ดาราศาสตร์
การกาเนิดเอกภพ กาเนิดเอกภพเร่ิมนบั จากจุดที่เรียกว่า บิกแบง เป็ นช่ือท่ีใช้เรียกทฤษฎีกาเนิดเอกภพทฤษฎีหนึ่ง ปัจจุบันบิกแบงเป็ นท่ียอมรับมากขึน้ เพราะมีปรากฏการณ์หลายอย่างที่สอดคล้ องหรือเป็ นไปตามทฤษฎีบิกแบง ก่อนการเกิดบิกแบง เอกภพเป็ นพลงั งานล้วนๆ ภายใต้อุณหภูมิท่ีสูงย่ิง จุดบิกแบงจึงเป็ นจุดท่ีพลงั งานเร่ิมเปลยี่ นเป็นสสารครัง้ แรก เป็นจดุ เร่ิมต้นของเวลาและเอกภพ
กาแลก็ ซี กาแล็กซี คืออาณาจกั รหรือระบบของดาวฤกษ์ จานวนนับแสนล้านดวง อยู่รวมกัน ด้วยแรงโน้ มถ่วง ระหว่างดวงดาวกับหลุมดาท่ีมีมวลมหาศาล ซ่ึงอยู่ ณ ศูนย์กลางของกาแล็กซี โดยมีเนบิวลาเป็ นกล่มุ แก๊ส และฝ่ นุ ละออง ท่ีเกาะกล่มุ อย่ใู นที่ว่างบางแห่งระหว่างดาวฤกษ์ ระบบสรุ ิยะสงั กดั อยู่ กาแลก็ ซที างช้างเผือก
ระบบสุริยะ ระบบสุริยะ (Solar System) ประกอบด้วยดวงอาทิตย์และบริวาร ซ่ึงโคจรอยู่รอบดวงอาทิตย์ ได้แก่ ดาวเคราะห์, ดวงจนั ทร์บริวารของดาวเคราะห์, ดาวเคราะห์น้อย และดาวหางระบบสุริยะเกิดจากกลุ่มก๊ าซและฝ่ ุนในอวกาศ ยุบรวมกันภายใต้อิทธิพลของแรงโน้มถ่วง เมื่อ 4,600 ล้านปี ที่ผ่านมา ท่ีใจกลางของกลุ่มก๊าซเกิดเป็ นดาวฤกษ์ คือ ดวงอาทิตย์ เศษฝ่ ุนและก๊าซที่เหลือจากการเกิดเป็ นดาวฤกษ์ เคลื่อนท่ีอย่ลู ้อมรอบเกิดการชนและรวมตวั กนั เป็ นภายใต้อิทธิพลของแรงโน้มถ่วงในช่วงเวลาหลายร้อยล้านปี ในที่สดุ กลายเป็ นดาวเคราะห์บริวารและ วตั ถอุ ื่นๆ ในระบบสรุ ิยะ
ดาวเคราะห์ หมายถึง ดาวท่ีไม่มีแสงสว่างในตวั เอง แต่สะท้อนแสงอาทิตย์ส่องเข้าไปตาเรา ดาวเคราะห์ แต่ละดวง มีขนาดและจานวนดวงจันทร์บริวารไม่เท่ากัน อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์ เป็ นระยะทางต่างกัน และดวง ต่างก็อยู่ในระบบสุริยะ โดยหมุนรอบตวั เองโคจรรอบ ดวงอาทติ ย์ด้วย
ดาวในระบบสุริยะจักรวาล ดาวพุธ ดาวศุกร์ โลก ดาวองั คาร ดาวพฤหสั บดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส ดาวเนปจนู
หลุมดา (black hole) หมายถึงเทหวตั ถใุ นเอกภพที่มีแรงโน้มถ่วงสงู มาก ไม่มีอะไรออกจากบริเวณนีไ้ ด้แม้แต่แสง เราจึงมองไม่เห็นใจกลางของหลมุ ดา หลมุ ดาจะมีพืน้ ท่ีหนึ่งที่เป็ นขอบเขตของตวั เองเรียกว่าขอบฟ้ าเหตกุ ารณ์ ที่ตาแหน่งรัศมีชวาร์สชิลด์ ถ้าหากวัตถุหลุดเข้าไปในขอบฟ้ าเหตุการณ์ วัตถุจะต้องเร่งความเร็วให้มากกว่าความเร็วแสงจึงจะหลดุ ออกจากขอบฟ้ าเหตกุ ารณ์ได้ แต่เป็ นไปไม่ได้ท่ีวัตถุใดจะมีความเร็วมากกว่าแสง วัตถุนัน้ จึงไม่สามารถออกมาได้อีกตอ่ ไป
เป็ นกลมุ่ เมฆหมอกของฝ่ นุ แก๊ส และพลาสมาในอวกาศ เดิมคาว่า “เนบิวลา” เป็ นช่ือสามัญ ใช้เรียกวตั ถุทางดาราศาสตร์ที่เป็ นปื ้นบนท้องฟ้ าซ่ึงรวมถึงดาราจักรที่อยู่ห่างไกลออกไปจากทางช้างเผือก (ตวั อย่างเช่น ในอดีตเคยเรียกดาราจกั รแอนดรอเมดาวา่ เนบิวลาแอนดรอเมดา)
จรวด เป็ นเครื่องยนต์พลงั สงู ที่สามารถเพิ่มความเร็วจนสามารถส่ง ดาวเทียมหรือยานอวกาศออกไปโคจร รอบโลกได้ ถ้าความเร็วของ จรวดไม่สูงมากพอหัวจรวดจะตกกลับมายังผิวโลกคล้าย ๆ การ เคล่ือนท่ีของ ลกู กระสนุ ปื นดาวเทียม ปัจจุบนั มีดาวเทียมหลายประเภทและทาหน้าที่ต่าง ๆ กัน เช่น ดาวเทียมท่ี ใช้ประโยชน์ ในการติดต่อส่ือสารเรี ยกว่า ดาวเทียมสื่อสาร ดาวเทียมท่ีใช้ สารวจทรัพยากรโลกเรียกว่า ดาวเทียมสารวจพิภพ ดาวเทียมท่ีถ่ายภาพและส่งข้อมูลเก่ียวกับ เมฆ ตลอดลมฟ้ าอากาศ เรี ยกว่า ดาวเทียมอุตุนิยมวิทยา นอกจากนีย้ งั มี ดาวเทียมดาราศาสตร์ ท่ีใช้สารวจศกึ ษาดวงดาวอีก มากมายยานอวกาศ หมายถึงยานที่ออกไปนอกโลก โดยมีมนษุ ย์ขนึ ้ ไปด้วย พร้ อมเคร่ืองมือและอุปกรณ์ สาหรับการสารวจหรือไม่มีมนุษย์ อวกาศขนึ ้ ไป แต่มีอปุ กรณ์และเคร่ืองมือทางวิทยาศาสตร์เทา่ นนั้ จงึ อาจแยกยานอวกาศออกเป็น 2 พวกคือ ยานอวกาศที่มีมนษุ ย์ขบั คมุ และยานอวกาศท่ีไม่มีมนษุ ย์ขบั คมุสถานีอวกาศ หมายถงึ สถานีหรือสง่ิ กอ่ สร้างซง่ึ เคลื่อนรอบโลก เช่น สถานีอวกาศเมียร์ของรัสเซยี สถานีอวกาศฟรีดอมของสหรัฐอเมริกา โดยความร่วมมือขององค์การอวกาศยุโรป ญ่ีป่ ุน แคนาดาและ รัสเซีย
ดาราศาสตร์ คือวิชาวิทยาศาสตร์ที่ศกึ ษาวตั ถทุ ้องฟ้ า (อาทิดาวฤกษ์ ดาวเคราะห์ ดาวหาง และดาราจักร ) รวมทัง้ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติต่างๆ ท่ีเกิดขึน้ จากนอกชัน้บรรยากาศของโลก โดยศกึ ษาเก่ียวกบั วิวฒั นาการ ลกั ษณะทางกายภาพ ทางเคมี ทางอุตุนิยมวิทยา และการเคลื่อนท่ีของวตั ถุท้องฟ้ า ตลอดจนถงึ การกาเนิดและวิวฒั นาการของเอกภพ
Search
Read the Text Version
- 1 - 10
Pages: