ก คำนำ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการกาหนดนโยบายขับเคล่ือนพัฒนาการศึกษาที่เน้นให้ความสาคัญกับ การ จัดการเรียนการสอนภาษาไทย ให้นักเรียนระดับประถมศึกษาอ่านออกเขียนได้ ต้ังแต่ปีการศึกษา 2558 ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน และอ้างถึงหนังสือท่ี ศธ 04010/ว 1123 ลว 13 พฤษภาคม 2564 เรื่อง การ ดาเนินงานพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนภาษาไทย ตามนโยบาย “เด็กไทยวิถีใหม่ อ่านออกเขียนได้ทุก คน” สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาลาพูนเขต 2 ได้ดาเนินโครงการยกระดับคุณภาพการเรียนการสอน ภาษาไทย ตามนโยบาย “พลิกโฉมโรงเรียน พัฒนาอ่านเขียน นาผู้เรียนสู่ศตวรรษท่ี 21”ทั้งน้ีเพื่อให้โรงเรียน สามารถพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนของโรงเรียน พัฒนาครูให้ปรับวิธีเรียน เปล่ียนวิธีสอน เพื่อให้ ผลสัมฤทธ์ิภาษาไทยเพิ่มขึ้น นักเรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี 1-2 อ่านออกเขียนได้ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 อ่านคล่องเขียนคล่อง นักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 1-3 มีทักษะการอ่านสมรรถนะข้ันสูง ตามแนว PISA และใช้ภาษาสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ เป็นไปตามที่หลักสูตรกาหนด และสนองนโยบายการเดินหน้าและ พัฒนาการอ่านออกเขียนได้ ของสานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พน้ื ฐานดว้ ย โรงเรียนบ้านปวงคา(ประชาอุทิศ) ได้ตระหนักถึงความสาคัญของการพัฒนาและส่งเสริม การอ่าน การเขียนให้บังเกิดผลสาเร็จและยั่งยืน จึงได้จัดทารายงานผลการดาเนนิ งานโครงการพัฒนาคุณภาพการเรียน การสอนภาษาไทยตามนโยบาย “พลิกโฉมโรงเรียน พัฒนาการอ่านเขียน นาสู่ศตวรรษท่ี 21” เพื่อเป็น แนวทางในการปรบั ปรงุ และพฒั นาการอา่ น การเขียนอย่างยง่ั ยืนต่อไป กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรยี นบ้านปวงคา(ประชาอทุ ิศ)
ข บทสรปุ ของผบู้ รหิ ำร โรงเรียนบ้านปวงคา(ประชาอุทิศ) ได้ดาเนินโครงการยกระดับคุณภาพการเรียนการสอน ภาษาไทย ตามนโยบาย “พลิกโฉมโรงเรียน พัฒนาอ่านเขียน นาผู้เรียนสู่ศตวรรษที่ 21” ของสานักงาน เขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาลาพูน เขต 2 และสนองนโยบาย เดินหน้าและพัฒนาการอ่านออกเขียนได้ ของสานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน โดยมีจุดมุ่งหมายในการพัฒนาการเรียนการาอนภาษาไทย ในโรงเรียน พัฒนาครูให้ปรับวิธีเรียน เปลี่ยนวิธีสอน และพัฒนาผู้เรียนให้มีผลสัมฤทธ์ิด้านภาษาไทยเพ่ิมขึ้น นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1 – 3 อ่านออกเขียนได้ ลายมือสวย นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 – 6 อ่านคล่องเขียนคล่อง ลายมือสวย และนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 3 มีการอ่านสมรรถณะช้ันสูง ตาม แนวทาง PISA สามารถใชภ้ าษาไทยในการสอื่ สารได้อยา่ งสร้างสรรค์ เปน็ ไปตามท่หี ลักสูตรกาหนด โรงเรียนได้ดาเนินโครงการโดยใช้รูปแบบการบริหารจัดการ 4P1S Model นวัตกรรม การอ่าน การเขียน มีการดาเนินงาน 5 ขั้นตอน ได้แก่ 1 PIAN = การวางแผน 2 PREPARATION = การเตรียมความพร้อม 3 PROCESS = การดาเนินการ 4 SUPPORT = การสนับสนุน 5 PRODUCT = ผลผลิต/ผลลัพธ์ ซ่ึงครูผู้สอนภาษาไทยทุกระดับชัน้ จะมีนวัตกรรมการสอนภาษาไทยที่เหมาะสมกับนักเรียน ตามช่วงวัย และมีกระบวนการจัดกรเรียนการสอนภาษาไทยในชั้นเรียนแบบ Active learning ตามแนวทาง BBL (กุญแจ 5 ดอกในการจัดการเรียนรู้) ในระดับช้ันประถมศึกษาปีท่ี 1 – 3 และมีกระบวนการ จัดการเรียนรู้แบบ Active learning ด้ายการะบวนการ GPAS 5 Steps สู่ห้องเรียนศตวรรษท่ี 21 ในระดับชั้นประถมศึกษาปีท่ี 4 ถึงช้ันมัธยมสึกษาปีที่ 3 เพื่อส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้มีผลสัมฤทธ์ิ ดา้ นภาษาไทยเพ่มิ ขน้ึ จากผลการดาเนินงานตามโครงการยกระดับคุณภาพการเรียนการสอนภาษาไทยในโรงเรียน บ้านปวงคา(ประชาอุทิศ) ตามนโยบาย “พลิกโฉมโรงเรียน พัฒนาอ่านเขียน นาผู้เรียนสู่ศตวรรษที่ 21” มผี ลสัมฤทธิ์เกิดข้นึ กบั นกั เรียน ครผู สู้ อนภาษาไทยในโรงเรียน และเกดิ ข้นึ กับโรงเรยี น ดงั นี้ 1. ผลทเ่ี กิดขึ้นกับนักเรียน 1.1 มผี ลสัมฤทธ์ดิ ้านภาษาไทยเป็นไปตามทส่ี ถานศึกษากาหนด 1.2 มผี ลการพัฒนาการอา่ น การเขยี นเป็นไปตามท่สี ถานศึกษากาหนด 1.3 มีผลงานของนักเรยี นในการแข่งขนั ทักษะด้านภาษาไทย การประกวดคดั ลายได้รับรางวัล ระดบั เขตพืน้ ที่การศึกษาประถมศึกษาลาพูน เขต 2 2. ผลทเ่ี กดิ ข้ึนกับครผู สู้ อน ครูผู้สอนทุกระดบั ช้ันไดป้ รับวิธีเรียน เปล่ียนวิธีสอนโดยใช้รูปแบบ Active learning ผ่านกระบวนการจัดการเรียนการสอนแบบ BBL และ GPAS 5 Satep 3. ผลท่เี กดิ ข้ึนกบั โรงเรียน 3.1 มีรปู แบบการบรหิ ารจัดการเพ่ือพัฒนาการอ่านการเขียน 4P1S Model เคร่อื งมือใน การพัฒนาและยกระดบั คุณภาพการเรียนการสอนภาษาไทยในโรงเรยี นตอ่ ไป
ค สำรบญั หนา้ คานา ก บทสรปุ ผู้บริหาร ข สารบญั ค สารบัญรูปภาพ ง สารบญั ตาราง จ บทท่ี 1 บทนำ 1 - ความสาคัญ และความเปน็ มา 1 - วัตถุประสงค์ 2 - ประโยชนท์ ่คี าดวา่ จะได้รบั 2 บทท่ี 2 ข้อมูลพื้นฐำนโรงเรียน 2 - ประวตั ิโรงเรียน 3 - ขอ้ มลู บุคลากร 11 - ข้อมลู นักเรียน 12 - ข้อมลู ครูผู้สอนภาษาไทย 13 บทที่ 3 กระบวนกำรบริหำรจดั กำรพฒั นำตำม Road map ของโรงเรยี น 14 - รูปแบบการบรหิ ารจัดการ โดยใช้ 4P1S MODEL นวตั กรรมการอ่าน การเขยี น 14 - แนวทางการดาเนินงานของโรงเรียน 16 - แนวทางการพัฒนาการจดั การเรียนรู้ 20 - การนเิ ทศ ตดิ ตาม โดยใช้ 4P1S MODEL นวตั กรรมการอ่าน การเขียน 24 บทท่ี 4 ผลกำรดำเนนิ งำน 26 - ผลการดาเนินงาน 26 - ประชาสัมพนั ธแ์ ละเผยแพร่การดาเนินงานโรงเรยี น 49 บทที่ 5 บทสรุป อภิปรำย ข้อเสนอแนะ 50 บรรณำนกุ รม ฉ ภำคผนวก - โครงการ - ตวั อย่างแผนการจัดการเรยี นรูเ้ ชงิ รกุ (Active Learning)ท่ีสอดคล้องกับการพัฒนาสมอง - ภาพกิจกรรมก่อนและหลังการพัฒนา - ภาพกิจกรรมการเรียนการสอน - การนเิ ทศการสอนของผอู้ านวยการโรงเรยี น คณะผจู้ ดั ทำ
ง สำรบัญรูปภำพ ภำพที่ หนำ้ ภำพท่ี 1.ภาพแสดงแผนท่โี รงเรยี นบ้านปวงคา(ประชาอุทิศ) 7 ภำพที่ 2.ภาพแสดงแผนผังในโรงเรียนบ้านปวงคา(ประชาอุทศิ ) 7 ภำพท3่ี .ภาพแสดงรปู แบบการบริหารจดั การ โดยใช้ 4P1S MODEL นวัตกรรมการอ่าน การเขียน ของ โรงเรียน 14 ภำพที่4 .ภาพแสดงการศกึ ษาการพฒั นาผู้เรียนจากพรี ะมิดแหง่ การเรยี นรู้ 20 ภาพท่ี 5 .การจัดการเรยี นรู้โดยใชส้ มองเป็นฐาน (Brain-Based Learning : BBL) 22 ภำพที่6 .ภาพแสดงกระบวนการเรยี นรู้ GPAS 5 Steps สหู่ อ้ งเรยี นในศตวรรษท่ี 21 23 ภำพท่ี7 .เกยี รติบัตรครูมกี ารพัฒนาตนเองโดยเข้าร่วมการอบรม เพ่ือพัฒนาการอา่ น การเขยี น 47 ภำพท่7ี .เกียรตบิ ตั รครูมีการพัฒนาตนเองโดยเข้ารว่ มการอบรม เพื่อพัฒนาการอ่าน การเขยี น 47 ภำพที่7 .เกยี รตบิ ัตรครมู ีการพัฒนาตนเองโดยเข้ารว่ มการอบรม เพื่อพฒั นาการอา่ น การเขยี น 48 ภำพท7่ี .เกียรติบตั รครูมกี ารพัฒนาตนเองโดยเขา้ ร่วมการอบรม เพื่อพัฒนาการอา่ น การเขยี น 48 ภำพที่ 11 . การเผยแพรผ่ ลงานนักเรยี นผ่านการศกึ ษาดูงานจากโรงเรยี นอนื่ ซงึ่ เปน็ การสร้างเครือข่าย 49 ภำพที่ 12 . การเผยแพรผ่ ลงานนักเรยี นผา่ นการศกึ ษาดูงานจากโรงเรียนอื่นซง่ึ เป็นการสร้างเครือข่าย 49
จ สำรบญั ตำรำง ตำรำงท่ี หน้ำ ตำรำงที่ 1. แสดงขอ้ มลู บุคลากรทางการศกึ ษาของโรงเรียนบา้ นปวงคา(ประชาอุทศิ ) 11 ตำรำงท่ี 2. แสดงขอ้ มลู จานวนนกั เรียน 12 ตำรำงที่ 3. แสดงข้อมูลครูผสู้ อนภาษาไทย 13 ตำรำงท่ี 4. แสดงแนวทางการดาเนินงานของโรงเรียนของผู้อานวยการโรงเรียนบา้ นปวงคา(ประชาอุทิศ) 16 ตำรำงที่ 5. แสดงแนวทางการดาเนนิ งานของโรงเรยี นของของครผู ้สู อน ระดับหอ้ งเรยี น 17 ตำรำงท่ี 6. เกณฑ์การพิจารณาระดับปฏบิ ตั ติ ามมาตรการและแนวทางในการสง่ เสรมิ นักเรียน 19 ตำรำงที่ 7. ตารางแสดงการนิเทศ ติดตามการจดั เรยี นรู้ 24 ตำรำงที่ 8. ตารางแสดงรายงานผลการปฏิบัตติ ามมาตรการและแนวทางในการส่งเสรมิ นักเรยี นชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 1 26 ตำรำงท่ี 9. ตารางแสดงรายงานผลการปฏบิ ตั ติ ามมาตรการและแนวทางในการสง่ เสรมิ นกั เรยี นชั้นประถมศึกษาปที ี่ 2 28 ตำรำงท่ี 10. ตารางแสดงรายงานผลการปฏิบตั ติ ามมาตรการและแนวทางในการสง่ เสรมิ นักเรยี นชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 3 30 ตำรำงท่ี 11. ตารางแสดงรายงานผลการปฏบิ ตั ติ ามมาตรการและแนวทางในการส่งเสรมิ นกั เรยี นชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 3 31 ตำรำงที่ 12. ตารางแสดงรายงานผลการปฏิบตั ติ ามมาตรการและแนวทางในการสง่ เสรมิ นักเรยี นชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 5 33 ตำรำงที่ 13. ตารางแสดงรายงานผลการปฏบิ ตั ติ ามมาตรการและแนวทางในการสง่ เสรมิ นกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 6 35 ตำรำงท่ี 14. ตารางแสดงรายงานผลการปฏิบตั ติ ามมาตรการและแนวทางในการสง่ เสรมิ นกั เรยี นชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 37 ตำรำงท่ี 15. ตารางแสดงรายงานผลการปฏิบตั ติ ามมาตรการและแนวทางในการสง่ เสรมิ นกั เรยี นชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 2 38 ตำรำงที่ 16. ตารางแสดงรายงานผลการปฏิบตั ติ ามมาตรการและแนวทางในการสง่ เสรมิ นกั เรยี นชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 40 ตำรำงท่ี 17. แสดงจานวนนกั เรยี นทมี่ คี วามสามารถในดา้ นการอา่ น การเขียน 42 ตำรำงท1่ี 8 . แสดงผลร้อยละของความสามารถในด้านการอา่ น การเขยี น 43 ตำรำงท1ี่ 9 . แสดงผลจานวนนักเรยี นท่ีมคี วามสามารถในดา้ นการอ่าน การเขียน 43 ตำรำงท2่ี 0 . แสดงข้อมูลนวตั กรรมการสอนเพอ่ื พัฒนาจุดเนน้ การพัฒนาคณุ ภาพผู้เรยี น 45
1 บทที่ 1 บทนำ 1.ความสาคญั และความเปน็ มา ภำษำไทยเป็นภำษำประจำชำติเป็นเอกลักษณ์ท่ีแสดงถึงควำมเป็นไทย มีควำมสำคัญและจำเป็น อย่ำงย่ิง ต่อกำรดำเนินชีวิต ใช้ส่ือสำรติดต่อแลกเปล่ียนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ภำษำไทยเป็นเครื่องมือที่สำคัญต่อกำรศึกษำใน ศำสตร์อ่ืนๆ ถ้ำผู้เรียนมีควำมสำมำรถ ฟัง อ่ำน เขียน และส่ือควำมได้ จะทำให้ประสบควำมสำเร็จสำมำรถอยู่ ร่วมกับผู้อ่ืนได้อย่ำงมีควำมสุข สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำ ข้ันพ้ืนฐำน พุทธศักรำช 2551 ได้ กำหนดให้ภำษำไทยเป็นทักษะที่ต้องฝึกฝนจนเกิดควำมชำนำญในกำรใช้ภำษำเพื่อกำรสื่อสำ รกำรเรียนรู้อย่ำงมี ประสิทธภิ ำพและเพื่อนำไปใชใ้ นชวี ิตจริง นักเรยี นทจ่ี บกำรศึกษำชนั้ ประถมศึกษำปีที่ 3 จะสำมำรถอ่ำนออกเสียง คำคล้องจอง ข้อควำมเร่อื งสั้นๆ และบทรอ้ ยกรองงำ่ ย ๆได้ถูกตอ้ งคลอ่ งแคลว่ เขำ้ ใจควำมหมำยของคำและข้อควำม ทอ่ี ำ่ น ตัง้ คำถำมเชงิ เหตุผล ลำดับเหตกุ ำรณ์ คำดคะเน เหตกุ ำรณ์ สรปุ ควำมูร้และข้อคิดจำกเรื่องที่อ่ำน ปฏบิ ัตติ ำม คำสัง่ จำก เรอื่ งทีอ่ ำ่ นได้ เขำ้ ใจควำมหมำยของข้อมูลจำกแผนภำพ แผนที่และแผนภูมิ นักเรียนท่ีจบกำรศกึ ษำชั้น ประถมศึกษำปีที่ 6 สำมำรถอ่ำนออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองเป็นทำนองเสนำะได้ถูกต้อง อธิบำย ควำมหมำยโดยตรงและควำมหมำย โดยนัยของคำ ประโยค ข้อควำม สำนวนโวหำรจำกเร่ืองที่อ่ำน เข้ำใจ คำแนะนำ คำอธิบำยในคู่มือต่ำง ๆ แยกแยะข้อคิดเห็นและข้อเท็จจริง จับใจควำมสำคัญของเร่ืองท่ีอ่ำน แนะนำ ควำมูร้ ควำมคิดจำกเร่ืองท่ีอ่ำนไปตัดสินใจแก้ปัญหำในกำรดำเนินชีวิต รักกำรอ่ำนเห็นคุณค่ำของสิ่งที่อ่ำน และ นักเรียนที่จบช้ันมัธยมศึกษำปีท่ี ๓ สำมำรถอ่ำนออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง เป็นทำนองเสนำะได้ ถูกต้องเข้ำใจควำมหมำยโดยตรงและควำมหมำย โดยนัย จับใจควำมสำคัญและรำยละเอียดของส่ิงท่ีอ่ำน แสดง ควำมคิดเหน็ และข้อขดั แยง้ จำกเร่อื งท่ีอ่ำนและเขียนกรอบแนวคิด ผงั ควำมคิด ย่อควำม เขยี นรำยงำนจำกส่ิงท่ีอ่ำน วเิ ครำะห์ วจิ ำรณ์ อย่ำงมเี หตุผล ลำดับควำมอย่ำงมีขัน้ ตอนและควำมเป็นไปได้ของเรื่องท่ีอำ่ น ประเมนิ ควำมถกู ต้อง ของข้อมูลท่ีใช้สนับสนุน จำกเร่ืองที่อ่ำน กระทรวงศึกษำธิกำรได้ให้ควำมสำคัญต่อกำรพัฒนำคุณภำพและ มำตรฐำนกำรศึกษำเพ่ือนำพำประเทศสู่ควำมเจริญก้ำวหน้ำ โดยได้ให้ควำมสำคัญต่อกำรเรียนรู้ของนักเรียน ซึ่ง คณะกรรมกำรกำรศึกษำข้ันพ้ืนฐำน จึงกำหนดนโยบำยสำคัญให้นักเรียนทุกระดับชั้น อ่ำนออกเขียนได้ อ่ำนคล่อง เขียนคล่องและส่ือสำรได้ เพ่ือเป็นกำรวำงรำกฐำนสำคัญในกำรเรียนรู้ระดับสูงตอ่ ไป ทำงสำนักงำนเขตพ้ที กี่ ำรศึกษำ ประถมศึกษำลำพูนเขต 2 โดยผู้อำนวยกำรสำนักเขตพ้ืนที่กำรศึกษำลำพูนเขต 2 ได้กำหนดนโยบำยไว้ให้นักเรียน ในระดับช้ันประถมศึกษำปีท่ี1-3 อ่ำนออก เขียนได้ ระดับช้ันประถมศึกษำปีที่ 4-6 อ่ำนคล่อง เขียนคล่อง ตัวหนงั สือสวยและระดับช้ันมัธยมศกึ ษำปที ี่ 1-3 อ่ำนคดิ วิเครำะหข์ ัน้ สงู จำกนโยบำยดังกล่ำวทำงโรงเรียนบ้ำนปวงคำ(ประชำอุทิศ) ได้เห็นควำมสำคัญของกำรจัดกำรเรียน กำร สอนทต่ี ้องสง่ เสริม สนับสนุน เร่งรัด และพัฒนำผ้เู รยี น โดยเฉพำะกระบวนกำรจดั กำรเรียนรู้ มีเทคนิคและวิธีกำรใน กำรพัฒนำควำมสำมำรถของผู้เรียนในระดับชั้นประถมศึกษำปีที่ 1-3 ให้สำมำรถอ่ำนออก เขียนได้ ระดับช้ัน ประถมศึกษำปีท่ี 4-6 อำ่ นคล่อง เขียนคล่อง ตวั หนงั สอื สวยและระดบั ช้ันมัธยมศึกษำปีที่ 1-3 อำ่ นคิดวเิ ครำะห์ข้ัน สูงน้ัน และพัฒนำผู้เรียนได้ตำมควำมคำดหวังของกำรจบกำรศึกษำตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำ ขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช 2551 โดยสำเหตุของปัญหำกำรอ่ำน กำรเขียนของนักเรียน อำจมีปัจจัยหลำยด้ำนที่ทำให้เกิด ปัญหำ เช่น กำรใช้ภำษำถิ่นของนกั เรียน กำรเรียนท่ีไม่ต่อเนื่องของผ้เู รียนเน่ืองจำกขำดกำรเอำใจใสข่ องผู้ปกครอง
2 และผู้เรียนมนี ้องลง กำรจัดกำรเรยี นกำรสอนภำษำไทยท่ีประสบควำมสำเรจ็ ได้น้ัน ตอ้ งจดั บรรยำกำศกำรเรียนกำร สอนที่กระตุ้นให้นักเรียนสนใจใคร่เรียนรู้ รวมไปถึงกำรใช้ส่ือและนวัตกรรมและวิธีกำรจัดกำรเรียนกำรสอนของครู ได้ใช้รูปแบบท่ีหลำกหลำยได้เรยี นรู้อย่ำงมคี วำมสขุ สนุกกับกำรเรียนรู้ ในกำรจัดกำรศึกษำต้องยึดหลักว่ำผเู้ รยี นทุก คนสำมำรถเรยี นรู้และพัฒนำตนเองได้ให้ถือว่ำผูเ้ รยี นสำคัญท่สี ุดและกระบวนกำรจัดกำรศกึ ษำต้องส่งเสริมใหผ้ ู้เรียน สำมำรถพฒั นำตนเองตำมธรรมชำตแิ ละเต็มศกั ยภำพ 2.วัตถปุ ระสงค์ 2.1 นักเรียนมีทักษะด้ำนกำรอ่ำน กำรเขียน และกำรสื่อสำรตำมระดับช้นั ของนักเรียน 2.2 เพอื่ พัฒนำทักษะดำ้ นกำรอ่ำน กำรเขียน และกำรสอ่ื สำรใหก้ บั นกั เรียน 2.3 เพ่อื ส่งเสรมิ ใหค้ รูผูส้ อนพัฒนำกระบวนกำรจัดกำรเรยี นรู้ตำมจดุ เน้นกำรพัฒนำคุณภำพนักเรียน 3.ประโยชน์ที่คาดวา่ จะได้รับ 3.1 นักเรยี นมที ักษะดำ้ นกำรอำ่ น กำรเขียน และส่ือสำรตำมระดบั ช้นั ของนักเรยี น 3.2 นกั เรยี นมกี ำรพฒั นำทักษะด้ำนกำรอ่ำน กำรเขยี น และกำรสื่อสำร 3.3 ครูผสู้ อนมกี ำรพัฒนำกระบวนกำรจัดกำรเรียนรตู้ ำมจุดเนน้ กำรพัฒนำคณุ ภำพผู้เรียน
3 บทท่ี 2 ข้อมูลพ้นื ฐานโรงเรยี น 1. ความเป็นมาของสถานศึกษา โรงเรียน บ้ำนปวงคำ(ประชำอทุ ิศ) ทต่ี ้ัง 154 หมู่ท่ี 9 บำ้ นปวงคำ ตำบลลี้ อำเภอล้ี จงั หวดั ลำพูน รหสั ไปรษณยี ์ 51110 ตั้งอยใู่ นเขตเทศบำล ตำบลลี้ จังหวดั ลำพูน โทรศพั ท์ 053-979-300 โทรสำร - e-mail [email protected] สงั กัดสำนักงำนเขตพ้ืนทก่ี ำรศึกษำประถมศึกษำลำพนู เขต 2 สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำข้ันพ้ืนฐำน ประวตั ิของโรงเรียนโดยย่อ โรงเรียนบ้ำนปวงคำ(ประชำอุทิศ) สังกัด สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำข้ันพื้นฐำน สำนักงำนเขต พ้นื ทก่ี ำรศกึ ษำประถมศึกษำลำพูนเขต 2 เปดิ ทำกำรสอน ต้ังแต่ พ.ศ. 2470 โดยแยกมำจำกโรงเรียนประจำตำบล ลี้ (โรงเรียนบ้ำนล้ี) มำทำกำรสอนที่ศำลำวัดพวงคำ ต่อมำเม่ือวันท่ี 22 มีนำคม พ.ศ. 2470 ขุนประสำนอักษร ศำสตร์ นำยอำเภอลี้ได้มำตรวจและเห็นสมควรจัดตั้งโรงเรียนข้ึนโดยมองเห็นว่ำบ้ำนปวงคำเป็นศูนย์กลำงของ หมู่บ้ำน เช่น บำ้ นแวน บ้ำนโฮง่ บ้ำนกลำง มำเรียนได้สะดวกจงึ ขอควำมร่วมมือกับเจ้ำอธกิ ำรอนิ ต๊ะอนิ โท เจำ้ อำวำส วัดพวงคำ พร้อมขุนดำรงล้ี ให้ขุนวรรณแพทย์ จัดกำรปลูกสร้ำงอำคำรช่ัวครำวข้ึน ในท่ีดินของวัด ต่อมำทำงวัดพวง คำได้ยกทด่ี ิน จำนวน 3 ไร่ 3 งำน เป็นสถำนทตี่ ้ังโรงเรยี นและไดช้ อ่ื วำ่ “โรงเรียนตำบลล้ี 2 วัดพวงคำ” พ.ศ. 2491 ได้รับงบประมำณจำกกระทรวงธรรมกำรสร้ำงอำคำรเรียนแบบ ป1 (พิเศษ) เป็นอำคำร เรือนไม้ช้ันเดียว 3 ห้องเรียน และเปิดป้ำยเมื่อวันที่ 8 เมษำยน 2494 โดยเปลี่ยนช่ือเป็น “โรงเรียนบ้ำนปวงคำ (ปวงคำประชำอุทิศ) พ.ศ. 2505 อำคำรเรียนถูกลมพัดเสียหำย ได้เสนอของบประมำณซ่อมแซมและรำษฎรสมทบปลูก สร้ำงเป็นอำคำรเรียนแบบ ป1 ก ขนำด 6 ห้องเรียน แล้วเสร็จเมื่อวันท่ี 6 เมษำยน 2504 ส้ินงบประมำณ 60,000 บำท พ.ศ. 2513 ได้สอนชั้นประถมศึกษำตอนปลำย คือ ชั้นประถมศึกษำปีท่ี 5-6-7 ได้รับงบประมำณ สร้ำงอำคำรแบบ ป 1 ข ขนำด 3 ห้องเรียน เป็นเงิน 100,000 บำท และรำษฎรได้บริจำคเงินขยำยที่จำนวน 3 ไร่ 3 งำน 10 ตำรำงวำ พ.ศ. 2517 ไดร้ บั งบประมำณกอ่ สรำ้ งบ้ำนพักครแู ละอำคำรเอนกประสงค์ พ.ศ. 2518 ไดร้ ับงบประมำณสรำ้ งส้วม ขนำด 4 ท่ีน่งั พ.ศ. 2519 ไดร้ บั งบประมำณสร้ำงอำคำรเรียนแบบ ป 1 ก ขนำด 4 ห้องเรยี น 1 หลงั พ.ศ. 2522 ไดร้ บั งบประมำณสร้ำงสว้ มขนำด 5 ทีน่ ง่ั จำนวน 1 หลงั
4 พ.ศ. 2535 ไดส้ อนระดบั มธั ยมศึกษำตอนต้นตำมโครงกำรขยำยโอกำสทำงกำรศึกษำ มีนักเรียนสมัคร เรยี นเข้ำเรยี นช้นั มธั ยมศกึ ษำปีที่ 1 จำนวน 13 คน เปน็ ชำย 3 คน เปน็ หญิง 10 คน พ.ศ. 2536 ไดร้ ับงบประมำณสรำ้ งถังนำ้ ฝน ตำมแบบ ฝ 30 จำนวน 1 ชดุ พ.ศ. 2538 ได้รับงบประมำณก่อสร้ำงอำคำรเรียน แบบ สปช 105/29 ขนำด 4 ห้องเรียน งบประมำณท้ังสิ้น 1,638,341 บำท และสนำมบำสเกต็ บอล งบประมำณ 127,116 บำท พ.ศ. 2541 ได้รับงบประมำณก่อสร้ำงอำคำรเรียน แบบปฏิรูป ขนำด 5 ห้องเรียน งบประมำณ 707,500 บำท พ.ศ. 2542 ได้รับงบประมำณตำมโครงกำรภำยใตม้ ำตรกำรเพม่ิ คำ่ ใช้จำ่ ยภำครัฐเพื่อกระตนุ้ เศรษฐกิจ ปงี บประมำณ 2542 ทำกำรต่อเติมอำคำรเรียนด้ำนล่ำงของอำคำรเรยี น สปช 105/29 จำนวน 2 ห้องเรียน และ ถงั เกบ็ น้ำฝน แบบ ฝ 30 จำนวน 1 ชุด พ.ศ. 2547 วันที่ 1 มนี ำคม 2547 เวลำ 16.40 น.โดยประมำณ ในขณะท่คี รเู วรได้ปล่อยนกั เรยี น กลบั บำ้ นแล้ว และคณะครูไดอ้ ยใู่ นบรเิ วณโรงเรยี น และส่วนหน่งึ กำลังทำเว็บไซต์ในห้องศนู ย์บริหำรก็ได้ยนิ เสยี ง ดงั เปีย๊ ะๆ จงึ ได้วงิ่ ออกมำดูพบว่ำ มีควันและเปลวไฟขึน้ บริเวณอำคำรเรียน แบบ ป 1 ก พเิ ศษ จึงได้เรียกนกั กำรภำร โรงซง่ึ กำลังเดนิ ปดิ อำคำรเรยี นให้มำช่วยกนั ดับไฟ และไดโ้ ทรศพั ทข์ อรถดบั เพลิงจำกสถำนีตำรวจภธู รลแ้ี ละเทศบำล ตำบลวังดิน ในระหว่ำงรอรถดบั เพลิง ลมไดพ้ ัดแรงทำให้ไฟลุกลำมไหมจ้ ำกอำคำรแบบ ป1 ก พเิ ศษ ไปหำอำคำร เรยี นแบบ ป1 ข จำนวน 3 ห้องเรียนซง่ึ สรำ้ งด้วยไมท้ ง้ั หลังทำใหไ้ ฟไหม้อยำ่ งรวดเรว็ จนกระทง่ั รถดบั เพลงิ มำ ไฟก็ ลุกลำมไปไหมส้ ้วมแบบองค์กำร 5 ท่ีนั่งและอำคำรแบบ ป1 ก เสยี หำยไปส่วนหนึง่ ตง้ั แต่เรม่ิ เกิดเหตกุ ำรณ์ก็ได้ รำยงำนให้ผบู้ งั คับบญั ชำทรำบมำเป็นลำดบั ทำงเจำ้ หนำ้ ทว่ี ิทยำกำรตำรวจจำกจังหวัดลำพนู ร่วมกับวทิ ยำกำร จังหวัดลำปำง ไดม้ ำรว่ มกนั พิสจู น์หำสำเหตุของกำรเกดิ อัคคีภัย โดยใชเ้ วลำ 2 วันและได้สรุปเป็นรำยงำนว่ำ สำเหตุ เกดิ จำกกระแสไฟฟ้ำลัดวงจร พ.ศ. 2547 สำนักงำนเขตพื้นท่ีกำรศึกษำลำพนู เขต 2 ไดแ้ จ้งวำ่ สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำข้ัน พื้นฐำน ได้อนุมตั งิ บซอ่ มแซมอำคำรเรยี นแบบ ป1 ก และส้วมแบบองค์กำร 5 ท่ีน่งั เป็นเงนิ 450,000 บำท พ.ศ. 2548 ได้รับงบประมำณก่อสรำ้ งอำคำรเรียนแบบ สปช. 105/29 ซง่ึ ทำงโรงเรยี นได้ดำเนนิ กำร ตำมระเบยี บสำนักนำยกรฐั มนตรีว่ำดว้ ยกำรพสั ดุ พ.ศ. 2535 และฉบบั แกไ้ ขปรบั ปรงุ โดยวิธีกำรประกวดรำคำ 2 คร้งั แต่ไม่มีหำ้ งรำ้ น บริษัท ใดสนใจจะดำเนนิ กำรรับจ้ำง จึงดำเนนิ กำรดว้ ยวธิ กี ำรพเิ ศษ ได้มหี ้ำงหุ้นส่วนจำกัดเกศ ชัยวุฒจิ ำกจงั หวัดกำแพงเพชรมำยน่ื และต่อรองรำคำ ซ่ึงทำงโรงเรยี นโดยกรรมกำรไดพ้ ิจำรณำแลว้ เห็นว่ำเกินอำนำจ ของทำงโรงเรียน จงึ ไดส้ ง่ เรอ่ื งให้สำนักงำนเขตพื้นที่กำรศึกษำลำพูนเขต 2 ส่งตอ่ ใหผ้ วู้ ่ำรำชกำรจงั หวดั ลำพูน พจิ ำรณำอนมุ ัติ โดยลดรูปแบบรำยกำรบำงรำยกำร เชน่ ลดฝำ้ เพดำน ลดงำนระบบไฟฟ้ำ ลดครุภัณฑป์ ระกอบ ห้องเรียน โต๊ะ เก้ำอี้ ตเู้ ก็บอุปกรณ์ รำงรองรับน้ำฝนฯลฯ ห้ำงหนุ้ สว่ นจำกัดเกศชยั วุฒไิ ดท้ ำสญั ญำก่อสร้ำงวนั ท่ี 13 พฤษภำคม 2548 พ.ศ. 2553 – 2556 ไดร้ ับกำร สนบั สนนุ จำก ส.ส.สถำพร มณรี ตั น์, เรือโทมำโนช อำจำรย์ กำญจนำปำลไิ ลยก,์ คณุ อำนำจ อปุ ปนิ ใจ, นำวำอำกำศโทกติ ตยิ ทุ ธ คณุ วชิรำภรณ์ หำญสงครำมและคณะ
5 ตลอดจนผมู้ จี ิตศรัทธำในชมุ ชนนำเงนิ มำพฒั นำ ปรบั ปรงุ สถำนที่ของโรงเรยี นใช้งบประมำณทงั้ หมด 2,000,000 บำท ซ่ึงได้พัฒนำดังน้ี 1. ปรบั ปรงุ ซอ่ มแซม ต่อเติม ปูกระเบื้อง ทำสี อำคำร สปช.105/29(อำคำรพทุ ธปญั ญำ) ทงั้ หลงั 2. ปรับปรงุ ซอ่ มแซม ปูกระเบื้อง อำคำร สปช. 105/25 (อำคำรพทุ ธรกั ษำ) และต่อเติม ปรับปรุง ห้องประชมุ ปำลิไลยก์ หอ้ งผ้อู ำนวยกำรโรงเรียนและห้องบริหำรงำนวชิ ำกำร 3. ปรบั ปรงุ ซ่อมแซม ปูกระเบ้ือง ทำสี (อำคำรพุทธประทีป อำคำรพทุ ธชำด อำคำรพุทธจรยิ ำ อำคำรพทุ ธบรู ณำกำรทุกอำคำร) 4. ปรับปรุง ซอ่ มแซม หอ้ งน้ำหอ้ งส้วมทกุ หลังของโรงเรยี น 5. ได้รบั งบประมำณปี 2554 สรำ้ งส้วมแบบ สพฐ. 4 จำนวน 4 ท่นี ่ัง 6. ปรับปรงุ ระบบระบำยน้ำของโรงเรยี นปอ้ งกันนำ้ ท่วมขัง 7. ปรบั ปรุง จัดทำถนนคอนกรตี เสรมิ ไม้ไผ่ทัง้ หมดในโรงเรียน 8. จดั ทำสวนห้องสมดุ มีชวี ติ และสนำมเด็กเล่น 9. ปรับปรุง สภำพภูมิทัศน์ของโรงเรยี นทกุ พนื้ ทจี่ นเปน็ ทเ่ี รียบรอ้ ย ในปีงบประมำณ 2557 – 2565 (ปัจจุบนั ) ได้ดำเนินกำรพฒั นำโรงเรียน ดังน้ี 1. ปรับปรุง ซอ่ มแซม อำคำร สปช.105/29 (อำคำรพุทธปัญญำ) งบประมำณ 92,800 บำท 2. ปรบั ปรุง ซอ่ มแซมบ้ำนพกั ครูแบบองค์กำร งบประมำณ 70,000 บำท 3. ตดิ ต้งั ปรบั ปรงุ ซอ่ มแซมระบบไฟฟำ้ ภำยในโรงเรียน งบประมำณ 26,000 บำท 4. สอบรำคำจ้ำงปรบั ปรุง ซ่อมแซม อำคำร สปช.105/29 งบประมำณ 126,500 บำท 5. ปรับปรุง ซอ่ มแซม อำคำรเรียนแบบ ป 1 ก (2519) งำนหลงั คำกระเบื้องลอนคู่ งบประมำณ 150,000 บำท 6. ปรบั ปรุง ซ่อมแซม อำคำร สปช.105/29 (2538 - 2548) งำนทำสอี ำคำร งบประมำณ 182,300 บำท 7. กอ่ สรำ้ งลำนกีฬำอเนกประสงค์ กรมพลศึกษำ งบประมำณ 163,100บำท 8. ปรับปรุงซอ่ มแซมบำ้ นพักครู งบประมำณ 86,500บำท 9. โครงกำรพัฒนำระบบนำ้ ด่ืมสะอำดในโรงเรียน งบประมำณ 75,000 บำท 10.ปรบั ปรงุ ซ่อมแซมอำคำรเรียนอำคำรประกอบ งบประมำณ 105,000 บำท 11.กอ่ สร้ำงโรงอำหำร 84 ท่นี ง่ั งบประมำณ 835,438 บำท
6 ทง้ั นไ้ี ดร้ บั ควำมรว่ มมือจำกทุกฝ่ำย ทกุ หนว่ ยงำนเป็นอยำ่ งดี ปัจจุบนั ปกี ำรศึกษำ 2564 โรงเรียน ดำเนนิ กำรสอนนักเรียนเปน็ 3 ระดบั คอื 1. นักเรียนระดับอนบุ ำล มีจำนวน 26 คน 2. นักเรยี นระดบั ประถมศึกษำ มีจำนวน 114 คน 3. นักเรยี นระดับมัธยมศึกษำ มจี ำนวน 42 คน จำนวนนักเรยี นปีกำรศึกษำ 2564 จำนวน 182 คน ข้ำรำชกำรครแู ละบคุ ลำกรทำงกำรศกึ ษำ 20 คน ข้ำรำชกำรครู 15 คน ครูพ่เี ลีย้ งเดก็ พกิ ำร 1 คน ช่ำงไฟฟ้ำ ช.4 1 คน ครธู ุรกำร 1 คน ครูอตั รำจ้ำง 1 คนเจำ้ หนำ้ ทไี่ อที 1 คน ตำมโครงกำรทรูปลูกปญั ญำของบริษทั ทรคู อรเ์ ปอรเ์ รช่นั จำกัด(มหำชน) เจำ้ หนำ้ ที่ดูแลศูนย์ USO NET 1 คน โดยมีนำยชนะชัย เหลืองอ่อน เป็นผอู้ ำนวยกำรโรงเรียนบ้ำนปวงคำ(ประชำอุทิศ) ขอ้ มลู ผบู้ ริหำร 1) ผ้อู ำนวยกำรโรงเรียน นำยชนะชยั เหลืองออ่ น โทรศัพท์ 09-0324-7224 e-mail [email protected] วุฒกิ ำรศึกษำสูงสดุ ปริญญำโท สำขำ บริหำรกำรศึกษำ ดำรงตำแหน่งท่โี รงเรยี นนตี้ ้ังแต่ วนั ที่ 8 ตุลำคม 2561 จนถงึ ปจั จุบนั เปน็ เวลำ 4 ปี 1 เดือน 2) รองผู้อำนวยกำรโรงเรียน ..........-........ คน
7 2.แผนท่ีโรงเรียน รปู ภาพที่ 1.ภำพแสดงแผนที่โรงเรยี นบำ้ นปวงคำ(ประชำอทุ ศิ ) รปู ภาพที่ 2.ภำพแสดงแผนผังในโรงเรยี นบ้ำนปวงคำ(ประชำอทุ ศิ )
8 3. ขนาดโรงเรยี น เปน็ โรงเรยี นขยำยโอกำสทำงกำรศึกษำขนำดกลำง มี 11 ห้องเรียน เปดิ สอนตงั้ แต่ระดับ ชั้นอนุบำล 2 ถึง ระดบั ช้นั มัธยมศึกษำปีที่ 3 มีขำ้ รำชกำรครู 15 คน ครูพเ่ี ล้ยี งเด็กพิกำร 1 คน ครูอัตรำจำ้ ง 1 คน ครธู รุ กำร 1 คน เจ้ำหนำ้ ทไ่ี อที 1 คน เจำ้ หน้ำทีด่ ูแลศนู ย์ USO NET 1 คน ชำ่ งไฟฟ้ำ ช.4 1 คน เขตพนื้ ทบ่ี ริกำรกำรศกึ ษำ ระดับปฐมวัยและประถมศกึ ษำ ได้แก่ หมู่ที่ 1 บ้ำนแวน-นำริน หมู่ท่ี 9 บำ้ นปวงคำ หมู่ท่ี 10 บำ้ นกลำง หมทู่ ี่ 16 บำ้ นใหม่น้ำผ้ึง ระดบั มธั ยมศึกษำตอนต้น ได้แก่ หมู่ที่ 1 บำ้ นแวน – นำริน หม่ทู ่ี 2 บำ้ นนำกลำง หมู่ท่ี 7 บำ้ นปำ่ หก หมู่ท่ี 8 บ้ำนมว่ งสำมปี หมู่ที่ 9 บ้ำนปวงคำ หมทู่ ี่ 10 บำ้ นกลำง หม่ทู ี่ 11 บำ้ นโฮง่ หมทู่ ่ี 16 บำ้ นใหม่นำ้ ผึ้ง หมู่ที่ 17 บ้ำนผำยอง ขนำดพน้ื ที่ มีเนอ้ื ที่ 6 ไร่ - งำน 17.30 ตำรำงวำ อำณำเขต โรงเรยี น มอี ำณำเขตตดิ ต่อดังน้ี ทิศเหนอื ติดกบั ถนนรำษฎรบ์ ำรงุ ทิศใต้ ตดิ กับพนื้ ทที่ ำกำรเกษตรของบำ้ นปวงคำ ทิศตะวนั ออก ติดกับโรงพยำบำลสง่ เสรมิ สุขภำพตำบล บำ้ นปวงคำ ทิศตะวันตก ติดกับวดั พวงคำ
9 สภำพกำรคมนำคม ห่ำงจำกโรงเรียนมธั ยมประจำอำเภอโรงเรยี นเวยี งเจดยี ์วทิ ยำ 7 กโิ ลเมตร ห่ำงจำกสำนักงำนเขตพื้นท่ีกำรศึกษำลำพูน เขต 2 75 กิโลเมตร ห่ำงจำกโรงเรยี นใกลเ้ คยี ง คือโรงเรยี นบำ้ นม่วงสำมปีและโรงเรยี นบำ้ นโฮ่ง 2 กิโลเมตร ข้อมลู ดำ้ นสำธำรณปู โภคและอ่นื ๆ ระบบไฟฟำ้ อยใู่ นเขตบริกำรกำรไฟฟ้ำสว่ นภูมภิ ำคอำเภอล้ี จงั หวัดลำพูน ระบบประปำ ใชป้ ระปำภูเขำ และบ่อนำ้ ต้นื ระบบโทรศัพท์ ใช้บริกำรบรษิ ทั ทโี อที จำกัด (มหำชน) จำนวน 2 หมำยเลข (053-979-566 และ 053-979-567) ระบบเครอื ข่ำย INTERNET ระบบ ADSL ควำมเร็วสงู ใชบ้ รกิ ำรของบริษัท ทโี อที จำกัด (มหำชน)
10 4.ภาระงาน / ปริมาณงาน ด้ำนกำรบริหำรสถำนศึกษำ ระบบกำรบรหิ ำรงำนของโรงเรยี นบ้ำนปวงคำ (ประชำอุทิศ) ประจำปงี บประมำณ 2565 กรรมการสถานศึกษาข้นั พืน้ ฐาน ผอู้ านวยการสถานศกึ ษา สพป.ลพ.2 นำยชนะชัย เหลอื งออ่ น งานบริหาร งานบรหิ าร งานบริหาร งานบริหารงานท่วั ไป งานวชิ าการ งานงบประมาณ งานบคุ คล นำยพนมกร ไพบลู ยก์ ิจ นำงสำยฝน ใจต๊ะวงค์ นำงอญั ชลี สวัสดไ์ิ ชย นำงสำวโสภี ศรใี จต๊ะ นำงสำวฉันท์ชนก สมฝั้น นำยวศิ ิษฐ์ สทิ ธดิ ง นำงสำวสุพชิ ญำ วังแก้ว นำงยุวรี ประทปี ยุวพัฒน์ นำงสำวโสภี ศรีใจตะ๊ นำงสำยฝน ใจตะ๊ วงค์ นำงนงนภสั ชน่ื เชำว์ไว นำงสำวกำนต์ชนก ไชย นำยเดชำ ไชยเมอื งช่นื นายอินทุวฒั น์ ทาปัญญา วำรี นำยโสภณ สตุ ำนนั ท์ นำยโชคอภิวัฒน์ สุคมั ภีร์ นำงสำวพรรณนภำ ตำยะ นำงจิรัชญำ ปุด๊ หนอ่ ย นำยบรุ ิศร์ สุรินทร์ทอง นายเดชา ไชยเมืองช่นื ชา่ งไฟฟา้ ช.4 นำยประมวล บตุ รดี
11 5. จานวนบคุ ลากรทางการศึกษา ประจาปีงบประมาณ 2564 ตารางท่ี 1. แสดงขอ้ มูลบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำของโรงเรยี นบ้ำนปวงคำ(ประชำอทุ ิศ) ท่ี ชือ่ - -สกลุ ตาแหนง่ เลขท่ี วนั /เดือน/ป/ี วุฒ/ิ วิชาเอก วันท่ีบรรจุ ตาแหนง่ เกิด 1 นำยชนะชัย เหลอื งอ่อน ผ้อู ำนวยกำร 2532 4 ก.ย. 2527 กศ.ม./บริหำรกำรศึกษำ 9 ม.ิ ย. 2551 2 นำงยุวรี ประทปี ยวุ พัฒน์ ครู คศ.3 2541 25 ก.ย. 2506 ศษ.ม./หลกั สูตรและกำรสอน 16 พ.ค. 2526 3 นำยพนมกร ไพบลู ยก์ ิจ ครู คศ.3 2438 20 ก.พ. 2512 ค.บ./ประถม 1 ก.ค. 2535 4 นำงสำยฝน ใจตะ๊ วงค์ ครู คศ.3 2529 26 มี.ค. 2516 ศษ.ม./หลักสูตรและกำรสอน 7 เม.ย. 2547 5 นำงนงนภสั ชน่ื เชำวไ์ ว ครู คศ.3 2972 25 ส.ค. 2518 ค.บ./ปฐมวยั 31 ก.ค. 2540 6 น.ส.โสภี ศรใี จตะ๊ ครู คศ.3 2971 9 พ.ย. 2522 ศษ.ม./หลักสูตรและกำรสอน 1 พ.ย. 2548 7 นำงอัญชลี สวสั ดิ์ไชย ครู คศ.2 2339 14 ต.ค. 2529 วท.บ./คณิตศำสตร์ 4 ม.ค. 2554 8 นำยโชคอภิวัฒน์ สคุ มั ภรี ์ ครู คศ.2 2771 21 ก.ย. 2530 ศษ.บ./พลศกึ ษำ 15 ส.ค. 2554 9 นำยโสภณ สตุ ำนนั ท์ ครู คศ.1 3052 20 พ.ย. 2510 กษ.ศ./สง่ เสรมิ กำรเกษตร 23 ก.ค. 2555 10 นำยวิศษิ ฐ์ สทิ ธดิ ง ครู คศ.1 2534 7 ก.ย. 2534 ศษ.บ./ศลิ ปศึกษำ 25 ต.ค. 2559 11 นำงสำวฉันท์ชนก สมฝ้นั ครู คศ.1 2542 6 เม.ย. 2536 ค.บ./ภำษำไทย 25 ต.ค. 2559 12 นำยอินทวุ ทั น์ ทำปัญญำ ครู คศ.1 1081 8 ก.ย. 2530 ค.บ./คอมพวิ เตอร์ศึกษำ 25 พ.ย. 2559 13 นำยเดชำ ไชยเมอื งชื่น ครู คศ.1 3626 6 ต.ค. 2528 ศษ.บ./ดนตรีสำกล 15 ส.ค. 2554 14 นำงสำวพรรณนภำ ตำยะ ครูผู้ช่วย 2539 15 พ.ค. 2539 ค.บ./คอมพิวเตอร์ศกึ ษำ 4 ต.ค. 2562 15 นำงสำวกำนตช์ นก ไชยวำรี ครผู ชู้ ว่ ย 2441 24 ก.ค. 2539 ค.บ. ฟสิ ิกส์ 1 ต.ค. 2563
ท่ี ชื่อ - -สกลุ ตาแหน่ง เลขที่ วัน/เดอื น/ป/ี วฒุ ิ/วิชาเอก 12 16 นำงจิรชั ญำ ปดุ๊ หนอ่ ย ตาแหนง่ เกิด 17 นำงสำวสพุ ิชญำ วังแกว้ วันท่ีบรรจุ 18 นำยบุรศิ ร์ สรุ ินทรท์ อง ครพู ีเ่ ลีย้ งเด็กพิกำร - 19 ก.ค. 2518 พธ.บ./สังคมศกึ ษำ 2 ธ.ค. 2562 19 นำยปรวิ ัฎฏ์ นันตะ๊ แกว้ เจำ้ หน้ำท่ีธุรกำร - 18 พ.ค. 2529 ค.บ./สังคมศกึ ษำ 16 พ.ย. 2558 20 นำยประมวล บตุ รดี เจ้ำหนำ้ ทไี่ อที - 15 ก.ย. 2535 ค.บ./คอมพิวเตอร์ 4 ม.ค. 2560 ทรปู ลูกปัญญำ 1 พ.ย. 2563 เจ้ำหน้ำทดี่ ูแลศนู ย์ - 18 พ.ค. 2533 วท.บ./สำรสนเทศ 8 ต.ค. 2533 USO NET ชำ่ งไฟฟ้ำ ช.4 27561 28 ก.พ. 2508 พศ.บ./ 6. ข้อมูลหอ้ งเรยี น จานวนนักเรียน ครูประจาชน้ั ตารางที่ 2. แสดงข้อมลู จำนวนนกั เรยี น ชนั้ จานวนหอ้ ง ชาย หญิง รวม อนบุ ำลปที ่ี 2 1 4 7 11 นำงนงนภัส ชน่ื เชำว์ไว อนบุ ำลปที ่ี 3 1 ชน้ั ประถมศึกษำปที ่ี 1 1 9 6 15 นำงจิรัชญำ ปุ๊ดหนอ่ ย ชน้ั ประถมศึกษำปที ่ี 2 1 ชนั้ ประถมศึกษำปที ี่ 3 1 5 7 12 นำงสำวพรรณนภำ ตำยะ ชนั้ ประถมศึกษำปที ่ี 4 1 ชั้นประถมศึกษำปีที่ 5 1 8 12 20 นำงยุวรี ประทีบยุวพัฒน์ ช้ันประถมศึกษำปที ่ี 6 1 13 6 19 นำยพนมกร ไพบลู ย์กิจ 14 11 25 นำยโสภณ สุตำนนั ท์ 10 8 18 นำงสำวฉนั ท์ชนก สมฝั้น 12 8 20 นำงสำวโสภี ศรีใจต๊ะ นำยเดชำ ไชยเมอื งช่นื ชน้ั มัธยมศกึ ษำปีท่ี 1 1 11 4 15 นำงอัญชลี สวสั ดไ์ิ ชย นำยโชคอภิวัฒน์ สคุ มั ภรี ์ ชน้ั มธั ยมศึกษำปีที่ 2 1 11 5 16 นำยวิศษิ ฐ์ สทิ ธิดง นำยอินทุวทั น์ ทำปัญญำ ชัน้ มัธยมศกึ ษำปีที่ 3 1 9 2 11 นำงสำยฝน ใจต๊ะวงค์ นำงสำวกำนตช์ นก ไชยวำรี รวม 11 106 76 182
13 7. ขอ้ มลู ครูผ้สู อนภาษาไทย วิชาเอก ประสบการณก์ ารสอนภาษาไทย ตารางที่ 3. แสดงข้อมูลครผู สู้ อนภำษำไทย ช้ัน ชอื่ -สกุล ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 1 นำงสำวพรรณนภำ ตำยะ ค.บ./คอมพวิ เตอรศ์ ึกษำ 3 ปี ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 2 นำงยุวรี ประทีปยุวพัฒน์ 40 ปี ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 นำยพนมกร ไพบลู ย์กจิ ศษ.ม./หลกั สูตรและกำรสอน 30 ปี ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 นำยโสภณ สตุ ำนันท์ 5 ปี ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 นำงสำวฉันท์ชนก สมฝน้ั ค.บ./ประถม 5 ปี ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 นำงสำวฉนั ท์ชนก สมฝั้น กษ.ศ./ส่งเสรมิ กำรเกษตร 5 ปี ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 1 นำงสำวฉันทช์ นก สมฝั้น ค.บ./ภำษำไทย 5 ปี ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 นำงสำวฉันท์ชนก สมฝั้น ค.บ./ภำษำไทย 5 ปี ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 นำงสำวฉนั ทช์ นก สมฝั้น ค.บ./ภำษำไทย 5 ปี ค.บ./ภำษำไทย ค.บ./ภำษำไทย
14 บทที่ 3 กระบวนการบรหิ ารจดั การพัฒนาตาม Road Map ของโรงเรยี น 3.1 รปู แบบการบริหารจดั การ โดยใช้ 4P1S MODEL นวัตกรรมการอา่ น การเขียน รูปภาพท3ี่ .ภำพแสดงรูปแบบกำรบรหิ ำรจัดกำร โดยใช้ 4P1S MODEL นวัตกรรมกำรอำ่ น กำรเขยี น ของโรงเรยี น กระบวนการบริหารจัดการพัฒนาตาม Road Map ของโรงเรยี น แบ่งออกเปน็ 5 ขัน้ ตอน ขน้ั ที่ 1 การวางแผน - กำรศกึ ษำสภำพปัจจุบันของผูเ้ รยี นในรำยวชิ ำภำษำไทย - กำรประชุมครู ผู้ปกครองนักเรียนเพ่อื สรำ้ งควำมรว่ มมือในกำรพัฒนำผู้เรียน ขนั้ ที่ 2 การเตรยี มความพร้อม - จัดทำค่มู อื แผนพัฒนำคุณภำพกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนภำษำไทยของโรงเรียนบำ้ นปวงคำ(ประชำอุทิศ) - จัดทำโครงกำร/แผนพัฒนำกำรอำ่ นกำรเขยี นตำมสภำพปัญหำ - ครพู ัฒนำตนเอง โดยกำรเข้ำรว่ มอบรมเพ่อื พัฒนำกำรอ่ำน กำรเขยี น
15 ขั้นที่ 3 การดาเนินการ - สรำ้ งนวัตกรรม - เตรียมกำรสอน ศึกษำหลักสูตร - จัดทำแผนกำรสอนแบบ Active learning ผอู้ ำนวยกำรโรงเรียนตรวจแผนกำรเรียนรู้ - จัดกจิ กรรมส่งเสรมิ กำรอ่ำน กำรเขยี นแบบออนไลน์ - จัดทำคูม่ ือ \"คำใหม่-คำยำก\" โดยใชง้ ำนผำ่ น E-bookและสอื่ ออนไลน์ - บนั ทึกผลหลังกำรสอน ปรับปรงุ พฒั นำ - ปรบั ปรงุ ภูมิทศั นภ์ ำยใน นอกห้องเรียนเอื้อตอ่ กำรเรยี นรู้ ขนั้ ท่ี 4 การสนับสนนุ - นิเทศ ตดิ ตำม ช่วยเหลือ ส่งเสรมิ และสนับสนุน ประเมินผลกำรดำเนนิ งำน ให้กำลงั ใจครใู นกำร จดั กำรเรียนกำรสอนเชิงรุก -แลกเปลย่ี นเรยี นรู้ เผยแพรผ่ ลงำนของนักเรียน และครูผู้สอน เพอื่ สร้ำงเครือขำ่ ยในกำรพัฒนำกำรอำ่ น กำรเขียน ข้ันท่ี 5 ผลผลิต - นกั เรยี นชั้นประถมศึกษำปีที่ 1-3 เกิดทกั ษะกำรอ่ำนออก เขียนได้ ลำยมือสวย - นกั เรยี นชั้นประถมศึกษำปีที่ 4-6 เกิดทกั ษะกำรอำ่ นคล่อง เขยี นคล่อง ลำยมือสวย - นักเรียนชัน้ มัธยมศกึ ษำปที ่ี 1-3 เกดิ ทกั ษะกำรคิดขั้นสูง
16 3.2 แนวทางการดาเนินงานของโรงเรยี น มาตรการและแนวปฏิบตั ติ ามนโยบาย “พลิกโฉมโรงเรียน พัฒนาการอา่ น นาผู้เรยี นส่ศู ตวรรษท่ี 21” ของผู้อานวยการโรงเรยี นบ้านปวงคา(ประชาอุทศิ ) ตารางที่ 4. แสดงแนวทำงกำรดำเนินงำนของโรงเรียนของผู้อำนวยกำรโรงเรยี นบำ้ นปวงคำ(ประชำอทุ ิศ) งานทีป่ ฏิบตั ิ จานวนคร้งั 1/ปีกำรศึกษำ 1.สำรวจขอ้ มูลนกั เรียนทม่ี ีปัญหำและจดั ทำสำรสนเทศระดับโรงเรียนโดยจัดเรยี น ลำดับหอ้ งเรยี นตำมสภำพปญั หำ โดยใชแ้ ผนภูมเิ สน้ ภำพ 2.สง่ เสริม สนับสนุนให้บคุ ลำกรทำงกำรศกึ ษำเข้ำรว่ มกำรประชุมเชิงวชิ ำกำร ศึกษำดู ตลอดปีกำรศกึ ษำ งำนเพื่อพัฒนำกำรอ่ำน กำรเขียน 2. จดั ทำแผนพฒั นำคณุ ภำพกำรอำ่ น กำรเขยี น 3 ปี /ครั้ง 3.ประชุมวชิ ำกำรเพอื่ รำยงำนควำมก้ำวหน้ำ 1/ภำคเรยี น 4.พฒั นำ/จดั หำ/สอื่ แบบฝกึ หัดที่ใช้ในกำรแกไ้ ขปญั หำกำรอ่ำน กำรเขยี น ตลอดปี 5.ตรวจแผนกำรเรยี นรู้ ตลอดปี 6.ตรวจเยยี่ มนิเทศห้องเรียนแล้วบันทกึ ผล 1/เดอื น 7.จดั ระบบสอนซอ่ มเสริมใหม้ ีประสิทธภิ ำพ ทุกวัน 8.สง่ เสรมิ /รวบรวมวิธีปฏิบัติที่ดีในกำรสอนอำ่ น สอนเขยี น ปลี ะคร้งั 9.ทดสอบกำรอำ่ น กำรเขยี นของนักเรียน 2/ภำคเรียน 10.เสริมกำลังใจใหแ้ ก่ครู ปลี ะคร้ัง - ยกย่องชมเชย จดั ทำวำรสำรประชำสมั พันธ์ หมายเหตุ : กำรดำเนินงำนตำมมำตรกำรของผบู้ รหิ ำรในกำรส่งเสรมิ ใหน้ กั เรียนอ่ำนคล่อง เขยี นคลอ่ ง ใหด้ ำเนนิ กำรตำ มำตรกำรสำหรับผู้บรหิ ำรโรงเรยี นและอำจมีกำรปรบั จำนวนครัง้ ตำมควำมเหมำะสม ภำยใตส้ ถำนกำรณโ์ ควดิ -19
17 มาตรการและแนวปฏบิ ตั ติ ามนโยบาย “พลิกโฉมโรงเรียน พัฒนาการอ่าน นาผเู้ รียนสู่ศตวรรษท่ี 21” ของครผู สู้ อน ระดับห้องเรยี น โรงเรยี นบา้ นปวงคา(ประชาอทุ ิศ) ตารางที่ 5. แสดงแนวทำงกำรดำเนินงำนของโรงเรยี นของของครูผสู้ อน ระดบั ห้องเรยี น งานทีป่ ฏบิ ตั ิ จานวนคร้งั 1/ปีกำรศึกษำ 1.วิเครำะห์และศึกษำปัญหำนกั เรียนรำยบคุ คล แล้วสำรวจขอ้ มูลนักเรียนทกุ คนแล้ว ทำสำรสนเทศแสดง จำนวนนักเรียนที่อ่ำนไม่ออก/อ่ำนไม่คล่อง โดยระบปุ ัญหำ และ สำเหตุ 1.1 ประเมินควำมสำมำรถในกำรอ่ำน กำรเขียนของนักเรียน 1.2 จดั กล่มุ ตำมสภำพปัญหำ 1.3 จดั ทำแฟม้ รำยบุคคล 2. จดั ทำโครงกำร พฒั นำคุณภำพกำรเรยี นกำรสอนภำษำไทย “พลิกโฉมโรงเรยี น 1/ปกี ำรศกึ ษำ พัฒนำกำรอำ่ น นำผูเ้ รียนส่ศู ตวรรษท2่ี 1” 3.สร้ำงนวตั กรรมแล้วนำมำพัฒนำกำรอำ่ น กำรเขียน ของครผู สู้ อนในรำยวิชำ 1/ปีกำรศึกษำ ภำษำไทย ชนั้ ประถมศึกษำปีท่ี 1 ครผู ้สู อน ครพู รรรณนภำ ตำยะ ชอ่ื นวัตกรรม การพฒั นาทกั ษะการอา่ นและการเขยี น กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย โดยใชแ้ บบฝกึ ทักษะการอ่านและการเขียนสระเดี่ยว สาหรับนกั เรียนชั้น ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 ชั้นประถมศึกษำปที ่ี 2 ครผู ูส้ อน ครูยุวรี ประทปี ยวุ พัฒน์ ช่ือนวตั กรรม การพฒั นาทกั ษะการอ่านออกเสยี งภาษาไทยของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 2 ชน้ั ประถมศึกษำปที ี่ 3 ครูผสู้ อน ครูพนมกร ไพบูลยก์ ิจ ชื่อนวัตกรรม การพฒั นาทักษะการอ่านออกเสยี งคาศัพท์ท่ีมตี ัวการันต์ของนกั เรียน ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 3 ชั้นประถมศึกษำปที ่ี 4 ครผู สู้ อน ครโู สภณ สตุ ำนนั ท์ ชอ่ื นวตั กรรม การพฒั นาการอา่ น การเขียน โดยใชช้ ดุ นิทานอีสปสอนใจ สาหรับ นกั เรียนชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 4 ชั้นประถมศึกษำปีท่ี 5 ครูผูส้ อน ครฉู นั ท์ชนก สมฝ้นั ชื่อนวัตกรรม การพัฒนาทกั ษะการอา่ นจับใจความสาคัญของนกั เรียนชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 5 ช้นั ประถมศึกษำปที ี่ 6 ครผู ูส้ อน ครูฉนั ท์ชนก สมฝ้ัน ชื่อนวัตกรรม การพัฒนาทักษะการอา่ น การเขียนคาราชาศัพท์ โดยใช้เกมเศรษฐี ชั้นมธั ยมศึกษำปที ่ี 1 ครผู สู้ อน ครฉู นั ท์ชนก สมฝ้นั
งานทีป่ ฏิบัติ 18 ชื่อนวตั กรรม การพัฒนาทกั ษะการคิดข้นั สงู วรรณคดไี ทยเร่อื งกาพย์เหช่ มเครือ่ ง จานวนครง้ั คาวหวานโดยใชก้ ารด์ เกม ชนั้ มธั ยมศึกษำปีท่ี 2 ครูผ้สู อน ครฉู นั ทช์ นก สมฝน้ั ตลอดปี ชอ่ื นวตั กรรม การพฒั นาทักษะการคดิ ข้นั สูงเร่อื งกลวิธกี ารเขยี นโดยใชแ้ ผนผัง สรุปความคิด ตลอดปี ชนั้ มธั ยมศึกษำปีท่ี 3 ครูผ้สู อน ครฉู นั ท์ชนก สมฝน้ั ชื่อนวัตกรรม การพฒั นาทักษะการคดิ ข้นั สูงโดยใช้เทคนิคบันได 6 ข้ัน สาหรบั 1/ภำคเรยี น นกั เรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 2 คร้ัง / เดอื น 4.เตรยี มกำรสอน ทุกวัน - จัดทำแผนกำรสอนทส่ี อดคลอ้ งกับนวตั กรรมของครูผู้สอนในแตล่ ะระดับชั้น - เตรียมสื่อกำรสอน - บนั ทึกผลกำรสอน ประเมินผลสือ่ และนวัตกรรม พัฒนำและปรบั ปรุงให้มี ประสทิ ธภิ ำพมำกย่ิงขน้ึ 5.จัดทำคมู่ อื “คำใหม่ – คำยำก”ใหน้ ักเรยี นช้ันประถมศึกษำปีท่ี 1 – ชัน้ มัธยมศกึ ษำ ปที ี่ 3 - เขยี นตำมคำบอก - คัดลำยมอื - เขียนเร่อื งจำกภำพ - บนั ทกึ กำรอ่ำน 6.จัดมุมหนงั สอื ในห้องเรียน 7.ประเมินกำรอ่ำน กำรเขยี นของนักเรยี น 8.สอนซ่อมเสรมิ และบนั ทึกผลทุกคร้งั หมายเหตุ : กำรดำเนนิ งำนตำมมำตรกำรของครผู สู้ อนในกำรสง่ เสรมิ ให้นกั เรยี นอ่ำนคล่อง เขยี นคล่อง ใหด้ ำเนนิ กำรตำ มำตรกำรสำหรบั ครูผสู้ อนและอำจมีกำรปรบั จำนวนครง้ั ตำมควำมเหมำะสม ภำยใตส้ ถำนกำรณ์ โควดิ -19
19 เกณฑก์ ารพิจารณาระดับปฏบิ ตั ิตามมาตรการและแนวทางในการส่งเสรมิ นกั เรียน ตามนโยบาย “พลิกโฉม โรงเรยี น พัฒนาอ่านเขียน นาผู้เรยี นสู่ศตวรรษท่ี 21” โรงเรียนบา้ นปวงคา(ประชาอทุ ศิ ) ระดับห้องเรยี น ระดับ 1 ปฎิบตั ิไดต้ ำมมำตรกำรและแนวปฏิบัติ ได้รอ้ ยละ 0-49 อยู่ในระดับตำ่ มำก ระดับ 2 ปฏบิ ัติได้ตำมมำตรกำรแนวปฏิบัตติ ำม ไดร้ ้อยละ 50-59 อยู่ในระดับต่ำ ระดบั 3 ปฏบิ ตั ิได้ตำมมำตรกำรแนวปฏบิ ตั ติ ำม ไดร้ ้อยละ 60-69 อยใู่ นระดับปำนกลำง ระดบั 4 ปฏบิ ัตไิ ดต้ ำมมำตรกำรแนวปฏิบัติตำม ไดร้ อ้ ยละ 70-79 อยู่ในระดบั สงู ระดบั 5 ปฏิบัตไิ ด้ตำมมำตรกำรแนวปฏบิ ัตติ ำม ได้รอ้ ยละ 80-100 อยใู่ นระดบั สูงมำก หมำยเหตุ : ปฏบิ ัตไิ ดร้ ะดับ 3 ถือว่ำ ผำ่ น เกณฑ์ เกณฑ์การพิจารณาระดบั ปฏิบตั ิตามมาตรการและแนวทางในการสง่ เสริมนักเรยี น ตามนโยบาย “พลิกโฉม โรงเรยี น พฒั นาอา่ นเขียน นาผเู้ รียนสู่ศตวรรษท่ี 21” ตารางที่ 6. เกณฑก์ ำรพจิ ำรณำระดบั ปฏิบตั ติ ำมมำตรกำรและแนวทำงในกำรส่งเสรมิ นกั เรียน ตัวชีว้ ดั ความสาเร็จ วธิ กี ารวัด เครอื่ งมอื ท่ีใช้ นักเรียนรอ้ ยละ 75 มที ักษะกำร กำรนเิ ทศ แบบบนั ทึกกำรนิเทศ อ่ำน กำรเขยี น และกำรสื่อสำรตำม กำรประเมนิ ผลกำรเรียน เกณฑ์ นักเรียนรอ้ ยละ 75 มีพฒั นำกำร กำรประเมนิ ผลกำรอำ่ น กำรเขียน แบบทดสอบกำรอำ่ น กำรเขียน ดำ้ นกำรอ่ำน กำรเขยี น และกำร ส่ือสำรตำมเกณฑ์ ครูผู้สอนร้อยละ 100 มีกำรพฒั นำ นวัตกรรมครูผู้สอน แบบประเมนิ กำรใชน้ วัตกรรมกำร กระบวนกำรจัดกำรเรยี นรู้ตำม สอน จุดเนน้ กำรพฒั นำคุณภำพผเู้ รยี น
20 3.3 แนวทางการพัฒนาการจดั การเรียนร้เู ชิงรุก (Active Learning) ทส่ี อดคลอ้ งกับการพัฒนาสมอง 1. ครผู สู้ อนไดศ้ กึ ษาแนวคิดในการพัฒนาผ้เู รยี นจากพีระมดิ แหง่ การเรียนรู้ กำรจัดกำรเรียนกำรสอนแบบ Active Learning จึงเป็นกระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ตำมแนวคิดกำร สร้ำงสรรค์ทำงปัญญำ (Constructivism) ที่เน้นกระบวนกำรเรียนรู้มำกกว่ำเน้ือหำวิชำ เพ่ือช่วยให้ผู้เรียน สำมำรถเช่ือมโยงควำมรู้ หรือสร้ำงควำมรู้ให้เกิดข้ึนในตนเอง ด้วยกำรลงมือปฏิบัติจริงผ่ำนส่ือหรือกิจกรรมกำร เรียนรู้ ทม่ี คี รูผสู้ อนเปน็ ผ้แู นะนำ กระตุ้น หรอื อำนวยควำมสะดวก ใหผ้ ้เู รียนเกดิ กำรเรียนรู้ขน้ึ โดยกระบวนกำร คิดขั้นสูง กล่ำวคือ ผู้เรียนมีกำรวิเครำะห์ สังเครำะห์ และกำรประเมินค่ำจำกส่ิงที่ได้รับจำกกิจกรรมกำรเรียนรู้ ทำให้กำรเรียนรู้เป็นไปอย่ำงมีควำมหมำยและนำไปใช้ในสถำนกำรณ์อ่ืนๆได้อย่ำงมีประสิทธิภำพ (สถำพร พฤฑฒิกลุ , 2558) โรงเรียนบ้ำนปวงคำ(ประชำอุทิศ)ได้คำนึงถึงรปู แบบกำรจัดกำรเรยี นโดยศึกษำจำกพีระมิด แห่งกำรเรียนรู้ เพ่ือนำมำเป็นแนวทำงกำรพัฒนำกำรจัดกำรเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ท่ีสอดคล้องกับ กำรพฒั นำสมอง รูปภาพที่4 .ภำพแสดงกำรศึกษำกำรพฒั นำผ้เู รยี นจำกพรี ะมดิ แห่งกำรเรยี นรู้ ลกั ษณะของกำรจัดกำรเรียนกำรสอนแบบ Active Learning เป็นดงั นี้ (ไชยยศ เรืองสุวรรณ, 2553) 1. เป็นกำรเรยี นกำรสอนท่ีพัฒนำศกั ยภำพทำงสมอง ได้แก่ กำรคิด กำรแกป้ ัญหำ และกำรนำควำมรู้ ไปประยุกต์ใช้ 2. เป็นกำรเรียนกำรสอนท่เี ปิดโอกำสใหผ้ เู้ รียนมีสว่ นร่วมในกระบวนกำรเรยี นรสู้ ูงสุด
21 3. ผู้เรียนสร้ำงองคค์ วำมรูแ้ ละจดั กระบวนกำรเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง 4. ผู้เรยี นมีสว่ นรว่ มในกำรเรียนกำรสอนทง้ั ในด้ำนกำรสร้ำงองค์ควำมรู้ กำรสร้ำงปฏสิ มั พันธร์ ่วมกนั รว่ มมอื กันมำกกว่ำกำรแข่งขัน 5. ผเู้ รยี นเรียนรู้ควำมรบั ผิดชอบรว่ มกนั กำรมวี นิ ยั ในกำรทำงำน และกำรแบง่ หน้ำทค่ี วำมรบั ผดิ ชอบ 6. เปน็ กระบวนกำรสร้ำงสถำนกำรณ์ให้ผ้เู รียนอ่ำน พูด ฟัง คิดอยำ่ งลุ่มลึก ผู้เรียนจะเป็นผูจ้ ดั ระบบ กำรเรียนรู้ด้วยตนเอง 7. เปน็ กิจกรรมกำรเรยี นกำรสอนที่เน้นทักษะกำรคิดข้นั สงู 8. เปน็ กจิ กรรมที่เปดิ โอกำสใหผ้ ู้เรียนบูรณำกำรขอ้ มูลขำ่ วสำร หรือสำรสนเทศ และหลักกำรควำมคิด รวบยอด 9. ผู้สอนจะเป็นผอู้ ำนวยควำมสะดวกในกำรจดั กำรเรียนรู้ เพอ่ื ใหผ้ ูเ้ รยี นเปน็ ผ้ปู ฏบิ ตั ิด้วยตนเอง 10. ควำมรู้เกดิ จำกประสบกำรณ์ กำรสร้ำงองค์ควำมรู้ และกำรสรุปทบทวนของผ้เู รยี น บทบำทของอำจำรยผ์ ู้สอนในกำรจดั กิจกรรมกำรเรียนรตู้ ำมแนวทำงของ Active Learning ดงั นี้ (ณชั นนั แก้วชัยเจรญิ กิจ, 2550) จัดให้ผเู้ รยี นเป็นศนู ย์กลำงของกำรเรียนกำรสอน กจิ กรรมต้องสะทอ้ นควำม ตอ้ งกำรในกำรพัฒนำผเู้ รยี นและเน้นกำรนำไปใชป้ ระโยชน์ในชีวติ จริงของผเู้ รียน 1. สร้ำงบรรยำกำศของกำรมีส่วนรว่ ม และกำรเจรจำโต้ตอบท่ีส่งเสรมิ ให้ผู้เรยี นมีปฏสิ ัมพนั ธ์ท่ีดีกบั ผสู้ อนและเพือ่ นในชั้นเรยี น 2. จัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอนให้เปน็ พลวตั สง่ เสริมใหผ้ ้เู รยี นมีสว่ นร่วมในทุกกิจกรรมรวมท้ังกระตุ้น ให้ผเู้ รียนประสบควำมสำเรจ็ ในกำรเรยี นรู้ 3. จัดสภำพกำรเรียนรแู้ บบร่วมมือ ส่งเสริมให้เกดิ กำรรว่ มมอื ในกลมุ่ ผู้เรยี น 4. จดั กิจกรรมกำรเรียนกำรสอนให้ท้ำทำย และให้โอกำสผู้เรยี นไดร้ บั วิธกี ำรสอนท่หี ลำกหลำย 5.วำงแผนเกย่ี วกบั เวลำในจดั กำรเรยี นกำรสอนอยำ่ งชดั เจน ทั้งในสว่ นของเน้ือหำ และกิจกรรม 6. ครูผูส้ อนต้องใจกวำ้ ง ยอมรบั ในควำมสำมำรถในกำรแสดงออก และควำมคิดเของที่ผู้เรียน 2. ศกึ ษารูปแบบการจดั การเรยี นรทู้ ี่หลากหลายทีส่ อดคล้องกับการพฒั นาสมอง มีดังน้ี 2.1 การจัดการเรียนรูโ้ ดยใชส้ มองเปน็ ฐาน (Brain-Based Learning : BBL) \"กุญแจ 5 ดอกในกำรจดั กำรเรยี นรูอ้ ย่ำงมปี ระสทิ ธภิ ำพ\" โดยเน้นกำรออกแบบใหส้ อดคลอ้ งกบั กำร ทำงำนของสมอง (Brain-based Learning) กุญแจดอกที่ 1 : สนำม BBL (Playground) กุญแจดอกท่ี 2 : หอ้ งเรียน BBL (Classroom Climate) กญุ แจดอกที่ 3 : กระบวนกำรเรียนรแู้ บบ BBL (Learning Process) กญุ แจดอกที่ 4 : หนังสือ แบบฝึกหัด และใบงำน (Brainy Books) กุญแจดอกท่ี 5 : ส่ือและนวตั กรรมทกี่ ระตุ้นสมอง (Resources & Innovations)
22 ภำพที่ 5 .กำรจดั กำรเรียนรโู้ ดยใชส้ มองเป็นฐำน (Brain-Based Learning : BBL)
23 2.2 กระบวนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรโู้ ดยใช้กระบวนการเรยี นรู้ 5 ขั้น GPAS 5 Steps รูปภาพท6่ี .ภำพแสดงกระบวนกำรเรยี นรู้ GPAS 5 Steps สหู่ ้องเรยี นในศตวรรษท่ี 21 GPAS 5 Steps สู่ห้องเรียนในศตวรรษท่ี 21 ทักษะกำรเรียนรู้ในศตวรรษที่21 และยุค 4.0 ด้วยกำรจัดกำรเรียนรู้ด้วยวิธีสอน GPAS 5 Steps ผ่ำนชุมชน แหง่ กำรเรยี นรู้ทำงวชิ ำชีพ (Professional Learning Community : PLC) เปน็ โครงสรำ้ งทักษะกระบวนกำรคิด 5 ประกำร ซง่ึ เรยี กวำ่ GPAS 5 Step - GATHERING : กำรรวบรวมและเลอื กข้อมูล - PROCESSING : กำรจดั กระทำขอ้ มูล - APPLYING : กำรประยกุ ต์ใชค้ วำมรู้ A1 : Applying and Constructing the Knowledge) ขน้ั ปฏบิ ตั ิและสรุปควำมรู้หลงั กำรปฏบิ ัติ A2 : Applying the Communication Skill) ข้ันส่ือสำรและนำเสนอ - SELF – REGULATING : กำรกำกับตนเอง หรอื กำรเรียนรู้ได้เอง ทักษะกระบวนกำรคดิ GPAS จึงเป็นข้นั ตอนและจดุ เน้นในกำรจดั กระบวนกำรเรยี นรู้เพอ่ื ใหผ้ ู้เรยี นสร้ำง ควำมรู้ด้วยตนเอง จำกน้ันนำไปใช้ในกำรปฏิบัติจริง ใช้ในกำรแก้ปัญหำในสถำนกำรณ์ต่ำงๆ ส่ิงที่ได้จำก
24 กระบวนกำรเหล่ำน้ี จะตกผลึกภำยในตัวของผู้เรียน จะกลำยเป็นตัวตนเป็นบุคลิกภำพของผู้เรียน และสะท้อน ออกมำในภำระงำนหรือกำรปฏิบัติท่ีครูมอบหมำย ผลลัพธ์ท่ีเกิดข้ึนกับผู้เรียนจะสำมำรถคิดวิเครำะห์ แก้ปัญหำ เก็บรวบรวมข้อมลู สังเครำะหว์ ิธีกำรแก้ปัญหำ เรยี นรู้ทจ่ี ะอยรู่ ่วมกับสังคมอยำ่ งมีควำมสขุ 4.การนิเทศ ติดตามการจัดเรยี นรู้ ตารางท่ี 7. ตำรำงแสดงกำรนเิ ทศ ติดตำมกำรจัดเรียนรู้ กระบวนการนิเทศ กิจกรรมท่ปี ฏิบัติ ผลการดาเนินงาน ปฏิทินการ 4P1S MODEL ปฏบิ ัตงิ าน ขัน้ ที่ 1 การวาง -ศึกษำจุดเน้น นโยบำยของ - รูปแบบวิธีกำรขบั เคลื่อน ต.ค. – มี.ค 65 แผนพฒั นา (P-PLAN) เขตพืน้ ที่กำรศึกษำ ครูผสู้ อน (ภำยใตส้ ถำนกำรณ์กำร -วิเครำะห์สภำพปญั หำของ แพร่ระบำดของโรคตดิ เช้อื ไวรัสโค ผ้เู รียนรำยวชิ ำภำษำไทย โรนำ่ 2019) -กำรประชุมครู ผูป้ กครอง เพ่อื สร้ำงควำมรว่ มมือในกำร พฒั นำผู้เรียน ขัน้ ที่ 2 การเตรยี มความ -กำรจัดทำแผนพัฒนำ 1.ครผู สู้ อนรำยวิชำภำษำไทยเขำ้ พ.ย.64-ธ.ค 64 พร้อม (P- คุณภำพกำรจัดกำรเรยี นกำร รว่ มกำรอบรมพัฒนำดำ้ นกำรอ่ำน PREPARATION) สอนภำษำไทยของโรงเรียน กำรเขยี นของนักเรยี นไมต่ ่ำกว่ำ -ครพู ัฒนำตนเองโดยกำรเขำ้ 12 ช่วั โมง รว่ มกำรอบรมเพื่อพัฒนำ 2.ครูผู้สอนรับรู้ ตนเอง รบั ทรำบ และมีควำมตระหนัก ดำเนินกำรตำมแนวทำง แผนพฒั นำคุณภำพกำรจดั กำร เรียนกำรสอนภำษำไทยของ โรงเรียน ขั้นที่ 3 การดาเนินการ - สรำ้ งนวตั กรรม 1.ครผู ู้สอนภำษำไทยระดบั ชั้น ม.ค.65 – มี.ค.65 (P-PROCESS) - เตรยี มกำรสอน ศึกษำ ประถมศกึ ษำปที 1่ี -3 ออกแบบ หลกั สตู ร กำรจัดกำรเรียนรเู้ ชงิ รุก (Active จัดทำแผนกำรสอนแบบ learning) เพ่ือพฒั นำผู้เรียนตำม Active learning รปู แบบ BBL - ผู้อำนวยกำรโรงเรียนตรวจ 2.ครูผูส้ อนภำษำไทยระดบั ช้ัน แผนกำรเรียนรู้ ประถมศึกษำปีที4่ -6 ออกแบบ - บันทึกผลหลังกำรสอน กำรจัดกำรเรยี นรู้เชิงรกุ (Active ปรับปรุง พัฒนำ learning) เพื่อพัฒนำผูเ้ รียนตำม - ปรบั ปรงุ ภูมทิ ัศนภ์ ำยใน รปู แบบ GPAS 5 Steps สู่ นอกห้องเรียนเอ้ือต่อกำร หอ้ งเรียนในศตวรรษท่ี 21 เรยี นรู้
25 กระบวนการนเิ ทศ กจิ กรรมที่ปฏบิ ตั ิ ผลการดาเนนิ งาน ปฏิทนิ การ 4P1S MODEL ปฏบิ ตั งิ าน - จัดกิจกรรมส่งเสริมกำรอ่ำน 3.ครูผสู้ อนภำษำไทยระดับช้ัน กำรเขียนแบบออนไลน์ มธั ยมศกึ ษำปีท1ี่ -3 ออกแบบกำร -จดั ทำคมู่ ือ \"คำใหม่-คำยำก\" จดั กำรเรยี นรู้เชิงรุก (Active โดยใช้งำนผ่ำน E-bookและ learning) เพอ่ื พฒั นำผเู้ รยี นตำม สื่อออนไลน์ รปู แบบ GPAS 5 Steps สู่ ห้องเรียนในศตวรรษที่ 21 - โรงเรียนเปล่ยี นแปลง มภี มู ิทัศน์ ภำยใน นอกห้องเรยี นเอื้อต่อกำร เรียนรู้ -นกั เรยี นมีนวตั กรรม สง่ เสรมิ กำร อำ่ นโดยใช้งำนผ่ำน E-bookและ สื่อออนไลน์ ขั้นท่ี 4 การสนับสนนุ - นเิ ทศ ตดิ ตำม ชว่ ยเหลือ - ครูผ้สู อนมนี วัตกรรมกำรสอน ก.พ 65 – มี.ค 65 (S-SUPPORT) สง่ เสรมิ และสนับสนุน เชิงรุก (Active learning)เพื่อ ขัน้ ที่ 5 ผลผลิต (P-PRODUCT) ประเมินผลกำรดำเนนิ งำน ให้ พัฒนำสมรรถนะกำรอ่ำน กำร กำลังใจครใู นกำรจัดกำรเรียน เขยี นของผูเ้ รยี น ชนั้ ประถมศึกษำ กำรสอนเชิงรุก ปีท่ี 1 –ชนั้ มัธยมศกึ ษำปีที่ 3 -แลกเปลีย่ นเรยี นรู้ เผยแพร่ สอดคลอ้ งกับหลกั สตู รแกนกลำง ผลงำนของนักเรียน และ ขน้ั พ้นื ฐำน พุทธศักรำช 2551 ครูผสู้ อน เพอื่ สร้ำงเครือข่ำย ตำมจุดเนน้ กำรพัฒนำคุณภำพ ในกำรพฒั นำกำรอ่ำน ผเู้ รยี น กำรเขียน ของผู้เรียน - เผยแพร่ผลงำนนักเรยี นใหผ้ ู้ท่ี เกยี่ วขอ้ งและผู้ท่สี นใจในสงั คม ออนไลนเ์ พ่ือสร้ำงเครือข่ำยในกำร พัฒนำกำรอำ่ น กำรเขยี น ของ ผ้เู รยี น - นักเรยี นชัน้ ประถมศกึ ษำปีท่ี รำยงำนผลกำรจดั โครงกำรตำม ก.พ 65 – มี.ค 65 1-3 เกดิ ทักษะกำรอำ่ นออก นโยบำยกำรขบั เคลื่อน พลิกโฉม เขยี นได้ ลำยมือสวย โรงเรียน พัฒนำกำรอ่ำนเขยี น นำ - นกั เรียนช้นั ประถมศกึ ษำปที ี่ ผู้เรยี นสูศ่ ตวรรษท่ี 21 ด้วย 4-6 เกดิ ทกั ษะกำรอำ่ นคล่อง กระบวนกำร 4P1S MODEL เขยี นคล่อง ลำยมอื สวย -นกั เรยี นชั้นมัธยมศึกษำปที ่ี 1-3 เกิดทักษะกำรคิดข้นั สูง
26 บทที่ 4 ผลการดาเนนิ งาน 4.1 รายงานผลปฏบิ ัตติ ามมาตรการและแนวทางในการส่งเสริมนักเรยี น ตามนโยบาย “พลิกโฉมโรงเรียน พฒั นาอา่ นเขยี น นาผู้เรียนสู่ศตวรรษที่ 21”ระดบั หอ้ งเรยี น ครูผสู้ อน ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 1 ตารางที่ 8. ตำรำงแสดงรำยงำนผลกำรปฏบิ ัตติ ำมมำตรกำรและแนวทำงในกำรส่งเสรมิ นกั เรยี นช้นั ประถมศกึ ษำปีท่ี 1 งานทปี่ ฏบิ ัติ แหล่งอ้างอิง 1.วเิ ครำะห์และศึกษำปัญหำนกั เรยี นรำยบคุ คล แล้วสำรวจข้อมูลนักเรียนทุกคนแลว้ ทำสำรสนเทศแสดง จำนวนนักเรียนทีอ่ ่ำนไม่ออก/อ่ำนไม่คลอ่ ง โดยระบุปญั หำ และ สำเหตุ 1.1 ประเมินควำมสำมำรถในกำรอำ่ น กำรเขยี นของนักเรียน 1.2 จดั กลมุ่ ตำมสภำพปัญหำ 1.3 จดั ทำแฟม้ รำยบุคคล 2. จัดทำโครงกำร พัฒนำคุณภำพกำรเรียนกำรสอนภำษำไทย “พลกิ โฉมโรงเรียน พัฒนำกำรอำ่ น นำผ้เู รียนส่ศู ตวรรษที่21” 3.สรำ้ งนวตั กรรมแลว้ นำมำพัฒนำกำรอ่ำน กำรเขยี น ของครผู ู้สอนในรำยวิชำ ภำษำไทย ช้นั ประถมศึกษำปีที่ 1 ครูผู้สอน ครพู รรรณนภำ ตำยะ ช่อื นวตั กรรม การพฒั นาทกั ษะการอ่านและการเขยี น กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย โดยใชแ้ บบฝกึ ทักษะการอา่ นและการเขียนสระเดยี่ ว สาหรบั นกั เรียนชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 1 4.เตรียมกำรสอน - จัดทำแผนกำรสอนท่สี อดคลอ้ งกับนวัตกรรมของครูผู้สอนในแต่ละระดบั ชั้น - เตรียมสือ่ กำรสอน - บนั ทกึ ผลกำรสอน ประเมินผลสอ่ื และนวตั กรรม พฒั นำและปรบั ปรุงให้มี ประสทิ ธภิ ำพมำกย่งิ ขน้ึ
งานท่ปี ฏิบัติ 27 5.จัดทำคมู่ อื “คำใหม่ – คำยำก”ให้นักเรยี นชัน้ ประถมศึกษำปที ี่ 1 – ชัน้ มัธยมศึกษำ แหล่งอา้ งองิ ปที ี่ 3 - เขยี นตำมคำบอก - คัดลำยมอื - เขียนเรื่องจำกภำพ 6.จัดมมุ หนงั สอื ในห้องเรยี น 7.ประเมินกำรอำ่ น กำรเขียนของนักเรยี น 8.สอนซ่อมเสรมิ และบนั ทึกผลทกุ คร้งั ครผู ูส้ อน ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านปวงคา(ประชาอุทศิ ) ตารางที่ 9. ตำรำงแสดงรำยงำนผลกำรปฏบิ ัติตำมมำตรกำรและแนวทำงในกำรส่งเสรมิ นักเรยี นชนั้ ประถมศกึ ษำปที ี่ 2 งานที่ปฏิบตั ิ แหล่งอ้างอิง 1.วิเครำะหแ์ ละศึกษำปัญหำนักเรียนรำยบคุ คล แลว้ สำรวจข้อมูลนักเรยี นทกุ คนแลว้ ทำสำรสนเทศแสดง จำนวนนักเรียนท่ีอ่ำนไม่ออก/อ่ำนไม่คลอ่ ง โดยระบุปญั หำ และ สำเหตุ 1.1 ประเมินควำมสำมำรถในกำรอ่ำน กำรเขยี นของนักเรียน 1.2 จัดกลมุ่ ตำมสภำพปัญหำ 1.3 จัดทำแฟ้มรำยบุคคล
งานทีป่ ฏบิ ัติ 28 แหล่งอา้ งองิ 2. จัดทำโครงกำร พฒั นำคุณภำพกำรเรียนกำรสอนภำษำไทย “พลกิ โฉมโรงเรยี น พัฒนำกำรอำ่ น นำผเู้ รยี นส่ศู ตวรรษท่2ี 1” 3.สรำ้ งนวตั กรรมแล้วนำมำพัฒนำกำรอ่ำน กำรเขยี น ของครผู ู้สอนในรำยวิชำ ภำษำไทย ชั้นประถมศึกษำปีที่ 2 ครผู ู้สอน ครยู วุ รี ประทปี ยวุ พัฒน์ ชื่อนวตั กรรม การพฒั นาทักษะการอา่ นออกเสียงภาษาไทยของนักเรียนช้ัน ประถมศึกษาปีท่ี 2 4.เตรยี มกำรสอน - จดั ทำแผนกำรสอนทส่ี อดคลอ้ งกับนวัตกรรมของครูผ้สู อนในแตล่ ะระดับชน้ั - เตรียมสอื่ กำรสอน - บนั ทกึ ผลกำรสอน ประเมินผลส่อื และนวัตกรรม พัฒนำและปรบั ปรุงให้มี ประสิทธิภำพมำกยิ่งขึ้น 5.จัดทำคู่มือ “คำใหม่ – คำยำก”ให้นักเรยี นชนั้ ประถมศึกษำปีท่ี 1 – ช้ันมธั ยมศึกษำ ปีที่ 3 - เขยี นตำมคำบอก - คัดลำยมือ - เขียนเร่อื งจำกภำพ - บันทกึ กำรอ่ำน 6.จดั มุมหนงั สือในห้องเรียน
งานท่ีปฏิบัติ 29 7.ประเมินกำรอำ่ น กำรเขียนของนักเรยี น แหล่งอา้ งองิ 8.สอนซ่อมเสริมและบันทึกผลทุกครัง้ ครผู ูส้ อน ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบา้ นปวงคา(ประชาอุทศิ ) ตารางท่ี 10. ตำรำงแสดงรำยงำนผลกำรปฏิบตั ติ ำมมำตรกำรและแนวทำงในกำรสง่ เสรมิ นกั เรยี นชน้ั ประถมศึกษำปที ี่ 3 งานท่ีปฏิบัติ แหล่งอา้ งอิง 1.วิเครำะห์และศึกษำปัญหำนกั เรียนรำยบคุ คล แลว้ สำรวจขอ้ มลู นักเรียนทกุ คนแล้ว ทำสำรสนเทศแสดง จำนวนนักเรียนทีอ่ ่ำนไม่ออก/อ่ำนไม่คลอ่ ง โดยระบุปญั หำ และ สำเหตุ 1.1 ประเมนิ ควำมสำมำรถในกำรอำ่ น กำรเขียนของนักเรียน 1.2 จัดกลุ่มตำมสภำพปัญหำ 1.3 จัดทำแฟม้ รำยบุคคล 2. จดั ทำโครงกำร พัฒนำคุณภำพกำรเรยี นกำรสอนภำษำไทย “พลกิ โฉมโรงเรยี น พัฒนำกำรอ่ำน นำผู้เรียนสู่ศตวรรษท2่ี 1”
งานท่ปี ฏบิ ัติ 30 3.สร้ำงนวตั กรรมแลว้ นำมำพัฒนำกำรอ่ำน กำรเขียน ของครูผู้สอนในรำยวิชำ แหล่งอา้ งอิง ภำษำไทย ชั้นประถมศึกษำปีท่ี 3 ครูผู้สอน ครพู นมกร ไพบูลยก์ จิ ช่ือนวตั กรรม การพฒั นาทกั ษะการอา่ นออกเสียงคาศพั ท์ทมี่ ตี ัวการันตข์ องนักเรียน ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 3 4.เตรียมกำรสอน - จัดทำแผนกำรสอนท่ีสอดคลอ้ งกับนวัตกรรมของครผู ้สู อนในแต่ละระดบั ช้ัน - เตรียมส่ือกำรสอน - บันทกึ ผลกำรสอน ประเมินผลสอื่ และนวตั กรรม พฒั นำและปรบั ปรงุ ให้มี ประสทิ ธิภำพมำกยง่ิ ข้นึ 5.จัดทำคูม่ ือ “คำใหม่ – คำยำก”ให้นักเรยี นชัน้ ประถมศึกษำปที ่ี 1 – ชน้ั มธั ยมศกึ ษำ ปที ี่ 3 - เขียนตำมคำบอก - คัดลำยมือ - เขยี นเรือ่ งจำกภำพ - บันทึกกำรอ่ำน 6.จัดมมุ หนังสือในห้องเรยี น 7.ประเมินกำรอำ่ น กำรเขยี นของนักเรียน 8.สอนซ่อมเสริมและบันทึกผลทกุ คร้งั
31 ครผู ู้สอน ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านปวงคา(ประชาอุทิศ) ตารางที่ 11. ตำรำงแสดงรำยงำนผลกำรปฏบิ ตั ติ ำมมำตรกำรและแนวทำงในกำรสง่ เสรมิ นักเรยี นชน้ั ประถมศกึ ษำปที ่ี 4 งานทีป่ ฏิบัติ แหล่งอ้างอิง 1.วเิ ครำะหแ์ ละศึกษำปัญหำนกั เรียนรำยบคุ คล แล้วสำรวจข้อมลู นักเรยี นทกุ คนแล้ว ทำสำรสนเทศแสดง จำนวนนักเรยี นทอ่ี ่ำนไม่ออก/อำ่ นไม่คล่อง โดยระบปุ ัญหำ และ สำเหตุ 1.1 ประเมินควำมสำมำรถในกำรอ่ำน กำรเขยี นของนักเรียน 1.2 จัดกลุม่ ตำมสภำพปัญหำ 1.3 จดั ทำแฟม้ รำยบุคคล 2. จดั ทำโครงกำร พัฒนำคุณภำพกำรเรียนกำรสอนภำษำไทย “พลิกโฉมโรงเรียน พฒั นำกำรอำ่ น นำผเู้ รยี นสศู่ ตวรรษท2ี่ 1” 3.สร้ำงนวตั กรรมแล้วนำมำพัฒนำกำรอำ่ น กำรเขยี น ของครูผสู้ อนในรำยวิชำ ภำษำไทย ช้ันประถมศึกษำปีท่ี 4 ครูผูส้ อน ครโู สภณ สุตำนันท์ ชอ่ื นวตั กรรม การพัฒนาการอ่าน การเขยี น โดยใชช้ ดุ นทิ านอสี ปสอนใจ สาหรับ นักเรยี นช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 4.เตรยี มกำรสอน - จัดทำแผนกำรสอนท่ีสอดคล้องกับนวตั กรรมของครูผู้สอนในแตล่ ะระดับช้ัน - เตรียมสื่อกำรสอน - บันทกึ ผลกำรสอน ประเมินผลสื่อและนวตั กรรม พฒั นำและปรับปรงุ ให้มี ประสทิ ธภิ ำพมำกย่ิงขนึ้
งานท่ีปฏิบัติ 32 แหล่งอ้างองิ 5.จดั ทำคมู่ อื “คำใหม่ – คำยำก”ให้นักเรียนช้ันประถมศึกษำปที ่ี 1 – ชนั้ มัธยมศึกษำ ปีที่ 3 - เขยี นตำมคำบอก - คดั ลำยมอื - เขียนเรอ่ื งจำกภำพ - บนั ทึกกำรอ่ำน 6.จัดมมุ หนังสือในห้องเรียน 7.ประเมินกำรอำ่ น กำรเขยี นของนักเรียน 8.สอนซ่อมเสรมิ และบันทึกผลทกุ คร้ัง
33 ครผู ู้สอน ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบา้ นปวงคา(ประชาอุทศิ ) ตารางที่ 12. ตำรำงแสดงรำยงำนผลกำรปฏิบตั ิตำมมำตรกำรและแนวทำงในกำรสง่ เสรมิ นักเรยี นช้นั ประถมศกึ ษำปีที่ 5 งานทีป่ ฏบิ ตั ิ แหล่งอา้ งอิง 1.วเิ ครำะห์และศึกษำปัญหำนกั เรียนรำยบคุ คล แล้วสำรวจข้อมูลนักเรียนทกุ คนแล้ว ทำสำรสนเทศแสดง จำนวนนักเรยี นที่อ่ำนไม่ออก/อำ่ นไม่คลอ่ ง โดยระบุปญั หำ และ สำเหตุ 1.1 ประเมินควำมสำมำรถในกำรอ่ำน กำรเขียนของนักเรียน 1.2 จัดกล่มุ ตำมสภำพปัญหำ 1.3 จัดทำแฟ้มรำยบุคคล 2. จัดทำโครงกำร พฒั นำคุณภำพกำรเรียนกำรสอนภำษำไทย “พลกิ โฉมโรงเรยี น พัฒนำกำรอ่ำน นำผ้เู รียนสูศ่ ตวรรษท่ี21” 3.สรำ้ งนวัตกรรมแล้วนำมำพัฒนำกำรอ่ำน กำรเขียน ของครผู ู้สอนในรำยวิชำ ภำษำไทย ชัน้ ประถมศึกษำปีท่ี 5 ครผู สู้ อน ครูฉนั ทช์ นก สมฝน้ั ช่อื นวัตกรรม การพฒั นาทกั ษะการอา่ นจับใจความสาคัญของนกั เรียนชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 4.เตรียมกำรสอน - จดั ทำแผนกำรสอนท่ีสอดคล้องกับนวตั กรรมของครูผสู้ อนในแตล่ ะระดับชน้ั - เตรยี มส่อื กำรสอน - บันทกึ ผลกำรสอน ประเมินผลสอ่ื และนวตั กรรม พัฒนำและปรบั ปรงุ ให้มี ประสิทธิภำพมำกย่ิงขึ้น 5.จัดทำค่มู อื “คำใหม่ – คำยำก”ใหน้ ักเรียนชน้ั ประถมศึกษำปที ี่ 1 – ชนั้ มธั ยมศึกษำ ปีท่ี 3 - เขียนตำมคำบอก - คัดลำยมือ - เขียนเรือ่ งจำกภำพ - บันทกึ กำรอ่ำน
งานทป่ี ฏบิ ัติ 34 แหล่งอา้ งองิ 6.จัดมมุ หนังสอื ในห้องเรียน 7.ประเมนิ กำรอำ่ น กำรเขียนของนักเรียน 8.สอนซ่อมเสริมและบนั ทึกผลทุกครงั้ ครผู สู้ อน ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรยี นบา้ นปวงคา(ประชาอุทิศ) ตารางท่ี 13. ตำรำงแสดงรำยงำนผลกำรปฏบิ ตั ติ ำมมำตรกำรและแนวทำงในกำรส่งเสรมิ นกั เรยี นชั้นประถมศึกษำปที ่ี 6 งานที่ปฏบิ ตั ิ แหล่งอา้ งอิง 1.วิเครำะหแ์ ละศึกษำปัญหำนกั เรยี นรำยบคุ คล แล้วสำรวจขอ้ มลู นักเรียนทุกคนแล้ว ทำสำรสนเทศแสดง จำนวนนักเรียนท่อี ่ำนไม่ออก/อำ่ นไม่คลอ่ ง โดยระบุปัญหำ และ สำเหตุ 1.1 ประเมินควำมสำมำรถในกำรอ่ำน กำรเขียนของนักเรียน 1.2 จัดกลุม่ ตำมสภำพปัญหำ 1.3 จัดทำแฟม้ รำยบุคคล
งานท่ีปฏบิ ัติ 35 แหล่งอ้างองิ 2. จดั ทำโครงกำร พฒั นำคุณภำพกำรเรยี นกำรสอนภำษำไทย “พลิกโฉมโรงเรยี น พัฒนำกำรอำ่ น นำผเู้ รียนสู่ศตวรรษท่2ี 1” 3.สรำ้ งนวัตกรรมแล้วนำมำพัฒนำกำรอ่ำน กำรเขียน ของครผู ู้สอนในรำยวิชำ ภำษำไทย ชน้ั ประถมศึกษำปีท่ี 6 ครผู ู้สอน ครูฉันท์ชนก สมฝั้น ชอื่ นวัตกรรม การพฒั นาทักษะการอา่ น การเขยี นคาราชาศัพท์ โดยใช้เกมเศรษฐี 4.เตรียมกำรสอน - จัดทำแผนกำรสอนท่สี อดคล้องกับนวัตกรรมของครูผู้สอนในแต่ละระดับช้ัน - เตรียมส่ือกำรสอน - บันทึกผลกำรสอน ประเมินผลสือ่ และนวัตกรรม พัฒนำและปรบั ปรุงให้มี ประสทิ ธภิ ำพมำกย่ิงข้นึ 5.จัดทำค่มู อื “คำใหม่ – คำยำก”ให้นักเรยี นช้ันประถมศึกษำปีที่ 1 – ชน้ั มัธยมศกึ ษำ ปีท่ี 3 - เขยี นตำมคำบอก - คดั ลำยมอื - เขียนเรอื่ งจำกภำพ - บันทกึ กำรอ่ำน
งานทีป่ ฏิบตั ิ 36 แหล่งอ้างอิง 6.จัดมมุ หนงั สือในห้องเรียน 7.ประเมินกำรอ่ำน กำรเขยี นของนักเรยี น 8.สอนซ่อมเสริมและบันทึกผลทกุ ครั้ง ครูผ้สู อน ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรยี นบา้ นปวงคา(ประชาอุทศิ ) ตารางที่ 14. ตำรำงแสดงรำยงำนผลกำรปฏิบตั ิตำมมำตรกำรและแนวทำงในกำรส่งเสรมิ นกั เรยี นช้นั มัธยมศึกษำปที ี่ 1 งานท่ีปฏบิ ตั ิ แหล่งอ้างอิง 1.วเิ ครำะหแ์ ละศึกษำปัญหำนักเรยี นรำยบคุ คล แลว้ สำรวจข้อมูลนักเรยี นทุกคนแล้ว ทำสำรสนเทศแสดง จำนวนนักเรียนที่อ่ำนไม่ออก/อ่ำนไม่คลอ่ ง โดยระบปุ ัญหำ และ สำเหตุ 1.1 ประเมินควำมสำมำรถในกำรอำ่ น กำรเขยี นของนักเรียน 1.2 จดั กล่มุ ตำมสภำพปัญหำ 1.3 จดั ทำแฟม้ รำยบุคคล 2. จัดทำโครงกำร พัฒนำคุณภำพกำรเรยี นกำรสอนภำษำไทย “พลกิ โฉมโรงเรียน พัฒนำกำรอำ่ น นำผเู้ รยี นส่ศู ตวรรษท่ี21”
งานทป่ี ฏบิ ตั ิ 37 แหล่งอ้างองิ 3.สรำ้ งนวัตกรรมแลว้ นำมำพัฒนำกำรอ่ำน กำรเขยี น ของครูผู้สอนในรำยวชิ ำ ภำษำไทย ชัน้ มธั ยมศึกษำปที ี่ 1 ครผู ู้สอน ครฉู นั ทช์ นก สมฝั้น ชือ่ นวตั กรรม การพฒั นาทักษะการคดิ ขั้นสูงวรรณคดีไทยเรือ่ งกาพยเ์ ห่ชมเครื่อง คาวหวานโดยใช้การ์ดเกม 4.เตรยี มกำรสอน - จดั ทำแผนกำรสอนทสี่ อดคล้องกับนวตั กรรมของครูผสู้ อนในแต่ละระดับชัน้ - เตรยี มส่ือกำรสอน - บนั ทึกผลกำรสอน ประเมินผลสือ่ และนวัตกรรม พฒั นำและปรับปรงุ ให้มี ประสทิ ธิภำพมำกย่ิงข้นึ 5.จดั ทำคมู่ อื “คำใหม่ – คำยำก”ใหน้ ักเรยี นช้นั ประถมศึกษำปีที่ 1 – ชั้นมัธยมศึกษำ ปีท่ี 3 - เขียนตำมคำบอก - คดั ลำยมอื - เขียนเรื่องจำกภำพ - บนั ทกึ กำรอ่ำน 6.จดั มมุ หนังสือในห้องเรียน 7.ประเมินกำรอ่ำน กำรเขียนของนักเรียน
งานทีป่ ฏิบัติ 38 8.สอนซ่อมเสรมิ และบนั ทึกผลทุกครง้ั แหล่งอ้างอิง ครูผสู้ อน ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 2 โรงเรียนบา้ นปวงคา(ประชาอทุ ศิ ) ตารางท่ี 15. ตำรำงแสดงรำยงำนผลกำรปฏบิ ตั ติ ำมมำตรกำรและแนวทำงในกำรสง่ เสรมิ นักเรยี นช้นั มัธยมศกึ ษำปีที่ 2 งานท่ีปฏบิ ัติ แหล่งอา้ งองิ 1.วเิ ครำะหแ์ ละศึกษำปัญหำนักเรียนรำยบุคคล แล้วสำรวจขอ้ มูลนักเรียนทุกคนแล้ว ทำสำรสนเทศแสดง จำนวนนักเรียนท่อี ่ำนไม่ออก/อ่ำนไม่คล่อง โดยระบปุ ญั หำ และ สำเหตุ 1.1 ประเมินควำมสำมำรถในกำรอำ่ น กำรเขียนของนักเรียน 1.2 จดั กลมุ่ ตำมสภำพปัญหำ 1.3 จัดทำแฟ้มรำยบคุ คล 2. จัดทำโครงกำร พฒั นำคุณภำพกำรเรยี นกำรสอนภำษำไทย “พลิกโฉมโรงเรียน พฒั นำกำรอำ่ น นำผู้เรียนสูศ่ ตวรรษท่2ี 1” 3.สร้ำงนวัตกรรมแล้วนำมำพัฒนำกำรอำ่ น กำรเขียน ของครูผู้สอนในรำยวชิ ำ ภำษำไทย ชั้นมธั ยมศกึ ษำปีที่ 2 ครผู สู้ อน ครูฉันทช์ นก สมฝัน้ ชอ่ื นวัตกรรม การพฒั นาทักษะการคิดขน้ั สูงเรอ่ื งกลวิธกี ารเขียนโดยใช้แผนผัง สรปุ ความคดิ
งานทปี่ ฏบิ ตั ิ 39 แหล่งอ้างองิ 4.เตรยี มกำรสอน - จัดทำแผนกำรสอนท่ีสอดคล้องกับนวตั กรรมของครผู ูส้ อนในแตล่ ะระดับชนั้ - เตรียมส่ือกำรสอน - บันทึกผลกำรสอน ประเมินผลสอ่ื และนวัตกรรม พัฒนำและปรับปรุงให้มี ประสิทธภิ ำพมำกย่งิ ขนึ้ 5.จัดทำคูม่ อื “คำใหม่ – คำยำก”ให้นักเรยี นชั้นประถมศึกษำปีที่ 1 – ชัน้ มัธยมศกึ ษำ ปที ี่ 3 - เขยี นตำมคำบอก - คัดลำยมือ - เขียนเร่ืองจำกภำพ - บันทึกกำรอ่ำน 6.จดั มมุ หนังสอื ในห้องเรยี น 7.ประเมนิ กำรอำ่ น กำรเขยี นของนักเรยี น 8.สอนซ่อมเสรมิ และบันทึกผลทกุ คร้ัง
40 ครผู ู้สอน ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบา้ นปวงคา(ประชาอทุ ศิ ) ตารางท่ี 16. ตำรำงแสดงรำยงำนผลกำรปฏบิ ตั ิตำมมำตรกำรและแนวทำงในกำรสง่ เสรมิ นักเรยี นชัน้ มัธยมศกึ ษำปที ่ี 3 งานทป่ี ฏิบตั ิ แหล่งอ้างองิ 1.วเิ ครำะห์และศึกษำปัญหำนกั เรยี นรำยบคุ คล แล้วสำรวจข้อมูลนักเรยี นทุกคนแลว้ ทำสำรสนเทศแสดง จำนวนนักเรยี นท่อี ่ำนไม่ออก/อ่ำนไม่คลอ่ ง โดยระบปุ ัญหำ และ สำเหตุ 1.1 ประเมนิ ควำมสำมำรถในกำรอำ่ น กำรเขยี นของนักเรียน 1.2 จดั กล่มุ ตำมสภำพปัญหำ 1.3 จดั ทำแฟ้มรำยบุคคล 2. จัดทำโครงกำร พัฒนำคุณภำพกำรเรียนกำรสอนภำษำไทย “พลิกโฉมโรงเรียน พฒั นำกำรอำ่ น นำผู้เรียนสู่ศตวรรษที2่ 1” 3.สรำ้ งนวตั กรรมแลว้ นำมำพัฒนำกำรอ่ำน กำรเขยี น ของครผู สู้ อนในรำยวิชำ ภำษำไทย ชัน้ มัธยมศึกษำปที ี่ 3 ครูผู้สอน ครฉู นั ท์ชนก สมฝนั้ ชื่อนวตั กรรม การพัฒนาทกั ษะการคิดขัน้ สูงโดยใชเ้ ทคนิคบนั ได 6 ขั้น สาหรบั นักเรียนช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 4.เตรียมกำรสอน - จดั ทำแผนกำรสอนทส่ี อดคลอ้ งกับนวัตกรรมของครูผ้สู อนในแต่ละระดับชนั้ - เตรยี มสอื่ กำรสอน - บันทกึ ผลกำรสอน ประเมินผลสอ่ื และนวัตกรรม พัฒนำและปรบั ปรุงให้มี ประสิทธภิ ำพมำกย่ิงข้นึ
งานท่ีปฏิบัติ 41 5.จดั ทำค่มู อื “คำใหม่ – คำยำก”ให้นักเรียนช้ันประถมศึกษำปที ่ี 1 – ชนั้ มัธยมศึกษำ แหล่งอ้างองิ ปีที่ 3 - เขยี นตำมคำบอก - คดั ลำยมอื - เขียนเรื่องจำกภำพ - บนั ทกึ กำรอ่ำน 6.จัดมุมหนังสือในห้องเรียน 7.ประเมินกำรอำ่ น กำรเขยี นของนักเรียน 8.สอนซ่อมเสรมิ และบันทึกผลทกุ คร้ัง
42 ผลการประเมิน ระดบั ห้องเรยี น ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 1 ปฎิบตั ิไดต้ ำมมำตรกำรและแนวปฏบิ ตั ิ ได้รอ้ ยละ 75 อยู่ในระดบั 4 ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 2 ปฎบิ ัติได้ตำมมำตรกำรและแนวปฏิบัติ ได้รอ้ ยละ 85 อยู่ในระดบั 5 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 ปฎิบตั ไิ ดต้ ำมมำตรกำรและแนวปฏบิ ตั ิ ได้รอ้ ยละ 85 อยู่ในระดบั 5 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 4 ปฎบิ ัติไดต้ ำมมำตรกำรและแนวปฏบิ ัติ ไดร้ ้อยละ 65 อยใู่ นระดับ 3 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ปฎบิ ัตไิ ด้ตำมมำตรกำรและแนวปฏิบัติ ไดร้ ้อยละ 75 อย่ใู นระดบั 4 ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 ปฎบิ ตั ิไดต้ ำมมำตรกำรและแนวปฏิบตั ิ ได้ร้อยละ 85 อยู่ในระดับ 5 ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 ปฎบิ ตั ไิ ด้ตำมมำตรกำรและแนวปฏิบตั ิ ได้รอ้ ยละ 72 อยู่ในระดับ 4 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 2 ปฎบิ ัติได้ตำมมำตรกำรและแนวปฏบิ ัติ ได้รอ้ ยละ 65 อยู่ในระดับ 3 ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 ปฎิบัตไิ ด้ตำมมำตรกำรและแนวปฏิบัติ ไดร้ ้อยละ 75 อยู่ในระดับ 4 หมายเหตุ : การแปลผลมาจากข้อมูลเชงิ ประจักษ์และการนเิ ทศห้องเรยี น 4.2. รายผลการดาเนนิ งานตามมาตรการและแนวทางในการส่งเสริมนกั เรียน ตามนโยบาย “พลิกโฉม โรงเรยี น พฒั นาอา่ นเขียน นาผเู้ รียนสศู่ ตวรรษท่ี 21” 2.1 นักเรียนรอ้ ยละ 75 มที ักษะกำรอำ่ น กำรเขยี น และกำรส่อื สำรตำมเกณฑ์ ตารางที่ 17. แสดงจำนวนนักเรยี นท่ีมีควำมสำมำรถในด้ำนกำรอ่ำน กำรเขียนของนักเรียนเข้ำสอบกำรอำ่ น กำรเขียนครั้งที่ 2 วันที่ 17 มนี ำคม 2565 ชั้น การอ่านออก/อา่ น อ่านไมอ่ อก/อ่านไม่ เขียนได/้ เขียนคลอ่ ง เขียนไม่ได้/เขยี นไม่ คลอ่ ง คลอ่ ง คล่อง - 12 - ป.1 12 3 20 - ป.2 17 - 19 - ป.3 19 2 23 2 ป.4 23 2 17 1 ป.5 16 - 20 - ป.6 20 1 13 1 ม.1 13 1 15 1 ม.2 15 2 8 2 ม.3 8 11 147 7 รวม 143 7.14 95.45 4.54 รอ้ ยละ 92.85 หมายเหตุ : ชอ้ มลู อำ้ งอิงมำจำกกำรประเมนิ ควำมสำมำรถในกำรอ่ำน เขยี น ครั้งที่ 2 ของ สพป.ลำพนู เขต 2 (กลมุ่ เด็กปกติและกลุ่มบกพร่องทำงกำรเรียนรู)้
43 ตารางท่ี18 . แสดงผลร้อยละของควำมสำมำรถในด้ำนกำรอำ่ น กำรเขยี นของนักเรยี นท่ีเขำ้ สอบ กำรอ่ำน กำร เขียนคร้งั ท่ี 2 วันที่ 17 มีนำคม 2565 ชน้ั การอ่านออก/อ่าน อ่านไมอ่ อก/อ่านไม่ เขยี นได/้ เขยี นคล่อง เขียนไมไ่ ด/้ เขียนไม่ คล่อง คลอ่ ง คลอ่ ง ป.1 100.00 - 100.00 - ป.2 85.00 15.00 100.00 - ป.3 100.00 - 100.00 - ป.4 92.00 8.00 92.00 8.00 ป.5 88.89 11.11 88.89 11.11 ป.6 100.00 - 100.00 - ม.1 92.85 7.14 92.85 7.14 ม.2 93.75 6.25 93.75 6.25 ม.3 80.00 20.00 80.00 20.00 ค่าเฉล่ยี 92.50 11.25 94.17 10.50 หมายเหตุ : ชอ้ มูลอ้ำงองิ มำจำกกำรประเมินควำมสำมำรถในกำรอ่ำน เขยี น คร้งั ท่ี 2 ของสพป.ลำพูนเขต 2 (กล่มุ เด็กปกติและกลุ่มบกพร่องทำงกำรเรียนร้)ู 2.2 นกั เรียนรอ้ ยละ 75 มพี ัฒนาการด้ำนกำรอำ่ น กำรเขียน และกำรสื่อสำรตำมเกณฑ์ ตำรำงท1่ี 9 . แสดงผลจำนวนนักเรยี นทม่ี ีควำมสำมำรถในด้ำนกำรอ่ำน กำรเขยี นของนักเรียนที่เข้ำสอบ กำร อ่ำน กำรเขียนครงั้ ท่ี 1- 2 ชนั้ การอ่านออก/ การอ่านออก/ ผลการพัฒนา เขยี นได้/เขยี น เขียนได้/เขยี น ผลการพฒั นา อ่าน คลอ่ ง อ่าน คลอ่ ง คลอ่ ง คลอ่ ง ป.1 12 12 - 11 12 +1 ป.2 17 17 - 20 20 - ป.3 19 19 - 19 19 - ป.4 23 23 - 23 23 - ป.5 16 16 - 17 17 - ป.6 20 20 - 20 20 - ม.1 12 13 +1 12 13 +1 ม.2 15 16 +1 14 15 +1 ม.3 7 8 +1 7 8 +1 รวม 141 144 3 143 147 4 รอ้ ยละ 91.55 93.50 1.94 92.25 95.45 2.59 หมายเหตุ : ชอ้ มลู อ้ำงองิ มำจำกกำรประเมินควำมสำมำรถในกำรอ่ำน เขยี น ครง้ั ท่ี 1- 2 ของสพป.ลำพนู เขต 2
44 (กลมุ่ เด็กปกติและกลุ่มบกพร่องทำงกำรเรยี นร้)ู – หมำยถงึ ปกติ คงท่ี /+ กำรพฒั นำ แผนภูมิแสดงร้อยละของนักเรียนในด้านการอ่าน -การเขียน ปีการศึกษา 2564 การอ่านคร้ังที่ 1 การอ่านครง้ั ที่ การเขยี นคร้ังที่ 1 การเขยี นคร้งั ที่ 2 120 100 100 100 100 100 100 100 100 92.85 93.75 91.66 92 88.88 85.71 87.5 80 80 70 60 40 20 0 ป.1 ป.2 ป.3 ป.4 ป.5 ป.6 ม.1 ม.2 ม.3 หมายเหตุ : ช้อมลู อ้ำงอิงมำจำกกำรประเมนิ ควำมสำมำรถในกำรอ่ำน เขียน คร้ังที่ 1- 2 ของสพป.ลำพนู เขต 2 (กลุ่มเด็กปกติและกลุ่มบกพร่องทำงกำรเรียนร)ู้ 2.3 ครูผสู้ อนรอ้ ยละ 100 มีกำรพัฒนำกระบวนกำรจัดกำรเรียนรตู้ ำมจดุ เนน้ กำรพัฒนำคุณภำพ ผู้เรียน ตารางที่20 . แสดงขอ้ มลู นวัตกรรมกำรสอนเพ่ือพฒั นำจุดเน้นกำรพัฒนำคณุ ภำพผูเ้ รยี น ครผู ้สู อน นวัตกรรมการสอน พัฒนาจุดเน้นการพฒั นา คุณภาพผ้เู รียน ชั้นประถมศึกษำปีท่ี 1 ชือ่ นวัตกรรม การพัฒนาทกั ษะการอา่ นและการเขยี น กลุ่ม ครผู สู้ อน สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย โดยใช้แบบฝกึ ทกั ษะการอ่าน อำ่ นออก ครูพรรรณนภำ ตำยะ และการเขียนสระเดีย่ ว สาหรับนักเรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปี ที่ 1 เขียนได้ ลำยมอื สวย
Search