Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พุทธศาสนากับการแก้ปัญหาตัวตน

พุทธศาสนากับการแก้ปัญหาตัวตน

Published by Bunchana Lomsiriudom, 2020-09-03 10:41:33

Description: พุทธศาสนากับการแก้ปัญหาตัวตน

Keywords: ศาสนา,พุทธ,การแก้ปัญหา

Search

Read the Text Version

พุทธศาสนา กบั การแกป้ ญั หาตวั ตน พระไพศาล วสิ าโล

พุทธศาสนา กบั การแกป้ ญั หาตวั ตน พระไพศาล วสิ าโล

พทุ ธศาสนา Pdf file Book กบั การแกป้ ญั หาตวั ตน พระไพศาล  วิสาโล www.visalo.org Facebook : พระไพศาล วสิ าโล Facebook : Phra Paisal Visalo Facebook : วดั ป่าสคุ ะโต ธรรมชาตทิ ี่พกั ใจ ชหนมงั รสือมดกีล�ำัลดยับาทณ ่ี ๔ธ๐ร๓รม พมิ พ์ครัง้ ท่ี ๑ : กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓  จำ� นวนพมิ พ์ ๕,๐๐๐ เล่ม ชมรมกลั ยาณธรรม ๓,๐๐๐ เล่ม คณุ พชั ธร กิตนิ กุ ลู ศลิ ป์ และครอบครัว ๒,๐๐๐ เล่ม จดั พมิ พโ์ ดย  ชมรมกัลยาณธรรม ๑๐๐ ถนนประโคนชยั  ตำ� บลปากน้ำ�   อำ� เภอเมอื ง จังหวดั สมทุ รปราการ ๑๐๒๗๐  โทรศพั ท์ ๐-๒๗๐๒-๗๓๕๓ และ ๐-๒๗๐๒-๙๖๒๔ ออกแบบปก/รปู เลม่  คนขา้ งหลงั  พสิ จู น์อักษร ทมี งานกลั ยาณธรรม เพลท แคนนา กราฟฟิก โทร. ๐๘-๖๓๑๔-๓๖๕๑  พิมพ์ท่ี บรษิ ัทขุมทองอุตสาหกรรมและการพมิ พ์ จำ� กดั โทร. ๐-๒๘๘๕-๗๘๗๑-๓ สพั พทานงั  ธัมมทานงั  ชินาติ การใหธ้ รรมะเปน็ ทาน ยอ่ มชนะการให้ทัง้ ปวง Lkiannela oyfafnicaitaal m: 2 www.kanlayanatam.com kanlayanatam

พระไพศาล วสิ าโล ค�ำปรารภ ผู้คนทุกวันน้ีส่วนใหญ่มีชีวิตท่ีสุขสบายกว่าเมื่อก่อนมาก 3 การแสวงหาอาหารเพอ่ื ประทงั ชวี ติ  หรอื ดนิ้ รนขวนขวายเพอ่ื ความ อยู่รอด  มิใช่ปัญหาอีกต่อไป  นอกจากไม่รู้จักความหิวโหยหรือ ความขัดสนแล้ว  ยังมีความสะดวกสบายอย่างมาก  เทคโนโลยีท่ี คร้ังหน่ึงเป็นส่ิงฟุ่มเฟือย กลายเป็นของที่ผู้คนมีแทบทุกหลังคา เรือน หรือตดิ ตัวแทบทุกคน เช่น โทรทัศน์ และโทรศัพทม์ อื ถือ แมก้ ระนนั้ ผคู้ นทกุ วนั นก้ี ย็ งั มคี วามทกุ ขใ์ จอยนู่ นั่ เอง นอกจาก ความทุกข์ท่ีผู้คนคุ้นเคยกันดี  เช่น  ความผิดหวัง  ความคับแค้นใจ และความพลดั พรากสญู เสยี  รวมทงั้ ความทกุ ขเ์ พราะแก ่ เจบ็  และ ตายแล้ว  ยังมีความทุกข์อีกชนิดหนึ่ง  ซึ่งกลายเป็นปัญหาที่แพร่ ระบาดในปจั จบุ นั  นน่ั คอื ความทกุ ขเ์ กยี่ วกบั สำ� นกึ ในตวั ตน หรอื ใน ส่วนลึกของตัวตน  ก่อให้เกิดความรู้สึกไม่ม่ันคงในส่วนลึกของใจ เรียกอกี อย่างวา่  ปัญหาตวั ตน  ปัญหาตัวตนเป็นลักษณะเด่นของสังคมยุคนี้ก็ว่าได้  เพราะ เป็นยุคท่ีทัศนคติแบบปัจเจกนิยมได้รับการเชิดชูสูงมาก  ความ ตอ้ งการของปจั เจกบคุ คล ถอื วา่ สำ� คญั กวา่ อยา่ งอนื่  สำ� นกึ ในตวั ตน จึงกลายเป็นเร่ืองใหญ่  และพลอยท�ำให้ผู้คนหมกมุ่นกับตนเอง รวมทง้ั อยู่แบบตวั ใครตวั มนั มากข้นึ

ในอกี ดา้ นหนงึ่  วธิ กี ารแกป้ ญั หาตวั ตนของคนยคุ นกี้ ม็ ลี กั ษณะ พิเศษ  กล่าวคือ  อาศัยการบริโภคหรือครอบครองวัตถุเป็นส�ำคัญ โดยไดร้ บั อทิ ธพิ ลจากลทั ธบิ รโิ ภคนยิ ม ดว้ ยเหตนุ  ้ี การบรโิ ภควตั ถุ ของคนในยุคนี้  จึงมิได้มีความหมายเพียงแค่การแสวงหาความ สะดวกสบาย หรอื ความสขุ ทางกายเทา่ นน้ั  แตย่ งั เปน็ ไปเพอื่ บ�ำบดั ความทกุ ขใ์ นสว่ นลกึ ของใจ ซงึ่ ครง้ั หนง่ึ เคยเปน็ บทบาทของศาสนา ต่างๆ  ในอดตี เมอ่ื ผคู้ นจำ� นวนมากมองวา่  บรโิ ภคนยิ มเปน็ คำ� ตอบของชวี ติ โดยเฉพาะการแกท้ กุ ขท์ างใจ เปน็ ธรรมดาอยเู่ อง ทเ่ี ขาจะหนั หลงั 4 ใหก้ บั ศาสนาตา่ งๆ รวมทง้ั พทุ ธศาสนาดว้ ย ในสถานการณด์ งั กลา่ ว ศาสนาตา่ งๆ หนั มาใชว้ ธิ เี ดยี วกบั บรโิ ภคนยิ ม เพอ่ื ดงึ ดดู ผคู้ น หรอื เพ่ือจะได้มีท่ียืนอยู่ในสังคมต่อไป  น้ีคือสิ่งที่ก�ำลังเกิดขึ้นกับพุทธ ศาสนาในเมอื งไทยเชน่ กนั อนั ทจ่ี รงิ พทุ ธศาสนาสามารถใหป้ ระโยชนแ์ กผ่ คู้ นไดม้ ากกวา่ นนั้  กลา่ วคอื ชว่ ยใหพ้ น้ ทกุ ขไ์ ดอ้ ยา่ งแทจ้ รงิ  แมก้ ระทง่ั การแกป้ ญั หา ตวั ตน พทุ ธศาสนากม็ คี ำ� ตอบทดี่ กี วา่ บรโิ ภคนยิ ม แตน่ นั่ หมายความ ว่าพุทธศาสนาที่สอนและเผยแผ่อยู่ในปัจจุบัน  จะต้องธ�ำรงรักษา แกน่ แทเ้ อาไวใ้ หไ้ ด ้ ไมค่ ลอ้ ยตามบรโิ ภคนยิ มอยา่ งทเ่ี ปน็ อย ู่ รวมทงั้ ทำ� ใหแ้ กน่ แทด้ งั กลา่ ว เชอ่ื มโยงกบั วถิ ชี วี ติ ของผคู้ นในปจั จบุ นั  จนเหน็ ได้ชัดว่า ค�ำสอนของพระพทุ ธองค์น้นั  แกท้ ุกข์ได้จริง พทุ ธศาสนา กบั การแกป้ ญั หาตวั ตน

พระไพศาล วสิ าโล หนงั สอื เลม่ น ี้ มที มี่ าจากคำ� บรรยายของขา้ พเจา้  ณ อาคาร 5 ศลิ ปวฒั นธรรม จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั  เมอ่ื วนั ท ่ี ๒๗ สงิ หาคม ๒๕๖๒  ตามค�ำนิมนต์ของธรรมสถาน  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เน้ือหาบางส่วน  ข้าพเจ้าเคยน�ำไปบรรยาย  ณ  ชาติภูมิสถาน ป. อ. ปยตุ โฺ ต จงั หวดั สพุ รรณบรุ  ี เมอ่ื วนั ท ี่ ๑๒ มกราคม ปเี ดยี วกนั เนอ่ื งในวนั คลา้ ยวนั เกดิ ของสมเดจ็ พระพทุ ธโฆษาจารย ์ (ป. อ. ปยตุ โฺ ต) แต่เนื่องจากมีเวลาน้อย  ข้าพเจ้าจึงพูดเพียงบางประเด็น  ในการ บรรยายทจ่ี ฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั  ขา้ พเจา้ ไดข้ ยายความเพม่ิ และ เติมเนือ้ หาใหค้ รบถ้วน ขออนุโมทนาคุณหมออัจฉรา  กล่ินสุวรรณ์  ประธานชมรม กัลยาณธรรม  ท่ีเห็นว่าค�ำบรรยายดังกล่าวควรเผยแพร่ให้กว้าง ขวางออกไป พรอ้ มกนั นขี้ ออนโุ มทนาคณุ พชั ธร กติ นิ กุ ลู ศลิ ป ์ และ ครอบครัว ซ่งึ รว่ มเปน็ เจา้ ภาพพมิ พ์หนงั สือเล่มนี้ด้วย หวังว่าหนังสือเล่มน้ี  จะมีส่วนช่วยให้ผู้อ่านเห็นความส�ำคัญ ของการรักษาแก่นแท้ของพุทธศาสนา  รวมท้ังศึกษาและปฏิบัติ จนเข้าถึงแก่นแท้ดังกล่าว  จนสามารถแก้ทุกข์ของตนได้  รวมท้ัง น�ำพาผู้คนทง้ั หลาย ให้เข้าถึงประโยชนด์ งั กลา่ วดว้ ย ๕ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๖๓

คํานาํ ชมรมกลั ยาณธรรม ข้าพเจ้ามีโอกาสได้ฟังปาฐกถาธรรมของท่านพระอาจารย์ ไพศาล  วิสาโล  ซึ่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้แพร่ภาพสดผ่าน ทาง  Facebook  ในวาระพิเศษงานฉลองครบรอบ  ๑๐๒  ปีของ 6 มหาวทิ ยาลยั  เมอื่ วนั ท ี่ ๒๗ สงิ หาคม ๒๕๖๒ ดว้ ยหวั ขอ้ ทนี่ า่ สนใจ กอปรกบั มคี วามศรทั ธาวา่  ทา่ นพระอาจารยจ์ ะแสดงปาฐกถาครงั้ นี้ อย่างดี  เม่ือฟังแล้วก็ย่ิงประทับใจในเนื้อหาท่ีลึกซึ้งชวนคิดหลาย แง่มุม สะท้อนปมปัญหาและความติดตันต่างๆ ของผู้คนในยุค ปัจจบุ ัน ท่ไี มอ่ าจเขา้ ถึงแกน่ แทข้ องพระพทุ ธศาสนา หรือไม่ไดร้ บั ประโยชนจ์ ากพระธรรมอยา่ งเตม็ คณุ คา่  ชช้ี ดั ถงึ ภยั ของศาสนาใหม่ คอื  “ศาสนาบรโิ ภคนยิ ม” และความยดึ ตดิ ถอื มนั่ ในสง่ิ ทไ่ี มม่ อี ยจู่ รงิ คอื  “ตวั ตน” อนั เปน็ อปุ สรรคสำ� คญั ในการเขา้ ถงึ ธรรม นอกจากน้ี ในตอนจบท่านพระอาจารย์ยังให้ค�ำตอบ  ช้ีทางออก  ท่ีพอจะเป็น เข็มทิศให้เราเดินไปถูกทาง  ทั้งในฐานะของผู้ศึกษาและผู้เผยแผ่ ธรรม พุทธศาสนา กบั การแกป้ ญั หาตวั ตน

พระไพศาล วสิ าโล ในนามชมรมกัลยาณธรรมจึงขออนุญาตน�ำปาฐกถาน้ันมา 7 ท�ำหนังสือ  ได้รับความร่วมมือจากกัลยาณมิตรมากมาย  ทุกคน ชื่นชมเนื้อหาที่มีความทันสมัย  สื่อถึงปัญหาและภาพสถานการณ์ ท่ีไม่ปรกติทั้งหลาย  ด้วยตัวอย่างร่วมสมัยที่ชัดเจน ชวนให้ย้อน กลับมาพิจารณาว่า  เราเป็นพุทธแบบไหนกันแน่  มรดกธรรมท่ี องคส์ มเดจ็ พระบรมศาสดาสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ทรงประทานไว ้ มคี า่ สงู ลำ้� และเปย่ี มลน้ ประสทิ ธภิ าพในการกำ� จดั ทกุ ข ์ คลคี่ ลายปญั หา และให้ อิสรภาพทางใจ เราได้รับประโยชนจ์ ากธรรมนนั้ เพียงพอหรอื ยงั ในมงคลวาระ ๓๗ ป ี แหง่ สมณเพศ ของทา่ นพระอาจารย์ ไพศาล วสิ าโล ทจ่ี ะมาถงึ ในเดอื นกมุ ภาพนั ธ ์ ๒๕๖๓ น ี้ คณะศษิ ย์ ขอนอ้ มถวายมทุ ติ าและนอ้ มอาจรยิ บชู าแดพ่ ระปยิ าจารย ์ ดว้ ยการ จัดพิมพ์หนังสือ  “พระพุทธศาสนากับการแก้ปัญหาตัวตน”  เพื่อ สืบทอดแก่นธรรมอันจะเป็นหลักทางใจของชาวพุทธ  น้อมสืบสาน มโนปณิธานของพระอาจารย์  ซ่ึงทุ่มเทอุทิศตนให้กับงานเผยแผ่ ธรรม เปน็ แสงสอ่ งทางชวี ติ แกส่ าธชุ น และเปน็ ภมู ปิ ญั ญาแหง่ พทุ ธะ ของสงั คมไทยผา่ นกาลอนั ยาวนาน หนงั สอื เลม่ น ้ี มแี กน่ หลกั ธรรม อันส�ำคัญที่ท่านได้นำ� มาอธิบายด้วยภาษาง่ายๆ ทำ� ให้เข้าถึงผู้อ่าน ทแ่ี มจ้ ะหา่ งวดั ไดเ้ ปน็ อยา่ งด ี ทำ� ความเขา้ ใจไดไ้ มย่ าก จงึ สง่ มอบให้ คนที่ทา่ นรักไดอ้ ย่างสบายใจและทรงประสทิ ธภิ าพย่งิ

ขออนโุ มทนาเพอื่ นๆ ทม่ี สี ว่ นรว่ มในธรรมทานน ้ี โดยเฉพาะ น้องอ้อม  น้องธร  ที่เป็นก�ำลังหลักในการเรียบเรียงบทความให้ น่าอ่าน  ทั้งทีมงานคนแนวหลังทางธรรมมากมาย  ที่ช่วยกันรับไม้ งานสืบสายธาร  น้อมบูชาธรรม  “ในมงคลกาลแห่ง  ๓๗  พรรษา  พระไพศาล วสิ าโล” สบื ทอดอดุ มการณแ์ หง่ ธรรมของพระอาจารย์ ให้เป็นประโยชน์ยั่งยืนยาวนานสืบไป  หวังว่าท่านผู้อ่านจะได้ ทบทวนใจ ยอ้ นกลบั มามองตน แกไ้ ขวธิ คี ดิ  วถิ คี วามเปน็ อย ู่ และ ช่วยกันสร้างสรรค์คุณค่าแท้ของชีวิต  ทั้งส่วนตน  และเก้ือกูลแก่ สว่ นรวม ตามหลกั พระพทุ ธศาสนาและไดร้ บั ประโยชนจ์ ากพระพทุ ธ 8 ศาสนาทแี่ ทจ้ รงิ  กา้ วขา้ ม “ตวั ตน” (ทไี่ มม่ จี รงิ ) และปลอดภยั จาก ศาสนาบรโิ ภคนยิ มโดยทว่ั กันทกุ ทา่ น เทอญ น้อมกราบบชู าคณุ พระรตั นตรยั ด้วยเศยี รเกลา้ ทพญ. อจั ฉรา กลน่ิ สวุ รรณ์ ประธานชมรมกัลยาณธรรม พทุ ธศาสนา กบั การแกป้ ญั หาตวั ตน

ส า ร บ ั ญ ๑๒ เกริ่น ๑๕ สองดา้ นของพทุ ธศาสนา ๒๑ คดิ ต่�ำ หรอื  คิดสูง ๒๕ ลทั ธิบรโิ ภคนยิ มกับการสรา้ งตัวตนใหม่ ๓๑ ลทั ธิบริโภคนยิ มกบั ความเปน็ ตวั ตน ๓๕ ปญั หาตัวตนของคนสมัยใหม่ ๔๗ ปัญหาตัวตนของลทั ธบิ รโิ ภคนิยม ๕๙ การรับมอื กบั ปญั หาตัวตน ๖๗ เม่ือบรโิ ภคนยิ มครอบงำ� พุทธศาสนา ๗๕ กลบั มาสแู่ ก่นแท้ของพทุ ธศาสนา



ท่านอาจารย์พทุ ธทาส สรุปเก่ยี วกบั ชวี ิตทดี่ ี เอาไวอ้ ย่างงดงามและส้ันกระชบั วา่ “ชวี ติ ท่ีดีคือ ชีวติ ทีส่ งบเยน็ และเปน็ ประโยชน”์ สงบเยน็  เพราะลด เพราะละ เพราะมีปญั ญาเขา้ ถงึ ความจรงิ ของชวี ติ จนกระทง่ั ไม่หวัน่ ไหวไปกับ ความเปน็ อนจิ จังของสังขาร หรอื ความไม่เทย่ี งของสรรพส่ิง

เกรนิ่ อาตมารสู้ กึ เปน็ เกยี รตทิ ไ่ี ดร้ บั นมิ นตม์ าแสดงธรรมเนอื่ งใน โอกาสท่ีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจะมีอายุครบ  ๑๐๒  ปี  ปกติ เม่ือครบรอบการก่อตั้งองค์กร  การสถาปนามหาวิทยาลัย  หรือ 12 แมก้ ระทงั่ การขน้ึ บา้ นใหม ่ เรายอ่ มถอื วา่ เปน็ โอกาสมงคล สง่ิ หนง่ึ ทช่ี าวพทุ ธเรานยิ มทำ� กนั กค็ อื  การนมิ นตพ์ ระมาเจรญิ พระพทุ ธมนต์ เพอื่ เปน็ สิริมงคล หรือเพ่ือเป็นขวัญก�ำลังใจแก่เจ้าภาพ รวมทั้ง สมาชิกของหน่วยงานหรือองค์กร  อีกส่วนหนึ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ การนิมนต์พระมาแสดงธรรม  ซ่ึงก็คือการกล่าวถึงสัจธรรมของ ชีวติ  เพ่ือให้ผ้คู นตระหนกั ความไม่ประมาท

การสดบั ฟงั ความจรงิ ของชวี ติ ทเ่ี รยี กวา่ สจั ธรรม บอ่ ยครง้ั เป็นสิ่งท่ีผู้คนละเลย  มองข้าม  หรือไม่อยากนึกถึง  เช่น  ความ ไม่เท่ียงของชีวิต  ความไม่จีรังย่ังยืนของสรรพส่ิง  มีความเจริญ กย็ อ่ มมคี วามเสอ่ื ม เปน็ ของคกู่ นั  หรอื วา่  ในทา่ มกลางความสขุ 13 นน้ั  มคี วามทุกขท์ ผี่ คู้ นไมส่ ามารถหลีกพ้นได ้ ความจริงของชีวติ ดังกล่าว  ผู้คนไม่ค่อยอยากฟัง  เพราะว่าไม่ถูกใจ  กระทบใจ หรอื วา่ กระเทอื นกเิ ลส แตเ่ ปน็ สงิ่ ส�ำคญั ทค่ี วรสดบั รบั ฟงั  เพอ่ื เปน็ เคร่อื งเตือนใจในการด�ำเนนิ ชวี ติ



พสทุ องธดศ้านาขสอนงา 15 การนมิ นตพ์ ระมาเจรญิ พทุ ธมนตเ์ พอื่ ความเปน็ สริ มิ งคลกด็ ี การสดบั ฟงั ธรรมหรอื สจั ธรรมจากพระภกิ ษสุ งฆก์ ด็  ี จะวา่ ไปแลว้ เปน็ ส่ิงสะทอ้ นถึงบทบาทของพทุ ธศาสนาสองประการ ในด้านหน่ึง  พุทธศาสนามีบทบาทในการให้ความหวัง  ให้ก�ำลังใจ  หรือแม้กระท่ังปลอบประโลมใจผู้คน  โดยเฉพาะ  ในยามท่ีประสบกับความทุกข์  บทบาทด้านน้ีเป็นส่ิงดึงดูดผู้คน จ�ำนวนมากให้เข้าหาพุทธศาสนา  กล่าวได้ว่าเหตุผลหลักท่ีผู้คน เข้าวัดหรือว่าเข้าหาพุทธศาสนา  ก็เพราะต้องการความหวัง หรือก�ำลังใจ  เช่น  มาท�ำบุญก็เพราะหวังว่าจะมีโชค  มีลาภ

มีความมั่งมีศรีสุข  เม่ือประสบเคราะห์  เป็นหน้ีเป็นสิน  หรือ เจ็บป่วย  ผู้คนก็อยากมาวัดเพ่ือให้พระสะเดาะเคราะห์  ด้วย ความหวงั วา่ ความทกุ ขจ์ ะมลายหายไป เคราะหก์ รรมจะสญู สน้ิ ไป หลายคนมาวดั กเ็ พอ่ื ขอน�้ำมนตห์ รอื วตั ถมุ งคล ไวเ้ ปน็ ทพ่ี งึ่ ทางใจ ช่วยให้แคล้วคลาดจากภัยอันตราย  มีคนอีกไม่น้อย  ที่ประสบ ความพลัดพรากสูญเสีย  โดยเฉพาะสูญเสียคนรัก  หรือรู้สึกผิด ต่อผู้ที่จากไป  การมาวัดก็เพ่ือบรรเทาความโศกเศร้า  ความ รสู้ กึ ผดิ  เชน่  มาถวายสงั ฆทาน ท�ำบญุ อทุ ศิ ใหก้ บั บคุ คลเหลา่ นน้ั นี่คือความคาดหวังของผู้คนท่ีมาวัด  และเป็นส่ิงที่พุทธศาสนา 16 ได้ตอบสนองมาโดยตลอด นอกจากการใหค้ วามหวงั  ก�ำลงั ใจ หรอื ปลอบประโลมใจ ให้กับผู้คนแล้ว  อีกบทบาทหน่ึง  ที่ส�ำคัญของพุทธศาสนาก็คือ การช ้ี กระตนุ้  เปดิ ใจใหผ้ คู้ นตระหนกั ถงึ ความจรงิ ของชวี ติ  และ เห็นความส�ำคัญของการฝึกฝนพัฒนาตน  ซ่ึงบางครั้งเป็นส่ิงท่ี สวนทางกบั กเิ ลส และเปน็ ดา้ นทช่ี าวพทุ ธจำ� นวนมากไมอ่ ยากฟงั มคี ราวหนงึ่ อาตมาแสดงธรรมทวี่ ดั  ปกตจิ ะพดู เรอ่ื งความสขุ ความสงบ แตว่ นั นนั้ อาตมาพดู เรอื่ งการเตรยี มตวั ตาย ปรากฏวา่ มชี าวบา้ นคนหนง่ึ เดนิ ลงจากศาลาไปเลย เพราะไมพ่ อใจทอี่ าตมา พดู เรอ่ื งทไ่ี มเ่ ปน็ มงคล ตอนหลงั ไดค้ ดิ  กม็ าขอโทษอาตมา นค่ี อื ปฏิกิริยาหรือความรู้สึกของคนจ�ำนวนไม่น้อย  เมื่อได้ยินเรื่องนี้ ขอใหส้ งั เกตวา่  เวลาผคู้ นปรารถนาความมง่ั มศี รสี ขุ  กอ็ ยากไดพ้ ร พุทธศาสนา กบั การแกป้ ญั หาตวั ตน

พระไพศาล วสิ าโล จากพระ  แต่พอพระพูดถึงความจริงของชีวิต  ว่าทุกคนต้องตาย จึงควรเตรียมตัวตายเสียแต่เนิ่นๆ  หลายคนกลับไม่อยากฟัง  ถ้า อดุ หไู ดก้ ็คงทำ� สองด้านของพุทธศาสนาดังกล่าว  จริงๆ  แล้ว  เป็นสิ่งท่ีมี ควบคู่กันมาโดยตลอด  ในขณะที่พระสอนว่า  การท�ำบุญย่อม ทำ� ใหเ้ กดิ ความเจรญิ  ในขณะเดยี วกนั ทา่ นกบ็ อกวา่  ความเจรญิ นน้ั ไมเ่ ทย่ี ง ทกุ อยา่ งตอ้ งเสอื่ มและดบั ไปในทสี่ ดุ  ในขณะทพี่ ระทา่ น ให้พรว่า  อายุ  วรรณะ  สุขะ  พละ  ท่านก็พูดอีกด้านหนึ่งว่า ในที่สุดทุกคนก็ต้องตาย  แม้มีร่างกายแข็งแรงเพียงใด  สุดท้าย ก็ต้องเจ็บป่วย  แม้ผิวพรรณจะผ่องใสเพียงใด  สุดท้ายก็ต้อง 17 หม่นหมองเพราะความแก่ชรา  ในขณะท่ีท่านพูดถึงการท�ำความ เพียรเพ่ือจะได้ร�่ำรวยม่ังคั่ง  ท่านก็เตือนว่า  ความร่�ำรวยม่ังคั่ง หรือลาภยศนั้นเจือไปด้วยทุกข์  เป็นภาระที่ต้องรักษา  ท�ำให้เกิด ความหนักอกหนกั ใจอยเู่ สมอ อกี ทง้ั ได้เท่าไหร่กไ็ มร่ ู้จกั พอเสียที นี้คือสองด้านของพุทธศาสนา  ท่ีมาควบคู่กันโดยตลอด แต่คนส่วนใหญ่อยากฟังหรือสนใจแต่ด้านท่ีให้ความหวังและ ก�ำลังใจ  ส่วนด้านที่เป็นความจริงของชีวิตที่ทุกคนต้องประสบ ผู้คนกลับไม่อยากฟัง  ท้ังน้ีก็เพราะความจริงท่ีว่า  ไม่มีอะไรที่ แนน่ อน ไมม่ อี ะไรทยี่ ดึ มน่ั ถอื มน่ั ไดเ้ ลยสกั อยา่ ง หรอื  ไมม่ อี ะไร ท่ียึดมั่นว่าเป็นตัวเราของเราได้  ส่ิงเหล่านี้ถึงท่ีสุดแล้ว  มัน สะเทือนไปถึงเบื้องลึกของจิตใจเรา  เพราะในเบื้องลึกของจิตใจ

เรา ลว้ นปรารถนาความสขุ  ความมง่ั คง่ั รำ่� รวย ความมนั่ คง ความ ย่ังยืน  ความแน่นอน  จึงยากที่จะยอมรับว่า  ไม่มีอะไรท่ีแน่นอน หรือจีรังย่ังยืน  ทุกอย่างเป็นทุกข์  เมื่อมีลาภก็ต้องเสื่อมลาภ มียศก็ต้องเสื่อมยศ  เม่ือเกิดก็ต้องแก่  เจ็บ  ตาย  อะไรก็ตามที่ เรายึดว่าเป็นของเรา  หรือแม้กระท่ังตัวเรา  สุดท้ายมันก็เป็น เพยี งมายาภาพ ไมม่ อี ะไรทเ่ี ปน็ ตวั เราของเราอยา่ งแทจ้ รงิ  นค่ี อื ความจรงิ ที่คนน้อยคนอยากจะฟัง อยากจะรบั รู้ การทเ่ี ราละเลยคณุ ปู การดา้ นหนง่ึ ของพทุ ธศาสนา โดยหวงั เพียงว่า  พุทธศาสนาจะให้แต่ความสุข  ความเจริญ  ความมั่งมี 18 ดงั นน้ั จงึ เอาแตท่ ำ� บญุ  ถวายทาน หรอื ทำ� ตามประเพณ ี ทำ� ใหเ้ รา ชาวพุทธได้ประโยชน์น้อยจากพุทธศาสนา  เราควรตระหนักว่า  พุทธศาสนาสามารถให้อะไรเราได้มากกว่านั้น  ไม่ใช่ให้แค่  ความหวงั  ไมใ่ ชใ่ หแ้ คก่ ำ� ลงั ใจ ปลอบประโลมใจ หรอื ทำ� ใหเ้ กดิ   ความอบอุ่นใจเท่านั้น  แต่พุทธศาสนายังสามารถจะช่วยให้เรา  กา้ วขา้ มความทกุ ข ์ เปน็ อสิ ระจากความทกุ ข ์ แตจ่ ะทำ� เชน่ นน้ั ได้ ก็ต้องผ่านการฝึกฝนตน  ทั้งการพัฒนากาย  วาจา  หรือศีล การฝึกจิตหรือสมาธิ  และการพัฒนาปัญญาให้เกิดข้ึน  ถ้าเรา มปี ญั ญา เขา้ ใจความจรงิ ของชวี ติ  จนวางใจไดถ้ กู ตอ้ ง ไมป่ ฏบิ ตั ติ วั หรือวางจิตวางใจขวางกระแสแห่งสัจธรรม  แม้มีความเส่ือม เกิดขึ้น  มีเหตุร้ายเกิดข้ึน  เจ็บป่วย  แก่ชรา  หรือประสบความ พลัดพรากสูญเสีย  ใจก็จะไม่ทุกข์  อย่างไรก็ตามดังได้กล่าว พุทธศาสนา กบั การแกป้ ญั หาตวั ตน

พระไพศาล วสิ าโล ความจรงิ เหลา่ นผี้ ู้คนไม่ค่อยอยากฟัง เพราะไม่ถูกใจ เช่นเดียว กับการฝึกฝนตน  เพ่ือลด  ละ  ขัด  เกลา  เป็นส่ิงท่ีหลายคน ไม่ปรารถนา  เพราะว่าสวนทางกับกิเลส  เม่ือใดก็ตามท่ีเรา ไม่ปรนเปรอกิเลส  กิเลสก็จะหาทางปั่นป่วน  สร้างความวุ่นวาย ในจติ ใจของเรา จนเรายอมพ่ายแพ้ตอ่ อำ� นาจของมนั ถา้ หากเราเขา้ ใจถงึ จดุ มงุ่ หมายของพทุ ธศาสนาอยา่ งแทจ้ รงิ แล้ว  เราจะไม่หลงเพลินกับส่ิงท่ีอาตมาเรียกว่า  “ของหวาน” ท่ีดึงดูดผู้คนให้เข้าหาพุทธศาสนา  แต่เราจะยอมรับว่าพุทธ- ศาสนามี “ยาขม”  ที่จะบรรเทาความทุกข์ให้กับจิตใจของเรา ถ้าเราเข้าใจตรงน้ีได้  เราจะได้รับประโยชน์จากพุทธศาสนา 19 อย่างเต็มที่  แต่เป็นเพราะผู้คนมักมองข้ามเป็นสาระส�ำคัญของ พุทธศาสนาไป  จึงหลงวนอยู่ในความทุกข์  แม้จะมีความสุข ก็เป็นสุขชั่วคราว  ในยามที่ได้ลาภ  เจริญรุ่งเรือง  หรือในยามที่ ชีวิตราบร่ืน  ปกติ  ก็เพลิดเพลินในความสุข แต่พอชีวิตผกผัน สญู เสยี ทรพั ย ์ พลดั พรากจากคนรักหรือของรัก อันเป็นธรรมดา โลก  ผู้คนก็กลัดกลุ้มอมทุกข์  คิดแต่เพียงว่า  ถ้ามีพระมาเจริญ พทุ ธมนต ์ มารดน้�ำมนต ์ มาสะเดาะเคราะห ์ ความทกุ ขเ์ หลา่ นนั้ ก็จะบรรเทาเบาบางไป  อย่างนี้นับว่าเป็นการเสียโอกาสที่จะได้ รบั ประโยชนจ์ ากพทุ ธศาสนาอย่างแทจ้ ริง



คดิ ต�ำ่  หรือ คดิ สูง 21 ผคู้ นจำ� นวนมาก ปรารถนาแตค่ วามสขุ จากวตั ถ ุ เชน่  ลาภ หรือความม่ังมี  จนมองข้ามความสุขที่ประเสริฐกว่า  วิเศษกว่า อันเปน็ ความสุขที่เกิดจากการฝกึ ฝนตน  มีเรื่องเล่าว่า มีพระบวชใหม่รูปหน่ึง เม่ือครบกำ� หนดสึก ก็มาหาหลวงปู่ดู่  พรหฺมปญฺโ  เพื่อให้หลวงปู่อวยพรและรด น�้ำมนต์  ในขณะท่ีหลวงปู่พรมน�้ำมนต์อยู่น้ัน พระรูปน้ันต้ังจิต ปรารถนาในใจวา่  “ขอความรำ�่ รวยมหาศาล ขอลาภขอผลพูนทว ี มกี นิ มใี ชไ้ ม่ร้หู มด จะได้แบ่งไปทำ� บญุ เยอะๆ” พอเงยหนา้ ขน้ึ มา

ก็เห็นหลวงปู่จ้องหน้าอยู่  จากน้ันหลวงปู่ก็พูดข้ึนมาว่า  “ท่าน  ที่ท่านคิดน่ะมันต่�ำ  คิดให้มันสูงไว้ไม่ดีหรือ  แล้วเรื่องที่ท่านคิด  น่ะ จะตามมาทีหลัง”  พระรูปน้ันประหลาดใจว่า  หลวงปู่รู้ใจ ของตนได้อย่างไร แต่หลวงปู่รู้ได้อย่างไรไม่สำ� คัญ ที่ส�ำคัญคือ ทีท่ า่ นพดู วา่  “ท่ีท่านคดิ นะ่ มนั ตำ�่  คิดให้มนั สูงไวไ้ มด่ กี วา่ หรือ” อะไรที่ท่านว่ามันต�่ำ  ก็ได้แก่  การขอให้ม่ังค่ังร่�ำรวย  ให้ มกี นิ มใี ชไ้ มห่ มด คอื หวงั แตก่ ารมที รพั ย ์ ทเ่ี รยี กวา่  สามญั ทรพั ย์ แต่ท่ีจริงแล้ว  ชีวิตเราสามารถเข้าถึงสิ่งท่ีประเสริฐกว่าน้ันได้ ซง่ึ พระทา่ นเรยี กวา่  อรยิ ทรพั ย ์ หรอื  ความสขุ ความสงบในจติ ใจ 22 อนั เกดิ จากการทำ� ความด ี เกดิ จากการฝกึ จติ ฝกึ ใจ หรอื ยงิ่ กวา่ นน้ั คอื  ปรมตั ถ ์ หรอื  ประโยชนส์ งู สดุ  ไดแ้ ก ่ นพิ พาน ความพน้ ทกุ ข์ เป็นอิสระจากทุกข์อยา่ งสนิ้ เชิง มนุษย์เราสามารถเข้าถึงประโยชน์สูงสุดดังกล่าวได้  และ พทุ ธศาสนากเ็ ออื้ ใหเ้ ราเขา้ ถงึ ประโยชนส์ งู สดุ นนั้  แตผ่ คู้ นจำ� นวน ไม่น้อย  ปรารถนาประโยชน์จากพุทธศาสนาเพียงแค่ความม่ังมี ความรำ่� รวย ซง่ึ ทจ่ี รงิ แลว้  ไมส่ ามารถชว่ ยใหผ้ คู้ นพน้ ทกุ ขไ์ ดอ้ ยา่ ง แทจ้ รงิ  พทุ ธศาสนาทแี่ ทจ้ รงิ  สามารถแกท้ กุ ขท์ างใจไดถ้ งึ รากเหงา้ แตผ่ คู้ นสว่ นใหญก่ ลบั มองไมเ่ หน็  แมจ้ ะเขา้ วดั กต็ าม ดงั ตวั อยา่ ง พระรูปท่ีว่า  นับประสาอะไรกับคนท่ีไม่ได้เข้าวัดเลย  แต่เรียก ตัวเองว่าเป็นชาวพทุ ธ พุทธศาสนา กบั การแกป้ ญั หาตวั ตน

พระไพศาล วสิ าโล เราควรตระหนกั ว่า พุทธศาสนาสามารถให้อะไรเราไดม้ ากกวา่ น้ัน ไมใ่ ชใ่ ห้แคค่ วามหวงั  ไม่ใช่ใหแ้ ค่กำ� ลังใจ ปลอบประโลมใจ หรือท�ำให้เกิดความอบอนุ่ ใจเทา่ นนั้ แต่พทุ ธศาสนายงั สามารถ จะชว่ ยให้เรากา้ วขา้ มความทุกข ์ เป็นอสิ ระจากความทุกข์ 23 ตอนน้ีแนวโน้มของคนส่วนใหญ่ก็คือ  เวลามีความทุกข์ใจ หรอื ปรารถนาชวี ติ ทพ่ี งึ ประสงค ์ แมเ้ ปน็ ชาวพทุ ธกต็ าม เขากลบั ไปหาค�ำตอบจากส่งิ อ่ืนทไี่ มใ่ ช่พระธรรมคำ� สอนของพระพทุ ธเจา้ สง่ิ ทเ่ี ขาหนั ไปหานน้ั คอื อะไร ? คอื  วตั ถสุ ง่ิ เสพตา่ งๆ ถงึ ขนั้ อาศยั วัตถุเป็นสรณะ  ในการออกจากทุกข์ทางใจ  หรือเพ่ือเข้าถึงชีวิต ทพ่ี งึ ประสงค์



ลัทธิบริโภคนิยม กบั การสรา้ งตวั ตนใหม่ 25 ยคุ นส้ี มยั น ี้ คนเรามที า่ ท ี มคี วามสมั พนั ธก์ บั วตั ถแุ ตกตา่ ง จากคนยุคก่อนๆ  มาก  สมัยก่อนเราต้องการส่ิงเสพหรือวัตถุ กเ็ พอื่ ความอยรู่ อด หรอื เพอื่ ความปลอดภยั  เชน่  มกี นิ  มปี จั จยั สี่ พอเพยี ง ทจี่ รงิ แลว้  สมยั กอ่ นอยา่ วา่ แตอ่ าหาร แมก้ ระทงั่ เสอ้ื ผา้ ก็ยังหาได้ยาก  เสื้อผ้าเป็นของมีค่า  ในสมัยพุทธกาลจนกระท่ัง ถึงเมื่อไม่กี่ร้อยปีมาน้ี  เพียงแค่เส้ือผ้าผืนหน่ึงก็หาไม่ได้ง่ายๆ เพราะเปน็ สง่ิ มคี า่ มรี าคา ตลอดทงั้ ชวี ติ  คนๆ หนงึ่  อาจจะมเี สอื้ ผา้ แค่สองสามชดุ เทา่ นนั้  จงึ เกดิ ประเพณถี วายผา้ ปา่  ถวายผา้ กฐนิ เพราะฉะนน้ั  การมวี ตั ถเุ พอ่ื ความอยรู่ อด เพอื่ ปกปอ้ งจากอนั ตราย ถอื ว่าเป็นความปรารถนาอย่างเต็มท่ขี องผูค้ นสมยั น้ัน

ขอให้สงั เกตวา่  โฆษณาระยะหลังๆ ไมค่ ่อยเน้นคณุ สมบัตทิ างกายภาพของสนิ คา้   แตเ่ นน้ บุคลกิ ลกั ษณะของบคุ คลทจ่ี ะมาเป็น นายแบบหรอื นางแบบ ท่ีเราเรยี กวา่ พรีเซ็นเตอร ์ ซ่งึ กค็ ือการนำ� เอาภาพลกั ษณท์ ่ีพงึ ปรารถนา มาผกู ตดิ กบั สนิ ค้าอยา่ งแนบแนน่ 26 แต่เม่ือเวลาผ่านไป  เราไม่ได้ต้องการวัตถุเพียงเพื่อความ อยรู่ อด เพอ่ื ความปลอดภยั  เชน่  ขา้ ว อาหาร บา้ น เรายงั ตอ้ งการ วตั ถเุ พอื่ ความสะดวกสบายทางกาย เชน่  วทิ ย ุ โทรทศั น ์ เครอ่ื ง ซกั ผา้  ตเู้ ยน็  รถยนต ์ แตม่ าถงึ วนั น ี้ ผคู้ นตอ้ งการมากกวา่ นนั้  ยคุ น้ี เป็นยุคท่ีมลี กั ษณะพเิ ศษจนมีช่ือเรยี กอย่างหน่ึงว่ายุคบรโิ ภคนยิ ม เพราะเป็นยุคท่ีผู้คนมีความเช่ือแพร่หลายว่า  “มีมากเท่าไหร่  กส็ ขุ มากเทา่ นนั้ ” ถา้ อยากสขุ มากๆ กต็ อ้ งบรโิ ภคมากๆ แตก่ าร บริโภคของคนยุคนี้แตกต่างจากคนยุคก่อนคือ  ผู้คนไม่ได้เสพ เพื่อความเอร็ดอร่อย  เพ่ือปรนเปรออายตนะ  เพื่อความสะดวก สบายเท่าน้ัน  แต่เสพเพื่อความสุขทางใจ  เพื่อการมีตัวตนใหม่ ยง่ิ กวา่ นน้ั  หากสงั เกตจะพบวา่  ทกุ วนั นผ้ี คู้ นจำ� นวนไมน่ อ้ ย จรงิ ๆ  แล้วไม่ได้ต้องการเสพสินค้า  แต่ต้องการเสพภาพลักษณ์  เสพ  ภาพตวั ตน ทที่ ำ� ใหร้ สู้ กึ วา่ เขาเปน็ คนใหม ่ มตี วั ตนใหม ่ หากดใู หด้ ี พทุ ธศาสนา กบั การแกป้ ญั หาตวั ตน

พระไพศาล วสิ าโล เขาไมไ่ ดเ้ สพสนิ คา้  แตเ่ สพยห่ี อ้ หรอื แบรนดเ์ นม ซงึ่ เปน็ สญั ลกั ษณ์ หรือตวั แทนคุณสมบัติบางอย่างที่เขาอยากมี พัฒนาการดังกล่าว  จะเห็นได้จากสินค้าท่ีขายตามร้าน ร้านค้าแต่ก่อนมีแต่สินค้าที่จ�ำเป็นต่อการด�ำเนินชีวิต  เช่น  ข้าว ปลา  ไข่  น้�ำปลา  น้�ำตาล  เกลือ  สบู่  ผงซักฟอก  แต่พอสังคม พฒั นามากขน้ึ  อตุ สาหกรรมเจรญิ งอกงามมากขน้ึ  สนิ คา้ ทไ่ี ดร้ บั ความนยิ มไมใ่ ชส่ นิ คา้ เพอ่ื ความอยรู่ อดแลว้  แตเ่ ปน็ สนิ คา้ ทอี่ �ำนวย ความสะดวก  ให้ความเพลิดเพลิน  หรือประดับประดา  ตกแต่ง เชน่  เครอ่ื งสำ� อาง ครมี ประทนิ ผวิ  วทิ ย ุ โทรทศั น ์ ตเู้ ยน็  เครอ่ื ง ซกั ผา้  ไปจนถึงรถยนต ์ แตเ่ มอื่ มาถงึ จุดหน่ึง วถิ กี ารบรโิ ภคของ 27 ผู้คนก็เปล่ียนไป  คนจ�ำนวนมาก  โดยเฉพาะคนช้ันกลางหรือ

คนชน้ั สงู  เขาไมไ่ ดบ้ รโิ ภคเพอ่ื ความสะดวกสบายทางกายเทา่ นน้ั แตย่ งั ตอ้ งการมากกวา่ นน้ั  นนั่ คอื ตอบสนองความตอ้ งการทจี่ ะเปน็ อะไรบางอยา่ ง เชน่  เปน็ คนฉลาด เปน็ คนทนั ยคุ  มบี คุ ลกิ มาดมน่ั หรือว่าทรงเสน่ห์  พูดง่ายๆ  คืออยากเป็นคนใหม่  และจะเป็นได้ ก็ด้วยการบริโภคสินค้าบางชนิด  ท่ีเรียกว่าสินค้าแบรนด์เนม  ซ่ึง ทำ� ให้เขามภี าพลักษณห์ รอื ภาพตวั ตนที่พงึ ปรารถนา ในยคุ น ้ี โฆษณามอี ทิ ธพิ ลมากตอ่ การกำ� หนดความตอ้ งการ หรอื ความคาดหวังของผู้คน ขอใหส้ งั เกตวา่  โฆษณาระยะหลงั ๆ ไมค่ อ่ ยเนน้ คณุ สมบตั ทิ างกายภาพของสนิ คา้  เชน่  รวดเรว็  คงทน 28 สวย อรอ่ ย ออ่ นนมุ่  แตเ่ นน้ บคุ ลกิ ลกั ษณะของบคุ คลทจ่ี ะมาเปน็ นายแบบหรือนางแบบ ที่เราเรยี กวา่ พรีเซน็ เตอร ์ ซ่งึ ก็คอื การน�ำ เอาภาพลักษณ์ท่ีพึงปรารถนามาผูกติดกับสินค้าอย่างแนบแน่น เพอ่ื ใหผ้ ชู้ มโฆษณาเกดิ ภาพประทบั ในใจวา่  บคุ ลกิ ลกั ษณะเชน่ นนั้ ตวั ตนอยา่ งนน้ั  จะบงั เกดิ ขนึ้ กบั ตนได ้ หากบรโิ ภคสนิ คา้ ดงั กลา่ ว ขอใหเ้ ราสงั เกตวา่  สนิ คา้ ทโี่ ฆษณาอยา่ งแพรห่ ลาย เปน็ ท่ี นิยมของคนช้ันกลาง  ต้ังแต่ระดับกลางถึงระดับบน  มักจะได้แก่ เสอ้ื ผา้  รองเทา้  กระเปา๋ ถอื  เครอ่ื งสำ� อาง ครมี บำ� รงุ ผวิ  หรอื ไม่ กน็ าฬกิ า โทรศพั ทม์ อื ถอื  รถยนต ์ ซง่ึ ลว้ นเปน็ สงิ่ ทบ่ี รโิ ภคใชส้ อย ในที่สาธารณะ  ท�ำไมถึงเป็นเช่นนั้น ?  ก็เพื่อแสดงตัวตนที่พึง ปรารถนาให้คนอ่ืนได้เห็น  อะไรที่บริโภคแล้วไม่ค่อยมีคนเห็น ย่อมไมเ่ ปน็ ที่นยิ ม พทุ ธศาสนา กบั การแกป้ ญั หาตวั ตน

พระไพศาล วสิ าโล เนอื่ งจากผคู้ นบรโิ ภคสนิ คา้ เพอื่ แสดงภาพลกั ษณบ์ างอยา่ ง ให้ผู้คนเห็น  ดังน้ันสินค้าจะผลิตจากอะไร  มีคุณสมบัติอย่างไร ก็ไม่ส�ำคัญเท่ากับยี่ห้อหรือแบรนด์  ที่ประทับลงบนสินค้านั้น เพราะยี่ห้อหรือแบรนด์น้ัน  เป็นตัวสื่อภาพลักษณ์ในสายตาของ ผู้คน  เมื่อสังคมพัฒนามาจนกลายเป็นสังคมบริโภค  หรือสังคม ทล่ี ทั ธบิ รโิ ภคนยิ มแพรห่ ลาย จนกลายเปน็ กระแสหลกั  ยหี่ อ้ หรอื แบรนดจ์ ะมคี วามสำ� คญั ตอ่ ผคู้ น มากกวา่ คณุ สมบตั ทิ างกายภาพ ของสนิ คา้  ยหี่ อ้ เหลา่ นจี้ ะถกู สรา้ งขน้ึ มา เพอ่ื เปน็ สญั ลกั ษณแ์ ทน คณุ สมบตั บิ างอยา่ งทผ่ี คู้ นอยากมอี ยากเปน็  เชน่  เปน็ สญั ลกั ษณ์ แหง่ ความทนั สมยั  ความมรี สนยิ ม ความฉลาดปราดเปรยี ว หรอื ถูกน�ำมาเช่ือมโยงแนบแน่นกับความเก่ง  ความเป็นผู้ชนะ  ความ 29 เป็นไทย ท้งั นโี้ ดยอาศัยการโฆษณา โฆษณาที่ประสบความส�ำเร็จ  ย่อมท�ำให้ผู้คนรู้สึกใน สว่ นลกึ วา่  ตนไดเ้ ปน็ อะไรบางอยา่ งทพี่ งึ ปรารถนา เมอ่ื ไดบ้ รโิ ภค สินค้าที่มีย่ีห้อหรือแบรนด์เนมดังกล่าว  เราไม่ได้บริโภคเพื่อ ความสะดวกสบาย  หรือเพ่ือความเอร็ดอร่อย  เช่น  อาหารที่ เอร็ดอร่อย  เพลงท่ีไพเราะ  หนังท่ีสนุก  แต่เราบริโภคเพราะ ปรารถนาอะไรที่ลึกไปกว่าน้ัน  คือการเป็นอะไรบางอย่างท่ี พึงประสงค์ ซ่งึ พดู อกี อยา่ งกค็ ือ การมีตวั ตนใหม่



ลัทธิบรโิ ภคนิยม กับความเปน็ ตัวตน เดี๋ยวนี้วัยรุ่นจ�ำนวนไม่น้อย  ไม่ได้กิน  Coke  หรือ 31 McDonald’s เพอื่ ความอรอ่ ย แตเ่ พราะตอ้ งการเปน็ คนทนั สมยั เขาไมไ่ ดใ้ สร่ องเทา้  Nike เพราะนมุ่ เท้าหรือว่าใชท้ น แตเ่ พราะ อยากเปน็ ผชู้ นะ เหมอื นนกั กฬี าทมี่ ชี อ่ื เสยี ง ถา้ เปน็ เมอ่ื  ๑๐ ปกี อ่ น ก็  Tiger  Woods  หรือ  Michael  Jordan  สมัยน้ีก็เป็น นักกีฬาคนอื่น  เช่น  Messi  หลายคนไม่ได้กินกาแฟ  Starbucks เพราะวา่ รสชาต ิ แตเ่ พราะตอ้ งการเปน็ คนรนุ่ ใหมท่ กี่ า้ วลำ�้  มรี ะดบั หลายคนไม่ได้สะพายกระเป๋า  Louis  Vuitton  เพราะมันสวย หรอื ทน แตเ่ พราะอยากมบี คุ ลกิ มาดมนั่  เปย่ี มรสนยิ ม ประโยชน์ ใช้สอยหรือคุณลักษณะทางกายภาพของสินค้า  ไม่ได้ดึงดูด คนมากเทา่ กบั ภาพลกั ษณท์ ตี่ ดิ มากบั ยห่ี อ้  นค่ี อื เหตผุ ลวา่  เดยี๋ วนี้ คนไมไ่ ดบ้ รโิ ภคหรอื เสพสนิ คา้  แตบ่ รโิ ภคยห่ี อ้  บรโิ ภคแบรนดเ์ นม หรอื เสพภาพลกั ษณ์ท่ตี ิดมากับสนิ ค้านน้ั

ให้เราสังเกต  โดยเฉพาะนักบริโภคระดับสูง  เด๋ียวนี้ไม่ได้ ซ้ือสินค้า  แต่ซื้อย่ีห้อ  ไม่ได้บริโภคคุณสมบัติทางกายภาพของ สนิ คา้ หรอื ประโยชนใ์ ชส้ อย แตบ่ รโิ ภคสญั ลกั ษณ ์ หรอื คณุ คา่ ทาง นามธรรมที่ผูกติดมากับย่ีห้อ  ผู้ผลิตสินค้าก็เข้าใจความต้องการ ของผบู้ รโิ ภคในยคุ ปจั จบุ นั  เพราะฉะนนั้  เขาจะไมเ่ นน้ เรอื่ งคณุ ภาพ หรือประโยชน์ใช้สอยของสินค้า  อันน้ันเป็นเร่ืองรอง  เร่ืองหลัก  กค็ อื  การผลติ ภาพลกั ษณ ์ หรอื การสรา้ งคณุ คา่ ทางนามธรรมให้  กบั ผลติ ภณั ฑ ์ เชน่  Nike ประกาศวา่  เขาไมใ่ ชบ่ รษิ ทั รองเทา้  เขา ไมไ่ ดข้ ายรองเทา้  แตเ่ ขาเปน็ บรษิ ทั กฬี า เขาขายความเปน็ นกั กฬี า ที่สมาร์ท  Ford  ก็ไม่ได้ขายรถ  แต่ขายภาพลักษณ์ความเป็นคน 32 ช้ันกลางท่ีทันสมัย  McDonald’s  ก็ไม่ได้ขายแฮมเบอร์เกอร์ แต่ขายภาพลักษณ์ความเป็นคนทันสมัยและมิตรภาพท่ีไว้ใจได้ Marlboro ไมไ่ ดข้ ายบหุ ร ี่ แตข่ ายภาพลกั ษณค์ วามเปน็ ชายชาตรี และความเป็นอเมริกัน  Starbucks  ไม่ได้ขายกาแฟ  แต่ขาย ความเป็นคนทันสมัย  มีความคิดสร้างสรรค์  หรือเป็นพวก  Mil- lennium  ส่วน  Diesel  ก็ไม่ได้ประกาศว่าเขาขายกางเกงยีนส์ แต่ประกาศว่าขายไลฟ์สไตล์ท่ีทันสมัย  รวมถึงการอนุรักษ์ ส่ิงแวดล้อมและธุรกิจที่มีจริยธรรม  แม้แต่  IBM  ก็ประกาศว่า เขาไม่ไดข้ ายคอมพิวเตอร ์ แตข่ ายคำ� ตอบทางธุรกจิ บรษิ ทั ชน้ั นำ� ทง้ั หลายไมไ่ ดใ้ หค้ วามส�ำคญั กบั การขายสนิ คา้ มากเท่ากับการขายยี่ห้อ ไม่ได้ให้ความสำ� คัญกับคุณภาพ หรือ พุทธศาสนา กบั การแกป้ ญั หาตวั ตน

พระไพศาล วสิ าโล ประโยชน์ใช้สอยของสินค้า  มากเท่ากับภาพลักษณ์ท่ีติดมากับ สนิ คา้ นน้ั  ทง้ั หมดทพี่ ดู มากเ็ พอ่ื จะชใี้ หเ้ หน็ วา่  ผคู้ นทกุ วนั นห้ี นั มา แกท้ กุ ขท์ างใจดว้ ยการเสพสนิ คา้  หรอื เสพภาพลกั ษณท์ ม่ี ากบั สนิ คา้ สนิ คา้ ทวี่ า่ น ้ี อาจเปน็ วตั ถ ุ อาจเปน็ บรกิ าร หรอื เปน็ ประสบการณ์ กไ็ ด ้ ประสบการณท์ ว่ี า่ น ี้ อาจจะไดแ้ ก ่ การไปเทยี่ วตา่ งประเทศ ไปดิสนีย์แลนด์  ไปชมการแข่งขันฟุตบอลโลกนัดชิงชนะเลิศ หรือได้ร่วมชมฟุตบอลนัดวันแดงเดือดที่อังกฤษ  เหล่านี้ถือเป็น การบริโภคอย่างหนึ่ง  เป็นการบริโภคประสบการณ์  ไม่ใช่เพื่อ ความเอร็ดอร่อย  ความสนุกหรือความสบายเท่านั้น  แต่เพื่อ ความรู้สึกว่า ฉนั ได้เป็นอะไรบางอย่างท่ีพึงปรารถนา 33 การเสพสญั ลกั ษณ ์ หรอื ภาพลกั ษณท์ ม่ี ากบั สง่ิ เสพ พดู อกี อยา่ งหนงึ่ กค็ อื  การเอาภาพลกั ษณน์ น้ั มาประดบั ตวั ตน หรอื กลนื เขา้ มาเปน็ สว่ นหนงึ่ ของตวั ตน ดว้ ยเหตนุ จี้ งึ กลา่ วไดว้ า่  ผคู้ นจำ� นวน มาก ไมไ่ ดเ้ สพสนิ คา้ เพอ่ื ความสะดวกสบายทางกายอกี ตอ่ ไป แต่ เพ่ือตอบสนองความสุขทางใจ  หรือเพื่อแก้ทุกข์ทางใจ  จริงอยู่ คนสมัยก่อนเสพหรือมีวัตถุเพื่อความสุขทางใจเช่นกัน  เช่น  เพ่ือ การมหี นา้ มตี า มสี ถานภาพทสี่ งู ขน้ึ  ดงั มสี ำ� นวนวา่  “มเี งนิ นบั เปน็ น้อง  มีทองนับเป็นพ่ี”  แต่ปัจจุบัน  ผู้คนไม่ได้มีหรือเสพเพื่อ สถานภาพเท่านั้น  แต่เสพเพ่ือการมีตัวตนใหม่  หรือเพื่อแก้ไข ความคับข้องทางจิตใจ  ในระดับท่ีเรียกว่า  “จิตวิญญาณ”  เลย ทีเดยี ว

สรถแี คดันงนี้

ปญั หาตวั ตน ของคนสมัยใหม่ วันนี้อาตมาจะพูดถึงปัญหาตัวตนของคนสมัยใหม่  และ จะเช่ือมโยงว่า  การเสพวัตถุ  หรือการคล้อยตามกระแสบริโภค นิยมส�ำหรับคนจ�ำนวนไม่น้อย  เป็นไปเพ่ือแก้ปัญหาตัวตน  หรือ เพือ่ การมตี วั ตนใหม่ ปญั หาตวั ตนทเ่ี กดิ กบั คนทกุ วนั นม้ี หี ลายประการ ประการ  แรก  คือความรู้สึกโดดเดี่ยวอ้างว้าง  ท�ำให้ต้องการมีสังกัดหรือ รสู้ กึ วา่ เปน็ สว่ นหนงึ่ ของบางสง่ิ บางอยา่ งทใ่ี หญก่ วา่ ตน หลายคน พบว่า  การเสพสินค้าบางอย่าง  ช่วยท�ำให้ตนมีสังกัด  มีชุมชน ช่วยลดความโดดเด่ียวอ้างว้าง ทำ� ให้เกิดความมั่นคงในจิตใจได้ หลายคนทใี่ ชผ้ ลติ ภณั ฑข์ อง Apple เชน่  MacBook หรอื  iPhone ทำ� ใหร้ สู้ กึ วา่  เขาเปน็ สว่ นหนง่ึ ของชมุ ชนทก่ี วา้ งใหญ ่ เปน็ ชมุ ชนทมี่ ี

ความผูกพันกบั ผลิตภัณฑ ์ มีผลิตภัณฑเ์ ป็นแกนกลาง เปน็ ตัวยดึ เหน่ียว  ดังมีค�ำเรียกว่า  “สาวก  Apple”  หลายคนท่ีขี่  Harley Davidson แล้วรู้สึกว่าตนมีชุมชนเพ่ือนพ้องที่กว้างใหญ่ ทำ� ให้ ไมร่ ้สู ึกโดดเดย่ี ว การบริโภคสินค้า จงึ เป็นการสร้างความเช่ือมโยงกับผู้คน จ�ำนวนไม่น้อยที่มีรสนิยมเหมือนกัน  มีความภักดีในสินค้า  หรือ พูดให้ถูกกว่านั้นก็คือ  มีความภักดีในย่ีห้ออย่างเหนียวแน่น  มัน ท�ำให้เขารู้สึกว่า  เขามีพวก  มีชุมชน  รู้สึกอบอุ่นใจ  ในท�ำนอง เดยี วกนั  การเขา้ รว่ มคอนเสริ ต์  เปน็ แฟนคลบั ของดารา หรอื วา่ 36 การไดร้ ว่ มอเี วน้ ทใ์ หญๆ่  ในดา้ นบนั เทงิ และการกฬี า กเ็ ปน็ สงิ่ หนงึ่ ท่ีช่วยลดความรู้สึกอ้างว้างโดดเดี่ยว  เป็นการบริโภคอย่างหนึ่ง ทเี่ รยี กวา่  “การบรโิ ภคประสบการณ”์  ทำ� ใหเ้ กดิ ความรสู้ กึ มกี ลมุ่ กอ้ น ทำ� ให้ไม่ร้สู ึกโดดเดีย่ ว ปญั หาตวั ตนประการทสี่ องกค็ อื  การไมพ่ งึ พอใจในตวั ตน  รสู้ กึ วา่ ตวั เองไรค้ า่  ไมน่ า่ ภาคภมู ใิ จ จงึ ตอ้ งการมตี วั ตนใหม ่ และ ทางออกทหี่ ลายคนพบกค็ อื  การซอ้ื สนิ คา้ แบรนดเ์ นม อยา่ งทไี่ ด้ กลา่ วไวแ้ ลว้ วา่  ผคู้ นจำ� นวนมากไมไ่ ดเ้ สพเพราะประโยชนใ์ ชส้ อย ไม่ใช่เพราะว่ามันอร่อย  ไม่ใช่เพราะว่ามันสะดวกสบาย  ไม่ใช่ เพราะว่ามันปลอดภัย  แต่เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์ให้ดูดี  เช่น เป็นคนเก่ง  เป็นแมน  เป็นผู้น�ำ  เป็นคนมีความคิดสร้างสรรค์ เด๋ียวนี้สินค้าแบรนด์เนม  ไม่ใช่เป็นแค่ส่ิงแสดงตัวตนเท่านั้น  แต่ พทุ ธศาสนา กบั การแกป้ ญั หาตวั ตน

พระไพศาล วสิ าโล มันเป็นส่ิงที่  “สร้างตัวตนที่พึงปรารถนา”  เลยทีเดียว  มันไม่ใช่ เป็นเคร่ืองแสดงตัวตนของเรา  แต่มันเป็นส่ิงท่ีสร้างตัวตนใหม่ ใหก้ บั เรา หรอื สรา้ งภาพตวั ตนใหมใ่ หก้ บั เรา ในสายตาของผคู้ น ทง้ั หลาย สนิ คา้ แบรนดเ์ นมเหลา่ นมี้ เี สนห่ ต์ อ่ ผคู้ น เพราะมนั ใหส้ ญั ญา วา่  เมอ่ื ซอื้ หรอื ใชม้ นั แลว้  เราจะมตี วั ตนใหม ่ หรอื ไดเ้ สพความฝนั ได้เข้าถึงคุณค่าความรู้สึกท่ีดีงาม  หรือประสบการณ์ที่ท�ำให้ อม่ิ เอมใจ อย่างทีบ่ อกไวแ้ ล้วว่า Ford เขาไมไ่ ด้ขายรถ แต่ขาย ความเปน็ คนชน้ั กลางทท่ี นั สมยั  คนซอ้ื  Ford หรอื  Benz กไ็ มใ่ ช่ เพราะมนั ปลอดภัย ขับเรว็  ขับน่มุ  แต่เพราะมนั ให้ความรสู้ กึ ถึง 37 การมีตัวตนใหม่  McDonald’s  ก็ไม่ได้ขายแฮมเบอร์เกอร์  เขา ขายภาพลกั ษณค์ วามเปน็ คนสมยั ใหม ่ รสชาตหิ รอื ความรสู้ กึ ทล่ี น้ิ เป็นเรื่องหนึ่ง  แต่ที่ส�ำคัญกว่าคือความรู้สึกทางใจ  น่ันคือความ เป็นคนทันสมัย  Starbucks  ก็ไม่ได้ขายกาแฟ  แต่ขายความเป็น คนรุ่นใหม่  มีความคิดนอกกรอบ  รสชาติเป็นอีกเรื่องหน่ึง  และ ไม่ใช่สิ่งส�ำคัญด้วย  ส่ิงส�ำคัญคือ  การได้เติมเต็มอะไรบางอย่าง ในจิตใจ คือการสรา้ งตวั ตนใหมใ่ นความรสู้ ึกของเขา  จริงอยู่ท่ีพูดมาน้ี  เป็นเรื่องของภาพลักษณ์  เป็นเร่ืองของ จนิ ตนาการ เปน็ เรอื่ งของความรสู้ กึ  อยา่ งไรกต็ าม “ความจรงิ ”  ทุกวันนี้ไม่ได้หมายถึงส่ิงที่มีอยู่จริงเท่าน้ัน  แต่ยังหมายถึงส่ิงที่ เราคดิ วา่ ม ี รถสขี าว ถา้ เราคดิ วา่ มนั สเี ขยี ว มนั กเ็ ขยี ว สงั เกตไหม

ทุกวันนี้มีรถหลายคันที่ติดข้อความว่า  “รถคันนี้สีแดง”  ทั้งๆ  ที่ สเี ขยี ว ถา้ เจา้ ของคดิ วา่ มนั  “แดง” มนั กแ็ ดง บางคนั ตดิ ขอ้ ความวา่ “รถคนั นสี้ ขี าว” ทงั้ ทดี่ �ำเมยี่ มเลย แตเ่ ขาไมร่ สู้ กึ วา่ มนั ด�ำ ถา้ เขา คดิ วา่ มนั  “ขาว” รถคนั นนั้ กข็ าว มนั เปน็ ความจรงิ ในจนิ ตนาการ ซงึ่ ในความคดิ ของเขาอาจจะสำ� คญั กวา่ ความจรงิ ในทางกายภาพ หรือความจริงแบบ  objective  ด้วยซ�้ำ  และน่ีก็คือสิ่งท่ีวัตถุโดย เฉพาะสินค้าแบรนด์เนมกระท�ำ  หรือส่งผลต่อจิตใจต่อผู้คน  คือ ใหค้ วามรสู้ กึ วา่  “ฉนั เปน็ คนทนั สมยั ” ฉนั เปน็ คนมาดมน่ั  ฉนั เปน็ คนมีรสนิยม  เป็นแมน  หรือว่าเป็นคนท่ีคิดนอกกรอบ  เป็น คนอิสระเสรี  หลายคนอาศัยการบริโภคสินค้า  เป็นค�ำตอบใน 38 การมีตัวตนใหม่ ช่วยลดความทกุ ข์ทางใจท่ไี มพ่ อใจในตวั ตนเดมิ มีชาวอเมริกันผู้หน่ึงพูดไว้น่าสนใจว่า  “การบริโภค  เป็น  หนทางในการบรรลุซ่ึงการพัฒนาตน  การประจักษ์แจ้งแห่งตน  และการยงั ตนใหไ้ พบลู ย”์  ขอ้ ความดงั กลา่ ว คลา้ ยๆ กบั หนา้ ทขี่ อง ศาสนาเลย เพราะศาสนาทง้ั หลายก็มุง่ เนน้ การพัฒนาตน มุ่งให้ เกิดการประจักษ์แจ้งแห่งตน  (Self-Actualization)  และท�ำให้ เกิดความเจริญงอกงาม  คร้ังหน่ึงศาสนาเคยท�ำหน้าท่ีน้ี  แต่คน จ�ำนวนมากในปัจจุบันบอกว่า  ศาสนาไม่จ�ำเป็นแล้ว  ใช้การ บริโภคดีกว่า  เพราะถ้าฉันบริโภคถูก  บริโภคเป็น  ซ้ือย่ีห้อได้ถูก ฉันก็จะบรรลุถึงการพัฒนาตน  การประจักษ์แจ้งแห่งตน  และ การยังตนใหไ้ พบลู ยไ์ ด้ พทุ ธศาสนา กบั การแกป้ ญั หาตวั ตน

พระไพศาล วสิ าโล ปญั หาตวั ตนประการทส่ี าม คอื  ความรสู้ กึ พรอ่ ง ความรสู้ กึ พร่องน้ีมีหลายระดับ ระดับแรก  คือความรู้สึกพร่องหรือขาด  จุดหมายในการด�ำเนินชีวิต  หมายความว่า  ไม่รู้ว่าเกิดมาท�ำไม อยู่ไปเพื่ออะไร  หาจุดหมายของชีวิตไม่เจอ  จึงรู้สึกเคว้งคว้าง แต่บริโภคนิยมให้ค�ำตอบได้  นั่นคือ  “อยู่เพื่อรวย  อยู่เพื่อความ มง่ั คงั่ รำ�่ รวย” หลายคนรสู้ กึ มจี ดุ หมายในชวี ติ ขน้ึ มาทนั ท ี จดุ หมาย ทวี่ า่  คอื มเี ยอะๆ หรอื  สะสมมากๆ ร�่ำรวยกวา่ คนอน่ื  ความคดิ ดังกล่าวช่วยลดความรู้สึกพร่อง  หรือความรู้สึกไม่มีเป้าหมาย ในชีวิตได้เหมือนกัน  หลายคนตั้งเป้าตั้งแต่เป็นนักศึกษาว่า ภายในเวลาหา้ ปหี ลงั จากเรยี นจบ จะตอ้ งมเี งนิ ใหไ้ ดส้ บิ ลา้ น เรยี น จบแพทย์อายุสามสิบ  จะต้องมีเงินย่ีสิบล้าน  อันนี้คือจุดหมาย 39 ในชีวิตท่ีท�ำให้หลายคนรู้สึกมีชีวิตชีวาข้ึนมา  น้ีคือจุดหมายชีวิต ท่ีกระแสบริโภคนิยมมอบให้กับผู้คนจำ� นวนไม่น้อย ทำ� ให้รู้สึกว่า ชวี ิตน้ไี ม่เควง้ ควา้ งล่องลอย ความรสู้ กึ พรอ่ งประการตอ่ มา คอื  พรอ่ งความสขุ  ใครทม่ี ี ปญั หาน ้ี บรโิ ภคนยิ มกจ็ ะตอบวา่  “เปน็ เพราะคณุ ยงั มมี ากไมพ่ อ ถา้ คณุ มมี ากกวา่ น ้ี คณุ กจ็ ะมคี วามสขุ ” มกี ารสอบถามคนอเมรกิ นั จำ� นวนมากวา่  “อะไรทจี่ ะทำ� ใหค้ ณุ มคี วามสขุ มากกวา่ เดมิ ” เกอื บ รอ้ ยทง้ั รอ้ ยตอบวา่  “มเี งนิ มากกวา่ ทม่ี อี ยตู่ อนน”้ี  หลายคนเชอื่ วา่ ถ้ามีเงินมากกว่าน้ี  ฉันจะมีความสุขยิ่งขึ้น  ที่ฉันยังไม่มีความสุข ตอนนเ้ี พราะยงั มไี มพ่ อ ยงั มนี อ้ ยไป บรโิ ภคนยิ มใหค้ �ำมน่ั สญั ญา

วา่  ถา้ คณุ มเี งนิ มากๆ คณุ กจ็ ะมคี วามสขุ มาก ความทกุ ขท์ เี่ คยมี ก็จะบรรเทาหายไป  ความรู้สึกพร่องประการที่สาม  เป็น  ความรู้สึกพร่องทาง  จิตวิญญาณ  หรือในระดับจิตไร้ส�ำนึก  ในด้านหน่ึงมันคือความ กลัวตาย  แต่ที่จริงมันคือความกลัวว่าตัวตนจะไม่ย่ังยืน  จะว่าไป แลว้  คนเราไมไ่ ดก้ ลวั ตายมากเทา่ กบั กลวั ตวั ตนจะดบั สญู  แตว่ า่ ในระดับพื้นผิว  เพียงแค่ความตายอย่างเดียวก็ท�ำให้ผู้คนเกิด ความกลัว  รู้สึกกระสับกระส่าย  นี่คือส่ิงท่ีรบกวนจิตใจผู้คน ทางออกของผคู้ นจำ� นวนมากกค็ อื  เสพสขุ ใหเ้ ยอะๆ จะไดล้ มื ตาย 40 เมื่อสนุกสนานเพลิดเพลินมากๆ ก็จะไม่มีเวลาคิดถึงความตาย ของตน  หรือลืมไปเลยว่าสักวันหน่ึงเขาจะต้องตาย  หลายคนจึง อยู่เหมือนคนลืมตาย  นี่เป็นวิธีที่หลายคนใช้รับมือกับความ กลวั ตาย คอื ทำ� ตวั ใหว้ นุ่  ทำ� ใจไมใ่ หว้ า่ ง บางคนกว็ นุ่ กบั การทำ� งาน แต่หลายคนก็วุ่นกับการเสพ ความสนุกสนาน ช่วยทำ� ให้ลืมตาย ไปได ้ อย่างน้อยกช็ ว่ งเวลาหน่งึ แต่นอกจากความกลัวตายแล้ว  ยังมีความรู้สึกลึกๆ  ที่ รบกวนจิตใจผู้คนในระดับจิตไร้ส�ำนึก  นั่นคือความไม่ม่ันใจว่า ตวั ตนมจี รงิ ไหม เรอ่ื งนไี้ มค่ อ่ ยมคี นพดู ถงึ กนั เทา่ ไหร ่ แตว่ า่ อาตมา เช่ือว่ามันรบกวนจิตใจผู้คนจำ� นวนไม่น้อย จริงอยู่ คนส่วนใหญ่ มคี วามเชอ่ื วา่  ตวั กนู ม้ี อี ยจู่ รงิ  แตใ่ นสว่ นลกึ ๆ กเ็ กดิ ความระแวง สงสัยว่า ตัวกมู ีจรงิ ไหม พทุ ธศาสนา กบั การแกป้ ญั หาตวั ตน

พระไพศาล วสิ าโล การคน้ พบของพทุ ธศาสนาทส่ี ำ� คญั  คอื การคน้ พบวา่ ตวั กู  ไม่มีอยู่จริง  ตัวกูหรือตัวตนเป็นแค่ภาพปรุงแต่งที่จิตปรุงขึ้นมา  เป็นมายา  อะไรท่ีเป็นมายา  อะไรที่ไม่เป็นความจริง  ในส่วนลึก ของจิตใจเราทกุ คนก็ยอ่ มรู้ แมม้ ีความยึดม่นั ถือม่ันในตวั ตน แต่ ก็จะมีบางช่วงบางขณะที่เราเกิดความสงสัยว่า  ตัวกูมีจริงหรือ เพราะว่าตัวตนหรือตัวกูในความรู้สึกของเรามันแปรเปล่ียน ไปเร่ือย  ตัวอย่างเช่น  เวลาเราเจอลูก  ตัวตนที่เป็นพ่อแม่  หรือ ความส�ำคัญมั่นหมายว่าเป็นพ่อแม่ก็ปรากฏ  แต่เวลาเราเจอ พ่อแม่  ตัวตนใหม่ก็เกิดข้ึน  คือ  ตัวตนที่เป็นลูก  เวลาเราเจอ ลกู ศษิ ย ์ ตวั ตนทเี่ ปน็ ครกู ป็ รากฏ แตเ่ วลาเราเจอครเู กา่ ๆ ตวั ตน ทเ่ี ปน็ ศษิ ยก์ ป็ รากฏ เวลาเราเจอฝรงั่  ตวั ตนทเ่ี ปน็ ไทย หรอื ความ 41 สำ� คญั มนั่ หมายวา่  ฉนั คอื คนไทยกผ็ ดุ ขนึ้ มา พอเจอคนใต ้ ตวั ตน ที่เป็นคนอีสานก็ผุดขึ้นมาแทนท่ี  เวลาเจอคนชัยภูมิ  ตัวตนท่ีเป็น คนขอนแกน่ ก็ปรากฏ คนท่ีสอบได้เกรด  ๓.๘  ย่อมรู้สึกว่ากูเก่ง  แต่พอเจอคนท่ี ได้  ๔.๐  หรือได้เหรียญทองเกียรตินิยม  ความรู้สึกว่ากูเป็น คนเก่งก็หายไป  เกิดความรู้สึกว่า  กูเป็นคนไม่เก่งไปเสียแล้ว อาจเกดิ ความอจิ ฉาเขาขนึ้ มากไ็ ด้ คนทเ่ี ปน็ แชมปฟ์ ตุ บอลถว้ ย ก. ทีแรกก็เกิดความส�ำคัญมั่นหมายว่า  กูเก่ง  แต่พอไปเจอแชมป์ พรเี มยี รล์ กี ขององั กฤษ ความรสู้ กึ วา่ กเู กง่ กห็ ายไป ความรสู้ กึ วา่ กูไมเ่ กง่  ก็มาแทนท่ี

มกี ารสอบถามคนอเมรกิ นั จำ� นวนมากวา่ “อะไรท่ีจะทำ� ใหค้ ณุ มีความสุขมากกวา่ เดมิ ”  เกือบรอ้ ยทั้งรอ้ ยตอบว่า  “มีเงนิ มากกวา่ ที่มีอยตู่ อนน”ี้   หลายคนเชื่อว่า ถา้ มีเงนิ มากกวา่ นี้ฉนั จะมีความสุขยง่ิ ขึ้น ที่ฉันยงั ไม่มีความสุขตอนนี้ เพราะยังมีไมพ่ อ ยังมีนอ้ ยไป 42 เราจะสงั เกตเหน็ ไดว้ า่  “ตวั ก”ู  แปรเปลย่ี นไปเรอื่ ย ขนึ้ อยู่ กบั สถานการณแ์ ละบรบิ ท ถา้  “ตวั ก”ู  จรงิ แทแ้ นน่ อน แลว้ ท�ำไม มนั แปรเปลยี่ นไปเรอื่ ย ? ปรากฏการณด์ งั กลา่ วเปน็ ตวั อยา่ งหนง่ึ ที่ท�ำให้หลายคนหรือแทบจะทุกคนก็ว่าได้  เมื่อถึงจุดหน่ึงก็สงสัย หรือเกิดกังขาข้ึนมาว่า  “เอ๊ะ  ตัวกู  มีจริงไหม ?”  แต่ธรรมชาติ ของจิตส่วนลึก  ยอมรับไม่ได้ว่า  “ตัวกู”  ไม่มีจริง  เพราะถ้าตัวกู ไม่มีจริงก็เคว้งสิ  ส่ิงที่เรามักท�ำก็คือ  พยายามกดความลังเล สงสยั นเี้ อาไว ้ กดมนั เอาไวใ้ นสว่ นลกึ ของใจ แตส่ งิ่ ทก่ี ดเอาไวน้ น้ั ไมเ่ คยหายไปไหน มนั แคห่ ลบไปอยใู่ นจติ ไรส้ �ำนกึ  คอยโผลอ่ อก มารบกวนจิตใจตอนเราเผลอ อะไรทเ่ี รากดเอาไวม้ นั ไมเ่ คยหาย แตห่ ลบซอ่ นอย ู่ แลว้ โผล่ ออกมาในยามที่เราเผลอ  หรือไม่ก็แสดงตัวในลักษณะอื่น  คนที่ พุทธศาสนา กบั การแกป้ ญั หาตวั ตน

พระไพศาล วสิ าโล โกรธเกลยี ดพอ่ ถงึ ขน้ั อยากทำ� รา้ ยพอ่  แมจ้ ะกดขม่ ความรสู้ กึ โกรธ เกลยี ดพอ่ เอาไว ้ แตบ่ างครงั้ มนั โผลอ่ อกมาเปน็ ความโกรธเกลยี ด อยา่ งอนื่ แทน มบี างคนเกลยี ดศาลพระภมู  ิ อยากเตะศาลพระภมู ิ ทุกครั้งท่ีเห็น  แต่เมื่อสาวไปลึกๆ  ก็พบว่าเขาโกรธเกลียดพ่อ แตเ่ จา้ ตวั ยอมรบั ไมไ่ ดว้ า่ ตวั เองมคี วามรสู้ กึ นก้ี บั พอ่  เพราะคนดเี ขา ไมโ่ กรธเกลยี ดพ่อ จึงกดความรู้สกึ นเ้ี อาไวใ้ นส่วนลกึ ของใจ แต่ ความรู้สึกนี้ไม่ได้หายไปไหน  มันเพียงแต่โผล่ในรูปอื่น  น่ันคือ โกรธเกลยี ดศาลพระภูมิ ความลงั เลสงสยั วา่  “ตวั กไู มม่ จี รงิ ” กเ็ ชน่ กนั  ใจเรายอมรบั ไมไ่ ดว้ า่  ตวั กไู มม่ จี รงิ  จงึ พยายามกดความสงสยั นเี้ อาไวจ้ นอยใู่ น 43 จิตไร้ส�ำนึก  วันดีคืนดีมันก็โผล่ออกมาสู่จิตส�ำนึก  เป็นความรู้สึก พร่อง  อันน้ีเป็นแนวคิดของ  เดวิด  ลอย  (David  Loy)  นักคิด ชาวพทุ ธทน่ี า่ สนใจมาก ความรสู้ กึ พรอ่ งดงั กลา่ ว ทำ� ใหเ้ กดิ ความ รสู้ กึ ไมม่ น่ั คง งอ่ นแงน่  คบั ขอ้ ง กระวนกระวาย ทำ� ใหไ้ มเ่ ปน็ สขุ   วิธีหนึ่งที่คนท่ัวไปใช้ในการบรรเทาความรู้สึกพร่องก็คือ การเสพและครอบครองวัตถุ  หรือมีเงินมากๆ  ท้ังนี้เพ่ือเติมเต็ม จิตใจ  ทรัพย์สินเงินทองเป็นวัตถุรูปธรรม  ที่หลายคนคิดว่าจะ ช่วยท�ำให้ใจหายพร่อง  ได้รับการเติมจนเต็มได้  นี้คือเหตุผลว่า ท�ำไมผู้คนพากันแสวงหา  บริโภค  และสะสมวัตถุอย่างเอาจริง เอาจงั  ไมใ่ ชเ่ พยี งเพอื่ ความสะดวกสบายทางกาย ไมใ่ ชเ่ พอื่ ความ เอรด็ อรอ่ ยทางอายตนะ หรอื เพอื่ ความสนกุ สนานเทา่ นน้ั  ทส่ี ำ� คญั

คอื เพอ่ื เตมิ เตม็ จติ ใจ เพอ่ื ลดความรสู้ กึ พรอ่ ง โดยพยายามยดึ หา อะไร มาเป็นตัวตน  หรือรองรับค้�ำจุนภาพตัวตนให้ดูเป็นจริง ขึ้นมา ประเด็นน้ีอาตมาคิดว่าน่าสนใจ  คนทุกวันนี้ไม่ได้ต้องการ มวี ตั ถมุ ากๆ เพอ่ื แสดงความยง่ิ ใหญข่ องตวั กเู ทา่ นน้ั  ลกึ ไปกวา่ นน้ั คือทำ� ไปเพื่อลดความรู้สึกพร่อง เพื่อให้จิตใจมีที่ยึดเหนี่ยว ส่ิงที่ ใชเ้ ตมิ เตม็ จติ ใจ หรอื ทำ� ใหจ้ ติ ใจไมค่ ลอนแคลน วา่ งเปลา่  กลวงโบ๋ อาจจะไม่ได้มีแต่วัตถุเท่าน้ัน  อาจจะเป็นประเทศชาติด้วยก็ได้ ความรู้สึกพร่อง  อาจจะน�ำไปสู่การยึดประเทศชาติว่าเป็นตัวกู 44 หรือยึดอุดมการณ์บางอย่างที่ใหญ่กว่าตัวเอง  บางคนอาจจะ ยึดบริษัท  เพ่ือลดความรู้สึกพร่อง  นักธุรกิจชาวญ่ีปุ่นจ�ำนวน ไมน่ อ้ ย เมอื่ หลายสบิ ปกี อ่ นนบั ถอื บรษิ ทั ของตนเปน็ เหมอื นพระเจา้ ส�ำคัญยิ่งกว่าครอบครัว  จนยอมตายเพื่อบริษัทได้  เพราะบริษัท คอื สง่ิ ทเ่ี ขายดึ ถอื เปน็ ตวั ตน มนั เปน็ สงิ่ ทชี่ ว่ ยใหเ้ ขารสู้ กึ วา่ มตี วั ตน ท่มี ่ันคง เป็นสง่ิ ทีช่ ่วยเติมเตม็ จติ ใจ ท�ำให้รูส้ ึกไม่ว่างเปลา่ ดว้ ยเหตนุ จี้ งึ กลา่ วไดว้ า่  การแสวงหาวตั ถขุ องคนในยคุ นที้ ี่ เรยี กวา่ ยคุ บรโิ ภคนยิ ม ไมไ่ ดเ้ กดิ จากตณั หาทเ่ี รยี กวา่  กามตณั หา  คือ  ความอยากมี  อยากได้  อยากเสพ  เพื่อรสอร่อย  แต่เกิด จากแรงผลักทางจิตวิญญาณ  ท่ีปรารถนาการเติมเต็มทางจิต เพื่อลดความรู้สึกพร่อง  หรือเพ่ือการเป็นอะไรที่ม่ันคง  จริงแท้ เปน็ ความปรารถนาหรอื ตัณหาท่ีเรยี กว่า ภวตัณหา พทุ ธศาสนา กบั การแกป้ ญั หาตวั ตน

คนสว่ นใหญอ่ ยากฟัง หรือสนใจแต่ ด้านทใ่ี ห้ความหวงั และก�ำลังใจ สว่ นด้านท่เี ปน็ ความจรงิ ของชีวติ ทีท่ ุกคนตอ้ งประสบ ผู้คนกลับไมอ่ ยากฟงั ทง้ั น้กี เ็ พราะความจรงิ ท่ีว่า ไม่มอี ะไรทีแ่ น่นอน  ไมม่ ีอะไรทีย่ ดึ มน่ั ถือมนั่ ได้เลยสกั อยา่ ง  หรือ ไม่มอี ะไรท่ียึดม่ันได้ว่าเปน็ ตวั เราของเรา  สงิ่ เหล่านี้ ถงึ ที่สดุ แลว้ มันสะเทือนไปถงึ เบอ้ื งลึกของจิตใจเรา



ปัญหาตัวตน ของลทั ธิบรโิ ภคนยิ ม 47 กล่าวได้ว่า ลัทธิบริโภคนิยม  หรือวิถีปฏิบัติท่ีตั้งอยู่บน ความเช่ือว่าความสุขอยู่ท่ีการบริโภค  ได้กลายเป็นศาสนาใหม ่ ของคนยุคปัจจุบันไปแล้ว  เป็นส่ิงที่ผู้คนเข้าหา  เพื่อสนองตอบ ความตอ้ งการทางจติ วญิ ญาณ ทกุ วนั นล้ี ทั ธบิ รโิ ภคนยิ มกลายเปน็ ทางออก หรือศาสนาทีม่ ีเสนห่ ์ดึงดดู ใจผคู้ นมาก เพราะ ประการแรก มนั ชว่ ยใหเ้ ขา้ ถงึ ความสขุ ไดง้ า่ ย สะดวก ให้ ผลเร็ว  ท�ำไมผู้คนจึงนิยมไปร้านเซเว่น  เพราะมันสะดวกเข้าถึง เรียกว่า  convenience  store  เด๋ียวนี้ผู้คนต้องการความสุขที่ เสพได้ไวหรือเกิดขึ้นเร็ว  เรียกว่า  instant  happiness  เป็น

ความสขุ ทเ่ี กดิ ขนึ้ ไดง้ า่ ย แคก่ นิ  instant coffee กเ็ กดิ  instant happiness แลว้  ทำ� ไม fast food ถงึ เปน็ ทนี่ ยิ มของผคู้ น เพราะ มันตอบสนองความต้องการของผู้คนได้เร็ว  ยิ่งเดี๋ยวนี้ใครอยาก กนิ อะไรอรอ่ ยๆ กไ็ มต่ อ้ งไปรา้ นแลว้  แคอ่ ยทู่ บ่ี า้ นกไ็ ดก้ นิ  เพราะ มดี ลี เิ วอรมี่ าสง่ ถงึ บา้ น นคี่ อื เสนห่ ข์ องบรโิ ภคนยิ ม มนั ใหค้ วามสขุ ที่เร็ว งา่ ย สะดวก ประการท่ีสอง  บริโภคนิยมน�ำเสนอวัตถุสิ่งเสพที่หลาก  หลาย  ถ้าอยากดูหนังฟังเพลง  ก็มีให้เลือกมากมายหลายแบบ ตามห้างสรรพสินค้า  ไม่ว่าอยากซื้ออะไร  เขามีให้เราเลือก 48 มากมายหลายชนิด อย่าว่าแต่สบู่ ยาสีฟัน แชมพู แม้กระทั่ง ไอศกรีม  น�้ำผลไม้  เส้ือผ้า  กางเกง  รองเท้า  ความหลากหลาย  ดงั กลา่ ว ทำ� ใหเ้ รารสู้ กึ วา่ เรามอี สิ ระเสรมี ากขนึ้  เรามอี สิ ระทจ่ี ะ  เลอื ก แทบไมม่ ีขดี จ�ำกดั  สามารถปรุงแตง่ ตัวตนได้หลากหลาย  ตามใจปรารถนา ถา้ คณุ อยากมตี วั ตนทภ่ี มู ฐิ าน อยากมภี าพลกั ษณ์ ของนักธุรกิจท่ีส�ำเร็จ  ก็นั่ง  Benz  แต่ถ้าอยากมีตัวตนท่ีอิสระ ใช้ชีวิตท่ีเต็มร้อย  ก็น่ัง  Lamborghini  อยากมีภาพลักษณ์นัก ผจญภยั ชอบลยุ  กน็ งั่  Jeep หรอื  Land Rover คณุ เลอื กตวั ตน แบบที่ต้องการได้เลย  ถ้ามีเงินน้อยกว่านี้ก็ยังเลือกได้  ด้วยการ ซ้อื ของท่ีราคาถกู กว่า เชน่  เส้ือ รองเท้า บรโิ ภคนยิ มใหอ้ สิ ระแกเ่ ราในการเลอื กสรา้ งตวั ตน อกี ทง้ั งา่ ยและสบายดว้ ย เพราะเพยี งแคม่ เี งนิ ซอื้ เทา่ นนั้  ตวั ตนใหมก่ จ็ ะ พุทธศาสนา กบั การแกป้ ญั หาตวั ตน

พระไพศาล วสิ าโล เกดิ ขน้ึ มาไดท้ นั ท ี มนั ยงั ทำ� ใหเ้ รารสู้ กึ วา่ เรามอี ำ� นาจ เปน็ อำ� นาจ ท่ีเกดิ จากการมีเงนิ  ได้ครอบครองเทคโนโลยี สามารถประกาศ ให้โลกรู้ว่า  เราเป็นใคร  ก�ำลังท�ำอะไร  เวลาไปเที่ยวที่ไหน  พบ ดาราคนไหน  พิชิตยอดเขาอะไร  เราสามารถประกาศให้โลกรู้ ได้ทนั ท ี ทำ� ใหค้ นท้ังโลกอิจฉาเราได้ พระพทุ ธเจ้าเปรียบสขุ จากวตั ถหุ รอื กามสุขวา่ 49 เหมอื นกับแสงสว่างทีเ่ กดิ จากคบไฟท่ที ำ� ดว้ ยหญา้ แห้ง มันให้แสงสวา่ งก็จริง แต่เปน็ แสงสวา่ งท่ีไม่นวล แถมยังมคี วนั ท่ีท�ำใหร้ ะคายเคือง อย่างไรก็ตาม  ข้อเสียของการแสวงหาค�ำตอบด้วยวิธีน้ี ก็คือ แม้เป็นค�ำตอบที่ได้มาง่าย  รวดเร็ว  แต่ก็ให้ความพอใจ ชั่วครู่ชั่วยาม  ความสุขท่ีได้จากวัตถุส่ิงเสพนั้น  เป็นสุขช่ัวคราว ไดม้ างา่ ย รวดเรว็ ทนั ใจกจ็ รงิ  แตก่ ห็ ายไปเรว็  แมเ้ ราจะมคี วามสขุ ทันทีท่ีได้เสพได้ซ้ือ  ไม่ว่ารองเท้า  กระเป๋า  โทรศัพท์มือถือ  แต่ ไม่นานเราก็จะเบ่ือ  แล้วก็อยากจะได้ตัวใหม่  ท�ำไมบางคนมี รองเทา้ ถงึ รอ้ ยค ู่ หรอื สองรอ้ ยค ู่ เพราะไมว่ า่ ซอื้ กค่ี ๆู่  ความสขุ ที่ ไดไ้ มเ่ คยยงั่ ยนื หรอื อยนู่ าน ตอนทไ่ี ดม้ าใหมๆ่  กด็ ใี จ มคี วามสขุ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook