วทิ ยาลัยชมุ ชนอุทยั ธานี เอกสารประกอบการเรียนการสอน วิชา ภาษาองั กฤษเพ่อื การสอื่ สาร English for Communication ENGLISH FOR COMMUNICATION สถาบันวิทยาลัยชมุ ชน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
วิทยาลัยชุมชนอุทยั ธานี English for Communication เสยี งในภาษาและความสาคัญของการออกเสยี ง (Sound in Language and Importance of Pronunciation) ภาษา ทำหนำ้ ที่เป็นเคร่ืองมือท่ีมนุษย์ใชใ้ นกำรส่ือสำร และมี ปฏิสมั พันธ์กนั ในระหวำ่ งสมำชิกในสงั คมเพือ่ วัตถปุ ระสงค์ใดประสงค์หน่ึง ในชวี ิตของกำรดำรงชีวิตของมนุษย์ในสงั คมแตล่ ะวัน มนษุ ยจ์ ำเปน็ ตอ้ งมี กำรตดิ ต่อสื่อสำรกนั อยู่ตลอดเวลำก็วำ่ ได้ กำรสอื่ สำรท่วี ่ำนนั้ จะไม่สำเร็จ ลุล่วงไปได้เลยถ้ำขำดสงิ่ ทีเ่ รำเรียกว่ำ สอ่ื สอ่ื ท่มี นุษยใ์ ช้ในกำรติดต่อส่อื สำร ในแตล่ ะวนั สำมำรถแบ่งออกได้เปน็ 2 สอ่ื ได้แก่ 1. ส่ือทเ่ี ป็นตัวอกั ษร และ 2. สื่อท่ีเปน็ เสยี งพดู ในกำรส่ือสำรด้วยเสียงพูด เรำจำเป็นต้องเข้ำใจ มีควำมถูกต้อง และชัดเจนในเร่ืองกำรออกเสียง ซ่ึงถือ ว่ำเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้กำรส่งสำรสัมฤทธ์ิผลตำมท่ีต้ังไว้ ท่ีกล่ำวว่ำกำรออกเสียงถือเป็นปัจจัยที่สำคัญน้ัน เพรำะว่ำหำกผู้ส่งสำรพูดออกเสียงผิดจำกหลักกำรออกเสียงท่ีถูกต้อง ก็ย่อมทำให้กำรส่ือสำรไม่สำเร็จลุล่วงตำม วตั ถุประสงค์ท่ีตง้ั ไว้ ตัวอย่ำงเช่น ถำ้ เรำตอ้ งกำรส่งควำมด้วยสื่อท่ีเป็นเสยี งพดู ในภำษำองั กฤษว่ำ คนผู้ชายหนึ่งคน แต่เรำออกเสียงว่ำ เม็น (men) ผู้รับสำรก็จะรับข้อควำมท่ีส่งว่ำ คนผู้ชายหลายคน ซึ่งไม่ได้เป็นไปตำม วัตถุประสงค์ท่ีเรำตงั้ ไว้ ส่งผลให้กำรสื่อสำรล้มเหลว เป็นต้น ดงั นั้น ในกำรส่งสำรหรอื ส่ือสำรด้วยเสียงพูด ผู้ส่งสำร หรือผู้พูดจำเป็นต้องออกเสียงให้มีควำมชัดเจน ถูกต้อง จึงจะทำให้กำรสื่อสำรสัมฤทธ์ิผลตำมที่ตั้งไว้ ด้วยเหตุน้ี หำกผู้ส่งสำรหรือผู้พูดมีควำมประสงค์ท่ีจะส่ือสำรด้วยเสียงพูดท่ีเป็นภำษำอังกฤษ ผู้ส่งสำรหรือผู้พูดคนนั้นจำเป็นที่ จะต้องมีควำมเขำ้ ใจในกระบวนกำรของกำรออกเสยี งในภำษำอังกฤษให้ถูกต้องชดั เจน กระบวนการเปลง่ เสียง (Sound Production Process) ในกำรเปล่งเสยี งพูดของมนุษย์นน้ั สำมำรถแยกอธบิ ำยไดเ้ ป็น 4 กระบวนกำร ไดแ้ ก่ 1. กระบวนกำรกำรกำเนิดลม (Initiation Process) 2. กระบวนกำรกำรดัดแปลงลมลมทบ่ี รเิ วณเส้นเสียง (Phonation Process) 3. กระบวนกำรกำรดัดแปลงลมท่ีบริเวณช่องคอและชอ่ งจมูก (Oro-nasal Process) 4. กระบวนกำรกำรดัดแปลงลมในบริเวณช่องปำก (Articulation Process) 2
วทิ ยาลยั ชุมชนอทุ ยั ธานี English for Communication กระบวนการการกาเนดิ ลม (Initiation Process) ลม ซ่ึงเกิดข้ึนภำยในบริเวณของร่ำงกำยท่ีเกี่ยวข้องกับกำรเปล่งเสียง ถือเป็นปัจจยั ท่ีสำคัญมำก ลมที่มนุษย์ใช้ ในกำรเปล่งเสียงส่วนใหญ่ในภำษำ เป็นลมท่ีเกิดข้ึนจำกปอด และผ่ำนอวัยวะต่ำงๆ ของร่ำงกำยออกสู่ภำยนอก ซ่ึง เรียกว่ำ ลมออก (Egressive airstream) ในบำงภำษำ มนุษย์อำจจะใช้ลมอีกประเภทหน่ึง ซึ่งเป็นลมที่เข้ำสู่ร่ำงกำย จำกภำยนอก เรียกว่ำ ลมเข้า (Ingressive airstream) กำรเกิดลมที่บริเวณปอดน้ัน เกิดขึ้นโดยกำรบีบและขยำย ออกของกะบังลม และกล้ำมเนื้อซ่ีโครงที่มีผลต่อช่องอก ส่งผลให้ควำมดันของอำกำศท่ีต่ำงกัน กล่ำวคือ ถ้ำกล้ำมเน้ือ ซี่โครงและกะบังลม มีกำรบีบให้ช่องอกเล็กลง อำกำศจะเคลื่อนตัวจำกปอดสู่ภำยนอก ในทำงกลับกัน ถ้ำกล้ำมเน้ือ ซี่โครงและกะบังลมมีกำรขยำยให้ชอ่ งอกขยำยออก อำกำศ กจ็ ะเคลื่อนตวั เขำ้ ภำยในปอด กระบวนการการดดั แปลงลมลมท่ีบรเิ วณเสน้ เสียง (Phonation Process) เม่ือลมเกิดขึ้นที่ปอดตำมกระบวนกำรกำรกำเนิดลมที่กล่ำวมำแล้วข้ำงต้น ลมดังกล่ำวก็จะเคลื่อนตัว สู่ด้ำนบน ของร่ำงกำย โดยเคลื่อนตัวผ่ำนหลอดลม (trachea หรือ windpipe) และหลังจำกน้ันก็จะเคลื่อนตัวผ่ำนช่องว่ำง ระหว่ำงเส้นเสียง (glottis) ข้ึนมำสู่ด้ำนบนและออกสู่ภำยนอกทำงปำกหรือทำงจมูก ลมท่ีผ่ำนเส้นเสียงทำให้เกิดเสียง ในภำษำ ซงึ่ สำมำรถแบง่ ออกได้เปน็ 3 ประเภท ไดแ้ ก่ 1. เสียง Glottal stop ซ่ึงเกิดจำกกำรท่ีเส้นเสียงท้ังสองเส้นแนบเข้ำหำกันอย่ำงสนิท โดยท่ีลมถูกกักไว้ ใน ตอนแรกใต้เส้นเสียงท้ังสองเส้น และหลังจำกน้ัน ลมก็จะถูกปล่อยออกสู่ภำยนอก ตัวอย่ำงเสียงประเภทน้ีใน ภำษำองั กฤษ ได้แกก่ ำรออกเสียงทำ้ ยของคำต่อไปน้ี bit hot foot feet out shout count เป็นต้น 2. เสียงไม่ก้อง (voiceless) ซึ่งเกิดจำกกำรท่ีเส้นเสียงทั้งสองเส้นแยกตัวออกจำกกัน ทำให้เกิดช่องว่ำง ระหว่ำงเส้นเสียง ลมสำมำรถผ่ำนออกสู่ภำยนอกได้อย่ำงอิสระ ไม่ทำให้เส้นเสียงส่ัน (vibrate) ส่งผลทำให้เกิด เสียง ไม่ก้อง ตัวอยำ่ งเสียงประเภทนใี้ นภำษำอังกฤษ ไดแ้ ก่เสยี งท้ำยคำของคำตอ่ ไปน้ี miss kiss this less place lace grace เป็นต้น 3. เสียงก้อง (voiced) ซึ่งเกดิ จำกกำรที่เสน้ เสียงทง้ั สองเส้นชิดตวั กัน แต่ไมถ่ ึงกับปิดสนิท ยงั มชี ่องเล็กๆ ให้ ลมสำมำรถผ่ำนออกสู่ภำยนอกได้บ้ำง จะมีกำรสั่นของเส้นเสียงเม่ือลมผ่ำน ส่งผลทำให้เกิด เสียงที่เรียกว่ำ เสียงก้อง ตวั อยำ่ งเสยี งประเภทนีใ้ นภำษำอังกฤษ ได้แกเ่ สยี งของคำต่อไปนี้ vine mine valve beat fine pine pave กระบวนการการดดั แปลงลมทบ่ี รเิ วณช่องคอและช่องจมูก (Oro - nasal Process) เม่ือลมผ่ำนเส้นเสียงจำกกระบวนกำรที่สองที่ได้กล่ำวแล้วข้ำงต้น ในขั้นตอนหรืกระบวนกำรนี้ ลมจะผ่ำนออกสู่ ภำยนอก อำจจะออกทำงช่องปำก (oral cavity) หรือออกทำงช่องจมูก (nasal cavity) ท้ังนี้ขึ้นอยู่กับกำรทำงำนของ 3
วทิ ยาลัยชมุ ชนอุทยั ธานี English for Communication เพดำนอ่อนและลิ้นไก่ กล่ำวคือ ถ้ำลิ้นไก่และเพดำนอ่อนเคลื่อนไปติดผนังคอ ลมจะผ่ำนขึ้นสู่ช่องจมูกไม่ได้ ต้องผ่ำน ออกทำงช่องปำกเท่ำน้ัน ส่งผลให้เกิดเสียงที่เรียกว่ำ เสียงที่ผ่ำนออกทำงช่องปำก (oral sound) ในทำงตรงข้ำม ถ้ำ ลิน้ ไกแ่ ละเพดำนอ่อนไม่เคลื่อนตวั ไปติดผนังคอด้ำนหลังอยู่ในลักษณะพักทำให้ลมสำมำรถผ่ำนขึ้นสชู่ ่องจมูกได้ ส่งผลให้ เกิดเสยี งท่ีเรียกว่ำ เสียงท่ีเปล่งออกทำงจมกู หรอื เสียงนำสิก (nasal sound) ตวั อยา่ งของเสยี งท่ีเปล่งออกทางชอ่ งปาก ได้แก่เสียงในคาภาษาอังกฤษต่อไปนี้ bin man pet toy king queen yes ตัวอย่างของเสียงทเ่ี ปล่งออกทางชอ่ งจมูกหรอื เรียกวา่ เสียงนาสิก ไดแ้ ก่เสียงในคาภาษาอังกฤษต่อไปนี้ monk nun mango sing moon yawn swing กระบวนการการดดั แปลงลมในบริเวณชอ่ งปาก (Articulation Process) ลมทผ่ี ่ำนขน้ึ มำเพ่ือท่จี ะออกสู่ภำยนอก ในกรณีทลี่ น้ิ ไก่และเพดำนอ่อนเคลอื่ นตวั ไปชนกับผนังคอ ทำให้ลม ดงั กล่ำวไม่สำมำรถผ่ำนออกทำงช่องจมูกได้ จำเป็นต้องผ่ำนออกทำงช่องปำก ลมดังกล่ำวนน้ั จะถกู ดดั แปลงโดยกำร ทำงำนของอวัยวะต่ำงๆ ที่อยู่ภำยในชอ่ งปำก เช่น ฟัน ลิ้น เพดำนแขง็ เพดำนอ่อน เปน็ ตน้ ส่งผลใหเ้ กิดเปน็ เสยี ง ประเภทตำ่ งๆ มำกมำย กำรดัดแปลงลมในบรเิ วณชอ่ งปำก สำมำรถแยกออกได้เป็น 4 ลกั ษณะ คือ 1. แบบปดิ สนิท (complete closure) ไดแ้ ก่กำรท่ีอวัยวะส่วนท่ีเก่ยี วข้องปิดกักลมสนิท 2. แบบปดิ เปดิ สลบั กนั (intermittent closure) ไดแ้ กก่ ำรท่ีอวัยวะทีเ่ กี่ยวขอ้ งมีกำรปิดกักลมระยะสัน้ ซ้ำ กันหลำยคร้ัง 3. แบบแคบ (close approximation) ได้แกก่ ำรทอ่ี วัยวะทเ่ี กีย่ วข้องเข้ำมำอย่ใู กล้กันมำก เม่ือลมผำ่ น ขน้ึ มำบรเิ วณนน้ั ลมจะคอ่ ยๆ แทรกตัวผำ่ นอวยั วะต่ำงๆ เหล่ำนัน้ 4. แบบกว้าง (open approximation) ไดแ้ กก่ ำรทอ่ี วัยวะท่ีเกีย่ วขอ้ งเขำ้ มำอยู่ใกล้กันเลก็ นอ้ ย ทำใหเ้ กิด ช่องวำ่ งที่ทำใหล้ มสำมำรถผ่ำนออกสูภ่ ำยนอกได้อยำ่ งอสิ ระ กลไกและลกั ษณะของการเปล่งเสียงพยัญชนะในภาษาอังกฤษ (Mechanism and English Consonant Production) เสียงพยัญชนะในภำษำอังกฤษ (English Consonant) มีกำรแบ่งออกเป็นหลำยประเภท ท้ังนี้โดยพิจำรณำ ลักษณะของกำรออกเสียง (Manner of articulation) และจุดที่มีกำรออกเสียง (Point of articulation) เป็นหลัก ในกำรจัดประเภทเสียงพยัญชนะในภำษำอังกฤษ เสียงพยัญชนะในภำษำอังกฤษสำมำรถแบ่งเป็นประเภทใหญ่ๆ ได้ ทั้งหมด 4 ประเภท คอื 4
วิทยาลัยชุมชนอทุ ยั ธานี English for Communication 1. เสียงทเ่ี กิดจำกกำรกักลม (stop) เสยี งประเภทนเ้ี กดิ จำกกำรที่มกี ำรเคลอ่ื นตัวของอวยั วะเขำ้ หำกัน ต่อด้วย กำรกักลม และกำรปล่อยลมท่กี ักไว้ จุดที่มกี ำรกักลมมที งั้ หมด 3 จุดใหญ่ คือ ท่ีริมฝปี ำก (labial) ทีป่ มุ่ เหงือก (alveolar) และทเ่ี พดำนอ่อน (velar) 2. เสียงทีเ่ กดิ จำกกำรทล่ี มไม่ถูกปิดกั้น (continuant) เสยี งประเภทน้ีเกิดจำกกำรทลี่ มสำมำรถเดนิ ทำงผำ่ น ออกสภู่ ำยนอกไดโ้ ดยสะดวก ไมม่ ีกำรกักลมเอำไว้ เสียงประเภทที่ 2 นี้ ได้แก่ เสียงนำสิก (nasal) เสยี งเสยี ดแทรก (fricative) เสยี งข้ำงลิน้ (lateral) เสียงลนิ้ กระดก (retroflex) 3. เสียงท่เี กิดจำกกำรกัน้ ทำงเดินของลม แตห่ ลังจำกนั้นจะมกี ำรปิดให้ลมผ่ำนออกอยำ่ งชำ้ ๆ เสยี งประเภทน้ี ไดแ้ ก่ เสยี งกกั เสียดแทรก (affricate) 4. เสยี งทม่ี ลี ักษณะคล้ำยกบั เสียงพยัญชนะและเสยี งสระ จงึ มีชอื่ เรยี กวำ่ “เสยี งกึ่งสระ” (semivowel) กลไกและลกั ษณะของการออกเสยี งสระในภาษาองั กฤษ (Mechanism and English Vowel Production) เสียงสระเป็นเสียงที่เกิดจำกกำรท่ีทำงเดินของลมในช่องปำกไม่ถูกสกัดก้ัน แต่รูปร่ำงของช่องปำกอำจจะแคบ หรือกว้ำงขนึ้ อยู่กับกำรขยับขำกรรไกรล่ำง เพอ่ื ให้ล้ินอยู่ในระดับสงู หรือตำ่ ถ้ำล้นิ อยูใ่ นระดับสูง ช่องปำกจะแคบ ในทำง กลับกนั ถ้ำลน้ิ อยใู่ นระดับตำ่ ช่องปำกจะกว้ำง ควำมแตกตำ่ งของเสยี งสระในภำษำองั กฤษ ข้นึ อยู่กับ 1. ระดบั ของลิน้ ในชอ่ งปำก 2. ระดบั ควำมสงู ต่ำของลิ้น 3. ลักษณะของรูปริมฝปี ำก การลงเสียงหนัก- เบาในคาหลายพยางค์ในภาษาองั กฤษ (Word Stress) คำในภำษำอังกฤษแต่ละคำจะมีกำรลงเสียงหนัก – เบำ (stress) ไม่เหมือนกัน และควำมไม่เหมือนกันของกำร ลงเสียงหนัก – เบำดังกล่ำวก็ยังทำให้ควำมหมำยของคำต่ำงกันไปด้วย เช่น คำว่ำ “present” ถ้ำลงเสียงหนัก หรือ stress พยำงค์แรกจะมีควำมหมำยว่ำ “ของขวัญหรือปัจจุบัน” แต่ถ้ำ เสียงหนักหรือ stress พยำงค์หลัง จะมี ควำมหมำยว่ำ “เสนอหรือนำเสนอ” เป็นต้น เพรำะฉะน้ันในกำรส่ือควำมหมำยของคำให้ถูกต้องจำเป็นที่จะต้องเข้ำใจ หลักและฝึกปฏบิ ัติกำรลงเสียงหนกั ของคำให้แจม่ แจ้ง คำในภำษำอังกฤษอำจประกอบด้วยพยำงค์ (syllable) ตั้งแต่ 1 พยำงค์ เช่น คำว่ำ come หรือมำกกว่ำหน่ึง พยำงค์ขึ้นไป เช่นคำว่ำ comfortable เป็นต้น พยำงค์แต่ละคำในภำษำอังกฤษท่ีได้รับกำรลงเสียงหนัก เรียกว่ำ “stressed syllable” กำรแสดงว่ำพยำงค์ใดได้รับกำรลงเสียงหนัก จะใช้เคร่ืองหมำย ´ เขียนไว้ด้ำนบนของพยำงค์นั้น 5
วทิ ยาลัยชมุ ชนอุทัยธานี English for Communication ในกำรออกเสียงพยำงค์ประเภทนี้จะใช้แรงในกำรออกเสียงมำก ทำให้พยำงค์ประเภทน้ีมีควำมดังกว่ำพยำงค์อื่น ส่วน พยำงค์ที่ไม่ได้รบั กำรลงเสียงหนกั เรียกว่ำ “unstressed syllable” ในกำรออกเสยี งพยำงค์ประเภทหลังน้ี เสยี งของท้ัง พยำงค์จะเบำจนแทบจะไม่ได้ยินเสียงพยำงคเ์ หลำ่ น้ีเลย ให้ลองพิจำรณำและฝึกออกเสียงคำท่ีให้ต่อไปนี้ แล้วพิจำรณำว่ำ คำแตล่ ะคำมกี พี่ ยำงค์ พยำงค์ไหนไดร้ ับกำรลงเสยี งหนกั และพยำงคไ์ หนไม่ไดร้ ับกำรลงเสียงหนัก student master education instructor ceremony Asia America Australia Europe Canada sometimes occasion usually always often Record certificate comfortable convenient octopus Eradicate severe influenza sickness symthom Syndicate present record candy coconut หลกั ในการลงเสียงหนกั ในคาหลายพยางค์ ในกำรลงเสียงหนัก – เบำ ของคำในภำษำอังกฤษ มหี ลกั ดงั น้ี 1. คำในภำษำองั กฤษทม่ี ีสองพยำงค์ส่วนใหญ่ พยำงคท์ ไี่ ดร้ บั กำรลงเสยี งหนัก คอื พยำงคห์ น้ำ เช่น คำวำ่ “morning” จะลงเสยี งหนกั พยำงค์ “mor” หรอื คำว่ำ “husband” จะลงเสยี งหนกั พยำงค์ “hus” เป็นต้น 2. คำสองพยำงค์ท่ีทำหน้ำท่ีทำงไวยำกรณ์ได้ทง้ั คำนำมและคำกริยำ จะมีกำรลงเสียงหนกั ที่แตกตำ่ งกัน คอื ถ้ำคำนน้ั เป็นคำนำมหรือคุณศัพท์จะเนน้ พยำงคแ์ รก แต่ถ้ำทำหนำ้ ที่เปน็ คำกรยิ ำจะเน้นพยำงคห์ ลงั เช่น คานาม คากริยา record record present present desert desert permit permit 6
วทิ ยาลยั ชุมชนอุทยั ธานี English for Communication 3. คำทม่ี ีกำรเตมิ suffix เขำ้ ไปข้ำงทำ้ ยของคำทีเ่ ป็นรำกศัพท์เดมิ (root) ในกำรออกเสียงน้ัน หนว่ ยท่ี เป็น suffix จะไม่ไดร้ ับกำรลงเสียงหนกั แต่จะลงเสยี งหนักพยำงค์ที่อยูข่ ำ้ งหน้ำ suffix น้นั เชน่ vision musician dubious economic political biological individual consideration classify modify pacify activity possibility duality reality 4. คำท่มี กี ำรเติม suffix สว่ นใหญ่ suffix จะไม่ได้รับกำรลงเสียงหนัก แตจ่ ะลงเสยี งหนักท่ีคำที่เปน็ รำก ศัพท์เดิม เช่น eating sickness childly swimmer kingdom writer writing development management considerable easier adjustable improvement fastest longest นอกจำกลงเสียงหนัก-เบำในระดับคำแล้ว ในระดับหน่วยภำษำท่ีเรียกว่ำ “ประโยค” (sentence) ซ่ึงเป็น หน่วยที่ใหญ่กว่ำ “คำ” (word) ก็จำเป็นต้องเข้ำใจกฎกำรลงเสียงหนัก-เบำ ของคำท่ีอยู่ในระดบั ประโยค คือ คำที่เป็น คำที่แสดงหน้ำทท่ี ำงไวยำกรณ์ หรือท่ีเรยี กว่ำ “Function word” จะไม่ได้รับกำรลงเสียงหนัก เช่น คำที่เป็น Articles / Preposition / Helping verb / Pronoun / Conjunction / Relative Pronoun / Possessive Adjective ส่วนคำท่ี แสดงเน้ือหำของข้อมูลหรือท่ีเรียกว่ำ “Content Words” จะได้รับกำรลงเสียงหนัก เช่น คำท่ีเป็น Nouns / Finite Verbs / Adverbs / Adjectives / Question Words / Demonstratives ตวั อยำ่ ง เชน่ ประโยค “Somying bought a red dress at the morning market yesterday.” คำท่ีเป็น Content word ที่ได้รับกำรลงเสียงหนัก คือ Somying, bought, red, dress, morning, market, yesterday ส่วนคำท่ีแสดงหน้ำที่ไวยำกรณ์ หรือ Function word จะไม่ได้รับกำรลงเสียงหนัก คือ a at และ the เปน็ ต้น 7
วทิ ยาลยั ชมุ ชนอุทยั ธานี English for Communication ระดบั เสยี งสูง - ต่าในภาษาองั กฤษ (Intonation) ในกำรเปล่งเสยี งข้อควำมที่ต่อเนื่องกนั เป็นประโยคในภำษำองั กฤษนน้ั ระดับเสยี งสูง - ตำ่ (Intonation) ถอื เป็นส่งิ สำคญั ที่จะทำให้ข้อควำมหรือสำรท่สี ่งออกไป จะตคี วำมได้เขำ้ ใจตำมวตั ถุประสงค์ ของผู้ส่งสำรทต่ี ้ังไว้ ระดับเสียงสูง-ต่ำ ในภำษำอังกฤษ มีกำรแบง่ ออกเป็น 4 ระดับ ได้แก่ 1. ระดับเสียงต่ำ (Low) 2. ระดับเสียงกลำง (Mid) 3. ระดบั เสยี งสูง (High) 4. ระดบั เสียงสงู มำก (Extra high) ซ่งึ สำมำรถแสดงดว้ ยเส้น ดงั น้ี ระดบั เสยี งสงู - ตำ่ ในภำษำอังกฤษ มีกำรใช้ ดงั น้ี 1. ระดับเสยี งที่เรยี กวำ่ “ขนึ้ -ลง” (Rising – Falling) ซ่งึ แสดงด้วยแผนภูมิ คือ ใช้กับ - ประโยคบอกเลำ่ / ควำมจรงิ เชน่ I like shopping. I’d like to go there. - ประโยคคำสั่ง เช่น Come to see me. Please open the window. Give it to my father. 8
วทิ ยาลยั ชมุ ชนอทุ ัยธานี English for Communication - ประโยคคำถำมทข่ี ้นึ ตน้ ด้วย Question Words (What, Where, When, Why, …) ทงั้ หมด Who is that child? What did you do? Why don’t you forget him? 2. ระดบั เสยี งสงู (Rising) ซ่งึ แสดงได้ด้วยแผนภมู ิ คือ ใชก้ ับประโยคคำถำมท่ตี ้องกำรคำตอบ Yes หรอื No หรือท่ีเรยี กวำ่ ประโยค “Yes - No question” เช่น Do you like her? Did you see him? Is she here? Have you finished? นอกจำกลกั ษณะเสียงสูง - ตำ่ ทกี่ ลำ่ วมำข้ำงต้นแล้ว ในกำรกำหนดลักษณะเสยี งสูง - ตำ่ ในภำษำองั กฤษยังมี อกี มำก ท้งั น้ีขนึ้ อยู่กบั สถำนกำรณ์ของกำรใช้ภำษำอังกฤษในบรบิ ทตำ่ งๆ 9
วิทยาลัยชุมชนอทุ ัยธานี English for Communication Instruction : Fill in the blanks with your personal details. Personal Details Name ……………………………………………………....... Sex ………..….….…..... Present Address ………………….…………………………………..………..……… ……………………………………….…………………………………………..…….… Date of Birth ………………………………...….…… Age ………....…….…….. yrs. Weight …………………...…… kg Height …….……....….……….. cm Nationality ………………………………. Race ……….…..…………..……… สญั ชาติ เชือ้ ชาติ Religion………...……….....…………...… ID # ………………….……………… ศาสนา เลขทบ่ี ตั รประชาชน Mobile phone : …………………………………………………………………....…… E-mail address : ………………….…..….………………………………….………… Let’s review these words: คำเหล่ำนี้ แปลว่ำอะไร ต้องจำให้ได้นะคะ what = ……………………………..…..….. where = ……………….……………….. when = ……………………………...….…. why = ……………………….………….. how = ………………………………..……. how much =………………….………… how many = ………………………….…… what time is it ? = ……………...……… which = ………………………….………… how long = …………………………….. how far = ………………………….………. how often = …………………….……… who = ……………………………………… whose = ………………………………... 10
วิทยาลยั ชมุ ชนอทุ ัยธานี English for Communication Very Simple Yes/No Questions Are you from Canada? Yes, I am. Is he a doctor? No, he isn't. Is this free? Yes, it is. Do you like apples? Yes, I do. Does she live in New Orleans? No, she doesn't More examples of Yes/No Questions Is she going to the dance? Yes, she is. Are they flying home? No, they're taking the bus. Are you coming to the party? No, I have other plans. Are you a doctor? Is he from Colombia? Yes, I am. No, I'm a nurse. Is it time to go? Yes, he is No, he isn't. Is she married? No, he's from Venezuela. Yes, it is. Are they here yet? No, it isn't. Do you live in Oklahoma? Not yet. Yes, she is. Does she drink coffee? No, she isn't. I don't know. Yes, they are. No, they aren't. Yes, I do. No, I don't. No, I live in Texas. Yes, she does. 11
วทิ ยาลยั ชุมชนอุทัยธานี English for Communication Does it fly? No, she doesn't. Do you need some help? No, she drinks tea. Can I have this? Yes, it does. Should we go? No, I don't think so. Yes, I do. Could you help me? No, I'm fine. Yes, you can. No, you can't. Yeah. Okay. No, not yet. Sure. No, sorry. Examples of simple Wh - questions What do you do (as an occupation)? I'm a computer programmer. What do you do on the weekends? I usually stay home and watch television. Where are you from? I'm from Ontario, California. Where do you live? I live in Arizona. I live at the Chateau Apartments. How do you say that in English? I don't know. How do you spell your name? S-I-M-O-N. How do you know Mr. Amos? He's my teacher. 1. What is your favorite color? Purple. 2. What's your favorite kind of music? I like pop music. 3. Favorite sport? Kung fu. 4. Do you have a lucky number? Yes. It's eight. 5. What kind of food do you like best? I like Chinese food. 12
วิทยาลัยชุมชนอุทัยธานี English for Communication 6. How about movies? Action. 7. Who is your favorite movie star? Jackie Chan. 8. What city do you like most? Hong Kong, of course! 1. When is your birthday? December 29th 2. What year? That's personal. 3. Were you born and raised here? No. I wasn't. 4. Did Sam grow up here? Yes, he did. 5. Where did Lisa go to school? In California. 6. Which university did Rick go to? Princeton. 7. When will she graduate? Next April. 8. When did they get married? They got married in June. 9. When was your son born? Two months ago. 10. What day is your wedding anniversary? It's July 17th 11. When did they move to Pittsburgh? Last September. 12. When did his grandfather pass away/(die)? Five years ago. Asking about family How many brothers and sisters do you have? What number are you? He's the oldest (of five children). She's the youngest. Cindy doesn't have any brothers or sisters. Jared is an only child. How many children do you have? We have two. One son and one daughter. Do you have any kids? No, I'm not married. 13
วทิ ยาลัยชุมชนอทุ ยั ธานี English for Communication Introducing your family This is my mother/mom. This is my father/dad. (These are my parents) This is my wife. This is my husband. There are five people in my family. (My mother, my father, my older brother, my older sister, me, my younger brother.) I have two brothers. One is older. one brother is older (than me). One is younger. I have one sister. I'm number three. Personality and Appearance Description 1. Tell me about your father. Well, he's very friendly, smart and funny. What kind of person is he? He's young, short and handsome. He has straight black hair and green eyes. 2. What does he look like? She's tall, thin and beautiful. 3. What does your mother look like? She has blonde hair and wears glasses. 4. How about your little sister? She has curly red hair and a cute smile. Everybody likes her. Clothing He's wearing light brown pants and an orange t-shirt. 5. What is your brother wearing? Sneakers, and he's wearing white socks. 6. What kind of shoes does he have (on)? No. She's wearing a blue skirt and a yellow blouse. 7. Is Susan wearing a dress? 8. Anything else? 14
วิทยาลยั ชุมชนอทุ ยั ธานี English for Communication 1. I like fruit. What kind? Oranges and bananas. Football and tennis. 2. Helen likes sports. What kind of sports? Yes, she does. (He likes) drama 3. Ms. Cramer doesn't like coffee. Really? Does she like tea? 4. Tony does not like action Oh. What kind does he like? movies. 5. Does Terry like swimming? Yes, he does. 6. Does Phil like soft drinks? No, he doesn't. 7. Does Sheila like salad? No, she does not. 8. Do you like Chinese food? Yes, I do. No, I don't. A little. Thanks Expressing Thanks I appreciate your kindness. I appreciate it. Thanks for your time. Thank you Thanks for the tour. Thank you for the nice gift. Expressing Excuse me / Sorry 1. We usually say excuse me before we interrupt or disturb somebody; we say sorry after we disturb or trouble somebody. Compare: - Excuse me, could I get past?… Oh, sorry, did I step on your foot? - Excuse me, could you tell me the way to the station? 15
วิทยาลยั ชุมชนอุทยั ธานี English for Communication - I beg your pardon is a more formal way of saying sorry. - I beg your pardon. I’m afraid I didn’t realize this was your 2. If we do not hear or understand what people say, we usually say Sorry? What? (informal) or (I beg your) pardon? Americans also say Pardon me? “Mike’s on the phone.” “Sorry?” I said “Mike’s on the phone” “See you tomorrow”. “What?” I said “See you tomorrow”. “You’re going deaf”. “I beg your pardon?” In speaking, contractions are often used in place of auxiliary verbs such as is, are, am, will, have, has, had, and would. See the following examples: Regular Contracted I am British. I'm British. He is Chinese. He's Chinese. They are Italians. They're Italians. There is a man at the door. There's a man at the door. Where is the butter? Where's the butter? What is he doing? What's he doing? Who is that? Who's that? She is going to the beach. She's going to the beach. We are going to eat now. We're going to eat now. They are not ready yet. They're not ready yet. 16
วิทยาลัยชมุ ชนอทุ ยั ธานี English for Communication I will be back in a minute. I'll be back in a minute. There will be lots of food. There'll be lots of food. I have seen that movie already. I've seen that movie already. She has finished her homework. She's finished her homework. I had played that game before. I'd played that game before. We would be glad to help. We'd be glad to help. They would like to go now. They'd like to go now. Auxiliary verb มอี ยู่ 24 ตัว คอื verb to be = is, am, are, was, were verb to have = has, have, had verb to do = do, does, did = will, would = shall, should = can, could = may, might = must = need = dare = ought to = used to บำงตำรำกว็ ำ่ มี 28 ตัว โดยเพิ่มเข้ำมำอีก 4 ตวั คือ = had better = would rather = should (ที่มีควำมหมำยเทำ่ กบั ought to) = have to (ที่มคี วำมหมำยเทำ่ กับ must) 17
วทิ ยาลัยชุมชนอทุ ยั ธานี English for Communication SENTENCE STRUCTURE โครงสรา้ งพ้ืนฐานของประโยค ประโยคพน้ื ฐำนประกอบด้วย subject (S) + verb (V) + object (O) Subject (ประธำน) คือ ผู้แสดงกรยิ ำในประโยค คำทีส่ ำมำรถนำมำเป็นประธำนมี 7 จำพวก คือ 1. Noun (นำม) คือ คำทใี่ ช้เรียกช่อื คน สัตว์ สิ่งของ และสถำนที่ คำนำมแบง่ ออกเป็น 5 ชนดิ 1. Common noun - นำมท่ัวไป เชน่ school, house, car, hospital etc. 2. Proper noun - นำมเฉพำะ เช่น England, Bangkok, Japan, John, Mary etc. 3. Collective noun – นำมทเ่ี ป็นหมวดหมู่ เชน่ family, government, a flock of sheep, a bunch of flowers, a herd of deer, a heap of stones etc. 4. Material noun – นำมทเี่ ป็นช่ือของวัตถุ แร่ธำตุ ของแขง็ ของเหลว ได้แก่ water, coffee, sugar, ink, wood, soap, bread, gold etc. 5. Adstract noun – อำกำรนำม เช่น honesty, death, pleasure, prevention, cure, choice, truth, wisdom etc. หมายเหตุ : นำมแบง่ เปน็ ประเภทใหญๆ่ ได้ 2 ชนดิ คือ 1. Countable – นำมนบั ได้ 2. Uncountable noun – นำมนบั ไม่ได้ เขยี นเป็นตำรำงได้ดงั นี้ Countable noun Uncountable noun - Common noun - Material noun - Proper noun - Abstract noun - Collective noun 2. Pronoun (สรรพนำม) คือ คำแทนนำม (แทนคน สตั ว์ สง่ิ ของ และสถำนท)ี่ โดยเฉพำะอยำ่ งยิง่ personal pronoun (บรุ ุษสรรพนำม) นำมำเปน็ ประธำนของประโยคได้ Pronoun แบ่งออกเปน็ 3 บุรุษคอื 1. บรุ ุษที่ 1 หมำยถึง ผพู้ ูด (First person) 2. บุรุษที่ 2 หมำยถึง ผูฟ้ ัง (second person) 3. บรุ ษุ ท่ี 3 หมำยถึง ผูท้ ีก่ ล่ำวถึง (third person) 18
วิทยาลัยชุมชนอุทัยธานี English for Communication Pronoun Singular Plural บรุ ุษท่ี 1 I We บรุ ุษท่ี 2 You You บรุ ษุ ท่ี 3 He, She, It They Personal pronoun ทง้ั 3 บุรุษ นอกจำกทำหน้ำทีเ่ ป็น subject แล้วยังทำหนำ้ ทีอ่ น่ื ๆ ดงั น้ี Subject Object Possessive Pronoun Possessive Adjective Reflexive Pronoun I me mine my myself We us ours our ourselves You you yours your yourself You you yours your yourselves He him his his She her hers her himself It it its herself They them - their itself theirs themselves หมายเหตุ : possessive adjective นำมำเทียบใหเ้ หน็ ควำมแตกตำ่ งเท่ำนั้น 3. Adjective ทำหนำ้ ท่ีเชน่ เดยี วกับนำม นำมำเป็นประธำนได้ เช่น the brave the poor the rich etc. คำเหล่ำนีต้ อ้ งมี the นำหน้ำ และมรี ูปเปน็ พหูพจน์ ดังนน้ั จึงตอ้ งใช้กับ verb พหพู จน์ 4. Infinitive คอื to + verb ชอ่ ง 1 นำมำเปน็ ประธำนได้ เช่น to walk to swim to play to read etc. 5. Gerund (กริยำนำม) ไดแ้ ก่ verb ชอ่ ง 1 เติม-ing นำมำเปน็ ประธำนได้ เชน่ writing reading walking drinking etc. 6. Phrase (วลี) ทกุ ชนิดนำมำเป็นประธำนได้ เชน่ what to say how to study English how to boil water etc. 7. Clause (อนปุ ระโยค) นำมำใช้เป็นประธำนได้ เชน่ what she is doing where they slept last night what she is cooking 19
วิทยาลัยชมุ ชนอทุ ยั ธานี English for Communication Verb (กรยิ ำ) กรยิ ำที่ใชก้ นั ทั่วไปแบ่งเป็น 5 ชดุ คอื Verb Present Past Past Participle 1. To Be is, am, are was, were been 2. To Have have, has had had 3. To Do do, does did done 4. Finite called called call played play played หมายเหตุ : กริยำแท้ นอกจำกเรียกว่ำ finite verb แลว้ ยังเรยี กวำ่ main verb, ordinary verb และ principal verb ได้ อีกดว้ ย Finite verb แบง่ ตำมหลักกำรใช้ 3 แบบ คือ 1. Regular verb หมำยถึง กริยำปกติ คือจะเติม – ed เมอ่ื เปลี่ยนเป็น 2 และ 3 2. Irregular verb หมำยถึง กริยำทเี่ ม่อื เปล่ียนเปน็ ชอ่ ง 2 และ 3 รปู กริยำจะเปล่ียนไป 3. กรยิ ำทมี่ รี ูปเหมือนกันทุกช่อง Verb Present Past Past Participle Regular verb Irregular verb call called called play played played เหมือนกันทุกชอ่ ง ask asked usked speak spoke spoken sleep slept slept become became become cut cut hit hit cut shut shut hit shut หมายเหตุ : กรยิ ำ (verb) ในภำษำองั กฤษมปี ระมำณ 20,000 คำ ในจำนวนนแี้ บ่งเปน็ จำพวก irregular verb ประมำณ 350 คำ แต่สว่ นใหญ่มักจะใช้กันอยู่ประมำณ 150 คำ เท่ำนั้น กำรท่องจำ verb ควรจำกรยิ ำ 5 ชอ่ ง ดงั นี้ 20
วิทยาลัยชุมชนอทุ ัยธานี Past Participle s - form English for Communication ing - form Present Past studies sits studying study studied studied plays sitting sit sat sat playing play begins played played beginning begin began begun และแบง่ ตำมหลกั กำรใชอ้ ีกแบบหนง่ึ คือ 1. Transitive verb คือ กรยิ ำท่ตี อ้ งกำรกรรม 2. Intransitive verb คอื กริยำที่ไม่ต้องกำรกรรม ดตู ำรำงตอ่ ไปน้ี Subject Verb Object Complement Time Place Transitive John drinks coffee at home in the morning. Intransitive She writes a letter in the bedroom at night. They study English in the classroom every day. He works in the restaurant at night. Mary swims - in the river every Sunday. He goes - home on Saturdays. - Object (กรรม) คอื ผูถ้ ูกกระทำ คำท่ที ำหนำ้ ทีเ่ ปน็ กรรมได้ คือ 1. noun 2. pronoun 3. adjective (ทำหน้ำท่ีอยำ่ งนำม) 4. infinitive 5. gerund 6. phrase 7. Clause หรือพดู ง่ำยๆ ว่ำ คำใดที่ทำหน้ำที่เป็น subject ได้ ยอ่ มเป็น object ได้เช่นเดียวกัน เช่น 1. Noun ทุกชนดิ เป็น object ได้ เช่น Common noun : He bought a shirt last night. Proper noun : I met John at school yesterday. Collective noun : She doesn’t join with the government. Material noun : Smith drinks coffee every morning. Abstract noun : Everyone likes beauty. หมายเหตุ : คำท่ีเป็นตัวหนำในประโยคเป็น object 2. Pronoun ทกุ บุรุษเปน็ object ได้ เชน่ First person : She loves me. Second person : The postman sent you a letter. Third person : The teacher punished him. 3. Adjective ท่ที ำหนำ้ ท่ีอยำ่ ง noun สำมำรถนำมำเปน็ object ได้ เชน่ Our country needs the brave to fight with the enemy. Most of the people don’t like the poor. 21
วิทยาลัยชมุ ชนอทุ ยั ธานี English for Communication 4. Infinitive สำมำรถนำมำเปน็ object ได้ เช่น My children want to study English. John is going to drive a car. 5. Gerund สำมำรถนำมำเป็น object ได้ เชน่ She likes shopping at the department store. He enjoys having a new car. 6. Phrase สำมำรถนำมำเปน็ object ได้ เช่น The students don’t know how to speak Japanese. My mother doesn’t understand how I arrived here. 7. Clause สำมำรถนำมำเปน็ object ได้ เชน่ I met my old friend when he returned home. บันทึกเพ่ิมเติม เนือ่ งจำกคำนำมบำงชนิดเข้ำใจยำก เช่น collective noun, material noun, abstract noun ลองพจิ ำรณำตวั อยำ่ ง ตอ่ ไปน้ี 1. collective noun หมำยถึง นำมท่เี ปน็ ช่ือของหมู่คณะ พวก กล่มุ หรอื ฝงู ตำมปกติ collective noun + common noun โดยมี of มำคั่น เชน่ Collective Noun + of + Common Noun A flock of sheep (แกะฝูงหน่งึ ) A bunch of flowers (ดอกไมช้ ่อหนึง่ ) A herd of cattle (โคฝงู หน่งึ ) A heap of stones (หนิ กองหน่งึ ) A gang of thieves (ขโมยแก๊งหนึ่ง) A flock of chickens (ลูกไกค่ รอกหนึ่ง) A cluster of stars (ดำวกลุ่มหนง่ึ ) A crowd of people (คนหม่หู นงึ่ ) A group of students (นักศึกษำกลมุ่ หนง่ึ ) A tribe of citizens (พลเมืองเผำ่ หนง่ึ ) เป็นต้น Collective noun บำงคำแสดงหมวดหมูห่ รือกลุม่ ก้อนของมันเองอยู่ในตวั เช่น Family (ครอบครวั ) army (กองทัพบก) team (ทมี คณะ ชุด) class (ช้นั , ชนิด) jury (คณะลูกขุน) party (พรรค, คณะ) 22
วิทยาลัยชุมชนอทุ ยั ธานี English for Communication fleet (กองเรือ) government (คณะรัฐบำล) mob (หมู่คน) regiment (กรมทหำร) committee (คณะกรรมกำร) cabinet (คณะรฐั มนตรี) swarm (ฝงู แมลง) flock (ฝูงสตั ว)์ หมายเหตุ : Collective noun เม่อื ทำหน้ำที่เป็นประธำนในประโยค กริยำอำจเป็นเอกพจนห์ รือพหูพจนก์ ็ได้ ทงั้ น้ขี นึ้ อยู่ กับควำมมุ่งหมำยของผู้พดู คือ ถ้ำหมำยถึงกลุ่ม หรอื คณะเดียวตอ้ งใชก้ ริยำรปู เอกพจน์ ถำ้ หมำยถึงรำยบุคคล โดยแยก ออกไปว่ำต่ำงคนต่ำงทำกำรเชน่ น้ี กรยิ ำตอ้ งใช้รูปพหูพจน์ 2. Material noun หมำยถงึ นำมทเ่ี ป็นช่อื ของวตั ถุ ไดแ้ ก่ แร่ธำตุ โลหะ ของแขง็ ของเหลว นำมพวกน้ีแสดงควำม มำกน้อยด้วยปริมำณ (quantity) เชน่ sugar (น้ำตำล) bread (ขนมปัง) cream (ครีม) flour (แปง้ ) rice (ข้ำว) gold (ทอง) coal (ถ่ำน) soil (ดิน) wood (ไม้) cloth (เสอ้ื ผ้ำ) leather (หนังสัตว)์ copper (ทองแดง) water (น้ำ) oil (น้ำมัน) ink (น้ำหมึก) air (อำกำศ) mud (โคลน) smoke (ควนั ) soap (สบู)่ furniture (เครื่องเรอื น) หมายเหตุ : material noun เป็นนำมนับไม่ได้ ต้องใช้ในรปู พหพู จน์อย่ำงเดยี วเท่ำนัน้ ถำ้ ตอ้ งกำรทรำบจำนวนหรอื หน่วย ของมนั ให้ทำดังน้ี เช่นNumeral + Common Noun + of + Material noun a glass of milk นมหน่งึ แกว้ two glasses of milk นมสองแก้ว five pieces of chalk ชอลค์ ห้ำแท่ง a cup of tea ชำหน่ึงถว้ ย two cups of coffee กำแฟสองถว้ ย one kilogram of sugar นำ้ ตำลหนงึ่ กิโลกรัม three kilograms of meat เนอ้ื สำมกโิ ลกรัม ten bags of sand ทรำยสบิ กระสอบ a loaf of bread ขนมปังหนึ่งกอ้ น 23
วทิ ยาลยั ชมุ ชนอุทยั ธานี English for Communication a bottle of ink น้ำหมึกหนึ่งขวด ten loaves of sugar นำ้ ตำลสบิ ก้อน ขอ้ สังเกต : ถำ้ material noun ทำหนำ้ ท่ีเป็น subject ในประโยค verb จะเป็นเอกพจน์หรอื พหูพจนน์ น้ั ให้ถือเอำตำม common noun ทป่ี ระกอบอยู่ข้ำงหน้ำเปน็ หลัก 3. Abstract noun “อำกำรนำม” หมำยถึง นำมทเี่ ปน็ ช่ือของสภำวะ สถำนะ คุณลักษณะ หรอื กำรกระทำของคน สัตว์ หรือสง่ิ ของ อำจมีรูปมำจำก verb, adjective, noun เชน่ 1. abstract noun ท่มี รี ปู มำจำก verb ตวั อย่ำงเชน่ Verb เมอ่ื เปล่ียนเปน็ Abstract Noun act (กระทำ) acting (กำรกระทำ) live (อำศัยอย)ู่ life (ชวี ิต) know (ร)ู้ knowledge (ควำมร)ู้ please (ทำให้พอใจ) pleasure (ควำมพอใจ) speak (พดู ) speech (กำรพูด) succeed (สำเรจ็ ) success (ควำมสำเร็จ) decide (ตดั สนิ ใจ) decision (กำรตัดสนิ ใจ) organize (จัดกำร) organization (กำรจดั กำร) drink (ดม่ื ) drinking (กำรดม่ื ) ฯลฯ 2. abstract noun มีรูปมำจำก adjective ตัวอยำ่ งเชน่ Adjective เมอ่ื เปลี่ยนเปน็ Abstract Noun true (จริง) truth (ควำมจรงิ ) wise (ฉลำด) wisdom (ควำมฉลำด) high (สงู ) height (ควำมสูง) poor (จน) poverty (ควำมยำกจน) happy (มีควำมสขุ ) happiness (ควำมสขุ ) strong (แข็งแรง) strength (ควำมแข็งแรง) honest (ซ่อื สตั ย์) honesty (ควำมซ่ือสตั ย์) brave (กล้ำหำญ) bravery (ควำมกลำ้ หำญ) die (ตำย) death (ควำมตำย) ฯลฯ 3. abstract noun มรี ูปมำจำก noun ตัวอยำ่ งเช่น Noun เมอ่ื เปล่ียนเป็น Abstract Noun child (เด็ก) childhood (ควำมเป็นเด็ก) 24
วิทยาลยั ชมุ ชนอุทยั ธานี English for Communication slave (ทำส) slavery (ควำมเป็นทำส) friend (เพ่ือน) friendship (ควำมเป็นมติ ร) monk (พระ) monkhood (ควำมเป็นพระ) ฯลฯ อน่งึ ชอื่ วทิ ยำกำรตำ่ งๆ ภำษำ ดนตรี กีฬำ ก็จัดเป็น Abstract Noun ดว้ ย เช่น chemistry (เคมวี ทิ ยำ) music (ดนตรี) grammar (ไวยำกรณ์) English (ภำษำอังกฤษ) science (วทิ ยำศำสตร์) geology (ธรณีวทิ ยำ) economics (เศรษฐศำสตร์) politics (กำรเมือง) basketball (บำสเกตบอล) ping pong (กีฬำปงิ ปอง) mathematics (คณิตศำสตร์) art (ศิลปะ) ฯลฯ ตัวเลขทางภาษาอังกฤษแบง่ ตามชนิดของตัวเลข ดงั น้ี 1. Cardinal Numbers (เลขจานวนนับ) 0 = zero / oh 11 = eleven 21 = twenty one 22 = twenty two 1 = one 12 = twelve 30 = thirty 40 = forty 2 = two 13 = thirteen 50 = fifty 60 = sixty 3 = three 14 = fourteen 70 = seventy 80 = eighty 4 = four 15 = fifteen 90 = ninety 100 = one hundred / a hundred 5 = five 16 = sixteen 101 = one hundred (and) one 878 = eight hundred (and) seventy eight 6 = six 17 = seventeen 2,500 = two thousand (and) five hundred 7 = seven 18 = eighteen 8 = eight 19 = nineteen 9 = nine 20 = twenty 10 = ten 200 = two hundred 1,000 = one thousand / a thousand 10,000 = ten thousand 25
วทิ ยาลยั ชุมชนอทุ ยั ธานี English for Communication 27,520 = twenty seven thousand five hundred (and) twenty 100,000 = one hundred thousand / a hundred thousand 1,000,000 = one million 1,000,000,000 = one billion หมายเหตุ : ภำษำองั กฤษแบบอเมริกนั มักไม่ใช้คำวำ่ and ในกำรบอกจำนวนนบั เลขศนู ยใ์ นภำษำอังกฤษแบบอเมรกิ นั ท่ีใชใ้ นวงงำนวิทยำศำสตร์และทำงช่ำง นยิ มอ่ำนว่ำ zero และอ่ำนเลขศนู ย์ในกำรบอกหมำยเลขโทรศัพท์วำ่ oh Exercise 1 Read out these numbers and write them down in words. 17 ……………………………………………………………………………….…………………………… 39 ………………………………………………………………………………………………….…………. 5,680 ………………………………………………………………………………………….…………....... 2,017 ………………………………………………………………………………………….……………... 8,099 …………………………………………………………………………….………………….……….. 67,874 ……………………………………………………………………………………………….………. 92,750 ………………………………………………………………………………………….……………. 100,500 ………………………………………………………………………………….…………………... 6,545,000 ………………………………………………………………………………………….………… ………………………………………………………………………………………………….…………….. 2. Ordinal Numbers (เลขลาดบั ) ใชบ้ อกวันท่แี ละลำดับที่ 1st first ลำดบั ที่ 1 50th fiftieth ลำดบั ท่ี 50 one hundredth ลำดบั ท่ี 100 2nd second ลำดบั ท่ี 2 100th one thousandth ลำดบั ท่ี 1,000 one millionth ลำดบั ที่ 1,000,000 3rd third ลำดบั ท่ี 3 1,000th 4th fourth ลำดบั ท่ี 4 1,000,000th 5th fifth ลำดบั ที่ 5 6th sixth ลำดบั ท่ี 6 7th seventh ลำดบั ท่ี 7 8th eighth ลำดบั ท่ี 8 26
วิทยาลยั ชมุ ชนอุทัยธานี English for Communication 9th ninth ลำดบั ท่ี 9 10th tenth ลำดบั ท่ี 10 11th eleventh ลำดบั ที่ 11 12th twelfth ลำดบั ที่ 12 13th thirteenth ลำดบั ท่ี 13 14th fourteenth ลำดบั ที่ 14 15th fifteenth ลำดบั ที่ 15 16th sixteenth ลำดบั ท่ี 16 17th seventeenth ลำดบั ที่ 17 18th eighteenth ลำดบั ท่ี 18 19th nineteenth ลำดบั ที่ 19 20th twentieth ลำดบั ที่ 20 21st twenty first ลำดบั ที่ 21 22nd twenty second ลำดบั ที่ 22 23rd twenty third ลำดบั ที่ 23 24th twenty fourth ลำดบั ท่ี 24 30th thirtieth ลำดบั ท่ี 30 Exercise 2 Read out these numbers and write them down in words. 2nd ……………………………………………………………………………….……………………………… 9th …………………………………………………………………………………………………….…………. 20th ………………………………………………………………………………….………….…..………....... 39th ………………………………………………………………………………………….…………………... 43rd …………………………………………………………………………….……………………….……….. 55th ………………………………………………………………………………………………………………. 61st ………………………………………………………………………………………….…………...………. 237th ………………………………………………………………………………….………………..………... 88th ……………………………………………………………………………………………...……….……… 500th ……………………………………………………………………………………………………………… 27
วิทยาลัยชุมชนอทุ ยั ธานี English for Communication 3. Decimal Values (ค่าทศนยิ ม) กำรอำ่ นค่ำทศนิยมในภำษำอังกฤษ อ่ำนเชน่ เดยี วกบั ภำษำไทย คอื ตวั เลขหนำ้ จดุ ทศนิยมอำ่ นเหมือนเลข จำนวนนับ จดุ อ่ำนวำ่ point และตวั เลขหลังจดุ ทศนยิ มอ่ำนท่ีละตำแหน่ง เช่น 1.52 อ่ำนวำ่ one point five two Exercise 3 Read out these values and write them down in words. 0.5 …………………..…………………………………………………………….…………………………… 0.28 ………………………………………………………………………………………………….…………. 1.97 …………………………………………………………………………………………….…………....... 30.053 ………………………………………………………………………………………….…………….... 41.215 ………………………………………………………………………………………………………….. Exercise 4 Listen to your teacher and write the figures. 1. ……………………………………..…….. 6. ……………………………………………….. 2. …………………………………..……….. 7. ……………………………………………….. 3. ……………………………………..…….. 8. ……………………………………………….. 4. ……………………………………..…….. 9. ……………………………………………….. 5. ……………………………………..…….. 10. ……………………………………………… day = วนั next = ต่อไป, ถัดไป week = สัปดำห์ last = ที่แลว้ มำ, ท่สี ดุ ทำ้ ย month = เดือน next 2 weeks = 2 สัปดำห์ถัดไป year = ปี last year = ปีท่ีแล้ว today = วันนี้ next month = เดอื นหน้ำ tomorrow = วันพรุ่งนี้ hour = ช่ัวโมง yesterday = เมื่อวำนน้ี minute = นำที now = ขณะนี้, เดย๋ี วน้ี second = วนิ ำที this time = เวลำน้ี at present = ปัจจุบนั น,้ี ขณะน้ี in the past = ในอดีต long time ago = คร้งั หนง่ึ นำนมำแลว้ a few days ago = สองสำมวันมำแลว้ the day after tomorrow = วันมะรืน 28
วิทยาลัยชมุ ชนอุทยั ธานี English for Communication 7 Days of a Week หนง่ึ สัปดาห์ มี 7 วนั Sunday วนั อำทิตย์ Monday วันจนั ทร์ Tuesday วันองั คำร Wednesday วนั พธุ Thursday วันพฤหสั บดี Friday วันศกุ ร์ Saturday วนั เสำร์ 12 Months of a Year หน่ึงปี มี 12 เดือน January มกรำคม February กมุ ภำพนั ธ์ March มีนำคม April เมษำยน May พฤษภำคม June มถิ นุ ำยน July กรกฎำคม August สงิ หำคม September กันยำยน October ตุลำคม November พฤศจิกำยน December ธันวำคม Exercise 5 Write meanings of these words : April = …………………………..……………..………..….……….………….……. Tuesday = ……………………………….…….……………...…….….……...……….. tomorrow morning = ……………………………………….…………………..……….…..…..… next 3 days = ……………………………………………………....…….…….…….….... yesterday afternoon = …………………………………………..…………………….….……… next 5 years = …………………………………………………………..…..….………. 29
วิทยาลยั ชุมชนอุทยั ธานี English for Communication What time is it? 7:00 It's seven o'clock. It's seven p.m. / a.m. 12:00 It's twelve o'clock. It's noon / midnight. 3:10 It's three ten. It's ten (minutes) after three. 7:14 It's seven fourteen. It's fourteen after seven. 9:15 It's nine fifteen. It's (a) quarter after nine. 1:21 It's one twenty-one It's twenty-one minutes past one. 11:05 It's eleven oh five. It's five after eleven. 2:09 It's two oh nine. It's nine minutes past two. 6:30 It's six thirty. It's half past six. 4:50 It's four fifty. It's ten minutes to five. 10:45 It's ten forty-five. It's quarter to eleven. 8:35 It's eight thirty-five. It's twenty-five minutes to nine. The 12-hour clock is a time convention in which the 24 hours of the day are divided into two periods : [1] a.m. (from the Latin ante meridiem, meaning \"before midday\") and p.m. (post meridiem, \"after midday\"). 30
วทิ ยาลยั ชมุ ชนอุทัยธานี English for Communication Invitation & Acceptance การเชื้อเชิญและการตอบรบั คาเชิญ กำรเชือ้ เชญิ และกำรตอบรบั คำเชญิ เป็นเร่อื งปกตขิ องเรำท่ตี อ้ งประสบพบเจอ อยเู่ สมอ ทัง้ กับคนทีเ่ รำเพง่ิ รจู้ กั กับเพ่อื นสนทิ หรือแม้กระท่ังคนในครอบครัวของเรำเองก็ตำม ทำใหก้ ำรเชอ้ื เชิญเปน็ ไปได้ทั้งในแบบท่เี ป็นทำงกำรและในแบบที่ไมเ่ ป็นทำงกำร ขนึ้ อย่กู ับผู้ทเี่ รำเชญิ หรือผู้ทเี่ ชิญเรำ ในทำงธุรกิจน้ัน กำรออกงำนต่ำงๆ เป็นเร่ืองปกติ เพรำะกำรทำธุรกิจ จำเป็นท่ีจะต้องมีกำรติดต่อส่ือสำรกับ บคุ คลภำยนอกอย่เู สมอ ทำให้กำรถูกเชื้อเชิญเพ่อื เข้ำสังคมนน้ั เปน็ สิง่ จำเปน็ ที่เรำต้องเรียนรู้ ในบำงกรณีเรำอำจจะต้อง เป็นผู้เชิญผู้อื่นให้มำในงำนของหน่วยงำนของเรำ แล้วถ้ำเป็นแขกชำวต่ำงชำติจะต้องทำเช่นไร เรำจะต้องพูด หรือใช้ สำนวนอย่ำงไร ในบทนจ้ี ะแสดงกำรใช้สำนวนและสถำนกำรณต์ ัวอย่ำง Inviting กำรเชื้อเชิญเป็นกำรแสดงมิตรไมตรีลักษณะหนึ่งที่เกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ อำจเป็นกำรเชื้อเชิญในลักษณะที่เป็น ทำงกำรและไม่เป็นทำงกำร กำรเชือ้ เชิญอำจกระทำได้หลำยลกั ษณะ อำทิ กำรเช้อื เชิญแบบเป็นลำยลักษณ์อักษร ไม่ว่ำจะ เป็นกำรออกบัตรเชิญหรือกำรเขียนจดหมำยเชิญ หรือกำรเชื้อเชิญด้วยวำจำ ไม่ว่ำจะด้วยวิธีกำรใช้โทรศัพท์ติดต่อหรือ แบบเผชญิ หนำ้ เป็นต้น Inviting and Accepting or Declining Invitations กำรเชอื้ เชญิ กำรตอบรบั และตอบปฏิเสธคำเชอ้ื เชญิ มีสำนวนภำษำท่เี กย่ี วขอ้ งหลำยสำนวนด้วยกัน 1. การเชื้อเชิญ (inviting) กำรเช้ือเชิญในโอกำสต่ำงๆ มีสำนวนภำษำหลำกหลำยท่ีสำมำรถเลือกใช้ได้ต่ำงๆ กันดังตวั อยำ่ งตอ่ ไปน้ี - Would you like to visit our plant in Ayutthaya ? - May I invite/take you out to lunch today ? - We would like to invite you to a reception to celebrate the opening of our new branch in Lampang. - How about going to a movie tonight ? - What about joining us in Pattaya this weekend ? - Why not come round for a drink ? - Come and join us for coffee. - You will come to visit us in January, won’t you ? 31
วทิ ยาลัยชมุ ชนอทุ ัยธานี English for Communication บำงครั้งก่อนกล่ำวคำเชื้อเชิญดังสำนวนภำษำข้ำงต้นนั้น ผู้เชื้อเชิญอำจเร่ิมต้นด้วยกำรเกริ่นนำก่อนในทำนองว่ำ คู่สนทนำว่ำงหรอื ไมใ่ นชว่ งวันและ/หรอื เวลำที่ต้องกำรเชิญ โดยอำจใช้สำนวนภำษำดังต่อไปน้ี - If you haven’t any plans, … - If you’re free on Friday, … - If you’re not in a hurry, … (ถ้ำไม่เร่งรบี ...) - If you don’t have anything special to do this weekend, … - Are you doing much tonight ? 2. การตอบรับคาเชื้อเชิญ (accepting invitations) ในกำรตอบรับคำเช้ือเชิญ นิยมกล่ำวข้อควำมตอบ รับคำเชื้อเชิญ พร้อมกับกำรกล่ำวขอบคุณผู้ที่เชิญ ซ่ึงคำขอบคุณน้ันอำจกล่ำวก่อนหรือหลังข้อควำมตอบรับคำเชื้อเชิญก็ ได้ ดงั ตวั อยำ่ งสำนวนภำษำจำกสำนวนภำษำสุภำพจนถึงสำนวนภำษำอยำ่ งเป็นกนั เองต่อไปนี้ การกลา่ วขอบคณุ การตอบรบั คาเชือ้ เชิญ (Thanking) (Accepting) Thank you (very much). That would be very nice. That’s (really very) kind of you. I’d love to come/go. Thank you for inviting me. I’d like that (very much). Thanks. That would be lovely / (very) nice. I’ll look forward to it. That sounds great. ตวั อย่างบทสนทนา ตัวอยา่ งการเช้ือเชญิ ลกู ค้าของบรษิ ัทชมที่ทางาน White: If you’re not in a hurry. I’d like to invite you to look around the department before you leave. Smiths:That’s kind of you. I’d like that ตวั อยา่ งการเชือ้ เชิญเพือ่ นไปรบั ประทานอาหาร Pramote: George, some of us are going for a meal right after the meeting. Would you like to come? George: Sounds good to me. Thanks. 32
วิทยาลยั ชุมชนอทุ ัยธานี English for Communication 3. การตอบปฏเิ สธคาเช้ือเชิญ (declining invitations) ในกำรตอบปฏเิ สธคำเชอื้ เชิญนยิ มเรมิ่ ดว้ ยกำรกลำ่ ว ขอบคุณผู้ท่ีเชิญ แล้วจึงต่อด้วยกำรปฏิเสธคำเช้ือเชิญ พร้อมทั้งช้ีแจงเหตุผลบำงครั้งอำจเป็นกำรกล่ำวปฏิเสธด้วยเหตุผล ควำมจำเป็นบำงอย่ำงท้ังที่ควำมจริงแล้วต้องกำรตอบรับคำเช้ือเชิญน้ัน ๆ อย่ำงย่ิง กำรตอบปฏิเสธคำเชื้อเชิญจำเป็นต้อง กระทำอยำ่ งสภุ ำพและเหมำะสมเพ่อื มใิ หส้ ่งผลกระทบตอ่ สัมพนั ธภำพท่ดี ีระหว่ำงกัน ดงั ตวั อยำ่ งสำนวนภำษำต่อไปน้ี การกลา่ วขอบคณุ การตอบปฏิเสธคาเชอ้ื เชิญ เหตผุ ลทที่ าให้ต้องปฏิเสธ (Reason) (Thanking) (Declining) I won’t be free then. Thank you (very much). I don’t think I can make it then. I’m busy at the moment. I already have an appointment That’s (really very) kind of but I can’t. for tomorrow. I won’t be here next Friday. you. but I’m afraid I can’t come. I’ve already arranged to go out for dinner that evening. Thank you for inviting/asking but unfortunately I must get back home soon. I have to get back home soon. me. I wish I could but I have to study tonight. I play badminton every Tuesday. Thanks. I’d like to but I’m going out of town tomorrow. Sorry, I can’t I’d love to, but ตวั อย่างบทสนทนา (1) Pantakarn : Mr. Simpsons, I would be delighted if you could join us for a drink after the meeting is over. Simpsond : That’s very kind of you. I wish I could, but I’ve already arranged to go out for dinner with my client this evening. (2) Yongyut : James, how about going to a karaoke bar tonight? James : I’d love to, but I have to finish this report tonight. Thanks for asking, anyway. 33
วทิ ยาลยั ชมุ ชนอุทยั ธานี English for Communication Greeting Invitation การเชื้อเชญิ แขกด้วยความยินดี สานวนท่ีใช้ 1. แบบเป็นทำงกำร Would you like to …………? I would like to invite you to …………. We were wondering if you would like to ……. I was wondering if you could ……….. It would be very pleased if you can come to …… We were very pleased to invite you to……. May I invite you to……..? 2. แบบกันเอง What / How about …….? Can you come to ………..? Let’s……. Why don’t you……….? Are you free on………….? Do you want to go to …………? Greeting Invitation Example 1 MR. Tony : Hello, Khun Somchai. How are you? Khun Somchai : Hello, Mr.Tony. I’m very fine, thank you. And how about you today? Mr.Tony : Good. Thank you. This exhibition is very successful, we make a lot of good contacts. Khun Somachai : Great. There will be a party after finishing the exhibition show at the Rose Restaurant. I was wondering if you could join this party with us. 34
วิทยาลยั ชุมชนอทุ ยั ธานี English for Communication Greeting Invitation Example 2 Penny : Hello, John. How’s everything with you? John : Very well, thank you. And you? Penny : I’m fine . Thanks. John : Penny. Do you have any plans to go out on Sunday? Penny : No. I’m free on Sunday. Do you have any plans at that day? John : Yes. Tom will have a birthday party at this home. Can you go with me? * Note คำว่ำ How about และ What about เปน็ คำถำมท่ีต้องตำมด้วยคำนำม หรือถ้ำจะตำมด้วยคำกริยำ ก็จะต้อง เปน็ คำกริยำที่เติม ing เท่ำน้ัน เช่น “How about going to the zoo?” หรอื “What about dinner?” ท้งั 2 คำน้ี จะ แปลควำมหมำยตำมคำนำม หรือคำกริยำในตอนท้ำย เช่นใน ตัวอย่ำงแรก หมำยถึง “ไปสวนสัตว์กันไหม” ส่วนใน ตัวอย่ำง 2 นั้นหมำยถึง “อำหำรคำกันไหม” ซ่ึงเป็นกำรเช้ือเชิญในแบบกันเอง แต่ในกรณีท่ีเป็นกำรใส่ช่ือคนตำมท้ำย What about / How about จะหมำยถึง กำรทกั ทำย และถำมขำ่ วครำว เช่น “What about John?” หมำยถึง “แล้ว จอหน์ ล่ะ เป็นยังไงบ้ำง” Thanks for invitation การแสดงความขอบคุณที่ได้รับเชญิ กำรแสดงควำมขอบคุณที่ได้รับเชิญ เป็นกำรแสดงมำรยำทในควำมมีน้ำใจของผู้เช้ือเชิญ ถึงแม้ว่ำผู้น้ันจะตอบ รับ หรอื ปฏิเสธกำรเชญิ ก็ตำม ซง่ึ กำรแสดงควำมขอบคุณนน้ั โดยทัว่ ไปจะใชส้ ำนวนดงั ต่อไปน้ี Thank you for inviting me. Thank you very much. Thank you. Thank you, that’s a very kind of you. Thanks for your invitation. Thanks for asking me. 35
วทิ ยาลยั ชมุ ชนอุทัยธานี English for Communication Accepting Invitation การตอบรบั คาเชิญ สานวนท่ีใช้ 1. แบบเปน็ ทำงกำร I’ll be delighted to. It would be very nice. That would be very nice. That sounds like fun. I’d like that every much. That sounds great. I look forward to that. 2. แบบกันเอง OK. Why not? Yes, sure. Sure. I’d love to. That’s a good idea. Good. *Tip สำนวน look forward to ในส่วนของกำรตอบรับคำเชิญน้ัน แปลว่ำ “ต้ังตำรอคอย” โดยปกติเรำจะใช้เมื่อเรำ รอคอยอะไรสักอย่ำง สำมำรถเขียนลงในจดหมำยกไ็ ด้ ถำ้ เป็นกรณที ่ีเรำอยำกใหเ้ ขำตอบกลับมำโดยเรว็ Accepting Invitation Example 1 Rogan : Hello, Micheal. How are you? Micheal : I’m fine. Thanks, and you? Rogan : Very fine. Thanks. Are you free on Friday. Micheal? Micheal: Yes. What’s up? Rogan : It’s Jenifer’s birthday and we will have a party at her home. Will you come? Micheal : Yes, sure. Thank you. 36
วทิ ยาลัยชุมชนอุทัยธานี English for Communication Accepting invitation Example 2 Nancy : Good morning Mr. Anderson. How are you? Mr.Anderson : I’m fine, thank you. And you? Nancy : I’m fine. Thanks, Mr. Anderson. I would like to tell you that our office will have a seminar about the Investment in Thailand and we were wondering if you can be our chairman in this seminar. Mr.Anderson : I’ll be delighted to. Thank you for inviting me. * Note สำนวน “What’s up” ในตัวอย่ำงที่ 1 นั้น แปลว่ำ “มีอะไรหรือเปล่ำ” จะใช้ในกรณีที่ไม่เป็นทำงกำรเท่ำนั้น และมกั จะใช้เมอ่ื คู่สนทนำอยูใ่ นวยั เดียวกัน ไม่ควรที่จะใช้พูดกับผู้ใหญ่เท่ำใดนกั (ถ้ำไม่สนทิ สนมกันจรงิ ๆ) Declining Invitation การปฏิเสธคาเชญิ สานวนท่ีใช้ I’d like to but …….. I’m sorry, but thank you for your invitation. I’m afraid I can’t. Thank you very much, but……… I’m sorry I can’t make it. That’s a very kind of you but unfortunately,…… Reasons for Declining การให้เหตุผลในการปฏเิ สธ ในกำรปฏิเสธคำเชิญนั้น โดยปกติจะต้องให้เหตุผลในกำรปฏิเสธด้วยทุกคร้ัง เพ่ือให้ควำมสำคัญในเร่ืองของผู้ เชิญ ซึ่งเหตุผลส่วนใหญ่นั้นมักจะมำจำกกำรติดธุระอื่นอยู่ก่อนหน้ำแล้ว เป็นต้น ซ่ึงผู้เขียนได้ให้ตัวอย่ำงเหตุผลในกำร กล่ำวอ้ำง ดงั ต่อไปนี้ I’ve already made another plans. I have a plan for something else. I have to work overtime tonight. I have another engagement for tonight. 37
วิทยาลยั ชมุ ชนอุทัยธานี English for Communication I’m not free at that day. I have a headache today. Sorry, I will go to Bangkok tomorrow. Sorry, I’m very tired. I need some rest. I have a meeting at that time. My schedule is full now. That time is not available for me. Declining Invitation Example 1 Emma : Hello, Jim. How are you? Jim : I’m fine, Jack. Thanks and how about you? Emma : Fine, thank you. Jim, I’m very wondering whether to day you are free. There’s a new restaurant in the next building and I’d like you to go with me. Jim : I’d like to, Emma. But I’ve to see Mr. Harry at his office, today. Would it be o.k. on Saturday? Emma : All right. Declining Invitation Example 2 Brown : Good morning, Mr. Peter. Peter : Good morning, Mr. Brown. How are you? Brown : Good. Thank you, and you? Peter : Very well. Thanks. How about your work now? Brown : It’s o.k. for me. Everybody is very nice. And there will be a welcome party for me tonight. Would you like to join us? Peter : That’s a good idea but tomorrow I have a meeting in an early morning. So, tonight I need an early night. Brown : That’s too bad. 38
วิทยาลยั ชมุ ชนอทุ ยั ธานี English for Communication *Tip ในกรณีที่เรำถูกปฏิเสธกำรเชิญนั้น ถ้ำหำกเรำต้องกำรพูดคุย หรือจำเป็นที่จะต้องเชิญเขำจริงๆ ท่ำนอำจจะ กล่ำวต่อท้ำยเหตุผลของผู้ปฏิเสธ เมื่อเขำพูดจบแล้วก็ได้ เช่น Maybe next time. / What about on Monday? / Is Thursday suit you? เป็นต้น นอกจำกน้ีผู้ปฏิเสธก็สำมำรถเป็นผู้พูดก่อนได้ด้วย ควำมหมำยของสำนวนเหล่ำนี้มักจะ เปน็ ไปเพอื่ เล่อื นกำหนดเวลำใหผ้ ู้ปฏเิ สธ มเี วลำมำกข้ึนและอำจตอบรับเรำได้ Example Situation 1 When your friends invite you to their party. เมือ่ เพื่อนๆ ของคณุ เชิญคุณไปงานเลยี้ ง Jenny : Hello, Nicky. How’s everything with you? สวัสดจี ้ะ นิกกี้ เปน็ อยำ่ งไรบำ้ ง Nicky : So so, and you? เร่ือยๆ น่ะ แล้วเธอล่ะ Jenny : Fine. Thanks, and how about Joe? สบำยดจี ้ะ แลว้ โจละ่ เปน็ ไงบำ้ ง Nick : Good. He enjoys his new job very much. กด็ นี ะ เขำชอบงำนใหม่มำก Jenny : That’s great, and what about Saturday? Are you free on Saturday? เย่ียมเลยนะ แลว้ วนั เสำร์นี้ละ่ พวกเธอวำ่ งกนั หรอื เปลำ่ Nicky : I’m fine at that day, but I’m not sure that Joe will be free. Actually, he works on Saturday. What’s up, Jenny? วนั น้ันฉันวำ่ ง แต่ฉนั ไม่แน่ใจว่ำโจจะวำ่ งหรือเปลำ่ นะ เพรำะปกตเิ ขำต้องทำงำนวนั เสำรด์ ้วย มีอะไรหรือเปลำ่ เจนนี่ Jenny : Kim and I would like to have a dinner party to celebrate our successful project on Saturday at my home, and also Linda and Luis will join us. So, it would be very nice if you and Joe can come. คิมกับฉนั จะจัดงำนเล้ียงอำหำรค่ำกันเพือ่ ฉลองงำนโครงกำรท่สี ำเร็จ ในวันเสำรน์ ีท้ ี่บำ้ นฉันนะ่ และ ลนิ ดำกับหลยุ สก์ จ็ ะมำดว้ ย ฉนั เลยคิดว่ำมนั เป็นกำรดีมำกเลย ถำ้ เธอและโจจะมำงำนน้ี Nicky : That sounds great, Jenny. But I’m really not sure about Joe. Let’s me ask him first and I will call you whether he will come. น่ำสนใจดีนะเจนนี่ แต่ฉนั ไม่แน่ใจจริงๆ วำ่ โจเขำจะวำ่ งมำไดห้ รือเปล่ำ งัน้ ฉนั ถำมเขำก่อนแล้วฉัน จะโทรหำเธออีกทวี ่ำเขำจะไปหรอื เปล่ำ 39
วทิ ยาลยั ชมุ ชนอุทัยธานี English for Communication Jenny : All right, I’ll wait for your call. ไดจ้ ้ะ ฉันจะรอโทรศัพท์เธอนะ Nicky : Well, Jenny. Is there anything I could bring? เอ่อ เจนนี่ แลว้ มีอะไรใหฉ้ นั เอำไปร่วมงำนด้วยไหมล่ะ Jenny : Oh, you don’t need to. Just bring yourself. อ้อไม่ต้องหรอก แคเ่ ธอมำกพ็ อแล้ว Nicky : Thanks, Jenny. See you at the party. ขอบคณุ นะเจนนี่ แลว้ เจอกันท่งี ำนเล้ียงนะ่ Jenny : See you, Nicky. แลว้ เจอกนั จ้ะ Example Situation 2 When you are invited to be a speaker in the siminar. เม่อื คุณได้รบั เชญิ เปน็ วิทยากรในงานสมั มนา Mr.Peter : Good morning. This is Peter speaking. May I help you? อรณุ สวัสดิ์ครับ ปีเตอร์พดู สำย มีอะไรใหช้ ว่ ยครับ Miss Rose : Good morning , Mr. Peter. I’m Harry Rose. I call from The seminar Expert Agency. as we will have a seminar in June 25th, this seminar is about personnel management and organization. We know that you has been the personnel manager in C.M.D. company for a long time and you’ve just received The Best Personnel Manager Award of this year. So, it would be very please if you could be our speaker in this seminar. อรณุ สวัสดิ์ค่ะคุณปเี ตอร์ ดฉิ ันชื่อ แฮร่ี โรส จำก บริษัทเซมินำร์ เอก็ ซ์เปิร์ท เอเจนซี่ ค่ะ เนอ่ื งจำกทำงบริษทั เรำจะจดั งำนสมั มนำในวันท่ี 25 มิ.ย. น้เี กย่ี วกำรบริหำรองค์กรและบุคคล ซึ่งทำงเรำทรำบว่ำคุณไดท้ ำงำนทำงด้ำนน้ี ให้กับบริษัท ซี.เอม็ .ด.ี มำนำนแล้ว และคุณก็เพงิ่ ได้รบั รำงวลั ผจู้ ัดกำรฝ่ำยบุคคลดเี ด่นประจำปีนีด้ ว้ ย ทำใหเ้ รำมีควำมยนิ ดีเปน็ อย่ำงยิ่ง ถ้ำคณุ จะสำมำรถมำเป็นวทิ ยำกรให้กับงำนสมั มนำนีไ้ ด้คะ่ Mr.Peter : Thank you for inviting me, Miss Rose. May I check my schedule if it will be available for us. When it will be held? ขอบคณุ ที่ให้เกยี รตเิ ชิญผมนะครับคณุ โรส แต่ผมขอตรวจตำรำงงำนของผมก่อนนะครับ ว่ำสะดวกหรือเปล่ำ ไม่ทรำบวำ่ งำนเร่ิมเมอื่ ไหรค่ รับ 40
วิทยาลยั ชมุ ชนอทุ ยั ธานี English for Communication Miss Rose : It will be held on Wednesday 25thJune from 8 a.m. – 4 p.m. Mr.Peter : งำนจะจดั ขึ้นในวนั พธุ ท่ี 25 มิ.ย. นี้ ต้งั แตแ่ ปดโมงเชำ้ ถงึ บ่ำยสโ่ี มงเยน็ ค่ะ Miss Rose : What about my session, Miss Rose? Mr.Peter : แล้วช่วงเวลำของผมนี่ ช่วงไหนครบั Your session is 11.30 a.m. -11.50 a.m. before lunch. Miss Rose : ตอนสิบเอด็ โมงครง่ึ ถงึ สิบเดด็ โมงหำ้ สบิ ก่อนรับประทำนอำหำรกลำงวันคะ่ Ah! This time is available for us. I’ll be delighted to, Miss Rose. Mr. Peter : Could you please send me more information? Miss Rose : อ้ำ! ชว่ งน้ผี มว่ำงพอดี ผมยินดีเป็นวิทยำกรให้ครบั คุณโรส แลว้ คณุ ช่วยส่งรำยละเอยี ดของ งำนมำใหผ้ มดว้ ยไหมครับ Yes, of course. Thank you for your kindly attention, Mr.Peter. I’ll send you an invitation letter and the information of this seminar to you this afternoon. ได้ค่ะ ขอบคุณคณุ ปีเตอร์มำกนะคะที่สนใจเข้ำร่วมงำน แล้วทำงดิฉนั จะส่งจดหมำยเชิญกับ รำยละเอียดใหค้ ุณในช่วงบำ่ ยนะคะ Thank you, Miss Rose. Goodbye. ขอบคุณครับคุณโรส สวสั ดีครบั Goodbye. Mr. Peter. สวัสดีค่ะ คุณปีเตอร์ Example Situation 3 Declining an invitation (Formal Situation) เม่ือคุณปฏเิ สธคาเชิญ (แบบเป็นทางการ) Khun Nattapol : Hello, Khun Somsak. สวัสดคี รบั คุณสมศักดิ์ Khun Somsak : Hello, Khun Nattapol. How are you? สวสั ดีครบั คุณณัฐพล สบำยดีไหมครบั Khun Nattapol : I’m fine. Thank you, and you? สบำยดคี รบั ขอบคุณ แลว้ คุณสมศักดิ์ละ่ ครบั เป็นอย่ำงไรบ้ำง Khun Somsak : Very well, thank you. ดีครับ ขอบคุณ 41
วทิ ยาลยั ชุมชนอทุ ัยธานี English for Communication Khun Nattapol : Next month our company will have a Database Operating System Training Course and the registration fee is only 5,600 baht, but you will get more from this training. And we would like to invite you to join this training course. ตอนนี้ บรษิ ทั ผมกำลังจะมีกำรจดั อบรมเรื่องระบบปฏิบตั ิกำรฐำนขอ้ มลู ในเดือนหนำ้ ครับ และค่ำลงทะเบียนก็เพียงห้ำพันหกรอ้ ยบำทเทำ่ น้นั แต่จะไดอ้ ะไรมำกเลยในกำรอบรมครั้งนี้ ทำงผมจึงขอเชญิ คุณสมศักดิ์เขำ้ รว่ มอบรมกับทำงเรำนะครับ Khun Somsak : Thank you for your invitation, butI will go to Canada in the next month and stay there until September. ขอบคณุ ท่เี ชญิ นะครับ แต่เดอื นหน้ำผมต้องไปแคนำดำ และอยู่ทน่ี ่นั จนถงึ เดือนกันยำยนครับ Khun Nattapol : All right. Maybe next time, Bon Voyage, Khun Somsak. ไมเ่ ป็นไรครบั ถำ้ อยำ่ งนัน้ เอำไว้โอกำสหนำ้ ดีกว่ำครบั ขอให้เดนิ ทำงโดยสวัสดิภำพนะครบั คณุ สมศักดิ์ Khun Somsak : Thank you, Khun Nattapol. ขอบคุณครับ คณุ ณฐั พล Example Situation 4 Declining an invitation (Informal Situation) เมอ่ื คุณปฏิเสธคาเชิญอย่างไม่เป็นทางการ Henry : Hello, Jack. How are you today? สวสั ดีแจ๊ค เปน็ ยังไงบ้ำง Jack : So so. And you? เร่อื ยๆ น่ะ แลว้ นำยล่ะ Henry : Good. You look very tired, Jack? ก็ดี ดูนำยเหนื่อยๆ นะแจค๊ Jack : Last week I worked very hard, and my son got a very bad cold, so my wife had to take care of him at the hospital. Though he gets better but my wife wants him to be in the hospital. So, There’re many things for me to do at my home. สัปดำหท์ ี่แล้วฉนั ทำงำนหนักน่ะ แล้วลกู ชำยกไ็ มส่ บำยเป็นไขห้ วดั อำกำรแย่มำกจนต้องสง่ เข้ำ โรงพยำบำล ภรรยำของฉนั เลยตอ้ งไปดแู ล และแม้วำ่ อำกำรจะดีขน้ึ แลว้ แต่ภรรยำก็อยำกให้นอน โรงพยำบำลต่ออกี หน่อย ฉันเลยต้องทำอะไรเองทบ่ี ้ำนตง้ั หลำยอยำ่ ง Henry : That’s too bad. Why don’t you come with me, I will go for a drink tonight. Forget everything and enjoy drinking. แยจ่ ังเลยนะ ทำไมนำยไม่ไปหำอะไรด่ืมกบั ฉนั คนื น้ีล่ะ ลืมทุกอยำ่ งแลว้ ไปดื่มกันดีกวำ่ 42
วิทยาลยั ชุมชนอทุ ัยธานี English for Communication Jack : That’s a good Idea, but I’m very tired. I need some rest. Thanks for asking me. เป็นควำมคิดทดี่ ีนะ แตฉ่ ันเหน่อื ยมำก เลยอยำกพักผ่อนมำกกว่ำ ขอบคุณทชี่ วนนะ Henry : That’s all right. Perhaps next time will be o.k. for you. ไม่เปน็ ไรหรอก เอำไว้โอกำสหนำ้ ละกนั Jack : I think so, see you tomorrow. ฉันก็วำ่ งนั้ ไว้เจอกันพรงุ่ น้นี ะ Henry : See you. แลว้ เจอกัน ……………………………………………………………………………………….…………… ………………………………….……………………………………………………………….. ……………………………….………….…………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………… ………………………….………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………..……….….…… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…… ………………………………………………………………………………………………………………………..………………………....…. 43
วิทยาลัยชุมชนอทุ ัยธานี English for Communication Making and Canceling Appointments กำรนดั หมำยและกำรยกเลิกกำรนัดหมำยมสี ำนวนภำษำที่ใชใ้ นแตล่ ะโอกำสแตกต่ำงกนั ไป 1. การนัดหมาย (making appointments) สถานการณ์/จุดประสงคข์ องผพู้ ดู ตวั อยา่ งสานวนภาษา กลำ่ วทกั ทำยและแนะนำตนเอง Good morning. This is Mrs. Whitney. ขอนัดหมำย Hello. This is Miss Guyon. I’d like to make an appointment with Mr. Johnson. สอบถำมเวลำท่ีสะดวกสำหรับนดั หมำย I want to arrange a meeting with the Chief Engineer. ขอเวลำตรวจสอบกับสมุดนดั หมำย Could I make an appointment with Mr. Johnson? เสนอเวลำนัดหมำย When would be convenient ? One moment, please. I’ll check the diary. ตอบรบั กำรนดั หมำย Let me get my diary. Is 2 o’clock tomorrow afternoon all right ? ตอบปฏิเสธกำรนดั หมำย Can we meet at nine Friday morning ? Shall we say tomorrow afternoon at 2? Do you think 2 o’clock tomorrow afternoon’s OK ? What about / How about tomorrow afternoon at 2? Yes, that’s fine. Yes, all right. Yes, OK. Yes, perfect. I’m sorry I’m not free then. What about 10:30 ? I’m afraid I can’t make it at 2:00 p.m. I’d prefer 10:30 a.m. 44
วิทยาลยั ชุมชนอทุ ัยธานี English for Communication 2. การยกเลิกการนดั หมาย (canceling appointments) สถานการณ์/จดุ ประสงค์ของผู้พดู ตัวอย่างสานวนภาษา แจ้งขอยกเลิกกำรนัดหมำย I’m afraid I must cancel my appointment with you on January 5th. ให้เหตุผลประกอบกำรขอยกเลกิ I’ve been held up at a meeting. กำรนดั หมำย I have to fly to London tomorrow morning. I have been called away rather unexpectedly on business. (ถกู เรยี กตัวให้ไปทำธุระอยำ่ งไม่คำดคดิ ) รบั ทรำบกำรขอยกเลิกกำรนัดหมำย Oh, I see. Thank you for calling. Offering and Requesting กำรเสนอตนให้ควำมชว่ ยเหลือหรือแสดงไมตรีจิต (offerin help or hospitality) และกำรขอร้อง (requesting) เป็นกำร แสดงไมตรีทเ่ี ปน็ มำรยำทสงั คมทส่ี ำคญั และมักเกิดขน้ึ เปน็ ประจำเช่นเดยี ว กับกำรเช้ือเชิญ สำนวนภำษำทีใ่ ชแ้ ละวธิ กี ลำ่ วตอบมหี ลำยลกั ษณะ ซ่งึ จะแตกต่ำงกนั ไปตำมแต่ละโอกำส ขอให้ นกั ศึกษำทำกจิ กรรมตอ่ ไปนี้เพอ่ื สงั เกตตัวอย่ำงสำนวนภำษำทใี่ ช้ในกำรเสนอตนใหค้ วำมช่วยเหลือหรือแสดงไมตรีจติ และกำรขอร้องในสถำนกำรณ์ต่ำงๆ กำรเสนอควำมช่วยเหลือหรือแสดงไมตรีจติ และกำรขอร้อง ตลอดจนกำรตอบรับและตอบปฏิเสธมหี ลำย สำนวน ข้ึนอยู่กับสถำนกำรณ์และโอกำส 1. การเสนอความช่วยเหลือหรือแสดงไมตรีจิต (offering help or hospitality) อำจแยกออกได้เปน็ 2 ลักษณะดงั นี้ 1.1 กำรเสนอควำมชว่ ยเหลอื บรกิ ำร หรอื สง่ิ ของ มสี ำนวนทเี่ ลือกใช้ในโอกำสต่ำงๆ อำจเปน็ กำรกลำ่ ว อยำ่ งกว้ำงๆ หรอื ระบุควำมช่วยเหลอื หรอื บริกำรอย่ำงใดอยำ่ งหนึง่ เป็นกำรเฉพำะตำมตัวอย่ำงดงั ต่อไปนี้ - May / Can I help you ? 45
วทิ ยาลยั ชมุ ชนอทุ ัยธานี English for Communication - May I be of help / assistance ? - Is there anything else I can do for you ? - Shall / May / Can I…? เช่น Shall I get you the user’s manual for this equipment ? May I write down the timing information ? Can I ask you to do me a favor ? - Would you like me to….? เช่น Would you like me to make a report on today’s mechanical problems ? - If you like, I could… เช่น If you like, I could request more electrical wire right now. - Let me give you a hand with… เชน่ Let me give you a hand with your tool box. - Do you want me to…? เช่น Do you want me to photocopy this daily report for you ? - How about… ? เชน่ How about taking a tour around the factory ? - Would you like…? เชน่ Would you like a cup of coffee ? Would you like a lift / ride back to your house ? - Do you want…? เช่น Do you want some more batteries ? Do you want flat-nose pliers ? 1.2 กำรตอบรบั หรือตอบปฏิเสธเมอ่ื มีผูเ้ สนอตนให้ควำมชว่ ยเหลอื หรอื บริกำรหรือแสดงไมตรีจติ มสี ำนวนทน่ี ิยมใช้ดงั นี้ - กำรตอบรบั (accepting offers) - (Oh,) Yes, please. - Thank you (very / so much). - (Yes.) That would be very nice. - (Yes.) That would be a great help. - (Yes.) If you’re sure it’s no trouble (for you). 46
วิทยาลัยชุมชนอุทัยธานี English for Communication - กำรตอบปฏิเสธ (declining offers) - No, thank you. - No, it’s all right, really. - I don’t think so, thanks. - Thank you, but it’s OK. - Thank you, but you really don’t have to. - Thank you, but I’m fine for now. - Thank you for offering, but I’m all right. ตัวอยา่ งบทสนทนา ACCEPTING A : If you like, I could order more welding goggles for you today. B : Yes, if you’re sure it’s no trouble. A : Oh, not at all. I’d be glad to. B : Thank you so much. DECLINING A : Would you like me to get you more mud pumps ? B : No, it’s all right, really. We still have enough here. A : Are you sure ? B : Yeah, sure. 2. การขอรอ้ ง (requesting) กำรขอร้องอำจรวมถงึ กำรขอให้ผ้อู ืน่ ทำบำงสิ่งบำงอย่ำงใหใ้ นเชงิ ขอควำม ชว่ ยเหลือและกำรขอส่งิ ของบำงอยำ่ ง สำนวนภำษำองั กฤษท่ีใช้ในกำรขอร้องมีดังนี้ - Can you…? Can you get me gas pliers ? Can you do me a favor ? (คณุ จะชว่ ยอะไรหนอ่ ยได้ไหม) Can you call Peter Shilton for me ? - Can I…? Can I have a blue pen ? Can I use your telephone ? 47
วิทยาลยั ชมุ ชนอทุ ยั ธานี English for Communication - Could / Would you (please / possibley)…? Could / Would you give me a lift to the plant ? Would you please make sure you lock the computer room when you leave ? - Could I (possibly)…? Could I have a talk with you for a few minutes ? Could I possibly borrow your red pen for a moment ? - Would you mind + V – ing …? (คณุ จะรงั เกียจทจี่ ะ...ไหม) Would you mind explaining to me how this machine works ? Would you mind not turning the radio up so loud ? - Would you mind if + Subj. + V (past simple)…? (คุณจะรังเกียจไหมถ้ำ...) Would you mind if we stopped at the factory on the way ? Would you mind if I took this cutter with me ? - Do you think you could…? Do you think you could type this report up for me ? - Would it be possible for you to…? Would it be possible for you to make a short welcoming speech to our visitors tomorrow morning ? - I was wondering if…? I was wondering if you could repair this refrigerator for me ? ในกำรขอร้อง หำกผ้พู ูดต้องกำรแสดงควำมเกรงใจเป็นพเิ ศษ หรอื สงิ่ ทีข่ อร้องให้ทำเป็นเร่ืองรบกวนเปน็ พเิ ศษ นยิ มเกร่นิ นำโดยเสริมข้อควำมต่อไปนี้ก่อนท่ีจะกลำ่ วคำขอรอ้ งโดยตรงทันที ข้อความเกริ่นนา ตวั อยา่ ง (Introductory statements) (Examples) If it’s not too much trouble, … If it’s not too much trouble, could you (ถำ้ ไม่ลำบำกจนเกินไป) show me how to operate these cement mixers ? I’m sorry to trouble you… I’m sorry to trouble you. But could you (ขอโทษท่จี ะต้องรบกวนคุณ) check this work plan for me ? I’m not sure if I covered everything in it. 48
วทิ ยาลัยชุมชนอทุ ัยธานี English for Communication 2.1 การตอบรับคาขอร้อง (positive replies to requests) เป็นกำรตอบรับท่ีแสดงควำมเต็มใจในกำร ทำบำงสงิ่ บำงอย่ำงให้ตำมที่มีผขู้ อรอ้ ง ซ่งึ มีสำนวนทอ่ี ำจเลือกใชไ้ ด้หลำยสำนวนดงั น้ี การตอบรบั คาขอร้องท่วั ๆ ไป การตอบรับคาขอร้องประเภท Would you mind …? - Sure. - Of course not. - Okay. - Certainly not. - Of course. - Not at all. - Certainly. - By all means. - Certainly. I would be glad to. - Yes, that’s no problem ตัวอย่างบทสนทนา Brent : By the way, could you please pass me the tool box before you go ? Pattana : By all means, Brent. Brent : Would you mind sending out a memo to all technicians about rules and regulations on how to use these new machines ? Pattana : Not at all. I’d be glad to. 2.2 การตอบปฏิเสธคาขอร้อง (negative replies to requests) ตำมมำรยำทสังคมโดยทั่วไป ผู้ขอร้อง ควรระมัดระวังไม่ขอให้ผู้อื่นกระทำบำงส่ิงบำงอย่ำงที่เหลือวิสัยหรอื อยู่ในภำวะท่ีทำไม่ได้ ดังนั้น ส่วนมำกแล้วผู้ได้รับกำร ขอร้องมักตอบรับคำขอร้องของผู้อ่ืน ยกเว้นว่ำมีเหตุจำเป็นหรือสุดวิสัยท่ีจะตอบรับเท่ำน้ัน จึงจะตอบปฏิเสธ กรณีที่เป็น กำรตอบปฏิเสธ ผู้ตอบควรระมัดระวงั คำพูดเพ่ือเปน็ กำรรักษำนำ้ ใจของอีกฝ่ำยด้วย นอกจำกน้ยี ังนิยมให้เหตุผลประกอบ วำ่ เพรำะเหตุใดจึงทำตำมที่ไดร้ ับกำรขอร้องไมไ่ ด้ กำรตอบปฏิเสธตลอดจนเหตุผลท่ีใชป้ ระกอบจะแตกต่ำงกันออกไปตำม สถำนกำรณท์ เี่ กิดขึน้ สำนวนกำรตอบปฏิเสธหลกั ๆ มดี งั น้ี - I’m afraid not. - Sorry ,… - I’m sorry but… - I’m sorry I can’t. - Not right now, sorry. - I wish I could…, but… 49
วทิ ยาลยั ชุมชนอุทยั ธานี English for Communication ตัวอย่างบทสนทนา (1) A : Could you get me a stepladder ? B : I’m afraid not. There aren’t any here right now. (2) A : Could you possibly pick me up at the factory at 9 tomorrow morning ? B : I’m sorry I can’t. I have an appointment with a customer then. (3) A : Do you think you could go and fix the air-conditioning system at Tahiti Co. for me ? I have to go to another customer’s house. B : I wish I could help you, but I really have a lot of work to do already. Note ……………………………………………………………………………………………………………………………………..……………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..……………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………..……………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..……………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………..……………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 50
Search