Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แบบฝึกหัดบทที่5

แบบฝึกหัดบทที่5

Published by jarmornt8, 2022-08-02 16:36:47

Description: แบบฝึกหัดบทที่5

Search

Read the Text Version

วชิ า อนิ เทอรเ์ น็ตและพาณิชยอ์ เิ ล็กทรอนิกสพ์ นื้ ฐาน มหาวทิ ยาลยั ราชมงคลรตั นโกสนิ ทร ์ วทิ ยาลยั เพาะชา่ ง นายจามร ตงั้ พงศว์ ศนิ รหสั นักศกึ ษา4631071141131 สาขาออกแบบภายในปี 3 ภาคปกติ นางสาวอารยี า งามเจรญิ รหสั นักศกึ ษา4631071141137 สาขาออกแบบภายในปี 3 ภาคปกติ แบบฝึ กหดั บทท5ี่ เรอื่ ง องคป์ ระกอบพนื้ ฐานของระบบเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร ์ อภปิ รายและตอบคาถามในหวั ขอ้ ดงั ตอ่ ไปนี้ 1. องคป์ ระกอบพนื้ ฐานของระบบเครอื ข่ายคอมพวิ เตอรม์ อี ะไรบา้ ง จงอธบิ าย ตอบ ระบบเครอื ขา่ ย คอมพวิ เตอร ์ มอี งคป์ ระกอบพนื้ ฐานทแี่ ตกต่างกนั ไปหลายชนิดแต่ละชนิดมหี นา้ ทกี่ ารทางาน ทแี่ ตกต่างกนั ออกไป เพอื่ ใหส้ ามารถเลอื กใชง้ านได ้ ตามความเหมาะสมและสามารถเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพในการทางานไดอ้ ย่างสูงสดุ การทคี่ อมพวิ เตอรจ์ ะสามารถเชอื่ มตอ่ กนั เป็ นเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอรไ์ ด ้ ตอ้ งมอี งคป์ ระกอบพนื้ ฐานดงั ต่อไปนี้ 1. คอมพวิ เตอร ์เครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอรต์ อ้ งมคี อมพวิ เตอรอ์ ย่างนอ้ ย 2 เครอื่ งทเี่ ชอื่ มต่อกนั ซงึ่ คอมพวิ เตอรเ์หลา่ นีไ้ ม่จ าเป็ นตอ้ งเป็ นเครอื่ งทมี่ ปี ระสทิ ธภิ าพสงู มากนัก และไม่จ าเป็ นตอ้ งมแี พลตฟอรม์ เดยี วกนั คอมพวิ เตอรแ์ ตล่ ะเครอื่ งควรมปี ระสทิ ธภิ าพเพยี งพอในการรองรบั การทางานข องผูใ้ ชข้ องเครอื่ งน้นั ๆ สว่ นการเชอื่ มต่อเขา้ กบั เครอื ขา่ ยไม่ไดใ้ ชท้ รพั ยากรของเครอื่ งเพมิ่ มากนัก

แต่ถา้ เป็ นเซริ ฟ์ เวอรเ์ครอื่ งคอมพวิ เตอรค์ วรมปี ระสทิ ธภิ าพสูงพอในการรองรบั ก ารใหบ้ รกิ ารตา่ งๆ กบั ผใู ้ ชเ้ ครอื ขา่ ยได ้ (Coner, D.E., 2003) 2.เน็ตเวริ ค์ การด์ เน็ตเวริ ค์ การด์ จะเป็ นจดุ เชอื่ มตอ่ ระหวา่ งคอมพวิ เตอร ์และระบบเครอื ขา่ ย ส่วนใหญ่จะเรยี กวา่ “NIC (Network Interface Card)”หรอื บางทกี ็เรยี กวา่ “LAN การด์ (LAN Card)” อปุ กรณเ์ หล่านีจ้ ะทาการแปลงขอ้ มูลเป็ นสญั ญาณทสี่ ามารถส่งไปตามสายสญั ญาณหรอื สอื่ แบบอนื่ ได ้ ปัจจบุ นั นีก้ ็ไดม้ กี ารแบ่งการด์ ออกเป็ นหลายประเภท ซงึ่ จะถกู ออกแบบใหส้ ามารถใชไ้ ดก้ บั เครอื ขา่ ยประเภทแบบ ต่าง ๆ เชน่ อเี ธอรเ์น็ตการด์ โทเคนรงิ การด์ เป็ นตน้ การด์ ในแต่ละประเภทอาจใชก้ บั สายสญั ญาณบางชนิดเทา่ น้นั หรอื อาจจะใชไ้ ดก้ บั สายสญั ญาณหลายชนิด เน็ตเวริ ค์ การด์ จะตดิ ตงั้ อยกู่ บั คอมพวิ เตอร ์ โดยเตา้ เสยี บเขา้ กบั ชอ่ งบนเมนบอรด์ ของคอมพวิ เตอร ์ ส่วนมากคอมพวิ เตอรท์ ผี่ ลติ ในปัจจบุ นั จะมเี ฉพาะชอ่ ง PCI ซงึ่ ก็ใชบ้ สั ทมี่ ขี นาด 32 บติ อยา่ งไรกต็ าม ยงั มคี อมพวิ เตอรร์ ุน่ เกา่ ทยี่ งั มชี อ่ งแบบ ISA อยู่ ซงึ่ มบี สั ขนาด 16บติ และมกี ารด์ ทเี่ ป็ นแบบ ISA จะประมวลผล ขอ้ มูลชา้ กวา่ แบบ PCI 3. สอื่ กลางและอปุ กรณส์ าหรบั การรบั สง่ ขอ้ มูล ไดแ้ ก่ สายสญั ญาณ สายสญั ญาณแต่ละประเภทมที งั้ ขอ้ ดขี อ้ เสยี แตกตา่ งกนั และเหมาะกบั การใชง้ านในรปู แบบทแี่ ตกตา่ งกนั ซงึ่ การเลอื กใชส้ ญั ญาณเหล่านีจ้ ะขนึ้ อยกู่ บั ประเภทและแบรนด ์ วธิ ขี องเครอื ขา่ ย รวมทง้ั งบประมาณดว้ ย โดยสายสญั ญาณทใี่ ชเ้ ป็ นมาตรฐานในระบบเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอรอ์ ยู่ 3 ประเภท คอื - 3.1 สายโคแอกเชยี ล (Coaxial Cable) เป็ นตวั กลางการเชอื่ มโยงทมี่ ลี กั ษณะเชน่ เดยี วกบั สายทวี ที มี่ กี ารใชง้ านกั นอยู่เป็ นจานวนมากไม่วา่ จะใชใ้ นระบบเครอื ขา่ ยเฉพาะที่ และใชใ้ นการสง่ ขอ้ มูลระยะทไี่ กลระหวา่ งชมุ สายโทรศพั ทห์ รอื การสง่ ขอ้ มู

ลสญั ญาณวดี ที ศั น์ ซงึ่ สายโคแอกเชยี ลทใี่ ชท้ ว่ั ไปกม็ อี ยู่ 2 ชนิด คอื 50 โอหม์ ซงึ่ ใชส้ ่งขอ้ มูลแบบดจิ ทิ อล และชนิด 75โอหม์ ซงึ่ ก็จะใชส้ ่งขอ้ มูลสญั ญาณอนาล็อก สายโคแอก- เชยี ลมฉี นวนหมุ ้ เพอื่ ป้ องกนั การรบกวนของคลนื่ สญั ญาณแม่เหล็กไฟฟ้ า และกเ็ พอื่ ป้ องกนั สญั ญาณรบกวนอนื่ ๆ ซงึ่ กเ็ ป็ นส่วนหนึ่งทที่ าใหส้ ายแบบนีม้ ชี ว่ งความถที่ สี่ ญั ญาณไฟฟ้ าสามาร ถส่งผ่านไดก้ วา้ งถงึ 500 Mhz จงึ สามารถส่งขอ้ มูลดว้ ยอตั ราของการส่งสงู ขนึ้ - 3.2 สายคูบ่ ดิ เกลยี ว (Twisted Pairs) ในแตล่ ะคู่ของสายทองแดงซงึ่ จะถกู พนั กนั ตามมาตรฐาน เพอื่ ตอ้ งการลดการรบกวนจากคลนื่ แม่เหล็กไฟฟ้ ากบั คสู่ ายขา้ งเคยี งไดแ้ ลว้ ผา่ นไปยงั สายเคเบลิ เดยี วกนั หรอื จากภายนอกเท่าน้ัน เนื่องจากสายค่บู ดิ เกลยี วน้ันมรี าคาไม่แพงมากใชส้ ่งขอ้ มูลไดด้ ี แลว้ นา้ หนักเบา ง่ายต่อการตดิ ตงั้ จงึ ทาใหถ้ กู ใชง้ านอยา่ งกวา้ งขวางตวั อยา่ งคอื สายโทรศพั ทส์ ายแบบนีม้ ี 2 ชนิดคอื ก. สายคูบ่ ดิ เกลยี วชนิดหมุ้ ฉนวน (Shielded Twisted Pair : STP) เป็ นสายคู่บดิ เกลยี วทหี่ มุ ้ ดว้ ยฉนวนชนั้ นอกทหี่ นาอกี ชน้ั ดงั รปู เพอื่ ป้ องกนั การรบกวนของคลนื่ แม่เหล็กไฟฟ้ าและสายใยแกว้ นาแสง เป็ นตน้ และอปุ กรณเ์ ครอื ขา่ ย เชน่ ฮบั สวติ ช ์รพี ตี เตอร ์บรดิ จ ์ เราตเ์ ตอร ์และเกตเวย ์ เป็ นตน้ ข. สายค่เู กลยี วชนิดไม่หมุ้ ฉนวน (Unshielded Twisted Pair : UTP) เป็ นสายคบู่ ดิ เกลยี วทหี่ ุม้ ดว้ ยฉนวนชน้ั นอกดว้ ยซงึ่ บางทกี ็หมุ ้ อกี ชนั้ ดงั รู ป ซงึ่ ทาใหส้ ะดวกในการโคง้ งอ แตก่ ส็ ามารถป้ องกนั การรบกวนของคลนื่ แม่เหล็กไฟฟ้ าไดน้ อ้ ยกวา่ ชนิด แรก - 3.3 เสน้ ใยแกว้ นาแสง ( fiber optic ) เป็ นสายทใี่ ชแ้ สงเป็ นสญั ญาณและแกว้ หรอื พลาสตกิ ใส เป็ นสอื่ นาสญั ญาณ

ในขณะทสี่ ายคู่เกลยี วบดิ และสายโคแอกเชยี ลใชส้ ญั ญาณไฟฟ้ าและโล หะ เป็ นสอื่ ขอ้ เสยี ของสายสญั ญาณประเภทโลหะคอื จะถกู รบกวนจากแหล่งแม่เหล็ กไฟฟ้ าตา่ งๆ ไดง้ ่าย เชน่ ฟ้ าผา่ มอเตอรไ์ ฟฟ้ า เป็ นตน้ แต่สายใยแกว้ นาแสงใชส้ ญั ญาณแสง ดงั น้นั จงึ ไม่ถกู รบกวนโดยคลนื่ แม่เหล็กไฟฟ้ า จงึ ทาใหส้ ายใยแกว้ นาแส งสามารถสง่ ขอ้ มูลไดใ้ นอตั ราสูงและระยะไกลกวา่ แตก่ ารผลติ การตดิ ตง้ั และดูแลรกั ษาจะยงุ่ ยาก และราคาแพงกวา่ สายทเี่ ป็ นโลหะ ดงั นั้น สายใยแกว้ นาแสงจงึ เหมาะสาหรบั ลงิ คท์ ตี่ อ้ งการแบนรดว์ ธิ สงู และมคี วามเชอื่ ถอื ไดส้ งู เหมาะสาหรบั การสง่ ขอ้ มูลระยะไกล เชน่ ลงิ คห์ ลกั (Backbone) ของระบบเครอื ขา่ ย 4. โปรโตคอล (Protocol) โปรโตคอลเป็ นภาษาทคี่ อมพวิ เตอรใ์ ชส้ อื่ สารกนั ผา่ นเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร ์ ทสี่ ามารถสอื่ สารกนั ไดน้ ้ันจาเป็ นตอ้ งใชภ้ าษา หรอื โปรโตคอลเดยี วกนั เชน่ OSI, TCP/IP, IPX/SPX เป็ นตน้ 5. ระบบปฏบิ ตั กิ ารเครอื ขา่ ย หรอื NOS (Network Operating System) ระบบปฏบิ ตั กิ ารเครอื ขา่ ยจะเป็ นตวั ทคี่ อยจดั การเกยี่ วกบั การใชง้ านเครอื ขา่ ยข องผใู ้ ชแ้ ต่ละคน หรอื เป็ นตวั จดั การและควบคุมการใชท้ รพั ยากรต่างๆ ของเครอื ขา่ ย ระบบปฏบิ ตั กิ ารเครอื ขา่ ยทเี่ ป็ นทนี่ ิยม เชน่ Windows Server 2008, Windows Server20012, Novell NetWare, Sun Solaris และ Red Hat Linux เป็ นตน้ 2.ลกั ษณะการทางานของคอมพวิ เตอรท์ เี่ ชอื่ มต่อในการทางา นระบบเครอื ข่ายคอมพวิ เตอรจ์ ะแบง่ เครอื่ งคอมพวิ เตอรเ์ ป็ น 2 ประเภท คอื ประเภทใดบา้ ง

ตอบ 1.ประเภททใี่ ชเ้ ป็ นเซริ ฟ์ เวอรข์ องเครอื ขา่ ย (Server Computer) หรอื เรยี กอกี อยา่ งหนึ่งวา่ เครอื่ งแม่ขา่ ย เป็ นเครอื่ งคอมพวิ เตอรห์ ลกั ในเครอื ขา่ ย ทที่ าหนา้ ทจี่ ดั เก็บและใหบ้ รกิ ารไฟลข์ อ้ มูลและทรพั ยากรอนื่ ๆ กบั คอมพวิ เตอรเ์ครอื่ งอนื่ ๆ ใน เครอื ขา่ ย โดยปกตคิ อมพวิ เตอรท์ นี่ ามาใชเ้ ป็ นเซริ ฟ์ เวอรม์ กั จะเป็ นเครอื่ งทมี่ สี มรรถนะสงู และมฮี ารด์ ดสิ กค์ วามจาสงู กวา่ คอมพวิ เตอรเ์ครอื่ งอนื่ ๆ ในเครอื ขา่ ย เป็ นคอมพวิ เตอรท์ สี่ นับสนุนการทางานของคอมพวิ เตอร ์ 2.ประเภททใี่ ชเ้ ป็ นเครอ่ื งลูกขา่ ย (Client) หรอื เรยี กอกี อย่างหนึ่งวา่ ไคลเอนต ์ เป็ นคอมพวิ เตอรใ์ นเครอื ขา่ ยทรี่ อ้ งขอบรกิ ารและเขา้ ถงึ ไฟลข์ อ้ มูลทจี่ ดั เก็บในเ ซริ ฟ์ เวอร ์หรอื พูดง่าย ๆ กค็ อื ไคลเอนต ์ เป็ นคอมพวิ เตอร ์ ของผใู ้ ชแ้ ตล่ ะคนในระบบเครอื ขา่ ย 3. ใหน้ กั ศกึ ษาอธบิ ายหน้าทขี่ องอปุ กรณเ์ หล่านี้ ตอบ 3.1 แลนการด์ ทาหนา้ ทอ่ี ะไร เป็ นอปุ กรณท์ ใี่ ชส้ าหรบั รบั ส่งขอ้ มูลจากเครอื่ งคอมพวิ เตอรเ์ครอื่ งหนึ่งไปยงั อกี เ ครอื่ งหนึ่ง หรอื ไปยงั อปุ กรณอ์ นื่ ๆ ในระบบเครอื ขา่ ย ดงั นั้นคอมพวิ เตอรท์ กุ เครอื่ งก็จะตอ้ งมกี ารด์ แลนเป็ นสว่ นประกอบสาคญั อกี อย่ างหนึ่ง และโดยเฉพาะการเชอื่ มต่ออนิ เตอรเ์น็ต ADSL ตามบา้ น มกั จะใชก้ ารด์ แลนเป็ นตวั เชอื่ เมต่ออกี ดว้ ย การใชก้ ารด์ แลน จะใชค้ วบคกู่ บั สายแลนประเภท UTP หรอื สายทหี่ ลายๆ คนอาจเคยไดย้ นิ คอื สาย CAT5, CAT5e, CAT6 เป็ นตน้ การด์ แลน(LAN Card) เป็ นชอื่ ทเี่ รยี กกนั ตดิ ปากทว่ั ไป ชอื่ อย่างเป็ นทางการมชี อื่ วา่ การด์ อเี ธอรเ์น็ต มไี วส้ าหรบั รบั /สง่ ขอ้ มูลระหวา่ งเครอื่ งคอมพวิ เตอร ์ ซงึ่ จะมสี ายทใี่ ชเ้ ชอื่ มตอ่ เครอื ขา่ ยเขา้ ดว้ ยกนั เรยี กวา่ สายแลน การเชอื่ มตอ่ เครอื ขา่ ยและจะทาใหเ้ ราสามารถและเปลยี่ นขอ้ มูลกนั ระหวา่ งเครอื่

งไดส้ ะดวกมากขนึ้ อกี ทง้ั สามารถดเชอื่ มตอ่ อนิ เตอรเ์น็ตไดง้ ่ายๆ โดยใชเ้ ครอื่ งคอมพวิ เตอรเ์ครอื่ งหลกั เชอื่ มต่ออนิ เตอรเ์น็ตสว่ นเครอื่ งอนื่ กใ็ ชก้ า รแชรอ์ นิ เตอรเ์น็ตผ่านทางเครอื่ งคอมพวิ เตอรเ์ครอื่ งหลกั ความเรว็ ในการด์ แลนจะอยทู่ ปี่ ระมาณ 100 Mbps และเรมิ่ เขา้ สู่ 1000 Mbps หรอื เรยี กกนั วา่ กกิ ะบติ แลน(Gigabit LAN) การเชอื่ มตอ่ แบบแลนคอื การแชร ์ บางคนอาจจะเปิดมาก หรอื เปิ ดนอ้ ยขนึ้ อยวู่ า่ จะเลน่ แบบไหน อาจทาใหเ้ กดิ การดงึ กนั ระหวา่ งเครอื่ ง เครอื่ งทเี่ ลน่ ไฟลท์ ตี่ อ้ งใชก้ ารดาวนโ์ หลดมากๆ กจ็ ะทาใหเ้ ครอื่ งอนื่ เลน่ ไดช้ า้ ลง สายแลนมี 2 แบบ คอื แบบตรง กบั แบบไขว้ -แบบตรง ใชส้ าหรบั ต่ออปุ กรณโ์ ดยใช ้ Switch หรอื Hub เป็ นตวั แยกสญั ญาณ -แบบไขว ้ ใชส้ าหรบั ตอ่ อปุ กรณป์ ระเภทเดยี วกนั เชน่ เครอื่ งคอมพวิ เตอร ์ต่อกบั เครอื่ งคอมพวิ เตอร ์ 3.2 ฮบั (Hup) ทาหน้าทอี่ ะไร ฮบั (Hub) เป็ นอปุ กรณพ์ นื้ ฐานทใี่ ชใ้ นการเชอื่ มต่อเครอื่ งจานวน มากเขา้ ดว้ ยกนั ในเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร ์โดยทฮี่ บั จะมพี อรต์ (Port) หรอื ชอ่ งสาหรบั ต่อ สาย RJ-45 เขา้ มาจากเครอื่ งคอมพวิ เตอร ์ และทาหนา้ ทเี่ ป็ นศนู ยก์ ลางในการกระจาย ขอ้ มูล ไปยงั เครอื่ งอนื่ ๆ ในระบบเครอื ขา่ ย ความเรว็ ของฮบั มหี น่วยเป็ น Megabit per second (Mbps) โดยเรมิ่ ตน้ ที่ 10 Mbps จนถงึ ความเรว็ 100 Mbps การท างานของฮบั จะใชว้ ธิ แี บ่งชอ่ งทางการส่งผา่ นขอ้ มูล หรอื กล่าวไดว้ า่ ฮบั ความเรว็ 10 Mbps ทมี่ พี อรต์ สาหรบั เชอื่ มต่ออยู่ 24 พอรต์ มเี ครอื่ งคอมพวิ เตอรต์ อ่ อยู่ทแี่ ต่ละพอรต์ และ ทาการสง่ ขอ้ มูลอยใู่ นขณะน้ัน ความเรว็ ต่อพอรต์ ทจี่ ะสามารถสง่ ขอ้ มูลไดจ้ ะมคี วามเรว็ เพยี ง 10/24 หรอื 0.416 Mbps เทา่ น้ัน นอกจากนั้นเครอื่ งคอมพวิ เตอรท์ กุ เครอื่ งทตี่ ่อมายงั ฮบั ตวั เดยี วกนั ทาใหข้ อ้ มูลทสี่ ง่ ออกมามโี อกาสทจี่ ะชนกนั สูงเนื่องจากอย่ใู นระดบั ของ กลุ่ม คอมพวิ เตอรท์ จี่ ะส่งขอ้ มูลชนกนั ได ้ (Collision Domain) การทฮี่ บั ส่งขอ้ มูลจากเครอื่ งตน้ ทางไปยงั เครอื่ งปลายทาง จะทาโดยการ

แพรก่ ระจายสญั ญาณ หรอื บอรด์ คาสต ์ (Broadcast) ซงึ่ เป็ นการส่งไปโดยทเี่ ครอื่ ง คอมพวิ เตอรท์ กุ เครอื่ งในเครอื ขา่ ยจะไดร้ บั แตจ่ ะมเี ฉพาะเครอื่ งทรี่ ะบปุ ลายทางเทา่ นั้นที่ จะนาขอ้ มูลนัน้ ไปใชไ้ ด ้ การทเี่ ครอื่ งใดจะทราบวา่ ขอ้ มูลทสี่ ง่ มาน้ันเป็ นของตน คอื ในการสง่ เครอื่ งทที่ าการส่งจะเลอื กแลว้ วา่ เครอื่ งปลายทางคอื เครอื่ งใด ดงั น้ัน เครอื่ งทไี่ ม่ไดถ้ กู ระบุ จะไมร่ บั ขอ้ มูลน้ันมา จากขา้ งตน้ สามารถสรปุ รปู แบบการสง่ ขอ้ มูลของฮบั ไดค้ อื การส่ง ขอ้ มูลของฮบั จะทาในลกั ษณะทเี่ รยี กวา่ “บอรด์ คาสต”์ คอื ขอ้ มูลจะถกู แพรก่ ระจายไปยงั ทุกพอรต์ ของฮบั แตข่ อ้ มูลนัน้ จะถกู รบั ไปทางานเฉพาะในพอรต์ ซงึ่ มเี ครอื่ งทเี่ ป็ นเครอื่ ง ปลายทางตดิ ต่ออยูเ่ ทา่ นน้ั การทางานในลกั ษณะนีจ้ ะเป็ นการสนิ้ เปลอื งแบนดว์ ดิ ธจ์ านวนหนึ่งเนื่องจากขอ้ มูลจะถกู ส่งไปยงั เครอื่ งทงั้ หมดทาการตดิ ตอ่ อยู่ ฮบั มอี ยู่ 2 ชนิดคอื Active HUB และ Passive HUB โดย Active HUB จะตอ้ งการไฟเลยี้ งวงจรปรบั ปรุง สญั ญาณขอ้ มูล เมอื่ ไดร้ บั สญั ญาณขอ้ มูลเขา้ มาวงจรนีจ้ ะทาการสรา้ งสญั ญาณขอ้ มูล เหมอื นเดมิ ทมี่ คี ณุ ภาพเพอื่ ส่งต่อออกไป ฮบั ชนิดนีจ้ งึ ทาหนา้ ทเี่ หมอื นรพี ตี เตอร ์(Repeater) ทชี่ ว่ ยในการขยายระยะการเชอื่ มต่อระบบเครอื ขา่ ยออกไปได ้ ดงั นน้ั ใน บางครงั้ จงึ เรยี ก Active HUB วา่ Multi-Port Repeater ส่วน Passive HUB จะเป็ นเพยี ง ศนู ยก์ ลางการเชอื่ มต่อระบบเครอื ขา่ ยโดยไม่มวี งจรจดั การปรบั ปรงุ สญั ญาณข ้ อมูล จงึ ไม่ ตอ้ งการไฟเลยี้ ง 3.3 รพี ตี เตอร ์(Repeater) ทาหน้าทอี่ ะไร เป็ นอปุ กรณท์ วนสญั ญาณ เพอื่ ใหส้ ญั ญาณไฟฟ้ าทรี่ บั สง่ กนั ในสาย LAN สามารถส่งไดไ้ กลขนึ้ เท่าน้ันใชใ้ นกรณีทตี่ อ้ งการตอ่ สาย LAN ใหไ้ ดไ้ กลเกนิ กวา่ มาตรฐานปกตแิ ตไ่ ม่ไดท้ าหนา้ ทชี่ ว่ ยจดั การาจราจรบน LAN แตอ่ ยา่ งใด การทางานของ Repeater อปุ กรณ์ Repeater ถกู นามาใชง้ านในกรณีทเี่ ครอื ขา่ ยน้ันตอ้ งการเพมิ่ จานวนของเครอื่ งลูกขา่ ยมา กขนึ ้

แตล่ ากสายสญั ญาณไมไ่ ดเ้ พราะระยะทางมากกวา่ ขอ้ กาหนดทกี่ าหนดทใี่ หล้ า กสายไดย้ งิ่ ระยะทางไกลมากสญั ญาณทถี่ กู ส่งออกไปก็จะเรมิ่ เพยี้ นและจางลงจ นหายไปในทสี่ ดุ อปุ กรณ์ Repeater จะชว่ ยจดั การขยายสญั ญาณใหแ้ รงขนึ้ และจดั รปู สญั ญาณทเี่ พยี้ นไปใหก้ ลบั เห มอื นเดมิ จากน้ันจงึ ส่งต่อไปในสายสญั ญาณ ขอ้ เสยี ของอปุ กรณ์ Repeater กค็ อื ไม่สามารถกลน่ั กรองสญั ญาณทไี่ ม่จาเป็ น เชน่ ขอ้ มูลทผี่ รู ้ บั อยฝู่ ่ังเดยี วกบั ผสู ้ ง่ จงึ ไม่จาเป็ นตอ้ งขยายและสง่ ต่อออกไปยงั เครอื ที่ อยูอ่ กี ฟากหนึ่งออกไปได ้ สญั ญาณตา่ งๆ ทเี่ ขา้ มาก็จะถกู ส่งออกไปเหมอื นเดมิ พดู ง่ายๆ ก็คอื ไม่วา่ จะเป็ น Packet อะไรสง่ ออกมาในเครอื ขา่ ย Repeater จะไม่สนใจทหี่ มายปลายทางวา่ เป็ นเครอื่ งทอี่ ยูค่ นละฟากกนั หรอื ไม่ถา้ มสี ญั ญา ณมากจ็ ะสง่ ต่อไปยงั อกี ฟากหนึ่งใหเ้ สมอ ดงั น้ัน ถา้ มกี ารเชอื่ มตอ่ เครอื่ งลกู ขา่ ยจานวนมากเขา้ กบั Repeater ทมี่ หี ลายๆ พอรต์ กจ็ ะมสี ญั ญาณกระจายไปในเครอื ขา่ ยมากขนึ้ ดว้ ย ทาใหป้ ระสทิ ธภิ าพของเครอื ขา่ ยลดลงได ้ 3.4 บรดิ จ ์ (Bridge) ทาหนา้ ทอี่ ะไร บรดิ จเ์ ป็ นสงิ่ ทใี่ ชแ้ กไ้ ขปัญหาในเรอื่ งสญั ญาณทวี่ งิ่ อยใู่ นเครอื ขา่ ยมากเกนิ ไปไ ดโ้ ดยจะจดั แบง่ เครอื ขา่ ยออกเป็ นเครอื ขา่ ยย่อยหรอื Network Segment และจะทาการกลน่ั กรองสญั ญาณเท่าทจี่ าเป็ นเพอื่ สง่ ใหก้ บั เครอื ขา่ ยย่อยทถี่ กู ต ้ องได ้ ทาใหส้ ญั ญาณไมม่ ารบกวนกนั หรอื มสี ญั ญาณทไี่ ม่เกยี่ วขอ้ งมาในเครอื ขา่ ยย่ อย โดยไม่จาเป็ น แตใ่ นทางกลบั กนั ถา้ มคี วามจาเป็ นตอ้ ง การสอื่ สารกนั ขา้ มเครอื ขา่ ยเป็ นจานวนมากแลว้ อปุ กรณ์ Bridge ก็อาจกลายเป็ นเสมอื นคอขวดทที่ าใหเ้ ครอื ขา่ ย มกี ารทางานชา้ ลงได ้ บรดิ จ ์ เป็ นอปุ กรณเ์ ชอื่ มโยงเครอื ขา่ ยของเครอื ขา่ ยทแี่ ยกจากกนั แตเ่ ดมิ บรดิ จไ์ ดร้ บั การออกแบบมาใหใ้ ชก้ บั เครอื ขา่ ยประเภทเดยี วกนั เชน่ ใชเ้ ชอื่ มโยงระหวา่ งEthernet กบั Ethernet (อเี ทอรเ์น็ต) บรดิ จม์ ใี ชม้ านานแลว้

