๓ พระราชบัญญตั ิการจดั ซ้ือจดั จา้ ง ระเบยี บสานักนายกร และการบรหิ ารพสั ดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๓๕ แ คานึงถึงเทคโนโลยีของพัสดุ หรือคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอ ขอ้ ๗๗ การจา้ งท หรือกรณีอื่นที่ทาให้มีปัญหาในการพิจารณาคัดเลือกข้อเสนอ (๑) วิธตี กลง ตามวรรคหนึ่ง หน่วยงานของรัฐอาจกาหนดให้มีการย่ืน (๒) วิธคี ัดเลอื ก ข้อเสนอด้านเทคนคิ หรือขอ้ เสนออืน่ กอ่ นการพิจารณาคัดเลือก ข้อเสนอตามวรรคหน่ึงก็ได้ ท้ังน้ี ตามระเบียบที่รัฐมนตรี กาหนด หมวด ๗ งานจา้ งทปี่ รึกษา มาตรา ๖๙ งานจ้างที่ปรึกษาอาจกระทาได้โดยวิธี ดงั ต่อไปนี้ (๑) วิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป ได้แก่ การที่หน่วยงาน ของรัฐเชิญชวนท่ีปรึกษาท่ัวไปที่มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไข ที่หน่วยงานของรัฐกาหนดให้เข้ายืน่ ขอ้ เสนอ (๒) วิธีคัดเลือก ได้แก่ การที่หน่วยงานของรัฐเชิญ ชวนเฉพาะที่ปรกึ ษาท่ีมคี ณุ สมบัติตรงตามเงือ่ นไข ที่หน่วยงาน ของรัฐกาหนดซึ่งต้องไม่น้อยกว่าสามรายให้เข้าย่ืนข้อเสนอ เว้นแต่ในงานน้ันมีที่ปรึกษาท่ีมี คุณสมบัติตรงตามท่ีกาหนด น้อยกว่าสามราย (๓) วิธีเฉพาะเจาะจง ได้แก่ การที่หน่วยงานของรัฐ เชิญชวนท่ีปรึกษาที่มีคุณสมบัติตรงตาม เง่ือนไขที่หน่วยงาน ของรัฐกาหนดรายใดรายหน่ึงให้เข้าย่ืนข้อเสนอ หรือให้เข้ามา เจรจาตอ่ รองราคา
๓๗ ข้อแตกต่าง รัฐมนตรวี า่ ด้วยการพสั ดุ และที่แก้ไขเพิม่ เตมิ ทป่ี รึกษากระทาได้ ๒ วิธี คือ ตามพระราชบญั ญัตกิ ารจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหารพัสดุ ภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ กาหนดวิธีการจ้างที่ปรึกษาให้ทาได้ ๓ วิธี คือ ประกาศเชิญชวนท่ัวไป คัดเลือก และ เฉพาะเจาะจง ซ่งึ ตามระเบยี บสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วย พัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ กาหนดวิธีการจ้างที่ปรึกษากระทาได้ ๒ วิธี คือ ตกลงและคดั เลือก
๓ พระราชบัญญตั กิ ารจัดซ้อื จดั จา้ ง ระเบยี บสานักนายกร และการบริหารพสั ดุภาครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๓๕ แ หมวด ๘ ข้อ ๙๕ การจ้างออ งานจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้าง ๔ วธิ ี คอื มาตรา ๗๙ งานจ้างออกแบบหรือควบคุมงาน (๑) วิธีตกลง (๒) วิธีคัดเลอื ก ก่อสรา้ งอาจกระทาไดโ้ ดยวธิ ดี ังตอ่ ไปนี้ (๑) วธิ ปี ระกาศเชญิ ชวนทัว่ ไป (๓) วธิ คี ัดเลอื กแบ (๔) วธิ ีพเิ ศษ (๒) วธิ ีคัดเลือก (๓) วธิ เี ฉพาะเจาะจง (๔) วธิ ีประกวดแบบ หมวด ๙ ขอ้ ๑๓๒ การลง การทาสัญญา ระเบียบน้ี เป็นอานาจของห มาตรา ๙๓ หนว่ ยงานของรฐั ต้องทาสัญญาตามแบบ เปน็ ภาษาไทยหรือภาษาอังก ท่ีคณะกรรมการนโยบายกาหนด โดยความเห็นชอบของ การทาสัญญาราย สานักงานอัยการสูงสุด ท้ังนี้ แบบสัญญาน้ันให้ประกาศใน ราชกิจจานุเบกษาดว้ ย รายการแตกต่างไปจากตัว โดยมสี าระสาคญั ตามท่ีกาห การทาสัญญารายใดถ้าจาเป็นต้องมีข้อความหรือ ทาให้ทางราชการเสียเปรีย รายการแตกต่างไปจากแบบสัญญาตามวรรคหนึ่ง โดยมี ส่วนราชการเห็นว่าจะมีป ส า ร ะ ส า คั ญ ต า ม ที่ ก า ห น ด ไ ว้ ใ น แ บ บ สั ญ ญ า แ ล ะ ไ ม่ ท า ใ ห้ รัดกุมพอ ก็ให้ส่งร่างสัญญ หน่วยงานของรัฐเสียเปรียบก็ให้กระทาได้ เว้นแต่หน่วยงาน สงู สดุ พจิ ารณาก่อน ของรัฐเห็นว่าจะมีปัญหาในทางเสียเปรียบหรือไม่รัดกุมพอ ก็ให้ส่งร่างสัญญาน้ันไปให้ สานักงานอัยการสูงสุดพิจารณาให้ ในกรณีที่ไม่อาจท ความเห็นชอบก่อน กาหนดได้ และจาเป็นต้อ สัญญาน้ันให้สานักงานอัยก
๓๘ รฐั มนตรวี า่ ดว้ ยการพัสดุ ขอ้ แตกต่าง และที่แกไ้ ขเพ่ิมเตมิ อกแบบและควบคมุ งานกระทาได้ ตามพระราชบัญญัติการจัดซ้ือจัดจ้างและการ บริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ กาหนดวิธีการจ้าง ออกแบบและควบคมุ งานให้กระทาได้ ๔ วิธี คือ ประกาศ เชิญชวนทั่วไป คัดเลือก เฉพาะเจาะจงและเพิ่มการ บบจากัดขอ้ กาหนด ประกวดแบบเข้ามา ซึ่งตามระเบียบสานักนายกรัฐมนตรี ว่าดว้ ยพัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ กาหนดวิธกี ารจ้างออกแบบและ ควบคุมงานกราทาได้ ๔ วิธี คือ ตกลง คัดเลือก คัดเลือก แบบจากดั ข้อกาหนดพิเศษ งนามในสัญญาในการจัดหาตาม แบบของสัญญาตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างฯ หัวหน้าส่วนราชการ และให้ทา ต้องทาตามที่คณะกรรมการกาหนดนโยบายกาหนดโดย กฤษตามตัวอย่างที่ กวพ. กาหนด ความเห็นชอบของสานักงานอัยการสูงสุด และต้อง ยใดถา้ จาเปน็ ต้องมขี อ้ ความหรือ ประกาศในราชกิจจานุเบกษาด้วย แต่ถ้าหากเป็นตาม วอย่างสัญญาท่ี กวพ. กาหนด ระเบียบพัสดุฯ กวพ. เป็นผู้กาหนดแบบสัญญาและไม่ได้ หนดไวใ้ นตวั อย่างสัญญาและไม่ กาหนดให้ต้องประกาศในราชกจิ จานุเบกษา ยบก็ให้กระทาได้ เว้นแต่หัวหน้า ตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างฯ กรณีที่หน่วยงาน ปัญหาในทางเสียเปรียบหรือไม่ ของรฐั ไม่ได้ทาสญั ญาตามแบบสญั ญา ไม่แก้ไขสัญญาตาม ญานั้นไปให้สานักงานอัยการ ความเห็นของสานักงานอัยการสูงสุด หรือคู่สัญญาไม่ตก ลงหรือยนิ ยอมใหแ้ กไ้ ขสญั ญาตามความเหน็ ของสานกั งาน ทาสัญญาตามตัวอย่างท่ี กวพ. อยั การสงู สดุ หากเปน็ ส่วนที่เป็นสาระสาคัญหรือเป็นกรณี งร่างสัญญาข้ึนใหม่ต้องส่งร่าง ผิดพลาดอย่างร้ายแรง ตามมาตรา ๑๐๔ ให้ถือว่าสัญญา การสูงสุดพิจารณาก่อน เว้นแต่ นั้นเป็นโมฆะ โดยกรณีนีร้ ะเบยี บพสั ดฯุ ไมไ่ ดก้ าหนดไว้
๓ พระราชบญั ญตั ิการจัดซื้อจดั จา้ ง ระเบยี บสานักนายกร และการบรหิ ารพสั ดภุ าครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๓๕ แ ในกรณีท่ีไม่อาจทาสัญญาตามแบบสัญญาตามวรรค หัวหน้าส่วนราชการเห็นสม หน่ึงได้ และจาเป็นต้องร่างสัญญาข้ึนใหม่ ให้ส่งร่างสัญญานั้น ผ่านการพิจารณาของสาน ไปให้สานักงานอัยการสูงสุดพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อน กระทาได้ เว้นแต่การทาสัญญาตามแบบท่ีสานักงานอัยการสูงสุดได้เคย สาหรับการเช่าซ ให้ความเห็นชอบมาแลว้ ก็ใหก้ ระทาได้ นอกจากค่าเช่า หรือในกรณ ในกรณีจาเป็นต้องทาสัญญาเป็นภาษาต่างประเทศ จะมีปัญหาในทางเสียเปร ให้ทาเป็นภาษาอังกฤษและต้องจัดทาข้อสรุปสาระสาคัญแห่ง สัญญาให้สานักงานอัยก สัญญาเป็นภาษาไทยตามหลักเกณฑ์ท่ีคณะกรรมการนโยบาย แลว้ แตก่ รณี ตรวจพจิ ารณา ประกาศกาหนดในราชกิจจานุเบกษา เว้นแต่การทาสัญญา ในกรณจี าเปน็ ตอ้ ง เป็นภาษาต่างประเทศตามแบบสัญญาที่คณะกรรมการ ให้ทาเป็นภาษาอังกฤษ แ นโยบายกาหนด เอกสารแนบทา้ ยสัญญาเฉพ ในกรณีท่ีหน่วยงานของรัฐไม่ได้ทาสัญญาตามแบบ เว้นแตเ่ ป็นการทาสัญญาตาม สัญญาตามวรรคหนึ่งหรือไม่ได้ส่งร่างสัญญา ให้สานักงาน แปลเป็นภาษาไทย อยั การสูงสดุ พิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนตามวรรคสองหรือ การทาสัญญาขอ วรรคสาม หรือตามมาตรา ๙๗ วรรคหน่ึง แล้วแต่กรณี ให้ จะทาสัญญาเป็นภาษาอัง หน่วยงานของรัฐส่งสัญญาน้ันให้สานักงานอัยการสูงสุด หน่วยงานน้ันต้ังอยู่ โดยผ่า พจิ ารณาให้ความเหน็ ชอบ ในภายหลังได้ เมอื่ สานักงานอัยการ หรือผรู้ ู้กฎหมายของส่วนรา สงู สดุ พิจารณาให้ความเห็นชอบแลว้ หรอื เมอ่ื สานกั งานอัยการ สูงสุด พิจารณาเห็นชอบแต่ให้แก้ไขสัญญา ถ้าหน่วยงานของ รัฐ แก้ ไ ข สั ญ ญ า นั้ น ใ ห้เ ป็น ไ ป ต า ม คว า ม เห็ น ขอ ง ส า นั กง า น อยั การสูงสุดแล้ว ให้ถอื ว่าสญั ญาน้ันมีผลสมบูรณ์ ในกรณีท่ีหน่วยงานของรัฐไม่ได้ทาสัญญาตามแบบ สัญญาตามวรรคหนึ่ง หน่วยงานของรัฐ ไม่แก้ไขสัญญาตาม
๓๙ ข้อแตกต่าง รฐั มนตรวี า่ ด้วยการพสั ดุ และท่ีแกไ้ ขเพิม่ เตมิ มควรทาสัญญาตามแบบที่เคย นักงานอัยการสูงสุดมาแล้ว ก็ให้ ซึ่ ง ผู้ เ ช่ า จ ะ ต้ อ ง เ สี ย เ งิ น อ่ื น ใ ด ณีท่ีหัวหน้าส่วนราชการเห็นว่า รียบหรือไม่รัดกุมพอ ให้ส่งร่าง ก า ร สู ง สุ ด ห รื อ อั ย ก า ร จั ง ห วั ด าก่อน งทาสัญญาเป็นภาษาต่างประเทศ แต่ต้องมีคาแปลตัวสัญญาและ พาะท่ีสาคัญเป็นภาษาไทยไว้ด้วย มตวั อย่างที่ กวพ. กาหนด ไม่ต้อง องส่วนราชการในต่างประเทศ งกฤษหรือภาษาของประเทศที่ านการพิจารณาของผู้เชี่ยวชาญ าชการนัน้ ๆ ก็ได้
๔ พระราชบญั ญตั กิ ารจัดซอื้ จดั จา้ ง ระเบยี บสานกั นายกร และการบรหิ ารพสั ดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๓๕ แ ความเห็นของสานักงานอัยการสูงสุด หรือคู่สัญญาไม่ตกลง - หรอื ยินยอมให้แกไ้ ขสญั ญาตามความเห็นของสานกั งานอัยการ สูงสุด หากข้อสัญญาที่แตกต่างจากแบบสัญญาหรือข้อสัญญา ทไ่ี มแ่ กไ้ ข ตามความเห็นของสานักงานอัยการสูงสุดเป็นส่วนที่ เป็นสาระสาคัญหรือเป็นกรณีผิดพลาดอย่างร้ายแรง ตาม มาตรา ๑๐๔ ให้ถอื ว่าสัญญานัน้ เป็นโมฆะ มาตรา ๙๔ การทาสัญญาของหน่วยงานของรัฐใน ต่างประเทศ จะทาสัญญาเป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาของ ประเทศที่หน่วยงานของรฐั นน้ั ตัง้ อยู่ โดยผ่านการพิจารณาของ ผู้เชย่ี วชาญของหน่วยงานของรฐั ก็ได้
๔๐ ข้อแตกต่าง รฐั มนตรีวา่ ด้วยการพัสดุ และที่แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ ไมม่ ี - ตามระเบียบพัสดุฯ กาหนดไว้ แต่ พ.ร.บ.การ จัดซื้อจัดจ้างฯ แยกมาเป็นอีกมาตราหน่ึง และตัดคาว่า “ผ้รู ้กู ฎหมาย” ออก
๔ พระราชบัญญตั กิ ารจดั ซ้ือจดั จา้ ง ระเบียบสานกั นายกร และการบริหารพสั ดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๓๕ แ มาตรา ๙๕ สัญญาที่ทาในราชอาณาจักร ต้องมี - ข้อตกลงในการห้ามคู่สัญญาไปจ้างช่วงให้ผู้อื่นทาอีกทอดหนึ่ง ไม่ว่าทั้งหมดหรอื แต่บางส่วน เว้นแต่การจ้างช่วงแต่บางส่วนที่ ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานของรัฐที่เป็นคู่สัญญาแล้ว ถ้า คู่สญั ญาไปจา้ งชว่ งโดยฝา่ ฝนื ข้อตกลงดงั กล่าว ตอ้ งกาหนดให้มี ค่าปรับสาหรับการฝา่ ฝนื ขอ้ ตกลงนัน้ ไมน่ อ้ ยกวา่ ร้อยละสบิ ของ วงเงนิ ของงานที่จา้ งชว่ งตามสัญญา มาตรา ๙๖ หนว่ ยงานของรัฐอาจจัดทาข้อตกลงเป็น ข้อ ๑๓๓ การจัด หนังสือโดยไม่ทาตามแบบสัญญาตามมาตรา ๙๓ ก็ได้ เฉพาะ ขอ้ ตกลงเปน็ หนังสือไวต้ ่อก ในกรณีดงั ตอ่ ไปน้ี ข้อ ๑๓๒ ก็ได้ โดยให้อย (๑) การจัดซ้ือจัดจ้างโดยวิธีคัดเลือกตามมาตรา ๕๖ ราชการ (๑) (ค) หรือการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจงตามมาตรา (๑) การซื้อ การจ ๕๖ (๒) (ข) (ง) หรือ (ฉ) หรือการจ้างท่ีปรึกษาโดยวิธี ตกลงราคา หรือการจ้างท เฉพาะเจาะจงตามมาตรา ๗๐ (๓) (ข) ไมเ่ กิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท (๒) การจดั ซ้อื จดั จา้ งจากหน่วยงานของรฐั (๒) การจัดหาท่ีค (๓) กรณีที่คู่สัญญาสามารถส่งมอบพัสดุได้ครบถ้วน ครบถ้วนภายในห้าวันทากา ภายในห้าวันทาการนับตั้งแต่วันถัดจากวันทาข้อตกลงเป็น ถดั จากวันทาขอ้ ตกลงเป็นห หนงั สือ (๓) การซื้อหรือก (๔) การเช่าซง่ึ ผู้เชา่ ไม่ตอ้ งเสียเงินอื่นใดนอกจากค่าเชา่ การจดั หาจากส่วนราชการ (๕) กรณีอ่ืนตามที่คณะกรรมการนโยบายประกาศ (๔) การซ้ือโดยวิธ กาหนดในราชกจิ จานเุ บกษา (๔) และ (๕)
๔๑ รัฐมนตรีวา่ ดว้ ยการพสั ดุ ขอ้ แตกตา่ ง และทีแ่ ก้ไขเพม่ิ เติม การหา้ มคู่สญั ญาทาการจ้างช่วง ข้อยกเว้นให้ทา ไมม่ ี - การจ้างช่วงได้ โดยตอ้ งไดร้ ับอนญุ าตจากหน่วยงานของรัฐ ที่เป็นคู่สัญญา ตลอดจนการกาหนดค่าปรับ เป็นการ กาหนดเพ่ิมเติมใหม่ ตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างฯ ซ่ึง ระเบยี บพสั ดฯุ ไมไ่ ด้กาหนดไว้ ดหาในกรณีดังต่อไปนี้ จะทา กรณีน้ี พ.ร.บ. การจัดซ้ือจัดจ้างฯ กาหนดว่า กนั โดยไม่ต้องทาเป็นสัญญาตาม การจดั หาในกรณีต่าง ๆ ตามมาตรานี้ จัดทาข้อตกลงเป็น ยู่ในดุลพินิจของหัวหน้าส่วน หนังสือโดยไม่จาเป็นต้องทาตามแบบสัญญาก็ได้ และใน กรณีท่ีการจัดซ้ือจัดจ้าง มีวงเงินเล็กน้อยตามที่กาหนดใน จ้าง หรือการแลกเปลี่ยนโดยวิธี กฎกระทรวง ต้องมีหลักฐานในการจัดซื้อ จัดจ้างนั้น โดย ท่ีปรึกษาโดยวิธีตกลงที่มีวงเงิน ไมจ่ าเปน็ ตอ้ งทาข้อตกลงเปน็ หนงั สือไว้ตอ่ กันกไ็ ด้ คู่สัญญา สามารถส่งมอบพัสดุได้ ารของทางราชการนับต้ังแต่วัน หนังสอื การจ้างโดยวิธีกรณีพิเศษ และ ธีพิเศษตามข้อ ๒๓ (๑) (๒) (๓)
๔ พระราชบัญญตั กิ ารจดั ซ้อื จดั จา้ ง ระเบียบสานกั นายกร และการบรหิ ารพสั ดภุ าครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๓๕ แ ในกรณีท่ีการจัดซื้อจัดจ้าง มีวงเงินเล็กน้อยตามที่ (๕) การจ้างโดยวธิ กาหนดในกฎกระทรวง จะไม่ทาขอ้ ตกลงเป็นหนังสอื ไว้ต่อกันก็ (๔) และ (๕) ได้ แตต่ อ้ งมีหลักฐานในการจัดซือ้ จัดจา้ งนัน้ (๖) การเชา่ ซ่ึงผู้เ ในการออกกฎกระทรวงตามวรรคสอง จะกาหนดวงเงิน คา่ เชา่ เล็กน้อยให้แตกต่างกันตามขนาดหรือประเภทของหน่วยงาน ในกรณีการจัดห ของรัฐกไ็ ด้ บาท หรือในกรณีการซ้ือห ตามข้อ ๓๙ วรรคสอง จะไมท่ กไ็ ด้ มาตรา ๙๗ สัญญาหรือข้อตกลงเป็นหนังสือท่ีได้ลง ขอ้ ๑๓๖ สญั ญาห นามแล้วจะแก้ไขไม่ได้ เว้นแต่ในกรณีดังต่อไปน้ีให้อยู่ใน นามแล้ว จะแก้ไขเปลี่ยนแ ดุลพินิจของผูม้ อี านาจท่ีจะพิจารณาอนมุ ตั ใิ ห้แก้ไขได้ จะเป็นความจาเป็นโดยไ (๑) เปน็ การแก้ไขตามมาตรา ๙๓ วรรคหา้ ประโยชน์ หรอื เป็นการแกไ้ (๒) ในกรณีท่ีมีความจาเป็นต้องแก้ไขสัญญาหรือ ให้อยู่ในอานาจของหัวหน ข้อตกลง หากการแก้ไขน้ันไม่ทาให้หน่วยงานของรัฐเสีย อนุมัติให้แก้ไขเปลี่ยนแป ประโยชน์ จะต้องปฏบิ ตั ิตามกฎหมาย (๓) เป็นการแก้ไขเพื่อประโยชน์แก่หน่วยงานของรัฐ ขอทาความตกลงในส่วนท หรอื ประโยชน์สาธารณะ แล้วแตก่ รณดี ว้ ย (๔) กรณอี น่ื ตามทก่ี าหนดในกฎกระทรวง การแก้ไขเปลี่ยนแ ในกรณีการแก้ไขสัญญาท่ีหน่วยงานของรัฐเห็นว่าจะ วรรคหนึ่ง หากมีความจาเป มีปัญหาในทางเสยี ประโยชนห์ รือไม่รดั กุมพอก็ให้ส่งร่างสัญญา เพิ่มหรือลดระยะเวลาส่งม ท่ีแก้ไขน้ันไปให้สานักงานอัยการสูงสุดพิจารณาให้ความ ทางาน ใหต้ กลงพรอ้ มกันไป
๔๒ รัฐมนตรีวา่ ด้วยการพสั ดุ ข้อแตกต่าง และทแ่ี ก้ไขเพิม่ เตมิ ธพี ิเศษตามข้อ ๒๔ (๑) (๒) (๓) เชา่ ไม่ตอ้ งเสียเงนิ อน่ื ใดนอกจาก หาซ่ึงมีราคาไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ หรือการจ้างซ่ึงใช้วิธีดาเนินการ ทาข้อตกลงเป็นหนังสือ ไว้ต่อกัน หรือข้อตกลงเปน็ หนังสือที่ได้ลง การแก้ไขสญั ญาทอี่ าจทาให้หนว่ ยงานของรัฐเสีย แปลงมิได้ เว้นแต่การแก้ไขน้ัน ประโยชน์หรือไม่รัดกุมพอ ให้ส่งร่างสัญญาที่แก้ไขน้ันไป ไม่ทาให้ทางราชการต้องเสีย ให้สานักงานอัยการสูงสุดพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อน ไขเพื่อประโยชน์แก่ทางราชการ และหากการแกไ้ ขสัญญาหรือข้อตกลงท่ีได้ ลงนามไปแล้ว น้าส่วนราชการท่ีจะพิจารณา พ.ร.บ.การจัดซ้ือจัดจ้างฯ กาหนดเงื่อนไขให้ผู้มีอานาจ ปลงได้ แต่ถ้ามีการเพ่ิมวงเงิน สามารถพิจารณาแก้ไขได้ แต่ตามระเบียบพัสดุฯ ไม่ได้ ยวา่ ดว้ ยวิธีการงบประมาณ หรือ กาหนดในกรณีนี้ไว้ เมื่อมีการแก้ไขสัญญาแล้ว มีผลทาให้ ที่ใช้เงินกู้ หรือเงินช่วยเหลือ วงเงินเพ่ิมขึ้นหรือลดลง พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างฯ ได้ กาหนดถึงอานาจในการอนุมัติแก้ไขสัญญา โดยให้ผู้มี แปลงสัญญาหรือข้อตกลงตาม อานาจอนมุ ัตสิ ั่งซอื้ หรือส่ังจ้างตามวงเงินเดิม เป็นผู้อนุมัติ ป็นต้องเพิ่มหรือลดวงเงิน หรือ การแก้ไขสัญญาหรือข้อตกลงด้วย ซ่ึงเป็นการลดข้ันตอน มอบของหรือระยะเวลาในการ การทางาน และขอ้ ถกเถยี งกนั ภายในหน่วยงานรฐั ด้วย ป
๔ พระราชบญั ญตั ิการจัดซอื้ จดั จา้ ง ระเบยี บสานักนายกร และการบริหารพสั ดุภาครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๓๕ แ เห็นชอบกอ่ น การแกไ้ ขสัญญาห สาหรบั การจัดหาท่ีเกี่ยวกับความม่ันคงแข็งแรง หรือ วรรคสองจะต้องปฏิบัติ งานเทคนิคเฉพาะอย่าง จะต้องได้รับการรับรองจากวิศวกร งบประมาณหรือกฎหมา สถาปนิกและวิศวกรผู้ชานาญการ หรือผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่ง จาเป็นต้องเพิ่มหรือลดวงเ รับผิดชอบหรือสามารถรับรองคุณลักษณะเฉพาะ แบบและ ส่งมอบหรือระยะเวลาในกา รายการของงานก่อสร้าง หรืองานเทคนิคเฉพาะอย่างนั้น ในกรณที มี่ กี ารแก แล้วแตก่ รณดี ้วย วงเงิน เมื่อรวมวงเงินตาม วงเงินทีเ่ พ่ิมข้นึ ใหม่แล้ว หา ผู้มีอานาจอนุมัติสั่งซ้ือหรือ ดาเนินการให้ผู้มีอานาจอน รวมดังกล่าวเป็นผูอ้ นมุ ตั กิ า ในกรณีท่ีมีการแก วงเงิน ให้ผู้มีอานาจอนุมัติส เปน็ ผู้อนุมัติการแก้ไขสญั ญ มาตรา ๙๘ ให้หน่วยงานของรัฐประกาศเผยแพร่ - สาระสาคัญของสัญญาหรือข้อตกลงที่ได้ลงนามแล้ว รวมทั้ง การแก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญาหรือข้อตกลงในระบบเครือข่าย สารสนเทศของกรมบัญชีกลางและของหน่วยงานของรัฐตาม หลักเกณฑแ์ ละวธิ ีการท่ีกรมบัญชีกลางกาหนด มาตรา ๙๙ รายละเอียดวิธีการและข้ันตอนการทา สัญญาท่ีไม่ได้บัญญัติไว้ในหมวดนี้ให้เป็นไปตามระเบียบที่ รฐั มนตรกี าหนด
๔๓ รัฐมนตรีวา่ ด้วยการพสั ดุ ขอ้ แตกตา่ ง และทีแ่ กไ้ ขเพมิ่ เตมิ หรือข้อตกลงตามวรรคหน่ึงหรือ ตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการ ยอื่นท่ีเก่ียวข้อง หากมีความ เงิน หรือเพิ่มหรือลดระยะเวลา ารทางาน ใหต้ กลงพรอ้ มกันไป ก้ไขสัญญาหรือข้อตกลงเพ่ือเพ่ิม มสัญญาหรือข้อตกลงเดิมและ ากวงเงินรวมดังกล่าวมีผลทาให้ อสั่งจ้างเปล่ียนแปลงไปจะต้อง นุมัติส่ังซ้ือหรือสั่งจ้างตามวงเงิน ารแก้ไขสัญญาหรอื ขอ้ ตกลงดว้ ย ก้ไขสัญญาหรือข้อตกลงเพ่ือลด สั่งซื้อหรือสั่งจ้างตามวงเงินเดิม ญาหรอื ขอ้ ตกลง ไม่มี - กรณีการประกาศเผยแพรส่ าระสาคัญของสัญญา หรือข้อตกลงที่ได้ลงนามแล้ว การแก้ไขเปล่ียนแปลง สัญญาหรือข้อตกลงในระบบเครือข่ายสารสนเทศของ กรมบัญชีกลางและของหน่วยงานของรัฐตามหลักเกณฑ์ และวิธีการท่ีกรมบัญชีกลางกาหนด สาหรับรายละเอียด วิธีการ ข้ันตอนการทาสัญญาท่ีไม่ได้บัญญัติไว้ในหมวดน้ี ใหเ้ ปน็ ไปตามระเบียบท่ีรัฐมนตรีกาหนด เป็นข้อกาหนดใหม่ ตาม พ.ร.บ. การจัดซือ้ จัดจา้ งฯ
๔ พระราชบัญญตั ิการจดั ซอื้ จดั จา้ ง ระเบียบสานักนายกร และการบริหารพสั ดภุ าครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๓๕ แ หมวด ๑๐ ข้อ ๑๓๗ ใหห้ วั ห การบรหิ ารสัญญาและการตรวจรบั พสั ดุ บอกเลิกสัญญาหรือข้อตกล มาตรา ๑๐๓ ในกรณีท่ีมีเหตุบอกเลิกสัญญาหรือ ผรู้ ับจ้างไม่สามารถทางานใ ข้อตกลงต่อไปน้ี ให้อยู่ในดุลพินิจของผู้มีอานาจท่ีจะบอกเลิก กาหนด สัญญาหรือข้อตกลงกับคสู่ ัญญา การตกลงกับคู่สัญ (๑) เหตตุ ามท่กี ฎหมายกาหนด ข้อตกลง ให้หัวหน้าส่วนรา (๒) เหตอุ ันเชื่อได้ว่าผู้ขายหรือผู้รับจ้างไม่สามารถส่ง เป็นประโยชน์แก่ทางราชก มอบงานหรือทางานให้แล้วเสรจ็ ไดภ้ ายในระยะเวลาท่ีกาหนด เสียเปรียบของทางราชกา หรอื ขอ้ ตกลงนนั้ ต่อไป (๓) เหตุอื่นตามท่ีกาหนดไว้ในพระราชบัญญัติน้ีหรือ ในสญั ญาหรอื ขอ้ ตกลง (๔) เหตอุ น่ื ตามระเบียบทร่ี ฐั มนตรกี าหนด ก า ร ต ก ล ง กั บ คู่ สั ญ ญ า ท่ี จ ะ บ อ ก เ ลิ ก สั ญ ญ า ห รื อ ข้อตกลง ให้ผู้มีอานาจพิจารณาได้เฉพาะในกรณีท่ีเป็น ประโยชน์แก่หน่วยงานของรัฐโดยตรงหรือเพื่อประโยชน์ สาธารณะ หรือเพ่ือแก้ไขข้อเสียเปรียบของหน่วยงานของรัฐ ในการท่จี ะปฏบิ ัตติ ามสัญญาหรือขอ้ ตกลงนน้ั ต่อไป ในกรณีที่หน่วยงานของรัฐมิได้เป็นฝ่ายบอกเลิก สญั ญาหรอื ข้อตกลง หรือการบอกเลิกสัญญา หรือข้อตกลงนั้น เป็นกรณีท่ีหน่วยงานของรัฐมิได้เรียกค่าปรับ แล้วแต่กรณี หาก คู่สัญญาเห็นว่า หน่วยงานของรัฐต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหาย คู่สัญญาจะยื่นคาขอต่อหน่วยงานของรัฐให้พิจารณาชดใช้ ค่าเสียหายก็ได้ในการนี้ หน่วยงานของรัฐต้องออกใบรับคาขอ
๔๔ รฐั มนตรวี า่ ดว้ ยการพสั ดุ ขอ้ แตกตา่ ง และทีแ่ กไ้ ขเพ่ิมเติม หน้าส่วนราชการพจิ ารณาใช้สทิ ธิ ตามระเบยี บพสั ดุ ฯ จะบอกเลิกสัญญาได้มีเพียง ลง ในกรณีท่ีมีเหตุอันเชื่อได้ว่า เหตุเดยี ว คือ มเี หตอุ นั เชอ่ื ไดว้ า่ ผู้รบั จ้างไม่สามารถทางาน ให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่ ให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาท่ีกาหนดในขณะที่ พ.ร.บ. การจัดซื้อจัดจ้าง ฯ เพิ่มเหตุในการบอกเลิกสัญญา คือ ญญาท่ีจะบอกเลิกสัญญาหรือ (๑) เหตุตามท่ีกฎหมายกาหนด (๒) เหตุอันเช่ือ าชการพิจารณาได้เฉพาะกรณีท่ี ได้วา่ ผู้ขายหรือผู้รับจา้ งไม่สามารถส่งมอบงานหรือทางาน การโดยตรง หรือเพื่อแก้ไขข้อ ให้แล้วเสร็จได้ภายในระยะเวลาท่ีกาหนด (๓) เหตุอ่ืนตามที่ รในการที่จะปฏิบัติตามสัญญา กาหนดไว้ในพระราชบัญญัติน้ีหรือในสัญญาหรือข้อตกลง (๔) เหตุอ่นื ตามระเบียบท่รี ัฐมนตรีกาหนด พ.ร.บ. การจัดซ้ือจัดจ้างฯ ยังได้กาหนดเพ่ิม หากคู่สัญญาเห็นว่า หน่วยงานของรัฐต้องรับผิดชดใช้ ค่าเสียหาย จะย่ืนคาขอต่อหน่วยงานของรัฐให้พิจารณา ชดใช้ค่าเสียหายก็ได้ โดยให้หน่วยงานของรัฐต้องออกใบรับ คาขอให้ไว้เป็นหลักฐาน และพิจารณาคาขอนั้นโดยไม่ ชักช้า พร้อมทั้งแจ้งผลการพิจารณาให้แก่คู่สัญญาด้วย หากคู่สญั ญายังไม่พอใจในผลการพิจารณาก็ให้มีสิทธิฟ้อง คดีต่อศาล เพ่ือเรียกให้ชดใช้ค่าเสียหายตามสัญญาต่อไป ทัง้ นี้ หลักเกณฑ์ วิธีการและระยะเวลาในการพิจารณาคาขอ ของหน่วยงานของรัฐ ให้เป็นไปตามระเบียบที่รัฐมนตรี กาหนด ซึ่งอย่างน้อยต้องกาหนดให้หน่วยงานของรัฐ แต่งตง้ั คณะกรรมการข้ึนเพ่ือพิจารณาค่าเสียหายและการ กาหนดวงเงินค่าเสียหายที่ต้องรายงานต่อกระทรวงการคลัง เพือ่ พจิ ารณาให้ความเห็นชอบ
๔ พระราชบญั ญตั กิ ารจดั ซอื้ จดั จา้ ง ระเบียบสานักนายกร และการบรหิ ารพสั ดภุ าครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๓๕ แ ให้ไว้เป็นหลักฐานและพิจารณาคาขอน้ันโดยไม่ชักช้า เมื่อ หน่วยงานของรัฐมีหนังสือแจ้งผลการพิจารณาเป็นเช่นใดแล้ว หากคู่สัญญายังไม่พอใจในผลการพิจารณาก็ให้มีสิทธิฟ้องคดี ต่อศาลเพ่ือเรียกให้ชดใช้ค่าเสียหายตามสัญญาต่อไป ทั้งน้ี หลักเกณฑ์ วิธีการและระยะเวลาในการพิจารณาคาขอของ หน่วยงานของรัฐ ให้เป็นไปตามระเบียบที่รัฐมนตรีกาหนดซึ่ง อย่ า ง น้ อ ย ต้ อง ก า หน ด ใ ห้ห น่ ว ย ง า น ข อ ง รั ฐ แ ต่ ง ต้ั ง คณะกรรมการข้ึนเพื่อพิจารณาค่าเสียหายและการกาหนด วงเงินค่าเสียหายท่ีต้องรายงานต่อกระทรวงการคลังเพ่ือ พิจารณาให้ความเหน็ ชอบ มาตรา ๑๐๒ การงดหรือลดค่าปรับให้แก่คู่สัญญา ข้อ ๑๓๙ การงด หรือการขยายเวลาทาการตามสัญญาหรือข้อตกลง ให้อยู่ใน หรือการขยายเวลาทาการต ดุลพินิจของผู้มีอานาจท่ีจะพิจารณาได้ตามจานวนวันที่มีเหตุ ในอานาจของหัวหน้าส่วน เกดิ ขึน้ จรงิ เฉพาะในกรณดี งั ตอ่ ไปนี้ จานวนวันท่มี เี หตุเกิดข้ึนจร (๑) เหตุเกิดจากความผิดหรือความบกพร่องของ (๑) เหตุเกดิ จากค หน่วยงานของรัฐ ส่วนราชการ (๒) เหตสุ ุดวสิ ยั (๒) เหตุสดุ วสิ ัย (๓) เหตุเกิดจากพฤติการณ์อันหนึ่งอันใดท่ีคู่สัญญา (๓) เหตุเกิดจา ไม่ตอ้ งรบั ผิดตามกฎหมาย ค่สู ญั ญาไมต่ อ้ งรับผิดตามก (๔) เหตอุ ื่นตามท่กี าหนดในกฎกระทรวง ใ ห้ ส่ ว น ร า ช ก า ร หลักเกณฑ์และวิธีการของดหรือลดค่าปรับให้แก่ คู่สัญญาต้องแจ้งเหตุดังกล คู่สัญญา หรือการขยายเวลาทาการตามสัญญาหรือข้อตกลง ๑๕ วัน นับแต่เหตุน้ันได้ส ใหเ้ ป็นไปตามระเบยี บท่ีรฐั มนตรีกาหนด เวลาที่กาหนด คู่สัญญาจะ
๔๕ รัฐมนตรีวา่ ดว้ ยการพัสดุ ข้อแตกตา่ ง และทีแ่ กไ้ ขเพ่มิ เติม การกาหนดในกรณีดงั กลา่ วขา้ งตน้ เปน็ กระบวนการ ข้ันตอนเยียวยาให้แก่คู่สัญญาก่อนท่ีจะมีการฟ้องร้อง ดาเนินคดีทางศาล ซ่ึงจะทาให้คดีที่หน่วยงานรัฐเป็น จาเลย หรือผูถ้ ูกฟอ้ งคดี มีจานวนลดลง ดหรือลดค่าปรับให้แก่คู่สัญญา พ.ร.บ. การจัดซอื้ จัดจ้างฯ เพม่ิ เหตใุ นการงดหรือ ตามสัญญาหรือข้อตกลง ให้อยู่ ลดค่าปรับให้แก่คู่สัญญา หรือการขยายเวลาทาการตาม นราชการที่จะพิจารณาได้ตาม สัญญาหรือข้อตกลง โดยเพ่ิม (๔) เหตุอ่ืนตามที่กาหนดใน รงิ เฉพาะกรณีดังต่อไปน้ี กฎกระทรวง และกาหนดว่าหลักเกณฑ์และวิธีการท่ี ความผดิ หรือความบกพร่องของ กระทาการดังกล่าว ให้เป็นไปตามระเบียบท่ีรัฐมนตรี กาหนด แต่ตามระเบียบพัสดุฯ จะกาหนดให้ส่วนราชการ ระบุไว้ในสัญญาว่าคู่สัญญาต้องแจ้งเหตุให้ส่วนราชการ กพฤติการณ์อันหน่ึงอันใดที่ ทราบภายใน ๑๕ วัน นับแต่เหตุนั้นได้สิ้นสุดลง หากมิได้ กฎหมาย แจ้งภายในเวลาที่กาหนด คู่สัญญาจะยกมากล่าวอ้างเพื่อ รระบุไว้ในสัญญากาหนดให้ ขอลดหรืองดค่าปรับ หรือขอขยายเวลาในภายหลังมิได้ ล่าวให้ส่วนราชการทราบภายใน เว้นแต่กรณีตาม (๑) ซึ่งมีหลักฐานชัดแจ้ง หรือส่วน สิ้นสุดลง หากมิได้แจ้งภายใน ราชการทราบดอี ยู่แลว้ ตั้งแตต่ ้น ะยกมากล่าวอ้างเพื่อขอลดหรือ การกาหนดหลักเกณฑ์และวิธีการของดหรือลด
๔ พระราชบญั ญตั กิ ารจดั ซ้ือจดั จา้ ง ระเบียบสานักนายกร และการบริหารพสั ดภุ าครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๓๕ แ งดค่าปรับ หรือขอขยายเวล ตาม (๑) ซ่งึ มหี ลักฐานชัดแ แลว้ ตงั้ แตต่ ้น มาตรา ๑๐๔ ในกรณีท่ีสัญญาหรือข้อตกลงเก่ียวกับ - การจัดซื้อจัดจ้างเกิดจากกรณีที่หน่วยงานของรัฐมิได้ปฏิบัติ ตามพระราชบัญญัติน้ี กฎกระทรวง ระเบียบ หรือประกาศที่ ออกตามความในพระราชบัญญตั นิ ้ี ในส่วนทไ่ี มเ่ ปน็ สาระสาคญั หรือผิดพลาดไม่ร้ายแรง หาทาให้สัญญาหรือข้อตกลงเกี่ยวกับ การจดั ซ้อื จดั จ้างน้นั เป็นโมฆะไม่ ให้คณะกรรมการนโยบายมีอานาจประกาศในระบบ เครอื ขา่ ยสารสนเทศของกรมบญั ชกี ลางกาหนดกรณีตัวอย่างที่ ถือว่าเป็นส่วนที่เป็นสาระสาคัญหรือเป็นกรณีผิดพลาดอย่าง ร้ายแรง หรือที่ไม่เป็นสาระสาคัญหรือเป็นกรณีผิดพลาดไม่ ร้ายแรงตามวรรคหนงึ่ ในกรณีท่ีมีปัญหาเก่ียวกับความเป็นโมฆะของสัญญา หรือข้อตกลงตามวรรคหน่ึง ให้คู่สัญญาฝ่ายหน่ึงฝ่ายใดเสนอ เรื่องต่อคณะกรรมการนโยบายเป็นผู้วนิ ิจฉัยช้ีขาด
๔๖ รัฐมนตรีวา่ ดว้ ยการพัสดุ ข้อแตกตา่ ง และทแ่ี กไ้ ขเพม่ิ เตมิ ลาในภายหลังมิได้ เว้นแต่กรณี ค่าปรับให้แก่คู่สัญญา หรือการขยายเวลาทาการตาม แจ้ง หรอื ส่วนราชการทราบดีอยู่ สัญญาหรือข้อตกลง ให้เป็นไปตามระเบียบท่ีรัฐมนตรี กาหนดน้ี ทาให้หน่วยงานรัฐมีมาตรฐานเดียวกันใน กระบวนการของการพิจารณาการงด ลด ค่าปรับ หรือ ขยายระยะเวลาทาการ ก่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ คู่สัญญาของรัฐ ไมม่ ี - พ.ร.บ.การจัดซ้ือจัดจ้างฯ กาหนดกรณีท่ีสัญญา หรือข้อตกลงที่หน่วยงานของรัฐ มิได้ปฏิบัติตาม พ.ร.บ. การจัดซื้อจัดจ้างฯ นี้ หากข้อสัญญาหรือข้อตกลงน้ัน ไม่ใช่สาระสาคัญหรือข้อผิดพลาดไม่ร้ายแรง สัญญา ข้อตกลง ไม่เป็นโมฆะ และให้คณะกรรมการนโยบาย มีอานาจกาหนดว่า กรณีใดเป็นสาระสาคัญ ผิดพลาด อย่างร้ายแรง หรือไม่เป็นสาระสาคัญ ไม่เป็นผิดพลาด ไม่ร้ายแรง และให้มีอานาจวินิจฉัยช้ีขาดปัญหาเก่ียวกับ ความเปน็ โมฆะของสัญญาหรือขอ้ ตกลง กรณีน้ี เป็นการกาหนดข้ึนใหม่ตาม พ.ร.บ. การจัดซ้ือจัดจ้างฯ แต่ตามระเบียบสานักนายกฯ ไม่ได้ กาหนดไว้
๔ พระราชบญั ญตั กิ ารจัดซ้อื จดั จา้ ง ระเบยี บสานักนายกร และการบรหิ ารพสั ดภุ าครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๓๕ แ มาตรา ๑๐๕ รายละเอียดวิธีการและขั้นตอนการ - บริหารสญั ญาและการตรวจรับพสั ดทุ ไี่ มไ่ ด้บัญญัติไว้ในหมวดนี้ ใหเ้ ป็นไปตามระเบยี บทีร่ ัฐมนตรีกาหนด หมวด ๑๑ - การประเมนิ ผลการปฏบิ ตั ิงานของผู้ประกอบการ มาตรา ๑๐๖ เพื่อประโยชน์ของหน่วยงานของรัฐ ในการพิจารณาคัดเลือกผู้ย่ืนข้อเสนอที่จะเข้ามาเป็นคู่สัญญา กับหน่วยงานของรัฐให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพให้หน่วยงาน ของรัฐประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้ประกอบการท่ีเข้าร่วม การจัดซ้ือจดั จา้ งกับหนว่ ยงานของรฐั การประเมนิ ผลการปฏิบัติงานตามวรรคหนึ่ง ให้พิจารณา ถึงความสามารถในการปฏิบัติงานให้แล้วเสร็จตามสัญญาของ คู่สัญญาเป็นสาคัญผู้ประกอบการรายใดท่ีมีผลการประเมิน ไมผ่ ่านเกณฑท์ ีก่ าหนด จะถูกระงับการยื่นข้อเสนอหรือทาสัญญา กับหน่วยงานของรัฐไว้ช่ัวคราว จนกว่าจะมีผลการปฏิบัติงาน เปน็ ไปตามเกณฑท์ ่กี าหนด หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลการปฏิบัติงานของ ผู้ประกอบการตามวรรคหนึ่ง วรรคสองและวรรคสาม ให้ เปน็ ไปตามระเบยี บทร่ี ัฐมนตรกี าหนด
๔๗ รฐั มนตรีวา่ ด้วยการพสั ดุ ขอ้ แตกต่าง และท่ีแก้ไขเพม่ิ เตมิ ตามระเบียบพัสดุฯ ไม่ได้กาหนดไว้ แต่ พ.ร.บ. ไมม่ ี - การจดั ซอ้ื จดั จ้างฯ กาหนดเพิ่มเติม ไมม่ ี - หมวด ๑๑ นี้ พ.ร.บ.การจัดซ้ือจัดจ้างฯ กาหนด เพิ่มเติมขึ้นใหม่ทั้งหมวด ท้ังนี้ เพ่ือให้หน่วยงานรัฐ พิจารณาคัดเลือกคู่สัญญาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยให้ พิจารณาความสามารถในการปฏิบัติงานให้แล้วเสร็จของ คสู่ ัญญาเปน็ สาคัญ กรณีน้ี การประเมินผลการปฏิบัติงานของ ผู้ประกอบการ ตามระเบียบพัสดุฯ ไม่ได้กาหนดไว้ แต่ พ.ร.บ.การจัดซื้อจดั จ้างฯ กาหนดเพม่ิ เติม
๔ พระราชบัญญตั ิการจัดซ้อื จดั จา้ ง ระเบียบสานักนายกร และการบริหารพสั ดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๓๕ แ มาตรา ๑๐๗ ผลการประเมินการปฏิบัติงานของ ผู้ประกอบการตามมาตรา ๑๐๖ ให้เป็นส่วนหน่ึงของเกณฑ์ใน การพิจารณาคัดเลือกผ้ยู ื่นข้อเสนอกับหน่วยงานของรัฐ มาตรา ๑๐๘ ในกรณีทเ่ี หน็ สมควร รฐั มนตรอี าจออก ระเบียบกาหนดการประเมินผลการปฏิบัติงานอ่ืนนอกเหนือ จากความสามารถในการปฏิบตั งิ านให้แลว้ เสรจ็ ตามสญั ญากไ็ ด้ เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพการ จดั ซอื้ จดั จา้ งและการบริหารพัสดุภาครัฐ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และใหน้ าบทบญั ญัติมาตรา ๑๐๖ วรรคสามและวรรคส่ี มาใช้ บงั คับกับการประเมินผลการปฏบิ ตั ิงานอ่นื โดยอนโุ ลม
๔๘ ขอ้ แตกตา่ ง รฐั มนตรีวา่ ด้วยการพสั ดุ และที่แกไ้ ขเพมิ่ เติม
๔ พระราชบญั ญตั ิการจดั ซ้ือจดั จา้ ง ระเบยี บสานกั นายกร และการบรหิ ารพสั ดภุ าครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๓๕ แ หมวด ๑๒ ข้อ ๑๔๕ ทวิ เ การทง้ิ งาน ดงั ตอ่ ไปนี้ มาตรา ๑๐๙ ในกรณีที่ปรากฏว่าผู้ยื่นข้อเสนอหรือ (๑) ผู้ที่ได้รบั การค คู่สัญญาของหน่วยงานของรัฐกระทาการดังต่อไปนี้ โดยไม่มี หรอื ขอ้ ตกลงภายในเวลาท่ที เหตุผลอันสมควร ให้ถือว่าผู้ยื่นข้อเสนอหรือคู่สัญญาน้ัน กระทาการอนั มีลักษณะเป็นการท้งิ งาน (๒) เม่ือคู่สัญญา ช่วงท่ีทางราชการอนุญาต (๑) เป็นผู้ย่ืนข้อเสนอท่ีได้รับการคัดเลือกแล้วไม่ยอม สญั ญาหรอื ข้อตกลงน้ัน ไปทาสญั ญาหรือขอ้ ตกลงเป็นหนังสอื กับหนว่ ยงานของรัฐภายใน เวลาที่กาหนด (๓) พัสดุที่ซ้ือหร ภายในระยะเวลาท่ีกาหนด (๒) คู่สัญญาของหน่วยงานของรัฐหรือผู้รับจ้างช่วงที่ ไม่ได้รับการแก้ไขให้ถูกต้อ หนว่ ยงานของรัฐอนุญาตให้รับช่วงงานได้ไม่ปฏิบัติตามสัญญา คสู่ ัญญา หรอื พสั ดทุ ี่ซือ้ หรือ หรอื ข้อตกลงเป็นหนังสอื นนั้ ใช้ไม่ได้มาตรฐาน หรือไม สัญญาหรือข้อตกลง ทาใ (๓) เม่ือปรากฏว่าผู้ยื่นข้อเสนอหรือคู่สัญญาของ ร้ายแรง หรอื หนว่ ยงานของรัฐกระทาการอันมีลักษณะเป็นการขัดขวางการ (๔) สาหรับงาน แขง่ ขนั ราคาอยา่ งเป็นธรรม หรือกระทาการโดยไมส่ จุ ริต ปรากฏว่าพัสดุหรือวัสดุที่ซ (๔) เมื่อปรากฏว่าผลการปฏบิ ตั ิตามสญั ญาของทปี่ รึกษา ช่วงท่ีทางราชการอนุญาตใ หรอื ไมไ่ ด้มาตรฐานหรอื ไม่ค หรือผู้ให้บริการงานจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้างมี ข้อบกพร่อง ผิดพลาด หรือก่อให้เกิดความเสียหายแก่ ใ ห้ หั ว ห น้ า ส่ ว น ปลัดกระทรวงโดยเร็ว เพ่ือ หน่วยงานของรฐั อย่างร้ายแรง คัดเลือก ผู้จาหน่าย ผู้รับจ้า (๕) เมื่อปรากฏว่าผู้ให้บริการงานจ้างออกแบบหรือ ทางราชการอนญุ าตใหร้ บั ช กรณี พร้อมทั้งเสนอความ ควบคุมงานก่อสร้างหรือผู้ประกอบการงานก่อสร้างไม่ปฏิบัติ ตามมาตรา ๘๘
๔๙ รฐั มนตรีวา่ ด้วยการพัสดุ ข้อแตกตา่ ง และทีแ่ ก้ไขเพิม่ เติม เมื่อปรากฏกรณีใดกรณีหนึ่ง ตามระเบยี บพัสดุฯ กาหนดรายละเอียดของการ พิจารณาการเป็นผู้ท้ิงงานเป็นกรณี ๆ ไป ตามประเภท คัดเลอื กแล้วไมย่ อมไปทาสัญญา การจัดซือ้ จดั จา้ ง แต่ตาม พ.ร.บ. การจัดซ้ือจัดจ้างฯ กาหนด ทางราชการกาหนด การกระทาอันมีลักษณะเป็นการทิ้งงาน (๑) - (๖) และ าของทางราชการหรือผู้รับจ้าง กาหนดหลักเกณฑ์วิธีการพิจารณาสั่งให้ผู้ย่ืนข้อเสนอหรือ ตให้รับช่วงงานได้ไม่ปฏิบัติตาม คู่สัญญาเป็นผู้ทิ้งงาน และการแจ้งเวียนรายช่ือผู้ทิ้งงาน ให้ เป็นไปตามระเบียบทรี่ ฐั มนตรีกาหนด รือจ้างทา เกิดข้อบกพร่องข้ึน สว่ นอานาจในการส่งั ใหเ้ ป็นผ้ทู งิ้ งานตามระเบียบ ดไว้ในสัญญาหรือข้อตกลง และ พัสดุฯ กาหนดให้เป็นอานาจของผู้รักษาการตามระเบียบ องจากผู้จาหน่าย ผู้รับจ้างหรือ แต่ตาม พ.ร.บ.การจัดซ้ือจัดจ้างฯ กาหนดให้เป็นอานาจ อจ้างไม่ได้มาตรฐาน หรือวัสดุที่ ของปลัดกระทรวงการคลังที่จะสั่งให้ผู้ยื่นข้อเสนอหรือ ม่ครบถ้วนตามท่ีกาหนดไว้ใน คู่สัญญาเป็นผู้ทิ้งงาน และให้ (๑) แจ้งเวียนรายช่ือผู้ท้ิงงาน ให้งานบกพร่องเสียหายอย่าง ใหห้ น่วยงานของรัฐทราบ (๒) แจง้ เวยี นในระบบเครือข่าย สารสนเทศของกรมบัญชีกลาง (๓) แจ้งให้ผู้ท้ิงงานทราบด้วย นก่อสร้างสาธารณูปโภค หาก ซึ่งการแจ้งเวียนรายชื่อผู้ท้ิงงานในระบบสารสนเทศของ ซื้อหรือจ้างหรือใช้โดยผู้รับจ้าง กรมบัญชกี ลางนี้ ระเบียบพสั ดุฯ ไมไ่ ด้กาหนดไว้ ให้รับช่วงงานได้ มีข้อบกพร่อง ตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างฯ ได้มีการกาหนด ครบถ้วนตาม (๓) เพ่ิมเติมให้ผู้ที่ถูกส่ังให้เป็นผู้ท้ิงงาน สามารถร้องขอให้ นราชการทารายงานไปยัง เพิกถอนการเป็นผู้ท้ิงงานได้ โดยอย่างน้อยต้องเป็นไป อพิจารณาให้บุคคลท่ีได้รับการ ตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปน้ี (๑) เป็นผู้ที่มีฐานะการเงิน าง คู่สัญญา หรือผู้รับจ้างช่วงท่ี ม่ันคง (๒) มีการชาระภาษีโดยถูกต้องตามกฎหมาย และ ชว่ งงานได้ เป็นผู้ทิ้งงาน แล้วแต่ (๓) ได้พ้นกาหนดระยะเวลาการแจ้งเวียนรายช่ือให้เป็นผู้ มเห็นของตนเพ่ือประกอบการ ท้ิงงานตามระเบยี บทีร่ ัฐมนตรีกาหนด
๕ พระราชบัญญตั ิการจัดซ้อื จดั จา้ ง ระเบยี บสานักนายกร และการบริหารพสั ดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๓๕ แ (๖) การกระทาอนื่ ตามทกี่ าหนดในกฎกระทรวง พจิ ารณาของปลัดกระทรวง ให้ปลัดกระทรวงการคลังเป็นผู้มีอานาจส่ังให้ผู้ย่ืน เม่ือปลัดกระทร ข้อเสนอหรอื คู่สญั ญาเป็นผทู้ ้งิ งาน และให้แจ้งเวียนรายช่ือผู้ทิ้ง กระทาตาม (๑) (๒) (๓) หร งานให้หน่วยงานของรัฐทราบกับแจ้งเวียนในระบบเครือข่าย เหตุผลอันสมควร และบุคค สารสนเทศของกรมบัญชกี ลางรวมท้ังแจง้ ให้ผู้ทง้ิ งานทราบดว้ ย ให้ปลดั กระทรวงส่งชอ่ื บุคค ในกรณีท่นี ติ ิบุคคลเปน็ ผทู้ งิ้ งาน ถ้าการกระทา ระเบยี บเพื่อพจิ ารณาส่ังให้เ ดังกล่าวเกดิ จากหนุ้ สว่ นผจู้ ัดการ กรรมการผจู้ ัดการ ผู้บริหาร ในกรณที ่เี ป็นโครง หรอื ผู้มอี านาจในการดาเนินงานในกิจการของนติ ิบุคคลน้นั ให้ และวงเงินท่ี กวพ. กาหนด ส่ังใหบ้ คุ คลดงั กลา่ วเป็นผู้ทิง้ งานด้วย แล้วเห็นวา่ บคุ คลดงั กล่าวข หลกั เกณฑแ์ ละวิธกี ารพจิ ารณาส่ังให้ผู้ยน่ื ขอ้ เสนอหรือคูส่ ัญญา ใหป้ ลดั กระทรวงรายงานไป เป็นผู้ทงิ้ งาน และการแจ้งเวยี นรายชือ่ ผทู้ ิง้ งาน ใหเ้ ป็นไปตาม เมื่อผู้รักษาการตา ระเบยี บท่รี ฐั มนตรีกาหนด ท่ไี ดฟ้ งั ความเห็นของ กวพ. มาตรา ๑๑๐ ผทู้ ถ่ี กู สั่งใหเ้ ปน็ ผทู้ ้งิ งานตามมาตรา ๑๐๙ ว่าบุคคลดังกล่าวสมควรเป อาจร้องขอให้ได้รับการเพิกถอนการเป็นผู้ท้ิงงานได้ โดยอย่าง ระเบียบสัง่ ให้บุคคลดังกล่า น้อยต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ ดงั ต่อไปนี้ งานไว้ในบัญชีรายชื่อผู้ทิ้งง งานให้สว่ นราชการอน่ื ทราบ (๑) เป็นผู้ทม่ี ฐี านะการเงินมนั่ คง ทราบทางไปรษณยี ล์ งทะเบ (๒) มีการชาระภาษโี ดยถูกตอ้ งตามกฎหมาย และ (๓) ไดพ้ น้ กาหนดระยะเวลาการแจ้งเวยี นรายชือ่ ให้ ในกรณีผู้รักษาก เป็นผู้ทง้ิ งานตามระเบยี บท่ีรัฐมนตรีกาหนด หลกั เกณฑ์และวธิ ีการในการขอเพิกถอนการเป็นผู้ทิ้ง ดังกล่าวไม่สมควรเป็นผู้ทิ้ง ใหป้ ลัดกระทรวงทราบ งานและการพิจารณาเพิกถอนการเป็นผู้ท้ิงงานให้เป็นไปตาม ระเบยี บทีร่ ัฐมนตรีกาหนด
๕๐ รัฐมนตรวี า่ ด้วยการพัสดุ ขอ้ แตกตา่ ง และท่แี ก้ไขเพมิ่ เติม งดว้ ย สาหรบั รายละเอียดหลักเกณฑ์และวิธีการในการ รวงพิจารณาแล้วเห็นว่า การ ขอเพิกถอน และการพิจารณาเพิกถอนการเป็นผู้ท้ิงงาน รือ (๔) เป็นการกระทาโดยไม่มี ใหเ้ ป็นไปตามระเบียบทรี่ ฐั มนตรกี าหนด คลดังกล่าวสมควรเป็นผู้ทิ้งงาน คลดงั กล่าวไปยงั ผูร้ กั ษาการตาม เป็นผทู้ งิ้ งานโดยเรว็ งการขนาดใหญ่ตามหลักเกณฑ์ ด หากปลัดกระทรวงพิจารณา ข้างต้นยังไม่สมควรเป็นผทู้ ้ิงงาน ปยงั กวพ. เพอื่ ทราบด้วย ามระเบียบได้พิจารณาหลังจาก . ตามขอ้ ๑๒ (๖) แลว้ และเห็น ป็นผู้ท้ิงงานก็ให้ผู้รักษาการตาม าวเป็น ผู้ทิ้งงานโดยระบุชื่อผู้ท้ิง งาน พร้อมท้ังแจ้งเวียนชื่อผู้ท้ิง บรวมท้ังแจ้งให้ผู้ทิ้งงานรายน้ัน บียนด้วย การตามระเบียบเห็นว่าบุคคล งงาน ให้แจ้งผลการพิจารณาไป
๕ พระราชบญั ญตั ิการจดั ซ้ือจดั จา้ ง ระเบียบสานกั นายกร และการบริหารพสั ดภุ าครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๓๕ แ มาตรา ๑๑๑ เม่ือได้มีการแจ้งเวียนรายช่ือผู้ท้ิงงาน ขอ้ 123 - 131 ตามมาตรา ๑๐๙ แล้ว ห้ามหน่วยงานของรัฐทาการจัดซ้ือจัด จ้างกับผู้ทิ้งงานซึ่งรวมถึงนิติบุคคลท่ีผู้ท้ิงงานเป็นหุ้นส่วน ผู้จัดการ กรรมการผู้จัดการผู้บริหาร หรือผู้มีอานาจในการ ดาเนินงานในกิจการของนิติบุคคลน้ันด้วย เว้นแต่จะได้มีการ เพกิ ถอนการเป็นผทู้ ง้ิ งานตามมาตรา ๑๑๐ แลว้ หมวด ๑๓ การบริหารพัสดุ มาตรา 112 ให้หน่วยงานของรัฐจัดให้มีการควบคุม และดูแลพัสดุที่อยู่ในความครอบครองให้มีการใช้และการ บริหารพัสดุที่เหมาะสม คุ้มค่า และเกิดประโยชน์ต่อ หนว่ ยงานของรัฐมากท่ีสุด มาตรา 113 การดาเนินการตามมาตรา 112 ซ่ึง รวมถึงการเก็บ บันทึก การเบิกจ่าย การยืม การตรวจสอบ การบารุงรักษา และการจาหน่ายพัสดุ ให้เป็นไปตามที่ รฐั มนตรีกาหนด
๕๑ ขอ้ แตกต่าง รัฐมนตรวี า่ ดว้ ยการพสั ดุ และทีแ่ ก้ไขเพ่ิมเติม 1 และ ขอ้ 146 - 161 จากระเบียบเดิมท่ีกาหนดเรื่องการบริหารพัสดุ และรายละเอียดของระเบียบไว้ในหมวด 3 โดยกาหนด แยกประเภทไว้ทั้งการเก็บรักษา การเบิก-จ่าย การยืม การแลกเปล่ียน การเช่า การจาหน่าย การจาหน่ายเป็น สูญ การส่งออกบัญชีหรือทะเบียน ไว้แยกกันในระเบียบ สานักนายกวา่ ดว้ ยการพัสดุ แต่พระราชบัญญัติการจัดซื้อ จัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ กาหนด รวมเร่ืองดังกล่าวไว้ในหัวข้อการบริหารพัสดุ ตามมาตรา 112 และ 113 โดยรายละเอียดแยกออกมาประกาศ ตามที่รัฐมนตรีกาหนด ซ่ึงการท่ีรัฐมนตรีมาจากฝ่าย การเมืองเป็นผู้สามารถกาหนดข้อกฎหมายเก่ียวกับการ บริหารพัสดุของภาครัฐได้ด้วยตัวเอง อาจทาให้มีการ กาหนดระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการบริหารพัสดุของรัฐ ให้เอ้ือประโยชน์แก่ข้าราชการการเมืองและพรรคพวกได้ ง่ายดายยงิ่ ขึน้
๕ พระราชบญั ญตั ิการจดั ซอื้ จดั จา้ ง ระเบียบสานักนายกร และการบริหารพสั ดภุ าครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๓๕ แ หมวด ๑๔ ข้อ 15 เบญจ เม การอทุ ธรณ์ ของผู้เสนอราคาหรือผู้เสนอ มาตรา 114 ผู้ซึ่งได้ยื่นข้อเสนอเพ่ือการจัดซ้ือจัด วรรคสองแลว้ หากปรากฏว เป็นผู้เสนอราคาท่ีมีผลประ จ้างพัสดุกับหน่วยงานของรัฐมีสิทธิอุทธรณ์เกี่ยวกับการจัดซื้อ หน้าทีตรวจสอบคุณสมบัต จัดจ้างพัสดุ ในกรณีท่ีเห็นว่าหน่วยงานของรัฐมิได้ปฏิบัติให้ เสนองานดังกล่าวทุกรายอ เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กาหนดใน พรบ. นี้ กฎ หรือผู้เสนองานในการเสนอ กระทรวง ระเบียบ หรือประกาศที่ออกตามความใน พรบ. นี้ เป็นเหตุให้ตนไม่ได้รับการประกาศผลเป็นผู้ชนะหรือไม่ได้รับ พร้อมทั้งแจ้งให้ผู้เสนอราค ทราบโดยพลนั การคดั เลอื กเป็นคู่สญั ญากับหนว่ ยงานของรฐั ผเู้ สนอราคาหรือผูถ้ มาตรา ๑๑๕ ผู้มีสิทธอิ ทุ ธรณจ์ ะย่นื อทุ ธรณ์ในเร่ือง เสนอราคาหรอื ผ้เู สนองานเ ผ ล ป ร ะ โ ย ช น์ ร่ ว ม กั น อ า ดงั ต่อไปน้ไี มไ่ ด้ (๑) การเลือกใช้วิธกี ารจัดซือ้ จัดจ้างหรือเกณฑท์ ีใ่ ชใ้ น ปลดั กระทรวงใน 3 วนั นับ การพจิ ารณาผลการจัดซอื้ จัดจา้ ง ตามพระราชบัญญตั ิน้ีของ เหตผุ ลของการอุทธรณแ์ ละ ในกรณีที่มีการย หนว่ ยงานของรัฐ (๒) การยกเลิกการจัดซอ้ื จัดจา้ งตามมาตรา ๖๗ ปลัดกระทรวงพิจารณาวิน อุ ท ธ ร ณ์ ท ร า บ โ ด ย พ ลั น (๓) การละเวน้ การอ้างถึงพระราชบญั ญัตนิ ้ี ปลัดกระทรวงให้ถือเป็นท กฎกระทรวง ระเบียบ หรอื ประกาศทอี่ อกตาม พระราชบญั ญัตนิ ้ใี นส่วนทเ่ี ก่ียวขอ้ งโดยตรงกบั การจัดซ้อื จัด เสนองานในการซ้ือหรือกา จา้ งในประกาศ เอกสาร หรือหนังสอื เชิญชวน ของหนว่ ยงาน หรือการจ้างออกแบบและ ของรัฐ สง่ คาวินิจฉัยอุทธรณ์ดงั กล่า การยน่ื อทุ ธรณ์ตาม (๔) กรณอี ื่นตามที่กาหนดในกฎกระทรวง การขยายระยะเวลาการเปิด
๕๒ รัฐมนตรีวา่ ด้วยการพัสดุ ขอ้ แตกตา่ ง และทแี่ ก้ไขเพิม่ เติม ม่ือได้มีการตรวจสอบคุณสมบัติ พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างฯ ให้สิทธิ องานแต่ละรายตามข้อ ๑๕ ตรี อทุ ธรณก์ บั ผู้ยืน่ ขอ้ เสนอเพอ่ื การจัดซอ้ื จัดจา้ งทกุ รายท่ีเห็น วา่ มีผู้เสนอราคาหรือผู้เสนองาน ว่าหน่วยงานของรัฐมิได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามระเบียบที่ ะโยชน์ร่วมกัน ให้เจ้าหน้าท่ีท่ีมี กาหนดใน พระราชบั ญญัติ.จัดซื้อจัดจ้างฯ หรือ ติตัดรายชื่อผู้เสนอราคาหรือผู้ กฎกระทรวง หรือระเบียบอื่นๆ ท่ีเป็นเหตุให้ตนไม่ได้รับ ออกจากการ เป็นผู้เสนอราคา การประกาศผลเป็นผ้ชู นะหรอื ไมไ่ ดร้ ับการคดั เลือกภายใน อราคาหรือเสนองานในคร้ังน้ัน 7 วัน นับแตก่ ารประกาศผลการจดั ซอ้ื จดั จา้ งในระบบของ คาหรือ ผู้เสนองานรายดังกล่าว กรมบัญชีกลาง แตกต่างจากระเบียบสานักนายกฯ เดิม ท่ีให้สิทธิอุทธรณ์ต่อผู้เสนอราคาจากการถูกตัดสิทธิการ ถกู ตดั รายช่อื ออกจากการเป็นผู้ เปน็ ผู้เสนอราคาใน 3 วนั หลังจากได้รบั แจง้ การตดั สทิ ธิ เพราะเหตทุ เ่ี ป็นผู้เสนอราคาที่มี นอกจากน้ันยังเปลี่ยนผู้พิจารณาอุทธรณ์จาก าจอุทธรณ์คาสั่งดังกล่าวต่อ ปลัดกระทรวงกระทรวงการคลังเป็นเปล่ียนเป็นส่วน บแตว่ ันได้รับแจ้งพร้อมท้ังแสดง ราชการนั้นๆ ที่ตัดสิทธิของผู้เสนอราคาหรือทาการจัดซ้ือ ะเอกสารท่เี กย่ี วข้องมาดว้ ย จัดจ้าง ซึ่งหน่วยราชการที่ทาการจัดซื้อจัดจ้างดังกล่าว ยื่นอุทธรณ์ตามวรรคสอง ให้ จะตอ้ งพิจารณาและวินจิ ฉัยอุทธรณ์ให้แล้วเสร็จภายใน 7 นิจฉัยอุทธรณ์ พร้อมทั้งแจ้งให้ผู้ วนั ทาการนบั แต่วนั ที่ไดร้ ับเรอ่ื งอุทธรณ์ โดยการพิจารณา น การวินิจฉัยอุทธรณ์ข อง อุทธรณ์หากเห็นด้วยกับผู้อุทธรณ์ก็ให้หน่วยราชการนั้นๆ ที่สุดสาหรับการเสนอราคาหรือ ดาเนินการตามที่ขออุทธรณ์ หากไม่เห็นด้วยไม่ว่าจะ ารจ้างทาพัสดุ การจ้างท่ีปรึกษา ทั้งหมดหรือบางส่วนกับการอุทธรณ์นั้นให้หน่วยงานนั้นๆ ควบคุมงานในครั้งน้ัน และให้ รายงานความเห็นพร้อมเหตุผลไปยังคณะกรรมการ าวให้ กวพ. ทราบดว้ ย พิจารณาอุทธรณ์ ภายใน 3 วันทาการนับแต่พ้นกาหนด มวรรคสอง ย่อมไม่เป็นเหตุให้มี 7 วัน ท่ีส่วนราชการจะต้องพิจารณาอุทธรณ์ให้เสร็จ ดซองสอบ ราคา ประกวดราคา ดังกลา่ ว
๕ พระราชบญั ญตั กิ ารจัดซ้ือจดั จา้ ง ระเบียบสานักนายกร และการบริหารพสั ดุภาครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๓๕ แ หรือเสนองาน แล้วแต่กรณ มาตรา 116 การอุทธรณ์ต้องทาเป็นหนังสือลง พิจารณาเห็นว่าการขยาย ลายมอื ชอื่ ผู้อทุ ธรณ์ หนังสือตามวรรคหนึ่งต้องใช้คาสุภาพ และระบุ ป ร ะ โ ย ช น์ แ ก่ ท า ง ร า ช ก ปลัดกระทรวงพิจารณาแล ข้อเท็จจริงและเหตุผลอันเป็นเหตุแห่งการอุทธรณ์ให้ชัดเจน อุทธรณ์ และเห็นว่าการย พร้อมแนบเอกสารหลักฐานทีเ่ ก่ียวข้องไปดว้ ย ประกวดราคา หรือ เสนอ ในกรณีทเ่ี ห็นสมควร รฐั มนตรอี าจออกระเบยี บ เป็นประโยชน์แก่ทางราชก กาหนดวธิ ีการอุทธรณ์เป็นอยา่ งอ่ืนหรือรายละเอียดเกีย่ วกบั การอุทธรณ์อ่นื ด้วยก็ได้ อานาจ ยกเลิกการเปิดซอง เสนองานดังกลา่ วได มาตรา ๑๑๗ ให้ผู้มีสิทธิอุทธรณ์ย่ืนอุทธรณ์ต่อ หน่วยงานของรัฐน้ันภายในเจ็ดวันทาการ นับแต่วันประกาศ ผ ล ก า ร จั ด ซื้ อ จั ด จ้ า ง ใ น ร ะ บ บ เ ค รื อ ข่ า ย ส า ร ส น เ ท ศ ข อ ง กรมบัญชกี ลาง มาตรา ๑๑๘ ให้หน่วยงานของรัฐพิจารณาและ วินิจฉัยอุทธรณ์ให้แล้วเสร็จภายในเจ็ดวันทาการ นับแต่วันท่ี ไดร้ ับอทุ ธรณ์ ในกรณีที่เหน็ ด้วยกบั อุทธรณ์ก็ให้ดาเนนิ การตาม ความเหน็ นัน้ ภายในกาหนดเวลา ดังกล่าว ในกรณีท่ีหน่วยงานของรัฐไม่เห็นด้วยกับอุทธรณ์ ไม่ ว่าท้ังหมดหรือบางส่วนให้เร่งรายงานความเห็น พร้อมเหตุผล ไปยงั คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ตามมาตรา ๑๑๙ ภายใน สามวันทาการนบั แตว่ ันที่ ครบกาหนดตามวรรคหนึง่
๕๓ รฐั มนตรีวา่ ด้วยการพัสดุ ขอ้ แตกตา่ ง และทแี่ ก้ไขเพ่มิ เตมิ ณี ทั้งนี้ เว้นแต่ปลัดกระทรวง โดยคณะกรรมการวนิ ิจฉยั อทุ ธรณ์มีเวลาพจิ ารณา ย ระยะเวลาดังกล่าวจะเป็น เรือ่ งอทุ ธรณ์ 30 วันนับแต่วันได้รับรายงานหากพิจารณา การอย่างย่ิง และในกรณีท่ี ไม่ทันกาหนดให้ขยายเวลาได้ 2 คร้ัง ครั้งละไม่เกิน 15 วัน ล้ว เห็นด้วยกับคาคัดค้านของผู้ ซ่ึงการวินิจฉัยของกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์ถือเป็นสิ้นสุด ยกเลิกการเปิดซองสอบราคา แม้ว่ากรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์จะพิจารณาไม่ทัน องานท่ีได้ดาเนินการไปแล้วจะ พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างฯ ก็ให้ถือว่าให้ยุติเร่ือง การอย่างยิ่ง ให้ปลัดกระทรวงมี และแจ้งผู้ชนะการจัดซ้ือจัดจ้างหรือผู้รับการคัดเลือก งสอบราคา ประกวดราคา หรือ ทราบและทาให้การจัดซื้อจัดจ้างต่อไป หรือหากมีมติ ประการใดก็ให้ถือปฏิบัติตามหากผู้ใดขัดขืนให้ถือว่ามี ความผิดฐานขัดคาส่ังเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมาย อาญา ตาม มาตรา 121 แห่งพระราชบัญญัติการจัดซ้ือ จัดจา้ งฉบับนี้ อย่างไรก็ตาม แม้ตามพระราชบัญญัตจิ ดั ซอื้ จัดจ้างฯ จะกล่าวว่าคาวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์ ถือเป็นส้ินสุดแต่ก็เปิดช่องให้ผู้อุทธรณ์ว่าหากยังเห็นว่า หน่วยงานของรัฐต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายยังคงมี สิทธิฟ้องคดีต่อศาลเพื่อเรียกให้หน่วยงานของรัฐชดใช้ ค่าเสยี หายกย็ งั สามารถทาได้ ทั้งนี้การการใช้สิทธิอุทธรณ์ตาม พระราชบัญญัติ การจัดซอ้ื จดั จ้างฯ ดังกล่าวต้องไมใ่ ชข่ อ้ ท่ตี อ้ งห้ามอุทธรณ์ ตามมาตรา 115 แห่งพระราชบัญญัติการจัดซ้ือจัดจ้างฯ ฉบับน้ี จากขอ้ กฎหมายดังกล่าวมีข้อสังเกตว่าระยะเวลา
๕ พระราชบัญญตั ิการจัดซือ้ จดั จา้ ง ระเบยี บสานักนายกร และการบริหารพสั ดภุ าครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๓๕ แ มาตรา ๑๑๙ เมือ่ ได้รับรายงานจากหน่วยงานของรัฐ ตามมาตรา ๑๑๘ ให้คณะกรรมการ พิจารณาอทุ ธรณพ์ จิ ารณา อทุ ธรณ์ใหแ้ ล้วเสรจ็ ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับรายงาน ดังกล่าว หากเร่ืองใดไม่อาจพิจารณาได้ทันในกาหนดน้ัน ให้ คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ขยายระยะเวลาออกไปได้ ไม่ เกินสองคร้ัง คร้ังละไม่เกินสิบห้าวันนับแต่วันที่ค รบ กาหนดเวลาดังกล่าว และแจ้งให้ผู้อุทธรณ์และผู้ชนะ การ จัดซ้อื จัดจา้ งหรือผูไ้ ด้รบั การคดั เลือกทราบ ในกรณีท่ีคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์เห็นว่า อุทธรณ์ฟังขึ้นและมีผลต่อการจัดซ้ือจัดจ้างอย่างมีนัยสาคัญ ให้คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ส่ังให้หน่วยงานของรัฐ ดาเนินการให้มีการจัดซ้ือจัดจ้างใหม่ หรือเริ่มจากขั้นตอนใด ตามท่ีเห็นสมควร ในกรณีท่ีคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ เหน็ วา่ อทุ ธรณ์ฟงั ไมข่ นึ้ หรือไมม่ ผี ลต่อการจดั ซอ้ื จัดจ้างอย่างมี นัยสาคัญ ให้แจ้งหน่วยงานของรัฐเพ่ือทาการจัดซื้อจัดจ้าง ต่อไป การวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ให้ เปน็ ท่สี ุด ในกรณีที่พ้นกาหนดระยะเวลาพิจารณาอุทธรณ์ตาม วรรคหน่ึงแล้ว คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ ยังพิจารณา ไมแ่ ลว้ เสรจ็ ใหย้ ตุ เิ ร่อื ง และใหค้ ณะกรรมการพจิ ารณาอทุ ธรณ์ แจ้งผู้อุทธรณ์และผู้ชนะ การจัดซื้อจัดจ้างหรือผู้ได้รับการ
๕๔ รัฐมนตรวี า่ ด้วยการพัสดุ ขอ้ แตกตา่ ง และที่แก้ไขเพม่ิ เติม อุ ท ธ ร ณ์ จ ะ เ พ่ิ ม ขึ้ น แ ล ะ มี ก า ร ก า ห น ด ร ะ ย ะ เ ว ล า แ ล ะ หน่วยงานตลอดจนรูปแบบของการอุทธรณ์และพิจารณา อุทธรณ์ไว้ชัดเจนในพระราชบัญญัติดังกล่าว แต่กรณีที่ เรื่องอุทธรณ์ท่ีพ้นกาหนดระยะเวลาในการพิจารณาของ คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ถือว่ายุติเร่ืองและให้ ดาเนนิ การจัดซ้ือจัดจ้างต่อไปได้น้ันเห็นว่าจะเป็นช่องโหว่ ของการปฏิบัติได้ หากว่ามีการดึงเวลาพิจารณาให้เลย ระยะเวลา กอ็ าจาทาใหก้ ารปอ้ งกนั ความเสียหายท่ีจะเกิด จากการจัดซ้ือจัดจ้างท่ีไม่ถูกต้องไม่อาจกระทาได้อย่างมี ประสิทธิผล เพราะแม้ผู้มีสิทธิอุทธรณ์จะยังมีสิทธิในทาง ศาลแต่ตาม พระราชบญั ญตั กิ ารจัดซือ้ จัดจา้ งฯ กาหนดว่า ผลของคาตัดสินในทางศาลไม่อาจมีผลกระทบต่อการ จดั ซ้ือจดั จา้ งทีไ่ ด้ลงนามไปแล้ว
๕ พระราชบัญญตั ิการจัดซอื้ จดั จา้ ง ระเบียบสานกั นายกร และการบรหิ ารพสั ดภุ าครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๓๕ แ คัดเลือกทราบ พร้อมกับแจ้งให้หน่วยงานของรัฐทาการจัดซ้ือ จดั จา้ งตอ่ ไป ผู้อุทธรณ์ผู้ใดไม่พอใจคาวินิจฉัยของคณะกรรมการ พิจารณาอุทธรณ์ หรือการยุติเร่ืองตามวรรคสี่ และเห็นว่า หน่วยงานของรัฐต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหาย ผู้นั้นมีสิทธิฟ้อง คดีต่อศาลเพื่อเรียกให้หน่วยงานของรัฐ ชดใช้ค่าเสียหายได้ แต่การฟ้องคดีดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อการจัดซ้ือจัดจ้างที่ หนว่ ยงานของรัฐไดล้ งนาม ในสญั ญาจัดซอื้ จดั จ้างนนั้ แล้ว หมวด ๑๕ ข้อ 10 ผู้มีอานา บทกาหนดโทษ หนึง่ ผู้ใดจงใจหรือประมาทเ มาตรา 120 เจ้าหน้าที่หรือผู้มีอานาจในการจัดซื้อ หรือกระทาการโดยมีเจ จัดจ้าง ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตาม พรบ.น้ี ปราศจากอานาจหรือนอก กฎกระทรวง ระเบียบ หรือประกาศท่ีออกตาม พรบ.นี้ โดยมิ พฤติกรรมที่เอ้ืออานวยแก ชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละ ให้มีการขัดขวางการแข่งขัน เว้นการปฏิบัติหน้าท่ีโดยทุจริต ระวางโทษจาคุก 1 – 10 ปี นนั้ กระทาผดิ วนิ ยั ตามกฎห ปรบั 20000 – 200000 บาท หรือทั้งจาท้ังปรับ หรือตามกฎหมายเฉพาะ ผใู้ ดเปน็ ผใู้ ช้หรือผสู้ นบั สนนุ การกระทาผิดตามวรรคหน่ึง หลักเกณฑ์ ดังนี้ ผนู้ ้ันตอ้ งระวางโทษทก่ี าหนดไว้สาหรบั ความผดิ ตามวรรคหนง่ึ (1) ถ้าการกระทา ม า ต ร า ๑ ๒ ๑ ผู้ ใ ด ไ ม่ ป ฏิ บั ติ ต า ม ค า สั่ ง ข อ ง ทางราชการเสียหายอย่าง คณะกรรมการวินิจฉัยตามมาตรา ๓๑ หรือคาส่ังของ อย่างตา่ ปลดออกจากราชก คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ตามมาตรา ๔๕ และ
๕๕ ขอ้ แตกต่าง รัฐมนตรีวา่ ด้วยการพสั ดุ และทแี่ กไ้ ขเพม่ิ เติม าจกระทาตามระเบียบนี้ หรือผู้ เปล่ียนแปลงลักษณะของผู้กระทาความผิด จาก เลนิ เล่อไมป่ ฏิบตั ิตามระเบียบน้ี เดิมท่ีกาหนดให้ผู้มีอานาจตามระเบียบหรือทาตาม จตนาทุจริต หรือกระทาโดย ระเบียบโดยปราศจากอานาจ เปน็ ผมู้ ีอานาจตามระเบียบ กเหนืออานาจหน้าท่ีรวมทั้งมี น้ีท่ีมีเจตนาปฏิบัติหน้าท่ีหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าท่ีโดย ก่ผู้เข้าเสนอราคาหรือเสนองาน ทจุ ริตเพื่อใหเ้ กิดความเสยี หายเทา่ น้นั นราคาอย่างเป็นธรรม ถือว่าผู้ เปลี่ยนแปลงบทกาหนดโทษจากเดิมกาหนดโทษ หมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการ ตามเจตนาประกอบกับความเสียหาย เป็นโทษจาคุก และ ะของส่วนราชการนั้น ภายใต้ ปรับหรือทั้งจาท้ังปรับ และยังเขียนเพิ่มเติมให้ชัดเจน ยิ่งขึ้นสาหรับทัง้ ตัวการและผู้สนับสนุนให้รับผิดเท่ากันกับ ามีเจตนาทุจริต หรือเป็นเหตุให้ ตวั การ แต่ พระราชบญั ญัตกิ ารจดั ซอ้ื จดั จ้างฯ ในมาตราน้ี งร้ายแรง ให้ดาเนินการลงโทษ ตัดในส่วนที่กล่าวว่าการลงโทษตามวินัยไม่ทาให้หลุดพ้น การ ความรับผิดทางแพ่งหรืออาญาออก อาจถูกใช้เป็นข้อโต้ โย่งแย้งว่าไม่ต้องรับผิดทางแพ่งเพราะว่าได้ต้องโทษปรับ ทางวินยั ไปแล้วได้
๕ พระราชบญั ญตั กิ ารจดั ซ้ือจดั จา้ ง ระเบยี บสานกั นายกร และการบริหารพสั ดภุ าครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๓๕ แ คณะกรรมการวินิจฉัยหรือคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ (2) ถา้ การกระทาเ แล้วแต่กรณี พิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นการไม่ปฏิบัติตามคาส่ัง แต่ไมร่ ้ายแรงให้ลงโทษอย่า โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ผู้น้ันมีความผิดฐานขัดคาส่ังเจ้า (3) ถ้าการกระท พนักงานตามประมวลกฎหมายอาญาให้ดาเนินคดีแก่ผู้น้ัน เสยี หาย ใหล้ งโทษภาคทัณ ตอ่ ไป คาส่งั เป็นลายลกั ษณ์อักษร การลงโทษตาม ผู้กระทาพ้นจากความรับผ ระเบียบของทางราชการท อาญา (ถา้ ม)ี บทเฉพาะกาล มาตรา ๑๒๒ ให้ระเบียบสานักนายกรัฐมนตรี ว่า ด้วยการพัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ และระเบียบ สานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๙ และบรรดาระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ ข้อบัญญัติ และ ข้อกาหนดใดๆ เก่ียวกับพัสดุ การจัดซ้ือจัดจ้าง หรือการ บริหารพัสดุ ของหน่วยงานของรัฐอื่นที่ไม่อยู่ภายใต้บังคับของ ระเบียบสานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ หรือระเบียบสานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการ ทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๙ แล้วแต่กรณี รวมท้ังมติ คณะรัฐมนตรีที่เก่ียวกับพัสดุ การจัดซื้อจัดจ้าง หรือการ บริหารพัสดุของหน่วยงานของรัฐ ยังคงใช้บังคับได้ต่อไปเท่าท่ี ไม่ขัดหรือแย้งกับพระราชบัญญัตินี้จนกว่าจะมีกฎกระทรวง
๕๖ รฐั มนตรวี า่ ด้วยการพัสดุ ขอ้ แตกตา่ ง และทีแ่ ก้ไขเพ่มิ เติม เป็นเหตุให้ทางราชการเสียหาย างตา่ ตัดเงนิ เดอื น ท า ไ ม่ เ ป็ น เ ห ตุ ใ ห้ ท า ง ร า ช ก า ร ณฑ์หรือว่ากล่าวตักเตือนโดยทา (1) และ (2) ไม่เป็นเหตุให้ ผิดในทางแพ่งตามกฎหมายและ ท่ีเก่ียวข้องหรือความรับผิดทาง พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้าง กาหนดให้ใช้ ระเบียบสานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ และระเบียบ สานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการ พัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๙ และ บรรดาระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ ข้อบัญญัติ และ ข้อกาหนดใดๆ เก่ียวกับพัสดุ การจัดซื้อจัดจ้าง หรือการ บริหารพสั ดุ ของหน่วยงานของรัฐอื่นท่ีไม่อยู่ภายใต้บังคับ ของระเบียบสานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ หรอื ระเบยี บสานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุ ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๙ แล้วแต่กรณี รวมทั้งมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวกับพัสดุ การจัดซ้ือจัดจ้าง หรือการบริหารพัสดุของหน่วยงานของรัฐไปพลางก่อน
๕ พระราชบญั ญตั กิ ารจดั ซือ้ จดั จา้ ง ระเบยี บสานกั นายกร และการบริหารพสั ดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๓๕ แ ระเบียบ หรือประกาศ ในเรอ่ื งน้ัน ๆ ตามพระราชบญั ญัตินใ้ี ชบ้ ังคบั - การดาเนินการออกกฎกระทรวง ระเบียบ หรือ ประกาศตามวรรคหนึ่ง ให้ดาเนินการให้แล้วเสร็จ ภายในหนึ่ง ปีนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ หากไม่สามารถ ดาเนนิ การไดใ้ ห้รัฐมนตรีรายงานเหตผุ ล ทไ่ี มอ่ าจดาเนนิ การได้ ต่อคณะรัฐมนตรีเพอ่ื ทราบ มาตรา ๑๒๕ ในวาระเร่ิมแรก ให้คณะกรรมการ ราคากลางออกประกาศกาหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการกาหนด ราคากลางและการข้ึนทะเบียนผปู้ ระกอบการที่มีสิทธิเป็นผู้ยื่น ข้อเสนอตอ่ หน่วยงานของรฐั ตามมาตรา ๓๔ (๑) และ (๗ ) ให้ แล้วเสร็จภายในเกา้ สิบวันนับแตว่ นั ทพ่ี ระราชบัญญตั นิ ใี้ ช้บงั คบั ในระหว่างท่ียังไม่มีประกาศตามวรรคหนึ่ง ให้นา หลักเกณฑ์และรายละเอียดประกอบการคานวณ ราคากลาง งานก่อสร้างที่คณะกรรมการกากับหลักเกณฑ์และตรวจสอบ ราคากลางงานกอ่ สร้างซ่งึ คณะรฐั มนตรี แตง่ ต้ังหรือหลักเกณฑ์ อื่นของหนว่ ยงานของรฐั ได้กาหนดไว้ก่อนวันที่พระราชบัญญัติ น้ีใช้บังคับ มาใช้บังคับโดยให้ถือเป็นหลักเกณฑ์และวิธีการ กาหนดราคากลางตามพระราชบัญญัติน้ีจนกว่าจะมีประกาศ ตามวรรคหน่ึง และให้คณะกรรมการกากับหลักเกณฑ์และ ตรวจสอบราคากลางงานกอ่ สร้างซงึ่ คณะรฐั มนตรแี ตง่ ตง้ั ยงั คง ปฏิบัติหน้าท่ีต่อไปจนกว่าคณะกรรมการราคากลางตาม พระราชบญั ญตั ินเี้ ขา้ รบั หนา้ ท่ี
๕๗ รัฐมนตรวี า่ ดว้ ยการพัสดุ ข้อแตกต่าง และทแี่ ก้ไขเพม่ิ เติม จนกว่าจะมีกฎกระทรวง ระเบียบ หรือประกาศ ในเร่ือง ไม่มี - น้ันๆใช้บงั คบั โดยการดาเนินการออกระเบียบเพ่ือใช้บังคับ ดังกล่าวต้องดาเนินการให้เสร็จใน 1 ปี ถ้าไม่เสร็จต้อง รายงานเหตผุ ลให้ ครม. ทราบ ให้คณะกรรมการราคากลางออกหลักเกณฑ์และ วธิ กี ารกาหนดราคาให้แล้วเสรจ็ ใน 90 วนั ในระหว่างนี้ให้ นาหลักเกณฑแ์ ละรายละเอียดประกอบการคานวณ ราคา กลางงานก่อสร้างที่คณะกรรมการกากบั หลักเกณฑ์และ ตรวจสอบราคากลางงานกอ่ สรา้ ง มาใช้บงั คับไปพลาง กอ่ น ให้คณะกรรมการกากับหลักเกณฑแ์ ละตรวจสอบ ราคากลางงานก่อสรา้ งซง่ึ คณะรฐั มนตรีแตง่ ตั้ง ยังคง ปฏบิ ตั ิหนา้ ทตี่ อ่ ไปจนกวา่ คณะกรรมการราคากลางตาม พระราชบญั ญัตนิ เ้ี ขา้ รับหน้าท่ี
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142