๑ พระราชบญั ญตั กิ ารจัดซือ้ จดั จา้ ง ระเบยี บสานักนายกร และการบริหารพสั ดุภาครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๓๕ แ หมวด ๓ ข้อ ๑๑ ใหม้ คี ณะ คณะกรรมการ โดยย่อว่ำ \"กวพ.\" ประกอ ส่วนที่ ๑ เปน็ ประธานกรรมการ อธิบด คณะกรรมการนโยบายการจดั ซอ้ื จัดจา้ งและการบรหิ ารพัสดุ กลาโหม ผู้แทนสำนักงำน สำนักงำนอัยกำรสูงสุด ผู้แ ภาครฐั มาตรา ๒๐ ให้มคี ณะกรรมการนโยบายการจดั ซื้อจัด สานักงานคณะกรรมการกฤษ จ้างและการบรหิ ารพสั ดุภาครฐั ประกอบด้วย ผู้แทนสานักงานปลัดสานักน (๑) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือรัฐมนตรี บรหิ ำรหนสี้ ำธำรณะ ผ้แู ทน ช่วยว่าการกระทรวงการคลังซ่ึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวง อุตสาหกรรม และผู้ทรงค การคลงั มอบหมาย เป็นประธานกรรมการ ไม่เกินห้าคน เป็นกรรมการ (๒) กรรมการโดยตาแหน่ง ได้แก่ ปลัดสานักนายก เป็นกรรมกำรและเลขำนุก รัฐมนตรี ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพ่ือ เลขำนุกำรไมเ่ กนิ สองคน เศรษฐกิจและสังคม เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ผู้ทรงคุณวุฒิซ่ึงนำ ผู้อานวยการสานักงบประมาณ อัยการสูงสุด อธิบดีกรมส่งเสริม ในตำแหน่งครำวละสองปีผ การปกครองท้องถ่ิน ผู้อานวยการสานักงานคณะกรรมการ อำจได้รับแตง่ ตงั้ อีกได้ นโยบายรัฐวิสาหกิจ ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และเลขาธิการ คณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ แห่งชาติ (๓) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจานวนไม่น้อยกว่าห้าคน แต่ไมเ่ กนิ เจ็ดคน ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งต้ังจากสภาวิศวกร สภา สถาปนิก สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาหกรรม แห่งประเทศไทยแห่งละหน่ึงคน ในส่วนที่เหลือให้แต่งตั้งจาก ผู้มีความรู้ ความเช่ียวชาญ หรือประสบการณ์ด้านวิศวกรรม สถาปัตยกรรม การเงิน การคลัง การบรหิ ารจัดการ วิทยาศาสตร์
๑๒ รฐั มนตรีวา่ ด้วยการพัสดุ ข้อแตกต่าง และทแี่ กไ้ ขเพ่ิมเติม ะกรรมกำรวำ่ ด้วยกำรพสั ดุ เรียก พระราชบัญญตั ิการจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหาร อบด้วย ปลัดกระทรวงกำรคลัง พัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ กาหนดให้มีคณะกรรมการ ดีกรมบัญชีกลาง ผู้แทนกระทรวง นโยบายการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ นกำรตรวจเงินแผ่นดิน ผู้แทน ในการเสนอแนะนโยบาย การกากับดูแลการจัดซ้ือจัดจ้าง แทนสำนักงบประมำณ ผู้แทน และการบริหารพัสดุภาครัฐของหน่วยงานของรัฐใหเ้ ป็นไป ษฎีกา ผู้แทนสานักงาน ป.ป.ช. ตามแนวทางของพระราชบัญญัติ รวมทั้งแนวทางในการ นายกรัฐมนตรี ผู้แทนสานักงาน พัฒนาปรับปรุงการจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหารพัสดุ นสำนักงำนมำตรฐำน ผลติ ภัณฑ์ ภาครัฐ การวินิจฉัยความเป็นโมฆะของสัญญาและ คุณวุฒิซ่ึงนายกรัฐมนตรีแต่งตั้ง ขอ้ ตกลง การตีความและวินิจฉัยปัญหา ข้อหารือเกี่ยวกับ และให้เจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลาง ประกาศท่ีคณะกรรมการนโยบายออกตามความในพระราช กำร กับให้ กวพ. แต่งต้ังผู้ช่วย บญั ญตั ิ รวมทง้ั ให้มคี ณะกรรมการวินิจฉัยปญั หาการจดั ซอ้ื จัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ คณะกรรมการราคากลาง ำยกรัฐมนตรีแต่งต้ัง มีวำระอยู่ และขนึ้ ทะเบียนผู้ประกอบการ คณะกรรมการความร่วมมือ ผู้ทรงคุณวุฒิซ่ึงพ้นจำกตำแหน่ง ป้องกันการทุจริต คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และ ข้อร้องเรียน แต่ตามระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วย การพัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพ่ิมเติม กาหนดให้มี เพยี งคณะกรรมการว่าดว้ ยการพสั ดเุ พยี งคณะเดียว
๑ พระราชบญั ญตั ิการจัดซอ้ื จดั จา้ ง ระเบียบสานกั นายกร และการบริหารพสั ดภุ าครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๓๕ แ และเทคโนโลยี หรือด้านอ่ืน ๆ ท่ีเกี่ยวข้องและเป็นประโยชน์ ตอ่ การดาเนนิ งานของคณะกรรมการนโยบาย ให้อธบิ ดกี รมบัญชีกลางเป็นกรรมการและเลขานุการ และให้ข้าราชการของกรมบัญชีกลางซึ่งอธิบดีกรมบัญชีกลาง มอบหมายจานวนสองคนเปน็ ผูช้ ว่ ยเลขานุการ มาตรา ๒๑ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิต้องมีคุณสมบัติ และไม่มีลกั ษณะต้องห้าม ดงั ตอ่ ไปน้ี (๑) มีสัญชาตไิ ทย (๒) มีอายุไม่ตา่ กว่าสามสบิ ห้าปี (๓) ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย หรือไม่เคยเป็นบุคคล ล้มละลายทจุ ริต (๔) ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ ความสามารถ (๕) ไม่เคยได้รับโทษจาคุกโดยคาพิพากษาถึงที่สุดให้ จาคุก เว้นแต่เป็นโทษสาหรบั ความผดิ ท่ีไดก้ ระทาโดยประมาท หรือความผิดลหโุ ทษ (๖) ไม่เป็นข้าราชการการเมือง ผู้ดารงตาแหน่งทาง การเมือง สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถ่ิน กรรมการ หรือผู้ดารงตาแหน่งอ่ืนในพรรคการเมือง หรือเจ้าหน้าท่ีของ พรรคการเมือง (๗) ไมม่ สี ่วนไดเ้ สยี หรอื มผี ลประโยชนข์ ดั แยง้ โดยตรง กบั การปฏบิ ัตหิ นา้ ท่ใี นตาแหนง่ กรรมการ
๑๓ ขอ้ แตกตา่ ง รฐั มนตรีวา่ ด้วยการพสั ดุ และที่แกไ้ ขเพมิ่ เติม
๑ พระราชบัญญตั กิ ารจดั ซ้ือจดั จา้ ง ระเบยี บสานกั นายกร และการบรหิ ารพสั ดภุ าครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๓๕ แ มาตรา ๒๒ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระอยู่ใน ตาแหน่งคราวละสามปี และอาจไดร้ บั แต่งตัง้ อีกได้ แต่จะดารง ตาแหนง่ ตดิ ต่อกันเกินสองวาระไมไ่ ด้ เมื่อครบกาหนดตามวาระในวรรคหน่ึง ให้ดาเนินการ แต่งตงั้ กรรมการผู้ทรงคณุ วฒุ ใิ หม่ภายในหกสิบวนั ในระหว่าง ที่ยงั มิไดแ้ ต่งตง้ั กรรมการผู้ทรงคณุ วฒุ ขิ ึน้ ใหม่ ใหก้ รรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิซ่งึ พ้นจากตาแหน่งตามวาระนน้ั อยใู่ นตาแหนง่ เพื่อดาเนินงานตอ่ ไปจนกวา่ กรรมการผู้ทรงคณุ วุฒซิ ึ่งไดร้ ับ แตง่ ตงั้ ใหมเ่ ขา้ รับหน้าที่ มาตรา ๒๓ นอกจากการพ้นจากตาแหนง่ ตามวาระ กรรมการผ้ทู รงคณุ วฒุ พิ น้ จากตาแหนง่ เม่อื (๑) ตาย (๒) ลาออก (๓) ขาดคณุ สมบัตหิ รอื มีลกั ษณะตอ้ งหา้ มตามมาตรา ๒๑ (๔) คณะรัฐมนตรใี หอ้ อก เพราะหย่อนความสามารถ บกพรอ่ งหรือทุจรติ ตอ่ หน้าทีห่ รือมีความประพฤติเส่ือมเสีย ในกรณที ี่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตาแหน่งก่อน วาระหรือมีการแต่งต้ังกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในระหว่างท่ี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่แต่งต้ังไว้แล้วยังมีวาระอยู่ในตาแหน่ง ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตั้งเพิ่มขึ้นหรือแต่งตั้งแทนตาแหน่งที่ว่าง ให้ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งน้ันดารงตาแหน่งได้เท่ากับวาระท่ีเหลืออยู่ ของกรรมการผูท้ รงคณุ วุฒทิ แ่ี ต่งต้ังไว้แล้วนั้น ทง้ั น้ี ในกรณีการ
๑๔ ขอ้ แตกตา่ ง รฐั มนตรีวา่ ด้วยการพสั ดุ และที่แกไ้ ขเพมิ่ เติม
๑ พระราชบัญญตั กิ ารจดั ซื้อจดั จา้ ง ระเบยี บสานกั นายกร และการบริหารพสั ดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๓๕ แ แตง่ ตัง้ แทนตาแหน่งที่ว่าง หากวาระที่เหลืออยู่ไม่ถึงเก้าสิบวัน จะไม่แตง่ ต้ังกรรมการผูท้ รงคุณวฒุ ิแทนกไ็ ด้ ในกรณที ่ีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตาแหน่งก่อน วาระ ใหค้ ณะกรรมการนโยบายประกอบดว้ ยกรรมการท้งั หมด เท่าที่มีอยู่จนกว่าจะมีการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตาม วรรคสอง มาตรา ๒๔ ให้คณะกรรมการนโยบายมีอานาจหนา้ ท่ี ดังตอ่ ไปน้ี (๑) เสนอแนะนโยบายการจดั ซอ้ื จดั จา้ งและการบริหาร พัสดุภาครัฐตอ่ คณะรัฐมนตรี (๒) เสนอแนะแนวทางในการพัฒนาและปรับปรุง ประสิทธิภาพการจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐต่อ คณะรัฐมนตรี เพ่ือให้เกิดความเป็นธรรมและมีประสิทธิภาพ ย่ิงขนึ้ (๓) กากับดูแลการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ ภาครัฐของหน่วยงานของรัฐให้เป็นไปตามแนวทางของ พระราชบญั ญตั นิ ้ี (๔) วินิจฉัยความเป็นโมฆะของสัญญาหรือข้อตกลง ตามมาตรา ๑๐๔ รวมท้ังตีความและวินิจฉัยปัญหาข้อหารือ เกี่ยวกับประกาศท่ีคณะกรรมการนโยบายออกตามความใน พระราชบญั ญัติน้ี (๕) กาหนดมาตรฐานการปฏิบัติงานและจรรยาบรรณ ของเจา้ หนา้ ท่ี
๑๕ ขอ้ แตกตา่ ง รฐั มนตรีวา่ ด้วยการพสั ดุ และที่แกไ้ ขเพมิ่ เติม
๑ พระราชบญั ญตั กิ ารจดั ซ้ือจดั จา้ ง ระเบียบสานกั นายกร และการบรหิ ารพสั ดุภาครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๓๕ แ (๖) กาหนดแนวทาง วิธีปฏิบัติ แบบหรือตัวอย่าง เ ก่ี ย ว กั บ ก า ร ป ฏิ บั ติ ต า ม ร ะ เ บี ย บ ที่ อ อ ก ต า ม ค ว า ม ใ น พระราชบญั ญตั นิ ้ี (๗) จัดทารายงานเก่ียวกับการปฏิบัติตามพระราช บญั ญตั นิ เ้ี สนอคณะรฐั มนตรอี ย่างน้อยปีละหนง่ึ ครง้ั (๘) ปฏิบัติหน้าที่อ่ืนตามท่ีกาหนดในพระราชบัญญัติ นี้ หรือตามที่รัฐมนตรหี รือคณะรฐั มนตรมี อบหมาย ใ น ก า ร ป ฏิ บั ติ ต า ม อ า น า จ ห น้ า ท่ี ต า ม ว ร ร ค ห นึ่ ง คณะกรรมการนโยบายอาจเชิญเจ้าหน้าท่ีท่ีเกี่ยวข้องหรือ บคุ คลอืน่ ใดมาแสดงความคดิ เห็น ชแ้ี จง หรอื ใหส้ ง่ เอกสารหรือ หลกั ฐานที่เกี่ยวขอ้ งเพอ่ื ประกอบการพิจารณาได้ ผลการดาเนินการตาม (๔) (๕) (๖) และ (๗) ให้ ประกาศในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลางตาม วธิ กี ารที่กรมบัญชีกลางกาหนด มาตรา ๒๕ การประชุมคณะกรรมการนโยบายต้องมี กรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจานวนกรรมการ ทัง้ หมด จงึ จะเปน็ องคป์ ระชมุ ใ ห้ ป ร ะ ธ า น ก ร ร ม ก า ร เ ป็ น ป ร ะ ธ า น ใ น ที่ ป ร ะ ชุ ม ถ้าประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าท่ีได้ ให้ทปี่ ระชมุ เลือกกรรมการซง่ึ มาประชุมคนหนงึ่ เป็นประธานใน ที่ประชมุ การวินิจฉัยช้ีขาดของท่ีประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหน่ึงให้มีเสียงหนึ่งในการลงคะแนนถ้าคะแนน
๑๖ ขอ้ แตกตา่ ง รฐั มนตรีวา่ ด้วยการพสั ดุ และที่แกไ้ ขเพมิ่ เติม
๑ พระราชบญั ญตั กิ ารจดั ซือ้ จดั จา้ ง ระเบียบสานกั นายกร และการบรหิ ารพสั ดภุ าครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๓๕ แ เสียงเท่ากัน ให้ประธานในท่ีประชุมออกเสียงเพ่ิมข้ึนอีกเสียง หนงึ่ เป็นเสียงชี้ขาด ประธานกรรมการหรือกรรมการผู้ใดมีส่วนได้เสียไม่ ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อมในเร่ืองซึ่งท่ีประชุมพิจารณา ห้ามมิให้ เข้าร่วมประชุมหรือมีมติในเรื่องนั้น ในกรณีที่มีเหตุอันควร สงสัยว่าประธานกรรมการหรือกรรมการผู้น้ันมีส่วนได้เสีย โดยตรงหรือโดยอ้อมในเรื่องซ่ึงที่ประชุมพิจารณาหรือไม่ ให้ท่ี ประชมุ พิจารณาตามระเบียบที่รัฐมนตรีกาหนด ซึ่งในระหว่าง ที่ประชุมพิจารณาเรื่องดังกล่าว ประธานกรรมการหรือ กรรมการผนู้ ัน้ เมื่อไดช้ ้แี จงและตอบข้อซักถามแล้วจะต้องออก จากที่ประชุม และให้ถือว่าคณะกรรมการนโยบายประกอบไป ด้วยประธานกรรมการและกรรมการทุกคน แล้วแต่กรณี ที่ ไม่ใชผ่ ตู้ อ้ งออกจากท่ีประชุมเพราะเหตุดงั กลา่ ว มาตรา ๒๖ คณะกรรมการนโยบายมีอานาจแต่งต้ัง คณะอนุกรรมการ เพื่อทำกำรใด ๆ แทนได้และให้นำ บทบัญญัติมำตรำ ๒๕ มำใช้บังคับกับกำรประชุมของ คณะอนุกรรมกำรโดยอนโุ ลม
๑๗ ขอ้ แตกตา่ ง รฐั มนตรีวา่ ด้วยการพสั ดุ และที่แกไ้ ขเพมิ่ เติม
๑ พระราชบญั ญตั กิ ารจัดซื้อจดั จา้ ง ระเบยี บสานกั นายกร และการบริหารพสั ดภุ าครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๓๕ แ สว่ นท่ี ๒ คณะกรรมการวนิ ิจฉยั ปญั หาการจัดซื้อจัดจ้างและการ บรหิ ารพสั ดุภาครฐั มาตรา ๒๗ ให้มีคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการ จดั ซอ้ื จัดจา้ งและการบริหารพัสดุภาครัฐ ประกอบด้วย (๑) ปลดั กระทรวงการคลัง เป็นประธานกรรมการ (๒) กรรมการโดยตาแหน่ง ได้แก่ อธิบดีกรมบัญชี กลาง ผู้แทนสานักงานปลัดสานักนายกรัฐมนตรี ผู้แทน สานักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคม ผู้แทน สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาผู้แทนสานักงบประมาณ ผู้แทนสานักงานอัยการสูงสุด ผู้แทนกรมส่งเสริมการปกครอง ทอ้ งถน่ิ และผแู้ ทนสานกั งานคณะกรรมการนโยบายรฐั วสิ าหกิจ (๓) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจานวนไม่น้อยกว่าห้าคน แต่ไม่เกินเจ็ดคนซึ่งปลัดกระทรวงการคลังแต่งตั้งจากผู้มี ความรู้ ความเชี่ยวชาญ หรือประสบการณ์ด้านวิศวกรรม สถาปัตยกรรม การเงิน การคลัง การบริหารจัดการวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี หรือด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องและเป็นประโยชน์ ต่อการดาเนินงานของคณะกรรมการวินิจฉัย ให้อธิบดีกรมบัญชีกลางมอบหมายข้าราชการของ กรมบัญชีกลางคนหน่ึงเป็นกรรมการและเลขานุการและอีก สองคนเปน็ ผ้ชู ่วยเลขานกุ าร
๑๘ ขอ้ แตกตา่ ง รฐั มนตรีวา่ ด้วยการพสั ดุ และที่แกไ้ ขเพมิ่ เติม
๑ พระราชบญั ญตั ิการจดั ซื้อจดั จา้ ง ระเบยี บสานกั นายกร และการบรหิ ารพสั ดุภาครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๓๕ แ มาตรา ๒๘ ให้นาบทบัญญัติมาตรา ๒๑ มาตรา ๒๒ และมาตรา ๒๓ มาใช้บงั คบั กบั กรรมการผ้ทู รงคุณวุฒิในส่วนที่ ๒ ของหมวด ๓ คณะกรรมการ โดยอนุโลม มาตรา ๒๙ ให้คณะกรรมการวินิจฉัยมีอานาจหน้าท่ี ดังต่อไปนี้ (๑) เสนอแนะแนวทางการปรบั ปรุงแก้ไขปัญหาเก่ียวกับ การจดั ซื้อจดั จา้ งและการบริหารพัสดตุ ่อคณะกรรมการนโยบาย (๒) ให้คาปรึกษาแนะนาแก่เจ้าหน้าท่ีหรือหน่วยงาน ของรัฐเกีย่ วกบั การปฏบิ ตั ิตามพระราชบัญญัตินี้ (๓) ตีความและวินิจฉัยปัญหาข้อหารือเก่ียวกับการ ปฏบิ ัติตามพระราชบัญญัตินี้ กฎกระทรวง หรือระเบียบท่ีออก ตามความในพระราชบญั ญัตินี้ (๔) ยกเว้นหรือผ่อนผันการไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวง หรอื ระเบยี บท่ีออกตามความในพระราชบญั ญัตนิ ี้ (๕) เสนอความเห็นต่อปลัดกระทรวงการคลังในการ พิจารณาส่ังให้ผู้ย่ืนขอ้ เสนอหรอื ค่สู ญั ญาเป็นผู้ท้ิงงาน และการ เพิกถอนรายช่ือผู้ท้ิงงาน รวมท้ังเสนอความเห็นต่อปลัดกระทรวง การคลังและรัฐมนตรีในการพิจารณาอุทธรณ์คาส่ังลงโทษให้ เป็นผูท้ ิ้งงาน (๖) จดั ทารายงานเกยี่ วกบั ปญั หาและอปุ สรรคในการ จดั ซือ้ จัดจ้างและการบรหิ ารพัสดุเสนอคณะกรรมการนโยบาย อยา่ งน้อยปีละหนึง่ คร้งั
๑๙ ขอ้ แตกตา่ ง รฐั มนตรีวา่ ด้วยการพสั ดุ และที่แกไ้ ขเพมิ่ เติม
๒ พระราชบญั ญตั ิการจัดซือ้ จดั จา้ ง ระเบียบสานักนายกร และการบริหารพสั ดภุ าครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๓๕ แ (๗) ปฏิบัตหิ น้าท่อี ืน่ ตามท่กี าหนดในพระราชบัญญัตินี้ หรือตามท่ีคณะกรรมการนโยบายรัฐมนตรี หรือคณะรัฐมนตรี มอบหมาย ผลการดาเนินการตาม (๒) (๓) (๔) และ (๖) ให้ ประกาศในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลางตาม วิธีการท่ีกรมบญั ชกี ลางกาหนด การตีความและวินิจฉัยปัญหาข้อหารือตาม (๓) ถ้า หน่วยงานของรัฐมีข้อหารือตามมาตรา ๘ มาตรา ๑๓ หรือ มาตรา ๑๔ ให้คณะกรรมการวินิจฉัยพิจารณาให้แล้วเสร็จ ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับข้อหารือ และให้คณะ กรรมการวินิจฉัยมีอานาจส่ังระงับการจัดซื้อจัดจ้างไว้ก่อนได้ หากเห็นสมควรเว้นแต่หน่วยงานของรัฐจะได้ลงนามในสัญญา จัดซอ้ื จดั จา้ งแลว้ ในกรณีท่ีคณะกรรมการวินิจฉัยได้มีคาวินิจฉัยตาม วรรคสามว่าการไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๘ มาตรา ๑๓ หรือ มาตรา ๑๔ มีผลต่อการจัดซ้ือจัดจ้างอย่างมีนัยสาคัญ ให้คณะ กรรมการวินิจฉัยมีอานาจส่ังยกเลิกการจัดซื้อจัดจ้างน้ัน เว้นแต่ หนว่ ยงานของรัฐจะไดล้ งนามในสัญญาจัดซือ้ จัดจา้ งแลว้ มาตรา ๓๐ คณะกรรมการวินิจฉัยมีอานาจแต่งตั้ง คณะอนุกรรมการเพื่อทาการใด ๆ แทนได้ ให้นาบทบัญญัติมาตรา ๒๕ มาใช้บังคับกับการ ประชุมของคณะกรรมการวินิจฉัยและคณะอนุกรรมการโดย อนุโลม
๒๐ ขอ้ แตกตา่ ง รฐั มนตรีวา่ ด้วยการพสั ดุ และที่แกไ้ ขเพมิ่ เติม
๒ พระราชบัญญตั ิการจัดซ้อื จดั จา้ ง ระเบียบสานักนายกร และการบริหารพสั ดภุ าครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๓๕ แ มาตรา ๓๑ คณะกรรมการวินิจฉัยมีอานาจเรียกให้ เจ้าหน้าท่ีท่ีเก่ียวข้องหรือบุคคลอ่ืนใดมาชี้แจงหรือให้ถ้อยคา หรือให้ส่งเอกสารหรือหลักฐานท่ีเกี่ยวข้องเพ่ือประกอบการ พิจารณาได้ ส่วนท่ี ๓ คณะกรรมการราคากลางและข้ึนทะเบียนผ้ปู ระกอบการ มาตรา ๓๒ ให้มีคณะกรรมการราคากลางและข้ึน ทะเบยี นผปู้ ระกอบการ ประกอบดว้ ย (๑) อธบิ ดีกรมบญั ชีกลาง เป็นประธานกรรมการ (๒) กรรมการโดยตาแหน่ง ได้แก่ ผู้แทนกระทรวง กลาโหม ผู้แทนกระทรวงการคลัง ผู้แทนกระทรวงดิจิทัลเพื่อ เศรษฐกิจและสังคม ผู้แทนกระทรวงพาณิชย์ ผู้แทนกระทรวง สาธารณสุข ผู้แทนสานักงบประมาณ ผู้แทนสานักงาน คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ผู้แทนกรมชลประทาน ผู้แทนกรมทางหลวง ผู้แทนกรมทางหลวงชนบท ผู้แทนกรม โยธาธิการและผังเมือง และผู้แทนสานักงานการตรวจเงิน แผ่นดิน (๓) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจานวนไม่น้อยกว่าเจ็ดคน แตไ่ มเ่ กินสิบเอ็ดคน ซึ่งปลัดกระทรวงการคลังแต่งตั้งจากสภา วิศวกร สภาสถาปนิก สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภา อุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยแหง่ ละหนง่ึ คน ในสว่ นทเ่ี หลอื ให้ แต่งต้ังจากผู้มีความรู้ ความเช่ียวชาญ หรือประสบการณ์ใน
๒๑ ขอ้ แตกตา่ ง รฐั มนตรีวา่ ด้วยการพสั ดุ และที่แกไ้ ขเพมิ่ เติม
๒ พระราชบัญญตั กิ ารจดั ซือ้ จดั จา้ ง ระเบียบสานักนายกร และการบรหิ ารพสั ดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๓๕ แ ด้านพัสดุหรือด้านอื่นอันเป็นประโยชน์ต่องานของคณะ กรรมการราคากลาง ให้อธิบดีกรมบัญชีกลางมอบหมายข้าราชการของ กรมบัญชกี ลางคนหนึง่ เป็นกรรมการและเลขานุการและอกี สองคน เปน็ ผชู้ ่วยเลขานกุ าร มาตรา ๓๓ ให้นาบทบัญญัติมาตรา ๒๑ มาตรา ๒๒ และมาตรา ๒๓ มาใช้บังคับกับกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในส่วนที่ ๓ ของหมวด ๓ คณะกรรมการ โดยอนโุ ลม มาตรา ๓๔ ให้คณะกรรมการราคากลางมีอานาจ หนา้ ท่ี ดังต่อไปน้ี (๑) ออกประกาศกาหนดหลักเกณฑ์และวิธีการกาหนด ราคากลาง (๒) กากับดูแลการกาหนดราคากลางให้เป็นไปตาม แนวทางของพระราชบญั ญัตินี้ (๓) ให้คาปรึกษาแนะนาแก่เจ้าหน้าท่ีหรือหน่วยงาน ของรัฐเกี่ยวกับการดาเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการ กาหนดราคากลาง (๔) ตีความและวินิจฉัยปัญหาข้อหารือเกี่ยวกับ หลักเกณฑแ์ ละวิธีการกาหนดราคากลาง (๕) ยกเว้นหรือผ่อนผันกรณีที่ไม่สามารถปฏิบัติตาม รายละเอียดของหลักเกณฑ์และวิธีการกาหนดราคากลางตาม (๑)
๒๒ ขอ้ แตกตา่ ง รฐั มนตรีวา่ ด้วยการพสั ดุ และที่แกไ้ ขเพมิ่ เติม
๒ พระราชบญั ญตั ิการจัดซ้อื จดั จา้ ง ระเบยี บสานักนายกร และการบริหารพสั ดภุ าครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๓๕ แ (๖) พิจารณาข้อร้องเรยี นกรณีที่เหน็ ว่าหน่วยงานของรัฐ มิไดป้ ฏบิ ัติใหเ้ ป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการกาหนดราคากลาง (๗) ออกประกาศกาหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และ เง่ือนไขในการข้ึนทะเบียนผู้ประกอบการท่ีมีสิทธิเป็นผู้ยื่น ข้อเสนอตอ่ หนว่ ยงานของรัฐ (๘) จัดทารายงานเกยี่ วกับปัญหาและอปุ สรรคในการ ดาเนินการกาหนดราคากลางของหน่วยงานของรัฐ และการ ขึ้ น ท ะ เ บี ย น ผู้ ป ร ะ ก อ บ ก า ร ท่ี มี สิ ท ธิ เ ป็ น ผู้ ยื่ น ข้ อ เ ส น อ ต่ อ หน่วยงานของรัฐเสนอคณะกรรมการนโยบายอย่างน้อยปีละ หนงึ่ ครงั้ (๙) ปฏบิ ัตหิ นา้ ที่อ่ืนตามท่ีกาหนดในพระราชบัญญัตินี้ หรือตามท่ีคณะกรรมการนโยบายรัฐมนตรี หรือคณะรัฐมนตรี มอบหมาย ผลการดาเนินการตาม (๑) (๔) (๕) (๖) (๗) และ (๘) ให้ประกาศในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลาง ตามวิธกี ารท่ีกรมบัญชกี ลางกาหนด ประกาศตาม (๑) และ (๗) ให้ประกาศในราชกิจจา นเุ บกษา มาตรา ๓๕ คณะกรรมการราคากลางต้องพิจารณา ทบทวนหลักเกณฑ์และวิธีการกาหนดราคากลางอย่างน้อยปี ละหนงึ่ คร้งั เมื่อได้ทบทวนหลักเกณฑ์และวิธีการกาหนดราคา กลางตามวรรคหนึ่งแล้ว ให้ประกาศในระบบเครือข่าย
๒๓ ขอ้ แตกตา่ ง รฐั มนตรีวา่ ด้วยการพสั ดุ และที่แกไ้ ขเพมิ่ เติม
๒ พระราชบญั ญตั กิ ารจัดซอ้ื จดั จา้ ง ระเบียบสานักนายกร และการบรหิ ารพสั ดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๓๕ แ สารสนเทศของกรมบัญชีกลางและประกาศในราชกิจจา นุเบกษาดว้ ย มาตรา ๓๖ คณะกรรมการราคากลางมีอานาจ แต่งต้ังคณะ อนุกรรมการเพื่อทาการใด ๆ แทนได้ ทั้งน้ี ให้ แต่งตัง้ ตามความเชี่ยวชาญในแต่ละประเภทของพัสดุ เช่น งาน กอ่ สรา้ ง ยาและเวชภณั ฑห์ รอื พัสดทุ เ่ี ก่ียวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ ให้นาบทบัญญัติมาตรา ๒๕ มาใช้บังคับกับการ ประชุมของคณะกรรมการราคากลางและคณะอนุกรรมการ โดยอนโุ ลม สว่ นที่ ๔ คณะกรรมการความร่วมมือป้องกันการทจุ ริต มาตรา ๓๗ ให้มีคณะกรรมการความร่วมมือป้องกัน การทุจรติ ประกอบด้วย (๑) ปลดั กระทรวงการคลงั เปน็ ประธานกรรมการ (๒) กรรมการโดยตาแหน่ง ได้แก่ อธิบดีกรมบัญชีกลาง ผู้แทนสานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ผู้แทนสานักงาน คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้แทน สานักงบประมาณ ผแู้ ทนสานักงานอยั การสูงสุด ผู้แทนสานักงาน คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ และผู้แทนสานักงาน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทจุ รติ แห่งชาติ (๓) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจานวนไม่น้อยกว่าห้าคน แต่ไม่เกินเจ็ดคน ซึ่งปลัดกระทรวงการคลังแต่งตั้งจากองค์กร
๒๔ ขอ้ แตกตา่ ง รฐั มนตรีวา่ ด้วยการพสั ดุ และที่แกไ้ ขเพมิ่ เติม
๒ พระราชบญั ญตั ิการจดั ซ้ือจดั จา้ ง ระเบยี บสานักนายกร และการบริหารพสั ดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๓๕ แ เอกชนท่ีจัดต้ังข้ึนโดยมีวัตถุประสงค์ในการต่อต้านการทุจริต หรือส่งเสริมด้านคุณธรรมและจริยธรรม ทั้งน้ี องค์กรเอกชน ดังกล่าวต้องเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายไทยท่ีมีผลงานเป็นท่ี ยอมรบั และได้ดาเนินงานมาแล้วไมน่ อ้ ยกว่าสองปี ให้อธิบดีกรมบัญชีกลางมอบหมายข้าราชการของ กรมบัญชีกลางคนหนึ่งเป็นกรรมการและเลขานุการและอีก สองคนเปน็ ผชู้ ่วยเลขานกุ าร มาตรา ๓๘ ให้นาบทบัญญัติมาตรา ๒๑ มาตรา ๒๒ และมาตรา ๒๓ มาใช้บงั คบั กับกรรมการผทู้ รงคุณวุฒิในส่วนท่ี ๔ ของหมวด ๓ คณะกรรมการ โดยอนุโลม มาตรา ๓๙ ให้คณะกรรมการ ค.ป.ท. มีอานาจ หน้าที่ ดงั ต่อไปนี้ (๑) กาหนดแนวทางและวิธีการในการดาเนินงาน โครงการความรว่ มมอื ป้องกนั การทจุ รติ ในการจดั ซ้ือจดั จ้างภาครัฐ (๒) กาหนดแบบของข้อตกลงคุณธรรมและแบบ รายงานของผสู้ ังเกตการณ์ (๓) คัดเลือกโครงการการจัดซ้ือจัดจ้างเพื่อเข้าร่วม โครงการความร่วมมือป้องกันการทจุ ริต ในการจัดซื้อจดั จา้ งภาครฐั (๔) คัดเลอื กผ้สู ังเกตการณเ์ พอื่ เขา้ ร่วมโครงการความ ร่วมมือป้องกนั การทจุ รติ ในการจัดซ้อื จดั จา้ งภาครัฐ
๒๕ ขอ้ แตกตา่ ง รฐั มนตรีวา่ ด้วยการพสั ดุ และที่แกไ้ ขเพมิ่ เติม
๒ พระราชบัญญตั กิ ารจัดซ้ือจดั จา้ ง ระเบียบสานักนายกร และการบริหารพสั ดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๓๕ แ (๕) ตีความและวินิจฉัยปัญหาข้อหารือเกี่ยวกับ แนวทางและวิธีการในการดาเนินงานโครงการความร่วมมือ ป้องกนั การทจุ รติ ในการจดั ซ้อื จัดจา้ งภาครัฐตาม (๑) (๖) ยกเว้นหรือผ่อนผันกรณีที่ไม่สามารถปฏิบัติตาม รายละเอยี ดของแนวทางและวิธีการในการดาเนนิ งานโครงการ ความร่วมมอื ปอ้ งกนั การทุจรติ ในการจัดซ้ือจัดจ้างภาครัฐตาม (๑) (๗) พิจารณาข้อร้องเรยี นกรณีท่ีเหน็ วา่ หนว่ ยงานของ รัฐมิได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามแนวทางและวิธีการในการ ดาเนินงานโครงการความร่วมมือป้องกันการทุจริตในการ จัดซอื้ จัดจ้างภาครฐั ตาม (๑) (๘) จดั ทารายงานผลการประเมินโครงการการจัดซ้ือ จดั จา้ งที่เขา้ รว่ มโครงการความร่วมมอื ป้องกันการทุจริตในการ จัดซื้อจัดจ้างภาครัฐเสนอคณะกรรมการนโยบายอย่างน้อยปี ละหนง่ึ คร้งั (๙) ปฏิบตั หิ นา้ ท่ีอืน่ ตามทก่ี าหนดในพระราชบญั ญัตนิ ้ี ผลการดาเนนิ การตามวรรคหน่งึ ให้ประกาศในระบบ เ ค รื อ ข่ า ย ส า ร ส น เ ท ศ ข อ ง ก ร ม บั ญ ชี ก ล า ง ต า ม วิ ธี ก า ร ท่ี กรมบัญชีกลางกาหนด มาตรา ๔๐ คณะกรรมการ ค.ป.ท. มีอานาจแต่งตั้ง คณะอนุกรรมการเพ่ือทาการใด ๆ แทนได้ ให้นาบทบัญญัติ มาตรา ๒๕ มาใช้บังคับกับการประชุมของคณะกรรมการ ค. ป.ท. และคณะอนุกรรมการโดยอนุโลม
๒๖ ขอ้ แตกตา่ ง รฐั มนตรีวา่ ด้วยการพสั ดุ และที่แกไ้ ขเพมิ่ เติม
๒ พระราชบัญญตั กิ ารจัดซ้อื จดั จา้ ง ระเบยี บสานักนายกร และการบรหิ ารพสั ดภุ าครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๓๕ แ สว่ นที่ ๕ คณะกรรมการพิจารณาอทุ ธรณ์และขอ้ รอ้ งเรียน มาตรา ๔๑ ให้มคี ณะกรรมการพจิ ารณาอุทธรณ์และ ขอ้ รอ้ งเรยี น ประกอบด้วย (๑) ปลดั กระทรวงการคลัง เป็นประธานกรรมการ (๒) กรรมการโดยตาแหน่ง ไดแ้ ก่ อธิบดีกรมบัญชีกลาง ผู้แทนสานักงานปลัดสานักนายกรัฐมนตรี ผู้แทนสานักงาน คณะกรรมการกฤษฎีกา ผู้แทนสานักงบประมาณ ผู้แทน สานกั งานอัยการสงู สดุ ผแู้ ทนกรมส่งเสรมิ การปกครองท้องถ่ิน ผแู้ ทนสานกั งานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ และผู้แทน สานกั งานการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ (๓) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจานวนไม่น้อยกว่าห้าคน แต่ไม่เกินเจ็ดคน ซึ่งปลัดกระทรวงการคลังแต่งต้ังจากสภา วิศวกร สภาสถาปนิก สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยแห่งละหนึ่งคน ในส่วนที่ เหลือให้แต่งต้ังจากผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ หรือประสบการณ์ ด้านวิศวกรรม สถาปัตยกรรม การเงิน การคลัง การบริหาร จัดการ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หรือด้านอ่ืน ๆ ที่เกี่ยวข้อง และเป็นประโยชน์ต่อการดาเนินงานของคณะกรรมการ พจิ ารณาอุทธรณ์
๒๗ ขอ้ แตกตา่ ง รฐั มนตรีวา่ ด้วยการพสั ดุ และที่แกไ้ ขเพมิ่ เติม
๒ พระราชบญั ญตั ิการจัดซื้อจดั จา้ ง ระเบียบสานักนายกร และการบรหิ ารพสั ดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๓๕ แ ให้อธิบดีกรมบัญชีกลางมอบหมายข้าราชการของ กรมบัญชีกลางคนหนึ่งเป็นกรรมการและเลขานุการและอีก สองคนเปน็ ผชู้ ่วยเลขานุการ มาตรา ๔๒ ให้นาบทบัญญัติมาตรา ๒๑ มาตรา ๒๒ และมาตรา ๒๓ มาใช้บังคบั กบั กรรมการผทู้ รงคุณวุฒิในส่วนท่ี ๕ ของหมวด ๓ คณะกรรมการ โดยอนโุ ลม มาตรา ๔๓ ให้คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์มี อานาจหนา้ ที่ ดงั ตอ่ ไปนี้ (๑) พิจารณาและวินจิ ฉัยอทุ ธรณ์ตามมาตรา ๑๑๙ (๒) พจิ ารณาขอ้ รอ้ งเรยี นกรณีท่ีเห็นว่าหนว่ ยงานของ รัฐมิได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามแนวทางของพระราชบัญญัตินี้ กฎกระทรวง หรือระเบยี บทีอ่ อกตามความในพระราชบญั ญตั นิ ี้ (๓) จัดทารายงานเกย่ี วกับปัญหาและอุปสรรคในการ ดาเนินการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียนเสนอคณะ กรรมการนโยบายอยา่ งนอ้ ยปีละหน่งึ ครัง้ (๔) ปฏบิ ตั หิ น้าทอี่ ่ืนตามทก่ี าหนดในพระราชบัญญัตินี้ หรอื ตามท่คี ณะกรรมการนโยบาย รฐั มนตรี หรือคณะรัฐมนตรี มอบหมาย ผลการดาเนินการตาม (๑) (๒) และ (๓) ให้ประกาศ ในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลางตามวิธีการท่ี กรมบัญชีกลางกาหนด
๒๘ ขอ้ แตกตา่ ง รฐั มนตรีวา่ ด้วยการพสั ดุ และที่แกไ้ ขเพมิ่ เติม
๒ พระราชบญั ญตั กิ ารจัดซอื้ จดั จา้ ง ระเบยี บสานักนายกร และการบริหารพสั ดภุ าครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๓๕ แ การยื่นข้อร้องเรียนและการพิจารณาข้อร้องเรียน ตาม (๒) ใหเ้ ปน็ ไปตามระเบยี บที่รัฐมนตรีกาหนด ในกรณีท่พี ิจารณาข้อร้องเรียนตาม (๒) แล้วรับฟังได้ ว่าหน่วยงานของรัฐมิได้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ หรือ กฎกระทรวงหรอื ระเบยี บท่ีออกตามความในพระราชบัญญัติน้ี ให้คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์มีอานาจส่ังระงับการจัดซ้ือ จัดจา้ งไวก้ ่อนได้ เวน้ แต่จะไดล้ งนามในสัญญาจัดซอื้ จดั จา้ งแล้ว ในกรณีท่ีคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์กระทาการ ตามหน้าที่โดยสุจริต ย่อมได้รับการคุ้มครอง ไม่ต้องรับผิดทั้ง ทางแพ่ง ทางอาญา หรือทางปกครอง มาตรา ๔๔ คณะกรรมการพจิ ารณาอุทธรณ์มีอานาจ แต่งต้งั คณะอนุกรรมการเพือ่ ทาการใด ๆ แทนได้ ให้นาบทบัญญัติมาตรา ๒๕ มาใช้บังคับกับการประชุม ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และคณะอนุกรรมการ โดยอนุโลม ให้นาบทบัญญัติมาตรา ๔๓ วรรคห้า มาใช้บังคับกับ การกระทาการตามหนา้ ทีข่ องคณะอนกุ รรมการโดยอนโุ ลม มาตรา ๔๕ คณะกรรมการพจิ ารณาอุทธรณ์มีอานาจ เรียกให้เจ้าหน้าท่ีที่เก่ียวข้องหรือบุคคลอ่ืนใดมาชี้แจงหรือให้ ถ้อยคา หรอื ให้ส่งเอกสารหรอื หลักฐานทเี่ กย่ี วข้องเพอ่ื ประกอบการ พิจารณาได้
๒๙ ขอ้ แตกตา่ ง รฐั มนตรีวา่ ด้วยการพสั ดุ และที่แกไ้ ขเพมิ่ เติม
๓ พระราชบัญญตั ิการจัดซอื้ จดั จา้ ง ระเบยี บสานักนายกร และการบรหิ ารพสั ดุภาครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๓๕ แ หมวด ๔ - องคก์ รสนบั สนุนดูแลการจดั ซอ้ื จัดจ้างและการบรหิ ารพัสดุ ภาครัฐ มาตรา ๔๖ ให้กรมบัญชีกลางมีหน้าท่ีในการดูแล และพัฒนาระบบการจัดซ้ือจัดจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ และการประกาศเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างใน ระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลาง เพื่อให้ สาธารณชนสามารถเข้าตรวจดูได้ มาตรา ๔๗ ใหก้ รมบัญชีกลางมีหน้าท่ีจัดทาฐานข้อมูล ราคาอ้างอิงของพัสดุเพื่อให้หน่วยงานของรัฐใช้เป็นข้อมูล ประกอบการจัดซ้ือจัดจ้างพัสดุน้ัน และให้เผยแพร่ข้อมูล ดงั กล่าวในระบบเครือขา่ ยสารสนเทศของกรมบัญชีกลาง การกาหนดราคาอ้างอิงของพัสดุต้องคานึงถึงราคา ตลาดของพัสดุนั้น และการกาหนดราคาอ้างอิงของพัสดุอย่าง เดยี วกันจะไมใ่ ช้ราคาเดียวกนั ทัว่ ประเทศกไ็ ด้ กรมบัญชกี ลางต้องปรบั ปรุงฐานข้อมูลตามวรรคหนึ่ง อย่างนอ้ ยปีละสองครง้ั มาตรา ๔๘ ให้กรมบัญชีกลางมีหน้าที่รวบรวม วิเคราะห์ และประเมนิ ผลการปฏิบัติงานตามพระราชบัญญัตินี้ แ ล ะ จั ด ท า ร า ย ง า น เ ก่ี ย ว กั บ ปั ญ ห า แ ล ะ อุ ป ส ร ร ค ใ น ก า ร ดาเนินการพร้อมข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนาและปรับปรุง ประสิทธิภาพการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ
๓๐ รฐั มนตรีวา่ ดว้ ยการพสั ดุ ขอ้ แตกต่าง และที่แก้ไขเพ่มิ เติม พระราชบญั ญตั ิการจัดซือ้ จัดจ้างและการบริหาร ไม่มี - พัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ กาหนดให้มีองค์กรสนับสนุน ดูแลการจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ได้แก่ กรมบัญชีกลางมีหน้าท่ีในการดูแลและพัฒนาระบบการ จัดซื้อจัดจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ การเผยแพร่ข้อมูล ในระบบเครอื ขา่ ยสารสนเทศ หนา้ ทจ่ี ดั ทาฐานขอ้ มูลราคา อ้างอิงของพสั ดุ มหี นา้ ท่ีรวบรวมวิเคราะห์ ประเมินผล และ จดั ทารายงานเกี่ยวกับการปฏิบัติงานตามพระราชบัญญัติ เป็นต้น โดยเป็นบทบัญญัติที่เพิ่มเติมจากระเบียบสานัก นายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไข เพ่มิ เติม
๓ พระราชบัญญตั กิ ารจดั ซ้อื จดั จา้ ง ระเบียบสานักนายกร และการบริหารพสั ดุภาครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๓๕ แ เสนอคณะกรรมการนโยบายอยา่ งนอ้ ยปีละหน่ึงคร้ัง เพื่อประโยชน์ในการดาเนินการตามวรรคหนึ่ง ให้ ห น่ ว ย ง า น ข อ ง รั ฐ ส่ ง ร า ย ง า น ผ ล ก า ร ป ฏิ บั ติ ง า น ต า ม พระราชบัญญัติน้ีต่อกรมบัญชีกลาง ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไขทีก่ าหนดในกฎกระทรวง รายงานตามวรรคหน่งึ เม่อื คณะกรรมการนโยบายให้ ความเห็นชอบแล้ว ให้ประกาศในระบบเครือข่ายสารสนเทศ ของกรมบัญชีกลาง มาตรา ๔๙ ให้กรมบัญชีกลางมีหน้าท่ีในการกาหนด และจัดให้มีหลักสูตรการฝึกอบรมเพื่อส่งเสริมและพัฒนา เจา้ หนา้ ท่ีใหม้ คี วามร้แู ละความเชย่ี วชาญเกี่ยวกับการจัดซ้ือจัด จ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐตามหลักวิชาชีพและตาม พระราชบัญญัติน้ี ทั้งนี้ กรมบัญชีกลางจะดาเนินการเองหรือ จะดาเนนิ การรว่ มกับหนว่ ยงานอนื่ หรอื เอกชนทีเ่ ก่ยี วขอ้ งก็ได้ ให้เจ้าหน้าท่ีซ่ึงผ่านการฝึกอบรมตามวรรคหนึ่งและ ได้รับแตง่ ตงั้ ใหด้ ารงตาแหน่งทีป่ ฏิบตั ิงานเกี่ยวกับการจดั ซ้ือจดั จา้ งหรือการบริหารพสั ดุมสี ทิ ธิไดร้ บั เงินเพ่ิมหรือเงินอื่นทานอง เดยี วกนั ดังตอ่ ไปน้ี (๑) ในกรณที เ่ี ป็นข้าราชการพลเรือน ให้เจ้าหน้าท่ีซ่ึง ได้รบั แต่งตง้ั ให้ดารงตาแหน่งที่ปฏบิ ตั งิ านเกย่ี วกบั การจัดซ้ือจดั จ้างหรือการบริหารพัสดุเป็นตาแหน่งที่มีเหตุพิเศษตาม กฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือนและในการ ก า ห น ด ใ ห้ ไ ด้ รั บ เ งิ น เ พ่ิ ม ส า ห รั บ ต า แ ห น่ ง ท่ี มี เ ห ตุ พิ เ ศ ษ ใ ห้
๓๑ ขอ้ แตกตา่ ง รฐั มนตรีวา่ ด้วยการพสั ดุ และที่แกไ้ ขเพมิ่ เติม
๓ พระราชบัญญตั กิ ารจดั ซือ้ จดั จา้ ง ระเบียบสานกั นายกร และการบรหิ ารพสั ดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๓๕ แ คานงึ ถึงภาระหนา้ ที่และคุณภาพของงาน โดยเปรียบเทียบกับ ผู้ปฏิบัติงานอ่ืนท่ีได้รับเงินเพิ่มสาหรับตาแหน่งท่ีมีเหตุพิเศษ ดว้ ย ทั้งนี้ ให้เปน็ ไปตามระเบียบท่ีรฐั มนตรีกาหนด (๒) ในกรณีทีไ่ มเ่ ปน็ ขา้ ราชการพลเรือน ให้เจ้าหน้าที่ ซ่ึงได้รับแต่งต้ังให้ดารงตาแหนง่ ท่ปี ฏิบตั ิงานเก่ยี วกับการจัดซื้อ จัดจ้างหรือการบริหารพัสดุเป็นตาแหน่งท่ีมีเหตุพิเศษตาม กฎหมายเกี่ยวกบั การบริหารงานบุคคลของหน่วยงานของรัฐที่ เจ้าหนา้ ท่นี นั้ สังกดั อยู่และมีสิทธิได้รับเงินเพ่ิมสาหรับตาแหน่ง ท่มี เี หตพุ ิเศษตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการนนั้ หรือเป็นตาแหน่งที่มี สิทธิได้รับเงินอื่นทานองเดียวกันตามกฎหมายเกี่ยวกับการ บริหารงานบุคคลของหน่วยงานของรฐั ท่ีเจ้าหน้าที่นั้นสังกัดอยู่ แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ ในการกาหนดให้ได้รับเงินเพ่ิมสาหรับ ต า แ ห น่ ง ท่ี มี เ ห ตุ พิ เ ศ ษ ห รื อ เ งิ น อ่ื น ท า น อ ง เ ดี ย ว กั น ใ ห้ เปรียบเทียบกับเงินเพิ่มสาหรับตาแหน่งท่ีมีเหตุพิเศษหรือเงิน อ่ืนทานองเดยี วกันของหน่วยงานของรัฐประเภทเดียวกนั มาตรา ๕๐ ให้กรมบัญชีกลางมีหน้าท่ีปฏิบัติงานธุรการ งานประชุม งานวิชาการ การศึกษาหาข้อมูล และกิจการต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวข้องให้แก่คณะกรรมการนโยบาย คณะกรรมการวินิจฉัย คณะกรรมการราคากลาง คณะกรรมการ ค.ป.ท. คณะกรรมการ พิจารณาอุทธรณ์ และคณะอนุกรรมการที่แต่งต้ังโดยคณะ กรรมการดังกล่าว รวมท้ังให้มีอานาจหน้าท่ีอ่ืนตามท่ีกาหนด ในพระราชบัญญัตินี้
๓๒ ขอ้ แตกตา่ ง รฐั มนตรีวา่ ด้วยการพสั ดุ และที่แกไ้ ขเพมิ่ เติม
๓ พระราชบญั ญตั กิ ารจดั ซอ้ื จดั จา้ ง ระเบยี บสานกั นายกร และการบริหารพสั ดภุ าครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๓๕ แ หมวดท่ี ๕ ข้อ ๓๐ ส่วนราช การข้นึ ทะเบียนผู้ประกอบการ คณุ สมบัติเบือ้ ง ต้นในการซือ้ มาตรา ๕๑ ให้คณะกรรมการราคากลางมีอานาจ ที่จาเป็นต้องจากัดเฉพาะผ หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเล ประกาศกาหนดในราชกิจจานุเบกษา ให้งานก่อสร้างในสาขา ใดเปน็ งานก่อสร้างท่ผี ู้ประกอบการงานก่อสร้างในสาขานัน้ จะ โดยเปิดเผย พร้อมทง้ั ส่งให้ ใ น ก า ร ด า เ นิ น ก เข้าร่วมเป็นผู้ย่ืนข้อเสนอต่อหน่วยงานของรัฐได้ ผู้ประกอบการ เจ้าของเรื่องจัดทารายงา งานก่อสร้างในสาขาน้ันต้องเป็นผู้ที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้กับ กรมบญั ชีกลาง ราชการผ่านหัวหน้าเจ้าห คัดเลือกคุณ สมบัติเบ้ืองต้น คณะกรรมการราคากลางอาจประกาศกาหนดในราช กิจจานุเบกษาให้งานก่อสร้างในสาขาใดท่ีผู้ประกอบการงาน ดังต่อไปน้ี เหตุผลและ (๑) ก่อสร้างในสาขาน้ันต้องขึ้นทะเบียนไว้กับกรมบัญชีกลางตาม คัดเลือกผู้มีคณุ สมบัตเิ บือ้ งต วรรคหน่ึง ต้องใช้ เงินงบประมาณในวงเงินเท่าใดหรือต้องใช้ผู้ ประกอบวิชาชีพในสาขาใดดว้ ยก็ได้ (๒) ประเภท วง หรืองานทจ่ี ะต้องซอื้ หรอื จ้า หลักเกณฑ์ วิธีการและเง่ือนไขในการข้ึนทะเบียน (๓) คุณสมบัติขอ ผู้ประกอบการงานก่อสร้างท่ีจะเข้าร่วมเป็น ผู้ยื่นข้อเสนอต่อ ซึ่งเป็นเกณฑ์ความต้องการ หนว่ ยงานของรฐั ตามวรรคหนึ่ง ใหเ้ ปน็ ไปตามที่คณะกรรมการ ผลงานที่ผ่านมา สมรรถ ราคากลางประกาศกาหนดในราชกิจจานุเบกษา ท้ังน้ี จะต้อง เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบ การงานก่อสร้างทุกรายมีสิทธิขอขึ้น เจา้ หนา้ ที่ เคร่ืองมือ และโร (๔) หลักเกณฑ์ใน ทะเบียนได้ ตลอดเวลา มาตรา ๕๒ ในกรณีท่ีเห็นสมควร คณะกรรมการ ราคากลางอาจประกาศกาหนดในราชกิจจานุเบกษา ให้ผู้ประกอบการพัสดุอ่ืนนอกเหนือจากผู้ประกอบการงาน
๓๓ รัฐมนตรีวา่ ดว้ ยการพสั ดุ ขอ้ แตกตา่ ง และทแี่ กไ้ ขเพมิ่ เติม ชการใดประสงค์จะคัดเลือกผู้มี ตามพระราชบัญญัติการจัดซ้ือจัดจ้างและการ อและการจ้างให้กระทาได้ในกรณี บริหารพัสดุภาครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐ กาหนดให้ผูป้ ระกอบการ ผู้ที่มีความสามารถ โดยกาหนด ไปข้ึนทะเบียนรวมศูนย์ไว้กับ “กรมบัญชีกลาง”จากเดิม ลือก ประกาศให้ผู้ที่สนใจทราบ ตามระเบยี บสานักนายกรัฐมนตรวี า่ ด้วยการพสั ดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ กวพ. ดว้ ย ใหแ้ ต่ละ่ หนว่ ยงานตา่ งคนตา่ งข้ึนทะเบียน ซ่ึงจะทาให้เกิด ารคัดเลือก ให้ส่วนราชการ การรวมศูนยไ์ วท้ ี่กรมบญั ชีกลางทง้ั หมด านเสนอขออนุมัติหัวหน้าส่วน หน้าท่ีพัสดุพร้อมด้วยเอกสาร น โดยมีรายละเอียดอย่างน้อย ะความจาเป็นท่ีจะต้องทาการ ตน้ งเงิน และรายละเอียดของพัสดุ าง องผู้มีสิทธิเข้ารับการคัดเลือก รข้ันต่า เช่น ประสบการณ์และ ถภาพในส่วนที่เก่ียวข้องกับ รงงาน ฐานะการเงนิ เป็นต้น นการพจิ ารณาคดั เลอื ก
๓ พระราชบญั ญตั กิ ารจัดซอ้ื จดั จา้ ง ระเบียบสานกั นายกร และการบรหิ ารพสั ดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๓๕ แ ก่อสร้างเป็นผู้ประกอบการ ที่จะเข้าร่วมเป็นผู้ยื่นข้อเสนอต่อ หน่วยงานของรัฐได้ ผู้ประกอบการนั้นต้องเป็นผู้ที่ได้ข้ึน ทะเบยี นไวก้ บั กรมบัญชีกลางก็ได้ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการข้ึนทะเบียน ผู้ประกอบการพัสดุอื่นท่ีจะเข้าร่วมเป็น ผู้ยื่นข้อเสนอต่อ หนว่ ยงานของรัฐตามวรรคหน่ึงให้เป็นไปตามท่ีคณะกรรมการ ราคากลางประกาศกาหนดในราชกิจจานุเบกษา ท้ังน้ี จะต้อง เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการทุกรายมีสิทธิขอข้ึนทะเบียน ไดต้ ลอดเวลา หมวด ๖ ขอ้ ๑๘ การซอ้ื หร การจัดซื้อจดั จา้ ง (๑) วธิ ีตกลงราคา (๒) วิธสี อบราคา มาตรา ๕๕ การจดั ซื้อจดั จา้ งพัสดอุ าจกระทาได้โดยวิธี (๓) วธิ ปี ระกวดรา ดงั ตอ่ ไปน้ี (๔) วธิ พี ิเศษ (๑) วธิ ปี ระกาศเชญิ ชวนทว่ั ไป ได้แก่ การท่หี นว่ ยงาน (๕) วิธกี รณพี ิเศษ ของรัฐเชิญชวนผู้ประกอบการท่ัวไปที่มี คุณสมบัติตรงตาม เง่อื นไขทหี่ นว่ ยงานของรัฐกาหนดให้เขา้ ย่ืนขอ้ เสนอ (๖) วิธปี ระมูลด้วย เกณฑท์ กี่ ระทรวงการคลงั ก (๒) วิธีคัดเลือก ได้แก่ การที่หน่วยงานของรัฐเชิญ ชวนเฉพาะผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติ ตรงตามเงื่อนไขที่ หน่วยงานของรัฐกาหนดซึ่งต้องไม่น้อยกว่าสามรายให้เข้ายื่น ข้อเสนอ เว้นแต่ในงานน้ัน มีผู้ประกอบการท่ีมีคุณสมบัติตรง ตามที่กาหนดน้อยกวา่ สามราย
๓๔ ขอ้ แตกต่าง รัฐมนตรวี า่ ดว้ ยการพสั ดุ และทีแ่ กไ้ ขเพิ่มเติม รือการจา้ งกระทาได้ ๖ วธิ ี คือ ตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการ า บริหารพัสดุภาครัฐได้กาหนดให้วิธีการจัดซ้ือจัดจ้างให้ เหลือเพียง ๓ วิธี คือ ประกาศเชิญชวนทั่วไป คัดเลือก าคา และเฉพาะเจาะจง จากเดิมตามระเบียบสานัก นายกรฐั มนตรวี ่าด้วยพัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ กาหนดให้การซ้ือ ษ การจ้างกระทาได้ ๖ วิธี คือ ตกลงราคา สอบราคา ยระบบอิเล็กทรอนิกส์ตามหลัก ประกวดราคา พิเศษ กรณีพิเศษ ประมูลด้วยระบบ กาหนด อิเล็กทรอนิกส์
๓ พระราชบัญญตั กิ ารจัดซื้อจดั จา้ ง ระเบยี บสานักนายกร และการบริหารพสั ดุภาครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๓๕ แ (๓) วิธีเฉพาะเจาะจง ได้แก่ การที่หน่วยงานของรัฐ - เ ชิ ญ ช ว น ผู้ ป ร ะ ก อ บ ก า ร ที่ มี คุ ณ ส ม บั ติ ต ร ง ต า ม เ ง่ื อ น ไ ข ท่ีหน่วยงานของรัฐกาหนดรายใดรายหนึ่งให้เข้ายื่นข้อเสนอ หรือใหเ้ ข้ามาเจรจาต่อรองราคา รวมท้ังการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุ กับ ผู้ ป ร ะ ก อ บ ก า ร โ ดย ต ร ง ใ น ว ง เ งิ น เ ล็ก น้ อ ย ต า ม ที่ ก า ห น ด ในกฎกระทรวง ทีอ่ อกตามความในมาตรา ๙๖ วรรคสอง มาตรา ๖๕ ในการพิจารณาคัดเลือกข้อเสนอโดยวิธี ตามมาตรา ๕๕ (๑) หรือ (๒) ให้หน่วยงานของรัฐดาเนินการ โดยพิจารณาถึงประโยชน์ของหน่วยงานของรัฐ และ วัตถุประสงค์ของการใช้งาน เป็นสาคัญ โดยให้คานึงถึงเกณฑ์ ราคาและพจิ ารณาเกณฑอ์ ื่นประกอบดว้ ย ดงั ตอ่ ไปนี้ (๑) ต้นทนุ ของพสั ดุนน้ั ตลอดอายกุ ารใชง้ าน (๒) มาตรฐานของสินคา้ หรือบรกิ าร (๓) บริการหลังการขาย (๔) พัสดุท่ีรัฐต้องการส่งเสรมิ หรอื สนับสนุน (๕) การประเมินผลการปฏบิ ตั งิ านของผูป้ ระกอบการ (๖) ข้อเสนอด้านเทคนิคหรือข้อเสนออื่น ในกรณีที่ กาหนดให้มีการยื่นข้อเสนอด้านเทคนิค หรือข้อเสนออื่นก่อน ตามวรรคหก (๗) เกณฑ์อนื่ ตามที่กาหนดในกฎกระทรวง พัสดุท่ีรัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุนตาม (๔) ให้ เปน็ ไปตามที่กาหนดในกฎกระทรวง ซึ่งอย่างน้อยต้องส่งเสริม หรือสนับสนุนพัสดุที่สร้างนวัตกรรมหรือพัสดุที่อนุรักษ์
๓๕ ขอ้ แตกตา่ ง รัฐมนตรวี า่ ด้วยการพัสดุ และทีแ่ ก้ไขเพิ่มเติม ไม่มี - ตามพระราชบญั ญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ ภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐เพ่ิมเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือก ข้อเสนอใหพ้ จิ ารณาประโยชน์และวัตถปุ ระสงคข์ องการใช้ งานเป็นสาคัญ โดยคานึงถึงเกณฑ์ต่างๆด้านคุณภาพ ประกอบโดยไม่จาเป็นต้องใช่เกณฑ์ราคาต่าสุด ซึ่งตาม ระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยพัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ น้ัน ใช้เกณฑ์ราคาต่าสุดในการจดั ซ้ือจัดจ้าง
๓ พระราชบญั ญตั กิ ารจัดซอื้ จดั จา้ ง ระเบียบสานักนายกร และการบริหารพสั ดภุ าครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๓๕ แ พลังงานหรือสิ่งแวดลอ้ ม ให้รัฐมนตรีออกระเบียบกาหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับ การพิจารณาคัดเลอื กข้อเสนอตามวรรคหน่ึง ซ่ึงอย่างน้อยต้อง กาหนดให้หน่วยงานของรัฐเลือกใช้เกณฑ์ใดเกณฑ์หนึ่งหรือ หลายเกณฑ์ก็ได้ ประกอบกับ เกณฑ์ราคา และต้องกาหนด น้าหนักของแต่ละเกณฑ์ให้ชัดเจน แต่หากหน่วยงานของรัฐ ไม่อาจเลือกใช้ เกณฑ์อื่นประกอบและจาเป็นต้องใช้เกณฑ์ เดยี วในการพิจารณาคัดเลือก ใหใ้ ชเ้ กณฑ์ราคา รวมท้ัง การให้ คะแนนพร้อมด้วยเหตุผลของการให้คะแนนในแต่ละเกณฑ์ ท้ังนี้ ในกรณีท่ีไม่สามารถออกระเบียบ กาหนดหลักเกณฑ์ เก่ยี วกบั การพิจารณาคัดเลือกข้อเสนอของพัสดุทุกประเภทได้ จะกาหนดกรณีตัวอย่าง ของพัสดุประเภทหนึ่งประเภทใดเพื่อ เป็นแนวทางในการพิจารณาคัดเลือกข้อเสนอของพัสดุอื่น ๆ กไ็ ด้ เมื่อพิจารณาข้อเสนอประกอบกับเกณฑ์ที่หน่วยงาน ของรฐั ใช้ในการพิจารณาแลว้ การพจิ ารณาเลือกขอ้ เสนอให้จัด เรียงลาดับตามคะแนน ข้อเสนอใดท่ีมีคะแนนสูงสุดให้ หนว่ ยงานของรฐั เลือกขอ้ เสนอของผู้ยน่ื ข้อเสนอรายน้ันและให้ บันทกึ ผลการพิจารณาดังกลา่ วด้วย ใ ห้ ห น่ ว ย ง า น ข อ ง รั ฐ ป ร ะ ก า ศ เ ก ณ ฑ์ ท่ี ใ ช้ ใ น ก า ร พิจารณาคัดเลือกและน้าหนักของแต่ละเกณฑ์ไว้ ในประกาศ เชิญชวนหรอื หนังสอื เชิญชวน แล้วแต่กรณี ดว้ ย ในกรณีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุท่ีมีลักษณะท่ีจะต้อง
๓๖ ขอ้ แตกตา่ ง รฐั มนตรีวา่ ด้วยการพสั ดุ และที่แกไ้ ขเพมิ่ เติม
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142