Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore น้ำคือชีวิต

น้ำคือชีวิต

Published by 945sce00462, 2021-08-31 03:46:54

Description: น้ำคือชีวิต

Search

Read the Text Version

น้ำ คอื ชีวติ

ควำมหมำย น้ำมีควำมสำ้ คัญต่อกำรดำ้ เนนิ ชวี ติ ของสง่ิ มีชีวิต ท้งั ในดำ้ นอุปโภคและ บรโิ ภคแต่ในปัจจุบันมนษุ ย์ใช้น้ำอย่ำงไม่คำ้ นึงถงึ ควำมส้ำคัญของน้ำ ซึ่งมนุษย์ส่วน ใหญน่ ัน้ เห็นแก่ตวั มกั งำ่ ย เช่น ใช้ในกำรช้ำระล้ำงร่ำงกำย และสงิ่ ของเครื่องใช้แล้ว กป็ ลอ่ ยน้ำเสยี ลงสูแ่ มน่ ำ้ ลำ้ คลอง โดยไมม่ กี ำรคำ้ นึงถงึ สำเหตุท่ีจะท้ำให้เกิดมลพิษ ทำงน้ำ ซ่ึงมผี ลกระทบตอ่ ส่ิงแวดล้อมและสง่ิ มชี ีวิต ท้ังท่ีอยใู่ นน้ำและบนบก ท้ำให้ ควำมหลำกหลำยของชนดิ พันธข์ุ องสิ่งมชี ีวติ ทอ่ี ำศยั อย่ใู นบรเิ วณนัน้ ลดลง สัตวน์ ้ำ ขำดออกซิเจนตำยแล้วทำ้ ให้น้ำเน่ำเสีย มนุษยก์ ็ต้องรับประทำนสัตว์น้ำท่มี ีสำรเคมี เจือปนอยู่ในตัวสัตวน์ ้ำ เปน็ ต้น เพรำะฉะนน้ั มนษุ ยจ์ ึงควรช่วยกันรกั ษำสง่ิ แวดล้อม ทำงนำ้ เหตุน้คี ณะผ้จู ดั ทำ้ โครงงำนจึงได้ทำ้ ส่ือโครงงำนขนึ้ เพอ่ื ใหผ้ ู้ศกึ ษำไดศ้ ึกษำ เก่ยี วกบั องค์ประกอบของนำ้ และกำรชว่ ยกำรลดปัญหำมลพษิ ทำงน้ำอันทเ่ี กดิ จำก ควำมมกั งำ่ ยและควำมเห็นแก่ตัวของมนุษย์ในสงั คมยคุ ปจั จุบัน และยงั รักษำ สิ่งแวดลอ้ มให้ดำ้ รงไว้

สำเหตุ 1. นำ้ เสียจำกบำ้ น ร้ำนคำ้ และอำคำรท่ีท้ำกำร ชุมชนท่ีมีบ้ำนเรือนท่ีอยู่อำศัยหลำย ๆ หลังคำเรือน ย่ำนกำรค้ำหรืออำคำรท่ีท้ำกำร ล้วน จำ้ เปน็ ตอ้ งใช้น้ำเพื่อกำรอุปโภคบรโิ ภค และใชส้ อยในจุดประสงค์อื่น ๆ น้ำที่ใช้น้ีจะมีปริมำณหน่ึง ซ่ึงเป็นปริมำณส่วนใหญ่กลำยเป็นน้ำท้ิงออกมำ น้ำทิ้งน้ีส่วนมำกจะเป็นน้ำจำกส้วมและจำกกำร ช้ำระซกั ล้ำง ซ่ึงประกอบไปด้วยสำรอินทรียส์ บู่ ผงซกั ฟอก เศษอำหำร ไขมัน สำรอินทรีย์ และสิ่ง ปฏิกูลอื่น ๆ เจือปนอยู่ สำรเหล่ำน้ีเม่ือไหลลงสู่แม่ล้ำคลอง จะเกิดผลเสียสองประกำรใหญ่ ๆ คือ ประกำรแรกช่วยเพ่ิมอำหำรเสริมแก่พืชน้ำและสัตว์น้ำ ท้ำให้มีพืชน้ำและสัตว์น้ำเพ่ิมข้ึน เมื่อพืช น้ำและสัตว์น้ำตำยไป จะท้ำให้เกิดสำรอินทรีย์ในน้ำเพ่ิมข้ึน สำรอินทรีย์ที่มำจำกน้ำท้ิงและท่ีเกิด เพ่ิมข้ึนน้ี ถ้ำมีจ้ำนวนมำกเมื่อถูกย่อยสลำยโดยแอโรบิคบัคเตรีที่มีอยู่ในน้ำ ก็จะน้ำเอำออกซิเจน ละลำยในนำ้ มำใช้ในอัตรำทส่ี งู กว่ำอัตรำท่อี อกซเิ จนในอำกำศละลำยลงในน้ำ ท้ำให้เกิดสภำพขำด ออกซิเจนขึ้น อันเป็นสภำวะแวดล้อมที่เหมำะกับแอนแอโรบิคบัคเตรีให้ย่อยสลำยสำรอินทรีย์ ต่อไป ทำ้ ให้น้ำกลำยเป็นสดี ำ้ มีกลิน่ เหม็น สว่ นสำรอื่น ๆ ที่ปนมำ

2. น้ำเสียจำกโรงงำนอุตสำหกรรม น้ำเสียจำกโรงงำนอุตสำหกรรม ไดแ้ ก่ นำ้ ทง้ิ จำกระบบกำรผลิต ระบบกำร หล่อเย็น อำคำรท่ีอยู่อำศัยและท่ีท้ำกำร ร้ำนค้ำและโรงอำหำรสำรท่ีปะปนมำ อำจจะเป็นสำรอินทรีย์ สำรอนินทรีย์ กรดด่ำง โลหะหนัก สำรเคมีต่ำง ๆ สำร กัมมันตภำพรังสี สำรพิษ ดินทรำยและสิ่งปฏิกูลอื่นๆ ซ่ึงเม่ือทิ้งลงในแม่น้ำล้ำ คลอง จะท้ำให้เพ่ิมปริมำณสำรเหล่ำน้ันหรือเกิดกำรเป็นพิษกับสิ่งมีชีวิตในน้ำ เกิดกำรเน่ำเหมน็ เกิดสี กลนิ่ และควำมไม่นำ่ ดู

3. ปุย๋ ทใี่ ช้ในกำรเกษตร ปยุ๋ หลกั ทใ่ี ชใ้ นกำรเกษตร ไดแ้ ก่ สำรไนโตรเจนและฟอสฟอรัส ฟอสฟอรัสทีอ่ ยใู่ นรูปของฟอสเฟตสำมำรถยึดตดิ อยูก่ บั ดนิ ได้ จึงมีสว่ นนอ้ ย ที่ไหลไปกบั นำ้ ดังนน้ั สำรท่ีท้ำให้เกิดปญั หำคอื ไนโตรเจน กำรใช้ปุ๋ยสว่ น ใหญม่ ักใสก่ นั มำกเกนิ กวำ่ ทีพ่ ืชจะน้ำไปใช้ได้หมด เมอ่ื ฝนตกน้ำฝนจะชะเอำ ไนโตรเจนไหลไปตำมผิวดิน ลงสแู่ มน่ ำ้ ลำ้ คลอง ชว่ ยให้สำหร่ำยเจริญเตบิ โต ได้ดเี ป็นจ้ำนวนมำก ทำ้ ให้น้ำเกดิ สี กลน่ิ และรสเม่ือสำหร่ำยเหล่ำน้ตี ำยลง ก็จะท้ำใหน้ ้ำเนำ่ เหมน็ และมฟี ีนอลสงู ขึน้ เกิดฝ้ำขำวลอยอยตู่ ำมผวิ น้ำ

4. ผวิ ดนิ ทพ่ี งั ทลำย ในพ้ืนที่รับน้ำบำงแห่ง เช่น อ่ำงเก็บน้ำที่เส่ือมสภำพและมีกำรพังทลำย ของหนำ้ ดนิ จะท้ำให้น้ำมคี วำมขุ่นสูง เกิดสี กลน่ิ และรสได 5. กำรเลียงปศุสตั ว์ กำรเลีย้ งปศสุ ตั ว์ ถ้ำสัตว์เล้ียงกินหญ้ำที่คลุมหน้ำดินมำกเกินไปจะท้ำให้ หน้ำดินถูกน้ำกัดเซำะเม่ือฝนตก และเม่ือไหลลงในแหล่งรับน้ำก็จะเกิดปัญหำ เช่นเดียวกับข้อ 4 นอกจำกนี้มูลสัตว์ก็จะไหลลงไปในล้ำน้ำท้ำให้มีสำรอินทรีย์ ไนโตรเจน และฟอสฟอรัสสงู เกดิ ปัญหำเชน่ เดียวกบั ข้อ 1 และ 3

6. ยำฆ่ำแมลงและยำกำ้ จัดวชั พชื ยำฆำ่ แมลงและยำก้ำจดั วชั พชื สว่ นมำกเป็นสำรเคมที บ่ี ำงครัง้ กเ็ ป็นสำรมีพษิ เม่ือถกู ชะล้ำงลงไปในน้ำ ก็จะเป็นพษิ แกพ่ ืชและสัตวท์ ีอ่ ยู่ในน้ำ หำกเรำน้ำน้ำไปใชก้ ็ จะได้รบั อนั ตรำยจำกสำรพษิ น้ันดว้ ย 7. ไฟปำ่ ถ้ำเกิดไฟป่ำในบริเวณพืน้ ทท่ี เ่ี ปน็ แหล่งตน้ กำ้ เนดิ น้ำจะทำ้ ให้มขี ยะ เถำ้ ถ่ำน ตะกอนทรำย รวมท้งั สำรมลพิษต่ำง ๆ ไหลลงไปในแหลง่ น้ำเปน็ จ้ำนวนมำก ซึ่งจะ สง่ ผลเสียต่อคุณภำพของน้ำทน่ี ำ้ ไปใชส้ อย อีกทั้งอำจจะท้ำให้อ่ำงเก็บน้ำหรอื แม่น้ำ ตน้ื เขนิ เนือ่ งจำกกำรสะสมของเถ้ำถ่ำนและตะกอนตำ่ ง ๆ

ผลกระทบ ผลกระทบของน้ำเสยี มดี ังตอ่ ไปน้ี คอื นำ้ จะมสี แี ละกลิ่นทน่ี ำ่ รงั เกียจ น้ำ เป็นอันตรำยตอ่ ส่งิ มีชวี ติ ในน้ำ เกดิ มลพษิ ตอ่ ส่งิ แวดลอ้ ม เป็นแหลง่ ของเชอ้ื โรค ต่ำงๆ สมู่ นุษย์ สตั ว์ และพืช อกี ท้งั ยังเป็นอันตรำยต่อสุขภำพ รวมทง้ั มลพษิ ทำงนำ้ จะสง่ ผลให้มกี ำรท้ำลำยทศั นยี ภำพในเรอ่ื งสง่ิ แวดล้อมและกำรทอ่ งเท่ียวดว้ ย ส่ิงทนี่ ำ่ วิตกคือ แหล่งนำ้ ทีใ่ หญท่ ี่สุด คอื มหำสมทุ รและทะเลนั้น ปัจจุบัน ไดก้ ลำยเป็นแหลง่ สะสมสำรมลพษิ ทำงน้ำเกอื บทกุ ชนิด หำกเกดิ กำรสะสมมำกขน้ึ เปน็ ลำ้ ดบั มนษุ ยจ์ ะได้รับผลกระทบทเี่ ปน็ อันตรำยทงั้ ทำงตรงและทำงออ้ มทีจ่ ะ เกิดข้ึนในปัจจบุ นั และในอนำคต

แหล่งเกษตรกรรม ไดแ้ ก่ สวน ไร่ นำ ฟำร์ม น้ำทร่ี ะบำยออกจำกบรเิ วณที่มีกำรเกษตร ส่วนใหญ่จะ มสี ำรประกอบทำงเคมีท่ีชะล้ำงมำจำกผิวดิน ได้แก่ ปุ๋ยเคมี ปยุ๋ อนิ ทรยี ์และวตั ถทุ มี่ พี ษิ ที่ ใชใ้ นกำรเกษตรกรรม ขบวนกำรเตรียมพ้ืนที่เพำะปลูก อำจมีกำรไถพรวนดนิ เศษพชื บำงสว่ นอำจถกู พัดพำไปโดยอิทธิพลของนำ้ และปจั จยั อน่ื ๆ ให้ตกลงสแู่ หลง่ น้ำ และ กอ่ ใหเ้ กิดตะกอน หรอื ของเน่ำเสยี ซ่ึงเป็นตัวเรง่ ใหเ้ กิดนำ้ เน่ำเสียขึน้ อกี เช่นเดียวกัน สำ้ หรับขบวนกำรเพำะปลกู อำจต้องมีกำรใช้ปยุ๋ หรอื สำรวัตถุมพี ษิ เพอื่ ชว่ ยเพิ่มผลผลติ ของพืชทป่ี ลูกเพรำะฉะนัน้ ส่ิงเหลำ่ นย้ี อ่ มมีโอกำสท่จี ะถกู พัดพำลงสู่แหล่งน้ำได้ โดย ขบวนกำรชะลำ้ งของฝนหรือน้ำชลประทำน สว่ นขบวนกำรเก็บเก่ียวกอ็ ำจเร่มิ ตน้ จำกมี บำงส่วนของพชื ผล ถกู เคลื่อนย้ำยลงสู่แหล่งน้ำโดยควำมตัง้ ใจ เช่น กำรทำ้ ควำมสะอำด พชื ผลในเบ้อื งแรก กำรแช่ลำ้ งเพ่ือขจดั ส่ิงที่ไม่ตอ้ งกำรบำงอย่ำงให้หลดุ ออกไปจำก พืชผล สำรพิษ รวมถึงสิ่งปฏกิ ลู ต่ำงๆ จะหลดุ ลอยลงสแู่ หลง่ นำ้ ได้

แหลง่ คมนำคมทำงเรือ เป็นแหล่งมลพิษทำงน้ำที่ส้ำคัญแหล่ง หนึ่งแต่มักจะถูกมองข้ำมไป สำรมลพิษจำกแหล่งน้ี คือ น้ำมันท่ีใช้กับ เคร่ืองจักรกลของเรือ จะเล็ดลอดลงในน้ำ เมื่อเรือขนส่งน้ำมันขนำดใหญ่ร่ัว หรือเกิดอุบัติเหตุจมลงน้ำมันจะกระจำยเข้ำไปอยู่ในแหล่งน้ำ เกิดครำบน้ำมัน ปกคลุมผิวหน้ำน้ำเป็นบริเวณกว้ำงขวำงมำกคล่ืนจะซัดครำบน้ำมันเข้ำหำฝั่ง ทะเล ก่อควำมสกปรกและกำรขำดออกซิเจนในบริเวณน้ันได้นำน จนกระท่ัง ส่ิงมชี วี ิตล้มตำยลงมำกมำย

กำรอนุรกั ษน์ ้ำ กำรอนรุ ักษ์น้ำ คอื กำรป้องกนั ปัญหำทพ่ี ึงจะเกิดข้ึนกับนำ้ และกำรนำ้ มำใช้เพ่ือเกิดประโยชน์ สงู สดุ ในกำรด้ำรงชวี ิตของมนุษย์ เรำจึงควรช่วยกันแก้ ปัญหำกำรสญู เสยี ทรัพยำกรน้ำดว้ ยกำรอนรุ ักษ์นำ้ ดงั น้ี 1.กำรปลูกปำ่ โดยเฉพำะกำรปลกู ป่ำบริเวณพื้นทีต่ น้ น้ำ หรอื บรเิ วณพนื้ ที่ภเู ขำ เพอ่ื ใหต้ ้นไมเ้ ปน็ ตัว กกั เก็บนำ้ ตำมธรรมชำติ ท้งั บนดินและใต้ดนิ แล้วปลดปลอ่ ยออกมำอยำ่ งต่อเนื่องตลอดปี รวมทงั้ ยัง สำมำรถปอ้ งกนั ปญั หำอืน่ ๆได้ 2.กำรพัฒนำแหล่งน้ำ เนอื่ งจำกปัจจุบนั แหล่งน้ำธรรมชำติต่ำงๆ เกดิ สภำพตน้ื เขนิ เปน็ ส่วนใหญ่ ท้ำ ให้ปริมำณน้ำท่จี ะกกั ขงั ไว้มีปริมำณลดลง กำรพฒั นำแหลง่ นำ้ เพ่อื ใหม้ ีน้ำเพียงพอจึงจ้ำเป็นตอ้ งทำ้ กำรขุด ลอกแหลง่ น้ำใหก้ ว้ำงและลึกใกลเ้ คยี งกับสภำพเดิมหรือมำกกว่ำ 3.กำรสงวนนำ้ ไวใ้ ช้ เปน็ กำรวำงแผนกำรใช้นำ้ เพื่อใหม้ ีปรมิ ำณน้ำทีม่ คี ุณภำพมำใชป้ ระโยชน์ตลอด ทั้งปี โดยเฉพำะในช่วงฤดูแลง้ ดว้ ยวิธกี ำรตำ่ งๆ เช่นกำรท้ำบอ่ หรอื สระเก็บน้ำ กำรหำภำชนะขนำดใหญ่ เพ่อื กักเก็บนำ้ ฝน( เชน่ โอ่งหรอื แท็งก์น้ำ) รวมทงั้ กำรสรำ้ งอ่ำงเก็บนำ้ และระบบชลประทำน

สถำนท่ีกำ้ จดั ขยะมลู ฝอย น้ำเสียจำกสถำนท่ีก้ำจัดขยะมูลฝอย น้ำเสีย ประเภทน้ีเกิดจำกำรที่มีกำรน้ำขยะมูลฝอยไปกองท้ิงอย่ำงไม่ ถูกวิธี ท้ำให้เป็นแหล่งก้ำเนิดน้ำเสียที่ส้ำคัญอีกแหล่งหน่ึง เน่ืองจำกขยะมูลฝอยประกอบด้วยเศษอำหำร และของเน่ำ เสีย เม่ือฝนตกชะลงมำท้ำให้น้ำเสียไหลปนเป้ือนลงสู่แหล่ง น้ำผิวดินและซมึ ลงสแู่ หลง่ น้ำใตด้ ินไดด้ ้วย


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook