ส๒๓๒๓๕เอกสารประกอบรายวชิ าเพม่ิ เตมิ หนา้ ทพ่ี ลเมอื ง ๕ ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ ๓ ชือ่ - นามสกลุ ................................................................................................... ชน้ั .........................................................เลขที่..................................................... โรงเรยี นวัดเขาเชงิ เทียนเทพาราม สังกัด องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจังหวัดชลบุรี
เอกสารประกอบรายวิชา ส๒๓๒๓๕ หนา้ ทพี่ ลเมือง ๕ พระมหาธีรพสิ ิษฐ์ จนทฺ สาโร มารยาทไทย (Thai Etiquette) มารยาทไทย คือ กริ ยิ า วาจา ท่แี สดงออกซึ่งความเป็นไทยอนั ดีงาม โดยปฏบิ ตั ิตอ่ กนั อยา่ งสุภาพอ่อนนอ้ ม มี สัมมาคารวะ และมิตรภาพที่ดี ๑. มารยาทในการแสดงความเคารพ สามารถกระทำได้หลายวิธี ซึ่งจะปฏิบัติต่างกันไปตามวาระโอกาส ระดับ บุคคล และสถานท่ี (ให้นักเรียนค้นควา้ ข้อมูลจากแหล่งเรยี นรู้ เช่น หอ้ งสมดุ เวป็ ไซต์ และเขียนอธิบายวิธีปฏิบัติใน การแสดงความเคารพแบบตา่ ง ๆ ลงในตารางข้างล่างนี้) ก. การไหว้พระ ๑) การไหว้ ข. การไหว้ผู้มีพระคณุ ผู้อาวโุ ส ค. การไหวบ้ ุคคลท่วั ไป ๒) การกราบ ก. แบบเบญจางคประ ดษิ ฐ์ ข. กราบบุคคล/ศพ ๓) การคำนบั ก. การถวายบังคม ข. การหมอบกราบ ๔) การแสดงความ ค.การถวายความ เคารพพระมหากษตั ริย์ เคารพแบบสากลนยิ ม ง. การถวายความ เคารพแบบพระราช นิยม นกั เรยี นจะปฏิบัติตนเปน็ แบบอย่างทีด่ ีอยา่ งไร ? นกั เรียนจะแนะนำผอู้ ่ืนให้มีมารยาทในการแสดง ความเคารพอยา่ งไร ? ๑
เอกสารประกอบรายวิชา ส๒๓๒๓๕ หนา้ ทพี่ ลเมือง ๕ พระมหาธีรพสิ ิษฐ์ จนทฺ สาโร ๒. มารยาทในการสนทนา การสนทนา เป็นการถ่ายทอดความรู้สกึ นึกคิด แสดงความเห็น โดยผ่านการพูดโต้ตอบ รวมถึงการสื่อสารเป็นข้อความผ่านสื่อต่าง ๆ (ให้นักเรียนค้นคว้าข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้อื่น ๆ และเขียนอธิบายข้อ ปฏบิ ตั ิในมารยาททก่ี ำหนดให้ในตาราง) มารยาทในการสนทนา มารยาทในการสนทนาผ่านโทรศัพท์ ระหวา่ งบคุ คล มารยาทในการแนะนำใหร้ จู้ ักกนั มายาทในการสนทนาผา่ นเครอื ขา่ ยอินเตอรเ์ นต็ นักเรยี นจะแนะนำผอู้ ่นื ใหม้ ีมารยาท ในการสนทนาทถ่ี ูกตอ้ งอยา่ งไรบ้าง ๓. มารยาทในการแต่งกาย การแต่งกาย หมายถึง การตกแต่งร่างกายด้วยเสื้อผ้า และเครื่องประดับทุกประเภท ตั้งแต่ศีรษะจรดเทา้ เพราะการแต่งกายที่ดีนั้น เป็นสิ่งแรกที่จะสร้างความพอใจ ความสนใจ ความเชื่อถือ ความศรัทธา และความไวว้ างใจได้ ความสำคญั ของการแต่งกาย มีดังนี้ หลักการทว่ั ไปสำหรับการแตง่ กาย ๑. ช่วยบงบอกถึงอปุ นสิ ยั ของผ้แู ตง่ ๑. ถกู กาลเทศะ สมวยั ๒. ชว่ ยบอกถงึ ระดบั การศึกษา ๒. สะอาดเรียบร้อย ๓. ชว่ ยบอกถงึ ฐานะความเปน็ อยู่ ๓. เหมาะสมกับรูปรา่ ง ฐานะ ความเป็นอยู่ ๔. ช่วยบอกถงึ เชื้อชาตแิ ละวฒั นธรรมประจำชาติ ๔. มีความประหยัด ๒
เอกสารประกอบรายวิชา ส๒๓๒๓๕ หนา้ ทพี่ ลเมือง ๕ พระมหาธีรพสิ ิษฐ์ จนทฺ สาโร นักเรยี นจะแตง่ กายใหเ้ หมาะสมอย่างไร ถ้า...ตอ้ งไปวดั นักเรียนคดิ วา่ ...เหตผุ ลทนี่ ักเรียนตอ้ งแต่งกายดว้ ย ชุดนกั เรียน เพราะอะไร ๔. การมสี ัมมาคารวะ ได้แก่ ลักษณะของบคุ คลทีแ่ สดงถึงการใช้กาย วาจา และใจ ต่อบคุ คลอืน่ ดว้ ยความเคารพนบ นอบ สุภาพออ่ นน้อม การปฏิบตั ติ นมสี ัมมาคารวะ สามารถแสดงออกไดท้ างกาย ทางวาจา และทางใจ ดงั น้ี ๔.๑ การมสี ัมมาคารวะทางกาย เป็นการพฤติกรรมท่ีพึงประสงค์ ในสถานการณต์ า่ ง ๆ เช่น ๑) แสดงความเคารพบุคคลตา่ งๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมกบั กาลเทศะ ๒) มกี ิรยิ ามารยาทสภุ าพ อ่อนนอ้ ม ๓) ปฏิบตั ิตอ่ บคุ คลต่างๆ ด้วยความสุภาพ ๔.๒ การมสี ัมมาคารวะทางวาจา เป็นการใชว้ าจาทส่ี ุภาพอ่อนโยน เหมาะสมตามกาลเทศะ เชน่ ๑) ใช้คำสุภาพ ไม่สอ่ เสียด ดุดัน กระโชกโฮกฮาก ๒) พูดแต่ความสัตยจ์ ริง ไม่โกหก ๓) ใชภ้ าษาที่เหมาะสมแกส่ ถานะของแตล่ ะบคุ คล ๔.๓ การมีสัมมาคารวะทางใจ เป็นความรู้สึกนกึ คดิ ในจติ ใจที่มตี อ่ บุคคลรอบขา้ ง เช่น ๑) การคดิ ถงึ ดา้ นดีของบคุ คลอื่น ๒) การรู้สกึ เคารพบุคคลท่ีวยั สูงกว่าตน ๓) การสำนึกในบุญคุณคน การมสี ัมมาคารวะ “ทโ่ี รงเรียน” ปฏิบตั ิอยา่ งไร ? การมีสัมมาคารวะ “ทีบ่ ้าน” ปฏิบตั อิ ย่างไร ? ๓
เอกสารประกอบรายวิชา ส๒๓๒๓๕ หนา้ ทพี่ ลเมือง ๕ พระมหาธีรพสิ ิษฐ์ จนทฺ สาโร ให้นักเรียนดูภาพต่อไปน้ี แล้วระบวุ ิธกี ารปฏิบัตเิ ปน็ ผมู้ สี มั มาคารวะท้ังทางกาย วาจา และใจ ทางกาย ทางวาจา ทางใจ ชอ่ื - นามสกุล.................................................................................................... ชัน้ ม.๓/.............. เลขที่............. ๔
เอกสารประกอบรายวิชา ส๒๓๒๓๕ หนา้ ทพี่ ลเมือง ๕ พระมหาธีรพสิ ิษฐ์ จนทฺ สาโร ความเอือ้ เฟื้อและเผอื่ แผแ่ ละความเสยี สละตอ่ สงั คม ๑. ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ย่อมเกิดจากจิตใจที่มีความรัก ความเมตตา และความโอบอ้อมอารี แล้วปฏิบัติต่อผู้อ่ืน อย่างเกอื้ กลู ไมว่ ่าจะเปน็ คนในครอบครัว โรงเรยี น หรือชมุ ชนก็ตาม ลกั ษณะของผมู้ ี การปฏบิ ัตติ นเปน็ ผู้มคี วามเอื้อเฟ้ือเผอื่ แผ่ต่อ... ความเอ้ือเฟอื้ เผือ่ แผ่ ครอบครวั โรงเรยี น ชุมชนและสังคม ๒. ความเสียสละ เปน็ การให้ด้วยความเตม็ ใจและปรารถนาดีต่อผอู้ ื่น โดยยอมเสยี สละความสุขสว่ นตนเพื่อประโยชน์ สว่ นรวม ซึง่ จะช่วยใหส้ งั คมอยรู่ ว่ มกนั อยา่ งมีความสุข มีความเออื้ อาทรต่อกนั ลักษณะของผ้มู ี การปฏิบตั ติ นเปน็ ผู้มีความเสยี สละ ความเสียสละ ทรพั ยส์ ิน แรงกาย ความรู้ สตปิ ัญญา จิตใจ นักเรยี นจะแนะนำผ้อู ื่นใหม้ สี ว่ นร่วมในการแสดงออก นักเรียนจะแนะนำผอู้ นื่ ให้มีสว่ นรว่ มในการแสดงออก ซงึ่ การเอื้อเฟ้ือเผ่ือแผไ่ ดอ้ ย่างไร ? ซ่งึ การเสยี สละได้อย่างไร ? ให้นกั เรียนอ่านเร่ือง พ่อครวั นักสังคมสงเคราะห์ชาวอินเดยี แล้วตอบคำถาม นารายัน กฤษณ์นันท์ เคย เป็นพ่อครัวดาวรุ่งของโรงแรมทาจ เมืองบังกาลอร์ ประเทศอินเดีย เขากลับไปเย่ียม บา้ น ก่อนทจ่ี ะย้ายไปทำงานใหมท่ ่ีสวิตเซอรแ์ ลนด์ แตส่ ิ่งท่ีเขาพบใกลบ้ า้ นทำใหช้ ีวติ ของเขาเปลีย่ นไป นารายนั ไปเทย่ี วที่วัดใกล้บ้านทเ่ี มืองมาดไู ร รฐั ทมฬิ นาดู ซึ่งอย่ทู างใตข้ องอินเดีย เขาเลา่ วา่ “ผมเห็นชายชราคน หนึ่งที่ใต้สะพาน ท่าทางสติไม่ค่อยดี กำลังกินอุจาระของตนเองอยู่เพราะไม่มีอะไรจะกิน ผมไปขออาหารเหลือจาก โรงแรมใกล้เคียวนำไปให้ คุณเชื่อไหมว่า ผมไม่เคยเห็นคนอะไรกินเร็วอย่างนั้น ชายชราคนนั้นกินพร้อมกับยิ้มท้ัง นำ้ ตา เป็นน้ำตาแห่งความสขุ ” “วันนั้น ผมได้ค้นพบวิธีการว่า จะทำอะไรตลอดชีวิตของผม ผมจะทำอาหารเลี้ยงคนป่วยทางจิตยากจน ที่ช่วย ตัวเองไม่ได้” นารายันบอก ๕
เอกสารประกอบรายวิชา ส๒๓๒๓๕ หนา้ ทพี่ ลเมือง ๕ พระมหาธีรพสิ ิษฐ์ จนทฺ สาโร ในพ.ศ. ๒๕๔๖ เมื่อนารายันอายุ ๒๙ ปี เขาลาออกจากงานโรงแรม กลับไปบ้าน ตั้งมูลนิธิอัคสายะ ทำอาหารเช้า กลางวัน เย็น กว่า ๑ ล้านมื้อ เพื่อแจกให้คนชราอินเดียที่ถูกทอดทิ้งจากครอบครัวและไม่มีบ้านอยู่ นารายันบอกว่า “เนื่องจากที่อินเดียมีคนยากจนมาก ดังนั้นจึงมีคนป่วยทางจิตจำนวนหนึ่ง ถูกทิ้งไว้ตามข้างถนน” เขาบอกต่อไปว่า “ชื่อมูลนิธิอัคสายะ (Akshaya) มาจากภาษาสันสกฤต แปลว่า “ไม่เปื่อยเน่า” ซึ่งหมายความว่า ความเมตตาของมนุษย์จะต้องไม่เสื่อมหรือสูญสลายไป มีนิทานฮินดูเรื่องหนึ่งว่า เทพเจ้าอันนาปุราณี (Annapurani) ทใ่ี ช้ “ชามอคั สายะ” เลยี้ งอาหารคนทีห่ ิวโหยอยา่ งไมม่ วี ันหมด” ทุก ๆ วัน นารายันและคณะจะตื่นเวลาตีสี่ ทำอาหารมังสะวิรัติ ๔๐๐ กล่อง ขึ้นรถยนต์ที่ได้รับบริจาคมา นำ อาหารไปส่ง ให้แก่คนป่วยทางจิตยากจนที่อาศัยอยู่ใต้สะพาน ซอกตึก หรือ ริมวัด ในรัศมี ๑๘๐ กิโลเมตร อาหาร ร้อนของเขาทำง่ายๆ ราคาไมแ่ พงแต่อรอ่ ย คณะของนารายนั มีหวี กรรไกรตดั ผม และมีดโกนหนวดติดไปด้วยสำหรับ ผูร้ ับบรกิ ารของเขา เขาเลา่ ว่า “ผรู้ บั บรกิ ารบางคนลืมช่ือตวั เอง บอกไมไ่ ด้ว่าภูมลิ ำเนาอยู่ท่ีไหน หลายคนไม่สามารถ ขอบคุณ หรือบอกได้ว่าต้องการอะไร บางคนเป็นง่อยอัมพาตเคลื่อนไหวตัวไม่ได้ ต้องป้อนอาหารให้กิน” นารายัน บอกว่า “ ความทุกขข์ องมนุษยท์ ี่ได้พบเห็น เป็นแรงบนั ดาลใจใหค้ ณะของเรามพี ลัง อาหารท่ีเราทำแล้วนำไปแจก ทำ ใหเ้ ขามพี ลังเพ่ิมข้ึน เราต้องการช่วยรกั ษาคนอินเดยี ของเรา” คา่ ใชจ้ ่ายของโครงการในมีประมาณ ๙,๐๐๐ บาทต่อ วัน สว่ นหนึ่งได้รบั บรจิ าคจากผู้มีจติ ศรัทธา แต่ก็ยังไม่เพียงพอ นารายนั ออกเงินส่วนที่เหลือจากค่าเช่าบ้านหลังหนึ่ง ที่ปขู่ องเขายกให้ นารายันและคณะนอนในครัวของมูลนิธิที่ใช้ปรุงอาหารนั้นเอง นารายันไม่รับเงินเดือนจากมูลนิธิ แต่รับจากแม่ ของเขา ที่เคยไม่เห็นด้วยกับวิธีการของนารายันในตอนแรก แต่เมื่อเธอมาเห็นผลงานของนารายันเข้า เธอก็บอกวา่ “ลูกไปเลี้ยงดูคนป่วยยากจนเถอะ แม่จะเลี้ยงลูกต่อไปเอง” นารายันคิดหวังจะสร้างบ้านพักสักหลังสำหรับคนป่วยที่ เขาชว่ ยเหลือ แตย่ งั มเี งนิ ไม่พอ สถานีโทรทัศนซ์ ีเอ็นเอ็นของสหรัฐอเมริกา ได้ไปถ่ายทำรายการโทรทัศน์เกีย่ วกบั ชวี ิตของนารายนั เผยแพร่ไปท่ัว โลก แลว้ คัดเลอื กใหน้ ารายัน กฤษณน์ ันท์ พ่อครวั นกั สังคมสงเคราะห์ เป็นวรี บุรุษประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๓ ๑. การกระทำของนารายนั แสดงถึงว่าเขามคี ณุ ธรรมในดา้ น................................................................................................ ................................................................................................................................................................................................. ๒. การกระทำของนายนารายนั ทำให้นักเรยี นรู้สกึ ............................................................................................................... ................................................................................................................................................................................................. ๓. การกระทำของนารายันส่งผลอย่างไร ตอ่ ตนเอง ตอ่ ครอบครวั ต่อสงั คม ๔. นักเรยี นจะนำแบบอย่างทด่ี ขี องนารายนั มาปฏบิ ัติ ดงั นี้ ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. ๕. ถ้าทุกคนในสงั คม ปฏิบัติเชน่ เดยี วกับนารายัน จะสง่ ผล ดังนี้ ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. ๖
เอกสารประกอบรายวิชา ส๒๓๒๓๕ หนา้ ทพี่ ลเมือง ๕ พระมหาธีรพสิ ิษฐ์ จนทฺ สาโร ขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปวฒั นธรรม และภมู ปิ ัญญาไทย ๑. ขนบธรรมเนียมประเพณี (Tradition) คำช้ีแจงใหน้ ักเรยี นเติมขอ้ ความต่อไปนี้ใหส้ มบูรณ์ ๑. ขนบธรรมเนยี ม คือ............................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................................. ๒. ลกั ษณะของขนบธรรมเนยี มทเี่ หน็ ชดั ได้แก.่ ..................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. ๓. ประเพณี คือ...................................................................................................................................................................... ๔. ยกตวั อย่างประเพณีในภาคตา่ ง ๆ ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก ๕. นักเรยี นจะมวี ธิ อี นรุ ักษ์ สืบสาน และประยกุ ตใ์ ช้ขนบธรรมเนยี มประเพณีไทยอย่างไรบา้ ง วิธีการอนุรกั ษ์ และสบื สาน วิธีการประยุกต์ใช้ ในชวี ติ ประจำวัน ๗
เอกสารประกอบรายวิชา ส๒๓๒๓๕ หนา้ ทพี่ ลเมือง ๕ พระมหาธีรพสิ ิษฐ์ จนทฺ สาโร ๒. ศลิ ปวัฒนธรรม (Art and Culture) ศลิ ปวัฒนธรรมไทย เกดิ จากความคดิ ความเช่ือ รวมถึงองคค์ วามรู้ต่าง ๆ ของคนไทยท่ผี า่ นการสร้างสรรค์มา อย่างยาวนาน เพอ่ื นำมาใช้ได้อย่างเหมาะสมกับการดำเนินชวี ิตของคนไทย ศิลปะ หมายถึง การแสดงออกและการสร้างสรรค์งานในด้านต่าง ๆ ของมนุษย์ที่อิงจากความเชื่อ ความคิด วัฒนธรรมในแต่ละท้องถิ่น จินตนาการ และอารมณ์ความรู้สึกจนออกมาเป็นศิลปะที่งดงาม แบ่งออกเป็น ๒ ประเภท ไดแ้ ก่ ๑) ทัศนศิลป์ เป็นงานสร้างสรรค์ศิลปะที่รับรู้ได้ด้วยการดู เช่น สถาปัตยกรรม จิตรกรรม ประติมากรรม ประณีตศลิ ป์ ๒) ศลิ ปะการแสดง เป็นงานศลิ ปะทีร่ ับรู้ได้โดยการชมและการฟัง เช่น ดนตรี นาฎศลิ ป์ วัฒนธรรม หมายถึง ทุกสิ่งทุกอย่างที่มนุษย์สร้างขึ้นไว้เพื่อนำเอาไปใช้ช่วยพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ในสังคม ซงึ้ จะรวมถงึ ช่วยแก้ปญั หาและช่วยสนองความต้องการของสังคม แบ่งออกเปน็ ๕ ประเภท ๑) วฒั นธรรมทางภาษาและวรรณคดี หมายถงึ วฒั นธรรมทางภาษาพูดและภาษาเขียนเพื่อใช้เปน็ สอื่ กลางอง การถา่ ยทอดความคิด ความร้สู ึก ค่านยิ ม ความเช่ือ และวัฒนธรรมของกลุ่มชนเป็นเวลายาวนาน วฒั นธรรมทางภาษา ของไทย คือ อักษรไทย มีวธิ ีการเขยี นจากซ้ายไปขวา แตกตา่ งจากจีนและญี่ปุ่นซึ่งเรม่ิ เขียนจากขวามาซ้าย ๒) วัฒนธรรมทางวัตถุ เป็นเรื่องของความสุขกายเพื่อให้อยู่ดีกินดี มีความสะดวกสบายในการครองชีพ วฒั นธรรมประเภทนี้ ได้แก่ ส่ิงจำเป็นเบือ้ งต้นในชีวติ ๔ อย่าง คอื อาหาร ทีอ่ ยูอ่ าศยั เครื่องนุง่ หม่ ยารักษาโรค ๓) วัฒนธรรมทางจิตใจ เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวที่ทำให้ปัญญาและจิตใจของมนุษย์มีความเจริญงอกงาม ได้แก่ ศาสนา ศีลธรรม คตธิ รรม ๔) วัฒนธรรมทางจารตี หรอื ขนบธรรมเนยี มประเพณี เปน็ วัฒนธรรมทมี่ ลี กั ษณะเปน็ ความประพฤตขิ องคนใน สังคม แบง่ ออกเปน็ จารตี ประเพณี ๑ ขนบประเพณี ๑ ธรรมเนียมประเพณี ๑ ๕) วัฒนธรรมทางสุนทรียะ หมายถึง ความเจริญในทางวิชาความรู้ที่เกี่ยวกับความนิยม ความงดงาม และ ความไพเราะ เชน่ ทศั นศลิ ป์ ดนตรี นาฎศิลป์ ซึง่ เช่อื โยงกบั ศลิ ปะไทย การอนุรกั ษ์และสืบสานศลิ ปวฒั นธรรมไทย ๑. ศึกษาคน้ คว้าขอ้ มูลเกี่ยวกบั ศิลปวัฒนธรรมไทย จากแหลง่ ขอ้ มลู ตา่ ง ๆ อยเู่ สมอ ๒. อธิบายความสำคญั ของศิลปวัฒนธรรมไทยใหค้ นทว่ั ไปรับทราบ เพอ่ื เกดิ ความหวงแหน ภาคภูมใิ จ ๓. ใหค้ วามสนใจเขา้ ร่วมกิจกรรมหรืองานแสดงต่าง ๆ ท่เี กี่ยวกับศลิ ปวฒั นธรรมไทย และชกั ชวนคนรอบข้าง ใหเ้ ขา้ รว่ มดว้ ยเสมอ ๔. ชักชวนให้บุคคลรอบข้างเพื่อการมีส่วนร่วมจัดกิจกรรมต่าง ๆ ที่ช่วยส่งเสริมการอนุรักษ์และสืบสาน ศิลปวัฒนธรรมไทย ใหน้ กั เรยี นยกตัวอย่างศลิ ปวฒั นธรรมทส่ี นใจมาใหไ้ ด้มากทสี่ ุด ๘
เอกสารประกอบรายวิชา ส๒๓๒๓๕ หนา้ ทพี่ ลเมือง ๕ พระมหาธีรพสิ ิษฐ์ จนทฺ สาโร ให้นักเรยี นอา่ นคำประพนั ธ์ตอ่ ไปนี้ แลว้ ตอบคำถาม ในโลกน้ีมอี ะไรเปน็ ไทยแท้ ของไทยแนน่ น้ั หรอื คือภาษา ทั้งคนมีคนจนแตต่ น้ มา ใชภ้ าษาไทยท่ัวทุกตวั คน เด็กตะโกนกึกอ้ งรอ้ งเรียกแม่ เร่มิ ใช้คำไทยแทม้ าแต่ตน้ ไม่มตี า่ งภาษามาปะปน ทุกทกุ คนกส็ ุขสบายใจ แมอ่ ยากให้ลูกรกั ได้พกั ผอ่ น ก็ไกวเปลให้นอนจนหลับใหล สำเนยี งกลอ่ มร่ายร้องทำนองไทย ติดหูแต่สมัยโบราณมา พอโตขนึ้ ส่งเจา้ เขา้ โรงเรยี น ได้เรมิ่ อา่ นเริม่ เขียนเรยี นภาษา ภาษาไทยน้ันได้พัฒนา เป็นภาษาขดี เขยี นให้เรียนกัน บ้างชอบอา่ นถ้อยคำทำนองเสนาะ ภาษาไทยไพเราะไมแ่ ปรผนั มเี สียงวรรณยกุ ตท์ ุกทุกชัน้ ขบั รอ้ งกันไดง้ ่ายคล้ายดนตรี ฉะนนั้ หรอื จะไมใ่ หร้ กั เจา้ ภาษาไทยของเรามศี ักดิ์ศรี เกดิ เป็นไทยคนหน่งึ เราจึงมี ของดีดีชอื่ วา่ “ภาษาไทย” หม่อมหลวงปิ่น มาลากลุ ๑. คำประพนั ธข์ า้ งต้นเป็นคำประพนั ธ์ประเภทใด ใครเป็นผ้นู ิพนธ์......................................................................................... ................................................................................................................................................................................................. ๒. จากบทประพันธ์ มสี ่งิ ใดบ้างท่ีเปน็ วฒั นธรรมไทย............................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. ๓. นกั เรยี นจะอนุรักษว์ ัฒนธรรมตามบทประพันธข์ า้ งตน้ อยา่ งไร......................................................................................... ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. ๔. ให้นกั เรียนแต่งคำประพนั ธ์ เร่ือง “ศลิ ปวฒั นธรรมทีน่ า่ สนใจ” จำนวน ๒ บท ดว้ ยคำประพันธแ์ บบใดแบบหน่งึ จาก ก. กลอนสภุ าพ ข. กาพยานี ๑๑ ค. โคลงส่ีสภุ าพ ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. ๙
เอกสารประกอบรายวิชา ส๒๓๒๓๕ หนา้ ทพี่ ลเมือง ๕ พระมหาธีรพสิ ิษฐ์ จนทฺ สาโร ๓. ภูมิปัญญาไทย (Thai Knowledge) ภูมิปัญญาไทย หมายถึง ความรู้ ความสามารถ วิธีการ ผลงานที่คนไทยได้ศึกษา เก็บรวบรวมความรู้ และ จัดเป็นองค์ความรู้ ปรับปรุง พัฒนา ถ่ายทอดจากคนรุ่นหนึ่งไปสู่คนอีกรุ่นหนึ่ง จนเกิดผลดีงาม มีคุณค่า มีประโยชน์ นำไปแกป้ ญั หาและพัฒนาชวี ิตของคนไทยได้อยา่ งเหมาะสมกบั ยุคสมยั ภูมปิ ัญญาไทย แบง่ ออกเป็น ๒ ระดับ ไดแ้ ก่ ๑. ภูมิปัญญาระดับชาติ เป็นภูมิปัญญาที่พัฒนาสังคมไทยให้รอดพ้นจากวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ในอดีต เช่น การกอบกู้เอกราชโดยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และการเสียแผ่นดินบางส่วนของประเทศไทย ในสมัยพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอย่หู ัว เป็นต้น ๒. ภมู ิปัญญาทอ้ งถ่ิน หรือภมู ิปญั ญาชาวบา้ น คอื สง่ิ ทแี่ สดงความรู้ ความคิด และการกระทำของบรรพบรุ ษุ เพอื่ ดำรงชวี ิตอย่างมีความสขุ คณุ สมบัติของผ้ทู รงภมู ิปัญญาไทย สรุปไดด้ งั นี้ ๑. เป็นผ้มู คี ณุ ธรรม ๒. ขยนั หมนั่ เพรยี ร ไฝ่หาความรอู้ ยเู่ สมอ ๓. เปน็ ผนู้ ำทอ้ งถ่นิ ๔. เปน็ นักปกครองและประสานประโยชน์ของทอ้ งถ่นิ เป็นทยี่ อมรับ ๕. มีความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ๖. เป็นผู้มคี วามรอบรู้ เชย่ี วชาญ ได้รับการยกย่อง สามารถสร้างผลงานใหม่ ๆ ทเ่ี ปน็ ประโยชน์ต่อสังคม จนไดร้ บั การยอมรบั จากสาธารณชน สาขาภมู ปิ ญั ญาไทย การกำหนดสาขาภูมิปัญญาไทย ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และหลักเกณฑ์ต่าง ๆ โดยภาพรวมภูมิปัญญาไทย สามารถแบ่งได้เปน็ ๑๐ สาขา ดงั นี้ ๑. สาขาเกษตร ๒. สาขาอุตสาหกรรมและหตั ถกรรม ๓. สาขาแพทย์แผนไทย ๔. สาขาการจัดการทรพั ยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ ม ๕. สาขาภาษาและวรรณกรรม ๖. สาขาศิลปกรรม ๗. ศาสนาและประเพณี ๘. สาขาการจัดการองคก์ ร ๙. สาขาสวสั ดกิ าร ๑๐. สาขากองทุนและธรุ กจิ ชมุ ชน ความสำคัญของภูมปิ ัญญาไทย ๑. สร้างชาตใิ หเ้ ป็นปึกแผน่ ม่ันคง พระมหากษตั ริย์ไทยทรงใช้ภูมิปญั ญาในการสรา้ งชาติ สร้างความเปน็ ปึกแผน่ ๒. สรา้ งความภาคภมู ใิ จ และเกียรติภมู ิศักดิศ์ รขี องความเป็นไทย ๓. การนำหลักธรรมมาประยกุ ต์ใช้กบั วถิ ชี วี ติ อย่างเหมาะสม ทำใหร้ ู้จักพง่ึ พาอาศยั กนั ใหอ้ ภยั กนั ๑๐
เอกสารประกอบรายวิชา ส๒๓๒๓๕ หนา้ ทพี่ ลเมือง ๕ พระมหาธีรพสิ ิษฐ์ จนทฺ สาโร ๔. การนำธรรมชาติมาใชใ้ นการดำรงคช์ ีวติ ๕. การพฒั นาชีวติ ใหเ้ หมาะสมกับยุคสมยั การอนุรักษแ์ ละสืบสานภมู ิปัญญาไทย ๑. สนใจศึกษาภูมปิ ัญญาไทยดา้ นต่าง ๆ จากแหล่งขอ้ มูลที่หลากหลาย อาจไปดูภมู ิปญั ญาในทอ้ งถ่นิ ต่าง ๆ ๒. อธิบายคุณค่าความสำคญั ของภมู ิปญั ญาไทย และแสดงความภาคภูมิใจให้คนทั่วไปไดร้ ับทราบ เพื่อให้เกดิ การสืบสานและอนุรกั ษภ์ ูมิปัญญาไทยรว่ มกนั ๓. เผยแพรข่ ้อมลู ภมู ิปญั ญาไทยดว้ ยวธิ ีตา่ ง ๆ เชน่ จัดนิทรรศการ เผยแพรข่ ้อมูลผ่านเว็บไซต์ ๔. ชักชวนผ้อู ่ืนใหเ้ ข้าร่วมในกจิ กรรมเพือ่ สง่ เสริมด้านการอนุรักษ์ และสืบสานภมู ิปญั ญาไทย ให้นกั เรยี นยกตัวอย่างภูมปิ ญั ญาไทยท่ีสนใจมาใหไ้ ดม้ ากท่สี ดุ และให้บอกสาขาของภมู ิปัญญาน้ัน ๆ มาดว้ ย กจิ กรรมกลุ่ม (ชน้ิ งานสำคัญ) ๑. ให้นกั เรยี นจบั กลุ่ม กลุม่ ละเทา่ ๆ กนั จำนวน ๖ กลุ่ม แล้วจับสลากเลือกหวั ขอ้ ก. ขนบธรรมเนียมประเพณีในท้องถ่นิ ที่น่าสนใจ ข. ศลิ ปวฒั นธรรมในทอ้ งถ่ินที่สนใจ ค. ภูมิปญั ญาในท้องถิน่ ท่สี นใจ ๒. ให้นักเรียนแต่ละกลมุ่ ไปสืบค้น ๑) ความเปน็ มา ๒) วธิ ีการ/กระบวนการ/ลักษณะ ๓) ผลที่ได/้ ประโยชน์ท่เี กดิ แกส่ ังคม ๔) วิธสี ง่ เสรมิ อนุรกั ษ์ สบื สาน ๕) รปู ภาพประกอบ ๓. ให้จัดทำเปน็ สอื่ นำเสนอตามท่แี ตล่ ะกลมุ่ ถนัด เช่น สมุดทำมือฉบับมินิ แผ่นพับ บอร์ด หรอื สือ่ ประสม เปน็ ต้น โดยเน้นหลักเศรษฐกิจพอเพียง ๔. บันทกึ กระบวนการทำงานกลุ่มตามแบบทก่ี ำหนดให้ ๕. นำเสนอผลงานหนา้ ช้ันเรยี นกลุ่มละ ๑๕ นาที และตอบคำถาม จากครูและเพ่อื นักเรยี น ๕ นาที ๖. การประเมนิ ผล ๑) ประเมนิ ให้คะแนนโดยครผู ู้สอน ๒) ประเมินให้คะแนนโดยเพอ่ื นนกั เรียน ๗. จดั แสดงผลงานนักเรียน (ถ้ามี) ๑๑
เอกสารประกอบรายวิชา ส๒๓๒๓๕ หนา้ ทพี่ ลเมือง ๕ พระมหาธีรพสิ ิษฐ์ จนทฺ สาโร แบบบันทกึ การคน้ คว้าความรู้ โรงเรียนวัดเขาเชงิ เทียนเทพาราม สังกดั อบจ.ชลบรุ ี นักเรยี นช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ ๓/......... ภาคเรียนที่ ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๔ ๑. ชือ่ เรื่องท่ีคน้ ควา้ ................................................................................................................................................................ ๒. ประเภทเรื่องทค่ี น้ ควา้ ขนบธรรมเนยี มประเพณี ศิลปวฒั นธรรม ภูมปิ ญั ญาไทย ๓. ผรู้ ่วมค้นคว้า ๑)..............................................................................................................เลขท.่ี .......................... ๒)..............................................................................................................เลขท.่ี .......................... ๓)..............................................................................................................เลขท.ี่ .......................... ๔)..............................................................................................................เลขท.่ี .......................... ๕)..............................................................................................................เลขที.่ .......................... ๖)..............................................................................................................เลขท.ี่ .......................... ๔. เหตุผลทีค่ ้นควา้ เรือ่ งนี้ ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. ๕. วัตถปุ ระสงค์ในการค้นคว้า ๑............................................................................................................................................................................... ๒.............................................................................................................................................................................. ๓............................................................................................................................................................................... ๖. ขัน้ ตอนการปฏบิ ัติ ขนั้ ตอนการค้นควา้ ผู้รับผดิ ชอบ สถานท่ี ๗. งบประมาณ งบประมาณ ผรู้ บั ผิดชอบ รายการคา่ ใชจ้ ่าย ๑๒
เอกสารประกอบรายวิชา ส๒๓๒๓๕ หนา้ ทพี่ ลเมือง ๕ พระมหาธีรพสิ ิษฐ์ จนทฺ สาโร ๘. สอ่ื ทีน่ ำเสนอผลงาน คอื .................................................................................................................................................... วิธีการจดั ทำสื่อ........................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. ๙. ประโยชนท์ ี่ได้รบั จากการคน้ ควา้ ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. ๑๐. แหลง่ คน้ ควา้ ๑............................................................................................................................................................................... ๒.............................................................................................................................................................................. ๓............................................................................................................................................................................... ๑๑. นำเสนอการคน้ ควา้ เม่อื วันท่ี................เดอื น...............................................พ.ศ. ๒๕๖๔ ๑๒. บันทึกสำหรับครูผูส้ อน ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................................. ๑๓
เอกสารประกอบรายวิชา ส๒๓๒๓๕ หนา้ ทพี่ ลเมือง ๕ พระมหาธีรพสิ ิษฐ์ จนทฺ สาโร ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ๑. การแสดงออกถึงความรักชาติ ชาติ หมายเอาแผน่ ดินที่มีประชาชนอาศยั อยู่ โดยมีอาณาเขตแน่นอน มีผ้นู ำปกครอง รวมถึงความเป็นอันหน่ึง เดียวกันในทางวัฒนธรรม เผ่าพันธ์ุ ภาษา ศาสนา ตลอดจนมีววิ ฒั นาการทางการเมอื งการปกครองรว่ มกนั การปฏิบัตติ นเปน็ ผู้แสดงออกถึงความรักชาติ ได้แก่ ๑) การยืนตรงเคารพธงชาติ ๒) การใช้สินค้าไทย ๓) การปฏิบัติตามกฎหมาย ๔) การอนุรกั ษว์ ัฒนธรรมไทย ๒. การแสดงออกถงึ การยึดม่นั ในศาสนา ศาสนา หมายถึง ความเชื่อ หลักธรรมคำสอนของศาสดา หรือเจ้าลัทธิ ซึ่งในทุกศาสนา ทุกลัทธิล้วนมี เปา้ หมายเดียวกนั คอื สอนให้เป็นคนดี ละเวน้ ความชั่วตามวถิ แี หง่ ศาสนา หรอื ลัทธิของตน การปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผู้แสดงออกถงึ การยึดมัน่ ในศาสนา ได้แก่ ๑) การศกึ ษาหลักคำสอน ๒) การปฏบิ ตั ิตามหลกั ธรรมและพธิ ีกรรม ๓) การมองศาสนาอื่นอยา่ งเขา้ ใจ ๔) การเผยแผ่หลกั ธรรมและปกปอ้ งศาสนาท่ีตนนบั ถือ ๓. การแสดงออกถึงการเทิดทนู สถาบันพระมหากษตั รยิ ์ พระมหากษัตรยิ ์ หมายเอาพระเจ้าแผ่นดิน พระราชา ผูเ้ ป็นประมุขปกครองประเทศ มีหนา้ ที่ปกครองประชาชน ให้อยดู่ ี มสี ุข ตามจารีตประเพณี และวฒั นธรรมของพื้นทนี่ ้นั ๆ ท้งั ยังเป็นสถาบันหลักอันเป็นเคร่อื งยดึ เหน่ยี ว และศูนย์ รวมจติ ใจของประชาชน การปฏิบัติตนเป็นผู้แสดงออกถึงการเทดิ ทนู สถาบันพระมหากษัตรยิ ์ ไดแ้ ก่ ๑) การแสดงความเคารพ ๒) การศกึ ษาพระบรมราโชวาท พระราชดำรัส และหลักทรงงาน แล้วนำมาปฏบิ ตั ิ ๓) การเผยแผพ่ ระบรมราโชวาท พระราชดำรสั และหลกั ทรงงาน เพลงสยามานุสสติ พระราชนิพนธ์ ร.๖ ๑. จากเพลง ถอดความได้วา่ อย่างไร................................................ ๏ หากสยามยังอยยู่ ้งั ยนื ยง ............................................................................................................. เราก็เหมือนอยู่คง ชีพดว้ ย ............................................................................................................. หากสยามพนิ าศลง ไทยอยู่ ได้ฤๅ ............................................................................................................. เราก็เหมอื นมอดม้วย หมดส้ินสกุลไทยฯ ............................................................................................................. ๏ ใครรานใครรุกด้าว แดนไทย ๒. นกั เรียนจะเปน็ แบบอยา่ งในการรกั ชาติได้อยา่ งไรบา้ ง................. ไทยรบจนสุดใจ ขาดดน้ิ ............................................................................................................. เสียเนอื้ เลอื ดหล่งั ไหล ยอมสละ ส้นิ แล ............................................................................................................. เสียชพี ไปเ่ สียสิน้ ชือ่ กอ้ งเกียรตงิ ามฯ ............................................................................................................. ๑๔
เอกสารประกอบรายวิชา ส๒๓๒๓๕ หนา้ ทพี่ ลเมือง ๕ พระมหาธีรพสิ ิษฐ์ จนทฺ สาโร ให้นักเรียนพิจารณาภาพต่อไปน้ี ว่าบุคคลในภาะแสดงออกถึงความรกั ชาติ หรือยึดมั่นศาสนา หรือเทิดทูน สถาบนั พระมหากษตั ริย์ พร้อมบอกวิธีทบี่ คุ คลน้ันแสดงออกดว้ ย ภาพนี้แสดงออกถึง........................................................................... วิธกี ารปฏิบัต.ิ .................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ภาพน้ีแสดงออกถงึ ........................................................................... วธิ ีการปฏบิ ัติ..................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ภาพนแ้ี สดงออกถึง........................................................................... วธิ กี ารปฏิบัติ..................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ภาพนแ้ี สดงออกถึง........................................................................... วิธีการปฏิบัติ..................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ........................................................................................................... ๑๕
เอกสารประกอบรายวิชา ส๒๓๒๓๕ หนา้ ทพี่ ลเมือง ๕ พระมหาธีรพสิ ิษฐ์ จนทฺ สาโร ๔. พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภูมพิ ลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระบรมราโชวาท เป็นคำสอนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระองค์ทรงพระราชทานแก่ประชาชนชาว ไทยในโอกาสตา่ ง ๆ เพือ่ เปน็ แนวทางในการแก้ไขปัญหา รวมถึงเป็นหลกั ในการดำเนินชวี ิต การปฏบิ ัติหน้าทขี่ องตนเอง เพอื่ ให้เกิดความสุขความเจริญ และสร้างประโยชน์แก่ส่วนรวม พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทุก พระบรมราโชวาท ลว้ นมีคณุ คา่ ซ่ึงชาวไทยควรศึกษาและน้อมนำมาปฏิบตั ิใชใ้ ห้เกิดประโยชนท์ ้ังต่อตนเองและผู้อ่ืน ๔.๑ การเสยี สละ “…การปิดทองหลังพระนั้น เมื่อถึงคราวจำเป็นก็ต้องปิด ว่าที่จริงแล้ว คน โดยมากไม่ค่อยชอบปิดทองหลังพระกันนัก เพราะนึกว่าไม่มีใครเห็น แต่ถ้าทุก คนพากนั ปดิ ทองแต่ขา้ งหนา้ ไมม่ ีใครปิดทอง หลังพระเลย พระจะเป็นพระทีง่ าม บรบิ รู ณไ์ ม่ได…้ ” พระบรมราโชวาทในพิธพี ระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมือ่ วันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๐๖ “…ชาติบ้านเมือง คือ ชีวิตเลือดเนื้อ และสมบัติของเราทุกคน และการดำรงรักษาชาติ ประเทศนั้นมิใช่หน้าที่ของบุคคลผู้ใดหมู่ใดโดยเฉพาะ หากแต่เป็นหน้าที่ของทุก ๆ ฝ่าย ทุก ๆ คน ท่จี ะตอ้ งร่วมมือกระทำพร้อมกนั ไปโดยสอดคล้องเกอื้ กลู กัน...” พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพธิ ตี รวจพลสวนสนามเน่อื งในโอกาส พระราชพธิ ีรัชดาภิเษก เม่ือวันท่ี ๘ มถิ ุนายน พ.ศ. ๒๕๑๔ “…ประวัติศาสตร์ได้แสดงให้ปรากฏตลอดว่า ชาติใดเสื่อมสูญย่อยยับอับปางไป ก็เพราะประชาชาติขาด สามัคคีธรรม แตกแยกเป็นหมู่คณะ เป็นพรรคเป็นพวก คอยเอารัดเอาเปรียบ ประหัสประหารซึ่งกันและกนั บางพรรคบางพวกถึงกับเป็นไส้ศึกให้ศัตรูมาจูโจมทำลายชาติของตนดังนี้ ข้าพเจ้าจึงขอชักชวนพี่น้องชาว ไทยทั้งหลายใหร้ ะลึกถึงพระคุณของบรรพบุรุษ ซึ่งได้กอบกู้รักษาบ้านเกิดเมืองนอนของเรามานั้นใหจ้ นหนัก แล้วถือเอาความสามัคคี ความยินยอมเสียสละส่วนตัวเพื่อประโยชน์ยิ่งใหญ่ของประเทศชาติเป็นคุณธรรม ประจำใจอยเู่ นืองนิจ จึงขอใหช้ าวไทยทั้งหลาย จงบำเพญ็ กรณยี กิจของตนแต่ละคนดว้ ยความซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร อดทนและกล้าหาญ แล้วอุทิศความเสียสละส่วนตัว ความเหน็ดเหนื่อยลำบากยากเค้นเปน็ พลบี ชู าบรรพบุรุษ ผู้ซ่งึ ได้ก่อสร้างชาติเป็นมรดกตกทอดมาถึงพวกเราชาวไทยจนบดั น…้ี ” กระแสพระราชดำรัสพระราชทานแก่ประชาชนชาวไทยในโอกาสขึ้นปีใหม่ ๒๔๙๔ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๔๙๓ ๑๖
เอกสารประกอบรายวิชา ส๒๓๒๓๕ หนา้ ทพี่ ลเมือง ๕ พระมหาธีรพสิ ิษฐ์ จนทฺ สาโร ๔.๒ ความซอื่ สตั ย์ “...คนที่ไม่มีความสุจริต คนที่ไม่มีความ มั่นคง ชอบแต่มักง่ายไม่มีวันจะ สร้างสรรค์ประโยชน์ส่วนรวมที่สำคัญอันใดได้ ผู้ที่มีความสุจริตและความ มุ่งมั่นเท่านั้น จึงจะทำงานสำคัญยิ่งใหญ่ที่เป็นคุณ เป็นประโยชน์แท้จริงได้ สำเร็จ...” พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ณ หอประชุมจฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันท่ี ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๒๒ “...ความซือ่ สัตย์ สจุ ริตเปน็ พนื้ ฐานขอความ ดที ุกอย่าง เดก็ ๆ จึงต้องฝึกฝน อบรมให้ เกิดมีขึ้นในตนเอง เพื่อจักได้เติบโตขึ้นเป็นคนดีมี ประโยชน์ และมี ชีวติ ที่สะอาดท่ีเจรญิ มน่ั คง...” พระบรมราโชวาทพระราชทานเนือ่ งในวันเดก็ แห่งชาติ ปี ๒๕๓๑ “...คุณสมบัติพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับทุกคนนั้น ที่สำคัญได้แก่ความรู้จักผดิ ชอบชั่วดี ความ ละอายชั่วกลัวบาป ความซื่อสัตย์สุจริต ทั้งในความคิดและการกระทำ ความไม่เห็น แก่ตัว ไม่เอารัดเอาเปรยี บผูอ้ ืน่ ความ ไมม่ ักง่ายหยาบคาย กับอีกอยา่ งหนง่ึ ท่ีสำคัญ เป็นพเิ ศษ คือ ความขยันหมั่นเพียรดา้ นความซอ่ื สัตยส์ ุจรติ ... พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจาก มหาวิทยาลยั ศรีนครินทรวโิ รฒ ณ สวนอัมพร วันท่ี ๒๒ มิถนุ ายน ๒๕๒๒ ภาระช้ินงาน ๑. ให้นกั เรียนจบั กลุม่ กลุ่มละ ๓ คน ๒. ให้ค้นคว้าพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภูมพิ ลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถ บพติ ร ในเรอ่ื งตอ่ ไปน้ี ก. ดา้ นการศกึ ษา ข. ความสามัคคี ค. ความซือ่ สตั ย์ ง. ด้านการพฒั นา จ. เศรษฐกิจพอเพยี งและทฤษฎใี หม่ ๓. ให้นักเรยี นเลือกเพยี งดา้ นใดดา้ นหนึง่ ตามความสนใจ ๔. จดั ทำรายงานการค้นคว้าเปน็ “สมุดเลม่ เล็ก” ไม่จำกดั รูปแบบ เพอื่ เผยแพร่แกผ่ ู้สนใจตอ่ ไป ๕. อ้างอิงโดยสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพอ่ื ประสานงานโครงการอันเนอ่ื งมาจากพระราชดำริ (สำนกั งาน กปร.) http://www.rdpb.go.th/th ๑๗
เอกสารประกอบรายวิชา ส๒๓๒๓๕ หนา้ ทพี่ ลเมือง ๕ พระมหาธีรพสิ ิษฐ์ จนทฺ สาโร ขน้ั ตอนการทรงงานในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธเิ บศร มหาภมู ิพลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงศึกษาข้อมูลต่าง ๆ เป็นขั้นเปน็ ตอนอย่างละเอียดก่อนทุกครัง้ ในการจัดวางแผนโครงการใดโครงการหนึ่ง ก่อนจะมีพระราชดำรนิ ั้น ขั้นตอน ตา่ ง ๆ พอจะกลา่ วได้ดงั ตอ่ ไปน้ี ๑. การศึกษาข้อมูล ๒. การหาขอ้ มลู ในพน้ื ที่ ๓. การศกึ ษาข้อมูลและการจัดทำโครงการ ๔. การดำเนินงานตามโครงการ ๕. การตดิ ตามผลงาน ๕. หลกั การทรงงาน ๑. ศกึ ษาข้อมูลอยา่ งเป็นระบบ ทำงานอยา่ งผู้รจู้ ริง การทจ่ี ะพระราชทานโครงการใดโครงการหนง่ึ จะทรงศกึ ษาข้อมลู รายละเอยี ดอยา่ งเป็นระบบ ท้ังข้อมูลเบ้ืองต้น จากเอกสาร และแผนที่ ตลอดจนสอบถามจากเจ้าหน้าที่ นักวิชาการ และราษฎรในพื้นที่ให้ได้รายละเอียดที่ถูกต้อง รวมทั้งศึกษาตรวจสอบและทอดพระเนตรในพื้นที่จริง เพื่อที่จะพระราชทานความช่วยเหลือได้อย่างถูกต้องรวดเร็วตรง ตามความตอ้ งการของประชาชน และสอดคลอ้ งกบั สภาพแวดลอ้ ม ๒. แก้ปัญหาท่ีจดุ เล็ก คิด MACRO เรมิ่ MICRO ทรงมองปัญหาในภาพรวม (Macro) ก่อนเสมอ แต่การแก้ไขปัญหาของพระองค์จะเริ่มจากจุดเล็ก ๆ (Micro) คอื การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าทค่ี นมักจะมองขา้ ม ดงั พระราชดำรสั ความตอนหน่ึงวา่ “...ถ้าปวดหัวก็คิดอะไรไม่ออกเป็นอย่างนัน้ ตอ้ งแกไ้ ขการปวดหัวนี้ก่อน...มันไม่ได้เป็นการแก้อาการจริงแต่ตอ้ ง แกป้ วดหัวก่อน เพอื่ ท่จี ะให้อยู่ในสภาพที่คิดได้...แบบ (Macro) นี้ เขาจะทำแบบร้ือท้งั หมด ฉันไม่เห็นดว้ ย...อย่างบ้านคน อยู่ เราบอกบ้านน้มี นั ผตุ รงนั้น ผตุ รงน้ี ไมค่ ้มุ ท่จี ะซ่อม ...เอาตกลงรื้อบ้านน้ี ระเบดิ เลย เราจะไปอยูท่ ีไ่ หน ไมม่ ีท่ีอยู่ ...วิธี ทำตอ้ งค่อย ๆ ทำ จะไประเบดิ หมดไม่ได้...” คำถาม ๑. พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงงานด้วยขั้นตอนทั้ง ๕ ประการ ตามข้างต้นนั้น มีรายละเอยี ดอย่างไรบ้าง ๒. อยากทราบว่า หลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรม นาถบพิตร มเี ทา่ ไหร่ อะไรบ้าง ๑๘
เอกสารประกอบรายวิชา ส๒๓๒๓๕ หนา้ ทพี่ ลเมือง ๕ พระมหาธีรพสิ ิษฐ์ จนทฺ สาโร ๖. หลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง “...เศรษฐกิจพอเพียงนั้นเขาตีความว่าเป็นเศรษฐกิจชุมชนหมายความว่าให้พอเพียงในหมู่บ้าน หรือในท้องถิ่น ให้ สามารถที่จะมีพอกิน เริ่มด้วย พอมี พอกิน พอมีพอกินนี้ได้พูดมาหลายปี ๑๐ กว่าปีมาแล้วให้พอมีพอกิน แต่ว่า พอมีพอกินนี้ เป็นเพียงเริ่มต้นของเศรษฐกิจ เมื่อปีที่แล้วบอกว่า ถ้าพอมีพอกิน คือ พอมีพอกินของตัวเองนั้น ไม่ใช่ เศรษฐกิจพอเพยี งเป็นเศรษฐกจิ สมัยหนิ สมยั หินนั้นเป็นเศรษฐกจิ พอเพยี งเหมอื นกนั แต่ว่าคอ่ ย ๆ พฒั นาขนึ้ มา...” พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัว พระราชทานเน่ืองในโอกาสวนั เฉลมิ พระชนมพรรษา ณ ศาลาดสุ ิดาลัย สวนจิตรลดา พระราชวงั ดสุ ติ วันท่ี ๒๓ ธันวาคม ๒๕๔๒ “...เศรษฐกิจพอเพียงที่ได้ย้ำแล้วย้ำอีก แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า Sufficiency Economy ภาษาไทยก็ต่อว่าไม่มี Sufficiency Economy แต่ว่าเป็นคำใหม่ของเราก็ได้ ก็หมายความว่า ประหยัด แต่ไม่ใช่ขี้เหนียว ทำอะไรด้วยความ อะล้มุ อลว่ ยกนั ทำอะไรดว้ ยเหตแุ ละผล จะเป็นเศรษฐกจิ พอเพียงแลว้ ทกุ คนจะมีความสขุ แตพ่ อเพียง เศรษฐกิจพอเพียง นี้ เป็นส่งิ ท่ีปฏิบัตยิ ากท่สี ุด...” พระราชดำรสั พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเน่ืองในโอกาสวนั เฉลมิ พระชนมพรรษา วันที่ ๔ ธนั วาคม ๒๕๔๓, ณ ศาลาดุสดิ าลยั สวนจติ รลดา พระราชวังดสุ ติ ๑๙
Search
Read the Text Version
- 1 - 20
Pages: