Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รวมไฟล์สรุปโครงการหน้ากากผ้า

รวมไฟล์สรุปโครงการหน้ากากผ้า

Published by au_kung26, 2021-11-08 06:53:30

Description: รวมไฟล์สรุปโครงการหน้ากากผ้า

Search

Read the Text Version

ก คคำำนนำ ำ เอกสารสรุปผลโครงการเล่มน้ี จดั ทาข้ึนเพื่อรวบรวมวธิ ีการดาเนินงาน ปัญหาอุปสรรค ข้อเสนอแนะ จาการจัดกิจกรรม ในการจดั ทาโครงการศูนย์ฝกึ อาชีพชุมชน หลักสูตรอาชพี การทาหนา้ กากผ้า ศูนย์การศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอโชคชยั คณะผจู้ ัดทาหวังเป็นอยา่ งยงิ่ ว่าเอกสารเลม่ น้ี จะเป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมเพื่อสง่ เสรมิ และ พฒั นาประชาชนในด้านอ่นื ๆ ต่อไป กศน.ตาบลทา่ จะหลุง ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอโชคชยั

สำรบสำัญรบัญ ข เน้อื หา หนา้ คานา ก สารบญั ข บทที่ 1 บทนา 1 หลกั การและเหตผุ ล 1 วัตถปุ ระสงค์ 1 เปา้ หมาย 1 ผู้รบั ผิดชอบโครงการ 2 เครอื ข่ายท่ีเก่ียวข้อง 2 ผลลัพธ์ 2 ดชั นต้ี วั ช้ีวดั ผลสาเรจ็ โครงการ 2 การตดิ ตามและประเมินผล 3 บทท่ี 2 เอกสารการศึกษาและงานวจิ ัยที่เกย่ี วข้อง 3 ความหมายของหนา้ กากผ้า 4 ประเภทของหน้ากากผา้ 11 ความสาคัญของหน้ากากผ้า 15 20 บทที่ 3 วธิ กี ารดาเนินงาน 23 บทที่ 4 ผลการวิเคราะหข์ ้อมูล 24 บทท่ี 5 สรุปผล อภปิ รายผล และข้อเสนอแนะ 25 26 บรรณานกุ รม 27 ภาคผนวก รายช่อื ผ้เู ขา้ รว่ มโครงการ ภาพถ่ายกิจกรรม ตารางวเิ คราะห์ข้อมลู โดยใช้โปรแกรม SPSS โครงการศูนยฝ์ กึ อาชีพชมุ ชน หลักสตู รอาชพี ช่างเช่อื มเบ้ืองต้น คณะผูจ้ ดั ทา

บทท่ี 1 บทนา หลักการและเหตุผล ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ท่ีแพร่ระบาด อย่างรวดเร็วในหลายประเทศ และมีรายงานพบผู้ติดเชื้อมากขึ้น ประกอบกับคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ประกาศโรคติดเช้ือไวรสั โคโรนา 2019 เปน็ โรคติดต่ออันตราย ลาดับท่ี 14 ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ในการนี้กระทรวงศึกษาธิการ จึงได้ออกประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เร่ือง มาตรการควบคุมและ ปูองกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) เพ่ือให้หน่วยงานในสังกัดได้ปฏิบัติ ตาม นอกจากน้ี กระทรวงศึกษาธิการ โดย ดร. กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มอบหมายให้สานักงาน กศน. สอนและผลิตหน้ากากผ้าสาหรับประชาชน เพ่ือปูองกันการแพร่ระบาดของโรค ดังกล่าว เพอื่ สนองนโยบายของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อาเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา จึงจัดโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน หลักสูตรอาชีพการทาหน้ากากผ้า จานวน 5 ชั่วโมง เพ่ือใหผ้ ้เู รียนเกดิ ความรแู้ ละทกั ษะในการทาหนา้ กากผ้า ด้วยตนเอง และได้เรียนรู้จากการลง มือปฏิบตั จิ ริง วตั ถปุ ระสงค์ เพือ่ ใหป้ ระชาชน ตาบลทา่ จะหลงุ ในเขตอาเภอโชคชยั ได้รับความรู้ ทักษะ ในการทาหน้ากากผ้า และสามารถนาไปใช้ในชีวิตประจาวัน สามารถลดรายจ่าย ให้กับตนเองและครอบครัว แก้ไขปัญหาและพัฒนา คุณภาพชีวิต เสริมสร้างความเข้มแขง็ ให้กับชมุ ชน สงั คม เปา้ หมาย เชงิ ปรมิ าณ ประชาชน ตาบลทา่ จะหลุง จานวน 10 คน เชงิ คุณภาพ ประชาชนท่ีเขา้ รว่ มโครงการฯ รอ้ ยละ 90 สามารถนา ความรู้ ทักษะ ในการทาหน้ากากผา้ และสามารถนาไปใช้ในชีวิตประจาวัน สรปุ ผลโครงการศนู ยฝ์ ึกอาชพี ชมุ ชน หลกั สตู รอาชพี การทาหนา้ กากผ้า กศน.ตาบลท่าจะหลุง ปงี บประมาณ 2564 หน้า 1

ผู้รับผดิ ชอบโครงการ นายเชาวฤทธ์ิ เพราะกระโทก ครู กศน.ตาบล เครอื ขา่ ย - ผนู้ าชมุ ชน ท้งั 10 ตาบล ในพ้ืนท่ีอาเภอโชคชัย - โรงพยาบาลส่งเสรมิ สขุ ภาพตาบล ทัง้ 9 ตาบล ในพ้ืนท่ีอาเภอโชคชยั - อาสาสมัครสาธารณสุขประจาหมบู่ ้าน (อสม) ท้งั 10 ตาบล ในพ้นื ท่ีอาเภอโชคชัย - สานักงานสาธารณสุขอาเภอโชคชัย โครงการท่ีเกยี่ วข้อง โครงการศนู ย์ฝึกอาชีพชุมชน หลกั สตู รอาชพี การทาเจลล้างมอื ผลลพั ธ์ (Outcomes) ประชาชนท่ีเข้าร่วมโครงการฯ ได้นาความรู้ ทักษะในการทาหน้ากากผ้า และสามารถนาไปใช้ ในชีวิตประจาวัน สามารถลดรายจ่าย ให้กับตนเองและครอบครัว แก้ไขปัญหาและพัฒนาคุณภาพชีวิต เสรมิ สร้างความเข้มแข็งให้กับชมุ ชน สังคม ดชั นชี ี้วดั ผลสาเรจ็ ของโครงการ ตวั ชี้วดั ผลผลิต (Outputs) ประชาชนทเี่ ขา้ ร่วมโครงการฯ จานวน 10 คน มีความรู้ ทักษะในการทาหน้ากากผ้า และ สามารถนาไปใช้ในชีวิตประจาวัน สามารถลดรายจ่าย ให้กับตนเองและครอบครัว แก้ไขปัญหาและพัฒนา คณุ ภาพชวี ิต เสริมสรา้ งความเขม้ แข็งใหก้ บั ชุมชน สงั คม ตวั ชว้ี ัดผลลัพธ์ (Outcomes) ประชาชนท่ีเข้าร่วมโครงการฯ ร้อยละ 90 นาความรู้ ทักษะในการทาหน้ากากผ้า และสามารถนาไปใช้ในชีวิตประจาวัน สามารถลดรายจ่าย ให้กับตนเองและครอบครัว แก้ไขปัญหาและพัฒนา คุณภาพชีวิต เสรมิ สร้างความเข้มแข็งใหก้ ับชุมชน สงั คม การประเมินผล สังเกตการมีส่วนร่วม แบบประเมนิ โครงการฯ สรปุ ผลโครงการศนู ยฝ์ ึกอาชีพชมุ ชน หลกั สตู รอาชพี การทาหนา้ กากผ้า กศน.ตาบลทา่ จะหลงุ ปีงบประมาณ 2564 หนา้ 2

บทท่ี 2 เอกสารการศึกษาและงานวิจยั ทเ่ี ก่ียวข้อง ในการจดั ทารายงานครัง้ น้ีได้ทาการศึกษาค้นควา้ เน้ือหาจากเอกสารการศึกษาและงานวิจัยท่เี ก่ียวข้อง ดังต่อไปนี้ 1. ความหมายของหน้ากากผ้า 2. ประเภทของหน้ากากผ้า 3. ความสาคัญของหน้ากากผ้า 4. วธิ ที าความสะอาดหนา้ กากผ้า 5. ผลการวิจยั 6. ยทุ ธศาสตร์และจุดเนน้ การดาเนนิ งาน สานกั งาน กศน. ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 1.ความหมายของหน้ากากผ้า หน้ากากผา้ คือ หนา้ กากผ้า ที่ใช้เพื่อชว่ ยปูองกันระบบทางเดินหายใจจากมลพิษ สารพิษ และเช้ือโรค ในหลายกรณี แพทย์มักแนะนาให้ใช้หน้ากากอนามัยเพื่อปูองกันโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เนื่องจาก เปน็ วธิ ีการปูองกันการแพร่กระจายของเชอื้ แบคทีเรยี หรอื เชอื้ ไวรัสจากคนสคู่ นได้ หากรู้วิธีใช้ที่ถูกต้องก็จะช่วย ให้การปูองกันนั้นมีประสิทธิภาพมากข้ึนหน้ากากผ้า ผลิตขึ้นจากผ้า หรือพอลิโพรไพลีนซึ่งเป็นพลาสติกชนิด หนึ่งท่ีมีความปลอดภัยต่อผู้ใช้ โดยหน้ากากผ้า ท่ีมีคุณภาพจะต้องมีช้ันกรองอย่างน้อย 3 ชั้น เพ่ือช่วยในการ ปูองกันเช้ือโรค มลพิษ หรือของเหลวจากภายนอก และช่วยดูดซับสารคัดหล่ังหรือความชื้นที่มาจากผู้ใช้ ปอู งกันเชอื้ โรคแพร่กระจายสผู่ อู้ ่ืน 2.ประเภทของหนา้ กากผา้ หน้ากากผ้า ท่ีวางขายทั่วไป แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ตามลักษณะของหน้ากากผ้า และ ประสิทธิภาพของการกรองอากาศ ดังน้ี หน้ากากผา้ แบบทั่วไป หนา้ กากผ้าประเภทน้จี ะคอ่ นข้างกระชับกับใบหน้า โดยแนบไปกับใบหน้า ซึ่งในวงการแพทย์เป็นส่วนใหญ่ และมักใช้เพ่ือปูองกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคผ่านทางการไอ หรือจามได้ ข้อเสียของหน้ากากผ้าชนิดน้ี คือ บริเวณด้านล่างของหน้ากากผ้าจะไม่สามารถปูองกันการได้รับสารปนเปื้อน การสดู ดม ได้ หน้ากากแบบ N95 เป็นหน้ากากผ้า ชนิดท่ีช่วยปูองกันการเชื้อโรคท่ีมีขนาดเล็กมาก ๆ ได้ โดย ประสิทธิภาพในการปูองกันจะสูงกว่าหน้ากากผ้าแบบท่ัวไป เน่ืองจากลักษณะของหน้ากากผ้าชนิดนี้จะมี ลักษณะครอบลงไปท่ีบริเวณหน้าปาก และจมูกอย่างมิดชิดทาให้เชื้อไวรัส หรือสารปนเปื้อนไม่สามารถลอด ผ่านได้ หน้ากากผ้า ชนิดน้มี ักใชท้ ้ังในวงการแพทยท์ ตี่ อ้ งการความปลอดภัยจากการตดิ เช้ือสงู สรุปผลโครงการศนู ยฝ์ กึ อาชีพชมุ ชน หลกั สตู รอาชพี การทาหนา้ กากผ้า กศน.ตาบลท่าจะหลงุ ปีงบประมาณ 2564 หน้า 3

ได้แก่ การปูองกันเชื้อวัณโรค หรือเช้ือแอนแทร็กซ์ ท่ีเป็นอันตรายต่อมนุษย์ อีกทั้งมักใช้ระหว่างการทางาน เช่น การทางานกับสารเคมีหรือการใช้สีที่อาจทาให้ได้กลิ่นไม่พึงประสงค์ ทว่าในการใช้หน้ากากผ้าแบบ N95 จะตอ้ งเลือกใช้ให้เหมาะสม เพราะขนาดและย่หี ้อท่แี ตกต่างกันอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพในการกรองอากาศได้ และปอู งกันเชอ้ื โรคขนาดเลก็ มาก ๆ ประมาณ 0.3 ไมครอนได้ ซึง่ ฝุน PM2.5 น้ี หน้ากาก N95 สามารถปูองกัน ได้ และนิยมใช้กนั การใชห้ นา้ กากอนามัยให้ปลอดภยั จากการตดิ เชอื้ เมือ่ ใส่หนา้ กากผา้ แล้ว ไม่ควรเอามือไปสมั ผัส พน้ื ผวิ ดา้ นหนา้ ของหน้ากากผ้า เพราะอาจมีละอองฝอยจากการไอ จามจากผตู้ ิดเชื้อมาติด ยง่ิ ถ้าหากเรานามือ ทส่ี ัมผัสเชื้อไปโดนบรเิ วณดวงตา จมกู ปาก เท่ากับวา่ เอาเช้ือเข้าสูร่ า่ งกาย กรณีที่ท่านเกิดความราคาญหน้ากาก จาเปน็ ตอ้ งขยบั ควรจับท่หี ูหน้ากาก และขยับเพียงนิดหน่อย แตถ่ ้าใหด้ ีทสี่ ดุ ไมค่ วรขยับหน้ากากบ่อย ๆ และ ต้องหมนั่ ลา้ งมือให้สะอาด “หนา้ กากผ้า ทางการแพทย์แบบมาตรฐาน” ทเ่ี ราใช้ หรือท่ีเรียกวา่ “หนา้ กากเขียว” ถกู ออกแบบให้ ใช้เพยี งคร้งั เดยี วเท่าน้ัน สามารถใสต่ ่อเน่ืองได้นานท้งั วนั หรือจนกว่าจะเป้ือน ที่บริเวณผิวดา้ นนอก (สเี ขยี ว) จะมีสารกันซึมเคลือบอยู่ ดงั น้ันเมอ่ื เราอย่ใู นสถานการณ์ทีม่ ีใครไอ จามรด กจ็ ะสามารถปกปูองละอองฝอยที่มี เช้ือโรคน้ันเขา้ สูร่ ่างกายทางปาก และจมูกของผ้ทู ่ีสวมใส่ ในกรณีท่ีนาหน้ากากผ้า ทางการแพทย์ไปซัก หรอื ฉีดพ่นนา้ ยาฆ่าเชอ้ื เพ่อื หวังจะนามาใชใ้ หม่ จะทาให้ คณุ สมบัตใิ นการปูองกนั เช้ือโรค และกนั ซมึ ก็จะหายไปนอกจากนี้ อันตรายยงั จะเกิดกบั ผู้ทไ่ี ปจบั ต้องหนา้ กาก อนามยั ท่ีใช้แลว้ ซ่ึงเปื้อนนา้ มูกน้าลายท่ีอาจมเี ชื้อโรค ซ่ึงมีความเสี่ยงตอ่ การตดิ เชื้อสูง ดงั นั้น ควรทิ้งหนา้ กากท่ใี ช้แลว้ ไมน่ ามาใชใ้ หม่ และระมัดระวงั เมื่อต้องถอดหน้ากาก อย่าให้มือไป สมั ผัสพื้นผวิ ดา้ นหนา้ ของหน้ากาก 3.ความสาคัญของหน้ากากผ้า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 จากทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย ยังเป็นกระแสข่าว ที่อยู่ในความสนใจ ภาคประชาชนทั่วไป โดยเจ้าหน้าท่ีทุกฝุายท่ีเก่ียวข้อง กาลังเร่งรับมือและปูองกันอย่าง ต่อเน่ือง หน้ากากอนามัย เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ปูองกันกาลังเป็นท่ีต้องการในวงกว้างได้รับคาแนะนาจาก บุคลากรทางการแพทย์ ว่าสามารถเลือกซื้อที่ทาจากผ้าซึ่งใช้ได้หลายครั้ง หรือหากใครท่ีมีความสามารถในการ เยบ็ ผา้ กส็ ามารถผลิตหน้ากากทม่ี คี ณุ สมบัติปูองกันการติดเช้ือขึ้นด้วยตัวเอง โดยเลือกวัสดุท่ีได้รับคายืนยันจาก แพทยแ์ ล้ววา่ วสั ดุดงั กลา่ ว หากทาความสะอาดอย่างถูกวิธี ก็นามาใช้ซ้าได้ หน้ากากใช้ซ้าจึงเป็นทางเลือกที่น่า พิจารณา เพราะนอกจากจะช่วยปูองกันการติดเชื้อได้แล้ว ยังช่วยลดค่าใช้จ่าย รวมถึงช่วย ลดภาระ “ขยะตกค้างในสิ่งแวดล้อม” ได้อีกทางหน่ึง หลักการทางการแพทย์ ระบุว่า โดยปกติแล้ว หน้ากากผ้าที่มี ประสทิ ธิภาพจะต้องผ่านการตรวจสอบคณุ สมบตั ิของเกณฑ์ 3 ด้าน คอื 1. ตอ้ งสามารถคัดกรองอนุภาคขนาด 3 ไมครอน ได้ 2. ตอ้ งกรองกรองอนุภาคขนาดเล็กขนาด 0.1 ไมครอน เช่น เชอ้ื โรค เช้อื แบคทีเรีย 3. สามารถกนั น้ากันละอองน้าได้ สรปุ ผลโครงการศนู ย์ฝกึ อาชพี ชมุ ชน หลกั สตู รอาชีพการทาหนา้ กากผา้ กศน.ตาบลทา่ จะหลุง ปีงบประมาณ 2564 หน้า 4

ขณะทห่ี นา้ กากผ้า ท่ีจะทาขึ้นเอง จาเปน็ ที่จะต้องคานึงถึงคุณสมบตั เิ บื้องตน้ คือ 1. สามารถกันอนุภาคขนาดเลก็ ได้ 2. สามารถปอู งกันละอองน้าซึมผา่ น ได้ และ ผา้ ท่ีเลือกใช้ ต้องสามารถนาไปซกั ได้หลายครั้ง และหลงั การซกั แล้วยงั คงมีประสิทธภิ าพตามทสี่ องข้อแรกกาหนด หน้ากากผ้า ปอ้ งกันเชือ้ ไวรัส Covid -19 หน้ากากผ้า มสี ง่ิ หน่ึงท่นี า่ เป็นกังวล คอื จะสามารถซมึ ซับ เกบ็ เช้อื โรคจากฝอยละอองฝอยน้ามูกน้าลายไว้ได้ดี นน่ั เพราะผวิ นอกมีความแตกตา่ งจากหน้ากากผ้าแบบ มาตรฐาน ทีม่ ีการเคลอื บสารปอู งกนั การซึมของฝอยละอองไว้ โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงถา้ ใชห้ น้ากากผา้ เป็นระยะเวลาหลายชวั่ โมง หน้ากากจะเกดิ ความช้นื ทาใหม้ ี โอกาสทล่ี ะอองฝอยที่มเี ช้อื โรค ซมึ เข้าสจู่ มูกและปากของเราได้ ดังน้นั ในภาวะที่ขาดแคลนหน้ากากอนามัยแบบมาตรฐาน หน้ากากผา้ ก็พอที่จะชว่ ยปูองกนั ละออง ฝอยเช้ือโรคได้ แตจ่ ะต้องปฏิบัติ ดงั นี้ ถา้ ใช้หน้ากากผา้ 1. เปลี่ยนหน้ากากบ่อย ๆ อย่าปล่อยให้ชน้ื แฉะ 2. เม่อื ถอดหน้ากากผ้า เพ่อื นาไปซักทาความสะอาด ต้องระวงั การติดเชือ้ จากการสัมผสั ผิวนอก ของหน้ากากผา้ 3. ทาความสะอาดมือบ่อย ๆ โดยเฉพาะเม่ือสมั ผัสหนา้ กากหรือใบหนา้ ชนดิ ของผา้ ที่เหมาะสม ผ้าทเี่ หมาะสาหรบั ใชท้ าหนา้ กากผ้า คอื “ผา้ มัสลิน” ซงึ่ เป็นใยผ้าทผ่ี ลติ จาก ฝูาย 100 % เปน็ ชอ่ื ท่ีใช้เรียกกลมุ่ ผา้ ฝาู ยทใี่ ช้ในอุตสาหกรรมเคร่ืองนงุ่ หม่ โดนเฉพาะเส้ือผ้าเด็กเส้นใยผา้ มเี น้ือ ละเอยี ด ระบายอากาศดี แหง้ เรว็ นา้ หนกั เบา ไมร่ ะคายเคอื งต่อผวิ หนัง กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ทดสอบประสิทธิภาพของผา้ ชนิดต่าง ๆ เพือ่ ศกึ ษาว่าผา้ ชนดิ ใดเหมาะ ท่ีจะนามาใช้แทนหน้ากากผ้า ทางการแพทย์ที่สุด ผ่านการทดสอบ 3 วิธี คือ ส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์ เพ่ือศึกษาเส้นใยผ้าในการกันอนุภาค ทดสอบการเป็นขุยด้วยวิธีการซัก และทดสอบประสิทธิภาพการซึมผ่าน ของละอองน้าและพบว่า ผ้ามัสลินมีประสิทธิภาพในการกันละอองน้าได้ดีท่ีสุด เส้นใยผ้าสามารถกันอนุภาค ขนาดเลก็ ได้ดกี ว่าผา้ ชนดิ อน่ื ผ้ามัสลนิ นั้นสามารถนาไปเย็บเป็นหน้ากากผ้า ได้หลากหลายแบบ โดยแบบที่ง่ายที่สุด คือตัดผ้าเป็นส่ี แหล่ียมผืนผ้าขนาดประมาณ 7 นิ้วคร่ึง จับจีบตรงกลาง แล้วเย็บทบกัน 2 ชั้น ติดยางยืด 2 ข้างสาหรับคล้องหู อย่างไรก็ดี ผ้าทค่ี วรหลีกเล่ียงในการนามาเย็บหน้าการเอง คือ ผ้าสปันบอนด์ แม้ตามปกติแล้ว ผ้าชนิดน้ีจะถูก นาไปผลิตเป็นหน้ากากอนามัยในห้องผ่าตัด แต่ผ้าชนิดนี้มีหลายเกรดมาก ท้ังเกรดท่ีทาหน้ากากอนามัย และ เกรดทีน่ าไปเยบ็ ทาถงุ ผ้า จึงแยกไดย้ ากมากวา่ เกรดไหนเหมาะสม ขณะเดียวกัน ด้วยคุณสมบัติท่ีไม่ใช่ใยผ้าจาก ธรรมชาติ แต่เป็นเส้นใยสังเคราะห์ ผ้าชนิดน้ีจึงใช้เวลาในการย่อยสลายนานกว่าเส้นใยธรรมชาติ อาจจะสร้าง ภาระ ขยะตกค้างในส่งิ แวดลอ้ มไดอ้ กี ด้วย สรปุ ผลโครงการศนู ย์ฝกึ อาชพี ชุมชน หลกั สตู รอาชพี การทาหนา้ กากผ้า กศน.ตาบลท่าจะหลงุ ปีงบประมาณ 2564 หนา้ 5

4.วธิ ที าความสะอาดหนา้ กากผ้า วิธีทาความสะอาดหนา้ กากผ้า ทที่ าด้วยผ้ามัสลินนั้น สามารถซักทาความสะอาดได้ ด้วยน้าสบู่ อ่อน ๆ หรือใช้น้ายาซักผ้าเด็ก ต้องหลีกเล่ียงการซักด้วยน้ายาขจัดคราบ หรือน้ายาฟอกขาว กรณีที่ผู้ใช้เป็นผู้ปุวย สามารถใช้น้ายาฆา่ เช้ือผสมนา้ ในสดั สว่ นทีเ่ ขียนไว้ขา้ งขวด สาหรับซักแต่ควรหลีกเล่ียงการแช่หน้ากากผ้า ท้ิงไว้ เป็นเวลานาน ซักเสร็จให้ผ่ึงแห้งในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเท มีแดดอ่อน ๆ หลีกเล่ียงการตากแดดจัด ๆ เป็น เวลานาน เพราะแดดจัดจะทาให้เส้นใยผ้า และยางยืดคล้องหูเสื่อมสภาพได้ หรือหากต้องการรีดไม่ควรใช้เตา รีดลงบนหน้ากากโดยตรง ควรใช้ผ้าสะอาดรองก่อนรีด นอกจากคุณสมบัติท่ีกล่าวมาแล้ว “ผ้ามัสลิน” ยังมี คุณสมบัติสาคัญอีกด้านหน่ึง นั่นคือผ้าชนิดนี้ ซึ่งทาจากใยฝูายนั้นสามารถย่อยสลายตามธรรมชาติได้ใน ระยะเวลาเพียง 1- 5 เดอื น ส่ิงท่ีต้องยา้ กันอกี ครงั้ คอื การทง้ิ หน้ากากผา้ ใชแ้ ลว้ ไม่วา่ หนา้ กากผ้า นัน้ จะผลิตดว้ ยวสั ดใุ ด ก็จัดอยู่ใน กลมุ่ เป็นขยะติดเช้ือ ท่ีต้องสนั นิษฐานไว้กอ่ นว่าอาจจะ ปนเปื้อนด้วยสารคัดหลั่ง เสมหะ น้าลาย น้ามูกของผู้ใช้ และอาจยังปนเปอ้ื นเช้อื โรคจากผปู้ วุ ยหรือผู้เปน็ พาหะนาโรคได้ การท้ิงหนา้ กากผ้า ทใ่ี ช้แล้วจึงจาเปน็ ท่จี ะต้องท้งิ อย่างถูกวธิ ี ในถังขยะติดเช้ือ หรือถังขยะแยกท้ิง และ ควรมีฝาปิดถังขยะอย่างมิดชิด ก่อนทิ้งพับหน้ากากผ้า โดยเก็บส่วนท่ีสัมผัสกับหน้าให้อยู่ด้านใน แล้วม้วนสาย รดั หรือสายทคี่ ลอ้ งหู พนั รอบหน้ากาก เพื่อปอู งกันการแพรก่ ระจาย และลา้ งมอื ใหส้ ะอาดทุกคร้ังหลงั ทิ้ง ประโยชน์ของหน้ากากผ้า หน้ากากผา้ มีคณุ ประโยชน์ถงึ 3 ดา้ น คอื 1. ปอู งกนั การติดเชือ้ ได้ 2. ประหยดั ค่าใช้จ่ายเพราะใช้ซ้าได้ 3. ช่วยลดภาระขยะตกคา้ งในสง่ิ แวดลอ้ มเพราะย่อยสลายได้ การทาหนา้ กากอนามยั แบบผา้ ใชเ้ อง การแพร่ระบาดรนุ แรงของโรคตดิ เชอื้ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรอื โควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ส่งผลใหป้ ระชาชนตน่ื ตระหนกและหนั มาปูองกันตวั เองตามการรณรงคข์ องกระทรวงสาธารณสุข ดว้ ยการลา้ ง มือบ่อยๆ ดว้ ยสบแู่ ละนา้ สะอาด หรอื ใช้แอลกอฮอล์เจล ก่อนกนิ อาหาร หลังขบั ถ่ายและหลงั สมั ผัสส่ิงสมั ผัส รว่ มหรือของใช้สาธารณะทใี่ ช้ร่วมกับผอู้ ืน่ กินอาหารทีป่ รุงสกุ ร้อนใหม่ๆ มีคุณค่าทางโภชนาการ กนิ อาหารจาน เดยี ว หลกี เลย่ี งอาหารรว่ มสารับแตห่ ากจาเป็นก็ใช้ช้อนกลางสว่ นตวั ในการกนิ อาหารรว่ มกับผอู้ น่ื ดูแลร่างกายให้ แข็งแรง นอนหลับให้เพยี งพอ หลีกเลยี่ งการเข้าไปในสถานท่แี ออัด คนรวมตวั กนั หนาแน่น งดกจิ กรรมการร่วม ตัวกัน งดออกนอกบ้านโดยไม่จาเปน็ และการปฏิบตั ิทสี่ าคัญมากไมน่ ้อยไปกวา่ การลา้ งมือให้สะอาดอยู่เสมอก็ คือการสวมหน้ากากอนามยั เพ่อื ปูองกันตนเอง ทงั้ นี้ ในประชาชนทัว่ ไป ทไี่ ม่ได้มีอาการปุวยไขห้ วดั ไอ จาม ไม่ไดเ้ ข้าไปอยู่ในพนื้ ที่เส่ยี ง ไม่ได้ดูแลผู้ปวุ ยหรอื ผู้เสย่ี งสัมผัสโรคโควิด-19 สามารถปูองกันตนเองโดยการสวมใส่ หนา้ กากอนามัยแบบผ้าได้ กองสุขศึกษา กรมสนับสนนุ บริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ขอแนะนาวิธีการทาหนา้ กากอนามัย แบบผา้ ใชเ้ องแบบง่ายๆ เพื่อเป็นทางเลือกสาหรับประชาชนในการแก้ปญั หาการขาดแคลนหน้ากากอนามัย วิธีการทากไ็ มย่ ่งุ ยาก อปุ กรณ์ทใ่ี ช้ก็หาได้ในกล่องเย็บผา้ คุณแม่บา้ นเป็นสว่ นใหญ่ อาจจะมตี ้องซ้ือหาเพ่ิม สรุปผลโครงการศนู ย์ฝกึ อาชพี ชุมชน หลกั สตู รอาชีพการทาหนา้ กากผ้า กศน.ตาบลทา่ จะหลงุ ปีงบประมาณ 2564 หน้า 6

เล็กน้อยคือผ้าฝูายมสั ลิน แต่หากหาไม่ไดจ้ รงิ ๆ กส็ ามารถใชผ้ า้ ฝูาย 100 % แทนได้ คิดแล้วสดุ คมุ้ ทาเองได้ ได้ หน้ากากอนามัยท่ีสวยงามตามต้องการ ทาไดห้ ลายช้นิ ทาให้ทกุ คนในครอบครัวของเราได้ใชเ้ พื่อปูองกนั ตนเอง แถมซักให้สะอาด ตากแดด แล้วนากลบั มาใช้ซา้ ไดเ้ ร่ือยๆ ช่วยประหยดั เงินลดปัญหาการขาดแคลนหน้ากาก อนามยั ท่ีหาซือ้ ยากและมีราคาแพง และยงั ชว่ ยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ลดขยะ ในประเดน็ ของการใช้ หน้ากากอนามัยแบบกระดาษทต่ี อ้ งใช้แล้วท้งิ เปน็ การช่วยโลกร้อนไปพร้อมๆ กนั ได้อีกด้วย วัสดอุ ุปกรณ์ 1.ผ้าทีใ่ ช้ทาหนา้ กากอนามัย เชน่ ผา้ ฝูายมัสลนิ 100 % ตดั เป็นชนิ้ กวา้ ง 16 ซม. ยาว 19 ซม. จานวน 2 ชนิ้ 2. ยางยืดสาหรับทาสายคล้องหู ยาว 18-20 ซม. 2 เสน้ 3. กรรไกร ไม้บรรทัด สเี ขยี นผ้าหรือดนิ สอ เข็มหมุด ดา้ ย จักรเยบ็ ผา้ (ถา้ ม)ี วิธที า 1. ตดั ผ้ามสั ลิน ขนาดกวา้ ง 16 ซม. ยาว 19 ซม. จานวน 2 ชิ้น และตัดยางยืดสาหรับทาสายคลอ้ งหู ยาว 18-20 ซม. (ใหเ้ หมาะสมกบั ความกวา้ งของใบหน้าแตล่ ะคน) จานวน 2 เสน้ 2. นายางยดื มาเย็บตดิ ทม่ี ุมผ้าด้านนอกของผา้ ชน้ิ แรก ตามภาพ 1 3. นาผ้าท้ัง 2 ช้ินมาวางซ้อนกนั หนั ผ้าดา้ นนอกหรอื ด้านถูกเขา้ หากนั จะสังเกตไดว้ ่ายางยดื จะอยู่ ด้านในระหว่างผ้า 2 ช้นิ 4. เย็บมือหรือเดนิ จักรโดยรอบหา่ งจากริมผา้ ประมาณครง่ึ เซนตเิ มตร โดยเวน้ ช่องวา่ งประมาณ 10 ซม. สาหรับไว้กลับผ้า และเม่ือกลบั ตะเข็บผา้ แล้วให้สอยปิดริมผา้ ท่ีเว้นไว้ใหเ้ รียบรอ้ ย 5. จับทวิสตรงกลางผ้า โดยพบั คร่ึงตามแนวยาว วดั จากกึ่งกลางลงมา 3 ซม. ใช้เข็มหมุดกลัด 2 ดา้ น 6. จบั ทวสิ กลางผา้ ใหก้ างออก แลว้ เยบ็ ตรึงดา้ นขา้ งท้ัง 2 ดา้ นใหเ้ รียบรอ้ ย ตามภาพ 5 จะได้หนา้ กาก อนามยั ชนิดผา้ ท่ีพร้อมใชง้ าน 7. จะได้หน้ากากอนามยั แบบผ้าตามตอ้ งการ ถา้ ไม่มีจักรเย็บผ้าก็สามารถใช้การเย็บมือได้โดยการเยบ็ ด้นถอยหลงั เพ่ือให้หน้ากากอนามัยมีความทนทานในการใช้งาน หรืออาจจะประยุกตใ์ ห้สวยงามดว้ ยการเยบ็ ตกแตง่ ลวดลายตา่ งๆ ตอ่ ไป หน้ากากอนามยั แบบผ้าเมอ่ื ใชแ้ ลว้ ให้เปลย่ี นทกุ วัน โดยซักทาความสะอาด ตากแดดใหแ้ หง้ ก่อนนากลบั มาใช้ ใหม่ ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า และยังชว่ ยลดขยะอกี ด้วย ทัง้ นแ้ี นะนาให้ทาไว้ใชค้ นละ 3 อัน เพ่ือสลับกนั ใช้ สรุปผลโครงการศนู ยฝ์ ึกอาชีพชุมชน หลกั สตู รอาชีพการทาหนา้ กากผา้ กศน.ตาบลท่าจะหลุง ปงี บประมาณ 2564 หนา้ 7

สรปุ ผลโครงการศนู ย์ฝกึ อาชพี ชมุ ชน หลกั สตู รอาชพี การทาหนา้ กากผา้ กศน.ตาบลทา่ จะหลงุ ปีงบประมาณ 2564 หนา้ 8

สรปุ ผลโครงการศนู ย์ฝกึ อาชพี ชมุ ชน หลกั สตู รอาชพี การทาหนา้ กากผา้ กศน.ตาบลทา่ จะหลงุ ปีงบประมาณ 2564 หนา้ 9

5.ผลการวจิ ัย ดิเรก 2564 กล่าวว่า ความพึงพอใจ หมายถึง ทัศนคติทางบวกของบุคคลท่ีมีต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เป็น ความรู้สึกหรือทัศนคติท่ีดีต่องานที่ทาของบุคคลท่ีมีต่องานในทางบวก ความสุขของบุคคลอันเกิดจากการ ปฏิบัติงานและได้รับผลเป็นที่พึงพอใจ ทาให้บุคคลเกิดความกระตือรือร้น มีความสุข ความมุ่งม่ันท่ีจะทางาน มีขวญั และมกี าลงั ใจ มีความผกู พนั กับหน่วยงาน มีความภาคภูมิใจในความสาเรจ็ ของงานที่ทา และสิ่งเหล่านี้จะ สง่ ผลตอ่ ประสิทธิภาพ และประสทิ ธิผลในการทางานสง่ ผลต่อถงึ ความก้าวหนา้ และความสาเร็จขององค์กร 6.ยทุ ธศาสตร์ และจดุ เนน้ การดาเนนิ งาน สานักงาน กศน. ประจาปีงบประมาณ 2564 ส่งเสรมิ การจัดการศกึ ษาและการเรยี นรตู้ ลอดชวี ิตสาหรับประชาชนท่เี หมาะสมกับทุกชว่ งวยั ข้อท่ี 2.1 ส่งเสริมการจัดการศึกษาอาชีพเพ่ือการมีงานทา ในรูปแบบ Re-Skill& Up-Skill และการสร้างนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ มีความหลากหลาย ทันสมัย และตอบสนองความต้องการ ของประชาชนผู้รบั บริการ และสามารถออกใบรบั รองความรคู้ วามสามารถเพอ่ื นาไปใชใ้ นการพฒั นาอาชีพได้ ภารกจิ ต่อเน่ือง ข้อที่ 1 จัดการศึกษาอาชีพเพ่ือการมีงานทาอย่างยั่งยืน โดยให้ความสาคัญกับการจัด การศึกษาอาชีพเพ่ือการมีงานทาในกลุ่มอาชีพเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม คหกรรม และอาชีพ เฉพาะทางหรือการบริการรวมถึงการเน้นอาชีพช่างพื้นฐาน ที่สอดคล้องกับศักยภาพของผู้เรียน ความต้องการ และศักยภาพของแต่ละพื้นที่มีคุณภาพได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับ สอดรับกับความต้องการของตลาดแรงงาน และการพัฒนาประเทศตลอดจนสร้างความเข้มแข็งให้กับศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน โดยจัดให้มีการส่งเสริมการ รวมกลุ่มวิสาหกิจชุมชน การพัฒนาหนึ่งตาบลหนึ่งอาชีพเด่น การประกวดสินค้าดีพรีเม่ียม การสร้างแบรนด์ ของ กศน. รวมถึงการสง่ เสริมและจัดหา จาหนา่ ยช่องทางการจาหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ และให้มีการกากับ ตดิ ตาม และรายงานผลการจัดการศกึ ษาอาชพี เพอ่ื การมีงานทาอยา่ งเปน็ ระบบและต่อเน่ือง สรุปผลโครงการศนู ย์ฝึกอาชีพชุมชน หลกั สตู รอาชีพการทาหนา้ กากผา้ กศน.ตาบลท่าจะหลุง ปีงบประมาณ 2564 หน้า 10

บทที่ 3 วิธีการดาเนินงาน โครงการศูนยฝ์ กึ อาชพี ชุมชนหลกั สูตรอาชีพการทาหนา้ กากผา้ มวี ิธีการดาเนนิ งาน ดงั น้ี 1. สารวจกลุ่มเปูาหมาย ประชาชนในพื้นท่ีตาบลท่าจะหลุง ทสี่ นใจอาชีพการทาหนา้ กากผ้า เดือน มิถนุ ายน 2564 2. ขออนุมัติโครงการ/ประชมุ /วางแผนการดาเนินงาน เพือ่ กาหนดรปู แบบและจดั ทาแผนการ ดาเนนิ งาน เดอื น มิถนุ ายน 2564 3. จัดเตรยี มส่อื วสั ดุเพ่อื สาธิต การทาหนา้ กากผ้า ณ บ้านงิว้ หมูท่ ี่ 6 ตาบลทา่ จะหลงุ อาเภอโชคชัย จงั หวัดนครราชสมี า และเชิญวิทยากร ในวันท่ี 13 มิถนุ ายน 2564 4. จัดกจิ กรรมโครงการ การทาหน้ากากผา้ โดยมีกลุม่ เปาู หมาย จานวน 10 คน วนั ท่ี 17 เดอื น มิถนุ ายน พ.ศ. 2564 ณ บา้ นง้ิว หมู่ที่ 6 ตาบลทา่ จะหลุง อาเภอโชคชยั จงั หวัดนครราชสมี า โดยมี นางสมพิษ อาษาสงิ ห์ เป็นวิทยากร ใหค้ วามรู้ และฝกึ ปฏิบัติ ดังน้ี อปุ กรณท์ ใี่ ช้ 1. ผ้า 2. เขม็ 3. ดา้ ย 4. ยางยืด สาหรบั ทาหน้ากากอนามัย ข้นั ตอนวิธกี ารให้ความรู้ วทิ ยากรให้ความรู้ในเรอื่ ง 1. ความสาคัญในการปูองกนั ตนเองจากโรคตดิ เชือ้ ไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID – 19) หน้ากากอนามยั คือ หนา้ กากท่ีใชเ้ พ่ือช่วยปอู งกันระบบทางเดินหายใจจากมลพษิ สารพิษ และเชื้อโรค ในหลายกรณี แพทย์มักแนะนาให้ใช้หนา้ กากอนามัยเพื่อปอู งกันโรคทีเ่ กีย่ วกับระบบทางเดนิ หายใจ เนอ่ื งจาก เปน็ วธิ ีการปอู งกันการแพร่กระจายของเชอ้ื แบคทีเรียหรือเช้อื ไวรัสจากคนส่คู นได้ หากรู้วิธีใช้ที่ถกู ตอ้ งก็จะช่วย ใหก้ ารปอู งกันนน้ั มีประสิทธิภาพมากข้นึ หนา้ กากอนามัย ผลิตข้ึนจากผา้ หรอื พอลิโพรไพลีนซ่งึ เป็นพลาสติกชนิด หนึ่งท่ีมคี วามปลอดภยั ต่อผใู้ ช้ โดยหนา้ กากอนามยั ทมี่ ีคณุ ภาพจะต้องมชี ้ันกรองอย่างน้อย 3 ชน้ั เพ่อื ชว่ ยใน การปอู งกนั เชื้อโรค มลพิษหรือของเหลวจากภายนอก และช่วยดูดซับสารคัดหลัง่ หรอื ความชื้นทม่ี าจากผู้ใช้ ปูองกันเชื้อโรคแพรก่ ระจายส่ผู ูอ้ ืน่ สรุปผลโครงการศนู ย์ฝกึ อาชีพชมุ ชน หลกั สตู รอาชพี การทาหนา้ กากผา้ กศน.ตาบลท่าจะหลุง ปีงบประมาณ 2564 หนา้ 11

2. ความสาคัญของการใช้หน้ากากผา้ เพื่อปูองกนั โรค และไวรัสโคโรน่า (COVID -19) หน้ากากอนามัยแบบผา้ สามารถซึมซบั เกบ็ เช้อื โรคจากฝอยละอองฝอยนา้ มกู น้าลายไว้ไดด้ ี เพราะผวิ นอกมีความแตกต่างจากหนา้ กากอนามัยแบบมาตรฐาน ที่มีการเคลือบสารปูองกันการซึมของฝอย ละอองไว้ 2.1 สามารถปูองกันการติดเชื้อได้ 2.2 ประหยดั คา่ ใชจ้ า่ ยเพราะใชซ้ ้าได้ 2.3 ชว่ ยลดภาระขยะตกคา้ งในสง่ิ แวดลอ้ มเพราะย่อยสลายได้ 3. ประเภทของหน้ากากผา้ ในการปูองกนั โรค หน้ากากอนามยั ทว่ี างขายทวั่ ไป แบ่งออกเปน็ 2 ประเภทใหญ่ ๆ ตามลักษณะของหนา้ กาก และประสทิ ธิภาพของการกรองอากาศ 3.1 หน้ากากอนามยั แบบทว่ั ไป หนา้ กากอนามยั ประเภทนี้จะค่อนขา้ งกระชบั กบั ใบหนา้ โดย แนบไปกับใบหน้า 3.2 หน้ากากอนามัยแบบ N95 เป็นหน้ากากอนามยั ชนดิ ท่ีช่วยปอู งกันการเชื้อโรคทีม่ ีขนาด เลก็ มาก ๆ ได้ โดยประสิทธภิ าพในการปูองกันจะสงู กวา่ หน้ากากอนามัยแบบทวั่ ไป 4. วธิ ีการใช้หน้ากากผา้ ทถ่ี ูกตอ้ ง 4.1 เริ่มตน้ จากการลา้ งมือก่อนการสัมผัสหน้ากากทกุ ครัง้ ตรวจสอบดหู น้ากากก่อนใช้งาน หากความชืน้ หรอื ส่งิ สกปรก ไมค่ วรนามาใช้ 4.2 เมื่อสวมใสห่ นา้ กากควรปรับใหก้ ระชับเข้ารูปหนา้ โดยไมม่ ีชอ่ งว่างระหว่างผิวหน้า จัดให้ หน้ากากครอบคลุมท้งั ส่วนของจมูก ปากและคาง 4.3 ระหว่างสวมหน้ากากควรหลกี เล่ยี งการใชม้ ือสมั ผสั หนา้ กาก ไม่พยายามนามือมาสมั ผสั บรเิ วณใบหน้า เนือ่ งจากมือของเราอาจไปสมั ผัสกับส่งิ ของหรือจุดท่ีมีความเส่ียงต่อการได้รับเชอ้ื ไวรสั 4.4 หากต้องการสมั ผสั หน้ากากควรล้างมือ หรอื ใช้แอลกอฮอลเ์ จลก่อนปลดหน้ากากออกจาก ใบหน้า 4.5 ขณะเอาหน้ากากออก ให้จบั เฉพาะสว่ นของหว่ งด้านหลงั ใบหูทง้ั สองข้าง ไม่ควรจับทีต่ ัว หนา้ กากเม่ือถอดหนา้ กากออก ให้นาออกห่างจากใบหน้าทันที และหากยังไม่ซกั หน้ากากทนั ที ควรหยิบเฉพาะ ส่วนหหู น้ากากหยอ่ นลงในถุงท่ีเปิดปิดได้มิดชิด 4.6 เม่อื ต้องการนาหนา้ กากมาซกั ให้เปดิ ถุง ดงึ หน้ากากออกด้วยการหยิบเฉพาะหูหรือส่วน สายรดั หน้ากาก แช่ลงในน้าผสมนา้ ยาซกั ผา้ หรือนา้ สบู่ หมั่นซักหน้ากากเปน็ ประจาทกุ วัน และนาไปตากใหแ้ ห้ง กอ่ นการนามาใช้งานอีกคร้ัง สรปุ ผลโครงการศนู ย์ฝกึ อาชพี ชมุ ชน หลกั สตู รอาชพี การทาหนา้ กากผา้ กศน.ตาบลท่าจะหลงุ ปีงบประมาณ 2564 หนา้ 12

5. วสั ดุอุปกรณใ์ นการตดั เยบ็ หนา้ กากผา้ 5.1 ผ้ามัสลิน 5.2 เข็ม 5.3. ดา้ ย 5.4 ยางยดื สาหรับทาหน้ากากอนามัย 6. ประเภทและชนดิ ของผ้าในการใชต้ ัดเยบ็ หนา้ กากผา้ และไวรัสโคโรนา่ (COVID -19) ผา้ ทเ่ี หมาะสาหรับใช้ทาหน้ากากอนามัย คือ “ผ้ามสั ลนิ ” ซง่ึ เป็นใยผ้าทีผ่ ลิตจากฝาู ย 100% เป็นช่อื ที่ใชเ้ รียกกลุม่ ผา้ ฝูายที่ใช้ในอตุ สาหกรรมเคร่ืองนุ่งห่ม โดนเฉพาะเสือ้ ผ้าเด็กเส้นใยผา้ มีเนอื้ ละเอยี ด ระบายอากาศดี แห้งเร็ว นา้ หนักเบา ไมร่ ะคายเคืองต่อผวิ หนงั 7. วิธกี ารตัดผ้าตามแพทเทิรน์ ตัดเยบ็ ผ้าดว้ ยเครอ่ื งจักร การทาแพทเทิร์น ต้องศึกษาประเภทของอุปกรณ์ และวิธใี ชง้ าน 7.1 เตารีดและแผ่นรองรดี 7.2 ทเี่ ลาะผ้า ใช้มนั เมื่อเกิดความผดิ พลาดขน้ึ โดยเลาะด้ายที่เย็บผดิ ออก 7.3 ชอลก์ เพ่ือทาจุดกาหนดบนผนื ผ้า 7.4 กระดาษลอกลายสาหรับการทาบแพทเทิรน์ และปรับแพทเทิรน์ ในระหว่างเย็บ 7.5 ไม้บรรทัดสาหรบั วัดเวลาประกอบช้ินส่วน 7.6 สายวดั โดยเฉพาะสายวัดที่มคี วามยดื หยนุ่ ใช้วัดและปรบั ขนาด 7.7 เขม็ เพ่ือปักตรึงผ้าใหอ้ ยู่ในตาแหนง่ ก่อนจะเร่ิมเย็บ 8. ขั้นตอนการตัดเย็บหนา้ กากผา้ จากเคร่ืองจักร 8.1 ตดั ผ้ามสั ลนิ ขนาดกวา้ ง 16 ซม. ยาว 19 ซม. จานวน 2 ชน้ิ และตัดยางยืดสาหรับทา สายคล้องหู ยาว 18 - 20 ซม. จานวน 2 เสน้ 8.2 นายางยดื มาเยบ็ ตดิ ที่มมุ ผา้ ด้านนอกของผา้ ชิ้นแรก 8.3 นาผ้าท้งั 2 ชิ้นมาวางซอ้ นกัน หันผา้ ด้านนอกหรอื ดา้ นถกู เข้าหากนั ยางยดื จะอยู่ดา้ นใน ระหวา่ งผ้า 2 ชิ้น 8.4 เดินจกั รโดยรอบหา่ งจากริมผ้าประมาณครงึ่ เซนตเิ มตร โดยเวน้ ช่องวา่ งประมาณ 10 ซม. สาหรบั ไวก้ ลบั ผ้า และเม่ือกลับตะเข็บผา้ แล้วใหส้ อยปดิ ริมผ้าที่เว้นไวใ้ ห้เรยี บร้อย 8.5 จบั ทวสิ ตรงกลางผ้า โดยพับครงึ่ ตามแนวยาว วัดจากกึ่งกลางลงมา 3 ซม. 8.6 จับทวสิ กลางผา้ ใหก้ างออก แลว้ เย็บตรึงดา้ นขา้ งท้งั 2 ดา้ นให้เรยี บรอ้ ย 9. ผู้เรยี นฝึกปฏิบตั กิ ารทาหนา้ กากผ้า สรุปผลโครงการศนู ยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน หลกั สตู รอาชีพการทาหนา้ กากผา้ กศน.ตาบลทา่ จะหลงุ ปีงบประมาณ 2564 หนา้ 13

5. วัดและประเมนิ ผลการจดั กิจกรรม หลังจากเสรจ็ สิ้นโครงการ ใหผ้ เู้ ข้าร่วมกิจกรรมตอบแบบประเมนิ โครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน หลักสูตรอาชีพการทาหน้ากากผ้า และผเู้ กีย่ วข้องประเมนิ ผลโดยการรว่ ม สงั เกตการณ์ 6. สรุปและรายงานผลการดาเนนิ การ และการตดิ ตามผลการดาเนินการจัดกิจกรรมเพ่ือรายงานผล การจดั กจิ กรรมใหห้ นว่ ยงาน และผูเ้ กี่ยวข้องทราบ จัดทาสรุปผลโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน หลักสูตร อาชีพการทาหน้ากากผ้า เพ่อื เป็นแนวทางการพัฒนากิจกรรม ครั้งต่อไป สรปุ ผลโครงการศนู ย์ฝกึ อาชพี ชุมชน หลกั สตู รอาชพี การทาหนา้ กากผ้า กศน.ตาบลท่าจะหลุง ปงี บประมาณ 2564 หน้า 14

บทท่ี 4 ผลการวิเคราะห์ขอ้ มูล การวิเคราะห์ข้อมูลครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพ่ือประเมินผลกิจกรรมโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน หลักสูตรอาชีพการทาหน้ากากผ้า จากผู้ตอบแบบประเมิน จานวน 10 คน เคร่ืองมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวม ข้อมูล คือ แบบประเมินโครงการ ได้นาเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลในแบบตารางความถี่ ค่าเฉล่ีย และค่า เบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard deviation) ซ่ึงใช้โปรแกรม SPSS เพ่ือวิเคราะห์ค่าสถิติท้ังหมด ดังมี รายละเอียดตอ่ ไปนี้ ตอนท่ี 1 ข้อมลู ส่วนตวั ของผู้ตอบแบบประเมนิ โครงการ โดยการแจกแจงความถ่แี ละค่าร้อยละของตัว แปร ตอนที่ 2 ผลการประเมนิ กิจกรรมโครงการศนู ยฝ์ ึกอาชีพชมุ ชน หลักสูตรอาชีพการทาหน้ากากผ้า โดย การแจกแจงค่าเฉลีย่ ค่าเบย่ี งเบนมาตรฐาน ตอนที่ 3 ความคดิ เห็นและข้อเสนอแนะอ่ืน ๆ ตอนที่ 1 วเิ คราะห์ข้อมลู สว่ นตวั ของผ้ตู อบแบบประเมนิ โครงการ โดยการแจกแจงความถ่แี ละคา่ ร้อยละ ของตัวแปร ข้อมลู สว่ นตวั ของผตู้ อบแบบประเมนิ โครงการ ทเ่ี ขา้ ร่วมกิจกรรมตามโครงการศนู ยฝ์ ึกอาชีพชุมชน หลักสตู รอาชีพการทาหน้ากากผา้ โดยการแจกแจงความถ่ีและคา่ ร้อยละของตวั แปร ดังตารางที่ 1 ตารางท่ี 1 จานวน และค่าร้อยละ ของผู้ตอบแบบประเมินโครงการ จาแนกตามเพศ อายุ ระดับการศึกษา และอาชพี (N=10) ข้อมูลสว่ นตัว จานวน รอ้ ยละ 1. เพศ ชาย - 10 100.00* หญิง 100 10 - รวม - 30.00 2. อายุ 15 – 29 ปี 3 70.00* 100 30 – 49 ปี 7 มากกวา่ 50 ปีขึ้นไป 10 รวม สรุปผลโครงการศนู ย์ฝึกอาชพี ชุมชน หลกั สตู รอาชพี การทาหนา้ กากผา้ กศน.ตาบลท่าจะหลงุ ปีงบประมาณ 2564 หนา้ 15

ข้อมูลส่วนตัว จานวน รอ้ ยละ 9 90.00* 3. ระดับการศึกษา ประถม - 1 - มัธยมศึกษาตอนต้น 10.00 10 มัธยมศกึ ษาตอนปลาย 9 100 1 90.00* รวม - - - 4. อาชพี เกษตรกรรม - - - - คา้ ขาย - 10 - รบั ราชการ 100 พนกั งานของรัฐ รัฐวสิ าหกิจ ธรุ กจิ สว่ นตวั รบั จา้ ง รวม หมายเหตุ : * หมายถงึ ข้อมูลส่วนใหญ่ จากตาราง ที่ 1 พบว่า ผูต้ อบแบบประเมนิ โครงการ จานวน 10 คน ส่วนใหญเ่ ปน็ เพศหญิง จานวน 10 คน คดิ เป็นร้อยละ 100 ส่วนใหญม่ ีอายุมากกว่า 50 ปขี ้ึนไป จานวน 7 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 70.00 รองลงมา คือ อายุ 30 – 49 จานวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 30.00 ส่วนใหญ่ศึกษาระดับประถม จานวน 9 คน คิดเป็น ร้อยละ 90.00 รองลงมา คือ มัธยมศึกษาตอนปลาย จานวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 10.00 สาหรับอาชีพส่วน ใหญ่เกษตรกรรม จานวน 9 คน คิดเป็นร้อยละ 90.00 รองลงมา คือ อาชีพค้าขาย จานวน 1 คน คิดเป็น ร้อยละ 10.00 ตามลาดับ ตอนท่ี 2 วิเคราะหผ์ ลการประเมินกิจกรรมโครงการศูนยฝ์ ึกอาชพี ชุมชน หลักสูตรอาชีพการทาหนา้ กากผ้า โดยการแจกแจงค่าเฉลยี่ คา่ เบ่ียงเบนมาตรฐาน การจาแนกระดับ ผลการประเมินโครงการ แบบมาตรฐานประมาณค่า (Rating Scale) มี 5 ระดับ ดงั น้ี 5 คะแนน คอื ระดบั ผลการประเมินมากทสี่ ุด 4 คะแนน คือ ระดับผลการประเมนิ มาก 3 คะแนน คือ ระดบั ผลการประเมินปานกลาง 2 คะแนน คอื ระดับผลการประเมนิ น้อย 1 คะแนน คือ ระดับผลการประเมนิ น้อยที่สุด N คือ จานวนผู้ตอบแบบประเมิน ̅ คอื ระดับคา่ เฉลี่ยผลการประเมนิ S.D. (Standard deviation) คอื คา่ เบีย่ งเบนมาตรฐาน สรปุ ผลโครงการศนู ยฝ์ กึ อาชีพชมุ ชน หลกั สตู รอาชีพการทาหนา้ กากผา้ กศน.ตาบลท่าจะหลงุ ปีงบประมาณ 2564 หนา้ 16

ค่าเฉล่ยี ระดบั ผลการประเมินของผ้ตู อบแบบประเมนิ โครงการ คา่ เฉลย่ี 4.50 – 5.00 คะแนน หมายถึง มผี ลการประเมินอยูใ่ นระดับมากท่ีสดุ คา่ เฉลย่ี 3.50 – 4.49 คะแนน หมายถึง มีผลการประเมินอยใู่ นระดับมาก ค่าเฉลี่ย 2.50 – 3.49 คะแนน หมายถึง มผี ลการประเมินอยใู่ นระดับปานกลาง ค่าเฉล่ยี 1.50 – 2.49 คะแนน หมายถึง มีผลการประเมินอยู่ในระดับน้อย ค่าเฉลีย่ 1.00 – 1.49 คะแนน หมายถึง มีผลการประเมนิ อยูใ่ นระดับน้อยทส่ี ดุ ตารางที่ 2.1 คา่ เฉล่ยี ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดบั ผลการประเมินกิจกรรมโครงการ ศนู ย์ฝึกอาชีพชุมชน หลกั สูตรอาชีพการทาหน้ากากผา้ ของผตู้ อบแบบประเมินโครงการ ในภาพรวมและ รายดา้ น รายการ N = 10 ̅ S.D. ระดับผลการประเมนิ 1. ดา้ นหลกั สูตร 3.98 1.04 มาก 2. ด้านวทิ ยากร 4.37 0.60 มาก 3. ด้านสถานที่ ระยะเวลา และความพงึ พอใจ 4.37 0.52 มาก รวม 4.24 0.72 มาก จากตารางที่ 2.1 พบว่าโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน หลักสูตรอาชีพการทาหน้ากากผ้า มีผลการ ประเมินโครงการในภาพรวม อยู่ในระดับมาก (̅=4.24) เม่ือพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านหลักสูตรและ ด้านวทิ ยากร มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก (̅=4.37) รองลงมาคือ ด้านสถานที่ ระยะเวลา และความพึง พอใจ มีผลการประเมนิ อยู่ในระดบั มาก (̅=3.98) ตามลาดบั ตารางท่ี 2.2 คา่ เฉลย่ี ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับผลการประเมนิ กิจกรรมโครงการศนู ยฝ์ กึ อาชพี ชุมชน หลกั สูตรอาชพี การทาหน้ากากผา้ ของผตู้ อบแบบประเมินโครงการ ดา้ นหลักสตู ร รายการ N = 10 ̅ S.D. ระดับผลการประเมิน ด้านหลักสูตร 1. กิจกรรมสอดคล้องกับวตั ถุประสงคข์ องหลักสตู ร 4.20 1.03 มาก 2. เนือ้ หาของหลกั สูตรตรงกับความต้องการผรู้ ว่ ม 3.90 1.19 มาก กจิ กรรม 3. การจัดกิจกรรมส่งเสริมให้ผ้รู ่วมกจิ กรรมสามารถ คดิ 3.90 1.19 มาก เปน็ ทาเปน็ แกป้ ญั หาเป็น 4. ผูร้ ่วมกิจกรรมมีส่วนรว่ มในการแสดงความคดิ เหน็ ต่อ 4.00 0.94 มาก การจัดทาหลักสตู ร สรุปผลโครงการศนู ยฝ์ กึ อาชีพชุมชน หลกั สตู รอาชีพการทาหนา้ กากผ้า กศน.ตาบลท่าจะหลงุ ปงี บประมาณ 2564 หนา้ 17

5. ผู้ร่วมกจิ กรรมสามารถนาความร้ไู ปปรับใชใ้ นการ 3.90 0.87 มาก ปฏิบตั ิงาน 3.98 1.04 มาก รวม จากตารางที่ 2.2 พบว่าโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน หลักสูตรอาชีพการทาหน้ากากผ้า ในด้าน หลักสูตร มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก(̅=3.98) เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า กิจกรรมสอดคล้องกับ วัตถุประสงค์ของหลักสูตร มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก (̅=4.20) รองลงมาคือ กิจกรรมสอดคล้องกับ วตั ถปุ ระสงค์ของหลกั สูตร มผี ลการประเมินอยู่ในระดับมาก (̅=4.00) ผู้ร่วมกิจกรรมมีส่วนร่วมในการแสดง ความคิดเห็นต่อการจัดทาหลักสูตรและการจัดกิจกรรมส่งเสริมให้ผู้ร่วมกิจกรรมสามารถ คิดเป็น ทาเป็น แก้ปัญหาเป็น เน้ือหาของหลักสูตรตรงกับความต้องการผู้ร่วมกิจกรรม และผู้ร่วมกิจกรรมสามารถนาความรู้ ไปปรบั ใช้ในการปฏิบัตงิ าน มีผลการประเมินอยใู่ นระดบั มาก (̅=3.90) และ ตามลาดบั ตารางที่ 2.3 ค่าเฉล่ยี ค่าเบ่ียงเบนมาตรฐาน และระดบั ผลการประเมนิ กจิ กรรมโครงการศนู ยฝ์ ึก อาชพี ชุมชน หลักสูตรอาชพี การทาหน้ากากผ้า ของผตู้ อบแบบประเมนิ โครงการ ด้านวิทยากร รายการ N = 10 ̅ S.D. ระดับผลการประเมิน ดา้ นวทิ ยากร 6. วทิ ยากรมคี วามรคู้ วามสามารถในการถ่ายทอดองค์ 4.10 0.87 มาก ความรู้ 7. วิทยากรมีเทคนิค วิธีการในการจดั การถ่ายทอดองค์ 4.20 0.63 มาก ความรู้ 8. วทิ ยากรมกี ารใช้สื่อที่สอดคลอ้ งและเหมาะสมกับ 4.20 0.91 มาก กิจกรรม 9. บุคลกิ ภาพของวทิ ยากร 5.00 0.00 มากที่สดุ รวม 4.37 0.60 มาก จากตารางท่ี 2.3 พบว่าโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน หลักสูตรอาชีพการทาหน้ากากผ้า ในด้าน วิทยากร มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก (̅=4.37) เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า บุคลิกภาพของวิทยากร มีผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด (̅=5.00) รองลงมาคือ วิทยากรมีการใช้ส่ือที่สอดคล้องและเหมาะสม กบั กิจกรรม และ วทิ ยากรมเี ทคนิค วิธีการในการจัดการถ่ายทอดองค์ความรู้ มผี ลการประเมินมีผลอยู่ในระดับ มาก (̅=4.20) และวิทยากรมีความรู้ความสามารถในการถ่ายทอดองค์ความรู้ มีผลการประเมินอยู่ในระดับ มาก (̅=4.10) ตามลาดับ สรุปผลโครงการศนู ยฝ์ ึกอาชพี ชมุ ชน หลกั สตู รอาชพี การทาหนา้ กากผ้า กศน.ตาบลท่าจะหลุง ปีงบประมาณ 2564 หนา้ 18

ตารางท่ี 2.4 คา่ เฉลยี่ คา่ เบี่ยงเบนมาตรฐาน และระดับผลการประเมนิ กิจกรรมโครงการศนู ยฝ์ ึก อาชีพชุมชน หลักสตู รอาชีพการทาหน้ากากผา้ ของผ้ตู อบแบบประเมินโครงการ ดา้ นสถานที่ ระยะเวลา และความพึงพอใจ รายการ N = 10 ̅ S.D. ระดบั ผลการประเมนิ ด้านสถานที่ ระยะเวลา และความพึงพอใจ 10. สถานทใ่ี นการจัดกิจกรรมเหมาะสม 3.80 0.42 มาก 11. ระยะเวลาในการจดั กจิ กรรมเหมาะสม 4.40 0.69 มาก 12. ความพึงพอใจในภาพรวมของผ้รู ่วมกจิ กรรมต่อการ 4.60 0.51 มากทีส่ ุด เข้าร่วมกจิ กรรม 13. ประโยชนท์ ไี่ ดร้ บั จากการเข้ารว่ มกจิ กรรมตาม 4.70 0.48 มากทส่ี ดุ หลกั สูตร รวม 4.37 0.52 มาก จากตารางท่ี 2.4 พบวา่ โครงการศูนยฝ์ ึกอาชีพชุมชน หลักสูตรอาชพี การทาหน้ากากผ้า ในด้านสถานท่ี ระยะเวลา และความพึงพอใจ มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก (̅=4.31) เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ประโยชน์ที่ได้รับจากการเข้าร่วมกิจกรรมตามหลักสูตร มีผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด (̅=4.73) รองลงมาคือ สถานท่ีในการจัดกิจกรรมเหมาะสม มีผลอยู่ในระดับมากที่สุด (̅=4.53) ระยะเวลาในการจัด กจิ กรรมเหมาะสม และ ความพึงพอใจในภาพรวมของผู้ร่วมกิจกรรมต่อการเข้าร่วมกิจกรรม มีผลการประเมิน อยใู่ นระดบั มาก (̅=4.00) ตามลาดบั ตอนท่ี 3 วเิ คราะห์ความคดิ เห็นและขอ้ เสนอแนะอืน่ ๆ - ควรเพ่ิมระยะเวลาในการจัดกจิ กรรมมากกว่าน้ี - ควรสง่ เสริมการจดั กิจกรรมอยา่ งต่อเน่ือง เพ่อื เปน็ อาชีพเสรมิ ให้กับประชาชนในชมุ ชน สรปุ ผลโครงการศนู ยฝ์ กึ อาชีพชุมชน หลกั สตู รอาชพี การทาหนา้ กากผ้า กศน.ตาบลทา่ จะหลุง ปีงบประมาณ 2564 หนา้ 19

บทที่ 5 สรุปผล อภิปรายผล และขอ้ เสนอแนะ สรุปผล ผลการวิเคราะห์ สามารถสรุปได้ดงั น้ี ตอนท่ี 1 วเิ คราะหข์ ้อมลู ส่วนตวั ของผตู้ อบแบบประเมนิ โครงการ ตอนที่ 2 วเิ คราะหผ์ ลการประเมนิ กจิ กรรมโครงการศนู ย์ฝึกอาชพี ชมุ ชน หลกั สตู รอาชีพการทา หน้ากากผ้า ตอนที่ 3 วเิ คราะห์ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะอนื่ ๆ ตอนที่ 1 วเิ คราะห์ข้อมลู ส่วนตวั ของผู้ตอบแบบประเมินในภาพรวม จากตาราง ที่ 1 พบว่า ผ้ตู อบแบบประเมนิ โครงการ จานวน 10 คน สว่ นใหญเ่ ป็นเพศหญิง จานวน 10 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 100 ส่วนใหญม่ ีอายมุ ากกว่า 50 ปีขนึ้ ไป จานวน 7 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 70.00 รองลงมา คือ อายุ 30 – 49 จานวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 30.00 ส่วนใหญ่ศึกษาระดับประถม จานวน 9 คน คิดเป็น ร้อยละ 90.00 รองลงมา คือ มัธยมศึกษาตอนปลาย จานวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 10.00 สาหรับอาชีพส่วน ใหญ่เกษตรกรรม จานวน 9 คน คิดเป็นร้อยละ 90.00 รองลงมา คือ อาชีพค้าขาย จานวน 1 คน คิดเป็น รอ้ ยละ 10.00 ตามลาดับ ตอนท่ี 2 วเิ คราะหผ์ ลการประเมินกจิ กรรมโครงการศนู ย์ฝึกอาชีพชุมชน หลักสูตรอาชีพการทาหนา้ กากผา้ จากตารางที่ 2.1 พบว่าโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน หลักสูตรอาชีพการทาหน้ากากผ้า มีผล การประเมินโครงการในภาพรวม อยู่ในระดับมาก (X =4.24) เม่ือพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านหลักสูตร และด้านวิทยากร มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก (X =4.37) รองลงมาคือ ด้านสถานท่ี ระยะเวลา และ ความพึงพอใจ มผี ลการประเมนิ อยู่ในระดบั มาก (X =3.98) ตามลาดบั จากตารางท่ี 2.2 พบว่าโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน หลักสูตรอาชีพการทาหน้ากากผ้า ในด้าน หลักสูตร มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก(̅=3.98) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า กิจกรรมสอดคล้องกับ วัตถุประสงค์ของหลักสูตร มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก (̅=4.20) รองลงมาคือ กิจกรรมสอดคล้องกับ วัตถปุ ระสงค์ของหลักสตู ร มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก (̅=4.00) ผู้ร่วมกิจกรรมมีส่วนร่วมในการแสดง ความคิดเห็นต่อการจัดทาหลักสูตรและการจัดกิจกรรมส่งเสริมให้ผู้ร่วมกิจกรรมสามารถ คิดเป็น ทาเป็น แก้ปัญหาเป็น เน้ือหาของหลักสูตรตรงกับความต้องการผู้ร่วมกิจกรรม และผู้ร่วมกิจกรรมสามารถนาความรู้ ไปปรับใชใ้ นการปฏิบตั ิงาน มีผลการประเมนิ อย่ใู นระดับมาก (̅=3.90) และ ตามลาดบั จากตารางท่ี 2.3 พบว่าโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน หลักสูตรอาชีพการทาหน้ากากผ้า ใน ด้านวิทยากร มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก (̅=4.37) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า บุคลิกภาพของ วทิ ยากร มผี ลการประเมินอยู่ในระดับมากท่ีสุด (̅=5.00) รองลงมาคือ วิทยากรมีการใช้ส่ือท่ีสอดคล้องและ สรุปผลโครงการศนู ย์ฝึกอาชีพชุมชน หลกั สตู รอาชพี การทาหนา้ กากผา้ กศน.ตาบลทา่ จะหลงุ ปงี บประมาณ 2564 หน้า 20

เหมาะสมกับกิจกรรม และ วิทยากรมีเทคนิค วิธีการในการจัดการถ่ายทอดองค์ความรู้ มีผลการประเมินมีผล อยู่ในระดับมาก (̅=4.20) และวิทยากรมีความรู้ความสามารถในการถ่ายทอดองค์ความรู้ มีผลการประเมิน อยใู่ นระดับมาก (̅=4.10) ตามลาดบั จากตารางท่ี 2.4 พบว่าโครงการศูนยฝ์ กึ อาชีพชุมชน หลกั สูตรอาชีพการทาหน้ากากผ้า ในด้านสถานที่ ระยะเวลา และความพึงพอใจ มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก (X =4.31) เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ประโยชน์ที่ได้รับจากการเข้าร่วมกิจกรรมตามหลักสูตร มีผลการประเมินอยู่ในระดับมากท่ีสุด (X =4.73) รองลงมาคือ สถานท่ีในการจัดกิจกรรมเหมาะสม มีผลอยู่ในระดับมากท่ีสุด (X =4.53) ระยะเวลาในการจัด กิจกรรมเหมาะสม และ ความพงึ พอใจในภาพรวมของผู้ร่วมกิจกรรมต่อการเข้าร่วมกิจกรรม มีผลการประเมิน อย่ใู นระดบั มาก (X =4.00) ตามลาดบั อภิปรายผล จากการสรปุ ผลการดาเนินโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน หลักสูตรอาชีพการทาหน้ากากผ้า พบว่า ใน ภาพรวม มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก (X =4.24) ทั้งน้ีอาจเป็นเพราะว่า คณะทางานได้วางแผนการ ดาเนนิ งาน ณ บา้ นง้วิ หมู่ 6 ตาบลท่าจะหลงุ ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอ โชคชัย ทราบถึงความต้องการของประชาชนหมู่บ้านงิ้ว และเพื่อให้สมาชิกกลุ่มอาชีพการทาหน้ากากผ้า ตาบลทา่ จะหลงุ ไดร้ ับการพฒั นาความรู้และมีทกั ษะการประกอบอาชพี การทาหน้ากากผ้า จากผลการประเมินโครงการดังกล่าว มีประเด็นท่ีน่าสนใจนามาอภิปรายผล ดังน้ี ประโยชน์ที่ได้รับ จากการเขา้ รว่ มกจิ กรรมตามหลักสตู ร อย่ใู นระดบั มาก (X =3.98) ประโยชน์ของการมีส่วนร่วมในข้ันตอนการ ดาเนินโครงการ ทาประโยชน์ให้แก่โครงการ โดยร่วมช่วยเหลือด้านทุนทรัพย์ วัสดุอุปกรณ์และแรงงาน ประโยชน์ตอ่ การพฒั นาเพ่ือให้เข้าสู่อาชีพ โดยมีรูปแบบการเรียนรู้ที่หลากหลาย โดยใช้ชุมชนเป็นฐานในการ พฒั นาอาชพี เพ่ือให้เกิดการเรียนรู้ของคนในชุมชน การพัฒนาอาชีพเป็นการพัฒนาที่มุ่งสู่การประกอบอาชีพ สร้างรายได้ ลดรายจ่ายในครัวเรือน และสอดคล้องกับ สุทธิพงศ์ บุญผดุง (2554). ท่ีทาการศึกษาเรื่องการ พัฒนาคุณภาพชวี ติ ผ้สู ูงอายุในท้องถ่ินโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง กล่าวไว้ว่า ระดับ คุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในภาพรวมอยู่ในระดับค่อนข้างมาก โดยด้านความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลเป็นอันดับแรก รองลงมาคอื ดา้ นการรวมกลมุ่ ทางสังคม ด้านสภาพอารมณ์ท่ีดี และด้านสภาพร่างกายที่ดี ตามลาดับ ในขณะท่ี ดา้ นสภาพความเปน็ อยู่ท่ดี ี และดา้ นการตัดสนิ ใจดว้ ยตนเองมรี ะดับคณุ ภาพชีวิตในระดับปานกลาง 2) ปัจจัยท่ี เกี่ยวข้องกับคุณภาพชีวิต พบว่าด้านสภาพอารมณ์ที่ดี มีปัจจัยที่เก่ียวข้อง ได้แก่ ปัจจัยด้านความว้าเหว่ อ้างวา้ ง และปัจจัยด้านความสุขกาย สบายใจ ดา้ นความสัมพนั ธ์ระหว่างบุคคลมปี จั จัยที่เก่ียวข้อง ได้แก่ ปัจจัย ด้านปฏิสัมพันธ์ในครอบครัว มิตรสหายและเพ่ือนบ้าน ด้านการรวมกลุ่มทางสังคมมีปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ปัจจัยด้านการอุทิศและการได้รับการยอมรับจากชุมชน ด้านสภาพความเป็นอยู่ท่ีดี มีปัจจัยที่เก่ียวข้องได้แก่ ปัจจัยด้านการดารงชีพ และปัจจัยด้านรายรับและรายจ่าย คุณภาพชีวิตด้านสภาพร่างกายท่ีดี มีปัจจัยท่ี เก่ียวข้อง ได้แก่ ปัจจัยด้านการใส่ใจเร่ืองสุขภาพ และปัจจัยด้านการบริโภคท่ีดี และสุดท้ายด้านการตัดสินใจ สรปุ ผลโครงการศนู ยฝ์ ึกอาชพี ชมุ ชน หลกั สตู รอาชพี การทาหนา้ กากผ้า กศน.ตาบลทา่ จะหลงุ ปงี บประมาณ 2564 หน้า 21

ด้วยตนเอง มีปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ปัจจัยด้านความเป็นอิสระทางความคิด และปัจจัยการเลือกทาในส่ิงท่ี ต้องการ สง่ ผลให้สมาชกิ กลมุ่ การทาหน้ากากผ้า นาความรู้ทีไ่ ดร้ บั ไปประกอบอาชพี สร้างรายได้ ลดรายจา่ ย ข้อเสนอแนะในการพัฒนาครง้ั ตอ่ ไป ควรกาชบั ใหผ้ ู้เข้ารว่ มโครงการทุกคน เข้ารับฟังการถา่ ยทอดความรู้ให้ครบทุกขัน้ ตอนด้วยตนเอง เพื่อประโยชนก์ ารรับฟัง ถือปฏิบตั ติ ามระบบไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง สรุปผลโครงการศนู ย์ฝึกอาชีพชุมชน หลกั สตู รอาชพี การทาหนา้ กากผ้า กศน.ตาบลท่าจะหลุง ปงี บประมาณ 2564 หน้า 22

บรรณานกุ รม ดเิ รก (2564) ทฤษฎคี วามพึงพอใจ ทีม่ า https://www.si.mahidol.ac.th/th/healthdetail.asp?aid=1419 คณะแพทยศาสตรศ์ ริ ริ าช พยาบาล มหาวิทยาลัยมหดิ ล สบื ค้น วันที่ 6 กรกฎาคม 2564 ที่มา https://www.pobpad.com/หน้ากากอนามัย-กันเช้อื ที่มา https://hcm-jinjer.com/thai-media/tips/th-190118-whatshoulddoforpm25/ ท่ีมา https://www.deqp.go.th/new/ เวบ็ ไซต์กรมสง่ เสรมิ สุขภาพสงิ่ แวดลอ้ ม ทม่ี า https://www.springnews.co.th/social/625421 เว็บไซต์ springnews สืบค้น วันที่ 6 กรกฎาคม 2564 ยุทธศาสตร์และจุดเน้นการดาเนนิ งาน สานักงาน กศน. ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2564 สรุปผลโครงการศนู ยฝ์ ึกอาชีพชมุ ชน หลกั สตู รอาชพี การทาหนา้ กากผ้า กศน.ตาบลท่าจะหลุง ปงี บประมาณ 2564 หนา้ 23

ภาคผนวก สรปุ ผลโครงการศนู ยฝ์ ึกอาชพี ชมุ ชน หลกั สตู รอาชพี การทาหนา้ กากผ้า กศน.ตาบลท่าจะหลุง ปีงบประมาณ 2564 หนา้ 24

รายชื่อผู้เขา้ ร่วมโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน หลักสูตรอาชีพการทาหน้ากากผ้า ณ บ้านงิ้ว หมู่ที่ 6 ตาบลทา่ จะหลุง อาเภอโชคชัย จังหวดั นครราชสีมา ลาดับท่ี ชื่อ – นามสกลุ หมายเหตุ 1 นางยงั นอกกระโทก 2 นางวลั ภา ปานจุ้ยพะเนา 3 นางเจริญ หนึ่งกระโทก 4 นางสุวรรณ แปูนกระโทก 5 นางสาวเงนิ สนพะเนาว์ 6 นางพรรณี หนดกระโทก 7 นางศรสี ุดา หลอมทอง 8 นางมาลยั ปุ๋ยกระโทก 9 น.ส.จานอง ด่านกระโทก 10 นางปราณี สรอ้ ยจงั หรีด สรปุ ผลโครงการศนู ยฝ์ ึกอาชพี ชมุ ชน หลกั สตู รอาชพี การทาหนา้ กากผา้ กศน.ตาบลท่าจะหลุง ปีงบประมาณ 2564 หน้า 25

ภาพกิจกรรมโครงการศนู ยฝ์ ึกอาชีพชุมชน หลกั สตู รอาชีพการทาหน้ากากผ้า วนั ท่ี 17 มิถุนายน พ.ศ. 2564 ณ บ้านง้ิว หมู่ท่ี 6 ตาบลท่าจะหลุง อาเภอโชคชัย จงั หวดั นครราชสีมา สรปุ ผลโครงการศนู ย์ฝกึ อาชพี ชุมชน หลกั สตู รอาชพี การทาหนา้ กากผ้า กศน.ตาบลทา่ จะหลงุ ปีงบประมาณ 2564 หนา้ 26

ตารางวเิ คราะหข์ ้อมลู spss โครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน หลักสูตรอาชีพการทาหน้ากากผ้า Descriptive Statistics N Minimum Maximum Mean Std. Deviation sex 10 2.00 2.00 2.0000 .00000 2.00 3.00 2.7000 .48305 age 10 1.00 2.00 1.1000 .31623 1.00 2.00 1.1000 .31623 education 10 2.00 5.00 4.2000 1.03280 2.00 5.00 3.9000 1.19722 career 10 2.00 5.00 3.9000 1.19722 กิจกรรมสอดคล้องกับวัตถปุ ระสงค์ของหลกั สูตร 10 เนอ้ื หาของหลกั สตู รตรงกบั ความตอ้ งการผู้รว่ มกจิ กรรม 10 การจัดกิจกรรมส่งเสรมิ ใหผ้ รู้ ว่ มกจิ กรรมสามารถ คิดเป็น ทาเปน็ 10 แก้ปัญหาเป็น ผู้ร่วมกิจกรรมมสี ว่ นร่วมในการแสดงความคิดเหน็ ตอ่ การจัดทา 10 3.00 5.00 4.0000 .94281 หลกั สตู ร ผ้รู ่วมกจิ กรรมสามารถนาความรไู้ ปปรับใช้ในชวี ิตประจาวนั ได้ 10 3.00 5.00 3.9000 .87560 3.00 5.00 4.1000 .87560 วิทยากรมีความรู้ความสามารถในการถา่ ยทอดองค์ความรู้ 10 3.00 5.00 4.2000 .63246 3.00 5.00 4.2000 .91894 วทิ ยากรมเี ทคนิค วิธกี ารในการจดั การถา่ ยทอดองค์ความรู้ 10 5.00 5.00 5.0000 .00000 3.00 4.00 3.8000 .42164 วทิ ยากรมีการใชส้ ื่อทสี่ อดคลอ้ งและเหมาะสมกับกจิ กรรม 10 3.00 5.00 4.4000 .69921 4.00 5.00 4.6000 .51640 บุคลิกภาพของวิทยากรเหมาะสม 10 สถานท่ีในการจัดกิจกรรมเหมาะสม 10 ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมเหมาะสม 10 ความพงึ พอใจในภาพรวมของผรู้ ว่ มกจิ กรรมตอ่ การเขา้ รว่ ม 10 กจิ กรรม ประโยชนท์ ่ีไดร้ บั จาการเขา้ ร่วมกจิ กรรมตามหลกั สตู ร 10 4.00 5.00 4.7000 .48305 Valid N (listwise) 10 สรุปผลโครงการศนู ยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน หลกั สตู รอาชีพการทาหนา้ กากผ้า กศน.ตาบลท่าจะหลุง ปีงบประมาณ 2564 หนา้ 27

sex Frequency Percent Cumulative Valid หญิง 10 100.0 Valid Percent Percent 100.0 100.0 age Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid 30 - 49 ปี 3 30.0 30.0 30.0 มากว่า 50 ปีข้ึนไป 7 70.0 70.0 100.0 Total 10 100.0 100.0 education Frequency Percent Cumulative Valid Percent Percent Valid ประถม 9 90.0 มธั ยมศึกษาตอนต้น 1 10.0 90.0 90.0 Total 10 100.0 10.0 100.0 100.0 career Frequency Percent Cumulative Valid Percent Percent Valid เกษตรกรรม 9 90.0 ค้าขาย 1 10.0 90.0 90.0 Total 10 100.0 10.0 100.0 100.0 สรุปผลโครงการศนู ยฝ์ กึ อาชพี ชุมชน หลกั สตู รอาชพี การทาหนา้ กากผ้า กศน.ตาบลทา่ จะหลุง ปีงบประมาณ 2564 หน้า 28

กจิ กรรมสอดคลอ้ งกบั วัตถปุ ระสงค์ของหลกั สูตร Frequency Percent Cumulative Valid Percent Percent Valid น้อย 1 10.0 10.0 10.0 ปานกลาง 1 10.0 มาก 3 30.0 10.0 20.0 มากกท่สี ดุ 5 50.0 30.0 50.0 Total 10 100.0 50.0 100.0 100.0 เนื้อหาของหลกั สูตรตรงกับความตอ้ งการผรู้ ่วมกิจกรรม Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid น้อย 2 20.0 20.0 20.0 ปานกลาง 1 10.0 10.0 30.0 มาก 3 30.0 30.0 60.0 มากกที่สุด 4 40.0 40.0 100.0 Total 10 100.0 100.0 การจัดกิจกรรมสง่ เสริมให้ผรู้ ว่ มกิจกรรมสามารถ คิดเป็น ทาเป็น แกป้ ญั หาเป็น Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid น้อย 2 20.0 20.0 20.0 ปานกลาง 1 10.0 10.0 30.0 มาก 3 30.0 30.0 60.0 มากกท่ีสุด 4 40.0 40.0 100.0 Total 10 100.0 100.0 สรุปผลโครงการศนู ยฝ์ ึกอาชีพชมุ ชน หลกั สตู รอาชพี การทาหนา้ กากผา้ กศน.ตาบลทา่ จะหลงุ ปีงบประมาณ 2564 หนา้ 29

ผูร้ ว่ มกจิ กรรมมีส่วนร่วมในการแสดงความคดิ เหน็ ต่อการจดั ทาหลกั สตู ร Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid ปานกลาง 4 40.0 40.0 40.0 มาก 2 20.0 20.0 60.0 มากกทส่ี ุด 4 40.0 40.0 100.0 Total 10 100.0 100.0 ผรู้ ่วมกจิ กรรมสามารถนาความรูไ้ ปปรับใชใ้ นชีวิตประจาวนั ได้ Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid ปานกลาง 4 40.0 40.0 40.0 มาก 3 30.0 30.0 70.0 มากกท่สี ุด 3 30.0 30.0 100.0 Total 10 100.0 100.0 วิทยากรมีความรู้ความสามารถในการถา่ ยทอดองคค์ วามรู้ Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid ปานกลาง 3 30.0 30.0 30.0 มาก 3 30.0 30.0 60.0 มากกที่สดุ 4 40.0 40.0 100.0 Total 10 100.0 100.0 วิทยากรมีเทคนิค วิธีการในการจดั การถา่ ยทอดองค์ความรู้ Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid ปานกลาง 1 10.0 10.0 10.0 มาก 6 60.0 60.0 70.0 มากกที่สุด 3 30.0 30.0 100.0 Total 10 100.0 100.0 สรุปผลโครงการศนู ยฝ์ กึ อาชีพชมุ ชน หลกั สตู รอาชีพการทาหนา้ กากผา้ กศน.ตาบลท่าจะหลงุ ปีงบประมาณ 2564 หนา้ 30

วิทยากรมกี ารใชส้ ่ือท่สี อดคล้องและเหมาะสมกบั กิจกรรม Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid ปานกลาง 3 30.0 30.0 30.0 มาก 2 20.0 20.0 50.0 มากกที่สดุ 5 50.0 50.0 100.0 Total 10 100.0 100.0 บุคลกิ ภาพของวิทยากรเหมาะสม Frequency Percent Cumulative Valid Percent Percent Valid มากกท่ีสดุ 10 100.0 100.0 100.0 สถานท่ีในการจดั กิจกรรมเหมาะสม Frequency Percent Cumulative Valid Percent Percent Valid ปานกลาง 2 20.0 20.0 20.0 มาก 8 80.0 80.0 100.0 Total 10 100.0 100.0 ระยะเวลาในการจดั กิจกรรมเหมาะสม Frequency Percent Cumulative Valid Percent Percent Valid ปานกลาง 1 10.0 10.0 10.0 มาก 4 40.0 40.0 50.0 มากกท่สี ุด 5 50.0 50.0 100.0 Total 10 100.0 100.0 สรุปผลโครงการศนู ย์ฝึกอาชพี ชุมชน หลกั สตู รอาชีพการทาหนา้ กากผา้ กศน.ตาบลท่าจะหลงุ ปีงบประมาณ 2564 หนา้ 31

ความพึงพอใจในภาพรวมของผู้รว่ มกจิ กรรมต่อการเขา้ ร่วมกจิ กรรม Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid มาก 4 40.0 40.0 40.0 มากกทส่ี ุด 6 60.0 60.0 100.0 Total 10 100.0 100.0 ประโยชน์ท่ไี ดร้ ับจาการเข้ารว่ มกจิ กรรมตามหลักสตู ร Cumulative Frequency Percent Valid Percent Percent Valid มาก 3 30.0 30.0 30.0 มากกท่ีสดุ 7 70.0 70.0 100.0 Total 10 100.0 100.0 สรุปผลโครงการศนู ย์ฝึกอาชีพชุมชน หลกั สตู รอาชพี การทาหนา้ กากผ้า กศน.ตาบลท่าจะหลงุ ปงี บประมาณ 2564 หน้า 32

คณะผู้จัดทา ที่ปรึกษา ผู้อานวยการ กศน.อาเภอโชคชัย บรรณารักษช์ านาญการพเิ ศษ นางจรี ะภา วัฒนกสิการ ครูอาสาสมัคร กศน. นางสุวิมล หาญกล้า นางจงรกั ษ์ เชอื่ ปัญญา วิเคราะห์ เรยี บเรียงและจดั ทาต้นฉบบั นายเชาวฤทธ์ิ เพราะกระโทก ครู กศน.ตาบล บรรณาธกิ าร นางจรี ะภา วฒั นกสิการ ผอู้ านวยการ กศน.อาเภอโชคชัย นางสาวอรอนงค์ เนื่องกระโทก เจ้าหนา้ ที่ธุรการ สรุปผลโครงการศนู ยฝ์ กึ อาชพี ชมุ ชน หลกั สตู รอาชพี การทาหนา้ กากผา้ กศน.ตาบลทา่ จะหลุง ปงี บประมาณ 2564 หน้า 33

สรปุ ผลโครงการศนู ย์ฝกึ อาชีพชมุ ชน หลกั สตู รอาชีพการทาหนา้ กากผา้ กศน.ตาบลทา่ จะหลงุ ปีงบประมาณ 2564 หนา้ 34


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook