Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบราชการของกระทร

แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบราชการของกระทร

Published by Bunchana Lomsiriudom, 2020-11-26 15:28:07

Description: แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบราชการของกระทร

Search

Read the Text Version

ตารางท่ี ๔ การวิเคราะห์ความเชอ่ื มโยงโครงการท่ีสาคญั ตามแผนยุทธศาสตร์พฒั นาระบบราชกา ประเด็น (๒๐) การบรกิ ารประชาชนและประสิทธภิ าพภาครัฐและยุทธศาสตร์ชาติ แผนย่อย ยทุ ธศาสตร์ชาติ ยุทธศาสตร์ชาติ ย ดา้ นความมั่นคง ดา้ นการสรา้ งความสามารถในการแข่งขัน ดา้ นการสรา้ งโอ เป้าหมาย : ๒.๑ เป้าหมาย : ๒.๑ และ ๒.๒ ทางสังคม เปา้ หมาย : ๒.๑ แผนแมบ่ ทภายใต้ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเดน็ (๒๐) ยุทธศาสตร์ชาติ เป้าหมาย : ๑) บริการของรัฐมปี ระสิทธภิ าพและม ตัวชว้ี ดั : ระดับความพึงพอใจในคุณภาพการใหบ้ ร คา่ เป้าหมาย : ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๕ (ปี ๒๕๖๑ แผนย่อยที่ (๒) : การบรหิ ารจัดการการเงินการคล เป้าหมาย : หนว่ ยงานภาครฐั บรรลุผลสมั ฤทธิต์ าม ตวั ชี้วดั : รอ้ ยละของโครงการที่มีผลสัมฤทธ์ติ ่อเป้า ค่าเปา้ หมาย : แผนงาน/โครงการภายใต้ ๑๕ ประ -28-

าร ๔.๐ ของกระทรวงศึกษาธกิ ารตอ่ แผนย่อยของแผนแมบ่ ทภายใต้ยุทธศาสตรช์ าติ ยที่ ๒ : การบริหารจดั การการเงินการคลงั ยุทธศาสตร์ชาติ ยุทธศาสตร์ชาติ อกาสและความเสมอภาค ดา้ นการปรบั สมดุลและพฒั นาระบบการบริหาร ๑ และ ๒.๓ จดั การภาครฐั เปา้ หมาย : ๒.๑ และ ๒.๓ การบริการประชาชนและประสิทธิภาพภาครัฐ มคี ุณภาพเป็นทีย่ อมรับของผใู้ ช้บริการ ริการของภาครฐั – ๒๕๖๕) ลงั มเปา้ หมายยทุ ธศาสตร์ชาติ าหมายยุทธศาสตรช์ าติ ะเด็นเร่งดว่ นของแผนแม่บทภายใตย้ ทุ ธศาสตร์ชาติ 8-

แผนย่อย เป้าหมาย แนวทางการพัฒนา (๒) การบรหิ ารจัดการ หนว่ ยงานภาครัฐบรรลุ ๓) จัดทางบประมาณ ( การเงินการคลงั ผลสัมฤทธ์ิตาม ตอบสนองต่อเป้าหมาย เป้าหมายยทุ ธศาสตร์ ตามยุทธศาสตรช์ าติ ๑) ชาติ สน เชงิ ๒) ท่ีส อย ๔) ทบทวน ศึกษา ปรบั ปรุง ๓) และพัฒนาโครงสร้าง ระบบ คุณ และมาตรการทางภาษี ๕) กาหนดให้มีการติดตาม ๔) ประเมินผลสมั ฤทธ์กิ าร ทส่ี ดาเนินการตามยทุ ธศาสตร์ ตา ชาติ และผลสัมฤทธิ์ ๕) ของแผนงาน/โครงการ ใน ชา ๖) ปร ยทุ -29-

ปัจจัยความสําเร็จ สงิ่ ทีต่ ้องทาํ เพื่อใหเ้ กิดการบรรลเุ ปา้ หมาย (Key Success Factor) ตามแผนย่อย หรอื ปัจจัยสคู่ วามสาํ เรจ็ ท่ีสาํ คญั ทที่ าํ ให้เกิดการบรรลุเป้าหมาย ๑) พัฒนาระบบงบประมาณเพอื่ สนับสนุน (Critical Key Success Factor) บทบาทภารกิจของหน่วยงานท้งั ในภารกิจ ) ระบบงบประมาณมีประสิทธภิ าพ พืน้ ฐาน ภารกิจยุทธศาสตร์ ภารกิจพ้ืนที่ให้ นบั สนุนการบรรลเุ ป้าหมาย บรรลุเปา้ หมาย งยุทธศาสตร์ของหนว่ ยงาน ๒) พฒั นานวตั กรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ) นวัตกรรมและเทคโนโลยี รว่ มกนั เพอื่ ให้เกดิ การพัฒนาในทกุ ๆ มติ ิ สนับสนนุ การพัฒนาในทุกๆ มิติ อย่างย่ังยืน ยา่ งยั่งยืน ๓) พฒั นามาตรการทางภาษีเพอื่ ยกระดับ คุณภาพการศึกษา ) มาตรการทางภาษีในการยกระดับ ณภาพการศึกษา ) ระบบติดตามและประเมนิ ผล ๔) พฒั นาระบบการติดตามประเมินผล สนับสนุนการบรรลุเป้าหมาย ท่สี นบั สนุนการบรรลเุ ป้าหมายตามยุทธศาสตร์ ามยุทธศาสตรช์ าติ ชาติ ) รายงานการตดิ ตามประเมินผล ๕) จัดใหม้ ีการรายงานการติดตามประเมินผล นการบรรลุเปา้ หมายตามยุทธศาสตร์ ในการบรรลเุ ป้าหมายต่อสาธารณะ เปน็ ประจา าติ ๖) เปดิ โอกาสใหผ้ ้มู สี ่วนไดส้ ่วนเสยี เขา้ มามี ) การมสี ่วนรว่ มในการตดิ ตาม สว่ นรว่ มในการตดิ ตามประเมินผล ระเมินผลการดาเนินงานตาม ทธศาสตร์ 9-

ตารางท่ี ๕ การวิเคราะห์ความเชื่อมโยงโครงการที่สาคัญตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒน ยทุ ธศาสตรช์ าตปิ ระเด็น (๒๐) การบริการประชาชนและประสทิ ธิภาพภาครฐั และยุทธศาสต สว่ นรว่ มในการจัดบรกิ ารสาธารณะและกิจกรรมสาธารณะอย่างเหมาะสม ยทุ ธศาสตร์ชาติ ยุทธศาสตร์ชาติ ดา้ นการส ทางสังคม ดา้ นความม่นั คง ดา้ นการสรา้ งความสามารถในการแข่งขัน เป้าหมาย เปา้ หมาย : ๒.๑ เป้าหมาย : ๒.๑ และ ๒.๒ แผนแมบ่ ทภายใต้ แผนแม่บทภายใต้ยทุ ธศาสตร์ชาติ ประเดน็ (๒๐) การ ยทุ ธศาสตร์ชาติ เป้าหมาย : ๑) บริการของรัฐมปี ระสิทธภิ าพและมีคุณ ตัวชีว้ ดั : ระดับความพึงพอใจในคุณภาพการใหบ้ ริก ค่าเป้าหมาย : ไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ ๘๕ ( ปี ๒๕๖๑ – แผนย่อยท่ี (๓) : การปรับสมดุลภาครัฐเปา้ หมาย:เปดิ สาธารณะอยา่ งเหมาะสม เปา้ หมาย : เปดิ โอกาสให้ภาคส่วนตา่ ง ๆ มีส่วนร่วมใ ตัวชวี้ ัด : ระดับความสาเรจ็ การเปิดใหภ้ าคส่วนอื่นเข ค่าเปา้ หมาย : ไมน่ ้อยกว่าร้อยละ ๒๐ -30-

นาระบบราชการ ๔.๐ ของกระทรวงศึกษาธิการต่อแผนย่อยของแผนแม่บทภายใต้ ตรช์ าติ แผนย่อยที่ ๓ : การปรับสมดุลภาครัฐเป้าหมาย:เปิดโอกาสให้ภาคส่วนต่าง ๆ มี ยุทธศาสตร์ชาติ ยุทธศาสตร์ชาติ สร้างโอกาสและความเสมอภาค ด้านการปรับสมดุลและพฒั นาระบบ ม การบรหิ ารจัดการภาครัฐ : ๒.๑ และ ๒.๓ เปา้ หมาย : ๒.๑ และ ๒.๓ รบริการประชาชนและประสทิ ธภิ าพภาครฐั ณภาพเป็นท่ยี อมรับของผใู้ ช้บริการ การของภาครฐั ๒๕๖๕) ดโอกาสใหภ้ าคส่วนต่าง ๆ มีส่วนรว่ มในการจัดบริการสาธารณะและกิจกรรม ในการจัดบรกิ ารสาธารณะและกิจกรรมสาธารณะอยา่ งเหมาะสม ขา้ มาดาเนนิ การบริการสาธารณะ 0-

แผนยอ่ ย เปา้ หมาย แนวทางพฒั นา (๓) การปรบั สมดุล เปดิ โอกาสให้ภาคส่วน ๑) เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วน ๑) ภาครฐั ตา่ ง ๆ มสี ่วนรว่ มในการ เขา้ มามสี ่วนร่วมในการ ๒) จดั บริการสาธารณะ ดาเนินการบริการสาธารณะ ขับ และกจิ กรรมสาธารณะ และกจิ กรรมสาธารณะอย่าง ๓) อย่างเหมาะสม เหมาะสม ยทุ ๔) กา ๕) กา ๖) ให ทิศ -31-

ปัจจยั ความสาํ เรจ็ สิ่งที่ต้องทําเพื่อใหเ้ กดิ การบรรลุ (Key Success Factor) เปา้ หมายตามแผนย่อย หรอื ปัจจัยสคู่ วามสําเรจ็ ท่ีสําคัญ ทท่ี าํ ให้เกดิ การบรรลเุ ปา้ หมาย (Critical Key Success Factor) ) โมเดลการดาเนนิ งานแบบประชารฐั ๑) สนับสนนุ ใหภ้ าคกี ารพัฒนาต่างๆ ) บทบาท ภารกิจท่ีสอดคล้องในการ โดยเฉพาะชมุ ชน เอกชน ในรูปแบบ บเคล่ือนยุทธศาสตรช์ าติ โมเดลประชารัฐมารว่ มดาเนินการ ) การจัดการศึกษาบรรลเุ ป้าหมายตาม ในการจัดการศึกษาและกิจกรรม ทธศาสตร์ชาติ สาธารณะตา่ งๆ ) โครงสร้างองค์กรมีความเหมาสมรองรับ ๒) การวิเคราะห์และทบทวนภารกิจของ ารขับเคลื่อนยุทธศาสตรช์ าติ หนว่ ยงานใหส้ อดคล้องกับการขบั เคลื่อน ) ความร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ ในการจัด ยทุ ธศาสตร์ชาติ ารศึกษา ๓) การกากับดูแลการแปลงนโยบาย ) กฎ ระเบียบที่สนบั สนุนการดาเนินงาน สกู่ ารปฏบิ ตั ิ และการกากับการ ห้กบั ทุกภาคสว่ นและสอดคล้องกบั จดั การศกึ ษาให้เปน็ ไปตามมาตรฐาน ศทางการพัฒนาประเทศในระยะยาว ๔) จัดให้มีการยุบเลิกภารกิจที่ไม่จาเปน็ ๕) ถ่ายโอนภารกจิ ใหภ้ าคส่วนอืน่ รับไป ดาเนินการ เช่น การจา้ งเหมาบริการ และการทางานแบบจดั บริการรว่ ม เป็นต้น ๖) จดั ใหม้ ีการเตรียมความพร้อมหรือ การสนับสนนุ ภาคสว่ นต่างๆ ในการรว่ ม ดาเนนิ ภารกจิ ของหนว่ ยงาน 1-

แผนย่อย เปา้ หมาย แนวทางพฒั นา -32-

ปัจจัยความสาํ เรจ็ ส่งิ ท่ตี ้องทําเพื่อใหเ้ กดิ การบรรลุ (Key Success Factor) เป้าหมายตามแผนย่อย หรือปัจจัยสคู่ วามสําเรจ็ ที่สําคญั ท่ที าํ ให้เกดิ การบรรลุเปา้ หมาย ๗) ปรบั ปรุงบทบาทและกลไกภาครัฐให้ (Critical Key Success Factor) เปน็ ผู้สนับสนนุ และอานวยความสะดวก ในการดาเนินงาน ๘) กาหนดกฎ ระเบียบท่ีไม่เป็นอปุ สรรค ต่อการดาเนินงานภาคเอกชนทกุ ขนาด และสอดคลอ้ งกบั ทศิ ทางการพัฒนา ประเทศในระยะยาว 2-

ตารางท่ี ๖ การวิเคราะหค์ วามเช่ือมโยงโครงการทีส่ าคญั ตามแผนยทุ ธศาสตร์การพฒั นาระบบราช ประเด็น (๒๐) การบรกิ ารประชาชนและประสิทธภิ าพภาครัฐและยุทธศาสตรช์ าติ แผนย่อย ยทุ ธศาสตร์ชาติ ยุทธศาสตร์ชาติ ย ดา้ นความม่ันคง ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขนั ดา้ นการสร้างโอ เปา้ หมาย : ๒.๑ เป้าหมาย : ๒.๑ และ ๒.๒ ทางสังคม เป้าหมาย : ๒.๑ แผนแมบ่ ทภายใต้ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็น (๒๐) ยุทธศาสตร์ชาติ เป้าหมาย ๑) ภาครัฐมีการดาเนินการทม่ี ีประสทิ ธ มาประยุกตใ์ ช้ ตัวช้ีวัด : ดชั นีรัฐบาลอเิ ล็กทรอนกิ ส์ในการจดั ลาด ค่าเปา้ หมาย : อยู่ในกลุ่มประเทศท่ีมีการพฒั นาสงู แผนย่อยที่ (๔) : พฒั นาระบบบรหิ ารงานภาครฐั เปา้ หมาย : ภาครฐั มีขีดสมรรถนะสูงเทียบเท่ามาต ตัวชว้ี ดั : ระดับ Digital Government Maturity คา่ เปา้ หมาย : ระดบั ๒ ตัวชว้ี ัด : สัดส่วนของหนว่ ยงานที่บรรลผุ ลสัมฤทธ ค่าเป้าหมาย : ไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ ๙๐ -33-

าชการ ๔.๐ ของกระทรวงศกึ ษาธิการตอ่ แผนยอ่ ยของแผนแม่บทภายใต้ยทุ ธศาสตร์ชาติ ยท่ี ๔ : พัฒนาระบบบริหารงานภาครฐั ยทุ ธศาสตร์ชาติ ยทุ ธศาสตร์ชาติ อกาสและความเสมอภาค ด้านการปรบั สมดุลและพฒั นาระบบ ๑ และ ๒.๓ การบริหารจดั การภาครัฐ เปา้ หมาย : ๒.๑ และ ๒.๓ การบริการประชาชนและประสทิ ธภิ าพภาครฐั ธภิ าพ ดว้ ยการนานวตั กรรม เทคโนโลยี ดับขององค์การสหประชาชาติ งสุด ๖๐ อันดับแรก ตรฐานสากลและมีความคลอ่ งตวั y Model (Gartner) ธิ์อยา่ งสงู ตามเปา้ หมาย 3-

แผนยอ่ ย เปา้ หมาย แนวทางพฒั นา (๔) พฒั นาระบบ ภาครัฐมีขีดสมรรถนะสูง ๑) พฒั นาหนว่ ยงาน ๑ บริหารงานภาครัฐ เทยี บเท่ามาตรฐานสากล ภาครฐั ใหเ้ ปน็ “ภาครฐั ผ และมีความคลอ่ งตวั ทนั สมยั เปิดกว้าง เป็น องค์กรขดี สมรรถนะสงู ” ๒) กาหนดนโยบายและ ๒ การบริหารจดั การท่ีตั้งอยู่ อ บนข้อมูลและหลักฐานเชงิ อ ประจักษ์ ๓ (B ๔ (K ๕ (L -34-

ปัจจยั ความสําเรจ็ สิ่งท่ตี ้องทําเพ่ือให้เกดิ การบรรลุ (Key Success Factor) เปา้ หมายตามแผนย่อย หรือปัจจัยส่คู วามสาํ เร็จที่สาํ คัญ ทท่ี าํ ใหเ้ กดิ การบรรลุเปา้ หมาย ๑) นานวัตกรรมและเทคโนโลยดี ิจิทัล (Critical Key Success Factor) การพัฒนาใหม้ ีการนาข้อมลู และข้อมลู ๑) ฐานข้อมูลในการตดั สินใจของ ขนาดใหญ่มาใชใ้ นการพัฒนานโยบาย ผู้บรหิ ารในการบรหิ ารจดั การองคก์ ร การตดั สินใจ การบรหิ ารจดั การ การให้บริการและการพัฒนานวตั กรรม ๒) ช่องทางในการเขา้ ถึงข้อมูลของ ภาครฐั องคก์ ร เพ่ือการนาไปใช้ประโยชนไ์ ด้ ๒) เช่อื มโยงการทางานและข้อมลู อยา่ งสะดวกและเหมาะสม ระหว่างองคก์ ร ทัง้ ภายในและภายนอก ๓) แนวทางปฏิบตั ิทีเ่ ปน็ เลิศ ภาครัฐแบบอัตโนมตั ิ Best practice) ๓) พฒั นาข้อมูลเปิดภาครัฐให้ทุกภาค ๔) การจดั การความรู้ สว่ นสามารถเขา้ ถงึ แบง่ ปนั และใช้ Knowledge management) ประโยชน์ไดอ้ ย่างสะดวกและเหมาะสม ๕) องค์กรแห่งการเรียนรู้ ๔) นาองค์ความร้ใู นแบบสหสาขาวิชา Learning Organization) เขา้ มาประยุกต์ใชเ้ พอื่ สร้างคุณค่า และแนวทางปฏิบัตทิ ี่เป็นเลิศในการ ตอบสนองกบั สถานการณต์ ่างๆ ได้อย่าง ทนั เวลา 4-

แผนยอ่ ย เป้าหมาย แนวทางพัฒนา ๓) ปรบั เปลย่ี นรูปแบบ ๖ การจดั โครงสรา้ งองค์การ ก และออกแบบระบบการ ๗ บริหารงานใหม่ ใหม้ ีความ เห ยดื หย่นุ คล่องตวั กระชบั ต ทันสมัย ๘ แ ๙ แ -35-

ปจั จัยความสาํ เร็จ (Key Success Factor) ส่งิ ท่ตี ้องทําเพ่ือให้เกิดการบรรลุ หรอื ปัจจัยสู่ความสาํ เร็จที่สาํ คญั เป้าหมายตามแผนย่อย ทีท่ าํ ให้เกดิ การบรรลุเป้าหมาย (Critical Key Success Factor) ๕) จดั การความรแู้ ละถ่ายทอดความรู้ อยา่ งเปน็ ระบบเพื่อพัฒนาภาครัฐใหเ้ ปน็ องคก์ รแห่งการเรียนรู้ ๖) เสรมิ สรา้ งการรับรู้ สรา้ งความเข้าใจ การพฒั นาวัฒนธรรมองค์กร เพื่อส่งเสรมิ การพฒั นาระบบบริการ และการบรหิ ารจดั การภาครฐั อยา่ งเต็มศกั ยภาพ ๖) โครงสร้างองค์กรที่มขี นาดเหมาะสม ๗) จัดโครงสรา้ งองคก์ รทม่ี ีขนาด กบั ภารกิจ เหมาะสมกบั ภารกจิ ปราศจากความ ๗) กฎหมาย กฎ ระเบยี บท่ีมีความ ซ้าซอ้ นของการดาเนนิ ภารกิจ สามารถ หมาะสมและสอดคล้อง ปรบั เปลีย่ นบทบาท ภารกิจ โครงสร้าง ตามสถานการณท์ ี่เปลีย่ นไป องคก์ าร ระบบการบรหิ ารงาน ๘) ระบบงานแบบบูรณาการทั้งภายใน ๘) วางกฎ ระเบยี บได้เองอย่างเหมาะสม และภายนอกองค์กร ตามสถานการณ์ทเี่ ปลยี่ นแปลงไป ๙) ระบบเทคโนโลยดี ิจิทลั ท่สี นับสนุน ๙) มุง่ เน้นการทางานแบบบรู ณาการ และเพ่ิมประสิทธิภาพในการทางาน ไร้รอยต่อและเชื่อมโยงเป็นเครือข่าย กับทุกภาคส่วน 5-

แผนย่อย เปา้ หมาย แนวทางพฒั นา -36-

ปัจจัยความสาํ เรจ็ สง่ิ ที่ต้องทําเพื่อให้เกิดการบรรลุ (Key Success Factor) เปา้ หมายตามแผนยอ่ ย หรือปัจจัยสคู่ วามสําเร็จท่ีสําคญั ท่ที าํ ให้เกดิ การบรรลุเปา้ หมาย ๑๐) นาเทคโนโลยอี ันทันสมัยเข้ามา (Critical Key Success Factor) ประยุกตใ์ ช้เพ่ือเพิ่มประสทิ ธภิ าพและ สร้างคุณค่าในการทางาน 6-

ตารางท่ี ๗ การวิเคราะหค์ วามเชื่อมโยงโครงการทส่ี าคัญตามแผนยุทธศาสตรก์ ารพัฒนาระบบราช ประเด็น (๒๐) การบรกิ ารประชาชนและประสิทธภิ าพภาครัฐและยุทธศาสตร์ชาติ แผนย่อย ยทุ ธศาสตร์ชาติ ยทุ ธศาสตร์ชาติ ดา้ นก ทางส ด้านความม่นั คง ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน เป้าห เปา้ หมาย : ๒.๑ เปา้ หมาย : ๒.๑ และ ๒.๒ แผนแมบ่ ทภายใต้ แผนแม่บทภายใตย้ ุทธศาสตร์ชาติ ประเด็น (๒๐ ยุทธศาสตร์ชาติ เป้าหมาย ๑) ภาครฐั มีการดาเนนิ การทมี่ ีประสทิ ตัวชีว้ ดั : ดชั นรี ฐั บาลอเิ ล็กทรอนกิ ส์ในการจัดลา ค่าเปา้ หมาย : อยู่ในกล่มุ ประเทศท่ีมกี ารพฒั นา แผนยอ่ ยที่ (๕) : การสร้างและพัฒนาบุคลากรภ เป้าหมาย : บคุ ลากรภาครฐั ยึดคา่ นยิ มในการทา มจี ิตสานกึ มีความสามารถสูง มุ่งมั่น และเปน็ ม ตวั ชว้ี ดั :ระดับ : ดชั นีความผูกพนั ของบคุ ลากรภ ค่าเปา้ หมาย : ไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ ๘๐ ตวั ชว้ี ัด : สัดส่วนเจ้าหน้าทรี่ ัฐท่กี ระทาผิดกฎหม ค่าเป้าหมาย : ลดลงรอ้ ยละ ๒๐ -37-

าชการ ๔.๐ ของกระทรวงศกึ ษาธิการตอ่ แผนย่อยของแผนแมบ่ ทภายใตย้ ทุ ศาสตร์ชาติ ยท่ี ๕ : การสรา้ งและพัฒนาบุคลากรภาครฐั ยุทธศาสตร์ชาติ ยทุ ธศาสตร์ชาติ นการสรา้ งโอกาสและความเสมอภาค ดา้ นการปรบั สมดุลและพัฒนาระบบการ สังคม บริหารจัดการภาครัฐ หมาย : ๒.๑ และ ๒.๓ เปา้ หมาย : ๒.๑ และ ๒.๓ ๐) การบริการประชาชนและประสทิ ธภิ าพภาครฐั ทธภิ าพ ดว้ ยการนานวตั กรรม เทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ าดับขององค์การสหประชาชาติ าสูงสดุ ๖๐ อันดบั แรก ภาครัฐ างานเพอื่ ประชาชน ยึดหลักคุณธรรม จรยิ ธรรม มืออาชีพ ภาครัฐ มายลดลง 7-

แผนย่อย เป้าหมาย แนวทางพฒั นา หร ท (๕) การสร้างและพัฒนา บคุ ลากรภาครฐั ยึด ๑) ปรบั ปรงุ กลไก (C บคุ ลากรภาครฐั ค่านยิ ม ในการทางาน ในการกาหนดเป้าหมาย เพ่ือประชาชน ยึดหลัก และนโยบายกาลงั คน ๑) ระ คุณธรรม จรยิ ธรรม มี ในภาครฐั ใหม้ ีมาตรฐาน ใหม้ ีค จิตสานึก มีความสามารถ และเกิดผลในทางปฏบิ ัติ ๒) ก สูง มงุ่ มั่น และเป็นมือ ได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ ยืดห อาชีพ ภายใ ๓) ก ๒) เสรมิ สรา้ งความ ๔) ระ เข้มแข็งในการบรหิ ารงาน ๕) ระ บุคคลในภาครฐั ให้เป็นไป บคุ ล ตามระบบคุณธรรม ในกา อย่างแทจ้ ริง ๖) ระ ระดบั ตามผ -38-

ปจั จยั ความสําเรจ็ (Key Success Factor) สิ่งท่ตี ้องทําเพ่ือให้เกิดการบรรลเุ ป้าหมายตาม รอื ปัจจัยสู่ความสําเรจ็ ท่ีสําคญั แผนย่อย ท่ที ําให้เกิดการบรรลุเป้าหมาย Critical Key Success Factor) ะบบการบริหารกาลังคน ๑) พฒั นาระบบการบรหิ ารกาลงั คนให้มีความ ความคล่องตวั ยึดระบบคุณธรรม คล่องตัว ยดึ ระบบคุณธรรม การบรหิ ารทรัพยากรบุคคลมีความ ๒) เพ่ิมความยืดหยุ่นคล่องตวั ให้กับหน่วยงาน หย่นุ คล่องตัว และมปี ระสิทธิภาพ ภาครฐั ในการบรหิ ารทรัพยากรบคุ คล ในทุก ใตห้ ลักระบบคุณธรรม ขน้ั ตอนควบคู่ไปกับการเสรมิ สร้างประสทิ ธภิ าพ กลไกในการบรหิ ารทรัพยากรบคุ คล และคณุ ภาพภายใต้หลักระบบคุณธรรม ๓) ปรบั ปรุงเปลีย่ นแปลงกลไกการวางแผน กาลงั คน รปู แบบการจา้ งงาน การสรรหา การ คัดเลือก การแตง่ ตั้ง เพ่ือเอื้อให้เกดิ การ หมนุ เวยี น ถา่ ยเทแลกเปลย่ี น และโยกยา้ ย บุคลากรคุณภาพในหลากหลายระดับระหวา่ ง ภาคสว่ นตา่ งๆ ของประเทศได้อย่างคล่องตัว ะบบการสรรหาและคดั เลือกบุคคล ๔) พฒั นาระบบการสรรหาและคดั เลอื กบุคคลท่ี ะบบบรหิ ารจดั การและพัฒนา มีความร้คู วามสามารถ มคี ุณธรรมจริยธรรมและ ลากรให้สามารถสนองความต้องการ จิตสานึก สาธารณะ ารปฏิบตั ิงาน ๕) พฒั นาระบบบริหารจัดการและพัฒนา ะบบการประเมินผลและเล่อื น บคุ ลากรใหส้ ามารถสนองความต้องการในการ บ ตาแหน่งของบุคลากรภาครัฐ ปฏิบตั งิ าน มคี วามก้าวหน้าในอาชีพ สามารถจูง ผลสมั ฤทธ์ิของงานและพฤติกรรม ใจใหค้ นดีคนเก่งทางานในภาครฐั 8-

แผนย่อย เปา้ หมาย แนวทางพัฒนา หร ท (C ในกา ๗) ก การใ ๘) ก โยกย คล่อง ๙) ระ ทกุ ป เหมา ๑๐) คา่ ตอ บคุ ล เหมา -39-

ปัจจัยความสําเร็จ สิ่งที่ต้องทาํ เพ่ือใหเ้ กิดการบรรลเุ ป้าหมายตาม (Key Success Factor) แผนยอ่ ย รือปัจจยั สู่ความสาํ เร็จที่สาํ คญั ทีท่ าํ ให้เกิดการบรรลเุ ป้าหมาย ๖) พฒั นาระบบการประเมินผลและเล่ือนระดบั Critical Key Success Factor) ตาแหน่งของบุคลากรภาครฐั ตามผลสัมฤทธ์ิของ งานและพฤติกรรมในการปฏบิ ัติงาน ารปฏิบัตงิ าน ๗) สร้างกลไกการป้องกนั การแทรกแซงและการ กลไกการปอ้ งกนั การแทรกแซงและ ใชด้ ลุ ยพินจิ โดยมิชอบ ใชด้ ุลยพนิ ิจโดยมิชอบ ๘) สรา้ งความก้าวหนา้ ให้กับบุคลากรภาครัฐตาม กลไกให้บุคลากรภาครัฐสามารถ ความรู้ ความสามารถและศักยภาพในการ ยา้ ยและหมนุ เวยี น ได้อย่าง ปฏบิ ตั งิ าน งตัวเพื่อประโยชน์ของภาครฐั ๙) สรา้ งกลไกให้บุคลากรภาครัฐสามารถโยกย้าย ะบบการจ้างงานบุคลากรภาครฐั และหมนุ เวียน ได้อย่างคลอ่ งตัวเพอื่ ประโยชน์ ประเภทให้มรี ูปแบบท่ีหลากหลาย ของภาครฐั าะสมกบั ภารกจิ ๑๐) พฒั นาระบบการจา้ งงานบคุ ลากรภาครัฐทกุ วธิ กี ารกาหนดและพิจารณา ประเภทให้มรี ูปแบบทห่ี ลากหลายเหมาะสมกับ อบแทน และสิทธปิ ระโยชน์ของ ภารกจิ ในรูปต่างๆ ลากรภาครัฐใหม้ ีมาตรฐาน ๑๑) ปรับปรุงวิธีการกาหนดและพิจารณา าะสมกบั ลักษณะงานและภารกจิ ค่าตอบแทน และสิทธปิ ระโยชน์ของบุคลากร ภาครฐั ให้มีมาตรฐาน เหมาะสมกับลักษณะงาน และภารกิจ 9-

แผนย่อย เปา้ หมาย แนวทางพฒั นา หร ท ๓) พัฒนาบคุ ลากรภาครัฐ (C ทุกประเภทใหม้ ีความรู้ ความสามารถสงู มีทักษะ ๑๑) การคิดวเิ คราะห์ และการ บคุ ล ปรับตวั ให้ทันต่อการ ๑๒) เปล่ยี นแปลง มคี ณุ ๑๓) เปน็ ม เชิงร บรู ณ อ่ืนได การป และค -40-

ปัจจยั ความสําเรจ็ (Key Success Factor) สง่ิ ทีต่ ้องทาํ เพ่ือใหเ้ กดิ การบรรลุเปา้ หมายตาม รอื ปัจจัยสูค่ วามสาํ เร็จที่สําคัญ แผนยอ่ ย ท่ีทําใหเ้ กดิ การบรรลุเป้าหมาย Critical Key Success Factor) ระบบการพัฒนาขีดความสามารถ ๑๒) พฒั นาระบบการพัฒนาขีดความสามารถ ลากรภาครัฐให้มสี มรรถนะใหมๆ่ บคุ ลากรภาครัฐใหม้ ีสมรรถนะใหม่ๆ ทกั ษะการ ขา้ ราชการและเจา้ หน้าท่ี ใช้ภาษาองั กฤษและภาษาที่สาม ทักษะดา้ น ณธรรมจรยิ ธรรม ดจิ ิทลั มที ัศนคติและกรอบความคิดในการ แนวคิดให้การปฏิบัติราชการ ทางานเพ่ือใหบ้ ริการประชาชนและอานวยความ มืออาชพี มจี ิตบรกิ าร ทางานใน สะดวกภาคเอกชนและภาคประชาสังคมเพ่ือ รุกและมองไปข้างหนา้ สามารถ ประโยชนข์ องการพฒั นาประเทศ ณาการการทางาน ร่วมกับภาคส่วน ๑๓) เสรมิ สร้างคุณธรรมและจริยธรรม ด้อย่างเป็นรปู ธรรม และมีสานึกใน ๑๔) ปรับเปลี่ยนแนวคิดให้การปฏิบัตริ าชการ ปฏิบตั ิงานด้วยความรับผดิ รับชอบ เปน็ มืออาชีพ มจี ิตบรกิ าร ทางานในเชงิ รกุ และ ความสุจริต มองไปขา้ งหน้า สามารถบูรณาการการทางาน รว่ มกบั ภาคสว่ นอ่ืนได้อย่างเป็นรูปธรรม และมี สานกึ ในการปฏบิ ัติงานดว้ ยความรับผดิ รบั ชอบ และความสจุ ริต ๑๕) ส่งเสรมิ ใหม้ ีการคุ้มครองและปกป้อง บคุ ลากรภาครฐั ท่กี ลา้ ยืดหยดั ในการกระทาท่ี ถูกต้องและมีพฤติกรรมการปฏบิ ัติงานตาม จริยธรรมและจรรยาบรรณ วชิ าชีพ 0-

แผนยอ่ ย เป้าหมาย แนวทางพฒั นา หร ท ๔) สร้างผู้นาทาง (C ยุทธศาสตร์ในหน่วยงาน ภาครฐั ทุกระดับอยา่ ง ๑๔) ตอ่ เนื่องและเปน็ ระบบ สาธา ๑๕) -41-

ปัจจยั ความสาํ เร็จ ส่งิ ที่ต้องทําเพื่อใหเ้ กดิ การบรรลเุ ปา้ หมายตาม (Key Success Factor) แผนยอ่ ย รือปัจจัยสคู่ วามสําเร็จท่ีสําคญั ทีท่ ําใหเ้ กิดการบรรลุเปา้ หมาย ๑๖) ปรบั เปลี่ยนกระบวนการทางความคิดให้ Critical Key Success Factor) ผู้นามีความเป็นผปู้ ระกอบการสาธารณะ ๑๗) พัฒนาทักษะ สมรรถนะท่จี าเปน็ แนวคิดในการเปน็ ผปู้ ระกอบการ และเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอันจะช่วย ทาให้ผู้นา ารณะของผู้นาองค์กร สามารถแสดงบทบาท ผู้นาการเปล่ียนแปลง ของการเป็นผนู้ าการเปลี่ยนแปลง เพ่ือสร้างคุณค่าและประโยชน์สขุ ให้แก่ประชาชน 1-

๖. ความสอดคลอ้ งกบั แผน ๓ ระดบั ตามนัยยะของมตคิ ณะรฐั มนตรี เมอื่ วันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๐ ยุทธศาสตร์ชาติ (แผนระดบั ที่ ๑) ๑. ยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี ดา้ นการปรับสมดุลและพัฒนาระบบบริหารจดั การภาครฐั (๑) เปา้ หมายท่ี 2.1 ภาครฐั มวี ฒั นธรรมการทางานที่มงุ่ ผลสัมฤทธ์ิและผลประโยชน์ สว่ นรวม ตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างสะดวก รวดเร็ว โปร่งใส (๒) ตวั ชวี้ ดั ท่ี 3.2 ประสทิ ธภิ าพของการบริการภาครฐั (๓) ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 4.2.3 ระบบติดตามประเมนิ ผลที่สะท้อนการบรรลเุ ปา้ หมาย ยุทธศาสตรช์ าตใิ นทุกระดับ มีการประเมนิ ผลทั้งก่อนเริ่มโครงการ ระหวา่ งดาเนินโครงการ ผลผลติ ผลลพั ธ์ และผลกระทบตอ่ การบรรลุเปา้ หมาย ตามยุทธศาสตร์ชาติ ตง้ั แตร่ ะดับชาติ ระดับประเดน็ การพฒั นาระดับหน่วยงาน และระดับพ้นื ที่ พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้มสี ่วนได้ สว่ นเสยี เขา้ มามีส่วนรว่ มในการประเมนิ ผล และจดั ใหม้ ีการรายงาน ติดตามประเมินผล ในการบรรลุเป้าหมายต่อสาธารณชนเปน็ ประจา รวมท้ังการตรวจสอบโดยองค์กรอิสระ ตอ้ งเป็นไปเพ่อื สง่ เสริมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ แผนระดับที่ ๒ (เฉพาะท่ีเกี่ยวข้อง) ๑. แผนแม่บทภายใตย้ ุทธศาสตร์ชาติ (๑) ประเดน็ การบรกิ ารประชาชนและประสทิ ธภิ าพภาครัฐ (๑.๑) แผนแมบ่ ทภายใต้ยุทธศาสตรช์ าติ (๒๐) การบรกิ ารประชาชนและประสิทธภิ าพภาครฐั - เป้าหมายที่ ๑ บริการของรัฐมปี ระสิทธภิ าพและมีคุณภาพเป็นทย่ี อมรับของผู้ใชบ้ รกิ าร - ตวั ช้ีวัด ระดบั ความพึงพอใจในคุณภาพการให้บริการของภาครฐั - ค่าเป้าหมาย ไมน่ ้อยกว่าร้อยละ ๘๕ (ปี ๒๕๖๑ – ๒๕๖๕) - เป้าหมายที่ ๒ ภาครัฐมีการดาเนินการที่มีประสิทธิภาพ ด้วยการนานวัตกรรรม เทคโนโลยี มาประยุกต์ใช้ - ตวั ชี้วดั ดชั นรี ฐั บาลอเิ ล็กทรอนิกสใ์ นการจัดลาดับขององค์การสหประชาชาติ - ค่าเป้าหมาย อยใู่ นกลมุ่ ประเทศท่ีมีการพฒั นาสูงสดุ ๖๐ อนั ดบั แรก (ปี ๒๕๖๑ – ๒๕๖๕) (1.2) แผนย่อยการพัฒนาบริการประชาชน - แนวทางพฒั นา ๑) พัฒนารปู แบบบรกิ ารเพ่อื อานวยความสะดวกในการให้บริการประชาชน ๒) พัฒนาการใหบ้ รกิ ารภาครฐั ผา่ นการนาเทคโนโลยดี ิจทิ ลั มาประยุกต์ใช้ 3) ปรับวธิ กี ารทางาน จาก “การทางานตามภารกิจท่ีกฎหมายกาหนด” เป็น “การให้บริการ ที่ให้ความสาคญั กับผรู้ ับบริการ” - เปา้ หมาย งานบริการภาครัฐท่ปี รบั เปลยี่ นเป็นดจิ ิทัลเพิ่มขึ้น - ตวั ชีว้ ดั สดั สว่ นความสาเรจ็ ของกระบวนงานทีไ่ ด้รับการเปลีย่ นใหเ้ ปน็ ดจิ ิทัล - ค่าเป้าหมาย ร้อยละ 100 (ปี ๒๕๖๑–๒๕๖๕) (1.3) แผนยอ่ ยการบรหิ ารจัดการการเงินการคลัง -42-

- แนวทางการพัฒนา 1) รักษาและเสรมิ สรา้ งเสถียรภาพทางเศรษฐกิจมหภาค ๒) พัฒนาระบบเตอื นภัยทางดา้ นเศรษฐกจิ การเงินและการค้า 3) ทางบประมาณตอบสนองต่อเป้าหมายตามยุทธศาสตรช์ าติ 4) ทบทวน ศกึ ษา ปรบั ปรงุ และพฒั นาโครงสรา้ ง และระบบมาตรการทางภาษี 5) กาหนดให้มีการติดตามประเมินผลสัมฤทธ์ิการดาเนินการตามยุทธศาสตร์และ ผลสมั ฤทธขิ์ องแผนงาน/โครงการ - เปา้ หมาย หนว่ ยงานภาครฐั บรรลผุ ลสัมฤทธ์ิตามเปา้ หมายยุทธศาสตร์ - ตวั ชว้ี ัด รอ้ ยละของโครงการท่มี ผี ลสมั ฤทธต์ิ อ่ เป้าหมายยทุ ธศาสตรช์ าติ - ค่าเป้าหมาย แผนงาน/โครงการภายใต้ 15 ประเด็นเร่งด่วนของแผนแม่บทภายใต้ ยทุ ธศาสตร์ชาติ (ปี ๒๕๖๑–๒๕๖๕) (1.4) แผนย่อยการปรบั สมดุลภาครฐั - แนวทางการพัฒนา 1) เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการดาเนินการบริการสาธารณะและ กจิ กรรมสาธารณะอยา่ งเหมาะสม ๒) สง่ เสรมิ บทบาทองคก์ รปกครองสว่ นท้องถิ่น - เปา้ หมาย ๑) เปดิ โอกาสใหท้ กุ ภาคสว่ นต่างๆ มีสว่ นร่วมในการจดั บริการสาธารณะ - ตัวชีว้ ดั ระดับความสาเรจ็ ในการเปิดใหภ้ าคส่วนอนื่ เข้ามาดาเนินการบรกิ ารสาธารณะ - คา่ เปา้ หมาย ไม่น้อยกว่า ร้อยละ 20 (ปี ๒๕๖๑–๒๕๖๕) 2) องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินต้องมีสมรรถนะและสร้างความทันสมัยในการบริหาร จัดการสาธารณะ และสร้างความทนั สมยั ในการจดั บริการสาธารณะและกิจกรรมสาธารณะให้กับประชาชน - ตัวชี้วัด ค่าคะแนนการประเมินร้อยละของเทศบาลและองค์กรบริหารส่วนตาบลท่ีนา แผนชุมชนสู่การพัฒนาทอ้ งถนิ่ ไดต้ ามเกณฑท์ กี่ าหนด (LQM) - ค่าเปา้ หมาย ไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ 70 (1.5) แผนย่อยการพัฒนาระบบรหิ ารงานภาครัฐ - แนวทางการพัฒนา 1) พฒั นาหน่วยงานภาครัฐให้เปน็ “ภาครัฐทนั สมัย เปิดกวา้ ง เป็นองคก์ รขดี สมรรถนะสูง 2) กาหนดนโยบายและการบรหิ ารจัดการท่ตี ั้งอยูบ่ นขอ้ มลู และหลักฐานเชิงประจักษ์ 3) ปรับเปล่ียนรูปแบบการจัดโครงสร้างองค์การและออกแบบระบบบริหารงานใหม่ให้มี ความยืดหยุน่ คล่องตัว กระชับ ทันสมัย - เป้าหมาย ภาครฐั มขี ีดสมรรถนะสูงเทียบเทา่ มาตรฐานสากลและมีความคล่องตวั - ตัวช้ีวดั 1) ระดับ Digital Government Maturity Model (Gartner) - คา่ เป้าหมาย ระดับ 2 (ปี ๒๕๖๑–๒๕๖๕) 2) สัดส่วนของหน่วยงานท่ีบรรลผุ ลสัมฤทธอิ์ ย่างสงู ตามเป้าหมาย - คา่ เป้าหมาย ไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ 90 -43-

(1.6) แผนย่อยการสรา้ งและพฒั นาบคุ ลากรภาครัฐ - แนวทางการพัฒนา ๑) ปรับปรุงกลไกการกาหนดเป้าหมายและนโยบายกาลังคนภาครัฐให้มีมาตรฐาน และเกิดผลในทางปฏบิ ตั ิไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ 2) เสรมิ สร้างความเขม้ แข็งในการบรหิ ารงานบุคคลในภาครฐั ให้เป็นไปตามระบบคณุ ธรรม 3) พัฒนาบุคลากรภาครฐั ทุกประเภทให้มีความสามารถสูง มีทักษะการวเิ คราะห์ 4) สรา้ งผนู้ าทางยทุ ธศาสตร์ในหน่วยงานภาครฐั ทกุ ระดบั อยา่ งตอ่ เน่ืองและเปน็ ระบบ - เป้าหมาย บุคลากรยึดค่านิยมในการทางานเพื่อประชาชน ยึดหลักคุณธรรม จริยธรรม มจี ิตสานกึ มคี วามสามารถสูง ม่งุ มั่น และเป็นมอื อาชพี - ตวั ชว้ี ดั 1) ดชั นคี วามผกู พนั ของบุคลากรภาครัฐ - ค่าเปา้ หมาย ไมน่ ้อยกว่ารอ้ ยละ 80 (ปี ๒๕๖๑–๒๕๖๕) 2) สดั ส่วนเจ้าหนา้ ทรี่ ัฐกระทาผดิ กฎหมายลดลง - ค่าเปา้ หมาย ลดลงร้อยละ 20 (ปี ๒๕๖๑–๒๕๖๕) ๒. แผนการปฏิรปู ประเทศ ด้านการบรหิ ารราชการแผ่นดิน (๑) เรือ่ ง/ประเด็นการปฏิรูปที่ 1 บริการภาครัฐ สะดวก รวดเร็ว และตอบโจทย์ชวี ิตประชาชน - กลยุทธ์ 1) เพิ่มสมรรถนะของหน่วยงานภาครฐั ในการตอบสนองต่อประชาชนในสถานการณ์ หรอื ภาวะฉกุ เฉนิ 2) ยกระดับการให้ข้อมลู และให้คาปรกึ ษาจากหน่วยงานภาครัฐ 3) ยกระดับการให้บริการประชาชนสู่การบริการที่เรว็ ขึน้ ง่ายขึ้น และถูกลง (Faster, Easier and Cheaper) - เป้าหมายหรอื ผลอนั พึงประสงคแ์ ละผลสัมฤทธ์ิ ๑) ประชาชนสามารถแจง้ เหตุด่วน เหตุรา้ ย เหตุฉกุ เฉินได้ทุกเรื่องโดยใชเ้ ลขหมาย โทรศัพทฉ์ ุกเฉนิ แหง่ ชาติเลขหมายเดียว เพ่ือให้ประชาชนสามารถจดจาเลขหมายโทรศัพท์และโทรแจง้ เหตฉุ ุกเฉนิ เพื่อขอความช่วยเหลือได้โดยสะดวก และไดร้ บั การตอบสนองจากหน่วยงานทีเ่ กี่ยวข้องได้ทนั สถานการณ์ ตาม มาตรฐานสากล ๒) การให้ความช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาของประชาชนเป็นแบบบูรณาการ การให้ความช่วยเหลือ จากหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง เช่น สานักงานตารวจแห่งชาติ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน สานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนหน่วยงานอ่ืนๆ ท่ีเกี่ยวข้อง รวมทัง้ สามารถบรู ณาการ และเชือ่ มโยงข้อมูลท่สี าคัญ เชน่ การเช่ือมโยงข้อมูลประวัติการรักษาพยาบาลระหว่าง โรงพยาบาลตา่ งๆ กรณีทมี่ ีเหตุฉกุ เฉนิ ต้องเขา้ รับการรักษาพยาบาล โดยไม่ละเมดิ สทิ ธิเสรภี าพส่วนบุคคล เปน็ ต้น ๓) ประชาชนได้รับข้อมูล/คาปรึกษาจากหน่วยงานของรัฐ ตรงตามความต้องการ ถูกต้อง ครบถ้วนเป็นปัจจุบัน รวมทั้งมีความสะดวก รวดเร็ว ผ่านช่องทางออนไลน์ หรือสามารถนัดหมาย เพ่ือขอพบ เจ้าหนา้ ทีใ่ นวันและเวลาท่ีกาหนด ๔) การให้ข้อมูลและคาปรึกษาแบบเบ็ดเสร็จผ่านจุดเดียวโดยมีผู้รับบริการเป็น ศูนยก์ ลาง ดว้ ยการนาเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาใชใ้ นการเพ่ิมประสิทธิภาพการใหบ้ ริการ -44-

๕) การให้บริการประชาชนและผู้ประกอบการ ในการขออนุมัติ/อนุญาตจากรัฐเร็วขึ้น ง่ายขึ้น และถูกลง (faster, easier and cheaper) โดยลดการขอข้อมูลและเอกสารซ้าซ้อนจากผู้ขอรับบริการ สามารถดาเนนิ การไดแ้ บบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) ผ่านช่องทางดิจิทัล ศูนย์บริการร่วมหรือช่องทางอื่นๆ รวมทง้ั สามารถตดิ ตามความคืบหน้าในการดาเนนิ การ ตดิ ต่อนัดหมายเพือ่ ขอรับบริการลว่ งหนา้ ได้ - ตัวช้วี ดั ๑) ความพึงพอใจในการรับบริการแจ้งเหตุด่วน เหตุร้าย เหตุฉุกเฉินผ่านเลขหมาย ฉุกเฉนิ แหง่ ชาติ ๒) ร้อยละของการแจ้งเหตุด่วน เหตุร้าย เหตุฉุกเฉินของประชาชนผ่านเลขหมาย ฉุกเฉินแห่งชาตไิ ด้รับการตามมาตรฐานท่ีกาหนด ๓) จานวนหน่วยงานทีส่ ามารถยกระดับการให้ข้อมูล/คาปรกึ ษาแก่ประชาชน ๔) ปรมิ าณการให้ขอ้ มลู /คาปรึกษาผา่ นชอ่ งทางการให้ข้อมลู /คาปรกึ ษาแบบเบ็ดเสรจ็ ๕) ระดับความพึงพอใจในการรับบริการผ่านช่องทางการให้ข้อมูล/คาปรึกษาแบบ เบ็ดเสร็จ ๖) ร้อยละของจานวนกระบวนการขออนุมัติ/อนุญาตท่ีได้รับการปรับปรุงให้มี ประสทิ ธิภาพ มากขึ้นเพ่ืออานวยความสะดวกแก่ประชาชน ๗) ความพึงพอใจในการขออนุมัติ/อนุญาตที่ได้รับการปรับปรุงเพื่ออานวยความสะดวก แก่ประชาชน ๘) ระดับคะแนนความสะดวกในการทาธุรกิจ (Ease of Doing Business) ในส่วน ที่เกยี่ วขอ้ ง กับกระบวนการใหบ้ ริการภาครัฐดีขึน้ (2) เร่ืองและประเด็นปฏิรูปท่ี ๒ ระบบข้อมูลภาครัฐมีมาตรฐาน ทันสมัย และเช่ือมโยงกัน กา้ วสู่รฐั บาลดิจทิ ลั - กลยทุ ธ์ ๑) บูรณาการและยกระดับโครงสรา้ งพ้ืนฐานรัฐบาลดิจิทัล ๒) นาระบบดิจิทัลมาใช้ในการปฏบิ ัติงาน และการบริหารราชการ ๓) บรู ณาการข้อมลู ของหนว่ ยงานภาครฐั เพ่ือการบรหิ ารราชการแผน่ ดนิ - เปา้ หมายหรือผลอนั พึงประสงคแ์ ละผลสัมฤทธ์ิ ๑) หน่วยงานภาครัฐมีโครงสร้างพื้นฐานรัฐบาลดิจิทัล (Digital Government Infrastructure) สาหรับรองรับการให้บริการ/การทางานผ่านระบบดิจิทัล ซึ่งจะทาให้หน่วยงานภาครัฐสามารถเชื่อมโยง บูรณาการข้อมูลและระบบดิจิทัลของแต่ละหน่วยงานเข้าด้วยกันได้โดยง่าย ภายใต้มาตรฐานเดียวกัน โดยมีการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลท่ีเหมาะสม ท้ังนี้ โครงสร้างพ้ืนฐาน ดังกล่าวครอบคลุมท้ังโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล (Digital Infrastructure) อาทิ เครือข่าย เครื่องแม่ข่าย (Infrastructure-as-a-Service) และแพลตฟอร์มบริการพ้ืนฐาน (Platform-as-a-Service) เช่น แพลตฟอร์ม การเชื่อมโยงและบูรณาการข้อมูล แพลตฟอร์มการยืนยันตัวบุคคลด้วยช่องทางดิจิทัล และแพลตฟอร์ม การชาระเงนิ ผ่านชอ่ งทางดิจิทัล เป็นตน้ ๒) รัฐบาล หน่วยงานภาครัฐ และหน่วยกากับ สามารถนาระบบดิจิทัลไปใช้ในการทางาน และการบริหารราชการแผ่นดินเพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพการท างานของเจ้าหน้าท่ี และช่วยให้รัฐบาลมีข้อมูล การดาเนนิ งานดา้ นตา่ ง ๆ ทถ่ี ูกตอ้ ง และทนั สมยั รองรับการเชื่อมโยงขอ้ มูลกบั หน่วยงานตา่ ง ๆ ทเี่ ก่ียวข้อง -45-

๓) มีการนาระบบดิจิทัลสาหรับใช้สนับสนุนงานพื้นฐาน เช่น งานสารบรรณ งานงบประมาณ บัญชีการเงนิ งานพัสดุและการจัดซื้อจัดจ้าง งานบริหารบุคคล โดยกาหนดมาตรฐานการเช่ือมโยงข้อมูลระหว่าง ระบบงานใหช้ ดั เจน และจัดให้มีบริการในลักษณะรวมศูนย์ (Software-as-a-Service) โดยอาจจะเป็นหน่วยงาน ภาครัฐให้บริการเอง หรือภาคเอกชนให้บริการภายใต้มาตรฐานที่กาหนดก็ได้ เพ่ือลดการลงทุนซ้าซ้อน ของ หนว่ ยงาน และชว่ ยให้เกิดความสะดวกต่อการเช่ือมโยงและบูรณาการข้อมลู ๔) รัฐบาล หน่วยงานภาครัฐ และหน่วยกากับดูแล มีเคร่ืองมือและข้อมูลการดาเนินงาน ด้านต่างๆ ที่ถูกต้องและทันสมัย สาหรับใช้ในการบริหารราชการแผ่นดิน เพ่ือให้สามารถลดขั้นตอน เพ่ิมประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน ใช้ประกอบการวางแผน และการตัดสินใจ โดยมีการเปิดเผยข้อมูล ให้ ประชาชนมีส่วนร่วมและตรวจสอบการดาเนินงานของรัฐได้โดยสะดวก ทั้งน้ี กาหนดให้มีการบูรณาการ ข้อมลู ใน ๔ ประเด็นหลกั ดงั น้ี (๑) ข้อมูลสถิติแห่งชาติ เป็นข้อมูลสถิติทางการ (Official Statistics) ที่มีความสาคัญ จาเป็นระดบั ประเทศ และต้องมีคุณภาพตามมาตรฐานสากล (๒) ข้อมูลรายสาขา เช่น ข้อมูลด้านเศรษฐกิจ ข้อมูลเก่ียวกับทรัพยากรน้า ขอ้ มลู ท่ีเกี่ยวข้องกบั กระบวนการยุตธิ รรม เปน็ ตน้ (๓) ข้อมูลงานสนับสนุน และทรัพยากรภาครัฐ เช่น ข้อมูลแผนและงบประมาณ ข้อมลู การจดั ซื้อจัดจา้ ง ขอ้ มูลการบริหารสนิ ทรัพย์ ขอ้ มลู กาลงั คนภาครัฐ เปน็ ต้น (๔) ข้อมูลระดับจังหวัด เพ่ือให้การรวบรวมข้อมูลในพื้นท่ีจังหวัด เพื่อสนับสนุน การบรหิ ารราชการในระดบั ภูมภิ าค และทอ้ งถิน่ - ตัวช้วี ัด ๑) จานวนระบบดิจิทัลสาคญั ที่อย่บู นโครงสรา้ งพน้ื ฐานรฐั บาลดิจทิ ลั ๒) ระดบั คุณภาพการให้บรกิ ารโครงสรา้ งพืน้ ฐานรฐั บาลดจิ ทิ ลั ๓) งบประมาณท่ีประหยดั ได้จากการบูรณาการโครงสร้างพื้นฐานรฐั บาลดิจิทลั ๔) จานวนระบบดิจทิ ลั ท่ีนามาใช้ในภารกจิ เฉพาะของหน่วยงาน ๕) จานวนระบบดจิ ิทลั ท่ีนามาใช้ในงานพ้นื ฐานของหนว่ ยงาน ๖) จานวนชดุ ข้อมูลทผ่ี า่ นการบูรณาการแล้ว และพร้อมนาไปใชป้ ระโยชน์ ๗) ปริมาณการเขา้ ถงึ /นาขอ้ มลู ไปใชป้ ระโยชน์ (3) เร่ืองและประเด็นปฏิรูปที่ ๓ โครงสร้างภาครัฐกะทัดรัด ปรับตัวได้เร็วและระบบงาน มผี ลสัมฤทธ์ิสงู - กลยทุ ธ์ ๑) ปรบั ปรงุ และพัฒนาโครงสร้างและระบบบรหิ ารงานของรฐั ๒) เพิ่มประสทิ ธภิ าพและสร้างความเข้มแข็งของการบรหิ ารจัดการเชงิ พื้นที่ ๓) พฒั นาขดี ความสามารถในการจัดบริการสาธารณะขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ๔) พฒั นาระบบงบประมาณและการคลงั ภาครฐั เพื่อเพมิ่ ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ ๕) สรา้ งระบบธรรมาภิบาลที่ยง่ั ยืนในหน่วยงานภาครฐั ๖) พัฒนากฎหมายเกี่ยวกับระเบียบบริหารราชการแผ่นดินให้สอดคล้องกับสถานการณ์ท่ี เปล่ียนแปลงไป -46-

- เป้าหมายหรอื ผลอนั พึงประสงคแ์ ละผลสัมฤทธิ์ ๑) มุ่งสู่การเป็นรัฐบาลท่ีคล่องตัว (Agile Government Transformation) โดยเน้นการ ปรับปรงุ บทบาทภารกิจและโครงสรา้ งองค์การท่ีมีความทนั สมยั กะทดั รดั มีรปู แบบเรียบง่าย (Simplicity) มีระบบ การท างานที่คล่องตัว รวดเร็ว ปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ในการทางาน เน้นการคิดริเริ่มสร้างสรรค์ (Creativity) และสามารถยุบเลิก ปรับเปลี่ยนองค์กรได้ตามสถานการณ์ของการพัฒนา โดยศึกษาผลกระทบจาก การเปลี่ยนแปลง ท่ีฉับพลันของเทคโนโลยี (Disruptive Technology) และรูปแบบการเพิ่มประสิทธิภาพการ บริหารราชการ ในกระทรวงท่ีมีความสาคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ (กระทรวง/กรม พนั ธุ์ใหม่ : High Performance) ๒) ปฏิรูปภารกิจและโครงสร้างกระทรวง/กรม โดยทบทวนบทบาทภาครัฐ ท้ังในส่วน ของภารกิจหลัก (Core Function) และภารกิจรอง (Non-Core Function) เพ่ือลดความซ้าซ้อนของภารกิจ ระหว่างกระทรวง และระหว่างกรม รวมท้ังศึกษาการนาเทคโนโลยีมาใช้เพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพการให้บริการ โดยลดกระบวนงาน ข้ันตอน ระยะเวลาในการให้บริการ ตลอดจนพัฒนาบุคลากรให้มีขีดสมรรถนะรองรับกับ ภารกิจในอนาคต และปรับปรุงกฎหมายที่เป็นอุปสรรคให้สามารถดาเนินการได้สอดคล้องกับบริบท ท่ีเปลยี่ นแปลงไป ๓) การทบทวนภารกิจหลัก (Core Function) ของภาครัฐให้มุ่งเน้นภารกิจกาหนดนโยบาย (Policy Maker) กากับดูแล (Regulator) ส่งเสริม สนับสนุน (Facilitator) โดยให้ภาคเอกชนหรือภาคประชาชน ท้องถิ่น ชุมชนให้เข้ามาทาแทนภาครัฐ และภาครัฐจะไม่ทาภารกิจที่แข่งขันกับภาคเอกชน และลดบทบาท ด้านการปฏิบัติ (Operator) ให้น้อยลง เช่น ถ่ายโอนให้ภาคเอกชน (Outsource)/ องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน สาหรบั ภารกิจรอง (Non-Core Function) เน้นการจ้างเหมาและการทางานแบบจดั บรกิ ารรว่ ม (Shared Services) ๔) พัฒนาและรังสรรค์นวัตกรรมในรูปแบบใหม่ (Sandbox) ซ่ึงเป็นการทดลองการปลดล็อก ข้อจากัดท่ีเป็นอุปสรรคต่างๆ เพื่อให้เกิดอิสระความคล่องตัวทางการบริหาร และสานพลังความร่วมมือ ของภาคส่วนต่างๆ ตามแนวทางประชารัฐ ซ่ึงเป็นการทดลองริเริ่มในวงจากัด เพ่ือให้เกิดประสบการณ์ และการเรยี นร้กู อ่ นขยายผลต่อไป ๕) ปฏิรูปโครงสร้างและการบริหารราชการของจังหวัด โดยมุ่งเน้นปรับโครงสร้างของจังหวัด ในลักษณะกลุ่มภารกิจตามยุทธศาสตร์หลักของจังหวัด เช่น ด้านการท่องเที่ยว ด้านการค้าการลงทุน เป็นต้น โดยทบทวนบทบาทภารกิจของหน่วยงานส่วนกลางในภูมิภาคให้มีเท่าที่จาเป็น และปรับหน่วยงานท่ีมีภารกิจ ซ้าซ้อนกับภูมิภาคให้เป็นส่วนภูมิภาค ข้ึนตรงกับผู้ว่าราชการจังหวัด สร้างและพัฒนากลไกการทางานท่ีเน้น การบูรณาการ หรือเชื่อมโยงการทางานของหน่วยงานในพื้นที่และทุกภาคส่วน เพ่ือมุ่งผลสัมฤทธิ์ของยุทธศาสตร์ เชงิ พ้นื ทีส่ ู่ยุทธศาสตร์ชาติ ๖) ทบทวนบทบาท ภารกิจ และการปฏิบัตงิ านรว่ มกนั ระหว่างหนว่ ยงานส่วนกลางส่วนภมู ิภาค และส่วนท้องถ่ิน ให้มคี วามชดั เจน ไม่ซ้าซ้อน โดยปรบั เปลยี่ นบทบาทหนว่ ยงานส่วนภูมิภาคจากการ ให้บริการ เปน็ การใหค้ าปรกึ ษาแนะนาด้านวชิ าการแก่ทอ้ งถนิ่ เพ่ือให้การปฏิบตั งิ านของท้องถิน่ เป็นไปตาม มาตรฐาน และ การสง่ เสริมสนบั สนนุ สว่ นท้องถิน่ ในการจดั บริการสาธารณะทต่ี อบสนองต่อความต้องการของ ประชาชน (Citizen Centric) ๗) ยกระดับธรรมาภิบาลของหน่วยงานภาครัฐให้อยู่ในระดับท่ีสูงขึ้น โดยสารวจระดับ ธรรมาภิบาล ในการบริหารงานของหน่วยงานภาครัฐ ศึกษา ค้นหา และเผยแพร่ข้อมูลหน่วยงานต้นแบบและมีแนวปฏิบัติท่ีดี (Best practice) -47-

๘) ปฏิรูปพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติม อย่างน้อยใน ๒ ประเดน็ ได้แก่ (๑) การพัฒนาแนวทางในการจดั ต้งั และยบุ กระทรวง ทบวง และกรม ใหม้ ีความคล่องตัว (๒) ทบทวนข้อเสนอแนะของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศเพื่อกาหนดแนวทางในการ นาไปปฏบิ ัตติ ามความเหมาะสม ๙) ปฏิรูประบบงบประมาณและการคลังภาครัฐ โดยปรับปรุงวิธีการงบประมาณ กระบวนการ บรหิ าร การจดั ทาคาขอและอนมุ ตั งิ บประมาณใหม้ คี วามกระชบั สอดคล้องกับพลวัตท่ีเปล่ียนแปลง อย่างรวดเร็ว และคานึงถึงวัตถุประสงค์ในการแก้ไขปัญหาของประชาชนในพ้ืนท่ีเป็นหลัก ลดความซ้าซ้อน ของการจัดทา งบประมาณ ระดับกระทรวง กรม พืน้ ที่ รวมทัง้ สร้างกลไกการตรวจสอบการเงินและการคลัง ภาครัฐ การติดตาม ประเมินผลผลติ /ผลสัมฤทธข์ิ องการใชง้ บประมาณ เพ่อื ใหก้ ารจัดสรรงบประมาณ เป็นไปอยา่ งมีประสิทธิภาพ - ตัวชี้วดั ๑) ความสาเร็จในการโอนถ่ายภารกิจภาครัฐที่ไม่จาเป็นต้องดาเนินการเองให้กับภาคส่วนอ่ืน เช่น ภาคเอกชน ภาคประชาขน และท้องถิน่ ๒) สัดส่วนค่าใชจ้ ่ายดา้ นบคุ ลากรของรัฐต่องบประมาณรายจ่ายประจาปีลดลง ๓) ความสาเร็จของการดาเนินตามแผนการเพ่ิมประสิทธิภาพการบริหารราชการในกระทรวง ท่ีมีความสาคัญต่อการขับเคล่ือนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ (กระทรวง/กรม/จังหวัด พันธุ์ใหม่ : High Performance Organization) ๔) ความสาเรจ็ ของการปรับปรุงประสิทธภิ าพการบรกิ ารภาครัฐ (Service Reform) ๕) ความสาเรจ็ ของการปลดลอ็ คข้อจากัดทเ่ี ป็นอุปสรรคในการดาเนินงาน ๖) ความสาเร็จของการสานพลังความรว่ มมือของภาคสว่ นต่าง ๆ ตามแนวทางประชารฐั ๗) ความสาเร็จของการสร้างประสบการณ์และการเรียนรู้จากการทดลองริเร่ิม Sandbox กอ่ นขยายผลตอ่ ไป ๘) ความสาเร็จของการจัดโครงสร้างส่วนราชการและระบบบริหารงานของส่วนราชการ ในภูมิภาค ๙) จานวนหนว่ ยงานภาครัฐทเี่ ข้ารว่ มเป็นเครือข่ายระบบราชการ ๔.๐ ๑๐) ร้อยละของหน่วยงานภาครฐั ทไ่ี ดร้ ับการรบั รองสถานะของการเปน็ ระบบราชการ ๔.๐ ๑๑) ความสาเร็จของการจัดทาปรับปรุงพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ และทแี่ กไ้ ขเพ่มิ เติม ๑๒) ความสาเรจ็ ของการปรบั ปรงุ ขัน้ ตอนและวิธีการงบประมาณ กระบวนการบริหาร การจัดทา คาขอและการอนุมตั ิงบประมาณ ๑๓) ความสาเร็จของการสร้างกลไกและมาตรการสาหรับการตรวจสอบการเงินและการคลัง ภาครัฐ ๑๔) ความสาเร็จของการแก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ และที่แก้ไขเพม่ิ เติม และร่างพระราชบัญญตั กิ ารเงนิ การคลังของรัฐ พ.ศ. .... (4) เรอ่ื งและประเดน็ ปฏิรปู ท่ี ๔ กาลงั คนภาครัฐมีขนาดที่เหมาะสมและมีสมรรถนะสูง พร้อม ขบั เคล่อื น ยุทธศาสตรช์ าติ -48-

- กลยุทธ์ ๑) จัดกาลังคนให้สอดคล้องกับความจาเป็นในการบริการสาธารณะท่ีสาคัญ และขับเคลื่อน ขีดความสามารถในการแข่งขนั ของประเทศ ๒) ลดขนาดกาลังคนและค่าใช้จ่ายด้านบุคคลภาครัฐที่มีผลผกู พันภาระงบประมาณในระยะยาว ๓) พัฒนาทักษะและสมรรถนะใหม่เพ่ือสร้างความพร้อมเชิงกลยุทธ์ให้กับกาลังคนภาครัฐ (New Mindsets and Skillsets) ๔) ติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการใช้กาลังคนในส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ (Workforce Audit) - เปา้ หมายหรือผลอันพึงประสงคแ์ ละผลสมั ฤทธ์ิ ๑) ภาครัฐมีกาลังคนที่เพียงพอและมีขีดความสามารถในการให้บริการสาธารณะท่ีสาคัญแก่ ประชาชน และพรอ้ มผลกั ดนั การบรรลุเปา้ หมายการพัฒนาตามยุทธศาสตรช์ าติ ๒) ขนาดกาลังคนภาครัฐมีขนาดกะทัดรัด มีผลิตภาพสูง (High Productivity) และลดภาระ ค่าใชจ้ ่ายผูกพันในระยะยาว ๓) กาลังคนภาครัฐมีความรู้ความสามารถ ทักษะและสมรรถนะที่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง ทร่ี วดเร็วและผันผวน ๔) กาลงั คนภาครฐั มวี ฒั นธรรม คา่ นยิ มและอุดมการณส์ าหรับการเป็นเจ้าหน้าท่ภี าครัฐยุคใหม่ ๕) ภาครัฐมกี ลไกการติดตามและประเมินผลการใชก้ าลังคนให้เกดิ ประโยชน์สูงสดุ ๖) มีการบูรณาการฐานข้อมูลกาลังคนภาครัฐทุกประเภทสาหรับการกาหนดนโยบายกาลังคน ภาครฐั อยา่ งมปี ระสทิ ธิผล ๗) มีกลไกการบูรณาการนโยบายกาลงั คนและค่าตอบแทนภาครัฐ อาทิ คณะกรรมการแห่งชาติ ว่าด้วยกาลงั คนและคา่ ตอบแทนภาครัฐ - ตัวชีว้ ดั ๑) สามารถจัดอัตรากาลัง (จานวนและคุณภาพ) ได้เพียงพอและสอดคล้องกับความจาเป็น เรง่ ด่วนตามภารกิจและทศิ ทางการพฒั นาประเทศ ๒) จานวนระบบงานทั้งในส่วนที่เก่ียวข้องกับการบริการประชาชน (Front Office) และการ บริหาร จัดการองค์กร (Back Office) ทมี่ ีการน าเทคโนโลยีมาใชอ้ ยา่ งเต็มรปู แบบ ๓) รอ้ ยละของอัตรากาลงั ภาครัฐทลี่ ดลงในภาพรวม ในระยะ ๕ ปี (ร้อยละ ๑๐) ๔) ร้อยละของอัตรากาลังในภารกิจสายสนับสนุนที่ลดลงเนื่องจากการน าเทคโนโลยีมาใช้ ในการปฏิบัติงาน ๕) สัดส่วนของการจ้างงานรูปแบบอ่ืนที่ไม่มีผลผูกพันต่อภาระงบประมาณด้านบุคคลในระยะ ยาวเพม่ิ ขนึ้ เม่ือเทียบกบั จานวนขา้ ราชการประจา ๖) มีกลไกระดับชาติในการบูรณาการนโยบายกาลังคนและค่าตอบแทนภาครัฐให้ครอบคลุม บุคลากรภาครัฐทกุ ประเภทอย่างมีประสิทธภิ าพ ๗) ร้อยละของบุคลากรภาครัฐ (ทุกระดับและสายอาชีพ) มีความรู้ความสามารถ ทักษะ สมรรถนะ อุดมการณ์ ทัศนคตแิ ละคา่ นิยมในการปฏบิ ตั งิ านในบรบิ ทใหม่ของประเทศไทย ๔.๐ ๘) ร้อยละของบุคลากรภาครัฐ (ผู้บริหาร/ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ผู้เช่ียวชาญด้านเทคโนโลยี สารสนเทศ และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ) มีทักษะด้านดิจิทัลตามมาตรฐานที่กาหนดและสอดคล้องกับความจาเป็น ในการปฏบิ ตั ิงาน -49-

๙) มีองค์กร/กลไกในการบริหารจัดการเพ่ือปรับเปล่ียนความรู้ความสามารถ ทักษะและ สมรรถนะ ของบุคลากรภาครัฐให้สอดคล้องกับบริบทท่ีเปลี่ยนแปลงไป อาทิ กาลังคนสูงอายุ และผู้มีผลงาน ไม่เป็นไปตามความคาดหวงั ๑๐) มีระบบในการติดตามตรวจสอบและประเมินผลกาลังคนภาครัฐเพ่ือให้การใช้กาลังคน มคี วามคุ้มค่า (5) เร่อื งและประเด็นปฏริ ปู ท่ี ๕ ระบบบริหารงานบุคคลท่ีสามารถดึงดูด สร้างและรักษาคนดี คนเกง่ ไว้ในภาครฐั ได้ - กลยุทธ์ ๑) ดึงดดู ผ้มู คี วามรคู้ วามสามารถและมจี ิตสาธารณะเขา้ มาทางานในหนว่ ยงานของรัฐ ๒) ส่งเสริม จงู ใจ และรกั ษาผู้มีความรูค้ วามสามารถและมีจิตสาธารณะไว้ในภาครฐั ๓) พฒั นาทรัพยากรบคุ คลภาครฐั ให้มีขีดความสามารถและความผูกพันตอ่ องค์กร ๔) พัฒนาผนู้ าท่ีเป็นตัวอยา่ ง (Leadership by Example) ๕) สง่ เสรมิ คุณธรรมและจรยิ ธรรมในการบริหารทรัพยากรบุคคล ๖) พฒั นาทางกา้ วหนา้ ในสายอาชพี และสร้างความต่อเนื่องในการดารงตาแหน่ง - เป้าหมายหรือผลอันพงึ ประสงค์และผลสมั ฤทธิ์ ๑) ผู้มีความรู้ความสามารถและมีจิตสาธารณะมีความสนใจเข้ามาปฏิบัติงานในหน่วยงาน ของรัฐมากขน้ึ ๒) ระบบและรูปแบบการจ้างงานท่ีมีความหลากหลายเหมาะสมกับภารกิจ วิถีการทางาน และการใช้ชีวิตของผู้มีความรู้ความสามารถสูงและคนรุ่นใหม่ รวมท้ังมีระบบการบริหารทรัพยากรบุคคลเฉพาะ สาหรบั บคุ ลากรกลุม่ ผูม้ ีความรู้ความสามารถสงู เปน็ การเฉพาะ ๓) กระบวนการสรรหาและเลือกสรรบุคลากรภาครัฐมีมาตรฐานสาหรับข้าราชการ และเจ้าหน้าท่ีของรัฐทุกประเภท เพ่ือให้ได้คนเก่ง คนดี และมีจิตสาธาณะเข้าสู่ภาครัฐ รวมท้ังมีความคล่องตัว มปี ระสิทธิภาพ คมุ้ ค่า และประหยดั งบประมาณค่าใชจ้ า่ ยในการดาเนินการ ๔) ระบบการประเมินและการบริหารผลงานมีความเข้มแข็ง วัดประเมินได้อย่างเป็นรูปธรรม มคี วามเป็นธรรม และสามารถคดั ครองและพัฒนาผ้ทู ่ีมผี ลงานไม่เป็นไปตามความคาดหวังได้อย่างมปี ระสทิ ธผิ ล ๕) ระบบค่าตอบแทนและสิทธิประโยชน์มีความยืดหยุ่นหลากหลายสอดคล้องกับความจาเป็น และความต้องการของบุคลากรแต่ละกลุ่มสายอาชีพ ช่วงวัย และพื้นที่ปฏิบัติงาน รวมท้ังใกล้เคียงกับอัตรา คา่ ตอบแทนในภาคเอกชนชัน้ นา ๖) บุคลากรภาครัฐทุกระดับและสายอาชีพมีขีดความสามารถ ทักษะและสมรรถนะในการ ปฏิบัตงิ านอยา่ งมืออาชพี สอดคลอ้ งกับสายอาชีพ ชว่ งอายุ และพืน้ ท่ปี ฏิบตั ิงาน ๗) มีการบูรณาการระบบการพัฒนาบุคลากรภาครัฐไม่ให้ซ้าซ้อน มีประสิทธิภาพและเกิด ความคุ้มค่า รวมทั้งสง่ เสรมิ ให้เกดิ การเรยี นรอู้ ย่างต่อเน่ือง ๘) ผู้บริหารทุกระดับในภาครัฐมีภาวะผู้นาที่เป็นตัวอย่าง (Leadership by Example) สามารถสร้างนวตั กรรมการบรหิ ารได้อย่างต่อเนื่อง ๙) ภาครัฐมีผู้นารุ่นใหม่ที่มีทักษะและทัศนคติ (Mindsets and Skillsets) ท่ีพร้อมขับเคลื่อน การพฒั นาประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติ และบุคลากรภาครัฐทุกระดับมีภาวะผู้นาในการเปล่ียนแปลง ๑๐) ทุกกระบวนการบริหารงานบุคคลมีความเป็นธรรม โดยมีระบบพิทักษ์คุณธรรมที่เป็น มาตรฐาน เดยี วกนั สาหรับขา้ ราชการและเจา้ หนา้ ที่ของรัฐทุกประเภท -50-

๑๑) บุคลากรภาครัฐมีความก้าวหน้าในสายอาชีพตามความสามารถ และมีจานวนผู้มีความรู้ ความสามารถท่ีเหมาะสมเพียงพอสาหรับการดารงตาแหน่งสาคัญเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Posts) อย่างตอ่ เน่ือง ๑๒) บุคลากรภาครัฐมีทางก้าวหน้าและมีประสบการณ์ที่หลากหลาย รวมท้ังภาครัฐสามารถ ระดมผู้มคี วามรู้ความเชีย่ วชาญไปใชไ้ ด้อยา่ งทนั การณแ์ ละมีประสิทธผิ ล ๑๓) มีการนาประมวลจริยธรรมสาหรับเจ้าหน้าท่ีของรัฐไปใช้ในกระบวนการบริหารงานบุคคล และการกาหนดหลักเกณฑ์และเงอื่ นไขในการบริหารงานบุคคล อาทิ การเล่อื นตาแหน่ง และการโยกย้าย - ตัวชวี้ ดั ๑) ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐมีสัดส่วนการจ้างบุคลากรกลุ่มผู้มีความรู้ความสามารถสูง เพิ่มข้นึ ๒) มีระบบการบริหารทรัพยากรบุคคลเฉพาะสาหรับบุคลากรกลุ่มผู้มีความรู้ความสามารถสูง เป็นการเฉพาะ ๓) มีระบบการสอบวัดความรู้ความสามารถท่ัวไปและคุณลักษณะการเป็นเจ้าหน้าท่ีของรัฐ ที่เปน็ มาตรฐานเดยี วกันสาหรบั บคุ ลากรภาครฐั ทุกประเภท ๔) มีระบบการหมุนเวียนและเคล่ือนย้ายบุคลากรในแต่ละสายอาชีพข้ามหน่วยงานในภาครัฐ (Professional Rotation and Mobility) เพอื่ ใหบ้ คุ ลากรภาครฐั มีทางกา้ วหน้า และมีประสบการณ์ ท่ีหลากหลาย รวมทง้ั ภาครฐั สามารถระดมความรู้ความเช่ยี วชาญไปใช้ได้อยา่ งมีประสิทธผิ ล ๕) ระดับความพึงพอใจและจานวนข้อร้องเรียน/ข้อพิพาทเกี่ยวกับการประเมินผล การปฏบิ ตั ิงานที่ลดลง ๖) มีกลไกและมาตรการบริหารผลการปฏิบัติงานที่สามารถคัดกรองผู้มีผลงานไม่เป็นไปตาม คาดหวังได้อย่างมีประสิทธผิ ล ๗) มีกลไก/การจัดตั้งคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยนโยบายกาลังคนและค่าตอบแทนภาครัฐ ให้สอดคล้องกับความหลากหลายของบุคลากรภาครัฐ สร้างความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้า รวมทง้ั ใกลเ้ คยี งกบั ภาคเอกชนช้ันนา ๘) ร้อยละของเจ้าหน้าที่ภาครัฐทุกระดับได้รับการพัฒนาที่สอดคล้องกับการปฏิบัติหน้าท่ี สายอาชพี ช่วงอายุ และพื้นทีก่ ารทางาน (ไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ ๘๐) ๙) มีระบบการปฐมนิเทศที่เข้มข้น และมีการพัฒนาระหว่างทดลองงาน (Induction Training) ที่มีประสทิ ธิผล ๑๐) มีระบบการติดตามและประเมินประสิทธิผลและความคุ้มค่าในการพัฒนาบุคลากรภาครัฐ และจัดสรรงบประมาณสาหรับการพัฒนาบุคลากรไม่น้อยกว่าร้อยละ ๕ ของงบประมาณของส่วนราชการ ๑๑) สรา้ งผู้นาทีเ่ ปน็ ตัวอยา่ งท่ดี ี ๑๒) ร้อยละของเจ้าหน้าที่ทุกระดับได้รับการพัฒนาให้มีทักษะและสมรรถนะในการเป็นผู้นา การเปลยี่ นแปลง และสามารถสรา้ งนวตั กรรมอย่างต่อเนื่อง ๑๓) สว่ นราชการและหนว่ ยงานของรฐั มีแผนทดแทนกาลงั คน ๑๔) มคี ณะกรรมการพิทักษร์ ะบบคุณธรรมแห่งชาตภิ ายในปี พ.ศ. ๒๕๖๔ ๑๕) ทุกองค์กรกลางบริหารงานบุคคลและหน่วยงานของรัฐนาประมวลจริยธรรมสาหรับ เจา้ หน้าทขี่ องรฐั ไปใชใ้ นกระบวนการบริหารงานบคุ คล และการกาหนดหลักเกณฑ์และเง่ือนไขในการ บริหารงาน บคุ คล อาทิ การเล่อื นตาแหนง่ และการโยกย้าย -51-

๑๖) ร้อยละของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐมีแผนการขับเคลื่อนงานด้านจริยธรรมและ นาไปบงั คับใช้ในการบริหารงานบุคคลอย่างเป็นรปู ธรรม ๑๗) มีสัดส่วนของผู้นารุ่นใหม่และผู้ที่มีความพร้อมสาหรับการดารงตาแหน่งท่ีสูงข้ึนเพียงพอ และอย่างตอ่ เนื่อง (Talent and Successor Inventory) (6) เรื่องและประเด็นปฏิรูปท่ี ๖ การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ คล่องตัว โปร่งใส และมีกลไก ป้องกันการทุจริตทุกขน้ั ตอน - กลยุทธ์ ๑) นาเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ปรับปรุงระบบการจัดซ้ือจัดจ้างภาครัฐให้มีความคล่องตัว และมี ประสทิ ธภิ าพมากขึน้ ๒) ส่งเสริมและสร้างความเข้มแข็งให้กับกลไกการติดตามตรวจสอบการจัดซ้ือจัดจ้างภาครัฐ เพือ่ ใหเ้ กดิ ความโปร่งใสและตรวจสอบได้ - เปา้ หมายหรือผลอนั พงึ ประสงค์และผลสัมฤทธ์ิ หน่วยงานภาครัฐสามารถดาเนินการจัดซื้อจัดจ้างได้โดยรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ มีความคล่องตัว โปร่งใส ตรวจสอบได้ ผ่านระบบสนับสนุนการจัดซ้ือจัดจ้างท่ีเป็นดิจิทัลในทุกขั้นตอน มีการบูรณาการ และเช่ือมโยงข้อมูลกับระบบอ่ืนๆ อย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงมีการรวมการจัดซ้ือจัดจ้างสินค้าบริการท่ีคล้ายกันไว้ ด้วยกัน และ/หรอื การรวมซือ้ เพอ่ื ให้เกิดการประหยัดต่อขนาดและลดต้นทุนการจัดซ้ือจัดจ้าง ส่งเสริม สนับสนุน ภาคเอกชนและประชาชนให้สามารถเข้ามามีส่วนร่วมตรวจสอบและปูองกันทุจริตในโครงการ จัดซ้ือจัดจ้าง ภาครฐั เพ่ือให้กระบวนการเกดิ ความโปร่งใส และมปี ระสิทธิภาพสูงสดุ - ตวั ชีว้ ดั ๑) การทจุ รติ การจดั ซือ้ จดั จา้ งภาครฐั ลดลง ๒) มีผู้แทนภาคเอกชนและภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมปูองกันการทุจริตในโครงการจัดซ้ือ จดั จา้ งภาครฐั ๓) มผี ู้แทนภาคเอกชน ประชาชนและผู้ทรงคณุ วฒุ ติ ามข้อตกลงคณุ ธรรม ๔) หน่วยงานภาครัฐมีความพึงพอใจต่อการดาเนินการจัดซ้ือจัดจ้างตามพระราชบัญญัติ การจดั ซ้ือจดั จา้ งและการบริหารพสั ดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ มากขึน้ ๕) ระบบและ/หรือกระบวนการจัดซ้ือจัดจ้างภาครัฐได้รับการปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้เกิด ความคลอ่ งตัวในการปฏบิ ัติงาน มีประสทิ ธิภาพ และเกิดความคุ้มคา่ ๖) จานวนระบบ/จานวนกระบวนการเก่ียวเกี่ยวข้องกับการจัดซ้ือจัดจ้างภาครัฐ ตาม พระราชบัญญตั กิ ารจดั ซอ้ื จัดจา้ งและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ ได้รับการพัฒนาปรับปรุงโดยการ นาระบบดิจทิ ัลเขา้ มาใช้ ๗) ร้อยละของผปู้ ฏบิ ตั งิ านด้านพัสดุและการจัดซ้ือจัดจ้างภาครัฐที่สามารถปฏิบัติงาน อย่างมือ อาชีพ -52-

๓. แผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชาติ ฉบบั ท่ี ๑๒ (1) ยุทธศาสตร์ท่ี 6 การบรหิ ารจดั การในภาครัฐ การป้องกันการทจุ รติ ประพฤติมิชอบ และธรรมาภบิ าลในสังคมไทย (2) วตั ถุประสงค์ ๑.๑ เพ่อื ให้ภาครฐั มขี นาดเล็ก มีการบรหิ ารจดั การท่ีดี และได้มาตรฐานสากล ๑.๒ เพ่ือให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินมีการบริหารจัดการและให้บริการแก่ประชาชน ในท้องถนิ่ ได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ ประสทิ ธผิ ล และโปรง่ ใสตรวจสอบได้ ๑.๓ เพือ่ ลดปัญหาการทุจริตและประพฤติมชิ อบของประเทศ ๑.๔ เพ่ือพัฒนาระบบและกระบวนการทางกฎหมายให้สามารถอานวยความสะดวกด้วย ความรวดเรว็ และเปน็ ธรรมแก่ประชาชน (3) เปา้ หมายและตวั ชีว้ ดั เป้าหมายท่ี ๑ ลดสัดส่วนค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร และเพ่ิมประสิทธิภาพการบริหารจัดการ และการให้บริการของภาครัฐ และประสิทธภิ าพการประกอบธรุ กิจของประเทศ ตัวช้ีวัด ๑.๑ อันดับประสิทธิภาพภาครัฐ จัดทาโดยสถาบันการจัดการนานาชาติ อยู่ในอันดับ สองของ อาเซยี น เม่ือสิน้ สุดแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๑๒ ตัวช้ีวัด ๑.๒ อันดับความยากง่ายในการดาเนินธุรกิจ จัดทาโดยธนาคารโลก อยู่ในอันดับสอง ของอาเซียน เมื่อส้ินสดุ แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๑๒ ตัวชีว้ ดั ๑.๓ สัดสว่ นค่าใช้จ่ายด้านบคุ ลากรของรฐั ต่องบประมาณรายจ่ายประจาปีลดลง เปา้ หมายที่ ๒ เพ่มิ ประสิทธภิ าพการบริหารจัดการทด่ี ีขององคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่นิ ตัวช้ีวัด ๒.๑ สัดส่วนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในแต่ละประเภทท่ีได้รับรางวัลการบริหาร จัดการท่ดี ี ตอ่ องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ ทงั้ หมดเพิม่ ข้นึ ตัวชี้วัด ๒.๒ ขอ้ รอ้ งเรยี นและคดีเก่ียวกบั การดาเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถนิ่ ลดลง เป้าหมายที่ ๓ เพ่ิมคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริตให้สูงข้ึน ตัวชี้วัด ระดับคะแนนของดัชนี การรบั รู้การทุจริตสงู กวา่ ร้อยละ ๕๐ เมอ่ื ส้นิ สุดแผนพฒั นาฯ ฉบบั ที่ ๑๒ เป้าหมายที่ ๔ ลดจานวนการดาเนินคดีกับผู้มิได้กระทาความผิด ตัวชี้วัด จานวนคดีที่รัฐ ดาเนินคดกี ับผมู้ ไิ ดก้ ระทาความผิดซึง่ ต้องชดเชยความเสียหายลดลง แนวทางการพัฒนา 1) ปรับปรุงโครงสร้างหน่วยงาน บทบาท ภารกิจ และคุณภาพบุคลากรภาครัฐ ให้มีความ โปร่งใส ทนั สมยั คลอ่ งตัว มีขนาดทเ่ี หมาะสม เกิดความคมุ้ ค่า 2) ปรับปรุงกระบวนการงบประมาณ และสร้างกลไกในการติดตามตรวจสอบการเงินการคลัง ภาครฐั 3) เพม่ิ ประสิทธภิ าพและยกระดับการให้บริการสาธารณะใหไ้ ด้มาตรฐานสากล 4) เพิ่มประสิทธภิ าพการบรหิ ารจดั การให้แก่องค์กรปกครองสว่ นท้องถนิ่ 5) ป้องกนั และปราบปรามการทุจรติ และประพฤตมิ ชิ อบ 6) ปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมให้มีความทันสมัย เป็นธรรม และสอดคล้องกับ ข้อบงั คบั สากลหรอื ขอ้ ตกลงระหวา่ งประเทศ -53-

บทที่ 3 สาระสําคัญของแผนยทุ ธศาสตรก์ ารพัฒนาระบบราชการ ๔.๐ ของกระทรวงศกึ ษาธิการ (พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๕) ๑. การประเมินสถานการณ์ ปัญหา และความจําเป็นของแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบราชการ ๔.๐ กระทรวงศกึ ษา (พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๕) (๑.๑) ภาพรวมการพัฒนาระบบราชการกระทรวงศึกษาธิการที่ผ่านมา : ภายใต้การบริหารจัดการ ภาครัฐยคุ ๔.๐ พบรายละเอียดดังนี้ (๑) ด้านภารกิจของกระทรวงศึกษาธิการพบว่าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการยัง เป็นผู้จัดทาและให้บริการตามภารกิจเองเป็นส่วนใหญ่ ส่งผลทาให้โครงสร้างองค์กรมีการขยายตัว (Structural Diversification) และอัตรากาลังของแต่ละส่วนราชการก็มีแนวโน้มเพ่ิมขึ้นส่งผลทาให้สัดส่วนงบประมาณ รายจา่ ยประจาปี งบประมาณและค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรของกระทรวงศึกษา เพ่มิ สงู ขึ้นอย่างต่อเน่ือง (๒) ด้านการบริหารจัดการองค์กรของกระทรวงศึกษาธิการยังมีประสิทธิภาพต่า : เน่ืองจากมี ระเบยี บและข้ันตอน จานวนมากและซับซ้อน ขาดความยืดหยุ่น มีความล่าช้า ไม่คล่องตัว ไม่ประหยัด ประกอบ กับการขยายตัว ของเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารที่ก้าวหน้า ทาให้ประชาชนคาดหวังท่ีจะได้รับการ บริการของกระทรวงศึกษาธกิ าร ผา่ นช่องทางทีม่ ีความหลากหลายและมีประสทิ ธิภาพมากขึ้น (๓) ด้านจานวนบุคลากรของกระทรวงศึกษา ซึ่งมีความรู้ความสามารถ ทักษะ และสมรรถนะ ท่ีสอดคล้องกับสถานการณ์และเทคโนโลยีท่ีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วยังมีไม่เพียงพอ ขาดแรงดึงดูดให้คนท่ีมี ค ว า ม รู้ ค ว า ม ส า ม า ร ถ แ ล ะ ค น รุ่ น ใ ห ม่ ที่ มี ศั ก ย ภ า พ เ ข้ า ท า ง า น ใ น แ ต่ ล ะ ส่ ว น ร า ช ก า ร ภ า ย ใ ต้ สั ง กั ด กระทรวงศึกษาธิการ และมาตรการ ที่ใช้ในการรักษาและจูงใจบุคลากรท่ีมีความสามารถไว้ในแต่ละส่วนราชการ ภายใต้สังกัดกระทรวงศึกษาธกิ าร ยงั ไม่มปี ระสทิ ธผิ ลอยา่ งเตม็ ท่ี (๔) กระบวนการจัดสรรงบประมาณของกระทรวงศึกษาธิการขาดประสิทธิภาพและ ประสิทธิผล ไม่เท่าทันต่อการแก้ปัญหาท่ีหลากหลายและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว กระบวนการในการจัดทา อนุมัติและ จัดสรรงบประมาณมีข้ันตอนมากและเกิดความล่าช้า ขาดการบูรณาการแผนงานและแผน งบประมาณในแต่ละระดับ ให้สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน (Alignment) ส่งผลให้การจัดสรรงบประมาณมี ลักษณะแยกส่วน ขาดการบูรณาการ และบางกรณีอาจเกิดความซ้าซ้อน นอกจากน้ี ระบบการติดตามตรวจสอบ การใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดิน ยังขาดประสิทธิภาพ และขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน ทาให้นโยบาย แผนงาน และโครงการของแต่ละส่วนราชการสังกัดกระทรวงศึกษา ไม่สามารถนาไปปฏิบัติได้ตามเจตนารมณ์ และไม่ตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างแท้จริง (๕) ระบบการบริหารจัดการของกระทรวงศึกษาธิการยังไม่เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลอย่าง แท้จริงมีการทุจริตและประพฤติมิชอบ เจ้าหน้าท่ีของส่วนราชการในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการบางส่วนยังมี พฤติกรรมในการใช้ตาแหน่งหน้าท่ีในทางมิชอบ โดยเฉพาะการใช้ระบบอุปถัมภ์ในการปฏิบัติราชการ ใช้อานาจ หน้าท่ีโดยมชิ อบหาผลประโยชน์ใหต้ นเองและ พวกพ้อง มีผลประโยชน์ส่วนตนทับซ้อนกับผลประโยชน์รัฐ ซ่ึงทา ให้การบรหิ ารจดั การองค์กรขาดประสทิ ธิภาพ นอกจากนี้จากการศึกษาสภาพแวดล้อมของการพัฒนาระบบราชการกระทรวงศึกษาธิการใน ปัจจบุ ัน พบว่ามีรายละเอียดหลายปัจจยั ดังนี้ -54-

(๑) ปัจจัย : ด้านประชาชนผู้รับบริการ รูปแบบความสัมพันธ์และการให้บริการตามภารกิจ ของกระทรวงศึกษาธิการต้องเน้นความรวดเร็ว (Rapid) เป็นส่วนตัว (Personalized) และผ่านทาง อิเล็กทรอนกิ ส์ (Electronics) เนื่องจากประชาชนผรู้ ับบรกิ ารจะมขี ้อมลู และใช้ข้อมูลร่วมกับภาครัฐอย่างเปิดเผย แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน รวมทั้งประชาชนคาดหวังท่ีจะได้รับการบริการตามภารกิจของกระทรวงศึกษาธิการ ผา่ นช่องทางทมี่ ีความหลากหลายและมปี ระสิทธภิ าพมากข้นึ และได้มาตรฐานสากล (๒) ปัจจัย : ดา้ นบรบิ ทตามขอ้ กาํ หนดของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๗๖ ในหมวดแนวนโยบายพ้ืนฐานของรัฐ กาหนดไว้ดังน้ี (๑) รัฐพึงพัฒนาระบบ การบริหารราชการแผ่นดินท้ังราชการส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค สว่ นทอ้ งถ่ิน และงานของรัฐอย่างอ่นื ให้เปน็ ไปตามหลกั การบรหิ ารกจิ การบา้ นเมืองทีด่ ี (๒) หน่วยงานของรัฐต้องร่วมมือและช่วยเหลือกันในการปฏิบัติหน้าท่ี เพ่ือให้การบริหาร ราชการแผ่นดนิ การจดั ทาบริการสาธารณะ และการใช้จ่ายเงินงบประมาณมีประสิทธิภาพ สูงสุด เพ่ือประโยชน์ สขุ ของประชาชน (๓) พัฒนาเจ้าหน้าที่ของรัฐให้มีความซื่อสัตย์สุจริต และมีทัศนคติ เป็นผู้ให้บริการประชาชน ให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว ไม่เลอื กปฏบิ ัตแิ ละปฏิบตั หิ น้าท่อี ย่างมีประสิทธภิ าพ (๔) มีมาตรการป้องกันมิให้ผู้ใดใช้อานาจ หรือกระทาการโดยมิชอบที่เป็นการก้าวก่ายหรือ แทรกแซงการปฏิบัติหน้าท่ี หรือกระบวนการแต่งตั้ง หรือการพิจารณาความดีความชอบของเจ้าหน้าท่ีของรัฐ (๕) จัดให้มีมาตรฐานทางจริยธรรม สาหรับเจ้าหน้าท่ีของรัฐในหน่วยงานน้ันๆ มาตรา ๒๕๘ ให้ดาเนินการปฏิรูปประเทศอย่างน้อยในด้านต่างๆ ให้เกิดผล ดังต่อไปนี้ (๑) นาเทคโนโลยีที่เหมาะสม มาประยกุ ตใ์ ชใ้ นการบรหิ ารราชการแผ่นดนิ และ การจดั ทาบรกิ ารสาธารณะ เพื่อประโยชน์ในการบริหารราชการ แผ่นดินและเพื่ออานวยความสะดวกแก่ประชาชน (๒) ให้มีการบูรณาการฐานข้อมูลของหน่วยงานของรัฐทุก หน่วยงานเข้าดว้ ยกนั เพ่ือให้ เป็นระบบข้อมูลเพ่ือการบริหารราชการแผ่นดินและบริการประชาชน (๓) ให้มีการ ปรับปรุงและพัฒนาโครงสร้างและระบบบริหารงานของรัฐและแผนกาลังคน ภาครัฐให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง และความท้าทายใหม่ๆ โดยต้องดาเนินการให้เหมาะสมกับภารกิจของหน่วยงานของรัฐแต่ละหน่วยงาน ที่แตกต่างกนั (๔) ให้มีการปรับปรุงและพัฒนาการบริหารงานบุคคลภาครัฐเพื่อจูงใจให้ผู้มีความรู้ ความสามารถ อย่างแท้จริงเข้ามาทางานในหน่วยงานของรัฐ และสามารถเจริญก้าวหน้าได้ตามความสามารถ มีความซื่อสัตย์ สุจริต กล้าตัดสินใจและกระทาในส่ิงที่ถูกต้อง โดยคิดถึงประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ ส่วนตัวมีความคิด สร้างสรรค์และคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เพ่ือให้การปฏิบัติราชการและการบริหารราชการแผ่นดิน เป็นไปอย่าง มีประสิทธิภาพ และมีมาตรการคุ้มครองป้องกันบุคลากรภาครัฐจากการใช้อานาจโดย ไม่เป็นธรรม ของผู้บังคับบัญชา และ (๕) ให้มีการปรับปรุงระบบการจัดซ้ือจัดจ้างภาครัฐให้มีความคล่องตัว เปิดเผย ตรวจสอบได้ และมีกลไกในการป้องกันการทจุ ริตทุกขนั้ ตอน (๓) ปัจจยั : ดา้ นเศรษฐกิจ (๑) การเปล่ียนขั้วทางเศรษฐกิจในในระดับโลกและในระดับภูมิภาค มาให้ความสาคัญกับ ภูมิภาคเอเชีย ในฐานะศูนย์กลางพลังอานาจทางเศรษฐกิจ แต่ในขณะเดียวกันก็จะนาไปสู่การรวมกลุ่มทาง เศรษฐกิจ ในรูปแบบใหม่เพ่ือสร้างอานาจการต่อรอง ประกอบกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเงิน รวมทั้ง การเปิด เสรภี าคการเงนิ กม็ ผี ลทาให้แนวโน้มการแข่งในในเวทีโลกจะรุนแรงมากข้ึน ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจโลกท่ี มี แนวโนม้ อตั ราการขยายตวั ตา่ ยิ่งสง่ ผลทาให้การแขง่ ขนั ในเวทีโลกมคี วามรนุ แรงมากยิ่งข้นึ (๒) ผลกระทบของสถานการณ์และแนวโน้มด้านเศรษฐกิจดังกล่าวข้อ (๑) ส่งผลทาให้ ตัวแปร หลักในการกาหนดนโยบายเศรษฐกิจของประเทศเปล่ียนแปลงไป (Key Parameters Shaping Economic -55-

Policies) ต้องมีการปรับยุทธศาสตร์ในการบริหารจัดการประเทศเพื่อเพิ่มขีดความสามารถ ในการแข่งขัน เพื่อให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากกับดักของการเป็นประเทศรายได้ปานกลาง (Middle Income Trap) สามารถ ยกระดับเพ่ือแข่งขันกับประเทศที่มีระดับการพัฒนาท่ีสูงกว่า ด้วยการพัฒนาและใช้เทคโนโลยี ข้ันสูงและการ สร้างมูลค่าเพ่ิมจากนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ และรับมือกับความท้าทายจากประเทศ ท่ีมีอัตราค่าแรง ท่ีต่า (๔) ปัจจัย : ด้านเทคโนโลยี (๑) การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีอย่างฉับพลัน (Disruptive Technology) โดยเฉพาะ เทคโนโลยีพื้นฐานที่จาเป็น ๔ ด้าน ได้แก่ เทคโนโลยีชีวภาพ นาโนเทคโนโลยี เทคโนโลยีวัสดุศาสตร์ พลังงาน และสงิ่ แวดลอ้ ม และเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสารและดิจิทัล จะก้าวหนา้ ต่อไปอย่างรวดเรว็ (๒) พัฒนาการของเทคโนโลยีสมัยใหม่ อาทิ โปรแกรมอัจฉริยะ อินเทอร์เน็ตในทุกส่ิง เทคโนโลยีคลาวด์ หุ่นยนต์ และยานยนต์ไร้คนขับ จะพลิกโฉมรูปแบบการดารงชีวิตของประชาชน การประกอบ ธุรกจิ และการสร้าง ความสัมพนั ธ์ของบุคคล กล่มุ และองคก์ รในสงั คมขนานใหญ่ (๓) การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีอย่างฉับพลันจะกระทบต่อการบริหารจัดการภาครัฐ อย่าง ลึกซ้ึงและกว้างขวาง กล่าวคือ จะเป็นแรงกดดันท่ีสาคัญในภาครัฐต้องปรับโฉมโครงสร้างองค์กร พัฒนา ระบบงาน และปรบั เปล่ยี นวธิ ีการทางานดว้ ยการนาเทคโนโลยมี าใชแ้ ทนกาลงั คนมากขึน้ (๕) ปัจจัย : ด้านสงั คมและวฒั นธรรม (๑) การทป่ี ระชากรสว่ นใหญอ่ าศัยอยู่ในเขตเมืองมากกวา่ เขตชนบท (๒) การเพ่ิมข้ึนของจานวนประชากร สูงอายุอย่างรวดเร็ว โดยประเทศที่พัฒนาแล้วหลายแห่ง ได้เขา้ ส่สู งั คมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบแล้วโดยมีระยะเวลา ในการเตรียมตัวสาหรับการเป็นสังคมสูงวัยค่อนข้าง นานกว่าประเทศทกี่ าลงั พฒั นา (๓) การเคล่ือนย้ายกาลัง แรงงานข้ามพรมแดนได้อย่างเสรีมากข้ึน ซ่ึงอาจก่อให้เกิดปัญหาการ ขาดแคลนกาลงั คนที่มคี วามรู้และทักษะในศตวรรษท่ี๒๑ (๔) ความไม่เป็นธรรมและความเหล่ือมล้าในสังคม โดยทั้งภาครัฐและภาคธุรกิจเอกชนจะต้อง เผชิญกับแรง กดดันทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ ให้ดาเนินการแก้ไขปัญหาร่วมกัน การเข้าถึงระบบ สาธารณสขุ และความยากจน เปน็ ต้น (๕) รูปแบบการใช้ชีวติ ของประชาชน เปลี่ยนไปเนื่องจากมีการเปิดรับกระแสวัฒนธรรมจากท่ัว โลกได้ง่ายขึน้ เนื่องจากความกา้ วหน้าดา้ นเทคโนโลยี ปัจจยั ดา้ นสงั คมและวัฒนธรรมดังกล่าวข้างต้นส่งผลกระทบ ต่อการบริหารจัดการภาครัฐ ในหลายประการ อาทิ การเข้าสู่สังคมสูงวัยค่อนข้างเร็วกว่าประเทศกาลังพัฒนา อน่ื ๆ อาจเป็นโอกาสในการพฒั นา ธรุ กจิ สินค้า และนวัตกรรมสาหรับการดูแลผู้สูงอายุ รวมทั้งเพิ่มโอกาสในการ จ้างงานกลุ่มทม่ี ที ักษะ ในการดูแลผู้สงู อายุ (๖) การลดลงของกาลังแรงงานในประเทศ โดยเฉพาะกาลังคนที่มีขีดความสามารถและมี ศักยภาพสงู นอกจากนย้ี ังอาจทาให้ภาครัฐเผชิญกับแนวโน้มภาระ ด้านงบประมาณท่ีเพ่ิมข้ึน เน่ืองจากค่าใช้จ่าย ด้านการจัดบริการทางการแพทย์และสาธาณสุข บาเหน็จบานาญ และสวัสดกิ ารสังคมในรูปแบบอ่นื ๆ (๖) ปัจจยั : ด้านสงิ่ แวดล้อม (๑) การเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยธรรมชาติท่ีมีความผันผวนรุนแรงมากข้ึน ส่งผล ต่อวิถีชีวิตของผู้คน อาทิ ก่อให้เกิดปัญหาน้าท่วม ภัยแล้ง ซึ่งส่งผลต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคม ทุกมิติ (๒) เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals) เป็นปัจจัยสาคัญ ท่ี รัฐบาลของหลายประเทศต้องนามาพิจารณากาหนดนโยบายและทิศทางการพัฒนา จึงถือเป็นประเด็น ระดับ -56-

นานาชาตทิ ่ีต้องให้ความสาคญั เพราะเก่ียวข้องกับการรักษาและฟ้ืนฟูฐานทรัพยากรธรรมชาติ การใช้ ประโยชน์ จากทรัพยากรธรรมชาตอิ ย่างยงั่ ยืน และลดผลกระทบต่อสิง่ แวดล้อมให้น้อยท่ีสุด (๓) ข้อตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการลดก๊าซ เรือนกระจก ก็ถือเป็น พันธสัญญาท่ีชาติต่างๆ ซึ่งให้สัตยาบันจะต้องพยายามขับเคล่ือนให้บรรลุผล และยัง เกย่ี วข้องกบั เงอ่ื นไข ในการกาหนดมาตรฐานสินค้าในการคา้ ระหวา่ งประเทศ (๗) ปจั จัย : ดา้ นความมน่ั คง (๑) ปัญหาดา้ นความมั่นคงในปัจจุบนั เกี่ยวข้องกับสถานการณ์อาชญากรรมข้ามชาติ ทั้งในเร่ือง การค้ายาเสพติด ปัญหาแรงงานต่างด้าว การค้ามนุษย์ และการฟอกเงิน ซึ่งมีแนวโน้มขยายตัว มีเครือข่ายท่ี เช่อื มโยงกนั ในภูมิภาค มีรปู แบบทีซ่ บั ซ้อน และใช้เทคโนโลยีทีท่ นั สมัยในการดาเนินงาน (๒) การแขง่ ขันกันมอี ทิ ธิพลและสร้างพันธมิตรในภูมิภาคระหว่างชาติมหาอานาจ (๓) ความขัดแย้ง ระหว่างชาติต่างๆ ในภูมิภาคเพื่ออ้างอิงสิทธิทับซ้อนและการแย่งชิง ผลประโยชนท์ างทรัพยากรธรรมชาติ ล้วนเป็นปัจจัยภายนอกที่ส่งผลต่อเสถียรภาพและการดาเนินนโยบายของ รัฐบาลไทย ๒. ความจําเป็นของแผนยุทธศาสตรก์ ารพฒั นาระบบราชการ ๔.๐ ของกระทรวงศึกษา (พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๕) (๒.๑) ปัญหาอุปสรรคของการพัฒนาระบบราชการกระทรวงศึกษาในปัจจุบันที่ส่งผลต่อ การพฒั นากระทรวงศกึ ษาเข้าสรู่ ะบบราชการ ๔.๐ และการบรรลุเป้าหมายตามแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (๒๐) ประเด็น การบริการประชาชน และประสิทธิภาพภาครัฐ (พ.ศ.๒๕๖๑–๒๕๘๐) แผนแม่บทภายใต้ ยุทธศาสตร์ชาติ (๑๑) การพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต (พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๘๐) และแผนแม่บทภายใต้ ยุทธศาสตร์ชาติ(๑๒) ประเด็น การพัฒนาการเรียนรู้(พ.ศ. ๒๕๖๑–๒๕๘๐) และนโยบายรัฐบาล มีรายละเอยี ดดงั นี้ (๑) ปัญหาด้านการไม่ให้ความสาคัญกับคุณค่าของงานและความไม่เข้าใจบทบาทในการ ทางานร่วมกันอยา่ งชัดเจน นางสาวพสุภา โกศัลลกูฏ ที่ปรึกษาอาวุโส บริษัทเฮย์กรุ๊ป ให้ความเห็นว่า : “โครงสร้าง องค์กรควรถูกออกแบบโดยพิจารณาจากกลยุทธ์ขององค์กรเป็นสาคัญ และการทางานในองค์กรต้องอาศัยการ ติดตอ่ และความร่วมมือข้ามสายงานโดยความสมั พนั ธ์ดังกล่าวควรจะมีความชัดเจนและเชื่อมโยงกันทั้งองค์กร” ดังนัน้ การดาเนนิ งานหรอื การบรหิ ารงานของสว่ นราชการสงั กัดกระทรวงศกึ ษาในปัจจุบันที่ยังไม่บรรลุเป้าหมาย ตามยุทธศาสตร์ชาติในระยะเวลาที่กาหนดได้นั้น ท้ังนี้เนื่องจากโครงสร้างของส่วนราชการสังกัดกระทรวง ศึกษาธิการเดิมไม่สอดคล้องกันระหว่างงาน หน้าที่ความรับผิดชอบ กับเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติ รวมทั้ง งานในแต่สานัก กอง ศูนย์ กลุ่ม ภายในสังกัดของแต่ละส่วนราชการก็ยังไม่ส่งผลต่อการทาให้กลยุทธ์ และโครงการที่สาคัญตามยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทและ แผนการปฏิรูปประเทศบรรลุเป้าหมาย นอกจากนี้ การทางานยังขาดการติดตอ่ และความร่วมมือระหว่างส่วนราชการ หรือข้ามสายงาน รวมท้ังขาดความชัดเจนท่ี เก่ียวกับงานว่างานใดที่สร้างความเปรียบในการแข่งขันในเชิงยุทธศาสตร์ งานใดที่ควรถูกพัฒนาขึ้นภายใน องค์กร งานใดที่ควรจ้างคนภายนอกทา ขาดการออกแบบงานและกระบวนการทางานท่ีสอดคล้องกัน ของบทบาทหน้าที่และขาดความสัมพันธ์ในการทางานของแต่ละหน่วยงาน จึงก่อให้เกิดความสับสนและความ ไม่ร่วมมอื เกิดข้ึนในการทางานในภาพรวมกระทรวงศกึ ษาธกิ ารจนทาให้การทางานเป็นไปอย่างล่าช้า ให้ผลเป็น ที่ไม่น่าพอใจหรือไม่สาเร็จตามเป้าท่ีต้ังไว้ รวมทั้งภารกิจ บทบาทและอานาจหน้าที่ของหน่วยงาน บางหน่วยงานมีความซ้าซ้อน บางหน่วยงานมีภารกิจ บทบาทและอานาจหน้าท่ี ท่ีไม่จาเป็นที่จะต้องทาท้ังใน ปัจจุบันและอนาคตแล้ว ตลอดจนบางหน่วยงานมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น มีลักษณะงานที่มีคุณภาพสูงและความ -57-

ยุ่งยากซับซ้อนมาก เนื่องจากมีผู้เก่ียวข้องในการปฏิบัติงานเป็นจานวนมากและต้องใช้ความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ และทักษะความเช่ียวชาญในหลากหลายด้าน รวมทั้งยังมีลักษณะงานที่มีผลกระทบในวงกว้าง ท้ังในเชิงการปฏิบัติงานแบบบูรณาการ ความเป็นเอกภาพ ความคล่องตัวและการบรรลุเป้าหมายร่วมกันตาม ยทุ ธศาสตรช์ าติ แต่กลับมีอตั รากาลงั ไม่เพียงพอกับลกั ษณะงานดังกล่าวอันเนื่องมาจากโครงสร้างการบริหารของ ส่วนราชการสงั กดั กระทรวงศึกษาธิการไมร่ องรับกับการเปล่ียนแปลง (๒) ปญั หาดา้ นงานทอี่ อกแบบไว้เดิมไม่สอดคล้องกบั งานทีต่ อ้ งทาตามภารกิจ บทบาท อานาจ หน้าท่ีและความรับผิดชอบตามเงื่อนไขและข้อกาหนดตามบริบทรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๖๐ ยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บท แผนการปฏิรูปประเทศ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นโยบายของคณะรัฐมนตรที ีแ่ ถลงตอ่ รฐั สภากฎหมายท่ีเกี่ยวข้อง และนโยบายรัฐมนตรีว่าการระทรวงศึกษาธิการ ทกี่ าหนดไว้ เป็นเหตใุ หแ้ ตล่ ะงานขาดความชัดเจนเก่ียวกับสมรรถนะที่จาเป็นในการปฏิบัติงานให้บรรลุเป้าหมาย ที่สอดคลอ้ งเช่ือมโยงกัน ดังน้ันเจ้าหน้าท่ีท่ีสังกัดส่วนราชการภายในกระทรวงศึกษาธิการในแต่ละตาแหน่งและ แตล่ ะสายงานส่วนใหญ่ยังมีขาดความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ และทักษะท่ีจาเป็นตามสมรรถนะของงาน ท่ีต้องทาตามเงื่อนไขของข้อกฎหมาย เป็นเหตุให้เจ้าหน้าท่ีมีความเครียดและไม่สามารถทางานนั้นให้บรรลุ เป้าหมายได้ตามระยะเวลาท่ีกาหนด แต่อย่างไรก็ตามยังมีเจ้าหน้าท่ีบางตาแหน่งในแต่ละสายงานก็มีความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ และทักษะสูงกว่าสมรรถนะของงานที่กาหนดแต่ก็เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ดังกล่าว มีอาการเบ่ืองาน เบ่ือองค์กร และองค์กรเองก็จะได้รับผลตอบแทนที่ไม่คุ้มค่ากับส่ิงที่ลงทุนไป รวมทั้งยังมี ปรมิ าณความรับผดิ ชอบของงานไม่เหมาะสมกันในแต่ละตาแหน่งอีกด้วย ซ่ึงการให้งานในปริมาณท่ีมากเกินไป หรือให้ทาในส่ิงที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานทาให้เจ้าหน้าที่เกิดความสับสน ขาดสมาธิ และการทางานก็ไม่เต็ม ประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีการการออกแบบงานท่ีไม่สอดคล้องระหว่างหน้าท่ีความรับผิดชอบของงานและ แรงจงู ใจในการทางานของผูด้ ารงตาแหน่ง เช่น เจา้ หนา้ ท่ที ี่ดารงตาแหน่งหน่ึงแต่ไปมอบหมายงานให้ทาของอีก ตาแหน่งหนึ่ง เป็นเหตุให้มีการยา้ ยหรือเปลี่ยนงานบ่อยมากขึ้น รวมท้ังยังพบว่าเจ้าหน้าที่ขาดขวัญและกาลังใจ ในการทางานโดยเฉพาะเกี่ยวกับความก้าวหน้า และการบริหารงานในแต่ละตาแหน่งในแต่ละสายงาน อันเน่ืองจากลักษณะงานบางหน่วยงานมีงานท่ีมีทั้งปริมาณและคุณภาพสูงมากเทียบเท่าระดับส่วนราชการ แต่ในปัจจุบันหน่วยงานดังกล่าวก็ยังมีสถานะเป็นเพียงระดับสานักหรือกอง อีกทั้งบางกลุ่มงานมีงานท้ังปริมาณ และคุณภาพมากสูงมากเช่นกันเทียบเท่าระดับสานักหรือกองแต่ในปัจจุบันกลุ่มงานดังกล่าวก็ ยังมีสถานะเป็น สานักหรือกอง รวมท้ังผู้บริหารในแต่ละระดับยังขาดทิศทางในการสนับสนุนเพื่อส่งเสริมคุณค่าของแต่ละงาน ในการนากลยุทธ์ขององค์กรไปปฏิบัติในองค์รวม และอานาจการตัดสินใจก็ยังไม่สอดคล้องกันทั้งภายใน หน่วยงานเดียวกันและข้ามหน่วยงานเพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีช่องว่างและความซ้าซ้อนในอานาจการตัดสินใจ เกดิ ข้นึ ในองคก์ ร นอกจากน้ยี ังพบปญั หาทีเ่ กิดจากสายบงั คับบัญชาที่ยาวจนส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจในการ สั่งการมายังผ้ปู ฏิบตั ใิ นการที่ให้ผู้ปฎิบัติได้ทาหน้าที่เพื่อตอบสนองความต้องการท่ีแตกต่างกันของผู้มีส่วนได้ส่วน เสียทุกกลุ่มกับยุทธศาสตร์ชาติท่ามกลางความเปล่ียนแปลงท่ีรวดเร็วและไม่สามารถคาดเดาได้ ได้ทันท่วงที จนก่อใหเ้ กิดข้อรอ้ งเรียน และการประท้วงของผูม้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสียของบางกลมุ่ อยู่บ่อยๆ (๓) ปญั หาดา้ นการขาดความชดั เจนในความรบั ผดิ ชอบร่วมกันและการทางานเป็นทีม นางสาวพสุภา โกศัลลกฏู ที่ปรึกษาอาวุโส บริษัทเฮย์กรุ๊ป ให้ความเห็นว่า “แต่ละงานมีความ เก่ียวข้องกับการตัดสินใจได้ในหลายรูปแบบ ความรับผิดชอบร่วมกันจะมีประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อมีการกาหนด ความรับผิดชอบของแต่ละฝ่ายไว้อย่างชัดเจนและจากัดอยู่ในวงเพียงไม่ก่ีคนเท่าน้ันรวมทั้งที มงาน ท่ีมีประสิทธิภาพสูงสุดคือทีมงานท่ีมีความชัดเจนในวัตถุประสงค์และบทบาทของทีม ตลอดจนผลที่คาดว่า จะได้รับตามหน้าที่และความรับผิดชอบของสมาชิกในทีมแต่ละคน” ดังนั้นการดาเนินงานหรือการบริหารงาน -58-

ของส่วนราชการสังกัดกระทรวงศึกษาในปัจจุบันยังขาดความชัดเจนในการกาหนดว่า “ในแต่ละงานมีความ เกีย่ วข้องกับการตัดสินใจรับผิดชอบร่วมกันอย่างไร” ทาให้ผู้ปฎิบัติงานเกิดความสับสน เกิดการทางานซ้าซ้อน ล่าช้า ไม่คุ้มค่า เพราะไม่ทราบว่างานที่ตนรับผิดชอบต่อการบรรลุเป้าหมายของส่วนราชการนั้นเป็นงาน ท่ีเก่ียวข้องตามห่วงโซ่คุณค่า ต้นทาง กลางทาง ปลายทางอย่างไร รวมทั้งขาดความชัดเจนในการออกแบบ การทาเป็นทีมงานท่ีต้องกาหนดวัตถุประสงค์และบทบาทของทีม ตลอดจนผลท่ีคาดว่าจะได้รับตามหน้าท่ี และความรบั ผดิ ชอบของสมาชกิ ในทีมแต่ละคน จดุ มงุ่ หมายหลักของทีมคือการสร้างคุณค่าท่ีมากกว่าแค่ผลรวม ของความรับผิดชอบของสมาชิกในทีม ซึ่งการท่ีจะทาจุดมุ่งหมายน้ีให้สาเร็จ ต้องมีการออกแบบขอบเขตงาน ของทีมท่ีมีความเหมาะสมและปฏิบัติได้ นอกจากน้ีการทางานเป็นทีมจาเป็นต้องเอาชนะปัญหาท่ีเกิดขึ้น เพ่ือบรรลุเป้าหมายโดยรวม ท้ังนี้ทีมงานขององค์กรที่ประกอบด้วยสมาชิกจากหลายสายงานควรมีเป้าหมาย และตวั ชี้วดั ท่ีมุ่งเน้นถึงผลลพั ธข์ องทมี เป็นหลกั (๒.๒) การประเมินเง่ือนไขและสภาพแวดล้อมวิเคราะห์ (SWOT Analysis) ของการพัฒนาระบบ ราชการกระทรวงศึกษา ที่จะมีผลต่อการพัฒนาภายใต้แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบราชการ ๔.๐ ของกระทรวงศกึ ษา (พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๕) สรปุ รายละเอยี ดดงั น้ี (๑) สภาพแวดล้อมภายนอก ปจั จยั ภายนอก โอกาส อปุ สรรค (๑) ประชาชน ผูร้ ับบรกิ าร (OPPORTUNITIES) (THREATS) (๒) บรบิ ทตาม (๑) ประชาชนผูร้ ับบริการมีความคาดหวังให้ (๑) รูปแบบความสัมพันธ์ของประชาชน ข้อกาหนดของ รัฐธรรมนญู แห่ง ส่วนราชการสงั กดั กระทรวงศึกษาธิการ ผรู้ บั บรกิ ารกับสว่ นราชการสังกัด ราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๖๐ จัดบริการท่ีมีคุณภาพและมปี ระสทิ ธิภาพ กระทรวงศกึ ษาธิการมีการเปลี่ยนแปลง มากกว่าเดิม ตามการเปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยี อย่างฉบั พลัน (Disruptive Technology) ขอ้ กาหนดของรัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๖๐ กาหนดให้ (๑) ส่วนราชการสงั กัดกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ต้องยกระดับการพัฒนาระบบ การบรหิ าร ราชการแผ่นดินสว่ นกลางใหเ้ ปน็ ไปตาม หลกั การบริหารกิจการบา้ นเมืองท่ีดี (๒) สว่ นราชการสังกดั กระทรวงศกึ ษาธิการ ตอ้ งรว่ มมือและชว่ ยเหลอื กนั ในการปฏิบตั ิ หน้าท่รี ว่ มกับหนว่ ยงานของรัฐอืน่ เพอ่ื ประโยชนส์ ขุ ของประชาชน (๓) บุคลากรสงั กัดกระทรวงศึกษาธกิ ารได้รบั การพฒั นาให้มคี วามซื่อสัตยส์ ุจริต และมี ทัศนคติ เป็นผใู้ ห้บรกิ ารประชาชนให้เกิด ความสะดวก รวดเร็ว ไม่เลือกปฏิบัติและ -59-

ปัจจัยภายนอก โอกาส อุปสรรค (OPPORTUNITIES) (THREATS) ปฏิบัติหน้าที่อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ (๔) ส่วนราชการสังกัดกระทรวงศึกษาธกิ าร ต้องมมี าตรการป้องกนั มิใหผ้ ู้ใดใช้อานาจ หรอื กระทาการโดยมิชอบทีเ่ ป็นการกา้ วก่าย หรอื แทรกแซงการปฏิบตั หิ นา้ ที่ หรอื กระบวนการแต่งต้งั หรือการพจิ ารณาความ ดีความชอบของบุคลากรในสงั กัด (๕) ส่วนราชการสังกดั กระทรวงศึกษาธกิ าร ตอ้ งจัดให้มีมาตรฐานทางจริยธรรม สาหรบั บุคลากรในสังกัด (๖) สว่ นราชการสังกดั กระทรวงศึกษาธกิ าร ต้องนาเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาประยุกตใ์ ช้ ในการบริหาร การปฏบิ ัติงานและการบริการ ประชาชนเพ่ือประโยชน์ในการบริหาร ราชการแผน่ ดนิ และเพื่ออานวยความสะดวก แกป่ ระชาชน (๗) สว่ นราชการสงั กดั กระทรวงศึกษาธิการ ต้องจัดให้มีการบรู ณาการฐานขอ้ มูลของ หน่วยงานของรัฐทกุ หนว่ ยงานเข้าดว้ ยกัน เพ่ือให้เปน็ ระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการ บรหิ ารและจดั การศกึ ษาของ กระทรวงศกึ ษาธิการและบริการประชาชน (๘) สว่ นราชการสังกดั กระทรวงศึกษาธกิ าร ต้องปรบั ปรุงและพัฒนา ภารกิจโครงสร้าง และระบบบรหิ ารงานและแผนกาลงั คน ให้ ทนั ตอ่ การเปล่ยี นแปลงและความทา้ ทาย ใหมๆ่ (๙) ส่วนราชการสงั กัดกระทรวงศกึ ษาธิการ ต้องปรับปรงุ และพฒั นาการบรหิ ารงาน บุคคลเพ่ือจูงใจใหผ้ ูม้ ีความรู้ความสามารถ อย่างแทจ้ ริงเข้ามาทางานใน กระทรวงศึกษาธิการ และสามารถ เจริญก้าวหน้าได้ตามความสามารถ มคี วาม ซือ่ สตั ยส์ จุ รติ กล้าตัดสนิ ใจและกระทาในสง่ิ ท่ถี ูกต้อง โดยคิดถึงประโยชน์ส่วนรวม มากกว่าประโยชน์ สว่ นตวั มีความคดิ -60-

ปจั จัยภายนอก โอกาส อปุ สรรค (๓) สภาพเศรษฐกจิ (OPPORTUNITIES) (THREATS) สรา้ งสรรค์และคิดค้นนวตั กรรมใหม่ๆ เพ่ือให้ การปฏิบัติราชการและการบริหารราชการ แผน่ ดิน เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และมี มาตรการคุม้ ครองป้องกันบุคลากรจากการ ใช้อานาจโดยไม่เป็นธรรม ของผบู้ งั คับบญั ชา (๑๐) ส่วนราชการสังกัด กระทรวงศกึ ษาธิการต้องจัดใหม้ กี าร ปรับปรุงระบบการจัดซ้ือจดั จา้ งใหม้ ีความ คล่องตวั เปดิ เผย ตรวจสอบได้ และมกี ลไก ในการปอ้ งกันการทุจรติ ทกุ ขน้ั ตอน (๑) สว่ นราชการสังกดั กระทรวงศึกษาธิการ (๑) ภาวะเศรษฐกจิ โลกที่มี แนวโน้ม ต้องปรับปรงุ และพัฒนา ภารกจิ โครงสร้าง อัตราการขยายตัวต่า ย่งิ ส่งผลทาให้การ และระบบบรหิ ารงานและแผนกาลงั คน ให้ แข่งขันในเวทโี ลกมีความรนุ แรงมาก ทันตอ่ การเปล่ยี นแปลงและความทา้ ทาย ย่งิ ขนึ้ ทาให้ส่วนราชการสงั กดั ใหมๆ่ กระทรวงศึกษาธิการก้าวไม่ทันต่อการ (๒) สว่ นราชการสงั กดั กระทรวงศึกษาธิการ เปล่ยี นแปลงท่หี ลากหลายและอยา่ ง ตอ้ งปรับปรุงกฎหมาย กฎและระเบียบท่ี รวดเรว็ เกีย่ วข้อง เพ่ือให้มีขดี ความสามารถในการ (๒) ยุทธศาสตร์ในการบรหิ ารจดั การ รับมอื กบั สถานการณ์การเปล่ียนแปลงได้ ประเทศเพื่อเพม่ิ ขีดความสามารถ ในการ อย่างมี ประสทิ ธผิ ล แข่งขนั เพ่ือใหป้ ระเทศไทยหลดุ พน้ จาก กบั ดักของการเป็นประเทศรายได้ปาน กลาง (Middle Income Trap) สามารถ ยกระดับเพื่อแข่งขันกบั ประเทศทมี่ รี ะดบั การพฒั นาทส่ี ูงกว่า ด้วยการพัฒนาและ ใช้เทคโนโลยี ขั้นสงู และการสรา้ ง มลู ค่าเพิม่ จากนวัตกรรมและความคิด สร้างสรรค์ และรบั มือกบั ความท้าทาย จากประเทศ ท่มี ีอตั ราคา่ แรงที่ต่าทาให้ สว่ นราชการสังกดั กระทรวงศึกษาธกิ าร ก้าวไม่ทนั ต่อการเปลยี่ นแปลงอย่าง รวดเรว็ ในการที่จะพลกิ โฉมองค์กรใหม้ ี ขีดความสามารถในการรบั มือกับ สถานการณ์การเปลยี่ นแปลงได้อยา่ งมี ประสทิ ธผิ ลและทันทว่ งที -61-

ปัจจยั ภายนอก โอกาส อปุ สรรค (๔) เทคโนโลยี (OPPORTUNITIES) (THREATS) (๕) สภาพสงั คมและ วฒั นธรรม (๑) สว่ นราชการสงั กดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร (๑) การเปลยี่ นแปลงด้านเทคโนโลยอี ยา่ ง (๖) สงิ่ แวดลอ้ ม ตอ้ งปรับโฉมโครงสรา้ งองค์กร พฒั นา ฉับพลัน (Disruptive Technology) ระบบงาน และปรบั เปลย่ี นวิธีการทางาน โดยเฉพาะ เทคโนโลยสี ารสนเทศ การ ด้วยการนาเทคโนโลยมี าใช้แทนกาลังคนมาก ส่อื สารและดจิ ิทลั ส่งผลใหส้ ว่ นราชการ ขึ้น สังกัดกระทรวงศึกษาธิการไม่สามารถ (๒) ส่วนราชการสงั กดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ปรับเปลีย่ นวธิ กี ารทางานด้วยการนา ตอ้ งเพ่ิมขดี ความสามารถของกาลงั คน เทคโนโลยมี าใชแ้ ทนกาลงั คนได้ทันทว่ งที เพ่ือให้สามารถ รองรับรูปแบบการจดั ทาและ (๒) พัฒนาการของเทคโนโลยีสมัยใหม่ บริการโดยใช้เทคโนโลยีเปน็ ตัวขับเคลื่อน ทจี่ ะพลกิ โฉมรูปแบบการดารงชวี ติ ของ เพื่อให้สามารถตอบสนอง ความตอ้ งการของ ประชาชน การประกอบธรุ กจิ และการ ประชาชนได้อย่างแทจ้ ริง สรา้ ง ความสมั พนั ธ์ของบุคคล กลุ่มและ องค์กรในสงั คมขนานใหญส่ ง่ ผลให้สว่ น ราชการสงั กัดกระทรวงศึกษาธิการไม่ สามารถเพม่ิ ขีดความสามารถของ กาลังคน รองรบั รปู แบบการจัดทาและ บริการโดยใช้เทคโนโลยีเป็นตัวขับ เคลอ่ื นท่ีสามารถตอบสนองความต้องการ ของประชาชนไดท้ นั ทว่ งที (๑) ส่วนราชการสังกดั กระทรวงศกึ ษาธิการ (๑) การลดลงของกาลงั แรงงาน ตอ้ งมกี ารปรับบทบาทและวิธกี ารทางาน ในประเทศ โดยเฉพาะกาลังคนท่มี ี แบบร่วมมือและบรู ณาการ เนื่องจาก ขีดความสามารถและมีศักยภาพสงู กระทรวงศกึ ษาธิการไม่ใช่องค์กรหลักเพียง อาจมีผลกระทบต่องบประมาณของสว่ น องคก์ รเดียวในการรับมือกบั ปัญหาด้านสังคม ราชการสังกดั กระทรวงศึกษาธกิ ารในการ และ วัฒนธรรม ยกระดับสู่องค์กรแหง่ (๒) ส่วนราชการสงั กดั กระทรวงศึกษาธกิ าร ความเปน็ เลิศ ต้องจัดโครงสร้างระบบการทางานและขีด ความสามารถของกาลังคนท่ตี ้องเอื้อต่อ การบรู ณาการการทางานร่วมกันระหวา่ ง หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรไม่ แสวงหากาไร (๑) สว่ นราชการสงั กดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร (๑) การเปลย่ี นแปลงสภาพภมู ิอากาศ ต้องพัฒนาระบบและกลไกการดาเนินงานให้ และภยั ธรรมชาติทม่ี ีความผันผวนรุนแรง สามารถบูรณาการ และบริหารจัดการเพ่ือให้ มากขนึ้ ส่งผลต่อวถิ ชี ีวิตของผู้คนทาให้ บรรลเุ ป้าหมายการพฒั นาที่ยั่งยนื สว่ นราชการสังกดั กระทรวงศึกษาธกิ าร ปรบั ตัวไม่ทนั ในการรบั มือกับการ เปล่ยี นแปลงดงั กล่าว -62-

ปจั จยั ภายนอก โอกาส อุปสรรค (๗) ความมั่นคง (OPPORTUNITIES) (THREATS) (๒) สว่ นราชการสงั กดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร (๑) ปญั หาด้านความมั่นคงในปจั จุบนั ต้องจัดใหม้ ีการบริหารจัดการเป็นไปตาม เกย่ี วข้องกับสถานการณ์อาชญากรรม ขอ้ กาหนดและ มาตรฐานสากล ขา้ มชาติ ทง้ั ในเร่ืองการค้ายาเสพติด ปัญหาแรงงานตา่ งดา้ ว การคา้ มนษุ ย์ ๑) สว่ นราชการสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ และการฟอกเงิน ซ่ึงมีแนวโน้มขยายตัว ต้องพัฒนาการบรหิ ารจัดการเพือ่ รักษา มเี ครือข่ายท่ีเชื่อมโยงกันในภูมภิ าค มี ผลประโยชน์ของชาตใิ นเวทโี ลก รูปแบบท่ีซบั ซ้อน และใช้เทคโนโลยที ี่ (๒) ส่วนราชการสังกัดกระทรวงศึกษาธกิ าร ทันสมัยในการดาเนินงานส่งผลตอ่ การ ตอ้ งพฒั นาโครงสร้างและระบบงานใหม้ ี ปรับภารกิจของส่วนราชการสังกดั ความคลอ่ งตวั ได้มาตรฐานสากล เพ่ือให้ กระทรวงศึกษาธิการให้รองรบั ในการ สามารถบริหารจัดการ สถานการณ์ความ แกป้ ญั หาไมไ่ ดท้ ันท่วงที มั่นคงกระทบไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ (๒) ความขัดแย้ง ระหวา่ งชาติต่างๆ ในภูมิภาคเพื่ออ้างองิ สิทธทิ ับซ้อน (๘) ปญั หาการบรหิ าร (๑) ส่วนราชการสงั กัดกระทรวงศกึ ษาธกิ าร และการแย่งชงิ ผลประโยชน์ทาง ทรัพยากรธรรมชาติ ลว้ นเปน็ ปจั จัย จดั การภาครัฐ ต้องปรบั โครงสร้างให้มคี วามกะทดั รัด ภายนอกทส่ี ่งผลต่อเสถยี รภาพและการ ดาเนนิ นโยบายของรัฐบาลไทย ส่งผลตอ่ ใหภ้ าคเอกชนหรือท้องถิ่นเปน็ ผู้ดาเนนิ การ การขับเคลื่อนภารกิจของส่วนราชการ สงั กัดกระทรวงศึกษาธกิ ารไม่สามารถลด และการใชร้ ปู แบบการเป็นหุ้นสว่ นหรือ ความขัดแย้งจนเปน็ ทย่ี อมรับได้ (๑) ภาครัฐมีขนาดใหญ่ : เน่อื งจาก พนั ธมติ รร่วมทนุ ระหวา่ ง ภาครัฐและเอกชน หนว่ ยงานของรฐั ยงั เปน็ ผูร้ ับผิดชอบหลัก ในการจัดทาและให้บริการสาธารณะ หรอื การบรู ณาการการทางานในลักษณะ (Operation) สง่ ผลทาให้โครงสรา้ งของ หนว่ ยงานภาครฐั มกี ารขยายตัว ประชารฐั (Structural Diversification) อยา่ ง ตอ่ เน่ืองมาโดยตลอดอัตรากาลังภาครัฐมี (๒) สานักงานปลดั กระทรวงศึกษาธิการต้อง แนวโนม้ เพ่มิ ขึ้นสง่ ผลทาให้สัดส่วน งบประมาณรายจ่าย ประจา และ วางแผนการใชป้ ระโยชน์กาลังคนใหเ้ กิด งบประมาณและคา่ ใชจ้ ่ายดา้ นบคุ ลากร ภาครฐั เพ่ิมสงู ข้ึนอย่างต่อเนื่องอันจะ ความคมุ้ คา่ และมีประสิทธภิ าพสูงสุด ส่งผลตอ่ ไม่ได้รับการจดั สรรงบประมาณ ด้านบุคลากรของสานักงาน -63-


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook