พหุปัญญาบนฐานชีวิตใหม่ สำหรับเด็กอนุบาล

พหุปญญาบนฐานวถิ ีชีวติ ใหม่ สสําําหหรรบั ับเเดดก็ ก็ ออนนบุ บุ าาลล สํานักวชิ าการและมาตรฐานการศึ กษา สํานักงานคณะกรรมการการศึ กษาขันพืนฐาน กระทรวงศึ กษาธกิ าร

พหุปญญาบนฐานวิถีชีวติ ใหมส่ ําหรบั เดก็ อนุบาล สําเนาครงั ที 1 พ.ศ. 2564 จาํ นวน 50 เลม่ จดั ทาํ สําเนาโดย สํานั กวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สํานั กงานคณะกรรมการการศึกษาขันพืนฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร โทร 0 2288 5774 โทรสาร 0 2288 5780

คํานํ า การจดั การศึกษาระดบั อนบุ าลตามหลกั สตู รการศึกษาปฐมวยั พุทธศักราช 2560 มุง่ ให้เด็ก มพี ัฒนาการตามวยั เตม็ ตามศักยภาพและมีความพรอ้ มในการเรยี นรู้ โดยยึดหลกั การจดั การศึกษา ทเี น้ นเด็กเปนสําคัญ คํานึ งถงึ พหุปญญาทหี ลากหลายของเด็กแตล่ ะคน พัฒนาเด็กโดยองค์รวมผา่ น การเลน่ อยา่ งมคี วามหมายและมกี จิ กรรมทหี ลากหลาย พรอ้ มทงั ให้ความสําคัญกบั การจดั การศึกษา ทมี คี วามสอดคลอ้ งและทนั ต่อการเปลยี นแปลงทกุ ด้าน จากสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคติดเชอื ไวรสั โคโรนา 2019 หรอื โควิด-19 (COVID-19) ได้สรา้ งการเปลยี นแปลงตอ่ การดําเนิ นวิถีชวี ิตของคนในสังคมไทยและสังคมโลกไปสู่ความปรกตใิ หม่ หรอื ฐานวถิ ีชวี ิตใหม่ (New Normal) ทกุ ภาคส่วนตอ้ งปรบั ตวั ให้เข้ากบั สภาวการณ์ดังกลา่ ว รวมทงั ภาคการศึกษาทตี ้องปรบั รูปแบบการจัดการเรยี นรู้ เพือให้การจดั การศึกษาเปนไปอยา่ งมีคุณภาพ และต่อเนื อง โดยเฉพาะการจดั การศึกษาระดบั อนบุ าลทคี รูผสู้ อนจะตอ้ งมีความรูค้ วามเขา้ ใจใน สถานการณ์ทเี ปลยี นแปลงไป และปรบั รูปแบบการจดั ประสบการณ์การเรยี นรูใ้ ห้เหมาะสมและ สอดคลอ้ งกบั สถานการณ์ดังกลา่ ว รวมทงั ดแู ลชว่ ยเหลือให้เดก็ ปรบั ตวั ตอ่ การเรยี นรูแ้ ละอยใู่ น สังคมทเี ปลียนแปลงไดอ้ ย่างมีความสุข เพือให้เดก็ มพี ัฒนาการเตม็ ตามศักยภาพ ดังนั น สํานั กงาน คณะกรรมการการศึกษาขนั พืนฐานจงึ ได้จดั ทาํ เอกสาร “พหุปญญาบนฐานวิถีชวี ิตใหมส่ ําหรบั เดก็ อนบุ าล” เพือเปนแนวทางให้ครูผสู้ อนนํ าไปใชจ้ ัดประสบการณ์การเรยี นรูใ้ ห้เด็กอนบุ าลได้รบั การส่งเสรมิ พัฒนาการอย่างสมดุลเปนองค์รวมและเสรมิ สรา้ งพหุปญญา ในชว่ งการเปลยี นแปลง ของสังคมสู่ฐานวถิ ีชวี ิตใหม่ สํานั กงานคณะกรรมการการศึกษาขนั พืนฐาน ขอขอบคุณผทู้ รงคุณวฒุ ิ ศึกษานิ เทศก์ อาจารย์ มหาวิทยาลัย และครูผสู้ อน รวมทงั นั กวชิ าการศึกษาทมี สี ่วนรว่ มดําเนิ นการให้การจัดทาํ เอกสาร ฉบับนี สําเรจ็ ลลุ ่วงด้วยดี และหวังเปนอยา่ งยิงวา่ เอกสารฉบับนี จะชว่ ยสรา้ งความรูค้ วามเข้าใจให้กับ ครูผสู้ อนสามารถนํ าไปประยกุ ต์ใชใ้ นการจดั ประสบการณ์การเรยี นรูส้ ําหรบั เด็กอนบุ าลให้สอดคลอ้ ง และทนั ตอ่ การเปลยี นแปลงทอี าจเกิดขึนไดต้ ลอดเวลา ซงึ มใิ ชค่ วามเปลียนแปลงทมี าจากโรคโควดิ -19 เทา่ นั น แต่ยังรวมถึงความเปลียนแปลงในรูปแบบอนื ๆ ในอนาคตต่อไป (นายอมั พร พินะสา) เลขาธกิ ารคณะกรรมการการศึกษาขนั พืนฐาน

สารบญั บทนํ า ----------------------------------------------------------------------- 1 ฐานวถิ ชี วี ติ ใหม่ (New Normal)---------------------------------------------- 2 บทบาทของครูบนฐานวถิ ชี วี ติ ใหม-่ ------------------------------------------ 3 หลกั ปฏบิ ตั ใิ นชนั เรยี นอนบุ าลบนฐานวถิ ชี วี ติ ใหม-่ -------------------------- 4 การจดั สภาพแวดลอ้ มสําหรบั เดก็ อนบุ าลบนฐานวถิ ชี วี ติ ใหม-่ --------------- 6 ตวั อยา่ ง หนึ งวนั ในโรงเรยี นของเดก็ อนบุ าลบนฐานวถิ ชี วี ติ ใหม-่ ---------- 10 การจดั กจิ กรรมบนฐานวถิ ชี วี ติ ใหม-่ ---------------------------------------- 13 กจิ กรรมเคลอื นไหวและจงั หวะ ----------------------------------------- 13 กจิ กรรมเสรมิ ประสบการณ์ -------------------------------------------- 15 กจิ กรรมศิลปะสรา้ งสรรค์ ---------------------------------------------- 17 กจิ กรรมการเลน่ ตามมมุ ------------------------------------------------ 20 กจิ กรรมการเลน่ กลางแจง้ --------------------------------------------- 22 กจิ กรรมเกมการศึกษา ------------------------------------------------- 24 ภาคผนวก ประกาศกระทรวงศึกษาธกิ าร เรอื ง การเปดเรยี นของสถานศึกษา ในสังกดั และในกํากบั ของกระทรวงศึกษาธกิ าร ---------------------- 46 ตวั อยา่ งหนั งสือนิ ทาน E - book --------------------------------------- 47 แบบบนั ทกึ การตรวจคัดกรองสขุ ภาพ---------------------------------- 48 รายชอื สถานศึกษาทที ดลองใชเ้ อกสาร--------------------------------- 49 ขอ้ มลู อา้ งองิ ---------------------------------------------------------------- 50 คณะผจู้ ดั ทาํ ---------------------------------------------------------------- 52

1 บทนํ า สถานการณ์โลกในอนาคตมีแนวโน้ มการเปลียนแปลงทีเกิดขึนได้ตลอดเวลา เปนไปอย่างรวดเร็วและ ส่ งผลกระทบเปนวงกว้าง ดังทีเห็นได้อย่างชดั เจนในชว่ งปลายป 2562 ทัวโลกได้เผชญิ กับสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคติดเชอื ไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 (COVID-19) ส่ งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สั งคม และการใชช้ วี ิต ประจําวันของประชาชน ทุกภาคส่ วนต้องปรับตัวให้เข้ากับการเปลียนแปลงดังกล่าว รวมถึงภาคการศึกษาทีต้อง ปรับรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพือให้การจัดการศึกษาเปนไปอย่างมีคุณภาพและต่อเนื อง สํานั กงานคณะกรรมการการศึกษาขนั พืนฐานไดป้ รบั รูปแบบการจดั การเรยี นการสอนให้เหมาะสมและปลอดภยั สําหรบั เดก็ ในหลายรูปแบบเพือให้เขา้ กับสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคโควดิ -19 ไดแ้ ก่ การจดั การเรยี นรูแ้ บบปกติ ในชนั เรยี น (On site) และการจัดการเรยี นรูแ้ บบผสมผสาน (Blended Learning) หรอื รูปแบบอนื ๆ ทอี อกแบบตาม ความเหมาะสมกับบรบิ ทของสถานศึกษา โดยคํานึ งถงึ ความปลอดภยั ของเด็กตามมาตรการและแนวทางการดําเนิ นการ เพือการเฝาระวงั ปองกนั และควบคุมโรคโควดิ -19 ของกระทรวงสาธารณสขุ และศูนยบ์ รหิ ารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) และเมอื สถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคดังกลา่ วเรมิ เปนไปในทางทดี ีขนึ ศบค. จงึ ไดผ้ อ่ นคลายการบงั คับใชม้ าตรการ เฝาระวงั ของโรคโควดิ -19 สถานศึกษาจงึ ไดเ้ ปดการเรยี นการสอนแบบ on site เต็มรูปแบบตงั แตว่ นั ที 13 สิงหาคม 2563 เปนตน้ มา จากสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคโควิด-19 นํ าไปส่คู วามปรกตใิ หม่หรอื ฐานวถิ ชี วี ติ ใหม่ (New Normal) ทที กุ คนในสังคมตอ้ งปรบั ตวั ให้เขา้ กบั สภาวการณ์ดงั กล่าว รวมถงึ เดก็ อนบุ าล แต่เนื องจากเด็กในระดบั อนบุ าลเปนชว่ งวัย ทอี าจยังไมเ่ ขา้ ใจตอ่ การเปลยี นแปลงทเี กดิ ขนึ และยงั ไมส่ ามารถปฏบิ ตั ติ น เพือปองกนั การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชอื ตา่ ง ๆ ไดด้ ว้ ยตนเอง รวมทงั การจดั ประสบการณ์ให้แกเ่ ด็กอนบุ าล ทคี รูผสู้ อนจะตอ้ งจัดกจิ กรรมให้ครอบคลมุ พัฒนาการทงั ดา้ นรา่ งกาย อารมณ์ จติ ใจ สังคม และสตปิ ญญา และส่งเสรมิ ให้เด็กเกดิ การเรยี นรูจ้ ากการใชป้ ระสาทสัมผสั ทงั ห้า รวมถึงส่งเสรมิ พหุปญญาในการจดั กจิ กรรมประจําวนั จงึ เปนเรอื งทา้ ทายสําหรบั ครูผสู้ อนทมี ีบทบาทสําคัญในการทําให้ กระบวนการจดั การเรยี นรูภ้ ายใต้ วถิ ชี วี ิตใหม่ครงั นี บรรลผุ ลสําเรจ็ ตามเปาหมายไปได้ ดงั นั น เพือให้ครูผสู้ อนสามารถส่งเสรมิ พัฒนาการให้แกเ่ ดก็ อนบุ าลได้ตรงตามหลักการจดั ประสบการณ์ของ หลกั สูตรการศึกษาปฐมวยั พทุ ธศักราช 2560 รวมทงั ส่งเสรมิ พหุปญญาควบคู่กับความปลอดภยั ดา้ นสขุ อนามยั และ การใชช้ วี ติ ในชว่ งสังคมฐานวถิ ชี วี ติ ใหม่ สํานั กงานคณะกรรมการการศึกษาขนั พืนฐานจึงได้จดั ทาํ เอกสาร “พหุปญญา บนฐานวถิ ีชวี ติ ใหมส่ ําหรบั เดก็ อนบุ าล” เพือเปนแนวทางให้ครูผสู้ อนนํ าไปใชจ้ ัดประสบการณ์การเรยี นรูผ้ า่ นกจิ กรรม ประจําวนั ทสี ่งเสรมิ ให้เดก็ อนบุ าลมีพัฒนาการอย่างสมดลุ เปนองค์รวมทกุ ด้าน และเสรมิ สรา้ งพหุปญญาไดอ้ ยา่ งปลอดภัย จากการแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชอื ตา่ งๆ รวมทงั สามารถปรบั ตัวตอ่ การเรยี นรูไ้ ดอ้ ยา่ งมีความสขุ โดยเนื อหาในเอกสาร ดงั กลา่ วประกอบด้วย ความรูเ้ กยี วกับฐานวถิ ชี วี ติ ใหม่ (New Normal) บทบาทของครู หลักปฏบิ ตั ใิ นชนั เรยี นอนบุ าล การจดั สภาพแวดลอ้ ม ตัวอยา่ งหนึ งวนั ในโรงเรยี น แนวทางและตวั อยา่ งการจัดกจิ กรรมให้แกเ่ ดก็ อนบุ าลบนฐาน วถิ ชี วี ติ ใหม่ พรอ้ มทงั นํ าเสนอตัวอยา่ งสือทใี ชป้ ระกอบการทาํ กิจกรรมเพือให้ครูผสู้ อนไดน้ ํ าไปใชไ้ ดอ้ ยา่ งสะดวกยงิ ขึน เอกสารฉบบั นี จงึ เปนแนวทางให้สถานศึกษาไดน้ ํ าไปใชป้ ระกอบการจดั การศึกษาระดบั อนบุ าลให้สอดคล้อง กบั สังคมในชว่ งฐานวิถชี วี ติ ใหม่ และนํ าไปประยกุ ตใ์ ชก้ ับความเปลยี นแปลงในอนาคตทอี าจส่งผลกระทบตอ่ การจดั การศึกษาระดับอนบุ าล โดยผบู้ รหิ ารสถานศึกษา ครูผสู้ อน และพ่อแม่ ผปู้ กครอง ตอ้ งรว่ มมือกันเพือชว่ ยเหลอื ให้เดก็ ปรบั ตวั รบั ความเปลยี นแปลงได้ ยดื หย่นุ ไดเ้ มอื พบปญหาอุปสรรค พรอ้ มทจี ะเรยี นรูอ้ ยา่ งมีความสขุ มีทกั ษะ ชวี ติ ทดี ี ตระหนั กถงึ พหุปญญาของมนษุ ยท์ หี ลากหลาย ซงึ เปนคุณลักษณะสําคัญของการเปนพลเมืองในศตวรรษที 21 ตามเปาหมายของยทุ ธศาสตรช์ าติ (พ.ศ. 2561 – 2580) ยทุ ธศาสตรท์ ี 3 ดา้ นการพัฒนาและเสรมิ สรา้ งศักยภาพ ทรพั ยากรมนษุ ย์

2 ฐานวถิ ีชีวติ ใหม่ (New Normal) สถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชอื ไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 (COVID-19) ทีแพร่ระบาด ในหลายประเทศทัวโลกรวมทังประเทศไทย คําว่า “นิ วนอร์มัล” (New Normal) คํานี มีทีใชใ้ นหลายบริบท ไม่ใชเ่ ฉพาะในทางธุรกิจหรือวิถีชวี ิตเท่านั น ราชบัณฑิตยสภาจึงมีการเขียนคํานี ทับศั พท์ภาษาอังกฤษว่า \"นิ วนอร์มัล\" และบัญญัติศั พท์ \"New normal\" หมายถึง ความปรกติใหม่ หรือฐานวิถีชวี ิตใหม่เปนคําศั พท์ ทีถูกใชก้ ันมากขึน ซึงเกิดจากสถานการณ์ ทีไม่คุ้นเคยมาก่อนหรือเปนสถานการณ์ ทัวไปทีกลายเปน มาตรฐานปกติ ทาํ ให้เปลียนแปลงไปสู่วิถีใหม่ภายใต้หลักมาตรฐานใหม่ ประกอบด้วยวิธีคิด วิธีเรียนรู้ วิธีสื อสาร วิธีปฏิบัติและการจัดการ ทุกคนจําเปนต้องปรับเปลียนพฤติกรรมการดํารงชวี ิตทีผิดไปจากวิถีเดิม ซึงสิ งใหม่เหล่านี ได้กลายเปนความปรกติใหม่ในทีสุด วถิ ีเดมิ วิถีใหม่ ความเปลียนแปลงทเี กิดขึน สวมหน้ ากากอนามยั ทกุ ครงั ก่อนออกจากบา้ น เปลยี นการทกั ทายจากการสวมกอด เปนการสัมผสั ตวั โดยสวมใส่ หน้ ากากอนามัย 1 - 2 เมตร หลกี เลียงการสัมผสั ใบหน้ า จมูก ปาก ตา กอ่ นการลา้ งมือ หลกี เลยี งการไปสถานทแี ออดั เวน้ ระยะห่างทางสังคมมากขนึ ตรวจวดั อุณหภมู กิ อ่ นเขา้ สถานศึกษา

3 บทบาทของครู บนฐานวถิ ชี ีวติ ใหม่ เดก็ อนบุ าลอยใู่ นชว่ งวยั ของการเรยี นรูผ้ า่ นการเล่น การพดู คุย การทาํ กิจกรรมทเี หมาะสมตามวยั เพือพัฒนาเดก็ อย่างเปนองค์รวม ตลอดจนสรา้ งเสรมิ เจตคตทิ ดี ตี อ่ การเรยี นรู้ และส่งเสรมิ พหุปญญา ในการจดั กิจกรรมประจําวัน ครูจงึ มบี ทบาทสําคัญในการสือสาร ถา่ ยทอดประสบการณ์ สรา้ งปฏิสัมพันธ์ เชงิ บวกและจดั เตรยี มสิงแวดลอ้ มรอบตัวทสี อดคลอ้ งกบั การเปลยี นแปลงของสังคมบนฐานวถิ ชี วี ิตใหม่ รบั ขา่ วสารอยา่ งมวี ิจารณญาณ และวิเคราะห์ขอ้ มูลตา่ ง ๆ เพือทจี ะได้ถ่ายทอดให้เด็กเขา้ ใจอยา่ งถกู ตอ้ ง บทบาทของครูบนฐานวถิ ชี วี ติ ใหม่จึงมดี งั นี ชวนพูดคุย และใช้ภาษาทเี หมาะสม เปดใจและรับฟง ตอบคําถามตามความจริง ด้วยการพูดทีสร้างสรรค์ ตังใจรับฟงและให้เด็กถามได้เต็มที กระตุ้นให้เด็กตอบคําถามด้วยการใชภ้ าษาทีเหมาะสม ถามกลับด้วยคําถามปลายเปด กับสถานการณ์ และชว่ งวัยของเด็ก เห็นอกเห็นใจ ใช้ทา่ ทางหรอื คําพดู เชิงบวก ให้กาํ ลังใจ แสดงความเห็นอกเห็นใจ ให้เด็กเข้าใจตนเอง เมือเด็กถามถึงสถานการณ์ ควรตอบด้วยวาจา ปฏิบัติกับเด็กด้วยการเปนตัวอย่างทีดี สร้างสรรค์ นาเสี ยงอ่อนโยนใชท้ ่าทางทีเปนมิตร และพร้อมเข้าใจในความแตกต่างของเด็กแต่ละคน ให้ ความสํ าคั ญกับเด็กทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน เปดโอกาสให้เด็กแสดงความรู้สึ ก และแสดงออกว่าพร้อมให้กําลังใจเด็ก ใช้เวลารว่ มกนั อยา่ งคุ้มค่า ส่ งเสริมพหุปญญาในการจัดกิจกรรมประจําวนั ให้ความสําคัญในทุกชว่ งเวลาของการทาํ เปดโอกาสให้เดก็ ไดค้ ิด ไดร้ อ้ ง ราํ ทาํ เพลง กิจกรรมร่วมกัน อย่างคุ้มค่า ไดส้ ํารวจธรรมชาตริ อบตวั เคลือนไหวนอกห้องเรยี น อย่างอิสระตามความคิดและจนิ ตนาการ

4 หลกั ปฏบิ ตั ใิ นชันเรยี นอนบุ าลบนฐานวถิ ีชีวติ ใหม่ หลกั ปฏิบตั ใิ นชนั เรยี นอนบุ าลบนฐานวถิ ีชวี ติ ใหม่ กําหนดให้ดําเนิ นการตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข คือ วดั ไข้ ใส่หน้ ากากอนามัย ล้างมอื ทาํ ความสะอาด ลดความแออัด และเพิมเตมิ หลักการของชนั เรยี นให้เหมาะสมกบั ระยะ การแพรร่ ะบาด ดังนี ระยะการแพร่ระบาด ระยะควบคุมได้ คัดกรอง ทกุ คนตอ้ งไดร้ บั การคัดกรองบรเิ วณทางเข้าโรงเรยี นทกุ วนั และตรวจวัดอุณหภูมิ อยา่ งน้ อยวนั ละ 2 ครงั หากพบผทู้ มี อี าการปวยให้หยดุ เรยี นหรอื ทาํ งานทนั ที หากเปนไปไดค้ วรจดั ทาํ ประวตั เิ ดก็ และครอบครวั เรอื งสขุ ภาพ และประวตั ิการเดนิ ทาง ทกุ คนต้องไดร้ บั การคัดกรองบรเิ วณทางเข้าโรงเรยี นทกุ วนั (ภาคผนวก แบบบนั ทกึ หากพบผทู้ มี อี าการปวยให้หยดุ เรยี นหรอื ทํางานทนั ที การตรวจคัดกรองสขุ ภาพ สําหรบั นักเรยี น) สวมหน้ ากากอนามยั ทกุ คนตอ้ งสวมหน้ ากากอนามัยตลอดเวลาทอี ยใู่ นโรงเรยี น ยกเวน้ ตอนนอนกลางวนั ตอนรบั ประทาน อาหาร ดืมนม และเลน่ เครอื งเลน่ สนามในกิจกรรมกลางแจง้ ควรมหี น้ ากากอนามยั สํารอง ทาํ ความสะอาด ทาํ ความสะอาดพืนห้องเรยี น และพืนผวิ สัมผสั ต่าง ๆ ทกุ วัน และทกุ ครงั ทมี กี ารใชง้ านเสรจ็ แล้ว อยา่ งน้ อยวนั ละ 2 ครงั ดว้ ยนาผสมนายาทาํ ความสะอาด โดยเฉพาะพืนผวิ ทสี ัมผสั รว่ ม เชน่ โตะ๊ เกา้ อี ทจี บั ประตูหน้ าตา่ ง ของเลน่ สือการสอน อุปกรณ์การเรยี น เปนต้น ทาํ ความสะอาดพืนห้องเรยี น และพืนผวิ สัมผสั ต่าง ๆ ทกุ วัน ด้วยนาผสมนายาทําความสะอาด โดยเฉพาะพืนผวิ ทสี ัมผสั รว่ ม เชน่ โต๊ะ เกา้ อี ทจี บั ประตูหน้ าตา่ ง ของเลน่ สือการสอน อุปกรณ์การเรยี น เปนต้น ซกั ทาํ ความสะอาดอุปกรณ์เครอื งใชท้ เี ปนผา้ ทกุ วัน หรอื หลงั จากการใชเ้ สรจ็ ทกุ ครงั ซกั ทาํ ความสะอาดอุปกรณ์เครอื งใชท้ เี ปนผา้ อยา่ งน้ อยสัปดาห์ละ 1 ครงั จดั ให้มถี ังขยะแบบมีฝาปด และรวบรวมขยะไปกําจดั ทกุ วัน เปดประตหู น้ าต่างของห้องเรยี น เพือให้มีการถา่ ยเทอากาศ

5 จดั จดุ ล้างมอื หรอื เจลแอลกอฮอล์ จัดจุดลา้ งมือและให้เดก็ ลา้ งมอื เปนประจําดว้ ยสบแู่ ละนา นานอย่างน้ อย 20 วินาที หรอื ใชเ้ จลแอลกอฮอลต์ ามจดุ ตา่ ง ๆ ในชนั เรยี น ทงั ก่อนและหลังการทํากิจกรรม การล้างมอื อยา่ งถูกวิธี 7 ขันตอน https://youtu.be/1f_TCUtDjtM เวน้ ระยะห่าง ทาํ สัญลักษณ์ในห้องเรยี นเพือเวน้ ระยะห่างทางกายภาพ (Physical Distancing) รวมถงึ การเวน้ ระยะห่าง ในสถานทที เี ดก็ ตอ้ งใชท้ ํากจิ กรรม เชน่ การเขา้ แถวหน้ าเสาธง การนั งในห้องเรยี น ห้องประชุม อาจใชเ้ บาะรองนั ง การตีกรอบพืนทใี ห้ชดั เจน หรอื ใชอ้ ุปกรณ์อนื รว่ มในการจดั พืนทกี จิ กรรม เชน่ ให้เดก็ นั งทาํ กจิ กรรมบนเสือ ล้างมอื ก่อนและหลังการสัมผสั รา่ งกายทกุ ครงั เปนตน้ ลดความแออดั ลดจํานวนเด็กตอ่ กล่มุ ในการทาํ กิจกรรม จดั ชุดอปุ กรณ์การทาํ กจิ กรรม จัดให้เด็กมอี ุปกรณ์ในการทํากิจกรรมรายบุคคล ไมใ่ ชข้ องเลน่ สือ อุปกรณ์รว่ มกนั หลงั จากเสรจ็ กจิ กรรมให้วางทจี ุดวางของใชแ้ ลว้ และตอ้ งทําความสะอาดทกุ ครงั สามารถใชข้ องเลน่ สือ อุปกรณ์ในห้องเรยี นได้ แตห่ ลังจากใชเ้ สรจ็ แลว้ ตอ้ งทําความสะอาดทกุ ครงั

6 การจัดสภาพแวดลอ้ มสําหรับเดก็ อนบุ าลบนฐานวิถีชีวติ ใหม่ การจดั สภาพแวดลอ้ ม สําหรบั การจดั การศึกษาระดบั อนบุ าลเพือส่งเสรมิ พหุปญญาบนฐานวถิ ีชวี ติ ใหมม่ คี วามสําคัญ ตอ่ เดก็ เนื องจากเดก็ มคี วามสามารถทางปญญาทหี ลากหลาย ธรรมชาติของเดก็ ในวยั นี สนใจทจี ะเรยี นรูด้ ว้ ยการค้นควา้ ทดลอง และมีปฏสิ ัมพันธก์ ับสิงแวดล้อมรอบตัว ดังนั น การจดั สภาพแวดลอ้ มจงึ มคี วามสําคัญทสี ่งผลตอ่ พฤตกิ รรมและ กระบวนการเรยี นรูข้ องเดก็ ทงั ในห้องเรยี นและนอกห้องเรยี น ชว่ ยให้เกิดบรรยากาศทดี ใี นการทํากจิ กรรมและอยรู่ ว่ มกนั อย่างปลอดภยั สรา้ งปฏสิ ัมพันธท์ ดี ตี ่อกนั ทงั เดก็ และครู โดยคํานึ งถงึ เรอื งตอ่ ไปนี 1 การจดั สภาพแวดลอ้ มดา้ นจติ ภาพ บคุ ลกิ ภาพครู การจัดการชันเรียน ยมิ แย้มแจ่มใส สรา้ งบรรยากาศ และวินั ยเชงิ บวก สขุ ภาพกาย - ใจแขง็ แรง สรา้ งความสัมพันธท์ ดี ตี อ่ กัน แต่งกายสะอาด สวมหน้ ากากอนามยั หมนั ทกั ทายและเน้ นการพดู คุยและให้โอกาส พดู คุยกับเดก็ ดว้ ยความเข้าใจ เตม็ ใจ เดก็ พูดคุยซกั ถามครูผา่ นหน้ ากากอนามัย เสียงน่ มุ นวลเปนมิตร คอยให้กําลงั ใจ รบั ฟง และสอบถามความรูส้ ึก ชแี จงดว้ ยเหตุผล เปดโอกาสให้เดก็ มีส่วนรว่ ม และยอมรบั การ เปนตน้ แบบและตวั อยา่ งทดี ี ชว่ ยเหลือของเดก็ การส่งเสรมิ ความสัมพันธท์ ดี ี การสนับสนุนและส่งเสริมให้เกดิ ความสัมพันธ์ ระหว่างเด็กกบั เด็กและระหว่างเดก็ กับครู ระหวา่ งผปู้ กครองกบั สถานศึ กษา จัดกิจกรรมทสี ่งเสรมิ การชว่ ยเหลอื ซงึ กนั และกนั สรา้ งความสัมพันธโ์ ดยจดั ทาํ จดหมายข่าวถงึ ผปู้ กครอง สรา้ งความรบั ผดิ ชอบในการทาํ งานให้เดก็ ไดร้ ว่ มคิด โดยอาจเพิมการสือสารผา่ นสือเทคโนโลยี รว่ มทําและรว่ มแก้ปญหา กระตนุ้ ให้เดก็ มปี ฏสิ ัมพันธ์ สนทนา ทาํ กจิ กรรมรว่ ม กระตนุ้ ให้ผปู้ กครองแลกเปลียนเรยี นรูก้ บั ทางสถานศึกษา กันโดยคํานึ งถึงหลกั การดา้ นสุขอนามยั เชน่ ดูแลรกั ษาความสะอาด งดการสัมผสั รา่ งกาย ใส่หน้ ากากอนามยั ทาํ งานกล่มุ ยอ่ ย เปนตน้

7 2 การจัดสภาพแวดลอ้ มดา้ นกายภาพ 2.1 การจดั สภาพแวดล้อมภายในห้องเรียน คํานึ งถงึ ความปลอดภยั ความสะอาด ความเปนระเบยี บ ให้เด็กเกดิ ความรูส้ ึกอบอุ่น เปนมิตร มีความสขุ มีจุดลา้ งมอื หรอื เจลแอลกอฮอล์ ไว้ในบรเิ วณห้องเรยี นจดั วางวสั ดอุ ุปกรณ์ สือ ของเลน่ ในที ๆ เดก็ สามารถ มองเห็นได้ หรอื ชนั วางของส่วนตัว เพือให้เดก็ สามารถหยบิ ใชแ้ ละเก็บคืนไดด้ ว้ ยตนเอง ครูจดั ทาํ ฉากกนั แบบใส หรอื ใชว้ ัสดอุ นื ๆ ทที ดแทนได้ เชน่ กระดาษลงั บอรด์ เปนต้น เพือทาํ เปนฉากกนั ระหวา่ งทํากจิ กรรม จดั เตรยี มพืนทสี ําหรบั จดั วางวัสดุอุปกรณ์ สือ เครอื งเล่นทเี ด็กใชแ้ ลว้ เพือนํ าไปทาํ ความสะอาดตอ่ ไป ควรจัดหาพลาสตกิ ใสหรอื ผา้ คลมุ มมุ กจิ กรรม เพือปองกนั ละอองฝอยจากสารคัดหลงั ในรา่ งกาย และ หลังจากเดก็ ทาํ กจิ กรรมเสรจ็ ให้ทาํ ความสะอาดทกุ ครงั เพือปองกันการสัมผสั บรเิ วณจดุ สัมผสั รว่ มตามมมุ กิจกรรมตา่ ง ๆ ในห้องเรยี น ครูสามารถจดั สภาพแวดล้อมในห้องเรยี น โดยคํานึ งถึงมาตรการดา้ นสขุ อนามัย และส่งเสรมิ พหุปญญาสําหรบั เดก็ อนบุ าลไดด้ งั นี พืนทจี ัดมมุ เลน่ หรือมมุ ประสบการณ์ คํานึ งถงึ ความสะอาด โดยอาจเลือกของเลน่ ทสี ามารถทาํ ความสะอาดไดด้ ี แห้งเรว็ ไม่เปนแหลง่ สะสมของเชอื โรค ผลัดเปลียนสือของเล่นตามมมุ ทกุ วัน เพือหมุนเวยี นนํ าไปทําความสะอาดและจดั พืนทใี ห้มีจดุ วางของเลน่ ทใี ชแ้ ล้ว นํ าของเล่นแต่ละมมุ ประสบการณ์ เชน่ สี กระดาษ หนั งสือนิ ทาน บลอ็ ก ฯลฯ มาจัดรวมกันในกระจาด ตะกรา้ หรอื ถุงซปิ ล็อค เพือให้เด็กสามารถหยิบไปเลน่ ในพืนทขี องตนเอง เลอื กของเลน่ ทเี ปนสิงของหรอื เครอื งใชใ้ นชวี ติ จรงิ ของจรงิ ทเี ด็กเลน่ ได้ ของเล่น สรา้ งสรรค์ ของเล่นพืนบ้านเปนของเล่นทที ําขนึ จากวสั ดธุ รรมชาติหรอื วัสดทุ มี อี ยู่ ในทอ้ งถิน โดยเน้ นวัสดทุ สี ามารถทาํ ความสะอาดได้งา่ ย หรอื ใชเ้ ลน่ รายบุคคล จดั มมุ บลอ็ กเปนชดุ ๆ ใส่ตะกรา้ ให้มบี ลอ็ กหลายขนาด หลายประเภทและมีจํานวน เพียงพอตอ่ ความต้องการของเดก็ วางในระดบั ทเี ด็กสามารถหยบิ มาเล่นได้ และ นํ าเกบ็ ทจี ดุ ของใชแ้ ล้วดว้ ยตนเองไดส้ ะดวก โดยอาจทาํ ภาพสัญลกั ษณ์ รูปรา่ งของ ไมบ้ ลอ็ ก ฯลฯ ตดิ ไวท้ ชี อ่ งจัดเก็บ จดั มุมหนั งสือให้มีการหมนุ เวยี น เปลยี นหนั งสือในมุมหนั งสือ และกําหนดจุดวางหนั งสือทอี า่ นแล้ว อาจนํ าหนั งสือนิ ทานมาห่อปกพลาสตกิ ใสหรอื หุ้มดว้ ยแผน่ พลาสตกิ เพือสะดวกในการเชด็ ทาํ ความ สะอาดหลังจากทเี ดก็ หยบิ อา่ นแลว้ จดั มมุ เล่นหรอื มุมประสบการณ์ให้มีความหลากหลาย เพือส่งเสรมิ พหุปญญา โดยเน้ นสืออุปกรณ์ ทสี ามารถนํ ามาทาํ ความสะอาดไดง้ า่ ย

8 พืนทอี าํ นวยความสะดวกสําหรบั เดก็ และครู ทแี สดงผลงานของเดก็ อาจจัดทําเปนซองพลาสติกใสแปะผนั ง ทเี กบ็ แฟมผลงานของเดก็ อาจจดั ทาํ เปนกลอ่ งหรอื จัดใส่แฟมรายบคุ คลและเชด็ ทําความสะอาด หลงั จากใชเ้ สรจ็ ทกุ ครงั ทเี กบ็ เครอื งใชส้ ่วนตวั ของเดก็ อาจจดั ทําเปนชอ่ งให้ครบตามจํานวนเดก็ และอาจหาแผน่ พลาสตกิ ใสมาคลมุ เพือปองกันละอองฝอยจากสารคัดหลังในรา่ งกาย และควรเชด็ ทําความสะอาดพลาสตกิ ทใี ชค้ ลมุ ทกุ วนั ทเี กบ็ เครอื งใชข้ องครูควรเกบ็ แยกกบั ของเด็กและควรฉีดพ่นนายาฆา่ เชอื ก่อนเกบ็ นํ าพลาสตกิ ใส หรอื เคลือบสติกเกอรใ์ สทปี ายนิ เทศตามหน่ วยการจดั ประสบการณ์หรอื สิงทเี ด็กสนใจ เพือทสี ามารถเชด็ ทาํ ความสะอาดไดง้ า่ ย

9 2.2 การจัดสภาพแวดล้อมภายนอกห้องเรยี น ทาํ ความสะอาดเครอื งเลน่ สนามทกุ วนั ทาํ เครอื งหมายหรอื สัญลักษณ์ เพือให้เด็กเล่นเครอื งเลน่ สนามแบบเวน้ ระยะห่าง มจี ดุ ลา้ งมอื หรอื เจลแอลกอฮอลใ์ นบรเิ วณสนามเด็กเลน่ จดั ทนี ั งเลน่ พักผอ่ นให้เวน้ ระยะห่าง หรอื อาจจดั เปนพืนทใี ห้ความรูป้ ระชาสัมพันธป์ ายนิ เทศ เพือให้ความรู้ แกเ่ ด็กและผปู้ กครองในการดูแลรกั ษาสขุ ภาพตนเองในสถานการณ์โรคระบาด การปฏบิ ตั ติ วั ชว่ งวถิ ชี วี ิตใหม่ ฯลฯ การใช้แหลง่ เรยี นรู้ จดั จําลองแหลง่ การเรยี นรูข้ นึ ภายในโรงเรยี น แทนการออกไปเรยี นรูน้ อกโรงเรยี นหรอื ทศั นศึกษา จัดกจิ กรรมส่งเสรมิ การอ่านทดแทนการออกไปเรยี นรูน้ อกโรงเรยี น เชน่ จัดกิจกรรมพาเด็กเทยี วห้องสมุด เพือค้นคว้าหาขอ้ มูลและหนั งสือเรอื งทเี ด็กสนใจ กิจกรรมเล่านิ ทานนอกห้องเรยี น เปนตน้ เรยี นรูบ้ นเครอื ข่ายอินเทอรเ์ น็ ต ควรใชเ้ พือการเสรมิ การเรยี นรูใ้ นเรอื งทเี ด็กสนใจเทา่ นั น ตอ้ งมีครูหรอื ผปู้ กครอง อย่กู บั เดก็ เพือให้คําชแี นะทเี หมาะสม และไมค่ วรให้เด็กใชส้ ือเทคโนโลยีทกุ ประเภทนานเกิน 1 ชวั โมงต่อวนั

10 ตวั อยา่ ง หนึงวนั ในโรงเรยี นของเดก็ อนบุ าลบนฐานวถิ ีชีวติ ใหม่ เตรยี มตวั ไปโรงเรียน พรอ้ มของใช้ส่วนตวั 08.00 - 08.30 น. ถึงโรงเรียน คัดกรอง วดั ไข้ ผปู้ กครองส่งเดก็ ทจี ดุ ตรวจคัดกรอง ครูตอ้ นรบั เดก็ ดว้ ยการพดู คุย ยมิ ทกั ทาย หลกี เลยี งการโอบกอดสัมผสั และตรวจดกู ารสวมใส่หน้ ากากผา้ หรอื หน้ ากากอนามยั ของเดก็ จดั ให้เดก็ ยนื รอคิวตรวจวดั อุณหภมู แิ บบ เวน้ ระยะห่างในจดุ ทตี ดิ สัญลกั ษณ์ไว้ หลงั จากตรวจวดั อุณหภมู เิ รยี บรอ้ ยแลว้ ครูพาเดก็ ไปลา้ งมอื ดว้ ยสบแู่ ละนาหรอื เจลแอลกอฮอล์ และให้เดก็ ยนื ใน ถาดนายา เพือฆา่ เชอื โรคทพี ืนรองเทา้ และถอดรองเทา้ วางทชี นั วางรองเทา้ กอ่ น เขา้ อาคารเรยี น ครูพาเดก็ ลา้ งมอื ดว้ ยสบแู่ ละนาหรอื เจลแอลกอฮอล์ กอ่ นจดั เกบ็ กระเปาและของใชส้ ่วนตวั เขา้ ทใี ห้เรยี บรอ้ ย จากนั นให้เดก็ เลน่ อสิ ระใน ห้องเรยี น เมอื เลน่ เสรจ็ แลว้ ให้นํ าสิงของทเี ลน่ ไปวางไวใ้ นจดุ รอทาํ ความสะอาด 08.30 - 08.45 น. ครูจดั เดก็ ยนื เขา้ แถวโดยเวน้ ระยะห่าง และไมส่ ัมผสั ตวั กนั เคารพธงชาติ เดก็ รอ้ งเพลงชาติ และทาํ กจิ กรรมทางศาสนา ครูพาเดก็ เขา้ ห้องนา และลา้ งมอื ดว้ ยสบแู่ ละนา โดยให้ 08.45 - 09.00 น. เดก็ ยนื รอคิวการเขา้ ห้องนาแบบเวน้ ระยะห่างตามจดุ ทตี ดิ เข้าห้องนา สัญลกั ษณ์ไว้ 09.00 - 09.20 น. ครูนํ าเด็ก ๆ ทาํ กิจกรรมให้เดก็ ไดเ้ คลอื นไหว กิจกรรมเคลือนไหวและจงั หวะ รา่ งกายอยา่ งอสิ ระผา่ นกจิ กรรมเคลอื นไหวอยกู่ บั ทแี ละ เคลือนที เพือส่งเสรมิ ให้เดก็ ไดพ้ ัฒนาการใชส้ ่วนต่าง ๆ ของรา่ งกายให้ประสานสัมพันธก์ นั อยา่ งสมบรู ณ์ โดยครูจดั พืนทใี ห้เดก็ ได้เคลือนไหวโดยไมส่ ัมผสั ตวั กนั หมายเหตุ : การจัดกิจกรรมอาจปรบั ให้ยดื หย่นุ และเหมาะสมไดต้ ามบรบิ ทของแตล่ ะโรงเรยี น

11 ครูจดั ให้เดก็ ทาํ กจิ กรรมศิลปะสรา้ งสรรค์พรอ้ มกบั กิจกรรมการเล่นตามมุม 09.20 - 10.20 น. โดยครูจดั ตะกรา้ ใส่วสั ดอุ ุปกรณ์รายบคุ คลทปี ระกอบดว้ ยวสั ดอุ ุปกรณ์สําหรบั ทาํ งาน ศิลปะ เชน่ สีเทยี น สีนา พ่กู นั ดินนามนั /แปงโดว์ กระดาษ กรรไกร ฯลฯ หรอื ครูอาจ กจิ กรรมศิ ลปะสร้างสรรค์ ให้เด็กนํ าตะกรา้ เปล่าไปเลอื กหยบิ วสั ดอุ ุปกรณ์ส่วนรวมแลว้ นํ ามาทํากจิ กรรมศิลปะ และ สรา้ งสรรค์ในพืนทขี องตนเอง โดยเว้นระยะห่างจากเพือน เมอื ทํากิจกรรมเสรจ็ เดก็ นํ าตะกรา้ รายบุคคลไปเกบ็ ไวใ้ นทเี กบ็ ของส่วนตวั หากเปนตะกรา้ ของเลน่ ส่วนรวม กิจกรรมเล่นตามมุม ให้นํ าไปวางทจี ดุ รอทําความสะอาด กรณีทเี ดก็ เลอื กเลน่ ตามมุม ครูคอยดูแลให้เดก็ เลน่ โดยเวน้ ระยะห่าง หากมมุ ใด มเี พือนเลน่ ครบจํานวนทกี ําหนดแล้ว ให้เดก็ คอยจนกว่าจะมีทวี ่าง หรอื ให้เลอื กเลน่ มมุ อนื ทวี ่างกอ่ น เมอื ทาํ กจิ กรรมเสรจ็ ให้เดก็ นํ าของเลน่ ไปวางทจี ดุ รอทาํ ความสะอาด และลา้ งมือด้วยสบแู่ ละนา หรอื เจลแอลกอฮอล์ 10.20 - 10.30 น. ครูจดั ให้เดก็ ดมื นมกลอ่ งแทนการดมื นมจากแกว้ อาหารวา่ งประเภทขนม พักรับประทานอาหารวา่ ง หรอื ผลไมจ้ ดั ใส่ภาชนะแยกเปนรายบคุ คล จดั ให้เดก็ นั งเวน้ ระยะห่าง ดแู ลเดก็ ไมใ่ ห้พดู คุยขณะเคียวอาหาร ให้ดมื นาจากแกว้ นาหรอื กระตกิ นาส่วนตวั หลงั รบั ประทานอาหารวา่ งเสรจ็ แลว้ พาเดก็ ลา้ งมอื ดว้ ยสบแู่ ละนาหรอื เจลแอลกอฮอล์ เดก็ ๆ ทํากิจกรรมแบบเวน้ ระยะห่าง ไม่สัมผสั ตวั กนั ในระยะนี ครูควร 10.30 - 10.45 น. หลกี เลียงการเชญิ วิทยากรทเี ปนบุคคลภายนอกมาให้ความรูแ้ ทนครูผสู้ อน กจิ กรรมเสริมประสบการณ์ หรอื หากมคี วามจําเปนควรคัดกรองสุขภาพของบคุ คลนั นกอ่ น และครูควรจัด แหลง่ เรยี นรูภ้ ายในโรงเรยี นให้แก่เดก็ เพือเปนการเพิมพูนประสบการณ์ แทนการพาเดก็ ไปศึกษาเรยี นรูน้ อกสถานที 10.45 - 11.30 น. กิจกรรมการเลน่ กลางแจ้ง การเลน่ กลางแจง้ เปนการเปดโอกาสให้เดก็ ได้ เคลอื นไหวรา่ งกาย ออกกําลงั และแสดงออกอยา่ งอสิ ระ ในการทาํ กจิ กรรมนี ให้เดก็ ถอดหน้ ากากผา้ หรอื หน้ ากากอนามยั ทงั นี ครูดแู ลความปลอดภัยและเปนไปตามแนวทางการปองกนั วถิ ชี วี ติ ใหม่ ให้เดก็ ล้างมอื ดว้ ยสบ่แู ละนาหรอื เจลแอลกอฮอล์ กอ่ นเขา้ ส่สู นาม ดูแลให้เดก็ เลน่ แบบเวน้ ระยะห่าง หลกี เลยี ง การสัมผสั ตวั เพือน หลงั จากเลน่ ให้เด็กล้างมอื ด้วยสบ่แู ละนา หรอื เจลแอลกอฮอล์ หมายเหตุ : การจัดกจิ กรรมอาจปรบั ให้ยดื หย่นุ และเหมาะสมไดต้ ามบรบิ ทของแตล่ ะโรงเรยี น

เดก็ รบั ประทานอาหารกลางวัน โดยครูจัดพืนที 12 ให้เด็กนั งแบบเวน้ ระยะห่าง ดแู ลไมใ่ ห้เดก็ หยบิ จบั ภาชนะ ของเพือน และไมพ่ ดู คุยกนั ขณะเคียวอาหาร ให้เดก็ ดมื นา 11.30-12.00 น. จากแกว้ หรอื กระตกิ นาส่วนตวั พักรบั ประทานอาหารกลางวนั 12.00 - 14.00 น. เดก็ แปรงฟน/อาบนา โดยยืนรอคิวเขา้ ห้องนา แบบเว้นระยะห่างตามจดุ ทตี ดิ สัญลกั ษณ์ไว้ เปลียนชดุ นอนพักผ่อน นอนเตรยี มตัวนอนกลางวัน ครูจดั ทนี อนให้เดก็ เวน้ ระยะห่าง ไมใ่ ห้ศีรษะอยใู่ กล้กัน และแยกอุปกรณ์ เครอื งใชเ้ ปนของส่วนตวั ไมใ่ ชร้ ว่ มกนั เดก็ พับ เกบ็ ทนี อนเขา้ ที เกบ็ ของใชส้ ่วนตัว 14.00 - 14.20 น. จากนั นครูพาเด็กลา้ งหน้ า เตรยี มตวั รบั ประทานอาหารวา่ ง โดยให้เด็กยนื รอคิวการเขา้ ห้องนาแบบเวน้ ระยะห่างตาม เก็บทนี อน ลา้ งหน้า จุดทตี ดิ สัญลกั ษณ์ไว้ 14.20 – 14.30 น. ครูจดั ให้เดก็ ดมื นมกลอ่ งแทนการดมื นมจากแกว้ อาหารวา่ งประเภทขนม หรอื ผลไมจ้ ดั ใส่ภาชนะแยกเปนรายบคุ คล จดั ให้เดก็ นั งเวน้ ระยะห่าง ดแู ลเดก็ พักรับประทานอาหารวา่ ง ไมใ่ ห้พดู คุยขณะเคียวอาหาร ให้ดมื นาจากแกว้ นาหรอื กระตกิ นาส่วนตวั หลงั รบั ประทานอาหารวา่ งเสรจ็ แลว้ พาเดก็ ลา้ งมอื ดว้ ยสบแู่ ละนาหรอื เจลแอลกอฮอล์ ครูจดั เกมการศึกษาทสี ามารถทาํ ความสะอาดได้ เชน่ บตั รภาพ 14.30-14.50 น. เคลือบพลาสติก และจดั พืนทใี ห้เด็กทํากจิ กรรมแบบเวน้ ระยะห่าง ไมส่ ัมผสั ตัวกัน เมือเดก็ ทํากจิ กรรมเสรจ็ ให้นํ าไปวางทจี ดุ รอ เกมการศึ กษา ทาํ ความสะอาด หากให้เด็กนํ าเกมการศึกษากลบั ไปเลน่ ทบี ้านให้นํ าใส่ ถงุ ซปิ ลอ็ ค เพือสะดวกในการทาํ ความสะอาด 14.50 – 15.00 น. เดก็ เก็บกระเปา กระติกนา ผา้ เชด็ มอื ลา้ งมอื ดว้ ยสบ่แู ละนา หรอื เจลแอลกอฮอล์ เพือเตรยี มตวั กลบั บา้ น เตรียมตวั กลบั บา้ น หมายเหตุ : การจัดกิจกรรมอาจปรบั ให้ยดื หยนุ่ และเหมาะสมไดต้ ามบรบิ ทของแตล่ ะโรงเรยี น

13 การจดั กิจกรรมบนฐานวถิ ีชีวติ ใหม่ การจดั ประสบการณ์สําหรบั เดก็ อนบุ าล ครูเปนผสู้ ่งเสรมิ พหุปญญาและให้ความชว่ ยเหลือในการดําเนิ น กจิ กรรม ปรบั ให้เหมาะสมกับพัฒนาการของเด็กแตล่ ะคน และสามารถจัดไดห้ ลายรูปแบบ การเปลียนแปลงทเี กดิ ขนึ ในวถิ ชี วี ิตใหม่ส่งผลต่อการจดั กิจกรรมในชนั เรยี น ทําให้ครูต้องปรบั รูปแบบการจัดกิจกรรมให้สอดคลอ้ งกบั สถานการณ์ และระดบั ความรุนแรงของการแพรร่ ะบาดของโรคให้เหมาะสมกบั บรบิ ทโรงเรยี น โดยคํานึ งถึงหลกั ในการปฏบิ ตั ดิ า้ นสขุ อนามยั ครูอาจปรบั รูปแบบกิจกรรมประจําวัน ดังตัวอยา่ งตอ่ นี กจิ กรรมเคลอื นไหวและจังหวะ กจิ กรรมเคลอื นไหวและจังหวะ เปนกจิ กรรมทจี ดั ให้เดก็ ไดเ้ คลอื นไหวส่วนตา่ ง ๆ ของรา่ งกาย อยา่ งอิสระตามจงั หวะ โดยใชเ้ สียงเพลง คําคลอ้ งจอง เครอื งเคาะจงั หวะ และอุปกรณ์อนื ๆ มาประกอบ การเคลอื นไหว เพือส่งเสรมิ ให้เด็กเกดิ จินตนาการความคิดสรา้ งสรรค์ แนวทางการจัดกิจกรรมเคลือนไหวและจงั หวะ สรา้ งขอ้ ตกลงกบั เดก็ เรอื งการสวมใส่หน้ ากากอนามยั และการไมส่ ัมผสั ตวั กนั ระหวา่ งทาํ กจิ กรรม เรมิ กจิ กรรมจากการเคลอื นไหวทเี ปนอสิ ระ และมวี ิธกี ารทไี มย่ งุ่ ยากมากนั ก เชน่ ให้เดก็ เคลอื นไหว กระจายอยภู่ ายในห้องทอี ากาศถา่ ยเทหรอื พืนทโี ลง่ จดั ให้เดก็ เวน้ ระยะห่าง และให้เคลือนไหวไปตาม ธรรมชาตขิ องเดก็ ปรบั ใชว้ สั ดทุ อี ยใู่ กลต้ วั เดก็ เพือประกอบการเคลอื นไหวและจงั หวะ ให้เปนของทที าํ ความสะอาดได้ ทนั ทหี ลงั เสรจ็ กจิ กรรม เชน่ ของเลน่ ทที าํ จากพลาสตกิ เปนตน้ หรอื อาจใชว้ ัสดเุ หลอื ใช้ เมอื ทาํ กจิ กรรมเสรจ็ แลว้ สามารถนํ าไปทงิ ไดท้ นั ที เชน่ กระดาษหนั งสือพิมพ์ เศษผา้ เชอื ก เปนตน้ ส่งเสรมิ พหุปญญาโดยเปดโอกาสให้เดก็ คิดหาวธิ เี คลอื นไหวอย่กู บั ที เคลอื นไหวเคลอื นที และ เคลอื นไหวประกอบอุปกรณ์ เปนรายบคุ คล เปนคู่ เปนกลมุ่ และเน้ นยาเรอื งการไมส่ ัมผสั ตวั กนั ครู สามารถจัดกิจกรรมตามตัวอย่างต่อไปนี 1. กจิ กรรมเตน้ -เคาะตามจงั หวะ 1.เตรยี มเครอื งเคาะจงั หวะให้เดก็ แตล่ ะคน 2.ครูอาจให้เวยี นทาํ กจิ กรรมจนครบเดก็ ทกุ คนในห้อง 3.จดั ให้ยนื เวน้ ระยะห่าง โดยอาจยนื สลบั ฟนปลา 4.สรา้ งขอ้ ตกลงกบั เดก็ วา่ หากครูรอ้ งเพลงหรอื เปดเพลง ให้เดก็ ชมู อื เหนื อศรษี ะแลว้ ยาเทา้ หรอื ออกทา่ ทางอสิ ระ เมอื ปดเพลง ให้เดก็ ทาํ จงั หวะแทนเสียงเพลง

2. กจิ กรรมเคลอื นไหวตามข้อตกลง 14 1.แบง่ เดก็ เปนกลมุ่ ยอ่ ยกลมุ่ ละ 4-6 คน และจดั ให้เดก็ แตล่ ะคนเวน้ ระยะห่างกนั คนละสองชว่ งแขน โดยให้เดก็ กําหนดระยะห่างดว้ ยการกางแขนบนิ เหมอื นเครอื งบนิ 2.สรา้ งขอ้ ตกลงกบั เดก็ วา่ หากครู ปรบมอื 1 ครงั ให้เดก็ กลมุ่ ที 1 กระโดด ปรบมอื 2 ครงั ให้เดก็ กลมุ่ ที 2 กระโดด ปรบมอื 3 ครงั ให้เดก็ กลมุ่ ที 3 กระโดด ปรบมอื 4 ครงั ให้เดก็ กล่มุ ที 4 กระโดด อาจเปลยี นจากการปรบมอื เปนการเคาะจงั หวะจาก อุปกรณ์ในห้องเรยี นทมี อี ยู่ และอาจเวยี นกลมุ่ หรอื สลบั ขอ้ ตกลง เชน่ เปลยี นจํานวนการกระโดด หรอื เปลียนจาก การกระโดด เปนทาํ ทา่ ทางเลยี นแบบสัตวช์ นิ ดตา่ ง ๆ เปนตน้ 3. หลังจากเสรจ็ กจิ กรรมให้เดก็ นั งลง ยงั รกั ษาการเว้น ระยะห่างและให้เดก็ หายใจเข้า - ออกลกึ ๆ เพือผอ่ นคลาย 3. กจิ กรรมเคลอื นไหวประกอบเพลง 1. ครูแจกรบิ บนิ ผา้ คละสี โดยอธบิ ายและสรา้ งขอ้ ตกลง ดงั นี - เมอื ครูเปดเพลงบรรเลงให้เดก็ ๆ เคลอื นไหวทา่ ทาง อยา่ งอสิ ระตามจนิ ตนาการและสรา้ งสรรค์ โดยคิดทา่ ทางอยา่ งหลากหลาย มรี ะดบั ทศิ ทาง ตามทว่ งทาํ นองของเพลง - เมอื ไดย้ นิ สัญญาณ “หยดุ ” ให้เดก็ เขา้ กลมุ่ ตามสีของรบิ บนิ 2. ให้เดก็ ในกลมุ่ อาสาผลดั กนั เปนผนู้ ํ าและผตู้ าม เคลอื นไหว ทา่ ทางประกอบเสียงเพลงบรรเลงพรอ้ มรบิ บนิ ไปรอบ ๆ เดก็ ทเี หลอื ของแตล่ ะกลมุ่ ทาํ ทา่ ทางตามผนู้ ํ าของกลมุ่ ตน 3. เมอื ไดย้ นิ สัญญาณให้จงั หวะ (กลอง/กรบั /ฉิง ฯลฯ) ดงั ขนึ 1 ครงั ให้เปลยี นผนู้ ํ าคนใหมท่ าํ ทา่ ทางอสิ ระตาม ทว่ งทาํ นอง เพลงบรรเลงโดยคิดทา่ ทางไมซ่ ากบั ผนู้ ํ าคนเดมิ ทาํ จนครบหมดทกุ คน หมายเหตุ : เพลงบรรเลงทเี ปดตอ้ งมที ว่ งทาํ นอง ความยาวของเพลงมีความตอ่ เนื องกนั

15 กจิ กรรมเสรมิ ประสบการณ์ กิจกรรมเสรมิ ประสบการณ์เปนกจิ กรรมทมี งุ่ เน้ นให้เดก็ ไดพ้ ัฒนาทกั ษะการเรยี นรู้ ทกั ษะการฟง การพดู การสังเกต การคิดแกป้ ญหา การใชเ้ หตผุ ล และปฏบิ ตั กิ ารทดลอง โดยส่งเสรมิ พหุปญญาการฝกปฏบิ ตั ริ ว่ มกนั และ การทาํ งานเปนกลมุ่ ทงั กลมุ่ ยอ่ ยและกลมุ่ ใหญ่ เพือให้เกดิ ความคิดรวบยอดเกยี วกบั เรอื งทไี ดเ้ รยี นรูแ้ ละเมอื เดก็ เกดิ การเรยี นรูต้ ามกระบวนการจะทาํ ให้เดก็ เกดิ ความรูค้ วามเข้าใจในเนื อหานั น ๆ ดว้ ยตนเอง แนวทางการจัดกจิ กรรมเสริมประสบการณ์ สรา้ งข้อตกลงรว่ มกนั กอ่ นทํากิจกรรม เชน่ สวมหน้ ากากอนามยั ระมดั ระวงั การแตะตวั และหลกี เลยี ง การสัมผสั รา่ งกาย ทําความสะอาด (ลา้ งมือ ล้างอุปกรณ์) เตรยี มสือกจิ กรรมเสรมิ ประสบการณ์ไมว่ ่าจะเปนสือของจรงิ ทอี ย่ใู กลต้ ัว สือทจี ําลองขนึ และสือ ประเภทภาพ หากเปนไปไดค้ วรจดั เตรยี มให้ครบจํานวนเดก็ รายบุคคลหรอื รายกลมุ่ ยอ่ ย งดการใช้ หมนุ เวยี น และเน้ นวัสดทุ ที ําความสะอาดได้งา่ ย เมือเด็กใชท้ ํากิจกรรมเสรจ็ แล้วควรนํ าไปทาํ ความ สะอาด จดั ให้เด็กนั งเวน้ ระยะห่าง อาจจดั ให้นั งเปนครงึ วงกลม หรอื นั งสลับฟนปลา ในกรอบพืนทขี องตนเอง จดั กจิ กรรมประกอบอาหาร การเพาะปลกู ควรคํานึ งถึงความสะอาดตามหลักสขุ อนามัยด้วยการสวม หน้ ากากอนามัย หลกี เลยี งการสัมผสั ตัวกนั หลกี เลยี งการจดั กิจกรรมทตี อ้ งเชญิ บคุ คลจากภายนอกเข้ามาให้ความรูแ้ ทนครู หรอื หากจําเปนควรจัดให้มี การตรวจสอบและคัดกรองดา้ นสขุ อนามยั กอ่ น ชว่ งระยะเวลาทจี ดั กจิ กรรมสามารถยดื หย่นุ ไดต้ ามความเหมาะสมโดยคํานึ งถงึ ความเหมาะสมของกจิ กรรม เชน่ งดกจิ กรรมการศึกษานอกสถานทแี ตอ่ าจปรบั เปนการเดนิ สํารวจบรเิ วณโรงเรยี นแทน เปนตน้ เน้ นการเสรมิ ประสบการณ์ เพือส่งเสรมิ พหุปญญาโดยการพูดคุยอภปิ รายรว่ มกนั รอ้ งเพลง อา่ นนิ ทาน เลา่ เรอื ง ทายคํา แสดงละครและสถานการณ์จําลองเกียวกบั สถานการณ์การแพรร่ ะบาดของเชอื โรค การปฏบิ ัตติ นแบบวถิ ชี วี ติ ใหม่ (ครูสามารถศึกษาตวั อยา่ งหนั งสือนิ ทานจากภาคผนวก)

16 ครูสามารถนําเรอื งสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชือโควดิ - 19 ไปจดั กจิ กรรม โดยบรู ณาการกบั หน่วยการจัดประสบการณ์ ดงั ตวั อยา่ งตอ่ ไปนี กจิ กรรมลา้ งมือให้สะอาดปราศจากเชือโรค 1. จดั กลมุ่ เดก็ กลมุ่ ละไมเ่ กนิ 3-4 คน 2. เตรยี มขนมปงให้กลมุ่ ละ 2 แผน่ (สามารถปรบั ตามความเหมาะสม) 3. เดก็ ทดลองจบั ขนมปงแผน่ ที 1 ขณะทยี งั ไมไ่ ดล้ า้ งมอื แลว้ นํ าขนมปง ใส่ถงุ พลาสตกิ ใส หรอื ถงุ ซปิ ลอ็ คแบบใสเกบ็ ไวส้ ังเกตการเปลยี นแปลง 4. เดก็ ลา้ งมอื ดว้ ยสบแู่ ละลา้ งนาให้สะอาดและเชด็ มอื ให้แห้งแลว้ จบั ขนมปง แผน่ ที 2 แลว้ นํ าขนมปงใส่ถงุ พลาสตกิ ใส หรอื ถงุ ซปิ ลอ็ คแบบใสเกบ็ ไว้ สังเกตการเปลยี นแปลง 5. เดก็ สังเกตและบนั ทกึ การเปลยี นแปลงของขนมปงทงั 2 แผน่ ทกุ วนั เมอื ผา่ นไปครบ 2 สัปดาห์ ครูและเดก็ อภปิ รายผลการทดลอง และสรุป การเรยี นรูร้ ว่ มกนั หมายเหตุ : ครูอาจเพิมขนมปงตวั อย่าง ดว้ ยการทดลองให้เดก็ จบั ขนมปงหลงั จากลา้ งมอื ดว้ ยเจลแอลกอฮอล์ หรอื มอื ทจี บั บนพืนผวิ อนื ทยี งั ไมไ่ ดท้ าํ ความสะอาดไปจบั บนขนมปง นํ าไปใส่ในถงุ พลาสตกิ แลว้ ชกั ชวนให้ เดก็ สังเกตการเปลยี นแปลง หลังจากเสรจ็ กจิ กรรม ครูควรยา้ ยถงุ ขนมปงไปวางทมี มุ วทิ ยาศาสตร์ เพือให้เดก็ สังเกตและบนั ทกึ การเปลยี นแปลงของขนมปงในแตล่ ะวนั

17 กจิ กรรมศิ ลปะสรา้ งสรรค์ กิจกรรมศิลปะสรา้ งสรรค์ เปนกจิ กรรมทมี งุ่ พัฒนาความคิดสรา้ งสรรค์ การรบั รูเ้ กยี วกบั ความงาม และส่งเสรมิ กระตนุ้ ให้เดก็ ได้แสดงออกทางอารมณ์ ความรูส้ ึก ความคิดรเิ รมิ สรา้ งสรรค์ และจนิ ตนาการ เพือส่งเสรมิ พหุปญญา โดยใชก้ จิ กรรมศิลปะ เชน่ การวาดภาพ ระบายสี การปน การพิมพ์ภาพ การพับ การฉีก ตดั ปะ ฯลฯ แนวทางการจดั กจิ กรรมศิ ลปะสร้างสรรค์ จัดเตรยี มพืนทใี ห้พรอ้ มก่อนทํากิจกรรมแบบเวน้ ระยะห่างมงุ่ เน้ นจดั อุปกรณ์ เปนรายบคุ คลมากขนึ เพือหลกี เลียงการใชอ้ ุปกรณ์ทตี อ้ งสัมผสั รว่ มกนั เชน่ สีตา่ ง ๆ พ่กู ัน ดินนามนั เปนตน้ หรอื ให้เดก็ นํ าชดุ อุปกรณ์ไปทําในพืนทขี อง ตนเอง จัดกจิ กรรมศิลปะสรา้ งสรรค์โดยอาจจดั ไปพรอ้ มกับกิจกรรมการเลน่ ตามมมุ โดยให้เดก็ เลอื กทาํ กจิ กรรมเอง และเปนการกระจายเดก็ ได้ทงั ห้อง มีการเวน้ ระยะห่าง ลดความแออดั ได้ และหมุนเวียน เดก็ ให้ทาํ กิจกรรมครบทกุ คน สรา้ งข้อตกลงเมอื มีการเปลยี นและหมนุ เวยี นทํากิจกรรมกับเด็กให้ชดั เจน หากกจิ กรรมใด มเี พือนครบจํานวนทกี ําหนดแลว้ ให้คอยจนกวา่ จะมที วี า่ ง หรอื ให้ทาํ กจิ กรรรมอนื ก่อน จัดกจิ กรรม เปนกล่มุ ยอ่ ยไมเ่ กนิ กลมุ่ ละ 3-4 คนและควรเปลยี นอุปกรณ์ทสี ัมผสั รว่ มกัน เชน่

18 กจิ กรรมทตี อ้ งใชอ้ ุปกรณ์รว่ มกนั หรอื อุปกรณ์หมนุ เวยี น การวาดภาพและระบายสี อุปกรณ์บางอยา่ งอาจขอความรว่ มมอื จาก ผปู้ กครองให้เดก็ สามารถนํ าของส่วนตวั มาใช้ ทาํ กจิ กรรมได้ เชน่ สีเทยี นแทง่ ใหญ่ สีไม้ สีชอลก์ สีนา พ่กู นั ขนาดใหญ่ กระดาษ เสือคลมุ กนั เปอน หรอื ครูอาจจดั เตรยี มไว้ เปนชดุ รายบคุ คลเมอื ทาํ กจิ กรรมเสรจ็ ให้เดก็ นํ าไปทาํ ความสะอาดหรอื นํ าไปวางทจี ดุ รอ ทาํ ความสะอาด กจิ กรรมทใี ชว้ สั ดแุ ละอุปกรณ์ เปนรายบคุ คล เชน่ การเปาสี การปน การพับ การฉีก ตดั ปะ การประดษิ ฐ์ จากเศษวสั ดตุ า่ ง ๆ การรอ้ ย และ การสาน อาจเปนวสั ดทุ อ้ งถนิ ทผี า่ น การทาํ ความสะอาดแลว้ นํ าชนิ งาน ไปจดั แสดง ควรให้เดก็ ชว่ ยทาํ ความสะอาด และลา้ งมอื ให้สะอาด ทกุ ครงั กจิ กรรมทใี ชว้ สั ดอุ ุปกรณ์ใหมค่ รูแนะนํ า วธิ กี ารใช้ วธิ กี ารทาํ ความสะอาดและเกบ็ เขา้ ทเี มอื ทาํ งานเสรจ็ หรอื หมดเวลา ควรเตอื นให้เดก็ เกบ็ วสั ดอุ ุปกรณ์เครอื งมอื เครอื งใชใ้ นจดุ เตรยี มทาํ ความสะอาดหรอื ให้เดก็ นํ าไปทาํ ความสะอาดและเกบ็ เขา้ ที ดว้ ยตนเอง

19 ครูสามารถจัดกิจกรรมตามตวั อย่างตอ่ ไปนี 1. กิจกรรมวาดภาพระบายสี \"อา่ นใจดว้ ยภาพ\" อปุ กรณ์ 1.กระดาษวาดเขยี นแผน่ ใหญ่ 2.สีเทยี นรายบคุ คล ขันตอนการทํากจิ กรรม 1.แนะนํ าวสั ดุ อุปกรณ์ และขอ้ ตกลงในการใช้ 2.ให้เดก็ จบั คู่อยา่ งอสิ ระ 3.ให้เดก็ วาดภาพรว่ มกนั โดยใชส้ ีของตนเอง เลอื กสีตามใจชอบ ให้เดก็ คนแรกเรมิ วาดภาพ เดก็ อกี คนมาตอ่ เตมิ สลบั กนั ตอ่ เตมิ จนเปนผลงานทสี ําเรจ็ 4.เดก็ รว่ มกนั เลา่ เรอื งเกยี วกบั ภาพทวี าด 2. กิจกรรมประดษิ ฐ์เศษวัสดุ อุปกรณ์ 1. กระดาษจากลงั กระดาษเหลอื ใชห้ รอื กระดาษแขง็ ตดั ขนาดความกวา้ งเทา่ ทเี ดก็ นั งได้ 2. สีไม้ หรอื สีเทยี น 3. กระดาษปะ ขันตอนการทํากจิ กรรม 1. เตรยี มวสั ดุ อุปกรณ์และแนะนํ าวธิ กี าร 2. สรา้ งขอ้ ตกลง และให้เดก็ ออกแบบชนิ งาน 3. เดก็ ระบายสีตกแตง่ กระดาษตามจนิ ตนาการเพือนํ ามา เปนทนี ั งเวน้ ระยะห่าง เปนเขตแดนของตนเอง สามารถ นํ าชนิ งานไปเลน่ ในกจิ กรรมการเลน่ กลางแจง้ ได้

20 กจิ กรรมการเล่นตามมมุ กจิ กรรมการเลน่ ตามมมุ เปนกจิ กรรมทเี ปดโอกาสให้เดก็ ไดเ้ ลน่ กบั สือและเครอื งเลน่ อยา่ งอสิ ระ ตามมมุ เลน่ หรอื มมุ ประสบการณ์ ซงึ พืนทหี รอื มมุ ตา่ ง ๆ เหลา่ นี เดก็ มโี อกาสเลอื กเลน่ ไดอ้ ยา่ งเสรตี ามความสนใจ และความตอ้ งการของเดก็ ทงั ชว่ ยให้เดก็ ไดส้ ะทอ้ นคิด นํ าเสนอดว้ ยตนเอง การเลน่ ตามมมุ เปนการชว่ ย ส่งเสรมิ พหุปญญา เชน่ มมุ หนั งสือ ส่งเสรมิ ดา้ นภาษา มมุ บลอ็ ก ส่งเสรมิ ดา้ นคณิตศาสตร์ มติ สิ ัมพันธ์ ฯลฯ แนวทางการจดั กจิ กรรมการเลน่ ตามมมุ ให้เดก็ สวมใส่หน้ ากากอนามัยตลอดระยะเวลาของการทํากจิ กรรม ครูจดั ตะกรา้ ของเล่นโดยนํ าของเล่นแตล่ ะมมุ กจิ กรรมมาใส่รวมไว้ในตะกรา้ เดยี วกนั เปนของเลน่ ทหี ลากหลาย ให้เด็กสามารถหยิบไปเลน่ ในทขี องตนเอง หรอื นํ าไปเลน่ รว่ มกันกับเพือนในกลมุ่ ย่อยของตนเอง หากสามารถทาํ ได้ ควรจดั เตรยี มของเล่นตามมมุ ให้เพียงพอกบั จํานวนเดก็ ในห้อง จดั มมุ สําหรบั เก็บของเลน่ ทเี ด็กเลน่ เสรจ็ แลว้ และสรา้ งขอ้ ตกลงรว่ มกันเรอื งการเกบ็ ของเลน่ หลงั การทาํ กจิ กรรม โดยครูควรอธบิ ายให้เดก็ เขา้ ใจวา่ ทาํ ไมถงึ ตอ้ งนํ าของเลน่ มาทําความสะอาด หลังจากเสรจ็ กจิ กรรมทกุ ครงั เน้ นยาเดก็ ทกุ ครงั ว่าเมอื หมดเวลา ทาํ กจิ กรรมแลว้ ให้เดก็ นํ าของ เลน่ ทตี อ้ งทาํ ความสะอาดไปวางทจี ดุ เตรยี มทําความสะอาด ถ้าหากไม่สามารถทาํ ไดใ้ ห้เด็กวางไว้ ทมี มุ เดมิ แลว้ จงึ นํ ามาทําความสะอาด หรอื ปรบั เปลยี นสือในมมุ เลน่ ใหม่ กรณีทเี ด็กมจี ํานวนมาก ครูอาจเกดิ ความกงั วลใจและต้องใส่ใจในเรอื งของ การรกั ษาระยะห่างในขณะทพี ืนทใี นห้องเรยี นนั นมอี ยอู่ ยา่ งจํากดั ดงั นั น การจํากดั จํานวนคนเพือลดความหนาแน่ นและรกั ษาการเวน้ ระยะห่างอาจ ทําได้โดยจดั กจิ กรรมคู่ขนานไปกบั กจิ กรรมอนื จดั ให้มี ผา้ คลมุ หรอื วสั ดทุ โี รงเรยี นมี คลมุ ปองกันการสัมผสั ตามมุมเลน่ ในห้องเรยี น กอ่ นเปดมมุ ให้เดก็ เลน่ หรอื ปรบั เปลียนของเลน่ ตามมมุ เน้ นทมี วี สั ดทุ ไี ม่เปนแหลง่ สะสม ของเชอื โรคและเปนพืนผวิ ทสี ามารถนํ ามาทาํ ความสะอาดได้งา่ ย ครูให้เด็กเลอื กเลน่ ตามมุมอย่างอิสระ แต่ควรหมนั สังเกตในเรอื งของการใส่หน้ ากากอนามัย การเลน่ ของเล่นรว่ มกนั การนํ าของเลน่ เขา้ ปาก จํานวนความหนาแน่ นของเดก็ ในมมุ เลน่ และการปฏบิ ัตติ น ตามขอ้ ตกลงเรอื งสุขอนามยั ระหวา่ งทาํ กจิ กรรมภายในห้องเรยี น ซงึ ครูควรเขา้ ไปดแู ลพดู คุย กระต้นุ ให้เดก็ เปลยี นมมุ การเลน่

21 มุมร้านค้า ครูสามารถจัดกจิ กรรมตามตวั อย่างตอ่ ไปนี ทาํ ความสะอาดของเลน่ ในมมุ ทกุ วนั เชด็ กลอ่ งและ ขวดผลติ ภณั ฑต์ า่ ง ๆ ลา้ งผลไม้ ผกั จําลองแลว้ นํ าไป มมุ บ้าน ผงึ ให้แห้ง ฯลฯ หากมปี ายชอื รา้ น ปายชอื ผลไม-้ ผกั จําลอง ควรนํ ามา เน้ นของเลน่ ทหี ลากหลายและนํ ามาเชด็ หรอื ลา้ ง เคลอื บพลาสตกิ ใสเพือให้งา่ ยตอ่ การดแู ลรกั ษา ทาํ ความสะอาดไดง้ า่ ย แห้งเรว็ เชน่ ชดุ เครอื งครวั ของใชใ้ นบา้ น เครอื งแตง่ บา้ นจําลอง อุปกรณ์สือสาร เปนตน้ ควรทาํ ความสะอาดทกุ ครงั ทเี สรจ็ กจิ กรรม นํ าบตั รภาพถา่ ยและรายการอาหารเคลอื บพลาสตกิ ใส และหลกี เลยี งสิงของทเี ปนผา้ ไปกอ่ น มมุ บลอ็ ก มมุ หนังสือ หากทาํ ไดค้ วรจดั แบง่ บลอ็ กแบบตา่ ง ๆ ใส่ตะกรา้ ควรเตรยี มหนั งสือนิ ทานให้เพียงพอต่อความตอ้ งการ หรอื กระจาดให้เพียงพอตอ่ จํานวนเดก็ ในห้อง ของเดก็ ในห้องและหมุนเวียนเปลยี นเรอื งใหมอ่ ยเู่ สมอ เพือทเี ดก็ สามารถเลอื กหยิบเลน่ และจดั เกบ็ ได้ หลกี เลียงให้เดก็ ใชห้ นั งสือรว่ มกนั และเชด็ ทาํ ความ สําหรบั ไม้บล็อกหรอื แทง่ ไม้ เมอื ทาํ ความสะอาดแลว้ สะอาดหลังเสรจ็ กจิ กรรม หรอื จัดพืนทมี ุมอา่ นเปน ตอ้ งผงึ ให้แห้งสนิ ทกอ่ นนํ ามาให้เดก็ เลน่ พืนทสี ่วนตวั ทมี ีขอบเขตชดั เจน มีการเว้นระยะห่าง ผลงานของหนู

22 กจิ กรรมการเลน่ กลางแจง้ กจิ กรรมการเลน่ กลางแจง้ เปนกจิ กรรมทจี ดั ให้เดก็ ไดอ้ อกไปนอกห้องเรยี นไปส่สู นามเดก็ เลน่ ทงั ทบี รเิ วณ กลางแจง้ และในรม่ เพือส่งเสรมิ พหุปญญาเปดโอกาสให้เดก็ เคลอื นไหวรา่ งกาย ออกกําลงั และแสดงออกอยา่ งอสิ ระ โดยยึดความสนใจและความสามารถของเดก็ แตล่ ะคนเปนหลกั ซงึ กจิ กรรมการเลน่ กลางแจง้ ทโี รงเรยี นจดั ให้กบั เดก็ อนบุ าล เชน่ การเลน่ เครอื งเลน่ สนาม เกมการละเลน่ ตา่ ง ๆ เปนตน้ แนวทางการจัดกจิ กรรมการเลน่ กลางแจง้ จํากดั จํานวนเดก็ ในการเลน่ กลางแจง้ โดยการเหลอื มเวลากนั ในแตล่ ะห้อง และหากยงั มจี ํานวนเดก็ แออดั อาจลดเวลาหรอื ลดจํานวนครงั ตอ่ หนึ งสัปดาห์โดยไมต่ อ้ งจดั ให้เดก็ ลงเลน่ ทกุ วนั เดก็ และครูรว่ มกนั สรา้ งขอ้ ตกลงในการเลน่ กลางแจง้ โดยให้เดก็ ลา้ งมอื ดว้ ยสบแู่ ละนา หรอื เจลแอลกอฮอล์ ทาํ ความสะอาดมอื จากนั นให้ถอดหน้ ากากอนามยั ไปแขวนไวใ้ นจดุ ทคี รูเตรยี มไวก้ อ่ นการเลน่ จดั เครอื งเลน่ อุปกรณ์การเลน่ ให้มกี ารเวน้ ระยะห่างระหวา่ งบคุ คล เกมการละเลน่ ทจี ดั ให้เดก็ เลน่ ควรพิจารณาเกมการละเลน่ ทมี รี ะยะห่าง ไมท่ าํ ให้เดก็ ใกลช้ ดิ หรอื สัมผสั รา่ งกายกนั ขณะเดก็ เลน่ ครูตอ้ งคอยดแู ลเรอื งความปลอดภยั สขุ อนามยั และการสัมผสั รา่ งกายกนั ของเดก็ เมอื หมดเวลาให้เดก็ เกบ็ ของใชห้ รอื ของเลน่ ให้เรยี บรอ้ ย และลา้ งมอื ดว้ ยสบแู่ ละนา หรอื เจลแอลกอฮอล์ ทาํ ความสะอาดมอื แลว้ จงึ สวมหน้ ากากอนามยั ทาํ ความสะอาดเครอื งเลน่ และอุปกรณ์การเลน่ ดว้ ยนายาทาํ ความสะอาดกอ่ นให้ผเู้ ลน่ กลมุ่ ตอ่ ไปมาเลน่ ตอ่ หากของเลน่ ทที าํ ความสะอาดยาก อาจงดของเลน่ เหลา่ นี เพือปองกนั การสะสมของเชอื โรค

23 1. นํ ากลอ่ ง วสั ดเุ หลอื ใช้ วสั ดธุ รรมชาติ มาประดษิ ฐเ์ ปนสือ ประกอบการทาํ กจิ กรรมเพือกําหนดเขตพืนที และระยะห่าง ครูสามารถจัดกจิ กรรมตามตวั อยา่ งตอ่ ไปนี ของเดก็ 1. การเลน่ อสิ ระ 2. ให้เดก็ เคลอื นไหวอสิ ระโดยใชส้ ือทปี ระดษิ ฐ์ (ยานพาหนะ สัตวต์ า่ งๆ เปนตน้ ) 3. ปรบั เวลาให้ยดื หยนุ่ ตามความเหมาะสมกบั การเลน่ ของเดก็ และพืนที 2. การเลน่ เครอื งเลน่ สนาม กอ่ นให้เดก็ เลน่ เครอื งเลน่ สนาม ครูพิจารณาถงึ ความเหมาะสมวา่ ควรให้เดก็ ถอดหน้ ากากผา้ หรอื หน้ ากากอนามยั หรอื ไม่ เพือให้เดก็ ทาํ กจิ กรรมแลว้ สามารถหายใจไดส้ ะดวก และสรา้ งขอ้ ตกลง รว่ มกนั ในการเลน่ เครอื งเลน่ สนาม ระหวา่ งทเี ดก็ เลน่ ครูหมนั ดแู ล สังเกต เน้ นยาให้เดก็ ไมส่ ัมผสั รา่ งกายกนั และไมเ่ อามอื สัมผสั บรเิ วณใบหน้ า และดแู ลเรอื งการเวน้ ระยะห่าง หลงั จากเลน่ เสรจ็ ครูพาเดก็ ลา้ งมอื ดว้ ยสบแู่ ละนา หรอื เจลแอลกอฮอล์ แลว้ จงึ ให้เดก็ หยบิ หน้ ากากมาสวมใส่

24 กจิ กรรมเกมการศึ กษา กิจกรรมเกมการศึกษา เปนกจิ กรรมทชี ว่ ยพัฒนาสตปิ ญญา ให้เดก็ เกดิ การเรยี นรูจ้ ากการสังเกต การคิด หาเหตผุ ล และเกดิ ความคิดรวบยอด เกยี วกบั สี รูปรา่ ง จํานวน ประเภท มกี ฎเกณฑก์ ตกิ างา่ ย ๆ เดก็ สามารถ เลน่ คนเดยี วหรอื เลน่ เปนกล่มุ ได้ ชว่ ยส่งเสรมิ พหุปญญา ดา้ นตรรกะและคณิตศาสตร์ ภาษา และมติ สิ ัมพันธ์ แนวทางการจัดกจิ กรรมเกมการศึ กษา คํานึ งถึงความสะอาดของตัวแผน่ วสั ดขุ องสือทนี ํ ามาจัดกจิ กรรมเกมการศึกษา ควรเคลอื บพลาสติกทบี ัตรภาพ ทาํ ให้เกดิ ความคงทนและสามารถนํ ามาทําความสะอาดทกุ ครงั หลังเสรจ็ กิจกรรม หรอื จดั ใส่ถงุ ซปิ ล็อคไวเ้ ปนชุด ในกรณีทใี ห้เดก็ นํ าเกมการศึกษากลบั ไปเลน่ กับผปู้ กครองทบี ้าน จะตอ้ งใส่เกมการศึกษาในกลอ่ งหรอื ถุงซปิ ลอ็ ค ควรเตรยี มเกมการศึกษาให้เพียงพอตอ่ จํานวนเดก็ และจดั ให้เล่นเปนรายบคุ คลโดยเด็กสามารถหยบิ แลว้ นํ ามาเล่นในพืนทขี องตนเอง ครูสามารถจัดเกมการศึ กษาตามตวั อยา่ งตอ่ ไปนี ตวั อย่างเกมการศึ กษาทีนําเสนอดังตอ่ ไปนี ครูสามารถปรบั เกมการศึ กษาให้ยืดหยนุ่ ได้ตามความเหมาะสมของช่วงวยั เด็กในชันเรียน เกมจบั คู่ภาพและเงา , เกมจบั คู่ภาพทสี ัมพันธก์ นั เกมศึ กษารายละเอยี ดของภาพ (ลอตโต) เกมภาพตดั ตอ่ เกมวางภาพตอ่ ปลาย (โดมโิ น) เกมเรยี งลาํ ดบั ขนาด , เกมเรยี งลาํ ดบั เหตกุ ารณ์ เกมจบั คู่แบบตารางสัมพันธ์ (เมตรกิ เกม) เกมจดั หมวดหมู่ เกมพืนฐานการบวก

25 เกมจบั คู่ภาพและเงา จดุ ประสงค์ ฝกสังเกตรูปรา่ ง สิงทเี หมอื นกนั หรอื แตกตา่ งกนั ขันตอนการทาํ กจิ กรรม 1.ครูเตรยี มแผน่ ภาพกจิ กรรม นํ าภาพมาจดั วาง 2.เดก็ สังเกตแผน่ ภาพ 3.เดก็ จบั คู่ภาพกบั เงามาวางเรยี งกนั เปนคู่ ๆ หมายเหตุ : ในกรณีทไี มม่ เี ครอื งพิมพ์สี สามารถระบายสีเฉพาะภาพทสี มบรู ณ์ภาพเงาไมต่ อ้ งระบายสี จํานวนจะตอ้ งพอเหมาะกบั วยั ของเดก็ โดยพิจารณาชว่ งการมองของเดก็ วา่ เดก็ จะสามารถกวาด สายตามองทกุ คู่ทจี ดั เรยี งไวแ้ ลว้ โดยไมต่ อ้ งชะเงอ้ ดหู รอื ลกุ ขนึ ยนื ดู สือตน้ แบบ เกมจับคู่ภาพและเงา

26 เกมจับคู่ภาพทีสั มพันธ์กนั จดุ ประสงค์ ฝกสังเกตรูปรา่ ง สิงทเี หมอื นกนั หรอื แตกตา่ งกนั ขันตอนการทาํ กจิ กรรม 1.ครูเตรยี มแผน่ ภาพกจิ กรรม นํ าภาพมาจดั วาง 2.ให้เดก็ สังเกต 3.ให้เดก็ จบั คู่ภาพทสี ัมพันธก์ นั หมายเหตุ : ในกรณีทไี มม่ เี ครอื งพิมพ์สี สามารถระบายสีเฉพาะภาพทสี มบรู ณ์ภาพเงาไมต่ อ้ งระบายสี จํานวนจะตอ้ งพอเหมาะกบั วยั ของเดก็ โดยพิจารณาชว่ งการมองของเดก็ วา่ เดก็ จะสามารถกวาด สายตามองทกุ คู่ทจี ดั เรยี งไวแ้ ลว้ โดยไมต่ อ้ งชะเงอ้ ดหู รอื ลกุ ขนึ ยนื ดู สือตน้ แบบ เกมจับคู่ภาพทีสัมพันธก์ นั

27 เกมภาพตดั ตอ่ จดุ ประสงค์ ฝกการสังเกตรายละเอยี ดของภาพทเี หมอื นกนั หรอื ตา่ งกนั ฝกประสาทสัมพันธร์ ะหวา่ งมอื กบั ตา พัฒนาดา้ นอารมณ์ สังคม หากเลน่ รว่ มกบั ผอู้ นื ขันตอนการทาํ กจิ กรรม 1.ครูเตรยี มแผน่ ภาพกจิ กรรม นํ าภาพมาจดั วาง 2.นํ าแผน่ ภาพมาวางคละปนกนั แลว้ ให้เดก็ จดั ภาพ หมายเหตุ : ในกรณีทไี มม่ เี ครอื งพิมพ์สี สามารถระบายสีเฉพาะภาพทสี มบรู ณ์ภาพเงาไมต่ อ้ งระบายสี จํานวนจะตอ้ งพอเหมาะกบั วยั ของเดก็ โดยพิจารณาชว่ งการมองของเดก็ วา่ เดก็ จะสามารถกวาด สายตามองทกุ คู่ทจี ดั เรยี งไวแ้ ลว้ โดยไมต่ อ้ งชะเงอ้ ดหู รอื ลกุ ขนึ ยนื ดู สือตน้ แบบ เกมภาพตดั ตอ่

เกมเรยี งลาํ ดบั ขนาด 28 จดุ ประสงค์ ฝกการสังเกตความแตกตา่ งของรูปแบบ จําแนก และเปรยี บเทยี บขนาดใหญเ่ ลก็ ซงึ เปนพืนฐาน ทางคณิตศาสตรต์ อ่ ไป ขันตอนการทาํ กจิ กรรม 1. ครูเตรยี มแผน่ ภาพกจิ กรรม นํ าภาพมาจดั วาง 2. ให้เดก็ แยกภาพออกเปนพวก ๆ และเรยี งลําดบั ขนาดจากใหญม่ าหาเลก็ หรอื จากเลก็ ไปหาใหญ่ หมายเหตุ : ในกรณีทไี มม่ เี ครอื งพิมพ์สี สามารถระบายสีเฉพาะภาพทสี มบรู ณ์ภาพเงาไมต่ อ้ งระบายสี จํานวนจะตอ้ งพอเหมาะกบั วยั ของเดก็ โดยพิจารณาชว่ งการมองของเดก็ วา่ เดก็ จะสามารถกวาดสายตา มองทกุ คู่ทจี ดั เรยี งไวแ้ ลว้ สือตน้ แบบ เกมเรียงลาํ ดับภาพขนาดเล็ก-ใหญ่

29 สือตน้ แบบ เกมเรยี งลําดบั ภาพขนาดเลก็ -ใหญ่

30 เกมเรยี งลําดบั เหตุการณ์ จดุ ประสงค์ ฝกการสังเกตความแตกตา่ งของรูปแบบ จําแนก และเปรยี บเทยี บขนาดใหญเ่ ลก็ ซงึ เปน พืนฐานทางคณิตศาสตรต์ อ่ ไป ขันตอนการทาํ กจิ กรรม 1. ครูเตรยี มแผน่ ภาพกจิ กรรม นํ าภาพมาจดั วาง 2. ให้เดก็ แยกภาพออกเปนพวก ๆ และเรยี งลําดบั เหตกุ ารณ์ทเี กดิ ขนึ จากภาพ หมายเหตุ : ในกรณีทไี มม่ เี ครอื งพิมพ์สี สามารถระบายสีเฉพาะภาพทสี มบรู ณ์ภาพเงาไมต่ อ้ งระบายสี จํานวนจะตอ้ งพอเหมาะกบั วยั ของเดก็ โดยพิจารณาชว่ งการมองของเดก็ วา่ เดก็ จะสามารถกวาด สายตามองทกุ คู่ทจี ดั เรยี งไวแ้ ลว้ โดยไมต่ อ้ งชะเงอ้ ดหู รอื ลกุ ขนึ ยนื ดู สือตน้ แบบ เกมเรยี งลําดับเหตกุ ารณ์ กจิ วตั รในโรงเรยี น

31 เกมจดั หมวดหมู่ จดุ ประสงค์ ฝกการสังเกต การแยกประเภท การจดั หมวดหม ู่ ขันตอนการทาํ กจิ กรรม 1.ครูกําหนดโจทยใ์ นเกมจดั หมวดหมู่ 2.ครูเตรยี มแผน่ ภาพกจิ กรรม นํ ามาจดั วาง 3.ให้เดก็ นํ าแผน่ ภาพมาวางโดยจดั หมวดหมภู่ าพทสี ามารถเขา้ กนั ได้ หมายเหตุ : ในกรณีทไี มม่ เี ครอื งพิมพ์สี สามารถระบายสีเฉพาะภาพทสี มบรู ณ์ภาพเงาไมต่ อ้ งระบายสี จํานวนจะตอ้ งพอเหมาะกบั วยั ของเดก็ โดยพิจารณาชว่ งการมองของเดก็ ว่าเดก็ จะสามารถกวาด สายตามองทกุ คู่ทจี ดั เรยี งไวแ้ ลว้ โดยไมต่ อ้ งชะเงอ้ ดหู รอื ลกุ ขนึ ยนื ดู สือตน้ แบบภาพหมวดหมอู่ ปุ กรณ์ เกมจดั หมวดหมู่

32 เกมศึ กษารายละเอยี ดของภาพ (ลอตโต) จดุ ประสงค์ ฝกการสังเกตสิงทเี หมอื น หรอื แตกตา่ งกนั ส่งเสรมิ การประสานสัมพันธร์ ะหวา่ งมอื กบั ตา ขันตอนการจดั กจิ กรรม 1. เตรยี มกระดาษแขง็ ทจี ะเปนพืนขนาด 25 x 15 ซม. จํานวน 1 แผน่ (ใชแ้ ปะกบั ภาพใหญ)่ และ กระดาษแขง็ ขนาด 6 x 4 ซม. จํานวน 7 แผน่ (ใชแ้ ปะกบั ภาพเลก็ ) 2. ผนึ กภาพกบั กระดาษแขง็ ทเี ตรยี มไวใ้ นขอ้ 1 โดย ภาพเลก็ จะเปนส่วนปลกี ยอ่ ยของภาพใหญท่ ี ตอ้ งการให้เดก็ ไดส้ ังเกตและเรยี นรู้ ภาพใหญ่ จะเปนสิงทตี อ้ งการให้เดก็ รูจ้ กั รายละเอยี ดตา่ ง ๆ 3. ครูเตรยี มกจิ กรรม 1 คน ตอ่ 1 แผน่ พรอ้ มอธบิ ายวธิ กี ารเลน่ 4. ให้เดก็ ศึกษาภาพใหญก่ อ่ นวา่ ภาพนั นคืออะไร มอี ะไรบา้ ง 5. พิจารณาภาพเลก็ วา่ มภี าพใดบา้ งทเี ปนภาพเหมอื นกบั ทมี ใี นภาพใหญ่ 6. นํ าภาพเลก็ ทพี ิจารณาแลว้ นั นตามขอ้ 5 มาวางในชอ่ ง ซงึ อยใู่ นภาพใหญต่ ามทกี ําหนด หมายเหตุ : ในกรณีทไี มม่ เี ครอื งพิมพ์สี สามารถระบายสีเฉพาะภาพทสี มบรู ณ์ภาพเงาไมต่ อ้ งระบายสี จํานวนจะตอ้ งพอเหมาะกบั วยั ของเดก็ โดยพิจารณาชว่ งการมองของเดก็ วา่ เดก็ จะสามารถกวาด สายตามองทกุ คู่ทจี ดั เรยี งไวแ้ ลว้ โดยไม่ตอ้ งชะเงอ้ ดหู รอื ลกุ ขนึ ยนื ดู สือตน้ แบบ เกมศึ กษารายละเอียดของภาพ (ลอตโต) พิจารณาสือตน้ แบบแล้วนําภาพเลก็ มาวางในช่อง ตามทีกาํ หนด ภาพเลก็

33 สือตน้ แบบ เกมศึ กษารายละเอียดของภาพ (ลอตโต) ภาพใหญ่ ผลงานของหนู

34 เกมวางภาพตอ่ ปลาย (โดมโิ น) จดุ ประสงค์ ฝกการสังเกตสิงทเี หมอื น หรอื แตกตา่ งกนั ส่งเสรมิ การประสานสัมพันธร์ ะหวา่ งมอื กบั ตา ขันตอนวธิ ที าํ สือ 1.เตรยี มกระดาษแขง็ ขนาด 4 x 8 ซม. 2.ครูเตรยี มภาพกจิ กรรมผนึ กภาพจะผนึ กภาพบนกระดาษขนาด 4 X 8 ซม. ตามทภี าพกําหนดไว้ 3.ใชด้ นิ สอเขยี นหมายเลขภาพไวด้ า้ นหลงั เพือแสดงลําดบั การผนึ กภาพ 4.ผนึ กภาพทกี ําหนดไวล้ งในหมายเลขบนกระดาษทเี ขยี นไว้ 5.ให้เดก็ เลน่ ตอ่ โดมโิ นจากภาพ โดยวางชนิ แรกลง หาชนิ อนื ทเี หมอื นกนั มาตอ่ ทปี ลายแถว ตอ่ ออกไป หรอื จะวางให้ตงั ฉากกไ็ ด้ ขันตอนการทาํ กจิ กรรม 1.แนะนํ าให้เดก็ รูจ้ กั ภาพสิงของและประโยชน์ ของสิง ๆ นั น 2.ครูให้เดก็ วางชนิ ส่วนใดชนิ ส่วนหนึ งลงแลว้ หาชนิ อนื ทมี ภี าพเหมอื นกนั มาตอ่ ทปี ลายดา้ นใดดา้ นหนึ ง ตงั ฉากกไ็ ด้ หากภาพทนี ํ ามาตอ่ ทงั สองปลายเปนภาพเหมอื น อาจวางขวางให้เห็นแบง่ ครงึ อยกู่ ลาง 3.เมอื เลน่ เสรจ็ ให้เดก็ นํ าเกมใส่กลอ่ งทาํ ความสะอาดให้เรยี บรอ้ ย หมายเหตุ : ครูสามารถปรบั จํานวนภาพให้ยดื หยนุ่ ไดต้ ามความเหมาะสมของชว่ งวยั ของเดก็ ในชนั เรยี น ให้จํานวน ชนิ ทเี ลน่ และขนาดพอกบั มอื ของผเู้ ลน่ อาจเปน 2 x 4 ซม. 3 x 6 ซม. 4 x 8 ซม. 5 x 10 ซม. เปนตน้ เตรยี มกระดาษสําหรบั ทาํ โดมโิ น ขนาด 4 x 8 ซม. จาํ นวน 25 ชิน 11 12 13 14 15 21 22 23 24 25 31 32 33 34 35 41 42 43 44 45 51 52 53 54 55 ตวั อยา่ งการผนึกภาพ สามารถผนึกบนกระดาษขนาด 4 x 8 ซม.ตามภาพทกี าํ หนดไว้ ควรผนึกให้หันไปในทิศทางเดยี วกนั

35 สือตน้ แบบ เกมวางภาพตอ่ ปลาย (โดมิโน) หมายเลข 1 หมายเลข 2 หมายเลข 3 หมายเลข 4 หมายเลข 5

36 สือตน้ แบบ เกมวางภาพตอ่ ปลาย (โดมิโน) หมายเลข 11 หมายเลข 12 หมายเลข 13 หมายเลข 14 หมายเลข 15

37 สือตน้ แบบ เกมวางภาพตอ่ ปลาย (โดมิโน) หมายเลข 21 หมายเลข 22 หมายเลข 23 หมายเลข 24 หมายเลข 25

สือตน้ แบบ เกมวางภาพตอ่ ปลาย (โดมิโน) 38 หมายเลข 31 หมายเลข 32 หมายเลข 33 หมายเลข 34 หมายเลข 35

39 สือตน้ แบบ เกมวางภาพตอ่ ปลาย (โดมโิ น) หมายเลข 41 หมายเลข 42 หมายเลข 43 หมายเลข 44 หมายเลข 45

สือตน้ แบบ เกมวางภาพตอ่ ปลาย (โดมิโน) 40 หมายเลข 51 หมายเลข 52 หมายเลข 53 หมายเลข 54 หมายเลข 55

41 เกมจบั คู่แบบตารางสัมพันธ์ (เมตรกิ เกม) จดุ ประสงค์ 1. ฝกสังเกตสิงทเี หมอื น หรอื แตกตา่ งกนั สี รูปรา่ ง 2. ฝกเชอื มโยงความสัมพันธ์ วธิ ีเลน่ 1. ครูวางแผน่ ตารางลง แลว้ วางบตั รภาพทกี ําหนดไวบ้ นตารางตามแนวตงั และแนวนอน หมายเหตุ 2. ให้เดก็ นํ าบตั รภาพทเี หลือวางลงในตาราง โดยภาพนั นมคี วามสัมพันธก์ ับรูปรา่ งและสี เหมอื นภาพในแนวตงั และแนวนอน 1. การวางภาพแนวตงั หรอื แนวนอนในแผน่ หลกั (ตาราง) สามารถวางสลบั กนั ได้ เชน่ ภาพในแถวที 1 วางเปนแนวตงั ให้วางภาพในแถวที 2 เปนแนวนอน 2. ปรบั ขนาดตารางให้เหมาะสมตามชว่ งวยั อาจจะเปน 3 x 3 ชอ่ ง 4 x 4 ชอ่ ง กไ็ ด้ สือตน้ แบบ เกมจบั คู่แบบตารางสัมพันธ์ (เมตริกเกม) ภาพแผน่ หลกั (ตาราง) ภาพทกี ําหนดให้แนวตงั หรอื แนวนอน ขนาด 25 x 25 ซม. 1. 2. ตวั อยา่ งภาพเกมทเี ลน่ เสรจ็ แลว้ (ภาพแนวนอน) (ภาพแนวตงั )

สือตน้ แบบ เกมจบั คู่แบบตารางสัมพันธ์ (เมตรกิ เกม) 42

43 จดุ ประสงค์ เกมพืนฐานการบวก ไมเ่ กนิ 5 ฝกพืนฐานการบวก รูค้ ่าจํานวน วธิ เี ลน่ เดก็ สังเกตภาพแผน่ หลกั และแผน่ ยอ่ ย แลว้ วางภาพแผน่ หลกั กอ่ นจงึ หาแผน่ ยอ่ ย 2 แผน่ มาวางเขา้ ชดุ ให้มจี ํานวนรวมกนั เทา่ กบั จํานวนในภาพแผน่ หลกั หมายเหตุ กรณีทไี มม่ เี ครอื งพิมพ์สี สามารถระบายสีเฉพาะภาพทสี มบรู ณ์ภาพเงาไมต่ อ้ งระบายสี สามารถปรบั จํานวนสือตน้ แบบไดต้ ามความเหมาะสมกบั ชว่ งวยั ของเดก็ สือตน้ แบบ เกมพืนฐานการบวก ไมเ่ กิน 5

44 สือตน้ แบบ เกมพืนฐานการบวก ไมเ่ กนิ 5

45 สือตน้ แบบ เกมพืนฐานการบวก ไมเ่ กิน 5 จํานวน 5 แผน่ จํานวน 6 แผน่ จํานวน 5 แผน่ จํานวน 3 แผน่ จํานวน 2 แผน่ จํานวน 1 แผน่

ภาคผนวก 46 ประกาศกระทรวงศึ กษาธิการ เรอื ง การเปดเรยี นของสถานศึ กษาในสังกดั และในกํากบั ของกระทรวงศึ กษาธิการ