ผปู้ ว่ ย ➢ ผู้ป่วยที่ไม่รูส้ ึกตัว ขาดความสามารถในการตดั สินใจ ลกั ษณะแบบนี้ จงึ ต้องขอความยินยอมจากผูแ้ ทนโดยชอบธรรม ➢ ผู้ป่วย เช่น ผทู้ ี่เป็นมะเร็งเต้านมระยะต้น มีความสามารถตัดสินใจใหค้ วามยินยอม ได้ แต่การตัดสินใจอาจเบี่ยงเบน เนื่องจากการมสี ภาพจติ ใจทอ่ี ่อนแอและอาจถกู ชักจูงให้ เข้าร่วมโครงการวิจยั ยาไดง้ ่าย ดว้ ยหวงั ว่าจะหายจากโรค หรอื บคุ คลทย่ี ากจนอาจถกู ชัก จูงใหเ้ ขา้ ร่วมโครงการวจิ ัยไดง้ ่าย ดว้ ยหวงั ว่าจะไดร้ ับค่าตอบแทนช่วยใหค้ วามเป็นอยู่ดขี ึ้น บางครั้งจงึ เรยี กบคุ คลเหลา่ นี้ว่าเป็น “Potentially vulnerable subjects”
หญิงมีครรภ์ ที่มีเดก็ อยู่ในครรภ์ ซึ่งเดก็ ในครรภไ์ ม่มีทางปกป้องตนเองได้ จงึ เปน็ หนา้ ทข่ี องบิดา มารดาทีต่ ้องตดั สินใจแทน บุคคลที่อยใู่ นสถาน เช่น ผู้ปว่ ยที่อยใู่ นโรงพยาบาลโรคจิต นกั โทษในเรือนจา ผ้สู ูงวยั ในสถานสงเคราะห์ ซ่งึ มีอิสรภาพ จึงตอ้ งมีอสิ รภาพบางประการทท่ี าให้การตัดสนิ ใจเปน็ ไปโดยอสิ ระและเป็นความสมคั รใจ บคุ คลทม่ี คี วามสมั พนั ธต์ ามลาดบั ขน้ั มีลกั ษณะเป็นผู้ใตบ้ งั คับบัญชา อาจถกู กดดนั หรอื ถูกคาดโทษ จากผู้มีลาดบั ข้ันเหนือกว่า เชน่ นักเรยี น นสิ ติ ตารวจ
ข้อพิจารณาโดยรวมด้านจริยธรรม ในการทาวิจัยในกลุ่มเปราะบาง • งานวจิ ยั เหล่านนั้ ควรมปี ระโยชน์และนาองคค์ วามรมู้ าพัฒนาในกลมุ่ อาสาสมัครเปราะบางเหลา่ นั้นได้ เช่น การวจิ ัยใน นักโทษ ควรทจ่ี ะมีประโยชนแ์ ละนามาพัฒนาในกลมุ่ นักโทษน้นั ๆ มากกว่ากลุม่ ประชากรกลุ่มอื่นๆ รวมถึงในการ พิจารณาควรมีผแู้ ทนนักโทษเขา้ ร่วมการพจิ ารณาดว้ ย • งานวจิ ัยเหลา่ น้นั ไมส่ ามารถทาได้ถา้ ไมใ่ ชก่ ลมุ่ อาสาสมคั รเปราะบางเหล่านั้น เช่น การวิจัยการใชย้ า Surfactant ใน เดก็ ทารกแรกเกดิ กอ่ นกาหนดซงึ่ มขี ้อเฉพาะเจาะจงสาหรบั ทารกแรกเกดิ กอ่ นกาหนดเท่าน้ัน • สาหรับในกรณใี ช้ยาไดใ้ นหลายชว่ งอายุทปี่ ว่ ย ควรเร่ิมมกี ารวิจัยในผใู้ หญ่ก่อนแล้วจงึ คอ่ ยๆ ลดอายขุ องอาสาสมคั ร ลงมาเชน่ เร่ิมทาในอายุ 12-18 ปี กอ่ น เมือ่ พบมีข้อมลู ทป่ี ลอดภยั จึงเรมิ่ ใชใ้ นเด็กอายุ 8-12 ปี เปน็ ตน้
ขอ้ พจิ ารณาโดยรวมด้านจริยธรรม ในการทาวิจยั ในกล่มุ เปราะบาง • การทาวจิ ัยในกลมุ่ เปราะบางนน้ั ถ้าการทาวิจยั มีโอกาสจะเกดิ ความเสี่ยงมากกว่าความเสี่ยงที่จะ พบไดใ้ นชวี ิตประจาวนั (greater than minimal risk) อาสาสมคั รกลมุ่ เปราะบางกลุม่ นนั้ ๆ ควร จะไดป้ ระโยชน์ชนดิ ทเ่ี ปน็ Direct Benefit เช่น การวิจยั ยากม็ โี อกาสทีจ่ ะได้ผลการรกั ษาจากยา ไมใ่ ชม่ ีการตรวจช้นิ เน้อื หรอื การทาหตั ถการท่ีมีความเส่ียงแต่ไม่ได้ประโยชน์จากการรักษาเลย • สาหรบั การวจิ ยั ทม่ี ีการตอบแบบสอบถามในกลุ่มเปราะบาง สามารถทาไดเ้ นอื่ งจาก แม้จะไมไ่ ด้มี ประโยชน์โดยตรง (Direct Benefit) แตม่ ีความเสี่ยงน้อย (minimal risk)
การเพิม่ การปอ้ งกันหรอื เพ่มิ ความปลอดภัยในอาสาสมคั รเปราะบาง • ตดั อาสาสมัครเปราะบางเหล่านน้ั ออกจากงานวิจัย ในกรณีสามารถหาผปู้ ่วยกลมุ่ อ่นื ได้ (Exclude) • ในกรณีผ้วู จิ ัยอาจมอี ทิ ธพิ ลต่ออาสาสมัครกลมุ่ เปราะบาง ควรให้บุคคลที่ 3 (Third party) เปน็ ผ้ขู อ คายินยอมเพ่ือที่จะทาให้อาสาสมคั รเหล่านน้ั ไม่รสู้ กึ อึดอัดและสามารถเข้าร่วมวจิ ยั ได้ • เพิม่ ขอ้ มลู ใหอ้ าสาสมัครไดเ้ ข้าใจมากยิ่งข้ึนตามอายุ และความเข้าใจของอาสาสมคั รโดย อาจเป็นภาพ, การบรรยาย, ตารางประกอบการอธบิ าย • การใชผ้ แู้ ทนเป็นผู้ตดั สนิ ใจในการเขา้ รว่ มงานวจิ ยั แต่ในกรณที อ่ี าสาสมคั รสามารถตดั สินใจไดแ้ ล้ว ควรขอคายินยอมจากอาสาสมัครเองอกี ครั้งหนง่ึ
ช่ังน้าหนักระหว่างประโยชน์ และความเส่ยี ง 1) ผู้วิจยั ตอ้ งลดความเสี่ยงใหน้ อ้ ยทสี่ ุด 2) เพ่มิ คุณประโยชน์มากที่สุด
การให้ความเปน็ ธรรมประเมนิ จาก 1. การเลือกอาสาสมคั ร (Selection of Subjects) มีเกณฑ์การคัดเขา้ และคดั ออกชัดเจน ไม่มีอคติ (selection bias) ไมเ่ ลอื กกล่มุ ตวั อย่างทห่ี าง่าย ส่ังงา่ ย คนจน ผ้ดู อ้ ยการศึกษา 2. การจดั อาสาสมัครเข้ากลุ่มศึกษา มีการสมุ่ เข้ากลมุ่ ศึกษา (randomization)
Conflict of Interest (ผลประโยชนข์ ดั กนั , ผลประโยชน์ทบั ซอ้ น) หมายถึง สถานการณท์ ปี่ ระโยชน์รองส่งอทิ ธิผล เหนอื ประโยชน์หลักจนเกิดความเสี่ยงในการ ตัดสินใจเชิงวชิ าการหรอื วิชาชพี ในจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์ • ประโยชน์หลกั (primary interest) หมายถงึ การปกปอ้ งสิทธิ ความปลอดภัย และความเป็นอยู่ ท่ีดขี อง อาสาสมคั รและความซอื่ ตรงในการทาวิจัย • ประโยชนร์ อง (secondary interest) หมายถึง ผลประโยชนส์ ว่ นตัวท้งั ที่จบั ตอ้ งได้ (เช่น เงิน ตอบแทน) และ จบั ต้องไม่ได้ (เชน่ เกียรติยศ ช่ือเสียง) แตต่ ัวทีส่ ่งผลชัดเจนและจัดการได้ คอื ผลประโยชน์ด้านการเงนิ (financial interest)
Conflict of Interest ทีม่ ีอิทธพิ ลมากคือผลประโยชน์ทีผ่ ู้วจิ ัย (รวมถงึ คสู่ มรส) มผี ลประโยชนด์ า้ นการเงนิ ในบรษิ ัท ผสู้ นับสนุนการวิจยั เช่น มีหุน้ ในบรษิ ัท ท่มี ีอิทธิพลรองลองมา คอื คา่ ตอบแทนทีผ่ ู้วจิ ยั ได้จากบรษิ ัทผู้สนับสนนุ การวจิ ัย โดยเฉพาะ Phase IV clinical trial ท่ี (ก) แพทยผ์ ้สู ่งั ยา เปน็ คนเดียวกบั ผู้วิจยั และไดค้ ่าตอบแทนสงู (ข) ยาที่ใชไ้ มส่ ามารถเบิกได้ตามสทิ ธิ (ค) ไม่มีค่า เสยี เวลาใหอ้ าสาสมัครทง้ั ทผี่ ู้วิจยั ขอใหอ้ ยู่สัมภาษณ์หรอื กรอกแบบสอบถามเป็นเวลานาน o ประโยชนร์ องอาจสง่ ผลให้ผวู้ จิ ยั - คัดบคุ คลเขา้ เป็นอาสาสมัครในโครงการทั้งท่ไี ม่อยู่ในเกณฑ์คดั เข้า - อาจไมร่ ายงานเหตกุ ารณไ์ ม่พึงประสงค์ - บอกความเสย่ี งนอ้ ยกว่าที่ควรเพอ่ื เชิญชวนให้เขา้ โครงการ - ดัดแปลงขอ้ มลู หรือปนแต่งขอ้ มลู ในบันทึก ้ั - นายาที่ราคาแพงมาให้โรงพยาบาลจาหน่ายหรือผปู้ วยใช้โดยไม่จาเป็น ยน่ื แบบแสดง : Conflict of Interest and Funding Form
สรุปแนวทางปฏิบัติ 1. ผูว้ จิ ัยต้องเขียนข้อเสนอโครงรา่ งการวิจยั ท่มี ีพ้นื ฐานทางวทิ ยาศาสตรถ์ กู ตอ้ ง (Scientific validity) 2. ในระเบียบวธิ วี ิจยั หรือวธิ ดี าเนินการวจิ ยั กอ่ นจะดาเนินการใดๆกับอาสาสมคั ร เชน่ การตรวจคดั กรอง (screening) ผูว้ ิจยั ตอ้ งเขียนขนั้ ตอน กระบวนการขอความยนิ ยอมก่อน ได้แก่ ผู้ทจ่ี ะทาหน้าทขี่ อความยินยอม สถานที่ทีจ่ ะขอความยนิ ยอม การให้ขอ้ มลู คา อธิบาย ฯลฯ ตอบขอ้ สงสัย ให้เวลาตดั สินใจโดยอิสระ กอ่ นลงนามใหค้ วามยนิ ยอม 3. เพ่ือแสดงว่าผวู้ จิ ยั จะปฏิบัตติ ามหลักจรยิ ธรรมการวจิ ยั ในคน (Ethical principles) ผู้วิจัยจะต้อง เขียนหวั ขอ้ “ขอ้ พจิ ารณาดา้ นจริยธรรมการ วิจยั (Ethical consideration)” โดยวเิ คราะหต์ ามหลกั จริยธรรมการวิจยั ในคน 3 ข้อ แตล่ ะขอ้ ผวู้ จิ ัยทาอยา่ งไรไดแ้ ก่ ⬧หลกั ความเคารพในบคุ คล (Respect for person) โดยการขอความยนิ ยอมจากผ้ทู ีเ่ ปน็ กลมุ่ ประชากรเปา้ หมายของการวิจัยให้เข้า ร่วมเป็น อาสาสมคั รในการวิจยั ⬧หลักการใหป้ ระโยชน์ ไม่กอ่ ใหเ้ กิดอนั ตราย (Beneficence/Non-maleficence) โดยระบวุ า่ อาสาสมคั รจะไดร้ บั ประโยชน์ หรอื ไม่ ประโยชนอ์ ะไร หรือประโยชนอ์ ื่นๆ อาจ เกิดความเส่ียงอะไรตอ่ ตวั อาสาสมัคร ผวู้ ิจยั จะเก็บรักษาความลบั ของอาสาสมคั รโดย ในแบบบันทึกขอ้ มูลจะไมม่ ี identifier ท่จี ะระบถุ งึ ตัวอาสาสมคั ร ⬧หลักความยุติธรรม (Justice) คือมีเกณฑ์การคัดเข้าและออกชัดเจน ไมม่ อี คติ มกี ารกระจายประโยชนแ์ ละความเสย่ี งอย่างเทา่ เทียมกนั โดยวิธีการสมุ่ 4. ผวู้ ิจยั เสนอตารางแผนการดาเนนิ การวจิ ยั ทั้งน้ีข้ันตอนการทดลองกับอาสาสมัคร การเก็บข้อมูล จะตอ้ งดาเนินการหลังจากขอ้ เสนอโครงร่าง การวิจยั ไดร้ ับการพจิ ารณาอนมุ ตั หิ รอื รับรองจากคณะกรรมการจริยธรรมการวจิ ยั แล้วเสมอ
Informed consent Overview ศริ ิลักษณ ธรี ะภธู ร คณะกรรมการจรยิ ธรรมวิจยั ในมนุษย มหาวทิ ยาลยั นเรศวร
ประเภทของการรบั รองจรยิ ธรรมการวจิ ัยในมนษุ ย ระดับความเสยี่ งตอความปลอดภยั ของอาสาสมคั ร 1 แบบยกเวน ระดบั ตา่ํ (Exemption Review) 2 แบบเรงรดั (Expedited Review) 3 แบบเตม็ รปู แบบ ระดบั สงู (Full Board Review)
กระบวนการยนิ ยอม
แนวทางปฏิบัตหิ ลกั จริยธรรมขอ 1 หลกั ความเคารพในบคุ คล (Respect for person) คือ การเคารพในศกั ด์ิศรคี วามเปนมนษุ ย (Respect for human dignity) ซึง่ เปนหลักสําคญั ของจรยิ ธรรมการทาํ วิจยั ในคน หลกั น้เี ปนพนื้ ฐานของแนวทางปฏบิ ัติ ไดแ ก 1. การเคารพในการขอความยินยอม โดยใหขอมูลอยา งครบถวนและให อาสาสมัครตดั สนิ ใจอยา งอิสระปราศจากการขม ขู บังคับ หรอื ใหสินจา งรางวัล (Respect for free -no coercion, intimidation or manipulation- and informed consent และ Respect to autonomy of decision making)
กระบวนการขอความยนิ ยอม หมายถงึ ขนั้ ตอนทผี่ ูว ิจัยจะตอ งเขยี นเพือ่ อธิบายวา จะดาํ เนนิ การอยางไรกับการเขา ถึง อาสาสมคั รทตี่ องการใหเ ขารว มในการวิจัย เรม่ิ จากวาใครจะเปน ผไู ปพบกลุม เปา หมายที่จะเชญิ เขารว มในโครงการการวิจยั โดยจะตอ งมกี ารอธบิ ายรายละเอยี ดโครงการวิจัย พรอ มทงั้ แจก เอกสารคําอธิบายโครงการวิจยั (participant Information sheet) ทง้ั ยงั เปดโอกาสให กลุมเปาหมายซักถาม โดยใหเ วลาในการตัดสนิ ใจอยางเพียงพอ และขอใหผูท ่สี มคั รใจเขารวมใน การวจิ ยั ลงนามเปน ลายลักษณอักษร (consent form) จากความหมายของกระบวนการขอ ความยนิ ยอม จะเห็นวาไดรวมขั้นตอนของการคดั อาสาสมัคร (recruitment) เขารว มในการ วจิ ยั ไวดว ย
2. เคารพในความเปนสว นตวั ของอาสาสมคั ร (Respect for privacy) privacy คือ ความเปนสวนตัว ท่ีรวมถงึ ตัวบุคคล (person) สทิ ธิสวนบุคคล พฤติกรรม สว นตวั พฤตกิ รรมปกปด เปนตน การเคารพในความเปน สวนตัวของอาสาสมคั ร ทําโดยจดั สถานท่ีทเี่ หมาะสมในการขอความ ยนิ ยอม การสมั ภาษณ การซักประวตั ิ ตรวจรางกาย และการไมม ปี า ยระบุชื่อคลนิ กิ เชน “คลินกิ โรคเอดส” หรอื “คลนิ กิ ยาเสพตดิ ” หองทท่ี าํ การสมั ภาษณ/เก็บขอ มลู เปน ตน
แนวทางปฏบิ ตั ิหลกั จริยธรรมขอ 1 หลักความเคารพในบคุ คล (Respect for person) 3. เคารพในการเกบ็ รักษาความลับของขอ มลู สว นตัวของอาสาสมคั ร (Respect for confidentiality) นกั วจิ ัยจะตองมีวธิ กี ารรักษาความลับของขอ มูลสวนตัวของอาสาสมคั รอยา งเหมาะสม ขอมูล เหลาน้นั ไดแก แบบบันทกึ ขอ มลู (case report form) ใบยินยอม (consent form) การ บนั ทึกเสยี งหรือภาพ (tape, video and photo) มาตรการรกั ษาความลบั เชน ใชรหัส เกบ็ ในตูมีกุญแจลอ็ ค (locked cabinet) เก็บในคอมพวิ เตอร (computer) ทม่ี ีรหสั ผาน (password) ขอ มลู สง ทางไปรษณีย อิเล็กทรอนิกส (e-mail) มีการทําใหเ ปนรหัส (encrypted)
4. เคารพในความเปน ผูออนดอ ย เปราะบาง (Respect for vulnerable persons) ผอู อนดอ ย เปราะบาง คือบคุ คลทไ่ี มสามารถปกปอ งตวั เองไดอยางเตม็ ท่ี เนือ่ งจาก ขาดวุฒภิ าวะ (เชน เด็ก) มปี ญหาสุขภาพใจและกาย (เชน ผปู วยโรคจติ ผปู วย dementia ผูป ว ยโคมา บคุ คลท่ใี ชค นละภาษา คนไมรูหนงั สือ) บคุ คลเหลานไี้ ม สามารถทําความเขาใจกับขอมลู เกี่ยวกับการวจิ ยั ทใ่ี หไ ปได จะตองมีการขอคาํ ยินยอมจากผูท เี่ กี่ยวของตามกฎหมาย
ไมล บหลคู วามเช่อื ศาสนาประเพณี วฒั นธรรมในโครงการวจิ ยั
เอกสารประกอบการขอความยินยอม (informed consent form หรอื ICF) participant information sheet consent form • เอกสารขอมูลคาํ อธบิ ายสาํ หรบั ผเู ขา รว มเปน อาสาสมคั รในการ • เอกสารแสดงความยนิ ยอมเขา รว มการวจิ ยั วจิ ยั • ประกอบดว ยขอ มูลของโครงการวิจยั ทคี่ รบถวน (information) และเขยี นในภาษา สํานวนทีผ่ รู บั ขอ มลู ทัว่ ไปเขา ใจได (comprehension) • สมัครใจอยางแทจ รงิ (Voluntariness) การตดั สินใจเปนไปโดยอิสระ เปนความสมัครใจอยางแทจ รงิ ไมไ ดเกดิ จากการขบู งั คับ (coercion) การชกั จงู เกนิ เหตุ (undue inducement)และแรงกดดันที่ไมสมควร (unjustifiable pressure)
ขอ มูลคาํ อธบิ ายสําหรบั อาสาสมัคร (Information sheet) : AF 04-10 • แบบท่ัวไป สาํ หรบั อายุ 20 ปข ้นึ ไป การเคารพในบคุ คล (respect for person) • สําหรบั อาสาสมคั รอายุ 7-12 ป (Assent) ตามหลัก Belmont report การใหข อมูลเกี่ยวกับการวิจัยท่ี อาสาสมคั รตองทราบ กอนตัดสินใจเขา รว ม - ทาํ การวจิ ัยเกย่ี วกบั อะไร เรื่อง ท่ีมาความสาํ คญั วตั ถปุ ระสงค ใชจํานวนอาสาสมคั รก่ีคน วธิ ดี ําเนนิ การวิจยั - ประโยชนแ ละโทษ และความเส่ยี งท่ีอาจเกิดขน้ึ จากการเขา รวมวจิ ัย (Risk & Benefit ตามหลัก Belmont report) - การปฏิบตั ิตวั ของอาสาสมคั ร/จะถูกใหท ําอะไร อยา งไรบา ง ก่คี ร้ัง เปนระยะเวลานานเทา ไร - ความรบั ผดิ ชอบของนักวจิ ัย - ดว ยภาษาทเี่ ขา ใจงาย และขอความทเี่ หมาะสมกบั วยั การศึกษา เชอ้ื ชาติ - การปกปอ งและรกั ษาความลบั ของอาสาสมัคร : การไมเปดเผยและทาํ ลายขอ มูล (privacy & confidentiality ตามหลัก Belmont report) - ไมอ ธบิ ายเกินจริง
สรปุ แนวทางปฏบิ ัติ 1. ผวู จิ ยั ตองเขียนขอเสนอโครงรา งการวิจยั ทม่ี ีพน้ื ฐานทางวิทยาศาสตรถ ูกตอง (Scientific validity) 2. ในระเบียบวธิ ีวจิ ัย หรือวิธีดําเนินการวจิ ยั กอนจะดาํ เนินการใดๆกบั อาสาสมัคร เชน การตรวจคดั กรอง (screening) ผูว จิ ยั ตองเขยี นขั้นตอน กระบวนการขอความยนิ ยอมกอน ไดแ ก ผูท่ีจะทําหนา ที่ขอความยนิ ยอม สถานทีท่ จ่ี ะขอความยินยอม การใหข อ มลู คํา อธบิ าย ฯลฯ ตอบขอ สงสยั ใหเ วลาตัดสินใจโดยอิสระ กอ นลงนามใหค วามยนิ ยอม 3. เพอ่ื แสดงวาผวู จิ ัยจะปฏบิ ัติตามหลกั จริยธรรมการวจิ ยั ในคน (Ethical principles) ผูว ิจัยจะตอ ง เขียนหวั ขอ “ขอพจิ ารณาดา นจรยิ ธรรมการ วจิ ยั (Ethical consideration)” โดยวเิ คราะหต ามหลัก จรยิ ธรรมการวจิ ยั ในคน 3 ขอ แตละขอ ผูว ิจัยทาํ อยางไรไดแก หลักความเคารพในบุคคล (Respect for person) โดยการขอความยนิ ยอมจากผทู ่เี ปน กลุมประชากรเปาหมายของการวจิ ยั ใหเ ขา รว มเปน อาสาสมัครในการวจิ ัย หลักการใหประโยชน ไมก อ ใหเกิดอนั ตราย (Beneficence/Non-maleficence) โดยระบุวาอาสาสมัครจะไดร ับประโยชน หรอื ไม ประโยชนอะไร หรือประโยชนอน่ื ๆ อาจ เกิดความเส่ยี งอะไรตอตัวอาสาสมัคร ผูวจิ ัยจะเก็บรกั ษาความลับของอาสาสมคั รโดย ในแบบบนั ทึกขอ มูลจะไมม ี identifier ทีจ่ ะระบุถึงตวั อาสาสมัคร หลักความยุตธิ รรม (Justice) คือมเี กณฑก ารคัดเขาและออกชัดเจน ไมม อี คติ มีการกระจายประโยชนแ ละความเสี่ยงอยา งเทาเทียมกนั โดยวิธีการสมุ 4. ผูวจิ ัยเสนอตารางแผนการดําเนินการวจิ ัย ทง้ั นขี้ ัน้ ตอนการทดลองกบั อาสาสมัคร การเก็บขอ มูล จะตอ งดําเนนิ การหลังจากขอ เสนอโครงราง การวิจัยไดร บั การพจิ ารณาอนุมัติหรอื รบั รองจากคณะกรรมการจรยิ ธรรมการวิจัยแลวเสมอ
Exempt
Expedited
สรปุ โครงการ เพ่อื การพจิ ารณาทางจรยิ ธรรมการวิจยั ในมนษุ ย Protocol Synopsis for Ethical Review
17
8 ระเบียบวิธีการวจิ ัย (Research Methodology) Scientific merit รปู แบบการวิจัย (Research Design) ระบุวา เปน การวิจยั เชงิ ปรมิ าณ (Quantitative Research) โดยวิธกี าร (Methodology)... การวิจัยเชิงคณุ ภาพ (Qualitative Research) โดยวธิ กี าร (Methodology)..... การวจิ ัยแบบผสมผสาน (Mixed methods) โดยวธิ ีการ (Methodology)........ ประชากรทใี่ ชใ นการศกึ ษา (ประชากรคือกลุม ใด และจํานวนก่คี น) (Population; Who is the population? What is population size?) กลมุ ตัวอยา ง (ระบจุ ํานวน) และการไดม าซง่ึ จํานวนกลุมตัวอยาง พรอมแทนคาในสูตรการคํานวณกลมุ ตวั อยา ง เชน สตู รการ คาํ นวณกลมุ ตวั อยาง (What is the research sample size? How do you get that sample size? Please specify the sample size formula) เกณฑก ารคัดเขา (Inclusion Criteria) เกณฑการคดั ออก (Exclusion Criteria) บอกคุณสมบตั ขิ องอาสาสมคั ร Justice เกณฑการยตุ โิ ครงการ (Termination Criteria) (ถาม)ี
9 วิธกี ารเขา ถงึ อาสาสมัคร (Approach to participant) กระบวนการขอความยินยอม (Informed consent process) ใหระบุวิธีการที่ใชในการขอความยินยอมและผูท่ีทําหนาท่ี ขอความยินยอม เชน ผูทําวิจัยอธิบายขอมูลใหกับอาสาสมัคร แจกเอกสารขอมูลและแบบขอความยินยอมใหอาสาสมัครนํา กลับไปพจิ ารณากอ นตดั สนิ ใจ หรือผูทําวิจัยอธิบายใหขอมูลแลวใหผูชวยเปนผูแจกเอกสารใหอาสาสมัครนํากลับไปพิจารณากอน ตัดสินใจ (Please specify the details of informed consent process such as the researcher will explain the process to the participants for their decision before deciding to participate in the research)
12 ขอ พจิ ารณาดานจริยธรรม (Ethical Consideration) หลกั ความเคารพในบุคคล (Respect for person) หลกั การใหประโยชน ไมก อใหเ กดิ อนั ตรายแกอ าสาสมคั ร (Risk and Benefit) การรกั ษาความลบั ของอาสาสมคั ร (Privacy and Confidentiality) หลักความยุติธรรม (Justice) อุปสรรคและความเสี่ยงทีจ่ ะเกดิ ขึน้ ตอ อาสาสมัครและความรบั ผิดชอบของผวู ิจัย (Challenges and risks towards participants including investigator’s Responsibility) ผลกระทบตอชุมชนและมาตรการการปองกันหรอื การจัดการผลกระทบท่อี าจจะเกดิ ขนึ้ เขยี นบรรยายที่เกีย่ วของกับงานวิจัยท่ีจะทาํ
12. ขอ พจิ ารณาดานจรยิ ธรรม (Ethical Consideration) ตามหลักจริยธรรมการวิจัยในคน ซ่งึ มี ดงั ตอไปน้ี 12.1 หลักความเคารพในบุคคล (Respect for person) ผูวิจยั มกี ารตัง้ ตน ตนตดิ ตอ อาสาสมคั ร และกระบวนการขอความยินยอมอยางไรทจี่ ะเปนการเคารพ สทิ ธมิ นุษยชนของอาสาสมคั ร ผูวจิ ยั มกี ารใหขอ มลู อาสาสมัครอยางครบถว น อาสาสมัครมเี วลาเพียงพอในการทาํ ความเขา ใจ จนอาสาสมัครเขาใจเปน อยางดี และสามารถตดั สนิ ใจเขา รว มหรือไมเขา รว ม อยางเปน อสิ ระดวยตนเอง หากเปน การศกึ ษาการวิจัยทดลองทางคลินกิ ตอ งระบวุ า แพทยเจาของไขจะตอ งไมเปน ผขู อความยนิ ยอม และตอ งแยกสว นการขอความยินยอมออกจากการรักษาปกตทิ อี่ าสาสมคั ร ไดรบั และตอ งชแ้ี จงใหอ าสาสมคั รทราบวา การตัดสินใจเขา รว มหรอื ไมเ ขา รว มจะไมสง ผลตอ การรักษามาตฐานทผ่ี ูปว ยจะไดร ับตามสทิ ธทิ างกฎหมาย และสทิ ธมิ นุษยชน หากเปน การศกึ ษาวิจัยที่มีประเดน็ เร่อื งความเปนสว นตวั และการรกั ษาความลับ ผวู ิจยั ตองระบวุ าในกระบวนการใหขอมลู และขอความยนิ ยอมผูวิจัยจะทําอยา งไร เพ่อื รกั ษาความ เปนสว นตัว และความลบั ของอาสาสมคั ร ในกรณที ีอ่ าสาสมัครเปนกลมุ ประชากรเปราะบาง ซึง่ หมายถึงผทู ีอ่ าจไมส ามารถตัดสินใจไดด วยตนเอง ตอ งมกี ารใหขอ ความและขอความยินยอม จากผปู กครองหรอื ผแู ทนโดยชอบธรรมตามกฎหมาย ในกรณที ่ีไมไ ดมีการเกบ็ ขอมลู ทเี่ กย่ี วของกับอาสาสมัครโดยตรง เชน การศึกษาจากแฟม ประวตั ผิ ูปว ย อาจระบุวา …………………… ในกรณที ี่ขอยกเวนการลงนามเปน ลายลกั ษณอกั ษร เชน งานวิจัยสาํ รวจทางการตลาด อาจระบวุ า ผวู ิจยั ไดมกี ารใหข อมลู เกยี่ วกบั โครงการวจิ ยั กบั อาสาสมคั รในสว นของคาํ ชแ้ี จงทอี่ ยา ดานหนาแบบสํารวจอยางครบถวน หากอาสาสมัครตดั สนิ ใจเขารวมการวิจัยกส็ ามารถตอบแบบสอบถามซง่ึ แบบสอบถามจะใชก ารเขารหัส โดยไมส ามารถระบุตวั ตนของผทู ตี่ อบ แบบสอบถามได และใหน าํ มาสง ในจุดทกี่ ําหนดไวห ากอาสาสมคั รยินดเี ารวมโครงการวจิ ัย หากเปน การวจิ ัยทางการตลาดโดยใชแบบสอบถามออนไลน กส็ ามารถเขยี นในลกั ษณะเดยี วกนั ได แตอ าจปรับขอ ความใหสอดคลอ งกบั โครงการวจิ ยั วา จะมกี ารโพสตท่ไี หน อยา งไร จะจะสามารถระบุตวั ตนผูทต่ี อบแบบสอบถามไดห รอื ไม เปน ตน ในกรณีทีเ่ ปน การวิจยั ทางการศกึ ษา เชน การวิเคราะหข อ สอบ อาจระบุวา เนื่องจากการวิจยั นไี้ มไ ดมกี ารเกบ็ ขอ มลู จากอาสาสมัครโดยตรงเปน เพยี งการนําขอสอบทใ่ี ชใ นการสอบใน รายวิชามาวเิ คราะหจ ึงขอยกเวนการขอความยนิ ยอมจากนสิ ติ ทั้งน้ีขอ ความขา งตนเปนเพยี งตวั อยา งเทาน้นั ผวู จิ ัยสามารถปรบั ขอความใหสอดคลอ งกับกระบวนการการดาํ เนนิ การวจิ ยั ของโครงการไดต ามความเหมาะสม
12. ขอ พิจารณาดานจรยิ ธรรม (Ethical Consideration) ตามหลกั จรยิ ธรรมการวิจัยในคน ซึง่ มดี ังตอไปนี้ 12.2 ประโยชนต อาสาสมคั ร และ ความเสยี่ งหรอื อันตรายทีอ่ าจจะเกดิ ขึ้น ใหผ วู ิจัยระบุรายละเอียดวา อาสาสมัครจะไดร ับประโยชนอ ะไรบา ง และความเสีย่ งทอ่ี าจเกดิ ตอมีประโยชนโดยตรงตอตวั อาสาสมคั รหรือไม อยางไร มปี ระโยชนต อ สวนรวมหรือไมอยา งไร ความเสี่ยงหรอื อนั ตรายที่อาจจะเกิดขึน้ เชน อะไรบา ง เปน ความเสย่ี งเพยี งเลก็ นอ ยท่ไี มม ากไปกวาความเสี่ยงในชวี ติ ประจําวัน หรือไม ความเสย่ี งทอ่ี าจเกิดข้นึ อาจมใี นหลายดา นเชน ความเสีย่ งจากการบาดเจ็บทางรา งกาย ความเสี่ยงจากการไดร บั การ กระทบกระเทอื นทางจิตใจ ความเสี่ยงจากการสญู เสียรายได และเสยี เวลา เปน ตน ทง้ั นผ้ี ูว ิจยั จะตอ งระบคุ วามเสยี่ งทีอ่ าจจะเกิดข้นึ ให สอดคลอ ง และคลอบคลมุ กับการดาํ เนนิ โครงการวจิ ยั (ความเส่ียงในชวี ติ ประจําวนั เชน เสยี เวลา ไมสบายใจ )
12. ขอพจิ ารณาดา นจริยธรรม (Ethical Consideration) ตามหลักจรยิ ธรรมการวจิ ัยในคน ซ่ึงมดี ังตอไปนี้ 12.3 การรักษาความลบั ของอาสาสมคั ร (Privacy and Confidentiality) • ใหผวู ิจัยระบรุ ายละเอียดวา ในแบบบนั ทึกขอมูล หรือแบบเกบ็ ขอ มลู ตางๆ จะไมม ีการระบุช่อื นามสกุล หรือขอ มลู ท่ีสามารถระบถุ งึ ตัว อาสาสมคั รได • ใหผ ูว จิ ยั ระบรุ ายละเอียดวา ผูวจิ ัยจะมีการเกบ็ ขอ มลู อยางไร ท่ใี ด และจะมกี ารทาํ ลายขอ มลู แบบใดและจะเก็บขอ มูลการวจิ ยั ไวหลงั การวจิ ัยเสร็จสนิ้ จาํ นวนก่ปี • หากโครงการวจิ ยั ท่ีจะตองเครง ครัดอยางมากในการรักษาความลับ และความเปน สวนตัวของอาสาสมคั ร หากความลบั ถูกเปด เผยจะ สงผลกระทบตออาสาสมคั รอยา งมาก เชน การเกบ็ ขอ มูลผปู วย AIDS การสมั ภาษณผทู มี่ ภี าวะซึมเศรา การศกึ ษาในกลมุ อาสาสมัครเพศ ทางเลือก เปน ตน ผวู ิจัยจะตองระบุรายละเอียดวาจะมกี ารดําเนินการหรอื มาตรการในการตงั้ ตน ตดิ ตอ คดั เลอื กอาสาสมคั ร อยางไร การ เกบ็ ขอ มูลจะดาํ เนินการอยางไร ที่จะปกปองรักษาความลบั และความเปนสว นตวั ของอาสาสมคั ร • การเผยแพร งานวิจยั การตพี ิมพ จะตองไมสามารถระบตุ วั ตนอาสาสมัครได หากจาํ เปนตองระบตุ ัวตนของอาสาสมัคร ผูวจิ ยั อาจระบุ มาตรการ เชน จะมกี ารขอความยนิ ยอมอีกคร้งั จากอาสาสมัครกอนเผยแพรงานวิจัยอยางเปนลายลักษณอักษร หรือจะมีการให อาสาสมคั รตรวจสอบผลการวจิ ัยกอ นการเผยแพร • หากการวจิ ยั มกี ารถา ยรูป ผูวจิ ัยตอ งระบมุ าตรการการรักษาความเปนสวนตัวของอาสาสมัคร วาจะทําอยางไร ท่ีจะไมใ หสามารถระบุ ตวั ตนอาสาสมัครได
12. ขอพิจารณาดานจรยิ ธรรม (Ethical Consideration) ตามหลักจรยิ ธรรมการวิจัยในคน ซง่ึ มีดงั ตอไปน้ี 12.4 หลักความยตุ ธิ รรม (Justice) • ใหผูว จิ ยั อธิบายวา ผูวิจัยมหี ลกั การในการคดั เลือกอาสาสมคั รอยางไร เพอื่ ใหเ กดิ ความเปน ธรรม ไมมอี คติ เชน มกี ารเขาถงึ อาสาสมคั ร การกระจายกลมุ อาสาสมัครหรือการเกบ็ ขอมลู ในพน้ื ที่ หรือมีวธิ ีการสุมอยางไร มเี กณฑค ัดเขา และเกณฑค ัดออกอยางไร เพื่อใหเกดิ ความเทาเทียม ในการเขา รว มโครงการวจิ ัย
12. ขอ พจิ ารณาดา นจริยธรรม (Ethical Consideration) ตามหลักจริยธรรมการวจิ ัยในคน ซ่ึงมีดังตอ ไปน้ี 12.5 มาตรการการปอ ง การดูแล หรอื จัดการความเสย่ี วหรืออนั ตรายท่อี าจจะเกิดข้ึนตอ อาสาสมัคร และความ รับผิดชอบของผวู ิจยั (Challenges and risks towards participants including investigator’s Responsibility) • ในกรณีทข่ี อยกเวนการลงนามเปน ลายลักษณอกั ษร เชน งานวิจยั สาํ รวจทางการตลาด อาจระบุวา ผูวจิ ัยไดมีการใหข อมลู เก่ียวกบั โครงการวิจยั กบั อาสาสมัครในสวนของคาํ ชแ้ี จงท่อี ยดู า นหนาแบบสํารวจอยางครบถวนซึ่งรวมถึงขอ มลู ประโยชน และความเสย่ี งของ อาสาสมัครหากเขา รวมโครงการวิจัยโครงการวจิ ยั และใหมขี อความระบวุ า หากมีคาํ ถามขอใดท่ที ําใหอาสาสมัครไมสบายใจ อาสาสมัครไม จําเปน ตอ งตอบคําถามขอนัน้ และอาสาสมัครสามารถขอถอนตวั เองออกจากโครงการวิจัยไดตลอดเวลา และเพม่ิ ทีอ่ ยู เบอรโ ทร NU-IRB • ในกรณที ่มี ีการสอบถามหรือสมั ภาษณ ใหระบุวา “หากมีคาํ ถามขอใดท่ีทําใหอาสาสมัครไมส บายใจ อาสาสมัครไมจ าํ เปน ตองตอบคําถามขอ นน้ั และอาสาสมัครสามารถขอถอนตัวเองออกจากโครงการวิจัยไดต ลอดเวลา และหากอาสาสมคั รมขี อรองเรียนสามารถรองเรยี นมาไดท ี่…... (เพ่มิ ทอี่ ยู เบอรโ ทร NU-IRB) • ในกรณที ีเ่ ปนการศกึ ษาในกลมุ ทม่ี ปี ญหาเกี่ยวกบั สภาวะจติ ใจไมเปนปกติ ผูว จิ ัยอาจระบุมาตรการวา คําถามบางคาํ ถามอาจ กระทบกระเทือนจติ ใจอาสาสมคั ร ดงั นั้นผวู จิ ยั มีวธิ ีปองกนั โดยการมีพยาบาลทมี่ ปี ระสบการณในการใหค าํ ปรึกษาดา นจติ ใจผปู วยหรือมี นกั จิตวิทยาทส่ี ามารถใหคําปรกึ ษาได หากมกี รณีดังกลาวเกดิ ขนึ้ เปนตน
12. ขอ พิจารณาดา นจรยิ ธรรม (Ethical Consideration) ตามหลกั จริยธรรมการวจิ ยั ในคน ซ่ึงมีดังตอ ไปนี้ 12.6 ชุมชน • ใหผูวิจยั อธิบายวา โครงการวจิ ยั น้ีจะสง ผลกระทบตอชุมชนหรอื ไม เชน หากมีการเปดเผยชือ่ สถานทกี่ ารทาํ วิจัย หรอื ผลที่ได จาการวิจยั อาจสง ผลกระทบตอ ชมุ ชน ใหผ ูวิจัยระบผุ ลกระทบท่อี าจจะเกดิ ขึ้น และใหร ะบแุ นวทางการปอ งกนั หรือ มาตรการ การดูแลหรือจดั การ
เอกสารท่เี กี่ยวขอ งกบั ยา/ผลติ ภัณฑว จิ ัย – ไมม ี Google form **ใหผ วู จิ ยั จัดทาํ และนําสง แบบสอบถามออนไลน (print screen) ใสใ นไฟล word และ save as เปน ไฟล PDF โดยมเี นอื้ ความเดียวกันกับรายละเอยี ดสวนคาํ ชี้แจง ของแบบสอบถามกระดาษ และตอ งไมต้ัง (*) ในขอคําถามทุกขอ เน่ืองจากอาสาสมัครมสี ิทธท์ิ ่ีจะไมต อบแบบสอบถามขอใดกไ็ ด
ตัวอยา งแบบสอบถาม online ชอ่ื โครงการวจิ ัย: ……………………………………… วัตถปุ ระสงค: แบบสอบถามฉบบั น้ี จดั ทําขน้ึ เพอ่ื สอบถามเก่ยี วกับ ……………………………. ประโยชนทีท่ า นจะไดร บั จาการเขารว มการวิจัย: ทา นจะไมไดร ับประโยชนโ ดยตรงจากการเขา รวมโครงการ แตผลการวจิ ัยทไ่ี ดจ ะนําไปใช ใการ………………………………. ความเสีย่ งทีท่ า นอาจจะไดร ับจากการเขารว มการวจิ ัย: ……………………………………. คุณสมบตั ขิ องผทู ีจ่ ะตอบแบบสอบถาม: นํามาจากขอ 8 ในเอกสารสรุปโครงการฯนะคะ เกณฑการคดั เขา (Inclusion Criteria) เกณฑการคัดออก (Exclusion Criteria) ช่ือผทู ําโครงการวิจยั ……………………….. คณะ …………….. โทร : …………………….. E-mail:…………………………….. หากมคี ําถามขอ ใดทท่ี าํ ใหอ าสาสมคั รไมสบายใจ อาสาสมัครไมจ ําเปน ตองตอบคําถามขอ นน้ั และอาสาสมัครสามารถขอถอนตัวเองออกจากโครงการวิจัยได ตลอดเวลา ผูวจิ ยั จึงใครข อความรวมมอื ในการตอบแบบสอบถามตามความเปนจรงิ และครบถว นเพ่อื เปน ประโยชนอ ยา งยงิ่ สาํ หรบั งานวจิ ยั ครง้ั นผี้ วู จิ ัยจะเกบ็ ขอมลู ของทานไวเ ปน ความลบั ซงึ่ ในการนาํ เสนอขอ มูลจะถกู นาํ เสนอในรูปแบบของบทสรปุ ในภาพรวมโดยไมม กี ารเผยแพรข อมูลของทา น และขอขอบพระคณุ เปน อยา งสูง ทีท่ า นใหความรวมมอื ในการตอบแบบสอบถามในครัง้ นี้ หากมีขอ รอ งเรยี นสามารถติดตอไดท่ี คณะกรรมการจริยธรรมการวจิ ยั ในมนษุ ย มหาวิทยาลัยนเรศวร กลมุ 2 กองการวิจัยและนวตั กรรม ชัน้ 4 อาคารมหา ธรรมราชา โทร : 055-968642 หรอื E-mail : [email protected] หมายเหตุ 1.หากผูว ิจัย เลือก ไมย ินดี แบบสอบถามจะเดงไปหนา สุดทายซง่ึ จะมีขอ ความ วาขอบคุณ 2.หากผูวจิ ัย เลอื ก ยินดี แบบสอบถามกจ็ ะรนั ตอ ไป
เอกสารบันทึกขอ ความในการยื่นจรยิ ธรรมการวจิ ัยในมนุษย แบบย่ืนขอรบั การพจิ ารณาจรยิ ธรรม (Submission form : AF 01-10) แบบประเมินโครงการวิจยั ดวยตนเอง (Self-Assessment Form : AF 02-10 การขัดแยง ทางผลประโยชน (Conflict of interest and funding form : AF 03-10) เอกสารการผา นอบรมจรยิ ธรรมการวจิ ัยในมนษุ ย, งบประมาณที่ใช สรุปโครงการวิจัย (Protocol synopsis) โครงการวจิ ัยฉบับเต็ม (Full Protocol) เครอื่ งมือ : แบบสอบถาม/แนวคําถามในการสมั ภาษณ/ รปู แบบกิจกรรมที่ใหอาสามคั รทํา ขอมูลคาํ อธบิ ายสําหรบั อาสาสมคั ร (Information sheet : AF 04-10) หนงั สอื แสดงความยนิ ยอมสาํ หรบั ผูเขา รวมโครงการวจิ ยั (consent form : AF 05-10/06- 10) ทว่ั ไป / อาสาสมคั รอายุ 7- 12 ป/ ผปู กครอง Online เอกสารทุกฉบบั word PDF submissio ตองมเี น้อื หา/ขอความท่ตี รงกนั
ขั้นตอน : การขอการรบั รองจรยิ ธรรมการวจิ ัยในมนษุ ย • สถาบัน • หนว ยงานที่รบั ผิดชอบ : สถาบนั วจิ ัย/หนว ยงานวิจยั ของคณะวชิ า • ประกาศ : นโยบาย/ระเบียบ/ขอ บงั คบั : การขอการรับรองจรยิ ธรรมวิจยั ในมนุษย • คณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในมนษุ ยข องสถาบัน / สถาบนั เครอื ขาย • การดําเนนิ งานตาม SOD (ประกาศ/แจง ใหผูเกีย่ วขอ งไดรับทราบและถอื ปฏบิ ตั )ิ • การผานการรบั รอง : การดําเนินงานของคณะกรรมการฯ • การเตรยี มตวั ของนกั วิจัย (อาจารย/ บคุ ลากร/นักศึกษา) - ตามประกาศขอ บงั คับของสถาบนั • proposal : ทุนวิจยั / Thesis (ผานการสอบและแกไ ขแลว) • การเตรยี มเอกสาร ในการขอรบั รองจรยิ ธรรมการวจิ ัยฯ : ความครบถว นของเอกสาร • การสงเอกสารตามลําดบั ขน้ั ตอน : การติดตามผล / ใบรับรองจรยิ ธรรมการวจิ ัยฯ
การพจิ ารณาโครงการวจิ ัยครั้งแรก • ยื่นขอรบั รองการพจิ ารณา : online
แบบฟอรม : Down load http://www.research.nu.ac.th/th/home.php
แบบฟอรม การขอรับรอง
การยื่นขอรบั พิจารณาโครงการวจิ ัยคร้งั แรก
Full board Review Exception Review Expedited Review กรรมการทบทวน 3 ทา น และนาํ เขา ท่ีประชุมเดอื นละ 1 ครัง้ กรรมการทบวน 1-2 ทาน ภายใน 5 วนั ทําการ แจงผลการประเมินโครงการวจิ ยั ภายใน 7 วันหลงั การประชมุ แจง ผลการประเมินโครงการวิจัย ทาง E-mail ภายใน 5 วนั ทาํ การ หลงั ไดรับผลประเมินจากผทู บทวน ทาง E-mail
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108