2. กรดทาปฏกิ ริ ิยากบั เบส HCl (aq) + NaOH (aq) NaCl (aq) + H2O (l) แตกตัวเป็นไอออนในสารละลาย H+ (aq) + Cl- (aq) + Na+ (aq) + OH- (aq) Na+ (aq) + Cl- (aq) + H2O (l) สมการไอออนิกสทุ ธิ คือ H+ (aq) + OH- (aq) H2O (l)
3. การเกิดแก๊สที่หลุดออกจากสารละลาย HCl (aq) + NaHCO3 (aq) NaCl (aq) + H2CO3 (aq) กรดคารบ์ อนกิ ( H2CO3 ) จะไม่เสถียร ถ้าอยู่ในน้าท่ีมี ความเขม้ ข้นพอเหมาะคา่ หนึ่งจะสลายตวั ใหแ้ กส๊ CO2 ลอย ออกจากสารละลาย ดังสมการ H2CO3 (aq) H2O (l) + CO2 (g) สมการไอออนกิ สทุ ธิ คอื H+ (aq) + HCO3- (aq) H2O (l) + CO2 (g)
สารประกอบไอออนกิ ที่ละลายนา้ ได้ ไดแ้ ก่ 1. สารประกอบของโลหะหมู่ IA ทุกตวั เชน่ NaCl , Li2CO3 , K2SO4 2. สารประกอบของแอมโมเนียมไอออน (NH4+) ทกุ ตวั เช่น NH4Cl , (NH4)3PO4 3. สารประกอบของไนเตรตไอออน (NO3- ) ทุกตวั เช่น Cu(NO3)2 , Al(NO3)3 4. สารประกอบของคลอเรตไอออน (ClO3- ) ทกุ ตัว เชน่ LiClO3 , Mg(ClO3)2 5. สารประกอบเปอรค์ ลอเรตไอออน (ClO4- ) ทกุ ตัว ยกเว้น KClO4 (ไมล่ ะลายน้า) 6. สารประกอบแอซีเตตไอออน (CH3COOH - ) ทุกตวั ยกเวน้ CH3COOHAg (ไมล่ ะลายนา้ )
สารประกอบไอออนิกที่ละลายนา้ ได้ ไดแ้ ก่ 1. สารประกอบของโลหะหมู่ IA ทกุ ตัว เช่น NaCl , Li2CO3 , K2SO4 2. สารประกอบของแอมโมเนียมไอออน (NH4+) ทกุ ตวั เชน่ NH4Cl , (NH4)3PO4 3. สารประกอบของไนเตรตไอออน (NO3- ) ทกุ ตัว เชน่ Cu(NO3)2 , Al(NO3)3 4. สารประกอบของคลอเรตไอออน (ClO3- ) ทกุ ตัว เช่น LiClO3 , Mg(ClO3)2 5. สารประกอบเปอรค์ ลอเรตไอออน (ClO4- ) ทกุ ตัว ยกเว้น KClO4 (ไมล่ ะลายน้า) 6. สารประกอบแอซีเตตไอออน (CH3COOH - ) ทุกตวั ยกเว้น CH3COOHAg (ไมล่ ะลายนา้ )
สารประกอบไอออนิกท่ีไม่ละลายนา้ ไดแ้ ก่ 1. สารประกอบของโลหะหมู่ IIA กับ CO32- , PO43- , SO42- ยกเว้น MgSO4 (ละลายนา้ ได)้ 2. สารประกอบอโลหะหมู่ VIIA กับ Ag+ , Hg22+ และ Pb2+ เช่น AgCl , PbI2 3. สารประกอบออกไซด์ ซัลไฟด์และไฮดรอกไซดข์ องโลหะทุก ชนิด ยกเวน้ โลหะหมู่ IA และหมู่ IIA บางตวั เช่น Ca2+ , Sr2+ , Ba2+
สมบัตคิ วามเป็นไอออนกิ (ความแรงของไอออนกิ ) พิจารณาจากผลตา่ งของค่า EN ในโมเลกลุ ถ้า EN ตา่ งกันมาก จะเปน็ ไอออนิกมาก ถ้า EN ต่างกันน้อย จะเป็นโคเวเลนต์ ถา้ EN เทา่ กัน จะเปน็ โคเวเลนต์ 100%
พนั ธะโลหะ (Metallic Bond )
พันธะโลหะ (Metallic Bond) คือ แรงดึงดดู ระหวา่ งไอออนบวกซง่ึ เรยี งชิดกันกับ อเิ ลก็ ตรอนทอ่ี ยโู่ ดยรอบหรอื เป็นแรงยดึ เหนี่ยวทีเ่ กิดจาก อะตอมในกอ้ นโลหะใชเ้ วเลนส์อิเล็กตรอนทั้งหมดรว่ มกนั อเิ ลก็ ตรอนอสิ ระเกิดขน้ึ ได้ เพราะโลหะมวี าเลนส์อิเลก็ ตรอน น้อยและมีพลงั งานไอออไนเซชันต่าจึงทาให้เกิดกล่มุ ของ อิเล็กตรอนและไอออนบวกไดง้ า่ ย
พลงั งานไอออไนเซชันของโลหะมคี ่านอ้ ยมากแสดง วา่ อเิ ลก็ ตรอนในระดับนอกสุดของโลหะถกู ยึดเหน่ียวไวไ้ ม่ แน่นหนา อะตอมเหลา่ นี้จึงเสยี อเิ ลก็ ตรอนกลายเป็นไอออน บวกได้ง่าย เมอ่ื อะตอมของโลหะมารวมกนั เป็นกลมุ่ ทกุ อะตอมจะนา เวเลนซอ์ เิ ลก็ ตรอนมาใชร้ ว่ มกัน โดยอะตอมของโลหะจะอยู่ ในสภาพของไอออนบวก ส่วนเวเลนซ์อเิ ล็กตรอนทงั้ หมดจะ อยู่เป็นอิสระ ไมไ่ ดเ้ ปน็ ของอะตอมใดอะตอมหน่ึงโดยเฉพาะ แต่สามารถเคลื่อนที่ไปไดท้ ่ัวท้ังกอ้ นโลหะ
และเน่อื งจากอเิ ล็กตรอนเคลื่อนที่เร็วมาก จึงมีสภาพ คลา้ ยกบั มีกลมุ่ หมอกอเิ ลก็ ตรอนปกคลมุ ก้อนโลหะนน้ั อยู่ เรยี กวา่ ทะเลอิเลก็ ตรอน โดยมีไอออนบวกฝงั อย่ใู นกลมุ่ หมอกอเิ ล็กตรอนซง่ึ เป็นลบ จึงเกดิ แรงดึงดูดที่แน่นหนาทวั่ ไป ทกุ ตาแหนง่ ภายในกอ้ นโลหะนน้ั ดงั รูป แบบจาลองทะเลอเิ ลก็ ตรอนในโลหะ
สมบตั ขิ องโลหะ 1. เปน็ ตัวนาไฟฟา้ ไดด้ ี เพราะมอี เิ ลก็ ตรอนเคลื่อนทไี่ ปไดง้ า่ ยท่วั ทงั้ ก้อนของ โลหะ แตโ่ ลหะนาไฟฟา้ ไดน้ อ้ ยลงเมื่ออุณหภูมสิ งู ขึ้น เนอ่ื งจากไอออนบวกมีการสน่ั สะเทอื นด้วยความถี่และช่วงกวา้ ง ที่สูงข้ึนทาให้อเิ ล็กตรอนเคล่ือนท่ีไม่สะดวก
2. โลหะนาความร้อนได้ดี เพราะมีอเิ ล็กตรอนท่เี คล่ือนทไ่ี ด้ โดยอิเล็กตรอน ซ่ึงอยู่ตรงตาแหนง่ ทมี่ ีอุณหภูมิสูงจะมพี ลงั งานจลน์สูง และอเิ ลก็ ตรอนทีม่ พี ลงั งานจลน์สงู จะเคล่ือนท่ไี ปยงั สว่ นอ่นื ของโลหะจึงสามารถถา่ ยเทความรอ้ นใหแ้ กส่ ่วนอื่น ๆ ของ แท่งโลหะทีม่ อี ณุ หภมู ติ า่ กวา่ ได้
3. โลหะตีแผเ่ ป็นแผ่นหรอื ดงึ ออกเปน็ เสน้ ได้ เพราะไอออนบวกแต่ละไอออนอยู่ในสภาพเหมือนๆ กนั และไดร้ บั แรงดงึ ดูดจากประจุลบเทา่ กันทงั้ แทง่ โลหะ ไอออนบวก จึงเล่ือนไถลผา่ นกนั ได้โดยไมห่ ลดุ จากกัน เพราะมีกลุ่มของ อเิ ลก็ ตรอนทาหน้าท่คี อยยึดไอออนบวกเหล่านไ้ี ว้
4. โลหะมีผิวเปน็ มนั วาว เพราะกลุ่มของอิเล็กตรอนท่เี คล่อื นท่ีได้โดยอสิ ระ จะรบั และกระจายแสงออกมา จงึ ทาใหโ้ ลหะสามารถ สะทอ้ นแสงซ่ึงเปน็ คล่ืนแม่เหลก็ ไฟฟา้ ได้ 5. โลหะมีจดุ หลอมเหลวสูง เพราะพันธะในโลหะ เปน็ พนั ธะท่เี กิดจากแรงยึด เหนีย่ วระหวา่ งเวเลนซอ์ ิเล็กตรอนอิสระทง้ั หมดในกอ้ นโลหะ กบั ไอออนบวกจึงเป็นพันธะท่แี ขง็ แรงมาก
ตาราง แสดงสมบตั ิบางประการของสาร
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168