Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รูปเล่มหลักสูตร

รูปเล่มหลักสูตร

Published by pannapa taya, 2020-10-06 00:41:25

Description: รูปเล่มหลักสูตร

Search

Read the Text Version

14 การประชาสัมพันธ์คือ การทาให้บุคคลได้รู้ถึงข้อมูลข่าวสารท่ีต้องการให้รับรู้โดยมีรูปแบบ ประชาสัมพนั ธ์ คอื การประชาสัมพันธ์ทางตา ได้แก่ แผ่นปลิว ป้ายโฆษณา ทางหูได้แก่ วิทยุ หอกระจาย ข่าว ทางตาและหไู ดแ้ ก่ สอื่ ทางโทรทัศน์ ทางสัมผสั ไดแ้ ก่ การทดลองให้ชิม ให้จับใชง้ าน 3. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนา ครใู ห้นกั เรียนดสู ื่อประชาสัมพนั ธต์ ่างๆ ขั้นสอน 1. ครูอธบิ ายรปู แบบการประชาสัมพันธ์ใหน้ กั เรยี นฟงั 2. แบ่งกล่มุ นักเรียน 3. ให้แต่ละกลมุ่ ออกแบบสอ่ื ประชาสัมพันธ์รูปแบบต่าง ๆ ขัน้ สรปุ ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันเลอื กสือ่ ประชาสมั พันธ์กจิ กรรมสหกรณ์นักเรียน 4. ส่อื และแหลง่ การเรยี นรู้ 1. ส่อื ประชาสัมพันธ์ 2. ใบความรู้ 5. การวดั และประเมนิ ผล วิธีการ สังเกตการณร์ ่วมกจิ กรรม เครื่องมือ 1. แบบสังเกตการณ์รว่ มกิจกรรมกลุม่ 2. แบบประเมนิ ผลงาน

14 บทท่ี 4 ตวั อยา่ งแบบประเมนิ 1 ประเมินการเรียนรู้ จัดการประเมินผลตามที่กาหนดในแผนการจัดการเรียนรู้ โดยแบ่งเป็น การตรวจสอบบันทึก การเรยี นรู้ การประเมนิ พฤตกิ รรมการทางาน การประเมินการมสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรม การประเมินผลงาน แบบประเมินพฤติกรรมผู้เรยี นเร่อื งสหกรณ์ โรงเรียน ..................... ตาบล.................................อาเภอ..................................จังหวดั ....................... คาชี้แจง ใหใ้ สต่ ัวเลข 1 , 2 หรือ 3 ลงในช่องรายการประเมนิ ตามสภาพจริง

รายการประเมนิ 14 กลมุ่ ที่ กล่มุ กลมุ่ กลุม่ กลุ่ม กลมุ่ กลมุ่ กลมุ่ กลุม่ กลุ่ม กลุ่มที่ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 1. การปฏบิ ตั ติ าม บทบาทหนา้ ท่ี 2. การให้ความรว่ มมอื ใน การทางาน 3. การแสดงความ คิดเห็น และยอมรบั ความคิดเหน็ 4. การมสี ่วนร่วม กิจกรรม อย่างสม่าเสมอ 5. ความรบั ผิดชอบงาน ทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย 6. การจดบันทกึ สรปุ ผลการประเมินราย กลุม่ ระดบั คณุ ภาพ ลงชือ่ (.....................................) 3 หมายถงึ ปฏิบัติในระดบั ดีมาก 2 หมายถึง ปฏบิ ัตใิ นระดับ พอใช้ ลงชอ่ื .......................................ผปู้ ระเมนิ 1 หมายถงึ ปฏบิ ัตใิ นระดับ ควรปรบั ปรงุ วันท่ี ........ เดอื น .....................พ.ศ. ...........

14 แบบประเมนิ ชิน้ งาน โรงเรียน ........................................... ระดบั ชัน้ ..................................................... ช่อื / ชอ่ื กลมุ่ .................................................วันท่ี ............ เดอื น .......................พ.ศ…………… กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ .................... จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ข้อที่ .......... เรอ่ื ง................................ ผู้ประเมิน (.........) ครู (..........) เพอ่ื น (...........) ตนเอง คาชีแ้ จง ใหท้ าเครอื่ งหมาย  ลงในช่องทีต่ รงกบั ความเหน็ ของท่าน หมายเลข 4 หมายถึง ดีมาก หมายเลข 3 หมายถึง ดี หมายเลข 2 หมายถงึ พอใช้ หมายเลข 1 หมายถงึ ต้องปรบั ปรุง

ที่ รายการประเมนิ 14 1 เนอื้ เรือ่ ง 4 321 2 การใช้ภาษา 3 ภาพประกอบ 4 มคี วามตั้งใจในการทางาน หมายเหตุ ลงชอื่ ............................................ ผู้ประเมิน (...........................................) ............ / ................... /........ เกณฑ์การประเมิน ชว่ งคะแนน 1 – 4 อยใู่ นระดบั ตอ้ งปรบั ปรงุ ช่วงคะแนน 5 – 8 อย่ใู นระดับพอใช้ ช่วงคะแนน 9 – 12 อยใู่ นระดบั ดี ช่วงคะแนน 13 – 16 อยู่ในระดับดีมาก

14 แบบบนั ทึกพฤติกรรมการทางานกล่มุ ชอื่ กลุม่ ......................................................... ผู้ประเมนิ ………………………………………. เรือ่ ง............................................................................................................................. ................. คาชีแ้ จง ให้ใสต่ วั เลข 1 2 หรอื 3 ลงในชอ่ งรายการประเมิน 1…........... 2.............. 3............. 4............ 5........ รวม รอ้ ยละ ระดับ ชื่อสมาชกิ คณุ ภาพ รายการ 1. มีสว่ นร่วมในการ วางแผน 2 ปฏบิ ตั ติ นตามบทบาท หนา้ ที่

14 3 ให้ความรว่ มมอื ในการ ทางาน 4 การแสดงความคิดเห็น 5. ยอมรับความคดิ เหน็ ผู้อน่ื 6. เข้าร่วมกจิ กรรมอยา่ ง สม่าเสมอ 7. ความรับผิดชอบงานท่ี ไดร้ บั มอบหมาย ลงช่อื ..................................................ผปู้ ระเมนิ วนั ท่ปี ระเมนิ .............. / ................. / ................ ระดบั คุณภาพ เกณฑ์การประเมิน 3 หมายถึง ปฏบิ ตั ิในระดับดมี าก ร้อยละ 80 – 100 ระดับคุณภาพ 3 ระดับคุณภาพ 2 2 หมายถึง ปฏบิ ตั ิในระดับพอใช้ ร้อยละ 60 – 79 ระดบั คุณภาพ 1 1 หมายถึง ปฏิบัตใิ นระดับควรปรับปรุง ตา่ กวา่ รอ้ ยละ 60

14 แบบประเมินการทางานกลุ่ม โรงเรียน ............................................................................ ชน้ั ................................................... ชื่อ / ช่ือกลุม่ ..............................................วนั ท่ี ............ เดอื น .........................พ.ศ…………… กลุ่มสาระการเรียนรู้ ..................... ผลการเรยี นรูท้ ่ีคาดหวงั รายปี ข้อที่ ........... เรื่อง.................... ผู้ประเมนิ (......................) ครู (........................) เพ่อื น (......................) ตนเอง คาชีแ้ จง ให้ทาเคร่ืองหมาย  ลงในชอ่ งทต่ี รงกับความเหน็ ของท่าน หมายเลข 3 หมายถึง มาก หมายเลข 2 หมายถงึ ปานกลาง หมายเลข 1 หมายถึง นอ้ ย ท่ี รายการประเมิน 3 21 1 รบั ฟังความคดิ เห็นของผู้อื่น

14 2 มกี ารซักถามและแสดงความคดิ เหน็ 3 ให้ความร่วมมือในกจิ กรรมท่ีมอบหมาย 4 มคี วามรบั ผิดชอบงานที่ไดร้ บั มอบหมาย 5 เข้าร่วมกิจกรรมที่มอบหมาย ลงชอ่ื ............................................ ผ้ปู ระเมนิ (...........................................) ............ / ................... /........ หมายเหตุ เกณฑ์การประเมิน ช่วงคะแนน 5 – 8 อยูใ่ นระดบั ต้องปรับปรงุ ช่วงคะแนน 9 – 11 อยู่ในระดับพอใช้ ชว่ งคะแนน 12 – 15 อยู่ในระดับดี แบบประเมินพฤติกรรมนักเรยี น ช้นั ...................................................................................ปีการศึกษา............................................ วันที่ .................... เดอื น ..................................................................พ.ศ. .................................... คาชแี้ จง ให้ทาเครื่องหมาย  ลงในชอ่ งทต่ี รงกับความเห็นของท่าน ช่ือ 1. ั้ตงใจ ัฟง สรุป เลขท่ี 2. ถามตอบเ ืร่อง ่ีท ัฟง ฯลฯ 3. แสดงความ ิคดเ ็หน 4. สรุปประเด็น ผา่ น ไม่ 5. ูพดถูก ้ตองชัดเจนสมเหตุสมผล ผ่าน 6. ีม ่สวน ่รวมในการเตรียม / อุปกร ์ณ 7. มี ่สวน ่รวมในการหาคาตอบ / ับนทึก ้ขอ ูมล

14 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 แบบประเมินการเข้าร่วมกจิ กรรมฝกึ ตง้ั คาถามและเฉลยคาตอบ ช้นั ......................................................................................ปกี ารศกึ ษา........................................ วนั ........................... เดือน ..................................................... พ.ศ. ............................................ คาชีแ้ จง ให้ทาเครอื่ งหมาย  ลงในช่องทน่ี กั เรียนแสดงพฤติกรรม พฤติกรรมทีต่ ้องการวัด สรุป 1 2 3 4 5 6 ผ่าน ไม่ ศกึ ษา ถามตรง ถาม ภาษาที่ ใชค้ าถาม เฉลย ผา่ น เลขท่ี ช่อื - สกลุ คน้ คว้า จดุ ครอบ ใช้สละ ไดถ้ กู ต้อง คาตอบ กอ่ นตงั้ ประสงค์ คลุม สลวย ชัดเจน ได้ คาถาม เนื้อหา ตรง ถูกตอ้ ง ประเด็น 1 2

14 3 4 5 6 7 8 9 10 ลงชือ่ ........................................................ ผปู้ ระเมิน เกณฑก์ ารประเมนิ ถ้านักเรยี นแสดงพฤตกิ รรมได้ตั้งแต่ 4 ข้อ ขนึ้ ไปถอื ว่าผ่านเกณฑ์การประเมิน แบบประเมนิ การรว่ มอภิปรายซกั ถาม ชนั้ ......................................................................................ปีการศกึ ษา........................................ วัน ........................... เดือน ..................................................... พ.ศ. ............................................ คาช้ีแจง ให้ทาเครือ่ งหมาย  ลงในช่องท่นี ักเรียนแสดงพฤติกรรม เลขท่ี ชอื่ - สกลุ 1 พฤตกิ รรมที่ต้องการวัด สรุป ตั้งใจฟงั 1 2 34 5 ผา่ น ไม่ 2 การจด ผ่าน ฝกึ ถาม พดู สรุป บนั ทกึ โต้ตอบ สมเหตุส ข้อคิด มผล เหน็

14 3 4 5 6 7 8 9 10 ลงชือ่ ........................................................ ผปู้ ระเมิน เกณฑก์ ารประเมิน ถา้ นกั เรียนแสดงพฤตกิ รรมได้ตง้ั แต่ 3 ข้อ ข้นึ ไปถอื ว่าผา่ นเกณฑ์การประเมนิ แบบสงั เกตการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุม่ ช้ัน ......................................................................................ปกี ารศกึ ษา........................................ วนั ........................... เดอื น ..................................................... พ.ศ. ............................................ คาช้แี จง ใหท้ าเครือ่ งหมาย  ลงในช่องที่นกั เรยี นแสดงพฤติกรรม พฤตกิ รรมทตี่ ้องการวดั สรปุ 1 2 3 4 5 6 ผ่าน ไม่ เลขท่ี ชอ่ื - สกลุ การ การ การ การรว่ ม การสรุป การจด ผา่ น เตรียม ค้นคว้า แสดง การ ประเด็น บนั ทึก อปุ กรณ์ ข้อมูล ความ อภิปรา คดิ เห็น ย 1 2 3

14 4 5 6 7 8 9 10 ลงชอื่ ........................................................ ผู้ประเมนิ เกณฑก์ ารประเมนิ ถ้านกั เรียนแสดงพฤติกรรมได้ต้งั แต่ 4 ขอ้ ขึ้นไปถอื ว่าผา่ นเกณฑ์การประเมนิ แบบประเมินการเข้ารว่ มกจิ กรรมตอบคาถาม ช้ัน ...............................................................................ปีการศกึ ษา.............................................. วัน ........................... เดือน ...................................................... พ.ศ. ............................................ คาช้แี จง ให้ทาเครือ่ งหมาย  ลงในชอ่ งทน่ี กั เรียนแสดงพฤติกรรม พฤติกรรมทีต่ ้องการวัด สรปุ 1 2 3 4 5 ผ่าน ไม่ เลขที่ ชือ่ - สกลุ เข้าใจใน ศึกษา รว่ มกนั คาตอบ ไมเ่ สยี ใจ ผ่าน 1 คาถาม คน้ คว้า อภปิ ราย ถกู ต้อง เมอ่ื ตอบ 2 3 กอ่ นตอบ ผดิ

14 4 5 6 7 8 9 10 ลงชือ่ ........................................................ ผู้ประเมนิ เกณฑก์ ารประเมิน ถา้ นกั เรียนแสดงพฤตกิ รรมได้ตง้ั แต่ 3 ขอ้ ขึน้ ไปถอื วา่ ผ่านเกณฑ์การประเมิน แบบประเมินผลงาน ช่อื นกั เรยี น / ครู ผู้ประเมนิ .......................................................................................................... เรอ่ื ง............................................................................................................................. ................. คาชี้แจง ให้ใส่ตัวเลข 1 2 หรอื 3 ลงในชอ่ งรายการประเมนิ ความ ผลงาน ความ การ ความ รวม รอ้ ย ระดับ เหมาะสม สองคล้อง สมบูรณ์ ออก คดิ สรา้ ง ละ คณุ ภาพ ของขอ้ มูล ของ รายการ กลุม่ ท่ี กับจุด ผลงาน แบบ สรรค์ ประสงค์ ผลงาน 1 2 3

14 4 5 6 ลงชือ่ ..................................................ผปู้ ระเมิน วนั ที่ประเมิน .............. / ................. / ................ ระดับคณุ ภาพ เกณฑ์การประเมิน 3 หมายถงึ ปฏิบัตใิ นระดบั ดมี าก ร้อยละ 80 – 100 ระดับคุณภาพ 3 2 หมายถงึ ปฏบิ ตั ิในระดบั พอใช้ รอ้ ยละ 60 – 79 ระดบั คุณภาพ 2 1 หมายถึง ปฏบิ ัติในระดบั ควรปรบั ปรงุ ต่ากวา่ ร้อยละ 60 ระดบั คุณภาพ 1 แบบสงั เกตการปฏิบตั ิงานกลมุ่ วนั ที่............................................... เรื่อง........................................................................................................... กลุ่ม............................................................................................................................. ...................................... รายช่อื สมาชกิ กลุ่ม 1. ...........................................................................ประธาน 2. ...........................................................................เลขานกุ าร 3. ...........................................................................สมาชิก 4. ...........................................................................สมาชิก 5. ...........................................................................สมาชิก รายการพฤติกรรม คณุ ภาพการปฏบิ ตั ิ ไมป่ ฏบิ ตั ิ 1. มกี ารปรึกษากนั ก่อนทางาน ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรุง 2. สมาชิกในกลุ่มมีหนา้ ที่ (3) (2) (1) (0) 3. สมาชิกในกลุ่มปฏบิ ตั หิ น้าท่ที กุ คน 4. จัดเตรียมวสั ดุ/อปุ กรณ์พร้อมก่อนปฏบิ ัติ 5. จดั เตรยี มวัสดุ/อุปกรณ์เหมาะสมกบั งานที่ปฏบิ ตั ิ 6. ปฏบิ ตั ิงานตามวิธีที่ได้ตกลงกนั 7. ปฏิบตั งิ านตามข้นั ตอนท่ไี ด้ตกลงกนั 8. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 9. ผลงานเป็นไปตามวตั ถปุ ระสงค์

14 10. ผลงานเสรจ็ ภายในเวลาทีก่ าหนด บันทึกเพิ่มเติม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….………...... ………………………………………………………………………………………………………………………….……………………………...... ………………………………………………………………………………………………………………….……………………………………...... ลงช่ือ....................................................ผ้สู งั เกต (..................................................)

14 แบบประเมินคุณลกั ษณะของนักเรียน ชอ่ื ภาระงาน.................................................................. ชอื่ กล่มุ …................................................วันท่ี............./........../........... คาชี้แจง เพือ่ เสรมิ สร้างคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ของสงั คม โปรดใสค่ ะแนนให้ตรงกับพฤติกรรมความเปน็ จรงิ ของเพอื่ นในกล่มุ ลงในชอ่ งคณุ ลกั ษณะท่กี าหนดให้ ระดับคะแนนมดี ังน้ี ๔ = ตรงกบั การกระทามากที่สดุ ๓ = ตรงกับการกระทาปานกลาง ๒ = ตรงกับการกระทาน้อย ๑ = ไม่คอ่ ยตรงกบั การกระทา คุณลักษณะ ช่ือ-สกลุ การแสดงความ ิคดเห็น การใ ้หความ ่รวมมือ ข ัยน อดทน การใ ้หความสนใจต่อการทางาน ความรับผิดชอบ คะแนนรวม วนั ที่ ประเมนิ

14 บทที่ 5 ตวั อยา่ งโครงสรา้ งการบรหิ ารงาน การบนั ทกึ บัญชสี หกรณ์ ส่อื เกม นทิ าน โครงสร้างการบริหารงานสหกรณ์นักเรียน สมาชิก สมาชิก สมาชิก สมาชิก ที่ประชุมใหญ่ (สมาชิก) คณะกรรมการที่ปรึกษา คณะกรรมการที่ปรึกษา คณะกรรมการดาเนินงาน ผู้จัดการ กิจกรรมส่งเสริมการเกษตร/อาชีพ กิจกรรมส่งเสริมออมทรัพย์ กิจกรรมร้านค้า กิจกรรมการศึกษาและ สวัสดิการ การบัญชสี หกรณน์ กั เรียน การบัญชีสหกรณ์นักเรียน คือ การจดบันทึกรายการทางการเงินจากเอกสารหลักฐานต่างๆ ท่ี สหกรณน์ ักเรียนไดด้ าเนินการ โดยจัดหมวดหมู่ แยกประเภทรายการและสรุปผลออกมาในรูปรายงานทางการเงิน เพ่ือประโยชน์ในการควบคุมการดาเนนิ งานของสหกรณน์ กั เรยี น วัตถปุ ระสงค์ของการจดั ทาบญั ชี - เพื่อจดบันทึกรายการค้าตา่ งๆ ตามลาดับการเกิดของรายการอยา่ งเปน็ ระเบียบ - เพือ่ ให้ทราบผลการดาเนนิ งานวา่ กาไร หรอื ขาดทนุ ในรอบระยะเวลาท่ีกาหนด - เพอ่ื ให้เหน็ ถึงฐานะทางการเงนิ ณ วนั ใดวันหนงึ่ ว่ามี สนิ ทรพั ย์ หน้ีสนิ - เพ่อื เป็นการปอ้ งกนั การทุจรติ และกันการสญู หายของสนิ ทรัพย์

14 - เพอ่ื ใช้เปน็ แหล่งขอ้ มูลทางการเงนิ ในการตัดสนิ ใจด้านต่างๆ - ผบู้ รหิ าร : วางแผน ควบคุม วัดผลดาเนนิ งาน และตัดสินใจดา้ นตา่ งๆ - บุคคลภายนอก : ตดั สนิ ใจในการลงทนุ การพจิ ารณาการใหส้ นิ เชอ่ื ความสาคญั ของการบญั ชี สามารถสรปุ ไดด้ ังนี้ - การวางแผนและการตดั สนิ ใจเชิงเศรษฐกิจสาหรบั ผใู้ ชท้ ัง้ ภายในและภายนอกกจิ การ - บทบาทในการบริหารจดั การ เพื่อความได้เปรยี บในการแข่งขัน - ข้อมลู ท่ีดตี ้อง ถูกต้อง เช่อื ถอื ไดแ้ ละทันเวลา ซง่ึ สะทอ้ นให้เห็นความโปร่งใสของการดาเนิน ธุรกิจ เอกสารประกอบการลงบญั ชี หมายถึง เอกสารทีใ่ ชเ้ ป็นหลกั ฐานบนั ทึกข้อเท็จจริงตามลักษณะของ รายการรบั เงินหรอื จ่ายเงินท่ีเกดิ ขึ้น เพื่อแสดงว่าได้เกดิ รายการรบั เงนิ หรือจ่ายเงนิ ข้นึ จริงตามทปี่ รากฏในเอกสาร นน้ั เอกสารประกอบการลงบัญชีของสหกรณ์นักเรียนมดี ังนี้ 1.ใบเสรจ็ รบั เงนิ จากบริษทั ห้างรา้ นท่สี หกรณ์ไปซื้อสินค้า 2.ใบเสร็จรับเงินของสหกรณ์ ใช้บันทึกรายการรับเงินของสหกรณ์ ท้ังจากสมาชกิ และไมใ่ ช่ สมาชิก 3.ใบเบิกเงิน ใช้บันทกึ รายการจ่ายเงนิ ของสหกรณใ์ นกรณีท่สี หกรณไ์ ม่สามารถเรียก ใบเสรจ็ รบั เงินจากผรู้ บั เงนิ ได้ 4.ใบนาส่งฝากออมทรัพยใ์ ช้บันทึกเป็นหลักฐานการนาส่งเงินฝากออมทรัพยข์ องนักเรียน 5.ใบถอนเงินฝากออมทรัพย์ ใชบ้ นั ทึกเป็นหลักฐานเม่ือสมาชิกถอนเงนิ ฝากออมทรัพย์จาก สหกรณ์ 6.ใช้ขายสินคา้ ประจาวนั ใช้บันทกึ รายการขายสินค้า จานวนสินค้า จานวนเงิน และหมายเลข สมาชกิ ผซู้ ้อื สินคา้ ในแต่ละวัน และสรปุ ยอดขายในแตล่ ะวนั

14 การลงบัญชีในสมุดบัญชี เป็นการนาเอาหลักฐานจากเอกสารประกอบการลงบัญชีมาบันทึกลงในสมุด บัญชีเป็นประจาวนั ท่มี รี ายการเกดิ ขึ้นได้แก่ 1. การลงบัญชใี นสมดุ เงินสดประจาวัน เป็นหนา้ ทขี่ องกรรมการ ในการบันทกึ รายการรับเงินทุก รายการของแตล่ ะวันลงในดา้ นรายการรบั โดยใช้ ใบเสรจ็ รับเงิน ใบขายสนิ ค้าประจาวัน ใบนาส่งเงินฝากออมทรัพย์ เปน็ หลกั ฐานการลงบัญชีและบันทกึ รายการจ่ายเงินทุกรายการของแต่ละวันลงใน ดา้ นรายการจ่ายเงนิ โดยใบเบกิ เงนิ ในถอนเงนิ ฝากออมทรัพย์ และใบเสรจ็ รับเงินของร้านค้า (กรณซี ื้อสินคา้ และร้านค้ามีใบเสรจ็ ให้) เปน็ หลกั ฐาน การลงบัญชตี ลอดจนสรุปเงินสดคงเหลอื ประจาวัน 2. การลงบญั ชใี นสมุดซ้อื สินค้า เป็นหนา้ ทข่ี องกรรมการในการบันทึกรายการซ้ือสนิ คา้ เป็นเงินสด โดยใช้ใบเสรจ็ รบั เงนิ ของร้านค้าเป็นหลกั ฐานการลงบัญชี ในกรณีซื้อสนิ ค้าเป็นเงนิ เชื่อใช้ใบสง่ ของของรา้ นค้าเป็น หลักฐานในการลงบัญชี ท้งั น้ีใหผ้ จู้ ัดการเป็นผูก้ าหนดราคาขายสินค้าแต่ละรายการ ทะเบียนต่างๆ ของสหกรณ์นักเรียน ใช้สาหรับบันทึกรายละเอียดของแต่ละรายการที่เกิดขึ้น โดยใช้ เอกสารประกอบการลงบัญชีเปน็ หลักฐานในการบนั ทึก ดังนี้ 1. ทะเบยี นสมาชกิ และการถอื หุน้ จัดทาข้ึนเพื่อบันทึกจานวนสมาชกิ ทง้ั หมดของสหกรณ์ จานวน หนุ้ ทช่ี าระทั้งหมด บันทึกรายการเพิ่มหุ้น ถอนหุ้น หรอื โอนหุ้น ของสมาชกิ แต่ละราย 2. ทะเบียนคุมสินค้า ใช้บันทึกรายการเกี่ยวกับสินค้าที่ซื้อมาจาหน่ายแต่ละอย่าง ท้ังน้ีเพื่อ ควบคุมรายการรับสินค้าเข้าร้าน การตัดจ่ายสินค้าเมื่อขาย และคุมยอดคงเหลือของสินค้าให้ถูกต้องเป็นการ ปอ้ งกนั การขาดหายของสินคา้ แต่ละรายการ 3. ทะเบียนบันทึกยอดซ้ือของสมาชิก ใช้บันทึกยอดซื้อสินค้าของสมาชิกสหกรณ์นักเรียนเป็น รายวัน ของแต่ละบคุ คล ทง้ั นีเ้ พ่อื ความสะดวกในการรวมยอดซอื้ สินคา้ ของสมาชิกตอนส้นิ ปี 4. ทะเบยี นเจา้ หน้ีเงินฝากออมทรพั ย์ ใช้บนั ทึกรายการเงนิ ฝาก ถอนเงินและยอดคงเหลอื เงนิ ฝาก 5. ทะเบียนคุมรายรับรายจ่ายของฝ่ายส่งเสริมการเกษตรหรือฝ่ายการศึกษาและสวัสดิการใช้ บันทกึ บันทึกรายการในทะเบียนต่างๆ เป็นการบันทึกรายละเอียดของแต่ละรายการที่เกิดข้ึนโดยใช้เอกสาร ประกอบการลงบญั ชีเปน็ หลักฐานการบันทึก สรุปได้ดงั น้ี

14 หลักฐานประกอบการบันทึกทะเบียน ทะเบียน ผู้บนั ทกึ หลกั ฐานประกอบการบันทึก 1. ทะเบยี นสมาชิกและการถือหนุ้ ผู้จดั การหรือผ้ทู ี่ได้รับมอบหมาย ใบเสรจ็ รบั เงินคา่ หุ้น หรอื ใบถอนเงินค่าหุ้น 2. ทะเบยี นคุมสินคา้ กรรมการสหกรณ์ ทะเบียนคุมสนิ คา้ 3. ทะเบียนบนั ทึกยอดซ้ือของ กรรมการสหกรณ์ ใบขายสนิ คา้ ประจาวนั สมาชกิ 4. ทะเบียนเจ้าหนี้เงินฝากออม กรรมการสหกรณ์ ใบนาส่งเงินฝากออมทรัพย์ หรือใบ ทรัพย์ ถอนเงินออมทรัพย์ 5. ทะเบียนคุมรายรับรายจ่าย กรรมการสหกรณ์ ใบเสรจ็ รบั เงิน นอกจากการลงบัญชี และการบันทึกเอกสารทางการเงินเป็นประจาทุกวันแล้ว ต้องมีการสรุปการบัญชี เปน็ ประจาทุกเดอื นเรยี กวา่ งบเดอื น เชน่ งบรายวนั รายจ่ายประจาเดือนและงบทดลองประจาเดือน เป็นต้น และ การสิ้นสุดของการจัดทาบัญชีนั้น โดยท่ัวไปกาหนดรอบบัญชีไว้ 1 ปี ดังนั้น การบัญชีสหกรณ์นักเรียนจึงกาหนด รอบปีบญั ชไี ว้ 1 ปี โดยเริม่ ตั้งแต่วนั เปดิ เรยี นภาคต้นและไปปิดบัญชใี นวนั ปิดภาคเรยี นสุดท้าย รายการรับเงนิ และรายการจ่ายเงนิ ของสหกรณ์นกั เรยี น 1. การรบั สมาชิก และการดาเนินงานทั่วไปของสหกรณ์ รายการรบั เงนิ - รบั เงินคา่ ธรรมเนยี มแรกเข้า - รบั เงินคา่ หุน้ - รับเงนิ บรจิ าค รายการจ่ายเงนิ - จ่ายคืนค่าหนุ้ - จ่ายคา่ เครอ่ื งเขยี น - จา่ ยคา่ วสั ดุ

14 ตวั อย่างการบันทึกบญั ชีรายรบั - รายจ่าย วนั -เดือน-ปี รายการ รายรบั รายจ่าย หมายเหตุ (เดบติ ) (เครดติ ) 100 1 พย. 58 รบั สมาชกิ ใหม่ 10 คน ค่าธรรมเนยี บมแรกเขา้ 200 รายได้ คนละ 10 บาท 5,000 ทนุ 5 พย. 58 รบั เงนิ ค่าหุ้นจาก ด.ช. หมิ ะ ใจรอ้ น หุ้นละ 10 บาท จานวน 20 หุ้น รายได้ 7 พย. 58 สหกรณไ์ ดร้ ับเงนิ บริจาคจากบริษทั แห่งหนึ่ง 2,000 ทนุ เป็นเงิน 5,000 บาท 100 คา่ ใชจ้ า่ ย 10 พย. 58 จา่ ยคนื เงินค่าหนุ้ ให้กบั ด.ญ.กุ๊กไก่ ใจดี เป็น 500 คา่ ใช้จ่าย เงนิ 2,000 บาท 12 พย. 58 จา่ ยเงินคา่ สมดุ และปากกาเป็นเงิน 100 บาท 13 พย. 58 จา่ ยเงินคา่ โตะ๊ สานักงาน เปน็ เงิน 500 บาท ตวั อยา่ งทะเบยี นสมาชิก ลาดบั ท่ี ช่อื -สกลุ เลขที่ ชน้ั เรียน วับทีเ่ ข้า วันทีอ่ อก สมาชกิ 14 กค. 49 1 เด็กหญงิ กกุ๊ ไก่ ใจดี 0001 ป.2 5 สค. 49 2 เด็กชายขนม หวานมาก 0002 ป.1 20 กย.49 3 เด็กชายหมิ ะ ใจร้อน 0003 ป.3 13 ตค. 49 4 เด็กหญงิ บอบบาง อรชร 0004 ป.1 16 ธค.49 5 เด็กชายตุ๊ตะ๊ อ้วนทว้ น 0005 ป.2 คาอธบิ าย บันทึกรายชื่อสมาชิกเรียงตามลาดับท่ีสมัครโดยกาหนดเลขที่สมาชิกเรียงกัน เม่ือมีสมาชิกออกให้บันทึก เลขท่สี มาชกิ ตอ่ ไปโดยไม่ต้องนาเลขท่ีของสมาชิกทีล่ าออกมาใช้

14 ตวั อยา่ งทะเบียนทุนเรือนหนุ้ (รวม) ที่ เลขที่ วัน-เดือน-ปี ชอื่ -สกลุ จานวนหุ้น สมาชกิ หมายเหตุ เพ่ิม ถอน คงเหลือ 1 0001 14 กค. 59 เด็กหญิงก๊กุ ไก่ ใจดี 2,00 2,000 0 2 0002 5 สค.59 เดก็ ชายขนม หวานมาก 100 2,100 3 0003 20 กย.59 เด็กชายหิมะ ใจร้อน 200 2,300 4 0004 13 ตค. 59 เดก็ หญิงบอบบาง อรชร 50 2,350 5 0005 16 ธค.59 เดก็ ชายตุ๊ต๊ะ อว้ นท้วน 20 2,370 6 0001 31ธค. 59 เด็กหญงิ กุ๊กไก่ ใจดี 2,000 370 ลาออก คาอธบิ าย บนั ทกึ เรียงตามลาดบั วันท่ี ตวั อย่างทะเบียนหนุ้ รายคน ชือ่ ………………………………………. เลขที่สมาชกิ ............................... วนั -เดือน-ปี เพม่ิ จานวน คงเหลือ หมายเหตุ ถอน 20 กย. 59 200 - 200 คาอธบิ าย สมาชิกจะถอนหุ้นคืนได้ต่อเมื่อออกจากสหกรณ์

14 2. กจิ กรรมร้านค้า รายการรับเงิน - รบั เงินขายสนิ คา้ - รบั เงินขายวสั ดเุ หลอื ใช้ รายการจ่ายเงนิ - ซอื้ สินค้ามาจาหนา่ ย - คา่ ใชจ้ ่ายในการซื้อ ตัวอยา่ งทะเบยี นคมุ สินค้า ชนดิ สนิ ค้า ........................................ ลาดบั ที่ วันเดือนปี รบั จา่ ย คงเหลือ จานวน หนว่ ย จานวน หน่วย จานวน หนว่ ย 500 เล่ม 1 10 มค. 59 500 เล่ม 430 เล่ม 380 เล่ม 2 11 มค. 59 70 เล่ม 580 เล่ม 480 เล่ม 3 13 มค. 59 50 เล่ม 4 15 มค. 59 200 เล่ม 5 15 มค. 59 100 เล่ม 3. กจิ กรรมออมทรัพย์ รายการรบั เงิน - รับเงินฝากออมทรพั ย์ รายการจ่ายเงิน - ถอนเงนิ ฝาก

14 ตวั อย่างการบนั ทกึ บัญชีรายรับ – รายจา่ ยเงนิ ออม วัน-เดอื น-ปี รายการ รายรับ รายจา่ ย หมายเหตุ (เดบติ ) (เครดติ ) ทนุ 18 มค. 59 รับฝากเงินจากสมาชิก เป็นเงิน 1,000 1,000 บาท 100 ทุน 500 ทุน 19 มค. 59 สมาชกิ ถอนเงินฝาก เปน็ เงนิ 100 บาท 270 รายได้ 20 มค. 59 รับเงินฝากจากสมาชิกเพ่ิม เป็นเงิน 500 บาท 21 มค.59 ได้รับดอกเบี้ยเงินฝากจากธนาคาร เป็น เงนิ 270 บาท ตัวอย่างทะเบยี นคุมเงนิ ออมทรพั ยร์ ายคน ชื่อผู้ฝากเงินออมทรัพย์ ............................................................... วัน-เดือน-ปี ฝาก ถอน คงเหลอื (บาท) (บาท) (บาท) 1 มค. 50 200 10 มค. 50 500 200 15 มค. 50 700 100 600

4. กิจกรรมส่งเสริมการเกษตร 14 รายการรับเงิน - รับเงินขายผลผลติ การเกษตร หมายเหตุ รายได้ รายการจ่ายเงนิ - ค่าใชจ้ ่ายในการผลติ ค่าใชจ้ า่ ย ลกู หนี้ ตารางท่ี 18 ตวั อย่างการบันทกึ บัญชีรายรบั - รายจ่าย รายได้ ลกู หน้ี วนั -เดอื น-ปี รายการ รายรบั รายจ่าย (เดบติ ) (เครดิต) 22 มค. 50 รับเงินค่าขายกล้วย 100 กิโลกรัมๆละ 8 บาท 800 เปน็ เงนิ 800 บาท 23 มค. 50 จ่ายคา่ แรงงานคนตดั กลว้ ย เปน็ เงิน 200 บาท 200 24 มค. 50 จ่ายเงินกู้ให้กบั สมาชิก เปน็ เงนิ 2,000 บาท 2,000 25 มค. 50 รับดอกเบี้ยเงินกู้จากสมาชิก เป็นเงิน 100 100 บาท 26 มค. 50 รับชาระหนี้เงินกู้จากสมาชิก 2,000 บาท 2,100 พร้อมดอกเบยี้ 100 บาท

14 ตัวอยา่ งทะเบยี นคุมเจ้าหนีร้ ายคน ช่ือเจ้าหน้ี ................................................................................... วนั -เดือน-ปี จานวนเงนิ กู้ วนั ครอบ จานวนเงินชาระ จานวนเงนิ (บาท) กาหนดชาระ (บาท) คงเหลือ 1 มค. 59 2,000.- 1 มคี . 50 2,000.- 12 มค. 59 500 1,500.- 7 กพ. 59 500 1,000.- ตัวอยา่ งทะเบยี นคมุ ผลผลิต วนั -เดอื น-ปี รายการ จานวนที่รบั จานวนทข่ี าย จานวนเงิน จานวน ผลผลติ (หนว่ ย) (หนว่ ย) ราคา เป็นเงนิ คงเหลอื 11 มค. 59 กลว้ ย 50 30 8 240 20 12 มค. 59 กล้วย - 20 9 180 - 12 มค. 59 มะนาว 6,000 6,000 1 6,000 - 12 มค. 59 กล้วย 70 70 7 490 - 5. กิจกรรมการศึกษาและสวัสดกิ าร รายการรบั เงนิ - รับเงินบริจาคทีร่ ะบเุ ฉพาะกจิ กรรมนี้ - รับเงินอุดหนนุ จากสหกรณ์ รายการจ่ายเงนิ - ค่าใชจ้ ่ายในการจดั มุมสหกรณ์ - คา่ ใช้จา่ ยในการจดั นิทรรศการสหกรณ์ - ค่าใช้จา่ ยในการจัดสวัสดิการ

14 ตัวอยา่ งการบันทึกบญั ชีรายรบั - รายจา่ ย วนั -เดือน-ปี รายการ รายรบั รายจ่าย หมายเหตุ 26 มค. 59 (เดบิต) (เครดติ ) รายได้ รับเงินบริจาคจากโรงเรียนสาหรับการไป 2,000.- ศึกษาดูงาน เปน็ เงิน 2,000 บาท 27 มค. 59 รับเงินอุดหนุนจากสหกรณ์จังหวัด เป็น 1,000.- 500.- รายได้ 28 มค.59 เงนิ 1,000 บาท 700.- ค่าใชจ้ ่าย 29 มค. 59 ค่าใช้จา่ ย จ่ายค่าอุปกรณ์ในการจัดมุมสหกรณ์ เป็น เงนิ 500 บาท จ่ายค่าวัสดุอุปกรณ์ในการจัดนิทรรศการ วนั สหกรณ์ เปน็ เงนิ 700 บาท ตัวอย่างการปดิ บัญชรี ายรับ – รายจ่าย วันที่ รับ จานวนเงิน จา่ ย จานวนเงนิ 1 มค. 59 รบั คา่ ธรรมเนยี มสมาชิกใหม่ 100 100 500 5 มค. 59 รับเงนิ ค่าหุ้นจากสมาชิก 200 250 200 7 มค. 59 ได้รบั เงินบริจาคจากบริษทั แห่งหนึง่ 5,000 12 มค. 59 จ่ายเงนิ คา่ สมดุ และปากกา 13 มค. 59 จ่ายเงนิ ค่าโตะ๊ สานกั งาน 16 มค. 59 ซื้อขนมมาขายเพม่ิ 17 มค. 59 จา่ ยค่าน้ามันสาหรบั ไปซอ้ื ขนม 18 มค. 59 รับฝากเงนิ จากสมาชิก 1,000

19 มค. 59 สมาชิกถอนเงินฝาก 14 20 มค. 59 รบั เงินฝากจากสมาชกิ เพิม่ 500 100 22 มค. 59 รับเงินค่าขายกลว้ ย 800 23 มค. 59 200 24 มค. 59 จ่ายคา่ แรงงานคนตัดกล้วย 2,000 25 มค. 59 รับดอกเบยี้ เงินกู้จากสมาชกิ จา่ ยเงินกใู้ หก้ บั สมาชิก 26 มค. 59 รับชาระหน้เี งินกู้จากสมาชกิ 100 700 27 มค. 59 รบั เงินอดุ หนนุ จากสหกรณ์ 2,100 29 มค. 59 1,000 จา่ ยค่าวสั ดุอปุ กรณใ์ นการจดั รวมรับ นิทรรศการวนั สหกรณ์ รวมจา่ ย

ตัวอย่างงบกาไรขาดทนุ 14 ประจาเดอื นมกราคม 2559 รายการ จานวนเงิน รายได้ 100 รบั ค่าธรรมเนียมสมาชิกใหม่ 5,000 ไดร้ บั เงนิ บรจิ าคจากบริษทั แห่งหนง่ึ ขายสมุด 50 ขายเก้าอีเ้ กา่ 70 รับเงินดอกเบ้ยี เงนิ ฝาก 270 รับเงินค่าขายกลว้ ย 800 รับดอกเบ้ียเงินก้จู ากสมาชิก 100 รบั เงินบริจาคจากโรงเรียนเพือ่ ไปศึกษาดูงาน 2,000 รบั เงนิ อุดหนุนจากสหกรณ์ 1,000 รวมรายได้ 9,390 คา่ ใช้จา่ ย 100 จา่ ยเงนิ ค่าสมดุ และปากกา 200 จ่ายค่านา้ มันรถในการไปซื้อขนม 200 จา่ ยคา่ แรงงานคนตดั กลว้ ย 500 จ่ายค่าอุปกรณ์ในการจัดมมุ สหกรณ์ 700 จา่ ยค่าวัสดุในการจดั นิทรรศการวนั สหกรณ์ 2,000 มอบทุนการศกึ ษาให้กับนกั เรียน 200 จ่ายคา่ ใช้จา่ ยในการแขง่ ขนั กีฬาโรงเรยี น 3,900 รวมคา่ ใชจ้ ่าย 5,490 กาไร

14 งบดลุ ณ วนั ท่ี 31 มกราคม 2559 สนิ ทรัพย์ เงินสด และเงนิ ฝากธนาคาร (คงเหลือ ณ วนั นน้ั ) ....................... ....................... ลูกหน้ี (กรณสี หกรณใ์ ห้กู้) ........................ ........................ วสั ดุสานกั งาน (ตามมลู คา่ คงเหลือ) ........................ สนิ ทรพั ย์อน่ื ๆ (สินค้าคงเหลือ,อาคาร) ....................... ....................... รวมสนิ ทรัพย์ ....................... ....................... หนี้สนิ และทุน หนี้สิน เจา้ หน้ี เงนิ รับฝาก คา่ ใช้จา่ ยคา้ งจ่าย ทุน ....................... หนุ้ ....................... กาไร/ขาดทน ...................... รวมหน้ีสนิ และทนุ

14

14 4. การประชุม สหกรณ์เป็นเรื่องของคนหลายคนมาทางานร่วมกัน การจะทางานร่วมกันให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยให้ ประสบความสาเร็จได้น้ัน จาเป็นต้องมาประชุมปรึกษาหารือ มาตกลงร่วมกันในการกาหนดแนวทางการทางาน เพอ่ื ให้บรรลุวัตถุประสงค์ทกี่ าหนดไว้ ความหมาย การประชุม หมายถึง การที่บุคคลมารวมกันเพ่ือพูดคุยแลกเปล่ียน ความคิดเห็นกันอย่างเป็นระบบ ระเบียบและมจี ดุ มงุ่ หมาย การประชุมเป็นเคร่ืองมือสาคัญในการบริหารและดาเนินการ การประชุมเป็นกลไกที่ สาคัญของการทางานในหน่วยงานทุกระดับ เป็นการทางานทางความคิด เป็นจุดรวมของความคิด การ ตดั สนิ ใจ นโยบาย การศกึ ษาคน้ ควา้ วิจัย การแก้ไขปญั หาและเกิดความคดิ ริเร่มิ สร้างสรรค์ การประชมุ มีประโยชน์ ดังน้ี 1. ชว่ ยใหเ้ กิดการทางานทางความคดิ ร่วมกัน 2. ชว่ ยให้เกิดความรอบคอบในการตัดสนิ ใจ 3. ช่วยในการกระจายข่าวสาร 4. ช่วยในการประสานงาน ประสานความคิดและสร้างความเข้าใจ 5. ชว่ ยใหแ้ ต่ละคนมีส่วนรว่ มในการทางาน 6. ช่วยให้แตล่ ะคนมีสว่ นร่วมในการทางาน 7. ชว่ ยใหเ้ กิดแนวทางใหม่ วิธกี ารหรอื กระบวนการใหม่ ๆ จากการ เสนอความเห็นในการ ประชมุ ศัพทท์ ีเ่ กีย่ วขอ้ งกับการประชุม องคป์ ระชุม คือ ผมู้ ีหน้าทตี่ ้องเขา้ ประชุม ไดแ้ ก่ ประธาน รองประธาน กรรมการ เลขานุการและผทู้ ี่ เก่ียวขอ้ ง ครบองคป์ ระชมุ คอื จานวนผู้เขา้ ประชมุ ครบตามท่ีระบไุ ว้ในระเบยี บข้อบงั คบั โดยทั่วไป หมายถึงไม่นอ้ ย กว่ากึ่งหน่ึงของจานวนสมาชิก หากไม่ครบองคป์ ระชมุ มติท่ไี ด้ถือเปน็ โมฆะ จะดาเนินการประชุมไมไ่ ด้ ท่ีประชมุ คือ บรรดาผูเ้ ขา้ ประชมุ ท้ังหมด ไม่ใชส่ ถานท่ปี ระชุม

14 ระเบยี บวาระ คือ เรือ่ งทจ่ี ะนาเข้าปรกึ ษากนั ในทีป่ ระชมุ ญตั ติ คือ ข้อเสนอซึ่งผู้เข้าประชุมเสนอให้ท่ีประชุมพจิ ารณาลงมติ หากเสนอเป็นลายลักษณ์อักษร ก่อน การประชมุ เลขานุการจะเสนอประธานเพ่ือบรรจุเป็นระเบียบวาระการประชมุ การอภปิ ราย คือ การแสดงความคิดเห็น การกลา่ วสนับสนุนหรอื คดั ค้านญตั ติท่ีเสนอต่อที่ประชมุ มติ คอื ข้อตกลงของทีป่ ระชุมในเร่ืองต่าง ๆ มติทไ่ี ด้อาจเป็นมติโดยเอกฉนั ท์หรอื มตโิ ดยเสียงขา้ งมาก ซ่ึง การออกเสยี งจะลงคะแนนลับหรอื ลงคะแนนโดยเปิดเผยก็ได้ องค์ประกอบของการประชุม ประธาน - ผทู้ าหน้าที่เปน็ ผ้นู าในการประชุม เพอ่ื ใหก้ ารประชุมดาเนินไปจนบรรลุ เป้าหมาย อย่างมปี ระสทิ ธิภาพและประสทิ ธผิ ล รองประธาน - ทาหน้าทแี่ ทนประธานเมอ่ื ประธานไม่อยหู่ รอื ไม่สามารถปฏิบตั ิหนา้ ที่ กรรมการ - ผู้ที่มหี น้าทเี่ ขา้ ประชมุ เพื่อแสดงความคดิ เหน็ ที่เป็นประโยชน์ และออกเสยี ง ลงมติ เลขานุการ - ผู้ทาหน้าทจี่ ดบันทึกการประชมุ และจัดเตรียมการประชุม นอกเหนอื ไปจาก การทา หนา้ ทเี่ ชน่ เดยี วกบั กรรมการคนอน่ื ๆ การประชุมในสหกรณ์ 1. การประชุมใหญ่ คือ การประชุมสมาชิกท้ังหมดเพื่อกาหนนโยบายการบริหารงานสหกรณ์ พิจารณาผลการดาเนินงานของสหกรณ์เลือกตั้งคณะกรรมการดาเนินงาน จัดสรรกาไรสุทธิของสหกรณ์ตลอดจน วางแผนการดาเนินงานของสหกรณ์ โดยปกติประชมุ ปลี ะคร้งั เรียกว่า “การประชมุ ใหญส่ ามญั ประจาปี” 2. การประชมุ คณะกรรมการดาเนนิ การ คือ การประชุมผู้ที่ได้รับเลือกต้ังจากสมาชิกในท่ีประชุม ใหญ่ ให้บริการงานสหกรณ์เพื่อกาหนดแนวทางการดาเนินงานให้เป็นไปตามแผนงานที่ท่ีประชุมใหญ่กาหนด รับทราบผลดาเนินงานของสหกรณ์ ตัดสินใจในการดาเนินกิจกรรมต่าง ๆ ท่ีสาคัญ ฯลฯ โดยปกติจะประชุมอย่าง น้อยเดอื นละ 1 คร้ัง โดยอาจมีตวั แทนของฝา่ ยจัดการ (ผจู้ ดั การ หรอื ฝา่ ยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง) เข้าร่วมในการประชุม ดว้ ย

14 3. การประชุมกลุ่ม คือ การประชุมสมาชิกในกลุ่มเดียวกัน ซ่ึงประกอบด้วยสมาชิกในพ้ืนท่ี ใกลเ้ คียงกนั ท่ีร้จู ักกนั ดี หรือกลุม่ ของสมาชิกท่ีทากิจกรรมอย่างเดียวกัน เพ่ือประโยชน์ในการติดต่อสื่อสารระหว่าง สหกรณ์กับสมาชิกและในระหง่างสมาชิกด้วยกันเอง เพื่อแลกเปล่ียนความคิดเห็น กาหนดแนวทางปฏิบัติงานของ กลุ่ม ตลอดจนรับทราบเร่ืองราวต่างๆ ของสหกรณ์ การประชุมกลุ่มจะมีมากหรือน้อยข้ึนอยู่กับความต้องการของ กลุ่ม 4. การประชุมฝ่ายจัดการ คือการประชุมของเจ้าหน้าที่สหกรณ์ที่ปฏิบัติงานในตาแหน่งต่างๆ เพ่ือหารือ หรือตกลงแนวทางปฏิบัติงานในแต่ละด้าน หรือประชุมเพ่ือรับรู้ นโยบายความรู้ใหม่ๆ ที่ต้องนาไป ปฎิบัติงาน การประชุมฝ่ายจัดการเป็นการทางานอย่างหนึ่งท่ีต้องจัดให้มีเป็นประจาอย่างน้อยเดือนละคร้ัง และ ต้องประชุมเฉพาะกิจ เม่ือมีเรื่องต้องแก้ปัญหา ต้องตัดสินใจ ต้องระดมความคิด โดยผู้เข้าประชุม จะเป็นไปตาม เรื่องท่ีจดั ประชุม 5. ประชุมอ่ืนๆ คือ การประชุมท่ีไม่เก่ียวข้องกับ 4 รายการที่กล่าวมา เช่น การประชุมเพื่อ อบรมสมาชิก การจัดประชุมประจาปี ของ 3 ฝ่าย คือ คณะกรรมการดาเนินการ ฝ่ายจัดการ และสมาชิก การ ประชุมที่ส่วนราชการจดั ใหม้ ขี ้นึ เป็นต้น เม่ือใดควรเรยี กประชมุ - เมื่อไมส่ ามารถวเิ คราะห์สาเหตุ สภาพและขอบเขตของปัญหาหรือไมส่ ามารถแกป้ ัญหาโดย ลาพงั - เมอ่ื มีเหตุการณ์ทต่ี อ้ งตดั สนิ ใจโดยกลุ่ม - เมื่อตอ้ งการการสนับสนุน หรือต้องการความรว่ มมือจากหลายฝ่าย - เมอ่ื ต้องการหารอื เพือ่ กาหนดเป้าหมายรว่ มกัน - เมอ่ื ตอ้ งการช้ีแจงและให้ข้อแนะนาการปฏบิ ัตทิ เ่ี ปน็ มาตรฐานเดยี วกัน - เมอ่ื ต้องการการประนีประนอมข้อพิพาทหรอื ความขดั แยง้ - เมอ่ื ต้องการให้เห็นความสาคญั ของผูท้ ไ่ี ด้รับเชญิ มาเข้าประชุม - เมื่อต้องการช้แี จงนโยบายหรอื ใหเ้ หตุผลในการตัดสนิ ใจ - เมือ่ ตอ้ งการทบทวนสง่ิ ท่ีมีมตไิ ปแล้ว - เมื่อตอ้ งการจัดการฝึกอบรมหรอื จดั กจิ กรรมใด ๆ

14 การตัดสนิ ใจเลือกผู้เข้าประชุม - เป็นผู้ซึ่งจะใหป้ ระโยชนแ์ ก่ท่ีประชมุ ในดา้ นความคดิ เห็นท่ีสาคญั ตามวตั ถุประสงค์ของการประชุม - เป็นผมู้ ขี ้อมูลและรอบรู้ในสงิ่ ทีจ่ ะเป็นประโยชนต์ ่อการประชมุ - เปน็ ผู้ที่มสี ่วนได้เสยี เกยี่ วขอ้ งกับเร่อื งที่ประชมุ - เปน็ ผอู้ ยูใ่ นฐานะต้องใหก้ ารรบั รองมตหิ รอื ผลของการประชมุ - เปน็ ผู้ที่ตอ้ งมีส่วนรับผดิ ชอบในเรือ่ งทีป่ ระชมุ - เปน็ ผู้มอี านาจตัดสนิ ใจหรืออนุมัตใิ หม้ ีการดาเนินการไดต้ ามมตขิ องท่ปี ระชมุ - เป็นผ้ทู ่จี าเปน็ ตอ้ งรสู้ าระทีน่ าเสนอในทปี่ ระชมุ จานวนผู้เขา้ ประชมุ ทเี่ หมาะสม - การประชมุ เพอื่ การตัดสินใจควรมจี านวนประมาณ 5 คน - การประชุมเพื่อการแก้ปญั หา ควรมีจานวนประมาณ 7 คน - การประชมุ คณะกรรมการเฉพาะกจิ ควรมจี านวนประมาณ 7 คน - การประชมุ เพอื่ การบริหาร ควรมจี านวนประมาณ 10 - 15 คน - การประชมุ เพอื่ ฝกึ อบรม ควรมีจานวนประมาณ 20 - 25 คน - การประชมุ ชี้แจง ควรมีจานวนประมาณไมเ่ กิน 30 คน - การประชุมเพ่อื แจ้งข่าวสารตา่ ง ๆ มจี านวนเทา่ ใดกไ็ ดต้ ามจานวนของผูท้ ี่จาเป็นตอ้ ง รายงานการประชมุ รายงานการประชมุ คือ ขอ้ ความบนั ทึกความคดิ เห็นของผู้มาประชุม ผู้เข้าร่วมประชุมโดยระบุ มติของที่ประชุม เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานอ้างอิง เพ่ือยืนยันการปฏิบัติงาน เพื่อแสดงกิจการท่ีดาเนินการมาแล้ว และเพอื่ แจ้งผลการประชมุ ให้บคุ คลทเ่ี กยี่ วข้องไดท้ ราบและปฏบิ ัติตอ่ ไป

14 ตัวอยา่ งรายงานการประชุม รายงานการประชมุ คณะกรรมการบริษัทสรา้ งการดี สหกรณ์นักเรยี นโรงเรียนบา้ นปวงคา(ประชาอุทศิ ) คร้ังที่ 4/2553 ปีการศกึ ษา 2553 วันท่ี 30 เดือน พฤศจกิ ายน พ.ศ.258 ณ ห้องประชมุ สหกรณ์นักเรยี น ผู้เขา้ ประชมุ ที่ ช่อื -สกลุ ตาแหน่ง ลายมอื 1 เดก็ หญิงชนกชนต์ ปันกนั ทะ ประธาน 2 เด็กหญิงดวงหทยั เงินมลู รองประทาน 3 เดก็ หญงิ สลนิ ดา ฤทธิ์วาปี เหรัญญิก 4 เด็กหญิงสฑุ ารัตน์ เหง้าพรหมมินทร์ เลขานุการ 5 เด็กหญงิ วรรณศริ ิ พกั สี กรรมการ 6 เด็กหญิงพัชรา สอรกั ษา กรรมการ 7 เดก็ หญงิ วรทา โซะ๊ บารุง กรรมการ 8 เดก็ หญิงศิริอาไพ วงศ์สรรณ์ กรรมการ 9 เด็กหญงิ วรญั ญา พรมโท กรรมการ 10 เด็กหญิงเวฬวุ รรณ ชวนละคร กรรมการ 11 เด็กหญิงเขจนี สั เรอื งแสง กรรมการ 12 เด็กหญิงบลสดุ า ฤทธว์ิ าปี กรรมการ

ผไู้ ม่เขา้ ประชมุ ชือ่ -สกุล ตาแหนง่ 14 ที่ ลายมือ ไม่มี ผเู้ ข้ารว่ มประชุม ตาแหน่ง ลายมอื ที่ ชือ่ -สกุล ครู ครู 1 นางสาวอัญชลี นะวัน ครู 2 นางศิลาทิพย์ คาใจ 3 นางสาววรญั ชญา เชียงแกว้ เริ่มประชุมเวลา 15.20 น. เมือ่ คณะกรรมการมาครบองค์ประชมุ แล้ว เดก็ หญิงชตุ ิกาญจน์ แก่นจนั ทร์ ประธานกรรมการทาหน้าท่ี ประธานในทป่ี ระชุม กลา่ วเปดิ ประชมุ และดาเนินการประชุมตามระเบยี บวาระต่างๆ ดังนี้ ระเบยี บวาระที่ 1 เร่อื งประธานแจง้ ให้ทราบ 1.1 การรับรางวัล 1.2 โรงเรยี นได้เปน็ ตัวแทนของเขตพืน้ ทก่ี ารศกึ ษาเข้าแข่งขนั ทักษะวชิ าการระดับภาคในวันท่ี27- 29 ธันวาคม 3 รายการ มติ ทปี่ ระชมุ รบั ทราบ ระเบยี บวาระท่ี 2 เรอื่ งรับรองรายงานการประชุมครงั้ ท่ีแลว้

14 ประธานในทป่ี ระชมุ ได้มอบหมายให้ เด็กหญิงสฑุ ารัตน์ เหง้าพรหมมนิ ทร์ ตาแหน่งเลขานุการ อา่ นรายงานการประชมุ ครง้ั ท่ี 3 / 2558 วนั ท่ี 9 กันยายน ใหท้ ่ีประชุมฟงั โดยละเอียด เพ่ือให้ทป่ี ระชุม พจิ ารณารับรอง มติ เม่ือไม่มีผู้ใดแก้ไขรายงานการประชุม จึงพิจารณารับรองรายงานการประชุมครง้ั ที่แลว้ ระเบยี บวาระที่ 3 เรื่องเพื่อทราบ สหกรณ์นักเรยี นโรงเรยี นบ้านปวงคา(ประชาอุทิศ) รายรับ - รายจา่ ย ประจาเดอื น พฤศจิกายน 2559 รายรบั จานวนเงนิ รายจา่ ย จานวนเงิน สนิ คา้ ท่วั ไป 6,797 ซ้ือสนิ คา้ ท่วั ไป 4,359 ขายสนิ ค้าอาหารกลางวนั - รวมรับ 6,797 รวมจ่าย 4,359 เงินคงเหลอื ยกมา 14,890 เงนิ คงเหลอื ยกไป 17,328 รวม 21,687 รวม 21,687 มติ ท่ีประชุมรับทราบ ระเบียบวาระที่ 4 เรือ่ งเพือ่ พจิ ารณา 4.1 การซ้อื สินคา้ มาจาหน่าย เม่ือกรรมสารวจสินค้าที่สมาชกิ ตอ้ งการแล้ว กรรมการเราจะ ไปซ้อื เองหรือจะฝากคุณครูซ้ือมาให้ เด็กหญงิ วรทา โซะ๊ บารุงเสนอให้ฝากคณุ ครซู ้อื มตทิ ป่ี ระชุมเป็นเอกฉนั ท์ 4.2 การเลอื กตวั แทนกจิ กรรมสหกรณ์เป็นกรรมการกลมุ่ ยุวเกษตรกรของโรงเรียน ท่ีประชุม เสนอให้เด็กหญิงชุตกิ าญจน์ แก่นจันทร์ เด็กหญิงสินนี ารท ประทมุ

14 เด็กหญิงศริ ยิ ากร ฤทธิ์วาปี เด็กหญิงสฑุ ารตั น์ เหง้าพรหมมินทร์ เปน็ ตัวแทนของกิจกรรมสหกรณเ์ พอื่ นาเสนอ ใน การประเมินกลุ่มยวุ เกษตรกร มติทป่ี ระชมุ เป็นเอกฉนั ท์ ระเบียบวาระที่ 5 เร่ืองอื่นๆ ไมม่ ี เม่อื ไมม่ ีกรรมการเสนอความคดิ เหน็ อ่นื ๆ อกี ประธานในที่ประชุม จงึ กลา่ วปิดประชุม เลิกประชุมเวลา 16.10 น. (ลงชอื่ ) ............................. ประธานทป่ี ระชุม (เด็กหญิงชนกชนต์ ปนั กันทะ) (ลงช่อื ) ............................. เลขานกุ ารผูจ้ ดบันทกึ (เดก็ หญงิ สุฑารตั น์ เหง้าพรหมมินทร์) (ลงชอื่ ) ............................. ผตู้ รวจบญั ชี (เด็กหญงิ ดวงหทัย เงนิ มูล)

14 สว่ นประกอบของรายงานการประชุม 1. รายงานการประชุมของใคร ใหล้ งชอ่ื คณะท่ปี ระชุมหรือชื่อการประชมุ นนั้ 2. ครั้งท่ี ให้ลงคร้ังท่ีประชุมว่า เป็นการประชุมคร้ังที่เท่าใดของปีน้ัน เรียงลาดับไปตามปี ปฏทิ ินและทบั ( / ) ดว้ ยปีพทุ ธศกั ราช เม่ือขน้ึ ปใี หมใ่ หเ้ ริ่มต้นนับ 1 ใหม่ 3. วัน เดือน ปี ใหล้ งวันเดือนปีท่ีประชมุ อาจข้นึ ต้นดว้ ยคาว่า เมอ่ื 4. สถานทปี่ ระชุม ใหร้ ะบุสถานทีท่ ีใ่ ช้ดาเนนิ การประชมุ 5. ผมู้ าประชมุ ให้ลงชือ่ หรือตาแหนง่ ของผู้ทีไ่ ดร้ บั แต่งต้ังเป็นคณะทป่ี ระชุมและไดม้ าประชมุ หากมีผ้มู าประชมุ แทน ให้ลงชอ่ื ผมู้ าประชุมแทนพร้อมทง้ั ระบวุ า่ แทนผ้ใู ดหรือตาแหน่งใด 6. ผู้ไมม่ าประชมุ ให้ลงช่อื หรือตาแหน่งของผู้ทไ่ี ด้รับแตง่ ตั้งเปน็ คณะทีป่ ระชมุ ซึง่ ไม่ได้มาประชุม พร้อมท้งั ระบเุ หตผุ ล (ถ้ามี) ท้ังน้ี การระบุเหตผุ ลนยิ มใช้วา่ ลาป่วย ลากจิ หรอื ตดิ ราชการ 7. ผู้เขา้ รว่ มประชุม ใหล้ งชื่อและตาแหนง่ ของผทู้ ่ีไม่ไดร้ บั การแตง่ ตัง้ เปน็ คณะทปี่ ระชุมแต่ ได้ เข้ารว่ มประชุม 8. เร่ิมประชมุ เวลา ใหล้ งเวลาทีเ่ ร่มิ ประชมุ ตามเวลาจรงิ ไมใ่ ชเ่ วลานดั ประชุมเพราะการ ประชมุ อาจลา่ ชา้ กวา่ กาหนด 9. ข้อความ การจดรายงานการประชุมมี 3 วิธี คอื 1) จดละเอียดทกุ คาพดู พรอ้ มทง้ั มติ 2) จดยอ่ คาพูดท่ีเปน็ ประเดน็ สาคญั พรอ้ มทง้ั มติ 3) จดเฉพาะเหตุผลและมตขิ องทีป่ ระชมุ ระเบยี บงานสารบรรณ สานกั นายกรฐั มนตรี แบง่ ระเบียบวาระการประชมุ เปน็ 5 วาระ ดังนี้ 1) เรอ่ื งท่ปี ระธานแจ้งใหท้ ่ีประชมุ ทราบ 2) การรับรองรายงานการประชมุ 3) เรื่องทีเ่ สนอให้ทีป่ ระชุมทราบ

14 4) เร่อื งท่ีเสนอให้ทป่ี ระชมุ พิจารณา 5) เร่ืองอื่น ๆ (ถ้ามี) 10. เลิกประชมุ เวลา ใหล้ งเวลาเลิกประชุมตามเวลาจริง 11. ผู้จดรายงานการประชุม ใหล้ งช่อื ผู้จดรายงานการประชมุ

14 เกมประกอบสาระการเรียนรู้ 1. ชอ่ื เกม รวมดาวจรัสแสง วัตถปุ ระสงค์ เพอื่ ให้ทุกคนในกลุม่ รูจ้ กั การทางานรว่ มกัน อปุ กรณ์ - กตกิ า แบ่งกลุม่ ผู้เล่นเปน็ 4 – 5 กล่มุ ให้แต่ละกลุ่มนั่งเป็นแถวแฉกเป็นรูปดาว หวั หน้ากลุ่มนั่งหัน หน้า เข้าหากันตรงกลาง ให้ผู้เล่น 1 คน เดินรอบวงทางดา้ นนอกรัศมีไปเรือ่ ย ๆ คนผรู้ ว่ มเลน่ อาจร้องเพลงตบ มือให้ จังหวะไปดว้ ย ให้ผู้เล่นแตะคนทอ่ี ยู่ข้างหลงั สุดแลว้ ว่ิงไปข้างหน้า (ตามเข็มนาฬิกา) เพื่อให้รอบวงแล้วรีบ มานัง่ ลงแถวผูท้ ถี่ ูกแตะหลงั ลุกขึ้นทง้ั แถวแล้วว่ิงย้อนกลบั (ทวนเขม็ นาฬิกา) แขง่ ขนั กนั เพื่อกลบั ไปน่งั ตรงแถว เดมิ คนไหนไปถงึ คนสุดทา้ ยตอ้ งเปน็ ผูเ้ ล่นคนถดั ไป สรุปการเรียนรู้ คนเราต่างดน้ิ รนเพอื่ ให้ตวั เองอยู่รอดในสงั คมปัจจุบัน การอยรู่ ว่ มกนั จงึ ตอ้ งมีการ ประสานงานกันรว่ มมือกนั 2. ช่ือเกม แมน่ า้ จระเข้ วัตถปุ ระสงค์ ให้ผูเ้ ข้าอบรมไดใ้ ช้ความคดิ ร่วมกนั อปุ กรณ์ - กติกา เลา่ เรื่องหญิงสาวมาทางานคนละฝั่งแม่นา้ กบั บา้ น ไดร้ ับโทรศัพท์จากทางบ้านว่าสามีเมาเหล้าตก น้าต้องพาไปโรงพยาบาลด่วน หญิงสาวจึงรีบเดินทางมาถึงริมฝ่ังปรากฏว่าไม่มีเรือรับจ้างข้ามฝั่งเลยจึงว่ิงไปขอ ความ ช่วยเหลือคนแถวน้ันพบชายซึ่งเคยเป็นแฟนเก่าจึงขอให้ช่วยพายเรือข้ามฝั่ง อดีตแฟนโกรธท่ีเคยโดนหักอก จึงขอให้หญงิ สาวมคี วามสมั พนั ธ์กับตนเองก่อนจงึ จะพาไปส่ง ดว้ ยความเป็นห่วงสามีหญิงสาวจึงยอม เมื่อได้ข้ามฝ่ัง ได้พาสามีไปโรงพยาบาล หมอช่วยรักษาจนหาย สามีซึ่งหายเมาแล้วถามภรรยาว่ามาช่วยได้อย่างไร ภรรยาเล่าให้ ฟังสามีโกรธภรรยามากถึงกับบอกเลิกโดยต้องไปหย่ากันท่ีอาเภอในวันพรุ่งน้ี ถามว่าเร่ืองน้ีใครผิดมากท่ีสุด ด้วย เหตุผลใด สรุปการเรียนรู้ ความคิดคนไม่เหมือนกัน การอยู่รวมกันจึงอยู่ท่ามกลางความแตกต่างทาง ความคดิ จึงตอ้ งมกี ติกาการอยู่รว่ มกนั

14 3. ชอื่ เกม คอนเสริตร์ วมพลงั วตั ถปุ ระสงค์ เพ่อื เรียนร้กู ารทางานรว่ มกัน อุปกรณ์ เนื้อเพลง 1 เพลง กตกิ า พิมพ์เนื้อเพลงใสก่ ระดาษแล้วตัดออกเป็นท่อน ๆ เท่ากับกลุ่มที่แบ่งแล้วแจกเนื้อเพลงให้ ตามกล่มุ ให้แตล่ ะกลมุ่ ร้องเพลงทีละกลุ่ม เช่ือมโยงเป็นเนื้อเดยี วกัน โดยทาทา่ ทางประกอบการรอ้ งด้วย สรปุ การเรยี นรู้ การทางานรว่ มกันต้องสอดคลอ้ งกันในกลุ่มและระหวา่ งกล่มุ งานจึงจะสาเรจ็ 4. ชอ่ื เกม โอกาสทอง วตั ถปุ ระสงค์ เรยี นรู้ได้หลายทาง และการเรียนร้รู ว่ มกัน อุปกรณ์ เชือกปอ 1 เส้นผกู สิง่ ของ (อะไรกไ็ ดท้ ีม่ ีน้าหนักเบา จานวน 20 ช้นิ ) กตกิ า ผู้เลน่ เกมอธิบายว่าทุกคนมีเทา่ กนั คือ 24 ชั่วโมง แตค่ นใชเ้ วลาให้เกดิ ประโยชนไ์ มเ่ ทา่ กัน ขณะ อธิบายใหน้ าสิง่ ของท่ผี ูกเชือกเดนิ โชว์ 1 รอบ เมือ่ อธบิ ายเรื่องเวลาจบใหแ้ ตล่ ะคนเขียนว่ามสี ่ิงของใดบา้ ง เมอ่ื แต่ ละคนเขยี นแลว้ ใหร้ วมกลุ่มกันแล้วเขยี นสง่ิ ของในนามกลุม่ สรปุ การเรยี นรู้ ใช้การเรยี นรู้ทงั้ ตา หู จะเรยี นรู้ได้มากว่าคนทฟี่ ังอยา่ งเดยี ว และการรวมกลมุ่ ทาให้เรยี นรู้ได้ เพ่ิมขึ้น 5. ชื่อเกม น้ากน้ แก้ว วัตถปุ ระสงค์ ตอ้ งการให้เห็นความสาคญั ของการประหยดั ทรัพยากร อุปกรณ์ แก้วน้า 2 ใบ.ใสน่ า้ เทา่ กัน กติกา แบ่งกลุ่มผู้เล่นออกเป็น 2 กลุ่มเท่า ๆ กัน ให้ผู้เล่นท้ัง 2 กลุ่ม นั่งสลับกันเป็นวงกลม แล้วส่ง แก้วน้าจากหัวแถวของแต่ละกลุ่มไปยังผู้เล่นฝ่ายตน โดยส่งไปคนละทางกัน ระหว่าง 2 กลุ่ม หยุดเม่ือครบรอบ กลุ่มไหนครบรอบกอ่ นและนา้ เหลือมากกว่าชนะ สรุปการเรยี นรู้ การทางานทีด่ ีตอ้ งได้ผลงานเร็วค่าใชจ้ า่ ยนอ้ ย

14 6. ชือ่ เกม ไม้จิ้มฟันประสานใจ วตั ถุประสงค์ เพอ่ื ใหเ้ รยี นรกู้ ารส่งงานใหก้ ัน อปุ กรณ์ ไมจ้ ้มิ ฟนั เทา่ จานวนผ้เู ล่นและยางวงกลุ่มละ 30 วง กตกิ า แบ่งผู้เลน่ ออกเป็นกลุม่ ตามความเหมาะสมให้ผู้เล่นเข้าแถวตอน แล้วแจกไม้จิ้มฟันให้คนละ อัน แล้วให้ผู้เล่นคาบไม้จิ้มฟันไว้ในปาก ให้ปลายโผล่ออกมา เม่ือเริ่มเล่นให้คนแรกใช้ไม้จิ้มฟันเสียบยางมาส่ง คนที่ สอง คนท่ีสองส่งให้คนท่ีสาม จนถึงคนสุดท้ายนายางไปใส่ในภาชนะที่จัดไว้ ระหว่างเล่นห้ามใช้มือหากยาง หล่นห้ามเกบ็ เมื่อหมดเวลากลุ่มไหนได้ยางในภาชนะมากท่ีสุดถือวา่ ชนะ สรุปการเรยี นรู้ ความสามัคคใี นการสง่ มอบงานกนั 6. ชอ่ื เกม นักกฬี าเหรียญทอง วตั ถปุ ระสงค์ เพ่ือสรา้ งความสามัคคีภายในกลุม่ และการร่วมมอื กนั อปุ กรณ์ - กตกิ า แบง่ ผูเ้ ล่นออกเปน็ กลุ่ม ๆ อยา่ งน้อย 3 – 4 กลมุ่ แลว้ จานวนผู้เลน่ แต่ละกลมุ่ อยา่ งน้อยควร ไม่ต่ากว่ากลุ่มละ 5 คนให้ผู้เล่นแต่ละกลุ่มเลือกชนิดกีฬาท่ีกลุ่มของตนเองชอบเพียงอย่างเดียวเช่น ฟุตบอล ตะกร้อ เปตอง ให้แต่ละกลุ่มทาท่าทางพร้อมเสียงตามชนิดกีฬาของกลุ่มท่ีตนเลือกไว้ โดยทา 2 คร้ัง อีก 1 ครั้ง ให้ทาทา่ กฬี าของกลมุ่ อน่ื พร้อมช้ีไปกลุ่มนั้น กลุ่มใดถูกช้ี จะเล่นต่อเกมไปเร่ือย ๆ กลุ่มใดไม่พร้อมเพรียงถือ ว่าแพ้ สรุปการเรียนรู้ เรยี นร้กู ารวางแผนร่วมกนั การตดั สินใจของกลุ่มและความสามัคคีภายในกลุ่ม 7. ชือ่ เกม หนีน้า วตั ถปุ ระสงค์ สร้างความคนุ้ เคย ใกลช้ ิดกันมากขน้ึ อปุ กรณ์ กระดาษโปสเตอรแ์ ข็ง กตกิ า แบ่งเป็นกลุ่มจานวนเท่ากัน สมมติให้กระดาษเป็นเกาะและกาลังมีน้าท่วม รอบท่ี 1 ให้คนใน กลุ่มยืนบนกระดาษท่จี ัดใหห้ า้ มให้เท้าใครเหยียบพ้ืน รอบท่ี 2 พบั ครึ่งกระดาษแล้วให้ทาเหมือนเดิม รอบที่ 3 พับ ครึ่ง กระดาษจากรอบ 2 แล้วทาเหมอื นเดมิ กล่มุ ไหนทาไดช้ นะ สรุปการเรยี นรู้ ในสถานการณ์คับขนั ทุกคนตา่ งตอ้ งช่วยกนั เพอื่ ให้รอดปลอดภยั

14 8. ช่ือเกม คาสง่ั วตั ถุประสงค์ ฝึกใหม้ คี วามรอบคอบในการฟงั คาสง่ั อุปกรณ์ แบบทดสอบ กติกา แบ่งเป็นกลุ่ม อธิบายว่ามีเวลาเพียง 3 นาที ในการทาแบบทดสอบกลุ่มไหนทาได้มากที่สุด ชนะแล้วแจกแบบทดสอบโดยให้คว่ากระดาษ เม่ือสั่งให้ทาจึงเปิดกระดาษได้แบบทดสอบความสามารถในการ ปฏิบตั ติ ามคาส่ัง (ให้เวลาปฏบิ ัตไิ ม่เกิน 3 นาท)ี คาส่ัง จงอา่ นคาสง่ั ทุกข้อ ตามลาดบั ใหจ้ บกอ่ นลงมอื ทา 1. การเขยี นขอ้ ความใด ๆ ในกระดาษน้ใี ห้ใชแ้ ต่ ปากกา เทา่ นนั้ 2. เขียนชือ่ ของเพ่ือนท่มี ุมขวามือด้านบนของกระดาษแผน่ น้ี 3. เขยี นวงกลมรอบ “ชื่อเพ่ือน” ในข้อ 2. 4. วาดรูปสเ่ี หล่ยี มจัตุรัสขนาดเล็ก 5 รปู ท่ีมมุ ซ้ายดา้ นบนของกระดาษแผ่นนี้ 5. เขยี นเคร่อื งหมายกากบาดลงในรูปส่ีเหลีย่ มทกุ รปู ทว่ี าดตามข้อ 4. 6. เขยี นวงกลมลอ้ มรูปสเี่ หลย่ี มจตั รุ ัสแตล่ ะรูปท่ีวาดตามข้อ 4. 7. เขยี นชอ่ื ของเพอ่ื นอีกคนท่ีมุมขวาด้านลา่ งของกระดาษแผ่น้ี 8. ขดี เส้นกรอบสี่เหลยี่ มผืนผา้ รอบชื่อเพื่อน 9. ขดี เสน้ ใต้คาส่ังขอ้ ท่ี 7. 10. เขียนเครอ่ื งหมาย กาชาด ท่มี ุมซ้ายดา้ นลา่ งของกระดาษแผน่ น้ี 11. เขยี นวงกลมรอบเครื่องหมาย กาชาด 12. จงแสดงวิธีคูณ 70 กับ 30 บนหนา้ หลังของกระดาษแผน่ น้ี 13. ขีดเส้นใต้คาว่ากระดาษทม่ี ีอยู่ทกุ คาในกระดาษแผน่ น้ี (ขอ้ 1,2,4,7,10,12,13) 14. โปรดชมู อื ข้นึ ทกุ คนเม่ือทาถึงขอ้ นี้

14 15 . บว ก 1 07 กับ 70 1 ในใ จ และ เขียน คาต อบไ ว้ตร งน้ี ตอ บ ..................................... 16. เขียนเครือ่ งหมาย / หลงั ขอ้ 15. ถ้าท่านตอบวา่ 808 17. เขียนรูปดาว 3 ดวง หน้าคาส่ังทุกข้อ 18. เขียนวงกลมรอบตวั เลขหน้าข้อความทุกข้อทีเ่ ปน็ เลขคู่ 19. ทาตามคาสั่งขอ้ ท่ี 2 และ 3 เท่าน้ัน โดยไมต่ อ้ งทาข้ออืน่ เลยเมือ่ ท่านอ่านถงึ ขอ้ นี้ 20. โปรดน่งั พักให้สบายหลังจากที่ท่านอ่านคาส่งั ครบทกุ ขอ้ แล้ว ขอบคณุ ท่ีปฏบิ ัตติ าม สรปุ การเรยี นรู้ ตอ้ งปฏิบัตติ ามคาสั่งจึงจะทางานถกู ตอ้ ง 9. ช่อื เกม ปากระดาษ วัตถุประสงค์ เพ่ือเรยี นรธู้ รรมชาตขิ องคนในเรอ่ื งความรับผิดชอบ อปุ กรณ์ กระดาษขนาด เอ 4 จานวน 3 - 5 แผน่ กตกิ า เขียนกิจกรรม(ร้องเพลง ร้องไห้ ราวง หัวเราะ ฯ) ลงในกระดาษแล้วขยุ้มเป็นก้อนจากนั้นโยน ไปใน กลุ่มแล้วนับ 1 – 10 เมื่อครบ 10 ให้หยุดโยนกระดาษ กระดาษอยู่ใกล้ใครที่สุดคนนั้นต้องออกมาทา กิจกรรม สรุปการเรยี นรู้ การปัดความรบั ผดิ ชอบ การเกีย่ งกนั เป็นอุปสรรคในการปฏิบัตงิ าน 10. ชอื่ เกม ต่อความยาว วัตถุประสงค์ เพ่ือเรยี นรู้ความความสามคั คี และความเสยี สละ อุปกรณ์ ทรัพยส์ นิ ตดิ ตวั ของทกุ คน กติกา แบ่งกลุ่มเท่า ๆ กัน ให้สมาชิกแต่ละกลุ่มยืนเป็นแถวตามความยาวของห้องแล้วให้ใช้ร่างกาย หรอื ทรพั ยส์ ิน ส่ิงของ ต่อโดยไม่ขาดจากกนั กลุม่ ไหนยาวทสี่ ุดชนะ สรุปการเรียนรู้ การเสียสละ ความสามคั คีกนั ทาให้การทางานร่วมกันสาเร็จ

14 11. ชอ่ื เกม บทบาทหน้าท่ี วัตถปุ ระสงค์ เรียนรกู้ ารทางานตามบทบาทหน้าทที่ ไี่ ด้รบั มอบหมาย อปุ กรณ์ หนงั สอื ยางลบ ปากกา กติกา แจกอุปกรณ์ให้นักเรียนแล้วให้ใช้งานตรงกันข้าม คือ อ่านหนังสือกลับหัว ใช้ปากกา ลบคาผดิ ใช้ ยางลบเขียนหนงั สอื สรปุ การเรยี นรู้ ส่ิงของ บุคคล อุปกรณ์ ต้องมีไว้เพ่ือใช้ประโยชน์ตามบทบาทหน้าท่ี หากไม่ใช้ตาม บทบาทจะไม่ มีประโยชน์ บุคคลตาแหน่งต่าง ๆ ในสหกรณ์เช่นเดียวกันเมื่อมีตาแหน่งต้องปฏิบัติงานตามหน้าท่ี ไมเ่ ชน่ นน้ั ก็ไม่ มีประโยชน์อะไร 12. ชอื่ เกม สร้างตกึ วัตถุประสงค์ การทางานร่วมกันตอ้ งมเี ป้าหมาย อุปกรณ์ หลอดกาแฟ และเขม็ หมุด กตกิ า แจกหลอดกาแฟและเข็มหมุดให้กลุ่มละเท่า ๆ กัน ให้แต่ละกลุ่มสร้างตึกด้วยหลอด กาแฟให้สูง ท่ีสุด คะแนนให้ 1 คะแนนต่อความสูง 1 นิ้ว โดยตึกต้องแข็งแรง ภายใน 5 นาที เม่ือสร้าง เสรจ็ ใหก้ ลุ่มอ่นื มา เป่าดว้ ยปาก หากล้มจะไม่ไดค้ ะแนน หากไมล่ ม้ ให้คะแนนตามความสูง สรุปการเรียนรู้ ความม่นั คง ความสามัคคี การทางานรว่ มกนั ต้องมีเป้าหมาย 13. ช่อื เกม นักประชาสมั พนั ธ์ วัตถุประสงค์ ยดึ การเสนอสินค้า อปุ กรณ์ สงิ่ ของทม่ี ตี ดิ ตัว กตกิ า ให้แต่ละคนอธิบายสรรพคุณของสิ่งของท่ีมีติดตัว 1 ช้ิน ว่าดีอย่างไร และเสนอขายใน ราคา เทา่ ใด เมอ่ื ครบทุกคนแลว้ ใหผ้ ู้นาหรอื ให้ทกุ คนลงมติวา่ จะซ้ือของใครด้วยเหตุผลใด สรปุ การเรยี นรู้ การมองถึงประโยชน์ของส่งิ ตา่ ง ๆ จะทาให้มีคุณคา่ ในส่ิงนน้ั ๆ

14 14. ชอ่ื เกม นับสหกรณ์ วตั ถปุ ระสงค์ เพื่อให้นักเรียนคุ้นเคยกับคาว่า “ สหกรณ์ ” และวัดความรู้เร่ืองสหกรณ์ของนักเรียน ก่อนสอนเป็นเกมนาเข้าสู่บทเรียน โดยครูบอกนักเรียนในชั้นให้น่ังเป็นวงกลมและช่ัวโมงนี้นักเรียนจะเรียนเร่ือง สหกรณ์ แตก่ ่อนอ่นื ขอใหน้ ักเรียนนับเรียงตวั กันไป 1 2 3 4 5 6 ...... ตามแตค่ รจู ะชีใ้ ห้ กตกิ า 1. ขานนบั มาถึงนักเรยี นคนใด หากเปน็ เลข 5 , 10 , 15 , 20....ใหน้ ักเรียนชมู ือแล้วพดู คาว่า “ สหกรณ์ ” นักเรียนคนถัดไปจึงนับเลขต่อ ตัวอย่างคือ 1 , 2 , 3 , 4 สหกรณ์ 6 , 7 , 8 , 9 สหกรณ์ 11 , 12 , 13 , 14 สหกรณ.์ .... 2. การนับต้องรวดเรว็ โดยในคร้ังแรกครูอาจใหน้ กั เรียนทดลองนบั กอ่ น วธิ เี ล่น ให้นกั เรยี นนบั เรยี งกันไปเรื่อย ๆ ใครผดิ ออกมาหนา้ ช้ัน แล้วเริ่มนับ 1 ใหม่ตามแต่ครูจะแตะ ตัวนักเรียนคนใด โดยนับเรียงไปทางขวามือเม่ือได้นักเรียนที่นับผิดประมาณ 5 คน ให้นักเรียนเขียนคาว่า สหกรณ์บนกระดานดาและอธิบายความหมายให้เพอื่ น ๆ ฟงั ทลี ะคน จบแล้วให้เพอื่ นนกั เรยี นลงมติกันว่านักเรียน คนใดเขียนสวยที่สดุ นักเรยี นคนใดอธิบายความหมายคาวา่ สหกรณไ์ ดด้ ีทสี่ ุด แลว้ ปรมมอื ชมเชย 15. ชอ่ื เกม อมุ้ เจา้ อว้ น วัตถปุ ระสงค์ ให้นักเรียนรู้ว่าการร่วมกันทางาน ดีกว่าต่างคนต่างทา และมีงานหลายอย่างท่ีทาโดย ลาพังไม่ได้ อุปกรณ์ เก้าอ้ี กตกิ า 1. ครขู อให้นักเรียนท่ีอ้วนท่ีสุดออกมาน่งั เก้าอี้หน้าชน้ั 2. ครูขออาสาสมัครออกมา 4 คน ให้แต่ละคนลองอุ้มเจ้าอ้วนพร้อมทั้งเก้าอี้ (จะไม่มีใครอุ้ม ขน้ึ มาได)้ 3. ให้อาสาสมัคร 2 คน ช่วยกันอมุ้ เจ้าอว้ นพรอ้ มเก้าอี้ อ้มุ เคลื่อนท่ีมาไดบ้ ้างแต่ทลุ ักทเุ ล 4. ให้อาสาสมัครทั้ง 4 คน ช่วยกันอุ้มเจ้าอ้วนพร้อมเก้าอี้ โดยให้จับมุมขาเก้าอี้คนละมุมจะ อ้มุ เจา้ อ้วนเคลื่อนไป – มาได้โดยงา่ ย สรุปการเรยี นรู้ การรวมกนั ทางานทาใหเ้ กิดพลงั โดยใหข้ ้อคดิ นักเรียนวา่ งานหนกั ทาให้เป็นงานเบา งานยากทาให้เปน็ งานง่าย

14 งานช้าทาใหเ้ ป็นงานเร็ว งานนา่ เบ่ือทาให้เปน็ สนกุ งานบางงานทาคนเดียวอาจไม่เสร็จ แต่ถา้ รวมกันกระทาจะมีแรงมากจะทาใหง้ านนัน้ สาเร็จได้ง่าย เพราะแตล่ ะคนเอาแรงเอาพลงั งานของตนมารวมกนั ซึง่ การรวมกันเปน็ สหกรณ์จาเป็นตอ้ งรวมแรงกายกัน งานอะไรบ้างทนี่ ักเรียนจะรวมกนั ทาได้ในโรงเรยี น เมอ่ื โตข้นึ จะรวมกนั ทาอะไรไดบ้ า้ ง 16. ช่ือเกม ผา้ ขาวม้า / กระปอ๋ งนม วตั ถุประสงค์ ใหน้ กั เรยี นรู้ว่าการรวมกันคิด ดกี วา่ ต่างคนตา่ งคิด อปุ กรณ์ กระปอ๋ งนม หรือผา้ ขาวมา้ กติกา 1. ครูบอกให้นักเรียนทุกคน แข่งขันกันเขียนประโยชน์ของกระป๋องนม หรือผ้าขาวม้าให้ ไดม้ ากท่สี ดุ ในเวลา 2 นาที นักเรียนคนใดเขยี นได้มากท่ีสุดชนะ 2. แบ่งนักเรยี นออกเป็นกลุ่มยอ่ ย กลุ่มละ 6 – 8 คนให้เลือกประธาน 1 คน เลขานุการ 1 คน จาก น้นั ครูบอกให้แต่ละกล่มุ ชว่ ยกันคิด และแขง่ ขนั กนั บอกประโยชนข์ องผา้ ขาวมา้ หรือกระป๋องนม ใน เวลา 2 นาที โดยเลขานุการทาหน้าท่จี ดกลุ่มใดได้มากท่ีสุดเปน็ กลมุ่ ผู้ชนะ สรุปการเรียนรู้ การทางานท่ีต่างคนตา่ งคดิ ต่างคนตา่ งเขยี น จึงบอกประโยชนไ์ ด้น้อยกวา่ รวมกล่มุ กัน คดิ ตา ขอ้ คิดดังน้ี คดิ โดยลาพังบอกประโยชนไ์ ด้นอ้ ย แต่ถา้ รวมกนั คดิ จะทาใหเ้ กิดแง่มมุ ในการคดิ กว้างขวาง เพราะแตล่ ะคนเอาสิง่ ทีต่ นเองเรยี นรู้มาแสดงความคิดเหน็ ร่วมกัน มอี ะไรบา้ งทนี่ กั เรยี นจะรว่ มกนั คิด เมอื่ โตขึน้ จะรว่ มกันคิดอะไรไดบ้ ้าง การรวมเปน็ สหกรณ์ จาเป็นต้องรว่ มกันคิด


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook