Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หัวจะปวด

หัวจะปวด

Description: หัวจะปวด

Search

Read the Text Version

VII โมอาย โมอำย (Moai) คือ รปู ปน้ั หนิ แกะสลักซง่ึ มีรูปร่างคล้ายมนษุ ย์ และส่วนศีรษะมีขนาดใหญเ่ ดน่ ชดั หลายคนเขา้ ใจว่ารูปป้นั หนิ แหะสลักมแี ต่ หัว จริง ๆ แล้วโมอายมสี ว่ นช่วงลาตวั ด้วยเช่นกนั แตส่ ่วนใหญ่ลาตัวของโม อายนัน้ ถูกดินกลบทับอยู่ ทาให้มแี ต่สว่ นชว่ งหัวทโี่ ผลอ่ อกมาจากพ้ืนดนิ รูป 47

สลกั นี้ทจี่ รงิ สรา้ งขนึ้ เพอื่ ประดบั อาฮู (Ahu) อันเปน็ ศาลเทพเจ้าท่ี ตง้ั อยูต่ ามแถบชายฝ่งั มหาสมทุ ร จากการคน้ พบรปู ปนั้ ท่แี กะสลกั ไปบางสว่ นยงั ไม่เสรจ็ สมบรู ณ์ ทา ใหม้ กี ารสันนษิ ฐานขน้ึ มาว่าเหมอื งหินแห่งน้ไี ด้ถกู ทิ้งรา้ งไปอย่างกระทันหัน นอกจากนน้ั ในการคน้ พบโมอายเกือบทงั้ หมดอยใู่ นสภาพลม้ นอน ซงึ่ เชือ่ วา่ ชาวพนื้ เมืองบนเกาะเปน็ ผู้ทาใหม้ นั ล้ม ความหมายและวตั ถุประสงค์ของการสรา้ ง \\ \\ โมอายน้ันยังไมม่ ขี อ้ มลู ที่ชดั เจนออกมา และมีการสนั นิษฐานกันไป ต่าง ๆ นานา และข้อสนั นษิ ฐานท่ีแพร่หลายมากที่สดุ ขอ้ หนงึ่ คอื รปู ปั้นโม อายถกู แกะสลักโดยพวกโพลิเนเชยี น (Polynesian) ซ่งึ อาศยั อยบู่ นเกาะน้ี เมอ่ื กวา่ 1,000 ปี 48

โดยเชอ่ื วา่ พวกโพลเิ นเชยี นสร้างโมอายขึ้นเพือ่ เป็นตวั แทนถึงบรรพ บรุ ุษผูล้ ่วงลับ หรืออาจจะเปน็ ผซู้ ึง่ มีความสาคัญหรอื อาจจะเป็นสญั ลกั ษณ์ แสดงสถานะของครอบครวั โมอายถกู แกะสลักมาจากหินปูนแขง็ ที่ประกอบไปดว้ ยเถ้าลาวาจาก ภเู ขาไฟทอ่ี ัดตวั กนั เปน็ ก้อน โดยหนิ นส้ี ามารถหาได้จากยอดภเู ขาไฟเตยี้ ๆ ที่ มชี ่อื วา่ ราโนรารากู (Rano Raraku) ซง่ึ อยู่ทางทศิ ตะวนั ออกของเกาะ และรปู สลกั บางรูปจะมผี มจกุ ขนาดใหญส่ แี ดงอยบู่ นหวั ซงึ่ ผมจกุ สีแดงถูกแกะจาก หินสโกเรยี สแี ดง (scoria) จุกท่มี ีขนาดใหญท่ ่สี ดุ นนั้ มขี นาดเส้นผา่ ศนู ยก์ ลาง 2.4 เมตร สูง 1.8 เมตร หนัก 11.5 ตนั แตจ่ ุกสว่ นใหญ่จะมีขนาดเลก็ กวา่ น้ี ซึ่งหินสโกเรยี สแี ดงสามารถหาได้จากเหมืองทปี่ ูนาเปา 49

ซ่ึงเปน็ ยอดภูเขาไฟเตี้ย ๆ ทางทศิ ตะวันตกเฉยี งใต้ของเกาะ ภายในเหมืองหินทรี่ าโนรารากู มกี ารพบอปุ กรณแ์ กะสลกั ที่เรยี กกนั วา่ โตกิ (Toki) ท้ิงอยู่ คาว่าโตกนิ น้ั เปน็ ภาษาราปานุย (Rapa Nui) ซง่ึ เป็น ภาษาท้องถน่ิ ของชาวโพลินีเซียนท่ใี ช้เรียกเครอื่ งมอื ประเภทผึง่ ถากไมห้ รือ ขวาน โตกิทาจากหินบะซอลต์ซึง่ เปน็ หนิ ภเู ขาไฟ ลกั ษณะเป็นก้อนสคี ล้า ๆ อยใู่ นหินปูนแขง็ ซ่ึงมีเนอื้ อ่อนกว่า ทเ่ี หมอื งหินมีรูปสลักถูกแกะคา้ งทิง้ ไวอ้ ยู่ 394 รูป และมีการ แกะสลักไปมากน้อยตา่ งกัน บางรปู กเ็ พิ่งจะข้ึนโครงหน้า บางรูปก็ใกลเ้ สร็จ แล้วเหลือเพยี งตอกให้รูปสลักหลดุ จากหนาผาเทา่ น้นั บางรปู กน็ อนหงายอยู่ บางรูปกต็ ะแคงข้างหลบลึกเข้าไปในซอกหน้าผา บางรูปกเ็ หลือเพียงแค่ขน ย้าย โดยมหี นิ ก้อนกลม ๆ คอยรบั น้าหนักไว้ 50

นักวชิ าการไดส้ ันนิษฐานวา่ ในปี ค.ศ. 380 ได้เรม่ิ มีการสลักหนิ บะ ซอลต์เป็นรูปสลกั คนนง่ั คกุ เข่า ต่อมาในปี ค.ศ. 1100 ไดม้ กี ารสลกั หนิ เป็นรปู สลกั โมอาย จากหินภเู ขาไฟราโน รารากทู ต่ี ั้งอยู่ทางทศิ ตะวนั ออกของเกาะ โดยมลี กั ษณะครงึ่ ลาตัว ลาตวั สว่ นบนเหมือนผู้ชาย มหี นา้ ตาคลับคลา้ ยคลบั คลาเหมือนกนั หมด คิว้ โหนกเปน็ สนั ดวงตาของรปู สลักหินไดใ้ ช้วสั ดอุ น่ื ฝงั ลง ไป ชว่ งปลายจมกู เชดิ ขนึ้ รับกับปากทีแ่ บะและย่ืนออกมา มคี างเหล่ียม ตงิ่ หมู ี ลักษณะยาว แขนแนบชดิ กับลาตวั มคี วามสูงประมาณ 6-30 ฟตุ น้าหนัก ประมาณ 50 ตนั ตัน 51

ชนิดของโมอายตามสถานท่ตี ่าง ๆ ในปี ค.ศ. 1960 ศาสตราจารย์วลิ เลียม มลั ลอย กับพวกชาวเกาะ ไดท้ ดลองยกรูปสลักหนกั 16 ตนั จานวน 7 รูปขน้ึ ต้ังที่ Ahu Akivi ทอี่ ยทู่ าง ทิศตะวนั ตกของเกาะ จากการทดลองชว่ ยทาใหเ้ ห็นได้ว่ารูปสลักหินขนาดที่ ใหญ่ที่สดุ สามารถยกตง้ั ขึ้นมาไดอ้ ยา่ งไร โมอายนัน้ จะถกู เรยี กตามอาฮทู ีโ่ มอายต้ังอยู่ ซึ่งอาฮูมอี ย่หู ลายแห่ง ทว่ั ท้งั เกาะ ไม่ว่าจะเปน็ Ahu Tahai อาฮูท่อี ยูใ่ กล้เมืองมากทส่ี ดุ 52 Ahu Tahai

Ahu Akivi ตอ่ มา Ahu Akivi เปน็ อาฮทู ม่ี โี มอายวางอย่บู นฐาน 7 ตวั ท่ี แปลกกวา่ บริเวณอื่น ๆ เพราะโมอายท้งั 7 ตวั หนั หน้าออกไปทางทะเล 53

Ahu Tongariki ถัดไป Ahu Tongariki เปน็ อาฮทู ม่ี โี มอาย 15 ตวั ดว้ ยกนั Ahu Naunau และสดุ ทา้ ย Ahu Naunau มโี มอายวางอยู่บนฐานทงั้ หมด 7 ตัว โดย 4 ใน 7 ตวั น้ีมีพคู าโอบนหวั ประดับดว้ ย 54

นอกจากน้ียังมโี มอายตัวทใ่ี หญ่ท่ีสดุ ท่ียงั ไมต่ ัง้ อยทู่ ่รี าโน รารากู มีความสูงอยทู่ ่ี 71.93 ฟุต และหนกั 145-165 ตัน สว่ นโมอายตัวใหญท่ ี่สดุ ท่ตี งั้ ขึ้นเรยี บรอ้ ยแล้วอยู่ท่ี Ahu Te Pito Kura มคี วามสูงอย่ทู ่ีสูง 32.63 ฟตุ อีกด้วยเช่นกัน Ahu Te Pito Kura 55

IX การเคล่ือนยา้ ยโมอาย ที่บรเิ วณใกล้ ๆ กบั ส่วนดา้ นบนของเหมือง มีรลู กึ ลงไปในหนิ ความ ยาวประมาณ 1 เมตรอยูห่ ลายคู่ แต่ละคจู่ ะมีช่องเชื่อมถึงกันทกุ รู คลา้ ยกัน กับเอาไว้เป็นท่ีร้อยเชือก นอกจากรุค่เู หล่านี้แล้ว 56

ยงั มีรอ่ งรอยต่าง ๆ ทเ่ี กดิ จากเชือกทห่ี นาถึง 10 เซนติเมตร เป็น เชอื กที่น่าจะถักจากเสน้ ใยพชื ประเภทต้นชบา มีคานไม้ทสี่ อดอยใู่ นชอ่ งหนิ นา่ จะใชส้ าหรบั พนั เส้นเชือก เหมอื นเปน็ เสาผูกโยงเชอื กทแ่ี กะจากหินท่ีย่ืน ออกมา เสน้ เชือกนนี้ า่ จะช่วยในการบังคับการคลื่อนย้ายรูปสลักหนิ ลงไปตาม เนนิ ของภูเขาไฟราโนรารากู ทเี่ นนิ ข้างลา่ งของภเู ขาไฟนัน้ มีรปู แกะสลักหนิ เหล่าเหลา่ นตี้ ั้งอยถู่ ถึง 103 รูป ซ่ึงรปู สลกั หนิ สว่ นใหญส่ ่วนชว่ งลาตัวจะจมล ลงไปในดนิ โผล่พ้นออกมาแค่ชว่ งส่วนคอไปถงึ หัว 57

ในการเคล่อื นยา้ ยรปู สลักหินน้นั ไมว่ ่าจะด้วยวธิ ใี ดกต็ ามย่อมขึ้นอยู่ กับ 2 ปัจจัยคือ แรงงานคนและไมซ้ ุงจานวนมาก ซ่งึ จากขอ้ มูลใหม่ ๆ กล่าว ว่าปจั จัยทงั้ 2 อย่างมกี าลงั เหลือเฟือในยคุ สมยั ก่อนในการเคล่อื นยา้ ยรูปสลัก หิน กลา่ วคอื นกั โบราณคดีขุดค้นพบว่าภายในหมู่บ้านหลายแหง่ บนเกาะมี โครงเปน็ ไม้ซุงอยบู่ นฐานหนิ ในช่วงปี ค.ศ. 1000-1500 ท่ีมกี ารสรา้ งรปู ปนั้ แกะสลกั หนิ และอาฮู ศาสตราจารย์วิลเลยี ม มลั ลอย แหง่ มหาวทิ ยาลัยไวโอมิง ได้เสนอ แนวคดิ ไวเ้ ม่อื ปี ค.ศ. 1970 วา่ การเคลือ่ นยา้ ยรปู สลกั หินไปส่ทู ีห่ มายน้นั น่าจะใช้วิธคี วา่ หนา้ รปู สลักหินลง และมดั รูปสลกั หินติดไวก้ บั เครื่องโล้ หรือ เลอื่ นรูปโคง้ ท่ีทาจากซงุ และเคลื่อนทไี่ ปโดยมเี สาอนั ใหญต่ งั้ ขนาบขา้ งอยู่ 2 ข้าง แตบ่ ันทึกของ ดร.ฟาน ทิลเบริ ก์ นัน้ แย้งวา่ รูปสลกั ไมน่ ่าจะใช้วิธดี งั กล่าว ที่ ศาสตราจารยม์ ลั ลอยเสนอไวไ้ ด้ 58

ต่อมาศาสตราจารย์ชาลส์ เลิฟ แหง่ วิทยาลัยเวสเทริ น์ ไวโอมงิ เสนอ ทฤษฎวี า่ รปู สลักหินเหลา่ นี้ถกู เคลอื่ นย้ายมาในสภาพแนวตง้ั และเพอื่ พสิ จู น์ ทฤษฎนี ้ี ศาสตราจารยช์ าลส์ เลฟิ จึงไดล้ องนารปู สลักหลอ่ ด้วยคอนกรตี ตั้งบน เล่ือนไม้และกลงิ้ ไปบนทอ่ นซุง มอี าสาสมัครคอยชว่ ยกนั ใช้เชือกลากรปู สลัก วิธีการทดลองน้ใี ชไ้ ดผ้ ลกบั รูปสลักจาลองคอนกรีตทใ่ี ช้ แตใ่ นความเป็นจรงิ แล้วมีรูปสลกั หนิ เพยี งไม่ก่ีรปู เทา่ นน้ั ทีม่ ีฐานขา้ งลา่ งใหญ่พอใหเ้ คลื่อนย้ายได้ ดว้ ยวธิ ีน้ี ดร.ฟาน ทลิ เบริ ก์ ได้ศึกษารปู สลกั หินจานวน 47 รูป ทีน่ อนกระจกั กระจายอยตู่ ามทางท่เี ตรยี มไว้จากภเู ขาไฟราโนรารากไู ปสู่อาฮทู ่รี ิมฝงั่ ทะเล และเสนอแนวคดิ วา่ คนโบราณนา่ จะเคลื่อนยา้ ยรปู สลักหินโดยจัดใหว้ างไปใน แนวนอน อาจจะมกี ารนาบางอยา่ งมาหอ่ หมุ้ รูปสลักหนิ 59

เพอ่ื ปอ้ งกนั ความเสยี หายและรอยตาหนิกอ่ นจะบรรทุกขนึ้ บนเลอื่ น ไม้ แลว้ กล้ิงรปู สลักหินลงไปบนท่อนซุงทมี่ ีคานงัดและเชือกคอยชว่ ย วิธกี าร เคลื่อนย้ายนา่ จะใชไ้ ดด้ ีกบั รปู สลกั หนิ ทีม่ ีความยาวประมาณ 4-5 เมตร แตถ่ า้ รูปสลักหินมคี วามยาวประมาณ 10 เมตร อาจจะทาให้เคลื่อนทไ่ี ปไดไ้ ม่ถงึ รมิ ฝั่งทะเล และไม่ไกลจากเหมืองเกนิ 1.6 กิโลเมตร นอกจากน้ีพาเวล พาเวล (Pavel Pavel) นักทดลองชาวเชก็ ได้ตง้ั สมมตุ ิฐานข้ึนมาวา่ การเคล่ือนย้ายแท่งหินขนาดใหญ่นี้สามารถทาไดด้ ้วย เชอื กและคนเพียง 17 คน พาเวลเขาก็ไดพ้ ิสจู น์ใหเ้ ห็น ณ สถานท่ีจรงิ วา่ สามารถทาไดจ้ ริง ๆ โดยการผกู เชอื กไว้ตามสว่ นหวั และลาตัว จากนน้ั กไ็ ดใ้ ห้ คนจานวน 17 คนสลับกันดงึ ให้รปู สลกั หนิ โยกไปมาเหมอื นเดนิ ไดไ้ ปจนถึงที่ หมายไดอ้ ย่างปลอดภัย บนเกาะอีสเตอรม์ ีรูปสลักหนิ ซึ่งเรยี กกนั วา่ ปาโร (Paro) เปน็ รปู 60

สลักหนิ ท่ใี หญ่ทสี่ ดุ ตง้ั อย่บู นอาฮทู บ่ี ริเวณชายฝัง่ ทางทศิ เหนอื ศาสตราจารย์วลิ เลียม มลั ลอย แหง่ มหาวทิ ยาลัยไวโอมคาดว่าต้องใช้ชา่ ง ประมาณ 30 คน ใชเ้ วลาสลกั ประมาณ 1 ปี และใชแ้ รงงานคน 90 คน ใช้ เวลา 2 เดือนในการเคล่อื นย้ายรปู สลกั จากในเหมอื งไปถงึ ชายฝ่ังมหาสมทุ ร ซึ่งมรี ะยะทางเกือบ 6 กโิ ลเมตร และตอ้ งใชแ้ รงงานคนประมาณ 90 คน ใช้ เวลาอีกประมาณ 3 เดอื นในการตง้ั รูปสลกั หิน และในสว่ นของผมจกุ สนั นษิ ฐานว่ากลงิ้ ออกมาจากเหมอื งหินปูนาเปา ซึ่งอย่หู ่างจากชายฝั่งไป 13 กโิ ลเมตร 61

X กองทนุ อนุเสาวรยี ์ พนั เอกเจมส์ เอ.เกรย์ ผกู้ ่อตั้งกองทนุ อนสุ าวรยี ์โลก (เดิม คือเรียกวา่ InternationalFund for Monu ments) มาเยอื นเกาะอี สเตอร์ในช่วงตน้ ทศวรรษ 1970 เขา เดนิ ทางไปท่ีนน่ั ตามคาเชญิ ของ เอกอัครราชทตู สหรฐั เอด็ เวริ ด์ คอรร์ ่ี ทีเ่ ขาเคยพบเมอ่ื ไมน่ านนี้ในเอธโิ อเปียทีซ่ ึ่งเพิ่งจัดต้ัง WMF ขนึ้ ใหม่ ท่กี าลังดาเนนิ การด้าน แรกคอื โครงการอนรุ ักษห์ ินสกดั โบสถค์ อปติกท่ีลาลิเบลา ทา่ นเอกอคั รราชทูต คอรร์ ่ี เคยเปน็ สหรฐั ฯ ผู้แทนทางการทตู ในเอธโิ อเปีย กอ่ นยา้ ยไปชิลี ทาให้เขาติดต่อพันเอก และเชญิ ทา่ นมาดูอนสุ าวรยี ์ วิสามญั ของเคาน์ 62

ในระหวา่ งการมาเยอื นพนั เอกเกรย์ไดเ้ รียนร้กู บั นักโบราณคดี ชาว อเมรกิ นั ที่มหาวทิ ยาลยั ไวโอมงิ ดร.วิลเลยี ม มัลลอย ทเี่ พิง่ เสร็จสิ้นรายงาน ตามคารอ้ งขอของ UNESCO ในการอนรุ ักษ์และบรู ณะของเกาะ เขาติดตอ่ ศาสตราจารย์มลั ลอย และความผกู พันระหว่างทง้ั สองคน ประธาน WMF เอช.ปเี ตอร์ สเติรน์ ได้ไปเทีย่ วทเี่ กาะในเวลานน้ั และมีความ สนใจในวัฒนธรรมของมนั เขาเลยไดจ้ ัดใหม้ กี ารสนบั สนุนจากมลู นิธิราล์ฟ อ.ี ออ็ กเดน จึงสามารถอนญุ าตใหห้ มอมลั ลอยทางานบนเกาะไดเ้ ป็นเวลาหก เดือนของทุกปภี ายในระยะเวลาหา้ ปี โดยเร่ิมในปี 2516 สามสาขาวชิ า โครงการดาเนินการโดย ดร.มลั ลอย มผี ู้ร่วมงาน คือ กอนซาโล ฟเิ กโรอาและ นกั ศกึ ษาระดับบณั ฑติ ศกึ ษา วิลเลยี ม ไอเรส และ แพทรคิ แมคคอย. ตอน หลังยงั เปน็ คนมอบหมายให้มกี ารเรม่ิ สารวจเชิงตรรกะของเกาะทส่ี มบรู ณ์ แต่ งานนกี้ ็ตอ้ งหยุดชะงักเมือ่ ดร.มัลลอย ลม้ ปว่ ยและเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งในปี พ.ศ. 2521 ทาใหไ้ ม่มีใครสนับสนุนความรูแ้ ละวฒั นธรรมบนเกาะของเรามาก ดร.มลั ลอย ยังเปน็ ผู้เปลี่ยนศาสนา เขาตอ้ งการส่ือถึงความสนใจและความ หลงใหลในวัฒนธรรมของเกาะใหก้ ับผู้คนให้ได้มากทสี่ ดุ สมาชิกของเขาได้ รายงานตอนเดือนเมษายน พ.ศ. 2516 ใหม้ ีการบูรณะสถานที่ประกอบพิธี ใกลห้ มู่บา้ นและสนามบิน เพอื่ ผ้ทู มี่ าเยย่ี มชมสามารถชนื่ ชมวฒั นธรรมได้ ใน ระหวา่ งทางการไปเยือนเกาะโคโลเนล ยงั สรุปวา่ วฒั นธรรมยงั ต้องการการ เปิดเผยตอ่ สาธารณะมากขึน้ เขารสู้ กึ ว่าคอื หนทางเดยี วที่จะทาใหผ้ ูค้ นสนใจ วัฒนธรรมทน่ี ่าอัศจรรยน์ ้ี เพือ่ ใหพ้ วกเขาได้เหน็ รูปสลักของมันก่อนใคร เพอ่ื ให้บรรลสุ ิ่งนี้ เกรย์ และ มลั ลอย เร่ิมวางแผนงานนิทรรศการหนึง่ ในงาน ประตมิ ากรรม colos sal ของเกาะอีสเตอรใ์ นสหรัฐอเมรกิ า พวกเขาเลือก หวั หน้าโมอายสาหรบั นทิ รรศการระดับนานาชาตแิ ละช่วยเหลือโดย กองทพั อากาศสหรฐั จัดให้ได้บนิ ไปยงั สหรัฐอเมรกิ า ในระหวา่ งปี พ.ศ. 2511 ในวอชิงตันและSeagram 63

20 ปตี ่อมา อาคารในนิวยอรก์ เขาได้จดั นิทรรศการขน้ึ 25 ปีตอ่ มา แพทยจ์ ากนวิ เจอร์ซีย์ เริ่มสนใจเกาะอสี เตอรห์ ลงั จากเห็นงานนทิ รรศการท่ี นิวยอรค์ และไดบ้ ริจาคมรดกเกอื บครึ่งล้านเหรียญใหก้ ับ WMF เพอ่ื สนับสนนุ งานอนุรกั ษ์บนเกาะก่อนท่จี ะเสยี ชีวิต ก่อนท่ดี ร.มลั ลอย จะเสยี ชวี ติ เคยแนะนาไว้ว่า ไมค่ วรสรา้ งส่งิ ต่างในเกาะอสี เตอร์ขึ้นมาทดแทนใหม่แตใ่ ห้ ดาเนนิ การตามความพินาศของพวกมนั การทาสงครามระหว่างกนั เป็นสว่ นหน่งึ ของประวัตศิ าสตร์เกาะ เพื่อม่งุ เน้นความพยายามในการอนรุ กั ษ์ท่มี ีอยู่เงอื่ นไขอยู่มากตลอดระยะเวลา 10 ปที ี่ผ่านมา ด้วยวิธีการโดยมรดกของ วิลลาร์ด และ รธู ซอม เออร์วิลล์ WMF ได้ให้การสนบั สนนุ โครงการคน้ หา และฝึกอบรมการอนรุ กั ษ์ในพน้ื ที่ โดยรว่ มมือกบั สถาบนั ชลิ ีและนานาชาติหลายแหง่ ในปี 1986 WMF ได้ ร่วมมือกบั ICCROM และ CONAF สวนสาธารณะชลิ ีบรกิ ารในการสนบั สนนุ หลักสตู รฝกึ อบรมบนเกาะสาหรบั เจ้าหน้าท่อี ทุ ยาน นาโดย คารล์ อส เวเบอร์ ผู้เชย่ี วชาญด้านการจดั การอุทยานนักวิทยาศาสตรด์ า้ นการอนุรักษห์ นิ A. Elena Charola และ Nicholas ในปี 2530 สหวทิ ยาการ การประชมุ ระหว่างประเทศของ nary ไดร้ บั การจดั ระเบยี บใน Santiago de Chile โดย ร่วมมือกับ ICCROM, CONAF และ DIBAM องคก์ รชลิ ีทรี่ ับผิดชอบ พิพธิ ภณั ฑ์ ก่อตง้ั ตามลาดบั ความสาคญั ในการอนุรกั ษ์มรดกของเกาะอสี เตอร์ ตง้ั แตน่ น้ั มา ชาโรลา ได้กากบั กจิ กรรมการทางานรว่ มกันของ WMF กับ Centro de Restauración ทีซ่ ันติอาโกเพอื่ ติดตามเง่อื นไขในถ้า Ana Kai Tangata และเพ่อื ทาการวจิ ัยทไี่ มไ่ ดต้ ีพิมพด์ ้วยคอมพิวเตอรก์ บั กรมอทุ ยานฯ เพือ่ พัฒนาแผนการจดั การทางโบราณคดปี จั จบุ ัน WMF กาลังร่วมมอื กับ มูลนธิ ิเกาะอสี เตอร์ในการเผยแพรร่ ายงานภาคสนามของ Mulloy ซง่ึ ยงั คง เป็นเอกสารสาคญั สาหรบั นกั วจิ ยั บนเกาะทุกคน ในปี พ.ศ. 2531 WMF ได้ จัดงานนานาชาตกิ ารแข่งขันทางวทิ ยาศาสตร์สาหรับเอกสารเกย่ี วกบั การ อนุรกั ษป์ ล่องภเู ขาไฟตามข้อเสนอแนะของการประชุมปี 2530 นี้ 64

สรปุ ใหผ้ ้เู ชยี่ วชาญดา้ นหินนานาชาตไิ ด้ประชุมกันบนเกาะแสดง ความคดิ เห็นเกยี่ วกับปญั หาท่ีตอ้ งเผชญิ กับมรดก จากการประชุมครงั้ น้ี ไดม้ ี คาแนะนาว่าแผนแมบ่ ทเปน็ การกอ่ ตงั้ และดาเนินการมากกวา่ 10 ปที ่ีจะ นามาซง่ึ การอนรุ ักษท์ ล่ี ะเอียดออ่ นกบั ปัญหาของเกาะสู่สถานะสมดลุ แตน่ า่ เศรา้ ท่สี ่ีปตี ่อมามคี วามคบื หนา้ เพยี งเล็กน้อยในการตระหนักถึงโครงการนี้ สว่ นหนึ่งเนือ่ งมาจากสถานการณท์ ซ่ี ับซ้อนของรฐั บาลชิลีในเกาะอสี เตอร์ เนือ่ งจากการทับซอ้ นกันของกฎหมายกระทรวงต่างๆ ทาใหท้ ั่วโลกตอ้ ง ผดิ หวงั กับวฒั นธรรมของเกาะ แต่เหตกุ ารณ์ทง้ั หมดนีค้ อ่ นขา้ งจะเบาบางเมอื่ เปรียบเทยี บตอ่ ภยั คกุ คามทีห่ ลีกเล่ียงอยา่ งหวุดหวดิ ไมก่ ่ปี ที ี่แล้ววา่ เปน็ โรงแรมขนาดใหญ่คอม เพล็กซท์ ่อี าจสรา้ งขึน้ บนเกาะอสี เตอรแ์ ละบรเิ วณชายหาด แม้แต่การมาเยือน ของนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ เกาะอสี เตอรม์ ไี มม่ ผี พู้ ทิ ักษ์ถาวรหรอื สิง่ อานวยความสะดวกท่ี จาเป็นสาหรบั การเฝา้ ตดิ ตามอย่างต่อเนอ่ื งของงานประตมิ ากรรม ปญั หาการ ขาดแคลนของเจา้ หน้าท่ีอทุ ยานทาให้ไมส่ ามารถดูแลกิจกรรมทั้งหมดทีส่ ง่ ผล กระทบตอ่ มรดกทางโบราณคดี ทัง้ ๆที่มีคาแนะนาซา้ โดยผเู้ ช่ียวชาญและงานเบ้อื งตน้ รฐั บาลชิลียงั ไม่ไดว้ างเกาะอสี เตอร์รายการในมรดกโลกซ่งึ จะให้ความคุ้มครองและศกั ดิศ์ รี ต่อไปยงั ไงกต็ อ้ งระลกึ ไว้เสมอวา่ ทเี่ กาะอสี เตอรไ์ ด้รบั การยอมรบั วา่ เปน็ หนง่ึ เดียวของสมบตั ิทางวัฒนธรรมทีย่ ง่ิ ใหญท่ สี่ ุดในโลก ราปา ซบิ มุ๋ ได้รบั สทิ ธิคา่ เลา่ เรยี นข้ันพน้ื ฐานของมนษุ ย์และตามรฐั ธรรมนญู ในปี 2508 เทา่ นน้ั จนกระทั่งถึงตอนนน้ั เกาะถกู มองวา่ เป็นทรพั ยากรเพือ่ ใช้ประโยชนใ์ นทางใด ทางหนึ่งทเี่ ปน็ ไปได้ 65

XI การอนุรักษ์ XI 66

มรดกทางโบราณคดที ่ีมองเหน็ ไดช้ ัดเจนทสี่ ดุ ของเกาะอสี เตอร์คือ อนสุ รณส์ ถานอาฮู กับโมอาย โมอายยังหลงเหลืออยใู่ นระโนเหมอื งราราคุ เหมืองปูเกาหมูบ่ า้ น โอรงออ้ ทีต่ กแต่ง อย่างวจิ ิตโรมบอรารยจบงบางรสิเวว่ ณนถพกูิธทีแลาละาอยกี ใหนลชา่วยงๆสทงค่ี รามภายในเกาะ ตอ่ มาถกู ทอดท้งิ เหลอื แต่ พิธกี รรมหลายปี ในปีพ.ศ 2509 William Malloy เหน็ ความสาคญั ของการอนรุ กั ษ์โมอาย จงึ เสนอ ให้พฒั นาเกาะเปน็ ท่ีโลง่ พิพิธภณั ฑ์ได้เร่ิมบรู ณะของอาฮูและโมอายทโ่ี คน้ ลม้ ถงึ แม้ว่าอาฮู ปลอ่ ยท้งิ ไวหลายปพี ้นื ที่รอบๆมกี ารเปลยี่ นแปลง โดยปจั จุบัน รปู ปัน้ โมอายแห่งเกาะอีสเตอร์ ไดร้ ับเลอื กใหเ้ ปน็ หน่งึ ในมรดกโลกโดย UNESCO และไดก้ ารจดั ตัง้ องคก์ รขนึ้ มาเพ่อื ศึกษาเรอ่ื งราวของโมอายอย่างจริงจัง ประกอบกับในปี ค.ศ.1888 เกาะอีสเตอรไ์ ด้ถกู ผนวกรวมเข้ากับประเทศชิลี และมีการ สรา้ งสนามบนิ ขนึ้ เกาะอสี เตอร์จงึ ได้กลายมาเป็นแหลง่ ท่องเท่ยี วทส่ี าคัญของโลกอกี แหง่ หนง่ึ และในชว่ งสองสปั ดาห์แรกของเดือนกมุ ภาพันธข์ องทุกปี จะมนี กั ท่องเท่ียวเดินทาง มายังเกาะอสี เตอรก์ นั อย่างมากมาย เพือ่ มาร่วมงานเทศกาลทาปาติ (Tapati) ซง่ึ เป็นงาน เฉลมิ ฉลองของเกาะ โดยในงานจะมที ้งั การละเล่น การแสดง อาหาร แข่งกีฬา และดนตรี พ้นื เมืองตา่ งๆ ซ่ึงสรา้ งความประทบั ใจใหแ้ ก่นกั ท่องเท่ยี วได้เปน็ อยา่ งดี เหตุผลทไี่ ด้รับรางวลั ใหเ้ ป็นมรดกโลกโมอายได้ถกู รับเลือกให้เปน็ มรดกโลกในปี ค.ศ. 1990 โดยมเี หตผุ ลดังตอ่ ไปนี้ • เปน็ สิ่งที่ยืนยันถงึ หลักฐานของวัฒนธรรมและอารยะธรรมของชาวโพลนิ ีเซยี นท่ี ปรากฏใหเ้ ห็นอยใู่ นปัจจุบันเป็นตวั แทนซึ่งแสดงผลงานประตมิ ากรรมช้นิ เอกที่ จัดทาขน้ึ ด้วยการสรา้ งสรรค์ • เป็นตวั แทนซ่ึงแสดงผลงานประตมิ ากรรมช้นิ เอกที่จัดทาข้นึ ดว้ ยการสรา้ งสรรค์ • เป็นตัวอย่างอันโดดเด่นของวฒั นธรรมของมนษุ ย์ ขนบธรรมเนยี มประเพณี สถาปตั ยกรรม วธิ ีการก่อสรา้ ง การตัง้ ถ่นิ ฐาน 67

The Unrestored Ahu 68

Ahu ทีไ่ ม่ได้รับการฟื้นฟูบนเกาะอสิ เตอรม์ ปี ระมาณ 300 อาฮู ครึง่ หน่งึ ถอื โมอายหนึง่ ตัวหรือมากกว่าน้นั ขนาดจานวนและเทคนคิ ของการ กอ่ สรา้ งของรปู ปนั้ อาฮูนี้แตกตา่ งกนั อย่างมาก บางคนก็ประดบั ดว้ ย ภาพเขียนสกดั หินหรอื ถูกทาสีอย่างหยาบ Ahu Akahanga ข้นึ ชอื่ เรอื่ งความเชอื่ มโยงกบั ตานาน Hot u Matu'a อาฮู ตั้งอยู่ทางตอนกลางของภาคใตช้ ายฝั่งเรยี กอีกอยา่ งว่า แพลตฟอรม์ ของกษัตรยิ ์และหลมุ ฝังศพของ Hot u Matu'a อยู่ใกลๆ้ อาฮู แสดงให้เหน็ อย่างชดั เจนวา่ ขนั้ ตอนต่าง ๆ ของการกอ่ สร้าง: มนั มสี แ่ี ท่น สบิ สองโมอายท่แี ตกต่างกนั ขนาดและแปด pukao ทางลาดข้นึ เรอื จากอา่ วทอ่ี ยู่ ตดิ กนั ภายในประเทศจากอะฮู ฐานรากของเรือนเรือและสามารถมองเห็น เตาอบบดินได้อาฮู วินาปู ทางดา้ นตะวันตกของชายฝั่งทางใต้ รวมสามแยก อา่ วนิ าปูท่ี 1 อะฮูผมู้ าเยือนคนแรกจะพบทางดา้ นขวาของเส้นทางมคี วาม โดดเด่นในเรื่องของความสวยงามท่ีลงตัวกาแพงหนิ ซง่ึ มีเทคนคิ การก่อสร้าง เทยี บไดก้ บั ท่ใี ช้แลว้ ในกาแพงหินที่ Cuzco และ Machu เป็นแผน่ สี่เหล่ียมแผ่นใหญ่ ยึดไวเ้ ตมิ ส่วนหลักของแท่น อาฮูเดมิ มีรปู ป้นั หกรูปยนื อยบู่ นแท่น แต่ปจั จบุ นั ล้มลงดา้ นขา้ ง Métraux สงั เกตเห็นว่าแต่ก่อนเปน็ สแี ดง โมอายดา้ นหลังกาแพง เหมอื นถูกฝังลงในดินทถ่ี กู ขดุ ขน้ึ มาโดยเฉพาะสาหรับรูปปน้ั Vinapu II ซึง่ อยู่ เหนอื Vinapu I แกก่ ว่า ตัวมสี แี ดงหวั ขาดรปู ปั้นที่ Mulloy เปน็ คนสร้าง ข้นึ ใหม่ ยนื อยู่ในด้านหนา้ ของอาฮู น่าจะเป็นผหู้ ญงิ รา่ งเดมิ มีสองหวั ซึง่ เชื่อ กนั วา่ ทาหน้าทเ่ี ปน็ ปลายดา้ นหน่งึ ของอปุ กรณ์ท่ีใช้จบั ทอ่ นไม้ทสี่ นบั สนุนร่าง 69

ผเู้ สยี ชีวติ ซึ่งหอ่ ด้วยผ้าตาปาและทง้ิ ไว้จนสลายตัว กม็ ไี ด้แนะนาว่าใชเ้ ป็นเสา เครือ่ งบูชามนุษย์ของอาฮูทส่ี ามซง่ึ พบไดท้ ีซ่ า้ ยของเส้นทางและอาจจะเรว็ ทสี่ ุดหนึง่ เหลอื เพียงกองหิน NSบริเวณโดยรอบถกู รบกวนอย่างมากโดยการ ติดตง้ั ถังเช้ือเพลิงสนามบิน Ahu Te Peu อยตู่ รงกลางทางทิศตะวนั ตก มี สองอาฮู ภาคเหนอื อาฮู มีกาแพงด้านหลงั เป็นบล็อกขนาดใหญ่ ส่วนหน่ึงของกาแพงน้พี งั ทลาย ลง เพราะจากการขดุ ค้นในช่วงการสารวจทางโบราณคดขี องนอร์เวย์ ในปี พ.ศ. 2498-2599 โมอายส่ตี วั ถูกโค่นลม้ ซึง่ เป็นทต่ี ัง้ ของหลุม ฝงั ศพทีม่ ีกระดูกหลายอนั มที ้งั กระโหลกศีรษะ เกินพลาซา่ เป็นเรือทใ่ี หญ่ ทส่ี ุดของเกาะ โดดเด่นด้วยสองทางเขา้ ที่พบรอบๆ Ahu Te Peu เปน็ รั้ว สวนและหา่ งออกไปถา้ และทอ่ ลาวาหลายแห่งทใี่ ช้เป็นท่อี ยูอ่ าศัย ถา้ ทใี่ กล้ทีส่ ุดกบั อาฮู Ana Te Pora มีเตาอบดนิ ใต้ทีย่ น่ื ตรง ทางเข้า Ahu Heki'i ตั้งอยทู่ างชายฝัง่ ทางเหนอื โดย La Perouse Bay มสี อง แพลตฟอรม์ มีจดุ ม่งุ หมายทางดาราศาสตร์รปู ท่ีใหญก่ วา่ ซง่ึ รองรบั รปู ป้ันหก รูป มีกาแพงดา้ นหลังขนาดใหญ่ตงั้ ไว้ตรงหนา้ ทางพระอาทติ ย์ขน้ึ ใน ครีษมายัน ตัวท่ีเล็กกวา่ จะเบเ้ พอ่ื เผชิญหนา้ กบั การเพมิ่ ข้นึ พระอาทติ ย์ในครษี มายัน ลาน หน้าชานชาลาเล็กๆรูปป้ันและปเู กาด้ังเดิมที่ 70

Ahu Te Pito te Kura ทางทศิ เหนอื แต่ไกลออกไปทางทศิ ตะวันตก อาฮู Heki'i เป็นรปู ป้ันที่ใหญท่ ่ีสดุ ท่เี คยยืนบนอาฮู สูง 30 เมตร และหนกั 80 ตนั Moai Paro มีขนาดใหญม่ าก โดยมนี า้ หนกั 11.5 ตัน เปน็ ตวั สดุ ท้ายทโี่ คน้ ลม้ หลัง พ.ศ. 2381 ใกล้อาฮนู น้ั คือ Te Pito 'o te Henua หนิ กลมอยู่รมิ น้า เชื่อกนั วา่ สะดือของแผ่นดนิ Hotu เป็นคนนามา ในช่วงปลายศตวรรษท่ี 9 โดย William Thomson ในรายงานของเขาสพู่ ิพิธภณั ฑสถานแห่งชาติ 71

Conservation Treatments for Stone การอนรุ กั ษห์ ิน การอนรุ กั ษม์ ี 2 ประเภท การทาใหก้ ารรวมตวั และการทาใหว้ สั ดุแขง็ จะทนต่อการกดั เซาะและ ปอ้ งกันการซึมผ่านของน้า มีการรวมตัวท่แี ตกตา่ งกนั มากมายและผลติ ภณั ฑ์ Hydrophobization ทพ่ี ัฒนาข้นึ สาหรบั หิน ประเภทต่างๆแลสาหรับปัญหาสง่ิ แวดลอ้ มทแ่ี ตกตา่ งกัน พวกเขาต้องการห้องปฏบิ ัติการการทดสอบเพื่อดู ว่าผลติ ภณั ฑใ์ ดมากทส่ี ุดเหมาะสมกับหนิ นนั้ ๆ และการทดสอบในแหลง่ กาเนิดเพ่อื ยืนยนั ว่าผูท้ ีไ่ ดร้ ับเลือก ผลิตภณั ฑจ์ ะต้านทานสภาพแวดลอ้ มของวตั ถุ ในช่วงฤดูร้อนปี 2529-2530 ทดสอบกบั โมอาย Hanga Kio'e โดยศนู ยอ์ นรุ กั ษแ์ ละฟนื้ ฟแู หง่ ชาติ ซานติอาโก 72

The Restored Ahu ทไ่ี ด้รับการฟ้ืนฟู ในปี พ.ศ. 2457-2458 Katherine Routledge เหน็ อาฮูรปู ปัน้ 15 รปู ลม้ ควา่ หน้าอยู่ ตรงหน้า ในปี 1960 อาฮเู กดิ การสียหายจากคล่ืนยกั ษ์ รูปปัน้ ก้อนหนิ และแผ่นหินขนาดใหญท่ ี่ใชใ้ นการ ก่อสรา้ งของอาฮถู ูกคล่ืนซดั เกลอ่ื นไปทว่ั มหาวทิ ลัยชลิ โี ดยสถาบันการศกึ ษาเกาะอสิ เตอร์ “IEIPA’’ ได้ฟน้ื ฟู อาฮทู ่เี สยี หายจากคล่นื ยกั ษ์ Ahu Akivi เป็นโมอายตัวแรกท่ไี ด้บรู ณะหลังท่ี Ahu Ature ทีถ่ กู สรา้ งใหม่ ตามคาสง้ั Thor Heyerdahl ในปี พ.ศ. 2499 ไดเ้ รมิ่ การบรู ณะWilliam Mulloy และ Gonzalo Figueroa 73

ในปี พ.ศ. 2503 7 โมอาย บนอาฮู โครงสรา้ งเก่าของอาฮู มีการ ลงวนั ที่ ประมาน 1500 ไวข้ ้างหลงั ตน้ ตารบั โครงสรา้ งของ อาฮู คือซาก เมรุ และโถงศพ ความน่าสนใจของการบรู ณะไมใ่ ช่แคต่ ัวโมอายก็คอื เร่ืองของการ ทมี่ าอยบู่ นเกาะนี้ คนบนเกาะมคี วามรเู้ กยี่ วกับการเดนิ เรือ บางเรือได้จมลง ภายหลังนักดานา้ ได้เจอ Ahu Vai Teka ท่ีอยู่ใกลเ้ กาะ การบรู ณะในเวลา เดยี วกนั ไดเ้ จอ Ahu Akivi เปน็ อาฮเู ล็กๆ มีรปู หล่อองค์เดยี วไมค่ รบ (เศยี ร ของโมอายคอื ไมเ่ คยพบ) The Tahai Complex หมู่บา้ น Hangaroa ใหต้ วั อย่างท่ดี ที สี่ ดุ ของศูนย์พิธี มสี ามอาฮู – อาฮู Vai Uri กับห้า moai, Ahu Tahai เหมาะสม กับโมอายและอาฮโู กเตริคุกบั โมอายตัวหน่งึ ทอี่ าจเคยเป็นประดับด้วยปเู กา - และบรเิ วณโดยรอบบ้านเรือ เตาดนิ ไกบ่ า้ นสวน วงเวียนอบุ ลฯ(ใชใ้ น พิธีกรรมบางอย่าง) หินบ้านเรอื น ท่าเทียบเรอื และทางลาดเรือ และถา้ คอม เพลก็ ซ์ไดร้ บั การบรู ณะ พ.ศ. 2511 ถึง พ.ศ.2513 Mulloy, Figueroa และวลิ เลยี ม ไอเรส ไดใ้ ห้มีการขุด และการบรู ณะ หินบ้านเรียน ทา่ เทียบเรอื และทางลาดเรือ ถา้ คอมแพล็กซ์ 74

ปี พ.ศ. 2533 การบรู ณะ Ahu Vai Uri รวมทงั้ ท่าเทียบเรอื และ ทางลาดเรือและหินผนงั ท่สี รา้ งบา้ น และโครงการนไ้ี ดป้ ิดถา้ บางสว่ น เพราะ ไมร่ วู้ า่ เปน็ ทอี่ าศยั หรือทูปาขนาดใหญใ่ ช้สาหรับการสงั เกตทางดาราศาสตร์ พบหลักฐานท่พี วกเขาใช้เป็นทอี่ ยอู่ าศยั ไมไ่ กลจากคอมเพลก็ ซ์ ตาไฮเป็นอนุสาวรยี ์ขนาดเลก็ ท่ีทาเคร่ืองหมายหลุมฝงั ศพของวิลเลยี มมัลลอย ซงึ่ เสียชีวิตในปี 2521 ในปี พ.ศ. 2515 ทีอ่ ่าว hanga Kio'e ทางเหนอื ของ Tahai มัล ลอยไดบ้ ูรณะ AhuHanga Kio'e เป็นสองอาฮูแรกทส่ี มบูรณ์แตม่ ีแค่เศษเสย้ี ว ของโมอาย ท่ยี นื อยู่บนอาฮทู ่สี อง ทีห่ กั พงั ของ Ahu Akapu ซับซ้อนพธิ ี ไก่ที่ไดร้ ับการฟืน้ ฟูบ้านต้งั อยบู่ นขอบทีด่ ินของพลาซา่ Ahu Hanga Kio'e อาจจะเปน็ หนงึ่ ในอาฮโู มอายสดุ ทา้ ยทไ่ี ดร้ ับสรา้ งข้ึนบน เกาะ (ประมาณศตวรรษที่ 17) ในปเี ดยี วกัน มลั ลอย ได้บูรณะ Ahu Huri a Urenga ทอ่ี ยู่ใกล้กับ หมู่บา้ น Hangaroa ความโดดเดน่ ของมนั คือ มีส่ีมอื อาฮู การวางตา่ แหน่งมคี วามซบั ซอ้ น อยูใ่ นแนวเดียวกนั มเี นินเขาใกล้เคยี ง สองแหง่ คอื มองกา มาตาเอนโก และ มองกา ทาราไรนา เชน่ เดยี วกบั กบั อาฮูเล็กๆ อีกสองตวั คอื โกเตเป่ยโตทศิ ตะวนั ออกและโอ Kava ไปทางทิศ ตะวนั ตกและแท่นเบ้เผชิญกับฤดหู นาวทเี่ พม่ิ ขึน้ ดวงอาทติ ย์. ในปี พ.ศ. 2519 Mulloy เร่ิมบูรณะ “อาฮโู อกะวะ” เปน็ โมอายตัว เดียวทีอ่ ยใู่ กล้กับ Ahu Huri a Urenga แต่บูรณะไมส่ าเรจ็ เนอื่ งจากMolloy ป่วย แตส่ าเรจ็ ในปี พ.ศ. 2520 โดย Figueroa และ Sergio Rapu เปน็ คนชว่ ย เพราะเป็นคนท่ที างานอใกล้ชดิ กับ Mulloy Ahu Tautira ตง้ั อยู่ท่ี ชายทะเลของหมู่บา้ น 75

ในปี พ.ศ. 2521 โดย Figueroa ดว้ ยความชว่ ยเหลอื ของ Sergio Rapu ที่ทางานอย่างใกลช้ ิดกบั Mulloy ในโครงการอืน่ ๆAhu Tautira ตั้งอยู่ ทชี่ ายทะเลของหมู่บา้ นหน้าสนามฟุตบอล ในปี 2522-2523 ไดร้ บั การบรู ณะโดย RapuCharles Love และ Andrea Seelenfreund โครงสรา้ งของโมอายทมี่ สี ่ตี ัวเหลอื เพียงแค่ตวั เดยี ว ทอ่ี ยู่กลางเศษแทน่ ของโมอายตัวอน่ื เหลอื แคล่ าตวั และยืนอย่ใู กล้ ๆ กนั ระหว่างปี พ.ศ. 2521 ถึง พ.ศ. 2523 ได้บรู ณะ Ahu Naunau at การบูรณะมคี วามซบั ซอ้ นในการบรู ณะ กาแพงรมิ ทะเลของอาฮู มีโมอายท่ี สมบรู ณ์ห้าตวั สีใ่ นน้ันมปี เู กา และโมอายท่หี กั สองอนั สรา้ งขึน้ ใหม่ ดา้ นหลงั ของโมอาย และบางสว่ นของศลิ าทผี่ นังดา้ นหลังของอาฮนู ้ันตกแตง่ ดว้ ยภาพ สกัดหนิ ตาในปะการังสีขาวกบั ลกู ศิษยส์ กอเรียสแี ดงถกู พบในระหว่างการ ขดุ ค้นท่ไี ซตน์ ี้ (ขณะน้ีอย่ใู นนทิ รรศการทพ่ี พิ ิธภัณฑม์ านุษยวิทยาบนเกาะ) หลงั จากทีข่ ดุ คน้ ตาแล้ว ก็มีการสรา้ งแบบจาลองในโมอายท้ังส่ีกบั ปเู กา ตอ่ มานักโบราณคดถี กู วจิ ารณอ์ ย่างมาก ทาให้หยุดการสรา้ ง แบบจาลอง Ahu Tongariki เป็นอาฮูใหญ่ทสี่ ดุ ละยงั เป็น 30 รูปปน้ั ท่มี ี ประวตั ิศาสตร์ยาว 76

The Preservation of Easter Island's Monuments การอนุรกั ษอ์ นสุ รณส์ ถานของเกาะอสี เตอร์ ในปี 1976 UNESCO อนสุ รณส์ ถานทาง ประวตั ิศาสตร์ “แสดงการดารงชวี ติ ของคนในอดีตท่ีอยใู่ นเกาะนี้” จงึ มีความสาคญั ต่อคนรุ่นหลัง \"การ อนรุ ักษแ์ ละปกปอ้ งมรดนไี้ วใ้ หก้ ับคนรุน่ หลงั \" ทาใหม้ คี วามสาคญั มากในประวตั ศิ าสตร์ เนน้ ยา้ ไว้ในกฎ บตั รเวนสิ ICOMOS ในปี 1964 อนรุ กั ษม์ รดก การอนุรกั ษ์ เป็นงานทซ่ี ับซ้อนและยากมาก โดยเฉพาะกรอปรูปปัน้ และภาพเขยี นสกดั NSที่ สวยงามของอนุสรณส์ ถาน ถ้าไปอยู่ในพพิ ธิ ภัณฑ์ การเก็บรักษา มี 2 ประเภทในการฟื้นฟูอนุสาวรีย์ ประการแรก อนสุ าวรยี ท์ พ่ี งั ไมค่ วรให้นกั ทอ่ งเทยี่ วเข้าชม อาจทาใหพ้ ังเสยี หายเพ่ิมขน้ึ ประการทสี่ อง ใหป้ ระวตั ิและความรู้กบั นกั ทอ่ งเทย่ี ว คาถามท่เี กิดขึน้ เกย่ี วกบั อนุสรณส์ ถานเกาะอีสเตอร์ ควรเกบ็ ไวห้ รือปลอ่ ยให้อยสู่ ภาพ 77

เดมิ อนุเสาวรียต์ อ้ งผ่านขน้ั ตอน ตอ่ มาเกาะอิสเตอรไ์ ดร้ บั บการบรู ณะก่อนเกดิ ความเสียหาย เพมิ่ ขึน้ การบรู ณะของ“อาหูทองการกิ ิ” ตอ้ งบูรณะทั้งแท่นและรปู ป้ัน เพราะถูกคล่นื ซดั ซัดเขา้ มา การบรู ณะคอื เป็นการสรา้ งใหม่ ถงึ จะสรา้ งใหมต่ ามแบบของเกา่ ก็ตาม แต่ในกรณขี องอาฮู ความพินาศ ของพวกมันคอื ชว่ งเวลาสาคัญในประวัตศิ าสตรข์ องพวกเขา โมอายโคน่ ล้มเป็นตัวแทนมากกว่าเพยี งแค่ การละทิ้ง วิลเลยี ม มลั ลอย ย้าอยา่ งหนกั และก่อนซาโล ฟิเกโรอาในคาแนะนาเกยี่ วกบั การอนรุ กั ษ์ อนเุ สาวรยี ์ของยเู นสโก ในปี พ.ศ. 2509 การบูรณะทข่ี ดุ คน้ ขอ้ มลู ท่ีอยู่ในซากที่พงั จะทาใหส้ ญู หายไป ในขณะที่ อนุสาวรียไ์ ดส้ ร้างข้ึนใหม่ ข้อมูลจะเพ่ิมข้นึ ตามการขดุ พบตามแหล่งโบราณคดแี ละเทคโนโลยีใหม่ 78

บรรณำนกุ รม Wikipedia contributors. (2021, August 9). เกาะอสี เตอร์. สบื ค้นวันท่ี 5 August 2021, จาก https://th.m.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B 8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B8%AA%E0% B9%80%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C แมวหง่าว. (2020, May 11). ไขปริศนา รูปป้นั โมอาย เกาะอสี เตอร์ ความ ลกึ ลบั ทีซ่ อ่ นอยู่ใตผ้ ืนดนิ . สืบค้นวนั ท่ี 5 August 2021, จาก https://travel.trueid.net/detail/2pVl7M73aEP อดิเทพ พนั ธ์ทอง. (2020, May 5). ชาวเกาะอีสเตอร์ หายนะท่ีสรา้ งเองดว้ ย การทาลายธรรมชาต.ิ สบื ค้นวนั ที่ 5 August 2021, จาก https://thepeople.co/easter-island-moai-societal-collapse/ Greelane. (2020, Feb 5). 10 ข้อมลู ทางภูมิศาสตร์เกี่ยวกบั เกาะอสี เตอร์. สืบค้นวนั ที่ 5 August 2021, จาก https://www.greelane.com/th/มนษุ ยศาสตร/์ ภมู ิศาสตร/์ geography- of-easter-island-1434404/ 79

จชุ ดานิน. (2008, December 8). เทยี่ วไขปรศิ นา “โมอาย” ท่ี “เกาะอี สเตอร.์ ” . สืบค้นวนั ท่ี 5 August 2021, จาก https://mgronline.com/travel/detail/9510000144641 ธนาคารกรงุ เทพ. (2019, May 30). โมอาย ความลับแหง่ อารยธรรมโบราณ. สบื คน้ วนั ท่ี 6 August 2021, จาก https://www.bangkokbanksme.com/en/moai True ปลูกปัญญา. (2012, July 21). ตานานเรอ่ื งลึกลบั โมอาย. สืบค้นวันท่ี 6 August 2021, จาก https://www.trueplookpanya.com/blogdiary/26471 Kapook. (2019, November 22). ตามรอยปริศนาอารยธรรมโบราณ “โม อาย” แห่งเกาะอีสเตอร์. สืบค้นวนั ท่ี 6 August 2021, จาก https://travel.kapook.com/view123928.html 80

กาญจนา หงษท์ อง. (2017, August 23). เกาะอีสเตอร์ รูปป้นั โมอาย แดน ฉงน ชวนสนเทห่ .์ สบื ค้นวนั ท่ี 9 August 2021, จาก https://thestandard.co/exotic-experiences-easter-island/ Chayot08. (2020, November 8). เกาะอสี เตอร์ (Easter Island). สืบค้นวันที่ 9 August 2021, จาก https://storylog.co/story/5fa80ad4537f7be073f85b22 Sanook. (2013, November 26). ตานานโมอายแห่งเกาะอีสเตอร์ ( Moai Easter Island ) (คืออะไร หมายถงึ ความหมาย) . สืบคน้ วนั ที่ 9 August 2021, จาก https://guru.sanook.com/7753/ เรอ่ื งลึกลบั จากท่ัวโลก. (2020, October 16). “โมอายแหง่ เกาะอีสเตอร์ ( Moai Easter Island ) รูปปั้นลลี้ บั มาไดย้ ังไง.”. สบื คน้ วันที่ 9 August 2021, จาก https://www.blockdit.com/posts/5f88b06cc1939d0b6e61e30b 81

No-Face. (2017, July 7). Easter Island & Moai: ปริศนา “โมอาย” แห่ง เกาะอสี เตอร์. สืบค้นวนั ท่ี 10 August 2021, จาก https://lonesomebabe.wordpress.com/2009/08/24/easter-island- moai/ Bahn, Paul, and Flenley, John. (1992). Easter Island. สบื คน้ วนั ท่ี 10 August 2021, จาก https://www.wmf.org/sites/default/files/article/pdfs/Easter%20Isl and_The%20Heritage%20And%20Its%20Conservation.pdf Trachtman, P. (2002, March 1). The Secrets of Easter Island. สืบคน้ วันท่ี 13 August 2021, จาก https://www.smithsonianmag.com/history/the-secrets-of-easter- island-59989046/ 82


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook