรฐานคุณภาพน้า อากาศ เสียง และ สภาวะอ่ืน ๆ ของส่ิงแวดลอ้ ม ซ่ึงกาหนดเป็นเกณฑท์ วั่ ไปสาหรับการส่งเสริมและรักษาคุณภาพส่ิงแวดลอ้ ม “กองทุน” หมายความวา่ กองทุนสิ่งแวดลอ้ ม “มลพิษ” หมายความวา่ ของเสีย วตั ถุอนั ตราย และมลสารอื่น ๆ รวมท้งั กาก ตะกอน หรือสิ่ง ตกคา้ งจากส่ิงเหล่าน้นั ที่ถูกปล่อยทิง้ จากแหล่งกาเนิดมลพษิ หรือท่ีมีอยใู่ นส่ิงแวดลอ้ มตามธรรมชาติ ซ่ึง ก่อใหเ้ กิดหรืออาจก่อใหเ้ กิดผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดลอ้ ม หรือภาวะท่ีเป็นพิษภยั อนั ตรายต่อสุขภาพ อนามยั ของประชาชนได้ และใหห้ มายความรวมถึง รังสี ความร้อน แสง เสียง กล่ิน ความสัน่ สะเทือน หรือ เหตุราคาญอื่น ๆ ที่เกิดหรือถูกปล่อยออกจากแหล่งกาเนิดมลพิษดว้ ย “ภาวะมลพษิ ” หมายความวา่ สภาวะที่สิ่งแวดลอ้ มเปล่ียนแปลงหรือปนเป้ื อนโดยมลพิษซ่ึง ทาใหค้ ุณภาพของสิ่งแวดลอ้ มเสื่อมโทรมลง เช่น มลพษิ ทางน้า มลพิษทางอากาศ มลพิษในดิน “แหล่งกาเนิดมลพษิ ” หมายความวา่ ชุมชน โรงงานอุตสาหกรรม อาคาร ส่ิงก่อสร้าง ยานพาหนะ สถานที่ประกอบกิจการใด ๆ หรือสิ่งอื่นใด ซ่ึงเป็นแหล่งที่มาของมลพษิ “ของเสีย” หมายความวา่ ขยะมูลฝอย สิ่งปฏิกูล น้าเสีย อากาศเสีย มลสาร หรือวตั ถุอนั ตราย อื่นใด ซ่ึงถูกปล่อยทิ้งหรือมีท่ีมาจากแหล่งกาเนิดมลพษิ รวมท้งั กาก ตะกอน หรือสิ่งตกคา้ งจากส่ิงเหล่าน้นั ที่ อยใู่ นสภาพของแขง็ ของเหลว หรือก๊าซ “น้าเสีย” หมายความวา่ ของเสียท่ีอยใู่ นสภาพเป็นของเหลว รวมท้งั มลสารท่ีปะปนหรือ ปนเป้ื อนอยใู่ นของเหลวน้นั “อากาศเสีย” หมายความวา่ ของเสียท่ีอยใู่ นสภาพเป็นไอเสีย กลิ่นควนั กา๊ ซ เขมา่ ฝ่ นุ ละออง เถา้ ถ่าน หรือมลสารอื่นท่ีมีสภาพละเอียดบางเบาจนสามารถรวมตวั อยใู่ นบรรยากาศได้ “วตั ถุอนั ตราย” หมายความวา่ วตั ถุระเบิดได้ วตั ถุไวไฟ วตั ถุออกซิไดซ์ และวตั ถุเปอร์ ออกไซด์ วตั ถุมีพิษ วตั ถุท่ีทาใหเ้ กิดโรค วตั ถุกมั มนั ตรังสี วตั ถุที่ก่อใหเ้ กิดการเปลี่ยนแปลงทางพนั ธุกรรม วตั ถุกดั กร่อน วตั ถุท่ีก่อใหเ้ กิดการระคายเคือง วตั ถุอยา่ งอื่นไมว่ า่ จะเป็นเคมีภณั ฑ์ หรือส่ิงอื่นใดท่ีอาจทาให้ เกิดอนั ตรายแก่บุคคล สตั ว์ พืช ทรัพย์ หรือส่ิงแวดลอ้ ม “เหตุราคาญ” หมายความวา่ เหตุราคาญตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการสาธารณสุข “โรงงานอุตสาหกรรม” หมายความวา่ โรงงานตามกฎหมายวา่ ดว้ ยโรงงาน “อาคาร” หมายความวา่ อาคารตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการควบคุมอาคาร

“ยานพาหนะ” หมายความวา่ รถยนตห์ รือรถจกั รยานยนตต์ ามกฎหมายวา่ ดว้ ยรถยนต์ เรือ ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยเรือไทย และอากาศยานตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการเดินอากาศ “ผคู้ วบคุม” หมายความวา่ ผไู้ ดร้ ับใบอนุญาตใหท้ าการควบคุม ตรวจสอบ วเิ คราะห์ ดาเนินการ และบารุงรักษาระบบบาบดั น้าเสีย ระบบกาจดั ของเสีย หรืออุปกรณ์ เครื่องมือ เคร่ืองใชส้ าหรับ การควบคุม บาบดั หรือกาจดั มลพิษอ่ืนใด ซ่ึงเจา้ ของหรือผคู้ รอบครองแหล่งกาเนิดมลพิษจดั สร้างใหม้ ีข้ึน เพือ่ การบาบดั น้าเสีย กาจดั ของเสีย หรือมลพษิ อ่ืนใด ดว้ ยการลงทุนและเสียคา่ ใชจ้ า่ ยของตนเอง “ผรู้ ับจา้ งใหบ้ ริการ” หมายความวา่ ผไู้ ดร้ ับใบอนุญาตใหเ้ ป็นผูร้ ับจา้ งทาการบาบดั น้าเสีย หรือกาจดั ของเสีย หรือตรวจสอบคุณภาพส่ิงแวดลอ้ ม “เขตอนุรักษ”์ หมายความวา่ เขตอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพนั ธุ์สัตวป์ ่ า เขตสงวนเพือ่ การ ท่องเท่ียว และเขตพ้ืนท่ีคุม้ ครองอยา่ งอื่นเพื่อสงวนและรักษาสภาพธรรมชาติตามที่มีกฎหมายกาหนด “หน่วยงานของรัฐ”[๒] หมายความวา่ ส่วนราชการ รัฐวสิ าหกิจ องคก์ ารมหาชน องคก์ ร ปกครองส่วนทอ้ งถิ่น และหน่วยงานอ่ืนของรัฐที่มีกฎหมายจดั ต้งั “เจา้ พนกั งานทอ้ งถ่ิน” หมายความวา่ (๑) นายกเทศมนตรี สาหรับในเขตเทศบาล (๒) ประธานสุขาภิบาล สาหรับในเขตสุขาภิบาล (๓) ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั สาหรับในเขตองคก์ ารบริหารส่วนจงั หวดั (๔) ผวู้ า่ ราชการกรุงเทพมหานคร สาหรับในเขตกรุงเทพมหานคร (๕) ปลดั เมืองพทั ยา สาหรับในเขตเมืองพทั ยา (๖) หวั หนา้ ผบู้ ริหารทอ้ งถ่ินขององคก์ ารปกครองทอ้ งถ่ินอยา่ งอื่น นอกเหนือจาก (๑) ถึง (๕) ขา้ งตน้ ที่ไดร้ ับการประกาศกาหนดใหเ้ ป็นราชการส่วนทอ้ งถ่ินตามกฎหมายเฉพาะวา่ ดว้ ยการน้นั สาหรับในเขตราชการส่วนทอ้ งถ่ินน้นั “เจา้ พนกั งานควบคุมมลพษิ ” หมายความวา่ ผซู้ ่ึงรัฐมนตรีแตง่ ต้งั ใหป้ ฏิบตั ิการเก่ียวกบั การ ควบคุมมลพษิ ตามพระราชบญั ญตั ิน้ี “พนกั งานเจา้ หนา้ ที่” หมายความวา่ ผซู้ ่ึงรัฐมนตรีแต่งต้งั ใหม้ ีอานาจหนา้ ท่ีปฏิบตั ิการตาม พระราชบญั ญตั ิน้ี “รัฐมนตรี” หมายความวา่ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม* มาตรา ๕ ในกรณีท่ีบทบญั ญตั ิใดในพระราชบญั ญตั ิน้ีอา้ งถึงจงั หวดั หรือกาหนดใหเ้ ป็น อานาจหนา้ ที่ของผวู้ า่ ราชการจงั หวดั ใหห้ มายความรวมถึงกรุงเทพมหานคร หรือให้เป็นอานาจหนา้ ที่ของ ผวู้ า่ ราชการกรุงเทพมหานคร แลว้ แตก่ รณีดว้ ย

มาตรา ๖ เพ่ือประโยชนใ์ นการร่วมกนั ส่งเสริมและรักษาคุณภาพส่ิงแวดลอ้ มของชาติ บุคคล อาจมีสิทธิและหนา้ ที่ ดงั ต่อไปน้ี (๑) การไดร้ ับทราบขอ้ มูลและข่าวสารจากทางราชการในเร่ืองเกี่ยวกบั การส่งเสริมและ รักษาคุณภาพส่ิงแวดลอ้ ม เวน้ แต่ขอ้ มูลหรือข่าวสารที่ทางราชการถือวา่ เป็นความลบั เกี่ยวขอ้ งกบั การรักษา ความมน่ั คงแห่งชาติ หรือเป็ นความลบั เก่ียวกบั สิทธิส่วนบุคคล สิทธิในทรัพยส์ ิน หรือสิทธิในทางการคา้ หรือกิจการของบุคคลใดท่ีไดร้ ับความคุม้ ครองตามกฎหมาย (๒) การไดร้ ับชดใชค้ า่ เสียหาย หรือคา่ ทดแทนจากรัฐ ในกรณีที่ไดร้ ับความเสียหายจาก ภยนั ตรายท่ีเกิดจากการแพร่กระจายของมลพษิ หรือภาวะมลพษิ อนั มีสาเหตุมาจากกิจการหรือโครงการใดท่ี ริเร่ิม สนบั สนุน หรือดาเนินการ โดยส่วนราชการหรือรัฐวสิ าหกิจ (๓) การร้องเรียนกล่าวโทษผูก้ ระทาผดิ ต่อเจา้ พนกั งานในกรณีท่ีไดพ้ บเห็นการกระทาใด ๆ อนั เป็ นการละเมิด หรือฝ่ าฝืนกฎหมายเกี่ยวกบั การควบคุมมลพษิ หรือการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติ (๔) การใหค้ วามร่วมมือ และช่วยเหลือเจา้ พนกั งานในการปฏิบตั ิหนา้ ท่ีท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั การ ส่งเสริมและรักษาคุณภาพส่ิงแวดลอ้ ม (๕) การปฏิบตั ิตามพระราชบญั ญตั ิน้ีหรือกฎหมายอ่ืนท่ีเก่ียวขอ้ งกบั การส่งเสริมและรักษา คุณภาพสิ่งแวดลอ้ มโดยเคร่งครัด ท้งั น้ี ตามท่ีพระราชบญั ญตั ิน้ีหรือกฎหมายวา่ ดว้ ยการน้นั บญั ญตั ิไว้ มาตรา ๗ เพอื่ เป็นการสนบั สนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนในการส่งเสริมและรักษา คุณภาพสิ่งแวดลอ้ ม ใหอ้ งคก์ รเอกชนซ่ึงมีฐานะเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายไทย หรือกฎหมายตา่ งประเทศท่ี มีกิจกรรมเก่ียวขอ้ งโดยตรงกบั การคุม้ ครองส่ิงแวดลอ้ ม หรืออนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติ และมิไดม้ ี วตั ถุประสงคใ์ นทางการเมือง หรือมุ่งคา้ หากาไรจากการประกอบกิจกรรมดงั กล่าว มีสิทธิขอจดทะเบียนเป็น องคก์ รเอกชนดา้ นการคุม้ ครองส่ิงแวดลอ้ ม และอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติต่อกระทรวงทรัพยากร ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม* ตามหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเง่ือนไขท่ีกาหนดในกฎกระทรวง มาตรา ๘ องคก์ รเอกชนที่ไดจ้ ดทะเบียนตามมาตรา ๗ แลว้ อาจไดร้ ับการช่วยเหลือหรือ ไดร้ ับการสนบั สนุนจากทางราชการในเรื่อง ดงั ต่อไปน้ี (๑) การจดั ใหม้ ีอาสาสมคั รเพือ่ ช่วยเหลือการปฏิบตั ิงานของเจา้ พนกั งานตาม พระราชบญั ญตั ิน้ี หรือตามกฎหมายอ่ืนที่เกี่ยวขอ้ งกบั การส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดลอ้ ม (๒) การประชาสมั พนั ธ์ เผยแพร่ ขอ้ มูลหรือขา่ วสาร เพ่ือสร้างจิตสานึกของสาธารณชนท่ี ถูกตอ้ งเกี่ยวกบั การคุม้ ครองส่ิงแวดลอ้ ม และอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติ (๓) การช่วยเหลือประชาชนในพ้ืนท่ีใดพ้ืนท่ีหน่ึง ริเร่ิมโครงการหรือกิจกรรมเพอื่ คุม้ ครอง ส่ิงแวดลอ้ ม และอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติในพ้ืนท่ีน้นั

(๔) การศึกษาวจิ ยั เก่ียวกบั การคุม้ ครองส่ิงแวดลอ้ ม และอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติ และ เสนอแนะความคิดเห็นต่อรัฐบาลหรือส่วนราชการท่ีเกี่ยวขอ้ ง (๕) การใหค้ วามช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนผไู้ ดร้ ับอนั ตรายหรือความเสียหายจาก ภาวะมลพิษ อนั เกิดจากการรั่วไหลหรือแพร่กระจายของมลพิษ รวมท้งั เป็นผแู้ ทนในคดีท่ีมีการฟ้องร้องต่อ ศาล เพื่อเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน หรือค่าเสียหายใหแ้ ก่ผทู้ ี่ไดร้ ับอนั ตรายหรือความเสียหายน้นั ดว้ ย ในกรณีท่ีองคก์ รเอกชนที่ไดจ้ ดทะเบียนประสบปัญหาหรืออุปสรรคในการดาเนินกิจการ ตามวรรคหน่ึง และร้องขอใหค้ ณะกรรมการส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติช่วยเหลือ ใหน้ ายกรัฐมนตรีโดยคาแนะนา ของคณะกรรมการส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติมีอานาจสั่งใหค้ วามช่วยเหลือตามความเหมาะสม หรือส่ังใหส้ ่วน ราชการหรือรัฐวสิ าหกิจท่ีเกี่ยวขอ้ งดาเนินการช่วยเหลือหรืออานวยความสะดวกตอ่ ไป คณะกรรมการกองทุนโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติอาจ พจิ ารณาจดั สรรเงินทุนอุดหนุน หรือเงินกูใ้ หแ้ ก่องคก์ รเอกชนที่ไดจ้ ดทะเบียนแลว้ เพ่อื สนบั สนุนกิจกรรม อยา่ งใดอยา่ งหน่ึงไดต้ ามท่ีเห็นสมควร องคก์ รเอกชนท่ีไดจ้ ดทะเบียนแลว้ อาจเสนอชื่อผแู้ ทนภาคเอกชน เพอื่ ใหค้ ณะรัฐมนตรี พิจารณาแตง่ ต้งั เป็นกรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิในคณะกรรมการสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติได้ ในกรณีที่องคก์ รเอกชนใดท่ีไดจ้ ดทะเบียนแลว้ ดาเนินกิจการโดยก่อความวนุ่ วาย หรือขดั ต่อความสงบเรียบร้อย หรือไมเ่ หมาะสม ใหร้ ัฐมนตรีมีอานาจสัง่ เพิกถอนการจดทะเบียนขององคก์ รเอกชน น้นั ได้ มาตรา ๙ เม่ือมีเหตุฉุกเฉินหรือเหตุภยนั ตรายต่อสาธารณชนอนั เน่ืองมาจากภยั ธรรมชาติ หรือภาวะมลพษิ ท่ีเกิดจากการแพร่กระจายของมลพษิ ซ่ึงหากปล่อยไวเ้ ช่นน้นั จะเป็ นอนั ตรายอยา่ งร้ายแรง ต่อชีวติ ร่างกาย หรือสุขภาพอนามยั ของประชาชน หรือก่อความเสียหายต่อทรัพยส์ ินของประชาชน หรือ ของรัฐเป็ นอนั มาก ให้นายกรัฐมนตรีมีอานาจส่ังตามท่ีเห็นสมควร ให้ส่วนราชการ รัฐวสิ าหกิจ หรือ บุคคลใด รวมท้งั บุคคลซ่ึงไดร้ ับหรืออาจไดร้ ับอนั ตรายหรือความเสียหายดงั กล่าว กระทาหรือร่วมกนั กระทา การใด ๆ อนั จะมีผลเป็นการควบคุม ระงบั หรือบรรเทาผลร้ายจากอนั ตรายและความเสียหายท่ีเกิดข้ึนน้นั ไดอ้ ย่างทนั ท่วงที ในกรณีท่ีทราบวา่ บุคคลใดเป็ นผูก้ อ่ ใหเ้ กิดภาวะมลพิษดงั กล่าว ใหน้ ายกรัฐมนตรีมี อานาจสง่ั บุคคลน้นั ไม่ใหก้ ระทาการใดอนั จะมีผลเป็ นการเพ่ิมความรุนแรงแก่ภาวะมลพิษในระหวา่ งท่ีมีเหตุ ภยนั ตรายดงั กล่าวดว้ ย อานาจในการส่ังตามวรรคหน่ึง นายกรัฐมนตรีจะมอบอานาจใหผ้ วู้ า่ ราชการจงั หวดั ปฏิบตั ิ ราชการภายในเขตจงั หวดั แทนนายกรัฐมนตรีได้ โดยให้ทาเป็นคาส่ัง และประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อนายกรัฐมนตรีไดส้ ัง่ ตามวรรคหน่ึง หรือผวู้ า่ ราชการจงั หวดั ในการปฏิบตั ิราชการแทน นายกรัฐมนตรีไดส้ ั่งตามวรรคสองแลว้ ใหป้ ระกาศคาสัง่ ดงั กล่าวในราชกิจจานุเบกษาโดยมิชกั ชา้

มาตรา ๑๐ เพื่อเป็นการป้องกนั แกไ้ ข ระงบั หรือบรรเทาเหตุฉุกเฉิน หรือเหตุภยนั ตรายจาก ภาวะมลพษิ ตามมาตรา ๙ ใหร้ ัฐมนตรีกาหนดมาตรการป้องกนั และจดั ทาแผนฉุกเฉินเพ่ือแกไ้ ขสถานการณ์ ที่เกิดข้ึนไวล้ ่วงหนา้ มาตรา ๑๑ ใหน้ ายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีวา่ การกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอ้ ม* รักษาการตามพระราชบญั ญตั ิน้ี ท้งั น้ี ในส่วนท่ีเกี่ยวกบั อานาจหนา้ ที่ของตน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม* มีอานาจแต่งต้งั เจา้ พนกั งานควบคุมมลพษิ และพนกั งานเจา้ หนา้ ท่ี กบั ออกกฎกระทรวงกาหนดค่าธรรมเนียมไม่เกินอตั ราทา้ ย พระราชบญั ญตั ิน้ี และกาหนดกิจการอ่ืนเพ่ือปฏิบตั ิการตามพระราชบญั ญตั ิน้ี กฎกระทรวงน้นั เมื่อไดป้ ระกาศในราชกิจจานุเบกษาแลว้ ใหใ้ ชบ้ งั คบั ได้ หมวด ๑ คณะกรรมการส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติ มาตรา ๑๒ ใหม้ ีคณะกรรมการสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติ ประกอบดว้ ย นายกรัฐมนตรีเป็น ประธานกรรมการ รองนายกรัฐมนตรีซ่ึงนายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นรองประธานกรรมการคนท่ีหน่ึง รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม* เป็ นรองประธานกรรมการคนที่สอง รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงการคลงั รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงเกษตรและ สหกรณ์ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงคมนาคม รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีวา่ การ กระทรวงศึกษาธิการ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงสาธารณสุข รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงอุตสาหกรรม เลขาธิการ คณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ผอู้ านวยการสานกั งบประมาณ และกรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิเก่ียวกบั ส่ิงแวดลอ้ มไม่เกินแปดคนซ่ึง คณะรัฐมนตรีแตง่ ต้งั เป็นกรรมการ ในจานวนน้ีจะตอ้ งมีผแู้ ทนภาคเอกชนร่วมอยดู่ ว้ ยไมน่ อ้ ยกวา่ ก่ึงหน่ึง และปลดั กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม*เป็นกรรมการและเลขานุการ การแตง่ ต้งั กรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิใหพ้ จิ ารณาแต่งต้งั จากบุคคลซ่ึงมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ มีผลงานและประสบการณ์ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั การส่งเสริมและรักษาคุณภาพส่ิงแวดลอ้ ม มาตรา ๑๓ คณะกรรมการสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติมีอานาจและหนา้ ท่ี ดงั ต่อไปน้ี (๑) เสนอนโยบายและแผนการส่งเสริมและรักษาคุณภาพส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติ เพื่อขอความ เห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (๒) กาหนดมาตรฐานคุณภาพสิ่งแวดลอ้ มตามมาตรา ๓๒

(๓) พจิ ารณาใหค้ วามเห็นชอบในแผนจดั การคุณภาพสิ่งแวดลอ้ มที่รัฐมนตรีเสนอตาม มาตรา ๓๕ (๔) พิจารณาใหค้ วามเห็นชอบแผนปฏิบตั ิการเพ่ือการจดั การคุณภาพส่ิงแวดลอ้ มในระดบั จงั หวดั ตามมาตรา ๓๗ (๕) เสนอแนะมาตรการดา้ นการเงิน การคลงั การภาษีอากร และการส่งเสริมการลงทุนเพ่อื ปฏิบตั ิตามนโยบายและแผนการส่งเสริมและรักษาคุณภาพส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติต่อคณะรัฐมนตรี (๖) เสนอแนะใหม้ ีการแกไ้ ขเพ่มิ เติมหรือปรับปรุงกฎหมายเก่ียวกบั การส่งเสริมและรักษา คุณภาพส่ิงแวดลอ้ มต่อคณะรัฐมนตรี (๗) พจิ ารณาใหค้ วามเห็นชอบในแผนปฏิบตั ิการเพื่อป้องกนั หรือแกไ้ ขอนั ตรายอนั เกิดจาก การแพร่กระจายของมลพษิ หรือภาวะมลพิษท่ีคณะกรรมการควบคุมมลพษิ เสนอตามมาตรา ๕๓ (๑) (๘) พจิ ารณาใหค้ วามเห็นชอบในการกาหนดมาตรฐานควบคุมมลพษิ จากแหล่งกาเนิดท่ี รัฐมนตรีเสนอตามมาตรา ๕๕ (๙) กากบั ดูแลและเร่งรัดใหม้ ีการตราพระราชกฤษฎีกา ออกกฎกระทรวง ขอ้ บงั คบั ขอ้ บญั ญตั ิทอ้ งถิ่น ประกาศ ระเบียบ และคาส่ังที่จาเป็ น เพอื่ ใหก้ ฎหมายเกี่ยวกบั การส่งเสริมและรักษา คุณภาพสิ่งแวดลอ้ มมีความเป็นระบบโดยสมบูรณ์ (๑๐) เสนอความเห็นต่อนายกรัฐมนตรีเพ่ือพิจารณาสั่งการในกรณีที่ปรากฏวา่ ส่วน ราชการหรือรัฐวสิ าหกิจใด ฝ่ าฝืนหรือไม่ปฏิบตั ิตามกฎหมาย ระเบียบ หรือขอ้ บงั คบั เกี่ยวกบั การรักษา คุณภาพสิ่งแวดลอ้ มอนั อาจทาใหเ้ กิดความเสียหายอยา่ งร้ายแรง (๑๑) กาหนดมาตรการเพือ่ เสริมสร้างความร่วมมือและประสานงานระหวา่ งส่วนราชการ รัฐวสิ าหกิจ และเอกชนในเร่ืองท่ีเก่ียวกบั การส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดลอ้ ม (๑๒) กากบั การจดั การและบริหารเงินกองทุน (๑๓) เสนอรายงานเกี่ยวกบั สถานการณ์คุณภาพสิ่งแวดลอ้ มของประเทศต่อคณะรัฐมนตรี อยา่ งนอ้ ยปี ละหน่ึงคร้ัง (๑๔) ปฏิบตั ิการอื่นใดตามท่ีกาหนดไวใ้ นพระราชบญั ญตั ิน้ีหรือกฎหมายอ่ืนใหเ้ ป็นอานาจ หนา้ ท่ีของคณะกรรมการส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติ มาตรา ๑๔ ใหก้ รรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิซ่ึงคณะรัฐมนตรีแต่งต้งั มีวาระอยใู่ นตาแหน่งคราวละ สามปี แตอ่ าจไดร้ ับการแตง่ ต้งั ใหม่ไดเ้ ป็นระยะเวลาติดต่อกนั ไมเ่ กินอีกหน่ึงวาระ ในกรณีท่ีมีการแต่งต้งั กรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิเพม่ิ ข้ึนในระหวา่ งที่กรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิซ่ึง แตง่ ต้งั ไวแ้ ลว้ ยงั มีวาระอยใู่ นตาแหน่ง ใหผ้ ทู้ ี่ไดร้ ับแต่งต้งั ให้เป็นกรรมการผทู้ รงคุณวุฒิเพิม่ ข้ึนอยใู่ น ตาแหน่งเทา่ กบั วาระท่ีเหลืออยขู่ องกรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิท่ีไดร้ ับแตง่ ต้งั ไวแ้ ลว้

มาตรา ๑๕ นอกจากการพน้ จากตาแหน่งตามวาระตามมาตรา ๑๔ กรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิ ซ่ึงคณะรัฐมนตรีแตง่ ต้งั พน้ จากตาแหน่ง เมื่อ (๑) ตาย (๒) ลาออก (๓) เป็นบุคคลลม้ ละลาย (๔) เป็ นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ (๕) ไดร้ ับโทษจาคุกโดยคาพพิ ากษาถึงที่สุดใหจ้ าคุก เวน้ แตเ่ ป็ นโทษสาหรับความผิดท่ีได้ กระทาโดยประมาทหรือความผดิ ลหุโทษ (๖) คณะรัฐมนตรีใหอ้ อก เพราะไม่อาจปฏิบตั ิหนา้ ท่ีไดต้ ามปกติ หรือมีความประพฤติเส่ือม เสีย หรือมีส่วนไดเ้ สียในกิจการหรือธุรกิจใด ๆ ท่ีอาจมีผลกระทบโดยตรงหรือก่อใหเ้ กิดความเสียหายอยา่ ง ร้ายแรงตอ่ คุณภาพสิ่งแวดลอ้ ม ในกรณีท่ีกรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิพน้ จากตาแหน่งก่อนวาระ คณะรัฐมนตรีอาจแต่งต้งั ผอู้ ่ืน เป็นกรรมการผทู้ รงคุณวุฒิแทนได้ และใหผ้ ทู้ ่ีไดร้ ับแตง่ ต้งั ใหด้ ารงตาแหน่งแทนอยใู่ นตาแหน่งเทา่ กบั วาระท่ี เหลืออยขู่ องกรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิที่ตนแทน มาตรา ๑๖ ในการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติ ถา้ ประธานกรรมการไม่มา ประชุมหรือไม่อาจปฏิบตั ิหนา้ ที่ได้ ใหร้ องประธานกรรมการคนที่หน่ึงเป็นประธานในที่ประชุม ถา้ ประธาน กรรมการและรองประธานคนท่ีหน่ึงไม่มาประชุมหรือไม่อาจปฏิบตั ิหนา้ ท่ีได้ ใหร้ องประธานกรรมการคนที่ สองเป็นประธานในที่ประชุม ถา้ ประธานกรรมการและรองประธานกรรมการท้งั สองคนไม่มาประชุม หรือไม่อาจปฏิบตั ิหนา้ ที่ได้ ใหก้ รรมการที่มาประชุมเลือกกรรมการคนหน่ึงเป็นประธานในที่ประชุม มาตรา ๑๗ การประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติตอ้ งมีกรรมการมาประชุมไม่ นอ้ ยกวา่ ก่ึงหน่ึงของจานวนกรรมการท้งั หมด จึงจะเป็นองคป์ ระชุม การวนิ ิจฉยั ช้ีขาดของที่ประชุมใหถ้ ือเสียงขา้ งมาก กรรมการคนหน่ึงใหม้ ีเสียงหน่ึงในการ ลงคะแนน ถา้ คะแนนเสียงเท่ากนั ใหป้ ระธานในท่ีประชุมออกเสียงเพ่ิมข้ึนอีกเสียงหน่ึงเป็ นเสียงช้ีขาด มาตรา ๑๘ คณะกรรมการสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติอาจแต่งต้งั คณะกรรมการผชู้ านาญการ หรือ คณะอนุกรรมการ เพื่อพิจารณาหรือปฏิบตั ิการอยา่ งหน่ึงอยา่ งใดตามที่คณะกรรมการส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติจะ มอบหมายกไ็ ด้ การประชุมคณะกรรมการผชู้ านาญการและคณะอนุกรรมการ ใหน้ ามาตรา ๑๖ และมาตรา ๑๗ มาใชบ้ งั คบั โดยอนุโลม

มาตรา ๑๙ ใหค้ ณะกรรมการส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติมีอานาจเรียกใหส้ ่วนราชการ รัฐวสิ าหกิจ และบุคคลอื่น ส่งเอกสารการสารวจผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดลอ้ ม และเอกสารหรือขอ้ มูลท่ีเก่ียวขอ้ งของ โครงการและแผนงานของส่วนราชการ รัฐวสิ าหกิจ หรือบุคคลน้นั มาพจิ ารณา ในการน้ี อาจเรียกบุคคลที่ เก่ียวขอ้ งมาช้ีแจงดว้ ย หากเห็นวา่ โครงการและแผนงานใดอาจจะทาใหเ้ กิดผลเสียหายร้ายแรงต่อคุณภาพ ส่ิงแวดลอ้ ม ใหเ้ สนอมาตรการแกไ้ ขต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป ในกรณีที่เอกสารหรือขอ้ มูลที่คณะกรรมการสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติเรียกใหส้ ่งตามวรรคหน่ึง เป็นเอกสารหรือขอ้ มูลเกี่ยวกบั ความลบั อนั มีลกั ษณะเป็นสิทธิบตั รซ่ึงไดร้ ับความคุม้ ครองตามกฎหมายวา่ ดว้ ยสิทธิบตั ร ใหค้ ณะกรรมการส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติกาหนดวธิ ีการและมาตรการที่เหมาะสม เพ่อื ป้องกนั มิ ใหเ้ อกสารหรือขอ้ มูลเหล่าน้นั ถูกเผยแพร่สู่บุคคลอื่นใด นอกจากน้ี จะตอ้ งใชเ้ อกสารหรือขอ้ มูลน้นั เพยี งเพ่ือ วตั ถุประสงคข์ องมาตราน้ีเทา่ น้นั มาตรา ๒๐ ในการปฏิบตั ิการตามหนา้ ท่ี คณะกรรมการส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติ คณะกรรมการ ผชู้ านาญการ หรือคณะอนุกรรมการ อาจเชิญบุคคลใดมาใหข้ อ้ เทจ็ จริง คาอธิบาย ความเห็น หรือคาแนะนา ทางวชิ าการไดเ้ มื่อเห็นสมควร และอาจขอความร่วมมือจากบุคคลใดเพื่อใหไ้ ดม้ าซ่ึงขอ้ เทจ็ จริง หรือเพือ่ สารวจกิจกรรมใด ๆ ที่อาจมีผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดลอ้ ม มาตรา ๒๑ ในการปฏิบตั ิหนา้ ท่ีตามพระราชบญั ญตั ิน้ี คณะกรรมการสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติ อาจมอบหมายให้สานักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม* กรมควบคุมมลพษิ หรือกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดลอ้ ม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม* เป็นผปู้ ฏิบตั ิการหรือ เตรียมขอ้ เสนอมายงั คณะกรรมการสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติเพื่อพจิ ารณาดาเนินการตอ่ ไปได้ หมวด ๒ กองทุนสิ่งแวดลอ้ ม มาตรา ๒๒ ให้จดั ต้งั กองทุนข้ึนกองทุนหน่ึงเรียกวา่ “กองทุนสิ่งแวดลอ้ ม” ใน กระทรวงการคลงั ประกอบดว้ ย เงินและทรัพยส์ ิน ดงั ต่อไปน้ี (๑) เงินกองทุนน้ามนั เช้ือเพลิงตามจานวนที่นายกรัฐมนตรีกาหนด (๒) เงินที่โอนมาจากเงินทุนหมุนเวยี นเพือ่ การพฒั นาสภาพแวดลอ้ มและคุณภาพชีวิต ตาม พระราชบญั ญตั ิงบประมาณรายจา่ ยประจาปี งบประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๕ (๓) เงินค่าบริการและค่าปรับที่จดั เก็บตามพระราชบญั ญตั ิน้ี (๔) เงินอุดหนุนจากรัฐบาลเป็นคราว ๆ

(๕) เงินหรือทรัพยส์ ินอ่ืนท่ีไดร้ ับจากภาคเอกชนท้งั ภายในและภายนอกประเทศ รัฐบาล ต่างประเทศ หรือองคก์ ารระหวา่ งประเทศ (๖) เงินจากดอกผลและผลประโยชน์ใด ๆ ที่เกิดจากกองทุนน้ี (๗) เงินอื่น ๆ ที่ไดร้ ับมาเพ่ือดาเนินการกองทุนน้ี ใหก้ รมบญั ชีกลาง กระทรวงการคลงั เก็บรักษาเงินและทรัพยส์ ินของกองทุนสิ่งแวดลอ้ ม และดาเนินการเบิกจา่ ยเงินกองทุนสิ่งแวดลอ้ มตามพระราชบญั ญตั ิน้ี มาตรา ๒๓ เงินกองทุนใหใ้ ชจ้ ่ายเพ่อื กิจการ ดงั ต่อไปน้ี (๑) ใหส้ ่วนราชการหรือราชการส่วนทอ้ งถ่ินสาหรับการลงทุนและดาเนินงานระบบบาบดั น้าเสียรวม หรือระบบกาจดั ของเสียรวม รวมท้งั การจดั หาจดั ซ้ือ ท่ีดิน วสั ดุ อุปกรณ์ เคร่ืองมือ และเครื่องใชท้ ่ี จาเป็นสาหรับการดาเนินงาน และบารุงรักษาระบบดงั กล่าวดว้ ย (๒) ใหร้ าชการส่วนทอ้ งถิ่นหรือรัฐวสิ าหกิจกยู้ มื เพ่ือจดั ใหม้ ีระบบบาบดั อากาศเสียหรือน้า เสีย ระบบกาจดั ของเสีย หรืออุปกรณ์อื่นใด สาหรับใชเ้ ฉพาะในกิจการของราชการส่วนทอ้ งถ่ินหรือ รัฐวสิ าหกิจน้นั (๓) ใหเ้ อกชนกยู้ มื ในกรณีที่บุคคลน้นั มีหนา้ ท่ีตามกฎหมายท่ีจะตอ้ งจดั ใหม้ ีระบบบาบดั อากาศเสียหรือน้าเสีย ระบบกาจดั ของเสีย หรืออุปกรณ์อ่ืนใด เพอ่ื การควบคุมบาบดั หรือขจดั มลพิษที่เกิดจาก กิจกรรมหรือการดาเนินกิจการของตนเอง หรือบุคคลน้นั เป็นผไู้ ดร้ ับใบอนุญาตใหป้ ระกอบกิจการเป็นผู้ รับจา้ งใหบ้ ริการบาบดั น้าเสียหรือกาจดั ของเสียตามพระราชบญั ญตั ิน้ี (๔) เป็ นเงินช่วยเหลือและอุดหนุนกิจการใด ๆ ท่ีเก่ียวกบั การส่งเสริมและรักษาคุณภาพ สิ่งแวดลอ้ มตามท่ีคณะกรรมการกองทุนเห็นสมควร และโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสิ่งแวดลอ้ ม แห่งชาติ (๕) เป็ นคา่ ใชจ้ า่ ยในการบริหารกองทุน มาตรา ๒๔ ใหม้ ีคณะกรรมการกองทุนคณะหน่ึง ประกอบดว้ ย ปลดั กระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม*เป็นประธานกรรมการ ปลดั กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการ คณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผอู้ านวยการสานกั งบประมาณ อธิบดีกรมการ ปกครอง อธิบดีกรมบญั ชีกลาง อธิบดีกรมโยธาธิการและผงั เมือง* อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม อธิบดี กรมอุตสาหกรรมพ้ืนฐานและการเหมืองแร่* อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพ ส่ิงแวดลอ้ ม และกรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิไม่เกินหา้ คนซ่ึงคณะกรรมการส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติแตง่ ต้งั เป็น กรรมการ และเลขาธิการสานกั งานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม*เป็นกรรมการและ เลขานุการ

ใหน้ าความในมาตรา ๑๔ และมาตรา ๑๕ มาใชบ้ งั คบั กบั การดารงตาแหน่งของกรรมการ ผทู้ รงคุณวุฒิในคณะกรรมการกองทุนโดยอนุโลม มาตรา ๒๕ ใหค้ ณะกรรมการกองทุนมีอานาจหนา้ ที่ ดงั ต่อไปน้ี (๑) พิจารณาจดั สรรเงินกองทุนเพอื่ ใชต้ ามกิจการที่กาหนดไวใ้ นมาตรา ๒๓ (๒) กาหนดหลกั เกณฑ์ เง่ือนไข ระเบียบ และวธิ ีการขอจดั สรรหรือขอกูย้ มื เงินกองทุน (๓) กาหนดระเบียบเกี่ยวกบั อานาจหนา้ ท่ี และวธิ ีดาเนินงานของผจู้ ดั การกองทุนตามมาตรา ๒๙ และมาตรา ๓๐ ตลอดจนวธิ ีการประสานงานระหวา่ งคณะกรรมการกองทุน กรมบญั ชีกลาง และผจู้ ดั การ กองทุนตามมาตรา ๒๙ และมาตรา ๓๐ (๔) วางระเบียบการรับเงินและเบิกจ่ายเงินกองทุน (๕) กาหนดระยะเวลาชาระคืนเงินท่ีกูย้ มื จากกองทุนตามมาตรา ๒๓ (๒) หรือ (๓) รวมท้งั อตั ราดอกเบ้ียและหลกั ประกนั ตามความจาเป็นและเหมาะสม (๖) กาหนดอตั ราส่วนและหลกั เกณฑส์ าหรับการหกั เงินค่าบริการและคา่ ปรับส่งเขา้ กองทุน ตามมาตรา ๙๓ (๗) จดั ทารายงานการรับจ่ายเงินของกองทุนเสนอต่อคณะกรรมการสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติ ตามท่ีคณะกรรมการส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติกาหนด (๘) ปฏิบตั ิการอื่นใดตามท่ีกาหนดไวใ้ นพระราชบญั ญตั ิน้ี การกาหนดระเบียบตาม (๒) (๓) หรือ (๔) และการกาหนดแนวทางการดาเนินงานเพอ่ื ปฏิบตั ิหนา้ ท่ีตาม (๑) หรือ (๕) ของคณะกรรมการกองทุนจะตอ้ งไดร้ ับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ สิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติ คณะกรรมการกองทุนอาจแต่งต้งั คณะอนุกรรมการเพื่อพจิ ารณาและปฏิบตั ิการอยา่ งหน่ึง อยา่ งใดตามที่คณะกรรมการกองทุนจะมอบหมายก็ได้ มาตรา ๒๖ ใหน้ าความในมาตรา ๑๖ มาตรา ๑๗ และมาตรา ๒๐ มาใชบ้ งั คบั กบั การปฏิบตั ิ หนา้ ที่ของคณะกรรมการกองทุน และคณะอนุกรรมการที่คณะกรรมการกองทุนแตง่ ต้งั โดยอนุโลม มาตรา ๒๗ ในการพิจารณาจดั สรรเงินกองทุนตามมาตรา ๒๓ (๑) ใหค้ ณะกรรมการกองทุน พจิ ารณาคาขอจดั สรรในแผนปฏิบตั ิการเพอื่ การจดั การคุณภาพสิ่งแวดลอ้ มในระดบั จงั หวดั ตามมาตรา ๓๙ เพื่อทาการก่อสร้าง หรือดาเนินการใหม้ ีระบบบาบดั น้าเสีย หรือระบบกาจดั ของเสีย ซ่ึงไดร้ ับการจดั สรร งบประมาณแผน่ ดินตามมาตรา ๓๙ ใหแ้ ลว้ ส่วนหน่ึง หรือราชการส่วนทอ้ งถ่ินไดจ้ ดั สรรเงินรายไดข้ อง ราชการส่วนทอ้ งถ่ินสมทบดว้ ยแลว้ เป็นลาดบั แรก

สดั ส่วนระหวา่ งเงินงบประมาณแผน่ ดิน หรือเงินรายไดข้ องราชการส่วนทอ้ งถ่ินกบั เงินกองทุนท่ีคณะกรรมการกองทุนจะพจิ ารณาอนุมตั ิจดั สรรใหต้ ามวรรคหน่ึง ใหเ้ ป็ นไปตามหลกั เกณฑท์ ี่ คณะกรรมการส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติกาหนด มาตรา ๒๘ การจดั สรรเงินกองทุนใหร้ าชการส่วนทอ้ งถ่ิน รัฐวสิ าหกิจ หรือเอกชน ทาการ กูย้ มื ตามมาตรา ๒๓ (๒) หรือ (๓) ใหค้ ณะกรรมการกองทุนพิจารณาตามหลกั เกณฑแ์ ละเง่ือนไขที่ คณะกรรมการสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติกาหนด เพ่อื ประโยชน์ในการส่งเสริมใหม้ ีการปฏิบตั ิตามพระราชบญั ญตั ิน้ี คณะกรรมการกองทุน โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติ อาจจดั สรรเงินกองทุนใหร้ าชการส่วนทอ้ งถิ่น รัฐวสิ าหกิจ หรือเอกชนรายหน่ึงรายใดกูย้ มื เงินกองทุนได้ โดยมีกาหนดระยะยาวเป็นพเิ ศษ และจะ กาหนดใหล้ ดอตั ราดอกเบ้ียหรือยกเวน้ ดอกเบ้ียตามท่ีเห็นสมควรกไ็ ด้ มาตรา ๒๙ ใหอ้ ธิบดีกรมบญั ชีกลาง กระทรวงการคลงั เป็นผจู้ ดั การกองทุนในเงินกองทุน ส่วนท่ีจดั สรรใหส้ ่วนราชการหรือราชการส่วนทอ้ งถิ่นสาหรับการลงทุนและดาเนินงานระบบบาบดั น้าเสีย รวม หรือระบบกาจดั ของเสียรวมตามมาตรา ๒๓ (๑) และเงินกองทุนในส่วนอ่ืนที่คณะกรรมการกองทุน จดั สรรนอกเหนือจากมาตรา ๒๓ (๒) และ (๓) มาตรา ๓๐ คณะกรรมการกองทุนอาจมอบหมายใหส้ ถาบนั การเงินของรัฐท่ีเห็นสมควร หรือบรรษทั เงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เป็นผจู้ ดั การกองทุนในเงินกองทุนส่วนท่ีจดั สรรให้ ราชการส่วนทอ้ งถ่ิน รัฐวสิ าหกิจ หรือเอกชนกูย้ มื ตามมาตรา ๒๓ (๒) หรือ (๓) ได้ ในการดาเนินการตามวรรคหน่ึง ใหผ้ จู้ ดั การกองทุนมีหนา้ ที่วเิ คราะห์ความเป็นไปไดใ้ น ดา้ นการลงทุนและดา้ นวชิ าการ และใหม้ ีอานาจทาสัญญาใหก้ ูย้ มื แทนคณะกรรมการกองทุนในฐานะผใู้ หก้ ู้ เก็บรักษา และจ่ายเงินกองทุนส่วนน้ีใหผ้ กู้ ูต้ ามเง่ือนไขในสญั ญากูย้ มื รวมท้งั ติดตามทวงถาม และรับเงินท่ีผกู้ ู้ ชาระคืนพร้อมท้งั ดอกเบ้ียส่งเขา้ กองทุน และใหม้ ีอานาจกาหนดระเบียบเพือ่ ปฏิบตั ิการในการใหก้ ูย้ มื เงินได้ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการกองทุน สัญญากูย้ มื ตามวรรคสองจะตอ้ งมีเงื่อนไขซ่ึงเป็ นสาระสาคญั ของสัญญา กาหนดให้ผกู้ มู้ ี หนา้ ที่ตอ้ งใชเ้ งินที่กูย้ มื ไป เฉพาะเพ่ือประโยชนใ์ นการปฏิบตั ิหนา้ ที่ตามกฎหมายของผกู้ ทู้ ี่กาหนดไวใ้ น พระราชบญั ญตั ิน้ีหรือตามกฎหมายอ่ืนที่เก่ียวขอ้ งเท่าน้นั มาตรา ๓๑ เงินกองทุนส่ิงแวดลอ้ มท่ีกรมบญั ชีกลาง กระทรวงการคลงั เกบ็ รักษาไวต้ าม มาตรา ๒๒ ใหก้ รมบญั ชีกลางนาไปหาดอกผลโดยการฝากออมทรัพยห์ รือฝากประจากบั สถาบนั การเงินท่ี เป็ นของรัฐ

เงินรายไดข้ องกองทุนส่ิงแวดลอ้ มตามมาตรา ๒๒ ใหน้ าส่งเขา้ กองทุนสิ่งแวดลอ้ ม เพื่อใช้ ในกิจการตามท่ีบญั ญตั ิไวใ้ นมาตรา ๒๓ โดยไม่ตอ้ งนาส่งคลงั เป็นรายไดแ้ ผน่ ดิน หมวด ๓ การคุม้ ครองส่ิงแวดลอ้ ม ส่วนท่ี ๑ มาตรฐานคุณภาพส่ิงแวดลอ้ ม มาตรา ๓๒ เพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดลอ้ ม ใหค้ ณะกรรมการ ส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติมีอานาจประกาศในราชกิจจานุเบกษา กาหนดมาตรฐานคุณภาพส่ิงแวดลอ้ มในเรื่อง ต่อไปน้ี (๑) มาตรฐานคุณภาพน้าในแมน่ ้า ลาคลอง หนอง บึง ทะเลสาบ อ่างเก็บน้า และแหล่งน้า สาธารณะอื่น ๆ ที่อยภู่ ายในผนื แผน่ ดิน โดยจาแนกตามลกั ษณะการใชป้ ระโยชน์บริเวณพ้นื ท่ีลุ่มน้าในแต่ละ พ้นื ท่ี (๒) มาตรฐานคุณภาพน้าทะเลชายฝ่ังรวมท้งั บริเวณพ้ืนท่ีปากแมน่ ้า (๓) มาตรฐานคุณภาพน้าบาดาล (๔) มาตรฐานคุณภาพอากาศในบรรยากาศโดยทว่ั ไป (๕) มาตรฐานระดบั เสียงและความส่นั สะเทือนโดยทว่ั ไป (๖) มาตรฐานคุณภาพสิ่งแวดลอ้ มในเร่ืองอื่น ๆ การกาหนดมาตรฐานคุณภาพส่ิงแวดลอ้ มตามวรรคหน่ึง จะตอ้ งอาศยั หลกั วชิ าการ กฎเกณฑ์ และหลกั ฐานทางวทิ ยาศาสตร์เป็นพ้ืนฐาน และจะตอ้ งคานึงถึงความเป็ นไปไดใ้ นเชิงเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยที ี่เก่ียวขอ้ งดว้ ย มาตรา ๓๓ ในกรณีที่เห็นสมควร ใหค้ ณะกรรมการสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติมีอานาจกาหนด มาตรฐานคุณภาพส่ิงแวดลอ้ มใหส้ ูงกวา่ มาตรฐานคุณภาพสิ่งแวดลอ้ มที่กาหนดตามมาตรา ๓๒ เป็นพเิ ศษ สาหรับในเขตอนุรักษห์ รือเขตพ้ืนที่คุม้ ครองส่ิงแวดลอ้ มตามมาตรา ๔๓ หรือเขตพ้ืนที่ตามมาตรา ๔๕ หรือ เขตควบคุมมลพษิ ตามมาตรา ๕๙

มาตรา ๓๔ ใหค้ ณะกรรมการส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติมีอานาจปรับปรุงแกไ้ ขมาตรฐาน คุณภาพสิ่งแวดลอ้ มที่ไดก้ าหนดไวแ้ ลว้ ใหเ้ หมาะสมตามความกา้ วหนา้ ในทางวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และ ความเปลี่ยนแปลงในทางเศรษฐกิจและสงั คมของประเทศ ส่วนท่ี ๒ การวางแผนจดั การคุณภาพส่ิงแวดลอ้ ม มาตรา ๓๕ ใหร้ ัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติจดั ทา แผนปฏิบตั ิการเรียกวา่ “แผนจดั การคุณภาพส่ิงแวดลอ้ ม” เพือ่ ปฏิบตั ิตามนโยบายและแผนการส่งเสริมและ รักษาคุณภาพสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติ ซ่ึงกาหนดข้ึนตามมาตรา ๑๓ (๑) แผนจดั การคุณภาพสิ่งแวดลอ้ มตามวรรคหน่ึง ใหป้ ระกาศในราชกิจจานุเบกษา ใหส้ ่วนราชการท่ีเกี่ยวขอ้ งมีหนา้ ท่ีดาเนินการตามอานาจหนา้ ที่เพ่ือปฏิบตั ิการใหเ้ ป็ นไป ตามแผนจดั การคุณภาพส่ิงแวดลอ้ ม และเพ่ือใหก้ ารดาเนินการเป็นไปโดยบรรลุวตั ถุประสงคแ์ ละเป้าหมายที่ กาหนด ใหก้ ระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม*มีหนา้ ท่ีใหค้ าแนะนาแก่ส่วนราชการและ รัฐวสิ าหกิจที่เก่ียวขอ้ ง เพ่อื จดั ทาแผนงานหรือดาเนินการอยา่ งใดอยา่ งหน่ึงตามแผนจดั การคุณภาพ ส่ิงแวดลอ้ มน้นั มาตรา ๓๖ แผนจดั การคุณภาพสิ่งแวดลอ้ มตามมาตรา ๓๕ อาจจดั ทาเป็ นแผนระยะส้ัน ระยะกลาง หรือระยะยาวไดต้ ามความเหมาะสม และควรจะตอ้ งประกอบดว้ ยแผนงาน และแนวทางการ ดาเนินงานในเรื่อง ดงั ต่อไปน้ี (๑) การจดั การคุณภาพอากาศ น้า และคุณภาพส่ิงแวดลอ้ มในเรื่องอื่น ๆ (๒) การควบคุมมลพิษจากแหล่งกาเนิด (๓) การอนุรักษส์ ่ิงแวดลอ้ มธรรมชาติ ทรัพยากรธรรมชาติ หรือส่ิงแวดลอ้ มศิลปกรรม (๔) การประมาณการเงินงบประมาณแผน่ ดิน และเงินกองทุนที่จาเป็นสาหรับการ ดาเนินงานตามแผน (๕) การจดั องคก์ รและระเบียบการบริหารงานเพอื่ เสริมสร้างความร่วมมือและประสานงาน ระหวา่ งส่วนราชการที่เกี่ยวขอ้ ง และระหวา่ งส่วนราชการกบั เอกชน รวมท้งั การกาหนดอตั รากาลงั พนกั งาน เจา้ หนา้ ท่ีที่จาเป็นสาหรับการดาเนินงานตามแผน (๖) การตรากฎหมายและออกกฎขอ้ บงั คบั ขอ้ บญั ญตั ิทอ้ งถิ่น ระเบียบ คาสง่ั และประกาศท่ี จาเป็ นสาหรับการดาเนินงานตามแผน

(๗) การตรวจสอบ ติดตาม และวเิ คราะห์คุณภาพส่ิงแวดลอ้ ม เพื่อประโยชน์ในการ ประเมินผลการดาเนินงานตามแผน และการบงั คบั ใชก้ ฎหมายท่ีเกี่ยวขอ้ ง มาตรา ๓๗ เมื่อไดป้ ระกาศใชแ้ ผนจดั การคุณภาพส่ิงแวดลอ้ มในราชกิจจานุเบกษาแลว้ ใหผ้ วู้ า่ ราชการจงั หวดั ในทอ้ งที่เขตพ้ืนที่คุม้ ครองส่ิงแวดลอ้ มตามมาตรา ๔๓ หรือเขตควบคุมมลพิษตามมาตรา ๕๙ มีหนา้ ที่จดั ทาแผนปฏิบตั ิการเพอื่ การจดั การคุณภาพส่ิงแวดลอ้ มในระดบั จงั หวดั เสนอขอความเห็นชอบต่อ คณะกรรมการสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติภายในหน่ึงร้อยยส่ี ิบวนั นบั แต่วนั ท่ีคณะกรรมการส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติ ไดแ้ จง้ ใหจ้ งั หวดั น้นั จดั ทาแผนปฏิบตั ิการเพื่อการจดั การคุณภาพสิ่งแวดลอ้ มในระดบั จงั หวดั แต่ถา้ มีเหตุอนั สมควร คณะกรรมการสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติอาจขยายระยะเวลาดงั กล่าวออกไปไดอ้ ีกตามความเหมาะสม การจดั ทาแผนปฏิบตั ิการเพือ่ การจดั การคุณภาพสิ่งแวดลอ้ มในระดบั จงั หวดั สาหรับเขต ควบคุมมลพิษตามมาตรา ๕๙ ใหผ้ วู้ า่ ราชการจงั หวดั นาแผนปฏิบตั ิการเพ่ือลดและขจดั มลพษิ ในเขตควบคุม มลพิษซ่ึงเจา้ พนกั งานทอ้ งถิ่นจดั ทาข้ึนตามมาตรา ๖๐ มารวมเป็นส่วนหน่ึงของแผนปฏิบตั ิการเพื่อการ จดั การคุณภาพส่ิงแวดลอ้ มในระดบั จงั หวดั ดว้ ย ในกรณีท่ีจงั หวดั ใดไม่อยใู่ นเขตพ้ืนท่ีคุม้ ครองส่ิงแวดลอ้ มตามมาตรา ๔๓ หรือเขตควบคุม มลพษิ ตามมาตรา ๕๙ แต่ประสงคจ์ ะดาเนินการส่งเสริมและรักษาคุณภาพส่ิงแวดลอ้ มในเขตจงั หวดั ของตน ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั ของจงั หวดั น้นั อาจจดั ทาแผนปฏิบตั ิการเพ่ือการจดั การคุณภาพส่ิงแวดลอ้ มในระดบั จงั หวดั ใหส้ อดคลอ้ งกบั แผนจดั การคุณภาพส่ิงแวดลอ้ มเพื่อเสนอขอความเห็นชอบต่อคณะกรรมการ ส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติกไ็ ด้ มาตรา ๓๘ แผนปฏิบตั ิการเพอื่ การจดั การคุณภาพสิ่งแวดลอ้ มในระดบั จงั หวดั ที่จะเสนอ ตอ่ คณะกรรมการส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติ จะตอ้ งเป็นแผนปฏิบตั ิการที่เสนอระบบการจดั การคุณภาพ ส่ิงแวดลอ้ มตามแนวทางท่ีกาหนดไวใ้ นแผนจดั การคุณภาพส่ิงแวดลอ้ ม โดยคานึงถึงสภาพความรุนแรงของ ปัญหา และเง่ือนไขต่าง ๆ ในดา้ นเศรษฐกิจ สังคม และส่ิงแวดลอ้ มของจงั หวดั น้นั และควรจะตอ้ งมี สาระสาคญั ในเร่ือง ดงั ตอ่ ไปน้ี (๑) แผนการควบคุมมลพษิ จากแหล่งกาเนิด (๒) แผนการจดั หาและใหไ้ ดม้ าซ่ึงท่ีดิน วสั ดุ อุปกรณ์ เคร่ืองมือ และเครื่องใชท้ ี่จาเป็น สาหรับการก่อสร้าง ติดต้งั ปรับปรุง ดดั แปลง ซ่อมแซม บารุงรักษา และดาเนินการระบบบาบดั น้าเสียรวม หรือระบบกาจดั ของเสียรวมของส่วนราชการหรือราชการส่วนทอ้ งถิ่น (๓) แผนการจดั เก็บภาษีอากรและค่าบริการเพ่อื การดาเนินการ และบารุงรักษาระบบบาบดั น้าเสียรวม หรือระบบการกาจดั ของเสียรวมตาม (๒) (๔) แผนการตรวจสอบ ติดตาม และควบคุมการปล่อยทิ้งน้าเสียและของเสียอยา่ งอื่นจาก แหล่งกาเนิดมลพิษ

(๕) แผนการบงั คบั ใชก้ ฎหมายเพือ่ ป้องกนั และปราบปรามการละเมิด และฝ่ าฝืนกฎหมาย เก่ียวกบั การควบคุมมลพิษ การอนุรักษธ์ รรมชาติ ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอ้ มศิลปกรรม มาตรา ๓๙ แผนปฏิบตั ิการเพอ่ื การจดั การคุณภาพสิ่งแวดลอ้ มในระดบั จงั หวดั ที่จะไดร้ ับ การพจิ ารณาจากคณะกรรมการสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติในลาดบั แรก จะตอ้ งเสนอประมาณการเงินงบประมาณ แผน่ ดินและเงินกองทุน สาหรับการก่อสร้างหรือดาเนินการเพ่ือใหม้ ีระบบบาบดั น้าเสียรวม หรือระบบกาจดั ของเสียรวมตามมาตรา ๓๘ (๒) ดว้ ย ในกรณีที่จงั หวดั ใดยงั ไมพ่ ร้อมที่จะดาเนินการเพ่ือใหม้ ีระบบบาบดั น้า เสียรวม หรือระบบกาจดั ของเสียรวม อาจเสนอแผนการส่งเสริมใหเ้ อกชนลงทุนก่อสร้าง และดาเนินการ ระบบบาบดั น้าเสีย หรือระบบกาจดั ของเสีย เพ่ือใหบ้ ริการในเขตจงั หวดั น้นั แทน การจดั ทาแผนปฏิบตั ิการตามวรรคหน่ึง จะตอ้ งมีแบบแปลนรายการละเอียดและประมาณ การราคาของโครงการก่อสร้าง ติดต้งั ปรับปรุง ดดั แปลง ซ่อมแซม บารุงรักษา รวมท้งั กระบวนการและ วธิ ีดาเนินการระบบบาบดั น้าเสียรวม หรือระบบการกาจดั ของเสียรวมท่ีเสนอขอจดั สรรเงินงบประมาณและ เงินกองทุนดงั กล่าวประกอบคาขอดว้ ย เพื่อประโยชนใ์ นการใหค้ วามเห็นชอบแผนปฏิบตั ิการเพื่อการจดั การคุณภาพส่ิงแวดลอ้ ม ในระดบั จงั หวดั ซ่ึงจะตอ้ งมีคาขอจดั สรรเงินงบประมาณแผน่ ดินตามวรรคหน่ึง ใหส้ านกั งานนโยบายและ แผนทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม*มีหนา้ ท่ีในการรวบรวมและวเิ คราะห์แผนปฏิบตั ิการเพ่ือการ จดั การคุณภาพสิ่งแวดลอ้ มในระดบั จงั หวดั เพ่อื เสนอขอต้งั เป็ นงบประมาณรายจา่ ยประจาปี ของสานกั งาน นโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม*ไวเ้ พอ่ื การน้ีโดยเฉพาะ มาตรา ๔๐ ในกรณีท่ีการจดั การคุณภาพสิ่งแวดลอ้ มเรื่องใดเร่ืองหน่ึงจะตอ้ งดาเนินการใน พ้นื ท่ีที่คาบเก่ียวกนั ระหวา่ งพ้ืนที่ของสองจงั หวดั ข้ึนไปเนื่องจากลกั ษณะทางภูมิศาสตร์หรือระบบนิเวศน์ ตามธรรมชาติของพ้ืนที่น้นั หรือเพ่ือประโยชนใ์ นการจดั การอยา่ งเป็ นระบบตามหลกั การจดั การคุณภาพ ส่ิงแวดลอ้ มและทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกตอ้ งและเหมาะสม ใหผ้ วู้ า่ ราชการจงั หวดั ที่เก่ียวขอ้ งร่วมกนั จดั ทา แผนปฏิบตั ิการตามมาตรา ๓๗ มาตรา ๔๑ ในกรณีที่จงั หวดั ใดซ่ึงมีหนา้ ที่ตอ้ งจดั ทาแผนปฏิบตั ิการตามมาตรา ๓๗ ไม่ จดั ทาหรือไมส่ ามารถจดั ทาได้ หรือจดั ทาเสนอแลว้ แต่ไม่ไดร้ ับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดลอ้ ม แห่งชาติ ใหค้ ณะกรรมการสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติพจิ ารณาสภาพปัญหาคุณภาพสิ่งแวดลอ้ มของจงั หวดั น้นั วา่ มี ความรุนแรงถึงขนาดท่ีจาเป็ นจะตอ้ งดาเนินการอยา่ งหน่ึงอยา่ งใดหรือไม่ หากเห็นวา่ จาเป็น ให้ คณะกรรมการสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติเสนอต่อนายกรัฐมนตรีเพ่ือออกคาสั่งใหก้ ระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอ้ ม* เป็นผูจ้ ดั ทาแผนปฏิบตั ิการสาหรับจงั หวดั น้นั แทน

ส่วนที่ ๓ เขตอนุรักษแ์ ละพ้ืนที่คุม้ ครองส่ิงแวดลอ้ ม มาตรา ๔๒ การคุม้ ครองและจดั การพ้ืนที่ในเขตอุทยานแห่งชาติ และเขตรักษาพนั ธุ์สตั วป์ ่ า ใหเ้ ป็นไปตามแผนจดั การคุณภาพส่ิงแวดลอ้ มตามมาตรา ๓๕ และตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการน้นั มาตรา ๔๓ ในกรณีท่ีปรากฏวา่ พ้นื ที่ใดมีลกั ษณะเป็นพ้นื ท่ีตน้ น้าลาธาร หรือมีระบบ นิเวศน์ตามธรรมชาติท่ีแตกต่างจากพ้ืนท่ีอื่นโดยทวั่ ไป หรือมีระบบนิเวศน์ตามธรรมชาติท่ีอาจถูกทาลาย หรืออาจไดร้ ับผลกระทบกระเทือนจากกิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษยไ์ ดโ้ ดยง่าย หรือเป็ นพ้นื ที่ที่มีคุณค่าทาง ธรรมชาติหรือศิลปกรรมอนั ควรแก่การอนุรักษ์ และพ้ืนที่น้นั ยงั มิไดถ้ ูกประกาศกาหนดใหเ้ ป็ นเขตอนุรักษ์ ใหร้ ัฐมนตรีโดยคาแนะนาของคณะกรรมการส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติมีอานาจออกกฎกระทรวงกาหนดใหพ้ ้ืนท่ี น้นั เป็นเขตพ้ืนท่ีคุม้ ครองส่ิงแวดลอ้ ม มาตรา ๔๔ ในการออกกฎกระทรวงตามมาตรา ๔๓ ใหก้ าหนดมาตรการคุม้ ครองอยา่ งใด อยา่ งหน่ึง หรือหลายอยา่ ง ดงั ตอ่ ไปน้ี ไวใ้ นกฎกระทรวงดว้ ย (๑) กาหนดการใชป้ ระโยชน์ในที่ดินเพ่ือรักษาสภาพธรรมชาติ หรือมิใหก้ ระทบกระเทือน ตอ่ ระบบนิเวศนต์ ามธรรมชาติ หรือคุณคา่ ของส่ิงแวดลอ้ มศิลปกรรม (๒) หา้ มการกระทาหรือกิจกรรมใด ๆ ท่ีอาจเป็ นอนั ตราย หรือก่อใหเ้ กิดผลกระทบในทาง เปล่ียนแปลงระบบนิเวศน์ของพ้นื ท่ีน้นั จากลกั ษณะตามธรรมชาติ หรือเกิดผลกระทบต่อคุณค่าของ สิ่งแวดลอ้ มศิลปกรรม (๓) กาหนดประเภทและขนาดของโครงการหรือกิจการของส่วนราชการ รัฐวสิ าหกิจ หรือ เอกชนที่จะทาการก่อสร้างหรือดาเนินการในพ้นื ท่ีน้นั ใหม้ ีหนา้ ท่ีตอ้ งเสนอรายงานการประเมินผลกระทบ สิ่งแวดลอ้ ม (๔) กาหนดวธิ ีจดั การโดยเฉพาะสาหรับพ้ืนที่น้นั รวมท้งั การกาหนดขอบเขตหนา้ ที่และ ความรับผดิ ชอบของส่วนราชการที่เกี่ยวขอ้ ง เพ่อื ประโยชน์ในการร่วมมือและประสานงานใหเ้ กิด ประสิทธิภาพในการปฏิบตั ิงาน เพอ่ื รักษาสภาพธรรมชาติหรือระบบนิเวศน์ตามธรรมชาติหรือคุณคา่ ของ สิ่งแวดลอ้ มศิลปกรรมในพ้ืนที่น้นั (๕) กาหนดมาตรการคุม้ ครองอื่น ๆ ตามท่ีเห็นสมควรและเหมาะสมแก่สภาพของพ้ืนที่น้นั มาตรา ๔๕ ในพ้ืนที่ใดที่ไดม้ ีการกาหนดให้เป็ นเขตอนุรักษ์ เขตผงั เมืองรวม เขตผงั เมืองเฉพาะ เขตควบคุมอาคาร เขตนิคมอุตสาหกรรม ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการน้นั หรือเขตควบคุมมลพษิ ตาม

พระราชบญั ญตั ิน้ีไวแ้ ลว้ แต่ปรากฏวา่ มีสภาพปัญหาคุณภาพสิ่งแวดลอ้ มรุนแรงเขา้ ข้นั วกิ ฤตซ่ึงจาเป็นจะตอ้ ง ไดร้ ับการแกไ้ ขโดยทนั ทีและส่วนราชการที่เกี่ยวขอ้ งไม่มีอานาจตามกฎหมาย หรือไม่สามารถท่ีจะทาการ แกไ้ ขปัญหาได้ ใหร้ ัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติเสนอต่อ คณะรัฐมนตรีขออนุมตั ิเขา้ ดาเนินการเพ่ือใชม้ าตรการคุม้ ครองอยา่ งใดอยา่ งหน่ึง หรือหลายอยา่ งตามมาตรา ๔๔ ตามความจาเป็นและเหมาะสม เพื่อควบคุมและแกไ้ ขปัญหาในพ้นื ที่น้นั ได้ เมื่อไดร้ ับอนุมตั ิจากคณะรัฐมนตรีตามวรรคหน่ึงแลว้ ใหร้ ัฐมนตรีประกาศในราชกิจจา นุเบกษากาหนดเขตพ้นื ท่ี รายละเอียดเกี่ยวกบั มาตรการคุม้ ครอง และกาหนดระยะเวลาท่ีจะใชม้ าตรการ คุม้ ครองดงั กล่าวในพ้ืนที่น้นั การขยายระยะเวลาตามประกาศในวรรคสอง ใหก้ ระทาไดเ้ มื่อไดร้ ับความเห็นชอบจาก คณะกรรมการส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติและคณะรัฐมนตรี โดยทาเป็นประกาศในราชกิจจานุเบกษา ส่วนท่ี ๔ การจดั ทารายงานการประเมินผลกระทบส่ิงแวดลอ้ ม[๓] มาตรา ๔๖[๔] ในส่วนน้ี เวน้ แต่ขอ้ ความจะแสดงใหเ้ ห็นเป็นอยา่ งอื่น “การประเมินผลกระทบส่ิงแวดลอ้ ม” หมายความวา่ กระบวนการศึกษาและประเมินผลที่ อาจเกิดข้ึนจากการดาเนินโครงการหรือกิจการหรือการดาเนินการใดของรัฐหรือที่รัฐจะอนุญาตใหม้ ีการ ดาเนินการที่อาจมีผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ คุณภาพส่ิงแวดลอ้ ม สุขภาพ อนามยั คุณภาพชีวติ หรือ ส่วนไดเ้ สียอ่ืนใดของประชาชนหรือชุมชน ท้งั ทางตรงและทางออ้ ม โดยผา่ นกระบวนการการมีส่วนร่วม ของประชาชน เพื่อกาหนดมาตรการป้องกนั แกไ้ ขผลกระทบดงั กล่าว ผลการศึกษาเรียกวา่ รายงานการ ประเมินผลกระทบสิ่งแวดลอ้ ม “อนุญาต” หมายความวา่ การที่เจา้ หนา้ ที่ของหน่วยงานของรัฐยนิ ยอมใหบ้ ุคคลใดกระทา การใดที่มีกฎหมายกาหนดใหต้ อ้ งไดร้ ับความยนิ ยอมก่อนกระทาการน้นั และใหห้ มายความรวมถึงการออก ใบอนุญาต การอนุมตั ิ การจดทะเบียน การข้ึนทะเบียน การรับแจง้ การใหป้ ระทานบตั ร และการใหอ้ าชญา บตั รดว้ ย “ผดู้ าเนินการ” หมายความวา่ เจา้ ของโครงการหรือกิจการหรือการดาเนินการที่ตอ้ งจดั ทา รายงานการประเมินผลกระทบส่ิงแวดลอ้ มตามมาตรา ๔๘ และใหห้ มายความรวมถึงผจู้ ดั การของนิติบุคคล อาคารชุดสาหรับทรัพยส์ ่วนกลางตามกฎหมายวา่ ดว้ ยอาคารชุด และผจู้ ดั สรรท่ีดินหรือคณะกรรมการ หมู่บา้ นจดั สรรของนิติบุคคลหมูบ่ า้ นจดั สรรสาหรับสาธารณูปโภคตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการจดั สรรท่ีดินดว้ ย

มาตรา ๔๗[๕] ในกรณีที่มีการประเมินสิ่งแวดลอ้ มระดบั ยทุ ธศาสตร์ตามระเบียบหรือ กฎหมายอื่นใดไวแ้ ลว้ การประเมินผลกระทบส่ิงแวดลอ้ มใหค้ านึงถึงผลการประเมินส่ิงแวดลอ้ มระดบั ยทุ ธศาสตร์ดงั กล่าวดว้ ย มาตรา ๔๘[๖] เพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมและรักษาคุณภาพส่ิงแวดลอ้ ม ใหร้ ัฐมนตรีโดย ความเห็นชอบของคณะกรรมการสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติมีอานาจประกาศกาหนดใหโ้ ครงการหรือกิจการหรือ การดาเนินการใดของรัฐหรือที่รัฐจะอนุญาตใหผ้ ใู้ ดดาเนินการ เป็นโครงการหรือกิจการหรือการดาเนินการ ท่ีมีผลกระทบสิ่งแวดลอ้ ม หรือท่ีอาจมีผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ คุณภาพส่ิงแวดลอ้ ม สุขภาพ อนามยั คุณภาพชีวติ หรือส่วนไดเ้ สียสาคญั อ่ืนใดของประชาชนหรือชุมชนหรือส่ิงแวดลอ้ มอยา่ งรุนแรง ซ่ึง ผดู้ าเนินการหรือผขู้ ออนุญาตตอ้ งจดั ทารายงานการประเมินผลกระทบส่ิงแวดลอ้ ม หลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเงื่อนไขในการจดั ทารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดลอ้ มตาม วรรคหน่ึง ใหเ้ ป็นไปตามท่ีรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติประกาศ กาหนด โดยจะกาหนดใหแ้ ตกต่างกนั ตามประเภทหรือขนาดของโครงการหรือกิจการหรือการดาเนินการก็ ได้ และอยา่ งนอ้ ยตอ้ งประกอบดว้ ยสาระสาคญั เกี่ยวกบั รายละเอียดโครงการหรือกิจการหรือการดาเนินการ สภาพส่ิงแวดลอ้ มปัจจุบนั การประเมินทางเลือกในการดาเนินการ การประเมินผลกระทบสิ่งแวดลอ้ มท่ีอาจ เกิดข้ึนจากโครงการหรือกิจการหรือการดาเนินการท้งั ทางตรงและทางออ้ ม การมีส่วนร่วมของประชาชนใน การประเมินผลกระทบสิ่งแวดลอ้ ม และมาตรการป้องกนั แกไ้ ขผลกระทบสิ่งแวดลอ้ มและการชดเชยเยยี วยา ความเดือดร้อนหรือเสียหาย การจดั ทารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดลอ้ มสาหรับโครงการหรือกิจการหรือการ ดาเนินการของรัฐหรือท่ีรัฐจะอนุญาตใหผ้ ใู้ ดดาเนินการที่อาจมีผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ คุณภาพ ส่ิงแวดลอ้ ม สุขภาพ อนามยั คุณภาพชีวติ หรือส่วนไดเ้ สียสาคญั อื่นใดของประชาชนหรือชุมชนหรือ ส่ิงแวดลอ้ มอยา่ งรุนแรง ผดู้ าเนินการหรือผขู้ ออนุญาตตอ้ งประเมินผลกระทบดา้ นสุขภาพ และจดั ใหม้ ีการ รับฟังความคิดเห็นของผมู้ ีส่วนไดเ้ สียและประชาชนและชุมชนท่ีเกี่ยวขอ้ ง ตามหลกั เกณฑ์ วธิ ีการและ เง่ือนไขท่ีรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติประกาศกาหนดเป็ นการ เพิม่ เติมจากท่ีตอ้ งดาเนินการตามวรรคสองดว้ ย ใหส้ านกั งานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มเสนอคณะกรรมการ ส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติเพื่อพิจารณาทบทวนประกาศตามวรรคหน่ึงทุกรอบระยะเวลาหา้ ปี หรือในกรณีที่มี ความจาเป็นจะดาเนินการใหเ้ ร็วกวา่ น้นั กไ็ ด้ มาตรา ๔๙[๗] ในกรณีที่โครงการหรือกิจการหรือการดาเนินการท่ีตอ้ งจดั ทารายงานการ ประเมินผลกระทบสิ่งแวดลอ้ มตามมาตรา ๔๘ เป็ นโครงการหรือกิจการหรือการดาเนินการของหน่วยงาน ของรัฐหรือหน่วยงานของรัฐดาเนินการร่วมกบั เอกชนท่ีตอ้ งเสนอขอรับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี

ตามระเบียบปฏิบตั ิของทางราชการ ใหห้ น่วยงานของรัฐซ่ึงเป็นผรู้ ับผิดชอบโครงการหรือกิจการหรือการ ดาเนินการน้นั จดั ทารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดลอ้ มต้งั แตใ่ นระยะทาการศึกษาความเหมาะสม ของโครงการหรือกิจการหรือการดาเนินการ และเสนอต่อคณะกรรมการส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติเพือ่ เสนอ ความเห็นประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ในการพจิ ารณาเสนอความเห็นของคณะกรรมการ สิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติใหม้ ีความเห็นของคณะกรรมการผชู้ านาญการประกอบการพิจารณาดว้ ย ในการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบส่ิงแวดลอ้ มตามวรรคหน่ึง คณะรัฐมนตรี อาจขอใหบ้ ุคคลหรือสถาบนั ใดซ่ึงมีความชานาญหรือเชี่ยวชาญเก่ียวกบั การประเมินผลกระทบส่ิงแวดลอ้ ม ทาการศึกษาและเสนอรายงานหรือความเห็นเพ่ือประกอบการพจิ ารณาดว้ ยกไ็ ด้ กรณีโครงการหรือกิจการหรือการดาเนินการที่ตอ้ งจดั ทารายงานการประเมินผลกระทบ ส่ิงแวดลอ้ มตามมาตรา ๔๘ เป็นโครงการหรือกิจการหรือการดาเนินการของหน่วยงานของรัฐที่ไม่ตอ้ งเสนอ ขอรับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีหรือไมต่ อ้ งไดร้ ับอนุญาตตามกฎหมาย ใหห้ น่วยงานของรัฐซ่ึงเป็ น ผรู้ ับผดิ ชอบโครงการหรือกิจการหรือการดาเนินการน้นั จดั ทาและเสนอรายงานการประเมินผลกระทบ ส่ิงแวดลอ้ มตามหลกั เกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไขท่ีกาหนดไวใ้ นมาตรา ๕๐ และมาตรา ๕๑/๑ ดว้ ยโดยอนุโลม ในกรณีที่โครงการหรือกิจการหรือการดาเนินการท่ีตอ้ งจดั ทารายงานการประเมินผล กระทบสิ่งแวดลอ้ มตามวรรคหน่ึงเป็นโครงการหรือกิจการหรือการดาเนินการดา้ นการคมนาคมขนส่ง การ ชลประทาน การป้องกนั สาธารณภยั โรงพยาบาล หรือที่อยอู่ าศยั ท่ีมีความจาเป็นเร่งด่วนเพ่ือประโยชน์ สาธารณะ ในระหวา่ งที่รอผลการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบส่ิงแวดลอ้ มหน่วยงานของรัฐซ่ึง เป็นผรู้ ับผดิ ชอบโครงการหรือกิจการหรือการดาเนินการน้นั อาจเสนอคณะรัฐมนตรีเพอ่ื พิจารณาอนุมตั ิให้ ดาเนินกระบวนการหรือข้นั ตอนเพื่อใหไ้ ดม้ าซ่ึงเอกชนที่จะเป็นผรู้ ับงานน้นั ไปพลางก่อนได้ แต่จะลงนาม ผกู พนั ในสญั ญาหรือใหส้ ิทธิกบั เอกชนผนู้ ้นั ไม่ได้ มาตรา ๕๐[๘] ในกรณีที่โครงการหรือกิจการหรือการดาเนินการที่ตอ้ งจดั ทารายงานการ ประเมินผลกระทบส่ิงแวดลอ้ มตามมาตรา ๔๘ เป็นโครงการหรือกิจการหรือการดาเนินการที่จะตอ้ งไดร้ ับ อนุญาตตามกฎหมายก่อนเร่ิมการก่อสร้างหรือดาเนินการ ใหผ้ ดู้ าเนินการหรือผขู้ ออนุญาตเสนอรายงานการ ประเมินผลกระทบส่ิงแวดลอ้ มต่อเจา้ หนา้ ท่ีซ่ึงมีอานาจอนุญาตตามกฎหมายน้นั และต่อสานกั งานนโยบาย และแผนทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มหรือหน่วยงานของรัฐตามท่ีคณะกรรมการสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติ มอบหมายใหป้ ฏิบตั ิหนา้ ท่ีแทน ในการเสนอรายงานดงั กล่าวอาจจดั ทาเป็นรายงานผลกระทบสิ่งแวดลอ้ ม เบ้ืองตน้ ตามหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีกาหนดตามมาตรา ๔๘ วรรคสองก็ได้ ใหเ้ จา้ หนา้ ท่ีซ่ึงมีอานาจอนุญาตตามกฎหมายรอการสงั่ อนุญาตสาหรับโครงการหรือกิจการ หรือการดาเนินการตามวรรคหน่ึงไวจ้ นกวา่ รายงานการประเมินผลกระทบส่ิงแวดลอ้ มจะไดร้ ับความเห็น ชอบหรือถือวา่ ไดร้ ับความเห็นชอบจากคณะกรรมการผชู้ านาญการ และไดร้ ับหนงั สือแจง้ ผลการพิจารณา

รายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดลอ้ มดงั กล่าวจากสานกั งานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดลอ้ มหรือหน่วยงานของรัฐตามที่คณะกรรมการส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติมอบหมายใหป้ ฏิบตั ิหนา้ ท่ีแทน ใหส้ านกั งานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มหรือหน่วยงานของรัฐ ตามท่ีคณะกรรมการส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติมอบหมายใหป้ ฏิบตั ิหนา้ ที่แทนตรวจสอบรายงานการประเมินผล กระทบส่ิงแวดลอ้ มและเอกสารที่เก่ียวขอ้ งท่ีเสนอมา หากเห็นวา่ รายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดลอ้ ม น้นั มิไดจ้ ดั ทาใหถ้ ูกตอ้ งตามหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเงื่อนไขท่ีกาหนดไวใ้ นมาตรา ๔๘ วรรคสอง หรือวรรค สาม หรือมีเอกสารไม่ครบถว้ น ใหส้ านกั งานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มหรือ หน่วยงานของรัฐตามท่ีคณะกรรมการส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติมอบหมายใหป้ ฏิบตั ิหนา้ ท่ีแทนแจง้ ให้ ผดู้ าเนินการหรือผขู้ ออนุญาตที่เสนอรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดลอ้ มทราบภายในสิบหา้ วนั นบั แต่ วนั ท่ีไดร้ ับรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดลอ้ มน้นั ในกรณีท่ีสานกั งานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มหรือหน่วยงาน ของรัฐตามท่ีคณะกรรมการส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติมอบหมายใหป้ ฏิบตั ิหนา้ ท่ีแทนเห็นวา่ รายงานการ ประเมินผลกระทบส่ิงแวดลอ้ มไดจ้ ดั ทาถูกตอ้ งและมีเอกสารครบถว้ น หรือไดม้ ีการแกไ้ ขเพ่มิ เติมใหถ้ ูกตอ้ ง และครบถว้ นตามวรรคสามแลว้ ใหส้ านกั งานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มหรือ หน่วยงานของรัฐตามที่คณะกรรมการส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติมอบหมายใหป้ ฏิบตั ิหนา้ ที่แทนพิจารณาเสนอ ความเห็นเบ้ืองตน้ เก่ียวกบั รายงานการประเมินผลกระทบส่ิงแวดลอ้ มดงั กล่าวใหแ้ ลว้ เสร็จภายในสามสิบวนั นบั แตว่ นั ที่ไดร้ ับรายงานการประเมินผลกระทบส่ิงแวดลอ้ มน้นั เพือ่ เสนอใหค้ ณะกรรมการผชู้ านาญการ พิจารณาต่อไป ในการดาเนินการตามมาตราน้ี สานกั งานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอ้ มโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติอาจมอบหมายใหห้ น่วยงานของรัฐ แห่งอ่ืนปฏิบตั ิหนา้ ท่ีแทนได้ เวน้ แต่โครงการหรือกิจการหรือการดาเนินการที่ตอ้ งจดั ทารายงานการ ประเมินผลกระทบสิ่งแวดลอ้ มตามวรรคหน่ึง เป็นโครงการหรือกิจการหรือการดาเนินการท่ีอาจมีผลกระทบ ตอ่ ทรัพยากรธรรมชาติ คุณภาพส่ิงแวดลอ้ ม สุขภาพ อนามยั คุณภาพชีวติ หรือส่วนไดเ้ สียสาคญั อ่ืนใดของ ประชาชนหรือชุมชนหรือส่ิงแวดลอ้ มอยา่ งรุนแรง หรือเป็ นโครงการหรือกิจการหรือการดาเนินการตาม มาตรา ๔๙ วรรคส่ี ท้งั น้ี ตามหลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการท่ีคณะกรรมการส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติประกาศกาหนด ใหห้ น่วยงานของรัฐตามท่ีคณะกรรมการส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติมอบหมายใหป้ ฏิบตั ิหนา้ ท่ี แทนตามวรรคหา้ รายงานผลการปฏิบตั ิงานและการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดลอ้ มของ คณะกรรมการผชู้ านาญการใหค้ ณะกรรมการสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติทราบภายในระยะเวลา และตาม หลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการที่คณะกรรมการส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติประกาศกาหนด มาตรา ๕๑[๙] ใหค้ ณะกรรมการสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติแต่งต้งั คณะกรรมการผชู้ านาญการเพือ่ ทาหนา้ ท่ีพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดลอ้ ม ซ่ึงตอ้ งประกอบดว้ ยผทู้ รงคุณวฒุ ิหรือ

ผเู้ ชี่ยวชาญในสาขาวชิ าการต่าง ๆ ที่เกี่ยวขอ้ ง และจะตอ้ งมีเจา้ หนา้ ที่ซ่ึงมีอานาจอนุญาตในกิจการอนั เป็น สาระสาคญั สาหรับการดาเนินโครงการหรือกิจการหรือการดาเนินการน้นั ตามกฎหมายร่วมเป็นกรรมการอยู่ ดว้ ย หลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเงื่อนไขในการแต่งต้งั กรรมการผชู้ านาญการตามวรรคหน่ึง ให้ เป็นไปตามที่คณะกรรมการสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติประกาศกาหนด ใหน้ าความในมาตรา ๑๖ และมาตรา ๑๗ มาใชบ้ งั คบั แก่การประชุมคณะกรรมการ ผชู้ านาญการตามวรรคหน่ึงดว้ ยโดยอนุโลม มาตรา ๕๑/๑[๑๐] ใหค้ ณะกรรมการผชู้ านาญการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบ สิ่งแวดลอ้ มใหแ้ ลว้ เสร็จภายในสี่สิบหา้ วนั นบั แต่วนั ที่ไดร้ ับรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดลอ้ มจาก สานกั งานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มหรือหน่วยงานของรัฐตามท่ีคณะกรรมการ ส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติมอบหมายใหป้ ฏิบตั ิหนา้ ที่แทน ถา้ คณะกรรมการผชู้ านาญการมิไดพ้ จิ ารณาใหแ้ ลว้ เสร็จ ภายในกาหนดเวลาดงั กล่าวใหถ้ ือวา่ คณะกรรมการผชู้ านาญการใหค้ วามเห็นชอบ ในกรณีท่ีคณะกรรมการผชู้ านาญการไมใ่ หค้ วามเห็นชอบ ใหผ้ ดู้ าเนินการหรือผขู้ ออนุญาต แกไ้ ขเพ่มิ เติมหรือจดั ทารายงานการประเมินผลกระทบส่ิงแวดลอ้ มใหม่ตามแนวทาง รายละเอียด ประเด็น หรือหวั ขอ้ ท่ีคณะกรรมการผชู้ านาญการกาหนดภายในหน่ึงร้อยแปดสิบวนั นบั แต่วนั ท่ีไดร้ ับแจง้ ผลการ พิจารณาของคณะกรรมการผชู้ านาญการ มิฉะน้นั ใหถ้ ือวา่ ผดู้ าเนินการหรือผขู้ ออนุญาตไม่ประสงคจ์ ะเสนอ รายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดลอ้ ม และใหถ้ ือวา่ จบกระบวนการพิจารณารายงานการประเมินผล กระทบสิ่งแวดลอ้ ม แต่ไม่ตดั สิทธิที่ผดู้ าเนินการหรือผขู้ ออนุญาตจะเสนอรายงานการประเมินผลกระทบ สิ่งแวดลอ้ มใหมต่ ามมาตรา ๕๐ เม่ือผดู้ าเนินการหรือผขู้ ออนุญาตไดเ้ สนอรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดลอ้ มซ่ึงได้ ทาการแกไ้ ขเพม่ิ เติมหรือไดจ้ ดั ทาใหม่แลว้ ใหค้ ณะกรรมการผชู้ านาญการพิจารณาใหแ้ ลว้ เสร็จภายใน สามสิบวนั นบั แต่วนั ท่ีไดร้ ับรายงานดงั กล่าว ถา้ คณะกรรมการผชู้ านาญการมิไดพ้ ิจารณาใหแ้ ลว้ เสร็จภายใน กาหนดเวลาดงั กล่าว ใหถ้ ือวา่ คณะกรรมการผชู้ านาญการใหค้ วามเห็นชอบ ในกรณีคณะกรรมการผชู้ านาญการไมใ่ หค้ วามเห็นชอบรายงานการประเมินผลกระทบ สิ่งแวดลอ้ มที่เสนอตามวรรคสาม ใหถ้ ือวา่ จบกระบวนการพจิ ารณารายงานการประเมินผลกระทบ สิ่งแวดลอ้ มแต่ไม่ตดั สิทธิที่ผดู้ าเนินการหรือผขู้ ออนุญาตจะเสนอรายงานการประเมินผลกระทบส่ิงแวดลอ้ ม ใหมต่ ามมาตรา ๕๐ ในกรณีท่ีคณะกรรมการผชู้ านาญการใหค้ วามเห็นชอบหรือไม่ใหค้ วามเห็นชอบ ความเห็น ของคณะกรรมการผชู้ านาญการใหเ้ ป็นที่สุด

มาตรา ๕๑/๒[๑๑] เพ่ือประโยชน์ในการพจิ ารณารายงานการประเมินผลกระทบส่ิงแวดลอ้ ม ตามมาตรา ๔๙ มาตรา ๕๐ และมาตรา ๕๑/๑ ใหก้ รรมการผชู้ านาญการหรือพนกั งานเจา้ หนา้ ที่ซ่ึงไดร้ ับ มอบหมายจากคณะกรรมการผชู้ านาญการมีอานาจตรวจสถานท่ีท่ีเป็นที่ต้งั ของโครงการหรือกิจการหรือการ ดาเนินการที่เสนอรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดลอ้ มน้นั ได้ โดยตอ้ งกระทาตอ่ หนา้ หรือดว้ ยความ ยนิ ยอมของผดู้ าเนินการหรือผขู้ ออนุญาต มาตรา ๕๑/๓[๑๒] เมื่อคณะกรรมการผชู้ านาญการใหค้ วามเห็นชอบ หรือในกรณีท่ีให้ถือวา่ คณะกรรมการผชู้ านาญการใหค้ วามเห็นชอบตามมาตรา ๕๑/๑ แลว้ ใหเ้ จา้ หนา้ ท่ีซ่ึงมีอานาจอนุญาตตาม กฎหมายนามาตรการตามท่ีเสนอไวใ้ นรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดลอ้ มไปกาหนดเป็ นเง่ือนไขใน การสง่ั อนุญาตหรือต่ออายใุ บอนุญาต โดยใหถ้ ือวา่ เป็ นเง่ือนไขท่ีกาหนดตามกฎหมายในเร่ืองน้นั ดว้ ย ใหเ้ จา้ หนา้ ที่ซ่ึงมีอานาจอนุญาตตามกฎหมายนารายงานผลการปฏิบตั ิตามมาตรการใน วรรคหน่ึงท่ีผดู้ าเนินการหรือผขู้ ออนุญาตตอ้ งจดั ทาตามมาตรา ๕๑/๕ ไปกาหนดเป็นเงื่อนไขในการสงั่ อนุญาตหรือต่ออายใุ บอนุญาตดว้ ย มาตรา ๕๑/๔[๑๓] เพื่อประโยชน์ในการปฏิบตั ิตามมาตรา ๔๙ และมาตรา ๕๐ รัฐมนตรีโดย ความเห็นชอบของคณะกรรมการส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติอาจกาหนดใหก้ ารจดั ทารายงานการประเมินผล กระทบสิ่งแวดลอ้ มตามมาตรา ๔๘ ตอ้ งจดั ทาหรือไดร้ ับการรับรองจากผรู้ ับใบอนุญาตเป็นผจู้ ดั ทารายงาน การประเมินผลกระทบสิ่งแวดลอ้ ม การขอและการออกใบอนุญาต คุณสมบตั ิของผรู้ ับใบอนุญาตเป็ นผจู้ ดั ทารายงานการ ประเมินผลกระทบสิ่งแวดลอ้ ม การต่ออายใุ บอนุญาต การออกใบแทนใบอนุญาต และการสงั่ พกั ใชแ้ ละการ เพกิ ถอนใบอนุญาต ใหเ้ ป็นไปตามหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเงื่อนไขท่ีกาหนดในกฎกระทรวง มาตรา ๕๑/๕[๑๔] เพอ่ื ประโยชน์ในการติดตามตรวจสอบและพฒั นาระบบการประเมินผล กระทบส่ิงแวดลอ้ ม ใหผ้ ดู้ าเนินการหรือผขู้ ออนุญาตท่ีไดจ้ ดั ทารายงานการประเมินผลกระทบส่ิงแวดลอ้ มซ่ึง ไดร้ ับอนุญาตใหด้ าเนินการแลว้ จดั ทารายงานผลการปฏิบตั ิตามมาตรการท่ีกาหนดไวใ้ นรายงานการ ประเมินผลกระทบส่ิงแวดลอ้ ม เสนอตอ่ เจา้ หนา้ ท่ีซ่ึงมีอานาจอนุญาตอยา่ งนอ้ ยปี ละหน่ึงคร้ังตามหลกั เกณฑ์ และวธิ ีการที่รัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติประกาศกาหนด ใหเ้ จา้ หนา้ ท่ีซ่ึงมีอานาจอนุญาตรวบรวมรายงานที่ไดร้ ับตามวรรคหน่ึงส่งใหส้ านกั งาน ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มจงั หวดั ในเขตทอ้ งท่ีน้นั หรือสานกั งานนโยบายและแผน ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มสาหรับในเขตกรุงเทพมหานคร ภายในหกสิบวนั นบั แต่วนั ไดร้ ับ รายงาน

ใหส้ านกั งานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มรวบรวมรายงานตาม วรรคสองและจดั ทารายงานผลการปฏิบตั ิตามมาตรการดงั กล่าวพร้อมขอ้ เสนอแนะและความเห็นเสนอตอ่ คณะกรรมการส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติอยา่ งนอ้ ยปี ละหน่ึงคร้ัง ในกรณีท่ีปรากฏวา่ ผดู้ าเนินการหรือผขู้ ออนุญาตผใู้ ดหลีกเล่ียงหรือมิไดป้ ฏิบตั ิตาม มาตรการท่ีกาหนดไวใ้ นรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดลอ้ มซ่ึงเป็นเงื่อนไขในการสงั่ อนุญาตหรือตอ่ อายใุ บอนุญาตตามมาตรา ๕๑/๓ ใหส้ านกั งานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม เสนอแนะหน่วยงานของรัฐหรือเจา้ หนา้ ที่ผมู้ ีอานาจอนุญาตใหม้ ีการดาเนินการทางกฎหมายเพ่อื บงั คบั ให้ ผดู้ าเนินการ หรือผขู้ ออนุญาตปฏิบตั ิตามมาตรการท่ีไดก้ าหนดไวใ้ นรายงานการประเมินผลกระทบ ส่ิงแวดลอ้ ม ซ่ึงเป็นเงื่อนไขในการส่งั อนุญาตหรือต่ออายใุ บอนุญาตใหถ้ ูกตอ้ ง และใหห้ น่วยงานของรัฐหรือ เจา้ หนา้ ท่ีผมู้ ีอานาจอนุญาต แลว้ แต่กรณี แจง้ ผลการดาเนินการใหส้ านกั งานนโยบายและแผน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มทราบภายในระยะเวลาเกา้ สิบวนั มาตรา ๕๑/๖[๑๕] รายงานการประเมินผลกระทบส่ิงแวดลอ้ มที่ไดร้ ับความเห็นจาก คณะกรรมการส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติ หรือไดร้ ับความเห็นชอบหรือถือวา่ ไดร้ ับความเห็นชอบจาก คณะกรรมการผชู้ านาญการสามารถนาไปใชเ้ พ่ือเสนอขอรับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีหรือ ประกอบการพิจารณาอนุญาตตามกฎหมายไดเ้ ป็ นระยะเวลาหา้ ปี นบั แตว่ นั ที่สานกั งานนโยบายและแผน ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มหรือหน่วยงานของรัฐตามท่ีคณะกรรมการสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติ มอบหมายใหป้ ฏิบตั ิหนา้ ที่แทนไดม้ ีหนงั สือแจง้ ความเห็นของคณะกรรมการสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติหรือความ เห็นชอบของคณะกรรมการผชู้ านาญการ แลว้ แตก่ รณี ในกรณีท่ีผดู้ าเนินการหรือผขู้ ออนุญาตประสงคจ์ ะนารายงานการประเมินผลกระทบ สิ่งแวดลอ้ มที่ไดร้ ับความเห็นจากคณะกรรมการสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติ หรือไดร้ ับความเห็นชอบหรือถือวา่ ไดร้ ับความเห็นชอบจากคณะกรรมการผชู้ านาญการแลว้ เพื่อเสนอขอรับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี หรือประกอบการพิจารณาอนุญาตตามกฎหมายเม่ือพน้ ระยะเวลาตามท่ีกาหนดในวรรคหน่ึง โครงการหรือ กิจการ หรือการดาเนินการที่จะดาเนินการน้นั จะตอ้ งไม่มีการดดั แปลง ขยาย ต่อเติม เพิ่ม ลด หรือ เปล่ียนแปลงที่จะมีผลกระทบหรือทาให้เกิดความเสียหายต่อสิ่งแวดลอ้ มในพ้ืนท่ีและชุมชนเพม่ิ ข้ึนจากที่ ระบุในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดลอ้ มท่ีไดร้ ับความเห็นจากคณะกรรมการสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติ หรือไดร้ ับความเห็นชอบหรือถือวา่ ไดร้ ับความเห็นชอบจากคณะกรรมการผชู้ านาญการ หรือจะตอ้ งไม่เป็น โครงการหรือกิจการหรือการดาเนินการที่อาจมีผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ คุณภาพส่ิงแวดลอ้ ม สุขภาพ อนามยั คุณภาพชีวติ หรือส่วนไดเ้ สียสาคญั อ่ืนใดของประชาชนหรือชุมชนหรือสิ่งแวดลอ้ มอยา่ ง รุนแรง และผดู้ าเนินการหรือผขู้ ออนุญาตตอ้ งทบทวนมาตรการป้องกนั และแกไ้ ขผลกระทบส่ิงแวดลอ้ มใน รายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดลอ้ มที่ไดร้ ับความเห็นหรือไดร้ ับความเห็นชอบ เสนอให้ คณะกรรมการสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติหรือคณะกรรมการผชู้ านาญการพิจารณาใหม่ แลว้ แต่กรณี

มาตรา ๕๑/๗[๑๖] ใหค้ ณะกรรมการผชู้ านาญการไดร้ ับเบ้ียประชุมตามที่กาหนดในพระราช กฤษฎีกา ในการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบส่ิงแวดลอ้ มตามมาตรา ๔๙ และมาตรา ๕๑/๑ คณะกรรมการผชู้ านาญการจะมอบหมายใหบ้ ุคคลหรือสถาบนั ใดไดใ้ หค้ วามเห็นเพ่ือประกอบการพจิ ารณา รายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดลอ้ มของคณะกรรมการผชู้ านาญการโดยไดร้ ับค่าตอบแทนตามท่ี กาหนดในพระราชกฤษฎีกาก็ได้ บุคคลซ่ึงไดร้ ับมอบหมายจากคณะกรรมการผชู้ านาญการตามวรรคสองจะตอ้ งไม่เป็ น ขา้ ราชการหรือเจา้ หนา้ ท่ีหรือบุคลากรในสงั กดั สานกั งานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอ้ ม หรือหน่วยงานของรัฐตามท่ีคณะกรรมการส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติมอบหมายใหป้ ฏิบตั ิหนา้ ท่ีแทน แลว้ แต่กรณี และมีคุณสมบตั ิและไมม่ ีลกั ษณะตอ้ งหา้ มตามท่ีคณะกรรมการส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติประกาศ กาหนด รายงานการประเมินผลกระทบส่ิงแวดลอ้ มท่ีคณะกรรมการผชู้ านาญการจะมอบหมายให้ บุคคลตามวรรคสองเป็ นผใู้ หค้ วามเห็นประกอบการพิจารณาไดจ้ ะตอ้ งเป็นรายงานการประเมินผลกระทบ ส่ิงแวดลอ้ มสาหรับโครงการหรือกิจการหรือการดาเนินการของรัฐหรือที่รัฐจะอนุญาตใหผ้ ใู้ ดดาเนินการที่ อาจมีผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ คุณภาพสิ่งแวดลอ้ ม สุขภาพ อนามยั คุณภาพชีวติ หรือส่วนไดเ้ สีย สาคญั อ่ืนใดของประชาชนหรือชุมชนหรือสิ่งแวดลอ้ มอยา่ งรุนแรง หรือมีความยงุ่ ยากซบั ซอ้ นหรือมีการใช้ เทคโนโลยขี ้นั สูง หรือตอ้ งใชค้ วามรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะดา้ น ท้งั น้ี ตามท่ีคณะกรรมการสิ่งแวดลอ้ ม แห่งชาติประกาศกาหนด หมวด ๔ การควบคุมมลพษิ ส่วนท่ี ๑ คณะกรรมการควบคุมมลพิษ มาตรา ๕๒ เพ่ือประโยชน์ในการควบคุมมลพิษตามพระราชบญั ญตั ิน้ี ใหม้ ีคณะกรรมการ คณะหน่ึงเรียกวา่ “คณะกรรมการควบคุมมลพิษ” ประกอบดว้ ย ปลดั กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอ้ ม*เป็นประธานกรรมการ อธิบดีกรมการปกครอง อธิบดีกรมตารวจ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก อธิบดีกรมเจา้ ท่า อธิบดีกรมโยธาธิการและผงั เมือง* อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพ้นื ฐานและการเหมืองแร่*

อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม อธิบดีกรมอนามยั อธิบดีกรมวชิ าการเกษตร อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพ สิ่งแวดลอ้ ม เลขาธิการสานกั งานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม* ปลดั กรุงเทพมหานคร ผทู้ รงคุณวุฒิไมเ่ กินหา้ คนซ่ึงคณะกรรมการสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติแตง่ ต้งั เป็นกรรมการ และ อธิบดีกรมควบคุมมลพษิ เป็นกรรมการและเลขานุการ ใหน้ าความในมาตรา ๑๔ และมาตรา ๑๕ มาใชบ้ งั คบั กบั การดารงตาแหน่งของกรรมการ ผทู้ รงคุณวุฒิในคณะกรรมการควบคุมมลพษิ โดยอนุโลม มาตรา ๕๓ ใหค้ ณะกรรมการควบคุมมลพิษมีอานาจและหนา้ ท่ี ดงั ต่อไปน้ี (๑) เสนอแผนปฏิบตั ิการเพอ่ื ป้องกนั หรือแกไ้ ขอนั ตรายอนั เกิดจากการแพร่กระจายของ มลพิษหรือภาวะมลพิษตอ่ คณะกรรมการส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติ (๒) เสนอความเห็นเกี่ยวกบั การใหม้ ีการดาเนินการแกไ้ ขเพ่มิ เติมหรือปรับปรุงกฎหมายที่ เก่ียวขอ้ งกบั การควบคุม ป้องกนั ลด หรือขจดั มลพิษต่อคณะกรรมการสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติ (๓) เสนอความเห็นเก่ียวกบั การกาหนดมาตรการส่งเสริมดา้ นภาษีอากรและการลงทุนของ เอกชนเก่ียวกบั การควบคุมมลพิษ และการส่งเสริมและรักษาคุณภาพส่ิงแวดลอ้ มตอ่ คณะกรรมการ ส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติ (๔) เสนอแนะการกาหนดอตั ราคา่ บริการสาหรับระบบบาบดั น้าเสียรวม หรือระบบกาจดั ของเสียรวมของทางราชการตอ่ คณะกรรมการส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติ (๕) ใหค้ าแนะนาแก่รัฐมนตรีในการกาหนดมาตรฐานควบคุมมลพิษจากแหล่งกาเนิดตาม มาตรา ๕๕ (๖) ใหค้ าแนะนาแก่รัฐมนตรีในการกาหนดประเภทของแหล่งกาเนิดมลพิษท่ีจะตอ้ งปฏิบตั ิ ตามมาตรา ๖๘ และมาตรา ๖๙ (๗) ใหค้ าแนะนาในการออกกฎกระทรวงกาหนดชนิดและประเภทของของเสียอนั ตราย ตามมาตรา ๗๙ (๘) ประสานงานระหวา่ งส่วนราชการ รัฐวสิ าหกิจ และเอกชน เพ่ือควบคุม ป้องกนั ลด หรือ ขจดั มลพิษ (๙) จดั ทารายงานเกี่ยวกบั สถานการณ์มลพิษเสนอต่อคณะกรรมการสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติปี ละหน่ึงคร้ัง (๑๐) พจิ ารณาวนิ ิจฉยั การคดั คา้ นคาสง่ั ของเจา้ พนกั งานควบคุมมลพษิ ตามพระราชบญั ญตั ิน้ี (๑๑) ปฏิบตั ิการอื่นใดตามท่ีกาหนดไวใ้ นพระราชบญั ญตั ิน้ีหรือกฎหมายอื่นใหเ้ ป็นอานาจ หนา้ ที่ของคณะกรรมการควบคุมมลพษิ (๑๒) ปฏิบตั ิการอ่ืนใดตามท่ีคณะกรรมการสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติมอบหมาย

คณะกรรมการควบคุมมลพิษอาจต้งั คณะอนุกรรมการเพ่ือพจิ ารณาและปฏิบตั ิการอยา่ ง หน่ึงอยา่ งใดตามที่คณะกรรมการควบคุมมลพิษจะมอบหมายก็ได้ มาตรา ๕๔ ใหน้ าความในมาตรา ๑๖ มาตรา ๑๗ และมาตรา ๒๐ มาใชบ้ งั คบั กบั การปฏิบตั ิ หนา้ ท่ีของคณะกรรมการควบคุมมลพษิ และคณะอนุกรรมการที่คณะกรรมการควบคุมมลพษิ แต่งต้งั โดย อนุโลม ส่วนท่ี ๒ มาตรฐานควบคุมมลพิษจากแหล่งกาเนิด มาตรา ๕๕ ใหร้ ัฐมนตรีโดยคาแนะนาของคณะกรรมการควบคุมมลพษิ และโดยความ เห็นชอบของคณะกรรมการสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติ มีอานาจประกาศในราชกิจจานุเบกษากาหนดมาตรฐาน ควบคุมมลพษิ จากแหล่งกาเนิด สาหรับควบคุมการระบายน้าทิ้ง การปล่อยทิง้ อากาศเสีย การปล่อยทิง้ ของ เสีย หรือมลพิษอื่นใดจากแหล่งกาเนิดออกสู่ส่ิงแวดลอ้ ม เพอ่ื รักษาคุณภาพสิ่งแวดลอ้ มใหไ้ ดม้ าตรฐาน คุณภาพสิ่งแวดลอ้ มตามท่ีกาหนดไวใ้ นพระราชบญั ญตั ิน้ี มาตรา ๕๖ ในกรณีที่มีการกาหนดมาตรฐานเก่ียวกบั การระบายน้าทิ้ง การปล่อยทิง้ อากาศ เสีย การปล่อยทิ้งของเสีย หรือมลพิษอื่นใดจากแหล่งกาเนิดออกสู่ส่ิงแวดลอ้ มโดยอาศยั อานาจตามกฎหมาย อ่ืน และมาตรฐานดงั กล่าวไม่ต่ากวา่ มาตรฐานควบคุมมลพิษจากแหล่งกาเนิดที่รัฐมนตรีประกาศกาหนดตาม มาตรา ๕๕ ใหม้ าตรฐานดงั กล่าวมีผลใชบ้ งั คบั ตอ่ ไปตามที่กาหนดไวใ้ นกฎหมายน้นั แต่ถา้ มาตรฐาน ดงั กล่าวต่ากวา่ มาตรฐานควบคุมมลพิษจากแหล่งกาเนิดที่รัฐมนตรีประกาศกาหนดตามมาตรา ๕๕ ใหส้ ่วน ราชการท่ีมีอานาจตามกฎหมายน้นั แกไ้ ขใหเ้ ป็นไปตามมาตรฐานควบคุมมลพษิ จากแหล่งกาเนิด ในกรณีที่มี อุปสรรคไม่อาจดาเนินการเช่นวา่ น้นั ได้ ใหค้ ณะกรรมการส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติเป็นผชู้ ้ีขาด เม่ือมีคาช้ีขาดเป็น ประการใดใหส้ ่วนราชการที่เกี่ยวขอ้ งดาเนินการตามคาช้ีขาดน้นั มาตรา ๕๗ ในกรณีท่ีมีกฎหมายอื่นบญั ญตั ิใหอ้ านาจส่วนราชการใดกาหนดมาตรฐาน ควบคุมมลพษิ จากแหล่งกาเนิดในเร่ืองใดไว้ แตส่ ่วนราชการน้นั ไมใ่ ชอ้ านาจตามกฎหมายกาหนดมาตรฐาน ดงั กล่าว ใหร้ ัฐมนตรีโดยคาแนะนาของคณะกรรมการควบคุมมลพษิ และโดยความเห็นชอบของ คณะกรรมการส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติ มีอานาจประกาศในราชกิจจานุเบกษากาหนดมาตรฐานควบคุมมลพิษ จากแหล่งกาเนิดในเร่ืองน้นั ได้ และใหถ้ ือวา่ เป็นมาตรฐานตามกฎหมายในเรื่องน้นั ดว้ ย

มาตรา ๕๘ ในกรณีที่เห็นสมควร ใหผ้ วู้ า่ ราชการจงั หวดั มีอานาจประกาศในราชกิจจา นุเบกษากาหนดมาตรฐานควบคุมมลพิษจากแหล่งกาเนิดสูงกวา่ มาตรฐานควบคุมมลพิษจากแหล่งกาเนิดท่ี กาหนดตามมาตรา ๕๕ หรือมาตรฐานซ่ึงกาหนดตามกฎหมายอื่น และมีผลใชบ้ งั คบั ตามมาตรา ๕๖ เป็น พเิ ศษ สาหรับในเขตควบคุมมลพิษตามมาตรา ๕๙ ส่วนที่ ๓ เขตควบคุมมลพษิ มาตรา ๕๙ ในกรณีที่ปรากฏวา่ ทอ้ งที่ใดมีปัญหามลพษิ ซ่ึงมีแนวโนม้ ที่จะร้ายแรงถึงขนาด เป็นอนั ตรายต่อสุขภาพอนามยั ของประชาชน หรืออาจก่อใหเ้ กิดผลกระทบเสียหายต่อคุณภาพสิ่งแวดลอ้ ม ใหค้ ณะกรรมการสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติมีอานาจประกาศในราชกิจจานุเบกษากาหนดใหท้ อ้ งท่ีน้นั เป็นเขต ควบคุมมลพษิ เพอ่ื ดาเนินการควบคุม ลด และขจดั มลพษิ ได้ มาตรา ๖๐ เพ่อื ประโยชนใ์ นการจดั ทาแผนปฏิบตั ิการเพ่ือจดั การคุณภาพส่ิงแวดลอ้ มใน ระดบั จงั หวดั ตามมาตรา ๓๗ ใหเ้ จา้ พนกั งานทอ้ งถ่ินในทอ้ งที่ท่ีไดป้ ระกาศกาหนดใหเ้ ป็นเขตควบคุมมลพิษ ตามมาตรา ๕๙ จดั ทาแผนปฏิบตั ิการเพื่อลดและขจดั มลพษิ ในเขตควบคุมมลพษิ น้นั เสนอตอ่ ผูว้ า่ ราชการ จงั หวดั เพือ่ รวมไวใ้ นแผนปฏิบตั ิการเพื่อการจดั การคุณภาพส่ิงแวดลอ้ มในระดบั จงั หวดั การจดั ทาแผนปฏิบตั ิการเพ่ือลดและขจดั มลพษิ ใหด้ าเนินการ ดงั ต่อไปน้ี (๑) ทาการสารวจ และเก็บขอ้ มูลเก่ียวกบั แหล่งกาเนิดมลพษิ ที่มีอยใู่ นเขตควบคุมมลพิษน้นั (๒) จดั ทาบญั ชีรายละเอียดแสดงจานวน ประเภท และขนาดของแหล่งกาเนิดมลพษิ ที่ไดท้ า การสารวจและเกบ็ ขอ้ มูลตาม (๑) (๓) ทาการศึกษา วเิ คราะห์ และประเมินสถานภาพมลพิษ รวมท้งั ขอบเขตความรุนแรงของ สภาพปัญหา และผลกระทบต่อคุณภาพส่ิงแวดลอ้ ม เพ่ือกาหนดมาตรการท่ีเหมาะสมและจาเป็นสาหรับการ ลดและขจดั มลพิษในเขตควบคุมมลพิษน้นั ในการจดั ทาแผนปฏิบตั ิการเพ่ือลดและขจดั มลพษิ ของเจา้ พนกั งานทอ้ งถิ่นตามวรรคหน่ึง และวรรคสอง ใหเ้ จา้ พนกั งานควบคุมมลพษิ แนะนาและช่วยเหลือตามความจาเป็ น มาตรา ๖๑ แผนปฏิบตั ิการเพื่อลดและขจดั มลพิษในเขตควบคุมมลพิษตามมาตรา ๖๐ จะตอ้ งเสนอประมาณการและคาขอจดั สรรเงินงบประมาณแผน่ ดินและเงินกองทุน สาหรับก่อสร้างหรือ ดาเนินการเพื่อใหม้ ีระบบบาบดั น้าเสียรวม หรือระบบกาจดั ของเสียรวมของทางราชการที่จาเป็ น สาหรับการ ลดและขจดั มลพิษในเขตควบคุมมลพิษน้นั ดว้ ย

มาตรา ๖๒ ในกรณีที่จาเป็ นจะตอ้ งจดั หาท่ีดินสาหรับใช้เป็ นที่ต้งั ระบบบาบดั น้าเสีย รวม หรือระบบกาจดั ของเสียรวมสาหรับเขตควบคุมมลพษิ ใด แต่ไมส่ ามารถจดั หาท่ีดินของรัฐได้ ให้ ดาเนินการจดั หาที่ดินของเอกชนเพ่ือพจิ ารณาคดั เลือกเป็ นท่ีต้งั ในกรณีที่มีค่าใชจ้ ่ายใหเ้ สนอประมาณการ และคาขอจดั สรรเงินงบประมาณแผน่ ดินและเงินกองทุนในแผนปฏิบตั ิการระดบั จงั หวดั ในกรณีท่ีไมส่ ามารถดาเนินการตามวรรคหน่ึงได้ ใหก้ าหนดที่ดินท่ีเหมาะสมเพือ่ เสนอต่อ รัฐมนตรีใหด้ าเนินการเวนคืนต่อไปตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการเวนคืนอสงั หาริมทรัพย์ มาตรา ๖๓ ใหผ้ วู้ า่ ราชการจงั หวดั เป็นผกู้ ากบั ดูแลการดาเนินการของเจา้ พนกั งานทอ้ งถิ่น ตามมาตรา ๖๐ ในกรณีที่เจา้ พนกั งานทอ้ งถ่ินไมด่ าเนินการภายในเวลาอนั สมควร ใหผ้ วู้ า่ ราชการจงั หวดั มี อานาจดาเนินการแทนเมื่อไดแ้ จง้ ใหเ้ จา้ พนกั งานทอ้ งถ่ิน และคณะกรรมการส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติทราบแลว้ ส่วนที่ ๔ มลพิษทางอากาศและเสียง มาตรา ๖๔ ยานพาหนะท่ีจะนามาใชจ้ ะตอ้ งไม่ก่อใหเ้ กิดมลพิษเกินกวา่ มาตรฐานควบคุม มลพิษจากแหล่งกาเนิดที่กาหนดตามมาตรา ๕๕ มาตรา ๖๕ ในกรณีท่ีพนกั งานเจา้ หนา้ ที่ตรวจพบวา่ ไดม้ ีการใช้ยานพาหนะโดยฝ่ าฝื น ตามมาตรา ๖๔ ใหพ้ นกั งานเจา้ หนา้ ท่ีมีอานาจออกคาส่งั หา้ มใชย้ านพาหนะน้นั โดยเด็ดขาด หรือจนกวา่ จะได้ มีการแกไ้ ขปรับปรุงใหเ้ ป็นไปตามมาตรฐานควบคุมมลพษิ จากแหล่งกาเนิดที่กาหนดตามมาตรา ๕๕ มาตรา ๖๖ ในการออกคาสงั่ หา้ มใชย้ านพาหนะตามมาตรา ๖๕ ใหพ้ นกั งานเจา้ หนา้ ที่ผอู้ อก คาส่ังทาเคร่ืองหมายใหเ้ ห็นปรากฏเด่นชดั เป็นตวั อกั ษรท่ีมีขอ้ ความวา่ “หา้ มใชเ้ ดด็ ขาด” หรือ “หา้ มใช้ ชว่ั คราว” หรือเครื่องหมายอื่นใดซ่ึงเป็นที่รู้และเขา้ ใจของประชาชนโดยทวั่ ไปวา่ มีความหมายอยา่ งเดียวกนั ไว้ ณ ส่วนใดส่วนหน่ึงของยานพาหนะน้นั ดว้ ย การทาและการยกเลิกเครื่องหมายหา้ มใชต้ ามวรรคหน่ึง หรือการใชย้ านพาหนะในขณะท่ีมี เคร่ืองหมายดงั กล่าว ใหเ้ ป็นไปตามหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเงื่อนไขที่กาหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๖๗ ในการปฏิบตั ิหนา้ ที่ตามมาตรา ๖๕ ใหพ้ นกั งานเจา้ หนา้ ท่ีมีอานาจสงั่ ให้ ยานพาหนะหยดุ เพอื่ ตรวจสอบ หรือเขา้ ไปในยานพาหนะ หรือกระทาการใด ๆ ท่ีจาเป็นเพื่อตรวจสอบ เครื่องยนต์ และอุปกรณ์ของยานพาหนะน้นั ได้ มาตรา ๖๘ ใหร้ ัฐมนตรีโดยคาแนะนาของคณะกรรมการควบคุมมลพษิ มีอานาจประกาศ ในราชกิจจานุเบกษากาหนดประเภทของแหล่งกาเนิดมลพิษท่ีจะตอ้ งถูกควบคุม การปล่อยอากาศเสีย รังสี หรือมลพิษอ่ืนใดที่อยใู่ นสภาพเป็นควนั ไอ กา๊ ซ เขมา่ ฝ่ นุ ละออง เถา้ ถ่าน หรือมลพิษอากาศ ในรูปแบบใด ออกสู่บรรยากาศไมเ่ กินมาตรฐานควบคุมมลพษิ จากแหล่งกาเนิดท่ีกาหนดตามมาตรา ๕๕ หรือมาตรฐานท่ี ส่วนราชการใดกาหนดโดยอาศยั อานาจตามกฎหมายอื่น และมาตรฐานน้นั ยงั มีผลใชบ้ งั คบั ตามมาตรา ๕๖ หรือมาตรฐานท่ีผวู้ า่ ราชการจงั หวดั กาหนดเป็นพิเศษสาหรับเขตควบคุมมลพษิ ตามมาตรา ๕๘ เจา้ ของหรือผคู้ รอบครองแหล่งกาเนิดมลพิษท่ีกาหนดตามวรรคหน่ึงมีหนา้ ที่ตอ้ งติดต้งั หรือจดั ใหม้ ีระบบบาบดั อากาศเสีย อุปกรณ์ หรือเครื่องมืออื่นใด สาหรับการควบคุม กาจดั ลด หรือขจดั มลพิษซ่ึงอาจมีผลกระทบต่อคุณภาพอากาศตามท่ีเจา้ พนกั งานควบคุมมลพิษกาหนด เวน้ แต่จะไดม้ ีระบบ อุปกรณ์ หรือเครื่องมือดงั กล่าว ซ่ึงเจา้ พนกั งานควบคุมมลพษิ ไดท้ าการตรวจสภาพ และทดลองแลว้ เห็นวา่ ยงั ใชก้ ารไดอ้ ยแู่ ลว้ เพอ่ื การน้ี เจา้ พนกั งานควบคุมมลพษิ จะกาหนดใหม้ ีผคู้ วบคุมการดาเนินงานระบบบาบดั อากาศเสีย อุปกรณ์ หรือเคร่ืองมือดงั กล่าวดว้ ยก็ได้ ใหน้ าความในวรรคหน่ึง และวรรคสองมาใชบ้ งั คบั กบั แหล่งกาเนิดมลพษิ ที่ปล่อย หรือ ก่อใหเ้ กิดเสียง หรือความส่ันสะเทือนเกินกวา่ ระดบั มาตรฐานควบคุมมลพษิ จากแหล่งกาเนิดที่กาหนดตาม มาตรา ๕๕ หรือมาตรฐานท่ีส่วนราชการใดกาหนดโดยอาศยั อานาจตามกฎหมายอื่น และมาตรฐานน้นั ยงั มี ผลใชบ้ งั คบั ตามมาตรา ๕๖ หรือมาตรฐานท่ีผวู้ า่ ราชการจงั หวดั กาหนดเป็นพเิ ศษสาหรับเขตควบคุมมลพิษ ตามมาตรา ๕๘ ดว้ ยโดยอนุโลม ส่วนที่ ๕ มลพษิ ทางน้า มาตรา ๖๙ ใหร้ ัฐมนตรีโดยคาแนะนาของคณะกรรมการควบคุมมลพิษมีอานาจประกาศ ในราชกิจจานุเบกษากาหนดประเภทของแหล่งกาเนิดมลพิษท่ีจะตอ้ งถูกควบคุมการปล่อยน้าเสีย หรือของ เสียลงสู่แหล่งน้าสาธารณะ หรือออกสู่สิ่งแวดลอ้ มนอกเขตที่ต้งั แหล่งกาเนิดมลพิษไม่เกินมาตรฐานควบคุม มลพิษจากแหล่งกาเนิดท่ีกาหนดตามมาตรา ๕๕ หรือมาตรฐานท่ีส่วนราชการใดกาหนดโดยอาศยั อานาจ ตามกฎหมายอ่ืน และมาตรฐานน้นั ยงั มีผลใชบ้ งั คบั ตามมาตรา ๕๖ หรือมาตรฐานที่ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั กาหนดเป็นพิเศษสาหรับเขตควบคุมมลพษิ ตามมาตรา ๕๘

มาตรา ๗๐ เจา้ ของหรือผคู้ รอบครองแหล่งกาเนิดมลพษิ ท่ีกาหนดตามมาตรา ๖๙ มีหนา้ ท่ี ตอ้ งก่อสร้าง ติดต้งั หรือจดั ใหม้ ีระบบบาบดั น้าเสีย หรือระบบกาจดั ของเสียตามท่ีเจา้ พนกั งานควบคุมมลพษิ กาหนด เพอื่ การน้ี เจา้ พนกั งานควบคุมมลพษิ จะกาหนดใหเ้ จา้ ของหรือผคู้ รอบครองมีผคู้ วบคุมการ ดาเนินงานระบบบาบดั น้าเสีย หรือระบบกาจดั ของเสียที่กาหนดใหท้ าการก่อสร้าง ติดต้งั หรือจดั ใหม้ ีข้ึนน้นั ดว้ ยก็ได้ ในกรณีที่แหล่งกาเนิดมลพิษใดมีระบบบาบดั น้าเสีย หรือระบบกาจดั ของเสียอยแู่ ลว้ ก่อน วนั ที่มีประกาศของรัฐมนตรีตามมาตรา ๖๙ ใหเ้ จา้ ของหรือผคู้ รอบครองแหล่งกาเนิดมลพษิ แจง้ ต่อเจา้ พนกั งานควบคุมมลพิษเพ่อื ตรวจสอบ หากเจา้ พนกั งานควบคุมมลพษิ เห็นวา่ ระบบบาบดั น้าเสีย หรือระบบ กาจดั ของเสียท่ีมีอยแู่ ลว้ น้นั ยงั ไมส่ ามารถทาการบาบดั น้าเสีย หรือกาจดั ของเสียใหเ้ ป็นไปตามมาตรฐาน ควบคุมมลพิษจากแหล่งกาเนิดที่กาหนดไว้ เจา้ ของหรือผคู้ รอบครองแหล่งกาเนิดมลพิษมีหนา้ ที่ตอ้ ง ดาเนินการแกไ้ ขหรือปรับปรุงตามที่เจา้ พนกั งานควบคุมมลพิษกาหนด มาตรา ๗๑ ในเขตควบคุมมลพิษใด หรือเขตทอ้ งท่ีใดที่ทางราชการไดจ้ ดั ใหม้ ีระบบบาบดั น้าเสียรวม หรือระบบกาจดั ของเสียรวมไวแ้ ลว้ ใหเ้ จา้ ของหรือผคู้ รอบครองแหล่งกาเนิดมลพษิ ตามมาตรา ๗๐ วรรคหน่ึง ซ่ึงยงั มิไดท้ าการก่อสร้าง ติดต้งั หรือจดั ใหม้ ีระบบบาบดั น้าเสีย หรือระบบกาจดั ของเสียตามท่ี เจา้ พนกั งานควบคุมมลพิษกาหนด หรือไมป่ ระสงคท์ ี่จะทาการก่อสร้าง หรือจดั ใหม้ ีระบบบาบดั น้าเสีย หรือ ระบบกาจดั ของเสียตามที่เจา้ พนกั งานควบคุมมลพิษกาหนดดงั กล่าว มีหนา้ ที่ตอ้ งจดั ส่งน้าเสีย หรือของเสียท่ี เกิดจากการดาเนินกิจการของตนไปทาการบาบดั หรือกาจดั โดยระบบบาบดั น้าเสียรวม หรือระบบกาจดั ของ เสียรวมท่ีมีอยภู่ ายในเขตควบคุมมลพิษ หรือเขตทอ้ งท่ีน้นั และมีหนา้ ท่ีตอ้ งเสียคา่ บริการตามอตั ราที่กาหนด โดยพระราชบญั ญตั ิน้ี หรือโดยกฎหมายอ่ืนที่เก่ียวขอ้ ง มาตรา ๗๒ ในเขตควบคุมมลพษิ ใด หรือเขตทอ้ งที่ใดท่ีทางราชการไดจ้ ดั ใหม้ ีระบบบาบดั น้าเสียรวม หรือระบบกาจดั ของเสียรวมไวแ้ ลว้ ใหเ้ จา้ ของหรือผคู้ รอบครองแหล่งกาเนิดมลพษิ ทุกประเภท เวน้ แต่เจา้ ของหรือผคู้ รอบครองแหล่งกาเนิดมลพิษที่กาหนดตามมาตรา ๗๐ มีหนา้ ที่ตอ้ งจดั ส่งน้าเสีย หรือ ของเสียที่เกิดจากแหล่งกาเนิดมลพิษของตนไปทาการบาบดั หรือกาจดั โดยระบบบาบดั น้าเสียรวม หรือ ระบบกาจดั ของเสียรวมที่มีอยภู่ ายในเขตควบคุมมลพิษ หรือเขตทอ้ งที่น้นั และมีหนา้ ที่ตอ้ งเสียคา่ บริการตาม อตั ราท่ีกาหนดโดยพระราชบญั ญตั ิน้ี หรือโดยกฎหมายอ่ืนท่ีเก่ียวขอ้ ง เวน้ แต่แหล่งกาเนิดมลพษิ น้นั มีระบบ บาบดั น้าเสีย หรือระบบกาจดั ของเสียของตนเองอยแู่ ลว้ และสามารถทาการบาบดั น้าเสีย หรือกาจดั ของเสีย ไดต้ ามมาตรฐานท่ีกาหนดตามพระราชบญั ญตั ิน้ี

มาตรา ๗๓ หา้ มมิใหผ้ ใู้ ดรับจา้ งเป็นผคู้ วบคุม หรือรับจา้ งใหบ้ ริการบาบดั น้าเสียหรือกาจดั ของเสีย เวน้ แตจ่ ะไดร้ ับใบอนุญาตจากเจา้ พนกั งานทอ้ งถ่ิน การขอและการออกใบอนุญาต คุณสมบตั ิของผขู้ อรับใบอนุญาต การควบคุมการปฏิบตั ิงาน ของผไู้ ดร้ ับอนุญาต การต่ออายใุ บอนุญาต การออกใบแทนใบอนุญาต การสงั่ พกั และการเพิกถอนการ อนุญาต และการเสียค่าธรรมเนียมการขอและการออกใบอนุญาตใหเ้ ป็ นไปตามหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และ เงื่อนไขที่กาหนดในกฎกระทรวง ให้ถือว่าผูไ้ ด้รับใบอนุญาตให้เป็ นผูร้ ับจ้างให้บริการเป็ นผูร้ ับใบอนุญาตให้เป็ นผู้ ควบคุมดว้ ย ในการรับจา้ งใหบ้ ริการบาบดั น้าเสีย หรือกาจดั ของเสียของผรู้ ับจา้ งใหบ้ ริการตามวรรค หน่ึงจะเรียกเกบ็ ค่าบริการเกินกวา่ อตั ราท่ีกาหนดในกฎกระทรวงมิได้ มาตรา ๗๔ ในเขตควบคุมมลพษิ ใด หรือในเขตทอ้ งท่ีใดท่ีทางราชการยงั มิไดจ้ ดั ใหม้ ี ระบบบาบดั น้าเสียรวม หรือระบบกาจดั ของเสียรวม แต่มีผูไ้ ดร้ ับใบอนุญาตรับจา้ งใหบ้ ริการบาบดั น้า เสีย หรือกาจดั ของเสียอยใู่ นเขตควบคุมมลพิษ หรือเขตทอ้ งที่น้นั ให้เจา้ ของหรือผคู้ รอบครองแหล่งกาเนิด มลพิษตามมาตรา ๗๑ และมาตรา ๗๒ จดั ส่งน้าเสียหรือของเสียจากแหล่งกาเนิดของตนไปใหผ้ ูร้ ับจา้ ง ใหบ้ ริการทาการบาบดั หรือกาจดั ตามหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเง่ือนไขที่เจา้ พนกั งานทอ้ งถ่ินกาหนดโดย คาแนะนาของเจา้ พนกั งานควบคุมมลพิษ มาตรา ๗๕ ในเขตควบคุมมลพิษใด หรือเขตทอ้ งท่ีใดท่ีทางราชการยงั มิไดจ้ ดั ใหม้ ีระบบ บาบดั น้าเสียรวม หรือระบบกาจดั ของเสียรวม และไมม่ ีผไู้ ดร้ ับใบอนุญาตรับจา้ งใหบ้ ริการบาบดั น้าเสีย หรือ กาจดั ของเสียอยใู่ นเขตควบคุมมลพษิ หรือเขตทอ้ งท่ีน้นั เจา้ พนกั งานทอ้ งถิ่นโดยคาแนะนาของเจา้ พนกั งาน ควบคุมมลพษิ อาจกาหนดวธิ ีการชวั่ คราวสาหรับการบาบดั น้าเสีย หรือกาจดั ของเสียซ่ึงเกิดจากแหล่งกาเนิด มลพษิ ตามมาตรา ๗๑ และมาตรา ๗๒ ไดต้ ามท่ีจาเป็นจนกวา่ จะไดม้ ีการก่อสร้าง ติดต้งั และเปิ ดดาเนินงาน ระบบบาบดั น้าเสียรวม หรือระบบกาจดั ของเสียรวมในเขตควบคุมมลพษิ หรือเขตทอ้ งที่น้นั วธิ ีการชวั่ คราวสาหรับการบาบดั น้าเสียหรือกาจดั ของเสียตามวรรคหน่ึง ให้หมายความ รวมถึงการเก็บรวบรวม การขนส่ง หรือการจดั ส่งน้าเสียหรือของเสียดว้ ยวิธีการใด ๆ ท่ีเหมาะสม ไปทา การบาบดั หรือกาจดั โดยระบบบาบดั น้าเสียรวม หรือระบบกาจดั ของเสียรวมของทางราชการที่อยใู่ นเขตอ่ืน หรืออนุญาตใหผ้ ไู้ ดร้ ับใบอนุญาตรับจา้ งใหบ้ ริการบาบดั น้าเสีย หรือกาจดั ของเสียซ่ึงรับจา้ งใหบ้ ริการอยใู่ น เขตอ่ืนเขา้ มาเปิ ดดาเนินการรับจา้ งใหบ้ ริการในเขตควบคุมมลพิษ หรือเขตทอ้ งที่น้นั เป็นการชวั่ คราว หรือ อนุญาตใหผ้ ไู้ ดร้ ับใบอนุญาตรับจา้ งใหบ้ ริการน้นั ทาการเก็บรวบรวมน้าเสียหรือของเสียเพอื่ นาขน เคลื่อนยา้ ยไปทาการบาบดั หรือกาจดั โดยระบบบาบดั น้าเสีย หรือระบบกาจดั ของเสียของผนู้ ้นั ซ่ึงอยใู่ นเขต ทอ้ งที่อ่ืนนอกเขตควบคุมมลพิษ หรือเขตทอ้ งที่น้นั

มาตรา ๗๖ น้าเสียท่ีไดร้ ับการบาบดั โดยระบบบาบดั น้าเสียรวมของทางราชการ หรือระบบ บาบดั น้าเสียของผไู้ ดร้ ับใบอนุญาตรับจา้ งใหบ้ ริการบาบดั น้าเสียหรือกาจดั ของเสีย จะตอ้ งมีคุณสมบตั ิตาม มาตรฐานควบคุมมลพิษจากแหล่งกาเนิดท่ีกาหนดตามมาตรา ๕๕ หรือมาตรฐานที่ส่วนราชการใดกาหนด โดยอาศยั อานาจตามกฎหมายอ่ืน และมาตรฐานน้นั ยงั มีผลใชบ้ งั คบั ตามมาตรา ๕๖ หรือมาตรฐานท่ีผวู้ า่ ราชการจงั หวดั กาหนดเป็ นพเิ ศษสาหรับเขตควบคุมมลพิษตามมาตรา ๕๘ มาตรา ๗๗ ใหส้ ่วนราชการ หรือราชการส่วนทอ้ งถิ่นซ่ึงเป็นผจู้ ดั ใหม้ ีระบบบาบดั น้าเสีย รวม หรือระบบกาจดั ของเสียรวมโดยใชเ้ งินงบประมาณแผน่ ดิน หรือเงินรายไดข้ องราชการส่วนทอ้ งถิ่น และเงินกองทุนตามพระราชบญั ญตั ิน้ี มีหนา้ ที่ดาเนินงานและควบคุมการทางานของระบบบาบดั น้าเสียรวม หรือระบบกาจดั ของเสียรวมที่ส่วนราชการน้นั หรือราชการส่วนทอ้ งถ่ินน้นั จดั ใหม้ ีข้ึน ในกรณีเช่นวา่ น้ี ส่วน ราชการ หรือราชการส่วนทอ้ งถ่ินจะจา้ งผทู้ ่ีไดร้ ับใบอนุญาตรับจา้ งใหบ้ ริการบาบดั น้าเสีย หรือกาจดั ของเสีย ตามพระราชบญั ญตั ิน้ี เป็ นผดู้ าเนินงาน และควบคุมการทางานของระบบบาบดั น้าเสียรวม หรือระบบกาจดั ของเสียรวมก็ได้ หลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการสาหรับการจดั ส่ง เกบ็ รวบรวม และขนส่งน้าเสีย หรือของเสียจาก แหล่งกาเนิดมลพิษมาสู่ระบบบาบดั น้าเสียรวม หรือระบบกาจดั ของเสียรวมของทางราชการ รวมท้งั ขอ้ กาหนด ขอ้ หา้ ม ขอ้ จากดั และเงื่อนไขตา่ ง ๆ สาหรับการปล่อยทิ้ง และการระบายน้าเสีย หรือของเสียจาก โรงงานอุตสาหกรรม และแหล่งกาเนิดมลพิษประเภทอ่ืนตามมาตรา ๗๒ ลงสู่ระบบบาบดั น้าเสียรวม หรือ ระบบกาจดั ของเสียรวมของทางราชการ ใหก้ าหนดในกฎกระทรวง ส่วนที่ ๖ มลพษิ อ่ืนและของเสียอนั ตราย มาตรา ๗๘ การเกบ็ รวบรวม การขนส่ง และการจดั การดว้ ยประการใด ๆ เพือ่ บาบดั และ ขจดั ขยะมูลฝอยและของเสียอ่ืนท่ีอยใู่ นสภาพเป็ นของแขง็ การป้องกนั และควบคุมมลพษิ ท่ีเกิดจากหรือมี ที่มาจากการทาเหมืองแร่ท้งั บนบกและในทะเล การป้องกนั และควบคุมมลพิษที่เกิดจากหรือมีที่มาจากการ สารวจ และขดุ เจาะน้ามนั ก๊าซธรรมชาติ และสารไโโดรคาร์บอนทุกชนิดท้งั บนบกและในทะเล หรือการ ป้องกนั และควบคุมมลพษิ ที่เกิดจากหรือมีท่ีมาจากการปล่อยทิ้งน้ามนั และการทิง้ เทของเสียและวตั ถุอ่ืน ๆ จากเรือเดินทะเล เรือบรรทุกน้ามนั และเรือประเภทอ่ืน ใหเ้ ป็นไปตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการน้นั

มาตรา ๗๙ ในกรณีที่ไมม่ ีกฎหมายใดบญั ญตั ิไวโ้ ดยเฉพาะ ใหร้ ัฐมนตรีโดยคาแนะนาของ คณะกรรมการควบคุมมลพษิ มีอานาจออกกฎกระทรวงกาหนดชนิดและประเภทของของเสียอนั ตรายที่เกิด จากการผลิต การใชส้ ารเคมี หรือวตั ถุอนั ตรายในกระบวนการผลิตทางอุตสาหกรรม เกษตรกรรม การ สาธารณสุข และกิจการอยา่ งอ่ืนให้อยูใ่ นความควบคุม ในการน้ี ให้กาหนดหลกั เกณฑ์ มาตรการ และ วธิ ีการเพอื่ ควบคุมการเกบ็ รวบรวม การรักษาความปลอดภยั การขนส่งเคลื่อนยา้ ย การนาเขา้ มาใน ราชอาณาจกั ร การส่งออกไปนอกราชอาณาจกั ร และการจดั การ บาบดั และกาจดั ของเสียอนั ตรายดงั กล่าวดว้ ย วธิ ีการท่ีเหมาะสม และถูกตอ้ งตามหลกั วชิ าที่เก่ียวขอ้ งดว้ ย ส่วนที่ ๗ การตรวจสอบและควบคุม มาตรา ๘๐ เจา้ ของหรือผคู้ รอบครองแหล่งกาเนิดมลพษิ ซ่ึงมีระบบบาบดั อากาศเสีย อุปกรณ์ หรือเครื่องมือสาหรับควบคุมการปล่อยทิ้งอากาศเสีย หรือมลพิษอื่น ระบบบาบดั น้าเสีย หรือระบบ กาจดั ของเสียตามมาตรา ๖๘ หรือมาตรา ๗๐ เป็นของตนเอง มีหนา้ ท่ีตอ้ งเก็บสถิติและขอ้ มูลซ่ึงแสดงผลการ ทางานของระบบ หรืออุปกรณ์และเครื่องมือดงั กล่าวในแตล่ ะวนั และจดั ทาบนั ทึกรายละเอียดเป็นหลกั ฐาน ไว้ ณ สถานท่ีต้งั แหล่งกาเนิดมลพษิ น้นั และจะตอ้ งจดั ทารายงานสรุปผลการทางานของระบบ หรืออุปกรณ์ และเคร่ืองมือดงั กล่าวเสนอต่อเจา้ พนกั งานทอ้ งถ่ินแห่งทอ้ งที่ท่ีแหล่งกาเนิดมลพษิ น้นั ต้งั อยอู่ ยา่ งนอ้ ยเดือน ละหน่ึงคร้ัง การเก็บสถิติ ขอ้ มูล การจดั ทาบนั ทึกรายละเอียดและรายงาน ใหท้ าตามหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และแบบที่กาหนดในกฎกระทรวง ในกรณีที่ระบบบาบดั อากาศเสีย ระบบบาบดั น้าเสีย หรือระบบกาจดั ของเสีย หรืออุปกรณ์ และเคร่ืองมือดงั กล่าวในวรรคหน่ึง จะตอ้ งมีผูค้ วบคุมตามท่ีเจา้ พนกั งานควบคุมมลพิษกาหนด ใหผ้ คู้ วบคุมมี หนา้ ท่ีดาเนินการตามท่ีกาหนดไวใ้ นวรรคหน่ึงแทนเจา้ ของหรือผคู้ รอบครอง ใหผ้ ไู้ ดร้ ับใบอนุญาตรับจา้ งใหบ้ ริการบาบดั น้าเสีย หรือกาจดั ของเสียมีหนา้ ท่ีตอ้ ง ดาเนินการเช่นเดียวกบั เจา้ ของหรือผคู้ รอบครองแหล่งกาเนิดมลพษิ ตามวรรคหน่ึง มาตรา ๘๑ ใหเ้ จา้ พนกั งานทอ้ งถิ่นรวบรวมรายงานท่ีไดร้ ับตามมาตรา ๘๐ ส่งไปใหเ้ จา้ พนกั งานควบคุมมลพษิ ซ่ึงมีอานาจหนา้ ท่ีในเขตทอ้ งถิ่นน้นั เป็นประจาอยา่ งนอ้ ยเดือนละหน่ึงคร้ัง และจะทา ความเห็นเพ่อื ประกอบการพิจารณาของเจา้ พนกั งานควบคุมมลพษิ เสนอไปพร้อมกบั รายงานท่ีรวบรวม ส่งไปน้นั ดว้ ยก็ได้

มาตรา ๘๒ เพื่อปฏิบตั ิการใหเ้ ป็นไปตามพระราชบญั ญตั ิน้ี ใหเ้ จา้ พนกั งานควบคุมมลพิษมี อานาจ ดงั ต่อไปน้ี (๑) เขา้ ไปในอาคาร สถานที่ และเขตที่ต้งั ของโรงงานอุตสาหกรรม หรือแหล่งกาเนิดมลพษิ หรือเขตที่ต้งั ของระบบบาบดั น้าเสีย หรือระบบกาจดั ของเสียของบุคคลใด ๆ ในระหวา่ งเวลาพระอาทิตยข์ ้ึน และพระอาทิตยต์ ก หรือในระหวา่ งเวลาทาการเพ่ือตรวจสภาพการทางานของระบบบาบดั น้าเสีย หรือระบบ กาจดั ของเสีย ระบบบาบดั อากาศเสีย หรืออุปกรณ์และเคร่ืองมือต่าง ๆ เพอื่ ควบคุมการปล่อยทิง้ อากาศเสีย หรือมลพษิ อ่ืน รวมท้งั ตรวจบนั ทึกรายละเอียด สถิติ หรือขอ้ มูลเกี่ยวกบั การทางานของระบบ หรืออุปกรณ์ และเคร่ืองมือดงั กล่าว หรือเมื่อมีเหตุอนั ควรสงสัยวา่ มีการไมป่ ฏิบตั ิตามพระราชบญั ญตั ิน้ี (๒) ออกคาสั่งเป็นหนงั สือใหเ้ จา้ ของหรือผคู้ รอบครอง ผคู้ วบคุม หรือผไู้ ดร้ ับใบอนุญาต รับจา้ งใหบ้ ริการระบบบาบดั น้าเสียหรือกาจดั ของเสีย จดั การแกไ้ ข เปล่ียนแปลง ปรับปรุง หรือซ่อมแซม ระบบบาบดั อากาศเสีย ระบบบาบดั น้าเสีย หรือระบบกาจดั ของเสีย หรืออุปกรณ์และเคร่ืองมือตา่ ง ๆ เพื่อ ควบคุมการปล่อยทิง้ อากาศเสียหรือมลพิษอื่น แตถ่ า้ แหล่งกาเนิดมลพษิ น้นั เป็ นโรงงานอุตสาหกรรม ใหแ้ จง้ ใหเ้ จา้ พนกั งานตามกฎหมายวา่ ดว้ ยโรงงานดาเนินการตามอานาจหนา้ ที่ต่อไป หากเจา้ พนกั งานตามกฎหมาย วา่ ดว้ ยโรงงานไมด่ าเนินการตามอานาจหนา้ ที่ของตน ใหเ้ จา้ พนกั งานควบคุมมลพิษมีอานาจดาเนินการตามท่ี กาหนดไวใ้ นพระราชบญั ญตั ิน้ีได้ (๓) ออกคาสัง่ เป็นหนงั สือส่ังปรับเจา้ ของหรือผคู้ รอบครองแหล่งกาเนิดมลพษิ ซ่ึงมิใช่ โรงงานอุตสาหกรรมตามมาตรา ๙๐ มาตรา ๙๑ หรือมาตรา ๙๒ ในกรณีแหล่งกาเนิดมลพิษน้นั เป็นโรงงาน อุตสาหกรรม ใหม้ ีหนงั สือแจง้ ไปยงั เจา้ พนกั งานตามกฎหมายวา่ ดว้ ยโรงงานใหอ้ อกคาสงั่ ปรับเจา้ ของหรือผู้ ครอบครองโรงงานอุตสาหกรรมน้นั โดยใหถ้ ือวา่ เจา้ พนกั งานตามกฎหมายวา่ ดว้ ยโรงงานเป็ นเจา้ พนกั งาน ควบคุมมลพิษตามพระราชบญั ญตั ิน้ี หากเจา้ พนกั งานตามกฎหมายวา่ ดว้ ยโรงงานไม่ดาเนินการออกคาสั่ง ปรับภายในระยะเวลาอนั สมควร ใหเ้ จา้ พนกั งานควบคุมมลพิษมีอานาจออกคาส่ังปรับเจา้ ของ หรือผู้ ครอบครองแหล่งกาเนิดมลพิษที่เป็นโรงงานอุตสาหกรรมน้นั ได้ (๔) ออกคาสั่งเป็นหนงั สือส่ังใหผ้ ไู้ ดร้ ับใบอนุญาตรับจา้ งใหบ้ ริการบาบดั น้าเสีย หรือกาจดั ของเสียหยดุ หรือปิ ดการดาเนินกิจการใหบ้ ริการบาบดั น้าเสียหรือกาจดั ของเสีย หรือสง่ั เพกิ ถอนใบอนุญาต ในกรณีท่ีผไู้ ดร้ ับใบอนุญาตรับจา้ งใหบ้ ริการบาบดั น้าเสียหรือกาจดั ของเสียน้นั ฝ่ าฝื น หรือไม่ปฏิบตั ิตาม บทบญั ญตั ิแห่งพระราชบญั ญตั ิน้ี กฎกระทรวง ขอ้ บญั ญตั ิทอ้ งถิ่น ระเบียบ ประกาศ หรือเง่ือนไขท่ีออกหรือ กาหนดตามความในพระราชบญั ญตั ิน้ี หรือไม่ปฏิบตั ิตามคาส่ังของเจา้ พนกั งานควบคุมมลพษิ ซ่ึงสง่ั ตาม พระราชบญั ญตั ิน้ี (๕) ออกคาส่ังเป็นหนงั สือเพกิ ถอนการเป็นผคู้ วบคุมตามมาตรา ๖๘ หรือมาตรา ๗๐ ใน กรณีท่ีผคู้ วบคุมน้นั ฝ่ าฝืนหรือไมป่ ฏิบตั ิตามบทบญั ญตั ิแห่งพระราชบญั ญตั ิน้ี กฎกระทรวง ขอ้ บญั ญตั ิทอ้ งถิ่น ระเบียบ ประกาศ หรือเงื่อนไขที่ออกหรือกาหนดตามความในพระราชบญั ญตั ิน้ี หรือไมป่ ฏิบตั ิตามคาสัง่ ของ เจา้ พนกั งานควบคุมมลพิษซ่ึงสั่งตามพระราชบญั ญตั ิน้ี

มาตรา ๘๓ ในกรณีท่ีเห็นสมควรเพ่ือประโยชน์ในการประสานการปฏิบตั ิราชการระหวา่ ง หน่วยงานที่เก่ียวขอ้ ง เจา้ พนกั งานควบคุมมลพิษอาจดาเนินการ ดงั ต่อไปน้ี (๑) เสนอแนะการส่ังปิ ดหรือพกั ใชห้ รือเพิกถอนใบอนุญาต หรือการส่ังใหห้ ยดุ ใชห้ รือทา ประโยชน์ดว้ ยประการใด ๆ เกี่ยวกบั แหล่งกาเนิดมลพิษตามมาตรา ๖๘ มาตรา ๖๙ หรือมาตรา ๗๘ ท่ีจงใจไมท่ า การบาบดั อากาศเสีย น้าเสีย หรือของเสียอยา่ งอ่ืน และลกั ลอบปล่อยทิง้ อากาศเสีย น้าเสีย หรือของเสียที่ยงั ไม่ไดท้ าการบาบดั ออกสู่สิ่งแวดลอ้ มภายนอกเขตที่ต้งั แหล่งกาเนิดมลพษิ ต่อเจา้ พนกั งานผมู้ ีอานาจ ควบคุมดูแลแหล่งกาเนิดมลพิษน้นั ตามกฎหมาย (๒) เสนอแนะใหม้ ีการดาเนินการทางกฎหมายเพื่อบงั คบั ใหเ้ จา้ ของหรือผคู้ รอบครอง แหล่งกาเนิดมลพษิ ตามมาตรา ๗๑ หรือมาตรา ๗๒ จดั ส่งน้าเสียหรือของเสียไปทาการบาบดั หรือกาจดั ตาม พระราชบญั ญตั ิน้ีต่อเจา้ พนกั งานทอ้ งถ่ิน (๓) ใหค้ าปรึกษาแนะนาแก่เจา้ พนกั งานทอ้ งถิ่น หรือส่วนราชการที่เก่ียวขอ้ งเกี่ยวกบั การ ดาเนินการ และบารุงรักษาระบบบาบดั น้าเสียรวม หรือระบบกาจดั ของเสียรวมของทางราชการซ่ึงอยภู่ ายใต้ ความรับผดิ ชอบของเจา้ พนกั งานทอ้ งถิ่นหรือส่วนราชการน้นั มาตรา ๘๔ ในการปฏิบตั ิหนา้ ท่ีตามพระราชบญั ญตั ิน้ี พนกั งานเจา้ หนา้ ท่ี และเจา้ พนกั งาน ควบคุมมลพิษตอ้ งแสดงบตั รประจาตวั เม่ือบุคคลที่เก่ียวขอ้ งร้องขอ บตั รประจาตวั ของพนกั งานเจา้ หนา้ ที่ และเจา้ พนกั งานควบคุมมลพิษใหเ้ ป็นไปตามแบบที่ กาหนดในกฎกระทรวง มาตรา ๘๕ ในการปฏิบตั ิหนา้ ที่ตามพระราชบญั ญตั ิน้ี ใหเ้ จา้ ของหรือผคู้ รอบครองสถานท่ี หรือยานพาหนะ หรือผมู้ ีหนา้ ท่ีเกี่ยวขอ้ งอานวยความสะดวกตามสมควร และใหพ้ นกั งานเจา้ หนา้ ท่ี และเจา้ พนกั งานควบคุมมลพิษเป็นเจา้ พนกั งานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๖[๑๗] ในการปฏิบตั ิหนา้ ท่ีของพนกั งานเจา้ หนา้ ที่ตามมาตรา ๖๕ และการปฏิบตั ิ หนา้ ท่ีของเจา้ พนกั งานควบคุมมลพิษตามมาตรา ๘๒ (๑) ใหท้ าต่อหนา้ เจา้ ของหรือผคู้ รอบครองสถานที่หรือ ยานพาหนะ ถา้ หาบุคคลดงั กล่าวไมไ่ ด้ ใหท้ าต่อหนา้ บุคคลอื่นอยา่ งนอ้ ยสองคน ซ่ึงพนกั งานเจา้ หนา้ ท่ีหรือเจา้ พนกั งานควบคุมมลพษิ ไดข้ อร้องให้มาเป็นพยาน มาตรา ๘๗ เจา้ ของหรือผคู้ รอบครองแหล่งกาเนิดมลพิษ ผไู้ ดร้ ับใบอนุญาตรับจา้ ง ใหบ้ ริการบาบดั น้าเสียหรือกาจดั ของเสีย ผคู้ วบคุม หรือบุคคลอ่ืนใดซ่ึงไมพ่ อใจคาสัง่ ของเจา้ พนกั งาน

ควบคุมมลพิษตามมาตรา ๘๒ (๒) (๓) (๔) หรือ (๕) มีสิทธิร้องคดั คา้ นคาส่งั น้นั ต่อคณะกรรมการควบคุม มลพษิ ภายในสามสิบวนั นบั แต่วนั ที่ไดร้ ับแจง้ คาส่ังของเจา้ พนกั งานควบคุมมลพิษ ถา้ ผรู้ ้องคดั คา้ นไมเ่ ห็นดว้ ยกบั คาวนิ ิจฉยั ของคณะกรรมการควบคุมมลพิษ ใหย้ น่ื อุทธรณ์ ต่อรัฐมนตรีภายในสามสิบวนั นบั แต่วนั ท่ีไดร้ ับแจง้ คาวนิ ิจฉยั ของคณะกรรมการควบคุมมลพษิ คาวนิ ิจฉยั ของรัฐมนตรีใหเ้ ป็ นท่ีสุด ส่วนท่ี ๘ ค่าบริการและคา่ ปรับ มาตรา ๘๘ ในเขตควบคุมมลพษิ หรือเขตทอ้ งท่ีใดซ่ึงไดจ้ ดั ใหม้ ีการก่อสร้าง และ ดาเนินการระบบบาบดั น้าเสียรวม หรือระบบกาจดั ของเสียรวมของทางราชการโดยเงินงบประมาณแผน่ ดิน หรือเงินรายไดข้ องราชการส่วนทอ้ งถิ่น และเงินกองทุนซ่ึงจดั สรรตามพระราชบญั ญตั ิน้ีแลว้ ให้ คณะกรรมการสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติโดยคาแนะนาของคณะกรรมการควบคุมมลพิษพจิ ารณากาหนดอตั รา คา่ บริการท่ีจะประกาศใชใ้ นแต่ละเขตควบคุมมลพษิ หรือเขตทอ้ งที่ท่ีเป็ นท่ีต้งั ของระบบบาบดั น้าเสียรวม หรือระบบกาจดั ของเสียรวมดงั กล่าว การกาหนดอตั ราคา่ บริการตามวรรคหน่ึงใหป้ ระกาศในราชกิจจานุเบกษา มาตรา ๘๙ อตั ราคา่ บริการท่ีกาหนดตามมาตรา ๘๘ สาหรับการบาบดั น้าเสีย หรือกาจดั ของเสียจากแหล่งกาเนิดมลพษิ ตามมาตรา ๗๑ และมาตรา ๗๒ อาจกาหนดใหม้ ีอตั ราแตกต่างกนั ไดต้ าม ความเหมาะสม เจา้ ของหรือผคู้ รอบครองแหล่งกาเนิดมลพิษตามมาตรา ๗๒ ประเภทบา้ นเรือนท่ีอยอู่ าศยั ซ่ึงเป็นผใู้ ชร้ ายยอ่ ย มีสิทธิไดร้ ับยกเวน้ ไมต่ อ้ งเสียคา่ บริการตามหลกั เกณฑแ์ ละเง่ือนไขท่ีคณะกรรมการ ส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติกาหนดโดยคาแนะนาของคณะกรรมการควบคุมมลพิษ มาตรา ๙๐ เจา้ ของหรือผคู้ รอบครองแหล่งกาเนิดมลพษิ ผใู้ ดหลีกเล่ียงไมจ่ ดั ส่งน้าเสียหรือ ของเสียไปทาการบาบดั โดยระบบบาบดั น้าเสียรวม หรือระบบกาจดั ของเสียรวมของทางราชการตามมาตรา ๗๑ หรือมาตรา ๗๒ และลกั ลอบปล่อยทิง้ น้าเสียหรือของเสียน้นั ออกสู่สิ่งแวดลอ้ มภายนอกเขตท่ีต้งั แหล่งกาเนิดมลพิษที่ตนเป็นเจา้ ของหรือผคู้ รอบครอง หรือจดั ส่งน้าเสียหรือของเสียไปทาการบาบดั โดย ระบบบาบดั น้าเสียรวม หรือระบบกาจดั ของเสียรวมของทางราชการ แต่ไมย่ อมชาระค่าบริการท่ีกาหนดโดย ไมม่ ีสิทธิไดร้ ับยกเวน้ ตามมาตรา ๘๙ วรรคสอง จะตอ้ งเสียค่าปรับสี่เทา่ ของอตั ราค่าบริการที่กาหนดตาม มาตรา ๘๘ จนกวา่ จะปฏิบตั ิตามบทบญั ญตั ิแห่งพระราชบญั ญตั ิน้ี

มาตรา ๙๑ เจา้ ของหรือผคู้ รอบครองแหล่งกาเนิดมลพิษซ่ึงมีระบบบาบดั น้าเสียหรือระบบ กาจดั ของเสียตามมาตรา ๗๐ ผใู้ ดลกั ลอบปล่อยทิง้ น้าเสียหรือของเสียลงสู่ระบบบาบดั น้าเสียรวม หรือระบบ กาจดั ของเสียรวมของทางราชการ จะตอ้ งเสียค่าปรับรายวนั ในอตั ราสี่เท่าของจานวนเงินคา่ ใชจ้ า่ ยประจาวนั สาหรับการเปิ ดเดินเครื่องทางานระบบบาบดั น้าเสีย หรือระบบกาจดั ของเสียของตนตลอดเวลาท่ีดาเนินการ เช่นวา่ น้นั และมีหนา้ ท่ีตอ้ งชดใชค้ า่ เสียหายหากการปล่อยทิ้งน้าเสียหรือของเสียน้นั ก่อใหเ้ กิดความชารุด เสียหายหรือความบกพร่องแก่ระบบบาบดั น้าเสียรวม หรือระบบกาจดั ของเสียรวมของทางราชการดว้ ย ประการใด ๆ มาตรา ๙๒ เจา้ ของหรือผคู้ รอบครองแหล่งกาเนิดมลพิษตามมาตรา ๖๘ หรือมาตรา ๗๐ ผใู้ ดละเวน้ ไมใ่ ชอ้ ุปกรณ์และเคร่ืองมือของตนท่ีมีอยสู่ าหรับการควบคุมมลพิษอากาศ เสียง และความ สัน่ สะเทือน หรือละเวน้ ไม่ทาการบาบดั น้าเสีย หรือกาจดั ของเสียโดยใชร้ ะบบบาบดั น้าเสีย หรือระบบกาจดั ของเสียของตนท่ีมีอยู่ และลกั ลอบปล่อยทิ้งมลพิษน้าเสียหรือของเสียดงั กล่าวออกสู่ส่ิงแวดลอ้ มภายนอกเขต แหล่งกาเนิดมลพิษของตน จะตอ้ งเสียคา่ ปรับรายวนั ในอตั ราส่ีเทา่ ของจานวนเงินค่าใชจ้ ่ายประจาวนั สาหรับ การเปิ ดเดินเคร่ืองทางานของอุปกรณ์ เครื่องมือ หรือระบบบาบดั น้าเสีย หรือระบบกาจดั ของเสียของตน ตลอดเวลาท่ีดาเนินการเช่นวา่ น้นั มาตรา ๙๓ ใหเ้ จา้ พนกั งานทอ้ งถ่ิน หรือพนกั งานเจา้ หนา้ ท่ีของส่วนราชการที่จดั ใหม้ ีระบบ บาบดั น้าเสียรวม หรือระบบกาจดั ของเสียรวมของทางราชการ มีอานาจหนา้ ที่จดั เก็บค่าบริการ ค่าปรับ และ เรียกร้องคา่ เสียหายตามที่บญั ญตั ิไวใ้ นส่วนน้ี ท้งั น้ี เฉพาะในส่วนที่เก่ียวขอ้ งกบั ระบบบาบดั น้าเสียรวม หรือ ระบบกาจดั ของเสียรวมของทางราชการที่ราชการส่วนทอ้ งถิ่น หรือส่วนราชการน้นั จดั ใหม้ ีข้ึน ค่าบริการและค่าปรับท่ีจดั เก็บไดต้ ามวรรคหน่ึง ใหไ้ ดร้ ับยกเวน้ ไม่ตอ้ งนาส่งคลงั เป็น งบประมาณแผน่ ดิน โดยให้นามาหกั ส่งเขา้ กองทุนตามอตั ราส่วนท่ีคณะกรรมการกองทุนกาหนด สาหรับ ส่วนที่เหลือใหใ้ ชเ้ ป็ นคา่ ใชจ้ ่ายสาหรับการดาเนินการ และบารุงรักษาระบบบาบดั น้าเสียรวม หรือระบบ กาจดั ของเสียรวมของราชการส่วนทอ้ งถิ่น หรือของส่วนราชการท่ีไดจ้ ดั เกบ็ คา่ บริการและคา่ ปรับน้นั หมวด ๕ มาตรการส่งเสริม มาตรา ๙๔ เจา้ ของหรือผคู้ รอบครองแหล่งกาเนิดมลพษิ ผใู้ ดซ่ึงมีหนา้ ที่ตาม พระราชบญั ญตั ิน้ี หรือตามกฎหมายอ่ืนท่ีเก่ียวขอ้ งท่ีจะตอ้ งจดั ใหม้ ีระบบบาบดั อากาศเสีย ระบบบาบดั น้าเสีย

หรือระบบกาจดั ของเสียอยา่ งอื่น รวมท้งั อุปกรณ์ เคร่ืองมือ เคร่ืองใช้ และวสั ดุท่ีจาเป็ นสาหรับแหล่งกาเนิด มลพษิ น้นั หรือผรู้ ับจา้ งใหบ้ ริการซ่ึงไดร้ ับอนุญาตตามพระราชบญั ญตั ิน้ี มีสิทธิขอรับการส่งเสริมและ ช่วยเหลือจากทางราชการได้ ดงั ต่อไปน้ี (๑) การขอรับความช่วยเหลือดา้ นอากรขาเขา้ สาหรับการนาเขา้ มาในราชอาณาจกั รซ่ึง เครื่องจกั ร อุปกรณ์ เครื่องมือ เคร่ืองใช้ หรือวสั ดุที่จาเป็นซ่ึงไมส่ ามารถจดั หาไดภ้ ายในราชอาณาจกั ร (๒) การขอรับอนุญาตนาผชู้ านาญการ หรือผเู้ ช่ียวชาญชาวต่างประเทศเขา้ มาปฏิบตั ิหนา้ ท่ี เป็นผตู้ ิดต้งั ควบคุม หรือดาเนินงานระบบบาบดั อากาศเสีย ระบบบาบดั น้าเสีย หรือระบบกาจดั ของเสีย ใน กรณีท่ีไมส่ ามารถจดั หาและวา่ จา้ งบุคคลที่มีคุณสมบตั ิที่จะเป็นผคู้ วบคุมเคร่ืองจกั ร อุปกรณ์ เครื่องมือ หรือ เครื่องใชท้ ่ีนาเขา้ มาในราชอาณาจกั รตาม (๑) ไดภ้ ายในราชอาณาจกั ร รวมท้งั ขอยกเวน้ ภาษีเงินไดข้ องบุคคล น้นั ท่ีจะเกิดข้ึนเน่ืองจากการเขา้ มาปฏิบตั ิหนา้ ที่เป็นผคู้ วบคุมในราชอาณาจกั รดว้ ย เจา้ ของหรือผคู้ รอบครองแหล่งกาเนิดมลพษิ ที่ไม่มีหนา้ ท่ีตามกฎหมายดงั กล่าวในวรรค หน่ึง แตป่ ระสงคท์ ่ีจะจดั ใหม้ ีระบบ อุปกรณ์ เคร่ืองมือ หรือเคร่ืองใชข้ องตนเอง เพื่อทาการบาบดั อากาศเสีย น้าเสีย หรือของเสียอยา่ งอ่ืนท่ีเกิดจากกิจการหรือการดาเนินกิจการของตน มีสิทธิที่จะขอรับการส่งเสริมและ ช่วยเหลือจากทางราชการตามวรรคหน่ึงได้ มาตรา ๙๕ คาขอรับการส่งเสริมและช่วยเหลือจากทางราชการตามมาตรา ๙๔ ใหย้ ่ืนต่อ คณะกรรมการสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติตามหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และแบบที่กาหนดในกฎกระทรวง ใหค้ ณะกรรมการสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติพิจารณาคาขอรับการส่งเสริมและช่วยเหลือตาม วรรคหน่ึงไดต้ ามที่เห็นสมควร โดยคานึงถึงความจาเป็นในทางเศรษฐกิจ การเงิน และการลงทุนของผยู้ น่ื คา ขอแต่ละราย และในกรณีท่ีคณะกรรมการสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติเห็นสมควรใหค้ วามช่วยเหลือแก่ผยู้ นื่ คาขอ ใหค้ ณะกรรมการสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติแนะนาใหส้ ่วนราชการที่เก่ียวขอ้ งดาเนินการตามอานาจหนา้ ท่ีของ ส่วนราชการน้นั เพื่อใหก้ ารส่งเสริม หรือใหค้ วามช่วยเหลือแก่ผยู้ นื่ คาขอตอ่ ไป หมวด ๖ ความรับผดิ ทางแพง่ มาตรา ๙๖ แหล่งกาเนิดมลพิษใดก่อใหเ้ กิด หรือเป็ นแหล่งกาเนิดของการรั่วไหล หรือ แพร่กระจายของมลพิษอนั เป็ นเหตุใหผ้ อู้ ื่นไดร้ ับอนั ตรายแก่ชีวติ ร่างกาย หรือสุขภาพอนามยั หรือเป็นเหตุ ใหท้ รัพยส์ ินของผอู้ ื่น หรือของรัฐเสียหายดว้ ยประการใด ๆ เจา้ ของหรือผคู้ รอบครองแหล่งกาเนิดมลพษิ น้นั มีหนา้ ท่ีตอ้ งรับผิดชดใชค้ ่าสินไหมทดแทน หรือค่าเสียหายเพือ่ การน้นั ไมว่ า่ การร่ัวไหล หรือแพร่กระจาย

ของมลพิษน้นั จะเกิดจากการกระทาโดยจงใจ หรือประมาทเลินเล่อของเจา้ ของหรือผคู้ รอบครอง แหล่งกาเนิดมลพษิ หรือไมก่ ็ตาม เวน้ แตใ่ นกรณีที่พสิ ูจนไ์ ดว้ า่ มลพษิ เช่นวา่ น้นั เกิดจาก (๑) เหตุสุดวสิ ยั หรือการสงคราม (๒) การกระทาตามคาส่งั ของรัฐบาลหรือเจา้ พนกั งานของรัฐ (๓) การกระทาหรือละเวน้ การกระทาของผทู้ ่ีไดร้ ับอนั ตรายหรือความเสียหายเอง หรือของ บุคคลอื่น ซ่ึงมีหนา้ ที่รับผดิ ชอบโดยตรงหรือโดยออ้ ม ในการร่ัวไหลหรือการแพร่กระจายของมลพิษน้นั คา่ สินไหมทดแทนหรือคา่ เสียหาย ซ่ึงเจา้ ของหรือผคู้ รอบครองแหล่งกาเนิดมลพิษมีหนา้ ที่ ตอ้ งรับผดิ ตามวรรคหน่ึง หมายความรวมถึงคา่ ใชจ้ า่ ยท้งั หมดที่ทางราชการตอ้ งรับภาระจา่ ยจริงในการขจดั มลพษิ ท่ีเกิดข้ึนน้นั ดว้ ย มาตรา ๙๗ ผใู้ ดกระทา หรือละเวน้ การกระทาดว้ ยประการใดโดยมิชอบดว้ ยกฎหมายอนั เป็นการทาลาย หรือทาใหส้ ูญหาย หรือเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติซ่ึงเป็นของรัฐ หรือเป็นสาธารณสมบตั ิ ของแผน่ ดิน มีหนา้ ที่ตอ้ งรับผดิ ชอบชดใชค้ า่ เสียหายใหแ้ ก่รัฐตามมูลค่าท้งั หมดของทรัพยากรธรรมชาติท่ีถูก ทาลาย สูญหาย หรือเสียหายไปน้นั หมวด ๗ บทกาหนดโทษ มาตรา ๙๘ ผใู้ ดฝ่ าฝืนหรือไมป่ ฏิบตั ิตามคาส่งั ที่ออกตามมาตรา ๙ หรือขดั ขวางการกระทา ใด ๆ ตามคาส่ังดงั กล่าว ตอ้ งระวางโทษจาคุกไม่เกินหน่ึงปี หรือปรับไม่เกินหน่ึงแสนบาท หรือท้งั จาท้งั ปรับ ในกรณีท่ีผฝู้ ่ าฝื นหรือไม่ปฏิบตั ิตามคาสง่ั ดงั กล่าว หรือขดั ขวางการกระทาใด ๆ ตามคาส่ัง ดงั กล่าว เป็นผซู้ ่ึงก่อให้เกิดอนั ตรายหรือความเสียหายจากภาวะมลพษิ ตอ้ งระวางโทษจาคุกไม่เกินหา้ ปี หรือ ปรับไม่เกินหา้ แสนบาท หรือท้งั จาท้งั ปรับ มาตรา ๙๙ ผใู้ ดบุกรุกหรือครอบครองที่ดินของรัฐโดยไม่ชอบดว้ ยกฎหมาย หรือเขา้ ไป กระทาดว้ ยประการใด ๆ อนั เป็นการทาลาย ทาใหส้ ูญหาย หรือเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติหรือศิลปกรรม อนั ควรแก่การอนุรักษ์ หรือก่อใหเ้ กิดมลพิษอนั มีผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดลอ้ ม ในเขตพ้ืนท่ีคุม้ ครอง สิ่งแวดลอ้ มท่ีกาหนดตามมาตรา ๔๓ ตอ้ งระวางโทษจาคุกไมเ่ กินหา้ ปี หรือปรับไม่เกินหา้ แสนบาท หรือท้งั จาท้งั ปรับ

มาตรา ๑๐๐ ผใู้ ดฝ่ าฝืนหรือไมป่ ฏิบตั ิตามขอ้ กาหนดในกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา ๔๔ หรือตามประกาศของรัฐมนตรีตามมาตรา ๔๕ ตอ้ งระวางโทษจาคุกไมเ่ กินหน่ึงปี หรือปรับไมเ่ กินหน่ึงแสน บาท หรือท้งั จาท้งั ปรับ มาตรา ๑๐๑ ผใู้ ดแพร่หรือไขขา่ วที่ไมเ่ ป็นความจริงเก่ียวกบั อนั ตรายจากแหล่งกาเนิด มลพิษใดโดยมีเจตนาท่ีจะทาลายชื่อเสียง หรือความไวว้ างใจของสาธารณชนต่อการดาเนินกิจการโดยชอบ ดว้ ยกฎหมายของแหล่งกาเนิดมลพษิ น้นั ตอ้ งระวางโทษจาคุกไมเ่ กินหน่ึงปี หรือปรับไมเ่ กินหน่ึงแสนบาท หรือท้งั จาท้งั ปรับ หากการแพร่หรือไขขา่ วตามวรรคหน่ึง กระทาโดยการประกาศโฆษณา หรือออกข่าวทาง หนงั สือพิมพ์ วทิ ยกุ ระจายเสียง วทิ ยโุ ทรทศั น์ หรือส่ือมวลชนอยา่ งอื่น ผกู้ ระทาผดิ ดงั กล่าวตอ้ งระวางโทษ จาคุกไมเ่ กินหา้ ปี หรือปรับไมเ่ กินหา้ แสนบาท หรือท้งั จาท้งั ปรับ มาตรา ๑๐๑/๑[๑๘] ผดู้ าเนินการหรือผขู้ ออนุญาตผใู้ ดก่อสร้างหรือดาเนินโครงการหรือ กิจการก่อนท่ีรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดลอ้ มตามมาตรา ๔๘ จะไดร้ ับความเห็นชอบหรือถือวา่ ไดร้ ับความเห็นชอบจากคณะกรรมการผชู้ านาญการ ตอ้ งระวางโทษปรับไมเ่ กินหน่ึงลา้ นบาท และปรับอีก ไม่เกินวนั ละหน่ึงแสนบาทตลอดระยะเวลาท่ีไม่ไดป้ ฏิบตั ิใหถ้ ูกตอ้ งหรือหยดุ การกระทาน้นั ถา้ การกระทาความผดิ ตามวรรคหน่ึงเป็นการก่อสร้างหรือดาเนินการในโครงการหรือ กิจการหรือการดาเนินการใดที่อาจมีผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ คุณภาพส่ิงแวดลอ้ ม สุขภาพ อนามยั คุณภาพชีวติ หรือส่วนไดเ้ สียสาคญั อ่ืนใดของประชาชนหรือชุมชนหรือส่ิงแวดลอ้ มอยา่ งรุนแรง ผกู้ ระทา ตอ้ งระวางโทษหนกั กวา่ โทษท่ีกฎหมายบญั ญตั ิในวรรคหน่ึงก่ึงหน่ึง มาตรา ๑๐๑/๒[๑๙] ผดู้ าเนินการหรือผขู้ ออนุญาตผใู้ ดไม่นาส่งรายงานผลการปฏิบตั ิตาม มาตรการท่ีกาหนดไวใ้ นรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดลอ้ มตามมาตรา ๕๑/๕ วรรคหน่ึง ตอ้ งระวาง โทษปรับไมเ่ กินหน่ึงลา้ นบาท มาตรา ๑๐๒ ผูใ้ ดฝ่ าฝื นคาส่ังห้ามใช้ยานพาหนะของพนกั งานเจา้ หน้าที่ตามมาตรา ๖๕ ตอ้ งระวางโทษปรับไม่เกินห้าพนั บาท มาตรา ๑๐๓ ผใู้ ดไมป่ ฏิบตั ิตามคาสั่งของพนกั งานเจา้ หนา้ ท่ีตามมาตรา ๖๗ ตอ้ งระวางโทษ จาคุกไม่เกินหน่ึงเดือน หรือปรับไม่เกินหน่ึงหม่ืนบาท หรือท้งั จาท้งั ปรับ

มาตรา ๑๐๔ เจา้ ของหรือผคู้ รอบครองแหล่งกาเนิดมลพิษผใู้ ดไมป่ ฏิบตั ิตามมาตรา ๗๑ หรือผใู้ ดไม่ปฏิบตั ิตามมาตรา ๗๒ หรือขอ้ กาหนดของเจา้ พนกั งานทอ้ งถ่ินตามมาตรา ๗๔ หรือมาตรา ๗๕ วรรคหน่ึง หรือกฎกระทรวงท่ีออกตามมาตรา ๘๐ ตอ้ งระวางโทษจาคุกไม่เกินหน่ึงปี หรือปรับไมเ่ กินหน่ึง แสนบาท หรือท้งั จาท้งั ปรับ มาตรา ๑๐๕ ผใู้ ดรับจา้ งเป็นผคู้ วบคุม หรือรับจา้ งใหบ้ ริการบาบดั น้าเสีย หรือกาจดั ของเสีย โดยไม่ไดร้ ับใบอนุญาตตามมาตรา ๗๓ ตอ้ งระวางโทษจาคุกไม่เกินหน่ึงปี หรือปรับไม่เกินหน่ึงแสนบาท หรือท้งั จาท้งั ปรับ มาตรา ๑๐๖ เจา้ ของหรือผคู้ รอบครองแหล่งกาเนิดมลพษิ ผคู้ วบคุม หรือผรู้ ับจา้ งใหบ้ ริการ บาบดั น้าเสีย หรือกาจดั ของเสียผใู้ ดไม่จดั เก็บสถิติ ขอ้ มูล หรือไม่ทาบนั ทึกหรือรายงานตามมาตรา ๘๐ ตอ้ ง ระวางโทษจาคุกไมเ่ กินหน่ึงเดือน หรือปรับไม่เกินหน่ึงหมื่นบาท หรือท้งั จาท้งั ปรับ มาตรา ๑๐๗ ผคู้ วบคุมหรือผรู้ ับจา้ งใหบ้ ริการผใู้ ดทาบนั ทึกหรือรายงานใดที่ตนมีหนา้ ท่ี ตอ้ งทาตามพระราชบญั ญตั ิน้ีโดยแสดงขอ้ ความอนั เป็นเทจ็ ตอ้ งระวางโทษจาคุกไม่เกินหน่ึงปี หรือปรับไม่ เกินหน่ึงแสนบาท หรือท้งั จาท้งั ปรับ มาตรา ๑๐๘ ผูใ้ ดขดั ขวางหรือไม่ปฏิบตั ิตามคาส่ังของเจา้ พนกั งานควบคุมมลพิษในการ ปฏิบตั ิหนา้ ที่ตามมาตรา ๘๒ (๑) ตอ้ งระวางโทษจาคุกไม่เกินหน่ึงเดือน หรือปรับไม่เกินหน่ึงหม่ืนบาท หรือท้งั จาท้งั ปรับ มาตรา ๑๐๙ ผรู้ ับจา้ งใหบ้ ริการบาบดั น้าเสียหรือของเสียผใู้ ดท่ีเจา้ พนกั งานควบคุมมลพิษมี คาสงั่ ใหห้ ยดุ หรือปิ ดการดาเนินกิจการใหบ้ ริการบาบดั น้าเสีย หรือกาจดั ของเสียตามมาตรา ๘๒ (๔) หรือผู้ ควบคุมผใู้ ดท่ีเจา้ พนกั งานควบคุมมลพิษมีคาส่ังใหเ้ พกิ ถอนการเป็นผคู้ วบคุมมลพิษตามมาตรา ๘๒ (๕) ฝ่ า ฝืนหรือไมป่ ฏิบตั ิตามคาส่ังของเจา้ พนกั งานควบคุมมลพษิ หรือฝ่ าฝื นดาเนินกิจการต่อไป ตอ้ งระวางโทษ จาคุกไม่เกินหน่ึงปี หรือปรับไมเ่ กินหน่ึงแสนบาท หรือท้งั จาท้งั ปรับ มาตรา ๑๑๐ เจา้ ของหรือผูค้ รอบครองแหล่งกาเนิดมลพิษผูใ้ ดจา้ งบุคคลท่ีถูกเพิกถอน การเป็นผคู้ วบคุมแลว้ ใหค้ วบคุมการทางานของระบบบาบดั อากาศเสีย ระบบบาบดั น้าเสีย หรือระบบกาจดั ของเสีย ซ่ึงตนมีหนา้ ที่ตามกฎหมายที่จะตอ้ งจดั ใหม้ ีตามพระราชบญั ญตั ิน้ี ตอ้ งระวางโทษปรับไมเ่ กินหา้ หมื่นบาท

มาตรา ๑๑๐/๑[๒๐] ใหร้ ัฐมนตรีมีอานาจแต่งต้งั คณะกรรมการเปรียบเทียบในเขต กรุงเทพมหานครและในส่วนภูมิภาคไดต้ ามความเหมาะสม คณะกรรมการเปรียบเทียบแตล่ ะคณะใหม้ ีจานวนสามคน และตอ้ งแต่งต้งั จากผแู้ ทน สานกั งานอยั การสูงสุด ผแู้ ทนสานกั งานตารวจแห่งชาติ และผแู้ ทนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอ้ ม โดยมีวาระการดารงตาแหน่งคราวละสองปี แตเ่ ม่ือพน้ จากตาแหน่งแลว้ อาจไดร้ ับแตง่ ต้งั อีกได้ การพน้ จากตาแหน่งก่อนวาระ การประชุม และวธิ ีพิจารณาของคณะกรรมการเปรียบเทียบ ใหเ้ ป็นไปตามท่ีรัฐมนตรีประกาศกาหนด มาตรา ๑๑๐/๒[๒๑] บรรดาความผดิ ตามพระราชบญั ญตั ิน้ีที่มีโทษปรับสถานเดียวหรือเป็น ความผดิ ท่ีมีโทษปรับหรือจาคุกไมเ่ กินสองปี ใหค้ ณะกรรมการเปรียบเทียบมีอานาจเปรียบเทียบได้ ในกรณีท่ีพนกั งานสอบสวนเจา้ พนกั งานควบคุมมลพิษ หรือพนกั งานเจา้ หนา้ ที่พบวา่ บุคคลใดกระทาความผิดตามวรรคหน่ึง และบุคคลน้นั ยินยอมให้เปรียบเทียบ ให้พนกั งานสอบสวนเจา้ พนกั งานควบคุมมลพษิ หรือพนกั งานเจา้ หนา้ ที่ แลว้ แตก่ รณี ส่งเรื่องใหค้ ณะกรรมการเปรียบเทียบภายในเจด็ วนั นบั แตว่ นั ที่บุคคลน้นั แสดงความยนิ ยอมใหเ้ ปรียบเทียบ เม่ือผตู้ อ้ งหาไดช้ าระค่าปรับตามจานวนท่ีเปรียบเทียบภายในสามสิบวนั นบั แตว่ นั ท่ีมีการ เปรียบเทียบแลว้ ใหถ้ ือวา่ คดีเลิกกนั ตามบทบญั ญตั ิแห่งประมวลกฎหมายวธิ ีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๑๑[๒๒] ในกรณีที่ผกู้ ระทาความผดิ เป็ นนิติบุคคล ถา้ การกระทาความผดิ ของนิติ บุคคลน้นั เกิดจากการส่ังการหรือการกระทาของกรรมการ หรือผจู้ ดั การ หรือบุคคลใดซ่ึงรับผดิ ชอบในการ ดาเนินงานของนิติบุคคลน้นั หรือในกรณีที่บุคคลดงั กล่าวมีหนา้ ที่ตอ้ งส่ังการหรือกระทาการและละเวน้ ไม่ สง่ั การหรือไมก่ ระทาการจนเป็นเหตุใหน้ ิติบุคคลน้นั กระทาความผดิ ผนู้ ้นั ตอ้ งรับโทษตามที่บญั ญตั ิไว้ สาหรับความผดิ น้นั ๆ ดว้ ย บทเฉพาะกาล มาตรา ๑๑๒ ในระหวา่ งที่ยงั มิไดแ้ ต่งต้งั คณะกรรมการส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติตามมาตรา ๑๒ แห่งพระราชบญั ญตั ิน้ี ใหค้ ณะกรรมการส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติซ่ึงไดร้ ับแต่งต้งั อยกู่ ่อนวนั ที่พระราชบญั ญตั ิน้ี ใชบ้ งั คบั ยงั คงอยใู่ นตาแหน่งเพ่ือปฏิบตั ิหนา้ ท่ีต่อไปจนกวา่ คณะกรรมการที่ไดแ้ ต่งต้งั ข้ึนใหมจ่ ะเขา้ รับ หนา้ ท่ี

มาตรา ๑๑๓ บรรดากฎกระทรวง ขอ้ บงั คบั ระเบียบ ประกาศหรือคาสง่ั ซ่ึงไดอ้ อกโดยอาศยั อานาจตามพระราชบญั ญตั ิส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๑๘ ที่ใชบ้ งั คบั อยใู่ น วนั ที่พระราชบญั ญตั ิน้ีมีผลใชบ้ งั คบั ใหค้ งใชบ้ งั คบั ตอ่ ไปไดเ้ ทา่ ท่ีไมข่ ดั หรือแยง้ กบั พระราชบญั ญตั ิน้ี ท้งั น้ี จนกวา่ จะไดม้ ีการออกกฎกระทรวง ขอ้ บงั คบั ระเบียบ ประกาศ หรือคาสง่ั ตามพระราชบญั ญตั ิน้ี มาตรา ๑๑๔ ใหผ้ ทู้ ่ีไดร้ ับใบอนุญาตเป็นผมู้ ีสิทธิทารายงานเก่ียวกบั การศึกษา และ มาตรการป้องกนั และแกไ้ ขผลกระทบกระเทือนตอ่ คุณภาพสิ่งแวดลอ้ มอยแู่ ลว้ ตามพระราชบญั ญตั ิส่งเสริม และรักษาคุณภาพส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๑๘ เป็นผมู้ ีสิทธิทารายงานผลกระทบส่ิงแวดลอ้ มตาม พระราชบญั ญตั ิน้ีไดต้ ่อไป ท้งั น้ี จนกวา่ รัฐมนตรีจะกาหนดใหผ้ นู้ ้นั มาดาเนินการขออนุญาตตาม พระราชบญั ญตั ิน้ี มาตรา ๑๑๕ บรรดารายงานเกี่ยวกบั การศึกษา และมาตรการป้องกนั และแกไ้ ขผลกระทบ กระเทือนตอ่ คุณภาพส่ิงแวดลอ้ มสาหรับโครงการหรือกิจการใดตามพระราชบญั ญตั ิส่งเสริมและรักษา คุณภาพสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๑๘ ท่ีไดย้ น่ื ไวก้ ่อนวนั ที่พระราชบญั ญตั ิน้ีใชบ้ งั คบั และยงั อยใู่ น ระหวา่ งการพจิ ารณาของสานกั งานคณะกรรมการสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติ ใหด้ าเนินการพจิ ารณาใหค้ วาม เห็นชอบไดต้ ่อไปตามหลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการท่ีกาหนดตามพระราชบญั ญตั ิส่งเสริมและรักษาคุณภาพ ดาเนินการดงั กล่าวเป็ นสิ่งแวดลอ้ มแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๑๘ ท้งั น้ี โดยใหอ้ านาจหนา้ ท่ีของสานกั งาน คณะกรรมการส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติในการพจิ ารณาอานาจหนา้ ท่ีของสานกั งานนโยบายและแผน ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม* ผรู้ ับสนองพระบรมราชโองการ อานนั ท์ ปันยารชุน นายกรัฐมนตรี อตั ราค่าธรรมเนียม ๑.[๒๓] คาขอรับใบอนุญาตเป็ นผมู้ ีสิทธิ (ยกเลิก) ทารายงานผลกระทบสิ่งแวดลอ้ ม ปี ละ ๕,๐๐๐ บาท ๒.[๒๔] ใบอนุญาตเป็ นผจู้ ดั ทารายงาน การประเมินผลกระทบสิ่งแวดลอ้ ม

๓. คาขอรับใบอนุญาตเป็ นผคู้ วบคุม ฉบบั ละ ๔๐ บาท ๔. ใบอนุญาตเป็ นผคู้ วบคุม ปี ละ ๔,๐๐๐ บาท ๕. คาขอรับใบอนุญาตเป็นผรู้ ับจา้ งใหบ้ ริการ ฉบบั ละ ๔๐ บาท ๖. ใบอนุญาตเป็นผรู้ ับจา้ งให้บริการ ปี ละ ๔,๐๐๐ บาท ๗.[๒๕] การต่ออายใุ บอนุญาต คร้ังละเท่ากบั คา่ ธรรมเนียม ใบอนุญาต


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook