เอกสารรายงานฉบับน้ี จัดทาขึ้นเพ่ือรายงานผลการปฏิบัติงานที่เป็นเลิศ ( Best Practices) นวัตกรรม “ฮักนะ” (HUGNA Model) น้อมนำศำสตร์พระรำชำแก้ปัญหำยำเสพติด และอบำยมุข อย่ำงย่งั ยืน (ใส่ใจ พึ่งได้ ไรอ้ คติ มีวิจารณญาณ สานสัมพนั ธ์ ปันน้าใจ ไม่หวังผล มวลชนช่ืน ศรัทธา ตน ลน้ ความดี) ซ่ึงทางโรงเรียนได้ดาเนินงานตามแนวทางการดาเนนิ งาน โครงการสถานศกึ ษาสขี าว ปลอดยาเสพติด และอบายมุข น้อมนาศาสตร์พระราชาสู่การพฒั นาอยา่ งยั่งยนื ศูนยอ์ านวยการ สง่ เสริมศาสตร์พระราชาในสถานศึกษา และเกณฑ์ประเมนิ สถานศกึ ษาสีขาว ปลอดยาเสพตดิ และ อบายมขุ ของกลุ่มนโยบายพิเศษ สานักงานกิจการพเิ ศษ ศนู ยป์ ฏิบตั ิการต่อสู้เพ่ือเอาชนะยาเสพติด ในการดาเนินงานปองกนั ปญั หายาเสพติด โรคเอดส์ อุบัตภิ ัย อบายมขุ และบหุ รี่ในสถานศกึ ษา เพื่อ เป็นประโยชน์ในการพฒั นาทักษะชวี ิตและสร้างภูมิคุ้มกันปัญหาพฤติกรรมที่ไม่พึงประสง ค์ของ นักเรยี นต่อไป เอกสารฉบับนี้สมบูรณ์ลงได้ด้วยความรว่ มมอื ของครูท่ปี รึกษา นักเรยี น และผู้บริหาร รวมถึง บคุ คลากรทุกฝา่ ยในโรงเรียน หากมีขอ้ ผดิ พลาดประการใด ผจู้ ดั ทาต้องขออภัยมา ณ ท่ีน้ีดว้ ย หากมี คาเสนอแนะ ผจู้ ดั ทาจะได้นาไปปรับปรุงในคร้ังต่อ ๆ ไป กลุม่ งานกจิ การนักเรยี น โรงเรยี นศรีกระนวนวทิ ยาคม
บทที่ หน้ำ คานา ก สารบญั ข สภาพปญั หา แนวคดิ และแรงจงู ใจ ๑-๔ แนวทางแก้ปญั หาและพฒั นา ๕-๖ กระบวนการและการพฒั นานวัตกรรม ๗ แนวคดิ สาคัญในการออกแบบนวตั กรรม ๘-๑๓ วิธีการดาเนนิ การใชน้ วตั กรรม ๑๔-๒๖ ผลการดาเนนิ งานหรือผลจากการนานวตั กรรมไปใช้ ๒๗ ตวั ชวี้ ัดความสาเร็จ ๒๘ ประโยชนแ์ ละคณุ คา่ ของนวัตกรรม ๒๘ ปจั จยั ความสาเรจ็ ๒๙ บทเรียนท่ีได้รับ ๓๐ ๓๐ ปญั หาอุปสรรค -ข้อเสนอแนะ ๓๑-๓๒ การเผยแพร่ นวตั กรรม HUGNA ๒ นอ้ มนำศำสตร์พระรำชำแกป้ ัญหำยำเสพตดิ และอบำยมขุ อย่ำงยั่งยืน
นวัตกรรม/กระบวนกำร/วธิ ีปฏบิ ตั งิ ำนท่เี ป็นเลิศ(Best Practice) โครงกำรสถำนศึกษำสขี ำวปลอดยำเสพตดิ และอบำยมุข ชอ่ื ผลงำน : นวตั กรรม “ฮกั นะ” (HUGNA Model) นอ้ มนาศาสตร์พระราชาแก้ปญั หายาเสพติด และอบายมุขอย่างย่งั ยืน ช่ือผู้เสนอผลงำน : โรงเรยี นศรกี ระนวนวิทยาคม ต.หนองโก อ.กระนวน จ.ขอนแก่น สานกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษามัธยมศึกษา เขต ๒๕ กระทรวงศึกษาธกิ าร ผบู้ ริหำร : นายสุรเชษฐ รปู ต่า ผอู้ านวยการโรงเรียนศรกี ระนวนวิทยาคม ๑.๑ สภำพปญั หำ แนวคิด และแรงจงู ใจ พระบรมราโชบายด้านการศึกษาของรชั กาลที่ ๑๐ พระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรรามาธบิ ดี ศรีสนิ ทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกลา้ เจา้ อยู่หัว คือการสืบสานพระราชปณิธานหรือพระราช กระแสรบั สั่งรชั กาลที่ ๙ ในการสร้างคนดี ซึ่งการสรา้ งคนดใี หแ้ ก่บ้านเมืองนนั้ ต้องหาแนวทางสร้างคน ดีกอ่ น แลว้ จึงจะพฒั นาให้เปน็ คนเก่ง ครูต้องมีศรัทธาท่แี รงกล้าเพื่อทาให้เด็กเปน็ คนดี คอื ส่ิงท่ีสอน และอบรมผเู้ รียนใหม้ ีองค์ความรู้มอี ุปนิสัยติดตวั ๕ ด้าน คือ ศลี ธรรม จริยธรรม มารยาท วนิ ยั และ วัฒนธรรม เพอื่ ให้คนไทยเป็นผูม้ ีมารยาท มีวนิ ัย มีความรับผิดชอบในหนา้ ท่ี และเป็นพลเมืองดีของ ชาติโดย นอกจากน้ัน การศึกษาตอ้ งมุ่งสร้างพื้นฐานให้แก่เด็กมีทศั นคติที่ถกู ต้อง มอี ุปนิสัยทม่ี ่ันคง เขม้ แข็ง มีอาชีพและมีงานทา เนน้ การสร้างทศั นคติ (Attitude) ให้เด็กรู้ถกู รู้ผิด ยดึ ม่ันในส่ิงทถี่ ูกต้อง และพบว่าความคาดหวังในเด็กของประเทศไทย คือ ซื่อสัตย์ รับผิดชอบ มนี ้าใจ การอบรมจนเกดิ เป็น นิสยั ประจาชาติ การสร้างเดก็ เพ่อื เปน็ คนในอนาคตของชาตทิ ี่มีการศกึ ษา และสดุ ทา้ ยคือการศึกษา ในภาพรวมทาอย่างไรใหเ้ ยาวชนมีความสนใจและเข้าใจทถ่ี กู ตอ้ งเรอื่ งของสถาบัน ความเปน็ ชาติและ ประวตั ิศาสตร์ ซงึ่ สอดคลอ้ งกับหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง (พระราชดารสั ของพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชไดท้ รงมี พ.ศ.๒๕๑๗) ว่า หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงภายใต้ ศาสตร์พระราชา คอื แนวทางการพัฒนาในทุกๆ ดา้ นอยา่ งยัง่ ยืน โดยเปาหมายสาคญั อยทู่ ี่การพัฒนา ทรัพยากรมนุษย์ และการสรา้ งความเข้มแข็งจากภายใน โดยเร่ิมต้นจากการพ่งึ พาตนเองและรวมตัว กันเป็นกลมุ่ สร้างองค์ความรู้ สร้างการรบั รู้เข้าใจถึงปญั หาทีผ่ า่ นมา ให้มีการเติบโตในทกุ ระดับอยา่ งมี คุณภาพ ซึง่ ได้ถูกนาไปพัฒนาเป็นแผนยุทธศาสตรช์ าติ ๒๐ ปี ( พ.ศ.๒๕๖๐ – ๒๕๗๙ ) ซ่ึงใช้เป็น กรอบแนวทางของ “ยุทธศาสตร์การพฒั นาและเสรมิ สร้างศกั ยภาพคน” เพือ่ พฒั นาคนและสงั คมไทย ใหเ้ ป็นรากฐานที่แข็งแกร่งของประเทศ มคี วามพร้อมทง้ั ทางกาย ใจ สติ ปญั ญา มีความเป็นสากลมี นวตั กรรม HUGNA ๓ น้อมนำศำสตร์พระรำชำแก้ปญั หำยำเสพติด และอบำยมุข อยำ่ งยัง่ ยนื
ทักษะการคิดวเิ คราะห์อย่างมีเหตุผล มีระเบียบวินัย เคารพกฎหมาย มีคุณธรรมจรยิ ธรรม รู้คุณค่า ความเป็นไทย จากแผนยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี ( พ.ศ.๒๕๖๐ – ๒๕๗๙ ) ซึ่งกาหนดวสิ ัยทัศน์ไว้เพื่อให้ ประเทศไทยมีความม่นั คง ม่ังคงั่ ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้วด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง สนองตอบต่อผลประโยชน์แหง่ ชาติ อันไดแ้ ก่การมเี อกราช อธิปไตย และบรู ณภาพ แหง่ เขตอานาจรฐั การดารงอยู่อย่างม่นั คง ยง่ั ยนื ของสถาบนั หลักของชาติ การดารงอยู่อย่างมั่นคง ของชาติ และประชาชนจากภยั คุกคามทุกรูปแบบ คนไทยมีความสุข อยู่ดี กนิ ดี สังคมมีความมั่นคง เสมอภาคและเป็นธรรม ซ่ึงยุทธศาสตรช์ าตนิ เ้ี ป็นกรอบแนวทางการพฒั นา “ยุทธศำสตรก์ ำรพัฒนำ และเสริมสร้ำงศกั ยภำพคน” เพ่ือพัฒนาคนและสังคมไทยให้เป็นรากฐานที่แขง็ แกร่งของประเทศ มีความพร้อมทั้งทางกาย ใจ สติปญั ญา มีความเปน็ สากล มีทักษะการคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล มรี ะเบยี บวินยั เคารพกฎหมาย มคี ุณธรรมจริยธรรม รู้คณุ คา่ ความเป็นไทย และมีครอบครัวทม่ี ่นั คง เปาหมายของแผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแหง่ ชาตฉิ บบั ที่ ๑๒ ในการพัฒนาคนไทยใหเ้ ป็น คนท่ีมลี ักษณะเป็นคนไทยทีส่ มบูรณ์ มีวินัย มที ัศนคติและพฤติกรรมตามบรรทดั ฐานที่ดีของสังคม มี ความเป็นพลเมืองตื่นรูม้ ีความสามารถในการปรบั ตวั ไดอ้ ย่างรู้เท่าทันสถานการณ์ มคี วามรับผิดชอบ และทาประโยชน์ตอ่ ส่วนรวม มีสุขภาพกายและใจทดี่ ี มีความเจริญงอกงามทางจิตวญิ ญาณ มีวิถีชวี ิต ที่พอเพียงและมีความเป็นไทย ตลอดจนยุทธศาสตร์ที่ ๑ ในการพฒั นาประเทศคอื การเสรมิ สร้างและ พัฒนาศักยภาพทุนมนุษย์ มีแนวทางการพัฒนา โดยปรับเปลี่ยนค่านิยมคนไทยให้มีคุณธรร ม จริยธรรม มวี ินยั จิตสาธารณะ และพฤตกิ รรมที่พึงประสงค์ พัฒนาศกั ยภาพคนให้มที ักษะความรู้ และความสามารถในการดารงชีวิตอยา่ งมีคุณคา่ โดยส่งเสริมให้เด็กปฐมวยั มกี ารพัฒนาทักษะทาง สมองและทักษะทางสังคมทีเ่ หมาะสม พฒั นาเดก็ วยั เรียนและวัยรุ่นให้มีทักษะการคดิ วิเคราะหอ์ ย่าง เป็นระบบ มีความคดิ สร้างสรรค์ มีทกั ษะการทางานและการใชช้ ีวติ ท่ีพร้อมเขา้ สูต่ ลาดงาน ส่งเสริม แรงงานใหม้ ีความรแู้ ละทักษะในการประกอบอาชีพท่ีเป็นไปตามความต้องการของตลาดงาน พฒั นา ศกั ยภาพของกลุ่มผู้สูงอายุวยั ต้นให้สามารถเข้าสตู่ ลาดงานเพ่ิมขน้ึ ยกระดับคุณภาพการศึกษาและ การเรียนรูต้ ลอดชีวิต และลดปจั จยั เสี่ยงดา้ นสุขภาพและให้ทกุ ภาคสว่ นคานึงถึงผลกระทบตอ่ สุขภาพ เพ่ิมประสิทธิภาพการบริหารจัดการระบบสขุ ภาพภาครฐั และปรับระบบการเงินการคลังด้านสขุ ภาพ พัฒนาระบบการดแู ลและสร้างสภาพแวดลอ้ มทเี่ หมาะสมกับสังคมสูงวยั ผลกั ดนั ใหส้ ถาบันทางสังคม นวัตกรรม HUGNA ๔ นอ้ มนำศำสตรพ์ ระรำชำแกป้ ญั หำยำเสพตดิ และอบำยมขุ อย่ำงยงั่ ยนื
มสี ่วนร่วมพัฒนาประเทศอย่างเขม้ แข็ง ซึง่ สอดคลอ้ งกบั วสิ ัยทัศน์ของแผนการศกึ ษาชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙ คือ “คนไทยทุกคนได้รับการศึกษาเรียนรู้ตลอดชีวิตอยา่ งมคี ุณภาพ และดารงชวี ิต อยา่ งเป็นสขุ ในโลกศตวรรษท่ี ๒๑ สภาพสังคมในปัจจุบนั เปลยี่ นแปลงไปอย่างมาก ทงั้ ดา้ นการส่อื สารเทคโนโลยตี า่ งๆ ซง่ึ นอกจากจะส่งผลกระทบต่อผ้คู นในเชงิ บวกแล้ว ยังมีปรากฏการณ์ในเชิงลบเชน่ เดยี วกัน เช่น ปญั ห า ทางเศรษฐกิจ ปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด ปัญหาการแข่งขันในรปู แบบต่างๆ ปัญหา ครอบครวั ท่ีทาให้เกิดความทกุ ข์ ความวิตกกงั วล ความเครียด รวมถงึ การปรับตัวท่ีไม่เหมาะสมของ เยาวชนในปัจจบุ ัน และรวมไปถงึ ปัญหาทีเ่ กิดในโรงเรียน คือ นกั เรียนมพี ฤตกิ รรมท่ไี มพ่ งึ ประสงค์ เช่ น หนเี รียน ขาดเรยี น สบู บหุ รี่ พฤติกรรมเหล่านเ้ี ป็นพฤตกิ รรมเบี่ยงเบนท่ีทาให้นกั เรยี นมโี อกาสเขา้ ไป เกี่ยวข้องกบั สารเสพติดซึง่ แพร่ระบาดในชมุ ชน และนับวันยงิ่ รนุ แรงข้นึ ทุกขณะ ซง่ึ เป็นอปุ สรรค สาคัญประการหนง่ึ ต่อพัฒนาการทางร่างกาย จิตใจ และสติปญั ญาของเยาวชน ดงั น้ั น การท่ีจะ แก้ปัญหาพฤติกรรมที่ไมพ่ ึงประสงค์เหล่านี้ได้ จาเป็นต้องพัฒนาทักษะชีวิตของนักเรียน โดยให้ นักเรยี นสามารถพ่งึ พาตนเองได้ และไมก่ อ่ ปญั หาเพม่ิ ให้แก่สงั คม เพอ่ื ให้เห็นภาพความสาเรจ็ ท่ีเกิดขึ้น จากการพัฒนานักเรียนให้เป็นไปตามความมุ่งหวังน้นั ตอ้ งอาศัยความร่วมมือจากผูท้ เ่ี ก่ยี วข้องทุกฝา่ ย ทกุ คน โดยเฉพาะบุคลากรทางการศึกษาทกุ คนในสถานศึกษา ซ่ึงมีครูอาจารยเ์ ปน็ หลักสาคัญในการ ดาเนินการพัฒนาคุณภาพชีวิตของนักเรียนให้เติบโตงดงาม และเป็นบุคคลที่มีคุณคา่ ของสังคม ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และแก้ไขเพ่มิ เติม (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ ซ่ึง เป็นกฎหมายแม่บทด้านการศึกษาของชาติ ในมาตรา ๔ บัญญัตไิ ว้ว่า การศึกษา หมายควา ม วา่ กระบวนการเรียนรู้เพอ่ื ความเจรญิ งอกงามของบคุ ลากรและสงั คม โดยการถา่ ยทอดความรู้ การฝึก การอบรม การสืบสานทางวัฒนธรรม การสร้างสรรค์จรรโลงความก้าวหน้าทางด้านวิชาการ การสรา้ งองค์ความรู้ อันเกิดจากการจัดสภาพแวดล้อมสังคมการเรยี นรูแ้ ละปัจจยั เกอ้ื หนนุ ให้บุคคล เรยี นรู้อยา่ งตอ่ เนอื่ งตลอดชวี ติ \" และมาตรา ๖ บัญญัตวิ า่ การจดั การศึกษาตอ้ งเป็นไปเพ่ือพฒั นาคน ไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ท้ังร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้ และคุณธรรมมีจริยธรรมและ วฒั นธรรมในการดารงชีวิตสามารถอยู่ร่วมกบั ผู้อืน่ ได้อยา่ งมีความสขุ ยาเสพติดเป็นปัญหาสาคัญระดับชาติที่รัฐบาลถอื เปน็ นโยบายที่ต้องเร่งดาเนินการแก้ไข อย่างจริงจงั เพราะปัญหายาเสพติดที่มีการแพร่ระบาดได้เพิ่มความรุนแรงมากขน้ึ ในทุกพื้นทข่ี อง นวัตกรรม HUGNA ๕ น้อมนำศำสตรพ์ ระรำชำแกป้ ญั หำยำเสพตดิ และอบำยมขุ อย่ำงยัง่ ยืน
ประเทศไทย ขณะเดยี วกันยงั ส่งผลกระทบตอ่ การพฒั นาประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจ สงั คม ส่ิงแวดลอ้ ม รวมท้งั ด้านการเมืองและความมั่นคงของประเทศ นอกจากนน้ั แล้วปญั หาพฤติกรรมที่ไมพ่ ึงประสงค์ ในกล่มุ เยาวชน เช่น ดื่มสรุ า สูบบหุ ร่ี เทีย่ วกลางคืน เล่นการพนัน ทะเลาะวิวาท ติดเกม ส่ือลามก อนาจาร ฟ่มุ เฟือยและวัตถนุ ยิ มเกินฐานะ ยังส่งผลให้เกดิ ปัญหาโรคเอดส์ การต้งั ครรภก์ ่อนวยั อันควร และปัญหาต่างๆ กบั นักเรียน มผี ลต่อการพัฒนาทั้งด้านร่างกาย จิตใจและสติปัญญา ดังน้นั การ ปองกันและแก้ปญั หาที่ทวคี วามรนุ แรงมากข้ึนเหล่านี้ จงึ เป็นส่ิงสาคญั อย่างย่งิ ท่ีทกุ ฝา่ ยจะตอ้ งรว่ มมือ กันต้ังแตเ่ ร่มิ ต้นโดยให้การศึกษา และให้ความรู้เร่ืองพิษภัยของยาเสพติดอยา่ งเอาใจใส่ ดูแลลูกหลาน ให้ความรกั ความอบอนุ่ เสมือนครอบครัว เป็นทพ่ี ึ่งของเดก็ และเสรมิ สรา้ งคนดีมคี ุณภาพสู่สังคม แมว้ ่าในชว่ งทีผ่ ่านมารฐั บาลให้ความสาคญั ตอ่ การแก้ไขปญั หายาเสพติดในระดับทส่ี งู มาก และทกุ หน่วยงานทีเ่ กี่ยวข้องไดด้ าเนินการตามแผนปฏิบัติการปองกนั และแก้ไขปัญหายาเสพติดมา อย่างต่อเนอื่ ง ปัญหายาเสพติดก็ยังคงมีแนวโน้มที่จะทวีความซบั ซ้อนมากย่ิงขึ้น ทุกหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องจงึ ได้จัดทาแผนยุทธศาสตร์ เพื่อใชเ้ ป็นกรอบทิศทางในการดาเนินการปองกันและแก้ไข ปัญหายาเสพติดอย่างมีประสิทธิภาพ โดย คาดหวังให้เยาวชนมีความรู้สึกม่ันคง ปลอดภัยใน การดารงชีวิต กระทรวงศึกษาธิการมจี ุดมุ่งหมายเพ่ือพัฒนาผ้เู รียนทุกคนซึ่งเปน็ กาลังของชาติใหเ้ ปน็ มนษุ ย์ ทม่ี คี วามสมดลุ ทั้งด้านร่างกาย ความรู้ และคณุ ธรรม มจี ิตสานึกในความเป็นพลเมอื งไทยและเป็นพล โลก ยึดม่ันในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตรยิ ์ทรงเป็นประมขุ มีความรู้และ ทักษะพน้ื ฐาน รวมทั้งเจตคติท่ีจาเป็นต่อการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และการศกึ ษาตลอดชีวิต โดยม่งุ เน้นผูเ้ รียนเป็นสาคัญบนพืน้ ฐานความเช่ือว่า ทุกคนสามารถเรยี นรูแ้ ละพฒั นาตนเองได้เต็มตาม ศักยภาพ ดังนั้นสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน และกรมสุขภาพจิต กระทรวง สาธารณสุขจงึ ได้ร่วมกันวางรากฐานการพัฒนาผู้เรยี นอย่างเป็นระบบตอ่ เน่ืองและยั่งยืน เด็กวัยรุ่น อายุระหว่าง ๑๓ – ๑๘ ปี เป็นวยั ที่ต้องการความรัก และการยอมรับจากคนรอบข้าง มีความเปน็ ตัว ของตัวเองมากข้นึ มอี ิสระท่ีจะคดิ ฝัน มีการวางเปาหมายของชีวิตและพยายามฟันฝ่าไปตามทีต่ นเอง ฝันไว้ ซ่งึ สงั คมต้องช่วยให้กาลังใจและปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมให้แก่เด็กวยั น้ี เพ่ือจะได้บรรลุตาม แนวทางท่ีเดก็ แต่ละคนตง้ั ใจไว้ บรบิ ทของโรงเรยี นศรีกระนวนวิทยาคม ผู้ปกครองส่วนใหญม่ อี าชพี ทานา ทาสวนยางพารา ทาไร่ออ้ ย มีฐานะค่อนข้างยากจน นักเรียนเดนิ ทางมาเรยี นโดยรถรบั เหมา มีนักเรียนจานวนมากที่ อาศัยอยู่ห่างไกลจากอาเภอกระนวน ผู้ปกครองจึงส่งบุตรหลานเขา้ มาพักตามหอพักตามลาพัง ไม่ได้ นวตั กรรม HUGNA ๖ น้อมนำศำสตรพ์ ระรำชำแกป้ ญั หำยำเสพตดิ และอบำยมุข อย่ำงย่ังยืน
อยู่ในความดแู ลของบิดามารดาหรือผู้ปกครอง นักเรียนบางส่วนพ่อแม่หรือผู้ปกครองไปทางาน ต่างจังหวัด และมักจะปล่อยให้อย่กู ับปยู่ า่ ตายาย หรอื ญาตพิ ี่นอ้ ง ผปู้ กครองไม่มีเวลาเลี้ยงดู เอาใจใส่ หรืออบรมส่งั สอนบุตรหลาน และไม่ได้สนใจในเรื่องการเรียนของบตุ รห ลานเท่าท่ีควร ส่งผลให้ นักเรียนขาดความอบอุ่น ขาดทักษะชีวิตและภูมคิ มุ้ กันตนเอง ทาใหเ้ ด็กมพี ฤติกรรมเบี่ยงเบน เสีย่ งต่อ การตดิ ยาเสพติด มพี ฤติกรรมไม่เหมาะสมตามกระแสสังคม ดังน้ันการท่ีจะทาให้นักเรียนเกิดความ เข้มแข็งทางจติ ใจได้ จาเปน็ ที่จะตอ้ งพัฒนาดา้ นทกั ษะชีวิตของนกั เรียน และควรใหค้ วามสาคัญในการ แก้ไขปัญหายาเสพตดิ โดยตอ้ งดาเนนิ การอยา่ งต่อเนอ่ื งและจริงจังในทุกภาคส่วนใหไ้ ดอ้ ยา่ งยั่งยืน ซ่งึ สถานศึกษาเป็นผทู้ ม่ี ีบทบาทสาคัญต่อการดาเนนิ งานเปน็ อย่างยิง่ โรงเรียนศรีกระนวนวิทยาคม นาโดยผ้บู ริหารโรงเรยี นในฐานะผ้นู าทีม ได้ ศึกษาและนา นโยบายของรัฐบาล นโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ นโยบายของจังหวัดขอนแกน่ รวมทั้งนโยบาย ของสานักงานเขตพืน้ ทกี่ ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษาเขต ๒๕ และเสีย่ วโมเดล (SIAO Model) มาประยุกตใ์ ช้ เพ่ือเปน็ แนวทางในการพัฒนาทักษะชีวิตโดยผ่านระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนในโรงเรียนอ ย่าง ตอ่ เนือ่ ง ภายใต้แนวคิด “ฮกั นะ” (HUGNA Model) น้อมนาศาสตร์พระราชาแก้ปญั หายาเสพตดิ และอบายมุขอย่างยั่งยืน เพื่อให้การดาเนนิ งานบรรลุตามวตั ถุประสงค์อยา่ งมีประสิทธภิ าพทง้ั ในด้าน ปริมาณและคุณภาพ โรงเรียนได้กาหนดบทบาทและภารกจิ ในการดาเนินงาน โดยทาการแตง่ ต้ัง คณะกรรมการดาเนินงานในระดับต่าง ๆ ต้ังแตร่ ะดับหอ้ งเรียน ระดับโรงเรยี น และระดบั เครือขา่ ยทา ให้การดาเนินงานเป็นไปตามลาดบั ข้นั ตอนอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เพือ่ ให้นักเรียนมี พฤตกิ รรมอันพึงประสงค์ เสริมสร้างทักษะชีวิตและทาใหน้ ักเรียนสามารถอยูร่ ่วมกันในสงั คมได้อยา่ งมี ความสขุ เป็นพลเมืองท่ีดขี องประเทศชาติต่อไป ๑.๒ แนวทำงแกป้ ญั หำและพัฒนำ สานักงาน ป.ป.ส. ในฐานะหน่วยงานกลางในการกาหนดยุทธศาสตร์และแผนการปองกนั และ แก้ไขปัญหายาเสพติดพ.ศ. ๒๕๕๘ – ๒๕๖๒ ขึ้นโดยได้ร่วมกับหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องจัดประชุมเชิง ปฏิบตั ิการจัดทาแผนหลายครั้ง เพ่ือศึกษาวิเคราะห์นโยบายและยทุ ธศาสตร์ทเี่ กี่ยวข้องวิเคราะห์ จุดแขง็ จุดอ่อน โอกาส และภัยคุกคาม เพือ่ กาหนดแนวคิดทิศทาง วสิ ัยทศั น์ พันธกิจ วัตถุประสงค์ เปาหมายยทุ ธศาสตร์ แผนงาน โครงการงบประมาณ กลไกการดาเนินงาน และตวั ช้ีวัดพร้อมทง้ั ยกรา่ ง แผนยุทธศาสตร์ ด้วยแนวคดิ หลกั ของแผนยุทธศาสตร์คือ ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางเพอ่ื ตอบสนอง ความต้องการของประชาชน และก่อให้เกดิ ผลกระทบในทางท่ีดีต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของ ปร ะชา ชน แ ก้ปัญ หา ใน เชิงพื้นที่โดย กา หนดเปา หมา ยแ ละแ น วทา งการ ดา เนินงา นร่วมกันร ะหว่า ง หน่วยงานและภาคีเครอื ขา่ ยทีเ่ กีย่ วขอ้ ง ในการร่วมคดิ ตัดสนิ ใจ ดาเนินการ และประเมนิ ผลแกป้ ญั หา นวัตกรรม HUGNA ๗ นอ้ มนำศำสตร์พระรำชำแก้ปัญหำยำเสพตดิ และอบำยมขุ อยำ่ งยั่งยืน
แบบองค์รวมอย่างเป็นระบบครบวงจร สร้างความสมดลุ ของยุทธศาสตร์ทัง้ ด้านการลดอุปสงค์และ อปุ าทานยาเสพติดการและเน้นผลสัมฤทธิ์เชิงคุณภาพ โดยกาหนดมาตรฐานและตวั ช้ีวัดผลการ ดาเนนิ งานอย่างชดั เจนเป็นรูปธรรมโดยมีวสิ ัยทัศน์ว่า “สงั คมไทยเข้มแข็งรอดพ้นจากภัยยาเสพติด ดว้ ยภูมิคุ้มกัน และมาตรการลด ผู้เสพ ผู้ค้า และความร่วมมือระหว่างประเทศด้านยาเสพติด ให้บรรลุผลตามพันธกรณี และวสิ ัยทศั น์อาเซียนภายในปี ๒๕๖๒” แผนยุทธศาสตร์การปองกนั และแกไ้ ขปัญหายาเสพตดิ พ.ศ. ๒๕๕๘ – ๒๕๖๒ ประกอบด้วย ๘ ยุทธศาสตร์หลักคือ ๑. ยุทธศาสตร์การปองกันกลุ่มผู้มีโอกาสเข้าไปเก่ียวข้องกับยาเสพติด ๒. ยทุ ธศาสตร์การควบคมุ ตวั ยาและผู้ค้ายาเสพตดิ ๓. ยทุ ธศาสตรก์ ารแก้ไขปญั หาผู้เสพยาเสพติด ๔. ยทุ ธศาสตรค์ วามรว่ มมอื ระหว่างประเทศ ๕.ยุทธศาสตร์การสร้างและพัฒนาระบบรองรับการคืน คนดใี ห้สังคม ๖.ยทุ ธศาสตรก์ ารสร้างสภาพแวดล้อมเพ่ือปองกันปัญหายาเสพติด ๗. ยุทธศาสตรก์ ารมี ส่วนร่วมภาคประชาชน ๘. ยทุ ธศาสตรก์ ารบริหารจัดการอย่างบูรณาการ รวมทัง้ ได้กาหนดกลไกใน การควบคมุ กากับ และขบั เคลือ่ นแผนยุทธศาสตรไ์ ปสู่แผนปฏิบตั ิการ เมื่อวนั ท่ี ๑๐ มีนาคม ๒๕๕๘ คณะรัฐมนตรมี ีมตเิ ห็นชอบแผนยุทธศาสตร์การปองกัน และแกไ้ ขปัญหายาเสพติด พ.ศ.๒๕๕๘ – ๒๕๖๒ ให้นามาใช้เป็นกรอบทิศทางการดาเนินงาน เป็นเคร่ืองมือในการบริหารจดั การประสาน การปฏบิ ัติ จัดสรรทรัพยากร และตดิ ตามประเมินผลของทกุ หนว่ ยงาน ทเ่ี กยี่ วขอ้ งและให้สานกั งาน ป.ป.ส. ร่วมกับหน่วยงานท่ีเกีย่ วขอ้ งจดั ทาแผนปฏิบตั ิการปองกันและแก้ไขปัญหายาเสพตดิ ประจาปี ให้สอดคล้องรองรบั กับแผนยทุ ธศาสตร์ต้ังแต่ปีงบประมาณ ๒๕๕๘ เป็นต้นไป (สานักยทุ ธศาสตร์, ๒๕๖๐) จากการที่สังคมเปลย่ี นแปลงไปอย่างรวดเร็ว และจากสภาพปญั หาต่างๆ ทร่ี ุมเรา้ สงั คมทกุ วัน มีส่วนผลกั ดนั ให้เกิดการใชย้ าเสพติด เพื่อแสวงหาความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ (Mood altering) ตามมา ในสภาวะที่สังคมกดดันบีบคั้นมากๆ ทาให้เยาวชนเกิดความยากลาบากในการประคองตวั เอง ให้อยู่รอดตอ้ งพยายามด้ินรน แสวงหาแนวทางในการแก้ปัญหาชีวิตแบบเฉพาะหนา้ การใชย้ าเสพติด เพ่ือการประกอบอาชพี บางประเภท เสรมิ สร้างความสนกุ สนานความบนั เทงิ ความตื่นเต้น ความร้สู ึก ทางเพศ ดังนน้ั ปัญหายาเสพตดิ จึงทาให้ปัญหาตา่ ง ๆ ที่สังคมตอ้ งเผชิญอย่มู ีความยงุ่ ยากซับซ้อน เพิ่มข้ึนอย่างเช่น กลุ่มผู้ติดยาเสพติดจะพยายามทุกวิถีทางเพ่ือให้ได้ยาเสพติดมาเสพ จึงก่อ อาชญากรรม เพ่ือหาเงนิ มาซอ้ื ยาเสพติด ผู้ท่ตี ดิ ยาเสพตดิ มีโอกาสอารมณ์แปรปรวนกลายเป็นโรคจิต โรคประสาท ซ่ึงสะท้อนภาพปญั หาความเดือดร้อนให้แก่สังคมและอาชญากรรมท่มี ีส่วนเกี่ยวข้อง สมั พนั ธ์กับยาเสพติดให้เห็นอยู่อย่างตอ่ เน่ืองส่งผลต่อความรู้สึกและความไม่มน่ั คงปลอดภัยในการ ดารงชวี ติ ประจาวัน นวตั กรรม HUGNA ๘ น้อมนำศำสตรพ์ ระรำชำแก้ปัญหำยำเสพติด และอบำยมขุ อย่ำงย่งั ยนื
สถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดในพน้ื ที่ภาคตะวันออกเฉยี งเหนือตอนล่าง ปัจจบุ ัน พบว่า ยงั มีการลักลอบนาเข้าจากแหลง่ พักยาเสพตดิ ในประเทศเพื่อนบ้าน (สปป.ลาว) ผ่านมาทาง พื้นทีช่ ายแดน และพักไว้ตามหมู่บ้าน แนวชายแดน ยาเสพติดทถี่ กู ลกั ลอบนาเขา้ มาพบทั้งยาบ้า ไอซ์ และกัญชาแห้ง นอกจากน้นั แลว้ การคา้ และแพร่ระบาดของยาเสพติดยังคงมอี ยโู่ ดยเฉพาะในเขตพืน้ ท่ี อาเภอเมืองและอาเภอขนาดใหญ่ในจังหวัดขอนแก่น เช่น อาเภอชุมแพ อาเภอบ้านไผ่ อาเภอ กระนวน ฯลฯ โดยยาบา้ กัญชา สารระเหย และไอซ์ ยังคงพบการแพรร่ ะบาดมากในพนื้ ท่ีมากท่สี ุด ผ้เู สพรายใหม่ (มีการใช้ยาเสพติดระยะเวลาไมเ่ กนิ ๑ ป)ี มีอตั ราสงู เฉล่ียรอ้ ยละ ๑๐.๓๖ กลุม่ เยาวชน อายุ ๑๕-๒๔ ปี ถอื เป็นกลุ่มหลักท่เี ข้ามาเกี่ยวข้องซงึ่ พบทั้งทอี่ ยู่ในสถานศึกษาและนอกสถานศึกษา โดยกลุ่มนักเรียนระดับช้ันมัธยมศึกษาตอนต้นและระดับประถมศึกษาเป็นสองกลุม่ ทมี่ ีโอกาสเขา้ มา เก่ียวข้องกบั ยาเสพติดมากกว่าคนกล่มุ อ่นื ซ่งึ น่าเป็นหว่ งอย่างมากสาเหตอุ าจเปน็ เพราะถกู เพอ่ื นชกั จูง ใหล้ องเสพอยากรูอ้ ยากลองถูกล่อลวง และสาเหตุอกี ประการหน่งึ ซ่งึ เปน็ สาเหตุทส่ี าคัญของการเสพ อบายมุขคือปัญหาครอบครัวโดยพบว่ารอ้ ยละ ๘๕ ของเยาวชนที่ติดยาเสพตดิ ของเยาวชนไทยมา จากปัญหาของครอบครัวคือ การขาดความอบอนุ่ ในครอบครวั ปัญหาพ่อแม่ไม่ได้อย่ดู ว้ ยกันขาดความ สนใจเด็ก ซึง่ ขาดความรู้ ขาดความยั้งคิด และขาดภมู ิคุ้มกันเลยหนั ไปหายาเสพติดเพือ่ แกไ้ ขปัญหา ต่าง ๆหรือเปน็ เปาล่อให้กับผ้ไู ม่ปรารถนาดีซึ่งเปน็ ภัยร้ายแรงต่อสขุ ภาพกายและสขุ ภาพจิต จากผลการสารวจพบปญั หาเยาวชนไทยในสังคมยุค “วตั ถุนิยม” แนวโนม้ วยั รุน่ มีความเสยี่ ง ในการใช้สารเสพติดสูงเพิ่มข้ึน ซ่ึงจากผลการวิจัย พบว่า ปัญหาส่วนใหญ่เริ่มมาจากปัญหาใน ครอบครวั จานวนคดีละเมิดทางเพศ และคดียาเสพตดิ ก็มแี นวโน้มสูงตาม นอกจากนี้ยังพบอกี ว่า ในโรงเรียนต่างๆ โดยเฉล่ียมีเด็กที่พ่อแมแ่ ยกทางกันสงู ถึงร้อยละ ๑๕ และเดก็ กลุ่มนี้จะเขา้ สูป่ ัญหา พฤติกรรมเสยี่ งต่างๆ สงู กว่าเดก็ ปกตถิ ึง ๒ - ๓ เทา่ ท้งั เหลา้ บุหร่ี การพนนั ความรุนแรง ตลอดจน พฤติกรรมติดเกมต่างๆ นอกจากครอบครัวซง่ึ เปน็ รากฐานอันมั่นคง ควรให้ความรัก ความอบอุ่น เอาใจใส่ แล้วโรงเรียนควรส่งเสริมให้เด็กไดม้ ีโอกาสเรยี นรู้ คน้ หาศกั ยภาพตนเอง และปลูกฝงั ให้เป็น คนดี ไม่ปล่อยให้เดก็ เหล่านั้นตอ้ งเผชิญชวี ิตลองผิดลองถกู จนกลายเป็นคนท่ีไรค้ ่า การแกป้ ัญหาโดย การส่งเสรมิ คน ให้มีจิตสานึกรับผดิ ชอบต่อจรรยาบรรณแล้ว คุณค่าของการพัฒนารับผดิ ชอบต่อ หน้าท่ีและสังคมจะเกิดข้ึน เพราะยาเสพติดนบั เป็นภัยร้ายท่ีคุกคามและบ่อนทาลายประเทศชาติ การขจดั ภัยยาเสพตดิ ใหไ้ ด้ผลอย่างยัง่ ยนื ต้องอาศัยการผนึกพลงั ของทุกภาคส่วน มาร่วมกันสร้างสรรค์ สงั คมให้เข้มแข็ง เพื่อลูกหลานของเราจะไดไ้ ม่ตดิ ยาเสพตดิ (กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข) การพัฒนานักเรยี นให้เป็นบุคคลท่ีมีคุณภาพท้ังด้านร่างกาย จิตใจ และสตปิ ัญญา มีความรู้ ความสามารถ มีคณุ ธรรมและจริยธรรม ดาเนนิ ชีวิตทเี่ ป็นสขุ ตามท่ีสังคมมุ่งหวัง โดยผ่านกระบวนการ ทางการศึกษาทส่ี ถานศกึ ษาทุกแหง่ ต้องดาเนินการจัดการศึกษาตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ นวตั กรรม HUGNA ๙ นอ้ มนำศำสตรพ์ ระรำชำแก้ปัญหำยำเสพตดิ และอบำยมขุ อยำ่ งย่ังยืน
ทต่ี ้องการให้เปน็ คนเกง่ คนดี มีความสุข นอกจากดาเนินการส่งเสริมและสนบั สนนุ ใหน้ ักเรียนได้รับ กระบวนการเรียนรู้ การปองกนั และแก้ไขปญั หาต่าง ๆ ที่เกิดข้ึนจากปจั จยั เสีย่ งรอบสถานศึกษาที่มี พฤติกรรมไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ร้านเกม การพนัน หนเี รียน ทะเลาะวิวาท ก่ออาชญากรรม เป็นปัญหาสงั คมท่ีผู้ปกครอง ครู อาจารย์ ตอ้ งเข้าไปช่วยเหลอื และแก้ไขไมใ่ ห้มีพฤตกิ รรมเสย่ี ง เพ่อื ปองกนั และแกไ้ ขปัญหาดังกลา่ ว กระทรวงศึกษาธกิ ารได้มอบหมายใหศ้ ูนย์อานวยการ พลังแผ่นดนิ เอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ ให้ดาเนนิ งานตามแผนท่ี ๓ คอื แผนการสร้างภมู ิคุม้ กันและ ปองกันยาเสพติดในสถานศึกษา (Potential Demand) โดยจดั ทาโครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดยา เสพตดิ และอบายมขุ ตามแนวคดิ และหลกั การ “๔ ประสาน ๒ ค้า” ซ่ึง ๔ ประสาน ได้แก่ ผู้บริหาร สถานศึกษา ผู้แทนครู ผู้แทนผู้ปกครอง ผู้แทนนักเรียน ๒ ค้า ไดแ้ ก่ ตารวจและพระสงฆ์ ซ่ึงอยู่ใน บริเวณท้องถ่นิ และชุมชน และ ๕ มาตรการ ได้แก่ มาตรการปองกนั มาตรการรักษา มาตรการ เฝาระวัง มาตรการบริหารจดั การ และกลยุทธ์ ๔ ตอ้ ง ๒ ไม่ คือ ต้องมียุทธศาสตร์ ต้องมีแผนงาน ตอ้ งมีระบบข้อมูล ต้องมีเครอื ข่าย และ ๒ ไม่ คือ ไมป่ กปิดข้อมูล ไม่ไล่ออก เปน็ แนวทางการ ดาเนนิ งาน ภาพการทาข้อตกลงความรว่ มมอื MOU ระหว่าง โรงเรียนศรีกระนวนวทิ ยาคม กบั เครอื ขา่ ยการดาเนินงานคลนิ ิคเสมารกั ษอ์ าเภอกระนวน นวัตกรรม HUGNA ๑๐ นอ้ มนำศำสตร์พระรำชำแก้ปญั หำยำเสพตดิ และอบำยมุข อยำ่ งยั่งยนื
ภาพการทาข้อตกลงความร่วมมือ MOU ระหว่าง โรงเรยี นศรกี ระนวนวทิ ยาคม กับ โรงเรียนระดับทอง และระดับเพชรในสังกัดสานกั งานเขตพน้ื ที่การศกึ ษามธั ยมศึกษา เขต ๒๕ จากนโยบายของกระทรวงศกึ ษาธิการ และศูนย์อานวยการพลงั แผ่นดนิ เพ่ือเอาชนะยาเสพ ติดแห่งชาติ โรงเรียนศรีกระนวนวิทยาคมได้ทาการศกึ ษาปัญหาของนกั เรียนในโรงเรียน พบว่า นกั เรียนมีอัตราเส่ียงต่อปญั หายาเสพตดิ และอบายมขุ รวมท้ังพฤตกิ รรมท่ีไม่พึงประสงค์ เช่น ดื่มสรุ า เที่ยวกลางคืน การพนัน การทะเลาะวิวาท ตดิ เกม สอ่ื ลามกอนาจาร ฟุ่มเฟอื ย และ วตั ถนุ ิยมเกิน ฐานะ ฯลฯ ซ่งึ มีสาเหตุมาจากการท่ีนักเรียนส่วนใหญ่ มาจากครอบครวั ท่ีมฐี านะยากจน บิดามารดา หย่ารา้ ง และไปทางานต่างจงั หวดั ท้ิงภาระเลย้ี งดใู หก้ บั ปู่ยา่ ตายาย ทาให้นักเรียนขาดความรักความ อบอ่นุ ไม่มผี ู้ชีแ้ นะแนวทางท่ถี ูกต้อง และตอ้ งเผชิญกับสภาวการณ์ท่ีเปล่ียนแปลงไปอย่างรวดเร็วของ สังคมส่งผลให้มพี ฤตกิ รรมเบี่ยงเบนที่สงั คมไม่ยอมรบั ดว้ ยความตระหนักถึงพิษภยั ต่างๆ ทอ่ี ยู่ลอ้ มรอบ ตัวบุตรหลานของเราโรงเรียนศรีกระนวนวิทยาคม ซ่ึงเปรียบเสมือนบ้านหลังที่สอง และครูซึ่ง เปรียบเสมอื นบิดามารดา ได้เล็งเห็นความจาเป็นท่ีจะต้องสร้างมาตรการในการปองกนั และแก้ไข ปญั หาอันก่อใหเ้ กิดอนั ตรายทั้งทางรา่ งกาย จิตใจ และสขุ ภาพของผเู้ รียนทุกคนภายใต้ความร่วมมือ จากทกุ ฝ่ายทีเ่ กย่ี วขอ้ ง ซงึ่ ได้แก่ ผบู้ ริหารสถานศึกษา ครูผู้สอน ผปู้ กครอง คณะกรรมการสถานศกึ ษา และชุมชนเครอื ข่าย โดยมีจดุ ประสงค์ให้นักเรยี นทกุ คนมีความตระหนักรู้ มีความเขา้ ใจ และสามารถ ถา่ ยทอดอธิบายเรือ่ งโทษภัยของยาเสพตดิ และอบายมุข และพฤติกรรมอันไม่พงึ ประสงค์ต่อผู้อน่ื ได้ รวมท้ังการใหน้ กั เรยี นทุกคนชว่ ยกันเฝาระวัง และช่วยเหลือเพื่อนโดยได้พฒั นารูปแบบนวัตกรรมเพ่ือ ใช้ในการดาเนนิ งานแกป้ ัญหาและสร้างภมู คิ ้มุ กนั ใหก้ ับนกั เรยี น นวตั กรรม HUGNA ๑๑ น้อมนำศำสตร์พระรำชำแกป้ ัญหำยำเสพติด และอบำยมุข อยำ่ งยง่ั ยนื
นวัตกรรม “ฮักนะ” (HUGNA Model) น้อมนำศำสตร์พระรำชำแก้ปัญหำยำเสพติด และอบำยมุข อย่ำงย่ัง ยืน ได้รับกา รพัฒนาขึ้น เพ่ือนาไปใช้ในการขับเคล่ือนการ ดาเนินงา น สถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุขด้วยความรัก ความอบอนุ่ การดูแล อบรมสั่งสอน และติดตามความประพฤติอย่างใกล้ชิดซึ่งจะทาให้ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย ได้แก่ บิดามารดา ครู ผู้ปกครองเครอื ข่าย และหน่วยงานทมี่ สี ่วนเก่ียวขอ้ งทกุ ฝ่ายเพื่อให้ เข้าใจ เข้าถึง และสามารถพัฒนา ผเู้ รียนไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพเพื่อปกปอง คุ้มครอง ดูแล รกั ษาเยียวยา นักเรียนทุกคนอย่างเสมอภาค เพื่อสรา้ งคนดี และคนเก่งให้สังคม ๒. กระบวนกำรพฒั นำนวตั กรรม ๒.๑ วตั ถปุ ระสงค์ เพื่อนานวตั กรรม “ฮักนะ”(HUGNA Model) นอ้ มนาศาสตรพ์ ระราชาแก้ปัญหา ยาเสพตดิ และอบายมขุ อย่างยงั่ ยืน ไปใชข้ บั เคล่ือนการดาเนินงานสถานศกึ ษาสขี าวปลอดยาเสพติด และอบายมุขของโรงเรียนศรีกระนวนวิทยาคม อยา่ งเปน็ ระบบมีประสทิ ธภิ าพและประสทิ ธิผล ๒.๒ เปำ้ หมำย ๒.๒.๑ เปาหมายเชิงปรมิ าณ ๑) นกั เรยี นโรงเรยี นศรกี ระนวนวทิ ยาคมรอ้ ยละ ๑๐๐ ไดร้ บั การดแู ลช่วยเหลอื ท้ังใน เรอื่ งการเรียน สงั คม และการดารงชีวติ ให้ปลอดภัยจากยาเสพตดิ บุหร่ี อบายมุขและพฤติกรรมอันไม่ พงึ ประสงค์ ๒) ครูและบุคลากรทางการศึกษาของโรงเรียนศรีกระนวนวิทยาคมร้อยละ ๑๐๐ นานวตั กรรม “ฮักนะ” (HUGNA Model) น้อมนาศาสตรพ์ ระราชาแกป้ ัญหายาเสพติด และอบายมุข อย่างยั่งยนื ไปสู่การปฏิบัตใิ นโรงเรียนอย่างมปี ระสิทธภิ าพและประสิทธิผล ๒.๒.๒ เปาหมายเชงิ คุณภาพ ๑) เพ่อื ขับเคลอ่ื นให้การดาเนินงานสถานศกึ ษาสีขาวปลอดยาเสพตดิ และอบายมุข ของโรงเรียนศรีกระนวนวทิ ยาคมให้อยา่ งเป็นระบบ มีประสทิ ธภิ าพและประสิทธผิ ล ๒) ครู บุคลากรทางการศึกษา และเครือข่ายให้การดูแลช่วยเหลือนักเรียนให้ ปลอดภัยจากยาเสพตดิ และอบายมขุ อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล นวตั กรรม HUGNA ๑๒ น้อมนำศำสตร์พระรำชำแกป้ ญั หำยำเสพติด และอบำยมุข อย่ำงยั่งยนื
๒.๓ แนวคิดสำคัญในกำรออกแบบนวตั กรรม พระราชปณิธานหรือพระราชกระแสรับสั่ง ของพระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดลุ ยเดชมหาราช รัชกาลที่ ๙ เร่ือง การสรา้ งคนดีใหแ้ กบ่ า้ นเมอื ง ตอ้ งหาแนวทางสรา้ งคน ดีกอ่ น แล้วจงึ จะพฒั นาใหเ้ ป็นคนเก่ง ครูต้องมีศรทั ธาที่แรงกลา้ เพ่ือทาให้เด็กเป็นคนดคี ือ ส่ิงที่สอน และอบรมผู้เรียนให้มีองค์ความรู้ มอี ุปนิสัยติดตัว(Character Education) ๕ ด้าน คือ ศีลธรรม จรยิ ธรรม มารยาท วินัย และวฒั นธรรม เพอื่ ให้คนไทยเปน็ ผู้มมี ารยาท มีวนิ ยั มีความรับผิดชอบใน หน้าที่ และเป็นพลเมืองดีของชาติโดยการศึกษา แบ่งเป็น ๒ ส่วน คือ การสอน และการอบรม ซึ่งเปรยี บเสมือนตน้ ไม้ทม่ี ีสว่ นของลาต้นและราก ศำสตร์พระรำชำ คอื องค์ความรู้ของพระราชา (พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช รัชกาลท่ี ๙ ) ที่ทรงวางแนวทาง แนวคิด ทฤษฎี หลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาของปวงชนชาวไทยได้รับการน้อมนาไปประยุกต์ใช้อย่าง แพร่หลายในทุกภาคสว่ น โดยเฉพาะอย่างย่ิงในสถานศึกษา จนประสบความสาเรจ็ อยา่ งเปน็ รูปธรรม ฯลฯ จวบจนทุกวนั นี้ ศาสตร์พระราชา ถอื เปน็ แนวทางหน่งึ ซง่ึ ได้รบั การพสิ ูจนแ์ ล้วว่าเป็นแนวทางทส่ี ามารถนาไปสู่ การพัฒนาทย่ี งั่ ยืนได้ แนวทางการเรยี นร้ศู าสตร์พระราชาน้ันจะตอ้ งระเบดิ จากข้างในนัน่ คือต้องสร้าง ความเขม้ แข็งให้คนทเ่ี ราเข้าไปพฒั นาให้มสี ภาพพร้อมท่จี ะรบั การพัฒนาเสยี ก่อนโดย มติ ิ “เขำ้ ใจ” น่นั คือก่อนจะทาอะไรตอ้ งมีความเขา้ ใจเสยี ก่อนและระหว่างการดาเนินการน้นั จะต้องทา ให้ผ้ทู ่เี ราจะไปพฒั นาน้นั เข้าใจเราดว้ ยเพราะถ้าเข้าใจแตเ่ พียงฝ่ายเดียวประโยชนค์ งจะไม่เกิดขึ้นตามท่ี เรามุ่งหวังไว้ “เข้ำถึง” ก็เช่นกันเมอื่ รู้ปัญหาแลว้ เขา้ ใจแล้วก็ต้องเขา้ ถงึ เพือ่ ใหน้ าไปสู่การปฏบิ ตั ิให้ได้ และเม่อื เข้าถึงแล้วจะตอ้ งทาอย่างไรกต็ ามให้คนท่ีเราจะพัฒนาอยากเขา้ ถงึ เราดว้ ยดงั นน้ั จะเห็นวา่ เป็น นวตั กรรม HUGNA ๑๓ น้อมนำศำสตรพ์ ระรำชำแก้ปญั หำยำเสพติด และอบำยมุข อยำ่ งยงั่ ยืน
การส่อื สารสองทางทั้งไปและกลับถ้าสามารถทาสองประการแรกได้สาเร็จเร่ือง “ กำรพัฒนำ ” จะเป็นไปไดอ้ ย่างดีเพราะเม่ือต่างฝ่ายต่างเข้าใจกันต่างฝา่ ยอยากจะเขา้ ถึงกันแล้วการพัฒนาจะเป็น การตกลงร่วมกนั ท้งั สองฝ่ายทงั้ ผู้ใหแ้ ละผู้รบั หลกั ปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพยี งคือ “หวั ใจแห่งศาสตร์พระราชา” ท่ีรชั กาลที่ ๙ ได้ทรง มีพระราชดารสั เร่ืองเศรษฐกิจพอเพียงเป็นคร้ังแรกเม่ือ พ.ศ.๒๕๑๗ และได้ทรงเปรยี บเทียบเศรษฐกิจ พอเพียงเหมือนเสาเข็ม พระองคไ์ ด้ทรงมีพระราชดารัสวา่ “ บ้านเรอื นถา้ จะให้มั่นคงต้องมีเสาเขม็ แต่ เสาเข็มอยู่ใตด้ นิ เพราะฉะน้ันจะไมม่ ีใครเหน็ จะลืมบทบาทเกี่ยวกับเสาเข็ม ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง เหมือนเสาเข็มทเ่ี ป็นรากฐานแห่งความม่ันคงแตม่ องไม่เหน็ ถ้าพน้ื ฐานคนไม่มีความอยู่ดีกินดีตาม อตั ภาพแล้วไปสร้างอะไรท่ใี หญโ่ ตบนสงิ่ ท่ไี มม่ ีพ้นื ฐานท่ีม่ันคงจะลม้ ลงมางา่ ย ” ทัง้ น้ีหลกั ปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงอันประกอบดว้ ยหลักสาคัญ ๓ประการ คอื ความพอประมาณ ความมเี หตุผล และมี ภมู คิ ุ้มกันท่ีดี และ ๒ เงอื่ นไข คือการใช้ความรู้ ควบคู่กบั คุณธรรมเปน็ แนวทางการดาเนินชีวติ และ สามารถดารงอยู่ไดอ้ ยา่ งม่นั คงและย่ังยืนภายใตค้ วามเปล่ียนแปลงต่าง ๆของกระแสโลกาภวิ ฒั น์ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงภายใต้ศาสตร์พระราชา คือ แนวทางการพัฒนาในทกุ ๆ ดา้ นอยา่ งยั่งยืนโดยเปาหมายสาคญั อยู่ที่การพัฒนาทรพั ยากรมนษุ ย์ และการสร้างความเข้มแข็งจาก ภายในโดยเรม่ิ ตน้ จากการพง่ึ พาตนเองและรวมตวั กันเป็นกลุ่มสร้างองคค์ วามรู้ สร้างการรบั รู้ เข้าใจถึง ปญั หาที่ผ่านมา เติบโตในทุกระดับอย่างมคี ุณภาพ เป็นเร่ืองท่ีตอ้ งดาเนนิ การจากล่างข้ึนบน โดยองค์ ความรู้ตา่ ง ๆ ที่พระองคท์ รงใช้ในการพัฒนานน้ั มศี นู ยก์ ลางการเรยี นรู้ และการแก้ปญั หาอยูท่ ี่ “คน” ท้งั ส้ิน ดร. อานนท์ ศักดิว์ รวิชญ์ ได้กล่าวเกี่ยวกับศาสตร์พระราชา จากปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง ส่กู ารพฒั นาอยา่ งยัง่ ยนื ไวด้ ังนี้ ๑. หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งประกอบด้วยสามห่วง คอื ความพอประมาณ ความมี เหตผุ ล การมภี มู ิคุ้มกันในตน สองฐาน มฐี านความรู้ และ ฐานคณุ ธรรม ๒. วิธีการของศาสตร์พระราชา คอื เขา้ ใจ เขา้ ถงึ พัฒนา โดยต้องเข้าใจ เข้าถึง พฒั นา คน วัตถุ สังคม สงิ่ แวดล้อม และวฒั นธรรม เขา้ ใจ หมายถงึ การใชข้ ้อมูลที่มอี ยู่แลว้ การใช้และแสวงหา ข้อมูลเชิงประจักษ์ การวิเคราะหแ์ ละการวิจยั การทดลองใชจ้ นไดผ้ ลจริงกอ่ น เข้าถึง หมายถึง การ ระเบิดจากข้างใน เข้าใจกลุม่ เปาหมายในการพัฒนา และสร้างปัญญาสังคม พัฒนา หมายถงึ การ พัฒนาทปี่ ระชาชนเรมิ่ ต้นดว้ ยตนเอง พึ่งพาตนเองได้ และมตี น้ แบบในการเผยแพรค่ วามร้ใู ห้ประชาชน ไดเ้ รียนรแู้ ละนาไปประยกุ ตใ์ ช้ ๓. การประยกุ ต์แหง่ ศาสตร์พระราชา ต้องทาให้ด้วยความรัก ความปรารถนาและด้วยใจ ตอ้ งประยุกตใ์ ชอ้ ยา่ งยัง่ ยืน ไม่ยดึ ตดิ ตารา ปรับตามบุคคล สภาพพนื้ ท่แี ละสถานการณ์ นวัตกรรม HUGNA ๑๔ นอ้ มนำศำสตร์พระรำชำแก้ปัญหำยำเสพติด และอบำยมุข อยำ่ งยงั่ ยนื
๔. ผลลพั ธ์ของศาสตร์พระราชา คอื การพัฒนาอยา่ งยง่ั ยืน กระทรวงศึกษาธิการวางนโยบายสถานศกึ ษานอ้ มนาศาสตรพ์ ระราชาสู่การพัฒนาท่ียั่งยืน ดา้ นการปองกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยนาโครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติด และ อบายมุขมาใชใ้ นการส่งเสริม พฒั นา ปองกนั และแกไ้ ขปญั หายาเสพติด อบายมุข และพฤตกิ รรมทีไ่ ม่ พงึ ประสงค์ เพ่ือให้นกั เรียนได้รับการพัฒนาอย่างเต็มตามศักยภาพ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ มีภูมิคุ้มกันทางจิตใจท่ีเข้มแข็ง มีคุณภาพชีวติ ที่ดี มีทักษะในการดารงชีวิตและรอดพ้นจากวิกฤตทั้ง ปวง สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐานและกรมสขุ ภาพจิต กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกัน วางรากฐานการพัฒนาผู้เรียนอย่างเปน็ ระบบต่อเน่ืองและยง่ั ยืน เด็กวัยรนุ่ อายรุ ะหว่าง ๑๓ – ๑๘ ปี เปน็ วยั ทตี่ อ้ งการความรัก และการยอมรับจากคนรอบขา้ ง มคี วามเป็นตัวของตัวเองมากขนึ้ มีอิสระที่ จะคิดฝัน มีการวางเปาหมายของชวี ิตและพยายามฟันฝา่ ไปตามท่ีตนเองฝนั ไว้ ซึ่งสังคมต้องช่วยให้ กาลงั ใจและปลกู ฝังคณุ ธรรมจรยิ ธรรมให้แก่เด็กวัยนี้ เพื่อจะไดบ้ รรลุตามแนวทางทเี่ ด็กแต่ละคนตงั้ ใจ ไว้ ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการได้พยายามจัดการศึกษาให้กับเด็กทุกคนในประเทศ โดยการกาหนด หลกั สูตรการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐานของไทยใหเ้ หมาะสมกบั สภาพการเปล่ยี นแปลงของสังคม โดยมุ่งพฒั นา ผเู้ รียนทุกคนซึง่ เปน็ กาลังของชาตใิ หเ้ ป็นมนุษยท์ ี่มคี วามสมดุลทงั้ ด้านร่างกาย ความรู้ และคุณธรรม มจี ติ สานึกในความเป็นพลเมืองไทยและเปน็ พลโลก ยึดมน่ั ในการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มคี วามรแู้ ละทักษะพ้ืนฐาน รวมทั้งเจตคติที่จาเป็นต่อการศึกษาต่อ การประกอบอาชพี และการศกึ ษาตลอดชีวิต โดยมุ่งเน้นผู้เรียนเปน็ สาคัญบนพื้นฐานความเช่อื ว่า ทกุ คนสามารถเรยี นรแู้ ละพฒั นาตนเองได้เตม็ ตามศักยภาพ สานักงานปองกนั และปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ได้จดั กิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพนั ธ์ เนอื่ งในวันต่อตา้ นยาเสพติดโลก ภายใต้คาขวญั ว่า “ทาดีเพ่ือพอ่ สานตอ่ แก้ปญั หายาเสพติด” โดยมี กรอบแนวคดิ “ตอ้ งระเบิดจากขา้ งใน” นั่น คือต้องสรา้ งความเข้มแขง็ ให้กับนกั เรียน ให้มีสภาพพร้อม ที่จะรับการพฒั นาโดยใช้หลัก “เขา้ ใจ เขา้ ถึง พัฒนา” คือก่อนจะทาอะไรต้องมคี วามเข้าใจภมู ิสงั คม ของนกั เรียน และปญั หาท่ี หลากหลายทั้งทางดา้ นกายภาพ จารตี ประเพณีและวฒั นธรรม โดยระหวา่ ง การดาเนินการนัน้ จะต้องทาใหน้ กั เรียนนนั้ “เข้าใจ” การทางานของโรงเรียนด้วย เพราะถ้าเข้าใจเขา แต่ฝ่า ยเดียว โดยท่ีอีกฝ่า ยไม่เข้าใจ ประโยชน์คงจ ะไม่เกิดขึ้น ตา มท่ีมุ่งหวังไว้ “เข้าถึง” กเ็ ชน่ กัน เม่อื รู้ปัญหาแลว้ เข้าใจแลว้ กต็ อ้ งเขา้ ถึง เพื่อใหน้ าไปส่กู ารปฏิบัตใิ ห้ได้ และจะต้องทาอย่างไร กต็ ามใหเ้ ขาอยากเขา้ ถึงเราด้วย ดังน้นั จะเหน็ วา่ เป็นการส่ือสารสองทางทั้งไปและกลับ ถา้ สามารถทา สองประการแรกได้สาเร็จ เร่ือง “การพฒั นา” จะทาได้อย่างยงั่ ยืน เพราะเมื่อตา่ งฝ่ายต่างเข้าใจกัน ตา่ งฝา่ ยอยากจะเข้าถงึ กันแลว้ การพัฒนาจะเป็นการตกลงร่วมกนั ท้ังสองฝ่ายทง้ั ผใู้ หแ้ ละผู้รับ การลง มือกระทาและหาทางต่อยอดองค์ความรู้เดิมให้ดีข้ึน ด้วยองค์ความรู้ใหม่ท่ีเรียกว่า นวัตกรร ม (Innovation) เกิดวิธีคดิ ใหม่ (Paradigm) ทเี่ ป็นของตน สามารถเป็นแนวทางใหผ้ ้อู ืน่ ได้เรียนรูแ้ ละต่อ นวัตกรรม HUGNA ๑๕ น้อมนำศำสตร์พระรำชำแก้ปญั หำยำเสพติด และอบำยมุข อย่ำงยง่ั ยนื
ยอดถือว่าเป็นทฤษฎีการพัฒนาสู่ความยั่งยืนท่มี คี ุณค่ายิ่ง ที่สามารถนามาประยุกตใ์ ช้ในการปองกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติดและอบายมขุ เปน็ อยา่ งดี โรงเรียนศรีกระนวนวิทยาคมม่งุ พัฒนานักเรยี นให้เป็นบุคคลท่ีมคี ุณภาพทง้ั ด้านร่างกาย จติ ใจ และสติปัญญา มีความรู้ความสามารถและมีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ดาเนินชีวิตที่เปน็ สุขตามท่ีสังคม มงุ่ หวงั โดยผ่านกระบวนการทางการศึกษาท่ีสถานศึกษาดาเนินการจัดการศกึ ษาตามนโยบายของ กระทรวงศกึ ษาธิการที่ต้องการให้เปน็ คนเก่ง คนดี มีความสุข นอกจากการดาเนนิ การสง่ เสริมและ สนับสนุนใหน้ กั เรียนได้เรียนรู้ตามหลักสูตรแล้ว การปองกันและการชว่ ยเหลอื แกไ้ ขปัญหาดา้ นยาเสพ ตดิ เดก็ ติดเกม เลน่ การพนัน หนเี รียน ทะเลาะววิ าท รวมทง้ั การก่ออาชญากรรม กเ็ ป็นอีกภารกจิ หนึ่ง ทสี่ าคญั ท่ีโรงเรียนพยายามดาเนินการแก้ไขปัญหามาอยา่ งต่อเนือ่ งโดยร่วมกันแก้ปัญหากับผู้ปกครอง ชมุ ชน องคก์ รศาสนา และผู้ทีเ่ ก่ียวขอ้ งทกุ ภาคสว่ น(ศูนยอ์ านวยการปองกนั และปราบปรามยาเสพติ ด กระทรวงศึกษาธิการ สานกั ส่งเสรมิ กจิ การศกึ ษา สป., ๒๕๖๐) โรงเรยี นได้นาประสบการณ์ในการดาเนนิ งานสถานศึกษาสขี าวปลอดยาเสพติด และอบายมุข อย่างจรงิ จงั ตั้งแต่ปีการศึกษา ๒๕๕๕ รวมถึงขอ้ มูลพ้นื ฐานผ้มู ีสว่ นเกี่ยวข้อง มาเปน็ สารสนเทศในการ พัฒนารูปแบบนวตั กรรม “ฮักนะ” (HUGNA Model) น้อมนาศาสตร์พระราชาแก้ปัญหายาเสพติด และอบายมุขอย่างย่ังยืน เพอื่ ใชใ้ นการสร้างภูมิคุ้มกันและช่วยลดปัญหายาเสพติดอบายมุข และ พฤติกรรมอันไม่พึงประสงค์ ทาใหน้ กั เรยี นหันมาเดินในเส้นทางชีวติ ที่ถกู ต้องตามทานองคลองธรรม นาพาตนเองและคนรอบขา้ งให้รอดพ้นจากทางเสื่อมท้ังปวง ซง่ึ จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อเยาวชนทจ่ี ะ เจริญเติบโตเปน็ ผู้ใหญ่ในวนั หนา้ และนาพาประเทศใหก้ ้าวหน้าทัดเทยี มกับนานาอารยประเทศอย่าง แท้จริง นวัตกรรม HUGNA ๑๖ น้อมนำศำสตรพ์ ระรำชำแก้ปญั หำยำเสพตดิ และอบำยมขุ อยำ่ งยงั่ ยืน
รปู แบบการดาเนินงานนวตั กรรม HUGNA นวัตกรรม “ฮกั นะ” (HUGNA Model) หมายถึง กระบวนการ ท่ีน้อมนาศาสตร์พระราชา พระราชดาริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชมหาราช รชั กาลที่ ๙ มา ใช้โดยมเี ปาหมายอยูท่ ่คี ณุ ภาพของผู้เรียน มรี ายละเอยี ด ดงั น้ี เข้ำใจ คือ การสร้างให้เกิดความมั่นใจในข้อมูลพ้ืนฐานด้วยการศึกษาข้อมลู ทุกมิติของ โรงเรียนและชุมชน คน้ หารากฐานของปญั หา รวบรวมองคค์ วามรู้ มี ๒ ขนั้ ตอน คอื ขั้นที่ ๑ รู้ชัดปัญหา รู้ข้อมูลพื้นฐานความต้องการ สภาพปัญหาท่ีเกิดข้ึน นโยบา ย เปาหมาย ขององคก์ ร โรงเรยี น และชมุ ชน ข้นั ท่ี ๒ ศึกษาบริบท ศึกษา รวบรวม วิเคราะหข์ ้อมูล โรงเรยี น ชุมชน เพื่อค้นหารากฐาน ของปญั หาท่ีแท้จรงิ เข้ำถึง คือ เป็นการส่ือสาร และการสร้างความมีส่วนรว่ ม โดยมุ่งสร้างความเขา้ ใจความมน่ั ใจ ให้ โรงเรยี น ชมุ ชน และ ผ้เู ก่ียวขอ้ ง มสี ว่ นร่วมในกระบวนการพัฒนามากท่สี ดุ มี ๒ ขัน้ ตอน คือ ขน้ั ท่ี ๑ กาหนดเปาหมาย เลือก ประเด็น / แนวทางในการพฒั นาด้วยการมีส่วนร่วม นวัตกรรม HUGNA ๑๗ น้อมนำศำสตรพ์ ระรำชำแก้ปัญหำยำเสพติด และอบำยมุข อย่ำงยงั่ ยืน
ข้นั ที่ ๒ วางแผน ออกแบบ วางแผนออกแบบกระบวนการพฒั นา ดว้ ยการมีส่วนร่วมและ ส่ือสารเพอื่ ใหค้ วามเขา้ ใจตรงกนั พัฒนำ คือ การเรียนรู้เพื่อพฒั นาศกั ยภาพ โรงเรียนและชุมชน สร้างทมี พ่เี ล้ยี ง ออกแบบ หลกั สตู รและโปรแกรมการพัฒนา การศึกษาดูงาน แลกเปล่ียนเรยี นรู้ และฝึกปฏิบัติของโรงเรยี นและ ชุมชน รวมทง้ั ให้คาแนะนา นิเทศ กากับ ติดตาม และสนับสนนุ มี ๓ ข้ันตอน คอื ขั้นท่ี ๑ ลงมอื ทา นากระบวนการท่ีได้วางแผน ออกแบบ ลงสู่การปฏิบัติ เพ่ือพัฒนา ศักยภาพโรงเรยี น ด้วยกระบวนการมีสว่ นร่วม มีทีมพ่ีเล้ียงให้ คาแนะนา นิเทศ กากับ ตดิ ตาม และ สนับสนนุ ขั้นที่ ๒ นาสะทอ้ นผล การเรียนรกู้ ารทางาน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพอ่ื นาสู่การปรับปรุงการ ทางาน ให้ดีข้นึ ขน้ั ที่ ๓ ดลใจพัฒนาให้ยงั่ ยืน เสริมสร้างขวัญ กาลังใจ ใหม้ ีจิตสานึกในการพัฒนา ส่คู วาม ยง่ั ยืน ๒.๔ วิธกี ำรดำเนินกำรใชน้ วัตกรรม เพื่อปองกันการแพร่ระบาดของยาเสพติดและอบายมุขรวมทง้ั การดแู ลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรยี นศรีกระนวนวทิ ยาคมได้อย่างทั่วถึงน้นั โรงเรยี นศรีกระนวนวิทยาคมได้นอ้ มนาศาสตร์พระราชา ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และวงจรคุณภาพ (PDCA) ของเดมมิ่งมาใช้จดั ระบบโครงสร้างการ ปองกันและแก้ปัญหาเพอ่ื ให้สามารถดแู ลนกั เรียนได้อย่างท่ัวถึงเป็นระบบและสามารถแก้ไขยบั ยั้ง ปัญหา ได้ทันท่วงทีมุ่งเน้นกา รสร้างภูมิคุ้มกันทางร่า งกา ยและจิตใจให้แก่นักเรียน โรงเรียน ศรกี ระนวนวิทยาคมทุกคนภายใต้ระบบดูแลชว่ ยเหลอื นกั เรียนทเ่ี ข้มแข็งและความรว่ มมอื จากทกุ ภาค สว่ นท่เี ก่ยี วขอ้ ง ดร.อานนท์ ศกั ดวิ์ รวิชญ์ (๒๕๖๐) ได้วเิ คราะห์สงั เคราะห์และนาเสนอว่า ศาสตร์พระราชาน้ัน ประกอบด้วย ๔ องค์ประกอบสาคัญ ได้แก่ (๑) วิธีการ แห่งศาสตร์พระรา ชาคือเข้า ใจเข้าถึง และพัฒนาอย่างยั่งยืน (๒) ปรัชญาแห่งศาสตร์พระราชาคือปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (๓) บท ประยุกตแ์ ห่งศาสตรพ์ ระราชาคือโครงการในพระราชดาริกวา่ ๔,๐๐๐ โครงการและ (๔) ผลลพั ธ์ของ ศาสตรพ์ ระราชาคือแผ่นดนิ ธรรมและประโยชนส์ ขุ แห่งมหาชนชาวสยามอันเป็นการพัฒนาอยา่ งยง่ั ยืน ดังนัน้ กระบวนการดาเนินงานโครงการสถานศึกษาสขี าวปลอดยาเสพติด และอบายมขุ ของโรงเรยี น ศรกี ระนวนวิทยาคม ยึดหลกั ความเขา้ ใจ เขา้ ถงึ และมุ่งพัฒนาคณุ ภาพของผูเ้ รยี นทกุ ดา้ นพรอ้ มทั้ง สอดแทรกหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อให้นกั เรียนมีความรู้เพียงพอท่ีจะนามาใช้ในการสรา้ ง ภูมิค้มุ กนั ทางจติ ใจสง่ ผลให้การแพรร่ ะบาดของยาเสพติดและอบายมขุ ลดลงและหยุดในทีส่ ุด นวตั กรรม HUGNA ๑๘ น้อมนำศำสตรพ์ ระรำชำแก้ปัญหำยำเสพตดิ และอบำยมุข อยำ่ งย่งั ยนื
โรงเรียนศรีกระนวนวิทยาคม ได้น้อมนากระบวนการดังกล่าวข้างต้นมาดาเนนิ การอย่าง ตอ่ เน่อื งและยั่งยืน ดว้ ยความรัก ความปรารถนาดี ไม่ยึดติดตารา ปรับตามภูมิสังคมของนักเรียน และ สถานการณ์ โรงเรียนให้บริกำรทำงกำรศึกษำแก่ชุมชนในตะเขบ็ รอยต่อของ ๔ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น กำฬสินธุ์ มหำสำรคำม และอุดรธำนี นอกจำกนั้นแล้วโรงเรียนยังตั้งอยูใ่ นเขต อำเภอกระนวน ซ่ึงเป็นพื้นที่ที่ได้รับกำรประกำศให้เป็นพ้ืนที่สีแดงเกี่ยวกับยำเสพติดอีกด้วย โรงเรยี นได้ทาการศกึ ษาข้อมูลของนักเรยี นจากขอ้ มูลเบ้อื งตน้ อยา่ งเป็นเป็นระบบทั้งเอกสาร แผนท่ี สอบถามจากเจ้าหน้าที่ นกั วิชาการ และผมู้ ีสว่ นไดส้ ว่ นเสีย พบว่านกั เรียนสว่ นใหญม่ าจากครอบครวั ท่ี มฐี านะยากจน บิดามารดาหย่ารา้ ง และออกไปทางานตา่ งถิน่ ทง้ิ ภาระเลี้ยงดใู ห้กับปยู่ า่ ตายาย ทาให้ นักเรียนมอี ัตราเส่ยี งตอ่ ปัญหายาเสพติดอบายมุข ปัญหาโรคเพศ และพฤติกรรมท่ีไม่พึงประสง ค์ (ดืม่ สุรา เทีย่ วกลางคืน การพนัน การทะเลาะวิวาท ตดิ เกม สื่อลามกอนาจาร ฟมุ่ เฟอื ยและวตั ถนุ ยิ ม เกินฐานะ ฯลฯ) ซ่งึ เปน็ พฤติกรรมเบี่ยงเบนทีส่ งั คมไมย่ อมรับ ดังน้นั โรงเรียนซึ่งเปรยี บเสมือนบา้ นหลัง ที่สองจึงต้องเป็นที่พึ่งพงิ ให้ความรักความปรารถนาดี ความอบอ่นุ และสร้างความปลอดภยั ในชีวิต ภายใต้ความร่วมมือจากผู้มีส่วนได้ส่วน เสียซ่ึงได้แก่ผู้บริหารสถา นศึกษา คณะครู ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพืน้ ฐาน และชมุ ชน ด้วยการดาเนินงานสถานศกึ ษาสีขาว ปลอดยาเสพ ตดิ และอบายมุขผา่ นนวตั กรรม “ฮกั นะ” (HUGNA Model) นอ้ มนาศาสตร์พระราชาแกป้ ัญหายา เสพติด และอบายมุขอย่างย่ังยืน ซ่ึงเป็น นวัตกรรมที่สร้างข้ึนเพ่ือพัฒนาคุณภาพของนักเรียน (Students’ Quality)ให้เป็น บุคคลท่ีมีคุณภาพทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา มีความรู้ ความสามารถและมคี ุณธรรม จริยธรรม สามารถดาเนนิ ชวี ิตอย่างเป็นสขุ ตามท่สี ังคมมุ่งหวังอยา่ งเต็ม ศกั ยภาพ ภายใต้แนวคิดและหลักการให้ความรักความห่วงใยกับนักเรียนเพราะเมื่อรู้ว่ามีคนรัก มีคนเข้าใจเช่อื และศรทั ธาในตัวเขา เขาจะเริม่ รกั ตนเอง เห็นคณุ คา่ ในตนเอง อยากรักผอู้ ื่น ช่วยเหลือ ผอู้ ่นื ดว้ ยความบรสิ ุทธ์ิใจ เม่ือครู”เขา้ ใจ”ก็จะเข้าถึงนักเรียน ครูจะกลายเปน็ เพอ่ื น เป็นท่พี ่งึ เป็นที่ เคารพรักและเป็นแบบอย่างให้เดินตาม ครูจึงสามารถดูแลใหเ้ ขาพัฒน าตนเองตามทางท่ีถูกต้อง เด็กจะเริม่ รักตนเอง เห็นคุณค่าในตนเอง อยากรักผ้อู ่ืน ชว่ ยเหลือผู้อ่นื ดว้ ยความบริสุทธิ์ใจ เมื่อครู เขา้ ถึงนกั เรยี น ครูจะสามารถดูแลใหเ้ ขาพัฒนาตนเองใหเ้ ปน็ บุคคลทีม่ คี ุณภาพทั้งด้านร่างกาย จติ ใจ และสติปญั ญา มีความรู้ความสามารถและมีคณุ ธรรม จริยธรรม ดาเนินชีวิตท่ีเป็นสุขตามท่สี ังคม มุ่งหวัง โรงเรียนศรีกระนวนวิทยาคม ดาเนินการสร้างนวัตกรรม “ฮักนะ” (HUGNA Model) น้อมนาศาสตร์พระราชาแก้ปัญหายาเสพตดิ และอบายมุขอย่างยงั่ ยืน เพ่อื ใช้ขบั เคล่ือนการดาเนนิ งาน สถานศึกษาสีขาวปลอด ยาเสพตดิ และอบายมขุ โดยเริ่มจากการแลกเปล่ยี นเรียนรู้ของผู้มีส่วนได้ส่วน เสียโดยการนาขอ้ มูลจากการปฏิบัติงานในปีที่ผ่านมา ตลอดจนความคิดเห็นและขอ้ มูลจากเครือขา่ ย นวตั กรรม HUGNA ๑๙ นอ้ มนำศำสตร์พระรำชำแกป้ ัญหำยำเสพตดิ และอบำยมุข อย่ำงยัง่ ยืน
ผูป้ กครองและองค์กรภายนอกที่เกยี่ วข้อง มาวิเคราะห์สาเหตุท่ีแทจ้ ริงของปัญหาท่ีเกดิ ขนึ้ ในการ ปฏิบตั ิงานแลว้ ตั้งคณะกรรมการขึ้นเพ่ือวางแนวทางการแกไ้ ขปัญหา โดยนา “ศาสตร์พระราชา” และ หลกั การของหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง มาสังเคราะหร์ ูปแบบนวัตกรรม และดาเนนิ งานดว้ ย วงจรคณุ ภาพ (PDCA) ของเดมมง่ิ ซึง่ มสี ่วนประกอบดงั นี้ ข้นั แรก ขัน้ การวางแผน (Plan - P) เปน็ การศกึ ษาถงึ ปัญหาของการดาเนนิ งาน การกาหนด เปาหมายการแก้ปญั หา และการวางแผนการแกป้ ัญหาในการปฏบิ ัติงาน มีการครอบคลุมถึงการ กาหนดกรอบและหัวขอ้ ท่ีต้องการปรับปรุง และเปลี่ยนแปลง โดยมีการวิเคราะห์ข้อมลู ทร่ี วบรวมได้ แลว้ กาหนดทางเลือกในการปรบั ปรุงหรอื เปล่ยี นแปลงเพ่อื ดาเนนิ การต่อไปใน ขัน้ ที่สอง ข้ันตอนของการลงมือปฏิบตั ิ (Do - D) เพ่ือดาเนินการแก้ไขปัญหาหรอื การนา วธิ กี ารแก้ปญั หาไปปฏิบตั ิ กล่าวคอื มีการปรับปรุงหรือเปลีย่ นแปลงตามทางเลือกทไ่ี ดก้ าหนดไว้แล้ว ตามขั้นการวางแผน ข้นั ที่สาม เป็นการตรวจสอบ (Check - C) มีการประเมนิ ผลที่ไดร้ บั จากการปรบั ปรุง และ เปลย่ี นแปลง เพ่ือให้ทราบว่า การปฏิบตั ิในข้นั ท่สี องนั้นสามารถบรรลุเปาหมายหรือวตั ถุประสงค์ ท่ไี ด้ กาหนดไว้หรือไม่ และใน ขั้นสุดท้ายเป็นการดาเนินงานให้เหมาะสม (Act - A) เป็นข้ันการพิจารณาผลทไ่ี ด้จากการ ตรวจสอบว่า ผลที่เกิดข้นึ เป็นไปตามแผนท่ีวางไว้หรือไม่ ทั้งนเ้ี พ่อื ค้ นหาแนวทาง หรือวิธีการท่ีจะ ปรับปรงุ ให้ดียิง่ ขนึ้ ต่อไป แต่ถ้าผลทไี่ ดน้ ั้นไม่บรรลุวัตถุประสงคต์ ามแผนทไี่ ด้วางไว้ จะต้องมกี ารนา ขอ้ มูลทไี่ ด้รวบรวมไว้มาวเิ คราะห์ และพิจารณาว่าควรจะดาเนินการอย่างไรต่อไป โรงเรียนมุ่งเน้นการ บริหารแบบมีส่วนร่วมของคณะกรรมการ สถาน ศึกษาขั้นพ้ืนฐา น เครือข่ายผู้ปกครอง สมาคมศิษยเ์ กา่ สมาคมผู้ปกครอง เครอื ข่ายผู้นานักเรียนและชุมชน โดยมกี ารจัด ประชุมเสวนาผู้นาชมุ ชนและเครือข่ายผปู้ กครอง เพือ่ ร่วมกนั กาหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ เปาหมาย คุณลักษณะอันพึงประสงค์ กาหนดเกณฑ์ความคาดหวังและผลจากการดาเนิ นงานระบบดูแล ช่วยเหลือนกั เรียน ด้วยการดาเนินงานอยา่ งเป็นระบบโดยมุ่งเน้นความเป็นผู้นา ความรับผิดชอบ การมสี ่วนร่วมของผู้เรียนเป็นสาคญั บูรณการแบบองคร์ วมดว้ ยกจิ กรรมท่ีหลากหลาย มีการส่อื สาร รณรงค์ ประชาสมั พันธอ์ ยา่ งทัว่ ถึงเพ่ือพัฒนาคณุ ภาพชีวิตของนกั เรียนใหเ้ จริญเตบิ โตงอกงามตาม ศักยภาพผนวกเข้ากับ นวัตกรรม HUGNA ซึ่งมีรูปแบบและวิธีการดาเนินงานซ่ึงประกอบด้วย H: Hazard Protecting (การระวังปองกันภัย) (ใส่ใ จ พึ่งได้) U: Update: (ข้อมูลเป็นปัจจุบัน ) ไร้อคติ G: Good Care Collaborative (ร่วมกัน ดูแลรักษา ) มีวิจำรณญำณ สำนสัม พันธ์ N: Network (มีเครือข่ายความร่วมมือ) ปันน้ำใจ ไมห่ วังผล และ A: Achievement (สัมฤทธิผล) มวลชนชื่น ศรทั ธำตน ลน้ ควำมดี โดยมรี ายละเอยี ดท่สี าคญั ดังนี้ นวัตกรรม HUGNA ๒๐ น้อมนำศำสตร์พระรำชำแกป้ ญั หำยำเสพติด และอบำยมขุ อย่ำงยั่งยืน
H: Hazard Protecting = กำรระวังป้องกนั ภัย (ใสใ่ จ พ่งึ ได)้ โรงเรียน โดยการนาขอ้ มลู ปัจจยั เสี่ยงแหล่งอบายมุขรอบโรงเรียนและข้อมลู การคัดกรองมา ศกึ ษาวเิ คราะหส์ ังเคราะหเ์ พื่อทาความ “เขา้ ใจ” ปัญหาและสาเหตุท่แี ท้จริงของปัญหายาเสพตดิ ท่ีเกิด ขน้ึ มาดาเนนิ งาน โครงการ กิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ และบูรณการจัดทาแนวทางการจัดการเรียนรเู้ พ่ือ ระวังปองกัน และสร้างภูมิคุ้มกันให้นักเรียนปลอดภัยจาก ยาเสพติด โรคติดตอ่ ทางเพศสมั พันธ์ การท้องกอ่ นวยั อันควร พฤติกรรมอันไม่พึงประสงค์ (สบู บหุ รี่ ดืม่ สรุ า เล่นการพนัน เข้าสถานบันเทิง เสพส่อื โซเชียล ฯลฯ) ครใู หค้ วามเมตตากรุณา เอ้ือเฟื้อเผือ่ แผ่ ใสใ่ จห่วงใยนักเรียนทั้งในเรือ่ งการเรียน และความประพฤติ ดว้ ยความรัก ความเออื้ อาทรเอาใจใส่อยา่ งสมา่ เสมอ โดยไมม่ ีเงื่อนไข พึ่งพิงได้ พรอ้ มที่จะแนะนาและรว่ มกันแกป้ ัญหาของนักเรยี นอย่างครูมอื อาชีพคือ ซึง่ นอกจากจะทาหน้าที่เป็น ผู้มคี วามรู้ ความสามารถในการจัดการเรียนการสอนใหแ้ กน่ ักเรียนแล้วยังต้องทาหน้าที่อื่นๆ ท่ีเป็น การสนับสนุนหรือพัฒนาให้นักเรียนมีคุณภาพ เป็นคนดี คนเก่ง มีความสุข และมีทักษะในการ ดารงชีวิตให้รอดพ้นจากวกิ ฤตท้ังปวงอย่างเป็นกัลยาณมิตร ทาให้นักเรียนมีความรูส้ ึกไวว้ างใจและ อยากพ่งึ พงิ ครทู ุกคนเขา้ รับการอบรมพัฒนาศึกษาดูงานแลกเปลีย่ นเรียนรู้กบั ผ้เู ช่ียวชาญขององค์กร ต่าง ๆท้งั ของภาครัฐและเอกชน เกย่ี วกับงานสถานศกึ ษาสีขาวปลอดยาเสพติด อบายมุข และบุหร่ี เชน่ การอบรมโครงการดาเนนิ งานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรยี น วทิ ยากรครู ก เทคนิคการให้ คาปรึกษา อบรมเจ้าพนักงานเจ้าหน้าท่ีส่งเสรมิ ความประพฤตินักเรียนนักศึกษา (พสน.) อบรม เจ้าหน้าที่ศูนย์พงึ่ ได้ (OSCC) งานสัมมนาระดับจังหวัดและระดับชาตเิ รอ่ื งความปลอดภยั ทางถนน ฯลฯ เพือ่ นามาใช้ในการ ปองกันและแกไ้ ขปัญหาให้กบั นักเรียน นอกจากนั้นแล้วยงั มีการบูณาการ ทักษะชีวติ ในการจัดการเรียนร้ขู องทุกกลมุ่ สาระการเรียนรู้ การจัดกิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น กิจกรรม แนะแนว กิจกรรมเพิ่มเวลารู้ Active Learning และกิจกรรมของทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ มีการ แต่ งต้ั ง คณะก ร ร มก า ร ดา เนิ น งา น ตา มน โ ย บ า ย ข อง โ คร งก า ร ส ถ า น ศึ ก ษา สี ข า ว ป ล อดย า เส พติ ด และอบายมขุ และดาเนินงานดา้ นการระวังปองกนั ภัยดังต่อไปนี้ ๑. การดาเนินงานหอ้ งเรียนสีขาว หมายถึง การบริหารจัดการห้องเรยี นใหม้ ีแหลง่ เรียนรู้ โครงการ และกิจกรรม เพือ่ รณรงค์ปองกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด โรคเอดส์ การท้องก่อนวัยอัน สมควร และอุบัตภิ ัย ภายใต้ความรว่ มมอื ของผูบ้ ริหาร ครู ผปู้ กครอง และนกั เรียนแกนนาทงั้ ๔ ฝา่ ย คือ ฝ่ายการเรียน ฝา่ ยการงาน ฝา่ ยกจิ กรรม และฝ่ายสารวัตรนักเรียน โดยมกี ารมอบหน้าทค่ี วาม รับผดิ ชอบการปฏิบตั ิอย่างชัดเจน มีการดาเนินงานตามแผนงานอย่างเป็นรูปธรรมตามแนวทางท่ี ศูนย์ปฏบิ ตั กิ ารต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด สานักการศกึ ษาพิเศษ สานักงานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร นวตั กรรม HUGNA ๒๑ น้อมนำศำสตร์พระรำชำแกป้ ญั หำยำเสพตดิ และอบำยมขุ อยำ่ งย่ังยนื
ซ่ึงกาหนดกลยุทธ์ในการดาเนินงานอันมีองคป์ ระกอบท้ัง ๔ ด้าน คือ มีแหล่งเรียนรู้ ดแู ลช่วยเหลือ เออื้ เฟือ้ ด้วยคณุ ธรรม และสร้างสรรค์ดว้ ยกิจกรรม โดยมรี ายละเอียด ดังนี้ - มีแหล่งเรียนรู้ ท่ีใหค้ วามรู้เกี่ยวกับยาเสพติด โรคเอดส์ การตั้งครรภ์ก่อนวัยอันค วร อบายมุข อุบตั ิภัยและโครงการต่าง ๆ ให้นักเรยี นรู้เท่าทันสถานการณ์ในปัจจุบนั ได้แก่หอ้ งเรียน หอ้ งปฏิบตั ิการ ปายนิเทศ และศูนยเ์ รยี นร้โู ครงการสถานศึกษาสขี าว ปลอดยาเสพติด อบายมุข และบหุ ร่ี - ดูแลชว่ ยเหลือ จัดใหม้ ีนักเรียนแกนนา เพ่ือให้คาปรกึ ษาดูแลช่วยเหลื อซึ่งกนั และกัน ให้คาปรึกษา แนะนา ชว่ ยเหลือหากไม่สามารถแก้ไขไดใ้ หร้ ายงานครูท่ีปรึกษาทราบเพอื่ พจิ ารณา ดาเนินการต่อไปไดแ้ ก่แกนนาและสมาชิกจาก ชมรม To Be Number One กรมนักศกึ ษาวชิ าทหาร โรงเรยี นศรกี ระนวนวิทยาคม ศนู ย์เพื่อนใจวัยรุน่ ศูนยพ์ ึ่งได้ (OSCC) สภานักเรียน สารวตั รนกั เรยี น ชมรมถนนปลอดภยั ในสถานศกึ ษา เครอื ขา่ ยทงั้ ภายในและภายนอกสถานศึกษา - เออื้ เฟือ้ ด้วยคณุ ธรรม นักเรียนทกุ คนใช้หลกั ธรรมคาสอนตามศาสนาทตี่ นนับถอื มาเป็นหลัก ยดึ ปฏบิ ตั ใิ นหอ้ งเรยี น ซง่ึ จะทาให้ทุกคนรักกันชว่ ยเหลือกัน - สร้างสรรคด์ ้วยกจิ กรรม มกี ิจกรรมที่สร้างสรรค์ท่ีจะช่วยให้มีความสามัคคี และใชเ้ วลาวา่ ง ให้เป็นประโยชน์ไม่ไปมั่วสมุ กับยาเสพติด หรือสื่อลามกอนาจาร รวมท้ังกจิ กรรมทั้งภายในและ ภายนอกสถานศกึ ษา ๒.บรู ณการการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางการสร้างภูมิคุ้มกันสารเสพติดเพอื่ พัฒนาทกั ษะ ชวี ิต โดยมีการบรู ณการเร่ืองโทษภัยของยาเสพติดและอบายมุข สาเหตแุ ละการแพร่ระบาดของโรค เอดส์ ปญั หาของการต้งั ครรภก์ ่อนวยั อันควร และอบุ ตั ภิ ยั ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สขุ ศกึ ษา พลศกึ ษา และกลุม่ สาระการเรยี นรูต้ า่ ง ๆ กจิ กรรมแนะแนว กจิ กรรมนักเรยี น และการให้ความร้จู ากวิทยากร ภายนอกด้วยการประสาน เชิญ วิทยากร หน่วยงาน องค์กร ท่ีมีหน้าที่เกี่ยวกับการปราบปรามปองกัน และแกไ้ ขปัญหายาเสพตดิ และพฤติกรรมอันไม่พึงประสงค์มาอภปิ ราย บรรยาย เพอ่ื เผยแพรค่ วามรู้ ให้กบั นักเรยี นและบคุ ลากร ๓. จัดโครงการและกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ตามกล่มุ สนใจ เพื่อส่งเสริมความสามารถ ทักษะ ทางวชิ าการและเสริมสร้างความตระหนักและปลุกจิตสานึกไม่ให้นกั เรียนไปเก่ียวข้องกับยาเสพติด และอบายมขุ พฤติกรรมอันไม่พึงประสงค์และอุบัตภิ ยั และระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนไดแ้ ก่ - โครงการนักเรียนเรียนดียกเว้นค่าบารงุ การศึกษา - โครงการเพ่มิ เวลารู้ Active Learning โครงการหอ้ งสมดุ 3 ดี - โครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลอื นักเรียน - โครงการ To Be Number One นวัตกรรม HUGNA ๒๒ นอ้ มนำศำสตรพ์ ระรำชำแกป้ ัญหำยำเสพติด และอบำยมุข อยำ่ งยง่ั ยืน
- โครงการส่งเสรมิ คณุ ธรรมจรยิ ธรรมนกั เรียน - โครงการสง่ เสริมสขุ ภาพและอนามยั โรงเรยี น - โครงการและกิจกรรมอบรมนักเรียนแกนนาปองกนั แก้ไขปญั หายาเสพตดิ - โครงการส่งเสริมพฒั นาศกั ยภาพวงดนตรีไทยและโยธวาธิต - โครงการเผยแพร่ศลิ ปวฒั นธรรมดนตรีและนาฏศิลป์พ้ืนบ้านอิสาน (วงโปงลาง) - โครงการส่งเสริมประชาธิปไตย โครงการถนนปลอดภยั ในสถานศกึ ษา และโครงการดี ๆ จากกลุ่มสาระการเรยี นรูท้ ั้ง 8 กลมุ่ สาระ ๑ กิจกรรมพฒั นาผ้เู รียน - โครงการนักศกึ ษาวิชาทหาร และลกู เสอื ตา้ นยาเสพตดิ (ป.ป.ส.) ฯลฯ นวัตกรรม HUGNA ๒๓ น้อมนำศำสตรพ์ ระรำชำแกป้ ญั หำยำเสพตดิ และอบำยมขุ อยำ่ งย่งั ยืน
การอบรมแกนนาเยาวชนตา้ นยาเสพติด นวตั กรรม HUGNA ๒๔ น้อมนำศำสตร์พระรำชำแก้ปญั หำยำเสพติด และอบำยมุข อยำ่ งยั่งยืน
กิจกรรม To Be Number One กจิ กรรมสุนทรภ่ตู ้านยาเสพติด ๒๖ มถิ นุ ายน ๒๕๖๑ นวตั กรรม HUGNA ๒๕ นอ้ มนำศำสตรพ์ ระรำชำแกป้ ญั หำยำเสพตดิ และอบำยมุข อย่ำงย่งั ยืน
กิจกรรมดนตรีตา้ นยาเสพตดิ กจิ กรรมกีฬาต้านยาเสพติด นวตั กรรม HUGNA ๒๖ น้อมนำศำสตรพ์ ระรำชำแกป้ ัญหำยำเสพติด และอบำยมขุ อยำ่ งยัง่ ยนื
มกี ารดาเนนิ การปรับภมู ิทัศน์และสภาพแวดลอ้ มภายในโรงเรียน จดั อาคารสถานที่ ห้องเรยี น อาคารประกอบการตา่ ง ๆ ให้น่าดู น่าอยู่ และนา่ เรียน ไม่ให้เป็นสถานที่ท่ีนักเรียนลักลอบ หรอื หลบ ซอ่ นมวั่ สุม เสพยาเสพตดิ และปลอดบหุ ร่ี นอกจากนั้นแล้วโรงเรียนได้จดั ต้ังเป็นศูนย์เรียนรูโ้ ครงการ สถาน ศึกษาสีขา วปลอดยาเสพติดและอบายมุขเพ่ือให้ความรู้กับนักเรียนและผู้สนใจ ทั่วไป นวัตกรรม HUGNA ๒๗ นอ้ มนำศำสตรพ์ ระรำชำแก้ปัญหำยำเสพตดิ และอบำยมขุ อยำ่ งย่ังยนื
นวตั กรรม HUGNA ๒๘ นอ้ มนำศำสตร์พระรำชำแกป้ ญั หำยำเสพตดิ และอบำยมุข อย่ำงยงั่ ยนื
U: Update: มขี ้อมลู ทีถ่ กู ต้องเท่ียงตรงเปน็ ปัจจบุ ัน (ไรอ้ คติ) การรจู้ ักข้อมูลท่ีจาเปน็ เกี่ยวกับตวั นักเรียนเป็นสงิ่ สาคญั เพราะเป็นการเร่ิมการสร้างวินยั เชิง บวกในช้ันเรยี นท่ีจะช่วยให้ครทู ี่ปรึกษามคี วามเข้าใจนกั เรียนมากข้นึ สามารถนาข้อมูลมาวิเคราะห์ เพอ่ื การคัดกรองนักเรียนเพ่ือเป็นประโยชน์ในการสง่ เสริม การปองกันและแก้ไขปัญหาของนกั เรียนได้ อย่างถูกทาง ข้อมลู ต้องเป็นเชิงประจักษ์มิใชก่ ารใช้ความรสู้ ึกหรือการคาดเดาโดยเฉพาะในการแกไ้ ข ปญั หานกั เรียน การคัดกรองนกั เรียน ข้อมลู ท่ีใช้มใิ ชม่ เี พียงด้านเดียว ครูจะต้องรวบรวมให้ครอบคลุม รอบด้าน ซ่ึงจะทาใหไ้ ม่เกดิ ข้อผดิ พลาดต่อการชว่ ยเหลือนักเรยี นหรือเกดิ ไดน้ ้อยทส่ี ุดดังน้ันครจู ึงตอ้ ง เป็นผู้มีวนิ ัย อดทน ละเอียดถี่ถ้วน และเสยี สละทง้ั กาลงั กาย กาลังทรัพย์ และความสุขส่วนตวั ครูที่ ปรกึ ษาควรมีขอ้ มลู เกี่ยวกบั นกั เรยี นอยา่ งน้อย ๓ ด้านใหญ่ๆ คือ ๑. ดา้ นความสามารถ ประกอบด้วย ด้านการเรยี นและ ดา้ นความสามารถอื่นๆ ๒. ดา้ นสุขภาพ ประกอบดว้ ย ด้านรา่ งกาย ดา้ นจิตใจและ พฤติกรรม๓. ดา้ นครอบครัว ประกอบดว้ ยดา้ นเศรษฐกิจ ด้านการคุ้มครองนกั เรียน และด้านอืน่ ๆ ท่ี ครพู บเพมิ่ เตมิ ซงึ่ จะทาใหค้ รู “เข้าใจและเข้าถงึ ” นักเรยี นอยา่ งแท้จริงสามารถนาองค์ความรทู้ ั้งใน และนอกตารามา”พัฒนา”ไดอ้ ย่างตรงจดุ โดยสารวจและรวบรวมข้อมูลนักเรยี นเปน็ รายบคุ คลด้วย วธิ ีการและเครื่องมอื ท่ีหลากหลาย เชน่ ๑) ระเบียนสะสม ๒) แบบประเมินพฤตกิ รรมเดก็ (SDQ) ๓) วธิ ีการและเครอื่ งมอื อน่ื ๆ เช่นการสัมภาษณน์ กั เรยี น การศกึ ษาจากแฟมสะสมผลงาน การเยย่ี ม บ้านนักเรียน การศึกษาข้อมูลจากแบบบนั ทกึ การตรวจสุขภาพด้วยตนเองซง่ึ จัดทาโดยกรมอนามัย ฯลฯ จัดระบบการคดั กรองจาแนกกลุม่ นกั เรยี นออกเปน็ ๕กลมุ่ คือกลุ่มปลอดกล่มุ เสย่ี งกล่มุ เสพกลุ่มติด และกลุม่ ค้า และส่งตอ่ นกั เรยี นไปยงั ผเู้ กีย่ วข้องอยา่ งเปน็ ระบบทั้งในและนอกสถานศึกษาดังนี้ ขน้ั ที่ ๑. ขน้ั ค้นหา ๑. สารวจข้อมูลโดยใช้กิจกรรมและแหล่งข้อมูลอย่างหลากหลาย เช่นการออกเยี่ยม บ้าน ระเบยี นสะสม กิจกรรมโฮมรมู กิจกรรมหน้าเสาธง บนั ทึกเหตุการณใ์ นหอ้ งเรยี นบันทกึ มาสาย/ หนเี รยี นสุ่มตรวจปัสสาวะฯลฯ ๒. บันทึกข้อมูลนักเรียนรายบุคคลโดยใช้โปรแกรมและแบบบนั ทกึ ๓. สรุปรวบรวมขอ้ มลู นาเสนอตามลาดบั ช้ัน ๔. ตรวจสอบแบบบันทึกการส่งตอ่ ของสารวตั รนักเรียนหัวหน้าห้อง ผปู้ กครอง ครูผู้สอนครทู ี่ปรกึ ษา หวั หน้าระดับชนั้ ฝา่ ยกจิ การนักเรียนแล้วรายงานผลการปฏบิ ตั ิงาน ๕. ตรวจสอบการคัดกรองนกั เรยี นกลมุ่ เส่ียง ๖. ทาการสุ่มตรวจปัสสาวะนักเรียนกลุ่มเสี่ยง กลุ่มมีปัญหา เพื่อหาสารเสพติดโดย ไมบ่ อกล่วงหน้า ๗.จดั ตู้เสมารกั ษ์รบั เรอ่ื งรอ้ งเรียน นวตั กรรม HUGNA ๒๙ นอ้ มนำศำสตรพ์ ระรำชำแก้ปัญหำยำเสพตดิ และอบำยมุข อย่ำงย่ังยนื
ขนั้ ท่ี ๒ การคัดกรองนกั เรยี น การจดั กลมุ่ นักเรียนนี้ มปี ระโยชน์ต่อครทู ี่ปรึกษาในการหาวธิ ีการเพ่ือดูแลช่วยเหลือ นกั เรียนได้อย่างถกู ต้อง โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาให้ตรงกับปัญหาของนกั เรียนยิ่งขึ้น และมีความ รวดเร็วในการแก้ไขปัญหา เพราะมีขอ้ มูลของนักเรยี นในดา้ นตา่ ง ๆ ซ่ึงหากครทู ี่ปรึกษาไมไ่ ดค้ ัดกรอง นกั เรียนเพ่ือการจัดกลุ่มแลว้ ความชดั เจนในเปาหมายเพื่อการแก้ไขปัญหาของนักเรียนจะมีน้อยลง มผี ลต่อความรวดเร็วในการชว่ ยเหลอื ซง่ึ บางกรณจี าเป็นตอ้ งแกไ้ ขโดยเร่งด่วนดังน้ันครูจงึ ควรคดั กรอง นักเรียนโดยพิจารณาหลายๆด้านโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการตัดสนิ พฤติกรรมของนักเรียนจะต้อง เที่ยงตรง ไรอ้ คติ ซ่ึงผทู้ จี่ ะใหข้ ้อมูลนกั เรียนประกอบการพิจารณาคัดกรองที่ดีท่ีสุดคือผู้ปกครอง และ ตวั ของนักเรยี นเอง การได้มาซ่ึงขอ้ มลู ทถ่ี กู ต้องเทย่ี งธรรมครูจะตอ้ งมมี นษุ ย์สัมพันธ์ และใช้วิธกี ารอัน หลากหลายทนี่ ุ่มนวลให้เกยี รติ ในศกั ด์ศิ รีคณุ คา่ ความเป็นคน ใช้คาพูดท่ีสรา้ งสรรค์ ทาให้นกั เรียนเช่ือ ใจครแู ละกลา้ ทีจ่ ะให้ข้อมลู ท่ีแทจ้ ริง และใชว้ ิจารณญาณพิจารณาขอ้ มูลทีเ่ กี่ยวกบั ตวั นกั เรยี น เพอื่ การ จัดกลุ่มนักเรยี น ซงึ่ อาจนยิ ามกล่มุ ได้ ๔ กลุม่ คอื กลุ่มปกติ กลุ่มเสย่ี ง กลุ่มมปี ัญหา และกลุ่มพิเศษตาม ขั้นตอน นวตั กรรม HUGNA ๓๐ น้อมนำศำสตร์พระรำชำแก้ปัญหำยำเสพติด และอบำยมุข อย่ำงยั่งยนื
ภาพการคัดกรองนกั เรยี นจากระบบดูแลชว่ ยเหลือนกั เรยี น G: Good Care Collaboration = รว่ มกนั ดูแลรกั ษำและสง่ ต่อ (มวี จิ ำรณญำณ) ครูต้องมีวิจำรณญำณและสุขภาพจิตท่ีดี ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อ่ืน กล้าและ รับผิดชอบในสงิ่ ท่ีได้กระทามี นา้ ใจ ช่วยเหลือ และใหค้ วามรว่ มมือในการปฏิบัติงาน มคี วามสุภาพ อ่อนโยนตอ่ ศษิ ย์ ใช้การ\"จับถกู \" เมอื่ นักเรียนทาดกี ใ็ ห้รางวัลทันที ใช้เทคนิคการทาให้เป็นเรื่องใหญ่ นัน่ คือการชมและการขอบคณุ เม่ือเขาทาอะไรดีๆ อยา่ งทเี่ ราอยากใหเ้ ขาทา เทคนิคงา่ ยๆ ทตี่ ้องจาไว้ ก็คือ เมอื่ ชม ชมให้ดังที่สดุ แต่เมอ่ื จะตาหนิ กระซบิ ให้เบาท่ีสุดมกี ระบวนการในการโนม้ น้าวคนให้ เปล่ยี นแปลงพฤติกรรมของตนเองจากพฤติกรรมที่ไม่พงึ ประสงค์ ให้เปน็ พฤตกิ รรมท่ีพงึ ประสงค์อย่าง นวัตกรรม HUGNA ๓๑ นอ้ มนำศำสตรพ์ ระรำชำแกป้ ญั หำยำเสพตดิ และอบำยมขุ อยำ่ งยัง่ ยืน
มเี หตุผล ดว้ ยวธิ ีทนี่ ุ่มนวลให้เกียรติ ในศกั ด์ิศรคี ุณคา่ ความเปน็ คน ใชค้ าพดู ท่ีสร้างสรรค์ระมัดระวังมิ ใหน้ กั เรียนเกิดความรูส้ ึกผิด กังวล หรือโกรธ เพื่อให้นักเรียนเกดิ ความสบายใจกระตุน้ ใหเ้ กิดความคิด ที่จะเปลยี่ นแปลงตนเอง ไมไ่ ด้เกิดจากการถกู บังคับหรอื ถกู ควบคมุ เหมือนกบั \"การลงโทษ\" ทค่ี วบคุม พฤตกิ รรมโดยการทาให้เจ็บปวด หรืออบั อาย ชว่ ยกันแก้ปญั หาทาใหส้ ง่ิ ตา่ ง ๆ ดีข้ึน ไม่ตา่ งคนตา่ งอยู่ หรอื ต่างก็เอาแต่ความคิดของตนเอง เอาใจเขามาใส่ใจเราบ้างและพร้อมให้ความร่วมมือกบั องคก์ ร ชมุ ชน และเพื่อนครูดว้ ยความเตม็ ใจ ในการดูแลช่วยเหลือนักเรยี นครูควรให้ความเอาใจใส่กับนักเรยี นทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นนักเรยี นกลุ่มพิเศษ กลมุ่ ปกติ กลมุ่ เส่ียง หรือกลุ่มมีปัญหา ครูต้องใหค้ วามดแู ลเอาใจใส่ อยา่ งใกล้ชิดและหาวิธีการชว่ ยเหลือท้งั การปองกนั และการแกไ้ ขปัญหาพิจารณาเลอื กใช้กจิ กรรมที่ เหมาะสมสอดคล้องกับลักษณะปัญหา บุคลิกลักษณะของนักเรียนแต่ละคน สภาพของช้ันเรียน โรงเรยี นและชมุ ชน และส่ิงที่ครูพึงตระหนักอยา่ งย่งิ คือการรักษาความลบั ของนกั เรียนเรอ่ื งราวขอ้ มูล ของนกั เรียนที่ให้การชว่ ยเหลือต้องไม่นาไปเปิดเผย เว้นแต่เพื่อขอความรว่ มมือในการช่วยเหลือ นักเรียนจากบุคคลทเ่ี กีย่ วข้องโดยต้องไม่ระบชุ ื่อ-สกุลจรงิ ของนักเรยี น การเปดิ เผยควรเป็นลกั ษณะท่ี ใหเ้ กียรตนิ กั เรยี น ครตู ้องใช้เทคนคิ วิธกี ารที่หลากหลาย และรวดเรว็ โดยมสี ่ิงท่คี รจู าเป็นต้องมีการ ดาเนนิ การอยา่ งน้อย ๒ ประการ คอื ๑. การจัดกจิ กรรมเพื่อปองกันและแก้ไขปญั หา ได้แก่กิจกรรม เสริมหลกั สูตรกิจกรรมในห้องเรียนกิจกรรมเพื่อนชว่ ยเพ่ือนเช่น กิจกรรมเย่ียมบ้านกิจกรรมโฮมรูม กิจกรรมหน้าเสาธงบนั ทกึ เหตุการณ์ในห้องเรียนบนั ทึกมาสาย/หนีเรียนการสุ่มตรวจปัสสาวะฯลฯ ๒. การให้คาปรึกษาเบื้องตน้ เช่น ชมรมเพ่ือนใจวัยรนุ่ กิจกรรมเพื่อนที่ปรึกษา (YC) ศูนยพ์ ึ่งได้ (OSCC) ฯลฯ การแก้ไขพฤติกรรมท่ีไม่เหมาะสมของนักเรยี นเป็นสง่ิ จาเป็นอย่างย่ิงและจะต้องไดร้ ับ ความร่วมมือจากทุกฝ่ายท่ีเก่ียวขอ้ งทัง้ ภายในและภายนอกโรงเรียนรวมทง้ั ผู้ปกครองอยา่ งใกลช้ ดิ เพ่ือ สรา้ งให้นักเรียนตระหนักถงึ ความผดิ ทไ่ี ดก้ ระทาไปใหก้ าลงั ใจหรือเสรมิ แรงเพ่อื ให้เห็นว่าพฤติกรรมที่ ไม่ดเี หล่าน้ันนักเรยี นต้องเลกิ ประพฤติปฏบิ ตั ดิ ้วยความเต็มใจจึงจะสามารถแก้ไขพฤติกรรมนัน้ ไดอ้ ย่าง ย่ังยืนดังนัน้ จะเห็นได้วา่ การปองกันและแก้ไขปัญหาของนักเรียนเป็นภาระงานทยี่ ิ่งใหญแ่ ละมคี ุณค่า อย่างมากในการสรา้ งภูมิคุ้มกัน และการพัฒนาให้นักเรียนเติบโตเป็นบุคคลท่ีมีคณุ ภาพ ของสังคม ต่อไปและชว่ ยกันกาหนดนโยบายและแตง่ ต้งั คณะกรรมการดาเนินงานในการดแู ล บาบัด รกั ษา และ จัดระบบการส่งตอ่ กลุ่มเสพกลุ่มตดิ เข้าสูก่ ารบาบัดรักษาตามระบบสมัครใจด้วยกระบวนการจติ สังคม บาบดั ในโรงเรียนเพ่อื ปรับเปลีย่ นพฤติกรรม และส่งต่อให้กับเครือข่ายความร่วมมือท้ังภายในและ ภายนอก เพอื่ คืนคนดสี ู่สังคมตามขนั้ ตอนดงั นี้ ๑.แต่งตั้งคณะกรรมการดาเนนิ งานการดูแล บาบัด รกั ษา และจัดระบบการส่งต่อ กลมุ่ เสพกลมุ่ ติดเข้าส่กู ารบาบัดรักษา นวัตกรรม HUGNA ๓๒ น้อมนำศำสตร์พระรำชำแกป้ ญั หำยำเสพติด และอบำยมุข อยำ่ งยง่ั ยนื
๒.จัดทาปฏิทนิ ปฏิบัติงานในการดูแล บาบดั รักษา และจัดระบบการส่งต่อกล่มุ เสพ กล่มุ ตดิ เข้าสกู่ ารบาบดั รักษา ๓.จัดหาสถานท่ี และจดั ระบบการสง่ ต่อกลมุ่ เสพกลุ่มตดิ เขา้ ส่กู ารบาบดั รักษา ๔. จดั เตรียมค่มู อื จิตสังคมบาบัด และอุปกรณ์ในการดาเนนิ งาน ๕.จดั ค่ายปรบั เปล่ียนพฤตกิ รรมกลุ่มเสย่ี ง ๖. จดั ให้มรี ะบบการสง่ ตอ่ ใหห้ น่วยงาน สว่ นราชการ ทีท่ ี่เก่ยี วขอ้ ง บาบดั ดแู ล รกั ษา ๗. รว่ มกับส่วนราชการ หนว่ ยงานต่างๆ จดั กิจกรรมปรับเปลี่ยนพฤตกิ รรม ๘. ดาเนินการดา้ นจติ สังคมบาบัดในโรงเรียน ๙. จัดให้มีคลินกิ เสมารกั ษ์ใหค้ าปรกึ ษา แกน่ กั เรียน ผปู้ กครอง ดา้ นปองกันแกไ้ ข ปัญหาเกยี่ วกบั ยาเสพตดิ อบายมุข และพฤตกิ รรมอันไม่พึงประสงค์ ๑๐. ส่งนักเรียนกลุ่มเสพ และกลุ่มติดไปบาบดั และฟ้ืนฟูสมรรถภาพ เพ่อื รับการ บาบัดรกั ษาทงั้ ทางรา่ งกายและจิตใจ โดยการประสานความรว่ มมือกบั ผปู้ กครองนกั เรียนในการดูแล รักษา ปองกันและแก้ไขปัญหา N: Network = สร้ำงเครอื ข่ำยควำมร่วมมอื (สำนสมั พนั ธ์ ปันนำ้ ใจ ไมห่ วงั ผล) ดาเนินการให้มรี ะบบกลไกที่เข้มแข็งและย่ังยืน รวมพลงั ผู้บริหาร คณะครู นักเรยี น และ ประสำนสมั พันธ์เครือข่ายในชุมชนเพอ่ื ดาเนินงานการปองกัน เฝาระวัง จัดระเบียบพ้นื ท่ีเสี่ยง พน้ื ท่ี อับท่ีเอื้อ ตอ่ การเข้าไปเก่ียวขอ้ งกบั ยาเสพติดและอบายมุข ท้ังในและนอกระบบในการปองกนั และ แก้ไขปญั หาของนักเรียนโดยครูท่ีปรกึ ษา อาจมกี รณีท่ีบางปัญหามีความยากตอ่ การช่วยเหลือหรือ ชว่ ยเหลือแล้วนกั เรียนมีพฤติกรรมไมด่ ีขน้ึ กค็ วรดาเนินการส่งต่อไปยังผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านต่อไป เพอ่ื ใหป้ ัญหาของนกั เรียนได้รบั การช่วยเหลืออย่างถูกทางและรวดเร็วขึน้ หากปล่ อยให้เป็นบทบาท หน้าท่ีของครูท่ีปรึกษาหรือครูคนใดคนหน่ึงเพียงลาพังความยุ่งยากของปัญหาอา จมีมากขึ้น หรอื ลุกลามกลายเปน็ ปญั หาใหญโ่ ตจนยากต่อการแก้ไข ทง้ั นี้ขน้ึ อยกู่ ับลักษณะปัญหาของนักเรียนใน แต่ละกรณกี ารสง่ ต่อแบง่ เปน็ ๒ แบบ คือ ๑. การส่งต่อภายใน ครทู ี่ปรึกษาส่งต่อไปยังครทู ่ีสามารถให้การชว่ ยเหลอื นกั เรยี นได้ ทัง้ น้ขี น้ึ อยูก่ ับลักษณะปญั หา เชน่ สง่ ตอ่ ครแู นะแนว ครูพยาบาล ครปู ระจาวชิ า หรือฝ่ายปกครอง ๒. การสง่ ต่อภายนอก ครูแนะแนวหรือฝ่ายปกครองเป็นผู้ดาเนินการส่งตอ่ ไปยัง ผู้เชี่ยวชาญภายนอก หากพจิ ารณาเห็นวา่ เป็นกรณีปัญหาที่มคี วามยากเกินกว่าศักยภาพของโรงเรียน จะดแู ลชว่ ยเหลือตามขัน้ ตอนดงั นี้ ๑.ประชุม/วางแผนการสร้างเครอื ข่ายความร่วมมอื นวตั กรรม HUGNA ๓๓ น้อมนำศำสตรพ์ ระรำชำแกป้ ญั หำยำเสพติด และอบำยมุข อยำ่ งยง่ั ยืน
๒. แต่งตง้ั คณะกรรมการดาเนินงานสรา้ งเครือข่ายความร่วมมอื ๓. จดั หาต้เู สมารกั ษ์/ แต่งต้งั คณะกรรมการดาเนนิ งาน ๔.จัดกิจกรรมสานสมั พันธ์ - โครงการอบรมให้ความร้แู กนนาและคณะกรรมการห้องเรียนสีขาว - โครงการ๑ ตารวจประสานโรงเรยี น - กิจกรรมหน้าเสาธง - กจิ กรรมโฮมรมู - กจิ กรรมสภานักเรียน - กจิ กรรมแนะแนว - กิจกรรมสภาเด็กและเยาวชน - นกั เรียนแกนนา/ครูแกนนา - กิจกรรมสารวัตรนกั เรียน - ครูเวรประจาวัน - นักเรยี นแกนนาแต่ละห้องเรียน - สร้างเครือขา่ ยเฝาระวังทัง้ ในและนอกโรงเรียน ๕.จดั ทาแบบประเมินความพึงพอใจในการใช้บรกิ ารตู้เสมารกั ษ์ และรายงานผล ๖.ตรวจสอบการบนั ทึกการร้องเรียนเกยี่ วกับยาเสพตดิ และอบายมุขแลว้ สรปุ รายงานต้นสงั กดั นวตั กรรม HUGNA ๓๔ น้อมนำศำสตรพ์ ระรำชำแกป้ ญั หำยำเสพติด และอบำยมขุ อยำ่ งยงั่ ยืน
กจิ กรรมอบรมคณะกรรมการหอ้ งเรียนสขี าวและลงนามความรว่ มมือ MOU นวตั กรรม HUGNA ๓๕ นอ้ มนำศำสตรพ์ ระรำชำแกป้ ัญหำยำเสพตดิ และอบำยมุข อย่ำงยัง่ ยืน
กิจกรรมการอบรมนกั เรียนแกนนาสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพตดิ และอบายมุข ภาพประชมุ เครือขา่ ยผปู้ กครองนักเรียน นวัตกรรม HUGNA ๓๖ นอ้ มนำศำสตรพ์ ระรำชำแกป้ ัญหำยำเสพติด และอบำยมุข อย่ำงยง่ั ยนื
นวตั กรรม HUGNA ๓๗ นอ้ มนำศำสตร์พระรำชำแกป้ ญั หำยำเสพตดิ และอบำยมุข อย่ำงยงั่ ยนื
สรา้ งเครือขา่ ยเพื่อปองกันยาเสพติดกับหน่วยงานภายนอก นวตั กรรม HUGNA ๓๘ นอ้ มนำศำสตร์พระรำชำแก้ปัญหำยำเสพตดิ และอบำยมุข อย่ำงยงั่ ยนื
A: Achievement = สัมฤทธิผล (มวลชนช่นื ศรัทธำตน ลน้ ควำมด)ี การพัฒนาและส่งเสริมนักเรียนเป็นการสนบั สนุนให้นักเรียนทุกคน ให้มีคุณภาพมากข้ึน ได้พฒั นาเต็มศักยภาพ โดยเฉพาะนักเรียนกลุ่มพิเศษ เพ่ือกอ่ ให้เกิดความภาคภูมิใจในตนเองของ นักเรียนในด้านตา่ ง ๆ และมคี ุณภาพตามมาตรฐานท่ีโรงเรียนหรือชุมชนคาดหวงั ซ่งึ การสง่ เสริมพัฒนา นักเรยี นนนั้ มหี ลายวธิ ีทโ่ี รงเรยี นสามารถพิจารณาดาเนนิ การ ภายใต้ความร่วมมือของบุคลากรงาน ระบบการดูแลชว่ ยเหลือนกั เรียน หวั หนา้ งานแนะแนวหวั หน้างานกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี นและหัวหน้า กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ในการสรรสรา้ งกิจกรรมทีห่ ลากหลายในรูปแบบต่างๆเพ่อื สง่ เสริมศกั ยภาพใหก้ ับ นักเรียนท้ังหมดตามความสามา รถเช่นกา รจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้า งทักษะกา รดารงชีวิต เพอ่ื ส่งเสริมศกั ยภาพให้กับนักเรียนท้ังหมดตามความสามารถเช่นกิจกรรมวชิ าการของทง้ั ๘กลุม่ สาระ การเรยี นรู้ได้แก่การแข่งขันตอบปัญหาด้านวิชาการดา้ นดนตรดี ้านกีฬากิจกรรมจิตอาสากจิ กรรม สง่ เสริมประชาธปิ ไตยกจิ กรรมคา่ ยคุณธรรมจริยธรรมของทุกระดับช้ันกจิ กรรมสถานศึกษาสขี าว ปลอดยาเสพติดและอบายมุขและอื่นๆซ่ึงกิจกรรมเหล่าน้ีมุ่งเน้นความเป็นผู้นา ความรับผิดชอบ ทกั ษะกระบวนการคิด การมีส่วนร่วม และ ความสามารถในการการส่ือสาร บูรณการการดาเนนิ งาน แบบองค์รวม วนิ ยั เชิงบวกจะหล่อหลอมใหน้ กั เรยี นทกุ คนสามารถผ่านวิกฤตชวี ิตของตนเองไดเ้ ปน็ การ สร้า งภู มิคุ้ มกัน ตน เอ งแ ละอยู่ใ น สังคมอย่ า งปลอดภั ย แ ละมีคว า มสุข แ ละ ย กย่องให้ ปร า กฏ แ ก่ สาธารณชน โดยมีการตั้งคณะกรรมการดาเนนิ งานกาหนดนโยบายและยุทธศาสตร์มีแผนปฏิบัตกิ าร การอานวยการกากบั ติดตามประเมินผลสรุปรายงานต้นสังกดั และประสานงานกับทกุ ภาคส่วนอยา่ งมี ประสิทธภิ าพมกี ารต้ังคณะกรรมการดาเนนิ งานกาหนดนโยบายและยุทธศาสตรม์ ีแผนปฏบิ ตั ิการการ อานวยการกากับติดตามประเมินผลสรปุ รายงานต้นสังกัดและประสานงานกับทุกภาคส่วนอย่างมี ประสทิ ธภิ าพประสิทธิผลดังนี้ ๑.กาหนดนโยบายและยุทธศาสตร์การปองกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดของ โรงเรยี น ๒.จดั ให้มแี ผนงานและโครงการ / กิจกรรมปองกนั และแกไ้ ขปญั หายาเสพตดิ ๓.จดั ใหม้ ีการประชมุ และออกคาส่ังแต่งตั้งคณะกรรมการดาเนินงานปองกันและ แก้ไขปญั หายาเสพติด ๔.จัดให้มคี วามร่วมมอื และประสานงานกับหนว่ ยงานท่เี ก่ยี วขอ้ งมีการบรู ณาการการ บริหารจัดการแบบมีส่วนรว่ มกับภาคีเครือขา่ ยทกุ ภาคสว่ น ๕.จัดกิจกรรมสรา้ งเสริมคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ และการประกวดแข่งขัน และ การมอบขวญั และกาลังใจใหก้ บั ครแู ละนกั เรยี น นวตั กรรม HUGNA ๓๙ น้อมนำศำสตร์พระรำชำแกป้ ญั หำยำเสพติด และอบำยมุข อยำ่ งยั่งยนื
กจิ กรรมเสรมิ สรา้ งคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ นวัตกรรม HUGNA ๔๐ นอ้ มนำศำสตร์พระรำชำแก้ปัญหำยำเสพตดิ และอบำยมขุ อยำ่ งย่งั ยืน
กจิ กรรมเสรมิ สรา้ งคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ นวัตกรรม HUGNA ๔๑ นอ้ มนำศำสตร์พระรำชำแก้ปัญหำยำเสพตดิ และอบำยมขุ อยำ่ งย่งั ยืน
กจิ กรรมเสรมิ สรา้ งคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ นวัตกรรม HUGNA ๔๒ นอ้ มนำศำสตร์พระรำชำแก้ปัญหำยำเสพตดิ และอบำยมขุ อยำ่ งย่งั ยืน
๓. ผลกำรดำเนนิ งำนหรอื ผลจำกกำรนำนวัตกรรมไปใช้ จากการท่ีโรงเรยี นน้อมนาศาสตร์พระราชาและหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง มาสร้าง นวตั กรรม “ฮกั นะ” (HUGNA Model) น้อมนำศำสตร์พระรำชำแก้ปัญหำยำเสพตดิ และอบำยมุข อย่ำงยั่งยนื “ใส่ใจ พึ่งได้ ไร้อคติ มีวิจารณญาณ สานสัมพันธ์ ปนั นา้ ใจ ไมห่ วงั ผล มวลชนช่ืน ศรัทธา ตน ล้นความดี” และวงจรควบคุมคุณภาพ มาใช้ดาเนินงานสถานศกึ ษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและ อบายมขุ ก่อใหเ้ กดิ ผลการดาเนินงานดังตอ่ ไปน้ี ๓.๑ ผลท่เี กดิ กับนักเรียน ๑) นกั เรยี นได้รับการดแู ลช่วยเหลืออย่างทว่ั ถงึ และตรงตามสภาพปญั หา ๒) สัมพนั ธภาพระหวา่ งผู้ปกครอง ครูกับนกั เรียนเปน็ ไปดว้ ยดี และอบอุน่ ๓) นกั เรียนรู้จกั ตนเองและควบคุมตนเองได้ ๔) นกั เรียนการพฒั นาความฉลาดทางอารมณ์ ๕) นกั เรียนเรยี นร้อู ยา่ งมีความสุข ๖) ส่งเสริมนกั เรยี นท่มี คี วามสามารถใหม้ กี ารพฒั นาทีด่ ยี ง่ิ ขน้ึ ๓.๒ ผลท่เี กิดกับครแู ละบุคลำกร ๑) ครแู ละบคุ ลากรมีความรปู้ ระสบการณใ์ นเรอ่ื งการดาเนนิ งานดูแลช่วยเหลือนักเรยี น ๒) ครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาพฒั นานกั เรียนอย่างเตม็ ศกั ยภา พ ๓.๓ ผลทเี่ กิดกับสถำนศึกษำ ๑) โรงเรยี นได้รบั ความไว้วางใจจากนักเรยี นผู้ปกครอง และชมุ ชน ในการส่งนกั เรยี นใน ความปกครองเข้ามาเรียนเพิ่มข้ึนทุกปีจงึ ทาให้สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพน้ื ฐานประกาศ ใหโ้ รงเรียนศรีกระนวนวิทยาคมเป็นโรงเรียนท่ีมีอัตราการแข่งขนั สูง (โรงเรียนยอดนยิ ม) ๒) โรงเรียนนานวัตกรรม “ฮกั นะ” (HUGNA Model) ไปพฒั นารว่ มกบั “เส่ียวโมเดล” ของสานักงานเขตพน้ื ท่ีการมัธยมศกึ ษา เขต ๒๕ ใช้ในการขบั เคล่ือนการดาเนนิ งานพฒั นาระบบการ ดแู ลช่วยเหลอื นักเรยี น HUGNA SIAO ในการส่งเสริมปองกันแก้ไขปัญหา และพฒั นานักเรียนให้มี คณุ ภาพ ท้ัง ดี เก่ง และมคี วามสุข ๓.๔ ผลทเ่ี กดิ กับชมุ ชน ๑) ผู้ปกครอง และชุมชน เห็นความสาคัญของการปองกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด และอบายมุข โรคติดตอ่ ทางเพศสมั พันธ์ การเสพสือ่ และพฤตกิ รรมอนั ไมพ่ ึงประสงค์ในสถานศึกษา ๒) สร้างคนดีมคี ุณภาพชว่ ยพัฒนาชุมชนสังคมให้มีความเจริญก้าวหนา้ เป็นสังคมแห่ง ความสขุ ตลอดไป นวัตกรรม HUGNA ๔๓ นอ้ มนำศำสตรพ์ ระรำชำแก้ปัญหำยำเสพตดิ และอบำยมุข อย่ำงยงั่ ยืน
นวตั กรรม HUGNA ๔๔ นอ้ มนำศำสตร์พระรำชำแกป้ ญั หำยำเสพตดิ และอบำยมุข อย่ำงยงั่ ยนื
นวตั กรรม HUGNA ๔๕ นอ้ มนำศำสตร์พระรำชำแกป้ ญั หำยำเสพตดิ และอบำยมุข อย่ำงยงั่ ยนื
รางวลั คุณภาพ แห่งสานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน (OBECQA) นวตั กรรม HUGNA ๔๖ น้อมนำศำสตรพ์ ระรำชำแกป้ ญั หำยำเสพติด และอบำยมุข อย่ำงย่งั ยืน
นางอัญรินทร์ วิโย รองผู้อานวยการไดร้ ับรางวลั รางวลั ครูดไี มม่ อี บายมุข ประจาปี ๒๕๖๑ นวตั กรรม HUGNA ๔๗ นอ้ มนำศำสตร์พระรำชำแกป้ ัญหำยำเสพตดิ และอบำยมุข อย่ำงยัง่ ยนื
โรงเรยี นศรกี ระนวนวทิ ยาคม ไดร้ บั โล่และเกียรติบตั รโครงการ “The Heart of Giving” ประจาปี ๒๕๖๑ โรงเรียนแบบอยา่ งการพฒั นา คุณธรรมจริยธรรม ให้กับนกั เรียนร่วมแบ่งปนั นา้ ใจ ช่วยเหลอื เดก็ ในครอบครวั ยากไร้ในสังคม จดั โดย มลู นิธศิ ุภนมิ ิตแห่งประเทศไทย นวตั กรรม HUGNA ๔๘ น้อมนำศำสตร์พระรำชำแก้ปัญหำยำเสพตดิ และอบำยมุข อยำ่ งย่ังยืน
รางวัลเหรียญทองชนะเลศิ การแขง่ ขันวงโปงลาง งานศลิ ปหตั ถกรรมนกั เรียนระดบั ชาติ ครง้ั ท่ี ๖๘ ประจาปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๑ นายวฒุ ชิ ยั ดรี ักษา ได้รับรางวลั ชนะเลิศ การแขง่ ขนั การขบั ร้องเพลงไทย ม.๑ – ๓ งานมหกรรมความสามารถทางศิลปหัตถกรรม วชิ าการ และเทคโนโลยขี องนักเรยี น ระดับชาติปีการศกึ ษา ๒๕๖๑ นวตั กรรม HUGNA ๔๙ น้อมนำศำสตร์พระรำชำแก้ปัญหำยำเสพตดิ และอบำยมุข อยำ่ งยงั่ ยืน
Search