หลงั จากนั้นบรดิ จจ์ งึ เปลยี่ นมาเป็ นเสมอื นสะพานเชอื่ มระหวา่ งสองเครอื ขา่ ยการ ตดิ ต่อภาย ในเครอื ขา่ ยเดยี วกนั มลี กั ษณะการส่ง ขอ้ มูลแบบกระจาย Broadcasting (บรอดแคส) ดงั นนั้ จงึ กระจายไดเ้ ฉพาะเครอื ขา่ ยเดยี วกนั เท่านนั้ การรบั ส่งภายในเครอื ขา่ ยมี ขอ้ กาหนดใหแ้ พ็กเกจทสี่ ง่ กระจายไปยงั ตวั รบั ไดท้ กุ ตวั แต่ถา้ มกี ารสง่ มาทแี่ อดเดรสต่างเครอื ขา่ ยบรดิ จจ์ ะนาขอ้ มูลเฉพาะแพ็กเกจน้ันส่ งใหบ้ รดิ จจ์ งึ เป็ นเสมอื นตวั แบ่งแยกขอ้ มูลระหวา่ งเครอื ขา่ ยใหม้ กี ารสอื่ สารภายใ นเครอื ขา่ ย ของตน ไมป่ ะปนไปยงั อกี เครอื ขา่ ยหนึ่ง เพอื่ ลดปัญหาปรมิ าณขอ้ มูลกระจายในสายสอื่ สารมากเกนิ ไป ในระยะหลงั มผี ูพ้ ฒั นาบรดิ จใ์ หเ้ ชอื่ มโยงเครอื ขา่ ยตา่ งชนิดกนั ได ้ เชน่ อเี ทอรเ์น็ตกบั โทเกน็ รงิ เป็ นตน้ หากมกี ารเชอื่ มต่อเครอื ขา่ ยมากกวา่ สองเครอื ขา่ ยเขา้ ดว้ ยกนั และเครอื ขา่ ยทเี่ ชอื่ มมลี กั ษณะหลากหลาย ซงึ่ เป็ นทงั้ เครอื ขา่ ยแบบ LAN และ WAN อปุ กรณท์ นี่ ิยมใชใ้ นการเชอื่ มโยงคอื Router (เราตเ์ ตอร ์) บรดิ จท์ าหนา้ ทเี่ หมอื นเป็ นสะพาน เชอื่ มระหวา่ งวงแลนเขา้ หากนั จะเรยี กง่ายๆ กค็ อื Bridge Mode (บรดิ จ ์ โหมด) ทาใหว้ งแลน 2 วง ทตี่ า่ งคนต่างทางานกนั เป็ นปกตอิ ยู่แลว้ สามารถเชอื่ มตอ่ เขา้ หากนั ได ้ และต่างกส็ ามารถเขา้ ถงึ อปุ กรณข์ องอกี วงแลนหนึ่งได ้ 3.5 เราตเ์ ตอร ์(Router) ทาหนา้ ทอี่ ะไร เป็ นอปุ กรณท์ ที่ าหนา้ ทเี่ ชอื่ มตอ่ ระบบเครอื ขา่ ยอย่างหนึ่ง ซงึ่ ถา้ แปลความหมายคาวา่ Route กค็ อื ถนน ดงั น้ัน การเชอื่ มตอ่ คอมพวิ เตอรด์ ว้ ย Router ทาใหเ้ ราสามารถเชอื่ มตอ่ คอมพวิ เตอรไ์ ดม้ ากกวา่ หนึ่งเครอื่ งในเวลาเดยี วกนั ซงึ่ Router นนั้ จะมซี อฟตแ์ วรท์ ใี่ ชใ้ นการควบคมุ การทางานเรยี กวา่ Internetwork Operating System (IOS) และตวั Router จะมชี อ่ งทใี่ ชเ้ สยี บตอ่ สายสญั ญาณเรยี กวา่ Port LAN ซงึ่ โดยทว่ั ไปมกั มี 4 Ports หรอื มากกวา่ ใน Router 1 ตวั หนา้ ทหี่ ลกั ของ Router คอื การหาเสน้ ทางในการสง่ ผา่ นขอ้ มูลทดี่ ที สี่ ดุ และเป็ นตวั กลางในการสง่ ตอ่ ขอ้ มูลไปยงั เครอื ขา่ ยอนื่ ทงั้ นี้ Router

สามารถเชอื่ มโยงเครอื ขา่ ยทใี่ ชส้ อื่ สญั ญาณหลายแบบแตกต่างกนั ไดไ้ ม่วา่ จะเ ป็ น Ethernet, Token Rink หรอื FDDI ทงั้ ๆทใี่ นแต่ละระบบจะมี packet เป็ นรปู แบบของตนเองซงึ่ แตกตา่ งกนั โดยโปรโตคอลทที่ างานในระดบั บนหรอื Layer 3 ขนึ้ ไปเชน่ IP, IPX หรอื AppleTalk เมอื่ มกี ารส่งขอ้ มลู กจ็ ะบรรจขุ อ้ มูลน้นั เป็ น packet ในรูปแบบของ Layer 2 คอื Data Link Layer เมอื่ Router ไดร้ บั ขอ้ มูลมากจ็ ะตรวจดใู น packet เพอื่ จะทราบวา่ ใชโ้ ปรโตคอลแบบใด จากน้ันก็จะตรวจดเู สน้ ทางสง่ ขอ้ มูลจากตาราง Routing Table วา่ จะตอ้ งสง่ ขอ้ มูลนีไ้ ปยงั เครอื ขา่ ยใดจงึ จะตอ่ ไปถงึ ปลายทางได ้ แลว้ จงึ บรรจขุ อ้ มูลลงเป็ น Packet ของ Data Link Layer ทถี่ กู ตอ้ งอกี ครง้ั เพอื่ สง่ ตอ่ ไปยงั เครอื ขา่ ยปลายทาง คุณสมบตั ขิ อง Router 1.ทาหนา้ ทคี่ ลา้ ย Swich ทาใหเ้ ชอื่ มตอ่ ไดห้ ลายเครอื่ งพรอ้ มกนั 2.บางรนุ่ รองรบั การทางาน Wire หรอื Wireless 3.เป็ น ADSL Modem ในตวั (เฉพาะบางรนุ่ เท่าน้ัน) 4.Firewall /IPsec VPN (รองรบั การเชอื่ มต่อทางไกลแบบมี security) 5.Antivirus (รนุ่ ใหม่ๆ ของ Router บางรนุ่ จะมี antivirus program ฝังอยู่ดว้ ย) 3.6 เกตเวย ์ (Gateway) ทาหนา้ ทอ่ี ะไร เกตเวย ์ Gateway เป็ นจดุ ตอ่ เชอื่ มของเครอื ขา่ ยทาหนา้ ทเี่ ป็ นทางเขา้ สรู่ ะบบเครอื ขา่ ยตา่ ง ๆ บนอนิ เตอรเ์น็ต ในความหมายของ router ระบบเครอื ขา่ ยประกอบดว้ ย node ของ เกตเวย ์ gateway และ node ของ host เครอื่ งคอมพวิ เตอรข์ องผูใ้ ชใ้ นเครอื ขา่ ย และคอมพวิ เตอรท์ เี่ ครอื่ งแม่ขา่ ยมฐี านะเป็ น node แบบ host สว่ นเครอื่ งคอมพวิ เตอรท์ คี่ วบคุมการจราจรภายในเครอื ขา่ ย หรอื ผใู ้ หบ้ รกิ ารอนิ เตอรเ์น็ต คอื node แบบ เกตเวย ์ gateway ในระบบเครอื ขา่ ยของหน่วยธรุ กจิ เครอื่ งแม่ขา่ ยทเี่ ป็ น node แบบ เกตเวย ์

gateway มกั จะทาหนา้ ทเี่ ป็ นเครอื่ งแม่ขา่ ยแบบ proxy และเครอื่ งแม่ขา่ ยแบบ firewall นอกจากนี้ เกตเวย ์ gateway ยงั รวมถงึ router และ switch ลกั ษณะการทางานของเกตเวย ์ Gateway เกตเวย ์ Gateway เป็ นประตสู อื่ สาร ชอ่ งทางสาหรบั เชอื่ มตอ่ ขา่ ยงานคอมพวิ เตอรท์ ตี่ ่างชนิดกนั ใหส้ ามารถตดิ ตอ่ สื่ อสารกนั ได ้ โดยทาใหผ้ ใู ้ ชบ้ รกิ ารของคอมพวิ เตอรห์ นึ่งหรอื ในขา่ ยงานหนึ่งสามารถตดิ ตอ่ เ ขา้ สู่เครอื่ งบรกิ ารหรอื ขา่ ยงานทตี่ ่างประเภทกนั ได ้ ทงั้ นีโ้ ดยการใชอ้ ปุ กรณท์ เี่ รยี กวา่ “บรดิ จ”์ (bridges) โดยโปรแกรมคอมพวิ เตอรจ์ ะทาใหก้ ารแปลขอ้ มูลทจี่ าเป็ นให้ นอกจากในดา้ นของขา่ ยงาน เกตเวยย์ งั เป็ นอปุ กรณใ์ นการเชอื่ มตอ่ ขา่ ยงานบรเิ วณเฉพาะที่ (LAN) สองขา่ ยงานทมี่ ลี กั ษณะ ไม่เหมอื นกนั ใหส้ ามารถเชอื่ มตอ่ กนั ได ้ หรอื จะเป็ นการเชอื่ มต่อขา่ ยงานบรเิ วณเฉพาะทเี่ ขา้ กบั ขา่ ยงานบรเิ วณกวา้ ง (WAN) หรอื ต่อเขา้ กบั มนิ ิคอมพวิ เตอรห์ รอื ต่อเขา้ กบั เมนเฟรมคอมพวิ เตอรก์ ไ็ ดเ้ ชน่ กนั ทง้ั นีเ้ นื่องจากเกตเวยม์ ไี มโครโพรเซสเซอรแ์ ละหน่วยความจาของตนเอง 4. สายสญั ญาณทใี่ ชเ้ ป็ นมาตรฐานในระบบเครอื ข่ายคอมพวิ เต อรม์ กี ปี่ ระเภท อะไรบา้ ง ตอบ 1.สายคูบ่ ดิ เกลยี ว (twisted pair) สายค่บู ดิ เกลยี ว แตล่ ะคสู่ ายทองแดงจะถกู พนั กนั ตามมาตรฐานเพอื่ ลดการรบกวนจากคลนื่ แม่เ หล็กไฟฟ้ าจากคสู่ ายขา้ งเคยี งภายในเคเบลิ เดยี วกนั หรอื จากภายนอกสาหรบั อั ตราการส่งขอ้ มูลผา่ นสายคบู่ ดิ เกลยี วจะขนึ้ อยูก่ บั ความหนาของสายดว้ ย กลา่ วคอื สายทองแดงทมี่ เี สน้ ผ่านศูนยก์ ลางกวา้ งจะสามารถสง่ สญั ญาณไฟฟ้ ากาลงั แรง

ไดแ้ ละสามารถใชส้ ง่ ขอ้ มูลไดห้ ลายเมกะบติ ตอ่ วนิ าที ในระยะทางไดไ้ กลหลายกโิ ลเมตรซงึ่ มี 2 ชนิดคอื - สายคู่บดิ เกลยี วชนิดหมุ้ ฉนวน (Shielded Twisted Pair : STP) สายคู่บดิ เกลยี วชนิดหมุ ้ ฉนวนเป็ นสายค่บู ดิ เกลยี วทหี่ มุ ้ ดว้ ยฉนวนชน้ั นอ กทหี่ นาเพอื่ ป้ องกนั การรบกวนของคลนื่ แมเ่ หล็กไฟฟ้ า - สายคู่บดิ เกลยี วชนิดไม่หมุ้ ฉนวน (Unshielded Twisted Pair :UTP)สายคบู่ ดิ เกลยี วชนิดไม่หมุ ้ ฉนวนเป็ นสายคูบ่ ดิ เกลยี วทหี่ มุ ้ ดว้ ยฉน วนชน้ั นอกทบี่ างทาใหส้ ะดวกในการโคง้ งอแต่สามารถป้ องกนั การรบกว นของคลนื่ แม่เหล็กไฟฟ้ าไดน้ อ้ ยกวา่ ชนิดแรก 2.สายโคแอกเชยี ล (coaxial) สายโคแอกเชยี ลเป็ นตวั กลางเชอื่ มโยงทมี่ ลี กั ษณะเชน่ เดยี วกบั สายทวี ที มี่ กี ารใ ชง้ านกนั มาก ไม่วา่ ในระบบเครอื ขา่ ยเฉพาะที่ ในการส่งขอ้ มูลระยะไกลระหวา่ งชมุ สายโทรศพั ทห์ รอื การส่งขอ้ มูลสญั ญาณวดี ิ ทศั น์ สายโคแอกเชยี ลทใี่ ชท้ ว่ั ไปมี 2 ชนิด คอื 50 โอหม์ ซงึ่ ใชส้ ่งขอ้ มูลแบบดจิ ทิ ลั และชนิด 75 โอหม์ ซงึ่ ใชส้ ง่ ขอ้ มูลสญั ญาณแอนะล็อก สายโคแอกเชยี ลจะมฉี นวนหมุ ้ ป้ องกนั การรบกวนของคลนื่ แม่เหล็กไฟฟ้ า และสญั ญาณรบกวนอนื่ ๆ ซงึ่ เป็ นสว่ นหนึ่งทที่ าใหส้ ายแบบนีม้ ชี ว่ งความถที่ สี่ ญั ญาณไฟฟ้ าสามารถผ่านไ ดก้ วา้ งถงึ 500 Mhz จงึ สามารถส่งขอ้ มูลดว้ ยอตั ราสง่ สงู 3.เสน้ ใยนาแสง (fiber optic) เสน้ ใยนาแสง เป็ นการใชแ้ สงเคลอื่ นทไี่ ปในทอ่ แกว้ ซงึ่ สามารถสง่ ขอ้ มูลดว้ ยอตั ราความหนาแน่นของสญั ญาณขอ้ มูลสูงมาก ปัจจบุ นั ถา้ ใชเ้ สน้ ใยนาแสงกบั ระบบอเี ธอรเ์น็ตจะใชไ้ ดด้ ว้ ยความเรว็ 10 เมกะบติ ถา้ ใชก้ บั FDDI จะใชไ้ ดด้ ว้ ยความเรว็ สูงถงึ 100 เมกะบติ เสน้ ใยนาแสงมลี กั ษณะพเิ ศษทใี่ ชส้ าหรบั เชอื่ มโยงแบบจดุ ไปจดุ ดงั นั้น จงึ เหมาะทจี่ ะใชก้ บั การเชอื่ มโยงระหวา่ งอาคารกบั อาคาร ระยะความยาวของเสน้ ใยนาแสงแตล่ ะเสน้ ใชค้ วามยาวไดถ้ งึ 2 กโิ ลเมตร

เสน้ ใยนาแสงจงึ ถกู นาไปใชเ้ ป็ นสายแกนหลกั เสน้ ใยนาแสงนีจ้ ะมบี ทบาทมากขนึ้ เพราะมแี นวโนม้ ทจี่ ะใหค้ วามเรว็ ทสี่ งู มาก 5. โปรโตคอล (Protocol) หมายถงึ อะไร ปัจจบุ นั โปรโตคอลใดทนี่ ิยมใชท้ สี่ ุด ตอบ โปรโตคอล คอื ขอ้ กาหนดหรอื ขอ้ ตกลงในการสอื่ สารระหวา่ งคอมพวิ เตอร ์ หรอื ภาษาสอื่ สารทใี่ ชเ้ ป็ น ภาษา กลางในการสอื่ สารระหวา่ งคอมพวิ เตอรด์ ว้ ยกนั การทเี่ ครอื่ งคอมพวิ เตอรท์ ถี่ กู เชอื่ มโยงกนั ไวใ้ นระบบจะสามารถตดิ ตอ่ สอื่ สารกั นไดน้ ั้น จาเป็ นจะตอ้ งมกี ารสอื่ สารทเี่ รยี กวา่ โปรโตคอล (Protocol) เชน่ เดยี วกบั คนเราทตี่ อ้ งมภี าษาพูดเพอื่ ใหส้ อื่ สารเขา้ ใจกนั ได ้ โปรโตคอลชว่ ยใหร้ ะบบคอมพวิ เตอรส์ องระบบ ทแี่ ตกต่างกนั สามารถสอื่ สารกนั อยา่ งเขา้ ใจได ้ คอื ขอ้ ตกลงทกี่ าหนดเกยี่ ว กบั การสอื่ สารระหวา่ งเครอื่ งคอมพวิ เตอรต์ า่ งๆ ทงั้ วธิ กี ารส่งและรบั ขอ้ มูล วธิ กี ารตรวจสอบขอ้ ผดิ พลาดของการส่งและรบั ขอ้ มูล การแสดงผลขอ้ มูลเมอื่ สง่ และรบั กนั ระหวา่ งเครอื่ งสองเครอื่ ง ดงั น้ันจะเห็นไดว้ า่ โปรโตคอลมคี วามสาคญั มากในการสอื่ สารบนเครอื ขา่ ย หากไม่มโี ปรโตคอลแลว้ การสอื่ สารบนเครอื ขา่ ยจะไม่สามารถเกดิ ขนึ้ ได ้ ปัจจบุ นั โปรโตคอลทนี่ ิยมใชท้ สี่ ดุ คอื โปรโตคอล TCP/IP หรอื Transfer Control Protocol/Internet Protocolคอื เครอื ขา่ ยโปรโตคอลทสี าคญั มากทสี่ ดุ เนื่องจากเป็ นโปรโตคอลทใี่ ชใ้ นระบบเครอื ขา่ ย Internet รวมทงั้ Intranet ซงึ่ ประกอบดว้ ย 2 โปรโตคอลคอื TCP และ IP 1. คอมพวิ เตอรอ์ ย่างนอ้ ย 2 เครอื่ ง เชอื่ มตอ่ กนั 2. เน็ตเวริ ค์ การด์ หรอื NIC (Network Interface Card) เป็ นการด์ ที่

เสยี บเขา้ กบั ชอ่ งบนเมนบอรด์ ของคอมพวิ เตอร ์ ซงึ่ เป็ นชดุ เชอื่ มตอ่ ระหวา่ งคอมพวิ เตอร ์ และเครอื ขา่ ย 3. สอื่ กลางและอปุ กรณส์ าหรบั การรบั ส่งขอ้ มูล เชน่ สายสญั ญาณ สายสญั ญาณทนี่ ิยมใชใ้ นระบบเครอื ขา่ ย เชน่ สายโคแอ็กเชยี ล สายคบู่ ดิ เกลยี ว และสายใย แกว้ น าแสง เป็ นตน้ สว่ นอปุ กรณเ์ ครอื ขา่ ย เชน่ ฮบั สวติ ช ์เราทเ์ ตอร ์เกตเวย ์ เป็ นตน้ หน่วยที่ 2 ระบบเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอรแ์ ละโครงสรา้ งพนื้ ฐาน 64 4 . โปรโตคอล (Protocol) โปรโตคอลเป็ นภาษาทคี่ อมพวิ เตอรใ์ ช ้ สอื่ สารกนั ผ่านเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร ์ทสี่ ามารถสอื่ สารกนั ไดน้ นั้ จ าเป็ นตอ้ งใชภ้ าษา หรอื โปรโตคอลเดยี วกนั เชน่ OSI TCP/IP IPX/SPX เป็ นตน้ 5. ระบบปฏบิ ตั กิ ารเครอื ขา่ ย หรอื NOS (Network Operating System) ระบบปฏบิ ตั กิ ารเครอื ขา่ ยจะเป็ นตวั ทคี่ อยจดั การเกยี่ วกบั การใชง้ านเครอื ขา่ ย ของผใู ้ ชแ้ ต่ละคน หรอื เป็ นตวั จดั การและควบคมุ การใชท้ รพั ยากรตา่ งๆ ของเครอื ขา่ ย ระบบปฏบิ ตั กิ ารเครอื ขา่ ยทเี่ ป็ นทนี่ ิยม เชน่ Windows Server 2007 Novell NetWare Sun Solaris และ Red Hat Linux เป็ นตน้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook