Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore plan2

plan2

Published by ja_dinsaw, 2017-09-07 05:33:48

Description: plan2

Search

Read the Text Version

9แผนการจดั การเรียนรู้แบบบูรณาการท่ี 1 หน่วยท่ี 1รหัสวชิ า 2204-2103 สอนครัง้ ท่ี 1-2ช่ือหน่วย ปฐมนิเทศ + ความรู้เบือ้ งต้นเก่ยี วกับโปรแกรมตารางงาน จานวนช่ัวโมง 2 ช่ัวโมงแนวคดิ โปรแกรม Microsoft Office Excel 2007 เป็นโปรแกรมหนง่ึ ในชดุ Microsoft Office 2007 หรือชดุ โปรแกรมสำนกั งำน พฒั นำโดยบริษัทไมโครซอฟท์ คอร์ปอเรชน่ั จำกดั โปรแกรม Microsoft Office Excel 2007 เป็นโปรแกรมสำหรับงำนทเ่ี ก่ียวกบั กำรคำนวณตวั เลข โดยลกั ษณะกำรคำนวณนนั้ เป็นไปในรูปแบบของสเปรตชตี (Spreadsheet) โดยอำศยั ตำรำงกำรคำนวณทเ่ี ป็นชอ่ งๆ ซง่ึ เรียกวำ่ “เซลล์” (cell) รวมทงั้ กำรวเิ ครำะห์ข้อมลู กำรสร้ำงตำรำงในรูปแบบตำ่ งๆ กำรสร้ำงแผนภมู ิ แผนผงั กำรวิเครำะห์ข้อมลู ตลอดจนพฒั นำให้เป็นระบบงำนทมี่ ขี ีดควำมสำมำรถสงู มีกำรวเิ ครำะห์ข้อมลู และพฒั นำระบบฐำนข้อมลูตลอดจนพฒั นำให้เป็นระบบงำนท่มี ีขีดควำมสำมำรถสงู มกี ำรวเิ ครำะห์ข้อมลู และพฒั นำระบบข้อมลู ได้อยำ่ งมีประสทิ ธิภำพนอกจำกนโี ้ ปรแกรม Microsoft Office Excel 2007 ยงั มคี วำมสำมำรถในกำรทำงำนร่วมกบั โปรแกรมอนื่ ๆ เชน่ สำมำรถสร้ำงงำนในรูปแบบของกำรนำเสนอ (Presentation) โดยสร้ำงให้อยใู่ นรุปแบบของเว็บเพจ (Web Page) ได้เป็นอยำ่ งดีผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวัง -บอกพฒั นำโปรแกรมตำรำงงำนได้ -สำมำรถอธิบำยคณุ สมบตั ทิ ว่ั ไปของโปรแกรม Microsoft office Excel 2007ได้ -บอกควำมต้องกำรพนื ้ ฐำนของระบบได้ -ติดตงั้ โปรแกรมได้ -ตงั้ คำ่ ภำษำได้ -สำมำรถเรียกใช้โปรแกรม Microsoft office Excel 2007ได้ -สำมำรถอธิบำยสว่ นประกอบหน้ำจอของ Microsoft office Excel 2007ได้ -สำมำรถอธิบำยสว่ นประกอบของแผน่ งำน (worksheet)ได้ -สำมำรถใช้งำนริบบอน (Ribbon)ได้ -สำมำรถจดั กำรกบั แถบเครื่องมอื ดว่ น (Quick Access Toolbar)ได้ -สำมำรถใช้งำนแท็บอื่นๆได้ -สำมำรถสร้ำงสมดุ งำนใหม่ (New)ได้ -สำมำรถบนั ทกึ สมดุ งำน (Save)ได้ -สำมำรถปิดสมดุ งำน (Close)ได้ -สำมำรถเปิดสมดุ งำน(Open)ได้ -สำมำรถออกจำกระบบ(Exit)ได้สมรรถนะรายวชิ า 1. แสดงควำมรู้เกี่ยวกบั หลกั กำรใช้เครื่องมอื ของโปรแกรมตำรำงคำนวณ

10 2. ใช้คำสง่ั เครื่องมอื เพื่อจดั กำรข้อมลู 3. สรุปจดั ทำรำยงำน และแสดงผลข้อมลู ในรูปตำรำงและแผนภมู ติ ำมลกั ษณะงำนสาระการเรียนรู้ ปฐมนิเทศ หน่วยท่1ี ความรู้เบือ้ งต้นเก่ยี วกบั โปรแกรมตารางงาน -พฒั นำกำรของโปรแกรมตำรำงงำน -คณุ สมบตั ิทว่ั ไปของโปรแกรม Microsoft office Excel 2007 -ควำมต้องกำรพนื ้ ฐำนของระบบ -กำรติดตงั้ โปรแกรม Microsoft office Excel 2007 -กำรตงั้ คำ่ ภำษำ -กำรเรียกใช้โปรแกรม Microsoft office Excel 2007 -สว่ นประกอบหน้ำจอของ Microsoft office Excel 2007 -สว่ นประกอบของแผน่ งำน (worksheet) -กำรใช้งำนของริบบอน (Ribbon) -กำรจดั กำรกบั แถบเครื่องมือดว่ น (Quick Access Toolbar) -แทบ็ อืน่ ๆทเ่ี กิดจำกกำรเรียกใช้งำน -กำรสร้ำงสมดุ งำนใหม่ (New) -กำรบนั ทกึ สมดุ งำน (Save) -กำรปิดสมดุ งำน (Close) -กำรเปิดสมดุ งำน(Open) -กำรออกจำกระบบ(Exit)กระบวนการจัดการเรียนรู้ (ปฐมนิเทศ) 1.ครูแนะนำตวั เอง และให้ผ้เู รียนแนะนำ ด้วยข้อมลู งำ่ ยๆ เชน่ ชื่อ-นำมสกลุ , ชื่อเลน่ เป็นต้น 2.ครูชีแ้ จงจดุ ประสงค์รำยวชิ ำ มำตรฐำนรำยวิชำ และสมรรถนะรำยวชิ ำ แนวทำงกำรวดั ผลและกำร ประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ ตลอดจนกฎกติกำในกำรเรียน ขัน้ นาเข้าส่กู ารเรียน 1.ครูนำรูปด้ำนลำ่ งให้นกั เรียนดู

11 2.ครูถำมนกั เรียนวำ่ คืออะไร และเขยี นเป็นผงั มโนทศั น์ ขัน้ สอน 3.ครูอธิบำยเรื่องพฒั นำกำรโปรแกรมตำรำงงำน ตงั้ แตป่ ี 2522-ปัจจบุ นั 2.ครูอธิบำยคณุ สมบตั ิทว่ั ไปของโปรแกรม Microsoft office Excel 2007 และให้นกั เรียนชว่ ยกนั ยกตวั อยำ่ งเพิม่ เตมิและครูเขียนเป็นผงั มโนทศั น์ไว้ 3.ครูอธิบำยเร่ืองควำมต้องกำรพนื ้ ฐำนของระบบ จำกนนั้ ครูสอบถำมนกั เรียนวำ่ ใครทรำบระบบคอมพวิ เตอร์เครื่องของตนเองบ้ำง จำกนนั้ ครูสมุ่ เลอื กนกั เรียนให้ตอบ 4.ครูให้นกั เรียนดภู ำพด้ำนลำ่ งแล้วตอบวำ่ คืออะไร (Microsoft office Excel) 5.ครูอธิบำยเร่ืองกำรตดิ ตงั้ โปรแกรม Microsoft office Excel 2007 6.ครูอธิบำยเร่ืองกำรตงั้ คำ่ ภำษำทงั้ แบบภำษำเดียวและตงั้ แตส่ องภำษำขนึ ้ ไป และให้นกั เรียนปฏบิ ตั ิตำม 7.ครูอธิบำยเร่ืองกำรเรียกใช้โปรแกรม Microsoft office Excel 2007และให้นกั เรียนปฏิบตั ิตำม 9.ครูอธิบำยสว่ นประกอบหน้ำจอของ Microsoft office Excel 2007และอธิบำยชื่อสว่ นประกอบตำ่ งๆบนหน้ำจอจำกนนั้ ครูสมุ่ ถำมให้นกั เรียนตอบทลี ะคน 10.ครูอธิบำยเรื่องสว่ นประกอบของแผน่ งำน (worksheet) 11.ครูอธิบำยเร่ืองกำรใช้งำนของริบบอน (Ribbon) 12.ครูอธิบำยเร่ืองควำมจำเป็นและกำรจดั กำรกบั แถบเครื่องมือดว่ น (Quick Access Toolbar) -กำรยกเลกิ แถบเครื่องมือดว่ น -กำรกำหนดแถบเคร่ืองมือดว่ นเอง 13.ครูอธิบำยแทบ็ อ่นื ๆทีเ่ กิดจำกกำรเรียกใช้งำน จำกนนั้ ให้นกั เรียนทำใบงำนหนว่ ยที่ 1

12 14.ครูอธิบำยเรื่องกำรสร้ำงสมดุ งำนใหม่ (New) และให้นกั เรียนปฏิบตั ิตำม 15.ครูอธิบำยเร่ืองกำรบนั ทกึ สมดุ งำน (Save) และเน้นยำ้ ให้นกั เรียนบนั ทกึ สมดุ งำนเป็นระยะๆเพอ่ื ปอ้ งกนั ควำมเสยี หำยจำกกำรขดั ข้องของโปรแกรม 16.ครูอธิบำยเร่ืองกำรปิดสมดุ งำน (Close)และให้นกั เรียนปฏบิ ตั ติ ำม จำกนนั้ ครูเดนิ ตรวจหน้ำจอวำ่ นกั เรียนทกุ คนปิดหน้ำจอหมดแล้ว 17.ครูอธิบำยเร่ืองกำรเปิดสมดุ งำน(Open)และให้นกั เรียนปฏบิ ตั ติ ำม 18.ครูอธิบำยเรื่องกำรออกจำกระบบ(Exit)และให้นกั เรียนปฏิบตั ติ ำม ขัน้ สรุป 19.ครูให้นกั เรียนเริ่มกระบวนกำรตงั้ แต่ เปิด-ปิด จนถงึ ออกจำกระบบใหมอ่ กี ครงั้ 20.ครูให้นกั เรียนทำแบบประเมนิ ผลกำรเรียนรู้หนว่ ยที่ 1 21.ครูให้นกั เรียนจบั คกู่ นั เปรียบเทยี บคำตอบ 22.ครูเฉลยพร้อมนกั เรียนทงั้ ชนั้ส่ือและแหล่งเรียนรู้ 1.หนงั สอื เรียนวิชำโปรแกรมตำรำงคำนวณ 2.กิจกรรมกำรเรียนกำรสอน 3.คอมพิวเตอร์หลักฐาน 1.บนั ทกึ กำรสอนของครู 2.ใบเช็ครำยช่ือ 3.แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ 4.แบบประเมนิ ผลกำรเรียนรู้การวดั ผลและการประเมินผล วิธีวดั ผล 1.ประเมนิ ผลควำมก้ำวหน้ำของตนเอง 2.สงั เกตพฤตกิ รรมรำยบคุ คล 4.ประเมินพฤตกิ รรมกำรเข้ำร่วมกิจกรรมกลมุ่ 5.กำรสงั เกตและประเมินผลพฤตกิ รรมด้ำนคณุ ธรรม จริยธรรม คำ่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 6.ประเมินควำมถกู ต้องของแบบประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ เคร่ืองมอื วดั ผล

13 1.แบบประเมินผลควำมก้ำวหน้ำของตนเอง 2.สงั เกตพฤตกิ รรมรำยบคุ คล 3.ประเมินพฤตกิ รรมกำรเข้ำร่วมกิจกรรมกลมุ่ 4.กำรสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมด้ำนคณุ ธรรม จริยธรรม คำ่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 5.แบบประเมินผลกำรเรียนรู้ เกณฑ์การประเมินผล 1.แบบประเมนิ ผลควำมก้ำวหน้ำของตนเอง เกณฑ์ผำ่ น 50% ขนึ ้ ไป 2.เกณฑ์ผำ่ นกำรสงั เกตพฤตกิ รรมรำยบคุ คล ต้องไมม่ ชี อ่ งปรับปรุง 3.เกณฑ์ผำ่ นกำรสงั เกตพฤตกิ รรมกำรเข้ำร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปำนกลำง (50% ขนึ ้ ไป) 4.กำรสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมด้ำนคณุ ธรรม จริยธรรม คำ่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขนึ ้ อยกู่ บั กำรประเมนิ ตำมสภำพจริง 5.เกณฑก์ ำรผำ่ นประเมินผลกำรเรียนรู้ท้ำยหนว่ ยผำ่ น 50% ขนึ ้ ไปกิจกรรมเสนอแนะ 1.ครูให้นกั เรียนฝึกตดิ ตงั้ โปรแกรม 2.ครูให้นกั เรียนจดั บอร์ดเก่ียวกบั ข้อดีหรือกำรนำเนอื ้ หำท่ไี ด้เรียนไปใช้ในชีวติ ประจำวนั 3.จดั บอร์ดเกี่ยวกบั สว่ นประกอบของหน้ำจอ Microsoft office Excel 2007

14บนั ทกึ หลงั การสอน ข้อสรุปหลังการสอน …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหาท่พี บ …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแก้ปัญหา …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………

15แผนการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการท่ี 2 หน่วยท่ี 2รหสั วชิ า 2204-2103 สอนครัง้ ท่ี 3-4ช่ือหน่วย การป้อนข้อมลู และการจัดการปรับแก้ข้อมลู ในสมุดงาน จานวนช่ัวโมง 2 ช่ัวโมงแนวคดิ ข้อมลู ท่ีจะปอ้ นลงในเซลล์มหี ลำยประเภท ผ้ใู ช้สำมำรถกำหนดให้สอดคล้องกบั ลกั ษณะของข้อมลู และงำนท่จี ะจดั ทำข้อมลู ที่ปอ้ นลงในเซลล์สำมำรถทีจ่ ะแก้ไข คดั ลอกหรือย้ำยไปยงั เซลลอ์ ื่นๆได้ และในกำรทำงำน ผ้ใู ช้สำมำรถปอ้ นข้อมลู ลงในแผน่ งำนได้หลำยแผน่ งำนและเรียกใช้ได้ถงึ 256 แผน่ งำนในสมดุ หนงึ่ ๆผลการเรียนรู้ท่คี าดหวงั -สำมำรถอธิบำยประเภทและชนดิ ของข้อมลู ได้ -สำมำรถใช้แปน้ ควบคมุ กำรทำงำนและกำรใช้ฟังก์ชนั่ คีย์ (Function key)ได้ -สำมำรถปอ้ นข้อมลู ลงในเซลลไ์ ด้ -สำมำรถแก้ข้อมลู ภำยในเซลล์ (Edit)ได้ -สำมำรถยกเลกิ /ทำซำ้ (Undo/Redo)ได้ -สำมำรถเลอื กเซลล์ (Cell Selection)ได้ -สำมำรถคดั ลอกข้อมลู และกำรเคลอื่ นย้ำยข้อมลู ในเซลล์ (Copy and cut)ได้ -สำมำรถลบข้อมลู ในเซลล(์ Delete)ได้ -สำมำรถแทรก/ลบแถวและคอลมั น์(Insert and delete)ได้ -สำมำรถปรับขนำดของแถวและคอลมั น์ได้ -สำมำรถซอ่ น/แสดงแถวและคอลมั น์(Hide and unhide)ได้ -สำมำรถจดั กำรกบั แผน่ งำนได้สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงควำมรู้เก่ียวกบั หลกั กำรใช้เคร่ืองมือของโปรแกรมตำรำงคำนวณ 2. ใช้คำสงั่ เครื่องมอื เพื่อจดั กำรข้อมลู 3. สรุปจดั ทำรำยงำน และแสดงผลข้อมลู ในรูปตำรำงและแผนภมู ิตำมลกั ษณะงำนสาระการเรียนรู้ หน่วยท่2ี การป้อนข้อมลู และการจัดการปรับแก้ไขข้อมลู ในสมุดงาน -ประเภทและชนิดของข้อมลู-กำรใช้แปน้ ควบคมุ กำรทำงำนและกำรใช้ฟังก์ชน่ั คยี ์ (Function key)-วธิ ีปอ้ นข้อมลู ลงในเซลล์-กำรแก้ข้อมลู ภำยในเซลล์ (Edit)-กำรยกเลกิ /กำรทำซำ้ (Undo/Redo)

16 -กำรเลอื กเซลล์ (Cell Selection) -กำรคดั ลอกข้อมลู และกำรเคลอื่ นย้ำยข้อมลู ในเซลล์ (Copy and cut) -กำรลบข้อมลู ในเซลล์(Delete) -กำรแทรก/ลบแถวและคอลมั น์(Insert and delete) -กำรปรับขนำดของแถวและคอลมั น์ -กำรซอ่ น/แสดงแถวและคอลมั น์(Hide and unhide) -กำรจดั กำรกบั แผน่ งำนกระบวนการจัดการเรียนรู้ ขัน้ นาเข้าส่กู ารเรียน 1.ครูนำรูปหน้ำจอ Microsoft office Excel 2007 ให้นกั เรียนดแู ละถำมนกั เรียน 2.ครูถำมนกั เรียนวำ่ สว่ นประกอบตำ่ งๆเรียกวำ่ อะไร ขัน้ สอน 3.ครูอธิบำยเร่ืองประเภทของข้อมลู -คำ่ คงที่ -สตู รในกำรคำนวณ 4.ครูอธิบำยเรื่องชนิดของข้อควำม 5.ครูอธิบำยเร่ืองกำรใช้แปน้ ควบคมุ กำรทำงำนและกำรใช้ฟังก์ชน่ั คยี ์ (Function key) 6.ครูให้นกั เรียนจบั คกู่ นั ทอ่ งฟังก์ชนั่ คีย์ตงั้ แต่ F1-F12 จำกนนั้ ครูถำมและให้นกั เรียนแตล่ ะคตู่ อบ จำกนนั้ ครูเฉลย คู่ใดตอบถกู มำกสดุ คนู่ นั้ ชนะ 7.ครูอธิบำยวธิ ีปอ้ นข้อมลู ลงในเซลล์ โดยครูนำภำพเมำส์แบบตำ่ งๆมำให้นกั เรียนดู และอธิบำยกำรใช้งำน -กำรปอ้ นข้อมลู -กำรปอ้ นข้อมลู ในชว่ ง -กำรปอ้ นข้อมลู ในชว่ งเดยี วกนั -กำรปอ้ นข้อมลู หลำยบรรทดั ในเซลลเ์ ดียวกนั -กำรปอ้ นข้อมลู แบบเตมิ เองอตั โนมตั ิ 8.ครูอธิบำยเร่ืองกำรแก้ข้อมลู ภำยในเซลล์ (Edit) และให้นกั เรียนปฏบิ ตั ติ ำม 9.ครูอธิบำยเร่ืองกำรยกเลกิ /กำรทำซำ้ (Undo/Redo) และให้นกั เรียนปฏิบตั ติ ำม 10.ครูอธิบำยเรื่องกำรเลอื กเซลล์ (Cell Selection) -กำรเลอื กเซลล์เดียว

17 -กำรเลอื กเซลลท์ ่ีอยตู่ ดิ กนั -กำรเลอื กเซลลท์ ่ไี มอ่ ยตู่ ิดกนั -กำรเลอื กเฉพำะแถวและเลอื กหลำยๆแถว -กำรเลอื กเฉพำะคอลมั น์และเลอื กหลำยๆคอลมั น์ 11.ครูอธิบำยเรื่องกำรคดั ลอกข้อมลู และกำรเคลอ่ื นย้ำยข้อมลู ในเซลล์ (Copy and cut) และให้นกั เรียนปฏบิ ตั ติ ำม 12.ครูอธิบำยเรื่องกำรลบข้อมลู ในเซลล(์ Delete) และให้นกั เรียนปฏิบตั ติ ำม 13.ครูอธิบำยเรื่องกำรแทรก/ลบแถวและคอลมั น(์ Insert and delete) และให้นกั เรียนปฏิบตั ติ ำม 14.ครูอธิบำยเร่ืองกำรปรับขนำดของแถวและคอลมั น์ และให้นกั เรียนปฏบิ ตั ิตำม 15.ครูอธิบำยเรื่องกำรซอ่ น/แสดงแถวและคอลมั น(์ Hide and unhide) และให้นกั เรียนปฏิบตั ิตำม 16.ครูอธิบำยเรื่องกำรจดั กำรกบั แผน่ งำน 17.ครูให้นกั เรียนทำใบงำนหนว่ ยท่ี 2ขัน้ สรุป 18.ครูให้นกั เรียนทำแบบประเมินผลกำรเรียนรู้หนว่ ยท่ี 2 19.ครูให้นกั เรียนจบั คกู่ นั เปรียบเทยี บคำตอบ 20.ครูเฉลยพร้อมนกั เรียนทงั้ ชนั้ส่อื และแหล่งเรียนรู้ 1.หนงั สอื เรียนวชิ ำโปรแกรมตำรำงคำนวณ 2.กิจกรรมกำรเรียนกำรสอนหลักฐาน 1.บนั ทกึ กำรสอนของครู 2.ใบเช็ครำยชื่อ 3.แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ 4.แบบประเมนิ ผลกำรเรียนรู้การวัดผลและการประเมินผล วิธีวดั ผล 1.ประเมินผลควำมก้ำวหน้ำของตนเอง 2.สงั เกตพฤตกิ รรมรำยบคุ คล 4.ประเมินพฤตกิ รรมกำรเข้ำร่วมกิจกรรมกลมุ่ 5.กำรสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมด้ำนคณุ ธรรม จริยธรรม คำ่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

18 6.ประเมนิ ควำมถกู ต้องของแบบประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ เคร่ืองมือวัดผล 1.แบบประเมินผลควำมก้ำวหน้ำของตนเอง 2.สงั เกตพฤตกิ รรมรำยบคุ คล 3.ประเมนิ พฤตกิ รรมกำรเข้ำร่วมกิจกรรมกลมุ่ 4.กำรสงั เกตและประเมินผลพฤตกิ รรมด้ำนคณุ ธรรม จริยธรรม คำ่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 5.แบบประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ เกณฑ์การประเมินผล 1.แบบประเมนิ ผลควำมก้ำวหน้ำของตนเอง เกณฑ์ผำ่ น 50% ขนึ ้ ไป 2.เกณฑ์ผำ่ นกำรสงั เกตพฤตกิ รรมรำยบคุ คล ต้องไมม่ ชี อ่ งปรับปรุง 3.เกณฑ์ผำ่ นกำรสงั เกตพฤตกิ รรมกำรเข้ำร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปำนกลำง (50% ขนึ ้ ไป) 4.กำรสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมด้ำนคณุ ธรรม จริยธรรม คำ่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขนึ ้ อยกู่ บั กำรประเมินตำมสภำพจริง 5.เกณฑ์กำรผำ่ นประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ท้ำยหนว่ ยผำ่ น 50% ขนึ ้ ไปกิจกรรมเสนอแนะ 1.ครูให้นกั เรียนออกแบบใบบนั ทกึ คะแนนของห้องเรียนของนกั เรียน 2.ครูให้นกั เรียนจดั บอร์ดเกี่ยวกบั ข้อดีหรือกำรนำเนอื ้ หำที่ได้เรียนไปใช้ในชีวติ ประจำวนั 3.เลน่ เกมทำยผลลพั ธ์ตำมใบงำนหนว่ ยที่ 2-2 และ 2-3

19บนั ทกึ หลังการสอน ข้อสรุปหลังการสอน …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหาท่พี บ …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแก้ปัญหา …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………

20แผนการจดั การเรียนรู้แบบบรู ณาการท่ี 3 หน่วยท่ี 3รหัสวชิ า 2204-2103 สอนครัง้ ท่ี 5-6ช่ือหน่วย การป้อนข้อมูลและการจัดการปรับแก้ข้อมูลในสมุดงาน จานวนช่ัวโมง 2 ช่ัวโมงแนวคดิ (Worksheet) ผ้ใู ช้สำมำรถกำหนดรูปแบบของข้อมลู เพื่อให้กำรทำงำนเป็นไปตำม ในกำรทำงำนบนแผน่ งำนวตั ถปุ ระสงค์ของผ้ใู ช้ นอกจำกนนั้ ยงั สำมำรถตกแตง่ ข้อมลู และแผน่ งำนให้สวยงำม เชน่ กำรกำหนดเส้นขอบ กำรหนดสีผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวงั -สำมำรถอธิบำยวิธีกำรจดั เก็บข้อมลู ได้ -สำมำรถกำหนดรูปแบบตวั อกั ษร (front)ได้ -สำมำรถกำหนดรูปแบบตวั เลข (Number)ได้ -สำมำรถกำหนดรูปแบบวนั ทแ่ี ละเวลำ (Date/Time)ได้ -สำมำรถจดั วำงข้อควำม (Alignment)ได้ -สำมำรถกำหนดเส้นขอบ(Border)ได้ -สำมำรถกำหนดสแี ละลวดลำย (Patterns)ได้ -สำมำรถจดั รูปแบบด้วย AutoFormat ได้ -สำมำรถคดั ลอกรูปแบบด้วยคำสง่ั Format Painterได้ -สำมำรถตรึงสว่ นของแผน่ งำน (Freeze Panes) ได้ -สำมำรถแปลงคอลมั น์เป็นแถวและแปลงแถวเป็นคอลมั น์ได้สมรรถนะรายวชิ า 1. แสดงควำมรู้เก่ียวกบั หลกั กำรใช้เครื่องมือของโปรแกรมตำรำงคำนวณ 2. ใช้คำสง่ั เคร่ืองมือเพอ่ื จดั กำรข้อมลู 3. สรุปจดั ทำรำยงำน และแสดงผลข้อมลู ในรูปตำรำงและแผนภมู ติ ำมลกั ษณะงำนสาระการเรียนรู้หน่วยท่3ี การจดั รูปแบบของข้อมลู ในแผ่น (Worksheet) -วิธีกำรจดั เก็บข้อมลู-กำรกำหนดรูปแบบตวั อกั ษร (front)-กำรกำหนดรูปแบบตวั เลข (Number)-กำรกำหนดรูปแบบวนั ท่ีและเวลำ (Date/Time)-กำรจดั วำงข้อควำม (Alignment)-กำรกำหนดเส้นขอบ(Border)-กำรกำหนดสแี ละลวดลำย (Patterns)

21 -กำรจดั รูปแบบด้วย AutoFormat -กำรคดั ลอกรูปแบบด้วยคำสง่ั Format Painter -กำรตรึงสว่ นของแผน่ งำน (Freeze Panes) -กำรแปลงคอลมั น์เป็นแถวและแปลงแถวเป็นคอลมั น์กระบวนการจดั การเรียนรู้ ขนั้ นาเข้าส่กู ารเรียน 1.ครูทบทวนผลลพั ท์ของกำรกดฟังก์ชน่ั F1-F12 โดยเลน่ เกมถำม-ตอบ ขัน้ สอน 2.ครูอธิบำยเร่ืองวธิ ีกำรจดั รูปแบบข้อมลู -กำรจดั รูปแบบข้อมลู โดยกำรเรียกใช้แทบ็ Home (หน้ำแรก) -กำรจดั รูปแบบข้อมลู โดยกำรคลกิ ขวำ -กำรจดั รูปแบบข้อมลู โดยกำรเรียกใช้ป่มุ คำสง่ั 3.ครูอธิบำยเร่ืองกำรกำหนดรูปแบบตวั อกั ษร (front) -กำรกำหนดรูปแบบตวั อกั ษรด้วยกำรใช้แทบ็ Home (หน้ำแรก) -กำรกำหนดรูปแบบตวั อกั ษรโดยกำรใช้เมำส์และใช้ป่ มุ คำสง่ั Format (รูปแบบ) ในกลมุ่ ของ cells (เซลล)์ 4.ครูอธิบำยเร่ืองกำรกำหนดรูปแบบตวั เลข (Number) และกำรใช้ในโอกำสตำ่ งๆ เชน่ จำนวนเงิน เครื่องมำยจลุ ภำคทศนิยม 5.ครูอธิบำยเรื่องกำรกำหนดรูปแบบวนั ทแ่ี ละเวลำ (Date/Time) ท่ีจะให้เป็นเวลำท้องถ่ินไทยหรือสำกล 6.ครูอธิบำยเร่ืองกำรจดั วำงข้อควำม (Alignment) แบบตำ่ งๆ -จดั ชิดด้ำนบน -จดั แนวข้อควำมชิดซ้ำย -จดั ตรงกลำง -ก่ึงกลำง -จดั ชิดด้ำนลำ่ ง -จดั แนวข้อควำมชิดขวำ -กำรวำงแนว -ลดกำรเยือ้ ง -ตดั ข้อควำม -เพ่มิ กำรเยือ้ ง -ผสำนและจดั กงึ่ กลำง 7.ครูอธิบำยเรื่องกำรกำหนดเส้นขอบ(Border) และกำรจดั เส้นของแบบตำ่ งๆ 8.ครูอธิบำยเรื่องกำรกำหนดสแี ละลวดลำย (Patterns) 9.ครูอธิบำยเรื่องกำรจดั รูปแบบด้วย AutoFormat จำกนนั้ ครูให้นกั เรียนลองทบทวนทำรำยจ่ำยของนกั เรียนเมื่อวำนนี ้และทำเป็นตำรำงให้เสร็จ จำกนนั้ ครูเดินตรวจดู

22 10.ครูอธิบำยเร่ืองกำรคดั ลอกรูปแบบด้วยคำสงั่ Format Painter 11.ครูอธิบำยเรื่องกำรตรึงสว่ นของแผน่ งำน (Freeze Panes) 12.ครูอธิบำยเรื่องกำรแปลงคอลมั น์เป็นแถวและแปลงแถวเป็นคอลมั น์ ตำกนนั้ ครูให้นกั เรียนนำตำรำงรำยจำ่ ยท่ีนกั เรียนทำ มำแลงคอลมั น์เป็นแถว และแปลงแถวกลบั มำเป็นคอลมั น์ขัน้ สรุป 13.ครูให้นกั เรียนทำแบบประเมนิ ผลกำรเรียนรู้หนว่ ยท่ี 3 14.ครูให้นกั เรียนจบั คกู่ นั เปรียบเทยี บคำตอบ 15.ครูเฉลยพร้อมนกั เรียนทงั้ ชนั้ส่ือและแหล่งเรียนรู้ 1.หนงั สอื เรียนวิชำโปรแกรมตำรำงคำนวณ 2.กิจกรรมกำรเรียนกำรสอน 3.คอมพิวเตอร์หลกั ฐาน 1.บนั ทกึ กำรสอนของครู 2.ใบเช็ครำยชื่อ 3.แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ 4.แบบประเมนิ ผลกำรเรียนรู้การวัดผลและการประเมนิ ผล วธิ ีวดั ผล 1.ประเมินผลควำมก้ำวหน้ำของตนเอง 2.สงั เกตพฤตกิ รรมรำยบคุ คล 4.ประเมินพฤตกิ รรมกำรเข้ำร่วมกิจกรรมกลมุ่ 5.กำรสงั เกตและประเมินผลพฤตกิ รรมด้ำนคณุ ธรรม จริยธรรม คำ่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 6.ประเมนิ ควำมถกู ต้องของแบบประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ เคร่ืองมือวดั ผล 1.แบบประเมนิ ผลควำมก้ำวหน้ำของตนเอง 2.สงั เกตพฤตกิ รรมรำยบคุ คล 3.ประเมินพฤติกรรมกำรเข้ำร่วมกิจกรรมกลมุ่ 4.กำรสงั เกตและประเมินผลพฤตกิ รรมด้ำนคณุ ธรรม จริยธรรม คำ่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

23 5.แบบประเมินผลกำรเรียนรู้ เกณฑ์การประเมินผล 1.แบบประเมินผลควำมก้ำวหน้ำของตนเอง เกณฑ์ผำ่ น 50% ขนึ ้ ไป 2.เกณฑ์ผำ่ นกำรสงั เกตพฤตกิ รรมรำยบคุ คล ต้องไมม่ ชี ่องปรับปรุง 3.เกณฑ์ผำ่ นกำรสงั เกตพฤตกิ รรมกำรเข้ำร่วมกิจกรรมกลมุ่ คอื ปำนกลำง (50% ขนึ ้ ไป) 4.กำรสงั เกตและประเมินผลพฤตกิ รรมด้ำนคณุ ธรรม จริยธรรม คำ่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขนึ ้ อยกู่ บั กำรประเมนิ ตำมสภำพจริง 5.เกณฑก์ ำรผำ่ นประเมินผลกำรเรียนรู้ท้ำยหนว่ ยผำ่ น 50% ขนึ ้ ไปกจิ กรรมเสนอแนะ 1.ครูให้นกั เรียนออกแบบใบบนั ทกึ คะแนนของห้องเรียนของนกั เรียน 2.ครูให้นกั เรียนจดั บอร์ดเก่ียวกบั ข้อดหี รือกำรนำเนอื ้ หำทไี่ ด้เรียนไปใช้ในชีวติ ประจำวนั 3.เลน่ เกมทำยผลลพั ธ์ตำมใบงำนหนว่ ยท่ี 2-2 และ 2-3

24บนั ทกึ หลังการสอน ข้อสรุปหลังการสอน …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหาท่พี บ …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแก้ปัญหา …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………

25 แผนการจดั การเรียนรู้แบบบูรณาการท่ี 4 หน่วยท่ี 4 รหัสวิชา 2204-2103 สอนครัง้ ท่ี 7-8 ช่ือหน่วย การคานวณในโปรแกรม Microsoft Office Excell 2007 จานวนช่ัวโมง 2 ช่ัวโมงแนวคดิ โปรแกรม Microsoft Office Excel 2007 เป็นโปรแกรมที่เหมำะกบั งำนคำนวณดงั ทไี่ ด้กลำ่ วมำแล้วไมว่ ำ่ จะเป็นงำนบญั ชีงำนกำรเงิน งำนวดั ผล และงำนคำนวณทว่ั ไป กำรคำนวณทำได้ทงั้ กำรคำนวณอยำ่ งงำ่ ยจนถงึ กำรคำนวณแบบสลบั วบั ซ้อนเพยี งผ้ใู ช้กำหนดสตู รตำมต้องกำรและสำมำรถคดั ลอกสตู รไปใช้ในงำนลกั ษณะเดยี วกนั ได้อีก โดยไมต่ ้องเสยี เวลำกำหนดสตู รใหม่ผลการเรียนรู้ท่คี าดหวงั -สำมำรถอธิบำยวธิ ีกำรคำนวณได้ -สำมำรถอธิบำยสญั ลกั ษณ์ที่ใช้ในกำรคำนวณได้ -สำมำรถอธิบำยข้อผิดพลำดทอ่ี ำจเกิดขนึ ้ ในกำรกำหนดฟังก์ชนั และสตู รได้ -สำมำรถอธิบำยประเภทของฟังก์ชนั และฟังก์ชนั ทีใ่ ช้งำนได้ -สำมำรถคำนวณโดยใช้ฟังก์ชนั ได้ -สำมำรถคำนวณข้ำมแผน่ งำนได้ -สำมำรถคำนวณข้ำมสมดุ งำนได้ -สำมำรถคำนวณโดยใช้ฟังก์ชนั IF ได้สมรรถนะรายวชิ า 1. แสดงควำมรู้เก่ียวกบั หลกั กำรใช้เครื่องมอื ของโปรแกรมตำรำงคำนวณ 2. ใช้คำสง่ั เคร่ืองมอื เพ่อื จดั กำรข้อมลู 3. สรุปจดั ทำรำยงำน และแสดงผลข้อมลู ในรูปตำรำงและแผนภมู ิตำมลกั ษณะงำนสาระการเรียนรู้ หน่วยท่4ี การคานวณในโปรแกรม Microsoft office Excel 2007 -วิธีกำรคำนวณ -สญั ลกั ษณ์ทใ่ี ช้ในกำรคำนวณ -ข้อผิดพลำดทอี่ ำจเกิดขนึ ้ ในกำรกำหนดฟังก์ชนั และสตู ร -ประเภทของฟังก์ชนั และฟังก์ชนั ทใ่ี ช้งำน -กำรอ้ำงองิ เซลล์กระบวนการจดั การเรียนรู้ ขนั้ นาเข้าสู่การเรียน 1.ครูบอกเลำ่ ประสบกำรณ์เกี่ยวกบั กำรคำนวณทย่ี งุ่ ยำกในเรื่องตำ่ งๆ เชน่ กำรคดิ เกรดตอนปลำยภำค เป็นต้น

26 ขัน้ สอน 2.ครูอธิบำยเรื่องวธิ ีกำรคำนวณ และวำดภำพสญั ลกั ษณ์ทำงคณิตศำสตร์ตำ่ งๆบนกระดำน เช่น +, - , % ให้นกั เรียนดแู ละตอบวำ่ คอื เคร่ืองหมำยใด เพ่อื ทดสอบควำมเข้ำใจเบอื ้ งต้น จำกนนั้ ครูแสดงตวั อยำ่ งกำรคำนวณ 3.ครูอธิบำยเรื่องสญั ลกั ษณ์ทใ่ี ช้ในกำรคำนวณ 4.ครูอธิบำยเร่ืองข้อผิดพลำดท่ีอำจเกิดขนึ ้ ในกำรกำหนดฟังก์ชนั และสตู ร และแสดงตวั อยำ่ งให้นกั เรียนดู 5.ครูอบิ ำยเรื่องประเภทของฟังก์ชนั และฟังก์ชนั ท่ีใช้งำนประเภทตำ่ งๆ ได้แก่ 1.SUM กำรหำผลรวมข้อมลู 2.SUMMIF กำรหำผลรวมแบบมเี ง่ือนไข 3.MIN กำรหำคำ่ ตำ่ สดุ ของจำนวน 4.MAX กำรหำคำ่ สงู สดุ ของจำนวน 5.AVERAGE กำรหำคำ่ เฉลยี่ ของข้อมลู 6.COUNT กำรนบั จำนวนข้อมลู ที่เป็นเฉพำะตวั เลข 7.COUNTA กำรนบั จำนวนข้อมลู ท่เี ป็นทงั้ ข้อควำมและตวั แปรปนกนั 8.COUNTIF กำรนบั จำนวนข้อมลู แบบมีเง่ือนไข 9.VAR กำรหำคำ่ ควำมแปรปรวน 10.STAEV กำรหำคำ่ เบยี่ งเบนมำตรฐำน 11.MEDIAN กำรหำคำ่ กลำง 12.ROUND กำรปัดจดุ ทศนยิ มขนึ ้ หรือลง 13.IF กำรหำคำ่ จริงหรือเทจ็ จำกเง่ือนไขทีร่ ะบุ 14.DATE กำรระบขุ ้อมลู ที่เป็นวนั ท่ี 15.DATEDIF กำรระบเุ ง่ือนไขในกำรหำข้อมลู ทเ่ี ป็นวนั ท่ี 16.NOW กำรหำวนั ทีแ่ ละเวลำปัจจบุ นั 17.HOUR กำรหำชวั่ โมง 18.VLOOKUP กำรค้นหำและแสดงข้อมลู 6.ครูเดินตรวจตรำดกู ำรปฏิบตั งิ ำน และคอยถำมวำ่ นกั เรียนติดตำมได้ทนั หรือไม่ 7.ครูอธิบำยเรื่องกำรอ้ำงองิ เซลล์แบบตำ่ งๆ ตลอดจนตวั อยำ่ งกำรใช้งำน -กำรอ้ำงองิ แบบสมั พทั ธ์ -กำรอ้ำงองิ แบบสมั บรู ณ์ ขัน้ สรุป

27 8.ครูให้นกั เรียนจบั คกู่ นั ศกึ ษำฟังก์ชนั ทใี่ ช้งำนแบบตำ่ งๆ จำกนนั้ ครูพดู ฟังก์ชนั และให้นกั เรียนปฏบิ ตั ใิ ห้ถกู ต้อง 9.ครูให้นกั เรียนแลกเปลยี่ นควำมคดิ เห็นระหวำ่ งกลมุ่ 10.ครูเฉลยส่ือและแหล่งเรียนรู้ 1.หนงั สอื เรียนวชิ ำโปรแกรมตำรำงคำนวณ 2.กิจกรรมกำรเรียนกำรสอน 3.คอมพวิ เตอร์หลกั ฐาน 1.บนั ทกึ กำรสอนของครู 2.ใบเช็ครำยช่ือ 3.แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ 4.แบบประเมินผลกำรเรียนรู้การวดั ผลและการประเมนิ ผล วิธีวดั ผล 1.ประเมนิ ผลควำมก้ำวหน้ำของตนเอง 2.สงั เกตพฤตกิ รรมรำยบคุ คล 4.ประเมินพฤตกิ รรมกำรเข้ำร่วมกิจกรรมกลมุ่ 5.กำรสงั เกตและประเมินผลพฤตกิ รรมด้ำนคณุ ธรรม จริยธรรม คำ่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 6.ประเมินควำมถกู ต้องของแบบประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ เคร่ืองมือวดั ผล 1.แบบประเมนิ ผลควำมก้ำวหน้ำของตนเอง 2.สงั เกตพฤตกิ รรมรำยบคุ คล 3.ประเมนิ พฤตกิ รรมกำรเข้ำร่วมกิจกรรมกลมุ่ 4.กำรสงั เกตและประเมินผลพฤตกิ รรมด้ำนคณุ ธรรม จริยธรรม คำ่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 5.แบบประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ เกณฑ์การประเมนิ ผล 1.แบบประเมินผลควำมก้ำวหน้ำของตนเอง เกณฑ์ผำ่ น 50% ขนึ ้ ไป 2.เกณฑ์ผำ่ นกำรสงั เกตพฤตกิ รรมรำยบคุ คล ต้องไมม่ ชี อ่ งปรับปรุง 3.เกณฑ์ผำ่ นกำรสงั เกตพฤตกิ รรมกำรเข้ำร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คือ ปำนกลำง (50% ขนึ ้ ไป)

28 4.กำรสงั เกตและประเมินผลพฤตกิ รรมด้ำนคณุ ธรรม จริยธรรม คำ่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขนึ ้ อยกู่ บั กำรประเมนิ ตำมสภำพจริง 5.เกณฑก์ ำรผำ่ นประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ท้ำยหนว่ ยผำ่ น 50% ขนึ ้ ไปกจิ กรรมเสนอแนะ 1.ครูให้จบั อร์ดเร่ืองฟังก์ชนั แบบตำ่ งๆ

29บนั ทกึ หลังการสอน ข้อสรุปหลังการสอน …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหาท่พี บ …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแก้ปัญหา …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………

30 แผนการจดั การเรียนรู้แบบบูรณาการท่ี 5 หน่วยท่ี 4 รหัสวิชา 2204-2103 สอนครัง้ ท่ี 9-10 ช่ือหน่วย การคานวณในโปรแกรม Microsoft Office Excell 2007 จานวนช่ัวโมง 2 ช่ัวโมงแนวคดิ โปรแกรม Microsoft Office Excel 2007 เป็นโปรแกรมทีเ่ หมำะกบั งำนคำนวณดงั ที่ได้กลำ่ วมำแล้วไมว่ ำ่ จะเป็นงำนบญั ชีงำนกำรเงิน งำนวดั ผล และงำนคำนวณทวั่ ไป กำรคำนวณทำได้ทงั้ กำรคำนวณอยำ่ งงำ่ ยจนถงึ กำรคำนวณแบบสลบั วบั ซ้อนเพียงผ้ใู ช้กำหนดสตู รตำมต้องกำรและสำมำรถคดั ลอกสตู รไปใช้ในงำนลกั ษณะเดยี วกนั ได้อีก โดยไม่ต้องเสยี เวลำกำหนดสตู รใหม่ผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวัง -สำมำรถอธิบำยวิธีกำรคำนวณได้ -สำมำรถอธิบำยสญั ลกั ษณ์ท่ีใช้ในกำรคำนวณได้ -สำมำรถอธิบำยข้อผดิ พลำดท่อี ำจเกิดขนึ ้ ในกำรกำหนดฟังก์ชนั และสตู รได้ -สำมำรถอธิบำยประเภทของฟังก์ชนั และฟังก์ชนั ทใ่ี ช้งำนได้ -สำมำรถคำนวณโดยใช้ฟังก์ชนั ได้ -สำมำรถคำนวณข้ำมแผน่ งำนได้ -สำมำรถคำนวณข้ำมสมดุ งำนได้ -สำมำรถคำนวณโดยใช้ฟังก์ชนั IF ได้สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงควำมรู้เกี่ยวกบั หลกั กำรใช้เครื่องมอื ของโปรแกรมตำรำงคำนวณ 2. ใช้คำสง่ั เครื่องมือเพ่ือจดั กำรข้อมลู 3. สรุปจดั ทำรำยงำน และแสดงผลข้อมลู ในรูปตำรำงและแผนภมู ิตำมลกั ษณะงำนสาระการเรียนรู้ -กำรคำนวณโดยใช้ฟังก์ชนั -กำรคำนวณข้ำมแผน่ งำน -กำรคำนวณข้ำมสมดุ งำน -กำรคำนวณโดยใช้ฟังก์ชนั IFกระบวนการจัดการเรียนรู้ ขนั้ นาเข้าสู่การเรียน 1.ครูทบทวนฟังก์ชนั่ กำรใช้งำนประเภทตำ่ งๆ โดยถำมแล้วให้นกั เรียนตอบ ขัน้ สอน 2.ครูอธิบำยกำรคำนวณโดยใช้ฟังก์ชนั

31 -กำรกำหนดฟังก์ชนั่ ด้วยตนเอง โดยใช้ตวั อยำ่ งกำรคำนวณในหน้ำ 167 ประกอบ -กำรเขียนฟังก์ชนั โดยใช้แท็บ Formulars (สตู ร) เลอื กป่ มุ คำสง่ั โดยใช้ตวั อยำ่ งหน้ำ 168-169 ประกอบ -กำรกำหนดฟังก์ชนั จำกป่ มุ AutoSum (ผลรวมอตั โนมตั ิ) โดยใช้ตวั อยำ่ งหน้ำ 171 3.ครูลองให้นกั เรียนคำนวณรำยจ่ำยทน่ี กั เรียนได้ทำไว้ในชว่ั โมงทแ่ี ล้ว 4.ครูอธิบำยเร่ืองกำรคำนวณข้ำมแผน่ งำน และให้นกั เรียนลองปฏิบตั ิตำม 5.ครูอธิบำยกำรคำนวณข้ำมสมดุ งำน โดยใช้ตวั อยำ่ งในหน้ำ 174-176 ประกอบ จำกนนั้ ให้นกั เรียนปฏบิ ตั ติ ำม 6.ครูอธิบำยกำรคำนวณโดยใช้ฟังก์ชนั IF จำกนนั้ ให้นกั เรียนปฏิบตั ติ ำม 7.ครูให้นกั เรียนทำใบงำนหนว่ ยที่ 4 จำกนนั้ ให้จบั คกู่ นั เปรียบเทยี บคำตอบ จำกนนั้ ให้เฉลยพร้อมกนั ทงั้ ชนั้ ขัน้ สรุป 8.ครูให้นกั เรียนทำแบบประเมินผลกำรเรียนรู้หนว่ ยที่ 4 9.ครูให้นกั เรียนจบั คกู่ นั เปรียบเทยี บคำตอบ 10.ครูเฉลยพร้อมนกั เรียนทงั้ ชนั้ส่ือและแหล่งเรียนรู้ 1.หนงั สอื เรียนวชิ ำโปรแกรมตำรำงคำนวณ 2.กิจกรรมกำรเรียนกำรสอน 3.คอมพวิ เตอร์หลกั ฐาน 1.บนั ทกึ กำรสอนของครู 2.ใบเช็ครำยชื่อ 3.แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ 4.แบบประเมินผลกำรเรียนรู้การวัดผลและการประเมินผล วิธีวดั ผล 1.ประเมินผลควำมก้ำวหน้ำของตนเอง 2.สงั เกตพฤตกิ รรมรำยบคุ คล 4.ประเมินพฤตกิ รรมกำรเข้ำร่วมกิจกรรมกลมุ่ 5.กำรสงั เกตและประเมินผลพฤตกิ รรมด้ำนคณุ ธรรม จริยธรรม ค่ำนยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 6.ประเมินควำมถกู ต้องของแบบประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ เคร่ืองมอื วัดผล

32 1.แบบประเมนิ ผลควำมก้ำวหน้ำของตนเอง 2.สงั เกตพฤตกิ รรมรำยบคุ คล 3.ประเมนิ พฤติกรรมกำรเข้ำร่วมกิจกรรมกลมุ่ 4.กำรสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมด้ำนคณุ ธรรม จริยธรรม คำ่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 5.แบบประเมินผลกำรเรียนรู้ เกณฑ์การประเมนิ ผล 1.แบบประเมนิ ผลควำมก้ำวหน้ำของตนเอง เกณฑ์ผำ่ น 50% ขนึ ้ ไป 2.เกณฑ์ผำ่ นกำรสงั เกตพฤตกิ รรมรำยบคุ คล ต้องไมม่ ชี ่องปรับปรุง 3.เกณฑ์ผำ่ นกำรสงั เกตพฤตกิ รรมกำรเข้ำร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คือ ปำนกลำง (50% ขนึ ้ ไป) 4.กำรสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมด้ำนคณุ ธรรม จริยธรรม คำ่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขนึ ้ อยกู่ บั กำรประเมนิ ตำมสภำพจริง 5.เกณฑก์ ำรผำ่ นประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ท้ำยหนว่ ยผำ่ น 50% ขนึ ้ ไปกิจกรรมเสนอแนะ 1.ครูแบง่ กลมุ่ นกั เรียน กลมุ่ ละ 4 คนเลอื กตวั อยำ่ งคำถำมในใบงำนให้นกั เรียนแขง่ ขนั กำคำนวณ กลมุ่ ใดได้คะแนนมำกสดุ เป็นผ้ชู นะบนั ทกึ หลงั การสอน

33ข้อสรุปหลังการสอน………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………………………………………………………………………………………………ปัญหาท่พี บ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………………………………………………………………………………………………แนวทางแก้ปัญหา………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………………………………………………………………………………………………

34 แผนการจดั การเรียนรู้แบบบูรณาการท่ี 6 หน่วยท่ี 5 รหัสวชิ า 2204-2103 สอนครัง้ ท่ี 11-12 ช่ือหน่วย การจัดการฐานข้อมลู ในแผ่นงาน (Database) จานวนช่ัวโมง 2 ช่ัวโมงแนวคดิ โปรแกรม Microsoft Office Excel 2007 เป็นโปรแกรมทเ่ี หมำะกบั งำนคำนวณดงั ที่ได้กลำ่ วมำแล้วไมว่ ำ่ จะเป็นงำนบญั ชีงำนกำรเงิน งำนวดั ผล และงำนคำนวณทวั่ ไป กำรคำนวณทำได้ทงั้ กำรคำนวณอยำ่ งงำ่ ยจนถงึ กำรคำนวณแบบสลบั วบั ซ้อนเพียงผ้ใู ช้กำหนดสตู รตำมต้องกำรและสำมำรถคดั ลอกสตู รไปใช้ในงำนลกั ษณะเดยี วกนั ได้อกี โดยไมต่ ้องเสยี เวลำกำหนดสตู รใหม่ผลการเรียนรู้ท่คี าดหวงั -สำมำรถอธิบำยควำมหมำยของฐำนข้อมลู (Database)ได้ -สำมำรถตงั้ ช่ือให้กบั เซลลแ์ ละกลมุ่ เซลล์ได้ -สำมำรถนำข้อมลู จำกภำยนอกมำใช้งำนในโปรแกรม Microsoft office Excel ได้ -สำมำรถสร้ำงห้องสมดุ งำนให้เป็นฐำนข้อมลู ได้ -สำมำรถตงั้ รหสั ผำ่ น (Password)ได้ -สำมำรถจดั เรียงข้อมลู (Sort)ได้ -สำมำรถใช้ตวั กรองข้อมลู (Filter)ได้ -สำมำรถใช้แบบฟอร์มข้อมลู (Data Form)ได้ -สำมำรถหำผลรวมยอ่ ยข้อมลู (Sub Totals)ได้ -สำมำรถเชื่อมโยงหลำยมติ ิ (Hyperlink)ได้ -สำมำรถรวมข้อมลู (Consolidate)ได้ -สำมำรถตรวจสอบควำมถกู ต้องของข้อมลู (Data Validation)ได้สมรรถนะรายวชิ า 1. แสดงควำมรู้เกี่ยวกบั หลกั กำรใช้เครื่องมอื ของโปรแกรมตำรำงคำนวณ 2. ใช้คำสง่ั เครื่องมอื เพ่ือจดั กำรข้อมลู 3. สรุปจดั ทำรำยงำน และแสดงผลข้อมลู ในรูปตำรำงและแผนภมู ิตำมลกั ษณะงำนสาระการเรียนรู้ หน่วยท่5ี การจดั การฐานข้อมลู ในแผ่นงาน (Database) -ควำมหมำยของฐำนข้อมลู (Database) -กำรตงั้ ช่ือให้กบั เซลลแ์ ละกลมุ่ เซลล์ -กำรนำข้อมลู จำกภำยนอกมำใช้งำนในโปรแกรม Microsoft office Excel -กำรสร้ำงห้องสมดุ งำนให้เป็นฐำนข้อมลู

35 -กำรตงั้ รหสั ผำ่ น (Password) -กำรจดั เรียงข้อมลู (Sortกระบวนการจดั การเรียนรู้ ขัน้ นาเข้าสู่การเรียน 1.ครูถำมนกั เรียนวำ่ เนอื ้ หำทไี่ ด้เรียนท่ีผำ่ นๆมำ สำมำรถนำมำใช้ประโยชน์ในชีวติ ประจำวนั ได้อยำ่ งไร 2.ครูเขยี นเป็นผงั มโนทศั น์ ขัน้ สอน 3.ครูอธิบำยควำมหมำยของฐำนข้อมลู (Database) และชื่อเรียกของสว่ นตำ่ งๆในตำรำง 4.ครูอธิบำยกำรตงั้ ช่ือให้กบั เซลลแ์ ละกลมุ่ เซลล์ -กำรตงั้ ช่ือด้วย Define name -กำรตงั้ ชื่อท่ีมอี ยู่ (Create from Selection) -กำรตงั้ ช่ือเฉพำะในแผน่ งำน -กำรตงั้ ช่ือใน Name Managerจำกนนั้ ให้นกั เรียนทำกำรตงั้ ชื่อให้เรียบร้อย ครูถำมวำ่ นกั เรียนปฏบิ ตั ิทนั หรือไม่ 5.กำรนำข้อมลู จำกภำยนอกมำใช้งำนในโปรแกรม Microsoft office Excel -กำรนำข้อมลู เข้ำจำก Access -กำรนำข้อมลู เข้ำจำกเว็บ -กำรนำข้อมลู เข้ำจำกข้อควำมจำกนนั้ ให้นกั เรียนลองปฏิบตั ิ ครูถำมวำ่ นกั เรียนปฏิบตั ทิ นั หรือไม่ 6.ครูอธิบำยเรื่อง กำรสร้ำงห้องสมดุ งำนให้เป็นฐำนข้อมลู 7.ครูอธิบำยเรื่องกำรตงั้ รหสั ผำ่ น (Password) -กำรปอ้ งกนั แผน่ งำน -กำรปอ้ งกนั สมดุ งำน 8.ครูอธิบำยเรื่องกำรจดั เรียงข้อมลู (Sort) -กำรจดั เรียงข้อมลู ฟิลดเื ดยี ว -กำรจดั เรียงข้อมลู 2 ฟิลด์ -กำรจดั เรียงข้อมลู 3 ฟิลด์ ขัน้ สรุป 9.ครูให้นกั เรียนปิดโปรแกรมและเร่ิมกระบวนกำรที่ได้เรียนในชว่ั โมงนอี ้ ีกครงั้ โดยครูเดนิ ตรวจตรำดคู วำมเรียบร้อย

36ส่ือและแหล่งเรียนรู้ 1.หนงั สอื เรียนวิชำโปรแกรมตำรำงคำนวณ 2.กิจกรรมกำรเรียนกำรสอน 3.คอมพวิ เตอร์หลกั ฐาน 1.บนั ทกึ กำรสอนของครู 2.ใบเช็ครำยชื่อ 3.แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ 4.แบบประเมนิ ผลกำรเรียนรู้การวัดผลและการประเมินผล วิธีวดั ผล 1.ประเมินผลควำมก้ำวหน้ำของตนเอง 2.สงั เกตพฤตกิ รรมรำยบคุ คล 4.ประเมินพฤติกรรมกำรเข้ำร่วมกิจกรรมกลมุ่ 5.กำรสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมด้ำนคณุ ธรรม จริยธรรม คำ่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 6.ประเมินควำมถกู ต้องของแบบประเมินผลกำรเรียนรู้ เคร่ืองมอื วดั ผล 1.แบบประเมนิ ผลควำมก้ำวหน้ำของตนเอง 2.สงั เกตพฤตกิ รรมรำยบคุ คล 3.ประเมนิ พฤตกิ รรมกำรเข้ำร่วมกิจกรรมกลมุ่ 4.กำรสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมด้ำนคณุ ธรรม จริยธรรม คำ่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 5.แบบประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ เกณฑ์การประเมนิ ผล 1.แบบประเมนิ ผลควำมก้ำวหน้ำของตนเอง เกณฑ์ผำ่ น 50% ขนึ ้ ไป 2.เกณฑ์ผำ่ นกำรสงั เกตพฤตกิ รรมรำยบคุ คล ต้องไมม่ ชี ่องปรับปรุง 3.เกณฑ์ผำ่ นกำรสงั เกตพฤตกิ รรมกำรเข้ำร่วมกิจกรรมกลมุ่ คือ ปำนกลำง (50% ขนึ ้ ไป) 4.กำรสงั เกตและประเมินผลพฤตกิ รรมด้ำนคณุ ธรรม จริยธรรม คำ่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขนึ ้ อยกู่ บั กำรประเมินตำมสภำพจริง 5.เกณฑก์ ำรผำ่ นประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ท้ำยหนว่ ยผำ่ น 50% ขนึ ้ ไป

37กิจกรรมเสนอแนะ 1.ครูให้นกั เรียนทำโปสเตอร์ให้ควำมรู้เกี่ยวกบั กำรนำเข้ำข้อมลู จำก Access ,จำกเว็บ และควำมข้อควำม

38บนั ทกึ หลังการสอน ข้อสรุปหลังการสอน …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหาท่พี บ …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแก้ปัญหา …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………

39 แผนการจดั การเรียนรู้แบบบูรณาการท่ี 7 หน่วยท่ี 5 รหัสวชิ า 2204-2103 สอนครัง้ ท่ี 13-14 ช่ือหน่วย การจดั การฐานข้อมลู ในแผ่นงาน (Database) จานวนช่ัวโมง 2 ช่ัวโมงแนวคดิ โปรแกรม Microsoft Office Excel 2007 เป็นโปรแกรมที่เหมำะกบั งำนคำนวณดงั ที่ได้กลำ่ วมำแล้วไมว่ ำ่ จะเป็นงำนบญั ชีงำนกำรเงิน งำนวดั ผล และงำนคำนวณทว่ั ไป กำรคำนวณทำได้ทงั้ กำรคำนวณอยำ่ งงำ่ ยจนถงึ กำรคำนวณแบบสลบั ซบั ซ้อนเพยี งผ้ใู ช้กำหนดสตู รตำมต้องกำรและสำมำรถคดั ลอกสตู รไปใช้ในงำนลกั ษณะเดยี วกนั ได้อีก โดยไม่ต้องเสยี เวลำกำหนดสตู รใหม่ผลการเรียนรู้ท่คี าดหวัง -สำมำรถอธิบำยควำมหมำยของฐำนข้อมลู (Database)ได้ -สำมำรถตงั้ ช่ือให้กบั เซลล์และกลมุ่ เซลลไ์ ด้ -สำมำรถนำข้อมลู จำกภำยนอกมำใช้งำนในโปรแกรม Microsoft office Excel ได้ -สำมำรถสร้ำงห้องสมดุ งำนให้เป็นฐำนข้อมลู ได้ -สำมำรถตงั้ รหสั ผำ่ น (Password)ได้ -สำมำรถจดั เรียงข้อมลู (Sort)ได้ -สำมำรถใช้ตวั กรองข้อมลู (Filter)ได้ -สำมำรถใช้แบบฟอร์มข้อมลู (Data Form)ได้ -สำมำรถหำผลรวมยอ่ ยข้อมลู (Sub Totals)ได้ -สำมำรถเชื่อมโยงหลำยมติ ิ (Hyperlink)ได้ -สำมำรถรวมข้อมลู (Consolidate)ได้ -สำมำรถตรวจสอบควำมถกู ต้องของข้อมลู (Data Validation)ได้สมรรถนะรายวชิ า 1. แสดงควำมรู้เกี่ยวกบั หลกั กำรใช้เคร่ืองมอื ของโปรแกรมตำรำงคำนวณ 2. ใช้คำสง่ั เคร่ืองมอื เพ่ือจดั กำรข้อมลู 3. สรุปจดั ทำรำยงำน และแสดงผลข้อมลู ในรูปตำรำงและแผนภมู ติ ำมลกั ษณะงำนสาระการเรียนรู้ -กำรใช้ตวั กรองข้อมลู (Filter) -กำรใช้แบบฟอร์มข้อมลู (Data Form) -กำรหำผลรวมยอ่ ยข้อมลู (Sub Totals) -กำรเชื่อมโยงหลำยมิติ (Hyperlink) -กำรรวมข้อมลู (Consolidate)

40 -กำรตรวจสอบควำมถกู ต้องของข้อมลู (Data Validation)กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขนั้ นาเข้าส่กู ารเรียน 1.ครูสมุ่ ถำมนกั เรียนวำ่ เหตกุ ำรณ์ใดบ้ำงทีเ่ รำต้องกำรกำรเรียงข้อมลู เพื่อประโยชน์ตอ่ กำรใช้งำน 2.ครูเขียนเป็นผงั มโนทศั น์ ขัน้ สอน 3.ครูอธิบำยสถำนกำรณ์ท่ตี ้องใช้ตวั กรองข้อมลู (Filter) เชน่ กำรเรียงลำดบั นกั เรียนจำกคะแนนสงู สดุ ไปต่ำสดุ เป็นต้น 4.ครูอธิบำยเร่ืองกำรกรองข้อมลู จำกนนั้ ให้นกั เรียนสำรวจข้อมลู คำ่ ขนมของเพอื่ น 10 คน แล้วกรองข้อมลู เรียงลำดบัคนท่ไี ด้เงินมำกไปหำน้อย 5.ครูอธิบำยเรื่องกำรใช้แบบฟอร์มข้อมลู (Data Form) -กำรเพมิ่ และลบข้อมลู โดยใช้ฟอร์ม -กำรค้นหำและแก้ไขข้อมลู โดยใช้ฟอร์ม -กำรลบข้อมลู โดยใช้ฟอร์ม 6.ครูอธิบำยเร่ือง กำรหำผลรวมยอ่ ยข้อมลู (Sub Totals) และยกตวั อยำ่ งหน้ำ 243 ประกอบ 7.ครูอธิบำยเร่ืองกำรเช่ือมโยงหลำยมติ ิ (Hyperlink) -กำรเชื่อมโยงงำนกบั แผน่ งำน -กำรเชื่อมโยงสมดุ งำนกบั สมดุ งำนไปยงั ไฟลโ์ ปรแกรมอืน่ ๆ -กำรเชื่อมโยงสมดุ งำนไปยงั เวบ็ เพจ -กำรเชื่อมดยงสมดุ งำนไปยงั อเี มล -กำรเรียกใช้ Templates (แมแ่ บบ) ด้วยกำรเช่ือมตอ่ กบั Microsoft Office Onlineครูลองให้นกั เรียนเชื่อมโยงข้อมลู และครูเดนิ ตรวจตรำ 8.ครูอธิบำยเร่ืองกำรรวมข้อมลู (Consolidate) และกำรตรวจสอบควำมถกู ต้องของข้อมลู 9.ครูให้นกั เรียนทำใบงำนหนว่ ยที่ 5ขัน้ สรุป 10.ครูให้นกั เรียนทำแบบประเมนิ ผลกำรเรียนรู้หนว่ ยท่ี 5 11.ครูให้นกั เรียนจบั คกู่ นั ตรวจสอบคำตอบ 12.ครูเฉลยพร้อมนกั เรียนทงั้ ชนั้ส่อื และแหล่งเรียนรู้ 1.หนงั สอื เรียนวชิ ำโปรแกรมตำรำงคำนวณ

41 2.กิจกรรมกำรเรียนกำรสอน 3.คอมพิวเตอร์หลักฐาน 1.บนั ทกึ กำรสอนของครู 2.ใบเช็ครำยชื่อ 3.แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ 4.แบบประเมินผลกำรเรียนรู้การวดั ผลและการประเมนิ ผล วธิ ีวดั ผล 1.ประเมินผลควำมก้ำวหน้ำของตนเอง 2.สงั เกตพฤตกิ รรมรำยบคุ คล 4.ประเมินพฤติกรรมกำรเข้ำร่วมกิจกรรมกลมุ่ 5.กำรสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมด้ำนคณุ ธรรม จริยธรรม คำ่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 6.ประเมินควำมถกู ต้องของแบบประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ เคร่ืองมอื วดั ผล 1.แบบประเมินผลควำมก้ำวหน้ำของตนเอง 2.สงั เกตพฤตกิ รรมรำยบคุ คล 3.ประเมินพฤติกรรมกำรเข้ำร่วมกิจกรรมกลมุ่ 4.กำรสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมด้ำนคณุ ธรรม จริยธรรม คำ่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 5.แบบประเมินผลกำรเรียนรู้ เกณฑ์การประเมินผล 1.แบบประเมนิ ผลควำมก้ำวหน้ำของตนเอง เกณฑ์ผำ่ น 50% ขนึ ้ ไป 2.เกณฑ์ผำ่ นกำรสงั เกตพฤตกิ รรมรำยบคุ คล ต้องไมม่ ชี อ่ งปรับปรุง 3.เกณฑ์ผำ่ นกำรสงั เกตพฤตกิ รรมกำรเข้ำร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปำนกลำง (50% ขนึ ้ ไป) 4.กำรสงั เกตและประเมินผลพฤตกิ รรมด้ำนคณุ ธรรม จริยธรรม คำ่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขนึ ้ อยกู่ บั กำรประเมนิ ตำมสภำพจริง 5.เกณฑก์ ำรผำ่ นประเมินผลกำรเรียนรู้ท้ำยหนว่ ยผำ่ น 50% ขนึ ้ ไปกิจกรรมเสนอแนะ 1.ครูให้นกั เรียนออกแบบฐำนข้อมลู ประวตั ินกั เรียน-นกั ศกึ ษำ หรือบคุ ลำกร

422.ครูให้นกั เรียนออกแบบฐำนข้อมลู ทะเบียนในห้องสมดุ หรือครูภณั ฑ์

43บนั ทกึ หลังการสอน ข้อสรุปหลังการสอน …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหาท่พี บ …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแก้ปัญหา …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………

44แผนการจดั การเรียนรู้แบบบรู ณาการท่ี 8 หน่วยท่ี 6รหสั วชิ า 2204-2103 สอนครัง้ ท่ี 15-16ช่ือหน่วย การสร้างแผนภมู ิ (Chart) จานวนช่ัวโมง 2 ช่ัวโมงแนวคดิ กำรสร้ำงแผนภมู (ิ Chart) หรือกรำฟ (Graph) เป็นกำรนำข้อมลู ชนิดตวั เลขมำจดั ให้อยใู่ นลกั ษณะของภำพทีส่ ำมำรถมองเหน็ ข้อมลู ในลกั ษณะของกำรเปรียบเทียบ และทำให้ดนู ำ่ สนใจมำกขนึ ้ ซง่ึ ทำให้ผ้ใู ช้ข้อมลู เข้ำใจควำมหมำยได้งำ่ ยขนึ ้โดยเฉพำะกำรนำเสนอข้อมลู ท่ียงุ่ ยำกซบั ซ้อน ในหนว่ ยนสี ้ ำมำรถสำมำรถจดั กำรกบั แผนภมู ิได้ด้วยวธิ ีกำรท่ีสะดวกรวดเร็วและงำ่ ยมำกขนึ ้ ตลอดจนกำรปรับเปลย่ี นรำยละเอยี ดตำ่ งๆในแผนภมู ิและกำรปรับแตง่ แผนภมู ิได้ด้วยวิธีกำรท่ีสะดวกรวดเร็วและงำ่ ยมำกขนึ ้ ตลอดจนกำรปรับเปลยี่ นรำยละเอยี ดตำ่ งๆของแผนภมู ิ และกำรปรับแตง่ แผนภมู ิผลการเรียนรู้ท่คี าดหวงั -สำมำรถอธิบำยสว่ นประกอบของแผนภมู ิได้ -สำมำรถอธิบำยชนิดของแผนภมู แิ ละลกั ษณะกำรใช้งำนได้ -สำมำรถสร้ำงแผนภมู ไิ ด้ -สำมำรถแก้ไขและปรับแตง่ แผนภมู ิได้ -สำมำรถจดั กำรแผนภมู ิได้ -สำมำรถตกแตง่ สว่ นตำ่ งๆของแผนภมู ไิ ด้ -สำมำรถสร้ำงแผนภมู ิแบบสำมมติ ไิ ด้ -สำมำรถนำภำพมำสร้ำงเป็นแผนภมู ิ (Picture Chart)ได้ -สำมำรถสร้ำงแผนภมู ิแบบผสมได้สมรรถนะรายวชิ า 1. แสดงควำมรู้เกี่ยวกบั หลกั กำรใช้เครื่องมือของโปรแกรมตำรำงคำนวณ 2. ใช้คำสงั่ เครื่องมือเพอื่ จดั กำรข้อมลู 3. สรุปจดั ทำรำยงำน และแสดงผลข้อมลู ในรูปตำรำงและแผนภมู ติ ำมลกั ษณะงำนสาระการเรียนรู้ หน่วยท่6ี การสร้างแผนภมู ิ (Chart) -สว่ นประกอบของแผนภมู ิ-ชนดิ ของแผนภมู แิ ละลกั ษณะกำรใช้งำน-กำรเร่ิมต้นสร้ำงแผนภมู ิ-กำรแก้ไขและปรับแตง่ แผนภมู ิ-กำรจดั กำรแผนภมู ิกระบวนการจัดการเรียนรู้

45 ขนั้ นาเข้าส่กู ารเรียน 1.ครูนำข้อมลู ประเภทตำ่ งๆและแผนภมู ขิ องข้อมลู ชดุ นนั้ ๆมำให้นกั เรียนดู 2.ครูถำมวำ่ แบบใดทำให้นกั เรียนมีควำมเข้ำใจในข้อมลู ได้งำ่ ยกวำ่ กนั 3.ครูถำมประโยชน์ของแผนภมู ิจำกนกั เรียนและเขยี นผงั มโนทศั น์ไว้บนกระดำน ขัน้ สอน 4.ครูแสดงภำพแผนภมู ิและอธิบำยเรื่องสว่ นประกอบของแผนภมู ิ 5.ครูถำมนกั เรียนวำ่ นกั เรียนรู้จกั แผนภมู ิชนดิ ใดบ้ำง ครูเขยี นเป็นผงั มโนทศั น์ จำกนนั้ ครูอธิบำยเรื่องชนิดของแผนภมู ิและลกั ษณะกำรใช้งำน 6.ครูให้นกั เรียนจบั กลมุ่ กนั กลมุ่ ละ 4 คน จำกนนั้ ให้ชว่ ยกนั คดิ วำ่ แผนภมู ิแตล่ ะชนดิ เหมำะสมกบั กำรใช้ในกำรนำเสนอข้อมลู ประเภทใดๆบ้ำง 7.ครูอธิบำยกระบวนกำรเร่ิมต้นสร้ำงแผนภมู ิและให้นกั เรียนปฏบิ ตั ิตำม ให้ได้แผนภมู ลิ กั ษณะงำ่ ยๆในเบอื ้ งต้น 8.ครูอธิบำยกำรแก้ไขและปรับแตง่ แผนภมู ิจำกนนั้ ให้นกั เรียนปรับแตง่ แผนภมู ิของนกั เรียน -กำรปรับแตง่ แผนภมู ิ -กำรเปลยี่ นชนดิ ของแผนภมู ิ -กำรแก้ไขแหลง่ ของข้อมลู ในแผนภมู ิ 9.ครูเดินตรวจตรำดคู วำมเรียบร้อย 10.ครูอธิบำยเรื่องกำรจดั กำรแผนภมู ิ -กำรลบแผนภมู ิ -กำรเคลอ่ื นย้ำยแผนภมู ิ -กำรปรับเปลย่ี นขนำดของแผนภมู ิ -กำรกำหนดจดั วำงตำแหนง่ ของแผนภมู ิขัน้ สรุป 11.ครูให้นกั เรียนจบั กลมุ่ กนั 4 คน จำกนนั้ สำรวจอปุ กรณ์เคร่ืองเขยี นของเพื่อนนกั เรียน และทำเป็นตำรำงบนั ทกึข้อมลู คร่ำวๆไว้กอ่ น เช่น ช่ือ ปากกาแดง ปากกานา้ เงนิ ดนิ สอ สมชาย สมหญิง สมใจ สมปอง 12.จำกนนั้ ให้นกั เรียนนำข้อมลู มำสร้ำงแผนภมู ิ

46 13.ครูเดนิ ตรวจตรำดคู วำมเรียบร้อย 14.หำกนกั เรียนทำเสร็จเรียบร้อยให้เปลยี่ นชนดิ ของแผนภมู เิ ป็นชนิดตำ่ งๆส่ือและแหล่งเรียนรู้ 1.หนงั สอื เรียนวชิ ำโปรแกรมตำรำงคำนวณ 2.กิจกรรมกำรเรียนกำรสอน 3.คอมพวิ เตอร์หลักฐาน 1.บนั ทกึ กำรสอนของครู 2.ใบเช็ครำยช่ือ 3.แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ 4.แบบประเมินผลกำรเรียนรู้การวดั ผลและการประเมนิ ผล วธิ ีวดั ผล 1.ประเมินผลควำมก้ำวหน้ำของตนเอง 2.สงั เกตพฤตกิ รรมรำยบคุ คล 4.ประเมินพฤติกรรมกำรเข้ำร่วมกิจกรรมกลมุ่ 5.กำรสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมด้ำนคณุ ธรรม จริยธรรม คำ่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 6.ประเมินควำมถกู ต้องของแบบประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ เคร่ืองมือวัดผล 1.แบบประเมนิ ผลควำมก้ำวหน้ำของตนเอง 2.สงั เกตพฤตกิ รรมรำยบคุ คล 3.ประเมนิ พฤติกรรมกำรเข้ำร่วมกิจกรรมกลมุ่ 4.กำรสงั เกตและประเมินผลพฤตกิ รรมด้ำนคณุ ธรรม จริยธรรม คำ่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 5.แบบประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ เกณฑ์การประเมินผล 1.แบบประเมนิ ผลควำมก้ำวหน้ำของตนเอง เกณฑ์ผำ่ น 50% ขนึ ้ ไป 2.เกณฑ์ผำ่ นกำรสงั เกตพฤตกิ รรมรำยบคุ คล ต้องไมม่ ชี อ่ งปรับปรุง 3.เกณฑ์ผำ่ นกำรสงั เกตพฤตกิ รรมกำรเข้ำร่วมกิจกรรมกลมุ่ คือ ปำนกลำง (50% ขนึ ้ ไป)

47 4.กำรสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมด้ำนคณุ ธรรม จริยธรรม คำ่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขนึ ้ อยกู่ บั กำรประเมนิ ตำมสภำพจริง 5.เกณฑก์ ำรผำ่ นประเมินผลกำรเรียนรู้ท้ำยหนว่ ยผำ่ น 50% ขนึ ้ ไปกจิ กรรมเสนอแนะ 1.ครูให้นกั เรียนสำรวจข้อมลู เพื่อนกั เรียนในกำรสอบเก็บคะแนนวชิ ำตำ่ งๆ จำกนนั้ นำมำสร้ำงแผนภมู ิสกั 3 ชนดิ

48บนั ทกึ หลังการสอน ข้อสรุปหลังการสอน …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหาท่พี บ …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแก้ปัญหา …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………

49แผนการจดั การเรียนรู้แบบบรู ณาการท่ี 9 หน่วยท่ี 6รหสั วิชา 2204-2103 สอนครัง้ ท่ี 17-18ช่ือหน่วย การสร้างแผนภมู ิ (Chart) จานวนช่ัวโมง 2 ช่ัวโมงแนวคดิ กำรสร้ำงแผนภมู (ิ Chart) หรือกรำฟ (Graph) เป็นกำรนำข้อมลู ชนิดตวั เลขมำจดั ให้อยใู่ นลกั ษณะของภำพท่สี ำมำรถมองเห็นข้อมลู ในลกั ษณะของกำรเปรียบเทยี บ และทำให้ดนู ำ่ สนใจมำกขนึ ้ ซง่ึ ทำให้ผ้ใู ช้ข้อมลู เข้ำใจควำมหมำยได้งำ่ ยขนึ ้โดยเฉพำะกำรนำเสนอข้อมลู ท่ยี งุ่ ยำกซบั ซ้อน ในหนว่ ยนสี ้ ำมำรถสำมำรถจดั กำรกบั แผนภมู ไิ ด้ด้วยวธิ ีกำรทส่ี ะดวกรวดเร็วและงำ่ ยมำกขนึ ้ ตลอดจนกำรปรับเปลยี่ นรำยละเอียดตำ่ งๆในแผนภมู ิและกำรปรับแตง่ แผนภมู ิได้ด้วยวิธีกำรท่ีสะดวกรวดเร็วและง่ำยมำกขนึ ้ ตลอดจนกำรปรับเปลยี่ นรำยละเอยี ดตำ่ งๆของแผนภมู ิ และกำรปรับแตง่ แผนภมู ิผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวัง -สำมำรถอธิบำยสว่ นประกอบของแผนภมู ไิ ด้ -สำมำรถอธิบำยชนิดของแผนภมู แิ ละลกั ษณะกำรใช้งำนได้ -สำมำรถสร้ำงแผนภมู ิได้ -สำมำรถแก้ไขและปรับแตง่ แผนภมู ไิ ด้ -สำมำรถจดั กำรแผนภมู ิได้ -สำมำรถตกแตง่ สว่ นตำ่ งๆของแผนภมู ไิ ด้ -สำมำรถสร้ำงแผนภมู แิ บบสำมมิตไิ ด้ -สำมำรถนำภำพมำสร้ำงเป็นแผนภมู ิ (Picture Chart)ได้ -สำมำรถสร้ำงแผนภมู แิ บบผสมได้สมรรถนะรายวชิ า 1. แสดงควำมรู้เก่ียวกบั หลกั กำรใช้เคร่ืองมอื ของโปรแกรมตำรำงคำนวณ 2. ใช้คำสง่ั เคร่ืองมือเพอ่ื จดั กำรข้อมลู 3. สรุปจดั ทำรำยงำน และแสดงผลข้อมลู ในรูปตำรำงและแผนภมู ติ ำมลกั ษณะงำนสาระการเรียนรู้ -กำรตกแตง่ สว่ นตำ่ งๆของแผนภมู ิ-กำรสร้ำงแผนภมู ิแบบสำมมิติ-กำรนำภำพมำสร้ำงเป็นแผนภมู ิ (Picture Chart)-กำรสร้ำงแผนภมู ิแบบผสมกระบวนการจดั การเรียนรู้ ขัน้ นาเข้าสู่การเรียน 1.ครูให้นกั เรียนนำแผนภมู ทิ ่ีนกั เรียนสำรวจและทำในชว่ั โมงท่แี ล้วมำให้เพื่อนนกั เรียนดู

50 2.ครูให้เพ่อื นนกั เรียนให้ข้อคดิ เหน็ ขัน้ สอน 3.ครูให้นกั เรียนทกุ คนเปิดข้อมลู ทตี่ นเองได้ทำไว้จำกนนั้ ครูอธิบำยเร่ืองกำรตกแตง่ สว่ นตำ่ งๆของแผนภมู ิ -กำรตกแตง่ พนื ้ ที่ให้กบั แผนภมู ิ -กำรกำหนดชื่อแผนภมู ิและช่ือแทน -กำรจดั ตำแหนง่ ของคำอธิบำยแผนภมู ิ -กำรกำหนดปำ้ ยช่ือข้อมลู ให้แผนภมู ิ -กำรกำหนดตำรำงข้อมลู ใต้แผนภมู ิ -กำรปรับแกน -กำรกำหนดเส้นตำรำง -กำรใสล่ กั ษณะรูปร่ำง (Shape Style) และเส้นกรอบรูปร่ำง (Shape Outline) -กำรตกแตง่ ตวั อกั ษรในแผนภมู ิจำกนนั้ ครูให้นกั เรียนดำเนินกำรปรับเปลยี่ นข้อมลู ในแผนภมู ิของนกั เรียนตำมใจชอบ 4.ครูเดินตรวจตรำดคู วำมเรียบร้อย 5.ครูอธิบำยเรื่องกำรสร้ำงแผนภมู แิ บบสำมมติ ิ และให้นกั เรียนลองปฏบิ ตั ิตำม 6.ครูแสดงตวั อยำ่ งกำรนำภำพมำสร้ำงเป็นแผนภมู จิ ำกนนั้ ให้นกั เรียนเปรียบเทียบควำมแตกตำ่ งและควำมนำ่ สนใจ 7.ครูอธิบำยกำรนำภำพมำสร้ำงเป็นแผนภมู ิ และให้นกั เรียนปฏิบตั ิตำม จำกนนั้ ให้นกั เรียนปรับแก้ตำมใจชอบ 8.ครูเดนิ ตรวจตรำดคู วำมเรียบร้อย 9.ครูอธิบำยเร่ืองกำรสร้ำงแผนภมู ิแบบผสม 10.ครูให้นกั เรียนทำใบงำนหนว่ ยที่ 6ขัน้ สรุป 11.ครูให้นกั เรียนทำแบบประเมินผลกำรเรียนรู้หนว่ ยที่ 6 12.ครูให้นกั เรียนจบั คกู่ นั ตรวจสอบคำตอบ 13.ครูเฉลยพร้อมนกั เรียนทงั้ ชนั้ส่ือและแหล่งเรียนรู้ 1.หนงั สอื เรียนวิชำโปรแกรมตำรำงคำนวณ 2.กิจกรรมกำรเรียนกำรสอน 3.คอมพวิ เตอร์หลกั ฐาน

51 1.บนั ทกึ กำรสอนของครู 2.ใบเช็ครำยชื่อ 3.แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ 4.แบบประเมนิ ผลกำรเรียนรู้การวดั ผลและการประเมินผล วธิ ีวดั ผล 1.ประเมินผลควำมก้ำวหน้ำของตนเอง 2.สงั เกตพฤตกิ รรมรำยบคุ คล 4.ประเมนิ พฤติกรรมกำรเข้ำร่วมกิจกรรมกลมุ่ 5.กำรสงั เกตและประเมินผลพฤตกิ รรมด้ำนคณุ ธรรม จริยธรรม คำ่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 6.ประเมินควำมถกู ต้องของแบบประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ เคร่ืองมือวดั ผล 1.แบบประเมนิ ผลควำมก้ำวหน้ำของตนเอง 2.สงั เกตพฤตกิ รรมรำยบคุ คล 3.ประเมินพฤติกรรมกำรเข้ำร่วมกิจกรรมกลมุ่ 4.กำรสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมด้ำนคณุ ธรรม จริยธรรม คำ่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 5.แบบประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ เกณฑ์การประเมนิ ผล 1.แบบประเมนิ ผลควำมก้ำวหน้ำของตนเอง เกณฑ์ผำ่ น 50% ขนึ ้ ไป 2.เกณฑ์ผำ่ นกำรสงั เกตพฤตกิ รรมรำยบคุ คล ต้องไมม่ ชี อ่ งปรับปรุง 3.เกณฑ์ผำ่ นกำรสงั เกตพฤตกิ รรมกำรเข้ำร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คือ ปำนกลำง (50% ขนึ ้ ไป) 4.กำรสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมด้ำนคณุ ธรรม จริยธรรม คำ่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขนึ ้ อยกู่ บั กำรประเมนิ ตำมสภำพจริง 5.เกณฑก์ ำรผำ่ นประเมินผลกำรเรียนรู้ท้ำยหนว่ ยผำ่ น 50% ขนึ ้ ไปกจิ กรรมเสนอแนะ 1.ครูให้นกั เรียนสำรวจข้อมลู เกรดในรำยวชิ ำตำ่ งๆของเพือ่ นในชนั้ เรียน จำกนนั้ นำมำสร้ำงแผนภมู ิและปิดบอร์ดที่หลงั ห้อง

52บนั ทกึ หลังการสอน ข้อสรุปหลังการสอน …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหาท่พี บ …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแก้ปัญหา …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………

53 แผนการจัดการเรียนรู้แบบบรู ณาการท่ี 10 หน่วยท่ี - สอนครัง้ ท่ี 19-20 รหสั วิชา 2204-2103 จานวนช่ัวโมง 2 ช่ัวโมง ช่ือหน่วย สอบกลางภาคแนวคดิ กำรสอบกลำงภำคเป็นกำรวดั ควำมรู้และควำมเข้ำใจในหนว่ ยกำรเรียนรู้ท่ี 1-6

54บนั ทกึ หลังการสอบ ข้อสรุปหลังการสอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหาท่พี บ …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแก้ปัญหา …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………

55แผนการจดั การเรียนรู้แบบบรู ณาการท่ี 11 หน่วยท่ี 7รหสั วชิ า 2204-2103 สอนครัง้ ท่ี 21-22ช่ือหน่วย การออกรายงานทางเคร่ืองพิมพ์ จานวนช่ัวโมง 2 ช่ัวโมงแนวคดิ กำรออกรำยงำนทำงเครื่องพิมพ์ คือ กำรพมิ พ์ข้อมลู บนแผน่ งำนออกทำงเครื่องพมิ พ์ เพ่ือเก็บไว้เป็นลำยลกั ษณ์อกั ษรหรือเป็นหลกั ฐำนในกำรอ้ำงองิ ในกำรทำงำน ก่อนจะสงั่ พมิ พข์ ้อมลู ออกทำงเคร่ืองพมิ พ์ ควรตงั้ คำ่ ตำ่ งๆ ไมว่ ำ่ จะเป็นขอบกระดำษ แนวกระดำษ ขนำดกระดำษ เพือ่ ให้รำยงำนออกมำสวยงำมและเป็นไปตำมท่ีผ้ใู ช้ต้องกำรผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวงั -สำมำรถตงั้ คำ่ หน้ำกระดำษ (Page setup)ได้ -สำมำรถดขู ้อมลู กอ่ นกำรพมิ พ์ (Print Preview)ได้ -สำมำรถสงั่ พมิ พ์ข้อมลู ออกทำงเครื่องพมิ พ์ (Print)ได้สมรรถนะรายวชิ า 1. แสดงควำมรู้เก่ียวกบั หลกั กำรใช้เครื่องมอื ของโปรแกรมตำรำงคำนวณ 2. ใช้คำสงั่ เครื่องมือเพือ่ จดั กำรข้อมลู 3. สรุปจดั ทำรำยงำน และแสดงผลข้อมลู ในรูปตำรำงและแผนภมู ิตำมลกั ษณะงำนสาระการเรียนรู้ หน่วยท่7ี การออกรายงานทางเคร่ืองพิมพ์ (printer) -กำรตงั้ คำ่ หน้ำกระดำษ (Page setup)-กำรดขู ้อมลู กอ่ นกำรพิมพ์ (Print Preview)-กำรสงั่ พมิ พ์ข้อมลู ออกทำงเคร่ืองพมิ พ์ (Print)กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขนั้ นาเข้าสู่การเรียน 1.ครูถำมนกั เรียนวำ่ กำรนำเสนอข้อมลู ไมไ่ ด้มแี คก่ ำรนำเสนอโดยดจู ำกคอมพวิ เตอร์เทำ่ นนั้ แตก่ ำรนำเสนอบำงครัง้อำจอยใู่ นรูปเลม่ ทต่ี ้องอำศยั กำรพมิ พ์ขัน้ สอน2.ครูอธิบำยเรื่องกำรตงั้ คำ่ หน้ำกระดำษ (Page setup)-กำรกำหนดหน้ำกระดำษ-กำรกำหนดขอบกระดำษ-กำรกำหนดหวั กระดำษ/ท้ำยกระดำษ (Header/Footer)-กำรลำดบั แผน่ งำน (Sheet) ในกำรพมิ พ์แตล่ ะหน้ำ

56และให้นกั เรียนลองปฏบิ ตั กิ ำรจดั หน้ำให้เหมำะสมและสวยงำม 3.ครูอธิบำยให้นกั เรียนฟังวำ่ ควรต้องมกี ำรดขู ้อมลู ก่อนพิมพ์ เพอ่ื ไมใ่ ห้เกิดข้อผดิ พลำดและสนิ ้ เปลอื ง จำกนนั้ ครูอธิบำยเร่ืองกำรดขู ้อมลู กอ่ นกำรพิมพ์ (Print Preview) 4.กำรสงั่ พมิ พ์ข้อมลู ออกทำงเครื่องพมิ พ์ (Print) 5.ครูให้นกั เรียนทำใบงำนหนว่ ยที่ 7ขัน้ สรุป 6.ครูให้นกั เรียนทำแบบประเมนิ ผลกำรเรียนรู้หนว่ ยท่ี 7 7.ครูให้นกั เรียนจบั คกู่ นั ตรวจสอบคำตอบ 8.ครูเฉลยพร้อมนกั เรียนทงั้ ชนั้ส่อื และแหล่งเรียนรู้ 1.หนงั สอื เรียนวิชำโปรแกรมตำรำงคำนวณ 2.กิจกรรมกำรเรียนกำรสอน 3.คอมพวิ เตอร์หลักฐาน 1.บนั ทกึ กำรสอนของครู 2.ใบเช็ครำยช่ือ 3.แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ 4.แบบประเมินผลกำรเรียนรู้การวดั ผลและการประเมนิ ผล วิธีวดั ผล 1.ประเมินผลควำมก้ำวหน้ำของตนเอง 2.สงั เกตพฤตกิ รรมรำยบคุ คล 4.ประเมนิ พฤตกิ รรมกำรเข้ำร่วมกิจกรรมกลมุ่ 5.กำรสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมด้ำนคณุ ธรรม จริยธรรม คำ่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 6.ประเมนิ ควำมถกู ต้องของแบบประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ เคร่ืองมอื วดั ผล 1.แบบประเมินผลควำมก้ำวหน้ำของตนเอง 2.สงั เกตพฤตกิ รรมรำยบคุ คล 3.ประเมนิ พฤติกรรมกำรเข้ำร่วมกิจกรรมกลมุ่

57 4.กำรสงั เกตและประเมินผลพฤตกิ รรมด้ำนคณุ ธรรม จริยธรรม คำ่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 5.แบบประเมินผลกำรเรียนรู้ เกณฑ์การประเมินผล 1.แบบประเมนิ ผลควำมก้ำวหน้ำของตนเอง เกณฑ์ผำ่ น 50% ขนึ ้ ไป 2.เกณฑ์ผำ่ นกำรสงั เกตพฤตกิ รรมรำยบคุ คล ต้องไมม่ ชี ่องปรับปรุง 3.เกณฑ์ผำ่ นกำรสงั เกตพฤตกิ รรมกำรเข้ำร่วมกิจกรรมกลมุ่ คือ ปำนกลำง (50% ขนึ ้ ไป) 4.กำรสงั เกตและประเมินผลพฤตกิ รรมด้ำนคณุ ธรรม จริยธรรม คำ่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขนึ ้ อยกู่ บั กำรประเมินตำมสภำพจริง 5.เกณฑก์ ำรผำ่ นประเมินผลกำรเรียนรู้ท้ำยหนว่ ยผำ่ น 50% ขนึ ้ ไปกจิ กรรมเสนอแนะ 1.ครูให้นกั เรียนทำแผนผงั แสดงขนั้ ตอนกำรพิมพ์ข้อมลู ออกทำงเคร่ืองพิมพ์ 2.ครูให้นกั เรียนท่ีมเี ครื่องพมิ พ์ออกมำแนะนำเครื่องพมิ พ์ทม่ี คี ณุ ภำพดี และเหมำะสมกบั รำคำและกำรใช้งำน ให้เพ่ือนๆฟังหน้ำชนั้ เรียน

58บนั ทกึ หลังการสอน ข้อสรุปหลังการสอน …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหาท่พี บ …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแก้ปัญหา …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook